พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูมีปัญหากับเพื่อน LGBTQ โดยรวมแล้วเขาเป็นคนนิสัยดี แต่ชอบพูดจาแรง ชอบแซะเราตลอด แล้วก็ปิดท้ายประโยคว่า ‘หยอกเล่นนะๆ’ ควรจะคุยตรง ๆ ไปเลยว่าไม่โอเค ต้องจัดการความรู้สึกของตัวเอง… หรือควรที่จะสู้กลับดีคะ ?

28 พ.ย. 2025

หนูมีปัญหากับเพื่อน LGBTQ โดยรวมแล้วเขาเป็นคนนิสัยดี แต่ชอบพูดจาแรง ชอบแซะเราตลอด แล้วก็ปิดท้ายประโยคว่า ‘หยอกเล่นนะๆ’ ควรจะคุยตรง ๆ ไปเลยว่าไม่โอเค ต้องจัดการความรู้สึกของตัวเอง… หรือควรที่จะสู้กลับดีคะ ?

หนูมีปัญหากับเพื่อน LGBTQ โดยรวมแล้วเขาเป็นคนนิสัยดีแต่ชอบพูดจาแรง ชอบแซะเราตลอด แล้วก็ปิดท้ายประโยคว่า‘หยอกเล่นนะๆ’ เช่น แต่งตัวตลกมาก หยอกเล่นนะๆอุ๊ย วันนี้หน้ามึงอุบาทว์มาก หยอกเล่นนะๆเวลาหนูได้ยินก็ขำตามเพื่อกลบเกลื่อนแต่ความจริงแล้วหนูไม่โอเคเลย กลับบ้านมาร้องไห้คนเดียวหนูอยากรู้ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ควรจะทำอย่างไรดี?ควรจะคุยตรง ๆ ไปเลยว่าไม่โอเคต้องจัดการความรู้สึกของตัวเอง… หรือควรที่จะสู้กลับดีคะ ? “คุณแพร (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี เป็นสายที่สอง ในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (26 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนปากไม่ดีชอบใช้คำพูดแรง ๆ กับเรา จะทำยังไงกับคนแบบนี้ดี “คุณแพร (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีปัญหากับเพื่อน LGBTQ ซึ่งโดยรวมเขาก็เป็นคนที่นิสัยดี แต่เขาชอบพูดจารุนแรง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันก่อนที่เราไปกินปิ้งย่างด้วยกัน หนูเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่าไปกินข้าวกับแฟน และมีน้ำหมักหมูติดตะเกียบ แฟนก็เอาตะเกียบนั้นมากินต่อเลย หนูเลยตีมือแฟนแล้วบอกว่าไม่ควรกินแบบนี้ ซึ่งแฟนก็ไม่ได้ว่าอะไร หนูจึงอยากรู้ว่าสถานการณ์นี้มันปกติไหม เมื่อวันก่อนตอนที่นั่งกินปิ้งย่างกับเพื่อน ๆ เลยยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูด ซึ่งในโต๊ะนั้นมี 5 คน รวมหนูด้วย เพื่อน A บอกว่าแปลกเพราะเหมือนมีจุลินทรีย์ถ้าไม่แยกตะเกียบ ส่วนเพื่อน B ก็บอกว่าแปลกเหมือนกัน และบอกว่าไม่มี Common Sense ในการใช้ชีวิตเลย และเพื่อน C พูดว่าไม่แปลกเลย น้ำเสียงเหมือนประชด ทำให้หนูรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จึงถามกลับไปว่าเรื่องนี้มันปกติหรอ เพื่อน B ก็พูดแซะ ๆ ว่าคงเหมาะกันแล้ว เพราะไม่มี Common Sense ในการใช้ชีวิตเหมือนกัน แล้วเพื่อน ๆ ก็ขำกัน หนูก็ขำตามเพื่อกลบเกลื่อน แต่ความจริงแล้วหนูไม่โอเคเลย ทุกครั้งที่โดยแซวแรง ๆ หนูจะกลับห้องไปร้องไห้ตลอดเลย ต่อจากนั้น ก็มีเหตุการณ์ที่เพื่อนในโต๊ะพูดขึ้นว่า ‘แพรเปลี่ยนชื่อใช่ไหม?’ ซึ่งหนูก็ยอมรับว่าหนูเปลี่ยนชื่อเพราะดูดวงแล้วก็ไม่ค่อยพอใจกับชื่อเก่า เพื่อน A ก็พูดขึ้นมาว่า ‘เปลี่ยนชื่อเพราะจะเข้ากรุงเทพหรอ?’ พร้อมกับขำกัน และพูดทำนองประชดว่า ‘พูดเล่นนะแพร’ แล้วก็จะมีแซะเรื่องอื่น ๆ อีก แต่ตัวหนูรู้สึกไม่โอเคมาก หนูอยากรู้ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ควรจะทำอย่างไรดี? ควรจะคุยตรง ๆ ไปเลยว่าไม่โอเค ควรจะจัดการความรู้สึกของตัวเอง…หรือควรที่จะสู้ดี ?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่แนะนำให้สู้ มันเป็นช่วงวัยที่รู้สึกว่าการจิกกัดเป็นเรื่องเก๋ เพราะถ้าสู้ไปแล้วเหมือนแพรออกไปรบแล้วแพ้ ตัวแพรเองจะหนักกว่าเดิม อยากจะสอนให้แพรรับมือกับคนมากกว่า ถ้าวันนึงไปอยู่ที่อื่นอาจจะเจอคนแบบนี้อีก ถ้ารับมือไม่ได้ก็อยากให้ปล่อยวาง’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘ถ้าอยากจะสู้จริง ๆ แพรจะต้องไม่หวั่นไหวกับคำพูดของเขา ถ้าง่ายกว่านั้นคือแพรก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา หนูก็มีสิทธิ์ที่จะเดินออกมาจากตรงที่ตัวเองไม่โอเคหรือไม่ก็หัวเราะตามน้ำไปเลย ให้คิดว่าเขาก็เป็นคนปากจัด ไม่ต้องเก็บมาคิดมาก’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘ถ้าเป็นพี่ก็จะจัดการกับตัวเองเพราะเราไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนใครได้ หรือถ้าเราไม่โอเคจริง ๆ เราอาจจะมีการรีแอคกลับไปแบบเบา ๆ ให้จบบทสนทนาเร็วที่สุดแล้วเขาจะมองออกว่าเราไม่ได้เอ็นจอยที่จะคุยเรื่องนี้…’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00–23.00น.ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบกับแฟนมาปีกว่าๆ แฟนหนูเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วหนูเคยคุยกับแฟนว่า ในอนาคตมองความรักของเราเป็นยังไง แต่กลับได้คำตอบมาว่า ยังไม่ได้มีเราอยู่ในอนาคตเขาเลย ยังคิดภาพไม่ออก แต่จะโฟกัสปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ

28 พ.ย. 2025

หนูคบกับแฟนมาปีกว่าๆ แฟนหนูเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วหนูเคยคุยกับแฟนว่า ในอนาคตมองความรักของเราเป็นยังไง แต่กลับได้คำตอบมาว่า ยังไม่ได้มีเราอยู่ในอนาคตเขาเลย ยังคิดภาพไม่ออก แต่จะโฟกัสปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ

