ฟังเพลงออนไลน์ EFM 94 ONLINE - ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

News Updates

EVENTS

แฉแฟร์ 2024

09 ม.ค. 2025

แฉแฟร์ 2024

“แฉแฟร์” มหกรรมแฉความอร่อยจากบ้าน ATIME รวมร้านเด็ด-ร้านดัง กว่า 200 ร้าน ให้สายกิน สายมู ช้อปกันได้กระหน่ำทุกวัน ทั้งร้านจาก “รายการแฉ” / ร้านดังสตรีทฟู้ด / ร้านค้าสายมู ของมงคลเสริมดวง หมอดู และซินแสชื่อดัง รวมไว้ในงานเดียว ในวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 3 พฤศจิกายนนี้ ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิวันพฤหัสบดีที่ 31 ตค 67 14.00 - 16.00 น. : Grand Opening แฉแฟร์ นำทีมโดย มดดำ คชาภา เหล่าดีเจ ATIME , ศิลปิน , ดาราวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. 67 15.00 - 16.00 น. : แฉ MU TALK เช็คดวงปังปัง ปีนักษัตร68 โดย อ.คฑา ชินบัญชรวันเสาร์ที่ 2 พ.ย. 67 15.00 - 16.00 น.: แฉ MU TALK การเงิน ความรัก ดวงเกิดไหนปัง โดย อ.อุ๋ย ชนิษฐา 18.00 - 19.00น.: แฉ Live MUSIC มินิคอนเสิร์ต ลุลาวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ย. 67 15.00 -16.00น. : แฉ MU TALK ทิศทางฮวงจุ้ย เสริมเฮงรับทรัพย์ ปี 2568 โดย ซินแสไช้ 18.00-19.00 น. : แฉ Live MUSIC มินิคอนเสิร์ต แอม เสาวลักษณ์ชี้เป้าร้านเด็ด 5 โซนในแฉแฟร์แฉกันเอง : ร้านศิลปิน-ดารา และ ดีเจBoost Me Up by ดีเจพี่อ้อย น้ำปั่น น้ำสุขภาพ และ คุมาโกะ หมีน้อยอร่อยมาก ของทานเล่นประเภทซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น จาก ดีเจ พี่อ้อย / ครัวเจ๊แอน หมี่โคราช และ น้ำพริก - แอนโทเนีย โพซิ้ว / Atomic Blondies - ชาย ชาตโยดม / ปูไข่เยิ้ม by Mick - มิค บรมวุฒิ / Waans Bakery และ ข้าวมันไก่กาต๊าก - น้ำหวาน ZAZA / น้ำพริกปุยแสบปาก - ปุยฝ้าย ภัทณชา / Noomzaab ผัดไทสำเร็จรูปพร้อมปรุง - หนุ่ม อรรถพร / SEASON HOUSE - ขนม เบเกอรี่ จากครอบครัวดีเจ.โก / ส้มตำแม่น้อย - แม่น้อย โพธิ์งาม / ลูกชิ้นหมูหัน - ลุงรงค์ จาตุรงค์ / ข้าวเกรียบอะไรซ์ - นิว นภัสสร / Took Took To Go x Aprils Farm เค้กน้ำส้มสดคั้นเอง - ตุ๊ก ชนกวนัน / สยามชาไทย - เด่นคุณ งามเนตร / NANAKE เก็กฮวย - น้าเน็ก / Fox Cha La Lemon น้ำเลม่อนและชา - พิมพ์พรรณ / เจียงฮาย - ข้าวซอย เนื้อ ชาชู - หมู Big ASS / เปรี้ยวซ่าปลาระเบิด ลูกชิ้นปลาระเบิดทอด - เปรี้ยว อนุสรา (เปรี้ยว AF) / Ploy homemade มันกุ้งแม่น้ำทรงเครื่อง - ปาล์ม Instinct / MomMe Menu by อาโย ทัศน์วรรณ - น้ำพริกกากหมู น้ำพริกปลาสลิดย่าง / โก้-ธีรศักดิ์ - พริกทอด น้ำปลาร้า น้ำเก๊กฮวย / กร ณัฐวัฒน์ (หลานพี่โก้) - น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกปลาดุกฟูแฉคอนเฟิร์ม : ร้านเด็ดจากรายการ “แฉ” อร่อยแน่แฉคอนเฟิร์มHighlight: eped eatery เค้กกล้วยหอม (กำลังเป็นกระแสใน TikTok) / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / โรตี-น้ำชาบังบ่าวนครศรีฯ(เจ้าดังนครศรี) / ขนมจีนภูเก็จ บ้านอาม่า (ขนมจีนใต้แท้ๆ) / หมูปลาร้ากองถ่าย by Costume Maffia (หมูนุ่ม-น้ำพริกแซ่บ)มาดามบ๋อมน้ำส้มคั้นสด / ผลไม้น้ำเข้า J and J fresh / ฉ่ำ ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / กุยช่ายสวรรค์ อีสานเลิฟเวอร์ / j-jan ขนมอร่อยหลังการบินไทยและอ.ต.ก. / แม่เล็กข้ามหลาม ขนมจาก / คุณรัชนกหมูแผ่นไร้น้ำมัน/ เมืองตรังหมูย่างเศรษฐี / 92 Coffee bar - กาแฟสด มัทฉะ/ หมูสเต๊ะมังกรทอง / ถั่วเทพอร่อยขั้นเทพ / ขนมจีน / ห่อหมกเจ้ศรีสำเพ็ง / เจ้อุ้มน้ำพริกกากหมู / ทอดกุ้งทอดปู / กุ้งแช่น้ำปลา แปดริ้ว / เจ้เบียร์ทะเลทอด / บ๊ะจ่างเจ๊แขกกระทุ่มแบน / อุไรรัตน์ เชียงใหม่ - น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู / นายเกาะข้าวเกรียบเห็ดหอม / ต.ตุ๊บตั๊บสุ ๑,๐๐๐ ตุ๊บตั๊บ ถั่วตัด / ป้าม่วยน้ำปลาหวาน / ข้าวต้มมัดยายฟู / แม่เล็กแปดริ้ว / บุษยา ขนมไทย / หนึ่ง Streetfood - หมึกลวกซีฟู้ด / ราดหน้าโรงเหล็ก / วรรัตน์ ซาลาเปาเบตง พ.ศ. 2517 / ปุ๊.เรือสำเภา / ใบเฟิร์นแค๊ปหมู / สองแม่หมี่กรอบเงินล้าน / เอกอร่อย พริกแกงใต้(เอกชัย ศรีวิชัย) / ข้าวหลามจิ๋ว สูตรบางคนที / โอชิน โฮมเมดเบเกอรี่ / เจ้นก กระท้อนซิ่ง / ลูกชิ้นแม่ประณาม / ฮะเก๋า เยาวราช / อาเหล็ง แหนมเนือง / ปูเป็นไข่ปู / ร้านน้ำพริกนาเดีย / ข้าวปลาวาฬ ข้าวไร้แป้ง / ครัวภูเก็ต / Kunnookorangejuice / หมูยอ วชาริสา / ปิ่นมณี ปลาส้มไร้ก้าง / ส้มแซ่บ / ทีเด็ดยำ / หอยจ๊อปูทอง เยาวราช / ขาหมูตรอกซุง บางรักแฉ Street Food รวมร้านอร่อยสตรีทฟู้ดHighlight: ลุงใจ ไข่ปิ้ง (ลุงไข่ปิ้งดังในโซเชี่ยล) / ขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย(มิชลิน)** / บะหมี่บุญเลิศเกี๊ยวหมูย่างซีอิ๊ว (มิชลินไกด์)**/ ทอดแหลก หมูทอด (ร้านดัง-คิวยาว) / เรื่องหอยไว้ใจเรา (มีหลายหอย Size เบิ้ม น้ำจิ้มเด็ด)แซ่บบักแปดแสน / ถิงถิง / MINKKI Ice Cream tea bingsu / คั่วเป็ดตรัง (แกงใต้รสเด็ด) / น้ำปลาหวานคุณแอ๊ว สูตรชาววัง /กู๋โบ๊ทหมูกรอบ Uncle Boat Crispy Pork / รักสุขภาพ by น้ำดอกมะพร้าว / น้ำพริกโอลีฟ / คุณโต๊สปูนา / ตะบันทอด / ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกากหมูสูตรโบราณ / ขนมเทียนแก้ว ลุงตุ๊ / ไก่ยอทอดครูภาพ จิ้มแซ่บ / ราชาฮอทดอก / เฮียหงี เยาวราช กระเพาะปลา / เจ้แม็กซ์เอง เว้ยเฮ้ย (ขนมปังอบสด) / บะจ่างเศรษฐีมิกส์ มิว / บุหงิมปอเปรี๊ยะ / ลูกชุบบ้านคุณแม่ / ลูกจิ้นคนเมือง - ลูกชิ้นหมูทำสด / ต.ตั้ม เปาะเปี๊ยะสด กับก๋วยเตี๋ยวหลอดโบราณ / โฟร์วิล​บาร์บีคิว / ร้านแม่กัลยา ลูกชิ้นปลาเยาวราช / น้ำพริกสามปอ / ปังจิ๋ว สังขยาไส้สด / ม่อนเบเกอรี่ - ชื่นอุรา ชาใต้ / PURADAK ไก่ทอดเกาหลีพูราดัก / ปลาร้าเด้อ อาหารอีสาน / ชาม ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก / Impress Chocolate / JOIA x COFFEE 101 / แปดอัฐ / ปลาส้มป้ายา / ร้านตี๋ก๊อ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ / เจริญไทยสุกี้ (ซินแสไช้)แฉหวานหวาน สายหวานจะต้อง Love!Highlight: COCO WORLD ขนมต้มมะพร้าว (ร้านดังในโซเชี่ยล) / AT HOME CHIFFON ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อนลาวา (โฮมเมดสดใหม่) มะลิซ้อน / นู๋ดา น้ำลำไยสด / บ้านขนมแม่ฝ้าย / BIJOUX DE BEURRE ECHIRE / ไดฟุกุ / เอแคร์ชูครีม / Dankie Bakery / อิ่มสุข ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / โดนัท KA.NO.MU / ข.ไข่ในเตา / Little C / Dose Lemon Honey / ขนมไทยสามพี่น้อง / หยกสดแฉปังปัง รวมหมอดู ซินแสชื่อดัง และของมงคลเสริมดวงต่างๆ มากมายButterfilesn.co / Vanita Lucky Stone / Sharanam59 – รูปวอลเปเปอร์มือถือ แผ่นทองคำรูปพระพิฆเนศ / Peetosung x cosmagiz / Mutelu by มีฮาพยากรณ์ / อ.ตรัย คเณศเศรษฐี / ธยาน – Dhyana Studio / DOL JAI – ดลใจ / มูเตลูเคส / BUU SHA / PolyHoly กำไลพระพิฆเนศ / เต็มมือ Handcraft / HOROSOCIETY / ซินแสไช้ และ กลุ่มสายมู / Tiny Little Toys / วอวาฬกางไฟ by Worwhalepony / แม่หมอสายมู / สายมูพารวย / หมอแอ้ เดอะเมจิกแมนART TOY สายมู KRATAY / NALINI / PUNSANOOK64 / HOLYMOOLY.OFFICIALS / MOSSY JANNY / SHUPI / PARMTIME STUDIO / WA.SCULPTURE STUDIO / ARZIO / คชาปองมหาคณปติ / TWIN STUDIO / KUMAMONSTER / KAPPA COLLECTIBLES

EFM ON TOUR ยกความสนุก บุกมหาวิทยาลัย 2024!!

24 ก.ค. 2024

EFM ON TOUR ยกความสนุก บุกมหาวิทยาลัย 2024!!

EFM ON TOUR 2024ยกความสนุก บุกมหาวิทยาลัยรุ่นพี่เตรียมร้อง รุ่นน้องเตรียมโยกจันทร์ที่ 29 ก.ค. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พบกับ วง PROXIE (พร็อกซี) / Atom ชนกันต์ และส้ม มารี (Zom Marie)ศุกร์ที่ 23 ส.ค. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (รังสิต) พบกับ Mirrr (เมอร์) / PONCHET (พลเชษฐ์) / LIPTA (ลิปตา) และ guncharlie (กันชาร์ลี) / getsunova (เก็ตสึโนวา) และครั้งสุดท้ายที่ ศุกร์ที่ 20 ก.ย. มหาวิทยาลัยรังสิต พบกับ INDIGO (อินดิโก้) / Atom ชนกันต์ และ Musketeers (มัสเก็ตเทียร์)พบกับเหล่าดีเจจาก EFM และ กิจกรรมจากผู้สนับสนุนตลอดทั้งงาน !!

