พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูชอบหนุ่มเทสเด็กสยาม แต่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนสาวภูธรธรรมดาๆ ปัดแอปหาคู่ แมตซ์แล้วก็ไม่มั่นใจ แต่งตัวทั้งวันกว่าจะไปเดตกับเขาได้ เฟลสุดเคยโดน Unmatched อยากได้วิธีสร้างความมั่นใจให้สาวภูธรคนนี้หน่อยค่ะ

23 ธ.ค. 2024

หนูชอบหนุ่มเทสเด็กสยาม แต่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนสาวภูธรธรรมดาๆ ปัดแอปหาคู่ แมตซ์แล้วก็ไม่มั่นใจ แต่งตัวทั้งวันกว่าจะไปเดตกับเขาได้ เฟลสุดเคยโดน Unmatched อยากได้วิธีสร้างความมั่นใจให้สาวภูธรคนนี้หน่อยค่ะ

“คุณเบสท์ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [18 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเราเป็นสาวภูธร แต่ชอบหนุ่มเทสสยาม โดย “คุณเบสท์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่มีแฟนมานานแล้ว หนูก็อยากมีแฟนสักที เพื่อนรอบข้าง มีแฟนกันหมดแล้ว เราก็อยากมีบ้าง แต่ด้วยความที่หนูเป็นสาวภูธร ชอบหนุ่มเชิ้ต กางเกงสแล็ค และหนูไม่ค่อยได้เจอใครทั้งเรียน ทั้งทำงานด้วย เจอคนน้อยมากหนูก็เลยไปโหลดแอปพลิเคชันนึงที่เป็นแอปหาคู่ หนูก็เลยไปโหลดมา ซึ่งตัวหนูเป็นคนที่ถ่ายรูปมีเทสนิดนึง แต่หนูไม่มีความมั่นใจ หนูไม่ได้เป็นคนเทสดีขนาดนั้น หนูจะมอมมากเลยบางวัน แต่ในโซเซียลจะแต่งตัวไปถ่ายรูปปกติเหมือนแบบ “เทสที่สร้างกับร่างที่เป็น” หนูเป็นคนที่แบ่งเวลาชัดเจน แล้วเวลาที่หนูทำอะไร หนูไม่มีเวลามานั่งแต่งตัว แต่ละวันขนาดหนูไปเรียน ไปทำงานหนูก็หน้าสด แล้วเวลาหนูไปเดตหนูก็จะไม่มีเวลาเตรียมตัว เพราะเลือกเครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า นานมาก แล้วทีนี้เวลาหนูไปเดต กลับมาหนูจะได้เพื่อนพี่น้อง ไม่ได้แฟนสักคนและยิ่งกว่าทำให้หนูไม่มั่นใจกว่าเดิม คือบางคนเขา Unmatched หนูเลยนะ เวลาที่ไปเดตจะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเลย เป็นคนที่ชวนคุยไม่เก่งแล้วหนูไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่นั่งยิ้ม รอให้ผู้ชายชวนพูดก่อน เลยอยากจะขอคำปรึกษาจากพี่ๆดีเจว่า “หนูไม่มีความมั่นใจ เลยอยากขอความมั่นใจในการเดต” ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” หลังจากที่ได้พูดคุย และได้ดูรูปภาพของคุณเบสท์ ดีเจทั้งสาม ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ไม่ภูธร ออกจะเป็นแนวเด็กศิลปะด้วยซ้ำเธอดูมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง ไม่มอมถือว่าเป็นคนที่จัดจ้านปกติ ให้ตัดเรื่องความภูธรออกไปได้เลย คิดว่าภายนอกไม่เกี่ยว คิดว่าอาจจะต้องหานิสัยคนคุยที่เข้ากัน และประเด็นมันอยู่ตรงที่เราพูดไม่เก่ง ทำให้เราไม่มีเสน่ห์ ไปเดตกันแล้วให้เขาต้องพูดอยู่ฝ่ายเดียวเขาก็เหนื่อยนะ ตอนนี้มันอยู่ที่จังหวะกันเดตแล้วล่ะ คุยอะไรให้เขาเห็นแบบไหน? คิดว่าก็ต้องไปเจอคนที่เขาชอบแบบเรา แล้วต้องดูเรื่องของการพูดคุย ต่อให้เราคุยไม่เก่งมันก็ต้องมีคนที่ชอบเราในแบบที่เราเป็น ลองเป็นตัวของตัวเองดู อย่าท้อมันแค่อาจจะยังไม่เจอ ถ้าคิดรักทางออนไลน์แล้วต้องอดทน แล้วก็อาศัยการนัดเดตในการพัฒนาตัวเองทำให้เราคุยเก่งขึ้น แล้วเวลาไปเดตต้องอยากรู้จักเรื่องของเขาบ้างเรียนรู้ในตัวเขา ใส่ใจเรื่องของเขาให้มากว่าของเรา จะทำให้คุยสนุกกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมคบกับแฟนได้ 18 วัน แพลนจะไปเคาท์ดาวน์ที่ร้านแฟน แต่แฟนบอกหุ้นส่วนที่ร้านเป็นแฟนเก่า พอแฟนเก่ารู้ว่าผมจะไป เค้าไม่ยอม ฝากแฟนมาบอกว่าถ้าผมไปจะทำให้ร้านสะดุด เขาไม่โอเค ผมก็ให้แฟนไปคุยอีกรอบ เค้าก็บอกว่ามาได้ แต่แฟนผมห้ามมาโต๊ะผม ผมงงเลยว่าจะทำยังไงต่อ?

20 ธ.ค. 2024

ผมคบกับแฟนได้ 18 วัน แพลนจะไปเคาท์ดาวน์ที่ร้านแฟน แต่แฟนบอกหุ้นส่วนที่ร้านเป็นแฟนเก่า พอแฟนเก่ารู้ว่าผมจะไป เค้าไม่ยอม ฝากแฟนมาบอกว่าถ้าผมไปจะทำให้ร้านสะดุด เขาไม่โอเค ผมก็ให้แฟนไปคุยอีกรอบ เค้าก็บอกว่ามาได้ แต่แฟนผมห้ามมาโต๊ะผม ผมงงเลยว่าจะทำยังไงต่อ?