หนูคบกับแฟนมาปีกว่าๆ แฟนหนูเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วเจอผู้หญิงคนเก่านอกใจมา หนูเคยคุยกับแฟนว่าในอนาคตมองความรักของเราเป็นยังไง แต่กลับได้คำตอบมาว่ายังไม่ได้มีเราอยู่ในอนาคตเขาเลย ยังคิดภาพไม่ออกแต่จะโฟกัสปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ และ“ถ้าอนาคตความสัมพันธ์ของเรามัน TOXIC พี่ก็พร้อมไป”พอเราได้ยินประโยคนี้ รู้สึกได้เลยว่ารักของเราทำไมมันดูไม่มั่นคงเลย เหมือนเขาจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามีปัญหากันแต่ทุกวันนี้เขาก็เป็นแฟนที่ดี ทำหน้าที่ได้ดีเสมอมานะคะ “คุณมะม่วง (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (26 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องแฟนดูไม่ได้อยากมีเราในอนาคตขนาดนั้น โดย “คุณมะม่วง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนคบกันมาได้ปีกว่า แฟนหนูอายุ 35 ปี ปัญหาที่เจอคือแฟนเขาไม่ได้มีภาพอนาคตร่วมกันกับหนูเลย หนูเป็นพวกชอบวางแผนอนาคต อยากได้ความมั่นใจ อยากได้ความมั่นคงว่าเขาอยากมีหนูในอนาคต แต่เขาบอกว่ายังไม่คิดถึงขั้นนั้น แล้วเขายังบอกอีกว่าตั้งแต่มีแฟนมา เขาบอกยังไม่เคยรักใครขนาดนั้นเลย เพราะเขารู้สึกว่ารักตัวเองมากที่สุด และเขาจะบอกให้แฟนทุกคนที่เคยคบ ให้รักตัวเองมากที่สุดเหมือนกัน บางทีเขาก็จะรู้สึกอัด และทำตัวไม่ถูก เวลาที่หนูคลั่งรักเขามาก ๆ เขาอยากให้หนูรักเขาแบบพอดีปกติไปเรื่อย ๆ แล้วเขาก็เคยพูดขึ้นมาว่า “อยู่ดี ๆ พี่ก็อยากไปเที่ยว นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียวบ้าง” หนูก็ถามเขาว่า “พี่รักหนูมั้ย?” เขาก็ให้คำตอบหนูไม่ได้ มันก็น่าจะหมายความว่า เขาไม่ได้รักหนูขนาดนั้น หนูเลยถามเขาว่า “พี่เป็นแฟนกับคนที่ไม่ได้รักได้หรอ” เขาก็บอกว่า “เป็นได้หมดนะ ตราบใดที่มันไม่ได้มีเรื่อง Toxic เกิดขึ้น” คือเราอยู่กันแบบนี้ มันต้องมีเรื่องไม่เข้าใจกันอยู่แล้ว สำหรับหนูคือต้องการคุย เพื่อปรับความเข้าใจ แต่สำหรับเขาคือเขาไม่คุย ถ้าเขาตัดสินใจแล้วว่ามันไปต่อไม่ได้ก็คือจบ หนูเลยรู้สึกว่า ถ้าคบกับเขาไปถ้ามันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เหมือนเขาพร้อมที่จะเลิกกับหนูตลอดเวลา ถ้ามองแค่ปัจจุบัน ทุกวันนี้ก็มีความสุขดี แต่พอนึกถึงไปอนาคต เขาอาจไม่ได้คิดถึงหรือรักหนูขนาดนั้น ถ้ามีเรื่องอะไรที่ทะเลาะกันแล้วเขาไม่โอเค เขาก็พร้อมที่จะไปทุกเมื่อ ปัญหาของมะม่วงวันนี้ที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนคือ “แฟนไม่ได้มีอนาคตร่วมกันกับหนู” หนูควรจะคิดหรือทำยังไงต่อดีคะ’ เริ่มด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ดูแค่ปัจจุบัน ถ้ามะม่วงไม่ไปถามเขาถึงอนาคต มันก็ไม่เกิดปัญหาเลย ถ้าทุกวันนี้มันยังมีความสุข แล้วมะม่วงยังโอเคกับมันอยู่ จะทำให้ตัวเองอกหักทำไม ถ้าเขายังไม่พูดออกมา เพราะไม่มีใครรู้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง’ ต่อด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องถอยมาเพื่อเช็คความสัมพันธ์ ถ้าถอยออกมาแล้วเขาไม่คิดถึงเราสักนิด เขาไม่ได้เช็คตัวเองเลยว่าเราสำคัญขนาดไหน ก็แปลว่ามะม่วงไม่ได้สำคัญจริง ๆ การถอยออกมาไม่ได้ถอยเพื่อเลิก แต่ถอยมาเพื่อเช็คความสัมพันธ์ ถ้าเกิดเขากลับมาง้อก็เปิดใจคุยกันเลยว่า เราอยู่ในระดับไหนของความสัมพันธ์ ไม่ต้องพูดเรื่องแต่งงานเพราะมันไกลเกิน ถ้าตัดสินจากที่มะม่วงเล่า มะม่วงยังไม่ได้อยู่จุดที่สำคัญเลย เหมือนอยู่ก็ได้ ถึงไม่ใช่เราจะเป็นใครก็ได้ แต่ถ้ามีความสุขหรือพอใจกับสิ่งเหล่านี้ ก็ไปต่อได้นะ เพราะคบกับใครมันไม่มีทางรู้อนาคตอยู่แล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ชอบเรื่องของการพูด ถ้าถึงวันที่เจ็บก็แค่เจ็บ ก็ถือว่าทำเต็มที่แล้ว’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นิสัยของผู้ชายแบบนี้ มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่วันหนึ่ง จะเสียคนที่รักไปเมื่อเขาไปเจอคน ที่แสดงออกหรืออ่อนโยนมากกว่า มะม่วงก็วัดจากปัจจุบัน ว่าพร้อมที่จะเสี่ยงและวัดใจกับคน ๆ นี้ หรือเปล่า ถ้าปัจจุบันมันดีพอที่จะทำให้เรารอคนนี้ ก็ไม่ผิดที่เราจะใช้เวลาเพื่อพิสูจน์เขา แต่คนเรามันมีจำกัดของเวลา มันอยู่ที่เวลาของมะม่วงมันมีนานแค่ไหน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00–23.00น.ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เราเพิ่งฟ้องหย่าสามี เพราะสามีมีผู้หญิงอื่น แต่อยากจะได้วิธีการสอนลูกยังไงให้ไม่เกลียดพ่อตัวเองดีคะ?

28 พ.ย. 2025

เราเพิ่งฟ้องหย่าสามี เพราะสามีมีผู้หญิงอื่น แต่อยากจะได้วิธีการสอนลูกยังไงให้ไม่เกลียดพ่อตัวเองดีคะ?

