Chill On ไลฟ์สไตล์ กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง สายมู ดูดวง

News Updates

Food & Beverage

ปักหมุดร้านลับริมเล! "ครัวเจ๊นงค์ซีฟู๊ด" อร่อย พื้นบ้าน ราคาดีต่อใจ ที่ชะอำ

28 พ.ย. 2025

ปักหมุดร้านลับริมเล! "ครัวเจ๊นงค์ซีฟู๊ด" อร่อย พื้นบ้าน ราคาดีต่อใจ ที่ชะอำ

ใครมีแพลนมาเที่ยวชะอำ-หัวหิน แอดขอป้ายยาแรงๆ ให้มาลองร้านนี้ "ครัวเจ๊นงค์ซีฟู๊ด" ร้านอาหารเล็กๆ ริมชายทะเลบ่อเคียะ ที่นำเสนอรสชาติอาหารพื้นบ้านแท้ๆ ในราคาที่สบายกระเป๋าสุดๆ! ร้านนี้แอดกับเพื่อนบังเอิญเจอตอนเสิร์ชหาร้านขากลับเข้ากรุงเทพฯ พิกัดร้านจะอยู่ในซอยเล็กๆ ครับ พอจอดรถที่ลานด้านหน้าแล้ว ทางร้านจะมี บริการรถกอล์ฟ ขับพาเราเข้าไปที่ร้าน (เก๋มาก!) วันที่ไปเป็นเที่ยงวันอาทิตย์ ลูกค้าเต็มร้านแต่รอคิวไม่นานเลย การจัดการดีเยี่ยมครับมาถึงเมนูเด็ดที่ "ร้านนี้ทำถึง" จนต้องบอกต่อ:หอยนางรมทรงเครื่อง: เห็นสั่งกันทุกโต๊ะเลยจัดบ้าง! ทางร้านใช้หอยไซส์เล็กแต่สด สะอาดมาก เสิร์ฟพร้อมกระถิน หอมเจียว น้ำพริกเผา และน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ด พอตักเข้าปากพร้อมกันคือฟิน! รสสัมผัสละมุน หวาน เจอกับความแซ่บคือลงตัวปูนิ่มผัดฉ่า: (Recommended) จานนี้แอดแนะนำมาก! ปูนิ่มทอดมากรอบกำลังดี ผัดกับเครื่องผัดฉ่ารสร้อนแรง หอมสมุนไพร กินคู่ข้าวสวยร้อนๆ คือที่สุด! แถมปริมาณที่ให้คือคุ้มเกินราคาต้มยำปลากะพงน้ำใส: สายดื่มต้องสั่ง! ซดแล้วสดชื่นตาสว่าง น้ำซุปหอมใบกะเพรา รสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนต้มยำในกรุงเทพฯ ส่วนเนื้อปลากะพงคือใส่มาแบบไม่หวง ชิ้นใหญ่ หนา เนื้อเด้ง สดหวานจนแทบละลายในปาก (แอบคิดว่าร้านจะได้กำไรไหมเนี่ย)หอยเชลล์ผัดเนยกระเทียม: เมนูยอดฮิตจากรีวิว สั่งมาแล้วไม่ผิดหวัง หอยตัวใหญ่ผัดเนยกระเทียมมาแบบหอมฟุ้ง รสชาตินัวละมุน ยิ่งกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดคือเด็ดขาด! มาต่อกับบรรยากาศ ไฮไลท์ของร้านนี้ เนื่องจากร้านอยู่ติดชายหาดบรรยากาศเลยชิลมาก มีบริการเช่าม้าขี่เล่นด้วย แอบกระซิบว่าน้องม้านี่นี่เฟรนด์ลี่สุดๆ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ บนหาดให้แชะภาพระหว่างรออาหาร แอดว่าถ้ามาช่วงเย็นรอดูพระอาทิตย์ตก วิวต้องหลักล้านแน่นอน เสียดายมากที่มื้อเช้าแอดจัดหนักมาแล้ว เลยทานได้ไม่กี่อย่าง แต่บอกเลยว่า "ครัวเจ๊นงค์ซีฟู๊ด" คือร้านที่ต้องซ้ำ! ครั้งหน้ากลับมาจัดเต็มอีกแน่นอน ใครผ่านไปแถวนั้น ห้ามพลาดนะครับ!พิกัด: ครัวเจ๊นงค์ซีฟู๊ด ชายทะเลบ่อเคียะ จ.เพชรบุรี (เข้าซอยชะอำ 59 ปากซอยมีเซเว่น ใกล้โรงแรมสยามบีช)เบอร์โทร: 081-986-0916, 081-941-8073, 084-569-3519เวลาเปิด-ปิด:จันทร์ - พฤหัสบดี: 11.00 - 21.00 น.ศุกร์ - อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์: รอบเช้า: 11.00 - 15.30 น. และรอบเย็น: 17.30 - 21.00 น.

ก๋วยเตี๋ยวปลาคลองโคน – ร้านเด็ดที่ต้องแวะเมื่อมาสมุทรสงคราม!

24 พ.ย. 2025

ก๋วยเตี๋ยวปลาคลองโคน – ร้านเด็ดที่ต้องแวะเมื่อมาสมุทรสงคราม!

ใครผ่าน สมุทรสงคราม บอกเลยว่าห้ามพลาดร้านก๋วยเตี๋ยวปลาเจ้าดังที่ครอบครัวอินฟลูสายฮา—คุณบาส คุณบิว คุณโบว์—ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “ของดีต้องลอง!” วันนี้แอดกับเพื่อน ๆ เลยไม่พลาด แวะมาลิ้มรสด้วยตัวเองกับร้านก๋วยเตี๋ยวปลาคลองโคน ร้านตั้งอยู่ในปั๊ม PTT โซนจุดพักรถ หาไม่ยากเลยค่ะ พอมาถึงหน้าร้านปุ๊บ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือ ความน่ารักของพี่ ๆ พนักงาน บริการดีจนเหมือนได้มากินข้าวบ้านญาติแบบอบอุ่น ฟีลดีตั้งแต่ยังไม่ทันได้กิน! ตัวร้านเป็น ครัวแบบเปิด มองเห็นทุกขั้นตอนการทำ แอดแอบไปดูตอนพี่ๆเขาทำบอกเลยว่าเขาทำสดใหม่ทุกชามและวัตถุดิบที่ใช้ไม่ใช่เล่นๆ เห็นแล้วต้องรีบหยิบเมนูขึ้นมาสั่งเลย มาถึงเรื่องอาหาร ทางร้านมีทั้งเมนูน้ำใส ต้มยำและเย็นตาโฟ วันนี้แอดและเพื่อนๆจัดบะหมี่ปลาน้ำใสเส้นเล็กปลาน้ำใสเย็นตาโฟปลา บอกเลยว่า อร่อยจริงตามคำล่ำลือ! น้ำซุปกลมกล่อม ปลาสด ลูกชิ้นแน่นเต็มคำ ที่สำคัญทุกชามจะเสิร์ฟคู่กับ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรเด็ด หอม มัน นัว กินกับลูกชิ้นก็ดี ใส่ในน้ำซุปก็ยิ่งฟิน! ที่นี่คือไม่หวงของเลย ปริมาณแน่น ๆ อิ่มจุกในชามเดียว นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วทางร้านยังมีเมนูข้าวต้มปลาหรือทะเลด้วยนะ ส่วนของกินเล่นก็จัดว่าเด็ดมากไม่ว่าจะเป็น เกี๊ยวทอด เต้าหู้ทอด แฮ่กึ๊นทอด ปลาลวกจิ้ม ลูกชิ้นลวกจิ้มหรือสั่งเป็นรวมมิตรก็มี! แต่ที่สุดของที่สุดต้องมอบมงให้ เต้าหู้ทอด บอกเลยว่ากรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน ทอดมาร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มถั่ว หอม เข้มข้น อร่อยแบบ “เด็กอ้วนชอบ” จริง ๆ! ส่วนรวมมิตรลวกจิ้มก็คุ้มมาก ให้เยอะ ราคาเป็นมิตรสุด ๆสรุปเลยว่า…อิ่ม อร่อย คุ้มค่า ครบจบในร้านเดียวบรรยากาศดี พนักงานเป็นกันเอง ราคาเฟรนด์ลี่ ใครผ่านมาแถวนี้ต้องแวะให้ได้ค่ะ!พิกัด : ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาคลองโคน (ในปั๊ม ปตท. ปากทางเข้าคลองโคน) จ.สมุทรสงครามเบอร์ติดต่อ : 081-880-6699เวลาเปิด–ปิด : เปิดทุกวัน 09.00 – 16.00 น.จัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

KYOTO SHI CAFE คาเฟ่โดนัทสไตล์ญี่ปุ่น ย่านบรรทัดทอง

29 ต.ค. 2025

KYOTO SHI CAFE คาเฟ่โดนัทสไตล์ญี่ปุ่น ย่านบรรทัดทอง

ใครที่กำลังมองหาร้านน่ารัก ๆ สำหรับเติมน้ำตาลเข้าเส้น ในวันวีน ๆ หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ในวันสบาย ๆ ร้าน KYOTO SHI ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเลยที่เดียว ด้วยบรรยากาศร้านที่น่ารัก ตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ่นดูละมุนตา ทำให้นั่งได้ชิว ๆ แล้วช่วงฮาโลวันแบบนี้ ทางร้านเองก็ไม่พลาดที่จะจัดเต็ม แมงมุม แม่มด ฟักทอง ใยแมงมุม จัดมาแบบแน่นทุกมุม ใครสายถ่ายรูปเช็คอินคาเฟ่เนี่ยนะ อันนี้เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องไปตำ เมนูในร้านนี้ก็มีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะโดนัท ที่มีหน้าต่าง ๆ ให้เลือกทานกันแบบลายตา เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ทั้งแบบวง และแบบก้อนกลม เนื้อนุ่ม เนื้อกรอบ มีหมด เรื่องรสชาติและสัมผัสเมื่อเข้าสู่ปากนั้นก็เล่นเอาซะฟินกันเลย ความหวานอย่างลงตัว บวกกับผิวสัมผัสของตัวแป้งโดนัทที่นุ่มละมุน บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ห้ามพลาดเลย มันต้องลองสักครั้ง เมนูเครื่องดื่มก็มากมายไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นชานม ชาใส ล้วนแล้วแต่มีให้เลือก สำหรับสายชอบท็อปปิ้งร้านเขาก็มีนะจ๊ะ ไม่ว่าจะไข่มุก หรือบุกต่าง ๆ ดื่มเครื่องดื่มไป เคี้ยวไปด้วยเพลิน ๆ อีก 1 สิ่งที่บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด คือ เมนูมัทฉะ จะเพียว นม มะพร้าว หรือยูซุ ก็เลือกได้หมด บอกเลยว่าหอมเตะจมูกทุกคำแน่นอน ใครกำลังมองหาคาเฟ่น่ารัก ๆ ไปนั่งพักผ่อน ทานของหวานเติมกำลังกายและใจ ย่านบรรทัดทอง KYOTO SHI CAFE ก็พร้อมต้อนรับ แล้วบอกเลยว่า คุณจะไม่ผิดหวังเขียนและจัดทำโดย: ชานนท์ ไชยศรี และ พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

ร้านข้าวเปียกเส้น (KAO.PIAK.SEN)

27 ต.ค. 2025

ร้านข้าวเปียกเส้น (KAO.PIAK.SEN)

ร้านข้าวเปียกเส้น (KAO.PIAK.SEN)ตำนานความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น กับสูตรข้าวเปียกเส้นต้นตำรับอุดรธานี หากพูดถึงอาหารเวียดนามแท้ ๆ ที่ยังคงกลิ่นอายความดั้งเดิมไว้ครบถ้วน หนึ่งในชื่อที่ไม่ควรพลาดคือ ร้านข้าวเปียกเส้น (KAO.PIAK.SEN) ร้านอาหารเวียดนามที่อบอวลด้วยเรื่องราวและความทรงจำกว่า 40 ปี ร้านแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย คุณย่า ผู้อพยพหนีภัยสงครามจากประเทศเวียดนาม มาตั้งรกรากที่จังหวัด อุดรธานี และนำสูตรอาหารดั้งเดิมติดตัวมาด้วย โดยเมนูเอกที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของร้านคือ “ข้าวเปียกเส้น” เส้นสดที่ได้จากการโม่ข้าวเจ้าทุกวัน ต้มในน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวนานจนรสชาติกลมกล่อม ซึ่งเป็นสูตรที่ทำขายให้คนในชุมชนได้ลิ้มรสมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521จนกลายเป็นตำนานแห่งความอร่อยสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ตอนนี้ “ข้าวเปียกเส้น” มีทั้งหมด 3 สาขาอุดรธานี: ถนนโพธิ์ศรี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเกษรอัมรินทร์: ชั้น G เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) ย่านราชประสงค์ กรุงเทพฯเอกมัย คอร์นเนอร์: โครงการเอกมัย คอร์นเนอร์ ถนนสุขุมวิท 63 กรุงเทพฯและวันนี้แอดกับเพื่อนเลือกมาชิมกันที่ สาขาเกษรอัมรินทร์ บรรยากาศร้านสะอาด โปร่งสบาย ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์แบบเวียดนามร่วมสมัย เหมาะกับทั้งมื้อกลางวันแบบเร่งรีบหรือจะนั่งชิลล์ในวันสบาย ๆ ก็ลงตัวแอดและเพื่อนเลือกสั่งเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน เรียกว่าแต่ละจานทำเอาหลงใหลในรสชาติแทบทุกคำ โดยเมนูเด็ดที่ต้องลองคือข้าวเปียกเส้นซี่โครงหมู – ซี่โครงหมูต้มจนเปื่อยนุ่ม ละลายในปาก เส้นข้าวเหนียวนุ่มหนึบพอดี คลุกเคล้ากับน้ำซุปกระดูกหมูหอมละมุนที่ซดได้คล่องคอบุ๋น ม่อค หรือก๋วยเตี๋ยวเส้นญวนซุปมะเขือเทศ – รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยจากมะเขือเทศสด ให้ความรู้สึกเบาและสดชื่นข้าวเกรียบปากหม้อ – แป้งบางนุ่ม ไส้แน่น ราดน้ำจิ้มรสกลมกล่อมกำลังดีแหนมเนือง – จัดเต็มทั้งผักสด เครื่องเคียงครบ และหมูเนื้อแน่นหอมเครื่องเทศ ซึ่งทุกจานสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของร้านในเรื่องวัตถุดิบ เพราะทางร้านคัดของดีมีคุณภาพเหมือนทำให้คนในครอบครัวทานเอง รสชาติไม่จัดจ้านเกินไป เหมาะกับ สายรักสุขภาพ ที่อยากลิ้มรสอาหารเวียดนามแท้ ๆ ในบรรยากาศอบอุ่นแบบบ้าน ๆ ที่สำคัญคือ ราคาไม่แรงเลย ปริมาณอาหารเหมาะสมกับราคา สมกับความตั้งใจและฝีมือที่สืบทอดกันมากว่า 40 ปีความประทับใจจากแอดรสชาติอร่อยแบบกลาง ๆ ทานง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัยบรรยากาศร้านดี ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนนั่งกินข้าวที่บ้านญาติพนักงานทุกคน เฟรนด์ลี่ เอาใจใส่ลูกค้าราคา ถือว่าเหมาะสมกับปริมาณและคุณภาพของวัตถุดิบพิกัดเวลาเปิด–ปิด: ทุกวัน (ขึ้นอยู่แต่ละสาขา)เบอร์ติดต่อ: 064 523 1198 (เอกมัย คอร์นเนอร์), 096 398 5114 (เกษรอัมรินทร์), 081 739 2247 (อุดรธานี)Facebook: facebook.com/kaopiek.senInstagram: @kao.piak.sen

รีวิว MK Premium Buffet สาขาแรก เมเจอร์รัชโยธิน

16 ก.ย. 2025

รีวิว MK Premium Buffet สาขาแรก เมเจอร์รัชโยธิน

ประเดิมเสิร์ฟ “เป็ดย่างแบบไม่อั้น” พร้อมเมนูกว่า 130 รายการวันที่ 16 กันยายน 2568 MK ได้เปิดตัว “MK Premium Buffet” สาขาแรกอย่างเป็นทางการที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน จุดเด่นคือการเสิร์ฟ “เป็ดย่าง MK” แบบไม่อั้น เป็นครั้งแรก! แถมยังมาพร้อมไลน์อาหารมากกว่า 130 รายการให้เลือกสั่งได้เต็มที่แพ็กเกจราคา (รวมเครื่องดื่มและของหวาน / จำกัดเวลา 90 นาที)499 บาท : อิ่มกับกว่า 80 เมนู เช่น เนื้อวัวสไลซ์, หมู, ลูกชิ้นแซลมอน, กุ้งแก้ว, ติ่มซำ 7 อย่าง รวมถึงเมนูจานเดียวสุดคลาสสิกอย่างข้าวหมูแดง-หมูกรอบ และบะหมี่หมูแดง-หมูกรอบ699 บาท : อัปเกรดเป็น 100 เมนู ทั้งเนื้อวากิวออสเตรเลีย, เนื้อชอร์ตเพลท US, กุ้งแม่น้ำ, แซลมอน, ปลากะพง และติ่มซำที่เพิ่มเป็น 12 อย่าง899 บาท : ไฮไลต์ของจริง! เสิร์ฟ เป็ดย่าง MK, หมูแดง และหมูกรอบไม่อั้น พร้อมเมนูระดับพรีเมียมกว่า 130 รายการ เช่น เนื้อวากิวสันคอ, หมูคุโรบูตะ, หอยเชลล์ไซซ์ยักษ์, กุ้งลายเสือ และติ่มซำถึง 15 รายการน้ำซุปก็เลือกได้ 4 สไตล์: ดั้งเดิมสูตรต้นตำรับ MK, น้ำดำญี่ปุ่น, หม่าล่าเผ็ดร้อน และต้มยำไทยรสจัดจ้านครั้งนี้เราเลือกเซ็ต 899 บาท พร้อมน้ำซุปดั้งเดิมคู่กับน้ำดำญี่ปุ่น ต้องบอกว่าอาหารมาไว จัดเต็มเต็มโต๊ะทันที! โดยเฉพาะ เป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบ ที่เสิร์ฟจานใหญ่ และเติมได้ตลอด สายหมี่หยกเป็ดย่างหรือหมี่หยกหมูแดงหมูกรอบคือห้ามพลาดเด็ดขาดด้านอาหารทะเลก็ไม่แพ้กัน MK คัดไซซ์มาใหญ่เต็มคำ ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ยักษ์, กุ้งลายเสือ และลูกชิ้นกุ้งสดที่อยากให้ทุกคนลองจริง ๆ เพราะอร่อยเกินคาดนอกจากนี้ยังมีไลน์อาหารทานเล่น, บาร์น้ำจิ้มให้ปรุงตามใจ รวมถึงบาร์เครื่องดื่มที่มีทั้งน้ำอัดลม, สเลอบี้ และท็อปปิ้งสำหรับไอศกรีมเพิ่มความฟินอีกขั้นMK Premium Buffet ถือว่าคุ้มค่ามากในแง่ความหลากหลายและคุณภาพวัตถุดิบ คัดมาเน้น ๆ ทั้งรสชาติและขนาดสมกับความเป็น MK ที่คนไทยคุ้นเคยสาขาที่เปิดให้บริการมีทั้งหมด 8 สาขา ได้แก่เมเจอร์รัชโยธิน (สาขาแรก)เซ็นทรัล เวสต์เกตเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์เอสพลานาด รัชดาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ซีคอน บางแคศาลาแดงใครอยู่ใกล้สาขาไหน อย่าลืมชวนเพื่อน ครอบครัว หรือแก๊งสายกินไปลองด้วยตัวเองแล้วคุณจะเข้าใจว่า “บุฟเฟ่ต์ MK” มันอร่อยคุ้มแบบพรีเมียมจริง ๆ

Good Old Sea, Beach Cafe – คาเฟ่ริมทะเลพัทยา สุดชิลสำหรับวันพักผ่อน

26 ส.ค. 2025

Good Old Sea, Beach Cafe – คาเฟ่ริมทะเลพัทยา สุดชิลสำหรับวันพักผ่อน

Good Old Sea, Beach Cafe – คาเฟ่ริมทะเลพัทยา สุดชิลสำหรับวันพักผ่อน อยากหาที่หนีร้อน หนีความวุ่นวายในเมือง มานั่งพักใจริมทะเลสวยๆ แนะนำเลยว่าต้องลองแวะที่ Good Old Sea, Beach Cafe คาเฟ่ริมทะเลพัทยาที่ครบทั้งบรรยากาศ อาหาร เครื่องดื่ม และมุมถ่ายรูปสุดปัง ที่นี่เหมาะสุดๆ สำหรับใครที่อยากพักผ่อนใกล้กรุงเทพ ขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้มานั่งชิลริมทะเล บรรยากาศเงียบสงบ วิวสวย แถมยังมีหลายมุมถ่ายรูปให้ได้รูปสวยๆ กลับไปอัพโซเชียลกันแบบจุใจและที่พิเศษคือ คาเฟ่นี้เป็น pet friendly จะพาน้องหมาน้องแมวมานั่งเล่นพักผ่อนด้วยก็ได้ เหมาะทั้งมากับเพื่อน แฟน หรือครอบครัวเลย นอกจากวิวทะเลที่สวยแล้ว เรื่องเมนูก็เด็ดไม่แพ้กัน ที่ Good Old Sea, Beach Cafe มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นและความอร่อย เช่นBlue Cocco สดชื่นคลายร้อนCoconut Juice น้ำมะพร้าวแท้ๆ หอมหวานธรรมชาติSparkling Blackcurrant ซ่า สดใสPassion Fruit Soda หวานอมเปรี้ยวกำลังดีGood Old Sea Coffee กาแฟซิกเนเจอร์หอมเข้มCalamari ปลาหมึกทอดกรอบนอกนุ่มในChampion W Truffle Sauce Pizza พิซซ่ากรุ่นกลิ่นทรัฟเฟิลสุดพรีเมียม (แต่แอบติดหวานไปนิด)จะเลือกนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ ฟังเสียงคลื่น หรือสั่งอาหารมากินเพลินๆ ริมทะเลก็ตอบโจทย์สุดๆ ถ้าอยากหาที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้กรุงเทพ Good Old Sea, Beach Cafe ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ทั้งบรรยากาศติดทะเลสุดชิล เมนูอร่อย เครื่องดื่มสดชื่น มุมถ่ายรูปเพียบ และยังเป็นคาเฟ่ที่เพื่อนซี้สี่ขาก็มาด้วยได้ ใครมีแพลนไปพัทยา อย่าลืมแวะไปเช็คอินกันนะครับ!พิกัดเปิดบริการทุกวัน 10.00 – 22.00 น.มีกิจกรรมพิเศษทุกเสาร์-อาทิตย์ที่ตั้ง: 245/3 หมู่ 4 นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีโทร: 097-245-7050Instagram: @goodoldseabeachcafeจัดทำโดย พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

Beauty & Health

แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพรสชาติดี ตามทันเทรนด์รักสุขภาพ

15 ก.ย. 2025

แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพรสชาติดี ตามทันเทรนด์รักสุขภาพ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสการใส่ใจในสุขภาพและการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จากการที่ผู้คนหันมาใส่ใจในโภชนาการที่ดี และเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากความตระหนักถึงผลกระทบของการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลเยอะ หรือมีสารเคมีตกค้างต่าง ๆ ที่สามารถทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตามมา ในปัจจุบันไม่เพียงแค่การออกกำลังกายที่เป็นที่นิยม แต่การเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองที่สำคัญ หลายคนเริ่มหันมาเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยสารเคมีหรือของแปรรูป โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาวิธีการรักษาสุขภาพให้สมดุลทั้งในเรื่องการกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อน Chill on กินเที่ยว จะพาทุกท่านไปรู้จักกับอาหารเพื่อสุขภาพที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย พร้อมทั้งยกตัวอย่างเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ทั้งเมนูหลักและของว่างเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยเสริมสร้างพลังงานและดูแลสุขภาพในระยะยาวอาหารเพื่อสุขภาพคืออะไร อาหารเพื่อสุขภาพ คืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้ โดยมักจะประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือแปรรูปมากเกินไป อาหารเหล่านี้มักจะมีการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีสารอาหารครบถ้วน ทั้งคาร์โบไฮเดรตที่ดี ไขมันที่มีประโยชน์ โปรตีนจากแหล่งธรรมชาติ และเส้นใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่ายและดูแลระบบย่อยอาหารตัวอย่างของอาหารสุขภาพ คือ การเลือกทานผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ที่ปราศจากไขมัน รวมถึงการใช้ไขมันที่ดีจากน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอัลมอนด์ การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีการเติมน้ำตาลหรือโซเดียมสูง รวมถึงการทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อควบคุมน้ำหนักและสุขภาพโดยรวมทำอาหารเพื่อสุขภาพ มีหลักการอะไรบ้าง การทำอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่เข้าใจหลักการง่าย ๆ และเลือกใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ โดยมีหลักการดังนี้ลดเครื่องปรุงที่ไม่จำเป็น - ลดการใช้เครื่องปรุงที่มีน้ำตาลและโซเดียมสูง เช่น น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส หรือผงชูรส ใช้เครื่องปรุงธรรมชาติ เช่น กระเทียม ขิง พริกไทย และสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารลดการใช้น้ำมัน - หากต้องการทอดหรือผัด ควรเลือกใช้น้ำมันที่มีไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากไขมันที่ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ได้ง่ายเพิ่มผักและผลไม้ - ผักและผลไม้ ควรเป็นส่วนประกอบหลักในมื้ออาหารเพื่อสุขภาพ เพราะพวกมันมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและลดการดูดซึมของไขมันในลำไส้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายเพิ่มโปรตีนจากแหล่งที่ดี - โปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์และกล้ามเนื้อ ควรเลือกทานโปรตีนจากแหล่งที่มีคุณภาพ เช่น ปลา ไก่ไม่ติดหนัง ถั่ว และธัญพืช เนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมันสูงเป็นทางเลือกที่ดีลดการปรุงด้วยน้ำตาล - การหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาลหรือเลือกใช้น้ำตาลธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้งหรือน้ำตาลมะพร้าว จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดยกตัวอย่างเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ 1. เมนูหลักเพื่อสุขภาพข้าวกล้องผัดผักรวม - ข้าวกล้องเป็นแหล่งของเส้นใยอาหารที่ช่วยระบบย่อยอาหาร ผัดกับผักสด เช่น แครอท ถั่วฝักยาว เห็ด และโปรตีนจากเต้าหู้หรืออกไก่ เน้นการใช้น้ำมันมะกอกในการผัด จะได้ อาหารเพื่อสุขภาพ ที่มีความหลากหลายทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนซุปมิโสะใส่เต้าหู้และผัก - ซุปมิโสะมีรสชาติอูมามิที่ช่วยเติมเต็มรสชาติของอาหาร ใช้ผักสดต่าง ๆ เช่น ผักกาดขาว เห็ดหอม และเต้าหู้ขาว เพิ่มความอร่อยและเต็มไปด้วยโปรตีนจากพืช นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสุขภาพระบบย่อยอาหารสลัดผักทูน่า - เมนูง่าย ๆ ที่เต็มไปด้วยวิตามินจากผักสด ๆ และโปรตีนจากทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ ปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอกและน้ำมะนาว เพิ่มรสชาติด้วยพริกไทยและเกลือเล็กน้อย 2. ของว่างเพื่อสุขภาพยเกิร์ตผสมผลไม้และเมล็ดเจีย - โยเกิร์ตไขมันต่ำผสมกับผลไม้สด เช่น เบอร์รี่ หรือกล้วยหอม และเมล็ดเจีย เป็น ของว่างเพื่อสุขภาพ ที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์จากโยเกิร์ต และไฟเบอร์จากเมล็ดเจียขนมปังโฮลวีตทาอะโวคาโด - ขนมปังโฮลวีตที่มีไฟเบอร์สูง ทาอะโวคาโดบดพร้อมพริกไทยและเกลือเล็กน้อย เป็นของว่างที่มีไขมันดีจากอะโวคาโดและไฟเบอร์จากขนมปังโฮลวีตสาหร่ายอบกรอบ - เมนูนี้ทำง่ายและให้พลังงานต่ำ เพียงแค่ใช้สาหร่ายสดหรือแผ่นสาหร่ายวางบนถาดอบจนกรอบ เป็น ของว่างเพื่อสุขภาพ ที่มีแร่ธาตุจากสาหร่ายและไขมันต่ำประโยชน์ของการทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นประจำ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นประจำ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น แต่ยังมีประโยชน์มากมายที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีควบคุมน้ำหนัก: การทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและมีสารอาหารครบถ้วน ช่วยในการควบคุมน้ำหนักและป้องกันโรคอ้วน อีกทั้งยังลดไขมันภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: การทานผักและผลไม้สดช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดการเกิดโรคต่าง ๆลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การทานอาหารสุขภาพ คือ การลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, เบาหวาน และโรคมะเร็งดีต่อระบบย่อยอาหาร: การเพิ่มไฟเบอร์จากผักและผลไม้ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและลดปัญหาท้องผูกสรุป การทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและช่วยรักษาสุขภาพให้แข็งแรง การเลือกทานเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ปรุงด้วยส่วนผสมที่ดีต่อร่างกาย ไม่เพียงแต่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดี แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ และทำให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ดังนั้นอย่าลืมเริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับร่างกาย เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว สำหรับคนอ่านที่สนใจบทความน่ารู้ สามารถเข้ามาอ่านเนื้อหาอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Chill on กินเที่ยวจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

เก้าอี้สุขภาพ (Ergonomic) อุปกรณ์เสริม สร้างการนั่งที่ดี

15 ก.ย. 2025

เก้าอี้สุขภาพ (Ergonomic) อุปกรณ์เสริม สร้างการนั่งที่ดี

Chill on กินเที่ยว วันนี้จะมาพูดถึงการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นต้นเหตุของ “อาการปวดหลัง” ที่สร้างความไม่สบาย และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อใช้อุปกรณ์ที่ไม่รองรับสรีระ เช่น เก้าอี้ทั่วไปที่ไม่ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ปัญหาสุขภาพจากการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้อง ในยุคที่การทำงานส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ การนั่งทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของชาวออฟฟิศจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในสายไอที งานบัญชี งานเขียน หรืองานบริการลูกค้าทางโทรศัพท์ ถึงแม้ว่าการนั่งจะดูเหมือนไม่ใช่พฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อร่างกาย แต่ในความเป็นจริง การนั่งที่ผิดท่าติดต่อกันเป็นระยะเวลานานสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังโดยเฉพาะ อาการปวดหลัง ปวดคอ และปวดไหล่ จนนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า ออฟฟิศซินโดรม หากเราไม่ใส่ใจในท่านั่งหรือไม่ใช้เก้าอี้สุขภาพ ที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับสรีระร่างกาย อาการเหล่านี้อาจพัฒนาไปสู่โรคร้ายแรง เช่น หมอนรองกระดูกเสื่อม เส้นประสาทถูกกดทับ หรือกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังได้ ดังนั้นการเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่ส่งเสริมการนั่งอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเก้าอี้ Ergonomic หรือ เก้าอี้ทำงานสุขภาพ จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าทางเลือกออฟฟิศซินโดรม โรคยอดฮิต Office Syndrome หรือออฟฟิศซินโดรม คือกลุ่มอาการที่เกิดจากพฤติกรรมซ้ำ ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่มีการขยับเปลี่ยนอิริยาบถ ซึ่งสาเหตุหลักมักเกิดจากการนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง หรือใช้อุปกรณ์สำนักงานที่ไม่รองรับสรีระของผู้ใช้งาน อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ และหลังปวดศีรษะจากความเครียดของกล้ามเนื้อชาปลายมือหรือแขนจากการกดทับเส้นประสาทการหายใจตื้นเนื่องจากกล้ามเนื้อทรวงอกเกร็ง การใช้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถลดความเสี่ยงจากออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถูกออกแบบมาให้รองรับการนั่งที่ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยกระจายน้ำหนัก ลดแรงกดทับ และปรับท่าทางให้นั่งได้ในระยะเวลานานอย่างปลอดภัยแนะนำเก้าอี้สุขภาพหรือ เก้าอี้ ergonomic สำหรับการนั่งทำงาน เก้าอี้สุขภาพหรือที่เรียกกันว่า เก้าอี้ Ergonomic เป็นเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ถูกออกแบบมาด้วยหลักการทางสรีรศาสตร์ (Ergonomics) มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนท่าทางการนั่งที่เหมาะสม ช่วยลดภาระของกระดูกสันหลัง และป้องกันการบาดเจ็บจากการนั่งนาน ๆ คุณสมบัติสำคัญของเก้าอี้ Ergonomic ที่ควรมองหาพนักพิงหลังที่รองรับกระดูกสันหลัง - ควรมีพนักพิงที่โค้งเว้าตามแนวกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะช่วงเอว เพื่อช่วยพยุงหลังส่วนล่าง ลดอาการปวดหลังเบาะนั่งปรับระดับได้ - สามารถปรับความสูงของเบาะให้เหมาะสมกับโต๊ะทำงาน และความสูงของผู้ใช้งาน เพื่อให้เท้าสัมผัสพื้นได้อย่างเต็มที่พนักพิงศีรษะและที่รองแขน - ช่วยลดแรงตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่ และต้นแขน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องนั่งประชุมหรือพิมพ์งานต่อเนื่องวัสดุระบายอากาศ - เบาะและพนักพิงควรผลิตจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น และระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการสะสมความร้อนล้อเลื่อนและระบบหมุนรอบตัว - เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหว ลดแรงบิดของร่างกายขณะเอื้อมของหรือหันซ้ายขวาข้อดีของเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ การลงทุนในเก้าอี้ทำงานสุขภาพ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสบาย แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพระยะยาวอย่างแท้จริง ซึ่งข้อดีหลักของเก้าอี้สุขภาพ มีดังนี้ลดอาการปวดเมื่อยและป้องกันออฟฟิศซินโดรม - เก้าอี้ Ergonomic ถูกออกแบบให้รองรับโครงสร้างร่างกายของมนุษย์อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะช่วงคอ บ่า ไหล่ และกระดูกสันหลัง ช่วยลดแรงกดทับจากการนั่งในท่าเดิมนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อไม่เกร็งหรือเมื่อยล้าเกินไป จึงลดความเสี่ยงในการเกิดออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอาการยอดฮิตของคนที่ต้องนั่งทำงานตลอดวันเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน - เมื่อร่างกายรู้สึกสบายและไม่ต้องเผชิญกับความปวดเมื่อย สมองก็สามารถจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ดีขึ้น ความเหนื่อยล้าที่สะสมจากท่านั่งที่ไม่เหมาะสมจะถูกลดทอนลง ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ผู้ใช้งานจะมีสมาธินานขึ้น ทำงานได้ต่อเนื่อง และมีพลังงานเหลือเฟือในช่วงท้ายของวันปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง - หลายคนไม่รู้ว่าท่านั่งที่ผิดเพียงเล็กน้อย เช่น การนั่งหลังงอ การห่อตัว หรือการนั่งเอียงตัวซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานาน จะสะสมจนกลายเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเสียในระยะยาว เก้าอี้สุขภาพจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบังคับทางอ้อมให้ผู้ใช้งานนั่งในท่าที่ถูกต้อง ลดการโค้งงอผิดธรรมชาติของหลัง และส่งเสริมโครงสร้างร่างกายที่สมดุลมากยิ่งขึ้นปรับระดับให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน - ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรูปร่างเล็กหรือใหญ่เก้าอี้ทำงานสุขภาพก็สามารถปรับระดับความสูง ความลึกของเบาะ ที่วางแขน พนักพิงหลัง หรือแม้แต่พนักพิงศีรษะให้เหมาะสมกับสรีระเฉพาะบุคคลได้อย่างลงตัว ความยืดหยุ่นในการปรับใช้นี้ ทำให้เก้าอี้สามารถรองรับผู้ใช้งานทุกประเภท และช่วยให้การนั่งทำงานในแต่ละวันรู้สึกพอดีอย่างแท้จริงช้งานได้นาน คุ้มค่าการลงทุน - แม้ว่าเก้าอี้สุขภาพจะมีราคาสูงกว่าเก้าอี้สำนักงานทั่วไป แต่ด้วยวัสดุคุณภาพสูง ระบบการปรับที่ซับซ้อน และดีไซน์ที่ผ่านการวิจัยด้านสรีรศาสตร์มาอย่างดี ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเก้าอี้ทั่วไปหลายเท่า อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาอาการปวดหลัง ค่ากายภาพบำบัด หรือค่าเวชภัณฑ์อื่น ๆ เมื่อนำมาคำนวณในระยะยาวแล้ว ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่เห็นผลจริงและคุ้มค่าที่สุดสรุป การดูแลสุขภาพจากการทำงาน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกกำลังกายหรือพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้น แต่ “การนั่งให้ถูกวิธี” ก็เป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การเลือกเก้าอี้สุขภาพ หรือ เก้าอี้ทำงานสุขภาพ ที่ดีสามารถช่วยป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมและบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ได้อย่างเห็นผล อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ยั่งยืน โดยสามารถเลือกซื้อเก้าอี้สุขภาพได้ตามโชว์รูม หรือร้านขายเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำที่สนใจ ด้วยราคาของเก้าอี้เพื่อสุขภาพในยุคนี้ที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าเดิม ทำให้ทุกคนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างง่ายดาย สำหรับใครที่อยากอ่านบทความไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน การกินเที่ยว หรือรีวิวอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเข้ามาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Chill on กินเที่ยว บนแพลตฟอร์มเว็บไซต์ Atime มีบทความหลากหลายให้คุณได้ติดตาม รับรองว่าได้ทั้งความรู้และความบันเทิงในเวลาเดียวกันจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