“คุณแม็ก (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [18 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ โดย “คุณแม็ก (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องความลำบากใจระหว่างผมกับแฟน เราสองคนพึ่งเริ่มคบกันได้ 18 วัน แต่ก่อนหน้านี้คุยกันมาประมาณ 3 เดือน เราไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ เพราะเราอยู่คนละจังหวัดกัน แฟนผมมีธุรกิจที่บ้านอยู่แล้วแต่ช่วงปลายปี เขามักจะรวมหุ้นกับเพื่อนเปิดลานเบียร์ ซึ่งในช่วงที่เราตกลงคบกันเขา เขาบอกกับผมว่า หนึ่งในหุ้นส่วนของเขาคือแฟนเก่าของเขาด้วย แต่เขาก็บอกผมว่าเลิกกันไปนานแล้ว ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เป็นแค่พี่น้องหุ้นส่วนกัน ผมก็โอเคเพราะเขายืนยันว่าไม่น่าจะมีทางกลับไปได้ ถ้ากลับไปก็คงไม่เลิกกันตั้งแต่แรก เขาให้เหตุผลกับผมว่าปีนึงก็คุยกันแค่ช่วงที่มาทำร้านด้วยกัน ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกนอกจากตอนที่ทำร้าน ซึ่งช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุด เราได้ไปที่ร้านเพื่อไปหาแฟน แล้วตอนไปเราได้บังเอิญเจอกับแฟนเก่าเขา แต่เราไม่ได้แสดงตัวว่าเราคือคนใหม่ ด้วยความที่แฟนเรามันก็คงทำให้รู้ว่าคนนี้คือคนใหม่ เพราะว่าแฟนจะเดินเวียนมาโต๊ะเราบ่อย ๆ โต๊ะที่ผมนั่งก็จะมีเพื่อนผมด้วย เหตุการณ์วันนั้นก็ไม่มีอะไรปกติทุกอย่างแต่ก็จะมีหุ้นส่วนเขาเดินมาดูโต๊ะเราบ่อย เดินผ่านโต๊ะเราบ่อย จากที่เราสังเกตเห็น หลังจากวันนั้นเราก็กลับบ้านมาทำงานปกติ เราก็ได้คุยกันกับแฟนว่าวันเคาท์ดาวน์จะไปเคาท์ดาวน์กันที่ร้านเขา ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะได้ไปเจอกับแฟนเก่าเขา เพราะเขาก็ไม่น่าจะไปไหนได้ต้องอยู่ดูแลร้าน พอจากวันนั้นเขามาบอกผมว่า พี่เขากลับมาเหมือนจะมาง้อเขา มาชวนไปกินข้าว ชวนไปห้อง เราก็เลยถามเขาว่าแล้วยังไง เขาก็บอกว่ารู้สึกอึดอัดทำไมต้องมาทำแบบนี้ พอรู้ว่าผมเป็นใคร แล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้อีก ผมก็เลยบอกเขาไปว่า ถ้าคุณไม่โอเค คุณก็บอกเขาไปตรง ๆ เราเป็นใคร ยังไงเราก็ไม่โอเคที่เป็นแบบนี้ เขาก็บอกกับเราว่า อยากบอก แต่หุ้นส่วนแฟนเก่าเขาเป็นคนที่แยกแยะไม่ได้ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว คือถ้าบอกหุ้นส่วนก็จะงอแง วุ่นวายไม่ทำงาน ด้วยความที่เขารู้จักกันมาก่อนเขาก็รู้นิสัยกัน แล้วผมก็บอกแล้วจะให้ทำยังไง ถ้าไม่บอกมันก็จะเป็นคาราคาซังแบบนี้ เขาก็บอกว่า ทนหน่อยได้ไหม เดี๋ยวขอเวลาแป๊บนึง เดือนหน้าก็หมดร้านแล้ว เขาบอกผมว่าจะบอกตอนที่มันใกล้ ๆ จะเสร็จเรื่องร้าน ผมพยายามให้เขาไม่ทำแบบนี้ ผมก็ถามเขาว่าทนไหวเหรอ เขาบอกได้ทนไหว เราก็โอเคปล่อยเขาไปช่วงนึง จนผ่านไปประมาณ 3 วัน เป็นวันที่เขานัดจะมาหาเรา เพราะอีกวันร้านจะหยุด ช่วงประมาณ 1 ทุ่มเขาทักมาบอกว่า วันนี้น่าจะไปหาดึกหน่อย เพราะหุ้นส่วนบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย เราก็เลยบอกว่า เรื่องกูแน่ ๆ แหละ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเรื่องอื่น เราก็เลยปล่อยเขาคุยกันไป เราก็ไม่ได้ถามอะไรเขา จนเขาทักมาบอกว่าคุยเสร็จแล้ว กำลังจะไปหาที่บ้าน พอเขามาถึงบ้าน อาบน้ำทำอะไรเสร็จ เราก็เลยถามเขาว่าสรุปที่คุยกันว่ายังไง เขาก็บอกเราว่าที่เรานัดกันจะไปเคาท์ดาวน์ที่ร้านเขายกเลิกก่อนได้ไหม เพราะเขาไม่อยากให้เสียงาน หุ้นส่วนบอกว่า ถ้าเธอมา พี่เขาจะทำใจไม่ได้ แต่ผมก็ยืนยันที่จะไป เขาก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะไปคุยใหม่ พอเสร็จหลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานปกติ 2 - 3 วัน เขาก็มาบอกผมว่า ไปคุยมาแล้ว พี่เขาบอกว่าจะมาก็มา แต่แฟนผมอะอย่ามานั่งที่โต๊ะผมบ่อยนะ ต้องทำงาน ผมเลยสงสัยถามเขาไปว่า หุ้นส่วนต้องทำอะไรบ้างถ้าเธอไม่ทำเดี๋ยวกูไปช่วยทำเองก็ได้ ผมก็เลยอยากจะมาปรึกษาพี่ ๆ ว่าเราควรไปไหมมันจะทำให้แฟนเราอึดอัดมาไปไหม?’