Q&A เกี่ยวกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

09 พ.ย. 2023

Q&A เกี่ยวกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

ทำยังไงจะได้ Point?ดู Point ตรงไหน?เข้างานได้กี่โมง?ให้เพื่อนรับบัตรแทนได้มั้ย?EFM มัดรวมคำถาม QA มาให้แล้วค่าาาหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม Inbox Facebook มาถามแอดมินได้เลยน้าแล้วมันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยอง

แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญ | EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

03 พ.ย. 2023

แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญ | EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

REDEEM บัตรกันแล้ว อย่าลืมจองที่พักกันนะคะ !!EFM แจกพิกัด มัดรวม 21 ที่พัก ใกล้หาดแหลมเจริญแล้วมาเจอกันที่งาน EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18มันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยอง

แฉแฟร์ อร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ!

11 ธ.ค. 2023

แฉแฟร์ อร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ!

แฉแฟร์ มหกรรมอร่อยเด็ดแบบสับ ฉบับแฉ เตรียมยกขบวนไปแฉความอร่อย ความบันเทิงสไตล์แฉ ร้านเด็ด-ร้านดัง กว่า 200 ร้าน ทั้งร้านเด็ดที่คัดมาแล้วจาก “รายการแฉ” พร้อมร้านค้าดารา ของดี ของเด็ดสายมู ที่มดดำ การันตี นำทัพโดย มดดำ คชาภา และทีมพิธีกรรายการแฉ ร่วมด้วยเหล่าดีเจ ATIME , เซเลบมากมาย และหมอดูชื่อดัง จัดเต็มมหกรรมความอร่อยครั้งใหญ่ 4 วันเต็ม มาเจอกันได้ ในวันที่ 14-17 ธันวาคมนี้ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ATIME และ www.atime.liveชี้เป้าร้านเด็ด 5 โซนในแฉแฟร์แฉ ฟู้ด : รวมร้านดังจากรายการแฉHighlight : CHARM GARDEN - ลูกชิ้นและหมี่คลุก เชฟอ้อย / ชามเบิ้ม ข้าวต้มแห้ง – ร้านดังในโซเชี่ยล / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / เตียวโก / / อีสานพาสวบ / สมานหมูทอด / จอลลี่พอร์ค หมูทอดอารมณ์ดีเจ้าดังใน TIKTOK / มูเตโกโก้CHARM GARDEN - ลูกชิ้นและหมี่คลุก เชฟอ้อย / ไส้กรอกสารคาม By คุณคิส / ชามเบิ้ม ข้าวต้มแห้ง / Smococoplus+ มะพร้าวสมูทตี้ / บ้านเรือปู นครศรีธรรมราช / GIGG AND GOOD HOMEMADE / วัรดะห์ ข้าวขาวัว / SHREDDO เชรดโด – อโวคาโด้ปั่นพันแฮส / ยำข้าวทอด, เนื้อสเต๊ะ / ข้าวเกรียบเห็ดหอม, ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / ก้วนลี่ กระเพาะปลาตุ๋นยาจีน / ถั่วบางนรา / กะปิโหว่แซ่บลืมผัว / ผลไม้ตามฤดูกาล / กุ้ยช่าย / บ้านขันโตก / เทดอง / มูเตโกโก้ / เจ๊แดงสามย่าน / Daayli Breaktime House – หมี่คลุก / Banana Yess! / เรื่องของยำ / บ้านแกงเขียวหวานครัวคุณต้อย / เตียวโก / Your Seat Café / ซานต้าฟรุ๊ต / อุไรรัตน์เชียงใหม่ / หอยจ๊อปูแม่วรรณา / ข้าวแท่ง by NSL / เนสน้ำพริก / น้ำดอกมะพร้าว / อีสานพาสวบ / สมานหมูทอด / ฮานะข้าวเห็ดหอม / ติ่มซำหลังจวน / ถั่วเทพ / หมูปิ้งอิ่มจัง / คุณมิ้งแกงใต้น้ำยาปู เมืองตรัง / CHANUMAN by HOLEN / หยกสด / ฟูฟ่องหมูกรอบ / KA●NO●MU / ป้าม่วยน้ำปลาหวาน / ข้าวต้มมัดยายฟู / วสันต์ของฝากเชียงใหม่ / วรรัตน์ ซาลาเปาเบตง พ.ศ. ๒๕๑๗ / หลี่ชิมเฮีย จุ๋ยก้วย / เจริญไทยสุกี้ / Pick Me Please หมูหยองอบกรอบ / ข้าวหลามจิ๊ว สูตรบางคนที / ย่างนัวส์ / โต้ง ขนมจีนน้ำยาปู / ตี๋ขนมชั้นใบเตย 8 ริ้ว / ปุ๊ เรือสามรำ / รัชฎาลุยสวน / Papa Tofu / ขนมไทยบ้านทอม by ราชบุรี / Okonomiyaki Takuya / จอลลี่พอร์ค หมูทอดอารมณ์ดีเจ้าดังใน TIKTOK / ดับเบิ้ลนัวร์ / ขนมจีนน้ำยาปูคุณปุณณ์ / นายเกาะข้าวเกรียบเห็ดหอม / ขนมบะบิ่นกัสโต้ / ขนมไทยครัวสามพี่น้อง / ลอดช่องวัดเจษ ผึ้งหลวง / ศรีจันทร์พานิช มหาชัย / ทีเด็ดยำ / ข้าวคลุกกะปิแม่พลอย / หมูยอวชาลิสา / สรวีย์ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน รอชำระ / MaMeeKlook / Chef's Table To Deliver by chef GOR / พรกมลทองม้วนสด / เจ๊ขวัญ ไข่หมึกย่าง / ขาหมูตรอกซุงบางรัก / พิมพิราหมี่กรอบแฉ Street Food : รวมร้านอร่อยคาว-หวานHighlight: เจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ (ลูกชิ้นยืนกินลิซ่า) / ยำดาวยั่วbyเจ๊ดารา / Sugoi sembei สุโก้ยเซมเบ้ /กุยช่ายสะพานหันเจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ (ลูกชิ้นยืนกินลิซ่า) / ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส / ทูนึ่งมงลง by ฟ้า / ยำดาวยั่วbyเจ๊ดารา / เอกอร่อย พริกแกงใต้ / กนกกร ขนมเบื้องไทยตลาดพลู / Bakery Hut / ขนมจีนภูเก็จ บ้านอาม่า / ลูกชิ้นหมูเงินล้าน / มาดามซ่า - น้ำปลาร้า แจ่วบอง / หมูสะเต๊ะมังกรทอง / มาดามอินทนิล / หมึกเจี๊ยวจ๊าว น้ำจิ้มจี๊ดจ๊าด / ป้าวรรณ์ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ / Morningmeal แซนวิสเกาหลี-สลัด / ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก / Sugoi sembei สุโก้ยเซมเบ้ / อิ่มสุข ข้าวแต๋นน้ำแตงโม / ร่ำรวยเย็นตาโฟ / ข้าวกรอบสยาม / เอเชียน ทัง ( ASIAN TANG) / ลูกชิ้นพอเพียง / ชาบูเสียบไม้ 10 บาททุกอย่าง / กุยช่ายสะพานหัน / นครมูเบอร์เกอร์ / Love Mon Dong (เลิฟม่อนดอง) /ราชรสแฉหวานหวาน : โซนเดียวที่สายหวานจะต้อง Love!Highlight: Golden Thai Tea - ชาไทย โกลเด้น / Chimney Coaster ไอศกรีมเจ้าดัง เค้กปล่องไฟ / Cho Kaew Bualoy ช่อแก้วบัวลอยTomilo sushi / Peonée Bakehouse ขนมไทย / FRUITOCHIE กรีกโยเกิร์ต โฮมเมด / ยู้ฮูหวานเย็น / โคะโคะริช เต้าฮวยนมเย็น / น้ำลำไยสดชื่นใจ By ชีสเค้ก / Koomi Drinking Yoghurt / Focus Chocolate / ทุเรียนตองเอ - ข้าวเหนียวมูลน้ำกะทิทุเรียน / Cool Coffice / Chimney Coaster ชิมนี่ โคสเตอร์ เค้กปล่องไฟ / Golden Thai Tea - ชาไทย โกลเด้น / MAO NOM เมานม กาแฟและนมสด โฮมเมด / Cho Kaew Bualoy (ช่อแก้วบัวลอย)แฉปังปัง: สินค้า Lifestyle สายมู เสริมดวง-เสริมเฮงHighlight: รวมร้านของมงคล เสริมดวง บารมี โชคลาภ อาทิ อาจารย์อุ๋ย ญาณสัมผัส - ของมงคลต่างๆ อาทิ กระเป๋าตังค์ กำไล สร้อยคอ โปรโมชั่นเฉพาะในงานแฉ ซื้อครบ 7 พัน ดูดวงกับอาจารย์อุ๋ย ฟรี 10 นาทีอาจารย์อุ๋ย ญาณสัมผัส – รวมของมงคลเสริมบารมี กระเป๋าเงิน , กำไล , สร้อยคอ / มูลนิธิเต๋าธรรมะสยาม (ซินแสไช้) - ดูดวง / อาจารย์ชัญญา ราชินีไพ่จิตสัมผัส – น้ำมันหอมเย็น RELAX แผ่นมงคลชีวิต ลิปสติกสาลิกาปากหวาน กำไลคริสตัล น้ำมันหอมมหาเสน่ห์ / Namo Luckystone ตรวจพยากรณ์ / กระแสบุญ99 / มงคลพัฒน์ ดวงและฮวงจุ้ย / POLY HOLY กำไลพระพิฆเนศ / พูนศรีมนตรา กำไลข้อมือ / The White Witch (หมอเจี๊ยบทูตสื่อพลัง) - หินมงคล / ปัญญ์ ลัคค์ Lucky stone / บ้านบีลีฟมหาเฮง by โค้ชกุ๊กไก่ / สามสาวสวยมาก Sorority.dkp - กำไลข้อมือหินแฉกันเอง: ร้านศิลปิน-ดารา และ ดีเจHighlight: THE GHOST HOUSE แจ็ค เดอะโกส - กาแฟสูตรเฉพาะ / แฮปปี้ ชิค Happy chick - หนังไก่ทอดกรอบ ดีเจมะตูม / Wara Allure (วรา อาลัว ขนมอาลัว ดีเจเคเบิ้ล) / Season house Cake Bakery Homemade ครอบครัวดีเจโก / น้ำพริกปุยแสบปาก จาก ปุยฝ้าย AF หรือ ปุยฝ้าย-ณัฎฐพัชร์ / กะหรี่ปั๊บ มาดามแม่ - วู้ดดี้ ลูกชิ้นดาวร้าย นํ้าจิ้มนางเอก - แทน-ฐิติ / น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกปลาดุกฟู แคปหมู หมูกระจก น้ำเก็กฮวย - กร ณัฐวัฒน์ (หลานพี่โก้ ธีรศักดิ์) - / GOD OF GRILL STEAK สเต็ก สปาเก็ตตี้ - แพร สตรอเบอรี่ชีสเค้ก / ซูชิ-ทะเลดอง - บังเอ เชิญยิ้ม / พริกกรอบ DARACHILLI ผลไม้อบแห้งเกรดพรีเมี่ยม น้ำปลาร้า PAKO - โก้ ธีรศักดิ์ - / น้ำพริกป้าแว่น by คุณษา - วรรณษา ทองวิเศษ / Brandnew Field Good ข้าวเกรียบ plant base – นิว นภสร / หวานซ่านทรวง กล้วยเชื่อม - เดย์ ฟรีแมน / MomMe Menu - อาโย ทัศน์วรรณ / อย่างสีเหลือง ห่อหมกย่าง - ที JETSETER / น้ำสมุนไพรไฉไลเอส่งสุข - เอ สุรพันธุ์ ชาวปากน้ำ / กะหรี่ปั๊บ มาดามแม่ - วู้ดดี้ / POPMONSTERS ป๊อปคอร์นพรีเนี่ยม หลากรสชาติ - โอ๋ ภัคจีรา / THE GHOST HOUSE กาแฟสูตรเฉพาะ แจ๊ค The Ghost Radio / เตี๋ยวตุ๋นขุนพล สาขาปั๊มปตท. เลียบคลองสอง - อ๊อฟ บิ๊กแอส / แฮปปี้ ชิค Happy chick - หนังไก่ทอดกรอบ ดีเจมะตูม / Wara Allure วรา อาลัว ขนมอาลัว - ดีเจเคเบิ้ล / Season house Cake Bakery Homemade - ขนม เบเกอรี่ ครอบครัวดีเจโก / น้ำพริกปุยแสบปาก น้ำพริกหมูเสวย - ปุยฝ้าย AF หรือ ปุยฝ้าย-ณัฎฐพัชร์ / GINZY Healthy delicious ขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ - ตุ๊ก ชนกวนันท์ / เจียงฮาย ข้าวซอย - พี่หมู บิ๊กแอส / PloyHomemade น้ำพริกมันปู น้ำพริกมันกุ้ง - ปาล์ม instinctนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเด็ดๆมาสร้างสีสันอีกเพียบ ไม่มีซ้ำ อาทิ ทอล์คเปิดดวงชะตาปีหน้าจากหมอดูชื่อดัง ใครจะปัง ใครจะรุ่ง มาอัพเดทดวงล่วงหน้ากันได้ที่งานนี้พบกับวงดนตรีจากเวที Hotwave Music Awards ที่จะสลับกันมาสร้างสีสัน ให้ทุกคนได้ช้อป ได้มูกันแบบเพลินๆตลอด 4 วันอย่างแน่นอน