กระแสชาเขียวฟีเวอร์จนขาดตลาด นอกจากอร่อยแล้วมีประโยชน์ยังไง

12 ก.ย. 2025

กระแสชาเขียวฟีเวอร์จนขาดตลาด นอกจากอร่อยแล้วมีประโยชน์ยังไง

ในช่วงปี 2025 ที่ผ่านมา หนึ่งในกระแสที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายคงหนีไม่พ้นชาเขียว ที่กลับมาเป็นกระแสฟีเวอร์อีกครั้ง ด้วยความฮิตจากเมนูใหม่ ๆ ของร้านแฟรนไชส์เครื่องดื่มชื่อดัง การรีวิวบนโซเชียลมีเดีย และเทรนด์สุขภาพที่กลับมาครองใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่เริ่มใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จากร้านกาแฟธรรมดาไปจนถึงคาเฟ่เฉพาะทาง หลายร้านถึงกับต้องขึ้นป้าย "ชาเขียวหมดชั่วคราว" เนื่องจากออร์เดอร์ที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด ขณะเดียวกันชาเขียวก็ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่มหอมอร่อยเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ วันนี้ Chill On กินเที่ยวจะพาไปทำความรู้จักกับชาเขียวในมิติต่าง ๆ ทั้งรสชาติ เกรด ประโยชน์ เมนูน่าสนใจ รวมถึงคาเฟ่เด็ด ๆ ที่ต้องลองสักครั้งชาเขียว มีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย เราควรกินชาเขียวแบบไหนดี เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะชาเขียวไม่ได้มีดีแค่กลิ่นหอมและรสชาติละมุน แต่ยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะชาเขียวแบบไม่ใส่น้ำตาล หรือที่เรียกกันว่าชาเขียวแท้ ประโยชน์ของชาเขียวมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด - สารโพลีฟีนอลในชาเขียวช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL และป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดกระตุ้นระบบเผาผลาญ - คาเฟอีนและแคทิชินในชาเขียวช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักลดความเสี่ยงมะเร็ง - สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวอาจช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิดดีต่อสุขภาพฟันและลมหายใจ - สาร EGCG ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่น และลดการเกิดฟันผุช่วยคลายเครียดและเพิ่มสมาธิ - ธีอะนีน (Theanine) ซึ่งพบได้ในชาเขียว มีคุณสมบัติช่วยให้สมองผ่อนคลายแต่ยังคงตื่นตัวประเภทรสชาติ(โทน)ของชาเขียว มีแบบไหนบ้างโทนสาหร่าย - เป็นชาเขียวมัทฉะ ที่มีความโดดเด่นในกลิ่นของสาหร่าย และกลิ่นหญ้าโทนถั่ว - เป็นชาเขียวมัทฉะ ที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องจากมีกลิ่นหอมคล้ายถั่ว โดดเด่นในด้านความหอมละมุนชาเขียวมีกี่เกรด 1. Ceremonial Grade (เกรดพิธีการ) - ชาเขียวระดับสูงสุดที่ใช้ในพิธีชงชาของญี่ปุ่น เป็นมัทฉะที่ทำจากยอดอ่อนของใบชาเท่านั้น ผ่านกระบวนการบดด้วยหินแบบดั้งเดิม ทำให้ได้เนื้อผงที่ละเอียดพิเศษจนแทบละลายได้เองในน้ำร้อน รสชาติหอมละมุน ไม่ขม ไม่ฝาด 2. Premium Grade (เกรดพรีเมียม) - เกรดนี้จัดอยู่ในระดับสูงรองจากเกรดพิธีการ แต่ยังคงใช้ใบชาคุณภาพดี ผสมยอดใบอ่อน และมีกระบวนการผลิตที่รักษาคุณลักษณะของมัทฉะไว้ได้ดี มักนิยมใช้ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นทั่วไป มีสีเขียวสดแต่น้อยกว่าเกรดพิธีการ มีกลิ่นหญ้าอ่อน ๆ แบบธรรมชาติ 3. Culinary Grade (เกรดทำอาหาร) - เกรดนี้ถือเป็นชาเขียวสำหรับการปรุงอาหาร นิยมใช้ทำขนม เบเกอรี่ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติม เพราะมีรสเข้มที่ไม่โดนกลบง่าย ราคาไม่สูงมาก รสขมฝาด และอาจมีกลิ่นแรงแนะนำเมนูชาเขียวที่น่าสนใจ ทำเองได้ สำหรับผู้ที่อยากสนุกกับการดื่มชาเขียวแบบ DIY ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์บาริสต้าหรือวัตถุดิบหรูหราแต่อย่างใด เพราะมีเมนูชาเขียวหลากหลายแบบที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบไม่มาก และยังได้รสชาติอร่อยไม่แพ้ร้านคาเฟ่ดัง แถมยังสามารถปรับสูตรได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะหวานมาก หวานน้อย หรือเพิ่มความครีมมี่ด้วยนมชนิดต่าง ๆ สำหรับเมนูชาเขียวแบบทำเองที่คัดมาแล้วว่าอร่อย สดชื่น และสุขภาพดี มีดังนี้ 1. ชาเขียวเย็นสูตรน้ำผึ้งมะนาว - เมนูนี้เหมาะมากสำหรับหน้าร้อน หรือวันที่คุณต้องการความสดชื่นแบบไม่หวานจัด โดยใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลให้ได้ความหวานจากธรรมชาติ วิธีทำ: ผสมผงชาเขียว 1 ช้อนชากับน้ำร้อนประมาณ 100 มล. คนให้ละลาย กรองเอาแต่น้ำเพื่อให้ได้รสชาติใสสะอาด จากนั้นเติมน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา และน้ำมะนาวเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็ง ดื่มทันที หรือจะแช่เย็นไว้ก่อนก็ดี ดื่มแล้วสดชื่น คลายร้อนได้ดีเยี่ยม 2. มัทฉะลาเต้เย็น -เมนูยอดนิยมที่พบได้ในทุกคาเฟ่ แต่รู้ไหมว่าคุณสามารถทำเองที่บ้านได้แบบง่าย ๆ ด้วยวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง และยังเลือกปรับสูตรให้เป็นแนวสุขภาพมากขึ้นด้วย วิธีทำ: ผสมผงมัทฉะ 1 ช้อนชากับน้ำร้อนเล็กน้อย (ประมาณ 50 มล.) คนให้ละลาย จากนั้นเติมนมสดหรือนมอัลมอนด์ประมาณ 150-200 มล. ใส่น้ำแข็ง และเติมไซรัปหรือน้ำเชื่อมเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหวานตามชอบ หากต้องการให้เข้มข้นกว่านี้ อาจใช้ครีมเทียมหรือวิปครีมเป็นท็อปปิ้งก็ได้ 3. สมูทตี้ชาเขียวกล้วยหอม - เมนูสายสุขภาพที่ได้ทั้งพลังงานดี ๆ และรสชาติหอมมันกลมกล่อมจากกล้วยหอมและชาเขียว เหมาะสำหรับเป็นมื้อเช้าหรือดื่มหลังออกกำลังกาย วิธีทำ: นำกล้วยหอมแช่แข็ง 1 ลูก ผงชาเขียว 1 ช้อนชา นมสดหรือโยเกิร์ต ½ ถ้วย และน้ำแข็งเล็กน้อย ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนียนละเอียด เสิร์ฟใส่แก้ว สามารถเพิ่มเมล็ดเจียหรือข้าวโอ๊ตบดเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารได้อีกด้วย 4. พุดดิ้งชาเขียว - ของหวานที่ทำง่ายแต่ดูดี เหมาะทั้งทำกินเองในครอบครัวหรือเสิร์ฟในมื้อพิเศษ โดยใช้ผงเจลาตินช่วยให้เนื้อขนมจับตัวแต่ยังคงความนุ่มนวล วิธีทำ: ละลายผงเจลาตินประมาณ 1 ช้อนชาในน้ำอุ่น ผสมกับนมสด 1 ถ้วย ผงชาเขียว 1 ช้อนชา และน้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นคนให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อนให้พอร้อนแต่ไม่เดือด เทใส่ถ้วยหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ พักให้เย็นแล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจนเซตตัว เสิร์ฟพร้อมวิปครีม หรือถั่วแดงกวนก็อร่อยไม่แพ้กันคาเฟ่ชาเขียวที่ได้รับความนิยมชาหน้าผา - คาเฟ่ชาเขียวที่กำลังเป็นกระแสจากเขาใหญ่ ซึ่งตอนนี้มาเปิดสาขาที่กรุงเทพ ฯ แล้ว มีเมนูชาเขียวและไอศกรีมให้เลือกหลากหลายแบบKyo Roll En - ร้านขนมหวานที่หลายคนคุ้นเคย เนื่องจากตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า มีเมนูชาเขียวมากมาย โดยเฉพาะเค้กโรลชาเขียวFuku Matcha - ร้านชาที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้ม กินแล้วตาสว่างไปถึงเช้า แน่นอนว่าเมนูชาเขียวก็เข้มข้นถึงใจ ดื่มแล้วลืมไม่ลง จนอยากไปซ้ำPeace Oriental Teahouse - ร้านโปรดในดวงใจของใครหลายคน ด้วยเมนูชาเขียวมัทฉะเข้มข้นหลากหลายแบบMini Oriental speedbar - ร้านมัทฉะเครือเดียวกันกับ Peace Oriental speedbar ที่สำคัญคือ ทุกเมนูในร้านราคา 65 บาทเท่านั้นSeven Suns - ร้านชาเขียวมัทฉะที่แอดชอบมากที่สุด รสชาติเข้มข้น แต่ก็มีความกลมกล่อม หอมหวาน สาวกชาเขียวต้องได้ลองกันสักครั้งหนึ่งในชีวิตสรุป จากกระแสชาเขียวที่ฟีเวอร์จนขาดตลาด ทำให้เห็นได้ชัดว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแฟชั่นชั่วคราว แต่เป็นเทรนด์ที่ผสมผสานระหว่างความอร่อย ความสุข และสุขภาพได้อย่างลงตัว การตัดสินใจว่าจะกินชาเขียวแบบไหนดี จึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเพื่อสุขภาพ ความผ่อนคลาย หรือความเพลิดเพลิน การรู้จักประโยชน์ของชาเขียว ประเภท เกรด และวิธีการดื่มที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้รับคุณค่าจากเครื่องดื่มแก้วโปรดอย่างเต็มที่ และหากคุณยังไม่เคยลองทำเมนูชาเขียวเองที่บ้าน นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้น เพราะชาเขียวไม่ใช่แค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่คือไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง สามารถอ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ Chill on กินเที่ยวจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ บาลี บัญชานิตยกาล

Overnight oat อาหารยอดฮิตสำหรับคนคุมอาหาร มีสูตรการทำอย่างไร

10 ก.ย. 2025

Overnight oat อาหารยอดฮิตสำหรับคนคุมอาหาร มีสูตรการทำอย่างไร

วันนี้ Chill on กินเที่ยว จะมาพูดถึงเทรนด์รักสุขภาพมาแรงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน อาหารแนวคลีน หรืออาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน กำลังกลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้คนทุกเพศทุกวัย และหนึ่งในเมนูที่ติดเทรนด์มากที่สุดในช่วงที่ผ่านมาคือ Overnight Oat อาหารเช้าสุดเฮลธ์ตี้ที่กลายเป็นขวัญใจของสายคลีน คนลดน้ำหนัก และผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพไปพร้อมกับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันด้วยความที่สามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องใช้ไฟ ไม่ต้องเสียเวลาปรุงตอนเช้า และยังดัดแปลงรสชาติได้หลากหลายตามใจชอบ ทำให้ Overnight Oat กลายเป็น “อาหารเช้ายุคใหม่” สำหรับคนยุคใหม่ที่อยากเริ่มต้นวันดี ๆ ด้วยอาหารที่ทั้งอร่อยและมีคุณประโยชน์ครบถ้วนOvernight Oat คืออะไร Overnight Oat คือเมนูข้าวโอ๊ตที่ไม่ต้องต้ม แต่ใช้วิธีแช่ในของเหลว เช่น นมสด นมพืช หรือน้ำเปล่าผสมโยเกิร์ต ทิ้งไว้ในตู้เย็นข้ามคืน โดยข้าวโอ๊ตจะค่อย ๆ ซึมซับของเหลวจนกลายเป็นเนื้อเนียนนุ่มพร้อมรับประทานในตอนเช้า รูปแบบของ Overnight Oat แตกต่างจากโจ๊กหรือโอ๊ตต้มทั่วไป เพราะไม่ผ่านความร้อน ทำให้คงคุณค่าสารอาหารไว้ได้เต็มที่ อีกทั้งยังสามารถเติมผลไม้สด ถั่ว เมล็ดเจีย น้ำผึ้ง หรือเครื่องเทศต่าง ๆ เพื่อเสริมรสชาติและประโยชน์เพิ่มเติม จุดเด่นอีกประการคือความพกพาสะดวก และเหมาะสำหรับคนยุคเร่งรีบ เพียงแค่เตรียมไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด แล้วแช่ไว้ในตู้เย็น เมื่อเช้าถึงก็สามารถหยิบขึ้นมากินได้ทันที ไม่ว่าจะทานบนรถหรือพกไปทานที่ทำงานก็สามารถทำได้ ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นรบกวนคนรอบข้าง เนื่องจากส่วนผสมมีเพียงแค่ข้าวโอ๊ต นม โยเกิร์ต ผลไม้ และเมล็ดเจียเท่านั้นส่วนประกอบและวิธีการทำ Overnight Oat แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของ Overnight Oat จะดูเหมือนซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเมนูนี้ทำได้ง่ายมาก และดัดแปลงได้ตามวัตถุดิบในตู้เย็นของคุณ เราสามารถเริ่มต้นจาก Overnight Oats สูตรพื้นฐาน ดังนี้ 1. ส่วนประกอบหลัก (สูตรมาตรฐาน)ข้าวโอ๊ตชนิด Rolled Oats (ไม่ใช่ quick oats) ½ ถ้วย หรือตามความต้องการนม (นมสด, นมอัลมอนด์, นมถั่วเหลือง ฯลฯ) ½ - 1 ถ้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2-3 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้ หรือเลือกใช้เป็นกรีกโยเกิร์ต)เมล็ดเจีย / เมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนชาน้ำผึ้ง / อินทผลัมบด / กล้วยสุกบด (ใช้เพิ่มความหวานจากธรรมชาติ) 2. วิธีทําเมนู Overnight Oatเทข้าวโอ๊ตลงในภาชนะ เช่น ขวดแก้วหรือกล่องมีฝาปิดเติมนมและโยเกิร์ต คนให้เข้ากันใส่เมล็ดเจียและส่วนผสมที่ให้รสหวานตามชอบปิดฝาแล้วนำไปแช่เย็นข้ามคืน (อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง)ตอนเช้าสามารถใส่ผลไม้สด ถั่ว หรือ topping อื่น ๆ ก่อนเสิร์ฟได้* หากต้องการเปลี่ยนรสชาติ ให้เติมผงโกโก้ ผงอบเชย กลิ่นวานิลลา หรือผลไม้แช่แข็งลงไปก่อนแช่เย็น เพื่อให้อาหารมีรสชาติที่น่าสนใจมากขึ้นประโยชน์ของการทาน Overnight Oat นอกจากความอร่อยและสะดวกสบายแล้ว Overnight Oat ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ และคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น - ข้าวโอ๊ตมีใยอาหารสูง โดยเฉพาะ “เบต้ากลูแคน” ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล และกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้นควบคุมน้ำหนักและคอเลสเตอรอล - ใยอาหารที่อยู่ในข้าวโอ๊ตช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดการกินจุกจิกในระหว่างวัน และช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง - หลายการศึกษาระบุว่าการบริโภคข้าวโอ๊ตเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูงเป็นมิตรกับผู้แพ้แลคโตส - สามารถปรับเปลี่ยนสูตรโดยใช้ “นมพืช” แทนได้ เช่น นมอัลมอนด์ หรือนมข้าวโอ๊ต ซึ่งยังคงให้รสชาติเข้มข้นเหมือนเดิมประหยัดเวลาและพลังงาน - เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ เพราะไม่ต้องปรุง ไม่ต้องล้างหม้อ และไม่ต้องรอร้อน ทานได้ทันทีที่ตื่น หากพูดถึง Overnight Oats ประโยชน์นั้นมีมากมาย นี่คือเมนูที่ไม่เพียงแต่อร่อยและอยู่ท้อง แต่ยังสนับสนุนให้เรารักษาสุขภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาวแนะนำเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจจากข้าวโอ๊ต แม้ว่า Overnight Oat จะเป็นเมนูยอดฮิต แต่จริง ๆ แล้วข้าวโอ๊ตยังสามารถนำไปดัดแปลงเป็นเมนูอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ทั้งคาวและหวาน เช่นOatmeal ต้มร้อน - เมนูนี้เป็นอาหารเช้าแบบคลาสสิกที่เราคุ้นเคยกันดี เพียงแค่นำข้าวโอ๊ตไปต้มกับน้ำหรือนมจนได้ความข้นและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล ก็สามารถเติมความอร่อยเพิ่มเติมด้วยผลไม้สดอย่างกล้วยหอมหั่นบาง เบอร์รี หรือผลไม้แห้ง และหากต้องการรับประทานในแบบคาว ก็อาจเพิ่มไข่ต้ม ไข่ดาว หรือแม้แต่เนื้อไก่ฉีกเล็กน้อย พร้อมโรยพริกไทยดำเพื่อตัดรสก็อร่อยได้ในอีกสไตล์คุกกี้ข้าวโอ๊ต - เมนูนี้ใช้ข้าวโอ๊ตแทนแป้งขัดขาว ทำให้ลดคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวได้ดี พร้อมทั้งเพิ่มใยอาหารที่ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ส่วนผสมหลักที่นิยมใช้มีทั้งกล้วยสุกบดที่ช่วยให้เนื้อคุกกี้นุ่มและให้ความหวานจากธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาล ลูกเกดหรือดาร์กช็อกโกแลตชิ้นเล็กที่ช่วยเติมรสสัมผัส และกลิ่นหอมของผงอบเชยที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแพนเค้กข้าวโอ๊ต - แพนเค้กข้าวโอ๊ตก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะสามารถใช้ข้าวโอ๊ตบดละเอียดแทนแป้ง ทำให้ได้แพนเค้กที่ไฟเบอร์แน่น โปรตีนสูง และมีรสสัมผัสที่เหนียวนุ่มไม่แพ้แป้งธรรมดา สูตรพื้นฐานเพียงแค่ผสมไข่ไก่และกล้วยหอมบดเข้ากับข้าวโอ๊ต เติมผงฟูเล็กน้อยให้แพนเค้กฟูสวย เมื่อสุกก็สามารถทานได้ทันทีข้าวโอ๊ตปั่น (Oat Smoothie) - เหมาะมากกับเช้าที่เร่งรีบหรือวันที่ไม่มีเวลาทำอาหาร เพียงแค่ใส่ข้าวโอ๊ตลงในเครื่องปั่นร่วมกับนมหรือโยเกิร์ต และผลไม้ที่ชอบ เช่น กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี่ หรือเบอร์รีรวม เติมน้ำแข็งเล็กน้อย แล้วปั่นให้เข้ากัน ก็จะได้สมูทตี้ที่เนื้อข้นและนุ่มลื่นจากข้าวโอ๊ต แถมยังอยู่ท้องได้นานโดยไม่ต้องเพิ่มแป้งหรือน้ำตาลสรุป Overnight Oat คือเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ลงตัวที่สุดสำหรับคนยุคใหม่ ที่ต้องการเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างมีคุณภาพและไม่ยุ่งยาก ด้วยคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน ความสะดวกสบายในการเตรียม และรสชาติที่ปรับได้ตามใจ ทำให้เมนูนี้กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่คนลดน้ำหนักและผู้รักสุขภาพ หากคุณสนใจบทความด้านอาหารคลีนไลฟ์สไตล์ หรือท่องเที่ยวผสมสุขภาพ สามารถเลือกอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ Chill on กินเที่ยว บนเว็บไซต์ Atime ที่รวบรวมเรื่องราวน่าสนใจหลากหลายแนวในแบบที่อ่านง่ายและได้แรงบันดาลใจในทุกบทความจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

ออกกำลังกายเวทเทรนนิ่ง เพิ่มกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบเผาผลาญ

02 ก.ย. 2025

ออกกำลังกายเวทเทรนนิ่ง เพิ่มกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบเผาผลาญ

หากพูดถึงการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง มีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับการออกกำลังกายประเภทนี้ ด้วยคำนิยามที่เป็นการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่หลายคนมักจะพูดด้วยคำว่าออกกำลังกายเพิ่มกล้าม ทำให้ตัวใหญ่ ตัวบวม หรือกล้ามใหญ่ จนผู้หญิงหลายคนอาจกลัวการออกกำลังกายประเภทนี้ แต่ความจริงแล้วการออกกำลังการเวทเทรนนิ่ง หากเลือกออกอย่างถูกต้องและพอดี ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไปพร้อม ๆ กับรูปร่างที่สวยงามมากขึ้น วันนี้ Chill on กินเที่ยว จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการออกกำลังกายประเภทนี้ให้ละเอียดมากขึ้น และไขข้อเข้าใจผิดที่หลายคนยังไม่รู้ให้ถูกต้องการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง คืออะไร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คอนเทนต์หรือเทรนด์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและรูปร่างได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตง่าย ๆ ได้จากโซเชียลมีเดีย โดยหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายที่ได้รับความสนใจจากทั้งผู้หญิงและผู้ชายทุกช่วงวัยก็คือ การเวทเทรนนิ่ง”หรือการฝึกกล้ามเนื้อด้วยแรงต้าน ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเวทเทรนนิ่ง คือ อะไร และมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) คือ การออกกำลังกายที่เน้นการใช้น้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวหรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ดัมเบล บาร์เบล หรือเครื่องออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มแรงต้านให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้น การออกแรงซ้ำ ๆ และสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากรูปร่างที่ดูดีขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วยเวทเทรนนิ่ง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง การออกกำลังกายเวทเทรนนิ่ง ไม่ได้มีข้อดีแค่การทำให้รูปร่างผอมเพรียวหรือทำให้เห็นกล้ามเนื้อได้ชัดเจนเพียงเท่านั้น แต่การเวทเทรนนิ่งยังมีประโยชน์อีกหลายประการ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่นเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ: เมื่อเราอายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ลดลง การทำเวทเทรนนิ่งเป็นประจำจะช่วยชะลอการสูญเสียกล้ามเนื้อ และยังสามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การไม่มีกล้ามเนื้อยังส่งผลเสียต่อความแข็งแรงของกระดูก เมื่อแก่ตัวขึ้นอาจทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าที่ควรกระตุ้นระบบเผาผลาญ: กล้ามเนื้อมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน การมีกล้ามเนื้อที่มากขึ้นจะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น แม้ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ออกกำลังกายก็ตาม สำหรับใครที่มีปัญหาด้านการเผาผลาญหรือกินน้อยแต่ยังอ้วน สามารถเลือกใช้วิธีออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก: การฝึกเวทเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ควรฝึกการออกกำลังกายให้เป็นนิสัยตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อลดปัญหาสุขภาพเมื่ออายุมากขึ้นช่วยควบคุมน้ำหนัก: การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อช่วยให้การควบคุมน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง: เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ฯลฯเพิ่มความมั่นใจในรูปร่าง: เมื่อรูปร่างกระชับ ดูดีขึ้น ย่อมส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองและภาพลักษณ์ในสังคมเวทเทรนนิ่งจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสมอไปหรือไม่ คำถามยอดฮิตของคนที่เริ่มต้นออกกำลังกายแรก ๆ คือ การออกกำลังกายจำเป็นต้องมีอุปกรณ์หรือไม่, เวทเทรนนิ่งไม่มีอุปกรณ์สามารถทำได้ เพราะการออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งไม่ได้หมายถึงการใช้อุปกรณ์เป็นตัวช่วยเสมอไป การออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งไม่มีอุปกรณ์ เรียกกันว่า Bodyweight คือการเอาน้ำหนักตัวมาเป็นแรงต้าน ตัวอย่างของ Bodyweight เช่นSquat เพื่อฝึกต้นขาและก้นPush-up เพื่อฝึกกล้ามเนื้ออก แขน และไหล่Plank สำหรับเสริมความแข็งแรงของแกนกลางลำตัวLunges สำหรับเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของขาแนะนำตารางการออกกำลังกายให้ Balance ระหว่าง Cardio and Weight Trainingข้อควรระวังในการออกกำลังกาย แม้ว่าการเวทเทรนนิ่งจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากทำผิดวิธี ก็อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ จึงควรระมัดระวังดังนี้อย่าฝืนมากเกินไป: สำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังในช่วงแรก ควรเริ่มใช้ดัมเบลน้ำหนักเบา หรือเลือกจำนวนครั้งที่พอเหมาะแล้วค่อย ๆ ไต่ระดับเพิ่มขึ้นทีละน้อย อย่าหักโหมเพราะอาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบหรือเกิดการบาดเจ็บวอร์มอัพก่อนและหลังเสมอ: การอุ่นร่างกายช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อเตรียมพร้อม ลดโอกาสการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายศึกษาท่าทางที่ถูกต้อง: ท่าทางที่ผิดอาจทำให้เกิดแรงกดที่ไม่เหมาะสม เช่น อาการปวดหลังจากการ Squat ผิดวิธีฟังร่างกายตัวเอง: หากรู้สึกเจ็บ หรือไม่สบาย ควรหยุดทันที ไม่ควรอย่าฝืนออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บเรื้อรังพักผ่อนและรับประทานอาหารให้เหมาะสม: ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน เนื่องจากกล้ามเนื้อต้องการโปรตีนและการพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อการฟื้นตัวและเจริญเติบโตสรุป เวทเทรนนิ่ง ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายสำหรับนักเพาะกาย แต่เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะต้องการรูปร่างที่ดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อ หรือกระตุ้นระบบเผาผลาญ การออกกำลังกายเวทเทรนนิ่ง คือทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับคาร์ดิโออย่างสมดุล จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ฟิต และดูดีจากภายในสู่ภายนอก ที่สำคัญคือ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสมอไป ผู้เริ่มต้นสามารถเริ่มจากการเวทเทรนนิ่งไม่มีอุปกรณ์ได้เลย และเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น ค่อยขยับไปใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมตามความเหมาะสม การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็สามารถมีสุขภาพดี และรูปร่างที่แข็งแรงได้ไม่ยากเลย ติดตามอ่านบทความดี ๆ เพิ่มเติมหรืออ่านบทความเกี่ยวกับการคาร์ดิโอได้ที่ Chill on กินเที่ยวจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

แนะนำการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) ลดไขมันกระตุ้นหัวใจ

29 ส.ค. 2025

แนะนำการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) ลดไขมันกระตุ้นหัวใจ

การออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบที่สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพร่างกาย แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายลดไขมันที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดไขมันและกระตุ้นการทำงานของหัวใจ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยลดไขมันสะสมในร่างกาย ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว แม้ว่าเราจะได้ยินคำว่า “คาร์ดิโอ” บ่อยครั้งในวงการออกกำลังกาย แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบถึงความหมายและประโยชน์ที่แท้จริงของการออกกำลังกายประเภทนี้ วันนี้ Chill on กินเที่ยว จะพาคุณไปรู้จักกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอให้มากขึ้น รวมถึงประเภทต่าง ๆ ของคาร์ดิโอที่คุณสามารถเลือกทำได้ตามความต้องการของร่างกายปัญหาเหนื่อยง่าย จากการออกกำลังกายน้อย หลายคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ มักจะพบปัญหาการเหนื่อยง่าย หรือหายใจถี่เมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรง เช่น การเดินเร็ว หรือการขึ้นบันได หากไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่างกายอาจจะไม่สามารถปรับตัวกับความต้องการของระบบหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นสัญญาณของการที่หัวใจและหลอดเลือดทำงานไม่เต็มที่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) สามารถช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ปรับปรุงการทำงานของระบบหัวใจและเพิ่มความทนทานให้กับร่างกายการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) คืออะไร การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) คือการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่น การวิ่ง, เดินเร็ว, ปั่นจักรยาน หรือการว่ายน้ำ ซึ่งช่วยให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการลดไขมันในร่างกายการออกกำลังกายคาร์ดิโอจะช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองคาร์ดิโอ มีกี่ประเภท การออกกำลังกายคาร์ดิโอมีหลายประเภท ซึ่งสามารถเลือกทำได้ตามความชอบและความเหมาะสมของร่างกาย โดยแต่ละประเภทจะมีการใช้ความหนักเบาของการออกกำลังกายที่แตกต่างกันไป ประเภทของคาร์ดิโอที่คุณสามารถเลือกทำได้ มีดังนี้ 1. คาร์ดิโอประเภท LISS (Low Intensity Steady State) LISS เป็นการคาร์ดิโอที่ใช้การออกแรงในระดับต่ำ ไม่มีการกระแทกมากนัก โดยจะออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีต่อครั้ง หรือ 200-300 นาทีต่อสัปดาห์ โดยรักษาระดับการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับคงที่ประมาณ 50-65% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด การคาร์ดิโอแบบ LISS เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และไม่ชอบการออกกำลังกายหนักๆ เช่น การเดินเร็ว การปั่นจักรยานเบา ๆ หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น โดยจะช่วยเสริมการทำงานของระบบหัวใจและปอด ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บจากการออกกำลัง 2. กายคาร์ดิโอประเภท MISS (Moderate Intensity Steady State) MISS คือการออกกำลังกายที่มีระดับความเข้มข้นปานกลาง โดยรักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ที่ 60-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด การออกกำลังกายประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและไม่มีโรคประจำตัว เช่น การวิ่งจ็อกกิ้ง การเต้นแอโรบิก หรือการปั่นจักรยานด้วยความเร็วปานกลาง ผู้ที่ออกกำลังกายประเภทนี้มักจะออกกำลังกายเป็นระยะเวลาประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้ง หรือประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์ การคาร์ดิโอประเภท MISS ช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มความทนทานของร่างกาย และช่วยลดไขมันสะสมในร่างกายได้ดี 3. คาร์ดิโอประเภท HIIT (High Intensity Interval Training) HIIT คือการออกกำลังกายที่มีการใช้แรงในระดับสูงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยจะทำการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเวลา 20-30 วินาที ตามด้วยการพักผ่อนหรือการออกกำลังกายที่มีความหนักเบาต่ำในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะกลับไปออกกำลังกายอย่างหนักอีกครั้ง ซึ่งการออกกำลังกายแบบ HIIT จะทำให้การเต้นของหัวใจสูงถึง 90% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดคาร์ดิโอดีต่อระบบการไหลเวียนเลือด และหัวใจอย่างไร การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและสุขภาพหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเราออกกำลังกายคาร์ดิโอ ร่างกายจะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้เลือดไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมากขึ้น การทำเช่นนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น การออกกำลังกายคาร์ดิโอยังช่วยลดความดันโลหิต และลดระดับไขมันในเลือด ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้ การออกกำลังกายคาร์ดิโอจึงเป็นการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังที่อาจเกิดจากการที่ร่างกายขาดการเคลื่อนไหวหรือไม่ออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานข้อควรระวังในการออกกำลังกายคาร์ดิโอ แม้ว่าการออกกำลังกายคาร์ดิโอจะเป็นการออกกำลังกายที่ดี แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มต้นออกกำลังกายคาร์ดิโอไม่ควรออกกำลังกายหนักเกินไป – สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการออกกำลังกายคาร์ดิโอ ควรเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ ก่อน และค่อย ๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกายเมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวให้ร่างกายพักผ่อนเพียงพอ – ควรให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอระหว่างวัน เพราะการออกกำลังกายหนักติดต่อกันหลายวันโดยไม่มีการพักผ่อน อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ระมัดระวังเรื่องอุปกรณ์ – หากออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ต้องใช้อุปกรณ์ เช่น การปั่นจักรยานหรือการวิ่ง ควรตรวจสอบอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งาน และมั่นใจว่าอุปกรณ์นั้นเหมาะสมกับสภาพร่างกายของเราสรุป การออกกำลังกายคาร์ดิโอเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงสุขภาพหัวใจ ลดไขมันในร่างกาย และเพิ่มความทนทานของร่างกาย คุณสามารถเลือกทำการออกกำลังกายคาร์ดิโอในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเองได้ เช่น การวิ่ง การเดินเร็ว หรือการปั่นจักรยาน ทั้งนี้เพื่อให้การออกกำลังกายคาร์ดิโอมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรทำอย่างสม่ำเสมอ และคำนึงถึงการพักผ่อนให้เพียงพอหากคุณสนใจเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย และเคล็ดลับสุขภาพต่างๆ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ Atime ที่มีบทความดี ๆ และข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะหน้า Chill On กินเที่ยว ที่รวบรวมเรื่องกินเที่ยวและสุขภาพไว้ให้คุณได้อ่านและค้นพบความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

Travel & Hotel

บ๊อกบ๊อก! คาเฟ่น้องหมาที่จะทำให้หัวใจละลาย – Corgi in the Garden

19 ก.ค. 2025

บ๊อกบ๊อก! คาเฟ่น้องหมาที่จะทำให้หัวใจละลาย – Corgi in the Garden

“บ๊อคบ๊อค~ เสียงใครน้า?” อ๋อ! เสียงเจ้าตัวเล็กสี่ขานี่เอง! ถ้าใครกำลังมองหาคาเฟ่น้องหมาน่ารักๆ แอดขอป้ายยาแรงๆ ให้ไป Corgi in the Garden คาเฟ่คอร์กี้สุดคิวท์ที่สายหมาต้องร้องกรี๊ด! เพราะที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ความน่ารัก แต่ยังมอบความสุขจนใจฟู ใครได้มาแล้วระวังจะติดใจกลับบ้านไม่ถูกน้า~รอบเข้า การจอง บอกก่อนว่าที่นี่เขาเปิดเป็นรอบๆ นะจ๊ะ แนะนำว่าให้ ทักไลน์ไปจองล่วงหน้า เลย จะได้ไม่พลาดรอบเด็ดๆ เพราะทางร้านจำกัดจำนวนคนต่อรอบ ให้เราได้ฟินกับน้องๆ แบบเต็มอิ่ม ไม่แออัด ไม่แย่งกันถ่ายรูป! โดยแพ็คเกจมีให้เลือก 2 แบบ คือStandardค่าเข้า + น้ำ 1 แก้ว = 350.-ค่าเข้า + น้ำ 1 แก้ว + เค้ก/ไอศกรีม 1 ชิ้น = 450.-Premiumค่าเข้า + ของที่ระลึกจากทางร้าน = 550.-หรือจัดเต็ม! ค่าเข้า + น้ำ 1 แก้ว + เค้ก/ไอศกรีม 1 ชิ้น + ของที่ระลึก = 650.- บรรยากาศร้านอบอุ่น น่ารัก มีมุมถ่ายรูปเพียบ! ทั้งมุมชิคๆ คิ้วท์ๆ และมุมของที่ระลึกให้เลือกช้อปกลับบ้าน พอถึงเวลาเข้าเล่น พนักงานจะอธิบายกฎระเบียบ เช่น ใส่ถุงคลุมเท้า ก่อนเข้าโซนน้องหมา และบอกวิธีให้อาหาร (ถ้วยละ 100.-) เพื่อความปลอดภัยของเราและน้องๆ สายถ่ายรูปห้ามพลาด! เพราะพี่พนักงานใจดี๊ใจดี จะช่วยดึงความน่ารักของน้องๆ มาให้เราได้รูปสวยๆ ฟินๆ กลับบ้านแน่นอน ขนมและเครื่องดื่มที่นี่ไม่ใช่แค่พร็อพถ่ายรูปนะจ๊ะ แต่อร่อยจริง! หวานกำลังดี ไม่เลี่ยน แนะนำให้วางกลางโต๊ะให้ดี เพราะถ้าเผลอวางไว้ใกล้ขอบโต๊ะ มีสิทธิ์โดนเจ้าตัวแสบแอบจกไปกินก่อน บอกเลยว่าเอ็นเนอจี้เต็มร้อยตอนขาไป แต่พอได้เล่นกับน้องๆ เท่านั้นแหละ…เอ็นเนอจี้หายหมด เหลือแค่ ใจที่ฟูฟ่องกลับบ้าน น้องๆน่ารักจนลืมเวลา ใครกำลังหาคาเฟ่ชิลๆ เติมพลังใจ แอดแนะนำสุดตัว Corgi in the Garden เลยจ้า แล้วเธอจะติดใจเหมือนแอด!ตั้งอยู่ใน: OURSที่อยู่: 240/1 ซอยเจริญนคร 10 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600โทร: 062-865-6156เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10:00 - 18:00 น.เขียนและจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ สาริศา ปริมาณ

แบ่งปันสถานที่เที่ยวกรุงเทพแบบสับ เลือกเที่ยวตามสไตล์ตัวเอง

15 ก.ค. 2025

แบ่งปันสถานที่เที่ยวกรุงเทพแบบสับ เลือกเที่ยวตามสไตล์ตัวเอง

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดกรุงเทพ ฯ ฉบับอัปเดตปี 2025 แบ่งปันที่เที่ยวรอบเมืองแบบจุก ๆ เหมาะกับทุกสไตล์กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่กับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นพระบรมมหาราชวัง วัดวาอาราม ตลาดนัดสุดคึกคัก ไปจนถึงคาเฟ่เก๋ ๆ และห้างสรรพสินค้าระดับโลก ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ต้องออกนอกเมืองก็สามารถหามุมพักผ่อนดี ๆ ได้ในกรุงเทพเอง เพราะที่เที่ยวกรุงเทพมีให้เลือกมากมายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิล สายแชะ หรือสายสายมู ก็สามารถเลือกเที่ยวในเมืองหลวงแห่งนี้ได้อย่างสนุกและน่าจดจำ วันนี้ Chill on กินเที่ยว จะมาแนะนำสถานที่เที่ยวกรุงเทพเด็ด ๆ อัปเดตฉบับ 2025 กันจังหวัดกรุงเทพ แหล่งศูนย์กลางการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร หรือที่หลายคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า "กรุงเทพ ฯ" ถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามอันเก่าแก่ สถานบันเทิงสุดชิค หรือห้างสรรพสินค้าระดับโลก ทุกสิ่งทุกอย่างถูกรวมไว้ในเมืองหลวงแห่งนี้อย่างครบถ้วน สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กรุงเทพไม่ใช่เพียงเมืองที่เดินทางสะดวกและคึกคักตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยที่เที่ยวกรุงเทพหลากหลายสไตล์ที่สามารถเลือกได้ตามความชอบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา เที่ยวชมพระบรมมหาราชวัง หรือหามุมถ่ายรูปสุดเก๋ในคาเฟ่ย่านเก่าอย่างย่านปากคลองตลาดหรือเยาวราช ทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่ไม่เคยน่าเบื่อ เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ รอให้ค้นหาเสมอ หากคุณกำลังมองหาไอเดียสำหรับการ เที่ยวกรุงเทพ 1 วัน หรือจะวางแผนเที่ยวแบบจัดเต็มหลายวัน บทความนี้จะแนะนำที่เที่ยวในกรุงเทพแบบหลากหลาย พร้อมแบ่งสไตล์ให้เลือกตามใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิล สายบุญ หรือสายถ่ายรูป รับรองว่าต้องได้ไอเดียใหม่ ๆ แน่นอนความต่างของจุดเช็กอินกรุงเทพ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแม้ว่าจะเป็นจังหวัดเดียวกัน แต่จุดเช็กอินที่ชาวไทยนิยมไปกับที่ชาวต่างชาติชื่นชอบอาจมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ทั้งนี้ก็เพราะความสนใจและมุมมองต่อความเป็นไทยที่แตกต่างกัน เนื่องจากบางครั้งคนไทยอาจมีความเคยชินกับสถานที่เที่ยวในกรุงเทพ เนื่องจากได้พบเจอมาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นเรามาดูกันว่าคนแต่ละกลุ่มนิยมไปสถานที่เที่ยวกรุงเทพ ที่ไหนกันบ้างจุดเช็กอินยอดนิยมของชาวต่างชาติพระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้วที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่ทุกคนต้องมาเยือน ด้วยความอลังการของสถาปัตยกรรมไทยผสมผสานกับประวัติศาสตร์ ทำให้สถานที่นี้ไม่เคยว่างเว้นจากนักท่องเที่ยวถนนข้าวสารอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และเกสต์เฮาส์มากมาย ทั้งยังเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของนักเดินทางจากทั่วโลกตลาดน้ำตลิ่งชันแม้จะไม่ใช่ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็ให้บรรยากาศแบบไทยแท้ พร้อมอาหารท้องถิ่นและของฝากมากมายย่านเยาวราชสวรรค์ของคนรักอาหารสตรีทฟู้ด ทั้งข้าวมันไก่ ก๋วยจั๊บ ขนมเบื้องโบราณ และของหวานสารพัดชนิดจุดเช็กอินยอดนิยมของชาวไทยห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ หรือเอ็มควอเทียร์ ที่รวมครบทั้งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และกิจกรรมหลากหลายไว้ในที่เดียววัดวาอารามที่ให้โชคเช่น วัดแขก สีลม, วัดมังกรกมลาวาส ที่หลายคนมักจะไปไหว้พระขอพรตามความเชื่อคาเฟ่และร้านกาแฟสไตล์มินิมอลหรือวินเทจที่ผุดขึ้นทั่วกรุงเทพ โดยเฉพาะในย่านอารีย์ ทองหล่อ หรือเสนานิคมสวนสาธารณะใหญ่ ๆอย่างสวนลุมพินีหรือสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายและพักผ่อนใกล้ธรรมชาติแนะนำสถานที่เที่ยวยอดฮิต และน่าสนใจเพื่อให้คุณสามารถเลือกสถานที่เที่ยวกรุงเทพได้ตามสไตล์ของตัวเอง เราขอแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนและเดินทาง ดังนี้สายบุญ – ไหว้พระ ขอพร เสริมดวงวัดอรุณราชวรารามโดดเด่นด้วยพระปรางค์ที่สวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมวัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์)มีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้การนวดแผนไทยวัดปากน้ำภาษีเจริญมีพระมหาเจดีย์แก้วมรกต และเป็นวัดที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์เรื่องโชคลาภสายช้อปเดินชิล กิน เที่ยว ครบจบในที่เดียวไอคอนสยามรวมครบทั้งช้อปปิ้งแบรนด์ดัง ร้านอาหารริมแม่น้ำ และโชว์น้ำพุดิจิทัลสุดตระการตาจตุจักรสวรรค์ของนักช้อปของมือสอง เสื้อผ้าแฟชั่น ต้นไม้ และของตกแต่งบ้านสยามสแควร์เหมาะกับสายแฟชั่นที่ชอบอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของกินและร้านเสื้อผ้าเก๋ ๆสายถ่ายรูปมุมสวย ๆ ไว้ลงในโซเชียลย่านปากคลองตลาดดอกไม้สดสวยงาม สีสันสดใสตลอดทั้งวันพิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สันสถาปัตยกรรมบ้านไม้ไทยโบราณ พร้อมของสะสมจากทั่วเอเชียสวนลอยฟ้าเจ้าพระยาจุดถ่ายรูปวิวเมืองมุมสูงแบบพาโนรามา พร้อมทางเดินลอยฟ้าที่เหมาะกับการเดินเล่นและถ่ายรูปสวย ๆสายธรรมชาติพักผ่อนเบา ๆ ในเมืองใหญ่บางกระเจ้าได้ชื่อว่าเป็น "ปอดของกรุงเทพฯ" มีเส้นทางปั่นจักรยาน ท่ามกลางธรรมชาติและความเงียบสงบสวนรถไฟพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เหมาะกับการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือปิกนิกกับครอบครัวพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครสถานที่เรียนรู้และพักผ่อนสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก ๆสรุปสถานที่เที่ยวกรุงเทพมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ และไม่ได้จำกัดแค่เพียงวัดวาอารามหรือห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบถ่ายรูป ชอบเดินตลาด หรืออยากพักผ่อนในสวนสวยกลางเมือง ทุกอย่างก็สามารถหาได้ในที่เดียว ความโดดเด่นของจังหวัดกรุงเทพ คือความสามารถในการผสมผสานความเป็นไทยแบบดั้งเดิมเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีบริการขนส่งสาธารณะครบครัน ไม่ว่าจะเป็น BTS, MRT, ตุ๊กตุ๊ก หรือเรือด่วน ทำให้การเดินทางไปยังที่เที่ยวในกรุงเทพ เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย หากคุณยังไม่แน่ใจว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน ลองเลือกจากสไตล์ที่คุณชอบ แล้วเปิดใจออกไปสัมผัสเสน่ห์ของการ

