ฟังเพลงออนไลน์ EFM 94 ONLINE - ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

News Updates

ENTERTAINMENT NEWS

‘ธี่หยด 2’ กลายเป็นหนังไทยเปิดตัววันแรกด้วยรายได้สูงที่สุด 52.5 ล้านบาท

10 ต.ค. 2024

‘ธี่หยด 2’ กลายเป็นหนังไทยเปิดตัววันแรกด้วยรายได้สูงที่สุด 52.5 ล้านบาท

ภาพยนตร์ ธี่หยด 2 สร้างปรากฏการณ์ความหลอนและความมันเขย่าโรงภาพยนตร์ ด้วยการขึ้นมายืนเป็นแชมป์หนังไทยทำรายได้เปิดตัววันแรกสูงที่สุด ด้วยรายได้จากการเข้าฉายวันแรกกว่า 52.5 ล้านบาท นอกจากจะเป็นการทำลายสถิติเดิมของ ธี่หยด ภาคแรกแล้ว ยังโค่นแชมป์เก่าอย่าง นาคี 2 ที่ทำเคยทำไว้เมื่อปี 2561โดยเพจ Thailand Box office and Entertainment เปิดเผยว่า ธี่หยด 2 ได้รับความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก ทำให้โรงภาพยนตร์ต้องเปิดฉายรอบดึกที่สุดเวลา 03.00 น. และก็สามารถทำรายได้ผ่านหลัก 30 ล้านบาทในครึ่งวันแรกของการเข้าฉายนี่เป็นการร่วมกันของ ช่อง 3 และ M Studio การกลับมาสานต่อเรื่องราวความหลอน และการจัดการผีแบบดุเดือดของ ลุงยักษ์ ซึ่งได้นักแสดงสุดฮอตอย่าง แบรี่-ณเดชน์ คูกิมิยะ กลับมารับบทนำอีกครั้ง พร้อมด้วยทีมนักแสดงจากภาคแรกและเสริมด้วยทัพนักแสดงใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มเรื่องราวให้ระทึกกว่าที่เคยสำหรับ ธี่หยด 2 เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญเหนือธรรมชาติผลงานการกำกับของ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา และมี แป๊บ-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ เป็นโปรดิวเซอร์ เล่าเรื่องราว 3 ปีหลังการตายของน้องสาวอย่าง แย้ม ทำให้ ยักษ์ ยังคงตามล่าผีที่คร่าชีวิตน้องสาวไปอย่างไม่ลดละ โดยที่ไม่รู้เลยว่าการเดินทางตามหา กลับนำมาซึ่งจุดเริ่มต้นของความสยอง เมื่อ จ่าปพันธ์ ได้พบเข้ากับหนังสือวชิรญาณวิเศษที่ได้บันทึกเรื่องราวของของปอบตาพวง ผีปอบตัวเเรกที่ถูกบันทึกชื่อในสยามเเละมันหนีไปอยู่ไปดงโขมดธี่หยด 2 เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ภาพ : Ch3 Thailand / M Studio

กันต์ กันตถาวร แสดงความรับผิดชอบต่อประเด็นที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการลาออกจากพิธีกรในทุกรายการ

10 ต.ค. 2024

กันต์ กันตถาวร แสดงความรับผิดชอบต่อประเด็นที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการลาออกจากพิธีกรในทุกรายการ

กันต์ กันตถาวร พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อแจ้งว่าเขาขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ เพื่อแสดงความรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง สังคม รวมถึงบริษัทต้นสังกัด หลังชื่อของเขาถูกเชื่องโยงไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจซึ่งกำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตอนนี้“เนื่องด้วยกระแสข่าวที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับตัวผมเอง ตัวผมเองไม่ได้นิ่งนอนใจ และเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม รวมไปถึงต้นสังกัดและผู้ที่ร่วมงานด้วย ผมจึงขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ จนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง และพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม“กันต์ กันตถาวร”ภาพ : kankantathavorn

คำตอบของ HYBE หลังแฟนเพลงผิดหวังในการจัดตารางงาน จนทำให้ จองกุก พลาดโอกาสขึ้นแสดง Super Bowl

10 ต.ค. 2024

คำตอบของ HYBE หลังแฟนเพลงผิดหวังในการจัดตารางงาน จนทำให้ จองกุก พลาดโอกาสขึ้นแสดง Super Bowl

กลายเป็นประเด็นที่สร้างความผิดหวังให้กับแฟนเพลงอย่างมาก โดยเฉพาะกับเหล่า ARMY กองทัพแฟนคลับของวง BTS เมื่อมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับโอกาสยิ่งใหญ่และสำคัญในฐานะศิลปินของ จองกุก (Jungkook) ที่ถูก อัชเชอร์ (Usher) นักร้องชาวอเมริกันเชิญให้เขาขึ้นเป็นศิลปินรับเชิญ เพื่อร่วมสร้างสรรค์โชว์บนเวที Super Bowl แต่ จองกุก กลับไม่สามารถตอบรับคำเชิญดังกล่าวได้เพราะติดภารกิจรับราชการทหารแฟนเพลงหลายคนบอกว่าการที่ จองกุก พลาดโอกาสนี้ เพราะการจัดการตารางงานกับช่วงเวลารับราชการทหารที่ไม่ดี ซึ่งโชว์พักครึ่งของการแข่งขัน Super Bowl ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2025 นี้ หลายคนเฝ้ารอและคาดหวังไว้มากว่า จองกุก จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการเป็นศิลปิน K-POP คนแรกที่ได้ขึ้นไปเยียบเวทีนี้ แต่ฝันของพวกเขากลับพังลงกับตาขณะที่ต้นสังกัดอย่าง HYBE ก็ได้ออกมาตอบถึงกระแสโมตีการทำงานของค่ายว่า “เราไม่มีอะไรจะพูด” ประโยคสั้นกระชับนี่เองที่ยิ่งทำให้กลุ่มแฟนคลับไม่พอใจ เพราะเป็นการตอกย้ำว่าพวกเขาขาดการยอมรับ ถึงขั้นที่มีนักวิเคราะห์วัฒนธรรมท่านหนึ่งออกมาให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “HYBE ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเวทีนี้ จนนำไปสู่การพลาดโอกาสที่จะได้ขึ้นแสดงช่วงพักครึ่ง Super Bowl ของ จองกุก”สำหรับ จองกุก สมาชิกวง BTS ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ประสบความสำเร็จในระดับสากล อัลบั้มเดี่ยว GOLDEN ของเขาขึ้นชาร์ต Billboard อีกทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นศิลปิน K-POP คนแรกที่แสดงในพิธีเปิด FIFA World Cup ที่อาบูดาบีด้วยเพลง Dreamers ซึ่งแฟนเพลงหลายคนเชื่อว่าการแสดงของเขาใน Super Bowl จะเป็นเวทีที่ได้โชว์ความสามารถขและเสริมให้ภาพของวง BTS แข็งแกร่งขึ้นไปอีกในวงการดนตรีภาพ : BIGHIT MUSIC

เหล่ามัมหมีเรียกร้องให้มีการปรับราคาบัตร-สถานที่จัดงานแฟนมีต ‘น้องหมีเนย’ ให้มีความเหมาะสม

10 ต.ค. 2024

เหล่ามัมหมีเรียกร้องให้มีการปรับราคาบัตร-สถานที่จัดงานแฟนมีต ‘น้องหมีเนย’ ให้มีความเหมาะสม

เป็นอีเวนต์ที่บรรดามัมหมีรอคอย สำหรับงานแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกของ น้องหมีเนย หรือ Butterbear คาแรกเตอร์หมีสุดน่ารักเจ้าของเพลง ‘น่ารักมั้ยไม่รู้’ ที่สร้างปรากฏการณ์ห้างแตก อีกทั้งยังถูกชักชวนไปคอลแลปกับแบรนด์และแคมเปญต่าง ๆ มาแล้วมากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการประกาศการแสดงถึง 2 รอบ ก็ทำเอาแฟน ๆ ใจฟูและเตรียมพร้อมรอกดบัตรกระทั่งเมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม 2567) ผู้จัดมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับงาน Butterbear’s 1st Fam Meeting Adventure Awaits! ของน้องหมีเนยออกมา แต่กลับเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยแฟน ๆ ส่วนใหญ่ต่างบอกตรงกันว่าราคาบัตรเข้าชมงานนั้นแพงเกินไป เพราะราคาบัตรเข้าร่วมงานเริ่มต้นที่ 1,900 บาทไปจนถึงบัตรราคา 5,900 และบัตรชมสตรีมมิง 890 บาท แม้จะมาพร้อมกับสิทธิพิเศษต่าง ๆ แต่ในมุมของแฟนคลับก็บอกว่าราคาสูงเกินไป เมื่อเทียบกับบัตรคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศบางวงยังไม่สูงเท่านี้อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบมาพูดและเรียกร้องให้พิจารณาเปลี่ยนแปลง คือสถานที่จัดงานซึ่งทีมผู้จัดเลือกใช้ MGI HALL, BRAVO BKK (Show DC) ที่อาจจะไม่สะดวกสำหรับผู้ชมที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว อีกทั้งแฟน ๆ ของน้องหมีเนยเองก็คุ้นเคยกับความเป็นเจ้าหญิงเอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) จนพากันตั้งคำถามว่าทำไมไม่เลือกใช้ฮอลล์ของศูนย์การค้าโดยบัตรงาน Butterbear’s 1st Fam Meeting Adventure Awaits! จะแสดง 2 รอบ วันเสาร์ที่ 9 และ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17:00 น. ณ MGI HALL, BRAVO BKK โดยเปิดจำหน่ายบัตรวันที่ 20 ตุลาคม 2567 เวลา 10:00 น.เป็นต้นไปทาง Thai Ticket Major ต้องมารอดูว่าทีมผู้จัดจะมีการออกมาชี้แจงหรือมีการปรับเปลี่ยนตามคำเรียกร้องของเหล่ามัมหมีหรือไม่ภาพ : butterbear.th / 4NOLOGUE

ฟลุ๊ค ไอน้ำ แชร์ประสบการณ์คนใกล้ตัวลงทุนธุรกิจขายตรง กว่าจะรวยต้องเสียหลายอย่าง สิ่งที่หามาทั้งชีวิตอาจไม่เหลือ

10 ต.ค. 2024

ฟลุ๊ค ไอน้ำ แชร์ประสบการณ์คนใกล้ตัวลงทุนธุรกิจขายตรง กว่าจะรวยต้องเสียหลายอย่าง สิ่งที่หามาทั้งชีวิตอาจไม่เหลือ

ศิลปินชื่อดัง ฟลุ๊ค-จิตรกร บุญสอน นักร้องนำแห่งวงไอน้ำ ออกมาเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อประสบการณ์ของคนใกล้ตัว ที่เลือกนำเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตไปลงทุนในธุรกิจขายตรง พร้อมตั้งคำถามว่า “ถ้าจะรวย ต้องทำถึงขนาดไหนเพื่อไปยืนจุดนั้นได้”ฟลุ๊ค บอกว่า ในชีวิตที่ผ่านมาเคยได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมธุรกิจขายของออนไลน์และธุรกิจขายตรงจากหลากบริษัท แต่เนื่องด้วยวิธีการทำธุรกิจอาจไม่ใช่แนวทางที่เขาจะทำ ขณะเดียวกันก็ได้ยินเรื่องน่าเศร้าจากคนใกล้ตัว ที่ตัดสินใจเอาเงินเก็บทั้งชีวิตลงมาทุน จนท้ายที่สุดสิ่งที่หามาทั้งชีวิตก็เกือบไม่เหลือ“ผมเคยถูกชักชวนจากธุรกิจขายออนไลน์ ขายตรง ร่วมลงทุน ฯลฯ จากหลายบริษัท และถูกตามตื้อพอสมควร ด้วยส่วนตัวไม่ชอบเลย รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา และมันรู้สึกว่าถ้าจะรวย ต้องทำถึงขนาดไหน จะเสียคนรู้จัก เสียมิตรที่ดีไปกี่คนกันละ ถึงจะไปยืนจุดนั้นได้ อาจจะจริงและหลอกลวงยังไงก็ไม่ทำ“มีอีกเรื่องที่อยากขอเล่าให้ฟัง ครอบครัวใหม่พ่อตาผมถูกชักชวนให้ลงทุน คงจะเป็นแชร์ลูกโซ่หรือเป็นการลงทุนแบบไหนไม่แน่ใจ หลักฐานที่ผมเห็นไม่ชัดเจนทั้งหมด หลังจากรีไทร์ออกจากรัฐวิสาหกิจ มีเงินหลายล้านบาท ไม่มีหนี้สิน คงถูกหลอกให้ลงทุน ถึงขั้นนำบ้านไปจำนองต่ำกว่าราคาตลาดเกือบครึ่ง และต้องเช่าบ้านตัวเองในราคาที่สูงมาก มาวันหนึ่งมีหมายมาที่บ้านให้ย้ายออก เนื่องจากค้างค่าเช่า 6 เดือน เงินสดที่มีไม่เหลือ เครียดโทษตัวเองว่าตัดสินใจผิด จนป่วย ต้องย้ายหายหน้าหายตาไป 2 ปีกว่า ญาติพี่น้องตามหาไม่เจอ เจอกันอีกครั้งคือพ่อเสียชีวิตแล้ว“เรื่องนี้อยากมาเล่าให้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุก ๆ คนครับ สิ่งที่เราหามาตลอดชีวิตเพื่อให้ครอบครัวสบาย อาจหายไปไม่เหลือ ถ้าเราตัดสินใจพลาดแค่ครั้งเดียว”ภาพ : ฟลุ๊ค ไอน้ำ

แซม ยุรนันท์ เผยถึงบทบาทและความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังเป็นประเด็นบนโซเชียล

09 ต.ค. 2024

แซม ยุรนันท์ เผยถึงบทบาทและความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังเป็นประเด็นบนโซเชียล

แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี นักแสดงชื่อดังได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทและความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังเป็นประเด็นบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีรายชื่อของนักแสดงระดับท๊อปอีกหลายรายเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเขายอมรับว่า ตนเองมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวในฐานะ ‘หนึ่งในผู้บริหาร’ ที่รับดูแลเฉพาะพาร์ตของการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในพาร์ตของการจัดการภายในแฟนเพจ เรื่องเล่าเช้านี้ เปิดเผยเพิ่มเติมโดยอ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ แซม ที่ระบุว่า ตัวเขาถือเป็นผู้บริหารให้ส่วนของสินค้าและผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจหรือบริหารงานส่วนอื่น ๆ ของบริษัท ซึ่งหน้าที่ทั้งหมดเป็นของเจ้าของแบรนด์ภาพต่าง ๆ คล้ายกับการขึ้นพูดบนเวทีที่มีผู้ฟังจำนวนมากในห้องประชุม เป็นการบรรยากาศของการสอนออนไลน์ โดยจะสอนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดการในบริษัท อีกทั้งยังไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีคนที่ล้มเหลวจากการลงทุนในธุรกิจนี้ และแม้จะไม่ได้มีหน้าที่ในการบริหาร แต่ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือทุกคนแซม บอกว่ามีโอกาสได้คุยกับเจ้าของบริษัทเมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม 2567) ซึ่งตนก็แนะนำให้รีบออกมาแถลงข่าวเพื่อให้ความชัดเจนกับทุกคน ก่อนจะย้ำว่าไม่ได้มีความกังวลอะไรกับเรื่องนี้ ผิดหรือถูกไว้ว่ากันทีหลัง ตอนนี้เป็นเวลาของการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบภาพ : sam_yuranuntขอบคุณข้อมูลจาก : เรื่องเล่าเช้านี้

NEW RELEASE

‘เพลงรัก’ เพลงรักในรอบ 6 ปีจาก Three Man Down แทนใจคนแสดงออกไม่เก่ง

09 ต.ค. 2024

‘เพลงรัก’ เพลงรักในรอบ 6 ปีจาก Three Man Down แทนใจคนแสดงออกไม่เก่ง

เชื่อว่าบรรดาชาวเมืองคงเคยสงสัยแบบเดียวกันว่า นอกจากเพลง ข้างกัน (City) feat. ออม TELEx TELEXs ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2017 วง Three Man Down ก็ไม่เคยมีเพลงรักออกมาให้แฟนเพลงได้อินกันอีกเลย ซึ่งในมุมของศิลปินเจ้าของเพลงเองก็พูดเหมือนกันว่า ยังไม่มีเพลงไหนที่ดีพอจะเป็นเพลงรักของวงได้เลย จนกระทั่ง! ตูน มือกีตาร์ของวงเขียนเพลงนี้ขึ้นมา และก็ทำให้พวกเขารู้สึกได้พร้อมกันในทันทีว่า นี่แหละบทเพลงรักที่จะมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปตลอด 6 ปี‘เพลงรัก’ คือชื่อเพลงใหม่จาก Three Man Down โดยฝีมือการเขียนเนื้อร้องของ ตูน มาพร้อมกับจังหวะ 6/8 ในแบบที่วงไม่เคยทำมาก่อน ทำให้เวลาฟังจะรู้สึกเหมือนได้อยู่กับคนพิเศษในงานเต้นรำ ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านแซกโซโฟน เสริมด้วยไลน์ร้องคู่ประสานที่เติมเข้ามาเพื่อทำให้เพลงนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยเนื้อหาของเพลงพูดถึงคนที่มีความรักไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน แต่ไม่ค่อยได้แสดงความรู้สึกด้วยการพูดคำว่ารักออกไป เลยอยากมอบเพลงนี้ให้อีกฝ่ายรู้ว่าจริง ๆ แล้วข้างในใจเรารักเขามากมายเหลือเกินแฟน ๆ สามารถเข้าไปชมมิวสิกวิดีโอเพลง ‘เพลงรัก’ ผ่านเรื่องราว 4 รูปแบบและขอมอบเพลงนี้แทนใจทุกคน “เพราะสำหรับเธอ เพลงรักควรมีแค่เพลงเดียวเท่านั้นพอ”ภาพ : GeneLab

‘BODYGUARD’ ซิงเกิลจาก PERSES กับปรากฏการณ์ระดับไวรัลจากโปรดักชันยิ่งใหญ่ สมฐานะตัวพ่อตึกฟ้าอโศก

08 ต.ค. 2024

‘BODYGUARD’ ซิงเกิลจาก PERSES กับปรากฏการณ์ระดับไวรัลจากโปรดักชันยิ่งใหญ่ สมฐานะตัวพ่อตึกฟ้าอโศก

5 หนุ่มวง PERSES บอยกรุ๊ปจากค่าย G’NEST ในเครือ GMM MUSIC คัมแบ็กยิ่งใหญ่ด้วยการปล่อยเพลงใหม่ BODYGUARD ประเดิมเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้มชุดที่ 2 ALTERLAND ที่มาพร้อมกับมิวสิกวิดีโอโปรดักชันยิ่งใหญ่จนกลายเป็นไวรัลติดเทรนอันดับ 1 จนแฟน ๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ่มค่า และสมฐานะตัวพ่อตึกฟ้าอโศกเพลง BODYGUARD เล่าถึงการที่อยากจะดูแลคนที่เรารักให้มีความสุข และรู้สึกปลอดภัย เหมือนมี BODYGUARD ปกป้องอยู่ข้างกาย โดยเพลงนี้เป็นเพลงแนว Pop ผสม HipHop ที่ได้ แชมป์ ไมยราพ และ GENIEPAK (จีนี่-ณภัคกมนตร์ ทวีโรจน์มงคล) มาเขียนเนื้อร้อง และได้ TIGGER (ทิกเกอร์) มาเสริมไอเดีย และอัดเสียงในท่อน “ทราบแล้วเปลี่ยน ทราบแล้วเปลี่ยน” โดยมี ปณต GETSUNOVA เป็น Executive Producer จนออกมาเป็นเพลงที่ดุเดือดของเพอร์ฟอร์แมนซ์ ท่าเต้นผสมผสานระหว่าง Contemporary กับ B-boy เป็นความแปลกใหม่ที่ PERSES ไม่เคยทำมาก่อนสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือความยิ่งใหญ่ของมิวสิกวิดีโอที่ปังตั้งแต่วินาทีแรก ซึ่งเปิดด้วยการหยิบประเด็นความเลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพชีวิต ปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และ การละเมิดสิทธิมนุษยชน มาถ่ายทอดผ่านบทบาทอาชีพที่ PERSES ทั้ง 5 คน นำโดย จั๋ง-วิกร บูรณภิญโญ, เน-ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์, กฤติน-กฤติน สอสูงเนิน, ปาล์ม-พีรวิชญ์ พินธะ และ ปลั๊กกี้-ธรากร คำสิงห์ อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ และดำเนินเรื่องราวการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากที่พวกเขาหลุดเข้ามาอยู่ใน THE HUB ชุมชนมนุษยชนแห่งสุดท้าย ที่กำลังจะถูกครอบครองโดยแก๊งหุ่นยนต์ผู้มีอำนาจ และเพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่าของ PERSES และ ชาว THE HUB จึงพากันลุกขึ้นต่อสู้ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องติดตามชมในมิวสิกวิดีโอพวกเขาเล่าให้เราฟังว่า การถ่ายทำเพลงนี้นับว่าโหดกว่าเพลงอื่น ๆ เพราะนอกจากถ่ายทำถึง 2 วันแล้ว ก่อนวันถ่ายทำไม่กี่วัน จั๋ง เกิดอุบัติเหตุระหว่างการซ้อม ต้องพักฟื้นและเลื่อนการถ่ายออกไปเพื่อทำการรักษา เริ่มถ่ายทำซีนแรกในเซตตลาดสดที่เนรมิตขึ้นมาได้อย่างสมจริง เปิดด้วย กฤติน (THE THIEF) เด็กหนุ่มรับจ้างขนของในตลาด แต่กลับเป็นหัวขโมย เพื่อเลี้ยงปากท้องใช้ชีวิตรอดไปวัน ๆ สะท้อนปัญหาคุณภาพชีวิต ปากกัดตีนถีบเพื่อความอยู่รอด ซีนถัดมาเป็นซีนโรงงานตีเหล็ก โดยมี ปาล์ม (THE BLACKSMITH) ตัวแทนช่างตีเหล็กฝีมือดี ที่กำลังได้รับการแจกอาหารจากโดรนโดยเหล่าคนมีอำนาจ ที่เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง กดขี่ใช้แรงงาน แต่ตอบแทนด้วยอาหารง่าย ๆ ที่กลับเป็นมื้อที่วิเศษของชาวชุมชน ซึ่งยังจะได้เห็นลุคของ ปาล์ม ที่โตขึ้นกับฉากออกกำลังกาย เปลี่ยนภาพ ปาล์ม ที่เคยเป็นน้องหมาน้อยของแฟนคลับ กลายร่างเป็นพี่หมาป่าสุดเซ็กซี่ไปเสียแล้ว บอกเลยว่า ก่อนจะเข้าซีนนี้ ปาล์ม ถึงกับวิดพื้นปั้มกล้ามกันหน้าเซ็ตเลยทีเดียวถัดมาที่ ปลั๊กกี้ (THE TAILOR) ที่ต้องเรียกว่า เฮียกี้ กับลุคสุดเท่ ในเซตกองผ้าที่มีความสูงกว่า 3 เมตร รายล้อมด้วยช่างเย็บผ้าทั้งเด็กและผู้หญิง ตัวแทนแรงงานในอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่มีข่าวให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ในเรื่องการใช้แรงงานหนักอย่างต่อเนื่องโดยไม่พัก และการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับ จั๋ง (THE GANGER) ตัวแทนของกลุ่มคนใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ซึ่งเป็นซีนที่จั๋งจะได้ยืนบนรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ และส่งเสียงเชียร์ปลุกระดมไปพร้อมๆ กับสมาชิกชาวชุมชน ทำเอาพี่จั๋งสนุกกับซีนนี้สุดๆไปเลย และสุดท้าย เน (THE REBEL) ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการปฏิวัติเพื่อปกป้องคนในชุมชน เป็นกระบอกเสียงเพื่อปกป้องคนในชุมชน ที่มาในลุคสุดเท่บนหลังม้า ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ เน ได้ขี่ม้า และก่อนเข้าซีนเนจะต้องทำการฝึกขี่ม้าให้เกิดความคุ้นกันเสียก่อน ซึ่งทั้ง 2 ก็ได้สนิทสนมกันแบบที่ แฟน ๆ ต้องอิจฉา เพราะน้องม้าโดนพี่เนตกเข้าให้ ถึงกับมาซบคลอเคลียพี่เนเลยทีเดียวแน่นอนว่าระดับตัวพ่อสายเพอร์ฟอร์แมนซ์ก็ต้องมาพร้อมซีนเต้น ที่ท่าเต้นอันแสนโหดและเท่นี้ ก็ไม่สามารถล้มชื่อกระดูกเบอร์เดียวกันของ PERSES ได้ ซึ่งซีนเต้นที่โหดที่สุดจะเป็นซีนที่ไม่มีใครคาดคิดว่าฝนจะตกลงมาระหว่างถ่ายทำ สภาพพื้นดินเละ และลื่น เป็นอุปสรรคต่อการเต้นและการถ่ายทำ แต่ไม่มีอุปสรรคใดขวางทาง PERSES ได้ พวกเขาเต็มที่ และทำมันสำเร็จไปด้วยดีYes Sir! ปฏิบัติการปลุกระดมชาวด้อมมาล้อมมิวสิกวิดีโอเพลง BODYGUARD เริ่มปฏิบัติการแล้วที่ Youtube: gnest_official, และติดตามข่าวสารของ PERSES ได้ทางโซเชี่ยลมีเดีย PERSES และ G’NEST ทุกแพลตฟอร์มภาพ : G’NEST

‘Retro-39’ ซิงเกิลสากลใหม่จาก Tilly Birds ที่หยิบเอาความพยายามวิ่งหนีความทรงจำกับคนรักเก่ามาถ่ายทอด

04 ต.ค. 2024

‘Retro-39’ ซิงเกิลสากลใหม่จาก Tilly Birds ที่หยิบเอาความพยายามวิ่งหนีความทรงจำกับคนรักเก่ามาถ่ายทอด

สร้างสรรค์ผลงานเพลงสากลออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ Tilly Birds วง Alternative Rock จากค่าย GeneLab ในเครือ GMM MUSIC หลังจากที่ได้ปล่อย White Pills ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มสากลออกมาไม่นาน 3 หนุ่ม เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา, บิลลี่-ณัฐดนัย ชูชาติ และ ไมโล-ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล ก็ได้ปล่อยซิงเกิลที่ 2 ออกมาในชื่อ Retro-39 เพลง Synth-Pop ผสม Indie Rock ซาวด์สดใสโดย Tilly Birds ตั้งใจมุ่งสู่ตลาดเพลงสากลกับเป้าหมายของวงที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ฝันแรกที่อยากเล่นดนตรีไปทั่วโลก ผ่าน Retro-39 ที่จะพาทุกคนย้อนเวลาไปถึงช่วงที่คิดถึง เพลงพูดถึงความพยายามหลีกหนีความทรงจำที่มีกับคนเก่า โดยพวกเขาได้เล่าถึงการทำงานเพลงนี้ให้เราได้ฟังว่า“ถือเป็นเพลงแรกที่วงเขียนเนื้อเพลงโดยเฉพาะเจาะจงถึงวัตถุครับ เราอยากถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่พยายามจะ Detox ตัวเองจาก social media เพื่อไม่ให้เจอภาพเขา เลยกลับมาฟังเพลงผ่านเครื่องเล่นเทป shoebox ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ (เครื่อง Retro-39) แต่ลึก ๆ ในใจก็แอบหวังว่าเขาจะกลับมา และเราจะได้บันทึกความรู้สึกและความรักของทั้งคู่ไว้ในเครื่องอัดนี้ เลยเป็นที่มาของชื่อเพลงครับ”เรื่องราวในมิวสิกวิดีโอก็เต็มไปด้วยกิมมิคย้อนยุคสุดน่ารัก สอดแทรก pop culture references ของภาพยนตร์และดนตรีมากมาย จากการร่วมกำกับของ เติร์ด นักร้องนำ และ คุณชู่ (Cehadoo) ที่ทั้งคู่เคยฝากการกำกับไว้แล้วในมิวสิกวิดีโอเพลง ลู่วิ่ง (Can't Keep Up) และในมิวสิกวิดีโอเพลง Retro-39 ทั้งคู่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ too dumb to let go เขาอยากจะปล่อยมือจากความทรงจำและความรู้สึกที่มีต่อแฟนเก่า โดยมีวง Tilly Birds มาช่วยไว้ เติร์ด ได้นิยามความหมายของเพลงและมิวสิกวิดีโอนี้คร่าว ๆ ว่า “ถ้าเรามูฟออนไม่ได้ ก็ไปให้สุด” ซึ่งตอนที่ เติร์ด เขียนเพลงนี้ก็ยังคงคิดถึงคนที่เขียนให้อยู่เสมอติดตามฟังและชมมิวสิกวิดีโอ Retro-39 ซิงเกิลสากลใหม่จาก Tilly Birds ได้ทาง YouTube : GeneLab และทุกบริการ Music Streamingภาพ : GeneLab

‘OH MY!’ ซิงเกิลใหม่จาก ALLY เพลงจีบหนุ่ม-จีบสาวแห่งปี 2024 มาพร้อมจังหวะสนุกและดนตรีเซ็กซี่เบา

04 ต.ค. 2024

‘OH MY!’ ซิงเกิลใหม่จาก ALLY เพลงจีบหนุ่ม-จีบสาวแห่งปี 2024 มาพร้อมจังหวะสนุกและดนตรีเซ็กซี่เบา

ติ๊กถูกต้องทุกตรงกับเคมีพระนางเอ็มวีเพลงใหม่ OH MY! ของ ALLY หรือ แอลลี่-อชิรญา นิติพน ที่ดึงเอาหนุ่มฮอต โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล มาเป็นพระเอ็มวีเต็มตัวคนแรก งานนี้ทั้งจิ้น ทั้งฟิน เพราเอ็มวีเพลง OH MY! ไม่ได้มาเล่น ๆ ในฉาก แอลลี่-โฟร์ท หวานสวีทจนแฟน ๆ ทั้งสองฝ่ายฟินระเบิดโซเชียลบอกเป็นคู่เคมีที่ตามหา“หลังจากปล่อย Teaser กระแสตอบรับดีมาก ขอบคุณทุกคนนะคะ เพลงนี้แอลลี่มีส่วนร่วมในการทำเพลงตั้งแต่แต่งเนื้อร้องและทำนอง เริ่มต้นจากมีทำนองและสตอรี่ในใจ บวกกับแอลลี่ชอบอุทาน OH MY! เลยเกิดเพลงนี้ขึ้น ตั้งใจทำมากๆค่ะ พร้อมได้ร่วมงานกับโฟร์ท วันที่ถ่ายทำเอ็มวีสนุกมากๆ ถ่ายรอบเยาวราชเลย หวังว่าเพลง OH MY! จะทัชใจใครหลายๆคนนะคะ” แอลลี่ กล่าวเพลง OH MY! เพลงรักจังหวะชวนค้นหาที่ถ่ายทอดความรักที่จะทำให้เหล่า Only (ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) พากันอมยิ้มตามในแบบสาวเต็มวัย 20 แน่นอน ประโยคคำว่า OH MY! เป็นคำอุทานติดปากของแอลลี่ ทำให้นำมาตั้งเป็นชื่อเพลงเพราะเชื่อว่าเพลงนี้จะทำให้ทุกคนเซอร์ไพร์สจนอุทาน OH MY! ไปพร้อมๆกัน เพลงนี้พิเศษตรงที่แอลลี่มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องกับ Geniepak โดยได้โปรดิวเซอร์คนเก่ง โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ มาช่วยทำให้เพลงนี้คลั่งรักสุด ๆดนตรีมีจังหวะดนตรีไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไปสามารถโยกตามได้ จังหวะดนตรีมีความเซ็กซี่เบา ๆ กระปรี้กระเปร่า ชวนค้นหา การแสดงออกจังหวะดนตรีและท่าเต้นสื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่ากำลังสนใจเขาได้เป็นอย่างดี เนื้อเพลง OH MY! ค่อนข้างชวนอมยิ้มแอลลี่เขียนเนื้อหาเพลงให้คนฟังอินไปกับโมเมนต์คนกำลังตกหลุมรักเข้าอย่างจัง การหยั่งเชิงเดินสเต๊ปให้อีกฝ่ายรู้ความในใจแบบไม่กั๊ก แถมยังซุกซนตั้งคำถามอีกฝ่ายว่า “Tell me tell me จริง ๆ เธอก็มีใจให้ฉันรึเปล่า” ชวนให้คนที่ฟังสนุกและลุ้น เพลงนี้แอลลี่พาทุกคนไปอยู่ทุกสถานการณ์ที่เขาอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบเพลง ใส่ความมั่นใจลงไปเต็มเปี่ยม ทำให้เห็นการเติบโตของเธอผ่านบทเพลงนี้ได้ดี

‘ปากบอกไม่เป็นอะไร (Pretend)’ ซิงเกิลจากสาว ๆ G-ERA ปลุกตำนาน G-TWENTY เกิร์ลกรุ๊ปที่หลายคนคิดถึง

03 ต.ค. 2024

‘ปากบอกไม่เป็นอะไร (Pretend)’ ซิงเกิลจากสาว ๆ G-ERA ปลุกตำนาน G-TWENTY เกิร์ลกรุ๊ปที่หลายคนคิดถึง

เชื่อเลยว่าแฟน ๆ T-POP คงคุ้นเคยกับชื่อของ G-TWENTY เกิร์ลกรุ๊ปเจนแรกของวงการที่เคยฝากผลงานมาแล้วมากมาย ทั้ง Don’t Worry, ไม่พูดก็ได้ยิน (Unspoken Word), ของฟรีไม่มีในโลก, Magic Hour ฯลฯ ก่อนจะที่ห่างหายจากการทำเพลงไปพักใหญ่ แต่วันนี้พวกเธอกลับมาแล้ว พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเพลงอีกครั้ง ด้วยการส่งซิงเกิลคัมแบ็ก ‘ปากบอกไม่เป็นอะไร (Pretend)’ ภายใต้ชื่อ G-ERAG-ERA ประกอบด้วยเมมเบอร์ 6 คน ได้แก่ ทิชา, แพร, นิศา, มิ้น, พัชชี่, และ ซูกัส กลับมาครั้งนี้ พวกเธอบอกว่า มาพร้อมกับสีสันและความสนุกกับช่วงเวลาแห่งยุคใหม่ ที่เพศ อายุ หรือ Beauty Standard ใด ๆ ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญอีกต่อไป ขอเพียงแค่เรามีแพสชันและความตั้งใจจริง อะไรก็เกิดขึ้นได้และมันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!ส่วนซิงเกิลคัมแบ็ก ‘ปากบอกไม่เป็นอะไร (Pretend)’ เป็นเพลงแทนใจแทนความรู้สึกของคนปากดี แกล้งทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่ข้างในร้องไห้แทบขาดใจ เนื้อเพลงเร้าอารมณ์กับเมโลดี้ที่ติดหู มาพร้อมกับบีตช้าแต่หนักแน่น คลอด้วยเสียงเปียโนสุดไพเราะ ทำให้เพลงนี้ลงตัวและมีความเป็น ‘จี’ มากที่สุด ถึงจะเป็นเพลงช้าแต่ยังคงคอนเซ็ปต์การเต้น มีท่าเต้นปัง ๆ ให้ทุกคนได้ไปเต้นชาเลนต์กันด้วยโดยสามารถเข้าไปติดตามฟังและชมผลงานของสาว ๆ G-ERA ได้แล้ววันนี้บน YouTube : G-ERA และติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มของ G-ERAภาพ : G-ERA

LABANOON x NUM KALA รับช่วงต่อในโปรเจกต์ genie 100x100 ส่งเพลง ‘หายใจแล้วไปต่อ’ ยอมรับ เรียนรู้แล้วก้าวไปต่อ

02 ต.ค. 2024

LABANOON x NUM KALA รับช่วงต่อในโปรเจกต์ genie 100x100 ส่งเพลง ‘หายใจแล้วไปต่อ’ ยอมรับ เรียนรู้แล้วก้าวไปต่อ

ชีวิตคนเราไม่ได้สวยงามทุกวัน หลายครั้งเราอาจพบเจอความเจ็บปวดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้หมดแรงสู้ก็ต้องฝืนทนยอมรับความจริงแล้วมีชีวิตต่อไป LABANOON และ NUM KALA ขอส่งกำลังใจถึงทุกคนผ่านบทเพลงรักเข้าใจชีวิต หายใจแล้วไปต่อ ในโปรเจกต์ genie 100x100 กับการรวมตัวเจ้าของผลงาน 100 ล้าน ถึง 3 ตัวท็อปในวงการ เพราะได้ผู้กำกับอย่าง ต้องเต-ธิติ ศรีนวล มาถ่ายทอด 4 เส้นเรื่องของชีวิต ที่เล่าผ่านการขึ้นชิงช้าสวรรค์ของตัวละครแต่ละคู่ เพราะการหมุนของชิงช้าสวรรค์คล้ายกับการหมุนของเวลา ไม่ต่างกับชีวิตคนเราที่ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักรสำหรับเพลง หายใจแล้วไปต่อ ถูกขึ้นโครงมาจากวงลาบานูน ได้ Mango Team มาเขียนเนื้อร้องให้ และเสริมทัพด้วย หนุ่ม กะลา ที่เข้ามาช่วยเรียบเรียงใส่สไตล์ตัวเองเข้าไปให้เพลงกลมกล่อม ด้าน เมธี นักร้องนำของวงลาบานูน เผยว่า“ต้องขอบคุณพี่หนุ่มที่ให้เกียรติลาบานูนแต่งเพลงนี้ ขอบคุณโปรเจกต์ genie 100x100 ถือเป็นการจุดประกายให้กลับมาแต่งเพลงในรอบ 4 ปี ผมแต่งขึ้นมาจากเรื่องราวตลอดชีวิตที่หนักมากของตัวเอง อยากบอกว่าคนทุกคนต้องเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่ละคนอาจเจอเรื่องราวแตกต่างกันไป ท้ายที่สุดก็ต้องเดินไป หายใจแล้วไปต่อ มันเป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจ ทุกครั้งที่เราแต่งเพลงมาเราหวังว่าเพลงของเราจะเป็นเพลงที่เป็นเพื่อนยามที่ทุกคนท้อแท้ เราเคยมีเพลงใจกลางเมือง พลังงานจน เชือกวิเศษ ยามที่คุณเศร้าก็มีเพลงลาบานูนอยู่เคียงข้าง หวังว่าเพลงนี้จะเป็นอีกเพลงที่อยู่เคียงข้างทุกคนเหมือนที่ผ่านมา”ส่วน หนุ่ม กะลา เผยความรู้สึกว่า“วงลาบานูนคือวงที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน มีเอกลักษณ์ มีผลงานต่อเนื่อง ผมเคยพูดบนเวทีคอนเสิร์ตว่าอยากร่วมงานด้วย แล้วก็เป็นจริง ดีใจที่ได้ร่วมงานกัน ส่วนเนื้อหาเพลงคิดว่าน่าจะเข้ากับชีวิตใครหลายๆคน รวมถึงตัวผมเองด้วย มิวสิกวิดีโอก็ได้ต้องเตมากำกับให้ ผมชอบการเล่าเรื่องของเค้าที่มีชั้นเชิง ผมดูเเล้วมันบีบหัวใจนะ เล่าถึงคนที่กำลังมีปัญหาชีวิต ท้อแท้ หาทางออกในชีวิต ผมอยากให้ลองฟัง ชีวิตจริง ๆ ทุกคนมีโอกาสล้มแต่เราจะลุกขึ้นยังไง ผมอยากให้กำลังใจคนที่กำลังท้อเเท้ครับ”ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเจอวิกฤตใดในชีวิต จะควบคุมได้หรือควบคุมไม่ได้ ขอให้มีแรงสู้ ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เรียนรู้ประสบการณ์แล้วก้าวต่อไป ขอส่งกำลังใจถึงทุกคนผ่านเพลง หายใจแล้วไปต่อ LABANOON x NUM KALA ในโปรเจกต์พิเศษแห่งปี genie 100x100 และรับชม 4 เรื่องราวชีวิตบนชิงช้าสวรรค์ ได้ทาง Youtube ช่อง Genierock และฟังเพลงบนมิวสิกสตรีมมิ่งได้ทุกแพลตฟอร์มภาพ : genie records

HOLLYWOOD GOSSIP

[REVIEW] ‘ธี่หยด 2’ ที่สุดแห่งความมันส์ ซัดหนัก-ด่าผีฉ่ำ อัดแน่นเอเนอร์จี้แบบภาคแรก

09 ต.ค. 2024

[REVIEW] ‘ธี่หยด 2’ ที่สุดแห่งความมันส์ ซัดหนัก-ด่าผีฉ่ำ อัดแน่นเอเนอร์จี้แบบภาคแรก

