พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

มีเพื่อนคนนึง ไม่ค่อยสนิทกัน แต่เค้าส่งคลิปมาให้หนูไม่หยุด ส่งมาให้ทั้งวัน ทั้งคืน คลิปตลก คลิปไวรัล คลิปโซเชียลต่างๆ บางทีหนูก็ไม่ได้เข้าไปดู ลองไม่ตอบไป 2-3 วัน ก็ยังส่งมาไม่หยุด จะบล็อกก็ไม่รู้ว่าจะเสียเพื่อนไปไหม ถ้าเจอแบบนี้ทำไงกันคะ?

26 ก.ค. 2024

มีเพื่อนคนนึง ไม่ค่อยสนิทกัน แต่เค้าส่งคลิปมาให้หนูไม่หยุด ส่งมาให้ทั้งวัน ทั้งคืน คลิปตลก คลิปไวรัล คลิปโซเชียลต่างๆ บางทีหนูก็ไม่ได้เข้าไปดู ลองไม่ตอบไป 2-3 วัน ก็ยังส่งมาไม่หยุด จะบล็อกก็ไม่รู้ว่าจะเสียเพื่อนไปไหม ถ้าเจอแบบนี้ทำไงกันคะ?

“คุณเบ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่ห้าในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนที่ไม่สนิทชอบส่งคลิปมาให้เรามากเกินไปจนมันน่ารำคาญ โดย “คุณเบ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีปัญหาคือจะมีเพื่อนที่ไม่สนิท ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานมากเเล้ว เเต่ว่ามีโซเชี่ยลกัน ติดต่อในโซเชียลบ้าง คือเขาจะชอบส่ง Reels ส่งคลิปมาใน DM ไอจี แชร์มาตลอดเวลาทั้งวันเป็นสิบ ๆ อัน เป็นคลิปตลกบ้าง คลิปศิลปิน คลิปทั่วไปเรื่อยเปื่อย ด้วยความที่มันส่งมาทั้งวัน เเล้วหนูก็รำคาญ คนที่มีพฤติกรรมเเบบนี้มี 2 คน แรกๆ หนูก็ตอบค่ะ ก็ตามมารยาท เพื่อนแชร์อะไรมาให้หนูก็ดู รีเเอคชั่นกลับไป เเต่มันเหมือนหนูยิ่งตอบมันก็ยิ่งส่ง เเล้วหนูเป็นคนตอบเร็วเเล้วไม่ชอบให้มีโนติค้าง เเล้วเป็นว่าก็ส่งมาไม่หยุดเลย คนที่ 1 เขาจะชอบส่งศิลปินที่เขาชอบมา หนูรู้จักแต่ไม่ได้ชอบ เหมือนส่งมาหวีดเมนตัวเองว่า “แก เมนเราน่ารัก ทำแบบนั้นแบบนี้น่ารักมั้ย” หนูเลยตอบรีเเอคไปแบบกว้าง ๆ ไปไม่ได้ลงดีเทลเหมือนที่เขาต้องการ เพราะหนูคิดไปเองว่า ถ้าหนูรีเเอคแบบคนไม่มีใจ เขาจะส่งมาน้อยลง เเต่ว่าไม่ ชีก็ส่งมาเรื่อย ๆ เลย ขอแค่หนูตอบอะไรก็ได้ คนที่ 2 เนี่ยหนักเลย คนนี้เขาชอบแชร์มีม เเชร์เรื่องตลกเรื่อยเปื่อย คือมาทุกช่องทางโซเชี่ยลที่หนูมีกับเขาเลย คือหนูจะมีเฟสบุ้ค ไอจีเขา เขาก็ส่งมาหมดเลย เฟสบุ้คนี่หนักเลย คือมันจะแบ่งเป็น 2 อย่างใช่มั้ยคะ แท็กหนูใต้โพสต์มาเป็นสิบ เเล้วก็ยังเเชร์มาในเเมสเซนเจอร์ของเฟสบุ้คมาอีก ด้วยความที่หนูไม่ค่อยเล่นเฟสบุ้คเเล้วเพราะว่ามีพ่อแม่มีญาติอยู่ หนูก็ไม่ค่อยตอบ เขาก็เหมือนย้ายแพลตฟอร์มมาที่ไอจี มาส่ง เเต่เขาก็ไม่ได้หยุดส่งในเฟสนะคะ เขาก็เเชร์ 3 แพลตฟอร์มเลย คือมันเยอะมาก หนูก็เคยเห็นเขาเเท็กหลายคนอยู่นะคะในโพสต์ที่เขาเเท็กหนู หนูก็กดเข้าไปอ่านไม่ตอบ เพื่อให้โนติมันหายไป มีครั้งนึงชีคนที่ 2 เขาก็ทักหนูกลับมาว่า “เป็นอะไรอะ ไม่ตอบเลย ป่วยหรอ?” หนูก็ตอบกลับไปว่า “ส่งมาเยอะขนาดนี้ตอบไม่ไหวหรอกจ้า” เขาก็อ่านไม่ตอบเเล้วก็หายไปสักพัก ไม่ถึงวันเขาก็แชร์มาอีก หนูทำมาทุกวิถีทางเเล้ว ไม่อ่านไม่ตอบ ทิ้งไว้หลาย ๆ วันเเล้วค่อยไปกดออก เเต่เหมือน 2 คนนี้เขาไม่ลดละความพยายามเลย เขาเห็นหนูอ่านเเล้วก็จะส่งมาใหม่ทันที ไม่สนใจว่าหนูจะไม่ตอบนานเเค่ไหนเเล้วส่งมาเรื่อย ๆ ทีเนี่ย เเจ้งเตือนหนูก็จะชึ้น 2 อัน เป็นเขา 2 คนอยู่ตลอดเลย ไม่เคยหายไปเลย หนูก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า หนูจะทำยังไงดีให้เขาเลิกส่งมาให้หนู หรือว่าส่งมาให้มันปริมาณไม่เยอะขนาดนี้’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเเชร์มีมลอย ๆ มาในกรุ๊ปจะไม่ตอบ เเต่ถ้าเขายิงตรงถึงเรา อาจจะเข้าไปอ่านแล้วตอบนิด ๆ หน่อย ๆ ตามมารยาท เเต่ถ้ารัว ๆ จะไม่ตอบจะไม่สนใจเลย บางคนเขามีความสุขกับการแชร์มีม โดยไม่ต้องการคำตอบด้วย เเค่รู้สึกว่าให้เพื่อนได้เห็นอะไรตลก ๆ เหมือนเรา’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าไม่มีโอกาสได้เจอ เป็นพี่พี่บล็อกไปแล้ว พี่ไม่เหนื่อยมาลบหรอก หรือเบไปตั้งไม่ให้เเท็กได้นะในเฟสบุ้ค เเต่ในไอจีพี่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ถ้ามันทำให้รำคาญ พี่จะบล็อก! ไม่เห็นต้องเเคร์เขาเลยถ้าไม่ใช่เพื่อนที่สนิทเเบบจะเจอกันอยู่เเล้วอะ ถ้าบอกไปแล้ว ทำให้เขารู้ไปเเล้วว่าไม่อยากรับสารเหล่านี้ เเล้วเขายังทำอยู่ก็ต้องบล็อกอะ เพราะไม่รู้จะทำยังไงเเล้ว’ เเละสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่ถ้าไม่สนิทพี่จะไม่อ่านเลย พี่จะลบ ถ้าเขาถามว่าเป็นอะไรทำไมไม่อ่าน ก็ตอบไปเลยว่ารู้ว่าที่ส่งอะไรมามันไม่สำคัญ ขี้เกียจอ่าน พูดตรงๆ เเต่ถ้าไม่อยากพูดตรง ๆ อีกวิธีคือให้อันฟอลเขาเเล้วไปตั้งค่าให้เเค่คนที่เราติดตามเท่านั้นส่งข้อความได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