เราเพิ่งฟ้องหย่าสามี เพราะสามีมีผู้หญิงอื่นเรากอดลูกสาว 8 ขวบร้องไห้ตลอด ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วแต่อยากจะได้วิธีการสอนลูกยังไงให้ไม่เกลียดพ่อตัวเองดีคะ?พ่อเขาก็ยังมีแวะมาเจอลูก มาทำหน้าที่พ่ออยู่จะทำให้ลูกเข้าใจยังไงดีว่าพ่อและแม่จะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันแน่นอน “คุณน้ำชา (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี เป็นสายแรก ในรายการ พุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (26 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา“ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เรื่องขอวิธีสอนลูกไม่ให้ลูกเกลียดพ่อ และให้เข้าใจว่าพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว “คุณน้ำชา (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘อยากมาปรึกษาเรื่องวิธีการสอนลูกที่ไม่ให้เขาเกลียดพ่อ คือเราเพิ่งหย่ากับสามี ลูกเราอายุ 8 ขวบ พอจบเรื่องหย่าแล้วลูกก็อยู่กับเรา แต่ว่าฝ่ายพ่อต้องส่งค่าเลี้ยงดูให้เราทุกเดือนตามคำสั่งของศาล แต่จริง ๆ แล้วลูกเขาไม่ได้เกลียดพ่อ เพียงแต่ว่าตอนที่เกิดเรื่อง เราก็เล่าให้ลูกฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ พ่อกับแม่ไม่ได้รักกันแล้ว พ่อไปรักคนผู้หญิงคนอื่น เขาก็ได้รับรู้ในวัยที่เขาควรจะรู้แล้ว แต่บางครั้งเขาก็จะถามว่า “พ่อไปไหน ทำไมพ่อไม่กลับ” แรก ๆ เราก็บอกไปว่าพ่อเขาไปทำงาน จนหลัง ๆ มันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เราก็เลยบอกไปว่ามันเกิดเรื่องนิดนึงนะ พ่อกับแม่ไม่ได้รักกันแล้ว พ่อเผลอไปรักผู้หญิงคนอื่น มันก็เลยทำให้เราต้องห่างกัน ในช่วงนั้นคือทรมานมาก ๆ เราร้องไห้และกอดไปกับลูก เราบอกกับเขาว่าพ่อเขาทำผิดและแม่ก็ไม่สามารถให้อภัยพ่อได้ คือเรื่องมันรุนแรงมากจนไปถึงชั้นศาล ไปถึงการฟ้องร้อง แต่ ณ วันนี้ สถานะทุกอย่างมันก็จบลงเหลือเแค่การเป็นพ่อเป็นแม่ให้ลูก ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้ดูแลลูกอยู่แล้ว เขามีหน้าที่แค่โอนเงินรายเดือนมาให้ หลังจากเกิดเรื่องเขาก็เจอลูกแค่ประมาณ 2-3 ครั้งในวันพิเศษต่าง ๆ อย่างวันเกิดลูก เราก็ไม่ได้กีดกันเลย แต่เรารู้อยู่แล้วว่าตัวเขาคงไม่ได้อยากที่จะมาหาลูก ลูกยังเคยมีคำถามว่า “พ่อจะไม่มีโอกาสกลับมานอนที่เตียงนี้แล้วใช่ไหม” เราก็ร้องไห้ แต่เราก็บอกไปว่า “ถ้าอยากไปนอนบ้านพ่อ ลูกก็ไปได้นะ” เวลาเขาเจอพ่อ เขาก็ดีใจตามประสาเด็กที่ไม่ค่อยได้เจอพ่อ เหมือนว่าเขาวางพ่อไว้เป็นฮีโร่ของเขา เป็นคนที่เขาคิดถึง เป็นคนที่เขาอยากเจอ เวลาเขาไปเที่ยวกับพ่อแล้วเราถามว่าเป็นยังไง เขาก็จะตอบกลาง ๆ เซฟพ่อของเขา คือลูกเราเขาเป็นคนที่เซฟทุก ๆ คน จะไม่พูดว่าร้ายใครเลย แต่ตอนอยู่ด้วยกัน พ่อกลับไม่ได้เลือกครอบครัวเป็น Priority หลัก ก็ไม่ได้สนใจลูกเท่าไหร่คือเราไม่อยากสอนให้ลูกเกลียดพ่ออยู่แล้ว แต่ในอีกทางคือลูกก็จะอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ไม่ได้ สรุปแล้วสิ่งที่เราทำมันโอเคแล้วหรือเปล่า’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมค่อนข้างเป็นคนที่คุยกับลูกด้วยเหตุผลอยู่แล้ว ถ้าเราสังเกตว่าลูกของเรา เขาเป็นคนที่สามารถเข้าใจในเหตุและผลที่เราเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังได้ ถ้าสิ่งที่เราพยายามอธิบายแล้วเขาเข้าใจว่า พ่อไปชอบผู้หญิงคนอื่นนะ แต่พ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ ซึ่งผมว่าอันนี้ซับซ้อนที่สุดแล้ว ถ้าลูกสาวของคุณน้ำชาเข้าใจมันในระดับหนึ่งได้ ถ้าเป็นผม ผมจะคุยด้วยเหตุและผลและพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าความสัมพันธ์ในแบบผู้ใหญ่ มันจะเริ่มซับซ้อนขึ้นอย่างไรบ้าง ความรักที่มีให้กันวันหนึ่งจะหมดลง ผมจะค่อย ๆ อธิบายให้กับลูกฟัง โดยที่ผมจะไม่พยายามไปชี้นำว่าเขาต้องรักพ่อนะ เขาต้องเกลียดพ่อนะ แต่เลือกวิธีที่จะถามและฟังว่าเขารู้สึกอย่างไรมากกว่า แล้วเราก็ปรับจากตรงนั้น เขาจะเข้าใจมากหรือน้อยไม่รู้แต่ดีกว่าผมไม่ได้สื่อสารออกไป เราฟังว่าเขารู้สึกบวกหรือลบ เต็มสิบเขายังรักพ่อเท่าไหร่ แล้วเราค่อยเดินหน้ากันต่อด้วยพื้นฐานตรงนั้นมากกว่าและผมยังเชื่อว่าถ้าเป็นบ้านที่ใช้เวลากับการอ่านหนังสือด้วยกัน มันจะมีหนังสือนิทานที่เล่าเกี่ยวกับครอบครัว อาจจะเป็นครอบครัวสัตว์ชนิดหนึ่งที่ครอบครัวไม่สมบูรณ์ ผมว่ามันอาจจะเป็นสื่อกลางที่ทำให้เรามีภาพมาเปรียบเทียบให้เด็กเข้าใจได้’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘พี่จะค่อย ๆ ให้ลูกรับรู้และก็อยู่กับความจริงที่ว่าจากนี้พ่อกับแม่จะไม่เหมือนเดิม ชีวิตเขาจะต้องเปลี่ยน แต่ว่ามันจะไม่มีวันที่พ่อกับแม่จะไปอยู่ด้วยกันแบบเดิม มันต้องใช้เวลาให้เขายอมรับตรงนี้ให้ได้ แรก ๆ เขาก็จะงงแหละ แต่ว่าสักพักเขาจะเข้าใจและอยู่กับมันได้ เพราะชีวิตเขาก็จะชินไปเอง ซึ่งมันต้องใช้เวลาส่วนเรื่องที่ว่าจะพูดยังไงไม่ให้เขาเกลียดพ่อ พี่ว่ามันไม่จำเป็นต้องไปพูดว่า “อย่าไปเกลียดพ่อนะ” พี่แค่รู้สึกว่าอธิบายให้เขาเข้าใจว่าพ่อกับแม่จากที่เคยรักกัน ตอนนี้มันมีบางอย่างที่ทำให้เราไม่ได้รักกันอีกต่อไปแล้ว โดยที่สถานะความเป็นพ่อเป็นแม่มันยังคงอยู่ สำหรับพี่ พี่ก็จะบอกเขาว่า สิ่งที่พ่อมีปัญหากับแม่ มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่พ่อทำกับหนู เพราะฉะนั้นความรู้สึกที่หนูมีต่อพ่อถ้ามันเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นต่อไป หนูไม่ต้องไปโกรธเขาเพราะหนูรักแม่ มันไม่เกี่ยวกัน และที่สำคัญคือหนูจะรู้สึกอย่างไรกับเขาต่อจากนี้ไป ขึ้นอยู่กับว่าพ่อเป็นพ่อหนูอย่างไรด้วยเหมือนกันและสุดท้ายพี่ว่าน้ำชาต้องไม่พยายามพูดซ้ำ ๆ ในสิ่งที่พ่อทำกับเราในอดีตอีก เพราะว่าวันนี้มันจบแล้ว การไม่พูดถึงมันอีกคือสิ่งที่ดีที่สุด อยู่กับปัจจุบัน ให้ลูกตัดสินตามสิ่งที่เขาเห็น มันต้องขึ้นอยู่กับว่าน้ำชาต้องรู้ด้วยว่าลูกเป็นเด็กที่เข้าใจง่ายขนาดไหน บางอย่างต้องอธิบายละเอียดหรือยกตัวอย่างเปรียบเทียบอะไรให้เขาเห็นภาพหน่อย’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘ปัญหาของผู้ใหญ่อย่าไปยัดใส่ลูก ถ้ารักลูก ปัญหาสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกคิดมาก ลูกจะรักหรือเกลียดพ่อมาจากการกระทำของพ่อที่เขาเห็นเอง เขาอาจจะไม่ดีกับเราแต่ตอนเขาอยู่กับลูกเขาอาจจะเป็นพ่อที่ดีก็ได้ ให้ลูกตัดสินใจเองว่าเขาจะรักหรือเขาจะเกลียดพ่อก็ด้วยการกระทำของพ่อเขาส่วนปัญหาของผู้ใหญ่ให้เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ มันใหญ่เกินไปสำหรับเด็ก วันหนึ่งถ้าพ่อไม่รักลูก พ่อไม่มาหาลูก เด็กจะตัดสินใจได้เอง เขาจะรู้ได้ด้วยตัวเอง เขาอยู่ในช่วงปรับตัว ถ้าเรารู้สึกว่าการปรับตัวมันทำให้เขารู้สึกว่ามันยาก ลองหากิจกรรมหรือความสุขอื่น ๆ มาทดแทนให้เขา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00–23.00น.ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูรู้สึก เกลียดน้าสาว และ ลูก 1 เดือนของน้า ทำไมต้องมาแย่งความรัก ไปจากยายของหนูด้วย? ตอนนี้หนูรู้สึกว่า หนูต้องทำงานหาเงินอยู่คนเดียวในบ้าน แต่น้านอนสบายไม่ทำอะไรเลย หนูเกลียดทั้งน้า ทั้งลูก จะทำยังไงดี?