ปรากฏการณ์ความสำเร็จของหนังผีแบบ ‘ธี่หยด’ ไม่ได้มีบ่อยครั้งนัก จากเรื่องสยองขวัญบนเว็บไซด์พันทิป ที่ผู้เขียนเผยว่า เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ กลายมาเป็นนวนิยายที่มียอดผู้อ่านถล่มทลาย สู่เรื่องสยองบนรายการวิทยุที่มียอดผู้ฟังระดับหลายล้าน ทั้งหมดนี้ ส่งต่อให้ภาพยนตร์เรื่อง ‘ธี่หยด’ กลายเป็นหนังสยองขวัญที่กวาดรายได้ถล่มทลายทั่วประเทศระดับ 500 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล ซัดไปถึง 197 ล้านบาท) แน่นอนว่าเจ้าของโปรเจกต์อย่าง ช่อง 3 และเอ็ม สตูดิโอ ไม่รอช้า เข็นภาคต่อออกมาอย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าฉายภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากภาคแรกด้วยซ้ำ โดยในภาคใหม่นี้ อะไรที่ทำให้คนดูคลั่งไคล้ ‘ธี่หยด’ ภาคแรก องค์ประกอบที่ทำให้แฟนหนังชาวไทยชื่นชอบ ดูเหมือนผู้สร้างจะทำการบ้านมาอย่างดี แล้วจัดเต็ม ทำให้ ‘ธี่หยด 2’ คือหนังที่ทำได้ดียิ่งกว่าภาคแรกในแทบทุกองค์ประกอบณเดชน์ คูกิมิยะ กลับมารับบท ยักษ์ พี่ชายคนโตสายลุย ที่พร้อมซัดแหลกกับเหล่าบรรดาผีชั่วอีกครั้ง โดยในภาคนี้จะเล่าเหตุการณ์ 3 ปีหลังจากภาคแรก ครอบครัวของยักษ์ยังคงหวาดกลัวและฝันร้ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ยักษ์ลุยดะ หาทางปราบผีชุดดำให้ได้ หลักฐานต่างๆ พาเขาเข้าไปยังดงโขนด สถานที่ผีชุกกลางป่าลึก โดยว่ากันว่าเป็นที่อยู่ของปอปตาพวง ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับผีชุดดำ ในขณะที่ฝั่งบ้านของยักษ์นั้น หยาดกำลังหมั้นหมายกับแฟนหนุ่มที่ชื่อประดิษฐ์ และมีแผนกำลังจะแต่งงานกัน แต่ในคืนวันก่อนแต่งงาน ผีชุดดำก็ได้ปรากฏกายมาหลอกหลอนครอบครัวนี้อีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว ยักษ์จะสามารถปราบผีชั่วได้หรือไม่ ต้องไปลุ้นเชื่อว่าหลายคนไปดูภาคแรกแบบคาดหวังความสยอง แต่ปรากฏว่านอกจากความหลอนแล้ว สิ่งที่เซอร์ไพรสมาก คือความเดือดของหนัง ที่อัดแน่นไวป์แบบหนังแอ็กชัน ด้วยซีนยักษ์แบกปืนยิงปราบผีแบบสนั่นลั่นทุ่ง ซึ่งจากเสียงปากต่อปากที่คนดูชอบมาก ทำให้ภาคนี้ ผู้กำกับเดินหน้าด้วยเอนเนอร์จี้แบบนั้นแทบตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ ‘ธี่หยด 2’ ไม่ใช่หนังผีแบบเพียวๆอีกต่อไป ต้องเรียกว่าเป็นหนังแบบ Action-Horror ซึ่งยังคงทำออกมาได้สนุกมาก และเนื่องจากหนังไม่ต้องเสียเวลาในการปูเรื่องใดๆแล้ว ทำให้หนังภาคนี้สามารถลุยได้ทันทีตั้งแต่ฉากแรก มาถึงก็ซัดกับผี จัดหนักด้วยซีนบู๊ปนสยองแบบทันที แล้วจัดเต็มด้วยพลังความมันส์แบบนั้นตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอนว่า ณเดชน์ คูกิมิยะ ยังคงเป็น MVP สำหรับภาคนี้ เขาทำให้ยักษ์กลายเป็นแอ็กชันฮีโร่ที่ทั้งเท่ ทั้งกวนตีน และเป็นที่รักของคนดู ด้วยพลังความรักที่เขายอมทุ่มทั้งชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัว และที่สำคัญคือ ฉากด่าผีแบบไม่เกรงกลัวที่ถูกใจคนดูยิ่งนัก ซึ่งในภาคนี้ ตัวละครยักษ์ ด่าผีฉ่ำยิ่งกว่าภาคแรก ทำให้ความสนุกของ ธี่หยด 2 นอกจากการประชันพลังกันของคนกับผีแล้ว การประชันฝีปากก็สนุกไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าหนังภาคนี้ เดือดทั้งผี เดือดทั้งคน จนแทบจะตอบไม่ได้ว่าอะไรเดือดกว่ากัน ใครที่เคยสนุกกับ ‘ธี่หยด’ ภาคแรก ขอคอนเฟิร์มว่าหนังภาคนี้ สนุกไม่แพ้กัน จัดหนักไม่แพ้ และถ้ามีโอกาสดูในระบบ IMAX รับประกันความเต็มตา ทั้งผีชุดดำ และซิกซ์แพคของณเดชน์ เต็มตาสมศักดิ์ศรีจอสูงเท่าตึก 7 ชั้นจริง ๆชมตัวอย่าง ‘ธี่หยด 2’ วันนี้ในโรงภาพยนตร์

[REVIEW] ‘Joker : Folie a Deux’ โลกแห่งมิวสิคัลของโจ๊กเกอร์ ที่ไม่เกรงใจคนดู

02 ต.ค. 2024

[REVIEW] ‘Joker : Folie a Deux’ โลกแห่งมิวสิคัลของโจ๊กเกอร์ ที่ไม่เกรงใจคนดู

สิ่งที่บ้าบิ่นยิ่งกว่าตัวละคร ‘โจ๊กเกอร์’ ในหนัง เห็นจะเป็นไอเดียของผู้กำกับ Todd Phillips และพระเอกอย่าง Joaquin Pheonix ที่อยากให้ภาคต่อของ Joker เป็นหนังในแนว ‘มิวสิคัล’ แต่คนที่บ้ายิ่งกว่าเห็นจะเป็นสตูดิโอเจ้าของหนังอย่าง Warner Bros. ที่ตัดสินใจอนุมัติ แม้ว่า ‘มิวสิคัล’ จะกลายเป็นของขายยากในยุคหลัง เพราะความล้มเหลวติดต่อกันของหนังแนวนี้ อย่าง West Side Story, In The Height และ Cats ที่ทำรายได้ไม่ถึงเป้า ทำให้แม้แต่Universal ที่กำลังจะมี Wicked ฉายในเดือนหน้า ตัดสินใจโปรโมตเอนไปทางหนังแฟนตาซีมากกว่าหนังขายเสียงเพลง แต่เพราะฐานแฟนของหนัง Joker ภาคแรกที่กวาดรายได้เกินคาดจนทะลุหลัก 1 พันล้านเหรียญฯ ทำให้ Warner Bros. ยอมเสี่ยงกับไอเดียนี้ และปล่อยให้ วาคีนและทอดด์ พาภาคต่อของ Joker ไปในทิศทางที่พวกเขาต้องการ และการที่ได้ Lady Gaga มารับบทนักแสดงทำฝ่ายหญิง ยิ่งทำให้ ‘Joker : Folie a Deux’ ดูแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าไอเดียตั้งต้นจะเสี่ยงแค่ไหนก็ตามภาคต่อของ Joker เน้นพาผู้ชมไปสำรวจสภาพจิตใจของ Arthur Fleck ที่ในตอนนี้เขากลายเป็นนักโทษประหารในเรือนจำ Arkham แม้ความหวังในการรอดชีวิตจะริบหลี่ แต่ก็มีทนายความที่พยายามจะหาแง่มุมเพื่อช่วยให้การอุทธรณ์เกิดขึ้น โดยอ้างว่า โจ๊กเกอร์ เป็นอีกบุคลิกที่เกิดจากอาการป่วย ในขณะที่อาเธอร์​กำลังเตรียมตัวเพื่อขึ้นศาล เขาก็ไปพบรักของ ‘ลี’ หรือชื่อเต็มๆคือ Harley Quinn ตัวละครที่แฟนคอมมิครู้จักกันดีในฐานะคู่รักตลอดกาลของโจ๊กเกอร์ ซึ่งในเรื่องนี้ ถ่ายทอดโดย เลดี้กาก้า เธอคือผู้หญิงที่รักและเข้าใจอาเธอร์ในแบบที่เขาเป็น และพยายามทำทุกทางเพื่อให้ทั้งคู่ออกจากเรือนจำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่กดดัน พวกเขาต่างมีความสุขในจินตนาการ จนกลายมาเป็นฉากมิวสิคัลอันมากมายในหนังเรื่องนี้อย่างที่เกริ่นไปว่า ต้องยกย่องวอร์เนอร์ ผู้กำกับทอดด์ และวาคีน ที่บ้าบิ่นพอจะพาหนังมาทางนี้ หลังจากภาคแรกที่ค่อนข้างไม่ประนีประนอมกับคนดูอยู่แล้ว ด้วยจังหวะการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้า บวกกับบรรยากาศสุดตึงเครียดของหนัง มาภาคนี้ พวกเขายิ่งใส่องค์ประกอบที่ยากขึ้นเข้าไปอีก ด้วยฉากมิวสิคัลที่ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแฟนละครเพลง และฉากสไตล์คอร์ตรูมดราม่า (หรือหนังที่เล่าถึงการไต่สวนในศาล) ที่ต้องอาศัยสมาธิในการโฟกัสกับเรื่องราวอย่างมาก พอทั้งหมดผสมรวมกัน ‘Joker : Folie a Deux’ จึงกลายเป็นหนังจากคอมมิคที่แทบไม่ง้อคนดูเลย เพราะผู้สร้างต้องการจะสร้างออกมาแบบนี้ ไม่ว่ามันจะเฟรนด์ลี่กับคนดูหรือไม่ โดยเฉพาะแฟนหนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่หลายครั้งต้องการเสพอะไรที่ย่อยง่าย ในสไตล์ที่หนังมาร์เวลชอบทำ สิ่งที่ผู้เขียนชอบในหนังเรื่องนี้ จึงเป็นการชอบในความกล้าของผู้สร้าง แต่ต้องยอมรับว่า ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น ค่อนข้างมีพาร์ทที่ทั้งชอบและไม่ชอบอย่างชัดเจนแน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนน่าจะเห็นตรงกัน คือ รสนิยมในงานโปรดักชั่นที่ Joker : Folie a Deux เป็นหนังที่ออกแบบงานสร้างสวยและดูแพง การถ่ายทำดูเป็นหนังมีเกรด ยิ่งเวลาดูบนจอใหญ่ๆอย่าง IMAX ยิ่งทำให้หนังดูอลังการ และอีกอย่างที่ดีงามเช่นเดิมคือการแสดงของ วาคีน ที่ยังคงลึกล้ำ แปลกประหลาดจนคาดเดาไม่ได้ ซึ่งเขาสามารถเข้าคู่กับ Lady Gaga ได้อย่างดี กาก้าคือตัวเลือกสำหรับบท ฮาร์ลี่ ควินน์ ในแบบมิวสิคัลที่เพอร์เฟคมากๆ ด้วยอิมเมจของเธอในฐานะนักร้องที่แตกต่างอยู่แล้ว พอมารับบทนี้ยิ่งเสริมให้เข้ากับบทไปอีก แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ เวลาบนจอของกาก้า ค่อนข้างน้อยไปนิดในฐานะนักแสดงนำ เชื่อว่าเมื่อดูจบหลายคนจะกระหายกาก้ามากขึ้น เพราะเธอทำได้ดีจริงๆในบทนี้ และฉากมิวสิคัลที่สามารถสะกดอารมณ์ได้ทุกรอบ ไม่มีซีนไหนที่สามารถกังขาเธอได้ปัญหาอย่างชัดเจนของ ‘Joker : Folie a Deux’ คืออารมณ์ร่วมสำหรับฉากมิวสิคัล และจำนวนที่อาจมากเกินไป จนหลายคนบ่นตรงกันว่ากระทบกับเนื้อเรื่อง หลายฉากมิวสิคัลนั้น คือ ฉากที่พยายามให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงตัวละครโจ๊กเกอร์มากขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันไม่บรรลุผลเท่าไรนัก แม้ว่าทอดด์และวาคีนจะกระหายอยากทำสิ่งนี้ แต่ต้องยอมรับว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ถนัดด้านนี้เอาเสียเลย แม้องค์ประกอบความเป็นมิวสิคัลมันจะครบถ้วน แต่กลับสร้างอารมณ์ร่วมได้ไม่ดีนัก ขาดความแม่นยำในการเล่นกับอารมณ์คนดู แล้วพอหนังใช้การเล่าแบบมิวสิคัลเยอะเข้า ทำให้เส้นเรื่องของหนังภาคนี้ ก็ไม่ค่อยไปไหนเสียที ซึ่งปกติหนังก็แทบจะเดินเรื่องช้าอยู่แล้ว กลายเป็นเพซซิ่งสำหรับภาคนี้ที่ยาวถึง 2:20 ชั่วโมง เข้าขั้นยาวจนต้องหันมาดูนาฬิกาหลายรอบ ซึ่งผู้เขียนคงไม่สามารถตัดสินแทนทุกคนได้ ว่าคุณจะเอ็นจอยกับ Joker ภาคนี้หรือไม่ มันคือความท้าทาย ที่อาจจะต้องหาเวลาไปลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง

[REVIEW] ‘Transformers One’ นี่คือภาค Prequel ที่ติ๊กถูกแทบทุกข้อ ปลุกชีพทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างดีงาม

17 ก.ย. 2024

[REVIEW] ‘Transformers One’ นี่คือภาค Prequel ที่ติ๊กถูกแทบทุกข้อ ปลุกชีพทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างดีงาม

ถ้าพูดถึงสถานะของแฟรนไชส์ตระกูล Transformers แล้ว ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า อยู่ในลักษณะลุ่มๆดอนๆ เพราะหลังจาก ไมเคิล เบย์ ปั้นหนังตระกูลนี้มากับมือ จนกวาดเงินระดับพันล้าน ในภาคที่ 3-4 แต่เขาเองก็ทำให้แฟรนไชส์นี้มาอยู่ในขาลง ด้วยคุณภาพของภาคสุดท้ายที่เขากำกับอย่าง Transformers : The Last Knight ที่ยุ่งเหยิงจนน่าตกใจ ส่งผลให้รายได้และความนิยมหล่นฮวบไปด้วย แต่ทางพาราเมาต์และฮาสโบร (เจ้าของสิทธิ ผู้ผลิตของเล่นชุดนี้) ก็ไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ ด้วยการเริ่มสร้าง Bubblebee หนัง Spin-Off ตัวละครที่แฟนๆรัก ต่อด้วย Transformers : Rise of the Beasts ที่ทำหน้าที่เป็น Prequel ทั้งสองภาคได้รับคำชมพอสมควร แม้รายได้จะกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังไม่มากนัก จนมาถึงความพยายามครั้งล่าสุดกับ ‘Transformers One’ ครั้งแรกที่ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ถูกสร้างเป็นหนังใหญ่ด้วยการเป็นหนังแอนิเมชั่น พร้อมย้อนกลับไปเล่าต้นกำเนิดของสองตัวละครหลักอย่าง ออพติมัส ไพรม์ และ เมกะตรอนก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นศัตรู ทั้งคู่คือมิตรสหายกันมาก่อน นี่คือธีมหลักของ ‘Transformers One’ ที่เล่าเหตุการณ์ก่อน Transformers ทุกภาค และเป็นภาคแรกที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวบนโลกมนุษย์ และไม่มีตัวละครมนุษย์แม้แต่คนเดียว เพราะหนังได้พาผู้ชมไปยังดาวต้นกำเนิดของ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ในยุคสมัยที่ ออพติมัส ไพรม์ และ เมกะตรอน ยังเป็นเพียงหุ่นยนต์ใช้แรงงานในเหมือง พวกเขาไม่มีพลังในการแปลงกายด้วยซ้ำ ใช้ชีวิตไปวันๆในฐานะกรรมกร แต่แล้วสถานการณ์กลับพลิกพัน ทำให้พวกเขาต้องออกผจญภัยไปยังพื้นผิวของดาว พื้นที่รกร้างที่ไม่มีหุ่นยนต์ตัวไหนอาศัยอยู่ได้ เพื่อค้นหาขุมพลัง ที่หายไปนานถึง 500 ปี จนกระทั่งเจอกับความลับบางอย่าง ที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล จากมิตรเริ่มกลายเป็นศัตรู นำไปสู่สงครามจักรกลข้ามจักรวาล ในแบบที่พวกเราได้ชมกันใน Transformers ทุกภาคก่อนหน้านี้แม้หน้าหนังของ ‘Transformers One’ จะเป็นหนังแอนิเมชั่น แต่ตัวหนังเองกลับไม่ได้ทำตัวเป็นหนังเด็กด้วยซ้ำ องค์ประกอบทั้งหมดเหมือนเราดู Transformers ภาคปกติเลย เพียงแค่ผู้สร้างเลือกเล่าในแบบแอนิเมชั่น เพราะหนังไม่ได้มีตัวละครมนุษย์ เส้นเรื่องของ ‘Transformers One’ ยิ่งใหญ่และไปไกลกว่าที่ทุกคนคาดคิด อัดแน่นไปด้วยประเด็นที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าตัวละครใดตัวละครหนึ่ง แล้วหนังก็ประกอบด้วยฉากต่างๆ ที่ทำให้สนุกครบรส ไม่แพ้กับ Transformers ภาคอื่นๆ ทั้งฉากแอ็กชันสุดตื่นตา มาพร้อมกับสเกลที่ใหญ่มากๆ สอดแทรกด้วยซีนตลกอารมณ์ขัน ที่มีจังหวะมุกแบบพอดิบพอดี และปิดท้ายด้วยฉากชวนหึกเหิมและประทับใจ ที่ได้ค่อนข้างดีเลย กลายเป็นว่า ‘Transformers One’ คือหนังบันเทิงที่สนุกลงตัวมากที่สุดเรื่องหนึ่งในแฟรนไชส์นี้ทั้งหมด ในแง่ของพล็อตก็เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่เป็นเชื่อมต่อกับภาคหลักอย่างพอดิบพอดี ในขณะที่ตัวหนังเอง ก็มีเอกลักษณ์ในแบบของมัน สามารถดูได้ในฐานะหนัง Stand Alone เช่นกันอย่างที่เกริ่นไปในหัวข้อ ‘Transformers One’ มีคุณภาพในฐานะหนัง Prequel (หนังที่เล่าเหตุการณ์ก่อนภาคหลัก) ที่ครบถ้วน ทำให้ผู้ชมที่ดูภาคหลักแล้ว รู้สึกสมบูรณ์กับเรื่องราวมากขึ้น ในขณะเดียวกันใครที่ไม่เคยดู Transformers มาเลย หนังก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี ในการชักชวนให้อยากไปชมภาคอื่นๆในแฟรนไชส์นี้ต่อ ระหว่างดู ผู้เขียนนึกถึงหนังเรื่องอื่นอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ X-Men : First Class ทั้งในแง่คุณภาพ และในแง่โครงหลักของเรื่อง ซึ่งเล่าถึงสองตัวละครที่ผู้ชมรู้จักพวกเขาในฐานะศัตรู แต่ในภาคนี้พาย้อนกลับไปสมัยที่ยังเป็นมิตร อะไรคือจุดแตกหักที่ทำให้ทั้งสองต้องไปคนละทิศคนละทาง อีกหนึ่งคือ Spider-Man Into The Spider-Verse ในฐานะหนังภาคแยกที่วางตัวเป็นแอนิเมชั่น แต่กลับกินคาดในแง่คุณภาพ ความลงตัว จนเป็นที่โปรดปรานในกลุ่มแฟนประจำของแฟรนไชส์ สำหรับ ‘Transformers One’ มีสถานะเช่นนั้นอยู่ ใครที่อาจจะเบื่อหน่ายกับทรานส์ฟอร์มเมอร์แล้ว ขอเชียร์ว่าอย่าเพิ่งรีบหมดใจและมองข้ามภาคนี้ นี่เป็นเหมือนภาคที่พา Transformers เข้าใกล้จุดพีกอีกครั้ง ส่วนใครที่ไม่เคยชมมาก่อน ก็สามารถมาเปิดตัวกับภาคนี้ได้เช่นกัน เป็นหนัง Transformers ภาคที่มีหัวใจมากที่สุด ครบเครื่องสุดภาคะนึงเท่าที่มีมาเลยทีเดียวชมตัวอย่าง Transformers One เข้าฉาย 26 กันยายนในโรงภาพยนตร์(เปิดรอบพิเศษ 20-22 กันยายนนี้ ช่วงบ่ายถึงค่ำ)

[REVIEW] ‘PROJECT SILENCE’ อีกครั้งที่หนังเกาหลีทำถึง จัดหนักหายนะแบบมะรุมมะตุ้ม

28 ส.ค. 2024

[REVIEW] ‘PROJECT SILENCE’ อีกครั้งที่หนังเกาหลีทำถึง จัดหนักหายนะแบบมะรุมมะตุ้ม

จากความสำเร็จของ ‘Train To Busan’ ที่เป็นหมุดหมายสำคัญ ส่งให้แวดวงหนังเกาหลีก็ขยันสร้างสรรค์ไอเดียหนังหายนะ ให้ออกมามีความแปลกใหม่อยู่เสมอ ครีเอตสถานการณ์อันบีบคั้นด้วยข้อจำกัดที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับหนังแอ็กชันโปรเจกต์ยักษ์ล่าสุดอย่าง ‘Project Silence’ ที่ใส่ข้อแม้เพื่อให้ตัวละครเอาตัวรอด เปลี่ยนจากซอมบี้ที่เริ่มซ้ำซากในยุคหลัง เป็น ‘สุนัขชีวะ’ ที่ผ่านการทดลองทางการทหารให้สังหารมนุษย์อย่างอำมหิต โอกาสที่มนุษย์หน้าไหนจะรอดไปนั้น โอกาสคือศูนย์ จะเปลี่ยนเซ็ตติ้ง จากพื้นที่จำกัดทั้งบนรถไฟหรือเครื่องบิน ให้เป็นสะพานสูงที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และใส่อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญเพิ่มเข้ามาอีก คือหมอกที่บดบังวิสัยทัศน์ของทุกตัวละคร ทำให้อาจกล่าวได้ว่า ‘Project Silence’ คือหนังที่จัดองค์ประกอบความหายนะ เสิร์ฟมาให้แบบเต็ม ๆ เข้าขั้นมะรุมมะตุ้มอย่างที่เกริ่นไปเลยทีเดียวศูนย์กลางของ ‘Project Silence’ คือ จองวอน (รับบทโดย อีซอนคยุน นักแสดงผู้ล่วงลับจาก ‘Parasite’) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงความมั่นคง ที่กำลังขับรถไปส่งลูกสาวที่สนามบินเพื่อเรียนต่อ แต่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้นบนสะพานเชื่อมระหว่างกรุงโซล กับ สนามบินอินชอน เมื่อหมอกหนาเริ่มปกคลุม ทำให้เกิดเหตุการณ์รถชนกันนับสิบ และหนึ่งในนั้น คือรถบรรทุกลึกลับของกองทัพ ที่กำลังขนอาวุธลับร้ายแรง ไม่นานผู้ประสบภัยบนสะพานก็ค่อย ๆ รู้ชะตากรรมว่าอาวุธดังกล่าว คือ สุนัขที่ผ่านการทดลอง ให้เป็น อาวุธสังหาร มีความแข็งแกร่งและเกรี้ยวกราด พร้อมที่จะสังหารมนุษย์ทุกชีวิต ในขณะที่ทุกคนกำลังพยายามหนีเอาตัวรอด สะพานก็เริ่มพังและถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พวกเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เมื่อสะพานแห่งนี้เต็มไปด้วยความคลั่ง และความตายที่รอพวกเขาอยู่เชื่อว่าหลายคนรอคอย ‘Project Silence’ เพราะนี่คือผลงานการแสดงชิ้นสุดท้ายของ อีซอนคยุน นักแสดงผู้ล่วงลับที่ฝากผลงานชิ้นนี้ไว้เป็นเรื่องสุดท้าย โดยรวมซอนคยุนยังคงฝากฝีมือการแสดงไว้ได้อย่างน่าจดจำ กับตัวละครที่ค่อนข้างมีมิติ โดยเฉพาะซีนท้าย ๆ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกบีบหัวใจ และยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นไปอีก ว่าหลังจากนี้จะไม่ได้ดูฝีมือการแสดงของนักแสดงมากฝีมือคนนี้อีกแล้ว และที่โดดเด่นไม่แพ้กัน จนไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ จูจีฮุน ที่คาแรกเตอร์ในหนังรับบทเป็นคนขับรถสิบล้อ ที่มีมาดกวนและเรียกเสียงฮาได้ตลอด ต่างจากมาดนิ่ง ๆ แบบในซีรีส์ ‘Kingdom’ หรือหนังอย่าง ‘Along with The Gods’ กลายเป็นตัวละครของ จูจีฮุน ที่สร้างความบันเทิงและเรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง ทุกครั้งที่ปรากฏตัวขโมยซีนอยู่เสมอ สามารถบาลานซ์จากความจริงจังของตัวละคร อีซอนคยุน ให้หนังมีความครบรสมากยิ่งขึ้น มีทั้งมุมจริงจังมาก ๆ และมุมผ่อนคลายเรื่อย ๆและ ‘Project Silence’ คืออีกครั้งที่เกาหลีสามารถทำหนังหายนะได้อย่างถึงรสชาติ แน่นอนว่าเรื่องของงานโปรดักชั่นแทบจะไม่ต้องเป็นห่วง เพราะงานสร้างดูยิ่งใหญ่ สมจริง และสร้างอารมณ์ร่วมได้อย่างดี ที่เอ่ยว่าทำถึง คือหนังสามารถใส่สถานการณ์ชวนตื่นเต้น เสิร์ฟความระทึกมาให้แบบไม่หยุดหย่อน แค่คนดูติดตามเชียร์ตัวละคร ให้รอดพ้นไปจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไปตามเส้นเรื่องก็สนุกมากพอแล้ว หนังใส่อุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาอย่างไม่สนใจว่ามันจะเว่อร์ หรือเกินจริง เน้นให้คนดูได้เอ็นจอยกับหายนะที่ถาโถมไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรฐานที่ถูกวางไว้สูงโดย ‘Train To Busan’ ตัวหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้แตะสแตนดาร์ดนั้น ในแง่ของความบีบคั้นของเรื่องราว และแง่มุมสะท้อนสังคมที่เรื่องดังกล่าวทำได้เหนือกว่า แต่โดยรวม ‘Project Silence’ ก็ยังเป็นหนังหายนะที่สนุก แปลกใหม่ น่าสนใจทั้งฉากต่าง ๆ และตัวละคร สามารถดูแบบบันเทิงและเอ็นจอยได้อย่างแน่นอนชมตัวอย่าง Project Silence เขี้ยวชีวะคลั่งสะพานนรก ก่อนเข้าไปชมพร้อมกัน 29 สิงหาคมในโรงภาพยนตร์ภาพ : Mongkol Major Mongkol Cinema

[REVIEW] ‘วิมานหนาม’ หนังกำหมัดแห่งปี ที่มาพร้อมกับงานสร้างระดับเวิลด์คลาส

20 ส.ค. 2024

[REVIEW] ‘วิมานหนาม’ หนังกำหมัดแห่งปี ที่มาพร้อมกับงานสร้างระดับเวิลด์คลาส

ถ้าผลงานชิ้นก่อนจากค่าย GDH อย่าง ‘หลานม่า’ คือหนังฟีลกู้ดสร้างความประทับใจแห่งปี ผลงานชิ้นใหม่อย่าง ‘วิมานหนาม’ ย่อมเป็นหนังขั้วตรงข้าม มันคือ ‘หลานม่า’ ฉบับฟีลแองกรี้ แม้โครงพล็อตจะเกี่ยวกับวัยรุ่น ที่ต้องการครอบครองเคหะสถานของผู้สูงอายุเหมือนกัน แต่รสชาติในการเล่า ข้อแม้ของเรื่องราว และองค์ประกอบของหนังช่างต่างกันลิบลับ แต่ที่เหมือนกันอย่างแน่ชัดคือ ‘คุณภาพ’ ที่ล้นจอ ถ้า หลานม่า ได้รับตำแหน่งหนังเสียน้ำตาแห่งปี ภาพยนตร์เรื่อง ‘วิมานหนาม’ ก็ขอมอบตำแหน่งหนังกำหมัดแห่งปีเช่นกัน‘วิมานหนาม’ คือผลงานล่าสุดของ บอส-นฤเบศ จากซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ เล่าถึงโชคชะตาที่แปรผันของ ‘ทองคำ’ (รับบทโดย เจฟ ซาเตอร์) หนุ่มชาวไร่ที่ใช้ชีวิตในสวนทุเรียนกับ เสก (รับบทโดย เต้ย พงศกร) พวกเขาทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับสวนนี้ จนเสกสามารถไถ่โฉนดที่ดินจากการจำนอง ออกมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จ แต่ชีวิตกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเสกเสียชีวิตกะทันหัน บ้าน ที่ดิน และสวนทุเรียนทั้งหมด จึงตกเป็นชื่อของ ‘แม่แสง’ (รับบทโดย สีดา พัวพิมล) เพราะแม้ ทองคำกับเสก จะแต่งงานกันแล้ว แต่ด้วยกฎหมายไม่รองรับ ทองคำจึงกลายเป็นคนตัวเปล่า เขาพยายามทำทุกทางเพื่อขอสวนทุเรียนในฝันคืนจากแม่ของเสก แต่กลับถูกกีดกันโดย ‘โหม๋’ (รับบทโดย อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวของแม่แสงที่ถูกเก็บมาเลี้ยง สงครามในวิมานหนาม เพื่อแย่งชิงสวนทุเรียนแห่งนี้จึงเกิดขึ้นแน่นอนว่า ‘วิมานหนาม’ คือผลงาน GDH ที่ท้าทายในหลายแง่มุม แต่ก็ยังคงทำถึงแบบไม่เกินคาด หลังจากปล่อยตัวอย่างออกมาสร้างความฮือฮา พร้อมคำโปรยที่ว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากความไม่เท่าเทียม หนังหยิบเอาประเด็นด้านกฏหมายที่ไม่สามารถสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมได้ มาเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความฉิบหายทั้งหมด ตอกย้ำว่าหลาย ๆ แง่มุม ข้อกฎหมายก็ยังไม่สามารถคุ้มครองคนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคกันได้ โดยเฉพาะช่วงแรกของหนังที่สร้างบาดแผลในใจให้กับตัวละครของ ‘ทองคำ’ ได้อย่างดี เมื่อความรักที่เขาให้ต่อเสกนั้น กฎหมายมองเพียงแค่ ‘เพื่อน’ เท่านั้น ไม่ใช่ ‘สามีภรรยา’ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะถ้ากฏหมายคุ้มครองชีวิตคู่ของพวกเขาจริง เหตุการณ์ที่กลายเป็นดั่งฝันร้ายหรือวิมานล่มสลาย คงไม่ตามมาเป็นพาเหรดอย่างที่หนังจะค่อยๆเล่าต่อจากนั้นอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ‘วิมานหนาม’ คือหนังกำหมัดแห่งปี เพราะดีกรีเกรี้ยวกราดของเส้นเรื่องมันค่อย ๆ ทวีความเข้มข้นมากขึ้น จนกระทั่งปรอทแตกในตอนท้าย การเข้ามาของตัวละคร ‘แม่แสง’ และ ‘โหม๋’ คือตัวเร่งปฏิกริยาให้เรื่องราวมันร้อนแรงมากขึ้น คนดูได้ลุ้นในแทบทุกฉาก เริ่มต้นจากคำพูดที่เชือดเฉือน แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับเป็นการกระทำที่รุนแรงมากขึ้น จนบางครั้งให้ฟีลลุ้นระทึกยิ่งกว่าฉากแอ็กชันด้วยซ้ำ ว่าหนังมันจะยกระดับความร้อนแรงไปถึงเบอร์ไหน แต่ที่แน่ ๆ คือหนังสามารถตรึงอารมณ์คนดูไว้ได้ตลอด จนหลายคนแอบกำหมัดในโรง อยากจะจัดการตัวละครที่ชวนโมโหเหล่านี้ให้พ้นทางไปไว ๆแน่นอนว่า อารมณ์ร่วมทั้งหมดของ ‘วิมานหมาน’ ต้องขอบคุณบทภาพยนตร์ที่สร้างทุกตัวละครออกมาอย่างมีมิติ ไม่มีใครขาวหรือดำไปทั้งหมด และถูกถ่ายทอดออกมาโดยทีมนักแสดงนำ ที่ทุกคนแอคติ้งได้อย่างไร้กังขา สามารถเป็นตัวละครนั้น จนคนดูเชื่อตั้งแต่แรก และห่อหุ้มด้วยงานโปรดักชั่น โดยเฉพาะโลเคชั่นและออกแบบงานสร้าง ที่ทำสวยแบบคุมโทนและถึงอารมณ์ จนทุกอย่างผสมออกมาอย่างกลมกล่อม ถือเป็นหนังที่รวมงานสร้างไว้ในระดับเวิร์ลคลาส และนำออกไปฉายโชว์ให้คนทั่วโลกดูในฐานะหนังไทยได้อย่างสบาย‘วิมานหนาม’ เข้าฉาย 22 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

[REVIEW] ‘Twisters’ หนังทอร์นาโดสุดกลมกล่อม กลิ่นอายแบบต้นฉบับมาครบ

11 ก.ค. 2024

[REVIEW] ‘Twisters’ หนังทอร์นาโดสุดกลมกล่อม กลิ่นอายแบบต้นฉบับมาครบ

ใครที่อายุ 30 ขึ้นไป น่าจะโตมากับหนังภัยพิบัติระดับตำนานอย่าง Twister อย่างแน่นอน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 นี่คือหนังทำเงินลำดับต้นๆของปี มีเพียง Independence Day หรือที่คนไทยคุ้นเคยในชื่อ ID4 เท่านั้นที่ทำเงินเหนือกว่า ยุคสมัยนั้นถือว่าแท็กทีมตัวท็อปของวงการพอสมควร ทั้ง สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ จาน เดอ บองต์ ผู้กำกับที่กำลังฮ็อตสุดๆจาก Speed นั่งแท่นกำกับ พร้อมหยิบเอานิยายของ ไมเคิล ไครชตัน ผู้เขียนเดียวกับ Jurassic Park มาสร้าง ด้วยความตื่นตาของหนัง ความสมจริงในฉากไล่ล่าพายุ ทำให้หนังสามารถกวาดรายได้สูงถึง 495 ล้านเหรียญฯ และกลายเป็นหนังพายุที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา จนกระทั่งล่าสุด หนังถูกกลับมาปัดฝุ่น นำมาสร้างใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ใช่การรีเมก เพราะมันคือภาคใหม่ ที่หยิบเอาคอนเซปต์การ ‘ไล่ล่าพายุ’ มาเป็นแกนหลัก พร้อมกับสวมด้วยเส้นเรื่องและคาแรกเตอร์ใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นเดซีย์ เอ็ดการ์-โจนส์ นางเอกมากฝีมือจาก Where The Crawdads Sing รับบท เคต คูเปอร์ หญิงสาวที่หมกมุ่นกับเรื่องทอร์นาโด โปรเจกต์ทดลองของเธอคือการทำให้พายุอ่อนตัวลงและช่วยผู้คนนับล้าน แต่โปรเจกต์ของเธอต้องพับไปเพราะความผิดพลาด จนกระทั่งเพื่อนสนิทอย่าง จาวี (รับบทโดย แอนโธนี่ รามอส จาก Transformers : Rise of the Beasts) ชักชวนให้เธอกลับมาไล่ล่าพายุอีกครั้ง เพราะเขากำลังพัฒนาอุปกรณ์สุดไฮเทคในการสแกน และเมื่อเธอลงสนามอีกครั้ง เธอก็ได้พบเจอกับ ไทเลอร์ โอเว่น ยูทูปเบอร์พลังเกินร้อย ที่คอนเทนต์บุกฝ่าใจกลางพายุได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แม้คาแรกเตอร์ของ เคตกับไทเลอร์ จะแตกต่างสุดขั้ว แต่แพชชั่นที่มีต่อทอร์นาโด ก็ทำให้ทั้งคู่เริ่มแท็กทีมกันในการไล่ล่าพายุ เป้าหมายคือ เพื่อป้องกันภัย ก่อนที่มันจะพลัดพรากชีวิตผู้คน และถล่มเมืองที่ขวางหน้าเป็นราบคาบสำหรับใครที่เกิดทัน Twister ในฉบับ 1996 ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้ มีกลิ่นอายและเสน่ห์แบบต้นฉบับอย่างครบถ้วน ทำให้หวนนึกถึงอดีตพอสมควร แต่สำหรับผู้ชมที่อาจจะไม่เคยดูมาก่อน Twisters ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ได้บรรยากาศหนังหายนะแบบยุค 90s เน้นความสมจริงมากกว่าฉากทำลายล้างสุดเว่อร์วัง เน้นการขับเคลื่อนของตัวละคร มากกว่าฉากพยายามเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ แน่นอนว่า ฉากทำลายล้างสุดตื่นเต้นยังมีอยู่ครบ ทั้งฉากไล่ล่าพายุ ฉากเอาตัวรอดต่างๆ ยังคงทำออกมาได้อย่างถึงมาตรฐาน ชวนตื่นตาพอสมควร แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน คือ การสร้างตัวละคร หนังถ่ายทอดแรงขับเคลื่อนของตัวละครต่างๆออกมาได้อย่างเด่นชัด ผู้ชมจะสัมผัสได้ทันทีถึงแพชชั่นของ พระเอก-นางเอก ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องเสี่ยงตายเอาชีวิตเข้าไปแขวนไว้กับพายุ ตัวละครต่างๆค่อนข้างเนิร์ดพายุมากๆ ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับ ยิ่งทำให้หนังดูน่าเชื่อถือโดย ‘Twisters’ ภาคใหม่นี้ สามารถเล่าพาร์ตชีวิตของตัวละครได้อย่างดี ต้องขอบคุณ ลี ไอแซค ชุง ผู้กำกับจาก Minari หนังดราม่าระดับออสการ์ ที่หยิบกลิ่นอายจากผลงานชิ้นก่อน มาใส่ไว้ในหนังได้อย่างพอเหมาะ ทำให้ Twisters ไม่ใช่หนังภัยพิบัติแบบดาดๆทั่วไป แต่สัมผัสได้ถึง ‘ชีวิต’ และ ‘ผลกระทบ’ ต่อชีวิตที่พายุมีต่อมนุษย์ และไฮไลต์สำคัญของ Twisters ฉบับนี้ ก็คือสองนักแสดงนำ จาก เฮเลน ฮันต์ และ บิล แพ็กซ์ตัน ในฉบับก่อน ส่งไม้ต่อให้กับ เกลน พาเวลล์ และ เดซีย์ เอ็ดการ์ โจนส์ ที่ผสานเคมีของสองตัวละครได้อย่างลงตัว มีความกรุ้มกริ่มแบบพอเหมาะ ทำให้ Twisters ขึ้นแท่นหนังป็อปคอร์นซัมเมอร์ที่มอบความบันเทิงอย่างลงตัว และถ้าใครอยากอินกับความยิ่งใหญ่ของพายุเป็นพิเศษ ขอแนะนำระบบ IMAX ที่เสริมความสะพรึงทั้งภาพและเสียงได้อย่างพอพึงพอใจชมตัวอย่าง Twisters วันนี้ในโรงภาพยนตร์

อังคาร คลุมโปง

อังคารคลุมโปง X หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ - ขวัญ อุษามณี [ 8 ต.ค. 2567]

08 ต.ค. 2024

อังคารคลุมโปง X หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ - ขวัญ อุษามณี [ 8 ต.ค. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงXหมอบีxขวัญอุษามณี ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXหมอบีxขวัญอุษามณี

อังคารคลุมโปง X V3RSE [ 1 ต.ค. 2567]

01 ต.ค. 2024

อังคารคลุมโปง X V3RSE [ 1 ต.ค. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงXV3RSE ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXV3RSE #WhiteMusicRecord #GMMMusic

เรื่องเล่าหลอนของนักเรียนตำรวจ | แจ็ค The Ghost Radio - HIGHLIGHT อังคารคลุมโปงX 24 ก.ย 67

26 ก.ย. 2024

เรื่องเล่าหลอนของนักเรียนตำรวจ | แจ็ค The Ghost Radio - HIGHLIGHT อังคารคลุมโปงX 24 ก.ย 67

เข้าเวรฝึกในเมืองจำลอง.. #อังคารคลุมโปงXTheGhostRadio #Theghostradio #เดอะโกสท์เรดิโอ #เดอะโกส #Theghost #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94 #EFM94

อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 24 ก.ย. 2567]

24 ก.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 24 ก.ย. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงXแจ็ค The Ghost Radio ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXTheGhostRadio

อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [ 17 ก.ย. 2567]

17 ก.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [ 17 ก.ย. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงXโนอาร์ล่าท้าผี ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXโนอาร์ล่าท้าผี

อังคารคลุมโปง X ขวัญ น้ำมันพราย [ 10 ก.ย. 2567]

10 ก.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X ขวัญ น้ำมันพราย [ 10 ก.ย. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงXBIGSHOCK ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXขวัญน้ำมันพราย

พุธทอล์ค พุธโทร

ใต้โต๊ะทำงาน

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67]

15 ม.ค. 2024

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67]

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67] พบกับ #ใต้โต๊ะทำงาน ได้ทุกคืนวันจันทร์ เวลา 20.15 - 22.00 น. ติดต่อลงโฆษณา โทรมาได้เลยที่ 02-669-9512,081-923-9823

แฉข่าวเช้า

แฉข่าวเช้า 10 ตุลาคม 2567

10 ต.ค. 2024

แฉข่าวเช้า 10 ตุลาคม 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 9 ตุลาคม 2567

09 ต.ค. 2024

แฉข่าวเช้า 9 ตุลาคม 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 8 ตุลาคม 2567

08 ต.ค. 2024

แฉข่าวเช้า 8 ตุลาคม 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 7 ตุลาคม 2567

08 ต.ค. 2024

แฉข่าวเช้า 7 ตุลาคม 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 4 ตุลาคม 2567

04 ต.ค. 2024

แฉข่าวเช้า 4 ตุลาคม 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 3 ตุลาคม 2567

03 ต.ค. 2024

แฉข่าวเช้า 3 ตุลาคม 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

EFM Fandom Live

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ Lookmhee-Sonya [ 3 ตุลาคม 67 ]

03 ต.ค. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ Lookmhee-Sonya [ 3 ตุลาคม 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ Billy Babe [ 26 กันยายน 67 ]

26 ก.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ Billy Babe [ 26 กันยายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ PROXIE [ 19 กันยายน 67 ]

19 ก.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ PROXIE [ 19 กันยายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ Keng Harit [ 12 กันยายน 67 ]

12 ก.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ Keng Harit [ 12 กันยายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ มอส-แบงค์ [ 5 กันยายน 67 ]

05 ก.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ มอส-แบงค์ [ 5 กันยายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ QRRA [ 29 สิงหาคม 67 ]