EFM FANDOM RECAP

แม็กกี้ - บาส 2 หนุ่มสุดหล่อที่มาพร้อมความแปลก และแจกความฮากับเกม EFM FANDOM LIVE เสิร์ฟโมเมนต์ความวุ่นวายแบบขำท้องแข็งกับเคมีสุดปัง

19 มี.ค. 2025

แม็กกี้ - บาส 2 หนุ่มสุดหล่อที่มาพร้อมความแปลก และแจกความฮากับเกม EFM FANDOM LIVE เสิร์ฟโมเมนต์ความวุ่นวายแบบขำท้องแข็งกับเคมีสุดปัง

รายการ EFM FANDOM LIVE [13 มีนาคม 68] คืนนี้พร้อมต้อนรับ “แม็กกี้ - บาส” จากซีรีส์ “FOUREVER YOU เพราะรักนำทาง” พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจคู่ซี้ “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... เพลย์ลิสต์โปรด : ที่มีชื่อว่าแม็กกี้บาส ถึงเธอคนเก่ง -;) แม็กกี้บาส เปรียบเสมือนเพลงโปรดที่เราพบเจอโดยบังเอิญแต่กลับตกหลุมรัก และเปิดฟังได้เรื่อยๆ เป็นเพลงที่ถึงแม้เราจะฟังมันอีกกี่ครั้งก็ไม่อยากให้จบลง ขอบคุณที่เกิดและโตมาอย่างดี ขอให้ศิลปินคนโปรดของเรารักตัวเองให้มากกว่าอะไร ถ้าเหนื่อยก็อย่าลืมหาเวลาพักผ่อน อย่าหักโหมจนเกินไป ‘เพราะแม็กกี้บาสมีเพียงคนเดียวบนโลก’ รู้ใช่มั้ย เธอมีค่าและเหมาะสมที่สุดที่จะได้รับความรัก มั่นใจในตัวเองกันเยอะๆนะLetter #1: This letter is titled... Top Playlist: The one called Maxky Bas To both of you, the incredibly talented Maxky Bas is like a cherished song we stumbled upon, instantly fell for, and can enjoy endlessly. It's the kind of tune that we can listen to repeatedly without wanting it to stop. I really appreciate that you were born and have grown up beautifully. I hope our favorite artist prioritizes self-love above all else. If you ever feel worn out, don’t forget to take some time to rest. Remember not to push yourself too hard because there's only one Maxky Bas in this world, right? You are special and truly deserving of love. Embrace your confidence!จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... ถือว่าขอ หนูไม่ขอให้พวกพี่เลิกแปกหรอกค่ะ เพราะหนูรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แค่ดูพวกพี่รักกัน หนูก็มีความสุขแล้ว ดังนั้นหนูจะขอให้พวกพี่แปกด้วยกันไปแบบนี้นานๆนะคะ ตลกดีหนูชอบ ตั้งแต่รู้จักพวกพี่มามันมากกว่าโดนเส้นไปแล้ว คือเข้าเส้นไปเลย ตอนนี้หนูเสียเส้นแล้วค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นมะริงกิ่งก่องสะระหน่องก่องแก่งในชีวิตหนู จากสาววายด้อมนิรนาม ณ วันที่เขียน ปล.ถ้าพวกพี่ประกาศชื่อพวกเราก็จะไม่เป็นด้อมนิรนามแล้วค่ะLetter #2: This letter is titled... Take it as a request I'm not asking you to stop being yourselves because that's just not realistic. Watching the way you all care for each other brings me so much joy. So, I hope you all keep being your wonderfully unique selves for a long time. It’s amusing, and I genuinely enjoy it. Since I’ve met all of you, it’s been more than just a distraction; it’s added so much to my life. I really appreciate you bringing your chaos into my life. From a fan who prefers to remain anonymous for now. P.S. If you reveal our names, we won’t be anonymous fandom anymore!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... จากแฟนนิยาย...สู่แฟนคลับแม็กกี้บาส ขอบคุณพี่แม็กกี้และบาส ที่เป็นโจฮันนอร์ธได้สมบูรณ์แบบ ขอบคุณที่เติมเต็มภาพในจินตนาการของแฟนนิยายแบบเรา ขอบคุณที่ทำให้ตัวละครเดินออกมาสู่โลกแห่งความจริงได้อย่างงดงาม ขอบคุณที่พยายามอย่างเต็มที่นะคะ แฟนนิยายแบบเราไม่ผิดหวังเลยจริงๆ พวกคุณเก่งมากๆ จะคอยซัพพอร์ตพวกคุณแบบนี้ตลอดไป สุดท้ายนี้ขอบคุณโจฮันนอร์ธที่ทำให้เราได้รู้จักพี่แม็กกี้และบาส จะติดตามผลงานและคอยซัพพอร์ตทั้งคู่ตลอดไปนะคะLetter #3: This letter is titled... From fan fiction... to Maxky Bas big fan I really appreciate you, P'Maxky and Bas, for capturing Johan North so well. You’ve truly brought the vision of fans like us to life. Thank you for your incredible performances. Your efforts have not gone unnoticed, and we, the fans, are genuinely thrilled. You both are amazing, and I’m here to support you always. Lastly, a big thank you to Johan North for introducing us to P'Maxky and Bas. I’m excited to follow your work and will continue to support you both for years to come.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... พาร์ทเนอร์ในฉบับความสบายใจ คำนิยามของ แม็กกี้บาส คือ ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา มันถึงเวลาที่ควรถูกค้นพบแล้ว ทุกอย่างมันล้วนมาจากความพยายามที่หนักมาก ดีใจที่ตอนนี้ทุกอย่างมันดีมากๆ อยากให้รักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ดีนะ ความสนิทกันมาจากความสบายและองค์ประกอบหลายๆอย่าง อยากให้นึกถึงอีกคนทุกการกระทำเสมอ ไม่เคยเห็นด้อมไหนที่ศิลปินมาปั่นเทรนด์ทุกสัปดาห์ ดีมากแล้ว ขอให้น่ารักแบบนี้ต่อไปนะ อยากบอกว่าภูมิใจในพวกเธอทั้ง 2 คนนะ แฟนคลับรักเธอ แต่เธอ 2 คนรักกัน อุ๊ป!Letter #4: This letter is titled... Partners in coziness Maxky Bas means being in the right place at the right time with the right people. It’s your moment to shine, and that’s all a result of hard work. I’m really happy with how things are going now, and I hope you keep nurturing this relationship. True closeness comes from comfort and various factors, so always think about the other person in everything you do. I’ve never seen a fanbase where artists unite to create trends week after week—it’s already amazing. Please keep being your adorable selves. I just want to say how proud I am of both of you. Fans really adore you, but the love between you two is something special. Oops!จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... รักที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง สวัสดีค่ะ ยินดีที่เห็นความสำเร็จของทั้งคู่ในวันนี้ เป็นสิ่งที่ทั้งสองควรได้รับ และดีใจที่เป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้ทั้งคู่ยิ้มได้ ขอให้เติบโตก้าวไปด้วยกันนานๆ มีอะไรสามารถระบายกับแฟนๆได้เสมอเลย ไม่ต้องเกรงใจ ขอให้ได้ทำในสิ่งที่อยากทำและเต็มที่กับมัน จะซัพพอร์ตตรงนี้เสมอ จากนี้ไปขอให้มีเพียงน้ำตาของความยินดี รู้ไหมว่าทั้ง แม็กกี้บาส เป็นความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริงๆ นะ เวลาที่หันมาจะมีเราอยู่ตรงนี้Letter #5: This letter is titled... A love that I never realized was out there Hey there! I’m really happy to see both of you succeeding today. You truly deserve this, and I’m glad to be a small part of the reasons behind your smiles. I hope you continue to grow and move forward together for a long time. Remember, you can always share your thoughts with your fans—don’t hold back! I wish for you to pursue what you love and give it your all. I’m here to support you in that. From now on, may it only be tears of happiness. I never expected the love between Maxky and Bas to be so real, but it truly is. Just know that we’ll always be here for you.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “แม็กกี้ - บาส”วันเกิดนี้มีแต่ความพิเศษ! สร้อยแทนใจ ใส่แล้วใจละลาย ♡~ บาส : สร้อยนี่ดูดีนะครับ คนเลือกน่าจะดูดี แล้วก็หล่อมาก ได้ปุ๊ป ใส่ปั๊ป แม็กกี้ : มึงเล่นหน้าเล่นตาใหญ่มาก กูไม่เคยคิดเลยว่าเวลาออกรายการวิทยุ มันต้องแบบ “หึ้ยยยย” อย่างงี้หรอ บาส : 55555 แม็กกี้ : ต้องบอกก่อนว่าสร้อยก็ให้ก่อน แล้วเขาก็เอาไปใส่ ทำไมคือสร้อยใส่เองไม่ได้ บาส : อยากฮ้อปปป แม็กกี้ : มันจะเริ่ดนะคุณน้า อ่ะใครจะใส่ให้ บาส : เอ่อ ทางไหนดี วันนั้นมีใครบ้างนะพี่ แม็กกี้ : 55555 ไม่ เค้าก็ใส่เอง บาส : ใช่ ด้วยความรีบแล้วมันสวยมาก เราหยิบปุ๊ปปั๊บสวยเลย แม็กกี้ : อ่ะ สรุปใครถอดให้ บาส : อ่า…ใครถอดให้ ก็ต้องถอดเองแปลกขนาดนี้ หล่อมาเบรกไว้ก็เอาไม่อยู่! แม็กกี้ : พี่ว่ามันแปลกไหม ถ้าคนเราสามารถพูดได้ 4 ชั่วโมงติดต่อกัน สมมุติว่าพวกเรานอนอยู่เฉย ๆ แต่เขาพูดไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่เสร็จกองกลับมาสี่ทุ่ม จนถึงตีสองก็ยังไม่หยุดพูด! คือพูดเก่งมากไม่มั่นใจว่าเขาเป็นใคร เคยเดินผ่านหน้ากล้องทีนึง แต่แอ๊คนิดนึง บางทีชอบปัดผม 55555 บาส : ความแปลกของพี่แม็กหรอ เอาจริง ๆ ไม่มีอะไรแปลกนะ คาดไม่ถึงตั้งแต่เจอ 5555 ผมว่าพวกเราก็แปลกกันทั้งคู่แหละ ผมรู้สึกว่าเป็นคนคล้าย ๆ กัน แม็กกี้ : จริง ๆ ผมไม่แปลก ผมว่าผมปกติมาก บาส : จริง ๆ พวกเราแอ๊คครับ แล้วก็เท่มาก เป็นคนคีพลุค แม็กกี้ : เขามีสองลุค คือ ‘พี่หัส’ แล้วก็อีกอันจะเป็นน่ารักครับ ‘น้องเดซี่’เกิดมาคู่กันจริงมั้ยไม่รู้ แต่ดูจากกิจกรรมแล้ว…ฝาแฝดไม่ต้องสืบ! แม็กกี้ : เอาจริง ๆ เราเหมือนกันมาก บาส : มาก ๆ จนตกใจเลย แม็กกี้ : ชอบทุกอย่างเหมือนกัน เล่นเกม กีฬา อาหาร คือถ้าสั่งเบิ้ลได้เลย แล้วแบ่งกันได้เลย กินง่าย บาส : ที่แปลกคือ ชอบกินพิซซ่าหน้าเดียวกัน แม็กกี้ : กีฬาผมตีแบต เขาจะเล่นปิงปอง แต่ว่าจริง ๆ เขาก็ชอบตีแบตเหมือนกันซีรีส์จบแต่กระแสไม่จบ! ความปังแรงจนห้างแทบแตก แม็กกี้ : ก็มีแฟน ๆ มาเยอะ เอาจริง ๆ ตื่นเต้นมากทุกครั้งที่มีงานตื่นเต้นมาก แล้วคนจากชั้น2 ชั้น3 คือแบบ… บาส : เออ ชั้น4 อ่ะ แม็กกี้ : มันมี 3 ชั้น 55555 ส่วนแฟนมีตของซีรีส์ เป็นแฟนมีตครั้งแรกครับ มีหลายคนมีถึง10ชีวิต จริง ๆ เกินด้วยซ้ำเพราะมีหลังบ้านอีกเยอะมาก ๆ แต่ว่าเป็นแฟนมีตที่ผมว่าสนุกนะ บาส : สนุกมาก ๆ ครับแล้วก็ครบรส แม็กกี้ : ใช่ ครบทุกรสชาติอนาคตของ แม็กกี้-บาส พร้อมมาเสิร์ฟความฟินอีกครั้ง! แม็กกี้ : ก็ต้องบอกก่อนว่าเดี๋ยวเราจะมี โจฮันนอร์ธ Special มีตอนพิเศษของซีรีส์นี้แยกออกมา ไม่แน่ใจว่ากี่ตอน บาส : อ่ะ แต่ให้ทุกคนไปลุ้นเอา แม็กกี้ : ใช่ ไปลุ้นเอา แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีอะไรมาให้เราอ่านบ้างล่ะ บาส : เริ่มเห็นตัวหนังสือ แม็กกี้ / บาส : เอ้อออออออ แม็กกี้ : ก็คิดว่าเร็ว ๆ นี้ครับชื่อด้อมคู่ยังไม่ได้…แต่ฮากระจายไปหลายรอบ! แม็กกี้ : จริง ๆ ชื่อด้อมคู่เราผ่านมาหลายชื่อมาก ๆ จะบอกว่าเราคิดกันมานานมาก บาส : ใช้คำว่า ตั้งใจคิดมาก แม็กกี้ : แต่แต่ละอย่างที่เราคิดออกมา ดูใช้ไม่ได้ อยากได้ตัวอย่างไหม? อ่ะ ชื่อแรกเลย ผมพิมไปหาบาสว่า “ชื่อด้อมเราอะไรดี?” เสร็จปุ๊ป บาสพิมกลับมาว่า… บาส : อะรีได แม็กกี้ : อะไรดี? ก็ อะรีได ไงครับ 55555 บาส : ตอนแรกชอบด้วย แม็กกี้ : แต่เกรงใจแฟน ๆ กลัวว่าใช้ชื่อนี้ไปนาน ๆ แล้วมันจะแปลกกว่าเดิม ยังไม่เคยบอกที่ไหน นี่ที่แรก บาส : มีอีกไหม? แม็กกี้ : จริง ๆ เราจะชอบผวนคำ บางทีอ่านมาจากใน X ก็จะเขียนว่า ‘ป๊านู ปูนา’ จริง ๆ หลายชื่อที่เราคิดมา มันออนไม่ได้อ่ะ เดี๋ยวรอออฟฟิเชียลอีกที ขอไปปรึกษาคิดกันดี ๆ ก่อนนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมมาให้ “แม็กกี้ - บาส ” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “เบื้องบนให้…มาแต่ลืมบอกวิธีใช้” แล้วมาดูกันว่าทั้งสองคนจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆ ให้“แม็กกี้ – บาส” ได้เลือกเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “แม็กกี้ – บาส” มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ สุดท้าย… ฝาก Special EP. ซีรีส์ “Fourever You เพราะรักนำทาง” และฝากงานแฟนไซน์วันเกิดของบาส วันที่ 29 มี.ค.นี้ รวมถึงงานในอนาคตของทั้งคู่ด้วยนะค้าบบสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