ถนนทรงวาด สถานที่เที่ยวมาแรงอันดับ 1 ในกรุงเทพที่พลาดไม่ได้

14 ก.ค. 2025

ถนนทรงวาด สถานที่เที่ยวมาแรงอันดับ 1 ในกรุงเทพที่พลาดไม่ได้

ถนนทรงวาด สถานที่เที่ยวมาแรงอันดับ 1 ในกรุงเทพที่พลาดไม่ได้ เที่ยวทรงวาด ถนนย่านชุมชนสุดฮิตใกล้เยาวราช กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขนม ขนมเก่าแก่ ร้านขายของฝาก และมุมถ่ายรูปสุดชิคสุดถนนภาพจาก ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการท่องเที่ยวของผู้คนสมัยนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บางครั้งก็สนใจเทรนด์ใหม่ ๆ กันอย่างเนืองแน่น แต่ในขณะเดียวกันเทรนด์เก่า ๆ ที่เคยได้รับความนิยมในอดีต ก็กลับมาเป็นกระแสใหม่ได้อยู่เรื่อย ๆ สังเกตได้จากทั้งแฟชั่น การกิน การเที่ยว ยกตัวอย่างถนนทรงวาดที่กำลังได้รับความนิยมมากในยุคนี้ เหล่าวัยรุ่นยุคใหม่ได้ทำการแห่กันไปตามร้านอาหาร ถ่ายรูป เดินเที่ยวกันอย่างหนาแน่น ถือเป็นย่านเก่าแก่ใจกลางกรุงเทพฯที่กำลังกลายเป็น แลนด์มาร์กใหม่ของนักเที่ยวสายอาร์ตและสายกล้อง ที่ต้องมาเช็กอินให้ได้สักครั้ง ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมยุคเก่า ความคึกคักของชุมชนจีน-ไทย และการฟื้นฟูพื้นที่ด้วยคาเฟ่สุดชิค ร้านค้าสร้างสรรค์ และกิจกรรมศิลปะร่วมสมัย วันนี้ Chill on กินเที่ยว จะมาแนะนำมุมถ่ายรูป คาเฟ่ และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับถนนทรงวาด"ถนนทรงวาด" ชุมชนไทยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ใกล้เยาวราชและตลาดน้อย ถนนทรงวาด ตั้งอยู่บริเวณฝั่งพระนคร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมต่อระหว่างถนนเยาวราชกับถนนเจริญกรุง โดยหากนั่ง MRT มาลงสถานีวัดมังกรแล้วเดินเข้ามาไม่ถึง 10 นาที คุณจะพบกับถนนสายเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอดีต ตั้งแต่ตึกแถวสไตล์ชิโนโปรตุกีส หัวมุมซอยที่ยังคงความดิบของเมืองเก่า ไปจนถึงร้านค้าเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมาหลายรุ่น นอกจากนี้ ถนนเส้นนี้ยังมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ เพราะในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าริมน้ำที่มีความคึกคักไม่แพ้ท่าเรือคลองเตย เรียกได้ว่าเป็น "ย่านธุรกิจริมเจ้าพระยา" ที่มีบทบาทอย่างมากในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และแม้เวลาจะเปลี่ยน แต่เสน่ห์ของถนนทรงวาดยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลายภาพจากแนะนำจุดถ่ายรูปน่าสนใจในถนนทรงวาด ถ้าใครกำลังมองหามุมถ่ายรูปใหม่ ๆ ที่ให้ความรู้สึก เท่ คลาสสิก และมีสไตล์ บอกเลยว่าคุณมาถูกที่แล้ว เพราะการถ่ายรูปทรงวาด เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตที่หลายคนติดใจ ด้วยมุมต่าง ๆ ที่จัดจ้านในแบบสตรีทและวินเทจผสมกันอย่างลงตัว ความจริงแล้วถนนทรงวาดเป็นถนนที่ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหน ก็สามารถถ่ายรูปให้ออกมาดูเก๋ได้ ด้วยกลิ่นอายชุมชนเก่าที่มีอารยธรรมต่าง ๆ มากอย่างยาวนาน ส่งผลให้ทั้งโซนถนนทรงวาดมีสไตล์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร แต่สำหรับใครที่อยากได้ไอเดียในการถ่ายรูป ให้ทุกคนรู้ว่านี่คือถนนทรงวาดแบบตะโกนน เราก็มีมาแนะนำเหมือนกันป้าย I wanna bangkok - จุดเช็กอินสุดจึ้ง ไม่ว่าใครก็ต้องหยุดถ่ายรูปกับป้ายตรงทางม้าลายจุดนี้ซุ้มประตูเก่าและซอยแคบสไตล์ฮ่องกง - ได้ฟีลเหมือนเดินอยู่ในภาพยนตร์เก่า โทนสีซีเปียและเงาตึกเรียงรายเหมาะกับการถ่ายพอร์เทรตตึกแถวโบราณพร้อมป้ายจีน - ป้ายภาษาจีนแดงสดที่ตัดกับตึกสีซีดให้อารมณ์วินเทจสุด ๆกำแพงกราฟฟิตี้และศิลปะริมถนน - งานอาร์ตจากศิลปินท้องถิ่นและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ถูกผสมผสานเข้ากับกำแพงเก่าได้อย่างน่าสนใจริมแม่น้ำเจ้าพระยา - ท่าเรือเก่า ๆ ที่มีแสงอาทิตย์ยามเย็นตกกระทบกับน้ำ สร้างภาพที่สวยงามและมีเรื่องราวร้าน Oyster Things - ร้านขายของฝากสุดชิคสไตล์วินเทจ ที่เพิ่งมาเปิดสาขาใหม่ที่ถนนทรงวาดภาพจากแนะนำคาเฟ่ทรงวาด เยาวราช และตลาดน้อย อีกสิ่งที่ทำให้ถนนสายนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮิตในชั่วข้ามคืนก็คือ การเกิดขึ้นของคาเฟ่ทรงวาดที่ทั้งรสชาติดี บรรยากาศเก๋ และคอนเซ็ปต์โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการรีโนเวตตึกเก่าให้กลายเป็นคาเฟ่ หรือการผสมผสานระหว่างกลิ่นอายวินเทจกับความมินิมอลสมัยใหม่ แน่นอนว่าถนนทรงวาด ตลาดน้อย และเยาวราช เป็นถนนที่อยู่ในย่านเดียวกัน คาเฟ่ที่จะแนะนำต่อไปนี้จึงอยู่ทั้งในแถบ 3 สถานที่นี้Mother Roaster - คาเฟ่ชื่อดังจากตลาดน้อยที่มาเปิดสาขาใหม่ในทรงวาด ตัวร้านเป็นตึกเก่า 3 ชั้น เสิร์ฟกาแฟดริปแบบคลาสสิก รสเข้มข้น และมีเบเกอรี่อบสดใหม่Woodbrook Bangkok - คาเฟ่ริมแม่น้ำที่มองเห็นวิวเจ้าพระยาและสะพานพุทธ ตัวร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และกระจก ให้แสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่Hong Sieng Kong - คาเฟ่-แกลเลอรีสุดเก๋ในบ้านจีนโบราณที่เปิดให้เข้าชมและถ่ายรูปได้ เสิร์ฟกาแฟพรีเมียมและเมนูขนมไทยฟิวชันLocal Boys Coffee - คาเฟ่สไตล์วินเทจ โทนของร้านเป็นสีส้ม-ดำ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศหม่น ๆ กลิ่นอายเก่าเล็กน้อยเอฟ วี - คาเฟ่ที่เอาบ้านเก่ามารีโนเวททำใหม่เป็นคาเฟ่ มาพร้อมกับเมนูขนมไทยโบราณ ใครที่เบื่อเมนูขนมคาเฟ่แบบเดิม ๆ แนะนำร้านนี้เลยBad Poutine - คาเฟ่ที่มีการตกแต่งหน้าร้านสุดเก๋ มีอาหารแคนาดารสชาติดี เลือกท็อปปิ้งได้ร้านอื่น ๆ ที่น่าสนใจในถนนทรงวาดSongViet at SongWat - ร้านอาหาร street food สัญชาติเวียดนาม รสชาติดี พอร์ชันไม่ใหญ่มาก สามารถสั่งมาทานร่วมกันเพื่อน ๆ ได้กู่หลงเปา - ร้านซาลาเปาโบราณ ที่มีทั้งซาลาเปาแบบนึ่ง แบบอบ ขนมจีบ และชาไทยรสชาติเข้มข้น จะซื้อกลับบ้านหรือนั่งกินหน้าร้านก็ไดอี-กา - ร้านอาหารไทย ที่มีจำหน่ายทั้งอาหารคาวหวาน หรือจะแวะมาดื่มเครื่องดื่มให้สดชื่น ก่อนไปตะลุยถนนทรงวาดกันต่อโรงกลั่นเนื้อ - ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และเนื้อตุ๋น น้ำซุปมีส่วนผสมของสมุนไพรต่าง ๆ ส่งกลิ่นหอมยาจีนภาพจากข้อควรรู้ เตรียมตัวก่อนไปถนนทรงวาดอากาศประเทศค่อนข้างร้อน หากเลือกเดินช่วงบ่าย ควรพกพัดลมพกพา ผ้าเย็น หรือไอเท็มที่ช่วยบรรเทาอากาศร้อน เนื่องจากทั้งสองข้างทางไม่ได้มีที่หลบแดดให้หลบมากนักร้านอาหารที่ถนนทรงวาดอัดแน่นเต็มสองข้างทาง ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขนม ควรเตรียมท้องให้พร้อมทานของอร่อย แบ่งท้องให้พอสำหรับการทานอาหารหลาย ๆ ร้านวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันหยุดที่คนค่อนข้างเยอะ ควรเตรียมแผนในการเดินเที่ยวให้พร้อมว่าต้องไปร้านไหนบ้าง จะได้ไม่เสียเวลาในการหาและต่อแถวหลีกเลี่ยงการไปเที่ยงทรงวาดช่วงหน้าฝน เนื่องจากเป็นสถานที่เที่ยวที่ต้องเดินทางและเป็นถนนกลางแจ้ง การเลือกเที่ยวในหน้าฝนจึงอาจไม่เหมาะนักสายถ่ายรูป ควรฟิตติ้งชุดให้พร้อมกับมุมที่ต้องการถ่าย มุมถ่ายรูปฮิต ๆ อาจต้องอาศัยจังหวะเวลาในการเข้าไป เนื่องจากมีคนหนาแน่นอยู่ตลอดเวลาหลีกเลี่ยงการเข้าไปถ่ายรูปในพื้นที่ส่วนบุคคล เนื่องจากถนนทรงวาดเป็นชุมชนเก่า มีผู้พักอาศัยมากมาย อีกทั้งร้านค้าหลายร้านก็เป็นที่พักอาศัยเช่นกันภาพจากสรุป ถนนทรงวาดไม่ใช่แค่ถนนสายเล็ก ๆ ในเมืองเก่า แต่เป็นโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของอดีตที่ยังมีชีวิตในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกล้อง สายคาเฟ่ สายอาร์ต หรือแค่คนที่ชอบเดินดูเมืองแบบไม่เร่งรีบ เที่ยวทรงวาด จะให้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าในทุกก้าวเดิน อย่าลืมเตรียมกล้องให้พร้อม แบตให้เต็ม แล้วออกเดินไปกับความเก่าแบบเก๋ ๆ บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรม และอย่าลืมแวะจิบกาแฟที่คาเฟ่ทรงวาดสักแห่ง แล้วเก็บภาพความทรงจำดี ๆ ผ่านเลนส์ในแบบของคุณเอง สำหรับใครที่รอติดตามบทความดี ๆ อย่าลืมมาดูได้ที่ Chill on กินเที่ยวอ่านบทความทรงวาดเพิ่มเติมได้ที่ : Atime.live

LOVE PRIDE PARADE 2025 @ EMSPHERE

30 มิ.ย. 2025

LOVE PRIDE PARADE 2025 @ EMSPHERE

ส่งท้าย Pride Month อย่างยิ่งใหญ่กับงาน “LOVE PRIDE PARADE 2025” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27–29 มิถุนายน ณ ศูนย์การค้า EmSphere โดยแอดได้มีโอกาสไปร่วมงานในวันแรก และต้องบอกเลยว่าบรรยากาศคึกคัก สนุก ครบทุกอรรถรส ทั้งกิน เที่ยว ช้อป และความบันเทิงแบบจัดเต็ม เริ่มต้นกันที่โซน Pride Societ บริเวณ EM MARKET ที่รวมร้านอาหารจากเหล่า Celebrity Chef มากมาย ใครเป็นสายกินรับรองต้องถูกใจ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอของอร่อยชวนลิ้มลอง เรียกว่ายังไม่ทันเดินทั่วท้องก็ร้องแล้ว! ถัดมาเป็นโซน Sphere Gallery แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ไทย บรรยากาศชิลล์สุดๆ เพราะมีทั้งดนตรีสดและ DJ ที่สลับกันมาเปิดแผ่น เติมสีสันให้กับบรรยากาศการช้อปปิ้งได้แบบไม่มีเบื่อ และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือโซน Em Wonder กับกิจกรรม Pride Spirit ที่ขนกองทัพศิลปินสุดฮอตมาเรียกเสียงกรี๊ดแบบจัดเต็มทั้งวัน Line-up แน่นสะใจ สมกับเป็นงานส่งท้ายเดือนแห่งความภาคภูมิใจอย่างแท้จริง ครั้งหน้าแอดจะพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับกิจกรรมดี ๆ หรือสถานที่สุดปังที่ไหน อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า~เขียนโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดีคอนเทนต์โดย : สาริศา ปริมาณ

วันเดียวก็เที่ยวได้ @SongWat

05 มิ.ย. 2025

วันเดียวก็เที่ยวได้ @SongWat

มีวันเดียวก็เที่ยวได้! ใครมีเวลาน้อยแต่อยากเก็บที่เที่ยวให้ครบ แอดขอแนะนำ 1 Day Trip ที่ “ทรงวาด” ย่านเก่าสุดเท่ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่เก๋ จุดถ่ายรูปเพียบ และเรื่องราวชวนหลงใหล เดินเล่นชิลๆ ครบทั้งกิน เที่ยว ช้อป ในวันเดียวจบ!กองทัพต้องเดินด้วยท้อง! แอดเริ่มต้นทริปตอน 11 โมงเช้า เลยขอแวะฝากท้องที่ร้าน “ทรงเวียด” ร้านสตรีตฟู้ดเวียดนามที่ตกแต่งแบบวินเทจ ย้อนยุค 90 เข้ามาปุ๊บคือเหมือนวาร์ปไปฮานอย! บรรยากาศคือดี งานดีไซน์คือเก๋ ถ่ายรูปก็ปัง เมนูที่ลองวันนี้คือ เกี๊ยวนึ่งทรงเครื่อง กับ หมูย่างสไตล์เวียดนาม บอกเลยว่า...อร่อยเกินคาด! เครื่องแน่น รสชาติจัดจ้านแบบต้นตำรับ กินรองท้องเบาๆ แต่ใจอยากเบิ้ลอีกหลายจานเลยทีเดียว ถ้ามีโอกาส แอดกลับมาซ้ำแน่นอน! วันนี้แอดตื่นเช้าขอแวะเติมคาเฟอีนที่ร้าน Matchamaru ร้านชาสุดฮิตของย่านนี้ที่ใครมาก็ต้องแวะ เพราะมีมัทฉะให้เลือกเพียบ! วันนี้แอดจัด Pure Matcha ที่ใช้ใบชา Yutaka บอกเลยว่าหอม เข้มข้น แต่ดื่มง่าย สดชื่นตั้งแต่คำแรก! เดินออกจากร้านชาไม่กี่ก้าว แอดก็เจอร้านน่ารักอย่าง “อ๊อยสเตอร์” ร้านของแต่งบ้านไวบ์วินเทจที่สายแต่งห้องต้องเลิฟ! ของตกแต่งเพียบทั้งแจกัน เชิงเทียน ยันของจุกจิกน่ารักๆ แถมเจ้าของร้านใจดีมาก ไม่ซื้อไม่ว่า แค่แวะมาถ่ายรูปเล่นก็ยังได้ บอกเลยว่าแค่เดินดูของก็คือเพลินแล้ว! ไปต่อกันที่อีกหนึ่งร้านดังของย่านนี้ที่สายช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! Chooch ร้านโกโก้พรีเมียมที่ไม่ใช่แค่รสชาติดี แต่บาริสต้ายังใจดี เล่าให้ฟังเพลินๆ ถึงความต่างของโกโก้แต่ละสายพันธุ์ บอกเลยว่าราคาอาจแรงนิด...แต่มันพรีเมียมจริงคุณพี่! สายถ่ายรูปอย่างเราเดินผ่านยังต้องหยุดมอง เพราะร้าน BAD POUTINE มันจึ้งมาก! กลิ่นหอมของมันฝรั่งทอดลอยมาแต่ไกล เด็กอ้วนอย่างแอดใครจะทนไหว~ เลยต้องขอแวะจัดเมนูซิกเนเจอร์ Poutine (พูทีน) มันฝรั่งทอดราดเกรวี่สไตล์ควิเบค กัดคำแรกคืออร่อยจนแสงออกปาก! กินของทอดจนท้องร้องอีกรอบ แอดเลยแวะที่ "ลิ้มเล่าซา" ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาในตอกเล็กๆ ที่บอกเลยว่าลูกชิ้นคือของจริง ไม่แป้ง เด้งแน่นเต็มคำ เจ้าของร้านยังบอกเองว่า “ลูกชิ้นปลาพี่...เต้นได้!” มาเที่ยวทั้งทีแอดเลยขอแวะซื้อขนมไปฝากที่บ้านกันหน่อยที่ร้าน Wabi’s ร้านขนมปังซาวโดว์เบเกิลเจ้าดังในทรงวาดที่ใครมาก็ต้องแวะ วันนี้แอดเลยจัด Sourdough Bagel กับ Double Choocolate Shio Pan และก็มาถึงไฮไลต์ของทริปวันนี้กับ “บ้านริมน้ำ” บ้านไม้โบราณริมแม่น้ำที่รีโนเวทให้ดูโมเดิร์นแต่ยังอบอุ่นเหมือนเดิม เหมาะมากกับการพักผ่อน ปล่อยใจสบายๆ มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และบริการนวดครบ หรือจะมานั่งดูพระอาทิตย์ตกก็คือโรแมนติกไม่เบาพิกัด : ถนนทรงวาดการเดินทาง : เดินทางไป "ทรงวาด" ด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีวัดมัง ทางออก 1 (เดินต่อตาม map 10-15 นาที หรือ ต่อมอไซต์มาถนนทรงวาด) หรือ รถยนต์ส่วนตัวมีบริการที่จอด ลานจอดรถช้าง 40 บาทท/ชั่วโมงเขียนโดย : พิชชาภรร์ ผาสุขดี

อัปเดตพิกัดจุดเช็คอิน พัทยา 2025!

06 พ.ค. 2025

อัปเดตพิกัดจุดเช็คอิน พัทยา 2025!

อัปเดตพิกัดจุดเช็คอิน พัทยา 2025!เที่ยวพัทยาให้ครบทุกฟีล ทั้งชิลล์ ถ่ายรูปสวย กินของอร่อย ดูแสงไฟกลางคืน แบบไม่ซ้ำใคร!1. PATTAYA CITY จุดแลนด์มาร์กถ้ามาพัทยาแล้วไม่ได้เซลฟี่กับป้าย “PATTAYA CITY” ถือว่ามาไม่ถึง! วิวทะเลด้านหลังสวยสะใจ ถ่ายมุมไหนก็ได้ฟีลเมืองชายฝั่งสุดชิค2. LIGHTHOUSE BAYคาเฟ่ริมทะเลฟีลซัมเมอร์ที่มีพร็อพสุดชิคอย่างเซิร์ฟบอร์ดและป้ายประภาคาร ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม พร้อมที่นั่งชิลล์ติดริมน้ำ เหมาะกับการจิบกาแฟเบา ๆ รับลมทะเลเวลา : เปิดทุกวัน 6:00–22:00 น.3. บัวทองบีชสายกินต้องห้ามพลาด! ร้านอาหารริมทะเลที่เสิร์ฟซีฟู้ดจานใหญ่สดใหม่แบบจัดเต็ม เมนูที่มาแล้วต้องลองคือ ปลากะพงทอดน้ำปลาเวลา : เปิดทุกวัน 10:00–22:00 น.4. SHALOBAคาเฟ่ที่มาในธีมแสงเงาและงานดีไซน์สุดคูล เหมาะกับสายถ่ายภาพและคอกาแฟแท้ มีเครื่องดื่มแนวซิกเนเจอร์หลากหลายแก้วที่ทั้งอร่อยและสวย พร้อมวิวทะเลที่สวยมากเวลา : เปิดทุกวัน 9:00–18:00 น.5. PATTAYA LIGHTING 2025จุดเช็คอินยามค่ำคืนสุดว้าว! งานไฟกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียง และอีเวนต์เพียบ เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และดื่มด่ำบรรยากาศสุดฟีลกลางคืนสรุปเลยว่า…พัทยาปี 2025 นี้คือไม่ธรรมดา! จะสายถ่ายรูป สายคาเฟ่ สายกิน หรือสายปาร์ตี้ ก็มีครบหมด ใครอยากเที่ยวแบบความสนุกครบได้ทุกแนว ต้องรีบจัดทริปแล้วล่ะ!ผู้เขียน: ปาณิศา บุญรอด

Chill Art Space

พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ศูนย์รวมมรดกสิ่งทอไทย และฉลองพระองค์สุดวิจิตร

04 ธ.ค. 2025

พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ศูนย์รวมมรดกสิ่งทอไทย และฉลองพระองค์สุดวิจิตร

วันนี้ Chillon จะพาไปสัมผัสความงามและความภาคภูมิใจของชาติ ณ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่งดงามที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานครนั่นคือ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถที่นี่ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ แต่เป็นจุดที่ศิลปะสิ่งทอและพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้บรรจบกันอย่างวิจิตรตระการตา และเป็นการ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้มรดกสิ่งทอไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกพิพิธภัณฑ์ผ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตาม พระราชปณิธาน ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ผ้าไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและกำลังจะเลือนหายไปพิพิธภัณฑ์ผ้าจัดตั้งขึ้นภายในอาคาร หอรัษฎากรพิพัฒน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พระบรมมหาราชวัง อาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับการบูรณะให้เป็นอาคารจัดแสดงที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาผ้าโบราณพิพิธภัณฑ์ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวม จัดเก็บ จัดแสดง และเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับผ้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกผ่านโครงการศิลปาชีพหัวใจสำคัญของพิพิธภัณฑ์คือการแสดงให้เห็นถึง พระอัจฉริยภาพในการนำเสนอเอกลักษณ์ไทย ในเวทีโลกชุดไทยพระราชนิยมทรงริเริ่มการออกแบบ ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ (เช่น ชุดไทยจักรพรรดิ, ชุดไทยจักรี) โดยทรงผสมผสานรูปแบบการตัดเย็บสากลเข้ากับผ้าไหมไทยและเอกลักษณ์ไทย ทำให้เครื่องแต่งกายประจำชาติมีความสง่างามและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลฉลองพระองค์ในเวทีโลกในปี พ.ศ. 2503 เมื่อครั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรปและสหรัฐอเมริกา การที่ทรงสวมฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมไทย ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ผ้าไหมไทยกลายเป็นที่ต้องการและได้รับการยกย่องจากนักออกแบบแฟชั่นระดับโลกทันที นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผ้าไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกผ้าไหมแต่ละผืน ไม่ว่าจะเป็น มัดหมี่อีสาน ที่ซับซ้อน หรือ ผ้ายกภาคใต้ ที่หรูหรา ล้วนถักทอด้วยเทคนิคโบราณที่สืบทอดกันมา ลวดลายต่างๆ เช่น "ลายนาค" หรือ "ลายขอ" ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็น สัญลักษณ์ของความเชื่อและวิถีชีวิต ที่ชาวบ้านใช้บันทึกประวัติศาสตร์ของพวกเขาจินตนาการถึงสีครามเข้มจากต้นคราม หรือสีเหลืองทองจากแก่นขนุน นี่คือเสน่ห์ของ การย้อมสีธรรมชาติ ที่ทำให้ผ้าไทยมีมิติและดูมีชีวิตชีวา ไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือผลงานหัตถศิลป์ที่ใช้ความอดทนและเวลาพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯจึงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมมรดกเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส ที่นี่ คุณจะได้ชม ฉลองพระองค์จริง ที่ทรงสวมใส่ในโอกาสสำคัญต่างๆ ซึ่งแต่ละชุดคือผลงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงความประณีตของการปักและการทอผ้าไหมไทยชั้นสูง คุณจะเห็นว่า ผ้าไทยผืนหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นอาภรณ์ที่งดงามและทันสมัยเหนือกาลเวลาได้อย่างไรที่ตั้ง: หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวังเวลา: เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.30 น.

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ The Ghost Halloween#2 “ป่าช้าแตก”

25 ต.ค. 2025

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ The Ghost Halloween#2 “ป่าช้าแตก”

ในช่วงเทศกาลฮาโลวีน แบบนี้ สิ่งหนึ่งที่จะพลาดไปไม่ได้เลย คือ “บ้านผีสิง” สถานที่แห่งการท้าพิสูจน์ความกล้า สำหรับปี 2025 นี้นิทรรศการบ้านผีสิง จากรายการเล่าเรื่องผีชื่อดังอย่าง “The Ghost Radio” ก็ได้กลับมาท้าพิสูจน์ใจ พร้อมมอบความตื่นเต้นและหวาดกลัวสุดขีดให้กับทุกท่าน กับงาน “The Ghost Halloween#2 ป่าช้าแตก”ธีมของงานที่ชื่อ “ป่าช้าแตก” บอกเลยว่าไม่ได้เป็นแค่ชื่อ มันแตก แหก ระเบิด ออกมาเลยจริง ประชากรผีในงานคับคั่ง ที่พร้อมจะหลอกผู้เข้าชมทุกคนให้ขวัญกระเจิง มีมาเสิร์ฟความกลัวให้หมดทั้งป่าช้าโซนหลักของงานที่ห้ามพลาดเลย คือ บ้านผีสิง ซึ่งจัดหนักจักเต็มกันไปเลย 4 หลัง ที่ระยะทางรวมกันเมื่อเดินครบแล้วนั้นยาวถึง 1 กิโลเมตรบ้านทั้ง 4 หลังนี้ มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตามชื่อของแต่ละหลังที่บอกธีมของบ้านผีนั้น ๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้แก่ บ้านเลขที่ 13/31, โรงเรียนวัดร้างไร้ธรรม, ศูนย์อนามัยเก่า, และ สำนักงานหลอนบรรยากาศภายในบ้านผีสิงแต่ละหลัง ถูกสร้างขึ้นมาได้หลอนสติกันสุด ๆ พร๊อบทุกชิ้น ฉากทุกฉาก ดูสมจริงราวกับเป็นของจริงจากสถานที่นั้น ๆ ทำให้ผู้เข้าชมได้รับอรรถรสแบบเต็มเปี่ยมเสมือนได้ไปเดินอยู่ในสถานที่นั้น ๆ จริง ๆ เลยผีในงานคือที่สุด ทุกตัวพร้อมหลอกแบบไม่มีหยุด คาดเดาการหลอกไม่ได้ในแต่ละรอบ ยิ่งเพิ่มทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีกเดินออกจากบ้านผีสิงมาได้ จะเป็นการเข้าสู่โซน นิทรรศการ ที่ก็ต้องบอกตรง ๆ แบบไม่อวยว่า ทำถึงสุด ๆ ฉาก พร๊อบ ผี ทุกอย่างมาเต็ม ที่สำคัญโซนนี้ เราจะมีโอกาสได้พูดคุยกับผีที่เขาป้วนเปี้ยนอยู่ทั่ว แอบบอกเลยว่า พอไปถึงโซนนี้เนี่ย หาซื้อหมากพลูติดเอาไว้ด้วยนะ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือนถัดออกมาจะเป็นโซนสำหรับซื้อ ของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็น หมวก เสื้อ พวงกุญแจ แก้วน้ำ ปฏิทิน และอื่น ๆ อีกเยอะสารพัด น่าสน น่าตำกันทั้งนั้น เพราะของเหล่านี้ ไม่ได้มีมาขายกันบ่อย ๆสำหรับใครที่อยากท้าพิสูจน์ความหลอนของบ้านผีสิง The Ghost Halloween#2 ป่าช้าแตก สามารถไปร่วมงานกันได้ที่สถานที่: MCC HALL THE MALL LIFESTORE BANGKAE (เดอะ มอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค)วันที่: 25 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2568เวลา: 10.00 - 22.00 น.จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่เว็บ Ticketmelonราคาบัตร- บัตร Fast Pass 2,000.- เข้าได้ทั้ง 4 หลัง / มีเลนพิเศษ ไม่ต้องรอคิวนาน- บัตรเหมา 4 หลัง 1,290.- เข้าได้ทั้ง 4 หลัง ต้องรอคิว- บัตรแยกหลัง 399.-- บัตรเข้าโซนนิทรรศการ 100.-เขียน: ชานนท์ ไชยศรี

Junji Ito Collection Horror House

15 ต.ค. 2025

Junji Ito Collection Horror House

มาเสิร์ฟที่ไทยแล้ววันนี้ กับนิทรรศกาลสุดหลอน Junji Ito Collection Horror Houseที่จะพาคุณไปหลอนผ่านผลงานของอาจารย์ จุนจิ อิโต้ เจ้าพ่อความหลอนของวงการนักวาดจงเตรียมตัวดำดิ่ง สู่โลกแห่งความมืดมิด กับบ้านผีสิงสุดหลอน สั่นประสาท ลุ้นระทึกตลอดทาง คำเตือน อย่าปล่อยเชือก และจงอย่าอยู่คนเดียวกับสองทางหลอนให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Rute A นครแห่งการจากลา Farewell City หรือ Rute B หมู่บ้านสั่นประสาท Horror Town เลือกได้ตามใจ กับตาราง Break Route ให้หลอนกันได้ทั้งวันนอกจากความหลอนจาก Horror house แล้ว ยังมีนิทรรศกาลสุดหลอนให้สยองกันแบบไม่พัก กับผลงานมากมาย จากอาจารย์จุนจิ อิโต้ ที่ขนมาให้แฟนๆหลอนถึงที่ราคาบัตรเข้า Horror house Normal เริ่มต้นเพียงแค่ 400 บาทเท่านั้น แต่ Chillon ขอแนะนำบัตรที่ฮิตที่สุดในงาน กับบัตร VIP ที่แฟนพันธุ์แท้ห้ามพลาด เพราะนอกจากจะได้หลอนแล้ว ยังได้ของที่ระลึกให้กลับไประทึกกันต่อที่บ้านอีกด้วยอีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน ที่ใครมาก็ห้ามพลาด กับโซน Cafe สุดสยอง ที่เสิร์ฟมาแบบล้นๆ กับ 4 เมนู 4 คาแรคเตอร์และสายสะสมห้ามพลาดเด็ดขาด กับโซน Exclusive Junji Ito x Sanrio Charecters ของแท้จากญี่ปุ่น ลิมิเต็ดเฉพาะในงานนี้เท่านั้นนอกจากนี้ ยังมีสินค้าสุดสยองจากจักรวาล Junji Ito ที่รวมสินค้าลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น ทั้งเสื้อผ้า ของสะสม และไอเท็มลิเต็ด ที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้นจัดแสดง 10 ต.ค. 2568 - 5 ม.ค. 2568ช่องทางการจำหน่ายบัตร : เว็บไซต์หรือ แอปพลิเคชั่น ticketmelonพิกัด : MBK Center ชั้น 4 โซน Aเวลา : เปิดทำการทุกวัน 11 : 00 น. - 21 : 00 นโทร : 028539000ผู้เขียน : บาลี บัญชานิตยกาล

รีวิวนิทรรศการ "DRAGON BALL HEROES RISE ASIA TOUR IN THAILAND": เปิดจักรวาลดราก้อนบอลที่ไอคอนสยาม!

07 ส.ค. 2025

รีวิวนิทรรศการ "DRAGON BALL HEROES RISE ASIA TOUR IN THAILAND": เปิดจักรวาลดราก้อนบอลที่ไอคอนสยาม!

สำหรับแฟน ๆ ดราก้อนบอล ทั่วประเทศไทยและผู้ที่กำลังมองหา นิทรรศการอนิเมะ สุดยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ ห้ามพลาดกับ"DRAGON BALL HEROES RISE ASIA TOUR IN THAILAND"ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 19 ตุลาคม 2568 นี่คืองานที่รวบรวมทุกความประทับใจจากซีรีส์ระดับตำนานมาไว้ให้คุณได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดประสบการณ์สุดอลังการสำหรับแฟนพันธุ์แท้นิทรรศการ Dragon Ball Heroes Rise Asia Tour ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจัดแสดง แต่คือการพาคุณดำดิ่งเข้าสู่จักรวาลดราก้อนบอลอย่างแท้จริง ด้วยพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. งานนี้จำลองฉากสุดไอคอนิกจากอนิเมะมาไว้ให้คุณได้เดินสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางบนเส้นทางงู การขี่เมฆสีทอง หรือแม้แต่การถูกลิงยักษ์จับ! คุณจะได้พบกับ โมเดลตัวละคร Dragon Ball ขนาดเท่าตัวจริง กว่า 40 ตัว ไม่ว่าจะเป็นโกคู เบจิต้า พิคโกโร่ ฟรีซเซอร์ เซลล์ และอีกมากมาย ที่พร้อมให้คุณถ่ายภาพและสัมผัสความยิ่งใหญ่ของเหล่านักรบไซย่ากิจกรรมและโซนอินเทอร์แอคทีฟที่ไม่ควรพลาดไฮไลต์สำคัญของ งาน Dragon Ball ครั้งนี้คือโซนอินเทอร์แอคทีฟที่เปิดโอกาสให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัย คุณจะได้ลอง ปล่อยพลังคลื่นเต่า (Kamehameha) ด้วยตัวเอง ฝึกฝนเทคนิคการฟิวชั่นรวมร่างกับเพื่อน หรือทดสอบทักษะการต่อสู้เสมือนนักรบตัวจริง นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชัน "Incubase" ที่ให้แฟน ๆ ร่วมทำภารกิจตามหาดราก้อนบอลเพื่อแลกรับ ของที่ระลึก Dragon Ball สุดลิมิเต็ด ที่มีจำหน่ายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น!ข้อมูลการเข้าชมและบัตรนิทรรศการ Dragon Ball Heroes Rise Asia Tour จัดแสดงที่ ไอคอนสยาม (ICONSIAM) Attraction Hall ชั้น 6 เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:30 – 21:00 น. (ปิดรับคิว 20:30 น.)ราคาบัตรเข้างาน (รวม VAT และค่าธรรมเนียม):บัตรวันธรรมดา (จันทร์–ศุกร์): 550 บาทบัตรวันเสาร์–อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์: 650 บาทบัตรสำหรับเด็ก (ส่วนสูง 91–120 ซม.) และผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป): 400 บาทบัตรพรีเมียมเซ็ต จำนวนจำกัดให้เลือกซื้อ ได้แก่:Premium Set A: 850 บาท (ได้แก้วน้ำลายสุ่ม 1 ใบ + บัตรเข้างานได้ทุกวัน)Premium Set B: 1,100 บาท (ได้ชุดจิ๊กซอว์สุดพิเศษ 1 ชุด + บัตรเข้างานได้ทุกวัน)สามารถซื้อบัตรได้ที่ TicketMelon และ Klookนิทรรศการ "DRAGON BALL HEROES RISE ASIA TOUR IN THAILAND" เป็นสุดยอดประสบการณ์ที่แฟน ๆ ดราก้อนบอลตัวจริงไม่ควรพลาด ด้วยการจำลองฉากอันน่าจดจำ โมเดลขนาดเท่าตัวจริง กิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟ และของสะสมสุดพิเศษ งานนี้จะพาคุณย้อนวันวานและสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ในโลกของโกคูและผองเพื่อนได้อย่างเต็มอิ่ม หากคุณกำลังมองหา กิจกรรมในกรุงเทพฯ หรือ นิทรรศการน่าสนใจ ที่จะปลุกความเป็นซูเปอร์ไซย่าในตัวคุณ งานนี้คือคำตอบ!ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

รีวิวนิทรรศการ "The Voice" โดย Jamsan: เสียงสะท้อนจากใจกลางกรุงเทพฯ ที่ River City Bangkok

07 ส.ค. 2025

รีวิวนิทรรศการ "The Voice" โดย Jamsan: เสียงสะท้อนจากใจกลางกรุงเทพฯ ที่ River City Bangkok

"The Voice" เสียงสะท้อนจากใจกลางกรุงเทพฯสำหรับผู้ที่กำลังมองหา งานศิลปะ ที่จะช่วยเติมเต็มจิตใจ และมอบความสงบ นิทรรศการ "The Voice" โดยศิลปิน Jamsan ที่ River City Bangkok คือหนึ่งใน นิทรรศการกรุงเทพ ที่ไม่ควรพลาดในปี 2568 นี้นิทรรศการนี้จัดแสดงอยู่ที่ RCB Galleria 5 ชั้น 3 และเปิดให้ เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ถึง 30 สิงหาคม 2568สัมผัส "เสียงในใจ" ผ่านงานศิลปะอันอ่อนโยน"The Voice" ไม่ใช่เพียงแค่นิทรรศการภาพวาด แต่เป็นการเดินทางเข้าสู่ห้วงลึกของความรู้สึกภายใน ศิลปิน Jamsan ผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานภาพประกอบในซีรีส์ชื่อดัง ได้นำเสนอผลงานที่ไม่ได้ส่งเสียงดังอึกทึก แต่กลับสื่อสารความเจ็บปวดเงียบงันและความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่มักถูกมองข้ามในชีวิตประจำวันได้อย่างลึกซึ้ง ผลงานแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนบทกวีในห้วงเวลาอันเงียบสงบ เป็นของขวัญแห่งความนิ่งงันท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ ศิลปะบำบัด และต้องการพักผ่อนจิตใจสไตล์ศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของ JamsanJamsan สร้างสรรค์ผลงานด้วยลายเส้นที่อ่อนโยน โทนสีที่อบอุ่น และองค์ประกอบแบบ soft surreal ที่ชวนฝัน การจัดวางองค์ประกอบในภาพมีความประณีตและลงตัว ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสงบและผ่อนคลายในทุกๆ มุมมองของนิทรรศการ คุณจะได้สัมผัสกับความงามที่สะท้อนอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อนได้อย่างละมุนละไม เป็นประสบการณ์ทาง งานจิตรกรรม ที่แตกต่างและน่าประทับใจผลงานเด่น: "Red Chair" และ "Rose from the Star"หัวใจหลักของนิทรรศการนี้คือผลงานภาพวาด 2 ชุด ได้แก่ "Red Chair" และ "Rose from the Star" ซึ่ง Jamsan ได้ผสมผสานความทรงจำกับจินตนาการ และความโดดเดี่ยวกับสายใยของความผูกพันไว้อย่างกลมกลืน ผลงานเหล่านี้เชื้อเชิญให้ผู้ชมได้ใคร่ครวญถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลกรอบตัว และค้นพบความหมายที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มักถูกมองข้ามไปนิทรรศการ "The Voice"ตั้งอยู่ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) เลขที่ 23 ซอยเจริญกรุง 24 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 20:00 น.การเดินทางสะดวกสบาย และมีพื้นที่สำหรับจอดรถ หากคุณกำลังมองหา ที่เที่ยวกรุงเทพ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง นิทรรศการนี้คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม อย่าพลาดโอกาสที่จะมาสัมผัสประสบการณ์ศิลปะอันลึกซึ้งและเติมเต็มจิตใจกับ นิทรรศการ "The Voice" โดย Jamsan ที่ River City Bangkok ได้แล้ววันนี้!ผู้เขียน : เบญญภา แนบเนียน

DEMON SLAYER Pop Up Store ครั้งแรกในไทย MBK Center

30 ก.ค. 2025

DEMON SLAYER Pop Up Store ครั้งแรกในไทย MBK Center

เปิดประสบการณ์สู่การผจนภัยครั้งใหม่ในโลกของดาบพิฆาตอสูร กับงาน "DEMON SLAYER Pop Up Store" ครั้งแรกในไทย MBK Centerแฟนตัวยง"DEMON SLAYER: Kimetsu no Yaiba" เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะ "DEMON SLAYER Pop Up Store In Thailand" ป็อปอัพสโตร์ครั้งแรกในประเทศไทยเปิดแล้วที่ MBK Center ชั้น 4 โซน A ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม - 28 กันยายน 2568การเปิดตัวป็อปอัพสโตร์ครั้งนี้มาพร้อมกับความพิเศษเพื่อต้อนรับภาพยนตร์ "DEMON SLAYER: Kimetsu no Yaiba – The Movie: Infinity Castle" ที่กำลังจะเข้าฉายในประเทศไทย นับเป็นโอกาสทองที่แฟนๆ จะได้สัมผัสบรรยากาศของโลกนักล่าอสูรแบบจัดเต็มบนพื้นที่กว่า 248 ตารางเมตร4 โซนสุดปัง ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในอนิเมะจริงๆPhoto Booth Zone - สถานที่เช็คอินสุดฮิตHistory Room - ย้อนรอยการผจญภัยของทันจิโร่Shopping Zone - สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่หาที่ไหนไม่ได้Themed Café - ลิ้มรสอาหารแห่งโลกนักล่าอสูรสวรรค์ของสายสะสม! ด้วยสินค้าลิขสิทธิ์แท้และสินค้าพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะงานนี้เท่านั้น พร้อมแผ่นรองแก้วลิมิเต็ดอิดิชั่นที่รวมทั้งทีมนักล่าอสูร ทีมเสาหลัก ทีมอสูรข้างข้น และราชันของเหล่าอสูร ที่คุณจะหาซื้อที่อื่นไม่ได้แน่นอนเมนูพิเศษ 5 รายการ ที่ได้แรงบันดาลใจจากตัวละครโปรด แต่ละเมนูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้กินอาหารร่วมกับตัวละครจริงๆ:ทันจิโร่ - ซอฟต์เสิร์ฟ ปราณมัทฉะรสเข้มข้นละมุนลิ้น บนครัมเบิลช็อกโกแลต ที่ดึงเอาสีประจำตัวของทันจิโร่มาใช้อย่างลงตัวเนซึโกะ - ซอฟต์เสิร์ฟ นมชมพู หวาน หอมนุ่มกลิ่นนม ดั่งรอยยิ้มอันสดใสของเนซึโกะเซ็นอิตสึ - ปราณอัสนีรสเปรี้ยว ที่มาพร้อมความสดชื่นของยูซุ ดั่งวิชาลับที่สืบทอดมาจากสำนักวิชาอิโนะสุเกะ - ความแข็งแกร่งที่นำพา 2 รสชาติมารวมเป็นหนึ่งเดียว ระหว่าง Cocoa กับ Mint Milk เกิดเป็นความอร่อยสำหรับผู้แข็งแกร่งตัวจริงชิโนบุ - การผสมผสานรสชาติของยูซุ ลิ้นจี่ และอัญชัน (Butterfly Pea) ที่สื่อถึงผีเสื้อ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของชิโนบุมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยครั้งใหม่ ที่ MBK Center ก่อนที่จะได้เห็นทันจิโร่และเพื่อนๆ ต่อสู้กับอสูรบนจอภาพยนตร์ใหญ่ !ก่อนใคร และตรียมความพร้อมก่อนที่ภาพยนตร์ "DEMON SLAYER: Kimetsu no Yaiba – The Movie: Infinity Castle" จะเข้าฉายในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นศึกครั้งใหญ่ที่แฟนๆ รอคอยมานานสถานที่: ศูนย์การค้า MBK Center ชั้น 4 โซน Aวันที่: 25 กรกฎาคม - 28 กันยายน 2568เวลา: 11:00 น. - 20:00 น. (ทุกวัน)ค่าเข้าชม: ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย

Movie & Trend

กระแส T-POP ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ทำไมถึงกลับมาบูม

11 ก.ย. 2025

กระแส T-POP ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ทำไมถึงกลับมาบูม