29 ส.ค. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ QRRA [ 29 สิงหาคม 67 ]

#EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

แฉโต๊ะหก

แฉโต๊ะหก : ปี 2023 เราเป็นที่สุดในเรื่องอะไร | 29 ธันวาคม

29 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : ปี 2023 เราเป็นที่สุดในเรื่องอะไร | 29 ธันวาคม

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : หยุดยาวปีใหม่ ไปเที่ยวไหนดีนะ | 28 ธันวาคม 2566

28 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : หยุดยาวปีใหม่ ไปเที่ยวไหนดีนะ | 28 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : อยากให้ คัลเลน-พี่จอง ไปเที่ยวที่ไหนอีก | 27 ธันวาคม 2566

27 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : อยากให้ คัลเลน-พี่จอง ไปเที่ยวที่ไหนอีก | 27 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : บอกลาลมหนาว แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมนะ | 26 ธันวาคม 2566

26 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : บอกลาลมหนาว แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมนะ | 26 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : ข่าวไหนคือที่สุดของคุณในปี 2566 | 25 ธันวาคม 2566

25 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : ข่าวไหนคือที่สุดของคุณในปี 2566 | 25 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : หนาวกันไหม ไหนเล่าซิ | 22 ธันวาคม 2566

22 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : หนาวกันไหม ไหนเล่าซิ | 22 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูอายุ 18 แล้ว เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่คุณแม่ก็ยังเข้าห้องมาตลอด แบบไม่เคาะประตู บางทีเข้ามาย้ายของ จัดของจนหนูหาของอะไรไม่เจอเลย เคยล็อคกุญแจแล้ว แต่คุณแม่ก็มีกุญแจสำรอง จะเจรจา

07 ต.ค. 2024

หนูอายุ 18 แล้ว เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่คุณแม่ก็ยังเข้าห้องมาตลอด แบบไม่เคาะประตู บางทีเข้ามาย้ายของ จัดของจนหนูหาของอะไรไม่เจอเลย เคยล็อคกุญแจแล้ว แต่คุณแม่ก็มีกุญแจสำรอง จะเจรจา

หนูอายุ 18 แล้ว เริ่มอยากมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่คุณแม่ก็ยังเข้าห้องมาตลอดแบบไม่เคาะประตู บางทีเข้ามาย้ายของ จัดของจนหนูหาของอะไรไม่เจอเลย เคยล็อคกุญแจแล้วแต่คุณแม่ก็มีกุญแจสำรอง จะเจรจา พูดกับแม่ยังไงให้เขาเข้าใจหนูสักทีคะ? หนูให้เข้ามาได้แต่อย่ามาย้ายของ “คุณแจกัน (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย‘ เกี่ยวกับปัญหาทำยังไงให้คุณเเม่เลิกเข้าห้องส่วนตัวเรา เพราะรู้สึกเริ่มโตเเล้ว โดย “คุณเเจกัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ครอบครัวหนูแยกทางกัน มีพี่น้อง 3 คน หนูเป็นคนกลาง พ่อแม่แยกทางกัน พี่สาวไปอยู่กับแฟน น้องชายไปอยู่กับพ่อ ส่วนหนูอยู่กับเเม่ ตอนนี้คุณเเม่อายุ 42 ปี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา หนูขอแม่เเยกห้องนอนส่วนตัว คุณเเม่ก็โอเค ให้แยกนอนได้ บางทีคุยกันก็เหมือนเขาไม่พอใจ ผ่านไปอาทิตย์นึงคุณเเม่ก็เริ่มเข้าห้องเราโดยที่ไม่เคาะหรือบอกเราก่อน บางทีหนูไปโรงเรียนกลับมาของที่วางอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิมก็หายหรือหาไม่เจอ เช่น หนูเรียนมีการบ้าน เขาจะชอบจัดเเล้วเขาจะเก็บรวมไปเลย บางทีหนูล็อคห้อง หรือติดป้ายไว้เเล้ว เคยคุยกับเเม่เเล้วด้วย เเม่ก็โอเคจะไม่เข้า เเต่พอผ่านไปแค่ 2 - 3 วันเขาก็ยังเข้าห้องเหมือนเดิม หนูไม่ได้ว่าที่เขาเข้าห้อง เเต่หนูอยากให้เขาบอกก่อนว่า จะเข้าไปเก็บของนะหรือจะเข้าไปห้องให้ บางทีหนูนอนอยู่ เขาก็จะเข้ามาโดยที่ไม่บอกเรา เข้ามาเฉย ๆ ดูเเล้วก็ออกไป บางทีหนูอาบน้ำเเต่งตัวอยู่ เขาก็เข้ามาเลย ทำให้หนูรู้สึกเหมือนเขาเข้ามาในพื้นที่ของหนู ทำให้หนูเกิดอาการเหมือนหงุดหงิดตัวเอง ไม่ได้หงุดหงิดแม่ หนูก็เก็บไว้ว่าอย่าไปหงุดหงิดเขา เหมือนเราเคยนอนด้วยในห้องเดียวกัน พอหนูแยกออกมาเขาอาจจะเเบบอยากรู้รึเปล่าว่าเราแยกออกมาเเล้ว ยังเป็นเหมือนเดิมรึเปล่า? หนูเป็นคนทำความสะอาดทั้งบ้านเอง เหมือนเรื่องของเราก็จะไม่ให้แม่ยุ่ง ซักผ้าหรืออะไรก็ทำเองหมดเลย เพราะไม่อยากให้แม่ทำ หนูไม่รู้ว่าต้องจัดการยังไง ก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจทั้งสามคนว่า หนูควรต้องทำยังไงดี? โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หัวอกคนเป็นพ่อเป็นเเม่รู้เเหละว่าวันนึงลูกจะโต จะไปมีชีวิตของตัวเอง เราจะไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าห้องโดยพลการอีกต่อไป นี่คือที่พ่อแม่รุ่นใหม่พยายามบอกตัวในทุก ๆ วัน เเต่มันโครตยากเลย ด้วยวัยของคุณเเม่ที่เท่า ๆ พี่พี่ว่าคุยได้ มันเปลี่ยนได้ เพราะฉะนั้นต้องมีวิธีการคุยจะไม้อ่อนไม้เเข็งอันนี้เเล้วเเต่เเจกัน ถ้าเคยคุยแบบไม้อ่อนเเล้วยังเหมือนเดิม ก็ตเองขยับเป็นไม้เเข็งขึ้น เเต่ก็ไม่รู้ความคิดเขาถ้าโดนอย่างงี้พอเขาโดนเเบบนี้จะยังไง เเต่พี่ว่าถ้าเห็นลูกเริ่มจริงจังขึ้นไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำที่โตขึ้น เป็นพี่พี่ยอมเปลี่ยนนะ อย่างน้อยยังได้ก้าวเข้าไปในห้องเขาอ่ะ ถ้าไม่ได้จริง ๆ ให้คุณเเม่ฟังคลิปนี้’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษา ‘เข้าใจหมดว่าเราอยากมีโลกส่วนตัว เเต่ก็ต้องเข้าใจความเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยวเเล้วหนูเป็นลูกที่ใกล้เขามากที่สุด เขาก็จะเเอบคิดเข้าใจไปเองว่า ยังไงลูกต้องอยู่ในอ้อมกอดของชั้นตลอดไป ชั้นจะปกป้องเขาให้เขาไม่เจอสิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ เเละม่ความไม่ค่อยไว้ใจลูกสาวหน่อย ๆ การที่เขาได้เข้าไปในห้องของลูกสาว เหมือนเขาได้เข้าไปอยู่โลกของลูกสาวด้วย เขาเลยอยากสร้างความมั่นใจว่ายังอยู่ในสายตาชั้น ไม่มีอะไรหรอก อยากให้ทำความเข้าใจด้วย เเม่ไม่ได้เข้ามาอยู่ในห้องตลอดชีวิตเราหรอก วันนึงก็ต้องจากกัน ก่อนจะถึงวันนั้นปรับวิธีคิดเราจะได้ไม่หงุดหงิดมากเกินไป ยังไงก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรา มันก็เป็นบทเรียนให้หนูเหมือนกัน ที่หนูต้องรักเเละปกป้องตัวเองด้วย ค่อย ๆ สร้างความมั่นใจไปเรื่อย ๆ ถ้าเเม่มั่นใจในตัวเรามากขึ้น สิ่งเหล่านี้มันจะค่อย ๆ หายไป เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แปลว่าพูดกับเเม่ 1 ครั้งเเล้วเเม่อยู่ในโอวาทของลูกสาวตลอดไป เเต่เมื่อไหร่ที่มันมาจากความรัก ปัญหาความรักแก้ง่ายกว่าปัญหาความไม่รัก ให้สื่อสารที่เป็นทางบวกเเละลองเข้าใจความเป็นห่วงของคุณเเม่ดูบ้าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันต้องหาตรงกลางที่ทั้งคู่แฮปปี้ พี่ว่ามันสามารถคุยได้นะถ้ามันส่งผลกระทบการเรียนเราอ่ะหรือเรามีนัดกันกับเขามั้ย ทุกวันอาทิตย์หรือทุกวันใด ๆ หนูอยู่ในห้องด้วยเเล้วเเม่ก็จัดจะได้รู้ว่าย้ายของเเล้วก็บอกหนูจะได้รู้ อย่าทำโดยที่หนูไม่อยู่อ่ะเพราะบางทีมันจะวุ่นวายต่อการหาของ ส่วนไอการเข้ามาโดยที่ไม่มีสัญญาณก่อนอ่ะ หรือมันโมบายอะไรหน้าห้องมั้ย อะไรก็ได้ให้ถ้าร่างเข้าผ่านเเล้วมันจะเกิดเสียงอะ เพื่อให้เขาเองก็ต้องมีสติด้วยนะว่าต้องเคาะก่อนต้องบอกก่อนเข้าอ่ะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เพื่อนเก่าสมัยมัธยมในกลุ่ม มาบอกว่าจะเลิกคบกับอีกคน ผมก็เลยขอเป็นคนกลาง แล้วเพื่อนคนนั้นก็แฉอีกคนให้ผมฟังว่าเขาบูลลี่ผมมาตลอด หลักฐานครบ เค้ามีกลุ่มแยกที่ไม่มีเราอยู่คนเดียว คุยลับหลังมา 3 ปี ผมเสียใจมากๆ

04 ต.ค. 2024

เพื่อนเก่าสมัยมัธยมในกลุ่ม มาบอกว่าจะเลิกคบกับอีกคน ผมก็เลยขอเป็นคนกลาง แล้วเพื่อนคนนั้นก็แฉอีกคนให้ผมฟังว่าเขาบูลลี่ผมมาตลอด หลักฐานครบ เค้ามีกลุ่มแยกที่ไม่มีเราอยู่คนเดียว คุยลับหลังมา 3 ปี ผมเสียใจมากๆ

เพื่อนเก่าสมัยมัธยมในกลุ่ม มาบอกว่าจะเลิกคบกับอีกคน ผมก็เลยขอเป็นคนกลางแล้วเพื่อนคนนั้นก็แฉอีกคนให้ผมฟังว่าเขาบูลลี่ผมมาตลอด หลักฐานครบ เค้ามีกลุ่มแยกที่ไม่มีเราอยู่คนเดียวคุยลับหลังมา 3 ปี ผมเสียใจมากๆ เพิ่งรู้ว่าเพื่อนคนนั้นที่ขอยืมรถเรา แล้วพูดว่าโง่เนอะ ให้กูยืมด้วย “คุณเติร์ด (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนนินทาลับหลังเรา ทั้งที่ต่อหน้าเขาดีกับเรามาก โดย “คุณเติร์ด (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้ผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรื่องเกิดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว คือหนึ่งในเพื่อนกลุ่มเก่าตอนมัธยมโทรมาปรึกษาผมเรื่องเพื่อนอีกคนในกลุ่ม แบบมาบอกว่าเขานิสัยไม่ดีอะไรบ้าง อยากจะเลิกคบกับเขาทำยังไงบ้าง? ผมก็เลยให้คำปรึกษาว่า จะเลิกคบหรือไม่เลิกคบกัน ผมก็ขอเป็นคนกลางเพราะว่าเพื่อนคนที่เขาเล่ามาเขาก็ดีกับผมมาตลอด แต่ประเด็นคือว่าเพื่อนพูดว่า “เติร์ดกูไม่อยากเล่าให้มึงฟังนะ แต่เรื่องที่โดนนินทา คนที่โดนเยอะสุดคือเติร์ดนะ” แต่ผมไม่รู้ตัว คิดว่าเขาดีกับผมในกลุ่ม เพราะระยะเวลาที่คบกันมา 3 ปีเขาดีกับผมมาตลอดเลย จนผมไว้ใจเพื่อนคนนี้ที่สุดในกลุ่ม จนพอมาล่าสุด ผมมารู้ว่าเพื่อนที่ผมไว้ใจที่สุดกลับกลายเป็นว่าลับหลังผม ผมโดนเละที่สุดเลยในกลุ่ม ผมโดนเยอะมากๆ แล้วเพื่อนก็แคปหลักฐานทุกอย่างมาให้ผมดูหมดเลย เพราะเพื่อนมีแชทกลุ่ม ไม่ว่าผมจะอัปเดตชีวิตในโซเชียล หรือลงอะไร ผมจะโดนแคปลงในแชทกลุ่มที่ไม่มีผม ซึ่งเพื่อนคนอื่นก็เออ ออไปด้วย พอเขาจะแตกกันก็มาเล่าให้ผมฟังว่าจะเลิกคบกับคนนั้นแล้วนะ เพราะเขานิสัยไม่ดี แต่ที่ผ่านมาเขามีการมายืมเงิน ยืมมอเตอร์ไซค์ของผม พอผมให้ยืมเขาก็เอาไปพูดลับหลังว่าผมโง่ให้ยืมด้วย เพื่อนคนนั้นยังไม่รู้ว่าผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้วที่เขาเผาผม ตอนนี้เขาก็ยังทำเป็นดีกับผม ยังคุยกันปกติ ผมอยากถามพี่ๆว่า ควรคบเพื่อนคนนี้ต่อดีมั้ย? หรือควรตัดไปเลยเพราะผมก็รู้ความจริงหมดแล้วว่าที่ผ่านมามันก็ไม่ได้หวังดีกับเราจริงๆ’ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเป็นคนแรกว่า ‘แน่นอนอยู่แล้วว่าพี่จะไม่คบคนกลุ่มนี้ แต่ชีวิตคนก็เป็นแบบนี้แหละ มองในแง่ดีคือมันก็เป็นภูมิคุ้มกันเรา เพราะว่าเติร์ดอาจจะได้เจอคนแบบนี้อีกก็ได้ เหมือนประสบการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน ขนาดคนที่เราสนิทกันขนาดนี้มันยังพูดลับหลังกันได้ ซึ่งมันมีแบบนี้จริงๆบนโลกนี้ เราก็แค่ได้รู้ว่าคนๆนี้เป็นแบบนี้ ได้เรียนรู้ที่จะไว้ใจคน คนที่เราช่วยเหลือเขามาตลอด แล้วสิ่งที่มันทำคืออะไร แต่พี่ว่ายังไงก็ต้องตัด’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเป็นคนที่สองว่า ‘คนๆนี้ถ้ามันใช่แบบที่เติร์ดเล่ามาทั้งหมด คนแบบนี้มันเน่าตั้งแต่ข้างใน คนที่มันก่อร่างสร้างตัวมาเป็นคนที่มี attitude แบบนี้มันโตมายังไง พี่ว่ามันเลวทรามยิ่งกว่าเม้าท์ปากเสีย เพราะฉะนั้นคนแบบนี้เติร์ดไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรมันด้วยซ้ำ ถ้าเป็นพี่ พี่จะส่งแชทที่เพื่อนแคปมาให้ดูส่งให้มันไปเลย แล้วไม่ต้องคุยอะไรเลยก็ได้ ส่งเสร็จบล็อกไปเลยจบๆ หรือถ้าจะใส่กันสักชุดก็ได้ แค้นอะไรก็บอกไป คุยจบก็แยกย้ายกันเลย เป็นพี่ก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน’ และสุดท้าย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่อ้อยเคยอ่านเจอประโยคนึงว่า เราเลือกคนที่เราเจอไม่ได้ แต่เลือกว่าจะวางเขาไว้ตรงไหนในชีวิตได้ เราไม่รู้หรอกว่าคนที่เราจริงใจกับเขา เขาจะตลบหลังเราเมื่อไร แต่เมื่อเรารู้แล้ว เราเลือกวางเขาไว้ตรงไหนที่ไม่ต้องทำให้เราดีลกันอีกก็ได้ พี่ว่าบางทีมันไม่จำเป็น เดี๋ยวเติร์ดก็มีเพื่อนอีกหลายๆกลุ่ม อาจจะไปเจอแบบเดียวกันอีก หรือเป็นอีกแบบเลยก็ได้ ใดๆก็ตามเราอาจจะเสียใจ อาจจะเจ็บแค้น แต่ที่สุดแล้วการล้างแค้นที่สาสมที่สุดคือเขาคนนั้นต้องไม่มีผลอะไรต่อใจของเติร์ดอีกตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เติร์ดยังเจ็บปวดไปกับคนๆนั้น ถือว่าเติร์ดยังให้ความสำคัญกับคนๆนั้นอยู่นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมมี FWB 6 คนครับ รักความอิสระไม่ต้องผูกมัดกับใคร ครอบครัวผมที่อยู่ต่างประเทศ บอกว่าไทยผ่านสมรสเท่าเทียมแล้ว อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่รักดูแลกันไปนานๆแต่เขาไม่รู้ว่าภาพที่ลงในโซเชียล เป็นคนละคนหมดเลย

04 ต.ค. 2024

ผมมี FWB 6 คนครับ รักความอิสระไม่ต้องผูกมัดกับใคร ครอบครัวผมที่อยู่ต่างประเทศ บอกว่าไทยผ่านสมรสเท่าเทียมแล้ว อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่รักดูแลกันไปนานๆแต่เขาไม่รู้ว่าภาพที่ลงในโซเชียล เป็นคนละคนหมดเลย

ผมมี FWB 6 คนครับ รักความอิสระไม่ต้องผูกมัดกับใคร ครอบครัวผมที่อยู่ต่างประเทศบอกว่าไทยผ่านสมรสเท่าเทียมแล้ว อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่รักดูแลกันไปนานๆแต่เขาไม่รู้ว่าภาพที่ลงในโซเชียลเป็นคนละคนหมดเลย ผมควรจะเชื่อตัวเอง หรือ ตกลงกับคนใดคนนึงไปเลยดีครับ? “คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหาเเม่อยากให้เเต่งงาน เพราะสมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว เเต่เรายังไม่พร้อมเพราะมีความสัมพันธ์เเบบ FWB อยู่ 6 คน โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมใช้ชีวิตเเบบโสดเเต่ไม่โสด ผมมี FWB เป็นผู้ชาย ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 6 คน เเต่ทั้ง 6 คนเป็น Long term หมดเลย เป็น 1-5 ปี ไม่มีระยะสั้นแบบคืนเดียว วันไนท์ จะหลากหลายเดือน หลายปีไปเลย เเล้วตอนนี้มันมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเพิ่งจะผ่าน ทีนี้ผมก็เลยโดนกดดันมาจากที่บ้านนิดนึงว่า “แต่งงานได้เเล้วมั้ย?” ซึ่งปัญหานี้คงเป็นปัญหาที่ทุกคนอาจจะมองไม่เป็นเรื่องใหญ่ ผมอยู่เมืองไทยคนเดียว ครอบครัวอยู่ต่างประเทศหมดเลย ตั้งเเต่เด็ก ๆ เเล้ว คือทางครอบครัวผมเขาค่อนข้างเป็นห่วงในการใช้ชีวิตคนเดียว คุณเเม่เเละก็ครอบครัวผมเขาเข้าใจว่าผมมีแฟนคนเดียวมาตลอดเลย เพราะว่าเวลาผมถ่ายรูปลงโซเชียลเนี่ย ผมก็ถ่ายติดแขน ติดมือ ไม่ได้แบบให้เห็นหน้าหรือเห็นตัว ทีเนี่ยคุณเเม่เขาเข้าใจว่าเราคบมานานเเล้ว เเบบมีเป็นตัวเป็นตนแล้ว เราก็ไม่ได้ปฎิเสธเขาเเต่ก็ไม่ได้บอกเขาตรง ๆ ว่าเรามีหลายคนหรือมีคนเดียว ทีนี้เเม่เขาก็โทรมาในวันที่แบบกฎหมายผ่านจริง ๆ เมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว เขาก็คุยจริงจังเลยว่า “เเต่งงานได้มั้ย? เเต่งงานให้เเม่ได้มั้ย?” เพราะว่าตลอดชีวิตผมเนี่ยเเม่เขาตามใจผมมากมาตลอด อยากได้ไรได้ อยากทำอะไรทำ อยากเรียนที่ไหนอยากทำอะไรได้ตลอด ไม่เคยขัดใจเลย เเล้วก็ไม่เคยขออะไรจากผมเลย เพราะเขารู้สึกว่าเขาเป็นเเม่เขาต้องให้ ไม่ใช่หน้าที่เขาที่ต้องขอจากเรา ทีนี้เเม่ผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมาเข้าปีที่ 6 แล้วครับ เเล้วเราไม่รู้ว่าเขาจะอยู่กับเราอีกได้นานแค่ไหน เขาก็เข้า รพ. อาการหนักตลอด 6 เดือนครั้ง ปีละครั้ง ก็จะมีหนัก ๆ เข้า รพ.ตลอด เเล้วครั้งที่เขาตรวจเจอมะเร็งระยะสุดท้ายเนี่ย จังหวะนั้นที่เขาต้องเข้าผ่านตัด โอกาสรอดที่หมอบอกเราคือไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำว่าเเม่จะรอดออกมา ทีนี้จังหวะที่เเม่จับมือเราก่อนเข้าห้องผ่านตัดอะ สิ่งที่เเม่เขาพูดกับเราคือ “เขาเป็นห่วงเรา ไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว” เพราะว่าผมไม่มีพ่อตั้งเเต่เด็กเลย พ่อเขาเสียตั้งเเต่ตอนยังเด็ก มีเเม่คนเดียวมาตลอด เเม่เขากลัวเราอยู่คนเดียวไม่คนช่วยคิด ช่วยตัดสินใจในชีวิต เเล้วเรารู้สึกว่าตอนนั้นมันเป็นความกังวลของเขาเฉย ๆ เเต่ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกว่าเขาต้องการจริง ๆ ว่าอยากให้เราเป็นฝั่งเป็นฝาจริง ๆ ในเมื่อกฎหมายบ้านเรามันทำได้ ผมก็มี FWB 1 ใน 6 คนนี้ที่คบกันมาตอนนี้ปีที่ 5 แล้วครับ อยู่กันมาปีที่ 5 เป็นคนที่อยู่กันนานที่สุด เเล้วก็รู้สึกว่ารู้ใจกันทุกอย่าง คุยกันทุกเรื่อง เเต่เเค่เราไม่ได้แบบว่าผูกมัดกันเฉย ๆ เขาก็พูดมาเมื่อหลายเดือนที่เเล้วอะ ตอนเราดูข่าวว่าสภาเขาโหวตเรื่องสมรสเท่าเทียมกัน เขาก็หันมาพูดกับเราจริงจังเลยเเบบจริงจังมากเลยว่าแบบ “เออเนี่ย จริง ๆ เเล้วอ่ะเขาคิดกับเราไปถึงขั้นนั้นเลยนะ ที่วันนึงจะเเต่งงานอยู่ด้วยกันไรเงี้ย เเต่เเบบเขาอ่ะ เห็นว่าเราอ่ะยังไม่พร้อมที่จะเป็นแบบนั้นได้จริง ๆ เขาก็เลยรู้สึกว่า เขาไม่กล้าขอให้เราอะแบบผูกมัดกับเขา เขากลัวว่าเขาจะเสียเราไปด้วย” ปัญหามันอยู่ที่ความรู้สึกของเรา ด้วยความที่เเม่เราตามใจเรามาก เราใช้ชีวิตเเบบโดนตามใจตลอดทีเนี้ยะ เราถูกสอนมาให้ซื่อสัตย์กับตัวเองมาก ๆ ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยโกหกแม่เลย เราต้องการอะไรไม่ต้องการอะไรในชีวิตเราเรารู้ตลอด เราทำตามที่เราต้องการมาตลอด ทีเนี้ยเรารู้สึกว่าตอนนี้มันเป็นทางที่เราต้องเลือกระหว่างทำในสิ่งที่แม่ขอ ซึ่งแม่ไม่เคยขอเลย กับสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำจริง ๆ ก็คืออยากอยู่เป็นชีวิตโสดอย่างงี้ต่อไป มันเป็นทางที่ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าเลือกทางไหนอ่ะผมก็ต้องเสียใจแน่ ๆ แต่ผมจำเป็นต้องเลือกซักทางนึง ซึ่งผมตัดสินใจไม่ได้จริง ๆ ใจผมมันไปทางไม่แต่งอยู่เเล้วแหละ เเต่ก็อยากทำให้เเม่สบายใจ เลยอยากถามพี่ ๆ ว่า ในความคิดเห็นของพี่ ๆ ควรเลือกทางไหนดีครับ?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในกรณีนี้เราสามารถคุยกับเเม่ตรง ๆ ว่าการที่บีไม่ได้เเต่งงาน ไม่ได้หมายถึงว่าบีจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้อย่างดี เข้าใจว่าเเม่เป็นห่วง ในอดีตบีอยู่คนเดียวได้เเล้วอยู่ได้อย่างดีด้วย มันก็น่าจะวัดได้ประมาณนึงเเล้วว่าบีเป็นคนดูเเลชีวิตตัวเองที่แบบได้ดี ถ้าจะคิดเเค่ว่าการเเต่งงานมันจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ทุกวันนี้มันไม่ใช่ทุกคู่รักคู่สมรสจะจบกันด้วยดี บางทีการเเต่งงานมันยิ่งนำพาปัญหามาเกิดขึ้นเลย แต่ตอนนี้มันมีเงื่อนไขที่คุณเเม่ป่วย การที่บอกว่าเเม่ตามใจมาตลอดเเล้วกับเรื่องนี้ที่เขาอยากเห็นมันสักครั้งก่อนเขาไป ถ้าเป็นพี่ที่รักเเม่มาก เเล้วเป็นข้อเดียวที่เขาอยากเห็นนะ พี่ก็ทำได้นะ พี่รู้สึกถ้าเเต่งเพื่อให้เเม่สบายใจก่อนเขาเสีย ในมุมถ้าพี่รักเเม่คนนี้นะ พี่ทำได้ แต่ก็เเต่งกับคนที่เรารักนะ เเล้วเรื่องหลังจากนั้นค่อยว่ากัน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่าการเเต่งงานหมายถึงชีวิตมั่นคง ถึงบีไม่เเต่งงานก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีใคร การไม่เเต่งงานไม่ได้บ่งบอกว่าไม่มีคู่ชีวิต การไม่มีคู่ชีวิตไม่บอกว่าบั้นปลายชีวิตจะไม่มีใครดูเเล ไม่อยากให้ตัดสินใจเพียงเพื่อระยะสั้น การแก้ปัญหาระยะสั้นกับคุณเเม่พี่ว่ามีวิธีอื่น ถ้ามองระยะยาวพี่ว่าเสี่ยง ต้องคิดดี ๆ คิดยาว ๆ’ สุดท้าย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่อยากให้มองว่างานเเต่งงานเป็นเเค่อีเว้นท์นึง การทำให้เเม่สบายใจไม่น่าจะใช้การโกหก โกหกเพื่อความสบายใจมารู้ทีหลังพังกว่าทั้งนั้นแหละ ก็สื่อสารกับเเม่ตรง ๆ ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถหาใครซ้กคนมาเป็นคู่ชีวิตจริง ๆ เเต่ไม่ต้องห่วงเลือดของเเม่ที่อยู่ในตัวเราอ่ะ จะทำให้เราเป็นคนที่มีสติเเละดีที่สุดเเละไม่อยากเเต่งวันนี้เพื่อไปเลิกวันหน้า การแต่งงานไม่ใช่รับใบปลิว พี่ว่าคุณเเม่เองคงไม่มีความสุข ถ้ารู้ว่าสิ่งที่คุณเเม่อยากได้ เป็นการฝืนความรู้สึกของลูก เพราะการเเต่งงานคือความสุขของลูกเป็นที่ตั้ง ในอนาคตถ้าเจอใครที่จริงจัง เราก็คงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต เราอยากได้คนจริงใจก็อย่าเอาความหลายใจเข้าไปแลก เเต่ทั้งหมดบีเป็นคนตัดสินใจ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แฟนหนูไม่กลับบ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะเขาไปอยู่กับเจ๊โมเดลลิ่ง หาเด็ก N ให้ลูกค้า ล่าสุดเจ๊ให้รถแฟนหนูใช้ 1 คัน พอแฟนกลับมาเอาของที่บ้านแต่ละที ทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากให้เขาชัดเจน หนูนอนรอเค้ามาทุกคืน

30 ก.ย. 2024

แฟนหนูไม่กลับบ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะเขาไปอยู่กับเจ๊โมเดลลิ่ง หาเด็ก N ให้ลูกค้า ล่าสุดเจ๊ให้รถแฟนหนูใช้ 1 คัน พอแฟนกลับมาเอาของที่บ้านแต่ละที ทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากให้เขาชัดเจน หนูนอนรอเค้ามาทุกคืน

แฟนหนูไม่กลับบ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะเขาไปอยู่กับเจ๊โมเดลลิ่งหาเด็ก N ให้ลูกค้า ล่าสุดเจ๊ให้รถแฟนหนูใช้ 1 คัน พอแฟนกลับมาเอาของที่บ้านแต่ละทีทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากให้เขาชัดเจน หนูนอนรอเค้ามาทุกคืน จะเดินออกไปแต่เค้าก็บอกยังแคร์หนูอยู่ ให้เชื่อใจ “คุณมิว (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 ก.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนติดเจ๊ที่เป็นโมเดลลิ่งหาเด็กเอ็น ไม่กลับบ้านเลย โดย “คุณมิว(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้แฟนหนูเขาอายุ 29 ปี เราคบกันมาเข้าปีที่ 3 เเล้ว ปัญหาที่อยากมาปรึกษาพี่ๆวันนี้ คือเหมือนแฟนหนูไปติดเจ๊คนนึงที่เป็นโมเดลลิ่งหาเด็กเอ็น เจ๊อายุประมาณ 35-36 ปี ซึ่งเจ๊เขามีแฟนอยู่เเล้วด้วย เเล้วเขาไม่กลับบ้านเลย ก่อนที่เขาจะรู้จักเจ๊คนนี้ก็รู้จักจากรุ่นพี่คนนี้ เพราะรุ่นพี่คนนี้เขาฝากงานให้ ตั้งเเต่ที่เขาไปรู้จักรุ่นพี่คนนี้ เขาเปลี่ยนไปมากเลยทั้งนิสัย การใช้ชีวิต ทุกอย่างเขาทุ่มให้ทางนู้นหมดเลย คือเหมือนเขาลืมไปเลยว่าเขามีหนูอยู่ที่บ้าน เวลาเขาเข้าบ้าน สายตาหรือหน้าตาเขา เหมือนไม่อยากจะอยู่บ้าน ใจเขาเหมือนอยากจะไปอยู่เเต่ตรงนั้น พอเเม่เขาโทรหาเขาบอกเเม่ว่า ตอนนี้เขาอยู่ กทม.เขามากับรุ่นพี่เขา หนูเลยโทรหาเขาเเต่เขาไม่รับสายหนูเลย ไม่ตอบ ไม่ทักหาหนูเลย หายไปจะเป็นเดือนเเล้ว เเต่เขาจะมีการเเวะมาบ้าน มาแปป ๆ เเล้วก็ออกไป หนูรู้เพราะว่าตอนแรกเจ๊คนนี้เขาไลน์มาหาเเฟนหนูในโทรศัพท์อีกเครื่องนึง เขาบอกว่าอยู่ไหน เเล้ววันนั้นเป็นวันที่รุ่นพี่เขาโทรมาตอนเที่ยงคืนว่าให้พาไปทำธุระที่ประจวบหน่อย เเล้วเป็นจังหวะตรงกันที่เจ๊คนนั้นเขาทักมาพอดี พอเขาออกไปหนูก็เลยลองโทร ลองทักหา เขาก็ไม่ตอบไม่อ่านจนเช้าถึงโทรมาหาเเล้วบอกว่า ไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกไป เอาไว้ในรถ เเต่ตอนนั้นหนูก็ไม่ได้เอะใจ มีวันนึงเขาขับรถเจ๊มารับหนูไปส่งที่ทำงาน หนูรู้เพราะว่าไปส่องเฟซเจ๊เขา หนูเข้าไปส่องก็งงว่าแฟนไปติดอะไรเขา เขาก็เหมือนคนบ้าน ๆ ไม่ได้มีเยอะมีมาก เเล้วหน้าเฟซบุ๊กเขาเขียนว่าจัดหาเด็กเอ็น , PR , จัดเลี้ยงงี้ เเต่พอเขาเข้าบ้านก็จะชอบมีเเว่น วันต่อไปมีเสื้อ มีรองเท้าเเต่ไม่ใช่รุ่นเเบรนด์อะไร พอหนูถามเขาว่าได้มาจากไหน เขาบอกเอามาจากรุ่นพี่ให้มา วันนั้นที่เขาเอารถเจ๊มารับหนู เขาบอกว่าเขาจะไปนั่งเล่นที่ห้องรุ่นพี่คนนี้ เเต่พอตอนเช้ามาเขาดันเอารถเจ๊มารับหนู หนูเลยคาใจ วันที่เจ๊ให้รถมาใช้ เขาก็ทักหาเจ๊ว่าผมสัญญาว่าผมจะไม่ดื้อ เเล้วก็อ้อน ๆ ไป เเล้วเจ๊ก็เรียกเเฟนหนูว่า “อ้วน” เขาก็คอลหาเเฟนหนูด้วย เเล้วถามแฟนหนูว่าจะกินอะไรมั้ย? แฟนหนูก็ตอบว่าพี่ก็รู้ ผมกินอะไรที่พี่ชอบ วันนั้นหนูทะเลาะกันหนักมาก เเต่เเฟนหนูเขาไม่ยอมรับ บอกว่าไม่มีอะไร เขาบอกว่าถ้าจะได้งานจากเขาก็ต้องอ้อนเขาหน่อย เขาไม่ได้ทำงานเอ็น เขาเเค่แบบรับส่งเด็กเอ็นเเล้วก็หาเด็กเอ็นให้ลูกค้า เขาก็ได้ค่าหัวจากเจ๊คนนี้ ก่อนหน้านี้หนูเเอบถ่ายรถเจ๊ไว้ เลยแกล้งบอกแฟนว่า งั้นหนูจะส่งข้อความหาแฟนเจ๊ว่าเขารับรู้ใช่มั้ยว่าเจ๊ให้เอารถมาใช้? เเล้วเขาก็โวยวายใหญ่เลย บอกว่า ถ้าอย่างงี้ ก็เหมือนทำชีวิตเขาพัง ทำงานเขาพัง ทุกสถานการณ์มีเจ๊ตลอดเลย ขนาดไปคอนเสิร์ตเขาบอกหนูว่าไม่ได้ไปด้วยกัน เเต่หนูเห็นเจ๊เขาลง TikTok อยู่คอนเสิร์ตเดียวกัน เจ๊เขารู้ว่าแฟนหนูมีแฟนอยู่เเล้วเพราะหนูเคยทักไปหาเจ๊ เจ๊เขาก็บอกว่า “ก็คุยเเค่เรื่องงาน ถ้าข้องใจหรือไม่สบายใจอะไร ออกมาคุยกันมั้ย จะได้สบายใจ” หนูไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะหนูไม่มีใคร เพื่อนก็ไม่มี หนูอยากออกไปเที่ยวหรือทำไรก็ไม่ได้เลย เพราะหนูมาจากต่างจังหวัด มาทำงานที่หัวหิน เลยมาอยู่กับเขา หนูก็รักเขานะ หนูก็คุยกับเขาดี ๆ เพื่อที่อยากจะให้เขามาคุยกับหนู เเล้วเขาบอกว่า เชื่อใจเขาเถอะ ว่าเขาไม่มีอะไรจริง ๆ เขาบอกให้เชื่อเขาเเต่เขาไม่ยอมกลับมาคุยที่บ้านเลย คำพูดกับการกระทำเขามันสวนกันมาก ๆ เลย หนูก็เลยบอกว่า มีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า อะไร สงสัยน่าจะไม่อยากอยู่ หนูก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า หนูควรทำยังไงต่อดีคะ?’ ซึ่งดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ไม่ต้องหาคำตอบว่าเขาจะมีหรือไม่มี เพราะปัจจุบันอยู่แล้วไม่มีความสุข ตัดสินคนที่ปัจจุบันเเละการกระทำที่เขาทำกับเรา ไม่ต้องหาคำตอบว่าต้องรอให้เขามีคนเเล้วเราจะเลิกกัน คนเราสามารถเลิกกันได้หลายเหตุผลเลย การที่เราอยู่เป็นฝ่ายรอให้เขากระทำอย่างเดียว ชีวิตเรามันไม่น่าสงสารหน่อยหรอ ชีวิตเราเราน่าจะเป็นฝ่ายเลือกได้เองบ้างนะ เราเลือกตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีความสุขสิ รักตัวเองหน่อย กอดตัวเองหน่อย อายุเเค่นี้เองต้องมีความสุขกับชีวิตสิ เเล้วถ้าเขารักหนูเขาจะพยายามทำทุกอย่างให้หนูกลับมาเอง เเต่กลับมาเเล้วต้องไม่ใช่เเบบเดิมนะ ชีวิตเราเรามีสิทธิ์เลือก ถ้ากลับบ้านได้กลับไปเเล้วสร้างตัว หาคนที่เขาเห็นค่าในตัวเรา เป็นกำลังใจให้นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

วันเริ่มต้นสัปดาห์ของแต่ละคน คือวันอะไรกันคะ? สำหรับหนูคือ "วันจันทร์" แต่น้องสาวหนูบอก "วันอาทิตย์" พอถามคนรอบตัวเสียงแตก บางคนบอกวันจันทร์ บางคนบอกวันอาทิตย์ ยังไงกันแน่??

27 ก.ย. 2024

วันเริ่มต้นสัปดาห์ของแต่ละคน คือวันอะไรกันคะ? สำหรับหนูคือ "วันจันทร์" แต่น้องสาวหนูบอก "วันอาทิตย์" พอถามคนรอบตัวเสียงแตก บางคนบอกวันจันทร์ บางคนบอกวันอาทิตย์ ยังไงกันแน่??