21 พ.ย. 2025

หนูรู้สึก เกลียดน้าสาว และ ลูก 1 เดือนของน้า ทำไมต้องมาแย่งความรัก ไปจากยายของหนูด้วย? ตอนนี้หนูรู้สึกว่า หนูต้องทำงานหาเงินอยู่คนเดียวในบ้าน แต่น้านอนสบายไม่ทำอะไรเลย หนูเกลียดทั้งน้า ทั้งลูก จะทำยังไงดี?

หนูรู้สึก เกลียดน้าสาว และ ลูก 1 เดือนของน้าทำไมต้องมาแย่งความรัก ไปจากยายของหนูด้วย?ตอนนี้หนูอายุ 21 อยู่กับตา และ ยายที่บ้าน ตั้งแต่ที่น้าสาวย้ายมาในบ้านน้าไม่ทำงานอะไรเลย ยายหนูจากที่เคยให้เงินหนูกับน้อง 4-500ก็จะเหลือ 200 300 บาท เพราะต้องแบ่งไปให้น้ากับหลานหนูเคยเกลียดน้าถึงขั้นว่า ตอนที่น้าท้องแล้วทะเลาะกันหนูถีบท้องน้า เพราะอยากให้แท้งลูก แต่ลูกน้าก็คลอดมา แข็งแรงปกติตอนนี้หนูรู้สึกว่า หนูต้องทำงานหาเงินอยู่คนเดียวในบ้านแต่น้านอนสบายไม่ทำอะไรเลย หนูเกลียดทั้งน้า ทั้งลูก จะทำยังไงดี? “คุณสปาย (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี เป็นสายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา“ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เรื่องรู้สึกเกลียดน้าและลูกของน้าเพราะว่าเขาเข้ามาแย่งความรักของยายกับเรา “คุณสปาย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เราอยู่บ้านกับตายายและก็น้องชาย น้าและลูกของน้าย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเราตั้งแต่เขาตั้งท้อง รวม ๆ ระยะเวลาก็ประมาณ 2 ปีแล้ว เขาจะชอบพูดถึงเราในด้านลบ แขวะเราตลอดเวลา เช่น ตอนทำอาหารก็จะมาพูดใส่เราว่า กินไม่ได้เลย หมาไม่แxก หรือเวลาเราใส่เสื้อผ้าเขาก็จะมาพูดว่า เธอใส่แล้วอ้วนนะ ดูไม่ได้เลย เราไม่เคยได้รับคำพูดเชิงบวกเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาทั้งเมื่อก่อนและตอนนี้ พ่อกับแม่เราก็เคยบอกไปแล้วว่าเราไม่โอเค แต่เขาก็ยังพูดเหมือนเดิม แต่กับน้องชายเราก็ไม่เคยได้ยินเขาพูดจาแบบนั้น เราก็สงสัยว่าทำไมถึงเป็นแค่เราที่โดน เรากับน้าทะเลาะกันบ่อย มีปากเสียงกัน จนครั้งหนึ่งเราเคยเตะท้องน้าตอนเขาตั้งท้อง คือเราก็รู้ว่าลูกของน้าไม่ได้ผิดอะไร แต่ที่บ้านก็จะพูดว่า บ้านเราต้องจนลงนะ เพราะมีอีก 2 คนเข้ามาอยู่ เราต้องประหยัดขึ้นนะ ความรู้สึกเหมือนเราไม่ทันได้ตั้งตัวว่าจะมีใครคนใหม่เข้ามาในบ้าน เงินจากยายที่ปกติได้วันละ 400-500 บาท ก็ต้องเหลือ 200 บาท แล้วก็รู้สึกว่าทำไมเราต้องได้ลดลงเพราะให้เด็กคนนั้นด้วย พ่อกับแม่เราก็ส่งเงินให้แค่บางครั้ง ครั้งละเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่ได้ส่งมาให้เป็นรายเดือน ตอนที่น้องเกิดมาเราก็ไม่ได้ไปเรียนมหาลัยฯ เพราะถ้าเราไปเรียนก็จะมีค่าใช้จ่ายเยอะ ซึ่งที่บ้านมีหลายคน มันก็เลยกลายเป็นปมของเราที่เราไม่ได้ไปเรียน หรืออย่างเวลาเราไปทำงานได้เงินมา ยายก็จะขอเงินในส่วนนั้นครั้งละ 500-1,000 บาท มาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่ตัวของน้าเขาไม่ทำงานอะไรเลย ทุกวันนี้กิจวัตรของเขาคืออยู่กับลูก ดูหนัง เล่นโทรศัพท์ ถ้าน้าเขาคิดอยากจะมีรายได้ อยากทำงาน ไปขายของออนไลน์หรือทำอะไรสักอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาอยากเอาเงินมาจุนเจือลูกของเขาบ้าง เราคงไม่ได้รู้สึกเกลียดเขา แต่เราก็สงสัยว่าทำไมเราถึงเกลียดน้าได้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่พอไปเปรียบเทียบกับสมัยมัธยมที่เราโดน Bully จนถึงขั้นต้องกินยา เรากลับไม่ได้เกลียดเด็กพวกนั้นเท่าที่เราเกลียดน้าเลย มันเลยเป็นปัญหาที่ทำให้เราไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากเจอหน้าทั้งสองคน’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ก็จะเรียกคนที่บ้านทั้งหมดมาคุยกันว่า โดยฐานะบ้านเราแล้วไม่ได้มีเงินขนาดนั้น น้าก็สามารถทำงานได้ ถ้าจะให้หนูมาช่วยที่บ้านแต่น้ายังไม่ทำงาน หนูก็รู้สึกว่าเหนื่อย งั้นน้าลองมาช่วยอีกคนหนึ่งไหม ช่วยกันหาเงิน บ้านเราจะได้มีเงิน ยายก็จะได้เหนื่อยน้อยลงเพราะอย่างน้อยยายก็เป็นแม่เขา เราเรียกเขามาคุยไม่ได้มาชวนทะเลาะ คุยกันเรื่องการวางแผนชีวิต เราจะได้ช่วยกัน ถ้าเกิดเขาไม่ได้มีการวางแผนอะไรเลย หนูก็บอกยายเลยว่าวันหนึ่งที่หนูมีเงิน หนูอาจจะแยกไปอยู่ด้านนอกนะ เพราะว่าเราก็ไม่อยากรับภาระที่บ้านทั้งหมด หนูแค่ส่งเงินให้ยายเท่าที่หนูทำได้ ส่วนเรื่องของน้า มันเป็นหน้าที่ของยาย เพราะยายเป็นแม่เขาก็ให้เขาจัดการเอง แต่ถ้าเรายังรักยายอยู่ เราอาจจะหยิบเรื่องนี้เข้ามาคุยกับคนในบ้าน มาวางแผนการเงินกันดู เผื่อเป็นการกระตุ้นน้าได้ แต่เด็กเขาไม่รู้เรื่อง น้องไม่มีความผิด ถ้าเป็นไปได้น้องก็คือลูกพี่ลูกน้องของเรา พี่อยากให้สปายใส่คำว่าเมตตาลงไปในจิตใจหน่อย เพราะอย่างน้อยเราก็อยู่บ้านเดียวกัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘มันยังทำอะไรมากไม่ได้ เพราะสุดท้ายเรายังอาศัยบ้านยายอยู่ ยายจะให้ลูกบ้านคนไหนมาอยู่ก็ได้ และน้าเขาก็เป็นลูกยาย ณ เวลานี้มันก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนในสิ่งที่เราไม่ชอบ ส่วนเรื่องน้า มันเป็นธรรมชาติมนุษย์นะ รัก โลภ โกรธ หลง พี่มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ ถ้ามีสติและเรารู้ว่าเหตุผลมันคืออะไร แต่พี่ก็ใจชื้นที่สปายก็ยังเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น สปายยังถ่ายทอดออกมาได้ว่าหนูเกลียดเขา และก็ยังสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงเกลียดน้ามากกว่าพวกคนที่เคยมา Bully หนูอีก แสดงว่าหนูยังสังเกตเห็นถึงอาการนี้ของตัวเอง หนูก็รู้ว่าทำไมหนูถึงต้องไปเกลียดลูกของเขาด้วย ทั้ง ๆ ที่เด็กก็ไม่ได้ผิดอะไร สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ สปายยังเป็นคนที่มีตรรกะในชีวิตที่มันไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไร เพราะฉะนั้นจงเข้าใจสิ่งที่ตัวเองรู้สึกก็แล้วกัน เราไม่ชอบก็คือไม่ชอบ แค่นี้ และก็ตั้งเป้าหมายในชีวิตที่จะเลี้ยงดูตัวเองให้ได้โดยเร็ว เมื่อไหร่ก็ตามที่สปายรับผิดชอบตัวเองได้ มีงาน มีรายได้ สามารถจะออกไปอยู่ข้างนอกได้ เมื่อนั้นแหละสปายจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ส่วนเรื่องแบ่งเงิน พี่ยังรู้สึกเข้าข้างสปายอย่างหนึ่งว่านี่คือเงินที่เราหามานะ ถ้ายายจะเอาไปให้คนอื่น สปายก็มีสิทธิ์ที่จะบอก ใช่ว่าเราจะต้องฝืนทนยอมอยู่ฝ่ายเดียว เราก็มีสิทธิ์เลือกว่าเงินของเราจะเอาไปดูแลใคร ก็ลองเอาความคับข้องใจนี้ไปบอกยายดูสักตั้ง ความเกลียดเรามันมีเหตุผล มันมีถูกมีผิดอยู่ในนั้น มันไม่ได้ไร้เหตุผล เพราะฉะนั้นก็ลองบอกดู’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘เพราะมันไม่ได้มีผลกับชีวิตสปายแหละมั้ง มันไม่ได้ถึงขั้นทำให้สปายไม่ได้เรียนมหาลัยฯที่สปายติด เหมือนสปายถูกแย่งพื้นที่ที่เคยเป็นของตัวเอง พี่ว่าวิธีคุยกันแบบสันติวิธีอย่างที่พี่หอมบอกก็ดี มันก็ควรจะทำ แต่ดูแล้วน้าก็ไม่น่าจะยอมหางานทำง่าย ๆ พี่ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าสุดท้ายแล้วการพูดกันมันไม่ได้ทำให้เขาเข้าใจเราและก็ยังคงที่จะหาเรื่องเรา พี่ว่าสปายก็มีสิทธิ์พูดได้นะว่าให้เขาหยุด เพราะพี่รู้สึกว่าเรื่องนี้สามารถเอามาเป็นข้ออ้างได้ว่า เงินทุกวันนี้ที่น้าได้ ส่วนหนึ่งคือเงินที่สปายทำงาน ละถ้าน้ายังไม่หยุดทำอย่างนี้ สปายจะไม่ให้เงินยายนะ ซึ่งแน่นอนมันก็จะกระทบกับเงินที่ยายจะให้น้าด้วยนะ ลองเอาเรื่องนี้ทำให้เขาตาสว่าง พี่ว่ามันเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอ กับอีกอย่างหนึ่งพี่ว่าสปายก็ต้องพูดกับยาย ถ้ายายเลี้ยงลูกอย่างนี้ มันก็ไม่ได้ดีกับทุกคน หรือยายจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดและเขาก็พูดจาไม่ดีกับหนูด้วย แต่สุดท้ายแล้วถ้าเงินมันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง ก็คิดซะว่ามันก็คือค่าที่ยายเลี้ยงดูเรามา มันก็เหมือนตอบแทนยาย สุดท้ายสปายต้องเข้าใจว่าตอนนี้มันคือเงื่อนไขของชีวิตที่สปายเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมรับและพยายามอยู่กับมันให้ได้ เอาที่สปายมีความสุขที่สุดเท่าที่จะมีได้ และมันก็จะมีวันที่สปายพร้อม ออกไปทำงาน ไปใช้ชีวิตของตัวเอง หรือถ้าในอนาคตมันไม่เปลี่ยนไปแต่ก็อย่าไปทำร้ายเด็กเพราะเขาไม่รู้เรื่อง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00–23.00น.ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เวลาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้าน หมูสามชั้นจะหมดเร็วมากกกก แต่เวลาจะถึงคิวหนู คนที่มาต่อคิวข้างหลังหนู เขาจะพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ยยย หมูสามชั้นจะหมดแล้วอะ อยากกินอ่ะๆ” พอหนูได้ยินแบบนี้ หนูกลับเกรงใจ ไม่กล้าสั่งหมูสามชั้นเลย