T-POP คืออะไร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา T-POP หรือวงการเพลงไทยป็อปได้กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เพลงเกาหลี K-POP กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่สิ่งที่ทำให้ T-POP กลับมามีอิทธิพลในวงการเพลงนั้นคือการปรับตัวของวงการเพลงไทยให้เข้ากับยุคสมัย โดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างเสียงเพลงและความเป็นเอกลักษณ์ของไทย ทำให้ กระแส T-POP กลับมาบูมได้อย่างไม่คาดคิด การที่ T-POP กลับมามีบทบาทสำคัญในวงการเพลงไทยในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้เกิดการฟื้นตัวและการเติบโตของวงการนี้ในรูปแบบที่ใหม่และทันสมัย สำหรับบทความนี้ เราจะมาพูดถึง T-POP คือ อะไร, ทำไม T-POP ถึงกลับมาบูม และปัจจัยอะไรที่ทำให้กระแส T-POP กลายเป็นที่นิยมในขณะนี้ T-POP หรือที่รู้จักกันในวงการเพลงไทยป็อป เป็นแนวเพลงที่ได้รับอิทธิพลจาก K-POP หรือเพลงป็อปจากเกาหลี แต่มีการผสมผสานเอกลักษณ์ของเพลงไทยและศิลปะการแสดงในแบบของไทย ทำให้ T-POP มีความเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร นอกจากจะเน้นในด้านเสียงเพลงที่ฟังง่ายและติดหูแล้ว ยังมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทยที่สะท้อนผ่านดนตรีและมิวสิกวิดีโอ ที่ทั้งสวยงามและสนุกสนาน อีกทั้งยังมีการใช้ภาษาที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ผู้ฟังสามารถรับรู้และเชื่อมโยงกับเพลงได้ดี ศิลปินในวงการ T-POP มักจะมีการผสมผสานแนวเพลงหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป็อป, แร็ป, หรืออิเล็กทรอนิกส์ ทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายและตอบโจทย์ผู้ฟังทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทย ซึ่งทำให้ T-POP มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในวงการเพลงเจาะลึกความสำเร็จ ทำไม T-POP ถึงกลับมาบูม การที่ T-POP กลับมาบูมในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่การเติบโตของวงการเพลงไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวของศิลปินและวงการเพลงไทยในยุคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การที่ กระแส T-POP กลับมามีอิทธิพลอย่างมากในตอนนี้นั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ 1. การเปิดตลาดสากล ในยุคที่โลกดิจิทัลเชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็ว T-POP ได้เริ่มก้าวไปสู่การเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้ศิลปิน T-POP สามารถขยายฐานแฟนคลับได้อย่างรวดเร็ว การที่ศิลปินไทยเริ่มเข้าร่วมเวทีโลกในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานเทศกาลเพลงนานาชาติ หรือการเข้าร่วมกับโปรเจ็กต์ดนตรีร่วมกับศิลปินต่างประเทศ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของ วงการ T-POP ไปสู่ระดับสากล 2. การปรับตัวเข้ากับยุคดิจิทัล ในยุคที่การเข้าถึงเพลงเป็นเรื่องง่ายผ่านการฟังวิทยุออนไลน์ และแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง เช่น Spotify, YouTube หรือ Apple Music ศิลปินใน วงการ T-POP ก็สามารถเผยแพร่ผลงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องมีการจำกัดแค่ตลาดภายในประเทศเท่านั้น การที่เพลง T-POP สามารถเข้าถึงผู้ฟังจากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างทันที นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ T-POP กลับมามีบทบาทและได้รับความนิยม 3. ความสามารถของศิลปินรุ่นใหม่ ศิลปินรุ่นใหม่ในวงการ T-POP มีความสามารถที่โดดเด่นในการผสมผสานเสียงเพลงกับความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงที่มีความหลากหลายหรือการออกแบบมิวสิกวิดีโอที่สะดุดตา การพัฒนาตัวตนของศิลปินเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ T-POP สามารถสร้างกระแสที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วTikTok หนึ่งในปัจจัยความสำเร็จของวงการเพลง หนึ่งในเครื่องมือที่มีผลต่อกระแส T-POP คือ TikTok แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก ซึ่งได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เพลง T-POP กลายเป็นที่นิยม TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้เพลงสามารถเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ใช้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเพลงนั้น ๆ และแชร์ไปยังเพื่อนหรือผู้ติดตามจำนวนมากได้ทันที 1. ความง่ายในการสร้างคอนเทนต์ TikTok ช่วยให้การเผยแพร่เพลงใหม่ ๆ จากศิลปิน T-POP ทำได้ง่ายมากขึ้น โดยการที่เพลงสามารถกลายเป็นกระแสใน TikTok ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ใช้สามารถใช้เพลงในคลิปของตัวเองได้ ทำให้เพลงนั้นกลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในวงกว้าง อีกทั้งยังมีแฮชแท็กที่ช่วยในการค้นหาเพลงและคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้สะดวก 2. การมีส่วนร่วมของแฟนคลับ การที่แฟนคลับสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเพลง T-POP และแชร์ไปยังกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จัก ก็ช่วยเสริมการเติบโตของ กระแส T-POP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเมื่อเพลงใดเพลงหนึ่งกลายเป็นที่นิยมใน TikTok แล้ว ก็จะทำให้เพลงนั้นถูกพูดถึงมากขึ้น และยิ่งมีการร่วมมือกับศิลปินที่มีชื่อเสียง ก็จะยิ่งเพิ่มความสนใจจากแฟนคลับและผู้ฟังมากยิ่งขึ้น 3. การใช้ Challenge หรือกิจกรรมสนุก ๆ ศิลปินและค่ายเพลงหลายแห่งใช้ฟีเจอร์ Challenge ของ TikTok เป็นหนึ่งในเครื่องมือโปรโมตเพลง เช่น การปล่อย ท่าเต้น Challenge หรือกิจกรรมที่ให้แฟนคลับร่วมสร้างคอนเทนต์ด้วยกันกับศิลปิน การมีกิจกรรมเหล่านี้ทำให้แฟนเพลงรู้สึกมีส่วนร่วมและเพิ่มความผูกพันกับเพลงและศิลปินมากยิ่งขึ้น ยิ่ง Challenge นั้นได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ เพลงก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทะยานขึ้นสู่ความเป็นไวรัล 4. ระบบอัลกอริธึมที่ผลักดันคอนเทนต์อย่างชาญฉลาด หนึ่งในจุดแข็งของ TikTok คือระบบอัลกอริธึมที่สามารถดันคอนเทนต์ให้เข้าถึงผู้ชมกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ติดตามจำนวนมากก็สามารถทำให้คลิป "ปัง" ได้ ส่งผลให้เพลงจากศิลปินหน้าใหม่ใน วงการ T-POP มีโอกาสแจ้งเกิดได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะแค่ศิลปินดังเพียงอย่างเดียว 5. การเกิดซ้ำของเพลงเก่าในรูปแบบใหม่ นอกจากจะผลักดันเพลงใหม่ให้เป็นที่นิยมแล้ว TikTok ยังมีส่วนสำคัญในการทำให้ เพลงเก่าในวงการ T-POP กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง เช่น เพลงจากยุค 2000 ที่ถูกนำมา Remix หรือใช้ประกอบคลิปสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ฟังรุ่นใหม่ได้รู้จักเพลงเหล่านั้นในมุมมองใหม่ ส่งผลให้ศิลปินในยุคก่อนกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ซึ่งเป็นการฟื้นฟูวงการเพลงไทยให้หลากหลายและมีมิติยิ่งขึ้นสรุป ฟังเพลงออนไลน์ที่ Atime T-POP กลับมาเป็นกระแสที่น่าจับตามองในวงการเพลงไทย ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังได้ขยายตัวไปสู่ระดับสากล และด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล หรือการใช้ TikTok เพื่อกระตุ้นความสนใจจากแฟนคลับและผู้ฟังในวงกว้าง ทำให้ กระแส T-POP กลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว หากคุณต้องการสัมผัสกับ T-POP และเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงออนไลน์ที่สะดวกและง่ายดาย สามารถฟังเพลงจากศิลปิน T-POP ผ่านวิทยุออนไลน์ได้ที่ Atime ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงเพลงใหม่ ๆ ได้ทันที ผ่านการฟังวิทยุออนไลน์หรือฟังเพลงย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเพลงยอดฮิตหรือเพลงที่คุณชื่นชอบจากวงการ T-POP คุณสามารถสนุกสนานไปกับโลกของดนตรีได้อย่างเต็มที่ที่ Atimeจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ ชานนท์ ไชยศรี

เพลงฮิตไทยกลับมาฮิต จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ทุกคนคิดถึง

09 ก.ย. 2025

เพลงฮิตไทยกลับมาฮิต จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ทุกคนคิดถึง

ปรากฏการณ์เพลงฮิตในอดีตที่กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์เพลงฮิตไทยในอดีตที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งกลายเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ฟังหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเพลงจากยุค 90 หรือแม้แต่เพลงจากช่วงต้นปี 2000 ที่เคยเป็นที่นิยมในวงการเพลงไทยและการฟังวิทยุออนไลน์ เมื่อเพลงเหล่านี้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและการสื่อสารก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว เพลงฮิตที่คิดถึงเหล่านี้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความทรงจำที่ผู้คนไม่สามารถลืมได้เลยทีเดียว หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไมเพลงเก่าถึงกลับมาฮิตและได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน? อาจเป็นเพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่เชื่อมโยงเพลงเหล่านั้นกับประสบการณ์ชีวิตของคนในทุกยุคสมัย และในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เพลงฮิตไทยในอดีตยังคงได้รับความนิยม และสิ่งที่ทำให้เพลงเหล่านี้กลับมาเป็นที่พูดถึงในปัจจุบันอะไรคือสิ่งที่ทำให้เพลงเหล่านั้นยังคงอยู่ในความทรงจำ หลายคนอาจสงสัยว่าเพลงเก่ายอดฮิตเหล่านั้นยังคงมีความหมายและทำให้ผู้คนต้องย้อนกลับไปฟังซ้ำอยู่เสมอ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ทำให้เพลงเหล่านี้ยังคงอยู่ในความทรงจำและสามารถสร้างอิทธิพลต่อผู้ฟังได้อย่างต่อเนื่อง อาจมาจากหลายปัจจัยที่มีผลอย่างมากต่อการเชื่อมโยงกับชีวิตและอารมณ์ของผู้ฟัง โดยไม่ว่าจะเป็นความเรียบง่ายในเนื้อเพลงที่เข้าใจง่าย หรือการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต ซึ่งทุกปัจจัยเหล่านี้ทำให้เพลงเก่า ๆ ยังคงมีความหมายและสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังทั้งในอดีตและปัจจุบันเนื้อเพลงที่เข้าใจง่าย - เพลงหลายเพลงในอดีตมักจะมีเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างชัดเจน เช่น เพลงรักที่ถ่ายทอดอารมณ์ของความรักอันบริสุทธิ์ หรือเพลงเศร้าที่สะท้อนถึงความเจ็บปวดและความผิดหวัง เพลงเหล่านี้มักสื่อความหมายที่ลึกซึ้งและเข้าถึงจิตใจผู้ฟังได้อย่างง่ายดายดนตรีที่ติดหู - ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เพลงเก่ายังคงมีอิทธิพลและอยู่ในความทรงจำของผู้ฟังคือ ดนตรีที่ติดหูแนวดนตรีในเพลงเก่ามีความหลากหลาย ตั้งแต่เพลงป็อปที่มีจังหวะสนุกสนาน ไปจนถึงเพลงร็อคที่เต็มไปด้วยพลัง และเพลงลูกทุ่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านทำนองและการบรรยายชีวิต แนวดนตรีเหล่านี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ผู้ฟังสามารถจดจำได้ทันทีเมื่อได้ยินการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในชีวิต - หลาย ๆ ครั้ง เพลงเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ซึ่งทำให้เพลงเหล่านั้นกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์หรือความทรงจำที่มีค่า นอกจากนี้เพลงประกอบละครดัง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เพลงเก่ากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เพลงเหล่านี้ถูกใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมกับผู้ชมในละคร ซึ่งทำให้เพลงนั้นไม่เพียงแต่เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น แต่ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมอย่างยาวนานศิลปินที่มีอิทธิพลในอดีต และผลงานที่สร้างชื่อเสียง หลายศิลปินที่เคยมีชื่อเสียงในอดีตได้สร้างผลงานเพลงที่ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในยุคนั้น แต่ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ฟังมาจนถึงทุกวันนี้ พวกเขามีบทบาทสำคัญในวงการเพลงไทย โดยเฉพาะศิลปินที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาแนวดนตรีในช่วงเวลานั้น ตัวอย่างศิลปินที่มีผลงานเพลงฮิตไทยในอดีต ได้แก่เสก โลโซ - นักร้องและนักแต่งเพลงที่สร้างชื่อเสียงด้วยเพลงร็อคสุดมันส์ที่เป็นเอกลักษณ์บิ๊กแอส - วงดนตรีร็อคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 90 เพลงของพวกเขามักสะท้อนอารมณ์และความรู้สึกของผู้คนในช่วงเวลานั้นปาล์มมี่ - ศิลปินที่เป็นที่รักในหมู่ผู้ฟังเพลงป็อป โดยเพลงของเธอมีทั้งความสดใสและความเศร้า ซึ่งทำให้หลายคนสามารถเชื่อมโยงกับเพลงของเธอได้ง่ายความผูกพันระหว่างเพลงกับช่วงเวลาหรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผู้ฟัง หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เพลงฮิตไทยในอดีตกลับมาฮิตอีกครั้ง ก็คือความผูกพันที่มีระหว่างเพลงเหล่านั้นกับช่วงเวลาหรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผู้ฟัง เพลงเหล่านี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่สำคัญ เช่นเพลงประกอบละครดัง - เพลงที่ใช้เป็นเพลงประกอบละครมักได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นที่พูดถึงในหมู่ผู้ชม ซึ่งทำให้เพลงเหล่านั้นเชื่อมโยงกับความทรงจำที่ดีในช่วงเวลาที่เราได้ดูละครเพลงในงานสำคัญ - เพลงที่ฟังในงานแต่งงานหรือในงานสังสรรค์กับเพื่อนฝูง มักจะถูกจำไปตลอดชีวิต เมื่อได้ยินเพลงนั้นอีกครั้ง มันจะทำให้เรานึกถึงช่วงเวลานั้นทันทีเพลงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต - เพลงบางเพลงที่มีความหมายพิเศษและเป็นเครื่องเตือนใจให้เราได้หวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตสรุปถึงความสำคัญของเพลงฮิตในอดีตที่ยังคงมีอิทธิพลต่อผู้คนในปัจจุบันสามารถเลือกฟังวิทยุออนไลน์ได้ที่ Atime เพลงฮิตไทยในอดีตที่กลับมาฮิตอีกครั้งไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วขณะ แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทรงจำและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพลงเก่ายอดฮิตเหล่านี้ทำให้ผู้ฟังสามารถย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่มีความสุข ความรัก หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ทำให้พวกเขารู้สึกเศร้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและความทรงจำที่ไม่สามารถลืมได้ การฟังเพลงเหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำให้เรานึกถึงอดีต แต่ยังช่วยให้เราได้รู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลาย ที่อาจถูกเก็บซ่อนไว้ในหัวใจของเรามานาน การกลับมาของเพลงฮิตที่คิดถึงเหล่านี้จึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ให้กับคนในทุกช่วงวัย และในบางครั้งยังช่วยเชื่อมต่อระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ผ่านการฟังเพลงที่มีคุณค่าและความหมาย สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ให้คุณสามารถฟังเพลงฮิตไทยในอดีตได้อย่างครบครันและทันสมัย เราขอแนะนำให้คุณลองฟังวิทยุออนไลน์ที่ Atime ที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การฟังเพลงของคุณให้ครบรส ไม่ว่าจะเป็นการฟังสดหรือการฟังย้อนหลังที่สะดวกสบาย ทุกคนสามารถพบกับเพลงฮิตที่คิดถึงได้ที่นี่จัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงก่อนใครได้ทุกเมื่อ ที่ Atime

03 ก.ย. 2025

ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงก่อนใครได้ทุกเมื่อ ที่ Atime

การฟังวิทยุออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ที่เว็บไซต์ Atime มีคลื่นวิทยุออนไลน์มากมายให้เลือกฟังเหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย แค่เพียงมีเครื่องมือสื่อสารในโลกยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยแอปพลิเคชันและสื่อใหม่ ๆ มากมาย การฟังวิทยุออนไลน์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้ฟังเพลงโปรด หรืออัปเดตข่าวสารต่าง ๆ แต่ยังช่วยให้คุณเชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้อย่างต่อเนื่องและสะดวกสบาย การฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ผ่านอินเทอร์เน็ตทำให้คุณสามารถเลือกฟังรายการโปรดได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำกัดแค่การฟังในรถหรือบ้านเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีฟังวิทยุออนไลน์ที่มีความหลากหลายและเข้าถึงง่าย ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับจุดเด่นของการฟังวิทยุออนไลน์ที่สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเหตุผลว่าทำไม Atime จึงเป็นแพลตฟอร์มที่คุณไม่ควรพลาดการฟังวิทยุออนไลน์ในปัจจุบันในยุคที่การเสพสื่อเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การฟังวิทยุออนไลน์กลับกลายเป็นทางเลือกที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ฟังวัยผู้ใหญ่ที่เติบโตมากับคลื่นวิทยุและยังหลงใหลในเสน่ห์ของเสียง ดีเจ และเพลงที่เลือกสรรมาอย่างมีรสนิยม การฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง จึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องรับวิทยุอีกต่อไป ขอเพียงมีอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเข้าถึงรายการโปรดได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่บ้าน ขับรถ หรือทำงาน การเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลไม่ได้ทำให้วิทยุเลือนหาย แต่กลับทำให้มันเข้าถึงง่ายและทันสมัยมากยิ่งขึ้นจุดเด่นของวิทยุออนไลน์ ที่สื่อบันเทิงอื่น ๆ เทียบไม่ได้แม้ปัจจุบันจะมีแพลตฟอร์มความบันเทิงมากมายให้เลือกใช้ ทั้ง YouTube, Spotify, หรือพอดแคสต์ แต่สิ่งที่ทำให้การฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงยังคงโดดเด่นคือ ความเรียลไทม์ และอารมณ์ร่วมขณะฟังที่สื่ออื่นไม่สามารถมอบให้ได้ทั้งหมดการถ่ายทอดสดจากดีเจมืออาชีพ - ดีเจในรายการวิทยุมีประสบการณ์ในการจัดรายการ การเลือกเพลง และการสื่อสารกับผู้ฟังแบบทันที ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตข่าวสาร เพลงใหม่ หรือประเด็นร้อนจากสังคม ล้วนถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงและลีลาที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนมีเพื่อนอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลาเลือกฟังได้ตลอด 24 ชั่วโมง - หลายคนเลือกฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดช่วงเวลาออกอากาศ หากไม่มีเวลาฟังสด ก็สามารถย้อนฟังรายการที่ชอบได้อย่างสะดวก เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต และยังตอบโจทย์คนที่ทำงานเป็นกะ หรือมีเวลาว่างไม่แน่นอนเพลงหลากหลาย ไม่ต้องเลือกเอง - ในยุคที่การเลือกเพลงฟังกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก วิทยุออนไลน์ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาจัดเพลย์ลิสต์เอง เพราะดีเจจะคัดเพลงที่น่าสนใจมาให้ฟังแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายที่ชอบเปิดเพลงคลอทำงาน หรือฟังเพลงตอนขับรถ การ ฟังเพลงวิทยุออนไลน์ จึงเป็นทางเลือกที่ผ่อนคลายและง่ายดายมีรายการบันเทิงและสาระครบทุกรส - นอกจากเพลงแล้ว วิทยุออนไลน์ยังมีรายการข่าว รายการทอล์กโชว์ รายการดูดวง ไปจนถึงคอนเทนต์เพื่อสุขภาพและครอบครัว ผู้ฟังสามารถเลือกฟังได้ตามความสนใจ โดยไม่ต้องสลับแอปให้วุ่นวายใครที่เหมาะกับการฟังวิทยุออนไลน์บ้างการฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ไม่ได้จำกัดกลุ่มผู้ฟังเฉพาะวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้น แต่สามารถตอบโจทย์ผู้ฟังหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการความต่อเนื่อง ความบันเทิง และความรู้สึกเชื่อมโยงกับสังคมผ่านเสียงคนวัยทำงานอายุ 40 ปีขึ้นไป - กลุ่มนี้เติบโตมากับวิทยุ และยังคงชื่นชอบการฟังเสียงดีเจ เลือกเพลง และพูดคุยเรื่องราวใกล้ตัว การฟังเพลงวิทยุออนไลน์ ช่วยให้พวกเขายังคงรักษาวิถีการเสพสื่อแบบเดิมไว้ได้ แต่ในรูปแบบที่ทันสมัยกว่าแม่บ้านหรือผู้ที่อยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ - สำหรับผู้ที่ทำงานบ้านทั้งวัน การเปิดวิทยุออนไลน์ไว้เป็นเพื่อนคือสิ่งที่เติมเต็มบรรยากาศในบ้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะฟังเพื่อความบันเทิง หรือฟังข่าวสาร ก็สามารถทำไปพร้อมกับกิจวัตรประจำวันได้โดยไม่รบกวนมือนักเรียน นักศึกษา - แม้จะดูเหมือนว่าวัยรุ่นยุคใหม่จะไม่ฟังวิทยุ แต่หลายคนกลับเลือกฟังวิทยุออนไลน์เพื่อเปิดเพลงคลอขณะทำงาน อ่านหนังสือ หรือแม้แต่เรียนออนไลน์ เพราะช่วยลดความเครียดและสร้างสมาธิได้ดีคนที่เดินทางบ่อยหรือใช้รถส่วนตัว - คนขับรถแท็กซี่ คนส่งของ หรือแม้แต่พนักงานออฟฟิศที่ต้องเดินทางไปทำงานทุกวัน มักเลือกฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ผ่านมือถือหรืออุปกรณ์ในรถ เพื่อให้การเดินทางไม่น่าเบื่อ และยังอัปเดตข่าวสารได้แบบทันทีสรุปการฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ไม่ใช่แค่การเสพสื่อเสียงเท่านั้น แต่คือประสบการณ์ที่ผสมผสานความบันเทิง ข่าวสาร เพลงดี ๆ และความเชื่อมโยงทางอารมณ์ ที่สื่อสมัยใหม่ไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด เหมาะกับผู้ฟังทุกวัยที่ต้องการเพื่อนทางเสียงที่เข้าใจจังหวะชีวิต หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มวิทยุออนไลน์ที่มีทั้งคุณภาพ เสียงคมชัด และรายการคุณภาพ ขอแนะนำเว็บไซต์ Atime แพลตฟอร์มที่รวมคลื่นวิทยุชั้นนำอย่าง EFM, Green Wave และ Chill Online ให้คุณสามารถฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ได้อย่างไม่มีสะดุด พร้อมฟีเจอร์พิเศษที่สามารถฟังรายการย้อนหลังได้อีกด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่พลาดช่วงเวลาออกอากาศ หรืออยากย้อนฟังช่วงที่ชอบซ้ำอีกครั้ง

ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ทั้งเพลงและรายการเด็ดยอดฮิต

18 ก.ค. 2025

ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ทั้งเพลงและรายการเด็ดยอดฮิต

ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทในการทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น การฟังเพลงหรือรายการต่าง ๆ ก็ไม่ต้องจำกัดแค่การเปิดวิทยุในบ้านหรือในรถอีกต่อไป วันนี้เราสามารถฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงได้ทุกที่ทุกเวลา แค่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถสัมผัสกับเสียงเพลงที่คุณรัก หรือรายการดี ๆ ที่จะทำให้วันของคุณไม่น่าเบื่อ การฟังวิทยุออนไลน์ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มเวลาว่าง แต่ยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการติดตามข่าวสาร บันเทิง หรือความรู้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อดิจิทัลในยุคนี้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การฟังวิทยุที่หลากหลายและไม่มีวันหยุด ลองเปิดใจให้กับการฟังเพลงวิทยุออนไลน์ดูสักครั้ง แล้วคุณจะพบความสนุกและความบันเทิงที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนการฟังวิทยุออนไลน์ ที่เป็นมากกว่าการฟังเพลง วิทยุออนไลน์ คือทางเลือกใหม่ของการฟังเพลงและรายการต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำให้คุณสนุกไปกับเสียงเพลงที่มีคุณภาพดี หรือรับฟังรายการที่มีสาระและความบันเทิงอย่างครบครัน ด้วยความสะดวกสบายในการเข้าถึงวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง คุณสามารถฟังได้ทั้งเพลงที่คุณรักหรือรายการที่คุณชื่นชอบตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการปรับคลื่นความถี่หรืออุปกรณ์ที่มีข้อจำกัด เมื่อพูดถึงการฟังวิทยุออนไลน์หลายคนอาจจะนึกถึงการฟังเพลงทั่วไป แต่จริง ๆ แล้ววิทยุออนไลน์ที่ดีไม่ได้มีแค่เพลงเท่านั้น เพราะยังมีรายการต่าง ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์คนดัง รายการทอล์คโชว์ที่มอบข้อมูลและความบันเทิง รวมถึงข่าวสารต่าง ๆ ที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะกำลังทำงานหรือกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ก็สามารถเปิดวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงและเพลิดเพลินไปกับรายการที่มีความหลากหลายได้อย่างเต็มที่ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง พาท่องโลกเสียงเพลงและความบันเทิง การฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกับการฟังเพลงผ่านแอปพลิเคชันทั่วไป เพราะคุณไม่ต้องเลือกเพลงเอง หรือคิดว่าอยากฟังเพลงอะไรต่อไป อีกทั้งยังได้ฟังเสียงดีเจที่คอยเล่าเรื่องและให้ความบันเทิงตลอดทั้งวัน บางครั้งการฟังเพลงจากวิทยุออนไลน์ยังช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนมีเพื่อนพูดคุยอยู่เคียงข้าง ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ทำงานหรือทำการบ้านไม่น่าเบื่ออีกต่อไปเสียงเพลงที่หลากหลาย - หนึ่งในข้อดีของการฟังวิทยุออนไลน์ คือคุณสามารถเลือกฟังเพลงในหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากล เพลงไทย เพลงเก่า เพลงใหม่ หรือเพลงที่คัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสมกับอารมณ์และช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น เพลงรัก เพลงสบาย ๆ หรือเพลงเต้นรำ ที่มีให้เลือกฟังแบบไม่รู้จบรายการที่เติมเต็มความบันเทิง - ไม่ใช่แค่เพลงเท่านั้นที่คุณสามารถฟังเพลงวิทยุออนไลน์ได้ แต่ยังมีรายการที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยสาระ อย่างเช่นรายการทอล์คโชว์ที่มีการสัมภาษณ์บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือรายการข่าวที่ให้คุณอัปเดตเหตุการณ์สำคัญจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ยังมีรายการที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและความสนใจของผู้ฟัง เช่น รายการด้านอาหาร การท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการพัฒนาตัวเอง ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วการเลือกวิทยุออนไลน์ที่ใช่ ทั้งเพลงและรายการที่คุณไม่ควรพลาด การเลือกฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ที่มีทั้งเพลงและรายการเด็ดยอดฮิตก็เหมือนการเลือกเพื่อนคู่หูที่จะอยู่ข้าง ๆ คุณตลอดเวลา การเลือกคลื่นวิทยุที่เหมาะกับตัวเองจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต และเติมเต็มช่วงเวลาว่างของคุณให้มีความสุขมากขึ้น โดยพิจารณาเลือกได้ดังนี้ฟังวิทยุออนไลน์ที่มีรายการหลากหลาย - หนึ่งในวิธีที่ทำให้การฟังวิทยุออนไลน์เป็นเรื่องสนุก คือการเลือกสถานีที่มีรายการหลากหลายให้คุณเลือกฟังได้ตามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นรายการเพลง รายการทอล์คโชว์ หรือข่าวสารการเมือง-เศรษฐกิจ การเลือกสถานีที่มีเนื้อหาหลากหลายทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะสามารถฟังได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีความซ้ำซ้อนสถานีที่เหมาะกับความชอบส่วนตัว - เลือกสถานีวิทยุที่มีการคัดสรรเพลงและรายการที่คุณชอบ เช่น สถานีที่เน้นเพลงแนวที่คุณชอบ หรือมีกิจกรรม เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างการสัมภาษณ์คนดัง หรือการพูดถึงเรื่องราวที่สนใจสรุป การฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงเป็นทางเลือกที่สะดวกสบาย และตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ต้องการความบันเทิงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพลงโปรด รายการที่ให้สาระ หรือการติดตามข่าวสารจากทั่วโลก ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกฟังที่ไหน เว็บไซต์ Atime คือตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะที่นี่ไม่เพียงแค่มีบริการการฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงจากคลื่นชื่อดังอย่าง 106.5 Greenwave, EFM 94 และ Hot Wave แต่ยังมีรายการต่าง ๆ ที่คุณสามารถเลือกฟังได้ตลอดทั้งวัน ทั้งรายการเพลงที่คัดสรรมาอย่างดีและรายการสาระที่มีประโยชน์ เว็บไซต์ Atime ให้บริการฟังวิทยุออนไลน์ได้ทั้งสดและย้อนหลัง ไม่ว่าคุณจะต้องการฟังเพลงใหม่หรือรายการเดิมที่คุณชื่นชอบ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ ผ่านทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน AtimeFungFin ที่รองรับทั้ง iOS และ Android

ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง บันเทิงทั้งวันไม่มีเบื่อ

17 ก.ค. 2025

ฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง บันเทิงทั้งวันไม่มีเบื่อ

ในโลกที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียดจากชีวิตประจำวัน การหาวิธีผ่อนคลายและเติมเต็มความสนุกในแต่ละวันจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนมองหา และหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมคือ การฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ที่สามารถให้ความบันเทิงได้ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงเพลงโปรด รายการเด็ด ๆ หรือสาระดี ๆ ได้อย่างสะดวกสบายการฟังวิทยุออนไลน์ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้ฟังเพลงและรายการต่าง ๆ ที่ชื่นชอบ แต่ยังเป็นช่องทางในการหลีกหนีจากความเครียด และเติมเต็มวันให้สดใสยิ่งขึ้น ผ่านเสียงของดีเจที่มีชีวิตชีวาและรายการที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้วันของคุณเต็มไปด้วยความบันเทิง ลองเปิดใจฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง เพื่อเติมเต็มวันดี ๆ ของคุณแบบง่าย ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายสร้างวันดี ๆ ด้วยกิจกรรมบันเทิงมากมายการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะจากวิทยุออนไลน์ คือวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดในการสร้างความรู้สึกดี ๆ ตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะกับฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ที่สามารถติดตามเพลงโปรดหรือรายการสนุก ๆ ที่มีคุณภาพได้ตลอดวัน ไม่ว่าคุณจะกำลังทำงาน, ทำกิจกรรมประจำวัน หรือเพียงแค่ต้องการเวลาพักผ่อนจากความยุ่งเหยิงของชีวิตประจำวัน สิ่งที่ทำให้การฟังวิทยุออนไลน์ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่ซ้ำใครคือ ความหลากหลายของเนื้อหาที่มีให้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากล เพลงไทย เพลงเก่า เพลงใหม่ หรือแม้แต่การฟังรายการทอล์คโชว์ที่ให้ทั้งสาระและความบันเทิง ล้วนแต่ช่วยเติมเต็มอารมณ์และให้ความรู้สึกดีในทุกช่วงเวลา ที่สำคัญคือ สามารถเลือกดูรายการที่สนใจย้อนหลังได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องนั่งรอเวลาเหมือนในอดีตลิขิตความสนุกให้ตนเอง ด้วยการเลือกฟังวิทยุออนไลน์ตามชอบหนึ่งในข้อดีของการฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง คือความยืดหยุ่นในการเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับอารมณ์ของคุณในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงทำนองไหน คุณก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ไม่ต้องเสียเวลาเลือกเพลงหรือปรับตัวให้เข้ากับแอปพลิเคชันที่ต้องเปิดหาหรือโหลดเพลงด้วยตัวเอง การฟังเพลงวิทยุออนไลน์ นอกจากจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับเพลงโปรดแล้วหรือรายการโปรดแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศการฟังเพลงที่มีการเล่าเรื่องจากดีเจที่มีเสน่ห์ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในวงสนทนาหรือฟังเพื่อนพูดคุยตลอดเวลา ตัวอย่างสถานีวิทยุจากเว็บไซต์ Atime เช่นGreenwave 106.5: สถานีที่ขึ้นชื่อเรื่องเพลงรักและรายการสัมภาษณ์คนดังEFM 94: สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงสากลและการพูดคุยเรื่องสังคมHot Wave: คลื่นวิทยุวำหรับวัยรุ่นกิจกรรมบันเทิงอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมนอกจากการฟังวิทยุออนไลน์ที่เต็มไปด้วยเพลงและรายการดี ๆ แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมบันเทิงอื่น ๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดความเครียดและเพิ่มความสนุกสนานในวันของคุณได้อีกมากมาย เช่นการดูรายการถ่ายทอดสด - หากคุณอยากรับชมรายการสดจากสถานีวิทยุ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ เช่น การดูโชว์สดจากดีเจที่มีการถ่ายทอดสด หรือรายการที่ให้คุณมีส่วนร่วม เช่น การถามตอบหรือแชร์ความคิดเห็นฟังเพลงไปพร้อมกับกิจกรรมที่คุณทำ - หากคุณต้องทำงานบ้านหรือออกกำลังกาย การฟังเพลงไปพร้อม ๆ กับการทำกิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มพลังและทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อหน่ายการเข้าร่วมกิจกรรมออนไลน์จากสถานีวิทยุ - หลายสถานีวิทยุออนไลน์มีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การเล่นเกมเพื่อรับรางวัล การโหวตรายการที่ชื่นชอบ หรือแม้กระทั่งการเข้าร่วมฟังสัมภาษณ์พิเศษจากคนดังต่าง ๆข้อดีของเว็บไซต์ Atimeฟังเพลงโปรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง - ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงเก่าหรือเพลงใหม่ ก็มีดีเจคอยเปิดเพลง ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับเพลงที่คุณรักได้ทุกเวลารายการที่ครอบคลุมทุกความสนใจ - ไม่เพียงแต่เพลงเท่านั้น Atime ยังมีรายการที่น่าสนใจหลากหลาย เช่น รายการสัมภาษณ์คนดัง รายการทอล์คโชว์ที่ให้ความบันเทิงและข้อมูลที่น่าสนใจ รวมถึงรายการข่าวสารที่จะช่วยให้คุณติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ทันทีฟังสดและย้อนหลังได้ทุกเวลา - หากพลาดรายการโปรด สามารถฟังรายการย้อนหลังได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่พลาดทุกตอนที่ต้องการฟังเข้าถึงง่ายผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน - สามารถฟังได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟนฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงได้ที่ Atimeหากคุณกำลังมองหาสถานีวิทยุออนไลน์ที่ให้ความบันเทิงแบบครบครันและสะดวกที่สุด ขอแนะนำเว็บไซต์ Atime ในการฟังวิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมงตลอดทั้งวัน ที่นี่รวบรวมสถานีวิทยุออนไลน์หลากหลายให้คุณเลือกฟังได้ตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวไหน หรือรายการประเภทใด ทุกความชอบของคุณสามารถเข้าถึงได้ทุกเวลา

ฟัง 106.5 Greenwave Online วิทยุเพลงดี ๆ ที่ใจคุณต้องการ

15 ก.ค. 2025

ฟัง 106.5 Greenwave Online วิทยุเพลงดี ๆ ที่ใจคุณต้องการ

ให้เสียงเพลงบรรเลงหัวใจคุณทุกวันกับการฟัง 106.5 Green Wave Onlineคลื่นเพลงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ฟังได้ทั้งสดและย้อนหลัง ที่คัดเพลงมาเพื่อคุณโดยเฉพาะเสียงเพลงเป็นอะไรที่ทุกคนในยุคสมัยนี้ สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว หลายคนอาจเลือกใช้บริการสตรีมมิ่งชื่อดังเพื่อฟังเพลงโปรด แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ทั้งความเพลิดเพลิน ความรู้สึกอบอุ่น และความผูกพันผ่านเสียงเพลง นั่นก็คือการฟัง 106.5 Greenwave Online คลื่นวิทยุที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่เติบโตมากับเพลงรักยุค 90s – 2000s ที่ยังคงตราตรึงใจไม่เสื่อมคลาย หรือชื่นชอบการฟังเรื่องราวผ่านรายการต่าง ๆ จากดีเจชื่อดัง หากคุณกำลังมองหาวิธีผ่อนคลายจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน การเปิดวิทยุออนไลน์ดี ๆ สักคลื่น เพื่อฟังเพลงที่เข้าใจหัวใจ ฟังเสียงดีเจที่พูดจานุ่มนวลและมีความหมาย อาจเป็นทางเลือกที่เติมเต็มวันของคุณได้มากกว่าที่คิด และไม่มีคลื่นไหนจะตอบโจทย์นี้ได้ดีเท่า 106.5 Green Wave Online อีกแล้ววิทยุออนไลน์กรีนเวฟวิทยุออนไลน์กรีนเวฟหรือคลื่น 106.5 Green Wave คือหนึ่งในสถานีวิทยุที่ครองใจผู้ฟังมายาวนาน ด้วยจุดเด่นเรื่องเพลงรักเพราะ ๆ ดีเจเสียงอบอุ่น และรายการคุณภาพที่ออกอากาศตลอดวัน แม้ในยุคที่สื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาท แต่คลื่น Green Wave ก็ยังคงยืนหยัดและพัฒนาเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงคลื่นโปรดของตนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม การฟังเพลงผ่านวิทยุออนไลน์กรีนเวฟไม่ได้หมายถึงแค่การเปิดเพลงแบบต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟังเรื่องเล่าดี ๆ ข้อคิดจากดีเจ รายการพิเศษที่สร้างแรงบันดาลใจ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ Green Wave จัดขึ้นเพื่อคนฟังโดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะใช้สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ก็สามารถเชื่อมต่อกับโลกของ Green Wave ได้ทันทีที่เว็บไซต์ atime.live ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการฟัง 106.5 Greenwave Online ได้ทุกที่ ทุกเวลาหลีกหนีความจำเจ ด้วยการฟังวิทยุออนไลน์ 106.5ในแต่ละวัน เราอาจต้องเผชิญกับความเครียด ความวุ่นวาย หรือความเหนื่อยล้าจากการทำงานและชีวิตส่วนตัว การหาเวลาผ่อนคลายจึงเป็นสิ่งจำเป็น และหนึ่งในวิธีที่ง่ายและได้ผล คือการเปิดเพลงดี ๆ ฟังผ่านวิทยุออนไลน์กรีนเวฟ ซึ่งการฟัง 106.5 Greenwave Online เหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากหลีกหนีจากความจำเจ เนื่องจากบางครั้งการฟังเพลงจาก playlist เดิม ๆ ที่สร้างไว้ ก็จะได้ฟังแต่เพลงซ้ำ ๆ หรือหากเปิดเพลงแบบสุ่ม แน่นอนว่าอัลกอริทึมก็สามารถจดจำแนวเพลง และพฤติกรรมการฟังเพลงของเราได้หมดแล้ว ดังนั้นการเลือกฟังเพลงจากวิทยุออนไลน์ ที่ไม่สามารถเดาได้เลยว่าวันนี้ดีเจจะเปิดเพลงอะไร จะพูดเรื่องไหน หรือจะมีการเล่นมุกอะไรออกมาบ้าง จึงถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการการผ่อนคลายจากความเครียด อีกทั้งคลื่นกรีนเวฟยังเหมาะสำหรับการนั่งฟังเพลงรักช้า ๆ จากดีเจเสียงอบอุ่น พร้อมรับข้อความที่ให้กำลังใจในแต่ละช่วงเวลา เป็นเหมือนการเยียวยาใจแบบไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวทำไมต้องเลือกฟัง 106.5 greenwave onlineการเลือกช่องทางในการฟังเพลงในปัจจุบันมีมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ 106.5 Green Wave Online แตกต่างจากสตรีมมิ่งทั่วไป คือ ความรู้สึก และการสื่อสาร ที่เป็นมากกว่าแค่เสียงเพลง ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่คนฟังหลายคนติดใจ สำหรับเหตุผลที่ควรเลือกฟัง 106.5 greenwave online คือเพลงรักเพราะ ๆ ที่คัดสรรมาแล้วไม่ใช่แค่เปิดเพลงอัตโนมัติ แต่เป็นการเลือกเพลงโดยดีเจที่เข้าใจคนฟังจริง ๆ ทั้งเพลงเก่ายอดนิยม เพลงใหม่เนื้อหาดี และเพลงอินดี้ฟังสบายดีเจคุณภาพ เสียงอบอุ่น พูดจาให้กำลังใจการได้ยินเสียงคนที่คอยส่งพลังบวก พูดจาดี และมีมุมมองชีวิตที่ลึกซึ้ง เป็นเสน่ห์เฉพาะของคลื่น Green Waveมีช่วงรายการที่หลากหลายทั้งสาระ บันเทิง และแรงบันดาลใจ ทำให้การฟังวิทยุไม่น่าเบื่ออีกต่อไปฟังได้ง่ายทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์ atime.live, แอปพลิเคชัน Atime Online หรือจะเปิดผ่าน Smart TV ก็ยังได้สามารถฟังย้อนหลังได้ฟังไม่ทัน? ไม่เป็นไร เพราะสามารถย้อนฟังรายการที่คุณชื่นชอบได้ง่าย ๆ ทุกช่วงเวลาสรุปหลีกหนีความซ้ำซาก จำเจ จากการฟังเพลงแบบเดิม ๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมฟังเพลงรักดี ๆ ที่ตรงใจ ฟังง่าย และเข้าถึงความรู้สึก เราขอแนะนำให้ลองฟัง 106.5 Greenwave Online แล้วคุณจะรู้ว่าการฟังวิทยุยังคงมีเสน่ห์ และความอบอุ่นในแบบที่สตรีมมิ่งทั่วไปให้ไม่ได้ ที่เว็บไซต์ atime คือแหล่งรวมความบันเทิงที่เชื่อถือได้ของ Atime Media ซึ่งคุณสามารถเข้าไปฟังคลื่น Green Wave แบบสด ๆ หรือย้อนหลังรายการโปรดชื่อดังอย่าง Club Friday ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังสามารถติดตามรายการอื่นในเครือ เช่น EFM Station และดูรายการย้อนหลังของ DJ ชื่อดังได้ในที่เดียว