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่แนะนำให้เปลี่ยนร้านนะ แต่พี่แนะนำให้เปลี่ยนแฟน ไม่มีคำว่าไปหรือไม่ไปคือการที่จะเดินมาบอกว่า เฮ้ยเธอต้องไปร้านนี้ได้ป่ะ เพราะแฟนเก่าไม่โอเค ถามหน่อยไอ่นั้นเป็นใครแล้วกูเป็นใครก่อนตอนนี้ ชั่งน้ำหนักก่อนใช่กูมา 18 วันกูเดินออกได้นะ ตอนนี้แม็กต้องไปสืบข้อมูล แม็กได้ข้อมูลไม่ครบแล้วล่ะกับเรื่องแฟนเก่าคนเนี้ย การที่แฟนเก่าเลิกมา 2 ปีแล้วนาน ๆ เราเจออกันทีเราจะมาเจอกันแค่ทำร้าน ขอโทษนะแค่ทำร้านปีนึงแปลว่ามันไม่ได้มีการติดต่ออะไรกันมาแล้ว อยู่ ๆ อีนี่จะมาหวงก้างขึ้นมาไม่ใช่ตลอดระยะเวลา 2 ปี ถ้าเลิกกัน 2 ปีจริง ๆ นะยังติดต่อกันอยู่แล้วเป็นแนวทางที่ไม่ใช่เพื่อรตัดขาด แฟนเก่ายังมีความหวังมาโดนตลอดแต่แม็กตอนนี้เลือกแคร์ผิดคน ทีนี้คือโทษเขาไม่ได้นะแม็กเธอมาแค่ 18 วัน สิ่งที่พี่อยากให้แม็กรู้คือน้ำหนักความสำคัญของตัวแม็กตอนนี้ แล้วคือการไปไปได้นะแต่ไม่ได้เต็มใจให้ไปคือการจัดการของคนกลางไม่ดีซึ่งพี่ไม่รู้ว่า คนกลางจัดการไม่ดีหรือคนกลางมันแคร์ตรงนั้นอยู่มันไม่ใช่เรื่องของการทำงาน แฟนเก่ามันเป็นแฟนเก่าจริงหรือเปล่าตอนนี้มันเหมือนมันไม่ใช่แฟนเก่าเท่าที่ฟัง ถ้ายังจะเอาคนนี้แม็กต้องยื่นคำขาดต้องวีนไปเลยว่า ทำไมถึงไม่ให้เราไปทำไมถึงไม่ให้ความสำคัญกับเราแล้วมันต้องเด็ดขาดกับแฟนเก่าไม่ใช่แบบ ไปก็ได้เดี๋ยวถามแฟนเก่าก่อนนะว่าให้เธอมาหรือเปล่า สถานะกูเป็นใคร ต้องตัดสินใตตั้งแต่ตอนนั้นต้องเคลียร์กับแฟนเก่าไม่ให้เรื่องแบบนี้มาถึงเรานะ ต้อง Protect ความรู้สึกเรา เราคือคนปัจจุบันเธอเอาไง ลองถามอึดอัดป่ะกับการที่มีเราอยู่เพราะถ้าเธอรู้สึกว่าอยากให้เราอยู่ตรงเนี้ยเธอทำอะไรให้เรารู้สึกอุ่นใจหน่อยได้ไหม เธอทำอะไรให้เรารู้สึกว่าที่ตรงเนี้ยคุ้มค่ากับการที่เราจะอยู่ตอนนี้เราไม่มั่นใจเลย คนกลางต้องหนักแน่นและเด็ดเดี่ยวมากกว่านี้’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่า 18 วันนี้มีแต่สถานการณ์ประหลาดมาหมดเลย พี่ว่ามันอาจจะไม่ได้เลิกกันแบบตัดขาดเพราะถ้าตัดขาดไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะอยู่ ๆ จะมาหึงเหรอไม่มีสิทธิ์ มันแปลก ๆ หมดเลยแต่พี่เชียร์ให้แม็กไปเพราะ ถ้าแม็กไปวันปีใหม่เนี้ยแม็กก็จะได้รู้แหละว่าตัวเองสำคัญขนาดไหนกับเขา มันอาจจะเคลียร์เลยก็ได้ว่าจริง ๆ แล้วมึงยังลืมเขาคนนั้นหรอก มึงอย่าเอากูมาแบบขัดตาทับขั้นเวลาเลย มึงไปอยู่กับเราเถอะ มันไม่ใช่แค่ข้ออ้างว่าเราต้องทำธุรกิจร่วมกันแล้วแต่อันนี้คือมันแคร์เขาค่ะ เชียร์ให้ไปจะได้รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง อาจจะได้คำตอบคืนนั้นแหละจะได้กลับมาตั้งหน้าตั้งตาเป็น doctor’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘พี่ติดอยู่ขั้นตอนเดียวที่มาบอกเราว่า อีกฝ่ายมาขอคืนดีซึ่งเราทำอะไรไม่ได้เพราะถ้าทำไปแล้วเจาอาจจะงอแงแล้วไม่หุ้นด้วย อันนี้แปลกมากคือมันผิดอะ ถ้าเป็นพี่ก็จะรู้สึกว่าอ้าวอย่างงี้มึงให้ความสำคัญกับใครมากกว่าวะ ถ้าสมมุติแฟนเก่าซึ่งจริงตามที่อ้างเลิกกันมา 2 ปีแล้ว เป็นคนงี่เง่า แล้วจะมาขอคืนดีอะ คนที่แฟนแม็กควรจะห่วงความรู้สึกมากที่สุดคือเรา ที่พึ่งคบกันได้ 18 วัน เขาควรจะปกป้องเรากลับกลายเป็นว่าเขาเลือกที่จะปกป้องความรู้สึกของฝั่งนั้น เป็นพี่พี่น้อยใจตรงนี้ จริง ๆ ถ้าจะเลือกคนที่ไม่มีเหตุผลและงี่เง่าในวงจรนี้ควรจะเป็นแฟนเก่าแล้วควรจะจัดการกับอีนั่น ไม่ใช่มากันเราออก การลำดับความสำคัญหรือแบบความงี่เงาของเขามันเบอร์ไหนวะ ถ้าถามว่าไปหรือไม่ไป คือไปแล้วจะรู้เลยแน่นอนว่าสถานการณ์เป็นยังไงอันนี้จริง แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงผมก็อาจจะไม่ไปก็ได้นะ หมายถึงว่าฉันก็มีเชิงของฉัน ศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกันไม่อยากให้ไปก็ไม่ไปก็ได้แล้วก้ไม่ต้องโทรตามแล้วกันก็อย่ามารู้แล้วกันว่าเคาท์ดาวน์ไปไหน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีหนูออกไปทำงาน เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน เจอหัวหน้าด่าทุกวัน ด่าโง่ ไม่มีสมอง หัวหน้าเอางานสามีไปเป็นงานตัวเองเพื่อเอาหน้า สามีทนไม่พูดมาตลอด หนูสงสารสามีสุดๆ แต่จะย้ายงานก็ไม่ได้

