พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูรู้สึกว่าหนูได้เวลาจากแฟนเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ จนแฟนบอกหนูว่า "ถ้าให้เวลามากกว่านี้ พี่จะไม่มีเพื่อนแล้วนะ" รักของเราเป็นรักทางไกลด้วย เวลาเค้าหายไปมันก็อดคิดมากไม่ได้ เวลาเค้าเล่นเกมกับเพื่อนเค้าก็จะหายไปเลย จนหนูต้องคอยโทรหาตลอด

21 ต.ค. 2024

หนูรู้สึกว่าหนูได้เวลาจากแฟนเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ จนแฟนบอกหนูว่า "ถ้าให้เวลามากกว่านี้ พี่จะไม่มีเพื่อนแล้วนะ" รักของเราเป็นรักทางไกลด้วย เวลาเค้าหายไปมันก็อดคิดมากไม่ได้ เวลาเค้าเล่นเกมกับเพื่อนเค้าก็จะหายไปเลย จนหนูต้องคอยโทรหาตลอด

หนูรู้สึกว่าหนูได้เวลาจากแฟนเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ จนแฟนบอกหนูว่า "ถ้าให้เวลามากกว่านี้ พี่จะไม่มีเพื่อนแล้วนะ"รักของเราเป็นรักทางไกลด้วย เวลาเค้าหายไปมันก็อดคิดมากไม่ได้ เวลาเค้าเล่นเกมกับเพื่อนเค้าก็จะหายไปเลยจนหนูต้องคอยโทรหาตลอด อยากรู้ว่านิสัยนี้มันงี่เง่าเกินไปไหมคะ? “คุณนิว (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนให้เวลามากแล้ว แต่รู้สึกว่ายังไม่พอ โดย “คุณนิว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟนอายุ 20 ปี คบกันมาได้ประมาณ 6 เดือน เราสองคนคบกันแบบรักทางไกล อยู่คนละจังหวัด จะเจอกันเดือนนึง 1 ครั้ง แฟนหนูเขาให้เวลากับหนูมากแล้ว แต่หนูยังรู้สึกว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอ จนตอนนี้เขาบอกว่าเขาไม่มีเพื่อนแล้ว เวลาที่เขาจะไปเที่ยวกับเพื่อน หนูก็ให้เขาไปตลอด แต่เวลาเขากลับมาเขาต้องมาง้อหนู เพราะหนูน้อยใจมากเลย ไม่ค่อยอยากให้เขาไปกับเพื่อนเหมือนกัน หนูพยายามเรียกร้องความสนใจ บางทีเขาเรียนเขาเลิก 1 ทุ่ม แต่หนูก็อยากให้เขาตอบแชทหนูเวลาเขาเรียนอยู่ ช่วงแรกๆเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโทรคุยกันตอนเขาทำงานหรือตอนเขาอ่านหนังสือ หนูงอแงจนเขาก็ยอมโทรคุยกับหนู หนูคิดว่าสิ่งที่หนูทำแล้วมันเยอะเกินไป คือ มีครั้งนึงเขาเลิกเรียนปุ๊บ เขาก็โทรคุยกับเพื่อนเพื่อที่จะเล่นเกม แต่เขาไม่โทรมาหาหนู เขาก็เงียบๆไป เขาก็หายไปประมาณครึ่งชั่วโมง หนูเลยถามเขาว่าหายไปไหน เขาบอกเล่นเกมกับเพื่อน หนูก็ร้องไห้ เขาก็เลยต้องหยุดเล่นเกม วางสายจากเพื่อน แล้วโทรมาหาหนู เพราะหนูรู้สึกว่าหนูรอเขามาทั้งวัน เขาไม่อยากคุยกับหนูหรอ ซึ่งสายล่าสุดที่เราคุยกันคือวันก่อนหน้า แต่เขาก็พิมพ์แชทมาคุยกับหนูตลอด แค่ไม่ได้โทรคุยกัน และก็มีอีกเหตุการณ์คือเขาขอนอนกลางวัน เพราะคืนที่ผ่านมาเขาทะเลาะกับหนู แล้วเขาไม่สบาย เพราะเขานอนดึก แต่หนูคิดว่าเขาคงไม่ได้อยากนอนกลางวันหรอก แต่แค่เขาไม่อยากคุยกับหนู หนูก็เลยร้องไห้ สุดท้ายเขาก็คอลกับหนูทั้งๆที่เขาป่วย แต่หนูรู้สึกผิดมาก หนูบอกเขาตลอดว่าหนูรู้สึกผิด แต่เขาบอกว่าหนูไม่ผิดหรอก เขาผิดเองที่ให้เวลาหนูไม่มากพอ หนูเคยพยายามจะเปลี่ยนนิสัย แต่มันติดนิสัย เวลาหนูรู้สึกแย่ หนูจะพิมพ์สั้นๆ แล้วเขาจะรู้ว่าหนูรู้สึกแย่ เขาก็จะถามเลยว่า “รู้สึกแย่ใช่มั้ย ขอโทษนะ งั้นเดี๋ยวนอนเสร็จแล้วคุยด้วยกันนะ” บางทีหนูก็บอกให้เขาไปหาเพื่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาง้อ แต่หนูก็เคยคุยกับเขาว่าถ้าเขารู้ว่าหนูรู้สึกแย่ แล้วทำไมถึงทำ หนูก็รู้ว่าหนูงี่เง่ามาก ก็เลยอยากปรึกษาพวกพี่ๆดีเจว่า ทำยังไงให้ตัวเองเลิกงี่เง่าขนาดนี้?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา

18 ต.ค. 2024

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงานมีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปีแต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟังแม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา หนูจะเอาชนะใจแม่แฟนต่อไปยังไงดีคะ? “คุณพลอย (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาพ่อแม่เเฟนกีดกันไม่ให้เราสองคนคบกัน อยากให้ลูกของเขามีแฟนเป็นผู้ชาย เเต่งงาน มีลูก โดย “คุณพลอย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนคบกันมา 5 ปี หนูเป็นผู้หญิง แต่แฟนหนูเป็นทอม เราเริ่มคบมาตั้งเเต่ปีแรกก็มีฟีดแบ็กจากแม่แฟนทักมาด่าทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของหนู เเล้วก็มาคอมเมนต์รูปคู่ของเรา 2 ว่า “ให้เลิกกันเเล้วก็ลบรูปคู่นั้นออกซะ” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปีแม่แฟนเขาก็จะตามสืบเรื่องราวของหนูทั้งหมดเลย ว่าหนูไปคบกับแฟนคนไหนมาบ้าง สืบย้อนหลัง 5 - 6 ปีเลย ที่ผ่านมาแฟนไม่ได้มีปัญหาเลย ก่อนหน้าที่แฟนจะคบหนูเขาก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน พ่อเเม่เขาอาจจะคิดว่ายังเด็กเลยไม่ได้สนใจอะไร เเต่เริ่มมีปัญหาตอนที่ขึ้นมหาลัยเขาอาจจะคิดว่า ต้องตั้งใจเรียน นึกถึงอนาคตเยอะขึ้น เเล้วเป็นจังหวะที่เขาเป็นเเฟนกับหนูพอดี ตอนแรกหนูก็ยังไม่ตอบโต้อะไร ยังพยายามพิสูจน์ความรักของหนูอยู่ว่าหนูจริงใจกับลูกเขาจริง ๆ ไม่ได้มาเพื่อที่จะหลอกอะไร เเต่พอเขารู้ว่าหนูเคยคบกับผู้ชายมาก่อน เขาเลยรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่จริงใจกับลูกเขาเเน่นอน ไม่มีทางที่ความรักของเรา 2 คนจะเป็นไปได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแฟนก็จะรู้ว่าแม่ของเขามีนิสัยเป็นยังไง เขาถึงไม่กล้าที่จะให้เราเปิดเผยตัวตน เพราะว่ามันเคยมีเหตุการณ์ครั้งนึงที่เราไปทานข้าวด้วยกัน เเม่แฟนโทรมาเเล้วถามว่าไปทานข้าวกับใคร เขาก็บอกตรง ๆ ไปว่ามาทานข้าวกับเรา พอเขาได้ยินยังไม่ทันขาดคำเลย เขาก็กดวางสายใส่ลูกเขาเลย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหนูรู้แบบนี้ ก็พยายามทำตัวล่องหนตลอด เราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง พักหอพักเดียวกัน ไปเรียนด้วยกันเเล้วก็เลิกเรียนด้วยกัน ทุกครั้งที่เเม่เขาโทรมาหนูจะต้องเงียบเสียงตลอด เเต่ว่าทั้งหมดนี้หนูทนมาได้ ไม่ค่อยซีเรียส เรื่องนี้หนูยอมรับได้เพราะว่าหนูจะใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองว่าหนูจริงใจจริง ๆ เเต่ตอนนี้เรื่องมันเริ่มหนักขึ้น เรื่องเพิ่งเกิดเมื่อ 3 วันที่เเล้ว ก็คือคุณเเม่เขาตามมาด่าคุณเเม่ของหนูอยู่ที่ทำงานเลย เขารู้ว่าเเม่ของหนูทำงานที่ไหน บ้านของหนูอยู่ที่ไหน เพราะว่าเคยมาเเล้วครั้งนึง ช่วงนี้พวกหนูเรียนจบมาเเล้ว ก็อยากที่จะมาหา มาเล่นด้วยกันเสาร์-อาทิตย์ ตอนนี้ 2 - 3 เดือนมาเล่นด้วยกันทีนึง เเต่ทีนี้เหมือนเเม่เขารู้ว่าลูกเขามาเล่นกับหนู เขาก็มารับลูกเขากลับไป เเล้วในวันนั้นช่วงเย็นประมาณบ่ายโมง เเม่เขาก็ได้ขับรถจากอีกจังหวัดนึงมาหาหนู เเต่ไม่ได้เข้ามาที่บ้านหนู ดิ่งตรงไปที่ทำงานของเเม่หนู เเล้วก็ไปนั่งร้องไห้ให้เเม่หนูออกมาเพื่อที่จะคุยเจรจากันให้รู้เรื่องพอหนูทราบเรื่องหนูก็ขี่รถไปเพื่อที่จะไปฟังเขาว่าเขาจะทำอะไรกับเเม่หนู หนูต้องไปปกป้องเเม่ของหนู เเต่หลังจากที่หนูยืนฟังเขาพูด เขาพูดไม่ได้ใจความ อาละวาดเสียงดัง พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจเขา เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปนไปหมด ทั้งเรื่องที่ลูกของตัวเองเกิดมาเเล้วไม่ได้ดั่งใจ ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ให้สอบอะไรก็สอบไม่ได้ เขาต้องทำงานหาเงินมาเพื่อเลี้ยงลูก เเล้วก็ลามมาว่าเหมือนหนู ไม่ได้จริงใจกับลูกเขาหรอก เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน เขาไม่ได้จะเอาหนูหรอก สิ่งที่เขาต้องการเเละอยากได้มาตลอดคือต้องการให้เรา 2 คนเลิกกัน เเล้วก็ห่างกันไปซะ ไม่ต้องมายุ่งด้วยกันอีก เเต่ทางเเม่ของหนูก็นั่งให้เขาด่ามาตลอดเป็นชั่วโมง ไม่ได้ตอบโต้อะไร นั่งน้ำตาคลอ คนในพื้นที่เขาจะรู้จักคุณแม่หนูหมดเลย ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน เเล้วก็ความเสียหายต่อหน้าตาของเรา ซึ่งแฟนของหนูเขาค่อนข้างที่จะรักครอบครัว เเล้วเขาก็รักเรา ไม่อยากให้เรา 2 คนห่างกันออกไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้มันมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่คิดว่ามันจะมีวันนี้ เลยค่อนข้างที่จะค่อย ๆ คุยกับคุณเเม่ นาน ๆ ทีขออนุญาตมาหาซัก 3 เดือนทีนึง ที่ผ่านมาเขาจะไม่เล่าให้เเม่ฟังเลยว่าเราเคยอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน หาเงินเรียนด้วยกัน เเม่เขาไม่ทราบเรื่องนี้เลย แฟนเขาเลือกที่จะมาอยู่กับเราเเต่เขาไม่ได้จะทิ้งเเม่ เเต่เขาอยากจะออกมาจากพื้นที่นั้นเพื่อมาอยู่กับพื้นที่เซฟโซนอย่างเรา เพราะว่าเค้าไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว ทุกวันเเม่เขาจะมาปลุกตี 3 - 4 เพื่อให้อ่านหนังสือ วันเสาร์ – อาทิตย์ก็ไปกับเเม่ ไปทำงานด้วยกัน เขาอยากย้ายออกมากเเต่สุดท้ายเเม่เขาก็ต้องตามกลับมาอยู่ดี เเล้วคุณพ่อเขาก็เห็นด้วยกับคุณเเม่เขา ไม่ค่อยขัดคุณเเม่เท่าไหร่ ตอนนี้เราสองคนก็ยังคบกันอยู่เเต่ต้องเงียบ ทำเหมือนเราเลิกกันไปแล้ว ไม่ให้เขาทราบว่าเรายังคุยกันอยู่หลังจากเรื่องมันเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้าเขาหนูก็เคยมีแฟนมาเเล้ว เเต่เป็นความรักที่ไม่ดี ส่วนมากที่เจอก็จะนอกใจ หนูรับไม่ได้เลยเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง แต่กับคนนี้หนูไม่อยากเลิกกับเขา อยากคบกับเขาไปตลอดชีวิต เขาเป็นคนที่ดีที่สุด ไม่เคยมีปัญหากันเลย ดูแลเราดีทุกอย่าง อยากจะใช้ชีวิตต่อไปกับเขาไปเรื่อย ๆ ก็เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ทำยังไงกับสถานการณ์นี้ อยากจะชนะใจเเม่เขาให้ได้อย่างไร? ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ต้องทนอย่างเดียว เราไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติคนเป็นพ่อเป็นเเม่ของเขาได้ เเม่เรารักเรายังไง เเม่เขาก็ต้องรักลูกเขาแบบนั้นเหมือนกัน ต่างคนต่างรักเเต่มันคนละแบบ เรื่องชนะใจก็พอคุยกันได้ ในวัย 24 กับความรักที่มันเกิดขึ้นหลังจากรักที่ผิดหวัง เขาทำให้เรารู้จักคำว่ารักเเละการดูเเลซึ่งกันเเละกัน 5 ปีที่คบมาก็เป็นระยะเวลาที่ยาวเเต่ก็ยังไม่ได้เป็นเวลาที่จะพิสูจน์ความเป็นคู่ชีวิตกันขนาดนั้น คบกันเเต่งงานเเล้วเลิกหลังเเต่งก็มี พี่ไม่ได้เเช่งเเต่อยากให้มีสติในการคบกันครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถ้าวันนี้มั่นใจกันมากขนาดนี้เเล้วอยากชนะใจ พลอยยอมรับได้มั้ยกับความเสี่ยงที่ต้องสู้เเล้วไม่ได้เห็นปลายทาง อะไรที่ขัดใจเเม่อย่าเพิ่งทำให้เขาเห็น ก็ต้องยอมอดทน สุดท้ายเราจะเข้าไปเพื่อที่จะดูเเลลูกเขา ถ้าทำให้เเม่ของเขารู้สึกแบบนี้ได้ หนูจะสิทธิ์ชนะใจได้ เเต่ต้องมีเดดไลน์ให้ตัวเองว่าจะลองพิสูจน์อีกนานเเค่ไหน การที่หนูมีเเม่ที่ดีก็ถือว่าโชคดี เเต่เราก็ต้องทำให้แม่เขาเชื่อในความสัมพันธ์ของเรากับลูกเขา ว่าเจตนาของเรานั้นต้องการที่จะดูแลลูกเขาจริง ๆ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อาที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ทักเราว่า “ทำไมอ้วนจัง?” จังหวะนั้นเราหงุดหงิดพอดี เพราะเจอคำถามนี้บ่อยมาก เลยพูดกลับอาไปว่า “ปกติหนูก็จะไม่กล้าทักใครแบบนี้นะคะ มันดูเป็นคนไม่มีมารยาท” อีกวันอาไลน์มาต่อว่าหนู

14 ต.ค. 2024

อาที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ทักเราว่า “ทำไมอ้วนจัง?” จังหวะนั้นเราหงุดหงิดพอดี เพราะเจอคำถามนี้บ่อยมาก เลยพูดกลับอาไปว่า “ปกติหนูก็จะไม่กล้าทักใครแบบนี้นะคะ มันดูเป็นคนไม่มีมารยาท” อีกวันอาไลน์มาต่อว่าหนู