TCAS

รวมสาขาที่เปิดสอน ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา

08 ก.ย. 2025

รวมสาขาที่เปิดสอน ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา

ดีเจเผือก-อาร์ต-โบ กับความทรงจำเด็กหลังห้อง เรียนสายสามัญไม่รอดอย่าเพิ่งหมดหวัง ยังมีสายอาชีพรออยู่ กับอีกหนึ่งวิทยาลัยชื่อดังย่านปากคลองตลาด ‘วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา’ ที่หลายคนยังคิดว่าเรียนรีดพิษงูวันนี้ Atime พาเพื่อนๆ มากันที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา มาดูกันว่าหลักสูตรที่วิทยาลัยนี้เปิดสอน มีหลักสูตรอะไรกันบ้างใต้โต๊ะวิทยา [EP.36] : “วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา” ชอบปฏิบัติ = อาชีวะจากโรงเรียนสตรีสู่อาชีวศึกษาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 124 ปี และผลิตศิษย์คุณภาพมากมายอีกหนึ่งวิทยาลัยสายอาชีพที่มีแต่เด็กเก่ง สร้างชื่อให้ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง!รีวิวครบ 8 สาขา ที่ต้องบอกว่าการเรียนการสอนไม่แพ้ใคร สมัยนี้อาชีวะเขาไปไกลแล้วนะ!วันนี้พามาดูแล้วว่าแต่ละสาขาเขาเรียนอะไรกันบ้าง เดินกันจุกๆ เช่นเคย น้องๆ งัดของเด็ดมาโชว์เพียบ เก่งกันขนาดที่คว้ารางวัลระดับโลกมาเยอะแยะมากมาย ใครกำลังสนใจสายอาชีพ ดูอีพีนี้ได้เลย~

รวมหลักสูตร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

23 ก.ค. 2025

รวมหลักสูตร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

ใครที่ชื่อชอบ และหลงไหลการทำอาหาร วันนี้ Atime ขอพาเพื่อนๆ มากันที่รายการใต้โต๊ะวิทยา กับ โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” เชฟ ที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทั้งในหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาว (Diplôme de Cuisine) และหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบขนมอบ (Diplôme de Pâtisserie) โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งก่อน หรือเรียนทั้งสองหลักสูตรควบคู่กันได้อีกด้วยแอดมินเลยมาแปะหลักสูตรให้เพื่อน ๆ ที่รักในอาหาร และชอบในการทำอาหารที่สนใจอยากเรียนรู้ จะมีหลักสูตรไหนกันบ้าง ไปดูกันใต้โต๊ะวิทยา [EP.33] : “โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” เชฟ = คนครัวโรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลก ที่ใครใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟมืออาชีพ ต้องมีที่นี่อยู่ในลิสต์รีวิวบรรยากาศแบบลักชูรี่ พร้อม Workshop สุดพิเศษกับแขกรับเชิญสุดปังสนุกด้วย อร่อยด้วย รีวิวหลักสูตรสอนทำอาหารหลากหลาย ที่ไม่ได้มีแค่อาหารยุโรปวันนี้ไม่ได้พาไปใต้โต๊ะแต่พาไปใต้เตา! ดีเจเผือก-อาร์ต พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ‘ยายป๋อมแป๋ม-คุณแพรไหม’ นักเรียนตัวจริงจาก ‘โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต’ ที่จะพาทุกคน School tour ให้เห็นทุกซอก ทุกมุม ทุกสเตชั่นครัว แบบเดินไปน้ำลายไหลไป โรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลกมาเปิดสอนในประเทศไทยทั้งที ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว! เชื่อว่าใครที่อยากเป็นเชฟแล้วเรียนจบจากที่นี่ มีนามสกุลเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตติดตัวไป ใจฟูฝุดๆอ่า~ติดตามรายการ ใต้โต๊ะวิทยา ได้ทาง Youtube Channel: Atime Do Dee ทุกวันศุกร์ เดือนละ 2 อีพี

How To สอบเข้า ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

27 มิ.ย. 2025

How To สอบเข้า ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

น้อง ๆ คนไหนที่มีความฝันอยากเป็นทันตแพทย์ ต้องห้ามพลาดทริกการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้า "ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ" จะมีอะไรที่เราต้องเตรียมกันบ้างไปดูกันเลยคณะทันตะฯ แห่งแรกของไทย หลักสูตรทันสมัย ติดอันดับโลก!อ้าปากค้าง.. กับความจริงที่ว่า หมอฟันไม่ได้เรียนแค่ฟัน! แถมต้องผ่าอาจารย์ใหญ่ด้วย!?รีวิวห้องเรียน เมาท์มอยชีวิตเด็กทันตะ จุฬาฯ จากปากรุ่นพี่นิสิตทันตแพทย์ใต้โต๊ะวิทยา [EP.32] : “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ” หมอฟัน ≠ เรียนแค่ฟัน

เปิดสาขาเฉพาะทาง "ทันตแพทย์" จะมีสาขาไหน ติดตามได้ใน EP32 ใต้โต๊ะวิทยา “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

27 มิ.ย. 2025

เปิดสาขาเฉพาะทาง "ทันตแพทย์" จะมีสาขาไหน ติดตามได้ใน EP32 ใต้โต๊ะวิทยา “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

วันนี้ดีเจเผือก-อาร์ต-โบ พามาส่องชีวิตนิสิตทันตะกันที่นี่ “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” อีกหนึ่งคณะในฝันของหลายๆ คน ใครอยากเห็นภาพมากขึ้นว่าหมอฟันเขาเรียนอะไรกันบ้าง? มาดูและฟังจากปากรุ่นพี่นิสิตทันตแพทย์กันได้เลย รับรองว่าอึ้งจนอ้าปากหวอ ขำจนกรามค้าง เมาท์แฟ่ดจนน้ำลายแห้ง! ดูจบแล้วอยากไปขูดหินปูน (?)คณะทันตะฯ แห่งแรกของไทย หลักสูตรทันสมัย ติดอันดับโลก!อ้าปากค้าง.. กับความจริงที่ว่า หมอฟันไม่ได้เรียนแค่ฟัน! แถมต้องผ่าอาจารย์ใหญ่ด้วย!?รีวิวห้องเรียน เมาท์มอยชีวิตเด็กทันตะ จุฬาฯ จากปากรุ่นพี่นิสิตทันตแพทย์เปิดสาขาเฉพาะทาง "ทันตแพทย์" จะมีสาขาไหน ติดตามได้ใน EP32 ใต้โต๊ะวิทยา “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯสาขาปริทันตวิทยาสาขาทันตกรรมหัตถการสาขาศัลยศาสตร์ช่องปาก และแม็กซิลโลเฟเชียลสาขาทันตสาธารณสุขสาขาทันตกรรมประดิษฐ์สาขาทันตกรรมสำหรับเด็กสาขาวิทยาเอ็นโดคอนต์สาขาทันตกรรมจัดฟันสาขาวิทยาการวินิจฉัยโรคช่องปากใต้โต๊ะวิทยา [EP.32] : “คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ” หมอฟัน ≠ เรียนแค่ฟัน

เปิดหลักสูตรที่ที่มีจำนวนสมัครมากที่สุดในรอบ 3 Admission

21 พ.ค. 2025

เปิดหลักสูตรที่ที่มีจำนวนสมัครมากที่สุดในรอบ 3 Admission

15 อันดับหลักสูตรที่สมัครกันมากที่สุดในรอบ 3 Admissionจะมีมหาลัย และคณะไหนกันบ้างไปดูกันหากใครอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะ 2 คณะนี้ ใต้โต๊ะวิทยาพาไปรีวิวแบบจัดเต็มกับ 2 อีพีนี้อันดับที่ 1ใต้โต๊ะวิทยา [EP.3] : "นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์” เรียนกฎหมาย ≠ ท่องจำหลายๆ คนอาจสงสัยว่า คณะนี้รวมเด็กเครียด? วัน ๆ ท่องจำแต่ประมวลกฎหมาย? อ่านหนังสือหนัก สอบโหด เรียนยากแน่เลย.. ดู EP นี้ให้จบ แล้วคุณจะมองนิติศาสตร์เปลี่ยนไปอันดับที่ 13ใต้โต๊ะวิทยา [EP.27] : “คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร” อักษร = ความเป็นมนุษย์ใต้โต๊ะวิทยายกขบวนกันไปถึงนครปฐม พาทัวร์ ‘คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร’ คณะที่มีเอกให้เลือกหลากหลายกว่าที่คิด! ไม่ใช่แค่ภาษา แต่คือทุกสิ่งที่เป็นรากฐานของการรู้จักความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ภาพจำที่หลายๆ คนคิดว่าเด็กอักษรเรียนแต่ภาษา หมกตัวอยู่กับหนังสือ อีพีนี้จะเปลี่ยนภาพจำนั้นแน่นอน สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่แบบเด็กนครปฐม นั่งเมล์เครื่องมาเรียน เอนจอยชีวิตมหาลัยไปกับเพื่อนๆ รวมถึงเปิดสถานที่ลับ อยากเข้าอักษรศิลปากรต้องมามูที่นี่เท่านั้น ใครเล็งคณะนี้อยู่ ดูให้จบ แล้วเตรียมปักเอกที่ชอบไว้ในใจได้เลย

เปิด 6 คณะสายวิทย์สุดปัง คณะไหนคือคำตอบ? | ใต้โต๊ะวิทยา

20 ม.ค. 2025

เปิด 6 คณะสายวิทย์สุดปัง คณะไหนคือคำตอบ? | ใต้โต๊ะวิทยา

ถึงเวลาแล้วของเด็กสายวิทย์ ! สำหรับน้อง ๆ ที่หลงใหลในวิทยาศาสตร์ และกำลังมองหาคณะที่ตอบโจทย์ความฝันในอนาคต วันนี้ใต้โต๊ะวิทยาจะพาไปทำความรู้จักกับ 6 คณะ สายวิทย์ที่ไม่เพียงแค่เรียนสนุก แต่ยังมีโอกาสทำงานที่หลากหลายอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่าคณะไหนที่เหมาะกับความฝันของน้อง ๆ บ้าง ไปลุยกันเลย !คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์มาเริ่มต้นกันที่ คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ถ้าพูดถึงคณะ และมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์ทางทะเล ก็คงหนีไม่พ้นที่นี่ คณะนี้ไม่ใช่เรียนแค่เรื่องสัตว์ทะเลอย่างที่หลายคนคิด แต่น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งระบบนิเวศทางน้ำ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การจัดการทรัพยากรทางทะเล กฎหมายด้านการประมง ไปจนถึงธุรกิจด้านการประมง คณะเหมาะสำหรับคนที่หลงใหลในโลกใต้น้ำและอยากมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติ จบไปสามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้งนักวิชาการประมง ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากรทางทะเล หรือแม้กระทั่งธุรกิจทางทะเล ใครที่อยากผจญภัยในเส้นทางสายประมง บอกเลยว่าคณะนี้ตอบโจทย์สุด ๆคณะแพทย์ฯ รามา ม.มหิดลมาต่อกันที่คณะในฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากจะเป็นหมอ และพร้อมที่จะลุยไปกับการเรียนสุดเข้มข้น “คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล” คือที่ที่ทุกคนจะได้สัมผัสทั้งทฤษฎี และการปฏิบัติแบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ห้องเรียนสู่ห้องผ่าตัดจริง น้อง ๆ จะได้เรียนรู้การดูแลคนไข้ ฝึกทักษะการตัดสินใจในสถานการณ์ที่หลากหลาย รวมไปถึงการเรียนชั้นคลินิกที่ได้ไปสัมผัสกับสถานการณ์จริง และร่วมทีมกับบุคลากรทางการแพทย์ที่เก่งที่สุด จบไปมีอนาคตที่มั่นคงและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหมอเฉพาะทาง พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ หรือแม้กระทั่งนักเวชศาสตร์การสื่อความหมายคณะวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังหากน้อง ๆ มีความสงสัยในเรื่องเสียงที่เกิดขึ้น แต่ก็สนใจเทคโนโลยีไม่แพ้กัน “คณะวิศวกรรมสังคีต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง” พร้อมเปิดโลกใหม่ให้น้อง ๆ คณะนี้เป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์แห่งเสียงและวิศวกรรมที่ทันสมัย น้อง ๆ จะได้เรียนเกี่ยวกับเสียงทั้งหมด ทั้งการออกแบบระบบเสียง การออกแบบห้องให้เหมาะกับการใช้เสียง การสร้างเครื่องดนตรี ไปจนถึงการจัดการแสงและเสียงในงานแสดงสด เรียนที่นี่จะได้พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีเพื่อให้พร้อมก้าวสู่โลกอุตสาหกรรมบันเทิงได้ จบไปสามารถทำงานได้หลากหลาย เช่น วิศวกรเสียง นักออกแบบระบบเสียงในสตูดิโอ ทำงานด้านสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดนตรี / เสียงดนตรี เป็นต้นคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิตเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนมาถึงแล้ว หากน้อง ๆ คนไหนที่สนใจในเรื่องปริศนาอาชญากรรม และอยากเข้าใจเบื้องหลังพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด “คณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต” คือที่ที่จะพาน้อง ๆ ไปสู่โลกแห่งการศึกษาและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างรอบด้าน ที่นี่ครอบคลุมเนื้อหาการเรียนตั้งแต่ทฤษฎีอาชญาวิทยา การบริหารงานตำรวจ การพิสูจน์หลักฐาน หลักการทางนิติวิทยาศาสตร์และกฎหมาย เป็นต้น น้อง ๆ จะได้ฝึกวิเคราะห์คดี เรียนรู้การเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และเข้าใจระบบกระบวนการยุติธรรม จบไปสามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรม นักสืบมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานยุติธรรม หรือแม้กระทั่งทำงานในองค์กรป้องกันอาชญากรรม ผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานยุติธรรมคณะสัตวแพทย์ ม.เกษตรศาสตร์ใครที่รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ และมีความฝันที่อยากช่วยเหลือสัตว์ทุกชนิดให้มีสุขภาพดี ก็ต้องพาตัวเองมาที่ “คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” ได้เลย ที่นี่จะให้น้อง ๆ ได้เปลี่ยนความรักเป็นความรู้แบบมืออาชีพ หลักสูตรที่นี่เน้นทั้งภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริง ตั้งแต่การตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง การวินิจฉัยโรคซับซ้อนในสัตว์ ไปจนถึงการผ่าตัดสุดท้าทาย ที่สำคัญน้อง ๆ จะได้ฝึกกับสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ผ่านการลงพื้นที่อีกด้วย จบจากที่นี่สามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสัตวแพทย์ประจำในคลินิกเอกชนหรือหน่วยงานราชการ สัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์ม , ผู้แทนขายผลิตภัณฑ์ เช่น ยา อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงสามารถเปิดโรงพยาบาลหรือคลินิกเองได้คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯวิศวะ จุฬา นับเป็นอีกหนึ่งในคณะยอดนิยมสำหรับน้อง ๆ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักวิศวกร หลักสูตรที่นี่ครอบคลุมทุกสาขาวิชาวิศวกรรม และมีถึง 20 สาขาอีกด้วยรวมทั้งภาคปกติและภาคอินเตอร์ โดยมีตั้งแต่วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมยานยนต์ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้า ไปจนถึงวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม พร้อมด้วยอุปกรณ์การเรียนและห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย อย่างห้องแล็บ MI the Making of Innovatist center น้อง ๆ จะได้ทั้งความรู้และประสบการณ์จากการทำโปรเจกต์จริง เมื่อจบไป เส้นทางอาชีพก็หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ นักพัฒนานวัตกรรม หรือผู้ประกอบการที่สร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ ใครอยากเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการออกแบบโลกอนาคต วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ คือจุดเริ่มต้นที่ไม่ควรพลาดจริง ๆจบไปแล้วกับบทความแนะนำน้อง ๆ ที่สนใจจะศึกษาต่อในคณะและมหาวิทยาลัยสายวิทย์ ซึ่งไม่จำกัดเพียงเด็กสายวิทย์เท่านั้น หากน้อง ๆ มีความตั้งใจและเตรียมตัวดี เด็กสายศิลป์ก็สามารถเข้าศึกษาได้เช่นกัน สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเลือกสายเรียนมัธยมปลาย สายวิทย์ก็เป็นตัวเลือกที่เปิดโอกาสสู่เส้นทางการศึกษาอย่างน่าตื่นเต้น ใต้โต๊ะวิทยาหวังว่าน้อง ๆ จะค้นพบคณะและมหาวิทยาลัยที่ตรงใจ พร้อมก้าวสู่เป้าหมายในอนาคตได้อย่างมั่นคงกัน !

Work

โค้งสุดท้ายกับการยื่นภาษีออนไลน์ ปี2567

02 เม.ย. 2025

โค้งสุดท้ายกับการยื่นภาษีออนไลน์ ปี2567

ไหนใครยังไม่ได้ยื่นภาษียกมือขึ้น ตอนนี้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วกับการยื่นภาษีของปี 2567 โดยจะหมดเขตในวันที่ 8 เมษายน 2568 นี้เองสำหรับใครที่ต้องการยื่นภาษี ก็สามารถยื่นเอกสารผ่านระบบ e-Filing และ D-MyTax (Digital MyTax) ได้เลยวิธีการยื่นภาษีออนไลน์ 2568 ผ่านระบบ D-MyTaxสำหรับบุคคลธรรมดาที่ต้องการยื่นภาษีออนไลน์ สามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้เข้าไปที่เว็บไซต์ กรมสรรพากรเลือกเมนู Digital MyTax (One Portal) ซึ่งเป็นศูนย์รวมบริการทางภาษีเข้าสู่ระบบ โดยใช้ RD ID (รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน) หรือผ่านระบบ National Digital ID (NDID) เช่น แอปพลิเคชัน ThaiD หรือ เป๋าตังระบบจะนำไปสู่ MyTax Account ให้ตรวจสอบข้อมูลรายได้และค่าลดหย่อนกดยืนยันข้อมูล และเลือก ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91ระบบจะนำไปยัง e-Filing เพื่อตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งระบบแสดงผลว่ามีภาษีที่ต้องชำระ หรือได้รับเงินคืนกดยืนยันการยื่นภาษี และดำเนินการชำระเงิน (หากมีภาษีที่ต้องชำระ)ใครที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2568ตามกฎหมายของกรมสรรพากร บุคคลที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่บุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากการทำงาน หรือธุรกิจห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษีกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งวิสาหกิจชุมชนที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลส่วนใครที่กำลังส่งสัยว่า ถ้าหากยื่นภาษีล่าช้าเราจะเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่าปรับกรณียื่นภาษีล่าช้าหากลืมยื่นภาษีภายในกำหนด จะมีโทษปรับตามรายละเอียดต่อไปนี้1. ไม่ยื่นภายในกำหนด (31 มีนาคม 2568)โดนค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท (แต่สามารถขอลดค่าปรับได้)2. ยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตแต่ไม่ชำระภาษีภายในกำหนดถ้าไม่ชำระเงินภาษีภายใน 31 มีนาคม 2568 ต้องไปยื่นแบบที่สำนักงานสรรพากร พร้อมเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน ของเงินภาษีที่ต้องชำระ รวมถึงค่าปรับตามข้อ 13. ยื่นภาษีเกินกำหนดเวลามีเงินภาษีต้องชำระ → ต้องจ่ายเงินภาษีพร้อมเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน ของเงินที่ต้องชำระ รวมค่าปรับไม่มีเงินภาษีต้องชำระ → จ่ายค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท4. ยื่นภาษีเพิ่มเติมหลังพ้นกำหนดหากต้องจ่ายภาษีเพิ่ม ต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน แต่ไม่ต้องเสียค่าปรับสรุป ยื่นภาษี 2568ได้ถึงวันไหนยื่นแบบกระดาษ: ภายใน 31 มีนาคม 2568ยื่นออนไลน์ผ่าน e-Filing หรือ D-MyTax: ภายใน 8 เมษายน 2568ค่าปรับกรณียื่นล่าช้า: สูงสุด 2,000 บาท + เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน (ถ้ามีภาษีต้องชำระ)เพื่อน ๆ ทราบข้อมูลกันแล้วก็รีบไปเตรียมเอกสารยื่นภาษีกันด่วนนนน!!!!.ขอขอบคุณข้อมูลจากกรมสรรพากร.ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

Astrology

ดวงการงานของ 12 ลัคนาราศี

12 ก.ย. 2025

ดวงการงานของ 12 ลัคนาราศี

เช็กดวงการงานของ 12 ลัคนาราศีราศีเมษ มีโอกาสใหม่หรือลงทุน แต่ดาวการงานประจำราศีเมษหรือดาวเสาร์มีการเดินถอยหลังอยู่ตอนนี้ ทำให้ไม่ค่อยมีความคืบหน้า หรืออยู่ในช่วยริเริ่ม ควรมีแผนสำรองราศีพฤษภ มีโอกาสใหม่ แต่ชะงักหรือล่าช้าจะต้องรอให้ดาวเสาร์หรือก็คือดาวการงาน เดินโคจรเป็นปกติก่อน เนื่องจากตอนนี้เดินถอยหลัง ผู้ใหญ่ยังช่วยเหลือราศีเมถุน มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ผู้ใหญ่หนุน มีโอกาสเลื่อนขั้น แตมีเกณฑ์เพื่อนร่วมงานบางคนอาจไม่ชอบหน้า ถูกอิจฉา ระวังปัญหาปากเสียงราศีกรกฎช่วงนี้กดดัน งานไม่คืบ การคุยธุรกิจอาจไม่สมหวัง กลางเดือนจะเริ่มดีขึ้น ปลายเดือนจะดีที่สุดราศีสิงห์ ครึ่งเดือนแรกจะไม่ค่อยได้ดั่งใจ ปิดทองหลังพระ ครึ่งหลังดีขึ้น ได้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือราศีกันย์ กดดัน เพื่อนร่วมงานไม่ช่วย อาจย้ายงานหรือไปต่างประเทศราศีตุลย์ มีเกณฑ์โยกย้ายหรือเปลี่ยนงาน อาจจะมีการหยุดพักงานชั่วคราว บางคนมีเกณฑ์ได้ไปต่างประเทศ นักเรียนนักศึกษามีเกณฑ์ไม่สมหวัง แต่มีโอกาสสมหวังเกี่ยวกับพวกต่างประเทศราศีพิจิก มีโอกาสในทิศทางที่ดี เพราะว่าดาวการงาน หรือดาวอาทิตย์โคจรอยู่ในเดือนราศีสิงห์ได้ตำแหน่งเกษมดาวธิบดี หากทะเลาะหัวหน้าอาจตกงาน แต่ถ้าคุมได้จะมีโอกาสใหม่ งานหนักขึ้น ควรมีการวางแผนสำรองราศีธนู ได้โปรเจกต์ใหญ่ แต่เสี่ยงทำงานผิดพลาด ถูกใส่ร้าย หักหลังจากเพื่อนร่วมงานราศีมังกร เสี่ยงตกงานกะทันหัน หรือย้ายงาน เนื่องจากดาวการงานหรือดาวศุกร์ได้โคจรย้ายไปสู่เดือนมรณะ เจ้าของกิจการธุรกิจค่อนข้างเงียบ ระวังการทำงานที่ผิดพลาดราศีกุมภ์ ต้นเดือนงานค่อนข้างไม่เดิน ผิดหวัง แต่หลัง วันที่ 13 ดาวการงานจะโคจรย้ายไปสู่ในเรือนสุภะ การงานจะดีขึ้น มีโอกาสสมหวังคนว่างงานมีเกณฑ์ได้งานราศีมีน หน้าที่เปลี่ยนไปในทางดี มีโอกาสดีๆเข้ามา หากมีการดีลงานกับผู้ใหญ่ควรรอหลังกลางเดือนปริมหมอดูอวตาร

เช็กดวงประจำสัปดาห์ 8-14 ก.ย. 2568

08 ก.ย. 2025

เช็กดวงประจำสัปดาห์ 8-14 ก.ย. 2568

ดวงประจำสัปดาห์ 8-14 ก.ย. 2568ราศีเมษ ระวังอุบัติเหตุ หรือการมีปากเสียงกับผู้อื่นเพราะเรื่องการเงิน หนี้สิน ผลประโยชน์ ระวังถูกโกงเงิน การเงินตึงเครียด ใช้เงินเยอะมากช่วงนี้ราศีพฤษภ มีเกณฑ์การถูกหักหลังแทงข้างหลังจากคนรอบข้าง เสียเปรียบคนอื่น หรือ ทะเลาะวิวาทได้ ต้องมีสติให้ดี การงานจะมีโอกาสที่ดีเข้ามา การเงินกำลังจะมีทิศทางที่ดีแล้วราศีเมถุน ระมัดระวังการมีปากเสียงกับคนในครอบครัว เครือญาติ หรือสุขภาพผู้ใหญ่ในบ้าน การงานยังมีโอกาสที่ดี มีเกณฑ์มีชื่อเสียงเพราะความสามารถราศีกรกฎ มีเกณฑ์เครียดกดดันเรื่องการงานมาก รับผิดชอบงานที่หนักหรือถูกเอาเปรียบ การเงิน เก็บเงินยาก มีเรื่องต้องใช้จ่ายตลอด แต่จะมีโชคลาภเข้ามาบ้างให้ชื่นใจราศีสิงห์ การงานอยู่ในช่วงต้องมีความรอบคอบ ต้องตรวจทานซ้ำ หรือถูกกินแรงเอาเปรียบได้ มีความแบกรับภาระเกี่ยวกับบ้านหรือครอบครัว การเงินจะโชคดี แต่รายจ่ายรออยู่เยอะเช่นกัน ความรัก ต้องมีสติ อย่าหลงใหลใครง่ายๆราศีกันย์ ระวังอุบัติเหตุ หรือการทะเลาะมีปากเสียงกับคนอื่น หรือ มีเกณฑ์ผู้อื่นทำให้เดือดร้อน ระวังการทะเลาะกับคนรัก การเงินมีความโชคดี มีโชคลาภดีราศีตุลย์ ระวังมีปากเสียงกับคนรัก หรือคนรอบข้าง การเงินเหนื่อยหนักใจ ระวังมีคนมาหยิบยืมเงิน ทำให้อึดอัดใจ หรือมีคนเอาเปรียบทางการเงิน การงานต้องปรับตัว หรือระวังตกงานราศีพิจิก ยังคงต้องระวังความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุอยู่ มีเกณฑ์การงานเปลี่ยนแปลง โยกย้าย ย้ายแล้วจะดี การเงินต้องใช้จ่ายอย่างมีสติ อย่าลงทุนอะไรเสี่ยงๆเด็ดขาดราศีธนู การเรียนการศึกษาต้องพยายามมากขึ้น มีเกณฑ์การแข่งขัน การประกวด จะมีโอกาสที่ดี ระวังมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน การเงินยังไม่เป็นดั่งใจมากนักราศีมังกร ระวังสุขภาพของผู้ใหญ่ในบ้าน หรือปัญหาเรื่องที่บ้าน หรือมีเกณฑ์ซ่อมบ้านซ่อมรถ มีเกณฑ์เจอคู่ในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานแอบสนใจคุณ การเงินจะมีทิศทางที่ดี แต่ใช้จ่ายเยอะราศีกุมภ์ ระวังคิดผิดตัดสินใจผิดเกี่ยวกับความรักหรือการงาน เป็นช่วงไม่ค่อยอยากเข้าสังคมหรือติดต่อใคร จะมีความคิดมา หรือนอยด์บางอย่าง การเงินยังตึง ไม่โล่ง การงานต้องเปลี่ยนแปลง ระวังตกงานช่วงนี้ราศีมีน เป็นช่วงเอื่อยเฉื่อย หมดไฟ หมดแรงใจ ต้องกระตุ้นตัวเอง!ระวังคำพูดให้ดี อาจจะมีปากเสียงกับคนรักหรือคนอื่นได้ การงานมีเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงได้ การเงินใช้จ่ายเยอะ ระวังถูกเอาเปรียบให้จ่ายเงินก่อนแล้วตามทวงคืนยากช่วงนี้

เช็กดวงประจำสัปดาห์ 2-7 ก.ย. 2568

02 ก.ย. 2025

เช็กดวงประจำสัปดาห์ 2-7 ก.ย. 2568

ดวงประจำสัปดาห์ 2-7 ก.ย. 2568ราศีเมษ ระวังมีปากเสียงกับผู้อื่นเพราะเรื่องการเงิน หนี้สิน ผลประโยชน์ มีโอกาสได้ริเริ่มงานใหม่ ๆ จะหมดเงินไปกับที่บ้าน ครอบครัว หรือเกี่ยวกับรถราศีพฤษภ ระวังคำพูด มีเกณฑ์มีปากเสียง วิวาทกับคนอื่น การงานและ การเงินกำลังจะมีโอกาสดี ๆ เข้ามา จะได้เงินที่รอคอย แต่ระมัดระวังรายจ่ายฟุ่มเฟื่อยราศีเมถุน ระวังครอบครัวหรือญาติ มาทำให้หนักใจ การงานดี แต่เหนื่อยสายตัวแทบขาด ..มีโอกาสหาเงินได้จากช่องทางใหม่ ๆ เงินพิเศษ เงินตกเบิกราศีกรกฎ มีโชคภาพจากคนในครอบครัว ครอบครัวช่วยเหลือดี การงานเครียด กดดัน มีปัญหาเยอะ การเงินยังหมุนคล่อง ความรักมีอุปสรรคเรื่องของความห่างไกล การไม่มีเวลาราศีสิงห์ ค้าขายคล่อง เงินไหลมาเทมา พูดจาอะไรก็ได้เงินได้ทอง เจรจาสมหวัง การเรียนการประกวดจะโชคดี ระวังคนในบ้านเจ็บป่วยหรือทะเลาะกับครอบครัว ดวงความรักต้องประคับประคอง คนโสด มีเกณฑ์หลงใหลมัวเมาคนที่เข้ามาช่วงนี้ราศีกันย์ เป็นช่วงที่มีความเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ไม่อยากสุงสิงกับคนอื่นมากนัก เก็บตัว การเงินจะโชคดี สมหวังกับรายได้ แต่ใช้จ่ายเยอะ ความรักหนักใจ มีความหงุดหงิด รำคาน หรือทะเลาะจุกจิกได้ง่ายราศีตุลย์ มีโอกาสเปลี่ยนงาน ย้ายงาน จะได้ผลดีในด้านการพูด การเจรจา การขอความร่วมมือต่างๆ มีเกณฑ์ขยับขยายที่อยู่อาศัย หรือเป็นหนี้เพราะกู้ซื้อบ้านราศีพิจิก ยังคงต้องระวังความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุในระยะนี้ ระวังคำพูดทำให้ทะเลาะกับคนอื่น มีเกณฑ์ย้ายงาน หรือปรับเปลี่ยนการทำงาน งดการลงทุน หรือการเสี่ยงโชคต่าง ๆราศีธนู มีเกณฑ์ได้พบเจอผู้ใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุนทำให้คุณมีโอกาสที่ดีขึ้น มีเกณฑ์เดินทางไกล ไปทำงาน หรือไปเที่ยวกับคู่ การเงินยังไม่คล่องมากนักราศีมังกร คนรักจะยอมคุณ ตามใจคุณ ระวังคำพูดทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือการไม่อธิบายเลย.. ยิ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เรื่องราวบานปลาย ระวังผิดใจกับผู้ใหญ่ หรือคนในบ้านเจ็บป่วยราศีกุมภ์ เป็นช่วงดูแลตัวเอง พัฒนาตัวเองหนักมาก เกิดจุดเปลี่ยนทางความคิด อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ การเงินเครียด วิตกกังวล จะมีเกณฑ์ได้หารายได้ใหม่ ๆ เข้ากระเป๋า ดวงความรักเกิดจุดเปลี่ยน คนมีคู่ระวังมีปากเสียง จนแยกทางเดินราศีมีน มีเหตุการณ์ทำให้มีความเครียดสะสม มีความไม่ได้ดั่งใจบางอย่าง แต่ในความโชคร้าย จะมีโอกาสดี ๆ ที่จะเข้ามาในเร็ววันนี้ การงานกำลังจะมั่นคง เข้าที่เข้าทางมากขึ้น การเงินพัง ใช้จ่ายเยอะ อย่าให้ใครยืมเงินเด็ดขาดปริมหมอดูอวตาร

เช็กดวงประจำสัปดาห์ 25-32 ส.ค. 2568

27 ส.ค. 2025

เช็กดวงประจำสัปดาห์ 25-32 ส.ค. 2568

ดวง 12 ราศี ประจำสัปดาห์ 25 ส.ค. - 31 ส.ค. 68 ราศีเมษ ระวังการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ การมีปากเสียงกับคนอื่น ริเริ่มการงานใหม่ๆจะมีทิศทางที่ดี รายจ่ายเยอะ หมุนเงินแทบไม่ทัน ระวังโดนโกงเงินราศีพฤษภ ความหงุดหงิดง่ายจะบังเกิดในระยะนี้ คนอื่นจะทำให้เหนื่อยใจ ระวังคำพูดทำให้ตัวเองลำบากภายหลัง การงานต้องปรับเปลี่ยนดิ้นรนแล้วจะดี การเงินหาง่ายใช้ง่าย ต้องมีสติในการใช้จ่ายราศีเมถุน ระวังอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยของคนในครอบครัว หากตกลงเกี่ยวกับผลประโยชน์ การเงินช่วงนี้จะสำเร็จสมหวัง คนโสดจะได้เจอความรักดีๆราศีกรกฎ ช่วงนี้จะมีเสน่ห์แรง พูดอะไรคนก็หลงใหลได้ง่าย จะมีโชคลาภ การงานมีความอึดอัดเหนื่อยใจ แต่เอาตัวรอดได้เพราะปากเป็นศรีราศีสิงห์ ระวังเรื่องความรักไว้ให้ดี อาจจะต้องเลือกทาง เลือกช้อย การงานจะมีทิศทางดีๆแบบจับพลัดจับพลู ส้มหล่นได้โอกาสการงานดีๆ การเงินจะเริ่มหมุนคล่องมือขึ้นราศีกันย์ เป็นช่วงที่คนอยากจะเข้าหา แต่นำเรื่องมาให้คุณช่วยเหลือ หรือเหนื่อยใจ มีเกณฑ์มีโชคลาภ การงานมีทิศทางเจริญก้าวหน้าสมหวัง ความรักเหนื่อยสุดใจราศีตุลย์ ความรักเหนื่อยใจ ไม่สมหวัง ไม่ลงตัว การเงินเข้าขั้นเครียด การงานมีเกณฑ์เปลี่ยนแปลง ได้โอกาสที่ดีขึ้น หรือย้ายงานได้ หรือเริ่มต้นอะไรใหม่ๆราศีพิจิก ยังคงต้องระวังความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุในระยะนี้ การเงินเก็บไม่ได้เลย รายจ่ายเยอะระวังความไม่มีสติ ทำให้ถูกหลอกถูกโกงเงิน การงานดีครึ่งๆกลางๆ ยังต้องรอจังหวะที่ดีกว่านี้ราศีธนู ระวังลูกหลานหรือลูกน้องทำให้เดือดร้อน เหนื่อยใจ การงานมีการเปลี่ยนแปลง หรือไม่มีงานใหม่ๆเข้ามา หรือเป็นช่วงพักงาน คนตกงานยังคงต้องรอก่อนราศีมังกร เป็นช่วงเบื่อหน่าย เซ็งๆ ไม่มีแรงจูงใจ หรือมีความเครียดเกี่ยวกับครอบครัว การงานมีอุปสรรค ต้องแก้ไขกันไป การเงินมีเหตุให้ใช้ จนเก็บเงินยาก อย่าให้เพื่อนยืมเงินเด็ดขาดราศีกุมภ์ ปัญหาการเงินยังต้องเผชิญต่อไป การงานต้องปรับเปลี่ยน หรือไม่มีงานเข้ามาใหม่ช่วงนี้ ระวังตกงานในบางราย ความรักระวังการพูดคุยไม่เข้าใจกัน มาปากเสียงได้ราศีมีน ระวังความเครียดสะสมจากความสัมพันธ์เป็นพิษ ความรักจะมีคนใหม่ๆเข้ามา หรือคนอายุน้อยกว่ามาติดพัน การงานกำลังจะมีโอกาสดีๆ การเงินใช้จ่ายเยอะมาก ระวังถูกคนอื่นเอาเปรียบทางการเงินปริมหมอดูอวตาร

Temple & Mutelu

บูชาเจ้าแม่กวนอิม วิธีขอพร เสริมเมตตา ปัดเป่าทุกข์ให้ชีวิตรุ่งเรือง

30 ต.ค. 2025

บูชาเจ้าแม่กวนอิม วิธีขอพร เสริมเมตตา ปัดเป่าทุกข์ให้ชีวิตรุ่งเรือง

บูชาเจ้าแม่กวนอิม วิธีขอพร เสริมเมตตา ปัดเป่าทุกข์ให้ชีวิตรุ่งเรืองบูชาเจ้าแม่กวนอิมอย่างถูกต้อง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? มีข้อห้ามอะไรที่ต้องระวัง? พร้อมคาถาบูชาเสริมสิริมงคล การงานสำเร็จ โชคลาภพุ่ง!บูชาเจ้าแม่กวนอิม เทพแห่งความเมตตา...เคล็ดลับขอพรให้ชีวิตพลิกผันสู่ความสุขและความสำเร็จ คุณเคยรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าในชีวิต ต้องการที่พึ่งทางใจ หรือกำลังมองหาพลังเมตตาที่จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ชีวิตราบรื่นบ้างไหม?ในความเชื่อของชาวพุทธมหายานและชาวจีนทั่วโลก "เจ้าแม่กวนอิม" หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (Avalokitesvara Bodhisattva) คือสัญลักษณ์แห่งความรัก ความเมตตา และความกรุณาอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีขอบเขต การบูชาเจ้าแม่กวนอิม จึงไม่ใช่เพียงแค่พิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่คือการน้อมนำเอาคุณธรรมแห่งความเมตตาเข้ามาสู่จิตใจ และขอพรจากมหาโพธิสัตว์ผู้ทรงปัญญาให้ช่วยนำทางชีวิตให้พบกับความสงบสุขและความสำเร็จ บทความนี้จะพูดถึงทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการบูชาพระแม่กวนอิมอย่างถูกต้องตามหลักความเชื่อ ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาที่น่าศรัทธา วิธีการจัดเตรียมของบูชา และเคล็ดลับการขอพรที่ได้รับการถ่ายทอดมาอย่างยาวนาน เพื่อให้คุณทราบว่า บูชาเจ้าแม่กวนอิมช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และมีข้อห้ามในการบูชาเจ้าแม่กวนอิมอะไรบ้างที่คุณไม่ควรมองข้ามเจ้าแม่กวนอิมคือใคร ทำไมจึงเป็นที่รักของมหาชน? ก่อนจะเริ่มบูชาอย่างลึกซึ้ง สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจถึงที่มาของพระองค์ เจ้าแม่กวนอิม หรือ กวนซื่ออิม (Guānshìyīn) ในภาษาจีนกลาง แปลว่า "ผู้ที่เฝ้ามองและได้ยินเสียงของโลก" สื่อถึงการรับฟังความทุกข์และเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากสรรพสัตว์จากพระอวโลกิเตศวรสู่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านในคติมหายานดั้งเดิม: เจ้าแม่กวนอิมมีต้นกำเนิดจาก พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ในประเทศอินเดีย ซึ่งเดิมทีมีลักษณะเป็นบุรุษ แต่ภายหลังเมื่อความเชื่อแพร่หลายเข้าสู่ประเทศจีน พระองค์ได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นอิสตรีที่มีความอ่อนโยนและเมตตาสูงสุด เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อที่ว่าผู้หญิงคือสัญลักษณ์ของความรักและกรุณาตำนานเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน: ตำนานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเรื่องราวของ "เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน" แห่งรัฐซิงหลิง ผู้ซึ่งปฏิเสธการอภิเษกสมรสเพื่อบำเพ็ญเพียรจนบรรลุธรรม แต่ด้วยความกตัญญูต่อพระบิดาที่ล้มป่วยหนัก พระองค์ยอมควักดวงตาและตัดแขนถวายเป็นยาเพื่อรักษา โดยไม่คำนึงถึงตนเอง ด้วยมหากรุณานี้เอง จึงทำให้พระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็น "พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา"สัญลักษณ์สำคัญที่ต้องรู้ในการบูชา การทำความเข้าใจสัญลักษณ์จะช่วยให้เราสื่อสารกับพระองค์ได้ดียิ่งขึ้นเวลาขอพรกิ่งหลิว: สื่อถึงการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและโรคภัยไข้เจ็บแจกันน้ำอมฤต: บรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์ (น้ำทิพย์) ที่ใช้ประพรมเพื่อชำระล้างความทุกข์ดอกบัว: สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และการหลุดพ้นจากกิเลสปางประทานบุตร: เป็นปางที่ผู้หญิงที่ต้องการมีบุตรนิยมบูชาบูชาเจ้าแม่กวนอิมช่วยเรื่องอะไร? พลังเมตตาที่ส่งผลต่อทุกด้านของชีวิต ผู้ศรัทธาทั้งหลายต่างหลั่งไหลไปบูชาเจ้าแม่กวนอิม ด้วยความเชื่อที่ว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยมหากรุณาธิคุณ พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องใช้พลังแห่งความเมตตาและการอภัยขั้นตอนและวิธีบูชาเจ้าแม่กวนอิมอย่างถูกต้อง การบูชาที่ถูกต้องตามหลักพิธี จะช่วยให้ผู้ศรัทธาสื่อถึงพลังเมตตาของพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การจัดเตรียมและตั้งโต๊ะบูชา 1. ทิศทางที่เหมาะสม: ควรหันพระพักตร์ขององค์เจ้าแม่กวนอิมไปทาง ทิศตะวันออก หรือ ทิศเหนือ หรือทิศที่โปร่ง สะอาด และสงบ (หลีกเลี่ยงการหันไปทางห้องน้ำ, ห้องครัว, หรือปลายเตียง) 2. สิ่งที่ต้องเตรียม:ธูป: 9 ดอก (สำหรับบูชาเทพเจ้าชั้นสูง)เทียน: 1 คู่ (2 เล่ม)น้ำชา: 3 ถ้วย หรือ น้ำเปล่าสะอาดดอกไม้: ดอกบัว (เป็นที่นิยมมากที่สุด) หรือดอกไม้สีขาวอื่นๆ ใส่แจกัน 1 คู่ (2 ใบ)ผลไม้: 5 ชนิด หรือ 2 ชนิด ควรเป็นผลไม้ที่มีความหมายมงคล สำคัญ: หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีชื่อไม่เป็นมงคล เช่น มังคุด, ระกำ, ละมุด, มะม่วง, พุทราของหวาน/ขนม: ขนมเปี๊ยะ, ขนมไหว้พระจันทร์ (เป็นขนมเจ) 3. ขั้นตอนการบูชา:ทำความสะอาดองค์ท่านและบริเวณโต๊ะบูชาให้บริสุทธิ์จุดธูปเทียน และถวายของบูชาทั้งหมดตั้งจิตอธิษฐานและกล่าวบทสวดบูชากล่าวคำขอพรที่ต้องการด้วยใจบริสุทธิ์ เน้นการขอพรที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นเมื่อธูปดับ สามารถนำผลไม้และขนมมารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล (เรียก "รับพร") บทสวดคาถาบูชาเจ้าแม่กวนอิม (ฉบับย่อ) ควรตั้ง นะโม 3 จบ ก่อนเริ่มสวดคาถานะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ (3 จบ)นะโม กวน ซี อิม ผ่อ สัก (กล่าว 3, 5, 9 จบ หรือตามสะดวก)โอม มา ณี เปง เม ฮง (กล่าว 3, 5, 9 จบ หรือตามสะดวก)ข้อห้ามในการบูชาเจ้าแม่กวนอิม และสิ่งที่พึงระวังเพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อให้การบูชามีความบริสุทธิ์และส่งผลดีสูงสุด ผู้ศรัทธาควรยึดมั่นในข้อปฏิบัติต่อไปนี้ ซึ่งเป็นข้อควรระวังสำคัญที่หลายคนเข้าใจผิด: ข้อห้ามที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตนและอาหารห้ามถวายเนื้อสัตว์: เจ้าแม่กวนอิมเป็นมหาโพธิสัตว์ผู้ทรงเมตตาและละเว้นการเบียดเบียนชีวิต การถวายของบูชาจึงต้องเป็นของเจ หรืออาหารมังสวิรัติเท่านั้น (ผลไม้, ขนมเจ) และไม่ควรนำรูปเคารพไปตั้งในบริเวณที่มีการทำอาหารคาวงดเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต: หากตั้งใจบูชาอย่างจริงจัง ควรตั้งใจถือศีล 5 และงดเว้นการฆ่าสัตว์ รวมถึงการเบียดเบียนผู้อื่นด้วยกาย วาจา ใจของถวายต้องบริสุทธิ์: ต้องเป็นของใหม่ที่ยังไม่ได้ถูกบริโภคหรือผ่านการสัมผัสที่ไม่เหมาะสมความสะอาดของสถานที่: สถานที่ตั้งบูชาต้องสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ ห้ามปล่อยให้องค์ท่านมีฝุ่นเกาะ หรือมีสิ่งสกปรกวางปะปน ข้อควรปฏิบัติเพื่อเสริมเมตตาบารมีถือศีลกินเจ: ผู้ที่ศรัทธาอย่างแรงกล้าหลายคนจะเลือกถือศีลกินเจ (งดเนื้อสัตว์ ผักกลิ่นฉุน และของมึนเมา) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและเพิ่มพลังบุญบำเพ็ญทานและเจริญภาวนา: การทำบุญช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน การสวดมนต์และนั่งสมาธิอยู่เสมอ ถือเป็นการปฏิบัติบูชาที่แท้จริง เพราะเป็นการฝึกฝนให้ตนเองมีเมตตาและปัญญาเช่นเดียวกับพระองค์กล่าววาจาที่เป็นมงคล: หลีกเลี่ยงการพูดจาหยาบคาย, นินทา, หรือกล่าวเท็จ เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของกาย วาจา ใจสรุป การบูชาเจ้าแม่กวนอิม เป็นมากกว่าการขอพร แต่คือการเปิดใจรับพลังแห่งความเมตตา ความกรุณา และการให้อภัยเข้ามาในชีวิต เมื่อคุณปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ทั้งการจัดเตรียมของบูชา การสวดมนต์ และการงดเว้น บูชาเจ้าแม่กวนอิม ข้อห้าม ต่างๆ คุณจะพบว่าอานิสงส์แห่งการบูชาจะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัย สร้างสิริมงคล และนำพาคุณไปสู่ความสงบและความสำเร็จในทุกด้านตามที่คุณปรารถนาอย่างแท้จริงจำไว้ว่า "ความเมตตาที่แท้จริงเริ่มต้นที่ใจตนเอง"จงใช้พลังศรัทธานี้เป็นแรงผลักดันให้คุณเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความกรุณาต่อตนเองและผู้อื่นจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