26 ก.ค. 2024

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

“คุณมิ้ว (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาซื้อขนมมากินคนเดียว เคยถามแฟนแล้วว่าจะกินมั้ย แต่เขาบอกไม่กิน สุดท้ายโดนแย่งเฉย “คุณมิ้ว (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เวลาที่เราไปห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ เราจะชอบของขนมมาตุนเอาไว้ เพราะบ้านเราอยู่ไกลจากสถานที่ที่สามารถไปซื้อของได้ ก็จะซื้อไว้เยอะๆ แล้วเราจะถามแฟนว่า “เธอจะเอาอะไรไหม เธอจะกินอะไรไหม อันนี้เอาป่าว” ก็จะถามตลอด แต่คำตอบคือ “ไม่เอา ไม่กินหรอก พอแล้วๆๆ” พอเราซื้อกลับมากลับมาที่บ้านแล้วก็จะมาแบบ “ขอกินหน่อย ขอคำนึง” แต่คำว่าหน่อยของเขามันเยอะ มีอยู่ครั้งนึงที่ต้องทำให้มาเล่าเลยคือ วันนั้นเราซื้อชนมไว้ แล้วเราเก็บไว้ กะไว้ว่าจะมากินตอนเย็น วาดภาพในหัวไว้แล้วว่า ขนมชิ้นนี้มีอยู่เดี๋ยวฉันจะกลับมากิน พอกลับมาที่บ้าน ขนมหาย แล้วเราก็หา แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร เราถามเขาว่า “ขนมฉันหายไปไหน” เขาก็ทำเป็นขำแล้วบอกว่า “ฉันกินเอง” แล้วตอนนั้นเราเป็นประจำเดือนด้วย เราก็แบบ “เอ้า อะไรอะ” คือหงุดหงิด โกรธ น้ำตาคลอเลย “ทำไมอะ ฉันถามเธอแล้วใช่ไหม ว่าเธอกินไหม ถ้ากินฉันจะซื้อมาเผื่อ ทำไมเธอถึงมสเเย่งฮันกิน” แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร นั่งฟัง “ขอโทษค้าบบบ” ของที่ซื้อแต่ละครั้งก็เป็นเงินที่ใช้ร่วมกัน เคยลองซื้อมาเป็น 2 เท่าแล้วเขาก็จะไม่กิน เขาจะชอบแบบขนมอยู่ในมือเราแล้วมาขอกิน’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คนให้คำปรึกษาว่า ‘ในวินาทีที่ผู้ชายถูกถามมันยังไม่หิว ไม่อยากกิน ถ้าหิวถึงจะกิน แต่พอมาเห็นตรงหน้ามันเย้ายวน ด้วยรูป รส กลิ่น เสียง แล้วกว่าจะมาถึงบ้านของก็เริ่มหิวนิดๆแล้วส่วนผู้หญิงจะประมาณว่าไม่หิวก็กินได้ กินจุกจิก เพราะฉนั้นเวลาไปซื้อขนมลองถามเขาดูว่าอีก 2 ชม.จะเริ่มอยากกินไหม ถ้าหิวนิดๆแล้วอยากกินฉันจะได้ซื้อเลย ให้ผู้หญิงเเพลน เหลือดีกว่าขาด ซื้อเผื่อไปเลย ไม่ต้องถาม พอถึงเวลาก็บอกเลยว่าเธอต้องกิน หรือเมนูไหนที่มันหายากหรือมิ้วอยากกินจริงๆ ของจำกัดให้ซ่อนแล้วแอบกิน เพื่อลดปัญหาครอบครัว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ... หนูไปเจอกับเพื่อนของเพื่อนมา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พอเขาได้ยินว่าหนูคุยกับเพื่อน หนูเรียกมอเตอร์เวย์ว่า ทางด่วน เค้ารีบพูดแทรกขึ้นมาว่า ไม่ถูกต้องมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางด่วน หนูเลยตอบกลับว่า...

26 ก.ค. 2024

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ... หนูไปเจอกับเพื่อนของเพื่อนมา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พอเขาได้ยินว่าหนูคุยกับเพื่อน หนูเรียกมอเตอร์เวย์ว่า ทางด่วน เค้ารีบพูดแทรกขึ้นมาว่า ไม่ถูกต้องมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางด่วน หนูเลยตอบกลับว่า...

เกิดมาเพิ่งเคยเจอ... หนูไปเจอกับเพื่อนของเพื่อนมา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนพอเขาได้ยินว่าหนูคุยกับเพื่อน หนูเรียกมอเตอร์เวย์ว่า ทางด่วน เค้ารีบพูดแทรกขึ้นมาว่าไม่ถูกต้องมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางด่วน หนูเลยตอบกลับว่า เราน่าจะมาจากคนละถิ่นกันเขาโกรธจนตัวสั่น เสียงดังใส่ หนูผิด? “คุณอัย (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาทะเลาะกับเพื่อนของเพื่อนเรื่องที่เราเรียกมอเตอร์เวย์ว่าทางด่วน โดย “คุณอัย (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ก่อนหน้านี้เราขับรถไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน ก่อนที่จะถึงร้านอาหารเราก็ขึ้นทางด่วน แล้วเราก็คุยกับเพื่อนเราแต่ด้วยความที่งานวันเกิดเพื่อนไม่ได้มีแค่เรา มีเพื่อนของเพื่อนที่เราไม่ได้รู้จัก ชื่อเปรี้ยว (นามสมมติ) น่าจะโตกว่าเรา เราคุยกับเพื่อนว่าตอนขับรถมาเปิด Google map มา มันให้ขึ้นมางด่วน เปรี้ยวก็โพร่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แบบว่าทำไมเราไม่รู้ “ไอที่เรียกว่าทางด่วน มันไม่ใช่” เราคิดว่า ไม่ใช่ได้ไง เราเรียกว่าทางด่วนมาตลอด เลยตอบว่า “ไม่ค่ะ เราก็เรียกทางด่วนมาตลอดนะคะ” เขาก็ยังยืนยันด้วยน้ำเสียงโกรธว่า “ไม่ใช่ ไอที่เราเรียกอยู่มันคือ มอเตอร์เวย์ ทางด่วนคืออันที่ลอยฟ้า” เราเลยตอบว่า “ก็เราไม่ได้เรียกแบบนี้ เราเรียกของเรามาแบบนี้” แล้วเขาก็บอกว่า “สมัยก่อนมันใช้บัตรคนละใบกันด้วยนะ ทางด่วนกับมอเตอร์เวย์” เราก็บอกว่า “แต่สมัยนี้ใช่ Easy Pass ได้ทั่วราชอาณาจักรนะ” เขาก็ยังไม่ยอม เราก็เลยบอกว่า “งั้นไม่เป็นไร พี่จะเรียกแบบนั้นก็เรียกของพี่ หนูก็เรียกแบบนี้ เราอาจจะมาจากคนละจังหวัด ถิ่นหนูอาจจะเรียกแบบนี้ ถิ่นพี่อาจจะเรียกอีกแบบ” เหมือนเขาโกรธมากที่เราพูดแบบนั้น แล้วเขาก็เงียบไปประมาณ 1 นาที ตอนนี้ใจเราก็เริ่มอยากกลับบ้านละ เลยหันไปคุยกับเพื่อนว่าเราจะกลับทางไหนดี ระหว่างมอเตอร์เวย์ กับบูรพาวิถี ซึ่ง 2 เส้นนี้เราเรียกว่าทางด่วน แต่รอบนี้เราต้องพูดชื่อ เพราะถ้าไม่พูดชื่อแล้วเรียกแค่ทางด่วน เพื่อนก็จะไม่รู้ว่าทางด่วนไหน แล้วเราก็ดูใน Google map มันให้เราขึ้นมอเตอร์เวย์ แต่เราอยากไปทางบูรพาวิถี เราเลยพูดว่า “Google map มันให้เราไปมอเตอร์เวย์” ทีนี้เปรี้ยวก็หันมาโวย “ทำไมรอบนี้เรียกมอเตอร์เวย์ เมื่อกี้เรียกว่าทางด่วนไม่ใช่หรอ” เราก็บอกว่า “ก็รอบนี้มันมี 2 ทางเราเลยต้องเรียกชื่อทางด่วน จะได้รู้ว่าไปทางไหน” แต่คือเขาเหมือนไม่ฟังเรา แล้วเขาโกรธ โวยวายขึ้นมา “มึงเรียกแบบนี้ทำไมๆ ทำไมมึงไม่เรียกทางด่วน มึงเรียกไม่ได้” เขาเสียงดังมาก แต่ในร้านคือบรรยากาศร้านเหล้า เราก็เสียงดังเหมือนกัน เราก็ไม่พอใจ ทำไมเขามาพูดกับเราแบบนี้ ตอนแรกก็นึกว่าเขาเป็นคนห้าวๆ แล้วเขาก็จับแขนเรา ส่วนแฟนเขาก็ไม่ห้ามนั่งเล่นเกม เพื่อนก็นั่งอึ้งอยู่ แล้วเขาก็พูดว่า “มึงต้องเรียกทางด่วน เรียกมอเตอร์เวย์ไม่ได้ เมื่อกี้มึงเรียกทางด่วน มึงต้องเรียกแบบนี้” คือเขาโกรธมากๆ เราก็เลยสบัดแขนออก คือไม่โอเคเเล้วเราก็จะกลับ พอเราลุกจะกลับ แล้วเราก็ดันเก้าอี้กลับแต่มันดันเสียงดัง เปรี้ยวก็เลยเข้าใจว่า ประชดเขา เขาก็เลยดันเก้าอี้ว่างข้างๆเขาเสียงดังบ้าง แล้วเราก็หนีกลับบ้านเลย แล้วมารู้จากเพื่อนว่า คนที่เป็นเพื่อนของเพื่อนเรา คือแฟนเปรี้ยว ไม่ใช่เปรี้ยว อยากถามพี่ๆดีเจว่า การเรียกทางด่วนคือเราเรียกผิดหรอ กับ จริงๆแล้วเราทำอะไรไม่ดีรึป่าวเขาถึงได้โกรธ หรือเป็นเพราะพูดว่า “เราอาจจะมาจากคนละจังหวัด ถิ่นหนูอาจจะเรียกแบบนี้ ถิ่นพี่อาจจะเรียกอีกแบบ” เขาเลยโกรธ’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ทางมอเตอร์เวย์สำหรับผมคือเรามาจากพระราม 9 ข้ามศรีนครินทร์พอลงแตะพื้นปุ้ป ผมนับว่าเป็น มอเตอร์เวย์ยาวไปสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยาเลย แต่ทางยกระดับที่ไปชลบุรี คือ บูรพาวิถี ส่วนประโยคจุดระเบิดเนี่ย บางทีมันอยู่ที่คนรับสาร ว่ามีวุฒิภาวะ อารมณ์ เราไม่รู้เจอคนแบบไหน ก็เป็นไปได้ที่จะจุดประกายความโกรธ แต่เขาเองก็ควบคุมอารมณ์ได้น้อยไปหน่อย มันใช่เรื่องมั้ยที่จะมาชี้ว่าใครเรียกอะไร ถ้าเรียกต่างกันเเต่ก็ไปเหมือนกันก็ช่างมันไปเถอะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘สำหรับพี่ พี่ไม่เรียกมอเตอร์เวย์ว่าทางด่วน บูรพาวิถีก็อาจจะไม่ด่วนนะ เพราะพี่ไว้ใช้ออกจากเมือง ทางด่วนสำหรับพี่คือทางด่วนที่ไม่ต้องลงไปด้านล่าง แบบด่วนวิภาวดี ด่วนบ่อนไก่ บูรพาน่าจะด่วนแหล่ะ แต่มอเตอร์เวย์คนเขาจะไม่ค่อยเรียกว่าด่วนก่อน แล้วประเด็นที่พูดคือด้วยรูปประโยคมันก็เหมือนเราด่าเขานั่นแหล่ะ แต่มันเหมาะสมในกรณีนี้ เพราะว่าเขาเสือก ไม่ใช่เรื่องของมึงเลย 1.มึงไม่ใช่เพื่อนกู 2.คือก็จะขึ้นทางด่วนไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมึงเลย แล้วก็ที่อยู่ๆก็พูดมาแบบนั้นคือมันเสียมารยาท คนเสือกเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ เป็นคนอื่นอาจจะด่าแรงกว่านี้ด้วย’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าอีเปรี้ยวมันแหลมเข้ามาปุ้ป กูเรียกทุกเส้นคือทางด่วน เพราะกูรีบ! นี่คือวิธีตอบ จะไม่มีว่าถิ่นหนูถิ่นใคร แล้วที่ไปพูดกับเขาเรื่องถิ่นเหมาะสมไหม ไม่เหมาะสม อันนี้ไม่เห็นด้วย เพราะหนูพูดเบาไป หลังเขาบ้านมึงตัดถนนเส้นอะไรมาอธิบายซิ้ หลังจากนั้นก็ตบกัน พูดจบอย่าปล่อยให้มือถึงเราก่อน ใครล้มก่อนแพ้ สู้ ใจอย่าไปกลัวมัน อย่างน้อยอีเปรี้ยวจะไม่กล้าพูดแบบนี้กับใครอีก ทั้งสองคำถามสรุปได้ในคำเดียว เสือก!!!’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