อาที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ทักเราว่า “ทำไมอ้วนจัง?” จังหวะนั้นเราหงุดหงิดพอดีเพราะเจอคำถามนี้บ่อยมาก เลยพูดกลับอาไปว่า “ปกติหนูก็จะไม่กล้าทักใครแบบนี้นะคะมันดูเป็นคนไม่มีมารยาท” อีกวันอาไลน์มาต่อว่าหนู หนูก็เลยขอโทษเขาไปหนูจะดูเป็นเด็กที่ไม่ดีในสายตาอาไหมคะ? “คุณแกลม (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาญาติทักว่าอ้วน เราเลยสวนกลับไป แต่เราก็รู้สึกแย่ที่พูดแรงไป โดย “คุณแกลม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งโดนญาติผู้ใหญ่ไลน์มาด่า เพราะว่าอาทิตย์ที่แล้วเขามาว่าหนูอ้วน หนูเลยสวนกลับเขาไป เขาเป็นคุณอา (น้องชายของพ่อ) หนูสนิทกับเขามากเลย คุยเล่นกันได้ ตั้งแต่เด็กจนโตเลย คือตอนหนูเกิดหนูพูดชื่อเขาได้คนแรก มีช่วงที่หนูไปอยู่คนละจังหวัดกับเขา แต่เวลากลับมาเจอกันเราจะคุยกัน สนิทกันได้ปกติเลย ตอนนี้คุณอาเขาทะเลาะกับพ่อหนู เขาตัดครอบครัวหนูออกจากชีวิตเขา เขาไม่เอาเลย แต่เขายังรักหนูอยู่ ยังคุยกับหนูคนเดียว แต่ตอนนี้เขากำลังจะตัดหนูออกด้วย เราอยู่กันคนละบ้าน แต่คุณอาจะแวะเวียนมาที่บ้าน มาดูแลคุณปู่ คุณย่า เรื่องที่เกิดคือ เขามาทักต่อหน้าหนูว่า ทำไมอ้วนขึ้น? เขาทักหนูหลายรอบมาก หนูก็เสียใจ แล้วก็นอยเพราะหนูอ้วนขึ้น เพราะเอฟเฟกต์จากยาที่กินด้วย หนูเลยพูดออกไปโดยไม่ทันคิดว่า ปกติหนูจะไม่ทักคนอื่นแบบนี้ เพราะมันดูไม่มีมารยาท แล้วเขาก็ยิ้มแห้งเลย หลังจากนั้นหนูก็รู้สึกแย่ที่พูดแบบนั้นกับเขาไป ซึ่งช่วงนี้หนูต้องคุยกับเขาเพราะจะกดเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้คุณปู่ คุณย่า หนูก็เลยคุยเรื่องเอกสารกันนิดหน่อย แล้วเขาก็พิมพ์กลับมาว่า โตแล้วหนิ เดี๋ยวนี้แรงใช้ได้เลยนะ ไม่ต้องเลี้ยงดูละ หนูก็เลยขอโทษเขาไป แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรหนูมาเลย จริงๆหนูรู้สึกเสียใจมากที่ตัดกับอาคนนี้ หนูไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก หนูอยากเป็นเด็กที่น่ารักกับผู้ใหญ่ หนูควรทำยังไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นสาวสอง อายุ 18 ค่ะ เจอผู้ชายคนนึง เขามาจีบหนู คบกันได้เดือนนึง เขาบอกว่าจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้าน แต่ที่บ้านเขาไม่โอเคกับสาวสอง เพราะแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้เคยไปหลอกเค้ามา เค้าเลยบอกว่าขอเลิกกับหนูเพราะที่บ้านไม่โอเค

11 ต.ค. 2024

หนูเป็นสาวสอง อายุ 18 ค่ะ เจอผู้ชายคนนึง เขามาจีบหนู คบกันได้เดือนนึง เขาบอกว่าจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้าน แต่ที่บ้านเขาไม่โอเคกับสาวสอง เพราะแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้เคยไปหลอกเค้ามา เค้าเลยบอกว่าขอเลิกกับหนูเพราะที่บ้านไม่โอเค

หนูเป็นสาวสอง อายุ 18 ค่ะ เจอผู้ชายคนนึง เขามาจีบหนู คบกันได้เดือนนึง เขาบอกว่าจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้านแต่ที่บ้านเขาไม่โอเคกับสาวสอง เพราะแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้เคยไปหลอกเค้ามาเค้าเลยบอกว่าขอเลิกกับหนูเพราะที่บ้านไม่โอเค หนูควรขออีกสัก 2 ปี แล้วกลับไปทักเขาดีไหมคะ? “คุณเนเน่ (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเราเป็น LGBTQ+ คบกับผู้ชายคนนึง เเต่พ่อเเม่แฟนไม่ชอบเราเลยต้องเลิกคุย ควรรอเขาดีมั้ย? โดย “คุณเนเน่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้หนูทำงานเป็นเซลล์ ได้ไปเจอผู้ชายคนนึงในแอป ๆ นึง เขาอายุ 29-30 ปี คุยกันจนได้มาอยู่กัน อยู่กินกันมาด้วยกันอะไรเเบบนี้เหมือนแฟนคนนึง คบกันได้ซักพักไม่ถึงปี โดยส่วนตัวหนูเป็นสาวสอง ตอนแรกครอบครัวเขาไม่รู้ว่าเขาคบกับหนู มีวันนึงตัวผู้ชายเขาจะพาหนูไปพบกับครอบครัวเขา เขาก็ได้บอกกับพ่อเเม่เขาว่าจะพาเราไปหานะ เเล้วก็ได้โทรกลับมาหาเราบอกว่า พ่อแม่เขาไม่โอเคนะที่เราเป็นสาวสองอะไรเเบบนี้ หนูต้องการอยู่กับเขาเเต่ตอนนี้เขาเลิกคุยกับหนูไปแล้วได้ประมาณครึ่งเดือน ก่อนหน้าที่จะเลิกกันเขาบอกว่าไม่อยากทิ้งหนูไปไหน ยังอยากอยู่กับหนู เเต่เหมือนเขาเลือกครอบครัว พ่อแม่เขาบอกว่าอายุก็ต่างกัน อายุเท่านี้จะไปทำงานอะไรได้ ดูเเลลูกเขายังไงได้ เเละเขาก็บอกว่าถึงเราคุยกันไปก็ไม่ได้คบกันอยู่ดี ซึ่งก่อนหน้านั้นลูกเขาเคยมีแฟนเป็นสาวสองมาก่อน เเต่เหมือนแบบไปหลอกลูกชายเขา หลอกเงิน หลอกอะไรเเบบนี้ ตัวเขาก็เลยไม่โอเคกับการที่ให้ลูกชายเขามีแฟนเป็นสาวสองอีกครั้ง เพราะกลัวเราจะไปหลอกเขาอีก หลังจากที่เลิกคุยกันก็มีการติดต่อกันนิดหน่อย ประมาณว่าทำอะไร เป็นยังไงบ้าง เเล้วเหมือนหนูจะทักไปหาเขาอีกเขาก็บอกว่าไม่อยากให้เราทักไปอีก กลัวลืมเราไม่ได้เเล้วก็ขอบล็อค หนูลืมเขาไม่ได้หรอกเพราะสำหรับหนูเขาเป็นผู้ชายที่ดีที่หนูเจอมา ถ้าเกิดคนเขารักเราจริงเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเรา มันมีอยู่วันนึงรถพ่อของเขาเสียกลางทางด่วน เเล้วเหมือนเขาเงินไม่พอเลยทักมายืมเรา เราก็เลยโอนไปให้ทันที หนูก็อยากรู้ว่า เฮ้ย! เราก็อยากรู้ว่าเราก็เคยช่วยพ่อเธอนะ ทำไมเธอไม่ลองคุยกับเขาว่าเราก็มีข้อดีนะ ตอนนั้นโอนไป 2 ยอด เป็นยอดรวม 5,000 บาท ตอนนี้เขาก็โอนคืนเเล้วเเต่คืนไม่หมดยังเหลืออีกนิดหน่อย เเต่เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะตอนที่เขามาหาเราเขาพาไปเลี้ยงข้าวเงี้ย เราก็ไม่เคยออกเองซักบาท หนูว่าจะเริ่มต้นใหม่ พยายามคุยกับคนอื่นเเต่ก็ไม่มีใครดีเท่าเขา ก็เลยอยากปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนว่าอีก 2 ปีบรรลุนิติภาวะเเล้ว หนูควรรอเขาอีกดีมั้ย?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องถามว่าการรอของเนทรมานรึเปล่า ถ้าเรายังไม่ได้เจอไปเจอใครใหม่ มันก็เป็นสิทธิ์ของเราที่จะอยู่ไปแบบนี้ รอเขาอยู่เงียบ ๆ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับความฝันนี้ได้ ถ้าชีวิตมันไม่ทรมานมาก คนเรามันรอได้อยู่เเล้วเเต่อย่าไปรบกวนเขา เเล้วลองดูพอเราโตขึ้น มีงานมีการเป็นหลักเป็นฐานมากขึ้น บ้านเขาจะเปิดรับเราอย่างที่เราคิดมั้ย เเต่เตือนตัวเองนะว่าผลลัพธ์มันจะออกมายังไงก็ได้ เขาอาจจะยังไม่ได้ชอบเราเหมือนเดิม 2 ปีอาจจะสูญเปล่าก็ได้ ก็เตือนตัวเองนะว่ามีสิทธิ์ผิดหวัง’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ’ไม่น่าลงทุนต่อ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีอะไรดีขึ้นในการรอ เพราะคบกันไม่ถึงเดือน ยังไม่มีความผูกพัน ยังไม่มีความรักเกิดขึ้นก่อตัวขึ้นมา การรอของเนเน่ถ้ามีความสุขก็รอไป เเต่คุณเเม่คิดว่าอย่าเอาใจไปเล่นทั้งใจเลยว่าจะรอผู้ชายคนนี้ ตามหาสิ่งที่ใช่สำหรับเรา อะไรที่ไม่ใช่เทได้นะ ไม่ใช่ไม่มีใครดีเท่าเขา เเค่เรายังไม่เจอ ช่วงเวลาสั้น ๆ มักจะหอมหวานเสมอมันยังไม่ใช่ ถ้าเริ่มต้นเเค่เนี้ยเเล้วเทเราอะ ไม่ต้องรอเขาไม่ได้ควรค่า’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ’การที่เราคบกันไม่ถึงเดือนเเล้วเขาพาเราไปเปิดตัวกับพ่อเเม่ คิดว่ามันสมเหตุสมผลมั้ย อย่าลืมนะเขาบอกมาเเล้วว่าเขาเคยมีแฟนเป็นสาวสอง พ่อแม่เขาก็ไม่ชอบ คนปกติก็ยิ่งระวังตัวนะว่าอย่าเพิ่งให้พ่อแม่รู้ เขาอยู่กับหนู 2 คนสบาย ๆ ในห้องก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องให้พ่อแม่ตัดสินเลยอยู่ด้วยกันถ้าเขาชอบหนูรักหนู ลองนิ่ง ๆ คิดดูว่าสิ่งที่เขาทำมันสมเหตุสมผลหรือเปล่า ถ้าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องจริง พี่ว่ามันก็ยากมากเหลือเกินที่หนูจะไปทำให้เขาไม่ชอบ ในเมื่อเราเกิดมาแบบนี้อ่ะ หนูอายุเท่านี้หนูมีความสุขกับชีวิตดีกว่า หนูควรจะเจอคนที่น่ารักกับหนูอ่ะ ยุคนี้มีพ่อแม่มากมายที่เขาโอเคที่ลูกเขาจะมีแฟนเป็นสาวสอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