วันไหว้พระจันทร์ 2568 : ประวัติ, บทสวด, ของไหว้ และข้อห้าม

25 ก.ย. 2025

วันไหว้พระจันทร์ 2568 : ประวัติ, บทสวด, ของไหว้ และข้อห้าม

เทศกาลสำคัญที่คนไทยเชื้อสายจีนรอคอยกำลังจะมาถึงแล้ว วันไหว้พระจันทร์ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม 2568 เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในครอบครัวจะได้มารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอันแสนอบอุ่น พร้อมกับขนมไหว้พระจันทร์ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้ หากคุณอยากรู้ว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และมีขั้นตอนการไหว้อย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเพณีโบราณที่เต็มไปด้วยความหมายและความเชื่ออันลึกซึ้งเทศกาลวันไหว้พระจันทร์คืออะไร เทศกาลไหว้พระจันทร์ (Moon Festival) หรือที่รู้จักกันในชื่อเทศกาลจงชิว เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวจีนที่มีมานานกว่า 3,000 ปี ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ซึ่งเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงและส่องสว่างที่สุดในรอบปี ตำนานที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนานและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือเรื่องราวของ "ฉางเอ๋อ" เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความสามัคคี การไหว้พระจันทร์จึงเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพธิดาฉางเอ๋อ ขอพรให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลที่อุดมสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ร่วงความหมายของขนมไหว้พระจันทร์แต่ละไส้ สิ่งที่จะขาดไม่ได้ใน เทศกาลไหว้พระจันทร์ คือขนมไหว้พระจันทร์ ขนมทรงกลมคล้ายดวงจันทร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายมงคล ไส้ขนมแต่ละแบบไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่อร่อย แต่ยังแฝงไว้ด้วยคำอวยพรดี ๆ อีกด้วยไส้เม็ดบัว เป็นไส้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและถือเป็นไส้ดั้งเดิมของขนมไหว้พระจันทร์ ความหมายคือ ความอุดมสมบูรณ์ ความบริสุทธิ์ และความเจริญรุ่งเรืองไส้ถั่วแดง ถั่วแดงเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความปรารถนาดี หมายถึงความรักที่มั่นคง ความสุข และความสามัคคีไส้ทุเรียน สำหรับชาวจีน ทุเรียนคือ "ราชาแห่งผลไม้" ไส้ทุเรียนจึงเป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง ความร่ำรวย และความสำเร็จไส้โหงวยิ้ง เป็นไส้ที่ประกอบด้วยธัญพืช 5 ชนิด เช่น เมล็ดฟักทอง งาขาว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ โหงวยิ้งหมายถึงธาตุทั้ง 5 ในจักรวาล (ดิน น้ำ ไฟ ไม้ โลหะ) เป็นสัญลักษณ์ของความมงคลและพลังชีวิตไส้ไข่เค็ม ไข่แดงกลม ๆ เปรียบเสมือนพระจันทร์เต็มดวงที่ส่องประกาย แสดงถึงความสมบูรณ์พูนสุขและความเป็นสิริมงคลขั้นตอนการไหว้พระจันทร์และของที่ต้องเตรียม การไหว้พระจันทร์จะจัดขึ้นในตอนกลางคืน เมื่อพระจันทร์เต็มดวงส่องสว่าง โดยมีขั้นตอนและของไหว้ดังนี้ ของที่ต้องเตรียมขนมไหว้พระจันทร์: จำนวน 4 ชิ้น หรือเป็นคู่ (อย่างน้อย 4 ชิ้น) หรือเป็นจำนวนเลขคู่ผลไม้: เช่น ส้มโอ ส้ม แอปเปิล และผลไม้ที่มีความหมายมงคลอื่น ๆ จำนวน 4 อย่างธูป: 3 หรือ 5 ดอกเทียน: 1 คู่น้ำชา: 4 ถ้วยของไหว้ที่เป็นมงคล: เช่น โคมไฟ กระดาษเงินกระดาษทอง กระดาษรูปพระจันทร์ดอกไม้: ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เช่น ดอกไม้จีน, ดอกมะลิ ขั้นตอนการไหว้จัดโต๊ะไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก (หรือทิศที่มองเห็นพระจันทร์ชัดเจน)นำของไหว้ทั้งหมดจัดวางบนโต๊ะจุดธูปเทียน กล่าวคำอธิษฐานและขอพรจากเทพธิดาฉางเอ๋อ ขอให้ครอบครัวมีความสุข ความสามัคคี และชีวิตรุ่งเรืองเมื่อธูปหมดดอกแล้ว ให้ลาของไหว้และนำไปรับประทานร่วมกันในครอบครัวบทสวดไหว้พระจันทร์ การสวดมนต์เพื่อขอพรจาก องค์จันทราเทพ หรือเทพธิดาฉางเอ๋อ สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบสั้น แบบยาว หรือแบบคัมภีร์ ตามความสะดวกและความศรัทธาบทสวดไหว้พระจันทร์ (แบบสั้น) เป็นบทสวดที่นิยมใช้กันทั่วไป มีความหมายที่กระชับและครอบคลุมตั้งนะโม 3 จบ"โอม จันทรา ศศิประภา นะมะฮา นะโม ไท้อิม ผู่สัก ม่อ ฮ่อ สัก"(จากนั้นกล่าวคำอธิษฐาน)"ข้าแต่จันทราเทพ จันทราเทวี ขออัญเชิญพระองค์มารับเครื่องสักการะบูชาที่ข้าพเจ้าได้จัดถวายในวันนี้ ขอได้โปรดประทานความสุขสงบในจิตใจ ความรักที่มั่นคง ความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ และความเจริญรุ่งเรืองแก่ครอบครัวของข้าพเจ้าด้วยเทอญ"บทสวดไหว้พระจันทร์ (แบบยาว) เป็นบทสวดที่ใช้ในพิธีแบบดั้งเดิม เน้นการกล่าวคำบูชาและขอพรที่ละเอียดมากขึ้นตั้งนะโม 3 จบ"สัพเพ สังขารา อะนิจจา, สัพเพ สังขารา ทุกขา, สัพเพ สังขารา อะนัตตา""วันเพ็ญเดือนแปด ยามแสงจันทราส่องสว่าง พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงเจิดจ้าเหนือพื้นนภา ข้าพเจ้าขออัญเชิญองค์ไท้อิมหรือเทพธิดาฉางเอ๋อ ซึ่งเป็นเทพแห่งจันทรา ผู้ประทานความสงบสุข ความบริสุทธิ์ และความอุดมสมบูรณ์""ในวันมงคลนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมเครื่องสักการะอันประกอบด้วยขนมไหว้พระจันทร์ ผลไม้มงคล น้ำชา และดอกไม้หอม เพื่อเป็นการบูชาและแสดงความเคารพต่อพระองค์ ขอพระองค์โปรดรับเครื่องบูชาเหล่านี้และประทานพรให้แก่ข้าพเจ้าและครอบครัว""ขอให้ความรักในครอบครัวมั่นคงและยืนยาวดุจแสงจันทร์ที่ส่องสว่างตลอดคืน ขอให้มีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา และชีวิตราบรื่นปราศจากอุปสรรคใด ๆ ด้วยเทอญ"บทสวด “ไถ่อิมแชกุงเสี่ยเก็ง” หรือ “พระคัมภีร์แม่พระจันทร์” บทสวดนี้เป็นคัมภีร์ที่ใช้สำหรับสวดบูชาและขอบคุณองค์จันทราเทพ (ไท้อิม) โดยเฉพาะ ซึ่งนิยมใช้ในพิธีที่เน้นการแสดงความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อบุญคุณของดวงจันทร์คำกล่าวอัญเชิญ:ขอนอบน้อมอัญเชิญพระคัมภีร์แม่พระจันทร์ เพื่อกล่าวขอบคุณในบุญคุณบทสวด:องค์จันทราเทพผู้ส่องสว่างทั่วทุกสารทิศ แสงแห่งความเมตตาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าประทานพรแก่มนุษย์และสรรพสิ่งทั้งหลาย นำมาซึ่งความสุขสงบและสันติสุขวันนี้ในเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงที่พระจันทร์เต็มดวง ข้าพเจ้าเหล่าศิษย์ผู้ศรัทธา ขอนอบน้อมกราบไหว้ด้วยใจจริงขอขอบพระคุณในบุญคุณและอานุภาพที่ทรงคุ้มครอง ขอให้กรรมชั่วทั้งหลายหมดไป และขอให้ปัญญาเพิ่มพูนขึ้นขอดลบันดาลให้ครอบครัวอยู่กันอย่างปรองดอง สุขภาพแข็งแรง และหน้าที่การงานราบรื่นขอให้โชคลาภเงินทองไหลมาไม่ขาดสาย ขอให้มีแต่ความสุขยืนยาวและปราศจากโรคภัยขอให้แสงจันทร์ส่องสว่างทั่วทั้งจักรวาล ปัดเป่าภัยพิบัติและอุปสรรคทั้งปวง ให้ทุกสิ่งเป็นไปตามที่ปรารถนาองค์จันทราเทวี ผู้ทรงเมตตายิ่งใหญ่และมีบุญคุณอันหาประมาณมิได้ข้อห้ามที่ไม่ควรทำในวันไหว้พระจันทร์ แม้ว่าจะเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุข แต่ก็มีข้อห้ามและความเชื่อบางอย่างที่ควรระมัดระวังห้ามชี้หน้าพระจันทร์ การชี้หน้าพระจันทร์ถือว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพแก่เทพเจ้าห้ามตักน้ำกลางแจ้ง เชื่อกันว่าเป็นการรบกวนเทพธิดาห้ามทำกิจกรรมที่เสียงดัง เช่น การสังสรรค์ส่งเสียงดัง เพราะเชื่อว่าจะรบกวนการทำพิธีห้ามรับประทานขนมไหว้พระจันทร์คนเดียว ควรรับประทานร่วมกับครอบครัวเพื่อเสริมสร้างความรักและความอบอุ่นห้ามสบประมาทพระจันทร์ ไม่ควรพูดจาที่ไม่สุภาพหรือบ่นเกี่ยวกับพระจันทร์เทศกาลแห่งความสุขและความสามัคคีที่รอคอย เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นมากกว่าแค่การเฉลิมฉลอง แต่เป็นประเพณีที่สะท้อนถึงความรักความผูกพันในครอบครัว การรำลึกถึงบรรพบุรุษ และการขอพรให้ชีวิตมีแต่ความสุขและความเจริญรุ่งเรือง การไหว้พระจันทร์จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณรักและส่งต่อความเชื่อและธรรมเนียมอันดีงามนี้จากรุ่นสู่รุ่น หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของ วันไหว้พระจันทร์ และสามารถเตรียมตัวสำหรับเทศกาลอันแสนพิเศษนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แล้วอย่าลืมมาเฉลิมฉลองกันใน วันที่ 6 ตุลาคม 2568 นี้ หากคุณชื่นชอบบทความดีๆ ที่ช่วยให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราวทางวัฒนธรรมและเทศกาลสำคัญต่าง ๆ อย่าลืมติดตามเรื่องราวอีกมากมายได้ที่ Chill on กินเที่ยวจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

บทสวดพระแม่ลักษมีศักดิ์สิทธิ์ พร้อมแนวทางการบูชาให้ปัง

09 ก.ย. 2025

บทสวดพระแม่ลักษมีศักดิ์สิทธิ์ พร้อมแนวทางการบูชาให้ปัง

พระแม่ลักษมีเป็นเทพีแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ ผู้ที่ศรัทธามักสวดบทสวดพระแม่ลักษมีเป็นประจำเพื่อเสริมสิริมงคล และขอพรให้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการเงิน การงาน และความรัก อย่างไรก็ตาม การบูชาพระองค์ให้เกิดผลดีสูงสุดจำเป็นต้องมีแนวทางที่ถูกต้อง ทั้งการปฏิบัติตนและการหลีกเลี่ยงข้อห้ามต่าง ๆ นอกจากการดูดวงออนไลน์หรือการบูชาเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ แล้ว ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับพระแม่ลักษมี ในแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่ความศักดิ์สิทธิ์ ความเป็นมา บทสวดที่ถูกต้อง ไปจนถึงแนวทางการบูชาเพื่อเสริมโชคลาภให้ปังที่สุดพระแม่ลักษมีมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านใด พระแม่ลักษมี เป็นเทพีในศาสนาฮินดูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวแทนของ ความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง และความอุดมสมบูรณ์ ตามตำนานเล่าว่าพระองค์ถือกำเนิดขึ้นจากมหาสมุทรในระหว่างการกวนน้ำอมฤตของเหล่าเทวดาและอสูร เมื่อพระแม่ลักษมีปรากฏ พระองค์เลือกที่จะประทับอยู่กับพระนารายณ์ หรือพระวิษณุ ซึ่งเป็นเทพแห่งการปกป้องรักษา ความศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ลักษมีแบ่งออกเป็นหลายด้าน ได้แก่ด้านโชคลาภและความร่ำรวย – ผู้ที่บูชาพระแม่ลักษมีมักได้รับพรให้มีความมั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมาด้านความเจริญก้าวหน้าในชีวิต – พระองค์ช่วยเปิดทางให้ผู้ศรัทธาประสบความสำเร็จในการงานและธุรกิจด้านความรักและครอบครัว – พระแม่ลักษมีเป็นสัญลักษณ์ของภรรยาที่ดีและความรักที่มั่นคง ผู้ที่ต้องการความรักที่มั่นคงหรือครอบครัวที่อบอุ่นก็มักขอพรจากพระองค์ด้านสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ – พระองค์เป็นตัวแทนของพลังงานที่ดี ช่วยปัดเป่าอุปสรรค และนำความสงบสุขมาสู่ชีวิตร่างอวตารพระแม่ลักษมีคชลักษมี – พระแม่ลักษมีในปางนี้มีสองมือด้านหลังถือดอกบัว และสองมือด้านหน้าประทานพรพร้อมโปรยเหรียญทอง เป็นเทพีแห่งความสมปรารถนา ช่วยให้ความต้องการของผู้บูชาเป็นจริง ทั้งในด้านการเงินและความสุขในชีวิตธัญญลักษมี – หรือที่รู้จักกันในนามพระแม่โพสพ เป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เชื่อกันว่าทรงประทานพรให้พืชผลเจริญงอกงาม ช่วยให้เกษตรกรและชาวไร่ชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีนลักษมี – เทพีแห่งความมั่งคั่งและทรัพย์สมบัติ ทรงมี 6 หรือ 8 กร ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ เช่น หอยสังข์ จักร ธนู ดอกบัว และโถอัญมณี พร้อมโปรยเหรียญทองและประทานพรด้านความร่ำรวยแก่ผู้บูชาอาทิลักษมี – เทพีแห่งความคิดสร้างสรรค์และการเริ่มต้นใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นโปรเจกต์หรือแผนงานใหม่ ๆ เชื่อกันว่าหากบูชาพระองค์ จะช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นและประสบความสำเร็จวิทยะลักษมี – เป็นเทพีแห่งปัญญา ศิลปศาสตร์ และวัฒนธรรม นอกจากจะประทานความรู้แล้ว ยังช่วยเสริมดวงด้านโชคลาภ และความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่บูชาวีระลักษมี – ปางแห่งชัยชนะ พระองค์ประทานพรด้านความกล้าหาญ เกียรติยศ และคุ้มครองจากภัยอันตราย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการแข่งขัน หรือเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆวิชัยยะลักษมี – เป็นเทพีที่ให้พลังแห่งความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ ช่วยให้ผู้บูชาสามารถเอาชนะอุปสรรคในชีวิต และขจัดความกลัวในใจ ทำให้เกิดความมั่นใจและความมุ่งมั่นมากขึ้นสันทนะลักษมี – เทพีแห่งครอบครัว เปรียบเสมือนมารดาผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา เชื่อกันว่าพระองค์ช่วยประทานพรด้านความสุขในครอบครัว การมีบุตร และคุ้มครองสมาชิกในครอบครัวให้ปลอดภัยบทสวดพระแม่ลักษมี สวดยังไงโอม ชยะ ศรี ลักษมี มาตา (3 จบ)โอม ศรี ลักษะมิไย นะมะห์ (3 จบ)โอม มหาลักษะ มิไย นะโม นะมะห์โอม วิษณุ ปรียาไย นะโม นะมะห์โอม ธะนะ ประทาไย นะโม นะมะห์โอม วิศวา จะนันไย นะโม นะมะห์ยา เทวี สะระวะ ภูเตชุลักษมี รูเปนะ สัม สะถิตานะมัส ตัสไย / นะมัส ตัสไย / นะมัส ตัสไยนะโม นะมะห์บทสวดพระแม่ลักษมี ขอความรัก บทสวดพระแม่ลักษมี ขอความรักได้ หากต้องการขอพรความรักจากพระแม่ลักษมีให้สัมฤทธิผล มีเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยดึงดูดเนื้อคู่ นั่นคือ ต้องมีจิตใจที่แน่วแน่และมั่นคง พร้อมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส เช่น สีแดง สีชมพู หรือสีบานเย็น ซึ่งเป็นสีที่ช่วยเสริมพลังแห่งความรัก โดยมีขั้นตอนในการขอพร ดังนี้เตรียมของถวาย – ควรจัดเตรียมเครื่องสักการะให้เรียบร้อยก่อนเริ่มพิธีท่องบทสวด – เริ่มต้นด้วยการสวด "โอมชัยยะศรี ลักษมี มาตา" จำนวน 8 จบบอกชื่อ-นามสกุลของตนเอง – เพื่อให้พรที่ขอเจาะจงมาถึงตัวเราโดยตรงแจ้งสิ่งที่นำมาถวาย – แสดงความตั้งใจและความเคารพต่อพระแม่ลักษมีเล่าเรื่องราวของตนเอง – อธิบายสถานะความรักในปัจจุบัน และบอกลักษณะของคู่ครองที่ต้องการ เช่น รูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ หรือคุณสมบัติที่อยากให้มีปิดท้ายด้วยการสวด – เมื่อขอพรเสร็จ ให้สวด "โอม ศานติ ศานติ ศานติ" เพื่อส่งพลังแห่งความสงบและความสมหวังแนวทางการปฏิบัติตัว เมื่อมีการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระแม่ลักษมี หรือเทพองค์อื่น ๆ นั้น หากปฏิบัติให้ถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยเสริมสิริมงคลให้ชีวิต และช่วยให้คำอธิษฐานสัมฤทธิผลได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การบูชาไม่ใช่แค่การสวดมนต์หรือถวายของไหว้เท่านั้น แต่ยังต้องมีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องทั้งทางกาย วาจา และใจ เพื่อให้เกิดพลังงานบวกที่สอดคล้องกับพรที่ขอ ดังนี้มีศรัทธาและความตั้งใจจริง ความศรัทธาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการบูชา ไม่ว่าจะเป็นการขอพรเรื่องใด จิตใจต้องแน่วแน่และเชื่อมั่นว่าการบูชาจะนำพาสิ่งดี ๆ มาสู่ชีวิต การขอพรด้วยใจที่ไม่มั่นคง อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่หวังแต่งกายสุภาพและสะอาด การแต่งกายที่เหมาะสมช่วยเสริมพลังบวกให้กับการบูชา ควรเลือกเสื้อผ้าที่สุภาพและสะอาด โดยเฉพาะเมื่อไปสักการะในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สีเสื้อผ้าก็มีผลต่อพลังงาน เช่น การบูชาพระแม่ลักษมี ควรใส่สีชมพู สีแดง หรือสีทอง เพื่อเสริมโชคลาภและความรักใช้เครื่องบูชาที่เหมาะสม การถวายของไหว้ต้องเลือกให้เหมาะกับเทพที่บูชา เช่น พระแม่ลักษมี นิยมถวายดอกบัว ดอกดาวเรือง น้ำผึ้ง น้ำนม และขนมหวาน หลีกเลี่ยงของคาว ของมึนเมา และของที่ไม่สะอาดปฏิบัติตนด้วยศีลธรรมและความดี การบูชาเทพเจ้าไม่ใช่แค่การขอพร แต่ต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรม ซื่อสัตย์และมีเมตตาต่อผู้อื่น ไม่เบียดเบียนหรือเอาเปรียบใคร การทำดีจะช่วยเสริมให้พรที่ขอสัมฤทธิผลเร็วขึ้นขอพรอย่างชัดเจนและสมเหตุสมผล การขอพรควรระบุให้ชัดเจนและเป็นไปได้ เช่น แทนที่จะขอให้รวยอย่างเดียว ควรขอให้มีโอกาสทางการเงินหรือความมั่นคงในหน้าที่การงาน และควรแสดงความกตัญญูโดยกล่าวขอบคุณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสมอหมั่นสวดมนต์และบูชาอย่างสม่ำเสมอ การบูชาควรทำเป็นประจำ ไม่ใช่แค่เมื่อมีปัญหา สวดมนต์ทุกวันหรือทุกสัปดาห์ช่วยเสริมพลังบวก เวลาที่เหมาะสมคือช่วงเช้าหรือก่อนนอนทำบุญและช่วยเหลือผู้อื่น การให้ทานและช่วยเหลือผู้อื่นเป็นวิธีเสริมบุญให้พรที่ขอสำเร็จเร็วขึ้น เช่น บริจาคเงิน สิ่งของ หรือช่วยเหลือสัตว์จรจัด การทำดีจะช่วยเพิ่มพลังบวกให้ชีวิตหลีกเลี่ยงข้อห้ามในการบูชา การบนบานแล้วผิดคำสัญญาเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ รวมถึงการบูชาพระแม่ลักษมี ข้อห้ามคือ ไม่ควรขอพรโดยหวังให้ผู้อื่นเดือดร้อน การบูชาควรเป็นไปเพื่อความดีงาม ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้อง การบูชาและสวดบทสวดพระแม่ลักษมี อย่างถูกต้องสามารถช่วยเสริมโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความสมหวังในความรักได้ อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงข้อห้ามต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับพรจากพระแม่ลักษมีอย่างเต็มที่ สำหรับใครที่ชื่นชอบการดูดวง สายมู มีความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ หรือสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น สามารถเข้ามาอ่านบทความดูดวงออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ Atime ที่นี่มีทั้งบทความให้ความรู้และแนะนำเกี่ยวกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้เลือกอ่านจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

ดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่คืออะไร มีรายละเอียดยังไงมาดูกัน

08 ก.ย. 2025

ดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่คืออะไร มีรายละเอียดยังไงมาดูกัน

ดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ คืออะไร การดูดวงออนไลน์ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน รวมถึงการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่เป็นศาสตร์โบราณที่มีจุดประสงค์เพื่อทำนายและค้นหาคู่ชีวิตที่แท้จริงของแต่ละคน ตามหลักโหราศาสตร์และความเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิต ซึ่งเชื่อว่าคนเราทุกคนมีคู่ชีวิตที่เกิดมาเพื่อกันและกัน ตั้งแต่ในอดีตชาติจนมาถึงในปัจจุบัน แนวคิดนี้ได้รับความนิยมในหมู่คนที่ต้องการค้นหาความหมายของการมีคู่ชีวิตที่แท้จริงและสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่ใช่แค่การเลือกคู่ที่เหมาะสมทางด้านภายนอก เช่น รูปร่าง หน้าตา หรือฐานะ แต่เป็นการดูดวงเนื้อคู่แท้ที่สามารถเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกันในทุกๆ ด้าน การดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่มักเกี่ยวข้องกับการค้นหาคนที่มีการเชื่อมโยงทางจิตใจและพลังงานที่เหมาะสมกัน เช่นเดียวกับการค้นหาลักษณะของคู่ชีวิตในอนาคตหรือทำนายการเจอกันในอนาคต ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่ดีกว่าและแสดงให้เห็นว่าเราและคนที่กำลังมองหาคู่ชีวิตอาจเคยผูกพันกันในอดีตรายละเอียดของการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ การดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ไม่ได้เป็นเพียงการทำนายในรูปแบบทั่วไป แต่ยังเกี่ยวข้องกับการมองหาและแนะนำถึงคู่ชีวิตที่เหมาะสมตามลักษณะของดวงชะตาของแต่ละบุคคล ข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการดูดวงจะมีหลายปัจจัย เช่น วันเกิด เวลาเกิด หรือแม้กระทั่งตำแหน่งของดาวต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในดวงชะตา ซึ่งทุกข้อมูลเหล่านี้จะบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในชีวิตของผู้ที่ต้องการหาคู่ การดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่สามารถช่วยให้ผู้คนได้รู้จักกับ ลักษณะเนื้อคู่ในอนาคต ที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีและเหมาะสมกับชีวิตของตัวเอง โดยในหลายกรณี การดูดวงจะบ่งชี้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพบเนื้อคู่ หรือแม้กระทั่งการเตรียมตัวในด้านต่างๆ เพื่อให้พร้อมกับการเปิดใจรับคู่ชีวิตที่เหมาะสม หากพูดถึงการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ นอกจากจะทำนายลักษณะของคู่แล้ว ยังช่วยให้เข้าใจว่าคู่ชีวิตของเราในอนาคตจะมีลักษณะหรือทิศทางการดำเนินชีวิตแบบไหน จะมีอุปสรรคอะไรบ้าง และจะมีวิธีการร่วมมือหรือปรับตัวให้เข้ากันได้อย่างไรคำถามที่ไม่แนะนำให้ถาม สำหรับการดูดวงเนื้อคู่แท้ เมื่อพูดถึงการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ หลายคนมักจะมีคำถามมากมายที่อยากจะถามหมอดู แต่บางคำถามอาจไม่เหมาะสมที่จะถาม เพราะอาจทำให้คำทำนายไม่สามารถสะท้อนความจริงที่แท้จริงได้ หรือแม้แต่ทำให้เราหลงทางไปในสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และในบางครั้งคำถามที่ไม่ควรถามอาจทำให้เราได้รับคำแนะนำที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงของชีวิตคู่ 1.คำถามเกี่ยวกับความรักในอดีต การถามถึงความรักในอดีตหรือคนรักเก่ามักจะไม่เป็นประโยชน์ในการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ เพราะการมองย้อนกลับไปในอดีตหรือย้อนกลับไปที่ความรักที่เคยเกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว การถามเรื่องอดีตทำให้เราหมกมุ่นกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้เราไม่สามารถเดินหน้าต่อไปในอนาคตและมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ 2. ถามเรื่องความสมบูรณ์แบบของคู่รัก การถามเกี่ยวกับการมีชีวิตคู่ที่ไม่มีปัญหา หรือการถามว่าคู่ชีวิตของเราจะต้องสมบูรณ์แบบเพียงใด ก็ไม่ใช่คำถามที่ควรถามในการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ เพราะในความเป็นจริงไม่มีคู่รักคู่ไหนที่ไม่มีปัญหาหรือความยากลำบากในชีวิต ความรักคือการเรียนรู้และการปรับตัวร่วมกันระหว่างสองคน ทุกความสัมพันธ์ย่อมมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี 3. ถามเรื่องฐานะหรือสถานะของคู่ชีวิต การถามเกี่ยวกับฐานะการเงินหรือความร่ำรวยของคู่ชีวิตก็ไม่ใช่คำถามที่ควรถามในการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ เพราะความรักที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินหรือสถานะทางการเงินของคู่ชีวิต หากคุณมองหาคู่ชีวิตจากมุมมองทางการเงินหรือวัตถุ ก็อาจจะทำให้คุณพลาดโอกาสที่จะพบคนที่เหมาะสมกับคุณในด้านอื่นๆ ที่สำคัญกว่า เช่น ความเข้าใจ การสนับสนุนซึ่งกันและกันแนะนำคำถามยอดฮิต สำหรับการดูดวงเนื้อคู่แท้ คำถามที่หลายคนมักจะถามหมอดูเมื่อดูดวงลักษณะเนื้อคู่ในอนาคต จะช่วยให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรักและชีวิตคู่ ซึ่งคำถามยอดฮิตเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตในความรัก 1. เนื้อคู่ของฉันจะมีลักษณะอย่างไร? การถามเกี่ยวกับลักษณะของเนื้อคู่ในอนาคต เป็นคำถามยอดนิยมที่หลายคนมักจะถามหมอดู เพราะอยากรู้ว่าเนื้อคู่ของตัวเองจะมีลักษณะเป็นอย่างไรในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอกหรือบุคลิกภาพ เช่น พวกเขาจะมีลักษณะทางกายภาพอย่างไร มีรูปร่างสูงหรือเตี้ย ผิวสีขาวหรือผิวสีแทน? หรืออาจจะเป็นคำถามเกี่ยวกับลักษณะของนิสัยที่มีผลต่อความสัมพันธ์ในอนาคต เช่น คนที่เราจะพบในอนาคตจะเป็นคนที่นิ่งและใจเย็นหรือเปล่า หรือว่าเป็นคนที่กระตือรือร้นและรักการผจญภัย? คำถามนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราคิดถึงลักษณะภายนอกที่เราอาจจะดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นในการค้นหาความเข้ากันได้ในความสัมพันธ์ 2. เมื่อไหร่จะพบเนื้อคู่? คำถามเกี่ยวกับเวลาที่จะพบเนื้อคู่ ถือเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้มากที่สุด เพราะการได้รู้เวลาในการพบคนที่ใช่จะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจและมีความหวังในอนาคต โดยเฉพาะคนที่ยังไม่มีคู่หรือยังไม่เจอคนที่คิดว่าใช่ การทำนายเวลาที่จะพบเนื้อคู่สามารถช่วยให้รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน หรือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดใจรับรัก 3. ชีวิตคู่ของเราจะเป็นแบบไหน? คำถามที่เกี่ยวกับชีวิตคู่ในอนาคต เป็นคำถามที่ทำให้เรามีโอกาสมองไปในอนาคตอย่างละเอียดและชัดเจนขึ้น เมื่อถามว่า "ชีวิตคู่ของฉันจะเป็นแบบไหน?" เรากำลังขอคำตอบเกี่ยวกับแนวโน้มในชีวิตคู่ที่อาจเกิดขึ้น และอุปสรรคที่เราจะต้องเผชิญในความสัมพันธ์นี้ การทำนายเกี่ยวกับชีวิตคู่สามารถช่วยให้เรามีการเตรียมตัวที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากัน การทำความเข้าใจในความแตกต่าง หรือการรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ 4. คู่ของฉันจะเป็นคนแบบไหน? การถามว่าคู่ของฉันจะเป็นคนแบบไหน? คือการค้นหาคำตอบในด้านบุคลิกภาพและลักษณะเฉพาะของคู่ชีวิตของเราในอนาคต ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนมักถามเพื่อเข้าใจว่าเนื้อคู่ของเราจะเป็นคนประเภทไหนในแง่ของนิสัย การถามเช่นนี้สามารถช่วยให้เราเตรียมใจรับมือกับคู่ชีวิตที่แตกต่างจากเราในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิต ความคิดและวิธีการจัดการปัญหาในชีวิต 5. เราจะมีความสุขในชีวิตคู่หรือไม่? คำถามที่เกี่ยวกับความสุขในชีวิตคู่ เป็นคำถามที่มักจะถูกถามเมื่อผู้คนเริ่มมีความลังเลเกี่ยวกับอนาคตในความสัมพันธ์ของตนเอง หรือบางครั้งก็ถามเพราะอยากรู้ว่าอนาคตจะมีความสุขในชีวิตคู่มากน้อยแค่ไหน การรู้ว่าจะมีความสุขในชีวิตคู่หรือไม่นั้นสามารถช่วยให้เราเตรียมตัวรับกับปัญหาหรืออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ดีขึ้นอ่านบทความดูดวงออนไลน์ การดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่เป็นการทำนายที่มีเป้าหมายในการค้นหาคู่ชีวิตที่แท้จริงและเหมาะสมกับเรา การดูดวงไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจถึงลักษณะของคู่ชีวิตในอนาคตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเตรียมตัวในการรับมือกับความรักในอนาคต รวมถึงอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูดวงเนื้อคู่แท้ หรือค้นหาบทความที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูดวงพรหมชาติเนื้อคู่ สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ atime ที่มีบทความดูดวงออนไลน์หลากหลายที่สามารถให้คำแนะนำและความเข้าใจในเรื่องความรักและชีวิตคู่ได้อย่างดี คุณสามารถเลือกอ่านบทความที่ตรงกับความสนใจของคุณ และรับคำแนะนำจากหมอดูมืออาชีพเพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องความรักและคู่ชีวิตได้ดียิ่งขึ้นจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี

พ.ศ. 2569 ปีนักษัตรไหนต้องระวัง พร้อมวิธีแก้ชงเสริมมงคลตลอดปี

03 ธ.ค. 2025

พ.ศ. 2569 ปีนักษัตรไหนต้องระวัง พร้อมวิธีแก้ชงเสริมมงคลตลอดปี

ในปี พ.ศ. 2569 นี้ มีปีนักษัตรที่ถือเป็น "ปีชง" ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นความเชื่อตามโหราศาสตร์จีนที่เชื่อว่าดวงชะตาอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีอุปสรรคเข้ามาท้าทาย บทความนี้จะสรุปปีชงที่ต้องระวัง พร้อมแนะนำสถานที่และวิธีแก้ชงที่ถูกต้องตามหลัก เพื่อให้คุณสามารถเตรียมรับมือและเสริมสิริมงคลให้ชีวิตราบรื่นตลอดปีชง 100% : ปีชวด หรือปีหนูสิ่งที่ต้องระวัง: เรื่องสุขภาพและความสัมพันธ์คำแนะนำ: ควรระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย รวมถึงความขัดแย้งกับคนรอบข้างหรือคนรักเป็นพิเศษชงร่วม 50% ได้แก่ 3 นักษัตรปีมะเมีย (ปีม้า): ระวังปัญหาเรื่องสุขภาพ การงาน และความสัมพันธ์ปีเถาะ (ปีกระต่าย): ระวังเรื่องการงานที่มากขึ้น ความสัมพันธ์ และภาระที่ไม่คาดคิดปีระกา (ปีไก่): ระวังปัญหาด้านสุขภาพ การเจ็บป่วย และเรื่องทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันวิธีแก้ชง 2569การแก้ชงเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาเคราะห์กรรมและเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่เกิดในปีชง สามารถทำได้หลายวิธีตามความเชื่อไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย: เป็นการทำพิธีเพื่อบรรเทาเคราะห์กรรม โดยนิยมไหว้ที่วัดจีนหรือศาลเจ้าที่มีองค์เทพประดิษฐานอยู่ทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์: เช่น การไถ่ชีวิตโค กระบือ หรือการบริจาคโลหิต ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมอายุและลดกรรมเสริมดวงชะตา: ด้วยการทำบุญ บริจาคทาน หรือการช่วยเหลือผู้อื่นไหว้พระ 9 วัด: เชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคลให้ชีวิต10 สถานที่แก้ชงยอดนิยมในไทยการเดินทางไปทำบุญและไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยที่วัดหรือศาลเจ้าจีนที่มีชื่อเสียง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากกรุงเทพมหานครวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่1)วัดทิพยวารีวิหาร (วัดกัมโล่วยี่)ศาลเจ้าพ่อเสือวัดโพธิ์แมนคุณารามภูมิภาคอื่น ๆวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2)วัดพนัญเชิงวรวิหารวัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่2)วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหารวัดเทพพุทธารามศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม)"ปีชงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเชื่อทางโหราศาสตร์ การระมัดระวังในการใช้ชีวิต มีสติ ไม่ประมาท และการสร้างบุญกุศลอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้คุณผ่านปี 2569 ไปได้อย่างราบรื่นและเป็นสิริมงคลที่สุดค่ะ"เขียนโดย : เบญญาภา แนบเนียน