“คุณอ๊อฟ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [25 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาวันเริ่มต้นสัปดาห์ โดย “คุณอ๊อฟ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคุยกันกับน้องสาว สมมติคุยกันว่าวันอาทิตย์นี้ เดี๋ยวเราไปไหนกันดี? วันอาทิตย์ของหนูยังเป็นอาทิตย์นี้อยู่ เพราะสำหรับหนูวันจันทร์คือวันแรกของสัปดาห์ แต่น้องสาวใช้วันอาทิตย์คือวันแรกของสัปดาห์ เพราะเขาดูจากปฏิทิน วันแรกจะอยู่ซ้ายสุด และตอนท่องสีประจำวันเริ่มต้นด้วยวันอาทิตย์ สีแดง มันไม่ตรงกัน และก็มีข้อถกเถียงกันบ่อยมาก หนูเลยอยากรู้ว่าคนทั่วไปคิดกันว่าวันไหนคือวันแรกของสัปดาห์?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หัวหน้างานมาจีบหนูก่อน จากนั้นเราก็รู้สึกดี รู้ตัวอีกที สายปริศนาโทรมาที่ทำงาน เป็นภรรยาเขา หนูตกใจ เป็นมือที่สามไม่รู้ตัว เลยลาออก หัวหน้าลาออกด้วย หนูได้งานใหม่ แต่เขายังไม่ได้งาน ทักมาขอยืมเงิน 2-3 รอบ

27 ก.ย. 2024

หัวหน้างานมาจีบหนูก่อน จากนั้นเราก็รู้สึกดี รู้ตัวอีกที สายปริศนาโทรมาที่ทำงาน เป็นภรรยาเขา หนูตกใจ เป็นมือที่สามไม่รู้ตัว เลยลาออก หัวหน้าลาออกด้วย หนูได้งานใหม่ แต่เขายังไม่ได้งาน ทักมาขอยืมเงิน 2-3 รอบ

หัวหน้างานมาจีบหนูก่อน จากนั้นเราก็รู้สึกดี รู้ตัวอีกที สายปริศนาโทรมาที่ทำงานเป็นภรรยาเขา หนูตกใจ เป็นมือที่สามไม่รู้ตัว เลยลาออก หัวหน้าลาออกด้วย หนูได้งานใหม่แต่เขายังไม่ได้งาน ทักมาขอยืมเงิน 2-3 รอบ พอหนูทวงไป สองสามีภรรยานั้นบอกว่า "จะฟ้องหนูในฐานคบชู้" “คุณตาล (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 ก.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นมือที่ 3 โดย “คุณตาล (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟน ซึ่งฝ่ายชายเป็นหัวหน้าที่เคยทำงานอยู่ด้วยกัน เเล้วทีนี้เขาได้เข้ามาจีบ จีบกันไปมา ๆ ศึกษาดูใจกันประมาณ 2 เดือน ก็เลยตัดสินใจคบกับเขา ตอนนั้นยังไม่ได้ทราบว่าฝั่งผู้ชายมีภรรยาอยู่แล้ว เพราะเขาก็ประกาศปาว ๆ ที่ทำงานว่าโสด ไม่มีครอบครัวใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนเเรกหนูไม่ทราบว่าเขาจดทะเบียนสมรส มารู้หลัง ๆ ก็คือตอนที่จะตัดความสัมพันธ์กับเขาเเบบจริงจัง เเล้วพอคบกับเขามาซักพักนึง เขาก็คุยเหมือนเรื่องจะไปออกรถกับบ้านเขา เขาก็กลับบ้านของเขาบ่อย ๆ เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร เราก็ทำงานของเราอยู่ปกติ พอซักพักนึง มันมีสายโทรเข้ามาในระหว่างที่เขากลับมา พอผู้หญิงโทรเข้ามา เขาก็บอกว่า “ไม่รู้หรอว่าฝั่งผู้ชายเขามีครอบครัวอยู่เเล้ว” เราก็ช็อค เลยจะพยายามตัดความสัมพันธ์ตั้งเเต่ตอนนั้น ช่วงเเรกก็ไม่ได้กลับมาบ้านตัวเอง พยายามหนีไปนอนที่อื่น ไปเช่าโรงเเรมบ้าง ไปนอนบ้านเเม่บ้าง เเต่ก็ได้ยินข่าวว่าเขาตามมา เหมือนจะตามง้อ ก็เป็นอีหรอบเดิมก็เลยยอมคุยกับเขา ฟังเรื่องราวเขาก่อน เพราะเหมือนต้องทำงานด้วยกันอยู่เเล้ว เวลาไปทำงานมันต้องเจอกันอยู่เเล้ว เเต่ตอนเย็นก็พยายามไม่กลับไปที่ที่เราอยู่คนเดียว ไม่ให้เขาคุยกับเรา 2 ต่อ 2 ได้ มันก็มีช่วงที่เขาให้เพื่อนที่ทำงานมาคุยกับเรา ประมาณว่า “ขอคุยหน่อย มีเรื่องต้องเคลียร์ เราเข้าใจผิด” เราก็เลย อ่ะถ้างั้นก็ลองฟังดูว่าเรื่องเป็นอะไรยังไง เขาก็มาอีหรอบประมาณว่า “จะเลิกกันนั่นนู่นนี่โน่น” ตามสเต็ปผู้ชาย เหมือนพยายามง้อเรากลับไป เราก็เลยใจอ่อนเเล้วก็เชื่อคำพูดเขาด้วย ช่วงที่อยู่ด้วยกันมา ช่วงที่ตัดสินใจกับเขาต่อ ฝั่งผู้หญิงภรรยาเขาก็ไม่ได้โทรมา ก็เลยคิดว่าสงสัยเป็นเรื่องจริง ฝั่งผู้หญิงน่าจะไม่ยอมจบรึเปล่า? จนมีวันนึงที่เขาก็มาอยู่บ้านของหนู เเล้วก็มีผู้หญิงโทรมาถามว่า “ยังอยู่ด้วยกันหรอ?” ผู้ชายเลยส่งข้อความในโทรศัพท์ของหนูไปประมาณว่า “ก็คุยกันเเล้วไงว่าเลิกกันเเล้ว” หนูก็เลยเข้าใจว่าเลิกกันเเล้วจริง ๆ เเต่ทีนี้ตั้งเเต่รู้มา ก็พยายามที่จะปลีกตัวเเละตัดความสัมพันธ์มาโดยตลอด เเต่มันมีเรื่องเงิน เรื่องทอง ซึ่งตอนนั้นข่าวลือที่ว่าหนูคบกับเขามันก็เริ่มเเพร่กระจายในหมู่หัวหน้างานของเขา พอหัวหน้างานของเขารู้ รู้จากภรรยาของเขาที่โทรไปบอก โทรไปแจ้งฝั่งหัวหน้างาน เขาก็โดนเรียกเขาเข้าไปคุยว่าให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้ซะ เขาก็เหมือนไม่ยอมรับ บ่ายเบี่ยงไป พอไม่ยอมรับปุ๊บ เหมือนหนูมันอายไปแล้ว มันทำงานไม่ได้ เพราะหนูก็เสื่อมเสียชื่อเสียงในตรงนี้ไปด้วย ก็เลยตัดสินใจที่จะลาออก บวกกับมีปัญหาเรื่องงานนิดหน่อย พอลาออกปุ๊บเขาก็ลาออกตาม หนูไม่เคยเช็คโซเชียลเขาเลย ปกติเป็นคนทำงานก็คือทำงาน หลุดอยู่ในโลกงาน สนใจเเต่ชีวิตตัวเอง ชีวิตครอบครัว กับผู้ชายพูดตรง ๆ ว่าไม่ได้โฟกัสเลย พอหลุดเข้ามาก็เป็นแบบนี้เลย เเล้วมันไม่ได้เป็นเเค่เคสเขา ปกติคบเพื่อนผู้ชายเยอะอยู่เเล้ว พอมีข่าวนี้หลุดรอดไป เหมือนฝั่งเเฟนของเพื่อนผู้ชายเขาก็ไม่ไว้ใจเรา ถึงขั้นโทรมาที่ทำงานใหม่ว่าทำไมต้องไปกินข้าวตอนกลางคืนกับเพื่อนผู้ชายที่เป็นเเฟนเขา หนูก็คุยกับฝั่งผู้หญิงเเล้วเขาก็บอกว่า “อ่าว เเล้วคุณออกจากที่ทำงานเก่าเพราะอะไร” หนูก็โมโหละบอกว่า “อย่าเอาความผิดพลาดครั้งเดียวของชีวิตชั้น มาตัดสินชีวิตคนทั้งชีวิต” เลยทำให้หนูรู้สึกว่าครั้งเดียวมันเสียไปหมดเเม้กระทั่งเพื่อนที่คบมาประมาณ 4-5 ปี ระหว่างที่ลาออกตามฝั่งผู้ชายเขาก็ไม่ได้หางานจนกระทั่งปัจจุบัน ส่วนหนูได้งานทำมาเเล้ว พอได้งานทำมาเเล้วฝั่งเขาก็มายืมเงินหนูตั้งเเต่ช่วงเเรก ๆ ยืมเป็นเรทไม่เยอะ ไม่ถึงหมื่น พอหลัง ๆ มาหลังจากที่ลาออกมา ไม่มีงานทำ เขาก็เลยโทรมายืมหนูอีกเรื่อย ๆ หนูก็สงสาร เพราะเขาส่งเเมสเสจพูดเหมือนไม่มีเงินกินข้าว เเล้วก็ไม่มีเงินค่ารถนั่นนี่โน่นของเขาเต็มไปหมด หนูก็เลยช่วยเขาไป พอนานเข้า ๆ หนูเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ละ เพราะว่าตอนที่เขามาหาที่ต่างจังหวัด พอเขากลับไปก็บอกว่าไม่อยู่กับฝั่งภรรยาเขาเเล้วนะ เเต่อาจจะต้องคุยกันเรื่องลูกไรงี้ เขากับฝั่งนู้นเขาก็บอกอยู่บ้านเดียวกันเเต่คนละชั้น ที่ฝั่งนู้นย้ายออกไม่ได้เพราะเกี่ยวติดพันธ์เรื่องลูก หนูก็เลยคิดประมาณว่าถ้าอย่างงั้น หนูเลยคุยกับเขาเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าเขาจะยืมเงินจะคืนได้เมื่อไหร่อะไรยังไง เเล้วมันก็มีช็อตนึงที่เขายืมเงินหนูไปเยอะมาก ซึ่งทำให้หนูเดือดร้อน พอเดือดร้อนหนูก็ทักไปถามเขา หนูโมโหมากเพราะหนูเพิ่งมารู้ว่าเขาไปเที่ยวกับภรรยาะขาที่ต่างประเทศ เเละหนูพยายามโทรมาผู้ชาย เเต่เขาปิดเครื่องไปแล้ว หนูก็เลยทักไปหาภรรยาเขาว่า “เห็นผู้ชายคนนี้มั้ย พอดีหนูติดต่อเขาไม่ได้ หนูต้องการให้เขาโอนเงินคืนจำนวนนี้ที่คุยกันไว้” ฝั่งผู้หญิงก็พิมพ์ด่าหนูฉ่ำมาก ประมาณว่า “ก็ให้ยืมเอง ก็ไปทวงกับเขาเองสิ จะมายุ่งอะไรกับชั้น ชั้นบอกชั้นเตือนเธอเเล้วว่าผู้ชายคนนี้เป็นยังไง” เเต่ทั้งที่เขาอยู่ด้วยกัน หนูก็เลยไม่ได้อ่านอะไรเยอะ หนูก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเเละบอกว่า “ดูเเลกันดี ๆ นะคะ แต่ถ้าติดต่อกันได้ก็รบกวนบอกผู้ชายโอนเงินคืนหนูหน่อย หนูมีธุระต้องใช้” พอเขากลับมาจากไปเที่ยวซักประมาณอาทิตย์นึงเขาก็ติดต่อกลับมา หนูก็เลยถามว่า “สรุปจะเอายังไง จะโอนคืนมั้ย” เขาก็บอก “โอนคืนเเต่ต้องขึ้นมาเอา ผมอยากเจอคุณครั้งสุดท้าย” หนูก็เลยยอมไปเจอเขาเเต่ก็ยังไม่ได้คืนเหมือนเดิม เพราะตอนไปเจอเขาก็มาง้อหนูอีก อ้างว่าที่ไปเที่ยวก็เพราะลูก ซึ่งตอนนั้นหนูก็ใจอ่อน เเล้วก็กลับไปคุยกับเขาเรื่อย ๆ ละมันเหมือนเราโง่ซ้ำซอก กลับไปอีหรอบเดิม มันมีหลายช็อตที่เขาทะเลาะกันกับภรรยาว่า “ก็ผมไม่ได้เลือกคุณตั้งเเต่เเรกไง เเล้วผมก็ไม่ได้ให้ความหวังคุณ ที่อยู่กับคุณก็เพราะลูก อยากทำให้ครอบครัวมันเป็นพ่อแม่เเละลูก เเต่ถ้าผมไปให้ความหวังคุณผมก็ขอโทษ” เขาก็พูดกับภรรยาเขาประมาณนี้ เเต่ตอนนี้หนูกับเขาตัดสัมพันธ์เหมือนไม่ได้คุยกันซักระยะนึง หลายเดือนเเล้ว หนูก็เลยทักไปทวงเขาใหม่ พอไปทวงเขาใหม่เขาก็เหมือนประมาณว่าไม่ยอม จะให้ภรรยาเขาฟ้องชู้หนูกลับมา หนูก็บอกเขาว่าถ้ายังไม่มีความคืบหน้าอะไรใด ๆ หนูจะขอดำเนินทางกฎหมายนะ เพราะหนูก็ไม่ยอมแล้ว ห็ขู่เขาไป เเต่ที่จริงในใจหนูไม่ได้ทำแบบนั้นหรอก ในใจก็รู้สึกผิดต่อภรรยาของเขาด้วย ก็เลยคิดว่าอีเงินก้อนนี้อ่ะเหมือนจะให้เขาไปเลย ตอนนี้หนูปรึกษาฝั่งทนาย เขาก็บอกว่ามันไม่เหี่ยวกัน เราก็พยามตัดความสัมพันธ์มาโดยตลอด ก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจทั้งสามคนว่า หนูควรจะปล่อยไปเลยดีมั้ย หรือว่าหนูควรต้องทำยังไงดี?’ ซึ่งดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม) ก็ได้ให้คำปรึกษาว่าไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ยกให้เขาไปเลย ก็ถ้าฟ้องก็ต้องจ่ายมากกว่ายอดที่จะได้คืน โอกาสได้คืนคือต้องไปฟ้องร้องอย่างเดียวโดยที่เราไม่รู้ด้วยว่าจะชนะมั้ยด้วยซ้ำ เราเจออย่างงี้มันก็เเค้น เเต่ถ้าเราเดินสู้ต่อไปอ่ะมีโอกาสชนะมั้ยมันยากไง ถ้าเเพ้กลายเป็นเเค้นหนักคูณ 2 เข้าไปอีก เงินที่เสียไปเสียดายมั้ย เสียดาย เข้าใจเลย เเต่มันคือค่าโง่ที่ต้องจ่าย โง่มากจ่ายมาก โง่น้อยจ่ายน้อย เขามาเอาหลายรอบเเปลว่าครั้งเเรกก็เข็ด จนมีครั้งต่อไป ๆ ฉะนั้นพี่รู้สึกว่าเงินที่เสียไป ซื้อผู้ชายเลว ๆ ให้ออกไปจากชีวิตยกให้มันไป คุ้มกว่าไปฟ้องร้องมัน ถ้ามองอีกมุมคือเป็นบทเรียนให้ชีวิต เเละจำสิ่งนี้ไว้เป็นบทเรียน ต่อให้คบใคร เรื่องเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ครั้งหน้าให้ระวัง คิดซะว่าบทเรียนนี้ทำบุญเเละก็ซื้อประสบการณ์ให้ตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อังคารคลุมโปง RECAP

เรื่องเล่าจาก พีค V3RSE 'เงาในกระจก' I อังคารคลุมโปง X V3RSE [ 1 ต.ค. 2567]

05 ต.ค. 2024

เรื่องเล่าจาก พีค V3RSE 'เงาในกระจก' I อังคารคลุมโปง X V3RSE [ 1 ต.ค. 2567]

‘คุณพีค V3RSE‘ ได้มาเล่าเรื่อง ‘เงาในกระจก’ เป็นประสบการณ์สุดหลอนที่เจอร่างดำ ณ ห้องพักโรงเเรมเเห่งหนึ่ง ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (1 ตุลาคม 2567) ให้ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม‘ ฟัง จะขนลุกขนาดไหนนั้น ไปอ่านพร้อมกันเลย! คุณพีคเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7-8 ปีที่เเล้ว ตนเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนดนตรีในกรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ก็จะเข้าพักที่โฮสเทลเป็นประจำ เเต่มีอยู่สัปดาห์หนึ่ง พ่อแม่ของตนมีธุระที่กรุงเทพฯ จึงตกลงกันว่าจะไปนอนที่โรงแรมด้วยกัน จากนั้นก็ได้เดินทางมาที่กรุงเทพฯพร้อมกัน เมื่อมาถึงโรงเเรม คุณพีคก็รู้สึกได้ถึงความเก่า คาดว่าโรงเเรมนี้น่าจะมีอายุมากเเล้ว เมื่อเข้าเช็คอิน คุณเเม่ก็ได้กุญเเจห้องหมายเลข 715 ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปห้องพักตนก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร จนเดินมาถึงหน้าห้องพักคุณพีคก็รู้สึกอึดอัด ไม่อยากอยู่ที่นี่ รู้สึกใจหวิว ๆ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง เเต่คุณพีคก็ไม่ได้อยากทำตัวเรื่องมากกับพ่อเเม่ เมื่อเปิดประตูเข้าไป จู่ ๆ ก็รู้สึกจุกหน้าอก หายใจไม่ออก และสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เเต่ก็พยายามไม่คิดอะไร คิดว่านอนกับพ่อเเม่คงไม่มีอะไร จึงเข้าห้องไปเก็บของในห้อง เมื่อเสร็จเเล้วออกไปกินข้าวข้างนอก และกลับห้องมาประมาณ 3-4 ทุ่ม ตนก็ต้องรีบนอนเพราะมีเรียนดนตรีตอนเช้า เมื่อหลับไปสักพัก คุณพีคก็ตื่นขึ้นเพราะอยากเข้าห้องน้ำ ช่วงนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่า ก็เห็นคุณพ่อนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงที่โซฟา จากนั้นก็เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว เเต่ในระหว่างนั้นคุณพีคก็ใส่หูฟังเล่นโทรศัพท์ไปด้วย สักพักหนึ่งก็มีเสียง ก๊อก ก๊อก ก๊อก! ตอนแรกตนก็ไม่เเน่ใจว่าเสียงนั้นมาจากคุณพ่อหรือมาจากในวิดีโอที่ตนกำลังดู ต่อมาก็มีเสียง ก๊อก ก๊อก ก๊อก! มาอีกครั้ง ต่อมาก็มีเสียงเหมือนทุบประตู ปึ้ง ปึ้ง ปึ้งง!! เเล้วก็มีเสียงตะโกนเรียก พีค! ตนก็ได้ตะโกนถามเพราะคิดว่าเป็นเสียงพ่อว่า “พ่อ จะเข้าห้องน้ำเหรอ?” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เมื่อออกไปก็เห็นคุณพ่อนอนเล่นโทรศัพท์อยู่เหมือนเดิม จึงถามคุณพ่อว่า พีค : พ่อจะเข้าห้องน้ำเหรอ เห็นเมื่อกี้ไปเคาะประตู คุณพ่อ : เปล่า พ่อไม่ได้จะเข้า ทำไม? เมื่อคุณพีคได้ยินเช่นนั้น ก็คิดเเล้วว่าตัวเองโดนเข้าเเล้ว จึงใจดีสู้เสือเพราะไม่อยากทะเลาะกับเขา จึงรีบเข้านอน วันต่อมา พ่อแม่ของคุณพีคก็ได้ออกไปทำธุระ เเละคืนนี้คุณพีคต้องนอนคนเดียว เมื่อเรียนดนตรีเสร็จตั้งเเต่เวลาประมาณ 3-4 โมงเย็น เเต่ก็ยังไม่อยากกลับห้อง คิดว่าจะกลับทีเดียวตอนที่จะนอน เมื่อกลับห้องก็ได้ไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ในขณะที่กำลังอาบน้ำอยู่ก็มีเสียงเหมือนของแข็งขูดกับปูน! ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เเต่ในจังหวะที่ตนกำลังก้มหน้าสระผมก็เห็นเป็นเท้าคนดำ ๆ! ลอดผ่านช่องม่านข้างล่าง กำลังใช้เล็บยาวหนา ๆ จิกกับขอบอ่างอาบน้ำอยู่ดัง แก๊กก… แก๊กกก! คุณพีคพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด เเล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟันต่อที่อ่างล้างหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองในกระจกก็เห็นร่างสีดำนั้นอยู่ตรงเยื้องขวารูปร่างคล้ายผู้ชาย! ตนตกใจรีบวิ่งออกจากห้องน้ำทันที เเล้วรีบใส่เสื้อผ้า เก็บของออกจากห้อง เเต่ในขณะที่วิ่งออกมาประตูห้องน้ำยังเปิดอยู่ ร่างนั้นก็หายไปแล้ว เเต่ตรงพื้นที่ร่างนั้นยืนมันมีคราบอยู่คล้ายกับคราบเขม่าสีดำ ซึ่งเมื่อวานที่เข้าพักกับตอนเช้าก่อนไปเรียนยังไม่มีคราบนี้ จากนั้นก็คืนห้องออกจากโรงแรมทันที! เเล้วคุณพีคได้สืบเรื่องต่อโดยการเสิร์ชในออนไลน์ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น จนได้รู้ว่าโรงเเรมแห่งนี้เคยมีเหตุการณ์ไฟไหม้..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณคิงส์ 'ไปอยู่เป็นเพื่อนได้ไหม?' I อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 24 ก.ย. 2567]

24 ก.ย. 2024

เรื่องเล่าจากคุณคิงส์ 'ไปอยู่เป็นเพื่อนได้ไหม?' I อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 24 ก.ย. 2567]

ประเดิมสายแรกของรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (24 กันยายน 2567) กับ ‘คุณคิงส์’ ที่มาเล่าเรื่องราวขนหัวลุกกับเรื่อง ‘ไปอยู่เป็นเพื่อนได้ไหม’ เป็นเรื่องสุดหลอนที่เจอบนเกาะ ทำเอา ‘ดีเจเเนน’ เเละ ‘ดีเจเจมส์’ ขนลุกจนลูบเเขนไม่หยุด! เรื่องราวบนเกาะว่านั้นจะหลอนขนาดไหน ไปอ่านกันเลย! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากการที่คุณคิงส์และกลุ่มเพื่อนจัดทริปไปเที่ยวทะเลแบบฉุกละหุก โดยตกลงกันว่าจะไปเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน เพื่อนได้ติดต่อไกด์ไว้ เเละได้กันคุยว่าจะหาที่พักบนเกาะ 2 คืน หลังจากตกลงกันเรียบร้อยก็ออกเดินทาง เมื่อไปถึงเกาะก็กางเต็นท์นอนกัน มีการนั่งล้อมวงกันคุยกันเรื่องสัพเพเหระ หนึ่งในเรื่องที่ขาดไม่ได้คือเรื่องผี ในขณะที่เพื่อนผู้หญิงกำลังเล่าอยู่นั้น ก็มีเพื่อนชื่อนนท์พูดขึ้นมาว่า นนท์ : หึ้ย! หยุดก่อน คุณคิงส์ : ทำไม? กำลังเล่าได้ที่เลย นนท์ : ทำไมมีหมาไปวิ่งอยู่ในทะเล ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า ตอนแรกทุกคนก็มองไปที่ทะเล เเต่คุณคิงส์คิดว่าอย่าทักดีกว่า จึงเปลี่ยนเรื่องให้เพื่อนไม่สนใจเเล้วมาคุยกันต่อ แต่นนท์ก็ชี้ไปอีกครั้ง นนท์ : นั่นไง ๆ หมาวิ่งอยู่ คุณคิงส์ : จะไปวิ่งได้ไงเรือจอดอยู่ตรงนั้นก็ 2 เมตรกว่า ๆ ละ น้ำลึกขนาดนั้น นนท์ : วิ่งจริง ๆ นั่นน่ะ ทุกคนมองตามไปอีกครั้ง ปรากฎว่าไม่มีอะไร เเล้วไกด์ก็เดินมาบอกว่า ไกด์ : อย่าทักดีกว่าครับ เลิกเล่าแล้วไปพักผ่อนกันดีกว่าครับ ทุกคนมองหน้ากันจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ในขณะที่คุณคิงส์กำลังฟังเสียงคลื่น เคลิ้มกำลังจะหลับ สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินรอบ ๆ เต็นท์ เป็นเสียงคนเดินเหยียบทราย ซาบซ่าบบ ซาบซ่าบบ… คุณคิงส์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นเงายืนอยู่ข้าง ๆ เต็นท์ คุณคิงส์คิดว่าเพื่อนจะมาเอาอะไรหรือเปล่า เเล้วสักพักคนที่อยู่นอกเต็นท์ก็เอามือมาเเตะผ้าใบของเต็นท์เเล้วก็ค่อย ๆ เอามือลูบ 2-3 ครั้งดัง ครื้ดดด ครื้ดดดด~ จากนั้นก็ค่อย ๆ ก้มตัวลงมาเอาหน้าเตะอยู่ที่ผ้าเต็นท์! ซึ่งหน้ามันใหญ่กว่าคนปกติ คุณคิงส์ตกใจร้องเสียงหลง เเล้วหน้านั้นก็ดึงออกไปตามด้วยเสียงวิ่ง คุณคิงส์จึงปลุกเพื่อนออกไปดูข้างนอกด้วยกัน คุณคิงส์กับเพื่อนได้เดินรอบเต็นท์ ปรากฎว่าไม่พบร่องรอยอะไรเลย คุณคิงส์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เดินกลับมานอนต่อที่เต็นท์ เเต่ก่อนนอนรอบนี้ได้สวดมนต์เเผ่เมตตา พอกำลังจะนอนก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้สะอึกสะอื้น “ฮื้อออ… ฮื้ออ~“ คุณคิงส์ได้คิดในใจว่า ‘ผมไหว้พระเเล้ว สวดมนต์ เเผ่เมตตาให้เเล้ว ขออนุญาตนอนที่นี่เเล้วนะครับ อย่ารบกวนซึ่งกันเเละกันเลย’ แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป… เช้าวันถัดมามีฝนตกลมแรงมาก พอฝนซาก็ออกไปพักผ่อน ทำกิจกรรมเล่นกับเพื่อนสนุกสนาน จนกระทั่งตอนเย็นกลับมา หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ นนท์ก็นั่งก้มหน้าก้มตา คุณคิงส์จึงเอ่ยถามเพื่อเช็คว่าเพื่อนสบายดีหรือไม่ รวมทั้งเพื่อนคนอื่นก็ถามเพราะเห็นนนท์มีอาการแปลก ๆ เเต่นนท์ก็ไม่ตอบอะไรได้เเต่เงยหน้าขึ้นมาเเสยะยิ้มเเล้วก้มหน้าลงไป เพื่อนในกลุ่มเห็นว่าอาการแปลกเกินไป จึงตกลงช่วยกันสังเกตอาการเรื่อย ๆ แต่ในขณะที่คุณคิงส์กำลังจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ นนท์ก็เงยหน้าขึ้นมาหัวเราะ เเล้วก็วิ่งหายเข้าไปในชายป่าที่อยู่ริมเกาะ! ในตอนนั้นทุกคนตกใจมากเเล้วรีบวิ่งตามไป สักพักฝนก็ตกหนักลงมา ทำให้ตามหายากขึ้น จนผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ไม่ยังไม่เจอ คุณคิงส์ก็ได้ยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทาง “ผมขออนุญาตครับ ถ้าหากพวกทำอะไรผิดพลาดไปละก็ขอขมาครับ ถ้าพวกผมทำอะไรผิดไปเนี่ย พวกผมจะมาขอโทษอีกครั้งนึง เเต่ว่าตอนนี้ช่วยพวกผมหาเพื่อนหน่อยได้มั้ยครับ พวกผมขอร้องล่ะครับ” ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนร้อง โอ้ยย! โอ้ยยย ไม่ไกลจากที่คุณคิงส์เเละเพื่อน ๆ หา จึงรีบไปหาตามเสียงร้องนั้น ปรากฎว่าสิ่งที่เจอคือนนท์ในสภาพขาที่มีเลือดชุ่ม! จึงนำไปปฐมพยาบาล คุณคิงส์พยายามถามนนท์ว่าเกิดอะไรขึ้น เเต่นนท์ก็ได้เเต่เพ้อเเละตอบออกมาเป็นภาษาที่ทุกคนไม่เคยได้ยิน ฟังไม่ออก จนกระทั่งไกด์ได้พูดกับนนท์ 2-3 คำแล้วก็นิ่งไป เเละได้บอกกับทุกคนว่า “เพื่อนพวกคุณน่ะ น่าจะไปทำอะไรผิดที่ผิดทาง ไปลบหลู่อะไรเข้าเเน่ ๆ เพราะที่เขาพูดเมื่อกี้เป็นภาษายาวี เเล้วเขาพูดว่า… จะเอาไปอยู่ด้วย!” ทุกคนในที่นั้นตกใจเเละได้ขอขมาทันที สักพักไกด์ก็ได้ถอดเครื่องรางเอาไปคล้องที่คอนนท์ จนอาการเพ้อค่อย ๆ ดีขึ้นจนสงบไป … เช้าวันต่อมา ไกด์ได้พาทุกคนไปไหว้ต้นไม้ใหญ่เเถวนั้น เเละพูดว่า ”ถ้าหากพวกผมล่วงเกินไป ต้องขอโทษขอขมา“ หลังพูดจบนนท์ก็อาการดีขึ้น มีสติมากขึ้น เเละจากที่ฝนตกอยู่นั้นท้องฟ้าก็ค่อย ๆ โปร่ง เหมือนเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เเละไกด์ก็ได้พาทุกคนขึ้นเรือกลับ บนเรือไกด์ก็ได้พูดว่า ”ไม่ไปกังวลนะครับ พวกเราขอขมาเเล้ว“ พอกลับมาถึงกรุงเทพก็เเยกย้ายกันกลับ ... นนท์หายไป 2-3 วัน หลังจากนั้นก็ได้โทรหาคุณคิงส์ เเละได้บอกว่า “เมื่อคืนฝันแปลก ๆ ฝันว่าเดินไปที่เกาะที่พวกเราไปเที่ยวกัน เดินไปสักพักมีผู้หญิงออกมาหา หน้าตาสะสวย เดินยิ้มมา เเล้วจูงมือไปนั่งคุยกัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า ”ที่นี่สวยมั้ย น่าอยู่มั้ย“ ก็เอามือมาโอบเอวเเล้วพูดว่า “งั้นมาอยู่ดัวยกันมั้ย” ในความฝันก็มีเสียงเพื่อนตะโกนเรียกนนท์! นนท์… แล้วก็หลุดออกจากฝัน“ ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจเเละชวนกันไปทำบุญ มีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “เเต่เราไม่มั่นใจว่าเขานั้นนับถือศาสนาอะไร ไปอีกที่หนึ่งดีมั้ย” จึงตัดสินใจกันไปที่มัสยิดเเล้วก็ได้ทำความดี ล้างห้องน้ำเเละบริจาคบางส่วนเพื่อกิจการของมัสยิด เเล้วหลังจากนั้นมาทุกคนก็ไม่ได้ฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นหรือเหตุการณ์นั้นอีก สุดท้ายจึงได้รู้สาเหตุที่นนท์มีอาการแปลก ๆ เเบบนั้นก็เป็นเพราะว่า ในวันแรกช่วงที่ทุกคนไปถึงเกาะนั้น นนท์ปวดปัสสาวะมากจึงได้ไปถ่ายโดยพลการ เเละในวันที่ 2 ขณะที่เพื่อน ๆ กำลังไปถ่ายรูปเล่นกันนั้นนนท์ได้มีการถมน้ำลายบนเกาะ โดยที่ไม่ได้ทำการขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางบนเกาะก่อนนั่นเอง ..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากโนอาร์ 'กองทัพผีที่เวียดนาม' I อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [17 ก.ย. 2567]

22 ก.ย. 2024

เรื่องเล่าจากโนอาร์ 'กองทัพผีที่เวียดนาม' I อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [17 ก.ย. 2567]

เรื่องราวนี้ ’คุณโนอาร์’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (17 กันยายน 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจ็ม’ กับเรื่องราวทีมีชื่อว่า ‘กองทัพผีที่เวียดนาม’ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันเลย! คุณโนอาร์เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่าน ตนได้เดินทางจากกรุงเทพฯไปเวียดนาม ซึ่งก็มีแพลนที่จะไปเที่ยว แต่คิดว่า ‘ไหน ๆ ก็จะไปเที่ยวแล้ว ขอแวะเรื่องงานสักหน่อย’ จึงหาข้อมูลสถานที่ แต่โรงพยาบาลร้างหรือตึกร้างนั้น ไม่สามารถเข้าได้ด้วยเรื่องกฎหมายของเวียดนาม แต่ก็ได้แฟนคลับชาวเวียดนามมาเป็นไกด์เพื่อพาไปสถานที่เที่ยวต่าง ๆ โดยมีสมาชิก 3 คนคือ ตนเอง แฟน และน้องทีมงาน เมื่อไปถึงก็ไปเที่ยวตามปกติ พอตกเย็น ตนก็ถามกับไกด์ว่า “พอจะมีสถานที่ที่ผมจะไปสำรวจได้มั้ย?” ไกด์จึงพาไปที่วัดของเวียดนาม โดยมีสุสาน พระที่นั่นลักษณะคล้ายพระจีนแต่อาจจะนับถือคนละนิกาย ไกด์บอกว่า ที่เวียดนามนั้นไม่เหมือนไทย เวลาสำรวจต้องระวังเรื่องคนเข้ามาเสพยา หรืออะไรต่าง ๆ ตนก็โอเคเข้าใจข้อจำกัดและข้อควรระวัง พอมาถึงที่วัด ไกด์ก็รออยู่บนรถ ไม่ลงมาด้วย เพราะเขาเป็นคนกลัวผี คนที่ไปสำรวจก็จะมีแค่พวกของตน 3 คน ด้วยความที่ตนไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรเพราะต่างที่ต่างถิ่น จึงหาจุดที่สามารถตั้งกองเล็ก ๆ ได้ ด้านในวัดจะมีสุสานทั้งฝั่งซ้ายและขวา ซึ่งจะมีรูปปั้นเจ้าแม่องค์ใหญ่ แล้วรูปปั้นนั้นหันหน้าประจบกันตรงกลาง ตนจึงเลือกสำรวจสุสานทางฝั่งซ้ายก่อน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับฮวงซุ้ยของประเทศไทย แต่ที่นี่ถ้าใครมีเงินหน่อยก็จะเป็นศาลา มีม้าหินอ่อนนั่งได้ด้านใน โดยปกติแล้ว ที่สุสานมักจะมีรูปภาพเป็นขาวดำ แต่ที่นี่ตนรู้สึกกลัวเพราะเห็นมีว่าหลายรายที่ในรูปของเขา ทำตาโต ตาขาวใหญ่ ตาดำเล็ก แล้วทำหน้าดุ ตนก็คิดว่าคงเป็นเพราะวัฒนธรรมของเขา จึงสำรวจต่อ ระหว่างที่สำรวจก็ได้กลิ่นแปลก ๆ ลอยมาแตะจมูก จึงเดินลึกเข้าไปอีกเป็นกิโลเมตร ตรงนั้นเหมือนจะมีหลุมศพพันกว่าราย คุณโนอาร์คิดว่าถ้าจะเดินสำรวจอย่างเดียว คนดูคงจะไม่ตื่นเต้น จึงได้เริ่มทำการนอนขวางลงตรงปลายเท้าของหลุมศพ แต่ก็ไม่รู้จะท้าทายเป็นภาษาเวียดนามอย่างไร จึงผิวปาก เเล้วก็พูดภาษาไทยว่า “มาเลยนะครับ ถ้าอยู่ในสถานที่ตรงนี้” แล้วก็มีเสียงตรงพุ่มหญ้า เหมือนเป็นเสียงอะไรบางอย่างวิ่งลุยมาหาตน! คุณโนอาร์จึงเด้งตัวลุกขึ้นมาแล้วพยายามมองรอบ ๆ เพราะคิดว่าอาจจะเป็นสุนัข แต่ก็ไม่มีอะไร ระหว่างนั้นต้นหญ้าก็ขยับ ตอนแรกคิดว่าลม แต่ต้นไม้รอบ ๆ กลับนิ่ง จึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปสำรวจข้างในต่อ เมื่อเดินลึกเข้าไป หลุมศพเริ่มดูเป็นหลุมศพของคนมีฐานะมากขึ้น เหมือนเป็นการไล่ระดับ บางหลุมมีลูกกรง บางหลุมมีศาลา เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และรูปภาพของแต่ละหลุมก็ดูหน้าดุขึ้นเช่นกัน บางศาลาก็มีหลายหลุมศพในศาลาเดียว ขณะที่กำลังจะเดินผ่านสุสานหลุมศพที่มีลูกกรง ยังไม่ทันเดินผ่าน ลูกกรงก็สั่น กึ้งๆๆๆ เหมือนมีใครเขย่า! คุณโนอาร์ก็วางกล้อง แล้วเดินไปใกล้ ๆ ลูกกรงสั่นต่อหน้าต่อตา ตนจึงมองผ่านเข้าไปด้านในลูกกรง ด้านในจะมีหลุมศพอีก 2 หลุม เป็นหลุมที่ก่อด้วยปูนขึ้นมา หลุมนี้พิเศษตรงที่มีตัวอักษรเยอะ มีป้ายเขียนอะไรบางอย่าง ซึ่งตนก็ไม่ทราบ แล้วก็มีเสียงพูดขึ้นมาเป็นภาษาเวียดนาม ตอนแรกนึกว่าเสียงชาวบ้านแถวนั้นตะโกนมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเสียงมาจากทิศทางไหน ตนจำคำนั้นได้ แต่ไม่รู้ความหมาย ก็ทำได้แค่จำไว้ก่อน พอสำรวจต่ออีกนิด รู้สึกว่ามันลึกเกินไป จึงคิดว่าค่อยกลับมาสำรวจใหม่ จากนั้นออกมาหาไกด์ แล้วนั่งรถกลับไปที่โรงแรม ต้องบอกว่าตัวสุสานและโรงแรม ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร ห้องที่จองไว้แบ่งเป็น 2 ห้อง อยู่ชั้น 2 คือห้องของตนและแฟน กับอีกห้องเป็นของน้องทีมงาน ซึ่งอยู่ตรงข้าม หลังจากแยกกันเข้าห้อง ต่างคนก็ต่างทำธุระส่วนตัวเพื่อเข้านอน ช่วงประมาณตี 1-2 ก็ได้ยินเสียงคนเดินไปมาหน้าห้อง คุณโนอาร์คิดว่าคงเป็นเสียงของแขกท่านอื่น แต่รู้สึกเอะใจ หากเป็นแขกท่านอื่นต้องเดินไปฝั่งขวา เพราะฝั่งซ้ายมันมีแค่ห้องของตน และห้องของน้องทีมงาน เมื่อมองไปทางประตู ใต้ประตูจะแสงลอดออกมา ก็เห็นว่ามีเงาเหมือนคนเดินอยู่ด้านนอก คุณโนอาร์ก็พยายามไม่คิดอะไร ตั้งใจว่าจะนอนให้หลับเพราะพรุ่งนี้ต้องไปเที่ยวกันต่อ แต่เสียงเท้ามันเดินถี่ขึ้น ดังขึ้น เหมือนเดินกันอยู่หลายคน คุณโนอาร์สะดุ้งตื่น เดินออกมาเปิดไฟ แล้วไปเปิดประตูดูหน้าห้อง ก็ไม่พบอะไร พยายามสังเกตุไปที่ห้องน้องทีมงาน ก็ไม่มีใครเดิน จึงปิดประตู แล้วกลับมานอน แต่เหมือนแฟนได้ยินเสียงเคาะประตูทั้งที่คุณโนอาร์ไม่ได้ยิน แฟนจึงเดินไปเปิดประตู คุณโนอาร์จึงถามว่า “เปิดประตูทำไม?” แฟนก็หันมาแต่ไม่ตอบอะไร ทำแค่หน้ามึน ๆ งง ๆ แล้วก็กลับมานอนที่เตียงเหมือนเดิม ทั้งตนและแฟนก็เริ่มนอนไม่หลับ เพราะรู้สึกได้ว่าต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน.. พอเวลาผ่านไปครึ่งชม คุณโนอาร์ก็รู้สึกง่วง และได้ยินคล้ายเสียงเพลง เป็นเสียงดนตรีอย่างเดียวไม่มีเสียงร้อง คุณโนอาร์จึงเดินไปเปิดประตูอีกรอบ พอเปิดประตู เสียงกลับเงียบสนิท คราวนี้ตนคิดว่า ‘ถ้าเป็นสิ่งที่ตามมาจากสุสานตนควรต้องทำอย่างไรดี เพราะถ้าเป็นที่ไทยคงสวดมนต์ไปแล้ว แต่ที่นี่เวียดนาม เขาต้องทำยังไงกันนะ’ แล้วก็เดินกลับมาที่เตียง ตอนนั้นคุณโนอาร์ยังลังเลอยู่ว่าเป็นผีหรืออะไร จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้.. อยู่ ๆ กรอบแอร์ก็เด้งเปิดออกมาเอง แล้วก็มีเสียง ติ๊ด คุณโนอาร์ก็ตกใจ คิดว่านอนไม่ได้แล้ว และเริ่มลังเลจะย้ายโรงแรม คืนนั้นตื่นมาหลายรอบมาก จนกระทั่งนึกออกว่า ตอนที่อยู่สุสานมีเสียงพูดอะไรลอยมา ด้วยความที่จำได้ จึงหาบนอินเตอร์เน็ตเพื่อแปลภาษา แล้วถามไกด์ ซึ่งมันแปลว่า กองทัพ ตนจึงถามไกด์อีกว่า “สุสานที่ตนไปมันคือสุสานอะไร?” แต่ไกด์ก็ไม่ตอบ หลังจากนั้นก็นัดกันว่าจะไปที่นั่นอีก หลังจากผ่านคืนนั้นมา ตอนกลางวันก็ใช้ชีวิตปกติ จนตกเย็นก็กลับไปที่สุสานนั้น ครั้งนี้ไปกันหลายคนเพื่อไปดูบริเวณหลุมในคืนแรก คุณโนอาร์ลืมสังเกตุไปว่า ป้ายที่ติดรูปของหลุมศพ มีสัญลักษณ์นาซี จึงรู้ว่า นี่คือสุสานทหารเวียดนาม หลังจากนั้นไกด์ก็ได้พาทั้ง 3 คนไปไหว้ ไปสะเดาะเคราะห์ แล้วให้ขอว่า ‘อย่าตามมา อย่ามาเอาชีวิต’ เพราะไกด์บอกว่า ”ทหารเวียดนามนี่เฮี้ยน ถ้าเขาตาม เขาเอาถึงชีวิต“ และยังทราบอีกว่าที่ตรงนั้นมีหลุมศพเป็นพันหลุม ทั้งหมดนั่นคือทหารเวียดนาม ส่วนหลุมศพที่มีศาลา มีลูกกรง ตรงนั้นคือหลุมศพของนายพล(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

ซินแสเอ็กซ์เล่าเรื่อง 'เดือนต้องห้าม' I อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [ 17 ก.ย. 2567]

21 ก.ย. 2024

ซินแสเอ็กซ์เล่าเรื่อง 'เดือนต้องห้าม' I อังคารคลุมโปง X โนอาร์ ล่าท้าผี [ 17 ก.ย. 2567]

