ฟังเพลงออนไลน์ EFM 94 ONLINE - ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

News Updates

ENTERTAINMENT NEWS

ภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ เตรียมออกฉายในต่างประเทศ โดยจะประเดิมที่อินโดนีเซีย 15 พฤษภาคมนี้

26 เม.ย. 2024

ภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ เตรียมออกฉายในต่างประเทศ โดยจะประเดิมที่อินโดนีเซีย 15 พฤษภาคมนี้

หลังจากที่ ‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวจาก GDH เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 พร้อมสร้างปรากฏการณ์ความซาบซึ้งทั่วไทย และทำรายได้ทะลุกว่า 300 ล้านบาทไปแล้วนั้น ล่าสุด GDH เตรียมพา ‘หลานม่า’ เดินทางไปพบกับคอหนังในต่างประเทศโดย GDH ออกมาเปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ‘หลานม่า’ จะค่อย ๆ ออกฉายสู่สายตาชาวโลก ซึ่งจะประเดิมกันที่อินโดนีเซียในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 จากนั้นก็มีกำหนดเข้าฉายยังโรงภาพยนตร์ในฟิลิปปินส์, ลาว, มาเลเซีย, บรูไน, สิงคโปร์, เวียดนาม, กัมพูชา, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ฮ่องกง, จีน และ เกาหลีใต้ ตามลำดับ‘หลานม่า’ ผลงานการกำกับของ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ที่หยิบเอาความผูกพันของสมาชิกหลากเจเนอเรชันในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนมานำเสนอ แล้วถ่ายทอดผ่านฝีมือของนักแสดงทั้ง คุณยายแต๋ว-อุษา เสมคำ, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ดู๋-สัญญา คุณากร, เผือก-พงศธร จงวิลาส, เจีย-สฤญรัตน์ โทมัส, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล จนได้รับเสียงชื่นชมในความกลมกล่อมและเป็นธรรมชาติมากที่สุดคอหนังชาวไทยยังสามารถไปซาบซึ้งด้วยกันกับภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ กันได้วันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

โอ๊ต ปราโมทย์ ช่วยสานฝันด้วยการบริจาคเครื่องดนตรีไทยให้กับ โรงเรียนวัดเขาทะโมน จ.เพชรบุรี

26 เม.ย. 2024

โอ๊ต ปราโมทย์ ช่วยสานฝันด้วยการบริจาคเครื่องดนตรีไทยให้กับ โรงเรียนวัดเขาทะโมน จ.เพชรบุรี

มีเรื่องราวชวนใจฟูมาฝากกัน เมื่อล่า โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน และ ป๊อบ-ปองกูล สืบซึ้ง 2 เพื่อนสนิทศิลปินชื่อดัง ได้ร่วมกันส่งต่อความสุข เพื่อสานความฝันของเด็กนักเรียนชมรมดนตรีไทย ของโรงเรียนวัดเขาทะโมน (เรือนวงศ์ทองศรี) ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ด้วยการบริจาคเครื่องดนตรีไทยชุดใหญ่ใหม่เอี่ยม ให้น้อง ๆ ได้ฝึกและเล่นดนตรีที่ตัวเองรักโดย โอ๊ต เล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ไถ่ฟีดเฟซบุ๊กไปเจอกับโพสต์หนึ่งซึ่ง บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชื่อดังได้แชร์เอาไว้ เพื่อช่วยให้การประชาสัมพันธ์ความช่วยเหลือ เป็นโพสต์ของคุณครูในโรงเรียนที่ระบุว่า ในโรงเรียนมีเด็กนักเรียน 13 คน นักเรียนทุกคนอยากเล่นดนตรี ทางรักษาการผู้อำนวยการเองก็เล็งเห็นความสำคัญและอยากสนับสนุน แต่ยังขาดเครื่องดนตรีที่สภาพสมบูรณ์ จึงขอใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียเปิดรับบริจาคเครื่องดนตรี (ไม่รับเงินบริจาค) จึงเกิดไอเดียชวนเพื่อนอย่าง ป๊อบ ปองกูล หาวิธีที่จะช่วยเหลือน้อง ๆ ให้ได้ทำตามความฝันกระทั่งวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา โอ๊ต และทีมงานได้ลงพื้นที่เพื่อนำเครื่องดนตรีไทยไปมอบให้กับน้อง ๆ นักเรียน โรงเรียนวัดเขาทะโมน จ.เพชรบุรี แล้ว พร้อมชมความสามารถของน้อง ๆ ที่บรรเลงดนตรีด้วยเครื่องดนตรีชุดใหม่ อีกทั้งยังอวยพรและเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคน เล่นดนตรีให้สนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ชอบเครื่องดนตรีไทยที่ โอ๊ต และทีมงานนำไปมอบให้น้อง ๆ เป็นเครื่องดนตรีไทยชุดใหญ่ ประกอบไปด้วย ระนาดเอก, ระนาดทุ้ม, ฆ้องวง, ซออู้, ซอด้วง, ปี้, ขลุย, ตะโพน, กลองแขก, กลองทัด, กรับ, ฉิ่ง และ ฉาบนอกจากนี้แฟนเพจของโรงเรียนยังได้โพสต์ขอบคุณ โอ๊ต ปราโมทย์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านรวมถึง ป๊อบปองกูล และ บาส นัฐวุฒิ ที่มีส่วนช่วยสานความฝันของเด็ก ๆ ชมรมดนตรีไทยให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ทางโรงเรียนพร้อมจะสนับสนุนความสามารถ และพัฒนาทักษะวิชาดนตรี และพลักดันไปสู่การสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้กับนักเรียนต่อไปด้วยภาพ : Pramote Pathan

ชัช มือกลอง BODYSLAM สวมแหวนขอแฟนสาวแต่งงาน

26 เม.ย. 2024

ชัช มือกลอง BODYSLAM สวมแหวนขอแฟนสาวแต่งงาน

ราศีเจ้าบ่าวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง สำหรับ พี่ชัช หรือ ชัช-สุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองแห่งวง bodyslam ที่ทำเซอร์ไพรส์สุดน่ารัก ด้วยการคุกเข่าพร้อมกับสวมแหวนขอ จิน แฟนสาวนอกวงการแต่งงานแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ในบรรยากาศสุดอบอุ่นโดย หมี เจษฎา ช่างภาพประจำวง bodyslam ออกมาโพสต์โมเมนต์สุดน่ารักนี้ผ่านอินสตาแกรม ขณะที่เพื่อน ๆ ร่วมวง รวมถึงพี่ชายคนสนิทอย่าง เต๋า สมชาย ก็ออกมาโพสต์ภาพนี้เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ผ่านโซเชียลมีเดียด้วยสำหรับกำหนดการและรายละเอียดงานวิวาห์ ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยว่าจะมีขึ้นเมื่อใด เพราะช่วงนี้ พี่ชัช กำลังอยู่ในช่วงออกทัวร์และเตรียมพร้อมสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ของวง bodyslam ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในวันที่ 21-22-23 มิถุนายน 2567 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยจะเปิดจำหน่ายบัตรผ่าน The Concert ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ และหลังจากเสร็จสิ้นคอนเสิร์ต แฟนเพลงอาจจะได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับงานวิวาห์กันอีกครั้งหนึ่งภาพ : Jedsada Jantanapak

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม! ว่าน ธนกฤต พูดถึงความสัมพันธ์ 8 ปีกับ ฟาง ธนันต์ธรญ์ หลังมีข่าวเลิกรา

25 เม.ย. 2024

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม! ว่าน ธนกฤต พูดถึงความสัมพันธ์ 8 ปีกับ ฟาง ธนันต์ธรญ์ หลังมีข่าวเลิกรา

แฟนคลับโล่งอกกันถ้วนหน้า เมื่อล่าสุด ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ ศิลปินชื่อดังออกมาพูดถึงความสัมพันธ์รัก 8 ปีกับแฟนสาว ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ หรือ ฟาง FFK เป็นครั้งแรก หลังจากที่ตกเป็นประเด็นซุบซิบและถูกโยงว่าเป็นคู่รัก 8 ปีที่แอบเลิกกันแล้วแบบเงียบ ๆ โดย ว่าน ยืนยันผ่านรายการ ‘หลังไมค์ UNCENSORED’ ทาง COOLISM ว่าตอนนี้ทุกอย่างยังแฮปปี้ปกติ ย้ำแบบเดิมว่าพร้อมแต่งงานเสมอและเจ้าสาวยังเป็น ฟางว่าน เล่าว่าความรัก 8 ปีผ่านการเรียนรู้และปรับตัวจนเข้าใจกันมากในระดับหนึ่ง จนรู้สึกโชคดีและขอบคุณ ฟาง เช่นกันที่พยายามปรับตัวและทำความเข้าใจกับหลาก ๆ เรื่อง เพราะวัฒนธรรมในชีวิตของทั้งคู่มีทั้งสิ่งที่เหมือนกันและต่างกัน หนึ่งสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายมีเหมือนกันคือพื้นที่ส่วนตัว ที่ก็มักจะให้ความเคารพกับพื้นที่ตรงนั้น ขณะเดียวกันก็จะมีพื้นที่ร่วมกัน เปรียบเหมือนเป็นสวนหน้าบ้านที่ใช้เวลาด้วยกัน ชอบอะไรก็ไปทำด้วยกัน“มันคือแก่นของการคบกันครับ และผมก็เริ่มเข้าใจแล้วว่ารัก 7 ปี อาถรรพ์เลข 7 เพราะมันเริ่มเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมศรัทธาในตัว ฟาง นะ เขาปรับตัวเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อที่จะอยู่กับคนงี่เง่าแบบผมได้ ผมเองก็ปรับตัวเพื่อที่จะอยู่กับคนที่น่ารักและเย็นชาแบบ ฟาง ได้ ผมเลยรู้สึกว่าถึงจะเป็นแบบนี้ไปอีก หรือออกเรือนไปอยู่ด้วยกันเลย ผมมั่นใจว่าผมดูแลเขาได้ เพราะเริ่มเห็นแล้วว่าสิ่งที่ผมต้องทำให้เขาคืออะไรบ้าง สิ่งที่ผมต้องรักษาสเปซตัวเองไว้เพื่อให้ยังเป็นผมอยู่คืออะไรบ้าง (เป็นคำตอบเดิมใช่ไหมว่ายังคงเป็น ฟาง สำหรับ ว่าน?) ใช่ครับ“ที่ผ่านมามีข่าวเยอะมากครับ แต่ด้วยความเจ๋งคือผมกับ ฟาง ต่างก็เป็นคนที่ไม่ใช่คนที่จะออกมาพูด เราก็ไปกินข้าวกันประมาณ 4-5 ครั้งช่วงที่ก่อนผมบวช เราก็ไปกินชาบูกันอร่อย ๆ แล้วปล่อยให้คนพูดกัน แล้วรอดูว่าเรื่องนี้มันจะไปถึงไหน ถ้ามันไม่รอดผมก็จะพูดความจริงว่าผมไม่สามารถพาความสัมพันธ์นี้ไปต่อได้แล้ว แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะแย่อะไร สมมุติถ้าต้องไม่มี ฟาง จริง ๆ ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครเข้ามาทำให้หัวใจสั่นไหวแบบตอนที่เจอ ฟาง หรือเปล่า”ส่วนเรื่องการแต่งงาน ว่าน ยังยืนยันแบบเดิมว่า ‘พร้อมตลอดเวลา’ แต่ก็ยังอยากให้ ฟาง พร้อมด้วย ไม่อยากเอาวัยวุฒิของตัวเองเป็นที่ตั้ง มองว่าถ้ารักกันจริง ๆ เมื่อไหร่ก็ได้ รอถึงวันที่ทุกฝ่ายพร้อมและอยากแต่งงาน ไม่อยากใช้เหตุผลของตัวเองไปกดดัน ถ้ามั่นใจว่ายังรักกัน แต่งเมื่อไหร่ก็ได้ หรืออาจจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นเลยก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรภาพ : wan_soloist / fangfangg

แบมแบม กันต์พิมุกต์ ได้รับการแต่งตั้งเป็น Friend of KFC คนแรกของประเทศไทย

25 เม.ย. 2024

แบมแบม กันต์พิมุกต์ ได้รับการแต่งตั้งเป็น Friend of KFC คนแรกของประเทศไทย

กำลังเป็นเรื่องที่ทำให้คนรักไก่ทอด และเหล่าอากาเซ่ฮือฮา เมื่อ KFC ประเทศไทย ออกมาประกาศข่าวดีกับทุกคนว่า นี่เป็นอีกโมเมนต์ประวัติศาสตร์ในรอบ 40 ปีของแบรนด์ ที่ภูมิใจจะประกาศให้ได้ทราบว่า KFC ได้มี ‘Friend of KFC’ เป็นครั้งแรก และคนดังที่ถูกแต่งตั้งก็คือ แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล สมาชิกวง GOT7 นั่นเอง ซึ่งเขาจะทำหน้าที่เป็นดั่งตัวแทนรูปแบบหนึ่งเพื่อสื่อสารความเป็น KFCทีมผู้บริหารของ KFC เปิดเผยถึงเหตุผลที่เลือก แบมแบม มาทำหน้าที่เป็น ‘Friend of KFC’ คนแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เป็นเพราะเขาคือศิลปินไอดอลที่โด่งดังและประสบความสำเร็จไปทั่วโลก อีกทั้งยังมีคาแรกเตอร์ที่ขี้เล่น สนุกสนาน เป็นกันเอง ซึ่งก็ตรงกับคาแรกเตอร์ของ ‘ผู้พันแซนเดอร์ส’ไม่เพียงเท่านั้น แบมแบม ยังเป็นศิลปินที่มีความผูกพันกับแบรนด์ KFC มาอย่างยาวนาน และหากย้อนกลับไปในปี 2010 แบมแบม ได้ร่วมแสดงโฆษณาชิ้นแรกกับทาง KFC อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ติดใจรสชาติและคุณภาพของไก่ผู้พัน ดังนั้นกลับมาในปี 2024 จึงพิเศษมากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการร่วมงานในฐานะ ‘Friend of KFC’ คนแรกของประเทศไทยทำเอาแฟน ๆ ตื่นเต้นและร่วมเฉลิมฉลองจน #KFCxBamBam และ #ไก่ผู้พันแบมแบม ทะยานติดเทรนด์เอ็กซ์ประเทศไทยในเวลาอันรวดเร็ว แฟน ๆ สามารถเข้าไปติดตามแคมเปญพิเศษที่ทาง KFC จัดให้เพื่อต้อนรับ ‘Friend of KFC’ กันได้เลยภาพ : kfcth

พบกับ ‘AUTHENTIC MILE’ คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ มาย ภาคภูมิ เจอกัน 8 มิถุนายนนี้

25 เม.ย. 2024

พบกับ ‘AUTHENTIC MILE’ คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ มาย ภาคภูมิ เจอกัน 8 มิถุนายนนี้

หลังจากที่ มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง ศิลปินและนักแสดงชื่อดังสังกัด Be On Cloud ได้ลุยบทบาทใหม่ในฐานะผู้บริหารค่ายเพลงน้องใหม่อย่าง Be On Cloud Music เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะเป็นการตอกย้ำความรักและความสามารถทางดนตรีแล้ว แฟน ๆ หลายคนก็ลุ้นและเฝ้ารอว่าโปรเจกต์ต่อไปของเขาในฐานะศิลปินจะเป็นอะไรล่าสุดมี Be On Cloud ก็ออกมาประกาศข่าวสุดเซอร์ไพรส์ว่า ภายในปีนี้แฟน ๆ ทุกคนจะได้สัมผัสกับตัวตนทางดนตรีของเขาแบบเข้มข้น และใกล้ชิดกว่าเดิม เพราะเขากำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า ‘AUTHENTIC MILE’ (มายของแทร่) FIRST SOLO CONCERT และจะจัดขึ้นในวันที่ 8 มิถุนายน 2567 ณ UOB LIVE ศูนย์การค้า Emsphereพร้อมกันนี้ยังมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดผังที่นั่งและราคาบัตรให้แฟน ๆ ได้ทราบ โดยบัตรเข้าชมมีราคาเริ่มต้นที่ 1,200 / 1,800 / 2,500 / 3,500 / 5,000 และ 10,000 บาท ซึ่งบัตรแต่ละราคาก็จะมาพร้อมกับสิทธิพิเศษเพื่อแฟน ๆ ทุกคนโดยเฉพาะ เปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ 5 พฤษภาคมนี้ ทาง Thaiticketmajorภาพ : Be On Cloud

NEW RELEASE

‘โคตรโคตร (Wav. Rework)’ ซิงเกิลพิเศษจาก Morvasu x WAV พลิกจากโหมดเศร้าสู่ความดุดัน

24 เม.ย. 2024

‘โคตรโคตร (Wav. Rework)’ ซิงเกิลพิเศษจาก Morvasu x WAV พลิกจากโหมดเศร้าสู่ความดุดัน

ไม่ต้องทนเหงาคนเดียวอีกแล้ว เมื่อ Morvasu หรือ มอร์-วสุพล เกรียงประภากิจ ศิลปินมาดเซอร์จากสังกัดค่ายเพลง What The Duck ศิลปินและผู้กำกับสายครีเอทีฟ ซึ่งเคยวาดลวดลายไว้ทั้งงานโฆษณาและผลงานเพลงดังที่ยึดครองโลกโซเชียลอย่าง ‘Melbourne’ กับยอดสตรีมมิ่งถล่มทลายถึง 34 ล้านครั้ง อีกทั้งเพลงฮิตอีกมากมาย อย่าง ‘ดูดฝุ่น’, ‘ได้ก็ดี’, ‘Honeymoon’ และ ‘โคตรโคตร’ เพลงเศร้าสะท้อนความคิดถึง ถูกหยิบขึ้นมาเพิ่มเติมรสชาติอีกครั้ง ด้วยการแท็กทีมกับ 3 หนุ่มแห่งวง WAV เพื่อร่วมสร้างสรรงานเพลงในโปรเจกต์พิเศษ Morvasu x WAV จนกลายมาเป็น ‘โคตรโคตร (Wav.Rework)’‘โคตรโคตร (Wav.Rework)’ ผลงานใหม่ที่เกิดจากการร่วมสร้างสรรค์ระหว่าง Morvasu เจ้าของเพลงต้นฉบับกับ ‘WAV’ ผู้กำกับและศิลปินอินดี้มากความสามารถ เจ้าของผลงานเพลง ‘พิมพ์แล้วก็ลบ’ จับมือกันพลิกโฉมเพลง ‘โคตรโคตร’ จากโหมดอึมครึม สู่โหมดดุดัน เท่ ๆ ตามสไตล์การทำมิวสิกวิดีโอของ WAV ที่สะท้อนความคิดถึงเธอโคตรโคตรแบบ Aggressive กับมิวสิกวิดีโอที่แปลกใหม่ น่าค้นหา เต็มไปด้วยความครีเอทีฟขั้นสุด จนอยากชวนทุกคนมาตีความร่วมกันในมิวสิกวิดีโอเพลง ‘โคตรโคตร (Wav.Rework)’ นี้อีกครั้งตามไปฟังและชมมิวสิกวิดีโอเพลง ‘โคตรโคตร (Wav.Rework)’ ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : Whattheduck และทุกบริการ Music Streamingภาพ : What The Duck

‘ทำใจเก่ง’ เพลงใหม่จาก ขนมจีน กุลมาศ ที่อยากส่งพลังให้ทุกดวงใจ ไม่ว่าอยู่ในสถานะไหนของความสัมพันธ์

24 เม.ย. 2024

‘ทำใจเก่ง’ เพลงใหม่จาก ขนมจีน กุลมาศ ที่อยากส่งพลังให้ทุกดวงใจ ไม่ว่าอยู่ในสถานะไหนของความสัมพันธ์

ยังคงเดินหน้าส่งซิงเกิลใหม่ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันตลอด สำหรับ Knomjean หรือ ขนมจีน-กุลมาศ สารสาส ศิลปินหญิงแห่งค่าย XOXO Entertainment วันนี้เธอกลับมาพร้อมกับเพลง ‘ทำใจเก่ง (Great with Goodbyes)’ นำเสนอมุมมองที่น้อยคนจะเล่า เมื่อเธอลุกขึ้นมาส่งความเห็นใจถึง ‘มือที่สาม’ พร้อมได้ 2 โปรดิวเซอร์คนเก่งแห่งยุคทั้ง เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา จากวง Tilly Birds และ bnz หรือ เบนซ์-วรเชษฏฐ์ ฐานุพงศ์ชรัช มาร่วมสร้างผลงานเพลง และยังได้นักแสดงมากฝีมือแห่งยุคอย่าง มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ มาร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอ‘ทำใจเก่ง (Great with Goodbyes)’ เล่าผ่านมุมมองของคนที่ถูกนอกใจจากคนรัก แต่หยิบเอาความเห็นใจขึ้นมาเป็นเรื่องราวหลักส่งไปถึง ‘มือที่สาม’ ว่าอย่างน้อย เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เกิดจาก ‘ความรัก’ ถึงโดนนอกใจ ตัวละครในเพลงนี้ก็สามารถจะทำใจเองได้เหมือนชื่อเพลงที่บอกว่า ‘ทำใจเก่ง’ นั่นเอง เสริมส่งพลังให้ทุกคนรักตัวเองให้มากขึ้น และมองเห็นคุณค่าในตัวเองหลังความสัมพันธ์จบลงตัวเพลงนำเสนอผ่านสไตล์ Alternative-Pop Rock ที่ถือว่าเป็นคาแรกเตอร์ของ ขนมจีน ซึ่งเธอใช้โทนเสียงและวิธีการเล่าเรื่องแบบเข้มแข็ง ดุดัน ให้ความรู้สึกชัดเจนออกมาในทุก ๆ คำร้อง บวกกับดนตรีที่โปรดิวซ์โดย เติร์ด Tilly Birds และ เบนซ์ วรเชษฏฐ์ ก็โดดเด่นด้วยบีทที่หนักหน่วง เข้มด้วยเสียงกีต้าร์เท่ ๆ ที่อัดสด ๆ ส่วนทางด้านเมโลดี้และเนื้อร้องก็เป็น เติร์ด Tilly Birds ร่วมสร้างสรรค์กับ Lukpeach หรือ ลูกพีช-รพีพร ตันตระกูล แถมยังได้เห็นวิธีการร้องใหม่ ๆ จาก ขนมจีน ในแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน มีความเท่ ไพเราะ และสวยงามในเวลาเดียวกันในพาร์ตมิวสิกวิดีโอได้ทีม One One Production มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวน่าสงสัยแบบที่คุณ ‘ห้ามดูแค่รอบเดียว’ เพราะเพลงนี้จะชวนให้คุณมาร่วมค้นหาความจริงของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ซึ่ง ขนมจีน ก็รับหน้าที่เล่นเอ็มวีด้วยตัวเองร่วมกับนักแสดงมากฝีมือแห่งยุคคนหนึ่งอย่าง มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ โดยเล่าเรื่องของคู่รักที่อิ่มตัวในความสัมพันธ์แต่ยังต้องทนคบกันเพื่อเหตุผลบางอย่าง และทั้งคู่ก็ฝากการแสดงที่น่าสนใจไว้ที่เรียบง่าย ลุ่มลึก แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อยากชวนทุกคนชม และมาร่วมค้นหา ‘เหตุผลที่แท้จริง’ ที่คู่รักคู่นี้ต้องพังทลายตามไปสัมผัสรสชาติใหม่ทางดนตรีของ Knomjean ในซิงเกิล ‘ทำใจเก่ง (Great with Goodbyes)’ ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : XOXO ENTERTAINMENT และทุกบริการ Music Streamingภาพ : XOXO ENTERTAINMENT

‘Light it up’ ซิงเกิลที่จะชวนทุกคนมาลองทิ้งใจ และพักใจไปกับ 7 หนุ่มวง ATLAS

10 เม.ย. 2024

‘Light it up’ ซิงเกิลที่จะชวนทุกคนมาลองทิ้งใจ และพักใจไปกับ 7 หนุ่มวง ATLAS

7 หนุ่ม ATLAS ศิลปินสังกัดค่าย XOXO Entertainment ส่งซิงเกิลที่ 2 ของปี 2024 ด้วยเพลง ‘Light it up’ ถ่ายทอดมุมสุดละมุนที่พร้อมจะเป็นที่พื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคนได้ลองมาทิ้งใจและพักกายไว้กับพวกเขา‘Light it up’ เป็นซิงเกิลที่ ATLAS ได้ร่วมงานกับ Crewave Production ทีมงานจากประเทศเกาหลีใต้ ที่เข้ามาช่วยดูแลในพาร์ตการทำงานเบื้องหลังทั้งฝึกร้อง ฝึกเต้นอย่างเข้มข้น ส่วนในพาร์ตเนื้อร้องก็ได้เจ้าพ่อเพลง T-POP อย่าง ก๊อป โปสการ์ด มาช่วยเขียนเนื้อเพลงเวอร์ชันไทยให้ออกมากลมกล่อมหนุ่ม ๆ ATLAS เล่าให้เราฟังว่า ‘Light it up’ คือพื้นที่ปลอดภัยที่ให้เราได้พักใจ ทิ้งใจไปกับมัน เมื่อเวลาเราเจอเรื่องทุกข์ สุข เศร้า เหงา หรือเจอปัญหาต่าง ๆ แต่ละคนต่างก็มักจะมีมุมเล็ก ๆ หรือสิ่งของสักชิ้นไว้เป็นที่พักใจ ให้เราได้หลบมาใช้เวลาอยู่กับมันเพื่อฟื้นฟูจิตใจ ให้มีแรงกลับมาใช้ชีวิตต่อได้ ซึ่งที่พักใจของแต่ละคนก็มักจะแตกต่างกันออกไปโดยเนื้อหาในมิวสิกวิดีโอได้นำเสนอที่พักใจหรือหลุมหลบภัยทางใจ (Querencia) ของ ATLAS ทั้ง 7 คน ซึ่งมาจากตัวตนของพวกเขาเองไว้ด้วย นั่นก็คือ1. จูเนียร์Space : Dark RoomObject : Cameraการที่ได้ถ่ายรูป และอยู่ในห้องที่มีรูปที่ตัวเองถ่าย มีความทรงจำเหล่านั้น2. ภูมิSpace : BathroomObject : Mirror Cassetteการได้นั่งเล่นอยู่ในห้องน้ำนาน ๆ ส่องกระจก ฟังเพลงโปรด3. เจ็ทSpace : CarObject : wristwatchการได้นั่งอยู่ในรถ มีรถเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีนาฬิกาข้อมือ ไว้คอยบอกเวลาที่แน่นอน ในการทำสิ่งต่าง ๆ4. ไนซ์Space : Dance RoomObject : Radio, Pianoการได้อยู่กับเสียงดนตรี ตัวโน้ต และจังหวะ5. เออร์วินSpace : Mountain, ForestObject : Guitarการได้อยู่กับธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ พื้นที่สีเขียว และกีตาร์ตัวโปรด6. มิวอ้อนSpace : Coastal Road, Field RoadObject : Bikeการได้ออกเดินทาง ระหว่างทาง7. แทดSpace : HomeObject : Basketballการได้กลับบ้าน และการเล่นกีฬาและ ATLAS ก็อยากที่จะเป็นที่พักใจนั้น ให้กับทุกคนที่ได้ฟังเพลงของพวกเขา ชวนทุกคนมาลองทิ้งใจไปด้วยกัน จูงมือพาทุกคน หลบไปในที่ที่มีแค่เรา ให้รู้สึกผ่อนคลาย ลืมเรื่องที่มันเลวร้ายในชีวิต เมื่อได้ฟังเพลงนี้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพลง ‘Light It Up’ จะส่งสารนี้ออกไปถึงผู้ชมผู้ฟัง ให้เมื่อได้ฟังแล้ว รู้สึกผ่อนคลาย ได้พักใจ ได้ลองทิ้งใจไปด้วยกันกับ 7 หนุ่ม ATLAS นั่นเองมาลองทิ้งใจไปด้วยกัน หลบไปในที่ที่มีแค่เรา ให้รู้สึกผ่อนคลาย ลืมเรื่องที่มันเลวร้ายในชีวิตแล้วฟังเพลง ‘Light it up’ จาก ATLAS ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : ATLAS และทุกบริการ Music Streamingภาพ : XOXO Entertainment

‘Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?’ ซิงเกิลใหม่จาก BNK48 ยูนิต Next Girls

10 เม.ย. 2024

‘Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?’ ซิงเกิลใหม่จาก BNK48 ยูนิต Next Girls

ทำเอาแฟนคลับร้องว้าว! หลังจากเปิดตัวพร้อมลุคสุดเซ็กซี่ไปไม่นาน ล่าสุดค่าย iAM ได้ส่ง BNK48 ยูนิต Next Girls หรือสาว ๆ ที่แฟนคลับโหวตให้ติดอยู่ในอันดับ 33-48 จากงาน BNK48 16th Single Senbatsu General Election ที่ผ่านมา พร้อมปล่อยเพลง ‘Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?’ ซึ่งเป็นเพลงรองจากซิงเกิลที่ 16 โดยมีสมาชิก BNK48 และ CGM48 นำทีมโดยเซ็นเตอร์ แพนด้า-จิดาภา แช่มช้อยสำหรับเมมเบอร์ประกอบด้วย เจเจ-ศุภาพิชญ์ ศรีไพโรจน์, มารีน-กชพร พรโชคชัย, มีน-พิชญธิดา สนธิศักดิ์วรรณะ, แจนรี่-กัลยารัตน์ ปั้นพิพัฒน์, รินะ อิซึตะ, เอิร์น-วชิราพร พัฒนพานิช, ปิ๊ง-พิณพณา แสงบุญ, นาย-ภัทรนรินทร์ เหมือนฤทธิ์, นีน่า-ณัฐริกา บุญตั๋ว, ฟ้าใส-ภัทรธิดา จงประสานเกียรติ, เอ็มมี่-อรณิชชา พรหมสุภา, ลาติน-พิมพ์นารา ร่ำรวยมั่นคง, มีน-ณัฐธันยา ดุลยพล, ซัทจัง-สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์ และปาล์มมี่-ปุญญิสา แก้วสว่างโดย แพนด้า BNK48 รุ่น 2 เซ็นเตอร์ของซิงเกิลนี้เล่าถึงการทำงานและความพิเศษของเพลงนี้ให้เราได้ฟังว่า “Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?” คือสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นทุก ๆ อย่างของสิ่งที่เราไม่รู้อย่าตัดสินใจเพียงแค่เจอมันครั้งเดียว ซึ่งเป็นเพลงที่ฟังรอบแรกแล้วชอบและก็ยังรู้สึกว่าไม่มีเพลง BNK48 ที่เป็นแนวนี้“ความพิเศษคือลูกเล่นในเพลงจะเป็น Electronic ยุคช่วง 2000 กว่า ๆ เน้นไปที่การร้องง่าย แบบ conversation พูดเป็นบทสนทนาที่กำลังอยากบอกใครสักคนด้วยเสียงกระซิบที่อยากให้ฟัง ส่วนท่อน solo จะเน้นไปที่เสียงกีตาร์แบบ ลาติน สเปน ภาพออกมาจะเป็นหญิงสาวที่ซ่อนความเป็นตัวเองจากสิ่งภายนอกที่เห็น ทุกคนที่อยู่ในเพลงก็มีทั้ง สวย เซ็กซี่ น่ารัก ตามวัยของแต่ละคน“ส่วนท่าเต้นด้วยความเพลงนี้เป็นเพลงของรุ่นที่ 1 AKB48 19th Single มี Double Center (Maeda Atsuko / Takahashi Minami) ท่าเต้นจึงเน้นอินเนอร์ในการเต้นเหมือนแข็งแบบเปลือกวอลนัทแต่อินเนอร์ท่าทางและสายตาอยากให้อ่อนนุ่มเหมือนถั่วที่อยู่ข้างในเปลือกค่ะ“อยากจะฝากเส้นทางของ BNK48 และ CGM48 ฝากเอ็นดูเส้นทางของ BNK48 รุ่นสองที่จะมีคอนเสิร์ตจบการศึกษาในช่วงเดือนเมษาด้วยนะคะ”แฟน ๆ สามารถติดตามฟังเพลง BNK48 เพลงรองจากซิงเกิลที่ 16 ‘Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?’ ได้แล้ววันนี้บน YouTube : BNK48 และทุกบริการ Music Streamingภาพ : iAM

‘HEY HEY’ ซิงเกิลโจ๊ะ ๆ จาก MILLI X ฮาย อาภาพร ชวนไปม่วนไปมันรับสงกรานต์

10 เม.ย. 2024

‘HEY HEY’ ซิงเกิลโจ๊ะ ๆ จาก MILLI X ฮาย อาภาพร ชวนไปม่วนไปมันรับสงกรานต์

หลังจากที่ปลายปี 2022 เราได้สัมผัสกับสีสันความสนุกในอัลบั้มเต็ม ‘BABB BUM BUM’ ของ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แห่งค่าย YUPP! กลับมาปีนี้เธอประเดิมความสนุก ความโจ๊ะด้วยการปล่อยซิงเกิลใหม่ให้เหล่าเบิ้บเบิ้ลชาวไทยได้ซาบซ่ากับเพลง ‘HEY HEY (เฮ่ เฮ่)’ พร้อมเซอร์ไพรส์สุดฮือฮาด้วยการชวนตำนานเพลงลูกทุ่งเมืองไทย ฮาย-อาภาพร นครสวรรค์ มาฟีเจอริงเพิ่มความม่วนจอย บอกเลยว่าเพลงนี้จะเป็นอีกหนึ่งเพลงที่เซิ้งยับกันทุกเทศกาลงานรื่นเริงมิลลิ บอกว่า นี่คือการผนึกกำลังทางแนวเพลงขั้นสุด เมื่อดนตรีแทร็ปบีตจัดจ้าน ผสมผสานกลิ่นอายเพลงพื้นบ้านอย่างเพลงเต้นกำรำเคียว สิ่งใหม่ในวงการดนตรีเมืองไทยจึงถือกำเนิดขึ้น นอกจากจะได้โปรดิวเซอร์คู่บุญอย่าง SpatChies มาดูแลทุกขั้นตอนเช่นเดิมแล้ว ยังมี SEXYLOUIS หรือ หลุยส์-ธชา คงคาเขตร มาเสริมทัพด้านครีเอทีฟ ช่วยแต่งคำร้องและร่วมเป็น Executive Producer ร่วมกับ มิลลิ อีกด้วยส่วนมิวสิกวิดีโอก็ทำถึงมากคุณน้า! จัดใหญ่ใส่เต็มกับทุกองค์ประกอบ แถมยังได้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในโลกโซเชียลมาสร้างสีสันแบบจอสระอึ้ง จึ้ง! สุด ๆ“แม่ฮายคือชื่อแรกและชื่อเดียวสำหรับศิลปินรับเชิญในเพลงนี้ค่ะ ดีใจมากที่แม่ฮายตอบรับมาฟีเจอริงเพลง HEY HEY ของหนู บอกเลยว่า เชฟบ๊ะ, เลิกแล้วค่ะ, อารมณ์เสีย นี่หนูร้องได้หมด อยากขอบคุณแม่ฮายที่ให้เกียรติหนู แม่ฮายคือศิลปินมืออาชีพแบบสุด ๆ วันถ่ายเอ็มวีคือร้อนมาก แสงแดดแผดเผาแต่แม่ฮายคือเต็มที่มาก หนูว่าหนูเต้นแรงแล้วนะ เจอแม่ฮายไปคืออ้าปากค้าง นอกจากแม่ฮายก็ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ เหล่าอินฟลูฯ ที่เดินทางมาร่วมเข้าซีนทั้งพี่ ๆ แก๊งหิ้วหวี พี่นัท นิสามณี, พี่มิกซ์ เฉลิมศรี, พี่เอแคลร์ จือปาก, พี่เอิ๊ก ชาลิสา, พี่ตูน Alie Blackcobra แล้วก็มีพี่ฟลุ๊คกะล่อน พี่พัมกิ้น เพื่อนเปเปอร์ พี่เอม วิทวัส, พี่ๆ แก๊ง OHANA, พี่ม้าม่วง พี่ใหม่ Powerpuff GAY, ยายป๋อมแป๋ม, พี่เจนนี่ ปาหนัน, พี่ปิงปอง และทุกคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อคือเยอะมาก ทุกคนคือผู้มีพระคุณของหนูค่ะ“พาร์ตดนตรีก็คือสุด วิ่งสุดอะไรสุด ส่วนเนื้อหาหนูว่าก็เติบโตขึ้นตามวัยนะ หนูเรียนจบละไง แบบว่าวัยรุ่นก็เริ่มจะมีความรักเนอะ ก็เลยอยากปรึกษาผู้มีประสบการณ์ ซึ่งก็คือแม่ฮายนั่นแหละค่ะ แล้วคำแนะนำแม่ก็แซ่บเกิ๊น ก็ขอฝากเพลง HEY HEY ด้วยนะคะ อยากให้เพลงนี้เป็นเพลงประจำทุกเทศกาลความรื่นเริง ใครอยากเอาไปเปิดไปเต้นไปม้วนหน้าม้วนหลัง หน้าฮ้านอะไร เอาไปเลยค่ะ เต้นลง TikTok แล้วแท็กมาให้หนูดูด้วยนะ ฝาก HEY HEY ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ เบิ้บบู”สามารถรับชมมิวสิกวิดีโอเพลง ‘HEY HEY’ จาก MILLI ft. ฮาย อาภาพร ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : YUPP! และทุกบริการ Music Streamingภาพ : YUPP!

‘White Pills’ เพลงสากลในรอบ 10 ปีของ Tilly Birds ก้าวแรกของมิชชันลุยตลาดอินเตอร์

09 เม.ย. 2024

‘White Pills’ เพลงสากลในรอบ 10 ปีของ Tilly Birds ก้าวแรกของมิชชันลุยตลาดอินเตอร์

ย้อนกลับไปในช่วงท้ายบนเวที ‘It’s Gonna Be Tilly Birds Concert’ คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของ Tilly Birds วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกแห่งค่าย GeneLab เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน เราได้ยินพวกเขาประกาศเป้าหมายใหม่ที่ตั้งใจลุยตลาดเพลงอินเตอร์แบบเต็มตัว พร้อมหยิบ 1 เพลงที่มีชื่อว่า ‘White Pills’ ออกมาบรรเลงให้แฟน ๆ ในคอนเสิร์ตได้ฟังก่อนใครวันนี้ได้เวลาแล้วสำหรับก้าวแรกของมิชชั่นยิ่งใหญ่ เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา, บิลลี่-ณัฐดนัย ชูชาติ และไมโล-ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล เลยขอประเดิมอัลบั้มสากลด้วยการปล่อยเพลง ‘White Pills’ ออกมาให้ฟังกันแบบเต็ม ๆ พร้อมชวนขยับไปตามกรูฟ และซาวด์ดนตรีที่อัดแน่นไปด้วยเอกลักษณ์ของ Tilly Birdsพวกเขาเล่าว่านี่เป็นการกลับมาทำงานเพลงสากลในรอบกว่า 10 ปี เพราะ Tilly Birds เริ่มต้นด้วยการทำเพลงสากลมาก่อนทั้ง ‘Heart In A Cage’ และ ‘Like A Dead Man’ แต่หลังจากนั้นก็ได้ท้าทายด้วยการทำเพลงไทยและประสบความสำเร็จถึง 2 อัลบั้ม จนรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้น ด้วยการทำในสิ่งที่เป็น Tilly Birds ในรูปแบบที่โตขึ้น ซึ่งแม้ว่าเนื้อเพลงจะเป็นสากล แต่ทุกรายละเอียดก็ยังคงบ่งบอกถึงความเป็น Tilly Birds ได้อย่างชัดเจน“ทุกอย่างในเพลงนี้ยังเป็น Tilly Birds ทั้งหมดเลยครับ ทั้งดนตรีที่เป็น Alternative, การเรียบเรียง และซาวด์กีตาร์ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่พูดถึงความรู้สึกที่เราอยากจะลืมแต่ก็ยังลืมไม่ได้ ยังเจ็บยังทรมานกับการเห็นภาพความทรงจำเก่า ๆ อยู่อย่างนั้น จะนอนก็นอนไม่หลับ เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจความรู้สึกนี้ที่มันมูฟออนไม่ได้สักที“เพลงนี้เราก็เขียนกันเองเป็นหลักครับ แต่ได้ Alex Syps และ Nache Chan มาช่วยทำให้เพลงออกมาสมบูรณ์มากขึ้น ส่วนพาร์ตดนตรีก็ยังคงความชัดในแบบของ Tilly birds ที่มีความเป็น เติร์ด บิลลี่ และ ไมโล ที่คุ้นเคยอยู่ ส่วนมิวสิกวิดีโอก็ได้เพื่อนของเรา ตุลย์-ณัฐดนัย ป้อมบ้านต้า มาเป็นผู้กำกับให้อีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกันในเพลง ‘ฉันมันเป็นใคร’ และ ‘เดอะแบก’ ซึ่งเขาก็ถ่ายทอดภาพและเรื่องราวออกมาในแบบที่เราชอบมาก ๆ ครับ อยากฝากให้ทุกคนได้ติดตาม”สัมผัสตัวตนและเป็นจุดเริ่มต้นบนเส้นทางดนตรีของ Tilly Birds ผ่านซิงเกิลสากลใหม่ ‘White Pills’ ก้าวแรกของการเดินทางครั้งใหม่ที่ใหญ่และท้าทายกว่าเดิม เพื่อเป้าหมายในการลุยตลาดเพลงสากลแบบเต็มตัว ฟังและชมมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ได้แล้วทาง YouTube : GeneLab และทุกบริการ Music Streamingภาพ : Tilly Birds

HOLLYWOOD GOSSIP

[Rewiew] ‘เธอฟอร์แคช สินเชื่อ..รักแลกเงิน’ หนังรักสุดตรึงอารมณ์ที่ดันกราฟซีนดราม่าขึ้นไปขีดสุด!

22 เม.ย. 2024

[Rewiew] ‘เธอฟอร์แคช สินเชื่อ..รักแลกเงิน’ หนังรักสุดตรึงอารมณ์ที่ดันกราฟซีนดราม่าขึ้นไปขีดสุด!

สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับโปรเจกต์หนังไทยที่ถูกจับตามองสุด ๆ อย่าง ‘เธอฟอร์แคช สินเชื่อ..รักแลกเงิน’ (ที่เคยเปิดตัวไปในชื่อ The Interest) เพราะเป็นการเจอกันครั้งแรกของสองนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง ไบร์ท วชิรวิชญ์ และ ญาญ่า อุรัสยา ที่สร้างความฮือฮาตั้งแต่ประกาศสร้าง ถือเป็นโปรเจกต์ลุยธุรกิจหนังแบบเต็มตัวของทาง GMMTV ด้วย หลังปีที่แล้วชิมลางไปกับ ‘My Precious รักแรกโคตรลืมยาก’ ที่กวาดกระแสปากต่อปากดีเยี่ยม จนล่าสุดต่อยอดความสำเร็จด้วยเวอร์ชันซีรีส์ไปแล้ว และอีกประเด็นที่ทำให้ ‘เธอฟอร์แคช สินเชื่อ..รักแลกเงิน’ ถูกจับตาเยอะมาก คือการที่หยิบเอาหนังเกาหลีอย่าง ‘Man In Love’ ที่นำแสดงโดยพระเอกเบอร์ใหญ่อย่าง ฮวางจองมิน มารีเมก โดยก่อนหน้านี้หนังเคยถูกรีเมกเป็นเวอร์ชันไต้หวัน และกวาดรางวัลมากมายมาแล้ว ยิ่งทำให้เวอร์ชั่นไทย ถูกจับตามองว่าจะออกมาเข้มข้น ไม่แพ้เวอร์ชั่นอื่น ๆ หรือไม่ ?‘เธอฟอร์แคช’ เล่าเรื่องราวของ นักทวงหนี้สุดเท่ (ไบร์ท วชิรวิชญ์) ที่ต้องตระเวนไปทั่วเมืองพัทยาเพื่อทวงหนี้ให้กับนายทุนที่เป็นเจ้านายของเขา เจอกระทั่งไปเจอกับลูกหนี้คนล่าสุด (ญาญ่า อุรัสยา) สาวแบงค์ที่ต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อหาเงินมารักษาพ่อของเธอที่ป่วยเรื้อรัง แต่แม้เธอจะพยายามแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถดิ้นรนออกจากวังวนความลำบากนี้ได้ แถมชีวิตยังแย่ไม่พอ ดันมาเจอนักทวงหนี้สุดกวนคนนี้ มาตามราวีอีก แต่เพราะเขาหลงเสน่ห์เธอตั้งแต่แรกที่เจอ ทำให้พระเอกของเราเสนอให้ลูกหนี้คนนี้ ออกเดตกับเขา เพื่อแลกกับการไม่ต้องจ่ายเงินดอก แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใครนี้จะไปจบลงที่ไหน ความรักจะสามารถเกิดขึ้นระหว่าง นักทวงหนี้ และลูกหนี้ ได้หรือไม่ ต้องไปติดตามกันในภาพยนตร์เรื่องนี้แน่นอนว่า ‘เธอฟอร์แคช’ คือหนังไทยที่สมการรอคอย สามารถตรึงผู้ชมได้ตั้งแต่ซีนแรก ๆ ยาวไปจนจบ หนังใช้เวลาช่วงแรกในการพาผู้ชมไปรู้จัก ‘นักทวงหนี้’ ในฉบับของ ไบร์ท ซึ่งดูจะต่างจากนักทวงหนี้ทั่วไป เพราะเขาเองก็พยายามทำทุกทางเพื่อให้เจ้าหนี้มีเงินมาจ่ายได้ แม้แต่การช่วยเหลือคนเหล่านั้น ค่อย ๆ เห็นแง่มุม ความอยากเป็นคนที่ดีกว่านี้ของพระเอก จนกระทั่งได้มาเจอนางเอก คนที่ทำให้เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองจุดที่โดดเด่นมากของ ‘เธอฟอร์แคช’ คือจังหวะของหนังในช่วงแรก ที่ค่อย ๆ ทำให้คนดูอินไปกับสองตัวละครหลัก เริ่มค่อย ๆ ตกหลุมรักและพยายามจะเอาใจช่วย แม้ว่าตัวละครเหล่านี้จะดูเป็นคนสีเทาแค่ไหนก็ตาม แต่หนังก็สามารถทำให้คนดูเชื่อว่า พวกเขาคือมนุษย์ ที่ทำผิดพลาดได้ แต่เจตนาคือ พวกเขาอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้มันจะยากแค่ไหนก็ตาม หรือบางครั้งอาจเลือกหนทางที่ผิดพลาดหัวใจสำคัญที่ทำให้ ‘เธอฟอร์แคช’ ค่อนข้างพิเศษมาก ๆ คือ เคมีอันเหลือเชื่อของ ไบร์ท และ ญาญ่า คู่พระนางที่ก่อนจะมีการประกาศโปรเจกต์นี้ ดูเหมือนจะโคจรมาเจอกันค่อนข้างยาก แต่มันกลับเกิดขึ้นได้ และเคมีที่ปรากฏขึ้นบนเจอ มันช่างดีเหลือเกิน ทั้งพาร์ทของฉากโรแมนติก ที่มีอารมณ์แบบหนังรอมคอมที่น่ารักสุด ๆ เวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันและยิ้มให้กัน พลังความสุขเหล่านั้น มันถูกส่งออกมาอย่างล้นจอ ส่งมาถึงคนดู จนรู้สึกว่าอยากดูอีก อยากให้มีฉากน่ารัก ๆ เยอะกว่านี้ มาจนถึงพาร์ทดราม่า ที่ทั้ง ไบร์ท และ ญาญ่า ก็สามารถรับส่งอารมณ์ ปล่อยพลังกันแบบสุด ๆ ยิ่งทำให้คนดูอินไปกับตัวละครของทั้งคู่ เคมีและการแสดงของทั้งสอง ถือเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ที่ทำให้ ‘เธอฟอร์แคช’ เป็นหนังที่เวิร์กสุด ๆอีกจุดที่ต้องชื่นชมมาก ๆ คือแง่ของโปรดักชัน นี่คือหนังที่มาตรฐานงานสร้าง องค์ประกอบต่าง ๆ สมชื่อของ GMMTV และ ภาพดีทวีสุข ทั้งการบันทึกภาพที่สามารถสื่ออารมณ์ให้กับหนังได้อย่างดี จังหวะการตัดต่อก็ถือว่าสมูธและลงตัว อาจจะมีในช่วงขององก์สุดท้าย ที่มีจังหวะเหมือนจะจบหลายรอบ อาจจะยาวเกินไป และน่าจะสามารถเล่าให้กระชับกว่านี้ได้ (ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่า ต้นฉบับ เล่าในรูปแบบนี้หรือเปล่า เลยจำเป็นต้องยาวในช่วงท้าย) แต่ทั้งหมดทั้งมวล ก็ส่งผลให้ ‘เธอฟอร์แคช’ เป็นหนังที่สามารถสร้างความ ‘เต็มอิ่ม’ ในอารมณ์ได้อย่างดีจริง ๆ พร้อมกับการเดินออกจากโรงด้วยการจดจำหนังได้ค่อนข้างมาก และหลายประโยคในหนังที่สามารถตรึงใจเรา แม้ว่าหนังจะจบไปแล้วก็ตาม รวมถึงเพลง ‘นะหน้าทอง’ ในเวอร์ชั่นของ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ที่เพราะกระแทกใจ จนเชื่อว่าดูจบแล้ว หลายคนน่าจะหาฟังตามอีกหลาย ๆ รอบแน่นอนชมตัวอย่าง ‘เธอฟอร์แคช’ เข้าฉาย 25 เมษายนในโรงภาพยนตร์ภาพ : GMMTV / ภาพดีทวีสุข

[Review] Godzilla x Kong : The New Empire ใหญ่บิ๊กบึ้ม! ถาโถมทุกความต้องการของแฟนหนังมอนสเตอร์

28 มี.ค. 2024

[Review] Godzilla x Kong : The New Empire ใหญ่บิ๊กบึ้ม! ถาโถมทุกความต้องการของแฟนหนังมอนสเตอร์

นี่คือหนังสัตว์ประหลาดที่สร้างมาแบบเอาใจแฟนหนังมอนสเตอร์โดยเฉพาะ สำหรับ ‘Godzilla x Kong : The Empire’ หนังลำดับที่ 5 ในจักรวาล Monsterverse ของวอร์เนอร์ หลังความสำเร็จของหนังเดี่ยว Godzilla ทั้งสองภาคในปี 2014 และ 2019 และหนังเดี่ยวของคองอย่าง Kong : Skull Island ในปี 2017 ทำให้สองยักษ์ใหญ่มาเจอกันใน ‘Godzilla vs Kong’ เมื่อสามปีก่อน แม้จะออกฉายท่ามกลางช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก แต่ด้วยความกระหายหนังฟอร์มยักษ์ของแฟนหนังทั่วโลก ทำให้มันทำเงินไปมากถึง 470 ล้านเหรียญฯ (จากทุนสร้างราว 200 ล้าน) วอร์เนอร์จึงตัดสินใจไฟเขียวภาคต่อ โดยดึง อดัม วินการ์ด ที่กำกับภาคก่อนกลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง‘Godzilla x Kong : The Empire’ เล่าถึงสองมอนสเตอร์ที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่คราวนี้แทนที่พวกมันจะสู้กัน กลับต้องแท็กทีมเพื่อปกป้องโลก จากอสูรตัวใหม่ที่ถือกำเนิดใน Hollow Earth หรือโลกใต้โลก ดินแดนลึกลับที่เหล่าไททั่นใช้ชีวิตอยู่ในนั้น แต่หนึ่งในมอนสเตอร์กลับจะขึ้นมายังโลกมนุษย์ กลายเป็นหน้าที่ของ โมนาร์ค องค์กรที่ควบคุมก็อดซิลล่าและเหล่าไททั่นมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ต้องทำทุกทางเพื่อหยุดวิกฤตหายนะครั้งนี้ สำหรับหนังภาคนี้ได้ รีเบ็คก้า ฮอลล์ จาก Iron Man 3 กลับมารับบท ดร.ไอลีน นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ สังกัดองค์กรโมนาร์คอีกครั้ง ร่วมด้วย ไบรอัน ไทรี เฮนรี่ ที่กลับมาจากภาคก่อนเช่นกัน ประกบสมาชิกใหม่อย่าง แดน สตีเว่น (พระเอก Beauty and the Beast) ร่วมทีมนักวิทยาศาสตร์ เพื่อไปตะลุยในฮอลโลว์เอิร์ธโดยรวม ‘Godzilla x Kong : The Empire’ คือหนังที่สร้างมาเพื่อเอาใจแฟนหนังมอนสเตอร์โดยเฉพาะ เรียกว่าเป็น แฟนเซอร์วิส เต็มๆเลยก็ว่าได้ เพราะจัดเต็มฉากสัตว์ประหลาดแบบเต็มสูบ และแทบจะลดเส้นเรื่องของมนุษย์ให้ลดลงมากที่สุด แน่นอนว่าสิ่งที่โดดเด่นสุดของหนัง คือ ฉากแอ็กชันของเหล่ามอนสเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการ ก็อดซิลล่ากับคองที่ต้องปะทะกัน หรือฉากที่ต้องสู้กับมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ หนังให้เวลากับฉากเหล่านี้เยอะมาก ซึ่งน่าจะสะใจสำหรับแฟนหนังสัตว์ประหลาดที่อยากมาดูฉากบู๊แบบเต็มที่ หนังแทบจะไม่เสียเวลาเล่าเรื่องอะไรมากนัก จุดดีคือ ทำให้หนังค่อนข้างเดินเรื่องไว แทบจะเร่งสปีดการเล่าเพื่อข้ามไปฉากต่อสู้เลย แต่ข้อเสียคือ เมื่อหนังไม่ได้เน้นการเล่าเรื่อง ผู้ชมบางส่วนก็อาจจะอินกับหนังน้อยลง เพราะแทบจะไม่ให้เวลาในการปูตัวเรื่องใด ๆ เลยสิ่งที่เซอร์ไพรสในหนังภาคนี้ คือเส้นเรื่องของ คอง หนังใช้เวลาพอสมควร ในการเล่าพาร์ทที่ตัวละครคอง ต้องย้ายจากเกาะกระโหลก เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกใต้โลก หรือ ฮอลโลว์เอิร์ธ ซึ่งเป็นพาร์ทไร้ตัวละครมนุษย์ จนแทบจะเป็นหนังใบ้ด้วยซ้ำ แต่กลับทำออกมาได้น่าติดตาม และน่าประทับใจมาก ๆ แต่พาร์ทที่แม้จะลดความสำคัญลงแล้ว แต่ยังคงแอบน่าเบื่อ คือ เส้นเรื่องฝั่งมนุษย์ หนังไม่สามารถสร้างตัวละครที่น่าติดตามได้เลย มีเพียงตัวละครแทรปเปอร์ ตัวละครใหม่ของ แดน สตีเว่น ที่ดูน่าติดตามอยู่บ้าง ตัวบทพูดก็ยังคงดูเป็นหนังการ์ตูน แทบจะไม่มีความสมจริงใดๆด้วยซ้ำ ส่วนพาร์ทที่น่าเสียดาย น่าจะเป็น ก็อดซิลล่า ที่แอร์ไทม์ซึ่งปรากฏตัวบนจอ น้อยกว่า คองแบบเห็น ๆ ซึ่งกว่าจะได้เห็นทั้งสองตัวแท็กทีมกัน ก็ปาไปช่วงท้ายแล้วสรุป ‘Godzilla x Kong : The Empire’ คือหนังแฟนเซอร์วิส เพื่อเอาใจแฟนหนังแอ็กชันสัตว์ประหลาดโดยเฉพาะ เหมาะกับการเป็นหนังป็อปคอร์นที่ดูง่ายฆ่าเวลา แต่ถ้าใครมีโอกาสขอแนะนำระบบ IMAX3D ที่เสริมอารมณ์ร่วมให้หนังได้ดีมาก เพื่อความตระการตาแบบสุด ๆ โดยเฉพาะฉากในฮอลโลว์เอิร์ธที่เหมือนทำให้เราหลุดไปอยู่ในโลกใต้โลกกับตัวละครจริงๆ ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่สุดลูกหูลูกตาของสถานที่แห่งนี้ รวมถึงฉากต่อสู้ของเหล่ามอนสเตอร์ ที่บวกกับมุมกล้อง ทำให้ผู้ชมเหมือนนั่งเฮลิคอปเตอร์ บินอยู่ข้างๆพวกมันระหว่างไฟต์กัน เหมือนดูนั่งขอบสนามเลยก็ว่าได้ ถ้ามีโอกาส ลองเลือกระบบนี้ในการรับชมภาพ : Warner Bros. Thailand

[Review] EXHUMA ขุดมันขึ้นมาจากหลุม : สยองสะพรึงสมมงหนังอันดับ 1 เกาหลีทำเงินถล่มทลาย !

19 มี.ค. 2024

[Review] EXHUMA ขุดมันขึ้นมาจากหลุม : สยองสะพรึงสมมงหนังอันดับ 1 เกาหลีทำเงินถล่มทลาย !

ขึ้นแท่นหนังสยองขวัญที่ถูกจับตามองมากที่สุดไตรมาสแรกของปี สำหรับ Exhuma (ชื่อไทย : ขุดมันขึ้นมาจากหลุม) หนังเกาหลีที่สร้างปรากฏการณ์ทำลายสถิติมากมาย ทำยอดขายตั๋วมากกว่า 10 ล้านใบเรียบร้อย นอกจากจะขึ้นแท่นหนังทำเงินอันดับ 1 ของปีที่นั่น (ชนะ Dune : Part Two) ยังกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลที่เกาหลีอีกด้วย นอกจากกระแสรีวิวในแง่บวกแล้ว ด้วยพลังของ 4 นักแสดงนำที่เบอร์ใหญ่หมด ทั้ง ชเวมินซิก (จาก The Admiral : Roaring Current), ยูแฮจิน (จาก Confidential Assignment), คิมโกอึน (จาก Guardians : The Lonely and Great God) และ อีโดฮยอน (จาก The Glory) ยิ่งส่งให้ Exhuma คือหนังโปรแกรมยักษ์ที่ทั้งวงการจับตามอง จนในที่สุดสัปดาห์นี้ ถึงคิว Exhuma เข้าฉายในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งอเมริกา รวมถึงประเทศไทย ที่วางโปรแกรมในสัปดาห์นี้หนังเล่าถึง ฮวาริม และ บองกิล (รับบทโดย คิมโกอึน และอีโดฮยอน) สองร่างทรงที่รับงานจากมหาเศรษฐีชาวเกาหลีในแอลเอ หลังเกิดเหตุประหลาดในตระกูลของพวกเขา เมื่ออาถรรพ์บางอย่างเกิดขึ้นกับหลานชายที่เพิ่งเกิดใหม่ แบบเดียวกับที่รุ่นพ่อและรุ่นปู่เป็นอยู่ ฮวาริม รู้ทันทีว่า ทั้งหมดเกิดจากคำสาปแช่งของบรรพบุรุษ และทางเดียวที่แก้ได้คือการขุดหลุมศพของทวดขึ้นมาทำพิธี กลายเป็นหน้าที่ของ ซังดอก (รับบทโดย ชเวมินซิก) ผู้เชี่ยวชาญหน้าฮวงจุ้ย และยองกึน (รับบทโดย ยูแฮจิน) สัปเหร่อ ที่เข้ามาทำหน้าที่ขุดหลุม และเมื่อมาถึงวันพิธี ทุกอย่างที่ดูเหมือนจะง่ายดาย กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อหลุมศพตั้งอยู่ในที่ๆไม่ควรอยู่ ฝังในแบบที่ไม่ควรฝัง และบางอย่างที่ไม่ควรถูกขุดขึ้นมา กำลังจะโผล่ขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง..โดยรวม Exhuma คือหนังสยองขวัญที่สามารถตรึงผู้ชมตั้งแต่ฉากแรกๆได้อย่างอยู่หมัด ด้วยบรรยากาศที่เหมือนถูกปกคลุมด้วยความเย็นยะเยือกตลอดทั้งเรื่อง หนังสามารถสร้างความรู้สึกวังเวให้กับผู้ชม แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับความสยอง ไปจนถึงขีดสุดในช่วงท้าย นี่ไม่ใช่หนังที่สร้างความน่ากลัวในแบบตุ้งแช่ แต่เน้นบิวต์บรรยากาศโดยรวมให้รู้สึกสะพรึงมากกว่า และมีกลิ่นอายแบบหนังสืบสวนสอบสวนผสมผสานเข้ามา นอกจากนี้ หนังยังเก่งกาจในการเล่าเรื่อง ด้วยการแบ่งออกเป็น 6 องก์ แต่ละส่วนของหนังล้วนมีไฮไลต์ในส่วนของตัวเอง เล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม และที่สำคัญคือคาดเดาไม่ได้ เพราะหนังจะพาผู้ชมไปไกลกว่าที่คิด และนำไปสู่จุดที่ ไม่ใช่หนังสยองขวัญแบบเดิม ๆ ที่เคยดูนอกจากฝีมือของผู้กำกับ จางแจฮยอน (จาก The Priests) ที่สามารถคุมโทนหนังได้อย่างอยู่หมัดแล้ว หนังยังได้พลังของ 4 นักแสดงนำ มาตรึงผู้ชมได้ไว้ตลอด และที่สำคัญคือ ไม่มีใครกลบใครเลย แน่นอนว่า ชเวมินซิก และ คิมโกอึน มีซีนใหญ่กว่าทุกคน แต่ ยูแฮจิน กับ อีโดฮยอน ก็ต่างมีบทบาทสำคัญ และมีซีนของตัวเองเช่นกัน และเมื่อทั้ง 4 คนรวมพลังกัน ยิ่งส่งให้ Exhuma เป็นหนังที่อัดแน่นด้วยพลังการแสดงมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซีนทำพิธีต่าง ๆ ที่ทั้งการแสดง ทั้งดนตรีประกอบ สร้างบรรยากาศสุดไม่น่าไว้วางใจ ชวนหลอนได้อย่างดีเยี่ยม นี่คืออีกครั้ง ที่หนังสยองขวัญจากเกาหลี ถูกสร้างออกมาอย่างทำถึงในเกือบทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนหนังเกาหลี หรือแฟนหนังสยองขวัญ ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ชมตัวอย่าง Exhuma ก่อนเข้าไปชมพร้อมกัน 21 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

[Review] Dune : Part Two มหากาพย์หนังเอพิคไซไฟที่เข้มข้นสะกดคนดูแทบทุกวินาที!

27 ก.พ. 2024

[Review] Dune : Part Two มหากาพย์หนังเอพิคไซไฟที่เข้มข้นสะกดคนดูแทบทุกวินาที!

เสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงกระแสคุณภาพของหนังภาคต่อ ‘Dune : Part Two’ ที่กำลังถาโถมไปทั่วโลกในขณะนี้ รวมถึงสามารถคว้าคะแนนบวกจาก Rotten Tomatoes ได้ถึง 98% ไม่ใช่เรื่องเกินจริง นี่คือหนังที่พิสูจน์ว่า เดอนี วิลเนิร์ฟ คือผู้กำกับที่เก่งกาจในการตรึงอารมณ์ผู้ชมอย่างแท้จริง และค่อย ๆพัฒนาตัวเองด้วยหนังในสเกลที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หนัง Dune ภาคใหม่นี้ เหนือว่าภาคแรกในแทบทุกประการ ทั้งการเล่าเรื่องที่ไต่ระดับความเข้มข้นตรึงผู้ชมต่อเนื่องขึ้นไปจากภาคแรก ระดับของงานโปรดักชั่นที่ชวนอ้าปากค้างขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าปีก่อน คือปีของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่แสดงความเป็น ‘เสด็จพ่อ’ จาก Oppenheimer ปีนี้ต้องเป็นปีของ วิลเนิร์ฟ อย่างแท้จริง หนังเรื่องคือพิสูจน์ว่าเขาคือ ‘ตัวพ่อ’ ในการปั้นหนังบล็อกบัสเตอร์ด้วยศาสตร์การทำหนังที่แทบจะสมบูรณ์แบบทุกประการ‘Dune’ คือมหากาพย์หนังไซไฟอวกาศ ที่สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ที่ขึ้นชื่อว่าซับซ้อนและดัดแปลงยากที่สุด ความพยายามเพื่อขึ้นจอใหญ่หลายครั้งล้มเหลว จนกระทั่งมาถึงมือของ เดอนี วิลเนิร์ฟ ทำให้ Dune ภาคแรกประสบความสำเร็จ ทั้งคำวิจารณ์และรายรับ แม้จะฉายในช่วงโควิด-19 ยังระบาดหนักก็ตาม โดยในภาคสองนี้ สร้างจากครึ่งหลังของนิยายเล่มแรก เล่าถึงภารกิจของ พอล อะเทรดิส (รับบทโดย ทิโมธี ชาลาเม่ต์) ในการล้างแค้นศัตรูที่เคยสังหารและทำลายตระกูลของเขา โดยพอลต้องร่วมมือกับ ชานี (รับบทโดย เซนดาย่า) หญิงสาวชาวเฟรเมน เพื่อวางแผนโค่นล้มบารอน นำไปสู่สงครามครั้งใหญ่ ที่กำหนดชะตากรรมของจักรวาล โดยหนังภาคนี้นอกจากนักแสดงเซ็ตเดิมจากภาคแรกแล้ว ยังมีนักแสดงใหม่น่าจับตาอย่าง ออสติน บัตเลอร์ จาก Elvis ในบท เฟย์ด-รอธา ตัวร้ายสุดอำมหิต หลานของบารอน และ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ในบท เจ้าหญิงอีรูลาน ลูกสาวของจักรพรรดิผู้ครองอำนาจในจักรวาลอย่างที่เกริ่นไป ‘Dune : Part Two’ คือหนังที่พัฒนาขึ้นจากภาคแรกในแทบทุกประการ และสามารถสะกดวิญญาณผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่อง ด้วยศาสตร์ในการทำหนัง เริ่มจากการเล่าเรื่อง ที่เหตุการณ์ในภาคนี้ แทบจะตรึงผู้ชมให้อยู่กับเส้นเรื่องได้ตลอดเวลา และยิ่งในชั่วโมงหลังที่ทั้งเข้มข้นขึ้น ปมต่างๆยิ่งผูกแน่นขึ้น และความซับซ้อนในความรู้สึกของตัวละคร โดยเฉพาะพอลและซานี กลายเป็นสองขั้วตัวละครที่ มีมิติและมีความลึกด้านอารมณ์แบบสุดๆ ปมขัดแย้งที่ทั้งคู่ต้องเผชิญ นำไปสู่ครึ่งหลังที่พีกยิ่งกว่าภาคก่อน และทั้งหมด ถูกเล่าผ่านงานโปรดักชั่น ที่ถูกออกแบบมาอย่างมีแนวทางชัดเจน ทุกอย่างที่ปรากฏบนจอ การออกแบบงานสร้างและการดีไซน์เสียง ล้วนมีส่วนสำคัญที่ช่วยตรึงผู้ชมให้อยู่กับหนังเรื่องนี้ได้ตลอด จนทำให้ ‘Dune : Part Two’ น่าจะเป็นอีกหนึ่งหนังบล็อกบัสเตอร์ ที่เป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมเราถึงยังต้องดูหนังในโรงในยุคนี้ หนังเรื่องนี้ จะขาดอรรถรสอย่างยิ่ง ถ้าไม่รับชมในจอภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดจากการเนรมิตหนังที่เหมือนจะเข้ามือขึ้นเรื่อยๆของ เดอนี สู่การแสดงที่ยอดเยี่ยมครบองค์ของทีมนักแสดงชุดใหญ่ ที่ทุกคนล้วนมีซีนให้ฉายแสง เริ่มจาก ทิโมธี ที่บทซับซ้อนขึ้น ผู้ชมสามารถเห็นพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจน, เซนดาย่า ที่ภาคแรกถูกแซวว่าเป็นนางเอกรับเชิญ เพราะบทน้อยเหลือเกิน ภาคนี้โผล่มาเต็ม และเห็นถึงความรู้สึกทุกแง่มุมของตัวละครเต็มๆเช่นกัน แต่ไฮไลต์สำคัญของภาคนี้ ขอยกให้ทีมนักแสดงใหม่ เริ่มจาก ออสติน บัตเลอร์ ที่คงไม่มีใครติดภาพ Elvis อีกแล้ว เพราะบทในภาคนี้เขาสามารถถ่ายทอดความอำมหิตออกมาได้อย่างเต็มสูบ ผ่านสีหน้าและแววตาที่ดูน่าเกรงขามในทุกวินาทีบนจอ ในขณะที่ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ก็ค่อยๆฉายแสงขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นอีกในอนาคต รวมถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ คริสโตเฟอร์ วอลเค่น เป็นจักรพรรดิ ที่แสดงความทรงพลังและแสดงอำนาจออกมาผ่านสีหน้าได้หนักแน่นสุดอีกพาร์ทที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้นชัดเจนใน Dune : Part Two คือฉากแอ็กชัน ที่นอกจากจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความระทึกขึ้นไปอีก ตั้งแต่ซีนแรกในทะเลทรายเลยด้วยซ้ำ ที่ทำเอาผู้ชมลุ้นจนแทบจะหยุดหายใจ ทั้งหมดนี้ คือบทพิสูจน์ว่า เดอนี วิลเนิร์ฟ คือผู้กำกับระดับมาสเตอร์ของจริง หนังที่เขากำกับ แม้ว่าจะสเกลใหญ่มากขึ้นแค่ไหน เขาก็สามารถเอาอยู่ได้เสมอ ทั้งด้านการเล่าเรื่อง ด้านงานโปรดักชั่น เขาเหมือนกำกับอารมณ์ผู้ชมได้ตลอด ด้วยทุกสิ่งที่ปรากฏบนจอ และทุกเสียงต่างยืนยันว่าทันทีที่ดูหนังจบ แทบอยากจะดู Dune : Part Three ในทันที ถ้าใครมีโอกาส ห้ามพลาดระบบ IMAX โดยเด็ดขาด ความจอยักษ์ของระบบ เสริมความยิ่งใหญ่ และคุมอารมณ์คนดูได้อย่างดีเยี่ยมชมตัวอย่าง Dune : Part Two เข้าฉาย 29 กุมภาพันธ์ในโรงภาพยนตร์ภาพ : Warner Bros. Thailand

[Review] Mean Girls (2024) แสบซ่าส์ในแบบมิวสิคัล สดใหม่แต่ก็ยังคงไวป์เดิม

15 ก.พ. 2024

[Review] Mean Girls (2024) แสบซ่าส์ในแบบมิวสิคัล สดใหม่แต่ก็ยังคงไวป์เดิม

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน หนังวัยรุ่นสุดแซ่บเรื่องหนึ่งค่อยๆกวาดรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 130 ล้านเหรียญฯ แม้ ณ เวลานั้นหนังจะดังพอประมาณ แต่เมื่อเวลาผ่านไป Mean Girls ค่อยๆกลายเป็นหนังคลาสสิกย่อมๆในกลุ่มแฟนหนัง ด้วยการถูกหยิบมาดูซ้ำ นำมาดัดแปลงใหม่ หรือถูกพูดถึงใน Pop Culture รูปแบบต่างๆ แม้แต่ศิลปินรุ่นหลังอย่าง Ariana Grande ยังเอาฉากจำใน Mean Girls มาล้อเลียนใน Music Video แต่แรงกระเพื่อมรอบใหม่ที่ปังจริงๆสำหรับ Mean Girls คือการที่หนังถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเวทีมิวสิคัลในปี 2017 และจากความสำเร็จนั้นเอง ทำให้ พาราเมาต์ตัดสินใจ หยิบเวอร์ชั่นมิวสิคัลนี้ มาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์อีกครั้ง ทำให้เกิด Mean Girls ในฉบับปี 2024 ขึ้น ที่ไม่ได้รีเมกจากเวอร์ชั่นหนัง 2004 โดยตรง แต่ยึดเส้นเรื่องและบทเพลงจากเวอร์ชั่นละครเวทีนั่นเองMeans Girls ในยุคนี้ยังคงเล่าเรื่องราวของ เคดี้ เด็กสาวจากเคนย่าที่แอฟริกา ที่ย้ายตามแม่กลับมาที่สหรัฐฯ และได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายนอร์ธชอร์ สถานที่ซึ่งเธอต้องเผชิญกับรูปแบบสังคมและชนชั้นแบบที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน จากในเวอร์ชั่น 2004 ที่บทนี้เป็นของ ลินด์เซย์ โลแฮน ฉบับใหม่ได้ แองกัวรี่ ไรซ์ จาก Spider-Man : Homecoming มารับบทนำ ปะทะกับ เรเน่ แรปป์ จากซีรีส์ The Sex Live of College Girls มาในบทเรจิน่า จอร์จ ตัวแม่ตัวมัมหัวหน้าแก๊งพลาสติก ที่เดิมทีบทนี้แจ้งเกิดให้กับ ราเชล แมคอดัมส์ ซึ่ง เรเน่เอง เคยแสดงบทนี้มาก่อนในเวอร์ชั่นละครเวทีด้วย พร้อมกับนักแสดงอีกหลายคนที่เคยแสดงในฉบับมิวสิคัลมาแล้ว ก็กลับมาขึ้นจอภาพยนตร์ในเวอร์ชั่นนี้ ร่วมด้วย ทีน่า เฟย์ นักแสดงตลกเบอร์ใหญ่ที่นอกจากจะกลับมาเขียนบทหนัง Mean Girls อีกครั้ง เธอยังคงกลับมารับบทอาจารย์ในเวอร์ชั่นมิวสิคัลปี 2024 นี้อีกด้วยความพิเศษมากๆของ Mean Girls ในฉบับใหม่นี้ คือการที่หนังสามารถบาลานซ์ระหว่าง Mood Tone แบบเดิม และความเป็น Musical ซึ่งเพิ่มความสดใหม่ให้กับหนังได้สำเร็จ โดยรวมผู้ชมยังรู้สึกเหมือนดูหนัง Mean Girls ในฉบับที่คุ้นเคย มีความแสบซ่า มีความตลกร้ายกาจ จิกกัดสังคม ในแบบที่ 20 ปีก่อนเป็นเช่นไร เวอร์ชั่นใหม่นี้ก็เป็นอย่างนั้น อาจจะด้วยการที่ ทิน่า เฟย์ กลับมาเขียนบทเหมือนเดิม ทำให้ไวป์ของหนัง ยังคงมีอารมณ์ในแบบที่ชื่นชอบเหมือนเดิมไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน พอหนังปรับรูปแบบเป็น มิวสิคัลอย่างเต็มตัว ทุกครั้งที่เป็นฉากร้องเพลงเข้ามา ก็ทำให้ผู้ชมเหมือนดูหนังเรื่องใหม่ แต่ละเพลง แต่ฉากมิวสิคัล สามารถเพิ่มระดับความจัดจ้านให้กับหนังได้อย่างดี เหมือนยิ่งเสริมให้หนังทั้งเฟรชขึ้น ซ่าขึ้น และสดใหม่ขึ้นไปพร้อมๆกันไฮไลต์สำคัญคงหนีไม่พ้น ทีมนักแสดงนำ ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี เริ่มจาก เรเน่ แรปป์ ที่สามารถเป็น เรจิน่า ในเวอร์ชั่นของตัวเองได้ มีความแตกต่างจนรู้สึกไม่จำเป็นจะต้องไปเปรียบเทียบกับฉบับของ ราเชล แมคอดัมส์ เลย ในขณะที่ แองกัวรี่ ไรซ์ แม้พลังดาราของเธอจะไม่เทียบเท่า ลินด์เซย์ ในเวลานั้น แต่ เคดี้ในแบบของเธอ ก็ดูเรียบง่ายในแบบที่ควรจะเป็น จนหลายคนอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า เคดี้ ในฉบับนี้ ดูจะโดน เรจิน่า กลบมิด ต่างจากตอนปี 2004 ที่ทั้ง ลินด์เซย์ และราเชล มีพลังค่อนข้างสูสีกัน ในขณะที่ทีมนักแสดงสมทบรอบนี้ กูดูมีสีสันแทบทุกตัว และแต่ละคนก็มีซีนมิวสิคัลให้ได้ฉายแสงด้วย ซึ่งจุดนี้ ยิ่งทำให้หนังดูครบรอบด้านมากยิ่งขึ้นโดยรวม Mean Girls ฉบับหนังมิวสิคัลในปี 2024 ถือว่าออกมาค่อนข้างน่าพอใจ เป็นหนังในเวอร์ชั่นที่สดใหม่ขึ้น ทันสมัยขึ้น สามารถรักษาอารมณ์ความแสบสันของต้นฉบับไว้ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ในแง่ของมิวสิคัลก็ค่อนข้างลงตัวทั้งในแง่ของเพลงและการดีไซน์ฉาก พอจะทราบมาว่า ในฉบับหนังมีการตัดเพลง ออกไปหลายเพลงเพื่อให้กระชับขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะ Mean Girls ฉบับนี้ มีจังหวะการเล่าค่อนข้างดี แทบจะไม่มีฉากไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อหรือควรตัดทิ้งเลย ใครที่เป็นแฟนคลับ Mean Girls อยู่แล้ว ก็ไม่ควรพลาด มาร่วมฉลองการครบรอบ 20 ปีของหนังด้วยเวอร์ชั่นใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันMean Girls เข้าฉาย 15 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์

[Review] Thanksgiving สาแก่ใจคอหนังไล่เชือด ฆาตกรโรคจิตกับคืนวันขอบคุณพระเจ้า

30 พ.ย. 2023

[Review] Thanksgiving สาแก่ใจคอหนังไล่เชือด ฆาตกรโรคจิตกับคืนวันขอบคุณพระเจ้า

จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าการลดราคาครั้งใหญ่ Black Friday ในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า กลายเป็นคืนแห่งเลือดในห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่ง นี่คือไอเดียตั้งต้นของ Thanksgiving หนังสยองขวัญแนวเชือด ที่เป็นการกลับมาสู่หนังแนวนี้อีกครั้งของผู้กำกับ อีไล รอธ หลังแจ้งเกิดจากหนังสยองขวัญสายโหดอย่าง Cabin Fever และ Hostel แล้วก็วนไปกำกับหนังแนวอื่น ซึ่งเดิมทีไอเดียของ Thanksgiving เริ่มจากการทำตัวอย่างหนังปลอม ๆ ไปใส่ไว้ในหนังชื่อ Grindhouse (2007) จนต่อมา อีไล ได้พัฒนาบทหนัง จนกลายมาเป็นหนังใหญ่ในที่สุด ซึ่งหนังจากเขาเบนเข็มไปกำกับทั้งหนังแอ็กชัน หนังแฟนตาซี และหนังไซไฟ ก็ได้ฤกษ์ที่เขาจะกลับมาทำหนังที่แจ้งเกิดเขาอีกครั้งเสียทีThanksgiving เล่าเรื่องราวความสยองในคืนวันเทศกาลขอบคุณพระเจ้า เมื่อเกิดความโกลาหลขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่ผู้คนพากันเหยียบกันตาย เพราะแย่งกันซื้อของลดราคา กลายเป็นฝันร้ายของเมืองพลีมัธนับจากนั้น แม้ผู้คนจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่เมื่อ 1 ปีผ่านไป ฝันร้ายก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อมีฆาตกรโรคจิตใส่หน้ากาก แต่งตัวเป็นผู้ก่อตั้งเมือง ออกมาไล่เชือดประชาชน ซึ่งทุกคนล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเหตุโศกนาฏกรรมเมื่อปีก่อน โดยเป้าหลักคือ เจสสิก้า หญิงสาวที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของห้างที่เกิดเหตุร้าย แถมเธอยังอยู่ในเหตุการณ์คืนวันนั้น จึงกลายเป็นหน้าที่ของ เอริค (รับบทโดย แพทริค เดมพ์ซีย์ จาก Grey's Anatomy) นายอำเภอของเมืองที่จะต้องจัดการคนร้าย ก่อนที่เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง จะกลายเป็นคืนสยองอีกครั้ง!ใครที่เป็นแฟนหนังแนวนี้ Thanksgiving คือหนังที่น่าจะสาแก่ใจคอหนังไล่เชือดอยู่ไม่น้อย โดยรวมนี่คือหนังที่ค่อนข้างเดินตามรอยหนังแนวเดียวกันที่ฮิตในช่วงปลายยุค 90s ไล่ตั้งแต่ Scream, I Know What You Did Last Summer ไปจนถึงUrban Legend เรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ต้องเผชิญกับฆาตกรโรคจิตในหน้ากากปริศนาที่คอยตามไล่ฆ่า กับเหตุฝันร้ายในอดีตที่ตามหลอกหลอนพวกเขา โดยเหตุการณ์มักจะเกิดขึ้นในเมืองเล็กๆเมืองนึง และฆาตกรก็มักจะเป็นตัวละครสักตัว โดยจะเฉลยปมเหตุการฆ่าในตอนท้าย สำหรับ Thanksgiving แล้ว มาในสูตรแบบเดียวกันนี้เลย แต่ทำออกมาได้อย่างสนุก มีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใส่มาอย่างน่าพอใจ ซึ่งปัจจุบันผู้ชมอาจจะไม่ค่อยได้เห็นหนังแนวนี้มากนัก เหมือน Thanksgivingสร้างมาให้หายคิดถึงกึ่ง ๆ Tribute ให้ด้วยซ้ำThanksgiving คือหนังที่สามารถนิยามได้ว่า “ฆ่ากันแบบเถิดเทิง” เพราะหนังมีองค์ประกอบที่ทำถึงมาก ๆ ในสองส่วน พาร์ทแรกคือความโหด ที่ Thanksgiving จัดเต็มความโหดแบบไม่ยั้ง ไม่ให้เสียชื่อ อีไล รอธ หลังจากหนังสยองหลายเรื่องกลัวไม่ได้ผู้ชมกลุ่มอายุน้อย เลยโหดแบบเบาๆเพื่อให้ได้เรต PG-13 แต่หนังเรื่องนี้ มุ่งหน้าสู่เรต R แบบไม่กลัว ทำให้ฉากฆ่า ฉากเชือด จัดเต็มทั้งเลือดและฉากอวัยวะขาดแบบสะใจคอหนังเชือด และอีกพาร์ทที่หนังทำได้ดีคือ อารมณ์ขัน หนังเต็มไปด้วยอารมณ์ตลกร้าย จนหลายครั้งตัวหนังเองก็เกือบจะเป็นหนังล้อเลียน Parody หนังแนวไล่เชือดอยู่ไม่กัน โดยเฉพาะพวกฉากฆ่าต่าง ๆ มีดีไซน์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทำให้หนังยิ่งสนุกมากขึ้นสรุปแล้ว Thanksgiving คือหนังประเภท Teen-Slasher ที่แม้จะเดินตามสูตร แต่ก็ทำออกมาได้อย่างสนุกสนาน มีองค์ประกอบทั้งความโหดและอารมณ์ขันแบบจัดเต็ม เป็นความโหดที่บันเทิงใช้ได้เลย และสำหรับแฟนของ แพทริค เด็มพ์ซีย์ ก็ถือว่าค่อนข้างแปลกตา ที่เขามารับบทนำในหนังแนวนี้ หลังติดภาพเขาเป็นผู้ชายในฝันเจ้าสำอาง บทบาทนี้ก็ดูสดใหม่ดีสำหรับเขาอยู่เหมือนกัน ใครที่คิดถึงหนังไล่เชือดที่เต็มไปด้วยความเถิดเทิง ไม่ต้องเนี้ยบมาก ไม่ต้องฉลาดมาก เรื่องนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจThanksgiving คืนเดือดเชือดขาช็อป / เข้าฉาย 5 ธันวาคมนี้

อังคาร คลุมโปง

อังคารคลุมโปง X ต้นกล้า คืนพุธมุดผ้าห่ม [ 23 เม.ย. 2567]

23 เม.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X ต้นกล้า คืนพุธมุดผ้าห่ม [ 23 เม.ย. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงx ต้นกล้า คืนพุธมุดผ้าห่ม ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXต้นกล้าคืนพุธมุดผ้าห่ม

อังคารคลุมโปง X อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี [ 16 เม.ย. 2567] [เทป]

16 เม.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี [ 16 เม.ย. 2567] [เทป]

พบกับ #อังคารคลุมโปงx อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อุ๋มอิ๋มคนเห็นผี

อังคารคลุมโปง X ตั้ม The Shock [ 9 เม.ย. 2567]

09 เม.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X ตั้ม The Shock [ 9 เม.ย. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงx ตั้ม The Shock ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #ตั้มTheShock

อังคารคลุมโปง X ม้าม่วง - PowerpuffGAY [ 2 เม.ย. 2567]

02 เม.ย. 2024

อังคารคลุมโปง X ม้าม่วง - PowerpuffGAY [ 2 เม.ย. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงx ม้าม่วง - PowerpuffGAY ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #ม้าม่วง #PowerpuffGAY

อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 26 มี.ค. 2567]

26 มี.ค. 2024

อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [ 26 มี.ค. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงx แจ็ค The Ghost Radio ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงXTheGhostRadio

อังคารคลุมโปง X Retrospect [ 19 มี.ค. 2567]

19 มี.ค. 2024

อังคารคลุมโปง X Retrospect [ 19 มี.ค. 2567]

พบกับ #อังคารคลุมโปงx Retrospect ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #Retrospect

พุธทอล์ค พุธโทร

พุธทอล์คพุธโทร [27 มี.ค. 67] "มาขิงกันหน่อย รางวัลใหญ่ที่สุดที่คุณเคยได้จากการสอยดาวคือ..."

27 มี.ค. 2024

พุธทอล์คพุธโทร [27 มี.ค. 67] "มาขิงกันหน่อย รางวัลใหญ่ที่สุดที่คุณเคยได้จากการสอยดาวคือ..."

พบกับ #พุธทอล์คพุธโทร ได้ทุกคืนวันพุธ เวลา 21.00 - 23.00 น. "มาขิงกันหน่อย รางวัลใหญ่ที่สุดที่คุณเคยได้จากการสอยดาวคือ..."

ใต้โต๊ะทำงาน

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67]

15 ม.ค. 2024

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67]

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67] พบกับ #ใต้โต๊ะทำงาน ได้ทุกคืนวันจันทร์ เวลา 20.15 - 22.00 น. ติดต่อลงโฆษณา โทรมาได้เลยที่ 02-669-9512,081-923-9823

แฉข่าวเช้า

แฉข่าวเช้า 26 เมษายน 2567

26 เม.ย. 2024

แฉข่าวเช้า 26 เมษายน 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 25 เมษายน 2567

25 เม.ย. 2024

แฉข่าวเช้า 25 เมษายน 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 24 เมษายน 2567

24 เม.ย. 2024

แฉข่าวเช้า 24 เมษายน 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 23 เมษายน 2567

23 เม.ย. 2024

แฉข่าวเช้า 23 เมษายน 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 22 เมษายน 2567

22 เม.ย. 2024

แฉข่าวเช้า 22 เมษายน 2567

ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ ‘แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 19 เมษายน 2567

19 เม.ย. 2024

แฉข่าวเช้า 19 เมษายน 2567

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

EFM Fandom Live

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ PROXIE [ 25 เมษายน 67 ]

25 เม.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ PROXIE [ 25 เมษายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ DICE [ 18 เมษายน 67 ]

18 เม.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ DICE [ 18 เมษายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ จิมมี่ ซี [ 11 เมษายน 67 ]

11 เม.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ จิมมี่ ซี [ 11 เมษายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ LYKN [ 4 เมษายน 67 ]

04 เม.ย. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ LYKN [ 4 เมษายน 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ เบนซ์ - กาฟิวส์ [ 28 มีนาคม 67 ]

28 มี.ค. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ เบนซ์ - กาฟิวส์ [ 28 มีนาคม 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ กลัฟ คณาวุฒิ [ 21 มีนาคม 67 ]

22 มี.ค. 2024

#EFMFandomlive คืนนี้พบกับ กลัฟ คณาวุฒิ [ 21 มีนาคม 67 ]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

EVENTS

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล กับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

23 พ.ย. 2023

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล กับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

ว้าวุ่นมาทั้งปี มารับวิตามิน SEA กันป่ะล่ะ !!ปลายปีนี้... EFM94 และ Chill Online จะพาคุณไปมันส์อีกครั้งกับมหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเลกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18 BY โซดา LEOมันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยองห้ามนำเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าภายในงาน ภายในงานมีเครื่องดื่มจำหน่ายเตรียมตัวกันให้พร้อม!! 16 ตุลาคมนี้เปิดให้กด REDEEM บัตรกันแล้วขั้นตอนการ Redeem Ticket!! บอกเลยว่า #งานนี้ฟรี!!- เพียงแค่ล็อกอิน เปิดแอป Application AtimeFungFin- เริ่มสะสมพ้อยได้แล้ววันนี้ ผ่านการฟัง Application ATIMEFUNGFIN !!1 นาที = 1 Point สะสมครบ 2,000 Point แลก Wristband ได้ 2 ใบ สามารถเข้างานได้ 2 คน(1 Account/1 สิทธิ์)ดาวน์โหลด Application : ATIME FUNGFIN รอไว้ได้เลย ทั้งระบบ IOS และ Androidพิเศษเฉพาะใน Application ATIMEFUNGFIN เท่านั้น!! รีบชวนเพื่อนด่วน #บัตรมีจำนวนจำกัดPLEASE DO DON’T ในงาน EFM x Chill On The Beach 18สิ่งที่ไม่อนุญาตให้นำเข้างาน (ห้ามนำเข้ามาในงาน)1. ห้ามนำอาวุธ ของมีคม วัตถุอันตราย และสารเสพติดทุกชนิดเข้าภายในงาน2. ห้ามนำเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามาภายในงาน3. ห้ามนำโดรนเข้ามาบินภายในบริเวณงาน4. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาภายในงาน5. ห้ามนำบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดเข้าภายในงาน6. ห้ามนำป้ายไฟขนาดใหญ่กว่า A4 เข้าภายในงานสิ่งที่อนุญาตให้นำเข้างาน1. เสื่อ2. กล้องถ่ายรูปจุดจอดรถจอดรถได้ที่ลานจอดสนามกีฬากลางจังหวัด (สนามบอล 2)(SCAN หรือ Link :https://maps.app.goo.gl/M6r3UeFYAXuKRKc18?)- มีบริการรถ รับ-ส่ง ถึงหน้างาน ฟรี!- ตั้งแต่เวลา 14.00 - 02.00 น.เริ่มแลกรับ Wristband ได้ตั้งแต่เวลา 12.00 - 20.00 น.ประตูเปิด 15.00 น.โชว์แรกเริ่มประมาณ 17.00 น.จำกัดให้เฉพาะผู้ที่มีบัตรประชาชน หากอายุต่ำกว่า 20 ปี ขอให้มีผู้ปกครองมาดูแลด้วยน้าา

Q&A เกี่ยวกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

09 พ.ย. 2023

Q&A เกี่ยวกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

ทำยังไงจะได้ Point?ดู Point ตรงไหน?เข้างานได้กี่โมง?ให้เพื่อนรับบัตรแทนได้มั้ย?EFM มัดรวมคำถาม QA มาให้แล้วค่าาาหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม Inbox Facebook มาถามแอดมินได้เลยน้าแล้วมันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยอง

แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญ | EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

03 พ.ย. 2023

แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญ | EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

REDEEM บัตรกันแล้ว อย่าลืมจองที่พักกันนะคะ !!EFM แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญแล้วมาเจอกันที่งาน EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18มันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยอง

แฉแฟร์ อร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ!

11 ธ.ค. 2023

แฉแฟร์ อร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ!