มันปกติไหมคะ? การที่ HR บริษัทใหม่ที่เราไปสัมภาษณ์ ขอสลิปเงินเดือนที่เก่าเรา เพื่อเทียบดูว่าจริงตามที่เราสัมภาษณ์ไหม พอดีว่าตอนสัมภาษณ์หนูพูดโกหกอัพเงินเดือนตัวเองให้สูงขึ้น เพื่อให้ที่ใหม่ให้สูงกว่า สัมผ่าน 2-3 รอบแล้ว

11 ต.ค. 2024

มันปกติไหมคะ? การที่ HR บริษัทใหม่ที่เราไปสัมภาษณ์ ขอสลิปเงินเดือนที่เก่าเรา เพื่อเทียบดูว่าจริงตามที่เราสัมภาษณ์ไหม พอดีว่าตอนสัมภาษณ์หนูพูดโกหกอัพเงินเดือนตัวเองให้สูงขึ้น เพื่อให้ที่ใหม่ให้สูงกว่า สัมผ่าน 2-3 รอบแล้ว

มันปกติไหมคะ? การที่ HR บริษัทใหม่ที่เราไปสัมภาษณ์ ขอสลิปเงินเดือนที่เก่าเราเพื่อเทียบดูว่าจริงตามที่เราสัมภาษณ์ไหม พอดีว่าตอนสัมภาษณ์หนูพูดโกหกอัพเงินเดือนตัวเองให้สูงขึ้นเพื่อให้ที่ใหม่ให้สูงกว่า สัมผ่าน 2-3 รอบแล้ว สุดท้ายแล้วหนูก็ตัดสินใจทำงานที่เก่า “คุณกิ่ง (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาออฟฟิศ ทำงาน โดย “คุณกิ่ง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้กิ่งมีงานปัจจุบันทำเกี่ยวกับโปรเจกต์ ควบคู่กับเซลล์ รับลูกค้าด้วย ซึ่งทำงานที่นี่มา 2 ปีกว่าแล้ว ก่อนหน้านี้กิ่งเคยทำ marketing มาก่อน ในตอนที่สัมภาษณ์งานที่นี่ ตอนนั้นกิ่งอายุ 24 ปี และขอฐานเงินเดือนไปก็ได้ตามที่คาดหวังไว้ จนเวลาผ่านไปเราคิดว่าทักษะการทำงานเรามากขึ้น ได้รับลูกค้าหลายเจ้า ได้ประสบการณ์มากขึ้น เลยรู้สึกว่าตัวเราเองเริ่มทำงานเกินเงินเดือนแล้ว ควรได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่านี้หน่อย ด้วยงานที่มันเริ่มโหลด และภาระการเดินทางจากบ้านไปที่ทำงานวันละ 70 กิโล ด้วยระบบองค์กรที่บริษัทเราที่มีการปรับเงินเดือนรอบละไม่เกิน 3 – 5 % ในการปรับเงินเดือน มันเล็กน้อยมาก เลยรู้สึกว่าไม่พอสำหรับค่าครองชีพที่เป็นอยู่ จนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามี HR บริษัทที่ใหม่ ซึ่งองค์กรนั้นเป็นองค์กรลักษณะเดียวกันกับที่เราทำอยู่ปัจจุบัน เขาโทรมาแล้วบอกว่าเห็น RESUME ของเราในเว็บออนไลน์ เขาแจ้งว่า พวกคุณสมบัติ ประสบการณ์เราดูตรงกับตำแหน่งที่เขาต้องการอยู่ เราก็ตอบตกลงสัมภาษณ์กับทางบริษัทนั้นไป หลังจากนั้นทาง HR คนนั้นเขาก็ขอให้เราอัปเดตเอกสาร RESUME โดยให้ระบุเงินปัจจุบัน แล้วก็เงินเดือนที่คาดหวัง เราก็เอ๊ะนิดนึง ด้วยความที่เราไปสัมภาษณ์มาหลายที่แล้ว สิ่งที่เราเจอมาตลอดคือเขาจะถามแค่เงินเดือนที่เราอยากได้ ไม่เคยเห็นที่ถามเงินเดือนปัจจุบันมาก่อน เราคิดว่ามันมีข้อเสียที่ว่าถ้าเราบอกเงินเดือนจริงเขาไปแล้ว เขาจะกดเงินเดือนที่เราเรียกกับที่ใหม่ไปมั้ย? เราก็กลัวว่าไปทำงานที่ใหม่ เงินก็จะขยับไม่เยอะ ปกติสมัยนี้ถ้าเราย้ายที่ทำงานใหม่ ถ้าไม่ได้มี skill จริงๆ เขาคงไม่ได้ให้มากกว่าที่เดิม แต่ทางบริษัทใหม่เขาเสนอกับเราว่าอยากให้เงินเดือนเรามากกว่าที่เราต้องการ แต่เขาขอเอกสารเงินเดือนเก่าไปรีเช็คก่อน ซึ่งตอนที่เราโกหกเงินเดือนปัจจุบันของเรากับเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว สุดท้ายเราก็โทรหา HR คนนั้นว่าเราขอปฏิเสธไป เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมกับที่ใหม่ ยังอยากอยู่กับที่เก่า ตัวเรายังไม่เหมาะด้วย เลยอยากรู้ว่าถ้าจะไปทำงานที่ใหม่ เราต้องยื่นฐานเงินเดือนที่เก่าด้วยมั้ย?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมเป็นเกย์ มีแฟนที่คบกันมา 8 ปี แต่ตั้งแต่ปีที่ 2 เขาออกไปสวิงกิ้ง นอกบ้านกับคนอื่นมาตลอด แต่ผมมีอะไรกับเค้าแค่คนเดียวมาตลอด แฟนบอกผมว่ามันคือรสนิยมทางเพศรูปแบบนึง สรุปแล้วผมผิดปกติ หรือ แฟนกันแน่ที่ผิดปกติ พอไปถามเพื่อนผม ตอบไม่เหมือนกันเลยครับ

11 ต.ค. 2024

ผมเป็นเกย์ มีแฟนที่คบกันมา 8 ปี แต่ตั้งแต่ปีที่ 2 เขาออกไปสวิงกิ้ง นอกบ้านกับคนอื่นมาตลอด แต่ผมมีอะไรกับเค้าแค่คนเดียวมาตลอด แฟนบอกผมว่ามันคือรสนิยมทางเพศรูปแบบนึง สรุปแล้วผมผิดปกติ หรือ แฟนกันแน่ที่ผิดปกติ พอไปถามเพื่อนผม ตอบไม่เหมือนกันเลยครับ