‘ซินแสเอ็กซ์’ ได้นำเรื่องราวสุดหลอนมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (17 สิงหาคม 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’, ‘ดีเจเจ็ม’ และ ‘ดีเจมดดำ’ กับเรื่องราวที่มีชื่อว่า ‘เดือนต้องห้าม’ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันได้เลย! ซินแสเอ็กซ์เล่าว่า ได้มีข้อความส่งมาหาซินแสเอ็กซ์เพื่อมาขอคำปรึกษาการเข้าบ้านใหม่ โดยเจ้าของบ้านที่ต้องการปรึกษาก็ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการย้ายเข้าบ้านใหม่ และได้มีการเชิญคนมาตั้งศาลตี่จู้เอี๊ยะให้ในวันนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคล พอตั้งเสร็จเจ้าของบ้านก็รู้สึกตงิดใจขึ้นมาว่าฤกษ์ตรงนี้ไม่ได้ จึงต้องโทรมาหาซินแสเอ็กซ์ เพราะหลังจากเจ้าของบ้านตั้งศาลนี้ก็รู้สึกว่ามีสิ่งแปลก ๆ ในบ้านเยอะมาก ในคืนนั้น ขณะที่เจ้าของบ้านทำงานอยู่หน้าห้องนอน ส่วนในห้องมีภรรยาและลูกเล็กนอนอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันที่ชั้นล่าง เจ้าของบ้านจึงตั้งใจจะลงไปดู ขณะที่จะก้าวลงไปถึงห้องนั่งเล่น เสียงนั้นก็หายไป เจ้าของบ้านจึงคิดว่าเป็นเสียงจากข้างนอกจึงเดินกลับขึ้นห้องไป แต่ในระหว่างที่เดินกลับขึ้นไปก็ได้ยินเสียงอีก เจ้าของบ้านก็เดินกลับลงไปดูอีก หันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่มีใคร จึงเดินไปที่ตี่จู้เอี๊ยะแล้วจุดธูปพร้อมบอกกล่าวว่า ‘ขอให้อยู่บ้านนี้แล้วเฮง’ จากนั้นก็เดินกลับขึ้นชั้นบน ในขณะที่เดินกลับขึ้นไปนั้น เจ้าของบ้านก็ได้ยินเสียงโทรทัศน์เปิด เมื่อชะโงกหน้าไปดูก็เห็นว่าโทรทัศน์ดับไปต่อหน้าต่อตา! เจ้าของบ้านตกใจและรีบขึ้นไปเพื่อเข้าห้องนอน และกลั้นใจนอนหลับไป.. เมื่อเจ้าของบ้านหลับไปก็ได้ฝันเห็นผู้ชายตัวดำ ๆ คล้ายเงาอยู่ปลายเตียง พร้อมพูดว่า “ไอที่จุดธูปไหว้ไปเมื่อกี้เนี่ย มึงจุดธูปไหว้กูนะ มึงอยากให้กูอยู่ด้วยหรอ” เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นและคิดว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาก็พบว่าเป็นเวลาตี 3 ยังไม่เช้า จึงพยายามข่มตานอนอีกรอบ แต่ก็ดันฝันอีกรอบ โดยฝันว่าตนนั้นกำลังนั่งในห้องรับแขก แต่ด้านนอกห้องรับแขกเห็นเป็นคนแก่ 2 คนหน้าตาใจดี แต่ดูกังวล เมื่อตนและคนแก่หันมาสบตากัน คนแก่ก็กวักมือเรียก ตนจึงเปิดประตูออกไปแล้วถามว่า “มาหาใครครับ มีอะไรครับ?” คนแก่ 2 คนจึงบอกว่า “มาหาลื้อนั่นแหละ” และยังบอกอีกว่า “ลื้อลองมองหันกลับเข้าไปในบ้านลื้อสิ ผีเต็มบ้านเลยนะ” เมื่อเจ้าของบ้านหันไปก็เห็นเป็นคนแต่งตัวมอมแมมอยู่ในบ้านเต็มไปหมด! เจ้าของบ้านกำลังจะหันกลับไปถาม แต่ทั้ง 2 ก็หายไปแล้ว เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นขึ้นมาแต่ก็ยังไม่เช้า และไม่อยากฝันอีกจึงเลือกที่จะไม่นอนต่อ แล้วไปนั่งในห้องน้ำเพราะกลัวภรรยากับลูกตื่น คิดว่าตอนเช้าจะพาภรรยาไปทำบุญ พอเริ่มเช้า ภรรยาตื่นและเปิดประตูออกมาก็ถามเจ้าของบ้านว่า “ไปทำบุญกันไหม?” ทั้งครอบครัวจึงออกไปทำบุญ ในระหว่างที่ขับรถไปนั้น เจ้าของบ้านอัดอั้นตันใจมาก เพราะอยากที่จะเล่าเรื่องราวให้กับภรรยาฟัง จึงตัดสินใจจะเล่า แต่เมื่อเกริ่นไปแค่คำว่า “เมื่อคืน..” ภรรยาก็บอกให้หยุดและบอกว่าขอเล่าก่อน โดยภรรยาได้เล่าว่าเมื่อคืนได้ฝันเห็นผู้ชายตัวดำ ๆ มีเงาอยู่ปลายเท้าพูดว่า “ผัวมึงไหว้กูอยู่นะ กูจะมาอยู่กับมึง” พอเจ้าของบ้านฟังจบก็เล่าเรื่องราวฝั่งตัวเองให้ฟัง ทั้ง 2 คนคิดว่าท่าทางเริ่มไม่ดีแล้ว จึงรีบไปวัด และเอาลูกไปฝากไว้กับพ่อแม่ก่อน เมื่อไปถึงที่วัดก็เล่าเรื่องราวให้พระฟัง พระท่านก็เสกน้ำมนต์และให้เครื่องรางของขลังมาเพื่อจะเอากลับไปไว้ที่บ้าน หลังจากได้ของจากพระ สามีภรรยาก็กลับไปที่บ้านและใช้ชีวิตตามปกติแต่ก็รู้สึกไม่สบายใจ ตัวสามีก็ไปนั่งทำงานอยู่ที่เดิม ภรรยาก็อยู่ในห้องนอน และจู่ ๆ ไฟก็ดับทั้งบ้าน ซึ่งมันเป็นไปได้ยากเพราะบ้านพึ่งทำใหม่และดับอยู่บ้านเดียว ทันใดนั้น สามีก็ได้ยินเสียงภรรยาร้องออกมาจากห้องนอน! สามีจึงรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องนอน พอเปิดเข้าไปก็ได้รู้ว่าเสียงภรรยาออกมาจากห้องน้ำ สามีพยายามบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตูแต่บิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออก ตัวภรรยาเองก็บอกว่าไม่สามารถเปิดจากข้างในได้เหมือนกัน! สามีจึงรีบวิ่งไปเอาค้อนที่ชั้นล่าง และในระหว่างที่ขึ้นไปหาภรรยา สามีรู้สึกเหมือนมีคนมาขัดขาจึงล้มลงไปจนฟันหน้าหักเลือดท่วมปาก แต่ด้วยความที่เป็นห่วงภรรยาจึงรีบวิ่งขึ้นไป ในตอนที่กำลังจะเอาค้อนทุบประตูภรรยาดันเปิดประตูออกมาได้ปกติ เมื่อทั้งคู่เจอหน้ากันก็รีบเอากุญแจรถขับออกไปทันที และไปตั้งสติที่บ้านแม่ สามีถามภรรยาว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวภรรยาจึงเล่าให้ฟังว่าในตอนที่เจ้าของบ้านนั่งทำงานอยู่ ภรรยาได้เข้าไปอาบน้ำ โดยลักษณะห้องน้ำจะมีกระจกกั้นระหว่างโซนเปียกกับโซนแห้ง ภรรยารู้สึกว่าหางตาเห็นเหมือนมีคนเอาหน้ามาอังตรงกระจก เห็นแบบนั้นก็รู้สึกตกใจจึงตั้งใจจะหันไปมอง แต่ในขณะที่หันไปมอง ไฟดันดับและภรรยาเห็นร่างคนตัวดำ ๆ ยืนอยู่ในห้องน้ำกับภรรยา! ภรรยาตกใจร้องกรี๊ดเสียงดัง หลังจากนั้นก็เล่าแม่ฟังอีกรอบ แม่บอกว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่ตั้งศาลกันในเดือนเจ็ดของจีน ซึ่งก็คือเดือนสิงหาคม ทางเจ้าของบ้านจึงโทรมาหาทางซินแสเอ็กซ์เพื่อขอคำปรึกษา และซินแสเอ็กซ์ก็ได้ให้คำปรึกษาไป..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณดิว 'หลังเที่ยงคืน' I อังคารคลุมโปง X ขวัญ น้ำมันพราย [ 10 ก.ย. 2567]

15 ก.ย. 2024

เรื่องเล่าจากคุณดิว 'หลังเที่ยงคืน' I อังคารคลุมโปง X ขวัญ น้ำมันพราย [ 10 ก.ย. 2567]

เรื่องราวนี้ ’คุณดิว’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (10 กันยายน 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเคเบิ้ล’ กับเรื่องราวทีมีชื่อว่า ‘หลังเที่ยงคืน’ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันเลย! โดยคุณดิวเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นตนจัดทริปกับเพื่อนไปเที่ยวทะเลด้วยกัน โดยทำการจองโรงแรมผ่านแอพฯ เลือกที่อยู่ใกล้กับร้านอาหารที่ทานเป็นประจำ โดยมีข้อแม้ว่า ให้มีสระน้ำใหญ่ เพราะไปกันทั้งหมด 7 คน รวมทั้งหมด 3 ห้อง ห้องแรก ‘ห้อง A’ อยู่กัน 3 คน เป็นห้อง Family Type ห้องที่สอง ‘ห้อง B’ สำหรับแฟนที่อยู่กัน 2 คน และห้องสุดท้าย ‘ห้อง C’ สำหรับตนเองอยู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ห้องทั้งหมดจองได้ชั้น 4 ของโรงแรม ซึ่งเป็นชั้นของสระว่ายน้ำพอดี พอไปถึงโรงแรมก็ทำการเช็คอิน และขึ้นห้องตามปกติ โรงแรมสวยตามรูป ตรงตามปก ไม่มีอะไรผิดสังเกตุ แต่สิ่งที่ผิดปกติมันเกิดขึ้นตอนหลังเที่ยงคืน.. พอหลังเที่ยงคืน ในห้อง A มีเพื่อนคนหนึ่งให้นามสมมติว่า ‘กุ้ง’ สะดุ้งตื่นขึ้นมา กุ้งบอกว่า แอร์ในห้องมีการถูกปิดและเปิดใหม่ ซึ่งตอนนั้นทุกคนหลับกันหมดเเล้ว กุ้งจึงพยายามจะนอนต่อ โดยลักษณะของห้อง A จะมีห้องนั่งเล่นก่อน แล้วเป็นห้องนอน แต่ในคืนนั้น กุ้งได้ยินเสียงคนเดินอยู่ข้างนอกตลอดเวลา ทำให้นอนไม่หลับ จึงต้องออกมาเปิดไฟนั่งอยู่ข้างนอก เหตุการณ์ต่อไปเกิดในห้อง C ห้องนี้มีคุณดิวและเพื่อนที่เป็นผู้หญิงให้นามสมมติว่า ‘เนย’ ลักษณะห้องคือ พอเปิดประตูเข้าไปขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้า ซ้ายมือจะเป็นห้องที่เป็นกระจกใสเห็นข้างในห้องน้ำได้ ซึ่งจะติดอยู่กับเตียงนอน มีม่านกั้นแต่ก็ยังมองเห็นหากมีอะไรในห้องน้ำ พอหลังจากเวลาเที่ยงคืน เนยก็เข้าไปอาบน้ำ ส่วนดิวนั่งอยู่ที่เตียงร้องเพลงเล่นอยู่ ระหว่างนั้นก็เห็นเงาที่ลักษณะเป็นเหมือนกับผู้ชาย ไม่มีผม ดูซูบผอม สูงเกือบถึงเพดาน หลังค่อม แขนและขายาวผิดรูปมนุษย์ เหมือนเขากำลังก้าวเดินอยู่ในห้องน้ำ และมาที่อ่างอาบน้ำที่ติดอยู่กับเตียงของตน! ดิวจึงตะโกนเรียกเนยว่า “อาบน้ำแล้วหรอ?!” เพื่อนตอบกลับมาว่า “ยัง เรานั่งส้วมอยู่” จริง ๆ ดิวก็รู้เเล้วนั่นว่าไม่ใช่เนย แต่ที่ถามก็เพราะว่าไม่อยากคิดมาก หลังจากนั้น ก็ยังไม่ได้พูดอะไร รอจนเนยออกมาจากห้องน้ำ แล้วดิวก็ไปอาบน้ำต่อ พออาบเสร็จ ก็กลับมานั่งฟังเพลงที่ตนบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ จำได้ว่าร้องเพลงปกติ เริ่มต้นเพลงก็เป็นเสียงของตน แต่พอผ่านไปไม่กี่วินาที ก็เป็นเสียงซ่า แล้วก็เสียงวี๊ด จนจบเพลง ตอนนั้นก็ส่งบันทึกเสียงนี้ให้เพื่อนในแอพฟัง เพื่อนก็บอกว่า “มันแปลก ๆ แล้วนะแบบนี้” ซึ่งที่ผ่านมา ดิวก็เล่นแอพนี้มาตลอด แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ดิวก็ทำเป็นไม่สนใจ แล้วก็ปิดไฟนอน พอช่วงเวลาประมาณตี 2 ทั้ง ๆ ที่หลับไปแล้วแต่ก็ได้ยินเสียงตู้เสื้อผ้าเปิดออกดัง แอ๊ดดด แล้วก็ ปึ้ง! ดิวตื่นแล้วก็นอนฟัง เสียงนั้นก็เงียบ สักพักมันดังขึ้นมาอีกรอบ ครั้งนี้ดิวลุกขึ้นมาชะโงกดู ก็ไม่เจออะไร ตู้ก็ปิดสนิท จึงนอนเล่น ไม่นานเนยก็ลุกขึ้นมา แล้วชะโงกหน้าตาม พอเนยนอนลงมา เนยก็พูดว่า “ได้ยินเหมือนกันใช่ไหม” พอพูดจบ เสียงก็ดังอีกครั้ง แอ๊ดดด ปึ้ง! ทั้งคู่จับมือกัน แล้วลุกขึ้นมาดูอีกครั้ง ก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม พอลงมานอนอีกรอบ มันกลับดังมากกว่าเดิม! เป็นเสียงปิดประตูตู้เสื้อผ้า 3 รอบ ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง! เหมือนคนปิดประตูห้อง จึงโทรหาเพื่อนที่อยู่ห้อง A ว่าจะขอไปหา ตอนนั้นเป็นช่วงประมาณเกือบตี 4 ทั้งโรงแรมเงียบมาก ทั้งหมดอยู่กันจนถึงประมาณ 6 โมง และก็โทรหาเพื่อนห้อง B ให้นามสมมติว่า ‘หยาด’ ซึ่งหยาดก็บอกว่า “อยู่ที่ล็อบบี้แล้ว” ดิวก็รู้สึกแปลกใจ เพราะมันเช้าเกินไป หยาดจึงเล่าให้ฟังว่า.. ตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปเช็คอิน ทุกคนรวมถึงแฟนของหยาดก็นั่งรออยู่ที่สระว่ายน้ำ แต่หยาดอยากขึ้นไปเปลี่ยนชุด แม้โรงแรมจะมีหลายห้องแต่มีลิฟต์แค่ตัวเดียวกลางโรงแรม หยาดก็เข้าลิฟต์ พอขึ้นไปได้ 2 ชั้น ไฟก็ดับ แล้วลิฟต์ก็หล่นลงมา ค่อย ๆ เลื่อนลงมาที่ชั้น 1 ใหม่ หยาดพยายามกดปุ่มเรียกพนักงาน เเต่ประตูเปิดออกพอดี จึงเดินออกมา แล้วก็ลิฟต์ขึ้นไป แต่ประตูไม่เปิดแล้ว หยาดจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไป และเล่าให้แฟนฟัง หลังจากนั้น พอขึ้นไปที่ห้อง คือลักษณะห้อง B จะเหมือนกับห้อง C แต่ของหยาดเป็นเตียงคู่ ตอนที่เปิดประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นอับ ทั้งที่ห้องดูใหม่ หยาดและแฟนก็อยากย้ายห้อง แต่เกรงใจอีก 2 ห้องที่มาด้วยกันจึงไม่ได้ย้าย เมื่อถึงเวลานอน หยาดนอนเตียงติดห้องน้ำ ส่วนแฟนนอนเตียงที่ติดกับหน้าต่าง พอหลังเที่ยงคืน หยาดได้ยินเสียงน้ำที่อ่างล้างมือหยด ติ้ง ติ้ง ติ้ง สักพักมันหยดเร็วขึ้น หยาดจึงเรียกแฟนประมาณ 2-3 ครั้ง แฟน : “มีอะไร” หยาด : “หนูเหมือนได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ” แฟน : “มันก็เป็นไปได้ที่จะได้ยิน ไม่แปลกอะไร” พอพูดจบ เสียงนั้นก็กลายเป็นเสียงคนเปิดน้ำในห้องน้ำเหมือนคนเปิดน้ำเพื่อล้างมือแล้วก็ปิด! หยาดจึงย้ายไปนอนเบียดอยู่ที่เตียงของแฟน แฟนก็พยายามปลอบแล้วก็หลับไป ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ อยู่ ๆ หยาดก็ตื่นมาเพราะรู้สึกร้อน ปรากฎว่าไฟดับ แอร์ดับ หยาดหันไปมองที่เตียงที่เคยนอน ตอนนั้นทุกอย่างมืดหมด แต่ภาพที่เห็นมันชัดมาก ๆ คือเป็นผู้หญิงนอนอยู่ที่เตียงนอนตะแคงข้างหันมา พร้อมกับเอามือสางผมจากข้างหลัง แล้วพาดผมมาด้านหน้า แล้วค่อย ๆ ฉีกยิ้มเรื่อย ๆ ให้ ตัวของผู้หญิงคนนี้ซีด เหมือนศพจมน้ำ แต่ไม่ได้บวม ไม่ได้เละ จากนั้นหยาดก็กรี๊ดดังลั่นห้อง แล้วบอกแฟนว่า ”หนูว่าหนูโดนผีหลอกแล้ว ลงไปที่ล็อบบี้กันเถอะ” พอทั้งคู่ลงไปนั่ง ก็เห็นว่าเป็นเวลา ตี 3 เกือบตี 4 แล้ว เมื่อลงไปเช็คเอาท์ก็ถามพนักงานว่าในวันที่พวกเราเข้ามาพักนี้ มีคนเข้ามาพักกี่ห้อง แต่ก็ได้ความว่ามีแค่ 3 ห้อง ของพวกเราเท่านั้น ซึ่งแปลกมาก ๆ เพราะตอนที่เข้ามา ได้ยินเสียงแต่ละห้องเหมือนมีคนเข้าพักอยู่ แต่จริง ๆ กลับไม่มีใครเลย ดิวจึงถามไปตรง ๆ ว่า ”โรงแรมนี้มีผีมั้ย“ พนักงานก็อึ้งไปสักพัก แล้วก็บอกแค่ว่า “ไม่มีค่ะ“ แต่พอรู้ได้จากท่าทีของพนักงาน แล้วตนก็ถามต่อว่า ”เมื่อคืนนี้ที่โรงแรมไฟดับใช่มั้ย“ พนักงานบอกว่า ”โรงแรมไม่เคยฟังดับนะคะ เมื่อคืนก็ปกติดี“ ทั้ง ๆ ที่ห้องของเพื่อนทั้ง 2 ห้องไฟดับ..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจาก ขวัญ น้ำมันพราย 'ครูเอก' I อังคารคลุมโปง X ขวัญ น้ำมันพราย [ 10 ก.ย. 2567]

14 ก.ย. 2024

เรื่องเล่าจาก ขวัญ น้ำมันพราย 'ครูเอก' I อังคารคลุมโปง X ขวัญ น้ำมันพราย [ 10 ก.ย. 2567]

‘ขวัญ น้ำมันพราย’ ได้นำเรื่องราวสุดหลอนมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (3 สิงหาคม 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเคเบิ้ล’ กับเรื่องราวที่มีชื่อว่า ‘ครูเอก’ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันได้เลย! คุณขวัญเล่าว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฟังมาจาก ‘พี่เอก’ ซึ่งเรื่องนี้ย้อนกลับไปประมาณ 20 - 30 ปีก่อน เป็นช่วงที่พี่เอกกำลังบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในภาคเหนือ พี่เอกนั้นจะมีรถส่วนตัวคันเก่า จึงใช้รถคันนั้นขับไปรายงานตัวที่โรงเรียน โดยเดินทางออกจากจังหวัดกาญจนบุรี สมัยนั้นยังไม่มี GPS จึงเกิดการหลง ทำให้เสียเวลาพอสมควร พี่เอกถามคนข้างทางไปเรื่อย แต่ละคนต่างบอกไม่เหมือนกันสักคน ทำให้ถึงโรงเรียนประมาณ 6 โมงเย็น เมื่อขับไปถึง ลักษณะประตูโรงเรียนจะเป็นประตูเลื่อนบานเดียว พี่เอกก็สงสัยว่าทำไมโรงเรียนถึงเงียบผิดปกติ จึงไปยืนดูหน้าประตู และเห็นว่าประตูสามารถเลื่อนได้ พี่เอกจึงเลื่อนประตูแล้วขับรถเข้าไป เมื่อขับเข้าไป ก็เห็นสนามบอลอยู่ตรงกลางของโรงเรียน พี่เอกขับเข้าไปอยู่ฝั่งซ้ายของสนามบอล และหลังสนามฟุตบอลจะมีอาคารไม้สูงสองชั้น มีบันไดอยู่ 3 ขั้นเพื่อขึ้นชั้น 1 และมีทางเข้าออกซ้ายขวา ซึ่งพี่เอกไปจอดอยู่ฝั่งซ้ายของสนามบอลที่มีโรงอาหารเก่า ๆ อยู่ด้านข้าง เมื่อจอดรถเสร็จ พี่เอกก็รู้สึกสงสัย เพราะปกติแล้วโรงเรียนประถมควรจะคึกครื้นกว่านี้ แต่โรงเรียนนี้กลับเงียบผิดปกติ พี่เอกมองหาคนเพื่อสอบถาม แต่มองไปมองมาก็เห็นอาคารเล็ก ๆ เหมือนบ้านชั้นเดียวที่อยู่ข้างตึกเรียน จู่ ๆ บ้านหลังนั้นก็เปิดประตูมา แล้วก็มีคนเดินอกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมลากของออกมาหน้าบ้าน พี่เอกจึงเดินผ่านตึกเรียนไปที่บ้านหลังนั้น ก็เห็นว่าเป็นคุณลุงใส่เสื้อเก่า ๆ พี่เอกจึงตะโกนเรียกคุณลุง คุณลุงหยุดการกระทำแล้วหันมามองพี่เอก แล้วถามว่า “คุณเป็นใคร” พี่เอกจึงตอบว่า “ผมเป็นครูใหม่ที่จะมารายงานตัวครับ” คุณลุงถามว่า “ทำไมมาเวลานี้ ผอ.ก็รอจนกลับไปแล้ว” พี่เอกรีบอธิบายว่าตนหลงทาง คุณลุงจึงให้กุญแจบ้านพักครูที่อยู่บริเวณหลังที่พี่เอกจอดรถ และให้ไปห้องที่ไม่ได้ล็อกกุญแจ เมื่อพี่เอกไปถึง ก็เห็นว่าทั้ง 2 ห้องดันล็อคกุญแจอยู่ พี่เอกจึงลองไขดูถึงได้รู้ว่าเป็นห้องไหน จากนั้นก็เอาของเข้าไปเก็บ เมื่อเก็บของเสร็จ พี่เอกก็คิดจะขับรถเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อหาของกิน ในตอนที่ออกจากห้องก็ยังเห็นคุณลุงขนของอยู่ พี่เอกจึงทักทายทำความรู้จักกับคุณลุง ได้ความมาว่าคุณลุงชื่อ ‘สังเวียน’ และคุณลุงยังบอกให้พี่เอกรีบไปรีบกลับอย่ากลับดึกมาก หลังจากทักทายกันเสร็จ พี่เอกก็ขอตัวออกไปหาอะไรกินในหมู่บ้านตามแผน คนในละแวกนั้นไม่เคยเห็นหน้าจึงถามว่าเป็นใคร พี่เอกก็บอกว่าเป็นครูคนใหม่ของโรงเรียน เมื่อกลับไปถึงโรงเรียนพี่เอกก็แปลกใจว่า ‘ทำไมไม่มีไฟสักดวง’ แต่ก็กลับไปที่ห้องพักแล้วกินข้าวที่ซื้อมา จากนั้นก็อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน แต่พี่เอกรู้สึกไม่คุ้นที่จึงออกมาเดินเล่น ในขณะที่เดินเล่นก็มีเสียง โครม! ดังมาจากอีกฝั่งของสนามบอล ก็คือหน้าห้องของลุงสังเวียน และก็เห็นว่าลุงสังเวียนเปิดประตูออกมาพร้อมถือไม้กวาดกับถังใส่ของ เมื่อเห็นว่าลุงสังเวียนไม่ได้เป็นอะไร พี่เอกก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ และมองไปที่อาคารไม้พร้อมกับชื่นชมตัวอาคารเพราะมันสวยดี แต่เมื่อแหงนมองไปชั้น 2 ก็แปลกใจกับสิ่งที่เห็น เพราะเห็นนักเรียนยืนเอามือท้าวขอบระเบียงอยู่บนระเบียง พี่เอกจึงตะโกนถามว่าเป็นใคร เด็กคนนั้นหันมามองพี่เอกแล้วยิ้มให้แต่ก็ไม่พูดอะไรแล้วก็วิ่งหายไปในความมืด พี่เอกจึงกลับไปที่ห้องพักเพื่อเอาไฟฉายแล้ววิ่งตามไป แต่จังหวะที่กำลังขึ้นไปไฟฉายดันดับ สักพักได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ พี่เอกก็หันไปดูพร้อมหันไปฉายไปและไปฉายก็ติดพอดี เห็นหัวเด็กอยู่ตรงพื้นบันไดชั้น 2 ลักษณะเหมือนนอนละเอาหัวโผล่มา แล้วเด็กคนนั้นก็ลุกแล้วก็วิ่งย้อนไปอีกฝั่งนึง! พี่เอกก็วิ่งตามไปแต่ก็หาไม่เจอ จนไปถึงห้องสุดท้ายก็เปิดประตูเข้าไปก็ไม่มีอะไร ในระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงเท้าพี่เอกจึงหันกลับไปดูแต่ก็ไม่มีอะไร พี่เอกเริ่มกลัวแล้วก็ตัดสินใจกลับห้อง แต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าตามหลัง พี่เอกเลยหันไปดู สิ่งที่เห็นคือเด็กวิ่งเข้ามาใส่ พี่เอกตกในจนเสียหลัก พอตั้งหลักได้เด็กคนนั้นกลับไปยืนอยู่กลางอาคาร พี่เอกจึงถามว่าเป็นใคร เด็กคนนั้นก็หายเข้าไปในห้องเรียน พี่เอกก็ตามเด็กไปอีก พี่เอกเปิดประตูเข้าไปเห็นเด็กอยู่ตรงหน้าต่าง พี่เอกก็เรียกให้เด็กคนนั้นมาคุย แต่สิ่งที่เห็นคือเด็กกระโดดลงหน้าต่างไป! พี่เอกรีบวิ่งไปดูแต่ก็ว่างเปล่า จากนั้นก็รู้ตัวแล้วว่าตนโดนผีหลอกจึงตัดสินใจวิ่งลงบันไดจะกลับห้อง ก็ได้ยินเสียง โครม! อีกครั้ง ดังมาจากบ้านลุงสังเวียน แล้วก็เห็นประตูบ้านของลุงสังเวียนเปิด จากนั้นพี่เอกก็เห็นว่ามีมือและหน้าเด็กโผล่ออกมา ซึ่งก็คือเด็กคนนั้นแล้วชี้เข้าไปในบ้าน พี่เอกจึงเดินไปหา แต่ก็รู้สึกเหมือนมีคนเดินบนอาคารเมื่อหันไปก็ไม่มีใคร พอถึงหน้าบ้านลุงสังเวียน พอเข้าไปบรรยากาศในบ้านมีของวางเต็มไปหมด และมีห้องที่ปิดประตูอยู่ พี่เอกจึงตะโกนถามว่า “ลุงอยู่ไหม เป็นอะไรรึเปล่า” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ พี่เอกจึงเดินไปที่ห้องนั้น และเปิดประตูเข้าไปจนเตะเข้ากับขวดเหล้าขาวเต็มไปหมด พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นลุงสังเวียนแขวนคอตายลิ้นจุกปาก พอตั้งสติได้ก็วิ่งออกจากห้องลุงสังเวียน แล้วก็เอากุญแจรถที่ห้อง เมื่อจะขึ้นรถ จู่ ๆ ก็มีรถหลายคันขับเข้ามา แล้วถามพี่เอกว่าเป็นใคร ตนก็รีบอธิบายว่าเป็นครูคนใหม่ของโรงเรียนนี้ ซึ่งคนที่ถามคือครูเวรที่ไปตามตำรวจมา แล้วตำรวจก็พาเดินไปหน้าห้องลุงสังเวียน เพื่อชันสูตร แต่พี่เอกก็ต้องขนลุกเมื่อมองไปที่รูปภาพข้างเตียงของลุงสังเวียนเป็นเด็กคนนั้นที่มีคำว่าชาตะมรณะ ที่ตายยังไม่ถึง 1 อาทิตย์! และได้ความจากครูเวรว่าลุงสังเวียนเป็นปู่ของเด็กคนนี้ เด็กคนนี้พ่อแม่ทิ้ง ลุงสังเวียนจึงเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ ซึ่งสาเหตุการตายของเด็กคนนี้คือเล่นกับเพื่อนแล้วผลัดตกหน้าต่างไปแปลงผักที่มีไม้ไผ่เสียบอยู่ ซึ่งเด็กคนนี้ตกลงไปแล้วคอเสียบไม่ไผ่ตายคาที่ และวันนี้ครูเวรก็สงสัยว่าทำไมไม่เห็นลุงสังเวียน ก็ได้พบว่าลุงสังเวียนฆ่าตัวตาย เมื่อครูเอกได้รู้เรื่องราวก็เลือกที่จะไปเช่าบ้านอยู่นอกโรงเรียนแทน..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

EFM FANDOM RECAP

“PROXIE” ทำแฟนๆใจละลายด้วยการคิสคิส จนคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “สปอยทุกดอกเเล้วบอกพูดเยอะไม่ได้“

07 ต.ค. 2024

“PROXIE” ทำแฟนๆใจละลายด้วยการคิสคิส จนคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “สปอยทุกดอกเเล้วบอกพูดเยอะไม่ได้“

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 19 กันยายน 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “PROXIE” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 ดีเจ “ดีเจแนน และ ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “กลุ่มชายหนุ่มผู้อกหัก แต่หลงรักความสดใส” ด้วยความที่พ้อกสีเป็นวงที่สดใสซาบซ่าม้ากกก บวกกับตัวเมมเบอร์แต่ละคนก็มีความสดใส มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไปอย่างลงตัวและสไตล์เพลงส่วนใหญ่ก็จะอกหัก รักไม่สมหวัง แอบรักเพื่อน แม้กระทั่งอกหักก็ต้องเต้นกลางสายฝน อีกอย่างคือพ้อกสีมีสีประจำตัวของแต่ละคนเลยมองว่าสิ่งนี้คือความสดใสของพ้อกสี รวมถึงยุสเส้อด้วยเช่นกัน อย่างวันนี้เห็นสีอะไรก็จะนึกถึงคนๆนั้น ยิ่งเจอครบหกสีต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายทู้กกกที แค่นี้ก็กลายเป็นความสดใสสำหรับวันนั้นๆเลยแหละ เลยอยากมอบรางวัลนี้ให้กลุ่มชายหนุ่มทั้ง 6 ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นความสดใสให้พวกเรานะ จุ๊ฟม๊วฟฟฟ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Kiss มาก และ Kiss เยอะที่สุด” น้องๆวง Proxie แสดงความรักโดยการคิสๆกันบ่อยเป็นเรื่องปกติ แฟนคลับเห็นความน่ารักนี้แล้วรู้สึกว่า เราสามารถแสดงความรักกับคนที่เรารักได้ ถึงจะเป็นกลุ่มเด็กผู้ชายก็ตาม คนที่คิสเพื่อนในวงเยอะที่สุดคือโชกุน ที่ดึงมีนคิสสูงที่สุด (ทำให้คะแนนมาตรฐานเฉลี่ยสูงขึ้น) ล่าสุดพี่ใหญ่ของวง กัน Proxie คิสๆ น้องบิวกิ้นกลางคอนเสิร์ตเรียกเสียงกรี๊ดไปทั่ว ทำให้รู้ว่า Proxie สามารถคิสๆกับทุกคนที่ทำให้น้องรู้สึกสบายใจได้ (ขอ consent แล้ว) และยัง related กับเพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อย Kiss Kiss ได้ดีด้วย เพราะการแสดงของน้องๆในเพลง Kiss Kiss เป็น performance ที่น่ารัก แข็งแรง และขี้เล่นไปด้วย น้องสามารถแสดงและสื่อออกมาได้อย่างเข้าใจและเป็นธรรมชาติ เพราะน้องอยู่กับการ Kiss Kiss มาตลอดนั่นเอง น่าจะเป็นวงที่แจกคิสๆมาก และคิสๆกันเยอะที่สุดแล้วค่ะ3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “โซโล่ว่าจึ้งแล้ว รวมกันก็ปึ้งเกินใคร!!” ชื่อรางวัลนี้ได้มาจากการการที่ตั้งแต่ต้นปี 2024 ที่ผ่านมาพ้อกสีได้ปล่อยเพลงโซโล่กันแบบไม่มีหยุด โชว์เสน่ห์เฉพาะตัวสุดจึ้งกันแบบไม่มีซ้ำ จนยุสเส้อจำต้องร้องขอชีวิต ไล่มาตั้งแต่ ชอบไหมไหนลองบอกของโชกุน / คนในใจของพี่กัน / Someone Somedayของกร / เริ่มก่อนวิคเตอร์ / พร้อมจะไปพี่คิม และจบด้วยอาจจะเป็นของอองรี ที่ทุกเพลงก็มี live session ของตัวเองอีกแม่!! จะไม่ให้เรียกว่าจึ้งได้ไงอ่ะ แถมล่าสุดไม่ปล่อยให้นานเกินรอ ก็มีเพลงรวมครั้งแรกในรอบ 8 เดือนอย่างหนูคิสคิส ที่เป็นแนวเพลงที่แปลกใหม่ สดใสจี๊ดใจแถมแอบมี sexy นิดๆให้ยุสเส้อยิบๆในใจว่า อร้ายยยยย พ้อกสีโตแล้วววทุกค๊นน วิคเต้อหลานยายกะน้องกุนลูกแมร๊ไม่โตได้ไหมลูกกกก (ที่เหลือพอทำใจได้ละ เพราะน้องกรเขาอยากโต๊ไปชั้นจะเป็นซัมวัน พี่กันก็สถาปนาตัวเองเป็นพ่อใหญ่ พี่คิมก้มาดเจ้าของธุรกิจสุดๆ ส่วนอองรีห้ามบอกไม่โตค่ะ เดี๋ยวนางประทุษร้ายมัมหมี (ต่อย)แต่ยังไม่หมด! นอกจากเพลงรวม พ้อกสีไม่หยุดแค่นี้ เพราะพ้อกสีจะมีคอนเสิร์ต!!! สเกลอิมแพค!!!! 16 พ.ย.นี้!!!!! Proxie 2nd concert final fantasy ไปกรี๊ดกันเยอะๆค่าาาาา เพราะบอกเลย จึ้ง! ปึ้ง!! ขอเอาเกียรติของการเป็นยุสเส้อ 200 ปี รับประกันค่ะ ขอบคุณค่าาาาา (โอ้ย เหนื่อยอะ แต่รักพ้อกสีไม่เหนื่อยเลยนะ รักทุกคนค่ะ คิสคิส)4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ทีป๊อปหน้าใหม่ ไลน์เต้นราชมัง” ที่มาคือ Proxie จะชอบบอกบ่อยๆ บอกตลอดๆว่า วงตัวเองเป็นทีป๊อปหน้าใหม่ ถ่อมเนื้อถ่อมตัว สัมมาคารวะ ไปงานไหนก็ครับ ครับ ครับ ไหว้สวยทั้งวง ดูไปเหมือนการแสดงออกจะเป็นตัวตนของน้องๆ (ถึงจะมีแสบซน ตลกมากๆก็ตาม) แต่การแสดงออกมาดูไปทางเรียบร้อยน่าเอ็นดู แต่ๆๆๆ!!!!!!! เมื่อถึงเวลาต้องเพอร์ฟอร์ม โอ้โหๆๆๆ ใช้พื้นที่ของไลน์เต้นเท่ากับสนามราชมังฯ ทั้งมือ ทั้งเท้า ทั้งบล็อคกิ้งใส่แบบไม่ยั้ง เต้นสับ เต้นดุดันไม่เกรงใจใคร โดยเฉพาะพ่อใหญ่กัน (หยอกน๊า) เป็นต้นแบบDNA ของ Proxie จริงๆ ทุกคนเก่งมาก ทำเต็มที่ในหน้าที่ตัวเองในทุกพาร์ทของการทำงาน ยูสเซอร์ภูมิใจในตัวน้องๆมาก และอยากให้น้องๆภูมิใจในตัวเองมากๆ ทำสิ่งนี้ด้วยความสุข ความสนุกและแพชชั่นที่เคยทำมาตั้งแต่ต้นตอนมีพวกคุณ 6 คนเป็น Proxie ...ร้ากๆๆๆๆๆ5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “สปอยทุกดอกแล้วบอกพูดเยอะไม่ได้” เนื่องจากพ้อกสีมักจะบอกว่าไม่สามารถบอกว่าพูดเยอะไม่ได้ กลัวเป็นการสปอยงานใหม่ๆ เพลงใหม่ๆ แต่มักจะหลุดพูดรายละเอียดออกมาแบบเนียนๆแล้วแกล้งทำเป็นพูดไปเรื่อยอยู่เสมอ จนแฟนคลับไม่รู้ว่าพ้อกสีกำลังพูดเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ ถึงเวลารับความสนุก เสียงหัวเราะจากหนุ่มๆ “PROXIE”รางวัล “สปอยทุกดอกเเล้วบอกพูดเยอะไม่ได้” อองรี : ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้นะครับ ถึงเเม้ว่าผมไม่เคยสปอยก็ตาม ผมก็น้อมรับรางวัลนี้นะครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ สำหรับรางวัลนี้สำหรับ PROXIE ขอบคุณมาก ๆ ครับ ดีเจโซเซฟ : เเล้วถามจริงว่าเป็นวงสปอยจริงมั้ย? อองรี : ไม่จริงครับพี่ อันนี้คือเราโดนโจมตีมาเยอะละ กับการบอกว่าเราสปอย เราขี้สปอย เราไม่เคยสปอย! ~ แฟนคลับคิดเผื่อเรางี้อันดับคนที่ขี้สปอยที่สุดในวง~ PROXIE : อองรีอันดับ 1 ดีเจเเนน : ซึ่งเพื่อนเคยหยิกหลังเขาไรงี้มั้ย? โชกุน : เคยนะครับ~ แต่เขาไม่รู้สึกอะไรครับ หยิกมาประมาณ 3 ปีแล้วยังไม่รู้สึกเลย ดีเจแนน : อันดับ 2 ล่ะคะ PROXIE : พี่กันน ๆๆๆๆ กัน : ครับ อันดับ 2 ก็ได้ครับ ตอนเเรก ๆ ก็ต่อต้านครับ หลัง ๆ รู้สึกว่าเข้าร่วมสนุกกว่า ดีเจเเนน : อันดับ 3 ครับ อองรี : ไม่กรก็โชกุน กร : อาจจะโชกุนนะ โชกุนดูเป็นเปิ้งป้างมากกว่า คิสคิสก็เห็นทำท่า โชกุน : มันก็เป็นปกติของวิถีไอดอลเขาทำกัน ท่าประจำทำอยู่เเล้ว แต่กรก็ทำหนิ กร : ก็เลยทำตามโชกุนไง ดีเจโซเซฟ : ถือว่าเป็นอันดับ 3 ร่วมไป... อันดับต่อมาครับ อองรี : พี่คิม เอ้ย! วิคเตอร์ เอ้ย! พอ ๆ กัน กัน : คือเขาอ่ะ ไม่ค่อย ๆ สปอยเเต่บางทีเขาจะโดนจี้เเล้วเขาจะเป็นคนแบบจริงใจ ดีเจเเนน : คนที่กุมความลับไว้ได้ดีที่สุดคือพี่คิมหรออ? คิม : หน้าที่สปอยเป็นของอองรีครับ ดีเจแนน : อ๋อ เราก็เลยทำหน้าที่แบบเก็บกุมความลับไว้ คิม : เปล่าครับ เพราะน้องเขาสปอยเสร็จเเล้ว ผมก็ไม่ต้องทำอะไรเเล้วครับ55555555+พูดชื่อแต่ละคนในฐานะ Tpop หน้าใหม่ในสไตล์ของตัวเอง~ วิคเตอร์ : สวัสดีค้าบ ผมวิคเตอร์ PROXIE ครับ เป็นศิลปินมา 2 เดือนครึ่งครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ โชกุน : สวัสดีค้าบ โชกุน PROXIE ค้าบ เพิ่งเดบิวต์วันนี้เยยยย~ กร : สวัสดีค้าบ กร PROXIE ผมเพิ่งเป็นศิลปินมาได้ประมาณ 2 ปีเเล้วครับ มีเพลง Crazy Love , คนไม่คุย , ที่ไม่รัก , สถานะเบลอ , ตบปาก , เจ็บอยู่ ดรอป 1 อัลบั้ม กำลังจะมีคอนเสิร์ต ฝากชมกันได้ เเต่ผมเพิ่งเดนะ กัน : สวัสดีครับ ผมกัน PROXIE ทีป๊อปหน้าใหม่ หัวใจ 06 ครับผม เพิ่งเดบิวต์เมื่อกี้เลยครับ ยังไม่มีเพลง ยังไม่มีงานจ้างได้ครับ คิม : สวัสดีครับ คิม PROXIE ครับผม ศิลปินหน้าใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้าบ อองรี : สวัสดีครับผม อองรี PROXIE ศิลปินหน้าใหม่ครับย้อนกลับไปดูตัวเองในอดีตจนมารู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปเยอะมากก อองรี : แน่นอนคือหน้าเเต่ละคนก็โตขึ้น บางคนประมาณอองรี โชกุน วิคเตอร์ กร มันจะเป็นแบบมีโครงเด็ก… ที่เปลี่ยนไปน่าจะเป็นหน้าเเละรูปร่างของตัวเอง เเล้วก็เสียงด้วย กร : แต่ก่อนอองรีติดเซลฟี่อ่ะ โชกุน : อองรีติดแบ๊วแต่ก่อนอ่ะ ดีเจแนน : เเล้วตอนนี้ติดแบ๊วอยู่ปะ? โชกุน : เลิกแล้วครับ เป็นเท่เเทน ดีเจแนน : เเล้วพี่คิมเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คิม : ผมว่าน่าจะมีริ้วรอยมากขึ้นครับตามสภาพอายุ จริง ๆ เเล้วน่าจะเป็นเปลี่ยนในเรื่องสกิลเต้นการร้องนี้ซะมากกว่าส่วนใหญ่ ละก็ไม่ใส่เเว่นเเล้ว กัน : จริง ๆ ก็ผมรู้สึกว่าผมน่าจะผอมลงครับ ตอนนั้นน่าจะกินเยอะครับ ช่วงนั้นติดชานมไข่มุกครับ ช่วงนั้นกินทุกอย่างเลยครับ กินเยอะมาก จนรู้ว่าจริง ๆ แล้วควรกินพอดีฮ่ะ อองรี : คือหลัง ๆ เขาดื้อ เขาไม่ยอมตัดผม คิม : เเล้วแบบผมก็ปิดหน้าปิดตาใช่มั้ย บางทีถ่ายรูปมาผมปิดตา 2 ข้าง เเล้วเขาจะมีอินเนอร์ทะลุออกมาจากผมนะ เเต่ไม่เห็นเขานะ ดีเจแนน : มีอะไรจะเเย้งเพื่อนมั้ย? กัน : ต้องบอกว่าที่ผ่านมาตั้งเเต่ซิงเกิลแรกจนถึงเกือบล่าสุดอะ ผมตัดผมสั้นตลอดเลย รู้สึกว่าทุกอย่างมันดูเดิม ๆ ผมอยากให้แบบว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง คือคนเราต้องมีมุมมองใหม่ ๆ ต้องลองอะไรใหม่ ๆ ไม่งั้นภาพจำเราจะเป็นเหมือนเดิม ที่ผ่านมาผมก็ปัดคิ้วมาเกือบ 6 ซิงเกิลเเล้วครับ จนอีกนิดนึงผมก็จะบวชเเล้ว เพราะปัดคิ้วเลยไม่ค่อยขึ้นละ กร : กรว่าเเต่ก่อนกรเป็นคนรั่วกว่านี้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ กรไตร่ตรองก่อนที่จะเกิดการกระทำน้อย โตมาเเล้วรู้สึกเยอะขึ้นครับ ก็จะพยายามไตร่ตรองให้มากขึ้น บางทีก็อาจลืมตัวไปบ้าง เเต่ก็จะมีพี่ ๆ ที่คอยช่วยเตือนสติเเล้วก็เคาะกลับมาว่า สติค่ะ! โชกุน : รู้สึกว่าเป็นคนที่โอ๊ยย! น่ารักนะเนี่ยเอาตรง ๆ 55555+ มีความโตขึ้นครับผม แบบว่าใช้ชีวิตเป็นมากขึ้นครับมากกว่าเดิม ภายนอกก็รู้สึกสูงขึ้นครับ กัน : มีคนบอกว่าแกโตขึ้นเพราะใส่วิกได้เเล้ว โชกุน : ตอนเด็กก็ใส่เป็นนะ ดีเจเเนน : ไปโรงพยาบาลคนเดียวได้เเล้วด้วย โชกุน : ใช่! กุนไปโรงพยาบาลคนเดียวเป็นเเล้ว จากที่ตอนเด็กที่กลัว กลัวเพราะรู้สึกว่าการไปโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องที่ดีครับ ตอนเด็กอยากไปกับคุณเเม่มากกว่าให้รู้สึกปลอดภัย เเต่ครั้งนี้กุนเเบบเข้าไปคนเดียว ดีเจแนน : วิคเตอร์ เป็นไงบ้าง? วิคเตอร์ : อาจจะพูดเก่งขึ้น เเล้วก็สิวน้อยลง เต้นมั่นใจขึ้น5 คนนี้ คนแรกที่เข้ามาหาวิคเตอร์คือออ… วิคเตอร์ : โชกุน หรือผมเข้าไปหาไม่รู้ ไม่ชัวร์ครับ เเต่ตอนนั้นผมไม่มีเพื่อนเลยครับ โชกุน : แรก ๆ กุนน่าจะเข้าหาก่อน ถามคนรอบข้างว่าอายุเท่าไหร่ เเต่รู้จักพวกกร อองรีมาแต่แรกประมาณนึง เเต่วิคเตอร์เพิ่งมาเจอ ก็เลยถามอายุเลยรู้ว่าเป็นน้องเราตั้ง 2 ปี เเล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย หลังจากนั้นเดินไปกินข้าวด้วยกัน คือด้วยความที่กุนติดแบบพี่กับน้องก็ต้องเรียกพี่ น้องก็ต้องเรียกพี่ว่าพี่ วิคเตอร์เดินมาหากุนว่า “มึงจะไปไหนต่อ จะเข้าไปปะ” PROXIE : 555555555555555+ ดีเจโซเซฟ : อันนี้คือสนิทกันเเล้วใช่มั้ย โชกุน : ยังครับ กุนก็เลยบอกว่า “อ่อ พี่อ่อ” ดีเจเเนน : เเต่วิคเตอร์คือไม่ถือเพราะเราเป็นฝรั่งไรงี้ปะ วิคเตอร์ : เหมือนแบบอาจจะอยู่สังคมแบบเด็กอินเตอร์ ก็เเบบไม่ค่อยเรียกพี่เท่าไหร่ ผมก็โดนรุ่นน้องเรียกเเบบนั้นเหมือนกัน ผมตั้งใจเรียกกูมึงกับคนที่มีอายุใกล้ ๆ ผม เพราะจะได้สนิทกันมากขึ้นรีแคปคนข้าง ๆ ว่ามีอะไรที่ยังเหมือนเดิมตั้งเเต่วันเเรกจนวันนี้ … วิคเตอร์ : โชกุนก็คีพคาเเรคเตอร์ที่เเบบสดใส ก็จะชอบเล่นมุก ชอบทำตัวรั่ว ๆ นิดหน่อย ก็รั่วน้อยลงเพราะโตขึ้น เเต่ว่าก็จะมีมุมน่ารัก ๆ กวน ๆ ทำให้ทุกคนใน PROXIE ขำ โชกุน : ความเหมือนเดิมของกร ตั้งเเต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็คือความขยันครับ กุนเห็นกรเป็นคนขยันเเล้วก็ตั้งใจมาตั้งเเต่วันแรกจนถึงวันนี้ ยังขยันกับทุกเรื่อง เป็นคนที่เต็มที่กับทุกเรื่องมาก ๆ ครับ เรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องซ้อมต่าง ๆ กุนก็เห็นว่าเขาเหนื่อยอะไรเงี้ย เเต่เขาก็สามารถหาเวลานอนได้ อย่างน้อย 10 นาทีก็ต้องนอน เพื่อตื่นมาทำงานอย่างเต็มที่ได้ครับ เป็นคนเก่ง ๆ กร : พี่กันเขาก็มีความตามใจตัวเองเหมือนเดิม ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี พี่กันจะมีโหมดจริงจัง มีวินัย คือเขาเป็นไอดอลของพวกเราทุกคนด้านวินัยเลยนะคือเขาไม่เคยมาสาย อะไรพวกนั้นมันเป็นวินัยที่เป็นภาพลักษณ์ของพี่กันว่าเขาจะ strict มาก ๆ หลังมื้อเย็นเขาจะไม่ทานอะไรเเล้ว แต่ที่เหมือนเดิมก็คือที่จะเจอทุกรอบว่าแบบ ไหนบอกไม่ทานเเล้วไง เเต่นั่งกินโดนัทกินข้าวต้มเเห้ง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ มันจะได้ความรู้สึกที่พี่กันไม่ได้ strict เกินไปจนมันเครียด ก็เลยรู้สึกว่าตามใจตัวเองบ้างก็ดี ต้องหย่อนบ้าง กัน : คิมเป็นคนที่เอเนอร์จี้สดใสเสมอ เป็นคนที่มีระเบียบตั้งเเต่เเรก ๆ จนถึงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน มีระเบียบกับทุก ๆ เรื่อง เสมอต้นเสมอปลาย คิม : อองรีน้องคนที่น่ารักตั้งเเต่แรกเลย เสมอต้นเสมอปลาย สดใส ร่าเริง คิมว่าในเรื่องของเเพชชั่นท่าเต้นใด ๆ ก็ตามอ่ะ คิมมองรีมาตั้งเเต่ก่อนเดบิวต์ด้วยซ้ำอ่ะ คือคิมรู้สึกว่าน้องคนนี้เต้นโคตรเท่เลย พอโตขึ้นมาตอนนี้เหมือนอองรีเริ่มเจอตัวต้นที่เเท้จริง เเต่เอาตัวเองเเต่ก่อนมาทำให้เป็นเวอร์ชั่นตัวเอง อองรี : วิคเตอร์เปลี่ยนไปเยอะมาก เเต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิมเวลาที่เขาตั้งใจหรือสนใจอะไร เขาจะเหมือนมุ่งมั่นแล้วก็ concentrate กับสิ่งนั้นมาก ๆ ซึ่งอองรีคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เลยเวลาเราสนใจอะไร เราอยากทำอะไร ก็จะศึกษาสิ่งนั้น ๆ ให้ดีเเล้วมันเป็นสิ่งที่วิคเตอร์มีติดตัวมาตั้งเเต่เเรกแต่ละคนชอบ “KISS KISS” ที่… กัน : ผมชอบ KISS KISS ที่คอนเสิร์ต The Second Final Fantasy ครับ โชกุน : กุนชอบ KISS KISS ที่บ้านครับ จุ้บแก้มคุณเเม่ วิคเตอร์ : ผมวิคเตอร์ ชอบ KISS KISS ที่โรงเรียนครับ อยากให้อาจารย์ให้เกรดดี ๆ ครับ กร : กรชอบ KISS KISS ที่มี User ช่วยแฟนชานจ์ครับ คิม : คิมชอบ KISS KISS ที่หน้าผากครับ อองรี : อองรีชอบ KISS KISS ที่ปากครับให้เจ้าชายแห่งการสปอย ลองสปอย Guest ในคอนเสิร์ตที่กำลังจะถึง อองรี : คือไอเรื่อง Guest เนี้ยะ ทุกคนอาจจะมีเดาผิดบ้าง เดาถูกกันบ้าง เเต่ผมเชื่อว่า เอ่ออ… คนที่คุณเดาเนี้ยะ จะมีถูกเเน่นอนครับ ดีเจแนน : มีใครจะสปอยอะไรมั้ย 1 คำอ่ะ กัน : หาย ครับหาย ดีเจโซเซฟ : หึ้ยย คำนี้แปลกมากนะคอนเซ็ปท์คอนเสิร์ต PROXIE The 2nd Concert "The Final Fantasy" ในครั้งนี้! วิคเตอร์ : แฟนตาซีเเน่นอนว่ามันจะแบบฟรุ้งฟริ้ง มีลูกเยอะ ๆ มีอะไรที่อลังการมาก ๆ เล่นใหญ่มาก ๆ รอบนี้ใหญ่กว่ารอบที่เเล้ว access ใช่มั้ยครับ คือการเปิดประตู เเต่แฟนตาซีคือเข้าไปเเล้ว เจ๋ง อย่าลืมจองตั๋วด้วยนะครับ โชกุน : โอเค หายใจได้ละ~ PROXIE : 5555555555555555+ ดีเจแนน : ตอนนี้บัตรหมดยัง จองได้ที่ไหนยังไง? โชกุน : ยังจองได้อยู่นะครับที่ All Ticket ครับ ไปจองกันได้ สิ้นเดือนใครมีเงินก็มาจองกันนะครับ กัน : ใครเงินเดือนออกก็สามารถจองได้นะครับวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้“PROXIE”เล่นสนุกสนานด้วยชื่อเกม ‘คำตอบนี้ PROXIE คิสไว้ให้แล้ว!’ ถ้าอยากรู้ว่า ’PROXIE’ จะคิสอะไร ไปดูกันเลยย(เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ“PROXIE” (เข้าไปชมได้ในYoutube: ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“PROXIE”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความสนุกสนานให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไปขอฝากซิงเกิลล่าสุด “KISS KISS” สามารถรับชม MV ได้เเล้วที่ Youtube : PROXIE ฝาก Challenge ใน TikTok ด้วยน้าา และฝากคอนเสิร์ต Proxie The Second Concert The Final Fantasy ที่จะจัดขึ้นวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้! ที่ IMPACT Arena, Muang Thong Thani ตอนนี้ยังสามารถกดบัตรได้อยู่ เเล้วมาเจอกันน้าาา~สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“เก่ง หฤษฎ์” เก่งแต้ ๆ จนคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “Best New Puppy of the Ghost (บ้อกแบ้กคนใหม่ขวัญใจผีสาว)” ปิ๊กบ้านไปเลยเจ้า~~