20 ธ.ค. 2024

หนูเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีหนูออกไปทำงาน เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน เจอหัวหน้าด่าทุกวัน ด่าโง่ ไม่มีสมอง หัวหน้าเอางานสามีไปเป็นงานตัวเองเพื่อเอาหน้า สามีทนไม่พูดมาตลอด หนูสงสารสามีสุดๆ แต่จะย้ายงานก็ไม่ได้

หนูเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีหนูออกไปทำงาน เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นานเจอหัวหน้าด่าทุกวัน ด่าโง่ ไม่มีสมอง หัวหน้าเอางานสามีไปเป็นงานตัวเองเพื่อเอาหน้า สามีทนไม่พูดมาตลอดหนูสงสารสามีสุดๆ แต่จะย้ายงานก็ไม่ได้ เพราะ สวัสดิการที่นี่ดีมากๆ จะทำยังไงต่อไปดีคะ? “คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [18 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากขอวิธีให้กำลังใจแฟนเวลาโดนคำพูด Toxic จากที่ทำงาน โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตัวบีเองเป็นคุณแม่ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ส่วนแฟนจะทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ทีนี้เขาเริ่มงานใหม่ แต่สภาพที่เขากลับจากทำงานมาบ้านทุกวัน จะเป็นสีหน้าที่เหนื่อย มันไม่ใช่เหนื่อยกาย แต่เหมือนมันเหนื่อยใจ มันห่อเหี่ยว และเราก็คุยกัน เขาบอกว่า ‘เขาโดนที่ทำงานพูดไม่ดีใส่ ด้อยค่า ทั้งคำหยาบสารพัดมาหมด’ แฟนหนูเป็นคนทำงาน หัวหน้าของเขาโยนงานมาให้ทำ เออเนี่ยทำไปนะ พอทำเสร็จเขาก็เอาผลงานที่แฟนหนูทำไปเป็นของตัวเอง แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดแฟนหนูจะโดนด่าทันที เพราะแฟนหนูตำแหน่งรองลงมาจากเขา เพราะฉะนั้นมันจะต้องคุยกันบ่อย หนูบอกตรง ๆ ไม่ได้จะชื่นชมหรือยอแฟน แต่เขามีความสามารถ หนูอยู่กับเขามา 10 กว่าปีแล้ว เขามีความสามารถ เคยทำงานด้วยกัน เขาพูดภาษาอังกฤษได้ เวลาเขาติดต่อประสานงานกับสายต่างประเทศ หัวหน้าจะพูดอย่างนี้ “มึงก็พูดได้หนิ กูนึกว่ามึงโง่” หรือเวลาทำงานแฟนหนูเสนออะไรไป แต่เขาเหมือนอยากเอาอย่างที่เขาคิด แล้วเขาก็มาด่าแฟนหนู “โง่ปะเนี้ย คิดไม่ได้เหรอ สมองไม่มีเหรอ” ซึ่งบริษัทนี้แฟนหนูพึ่งเริ่มทำมาได้ 2 - 3 เดือนเอง ที่ตัดสินใจเลือกเพราะสวัสดิการและเงินเดือน เลยเลือกที่นี่ มันตอบโจทย์ทุกอย่าง สวัสดิการเขาครอบคลุมถึงครอบครัว เราฟังปัญหาจากเขาแล้วเราก็เครียดนะ แต่เราบอกกับเขาเลยว่าเราอยากให้เขาระบายกับเราให้ได้มากที่สุด ทั้งกอด ทั้งปลอบ ทั้งคุยกับเขา เขาเป็นคนเก่ง เก่งมาก ๆ หนูเชื่อเลยว่างานทุกอย่างที่หนักเขาทำได้ แต่ถ้าอยู่กับคนแบบนี้ทุกวัน หนูกลัวว่าเขาจะเครียดสะสม บางทีเวลาเขากลับมาบ้านนั่งเหม่อและพูดว่า “อะไรวะเนี่ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้” บางทีเราก็น้อยใจ สามีกลับมาเห็นหน้าเราแล้วก็ลูกมันผิดหวังขนาดนี้เลยเหรอ มันเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เขาก็บอกว่าไม่ใช่ แล้วตอนเช้าตอนที่กำลังจะไปทำงาน หน้าเขาลอย ลอยแบบไร้จุดหมายประมาณว่า กูต้องไปทำงานหรือกูต้องไปโดนด่า ถามว่ามันมีผลกระทบกับครอบครัวไหม เวลาเรามองมันรู้สึกสะเทือนใจ เราพยายามปลอบเขาแต่เหมือนมันส่งไปไม่ถึง หนูเคยพยายามบอกเขาว่าถ้าพี่ไม่ไหว พี่ย้ายงานนะ ขอเถอะหนูไม่อยากให้พี่เป็นแบบนี้ แต่พี่เขาตอบกลับมาว่า ‘ลาออกไม่ได้ หาสวัสดิการกับครอบครัวมันยาก’ เพราะหลัก ๆ เขานึกถึงเราแล้วก็ลูก เด็กเนาะยังไงก็ต้องมีประกัน ทั้งครอบครัวแสนนึง มันครอบคลุมกับการรักษาพยายามทุกอย่างเลย ซึ่งบริษัทนี้เขาทำให้ เพราะลูกคนหนึ่งอายุ 5 ขวบ อีกคนก็ 2 ขวบกว่า ๆ เลยอยากขอกำลังใจจากพี่ ๆ และอยากถามพี่ ๆ ว่า มันจะมีวิธีไหนบ้างที่เราจะส่งกำลังใจไปให้ถึงเขา เพื่อให้เขาได้รู้สึกว่าได้ชาร์จแบตให้เขามีพลังไปสู้ต่อและปล่อยวางเรื่องที่ทำงานให้ได้ หนูก็เข้าใจว่า เราพูดว่าให้วางมันอยู่ที่นั่น มันพูดง่าย แต่คนที่รับมันยากมากเลย’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มองในมุมดีสิ่งที่เราได้รับ สิ่งที่เราอดทน ราคาที่ต้องจ่ายมันแพงมากในเมื่อคุณบีอยากได้สวัสดิการ อยากได้เงินเดือนทุกอย่างมันดีๆๆ แต่มันแลกมากับบางเรื่องในการ Toxic อย่างน้อยในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มันทำให้ครอบครัวเราสบาย มันอาจจะเหนื่อยใจไปบ้าง ตรงนี้อาจจะต้องแลกเพราะที่อื่นให้เราแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเหนื่อยให้มาระบายกับเรานะ ให้เราเป็นที่พักเลย ไปเหนื่อยอยู่ตรงนั้น แต่พอก้าวเข้าบ้านเราดูแลเขา บีบนวดดูแลเขาอย่างดีให้เขาสบายใจ ให้เขารู้สึกว่ามาอยู่บ้านแล้วผ่อนคลาย ทำที่บ้านอย่าให้ตกหล่น’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณบีต้องไม่เอาความเครียดของเขามาเป็นเรื่องของเราเลย เพราะตอนคุณบีเล่ามา คุณบียังเอามารบกวนจิตใจอยู่ ที่บอกว่าทำไมเห็นหน้าลูก หน้าเมียแล้วยังซีเรียส ทำไมถึงไม่มีความสุข คุณบีต้องเข้าใจเลยว่า เขาจะต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอด เรามีหน้าที่ทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้าเครียดเป็นหน้ายิ้มให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ทำให้เขารู้สึกว่า เมื่อใดที่กลับมาบ้าน ที่นี่คือสวรรค์ของคุณ คุณไปนรกมาแค่ 12 ชั่วโมงทำงาน คุณกลับบ้านนี่คือสวรรค์แล้ว ที่นี่จะมีทุกอย่างให้คุณ ต้องซัปพอร์ตเบอร์นั้นเลย เพื่อให้เขารู้จุดหมายของเขา ‘โอเคอันนั้นกูเอาวิญญาณไปแลก แต่ที่นี่คือที่ของกู’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ใช้ลูกเป็นแหล่งเติมพลังครับ ผมเชื่อว่าทุกคนปัญหาจะเบาลงเมื่อเห็นหน้าลูกเวลามีความสุข ให้เขาโฟกัสที่ลูก ถ้าเราทำเพื่อเงินก็ต้องคิดแต่เรื่องเงิน เราทำเพื่อสวัสดิการก็ต้องคิดแต่เรื่องสวัสดิการ ผมแนะนำว่าให้เขาไปคุยกับ HR เท่าที่ผมได้ไปสัมภาษณ์กับองค์กรใหญ่ ๆ มา HR มีผลอย่างมากในการจัดการคนในออฟฟิศของเขา และถ้าเป็น HR ที่ดีพอ บริษัทใหญ่จริง สวัสดิการดีอย่างนี้จริง ๆ HR ต้องมีพาวเวอร์พอที่จะจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กร หัวหน้าที่ Toxic ขนาดนี้แฟนคุณบีไม่ได้เป็นคนแรกที่โดนหรอกครับ HR มีไว้เพื่อช่วยพนักงานในประเด็นแบบนี้นี่แหละครับ สุดท้ายความอดทนคนเรามีจำกัด ต้องบอกกับแฟนเสมอว่าถ้าเธอไหวฉันเชื่อว่าเธอไหว แต่ว่าอย่าบอกตัวเองว่าไหวทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองไหวหรือเปล่า คนบางคนสะกดจิตตัวเองว่าไหว แต่จริง ๆ ข้างในไม่ไหวแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สิ้นปีตั๋วกลับใต้แพงมาก เดินทางวิธีไหนก็ลำบาก แต่ประเด็นคือ รักแรกที่เราเคยแอบชอบมา 5 ปี ทักชวนเรากลับบ้านด้วยกันไหม ใจนึงก็อยาก แต่อีกใจนึงก็กลัวใจตัวเองจะหวั่นไหว เพราะเราทั้งคู่ต่างก็มีแฟนกันอยู่แล้ว ถ้าเป็นทุกคน จะตัดสินใจยังไงกันคะ ??

16 ธ.ค. 2024

สิ้นปีตั๋วกลับใต้แพงมาก เดินทางวิธีไหนก็ลำบาก แต่ประเด็นคือ รักแรกที่เราเคยแอบชอบมา 5 ปี ทักชวนเรากลับบ้านด้วยกันไหม ใจนึงก็อยาก แต่อีกใจนึงก็กลัวใจตัวเองจะหวั่นไหว เพราะเราทั้งคู่ต่างก็มีแฟนกันอยู่แล้ว ถ้าเป็นทุกคน จะตัดสินใจยังไงกันคะ ??