แฉแฟร์ มหกรรมอร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ เตรียมยกขบวนไปแฉความอร่อย ความบันเทิงสไตล์แฉ ร้านเด็ด-ร้านดัง กว่า 200 ร้าน ทั้งร้านเด็ดที่คัดมาแล้วจาก “รายการแฉ” พร้อมร้านค้าดารา ของดี ของเด็ดสายมู ที่มดดำ การันตี นำทัพโดย มดดำ คชาภา และทีมพิธีกรรายการแฉ ร่วมด้วยเหล่าดีเจ ATIME , เซเลบมากมาย และหมอดูชื่อดัง จัดเต็มมหกรรมความอร่อยครั้งใหญ่ 4 วันเต็ม มาเจอกันได้ ในวันที่ 14-17 ธันวาคมนี้ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ATIME และ www.atime.liveชี้เป้าร้านเด็ด 5 โซนในแฉแฟร์แฉ ฟู้ด : รวมร้านดังจากรายการแฉHighlight : CHARM GARDEN - ลูกชิ้นและหมี่คลุก เชฟอ้อย / ชามเบิ้ม ข้าวต้มแห้ง – ร้านดังในโซเชี่ยล / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / เตียวโก / / อีสานพาสวบ / สมานหมูทอด / จอลลี่พอร์ค หมูทอดอารมณ์ดีเจ้าดังใน TIKTOK / มูเตโกโก้CHARM GARDEN - ลูกชิ้นและหมี่คลุก เชฟอ้อย / ไส้กรอกสารคาม By คุณคิส / ชามเบิ้ม ข้าวต้มแห้ง / Smococoplus+ มะพร้าวสมูทตี้ / บ้านเรือปู นครศรีธรรมราช / GIGG AND GOOD HOMEMADE / วัรดะห์ ข้าวขาวัว / SHREDDO เชรดโด – อโวคาโด้ปั่นพันแฮส / ยำข้าวทอด, เนื้อสเต๊ะ / ข้าวเกรียบเห็ดหอม, ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / ก้วนลี่ กระเพาะปลาตุ๋นยาจีน / ถั่วบางนรา / กะปิโหว่แซ่บลืมผัว / ผลไม้ตามฤดูกาล / กุ้ยช่าย / บ้านขันโตก / เทดอง / มูเตโกโก้ / เจ๊แดงสามย่าน / Daayli Breaktime House – หมี่คลุก / Banana Yess! / เรื่องของยำ / บ้านแกงเขียวหวานครัวคุณต้อย / เตียวโก / Your Seat Café / ซานต้าฟรุ๊ต / อุไรรัตน์เชียงใหม่ / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / ข้าวแท่ง by NSL / เนสน้ำพริก / น้ำดอกมะพร้าว / อีสานพาสวบ / สมานหมูทอด / ฮานะข้าวเห็ดหอม / ติ่มซำหลังจวน / ถั่วเทพ / หมูปิ้งอิ่มจัง / คุณมิ้งแกงใต้น้ำยาปู เมืองตรัง / CHANUMAN by HOLEN / หยกสด / ฟูฟ่องหมูกรอบ / KA●NO●MU / ป้าม่วยน้ำปลาหวาน / ข้าวต้มมัดยายฟู / วสันต์ของฝากเชียงใหม่ / วรรัตน์ ซาลาเปาเบตง พ.ศ. ๒๕๑๗ / หลี่ชิมเฮีย จุ๋ยก้วย / เจริญไทยสุกี้ / Pick Me Please หมูหยองอบกรอบ / ข้าวหลามจิ๊ว สูตรบางคนที / ย่างนัวส์ / โต้ง ขนมจีนน้ำยาปู / ตี๋ขนมชั้นใบเตย 8 ริ้ว / ปุ๊ เรือสามรำ / รัชฎาลุยสวน / Papa Tofu / ขนมไทยบ้านทอม by ราชบุรี / Okonomiyaki Takuya / จอลลี่พอร์ค หมูทอดอารมณ์ดีเจ้าดังใน TIKTOK / ดับเบิ้ลนัวร์ / ขนมจีนน้ำยาปูคุณปุณณ์ / นายเกาะข้าวเกรียบเห็ดหอม / ขนมบะบิ่นกัสโต้ / ขนมไทยครัวสามพี่น้อง / ลอดช่องวัดเจษ ผึ้งหลวง / ศรีจันทร์พานิช มหาชัย / ทีเด็ดยำ / ข้าวคลุกกะปิแม่พลอย / หมูยอวชาลิสา / สรวีย์ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน รอชำระ / MaMeeKlook / Chef's Table To Deliver by chef GOR / พรกมลทองม้วนสด / เจ๊ขวัญ ไข่หมึกย่าง / ขาหมูตรอกซุงบางรัก / พิมพิราหมี่กรอบแฉ Street Food : รวมร้านอร่อยคาว-หวานHighlight: เจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ (ลูกชิ้นยืนกินลิซ่า) / ยำดาวยั่วbyเจ๊ดารา / Sugoi sembei สุโก้ยเซมเบ้ /กุยช่ายสะพานหันเจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ (ลูกชิ้นยืนกินลิซ่า) / ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส / ทูนึ่งมงลง by ฟ้า / ยำดาวยั่วbyเจ๊ดารา / เอกอร่อย พริกแกงใต้ / กนกกร ขนมเบื้องไทยตลาดพลู / Bakery Hut / ขนมจีนภูเก็จ บ้านอาม่า / ลูกชิ้นหมูเงินล้าน / มาดามซ่า - น้ำปลาร้า แจ่วบอง / หมูสะเต๊ะมังกรทอง / มาดามอินทนิล / หมึกเจี๊ยวจ๊าว น้ำจิ้มจี๊ดจ๊าด / ป้าวรรณ์ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ / Morningmeal แซนวิสเกาหลี-สลัด / ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก / Sugoi sembei สุโก้ยเซมเบ้ / อิ่มสุข ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / ร่ำรวยเย็นตาโฟ / ข้าวกรอบสยาม / เอเชียน ทัง ( ASIAN TANG) / ลูกชิ้นพอเพียง / ชาบูเสียบไม้ 10 บาททุกอย่าง / กุยช่ายสะพานหัน / นครมูเบอร์เกอร์ / Love Mon Dong (เลิฟม่อนดอง) /ราชรสแฉหวานหวาน : โซนเดียวที่สายหวานจะต้อง Love!Highlight: Golden Thai Tea - ชาไทย โกลเด้น / Chimney Coaster ไอศกรีมเจ้าดัง เค้กปล่องไฟ / Cho Kaew Bualoy ช่อแก้วบัวลอยTomilo sushi / Peonée Bakehouse ขนมไทย / FRUITOCHIE กรีกโยเกิร์ต โฮมเมด / ยู้ฮูหวานเย็น / โคะโคะริช เต้าฮวยนมเย็น / น้ำลำไยสดชื่นใจ By ชีสเค้ก / Koomi Drinking Yoghurt / Focus Chocolate / ทุเรียนตองเอ - ข้าวเหนียวมูลน้ำกะทิทุเรียน / Cool Coffice / Chimney Coaster ชิมนี่ โคสเตอร์ เค้กปล่องไฟ / Golden Thai Tea - ชาไทย โกลเด้น / MAO NOM เมานม กาแฟและนมสด โฮมเมด / Cho Kaew Bualoy (ช่อแก้วบัวลอย)แฉปังปัง: สินค้า Lifestyle สายมู เสริมดวง-เสริมเฮงHighlight: รวมร้านของมงคล เสริมดวง บารมี โชคลาภ อาทิ อาจารย์อุ๋ย ญาณสัมผัส - ของมงคลต่างๆ อาทิ กระเป๋าตังค์ กำไล สร้อยคอ โปรโมชั่นเฉพาะในงานแฉ ซื้อครบ 7 พัน ดูดวงกับอาจารย์อุ๋ย ฟรี 10 นาทีอาจารย์อุ๋ย ญาณสัมผัส – รวมของมงคลเสริมบารมี กระเป๋าเงิน , กำไล , สร้อยคอ / มูลนิธิเต๋าธรรมะสยาม (ซินแสไช้) - ดูดวง / อาจารย์ชัญญา ราชินีไพ่จิตสัมผัส – น้ำมันหอมเย็น RELAX แผ่นมงคลชีวิต ลิปสติกสาลิกาปากหวาน กำไลคริสตัล น้ำมันหอมมหาเสน่ห์ / Namo Luckystone ตรวจพยากรณ์ / กระแสบุญ99 / มงคลพัฒน์ ดวงและฮวงจุ้ย / POLY HOLY กำไลพระพิฆเนศ / พูนศรีมนตรา กำไลข้อมือ / The White Witch (หมอเจี๊ยบทูตสื่อพลัง) - หินมงคล / ปัญญ์ ลัคค์ Lucky stone / บ้านบีลีฟมหาเฮง by โค้ชกุ๊กไก่ / สามสาวสวยมาก Sorority.dkp - กำไลข้อมือหินแฉกันเอง: ร้านศิลปิน-ดารา และ ดีเจHighlight: THE GHOST HOUSE แจ็ค เดอะโกส - กาแฟสูตรเฉพาะ / แฮปปี้ ชิค Happy chick - หนังไก่ทอดกรอบ ดีเจมะตูม / Wara Allure (วรา อาลัว ขนมอาลัว ดีเจเคเบิ้ล) / Season house Cake Bakery Homemade ครอบครัวดีเจโก / น้ำพริกปุยแสบปาก จาก ปุยฝ้าย AF หรือ ปุยฝ้าย-ณัฎฐพัชร์ / กะหรี่ปั๊บ มาดามแม่ - วู้ดดี้ ลูกชิ้นดาวร้าย นํ้าจิ้มนางเอก - แทน-ฐิติ / น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกปลาดุกฟู แคปหมู หมูกระจก น้ำเก็กฮวย - กร ณัฐวัฒน์ (หลานพี่โก้ ธีรศักดิ์) - / GOD OF GRILL STEAK สเต็ก สปาเก็ตตี้ - แพร สตรอเบอรี่ชีสเค้ก / ซูชิ-ทะเลดอง - บังเอ เชิญยิ้ม / พริกกรอบ DARACHILLI ผลไม้อบแห้งเกรดพรีเมี่ยม น้ำปลาร้า PAKO - โก้ ธีรศักดิ์ - / น้ำพริกป้าแว่น by คุณษา - วรรณษา ทองวิเศษ / Brandnew Field Good ข้าวเกรียบ plant base – นิว นภสร / หวานซ่านทรวง กล้วยเชื่อม - เดย์ ฟรีแมน / MomMe Menu - อาโย ทัศน์วรรณ / อย่างสีเหลือง ห่อหมกย่าง - ที JETSETER / น้ำสมุนไพรไฉไลเอส่งสุข - เอ สุรพันธุ์ ชาวปากน้ำ / กะหรี่ปั๊บ มาดามแม่ - วู้ดดี้ / POPMONSTERS ป๊อปคอร์นพรีเนี่ยม หลากรสชาติ - โอ๋ ภัคจีรา / THE GHOST HOUSE กาแฟสูตรเฉพาะ แจ๊ค The Ghost Radio / เตี๋ยวตุ๋นขุนพล สาขาปั๊มปตท. เลียบคลองสอง - อ๊อฟ บิ๊กแอส / แฮปปี้ ชิค Happy chick - หนังไก่ทอดกรอบ ดีเจมะตูม / Wara Allure วรา อาลัว ขนมอาลัว - ดีเจเคเบิ้ล / Season house Cake Bakery Homemade - ขนม เบเกอรี่ ครอบครัวดีเจโก / น้ำพริกปุยแสบปาก น้ำพริกหมูเสวย - ปุยฝ้าย AF หรือ ปุยฝ้าย-ณัฎฐพัชร์ / GINZY Healthy delicious ขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ - ตุ๊ก ชนกวนันท์ / เจียงฮาย ข้าวซอย - พี่หมู บิ๊กแอส / PloyHomemade น้ำพริกมันปู น้ำพริกมันกุ้ง - ปาล์ม instinctนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเด็ดๆมาสร้างสีสันอีกเพียบ ไม่มีซ้ำ อาทิ ทอล์คเปิดดวงชะตาปีหน้าจากหมอดูชื่อดัง ใครจะปัง ใครจะรุ่ง มาอัพเดทดวงล่วงหน้ากันได้ที่งานนี้พบกับวงดนตรีจากเวที Hotwave Music Awards ที่จะสลับกันมาสร้างสีสัน ให้ทุกคนได้ช้อป ได้มูกันแบบเพลินๆตลอด 4 วันอย่างแน่นอน

แฉโต๊ะหก

แฉโต๊ะหก : ปี 2023 เราเป็นที่สุดในเรื่องอะไร | 29 ธันวาคม

29 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : ปี 2023 เราเป็นที่สุดในเรื่องอะไร | 29 ธันวาคม

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : หยุดยาวปีใหม่ ไปเที่ยวไหนดีนะ | 28 ธันวาคม 2566

28 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : หยุดยาวปีใหม่ ไปเที่ยวไหนดีนะ | 28 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : อยากให้ คัลเลน-พี่จอง ไปเที่ยวที่ไหนอีก | 27 ธันวาคม 2566

27 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : อยากให้ คัลเลน-พี่จอง ไปเที่ยวที่ไหนอีก | 27 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : บอกลาลมหนาว แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมนะ | 26 ธันวาคม 2566

26 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : บอกลาลมหนาว แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมนะ | 26 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : ข่าวไหนคือที่สุดของคุณในปี 2566 | 25 ธันวาคม 2566

25 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : ข่าวไหนคือที่สุดของคุณในปี 2566 | 25 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

แฉโต๊ะหก : หนาวกันไหม ไหนเล่าซิ | 22 ธันวาคม 2566

22 ธ.ค. 2023

แฉโต๊ะหก : หนาวกันไหม ไหนเล่าซิ | 22 ธันวาคม 2566

แฉโต๊ะหก เก็บมาเล่า เอามาแชร์ . อัปเดตกระแส เทรนด์ฮิตโซเชียล เก็บมาเล่าเอามาแชร์ให้ฟังพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. . สนับสนุนโดย • กองทุนบัวหลวง : ssfrmf.bblam.co.th

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แต่งงานกับสามีมา 8 ปี ชีวิตคู่ราบรื่น ปกติดีมาตลอด ติดเรื่องเดียว "หนูมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถมีลูกได้" พยายามกันมาตลอด อยู่ๆมีเฟสผู้หวังดี มาเม้นรูปหนูว่า "ถ้าไม่อยากโง่ให้เปิดแชทอ่าน" ถึงรู้ว่าสามีไปมีลูกกับผู้หญิงอีกคน

26 เม.ย. 2024

แต่งงานกับสามีมา 8 ปี ชีวิตคู่ราบรื่น ปกติดีมาตลอด ติดเรื่องเดียว "หนูมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถมีลูกได้" พยายามกันมาตลอด อยู่ๆมีเฟสผู้หวังดี มาเม้นรูปหนูว่า "ถ้าไม่อยากโง่ให้เปิดแชทอ่าน" ถึงรู้ว่าสามีไปมีลูกกับผู้หญิงอีกคน

แต่งงานกับสามีมา 8 ปี ชีวิตคู่ราบรื่น ปกติดีมาตลอด ติดเรื่องเดียว"หนูมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถมีลูกได้" พยายามกันมาตลอด อยู่ๆมีเฟสผู้หวังดีมาเม้นรูปหนูว่า "ถ้าไม่อยากโง่ให้เปิดแชทอ่าน" ถึงรู้ว่าสามีไปมีลูกกับผู้หญิงอีกคนสามีบอกเป็นความพลาด แต่เขาขึ้นบ้านใหม่ด้วยกันแล้ว “คุณเหมียว (นามสมมติ)” อายุ 36 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย นภาพร’ เกี่ยวกับปัญหามีลูกให้สามีไม่ได้ แต่เขาดันไปมีลูกกับคนอื่น โดย ​“คุณเหมียว(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 10 ปี พอคบกันได้ 2 ปีก็ตัดสินใจแต่งงาน ก็คือแต่งงานกันมาแล้ว 8 ปี สร้างตัวจากที่ไม่มีอะไรเลย แล้วเราก็คบกันปกติเหมือนคู่รักคู่อื่น ตอนแรกเรา 2 คนก็ขายของตามตลาดนัดด้วยกัน แต่เศรษฐกิจไม่ดี ผู้ชายเลยตัดสินใจไปทำงานประจำ ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่เขาไปทำงาน เราก็มีไปที่ทำงานผู้ชายบ้าง ที่ทำงานก็รู้หมดว่าเป็นสามีภรรยากัน เหมือนปีที่ 9 เราทำงานหนักเลยไม่มีเวลาไปตามผู้ชายสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ไม่ได้ไปไหนด้วยกัน เพราะว่าต่างคนก็ต่างทำงาน จึงไม่ได้สงสัยหรือระแวงในตัวเขา และหนูก็เป็นโรคเกี่ยวกับมดลูก ซึ่งตอนแรกผู้ชายก็บอกว่า อยากมีลูก แล้วหนูก็ได้มีการปรึกษากันมาตลอดว่า ถ้าเกิดว่าเราไม่มีลูกจะเป็นอะไรไหม ผู้ชายบอกว่า ไม่เป็นไร เรารักกัน เราเก็บเงินให้กันและกันไปเรื่อย ๆ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย ถ้าเราอยากมีจริง ๆ อาจจะใช้เป็นวิธีอื่นได้ในอนาคต ซึ่งปรึกษากันตลอด ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง เพราะเราเป็นคู่ที่ใช้ชีวิตปกติมาก ๆ แต่มาวันหนึ่งก็มีเฟซบุ๊คพึ่งสร้างใหม่ส่งข้อความมาหาว่า ถ้าไม่อยากโง่ให้เปิดข้อความในแชทอ่าน ในวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพอเราเปิดเข้าไปอ่านก็เป็นรูปสามีเราไปขึ้นบ้านใหม่กับผู้หญิง แล้วก็มีแม่สามีนั่งอยู่ข้าง ๆ เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีรูปสลิปการโอนเงิน ซึ่งเป็นชื่อ - นามสกุลของสามีเรา แล้วมีแคปชั่นว่า ขอบคุณสามีที่เปย์ให้กันตลอดมา เป็นรูปการโพสต์ด่าเราเรื่องต่าง ๆ นานา เขาแคปมาให้เราดูหมด ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นคนโพสต์ ที่พีคไปกว่านั้นคือ มีรูปการคลอดลูก ซึ่งเป็นแคปชั่นที่มีนามสกุลสามีของเรา เรื่องความสัมพันธ์เขาบอกว่า คบกันมา 1 ปีแล้ว แต่ว่าคบกัน 2 เดือนผู้หญิงก็ท้องเลย และเป็นรูปสามีของเราอยู่ในห้องคลอดซึ่งมีเด็กด้วย รายละเอียดในรูปคือ เหมือนผู้หญิงพึ่งคลอดลูกมาเมื่อวาน แล้วเอาเฟซบุ๊คปลอมส่งมาบอกเราในวันนี้ แบบพึ่งเกิดแล้วให้เรารู้เลย เราก็ช็อกมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น เราก็เลยโทรไปถามผู้ชายว่า มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ตอนแรกผู้ชายเขาก็ไม่ได้ยอมรับผิด เราก็เลยบอกว่า ถ้ามันเกิดเรื่องอะไรแล้ว เดี๋ยวเรามาช่วยกันแก้ไขปัญหาด้วยกันไหม หนูอยากให้เขายอมรับความจริง เขาก็เลยสารภาพว่า เขาไปทำผู้หญิงท้อง ซึ่งเป็นน้องที่ทำงานเดียวกันกับเขา คบกันมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว พอคบกันได้ 2 เดือนปุ๊บ ผู้หญิงก็ท้องเลย และเป็นการพลาดพลั้ง ถ้ามันเป็นการพลาดพลั้งจริง ๆ ทำไมเขาถึงมีการซื้อบ้านใหม่ด้วยกัน ทำไมเขาถึงสร้างทุกอย่างด้วยกันหมดแล้ว หนูก็ไม่เชื่อ แต่หนูยังรักเขา หนูรักเขามากเพราะว่าเราไม่มีปัญหาอะไรที่จะทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเราเคลียร์กันทุกเรื่อง ทุกวันอยู่แล้ว หนูคิดว่าถ้าหนูไม่รู้เรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้แย่ แต่หนูมานั่งทบทวนประมาณ 3-4 วัน ก็ตัดสินใจบล็อกเบอร์ ไม่ติดต่อไปหาเขาอีกเลย เพราะหนูคิดว่าเขาคงอยากไปสร้างอนาคตใหม่ด้วยกันโดยที่ไม่มีหนูแล้ว ถ้าเขารักเราจริง ๆ เขาจะไม่ทำร้ายเราทั้งที่เราผ่านความลำบากมาก่อน จนเรามีทุกวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งหนูไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับฝั่งผู้ชายเลย ส่วนฝั่งนั้นเขาบอกว่า ไม่ได้จดเหมือนกัน แต่รับเป็นบุตร หนูรู้สึกแพ้แล้วกับความรัก 10 ปีที่ผ่านมาของหนู’ อยากถามคำถามแรกกับพี่เผือกว่า คิดว่าหนูทำถูกไหมที่หนูยอมเดินออกมาแทนที่จะเก็บผู้ชายไว้? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ต้องถามกลับว่าทำไมถึงรู้สึกว่ามันจะไม่ถูก เหมียวมีความลังเลหรอว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดที่เดินออกมา ถ้าถามคนที่ได้ฟังเรื่องนี้พี่ว่าร้อยทั้งร้อยต้องบอกว่า เหมียวทำถูกแล้วแหละ พี่ยังไม่เจอเหตุผลที่จะต้องเก็บเขาเอาไว้ มันต้องแยกให้ออกระหว่างความเสียใจกับการตัดสินใจที่จะตัดใครสักคนที่เขาไม่ใช่คนดีออกไป มันคนละเรื่องกัน ไอ้ความเสียใจ ไอ้ความช็อก ตื่นมาแล้วอีกคนหนึ่งในชีวิตเราหายไป มันรู้สึกอยู่แล้วเหมียว แต่สาเหตุที่เขาไม่อยู่วันนี้มันต้องแยก พี่ไม่เห็นเหตุผลว่าการเก็บเขาไว้ในสถานการณ์ของเหมียวมันจะเป็นสิ่งที่ดีได้ยังไง ในเมื่ออีกฝั่งเขามีลูกด้วย ต่อให้คิดกันแบบ Positive สุด ๆ คุยกันได้ลงตัว ทำหน้าที่แค่พ่อ ไปดูแลแต่ยังรัก เหมียวคิดว่ามันจะไปตลอดรอดฝั่งจริง ๆ หรอ? แล้วพี่ก็ไม่เชื่อว่าตัวเหมียวเองจะรับมันได้ ไม่งั้นเหมียวคงไม่ตัดสินใจเดินออกมา พี่อยากจะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ให้ความมั่นใจว่า เราตัดสินใจแล้ว ทุกการตัดสินใจของเราที่เกิดขึ้นมันดีเสมอแหละ เราจะได้เรียนรู้อะไรจากมัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันอาจจะรุนแรงหน่อย แต่ว่าถ้ามันผ่านพ้นไปได้ พี่ว่ามันเป็นจุดที่ดีของชีวิต ขอให้มั่นใจ ตัดสินใจแล้วก็ทำให้มันเด็ดขาด ยอมเจ็บหน่อย ยอมช็อกหน่อย แต่ถ้ามันผ่านพ้นไปจะรู้สึกโล่ง อย่างที่พี่อ้อยพูดเห็นด้วยมาก ๆ เราไม่ได้แพ้อะไร สุดท้ายพอเวลามันผ่านไป จนถึงวันหนึ่งเหมียวอาจจะเริ่มรู้สึกว่า ฉันชนะแล้วแหละที่ออกมาได้’ คำถามที่ 2 ให้พี่อ้อย หนูขอวิธีการมูฟออนที่หนูยังติดอยู่วังวนความรัก 10 ปีที่ผ่านมา หนูไม่สามารถมีใครได้หรือมีความรักครั้งใหม่หนูก็รู้สึกกลัว? ต่อมา “ดีเจอ้อย” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่จะบอกว่า วิธีการมูฟออนอย่างหนึ่งคือ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ก่อน เข้าใจว่าน้องรักเขาเท่าที่เขารักน้องแหละ คบกันมาตั้ง 10 ปี รักเขาเราไม่เห็นมีใคร เขารักเราทำไมถึงทรยศ พอน้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับมัน น้องอาจจะเข้าใจว่า คนบางคนนะ ออกจากชีวิตฉันไป น่าดีใจกว่าได้เขามาอีก เพียงแต่วันนี้การมูฟออนของน้อง ยังไม่สามารถมูฟออนได้เพราะยังคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเรา มีคนในโลกนี้เยอะแยะมากมาย ลูกไม่ได้เป็นโซ่ทองคล้องใจเสมอไป มันไม่ได้แปลว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกแล้วนั่นคือที่สุดของชีวิต และการที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกไม่ได้ก็เลยถูกพิพากษาให้เขาต้องไปทรยศนอกใจกับคนอื่น พี่ว่ามันไม่ใช่เป็นเหตุเป็นผลกัน วันนี้ถ้าไม่เจอ Account ที่เขามาบอกว่า ถ้าไม่อยากโง่ก็อ่านแชทสิ แค่สิ่งที่เขาบอกกับเราก็ดูไม่ใช่ผู้หวังดีอยู่แล้ว การที่ผู้ชายคนหนึ่งไม่รับผิดชอบความรู้สึกของเราเลยแม้แต่น้อย พี่รู้สึกว่า ฉันทำดีที่สุดในฐานะของคนที่เป็นภรรยามา 10 ปีแล้ว เธอต่างหากที่ยอมให้ใครสักคนเข้ามาทำร้ายความรู้สึกฉันได้มากขนาดนั้น โดยที่มีเธอเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด พอเหมียวค่อย ๆ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ การมูฟออนก็เกิดขึ้นจากการทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้อยู่ แต่ถ้าน้องบอกว่า ไม่เอาค่ะพี่ หนูอยากได้วิธีการมูฟออนจริง ๆ อันแรกเลิกส่อง มีคนเยอะมากที่พยายามจะมูฟออนแต่ยังไปเฝ้าดูโซเชียลเขาตลอดเวลา ที่สุดแล้วพอไปเห็นว่าเขาดูมีความสุขมาก คนที่พังสุดก็คือเราอยู่ดี วันนี้ความสัมพันธ์มันเคลื่อนตัว ต่อให้ 10 ปี ความผูกพันดันเกิดขึ้นกับเหมียวคนเดียว ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา ถ้าความผูกพันนี้เกิดขึ้นกับเขาด้วย เขาจะไม่ทำร้ายหนูขนาดนี้ แค่เหมียวเห็นคุณค่าในตัวเอง ชีวิตของฉัน ฉันทำเต็มที่ในตอนที่ฉันเป็นภรรยาที่น่ารัก ดูแลเธออย่างซื่อสัตย์ แต่ถ้าเธอไม่สามารถให้ความซื่อสัตย์กับฉันได้ ฉันก็แค่ตัดเธอออกจากชีวิต มันคือแบบนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเรากลายเป็นคนที่ด้อยค่าตัวเอง พี่ว่ามันอยู่ที่วิธีคิดของเรา ถ้าน้องอยากได้เป็นแบบรูปธรรม 1.เลิกส่อง 2.ช่วยเห็นข้อดีของตัวเองใน 10 ปีที่ผ่านมาหน่อย เพราะน้องไม่เคยวอกแวกไปมีใคร และในที่สุดแล้วไม่มีใครดีพอ สำหรับคนที่ไม่รู้จักพอ ต่อให้น้องดีแทบตาย สุดท้ายเขาไม่รู้จักพอเขาก็มีคนอื่นอีก แล้วเอาสิ่งนั้นมาเป็นข้ออ้าง เพื่อทำให้เขาเลิกกับเราได้แบบที่เขารู้สึกผิดน้อยที่สุด พี่รู้สึกแบบนั้นไม่ได้ผิดที่เหมียว หนูต้องรักตัวเอง เพราะหนูมีคุณค่ามากพอ และพี่คิดว่าเดี๋ยววันหนึ่งเหมียวจะขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจแบบนี้’ และคำถามที่ 3 ให้พี่เติ้ล มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการนอกใจครั้งนี้ เป็นเพราะหนูไม่ใส่ใจเขามากพอหรือว่าเป็นเพราะหนูท้องไม่ได้ เขาก็เลยไปมีคนอื่น? สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ตอบอันหลังก่อนที่เหมียวถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะหนูไม่ใส่ใจหรือว่าหนูมีลูกให้เขาไม่ได้ ไปที่เรื่องไม่ใส่ใจก่อน อันนี้พี่ไม่รู้เพราะเหมียวไม่ได้บอก เหมียวบอกว่าเราเป็นชีวิตคู่ปกติ ถ้างั้นคงไม่เกี่ยวกับการใส่ใจ พี่ว่าอย่าไปเพ่งโทษตัวเองแบบนั้น กับเรื่องที่มีลูกให้เขาไม่ได้ ตอนที่เหมียวโทรมาพี่กรี๊ดเหมือนกัน เพราะว่ามันคือบทสนทนาในห้องประชุมเขียนบทเมื่อวาน ถ้าคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่รักกันมาก กลายเป็นว่าปัญหาเรื่องเดียวคือสามีอยากมีลูก แล้วภรรยาลูกให้เขาไม่ได้ มันจะไปได้ถึงไหน ซึ่งตอนที่พี่คุยในห้องประชุมบอกจริง ๆ ว่ามันมีสิทธิ์เกิดอะไรขึ้นก็ได้ แต่มันไม่เกี่ยวกับการนอกใจ ถ้าวันใดวันหนึ่งที่เขารู้สึกว่าอยากมีลูกจริง ๆ เขาก็ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและเรามากพอในฐานะคนรักกัน ไม่ว่ามันจะเกิดเหตุการณ์หรือปัญหาอะไรในชีวิตคู่ มันไม่ใช่สาเหตุที่จะมาอ้างว่า เพราะฉะนั้นฉันจะไปมีคนอื่น เพราะเธอทำข้อ 1-3 ไม่ได้ มันคือการนอกใจ คุณจะทำอะไรก็ได้เลยถ้าบอกกับคนรักตรง ๆ ว่า เราไม่แฮปปี้ ถ้าแก้ไม่ได้ เราขอไปมีคนอื่น อย่างนี้มันคือแฟร์ ยุติธรรมกันทั้ง 2 ฝ่าย เราเองก็ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นว่า เราให้ในสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ได้ แต่การที่เขาไปมีคนอื่น มีลูกแบบนี้ พี่ว่าเขาไม่ได้พลาด เพราะพี่รู้สึกว่าคนรักกัน ถ้าพลาดเขาต้องมาบอกหนู เขาจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้คลอดลูกออกมาจนเรื่องนี้มาเข้าหูหนูเอง พี่ว่าอันนี้ไม่ใช่คนรักกัน เขาคือผู้ชายที่ทรยศหนู ซึ่งมันก็จะเด้งไปที่คำตอบพี่อ้อยกับพี่เผือกว่า การที่หนูตัดสินใจเลิกกับเขาแบบเด็ดขาดก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีในชีวิตหนูที่เกิดขึ้นแล้วกับ 1 ปีที่หนูเจออะไรแบบนี้มา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

19 เม.ย. 2024

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

“คุณแม่เอ (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ได้โทรมาอัพเดทเรื่อง จากกรณีที่ลูกชายตั้งใจเก็บเงินซื้อของเล่น แต่รู้สึกเหมือนโดนโกง พนักงานไม่รับผิดชอบ จนลูกไม่อยากเก็บเงินต่ออีกเลย ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อคืนวันพุธวันที่ 17 เมษายน 67 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร โดย “คุณแม่เอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ได้ของเล่นแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แล้วก็ได้เงินคืน หลังจากที่โทรเข้ามาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร วันรุ่งขึ้นดีเจต้นหอมก็ได้มีการโพสต์ในไอจี ทีแรกแม่ไม่ค่อยเล่นไอจี ส่วนจะใหญ่เล่น Facebook มากกว่า แต่เห็นในเพจ EFM station โพสต์ว่าดีเจต้นหอมทวงถามทางร้านของเล่นให้ แม่ก็เลยเปิดเข้าไอจีไปดู พอวันศุกร์ทางร้านของเล่นก็โทรมา เหมือนทางร้านได้คุยกับดีเจต้นหอมแล้ว ทางร้านก็โทรมาหาแม่ ตอนที่คุยโทรศัพท์จำไม่ได้ว่า เขาแนะนำว่าเป็นผู้จัดการสาขาหรือผู้จัดการ เขาก็ขอโทษ วันนั้นที่โทรเข้าหาทางรายการได้คุยกับดีเจทั้ง 3 คน ก็มีกำลังใจขึ้นมา พอมีกำลังใจขึ้นก็ฮึดสู้ขึ้นอีกรอบหนึ่ง แม่ก็เลยไปแจ้ง สคบ. แล้วก็ส่งข้อความไปทางเพจร้านของเล่นว่า “เราไปแจ้ง สคบ. มาแล้วนะ” เหมือนพนักงานไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ พอวันศุกร์ที่ผู้จัดการโทรมา แม่ก็มีอารมณ์นิดหน่อยก็เลยต่อว่าเขาไป มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผู้จัดการก็รับฟังโดยดีและขอโทษ ผู้จัดการก็รับปากว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าจะได้ของเล่นแน่นอน แต่ว่าเมื่อไหร่จะโทรมาแจ้งอีกที พอวันพุธเขาก็โทรมาแจ้งว่า “ของเข้าแล้วนะคะ สะดวกวันไหน เขาอยากมามอบให้ด้วยตัวเอง จะได้มาขอโทษด้วยตัวเอง” แม่ก็บอกว่าวันพฤหัสบดี บ่าย 2 หลังจากที่โทรมาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร ก็ได้บอกกับลูกว่า “แม่โทรไปนะ” ลูกก็เขินอายนิดหน่อย แล้วลูกก็ไปเปิดฟังย้อนหลัง ลูกก็พูดกับเราว่า “ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้กดดันเรา เขาถามปกติว่าได้หรือยัง” ในใจลูกไม่ได้มีความรู้สึกว่ากดดันแม่หรืออะไร ลูกก็ไม่รู้ตัวว่าการที่ทำแบบนั้นจะทำให้แม่กดดัน ลูกก็ขอโทษ หลังจากที่ได้คุยกับทางผู้จัดการร้าน วันนั้นก็บอกกับลูกเลยว่า “เขาโทรมาแล้วนะ เขาคอนเฟิร์มว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าว่าได้แน่นอน” พอลูกได้ฟังตั้งแต่วินาทีนั้นลูกก็ดีใจมาก แล้วลูกก็เริ่มมีโครงการใหม่ อยากได้ตัวนู้นตัวนี้ เขาจะเก็บเงิน เขาก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที แต่รอบนี้ก็สัญญากัน คุยกันว่าเดี๋ยวเราจะไปดูที่สะพานเหล็ก ดูหลาย ๆ ร้าน แล้วแม่ก็จะช่วยดู เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก วันที่ไปรับของ พูดได้เลยว่าโอเคมาก จากที่ได้พูดคุยกับทางร้าน เขาขอโทษ ก็คือไม่ติดใจอะไร แล้วผู้จัดการก็อธิบายว่ามันเป็นของที่ส่งมาจากต่างประเทศ ต้องใช้เวลา แต่จริง ๆ ถ้าทางร้านของเล่นบอกแม่ว่าในกระบวนการนี้ มันเป็นแบบนี้ว่าต้องรอ แม่ก็รอได้ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ตอบ ไม่หือ ไม่อือ แต่ถ้าตอบว่ารอก่อน ก็แค่นี้ ผิดพลาดที่การสื่อสาร พอลูกเห็นกล่องก็คือดีใจมาก เป็นกล่องสีน้ำตาล ซึ่งเป็นต้นทางจากบริษัท ลูกชอบมาก ผู้จัดการเขาก็ขอโทษแม่ เขาก็เลยยื่นซองสีขาวให้ แล้วก็บอกว่า “พี่อยากช่วยเป็นกำลังใจให้น้องที่เก็บเงินซื้อ” คือแม่ไม่ได้อยากได้เงิน คือถ้าได้ของก็โอเคจบแค่นั้น แต่ก็รับมาและคิดกันว่า เงินส่วนหนึ่งอาจจะเอาไปให้น้อง ๆ ตามสถานสงเคราะห์ เพราะคุยกับลูก ลูกก็ไม่สบายใจที่จะรับเงินมาเพราะก็ได้ของเล่นแล้ว แม่ก็พูดว่า “เอางี้ไหมล่ะ หนูอยากทำบุญไหม เราก็อาจจะไปทำบุญตรงนั้นตรงนี้” ลูกก็โอเค สุดท้ายอยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ ทั้งทีมงานและดีเจทั้ง 3 คน โดยเฉพาะดีเจต้นหอม แล้วก็ชาวพุธโทรเรี่ยนทุกคน อยากขอบคุณจริง ๆ เพราะแม่ก็เป็นแฟนคลับรายการพุธทอล์ค พุธโทร มาตั้งแต่เรื่องคุณอั๋นที่เป็นมะเร็ง พอฟังแล้วรู้สึกว่ารายการนี้ดี ก็ฟังย้อนหลังแล้วก็ฟังมาตลอด ลูกก็อยากขอบคุณดีเจต้นหอมมาก ๆ แต่ลูกฝากขอบคุณ เพราะลูกไม่กล้าพูดเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ครอบครัวแฟนทุกคนเรียนหมอ แต่แฟนหนูสอบติดเภสัช ครอบครัวกดดันให้สอบหมอใหม่ทุกปี แฟนหนูเครียดจนร้องไห้ พีคสุดวันรวมญาติ มีคนเล่าข่าว นศ.แพทย์เรียนไม่ไหวกระโดดตึกเสียชีวิต ปู่แฟนได้ยินแล้วพูดว่า "สมควรแล้ว เรียนแค่นี้ทำไมไม่ไหว" แฟนได้ยินแบบนี้ยิ่งกดดัน

12 เม.ย. 2024

ครอบครัวแฟนทุกคนเรียนหมอ แต่แฟนหนูสอบติดเภสัช ครอบครัวกดดันให้สอบหมอใหม่ทุกปี แฟนหนูเครียดจนร้องไห้ พีคสุดวันรวมญาติ มีคนเล่าข่าว นศ.แพทย์เรียนไม่ไหวกระโดดตึกเสียชีวิต ปู่แฟนได้ยินแล้วพูดว่า "สมควรแล้ว เรียนแค่นี้ทำไมไม่ไหว" แฟนได้ยินแบบนี้ยิ่งกดดัน

“คุณฟิล์ม(นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [10 เมษายน 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย นภาพร เกี่ยวกับครอบครัวแฟนกดดันให้แฟนเป็นหมอ... โดย “คุณฟิล์ม(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องของแฟน พอดีที่บ้านแฟนกดดันให้เป็นหมอตลอดเวลา ต้องบอกก่อนว่าครอบครัวแฟนเป็นครอบครัวคนจีนและญาติพี่น้องก็เป็นหมอกันหมด ยกเว้นพ่อแฟน แฟนเล่าให้ฟังว่าตอนเด็ก ๆ พ่อแม่บอกตลอดว่า “เป็นหมอดีที่สุด” จนตอนนี้แฟนอายุได้ 20 ปี ปัจจุบันก็เรียนคณะเภสัช แต่หนูรู้สึกว่าพ่อกับแม่ก็ยังไม่พอใจ เขาให้แฟนสอบหมอทุกปี จนตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว พ่อแม่ก็ยังให้สอบอยู่ มีอยู่ช่วงหนึ่งแฟนเปิดใจคุยกับพ่อแม่แบบจริงจังว่า “ไม่ไหวแล้ว” ร้องไห้ ไม่สมัครสอบหมอแล้ว แต่พ่อกับแม่ก็จะโทรตามให้คนใกล้ชิดมาช่วยดูแลให้หน่อย ล่าสุดแฟนได้ไปทานข้าวกับครอบครัว แล้วก็มีคนในรถพูดขึ้นมาว่า “เหมือนมีรุ่นพี่นักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง กระโดดตึกตาย” คุณปู่ก็พูดว่า “ถ้าเรื่องแค่นี้เรียนไม่ได้ ก็สมควรแล้วล่ะ” มันเลยทำให้แฟนมีความรู้สึกกดดันในระดับนึง จึงอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจว่า ถ้าพวกพี่ ๆ อยู่ในสถานการณ์เดียวกับแฟนหนู ควรทำยังไงดี? แล้วในฐานะที่เราเป็นแฟนเราควรที่จะให้กำลังใจแฟนยังไง? ให้เขาไม่เครียด ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ก็เคยโดนเหมือนกัน แต่พี่ก็ไม่ยอมให้ใครมาบงการชีวิต พ่อกับแม่พี่พยายามโน้มน้าวใจให้เรียนนิติศาสตร์ แล้วอยากได้อะไรก็บอกมาเลย แต่ก็ไม่มีอะไรมาโน้มน้าวใจพี่ได้ จนสุดท้ายพ่อแม่ก็ปล่อย เท่าที่พี่ได้สัมภาษณ์เภสัชในรายการใต้โต๊ะทำงาน พี่รู้สึกว่าอาชีพเภสัชเป็นอาชีพที่ขาดแคลนมาก ๆ โดยเฉพาะเภสัชที่ไปประจำอยู่ร้านขายยาใหญ่ ๆ ถ้าเรียนจบมาก็จะได้เงินเดือนทันทีเลย ซึ่งมันก็เป็นอาชีพที่สร้างรายได้มากมาย และเอาตรง ๆ คือสบายกว่าหมอเยอะมาก แค่ต้องต่อสู้กับความเบื่อในการเฝ้าร้าน ซึ่งแต่ละอาชีพมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน พี่ก็จะพยายามบอกพ่อแม่ว่า “รอให้เรียนจบก่อน แล้วเดี๋ยวจะทำให้ดูว่าอาชีพเภสัชสามารถเลี้ยงครอบครัวเราได้ขนาดไหน” จะไปประจำร้านขายยาหรือเปิดเองก็ได้ พ่อก็ไม่ได้เป็นหมดเหมือนกัน อย่าเอาความผิดหวังของตัวเองมากดดันลูกซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน พี่ว่าต้องอดทนและพิสูจน์ตัวเองตอนเรียนจบ ส่วนฟิล์มก็ให้กำลังใจแฟนเยอะ ๆ อย่าไปใส่ใจ ผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้ บางทีเขาก็อยู่ในชุดความคิดเดิม’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าเปลี่ยนชุดความคิดของครอบครัวไม่ได้ พี่ว่าถ้าแฟนยังใช้เงินของพ่อแม่ส่งเสียตัวเองเรียน ยังต้องอยู่บ้านพ่อแม่อยู่ก็อดทนเรียนให้จบก่อน จนกว่าจะทำงานหาเงินเองได้ ถ้าเป็นพี่ ถ้าพ่อแม่ให้สอบก็จะไปสอบทุกปี แต่ก็ไม่ติดสักปี เข้าไปกามั่ว ๆ เพื่อให้จะได้ไม่ต้องพูดว่า ไม่ไปสอบ แล้วพ่อกับแม่จะให้ทำยังไงในเมื่อสอบไม่ติดจนเรียนจบเภสัช ก็ลองดูว่าพ่อกับแม่จะเป็นยัง สำหรับฟิล์มคือต้องให้กำลังใจอย่างเดียวเลย วันรวมญาติพอแฟนกลับมาฟิล์มต้องรู้เลย ฟิล์มต้องเป็นที่พื้นที่ปลอดภัยของแฟน และฟิล์มก็ต้องอดทน เข้าใจเขา ไม่ทางออกนอกจากจะอดทน’ สุดท้าย “ดีเจอ้อย” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เราจะไปเปลี่ยนความคิดของพ่อกับแม่ก็ยาก ถ้าเราจะทำตามความคิดของพ่อแม่ทุกอย่างก็ไม่ได้ และคิดดูว่าถ้าไปสอบหมอใหม่เรื่อย ๆ การสอบได้หรือไม่ได้ จากปี 2 เริ่มไปเป็นเฟรชชีเราก็กำลังไปนั่งทบสิทธิของคนอื่น มันไม่ใช่แค่การสอบติดหมอแล้วจบ ถ้าเรียนหมอเพียงแค่พยายามอยากเป็นหมอ พอเรียนจบก็เป็นหมอที่คุณภาพไม่ดีมา 1 คน กับการที่จะต้องเสียเภสัชฝีมือดีไป 1 คน มันไม่คุ้มค่าการลงทุน แต่ทั้งหมดที่พี่พูดมาก็ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องเอาไปอธิบายให้กับพ่อแม่ฟัง เพราะเขาก็แค่คิดว่าแล้วทำไมไม่เป็นหมอ อย่างวันร่วมญาติมีคำถามเยอะแยะมากมาย ซึ่งอธิบายยังไงเขาก็ไม่ฟัง เพียงแค่ถ้าเราไปรู้สึกกับประโยคแบบนั้นเราก็ยิ่งจะกดดันตัวเอง ถ้ามั่นใจว่าเภสัชปี 2 ที่กำลังปีนชั้นขึ้นไป เรียนจบเภสัช 6 ปี และมาเป็นบุคลากรที่มีคุณค่า กล้าที่จะเลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบ กล้าที่จะเป็นสิ่งนั้นให้ดีที่สุดตามกำลังความสามารถของตัวเอง ฟิล์มเป็นกำลังใจให้แฟนได้ บอกกับแฟนเลย “มีคนอยากเป็นเภสัชเยอะแยะ เมื่อสอบได้ ต้องใช้สิทธินี้แทนคนอื่น ไม่ใช่สละสิทธิเมื่อตอนสอบหมอได้” ในวันหนึ่งเราต้องเดินหน้าตามความฝันของตัวเองให้ชัดเจน และคำถามของคนใด ๆ ไม่สามารถทำอะไรเราได้ ถ้าเราไม่ได้รู้กับคำถามเหล่านั้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

12 เม.ย. 2024

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย นภาพร’ เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนหวงห้ามเล่นสงกรานต์ โดย ​“คุณน้ำ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนไม่ให้หนูไปเล่นน้ำสงกรานต์ เขาให้เหตุผลว่า ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะโดนปะแป้ง โดนลวนลามมากกว่าผู้ชาย เขาเป็นแฟนหนูเขาจะไม่ยุ่งเรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าตัวหนูเป็นผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเขาเลยไม่ให้หนูไป แต่เขาออกไปเล่นได้ เขาไม่พาหนูไปด้วยเพราะว่าอยู่ไกลกันก็เลยไม่ได้เล่นน้ำด้วยกัน เขาเป็นคนหวงหนูมาก ชอบห้ามหนูในสิ่งที่เป็นตัวหนู เช่น เรื่องการแต่งตัว เรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะห้ามนู่นห้ามนี่ หนูก็รู้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic แต่หนูก็รักเขาเลยยังอยู่ หนูกับเขาอายุ 22 ปีเท่ากัน คบกันมาประมาณปีกว่า ๆ ถ้ารวมคุยด้วย สิ่งที่เขาห้ามมีเรื่องแต่งตัว แล้วก็ถ้าไปร้านเหล้าก็ห้ามเต้นกับเพื่อน ให้นั่งเฉย ๆ ต้องใส่เสื้อยืดเท่านั้น กางเกงขาสั้น บางทีก็ให้ใส่กางเกงบอล ชุดนักศึกษาหนูใส่ได้แค่ทรงพลีท ไม่สามารถใส่ทรงเอได้เลย แต่เรื่องที่กำลังเป็นปัญหาในตอนนี้คือ เรื่องเล่นน้ำสงกรานต์ หนูแค่ไม่เข้าใจว่าเขาไปเล่นได้ ทำไมหนูถึงไปเล่นไม่ได้ หรือว่าถ้าเขาไม่ให้หนูเล่น เขาก็ไม่ควรออก เพราะคนที่นอนอยู่บ้านรู้สึกกังวล เป็นห่วงเขา หนูอยากออกไปสักแค่วันนึง แต่หนูไม่ได้อยากไปสาดน้ำ แค่อยากออกไปเจอเพื่อนเฉย ๆ เวลาหนูโดนเขาห้ามเยอะ หนูก็เลยพูดกับเขาว่า เนี่ย ถ้าเกิดเธอมาห้ามในสิ่งที่เราชอบ งั้นเราก็ห้ามเธอไปร้านเหล้าเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า ได้ แต่สุดท้ายก็มีไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยเท่าเดิม ล่าสุดหนูพยายามไกล่เกลี่ยขอเขาว่า ขอให้เขาเล่นน้ำแค่ 2 วันได้ไหม เขาก็บอกว่า ไม่ได้เลย ทีนี้ก็ทะเลาะกันหนักมาก เพราะว่าหนูก็ขอเขา เขาไม่ยอม เถียงกันไปเถียงกันมาก็บอกเลิกหนูเลย พอเขาบอกเลิกหนูก็ง้อ หนูรู้สึกว่าไม่ควรบอกเลิกเพราะเรื่องแค่นี้ หนูก็เลยพยายามง้อเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยจะคุยกับหนูเท่าไหร่ ค่อย ๆ เฟดตัวออกไป แต่หนูก็พยายามทำตัวดี ๆ ก็บอกเขาว่า โอเค เธอไปเล่นได้เลย เราอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่อยากถามพี่ๆดีเจ คือ มีวิธีไหนบ้างที่จะบอกให้เขาแฟร์ ๆ กับเรา หรือวิธีพูดให้เขาเปลี่ยนความคิดสักนิดนึงได้ไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนลักษณะนี้ ด้วยอายุเท่านี้ พูดไปเขาก็ไม่น่าจะฟังเหตุผลหรอก น้ำก็เคยคุยกันไปแล้วเรื่องสงกรานต์จบที่เลิกกัน พี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันจะมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้คนคนนึงเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกซะจากว่าวันหนึ่งเขาจะอายุมากพอ ความคิดโตพอที่จะแยกแยะได้ ระหว่างความหึงหวงใดใดก็ตามกับความไว้ใจคนของเรา แล้วก็เหมือนใจกว้างมากขึ้น ถ้าหนูพยายามที่จะหาจุดกึ่งกลางกับผู้ชายคนนี้ ณ เวลานี้พี่ว่ายังยากอยู่ ถ้ารักจริง ๆ พร้อมที่จะยอมจริง ๆ ก็อาจจะต้องทนก่อนระยะนี้ แต่พี่คิดว่าเขาไม่น่าจะเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้ ด้วยความที่อายุ 22 ปีเท่ากันอยู่ แล้วหนูก็ไม่อยากให้เขามาเปลี่ยนตัวตนหนู แต่เอาเข้าจริงหนูก็ยอมเขา เพราะฉะนั้นถ้ายังคบกับเขา พี่ว่ายังไงก็ต้องยอมแบบนี้ ให้เอาเหตุผลอะไรไปพูด เดี๋ยวก็เลิกกันอีก เอาเป็นว่าถ้าเขามาฟัง สิ่งเดียวที่พี่พอจะช่วยได้ก็คือ ไอ้หนุ่มเอ้ย พ่อหนุ่ม เมื่อก่อนพี่ก็เป็น แต่เดี๋ยวเราโตขึ้นมันจะค่อย ๆ ใจกว้างขึ้นแหละ แล้วถ้ายิ่งโตขึ้นได้เร็วเมื่อไหร่ แฟนเราก็จะได้หายใจหายคอ แล้วความอึดอัดที่อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ชีวิตจะยิ่งมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรารู้จักปล่อยวางนะไอ้หนุ่มนะ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าก่อนจะไปคุยกับเขา หนูคุยกับตัวเองก่อน ไม่รู้สิเวลาที่คนเรารักกันมันก็ต้องอยากให้เขามีความสุขในการอยู่ข้าง ๆ เรา ไม่ได้แปลว่าอยู่กับฉัน แล้วเธอต้องทำสิ่งสิ่งนั้น สิ่งนี้ นี่มีแฟนไม่ได้เข้าคุก การที่บอกว่าต้องแฟร์กับหนูหน่อย หนูก็ต้องแฟร์กับตัวเองด้วยเหมือนกันว่า เฮ้ย ชีวิตฉัน ฉันอยากมีแฟนแล้วทำให้ฉันมีความสุขในทางของฉันเช่นเดียวกัน และเมื่อไหร่ก็ตามทีที่เขาเองบังคับใด ๆ แล้วน้องก็ทำตามสิ่งที่เขาบังคับมาโดยตลอด อะไรจะเข้าฝันเขาหรอว่า เขาฝันเสร็จปั๊บ พรุ่งนี้ปล่อยให้น้ำเป็นอิสระบ้างดีกว่า สงสารน้ำจังเลย ไม่มีทาง วันนี้พี่ยังเป็นคนที่เชื่อเสมอว่า คนเราอะไรก็ได้ ไม่มีอยู่จริงหรอก ความรักของคนที่เป็นผู้ใหญ่ มันจะไม่ใช่แค่ห้ามทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ พี่ว่านิดนึงน้ำเองก็ดันมีความรู้สึกว่า พี่ แต่เขาก็หวงหนูไงคะ หนูก็เลยรู้สึกว่าการหวงถือว่าเป็นการรักมาก แต่พี่ไม่ได้อยากพูดให้น้องนอยด์นะ พี่เห็นมาเยอะมากว่า ไอ้คนที่หวงแฟนระดับเกินเบอร์ไปมาก ตัวเองทำทุกอย่างเลย แล้วยิ่งถ้าน้องทำตัวเองเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบตัวเขา ยอมเขาอะไรก็ได้ ขนาดเรื่องนี้คนที่ควรโกรธคือเราด้วยซ้ำ น้องกลับกลายเป็นง้อ พี่ว่าคน 2 คนเวลารักกัน เราต้องแคร์ความสุขของกันและกันด้วย ไม่ใช่พยายามบังคับให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเราเองก็ดันพยายามบังคับตัวเองให้เป็นแบบนี้ด้วย อึดอัดก็อึดอัด แต่แสดงออกก็ไม่ได้กลัวเขาไม่รัก พี่รู้สึกว่าหึงนิด ๆ น่ารักนะ แต่หึงมากไปคล้ายดูถูก หึงมากไม่ได้แปลว่ารักมาก แต่แค่อยากเป็นเจ้าของชีวิต พี่เป็นคนที่เชื่อว่าคนรักกันเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิต เขาควรจะรู้ว่าน้ำมีความสุขกับเรื่องนี้ และถ้าเกิดเขาหวงมากก็แค่มาเล่นน้ำกับหนู พาหนูไปด้วย เขาไม่แฟร์กับหนูไม่เท่าหนูไม่แฟร์กับตัวเอง คือรักเขาพี่เข้าใจ แต่การรักเขาไม่ได้แปลว่าต้องยอมทุกสิ่ง จนกระทั่งเบียดบังความสุขของตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะให้พี่พูดอะไรกับแฟนหนู พี่ก็จะบอกเขาว่า ต้องรู้จักที่จะให้เกียรติคนรักมากกว่านี้ สิ่งเดียวที่เขาทำตอนนี้มันมาจากเรื่องเดียวที่พี่รู้สึกคือ เขาไม่ไว้ใจ เหมือนเขาจะตัดสินว่าการที่น้องน้ำแต่งตัวแบบนี้ มันจะทำให้น้องน้ำนอกใจเขา สำหรับพี่รู้สึกว่าแฟนกันมันต้องไม่ทำให้พี่ไม่ชอบตัวเอง เราชอบแต่งตัวแบบนี้ เรามีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้ ซึ่งมันอยู่ในขอบข่ายที่ไม่ได้อนาจาร คนทั่วไปเขาก็แต่งกัน อยู่ ๆ ก็ไม่ให้เราแต่ง น้ำต้องตื่นมาใส่กางเกงบอล ใส่เสื้อตัวใหญ่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ตัวเองไม่ได้ชอบ พี่รู้สึกว่ามันคือคนรักที่เราจะมีความสุขจริง ๆ หรอ คนที่อยู่ด้วยกันแต่ทำให้เราไม่ชอบตัวเองอยู่คนเดียวดีกว่าหรือเปล่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืน เบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุย ตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม

09 เม.ย. 2024

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืน เบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุย ตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม

เดินทางรถทัวร์ช่วงเทศกาล!! หนูนั่งท้ายรถ ตอนเที่ยงคืนเบาะข้างหลังหนู เค้ากำลังทำอะไรกัน หันไปเห็นอีกที ผู้หญิงรวบผมพร้อมลุยตอนแรกไม่คลุมผ้า พอเห็นว่าหนูกับคนข้างๆตื่น เขาก็เอาผ้ามาคลุม เก้าอี้สั่นจนตีสามพอทุกอย่างเสร็จผู้หญิงลงก่อนถึงปลายทาง หนูคิดว่าคงเป็น "รักทางไกล" “คุณสุ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับการแชร์ประสบการณ์เสียวระหว่างทางบนรถทัวร์! วอนสังคมอย่าหาทำ โดย ​“คุณสุ(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา หนูลงไปฉลองที่กรุงเทพกับครอบครัว แล้ววันที่ 2 หนูต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ซึ่งระยะเวลาในการนั่งรถค่อนข้างนาน 8-9 ชั่วโมง หนูก็เลยจองช่วงกลางคืนไว้ แล้วที่นั่งของหนูอยู่ฝั่งซ้ายข้างกระจกเกือบหลังสุด และมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งข้างหนู อีกฝั่งจะเป็นผู้หญิงกับผู้ชายนั่งข้างกระจกอยู่โซนฝั่งขวา ตอนที่หนูขึ้นรถไปครั้งแรก หนูก็พยายามมองว่าเขามีผ้าห่มให้ไหม แล้วพอหนูเห็นว่า ข้าง ๆ ผ้าห่มของเขาผืนหนามาก หนูก็คิดในใจว่าแอร์น่าจะเย็น หนูก็เตรียมของตัวเองมาซึ่งอยู่ในกระเป๋าข้างล่างเท้า ตอนแรกหนูก็ยังไม่ได้เอาผ้าห่มขึ้นมา เพราะนั่งเม้าท์กับพี่ข้าง ๆ ฉ่ำอยู่ พอมันเริ่มดึกเราก็เลยหยุดคุย แล้วก็นอนกัน แล้วเหมือนหนูเริ่มสะดุ้งตื่นเพราะแอร์เย็นเลยจะก้มลงไปหยิบผ้าห่มใต้เท้า แต่ว่าหนูได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบมาจากฝั่งขวา หนูก็หาที่มาของเสียงว่ามันมาจากไหน หนูหันไปเห็นคู่รักตรงนั้น จังหวะที่ไฟถนนสาดเข้ามา มันชัดมาก คล้องคอนัวฉ่ำ ตอนแรกนอกผ้าห่ม พอเขารู้สึกว่าเริ่มจะเสียงดังกันแล้วก็เลยคลุมผ้าห่ม พอเขาหยุดทำ เขาก็เปลี่ยนจากที่คลุมแค่ตัวมาเป็นคลุมโปง และครั้งนี้เขาทำมากกว่าเดิม ก็คือเขาช่วยผู้หญิง หนูก็ไม่มองและเล่นโทรศัพท์ต่อ พอหนูหันไปอีกทีก็เห็นว่าเขาหยุดทำแล้ว แต่ว่าผู้หญิงกำลังมัดผมอยู่ พอหันไปใหม่เขาก็คลุมโปงทำให้ผู้ชาย หนูก็พิมพ์หาเพื่อนเลยว่าเจอแบบนี้อยู่ เพื่อนก็ไม่เชื่อหนู แล้วหนูก็พิมพ์แชทบอกเพื่อนอีก อันนี้หนูอาจจะเสียมารยาท อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเขา หนูก็ถ่ายรูปให้เพื่อนดู แล้วเพื่อนก็บอกว่า เขาอาจจะอยากเปลี่ยนฟีลหรือเปล่า? แต่ ณ ตอนนั้น หนูรู้สึกอึดอัดมาก คือตอนที่เขามัดผม หนูก็พยายามหันไปดูหน้าเขา เพื่อจะดูว่าเป็นคนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับหนูไหม เพราะว่าส่วนใหญ่ในรถคันนี้จะเป็นนักศึกษาประมาณ 90% เลย จากนั้นหนูก็เริ่มไม่สนใจ แล้วหลับต่อ พอช่วงตี 1 พี่ข้าง ๆ สะกิดแล้วก็ถามหนูว่า เนี่ย เขาทำอะไรกันไม่รู้ หนูก็บอกว่า หนูเห็นมาสักพักแล้ว พี่เขาตกใจมาก ไม่นอนต่อ แต่หันไปมองฉ่ำเลย แล้วก็เล่นโทรศัพท์ แวะเข้าห้องน้ำบ้าง เปิดแฟลชหาของบ้าง คือตื่นมาหันไปเมื่อไหร่ก็เจอเขาทำกันทั้งคืน จนช่วงตี 3 ที่หนูตื่นขึ้นมาอีกรอบนึง หนูก็หันไปดูเขายังนัวเนียกันอยู่ เหมือนหนูหันไปได้ยินเสียง ชู่วววว... เขาก็บอกกันเองว่าให้เงียบ หนูก็หันกลับอย่างไวแล้วไม่สนใจ นอนต่อเพราะเริ่มจะเช้า ตื่นมาอีกทีพี่พนักงานก็มาปลุกว่า คุณลูกค้า ใกล้จะลงตรงนี้แล้วนะคะ จังหวะที่พี่พนักงานจะหยิบอาหารจัดเบรคไปให้ฝั่งนู้น หนูก็เห็นว่าผ้าห่มมันคลุมโปงอยู่ พี่พนักงานก็เรียก 2-3 ครั้งไม่ตื่นสักที พี่ข้าง ๆ ก็ช่วยเรียกจนเขาตื่น พอตื่นเขาก็ลนกัน ตอนลงรถหนูก็หันไปมีผู้หญิงลงมากับหนูแค่คนเดียว นั่นแสดงว่ารักทางไกลละ แล้วหนูก็รอจังหวะที่ลงไปเอากระเป๋าข้างล่าง พยายามเล็งดูว่าเป็นคนที่หนูรู้จักหรือเปล่า แต่ดูแล้วก็ไม่รู้จัก หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า เสาร์นี้หนูจะต้องเดินทางกลับไปอีก ถ้าหนูเจอต้องทำตัวยังไงดี? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็หลับ พี่ไม่เคยขึ้นรถทัวร์บ่อย ก็เลยไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยไหม แต่ก็ไม่น่า ถ้าตามสามัญสำนึก ซึ่งต่อให้เขาอะไร เราก็หันซ้ายออกกระจกไป คราวหน้านะสุตะแคงซ้ายแล้วข่มตาหลับไป’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘คงไม่เจอหรอก ถ้าเจอสุต้องไปวัดแล้วแหละพี่ว่า ถ้าอยากจะเตือนเขาก็อาจจะแจ้งพนักงาน’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาไปถ้าเดินทางคนเดียว พี่ว่าสิ่งตรงนี้ไม่ควรระวัง แต่สิ่งที่น่าระวังคืออย่างที่พี่เจอ ผู้ชายนั่งข้าง ๆ แล้วลวนลาม อันนั้นน่ากลัวกว่า เพราะมันเดินทางยาว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เพื่อนรักของหนูมีนิสัยชอบ กินข้าวต่อหนู บางทีหนูก็ไม่ชอบให้ใครมาแย่ง แล้วที่ผ่านๆมาจะมีผู้ชายหล่อ หน้าตาดี โปรไฟล์ดีๆเข้าหาหนูเยอะมาก เพื่อนบอก "ถ้าคนนี้มึงเลิกคุย กุขอได้ไหม?" ตอนแรกคิดว่าพูดเล่น...

09 เม.ย. 2024

เพื่อนรักของหนูมีนิสัยชอบ กินข้าวต่อหนู บางทีหนูก็ไม่ชอบให้ใครมาแย่ง แล้วที่ผ่านๆมาจะมีผู้ชายหล่อ หน้าตาดี โปรไฟล์ดีๆเข้าหาหนูเยอะมาก เพื่อนบอก "ถ้าคนนี้มึงเลิกคุย กุขอได้ไหม?" ตอนแรกคิดว่าพูดเล่น...

เพื่อนรักของหนูมีนิสัยชอบ กินข้าวต่อหนู บางทีหนูก็ไม่ชอบให้ใครมาแย่งแล้วที่ผ่านๆมาจะมีผู้ชายหล่อ หน้าตาดี โปรไฟล์ดีๆเข้าหาหนูเยอะมากเพื่อนบอก "ถ้าคนนี้มึงเลิกคุย กุขอได้ไหม?" ตอนแรกคิดว่าพูดเล่นแต่คนคุยเก่าของหนูแคปแชทเพื่อนมาให้ดูว่าเพื่อนหนูทักมาหาจริงๆ “คุณคะนิ้ง(นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนชอบกินของเหลือ ตั้งแต่ข้าว ขนม ไปจนถึงผู้ชาย! โดย ​“คุณคะนิ้ง(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘หนูมีเพื่อนสนิท 1 คน นามสมมุติว่า ​“บี” ในแก๊งจะมี 4 คน แต่หนูสนิทกับบีที่สุด เรา 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกันแต่เราจะแตกต่างกันมาก ๆ บีจะเป็นคนติดเที่ยว ติดร้านเหล้า แต่หนูจะเป็นคนไม่ชอบไปไหน ชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน สมัยมัธยมบีจะมีนิสัยนึงที่หนูรู้สึกว่าไม่โอเคเลยก็คือ เขาชอบมาแย่งข้าวหนูกิน ถ้าเป็นขนมแบบชิ้น ๆ เรายังจะแชร์กันได้ แต่บางทีมันเป็นข้าวในจานที่หนูทำมาจากห้อง พอเปิดกล่องมาปุ๊บ บีก็หันมาแล้วก็พูดว่า ขอกินบ้างดิคำนึง ซึ่งหนูยังไม่ได้กินเลย หนูก็เลยพูดอ้อม ๆ ไปว่า เออเนี่ย ความจริงกูอะไม่ชอบให้ใครมาแย่งข้าวกูกินนะ ค่อนข้างจะซีเรียส แต่เขาก็ไม่หยุด หนูก็ยอมเขา จนเราจบ ม.6 กันทั้งคู่ แล้วแยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่น นาน ๆ ทีก็จะเจอกัน คราวนี้มันเป็นผลพวงต่อมาอีกเรื่องนึงคือ ด้วยความที่ตัวหนูเองมีคนเข้ามาเยอะมาก ๆ แล้วบีก็จะรู้ว่าหนูคุยกับใคร คบกับใคร รู้ตั้งแต่คุยยันเลิกคุย จะรู้กันทุกอย่าง ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาหาหนูโปรไฟล์ดีมาก บางคนก็หล่อ บางคนก็รวย บางคนก็ทั้งหล่อทั้งรวย บีก็จะพูดเสมอว่า หาให้บ้างได้ไหม อยากได้อะไรแบบนี้บ้าง กูเป็นเพื่อนมึง ทำไมกูไม่เคยได้อะไรแบบนี้เข้ามาบ้างเลย หนูก็เลยบอกว่า โอเค เดี๋ยวหาให้ละกัน คราวนี้มันมาถึงจุดที่เริ่มจะแตกหักคือ หนูได้ไปนัดเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วบีก็ขอไปด้วย พอไปเจอคนคุยหนู บีก็มากระซิบข้างหูว่า ถ้าคนนี้มึงเลิกคุย กูขอได้ไหม? หนูก็คิดว่าบีคงพูดเล่นแหละ คงไม่มีเพื่อนคนไหนอยากทำแบบนี้หรอก พอหนูเลิกคุยกันคนนี้ คุยกับคนที่ 2 ก็นัดเจออีก บีก็เหมือนเดิมไปด้วยแล้วพูดว่า อุ้ย คนนี้หล่ออะ ถ้ามึงเลิกคุยกูขอได้ไหมเนี่ย หล่อจริง ๆ หนูก็คิดว่าเพื่อนหยอกเล่น จนผ่านไป 3-4 คน หนูก็ไม่ได้อะไร ด้วยความที่หนูเป็นคนเชื่อใจเพื่อน พอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำ ๆ หนูก็มีพูดบ้างประปรายว่า มึงบ้าป่ะเนี่ย คือคุยต่อกูเนี่ยนะ บีก็ขำ จนมีวันหนึ่งคนคุยเก่าหนู เขาโทรมาแล้วส่งหลักฐานแชทมาว่า นิ้ง เพื่อนนิ้งทักมาหาพี่ เขามาขอคุยกับพี่นะ คือพี่ไม่รู้จะพูดยังไงดี พี่ก็ไม่อยากจะพูดทำร้ายจิตใจเขา อยากให้นิ้งจัดการคนของนิ้งเองนะ พี่อยากให้คุยกันเองเพราะเป็นเพื่อนกัน หนูก็ไปคุยกับเขาว่า มึงไปทักหาพี่เขาหรอ? เขาก็พูดว่า กูแค่ไปเต๊าะเล่น ๆ ก็ไม่มีอะไร หนูก็ไม่พอใจแหละแต่หนูก็ไม่ได้พูดอะไร หนูอยากรู้ว่า หนูควรจะพูดกับเพื่อนคนนี้ยังไง? ตอนนี้หนูยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ในอนาคตหนูอาจจะเลิกเป็นเพื่อนกัน หนูก็แค่อยากบอกให้เขาแก้นิสัยนี้แบบถาวร ไม่อยากให้เอานิสัยนี้ไปทำกับคนอื่นเพิ่ม ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่ต้องไปพูด เลิกคบก็คือเลิกคบ แต่ถ้าเพื่อนมาถามว่า ทำไมถึงเลิกคบ ก็บอกเหตุผลไปเลยว่า กูไม่ชอบมึงเรื่องนี้ กูก็เลยคิดว่ามึงกับกูอาจจะคนละเคมี ก็เลยเฟดแค่นั้น ส่วนเขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาเพราะเลิกคบแล้ว’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘คือถามว่าสิ่งที่เพื่อนนิ้งทำ ที่เพื่อนบอกว่าถ้าไม่เป็นแฟนกันแล้ว ขอต่อนะ พี่รู้สึกว่าในบางคนที่เขาโอเคมันก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา แต่ตอนนี้มันเป็นปัญหาสำหรับนิ้ง เพราะนิ้งไม่ชอบคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ อันนี้มองแบบใจกว้าง พี่ก็รู้สึกว่าถ้านิ้งไม่ชอบเรื่องนี้ ก็ต้องบอกเขาให้ชัด เรื่องแย่งข้าวกินพี่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพื่อนที่สนิทกันจริง ๆ กินได้ไม่ติด ไม่ได้รู้สึกว่า 3 คำทำให้ชีวิตมีปัญหานะ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าเขาไม่ได้กินของหนูจนหมด พี่ว่าหนูเป็นคนหวงของด้วยแหละ ตอนนี้พี่รู้สึกว่าเหมือนนิ้งตัดสินเพื่อนโดยการเอาตัวเองเลือกเขา บางอย่างถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันมันต้องพูดกันตรง ๆ แล้วถ้าเขาไม่ทำ ก็บอกไปว่า ไม่ได้ ไม่ชอบแบบนี้ เราก็มีสิทธิ์ที่จะเลิกคบกับเขาได้ ก็ไม่ได้มีปัญหา นิ้งอย่าบอกว่า หนูไม่อยากเลิกคบใครก่อน หนูไม่อยากทำใครหล่นหาย พี่ว่าถ้าคุยกันแล้วมันไม่โอเค รู้สึกว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับการกินข้าว หรือมายุ่งกับแฟนเก่าเลย ก็ต้องห่างอย่าทนสนิทกัน แล้วยังคงมีเรื่องอย่างนี้อยู่ในใจ พี่ว่ามัน Toxic ทั้งตัวหนูเองแล้วก็เขา แล้วเราก็บอกเขาด้วยความหวังดีแล้ว จากนั้นชีวิตเขาจะเป็นยังไงก็ปล่อยเขาไป เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเขา อย่าหวังดีขนาดนั้น ถ้าสุดท้ายแล้วไม่เกิดประโยชน์อะไร’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคงไม่ใช่เพื่อนสนิทอะไรขนาดนั้น สำหรับมาตรฐานของพี่ ถ้าเพื่อนสนิทมันคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องมาลำบากมากมาย เท่าที่พี่ฟังมาทั้งหมดพี่รู้สึกว่า เราเป็นคนหวงของ หวงทุกอย่างในชีวิต และรู้สึกว่าเราเหนือกว่าเพื่อน แล้วถ้าคนนี้มาคุยต่อคนเดียวกับเรา ฉันถือว่าเธอไม่ควรมาเสมอฉันได้ คนที่คุยกับฉันถ้าไม่หล่อก็รวย ไม่ก็ทั้งหล่อทั้งรวย คำนี้พี่เด้งตัวเองออกมาจากนิ้งเลย เพราะพี่รู้สึกว่านิ้งเหนือกว่าเพื่อน พี่ว่ามันอาจจะไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปเปลี่ยนแปลงชีวิตใครภายใน 1-2 ประโยค กาลเวลาจะค่อย ๆ สอนเขาเองว่า การที่เขาทำแบบนี้กับเพื่อน เพื่อนก็จะหนีเขาไปทีละคน แบบคะนิ้งคนหนึ่งละ ถ้าแก้ไม่หายกาลเวลาก็จะทำให้เขาไม่มีเพื่อนไปเรื่อย ๆ เอง โดยที่นิ้งไม่ต้องไปเป็นผู้เปลี่ยนชีวิตใคร แล้วตอนนี้ในเมื่อชีวิตมันพัดพาให้ห่าง ๆ กันไปแล้ว ถ้าพี่เป็นคะนิ้งก็รู้สึกว่า โชคดีแล้วล่ะ ปล่อยให้เขาได้ไปใช้ชีวิตแบบนี้กับคนอื่น โชคดีของเราแล้วที่เขาออกไปจากชีวิต ถ้ายิ่งเราเป็นคนที่ไม่กล้าตัดความสัมพันธ์กับใครก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ สุดท้ายถ้าเป็นเพื่อนสนิทก็คุยกันได้ แต่พี่ว่ามันเลยเวลาที่จะคุยแล้ว ถ้ามันห่างไปแล้วก็ช่างมัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อังคารคลุมโปง RECAP

ไปเที่ยวเรียวกังเก่า เจอโทรศัพท์สีดำเลยแชะภาพไปหนึ่ง แต่ดันได้ยินเสียงจากปลายสาย ตกใจตัวสั่นหน้าซีด พอเช้าก็รีบกลับทันที ระหว่างทางแวะถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น แต่เพื่อนที่ข้ามถนนไปก่อนพูดประโยคเดียวกับเสียงในโทรศัพท์ จากนั้นก็โดนรถชนเสียชีวิต!

27 เม.ย. 2024

ไปเที่ยวเรียวกังเก่า เจอโทรศัพท์สีดำเลยแชะภาพไปหนึ่ง แต่ดันได้ยินเสียงจากปลายสาย ตกใจตัวสั่นหน้าซีด พอเช้าก็รีบกลับทันที ระหว่างทางแวะถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น แต่เพื่อนที่ข้ามถนนไปก่อนพูดประโยคเดียวกับเสียงในโทรศัพท์ จากนั้นก็โดนรถชนเสียชีวิต!

เรื่องนี้ ‘ต้นกล้า คืนพุธมุดผ้าห่ม’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (23 เมษายน 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘โทรศัพท์สีดำ’ เรื่องราวสุดหลอนนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันได้เลย! เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณต้นกล้าได้ฟังมาจาก ‘มายูมิ’ เธอเป็นนักศึกษา อยู่ปี 3 กำลังจะขึ้นปี 4 ที่มหาลัยแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ช่วงเวลานั้นเองที่เหล่านักศึกษาต้องเตรียมหาบริษัท เพื่อดูว่าควรจะทำงานอะไรต่อไป คนญี่ปุ่นเรียกช่วงนี้ว่า ‘Job Hunting’ หรือ การหางานของเด็กจบใหม่ในญี่ปุ่น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอาจจะไม่ได้มีโอกาสเจอเพื่อนอีกแล้ว มายูมิ จึงบอกกับเพื่อน ๆ ว่า “ไหนๆก็จะไม่ได้เจอกันแล้ว เรานัดกันไปออกทริปดีกว่า” เพื่อนหลายคนต่างก็ตอบรับคำชวนของมายูมิ รวมแล้วทริปนี้มีทั้งชายและหญิงประมาณ 4 - 5 คน ในวันออกทริปได้มีการเช่ารถยนต์ โดยให้เพื่อนที่มีใบขับขี่เป็นคนขับ ระหว่างออกเดินทาง ก็ขับกันไปสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น ทุกอย่างปกติดีจนกระทั่งเหมือนระหว่างที่เดินทางอยู่ๆท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เมื่อไปถึงที่หมายก็พบว่าที่พักเป็น เรียวกังญี่ปุ่น เหมือนโรงแรมญี่ปุ่นเวอร์ชั่นเก่าอยู่บนเขา หนึ่งในกลุ่มเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า “ฮู้ยย เนี่ยสวยเนอะ” มายูมิก็ตอบกลับไปด้วยความกลัวว่า “จะว่าสวยก็สวย จะว่าขนลุกก็ขนลุก ดูเหมือนมีผีเลยอ่ะ ต้องมีแน่ๆเลย” เพื่อนคนเดิมตอบกลับมาว่า “มีผีก็ดีดิ สนุกเลย เราได้เจอผี ถือเป็นโมเม้นต์ร่วมกัน ก่อนจะแยกย้ายไปทำงานไง” ส่วนตัวของมายูมิไม่ชอบเรื่องลี้ลับ จึงเริ่มรู้สึกไม่ดี แต่เพื่อนทุกคนก็ตัดสินใจว่า “เห้ยย เราพักที่นี่แหล่ะ เราจองไว้แล้ว เกิดอะไรก็เกิด” แต่ความรู้สึกของมายูมิบอกแต่แรกแล้วว่า ‘เรียวกังนี้ไม่ควรเข้าไป’ มายูมิรู้สึกไม่ดี ขนลุก อยากกลับ แต่ถ้าบอกเพื่อนไปตรง ๆ เพื่อนก็จะหาว่า “โอ้โห้ ขนาดแขกคนอื่นยังมาพักได้เลย” เมื่อถึงหน้าเรียวกัง ทุกคนก็ลงมาเก็บของ แล้วก็เดินเข้าไปข้างใน โดยมี ‘โอคามิซัง’ พนักงานมาต้องรับ โอคามิซังพูดกับทุกคนว่า “เหนื่อยมั้ยเดี๋ยวพาไปที่ห้องนะ” จากนั้นโอคามิซังก็พาไปแนะนำห้องพัก หลังจากแนะนำห้องพักเสร็จ ก็แนะนำห้องอาบน้ำที่เป็นออนเซ็นเล็ก ๆ โดยแบ่งห้องอาบน้ำชายและหญิงคนละฝั่ง รวมถึงบอกเรื่องเวลาปิดห้องอาบน้ำด้วย สุดท้ายก็ให้กุญแจห้อง และทิ้งท้ายว่า “หากต้องการอะไรให้เรียกโอคามิซังได้เลย” จากนั้นก็ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนตามอัธยาศัย หลังจากโอคามิซังเดินออกไป ทุกคนดูตื่นเต้นกับเรียวกังนี้มาก ต่างดูของตกแต่งในห้อง รวมถึงรูปภาพประดับ หนึ่งคนในกลุ่มก็พูดขึ้นมาว่า “โอ้โห้ดูรูปภาพนี้ดิ่ เราว่ามันจะต้องมีเรื่องราวแน่เลย” พอเอานิ้วไปสัมผัสที่รูปภาพก็มีฝุ่นติดขึ้นมา ทุกอย่างในเรียวกังนี้ดูขลังมาก หลังจากเดินชมเรียวกังเสร็จก็แยกย้ายกันไปพัก แยกห้องชาย-หญิง เมื่อฝั่งผู้ชายวางของเสร็จ ก็เดินมาที่ห้องของผู้หญิง เพื่อชวนกันออกไปถ่ายรูป ทุกคนจึงเดินออกมาข้างหน้า เมื่อได้มุมที่พอใจ ก็ถ่ายรูปกับสิ่งของต่าง ๆ เช่น หมี หน้าประตู แต่มีมุมหนึ่งที่น่าสนใจ เพื่อนผู้ชายบอกกับมายูมิว่า “ลองไปถือโทรศัพท์ตรงนั้นหน่อยสิ” มุมนั้นเป็นกำแพงสีพื้น มีโต๊ะเล็ก ๆ ที่วางสูง ๆ แล้วก็มี ‘โทรศัพท์สีดำ’ วางอยู่บนโต๊ะ และมีเก้าอี้วางไว้อีกหนึ่งตัว เรียกได้ว่าเป็นที่น่าถ่ายรูปมาก มายูมิก็ตอบกลับเพื่อนว่า “จะดีหรอ” สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินไป แล้วพอเดินไปกำลังจะถึง ก็ได้ยินเสียง “กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ มายูมิก็สะดุ้งตกใจ เพื่อนทุกคนก็ถามว่า “เฮ้ยยย เป็นอะไร” มายูมิตอบกลับเพื่อนว่า “ อ๋อโทษที เราสะดุ้งไปนิดนึง” ตอนนั้นมายูมิก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็เดินไปยืนตามที่เพื่อนบอก จากนั้นก็หยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู เพื่อน ๆ ต่างหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป แต่แล้วอยู่ ๆ สีหน้าของมายูมิก็ค่อย ๆ ซีดลงไปเรื่อย ๆ แล้วก็วางโทรศัพท์ไป มายูมิสั่นไปทั้งตัว เพื่อนทุกคนต่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับมายูมิ และถามว่า “เป็นอะไร หนาวรึป่าว” มายูมิก็ไม่พูดบอกแค่ว่า “จะกลับห้อง” พูดประโยคเดิมวนอยู่ 2 - 3 รอบ เมื่อเห็นท่าไม่ดี ทุกคนจึงกลับมาที่ห้องและนำชาร้อนมาให้มายูมิดื่ม สักพักมายูมิก็ใจเย็นลงจึงเล่าให้เพื่อนฟังว่า “ตอนที่กำลังจะไปยกหูโทรศัพท์ พวกเธอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังใช่มั้ย แล้วปลายสายมันมีคนพูดด้วย” แต่เพื่อนทุกคนตอบเหมือนกันหมดว่า “ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังนะ” ทุกคนคิดว่ามายูมิสะดุ้งเพราะพื้นไม้เรียวกังมันเก่า เพื่อนจึงบอกว่า “เธอได้ยินคนเดียวนะ” มายูมิตอบกลับไปว่า “หรอ เป็นไปไม่ได้ เราได้ยินจริง ๆ นะ มันดังมาก ๆ” เพื่อนจึงถามต่อว่า “พอเธอยกหูโทรศัพท์เธอได้ยินอะไรจากปลายสาย ทำไมถึงหน้าซีดขนาดนั้น” มายูมิจึงเล่าว่า “เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราได้ยินอะไร เพราะมันแปลกมากเลย เราได้ยินว่า เฮ้ยย ทำไมยืนมองอยู่ตรงนั้น แล้วก็มีเสียง ตึ้มมมมมมมม ดังมากๆ แล้วสายก็ตัดไปเลย เป็นเสียงที่มาจากปลายสายนะ” เพื่อนก็ปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรหรอก” จนกระทั่งคืนนั้น ทุกคนก็นอนหลับฝันดีปกติ มีแค่มายูมิที่นอนฝันร้าย พอตื่นขึ้นมา ผมมายูมิกระเซอะกระเซิง แล้วก็บอกกับเพื่อนว่า “จะกลับ” แล้วก็บอกต่ออีกว่า “ตี 4 แล้ว ตี 4 ครึ่งแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว กลับกันเถอะ” เพื่อนทุกคนก็งง แล้วบอกว่า “จะรีบไปไหน เราจองที่นี่ไว้ 2 คืนนะ ไหนบอกจะมาสร้างความทรงจำดีๆ” มายูมิขอร้องให้เพื่อนกลับ ทุกคนกำลังรู้สึกงัวเงีย เพราะพึ่งตื่นไม่เต็มตา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมกลับตามคำขอร้องของมายูมิ “ยอมกลับก็ได้ แล้วไปหา โรงแรมในเมืองเอา” พอเก็บของขึ้นรถเสร็จระหว่างทางขับรถออกจากเรียวกัง ซึ่งเป็นเส้นทางลงเขา ประจวบเหมาะกับพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี กลายเป็นวิวที่สวยมาก จึงตัดสินใจจอดรถเทียบข้างทาง ฝั่งซ้าย ทุกคนต้องข้ามไปฝั่งขวา เพื่อที่จะได้เห็นวิวหน้าผาสวย ๆ จากนั้นก็ลงจากรถแล้วข้ามถนนไปฝั่งขวา เมื่อถ่ายรูปเสร็จ เพื่อนก็บอกว่า “กลับกันเถอะ” เพื่อนที่เป็นคนขับรถก็วิ่งข้ามถนนกลับไปที่รถ แล้วก็หันมากลับมาตะโกนบอกเพื่อนว่า “เฮ้ยย ทำไมยืนมองอยู่ตรงนั้น” แต่แล้วก็มีรถคันหนึ่งขับวิ่งเข้ามาชนเขา! แล้วมีเสียง “กริ๊งงงงงงง ตึ้มมมมมมม” เพื่อนคนนั้นถูกรถชนตัวกระเด็นทำให้เสียชีวิตทันที! ทุกคนที่อยู่อีกฝั่งต่างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เพราะมันตรงกับสิ่งที่มายูมิได้ยินจากโทรศัพท์สีดำเมื่อคืน! ทุกคนแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น และเกิดคำถามขึ้นในใจว่าโทรศัพท์สีดำเครื่องนั้นมันพยายามจะบอกอะไร? ถ้ากลับไปอีกรอบ แล้วยกหูโทรศัพท์สีดำนั้นขึ้นมาอีกจะมีใครตายอีกหรือไม่..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

ชายคนหนึ่งอยากได้รถคันใหม่ป้ายแดง จึงไปดูฤกษ์ในการรับรถต้องส่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในคืนเดือนดับ!

15 เม.ย. 2024

ชายคนหนึ่งอยากได้รถคันใหม่ป้ายแดง จึงไปดูฤกษ์ในการรับรถต้องส่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในคืนเดือนดับ!

คนขับรถสไลด์ส่งรถป้ายแดงถึงหน้าบ้าน แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของไม่อยู่แล้ว เซลล์ไม่บอกความจริงจนตอนนี้ผ่านไป 4 ปี ยังไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเจ้าของรถคันนั้นตาย! เรื่องนี้ ‘ตั้ม The Shock’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (9 เมษายน 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ป้ายแดง’ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันได้เลย! เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ‘คุณเอ’ (นามสมมติ) ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ให้คุณตั้มได้ฟัง โดยคุณเอเล่าว่า คุณเออยู่ในวงการขายรถ และมีเพื่อนรุ่นพี่อยู่คนหนึ่ง มีอาชีพเป็นเซลล์ขายรถ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว โดยมีพี่ผู้ชายคนหนึ่ง นามสมมติว่า ‘คุณโจ้’ สนใจรถป้ายแดง คุณโจ้จึงคุยกับทางเซลล์เพราะอยากได้รถคันนี้ แต่มีข้อแม้ว่าชื่อของตัวเองไม่สามารถที่จะนำไปซื้อรถได้ เพราะเครดิตไม่ดี จึงขออนุญาตใช้ชื่อญาติแทน แล้วจะมาเคลียร์ให้ หลังจากคุณโจ้คุยกับเซลล์เสร็จเรียบร้อย ก็นำเอกสารมาให้ตรวจสอบ เมื่อเอกสารผ่านก็ได้โอนเงินส่วนหนึ่งจ่ายดาวน์ให้กับทางเซลล์ จากนั้นเซลล์ก็บอกว่า “เอาล่ะ เดี๋ยวยังไงผมจะจัดส่งรถให้ พี่อยู่ที่ไหน?” คุณโจ้ก็บอกว่า “อยู่ที่จังหวัดตาก” เซลล์ก็บอกว่า “โอเค พร้อมเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมจะนำรถไปส่งให้ แล้วพี่สะดวกช่วงไหน?” คุณโจ้บอกว่า “เดี๋ยวผมขออนุญาตไปดูฤกษ์ก่อน” คุณเอเล่าว่า คุณโจ้เป็นคนที่มีครูบาอาจารย์ ถือฤกษ์ และนับถือเทพ จากนั้นไม่นาน คุณโจ้บอกกับเซลล์ว่า “วันที่ส่งรถ ขอให้ส่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ในคืนเดือนดับ” เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าว ทางเซลล์ก็คุยกับคุณโจ้ หลังจากคุณโจ้ดูฤกษ์เสร็จ 1-2 วันก็โทรกลับมาบอกว่า “เอาเป็นว่าอีกสัก 2 อาทิตย์ คุณส่งรถมาได้เลยที่จังหวัดตาก” หลังจากช่วงเวลานี้ผ่านไป เซลล์ก็ได้มีการติดต่อกับทีมรถสไลด์ว่า “เดี๋ยวจะให้รถสไลด์ เอารถไปส่งที่จังหวัดตากหน่อยละกัน” ทางเซลล์ก็ส่งโลเคชันให้กับคนขับรถสไลด์ ผ่านไปได้สักพักประมาณอีก 3 วันจะถึงวันส่งรถ เซลล์ก็โทรไปหาคุณโจ้แล้วแจ้งว่า “พี่ครับ เดี๋ยวผมจะให้ทีมของรถสไลด์เนี่ย ไปส่งยังพื้นที่ที่พี่อยู่นะ แต่ว่าในวันนั้น ยังไงให้พี่สแตนบายสักนิดนึง เพราะว่าไปถึงที่นั่นน่าจะดึก แล้วก็น้องที่ขับรถสไลด์ไม่คุ้นทาง ยังไงพี่รอรับโทรศัพท์ด้วย” เวลาผ่านไปจนถึงวันที่มอบรถ ทางเซลล์ก็ส่งรถให้กับคนขับรถสไลด์ เพื่อขับไปส่งให้กับลูกค้า ซึ่งเส้นทางจะค่อนข้างไกล ระยะเวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงกว่า คนขับรถสไลด์ก็ขับรถไปคนเดียว จังหวะที่ขับไปนั้น จะมีเส้นทางที่ขึ้นเขา ปรากฏว่าใกล้จะถึงจุดนัดหมายในโลเคชัน คนขับรถสไลด์ก็โทรไปหาคุณโจ้ สายแรกโทรไม่ติด เขาจึงขับรถต่อไปเรื่อย ๆ และโทรครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพราะอยู่บนเขา จึงขับรถไปจอดพักข้างทาง เมื่อดูจากเวลาประมาณตี 3 กว่า คนขับรถสไลด์คิดว่าจะส่งรถให้คุณโจ้ไม่เกินตี 4 สักพักก็คิดว่า “ขับไปใกล้ ๆ ละกัน แล้วไว้โทรไปอีกที” คนขับรถสไลด์ก็ขับรถต่อและโทรไปเป็นครั้งที่ 4 ครั้งนี้มีคนรับสาย ทางคนขับรถสไลด์ก็บอกว่า “พี่ครับ พี่อยู่ตรงจุดโลเคชันนี้ใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมจะขับรถขึ้นไปส่งให้แล้วนะครับ” ปลายสายบอกว่า “ครับ ๆ” พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ และตอบแต่คำว่าครับ จนกระทั่งวางสายไป คนขับรถสไลด์ก็ขับรถจนไปถึงบ้านของคุณโจ้ เมื่อไปถึงจุดนี้คนขับรถสไลด์ก็มองไปรอบ ๆ เพราะว่าบ้านของคุณโจ้มืดสนิท ทุกอย่างดูแปลกตรงที่ว่า ถ้าเป็นบ้านของคนที่สั่งรถต้องเปิดไฟ แต่ที่นี่กลับมืดหมด คนขับรถสไลด์ขับเข้าไปบริเวณหน้าบ้าน ลักษณะของบ้านเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ด้านข้างจะมีโรงรถ คนขับรถสไลด์ก็เดินไปสำรวจซึ่งมืดมาก ในขณะที่เอาไฟฉายส่องอยู่ ๆ ก็ไปเจอกับคุณโจ้เดินออกมาจากชั้น 2 แล้วกวักมือเรียก คนขับรถสไลด์ก็คิดว่าถูกบ้านแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทักเรื่องของไฟในบ้าน เมื่อจอดรถเสร็จคุณโจ้ก็เดินลงมา คนขับรถสไลด์ก็เอาเอกสารให้เซ็น และถามคุณโจ้ว่า “พี่ครับ เอาลงตรงนี้เลยไหม ถ้าลงตรงนี้ พี่มีถือเคล็ดไหม เอามะนาวให้ล้อรถเหยียบก่อนไหม?” ซึ่งการออกรถป้ายแดงทริคอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าเกิดคนที่ถือเคล็ด เอามะนาวไปให้ล้อเหยียบ จะทำให้ล้อของรถคันนั้นยึดเหนี่ยวกับถนนได้เป็นอย่างดี จะไม่ทำให้ก่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งทางคนขับรถสไลด์ก็แนะนำไป แต่คุณโจ้ก็บอกว่า “ไม่เป็นไรครับ เอาลงเลย” พูดด้วยเสียงช้า ๆ หลังจากที่นำรถลงมาเสร็จแล้ว คุณโจ้ก็กวักมือให้คนขับรถสไลด์ขับรถเข้าไปจอดในโรงรถ คนขับรถสไลด์ก็สงสัยว่า “ทำไมสั่งรถมาทั้งที ถ้าเป็นเจ้าของก็น่าจะขับรถเข้าไปเอง” คนขับรถสไลด์ก็เลยตัดสินใจเปิดไฟหน้ารถขับเข้าโรงไป แต่สังเกตว่าตอนที่ขับรถเข้าไปนั้น เจ้าของรถไม่มาอยู่ข้างหน้า จะยืนอยู่ข้าง ๆ ตรงมุมมืดตลอด หลังจากที่ขับเข้าไปจอดเสร็จแล้ว คนขับรถสไลด์ก็มีการแนะนำเรื่องรถ พี่เจ้าของรถก็มาเดินดู ลูบ ๆ คลำ ๆ แต่ด้วยความที่ยังสงสัยว่าทำไมไม่เปิดไฟ คนขับรถสไลด์ก็คิดว่า “หรือว่าพี่เขาถือเคล็ด เห็นบอกว่ามีครูบาอาจารย์ หรือต้องรับรถแบบมืด ๆ ก็แปลกดีนะ” หลังจากที่ส่งมอบรถเสร็จ คนขับรถสไลด์กำลังจะกลับ ก็เดินไปบอกคุณโจ้ว่า “พี่ครับ ผมขออนุญาตกลับก่อนนะครับ เพราะว่าอีกไกลกว่าจะถึงกรุงเทพ มันจะสายเดี๋ยวแสงแยงตา ผมไม่ได้นอนด้วย”คุณโจ้ก็พูดว่า “น้องพักที่นี่ก่อนก็ได้นะ เพราะว่าบ้านพี่อยู่บนเขา ถ้าเกิดขับออกไปใกล้ ๆ เช้า หมอกมันเยอะ ถ้าไปบดบังการมองเห็นมันอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ พักก่อนไหมนอนอยู่ที่นี่สักพัก แล้วเช้า ๆ สาย ๆ ค่อยไป เดี๋ยวตอนเช้าพี่จะไปทำบุญ” หลังพูดจบคุณโจ้ก็เดินขึ้นไปบนบ้าน คนขับรถสไลด์ก็คิดในใจว่า ปกติแล้วจะขับแต่ตอนกลางวัน เวลาขับก็จะเผื่อเวลาไว้เพื่อที่จะไปนอนพักข้างทาง 1-2 ชั่วโมง แต่ตอนกลางคืนถ้าเกิดออกไป แล้วจอดนอนข้างทางมันอันตราย เลยตัดสินใจนอนที่นั่น ขณะที่ปรับเอนเบาะนอนในรถ คุณโจ้ก็มาเคาะกระจกแล้วบอกว่า “น้องมากินข้าวกินปลาก่อน กินน้ำก่อนไหม?” คนขับรถสไลด์บอกว่า “ก็ได้ครับ” จากนั้นก็นั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้านแบบมืด ๆ เมื่อกินไปสักพักจนอิ่มท้อง ก็กลับมานั่งในรถแล้วเคลิ้มหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณ 7 โมงก็เห็นว่าบ้านล็อก แต่เห็นรถที่มาส่งยังจอดอยู่ คนขับรถสไลด์ก็สงสัยว่าเขาอาจจะอยู่บนบ้านเลยลงจากรถไปเคาะประตูบ้านเพื่อไปร่ำลา ปรากฏว่าไม่มีใครเปิดประตู จึงคิดว่าคุณโจ้คงออกไปทำบุญเลยตัดสินใจขับรถออกมา ตอนที่ส่งรถเสร็จ การส่งรถตอนเซ็นเอกสารจะต้องมีการถ่ายรูป แต่แปลกที่คุณโจ้ไม่อยากถ่ายรูป พยายามยืนเลี่ยงและไม่สนใจ คนขับรถสไลด์ก็ถ่ายรูปส่งไปทางไลน์ให้กับเซลล์ แต่ด้วยความที่บ้านของลูกค้าไม่มีสัญญาณ รูปที่อยู่ในไลน์เลยค้างส่งไม่สำเร็จ คนขับรถสไลด์ก็คิดว่าออกไปข้างนอกตอนเช้าคงส่งเอง เช้าวันถัดมา เมื่อขับรถออกมาได้สักพักไปถึงจุดที่มีสัญญาณ ปรากฏว่า Message ดังขึ้นถี่มาก คนขับรถสไลด์ก็เลยจอดรถข้างทางแล้วเปิดโทรศัพท์ดู กลายเป็นว่ามีคนโทรมาเป็นเบอร์โทรของเซลล์ คนขับรถสไลด์ก็โทรกลับไปแล้วพูดว่า “ฮัลโหลครับ ผมรถสไลด์ครับพี่ พี่เซลล์มีอะไรครับ?” เซลล์ก็ถามว่า “น้องส่งรถไปหรือยัง?” คนขับรถสไลด์ก็บอกว่า “ส่งแล้วครับพี่” เซลล์ก็บอกว่า “ส่งไปแล้วหรอ? แน่ใจนะว่าส่งไปแล้ว แล้วคนมารับเป็นคนเดียวกันไหมที่ส่งรูปไป” คนขับรถสไลด์บอกว่า “ใช่ครับ คนเดียวกัน ทำไมครับพี่มีอะไร?” เซลล์ตอบกลับมาว่า “เนี่ย เหมือนญาติเขาบอกว่ายังไม่ได้รับรถ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ญาติเขายืนยันว่ายังไม่ได้รับรถนะ น้องส่งแล้วใช่ไหม?” คนขับรถสไลด์ก็ตอบว่า “ส่งแล้วครับพี่ ผมถ่ายรูปไว้ด้วย” จากนั้นก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู ณ ตอนนั้นระบบไลน์ที่ค้างอยู่ เมื่อมีสัญญาณรูปที่จะส่ง ก็ถูกส่งกลับไป พอได้รูปก็ส่งไปให้เซลล์ เซลล์ก็บอกว่า “ก็ส่งแล้วนี่หว่า โอเค ๆ เดี๋ยวสักพักพี่โทรกลับไป” เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เซลล์โทรกลับมาว่า “เออน้อง พี่คุยกับทางด้านญาติแล้วนะ เขาโอเค เขารับรู้แล้วว่ามีคนรับรถ อาจจะคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อย ไม่เป็นไร ยังไงเรากลับมาที่โชว์รูมก่อนนะ จะได้มาเคลียร์เอกสาร ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เราใช้ไป” คนขับรถสไลด์ก็บอกว่า “ได้ครับพี่ ๆ” คนขับรถสไลด์ก็ขับรถกลับโชว์รูม ทางด้านเซลล์หลังจากที่วางสายจากคนขับรถสไลด์ครั้งแรก ก็โทรหาทางญาติแล้วบอกว่า “คุณลูกค้าครับ เป็นญาติกับคนที่รับรถใช่ไหมครับ ทางทีมรถสไลด์ส่งไปแล้วครับ” ญาติก็ถามว่า “ส่งไปที่ไหน?” เซลล์ก็บอกว่า “ส่งไปตามโลเคชันที่ลูกค้าส่งมาที่จังหวัดตาก” เซลล์ก็เลยส่งรูปให้ดูว่าส่งรถถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าญาตินิ่งไปสักพักแล้วถามว่า “มีคนมารับไหม?” เซลล์ก็บอกว่า “น้องบอกมีคนลงมารับครับ คนเดียวกันกับที่สั่ง” ญาติก็พูดว่า “เฮ้ย เป็นไปได้หรอ เพราะว่าคนที่เขารับรถ เขาตายไปแล้ว! ใครลงมารับ มั่นใจหรอ?” เซลล์เองก็อึ้งไม่แพ้กัน แต่ก็ยังยืนยันรูปถ่ายที่คนขับรถสไลด์ส่งมาให้ดู เซลล์ก็ถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้นครับพี่?” ญาติก็เล่าให้ฟังว่า จำวันนั้นได้ใช่ไหมที่คุณไปนัดกับคนที่จังหวัดตากว่าอีก 3 วัน จะส่งรถสไลด์ไป 1 วันหลังจากนั้น พี่คนนั้นเขาขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเกิดอุบัติเหตุแหกโค้งเสียชีวิต! ด้วยความที่ญาติจัดเรื่องงานศพอยู่ก็เกิดความสับสนคิดว่าได้คุยกับเซลล์แล้ว ถ้าไม่ส่งที่จังหวัดตาก ก็ให้มาส่งที่บ้านญาติ แต่กลายเป็นว่าญาติยังไม่ได้คุยกัน ณ คืนนั้นวันที่ส่งรถ ญาติที่โทรหาเซลล์ฝันว่า คุณโจ้มาอยู่ในฝัน แล้วชอบรถป้ายแดงลูบ ๆ คลำ ๆ เดินวนอยู่รอบรถ อย่างมีความสุข ญาติก็เอะใจถึงได้โทรถามเซลล์ เซลล์ก็พูดว่า “จริงหรอครับ แต่ส่งรถไปแล้วนะครับ” ญาติก็บอกว่า “โอเค ไม่เป็นไร เดี๋ยวไว้วันหน้าค่อยแจ้งย้ายรถมาให้ที่ญาติละกัน” หลังจากวางสายไป ทีนี้มาถึงที่โชว์รูม น้องขับรถสไลด์ก็มาคุยกับเซลล์ เซลล์ถามว่า “เป็นไงไปส่งรถ ไปเจออะไรมาบ้าง?” คนขับรถสไลด์ก็พูดว่า “ก็ดีพี่ พี่เขาใจดีมากเลย ให้ผมนอนที่บ้านให้ข้าวให้น้ำกิน แต่เขาแปลกนะพี่ อย่างที่พี่เคยบอกผมว่าเขานับถือเทพ ครูบาอาจารย์อะไรไม่รู้ บ้านเขามืดหมดเลยนะพี่ ผมก็สงสัยว่าทำไมไม่เปิดไฟ ถ่ายรูปเขาก็ไม่เอานะพี่” เซลล์ก็พูดว่า “เออเขาเป็นอย่างนั้นแหละ” แต่ความจริงแล้วเซลล์รู้แต่ไม่บอกคนขับรถสไลด์ว่าเกิดอะไรขึ้น เซลล์ก็บอกว่า “เอาล่ะ ก็ถือว่าพี่เขาใจดีหาข้าวหาน้ำให้กิน ก็ดีแล้ว วันหน้าถ้าเกิดมีงานเดี๋ยวพี่ส่งให้อีกนะ” คนขับรถสไลด์ก็บอกว่า “ขอบคุณมากครับพี่” จากนั้นก็เคลียร์เอกสาร เคลียร์เงิน และคนขับรถสไลด์ก็กลับไป ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้คนขับรถสไลด์ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าของรถคันนั้นตาย!(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เที่ยวบ้านผีสิงแต่ไม่น่ากลัว สุดท้ายเดินไปเจอบ้านผีสิงของจริง วิ่งหนีจนไข้หัวโกร๋น!!