ผมเป็นเกย์ มีแฟนที่คบกันมา 8 ปี แต่ตั้งแต่ปีที่ 2 เขาออกไปสวิงกิ้ง นอกบ้านกับคนอื่นมาตลอดแต่ผมมีอะไรกับเค้าแค่คนเดียวมาตลอด แฟนบอกผมว่ามันคือรสนิยมทางเพศรูปแบบนึงสรุปแล้วผมผิดปกติ หรือ แฟนกันแน่ที่ผิดปกติ พอไปถามเพื่อนผม ตอบไม่เหมือนกันเลยครับ “คุณต้น (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ผมแปลกหรือแฟนแปลก เพราะแฟนมีรสนิยมชอบไปมีอะไรกับคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ยังคบกับเราอยู่ โดย “คุณต้น (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ต้องท้าวความก่อนว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผมได้คบกับแฟนคนนึง เราเป็นคู่รักชาย-ชาย ก็คือช่วง 2 ปีเเรกคบกันมันก็ไม่ได้มีอะไร ก็รักหวานอมขมกลืนกันปกติ เป็นแฟนคู่รักปกติ เเต่พอมาอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนจากมัธยมขึ้นเป็นมหาลัย ด้วยสังคมที่มันใหญ่ขึ้น ด้วยสังคมที่มันเจริญมากยิ่งขึ้น ตัวผมเองก็เรียนอยู่อีกมหาลัยนึง แฟนผมเองก็เรียนอยู่อีกมหาลัยนึง ซึ่งเขาเป็นรุ่นพี่เขาจะได้เข้ามหาลัยก่อนผมปี 1 อยู่แล้ว เขาก็จะเจอโลกก่อนผม ผมไม่ได้เข้าใจวงการการเป็น LGBTQ สักเท่าไหร่ในช่วงนั้นเพราะว่าเป็นเด็กจากบ้านนอกเข้าไปเรียนมหาลัย ก็พบปัญหาว่าแฟนเริ่มมีรสนิยมทางเพศที่เปลี่ยนไป วันนึงนอนกันอยู่ เขาก็บอกว่า “คุณครับ เค้าอยากมีเซ็กส์เเบบ 3 คนจังเลย” ด้วยเราเองก็ เฮ้ย! มันไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตมากก่อน คำพูดนี้ทำไมมันมาจากคนของเรา ตัวผมเองก็ไม่ได้หาคำตอบอะไรนะเลยถามว่า “ทำไมถึงคิดเเบบนั้น” เขาก็ตอบว่า “เค้ามาอยู่ในสังคมที่ใหญ่ขึ้น อยากรู้อะไรที่มันตื่นเต้นมากขึ้นกว่านี้” ซึ่งตัวเราเองรักเขามากนะ รักเขามากกว่าตัวเองแหละ ก็ยอมนะ ยอมให้เขาออกไปมีอะไรกับคนอื่นตามที่เขาอยากจะออกไป ไม่ได้มาสวิงกับผม ถามว่าเราโอเคมั้ย ความรู้สึกลึก ๆ ในใจเราอ่ะเราไม่ได้โอเคหรอก แต่ด้วยความรักที่เรารักเขามาก เราก็ยอม หลังจากนั้นก็มีการออกไปใช้ชีวิตเเบบนี้เรื่อย ๆ อยู่กันมา 4-5 ปีจนผมเรียนจบ เขาเรียนจบก่อนก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัด เเต่ผมทำงานที่จังหวัดเดิม คือมันมีความสัมพันธ์ที่ห่างกันไปแล้วตั้งเเต่คุณออกไปมีอะไรกับคนอื่นเเล้ว ก็คือห่างกันด้วยระยะทาง ก็มีการคุยกันเรื่องการใช้ชีวิตเเบบนี้ มันสุ่มเสี่ยงนะ ควรหยุดการทำพฤติกรรมเเบบนี้ได้เเล้ว เขาก็โอเค เดี๋ยวจะหยุดพฤติกรรมนี้เเล้วเรากลับไปใช้ชีวิตคู่กัน ก็แยกย้ายกันไปทำงาน ผมก็ไปหาเขาทุกเสาร์ - อาทิตย์เพราะว่าหยุดตรงกัน มันมีอยู่ช่วงนึง ด้วยนิสัยเราเป็นคนชอบเก็บกวาดห้องปกติ ก็ไปเจอเส้นผมตามพื้นหลากสีมาก ชมพู ฟ้า เขียว ม่วง ด้วยความเป็นคนขี้สงสัย เราก็เก็บเส้นผมพับใส่กระดาษทิชชู่ไว้ รอเขากลับมาจากที่ทำงาน ผมก็ถามว่าคุณเปลี่ยนสีผมหรอ? ทำไมในห้องคุณมีเส้นผมหลายสี ผมก็ได้คำตอบจากเขาว่า “อ๋อ ไม่ได้เปลี่ยน เเต่พี่ที่ทำงานเขาเปลี่ยนสีผมกันหลายคน มันอาจจะติดถุงเท้าผมกลับมาก็ได้” ด้วยความที่รักเขามากเลยไม่ได้สงสัยเลย ก็ผ่านไปไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นผมก็ให้โอกาสเขาอีกเเล้ว กลับมาคุยเหมือนเดิม เเต่เริ่มมีการใช้แอปพลิเคชั่นติดตามกันเกิดขึ้น เเละเวลานอนก็จะคอลหากันตลอดเวลา ผมจะโทรหาตั้งเเต่ 4 โมงเย็นจนถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน ด้วยความคิดผมเองมองว่าถ้าเราเห็นกันเเละกันอยู่ตลอดเวลา มันคงจะไม่มีโอกาสที่จะไปทำแบบนั้น เเต่มันไม่มีผลเลย มีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้น เพื่อนผมโทรมาหาเเล้วบอกว่า “ไม่ไหวละ มึงต้องขึ้นไปหากูหน่อยละ มันมีเรื่องที่ต้องคุย” ก็ตัดสินใจจัดการทำภารกิจตัวเองให้เสร็จเเล้วก็ไปหาเขา ก็ได้คุยกันว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็ไปนั่งรวมกันกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน วันนั้นก็มีประมาณ 11 คน ก็มีเพื่อนคนนึงเดินมาตบไหล่เบา ๆ เเล้วพูดว่า “ขอโทษนะที่ทำเเบบนี้ พอดีว่าต้องพูด เก็บไว้ไม่ได้” คือเพื่อนคนนี้ไปมีอะไรกับแฟนผมมา ทั้ง ๆ ที่เห็นผมคอลกันอยู่ เเต่แฟนผมแหงนหน้าจอขึ้น เพื่อไม่ให้เห็น ให้เห็นเเค่เพดาน และปิดลำโพงไว้ มันเป็นจังหวะเที่ยงคืนถึงตี 1 ผมก็ต้องนอนเเต่ก็คอลกันไว้ทั้งวันทั้งคืน พอคนที่ 1 มาสารภาพ ก็มีคนที่ 2 3 4 5 6 มาสารภาพว่าได้กันหมดเลย เขารวมตัวมาบอกเราว่าให้เราหยุดกับคน ๆ นี้เเล้ว เพราะมันไม่ได้มีเเค่นี้ หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันเเล้วก็ได้เลิกกัน หลังจากที่เลิกกัน ผมเลยถามเพื่อนว่าเหตุการณ์แบบนี้ที่มันเกิดขึ้นกับผม การที่แฟนออกไปมีอะไรกับคนอื่น มันเป็นเรื่องปกติมั้ย? มันก็เสียงแตกกันว่ามันก็ไม่ได้แปลกเลย คู่เราก็เป็น อีกเสียงคือไม่ถูก ความรักมันไม่จำเป็นต้องออกไปแบบนั้น ก็เลยอยากปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนว่าในความสัมพันธ์แบบ LGBTQ ผมเองที่ไม่ปกติหรือเขาที่ไม่ปกติ? โดยดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม) ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ไม่ได้ผิดปกติ มันขึ้นอยู่กับความชอบเเละรสนิยม เเล้วก็เงื่อนไขข้อตกลงระหว่างกัน ไม่เกี่ยวกับ LGBTQ เพราะว่าชายหญิงก็มี มีคู่ที่ Open Relationship มี FWB มีคนที่อยู่ใน Swinging Group ที่มีแฟนอยู่เเล้ว เขาไปเสร็จเเล้วก็กลับมาใช้ชีวิตคู่กัน ซึ่งรสนิยมของเราก็ต้องตรงกัน เเต่ของต้นเป็นแบบรักเดียวใจเดียว ก็ต้องหาคนที่ไม่ได้ออกไปทำแบบนั้น ไม่ได้มีใครแปลก แฟนก็ไม่ได้เเปลก เเต่เป็นเเค่เรื่องรสนิยมที่แตกต่างกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูอายุ 18 แล้ว เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่คุณแม่ก็ยังเข้าห้องมาตลอด แบบไม่เคาะประตู บางทีเข้ามาย้ายของ จัดของจนหนูหาของอะไรไม่เจอเลย เคยล็อคกุญแจแล้ว แต่คุณแม่ก็มีกุญแจสำรอง จะเจรจา

07 ต.ค. 2024

หนูอายุ 18 แล้ว เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่คุณแม่ก็ยังเข้าห้องมาตลอด แบบไม่เคาะประตู บางทีเข้ามาย้ายของ จัดของจนหนูหาของอะไรไม่เจอเลย เคยล็อคกุญแจแล้ว แต่คุณแม่ก็มีกุญแจสำรอง จะเจรจา