24 ก.ย. 2024

“เก่ง หฤษฎ์” เก่งแต้ ๆ จนคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “Best New Puppy of the Ghost (บ้อกแบ้กคนใหม่ขวัญใจผีสาว)” ปิ๊กบ้านไปเลยเจ้า~~

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 12 กันยายน 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “เก่ง หฤษฎ์” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ดาวรุ่งพุ่งแรงแหวกทุเรียนแจ้งเกิด” นักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่แห่งปี น้องเก่งเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ผลงานภาพยนตร์ เรื่องแรกก็แจ้งเกิดเลย ในบท ‘จิ่งนะ’ หนุ่มเมืองเหนือ ชีวิตลำบากที่ดูซื่อๆ จริงใจ ท่ามกลางเนื้อหาของเรื่องที่อารมณ์ พลุ่งพล่าน ขึ้นสุด ลงสุด แต่บทของจิ่งนะ เป็นตัวละครที่โดดเด่น เป็นแสงแห่งความหวังของหนังเรื่องวิมานหนาม เลยขอตั้งชื่อว่า “ดาวรุ่งพุ่งแรงแหวกทุเรียนแจ้งเกิด” เพราะทั้งเรื่องอยู่ในสวนทุเรียน ตั้งแต่ออกดอกจนเก็บผล แล้วน้องเก่งนี่ล่ะที่เป็นตัวละครสำคัญหนึ่งที่แหวกทุเรียนแจ้งเกิด ลุ้นไปกับทองคำและจิ่งนะ และสะเทือนใจอึ้งทึ่งในบทฉากจบจนต้องขอตั้งชื่อ aka Bengy แม่เซ็นยกจิ่งนะให้ฉันเถิด เพราะเกิดมาฉันไม่เคยมีบุญวาสนาเหมือนใครเขาเลย เซ็นยกจิ่งนะ ให้ฉันเถิดนะแม่ ฮือออออออ เก่งจิ่งนะ เจ่งเจ่ง เก่งจริงนะ ยกนิ้วให้ เอาใจพี่ไปเลยยยยยยยยย2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เก่งจิ่งจิ่งเลยนะตัวแค่เนี๊ยะ” มาจากการรวมกันของชื่อ ‘เก่ง’ และชื่อของตัวละครของเก่งที่ชื่อ ‘จิ่งนะ’ ที่กำลังเป็นที่รักของทุกคนในตอนนี้ ล้อกับประโยค ‘เก่งจริงๆ เลยนะตัวแค่เนี๊ยะ’ ที่สื่อถึงตัวตนของเก่งที่ทั้งร้องเพลง เล่นละคร เดินแบบ ถ่ายแบบ เก่งครบจบในคนเดียว3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Best New Puppy of the Ghost (บ้อกแบ้กคนใหม่ขวัญใจผีสาว)” รางวัล “บ้อกแบ้กคนใหม่ขวัญใจผีสาว” มอบให้แด่ ‘หฤษฎ์ บัวย้อย’ ผู้ครอบครองหัวใจผีสาวและพี่คนสวยทั้งประเทศในขณะนี้ จากบทบาทหมาเด็กตาแป๋วหน้าซื่อจากวิมานหนาม และพ่อครูหน้าดุจากเขมจิราต้องรอด สู่ปรากฏการณ์ “ไม่เป็นแล้วพี่สาว ขอเป็นผีสาวของพ่อครูดีกว่า”, “แม่เซ็นยกจิ่งนะให้ฉันได้มั้ยจ๊ะ” เรียกได้ว่าทั้งคิวหม้อดินเก็บวิญญาณ หรือจะคิวชมสวนทุเรียนทองคำเสก ก็ต่างยาวไปถึงปีหน้าเลยทีเดียว นาทีนี้ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่ารางวัลบ้อกแบ้กของพี่ๆ ผีสาวแล้ว4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เทพบุตรไทลื้อ” เนื่องจากจาก ‘เก่ง’ เป็นชาติพันธุ์ไทยลื้อ ที่อยู่ชายขอบห่างไกลความเจริญ น้องมีความภูมิใจในบ้านเกิด น้องพร้อมเป็นกระบอกเสียง เพื่อให้สังคมเข้าใจปัญหาหรือความไม่เท่าเทียมในสังคม ในพื้นที่ห่างไกล น้องมีทัศนคติและความคิดที่ดี มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการทำงานพร้อมพัฒนาตัวเอง อ่อนน้อมถ่อมตน ตรงต่อเวลา มีมารยาทที่ดี และที่ขาดไม่ได้คือความหล่อของหนุ่มไทลื้อ แห่งภูซาง5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ม๋าเด็กมอมแมมตกคนแห่งปี” ที่มาคือ ‘เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย’ เป็นคนที่มีบุคลิกภาพดี หล่อ เรียบร้อย สุขุม สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน มีมุมน่ารัก มีมุมขี้อ้อน มีมุมตลกที่แฟนๆสามารถพบเจอได้อยู่บ่อยๆ เลยเปรียบเสมือนม๋าเด็กตัวเล็กๆ ซนๆ น่ารักมาก เอ็นดูสุดๆ ดวงตาสีน้ำตาลเฮเซลนัทของเค้ามีเสน่ห์มาก เหมือนมีดาวพันล้านดวงอยู่ในนั้น ใครอย่าได้เผลอจ้องตาเชียวนะ อันตรายต่อหัวใจมาก แล้วเค้าเป็นคนที่พูดจาน่าฟัง เรียบเรียงคำพูดได้ดี เป็นคนที่ไม่ว่าจะถูกจับใส่เสื้อผ้าแนวไหน ก็เอาอยู่ทุกลุค เค้าสามารถทำได้ และทำได้ดีเสมอ เค้าเทคแคร์เอาใจใส่พี่ๆแฟนคลับอยู่ตลอด ร้องเพลงเพราะมาก แถมแต่งเพลงก็ได้อีก ทำให้พี่ๆชื่นชอบ หลงรักไม่ไหว สุดท้ายนี้อยากจะบอกน้องเก่งว่า ขอบคุณที่พยายามมายืนจุดตรงนี้ ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้ไปก่อน ขอบคุณโลกที่ทำให้ได้ค้นพบน้อง ไม่ว่าน้องจะไปอยู่ตรงไหนขอให้น้องได้ใช้ชีวิตอย่างดีมีความสุข ได้กินของอร่อยๆ ไม่เจ็บไม่ป่วย อยู่ตรงไหนก็มีแต่คนใจดีเอ็นดู จะเดินไปด้วยกัน คอยเป็นกำลังใจให้อยู่ข้างๆตรงนี้เสมอพร้อมพี่ๆแฟนคลับคนอื่นๆที่รักน้อง น้องเป็นคนเก่งที่เก่งสมชื่อ ไม่เสียใจและภูมิใจที่สุดที่ได้เป็นแฟนคลับน้องเตรียมตัวรับความฟินจาก “เก่ง หฤษฎ์“ ซึ่งเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการกันนน!!รางวัล “Best New Puppy of the Ghost (บ้อกแบ้กคนใหม่ขวัญใจผีสาว)” ก่อนอื่นเลย เก่ง หฤษฎ์ ต้องขอบคุณพี่ ๆ ผีสาวทุกคนนะครับ ก็ขอบคุณทุกกำลังใจทุกคนเลย หวังว่าจะทำผลงานออกมาให้ผีสาวทุกคนได้รับชมนะครับผม ขอบคุณครับถ้าอยากได้ใจ ’จิ่งนะ’ ก็จะต้อง… เก่ง : อย่างเเรกเลยสามารถปลูกต้นทุเรียนได้ฮะ ก็พี่ ๆ คนไหนสามารถปลูกเเละสามารถเพาะพันธุ์ต้นทุเรียนได้ คอมเมนท์กันมาได้ กด 1 มาได้ ดีเจแนน : มีคนพิมพ์มาบอกว่า เรามีสวนทุเรียนค่ะ เก่ง : หู้ยย! จริง ๆ ถ้ามีสวนทุเรียนไม่ต้องปลูกแล้วก็ได้ครับ ถ้ามีเจ้าของสวนนี่จิ่งนะพร้อมเปิดรับเลย ถ้ามีแบบ 10 ไร่ 100 ไร่ยิ่งดีเลย~1 อย่างที่ “เก่ง หฤษฎ์” รักที่จะทำที่สุด เก่ง : จริง ๆ ช่วงนี้เก่งอินกับการแสดงมาก ๆ เลย หลังจากจบภาพยนตร์เรื่องวิมานหนาม คลั่งไคล้การแสดงมาก ๆ รวมถึงซีรี่ย์ที่จะมาเร็ว ๆ นี้ด้วย เเต่ถ้าถามจริง ๆ เเล้วมันมี 1 ความฝันที่เก่งอยากจะทำคือการเป็นนักร้อง อาจจะหลังซีรี่ย์หรือว่าอะไร ก็รอดูก่อน ดีเจแนน : เเนวไหนที่เราชอบร้องครับ เก่ง : ก็ป๊อปทั่วไปเลยครับ พี่นนท์ ธนนท์,พี่เจฟ ดีเจเเนน : ช่วงนี้เราฟังหรือเราอินเพลงไหนเป็นพิเศษมั้ยครับ? เก่ง : ช่วงนี้ก็ต้อง ‘เหมือนวิวาห์’ มั้ยครับนิสัยที่เเท้จริงของ “เก่ง หฤษฎ์” เป็นแบบนี้ต่างหากล่ะ เก่ง : เก่งก็เป็นคนแบบที่พี่ ๆ บอกแหละ บางทีเก่งก็จะมีความที่เป็นหนุ่ม Introvert ชอบอยู่คนเดียว ฟังเพลง ดูหนังคนเดียว กินข้าวคนเดียว เเต่บางมุมก็จะมีมุมที่เเบบบ๊อกแบ๊กเวลาอยู่กับน้องกับเพื่อนกับพี่ ก็จะมีความที่แบบเป็นคนกวน ๆ แบบ Nice พร้อมรับทุกอย่าง ดีเจดาว : ลองเปรียบเทียบได้มั้ยระหว่างตอนอยู่บ้านเกิดกับมาอยู่กรุงเทพ มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง เก่ง : ตอนอยู่บ้านเกิดเป็นคนที่เก็บตัวมาก ๆ เเทบจะไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกเลย เลิกเรียนมาเตะฟุตบอล เล่นกับเด็ก ๆ จนทำให้เรารู้สึกผูกพันกับเด็ก ๆ จนรู้สึกอยากเป็นคุณครู ดีเจดาว : ตอนมาอยู่กรุงเทพใหม่ ๆ รู้สึกไงบ้าง เก่ง : โหห เป็นความทรงจำที่เลวร้ายมาก ๆ เก่งจำได้ว่าตอนปี 1 เก่งเข้ามาแคสรายการอะไรซักอย่างนึงในกรุงเทพ เป็นการขึ้น MRT ครั้งแรก เเล้วเป็นเด็กต่างจังหวัดเเบกกระเป๋ามาประมาณ 3 ใบ เเล้วต้องขึ้น MRT ไปเเถวเอ็กซ์พลานาด เพราะว่ามีเเคสที่นั่นเเละก็ไปพักตรงนั้น เหมือนตอนนั้นเป็นช่วงเวลาทำงาน ทุกคนเร่งรีบหมดเลย เเล้วเก่งก็ขึ้นเเล้วก็ โหห เย็นดีนะ ไม่เคยเห็น ว้าวกับทุกอย่าง มีใต้ดินด้วย เเล้วซักพักกลุ่มคนวิ่งเข้ามาเยอะมาก เเล้วก็ดันเก่งเข้าไป เเล้วเก่งก็ตกใจไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ดีเจแนน : แต่เราก็เอาตัวรอดมาได้เนาะ เก่ง : ก็เอาตัวรอดมาได้ ดีเจดาว : ลงถูกป้ายเนาะ เก่ง : ถูกป้าย ๆ ดีเจแนน : ตอนนี้ชินเเล้วเนาะ เก่ง : ชินเเล้วครับ ไปไหนมาไหนคนเดียวได้เเล้วการรวมพลคนเดียวครั้งแรกของเก่ง!! เก่ง : ตื่นเต้นครับ ปกติมีน้องอยู่ตลอดที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเก่ง “น้องน้ำปิง” เวลารวมพลก็จะมีน้องอยู่ข้าง ๆ ตลอด วันนี้มาอยู่คนเดียวก็ยังแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน ดีเจดาว : งั้นคราวหน้าถ้ามาเอาน้องมาด้วย เก่ง : เอ้ยย พูดแล้วนะครับชวนพี่ดาวไปดู ’วิมานหนาม‘ ในคาแรคเตอร์ของจิ่งนะ เก่ง : ก็ฝากพี่ดาวด้วยนะครับ อยากให้ดูจริง ๆ ครับ จิ่งนะน่ารักมากครับ ดีเจดาว : ตีตั๋วคืนนี้เลยรอบ 5 ทุ่มมีมั้ย‘จิ่งนะ’ เป็นตัวละครที่ทำให้เก่งประสบความสำเร็จอย่างมาก เก่ง : จริง ๆ อยากจะขอบคุณหลาย ๆ อย่างเลย เก่งไปเจอประโยคนึงมาคือเขาเขียนว่า ”ทุกคนรู้จักจิ่งนะผ่านเก่ง เเล้วก็รู้จักเก่งผ่านจิ่งนะ” เลยรู้สึกว่าจิ่งนะอยู่ในตัวเก่งตลอด ไม่ได้หายไปไหนหรอก เขาอาจจะอยู่ในอีกเส้นทางนึงของเขา อาจจะมีชีวิตที่ดีหรือแย่ เเต่จะขอบคุณเขาที่ครั้งนึงเข้าเคยมาในชีวิตเรา เเล้วทำให้เราเป็นที่รู้จักเยอะขนาดนี้ครับ ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตของเขาด้วย ในมุมมองที่เราไม่เคยเห็นในชีวิตเรามาก่อนในเรื่องของการเห็นเเสงสว่าง หรือการเห็นความหวังอะไรหลาย ๆ อย่าง การที่เขาเป็นนักสู้ด้วย ก็ขอบคุณเขาด้วยครับ ดีเจดาว : ก่อนที่หนังเข้ากับตอนนี้ที่ทะลุ 100 ล้านไปเเล้ว มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง? เก่ง : ผมรู้สึกปกตินะ ผมรู้สึกว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเยอะเท่าไหร่ เเต่พอจะติดตามข่าวสารบ้างว่าพี่ ๆ ให้การตอบรับแบบดีมาก ๆ เลย ก็ขอบคุณมาก ๆ ที่พี่ ๆ ชอบในตัวจิ่งนะ ชอบในภาพยนตร์วิมานหนาม หวังว่าจะพาน้องไปให้ได้ไกลที่สุด ไปให้ได้มากกว่านี้ ไปแบบโกอินเตอร์เลยครับผม อยากให้ทุกคนได้เห็นภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ๆ ครับเก่งประทับใจนักแสดงเเละทีมงานในกองถ่ายมาก ๆ ให้คำนิยามนักแสดง/ทีมงาน เรื่องนี้ละกันครับ เรียกว่า ทีมงานปีศาจ ในมุมของความสามารถ คือทุกคนเก่งกันหมด แบบอินดีเทลมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ นักแสดง ทีมอาร์ต สไตล์ลิสต์ สวัสดิการ ทุกอย่างเลย ทุกคนทำงานกันแบบเป็นมืออาชีพมาก ๆ เเล้วตรงต่อเวลา เป๊ะ ๆ เลย “พี่อิงฟ้า” ยังอีกยาวไกลอะ คือเก่งจริง ๆ ต้องยอมรับมาว่าเก่งจริง ๆ ลบภาพเเม่กุหลาบออกได้เลย คือโหม๋จริง ๆ ตอนนี้ ทุกคนเชื่อจริงว่าเนี่ยคือโหม๋ เเม้เเต่เก่งนั่งดูยัง โหห พี่ฟ้าเล่นได้ลึกขนาดนี้เลยหรอ น่าสงสารมาก ๆ ซึ่งเก่งเพิ่งเข้าในตัวละโหม๋ตอนที่เก่งดูครั้งที่ 2 เก่งรู้สึกว่าได้โฟกัสกับตัวโหม๋จริง ๆ พี่ฟ้าเล่นละเอียดมาก ๆ ต่อไปพี่ “เจฟ” ก็โอ้โหห~ พี่ชายที่เเสนดีมาก ๆ จำได้ว่ามีซีนนึงไม่เเน่ใจว่าซีนเเรก ๆ ที่เข้ากับพี่เจฟ เก่งเกร็งมากตอนนั้น เเบบมือเกร็ง มือเย็น ปากแห้ง เลียริมฝีปาก คือเหมือนคนกระหายน้ำอ่ะครับ เป็นผลงานชิ้นแรกเเล้วเรากดดันมาก ๆ พี่บอสก็บอกว่า ‘เก่งขออีกนิดนึง อย่าเลียริมฝีปาก คัท!’ ผมก็บอกพี่บอส ‘ผมไม่รู้เหมือนกันมันเป็นเอง ’ พี่เจฟก็บอกเก่งว่า ‘เก่งเเค่อยู่กับพี่ เก่งฟังเสียงรอบข้าง เก่งมองตาพี่เเล้วก็อยู่กับพี่’ มันทำได้เลย กลายเป็นว่าเราไม่ได้โฟกัสที่ใจเราละ เราโฟกัสข้างนอก อยู่ตรงนั้นจริง ๆ ได้เห็นจริง ๆ หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มโฟล์วน้อง ”น้ำปิง“ เป็นพาร์ทเนอร์ที่น่าฮักขนาด~ โหห เป็นน้องที่น่ารักมาก ๆ เป็นน้องที่เข้าอกเข้าใจกันมาก ๆ น้องเสมอต้นเสมอปลายตั้งเเต่เเรก ๆ ที่รู้จักกันเลย เริ่มต้นคือรู้จักกันตั้งเเต่รายการ LINE UP ตอนนั้นยังไม่พูดคุยกันมาก รู้สึกว่าเขาเป็นเด็กที่มีไหวพริบดี เก่งด้วย เห็นอกเห็นใจคนอื่นตลอด จนมีรายการเรียลลิตี้ Friendship ก็เริ่มสนิทกับน้องมากขึ้นครับวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้“เก่ง หฤษฎ์”เล่นสนุกสนานด้วยชื่อเกม ‘จิ่งนะ เก่งที่สุดด!’ ถ้าอยากรู้ว่า ’จิ่งนะ‘ จะเก่งขนาดไหนน ไปดูกันเลยย(เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ“เก่ง หฤษฎ์” (เข้าไปชมได้ในYoutube: ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“เก่ง หฤษฎ์”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความฟินจิกหมอนให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไปขอฝากภาพยนต์ “วิมานหนาม” เเละซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด” เป็นซีรีส์เเนวไศยศาตร์ที่เเสดงร่วมกับน้อง “น้ำปิง” เเละฝากทุกผลงานเเละติดตามเก่งกันด้วยน้าา~สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“มอส-แบงค์” คู่ซี้ที่พร้อมจะหยุมกันตลอดเวลา มาคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “รักไม่บอกแสดงออกด้วยการหยุม”

17 ก.ย. 2024

“มอส-แบงค์” คู่ซี้ที่พร้อมจะหยุมกันตลอดเวลา มาคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “รักไม่บอกแสดงออกด้วยการหยุม”

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 5 กันยายน 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “มอส - แบงค์” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ดาวประดับฟ้า” สำหรับแฟนคลับตัวน้อยๆที่มองพี่มอส พี่แบงค์อยู่ตรงนี้ เห็นความพยายาม ความเอาใจใส่ ความทุ่มเท ต่อทุกๆชิ้นงาน , ผลงานที่ทั้งตัวพี่มอสและพี่แบงค์ได้รับ นอกจากนี้พี่มอสและพี่แบงค์ก็ใส่ใจแฟนคลับของพวกเขามาก เทคแคร์สุดๆ ทำให้สำหรับแฟนคลับ อยากเห็นทั้งคู่เป็นเหมือนดั่งดาวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า ส่องแสงสว่างสดใส แม้ในอนาคตจะจับต้องไม่ได้ แค่ก็คุ้มค่าที่ได้เป็นอีกแรงกำลังผลักดันให้ดาวดวงนี้ขึ้นไปถึงจุดนั้น จุดที่ทั้งคู่ส่องสว่างท่ามกลางผู้คนนับพันนับล้าน เลยอยากฝากชื่อรางวัล "ดาวประดับฟ้า" ไว้ให้พี่ๆทีมงานพิจารณาด้วยค่ะ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “รักไม่บอก แสดงออกด้วยการหยุม”**ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น** แนวคิด 1 : หยุมที่ 1 คือตีกัน แย่งของกัน งอนกัน ไลฟ์ด้วยกัน แต่ละรอบไม่เคยไม่หยุม แหย่กันตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ยอมกันอยู่ดี หยุมที่ 2 คือ มือมอส มอสชอบหยุม.... แบงค์ ไม่ว่าจะไลฟ์หรือ หน้างาน มีให้เห็นเรื่อยๆ จนมี #มอสหลงมือปลาหมึก ใน Tiktok แต่จริงๆเค้าติดสกินชิพทั้งคู่ ถ้านั่งข้างกันจะมีส่วนใดส่วนนึงแตะตัวกันเสมอ จับแขน กอดแขน โอบเอว โอบไหล่ แนวคิด 2 : เพราะมอส – แบงค์มีชื่อว่าคู่รักนักหยุม3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “พี่คนสวยติดเเกรมกับม๋าเด็กปากเเข็งที่จริงใจ” Banky = พี่คนสวย (หลักฐานอยู่ที่หน้าเเละตัวหมดเเล้ว) เเกรมในที่นี้หมายถึง ความเรียบหรูดูเเพง มีเสน่ห์ น่ามอง Moslhong = ไทป์ลูกหมา มีความขี้อ้อน พูดเพราะ อบอุ่น ใจเย็น ดูเเลเก่ง ทัศนคติดี คลั่งรัก ติดสกินชิพเเบบ 3000% เเต่ปากเเข็งหน่อยๆ4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “หาให้เจอนะความสัมพันธ์แบบมอสแบงค์” ตลอด 2-3 ปีที่ตามน้องๆมา เราว่าความสัมพันธ์น้องๆเป็นอะไรที่ดีมาก ไม่ได้มองในมุมคู่จิ้น แต่มองในฐานะมนุษย์คนนึง ความคอยซัพพอร์ตกันให้อีกฝ่ายไปถึงฝันอย่างเต็มที่โดยไม่หวังอะไรตอบแทน ความทะนุถนอมกันที่ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าอยากมีกันและกันในชีวิต ใส่ใจกัน ให้เกียรติกัน อยู่เป็นความสบายใจให้กัน เราสัมผัสได้ว่าเค้ารักกันมากกกก มากกว่าที่เราจะจินตนาการได้ เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่า "ตราบใดที่คนใดคนนึงยังอยู่ อีกคนก็จะถูกรักเสมอ" ปล.เรื่องสถานะน้องไม่เคยออกมายืนยัน แต่แฟนด้อมเราเรียกกันว่าคู่ชีวิตค่ะ5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Emerald Couple” มรกตเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีและความรัก นำมาซึ่งความสามัคคีเช่นเดียวกันกับที่ มอส - แบงค์ ทำเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ! เตรียมตัวรับความฟินจาก “มอส - เเบงค์“รางวัล “รักไม่บอกแสดงออกด้วยการหยุม” เเบงค์ : ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนนะครับที่สนับสนุนพวกเรามาโดยตลอดครับ ขอบคุณทุก ๆ การติดตามนะครับ บอกเลยว่ามันมีค่าต่อพวกเรามาก วันนี้ก็ได้รางวัลอันทรงเกียรติเเล้วเรียบร้อยก็ขอบคุณทุกคน รางวัลนี้ก็มอบให้ทุกคนด้วยเช่นกันครับฉายามอสหลงมือปลาหมึก ชอบสกินชิพแบงค์ที่สุด! เเบงค์ : คำตอบออนเเอร์ได้หรอ~ มอส : พูดได้มั้ยครับ ดีเจดาว : ได้ ๆ พูดได้ มอส : ผมชอบจับนมครับ เพราะมันนุ่ม~ เเบงค์ : เรื่องของเรื่องคือเขาจะชอบทำยังไงก็ได้ให้ผมหงุดหงิด ถ้าวันนี้เรามาทรงอารมณ์ดีมาก ต้องทำให้หงุดหงิด ดีเจดาว : เเล้วทำไมเราถึงหงุดหงิดเวลาเขามาจับ เเบงค์ : พี่เข้าใจมั้ยว่าเมืองไทยเราไม่ได้หนาวอ่ะ พื้นเพบ้านเราเมืองร้อนละเราหงุดหงิดง่าย มอส : อ่ะพูดอย่างงี้ พื้นฐานเราเป็นคนขี้หงุดหงิด เเบงค์ : เนี่ยย เเล้วมันเป็นอย่างงี้ตลอด เขาทำให้เราหงุดหงิดเเล้วก็จะไปบอกทุกคนว่าผมเป็นคนขี้หงุดหงิดความอุ่นใจที่โดนอีกฝ่ายสกินชิพ เเบงค์ : มันมีหลายมู๊ดด มันจะมีที่เขาชอบแกล้งเรากับที่เขารู้เเล้ว เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับงานมากเเบบเป็นคนที่มีความฝันแล้วทะเยอทะยานกับความฝันของตัวเอง เเล้วบางครั้งเราไม่ได้สมหวังในทุกเรื่อง มันก็มีจะมีโมเม้นที่เขาเเบบเข้ามาบอกเราด้วยการสกินชิพว่า “เห้ยย ยังมีเขาอยู่นะที่เดินไปด้วยกัน อย่าลืมเขาสิ ถ้าเธอเศร้าก็เศร้าไปด้วยกัน” มันก็จะเป็นโมเม้นที่เเบบทำให้ผมรู้สึกว่าการสกินชิพของเขามันดีกว่าคำพูดด้วยซ้ำบางครั้ง ดีเจเเนน : ขอบคุณที่ทำให้เครียด ในวันที่ยิ้มได้ เเบงค์ : อะไรแบบนั้น5555555555555+ถ้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สิ่งแรกที่ทำให้ต้องมองอีกฝ่าย! มอส : ต้องบอกก่อนว่าเขาเป็นคนที่ขาวมาก เพราะฉะนั้นเขาจะมีออร่า พูดได้ตรง ๆ ว่าเขาเป็นที่เเสงส่องลอดออกมาจากผิว เอางี้เวลาเขาเดินมาจากฝูงชนเป็นร้อย ผมเห็นเขาคนเดียว เเบงค์ : อันนี้ผมไม่ได้พูดนะเนี้ยมอสหลงเป็นคนปากแข็ง! เเบงค์ : จริงครับ เขาเป็นคนที่ไม่ชอบบอกรัก ไม่ค่อยชอบพูดอะไรที่มันโรเเมนติก เขาจะเป็นคนที่เน้นการกระทำ ซึ่งบางทีอะด้วยความที่เราสนิทมาก ความต้องการเราเยอะขึ้น… ดีเจเเนน : ความต้องการเรื่องอะไร!? เเบงค์ : เรื่องการบอกรักก เอาใจ~ ด้วยความที่ผมสนิทกับเขาแล้วไปที่บ้านเขาก็รู้ว่า ตั้งเเต่เด็กถูกเลี้ยงดูมายังไง ด้วยความที่ความที่เขาไม่ค่อยบอกรักพ่อเเม่ เเต่เขาจะใช้วิธีการกระทำให้พ่อเเม่รู้ว่าเขารัก เเละเขาก็ติดเเบบเนี้ยมาเรื่อย ๆ เเล้วพอมาอยู่กับเราเราดันเป็นคนที่อยู่ในครอบครัวที่ชอบพูดคำว่ารัก ผมก็เริ่มสอน ทุกวันนี้เขาก็เริ่มไปบอกพ่อแม่แล้ว ดีเจแนน : บอกว่าา มอส : รักไงค้าบบ รักพ่อรักแม่นะค้าบ เเบงค์ : แต่ผมชอบให้เขาพูดแบบว่าวันนี้ชั้นน่ารักมั้ย นางก็จะแบบว่า อือ ๆ ก็ดี ซึ่งเราไม่อยากได้คำตอบนั้นไง เราก็จะถามไปจนกว่าเขาจะให้คำตอบที่เราพอใจ มอส : เป็นคนที่ถามเราเพื่อให้เราตอบคำถามที่ตัวเองต้องการ ดีเจแนน : มีคำตอบอยู่แล้ว~ เเบงค์ : ช่ายย อย่ามาเปลี่ยนคำตอบสนิทกันมากจนรู้ว่าอีกคนชอบดอกไม้ ชอบธรรมชาติ มอส : จริง ๆ ผมก็ให้ดอกไม้เขาทุกวันอยู่เเล้ว แบงค์ : คือเขาเป็นคนที่รู้ว่าผมชอบดอกไม้ เพราะว่าผมเคยบอกเขาว่าผมชอบไปเที่ยวธรรมชาติมากมันจะมีเเต่สีเขียว เเต่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติคือทุกครั้งที่มันมีสีที่ไม่ใช่สีเขียวโผล่ออกมามันเหมือนแบบ ความสวยงามจากธรรมชาติ ผมก็เลยเป็นคนที่ชอบดอกไม้ เวลาไปไหนเขาก็ชอบให้ดอกไม้ผม ผมเคยได้ยินนักจิตวิทยาเขาพูดว่า ถ้าเราหาความสุขจากอะไรแบบง่าย ๆ ไม่ได้ เราพยายามมองไปที่ดอกไม้ บางครั้งดอกไม้อาจจะสร้างความสุขให้ด้วยสีของเขา เขาเลยอยากให้ผมมีความสุขเพราะเขาไม่กล้าพูด เขาก็เลยทำแทน ดีเจเเนน : เเล้วโอเคมั้ยล่ะ? แบบไม่พูดเเต่ว่าก็ซื้อดอกไม้ให้แทน แบงค์ : แรก ๆ ก็ได้เเต่ว่าหลัง ๆ โลภ ดีเจแนน : คืออยากได้ดอกไม้ด้วยเเล้วก็อยากให้เขาพูดด้วยอ่อ เเบงค์ : แต่หลัง ๆ มีเเอบพูดบ้าง~รู้จักกันมา 3 - 4 ปี สถานการณ์ที่เราทั้งคู่แค่มองตาก็รู้ใจ มอส : เวลาตอบคำถามเราคำถามซักอย่างนึง ผมเป็นคนที่ตอบคำถามไม่ค่อยสวย เเต่เขาจะเป็นคนตอบคำถามสวย เราก็ตอบแบบผู้ชายตอบ ใจความให้มันได้อะไรเงี้ย เเบงค์ : เราติดดูนางงาม เเต่เขาจะพูดไปเรื่อย มอส : พอเราตอบคำถามไม่สวยปุ๊บ เขาก็จะนอยละ เธอต้องตอบให้สวยกว่านี้ ตอบให้ดีกว่านี้เเล้วในคำตอบนั้นจะมีการตีกันอยู่ ทางสีหน้าแววตาที่มันเปลี่ยนไปซึ่งคนไม่รู้เลย เป็นการตอบที่ดูดี แปลก ๆ มันอยู่ที่คำพูดที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเราจะรู้เเค่ 2 คน เเล้วก็เวลาออกงานเวลาเดิน มองตา ทุกอย่างเราจะรู้ละว่าต้องการหรือไม่ต้องการ สมมุติเดินไปแล้วมีบางอย่างที่ไม่สามารถพูดได้ ณ ตรงนั้น เขาหันหน้ามาเเล้วหันกลับไป เเค่นี้เราก็รู้เเล้วว่าเขาต้องการอะไร ดีเจดาว : หรอ แล้วเขาต้องการไรอ่ะ? มอส : เขาต้องการให้เราอ่ะไปเรียกใครซักคนก็ได้ ไปดึงเขากลับมา ดีเจเเนน : เหมือนเป็นฟีลเชื่อมจิตเหมือนกันนะ มอส : ช่ายยย เเบงค์ : ผมเห็นเขาก็จะรู้เเล้วว่าโอเค สิ่งเนี้ยคือสิ่งที่เขาไม่โอเคละ ต้องทำไงก็ได้ให้สถานการณ์มันพลิกกลับมาเป็นโอเคให้ได้สรรพนามที่ทั้งคู่เรียกแทนกัน เเบงค์ : ถ้าหมั่นไส้จะเรียกว่า ‘ตะมอส’ ถ้าปกติก็แมม ‘แมม’ ดีเจเเนน : แมม? เเบงค์ : เพราะว่าเขาชื่อเเมมอส เมื่อก่อนเรียกคนเดียว เเต่ตอนนี้คนเรียกคนเรียกตามก็เลยคอยต้องเปลี่ยน มอส : ของผมถ้ารู้สึกว่าเริ่มตีกันเเล้วเรียกว่าแบงค์ ถ้าอารมณ์ดีจะเรียกเธอเวลาหยุมกัน มอสหลงเป็นคนเริ่มก่อน เเบงค์ : เขา 100% หลักฐานเต็มไลฟ์ เต็มติ๊กต่อก มอส : ไม่จริงงๆๆๆ ~ ดีเจแนน : มีครั้งไหนมั้ยที่แบบมันเลยเถิดมาก แบบงอนจริง เเบงค์ : ทุกครั้ง555555+ คำว่าโกรธของเรามันเป็นโกรธเด็กอ่ะ ด้วยความที่พวกเราโกรธง่ายหายไว มอส : เอางี้ก่อน เขาเป็นคนปากไว ผมเป็นคนที่ขี้งอน คำปฏิญาณของผมคือถ้าฉันไม่ทำกับเธอ เธออย่ามาทำกับฉัน เเล้วถ้าฉันทำกับเธอ เธอต้องทำฉันเหมือนกัน แฟร์ ๆ ถ้าขอโทษก็หายเลยFeedback ของซีรีส์ “Sunset x Vibes (เพียงชลาลัย)” เเบงค์ : แฟน ๆ มีหลายมู๊ดมาก มีมู๊ดเป็นเเม่ อยากเป็นแฟนเเละป้าข้างบ้าน มอส : เรื่องนี้ฟีลป้าข้างบ้านเยอะ แบบว่าดูไม่ค่อยสนใจเเต่สนใจอะไรอย่างเงี้ย ดีเจแนน : เขินมั้ย? ร่วมงานกันมานานเเล้ว พอต้องมีเลิฟซีน เเบงค์ : สำหรับผม ถ้าเทียบกับเรื่องที่เเล้วอ่ะ เรื่องนี้ผมเขินเพราะว่าเขาโตขึ้น เเล้วสายตาหรือการสัมผัสมันโตขึ้น บางทีผมก็ตกใจอ่ะเพราะเรื่องนี้เขาใส่เต็ม ผู้กำกับเขาบรีฟว่าขอโรเเมนติก ด้วยความที่เขาแบบดุ ๆ อ่ะ รุนเเรงนิดนึง ดีเจแนน : เเล้วเราชอบซีนไหน เเบงค์ : ผมชอบซีนเต้นรำ เพราะว่าเป็นคนชอบดูหนังยุค 2000 อะไรงี้เเล้วมันจะมีการเลี้ยงรุ่น แบบงานพรอมแบบฝรั่ง เเต่โรงเรียนผมไม่มีไงก็เลยเเบบสานฝัน ซักครั้งในชีวิตที่จะได้เต้นรำแบบนี้ ซึ่งเป็นซีนที่ผมชอบมากที่สุดเลยอ่ะ มันโรเเมนติกมาก เเละมันเป็นการ transitions กับเลิฟซีนด้วย มีสวยงาม มันมีความศิลปะ เเล้วเธออ่ะ… มอส : ผมชอบซีนศิลปะ เเละเป็นซีนที่ผมรู้สึกว่ามันโป๊ที่สุดในเพียงชลาลัยผลการตอบรับดีมากก จนมีงาน Fansign เเบงค์ : ด้วยความที่ซีรี่ย์นี้ให้การตอบรับเเบบดีมาก เราก็เลยรู้สึกอยากตอบแทนทุกคน ทุกวันนี้เวลาออกอีเว้นท์แฟน ๆ บินมาจากต่างประเทศบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง เพื่อจะมาหาเรา ทีนี้เราก็เลยอยากไปหาเขาบ้างเลยเกิดมาเป็นโปรเจค Fansign Sunset x Fans Vibes เราก็จะพานักแสดงทั้ง 8 คนไปเจอแฟน ๆ ทั้ง 4 ภาค มอส : สามารถซื้อบัตรได้ที่ Hunter Mall แล้วก็ Start Hunter เลยวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้“มอส-แบงค์”เล่นสนุกสนานด้วยชื่อเกม ‘หัวหน้ามอสกับน้องแบงค์’หัวหน้ามอสจะดุขนาดไหนเเละน้องเเบงค์จะรับมือยังไง ไปดูกันเลยย (เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ“มอส-แบงค์” (เข้าไปชมได้ในYoutube: ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“มอส - แบงค์”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความฟินจิกหมอนให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไปฝากซีรีส์ “เพียงชลาลัย Sunset X Vibes” ที่เพิ่งจบไป สามารถรับชมย้อนหลังได้ทางช่อง iQIYI เเละฝากวง The Dragon สามารถรับชมเเละรับฟังได้ทุก Streaming เเละช่องยูทูปชื่อ ม่องเบี้ยว เเละงานที่กำลังจะถึงคืองาน Fansign Sunset X Fans Vibes ทั้ง 4 ภาค เเล้วเจอกันนะค้าบบ~สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“QRRA” เจ้าหญิงทั้ง 5 สาว กลับมากี่ครั้ง ก็ยังสวยแบบตะโกน! พร้อมรางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “เจ้าหญิงติดแกรมหนีวังมาเดบิวต์เเห่งปี”