13 เม.ย. 2024

เที่ยวบ้านผีสิงแต่ไม่น่ากลัว สุดท้ายเดินไปเจอบ้านผีสิงของจริง วิ่งหนีจนไข้หัวโกร๋น!!

เรื่องนี้ ‘คุณแรก ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (9 เมษายน 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ เป็นเรื่องราวประสบการณ์วัยเด็กของคุณตาท่านหนึ่ง เกี่ยวกับการไปเที่ยวบ้านผีสิงงานวัด แต่ไม่น่ากลัว จนไปเจอบ้านผีสิงหลังวัด เจ้าของเห็นว่าดึกแล้วจึงให้เข้าฟรี แต่กลับเจอเรื่องราวต่าง ๆ จนจับไข้หัวโกร๋น เรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันเลย คุณแรกเล่าว่าเป็นเรื่องที่ตนเองได้ฟังมาตอนไปล่าท้าผีในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคุณตาท่านหนึ่ง (นามสมมติว่า เพิ่ม) ได้เล่าให้คุณแรกฟังว่า ต้องย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่คุณตายังเป็นเด็ก อายุประมาณ 12 – 13 ปี ได้ไปเที่ยวงานวัดประจำปี ซึ่งสมัยนั้นก็เป็นที่ตั้งหน้าตั้งตารอของเด็ก ๆ มากเพราะจัดครั้งใหญ่แค่ปีละครั้ง ก่อนที่คุณแรกจะเริ่มเล่า ขอแทนคุณตาเพิ่มว่า ‘เด็กชายเพิ่ม’ เริ่มเรื่องต้องย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อน กลุ่มเพื่อน ๆ ของเด็กชายเพิ่ม ต่างตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่จะไปเที่ยวงานวัดประจำปีที่จัดใกล้บ้าน ซึ่งเด็กทั่วไปที่ไปเที่ยวงานวัดก็จะเก็บบ้านผีสิงไว้เป็นไฮไลต์สุดท้ายของงาน ทางด้านผู้ปกครองก็จะจับจองพื้นที่ปูเสื่อรอที่หน้าโรงลิเกแล้วก็จะให้เงินเด็ก ๆ ไปเที่ยวเล่นในงานตามอัธยาศัย ส่วนเด็กชายเพิ่มก็จะไปเที่ยวเล่นเครื่องเล่นกับกลุ่มเพื่อนและก็เก็บไฮไลต์สุดท้ายไว้เป็นการเข้าบ้านผีสิง เด็ก ๆ ต่างความคาดหวังว่าบ้านผีสิงงานวัดต้องน่ากลัวและจะต้องตื่นเต้นมาก ๆ แน่นอน หลังจากที่เล่นเครื่องเล่นพอใจแล้ว เด็กชายเพิ่มกับเพื่อน ๆ จ่ายค่าเข้าบ้านผีสิงและเข้าไปจนกระทั่งออกมา แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะบ้านผีสิงไม่น่ากลัว ข้างในเต็มไปด้วยหุ่นผีปลอม หุ่นผีกระสือก็เป็นการชักลอกให้ตกใจ เด็ก ๆ กลุ่มนี้จึงเดินบ่นกันว่า “ปีนี้ไม่น่ากลัว” และก็มีหนึ่งคนในกลุ่มชวนให้ไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะไปที่หน้าโรงลิเก เด็ก ๆ ก็เดินไปบริเวณข้างหลังวัด ขณะที่กำลังเดินไปห้องน้ำ ก็ได้เดินผ่านสามเณรรูปหนึ่ง เป็นเด็กจ้ำม่ำน่ารักเดินสวนมา ทางด้านเด็กชายเพิ่มก็ได้ถามเณรว่า “คุณเณร ๆ ห้องน้ำไปทางไหนครับ” เณรก็ตอบว่า “เดินตรงไป เลี้ยวซ้ายนะ เดี๋ยวก็เจอห้องน้ำ” เพื่อนในกลุ่มก็ถามเณรอีกว่า “คุณเณรครับ ยังไม่จำวัดเหรอ มันดึกแล้วนะ” เณรก็ตอบว่า “เสียงดังเณรนอนไม่หลับ เลยมาเดินมาดูหน้างาน ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง” พอถามเสร็จก็แยกย้ายกับสามเณรไปคนละทาง ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ข้างหลังวัดติดกับโกศกระดูกและถัดไปก็จะเป็นป่า พอกลุ่มเด็ก ๆ เข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินออกมา เพื่อนในกลุ่มก็หันไปเห็นแสงไฟสว่างที่ถัดออกไปไม่ไกลมากนัก เพื่อนจึงสะกิดให้เพื่อนในกลุ่มดู “เฮ้ย! ดูนั้นดิ” เพื่อนในกลุ่มทั้งหมดก็หันไปดูพร้อมกัน ปรากฏว่าเป็นโต๊ะไม้ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ มีตะเกียงเจ้าพายุวางอยู่บนโต๊ะ แล้วมีคุณลุงแก่ ๆ คนหนึ่ง นั่งอยู่บนโต๊ะพร้อมกับป้ายที่ทำจากกระดาษลัง เขียนด้วยหมึกง่าย ๆ ว่า “บ้านผีสิง” เพื่อน ๆ ทั้งหมดก็แปลกใจ ด้วยความสงสัยเด็กกลุ่มนี้ก็เดินไปที่โต๊ะ แล้วก็ถามกับลุงว่า “อ้าวลุง ตรงนี้มีบ้านผีสิงอีกหรอ” ลุงก็ตอบว่า “ใช่ ลุงมาทุกปีแหละ มาช่วยงานวัด แต่ลุงไม่ได้ไปตั้งที่หน้างานหรอกเพราะว่าลุงไม่มีตังจ่ายค่าที่ หลวงพ่อก็ให้มาตั้งที่ตรงนี้โดยที่ไม่เอาเงิน แต่ลุงก็กำลังจะเก็บแล้ว มันดึก มันเงียบ คงไม่มีคนมาแล้วแหละ” เด็กชายเพิ่มจึงถามคุณลุงไปว่า “แล้วลุงมาตั้งตรงนี้มันมีใครมาเที่ยวด้วยหรอ ไม่เห็นมีผ้าล้อม ไม่เห็นมีเขตรั้วอะไรเลย มันโล่งไปหมด” ลุงก็ตอบว่า “โอ้ย...ของลุงสบาย ๆ เดินตรงไปก็มีผี สนุก ๆ” ทางด้านกลุ่มเพื่อน ๆ ของเด็กชายเพิ่มก็บอกว่า “พวกผมเหลือเงินไม่เยอะ เพราะซื้อขนมกับเล่นเครื่องเล่นที่หน้างานมาแล้ว” คุณลุงก็บอกว่า “ไม่เป็นไร จะเก็บกลับบ้านแล้ว ให้เข้าฟรีแล้วกัน เดินตรงไปเลยนะ” เพื่อน ๆ ก็ดีใจกันว่าจะได้เข้าบ้านผีสิงอีกครั้งโดยไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งบ้านผีสิงแบบนี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะตั้งอยู่หลังวัดเงียบ ๆ ไม่มีคน แล้วเด็ก ๆ ทั้งหมดก็เดินไปตามทางที่คุณลุงบอก เดินตรงไปเรื่อย ๆ ขณะที่กำลังเดินเข้าไปด้านหลังวัด ก็เจอโต๊ะอีกตัวตั้งอยู่ มีตะเกียงตั้งอยู่เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เห็นเป็นคุณน้าอีกคน เด็ก ๆ ก็เดินตามแสงไฟที่ เจอคุณน้ากำลังนั่งปั้นน้ำตาลปั่นอยู่ เด็ก ๆ ก็เข้าไปถามทางว่า “น้า ๆ บ้านผีสิงเห็นคุณลุงเขาชี้มาทางนี้ ไปทางไหน” คุณน้าก็ตอบว่า “เนี้ย เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วแหละ แต่ว่าซื้อน้ำตาลไหมละ น้าปั้นอร่อยนะ ปั้นน้ำตาลสวยด้วย” เด็ก ๆ ก็มองหน้ากัน แล้วพูดว่า “มีเงินไม่เยอะนะ อาจจะไม่พอ” คุณน้าก็ตอบว่า “ไม่เป็นไร ซื้อตัวหนึ่ง น้าแถมให้อีก 2 ตัว” เด็ก ๆ ก็ให้คุณน้าปั้น 3 ตัวละครในไซอิ๋ว มีพระถังซัมจั๋ง ตือโป๊ยก่ายและซึงหงอคง คุณน้าก็เริ่มปั้นแบบชำนาญ ปั้นเร็วและสวยมาก เด็ก ๆ ต่างตกตะลึงในฝีมือการปั้นน้ำตาลของคุณน้า พอปั้นมาถึงตัวสุดท้ายเป็นพระถังซัมจั๋ง คุณน้าที่ปั้นส่วนของตัวเสร็จและกำลังจะปั้นส่วนหัว แต่คุณน้าก็ทำให้พวกเด็ก ๆ ตกใจเพราะแทนที่คุณน้าจะปั้นส่วนหัวเป็นกลม ๆ คุณน้ากลับใช้มือลวงเข้าไปควักลูกตาของตัวเองมาเสียบเป็นหัวพระถังซัมจั๋ง เด็ก ๆ ทุกคนตกใจ พากันวิ่งหนี วิ่งตรงไปข้างหลังที่เป็นเขตป่าและมีโกศกระดูก! จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียก “โยมพี่ ๆ อย่าวิ่ง” เด็ก ๆ ทุกคนก็หยุดและมองหาต้นเสียงว่าดังมาจากทางไหน ซึ่งต้นเสียงได้ยินมาจากบนต้นไม้ เด็ก ๆ ก็แหงนมองขึ้นไปบนต้นไม้ ปรากฏเป็นเณรจ้ำม่ำน่ารักรูปนั้นที่บอกทางไปห้องน้ำ เด็ก ๆ ก็ถามเณรว่า “เณรไปทำอะไรอยู่บนนั้น ลงมา ๆ ก่อน ผีหลอก ๆ” เณรก็ตอบสวนมาว่า “ไม่มีผีหรอกโยมพี่” เด็ก ๆ ก็ยังช่วยกันตะโกนบอกให้เณรลงมาก่อน เพราะอยากอาศัยบารมีผ้าเหลืองของเณรคุ้มกันผี เณรก็บอกว่า “เดี๋ยวลงไป” พอเณรพูดยังไม่ขาดคำ ก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ ซึ่งต้นไม้สูงมาก เด็ก ๆ ตกใจว่าทำไมเณรไม่ปีนลงมา แล้วเณรก็พูดกับเด็ก ๆ ว่า “เณรคงไปกับพวกโยมพี่ไม่ได้หรอก ดูขาเณรสิ” ปรากฏว่าขาของเณรกระดูกส้นออกมา ขาบิด เพราะตกลงมาจากที่สูง แต่ว่าเณรกลับไม่มีอาการเจ็บเลย และเณรก็ยังมองหน้าเด็ก ๆ แล้วก็หัวเราะ เด็ก ๆ ก็ตกใจแล้วก็วิ่งหนีอีก เพราะเริ่มไม่มั่นใจว่าเณรรูปนี้ใช่คนหรือเปล่า แต่ก็ได้ยินเสียงเณรตะโกนไล่หลังมาว่า “โยมพี่อย่าวิ่ง หมาวัดมันดุ” เด็ก ๆ ทั้งหมดแค่หันมามองแล้ววิ่งกันต่อ ปรากฏว่าได้ยินเสียงหมาเห่าและหมาก็กำลังวิ่งออกมาจากมุมมืดที่โกศเก็บกระดูก เป็นหมาดำขนาดใหญ่ เขี้ยวน่ากลัว กำลังวิ่งไล่เด็ก ๆ แต่พอหันไปดูกลับเป็นซากหมาเน่าที่เน่าไปครึ่งตัว ขาหลังห้อย ใช้ขาหน้าวิ่งแต่วิ่งไล่เด็ก ๆ เร็วมาก ทำให้เด็ก ๆ ตัดสินใจวิ่งไปที่หน้าโรงลิเก เด็กทุกคนก็วิ่งไปหาผู้ปกครองของตัวเอง ส่วนเด็กชายเพิ่มวิ่งไปหาแม่แล้วไปบอกแม่ว่า “เจอผีหลอก” แต่แม่ก็ไม่สนใจห่วงดูลิเกที่กำลังสนุก เลยหันดุเด็กชายเพิ่มว่า “อย่าเสียงดัง” ด้วยความที่เด็กชายเพิ่มยังตกใจอยู่ พอมาเจอแม่ดุอีกก็เลยนั่งลงหอบเพราะวิ่งมาจากหลังวัด สายตาก็เริ่มมองไปที่โรงลิเกที่กำลังเป็นฉากที่นางเอกเป็นองค์หญิงออกมาร่ายรำ ร้องลิเก และจะมีพี่เลี้ยงตามมานั่งพับเพียบอยู่ข้างล่าง แต่สิ่งที่ผิดปกติคือ พี่เลี้ยงหันมาจ้องตาเด็กชายเพิ่มแบบไม่กะพริบตา เด็กชายเพิ่มก็จ้องกลับ ปรากฏว่าพี่เลี้ยงที่อยู่บนโรงลิเกค่อย ๆ คลานเข่าลงมา แล้วกระโดดลงมาจากโรงลิเก ด้วยท่าทางการคลาน 4 ขา ด้วยความเร็วผ่านคนที่ดูลิเกจำนวนมาก มาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กชายเพิ่มแล้วก็ยิ้มจ่อหน้า และดวงตาก็ค่อย ๆ ถลนออกมา ยิ้มปากกว้างจนเด็กชายเพิ่มเขย่าแขนแม่แล้วบอกแม่ว่า “แม่! ผีหลอกอยู่ต่อหน้าเลย” แม่ก็ยิ่งดุง้างมือจะตีเด็กชายเพิ่ม “ไปเลยนะ กลับบ้านไปเลยนะ แม่จะดูลิเกอย่ามากวน” เด็กชายเพิ่มก็วิ่งกลับบ้าน เวลาผ่านไปจนตอนเช้า เด็ก ๆ กลุ่มนี้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ เพราะทุกคนเป็นไข้ ไม่สบาย ผู้ปกครองของเด็กทุกคนก็พาไปหาเจ้าอาวาสวัด ไปอาบน้ำมนต์ ไปขอของดีกับหลวงตา ผูกสายสิญจน์ แล้วก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เจอเมื่อคืนให้หลวงตาฟัง หลวงตาก็ถามว่า “ยังเจอกันอยู่หรอ” หลวงตาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังคือ คุณลุงที่มาทำบ้านผีสิงคืออดีตสัปเหร่อ ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ชื่อ ‘ตาพุฒิ’ เสียไปตั้งแต่เจ้าอาวาสยังเป็นพระผู้ช่วย ส่วนคนที่ปั้นน้ำตาลปั้นเขามาทุกปี ตั้งโต๊ะปั้นน้ำตาลข้าง ๆ เวทีรำวง แล้วเกิดเหตุการณ์ที่มีวัยรุ่นแย่งนางรำกันและโยนระเบิด ทำให้โดนลูกหลงเสียชีวิต ส่วนเณรคือ เณรบวชภาคฤดูร้อน ด้วยความซนของเด็ก ไปเล่นน้ำที่สระท้ายวัดกับเด็กวัด ทำให้จมน้ำเสียชีวิต(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เจ้าที่หอใหม่ชอบ-เอ็นดูม้าม่วงสุดๆ เลยมาช่วยส่งเสริมจนมีชื่อเสียง

08 เม.ย. 2024

เจ้าที่หอใหม่ชอบ-เอ็นดูม้าม่วงสุดๆ เลยมาช่วยส่งเสริมจนมีชื่อเสียง

เรื่องนี้ ‘ม้าม่วง PowerpuffGAY’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (2 เมษายน 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการย้ายเข้ามาอยู่ที่หอใหม่ วิญญาณที่หอชอบและเอ็นดู จึงมาช่วยส่งเสริมจนทำให้เริ่มมีชื่อเสียง มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ และวิญญาณไปสื่อสารกับหมอดูว่าอยากให้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน พอเดินไปหากลับเจอวิญญาณอีกตน! เรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันเลย คุณม้าม่วงเกริ่นเรื่องว่า ตนนั้นเช่าคอนโดอยู่กับแฟน แต่จะเช่าห้องพักไว้ เผื่อวันใดวันหนึ่งเลิกกับแฟนก็จะได้ย้ายมาอยู่ ต่อมาก็เลิกกับแฟนจึงย้ายกลับมาอยู่หอที่เช่าไว้ แต่หอห้องนี้ห้องเล็กเกินไป จึงย้ายไปอยู่อีกหอหนึ่ง ส่วนตัวคุณม้าม่วงนั้นชื่นชอบการดูดวงอยู่แล้ว จึงได้ขอให้หมอดูช่วยดูห้องใหม่ให้ด้วย คุณม้าม่วงก็วิดิโอคอลหาหมอดู ให้หมอดูดูทีละห้อง จนไปหยุดที่ห้องหนึ่งอยู่ชั้น 2 หมอดูก็บอกว่าห้องนี้ดี คุณม้าม่วงก็ถูกใจเพราะอยู่แค่ชั้น 2 ไม่ต้องขึ้นลิฟต์ จากนั้นจึงทำสัญญาเช่าห้อง เสร็จก็ได้มีการย้ายเข้ามาอยู่ หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ คุณม้าม่วงก็ไลฟ์สดตามปกติ จากนั้นชื่อเสียงก็ดังขึ้นมา เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้เข้ามาในวงการบันเทิง คุณม้าม่วงอธิบายเพิ่มว่าหอพักมี 8 ชั้น คุณม้าม่วงอยู่ชั้น 2 จึงมักจะใช้วิธีการเดินลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ ซึ่งเป็นบันไดหนีไฟ เปิดไฟสลัวไม่สว่างมาก คุณม้าม่วงก็เดินขึ้นลงประจำ แต่คุณม้าม่วงก็จะมีความรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่าง เวลาที่เดินผ่านหรือเวลาที่มีคนยืนแล้วเราเดินผ่านก็จะมีลมมาสัมผัสร่างกาย ต่อมาคุณม้าม่วงก็ไลฟ์สดตามปกติ จนกระทั่งหมอดูทักมา “พี่หนุ่ม... มีคนชอบพี่หนุ่มมากเลยนะ” (หนุ่ม คือชื่อเดิมของคุณม้าม่วง) คุณม้าม่วงก็ถามกลับไปว่า “ใคร?” หมอดูบอกว่า “เขาอยู่ในห้อง เขาชอบมาดูพี่หนุ่มเวลาไลฟ์สด” และหมอดูยังบอกอีกว่า เขาเป็นแม่นางไม้ที่อยู่ที่นี่ เขามาเพิ่มเสน่ห์ให้ เขาชอบจึงมาส่งเสริม เวลาที่คุณม้าม่วงแต่งหญิง เขายืนดูแล้วก็จะยิ้มมีความสุข คุณม้าม่วงก็ให้หมอดูเปิดกล้องแล้วก็หันกล้องไปรอบ ๆ ถามหมอดูว่า “แม่นางไม้อยู่ตรงไหน?” หมอดูบอกว่า “เขายืนอยู่ข้างโต๊ะที่คุณม้าม่วงไลฟ์สด” คุณม้าม่วงก็พูดลอย ๆ ว่า “ถ้าอยู่ก็อยู่ แต่ก็ส่งเสริมกันนะ” หมอดูบอกกับคุณม้าม่วงอีกว่า “เขาอยากได้เครื่องสำอาง เขาชอบเครื่องสำอาง” คุณม้าม่วงก็ถามว่า “ถ้าซื้อมาแล้วจะต้องเอาไปวางไว้ที่ไหน หรือจะต้องทำยังไงเขาถึงจะได้รับ” หมอดูบอกว่า “ซื้อมาแล้วบริจาคให้กับคนที่เขาไม่มี” บังเอิญวันเดียวกันนั้น คุณม้าม่วงก็ไลฟ์สดตามปกติ จากนั้นก็มีลูกเพจทักมาว่าไม่มีเครื่องสำอาง คุณม้าม่วงจึงทักไปขอที่อยู่แล้วก็ซื้อเครื่องสำอางชุดใหญ่ส่งไปให้ แต่เรื่องที่ส่งของให้น้อง คุณม้าม่วงก็ไม่ได้บอกกับหมอดู หลังจากนั้น หมอดูทักมาบอกว่า “แม่นางไม้ได้รับแล้วนะ” คุณม้าม่วงตกใจและพูดลอย ๆ ไปว่า “ส่งเสริมกันนะ ขอให้ลูกมีงานเข้ามาเยอะ ๆ” ซึ่งตอนนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ จริง วันดีคืนดีหมอดูก็ทักมาว่า “แม่นางไม้ขออีกเรื่องหนึ่งคือ อยากให้พี่หนุ่มรู้ว่าแม่นางไม้อยู่ที่ไหน” ณ ตอนนั้นก็เป็นเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม คุณม้าม่วงก็ตอบว่า “อยู่ตรงไหนเดี๋ยวไปหา” หมอดูก็หลับตาแล้วบอกกับคุณม้าม่วงว่า “ให้หันหน้าเข้าตึก แล้วหันไปทางขวา เดินตรงไป แล้วก็เลี้ยวซ้าย แม่นางไม้จะอยู่ตรงนั้น” คุณม้าม่วงก็หยิบกล้องเดินไปและขอให้หมอดูค้างสายไว้ ห้ามวาง ในขณะที่เดินลงบันได หมอดูก็บอกว่าแม่นางไม้เดินตามมา แล้วหมอดูที่ค้างสายอยู่ก็มีท่าทางตกใจแล้วพูดว่า “มีใครยืนอยู่ตรงบันได!” คุณม้าม่วงรู้ได้เลยว่าปกติที่เดินลงบันไดตอนดึก ๆ แล้วมักจะเดินสวนคนนี้ประจำก็คือผีแน่นอน คุณม้าม่วงจึงเดินลงไปและคอยถามหมอดูตลอดว่า “แม่นางไม้ยังเดินตามมาอยู่ไหม” หมอดูก็ตอบว่า “ยังเดินตามมาอยู่” พอถึงหน้าตึกก็จะมีศาลตายาย หมอดูบอกว่า “ตายายก็เอ็นดูพี่หนุ่ม” คุณม้าม่วงก็เดินไปตามทางที่หมอดูบอก แล้วก็ไปหยุดที่จุดหนึ่ง คุณม้าม่วงนั่งลงใช้มือควานหาบริเวณนั้น สักพักมือก็ไปชนกับตอไม้ที่ถูกตัดแล้ว คุณม้าม่วงตกใจสะดุ้งตัวออกมา หมอดูก็บอกว่า “แม่นางไม้ดีใจที่พี่หนุ่มรู้แล้วว่าเขาอยู่ตรงไหน” พอรู้แบบนั้นคุณม้าม่วงก็กลับห้อง แต่ครั้งนี้ใช่ลิฟต์เพราะยังตกใจ ต่อมา คุณม้าม่วงก็ได้มีการย้ายหอเพราะห้องที่อยู่เริ่มเก็บของไม่พอ ก่อนย้ายคุณม้าม่วงก็ได้มีการไปไหว้ลากับศาลตายายและนำพวงมาลัยไปวางไว้ที่ตอไม้เพื่อบอกลากับแม่นางไม้ด้วย หลังจากนั้นคุณม้าม่วงก็ได้ย้ายไปอยู่หอใหม่ หมอดูก็โทรมาอีกว่า “ทำไมไม่เรียกแม่นางไม้มาด้วย เขาอยากมาหา” คุณม้าม่วงก็กลับไปหอเดิมแล้วก็บอกกับแม่นางไม้ว่าให้มาอยู่ด้วยกันได้ ถ้าไม่มีที่ไป แล้วก็เกิดเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ คุณม้าม่วงได้มีการสั่งของพรีออเดอร์ พอขนส่งมาส่งก็โทรหาคุณม้าม่วง โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย ขนส่งจึงโทรไปหาเจ้าของร้านให้โทรหาคุณม้าม่วงให้ พอโทรไปอีกครั้งก็เป็นเสียงผู้หญิงรับสายแล้วบอกว่า “เอาวางไว้ข้างล่างแหละคะ” ปัจจุบันคุณม้าม่วงก็ได้มีการซื้อบ้านและก็ได้มีการชวนแม่นางไม้มาอยู่ด้วยเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้หมอดูโทรมาบอกกับคุณม้าม่วงว่า “แม่นางไม้เข้าหมู่บ้านไม่ได้ เพราะเจ้าที่ที่นี่ดุมาก ไม่ให้แม่นางไม้เข้ามา” หมอดูให้คุณม้าม่วงไปขอเจ้าที่ของหมู่บ้านเพื่อเปิดทางให้แม้นางไม้ คุณม้าม่วงก็ทำตามที่หมอดูบอก และเมื่อเดือนที่แล้วคุณม้าม่วงก็ได้มีการถามกับหมอดูว่า “แม่นางไม้ยังอยู่หรือเปล่า” หมอดูตอบว่า “ไม่ได้อยู่แล้ว กลับไปอยู่ที่หอเดิมเพราะบ้านใหม่ก็มีเจ้าที่อยู่แล้ว” และทุกครั้งที่คุณม้าม่วงไปทำบุญก็จะไม่ลืมแผ่ส่วนกุศลให้แม่นางไม้ด้วย..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

บ้านที่อุบลสุดหลอนของม้าม่วง!

07 เม.ย. 2024

บ้านที่อุบลสุดหลอนของม้าม่วง!

‘ม้าม่วง PowerpuffGAY’ กับประสบการณ์หลอนที่บ้านหลังเก่า ตอนแรกไม่เชื่อจนได้มาเจอกับตัวเอง! เรื่องนี้ ‘ม้าม่วง PowerpuffGAY’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (2 เมษายน 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ผู้หญิงในบ้าน’ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันได้เลย! เรื่องนี้เป็นเรื่องราวประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองของ ‘คุณม้าม่วง’ โดยเล่าว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ข้างล่างเป็นปูน ข้างบนเป็นไม้ เมื่อตอนเป็นเด็ก ทุกคนจะอยู่รวมกันทั้งเครือญาติเป็นครอบครัวใหญ่ เมื่อทุกคนแยกย้าย คุณม้าม่วงจึงได้ไปอีกอยู่จังหวัดหนึ่ง แล้วบ้านหลังนี้ก็ถูกทิ้งร้างเป็นปี แต่ก็กลับมาทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง จนกระทั่งมีช่วงหนึ่ง คุณม้าม่วงเริ่มย้ายกลับเข้ามา ซึ่งเป็นช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นคุณม้าม่วงไปเที่ยวแล้วกลับมาที่บ้าน จึงมองขึ้นไปบนบ้าน (ข้างบนบ้านมีระเบียง มีห้องพระ) ก็เห็นว่ามีเงาหนึ่งยืนมอง เหมือนคนรอให้กลับบ้าน ตอนแรกม้าม่วงคิดว่าเป็นป้าหรือคนในบ้านมารอด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อขึ้นไปบนบ้าน ปรากฏว่าทุกคนนอนกันหมดแล้ว ม้าม่วงก็คิดว่าคงไม่มีอะไร วันต่อมา คุณม้าม่วงเลิกเรียนประมาณ 4-5 โมงเย็น ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินอยู่บนบ้าน เวลาเดินบนพื้นไม้จะมีเสียงแอ๊ด ๆ ของไม้ดังขึ้น คุณม้าม่วงก็คิดว่ามีคนอยู่ข้างบน จึงตะโกนบอกไปว่า “หนูกลับมาแล้วนะ หนูกลับมาแล้วจ้า เย็นนี้กินอะไรกันดี?” เมื่อพูดจบก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ก็ได้ยินเสียงแอ๊ด ๆ อีก คุณม้าม่วงสงสัยจึงถามอีกว่า “ทำอะไรกัน” จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนบ้าน ปรากฏว่าไม่มีคนอยู่ คุณม้าม่วงก็คิดว่า “เอาแล้ว ใช่แล้วแหละ” คุณม้าม่วงก็คิดว่านี่คือบ้านเรา แล้วก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อย ๆ จนชิน และรู้ว่าต้องมีอะไรบางอย่าง คุณป้าก็เคยเล่าให้ฟังว่าเคยเจอ แต่คุณม้าม่วงไม่เชื่อเพราะยังไม่ได้เจอกับตัวเอง จนวันหนึ่ง คุณม้าม่วงนอนอยู่ในห้องกับน้องสาวและรู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ ก็สงสัยว่าตนเป็นอะไร ขณะที่คุณม้าม่วงกำลังจะหันไปหาน้องสาว ซึ่งน้องสาวนอนหันหลังให้ คุณม้าม่วงก็เห็นผู้หญิงนอนมองหน้าอยู่ข้างหน้าตน ด้วยความที่ปิดไฟจึงมองไม่เห็นหน้า แต่ผมของผู้หญิงคนนั้นจะปิดเหนือตาข้างหนึ่ง ตอนนั้นคุณม้าม่วงกลัวมากจึงสวดมนต์ ปรากฏว่าเขาก็ไม่ไป คุณม้าม่วงโมโหเลยบอกว่า “ไป ๆ ไม่ไปจะด่าแล้วนะ” จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หายไป คุณม้าม่วงลุกขึ้นนั่งและปลุกน้องสาวแล้วถามว่า “มึง เมื่อกี้มึงหันหน้ามาป่ะ?” น้องสาวบอกว่า “ฉันนอน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย” คุณม้าม่วงก็คิดว่าช่างมัน ‘ยังไงมันก็คือบ้านเรา’ หลังจากนั้นระหว่างที่น้องสาวของคุณม้าม่วงกำลังอาบน้ำ อยู่ ๆ ก็มีหน้าผู้หญิงลอดออกมาจากช่องอาบน้ำ น้องสาวกรี๊ดลั่น คุณม้าม่วงที่กำลังกินข้าวอยู่ก็วิ่งมาดูน้องสาวแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?” น้องสาวก็บอกว่า “เห็นผู้หญิงมาก้มมอง” คุณม้าม่วงเลยเล่าเรื่องนี้ให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็บอกว่า “ฉันเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่หน้าประตู เห็นแค่ช่วงบน ไม่เห็นช่วงล่าง เป็นผู้หญิงสวยมาก มายืนมองว่าคนนี้คือใคร ตอนที่คุณแม่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ใหม่ ๆ” คุณม้าม่วงก็คิดว่าคงเป็นผีที่บ้าน จนเวลาผ่านไป วันนั้นคุณม้าม่วงเลิกเรียนประมาณ 4-5 โมงเย็นเหมือนเดิม คนที่บ้านจะชอบบอกว่า ห้ามนอนตอนเย็น แต่คุณม้าม่วงก็นอนเพราะง่วง ระหว่างที่นอนอยู่ ผู้หญิงคนนั้นก็คลานมาบนที่นอน แต่เห็นแค่เงากับผม คุณม้าม่วงจึงพยายามหลับตาและสวดมนต์ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็พูดว่า “สวดมนต์ก็ไม่ถูก สวดใหม่!” พูดท้าคุณม้าม่วง ตอนนั้นคุณม้าม่วงยอมรับว่าสวดมนต์ไม่ถูกจริง ๆ เพราะตกใจมาก ด้วยความโมโหคุณม้าม่วงก็เลยด่าว่า “อีผี ถ้ามึงไม่ไปกูจะสาปแช่งมึง ไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลย” หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หายไป คุณม้าม่วงจึงรีบลุกแล้ววิ่งไปหน้าบ้าน คนที่บ้านก็บอกว่า “ไม่มีหรอก ถ้าอยู่ เขาคงมาเล่น มาหยอกหรือเปล่า?” และเสียงที่เดินบนพื้นไม้ก็ยังมีเหมือนเดิม หลังจากเหตุการณ์วันนั้นน้องสาวอีกคนก็นอนในห้องที่คุณม้าม่วงเจอกับผู้หญิงคนนั้น ระหว่างที่นอนอยู่ น้องสาวก็โดนดึงแขน จากนั้นก็กรี๊ดแล้วร้องไห้ แต่คุณม้าม่วงคิดว่าบ้านเราจึงไม่กลัว มีวันหนึ่ง คุณย่าของคุณม้าม่วงออกไปใส่บาตรหน้าบ้าน พระก็ยืนมองและถามว่า “โยม ผู้หญิงในบ้านคือใคร? ที่ยืนอยู่ตรงนั้น” คุณย่าก็บอกว่า “อ๋อ หลานใส่วิก” จนล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณม้าม่วงจะมีการดูดวงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งได้ไปดูดวงกับหมอดูท่านหนึ่ง โดยวิดีโอคอลไปหาหมอดูและบอกว่า “มึงดูให้กูหน่อยดิ บ้านกูมีอะไรบ้างวะ?” หมอดูก็เลยบอกว่า “โอเค” คุณม้าม่วงก็แพลนกล้องให้ดูรอบ ๆ บ้าน หมอดูก็พูดว่า “พี่หนุ่มขึ้นไปห้องพระหน่อยสิ” คุณม้าม่วงจึงเดินขึ้นไปบนห้องพระ หมอดูก็บอกว่า “พี่หนุ่ม หนูเห็นผู้ชายตัวใหญ่ เขารู้ว่าหนูเห็นเขา” คุณม้าม่วงก็พูดว่า “หรอ?” หมอดูก็บอกอีกว่า “จริงพี่หนุ่ม หนูไม่รู้ว่าใคร ไม่รู้สึกว่าเป็นญาติพี่หนุ่มด้วยซ้ำ แต่อยู่ในห้องพระ เป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก” คุณม้าม่วงก็เลยบอกว่า “เออ ๆ ช่างมัน” แล้วถามต่อว่า “หิ้งพระทำอะไรผิดไหม?” หมอดูก็บอกว่า “พี่หนุ่มมันแปลก ๆ ตรงพานนั้นมันมีอะไรหนูบอกไม่ถูก มันไม่ดีเลย พี่หนุ่มช่วยดูให้หน่อย” คุณม้าม่วงดูในพานและเจอกับถุงใบหนึ่งเลยเปิดดู เห็นเป็นพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ แต่หักตรงคอ หมอดูบอกว่า “เนี่ย เอาไปทิ้งเลย” จากนั้นคุณม้าม่วงก็ถามคุณย่าของตนว่า “อะไรเนี่ย?” คุณย่าบอกว่า “เก็บไว้ เสียดาย” จากนั้นคุณม้าม่วงก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์นำพระพุทธรูปที่คอหักโยนเข้าวัดแล้วพูดว่า “ไปเลยไป ของไม่ดีออกไปจากบ้านกู” ตกดึกคืนถัดมา ถึงรอบที่จะต้องดูดวงกับหมอดูอีกครั้ง หมอดูก็พูดทักขึ้นมาว่า “พี่หนุ่ม คนนั้นเขารู้ว่าหนูเห็นเขา เขายืนมองใหญ่เลยอยู่บนบ้าน” คุณม้าม่วงก็แหงนกล้องแล้วพูดว่า “ไหนอะ เขามองหรอ มองกันซิ จ้องตากัน” หมอดูคนนั้นก็พูดว่า “พี่หนุ่มอย่าทำเป็นเล่นนะเว้ย เดี๋ยวเขาลงมาหาจริง ๆ นะ” คุณม้าม่วงก็บอกว่า “มาหาเธอหรือมาหาฉัน” หมอดูคนนั้นก็บอกว่า “พี่หนุ่มอย่าเล่น เขารู้นะว่าหนูเห็นเขา เขาจะลงมาจริง ๆ ตอนนี้เขามองหนูแบบโมโหเลย” คุณม้าม่วงก็ไม่เชื่อ จนเวลาผ่านไปไม่ถึง 1 นาที คุณม้าม่วงก็ได้ยินเสียงหมาหอนที่บ้านของหมอดู เพราะผู้ชายคนนั้นไปหาหมอดูที่บ้าน! หมอดูบอกว่า “พี่หนุ่มบอกเขากลับบ้านเลย” คุณม้าม่วงก็เรียกเขาให้กลับบ้าน สักพักทุกอย่างก็เงียบ หมอดูบอกอีกว่า “เขากลับแล้ว พี่หนุ่มอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ” หลังจากนั้นก็เช็คดวงกันจนเสร็จ ซึ่งหมอดูก็บอกว่า “คนนี้อยู่ตั้งแต่ก่อนที่จะสร้างบ้าน เป็นเจ้าที่อยู่ตรงที่ดินนี้มานานแล้ว เมื่อมีห้องพระ เขาจึงขึ้นมาอยู่บนห้องพระที่บ้าน” ตอนนั้นหมอดูเห็นแค่ผู้ชายแต่ไม่เห็นผู้หญิงที่คุณม้าม่วงเคยเห็น ด้วยความสงสัยคุณม้าม่วงจึงไปถามคุณย่าของตนเพราะอยากรู้ว่า ผู้หญิงที่เคยเห็นคือใคร คุณย่าก็บอกว่า “ไม่ใช่แม่ตะเคียนหรอ?” แล้วคุณม้าม่วงก็พูดว่า “แล้วมาจากไหนอะ?” คุณย่าก็บอกว่า “นี่ไง ไม้แผ่นนี้ไงเป็นไม้ตะเคียน” คุณม้าม่วงก็ตกใจที่คุณปู่นำไม้ตะเคียนมาปูเป็นพื้นบ้านชั้น 2 คุณม้าม่วงก็เล่าว่า คุณปู่เป็นทหารมาก่อน แล้วจึงมาเป็นตำรวจ คุณปู่เป็นคนไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ และไม่กลัวอะไร จึงนำไม้นี้มาสร้างพื้นที่บ้าน และคนในบ้านก็จะเจอเหมือนคุณม้าม่วง แต่เพื่อนของคุณม้าม่วงหรือคนข้างนอก เมื่อไปนอนบ้านคุณม้าม่วงก็จะนอนไม่ได้เลย ถ้าไม่ขออนุญาตก่อน(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

ไลฟ์ดูดวงแล้วได้เสียงคนปาก้อนหิน พอไปดูก็ไม่มีใคร!

06 เม.ย. 2024

ไลฟ์ดูดวงแล้วได้เสียงคนปาก้อนหิน พอไปดูก็ไม่มีใคร!

เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ‘คุณขวัญ’ ที่ ได้โทรมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (2 เมษายน 2567) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ เกี่ยวกับประสบการณ์การดูดวงที่มีวิณญาณมาของขอความช่วยเหลือ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันเลย! คุณขวัญเล่าว่า คุณขวัญเองมีอาชีพเป็นหมอดู กลางคืนก็จะรับคิวดูดวง ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งก็จะไลฟ์สดเพื่อพูดคุยกับลูกดวงในทุก ๆ คืน ในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว คุณขวัญก็ขึ้นไลฟ์สดปกติ และคุณขวัญก็เล่าว่าบ้านเก่าที่เคยอยู่เป็นบ้าน 2 ชั้น ห้องดูดวงกับห้องทำงานอยู่ชั้น 2 หากเปิดหน้าต่างในห้องทำงานก็จะเห็นประตูหน้าบ้านติดกับถนน คืนหนึ่ง เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง คุณขวัญกำลังเตรียมของเพื่อไลฟ์สดก็ได้ยินเสียงคล้ายกับก้อนหินกระทบกับประตูรั้วหน้าบ้าน แต่คุณขวัญก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งกำลังจะเปิดไลฟ์ ก็ได้ยินเสียงอีกครั้ง เป็นเสียงเหมือนมีคนขว้างบางอย่างใส่ประตูรั้วหน้าบ้าน คุณขวัญจึงเดินไปดูที่หน้าต่าง แต่มองออกไปก็ไม่เห็นอะไร แม้แต่สุนัขหรือรถวิ่งผ่านก็ไม่มี คุณขวัญจึงปล่อยผ่านไปแล้วมาขึ้นไลฟ์คุยกับลูกดวงปกติ แต่ในระหว่างคุยอยู่นั้น หางตาก็เห็นเหมือนมีกลุ่มควันดำ ๆ อยู่ที่มุมห้องของตนเอง จากนั้นก็ค่อย ๆ หายไป ในใจคิดแค่ว่าตัวเองคงตาฝาดจึงไม่ได้สนใจ วันถัดมาเวลาเดิม (ประมาณเที่ยงคืนครึ่ง) คุณขวัญก็เตรียมของเพื่อที่จะไลฟ์คุยกับลูกดวงเหมือนทุกวัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระทบกับประตูหน้าบ้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้คุณขวัญแอบไปดูตรงหน้าต่าง ก็เห็นคล้ายกับคนยืนอยู่ จึงรีบวิ่งลงมาจากชั้น 2 เพื่อที่จะมาดูหน้าประตู แต่สุดท้ายก็ไม่มีใคร คุณขวัญได้แต่คิดในใจว่า ‘ใครวะ’ แล้วก็เดินขึ้นไปไลฟ์สด ช่วงที่ไลฟ์อยู่นั้นทุก ๆ 10 นาทีก็ได้ยินเสียง “ป๊อก…ป๊อก…ป๊อก” เป็นเสียงคล้ายก้อนหินถูกขว้างใส่ประตูหน้าบ้าน จนเขารู้สึกหงุดหงิดในใจ คิดว่าใครมาแกล้งหรือเปล่า พอสิ้นความคิดก็มีภาพของเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงมุมห้องมุมเดียวกับที่เห็นกลุ่มควันเมื่อวาน แต่ที่เห็นคือเด็กผู้ชายยืนก้มหน้าอยู่ประมาณ 5 วิแล้วก็หายไป คุณขวัญรู้สึกกังวลใจจึงไลฟ์ต่ออีกประมาณ 5 นาทีก็ปิดไลฟ์ แล้วเริ่มประติดประต่อเรื่องได้ว่า ‘น่าจะมีใครสักคนต้องการจะสื่อหรือคุยอะไรหรือเปล่า’ จากนั้นคุณขวัญก็นั่งสมาธิ แล้วคืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น... วันถัดมา คุณขวัญรันคิวดูดวงตามปกติจนกระทั่งคิวนี้.. ในขณะที่กำลังเคลียร์พลังงานของตัวเองเพื่อที่จะดูคิวต่อไป ก็เห็นภาพเด็กคนนั้นขึ้นมาในความคิด แต่สิ่งที่คุณขวัญเห็นคือเด็กผู้ชายคนนี้อยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ลักษณะของบ้านเป็นประตูกระจกที่เป็นบ้านเลื่อน เป็นประตูที่ติดกับข้างบ้าน ตรงข้างบ้านจะเป็นบริเวณหญ้าเหมือนเป็นมุมจิบกาแฟ คุณขวัญเห็นน้องผู้ชายคนนี้ยืนร้องไห้ ไม่พูดไม่คุยอะไร เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว คุณขวัญจะต้องเข้าคิวถัดไปจึงรีบเคลียร์ภาพเหล่านั้นออก คิวนี้เป็นน้องผู้หญิงอายุประมาณ 20 ปี ปรึกษาเรื่องปกติเกี่ยวกับการงาน การเงิน ความรัก ในระหว่างที่คุยกัน ก็มีภาพน้องผู้ชายคนนั้นก็แว๊บขึ้นมาร้องไห้เหมือนเดิม คุณขวัญจึงขอเบรคลูกดวงก่อนแล้วบอกว่า “ขอโทษนะคะ รู้จักเด็กผู้ชายลักษณะผอมสูง ใส่เสื้อเชิ้ตมีกระดุมกางเกงขายาว ลักษณะรูปร่างประมาณนี้ไหม ขวัญเห็นยืนอยู่ในบ้าน” แล้วคุณขวัญก็อธิบายลักษณะบ้านให้ลูกดวงคนนี้ฟัง น้องผู้หญิงคนนี้ก็เงียบไปสักครู่นึงแล้วก็ถามว่า “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” คุณขวัญจึงเล่าเหตุการณ์เมื่อวันก่อนให้ฟัง แล้วน้องคนนั้นก็บอกว่า “สิ่งที่คุณขวัญเห็น เป็นลักษณะของน้องชาย ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว” และบ้านที่คุณขวัญเห็นเป็นบ้านหลังเก่าที่ครอบครัวนี้เคยอยู่ต้อนที่น้องผู้ชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ คุณขวัญก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น.. หลังจากนั้นก็คุยเรื่องดวงต่อ แล้วก็ได้ยินเสียงน้องผู้ชายคนนั้นพูดว่า “พาหนูไปด้วย หนูเหงา” พร้อมกับร้องไห้ออกมา คุณขวัญจึงบอกกับน้องผู้หญิงคนนั้นไปว่าได้ยินเสียงน้องผู้ชายพูดมาแบบนี้ และถามว่า “ตอนที่ตัดสินใจย้ายบ้านได้เรียกน้องไหม แล้วตอนเข้าบ้านใหม่บอกเจ้้าที่เจ้าทางที่ใหม่หรือเปล่าเพื่ออนุญาตให้น้องเข้า” น้องผู้หญิงคนนี้ก็เล่าให้ฟังว่า “เท่าที่จำได้ ไม่ได้มีการจุดธูป ไม่ได้เรียกน้องแบบจริงจังเลย” คุณขวัญคิดว่าน้องน่าจะยังอยู่ที่บ้านหลังเดิมคนเดียวเหงา ๆ แล้วก็น่าจะคิดถึงครอบครัว จึงพยายามมาสื่อสารเพื่อที่จะให้ทางครอบครัวรับรู้ คุณขวัญจึงแนะนำไปว่า “ถ้าสมมติมีโอกาสกลับมาบ้านหลังนี้ ให้เรียกน้องกลับไปที่บ้านหลังใหม่ แล้วก็บอกเจ้าที่เจ้าทางให้เขารับรู้และให้เขาอนุญาตให้น้องได้เข้าบ้าน” คุณขวัญยังนึกสงสัยว่า ‘ทำไมดวงวิณญาณมาหาถึงหน้าบ้าน’ ก่อนจะวางสายจึงคุยกับน้องผู้หญิงคนนี้ว่า “บ้านเก่าที่เราเจอดวงวิณญาณอยู่ที่ไหน” น้องผู้หญิงก็บอกว่าอยู่จังหวัดเดียวกับคุณขวัญ ซึ่งห่างจากบ้านของคุณขวัญแค่ไม่กี่กิโลเมตร แล้วเมื่อ 3 วันก่อนคุณขวัญก็เพิ่งไปหาเพื่อนแถวนั้นมาพอดี คุณขวัญเล่าว่าน้องน่าจะหาคนที่สื่อสารได้เพื่อบอกกับครอบครัวว่าเขายังอยู่ตรงนี้..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

EFM FANDOM RECAP

รางวัลแรกในชีวิตของ “จิมมี่ – ซี” กับ “EFM FANDOM AWARDS” สาขา ‘น้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ด’ พวกเราสัญญาว่าจะผลิตผลงานออกมาให้ทุกคนชื่นชมได้อย่างชื่นใจแน่นอน

17 เม.ย. 2024

รางวัลแรกในชีวิตของ “จิมมี่ – ซี” กับ “EFM FANDOM AWARDS” สาขา ‘น้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ด’ พวกเราสัญญาว่าจะผลิตผลงานออกมาให้ทุกคนชื่นชมได้อย่างชื่นใจแน่นอน

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 11 เมษายน 67]คืนนี้ต้อนรับ2 หนุ่ม “จิมมี่-ซี” พร้อมอัพเดตพูดคุยไปกับ“ดีเจแนน และ ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นัก Appreciate ดีเด่น” ทุกครั้งที่ไปตาม จิมมี่-ซี จะส่งพลังงานดีๆ มาให้แฟนคลับตลอด ไม่เคยเลยที่เอเนอร์จี้จะดรอป ทั้ง 2 คนทำหน้าที่อย่างเต็มร้อยเสมอ ตั้งแต่เริ่มจนจบในทุกๆ งาน แบบที่ไม่ทำให้พวกเราได้รู้สึกว่าเค้ากำลังเหนื่อยหรือไม่สบายอยู่เลย จิมมี่-ซี พยายามที่จะเข้าถึงทุกคนไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล ให้ทุกๆ คนที่มาหาได้รู้ว่าทั้ง 2 คนมองเห็นความรักของพวกเราที่ส่งไป และไม่ทำให้รู้สึกว่าเราคนใดคนนึงถูกมองข้ามเลยแม้แต่นิดเดียว อยากมอบรางวัลนี้ให้ จิมมี่-ซี เพื่อขอบคุณที่ทั้ง 2 คนเห็นคุณค่าและเคารพในความรักของพวกเราเสมอ :)2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คนเก่งของงั่มงั่ม” แนวคิดที่ 1 : เป็นรางวัลที่อยากมอบให้ จิมมี่-ซี เพื่อขอบคุณในความเก่ง ความอดทน ความตั้งใจ และความพยายามต่างๆ เพื่อที่จะมอบความสุข มอบผลงานดีๆ มอบโมเม้นดีๆให้งั่มงั่ม เราได้มีความสุขกลับไป และด้วยสิ่งต่างๆนี้ที่ จิมมี่-ซี ทำมา ทำให้บ้านงั่มงั่มเราใหญ่โตขึ้นมามาก อยากจะบอกว่าทั้งคู่เก่งกันมาก เหมาะสมกับรางวัลนี้ที่สุดแล้ว และอย่าลืมขอบคุณตัวเองกันด้วยนะ แนวคิดที่ 2 : รางวัลคนเก่งที่ให้ จิมมี่-ซี เพราะว่า ช่วงนี้ทั้งคู่ทำงานกันหนักมากๆ เเต่อยากจะบอกว่า จิมมี่-ซี ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด ไม่จำเป็นที่ต้องดีที่สุด เเค่เป็น จิมมี่-ซี ดีที่สุดเเล้ว ดีที่สุดในเเบบของตัวเองนะคนเก่ง ขอบคุณที่เกิดมาให้รัก ขอบคุณที่น่ารักเสมอมา ขอให้มีเรื่องที่ทำให้ยิ้มเยอะๆในทุกวันๆน้า ชาวงั่มงั่มคอยซัพพอร์ตเสมอเลยย3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Best part of my fandom” เพราะศิลปินได้สร้างช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดในชีวิตให้กับแฟนคลับ ยิ่งถ้าได้เป็นแฟนคลับเขาในช่วงที่เรากำลังเปลี่ยนผ่านชีวิต รู้สึกว่าในแต่ละวันมันผ่านไปยากมากๆ ศิลปินเนี่ยแหละที่ทำให้เราผ่านเรื่องวันนั้นไปอย่างง่ายดาย เราเลยรู้สึกว่าศิลปินเป็นส่วนสำคัญมากๆที่ทำให้เราเติบโตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุข ได้มองเห็นผลงานของเขา ได้มองเขาเติบโต ถ้าเห็นว่ามีคนรักเขาเพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่เห็นแล้ว อย่างที่บอกมา...มันมีค่าต่อแฟนคลับมากจริงๆ ต่อให้ช่วงเวลานี้มันผ่านไปแล้ว แต่เรื่องราวความสุขในวันนั้นที่เกิดขึ้นเพราะศิลปิน มันจะอยู่ตรงนั้นเสมอ และเราก็จะไม่มีวันลืมช่วงเวลามีค่าแบบนั้น เมื่อมองย้อนกลับ ช่วงเวลานั้นมัน Best Part จริงๆ4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “น้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ด” น้องซี เป็นคนที่มีผิวไวต้องความรู้สึก แพ้ง่าย แพ้อาหารทะเล แต่คุณหมอจิมมี่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "น้องแพ้...แต่ผมดูแลได้" เรียกเสียงฮือฮาแก่เหล่าแฟนคลับเป็นอย่างมากจนเป็นตำนาน ทั้งเคยปฐมพยาบาลความเจ็บป่วย ตลอดจนตรวจรักษาผิวพรรณน้องซีในชีวิตจริงค่ะ ตั้งแต่ช่วงอาศัยในบ้าน GMMTV SAFE HOUSE SS3, ช่วงถ่ายทำ VICE VERSA SERIES ทีมงานผู้กำกับฯ จึงอบอุ่นหัวใจทุกครั้ง ที่มีคุณหมออยู่ในกอง จนถึง LAST TWILIGHT SERIES ก็ยังดูแลน้องซีมาจวบจนปัจจุบันค่ะ5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นักวิชาการเเละนักเอนเตอร์เทรนดีเด่น” เริ่มต้นจากนักวิชาการต้องยกให้หมอจิมมี่เลย คลังความรู้ก็คือมีทุกแขนง สายวิชาการตัวจริง ความรู้ไม่ได้มีแค่สายแพทย์ แต่คลังความรู้โภชาการหรือความรู้รอบตัวหมอก็ไม่แพ้ใคร ส่วนน้องซี จากการเลี้ยงดูของพี่กระเทยทั้งหลาย ปีนี้น้องซีก็คือโบ๊ะบ๊ะ ทำคนรอบข้างยิ้มไปหมด จนอยากลดอายุลงไปเท่าน้องเลย เรียกได้ว่าความสดใสมาเต็มถึงเวลาที่ชาว งั่มงั่ม รอคอย~~ เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “จิมมี่-ซี”รางวัล “น้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ด”ซีอยากดูแลเรื่องอาหารให้จิมมี่ ซี : ผมอยากดูแลเรื่องอาหารการกิน เพราะเรารู้ว่าเขากินข้าวแบบไหน เพราะว่าคุณหมอจะชอบกินคลีนเป็นส่วนใหญ่ เราอาจเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินได้เพราะเรารู้ว่าเขากินอะไรบ้าง ผมพอทำกับข้าวได้ ผัดกะเพรา ไข่เจียว หุงข้าว อะไรทำได้หมดLast Twilight ภาพนายไม่เคยลืม จิมมี่ : รับบทที่ค่อนข้างต่างกับตัวเอง ทำให้ตัวเองดูสกปก พอปิดกล้องผมก็กลับมาดูแลตัวเองเต็มที่ ซี : รับบทเป็นผู้พิการทางสายตา ผมหลุดออกมาจากคาแรคเตอร์แล้ว แต่จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เวลาเราพูดคุยกับคนอื่น ตอนนั้นผมพูดคุยกับเฮียจิม แล้วผมแบบไม่ได้มองหน้าแก แล้วแกก็แบบพูดคุยปกติ แล้วแกก็ถามว่า “เฮ้ย!!! นี่มึงพูดกับกูอยู่หรือเปล่า มึงยังฟังกูอยู่หรือเปล่า” ผมก็บอกว่าฟังอยู่ผมไม่ได้โฟกัสเขาซีได้รับบทที่ค่อนข้างยาก ซี : มันก็ยากเหมือนกัน เพราะเรารู้สึกว่าเวลาการแสดงถ้าเราแสดงด้วยแบบมองตากัน มันจะสื่อได้มากกว่า อย่างนี้มันค่อนข้างยากนิดนึงในการที่จะโฟกัสคน ๆ หนึ่งเวลาพูดคุย แต่ว่าสิ่งที่ยากที่สุดผมว่า น่าจะเป็นการแสดงยังไงให้คนดูเข้าใจถึงคนที่ผู้พิการทางสายตาจริง ๆ อันนี้เป็นโจทย์ที่ยากมากเรื่องที่รู้สึกว้าวและเปิดโลกให้กับจิมมี่ จิมมี่ : ก็น่าจะเป็นวิธีการดูแลคนตาบอดแบบเชิงลึก เพราะว่าโดยส่วนตัวก็เคยเจอคนไข้ตาบอด แต่ว่ายังไม่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ดูแลเขา พอได้เวิร์กช็อปแล้วก็รู้ว่าการดูแลคนตาบอด มันก็มีรายละเอียดและดีเทลของมันที่ละเอียดยิบย่อยเหมือนกัน ซี : แล้วอีกอย่างหนึ่งที่น่าเปิดประสบการณ์ของเฮียคือ ที่ไปถ่ายในคุกจริง ๆจิมมี่ต้องเข้าคุกจริง จิมมี่ : ไปถ่ายในคุกจริง ๆ ข้าง ๆ ก็จะมีนักโทษจริง ๆ อยู่ด้วย ตอนแรกผมไม่รู้ผมก็เดินเข้าไปปกติ แต่ทีมงานบอกว่าให้เดินถอยหลังตลอดเวลา คือตอนนั้นผมเข้าไปด้วยอินเนอร์ตัวละครเลย ผมไม่ได้เอาความเป็นตัวเองเข้าไปเลย เข้าไปเพราะคิดว่าเราต้องเข้าไปแล้ว ฟิลตอนนั้นก็คือ เหมือนเราทำความผิดมาแล้วเราจะต้องอยู่ในนั้น เราไม่รู้ว่าจะติดอยู่ในนี้นานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าอยู่ในนี้แล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง ต้องโดนรังแกหรือว่าต้องโดนอะไรก็แล้วแต่ เพราะว่าอยู่ในคุกก็เหมือนที่เห็นในหนังอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าถามว่าด้วยความเป็นจิมมี่เข้าไปรู้สึกอะไรบ้าง ตอบเลยว่าไม่รู้สึกอะไรเพราะว่าไม่ได้เอาตัวเองไปแตะตรงนั้นเท่าไหร่ความประทับใจของงาน “Last Twilight New Dawn Live On Stage” จิมมี่ : สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดเลยนะ คือผมหน้าเห็นทั้ง 6 คนบนเวทีพร้อมกัน อันนี้คือสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดเลยเพราะว่า มันเป็นสิ่งที่ผมคิดไว้ตั้งแต่เริ่มถ่ายทำว่าแบบผมอยากเห็นภาพนี้ ที่จริงพวกผม 6 คน ผม ซี น้ำตาล ฟิล์ม มาร์ค โอม เป็นคนที่ผมรู้จักมาหมดก็เลยมีความผูกพันกันระดับหนึ่งอยู่แล้ว อยากเห็นภาพทั้ง 6 คน ขึ้นเวทีไปพร้อมกันหลังจากจบเรื่องนี้แล้ว และสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือ ก่อนที่เวทีจะขึ้นมาร้องเพลงแรก แล้วมองไปข้าง ๆ มีน้องทั้ง 5 คน ขึ้นไปกับผม ซี : ผมประทับใจแฟนคลับ แฟนคลับที่เขามาจากหลากหลายที่เลย แล้วเขาแบบมาให้กำลังใจพวกเรา ซึ่งรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงามมาก ๆ เวลาเราได้แสดงคอนเสิร์ต ได้เจอผู้คนมันทำให้เรา เหมือนเติมพลังอย่างหนึ่ง เพราะว่าก่อนหน้านั้นผมก็ไม่ได้คิด ต้องย้อนกลับไปเมื่อคอนเสิร์ตปีที่แล้ว ผมกำลังจะร้องเพลง ซูลูปาก้า กับเฮีย เฮียแกก็เดินเข้ามาบอกว่า “เดี๋ยวมึงกับกูจะต้องขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกันนะ แบบเป็นคอนเสิร์ตของตัวเอง” ผมก็บอกว่า “ได้เฮีย”การเตรียมตัวก่อนขึ้นคอนเสิร์ต LOVE OUT LOUD FAN FEST 2024 : THE LOVE PIRATES จิมมี่ : วันที่ 18-19 พฤษภาคม ก็เตรียมตัวระดับหนึ่งแล้ว ก็กำลังวางแผนว่าเราจะโชว์แบบไหนเป็นยังไง แล้วก็ทำการซ้อมในระดับหนึ่งแล้ว ซี : แล้วก็ครีเอด เพราะว่ามันมาในธีม THE LOVE PIRATES โจรสลัด เราก็อยากครีเอดที่มันแบบมีความดิบ ๆ หน่อย เหมือนอยู่บนเรือจริง ๆทำไมเราต้องไปดูและไม่ควรพลาดคอนเสิร์ตนี้ ซี : ผมว่ามันเป็นธีมที่ยังไม่มีใครทำ มันเป็นคอนเสิร์ตที่ผมรู้สึกว่า LOVE OUT LOUD ครั้งที่แล้วมันก็มันแล้ว คิดดูมาในธีมโจรสลัดผมว่ามันน่าจะยิ่ง x10 อีก แล้วก็ด้วยธีมด้วยการครีเอดไอเดียที่ผมได้ดูเบื้องหลัง ผมรู้สึกว่า มันว้าวมากในแต่ละซีน ผมฟังธีมของเฮียผมว้าวเลย ว้าวอ้าปากค้างเพราะสิ่งนี้ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน จิมมี่ : พอได้ธีมมาผมก็ได้ไอเดียเลย ผมเคยให้สัมภาษณ์แล้วว่า อะไรที่คุณไม่เคยเห็น คุณก็จะได้เห็นในที่นี้ บนเรือลำนี้ใครที่ยังไม่มีบัตรซื้อได้ที่ ซี : สามารถซื้อบัตรได้ที่ Thaiticketmajor ทุกสาขาเลย จะมีหลากหลายราคาให้เลือก จิมมี่ : ส่วนคนที่ไม่สามารถจะมาได้ วันที่ 18-19 พฤษภาคม เราก็มีขายบัตรแบบ Live Streaming ด้วย วันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEของเราก็มีเกมให้กับ“จิมมี่-ซี”กับเกมที่ชื่อว่า“วันนี้เป็นวัน สงกรานต์”ชุ่มฉ่ำ สนุกสนานกันแน่นอน!(เข้าไปชมได้ในYouTube: ATIME)​เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้แฟนคลับโทรเข้ามาพูดคุยกับ “จิมมี่-ซี” ขออวยพรวันเกิดซีก่อนนะคะ เป็นปีที่มีแต่ความสุข ไม่เจ็บปวด แล้วก็ได้กินของอร่อย ๆ เยอะ ๆ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วก็มีแต่คนเอ็นดู ตั้งแต่ปีนี้มาซีทำงานเยอะมากก็อยากให้ซีดูแลสุขภาพด้วย เพราะเป็นห่วงจริง ๆ แล้วทุกคำอวยพรที่ซีได้รับทุกข้อก็ขอให้มันเป็นจริงทั้งหมดเลย เพราะว่าซีคู่ควรที่จะได้รับทั้งหมดจริง ๆ และอยากจะบอกทั้งคู่ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ได้ไปดูคอนเสิร์ต อยากบอกพี่จิมมี่ว่าพี่เก่งมาก ๆ ที่พี่จิมมี่เคยบอกว่า ไม่ได้เก่งด้านศิลป์ อยากจะบอกว่าวันนั้นเป็นวันที่ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าพี่จิมมี่ทำได้ และทำออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย จากเราไม่เคยไปคอนเสิร์ตของทั้งคู่เลย คอนเสิร์ตปีที่เราก็ไม่ได้ไปเพราะเราพึ่งมาติดตาม แต่ว่ามันเป็นคอนเสิร์ตของเราที่ได้ไปดูครั้งแรก แล้วเราประทับใจมาก ทุก ๆ โชว์ ทุก ๆ อย่างที่ทั้งคู่ทำออกมา มันทำให้เรารู้สึกว่า เงินทุกบาทที่เราเสียไปเราคุ้มแล้ว อยากจะบอกทั้งคู่ว่าทั้งคู่สมควรที่จะได้รับความรักจากทุก ๆ คน มาก ๆ เลย แล้วก็ดีใจมาก ๆ ที่แบบได้เห็นผลงานของทั้งคู่ รวมไปถึงของหมอจิมมี่ เก่งมาก ๆ เลยทั้งเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แล้วผลงานก็ออกมาดีมากจริง ๆ สุขสันต์วันเกิดน้องซีล่วงหน้านะ ก็ขอให้น้องสุขภาพแข็งแรง มีงานเยอะ ๆ กินอิ่มนอนหลับ อยากจะบอกทั้งคู่ว่าติดตามมานานมาก จนมาถึงตอนนี้ทั้งคู่เติบโตมาได้ไกลมาก ดีใจมาก ๆ ที่ทุกคนรัก พี่ก็จะขอซัพพอร์ตทั้งคู่ไปเรื่อย ๆ รักมาก ๆ“จิมมี่-ซี” ขอบคุณสำหรับรางวัล “น้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ด” เราสองคนก็ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่เสนอชื่อนี้มา รางวัล “น้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ด” เอาจริง ๆ เราสองคนยังไม่เคยขึ้นเวทีรับรางวัลเลย อันนี้เป็นรางวัลแรกในชีวิตซึ่งดีมาก ๆ ได้เป็นรางวัลจากแฟนคลับ ก็คือ ดีใจมาก ๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่คอยซัพพอร์ตและคอยติดตามเรา ไว้มีโอกาสเราได้เจอกันบ่อย ๆ แน่นอน แล้วสัญญาว่าจะผลิตผลงานออกมาให้ทุกคนชื่นชมได้อย่างชื่นใจแน่นอน สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“จิมมี่-ซี” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากคอนเสิร์ต LOVE OUT LOUD FAN FEST 2024 : THE LOVE PIRATES สามารถซื้อบัตรได้ที่ Thaiticketmajor และไปเจอ “จิมมี่-ซี” ได้ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

5 หนุ่ม LYKN รับรางวัล "EFM FANDOM AWARDS" สาขา 'ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี' พร้อมขอบคุณที่ทำให้สิ่งที่ฝึกฝนมาตั้งนานอย่างน้อยก็มีคนเห็นแล้ว

10 เม.ย. 2024

5 หนุ่ม LYKN รับรางวัล "EFM FANDOM AWARDS" สาขา 'ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี' พร้อมขอบคุณที่ทำให้สิ่งที่ฝึกฝนมาตั้งนานอย่างน้อยก็มีคนเห็นแล้ว

EFM FANDOM LIVE [4 เมษายน 2567] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 5 หนุ่มอย่าง “LYKN” กับซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ฉ่ำ (CHARM)” พร้อมอัพเดตพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ “EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ต้าวก้อนพลังบวก” ต้าวก้อนก็คือ LYKN ทั้ง5คน เรียกให้น่ารักเหมือนแบบไอต้าววว เวลาเด็กๆอยู่รวมกันแล้วมันน่ารักมากๆ มันเหมือนมีมวลรวมที่เป็นพลังงานบางอย่างที่ไม่ว่าน้องจะทำอะไรก็จะยิ้มตามตลอด ไม่ว่าจะเป็นตอนไลฟ์ ตอนเต้น tiktok หรือตอนเล่นมุกโบ้ะบ๊ะ ยิ่งได้ไปเจอน้องตามงานได้เห็นน้องเพอร์ฟอร์มมันเหมือนได้เติมพลังงานที่ดีมากๆ ยิ่งเจอยิ่งใจฟู (บางทีอาจจะทำให้เราลืมเรื่องแย่ๆในวันนั้นไปชั่วขณะเลย) และการอยากเจอ1ครั้ง เท่ากับ อยากเจอตลอดไป ไลค์ยูทุกคนจะคอยซัพพอร์ต LYKN อยู่ตรงนี้เสมอนะค้าบ และอยากจะเติมพลังให้กับ LYKN เยอะๆเลยน้า2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี” ทุกครั้งเวลาไปตามงาน ตามอีเว้นท์ หรือคอนเสิร์ตของ LYKN จะครั้งไหนไม่เคยผิดหวังในตัว LYKN เลยสักครั้ง เป็นเด็กห้าคนที่พลังเหลือล้นไม่แผ่วเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง เต้นมันส์ เล่น(กับใจ)ไลค์ยู และยังไปตกพี่สาวด้อมอื่นเข้ามาได้ทุกครั้งที่ออนสเตจอีกด้วย ขอบคุณ LYKN ที่เต็มที่กับทุกโชว์เสมอมานะ ขอบคุณที่ทำให้รู้สึกได้ว่า "พวกแกไม่เคยดูถูกคนดูเลย"3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ยูกหมาน้อยที่อยากจะกำพร้าแม่” ทุกคนในวง LYKN น่ารัก บ้อกแบ้กเหมือนยูกหมาน้อยของไลค์ยูมาโดยตลอด ตั้งแต่ปล่อยโปสเตอร์ ทีเซอร์ของซิงเกิ้ลใหม่เพลงฉ่ำ ก็คือฉ่ำสมชื่อเพลง รับรู้ได้เลยว่า LYKN กำพร้าแม่แน่นอน!!! มัมหมี มัมหม๊าตายเรียบ!!! ฉีกสัญญาแม่ลูกเท่านั้น รักLYKN ทุกคนน้าาาา4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “like you (just the way you are)” รางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้กับศิลปินที่รัก เลยตั้งชื่อรางวัลว่า like you (just the way you are) เป็นรางวัลของคนที่เก่งที่สุดในโลกของไลค์ยู โดยที่ LYKN ไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใครเลย เลยนำคำว่า "like you" ซึ่งอาจจะเป็นคำง่าย ๆ แต่มีความหมายมาตั้งเป็นชื่อรางวัลนี้ 1. LYKYOU รางวัลนี้เป็นของ LYKN ที่มาจากหัวใจของไลค์ยู และบอกให้ไลแคนรู้เสมอว่าไลค์ยูจะคอยอยู่กับไลแคนไปตลอด 2. จากอีกหนึ่งความหมายของชื่อด้อม LYKYOU คือ like you (เมื่อ LYKN ลงมาจากเวทีแล้ว LYKN จะไม่ใช่หมาป่า แต่เราจะต่างเป็นเพื่อนพี่น้องกัน) รางวัลนี้จึงไม่ได้ให้ LYKN เพียงแค่ในฐานะศิลปินเท่านั้น แต่ยังให้ในฐานะเพื่อนพี่น้องคนสำคัญของไลค์ยูด้วย 3. like you (like each other) เราต่างรักกันและกัน LYKN เป็นคนในใจของไลค์ยู และไลค์ยูก็เป็นคนในใจของ LYKN เช่นกัน 4. like you just the way you are คือไลค์ยูรัก LYKN ในแบบที่ LYKN เป็น รักในตัวตน รักในทุกอย่างที่เป็น LYKN และอยากให้คงตัวตน ความสดใส และรอยยิ้มนี้ไปนาน ๆ สุดท้าย We're LYKYOU because we love the way you are ขอบคุณที่โลกใบนี้มี LYKN นะ :))5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “T-POP ที่ซัพพอร์ตและรักกันมากที่สุด” LYKN เป็นวงที่รักกันมากๆแบบมากสุดๆ ไม่ใช่เเค่เพื่อนแต่เป็นถึงครอบครัวกันไปเเล้ว แถมทำงานกันเก่งอีกตั้งหาก น้องๆน่ารักและซัพพอร์ตเพื่อนในวง และเพื่อนในวงการ t-pop ตลอดเลยยย(ปล.น้องน่ารักกันมากจริงๆอยากให้น้องดังยิ่งๆขึ้นไปอีก มีคนรักเยอะๆและไลยูก็จะอยู่ซัพพอร์ตแบบนี้ไปนานๆๆๆๆๆๆเลยน้ะ!!)ถึงเวลาที่ LYKYOU รอคอยยย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับหนุ่มๆ “LYKN”รางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี”ความรู้สึกที่มีต่อรางวัลนี้ เลโก้ : ไม่คิดเลยว่าจะได้มา ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี เป็นอะไรที่ไกลตัวมาก ไม่เคยคิดว่าจะได้นึกภาพตัวเองนั่งรับรางวัลอยู่ตรงนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมให้เลโก้เติบโตมาเป็นคน…ที่ดีในทุกวันนี้ 555 ตุ้ย : อย่าเว้นนาน ๆ 555 เลโก้ : ก็ขอบคุณ LYKYOU มาก ๆ ที่เสนอชื่อรางวัล เป็นรางวัลที่รู้สึกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับ LYKN ก็ได้เห็นว่าสิ่งที่ LYKN ฝึกฝนมาตั้งนานอย่างน้อยก็มีคนเห็น ตุ้ย : อยากขอบคุณ EFM FANDOM ด้วยที่ตั้งแคมเปญแล้วก็มอบรางวัลน่ารัก ๆ ให้กับเรา เราก็สัญญาว่าจะตั้งใจทำงานต่อไป ให้ LYKYOU และทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอนชวนทุกคนเข้าด้อม LYKN นัท : สวัสดีครับ ผมนัท LYKN สำหรับพี่สาวคนไหนที่ยังไม่รู้จัก LYKN อยากให้พี่สาวทุกคนลองกดเข้าไปในไอจีดูแล้วลองเสิร์ชคำว่า LYKN Official คุณจะเจอไอจีที่เรียกว่าค่อนข้างจะเทสดีเลยทั้ง 5 คน บอกเลยว่าหนุ่มทั้ง 5 คนนี้ คือหนุ่มที่น่าค้นหามาก ๆ ร้องเพลงเพราะ เต้นเก่ง 555 เลโก้ : ผมเลโก้ LYKN ผมอาจจะไม่ใช่ผีพราย คุณไม่ต้องตาย ก็ตกอยู่ที่ LYKN ได้ ฮง : ตอนแรกอาจจะสมัครเป็นมัมหมี แต่ว่าอย่าให้ผมเผลอที… ได้ละ ๆ ตอนแรกอาจจะสมัครเป็นมัมหมี แต่เจอกันคราวหน้าอีกที อาจจะเป็นเบบี๋แทนละกัน 555 วิลเลี่ยม : สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก ใครที่อยากจะมองซิกแพคก็มาดู LYKN กันได้ ตุ้ย : อยากจะฝากแฟน ๆ ทุกคน LYKN พึ่งจะปล่อยเพลงใหม่ออกไป ชื่อเพลงว่า ฉ่ำ เป็นเพลงที่ LYKN x กับพี่จุงแล้วก็พี่ปอน อยากจะฝากทุกคนเข้าไปฉ่ำกันเยอะ ๆ เพราะว่านึกถึงฉ่ำ นึกถึง LYKN x จุงปอนแน่นอนรางวัล “ยูกหมาน้อยที่อยากจะกำพร้าแม่”ภารกิจพูดคำว่า “รักมัมหมี” เวอร์ชันฉีกสัญญากับยูกหมาน้อย ฮง : ถึงมัมหมี อาจจะทำใจยากหน่อยเพราะผมอาจจะโตแล้ว แต่ว่าผมก็ยังรักมัมหมีเหมือนเดิม แค่อาจจะขอแม่มีแฟนเล็กน้อยอะไรอย่างงี้ 555 นัท : จะฉีกสัญญามัมหมีก็วันนี้แหละ รักมัมหมีนะครับ~ วิลเลี่ยม : รักมัมหมีนะก๊าบบบ~ เลโก้ : น้องเลโก้ยั๊กมัมหมีค้าบบบ~ ตุ้ย : อยากจะบอกว่า...ตุ้ยรักมี้นะก๊าบบบ~สำหรับซิงเกิล “ฉ่ำ (CHARM)~” ทุกคน : เป็นซิงเกิลที่ 4 แล้วครับ ตุ้ย : เหมือนเพลงนี้บอสก็รู้สึกว่าอยากจะให้โตแล้ว แบบว่าเหมือนพอผ่านมากำลังจะครบปีแล้ว ก็รู้สึกว่าอยากจะให้ LYKN โตขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าถ้าเอาพี่ปอนกับพี่จุงมาช่วยมันก็จะดูโตขึ้นไปอีก พี่ปอนกับพี่จุงก็คือคอลแลปอาร์ตติส คือเหมือนวงที่มี 7 คน เป็นอะไรที่เดือดมาก ๆ ความฉ่ำในเพลงนี้ ถ้าเอาเนื้อเพลงเหมือนเราไม่ได้เจอความรักดี ๆ มานาน เราค่อนข้างหัวใจแหบแห้ง แล้วมาเจอเธอมันทำให้หัวเราฉ่ำอีกครั้งนึง วิลเลี่ยม : ท่อนแรก โคตรจะแห้ง โคตรจะแล้ง โคตรจะไม่มีใคร~ เลโก้ : ดีนะผมเป็นคนโคราช ผมได้ยินโคตรจะแฮงแบบ อ้าว บ่มีแฮงหรอ เฮ้ย พี่แกงแต่งเพลงอีสานแล้วหรอ? 555“ตุ้ย” ร่วมแต่งเพลงฉ่ำ (CHARM)~ ตุ้ย : ก็คือเหมือนพี่แกงให้โอกาส เขาจะเห็นว่าผมชอบทำอะไรอย่างนี้ แล้วเพลงนี้ก็มีโอกาสได้ช่วยแต่ง ส่วนใหญ่ผมจะเป็นท่อนแร็พที่เสนอไปเยอะมาก เท่าที่ผมรู้สึกว่าใช้เวลาตรงนั้นนานที่สุดจะเป็นท่อนพี่ฮง เดี๋ยวผมจะลองสัก 1 ทีประมาณว่า จากสะเงาะสะแงะ ไม่มีสติสะเงอะสะงะ พอเธอผ่านตามาเคาะมาแคะ มาแวะปะทะ Uh อยากไปชิดไปแชะ เข้าไปสะกิดสักนิดSnap มันคงไม่ผิดถ้าคิดจะแวะไม่เว้นระยะ (Bring it back)~~ เลโก้ : ที่ไม่เคยได้กอดใคร~ ตุ้ย : ถ้าอนาคตดัดฟันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไง 555 พี่แกงเขาอยากได้แบบกลับคำ เราก็คิดว่า เอ้ย พี่ฮงร้องได้แหละ แต่งไปก่อน ฮง : ผมก็พูดเลยใครแต่งวะ 555 ร้องยากเพราะมันงงตรงหลัง ๆ วิลเลี่ยม : พาร์ทที่ยากก็ท่าเต้นเรารับกันเร็วมาก แต่ว่าน่าจะยากตรงกรูฟ กรูฟเพลงมันเป็นแดนซ์ฮอลล์แล้วก็ฮิปฮอป เรารู้สึกว่ามันเป็นแนวที่เราเคยลองเต้นเบสิกมาบ้าง แล้วรู้สึกว่ามันยากมาก ๆซีนนัทอุ้มเลโก้ใน MV ฉ่ำ (CHARM)~ เลโก้ : ผมไม่ได้กอด พี่นัทกอดผมเอง ตอนแรกกังวลอยู่เพราะว่าต้องใช้ความเชื่อใจประมาณนึงว่าเขาจะรับเราได้ไหม 555 แอบกังวลอยู่เลยคิดว่าอะไรที่ช่วยได้เราก็จะช่วย เช่น คุมน้ำหนักจะได้สะดวกเขาที่สุดโจทย์ในการฟิตหุ่น เลโก้ : ผมว่าทำเพื่อตัวเองมากกว่า พี่แกงพูดว่า ซีนนี้ขอโตขึ้นนะ แล้วเขาก็เกริ่น ๆ ว่า เพลงนี้น่าจะมีเปิดเนื้อเปิดหนังนะ คือผมก็คิดว่าน่าจะเปิดแค่ช่วงแขนปกติ แต่ก็…ว้าววว! นัท : อย่างที่น้องบอกเหมือนพี่แกงเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาทำซิงเกิล 4 ว่า ซิงเกิลที่ 4 มันจะโตขึ้น แล้วเหมือนจะต้องโชว์อะไรนิดหน่อย ผมก็เลยได้ยินแล้วต้องเข้าฟิตเนสเยอะขึ้น พอใกล้ถ่าย MV ก็มีไดเอทอะไรด้วยเพื่อให้ชัดขึ้น เลโก้ : อย่างที่พี่วิลเลี่ยมบอกว่าเพลงนี้มันเน้นในเรื่องของกรูฟมากขึ้น มันมีเรื่องของอินเนอร์เข้ามาเกี่ยวละ ผมรู้สึกว่าท่อนนี้เหมาะกับพี่นัทดี เพราะพี่นัทเขาก็โชว์อินเนอร์ตรงนี้ได้ออกมาเสียวสุด 555โลเคชันในการถ่าย MV ฉ่ำ (CHARM)~ นัท : จริง ๆ โลเคชั่นแรกเราไปถ่ายที่บางปะอินเป็นโรงประปาเก่า ฮง : ไม่ได้ร้อนเท่าที่คิด ไม่ร้อนเท่าซิงเกิลแรก อันนั้นจะเป็นโกดังที่เก็บความร้อน แต่อันนี้ไม่ค่อยร้อนขนาดนั้น นัท : เต้นฉากนี้แล้วเหมือนแบบลื่นด้วย กว่าจะผ่านฉากนี้ได้สะดุดหลายรอบอยู่ ตุ้ย : คนแรกก็คือเลโก้ ตอนแรกเลโก้ลงไปเซอร์เวย์ข้างล่างก่อนว่ามีอะไรบ้าง แล้วผมก็ลงไปเต้นเหมือนท่า Hit me up ครึ่งหลัง 555 แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ พอมันมีน้ำแล้วมันเป็นเหมือนรองเท้าคอมแบทมันก็จะเข้าไปขังอยู่ข้างใน ตอนที่ฟินที่สุดตอนถ่ายก็คือตอนที่ได้ถอดรองเท้าคู่นั้นหลังจาก 3-4 ชั่วโมงแล้ว เลโก้ : เวลาที่เท้าเราโดนน้ำแล้วมันอ่อนแอมาก ๆ แค่เปลี่ยนไปใส่สลิปเปอร์แล้วเดินก้าวปกติเอามือเดินยังจะง่ายกว่าแต่ไม่ทำ ส่วนทะเลทรายเป็นจังหวัดราชบุรี ถ่าย MV 2 วัน วิลเลี่ยม : วันแรกผมรู้สึกว่าตอนแรกจะร้อนมาก ๆ แต่ว่าวันนั้นโชคดีบรรยากาศอึมครึมการทำงานร่วมกับจุงและปอน เลโก้ : พี่จุงกับพี่ปอนมีส่วนร่วมเกี่ยวกับ LYKN มาสักพักละ อย่างกับพี่จุงนี่คือเราเคยมีสเตจร่วมกันที่ญี่ปุ่นมาแล้ว กับพี่ปอนผมก็เคยทำโชว์ Collab ด้วยกันสมัยอยู่ Project Alpha ก็เลยรู้สึกว่าไม่น่าทำงานด้วยยากคอนเซ็ปต์ของเพลงฉ่ำ (CHARM)~ เลโก้ : เหมือนที่พี่ตุ้ยพูดไปว่าคอนเซ็ปต์เพลงคือจิตใจเรามันแห้ง เราก็เอาโลเคชันที่นึกถึงนั่นก็คือทะเลทรายพื้นที่ที่ขาดน้ำ พอเราไปทะเลทรายปุ๊บสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คือน้ำ ถ้าเกิดเปรียบกับเนื้อเพลงเธอเข้ามาทำให้จิตใจฉันชุ่มฉ่ำ เหมือนเป็นคนที่เดินตามหาแหล่งชุ่มชื้นความรู้สึกหลังจากที่ดู MV ฉ่ำ (CHARM)~ เลโก้ : ตอนถ่ายจริง ๆ ก็รู้สึกว้าวแล้ว พอเราดู Play Back รู้สึกว่าน่าจะทำออกมาดี แต่ครั้งนี้ได้เห็นประกอบกับ CG ด้วย มุมกล้องที่ Cutting ไปมารู้สึกว่าโอเค นี่แหละคือเพลงที่ทำถึงที่สุดของ LYKN วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ 5 หนุ่มอย่าง “LYKN” เล่นกันด้วย กับเกมที่มีชื่อว่า ‘Battle ฉ่ำ!’ บอกเลยงานนี้สนุกสนาน ฉ่ำๆกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “LYKN” อยากจะบอกน้อง ๆ LYKN ทุกคนว่าขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ในทุกช่วงเวลา คือพึ่งจะเรียนจบ ช่วงที่ทำโปรเจกต์จบเหนื่อยมาก ๆ แค่ได้เห็น LYKN เห็นหน้าน้องก็รู้สึกหายเหนื่อย แล้วบางทีลงอะไรไปก็มาดูกันเยอะมาก น้องตุ้ยมากดไลค์ในทวิตเตอร์ วิลเลี่ยมบางทีก็มาดูสตอรี่ตอนดึกมาก จริง ๆ อยากให้นอนเร็ว ๆ บ้าง เพราะว่ามาดูดึกมากเลยเป็นห่วงทุกคน และอยากให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพตัวเองด้วย เพราะว่าช่วงนี้ทำงานเยอะมาก ๆ ก็อยากจะให้นอนเยอะ ๆ กินน้ำเยอะ ๆ กินยาอมเยอะ ๆ อยากจะบอกน้อง ๆ ว่าขอบคุณที่มาเป็น LYKN ในปัจจุบันนี้ ขอบคุณมาก ๆ ที่เป็นกำลังใจให้ อยากให้เด็ก ๆ ทำทุกอย่างให้มีความสุข แล้วก็ถ้าเหนื่อยหันมาหา LYKYOU บ้าง เดี๋ยว LYKYOU จะคอยปลอบ“LYKN” ขอบคุณสำหรับรางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี” นัท : ก็อยากจะขอขอบคุณทุกคนที่โหวตให้ LYKN ได้รับรางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี” ต้องขอบคุณ LYKYOU ทุกคนมากที่ทำให้พวกเราได้รับรางวัลนี้มา ไว้มีโอกาสมาเจอกันนะ สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “LYKN” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสนุก ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามซิงเกิลที่ 4 “ฉ่ำ (CHARM)” สามารถรับชมได้ทาง Youtube : RISER MUSIC หรือสตรีมมิ่งทุกแพลตฟอร์ม พร้อมเจอกันที่ Gotcha Pop 2 Concert 2024 วันที่ 11 พฤษภาคมนี้ และ Event ตลอดทั้งเดือนไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“เบนซ์กาฟิวส์แบตเตอรี่ของหัวใจ” รางวัลที่ชนะใจเหล่าแฟนๆจาก EFM FANDOM AWARDS มอบให้ “เบนซ์ - กาฟิวส์” พร้อมให้คำสัญญาจะทำให้ภูมิใจว่าเลือกรักคนไม่ผิด

03 เม.ย. 2024

“เบนซ์กาฟิวส์แบตเตอรี่ของหัวใจ” รางวัลที่ชนะใจเหล่าแฟนๆจาก EFM FANDOM AWARDS มอบให้ “เบนซ์ - กาฟิวส์” พร้อมให้คำสัญญาจะทำให้ภูมิใจว่าเลือกรักคนไม่ผิด