“คุณกุ๊บกิ๊บ (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [11 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาปีใหม่นี้คนที่เราเคยแอบชอบ ทักมาชวนกลับบ้านด้วย โดย “คุณกุ๊บกิ๊บ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัญหาที่ตัวเองเจอคือ ‘เพื่อนที่เป็นรักแรกของหนูตอนม.2 ชวนกลับบ้านที่ต่างจังหวัดด้วยกัน’ แต่หนูไม่รู้ว่าต้องตัดสินใจไป หรือไม่ไปดี? เพราะว่าต่างคนก็ต่างมีแฟนกันอยู่แล้วทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้หนูกับเขาอยู่โซนภาคกลางเหมือนกัน หนูอยู่กรุงเทพฯ แล้วเขาอยู่อีกจังหวัดนึง หนูกับเขาคุยกันผ่านแอปพลิเคชันนึง เขาก็บอกว่า ‘เอองั้นเธอก็กลับกับเราสิ’ ค่าเครื่องจะได้ไม่ต้องจ่ายเพราะช่วงปีใหม่มันแพง แล้วเราก็แบบใจฟูเนอะ ตั้งแต่ม.2 อ่ะ หนูชอบเขา แต่มันก็มีส่วนที่ตะขิดตะขวงใจอย่างนึงก็คือหนูก็มีแฟน เขาก็มีแฟน ถามว่าหนูอยากไปไหม? หนูก็อยากไปนะ หนูไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับหนูไหม แต่เขาก็บอกคิดถึงหนูอยู่นะ ‘ตอนเด็ก ๆ เราจีบกันเลยค่ะ’ คือหนูชอบเขาแล้วก็มีการกุ๊กกิ๊กกันอยู่ตลอด 5 ปี ตั้งแต่ ม.2 จนถึงปี 1 แต่มันเป็นอดีตนะ คำถามที่อยากจะถามพี่ดีเจคือ ‘ควรไปกับเขาดีไหม?’ คือเราอยากกลับบ้าน อยากเจอแม่ด้วย ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ไปกับใครก็ได้ แต่ไปกับเขาไม่ได้’ ที่เหลือไปหาทางกลับเอาเอง เพราะมีแฟนกันแล้ว ถ้าสมัยก่อนยังกลับบ้านเองได้อันนี้ กุ๊บกิ๊บกำลังจะหาเหตุ กำลังหาข้ออ้างที่จะไปกับกิ๊กเก่า ซึ่งแฟนเรามีอยู่แฟนเขาก็มีอยู่ “คุณกุ๊บกิ๊บ (นามสมมติ)” ทิ้งท้ายต่อว่า มันก็จะมีอีกคำถามนึงตอนแรกหนูก็พยามยื้อว่า เราไม่อยากไปเรากลัวแฟนเราด้วย แล้วก็กลัวแฟนเขาเสียใจด้วย แล้วเหมือนเขาก็ตัดพ้อกลับมาว่า ‘อะไรอะ เราแค่ไปเราเป็นเพื่อนกันนะ’ หนูเลยบอกว่า เราก็เกรงใจแฟนเธอนะ เธอก็มีแฟนอยู่แล้วถ้าแฟนเสียใจขึ้นมาทำยังไง? เขาก็บอกว่าแฟนเราไม่ได้งี่เง้าขนาดนั้นหรอก ทาง ‘ดีเจเติ้ล’ เลยให้คำปรึกมาว่าเนี่ยมันดูเหมือนอ่อยอ่ะ เหมือนอ่อยให้ไปเจอกันอ่ะ สุดท้ายนี้ทั้งสามดีเจ ได้ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ใจเราไม่บริสุทธ์ไปแล้ว เราคิดไปแล้ว ‘คนบางคนก็ไม่เหมาะเป็นเพื่อน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเรียน และ ทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำโปรเจ็กต์ส่งเข้าแข่งขัน แต่ก็ได้แค่ Top3 มาตลอด ทั้งๆที่ผลงานเรา คนปรบมือให้ดังมากกว่าคนที่ได้รางวัล มีถึงขั้น E-mail จากบุคคลปริศนา ส่งมาชื่นชมเรา แต่ไม่รู้เพราะอะไรผลถึงออกมาเป็นแบบนี้

13 ธ.ค. 2024

หนูเรียน และ ทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำโปรเจ็กต์ส่งเข้าแข่งขัน แต่ก็ได้แค่ Top3 มาตลอด ทั้งๆที่ผลงานเรา คนปรบมือให้ดังมากกว่าคนที่ได้รางวัล มีถึงขั้น E-mail จากบุคคลปริศนา ส่งมาชื่นชมเรา แต่ไม่รู้เพราะอะไรผลถึงออกมาเป็นแบบนี้