หนูอายุ 18 แล้ว เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่คุณแม่ก็ยังเข้าห้องมาตลอดแบบไม่เคาะประตู บางทีเข้ามาย้ายของ จัดของจนหนูหาของอะไรไม่เจอเลย เคยล็อคกุญแจแล้วแต่คุณแม่ก็มีกุญแจสำรอง จะเจรจา พูดกับแม่ยังไงให้เขาเข้าใจหนูสักทีคะ? หนูให้เข้ามาได้แต่อย่ามาย้ายของ “คุณแจกัน (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย‘ เกี่ยวกับปัญหาทำยังไงให้คุณเเม่เลิกเข้าห้องส่วนตัวเรา เพราะรู้สึกเริ่มโตเเล้ว โดย “คุณเเจกัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ครอบครัวหนูแยกทางกัน มีพี่น้อง 3 คน หนูเป็นคนกลาง พ่อแม่แยกทางกัน พี่สาวไปอยู่กับแฟน น้องชายไปอยู่กับพ่อ ส่วนหนูอยู่กับเเม่ ตอนนี้คุณเเม่อายุ 42 ปี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา หนูขอแม่เเยกห้องนอนส่วนตัว คุณเเม่ก็โอเค ให้แยกนอนได้ บางทีคุยกันก็เหมือนเขาไม่พอใจ ผ่านไปอาทิตย์นึงคุณเเม่ก็เริ่มเข้าห้องเราโดยที่ไม่เคาะหรือบอกเราก่อน บางทีหนูไปโรงเรียนกลับมาของที่วางอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิมก็หายหรือหาไม่เจอ เช่น หนูเรียนมีการบ้าน เขาจะชอบจัดเเล้วเขาจะเก็บรวมไปเลย บางทีหนูล็อคห้อง หรือติดป้ายไว้เเล้ว เคยคุยกับเเม่เเล้วด้วย เเม่ก็โอเคจะไม่เข้า เเต่พอผ่านไปแค่ 2 - 3 วันเขาก็ยังเข้าห้องเหมือนเดิม หนูไม่ได้ว่าที่เขาเข้าห้อง เเต่หนูอยากให้เขาบอกก่อนว่า จะเข้าไปเก็บของนะหรือจะเข้าไปห้องให้ บางทีหนูนอนอยู่ เขาก็จะเข้ามาโดยที่ไม่บอกเรา เข้ามาเฉย ๆ ดูเเล้วก็ออกไป บางทีหนูอาบน้ำเเต่งตัวอยู่ เขาก็เข้ามาเลย ทำให้หนูรู้สึกเหมือนเขาเข้ามาในพื้นที่ของหนู ทำให้หนูเกิดอาการเหมือนหงุดหงิดตัวเอง ไม่ได้หงุดหงิดแม่ หนูก็เก็บไว้ว่าอย่าไปหงุดหงิดเขา เหมือนเราเคยนอนด้วยในห้องเดียวกัน พอหนูแยกออกมาเขาอาจจะเเบบอยากรู้รึเปล่าว่าเราแยกออกมาเเล้ว ยังเป็นเหมือนเดิมรึเปล่า? หนูเป็นคนทำความสะอาดทั้งบ้านเอง เหมือนเรื่องของเราก็จะไม่ให้แม่ยุ่ง ซักผ้าหรืออะไรก็ทำเองหมดเลย เพราะไม่อยากให้แม่ทำ หนูไม่รู้ว่าต้องจัดการยังไง ก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจทั้งสามคนว่า หนูควรต้องทำยังไงดี? โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หัวอกคนเป็นพ่อเป็นเเม่รู้เเหละว่าวันนึงลูกจะโต จะไปมีชีวิตของตัวเอง เราจะไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าห้องโดยพลการอีกต่อไป นี่คือที่พ่อแม่รุ่นใหม่พยายามบอกตัวในทุก ๆ วัน เเต่มันโครตยากเลย ด้วยวัยของคุณเเม่ที่เท่า ๆ พี่พี่ว่าคุยได้ มันเปลี่ยนได้ เพราะฉะนั้นต้องมีวิธีการคุยจะไม้อ่อนไม้เเข็งอันนี้เเล้วเเต่เเจกัน ถ้าเคยคุยแบบไม้อ่อนเเล้วยังเหมือนเดิม ก็ตเองขยับเป็นไม้เเข็งขึ้น เเต่ก็ไม่รู้ความคิดเขาถ้าโดนอย่างงี้พอเขาโดนเเบบนี้จะยังไง เเต่พี่ว่าถ้าเห็นลูกเริ่มจริงจังขึ้นไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำที่โตขึ้น เป็นพี่พี่ยอมเปลี่ยนนะ อย่างน้อยยังได้ก้าวเข้าไปในห้องเขาอ่ะ ถ้าไม่ได้จริง ๆ ให้คุณเเม่ฟังคลิปนี้’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษา ‘เข้าใจหมดว่าเราอยากมีโลกส่วนตัว เเต่ก็ต้องเข้าใจความเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยวเเล้วหนูเป็นลูกที่ใกล้เขามากที่สุด เขาก็จะเเอบคิดเข้าใจไปเองว่า ยังไงลูกต้องอยู่ในอ้อมกอดของชั้นตลอดไป ชั้นจะปกป้องเขาให้เขาไม่เจอสิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ เเละม่ความไม่ค่อยไว้ใจลูกสาวหน่อย ๆ การที่เขาได้เข้าไปในห้องของลูกสาว เหมือนเขาได้เข้าไปอยู่โลกของลูกสาวด้วย เขาเลยอยากสร้างความมั่นใจว่ายังอยู่ในสายตาชั้น ไม่มีอะไรหรอก อยากให้ทำความเข้าใจด้วย เเม่ไม่ได้เข้ามาอยู่ในห้องตลอดชีวิตเราหรอก วันนึงก็ต้องจากกัน ก่อนจะถึงวันนั้นปรับวิธีคิดเราจะได้ไม่หงุดหงิดมากเกินไป ยังไงก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรา มันก็เป็นบทเรียนให้หนูเหมือนกัน ที่หนูต้องรักเเละปกป้องตัวเองด้วย ค่อย ๆ สร้างความมั่นใจไปเรื่อย ๆ ถ้าเเม่มั่นใจในตัวเรามากขึ้น สิ่งเหล่านี้มันจะค่อย ๆ หายไป เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แปลว่าพูดกับเเม่ 1 ครั้งเเล้วเเม่อยู่ในโอวาทของลูกสาวตลอดไป เเต่เมื่อไหร่ที่มันมาจากความรัก ปัญหาความรักแก้ง่ายกว่าปัญหาความไม่รัก ให้สื่อสารที่เป็นทางบวกเเละลองเข้าใจความเป็นห่วงของคุณเเม่ดูบ้าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันต้องหาตรงกลางที่ทั้งคู่แฮปปี้ พี่ว่ามันสามารถคุยได้นะถ้ามันส่งผลกระทบการเรียนเราอ่ะหรือเรามีนัดกันกับเขามั้ย ทุกวันอาทิตย์หรือทุกวันใด ๆ หนูอยู่ในห้องด้วยเเล้วเเม่ก็จัดจะได้รู้ว่าย้ายของเเล้วก็บอกหนูจะได้รู้ อย่าทำโดยที่หนูไม่อยู่อ่ะเพราะบางทีมันจะวุ่นวายต่อการหาของ ส่วนไอการเข้ามาโดยที่ไม่มีสัญญาณก่อนอ่ะ หรือมันโมบายอะไรหน้าห้องมั้ย อะไรก็ได้ให้ถ้าร่างเข้าผ่านเเล้วมันจะเกิดเสียงอะ เพื่อให้เขาเองก็ต้องมีสติด้วยนะว่าต้องเคาะก่อนต้องบอกก่อนเข้าอ่ะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เพื่อนเก่าสมัยมัธยมในกลุ่ม มาบอกว่าจะเลิกคบกับอีกคน ผมก็เลยขอเป็นคนกลาง แล้วเพื่อนคนนั้นก็แฉอีกคนให้ผมฟังว่าเขาบูลลี่ผมมาตลอด หลักฐานครบ เค้ามีกลุ่มแยกที่ไม่มีเราอยู่คนเดียว คุยลับหลังมา 3 ปี ผมเสียใจมากๆ

04 ต.ค. 2024

เพื่อนเก่าสมัยมัธยมในกลุ่ม มาบอกว่าจะเลิกคบกับอีกคน ผมก็เลยขอเป็นคนกลาง แล้วเพื่อนคนนั้นก็แฉอีกคนให้ผมฟังว่าเขาบูลลี่ผมมาตลอด หลักฐานครบ เค้ามีกลุ่มแยกที่ไม่มีเราอยู่คนเดียว คุยลับหลังมา 3 ปี ผมเสียใจมากๆ