EFM FANDOM LIVE [21 มีนาคม 2567] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “เบนซ์ - กาฟิวส์” พร้อมอัปเดตพูดคุยกับ “ดีเจแนน และ ดีเจโซเซฟ” ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ EFM FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “MYRNA AWARDS FOR BENZGARFIELD” ที่มาคือคำว่า Myrna (เมอร์นา) ในภาษาแกลิก ที่แปลว่า "เป็นที่รัก" ค่ะ ชอบคำนี้มากๆเพราะความหมายดี ที่เลือกคำนี้มาใช้ก็เพราะว่าเปรียบพี่เบนซ์กับพี่กาฟิวส์เหมือน "ผู้เป็นที่รัก" การที่ได้มารู้จักพี่ๆเหมือนเป็นของขวัญอันล้ำค่าในชีวิตค่ะ ไม่ว่าในหนึ่งวันเราเจอเรื่องอะไรแย่ๆมา แค่ได้เห็นพี่ๆอัพไอจีอัพทวิตเคลื่อนไหวในโซเชียลเพียงเล็กน้อย วันนั้นก็จะเป็นวันที่สดใสขึ้นมาทันที และมีแพชชั่นในการใช้ชีวิตต่อ เลยเลือกใช้คำว่าเมอร์นามาเป็นชื่อรางวัลที่อยากมอบให้ศิลปินคนโปรดค่ะ2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เบนซ์กาฟิวส์แบตเตอรี่ของหัวใจ” ที่เสนอชื่อนี้ ตั้งใจเอาความหมายชื่อด้อมของทั้งสองคนมา mix กันค่ะ เพราะชื่อด้อมของน้องทั้งคู่ความหมายดีมากๆเลย ของเบนซ์คือ #แบตเตอรี่ของอเลิ้ต ที่มีความหมายสื่อตรงๆเลยคือแฟนคลับทุกคนคือแบตเตอรี่ คือพลังงานดีๆที่อเลิ้ตได้รับ ส่วนของกาฟิวส์คือ #ฟิวส์มิลี่ ที่มีความหมายที่ดีไม่แพ้กัน คือแฟนคลับทุกคนเปรียบเสมือนครอบครัวของกาฟิวส์ สุดท้ายแล้วพอเราเอาสองความหมายที่สื่อนี้มารวมกัน มันก็กลายเป็นครอบครัวใหญ่ ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเหนื่อยหรือจะท้อยังไง หากทั้งคู่หันกลับมาก็ยังมีครอบครัวที่พร้อมจะเติมแบตให้น้องทั้งคู่ไว้ลุยต่อกับงานหรือเรื่องที่ต้องเจอเสมอ และน้องๆเองก็เป็นเหมือนแบตเตอรี่ เป็นเหมือนครอบครัวของพวกเราเหมือนกัน มองเห็นเขาสองคนมีโอกาสดีๆเข้ามา มีคนรักมากขึ้นทุกวัน ได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ พวกเราก็เหมือนได้ชาร์ตแบตแล้วค่ะ ฝากชื่อรางวัลนี้ไว้พิจารณาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :)3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “จะไปหา...เมื่อเธอหิว” แนวคิดคือ เบนซ์เป็นคนชอบหิวมากๆ เวลาที่หิวก็อาจจะมีชวนพี่ฟิวส์ออกไปหาอะไรกิน หรือว่าเวลาที่พี่ฟิวส์หิวก็จะพากันออกไปหาอะไรกิน ฟิลแบบไม่ว่าเธออยู่ไหน...แค่เธอทักมาเราพร้อมไปหา55554.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “หนุ่มรถหรูกับคู่หูแมวส้ม” ที่มาขอชื่อนี้ คือง่ายๆเลยค่ะ มาจากชื่อของทั้งสองคน เบนซ์ก็คือรถหรู(รถเบนซ์)นั้นเอง ส่วนกาฟิวส์ก็ได้มาจากการ์ตูนแมวกาฟิวส์ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วทุกคนรู้โลกรู้กาฟิวส์ก็คือแมวส้ม เราก็เลยสรรหาคำที่จะมาเชื่อมชื่อของเบนซ์และกาฟิวส์ให้มาแมทซ์กัน ก็เลยได้มาเป็นหนุ่มรถหรูกับคู่หูแมวส้ม นั้นเองค่ะ5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เพื่อนรักนักซัพพอร์ตแห่งปี” แนวคิดมาจากความน่ารักของน้อง ๆ ทั้งคู่ค่ะ ตามใจเก่ง ซัพพอร์ตเก่ง ในที่นี้คือ ตามใจแฟนคลับ ซัพพอร์ตแฟนคลับเก่งมากค่ะ รวมถึงน้อง ๆ ทั้งคู่ก็ตามใจกันและกัน ซัพพอร์ตกันและกันเก่งมากๆ เช่นกัน คนนึงหิวก็จะมีอีกคนพาไปกินถึงจะไม่กินก็ไปนั่งเป็นเพื่อนได้ เวลาอยู่ด้วยกันถ้าคนใดคนนึงขอให้ทำอะไร เช่น การเต้น ถ้าขอให้ทำถึงแม้จะเขินแต่ก็ไม่เคยขัด พร้อมจะเป็นคนไทยไปเรื่อยด้วยกันเสมอค่ะ น่ารักกันมากๆ อยู่ด้วยกันทีไรโลกสดใสทุกทีเลยค่ะ ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “เบนซ์ - กาฟิวส์”รางวัล “เบนซ์กาฟิวส์แบตเตอรี่ของหัวใจ”ความรู้สึกที่มีต่อชื่อรางวัล “เบนซ์กาฟิวส์แบตเตอรี่ของหัวใจ” เบนซ์ : เอาจริงมันคือ 2 ด้อมรวมกัน ให้มันเป็นหนึ่งเดียวก็คือ “แบตเตอรี่ของอเลิ้ต” กับ “ฟิวส์มิลี่” เหมือนกับว่าเราสองคนได้อยู่คู่กัน มันก็คือครอบครัวเดียวกัน ถ้าเอามามิกซ์กันมันก็เหมือนกับว่าเรา forever เราก็สามารถอยู่ด้วยกันตลอดไป จริง ๆ ก็ดีใจ ไม่ว่าชื่อไหนเราก็ดีใจหมด มันมีความหมายทุกชื่อเลย ชอบมาก กาฟิวส์ : จริง ๆ เราชอบทุกชื่อที่เสนอมาที่มาของชื่อรางวัล “จะไปหา...เมื่อเธอหิว” เบนซ์ : อันนี้ชอบ เพราะเราทั้งสองคนคือเวลาหิว ผมชอบไลน์ไปหา “กาฟิวส์...กินข้าวไหม” เขาชอบกินดึก ปกติพวกเราซ้อมเต้นกันดึกมาก เลิกตี 2 ตี3 ผมก็หิวไง กลัวไม่มีเพื่อนไป ผมก็ชวนกาฟิวส์ก่อน ปกติเขาจะไป แต่ช่วงหลัง ๆ เริ่มลดหุ่น เขาไม่อยากกินดึก กาฟิวส์ : คิดว่าชื่อนี้จะได้ น้อยมากทีผมจะไม่ไป เหมือนโดนบังคับยังไงก็ไม่รู้3 ร้านอาหารในดวงใจของ “เบนซ์ - กาฟิวส์”1. Shakariki432 ไปเกือบทุกสัปดาห์2. A RAMEN ราเมงข้อสอบ ไปบ่อยมาก เอะอะก็ราเมง3. สมยง ร้านส้มตำข้างตึก หมดเงินเป็นหมื่น ๆ แล้วเบนซ์ชอบดูตลก ส่วนกาฟิวส์ชอบออกกำลังกาย เบนซ์ : ดูรายการตลก พวกพี่แจ๊ส พี่บอล พี่นุ้ย ในวันที่เราแย่ ๆ ในวันที่เราต้องการกำลังใจ เราเปิดดูรายการของพวกเขา แล้วก็รู้สึกว่าสามารถทำให้เรายิ้มได้ สามารถทำให้เราหัวเราะได้ในวันนั้น มันเป็นฟิลกู๊ดที่มันดีมาก ๆ สำหรับรายการของพวกพี่ ๆ เขา กาฟิวส์ : ปกติผมเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว ในวันที่รู้สึกเบื่อ ผมก็จะออกไปเสียเหงื่อสักหน่อย พวกวิ่ง หรืออะไรก็ได้ที่ธรรมดา ให้รู้สึกว่าวันนี้มีอะไรทำแล้วขอเม้าท์คู่ “สายลับ-ภณ” FAN MEETING ที่ฮองกง เบนซ์ : อย่างภณเขาไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อน แล้ววันนั้นคือทริปแรกของเขา การไปฮองกงคือการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตของเขา ซึ่งผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้นนะสำหรับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เขาก็รู้สึก โอ้โห ดี๊ด้าใหญ่เลย ไปถึงสุวรรณภูมิคือทุกอย่างคือโลกใบใหม่ของเขา ไปเดิน Duty Free เดินหาของกิน ดูน้ำหอม อะไรทุกอย่างคือเปิดโลกเขาหมด พอไปขึ้นเครื่องบินเขามีจอ กาฟิวส์ : มีจอ แล้วก็จะมีหน้าต่าง แล้วเขาก็จะแบบอยากรู้อยากเห็นไปหมดเลย เขาก็จะกดนู้นกดนี้ เขานั่งข้างพี่สายลับ เขาก็จะถามพี่สายลับนี่กดยังไง หรือหันไปมีหน้าต่าง เขาก็จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป“เบนซ์ - กาฟิวส์” ทำอะไรบนเครื่องบิน กาฟิวส์ : ผมนั่งข้างเขา เขาจะเป็นคนชอบทำสมาธิ นั่งแล้วก็หลับ เบนซ์ : คือวันนั้นผมไม่สบายด้วย ขึ้นเครื่องแล้วสัปหงกประมาณ 100 กว่ารอบ ส่วนกาฟิวส์ตรงที่นั่งก็จะมีโทรศัพท์ที่สามารถโทรไปหาเพื่อนที่นั่งตรงไหนก็ได้ กาฟิวส์ก็นั่งเล่นโทรศัพท์เล่น โทรหาคนฝั่งโน้นINTER FAN ให้การต้องรับดีมาก เบนซ์ : โอ้โหให้การต้องรับดีมาก มารอที่สนามบินแตกแตน พอวันโชว์จริงก็รู้สึกว่าแฟน ๆ มี Reaction กับเรา พูดภาษาของเขาโต้ตอบกับเรา บางทีเขาเตรียมภาษาไทยมาบอกรักเรา ก็รู้สึกว่าเขาอยากมอบความรัก อยากสื่อสารให้เรารู้สึกมีความสุขกับโมเมนต์นั้นจริง ๆ กาฟิวส์ : ตอนโชว์ แฟน ๆ ทุกคนน่ารักกันมาก ให้การต้อนลับเราเป็นอย่างดี เจอหน้าทักทาย ถึงเราจะสื่อสารกับเขาคนละภาษา แต่เขาก็พยายามสื่อสารกับเรา เพื่อต้องการที่จะให้กำลังใจเรารับบทเป็นตัวละคร...ในซีรีส์เรื่อง “รักนี้ไม่มีถั่วฟักยาว” เบนซ์ : รับบทเป็น “เมธัส” นักธุรกิจอสังหา กาฟิวส์ : ผมรับบทเป็น “หมอเจเจ” หมอกายภาพความยากของ “เมธัส - หมอเจเจ” กาฟิวส์ : อย่างเจเจ เขาเป็นหมอกายภาพ ผมไม่เคยมีความรู้ด้านกายภาพเลย ผมแค่นวดเป็น พอมาเป็นหมอกายภาพมันมีการยืด ต้องรักษาผู้บาทเจ็บ คุณเมธัสที่มีอาการบาดเจ็บด้านหัวเข่า ก็จะยิ่งหนักเข้าไปอีก ศัพท์ทางด้านการแพทย์อะไรอย่างงี้ ช่วงนี้ก็มีการ Workshop กันอยู่และก็ทยอยหาข้อมูลเกี่ยวกับหมอกายภาพก่อนเริ่มถ่าย เบนซ์ : ฝึกรวย555 รับงานทั่วทุกราชอาณาจักร เอาจริง ๆ มันก็ต่างจากบทที่เราเล่นมา ติดหล่ออย่างเดียว รวยด้วย หล่อกวนด้วย พี่ฉอดก็มีการปรับผมให้เข้ากับบท บทก็จะมีความกวน ๆผัดกะเพราไม่ใส่ถั่วฝักยาวหรือใส่ถั่วฝักยาว เบนซ์ : ไม่ใส่ถั่วฝักยาว กะเพราเป็นเมนูที่มาอันดับแรกของผมเลย คิดอะไรไม่ออกสั่งผัดกะเพราไว้ก่อน ผมชอบกินกะเพราแบบเผ็ด ๆ ฉ่ำน้ำหน่อย ๆ ขลุกขลิก ใส่อะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญไม่ใส่ถั่วฝักยาวจะดีกว่า กาฟิวส์ : ผมไม่ชอบถั่วฝักยาวอยู่แล้ว เวลากินมันเป็น Texture แปลก ๆ โดยปกติผมจะกินแบบ ผัดกะเพราที่ใส่ใบกะเพราไม่เผ็ด วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ “เบนซ์ - กาฟิวส์” เล่นกันด้วย กับเกมที่มีชื่อว่า ‘3 2 1 Action เจ้า!’ สนุกสนานกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “เบนซ์ - กาฟิวส์” พูดถึงเบนซ์ก่อน พึ่งติดตามพี่เบนซ์จริง ๆ จัง ๆ ก็ช่วงที่ PitBabe เริ่มฉาย ก็คือชอบที่เวลายิ้มมาก ๆ อยากให้พี่ยิ้มเยอะ ๆ อยากให้พี่มีรอยยิ้มที่สดใสในทุก ๆ วัน ไม่อยากให้มีเรื่องที่แบบมัวหมองใจเลย พี่เหมาะกับรอยยิ้มที่สุด ส่วนกาฟิวส์ ก็จะพูดเหมือนกันกับเบนซ์ ก็อยากให้กาฟิวส์ยิ้มเยอะ ๆ เหมือนกัน ไม่อยากให้มีเรื่องขุ่นหมองอะไรในใจ อยากให้ทุกวันเป็นวันที่ดีของกาฟิวส์ อยากให้กาฟิวส์สดใสในทุก ๆ วัน รอติดตามซีรีส์ใหม่ รอชมทั้ง “หมอเจเจ” และ “เสี่ยเมธัส” ด้วย แล้วก็แก็งแมวเหมียวฝากมาบอกว่า “รักมาก ๆ นะคะ” ขอบคุณที่เข้ามาทำให้เราได้รู้จักกัน คือชอบรอยยิ้มทั้ง 2 คนมากเลย แล้วก็ทำให้หนูได้รักพวกพี่มากยิ่งขึ้น หนูจะคอยซัพพอร์ตพวกพี่ไปเรื่อย ๆ ขอให้ซีรีส์เรื่องใหม่ประสบความสำเร็จ รอยยิ้มของทั้ง 2 คนเหมือนทำให้โลกสดใส ฮีลใจมาก ๆ ในวันที่เราเหนื่อยล้า ไม่สบายใจหนูก็จะเปิดภาพเบนซ์อเลิ้ต หรือไม่ก็เปิดคลิปที่พ่อเอส แม่ฉอดถ่ายลงสตอรี่ ขอบคุณเบนซ์มากที่ยังไม่หมดความพยายาม ยังไม่หมด Passtion แล้วก็ขอบคุณมากที่ทำให้ได้ถูกค้นพบขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พี่รอมานานมาก ว่าเมื่อไหร่เบนซ์จะกลับมา แล้วก็ดีใจมากเมื่อรู้ว่าเบนซ์กลับมาอีกครั้ง ถึงต่อจากนี้มันจะเหนื่อยหน่อย แต่ว่าก็อยากให้มีความสุขแล้วก็สู้ ๆ ต่อไป ตอนที่ได้เจอกาฟิวส์ แค่เห็นกาฟิวส์ยิ้มพี่ก็รู้สึกว่า เหมือนเรื่องแย่ ๆ ทั้งหมดในชีวิตมันหายไปเลย คือจริง ๆ มันทำให้พี่กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง อยากจะสู้กับชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณมาก ๆ ที่ได้รู้จักกาฟิวส์ ต่อจากนี้ก็จะพยายามซัพพอร์ตตลอดไปและสายสุดท้ายเป็นสาย Special จาก “ภณ ธนภณ เอี่ยมกําชัย” นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง “รักนี้ไม่มีถั่วฟักยาว” ก็ดีใจกับทั้ง 2 คนที่ไป EFM FANDOM LIVE ในครั้งนี้ แล้วก็ดีใจที่ได้ร่วมโปรเจคด้วยกัน ซีรีส์เรื่อง “รักนี้ไม่มีถั่วฟักยาว” ผมเชื่อว่าทั้ง 2 คนจะสร้างผลงานดี ๆ ให้กับแฟนคลับที่รักพวกคุณ ที่รอติดตามพวกคุณอยู่แน่นอน ผมมั่นใจ ยืนยันกับแฟนคลับได้เลยว่า คุณรัก 2 คนนี้ไม่ผิดแน่นอน“เบนซ์ - กาฟิวส์” ขอบคุณสำหรับรางวัล “เบนซ์กาฟิวส์แบตเตอรี่ของหัวใจ” กาฟิวส์ : ขอบคุณรางวัลแรกของ “เบนซ์ - กาฟิวส์” เป็นรางวัลที่พวกเราสองคนรู้สึกดีใจ ขอบคุณมาก ๆ เลยที่มอบรางวัลนี้ให้พวกเราเห็นที่ส่งชื่อกันเข้ามาและร่วมกันโหวต ก็ขอให้รักพวกเราแบบนี้ตลอดไป เบนซ์ : ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น “แบตเตอรี่ของอเลิ้ต” หรือ “ฟิวส์มิลี่” ทุกคนก็ส่งชื่อกันมาเยอะจริง ๆ ทุกชื่อมีความหมายหมด ขอให้รักพวกเราไปนาน ๆ ละกันอยากให้ทุกคนติดตามผลงานของพวกเราและ PitBabe ทั้ง 12 คน พวกเราอยากสร้างความสุขแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และจะให้คำสัญญากับทุกคน จะทำให้ภูมิใจว่าเลือกรักคนไม่ผิด ขอบคุณมากครับ สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “เบนซ์ - กาฟิวส์” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างเสียงหัวเราะ ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามซีรีย์ “รักนี้ไม่มีถั่งฟักยาว” และกิจกรรม “กะเพราCHALLENGE” สามารถติดตามข้อมูลได้ทาง CHANGE2561 ไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ต้อนรับ “กลัฟ คณาวุฒิ” ใน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัล “มารยาทงามไหว้ตั้งแต่ยามไปจนถึงเจ้าของตึก” และพูดคุยถึงความยินดีในซิงเกิลใหม่ ‘Congratulations (ยินดีกับเธอ)’

27 มี.ค. 2024

ต้อนรับ “กลัฟ คณาวุฒิ” ใน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัล “มารยาทงามไหว้ตั้งแต่ยามไปจนถึงเจ้าของตึก” และพูดคุยถึงความยินดีในซิงเกิลใหม่ ‘Congratulations (ยินดีกับเธอ)’

รายการ EFM FANDOM LIVE [21 มีนาคม 2567] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “กลัฟ คณาวุฒิ” กับซิงเกิลใหม่ล่าสุด ‘Congratulations (ยินดีกับเธอ)’ พร้อมอัปเดตพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจแนน” และ “ดีเจดาด้า”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นิ่งเป็นหลับ ขยับหาที่นอน” แนวคิดที่ 1 : แนวคิดมาจากเรื่องนอนไว้ใจน้องกลัฟ เป็นคนนอนอร่อย นอนเก่ง นอนเผื่อคนอื่น เป็นคนทุ่มเทจริงจังกับการนอนเมื่อถึงเวลานอน แนวคิดที่ 2 : น้องเป็นเด็กนอนเก่ง หลับง่าย ง่วงตรงไหน มีโอกาสนอนได้นอน แต่ก็ดีแล้วเพราะช่วงนี้สิ่งที่อยากให้น้องกลัฟทำมากที่สุดตอนนี้คือนอนเยอะๆ เพราะงานน้องแน่นมากก !!! เป็นห่วงสุขภาพหนูมากๆ พักผ่อนเยอะๆน้า แนวคิดที่ 3 : แฟนคลับน้องกลัฟรู้ กลัฟรู้ ไม่ว่าบทสัมภาษณ์จะถามเวลาว่าง งานอดิเรกของกลัฟคืออะไร เวลาว่างจากทำงานกลัฟจะทำอะไร เวลาว่างจากในกองทำอะไร กิจกรรมที่ชอบทำคืออะไร กลัฟจะตอบว่า "นอน" จบ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ศิลปินพลังบวก” อยากให้กลัฟได้รางวัลนี้ เพราะทุกครั้งที่เห็นกลัฟทำงาน เห็นกลัฟแสดงละคร ซีรีส์ หรือแม้กระทั้งร้องเพลง น้องจะมีความตั้งใจอย่างเห็นได้ชัด ทั้งคำบอกเล่าจากเพื่อนๆ ศิลปิน นักแสดง และผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง ที่เคยร่วมงานกับน้อง มักจะบอกเสมอว่าน้องน่ารัก ตั้งใจ และทุ่มเทอยู่เสมอ ทุกครั้งที่กลัฟเจอพี่ๆแฟนคลับ น้องจะพยายามหาเวลาให้พวกพี่ๆ คอยหาเวลามาพบกันเสมอ โดยภาพรวมกลัฟเป็นคนที่ใส่ใจในทุกสิ่งที่กำลังทำ มองโลกในแง่ดี มองโลกในแง่บวก ลองผิดลองถูก พยายามปรับตัวเองให้ดีพร้อมอยู่ตลอดเวลา อยากให้กลัฟได้รู้ว่า ทุกครั้งที่มองกลัฟ น้องเป็นเหมือนกำลังใจของพวกพี่ๆ น้องเป็นพลังที่ดีคอยปลอบประโลมใจ ยามท้อยามเหนื่อยก็มักจะมองมาที่น้องบ่อยๆ น้องเป็นแบบอย่างของคนที่ตั้งใจ มองโลกในแง่ดี พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัวอยู่เสมอ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย อยากให้น้องรักษาความดีนี้ไว้ และเป็นคนดีของพี่ๆ น้องๆ แฟนคลับ หากน้องเหนื่อย ท้อใจเมื่อไหร่ ก็ยากให้รู้ว่ายังมีแฟนคลับทุกๆคน ที่คอยเป็นกำลังใจ พร้อมสู้ไปด้วยกันอยู่เสมอ สุดท้ายนี้ก็อยากมอบรางวัลให้กับกลัฟ ผู้ที่เป็นทั้งความรัก ความสดใส และเป็น"พลังบวก"ให้กับพวกเราเสมอ. รักตลอดไป GROW AS WE GO3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “แก้วตาดวงใจของด้อม” น้องกลัฟคือแก้วตาดวงใจของทุกคนในด้อม ที่แม่ๆฟูมฟัก ดูแล เอาใจใส่ เฝ้ามองการเติบโตในทุกๆก้าวเดินของน้องในวงการบันเทิง น้องอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุดแต่น้องก็ตั้งใจในงานและโอกาสที่ผ่านเข้า4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “มารยาทงามไหว้ตั้งแต่ยามไปจนถึงเจ้าของตึก” แนวคิดที่ 1 : จะเห็นมาตลอดสำหรับกลัฟ ความอ่อนน้อมถ่อมตน การมีสัมมาคารวะ ไม่ว่าจะไปออกงานหรือออกกองละคร น้องจะไหว้ตั้งแต่มาถึงงาน จนเลิกงานน้องไหว้ทุกคนจริงๆค่ะ รางวัลเหมาะกับน้องค่ะ แนวคิดที่ 2 : รักในความนอบน้อมของพี่กลัฟ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทั้งไทยและต่างประเทศ พี่กลัฟจะทักทายด้วยการสวัสดีเสมอ ทุกภาพสื่อที่ออกมา จะเห็นได้เลยว่า พี่กลัฟไหว้ทุกๆ คนด้วยความนอบน้อมเสมอ พร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจ การไหว้ คือวัฒนธรรมของไทยที่งดงาม แนวคิดที่ 3 : ภาพชินตาเสมอ น้องกลัฟกับความนอบน้อม ถ่อมตน การพนมมือไหว้ทุกคน ไปทุกประเทศเป็นฑูตวัฒนธรรมตัวน้อยของแม่ มารยาทงาม งามอย่างไทย เอารางวัลไปเลยค่ะ5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Inspirational Artist (ศิลปินสร้างแรงบันดาลใจ)” He is a determined and hardworking. He fight to cross his limit to proof the world that he can do anything with determination. He used to be criticized for not good in singing, but he has proven that he can sing beautifully and now he already released some singles. He is always willing to learn and improve. Never talk bad about other people. He accepts criticism with open mind. He is also an inspiration for his fans and all people for being respectful and humble to anyone, generous and charitable, loving his family very much. (เป็นคนมุ่งมั่นและขยัน เขาต่อสู้เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าเขาสามารถทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น เคยโดนวิจารณ์ว่าร้องเพลงไม่เก่งแต่ได้พิสูจน์แล้วว่าร้องได้ไพเราะและตอนนี้ก็ปล่อยซิงเกิลออกมาบ้างแล้ว เขาเต็มใจที่จะเรียนรู้และพร้อมปรับปรุงอยู่เสมอ ไม่ว่าร้ายเกี่ยวกับคนอื่น เขายอมรับคำวิจารณ์ด้วยใจที่เปิดกว้าง อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ และทุกๆคน เรื่องการเป็นที่เคารพและความถ่อมตน มีน้ำใจและรักครอบครัวของเขามาก)ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “กลัฟ คณาวุฒิ”รางวัล “มารยาทงามไหว้ตั้งแต่ยามไปจนถึงเจ้าของตึก”ความรู้สึกที่มีต่อชื่อรางวัลนี้ ขอบคุณมากครับผม เอาจริง ๆ ไม่คิดว่าการไหว้จะกลายมาเป็นรางวัลให้ตัวเอง ผมว่าการไหว้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะมีติดตัวไว้ มันแสดงถึงความอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะการไหว้มีความสำคัญกับกลัฟมาก การไหว้เป็นการแสดงถึงความมีมารยาท ความอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยความที่ผมยังเป็นเด็กเจอผู้ใหญ่ หรือเจอใคร ต่อให้เขาไม่ได้มีผลกับชีวิตเรา แค่เราไหว้ก็สามารถส่งต่อความใจฟู อย่างตัวผมเองถ้าสมมติเจอเด็กคนหนึ่ง อาจจะเป็นรุ่นน้อง ไม่ต้องเดินเข้ามาไหว้หรอก ขอแค่มีจิตใจแบบว่า “พี่กลัฟ สวัสดีครับ” ก็กลายเป็นเด็กน่ารักขึ้นมาทันที“แก้วตาดวงใจของด้อม” กลัฟกี่ขวบ ในสายตาของแฟน ๆ ถ้าถามตัวผมเอง คงตอบว่า 26 ปี แต่แฟนคลับก็บอก 2 ขวบ 6 เดือนบ้าง 3 ขวบบ้าง เอาจริง ๆ เป็นอะไรที่น่ารักเหมือนกัน การที่มีผู้ใหญ่เอ็นดู ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เพราะเอาจริง ๆ ก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่ง ผมจะมีแม่เยอะขนาดนี้“กลัฟของขลัง” ให้เลขแล้วถูก มันฟลุ๊คมากกว่า มันฟลุ๊คและถูกบ่อย อย่างเคสล่าสุดเห็นพี่ ๆ แฟนคลับใน X แคปมา งวดล่าสุดสองตัวออก 78 เหตุการณ์คือผมมีไฟลท์บินไปเกาหลี ผมก็ถ่ายแค่หน้าจอ ซึ่งบนหน้าจอติดเลข 7809 แล้วก็ไปประจวบอีกว่าในอินสตาแกรมผม ติดตามคนทั้งหมด 780 คน และอีกอย่างคือละครที่ผมเล่นก็จะมีรถประจำตัว เลขทะเบียนรถลงท้ายด้วย 78 แล้วมันก็จะไปฟลุ๊ครอยอื่น เป็นฟิลแบบตอนรวมพล แฟนคลับก็จะตะโกนขอเลขหน่อย ขอหวยหน่อย ผมก็บังเอิญเจอเลขตามป้าย ผมก็ชี้ ๆ ไป กลายเป็นว่าถูกประมาณ 3-4 ครั้งสงกรานต์เดือนหน้าหยุดเล่นน้ำ เพราะร่างกายเราก็สำคัญมาก ๆ ในการทำงาน ในการใช้ชีวิตต่าง ๆ ถ้ามันหนักมากเกินไปมันก็อาจจะไม่แฮปปี้ ก็มีแพลนที่คุยกับเพื่อนว่าอาจจะไปต่างประเทศหลากหลายบทบาทในวงการบันเทิงของกลัฟ นักแสดง ศิลปิน นักร้อง แรปเปอร์ นายแบบ แต่ก็มีบทบาทที่เคยได้ลองทำคือ ผู้ประกาศข่าวกีฬาตอนฝึกงาน เอาจริง ๆ ผมชอบกีฬา ชอบเตะบอล และชอบติดอตามข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอลอยู่แล้ว พอตอนปี 4 ก็ได้มีโอกาสไปฝึก พี่ ๆ ก็ให้ลงมือทำเลยแบบจัดรายการ ก็จะมีพี่ ๆ เขาจัดประจำนั่งพูดคุยด้วย มีวิเคราะห์กีฬา อ่านข่าวกีฬาตอนเด็ก ๆ กลัฟเป็นนักฟุตบอล เคยมีโอกาสได้ไปลองเกือบจะจริงจัง ตอนนั้นเป็นฟุตบอลระดับนักเรียน ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบ ผมก็ลองไปคัดดูสรุปก็ได้ติดทีม ซ้อมได้ประมาณครึ่งปี ผมว่าหนักเกินไปสำหรับเรา ต้องเรียนไปด้วย เลิกเรียนก็ซ้อมจนถึง 2 ทุ่ม ซึ่งบ้านผมอยู่พระราม 2 กว่าจะกลับถึงบ้าน ผมก็เลยรู้สึกว่า เก็บฟุตบอลไว้เป็นงานอดิเรกของเรา แล้วให้คนอื่นที่เขาพร้อมลุยดีกว่าเนื้อหาเพลง “Congratulations (ยินดีกับเธอ)” มันช่างเจ็บปวด เพลงนี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ตรง ที่อยากจะมาแชร์ให้พี่ ๆ แฟนคลับได้ฟังกัน ผมรู้สึกว่าเพลงอกหัก ทุกคนน่าจะเคยเจอมา และทุกคนก็สามารถย่อยได้ประสบการณ์ตรง ตอนมัธยมกลัฟออกหักบ่อย ก็มีทั้งแบบชอบไม่ได้บอก โดนเทก็มี ทิ้งไปคบกับเพื่อนก็มี แรก ๆ ก็มองหน้าเพื่อนไม่ติด ด้วยความที่เราอาจจะยังเด็กด้วย ตอนนั้นก็ไม่ได้เข้าใจบริบทอะไรมาก แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเราเข้าใจ ด้วยความที่โรงเรียนสวนกุหลาบก็ถูกปลูกฝังเรื่องเพื่อน เรื่องอะไรค่อนข้างเยอะ ก็เลยรู้สึกว่าช่างเถอะ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เพลงนี้ได้ร่วมงานกับ “The Toys ” ในหลาย ๆ ท่อนพี่เขาเป็นคนดีไซน์มาแล้ว อยากให้ร้องแบบนี้ เช่น ท่อนใส่สูทผูกไท้ จะเป็นพรีฮุก อยากให้ร้องเป็นเมโลดี้แบบนี้ พี่เขาก็จะบอกให้พยายามร้องให้พี่หน่อย ก็ยาก เพราะมันเป็นลายเซ็นของพี่ The Toys ค่อนข้างชัดมาก ๆ ทั้งท่อนแรป ท่อนร้อง ถ้าพูดตรง ๆ ผมก็ไม่ได้มีศักยภาพเยอะเท่าพี่ทอย แต่ก็ดีที่พี่ทอยก็ช่วยปรับ ๆ บางส่วนของเพลงที่มันเกิน ก็ช่วยปรับให้มันเข้ากับสไตล์เรากลัฟแต่งแรปเอง ขอสัก 1 ท่อน ซิงเกิลที่ผ่านมาก็มีบางพาร์ทที่ผมเขียนเอง ก็มีในสต็อกค่อนข้างเยอะที่จดลงในโทรศัพท์ เก็บเอาไว้นะโมเม้นนั้น เรารู้สึกทัชกับประโยคนี้เราก้เอามาใส่ ตอนนั้นเป็นฟิลอกหัก ก็จะเขียนว่า ~ตอนนี้คุณ Sunlight แต่ว่าผมนั่น Sunset…นางเอก MV เป็นแวมไพร์ ผมคุยกับพี่เน็ท ที่เป็นผู้กำกับ MV ผมว่า “พี่ครับ MV อกหักมีโคตรเยอะในไทย รักกัน เลิกกัน ร้องไห้ แล้วก็จากกันไป ผมอยากได้แบบแฟนตาซีนิดหนึ่ง” ไม่เหมือนคนอื่น เหมือนช่วงนั้นพี่เน็ทเขาไปดูหนังเรื่อง The Addams Family มา ถ้าเราเล่าในมุมที่มันเป็น Monster เป็นความรักระหว่างหมอผีกับ Monster ซึ่งมันไม่มีทางจะเป็นไปได้อยู่แล้ว เหมือนจะไล่ล่ากันด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นว่าเขาทำสตอรี่ให้เราไปตกหลุมรักผี อะไรแบบนี้ มันก็จะกลายเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ระยะเวลาในการถ่ายทำ MV เพลง “Congratulations (ยินดีกับเธอ)” ถ่ายวันหนึ่ง แต่เป็นวันหนึ่งที่ถ่ายตั้งแต่ประมาณ 10 โมง ไปจนถึง ตี 3วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ “กลัฟ คณาวุฒิ”” เล่นกันด้วยกับเกมที่มีชื่อว่า ‘คุณกลัฟขอเลี้ยงลูก’ สนุกสนานกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “กลัฟ คณาวุฒิ” ขอบคุณที่น้องกลัฟเป็นความสุขให้ทุก ๆ คนอยู่เสมอ และทุกครั้งที่เจอกลัฟ เหมือนการชาร์จพลังความสุข มีแต่พลังบวกทุกครั้ง ช่วงนี้น้องกลัฟทำงานหนัก ก็รู้ว่าเหนื่อย บางงานก็อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่หวัง อาจจะมีท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ก็อยากให้กลัฟหันมารับพลังจากพวกเรา ซึ่งพวกเราได้รับพลังบวกจากกลัฟเสมอ พวกเราก็อยากให้กลัฟมารับพลังบวกจากพวกเราไป แล้วพวกเราก็ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ไปให้ไกลที่สุด ให้พี่กลัฟสู้ ๆ ตั้งใจทำงาน หนูค่อยเป็นกำลังให้ งานบอลหนูก็จะไปกรี๊ดให้สุดเสียง ไปเป็นกำลังใจให้พี่กลัฟ อยากให้กำลังในน้องกลัฟ เรื่องละคร ละออจันทร์ น้องดีไซน์ตัวละครของ หม่อมหลวงภูธเนศ จุฑาเทพได้แบบดีมาก ๆ เลย ตามฉบับของตัวน้องกลัฟเอง พอดูแล้วก็รู้สึกว่าเขาหลุดออกมาจากในนิยาย การแสดงของน้องกลัฟแบบดี ขอบคุณน้องกลัฟด้วยที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลย น้อมรับทุกความติชม ก็อยากเป็นกำลังให้น้องในส่วนนี้ “กลัฟ คณาวุฒิ” ขอบคุณสำหรับรางวัล “มารยาทงามไหว้ตั้งแต่ยามไปจนถึงเจ้าของตึก” เป็นเกียรติมากสำหรับ รางวัล “มารยาทงามไหว้ตั้งแต่ยามไปจนถึงเจ้าของตึก” รู้สึกว่ารางวัลนี้เป็นรางวัลที่ผมไฝ่ฝันมานาน รู้สึกว่ามันคอมพรีสแล้ว ชีวตินี้ผมไม่ต้องทำอะไรแล้ว ผมสามารถตายตายหลับได้เลย 555 สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “กลัฟ คณาวุฒิ” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความน่ารัก ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามเพลง “Congratulations (ยินดีกับเธอ)” สามารถรับชมได้ทาง YouTube : gulfkanawut หรือสตรีมมิ่งทุกแพลตฟอร์ม ไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“PP KRIT” ขอเสนอตัวใน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัล ‘ศิลปิน ICONIC แห่งยุค’ ที่ไม่ว่าจะไปบุกที่ไหน #พีพีพูดไปเรื่อย จะเป็นตำนานตลอดไป

20 มี.ค. 2024

“PP KRIT” ขอเสนอตัวใน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัล ‘ศิลปิน ICONIC แห่งยุค’ ที่ไม่ว่าจะไปบุกที่ไหน #พีพีพูดไปเรื่อย จะเป็นตำนานตลอดไป

รายการ EFM FANDOM LIVE [14 มีนาคม 2567] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “PP Krit” กับซิงเกิลใหม่ล่าสุด “เสนอตัว (Ooh!)” พร้อมอัพเดตพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ศิลปิน ICONIC แห่งยุค” **ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น**​ แนวคิด 1:เพราะพีพีไม่ใช่แค่เป็นนักร้องที่สร้างความสุขผ่านเสียงดนตรีเพียงนั้น แต่ชื่อของพีพียังถูกจดจำในบทบาทของไอคอนิคด้านแฟชั่น และการยืนหยัดความเป็นตัวเองในด้านของLGBTQ+อีกทั้งยังเป็นเด็กน่ารักที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่พบเจอทั้งหมดทั้งมวลของความแตกต่าง อยู่ในตัวของคนๆนี้ที่ชื่อว่าพีพี กฤษฏ์ไม่รู้ว่าอีกกี่สิบปีหรือยี่สิบปีจะได้เจอคนแบบพีพีอีก จึงสมควรได้รับรางวัลให้สมกับการมีส่วนขับเคลื่อนโลกศิลปิน แฟชั่น และLGBTQ+ แนวคิด 2:น้องพีพีเป็นศิลปินที่ยูนีคมากไม่ว่าจะหยิบจับหรือทำอะไรก็กลายเป็นกระแสไปหมดรางวัลศิลปิลไอคอนิคคือศิลปินที่เป็นไอค่อนของวงการตัวแม่ตัวพ่อตัวปังตัวเปิดผู้ที่พลิกวงการเพลงทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำมาก่อนกล้าเปิดเผยสิ่งที่เป็นสิ่งที่ตัวเองอยากทำและเผยแพร่สู่สาธารณะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมใหม่ๆ การเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงมากที่สุดแมสทุกการเคลื่อนไหวมีแต่คนรักคนเอ็นดูลูกหลานที่ควรมีทุกบ้าน รางวัลนี้มีไว้สำหรับศิลปินเดี่ยวที่ทั้งร้องและเต้นรวมถึงแสดงโชว์ได้น่าสนใจและน่าประทับใจจนมีแต่คนพูดถึง ซึ่งน้องพีพีเป็นทั้งไอค่อนrisingและยูนีคเพราะฉนั้นจะมาเป็นพีพี กฤษฏ์เหมือนกันไม่ได้คนที่คู่ควรกับรางวัลนี้ที่สุดคือศิลปินPPKritค่ะ 2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นางฟ้า Award”​ สำหรับน้องพีพีลูกรักของมัมหมี ไม่มีใครจะน่ารักและแสนดีกับแฟนคลับเท่าน้องพีพีแล้ว เวลามีอีเว้นท์ต่อให้ไกลตามซอกตามหลืบแค่ไหนน้องพีพีก้อจะพยายามเดินไปหาตลอดเพราะกลัวแฟนคลับจะไม่ได้เห็นน้องใกล้ๆ ไหนจะน้ำเย็นๆ กับขนมที่เคยซื้อแจกแฟนคลับเพราะเห็นแฟนคลับตากแดดร้อนมารออีก แสนดีแบบนี้ต้องเป็นนางฟ้า นางสวรรค์มาเกิดแล้วหล่ะ ยังไม่รวมถึงความตั้งใจในการทำงานทุกงานให้ออกมาดีที่สุดเพื่อเป็นการตอบแทนกับความรักและแรงซัพพอร์ตที่แฟนคลับมีให้ สมมงนางฟ้าที่สุด แสนดีไม่ไหว3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “บุคคลผู้เป็นที่รักและแรงบันดาลใจ” ตลอด 5-6 ปีหลังที่เราเริ่มเห็นน้อง พีพี มา เริ่มตั้งแต่ช่วงซีรี่ส์รักฉุดใจนายฉุกเฉิน จนมาซีรี่ส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ จนเรื่อยๆมาถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าน้อง พีพี มีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าทุกช่วงอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ใครๆก็รู้จักชื่อ พีพี ซึ่งงานโฆษณา พรีเซ็นเตอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ต่างๆจำนวนมากนี้ เป็นเครื่องการันตีว่าเป็นที่รักของผู้คนมากมายจริงๆ จากวันแรกที่ได้รู้จักน้อง พีพี ตอนนั้นยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูด พูดน้อย เขินกล้องเล็กๆ ใส่เสื้อยืดสีขาวบ่อยๆ แต่จากแรงซัพพอร์ตของทั้งคนรอบข้าง ทั้งจากแฟนๆ ทำให้น้อง พีพี ค่อยๆกล้าที่จะเผยความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาทีละนิด จากในวันที่อาจจะยังมีคนไม่เข้าใจ แต่น้อง พีพี ก็ยังยืนหยัดในความเป็นตัวตนของตัวเอง ในทุกๆผลงานที่เค้าทำออกมา น้อง พีพี ทำให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องพูดว่าเราเป็นอะไร ไม่ต้องมีคนมาคอยตั้งคำถามอะไร แค่เป็นตัวเองในทุกๆวัน ใส่ความเป็นตัวเองในทุกผลงานก็พอ น้อง พีพี อาจจะไม่ใช่คนแรก แต่เราเชื่อว่าการที่มีน้อง พีพี อยู่ในวงการบันเทิงนี้ ยิ่งในช่วง 4 ปีหลังนี้ มันเปลี่ยนแปลงวงการบันเทิงไทยและวงการ Marketing ไปมากทีเดียว รวมถึงความคิดและทัศนคติของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน หากถามใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เราเชื่อว่ามีหลายคนที่มีน้อง พีพี เป็นแรงบันดาลใจในหลายๆเรื่องแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นศิลปิน นักแสดง การแต่งตัว การวางตัว การรักตัวเอง เชื่อมันในตัวเอง และอื่นๆอีกมากมาย ในอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า หากเราย้อนมาพูดถึงเรื่องอดีตในวงการบันเทิง เราชื่อว่าจะมีชื่อ พีพี กฤษฏ์ เป็นตำนานแน่นอนค่ะ 4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นักปลูกดอกไม้ในหัวใจแห่งปี” เพราะความรู้สึกตอนได้รักน้องพีพีเหมือนมีดอกไม้เติบโตขึ้นมาในหัวใจค่ะ แล้วดอกไม้ในหัวใจเติบโตได้ด้วยรอยยิ้มของน้องพีพีเสียงหัวเราะของน้องพีพีและผลงานของน้องพีพีน้องพีพีเลยเป็นสุดยอดนักปลูกดอกไม้ในหัวใจแห่งปี! คอยดูแลรดน้ำดอกไม้ในหัวใจของแฟนๆ ให้อยากเป็นคนที่ดีขึ้น และเพราะความน่ารักของน้องพีพีทำให้ดอกไม้ในหัวใจแฟนๆเติบโตได้อย่างดีเลยค่ะ5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ขวัญใจชาวไทยพูดไปเรื่อย” เพราะน้องพีพีมีวาทศิลป์การพูดที่เลิศสุด ๆ รู้จักใช้คำ ใช้ประโยค ถึงแม้จะมีการเล่นมุข 5 บาท 10 บาทบ่อย ๆ บ้าง แต่ก็สามารถสร้างสีสันและความบันเทิงให้คนฟังอย่างหลากหลายจริง ๆ ค่ะ หรือในบางครั้ง(หลายครั้ง)น้องพีพีจะตอบไม่ตรงคำถาม(คนถามถามไม่ตรงคำตอบ) แต่ก็สามารถเลี้ยววกวนเข้าซอกออกซอยไปทุกที่แบบสนุกม่วนจอยตลอด ในช่วงแรก ๆ อาจจะทำให้คนฟังหลายคนมีงงบ้างนิดหน่อย แต่พอได้ติดตามฟังสัมภาษณ์หรือรายการที่น้องพีพีไปออกบ่อย ๆ ก็จะชินและเพลิดเพลินไปเองค่ะในตอนนี้น้องพีพีเองก็มีแฟนสัมภาษณ์อยู่พอสมควรเลยค่ะ เวลาเสิร์ชชื่อน้องพีพีในXก็จะเห็นหลาย ๆ คนพิมพ์มาประมาณว่า'ชอบเวลาน้องพีพีสัมภาษณ์มาก ๆ เพราะน้องใช้คำพูดคำจาน่ารัก ดูแล้วเอ็นดู''อยากให้พีพีมีงานทุกวันเลย อยากเห็นเค้าให้สัมภาษณ์''พีพีสัมภาษณ์ตลกมาก หัวไวเกิน'หรือ'เวลาเห็นพีพีสัมฯทีไรต้องกดดูตลอด ชอบความไปเรื่อยของน้องมาก'ประมาณนี้เลยค่ะ ขวัญใจชาวไทยพูดไปเรื่อยสุด ๆ ค่าาาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “PP Krit”รางวัล “ศิลปิน ICONIC แห่งยุค”ความรู้สึกที่มีต่อชื่อรางวัลนี้ ก็ดีใจ ถ้าพีมองตัวเอง พี่ก็รู้สึกว่าเราก็ยังไม่ถึงขั้น ICONIC จริง ๆ คนที่เป็น ICONIC มันก็มีอีกเยอะมาก อาจจะเป็นแค่เราแตกต่างจากคนอื่นมั้ง คนอื่นอาจจะไม่ใส่แว่นแบบนี้ไง 555“พีพี” ตั้งชื่อรางวัลให้กับ “บิวกิ้น” ศิลปินพูดมากแห่งปี พูดมากแบบสาระดี ๆ ความรู้แห่งปี ระหว่างพีพีกับบิวกิ้น บิวกิ้นพูดเยอะกว่าอยู่แล้ว ปกติพีอยู่ข้างหลังจะเป็นคนเงียบ ๆแนวคิดหรือพลังบวกเกี่ยวกับความสวย ก็ขอบคุณแฟน ๆ ก่อนละกันที่มองพีว่าเป็น ICONIC หรือมองว่าพีเป็น ICON แล้วก็ได้รางวัลนี้มาด้วย จริง ๆ พีรู้สึกว่ามันไม่ได้อยู่กับว่าแฟชั่นหรืออะไรหรอก มันคือความมั่นใจในการเป็นตัวเอง ความมั่นใจที่เราจะกล้าแสดงออกในแบบของเรา แล้วก็เป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุดในทุก ๆ วัน หวังว่าทุก ๆ คนจะมีความสุขมากกว่า อยากให้ทุกคนมีความสุขที่แบบเหมือนเราได้ออกไปเป็นตัวเอง ส่งต่อเอนเนอร์จี้นี้ให้กับคนอื่นด้วยแสกผมเป็นของตัวเอง ปัดขวา! คือทุกคนจะไม่เห็นเลยว่าส่วนใหญ่เวลามีแสก แสกที่มากกว่าคือจะเป็นแสกข้างขวาตลอด แล้วข้างซ้ายจะปัดขึ้นหรือไม่ก็เอาลง ทุกคนจะเห็นว่าพีถนัดหน้ามุมซ้ายมากกว่า…รางวัล “ขวัญใจชาวไทยพูดไปเรื่อย”ความม่วน ความจอยเวลาให้สัมภาษณ์สื่อ คือเราก็ตอบแบบว่าในมุมมอง ทัศนคติของเราไง ไม่มีอะไรเลยก็พูดไปเรื่อยแหละ อะไรมาอย่างแรกปุ๊บพูดเลย ไม่ผ่านกระบวนการความคิดอะไรทั้งสิ้น อยู่ดี ๆ ก็ผุดขึ้นมา บางทีเราก็งงว่า อ้าว เราตอบอะไรไปว่ะเนี่ย? จริง ๆ พีว่าพอไปสัมภาษณ์ไม่อยากซีเรียส รู้สึกว่าอยากแฮปปี้ ๆ ดีกว่า เพราะเราไม่ได้มีข่าวเกาเหลาอะไรกับใครไง~ 555 นักข่าวชอบมาถามเรื่องของคนอื่น ซึ่งเราไม่รู้เรื่องคนอื่นเลย หนูไม่รู้จริง ๆ สมมติเป็นเรื่องเพื่อนหรือคนใกล้ตัว พีไม่รู้อยู่คนเดียว รู้อีกทีแบบเขาตีกันประมาณปีนึงจนเขาดีกันแล้ว พีก็อ้าว ดีกันแล้วหรอ? 555สำหรับเพลง “เสนอตัว (Ooh!)”มันคือเรื่องของการเสนอตัวไปเทคแคร์ดูแลเธอ~ ถ้าเราชอบกัน เราขอเข้าไปพูดคุยก่อนละกัน ฉันขอเสนอตัวชีวิตจริงเป็นคนชอบเทคแคร์ รู้สึกว่าการที่เราได้เทคแคร์เขา เราก็มีความสุขไปด้วย เหมือนเวลาเราทำอะไรบางอย่างให้เขาประทับใจ เราก็ดีใจไปด้วยไงใน MV พีพีไม่เปียกน้ำ… ซีนที่อยู่ในน้ำอันนั้นคือเปียกน้ำจริง ตอนแรกว่าจะเปียกแบบราดหัว แต่กลัวว่ามันจะหลายเทค เป็นเรื่องของเทคนิคกับเวลาด้วย แล้วเราก็รู้สึกว่าน้ำด้านหลังก็ดูเหมือนเราอยู่ในโลกแฟนตาซีขึ้น แต่จริง ๆ ท่อนล่างเปียกหมด เพราะแดนเซอร์เตะทีเข้าหน้า ปัดน้ำเข้าตาบ้างนิดหน่อย 5551 ท่อนที่ชอบที่สุดในเพลง “เสนอตัว (Ooh!)” ท่อน…ถ้าชอบ ถ้าชอบ เธอจะลังเล ลังเล ลังเลไม่ได้~ คำว่า ถ้าชอบ ถ้าชอบ อันนี้ตอนที่พีได้ยินเมโลดี้มา พีเป็นคนใส่คำนี้เข้าไปเอง อย่างท่อน อยู่ด้วยกันนาน ๆ นานอีกนิด~ อันนี้พีก็เป็นคนคิด คือพอคอนเซ็ปท์มันมา เรารู้สึกว่าถ้าเป็นเราในเมโลดี้นี้ เราคงอยากให้เขาอยู่กับเรานานอีกนิดนึง ถ้าสมมติเราชอบใครสักคน วันนึงเราก็ไม่อยากให้มันจบเร็ว ๆ เราอยากจะอยู่กับเธอมากกว่า 24 ชั่วโมงได้ไหม…ระยะเวลาในการถ่ายทำ MV เพลงเสนอตัว (Ooh!) ถ่ายวันเดียว แต่ถ่ายตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึงประมาณตี 4-5 เกือบ 24 ชั่วโมงชุดในการถ่ายทำ MV เพลงเสนอตัว (Ooh!) การเปลี่ยนชุดจริง ๆ มีประมาณ 8 ชุด แต่ใช้ไปทั้งหมด 6 ชุด เพราะว่ามีอันนึงมันโป๊ไป อีกชิ้นนึงเหมือนสั้นเกิน เลยต้องตัดอันนั้นออก เรื่องเสื้อผ้าก็ทำงานกับสไตล์ลิส อย่างหลาย ๆ ชุดในนี้เราก็บอกเขาไปแหละว่าเราต้องการอะไร พีบอกเขาว่า คอนเซ็ปท์เป็น Fallen Angle บางคนอาจจะคิดว่าเป็นชุดยาว สูง ๆ แต่เราแค่รู้สึกว่าไม่ได้อยากเป็นนางฟ้าแบบนั้น เราอยากเป็น Fallen Angle ที่แบบโดนไล่ลงมาจากสวรรค์ เสื้อผ้ามันเลยมีความขาด ปีกก็เป็นคนบรีฟเอง ไม่เอาปีกแบบสะพรึง แต่อยากได้ปีกมีความขาด ๆ นิดนึงพระเอก MV เพลงเสนอตัว (Ooh!) เจอน้อง “อีตั้น” นานแล้ว ตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้ว เหมือนเรารู้จักพี่คนเดียวกัน พี่วร-ทัตวร ศุกัณศีล ก็เลยได้มีโอกาสเจอน้องอีตั้นตามงานแฟชั่นโชว์บ้าง งานพี่วรบ้าง ได้พูดคุยกันตลอด ติดต่อไปตั้งแต่เพลง Fire Boy แต่ตอนนั้นคิวน้องไม่ได้จริง ๆ แล้วคิวพีก็ไม่ได้ด้วย พอผ่านไปเจอกันอีกทีที่งานดินเนอร์ แล้วได้คุยกัน ก็เลยชวนน้องอีตั้น เรากำลังจะทำเพลงนี้พอดี สนใจมาเล่นไหม? บางซีนก็เขินเวลาเราใกล้มาก ๆ เรารู้สึกว่า เราบ้วนปากยังนะ 555 แต่เขาไม่เขินเลย เขาเก่งมาก แล้วพอได้คุยกันระหว่างวันทำความรู้จักกันมากขึ้น เขาเป็นคนน่ารักมาก มี Attitude ที่ดี มีความคิดที่น่ารักREACTION ของ “น้องแอบิเกล” แอบิเกลบอกว่า เปลี่ยน! ไม่ดู! แอบิเกลจะดูคลิปช้างอะไรสักอย่าง ไม่ใจเสียก็บอกว่า เปลี่ยนก็ได้แอบิเกล ไม่เป็นไร เราเข้าใจ 555พระเอก MV ที่อยากร่วมงานด้วย ได้หมด เปิดโอกาสให้ทุกคน 555 จริง ๆ ก็ยังมีพี่ ๆ หลายคนที่อยากร่วมงานด้วย ให้นึกชื่อก็คิดไม่ออกเลยตอบไม่ได้พี่ณเดชน์ก็คือยืนหนึ่ง นัมเบอร์วัน เพราะเราคือนางฟ้าของพี่สายชล ใน MV เราเป็นนางฟ้าไง มีความเชื่อมโยงละ 555วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ “PP Krit” เล่นกันด้วยกับเกมที่มีชื่อว่า ‘ฉันขอเสนอตัว (ตัวอักษร…)’ สนุกสนานกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้เข้ามาถาม QA กับ “PP Krit”น้องพีพีมีแพลนจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวไหม? ที่จริงมี ทุกอย่างมันอยู่ในไทม์ไลน์ปีนี้ที่เราวางไว้แล้ว เดี๋ยวรอติดตามละกันพีพีจัดทอล์กโชว์ไหม? จริง ๆ ถ้าให้หนูพูดเองคนเดียวก็ยาก แต่ถ้าเราคุยกันอย่างนี้ หนูก็คุยกันได้หลาย ๆ เรื่องเห็นพีพีทำงานทุกวัน รู้ว่าต้องเหนื่อยมากแน่ ๆ อยากรู้ว่าพีพีให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง? ถามว่าเหนื่อยไหม ก็มีเหนื่อยบ้าง บางทีก็ท้อบ้าง มีจังหวะถอดใจด้วย แต่รู้สึกว่าเหมือนทุก ๆ ครั้งที่เราทำ พอเราได้ไปเจอแฟน ๆ บางคนตั้งใจมารอพี อย่างแฟน ๆ ที่รออยู่ด้านล่าง หรือแฟน ๆ ที่ไปอีเว้นท์ บางคนบินมาจากต่างประเทศ จากต่างจังหวัดก็มี และเขาไม่ได้หวังอะไรเลย เขาหวังแค่ว่าได้เห็นเราใกล้ ๆ แค่นั้นเอง ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจให้พี เราอยากทำลุคใหม่ ๆ งานเพลงใหม่ ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณพวกเขาที่ให้การซัพพอร์ตเราน้องพีพีมีแพลนจะไปเรียนต่อต่างประเทศตอนอายุเท่าไหร่? จริง ๆ เคยแพลนสิ่งนี้ไว้ แล้วล้มเลิกไป เพราะว่าแผนมันปรับตลอด ถามว่ายังอยากไปอยู่ไหม ทุกวันนี้ก็ยังอยากไป เพื่อนหลาย ๆ คนไปเรียนต่างประเทศก็ทยอยกลับมาแล้ว พอเจอบางคนก็เปลี่ยนไปเลย บางคนก็เหมือนเดิม ตัวเราเองเคยมีประสบการณ์ที่ไปต่างประเทศ เราเลยรู้ว่า สิ่งที่มันสำคัญที่สุดของการไปเรียน มันอาจจะไม่ใช่การได้รู้ความรู้กลับมาแบบ 100% แต่มันคือประสบการณ์มากกว่าถ้ามีคนมาเสนอตัวให้เรา สิ่งแรกที่พีพีจะเลือกมองอันดับแรกคืออะไร? มองตา ชอบใครก็จะมองตาเขาก่อน ตามันบอกความรู้สึก มองเข้าไปเรารู้เลยว่า ถ้าเขาชอบเรา แววตามันจะไม่เหมือนกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรกับเรา เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ผ่านดวงตาน้องพีพีช่วยแนะนำทริคการเสนอตัวแบบปัง ๆ หน่อย? การที่เราจะไปเสนอตัวให้ใคร หมายความว่าเราเริ่มคุยกับใคร มันควรเปิด Conversation ด้วยความ Positive ก่อน แต่ถ้าสมมติเราเดินเข้าไปแล้วแบบ เป็นไรอะ? เสนอตัวแบบใด 555 จริง ๆ มันคือความเข้าใจแหละ ในความสัมพันธ์ทุกอย่าง ความเข้าใจกันมันเป็นประเด็นหนึ่งที่สำคัญ พีเชื่อว่า ถ้าเราเริ่มจากการเข้าใจกันและกัน มันก็จะพัฒนาไปในความสัมพันธ์ที่ดีถ้าต้องมอบเพลง “เสนอตัว (Ooh!)” ให้ใครสัก 1 คน น้องพีพีจะมอบเพลงนี้ให้ใคร? มอบให้แฟน ๆ ที่เรารักตอนนี้มีอะไรที่ไม่ได้ทำ แล้วอยากลองไหม? พีว่า…สิ่งทีพีทำมาทั้งหมด มันอาจจะดูเหมือนเยอะ แต่จริง ๆ ยังน้อยมาก ยังมีคนที่มีประสบการณ์เยอะกว่าพีมาก พี่ ๆ บางคนทำงานมาเป็น 10 ปี เขาเก่งแบบ…สมมติเขาเดินเข้าไป เขาสามารถทำได้เลย เราก็อาจจะยังไม่ถึงเวอร์ชันนั้น เราก็ต้องทำการบ้านบ้าง ความพยายามบ้าง การพัฒนาตัวเองบ้าง ในแนวเพลง พีก็ยังทำแค่ 4 เพลง แสดงจริง ๆ ก็ 2 เรื่อง รู้สึกว่ายังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ แล้วมีอะไรอีกหลายแนวให้ลอง เรื่องแฟชั่นอาจจะได้เห็นพีในหลาย ๆ ลุค แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีอะไรน่าตื่นเต้นที่มันจะเกิดขึ้นอีก สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “PP Krit” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความน่ารัก ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามเพลง “เสนอตัว (Ooh!)” สามารถรับชมได้ทาง YouTube : PP Krit Entertainment หรือสตรีมมิ่งทุกแพลตฟอร์ม ไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“ATLAS” รับรางวัล EFM FANDOM AWARDS ในสาขา ‘หลวงพี่ทั้ง 7’ พร้อมอัปเดตพูดคุยซิงเกิลใหม่ I GOT THAT MAGIC ที่ทำเอาช็อตทีใจละลาย...