มีพี่ที่ทำงานของแฟนคนนึง ชอบทำตัวสนิทสนม ไปรับไปส่งแฟนหนูตลอด เคยไปกินข้าวด้วยกัน พี่เขาก็เล่าว่า พี่เขาเคยนอกใจมาแล้วด้วย แล้วเค้าก็เคยพูดกับหนู “อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนนะน้อง ระวังด้วยอยู่ที่ทำงาน แฟนน้องมีสาวๆเข้าหาเยอะ”

26 ก.ค. 2024

มีพี่ที่ทำงานของแฟนคนนึง ชอบทำตัวสนิทสนม ไปรับไปส่งแฟนหนูตลอด เคยไปกินข้าวด้วยกัน พี่เขาก็เล่าว่า พี่เขาเคยนอกใจมาแล้วด้วย แล้วเค้าก็เคยพูดกับหนู “อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนนะน้อง ระวังด้วยอยู่ที่ทำงาน แฟนน้องมีสาวๆเข้าหาเยอะ”

“คุณเกรท (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาพี่ที่ทำงานชอบมาเกาะแกะแฟน โดย “คุณเกรท (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘พี่ที่ทำงานของแฟนชอบมายุ่งกันหนูและแฟนหนู คือหนูกับแฟนไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแต่แฟนก็จะมาเล่าเรื่องราวแต่ละวันให้ฟัง หนูก็จะได้ยินถึงพี่คนนี้ตลอดชื่อ พี่พลอย (นามสมมติ) แต่เค้าอยู่คนละแผนกกัน คือเค้ากับแฟนหนูจะอยู่แก้งที่ไปกินเหล้ากัน แต่ตัวหนูอะไม่กิน หนูก็ไม่เคยไปยุ่งเลยเพราะมันก็คือความสุขของแฟน และตัวแฟนก็ไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง มีอะไรก็โทรหากันตลอด และแฟนหนูก็จะบอกว่าวันนี้พี่พลอยจะไปส่งที่บ้านนะ ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ไกลกันมาก แต่แฟนเค้าก็บอกจะได้ประหยัด แต่มาหลัง ๆ เริ่มบ่อยขึ้น และในระหว่างที่อยู่บนรถแฟนหนูก็จะโทรคุยกับหนูตลอดทาง แล้วก็จะส่งสายให้พี่คนนี้คุยด้วย และอีกเหตุการณ์นึงคือ มีวันหนึ่งที่เค้ามาทำงานใกล้บ้านหนูกับแฟน แฟนก็เลยชวนหนูทานข้าวด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นหนูก็ไม่ได้ระแคะระคายอะไร เพราะว่าแฟนชอบชวนหนูไปทำความรู้จักกับพี่ที่ทำงาน ซึ่งวันนั้นพี่พลอยมาคนเดียว หนูก็ชวนเค้าคุยไปเรื่อย ๆ อยู่ดี ๆ พี่เขาเริ่มมีอาการอวดรวยและใช้เงินนุ้นนี่นั่น ต้องบอกก่อนว่าแฟนหนูเหมือนเป็นที่จับจ้องของคนในบริษัท เพราะแฟนหนูจบนอกมา แต่ว่าเกรสกับแฟนรู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน ตัดกลับมาตอนที่กินข้าว จู่ ๆ พี่พลอยก็พูดกับหนูว่าตัวพี่เค้าเคยนอกใจแฟนเค้า แต่แฟนพี่พลอยรักพี่พลอยมากไม่ยอมเลิกขอร้องให้พี่พลอยอยู่ต่อ หนูก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ และพอทานข้าวไปสักพักพี่พลอยก็บอกว่าจะแต่งงาน หนูก็บอกว่า “ยินดีด้วยค่ะ กับคนนี้รึป่าวคะที่นอกใจ” พี่เค้าก็บอกใช่แต่ว่าแฟนพี่เค้ารักพี่พลอยมาก หนูก็เลยพูดว่าเป็นหนูหนูไม่เอาแล้วนะ ถ้าแฟนหนูนอกใจ แล้วพี่พลอยเค้าคิดว่าหนูจะพูดว่า พี่ยอดเยี่ยมมาก เริสมาก แต่รีแอคชั่นหนูไปคนละทางเลย เพราะหนูเป็นคนตรง ๆ แล้วเหมือนพี่เค้าก็หน้าเสีย แต่หนูไม่ได้ตั้งใจหักหน้าเค้า จู่ ๆ เค้าก็พูดขึ้นมาว่า “เกรทต้องเผื่อใจไว้บ้างนะ อะไร ๆ มันไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิด” แล้วแฟนหนูก็หันมามองหน้าประมาณว่าอะไรวะเนี่ย จนตอนกลับบ้านด้วยความที่แฟนหนูเป็นคนไม่ขับรถและหนูจะเป็นคนขับ หนูเลยบอกเดี๋ยวให้แฟนกลับกับหนูเพราะบ้านเราใกล้กัน พี่คนนั้นก็หันมาหน้าเหวี่ยง ๆ และพูดว่า “ไม่กลับกับพี่หรอ” แฟนหนูก็แบบ “บ้าหรอ เกรทมาก็กลับกับเกรทสิ” และจากที่ก่อนหน้านี้ที่แฟนหนูเล่าคือพี่พลอยเค้าทำไมถึงคิดว่าแฟนหนูชอบเค้าตลอดเวลา มันมีเหตุการณ์ที่แฟนหนูไม่สามารถไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงได้เลย หรือไปถามงานพูดคุยกับผู้หญิง พี่พลอยเค้าจะมีอารมณ์หึงหวง หนูไม่เคยบอกแฟนเลยว่าพี่คนนี้แปลก จนมีเหตุการณ์ที่ไปกินข้าวกันรอบ 2 คือหนูไปเข้าห้องน้ำแล้วเจอพี่เค้า พี่เค้ามองหนูผ่านกระจก แล้วพูดว่า “แฟนเราเนี่ยอยู่ที่ทำงานสาวเยอะนะ ระวังตัวไว้” หนูก็เลยมองกลับไปหน้ากระจกแต่ไม่พูดอะไรแค่ยิ้มไป แล้วหนูก็เดินออกไปเลย หนูเลยพูดกับแฟนว่าพี่คนนี้แปลก หลังจากที่หนูพูดแฟนหนูก็ไม่กลับกับพี่เค้าอีกเลย และไม่ไปกินข้าวกับพี่เค้าเลย ยกเว้นมีพี่คนอื่นที่สนิท หนูเลยอยากถามว่าหนูควรทำตัวกับเหตุการณ์นี้ยังไง เพราะการเกาะแกะของพี่เค้ามันน่ารำคาญ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูไม่ต้องทำไรเลย หนูต้องให้แฟนหนูทำ เพราะว่าเค้ามาเป็นแมงวันแมงหวี่ได้เพราะแฟนหนูเป็นคนพาเค้ามาทั้งนั้นเลยนะ หนูรู้เรื่องเค้าเพราะแฟนมาเล่า หนูเจอเค้าเพราะแฟนพามา ถ้าพี่เป็นหนูพี่จะไม่ทำอะไร จะไม่ไปยืนด่าเค้าหน้าออฟฟิศ พี่จะให้แฟนหนูใจแข็ง ตัดบทเค้าออกไป พยายามเอาเค้าออกจากวงจรชีวิต เลิกไปส่ง เลิกไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ ต้องวางตัวว่าเราไม่โอเค และจะบอกให้แฟนเราไปบอกพี่เค้าว่าแฟนผมไม่ชอบ แฟนผมไม่โอเค พี่ต้องเลิกส่งข้อความส่วนตัวมาได้แล้ว’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เราต้องทำตัวให้สวยแพง และให้เค้ารู้ว่าเธอยังห่างฉันอีกไกล ไม่ใช่ลดตัวลงไปกับเค้า มารยาทบนโต๊ะอาหารสำคัญ เราไม่สามารถโพล่งออกไปตัดบทของเค้าในครั้งแรกที่เจอกัน พี่ไม่ได้รู้สึกว่ามันตรง แต่บางอย่างไม่ควรพูดออกไป ซึ่งเรื่องการนอกใจเค้าอาจจะอยากเปิดใจคุยกับเรา เราไม่จำเป็นต้องเลวร้ายใส่เค้า แต่เค้าก็มีส่วนผิดที่พูดเรื่องให้ระวังแฟน แต่พี่ไม่ต้องการให้หนูโต้กลับในระดับเดียวกับเค้า ต้องทำน่ารักให้รู้สึกว่าเธอเทียบฉันไม่ได้ อยู่สวย ๆ และให้แฟนจัดการ จากที่หนูเล่าว่าแฟนก็ส่งแชทมาให้ดู คือพี่คนนี้น่าจะประสาท เราก็ไม่ควรประสาทกลับ เราควรออกห่าง’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เห็นด้วยกับเติ้ล ว่าต้องดูพฤติกรรมของแฟน ไม่ต้องเอาตัวเข้าไปแลก มันอยู่ที่แฟนจะวางตัวยังไงมากกว่า ซึ่งก็ได้เห็นการพยายามวางตัวของแฟนนะ แต่ส่วนตัวพี่พี่ว่าทำได้เด็ดขาดกว่านั้น เช่นการปฏิเสธการตอบแชท แต่ตอนนี้แฟนหนูยังมีการรักษาน้ำใจอยู่ ถ้าเราไม่สบายใจก็สามารถคุยกับแฟนได้ ในเรื่องของการยกระดับการวางตัว หรือถ้าแค่นี้หนูสบายใจแล้วก็เป็นเรื่องของคู่หนู’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แม่หนูเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก จนหนูเริ่มสังเกตว่าผิดปกติ ไปเจอว่าแม่ขายบริการทาง X มีลูกค้าติดต่อมา รับงานเรื่อยๆ หลังๆมาแม่เพิ่งทราบว่ามีเชื้อ HIV แต่แม่ก็ยังไม่หยุดทำงานนี้ ค่าตัวที่แม่รับ ทำหนูตกใจกว่าเดิม 200 – 300 บาท จะทำยังไงดีคะให้แม่เลิก

26 ก.ค. 2024

แม่หนูเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก จนหนูเริ่มสังเกตว่าผิดปกติ ไปเจอว่าแม่ขายบริการทาง X มีลูกค้าติดต่อมา รับงานเรื่อยๆ หลังๆมาแม่เพิ่งทราบว่ามีเชื้อ HIV แต่แม่ก็ยังไม่หยุดทำงานนี้ ค่าตัวที่แม่รับ ทำหนูตกใจกว่าเดิม 200 – 300 บาท จะทำยังไงดีคะให้แม่เลิก