เพื่อนเก่าสมัยมัธยมในกลุ่ม มาบอกว่าจะเลิกคบกับอีกคน ผมก็เลยขอเป็นคนกลางแล้วเพื่อนคนนั้นก็แฉอีกคนให้ผมฟังว่าเขาบูลลี่ผมมาตลอด หลักฐานครบ เค้ามีกลุ่มแยกที่ไม่มีเราอยู่คนเดียวคุยลับหลังมา 3 ปี ผมเสียใจมากๆ เพิ่งรู้ว่าเพื่อนคนนั้นที่ขอยืมรถเรา แล้วพูดว่าโง่เนอะ ให้กูยืมด้วย “คุณเติร์ด (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนนินทาลับหลังเรา ทั้งที่ต่อหน้าเขาดีกับเรามาก โดย “คุณเติร์ด (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้ผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรื่องเกิดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว คือหนึ่งในเพื่อนกลุ่มเก่าตอนมัธยมโทรมาปรึกษาผมเรื่องเพื่อนอีกคนในกลุ่ม แบบมาบอกว่าเขานิสัยไม่ดีอะไรบ้าง อยากจะเลิกคบกับเขาทำยังไงบ้าง? ผมก็เลยให้คำปรึกษาว่า จะเลิกคบหรือไม่เลิกคบกัน ผมก็ขอเป็นคนกลางเพราะว่าเพื่อนคนที่เขาเล่ามาเขาก็ดีกับผมมาตลอด แต่ประเด็นคือว่าเพื่อนพูดว่า “เติร์ดกูไม่อยากเล่าให้มึงฟังนะ แต่เรื่องที่โดนนินทา คนที่โดนเยอะสุดคือเติร์ดนะ” แต่ผมไม่รู้ตัว คิดว่าเขาดีกับผมในกลุ่ม เพราะระยะเวลาที่คบกันมา 3 ปีเขาดีกับผมมาตลอดเลย จนผมไว้ใจเพื่อนคนนี้ที่สุดในกลุ่ม จนพอมาล่าสุด ผมมารู้ว่าเพื่อนที่ผมไว้ใจที่สุดกลับกลายเป็นว่าลับหลังผม ผมโดนเละที่สุดเลยในกลุ่ม ผมโดนเยอะมากๆ แล้วเพื่อนก็แคปหลักฐานทุกอย่างมาให้ผมดูหมดเลย เพราะเพื่อนมีแชทกลุ่ม ไม่ว่าผมจะอัปเดตชีวิตในโซเชียล หรือลงอะไร ผมจะโดนแคปลงในแชทกลุ่มที่ไม่มีผม ซึ่งเพื่อนคนอื่นก็เออ ออไปด้วย พอเขาจะแตกกันก็มาเล่าให้ผมฟังว่าจะเลิกคบกับคนนั้นแล้วนะ เพราะเขานิสัยไม่ดี แต่ที่ผ่านมาเขามีการมายืมเงิน ยืมมอเตอร์ไซค์ของผม พอผมให้ยืมเขาก็เอาไปพูดลับหลังว่าผมโง่ให้ยืมด้วย เพื่อนคนนั้นยังไม่รู้ว่าผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้วที่เขาเผาผม ตอนนี้เขาก็ยังทำเป็นดีกับผม ยังคุยกันปกติ ผมอยากถามพี่ๆว่า ควรคบเพื่อนคนนี้ต่อดีมั้ย? หรือควรตัดไปเลยเพราะผมก็รู้ความจริงหมดแล้วว่าที่ผ่านมามันก็ไม่ได้หวังดีกับเราจริงๆ’ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเป็นคนแรกว่า ‘แน่นอนอยู่แล้วว่าพี่จะไม่คบคนกลุ่มนี้ แต่ชีวิตคนก็เป็นแบบนี้แหละ มองในแง่ดีคือมันก็เป็นภูมิคุ้มกันเรา เพราะว่าเติร์ดอาจจะได้เจอคนแบบนี้อีกก็ได้ เหมือนประสบการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน ขนาดคนที่เราสนิทกันขนาดนี้มันยังพูดลับหลังกันได้ ซึ่งมันมีแบบนี้จริงๆบนโลกนี้ เราก็แค่ได้รู้ว่าคนๆนี้เป็นแบบนี้ ได้เรียนรู้ที่จะไว้ใจคน คนที่เราช่วยเหลือเขามาตลอด แล้วสิ่งที่มันทำคืออะไร แต่พี่ว่ายังไงก็ต้องตัด’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเป็นคนที่สองว่า ‘คนๆนี้ถ้ามันใช่แบบที่เติร์ดเล่ามาทั้งหมด คนแบบนี้มันเน่าตั้งแต่ข้างใน คนที่มันก่อร่างสร้างตัวมาเป็นคนที่มี attitude แบบนี้มันโตมายังไง พี่ว่ามันเลวทรามยิ่งกว่าเม้าท์ปากเสีย เพราะฉะนั้นคนแบบนี้เติร์ดไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรมันด้วยซ้ำ ถ้าเป็นพี่ พี่จะส่งแชทที่เพื่อนแคปมาให้ดูส่งให้มันไปเลย แล้วไม่ต้องคุยอะไรเลยก็ได้ ส่งเสร็จบล็อกไปเลยจบๆ หรือถ้าจะใส่กันสักชุดก็ได้ แค้นอะไรก็บอกไป คุยจบก็แยกย้ายกันเลย เป็นพี่ก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน’ และสุดท้าย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่อ้อยเคยอ่านเจอประโยคนึงว่า เราเลือกคนที่เราเจอไม่ได้ แต่เลือกว่าจะวางเขาไว้ตรงไหนในชีวิตได้ เราไม่รู้หรอกว่าคนที่เราจริงใจกับเขา เขาจะตลบหลังเราเมื่อไร แต่เมื่อเรารู้แล้ว เราเลือกวางเขาไว้ตรงไหนที่ไม่ต้องทำให้เราดีลกันอีกก็ได้ พี่ว่าบางทีมันไม่จำเป็น เดี๋ยวเติร์ดก็มีเพื่อนอีกหลายๆกลุ่ม อาจจะไปเจอแบบเดียวกันอีก หรือเป็นอีกแบบเลยก็ได้ ใดๆก็ตามเราอาจจะเสียใจ อาจจะเจ็บแค้น แต่ที่สุดแล้วการล้างแค้นที่สาสมที่สุดคือเขาคนนั้นต้องไม่มีผลอะไรต่อใจของเติร์ดอีกตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เติร์ดยังเจ็บปวดไปกับคนๆนั้น ถือว่าเติร์ดยังให้ความสำคัญกับคนๆนั้นอยู่นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมมี FWB 6 คนครับ รักความอิสระไม่ต้องผูกมัดกับใคร ครอบครัวผมที่อยู่ต่างประเทศ บอกว่าไทยผ่านสมรสเท่าเทียมแล้ว อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่รักดูแลกันไปนานๆแต่เขาไม่รู้ว่าภาพที่ลงในโซเชียล เป็นคนละคนหมดเลย

04 ต.ค. 2024

ผมมี FWB 6 คนครับ รักความอิสระไม่ต้องผูกมัดกับใคร ครอบครัวผมที่อยู่ต่างประเทศ บอกว่าไทยผ่านสมรสเท่าเทียมแล้ว อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่รักดูแลกันไปนานๆแต่เขาไม่รู้ว่าภาพที่ลงในโซเชียล เป็นคนละคนหมดเลย