13 มี.ค. 2024

“ATLAS” รับรางวัล EFM FANDOM AWARDS ในสาขา ‘หลวงพี่ทั้ง 7’ พร้อมอัปเดตพูดคุยซิงเกิลใหม่ I GOT THAT MAGIC ที่ทำเอาช็อตทีใจละลาย...

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 7 มีนาคม 67]คืนนี้ต้อนรับ7 หนุ่ม “ATLAS” มาพร้อมกับเพลง ‘I GOT THAT MAGIC’ พร้อมอัพเดตพูดคุยไปกับ 2 ดีเจ“ดีเจแนน และ ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “The best hug of ALIS” best hug ไม่ใช่การที่ถูกโอบกอดด้วยร่างกาย แต่เป็นการโอบกอดกันที่จิตใจ ATLAS ทำให้เรารู้สึกได้ว่าการรักใครสักคนโดยที่ไม่รู้จักกัน แล้วเขาให้ความรักเรากลับมาโดยที่เขาก็ไม่ได้รู้จักเรา มันมีคุณค่ามากแค่ไหน แค่การมาดูสตอรี่ หรือรีทวิต เล็กๆน้อยๆ หรือการคอนแทคที่ทั่วถึงเวลาเพอร์ฟอร์มบนเวที มันยิ่งใหญ่มากสำหรับแฟนคลับอย่างเรา ถ้าศิลปินที่เราติดตามสักคนให้ความรักกับเรามากขนาดนี้ เราก็จะให้ความรักเขากลับไปมากกว่าที่เขาให้มา เราไม่เคยผิดหวังตั้งแต่ติดตาม ATLAS มา มีแค่คำถามที่ว่า ทำไมเราไม่เจอกันให้เร็วกว่านี้ แต่ถึงยังไงตอนนี้เราก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว ขอเกาะขาไปด้วยคนนะคะ เหนื่อยตอนไหน หันมาเมื่อไหร่ก็จะเจอ The best hug of ATLAS เหมือนกันนะ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Boyband multitask บอยแบนด์ครบเครื่อง” ATLAS เป็นบอยแบนด์ที่ครบเครื่องทำได้ทุกอย่าง ทั้งร้อง เต้น เล่นละคร เล่นตลก หรือเดินธุดงส์ (เร็วๆนี้กำลังจะเล่นละครเวทีมิวซิเคิลด้วย!) และจากเพลงที่ปล่อยออกมามากมายทำให้เห็นว่า ATLAS สามารถร้องและเพอร์ฟอร์มได้ทุกแนวเพลงจริงๆ ได้เป็นเอลิสรับรองไม่มีเบื่อ วันนี้เป็นบอยแบนด์ พรุ่งนี้เป็นดารา อีกวันเป็นพระ อยู่ดีๆเป็นยูทูปเบอร์ แป๊บๆเป็นดาวติ๊กตอก เผลอหน่อยกลายเป็นตลก เก่งเกินคุณน้าาาา3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “หลวงพี่ทั้ง7” ที่ตั้งชื่อนี้เพราะ ATLAS ขึ้นชื่อเรื่องการทำบุญ ชอบเข้าวัดทำบุญมากก เข้าวัดตลอดแทบจะทุกอาทิตย์ แทบจะเป็นบ้านหลังที่4ของพวกเขาแล้วมั้ง เป็นสายมูกันสุดๆ ชอบทำบุญจน ALIS กลัวแล้ว กลัวว่า ATLAS จะหนีพวกเราไปบวช พวกเรากลัวมากกก…4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ลอตเตอรี่รางวัลที่1” อยากยกรางวัลนี้ให้ ATLAS เพราะว่าแค่ได้รัก ได้ฟังเพลง ได้รู้จัก ATLAS ได้เป็นเหมือนผู้โชคดี ในวันที่ได้เจอ ATLAS เหมือนได้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ที่ไม่ใช่มีแค่ใบเดียวแต่มีทั้ง 7 ใบเลย พวกเขาสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะได้มากมาย และทำให้มีความสุข ใบที่1. คือ จูเนียร์ ถ่ายรูปเก่ง เราสามารถเห็นรูปสวยๆจากที่จูเนียร์ถ่ายได้ ใบที่2. คือ เจ็ท เราสามารถดูความเคยสงบจากเขาได้ มีความรู้ มีธรรมมะในจิตใจ ใบที่3. คือ ภูมิ แต่งรูปเก่งมาก เป็นดาราเบอร์ใหญ่ด้วย ใบที่4. คือ ไนซ์ ได้ดูไนซ์เต้นท่าง่ายมากมั้งได้แบบใจฟู ใบที่5. คือ เออร์วิน ตอนที่ได้เห็นเออร์วินเล่นกีต้าร์ให้ฟัง แล้วโครตเท่ ใบที่6. คือ มิวอ้อน ได้ฟังภาษาอังกฤษจากเด็กอินเตอร์ ฟังเพลงที่มิวอ้อนแต่งคือชอบมาก ทำถึงสุดๆ ใบที่7. คือ แทด บุคคลที่มีรอยยิ้ม ลักยิ้ม น่ารัก ขี้อ้อน สายเปย์ น้องแทดเป็นเหมือนของขวัญ และโลกทั้งใบเลย5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Best Performance and Social Movement” ATLAS เก่งทุกด้าน และคอยขับเคลื่อนสังคมตลอด เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา , AI , ลิขสิทธิ์ , การใช้สิทธิ์ ใช้เสียงเลือกตั้ง รวมถึงยังน่ารักและใส่ใจแฟนคลับมาก ๆ ไม่เคยทำงานดูถูกผู้บริโภคเลย MV ออกมาดีทุกตัว น่าสนใจทุกอย่าง แถม ATLAS โชว์ Performance ที่ดีทุกโชว์ มีไรแปลกใหม่มาเสมอถึงเวลาที่ชาว ALIS รอคอย~~ เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “ATLAS”รางวัล “หลวงพี่ทั้ง 7”Atlas เข้าวัด ทำบุญ ขอพร… ไนซ์ : เวลาเข้าวัดผมจะขออยู่สองเรื่องคือ เรื่องสุขภาพครับ ขอให้มีสุขภาพที่ดีจะได้มีงานเยอะ ๆ อีกเรื่องคือ ขอให้ดัง ตรง ๆ เลย ดังหรือยังไม่รู้แต่ก็ขออยู่ตลอด เจ็ท : ส่วนใหญ่แล้วผมจะขอให้ตัวเองมีสติ ผมรู้สึกว่าถ้าขอเรื่องอื่นเราก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าสติมันสำคัญกับเราในทุก ๆ เรื่อง เรื่องงาน การใช้ชีวิตหรือว่าการที่เราเผชิญหน้ากับอารมณ์ต่าง ๆ ในชีวิต ตราบใดที่เรามีสติ เราจะสามารถควบคุมทุกอย่างได้ ไนซ์ : และนี่คือข้อแตกต่างระหว่าง เด็กวิทย์กับศิลป์คำนวณนะครับ!! ขอบคุณครับ!! เออร์วิน : ไม่! ต้องเรียกว่าข้อแตกต่างระหว่าง คนที่เคยบวชแล้วกับคนที่ยังไม่เคยบวช~ แทด : แปลว่าพี่ไนซ์ต้องบวช! ไนซ์ : ได้~ พี่ทำทรงรับปริญญารอด พี่ก็ต้อง… ภูมิ : ทรงอะไรก็รอดแหละ แทด : ของผมส่วนมากทุกอย่างจะจบด้วยการ ‘ขอให้มีความสุข’ ถึงจะขอให้ดัง ขอให้รวยอะไรทุกอย่างก็จะวนกลับมาเรื่องเดิมคือ ขอให้มีความสุข เราก็อย่างให้ตัวเรามีความสุข อยากให้ครอบครัวเรามีความสุข ให้ทุกคนรักกันแล้วก็อบอุ่นครับผม ทุกวันนี้ก็ขอแบบนั้น ทุกวันนี้ก็มีความสุข ที่บ้านก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันก็อยู่กันอย่างอบอุ่นครับ ทุกวันนี้ก็มีความสุขดี เออร์วิน : หลัก ๆ ก็จะขอเรื่องสุขภาพครับแล้วก็ขอให้ชีวิตราบรื่น~ แล้วก็ถ้าชาติหน้ามีจริงเกิดมา ขอให้ได้เจอกับเอลิสทุกคนอีก ATLAS : อุ้ยยย~~ เจ็ท : อะ ไม่เจอกับ atlas แล้ว เออร์วิน : มันมาเป็นแพ็กอยู่แล้ว มิวอ้อน : ผมเคยขอให้เดบิวต์ แต่หลาย ๆ อย่างที่ขอจะไม่ค่อยบอกใคร เพราะยังอยากให้มันเป็นจริงอยู่เลื่อย ๆ ครับ แต่ที่ขอไปอีกหลายอย่างก็ยังไม่เป็นจริงฮะ เรื่องที่เป็นจริงคือได้เดบิวต์แล้ว~~ จูเนียร์ : ผมขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง แล้วก็ที่บ้านอยากให้กินอิ่มนอนหลับแค่นั้นก็พอแล้วฮะ~ ภูมิ : ทุกครั้งที่ผมขอ ผมจะขอให้ atlas รักกันไปนาน ๆ ~ เพราะว่าผมรู้สึกว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้น มันจะเล็กลงเมื่อเราทั้ง 7 คน รักกัน อยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือกัน เพราะว่าอย่างเรื่องอื่น ๆ เราบังคับได้ แต่เรื่องใจคนผมรู้สึกว่าเราต้องมีความศรัทธาด้วย ไนซ์ : แต่ว่า… ทำไมผมดูโลภอยู่คนเดียว~ แทด : ผมก็ขอเหมือนกัน!I GOT THAT MAGIC ถ้าต้องสลับพลังกับเพื่อน ๆ เออร์วิน : เป็นพี่จู เพราะว่าตอนถ่ายอากาศมันร้อน ถ้าได้ลงน้ำคงจะดี และรู้สึกว่าการได้เป็นเมอแมนมันก็เป็นอีกหนึ่งความฝันเหมือนกัน ไนซ์ : ห้ามซ้ำ ๆๆๆ แทด : ผมต่อ ๆๆ ผมอยากเป็นพี่เจ็ท~ เพราะว่าที่บ้านผมห้องน้ำผมกับพี่ชายมันติดกัน แล้วพี่ชายผมเวลาเข้าห้องน้ำชอบล็อกประตูแล้วลืมปลดล็อกให้ผมผมก็รอนานมากว่า เมื่อไหร่พี่จะอาบน้ำเสร็จกคืออาบเสร็จนานแล้วแต่ลืมปลดล็อกประตูให้ผม! ก็เลยอยากได้พลังพี่เจ็ทจะได้ปลดล็อกเองได้~~ ภูมิ : ผมต่อ ๆ ผมอยากได้พลังมิวอ้อน เพราะว่าประหยัดค่าแก๊สที่บ้าน~~ ATLAS : อ่า~~~ มีประโยชน์ ๆ ภูมิ : เวลาทอดไข่เราเป่าเอาไฟเลย~~ ไม่ต้องซื้อแก๊สอีกต่อไปแล้ววว มิวอ้อน : ผมต่อดีกว่า ผมอยากได้พลังของพี่ภูมิ จะได้ไม่ต้องทำมาหากิน เออร์วิน : เสกได้เลย มิวอ้อน : เสกเป็นเพชรเลย ไนซ์ : กะสบายแล้ววว~~ แทด : เอ่อ ฉลาดนะ ไนซ์ : เหลือใครบ้างละเนี่ย~ ผมอยากเป็นแทด ๆๆ เพราะแทดอะอยู่ฟ้าได้อยู่ที่ความสูง ผมอะชอบความสูงยิ่งสูงยิ่งชอบ แทด : ทำไมพี่! อยากเหนืออ๋อ~~ ไนซ์ : พี่มาเหนืออยู่แล้ววว~~ ไม่เชื่อถามดิ เชียงใหม่!! พะเยา!! น่านนี่!!! ภูมิ : ทั้งวันมุกนี้ เจ็ท : เป็นเออร์วิน เล่นเครื่องดนตรีเก่งแถมยังสามารถมีมืองอกมาได้อีกตั้ง 2 มือ ถ้าผมมี มือนึงเช็ดกระจก มือนึงล้างจาน อีกมือนึงถูพื้น อีกมือนึงดูดฝุ่นอะไรประมาณนี้~~ ATLAS : อ๋อออออ~~ ไนซ์ : ไม่เกี่ยวกับดนตรีเลย เจ็ท : วันนี้ตอนที่เช็ดห้องน้ำคือเหนื่อยมากเพราะมี 2 มือ ถ้าเรามี 4 มือ จะเช็ดได้เร็วมาก~~~ จูเนียร์ : ก็ต้องเป็นไนซ์แหละ เพราะผมรู้สึกว่าเขาใช้อุปกรณ์เก่งครับ เล่นกับไม้ เสกของได้ หลอกล่อคนได้อะไรแบบนี้ ไนซ์ : รู้ยังใครเก่งสุด จูเนียร์ : ใคร!! ไนซ์ : พี่จู!!บรรยากาศในกองถ่าย MV I Got That Magic ไนซ์ : ติดกิ๊บหมวกนานมาก นานกว่าเปลี่ยนชุด แต่งหน้าคือติดหมวก เพราะว่าเต้นกันเดือดมากมันเลยต้องติดให้แน่นห้ามหลุด เออร์วิน : ใน Behind the scene เต้นอยู่หมวกก็หลุดครับของผม ไนซ์ : เพราะของเออร์วินต้องลงไปนอนที่พื้นแล้วมันจะโดนหมวก เจ็ท : คือซีนที่มันเป็นหมวก มันจะเป็นพาร์ทหลังของที่เราถ่าย MV แล้ว มันเต้นที่เราต้องใช้หัว จากท่า original ปกติเราจะจับคอแล้วหมุน เราก็ต้องเปลี่ยนเป็นจับหมวกแล้วหมุนแทนเวลาในการถ่าย MV I Got That Magic ไนซ์ : เริ่มถ่าย 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนการเตรียมความพร้อมในการถ่าย MV I Got That Magic ไนซ์ : มีคนนึง เออร์วิน : อย่างพี่จูแน่นอน เป็นไงพี่จู?? จูเนียร์ : จริง ๆ เพื่อให้มันชัดขึ้น เวลาอยู่ในกล้อง แค่อยากให้มันดูโอเคที่สุดเพราะว่าเป็น MV ที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตก็เลยอยากทำให้มันดีที่สุดฮะ~~การฟิตหุ่นก่อนถ่ายของ “จูเนียร์” จูเนียร์ : ก็มีกินคลีนบ้าง ไนซ์ : เรียกว่าน้ำตาลตกดีกว่า ซ้อมเต้นอยู่แล้วแบบ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว~~ เจ็ท : อยากกินไอติม จูเนียร์ : อะไรประมาณนั้น พยายามหาเวลาออกกำลังกายให้มันดีขึ้นด้วยการเตรียมตัวของคนอื่น ๆ แทด : พี่ไนซ์ก็มี พี่ไนซ์เตรียม อ่า~~ ไม่ใช่ฟิตเนส ไนซ์ : อ้าว เออร์วิน : พี่ไนซ์ต้องซ้อมท่าพิเศษมาด้วยเพราะซีนเดี่ยวต้องใช้ไม้ ไนซ์ : อ๋อออ ใช่ ๆ ผมซ้อมนานอยู่พอสมควรไม้ที่ “ไนซ์” ใช้ซ้อมก่อนวันถ่าย ไนซ์ : เป็นไม้ที่ซื้อมาเอง แต่ของจริงหนักกว่าเยอะเลยมีปัญหานิดนึง เพราะว่าทำของเขาหักไปเยอะอยู่ ผมหมุนแล้วก็รับไม่ได้หลายรอบจนมันหัก ก็ที่กองเลทช่วงเช้าเพราะผมเอง ATLAS : อ๋อออ~~ ก็ว่าความยากของ “ATLAS” กับฉากของแต่ละคนใน MV I Got That Magic จูเนียร์ : จริง ๆ ของแทดก็ยากนะที่ต้องอยู่บนสลิงอะ แทด : ใช่~ ผมอยู่ในห่วงเกาะอยู่บนสลิงเล็ก ๆ 2 อัน มันก็จะโยกเยกนิดนึง พอขึ้นไปเราก็ต้องหาบาลานซ์ให้ดี ภูมิ : ของผมก็ไม่ยากนะ! จูเนียร์ : ใช้อินเนอร์ใช่ปะ จินตนาการณ์ ๆ ~~ ภูมิ : ไม่ยากเท่าไหร่~~ แต่ ๆๆๆ!! มันจะมีช่วงนึงที่จูบถ่านแล้วแบบปากดำ!! แล้วช่างแต่งหน้าพี่เกรซเขาดูอยู่แล้วแบบว่า… ไนซ์ : กำหมัดหรอ~ ภูมิ : ไม่!!! ไม่ได้ปากดำ พี่แตะสีแดงแค่ตรงนั้น เขาบอกไม่ได้ปากดำแต่ว่าถ่ายไปละแต่ไปดู “พี่ไม่ใช่ลิปวะ” ภูมิ : แต่ว่า ออกมาดีๆๆความยากในการใส่วิกของ “เออร์วิน” จนอิ่มแทนข้าว เออร์วิน : จริง ๆ ผมว่ายากมาก ๆ เพราะผมยาวมันควบคุมยาก แล้วก็วันนั้นไม่ได้กินข้าวเลยอิ่ม เพราะว่ากินผมเขาไปเยอะมาก กินเป็นสายไหมเลย แล้วก็เครื่องดนตรีผมได้รับบรีฟมาว่าได้เล่นเครื่องดนตรี แต่ดันเป็นเครื่องดนตรี 2 ชิ้น ที่ผมเล่นไม่เป็นเลย ฟลูตกับอีกอันนึงผมไม่ชัวร์ว่าเรียกว่าอะไร คือวิธีจับฟลูต ปากวิธีเป่า หรืออีกตัวนึงทำให้เกิดเสียงก็ต้องทำให้เกิดเสียงจริง ๆ อะไรอย่างเนี้ย แทด : แล้วคือผมยาวเออร์วินจะร้อนกว่าคนอื่น 2 เท่าเลย เพราะว่ามันต้องลงมาปิด แล้วอากาศปิดไม่มีลมเลย~ ก็คือเห็นแล้วสงสารแทน ภูมิ : แถมผมยาวนี่ไม่ใส่ฉากเดียวนะ ซีนเต้นรวมเขาก็ต้องใส่ผมยาว ก็ยิ่งยากไปใหญ่เลยยยย เออร์วิน : ติดกาวรอบหัว 3 วันยังเอาไม่ออกเลยย~~~ความคิดที่จะไว้ผมยาวของ “เออร์วิน” เออร์วิน : กำลังไว้อยู่ แต่งคงไม่ยาวขนาดนั้น ผมอยากได้เป็นฟีลแบบเซอร์ ๆ ภูมิ : เป็นหนุ่มเซอร์อ่ะ~~ความฮอตของ “มิวอ้อน” จนไฟก็ทำอะไรไม่ได้!! มิวอ้อน : สนุกดีฮะ มันไม่ร้อนเลย เหมือนเราไม่เคยใกล้กับไฟขนาดนี้ เพราะปกติเราก็…ไม่เล่นกับไฟ ตอนแรกผมนึกว่าเขาไม่น่าจะให้ควงจริง ตอนแรกนึกว่าจะเป็น CGI นึกว่าจะแปะสีเขียวบนแท่ง แต่พอเป็นของจริงรู้สึกว่าเป็นฟีลดี เหมือนกับว่าพอเป็นของจริงเราจะระวังมากกว่ามันจะทำให้มันสเหมือนจริง ไนซ์ : แต่ไม่ต้องห่วงฮะ เพราะว่า Safety เขาใช้เป็นไฟเย็นแทน~~~โซ่ แซ่ กุญแจมือของ “เจ็ท” เจ็ท : ของผมสบาย ๆ ฮะ ไม่มีอะไรนะของผม… ไนซ์ : เขานักแสดง กี่เทคผ่านตลอด พระเอก~~~ เจ็ท : ไม่! ของผมที่ยากสุดอะ อันนั้นที่มันรัดเราจริง ๆ มันไม่แน่น แต่ต้องทำยังไงให้ดูเหมือนแน่น แล้วต้องสะบัดให้มันไม่หลุดทั้ง ๆ ที่มันหลุดง่าย เออร์วิน : เท่ห์ไปหมดเลยพี่เจ็ท พูดอะไรก็ดี๊ดี~~~ จูเนียร์ : พระเอกมันดีอย่างงี้นี่เองอะ! เออร์วิน : พี่ภูมิตกชั้นละ…หยอกพี่ชาย~~นิยามความที่สุดของ MV I Got That Magic ATLAS : เต้น ๆๆๆInner ในการเต้นของ “Atlas” ภูมิ : ผมว่าอย่างแรกเลยคือท่าเต้นมันส่งอยู่แล้ว อย่างเช่นบางท่าที่มันต้องสั่นแรง ๆ มันไม่สามารถยิ้มแล้วก็สั่นไปได้ เหมือนหน้ามันต้องเกร็งจริง ๆ หน้ามันต้องสั่นไปด้วย ด้วยตัวท่าเองมันออกแบบให้อินเนอร์มันดุอยู่แล้วด้วย ไนซ์ : แต่ไนซ์คิดนะตอนถ่ายอะ ตั้งแต่ถ่ายซีนแรกเลยอยากให้คาแรคเตอร์เป็นคนไม่ดีอะ ภูมิ : อ๋อออ งั้นไม่ต้องคิดเลยอันนั้น…ล้อเล่นนน ไนซ์ : เอ๊ะ! วันนี้เหมือนกันซีนกัน~ ATLAS : 555++ จูเนียร์ : แต่จริง ๆ ทุก ๆ เพลงเราทำการบ้านอยู่แล้ว จะมานั่งคุยกันว่าเพลงนี้เราจะให้เป็นเวย์ไหน เราจะสื่อสารยังไงดี~~ความประทับใจของเพื่อน ๆ T-POP กับ Challenge I Got That Magic แทด : ประทับใจทุกคนเลย~~ สำหรับพวกเราก็ใช้เวลา 2-3 วัน กว่าจะต่อท่าเสร็จ แต่ว่าพวกพี่ ๆ ใน T-POP ต่อเร็วมากก!! ก็คือเต้นได้ดีด้วย ภูมิ : เขาตั้งใจมากเวลาต่อท่า เจ็ท : จริง ๆ ตอนที่ต่อท่าให้หลังจากเสร็จงาน ผมยังนั่งคิดเลย “หูย~~ ถ้าเป็นเราใครมาให้เราเต้น เราโกรธนะแล้วเต้นเพลงเร็วเราโกรธนะ!” แทด : ที่ถ่ายกับ PERSES อะพี่เราก็ถ่าย Challenge เขา แล้ว Challenge เขามีแค่มือเรายังเต้นผิดเลย! เออร์วิน : แต่จริง ๆ อยากให้เห็นบรรยากาศวันนั้นมาก ATLAS PERSES พี่เจล พี่ต้าห์อู๋ พี่ออฟโรด VIIS คือทุกคนเริ่มแบ่งกลุ่ม ATLAS มี 7 ก็แบ่งแยกว่าจะไปเต้นกับใคร สอนคนนี้เสร็จก็มีการเต้น วนกันเต้นแล้วเริ่มมีการขิงกันละว่า “เฮ้ยยย~~ เดี๋ยวดู ๆ กลุ่มผม” ผมกับพี่ไนซ์เต้นกับพี่เชียร์ วงVIIS แล้วผมก็แบบ “นี่! ทุกคนเดี๋ยวดูแก๊งผม” แล้วมันป็นบรรยากาศที่สนุกมากวันนั้น เจ็ท : แล้วก็มี Content ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เต้นด้วย อย่างแทดก็เล่นกับออฟโรด ไนซ์ : เอาจริงวันนั้นประทับใจมาก~~ เพราะว่าผมยืนอยู่ข้างนอกสุดแล้วก็ดูแล้วก็แบบ “ทุกคนเต้นเพลงเราอยู่…ทำไมวะ?” ไนซ์ : คือทุกคนแบบวนเหมือนเรียนเต้นอะ แบบว่า วนแล้วก็ถ่ายไปเรื่อย ๆๆๆ ทุกคนจริงจังมาก!! แล้วก็ทุกคนตั้งใจเต้นมาก!! ผมยังนั่งทวนท่าของตัวเองอยู่เลย~~วันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEของเราก็มีเกมให้กับ“หนุ่ม ๆ Atlas”กับเกมที่ชื่อว่า“Magic Word คำต่อท้ายคือ…”มาเอาใจช่วยหนุ่ม ๆ ค้นหาคำตอบกัน!!สนุกสนานกันแน่นอน!(เข้าไปชมได้ในYouTube: ATIME)​เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้แฟนคลับโทรเข้ามาพูดคุยกับ 7 หนุ่ม ๆ “ATLAS” ขอบคุณที่มีผลงานดี ๆ มาให้ติดตามแล้วก็เป็นพลังบวก เป็นกำลังใจให้เราในทุก ๆ เรื่องเลย ดีใจมากๆ จริง ๆ ที่ได้ตาม อาจจะมาช้าหน่อยแต่ว่าเอลิสคนนี้ก็จะตามต่อ ๆ ไปแล้วก็เป็นกำลังใจให้ในทุก ๆ เรื่องเลย Atlas น่ารักมาก ๆ ใจดีเสมอ เป็นกำลังใจให้ตลอด ช่วงนี้ซ้อมกันหนักมาก เหนื่อยมาก ๆ เลยใช่ไหม หันมาหากำลังใจจากเอลิสได้นะ เพราะว่าพวกเราเป็นกำลังใจให้เสมอเป็นพื้นที่ปลอดภัยของ Atlas นะ อยากขอบคุณ Atlas มาก ๆ ขอบคุณที่สร้างความสุขให้ทุกคนและอยากขอให้ Atlas กินเยอะ ๆ ยะ มีเวลาพักผ่อนก็พักผ่อนเยอะ ๆ แต่ก็อยากให้ Atlas มีงานเยอะ ๆ เหมือนกัน อย่าลืมหาของกินอร่อยๆ เยอะ ๆ นะเพราะว่าเวลา Atlas เห็น enjoy eating มันน่ารักมากกกก แล้วก็อยากบอก Atlas ว่าอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ นะ อยู่สร้างความสุขและรอยยิ้มแบบนี้ให้ทุกคนนาน ๆ คิดถึงพวกแกแล้วว“ATLAS” ขอบคุณสำหรับรางวัล “หลวงพี่ทั้ง 7” ขอบคุณสำหรับรางวัลหลวงพี่ทั้ง 7 รู้สึกว่าเป็นรางวัลที่เหมาะสมสุด ๆ กับ Atlas แล้วพวกเราจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีต่อไปให้เหมาะกับหลวงพี่ทั้ง 7 ฮะ สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“Atlas”ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากเพลง I GOT THAT MAGIC สามารถรับชมได้ทาง YouTube : ATLAS และฝากละครเวที นิทานหิ่งห้อย จัดที่โรงละคร K Bank สยามพิฆเนศติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

แฉโต๊ะหก RECAP

‘โคกะโหลก’ อีกหนึ่งตำนานเรื่องเล่ารายการผี กำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับโดย พชร์ อานนท์

24 พ.ย. 2023

‘โคกะโหลก’ อีกหนึ่งตำนานเรื่องเล่ารายการผี กำลังจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับโดย พชร์ อานนท์

: พูดได้ใช่ไหมพี่ป๋อง?: พูดได้สิ: เพื่อนกำลังโคกะโหลกผู้ชาย..พล็อตเรื่องที่หักมุมนี้เอง ทำให้ ‘โคกะโหลก’ เรื่องเล่ารายการผีที่ควรจะให้ความรู้สึกน่ากลัว ถูกแทนที่ด้วยความฮาระดับไวรัลบนโลกออนไลน์ และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเรื่องเล่าผี The Shock ของ พี่ป๋อง กพล ที่จำไม่ลืมภายหลังจาก ‘ธี่หยด’ ถูกหยิบมาสร้างเป็นหนังจนเกิดปรากฏการณ์กวาดรายได้กว่า 500 ล้านบาท ผู้ชมหลายคนเริ่มเชียร์ให้ ‘โคกะโหลก’ เป็นคิวต่อไปที่ควรจะนำมาสร้างเป็นหนังและล่าสุดมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง ๆ เพราะมีการแชร์กันบนโซเชียลว่าตำนานเรื่องเล่าผีกำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง ‘หมู่บ้านโคกะโหลก’ โดยผู้กำกับชื่อดังอย่าง พชร์ อานนท์ เป็นโต้โผและจะรับหน้าที่เขียนบท ควบกับนั่งเก้าอี้ผู้กำกับด้วยตัวเองเลยอีกทั้งพี่พชร์ยังโพสต์ข้อความเพื่อยืนยันเรื่องนี้ว่าไม่ได้ล้อเล่นกับกระแสนะ เพราะเขาวางแผนสร้างหนังเรื่องนี้จริง ๆ โดยมีกำหนดเปิดกล้องถ่ายทำ 2 ธันวาคมนี้แล้ว พิเศษสุดเขากำลังพยายามทาบทาม พี่ป๋อง กพล เพื่อมาร่วมเป็นหนึ่งในโปรเจกต์นี้ ด้วยการรับบทเป็นผู้ใหญ่บ้านแห่งโคกะโหลกนั่นเองทำเอาแฟน ๆ ฮือฮาและรอติดตามกันยกใหญ่ว่าจะออกมาเป็นยังไง เด็ดดวงเท่าเรื่องเล่าในรายการหรือเปล่าภาพ : The Shock

คดีสุดพีก! ศาลในรัสเซียตัดสินผ่อนโทษชายรายหนึ่ง ไม่ต้องถูกจำคุก 5 ปี เพราะต้องดูแลแมวเหมียว

22 พ.ย. 2023

คดีสุดพีก! ศาลในรัสเซียตัดสินผ่อนโทษชายรายหนึ่ง ไม่ต้องถูกจำคุก 5 ปี เพราะต้องดูแลแมวเหมียว

หนึ่งไวรัลที่น่าเอ็นดูสุด ๆ เมื่อสำนักข่าวในประเทศรัสเซีย รายงานเกี่ยวกับคดีหนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะบรรดาชาวเน็ตทาสแมวทั้งหลาย เรื่องราวคดีสุดแปลกของกระบวนการยุติธรรม เมื่อผู้พิพากษาตัดสินลดโทษชายรายหนึ่งให้เขาไม่ต้องถูกจำคุก 5 ปี เพราะว่าผู้ต้องหารายนี้มีแมวเหมียวให้ต้องเลี้ยงดู ซึ่งโทษจำคุก 5 ปีที่ว่ามาลดเหลือเพียงลงอาญาเท่านั้นผู้ต้องหารายนี้เป็นชายวัย 48 ปี อาศัยอยู่ในเขตไซบีเรีย ภูมิภาคทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาเมาสุราและก่อความวุ่นวาย รวมถึงทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างการสอบสวนเขาก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี พร้อมสารภาพผิดทุกข้อกล่าวหา ต้องโทษจำคุก 5 ปีแต่ในท้ายที่สุดเขาถูกผ่อนผันโทษให้เหลือเพียงลงอาญา เนื่องด้วยเขามีภาระอันยิ่งใหญ่ที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าแมว 1 ตัว ในรายงานไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าศาลให้เหตุผลของการผ่อนผันโทษนี้ด้วยสาเหตุใด แต่ที่แน่ ๆ เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลขึ้นมา เพราะโดยปกติแล้วการผ่อนผันโทษนั้นจะเกิดขึ้นกับผู้ต้องหาที่มีบุตรหรือครอบครัวที่ต้องดูแลเท่านั้นขณะที่บนโลกออนไลน์ต่างก็แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า เขาอาจเลี้ยงแมวตัวนี้เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวหรือเปล่า หรือไม่ก็ศาลที่เคารพอาจเป็นทาสแมวเหมือนกันก็ได้ภาพ : BBC

Viva ME และ Viva Mix ME สกู๊ตเตอร์สุดกรีนจาก Gogoro x Muji ที่ผลิตจากขยะพลาสติกทั้งคัน

06 ก.ย. 2023

Viva ME และ Viva Mix ME สกู๊ตเตอร์สุดกรีนจาก Gogoro x Muji ที่ผลิตจากขยะพลาสติกทั้งคัน

ถูกใจสายมินิมอลและรักสิ่งแวดล้อมไม่น้อยเลย เพราะล่าสุด Gogoro บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากไต้หวัน จับมือกับแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์จากญี่ปุ่นอย่าง Muji ออกแบบและผลิตรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ เพื่อเป้าหมายในการลดปริมาณขยะ ด้วยการนำขยะเหล่านั้นมารีไซเคิลและปรับโฉมให้กลายเป็นอะไหล่ จากนั้นก็ประกอบกลายมาเป็นเจ้าสกู๊ตเตอร์น่าตาสุดคิวท์ตัวนี้ แถมยังมีวางจำหน่ายให้ซื้อไปขับขี่กันได้จริงอีกด้วยนะนี่คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการRecycling for Goodที่ต้องการนำเสนอว่าปัญหาขยะที่สังคมโลกกำลังเผชิญตอนนี้ โดยเฉพาะขยะประเภทพลาสติกโพลิโพรพิลีน สามารถแก้ไขได้ด้วยอีกหนึ่งวิธีคือกระบวนการรีไซเคิล นำขยะมาผ่านขั้นตอน และแปรสภาพไปเป็นของใช้ต่าง ๆ ควบคู่กับการลดการสร้างขยะใหม่ อีกทั้งยังต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้คน ให้หันมาใส่ใจปัญหาขยะโดยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจาก Gogoro x Muji มีอยู่ 2 รุ่นด้วยกันคือ Viva MEและViva Mix MEสีเบจและสีเทา ซึ่งออกแบบโดย นาโอโตะ ฟุคาซาวา (Naoto Fukasawa) นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานกับ Muji มาแล้วมากมาย ทำงานให้หน้าตาของสกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษนี้ดูคลาสสิกและเรียบง่ายมินิมอลสุด ๆ โดยจะเน้นการใช้งานขับขี่ในเมืองเป็นหลักนอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแกดเจ็ตเพื่อการขับขี่อีกมากมาย ทั้ง หมวกกันน็อก เสื้อคลุม กระเป๋า ขวดน้ำ ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามาก็ล้วนแล้วแต่ผลิตจากขยะพลาสติกที่ผ่านมารีไซเคิลมาแล้วทั้งสิ้น แต่สายมินิมอลชาวไทยจะมีโอกาสได้จับจองหรือเปล่า ต้องมาลุ้นกันภาพ : Gogoro

ท็อปแท็ป ณภัทร ลงแข่งขัน Poker รายการใหญ่ที่เกาหลี คว้าอันดับ 3 พร้อมเงินรางวัล 222 ล้านวอน! ส่วน ป๋าเต็ด จบที่อันดับ 9

04 ก.ย. 2023

ท็อปแท็ป ณภัทร ลงแข่งขัน Poker รายการใหญ่ที่เกาหลี คว้าอันดับ 3 พร้อมเงินรางวัล 222 ล้านวอน! ส่วน ป๋าเต็ด จบที่อันดับ 9

ช่วงนี้ข่าววงการ Poker ไทยกำลังมาแรงทีเดียว ก่อนหน้านี้มีการนำเสนอผลงานของ ป๋าเต็ด ที่เดินทางไปลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ พร้อมกับคว้ารางวัลติดมือกลับมา ทำให้รู้ว่าวงการ Poker ไทยไม่ธรรมดาจริงล่าสุดเป็นข่าวดังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเพจ Team Poker Beast ได้โพสต์ข่าวแสดงความยินดีกับ ท็อปแท็ป-ณภัทร โชคจินดาชัย พิธีกรและนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง หลังคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน Poker รายการใหญ่ของโลกอย่าง APT Main Event ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมกับรับเงินรางวัลไปถึง 222 ล้านวอน หรือประมาณ 5.95 บาท (ชาวเน็ตอย่างเราตาลุกวาว)ขณะที่ ป๋าเต็ด ที่ร่วมในรายการนี้ด้วย ก็เพิ่งโพสต์ว่าจบการแข่งขันด้วยคว้าอันดับ 9 ได้เงินรางวัลติดไม้ติดมือมากรุบกริบ 450,000 วอน หรือ 12,000 บาท แสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทยทุกท่านเลยภาพ : Asian Poker Tour

ข้อมูลจากงานวิจัยบอกว่า การลูบตัวน้องหมาเพียง 5-20 นาที ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้นะ

16 ส.ค. 2023

ข้อมูลจากงานวิจัยบอกว่า การลูบตัวน้องหมาเพียง 5-20 นาที ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้นะ

เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการเดียวกัน เวลาเดินไปไหนแล้วเจอน้องหมา ก็คงอยากจะวิ่งเข้าไปจับ เล่น ลูบ หรือกอดน้อง ซึ่งเหตุผลก็คงจะคล้าย ๆ กันคือเป็นเพราะความเอ็นดู แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้มีข้อมูลจากงานวิจัยบอกว่า การลูบตัวน้องหมามีผลดีมากกว่าที่เราคิดข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์หลายฉบับบอกว่า ระหว่างที่คนสัมผัสกับสุนัขแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เพียง 5-20 นาที สามารถลดความเครียดได้ เพราะช่วงที่เราได้ลูบตัวน้องหมา ร่างกายจะหลดการหลั่ง Cortisol หรือ ฮอร์โมนแห่งความเครียด และในขณะเดียวกันยังพบว่าร่างกายหลั่ง Oxytocin หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุขแทน จึงทำให้คนเรารู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเครียดต่าง ๆ ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นด้วยนอกจากนี้ยังพบว่า การเป็นเจ้าของสุนัขมีส่วนช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี มีชีวิตที่ยืนยาว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่า ถ้าอยากมีอายุยืนต้องเลี้ยงสุนัขเสมอไป เพราะการไปเล่นกับสุนัขของคนอื่น ก็ช่วยให้สุขภาพจิตเราดีขึ้นได้เหมือนกันภาพ : unsplash.com/leohoho

3 ปีก็รอได้! ที่ญี่ปุ่นเพาะพันธุ์หอยนางรม กินแล้วไม่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ โดนใจซีฟู้ดเลิฟเวอร์สุด ๆ

08 ส.ค. 2023

3 ปีก็รอได้! ที่ญี่ปุ่นเพาะพันธุ์หอยนางรม กินแล้วไม่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ โดนใจซีฟู้ดเลิฟเวอร์สุด ๆ

เรื่องนี้กำลังเป็นไวรัลที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์ เมื่อมีการเปิดเผยถึงความสำเร็จของการเพาะเลี้ยงหอยนางรม ซึ่งแตกต่างจากหอยนางรมอื่น ๆ เพราะสายพันธุ์นี้รับประทานแล้วไม่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษในรายงานบอกว่าญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการเลี้ยงหอยนางรมด้วยวิธีการแบบใหม่ เป็นหอยที่เลี้ยงบนบกทั้งหมด โดยจะใช้น้ำทะเลจากระดับความลึก 200 เมตรมาใช้ในการเพาะเลี้ยง เนื่องด้วยมีการทดสอบแล้วว่าน้ำในระดับความลึกเท่านี้ จะไม่มีเชื้อไวรัส AC Oyster 2.0 เจือปน ในขณะที่การเลี้ยงแบบเดิม มีโอกาสที่จะทำให้เชื้อไวรัสต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในระดับผิวน้ำปะปนมาได้ง่ายกว่า ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่รับประทานเข้าไปเกินภาวะอาหารเป็นพิษไม่เพียงเท่านั้นยังมีการปรับสูตรอาหารที่ใช้เลี้ยง ซึ่งจะทำให้หอยนางรมที่เลี้ยงแบบใหม่นี้มีรสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้น ผู้ที่ได้ชิมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหวานกว่าหอยนางรมที่รับประทานได้ทั่วไป เขาคาดว่าจากนี้จะต้องใช้เวลาเพาะเลี้ยง เพาะพันธุ์เพิ่มจำนวนไปอีกราว 3 ปี เมื่อถึงวันนั้นก็จะพร้อมสำหรับการจำหน่ายและส่งออกให้เหล่าซีฟู้ดเลิฟเวอร์ได้ลิ้มลองกันภาพ : prtimes.jp

album

0
0.8
1