GEN นี้! ต้อง ไป๊ป นิว เลออน พีเจ จาก GELBOYS สถานะกั๊กใจ มาเสิร์ฟความสนุกแบบหนุ่มเล็บเจลใน EFM FANDOM LIVE พร้อมเล่นเกมสุดฟิน~

18 มี.ค. 2025

GEN นี้! ต้อง ไป๊ป นิว เลออน พีเจ จาก GELBOYS สถานะกั๊กใจ มาเสิร์ฟความสนุกแบบหนุ่มเล็บเจลใน EFM FANDOM LIVE พร้อมเล่นเกมสุดฟิน~

รายการ EFM FANDOM LIVE [6 มีนาคม 68] คืนนี้ต้อนรับ “ไป๊ป - นิว - เลออน - พีเจ” จากซีรีส์ “GELBOYS สถานะกั๊กใจ” พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS"ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า…ความในใจที่ไม่เคยกั๊ก…ถึงพวกคุณทั้งสี่ ถึง ไป๊ป – นิว – พีเจ - เลออน ไม่รู้ว่า Gelboys จะรู้ตัวไหม… แต่ทุกความรู้สึกที่ Gelboys ถ่ายทอดออกมา ทั้งรอยยิ้ม แววตา หรือแม้แต่เสียงหัวเราะตอนไลฟ์ มันส่งมาถึงพวกเราหมดเลย Gelboys ทำให้เราอินไปกับทุกช่วงเวลา ร้องไห้ มีความสุข หัวเราะ และสอนให้รู้จัก “ความรัก” ในอีกมุมที่ไม่เคยสัมผัส ขอบคุณที่พาเราเดินทางไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะสถานะไหน หัวใจของเราก็ไม่เคย “กั๊ก” ความรักที่มีให้พวกคุณ GELBOYS เลย ซัพพอร์ตเสมอนะLetter #1: This letter is titled... I'm sharing my sincere feelings with all four of you. To Pide - New - PJ - Leon , I’m not sure if GELBOYS realize this, but every emotion they share—through their smiles, eye contact, or even their laughter during live shows—reaches us deeply. GELBOYS help us feel every moment; they make us laugh, cry, and experience love in ways we never thought possible. Thank you for bringing us along on this journey; regardless of the circumstances, our hearts have always been full of love for you, GELBOYS. We’ll always be here supporting you.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า…เจลอะไร ไม่เท่าเจลบอยปะ!? To : GELBOYS GANG!! ถึงเจลบอยทุกคน ทั้ง นิว ไป๊ป เลออน พีเจ ทุกคนได้ส่งตัวละครออกมาสู่สายตาคนดูได้ดีมากๆเลยนะ อยากให้ชมตัวเองกันเยอะๆเลย ก้าวไปข้างหน้ากันเรื่อยๆนะ ทุกหนึ่งก้าวที่เพิ่มขึ้น จะมีแฟนคลับคอยตามหลังอยู่เสมอ อาจจะได้ยินมาเยอะแล้ว แต่อยากจะบอกว่าทั้ง 4 คนเก่งมากๆเลยนะ โฟร์มด เชียร บัว บ้าบิ่น จะเป็นตัวละครที่หลายๆคนจำเอาไว้ในใจแน่นอน ดีใจที่ 4 ตัวละครนี้เป็นทั้ง 4 คนแสดงนะLetter #2: This letter is titled... There's nothing like GELBOYS. To : GELBOYS GANG!! To all the GELBOYS: New, Pide, Leon, and PJ. You've done an amazing job bringing your characters to life for the audience. Be sure to give yourselves a pat on the back. Keep pushing ahead! With every step you take, there's a whole bunch of fans cheering you on. While you’ve probably heard it before, I really want to emphasize that each of you is incredibly talented. Fou4Mod, Chian, Bua, and Baabin are going to be characters that a lot of people will hold dear to their hearts. I'm really happy to see all four of you embodying these roles.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า… เลิกกั๊กแล้ว(บอก)รัก(เจลบอย)ก่อนนะเตง ยินดีกับกระแสการตอบรับที่ดีเพิ่มขึ้นๆในทุกอีพีของซีรีส์ด้วยน้า เป็นเพราะความตั้งใจของทั้งนักแสดงและทีมงานทุกฝ่ายที่สร้างสรรค์และทำในพาร์ทตัวเองอย่างเต็มที่ ผลงานที่ออกมาเลยดีในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะนักแสดง 4 จิ๋ว ทั้งที่เป็นเมนแคสเรื่องแรกกัน แต่ทุกคนถ่ายทอดคาแรกเตอร์ออกมาได้สุดยอดมากเลยนะ ไม่มีซักวินาทีที่ไม่เชื่อเลย เก่งกันมาก! ขอให้เรื่องนี้พาทุกคนไปได้อีกไกลๆเลยนะะ รักน้าเจ้าพวก 01020304Letter #3: This letter is titled... Don’t hesitate any longer—let GELBOYS know that I’m the one who loves you first! Great job on the fantastic feedback for each episode of the series! This success is thanks to the hard work of all the actors and staff, who bring their creativity and commitment to every role. The details are outstanding, particularly from the four young actors. Even though they're the leads, everyone brought their characters to life beautifully. I was convinced by their performances at every turn. You all have such talent! I really hope this series opens up new opportunities for everyone. Much love to you all 01020304!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า… สวัสดี จอยเบล เอ้ย เจลบอย หวัดดีนะพวกเด็กเจลบอย ยินดีที่ได้รู้จักนะ! เราเป็นคนที่ผ่านมาเจอซีรีส์ของทั้ง 4 คน เอาจริงๆ ทีแรกตอนดูก็รู้สึกเลยว่า เห้ย55 เราแก่ขนาดนี้แล้วหรอ นี่มันซีรีส์เจน z มากๆ งาน artwork โครตเจ๋งอะ นี่เราได้อยู่มาถึงยุคนี้แล้วหรอเนี้ย! แต่ก็ดีใจนะที่ได้มารู้จักและติดตามทุกคน ตอนนี้ก็รอฟังเพลงของทั้ง 4 คนเลยนะ ได้ฟังของนิวกับไป๊ละ โดนเส้นมาก รอติดตามจนจบเลยนะ พวกเจลบอย เขียนจบก็ขอไปทำเล็บตามละLetter #4: This letter is titled... Hello Joybell, oh GELBOYS! Hey GELBOYS! It’s great to meet you. I recently discovered the series featuring these four characters, and honestly, my first thought was, 'Wow, am I really that old? This definitely feels like a Gen Z series.' The animation is awesome! Have we really reached this point already? I'm so happy to have found and connected with all of you. Now, I'm just waiting to hear the music from these four. I’ve checked out New and Pide’s tracks, and they're really catchy. I can’t wait to support them through it all. By the way, once I’m done writing, I'm heading out to get my nails done!จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า…ถ้าการถูกกั๊กเป็นกีฬา ผมว่าผมล้มแชมป์สวัสดีสุดหล่อแก๊ง Gelboys ที่เฝ้าคอย วันอาทิตย์ ถึงวันเสาร์ผู้ทำให้ชีวิต ฉันไม่เหงา ไม่มีเหา เพราะจับหงาย ได้พบเธอเจลบอยหนึ่ง นามว่า น้อง PJ อยากไกวเปล กล่อมนอน ในอกแม่เจลบอยสอง น้องนิว นั้นของแทร่ ยักcuteแพร่ สุดปัง ดังทั่วไทยเจลบอยสาม นิยามเด็ก Gen Z เต้นทุกที่ น้องเลออน ก็ทำได้เจลบอยสี่ ไป๊ปชิล คนสุดท้าย หน้าละม้าย ไปป์มาก่อน ลองดูเลยเขียนบทกลอน พร้อมนอน สูดน้ำมูก ไม่อยากถูก หลอกรัก โดนกั๊กใจ แต่งต่อ... 3Letter #5: This letter is titled... If holding back were a competition, I believe I would have come out on top. Hello, handsome GELBOYS gang. From Sunday to Saturday, I've been waiting. The persons who fill my life with companionship. I don't feel lonely anymore since I've met you. One of the GELBOYS is called N' PJ.I'd like to gently sway you in the cradle and drift off to sleep while being held by me. GELBOYS #2, N' New, that's the genuine one. Raising a single eyebrow is a remarkable skill that's well-known throughout Thailand. GELBOYS #3 represents the essence of Gen Z kids. N’ Leon is able to dance anywhere. GELBOYS #4 N’ Pide the final one His face resembles Pide-Magorn. Take a look! Compose a poem, get some sleep, and enjoy the scent of my nose. I don’t want to be deceived by love or feel like my heart is being restrained. To Be Continued 3ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับหนุ่มๆ GELBOYS กันชีวิตที่เปลี่ยนไป ของหนุ่มๆ GELBOYS พีเจ : ของผมก็ตั้งแต่ซีรีส์ปล่อยทีเซอร์ออกไป เหมือนได้รับความสนใจจากคนเบื้องหลัง คนในวงการบันเทิงเยอะมาก แบบพี่ช่างแต่งหน้า หรือแม้แต่ฝ่ายโปรดักชั่นของที่อื่น ก็เหมือนให้ความสนใจ แล้วก็รู้จักเรามากขึ้น นิว : ของผม ผมว่าวันที่เหมือนเรารู้สึกได้ว่า ‘เฮ้ย ซีรีส์เรื่องนี้มันกำลังมา’ คือ ผู้ชายไปทำเล็บกัน มันเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่า ’เออ เขาดูเราเว้ย แล้วไปทำเล็บตาม’ เหมือนเรื่องนี้ค่อนข้างเปลี่ยนความคิดผู้คนได้ระดับหนึ่งเลย มันแบบ ดีเนอะที่แฟชั่นมันเหมือนเข้าถึงทุกเพศ ทุกวัยได้แล้ว ไป๊ป : มันก็คงเป็นแบบ เราไปใช้ชีวิตประจำวัน ก็เจอคนแล้วเขาก็มีหันมองบ้าง บางทีผมจะบ๊ายบาย ’แบบเขาจะเกลียดเราไหมวะ หรือเป็นแม่ใครเปล่าวะ’ อะไรอย่างเงี้ย เลออน : ช่วงนี้คือ เหมือนเพื่อนๆ ที่ขอนแก่นสังคมก็จะต่างกันนิดนึง บางทีเขาเลื่อน TikTok เขาก็เริ่มเจออะไรจากซีรีส์เรา เขาก็แคปลงสตอรี่ ‘เฮ้ย เพื่อนเราเปลี่ยนไปจังวะ’ อะไรอย่างเงี้ย แล้วผมก็ ’เฮ้ย ติดตามด้วย’ ก็เลยรู้สึกว่ามันเริ่มแบบแพร่กระจายเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็รู้สึกเปลี่ยนไปตั้งแต่ทีเซอร์ ที่ประกาศว่าจะมีซีรีส์คนก็เริ่มทำเล็บตั้งแต่ตอนนั้นเลย เลยรู้สึกว่ามันน่าจะมาวลีเด็ด สุดเฟี้ยวของวัยรุ่น GELBOYS!! นิว : ผมชอบไพลิน ‘ไพลินไม่กินสับปะรดนะคะ ไพลินชอบกินกล้วย~~’ ตอนเขาเขียนประโยคคือผมไม่เข้าใจเลย คือผมก็ต้องไปดูว่าแบบ เขาพูดยังไง แล้วก็เอามาปรับในปัจจุบันดราม่าสุดกราฟ ความยากที่ท้าทาย พีเจ : จริงๆ มันก็ท้าทายมาก เหมือนซีนที่ได้เห็นในตอนออนมันเป็นซีนรีชู้ต เพราะซีนแรกที่ถ่ายกันไป ผมเล่นไม่ได้เลย เหมือนมันกดดันมาก เป็นซีนที่มันดราม่าด้วย มันยากด้วย ถ่ายอยู่ประมาณ 4 ชั่วโมง ก็เล่นไม่ได้ จนต้องมารีชู้ตใหม่ พอรีชู้ตมันก็ดีขึ้นเหมือนช่วงที่ถ่ายจบไปพี่บอสก็เรียกเราไป workshop เพิ่มด้วย ทำให้พอมาถ่ายใหม่ก็เล่นได้สายตา Red flag จากผู้ชาย Green flag ไป๊ป : ตรงกันข้ามเลยครับ คือผม Green flag มากๆ ระหว่างที่ workshop พี่บอสเขาจะรู้สึกถึงจุดแข็งและสิ่งที่เขาชอบในพวกเราอยู่แล้ว ที่จะมาพัฒนาเป็นบท ซึ่งพี่บอสเก่งเรื่องดูความรู้สึกคนมากๆ เช่น ผมเล่นสายตาอย่างงี้ บางซีนที่ผมอาจจะยังรู้สึกไม่ถึงเป้าหมายนั้น เขาก็จะรู้เลยว่า ‘เฮ้ย อันนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกจริงๆ’ ความจริงช่วงที่ถ่ายก็เมื่อยตาพอสมควร ด้วยตัวละครเชียร เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก มันก็เลยเห็นชัดแค่ภายในสายตามากกว่าตัวละคร ‘บัว’การกระทำตรงข้ามกับคำพูด ที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ เลออน : จริงๆ ผมเข้าใจเลย เพราะผมมานั่งดูมันก็แบบ ‘มาพูดอะไรอย่างงี้’ ด้วยความที่ผมแสดงเป็นบัว ตอนที่ผมไปอ่านบท คือพวกเราได้อ่านบทพร้อมกันหมดเลย มันเป็นเรื่องแรกก็เลยบอกกับตัวเองว่า ’โอเค เรื่องนี้อยากเล่นให้มันสดที่สุด’ อยากให้อารมณ์มันออกมาจากสิ่งที่รู้เพียงแค่ซีนตัวเอง คือจะไม่รู้ว่าซีนคนอื่นเกินอะไรขึ้นบ้าง ตอนอ่านบทผมก็เลยอ่านแค่ซีนที่เกี่ยวกับผม ที่มีผม ผมเลยถามเขาว่า ’ในซีนที่ผมยืนอยู่ผมได้ยินเขาพูดไหม’ ถ้าไม่มี ผมก็จะปิดหู แล้วก็ไม่ฟัง กลายเป็นว่าตอนที่เป็นบัว บัวมีเหตุผลทุกอย่างในการกระทำ ซึ่งมีจริงๆ แต่พอมันอยู่ในจอ เรามานั่งดูเป็นผู้ชม มันทำให้สตอรี่บัวเป็นอีกแนว เลยเข้าใจที่ทุกคนคิดอย่างงั้นอะไรใหม่ๆ กับการใช้โทรศัพท์ถ่ายทำทั้งเรื่อง! นิว : มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การใช้โทรศัพท์ถ่าย มันช่วยเรื่องคล่องตัว แต่โทรศัพ์มันก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านนี้โดยตรง มันก็จะมีเรื่องของความร้อน เรื่องเมม อะไรอย่างเงี้ย ไป๊ป : แล้วมันเป็นไอเดียของพี่ๆ เขาด้วย ที่ยุคนี้เป็นยุคโทรศัพท์คัลเจอร์อยู่แล้ว ซึ่งเด็กรุ่นนี้ทุกคนก็ใช้โทรศัพท์อยู่ข้างๆ ตลอดเวลาเพลงของบัว ที่ยังสปอยไม่ได้! เลออน : ความจริงยังสปอยไม่ได้นะ แต่ว่ามันควรมีไหม คือทุกคนมีแล้วมันก็ควรมีแหละ มีแหละครับ น่าจะมีGOTCHA POP 3 คอนเสิร์ตครั้งแรกของ GELBOYS นิว : ตอนนี้ยังไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยครับ ไป๊ป : ยังไม่มีเวลาคิดเรื่องเตรียมตัวเลย(ฮ่าๆ) เลออน : จริงๆ มันน่าตกใจที่ซีรีส์ยังออนไม่จบเลย แต่เรามีแผนที่จะไปขึ้นคอนเสิร์ตแล้ว พีเจ : ก็ฝากพวกเราด้วยนะครับ ไปให้กำลังใจพวกเราด้วยนะครับนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “ไป๊ป นิว เลออน พีเจ” เล่นกัน!(เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟิน และความฮากันแบบจุกๆให้ “ไป๊ป นิว เลออน พีเจ” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “ไป๊ป นิว เลออน พีเจ” หนุ่มๆ “GELBOYS” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก ความสุขให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ “GELBOYS สถานะกั๊กใจ” ทุกวันเสาร์ ดูสดพร้อมกัน เวลา 20:30 น. ทางช่องวัน 31และดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT บนแอป iQIYI และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้นสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

หนุ่มๆ PROXIE เสิร์ฟความน่ารักใน EFM FANDOM LIVE พร้อมเม้าท์มอยถึงซิงเกิลใหม่สุดจึ้ง พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม ที่ทำเอาแฟนๆอยากไปพักใจที่ PROXIE HOTEL

18 มี.ค. 2025

หนุ่มๆ PROXIE เสิร์ฟความน่ารักใน EFM FANDOM LIVE พร้อมเม้าท์มอยถึงซิงเกิลใหม่สุดจึ้ง พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม ที่ทำเอาแฟนๆอยากไปพักใจที่ PROXIE HOTEL