คาถาบูชาพญายมราช วิธีไหว้ ของไหว้ และสถานที่บูชาให้ชีวิตรุ่งเรือง

29 ต.ค. 2025

คาถาบูชาพญายมราช วิธีไหว้ ของไหว้ และสถานที่บูชาให้ชีวิตรุ่งเรือง

คาถาบูชาพญายมราช เป็นหนึ่งในบทสวดที่ผู้คนจำนวนมากให้ความสำคัญและค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ชีวิตต้องเผชิญกับอุปสรรค เคราะห์กรรม หรือความเจ็บป่วย เพราะความเชื่อในองค์พญายมราช หรือที่รู้จักกันในนาม พระยม หรือ ยมบาล ในฐานะผู้เป็นใหญ่ในยมโลก ผู้ทำหน้าที่ตัดสินความดีความชั่วของสรรพสัตว์ตามกรรมที่ได้กระทำไว้ ทำให้การบูชาท่านไม่ได้เป็นเพียงการขอพรเพื่อความมั่งคั่งเท่านั้น แต่เป็นการขออำนาจแห่งความยุติธรรมให้ช่วยชี้ขาดกรรม, ปัดเป่าเภทภัย, เสริมสิริมงคล, ต่ออายุขัย และนำพาชีวิตให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวงพญายมราชคือใคร ทำไมจึงควรบูชา?พญายมราช ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและฮินดู คือเทพเจ้าผู้ดูแลและตัดสินกรรมของมนุษย์ในปรโลก เป็นผู้ถือตราชั่งแห่งความยุติธรรมและมีบริวารคือเหล่ายมทูตที่คอยนำดวงวิญญาณไปสู่การพิพากษา หลายคนอาจมองว่าท่านเป็นเทพแห่งความตายที่น่ากลัว แต่แท้จริงแล้ว ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความเที่ยงธรรมและเมตตา ท่านจะตัดสินด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมตามกฎแห่งกรรมอำนาจและอานิสงส์จากการบูชาพญายมราชการสวดคาถาบูชาพญายมราช และปฏิบัติบูชาอย่างถูกต้องจะช่วยเสริมสิริมงคลในด้านต่าง ๆ ดังนี้เสริมอายุยืนยาวและแคล้วคลาดจากภัยพิบัติ: เชื่อกันว่าท่านสามารถยืดอายุขัยและปกป้องจากอุบัติเหตุหรือภัยอันตรายที่มาจากกรรมไม่ดีได้ปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย: พญายมราชมีอำนาจเหนือภูตผีปีศาจและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง การบูชาท่านจึงช่วยขับไล่คุณไสยหรือพลังงานลบขอขมากรรมและอโหสิกรรม: การบูชาและอุทิศบุญให้ท่านช่วยให้เจ้ากรรมนายเวรเมตตาบรรเทาโทษกรรมหนักให้เบาบางลงเสริมความสำเร็จและโชคลาภ: เมื่อกรรมดีเริ่มส่งผล การงาน การเงิน และชีวิตจะราบรื่นขึ้น ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาคาถาบูชาพญายมราชที่ถูกต้องและเป็นที่นิยมบทสวดคาถาบูชาพญายมราช ที่เป็นที่นิยมและมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากพระเกจิอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการไหว้ คือบทสวดที่ขึ้นต้นด้วย "ปะโตเมตัง" ซึ่งเป็นพระคาถาที่มีพุทธคุณสูงบทสวดก่อนเริ่มบูชา (จุดธูปเทียน)วัตถุประสงค์ในการสวดเพื่อความปลอดภัย แคล้วคลาดจากภัยอันตราย แนะนำสวด 3 จบ หรือ 9 จบเพื่อเสริมสิริมงคล ต่ออายุขัย ไล่ผีปีศาจ แนะนำสวด 5 จบ หรือ 21 จบเพื่อขอโชคลาภ ร่ำรวย และเปิดดวงชะตา แนะนำสวด 8 จบ หรือ 108 จบแปลบทสวด: ผู้มีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้วที่แสวงหาหนทางการเกิดอันเป็นสุข ขอให้ไปสู่หนทางแห่งสุคติเถิด ข้าพเจ้ามีเมตตาจิตต่อสรรพวิญญาณทั้งหลาย ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานอันเป็นหนทางอันเกษมเหนือสุคติภพเถิด(เป็นการแผ่เมตตาและขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้ชีวิตก้าวสู่ความสุข)พิธีการบูชา ไหว้พญายมใช้ธูปกี่ดอก? และของไหว้ที่ขาดไม่ได้การบูชาพญายมราชนั้นมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจ โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องบูชาและจำนวนธูป เพื่อให้พิธีศักดิ์สิทธิ์และได้รับความเมตตาจากท่านของไหว้พญายมราช ที่ต้องเตรียมของไหว้ที่นิยมถวายพญายมราชมักเน้นสีดำหรือสีแดง เพื่อแสดงความเคารพต่ออำนาจและความเข้มแข็งของท่านธูป: ใช้ ธูปดำ 2 ดอก เป็นหลัก (เป็นที่นิยมมากที่สุด) หรือ ธูป 5 ดอก (ตามกำลังเทพ) หรือ ธูป 9 ดอก (ตามกำลังเทพเจ้า) สำคัญคือต้องใช้ 'ธูปดำ' หากหาไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้ธูปสีปกติ 2 ดอกเทียน: เทียน 2 เล่ม (หรือเทียนดำ 1 คู่)ดอกไม้: ดอกไม้สีแดง หรือพวงมาลัยดอกดาวเรืองอาหารคาว: เนื้อสัตว์ (ต้ม, ย่าง), ข้าวสวย (ไม่จำเป็นต้องเป็นของสดเสมอไป)อาหารหวาน/ผลไม้: ผลไม้ 5 อย่าง เช่น กล้วยน้ำว้า, สับปะรด, ขนุน, น้ำอ้อย, หรือของหวานที่มีสีแดง/ดำเครื่องดื่ม: น้ำเปล่า, น้ำอัดลม, เหล้า (ถวายเป็นสัญลักษณ์)สำคัญพิเศษ: น้ำชา 1 แก้ว และ ข้าวสาร 1 กำมือ (หรือ 1 ถ้วย)ขั้นตอนการไหว้พญายมราชจุดธูปเทียน: ตั้งจิตอธิษฐานแล้วจุดเทียนและ ธูปดำ 2 ดอกกล่าวบทสวด: กล่าวบทนะโม 3 จบ ตามด้วย คาถาบูชาพญายมราช "ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง..." ตามจำนวนที่ตั้งใจกล่าวคำอธิษฐาน: อธิษฐานขอพรตามความปรารถนา เช่น ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตราย ขอให้มีอายุยืนยาว หรือขอให้การเงินการงานราบรื่น และที่สำคัญคือ ขอขมากรรม ที่เคยได้กระทำไว้กรวดน้ำอุทิศบุญ: หลังจากสวดมนต์เสร็จสิ้น ให้กรวดน้ำอุทิศบุญกุศลที่ได้ทำมาทั้งหมด แด่องค์พญายมราช และเหล่าเจ้ากรรมนายเวร โดยกล่าวคำกรวดน้ำว่า:"อิทัง ปุญญะผะลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ขออุทิศบุญกุศลนี้ ถวายแด่องค์พญายมราช ขอท่านจงรับและโปรดเมตตาชี้ทางแห่งความสุขความเจริญให้แก่ข้าพเจ้า ขอให้บุญนี้ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอให้ได้รับความสุขพ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเทอญ"คำแนะนำเพิ่มเติม: ควรทำพิธีไหว้ในวันอังคาร (ถือเป็นวันครู) หรือวันศุกร์ (เชื่อว่าเป็นวันที่ท่านเมตตามากเป็นพิเศษ)ไหว้พญายมราชที่ไหน? สถานที่บูชาที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังงานการบูชาพญายมราชสามารถทำได้ที่บ้านด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน แต่การเดินทางไปสักการะ ณ สถานที่จริงที่มีรูปเคารพของท่าน จะช่วยเสริมพลังศรัทธาและทำให้ได้รับพรมากขึ้น สถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงในการบูชาพญายมราชในประเทศไทย ได้แก่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร (เสาชิงช้า)จุดเด่น: วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของพญายมราช ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพของผู้คนมายาวนาน เชื่อกันว่าการมาขอขมากรรมที่นี่มีพลังแรงกล้าและเห็นผลเร็วความเชื่อ: การมาขอพรเรื่องสุขภาพและการขอบรรเทาโทษจากหนักเป็นเบาวัดชัยสิทธาวาส (ปทุมธานี)จุดเด่น: เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีการจัดสร้างรูปหล่อพญายมราชให้ผู้คนได้มาสักการะ โดยมักจะไหว้คู่กับท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งมีอำนาจในการปกป้องคุ้มครองและบันดาลโชคลาภเช่นเดียวกันความเชื่อ: ขอพรด้านการป้องกันภูตผีปีศาจและการเงินโชคลาภมูลนิธิร่วมกตัญญู (บางพลี, สมุทรปราการ)จุดเด่น: แม้จะเป็นมูลนิธิ แต่ก็มีการประดิษฐานรูปเคารพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ล่วงลับ รวมถึงพญายมราชให้ผู้คนได้มากราบไหว้ และยังสามารถทำบุญบริจาคโลงศพ ซึ่งถือเป็นการสร้างบุญใหญ่เพื่อต่ออายุขัยและสะเดาะเคราะห์ไปพร้อมกันความเชื่อ: เสริมดวงชะตา ต่ออายุ และทำบุญใหญ่เพื่อความแคล้วคลาดข้อควรจำเพื่อบูชาพญายมราชให้ได้ผลสูงสุดการบูชาไม่ใช่แค่การสวดคาถาบูชาพญายมราช หรือการเตรียมของไหว้พญายมราชเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมและปฏิบัติความดีอย่างสม่ำเสมอเน้นการทำความดี: พญายมราชทรงตัดสินตามกฎแห่งกรรม ดังนั้นการทำทาน, รักษาศีล, และเจริญภาวนา จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ท่านเมตตาการขอขมากรรม: ควรใช้โอกาสในการบูชาท่านเพื่อขอขมาโทษที่ได้กระทำโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์สวดอย่างสม่ำเสมอ: การสวดคาถา "ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง..." เป็นประจำทุกวันก่อนนอนจะช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดคืนและในวันรุ่งขึ้นความสะอาดและความเคารพ: หากบูชาที่บ้าน ควรตั้งบูชาในที่ที่เหมาะสม สะอาด และแสดงความเคารพสูงสุดต่อรูปเคารพของท่านคาถาบูชาพญายมราชเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมโยงจิตวิญญาณของเราเข้ากับอำนาจแห่งความยุติธรรมและความเมตตาขององค์พระยม การสวดบท "ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโต จุติ" อย่างตั้งใจ การเตรียมของไหว้พญายมราช ที่ถูกต้อง และการเลือกใช้ ธูปดำ 2 ดอก ในการประกอบพิธี จะช่วยเสริมมงคลให้คุณได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์ ทั้งการเสริมอายุยืนยาว การปัดเป่าภัยพิบัติ และความสำเร็จในชีวิตอย่าลืมว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูชาคือ "การทำความดี" การปฏิบัติบูชาภายนอกเป็นเพียงองค์ประกอบเสริม การหมั่นทำบุญและตั้งมั่นในศีลธรรมจะนำพาให้คุณรอดพ้นจากภัยทั้งปวง และได้รับความเมตตาจากพญายมราชอย่างแท้จริง

Recap

ความรักไม่ได้มีแต่ความสุข ทำไมเราเลือกที่จะมีมันอยู่ดี? l CLUB PRIDE DAY inside EP.11 ฟาอัล สุดติ่ง

19 พ.ย. 2025

ความรักไม่ได้มีแต่ความสุข ทำไมเราเลือกที่จะมีมันอยู่ดี? l CLUB PRIDE DAY inside EP.11 ฟาอัล สุดติ่ง

CLUB PRIDE DAY inside EP.11 เมื่อ “ฟาอัล สุดติ่ง” อินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ชื่อดัง เปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิต ความรัก การเติบโตในครอบครัว รวมถึงเส้นทางที่ทำให้เธอกลายเป็นที่รักของผู้คนมากมาย บทสนทนาครั้งนี้เต็มไปด้วยแง่คิดและแรงบันดาลใจที่ทำให้ทุกคนรู้จักฟาอัลในมุมลึกซึ้งกว่าเดิมความรักที่เหมือนรถไฟเหาะ ฟาอัลมองว่าความรักสำหรับเธอเหมือน รถไฟเหาะ (Roller Coaster) ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น หวาดเสียว และเวลาเล่นบางครั้งก็เหนื่อย แต่ถึงแบบนั้นเราก็ยังเลือกที่จะรัก เพราะมนุษย์ต่างเสพติดความรู้สึกที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ฟาอัลเชื่อว่า “เรามักจะเป็นคนหนึ่งที่มีใครสักคนรออยู่ และเราก็กำลังรอเขาเหมือนกัน” มันเลยทำให้ฟาอัลไม่ได้โหยหาความรัก สำหรับสเปกของฟาอัลฟาอัลให้ความสำคัญกับ “ความใส่ใจ” มากกว่ารูปลักษณ์ และถ้าฟาอัลชอบใคร ฟาอัลจะกล้าบอกตรง ๆ เพราะเชื่อในการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองการเติบโตท่ามกลางความต่าง แต่ไม่เคยถูกมองว่าแตกต่าง หนึ่งในหัวใจสำคัญของชีวิตฟาอัล คือการได้รับการเลี้ยงดูที่ “ไม่แบ่งแยก” จากครอบครัว ครอบครัวไม่เคยมองว่าฟาอัลเป็นเด็กพิเศษ แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์เหมือนคนทั่วไป คุณตาของฟาอัลเคยสอนว่า “การที่เราเกิดมาแบบนี้ ไม่ได้แปลว่าเราผิดแปลกจากคนอื่น” คำสอนนี้หล่อหลอมให้ฟาอัลเติบโตอย่างเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับโลกภายนอกแม้อาจไม่ยุติธรรมเสมอไป ช่วงวัยเด็ก ฟาอัลเคยรู้สึกไม่อยากออกจากบ้านเพราะคิดว่าตัวเอง “ผิดแปลกจากคนอื่น” แต่เมื่อโตขึ้น เธอเรียนรู้ว่าการสู้กลับแบบเด็ก ๆ ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยจากการคลาน สู่การเดินได้ด้วยพระราชานุเคราะห์ ฟาอัลเริ่มต้นด้วยการ “คลาน” ก่อนที่จะได้รับพระราชานุเคราะห์ในการรักษา จนสามารถเดินได้ในวันนี้ และฟาอัลภูมิใจมากที่มาไกลจากจุดเริ่มต้น เมื่อถูกถามว่าอายไหมที่เดินไม่เหมือนคนอื่น ฟาอัลตอบอย่างมั่นใจว่า “ไม่เลย เพราะเมื่อก่อนเราต้องคลาน แต่ตอนนี้เราเดินได้แล้ว” สิ่งนี้ทำให้ฟาอัลมองว่ามันคือ เอกลักษณ์ มากกว่าข้อบกพร่องบาดแผลในโรงเรียนที่ไม่มีใครเห็น ชีวิตในโรงเรียนไม่ใช่ Safe Zone สำหรับฟาอัล เธอเคยถูกบุลลี่ทั้งจากเพื่อนและครู ทำให้ฟาอัลถึงขั้นต้องโกหกที่บ้านว่าไม่อยากไปโรงเรียน เพราะการบอกผู้ปกครองอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง ฟาอัลมองว่า “การเรียนมันจะสนุกขึ้นมาก ถ้าสังคมในโรงเรียนทำให้เราอยากไป” ประสบการณ์เหล่านี้กลายเป็นปมสำคัญ แต่ก็เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ฟาอัลเติบโตอย่างเข้าใจโลกมากขึ้นเรียนรู้ที่จะคิดบวกและเข้าใจความเป็นมนุษย์ ฟาอัลมองว่า “ทุกคนมีปม” ไม่ว่าเราจะเห็นหรือไม่ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น เราอาจไม่ชอบนิสัยเพื่อนร่วมงานบางคน แต่เราไม่รู้เลยว่าเขาต้องเจออะไรในชีวิตประจำวัน เพราะเราไม่ได้อยู่กับเขาตลอด 24 ชั่วโมง หากเห็นทุกมุมของเขา เราอาจเข้าใจเขามากกว่านี้ก็ได้ นี่คือมุมคิดที่ทำให้ฟาอัลกลายเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นและพร้อมให้เกียรติทุกคนโรงเรียนพิเศษ vs โรงเรียนปกติ: มุมมองจากคนที่เคยผ่านเส้นทางนี้ ฟาอัลเชื่อว่า หากเด็กพิเศษช่วยเหลือตัวเองได้ ควรส่งเข้าเรียนใน โรงเรียนปกติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและให้เด็กได้เรียนรู้การเข้าสังคม การแยกไปเรียนเฉพาะทางตั้งแต่แรกอาจยิ่งจำกัดโอกาส เพราะพ่อแม่ไม่สามารถอยู่ดูแลเด็กตลอดชีวิต ฟาอัลอยากให้สังคมมองเด็กพิเศษเป็น “มนุษย์คนหนึ่ง” ที่ควรได้รับเกียรติและโอกาสเท่าเทียมกับทุกคนการซัพพอร์ตคนพิการในไทยยังไปไม่ถึงเป้าหมาย ฟาอัลมองว่าระบบสนับสนุนคนพิการในไทยยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือ 800 บาทต่อเดือนที่ไม่ครอบคลุมคุณภาพชีวิตพื้นฐาน แต่ถ้าเราสามารถปรับมาเป็นการซัพพอร์ตแบบยั่งยืน เช่น การสร้างอาชีพ มันอาจจะเป็นโครงการช่วยเหลือระยะยาวมากกว่าการช่วยแบบฉาบฉวยแบบในปัจจุบันแรงกดดันจากสังคม ศาสนา และตัวตนที่แท้จริง ฟาอัลเคยคิดจะเลิก “แต่งหญิง” เพราะแรงกดดันจากสังคมและศาสนา เธอไม่อยากทำผิดหลักความเชื่อ แต่ก็รู้ว่าการฝืนตัวเองทำให้ไม่มีความสุข เราอาจทำให้คนอื่นพอใจได้ แต่ถ้าเราไม่เป็นตัวเอง เราจะทุกข์ที่สุด โชคดีที่ครอบครัวของฟาอัลสนับสนุนและให้ฟาอัลใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการเส้นทางสู่วงการบันเทิงและอินฟลูเอนเซอร์ ฟาอัลฝันอยากเป็นนักแสดง และเริ่มต้นเส้นทางในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ ความพยายามทำให้ฟาอัลมาถึงทุกวันนี้ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ด้านลบ แต่เมื่อคนรู้จักมากขึ้น ก็เห็นความตั้งใจและเปิดใจยอมรับฟาอัลมากขึ้นสรุป: ฟาอัลไม่ใช่แค่ครีเอเตอร์ แต่คือแรงบันดาลใจของหลายคน จากบทความนี้ทำให้เห็นว่าฟาอัลเป็นคนที่ผ่านหลายสิ่ง แต่ยังคงมองโลกในมุมบวก กล้ารักตัวเอง กล้าเป็นตัวเอง และกล้าต่อสู้เพื่อความฝัน นี่คือเหตุผลที่ฟาอัลกลายเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆคน และเป็นหนึ่งในตัวแทนที่สะท้อนว่าความแตกต่างคือความงดงามของมนุษย์ดูคลิปเต็มได้ที่ Atime Do Deeจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ ชานนท์ ไชยศรี

ในวันที่ดอกไม้แห้งเหี่ยว แต่ความรู้สึกยังคงอยู่ตลอดไป l CLUB PRIDE DAY inside EP.10 น้ําปิง นภัสกร

21 ต.ค. 2025

ในวันที่ดอกไม้แห้งเหี่ยว แต่ความรู้สึกยังคงอยู่ตลอดไป l CLUB PRIDE DAY inside EP.10 น้ําปิง นภัสกร

" ในวันที่ดอกไม้แห้งเหี่ยว แต่ความรู้สึกยังคงอยู่ตลอดไป"ได้นำเสนอแง่คิดและประสบการณ์ชีวิตของ น้ำปิง นภัสกร นักแสดงดาวรุ่งวัย 24 ปีผ่านบทสัมภาษณ์ที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้ง โดยน้ำปิงได้เริ่มต้นด้วยการเปรียบเทียบความรักเสมือน "ช่อดอกไม้" ซึ่งเป็นมุมมองที่ยอมรับความเป็นอนิจจังของความสัมพันธ์ เขามองว่าแม้ดอกไม้จะเหี่ยวเฉาและไม่สามารถอยู่กับเราได้ตลอดไป แต่แก่นแท้และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ "ความรู้สึก" ของผู้ให้และผู้รับที่ถูกเติมเต็มและยังคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป เป็นการตอกย้ำว่าคุณค่าของความรักไม่ได้อยู่ที่ความยั่งยืนทางกายภาพ แต่อยู่ที่ความรู้สึกที่มอบให้กันและกัน ในส่วนของ ชีวิตส่วนตัวและครอบครัว น้ำปิงได้เผยให้เห็นถึงรากฐานทางความคิดที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับมาจาก คุณแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการเผชิญหน้ากับความกลัว น้ำปิงได้เล่าถึงสิ่งที่น้ำปิงกลัวที่สุดในวัยเด็กคือ การร้องเพลง เนื่องจากเคยมีบาดแผลจากการถูกเพื่อนล้อเลียน ซึ่งคำสอนของคุณแม่ที่เปรียบเสมือนแสงนำทางคือประโยคที่ว่า "จงทำในสิ่งที่ท่านกลัว แล้วความกลัวจะหายไป" คำสอนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้น้ำปิงก้าวข้ามความหวาดกลัวเรื่องการร้องเพลงได้เท่านั้น แต่ยังกลายเป็น ทัศนคติ สำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตและรับมือกับความท้าทายทุกรูปแบบ ทำให้น้ำปิงกลายเป็นคนที่มีวิธีคิดแบบมีมิติ (Layered) ที่มีความลึกซึ้งแต่ไม่ซับซ้อน และพร้อมที่จะเรียนรู้จากทุกประสบการณ์ที่เข้ามาในชีวิตอย่างเปิดกว้าง นอกจากคุณแม่แล้ว อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นหัวใจของน้ำปิงคือคุณยาย ผู้ที่เลี้ยงดูน้ำปิงมาตั้งแต่เด็กและเป็นดั่ง "เซฟโซน" ที่มอบความรักและความอบอุ่นให้เสมอมา แม้ว่าวันนี้ท่านจะจากไปแล้ว แต่น้ำปิงยังคงระลึกถึงท่านเสมอและมีความปรารถนาอย่างสุดซึ้งที่อยากให้ท่านได้เห็นความสำเร็จของน้ำปิงในวันนี้ โดยน้ำปิงเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด คุณยายยังคงเฝ้ามองและภูมิใจในตัวน้ำปิงอยู่เสมอและจากพื้นฐานครอบครัวนี้เอง น้ำปิงรู้สึกว่าตนเองโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ ทางบ้านไม่เคยกดดันหรือตั้งคำถามในสิ่งที่น้ำปิงเป็นหรือน้ำปิงเลือกจะทำ แต่กลับเป็นกำลังใจและพร้อม ซัพพอร์ต อย่างเต็มที่ ทำให้น้ำปิงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและเติบโตในแบบที่ตนเองต้องการ สำหรับการ เข้ามาในวงการบันเทิง และการก้าวเข้าสู่เมืองกรุงเพื่อ ศึกษาต่อที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น้ำปิงเปิดเผยว่าเขาต้องเผชิญกับช่วงเวลาของการ ปรับตัว ที่ยากลำบากอย่างมาก เนื่องจากความแตกต่างระหว่างสังคมในต่างจังหวัดกับสังคมในเมือง ทำให้เขาต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ ๆ มากมาย นอกจากเรื่องส่วนตัวแล้ว การได้รับบทบาทใน ซีรีส์ เขมจิราต้องรอด ซึ่งเป็นนิยายชื่อดังที่หลายคนชื่นชอบ ก็มาพร้อมกับความกดดันอย่างหนัก ทั้งจากคำถามว่าตนเองเหมาะสมที่จะถ่ายทอดบทบาทหรือไม่ และความกดดันจากกระแสสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสจากผู้ชมบางส่วนที่ต้องการให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ชาย-หญิง แทนที่จะเป็นซีรีส์ BL (Boys' Love) ตามที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้น้ำปิงเกิดการตั้งคำถามต่อมุมมองของสังคมไทย ต่อซีรีส์ BL ว่า แท้จริงแล้วสังคมไทยเปิดใจและยอมรับซีรีส์ประเภทนี้อย่างแท้จริงแล้วหรือยัง หรือเป็นเพียงการกล่าวอ้างว่ายอมรับกันไปเอง สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ศิลปินต้องเผชิญในการนำเสนอผลงานที่แตกต่าง เมื่อมีปัญหาหรือเรื่องราวที่เข้าใจผิดทำให้เกิดดราม่าต่างๆ น้ำปิงมักเลือกที่จะ ออกมาอธิบายและเคลียร์ทุกอย่างอย่างเปิดเผย ทันที เพราะน้ำปิงเชื่อว่าการเงียบไม่ใช่ทางแก้ปัญหา แต่การออกมาปกป้องตนเองหรือคนที่เรารัก การอธิบายให้เกิดความเข้าใจจะช่วยให้ทุกฝ่ายสบายใจ ในส่วนของ ประสบการณ์เรื่องความรัก น้ำปิงมองว่าตนเองเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรักบ่อยครั้ง แต่เมื่อรักแล้วจะ ทุ่มเท ให้กับความสัมพันธ์นั้นอย่างมาก โดยธรรมชาติแล้วน้ำปิงเป็นคนที่ชอบเป็นผู้ให้ และเชื่อในความสัมพันธ์แบบ Give and Take แต่พอเราเป็นฝ่ายให้มากกว่าได้รับอย่างต่อเนื่อง น้ำปิงเลยเริ่มรู้สึกเหนื่อย จนกระทั่งนำไปสู่การ ตกตะกอนทางความคิด ว่าตนเองต้องการอะไร และความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่มันโอเคแล้วหรือไม่ เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว การแยกย้ายจึงเกิดขึ้น แม้จะเจอการอกหักครั้งแรกที่ทำให้เสียใจอย่างหนัก แต่เหตุการณ์นี้กลับเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้น้ำปิงค้นพบว่า แม้ในวันที่รู้สึกว่าไม่เหลือใคร แต่เขาก็ยังมีเพื่อนและครอบครัวที่ยังรักและคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นจึงเปรียบเสมือน "สารเร่งโต" ที่ทำให้น้ำปิงเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วดูคลิปเต็มได้ที่ Atime Do Deeจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ ชานนท์ ไชยศรี

ความชอบของคนเรา เปลี่ยนไปได้ทุกวัย ทุกวัน l CLUB PRIDE DAY inside EP.9 นินิว เพชรด่านแก้ว

29 ก.ย. 2025

ความชอบของคนเรา เปลี่ยนไปได้ทุกวัย ทุกวัน l CLUB PRIDE DAY inside EP.9 นินิว เพชรด่านแก้ว

นินิว หรือ คริตตินา แซ่แต้จาก “เด็กขี้อาย” สู่ “เด็กกิจกรรม”ครอบครัว การยอมรับตัวตน นินิวเกิดในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นตำรวจ ในสังคมตำรวจสมัยนั้นมักมองว่าการมีลูกเป็น LGBTQ+ เป็นเรื่องแปลก ทำให้นินิวรู้สึกเหมือนถูก “ฟรีซ” จากสายตาคนอื่น ถูกบอกว่าเป็นกะเทยแล้วไม่ควรเปิดเผย จึงไม่กล้าพูดหรือแสดงออก ตอนเด็กนินิวเคยถูกป้าข้างบ้านพูดใส่ว่า “ดีนะ ที่บ้านเราไม่มีลูกเป็นตุ๊ด” คำพูดนั้นฝังใจ แต่นินิวเลือกปล่อยผ่าน ให้เขาอยู่กับทัศนคติแบบเดิมของเขาไป อย่างไรก็ตาม นินิวมองว่าตัวเอง “โชคดีมาก” เพราะครอบครัวเปิดกว้าง เข้าใจ และไม่กดดัน ไม่คาดหวังให้นินิวต้องพิสูจน์ตัวเองเพียงเพราะเป็น LGBTQ+ อยากเรียนอะไร ทำอะไร ทางบ้านก็พร้อมที่จะสนับสนุนนินิวอย่างเต็มที่ทดลอง-เรียนรู้-ค้นหาความชอบ นินิวชอบลองสิ่งใหม่เพื่อรู้จักตัวเอง เคยฝันอยากเป็นนักร้อง พอได้ทำจริงกลับพบว่า “ไม่ชอบ” ถ้าว่าแล้วอาชีพนักแสดง นินิวก็ “ทำได้” แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่ใช่ เพราะนินิวคิดว่า“ความชอบของคนเราเปลี่ยนได้ทุกวัย ทุกวัน”จึงไม่รีบการันตีว่าอะไรคือสิ่งที่ชอบที่สุด เปิดพื้นที่ให้ตัวเองได้ลองเสมอจุดเริ่มต้นสายท่องเที่ยว เริ่มจากอยากไปต่างประเทศเลยเรียนเป็น “ไกด์” ชอบเมืองชนบทต่างประเทศ ได้เห็นมุมชีวิตเรียบง่ายจนตกผลึกว่า“ความสุขจริง ๆ ไม่ได้ยากขนาดนั้น มันอยู่รอบตัวและไม่เหมือนกันในแต่ละคน” นินิวมองว่าตัวเองเป็น introvert ที่เข้าสังคมได้ รักการท่องเที่ยวพอ ๆ กับการอยู๋กับตัวเองในพื้นที่ที่มีความสงบและธรรมชาติการสูญเสีย มุมมองต่อความตาย การสูญเสียคุณพ่อคือบทเรียนครั้งใหญ่ นินิวไม่ร้องไห้ในวันนั้น เพราะรู้ว่าตัวเองทำหน้าที่ลูกได้เต็มที่แล้ว ถ้าถามว่านินิวกลัวตายมั้น นินิวตอบได้เลยว่าไม่กลัวความตาย“ถ้าเรากลัวความตาย เราอาจลืมความสุขที่ทำได้ในปัจจุบัน”เลยตั้งใจอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุดรับมือคอมเมนต์ ดราม่า นินิวชอบอ่านทุกคอมเมนต์ไม่ว่าจะมาในทางที่ดีและไม่ดี โดยวิธีรับมือของนินิวคือ “ไม่รับมือ” เพราะนั่นคือความคิดของเขา ไม่ใช่ตัวเรา ถ้าเขาไม่สำคัญกับชีวิตเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร นินิวยอมรับว่าเคยโต้ตอบบ้างในอดีต ก่อนจะตกผลึกว่ามันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย และอาจกลายเป็น Digital Footprint ที่ว่าถ้าวันนึงเรามองย้อนกลับมา เราอาจจะไม่ชอบตัวเองในตอนนั้นก็ได้มุมมองเรื่องเพื่อน ถ้าพูดถึงเพื่อนสนิทของนินิวก็ต้องเป็น ฝน (monsterfon) จุดเริ่มต้นของพวกเรามาจากการไลฟ์เล่น ๆ กัน จนมีลูกค้าจ้าง ฝนเป็นเพื่อนที่คุยได้ทุกเรื่อง ทั้งไร้สาระและ deep talk เพราะมีตรรกะชีวิตคล้ายกัน รับฟังและเตือนกันได้ สำหรับมุมมองเรื่องเพื่อนของนินิว นินิวมองว่ามันสำคัญที่ “ทัศนคติที่ต้องไปด้วยกันได้” นินิวมักเป็นฝ่ายประนีประนอม เพราะคนรอบตัวส่วนใหญ่ใจร้อนความรักสเป็กของนินิว คือ “หนุ่มขาวตี๋” นินิวเคยอกหักครั้งแรกตอนมัธยม คบกันราวหนึ่งปี อีกฝ่าย “ยืมหูฟังบลูทูธของเราแล้วหายไป” มันจบลงด้วยการที่เขาหายไปเลย นั้นเป็นครั้งแรกที่เข้าใจความรู้สึกอกหัก จากนั้นเวลาอกหักนินวจะมีสเต็ปการอกหักที่ทำคือ ร้องไห้ เปิดเพลงเศร้า ดื่มกับเพื่อน ขับรถไปทะเล กินเหล้าจุดพลุถ่ายรูปลงรูปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา จนวันหนึ่งนินิวเลือกไปเที่ยวคนเดียว ปล่อยให้ธรรมชาติช่วยเรียงความคิด นินิวรู้สึกชัดเจนขึ้นว่า ที่เราเจ็บก็เพราะนินิวยังรักตัวเองไม่พอ จากนั้นนินิวก็คิดได้ว่า ถ้าจะรักใคร ต้องรักในแบบที่เขาเป็น ไม่ผูกความคาดหวังของนินิวไว้กับชีวิตอีกคน“ความรักเหมือนอากาศ” อยู่รอบตัวในหลายรูปแบบ ทั้งครอบครัว เพื่อน ตัวนินิวเอง หรือสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้ยิ้มได้ วันนี้นินิวไม่ได้ตามหามัน แต่ถ้ามีคนเดินเข้ามา นินิวก็ยินดีที่จะค่อย ๆ เรียนรู้กันงานที่ใช่ เส้นทางครีเอทีฟ อยากใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ ถ้ามีโอกาสก็ทำให้เต็มที่ แต่รู้ชัดอย่างหนึ่งคือ “ไม่ชอบร้องเพลงตามร้าน” เพราะควบคุมปัจจัยรอบตัวไม่ได้ ยอมรับว่า “ทำตามใจตัวเอง” เงินซื้อไม่ได้ ถ้าใจไม่อยาก นินิวก็จะไม่ทำ นินิวค้นพบความเป็นคนตลกและสร้างสีสันแบบ “ไม่วางแผน” มาจากอินเนอร์ ไม่ค่อยตามกระแส ชอบหาความต่าง เลยออกมาเป็นธรรมชาติและถูกจริตผู้คนความกังวล แผนชีวิต นินิวรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ตอนนี้ “นินิวไม่มีเรื่องให้ต้องกังวล” เพราะนินิววางแผนคร่าว ๆ ของชีวิตไว้แล้ว ทั้งเรื่องการย้ายกลับต่างจังหวัด และเรื่องทำประกัน นินิวรู้ว่าอะไรสำคัญกับตัวเองที่สุด นินิวให้ความสำคัญกับความสุขเป็นลำดับแรก สำหรับคนที่ยังไม่เจอสิ่งที่ใช่ นินิวอยากให้ “ลองไปเรื่อยๆ” เพื่อค้นเจอความสุขของตัวเอง เพราะสิ่งที่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้อาจไม่ใช่ ไม่เป็นไร แค่ลอง นินิวคิดว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาคือ บทเรียน เราต้องอยู่กับปัจจุบัน สิ่งไหนไม่ดีเราก็เรียนรู้แล้วแก้มันเลย ไม่ต้องรอให้อนาคตย้อนกลับมารักตัวเองฉบับนินิว เข้าใจตัวเองให้มาก ทบทวนตัวเอง คุยกับตัวเอง ฟังเสียงตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องให้ใครมายอมรับ แค่เรายอมรับตัวเอง ชีวิตก็จะ “สุขง่ายขึ้น”ดูคลิปเต็มได้ที่ Atime Do Deeจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ ชานนท์ ไชยศรี

อย่ารักตัวเองมากเกินไปและบางครั้งเราก็ต้องเกลียดตัวเองบ้าง l CLUB PRIDE DAY inside EP.8 ม๊าเดี่ยว

09 ก.ย. 2025

อย่ารักตัวเองมากเกินไปและบางครั้งเราก็ต้องเกลียดตัวเองบ้าง l CLUB PRIDE DAY inside EP.8 ม๊าเดี่ยว

ความรักที่เหมือน "อากาศ" และการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ม๊าเดี่ยว คือหนึ่งในคนที่เลือกจะใช้ชีวิตแบบไม่เหมือนใคร ไม่ยึดติดกรอบสังคม และกล้าที่จะเป็นตัวเองเต็มที่ มุมมองความรักของม๊าเดี่ยวเปรียบเหมือน “อากาศ” สิ่งที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่ก็ขาดไม่ได้ เหมือนอากาศ วันหนึ่งถ้ามันควบแน่นกลายเป็นฝน เราก็อาจได้เห็นสายรุ้ง แม้ม๊าเดี่ยวไม่เคยมีความรักและไม่ได้อยากผูกมัดใคร แม้จะกลัวความรักบ้าง แต่ม๊าเดี่ยวก็พร้อมจะเปิดใจให้คนที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างกันจริงๆการเติบโตและครอบครัว ม๊าเดี่ยวเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เลือกทำอาชีพอิสระ แม้จะดูไม่มั่นคงในสายตาคนอื่น แต่กลับปลูกฝังให้ม๊าเดี่ยวเชื่อว่าความสุขอยู่ที่การได้ทำในสิ่งที่รัก พ่อแม่สนับสนุนทุกการตัดสินใจและให้อิสระเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นตัวเองหรือแม้แต่การอยากแต่งหญิง ครอบครัวไม่เคยตั้งคำถาม มีแต่ยอมรับและภูมิใจเส้นทางสู่โลกแฟชั่น จุดเริ่มต้นมาจากการเสพแฟชั่นต่างประเทศทางอินเทอร์เน็ต ม๊าเดี่ยวลองหยิบสิ่งของรอบบ้านมาทำชุดและโพสต์ลงโซเชียล จนกลายเป็นไวรัลและทำให้คนรู้จัก ม๊าเดี่ยวมีจุดยืนชัดเจนว่า ต่อต้าน Fast Fashion เพราะมองว่าเป็นการทำลายคุณค่าความคิดสร้างสรรค์ และเชื่อว่าการแต่งตัวไม่เหมือนใครไม่น่าอาย แต่การก๊อปปี้ต่างหากที่น่าอายการรับมือกับอุปสรรค ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ม๊าเดี่ยวเคยถูกโกงโดยคนที่ไว้ใจ และเคยโดนบูลลี่เรื่องรูปร่าง แต่เขาเลือกจะเรียนรู้และปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบจนกดดันตัวเอง รวมถึงไม่ให้คอมเมนต์ลบมามีอิทธิพล จนได้ข้อคิดที่ว่า “ให้เป็นเรื่องของมาร์ก” (มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook)เป้าหมายชีวิต จากเดิมที่เคยฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ให้เสื้อผ้าของตนอยู่ในตู้ทุกบ้าน ม๊าเดี่ยวเปลี่ยนมุมมองใหม่ มุ่งทำเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน เพราะเชื่อว่า “การตั้งเป้าหมายเล็กๆ จะทำให้เรามีความสุขทุกวัน”แรงบันดาลใจให้คนอื่น ทุกวันนี้ ม๊าเดี่ยวกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคน แม้จะมองตัวเองว่าไม่ได้เป็นคนดีอะไร แค่เป็นตัวเอง เช่น การกรีดอายไลเนอร์ธรรมดาๆ ก็อาจทำให้ใครสักคนกล้าที่จะลองแตกต่าง จุดเด่นของม๊าเดี่ยวคือ การทำได้หมด ม๊าเดี่ยวคิดว่า ”เราไม่จำเป็นต้องทำให้ดีที่สุด แต่ขอให้ลอง” เพราะว่า “ชีวิตมันไม่มีคำว่าสำเร็จ ชีวิตมีแค่คำว่าได้ทำแล้ว คำว่าสำเร็จมีไว้หลอกคนเท่านั้น”ดูคลิปเต็มได้ที่ Atime Do Deeจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ ชานนท์ ไชยศรี

ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข l CLUB PRIDE DAY inside EP.7 เต้ กันตนา

28 ส.ค. 2025

ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข l CLUB PRIDE DAY inside EP.7 เต้ กันตนา

เต้ กันตนา กับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขถ้าพูดถึงเรื่องของความรัก ก็จะมีหลาย ๆ ทฤษฎีให้ทุกคนได้ศึกษาและทำความเข้าใจในทฤษฎีนั้น ๆ และอีกหนึ่งทฤษฎีที่ทำได้ง่ายคือ "ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข" ทฤษฎีนี้หาได้ง่ายจากครอบครัว แต่อาจจะหาได้ยากจากคนรักจุดเริ่มต้นของ The Face Thailand The Face Thailand เริ่มจากคอนเซ็ปต์ “นี่แหละชีวิตจริง มันเกิดการแข่งขันแบบนี้” เพื่อรวบรวมคนที่มีแพสชันและความฝันด้านแฟชั่นมาแข่งขันกัน โดยซีซั่นแรก เต้ ปิยะรัฐ วางโครงสร้างชัดเจน พร้อมดึงเมนเทอร์ชื่อดัง ลูกเกด เมทินี, พลอย เฌอมาลย์ และหญิง รฐา มาช่วยถ่ายทอดแนวคิดให้เข้าถึงง่าย จนรายการได้รับความนิยม คำพูดและมีมจากรายการถูกนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน ความสำเร็จนี้ทำให้ซีซั่นต่อ ๆ มา เต้ต้องเพิ่มความเข้มข้นและปรับให้เข้ากับยุคสมัยอย่างต่อเนื่องการหมดไฟและการกลับมาใหม่ แม้จะประสบความสำเร็จ เต้เคยยอมรับว่า หมดไฟกับการทำงาน เพราะทุ่มพลังให้ผู้เข้าแข่งขันทุกซีซั่นจนเหนื่อยล้า เต้จึงเลือกหยุดพักไป เพื่อเติมไฟให้ตัวเอง บทเรียนครั้งนั้นทำให้เต้เข้าใจว่า เมื่อไม่ไหว ต้องยอมปล่อยวาง และการมีครอบครัวเป็น support system คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เต้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งTHE FACE THAILAND คือ DNA ของเต้ สำหรับเต้ รายการนี้ไม่ใช่เพียงงาน แต่คือ DNA ของชีวิต ทุกครั้งที่ทำงาน เต้ยึดหลัก “ทำให้เต็มที่ ไม่มีวันเสียใจ” และต้องสื่อสารกับทีมงานอย่างเข้าใจตรงกัน เพื่อเปลี่ยนภาพในหัวให้ออกมาเป็นรายการที่คนดูอินไปด้วยเหตุผลกับอารมณ์เป็นสิ่งที่การบาลานซ์ที่ยากที่สุด เต้ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ บางครั้งควบคุมยาก แต่เต้ก็เรียนรู้ที่จะจัดการมัน “บางทีมันต้องปล่อยให้อารมณ์ไปให้สุด เพื่อให้งานออกมาดี” นี่คือจุดแข็งและเอกลักษณ์ที่ทำให้ผลงานของเต้มีพลังและแตกต่างแรงกดดันจาก “ครอบครัวกันตนา”“เวลาเต้ทำดีมันเสมอตัว แต่ถ้าพลาด อาจถูกพูดถึงไปถึงบรรพบุรุษ” การเติบโตในครอบครัวกันตนาทำให้เต้เผชิญแรงคาดหวังสูง แต่แทนที่จะท้อ เต้กลับใช้เป็น แรงผลักดัน พิสูจน์ว่ารุ่น 3 อย่างเต้สามารถพาธุรกิจเดินหน้าต่อได้ และวันนี้เต้พร้อมส่งต่อให้คนรุ่นใหม่สืบต่อไปความรักและชีวิตส่วนตัว แม้จะประสบความสำเร็จด้านการงาน แต่เต้มองว่าตัวเองอาจ ไม่มีดวงเรื่องความรัก ในอดีตเวลาตกหลุมรักเต้มักใช้อารมณ์ล้วนๆและเต้จะคอยสร้าง “บททดสอบ” ให้คนรักต้องผ่านเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ ถ้าถามว่าระหว่างความรักกับหน้าที่ เต้มองว่าหน้าที่และความรับผิดชอบต้องมาก่อน หากเขาเข้าใจก็ไปด้วยกันได้ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ยากที่จะเดินต่อบทเรียนชีวิต: การปล่อยวางและรักตัวเอง“รักตัวเองให้พอ รักตัวเองให้เป็น" ถ้าเต้ทำได้ เต้จะไม่โหยหาความรักจากคนอื่น แต่ยังมีเหลือพอที่จะแบ่งให้คนรอบข้าง เต้เรียนรู้ว่า "ทุกความสำเร็จต้องแลกมาด้วยความพยายาม" สิ่งสำคัญที่สุดคือการปล่อยวางและรักตัวเอง สำหรับเต้ ความรักแท้คือความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะมาจากครอบครัว คนรอบตัว หรือคนรักที่พร้อมยอมรับและปรับตัวให้กันและกันดูคลิปเต็มได้ที่ Atime Do Deeจัดทำโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ ชานนท์ ไชยศรี