หนูเรียน และ ทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำโปรเจ็กต์ส่งเข้าแข่งขัน แต่ก็ได้แค่ Top3 มาตลอดทั้งๆที่ผลงานเรา คนปรบมือให้ดังมากกว่าคนที่ได้รางวัล มีถึงขั้น E-mail จากบุคคลปริศนาส่งมาชื่นชมเรา แต่ไม่รู้เพราะอะไรผลถึงออกมาเป็นแบบนี้ อยากได้กำลังใจให้ลุกขึ้นสู้ตามความฝันอีกครั้ง “คุณบิลลี่ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [11 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากขอกำลังใจในการลุกขึ้นสู้ เวลาที่เจออุปสรรคอะไรสักอย่างหนึ่ง โดย “คุณบิลลี่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘บิลลี่มีความฝันตั้งแต่เด็ก ที่จะนำเทคโนโยลีมาเปลี่ยนโลกแฟชั่นให้ยั่งยืน ซึ่งตอนอายุ 15 บิลลี่ก็พยายามทำทุกทาง เพื่อที่จะให้ได้ทุนมาเรียนต่อที่ต่างประเทศ จนตอนนี้อายุ 30 แล้วบิลลี่ได้ทุนมาเรียนต่อด้าน AI และกำลังทำ Start Up ที่ผ่านมาบิลลี่แข่งมาหลายเวทีมาก ๆ ในยุโรป แต่การแข่งขันของบิลลี่ มักจะไปจบลงที่รอบไฟนอลคล้าย ๆ กับที่เราไปชวดมงกุฎในรอบสุดท้าย ซึ่งหลายคนก็บอกบิลลี่ว่า อาจเป็นเพราะคู่แข่งเป็นคนที่นี่ เป็นคนผิวขาว และก็กระแสที่เขาต่อต้านต่างชาติในยุโรปตอนนี้ก็ค่อนข้างแรงประมาณหนึ่ง อย่างตอนที่แข่งรอบล่าสุด ตอนที่บิลลี่ Pitching เสร็จ คนทั้งฮอลล์ยืนขึ้นปรบมือ เมื่อเทียบกับคนที่ชนะ เขาไม่ได้มีอะไรใหม่เลย หลังจากที่จบการแข่งขัน ก็มีอีเมลปริศนาจากใครสักคนหนึ่ง เขาส่งมาหาบิลลี่ว่า ‘You Billy I’m a big fan of you นะ you ติ้กถูกทุกข้อเลยใน Check box ที่จะเป็นผู้ชนะ แต่ว่า you อาจจะไม่ชนะในเหตุผลบางอย่าง ที่เราทุกคนก็รู้กัน’ มันก็เลยทำให้บิลลี่เริ่มดาวน์และเหนื่อยที่จะสู้ แต่ว่าตอนนี้บิลลี่นำ Start up ของตัวเองเข้ารอบไฟนอล ในระดับภูมิภาคของประเทศเนเธอร์แลนด์ได้อีกแล้ว บิลลี่เลยอยากถามพี่ดีเจว่า พี่เคยไหม ที่พยายามมาตลอดอีกนิดเดียวเราจะมงแล้ว แต่เราก็ไปชวดในวินาทีสุดท้าย พี่มีวิธีฮีลใจตัวเองที่จะทำให้ลุกขึ้นสู้ต่อยังไงกันบ้าง ในมุมของพี่ ๆ แต่ละคน?’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หอมอยากให้บิลลี่มองอีกมุมหนึ่ง คือผลแพ้-ชนะ มันถูกพ่ายแพ้โดยเหตุผลที่เรา Control ไม่ได้ มันไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่งหรือว่าเราไม่ดี ฉะนั้นวันนี้หอมเลยอยากให้บิลลี่ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ บิลลี่เป็นคนเอเชียที่เข้าไปเติบโตที่นั่น การที่เข้าถึงรอบไฟนอลจริง ๆ แปลว่ามันผ่านการตัดสินอย่างยุติธรรม ในการให้คะแนน แต่บิลลี่มาแพ้ แพ้ความอยุติธรรม มันไม่ได้แพ้ในผลงาน ถ้าในมุมมองบิลลี่คือคนที่ชนะแล้ว แต่สิ่งที่มันเป็นเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ เช่น คุณต้องให้คนพื้นถิ่น อันนั้นมันเกินที่บิลลี่จะควบคุมแล้ว หอมอยากให้บิลลี่มองในแง่ดีมากกว่า สิ่งที่เราทำ ถ้าเป้าหมายของเรา เราสู้กับคนตั้งมากมาย แล้วเราเข้าไปอยู่ในรอบไฟนอล มันคือที่สุดแล้ว มันเก่งมาก ๆ แล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าให้ใกล้เคียงกัน ผมก็มีในเรื่องการประกวดที่ได้เข้าชิงรางวัลนั้น รางวัลนี้ หลายต่อหลายครั้ง แทบทั้งหมดก็ไม่เคยได้รางวัลเลย ซึ่งสำหรับผม Finalist ก็คือรางวัลแล้ว มันอยู่ที่ว่าเราตั้งเป้าและความคาดหวังของเราแค่ไหน ทุกวันนี้ตอนผมคุยกับลูก เราจะพยายามเปลี่ยนโฟกัส จากผลลัพธ์ไปเป็นระหว่างทางให้เยอะที่สุด ซึ่งมันจะดีต่อตัวเรา ถ้าเราไปโฟกัสที่ผลลัพธ์ ยังไงแล้วถ้าไม่ได้ที่ 1 มันก็เท่ากับว่าล้มเหลว ผมมองว่าการได้ที่สองจากการประกวด Start Up ทั้งยุโรป สำหรับผมมันเป็นพอร์ตที่ดี ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นความล้มเหลว เขาบอกว่าโลกไม่จำอันดับ 2 ผมว่าไม่จริง ถ้าคุณเป็นอันดับ 2 ที่พยายามมากพอและไม่ยอมแพ้ ผมว่าอันดับ 2 เยอะแยะมากมายที่ประสบความสำเร็จกว่าอันดับ 1 ในหลาย ๆ วงการ ผมที่ฟังอยู่ตอนนี้ ผลงานของบิลลี่ที่ได้อันดับ 2 มามันเป็นพอร์ตที่ดีมาก ลองกลับมาดู Start Up ของเราให้ดี เราคลอดเขามา แน่นอนเขาต้องเป็นลูกที่เราภูมิใจที่สุด ลองเอาตัวเองออกมาแล้วมองกลับไปดูว่า เขาสมบูรณ์แบบจริง ๆ อย่างที่เราหลงใหลเขาหรือเปล่า อะไรที่เป็นผลงานของเรา เราหลงไหลมันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเป็นคนนอกมองเข้ามา Start Up ของเราดีพอหรือยัง ว่าถ้าเราได้อันดับ 2 แล้วตัดเรื่องชาติพันธ์ออกไป อันดับ 1 มันมีอะไรที่ดีกว่าเราบ้างจริง ๆ ในแบบที่ไม่ Bias เลย ถ้าเรามองว่ายังไงแล้วของเราดีกว่าจริง ๆ เรามองมุมไหนของเราก็ดีกว่า เราแพ้ในเรื่องราวที่ควบคุมไม่ได้ งั้นจงมั่นใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ถ้ากระถางที่นั่นเราโตไม่ได้ ก็ย้ายกระถางซะ ถ้าเมล็ดพันธุ์ที่คุณมีมันดีมากจริง ๆ เราลองเอาเมล็ดพันธุ์ของเราไปโตที่อื่น เพราะฉะนั้นอย่ามองว่ามันเป็นความล้มเหลวซะทีเดียว ให้มองด้วยว่าการได้ที่สองของเรา เราทำมันดีพอหรือยัง ถ้าดีพอแล้วมันไม่ได้มีอะไรให้ต้องเสียดายเลย’ และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่รู้สึกว่าหนูไปได้ขนาดนั้นแล้ว จากที่หนูอยากได้ทุน อยากเรียนต่อต่างประเทศ แต่ตอนนี้อยู่ไปอยู่เนเธอร์แลนด์แล้วนะ หนูส่งผลงานส่ง Start Up ตัวเองไปอยู่ใน Finalist พี่รู้สึกว่าหนูต้องภูมิใจกับตัวเองระดับหนึ่งแล้วสำหรับพี่ เพราะหนูมาได้ไกลมากนะ ซึ่งการตัดสินการประกวด บางทีเราก็เห็นกันอยู่บิลลี่ สมมติหนูดูนางงามหนูก็จะรู้ มันก็จะใกล้เคียงสุดกี่ปีกี่หนแล้ว ที่เรารู้สึกค้านสายตามาก แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภูมิใจมาก ๆ มันประจักษ์อยู่ในใจแล้วว่าสิ่งที่เราทำมันหน้าภูมิใจขนาดไหน ถ้าพี่จะแชร์เรื่องพี่นะ พี่เป็นผู้กำกับหนัง พอทำหนังออกมาเรื่องหนึ่ง เราไม่รู้จริง ๆ ว่าทำเสร็จแล้วคนดูเขาซื้อหรือไม่ซื้องานของเรา ถ้าเราจะเอามาตรวัดว่าคนดูไม่ดูหนังเราเลยหรือทำไมไม่ชอบหนังของเรา มันจะทำให้เราเสียใจ หมดความภาคภูมิใจในตัวเอง สำหรับพี่มันไม่ใช่ สำหรับพี่คือพี่ได้ทำหนังที่พี่รู้สึกว่าเต็มที่กับมัน พี่มีความสุขกับมัน สุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไง บางทีมันอยู่ที่ดิน ฟ้า อากาศ โชคชะตาแล้ว เราคุมไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราจะรู้ว่าเราภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้ ซึ่งพี่ว่าบิลลี่รู้สึกกับมัน และบิลลี่ก็รับรู้ว่าคนอื่นเขารู้ว่างานของบิลลี่มันมีคนชอบ มีคนภูมิใจ แม้ว่ามันจะยากสำหรับเรา แต่มันจะสะใจมากนะบิลลี่ตอนที่เราได้มันมา ขอเพียงแค่ว่าเราไม่ยอมแพ้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมนอกใจแฟน บอกเลิกกันก่อนวันครบรอบ 3-4 วัน พอไปอยู่กับแฟนใหม่ ผมดันคิดถึงแฟนเก่า ก็เลยเลิกกับแฟนใหม่เพื่อไปง้อแฟนเก่า แต่ตอนนั้นแฟนเก่าผมก็มีคนใหม่ไปแล้ว จนเขาสองคนเลิกกัน ตอนนี้ผมอยากได้วิธีไปง้อแฟนเก่าที่ผมเคยนอกใจเขามาหน่อยครับ

13 ธ.ค. 2024

ผมนอกใจแฟน บอกเลิกกันก่อนวันครบรอบ 3-4 วัน พอไปอยู่กับแฟนใหม่ ผมดันคิดถึงแฟนเก่า ก็เลยเลิกกับแฟนใหม่เพื่อไปง้อแฟนเก่า แต่ตอนนั้นแฟนเก่าผมก็มีคนใหม่ไปแล้ว จนเขาสองคนเลิกกัน ตอนนี้ผมอยากได้วิธีไปง้อแฟนเก่าที่ผมเคยนอกใจเขามาหน่อยครับ