รายการ EFM FANDOM LIVE [27 กุมภาพันธ์ 68] คืนนี้ต้อนรับ “อองรี - กัน - คิม” 3 หนุ่ม T-POP สุดฮอตจาก Proxie พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน” ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ขอบคุณที่ทำให้โลกเฉาๆของเรามีความหมาย ขอบคุณพ้อกสีที่ทำให้โลกที่แสนจะเฉา มีความหมายขึ้นมา พ้อกสีทั้ง 6 คน เหมือนสีที่เข้ามาเติมเต็มทำให้ชีวิตเรามีสีสันขึ้นจากเดิมมาก ขอบคุณที่ได้ค้นพบทั้ง 6 คน ตั้งแต่เราค้นพบ ชีวิตมีความหมาย มีแพชชั่นขึ้นมาก จากเดิมที่อยู่แบบเฉาๆ เรามีความฝัน มีเป้าหมายขึ้นมาก ขอบคุณที่เข้ามาเล่นในบรอดเเคสต์บ่อยๆ ลงโซเซียลด้วย มันทำให้วันนั้นมีความสุขมากๆ รักทั้ง 6 คนมาก ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้จนเราได้ค้นพบLetter #1: This letter is titled... Thanks for adding meaning to our everyday lives. Thanks, Proxie, for bringing some meaning to this otherwise mundane world. The six of you are like vibrant colors that brighten our lives, making everything feel more vivid than it used to. We’re so grateful to have discovered you. Since you came into our lives, everything has felt more vibrant and full of passion. We used to feel pretty bland, but now we’re filled with dreams and ambitions. Thank you for frequently joining us on Broadcast and sharing on social media—it really made that day special. I truly appreciate all six of you and am so thankful you’re still around since we found you.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... ผู้พิทักษ์พ้อกสี (บุคคลคนไม่เคยเจอเธอเลย) พี่ๆ PROXIE ทุกคนสงสัยมั้ย? ทำไมตั้งชื่อเรื่องแบบนี้เพราะเราไม่เคยเจอพี่ๆเลยเเม้แต่ครั้งเดียว มีครั้งนึงเราเกือบได้เจอกันที่ลำปางแต่เรากลับชัยภูมิก่อน วันนั้นนั่งเศร้าซึมทั้งวัน เอาแต่นั่งดูทวิตแต่มีความสุขมากๆอยากจะบอกว่าถึงเราจะไม่เคยได้เจอกันเลย แต่มีความสุขทุกครั้งที่ได้เป็นยูสเซอร์ตัวน้อยๆ คอยปั่นวิวให้ทุกๆเพลง และอยากขอบคุณที่เป็นรอยยิ้มในวันที่ยิ้มไม่ออก ปล.สักวันเราคงได้เจอกันนะคะLetter #2: This letter is titled... Proxie Guardian (Someone you've yet to encounter) You might be wondering why I chose a title like this. It's because I've never actually met any of you. There was a moment when we almost met in Lampang, but I ended up heading back to Chaiyaphum first. That day was pretty tough for me—I just sat around feeling down. I spent the time scrolling through X, yet somehow it brought me joy. I just want to express that even though we haven't met, it makes me really happy to support every song as a small ‘user’. Thank you for bringing a smile to my face during times when I couldn't find one. P.S. I'm sure we’ll meet someday.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... คลินิกปลูกผมใกล้ฉัน ตั้งแต่เป็นติ่งพ้อกสีมา รู้สึกว่าผมบางลงทุกวันๆ จากรอยยิ้มพิฆาตของพี่กัน สายตาที่อบอุ่นของพี่คิมความน่ารักของกุนกุน หนุ่มเทสดีที่ชอบเล่นกับใจพี่สาวอย่างกร คาแรกเตอร์ที่รักมัมหมี (ได้รึยัง) ของอองรีและหลานคนสุดท้องอย่างวิคเตอร์ที่โตเร็วขึ้นมาก จนยายหัวใจจะวาย ทำให้รู้สึกเหมือนโดนกระชากหัวไปกรี๊ดคนนั้นที คนนี้ที จนอยากขอคำแนะนำช่วยหาคลินิกปลูกผมใกล้ฉันให้หน่อยค่ะLetter #3: This letter is titled... Hair Transplant Clinic Near Me Ever since I became Proxie fan, I’ve noticed my hair seems to be thinning more each day. With P’Gun’s charming smile, P’Kim’s warm eyes, the adorableness of Kunkun, also Gorn, the attractive guy who enjoys teasing his older sister, Onglee’s loving relationship with his mommy, and little Victor, who is growing up so quickly that it’s almost overwhelming for his grandmother, it feels like I need to shout at this person and then that one. So, I’m looking for some recommendations on a good hair transplant clinic nearby.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... ชีวิตอีป้าที่บ้ามาติ่งพ้อกสี มีคนมากมายถามว่าความสุขคืออะไร? แล้วคนมากมายกลุ่มนั้นก็มองว่าการที่มาตามดูเด็กๆ 6 คนคือเรื่องไร้สาระ ที่รุ่นๆเราไม่ควรทำ แต่คนกลุ่มนั้นบางคนยังหาความสุขของตัวเองไม่เจอเลย แต่เราเจอและพอใจดีใจกับสิ่งนี้ที่เป็นอีก 1 ความสุขในชีวิต 1 อย่างที่เราหาเจอ อยากให้เด็กๆภูมิใจในตัวเองเยอะๆ เพราะแฟนคลับภูมิใจมากๆที่ได้เป็นยูสเซอร์ พูดแบบไม่อายใครว่าติ่งวงนี้ ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักนะ รักมากๆเลยLetter #4: This letter is titled... Auntie's life, filled with her passion for Proxie. Lots of people wonder what happiness really is. Some of them believe that chasing after these six kids is a waste of time and something our generation shouldn't bother with. Yet, many of those people still haven't figured out what brings them joy. I've found my happiness, and I am happy with it. This is another aspect of happiness I've come to realize. I want these kids to feel proud of themselves, just as we take pride in supporting them. There’s no shame in being fans of this group. Thanks for all your hard work. I love you all so much.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... ข้อความจากใจถึง6สีที่ไม่ใช่แม่สี แต่เป็นพ้อกสี สวัสดีน้าาพ้อกสี ยินดีด้วยกับเพลง พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม ที่ครบ 1 ล้านวิว และมันต้องยอดวิวพุ่งๆอีกแน่นอน และก็ยินดีล่วงหน้ากับการครบรอบเดบิวต์ 3 ปีค่ะ เห็นพ้อกสีมาตั้งแต่เดบิวต์ crazy love แล้วก็มาติดตามผลงานหลังจากไปเต้นที่สยามจนถึงทุกวันนี้ ทุกคนเก่งมากๆ พัฒนาตัวเองขึ้นทุกวัน ขอบคุณที่ทรงงานหนัก ตั้งใจทำผลงานดีๆออกมาให้ยูสเซอร์ได้ชื่นใจน้าา อย่าลืมดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจด้วยน้าา พักผ่อนเยอะๆค่ะLetter #5: This letter is titled... A Sincere Note to Proxie Hey Proxie, huge congratulations on 'Last Request' hitting 1 million views! I'm sure those numbers will keep rising. Also, congrats in advance on your third anniversary of your debut. I've been a fan since you started with 'Crazy Love' and have loved supporting you all the way from your performances at Siam to now. Everyone's so talented and keeps growing every day. Thanks for all your hard work and for creating such great content for us to enjoy. Just remember to take care of your physical and mental health and make sure you get enough rest.จดหมายฉบับที่ 6 ชื่อจดหมายว่า... โดนตกเพราะความหล่อ อยู่ต่อเพราะความตลก ถึงพ้อกสี พ้อกสีเป็น Boy Group วงแรก รวมถึงเป็น T-POP วงแรกและวงเดียวในใจเลยที่ตาม เราพึ่งมาเป็นยูสเซอร์ได้ไม่นาน เพราะถูกจริตทั้งเพลงแล้วก็นิสัยของทุกคน ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ อยากจะขอบคุณการมีอยู่ของพ้อกสีมาก มันช่วยทำให้วันเหงา ๆ ของเราหมดไป มีแต่ความตื่นเต้นตลอด คอยตามตลอดว่าวันนี้พวกแกจะไปดื้อที่ไหนนะ อยากจะตามไปดูทุกที่ที่มีโอกาสเลย รักทุกคนมาก ๆ นะคะ ป.ล. พรุ่งนี้ก็ไม่เลิกติ่งหรอกค่าLetter #6: This letter is titled... Captivated by their striking looks, yet enchanted by their delightful humor Proxie holds a special place in my heart as my favorite boy group and the only T-POP group I truly follow. I became a fan not too long ago, drawn in by their music and amazing personalities. Ever since I discovered them, I've been incredibly grateful for their presence in my life; they help brighten my lonely days. There's always something exciting happening, and I eagerly keep track of their journey each day. I want to support them in every way I can. I love you all dearly! P.S. I’m not planning on stopping my fandom anytime soon.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “อองรี - กัน - คิม” PROXIE กันเลย“Proxie Hotel” ตั้งอยู่ที่ไหนน่ะเหรอ? ก็อยู่ในใจทุกคนไง~ คิม : โรงแรมนี้อยู่ในใจทุกคนครับ ในเวลาที่คุณต้องการ เราจะไม่ปรากฏ แต่เมื่อคุณไม่ต้องการ เราจะปรากฏ! ต้องบอกว่า MV นี้สามารถตีความได้หลากหลายมาก แล้วอองรีตีความว่ายังไง? อองรี : ผมมองว่า Proxie คือ “กุ๊กกู๋” ครับ! และตอนที่นางเอกเข้าไปในโรงแรม นางเอกจะไม่เห็นพวกเราเลย ถ้าสังเกตดี ๆ ในหลายช็อต นางเอกมีอาการ เอ๊ะ… อยู่บ่อย ๆ และตอนนี้ Proxie ได้ปล่อย Full Story แล้วนะครับ ทุกคนสามารถไปดูได้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง!ถ้าแฟนกำลังจะเลิกกับเรา… คำขอครั้งสุดท้าย ผมขอเป็น... อองรี : “ไปกินข้าวกับเราครั้งสุดท้ายได้ไหม?” หารเท่าหรือใครจ่าย? 555 กัน: “พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม?” เราคงไม่ได้คาดหวัง 100% หรอกครับ แต่เผื่อ ๆ ไว้ เขาอาจจะกลับมาหรือไม่ได้กลับมาก็ได้ครับ คิม : “ขอเสื้อ Proxie Crazy Love คืนครับ!” เสื้อหายากมาก! ผมให้เขาไปใส่เพราะรักเขา แต่ถ้าเลิกกัน… ผมคงต้องขอคืน“พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม” ได้ทีมเขียนสไตล์ “กามิ” กัน: ครั้งนี้ Proxie ได้ร่วมงานกับ พี่เอฟู พี่ก็อป อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เราทำเพลงแนวน่ารัก สดใส คลั่งรักกันมาแล้ว แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำให้ Proxie ดูโตขึ้นมาก ทั้งในเรื่องคาแรกเตอร์เสียง อารมณ์ของเพลง รวมถึง MV ด้วย ที่สำคัญคือ พี่เอฟู ให้โจทย์การตีความของแต่ละคนให้แตกต่างกันเลยครับ ทั้ง6สามารถดีไซน์แล้วก็ใส่ความรักที่ตัวเองรู้สึกเข้ากับเพลงได้ในแบบตัวเองเลย“Proxie Hotel” เปิดให้บริการแล้ว! พร้อมหน้าที่สุดปังของ 6 หนุ่มที่จะทำให้คุณต้องตกหลุมรัก ♡ คิม : ผมว่าทางผู้กำกับ เขามองมาแล้วว่าคาแรคเตอร์ของแต่ละคนควรเป็นอะไรบ้าง อย่างคิมเขาจะมองว่าเป็น Positive energy เป็นความร่าเริง ความสดใส เขาเลยคิดว่าคิมควรเป็น Bell boy เพราะจะเป็นคนแรกที่คุณจะเห็นเวลาเดินเข้ามาในโรงแรม มาช่วยคนถือกระเป๋า และจะมาพร้อมกับรอยยิ้มครับผม กัน : ผมเป็น Receptionist เพราะพูดเก่ง ต้องทำให้ลูกค้าอยากเช็กอินกับเรา! อองรี : ผมเป็น Room Service ครับ เพราะชอบเดินไปทั่ว พร้อมเสิร์ฟอาหารและความสุขให้ทุกคน! คิม : วิเตอร์ เป็น Bartender ครับ เพราะมีความลึกลับ สุขุม ดูอ่านใจยาก ส่วน น้องกร เป็น เชฟทำขนม เพราะน้องชอบทำขนมอยู่แล้ว กัน : โชกุน เป็น Hotel Manager ผู้จัดการโรงแรมของเรา!MV “พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม” ถ่ายวันเดียวแต่ความปังเต็มร้อย! กัน : เราถ่ายกัน 1 วันครับ แต่เป็นวันถ่ายที่เช้าสุดตั้งแต่เคยมีมา! เราถึงโลเคชันตั้งแต่ ตี 2 และเริ่มถ่าย ตี 4 เพราะต้องการบรรยากาศที่มืด ๆ หม่น ๆ ให้เข้ากับเรื่องราว คิม : เรื่องอารมณ์ไง ยิ่งดึกยิ่งง่วง พอง่วงมันจะสอดคล้องกับความเศร้าไง ความปรือ ความสนึมสลือ มันจะดูเศร้าไง กัน : Proxie ตาปรือกันหมดครับ แต่ ออกแบบ (นางเอก MV) มาถึงปุ๊บ ต้องเข้าซีนร้องไห้ตอน ตี 4 เลย โหดมาก! ขณะที่พวกเรายังหลับปุ๋ยกันอยู่ 555การทำงานกับ “ออกแบบ” นางเอก MV กัน : ชิลมากครับ มืออาชีพมาก! คุยกันอยู่ดี ๆ แต่พอผู้กำกับนับ 5 4 3 ปุ๊บ เขาเข้าคาแรกเตอร์ได้เลย แถมควบคุมอารมณ์เศร้าร้องไห้ได้เป๊ะมาก Proxie ได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย ต้องขอบคุณ ออกแบบ มาก ๆ ที่ทำให้ MV นี้มีมิติมากขึ้นProxie กับการปรากฏตัวครั้งที่ 3 ใน Gotcha Pop Concert กัน : จริง ๆ ก็ดีใจครับ แล้วก็เริ่มรู้สึกกดดันหลังจากพี่ดาวบอกว่าปังทุกปี ปีนี้เราต้องคิดโชว์ดี ๆ แล้วครับ! คิม : ทุกวงที่มามีเซอร์ไพรส์แน่นอน อยู่ที่ว่าจะมาไม้ไหน! อองรี : บอกเลยว่า Gotcha Pop เนี่ย ผมบอกเลยว่าทุกคนจะเจอกับสเตจสุดพิเศษ คอลแลปสุดเจ๋ง! คิม : จำสคริปต์มาปะ? 555 อองรี : จำสคริปต์มา55555 มันคือสคริปต์ที่Proxie ถ่ายโปรโมท Gotcha Pop อันนี้ผมพูดจริง ๆ ผมคิดว่าทุกวงน่าจะเตรียมโชว์สุดพิเศษมาให้แฟน ๆ ได้ดูกัน กัน : ก็ปีนี้ Gotcha Pop เป็นปีที่3แล้วนะครับ ผมเชื่อว่าในทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาได้รับฟีดแบคดีมาก ๆ แล้วก็เชื่อว่าแต่ละวงเนี่ยเตรียมโชว์สุดพิเศษแน่นอน ยิ่งพอเป็น Gotcha Pop 3 แล้วเนี่ย ความสนุกมันต้องยกกำลังคูณ3 แน่นอนครับ ฉนั้นถ้าไม่อยากพลาดความสนุกคูณ3แบบนี้นะครับ ก็อย่าลืมกดบัตรกันนะครับในวันที่ 1 มีนาคมนี้ด้วยนะครับด้วยนะครับ!ไวรัล “Proxie แป๊นนนนนส์” คิม : แป๊น เป็นเสียงช้างใช่ไหม? แต่จริง ๆ มันพ้องเสียงกับ Pants ก็คือ กางเกงช้าง นั่นเอง! กัน : คือผมใส่กางเกงช้างแล้วไปดูรีวิว เห็นว่า ปัญหาส่วนใหญ่คือเป้าขาด ผมก็เลยรีวิวแบบเรียล มๆ เลย! ตีลังกา ฉีกขาโชว์ให้เห็นว่าทนจริง! ไม่คิดเลยว่าคนจะมาดูเยอะขนาดนี้ แค่ลงไปขำ ๆ น้อง แจ็คกี้ ยังบอกว่าอยากได้กางเกงเลย 555 ถ้าใครอยากได้ ตอนนี้ขายอยู่ที่ Brother Shop นะครับ แต่พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว!นอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “อองรี - กัน - คิม” เล่นกันด้วย ชื่อเกมว่า “Proxie Hotel โรงแรมนี้มีภารกิจ”แล้วมาดูกันว่าทั้งสองคนจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆ ให้“อองรี - กัน - คิม” ได้เลือกเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “อองรี - กัน - คิม” มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ สิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าลืมไปปั่นวิวซิงเกิลใหม่ล่าสุด "พรุ่งนี้ค่อยเลิกได้ไหม (Last Request)" ได้ใน YT : PROXIE พร้อม Pre-Order กางเกง PROXIE Pants+ (พ้อกสีแป๊นส์) ได้พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว และกดบัตร #GOTCHAPOP3 พร้อมกันวันเสาร์นี้ ไปเจอกันที่งานเยอะๆน้าา สามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