“คุณมิ้นต์ (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่แรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่ติดเชื้อ HIV แต่ยังขายบริการอยู่ โดย “คุณมิ้นต์ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่หนู พ่อกับแม่หนูแยกทางกันตั้งแต่เด็ก หนูอยู่กับพ่อ ส่วนน้องสาวอยู่กับแม่ แม่หนูอายุ 45 ปี จะเป็นคนที่มีนิสัยเปลี่ยนแฟนบ่อยแทบทุกเดือน ช่วงที่หนูเด็กๆ เวลาแม่มาเยี่ยมเค้าก็จะเปลี่ยนแฟนทุกครั้ง จนหนูไม่อยากให้แม่มาหาเพราะคนแถวบ้านเค้าก็จะนินทาเรื่องที่แม่มาหาแล้วเปลี่ยนแฟน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่มาหาแล้วเหมือนจะคืนดีกับพ่อ พอผ่านไปอยู่ดี ๆ เค้าก็กลับบ้านไปพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นแม่หนูไม่มีโทรศัพท์แต่เจอผู้ชายคนนั้นที่ขนส่งเลยพาเค้ากลับบ้าน แล้วเหมือนแฟนเก่าแม่ก็ไปเจอทวิตเตอร์แม่ที่ขายบริการด้วย หนูก็เลยถามน้องสาว ซึ่งน้องสาวก็ไม่รู้ จนเวลาผ่านไป 3 ปี แม่ก็กลับมาบอกว่าเค้าป่วยและอยากให้หนูไปหา หนูเลยถามเค้าว่าเค้าป่วยเป็นอะไร? เค้าก็บอกว่าเค้าเป็นโรคที่คนรังเกียจ หนูก็เลยพาเค้าไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ผลปรากฎว่าแม่หนูเค้าติดเชื้อ HIV แล้วหนูก็ให้เงินไปรักษา เพราะเค้าบอกว่าเค้าไม่สามารถทำงาน หาเงินได้แล้ว หนูก็เชื่อใจเค้า เพราะเค้าบอกเค้าจะหยุดเรื่องผู้ชายก็เลยช่วยเหลือเค้าไป จนผ่านมาประมาณเดือนกว่า หนูก็เห็นเค้าโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าเหงา อยากหาคนมาอยู่ด้วยหรือใครสักคนที่รักเค้าไปเลี้ยง หนูก็เริ่มเอะใจว่าเค้าไม่ได้เลิกทำเหมือนที่เค้าบอก เลยไปเสิร์ชในทวิตเตอร์ก็เจออีกว่าเค้ายังขายบริการอยู่ แต่ที่หนูตกใจคือเค้ารับแบบไม่ป้องกันด้วย หนูก็เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบอกเค้ายังไง หนูเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วเพราะว่าน้องสาวที่อยู่กับเค้าก็มีนิสัยเหมือนเค้าเลย คือมีพฤติกรรมเปลี่ยนแฟนทุกเดือน และหนูก็เคยเตือนเค้าไปแล้ว เค้าก็บอกว่าเค้าเลิกแล้ว ที่หนูกลัวคือแม่หนูเค้าขายถูกมาก 200 - 300 หนูก็กลัวว่าคนที่มาซื้อแม่จะมารับเชื้อไปแพร่ต่อในครอบครัว หนูไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเค้ายังไงให้เค้าหยุดเพราะหนูรู้สึกว่ามันเป็นตราบาป ปกติแม่หนูจะฟังรายการพุธทอล์คพุธโทร เค้าจะแชร์หน้าเฟสอยู่บ่อย ๆ เลยอยากให้พี่ ๆ พูดถึงแม่ว่าสิ่งที่เค้าทำมันเป็นยังไง? โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ทุก ๆ การกระทำของคนที่เป็นแม่ มันส่งผลถึงลูกอยู่แล้ว ทีนี้ลูกโทรเข้ามาแม่ก็ต้องคิดแล้วว่าที่ผ่านมาเราทำหน้าที่แม่ดีพอแล้วรึเปล่า ทำไมเราถึงทำให้ลูกเราทุกข์ขนาดนี้ แล้วสิ่งที่ลูกเรากำลังเป็นห่วงอยู่ มันเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นรึเปล่า คุณแม่ควรคุยกับลูก บางทีลูกก็ไม่กล้าที่จะเปิดใจหรือพูดคุยกับคุณแม่ แม่ลองเป็นฝ่ายเข้าหาลูกดู ลูกโทรเข้ามาวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากห่วง ฉะนั้นแม่ลูกควรพูดคุยกัน และสิ่งที่ลูกบอกคือไม่อยากให้แม่แพร่เชื้อ แม่ก็ลองหาวิธีดูว่าแม่จะไม่แพร่เชื้อได้อย่างไร ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการหอมว่าชั่งหัวมัน เพราะการไม่ใส่ถุง โอกาสของการติดเชื้อมันมีอยู่แล้ว ชั่งหัวลูกค้ามัน เอาเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกดีกว่า ว่าวันนี้เราจะดูแลสภาพจิตใจลูกเรายังไง เรามีคำตอบอะไรให้ลูกเรา ยังไงหน้าที่แม่ก็ลาออกไม่ได้ ฝากคุณแม่เรื่องนี้ละกัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมไม่แน่ใจย่าคุณแม่จะติดขัดเรื่องเงินมากน้อยแค่ไหน แต่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง เข้าใจว่าชีวิตที่ลำบากมันทำให้ต้องคิดถึงตัวเราก่อน แต่ว่าในขณะที่เราต้องการพาตัวเราให้รอด ไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ตาม เราก็ไม่ควรพาเอาชีวิตคนอื่นเค้าแย่ไปด้วย ผมไม่รู้ว่าแม่ถือหรือเชื่อเรื่องอะไร แต่จริง ๆ บาปกรรมเราคงไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ว่าถ้าพูดถึงกรรม กรรมก็คือผลของการกระทำ ทุกอย่างที่เราทำมันมีผลเสมอ มันอาจจะไม่ได้ตกถึงแม่ แต่วันนี้ความทุกข์มันตกถึงลูกอย่างมหาศาล ถึงแม้จะไม่ใช่ความรับผิดชอบอะไรของเค้าเลยก็ตาม มิ้นเองก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจก็ได้ ชีวิตใครชีวิตมัน แม้กระทั่งลูกสาวังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมากกว่าเรา ผมว่ามันมีอะไรที่ผิดไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดที่จะพอนึกถึงคนอื่นได้บ้างก็ป้องกัน แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็คิดถึงชีวิตคนอื่นได้บ้าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ ก็เคารพในการตัดสินใจที่จะทำอะไร เพราะมันก็ชีวิตใครชีวิตมัน มันก็อาจจะเป็นหนทางเดียวที่คุณแม่มีอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ ซึ่งเติ้ลก็ไม่สามรถไปตัดสินได้ ว่าอย่าทำแบบนั้น อย่าทำแบบนี้ แต่อย่างน้อย ๆ การกระทำของคนทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน แต่สิ่งที่คุณแม่ตัดสินใจทำอยู่ตอนนี้มันมีส่วนที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วตัวเองด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณแม่ป่วยขนาดไหน แต่การที่คุณแม่ขายบริการโดยใช้เรื่องการสดเป็นการดึงดูดมันเหมือนเป็นการทำร้ายคนอื่นทางอ้อม เพราะว่าการเป็นโรคนี้ไม่ใช่แค่คนที่มาใช้บริการจะติดได้ แต่ถ้าคนนั้นเค้าไปมีอะไรกับภรรยาหรือคนอื่น ๆ มันก็มีสิทธิ์ที่จะแพร่ไปได้อีก และมันจะควบคุมความเสียหายไม่ได้ อยากให้คิดดี ๆ การที่แค่จะให้ตัวเองรอดโดยที่ไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นยังไง มันสมควรแล้วมั้ยกับทางรอดของตัวเองในแบบนั้น เท่าที่น้องมิ้นเล่าให้ฟังมีน้องสาวที่เห็นคุณแม่เป็นตัวอย่าง อยากให้รู้ว่าบางอย่างไม่ใช่เราตัดสินใจแล้วจะทำได้เลย คิดหน้าคิดหลังว่าจะมีใครได้ผลกระทบจากสิ่งที่เราทำไหม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบกับแฟนคนนี้มา 7 ปี ครอบครัวเรายังไม่เคยเจอกันเลย ครอบครัวฝั่งหนูเริ่มถามแล้วว่าเมื่อไหร่จะแต่ง เมื่อไหร่จะมีหลาน เราก็แก่ขึ้นทุกวัน ผู้ชายก็ไม่พูดถึงเรื่องขอแต่งงานอะไรเลย บอกว่ารอพร้อมก่อน จนตอนนี้เรารู้สึกอยากมั่นคงแล้ว ควรรออยู่ไหม?

26 ก.ค. 2024

หนูคบกับแฟนคนนี้มา 7 ปี ครอบครัวเรายังไม่เคยเจอกันเลย ครอบครัวฝั่งหนูเริ่มถามแล้วว่าเมื่อไหร่จะแต่ง เมื่อไหร่จะมีหลาน เราก็แก่ขึ้นทุกวัน ผู้ชายก็ไม่พูดถึงเรื่องขอแต่งงานอะไรเลย บอกว่ารอพร้อมก่อน จนตอนนี้เรารู้สึกอยากมั่นคงแล้ว ควรรออยู่ไหม?