“คุณอ๊อฟ (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (11 ธ.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาการนอกใจแฟน โดย “คุณอ๊อฟ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมนอกใจแฟน เมื่อเดือนมีนาคมช่วงต้นปีก็เป็นวันครบรอบ 3 ปีผมกับแฟน แต่แฟนผมจับได้ก่อนว่าผมนอกใจเขา เราเลยเลิกกันก่อนจะถึงวันครบรอบประมาณ 3 – 4 วัน แล้วผมก็ได้มาอยู่กับทางคนใหม่ เหตุการณ์ตอนนั้นคือประมาณว่าผมก็ง้อเขาเหมือนเขาจะคืนดีกับผมแล้ว แต่เขาลง Story IG ประชดผมแบบลงกับผู้ชาย กลายเป็นผมเองที่รับไม่ได้ผมเลยบอกเลิกเขาไปอีกครั้งแต่เรื่องทั้งหมดก็ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว พอหลังจากที่เลิกกันไป ผมก็ไปอยู่กับคนใหม่ เราคบกันได้ประมาณ 3 เดือนผมรู้สึกว่าเหมือนตัวเองรู้สึกผิดแล้วผมรู้มาว่าเขาไปพูดกับเพื่อนผมว่า เขารู้สึกว่า เขาผิดตรงไหน เขาแย่ตรงไหน ทำไมเขาถึงโดนทำแบบนี้ ผมเลยคิดว่าเขาคงจะยังมูฟออนไม่ได้ พอผมได้ยินแบบนี้ผมเลยตัดสินใจเลิกกับแฟนคนใหม่ แล้วกลับไปบอกเหตุผลกับเขาว่าที่ผมนอกใจเขาครั้งนั้น เพื่ออะไร เพราะอะไร เพื่อเคลียร์ปัญหาที่ผมได้ก่อไว้เพราะผมแค่ตั้งใจจะอธิบายกับเขาทุกอย่างให้มันกลับมาถูกต้องยังไม่ได้ต้องการที่จะให้เขากับมาคบกับผม หลังจากที่ผมอธิบายกับเขาทั้งหมดจนเราคุยกันลงตัวทุกอย่าง เขาก็ได้บอกกับว่า ตอนนี้เขามีคนใหม่แล้วนะ ผมก็โอเค แล้วเราก็แยกย้ายกันไป ส่วนเขาก็คบกับคนใหม่มาจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ ผมก็อยู่คนเดียวของผมมาตลอดไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขาเลย แต่ตอนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเขาติดต่อผ่านเพื่อนผมมาว่าจะยืมเต็นท์เอาไปเที่ยว เพื่อนก็มาบอกผม ผมก็เลยบอกโอเคเดี๋ยวเอาไปให้ จากนั้นเราก็ได้โทรคุยกันจนรู้ว่าเขาพึ่งเลิกกับแฟนใหม่เขาเหมือนกัน จากนั้นจนเรื่องมาถึงปัจจุบันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จริง ๆ เรื่องที่ผมจะปรึกษาคือ ผมควรปล่อยให้เขาอยู่ตรงนั้นไหม เพราะว่าที่เราคุยกันตอนเดือนพฤจิกายนเขาบอกว่าเขาก็มีคนคุยอยู่แล้วนะตอนนี้ ถึงแม้เขาจะเลิกกับคนนั้นแล้วเขาก็บอกผมว่าเขาให้สถานะผมได้แค่เพื่อน แต่ตอนนี้ผมก็ได้ไปทานข้าวกับเขาหลังจาดวันนั้นประมาณ 3 ครั้ง มันมีเหตุการณ์ก่อนจะเจอกันครั้งแรกเขาเป็นลมชักเข้าโรงพยาบาล อยู่ ๆ เขาจะเป็นโรคหัวใจผมก็ได้ไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลแต่พอไปถึงเจอแฟนเก่าเขา ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเขา แล้วก้ไปรู้มาว่าแฟนเก่าเขามาตามง้อ คนที่เขาคุยอยู่ก็มาหาเขาเหมือนกัน ตอนนี้ปัจจุบันก็คือ เขาบอกให้ผมเป็นเพื่อนแต่ผมบอกเขาว่าผมไม่เป็นเพื่อนผมขอเป็นคนรู้จักแล้วกัน ผมก็เลยอยากปรึกษาพี่ ๆ ผมจะทำยังไงให้เขาใจอ่อนกลับมาคบกับผมดี?’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจากที่ฟังดูมีโอกาสที่จะกลับมาคบกันได้แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วย มันตอบยาก แต่ว่าถ้าอ๊อฟอยากจะทำให้เขากลับมารักเราก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเราอยากจะกลับไป สมมุติอันนี้จะตอบในมุมว่าอยากให้เขามารักเราอีกรอบ แต่พี่จะห่วงว่าอ๊อฟจะทำได้ไหมจะไม่นอกใจเขาอีกแล้ว เราต้องพิสูจน์ว่าจะไม่ใช่อ๊อฟคนเดิมแล้ว ส่วนเขาก็คือต้องอยู่ที่เขาแล้วว่าเขาจะยังไง เขาอาจจะเห็นเราเป็นแค่แฟนเก่าก็เลยให้เกียรติยังผูกพันมาทำอะไรก็ได้หรือเขาก็อาจจะหว่านเสน่ห์ แล้วก็บอกอ๊อฟทีหลังก็ได้ว่ากูไม่รู้สึกอะไรกับมึงเลยกูแค่แกล้งมึงก็ได้ หรือสุดท้ายเขาอาจจะมีเยื่อใยอยู่ อ๊อฟพิสูจน์ตัวเองแล้วก็กลับมารักกับอ๊อฟอีกทีก็ได้ มันเป็นไปได้หมดเลย’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เขามีใจให้อ๊อฟอยู่แล้ว ผู้หญิงถ้าเลิกกับแฟนเก่าที่นอกใจ ถ้ามันเกลียดมันไม่มองหน้าอยู่แล้ว มึงทำเขาขนาดนั้นเป็นกูถ้าโกรธกูก็ไม่คุย แต่ถ้าเกิดว่าเอาเรื่องเต็นท์มาอ้าง แปลว่ายังอยากกลับมาคุยอยู่ แต่การที่จะแบบมาดีกับมึงง่าย ๆ มันง่ายไปอ๊อฟมึงทำอะไรกับกูไว้มันก็ต้องมีชั้นเชิงนิดนึง มันก็ต้องดูว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม แสดงความมั่นใจหรือเปล่าคือครั้งนี้อ๊อฟมีหน้าที่ลงทุนอย่างเดียวโดยที่ไม่รู้ว่าผลกำไรกลับคืนมาไหมหรือจะขาดทุน แต่ในเมื่ออ๊อฟรู้สึกว่าอ๊อฟต้องการของสิ่งนี้ทำได้แค่ลงทุนแล้ว รอผลลัพธ์ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ให้เคล็ดลับแล้วกันเข้าทางเพื่อนด้วย เพื่อนก่อนถ้าเพื่อนมันตั้งป้อมปุ๊บเพราะวัยนี้เป็นวัยเชื่อเพื่อน ทำให้เขามั่นใจตัวเขาก่อน ให้เขาเห็นความพยายามแล้วเราก็ไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด ช่วยเหลือเขาในวันที่เขาไม่มีใคร แล้วก้เข้าทางเพื่อนเขา สเต็ปต่อไปคือการดูแลเขาไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาวันนึงที่เรามั่นใจแล้วว่าเขาน่าจะมีใจเพื่อนเขาเราโอเคแล้ว ก็ยื่นคำขาดเลยไปต่อหรือพอแค่นี้ถ้าเขาบอก เฮ้ยระหว่างเรายังไงก็เป็นไปไม่ได้ ไปแผนล้ำลึกเลยปล่อยข่าวว่ามีใครสักคนนึงที่กำลังจีบเราอยู่เป็นการกดดันเขา มึงต้องรีบตัดสินใจแล้วอันนี้เป็นสเต็ป ๆ ไล่เลเวลไป’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘มันต้องเคลียร์ตัวเองก่อน คือคราวเนี้ยถ้าเรากลับไปแล้วยังทำเรื่องอีก การที่เราทำร้ายใครสักคนในรอบแรกเนี่ยมันก็เลวร้ายมากพออยู่แล้ว แต่คือมัน 2 รอบเราจะไม่เหลืออะไรให้เคารพตัวเองอีกเลยนะหมายถึงว่า วันนึงเมื่ออ๊อฟอายุขึ้นมาก ๆ จนอ๊อฟตกตะกอนในชีวิตแล้ว อ๊อฟคิดย้อนมามันจะรู้สึกเกลียดตัวเองเวอร์ชั่นนี้เลยนะว่า เฮ้ยกับคน ๆ นึงเราทำ 2 รอบเลยเหรอวะ มันทำให้เขาเจ็บแล้วเจ็บอีก ถามตัวเองก่อนแล้วกันว่ามั่นใจกับการรีเทิร์นครั้งนี้ ถ้ามั่นใจจริงเขียนไว้เลยว่าให้หวังแบบไม่หวังเพราะเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะโอเคหรือเปล่า หลัก ๆ จริง ๆ อาจจะไม่ได้อยู่ที่เราเพราะเขาคือคนที่เจ็บแผลอยู่ที่เขาให้เราทำให้ตายยังไง ถ้าเขาไม่อยากรีเทิร์นมันก็ไม่เกิดขึ้น แต่คือเขาก็ดูมีเยื่อใยอยู่แต่เยื่อใยนี้จะเป็นเยื่อใยเพื่อนหรือว่าเยื่อใยรีเทิร์นเป็นแฟนอีกครั้งไม่รู้เพราะฟังแค่นี้ไม่รู้จริง ๆ ก็ได้แต่หวังแบบไม่หวังทำดีเข้าไว้เหมือนจีบเขาอีกครั้งนึง แต่จีบครั้งเนี้ยรู้ไว้เลยว่าเรามีคดีเหมือนเขารู้แล้วว่าเราเป็นคนไม่ดีแล้วการเป็นคนไม่ดีจะจีบผู้หญิงคนนึงด้วยความจริงใจต้องทำยังไงไปคิดเอาเอง ก็ลองดูถ้าคิดว่าสงบแล้วจริงก็ลองดูโอกาสอีกสักครั้งนึง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