บอส - โนอึล เปิดโลกคู่ขนานใน EFM FANDOM LIVE เผยเรื่องราวความสัมพันธ์ พร้อมแสดงซีนที่ชอบที่สุดในซีรีส์สุดฟินอย่าง The Boy Next World คนละกาลเวลา

03 มี.ค. 2025

บอส - โนอึล เปิดโลกคู่ขนานใน EFM FANDOM LIVE เผยเรื่องราวความสัมพันธ์ พร้อมแสดงซีนที่ชอบที่สุดในซีรีส์สุดฟินอย่าง The Boy Next World คนละกาลเวลา

รายการ EFM FANDOM LIVE [20 กุมภาพันธ์ 68] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 2 หนุ่มสุดฮอต “บอส - โนอึล” จากซีรีส์ The Boy Next World คนละกาลเวลา พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจคู่ซี้ “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายรักนี้อยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน ที่มาของชื่อจดหมายนี้เพราะ บอส – โนอึล เป็นเหมือนความอบอุ่น ความส่องแสงนำทาง เป็นเหมือนศูนย์กลางของหัวใจโบโน่ห์ ชื่อ 2 คนนี้มีความหมายกับเรามาก เราไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมการมีศิลปินคนโปรดถึงมีอิทธิพล จนถึงมาเจอบอสกับโนอึล แค่สบตาเหมือนต่อชีวิตได้อีกพันปี ขอบคุณจังหวะชีวิตมากๆที่ได้ทำให้มารู้จักกัน เราชอบทุกอย่างที่เป็นบอสโนอึลนะ you are my yesterday and tomorrow รักนะคะ ทำได้ดีมากแล้วนะ เก่งมากเลยLetter #1: This letter is titled... This love letter shines brightly beneath the same sun. The name of this letter comes from the fact that Boss and Noeul bring warmth and serve as a guiding light—they're at the very heart of BoNoH. Their names carry a lot of meaning for us. We never really grasped how much a favorite artist could impact us until we met Boss and Noeul. Just gazing into each other's eyes feels like it expands our lives for another thousand years. We're really grateful to life for bringing us together. We truly appreciate everything about Boss and Noeul. You are my past and my future. Love you both—great job, you two! You're incredible.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... นี่คือสารจากคนที่มีความสุขที่สุด อยากบอกว่าหนูมีความสุขมาก พี่เป็นความสุขของหนู ถ้าหนูไม่อยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้จะได้มาทำอะไรแบบนี้รึป่าว มันจริงอย่างที่เขาบอกจริงๆว่า ถ้าเราไม่เป็นติ่ง เงินเราจะเต็มกระเป๋า แต่หัวใจเราจะว่างเปล่า พี่ชอบบอกว่าจะเป็นคนที่เก่งขึ้นและพัฒนาตัวเองขึ้นทุกวัน แต่หนูว่าพี่ไม่ต้องเก่งขึ้นทุกวันก็ได้ อยากให้พี่มีความสุขทุกวันใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากจะใช้ ถ้าพี่บอกว่าพี่จะเป็นความสุขให้เรา พี่ทำสำเร็จแล้วนะ รักนะLetter #2: This letter is titled... This is a note from someone who’s really happy. I just want to share how truly happy I am. You bring me so much joy. Honestly, if I weren’t here, I’m not sure I could manage it. It is really true what they say : without passion, we might have money, but our hearts would feel empty. You often mention wanting to improve yourself and grow each day. But I believe it’s not about getting better every single day. What matters most is your happiness and living your life the way you choose. If you say you're going to be our happiness, then you've already achieved it. I love you.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... Heal the Heart (ไอ่ต้าวขุมพลังใจ) ขอบคุณ บอส - โนอึล ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลย ตลอด 3 ปีที่ตาม บอสโนอึลเก่งขึ้นมากๆ เก่งขึ้นทุกปี ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่ฮีลใจกันมาตลอด ไม่ว่าจะแตกสลายกับอะไรมากี่ครั้ง บอสโนอึลประกอบขึ้นใหม่ทุกครั้งเลย และทุกครั้งที่ไปเจอ น้องก็จะพยายามกวาดสายตามองแฟนคลับให้ครบทุกคน เก็บทุกกล้องมันมีความหมายมาก สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า จะคอยซัพพอร์ตอยู่ตรงนี้เสมอนะ อยากทำอะไรทำได้เลย ทุกคนพร้อมสู้ไปกับบอสโนอึลนะ รักLetter #3: This letter is titled... Heal the Heart I want to express my gratitude to Boss - Noeul for your continuous growth. Over the three years I've followed you, I've seen you improve significantly each year. Thank you for being such a positive presence in my life and for always healing the heart, no matter how many times it gets hurt. Every encounter with you feels special, as you make an effort to connect with every fan and acknowledge each camera in sight. I want you to know that I’ll always be here supporting you in anything you choose to pursue. Everyone is ready to stand by Boss Noeul. Much love!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... พลังแห่งรอยยิ้ม ตั้งแต่รู้จัก บอส - โนอึล มาจนตอนนี้ ครบ 3 ปีที่เรารู้จักกันแล้วนะคะ อยากขอบคุณที่คอยเป็นรอยยิ้ม ส่งความสุขให้กับแฟนคลับเสมอมา ทั้งคู่พัฒนาตัวเองมาตลอด แสดงศักยภาพให้ทุกคนได้เห็น มีคนรักทั้งคู่มากขึ้น ก็ดีใจมากๆ หนูต้องขอบคุณที่เข้ามาสร้างพลังบวกและรอยยิ้มเล็กๆ ของทั้งสองคนให้หนูเสมอมา ไม่มีวันไหนที่ไม่มีความสุขเลย มันโคตรจะฮีลใจมากๆ เหมือนกับได้รับพลังรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้เจอ :)Letter #4: This letter is titled... The Magic of Smiles I've known Boss - Noeul for three years now, and I just want to take a moment to express my gratitude. Thank you for consistently bringing joy and smiles to your fans. It’s inspiring to see how both of you have been growing and showcasing your talents. It makes me so happy to know that many more people appreciate you both. I really appreciate the positive energy you create and those little smiles you share with us. Every single day, I find joy in it all. It feels uplifting, like I’m receiving a boost of happiness with every glimpse of you. :)จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... เธอคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรารักตัวเอง บอส - โนอึล เป็นกำลังใจที่สำคัญมากๆ มาตลอด 3 ปี เรียกว่าเป็นชีวิตประจำวันก็ได้ ตื่นมาก็มีกำลังใจไปทำงานแล้วจริงๆ เพื่อรอวันที่ได้ไปเจอทั้งสองคน ถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุขมากๆ ต่อให้ใครจะบอกว่ารักตัวเองบ้าง อย่ารักแต่บอสโนอึล เราก็อยากบอกเหมือนกันว่า การที่รักบอสโนอึลนี่แหละ คือการรักตัวเองในแบบของเรา รู้สึกหัวใจไม่ว่างเปล่า ใจฟูทุกครั้งที่ได้เจอ มีแรงบันดาลใจ ขอบคุณที่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรารักตัวเองLetter #5: This letter is titled... You are part of what makes us appreciate ourselves Boss, Noeul has been a significant source of support for the last three years. It’s become part of our everyday lives. Each morning, I feel motivated to go to work, looking forward to spending time with both of you. Even when I’m tired, I find happiness in it all. People often tell me to take some time for myself, but my affection extends beyond just Boss Noeul; I believe that caring for Boss Noeul is a way for us to show love for ourselves too. My heart feels complete each time I see you. You inspire me. Thank you for being one of the reasons we can embrace self-love.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “บอส - โนอึล” กัน“วาเลนไทน์นี้ไม่มีดอกไม้… แต่มีกันและกัน” โนอึล : อยู่กับบอสครับผม ทำงานด้วยกัน ก็ได้ใช้เวลาร่วมกัน อยู่ด้วยกันยันดึกเลย ให้ของขวัญเป็นตัวเองได้มั้ย? ผมมองว่าการที่เราได้อยู่ด้วยกันคือของขวัญแล้ว เพราะสำหรับผม บอสคือเพื่อนคนสำคัญ ด้วยความที่เราแพ้เกสรดอกไม้ ก็เลยไม่อินกับการซื้อดอกไม้ให้กัน เพราะสุดท้ายแล้ว ดอกไม้ก็จะเหี่ยวและต้องทิ้งไป ผมเลยรู้สึกว่าเอาเงินไปใช้กับการกิน ของอร่อย หรือใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารัก ดีกว่าเลือกสิ่งที่หายไปตามเวลา บอส : ใช่ครับ สำหรับผม เราอยู่ด้วยกันมาค่อนข้างนานแล้ว 2-3 ปี จริง ๆ เราก็ให้ลูกอมกันนะ เพราะรู้สึกว่าถ้าให้ดอกไม้ มันก็จะแห้งเหี่ยวไปตามเวลาและไม่เกิดประโยชน์ เลยคิดว่าการให้ช่วงเวลาที่สำคัญแก่กัน น่าจะดีกว่า“ถ้าต้องตื่นขึ้นมาในโลกคู่ขนาน” บอส : ก็คงบอกว่าเราอายุเท่านี้ เราชื่ออะไร บ้านเราอยู่ที่ไหน โนอึล : ตื่นมาผมก็คงตอบว่า “คุณเป็นใคร?” บอส : “จับฉันมาทำไม๊?!” 55555 โนอึล : 55555 กำลังจะเล่นเลยเพื่อน โนอึล : ผมก็คงถามกลับแหละ ถ้าตื่นมาแล้วเขามองหน้าผมแล้วถามว่า “คุณเป็นใคร?” ผมก็คงถามกลับไปว่า “แล้วคุณล่ะเป็นใคร?” จะให้เขาพูดก่อน พอเขาพูดเสร็จ ผมก็จะทวนคำพูดของเขา “คุณเป็นใคร? แล้วคุณเป็นใคร? ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” บอส : ต้องบอกก่อนเลยว่าที่นี่เป็นที่สุดท้ายแล้ว อาจจะมีเบลอ ๆ กันบ้างนิดหน่อย ต้องแจ้งทุกคนไว้ก่อน 55555“ซีนในดวงใจ บอส - โนอึล” บอส : จริง ๆ ผมชอบซีนโทรศัพท์แก้วกระดาษ มันน่ารักดี โนอึล : น่ารัก น่ารักมาก“ซีนหน้าใกล้ไม่เท่าไหร่… แต่ใจเต้นแรงนี่สิ ปิดไม่มิด!” โนอึล : ตอนเป็นคาแรกเตอร์ ผมไม่รู้สึกเขินเลย เพราะเราคือน้องพู่กัน แต่พอเป็น “บอส-โนอึล” ถ้าต้องใกล้กันก็เขินอยู่ เวลาผมเข้าไปวอแวเขา เขาก็จะเขิน บอส : รู้สึกว่าช่วงนี้จะเขินกับจักกะจี้เวลาเรียกแทนตัวเองว่า “บอส-โนอึล” โนอึล : ผมไปแซวเขาไว้เมื่อเช้า บอส : อ่ะ บอกก่อนว่าทำไมถึงจักกะจี้ โนอึล : ช่วงแรกที่รู้จักกัน ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้มาเป็น “พายุ-เรน” เลย เราเพิ่งรู้จักกัน แล้วแลกไลน์กัน ผมจำไม่ได้ว่าบทสนทนาก่อนหน้าคืออะไร แต่ผมถามบอสว่า…ดีไหม? แล้วบอสก็ตอบกลับมาว่า “โนอึลว่าไง บอสก็ว่างั้นแหละครับ” พิมพ์มาแบบนี้เลย ผมยังช็อกอยู่เลย วันนั้นผมก็แคปเอาไว้ เพราะรู้สึกว่ารูปประโยคมันน่ารัก เขาอาจจะจำไม่ได้ แต่ผมมีหลักฐานนะ! ผมแคปเอาไว้แล้วก็กดหัวใจทิ้งไว้ด้วย เพราะรู้สึกว่ามันน่ารักดี ผมไม่เคยมีโมเมนต์คุยกับคนที่รู้จักกันหรือเพื่อนด้วยเวย์แบบนี้มาก่อน มันแปลกใหม่สำหรับผม“7 EP.ที่ผ่านมา แค่เริ่มต้น ที่เหลือจะขนาดไหน…” บอส : ผมขอสปอยล์เลยละกัน ต้องดู EP 8 เพราะว่า 7 ตอนที่ผ่านมา มีคำถามเกิดขึ้นเยอะมาก ใน EP 8 ถ้าเราได้ดูตัวอย่างตอนต่อไปจะเห็นว่า “ทำไมพี่เซอร์ในอีกโลกหนึ่งถึงโผล่มา?” ผมว่า ซีนหลัก ๆ ที่จะอธิบายทุกอย่างอยู่ในตอนนี้เลย ห้ามพลาดเด็ดขาด! โนอึล : ถ้าเรามีซีนตลก เราก็มีซีนเศร้าเหมือนกัน บอส : อ่อ เอาแล้ว! โนอึล : บอกเลยว่า ถ้าตอนไหนทำให้ทุกคนน้ำตาตกไปแล้ว Prepare your ตับ ให้ดี ๆ นะครับ ได้หาเปลี่ยน “ตับใกล้ฉัน” แน่ ๆ เป็นซีนที่ผมนั่งดูหน้ามอนิเตอร์แล้วยังร้องไห้“สงกรานต์ รังสรรค์ พร้อมรังสรรค์เพลงประกอบซีรีส์สุดพิเศษ!” บอส : จริง ๆ เหมือนพี่เมย์ (MeMineY) เจ้าของค่าย ได้เซ็น MOU กับพี่สงกรานต์ เป็นพาร์ทเนอร์ในการผลิตเพลงประกอบซีรีส์ ซึ่งเขามีแนวคิดอยากทำเพลงที่ไม่ใช่แค่ประกอบซีรีส์ แต่สามารถ สื่อสารได้ครบถ้วน ตรงไปตรงมา แม้แต่คนที่ไม่ได้ดูซีรีส์ก็สามารถฟังได้ ในแง่ของการทำงาน พี่สงกรานต์เป็นคนซีเรียสกับงานมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกกังวลหรือเครียด กลับรู้สึก สนุกและผ่อนคลาย มากกว่า เพราะพี่สงกรานต์เป็นคนเฮฮา โนอึล : ตลกดีครับ“หูเคลือบทองไปกับเพลงเดี่ยวของ บอส - โนอึล” บอส : ฝั่งของผมคือเพลง “พบเธอจึงเข้าใจ (Stay)” ครับ โนอึล : ของผมคือ “คนที่ฉันไม่รู้ว่าใคร” ครับ บอส : จริง ๆ แล้วเพลง “คนที่ฉันไม่รู้ว่าใคร” มีความเชื่อมโยงกับเพลง “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร” ของพี่แสตมป์ เพราะเพลงนี้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายเรื่องนี้ ส่วนเพลง “พบเธอจึงเข้าใจ” จะเป็นเพลงที่ ถ่ายทอดอารมณ์ของเซอร์รัส ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่เย็นชา มี กำแพงกับทุกคนรอบข้าง เพราะภูมิหลังของครอบครัวที่ตีกรอบให้เขาต้องทำตามแบบแผน เรียนอย่างเดียว ไม่มีชีวิตอิสระ ไม่มีความสุข ไม่เคยมีสิทธิ์แสดงความคิดของตัวเองเลย เปรียบเหมือนหุ่นยนต์ แต่วันหนึ่ง เขาก็ได้เจอสิ่งที่ทำให้รู้สึกอยากมีชีวิตต่อไปอีกครั้ง นั่นก็คือ พู่กัน นั่นเองทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมมาให้ “บอส - โนอึล” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “ถึงจักรวาลนี้ผมไม่กล้า แต่อีกจักรวาลคู่ขนานผมกล้า”แล้วมาดูกันว่าทั้งสองคนจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆ ให้ “บอส - โนอึล”ได้เลือกเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “บอส - โนอึล” มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ สุดท้ายนี้... ฝากซีรีส์ The Boy Next World Series คนละกาลเวลา ทางอัมรินทร์ทีวี HD ช่อง 34 ดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 23:45 น. บนแอป iQIYI และฝาก 3 เพลงประกอบซีรีส์ด้วยน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางSee you next week nakaa : )