“คุณแจง (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [17 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจอั๋น - ดีเจเติ้ล’ เกี่ยวกับปัญหาเราอยากแต่งงาน แต่แฟนเราไม่พร้อมสักที โดย “คุณแจง (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 7 ปี ปัญหาเรื่องเดียวที่มีตอนนี้คือเรื่องแต่งงาน เริ่มแรกที่มาคบกับแฟนคนนี้ หนูก็ถามเค้าและเช็คว่าเค้าอยากจะมีครอบครัวหรือแต่งงานไหม? ซึ่งแฟนหนูก็มีความคิดอยากจะแต่งงาน ทีนี้พ่อกับแม่หนูเป็นคนมีอายุ เค้าเลยจะเป็นคนหัวโบราณ พอคบกันได้ประมาณ 2 - 3 ปี แม่หนูก็อยากจะให้แต่งงาน แต่ช่วงนั้นหนูกับแฟนยังศึกษาดูใจกันอยู่ หนูก็เลยขอให้พ่อกับแม่รอก่อน หลังจากนั้นช่วงปีที่ 4 - 5 พ่อกับแม่ก็รู้สึกว่ามันนานสำหรับเค้า บวกกับอายุหนูที่ตอนนี้อายุ 33 และแฟนอายุ 35 ค่ะ พ่อกับแม่เลยอยากให้ครอบครัวของแฟนหนูเข้ามาคุยเรื่องแต่งงาน แต่ ณ ช่วงนั้นเกิดปัญหาคือแฟนหนูป่วย ไม่สามารถไปทำงานได้ปกติ ต้องรักษาถึงกลับมาปกติได้ ทางครอบครัวแฟนหนูเค้ามีฐานะและสามารถซัพพอร์ตแฟนหนูได้ แต่แฟนหนูรู้สึกว่าตัวเค้าหยุดชะงักลง เลยยังไม่แต่งงาน ณ เวลานั้น หนูใช้เวลา 2 ปีหลังจากนั้นรวมเป็น 7 ปีในการช่วยแฟนหนูดีขึ้น จนสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติ และเริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว ซึ่งในช่วง 2 ปีหลังนี้มันหนักมากเพราะหนูโดนกดดันทั้งทางครอบครัว และสังคมรอบข้าง ว่าคบกันมาตั้งนานแล้วทำไมยังไม่แต่งงานกันอีก หนูเป็นคนกลางที่เข้าใจทั้งแฟนและฝั่งพ่อแม่ และในระยะเวลาที่ยังไม่แต่งงานกัน แล้วหนูจะไปเจอแฟน หนูต้องโกหกพ่อกับแม่ตลอดว่าหนูไปทำงานพิเศษ แต่จริง ๆ แล้วเวลาวันหยุดของหนู หนูจะไปหาแฟน หนูไม่สามารถบอกพ่อกับแม่ได้เลยว่าหนูไปเจอแฟน เพราะว่าพ่อกับแม่หนูรับไม่ได้เรื่องอยู่ก่อนแต่ง มันทำให้หนูรู้สึกผิดมาก ๆ เพราะพ่อแม่หนูไม่ได้มีเงิน แม่หนูต้องทำงานหนักมาก ๆ เพื่อจะส่งเสียหนูเรียน หนูก็ต้องเรียนดี ๆ เพื่อที่จะได้งานดี ๆ แล้วหนูก็เป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่มาตลอด ถ้าหนูไม่ได้ทำตามความตั้งใจของพ่อแม่ มันทำให้หนูรู้สึกผิดที่หนูเหมือนเป็นลูกที่ไม่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ จนมาวันนึงที่แม่หนูป่วยกะทันหันจนต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นทำให้หนูมีความคิดขึ้นมาว่าพ่อแม่หนูไม่ได้มีเวลาที่จะอยู่ตรงนี้อีกนาน แล้วถ้าวันนึงหนูแต่งงานแล้วพ่อแม่ไม่อยู่ มันจะมีประโยชน์อะไร? เพราะงานแต่งงานครั้งนี้หนูกับแฟนไม่ได้มีความคิดที่จะแต่งเพื่อมีหน้า มีตา แต่ที่แต่งเพราะพ่อแม่หนูอยากให้แต่งเพื่อให้ได้รับเกียรติจากครอบครัวฝั่งแฟนที่เค้าจะมาให้เกียรติทางบ้านเรา พอมันเกิดเหตุการณ์นี้มันทำให้ใจหนูมีนาฬิกานับถอยหลังเกิดขึ้น แล้วมันก็มีความคิดด้านดำกับขาวเกิดขึ้นกับหนู ด้านดำคือหนูก็คิดว่าหนูควรเลิกเสียเวลามั้ย? หนูควรหยุดแล้วไปเจอโอกาสที่ดีมั้ย? ส่วนด้านขาวก็คิดว่าหนูรักเค้านะ แฟนหนูก็เป็นความรักที่ดีของหนู เค้าไม่เคยนอกใจ ไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า เวลาหนูทุกข์หรือลำบากเค้าก็อยู่ข้างหนูตลอด ทำไมหนูถึงจะทิ้งเค้าไป ทั้งสองความคิดนี้มันทำให้หนูเป็นทุกข์ว่าหนูจะทำยังไงดี... หนูเคยถามตัวเองว่าถ้าไม่มีงานแต่งหนูจะมีชีวิตที่รักกับแฟนได้มั้ย ซึ่งหนูทำได้ แต่เวลาหนูมองอนาคต หนูก็เจ็บปวดเวลาที่มองเห็นคนอื่นแต่งงานเพราะมันไม่เกิดขึ้นกับหนู หนูก็ถามเรื่องงานแต่งกับแฟน แฟนก็บอกว่าตัวเค้าพึ่งจะหายป่วย เค้ายังไม่พร้อม หรือบางทีก็ไม่มีคำตอบอะไรให้หนูเลย หรือแม้กระทั่งเมื่อ 3 วันก่อนหนูยื่นคำขาดว่าหนูไม่ไหวแล้วนะ หนูจะไม่โกหกพ่อแม่แล้ว ถ้ามันไปต่อไม่ได้ก็จะยอมรับความจริง เค้าก็นิ่งไปประมาณ 2-3 วัน เหมือนแฟนตัดสินใจว่าอยากจะเลิกกับหนู แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ก็เลิกกันไม่ได้เพราะว่ารักกัน และพ่อแม่หนูกับพ่อแม่แฟนก็ไม่เคยเจอกันเลยตลอดระยะเวลา7ปีที่ผ่านมา ประมาณปีที่ 5-6 หนูเคยบอกแฟนว่า เราแก้การปัญหาที่ต้องโกหกพ่อแม่ด้วยการนัดเจอกันมั้ย ให้มีการคุยกันว่าจะเกี่ยวดองกัน เวลาเจอกันจะได้ง่ายขึ้น เพราะพ่อแม่หนูก็เริ่มเปิดใจหลังจากที่หนูคุยกับเค้ามากขึ้น พ่อแม่หนูก็เลยเริ่มที่จะไม่กดดันเรื่องแต่งงานในช่วงปีหลัง ๆ ที่ผ่านมา เพราะเหมือนพ่อกับแม่ก็รู้ว่าพวกหนูเครียดกันทั้งคู่ แต่หนูรู้ว่าพ่อกับแม่เค้ารู้สึกเสียใจที่ทำไมครอบครัวแฟนถึงไม่มาคุยหรือมาให้เกียรติหนูเลย หรือเวลาหนูไปหาแฟนไปใช้ชีวิตด้วยกัน พ่อแม่แฟนหนูก็ไม่เคยพูดเรื่องแต่งงานเลยค่ะ และบ้านแฟนหนูในครอบครัวเค้าไม่เคยมีพิธีแต่งงานเลย ลูกเค้าบางคนก็โสด หนูอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ควรจะเลือกด้านไหนดี ระหว่างยอมรับความจริงและไปมีชีวิตต่อไป หรือพอแค่นี้ดี? โดย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าพี่เป็นแจง ถ้าถึงจุด 7 ปีแล้ว พี่จะถามเค้าตรง ๆ อย่างชัดเจนว่า “เธออยากแต่งกับเราไหม เพราะสำหรับเรางานครั้งนี้มันแค่งานที่จะบอกว่าเราสองคนจะอยู่เป็นสามีคู่รักกันต่อไป” มันแค่เป็นสิ่งที่จะทำให้ฉันมั่นใจกับเธอว่าเราจะอยู่กันไปตลอดแค่นั้นเอง เพราถ้างานแต่งนี้เกิดขึ้นฉันและเธอจะอยู่ด้วยกันได้อย่างสบายใจ ไปมาหาสู่กันในฐานะสามีภรรยาโดยไม่ต้องบอกข้ออ้างกับพ่อแม่อีกต่อไปว่าไปทำงานพิเศษ และจะทำให้พ่อแม่ฉันและตัวฉันเองที่อยากมีความสุขกับสิ่งนี้ พี่รู้สึกว่าการขอครั้งนี้ของแจงถ้าคนรักกันพี่ว่ามันให้ได้นะ พี่ว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ทำให้คนรักกันมันแย่ลง มีแต่จะดีขึ้น นอกเสียจากว่าเค้าไม่อยากแต่ง พี่ว่า 7 ปีมันยาวนานมากพอแล้ว’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คนรักกันมันก็เลิกกันได้เพราะปัญหาเรื่องแต่งงาน คน ๆ นึงไม่ได้คิดจะมีอนาคตกับเรา พ่อแม่ไม่เคยเจอกันมันก็แปลกละ ไม่ได้อยากจะรู้จักครอบครัวนี้หน่อยหรอ ส่วนเรื่องแต่งงานคือเป็นอะไรกับที่มันไม่ได้ลำบากอะไรเลย หรือเค้าแต่งไปแล้วละจะไม่จดทะเบียนซ้อน ไปเช็คดี ๆ เพราะมันผิดปกติเกิน ถ้ารักกันมากขนาดนี้แล้วก็แค่จัดงานที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย เราภาวนาให้จบปัญหานี้ซึ่งปัญหานี้คือการแต่งงานก็แค่ไปแต่งสิ เมื่อไม่แต่งแล้วอนคตจะยังไง 7 ปีแบ้วจะรออะไรอีก รอให้ 8 ปี 10 ปี แล้วค่อนเออมันไม่ใช่อย่างงี้หรอ ให้เวลา 6 เดือนเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ถ้าไม่มีหนูไปเลย ที่เค้าเงียบ ๆ อาจจะไปคิดงานเซอไพรซ์อยู่ แต่ 6 เดือนนานไป 3 เดือนพอ และถ้า 3 เดือนนี้ไม่มีความคืบหน้า แปลว่า การคบกันระหว่างเรามันมีอยู่แค่นี้ นี่มันคือปลานทางแล้ว ไม่มีไปต่ไม่สร้างอนาคต อยู่ที่แจงแล้วว่าจะโอเคกับสถานะแบบนี้ไปตลอดมั้ย หรือถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ฉันต้องการอนาคต ฉันต้องการมีลูก เมื่อไม่ไปต่อ เธอก็ต้องสละเรือ ฉันต้องไปหาคนอื่น วันนันไม่ต้องถามอะไรละ แค่เดินไปบอกว่า “เธอฉันจะไปแล้ว ไม่ยื้อแล้วนะ เพราะมัน 7 ปีแล้ว” ยิ่งถ้าเค้ามีความคิดที่อยากจะเลิกกับเรา อยากให้เราไปเจอคนที่ดีกว่านี้ แปลว่าเค้าดีกว่านี้ไม่ได้ละ มันเป็นความรัก มันไม่มีอนาคต’ สุดท้าย “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัญหาพี่อั๋นคล้ายกับแจงมากเลย คือพี่อั๋นคบกับพี่จ๋าแล้วพี่จ๋าไม่ยอมแต่งงาน พี่คบเค้า 9 ปี ขอแต่งงานทุกปี เค้าปฏิเสธพี่เกิน 9 ครั้ง แล้วในที่สุดพี่กับเค้าก็เลิกกัน แต่ตลอดทางที่พี่ยังอยู่เพราะพี่รู้ว่าเค้ารัก และ 7-8 ปี พี่อั๋นไม่เคยเข้าบ้านเค้า และทุกครั้งที่พี่ขอเลิกพี่ไม่เคยเอาการเลิกเป็นการต่อรอง แต่พี่จะให้เวลาและพี่จะมาขอคำตอบทุกวันคริสต์มาส และสุดท้ายเลิกกันไป 2 ปี และเค้ากลับมาและเปลี่ยนใจปัญหาเลยจบ เพราะฉะนั้นคุณควรคุยกันให้ชัด ไม่ต้องคาดคั้นแบบเอาเป็นเอาตาย เราไม่สงสัยในรักของกันและกัน ตอนนี้มีแค่เราจะเดินต่อหรือไม่เดินต่อเท่านั้นเอง ถ้าเธอคิดจะอยากมีฉัน การแต่งงานเป็นเงื่อนไขอย่างหนึ่งซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับการเป็นครอบครัวกับฉัน และไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่เลยที่เค้าต้องการสิ่งนี้ บอกเค้าว่าไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ แต่รู้เงื่อนไขและจุดยืนที่ชัดเจนแล้วนะ และในระหว่างนี้เราดูซิว่า เราสามารถเป็นคนสองคนเต็ม ๆ ที่อยู่โดยไม่มีกันแล้วชีวิตยังเต็มรึเปล่า หรือถ้าอยู่ด้วยแล้วสุขมากกว่า มันเต็มกว่า เราก็ควรมีกัน ฉันจะให้เวลาเธอจะวันเกิดเธอหรือฉันก็ได้ วานเลนไทน์ที่จะถึงก็ได้ จะเป็นไฟนอลนะ และ ณ วันนั้นไม่มีความสับสนอะไรแล้วนะ จะมีแค่แต่งหรือไม่แต่ง โดยที่ไม่ต้องมีคำอธิบายหรือเหตุผลอะไรต่อจากนี้ และฉันก็ให้สิทธิ์เธอเลือกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ฉันก็เป็นคนเลือกได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เพิ่งเสียคุณแม่ไป แล้วมีทรัพย์สินแม่ เป็นชื่อพ่อ ทั้งบ้าน ทั้งที่ดิน ญาติก็มาเตือนให้ดูพ่อดีๆ จนมารู้ว่าพ่อกำลังจะไปผูกข้อมือ แต่งงาน กับ ผู้หญิงรุ่นน้องพ่อ 10 ปี จะพูดยังไงให้พ่อโอนมาเป็นชื่อลูกก่อนดีคะ? เพราะกลัวว่าพ่อจะจดทะเบียนสมรสเลย