การผจญภัยที่ยังไม่รู้จบ l CLUB PRIDE DAY inside EP.6 เอิร์ธ cooheart

20 ส.ค. 2025

การผจญภัยที่ยังไม่รู้จบ l CLUB PRIDE DAY inside EP.6 เอิร์ธ cooheart

เอิร์ธ COOHEART กับความรักที่เหมือนการผจญภัย วันที่เติบโตขึ้นอีกหนึ่งสเต็ปและยังได้เรียนรู้การรักตัวเองได้ในวัย 28 ปีที่อาจจะไม่ได้เก่งมาก แต่ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น เอิร์ธอยู่ในวงการซีรีส์วายมานาน แม้จะมีการเปลี่ยนพาร์ตเนอร์บ่อยครั้งด้วยหลายปัจจัย แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยอยากเปลี่ยน เพราะทุกครั้งคือการเริ่มใหม่ทั้งหมด เพียงแต่มองในอีกมุมว่ามันอาจเป็นโอกาสใหม่ที่พาไปไกลกว่าเดิม (Aim to the stars) หลายคนยังมองเอิร์ธว่าเป็น “เคมีสาธารณะ” เพราะทำให้คนดูเชื่อและอินไปกับการแสดงได้ แม้ไม่มีสูตรสำเร็จในการสร้างเคมี ทว่าเอิร์ธกลับมองว่านั่นคือความสนุกของการได้เพื่อนใหม่และเรียนรู้กันตั้งแต่ต้นอีกครั้ง เอิร์ธเชื่อว่าการ “ออกสาว” ไม่ได้เป็นอุปสรรคในวงการบันเทิง เพราะทุกคนสามารถสร้างจุดเด่นและเสน่ห์จากความ unique ของตัวเองได้ “ถ้าเราพยายามเป็นแบบที่คนอื่นอยากให้เป็น เราก็เป็นได้แค่เบอร์สองหรือสาม แต่ถ้าเราเป็นตัวเอง เราจะเป็นเบอร์หนึ่งในทางของเรา” เอิร์ธยังมองว่า Boy’s Love Girl’s Love จะเติบโตไปได้ไกลกว่านี้ และสิ่งสำคัญคือเอิร์ธอยากให้ตัวซีรีส์มีการเล่าเรื่องที่สะท้อนความเป็นมนุษย์มากกว่ามุมโรแมนติก และอยากให้ซีรีส์เหล่านี้ถูกมองว่าเป็นซีรีส์สำหรับทุกคน ไม่ได้จำกัดด้วยเรื่องเพศ“ไม่มีใครทำร้ายเราได้เจ็บเท่าเราทำร้ายตัวเอง” เอิร์ธเคยไม่ชอบตัวเอง จนเคยคิดว่าถ้าเราเป็นผู้ชายแท้ ๆ ทุกอย่างคงจะจบ เอิร์ธพยายามจัดการความคิดนั้นมันก็อาจมีคิดบางแต่เอิร์ธยึดจุดยืนของตัวเอง การที่เราไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะโดนด่าหรือเจอดราม่า เอิร์ธก็ยังมีความเป็นนักสู้ (fighter) และคิดว่าเราต้องเปลี่ยน mindset ของตัวเองก่อน ต้องมั่นใจ เชื่อมั่น และการที่เราเป็นแบบนี้มันจะต้องมีที่ที่เป็นพื้นที่ของเรา ความรักของเอิร์ธ COOHEART เหมือนการผจญภัยเอิร์ธขอบคุณแฟนเก่าทุกคนที่ทำให้เอิร์ธเติบโตเป็นตัวเองในวันนี้ ถ้าวันหนึ่งทำดีที่สุดแล้วแต่ไม่ไหว เอิร์ธก็จะเลือกเดินออกมาเอง และไม่ยึดติดกับเงื่อนไขในความสัมพันธ์ ถึงแม้บางคนจะผิดพลาด แต่เอิร์ธพร้อมให้อภัยและโอกาสเสมอ หากสุดท้ายแล้วมันไม่ดีขึ้นจนมองอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ก็ถึงเวลาที่ต้องจบ“เอิร์ธมองว่าตัวเองเป็นคนคลั่งรัก แต่ก็รักตัวเองมากกว่า” บทเรียนจากรักครั้งล่าสุดทำให้เอิร์ธเลือกที่จะไม่ผูกตัวเองกับคนรักอีกต่อไป เรารักกันได้โดยไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ต่างฝ่ายต่างมีพื้นที่ส่วนตัว แต่รู้ว่ามีกันและกัน แค่นี้ก็เพียงพอ สำหรับคนที่ไม่กล้าแต่งตัวเป็นตัวเอง เอิร์ธอยากให้ลองเริ่มปรับทีละนิด พร้อมปรับ mindset ว่า ถ้าไม่เริ่มวันนี้แล้วจะเริ่มตอนไหน? ชีวิตมันสั้น เราไม่รู้จะจากไปวันไหน ลองสำรวจตัวเองว่าชอบแบบไหน ถึงบางทีอาจไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่ถ้าเราแต่งในแบบที่อยากแต่ง ส่องกระจกแล้วแฮปปี้ แค่นั้นก็พอแล้ว ในวันที่เอิร์ธท้อ “คุณแม่” คือพลังงานสำคัญ เหมือน power bank ที่คอยชาร์จพลัง ยิ่งตอนนี้คุณแม่ยอมรับเอิร์ธอย่างเต็มที่ ทุกอย่างก็ดีขึ้นมาก เมื่อก่อนเอิร์ธกลัวว่าจะทำให้คุณแม่ผิดหวัง ถึงแม้คุณแม่จะรู้มาตลอดว่าเอิร์ธเป็นอะไร แต่ก็ยังห่วงอยู่ เอิร์ธเลยพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ และตอนนี้มั่นใจแล้วว่า“บนโลกนี้ นอกจากเอิร์ธเองที่รักตัวเอง ก็มีคุณแม่ที่รักเอิร์ธที่สุดในโลก”ถ้าสามารถบอกอะไรกับตัวเองในอดีตได้เอิร์ธอยากบอกกับตัวเองว่า“Keep going on”ไม่ต้องเสียดายอะไร ทำในสิ่งที่อยากทำ เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว ต่อให้ผิดพลาดก็เป็นบทเรียนที่มีค่าเสมอดูคลิปเต็มได้ที่ Atime Do Deeจัดทำโดย พิชชาภรณ์ ผาสุขดีขอบคุณภาพจาก IG : cooheart

PR News

“Beach Boys Concert 2025" รวมบอยสมบัติล้ำค่า ฟินหาดแตก! 8 ชม.เต็ม

24 พ.ย. 2025

“Beach Boys Concert 2025" รวมบอยสมบัติล้ำค่า ฟินหาดแตก! 8 ชม.เต็ม

ฟินฉ่ำรับลมหนาวเติมฟินยาวเต็มอิ่มกว่า 8 ชม. กันไปแล้วสำหรับ มหกรรมคอนเสิร์ตฟินริมทะเลที่กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง “Beach Boys Concert 2025" (บีช บอย คอนเสิร์ต 2025) ที่ Atimeshowbiz ผู้ผลิตคอนเสิร์ตเบอร์ต้นของเมืองไทย ชวนทุกด้อมมาหวีดให้ตัวแตกเปลี่ยนเสียงคลื่นให้เป็นเสียงกรี๊ดกับปรากฏการณ์ความฟินริมทะเล ด้วยไลน์อัพที่สุดของการรวม BOYS "สมบัติของชาติ" สาดความมันให้ใจละลาย มัดรวมไว้บนเวทีเดียวกัน อย่าง JEFF SATUR (เจฟ ซาเตอร์) / POLYCAT (โพลี่แคท) / FELLOW FELLOW (เฟลโล่ เฟลโล่) / NO ONE ELSE (โน วัน เอลส์) / NUNEW (นุนิว) / ATLAS (แอทลาส) / PROXIE (พร็อกซี่) /LYKN (ไลแค่น) / DICE (ไดซ์) / และ JAMES TEETEE POR TUTOR YIM จากวง DEXX (เจมส์ – ตี๋ตี๋ – ป๋อ –ติวเตอร์ - ยิม จากวง เด็กซ์ ) เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ SEA SAND SUN HUAHIN RESORT งานนี้รวมพลเหล่า FC ที่แต่งตัวจัดเต็มตามธีมเดรสโค้ดสีขาวมาต่อแถวรอเข้างานเพื่อไปจับจองที่นั่งกันเต็มพื้นที่ จนเรียกว่าชายหาดแคบไปถนัดตา โดยมี ดีเจ เคเบิ้ล และ ดีเจ โซเซฟ จากคลื่น EFM94 บ้าน ATIME มารับหน้าที่ต้อนรับและนำทีมทุกคนไปร่วมสนุกกับบูธกิจกรรมต่างๆภายในงาน ก่อนออกสตาร์ทแบบวอร์มๆ ด้วยวงดนตรีบอยเจ้าของฉายาเจ้าพ่อแนวเพลงรักชื่อเพลงยาวที่สุดอย่าง NO ONE ELSE ที่จัดเพลงฮิตติดหูอย่าง “ต่อจากนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอเท่านั้น”, “เธอคือกาแฟในตอนเช้า” , “แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน” มาเสิร์ฟให้ใจฟู ปูบรรยากาศยามเย็นให้ชิลสบาย ต่อด้วยบอยกรุ๊ป Gen Z วง “DICE” ที่มาครั้งนี้แจกความสดใสแถมพลังความสนุกแบบปลุกหาดด้วยเซ็ทเพลงป็อปติดหูอย่าง “Billionaire” ซิงเกิ้ลล่าสุด และ “เชฟบ๊ะ” ที่งัดสะโพกมาสะบัดซะจน FC ที่มาเกาะขอบเวทีแทบใจละลายเอ็นดูไปกับความน่ารัก เพิ่มดีกรีความความร้อนแรงของเวทีให้ไฟลุกกับศิลปินบอยสมบัติล้ำค่าที่บรรดาแฟนคลับไทยและอินเตอร์ต่างรอคอย “JEFF SATUR” ที่ไม่เคยทำให้แฟนๆผิดหวังกับความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์พลังเสียงร้องที่ปลุกทุกโสตประสาท ด้วยเพลงฮิตติดหูอย่าง “ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง” , “เหมือนวิวาห์” แถมซีนเด็ดในเพลง “มือปืน” ที่หนุ่มเจฟแอบโชว์ให้เห็นกล้ามท้องจนสาวๆกรี๊ตจนใจสั่น และตามด้วยซิงเกิ้ลล่าสุดอย่างเพลง “ของขวัญปีใหม่” สลับฟิลมาสนุกกับ “FELLOW FELLOW” วงดนตรีเพลงรักสุดอบอุ่นเสียงละมุน แนวเพลง ป็อป อะคูสติก ที่มีเพลงฮิตติดชาร์จในตำนานอย่าง “เมษา(Maysa)” , “ดาวหางฮัลเลย์” และไม่พลาดที่จะหยิบซิงเกิ้ลล่าสุด “Milky way” มาฝากให้หวานซึ้งไปด้วยกัน ไปต่อกับ “DEXX” บอยกรุ๊ป จากค่าย DMD Music ที่มาขยับดีกรีความเดือดของเวทีนี้กับซิงเกิ้ลแรก “Clang Clang” แถมต่อกับซิงเกิ้ลล่าสุด “อกหักเป็นเพื่อนเธอ (Beside You)” ได้แบบน่ารักสดใสตกแฟนคลับกลับบ้านไปเพียบ กรี๊ดต่อไม่ต้องพักกับ “NU NEW” ที่ก้าวขาขึ้นเวทีมาในชุดดีเทลน่ารักเกินเบอร์ สมคำ“บอยสมบัติแห่งชาติ”เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับระดับนานาชาติ ที่ขึ้นมาจัดเต็มอารมณ์กับเซ็ตเพลงฮิตรัวๆ อย่าง “เอ๊ะ” , “ขึ้นใจ” ปิดท้ายด้วย “รักแท้” ที่แอบมีหนุ่มหน้าคุ้นเคยอย่าง “ซี พฤกษ์” มายืนดูจนนุนิวออกปากว่า “วันนี้มีกำลังใจละ” เรียกว่าคอนนี้หวานเกินไปมากจริงๆ ไปต่อกับอีกหนึ่งตัวท็อป 7 หนุ่ม “ATLAS” เล่นเอาคนดูลุกขึ้นขยับแข้งขากรี๊ดกันตั่งแต่เริ่มกับเพลง “Mayday Mayday” , “เป๊ะ” , “Boyfriend” , “โลเล” ที่บอกเลยว่าเป๊ะทั้งร้องทั้งเต้นเรียกเสียงกรี๊ดได้แน่นสนั่นเวทีจริงๆ จากนั้นไปต่อแบบไม่ต้องพัก กับ “PROXIE” ที่จัดเพลย์ลิสมาเปิดตี้ปลุกมูดความสนุกแบบไม่ยั้ง จัดเต็มตั้งแต่เริ่มด้วยเซ็ตเพลงติดแท่นท็อปชาร์ตอย่าง “สถานะเบลอ”(BLURR) , “คนไม่คุย” , “ อ๊อดแอด” และ “Bad Shawty” บิ้วคนดูให้ฟินอินกับบรรยากาศค่ำคืนที่อัพดีกรีความสนุกหนักขึ้นไปอีก ถึงคิว “LYKN” ที่แค่ก้าวขาขึ้นเวทีมาก็เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวๆจนหาดแทบแตก วาดลวดลายเอวหวานท็อปฟอร์มทั้งร้องทั้งเต้นเอ็นเตอร์เทนคนดูฉ่ำจนแทบเมาเอว เรียกว่าตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายขนมาแต่เพลงฮิตล้วนๆ อย่างซิงเกิ้ลล่าสุด “ชอบก็บอก” (Feel Like Me ) , โฮ่ง” , “ฉ่ำ” , “หูดับ” จัดหนักไปแบบรัวๆเล่นเอาแฟนๆ ส่งเสียงกรี๊ดกันสุดเสียง ปิดท้ายกับ “POLYCAT” วงดนตรีกลิ่นอายยุค 80’s มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจนที่สุด เตรียมเซ็ตเพลงฮิตมาให้แบบนอนสต็อป อย่าง “อาวรณ์” , “เวลาเธอยิ้ม” , “มันเป็นใคร” รันยาวให้ทุกคนร้องและโบกมือตามแบบสมการรอคอย มอบความสุขส่งท้าย สร้างบรรยากาศให้ค่ำคืนนี้อบอุ่นด้วยความสุขความทรงจำเต็มกราฟความฟินเลยทีเดียว

เครือสหพัฒน์ จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดพิเศษ “The Next Live Creator” พร้อมอัปสกิลสายไลฟ์ แชร์ทริคเด็ด กับก้าวแรกสู่การสร้างตัวตนใหม่ เพื่อช่วยสร้างช่องทาง สร้างรายได้ในยุคดิจิทัล

08 ต.ค. 2025

เครือสหพัฒน์ จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดพิเศษ “The Next Live Creator” พร้อมอัปสกิลสายไลฟ์ แชร์ทริคเด็ด กับก้าวแรกสู่การสร้างตัวตนใหม่ เพื่อช่วยสร้างช่องทาง สร้างรายได้ในยุคดิจิทัล

กรุงเทพฯ 8 ตุลาคม 2568 - เครือสหพัฒน์ จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดพิเศษ “The Next Live Creator” สร้างตัวตนใหม่ผ่านช่องทางไลฟ์ พร้อมให้ทุกคนได้อัปสกิล ด้วยเทคนิคการขาย การสร้างคอนเทนต์ และเคล็ดลับดันยอดขายยังไงให้ปัง ซึ่งทางเครือสหพัฒน์มีความตั้งใจจะสร้างคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังช่วยเปิดโอกาส สร้างอาชีพใหม่ให้กับทุกคนได้มีรายได้เสริมในยุคดิจิทัลนี้โดยกิจกรรมในช่วงเช้ามีคุณฐาปกรณ์ ก้อนทองคำ TIKTOK Expert มาแชร์เทคนิคการปั้นช่อง รวมทั้งการสร้างคลิปอย่างไรให้เป็นไวรัล เพื่อให้ได้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมคนเล่น Tiktokและเข้าถึงคนดูมากที่สุด และสำหรับช่วงบ่ายครูลูกแก้ว – วริศรา บำรุงเวศ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและการแสดง ที่มาสอนภายใต้หลักสูตรครูเงาะ ในการแชร์ถึงเทคนิค การเพิ่มพลังในการนำเสนอ / การสร้างตัวตนให้คนจดจำ และเทคนิคการนำ pain pleasure สิ่งที่ลูกค้าต้องการและอยากได้ มาถ่ายทอดให้กับผู้ร่วมเวิร์คช้อปได้นำไปปรับใช้ในช่องทางการขายของตัวเองและพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วมเวิร์คช้อปนอกจากได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ยังได้รับสินค้าตัวอย่างจากเครือสหพัฒน์ อาทิ Wacoal, LION, มาม่า, BSC, Ora Pet Care และอีกมากมาย เพื่อนำไปโชว์สกิลพร้อมลงสนามแข่งขัน ทั้งจากการไลฟ์ / ปักตะกร้า เพื่อรับ Affiliate และชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 95,000 บาท*จากการขายสินค้าแค่มีช่องทางบนแพลตฟอร์ม Tiktok โดยไม่ต้องสต้อคสินค้า ไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง เพราะทางแบรนด์มีระบบหลังบ้านครบครัน ซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้ให้ผู้ต้องการมีรายได้เสริมอีกด้วย และสำหรับใครอยากร่วมเป็น The Next Live Creator สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Wacoal Thailand เพราะสุดยอดนักไลฟ์หน้าใหม่อาจเป็นคุณ!

ทีมชาติไทยสุดปัง! คว้า 17 รางวัลจากเวที Asian Sport Stacking Championships 2025 ณ เมืองต้าเหลียน ประเทศจีน

03 พ.ย. 2025

ทีมชาติไทยสุดปัง! คว้า 17 รางวัลจากเวที Asian Sport Stacking Championships 2025 ณ เมืองต้าเหลียน ประเทศจีน

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ทัพ นักกีฬา สแต็ค ทีมชาติไทย จำนวน 18 ชีวิต จาก นักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือก จาก ทั่วประเทศ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ สังกัด WSSA Thailand พร้อมนำทีมโดย โค้ชสแต๊คทีมชาติไทย นำทีมโดย โค้ชวริษฐ์ แจ้งใจ, โค้ชอำไพวรรณ ดวงแก้วกาศ, โค้ชเกษมพัฒน์ อาณัฐฐ์พงศ์พันธุ์ และผู้ช่วยโค้ชกิตติ ทรงวศิน ได้เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน Asian Sport Stacking Championships ประจำปี 2025 ณ เมืองต้าเหลียน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากได้ผ่านการฝึกซ้อมทั้ง online และ Onsite ตลอดทั้งมีการเก็บตัวอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 4วัน 3 คืน ณ สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันจริงในวันที่ 24-26 ตุลาคม 2025 ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ มีนักกีฬาสแต็คชาย-หญิงเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 426 ชีวิต จาก 11 ประเทศสมาชิก อาทิ เช่น ประเทศไทย, จีน, สิงคโปร์, มาเลเซีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลียเป็นต้น การเดินทางในครั้งนี้ได้องค์กรภาคเอกชน อาทิเช่น แบรนด์เสื้อกีฬาชั้นนำ Next design, ขนมบราวนี่กรอบ Bruno และทีมผู้ปกครองของนักกีฬาสแต็ค ร่วมกันสนับสนุนการเดินทางของนักกีฬาทั้งหมดในครั้งนี้ การแข่งขันวันที่ 1 เป็นการแข่งขันเป็นพิธีเปิดการแข่งขัน และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของทัพนักกีฬาจากประเทศสมาชิกทั้ง 11 ประเทศ โดยในวันนี้เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกของประเภท Team Time 363 relay ของทุกรุ่นอายุ ซึ่งทัพนักกีฬาไทยก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมและผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันที่ 2 ของการแข่งขันสำหรับการแข่งขันประเภท Head to Head 363 รอบชิงชนะเลิศเช่นกันในวันนี้ ทีมน้องเล็กอย่าง Silver fox รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ก็สามารถคว้ารางวัลเหรียญทองแดงมาครอบครองได้อย่างยอดเยี่ยม นำทีมโดย เด็กชายชิติพัทธ์ ทรงวศิน, เด็กหญิงพิชญธิดา สมศรี, เด็กชายธนภัทร กองชุ่ม, เด็กชายธนากร ตั้งทวีกิจ, เด็กชายณัฐรัชต์ คำซาว และเด็กหญิงฐิตาภัทร์ กิจดี ด้วยสถิติเวลา 15.646 วินาทีทีมรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี Cougar นำทีมโดยเด็กชายภคิน และกัณตภณ สิริโชติพล, เด็กชายปกรวิชญ์ และเด็กหญิงพิทย์รดา วศินพงศ์วณิช, เด็กชายณัชชนม์ ลาภรัตนทอง และนายภพธร จันทร์ทอง แม้จะไม่ได้ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็สามารถทำเวลาได้อย่างดีเยี่ยมอยู่ที่ 16.515 วินาที รั้งอันดับที่ 7 จาก 9 ทีมส่วนทีมพี่ใหญ่ Ambe Axe นำโดยเด็กชาย ณัชชานนท์ เนียมเส็ง นายภูมิพัฒน์ จีรังกูล, เด็กชายวรุฒ งามศิริจิตต์, นายอภิสรรค์ โอภาษณ์วีระกุล, เด็กชายกฤษฎา ทันปรีชา และ นายพสุธา เปาอินทร์ ก็ไม่น้อยหน้า คว้าเหรียญทองแดงมาครอบครองได้เช่นกันที่สถิติเวลา 14.707 วินาทีการแข่งขันในวันที่ 2 เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกประเภทเดี่ยว และรอบชิงชนะเลิศประเภทคู่, childparents และ ประเภททีมซึ่งในประเภทเดี่ยว แม้การแข่งขันที่ประเทศจีนในครั้งนี้ นักกีฬาสแต็ค จะต้องต่อสู้ ตลอดการแข่งขัน ภายใต้สภาพอากาศหนาวเย็น ถึง 8°C แต่นักกีฬาสแต็คทีมชาติไทยทุกรุ่นอายุก็ยังสามารถผ่านเข้าสู่รอบชองชนะเลิศได้เกือบครบทุกคนส่วนประเภทคู่นั้น child parents double cycle นักกีฬาคู่ผู้ปกครองคู่เดียวของประเทศไทย ซึ่งคือ เด็กชายธนากร และคุณแม่เบญญาภา ตั้งทวีกิจ ซึ่งจบการแข่งขันได้ด้วยเวลา 11.170 วินาที อยู่ที่ลำดับที่ 12 จาก 38 คู่ตามมาด้วย คู่รุ่นอายุไม่เกิน 12ปี เด็กชาย ธนากร ตั้งทวีกิจ และเด็กชายชิติพัทธ์ ทรงวศิน คว้าเหรียญเงิน ที่ 2 ของเอเชียจากนักกีฬาที่ลงแข่งขันประเภทคู่จำนวนทั้งสิ้น 40คู่ ไปด้วยสถิติเวลา 7.695วินาที ซึ่งพลาดเหรียญทองไปเพียงแค่ 0.149 วินาทีเท่านั้น ส่วนเด็กหญิงฐิตาภัทร์ กิจดี และเด็กหญิงพิชญธิดา สมศรี ได้เหรียญทองแดงลำดับที่ 3 ของเอเชีย ด้วยสถิติเวลา 9.036 วินาทีทีมนักกีฬารุ่นอายุไม่เกิน 16ปีทีม Amber Axe หนึ่งเดียวของทีมจากประเทศไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงประเภท Team time 363 relay ได้สำเร็จ ด้วยสถิติเวลา 14.891 วินาที วันสุดท้ายของการแข่งขัน ในการแข่งขันประเภทเดี่ยวเด็กชาย ชิติพัทธ์ ทรงวศิน นักกีฬาสแต็ครุ่นอายุ 9 ปีชาย จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จังหวัดชลบุรี 1 เดียวของประเทศไทยที่สามารถ คว้า ตำแหน่งแชมป์เอเชียมาครอบคองได้สำเร็จด้วย รางวัล 2 เหรียญทอง จากท่า 363 และ cycle และเหรียญทองแดงจากท่า 333 โดยมีสถิติเวลารวม 3 ท่า เป็นอันดับที่ 1 ที่สถิติเวลา 10.842 วินาทีในวันสุดท้ายนี้ มีการแข่งขันประเภททีม Head to Head cycle โดยที่ทีมน้องเด็ก 12ปี Silver fox ของเรา แม้จะจิ๋ว แต่แจ๋ว สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแบบรวดเดียวจบ โดยไร้ความผิดพลาด และในรอบชิงชนะเลิศกับทีมสุดแกร่งจากฮ่องกง ก็ยังสามารถคว้าชัยชนะ ตำแหน่งแชมป์เอเชียประจำปี 2025 มาฝากชาวไทยได้ 2 ใน 3 set รวด ทำให้เสียงเชียร์ Team Thailand กระหึ่มกึกก้องทั่วสนามแข่งขันเป็นรายการสุดท้ายที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ตามคอนเซป “จิ๋วแต่แจ๋ว เล็กพริกขี้หนู” ของจริง โดยสรุปการแข่งขันในรายการ 2025 Asian Sport Stacking Championships ในครั้งนี้ ประเทศไทยขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 7 ของตาราง โดยมีชนิดของเหรียญรางวัลที่ได้ตามประเภทของการแข่งขันอยู่ที่ 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง 1 ถ้วยรางวัล all around แชมป์เอเชียรุ่นอ่ยุ 9 ปีชาย รวมทั้งสิ้น 17 เหรียญรางวัลจากสนามนี้ ขอแสดงความชื่นชมในความพยายาม และขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของเยาวชนนักกีฬาสแต็คทีมชาติไทยในครั้งนี้ด้วยขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมเรียงแก้ว และกิจกรรมนันทนาการ โดย World Sport Stacking Association (Thailand)

พ่อพ่อนิว ฐิติภูมิ ควง “โพก้าซัง” มาสคอตขวัญใจมหาชน ตะลุยงานแฟร์สายบุญแห่งปี สาดความน่ารักพร้อมส่งต่อพลังแห่งการให้...ไม่สิ้นสุด ในงานบุญมาร์เก็ต ปี 2568

31 ต.ค. 2025

พ่อพ่อนิว ฐิติภูมิ ควง “โพก้าซัง” มาสคอตขวัญใจมหาชน ตะลุยงานแฟร์สายบุญแห่งปี สาดความน่ารักพร้อมส่งต่อพลังแห่งการให้...ไม่สิ้นสุด ในงานบุญมาร์เก็ต ปี 2568

นิว - ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ หนุ่มหล่อสุดฮอตจาก GMM จูงมือ “โพก้าซัง” มาสคอตสุดคิวท์ที่ใครเห็นเป็นต้องใจละลายไปกับความน่ารักพลังล้น สมกับเป็นลูกครึ่งหมีขาว-วาฬ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “การให้” ที่ยิ่งใหญ่ ในงาน “บุญมาร์เก็ต”ประจำปี 2568งานแฟร์การกุศลที่ทุกคนรอคอย! ซึ่งปีนี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ ยังคงเล่นใหญ่เหมือนเคย ชวนทุกคนมาอิ่มท้อง อิ่มใจ และอิ่มบุญตลอด 7 วันเต็ม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “งานแฟร์สายบุญที่ท้าให้มาลอง (ของ) ดี” ยกขบวนร้านดัง Emily's เส้นหมี่ไก่ฉีก, ลุงใจไข่ปิ้ง, ชาไทย Fighting, Bonnana house, Doughnut Library, Sweet Boxes, A Little Catz Sweet Savory, HokiHoki, Kleansy พร้อมกิจกรรมสาระความรู้ด้านสุขภาพ และความบันเทิงมากมายมาไว้ในงานเดียว โดยรายได้จากการจัดงานจะนำไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ของโรงพยาบาลรามาธิบดี จัดขึ้นระหว่าง 30 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10:00 - 22:00 น. ณ M SPACE ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิทั้งนี้บรรยากาศบนเวทีเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ในโอกาสนี้ นิวและโพก้าซัง ได้เป็นตัวแทนในการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดย นิว ได้เผยถึงความรู้สึกที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และการศึกษา เช่น การมอบทุนการศึกษา การจัดตั้งโรงเรียนทางภาคเหนือ รวมถึงการช่วยเหลือโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นและจับต้องได้จริง ที่สำคัญประโยชน์ทั้งหมดยังส่งต่อไปถึงประชาชนถ้วนหน้าสำหรับการมาร่วมงานบุญมาร์เก็ต ปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สอง นิวและโพก้าซัง ถือเป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่ ที่มาร่วมแสดงพลังความดีส่งต่อการให้…ไม่สิ้นสุด กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ นิวกล่าวว่า“ผมรู้สึกดีใจและเต็มใจอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิรามาธิบดีฯ อีกครั้ง หลังจากเคยได้มีโอกาสร่วมงานกับทางมูลนิธิเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ส่วนตัวผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่อง การแพทย์และการศึกษาและมองว่าโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นหนึ่งในศูนย์รวมของประชาชนชาวไทยเวลาที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ โดยเฉพาะในการร่วมเป็นกระบอกเสียง เพื่อมาบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ และเชิญชวนทุกคนมาร่วมทำบุญด้วยกัน” ด้านโพก้าซัง ที่ได้มีโอกาสมาร่วมงาน “'บุญมาร์เก็ต' เป็นครั้งแรก หลังจากได้มีโอกาสตะลุยชมบูธต่างๆ ทั้งงาน ก็อดที่จะตื่นเต้นและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในงานแฟร์ที่โดนใจคนทุกเพศทุกวัยไม่ได้ โดยเฉพาะบูธของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ที่โพกาซังกดไลค์ เทใจให้รัวๆ เพราะนอกจากจะได้ของน่ารัก ๆ ติดมือกลับไปบ้านมากมาย ยังได้ร่วมทำบุญ ส่งต่อการให้...ไม่สิ้นสุด และอยากเชิญชวนอูนย่า อูนยาย และทุก ๆ คนมาร่วมทำบุญกันเยอะ ๆ อีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน คือ โมเมนต์ใจฟูหลังจากจบกิจกรรมบนเวที โดยพ่อพ่อนิวและโพกาซัง แท็กทีมกันมาที่บูธมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อมาสวมบทพ่อค้าสุดคิวท์ ช่วยกันจำหน่ายเสื้อของมูลนิธิรามาธิบดีฯ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น มีเหล่าแฟนคลับตามมาอุดหนุนและให้กำลังใจจนแน่นบูธ สมกับเป็นงานแฟร์สายบุญ ที่ทำให้ทุคนใจฟูไปกับพลังของการให้...ไม่สิ้นสุด ถ้วนหน้า งานนี้ ก่อนโบกมือลาแฟนๆ พ่อพ่อนิว ยังถือโอกาสป้ายยาคนที่กำลังมองหากิจกรรมดี ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “การให้” ที่ยิ่งใหญ่ ในงาน“บุญมาร์เก็ต” ประจำปี 2568 ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 พฤศจิกายน 2568 ณ M SPACE ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ติดตามข่าวสารมูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ที่ FB • IG • LINE @RAMAFOUNDATION“คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด”

BINANCE TH ปล่อยคาราวานสีเหลือง ‘ON THE ROAD’ บุกกรุงเทพฯ ชวน Gen Z เปลี่ยนเรื่อง ‘Money’ ให้เป็นเรื่อง ‘Trendy’ ผ่านไลฟ์สไตล์สุดชิค

08 ก.ย. 2025

BINANCE TH ปล่อยคาราวานสีเหลือง ‘ON THE ROAD’ บุกกรุงเทพฯ ชวน Gen Z เปลี่ยนเรื่อง ‘Money’ ให้เป็นเรื่อง ‘Trendy’ ผ่านไลฟ์สไตล์สุดชิค

กรุงเทพฯ ประเทศไทย [6 กันยายน 2568] - BINANCE TH by Gulf Binance ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สร้าง Destination เจาะกลุ่ม Digital Native ผ่านกิจกรรม ‘BINANCE TH ON THE ROAD’ ที่นำรถเทรลเลอร์สีเหลืองวิ่งไปส่งความรู้สินทรัพย์ดิจิทัลถึงคนรุ่นใหม่ตามมหาวิทยาลัยและแหล่งแฮงเอาท์สุดฮิป สานต่อความสำเร็จจากงาน "Street of the Future" ที่สยามสแควร์ต้นปี โดยกิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นเปลี่ยนการลงทุนให้เป็น "Money Life Experience" ที่ทุกคนออกแบบได้เอง ตั้งเป้าเติมความรู้ให้คนไทยกว่า 10,000 คนข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต) เดือนกรกฎาคม 2568 ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 2.7 ล้านบัญชี โดยตลาดมีมูลค่าสูงถึง 99.6 พันล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่เติบโตมาพร้อมยุคดิจิทัล และมีความพร้อมปรับตัวเรียนรู้กับสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนใครเพื่อน สอดคล้องกับผลวิจัยหัวข้อ Gen Z Finance Survey: เจาะพฤติกรรมการเงินคนรุ่นใหม่ของธนาคารกรุงศรี ที่ระบุว่า 7 ใน 10 ของ Gen Z เก็บเงินหรือลงทุนทุกเดือน ทว่าความรู้ให้เท่าทันโลกเทคโนโลยีของการลงทุนยังเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่ยังต้องหมั่นเติมอยู่เสมอ และ BINANCE TH ตระหนักและพร้อมเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันนางสาวแทนรัก เชียงทอง, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ ไบแนนซ์ (BINANCE TH) กล่าวว่า "ON THE ROAD เป็นโปรเจกต์การศึกษาแบบ Proactive ที่เราไม่รอให้คนมาหาเรา แต่เราไปหาเอง ผ่านรถเทรลเลอร์สีเหลืองที่วิ่งไปเสิร์ฟความรู้และเทรนด์การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบถึงที่ สำหรับผลตอบรับจาก 2 ทริปแรกที่ ม.ธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) และ ม.เกษตรศาสตร์ เกินคาดมาก มีน้อง ๆ นักศึกษาสนใจร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 ราย สิ่งนี้ตอกย้ำว่าเรื่องคริปโทฯ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และกำลังอยู่ในความสนใจในคนรุ่นใหม่"โลกการเงินยุคใหม่วันนี้หลอมรวมเข้าไปอยู่ในทุกพื้นที่ที่ผู้คนใช้ชีวิต ถนนทรงวาดเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างคอมมูนิตี้การเงินให้เติบโตไปพร้อมกับการผลักดัน Soft Power ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เชื่อมต่อการท่องเที่ยวกับโลกสินทรัพย์ดิจิทัลได้ลงตัว สอดรับกับโครงการ Tourist DigiPay ที่เป็นแนวคิดใหม่ และสามารถผสาน Experience กับ Education ที่ทุกคนจะได้ทั้งความสนุกและความรู้ สอดรับเทรนด์ Digital Nomad หรือ Workation ที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ แต่เพิ่มมิติการเรียนรู้เรื่องการเงินเข้าไป เปลี่ยนการลงทุนให้เป็นการวางแผนไลฟ์สไตล์แบบที่ตัวเองต้องการ" นางสาวแทนรัก อธิบายเพิ่มเติมงานนี้ BINANCE TH ON THE ROAD เตรียมไปพบเจน Digital Native ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จัดเต็มกับ On-Event Auditorium หิ้ว Mini-Class บทเรียนทางการเงินในโลกความเป็นจริง จาก Money Guru ที่ทุกคนต้องเริ่มคิดและวางแผนกันแล้วตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมตอบข้อสงสัยให้กับเหล่านักศึกษานอกจากนี้ อีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ คือการสร้าง Community Experience ฉายภาพและแบ่งปันประสบการณ์วิถีโลกการเงินดิจิทัลที่ถนนทรงวาด ต้อนรับทุกคนเข้าสู่โลกการเงินที่เสถียร ปลอดภัย และคล่องตัวยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น Gen Z นักชิม นักช้อป สายเที่ยว สายคอนเทนท์ หรือใครที่อยากเรียนรู้ประสบการณ์โลกคริปโต ด้วยบูธกิจกรรม เกมส์ที่ทำให้เข้าใจโลกบล็อกเชนง่าย ๆ ในบรรยากาศที่เป็นมิตรกับมือใหม่จากความเคลื่อนไหวเรื่อง Crypto Tourism เป็นอีกหนึ่งสัญญาณสะท้อนว่าคริปโตฯ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และทรงวาดที่เป็นอีกหนึ่ง destination ของนักท่องเที่ยวและคนรุ่นใหม่ การเปิดกว้างและเตรียมความพร้อมสำหรับเทรนด์การใช้งานที่กำลังมาถึงนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหมายถึงโอกาสของธุรกิจและผู้ประกอบการ และพลังการใช้จ่ายที่มากขึ้น จากสถิติของ Travala x Binance Pay เมื่อปี 2024 เผยว่า นักท่องเที่ยวที่ใช้คริปโตยังใช้จ่ายสูงกว่าผู้ที่ใช้เงินทั่วไปถึง 2.5 เท่าสถานีต่อไป จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยกรุงเทพเส้นทางสร้าง Crypto-Friendly Spaces ถัดจากทรงวาด รถเทรลเลอร์สีเหลืองจะไปต่อที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (8 ก.ย.) และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (10 ก.ย.) พร้อมแผนขยายการเดินทางไปยังชุมชนคน Gen Z อื่น ๆ ทั่วประเทศ“Decentralized Finance จะไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่จะเป็นแนวทางสำหรับการวางแผนการเงิน โดยการลงทุนจะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เหมือนการใช้โซเชียลมีเดียหรือแอปต่าง ๆ ในปัจจุบัน ที่สำคัญคือ BINANCE TH ทำความเข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Insights) เกี่ยวกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเงินของผู้บริโภค เพราะนั่นคือความสำเร็จที่แท้จริง เพราะเราไม่ได้ต้องการให้คนมาเทรดเพื่อรวยเร็ว แต่เราอยากให้คนเข้าใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลคือส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอการลงทุนในอนาคต" คุณแทนรักกล่าวสรุปนอกเหนือจากนโยบายรัฐบาลและการลงทุนขนาดใหญ่แล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทยยังต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของภาคประชาชนเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อาจเริ่มจากรถเทรลเลอร์สีเหลืองคันหนึ่งจอดที่หัวมุมถนน ที่พาผู้คนไปสู่อนาคตของโลกการเงินและการลงทุนคำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาข้อมูลและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ยูนิโคล่ผสมผสานความโมเดิร์นสไตล์ฝรั่งเศสเข้ากับเสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน ผ่านคอลเลคชัน UNIQLO and COMPTOIR DES COTONNIERS Fall/Winter 2025

28 ส.ค. 2025

ยูนิโคล่ผสมผสานความโมเดิร์นสไตล์ฝรั่งเศสเข้ากับเสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน ผ่านคอลเลคชัน UNIQLO and COMPTOIR DES COTONNIERS Fall/Winter 2025

คอลเลคชัน UNIQLO and COMPTOIR DES COTONNIERS Fall/Winter 2025วางจำหน่ายพร้อมกันวันที่ 12 กันยายนนี้26 สิงหาคม 2568, กรุงเทพฯ – ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก เปิดตัวคอลเลคชัน UNIQLO and COMPTOIR DES COTONNIERS ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 คอลเลคชันที่มีรายละเอียดของการออกแบบเสื้อผ้าสไตล์ฝรั่งเศสสุดชิค โดยคอลเลคชัน UNIQLO and COMPTOIR DES COTONNIERS พร้อมนำเสนอไอเทมต่างๆ ที่สร้างสรรค์จากเนื้อผ้าคุณภาพสูงผสานกับโทนสีสันที่สวยงามให้ทุกคนได้ช้อปพร้อมกันทั้งคอลเลคชันในวันที่ 12 กันยายน เป็นต้นไปไอเทมทรงโมเดิร์นในโทนสีสันสดใสคอลเลคชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 ประกอบด้วยไอเทม 7 ชิ้นที่โดดเด่นด้วยทรงบ็อกซี่ และการแต่งตัวแบบเข้าเซ็ต ไอเทมที่ทำจากผ้าลูกฟูก เช่น กางเกงทรงโค้ง, เสื้อแจ็คเก็ต และกระโปรงสั้น เผยให้เห็นถึงเสน่ห์สไตล์แคชชวลชิคแบบฝรั่งเศสซึ่ง 3 ไอเทมนี้ยังสามารถจับคู่เป็นชุดเซ็ตได้ด้วย สำหรับไอเทมประเภทผ้าถัก ให้ความสำคัญเรื่องเนื้อผ้าและการออกแบบที่พิถีพิถัน ทรงเสื้อมีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียดที่สวยงาม โดยเสื้อต่างๆ มาในโทนสีกรมท่า สีขาวออฟไวท์ สีแดง สีเขียวเข้ม และสีน้ำตาลช็อกโกแลตที่เข้ากับการแต่งตัวช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้รายละเอียดของคอลเลคชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาววันวางจำหน่าย: วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568สาขาที่ว่างจำหน่าย: ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และพบกับสินค้าครบทั้งคอลเลคชันได้ที่ร้านยูนิโคล่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน เอ็มควอเทียร์ และออนไลน์สโตร์Special website: https://www.uniqlo.com/th/th/women/special-collaboration/uniqlo-and-comptoir-des-cotonniersไลน์อัพไอเทมสำหรับผู้หญิง 7 ไอเทมเสื้อคาร์ดิแกนคอกลม ผ้าวูลผสม 1,290 บาทเสื้อสเวตเตอร์ผ้าคอตตอนถักลายป๊อปคอร์น 790 บาทเสื้อแจ็คเก็ตผ้าลูกฟูก 1,790 บาทเสื้อสเวตเตอร์คอตั้ง ผ้าวูล 1,290 บาทเสื้อโปโลสเวตเตอร์ ผ้าวูลผสม 1,290 บาทกางเกงผ้าลูกฟูก ทรงโค้ง 1,290 บาทกระโปรงสั้นผ้าลูกฟูก 1,290 บาทเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้อย่างลงตัว สร้างลุคการแต่งตัวสไตล์รีแล็กซ์แต่ดูเรียบหรูโดดเด่นด้วยการมิกซ์แอนด์แมตช์ที่หลากหลาย และคงคุณภาพโดยรวมเอาไว้อย่างครบถ้วน สะท้อนถึงดีเอ็นเอของ COMPTOIR DES COTONNIERS ได้อย่างแท้จริง นั่นคือความเป็นผู้หญิงที่ทันสมัยและเปี่ยมด้วยสไตล์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเองอย่างลงตัว