21 พ.ย. 2025

เวลาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้าน หมูสามชั้นจะหมดเร็วมากกกก แต่เวลาจะถึงคิวหนู คนที่มาต่อคิวข้างหลังหนู เขาจะพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ยยย หมูสามชั้นจะหมดแล้วอะ อยากกินอ่ะๆ” พอหนูได้ยินแบบนี้ หนูกลับเกรงใจ ไม่กล้าสั่งหมูสามชั้นเลย

เวลาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดที่ร้าน หมูสามชั้นจะหมดเร็วมากกกกแต่เวลาจะถึงคิวหนู คนที่มาต่อคิวข้างหลังหนู เขาจะพูดขึ้นมาว่า“โอ๊ยยย หมูสามชั้นจะหมดแล้วอะ อยากกินอ่ะๆ”พอหนูได้ยินแบบนี้ หนูกลับเกรงใจ ไม่กล้าสั่งหมูสามชั้นเลยทั้งๆที่เป็นเมนูที่หนูอยากกินตั้งแต่แรกปัญหานี้เจอมาตั้งแต่สมัยเรียน จนทุกวันนี้ก็ยังเจออยู่ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงหรอคะ เวลาได้ยินคนข้างหลังพูดว่าอยากกินเมนูเดียวกับเรา จะสั่งเลย หรือ จะเก็บไว้ให้เขากินแทน “คุณนุ่น (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี เป็นสายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาการอดกินเมนูที่ชอบเพราะคนข้างหลัง “คุณนุ่น (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องเกิดขึ้นช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยค่ะ จะมีร้านอาหารที่ขายเมนูข้าวเหนียวหมูห่อ ซึ่งเป็นร้านเดียวที่ขายดีที่สุดในมหาวิทยาลัย พวกเราจะกินเป็นอาหารเช้า ซึ่งข้าวเหนียวหมูห่อมีหลายเมนู ทั้งหมูสามชั้น หมูทอด หมูฝอย และหมูแดดเดียว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ทุกครั้งที่หนูไปซื้อ ข้าวเหนียวหมูสามชั้นก็จะเหลือห่อสุดท้าย พอถึงคิวของหนู คนที่อยู่ข้างหลังมักจะพูดว่า ‘หมูสามชั้นจะหมดแล้วอ่า…’ เหมือนจงใจให้หนูได้ยิน ทำให้หนูไม่กล้าสั่งเมนูที่ชอบ สุดท้ายก็อดกินหมูสามชั้นทุกทีค่ะ ถ้าเจอสถานการณ์นี้อีก หนูควรจะสั่งไปเลย หรือจะยอมอดดีคะ?” เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ดีแล้วนะที่นุ่นใจดีขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะสั่งไปเลย จะทำหน้าตาเฉย ๆ ไม่สนใจ พี่จะไม่หันไปมองคนที่พูด ทำเป็นเนียน ๆ ไปแบบไม่ให้เขารู้ตัวเลยว่าเรากำลังได้ยิน’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘จริง ๆ นะ นุ่น มันเป็นสิทธิของหนู ถ้าหนูเป็นคนใจดี ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าเป็นพี่ พี่จะหันไปบอกเลยว่า ‘ขอโทษนะคะ’ แล้วสั่งหมูสามชั้นไปเลย ถ้าเขาพูดว่า ‘จะหมดแล้วอ่า’ พี่ก็คงจะพูดว่า ‘ใช่ค่ะ หมดแล้วค่ะ เพราะจะสั่งนี่แหละ (หัวเราะ)’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘พี่เข้าใจเลยนะนุ่น ถ้าพี่เป็นคนข้างหลัง พี่จะรู้สึกดีใจมากที่เจอคนแบบนุ่น แต่ถ้าเป็นพี่นะ หมูทั้งหมดนี้สแกนจ่าย ซื้อหมดเลยค่ะ! (หัวเราะ) ถ้าหมูสามชั้นอยู่ในมือพี่แล้วก็จะใช้สิทธิเต็มที่ มันเป็นสิ่งที่เราจะได้รับ ไม่ได้แปลว่าเราใจร้าย แต่ควรที่จะเลือกคำปรึกษาของพี่เผือก คือถูกต้องที่สุด เราควรสั่งในสิ่งที่เราอยากจะกิน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00–23.00น.ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แฟนหนู โทรมาบอกว่า เขากำลังจะเปิดช่องใหม่ใน TIKTOK จะทำ Content เกี่ยวกับไปสัมภาษณ์สาวๆ หนูกลัวว่ามันจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตรึเปล่า เพราะที่ผ่านมา เขาเคยนอกใจเรามาแล้ว 4-5 ครั้ง จะยินดีที่แฟนเริ่มทำอะไรใหม่ๆ หรือ ควรกังวลกับเรื่องนี้...