24 ก.ค. 2024

เพิ่งเสียคุณแม่ไป แล้วมีทรัพย์สินแม่ เป็นชื่อพ่อ ทั้งบ้าน ทั้งที่ดิน ญาติก็มาเตือนให้ดูพ่อดีๆ จนมารู้ว่าพ่อกำลังจะไปผูกข้อมือ แต่งงาน กับ ผู้หญิงรุ่นน้องพ่อ 10 ปี จะพูดยังไงให้พ่อโอนมาเป็นชื่อลูกก่อนดีคะ? เพราะกลัวว่าพ่อจะจดทะเบียนสมรสเลย

“คุณมิ้น (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับเรื่องมรดกของเเม่หลังจากที่คุณเเม่เสีย โดย “คุณมิ้น (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณเเม่เสียเมื่อประมาณปี 64 ด้วยโรคประจำตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นครอบครัวอบอุ่นมาก ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เเล้วคุณเเม่เป็นหญิงแกร่ง หญิงเก่ง เรียนมาน้อยเเต่เขาก็ขยันทำงานจนก่อร่างสร้างตัว ซื้อรถ ซื้อบ้านได้ จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง มีคุณพ่อช่วยด้วย เเต่คุณพ่อมีรายได้น้อยกว่าคุณเเม่ เพราะเเม่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ทำให้เขาผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดเร็ว เเล้วกะว่าจะเก็บไว้เป็นมรดกให้กับลูกทั้ง 2 คน พอคุณเเม่เสีย ตอนนั้นก็ค่อนข้างเคว้งว่าจะทำยังไงต่อ เเล้วก็มีญาติ ๆ ฝั่งเเม่เข้ามาเตือนว่า ‘ให้ระวังพ่อไปแต่งงานใหม่นะ’ ตอนนั้นก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เรามั่นใจในตัวคุณพ่อเพราะไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย ไม่ค่อยได้ข่าวมีกิ๊กกั๊กหรือเจ้าชู้ เราก็เลยไว้ใจ เเต่พอคุณเเม่เสียได้ปีกว่า ๆ คุณพ่อก็ยอมรับกับเราว่ามีคุยกับผู้หญิงประปรายนะ อยากหาเพื่อนมาอยู่ด้วยช่วงบั้นปลาย เรากับพี่ชายก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าเจอคนดีก็เเล้วเเต่ เเต่เราไม่ได้คิดว่าคุณพ่อจะเเต่งงาน จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณพ่อก็โทรมาบอกว่า ‘จะจัดงานเเต่งเล็ก ๆ นะ’ กับผู้หญิงคนหนึ่งมีอายุน้อยกว่าคุณพ่อ 10 ปี ซึ่งตอนนี้คุณพ่ออายุ 63 ปี ตอนรู้เรื่องเราก็ค่อนข้างช็อก ก็เลยโทรหาพี่ชายว่า ‘คุณพ่อได้บอกหรือยังว่าเขาจะเเต่งงาน’ พี่ชายก็ตอบกลับว่า ‘บอกแล้ว’ ตอนแรกเหมือนคุณพ่อไม่ได้ตั้งใจจะบอกพี่ชายด้วย เหมือนพี่ชายเขาเป็นคนไปจี้ถามคุณพ่อก่อน เราก็เคยได้ยินมาว่าเขาคงคุย ๆ กันมา เจอกัน 2-3 ครั้ง เเต่เราไม่ได้รู้สึกโอเคขนาดนั้น รู้สึกเฉย ๆ คิดว่าคุณพ่อจะคบกันไปก่อน ดูกันไปก่อน ไม่คิดว่าจะตกล่องปล่องชิ้น แล้วเราก็กลัวว่าเขาจะมาปอกลอก เรากังวลไว้ก่อนเพราะเรายังไม่ได้รู้จักเขาดี เเล้วเราก็รู้สึกว่าคุณเเม่สร้างทรัพย์สมบัติไว้ให้ลูก เคยถามคุณพ่ออ้อม ๆ ว่า ‘ถ้าผู้หญิงให้จดทะเบียนสมรสจะจดมั้ย?’ คุณพ่อก็ตอบเเบบอ้อม ๆ ว่า ‘ก็ไม่อยากจด’ เเต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธว่าไม่จด ก่อนที่คุณเเม่จะเสียไปก็ไม่ได้จดพินัยกรรมไว้ เราเลยกลัวว่า ถ้าเกิดคุณพ่อลังเลเหมือนหลงคารมขึ้นมาเเล้วสุดท้ายยอมไปจด เเล้วทรัพย์สมบัติที่คุณเเม่สร้างมามันจะกลายเป็นสินสมรส เเล้วก็ต้องแบ่งให้คู่สมรสกับลูกในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเราและพี่ชาย เรารู้สึกว่าคุณเเม่เขาตั้งใจสร้างมาให้ลูกจริง ๆ เขาก็อาจจะไม่โอเคที่ตกไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นของคุณพ่อ แต่เรายังไม่ได้คุยกับคุณพ่อเป็นกิจจะลักษณะว่าจะมาโอนเป็นชื่อลูกได้เเล้ว มิ้นก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า จะมีวิธีพูดยังไง? ให้คุณพ่อไม่รู้สึกว่าเราเหมือนเป็นลูกที่จ้องจะฮุบสมบัติ เราเเค่อยากจะรักษาสมบัติของคุณเเม่เอาไว้ ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะเปลี่ยนใจมั้ย จะเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อลูกไปให้ภรรยาใหม่?’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘ให้คุยพร้อมกันตรง ๆ ทั้งครอบครัว มีอะไรในใจพูดเลย ต้องการมั่นใจว่ายังคงเป็นไปตามเจตนาของคุณเเม่ที่ได้คุยกันไว้อยู่ อยากให้จดพินัยกรรมจัดการเรื่องสมบัติ จัดการเรื่องภายในครอบครัวให้เสร็จ เพื่อความสบายใจของทุกคนก่อนที่จะต้อนรับคนใหม่เข้ามา ไม่ได้เกลียดที่คุณพ่อจะมีคนใหม่ เเต่อยากป้องกันปัญหาที่มันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตถ้าคุณพ่อไม่อยู่ เราไม่รู้หรอกว่าในอนาคตเขาจะเป็นยังไง ถ้าไม่มีคนนอกเข้ามาเราอยู่อย่างงี้คุณพ่อจะไม่โอนก็ได้ เเต่พอมีคนนอกเข้ามา ก็อยากจะทำให้มันสบายใจว่าเจตนารมณ์ของคุณเเม่ยังคงอยู่เหมือนเดิม‘เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมีพี่ที่ทำงานคนนึง กลิ่นปากแรงมากกกกกกกก แล้วเค้าพูดกับหนูเยอะที่สุด ตอนนี้เจอยาอมตัวนึงอยากลองสั่งซื้อให้พี่เขา แต่จะให้ยังไงให้ดูไม่น่าเกลียดดีคะ?? ขอวิธีแบบเนียนๆ