ผมมี FWB 6 คนครับ รักความอิสระไม่ต้องผูกมัดกับใคร ครอบครัวผมที่อยู่ต่างประเทศบอกว่าไทยผ่านสมรสเท่าเทียมแล้ว อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่รักดูแลกันไปนานๆแต่เขาไม่รู้ว่าภาพที่ลงในโซเชียลเป็นคนละคนหมดเลย ผมควรจะเชื่อตัวเอง หรือ ตกลงกับคนใดคนนึงไปเลยดีครับ? “คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหาเเม่อยากให้เเต่งงาน เพราะสมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว เเต่เรายังไม่พร้อมเพราะมีความสัมพันธ์เเบบ FWB อยู่ 6 คน โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมใช้ชีวิตเเบบโสดเเต่ไม่โสด ผมมี FWB เป็นผู้ชาย ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 6 คน เเต่ทั้ง 6 คนเป็น Long term หมดเลย เป็น 1-5 ปี ไม่มีระยะสั้นแบบคืนเดียว วันไนท์ จะหลากหลายเดือน หลายปีไปเลย เเล้วตอนนี้มันมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเพิ่งจะผ่าน ทีนี้ผมก็เลยโดนกดดันมาจากที่บ้านนิดนึงว่า “แต่งงานได้เเล้วมั้ย?” ซึ่งปัญหานี้คงเป็นปัญหาที่ทุกคนอาจจะมองไม่เป็นเรื่องใหญ่ ผมอยู่เมืองไทยคนเดียว ครอบครัวอยู่ต่างประเทศหมดเลย ตั้งเเต่เด็ก ๆ เเล้ว คือทางครอบครัวผมเขาค่อนข้างเป็นห่วงในการใช้ชีวิตคนเดียว คุณเเม่เเละก็ครอบครัวผมเขาเข้าใจว่าผมมีแฟนคนเดียวมาตลอดเลย เพราะว่าเวลาผมถ่ายรูปลงโซเชียลเนี่ย ผมก็ถ่ายติดแขน ติดมือ ไม่ได้แบบให้เห็นหน้าหรือเห็นตัว ทีเนี่ยคุณเเม่เขาเข้าใจว่าเราคบมานานเเล้ว เเบบมีเป็นตัวเป็นตนแล้ว เราก็ไม่ได้ปฎิเสธเขาเเต่ก็ไม่ได้บอกเขาตรง ๆ ว่าเรามีหลายคนหรือมีคนเดียว ทีนี้เเม่เขาก็โทรมาในวันที่แบบกฎหมายผ่านจริง ๆ เมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว เขาก็คุยจริงจังเลยว่า “เเต่งงานได้มั้ย? เเต่งงานให้เเม่ได้มั้ย?” เพราะว่าตลอดชีวิตผมเนี่ยเเม่เขาตามใจผมมากมาตลอด อยากได้ไรได้ อยากทำอะไรทำ อยากเรียนที่ไหนอยากทำอะไรได้ตลอด ไม่เคยขัดใจเลย เเล้วก็ไม่เคยขออะไรจากผมเลย เพราะเขารู้สึกว่าเขาเป็นเเม่เขาต้องให้ ไม่ใช่หน้าที่เขาที่ต้องขอจากเรา ทีนี้เเม่ผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมาเข้าปีที่ 6 แล้วครับ เเล้วเราไม่รู้ว่าเขาจะอยู่กับเราอีกได้นานแค่ไหน เขาก็เข้า รพ. อาการหนักตลอด 6 เดือนครั้ง ปีละครั้ง ก็จะมีหนัก ๆ เข้า รพ.ตลอด เเล้วครั้งที่เขาตรวจเจอมะเร็งระยะสุดท้ายเนี่ย จังหวะนั้นที่เขาต้องเข้าผ่านตัด โอกาสรอดที่หมอบอกเราคือไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำว่าเเม่จะรอดออกมา ทีนี้จังหวะที่เเม่จับมือเราก่อนเข้าห้องผ่านตัดอะ สิ่งที่เเม่เขาพูดกับเราคือ “เขาเป็นห่วงเรา ไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว” เพราะว่าผมไม่มีพ่อตั้งเเต่เด็กเลย พ่อเขาเสียตั้งเเต่ตอนยังเด็ก มีเเม่คนเดียวมาตลอด เเม่เขากลัวเราอยู่คนเดียวไม่คนช่วยคิด ช่วยตัดสินใจในชีวิต เเล้วเรารู้สึกว่าตอนนั้นมันเป็นความกังวลของเขาเฉย ๆ เเต่ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกว่าเขาต้องการจริง ๆ ว่าอยากให้เราเป็นฝั่งเป็นฝาจริง ๆ ในเมื่อกฎหมายบ้านเรามันทำได้ ผมก็มี FWB 1 ใน 6 คนนี้ที่คบกันมาตอนนี้ปีที่ 5 แล้วครับ อยู่กันมาปีที่ 5 เป็นคนที่อยู่กันนานที่สุด เเล้วก็รู้สึกว่ารู้ใจกันทุกอย่าง คุยกันทุกเรื่อง เเต่เเค่เราไม่ได้แบบว่าผูกมัดกันเฉย ๆ เขาก็พูดมาเมื่อหลายเดือนที่เเล้วอะ ตอนเราดูข่าวว่าสภาเขาโหวตเรื่องสมรสเท่าเทียมกัน เขาก็หันมาพูดกับเราจริงจังเลยเเบบจริงจังมากเลยว่าแบบ “เออเนี่ย จริง ๆ เเล้วอ่ะเขาคิดกับเราไปถึงขั้นนั้นเลยนะ ที่วันนึงจะเเต่งงานอยู่ด้วยกันไรเงี้ย เเต่เเบบเขาอ่ะ เห็นว่าเราอ่ะยังไม่พร้อมที่จะเป็นแบบนั้นได้จริง ๆ เขาก็เลยรู้สึกว่า เขาไม่กล้าขอให้เราอะแบบผูกมัดกับเขา เขากลัวว่าเขาจะเสียเราไปด้วย” ปัญหามันอยู่ที่ความรู้สึกของเรา ด้วยความที่เเม่เราตามใจเรามาก เราใช้ชีวิตเเบบโดนตามใจตลอดทีเนี้ยะ เราถูกสอนมาให้ซื่อสัตย์กับตัวเองมาก ๆ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยโกหกแม่เลย เราต้องการอะไรไม่ต้องการอะไรในชีวิตเราเรารู้ตลอด เราทำตามที่เราต้องการมาตลอด ทีเนี้ยเรารู้สึกว่าตอนนี้มันเป็นทางที่เราต้องเลือกระหว่างทำในสิ่งที่แม่ขอ ซึ่งแม่ไม่เคยขอเลย กับสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำจริง ๆ ก็คืออยากอยู่เป็นชีวิตโสดอย่างงี้ต่อไป มันเป็นทางที่ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าเลือกทางไหนอ่ะผมก็ต้องเสียใจแน่ ๆ แต่ผมจำเป็นต้องเลือกซักทางนึง ซึ่งผมตัดสินใจไม่ได้จริง ๆ ใจผมมันไปทางไม่แต่งอยู่เเล้วแหละ เเต่ก็อยากทำให้เเม่สบายใจ เลยอยากถามพี่ ๆ ว่า ในความคิดเห็นของพี่ ๆ ควรเลือกทางไหนดีครับ?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในกรณีนี้เราสามารถคุยกับเเม่ตรง ๆ ว่าการที่บีไม่ได้เเต่งงาน ไม่ได้หมายถึงว่าบีจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้อย่างดี เข้าใจว่าเเม่เป็นห่วง ในอดีตบีอยู่คนเดียวได้เเล้วอยู่ได้อย่างดีด้วย มันก็น่าจะวัดได้ประมาณนึงเเล้วว่าบีเป็นคนดูเเลชีวิตตัวเองที่แบบได้ดี ถ้าจะคิดเเค่ว่าการเเต่งงานมันจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ทุกวันนี้มันไม่ใช่ทุกคู่รักคู่สมรสจะจบกันด้วยดี บางทีการเเต่งงานมันยิ่งนำพาปัญหามาเกิดขึ้นเลย แต่ตอนนี้มันมีเงื่อนไขที่คุณเเม่ป่วย การที่บอกว่าเเม่ตามใจมาตลอดเเล้วกับเรื่องนี้ที่เขาอยากเห็นมันสักครั้งก่อนเขาไป ถ้าเป็นพี่ที่รักเเม่มาก เเล้วเป็นข้อเดียวที่เขาอยากเห็นนะ พี่ก็ทำได้นะ พี่รู้สึกถ้าเเต่งเพื่อให้เเม่สบายใจก่อนเขาเสีย ในมุมถ้าพี่รักเเม่คนนี้นะ พี่ทำได้ แต่ก็เเต่งกับคนที่เรารักนะ เเล้วเรื่องหลังจากนั้นค่อยว่ากัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่าการเเต่งงานหมายถึงชีวิตมั่นคง ถึงบีไม่เเต่งงานก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีใคร การไม่เเต่งงานไม่ได้บ่งบอกว่าไม่มีคู่ชีวิต การไม่มีคู่ชีวิตไม่บอกว่าบั้นปลายชีวิตจะไม่มีใครดูเเล ไม่อยากให้ตัดสินใจเพียงเพื่อระยะสั้น การแก้ปัญหาระยะสั้นกับคุณเเม่พี่ว่ามีวิธีอื่น ถ้ามองระยะยาวพี่ว่าเสี่ยง ต้องคิดดี ๆ คิดยาว ๆ’ สุดท้าย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่อยากให้มองว่างานเเต่งงานเป็นเเค่อีเว้นท์นึง การทำให้เเม่สบายใจไม่น่าจะใช้การโกหก โกหกเพื่อความสบายใจมารู้ทีหลังพังกว่าทั้งนั้นแหละ ก็สื่อสารกับเเม่ตรง ๆ ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถหาใครซ้กคนมาเป็นคู่ชีวิตจริง ๆ เเต่ไม่ต้องห่วงเลือดของเเม่ที่อยู่ในตัวเราอ่ะ จะทำให้เราเป็นคนที่มีสติเเละดีที่สุดเเละไม่อยากเเต่งวันนี้เพื่อไปเลิกวันหน้า การแต่งงานไม่ใช่รับใบปลิว พี่ว่าคุณเเม่เองคงไม่มีความสุข ถ้ารู้ว่าสิ่งที่คุณเเม่อยากได้ เป็นการฝืนความรู้สึกของลูก เพราะการเเต่งงานคือความสุขของลูกเป็นที่ตั้ง ในอนาคตถ้าเจอใครที่จริงจัง เราก็คงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต เราอยากได้คนจริงใจก็อย่าเอาความหลายใจเข้าไปแลก เเต่ทั้งหมดบีเป็นคนตัดสินใจ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1