21 พ.ย. 2025

แฟนหนู โทรมาบอกว่า เขากำลังจะเปิดช่องใหม่ใน TIKTOK จะทำ Content เกี่ยวกับไปสัมภาษณ์สาวๆ หนูกลัวว่ามันจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตรึเปล่า เพราะที่ผ่านมา เขาเคยนอกใจเรามาแล้ว 4-5 ครั้ง จะยินดีที่แฟนเริ่มทำอะไรใหม่ๆ หรือ ควรกังวลกับเรื่องนี้...

แฟนหนู โทรมาบอกว่า เขากำลังจะเปิดช่องใหม่ใน TIKTOKช่องเก่าผู้ติดตามเยอะแล้ว อยากขยาย Target ทำ Content ใหม่ๆแฟนกับเพื่อน 4 คนจะทำ Content เกี่ยวกับไปสัมภาษณ์สาวๆตามสถานบันเทิง ฟิลถามสเปค ขอเปิดวาร์ป ขอคอนแท็คติดตามแฟนหนูตอบตกลงไปแล้ว ไม่ได้โทรมาขออนุญาตหนูเลยหนูกลัวว่ามันจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตรึเปล่าเพราะที่ผ่านมา เขาเคยนอกใจเรามาแล้ว 4-5 ครั้งจะยินดีที่แฟนเริ่มทำอะไรใหม่ๆ หรือ ควรกังวลกับเรื่องนี้... “คุณพลอย (นามสมมติ)” อายุ 31 สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (19 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับ แฟนเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ จะไปทำคอนเทนต์สัมภาษณ์ผู้หญิง แต่กลัวว่าเขาจะมีอะไรแอบแฝง โดย “คุณพลอย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาสิบกว่าปีแล้ว เคยเลิกกันไปครั้งนึง แต่กลับมาคบกันและเราแยกกันอยู่ แฟนหนูทำอาชีพเกี่ยวกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำเกี่ยวกับ TikTok / IG พวกคอนเทนต์ปั้นยอดวิว ทำมาหลายปีแล้ว และผลตอบรับค่อนข้างดี เมื่อวานเขาโทรมาคุยกับหนูว่า เขากับเพื่อน 4 คนปรึกษากัน อยากเปิดช่องใหม่ทำร่วมกัน เป็นคอนเทนต์ไปสถานบันเทิง เกี่ยวกับการสัมภาษณ์ผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นการสัมภาษณ์ถามเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ การแต่งตัว หรือสเปคผู้ชายที่ชอบ โดยแฟนหนูจะเป็นพิธีกรในการสัมภาษณ์ การโทรมาของเขาคือแค่แจ้งให้หนูทราบ ว่าเขาทำไปแล้วนะ แต่หนูกลับมีคำถามในใจ หนูควรยินดีกับเขา แต่อีกใจหนูมันก็รู้สึกตงิดว่า อันนี้มันมีจุดประสงค์แอบแฝงมั้ย ย้อนกลับไปตอนที่หนูเลิกกับแฟน แฟนหนูเขาไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนนี้ กำลังจะมาเป็นพิธีกรร่วมด้วยในรายการนี้ แล้วคนนี้เหมือนเป็นตัวชง ให้แฟนหนูติดต่อกับผู้หญิงคนนู้นคนนี้ ทีนี้หนูก็เลยรู้สึกไม่มั่นใจ ตงิดในใจ หนูก็อยากยินดีกับเขา แต่อีกใจก็ไม่ได้ชอบใจเท่าไหร่ ตั้งแต่คบกันมา แฟนเคยนอกใจหนูไปแบบ 2 ปีครั้ง นับได้ก็ประมาณ 4 - 5 เคสได้ เขาคุยกับคนอื่นแต่หนูจับได้ แต่เขาก็เลือกหนูมาตลอดที่ผ่านมา ตอนที่เลิกกันล่าสุด ตอนแรกหนูก็เข้าใจว่าคงหมดรักกันทั้งคู่ แต่สุดท้ายหนูไปเห็นแชทย้อนหลัง ที่เขาไปคุยกับผู้หญิง หนูกลัวเหตุการณ์มันจะซ้ำรอย หนูอยากให้อิสระเขาในการใช้ชีวิต เพราะหนูก็อยากได้อิสระเต็มที่เหมือนกัน’ ปัญหาของพลอยที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนคือ “จะจัดการกับความคิด ความรู้สึกตัวเองยังไงดีคะ?” เริ่มด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเพื่อจะให้เขาไปทำรายการได้ แล้วคู่ของหนูไปต่อ หนูต้องคิดว่า ต่อให้ไม่ต้องไปเจอผู้หญิงทุกคืนเขาก็นอกใจได้ เพราะที่ผ่าน ๆ มาเขานอกใจลับหลังหนูทั้งนั้น เพราะฉะนั้นมันคือตรรกะเดียวกันว่า เขาจะไปทำเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีทางที่หนูจะไม่เจอเรื่องแบบนี้ ถ้าตอนนี้ยังไม่เกิดก็ช่างมัน แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่ อันนี้ต้องเป็นอีกคำถามนึง ที่หนูต้องถามตัวเองว่า หนูยังจะปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นการตัดสินใจของเขาอีกหรอ’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องพยายามไม่ไปคาดหวังอะไรกับเขา ถ้าคนมันจะได้คู่กัน มันก็คงต้องซื่อสัตย์ต่อกัน ต้องไว้ใจกันได้ เพราะฉะนั้นถ้าคน ๆ นึงยังไว้ใจไม่ได้ แล้วยังมาทำไม่ดีกับเราอีก มาอ้างเรื่องงานอย่างนี้ ก็ดูกันที่ผลลัพธ์ วันดีคืนดีถ้านอกใจก็ค่อยเคลียร์กัน ถ้าเรามัวแต่ไประแวดระวังมันเสียเวลา ขนาดเขาไม่ทำงานตรงนั้นยังเกิดขึ้นเลย ก็แค่เปอร์เซ็นต์ตรงนี้มันจะมากขึ้นมาหน่อย’ และก่อนที่ “ดีเจต้นหอม” จะให้คำปรึษา ก็ได้ถามกลับไปยังคุณพลอยว่า ‘ถ้าเขานอกใจอีกครั้งนึง จะเลิกเลยมั้ย?’ ด้านคุณพลอยก็ตอบกลับว่า ‘อาจจะยังน้า’ “ดีเจต้นหอม” จึงให้คำปรึกษาว่า ‘เขาไม่มีทางนอกใจหนูหรอก เขาเลิกกับหนูมา 5 ครั้งแล้ว เขาเลือกหนูทุกครั้ง มันแสดงออกถึงความรักแล้ว หนูระแวงอะไร เขาไปทำงานเพื่ออนาคตของหนูกับเขาไง เรามีหน้าที่ซัพพอร์ตเขาอยู่แล้ว หนูอยู่กับเขามาตั้งสิบกว่าปี เขารักหนูขนาดไหน มีคนอื่นทุก 2 ปี เขายังเลือกหนูทุก 2 ปี แปลว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มาก น้องคนนั้นที่สัมภาษณ์มันแค่ฉาบฉวย สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นเขาก็เลือกหนู’เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFungFin

ติดโปร 10 เดือน ก็ยังไม่ผ่านงาน!! แฟนหนูทำงานเป็น Editor ตัดต่อให้บริษัทเล็กๆแห่งนึง ตอนแรกบริษัทบอก 3 โปรจะผ่านงาน ขึ้นเงินเดือนให้ ตอนนี้แฟนหนูโดนต่อโปร ให้ทำงานมา 10 เดือนแล้ว อยากรู้ว่าเป็นเรื่องปกติไหม?