19 ก.ค. 2024

หนูมีพี่ที่ทำงานคนนึง กลิ่นปากแรงมากกกกกกกก แล้วเค้าพูดกับหนูเยอะที่สุด ตอนนี้เจอยาอมตัวนึงอยากลองสั่งซื้อให้พี่เขา แต่จะให้ยังไงให้ดูไม่น่าเกลียดดีคะ?? ขอวิธีแบบเนียนๆ

“คุณทิพย์ (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (17 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาพี่ที่ทำงานกลิ่มปากเหม็นมากกกก! “คุณทิพย์ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูย้ายที่ทำงานมาเกือบปีแล้ว ในแผนกจะมีพี่เลี้ยงคนหนึ่งคอยดูแลอยู่ตลอด เป็นคนที่คุยกับหนูเยอะที่สุดเพราะเวลามีงานใหม่ หรือเวลามีปัญหาก็ต้องถามเขา จึงต้องคุยกันตลอด แล้วพี่เขาปากเหม็นมาก แต่หนูก็ไม่กล้าบอกพี่เขาเพราะยังทำงานไม่ถึงปี แล้วก็ยังไม่สนิทถึงขั้นที่จะพูดว่าเขาปากเหม็นได้ หนูเลยต้องพยายามถามเขาให้น้อยที่สุด แต่บางทีพี่เขาคุยโทรศัพท์อยู่โต๊ะข้างๆหนู กลิ่นมันก็ลอยมา แล้วหนูก็พยายามเอาพัดลมมาเป่ากลิ่นไป พยายามชวนเขากินลูกอม แต่เขาก็ไม่กินเพราะลดน้ำตาล หรือบางทีหนูก็เอาแมสมาใส่เวลาเขามาคุยด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ไหม หนูก็พยายามดูคนอื่นว่ามีปฏิกริยาแบบหนูไหม ปรากฎว่าไม่มีเลยสักคน หนูจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามาเรื่อยๆ จนเมื่อไม่นานมานี้หนูไปเจอทวิตหนึ่ง เขาพูดถึงยาที่ช่วยดับกลิ่นมาจากข้างในเหงื่ออกก็หอม แต่หลักๆคือช่วยเรื่องกลิ่นปาก ซึ่งไม่ใช่ลูกอม แต่เป็นยาที่ต้องกลืนเข้าไป ซึ่งหนูอยากซื้อให้พี่เขา เลยอยากรู้ว่าจะให้ยังไงดีที่จะไม่กระอักกระอ่วน?’ โดยพี่ๆดีเจได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘ลองใช้ลูกอมดับกลิ่นปากแบบไม่มีน้ำตาลก่อน เวลาเขามาคุยให้หนูทำเป็นกินลูกอมแล้วยื่นให้เขา พี่ว่าน่าจะเบากว่ายาดับกลิ่นปากที่หนูบอกนะ เพราะถ้าให้ยาอันนั้น ก็เท่ากับหนูพูดแล้วว่าเขาปากเหม็น ซึ่งพูดเลยอาจจะดูดีกว่าเอายาให้เขากิน ยาอันนี้มันเหมือนลรักษาถึงรากข้างในเลย จริงๆกลิ่นปากสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในโลกเลย แต่ต่อให้เขากิน แล้วเขากินวันเดียว หายวันเดียว มันก็เท่านั้นมันไม่ได้แก้ปัญหา พี่ว่าเขาต้องรู้ว่าเขามีปัญหาเรื่องกลิ่นปากแล้วให้เขาไปแก้ เช่น ปัญหาเรื่องเหงือก ปัญหาเรื่องฟัน เพราะถ้ายังไม่แก้ต่อให้เขาอมอะไรก็ตาม มันก็จะไม่หาย หรือลองคุยกับเพื่อนที่ทำงานที่สนิท ลองเช็คว่าเราได้กลิ่นคนเดียวมั้ย หรือลองแจ้งแม่บ้าน ว่ามีกลิ่นเหมือนมีอะไรตาย ให้เขาลองเดินเข้ามาเช็คหลายๆวัน ถ้ามันไม่เจอก็ลองเกริ่นไปว่า หรือว่าปากหนูเหม็น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

15 ก.ค. 2024

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ.แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า"แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโดจนรู้สึกอึดอัด ถ้าแจ้งนิติ จะมีผลอะไรกับเราในอนาคตไหมคะ หนูกลัว “คุณต.น. (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [10 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับที่มีปัญหากับรปภ.ที่คอนโด เพราะเขาชอบแซว โดย “คุณต.น. (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูพึ่งย้ายมาอยู่คอนโดใหม่นี้ได้ 2 เดือน ซึ่งนิสัยส่วนตัวหนูเป็นคนชอบผูกมิตร หนูเลยชอบซื้อของไปฝากพี่รปภ.อยู่บ่อย ๆ เพราะพี่ ๆ เค้าดูแลเรา หนูก็อยากทำดีด้วย ตอนที่เอาของไปฝากก็จะมีพี่รปภ.ประมาณ 2 คน หลัก ๆ จะเป็นพี่รปภ.ตัวเล็ก แต่พักหลัง ๆ จะมีพี่รปภ.ตัวใหญ่ เขาชอบเดินไปแซวพี่รปภ.ตัวเล็กประมาณว่า “มีสาวซื้อของมาฝาก” ซึ่งหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบโดนแซว จนหลัง ๆ มันเริ่มหนักขึ้น คือ หนูแค่เดินผ่านทักทายพี่รปภ.ตัวเล็ก เค้าก็จะเริ่มแซวแล้ว มีครั้งหนึ่งแปลกมาก หนูเอารถไปจอดที่ข้างตึก พี่รปภ.ตัวใหญ่ก็มาโบกรถให้ พอหนูลงจากรถเค้าก็ถามหนูว่าหนูเป็นลูกบ้านรึเปล่า มีสติ๊กเกอร์คอนโดมั้ย ทั้ง ๆ ที่เค้าก็เคยแซวหนู หนักสุดคือตอนหนูลงไปเอาข้าว พี่รปภ.ตัวใหญ่ที่เปิดประตูกระจกให้ลูกบ้านคนอื่นอยู่ พอเห็นหนูเขาก็ปิดใส่ หนูเลย หนูอยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า หนูควรจัดปัญหายังไง? ถ้าหนูไปแจ้งนิติมันจะมีผลต่ออนาคตรึเปล่า? หรือหนูควรจัดการความคิดยังไงดี?’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นี่ยังหาเหตุผลไม่เจอเลยว่ารปภ.ตัวใหญ่เขาจะมาวุ่นวายอะไร และไม่ชอบอะไร หรือว่าหนูให้ของฝากไม่ทั่วถึงหรอ แต่พี่ว่ามันต้องมีสาเหตุที่คน ๆ หนึ่งจะไม่ชอบเรา ถ้าสมมติการซื้อของไปฝากให้รปภ.แล้วมีปัญหาขนาดนี้พี่ว่าไม่ต้องให้ และถ้าปัญหานี้มันทำให้หนูหงุดหงิดใจ และไม่ชอบกับการที่ต้องไปแล้ว แล้วไปเผชิญกับคนเหล่านี้ไม่ต้องซื้ออะไรไปฝาก และวางตัวห่าง ถ้าเราทักละมีปัญหาก็ไม่ต้องทัก’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รายงานไปเลยว่าเขาพูดแบบนี้ บอกนิติไปเลย เค้าจะจัดการเอง หนูต้องยุติเรื่องซื้อของฝาก เพราะถ้าเอาจริง ๆ เค้าก็ไม่ทักกันด้วยซ้ำ นอกจากจะมีเรื่องให้ช่วยเหลือ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บอกนิติว่าให้ดูแลพฤติกรรม เราอยู่เหนือกว่าเค้าเราเป็นลูกบ้าน เค้าต้องดูแลเทคแคร์เรา และหนูต้องวางตัวใหม่’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1