16 ก.ย. 2024

“QRRA” เจ้าหญิงทั้ง 5 สาว กลับมากี่ครั้ง ก็ยังสวยแบบตะโกน! พร้อมรางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “เจ้าหญิงติดแกรมหนีวังมาเดบิวต์เเห่งปี”

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 29 สิงหาคม 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “QRRA” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ “ดีเจแนน” และ “ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/เเนวคิด ของรางวัล “Visual Group แห่งปี” เพราะว่าตั้งแต่เห็น QRRA ยอมรับเลยว่าเป็น Girl Group ที่วิชวลยกวงจริงๆ ไม่ต้องมาร์คไว้ว่าใครจะเป็นวิชวลของวงเพราะทุกคนสวยและวิชวลทั้งวง ไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้นานมากๆตั้งแต่ตาม T-POP มาแต่พอเจอ QRRA นี่แหล่ะวิชวลทั้งวงของจริงที่ต้องการ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “สิงห์นักบิด(เอว)” สืบเนื่องมาจาก QRRA เป็น Girl group ที่เยี่ยวที่สุดแห่งปี และมี Performance ที่ประจักษ์มาตั้งแต่ Miracle ตำนานผมผีที่ทุกคนใฝ่ฝัน Happy We Day เริ่มเข้าโครงการบิด(เอว)ทุกหมู่บ้าน จนมาถึง ไม่ง้อจะพอแล้วนะ ทั้งเพลงที่มีเนื้อหาความง้องอน น้อยอกน้อยใจ รวมไปถึง Choreograph ท่าเต้นที่ใครเห็นก็คิดไม่ได้(แต่คาร์ร่าคิด) ที่เข้าสู่ตำนานสิงห์นักบิด(เอว) ทั้ง 5 เพราะบิดแข่งกันจนเกินที่กฎหมายกำหนด อาจโดนโทษปรับและจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ3. ชื่อ/เเนวคิด ของรางวัล “งอนนาน 48 ชม.” QRRA เป็นกลุ่มหญิงสาวที่ใครเห็นก็ต้องจับตามอง ทั้งหน้าตาที่โดดเด่นเกินมนุษย์ เพราะเป็นนางฟ้ากันหมด หรือความสามารถ ร้อง เล่น เต้น แสดง และถ้าพูดถึง QRRA สิ่งที่เด่นชัดอีกอย่างคือ ขนตา เปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 เพราะดุ้งทุกงาน ทุก come back หรือแม้แต่ everyday look ขนตาของทั้งห้าสาวก็ยังดุ้ง ยังงอนนาน ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน คาร์ร่าอย่ากระพริบตาเยอะค่ะ พีโอนีหนาว4. ชื่อ/เเนวคิด ของรางวัล “เจ้าหญิงติดแกลมหนีวังมาเดบิวต์แห่งปี” 5 คนเวลาอยู่ด้วยกันเหมือนเจ้าหญิงที่ติดแกรมดูแพง ทุกครั้งที่ออกเพลงหรือออกงานแล้วยืนด้วยกัน 5 คนก็จะเหมือนเจ้าหญิงจริงๆ จะเห็นออร่าของทั้ง 5 คนได้เลย ทุกคนจะตะโกนคำว่าสวยมากๆๆๆๆ เลยคิดว่าจริง ๆ แล้วทั้ง 5 คนนี้คือเจ้าหญิงจริง ๆ แล้วหนีวังมาเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ป5. ชื่อ/เเนวคิด ของรางวัล “สวยไม่เอ๊ะ เป๊ะเหมือนเทพสร้าง” เมมเบอร์ QRRA นอกจากความเป๊ะทั้งร้อง ทั้งเต้นแล้วนั้น ความวิชวลทั้งวงก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน (อยากพิสูจน์ กรุณาหันไปมองด้วยตาเนื้อค่ะ) 5 คน 5 สไตล์ ยิ่งเวลาเพอร์ฟอร์มบนเวที ความปังของเสื้อผ้าหน้าผม เสียงร้องและท่าทางตอนเต้น ยิ่งส่งให้ QRRA สวยแบบไม่เอ๊ะ เป๊ะเหมือนเทพสร้าง ค่าาเตรียมตัวรับความสนุกไปกับ “QRRA” เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการกันนน!!รางวัล “เจ้าหญิงติดแกลมหนีวังมาเดบิวต์แห่งปี” นิกี้ : ดีใจ~ ที่อย่างน้อยเราก็เห็นตรงกันกับแฟนคลับว่า เราเป็นเจ้าหญิงติดแกลมที่หนีวังมาเดบิวต์ ฟ้อนด์ : ภูมิใจในตัว Peony ด้วยค่ะในการครีเอทชื่อรางวัลนี้ ครั้งหน้าขออีกก ขอแบบ… ป๊อปเป้อ : ขอยาวกว่านี้ QRRA : 5555555555555555+ถ้าเมมเบอร์แต่ละคนเลือกเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ซักเรื่องนึง นิกี้ : อยากเป็นเทียน่าค่ะ เขาจะมีความเป็น Working Woman หน่อย หนูชอบผู้หญิงลุย ๆ ฟ้อนด์ : อยากเป็นเเอเรียลค่ะ เคยคิดมาตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเป็นแอเรียล เพราะว่าหนูเป็นชอบว่ายน้ำ ชอบอยู่กับน้ำเพราะมันรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย เวลาได้อยู่ในน้ำ เเละเสียงร้องเพราะ เเล้วก็อยากมีหางด้วย ตอนเด็กจะไม่ว่าน้ำท่ากบหรือฟรีสไตล์นะคะ จะว่ายท่าท่าเงือก ฝึกดำน้ำเเล้วว่ายท่านางเงือกเเล้วกลั้นหายใจให้นานที่สุด เพราะเราอยากเป็นนางเงือกตั้งเเต่เด็ก ๆ ป๊อปเป้อ : ไม่เชิงว่าอยากเป็น ชอบละกัน ชอบเจ้าหญิงเบลค่ะ ชอบตั้งเเต่เด็กเลย เหมือนเขาได้ของขวัญจากเจ้าชายเป็นห้องสมุด ฉากนั้นที่เปิดเข้าไปเเล้วเป็นแบบ หนังสืออ~ ฟ้อนด์ : โอ้โหห นิกี้ : สวรรค์~~ ป๊อปเป้อ : ใช่! มันคือสวรรค์~ ดีเจแนน : อ่ออ ป๊อปเป้อชอบอ่านหนังสืออยู่เเล้ว ป๊อปเป้อ : ช่ายยย~ ชัญญ่า : หนูชอบแอนนา ชอบเพราะว่าคาเเรคเตอร์เขามีความซุกซน ชอบผจญภัยด้วย ปาเอญ่า : หนูอยากเป็นราพันเซลค่ะ เพราะตอนเด็ก ๆ หนูชอบผมยาว จะไม่ยอดตัดเลย เเล้วก็หนูชอบสีม่วงด้วยนอกจากเอวที่บิดเกินกำหนด! งานผมก็ยังอยู่ไม่ขยับ พร้อมความจึ้งของขนตาที่ต้องจดจำ! ดีเจเเนน : วันนี้พี่คิดถูกมากที่ติดมา ไม่งั้นพี่สู้นิกี้ไม่ได้ QRRA : 5555555555555+ ฟ้อนด์ : จริง นิกี้เป็นบุคคลที่เเบบยาวทั้งบนเเละล่าง ดีเจเเนน : นี่ขนตาจริงปะ นิกี้ : ขนตาจริงหมดเลย จริง ๆ วันนี้ไม่ได้ปัดขนตาล่าง ก็เลยมองเห็นไม่ชัดขนาดนั้นน~ ป๊อปเป้อ : ทุกคนมีขนตาหมดเลยยกเว้นหนู ปาเอญ่า : เเต่ว่าขึ้นสเตจ เรามีช่างเเต่งหน้าที่เเบบทำขนตาได้จึ้งมาก!เคล็ดลับความสวยแบบฉบับ 5 สาว “QRRA” นิกี้ : มาร์คหน้าทุกวันก่อนนอน เเต่เดี๋ยวนี้มาร์ควันเว้นวัน หรือว่าวันถัดไปต้องเเต่งก็จะมาร์ค มันช่วยให้หน้านุ่ม ชุ่มชื้นอยู่หลังล้างหน้า เเล้วก็ช่วยให้เเต่งหน้าติดง่ายขึ้นด้วย ฟ้อนด์ : ของหนูคือมองในกระจกเเล้วบอกว่าตัวเองสวย! อย่างน้อยมันช่วยทำให้เรารู้สึกมั่นใจในวันนั้น เเล้วทุกอย่างมันก็จะ flow ไปตามสิ่งที่เราคิด ปาเอญ่า : เป็นดอลลี่อายเเล้วกันค่ะ ไม่ว่าหนูจะเเต่งหน้าน้อยแค่ไหน หนูจะต้องมีดอลลี่อาย มีเเล้วรู้สึกมันสวยย5555+ ชัญญ่า : ของหนูกินคอลลาเจนบำรุงผิวพรรณ จะดูเเลผิวพรรณเป็นพิเศษ ต้องกินก่อนอาหารมื้อไหนก็ได้ เเต่ส่วนใหญ่หนูจะกินก่อนมื้อเช้าเเละกลางคืน ป๊อปเป้อ : ของหนูออกกำลังกายค่ะ นอกจากรูปร่างจะเข้าที่เข้าทางเเล้ว มันก็ช่วยเรื่องความมั่นใจของเราด้วยซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ไม่ง้อจะพอแล้วนะ” สรุปจะให้ง้อหรือไม่ง้อ? ปาเอญ่า : หนูว่าเเล้วเเต่คนตีความ นิกี้ : เเต่ถ้าเหมือนที่เราตีความกันเองโดยรวมมันคือ สิ่งที่เราพูดออกไปคือไม่ง้ออะจะพอแล้วนะ เเต่ความรู้สึกเราคือ ง้อหน่อยเหอะ ถึงเเม้จะพูดออกไปแบบนั้น อะไรประมาณนั้น ดีเจเเนน : เเล้วเวลาที่ถ่ายทอดเพลงนี้ สาว ๆ ตีความเเบบไหน ปาเอญ่า : ที่เราคุยกัน คือแล้วเเต่ฮุกมันจะตีความไม่เหมือนกัน ฮุกแรกเป็นฟีลนอย ๆ พอฮุก 2 เราเริ่มโกรธละ โมโหละ ฮุกสุดท้ายคือพอแล้วจริง ๆ ชัญญ่า : กราฟเพลงมันจะขึ้น ๆ ลง ๆคอนเซปต์เพลงนี้ที่สาวๆตีความออกมาให้แฟนๆได้ฟังกัน ฟ้อนด์ : มันน่าจะมีความสัมพันธ์กันเพราะเราใช้ฝนเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความเศร้า ทุกคนก็จะมีฉากฝนเป็นของตัวเอง เเละถ้าสังเกตเอ็มวีตั้งแต่แรกจนท้าย ตอนแรกโทนสีมันจะทูโทน แบบหม่น ๆ เเต่ตอนหลังจะเป็นวอร์มโทนเเล้ว เหมือนเราสามารถมูฟออนได้เเล้ว นิกี้ : สีหน้าตอนแสดงของเราเเต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ดีเจแนน : ซึ่งเอ็มวีนี้ก็แสดงออกถึงความติดแกลมของทั้ง 5 คนได้มาก เพราะอย่างคนทั่วไปร้องไห้ใต้ฝักบัวก็เป็นฝักบัวธรรมดา อันนี้คือต้องเป็นอ่างจากุชชี่ เเล้วคนอื่นเขาน้ำตาเป็นน้ำเปล่า ๆ เเต่นี่น้ำตาเป็นไข่มุก QRRA : 5555555555555+ ดีเจเเนน : เเล้วก็เรื่องท่าเต้นน่ะ มันมีความเซ็กซี่มากเลยนะ ดีเจโซเซฟ : มีความเป็น Groove ที่เบากว่าซิงเกิ้ลอื่น ๆ เเต่จัดจ้านกว่า QRRA : ช่ายยยยยย~~ตำนานจากการถ่ายเอ็มวีเพลงนี้ ชัญญ่า : จะมีซีนเต้นสุดท้ายที่ถ่ายหลายเทค เพราะว่าฝนที่สาดลงมา ปาเอญ่า : เพราะอยากได้หลายช็อต หลายมุม นิกี้ : แต่มันก็มีวิกฤตบ้างนิดหน่อย ขนตาหลุดสำหรับที่ต้องติด พี่ป๊อปคอนเเทคเลื่อนขึ้นหายไปเลย ดีเจเเนน : แล้วทุกวันนี้หาเจอยัง QRRA : เจอแล้วค่ะะ ๆ~ 55555555555+ ดีเจโซเซฟ : เเล้วฉากที่โดนฝน เเต่ละคนโดนนานมั้ย ปาเอญ่า : ซีนเดี่ยวก็ประมาณ 1-2 ชั่วโมง นิกี้ : เราจะถ่ายเเห้งก่อน เเล้วพอเปียกจริง ๆ น่าจะซักชั่วโมงนึง ปาเอญ่า : ช่ายย พอเราถ่ายเสร็จปุ้บ ก็ไปทำตัวให้แห้งเเล้วก็มาเปียกพร้อมกันซีนเต้นรวมอีกรอบนึง ดีเจโซเซฟ : รวม ๆ กันถ่ายวันเดียวมั้ย? QRRA : วันเดียวค่ะ ถึงตี 3~เบื้องหลังของเพลงนี้ กว่าจะได้ฟังแบบหูเคลือบทอง! ดีเจแนน : ไปอัดกี่วันคะเพลงนี้ นิกี้ : 1 วัน ปาเอญ่า : จริง ๆ วันเดียวเเต่ว่าหนูไปอัดอีกวันนึง เพราะหนูไม่สบาย เเล้วเสียงมันไม่ได้จริง ๆ ดีเจโซเซฟ : ตอนพี่ฮายเขามาขายไอเดียเรา เราคุยเริ่มต้นว่ายังไงเพลงนี้ ฟ้อนด์ : จริง ๆ เรามีวันที่นัดคุยกับพี่ฮายค่ะ เเต่จริง ๆ เราทั้ง 5 คนอ่ะคุยกันมาก่อนเเล้วว่าซิงเกิ้ลต่อไปอยากให้เป็นเเนวไหน เเล้วก็เห็นตรงกัน ไม่ว่าจะการตัดสินใจไหน เราค่อนข้างที่จะมีความคิดคล้ายกันมาก มันก็เลยค่อนข้างง่าย เเล้วเราตกลงกันว่าเพลงต่อไป เราอยากให้มีความเเบบช้าหน่อย เศร้า ๆ หน่อย เราก็เลยมีไอเดียไปเสนอพี่ฮาย เเล้วก็มี References เเล้วพี่ฮายก็รับเเละเข้าใจเราได้ดีมาก ๆ เดโม่แรก ๆ เราเเทบไม่แก้เลย มีเเค่ที่นิกี้ช่วยเสริม นิกี้ : ช่ายย มีเมโลดี้ใหม่เเค่นิดเดียวเองวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้สาวๆ“QRRA”เล่นสนุกสนานด้วยกับเกมที่มีชื่อว่า “ถ้าไม่… จะง้อแล้วนะ!!” เรามาดูกันว่าจะง้ออะไรกันบ้าง! (เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับสาวๆ “QRRA” (เข้าไปชมได้ใน Youtube : ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“QRRA”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความสนุกให้กับรายการ และฝากผลงานใหม่ซิงเกิลที่ 3จากสาวๆ ชื่อเพลงว่า “ไม่ง้อจะพอแล้วนะ (Enough)” ไปดู MV ได้ทาง Youtube : QRRA สามารถฟังเพลงนี้ได้ทุกสตรีมมิ่ง และวันที่ 20 ตุลาคมนี้! มีงานแฟนไซน์ครั้งแรกของ QRRA ก็มีจะ NFC Box จะได้ทั้ง Physical เเละ Digital กำลังเปิดพรีออเดอร์อยู่ดูรายละเอียดได้ที่ Facebook : QRRA เเล้วมาเจอกันน้าาาสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“เจฟ - อิงฟ้า” 2 นักแสดงนำจาก “วิมานหนาม” มาเยือน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัลแรกของภาพยนตร์ในสาขา “คู่ทุ่มคู่ถีบแห่งปี”

16 ก.ย. 2024

“เจฟ - อิงฟ้า” 2 นักแสดงนำจาก “วิมานหนาม” มาเยือน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัลแรกของภาพยนตร์ในสาขา “คู่ทุ่มคู่ถีบแห่งปี”

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 22 สิงหาคม 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “เจฟ - อิงฟ้า” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 ดีเจ “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “วิมานแห่งความเลิศ (The Paradise of Glamorous)” สืบเนื่องมาจากวันแรกที่ทาง GDH ประกาศว่าจะมีโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เห็นถึงเคมีของ "เจฟ ซาเตอร์" และ "อิงฟ้า วราหะ" ที่เข้ากันแบบมากสุด ๆ ถ้าเธอเป๊ะ ฉันก็ต้องเป๊ะ ถ้าเธอเริ่ด ฉันเริ่ดกว่า บอกได้เลยว่าเคมีพลังวังชา เคมีพระราชทาน เคมีไม่ได้เกิดจากอะตอมและปฏิสัมพันธ์ระหว่างอะตอมกับอะตอม แต่เกิดจาก เจฟอิงฟ้าค่ะ ไม่ต้องเอาเข้าแล็บวิจัยก็เห็นถึงเคมีของเจฟอิงฟ้า ถ้าวิมานหนามคือการฟาดฟันแย่งสวนทุเรียนระหว่าง "ทองคำ" และ "โหม๋" วิมานแห่งความเลิศก็คงเป็นการฟาดฟันความเลิศของ "เจฟ" และ "อิงฟ้า" บอสกูโนทำถึงมากค่ะ เรื่องนี้ถ้าไม่เป็นสองคนนี้ก็นึกภาพใครไม่ออกแล้ว อินเนอร์ต่าง ๆ คือส่งกันมาก นี่แหละค่ะว่าที่ คู่หู พระเอก - นางเอก ภาพยนตร์ร้อยล้านคนต่อไป จ้างหนึ่งได้ถึงสอง การร้อง การแสดงของทั้งสองบอกเลยว่าจึ้ง ต๊าซ ปั๊ว ปัง ทำถึง ทำเกิน ยอด ดีเลิศ เด็ดขาด อันดับหนึ่ง ศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ ที่สุด สุดยอด เยี่ยม เยี่ยมยอด ยอดเยี่ยม ดีที่สุดเลิศที่สุด ชนะเลิศ เลิศเลอ ดีเด็ด สุดเหวี่ยง วิเศษ ฮีโร่ บริสุทธิ์ ล้ำเลิศ ชั้นเลิศ เลิศล้ำ เด็ดหนึ่งเดียว พิเศษ ยอดไปเลย เยี่ยมไปเลย ที่หนึ่งเลย โดดเด่น ปาฏิหาริย์ เจฟอิงฟ้าไม่ใช่สสารแต่คือเคมีที่จึ้งและทึ่งมาก 2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ภาพยนตร์ที่สู้ชีวิตแต่ติดแกลมที่สุด” ตัวละครทุกตัวในวิมานหนามต่างมีความไม่เท่าเทียมที่ต่างกัน และเหตุผลในการกระทำที่ต่างกัน ทำให้พวกเขาฟาดฟันกัน และต้องสู้กับหลายๆอย่าง แต่ก็เป็นเรื่องที่ทุกๆตัวละครสวยหล่อกันมากๆ แบบสวยหล่อตะโกนนน เสื้อผ้าเครื่องประดับไม่เป็นสองรองใครในแม่ฮ่องสอน3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “The Best Movie Star Couple Award” นักแสดงคู่ยอดเยี่ยมจากหนังที่ดีที่สุด บ่งบอกถึงความเข้าขากัน แม้จะเป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นคู่กัน แต่เคมีของทั้งคู่ถูกผสมผสานกันจนทำให้หนังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในทั่วประเทศ แสดงถึงความมืออาชีพของทั้งคู่ สลัดภาพนักร้อง นางงามที่สวยสง่าไปจนหมด เพราะทั้งคู่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจผลิตผลงานชิ้นนี้เพื่อแฟนคลับและผู้ชมทุกคน จนเกิดเป็นรางวัล The Best Movie Star Couple Award4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “พากเพียร เพราะหนามทุเรียนมันคม”​ถ้าไม่ขยัน ไม่สู้ ไม่แข่งขัน ก็วิ่งหนีทุเรียนไม่ทันนะ ด่ามา ด่ากลับ แสดงมา แสดงกลับ เชือดเฉือนกันสุดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการไม่ถูกทุเรียนฟาดหัว เลยต้องแย่งชิงครอบครองสวนทุเรียนซะเลย 55555+5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่ทุ่มคู่ถีบแห่งปี”​มาจากซีนที่ทองคำทุ่มทุเรียนใส่โหม๋ โหม๋ถีบทุเรียนใส่ทองคำ พี่เจฟกับน้องอิงฟ้าน่าจะได้แผลจากซีนนี้ค่อนข้างเยอะ น้องอิงฟ้าน่าจะเป็นแผลที่เล็บนิ้วเท้า ส่วนพี่เจฟก็เข้าถึงบทบาทจนฟุบ หมอรออยู่แต่คนเจ็บไม่รีบ หมอกำผ้าก๊อซรอต่อไป แบบนี้ไม่ได้เรียกแค่ว่าทุ่มถึง ถีบถึง แบบนี้เรียกทำเกินนนนคุณน้า เล่นไม่ห่วงอะไรเลย จัดหนักจัดใหญ่ คุ้มตาคนดูมาก ปล. แต่ทองคำไม่ผิดค่ะถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เรามาพูดคุยกับ “เจฟ - อิงฟ้า” กันรางวัล “คู่ทุ่มคู่ถีบแห่งปี”ฟีดแบ็ควิมานหนามที่ได้ยินมาอิงฟ้า : ดีเลยค่ะ จริง ๆ ดีตั้งแต่รอบกาล่าเลยค่ะ พี่ ๆ สื่อหรือหลาย ๆ คนที่ได้ดูทึ่งกับการแสดงของพวกเรา และคาดเดาไม่ได้ ตอนแรกมันดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอได้ดูจริง ๆพล็อต มันไม่ได้เป็นไปตามที่ทุกคนคิดไว้ และการดำเนินเรื่องจะพีคขึ้นเรื่อย ๆ และที่สำคัญเรื่องนี้ได้เห็นผลงานการแสดงของพวกเรา แม้ว่าจะเป็นเรื่องแรก แต่เราก็ตั้งใจกันมาก ๆแผลที่ได้จากการเล่นวิมานหนามเจฟ : ตรงนิ้วเป็นก้อนอยู่ เหมือนเป็นเส้น แล้วเวลาผมเล่นกีตาร์มันก็จะมีปัญหาอยู่ตลอด เดี๋ยวค่อยไปผ่าเอา เพราะมันเหมือนเป็นพังผืดไปแล้ว แล้วก็จะเป็นแผลตามนิ้ว ซึ่งมันเกิดจากบางซีนที่เราใช้สิ่งของที่ไม่สามารถสปอยได้ แล้วก็ตัวเราที่ไม่ระวังเองอิงฟ้า : มีค่ะ แต่ว่าตอนที่เกิดอุบัติเหตุที่เราไม่ได้ตั้งใจ มันไม่รู้ตัวมันชา จนเค้าไปกันครบแล้วเราก็พึ่งจะรู้ เพราะเค้าบอกว่าเราเล็บฉีก เพราะมันมีฉากในเทรเลอร์ที่ถีบตะกร้าที่มีทั้งทุเรียนจริงและม็อคอัพ ด้วยความที่เราถ่ายหลายเทคเลยอาจจะมีบ้างจังหวะหลุดขำระหว่างการแสดงอิงฟ้า : จะขำฉากอื่นเจฟ : ขำฉากที่จริง ๆ คุยกันอิงฟ้า : ในเทรเลอร์มีที่ขำฉากที่เค้าไหว้เรา แล้วเราเอาเท้าขึ้นเจฟ : คือผมกับอิงฟ้าคือเราขำอะไรกันงี้อยู่แล้วเป็นปกติ แล้ววันนั้นแม่ขำด้วย แม่ต้องไหว้ แต่แม่ดันไหว้เร็วกว่าจังหวะนิดนึงเพราะแม่จะขำ แล้วแม่ก็ตีอิงฟ้าผมเลยจะหลุดขำ มันตลกมากอิงฟ้า : จริง ๆ เรื่องนี้แปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่า เราเล่นก็เล่นเวลาจริงจังก็น่ากลัวเหมือนกันค่ะ เวลาถึงบทที่อารมณ์มันจะต้องได้ก็ไต่ไปสุดในจุดที่เราทั้งคู่ไม่คิดว่าจะทำได้ในตอนนั้นเจฟ : อย่างตัวผมก็จะขอแยกตัวไปก่อน แต่อย่างอิงฟ้าเค้าสามารถตัดแล้วเข้าได้เลยแต่ของผมต้องการเวลาอิงฟ้า : แต่บางฉากก็อยากจะไปบิ้วกับบรรยากาศรอบข้างก่อนความลำบากของสถานที่อิงฟ้า : ตรงนั้นมันแปลกมกลางวันก็คือร้อนสุด กลางคืนก็คือหนาวเจฟ : แล้วบางทีเป็นฉากฝนตก ซีนนั้นทรมานมาก พอฝนมันตกก็หนาว ทีมงานก็สู้ไปกับเราด้วยอิงฟ้า โดยสวยทุเรียนจริง ๆ จะเป็นที่ตราด แต่ที่แม่ฮ่องสอนจะเป็นบ้านของโหม๋สิ่งที่ยากสำหรับการเป็นอีกหนึ่งตัวละครเจฟ : ผมว่ายากทุกอย่างเลยเพราะมันเป็นตัวละครที่ไกลผมมาก ถ้าให้เลือกซักอย่างคือการที่เป็นคนสวนมาเป็นเวลานาน ผมจะมีปัญหาในการพูดบทที่ต้องใช้ความชำนาญในการทำ มันจะเป็นการพูดบทโดยที่ไม่มีอะไรข้างใน สุดท้ายต่อให้มันเป็นอะไรที่เล็กน้อยที่สุดในการที่เราทำการบ้านมา มันจะออกมาเองโดยที่เราไม่รู้ตัว เราต้องทำการบ้านยังไงก็ได้ให้เราเข้าซีนโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรอิงฟ้า : จริง ๆ ก็ตอนเวิร์คคชอปเราต้องดูแลผู้ป่วยรถเข็ญ เราจะทำยังไงให้เหมือนเราเขียนเข็ญเค้ามาแล้ว 20 ปี เพื่อให้รู้สึกทะมัดทะแมง และที่ยากที่สุดน่าจะเป็นภาษาค่ะ คือในเรื่องก็จะมีเรื่องของภาษาไทยใหญ่ ว่าเราจะพูดยังไงให้บทสนทนาดูไม่ติดขัดซึ่งค่อนข้างยากเหมือนกัน เพราะว่าผิดนิดนึงก็คือความหมายจะเปลี่ยนเลย โดยจะมีพี่ ๆ ไทยใหญ่ที่เป็นเจ้าของภาษาเข้ามาช่วยทุกครั้งในการถ่ายทำความละเอียดของผู้กำกับอย่าง “บอส กูโน”เจฟ : จริงสุด ๆ เลยครับ บางทีกล้องฝั่งนี้ทำไมไม่สื่อเราขยับไปอีกฝั่งดีกว่า เพราะตาข้างขวาสื่อน้อยกว่าข้างซ้าย แบบของจริงเลย เราแบบเห้ยรู้ได้ไงอิงฟ้า : แต่ข้อดีก็คือ ไม่ว่าเราจะถ่ายฉากไหนก็แล้วแต่ แต่พี่บอสจะไม่เร่ง คือจะรอเราพร้อมจริง ๆ หรือว่าเราอยากได้อะไรก็สามารถบอกเค้าได้เลย มันเลยทำให้บรรยากาศไม่ได้เป็นความกดดันหรือความเครียดอะไรเลยเทคนิคของการแสดงอิงฟ้า : โชคดีที่ตอนเวิร์กช็อปเราอัดแน่นเลย อัด Background stories ไว้เยอะเลย เหมือนมันพร้อมพรั่งพรูที่จะถ่ายเลย เหมือนเค้าก็จะให้เราทำความรู้จักกับโหม๋ตั้งแต่ยังเด็กเลยว่าเป็นยังไงเจฟ : อย่างผมเองจะใช้วิธีแบบคิดเรื่องอื่น แต่ปัญหาคือชีวิตผมไม่สามารถจินตนาการว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้น ก็เลยลองเขียนไดอารี่ความเศร้าในชีวิตเค้าที่เกิดขึ้น กลายเป็นว่าเราฟิลเว้ย เราเลยจับจุดได้ว่าเราต้องอินกับสิ่งนี้มากกว่าประสบการณ์ส่วนตัว เพราะว่าสิ่งนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่สิ่งนี้มันเกิดขึ้นจริงกับตัวละคร ทุกไอเท็มรอบข้างมันทำให้ผมไปอยู่จุดนั้นได้หมดเลย และอ่านไดอารีให้มันไปถึงจุดนั้นวันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ “เจฟ - อิงฟ้า” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “วิมานนี้ วิมานไหน” แล้วมาดูกันว่าทั้งคู่จะได้วิมานไหนบ้าง (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ “เจฟ - อิงฟ้า” (เข้าไปชมได้ใน Youtube : ATIME)สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “เจฟ - อิงฟ้า” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความน่ารัก ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากภาพยนตร์ “วิมานหนาม (The Paradise Of Thorns)” ภาพยนตร์เรื่องแรกของทั้งคู่ ดูได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนต์! อย่าลืมไปติดตามรับชมกันนะค้าสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“ฟรีน-เบคกี้” กลับมาเยือนรายการอีกครั้ง พร้อมคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” กลับบ้านไปเลย

10 ก.ย. 2024

“ฟรีน-เบคกี้” กลับมาเยือนรายการอีกครั้ง พร้อมคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” กลับบ้านไปเลย