14 พ.ย. 2025

ติดโปร 10 เดือน ก็ยังไม่ผ่านงาน!! แฟนหนูทำงานเป็น Editor ตัดต่อให้บริษัทเล็กๆแห่งนึง ตอนแรกบริษัทบอก 3 โปรจะผ่านงาน ขึ้นเงินเดือนให้ ตอนนี้แฟนหนูโดนต่อโปร ให้ทำงานมา 10 เดือนแล้ว อยากรู้ว่าเป็นเรื่องปกติไหม?

ติดโปร 10 เดือน ก็ยังไม่ผ่านงาน!!แฟนหนูทำงานเป็น Editor ตัดต่อให้บริษัทเล็กๆแห่งนึงตอนแรกบริษัทบอก 3 โปรจะผ่านงาน ขึ้นเงินเดือนให้ตอนนี้แฟนหนูโดนต่อโปร ให้ทำงานมา 10 เดือนแล้วเงินเดือนยังเท่าเดิม แต่งานเยอะขึ้น ทำงานทั้งวันอยากรู้ว่าเป็นเรื่องปกติไหม?หนูควรแนะนำแฟนว่ายังไงดี ควรทำต่อ หรือ หาที่ใหม่ “คุณฟ่า” (นามสมมติ) อายุ 20 สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาที่แฟนทำงานมา 10 เดือนแล้ว แต่เขายังไม่ผ่านโปร โดย “คุณฟ่า” (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟน เขาอายุ 24 ปี เขาได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งตัดต่อ ซึ่งระยะเวลา 3 เดือนเป็นระยะเวลาที่ทดลองงาน แต่ตอนนี้ ผ่านมา 10 เดือนแล้ว แฟนหนูยังไม่ผ่านโปรเลย ทางบริษัทแจ้งว่ายังไม่ได้รับงานจากภาครัฐ เลยยังไม่สามารถให้ผ่านได้ ซึ่งเขาไม่ได้ให้เหตุผลอะไรไปมากกว่านี้ มันทำให้แฟนของหนู ทำงานโดยไม่ได้เงินเดือนที่มากขึ้น สวัสดิการสังคมที่ควรจะได้ในตอนที่ผ่านโปรก็ยังไม่ได้รับ บริษัทนี้ไม่มีตัวสัญญา เป็นการพูดด้วยปากเปล่า และในช่วงวันหยุด แฟนหนูก็ต้องเตรียมตัว คอยรอตัดงานให้เขา ถ้าเขาสั่ง ในช่วงตีสองตีสาม ก็ยังทักมาตามงานอยู่เลย หนูเลยอยากปรึกษาพวกพี่ว่า มันเป็นเรื่องปกติมั้ย หรือความคิดหนูแปลกเอง’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นบริษัทขนาดเล็ก ระบบหรือระเบียบ จะไม่ค่อยมี อันนี้พี่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดนะ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ปกติ และมันไม่ใช่เรื่องของผลการทำงานว่าดีหรือไม่ดี เพราะแฟนหนูทำงานมา 10 เดือนแล้ว คนทั้งบริษัทก็ยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ถ้าเป็นที่แฟนน้องคนเดียวอันนี้ยังพอคิดไปทางอื่นได้พี่ว่าเขายังไม่มีกำลังพอที่จะจ้างประจำหรือพร้อมที่จะให้สวัสดิการ เขาคงรอโปรเจ็คใหญ่มา ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับแฟนของฟ่า ลองคิดถึงข้อดี-ข้อเสียดู แต่อย่าคิดว่ามันไม่ดี เพราะอย่างน้อยเราก็ได้พอร์ต จากการตัดคลิปต่าง ๆ ถ้าแฟนฟ่ามีทางเลือกอื่น ยื่นพอร์ตไปที่ต่าง ๆได้ ถ้ามีโอกาสคงจะได้ขยับขยายย้ายที่ได้’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อีกหนึ่งกรณี เขาอาจจะโกง พูดไปเฉย ๆ แต่จริง ๆ ตั้งใจที่จะให้เงินเดือนเท่านี้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับแฟนเรา ไปคุยเรื่องสัญญา ไปคุยเรื่องลิมิต ขีดเส้นให้มันชัดเจน แฟนเรารู้สึกว่าไปที่อื่นได้มั้ย การทำงานโดยไม่มีสัญญาต้องยอมรับความเสี่ยงนะ เพราะเลือกที่จะทำงานไม่มีสัญญาเอง’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถึงจะไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่กฎหมายคุ้มครองตามกฎหมายทุกประการ ตอนนี้คือเหมือนเขาเอาเปรียบ หล่อเลี้ยงเราไว้เฉย ๆ บริษัทจะได้งานหรือไม่ได้งาน ก็ต้องจ่ายตามข้อตกลงอยู่ดี ถ้าแฟนคุณเก่งจริงๆ ยื่นพอร์ตไปเลย เพราะตอนนี้ตัดต่อเป็นที่ต้องการมาก’เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFungFin

หนูเป็นคนค่อนข้าง Introvert เวลาคุยงานกัน ไม่กล้า Eye contact กับใคร แต่หนูจะมองต่ำ แล้วจะไปโฟกัสที่เป้าของเขาแทน จะเตือนตัวเองยังไงดี แล้วอยากรู้ว่าผู้ชายจะรู้ตัวไหม ว่าโดนมองเป้าอยู่?

14 พ.ย. 2025

หนูเป็นคนค่อนข้าง Introvert เวลาคุยงานกัน ไม่กล้า Eye contact กับใคร แต่หนูจะมองต่ำ แล้วจะไปโฟกัสที่เป้าของเขาแทน จะเตือนตัวเองยังไงดี แล้วอยากรู้ว่าผู้ชายจะรู้ตัวไหม ว่าโดนมองเป้าอยู่?

ไม่กล้าสบตาผู้ชาย แต่หนูเผลอไปโฟกัสเป้าเขาแทน...พี่คะ หนูเป็นคนค่อนข้าง Introvert แล้วเป็นผู้หญิงที่ได้ทำงานร่วมกับผู้ชายหลายคนเลยในที่ทำงานเวลาประชุม คุยงานกัน หนูไม่กล้า Eye contact กับใครแต่หนูจะมองต่ำ แล้วตาจะไปโฟกัสที่เป้าของเขาแทนแบบไม่รู้ตัวจะเตือนตัวเองยังไงดีคะไม่ให้มองเป้าเขาแล้วอยากรู้ว่าผู้ชายจะรู้ตัวไหม ว่าโดนมองเป้าอยู่?อยากเลิกนิสัยนี้ อยากกล้าสบตาคนอื่นตอนคุยกัน ทำยังไงดีคะ “คุณฟ่า” (นามสมมติ) อายุ 20 สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาที่แฟนทำงานมา 10 เดือนแล้ว แต่เขายังไม่ผ่านโปร โดย “คุณฟ่า” (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟน เขาอายุ 24 ปี เขาได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งตัดต่อ ซึ่งระยะเวลา 3 เดือนเป็นระยะเวลาที่ทดลองงาน แต่ตอนนี้ ผ่านมา 10 เดือนแล้ว แฟนหนูยังไม่ผ่านโปรเลย ทางบริษัทแจ้งว่ายังไม่ได้รับงานจากภาครัฐ เลยยังไม่สามารถให้ผ่านได้ ซึ่งเขาไม่ได้ให้เหตุผลอะไรไปมากกว่านี้มันทำให้แฟนของหนู ทำงานโดยไม่ได้เงินเดือนที่มากขึ้น สวัสดิการสังคมที่ควรจะได้ในตอนที่ผ่านโปรก็ยังไม่ได้รับ บริษัทนี้ไม่มีตัวสัญญา เป็นการพูดด้วยปากเปล่า และในช่วงวันหยุด แฟนหนูก็ต้องเตรียมตัว คอยรอตัดงานให้เขา ถ้าเขาสั่ง ในช่วงตีสองตีสาม ก็ยังทักมาตามงานอยู่เลย หนูเลยอยากปรึกษาพวกพี่ว่า มันเป็นเรื่องปกติมั้ย หรือความคิดหนูแปลกเอง’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นบริษัทขนาดเล็ก ระบบหรือระเบียบ จะไม่ค่อยมี อันนี้พี่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดนะ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ปกติ และมันไม่ใช่เรื่องของผลการทำงานว่าดีหรือไม่ดี เพราะแฟนหนูทำงานมา 10 เดือนแล้ว คนทั้งบริษัทก็ยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ถ้าเป็นที่แฟนน้องคนเดียวอันนี้ยังพอคิดไปทางอื่นได้พี่ว่าเขายังไม่มีกำลังพอที่จะจ้างประจำหรือพร้อมที่จะให้สวัสดิการ เขาคงรอโปรเจ็คใหญ่มา ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับแฟนของฟ่า ลองคิดถึงข้อดี-ข้อเสียดู แต่อย่าคิดว่ามันไม่ดี เพราะอย่างน้อยเราก็ได้พอร์ต จากการตัดคลิปต่าง ๆ ถ้าแฟนฟ่ามีทางเลือกอื่น ยื่นพอร์ตไปที่ต่าง ๆได้ ถ้ามีโอกาสคงจะได้ขยับขยายย้ายที่ได้’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อีกหนึ่งกรณี เขาอาจจะโกง พูดไปเฉย ๆ แต่จริง ๆ ตั้งใจที่จะให้เงินเดือนเท่านี้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับแฟนเรา ไปคุยเรื่องสัญญา ไปคุยเรื่องลิมิต ขีดเส้นให้มันชัดเจน แฟนเรารู้สึกว่าไปที่อื่นได้มั้ย การทำงานโดยไม่มีสัญญาต้องยอมรับความเสี่ยงนะ เพราะเลือกที่จะทำงานไม่มีสัญญาเอง’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถึงจะไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่กฎหมายคุ้มครองตามกฎหมายทุกประการ ตอนนี้คือเหมือนเขาเอาเปรียบ หล่อเลี้ยงเราไว้เฉย ๆ บริษัทจะได้งานหรือไม่ได้งาน ก็ต้องจ่ายตามข้อตกลงอยู่ดี ถ้าแฟนคุณเก่งจริงๆ ยื่นพอร์ตไปเลย เพราะตอนนี้ตัดต่อเป็นที่ต้องการมาก’เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFungFin

ผมหยุดใส่ใจการใช้เงินของคนอื่นไม่ได้!! ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เวลาผมเห็นเพื่อน หรือ คนรอบตัว ซื้อของที่แพงกว่าในราคา Online มา ผมจะหงุดหงิดมาก จะหยุดนิสัยนี้ยังไงดี?

14 พ.ย. 2025

ผมหยุดใส่ใจการใช้เงินของคนอื่นไม่ได้!! ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เวลาผมเห็นเพื่อน หรือ คนรอบตัว ซื้อของที่แพงกว่าในราคา Online มา ผมจะหงุดหงิดมาก จะหยุดนิสัยนี้ยังไงดี?

ผมหยุดใส่ใจการใช้เงินของคนอื่นไม่ได้!!ทำยังไงดีครับ ผมเป็นคนทำงาน หาเงินเองตั้งแต่เด็กๆจนเป็นคิดที่ประหยัดเรื่องการใช้เงินมากๆปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เวลาผมเห็นเพื่อน หรือ คนรอบตัวซื้อของที่แพงกว่าในราคา Online มา ผมจะหงุดหงิดมากเคยโกรธเพื่อนถึงขั้นไม่คุยไปเลย ผมแค่รู้สึกว่าออนไลน์ก็มีของแบบเดียวกัน ในราคาที่ถูกกว่าหรือบางครั้งผมก็หงุดหงิดตัวเองที่ซื้อของออนไลน์แพงกว่าของหน้าร้าน จะหยุดนิสัยนี้ยังไงดี? “คุณนุ” (นามสมมติ) อายุ 18 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 พฤศจิกายน 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับการชอบใส่ใจเรื่องการเงินของคนอื่น อยากให้เพื่อนซื้อของในราคาถูก แต่พูดบ่อยจนเพื่อนโมโห โดย “คุณนุ” (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘ผมเป็นคนที่ทำพาร์ทไทม์มาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยทำให้ผมรู้คุณค่าของเงิน แต่ในบางที ผมก็ชอบใส่ใจการใช้เงินของคนรอบข้างมาก ผมเป็นคนที่ชอบชอปปิ้งออนไลน์ เลยทำให้ผมรู้ถึงต้นทุนของสินค้าในชิ้นนั้น ผมเลยไม่ซื้อสินค้าร้านข้างนอกเลย เวลาผมรู้ว่าคนรอบตัวซื้อของ ผมจะชอบบอกเขาว่าทำไมไม่ซื้อออนไลน์ จนบางทีทำให้คนรอบตัวโมโห เพราะผมชอบบ่น บางทีผมก็หงุดหงิดจนไม่อยากคุยกับเพื่อนเลย ส่วนใหญ่ของที่ผมชอบซื้อจะเป็นพวกครีม เครื่องสำอางค์ ผมเป็นหนักขนาดที่ว่า ขนมห่อเล็ก ๆ ขายตามร้าน ห่อละ 5 บาท ผมก็กดได้มา 1 บาท เลยซื้อมาเป็นยกแพ็ค นิสัยนี้ผมจะเป็นเฉพาะกับเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ ปัญหาของนุวันที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนคือ ทำยังยังให้ผมเลิกนิสัยแบบนี้? ที่ชอบไปวุ่นวายเรื่องการใช้เงินของคนอื่นดีครับ’ เริ่มด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘การซื้อของออนไลน์และซื้อของหน้าร้าน มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ถ้าเขาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ สิ่งที่ออนไลน์ทำไม่ได้ คือได้สินค้า ณ ตอนนั้นเลย สองคือ ได้ความมั่นใจ เมื่อของชิ้นนี้อยู่ในร้านสะดวกซื้อที่มีมาตรฐาน แปลว่าของชิ้นนี้ได้รับการการันตี มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน สามคือ ได้เห็นสินค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ออนไลน์บางครั้งซื้อเสื้อผ้ามาไม่ตรงปก ซื้อรองเท้ามาใส่ไม่ได้ มีปัญหาที่ก่อให้เกิดขึ้นได้ คิดซะว่าเขาอาจจะยอมจ่ายแพงกว่า เพราะเหตุผลเหล่านี้ เราอย่าเอาราคาอย่างเดียวเป็นที่ตั้ง ให้มองว่าความสุขของคนเราต่างกัน แต่เราสามารถเตือนเพื่อนได้ อันนี้ถูกกว่าก็แนะนำให้ไปดู พูดครั้งเดียวแล้วจบ ที่เหลือเป็นการใช้ชีวิตของเขา’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันเป็นเรื่องของสารในสมองที่มันหลั่งออกมา ถ้ารู้ตัวว่าเราเริ่มหงุดหงิด ให้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกว่า เงินเขา..เงินเขา… ทำให้สมองค่อย ๆ รับรู้ไปทีละนิด เราต้องลดการที่ไปวุ่นวายกับคนอื่นลง ค่อย ๆ ตัดที่ไม่เกี่ยวกับเรา กังวลแค่เงินเราพอ และลองไปศึกษาเรื่องโดพามีล จะฝึกร่างกายยังไง ให้โดพามีลอยู่ในที่ ๆ ควร’ ปิดท้ายด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ที่ง่ายสุดต่อชีวิตเลยนะ ใครสะดวกแบบไหนเอาแบบนั้นเลย นุพูดบอกเขาได้นะ เพียงแต่ไม่ควรไปโมโหถ้าเขาไม่ทำตาม เพราะเขาเลือกในสิ่งที่เขาสะดวก นุทำแบบนี้ก็จะมีเงินเก็บ เพราะซื้อของที่ถูกกว่าเขา เขาทำแบบนั้นถึงเงินจะไม่เหลือ แต่เขาก็จะมีความสุขในแบบของเขา ถ้าจะให้ง่ายก็คือ ลองไปหาเพื่อน หรือ คนใกล้ตัวที่เขาต้องการสิ่งนี้ อันนี้มันจะมีค่ามาก ๆ ถ้าคนนี้ความคิดไม่ตรงกับเรา เราก็แค่ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขา’เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFungFin

album

0
0.8
1