จะทำยังไงดีคะ? เป็นห่วงคุณแม่วัย 76 แกเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่ ของทุกคนเลย ช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามา ให้เงินญาติ หลานห่างๆ อาสาขับรถไปส่งคนนู้น คนนี้ ไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมอุปกรณ์ให้บ้านคนอื่น แกทำหมดเลย บางวันออกบ้านไปติดต่อไม่ได้แบตหมด

09 ธ.ค. 2024

จะทำยังไงดีคะ? เป็นห่วงคุณแม่วัย 76 แกเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่ ของทุกคนเลย ช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามา ให้เงินญาติ หลานห่างๆ อาสาขับรถไปส่งคนนู้น คนนี้ ไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมอุปกรณ์ให้บ้านคนอื่น แกทำหมดเลย บางวันออกบ้านไปติดต่อไม่ได้แบตหมด

จะทำยังไงดีคะ? เป็นห่วงคุณแม่วัย 76 แกเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่ ของทุกคนเลย ช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามาให้เงินญาติ หลานห่างๆ อาสาขับรถไปส่งคนนู้น คนนี้ ไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมอุปกรณ์ให้บ้านคนอื่นแกทำหมดเลย บางวันออกบ้านไปติดต่อไม่ได้แบตหมด ลืมเอามือถือไป ก็เป็นห่วงเค้ามาก “คุณมะม่วง (นามสมมติ)” อายุ 40 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [4 ธ.ค 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาคุณแม่ชอบช่วยเหลือคนอื่น โดย “คุณมะม่วง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘มันเริ่มจากคุณแม่เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือทุกคนตั้งแต่ญาติพี่น้อง แล้วตอนนี้ก็ขยายไปถึงเพื่อนของญาติพี่น้องด้วย อย่างญาติพี่น้องก็จะขอหยิบยืมเงิน แต่ส่วนใหญ่คือให้ไปเลย ญาติห่าง ๆ ใครมาขอก็จะให้ไป หลาน ๆ ก็จะให้ 1,000 – 5,000 บาท เรื่องเงินก็เรื่องนึง ตอนนี้ด้วยความที่ท่านก็อายุเยอะแล้ว 76 ปี แต่ท่านก็ยังแอคทีฟมาก ช่วยเหลือทุกคน เช่น เพื่อนไม่สบายก็ขับรถไปรับเพื่อนที่บ้าน แล้วก็พาไปหาหมอนั่งรอ และก็พากลับไปส่งบ้าน แล้วก็ขับกลับบ้านเรา บางที่เป็นโรงบาลรัฐก็ต้องไปรอนาน ๆ ก็เลยคิดทำไมแม่เราต้องไปนั่งรอกับเขาด้วย? ทำไมญาติพี่น้องเขาไม่ช่วย จนล่าสุดอันนี้เป็นเพื่อนคุณป้าอีกทีนึง เขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วขโมยขึ้นบ้าน ขโมยก็แงะประตู หน้าต่างแล้วเหมือนก็เขาอยู่ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย คุณแม่ก็เลยไปซ่อมหน้าต่าง ซ่อมประตู ซื้อม่าน คือเหมือนทำบ้านให้เขาใหม่ เราก็แบบทำไมญาติพี่น้องเขาไม่ทำให้ ซึ่งเรื่องการช่วยเหลือความใจดีของคุณแม่เนี่ยเคยเป็นประเด็นในที่บ้านมาแล้ว เพราะว่าตอนนั้นคุณพ่อยังอยู่ คุณพ่อก็ค่อนข้างจะน้อยใจว่า ทำไมไม่ดูแลคนที่บ้านก่อน คุณแม่ออกจากบ้านแทบทุกวัน ไปช่วยคนนู้นช่วยคนนี้ ขับรถให้ญาติ ๆ บ้างเพื่อนบ้าง แต่ตอนนี้คุณพ่อไม่อยู่แล้ว คุณแม่เลยยิ่งแอคทีฟไปใหญ่ ทั้งที่อายุก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาคือคุณแม่ก็อายุเยอะแล้วก็ไม่อยากให้ขับรถ บางครั้งรถก็มีไปเฉี่ยวกับที่จอดรถบ้าง แต่ไม่ได้รุนแรง เคยพยามพูดแล้วแต่แม่ก็ไม่เชื่อ หนูอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจ 2 ข้อคือ “พอจะพูดยังไงให้มัน Effective กว่านี้ หรือว่าเราควรจะพอได้แล้ว?” กับ “ควรจะหากิจกรรมอะไรให้ทำดี” ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ทั้งสองข้อแก้ให้ไม่ได้ค่ะ มันคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในคำถามแรกพูดยังไงให้แม่เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าถามว่าคุณแม่ทำมาทั้งชีวิตจะเปลี่ยนยังไงคะ ไม่มีทางเลยก็ให้มอง ถ้ามันเป็นความสุขของเขาก็ปล่อยเขา แต่ว่าดูอันนี้ไม่ได้อันตรายกับท่าน แล้วท่านยังดูแข็งแรงอยู่นะ 76 แล้วออกมาทำแบบบเนี้ยมันคือความสุขจริง ๆ ก็ได้นะถ้าอยู่บ้านแล้วมันไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นข้อแรกเราตีไปเลยว่ามันทำไม่ได้มันไม่มีวิธีพูดใด ๆ ส่วนข้อสองกิจกรรมมีครบหลากหลายแล้ว มันต้องมีกิจกรรมที่คนสูงอายุทำแล้วเผาเวลา อย่างเช่นกิจกรรมที่บ้านพักคนชราเขาทำกัน “ไผ่นกกระจอก” “คุณมะม่วง” เสริมต่อว่า ‘เสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่ได้ทำงานก็จะพาแม่ไปกินข้าวไปคาเฟ่กับหลานซึ่งท่านก็ไปด้วย’ ดีเจเลยให้คำปรึกษาต่อว่า ‘คุณแม่ก็ทำดีแล้ว ทำครบทุกย่างแล้วจัดสรรเวลาดีซะด้วย ไม่ได้บกพร่องอะไรที่เราจะไปริดรอนความสุขเขา’ “ดีเจเติ้ล” เสริมต่อว่า ‘เพราะนี่พึ่งเห็นบทความ ‘การที่เราปล่อยให้พ่อแม่เราเกษียณ แล้วปล่อยให้อยู่บ้านเฉย ๆ อ่ะยิ่งทำให้เขาแก่ทำให้เสี่ยงอัลไซเมอร์’ ทำให้ชีวิตเฉามากเลยนะ เพราะเขารู้สึกว่าทำได้อีกตั้งเยอะ นอกจากนี้อาจจะให้ท่านเล่นเกม ออกกำลังกายหน้าห้าง เต้นลีลาศอะไรประมาณนี้ ดีเจมองว่า สิ่งที่คุณแม่ทำเป็นเรื่องน่ารักในวัยเขามากเลยนะ ถ้ามันไม่ได้เสี่ยงอันตรายอะไร แต่ทางที่ดีควรหาคนไปเป็นเพื่อนเขาคอยโทรบอกเวลามีอะไร ถ้าเราไม่มีเวลาตามเขาไปตลอด หรือหาอะไรติดตาม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1