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 15 สิงหาคม 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “ฟรีน - เบคกี้” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)”**ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น** แนวคิด 1 : เขาพูดย้ำมากว่าพี่สาวน้องสาว แต่การปฏิบัติต่อกันนั้นนนน (น่ารักดีค่ะ) แล้วยิ่งเมื่อวันที่ 8 อวยพรพี่สาวตั้งแต่เที่ยงคืน 1 นาทีในสตอรี่สุดหวานพร้อมแคปชั่น happy 26th sissss อวยพรใน X สุดซึ้งในเวลา 00.08 น. ส่วนคนพี่รีคำอวยพรของน้องเป็นคนแรก และในคืนวันที่ 8 คนน้องยังมีไปเซอร์ไพรส์เอาของขวัญที่ตั้งใจเลือก ไปให้พี่ถึงที่บ้านทั้งที่ตัวเองก็วิ่งงานมาทั้งวัน มี sissss นี่ดีจริงๆ แนวคิด 2 : เป็นฟี่ฟ้องที่ take care และ support กันได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะมีอะไรก็อยู่ข้างกันเสมอ คอยดูแลทุกเส้นผมและคอยเปิดขวดน้ำให้ตลอด ให้พิมพ์ตอนนี้ก็คงไม่หมดเพราะมันมีมากโขเหลือเกินเพคะ แต่ความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันพิเศษมากจริงๆ แนวคิด 3 : ความพี่น้องพรีเมี่ยมที่ใส่ใจกันเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่วันแรกเป็นยังไง จนถึงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิมและมากกว่าเดิมด้วย ฟรีนเบคคือความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ มันเป็นความพอดีสุดๆ เป็นทั้งผู้ให้ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด และผู้รับที่ appreciate การกระทำของผู้ให้เสมอ มันแบบดีจัง ไม่ว่าจะวันพิเศษหรือวันไหนๆ ทั้งคู่ดูแลกันอย่างดีเหมือนทุกวันคือวันพิเศษ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คนเก่งของพี่ คนดีของหนู” ที่มาก็คือ 1. "คนเก่งของพี่" เปรียบเบคเหมือนคนเก่งของพี่ฟรีน ซึ่งฟรีนมักจะบอกเบคกี้เสมอว่าหนูเก่งนะคะ หนูทำได้ดีแล้ว ส่วนคำว่า "คนดีของหนู" คือพี่ฟรีนในสายตาน้องเบคค่ะ เป็นพี่ที่น่ารักและแสนดีกับเบคมาตลอด 4 ปี 2. "คนเก่งของพี่" ในอีกนิยาม คือ มุมมองของแฟนคลับของฟรีนเบค ที่มองฟรีนเบคว่าเป็นคนเก่ง น่ารักกับแฟนคลับเสมอ ส่วนคำว่า "คนดีของหนู" คือมุมมองฟรีนเบคที่มีต่อแฟนคลับ ที่คอยสนับสนุนเค้าทั้ง 2 คน จึงอยากมอบรางวัลนี้ให้ฟรีนเบคค่ะ ที่เค้าทั้ง 2 คนรักกันและรักแฟนคลับด้วย3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่กันเเล้วไม่แคล้วกันจ้า” คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม? การที่คน 2 คนได้มาพบเจอกัน ได้รู้จัก ได้รัก ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เราเชื่อว่าเบื้องบนได้กำหนดมาให้แล้ว ถึงแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้น หรือเหตุให้ต้องแยกกันไป แต่สุดท้ายก็กลับมาคู่กันและส่งเสริมกันอยู่ดี สมดังคำว่า "คู่กันแล้วไม่แคล้วกันจ้า"4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เคมีฟ้าประทานแห่งปี” เด็ก 2 คนนี้เวลาอยู่ด้วยกันตามธรรมชาติมีสายตาที่ห่วงใยใส่ใจซึ่งกันและกันมาก มันแบบเป็นสายตาเคมีที่หาได้ยากนะคะที่มาเจอคู่แบบนี้ เค้าเติบโตมาด้วยกัน ตอนนั้นคนน้อง18 คนพี่22 ฝ่าฟันในการทำงานว่าจะทำได้ไหม? ทำแล้วซีรีส์จะดังไหม? หรือผ่านคำดูถูกมาเยอะค่ะ คนน้องจากที่อ่านภาษาไทยแทบไม่ได้ เค้าหมั่นเพียรจากแปลคำไทยเป็นภาษาคาราโอเกะ เพื่อท่องบทและแอคติ้งให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะมีความกังวลไม่มั่นใจแต่เค้าพยายามทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันมาดูซีรีย์ล่าสุด ปิ่นภักดิ์ คือเล่นแล้วภาษาสมูท การแสดงเข้ากับบุคลิกน้องจริงดีงามมากค่ะ ส่วนคนพี่เติบโตมาด้วยความที่เป็นคนเต็มที่กับทุกอย่างทำให้ดีที่สุดในทุกวัน พอแสดงมาหลายๆ เรื่องคืองานสายตาคือคนนี้สุดๆ ทั้งอารมณ์ เหงา เศร้า หลงรักและจีบใครน้า ถึงเราจะเป็นแฟนคลับ คสพ.เค้าจะเป็นพี่น้องกันแต่ว่าเราเขินฟินทุกครั้งที่เค้ามองตากัน ดูแลซึ่งกันและกัน คนพี่น่ารักมาก คอยดูแลน้องตอน18 จนโตมาทั้งเปิดขวดน้ำ คีบอาหาร ป้อน ช่วยต่อบท จูงมือเวลาเดินลงบันได ทุกอย่างอีกหลายสิ่ง ตอนนี้น้องโตขึ้นก็คอยเทคแคร์พี่บ้าง ดูแลป้องกันเรื่องใส่ชุดวาบหวิว คอยดูว่าพี่มีอะไรให้ช่วยไหม โอ้ยพี่ๆลองไปดูคลิปที่แฟนคลับเค้าลงไว้ค่ะ พี่จะฟินตามนู๋พูดได้แค่นี้ค่ะ แล้วพี่ๆจะรักน้องๆ อีกอย่างคนพี่เล่นตลกได้ด้วยน้า ขำไปทั้งวันหล่ะ5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่พี่น้องแก้วมังกร” ทั้งสองคน เม็ดเยอะ เม็ดมาก หมกเม็ดกันเก่งมากพี่น้องคู่นี้ แก้วมังกรที่ว่าเม็ดเยอะอ่ะ ยังสู้ฟรีนเบคไม่ได้เลยคับบเตรียมตัวรับความฟินของ “ฟรีน-เบคกี้“ เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการกันนน!!รางวัล “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” เบคกี้ : ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตกันเเละกันนะค้าา~ ฟรีน : ขอบคุณแฟน ๆ นะคะ ที่โหวตให้พวกเราเป็น “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” นะคะ ก็เป็นชื่อรางวัลที่อะไรใหม่ ๆ ค่ะ ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ขอบคุณมากเลยค่ะ sissss~คุณสมบัติพี่ฟรีนที่ทำให้เป็นพี่สาวในอุดมคติของเบคกี้เบคกี้ : โอ้ หนูว่าทุกอย่างเลย การดูเเล การพูดคุย ทุก ๆ เรื่องอ่ะ ก็เป็นฟีลพี่สาวคนหนึ่งเลยอะ เราสามารถปรึกษาได้หลาย ๆ เรื่อง เพราะเขาโตกว่า เขามีประสบการณ์ที่เยอะกว่า หรือการดูเเลที่หนูอาจจะไม่ได้นึกถึงอะไร พี่ฟรีนก็จะเห็นเเล้วจะดูเเลตลอดคุณสมบัติน้องเบคที่ทำให้เป็นน้องสาวในอุดมคติของพี่ฟรีนฟรีน : ก็ทุกอย่าง เราเป็นคนที่ขี้เทคเเคร์อยู่เเล้ว เวลาน้องไม่รู้หรือต้องการความช่วยเหลืออะไร เราก็พยายามซัพพอร์ตให้เท่าที่เราจะทำได้เคมีของ ฟรีน – เบคกี้ กับแฟนคลับฟรีน : เรากับแฟนกลับส่วนใหญ่จะตลกปะ555+เบคกี้ : เอออ มันเล่นตลกใส่กันฟรีน : สายแบบชอบทำให้เราตลกอะค่ะดีเจเเนน : ก็คือไม่หวานเลยหรอ แฟนคงแฟนคลับหรือว่ามีบ้าง?ฟรีน : ส่วนใหญ่เหมือนจะเป็นฟีลตลก ๆ อบอุ่น ๆ มากกก เเต่พอจะเข้าโหมดซึ้งมันจะแบบร้องไห้ตลอดเบคกี้ : เอาจริง ๆ เมื่อกี้ที่กำลังเดินขึ้นมาเเล้วหันไปเห็นแฟนคลับ อีกนิดนึงอ่ะ ถ้ามองอีกนิดนึงน้ำตาอาจจะไหล มันแบบคิดถึงโมเมนต์นี้มาก มันเเบบ แงงงง~ความตั้งใจที่ผ่านมาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่ทำสำเร็จฟรีน : ของฟรีนตอนนี้คือมีน้องหมา 1 ตัวเเละกำลังจะมีบ้าน เป็นอีก 1 ปีที่รู้สึกว่า ได้ทำอะไรที่ปีที่เเล้วอยากทำไว้เยอะมากดีเจดาว : พอมีน้องหมาชีวิตเปลี่ยนมั้ย?ฟรีน : เปลี่ยนอยู่นะคะ รู้สึกอย่างกลับบ้านไว ๆ ไม่อยากทิ้งบ้าน เหมือนเป็นอินโทรเวิร์ดไปเลย เวลาไปไหนข้างนอกก็อยากพกเขาไปด้วยเบคกี้ : ปีที่แล้วหนูพูดถึงเรียน ก็ยังเรียนไม่จบเเต่ก็ใกล้ น่าจะอีกไม่นานเเต่ก็ต้องมีเวลาไปฝึกงาน ซึ่งตอนนี้ยังหาเวลาไม่ค่อยได้ เเต่ถ้ามีก็จะตั้งใจไป ตั้งใจทำให้เสร็จจะได้จบดีเจดาว : เเล้วปกติเวลาที่เราต้องฝึกงานนี่ เราต้องไปนานเเค่ไหน?เบคกี้ : เขาบอกหนูว่า 1 เดือนเเต่ถ้าหนูไปหนูน่าจะไป 2 เดือน ไปหาครอบครัวด้วย เเต่ต้องเเพลนช่วงเวลาดี ๆอุปสรรคของคาแรคเตอร์ตัวละครในเรื่องปิ่นภักดิ์ฟรีน : ความเรียบร้อย ความช้า มันยากสำหรับหนูมาก เพราะหนูเป็นคนทำอะไรเร็ว ๆ ฉับไว คิดไรพูดเลย ความรู้สึกหนูนะมันเเบบพอจะต้องเป็นเขาแปปนึงในซีน พอเอาปุ้บหนูเอาออกเลย หนูรู้สึกอึดอัดมากในการเป็นเขา เเต่ก็เคารพเขานะ เขาเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเบคกี้ : ถ้าเรื่องคาแรคเตอร์ไม่ยากเลย เพราะว่ามันคล้ายหนูมาก ๆ เเต่ภาษาเนี่ยเเหละ มันราชาศัพท์อ่ะ ทุกวันนี้ยังถามเลยว่าคำนี้แปลว่าอะไรดีเจดาว : มีคำไหนมั้ยที่ยังก้องอยู่ในหัวบ้าง ว่ามันแปลกจัง มันแปลว่าอะไร?เบคกี้ : ทุกประโยคที่เจอเลย ทุกคิวอ่ะ555+กว่าที่เบคกี้จะพูดไทยได้ขนาดนี้ ต้องเรียนอยู่หลายเดือน!เบคกี้ : เเรก ๆ ไม่ได้อะไรเลย เป็นการไปถ่ายเเล้วเครียด รู้สึกไม่ดี กลับมาอยู่กับตัวเองจริง ๆ ก็ร้องไห้นะว่าทำไมทำไม่ได้ซักที เเต่ก็ต้องหาทางที่ช่วยทั้งหนูเเละทุกคนเพราะมันเป็นตัวละครหลักตัวนึง เเต่ก็ทำได้แค่พยายามมากขึ้น ไม่เข้าใจอะไรก็ต้องเข้าใจ อ่านจนเอาไปฝันดีเจเเนน : เเล้วตอนไปเรียนคือเราต้องเรียนลึกเเค่ไหน?ฟรีน : เราเรียน Tune Out เฉย ๆ เหมือนพูดปกติให้ชัด ครูบอกว่าถ้าพูดชัดเวลาอ่านบทมันจะชัดไปเองเราเรียนแค่นั้น เเต่เรื่องราชาศัพท์ พวกหนูก็ต้องอ่านแล้วก็แปลด้วยตัวเองทุกคนเลยที่เล่นเรื่องนี้อยากรู้ว่า Take Feedback จากแฟน ๆ บ้างมั้ย?ฟรีน : ก็ Take ทุกอาทิตย์เนอะเบคกี้เบคกี้ : ช่ายย~ดีเจดาว : ส่วนใหญ่เขาว่ายังไงกันบ้าง?ฟรีน : ภาพสวย โปรดักส์ชันดี บทดี การเรียงเรียงเนื้อเรื่องเข้าใจง่ายเเล้วก็ดำเนินเรื่องไวดีเจดาว : เห็นว่ามีซีนดราม่าเยอะมากก เป็นไงบ้าง มันยากสำหรับเรามั้ย?ฟรีน : ก็ยาก ไม่ใช่ว่าง่าย ส่วนใหญ่คนที่ดราม่าจะเป็นหนู เพราะเขาเป็นคนอ่อนโยนอ่อนหวานมาก ๆ อะไรกระทบนิดนึงก็จะ โอ้โหเศร้ามาก เเต่หนูว่ามันยากด้วยความเป็นซีรี่ย์ย้อนยุค มันต้องทำภาพให้สวย ทำให้เราเข้าใจกราฟอารมณ์ของเรื่อง “ปิ่นภักดิ์ (The Loyal Pin)”ฟรีน : ค่อย ๆ ไต่ระดับเบคกี้ : เพราะว่ามันเป็นการที่เป็นเพื่อนกันก่อน เเล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ เเล้วก็ค่อย ๆ โตขึ้น ทุกตัวละครก็โตขึ้นด้วย ปัญหาต่าง ๆ เข้ามาก็ตามอายุฟรีน : มันก็ต้องมีบ้างแหละอุปสรรคชีวิตวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้“ฟรีน-เบคกี้”เล่นสนุกสนานด้วยชื่อเกม ‘ปิ่นภักดิ์คุณธรรม’ ละครคุณธรรมของทั้งพี่น้องจะเป็นยังไง ไปดูกันเลยย(เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ“ฟรีน-เบคกี้” (เข้าไปชมได้ในYoutube: ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“ฟรีน - เบคกี้”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความฟินให้แฟนๆ และก่อนจะจบรายการกันไปฝากซีรีส์ “ปิ่นภักดิ์ (The Loyal Pin)” สามารถรับชมสด ๆ ได้ทางช่อง Workpoint เวลา 22:15 น. ดูย้อนหลังแบบ Uncut ได้ที่ยูทูปช่อง IDOLFACTORY OFFICIAL เเละฝากคอนเสิร์ตวันเกิดของฟรีน อายุครบ 26 ปีสุดยิ่งใหญ่กับงาน “THE FREENAIRY ORACLE SAROCHA SOLO STAGE BIRTHDAY FAN MEETING” แล้วมาเจอกันในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคมนี้!สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

แฉโต๊ะหก RECAP

‘โคกะโหลก’ อีกหนึ่งตำนานเรื่องเล่ารายการผี กำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับโดย พชร์ อานนท์

24 พ.ย. 2023

‘โคกะโหลก’ อีกหนึ่งตำนานเรื่องเล่ารายการผี กำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับโดย พชร์ อานนท์

: พูดได้ใช่ไหมพี่ป๋อง?: พูดได้สิ: เพื่อนกำลังโคกะโหลกผู้ชาย..พล็อตเรื่องที่หักมุมนี้เอง ทำให้ ‘โคกะโหลก’ เรื่องเล่ารายการผีที่ควรจะให้ความรู้สึกน่ากลัว ถูกแทนที่ด้วยความฮาระดับไวรัลบนโลกออนไลน์ และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเรื่องเล่าผี The Shock ของ พี่ป๋อง กพล ที่จำไม่ลืมภายหลังจาก ‘ธี่หยด’ ถูกหยิบมาสร้างเป็นหนังจนเกิดปรากฏการณ์กวาดรายได้กว่า 500 ล้านบาท ผู้ชมหลายคนเริ่มเชียร์ให้ ‘โคกะโหลก’ เป็นคิวต่อไปที่ควรจะนำมาสร้างเป็นหนังและล่าสุดมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง ๆ เพราะมีการแชร์กันบนโซเชียลว่าตำนานเรื่องเล่าผีกำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง ‘หมู่บ้านโคกะโหลก’ โดยผู้กำกับชื่อดังอย่าง พชร์ อานนท์ เป็นโต้โผและจะรับหน้าที่เขียนบท ควบกับนั่งเก้าอี้ผู้กำกับด้วยตัวเองเลยอีกทั้งพี่พชร์ยังโพสต์ข้อความเพื่อยืนยันเรื่องนี้ว่าไม่ได้ล้อเล่นกับกระแสนะ เพราะเขาวางแผนสร้างหนังเรื่องนี้จริง ๆ โดยมีกำหนดเปิดกล้องถ่ายทำ 2 ธันวาคมนี้แล้ว พิเศษสุดเขากำลังพยายามทาบทาม พี่ป๋อง กพล เพื่อมาร่วมเป็นหนึ่งในโปรเจกต์นี้ ด้วยการรับบทเป็นผู้ใหญ่บ้านแห่งโคกะโหลกนั่นเองทำเอาแฟน ๆ ฮือฮาและรอติดตามกันยกใหญ่ว่าจะออกมาเป็นยังไง เด็ดดวงเท่าเรื่องเล่าในรายการหรือเปล่าภาพ : The Shock

คดีสุดพีก! ศาลในรัสเซียตัดสินผ่อนโทษชายรายหนึ่ง ไม่ต้องถูกจำคุก 5 ปี เพราะต้องดูแลแมวเหมียว

22 พ.ย. 2023

คดีสุดพีก! ศาลในรัสเซียตัดสินผ่อนโทษชายรายหนึ่ง ไม่ต้องถูกจำคุก 5 ปี เพราะต้องดูแลแมวเหมียว

หนึ่งไวรัลที่น่าเอ็นดูสุด ๆ เมื่อสำนักข่าวในประเทศรัสเซีย รายงานเกี่ยวกับคดีหนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะบรรดาชาวเน็ตทาสแมวทั้งหลาย เรื่องราวคดีสุดแปลกของกระบวนการยุติธรรม เมื่อผู้พิพากษาตัดสินลดโทษชายรายหนึ่งให้เขาไม่ต้องถูกจำคุก 5 ปี เพราะว่าผู้ต้องหารายนี้มีแมวเหมียวให้ต้องเลี้ยงดู ซึ่งโทษจำคุก 5 ปีที่ว่ามาลดเหลือเพียงลงอาญาเท่านั้นผู้ต้องหารายนี้เป็นชายวัย 48 ปี อาศัยอยู่ในเขตไซบีเรีย ภูมิภาคทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาเมาสุราและก่อความวุ่นวาย รวมถึงทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างการสอบสวนเขาก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี พร้อมสารภาพผิดทุกข้อกล่าวหา ต้องโทษจำคุก 5 ปีแต่ในท้ายที่สุดเขาถูกผ่อนผันโทษให้เหลือเพียงลงอาญา เนื่องด้วยเขามีภาระอันยิ่งใหญ่ที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าแมว 1 ตัว ในรายงานไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าศาลให้เหตุผลของการผ่อนผันโทษนี้ด้วยสาเหตุใด แต่ที่แน่ ๆ เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลขึ้นมา เพราะโดยปกติแล้วการผ่อนผันโทษนั้นจะเกิดขึ้นกับผู้ต้องหาที่มีบุตรหรือครอบครัวที่ต้องดูแลเท่านั้นขณะที่บนโลกออนไลน์ต่างก็แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า เขาอาจเลี้ยงแมวตัวนี้เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวหรือเปล่า หรือไม่ก็ศาลที่เคารพอาจเป็นทาสแมวเหมือนกันก็ได้ภาพ : BBC

Viva ME และ Viva Mix ME สกู๊ตเตอร์สุดกรีนจาก Gogoro x Muji ที่ผลิตจากขยะพลาสติกทั้งคัน

06 ก.ย. 2023

Viva ME และ Viva Mix ME สกู๊ตเตอร์สุดกรีนจาก Gogoro x Muji ที่ผลิตจากขยะพลาสติกทั้งคัน

ถูกใจสายมินิมอลและรักสิ่งแวดล้อมไม่น้อยเลย เพราะล่าสุด Gogoro บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากไต้หวัน จับมือกับแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์จากญี่ปุ่นอย่าง Muji ออกแบบและผลิตรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ เพื่อเป้าหมายในการลดปริมาณขยะ ด้วยการนำขยะเหล่านั้นมารีไซเคิลและปรับโฉมให้กลายเป็นอะไหล่ จากนั้นก็ประกอบกลายมาเป็นเจ้าสกู๊ตเตอร์น่าตาสุดคิวท์ตัวนี้ แถมยังมีวางจำหน่ายให้ซื้อไปขับขี่กันได้จริงอีกด้วยนะนี่คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการRecycling for Goodที่ต้องการนำเสนอว่าปัญหาขยะที่สังคมโลกกำลังเผชิญตอนนี้ โดยเฉพาะขยะประเภทพลาสติกโพลิโพรพิลีน สามารถแก้ไขได้ด้วยอีกหนึ่งวิธีคือกระบวนการรีไซเคิล นำขยะมาผ่านขั้นตอน และแปรสภาพไปเป็นของใช้ต่าง ๆ ควบคู่กับการลดการสร้างขยะใหม่ อีกทั้งยังต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้คน ให้หันมาใส่ใจปัญหาขยะโดยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจาก Gogoro x Muji มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกันคือ Viva MEและViva Mix MEสีเบจและสีเทา ซึ่งออกแบบโดย นาโอโตะ ฟุคาซาวา (Naoto Fukasawa) นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานกับ Muji มาแล้วมากมาย ทำงานให้หน้าตาของสกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษนี้ดูคลาสสิกและเรียบง่ายมินิมอลสุด ๆ โดยจะเน้นการใช้งานขับขี่ในเมืองเป็นหลักนอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแกดเจ็ตเพื่อการขับขี่อีกมากมาย ทั้ง หมวกกันน็อก เสื้อคลุม กระเป๋า ขวดน้ำ ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามาก็ล้วนแล้วแต่ผลิตจากขยะพลาสติกที่ผ่านมารีไซเคิลมาแล้วทั้งสิ้น แต่สายมินิมอลชาวไทยจะมีโอกาสได้จับจองหรือเปล่า ต้องมาลุ้นกันภาพ : Gogoro

ท็อปแท็ป ณภัทร ลงแข่งขัน Poker รายการใหญ่ที่เกาหลี คว้าอันดับ 3 พร้อมเงินรางวัล 222 ล้านวอน! ส่วน ป๋าเต็ด จบที่อันดับ 9

04 ก.ย. 2023

ท็อปแท็ป ณภัทร ลงแข่งขัน Poker รายการใหญ่ที่เกาหลี คว้าอันดับ 3 พร้อมเงินรางวัล 222 ล้านวอน! ส่วน ป๋าเต็ด จบที่อันดับ 9

ช่วงนี้ข่าววงการ Poker ไทยกำลังมาแรงทีเดียว ก่อนหน้านี้มีการนำเสนอผลงานของ ป๋าเต็ด ที่เดินทางไปลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ พร้อมกับคว้ารางวัลติดมือกลับมา ทำให้รู้ว่าวงการ Poker ไทยไม่ธรรมดาจริงล่าสุดเป็นข่าวดังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเพจ Team Poker Beast ได้โพสต์ข่าวแสดงความยินดีกับ ท็อปแท็ป-ณภัทร โชคจินดาชัย พิธีกรและนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง หลังคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน Poker รายการใหญ่ของโลกอย่าง APT Main Event ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมกับรับเงินรางวัลไปถึง 222 ล้านวอน หรือประมาณ 5.95 บาท (ชาวเน็ตอย่างเราตาลุกวาว)ขณะที่ ป๋าเต็ด ที่ร่วมในรายการนี้ด้วย ก็เพิ่งโพสต์ว่าจบการแข่งขันด้วยคว้าอันดับ 9 ได้เงินรางวัลติดไม้ติดมือมากรุบกริบ 450,000 วอน หรือ 12,000 บาท แสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทยทุกท่านเลยภาพ : Asian Poker Tour

ข้อมูลจากงานวิจัยบอกว่า การลูบตัวน้องหมาเพียง 5-20 นาที ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้นะ

16 ส.ค. 2023

ข้อมูลจากงานวิจัยบอกว่า การลูบตัวน้องหมาเพียง 5-20 นาที ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้นะ

เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการเดียวกัน เวลาเดินไปไหนแล้วเจอน้องหมา ก็คงอยากจะวิ่งเข้าไปจับ เล่น ลูบ หรือกอดน้อง ซึ่งเหตุผลก็คงจะคล้าย ๆ กันคือเป็นเพราะความเอ็นดู แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้มีข้อมูลจากงานวิจัยบอกว่า การลูบตัวน้องหมามีผลดีมากกว่าที่เราคิดข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์หลายฉบับบอกว่า ระหว่างที่คนสัมผัสกับสุนัขแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เพียง 5-20 นาที สามารถลดความเครียดได้ เพราะช่วงที่เราได้ลูบตัวน้องหมา ร่างกายจะหลดการหลั่ง Cortisol หรือ ฮอร์โมนแห่งความเครียด และในขณะเดียวกันยังพบว่าร่างกายหลั่ง Oxytocin หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุขแทน จึงทำให้คนเรารู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเครียดต่าง ๆ ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นด้วยนอกจากนี้ยังพบว่า การเป็นเจ้าของสุนัขมีส่วนช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี มีชีวิตที่ยืนยาว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่า ถ้าอยากมีอายุยืนต้องเลี้ยงสุนัขเสมอไป เพราะการไปเล่นกับสุนัขของคนอื่น ก็ช่วยให้สุขภาพจิตเราดีขึ้นได้เหมือนกันภาพ : unsplash.com/leohoho

3 ปีก็รอได้! ที่ญี่ปุ่นเพาะพันธุ์หอยนางรม กินแล้วไม่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ โดนใจซีฟู้ดเลิฟเวอร์สุด ๆ

08 ส.ค. 2023

3 ปีก็รอได้! ที่ญี่ปุ่นเพาะพันธุ์หอยนางรม กินแล้วไม่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ โดนใจซีฟู้ดเลิฟเวอร์สุด ๆ

เรื่องนี้กำลังเป็นไวรัลที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์ เมื่อมีการเปิดเผยถึงความสำเร็จของการเพาะเลี้ยงหอยนางรม ซึ่งแตกต่างจากหอยนางรมอื่น ๆ เพราะสายพันธุ์นี้รับประทานแล้วไม่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษในรายงานบอกว่าญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการเลี้ยงหอยนางรมด้วยวิธีการแบบใหม่ เป็นหอยที่เลี้ยงบนบกทั้งหมด โดยจะใช้น้ำทะเลจากระดับความลึก 200 เมตรมาใช้ในการเพาะเลี้ยง เนื่องด้วยมีการทดสอบแล้วว่าน้ำในระดับความลึกเท่านี้ จะไม่มีเชื้อไวรัส AC Oyster 2.0 เจือปน ในขณะที่การเลี้ยงแบบเดิม มีโอกาสที่จะทำให้เชื้อไวรัสต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในระดับผิวน้ำปะปนมาได้ง่ายกว่า ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่รับประทานเข้าไปเกินภาวะอาหารเป็นพิษไม่เพียงเท่านั้นยังมีการปรับสูตรอาหารที่ใช้เลี้ยง ซึ่งจะทำให้หอยนางรมที่เลี้ยงแบบใหม่นี้มีรสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้น ผู้ที่ได้ชิมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหวานกว่าหอยนางรมที่รับประทานได้ทั่วไป เขาคาดว่าจากนี้จะต้องใช้เวลาเพาะเลี้ยง เพาะพันธุ์เพิ่มจำนวนไปอีกราว 3 ปี เมื่อถึงวันนั้นก็จะพร้อมสำหรับการจำหน่ายและส่งออกให้เหล่าซีฟู้ดเลิฟเวอร์ได้ลิ้มลองกันภาพ : prtimes.jp

EVENTS

แฉแฟร์ 2024

09 ต.ค. 2024

แฉแฟร์ 2024

แฉแฟร์ แต่ละมื้อแต่ละมูอยากกินได้กิน อยากมูได้มู รวมร้านเด็ดจากรายการ “แฉ” และร้านดังกว่า 200 ร้าน เพิ่มไฮไลต์เด็ด โซน Surprise อัพดีกรีความปัง เอาใจสายกิน สายมู อีกเพียบแฉแฟร์ ปีนี้ มาในคอนเซ็ป #แต่ละมื้อแต่ละมู ยกขบวนขนทัพร้านเด็ดกว่า 200 ร้าน ปีนี้อัพเกรดความแซ่บ รวมไฮไลต์เด็ดไว้แบบจุใจ 4 วันเต็ม อร่อยปังในงานเดียวให้สายกิน สายมู ได้ฟินกันถ้วนหน้า มาได้ทุกวันไม่ซ้ำกัน แต่ละโซนรับรองว่าเด็ดแน่นอน- แฉคอนเฟิร์ม ร้านเด็ดจากรายการ “แฉ” อาทิ หอยจ๊อปูทอง เยาวราช / เจ้เบียร์ทะเลทอด / กุ้งแช่น้ำปลาแปดริ้ว / โรตีบังบ่าว นครศรี / สองแม่ หมี่กรอบ / ห่อหมกเจ้ศรีสำเพ็ง / ป้าวรรณ์ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ /ข้าวต้มมัดยายฟู / อาเหล็งแหนมเนือง- แฉกันเอง รวมร้านจากดารา-ศิลปิน อาทิ Boost Me Up by ดีเจพี่อ้อย น้ำปั่น น้ำสุขภาพ และ คุมาโกะ หมีน้อยอร่อยมาก ของทานเล่นประเภทซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น จาก ดีเจพี่อ้อย / ครัวเจ๊แอน หมี่โคราช และ น้ำพริก - แอนโทเนีย โพซิ้ว / Atomic Blondies - ชายชาตโยดม/ ปูไข่เยิ้ม by Mick - มิคบรมวุฒิ / Waans Bakery และ ข้าวมันไก่กาต๊าก - น้ำหวาน ZAZA / น้ำพริกปุยแสบปาก - ปุยฝ้าย ภัทณชา / Noomzaab ผัดไทสำเร็จรูปพร้อมปรุง - หนุ่ม อรรถพร / SEASON HOUSE - ขนม เบเกอรี่ จากครอบครัวดีเจ.โก / ส้มตำแม่น้อย- แม่น้อย โพธิ์งาม / ลูกชิ้นหมูหัน - ลุงรงค์ จาตุรงค์- แฉหวานหวาน รวมร้านดังขนมหวาน อาทิ โดนัท KA.NO.MU / อิ่มสุข ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / นู๋ดา น้ำลำไยสด- แฉ Street Food รวมร้านอร่อยอาหารสตรีทฟู้ด ร้านเด็ด ร้านที่ได้การันตี อาทิ ปลาร้าเด้อ อาหารอีสาน บะหมี่บุญเลิศเกี๊ยวหมูย่างซีอิ๊ว / เรื่องหอยไว้ใจเรา / โฟร์วิล​บาร์บีคิว / ทอดแหลก หมูทอด / เฮียหงี เยาวราช กระเพาะปลา / ไก่ยอ จิ้มแซ่บ / กู๋โบ๊ทหมูกรอบ Uncle Boat Crispy Pork / น้ำปลาหวานคุณแอ๊ว สูตรชาววัง- แฉปังปัง รวมหมอดู ซินแสชื่อดัง และของมงคลเสริมดวงต่างๆ มากมายมากิน มาจอย มามู ด้วยกันได้ใน แฉแฟร์ #แต่ละมื้อแต่ละมู ในวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 3 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

EFM ON TOUR ยกความสนุก บุกมหาวิทยาลัย 2024!!

24 ก.ค. 2024

EFM ON TOUR ยกความสนุก บุกมหาวิทยาลัย 2024!!

EFM ON TOUR 2024ยกความสนุก บุกมหาวิทยาลัยรุ่นพี่เตรียมร้อง รุ่นน้องเตรียมโยกจันทร์ที่ 29 ก.ค. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พบกับ วง PROXIE (พร็อกซี) / Atom ชนกันต์ และส้ม มารี (Zom Marie)ศุกร์ที่ 23 ส.ค. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (รังสิต) พบกับ Mirrr (เมอร์) / PONCHET (พลเชษฐ์) / LIPTA (ลิปตา) และ guncharlie (กันชาร์ลี) / getsunova (เก็ตสึโนวา) และครั้งสุดท้ายที่ ศุกร์ที่ 20 ก.ย. มหาวิทยาลัยรังสิต พบกับ INDIGO (อินดิโก้) / Atom ชนกันต์ และ Musketeers (มัสเก็ตเทียร์)พบกับเหล่าดีเจจาก EFM และ กิจกรรมจากผู้สนับสนุนตลอดทั้งงาน !!

Q&A เกี่ยวกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

09 พ.ย. 2023

Q&A เกี่ยวกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

ทำยังไงจะได้ Point?ดู Point ตรงไหน?เข้างานได้กี่โมง?ให้เพื่อนรับบัตรแทนได้มั้ย?EFM มัดรวมคำถาม QA มาให้แล้วค่าาาหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม Inbox Facebook มาถามแอดมินได้เลยน้าแล้วมันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยอง

แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญ | EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

03 พ.ย. 2023

แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญ | EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

REDEEM บัตรกันแล้ว อย่าลืมจองที่พักกันนะคะ !!EFM แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญแล้วมาเจอกันที่งาน EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18มันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยอง

แฉแฟร์ อร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ!

11 ธ.ค. 2023

แฉแฟร์ อร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ!

แฉแฟร์ มหกรรมอร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ เตรียมยกขบวนไปแฉความอร่อย ความบันเทิงสไตล์แฉ ร้านเด็ด-ร้านดัง กว่า 200 ร้าน ทั้งร้านเด็ดที่คัดมาแล้วจาก “รายการแฉ” พร้อมร้านค้าดารา ของดี ของเด็ดสายมู ที่มดดำ การันตี นำทัพโดย มดดำ คชาภา และทีมพิธีกรรายการแฉ ร่วมด้วยเหล่าดีเจ ATIME , เซเลบมากมาย และหมอดูชื่อดัง จัดเต็มมหกรรมความอร่อยครั้งใหญ่ 4 วันเต็ม มาเจอกันได้ ในวันที่ 14-17 ธันวาคมนี้ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ATIME และ www.atime.liveชี้เป้าร้านเด็ด 5 โซนในแฉแฟร์แฉ ฟู้ด : รวมร้านดังจากรายการแฉHighlight : CHARM GARDEN - ลูกชิ้นและหมี่คลุก เชฟอ้อย / ชามเบิ้ม ข้าวต้มแห้ง – ร้านดังในโซเชี่ยล / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / เตียวโก / / อีสานพาสวบ / สมานหมูทอด / จอลลี่พอร์ค หมูทอดอารมณ์ดีเจ้าดังใน TIKTOK / มูเตโกโก้CHARM GARDEN - ลูกชิ้นและหมี่คลุก เชฟอ้อย / ไส้กรอกสารคาม By คุณคิส / ชามเบิ้ม ข้าวต้มแห้ง / Smococoplus+ มะพร้าวสมูทตี้ / บ้านเรือปู นครศรีธรรมราช / GIGG AND GOOD HOMEMADE / วัรดะห์ ข้าวขาวัว / SHREDDO เชรดโด – อโวคาโด้ปั่นพันแฮส / ยำข้าวทอด, เนื้อสเต๊ะ / ข้าวเกรียบเห็ดหอม, ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / ก้วนลี่ กระเพาะปลาตุ๋นยาจีน / ถั่วบางนรา / กะปิโหว่แซ่บลืมผัว / ผลไม้ตามฤดูกาล / กุ้ยช่าย / บ้านขันโตก / เทดอง / มูเตโกโก้ / เจ๊แดงสามย่าน / Daayli Breaktime House – หมี่คลุก / Banana Yess! / เรื่องของยำ / บ้านแกงเขียวหวานครัวคุณต้อย / เตียวโก / Your Seat Café / ซานต้าฟรุ๊ต / อุไรรัตน์เชียงใหม่ / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / ข้าวแท่ง by NSL / เนสน้ำพริก / น้ำดอกมะพร้าว / อีสานพาสวบ / สมานหมูทอด / ฮานะข้าวเห็ดหอม / ติ่มซำหลังจวน / ถั่วเทพ / หมูปิ้งอิ่มจัง / คุณมิ้งแกงใต้น้ำยาปู เมืองตรัง / CHANUMAN by HOLEN / หยกสด / ฟูฟ่องหมูกรอบ / KA●NO●MU / ป้าม่วยน้ำปลาหวาน / ข้าวต้มมัดยายฟู / วสันต์ของฝากเชียงใหม่ / วรรัตน์ ซาลาเปาเบตง พ.ศ. ๒๕๑๗ / หลี่ชิมเฮีย จุ๋ยก้วย / เจริญไทยสุกี้ / Pick Me Please หมูหยองอบกรอบ / ข้าวหลามจิ๊ว สูตรบางคนที / ย่างนัวส์ / โต้ง ขนมจีนน้ำยาปู / ตี๋ขนมชั้นใบเตย 8 ริ้ว / ปุ๊ เรือสามรำ / รัชฎาลุยสวน / Papa Tofu / ขนมไทยบ้านทอม by ราชบุรี / Okonomiyaki Takuya / จอลลี่พอร์ค หมูทอดอารมณ์ดีเจ้าดังใน TIKTOK / ดับเบิ้ลนัวร์ / ขนมจีนน้ำยาปูคุณปุณณ์ / นายเกาะข้าวเกรียบเห็ดหอม / ขนมบะบิ่นกัสโต้ / ขนมไทยครัวสามพี่น้อง / ลอดช่องวัดเจษ ผึ้งหลวง / ศรีจันทร์พานิช มหาชัย / ทีเด็ดยำ / ข้าวคลุกกะปิแม่พลอย / หมูยอวชาลิสา / สรวีย์ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน รอชำระ / MaMeeKlook / Chef's Table To Deliver by chef GOR / พรกมลทองม้วนสด / เจ๊ขวัญ ไข่หมึกย่าง / ขาหมูตรอกซุงบางรัก / พิมพิราหมี่กรอบแฉ Street Food : รวมร้านอร่อยคาว-หวานHighlight: เจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ (ลูกชิ้นยืนกินลิซ่า) / ยำดาวยั่วbyเจ๊ดารา / Sugoi sembei สุโก้ยเซมเบ้ /กุยช่ายสะพานหันเจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ (ลูกชิ้นยืนกินลิซ่า) / ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส / ทูนึ่งมงลง by ฟ้า / ยำดาวยั่วbyเจ๊ดารา / เอกอร่อย พริกแกงใต้ / กนกกร ขนมเบื้องไทยตลาดพลู / Bakery Hut / ขนมจีนภูเก็จ บ้านอาม่า / ลูกชิ้นหมูเงินล้าน / มาดามซ่า - น้ำปลาร้า แจ่วบอง / หมูสะเต๊ะมังกรทอง / มาดามอินทนิล / หมึกเจี๊ยวจ๊าว น้ำจิ้มจี๊ดจ๊าด / ป้าวรรณ์ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ / Morningmeal แซนวิสเกาหลี-สลัด / ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก / Sugoi sembei สุโก้ยเซมเบ้ / อิ่มสุข ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / ร่ำรวยเย็นตาโฟ / ข้าวกรอบสยาม / เอเชียน ทัง ( ASIAN TANG) / ลูกชิ้นพอเพียง / ชาบูเสียบไม้ 10 บาททุกอย่าง / กุยช่ายสะพานหัน / นครมูเบอร์เกอร์ / Love Mon Dong (เลิฟม่อนดอง) /ราชรสแฉหวานหวาน : โซนเดียวที่สายหวานจะต้อง Love!Highlight: Golden Thai Tea - ชาไทย โกลเด้น / Chimney Coaster ไอศกรีมเจ้าดัง เค้กปล่องไฟ / Cho Kaew Bualoy ช่อแก้วบัวลอยTomilo sushi / Peonée Bakehouse ขนมไทย / FRUITOCHIE กรีกโยเกิร์ต โฮมเมด / ยู้ฮูหวานเย็น / โคะโคะริช เต้าฮวยนมเย็น / น้ำลำไยสดชื่นใจ By ชีสเค้ก / Koomi Drinking Yoghurt / Focus Chocolate / ทุเรียนตองเอ - ข้าวเหนียวมูลน้ำกะทิทุเรียน / Cool Coffice / Chimney Coaster ชิมนี่ โคสเตอร์ เค้กปล่องไฟ / Golden Thai Tea - ชาไทย โกลเด้น / MAO NOM เมานม กาแฟและนมสด โฮมเมด / Cho Kaew Bualoy (ช่อแก้วบัวลอย)แฉปังปัง: สินค้า Lifestyle สายมู เสริมดวง-เสริมเฮงHighlight: รวมร้านของมงคล เสริมดวง บารมี โชคลาภ อาทิ อาจารย์อุ๋ย ญาณสัมผัส - ของมงคลต่างๆ อาทิ กระเป๋าตังค์ กำไล สร้อยคอ โปรโมชั่นเฉพาะในงานแฉ ซื้อครบ 7 พัน ดูดวงกับอาจารย์อุ๋ย ฟรี 10 นาทีอาจารย์อุ๋ย ญาณสัมผัส – รวมของมงคลเสริมบารมี กระเป๋าเงิน , กำไล , สร้อยคอ / มูลนิธิเต๋าธรรมะสยาม (ซินแสไช้) - ดูดวง / อาจารย์ชัญญา ราชินีไพ่จิตสัมผัส – น้ำมันหอมเย็น RELAX แผ่นมงคลชีวิต ลิปสติกสาลิกาปากหวาน กำไลคริสตัล น้ำมันหอมมหาเสน่ห์ / Namo Luckystone ตรวจพยากรณ์ / กระแสบุญ99 / มงคลพัฒน์ ดวงและฮวงจุ้ย / POLY HOLY กำไลพระพิฆเนศ / พูนศรีมนตรา กำไลข้อมือ / The White Witch (หมอเจี๊ยบทูตสื่อพลัง) - หินมงคล / ปัญญ์ ลัคค์ Lucky stone / บ้านบีลีฟมหาเฮง by โค้ชกุ๊กไก่ / สามสาวสวยมาก Sorority.dkp - กำไลข้อมือหินแฉกันเอง: ร้านศิลปิน-ดารา และ ดีเจHighlight: THE GHOST HOUSE แจ็ค เดอะโกส - กาแฟสูตรเฉพาะ / แฮปปี้ ชิค Happy chick - หนังไก่ทอดกรอบ ดีเจมะตูม / Wara Allure (วรา อาลัว ขนมอาลัว ดีเจเคเบิ้ล) / Season house Cake Bakery Homemade ครอบครัวดีเจโก / น้ำพริกปุยแสบปาก จาก ปุยฝ้าย AF หรือ ปุยฝ้าย-ณัฎฐพัชร์ / กะหรี่ปั๊บ มาดามแม่ - วู้ดดี้ ลูกชิ้นดาวร้าย นํ้าจิ้มนางเอก - แทน-ฐิติ / น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกปลาดุกฟู แคปหมู หมูกระจก น้ำเก็กฮวย - กร ณัฐวัฒน์ (หลานพี่โก้ ธีรศักดิ์) - / GOD OF GRILL STEAK สเต็ก สปาเก็ตตี้ - แพร สตรอเบอรี่ชีสเค้ก / ซูชิ-ทะเลดอง - บังเอ เชิญยิ้ม / พริกกรอบ DARACHILLI ผลไม้อบแห้งเกรดพรีเมี่ยม น้ำปลาร้า PAKO - โก้ ธีรศักดิ์ - / น้ำพริกป้าแว่น by คุณษา - วรรณษา ทองวิเศษ / Brandnew Field Good ข้าวเกรียบ plant base – นิว นภสร / หวานซ่านทรวง กล้วยเชื่อม - เดย์ ฟรีแมน / MomMe Menu - อาโย ทัศน์วรรณ / อย่างสีเหลือง ห่อหมกย่าง - ที JETSETER / น้ำสมุนไพรไฉไลเอส่งสุข - เอ สุรพันธุ์ ชาวปากน้ำ / กะหรี่ปั๊บ มาดามแม่ - วู้ดดี้ / POPMONSTERS ป๊อปคอร์นพรีเนี่ยม หลากรสชาติ - โอ๋ ภัคจีรา / THE GHOST HOUSE กาแฟสูตรเฉพาะ แจ๊ค The Ghost Radio / เตี๋ยวตุ๋นขุนพล สาขาปั๊มปตท. เลียบคลองสอง - อ๊อฟ บิ๊กแอส / แฮปปี้ ชิค Happy chick - หนังไก่ทอดกรอบ ดีเจมะตูม / Wara Allure วรา อาลัว ขนมอาลัว - ดีเจเคเบิ้ล / Season house Cake Bakery Homemade - ขนม เบเกอรี่ ครอบครัวดีเจโก / น้ำพริกปุยแสบปาก น้ำพริกหมูเสวย - ปุยฝ้าย AF หรือ ปุยฝ้าย-ณัฎฐพัชร์ / GINZY Healthy delicious ขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ - ตุ๊ก ชนกวนันท์ / เจียงฮาย ข้าวซอย - พี่หมู บิ๊กแอส / PloyHomemade น้ำพริกมันปู น้ำพริกมันกุ้ง - ปาล์ม instinctนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเด็ดๆมาสร้างสีสันอีกเพียบ ไม่มีซ้ำ อาทิ ทอล์คเปิดดวงชะตาปีหน้าจากหมอดูชื่อดัง ใครจะปัง ใครจะรุ่ง มาอัพเดทดวงล่วงหน้ากันได้ที่งานนี้พบกับวงดนตรีจากเวที Hotwave Music Awards ที่จะสลับกันมาสร้างสีสัน ให้ทุกคนได้ช้อป ได้มูกันแบบเพลินๆตลอด 4 วันอย่างแน่นอน

album

0
0.8
1