“หยิ่น - วอร์” เพื่อนที่จริงใจ ความสัมพันธ์จริงจัง 6 ปีที่มีความหมาย เสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE พร้อมเล่นเกมสุดฮ้อบ สุดเหยิน~~

19 ก.พ. 2025

“หยิ่น - วอร์” เพื่อนที่จริงใจ ความสัมพันธ์จริงจัง 6 ปีที่มีความหมาย เสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE พร้อมเล่นเกมสุดฮ้อบ สุดเหยิน~~

รายการ EFM FANDOM LIVE [13 กุมภาพันธ์ 68] คืนนี้ต้อนรับ “หยิ่น - วอร์” จากซีรีส์ JACK JOKERU STEAL MY HEART! ทำไมต้องเป็นเธอทุกที พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS"ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า…ผู้หมวดตี้กับยัยฮันนี่เลม่อนที่รัก อย่างแรกเลยขอบคุณโลกนี้ที่มี หยิ่น - วอร์ ขอบคุณที่เกิดมาให้รัก ขอบคุณที่ทำให้แฟนคลับชาวยอมากมายขนาดนี้ อย่างที่ 2 คืออิจฉาในความสัมพันธ์ของหยิ่นวอร์มากๆ มันเป็นอะไรที่ลงตัวไปหมด เคมีเข้ากันสุดๆ จนยิ้มเรียกได้ว่ามันเหยิน (คลินิกจัดฟันใกล้ฉัน) ทำให้เรามีความสุขมากๆ อยู่ด้วยกันไปนานๆนะ อย่างที่ 3 จะคอยเป็นกำลังใจ support อยู่ตรงนี้เรื่อยๆนะ ขอให้หยิ่นวอร์มีความสุขในทุกๆวัน เธอเก่งที่สุดในโลกเลย รักหยิ่นวอร์มากๆนะLetter #1: This letter is titled... Adorable Lieutenant and His Beloved Honey Lemon First and foremost, a heartfelt thank you to this wonderful world for welcoming Yin-War. Thank you for spreading love and for gathering so many amazing fans. I must say, I can't help but feel a little jealous of the beautiful connection between Yin-War; it truly seems perfect. Their chemistry shines so brightly, and their smiles bring such joy to all of us. Let's cherish these moments together for a long time. Additionally, know that I will always be here cheering you on. I wish Yin-War happiness every single day because you truly are the best. My love for Yin-War is limitless!จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า…Thank you message :-) Dear All, ขอบคุณพี่ๆ สำหรับทุกๆ อย่างนะคะ พวกเรารู้ดีว่าการทำงานตรงนี้มันไม่ง่ายเลย ขอบคุณสำหรับการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทำให้พวกเราได้เห็นพัฒนาการที่ออกมาในรูปแบบของผลงานดีๆ มีคุณภาพ ขอบคุณสำหรับความทุ่มเท ทั้งแรงกาย แรงใจ การฝึกฝน การเตรียมพร้อมร่างกาย หรือทุกๆ อย่าง มันออกมาดีมาก พวกเราในฐานะผู้ชมมีความสุขมากๆ จากสิ่งเหล่านี้ค่า เยิ้ฟ ปล. รักตำรวจกับผู้บัญชาการนะค้าบบบบLetter #2: This letter is titled... Thank you message :-) Dear All, I just wanted to express my heartfelt gratitude for all that you do. We truly appreciate the efforts it takes to work here, and it’s wonderful to see how you continuously strive for self-improvement, which shines through in the exceptional quality of your work. Your commitment, both mentally and physically, as well as your dedication to training, has paid off wonderfully. As your supportive observers, we are genuinely thrilled by all that you’ve accomplished. Sending you all my love. P.S. I have a special admiration for the police and the commander.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า… จดหมายจาก 10 ปีข้างหน้า สวัสดีคุณหยิ่น คุณวอร์ ไม่รู้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะได้มีโอกาสบอกความในใจหยิ่นวอร์อยู่ไหม เลยเขียนมาตรงนี้ ขอบคุณมากๆที่เข้ามาเป็นความสุขในชีวิตผม วันที่เหนื่อยๆ มีพี่ๆ เป็นกำลังใจให้เสมอเลย หวังว่าอีก 10 ปี พี่ๆจะสบายดีและมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงและได้ทำในสิ่งที่ชอบนะครับ ไม่รู้ว่าจะยังชอบเตะบอลด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันอยู่รึป่าว แต่ทางนี้คิดว่าจะยังอยู่ด้วยกันแน่นอน และพี่ๆยอก็จะอยู่ด้วย รักLetter #3: This letter is titled... Messages from a decade ahead Hi Yin and War! I’m not sure if I’ll get the chance to express my feelings in ten years, so I wanted to share them with you now. Thank you both for being such a wonderful source of joy in my life. On those tough days, your support means the world to me. I sincerely hope that in ten years, you are both happy, healthy, and able to pursue your passions. I’m not certain if your love for playing football or your adventures together will still be the same, but I truly believe you will remain close, and Yar will be by your side too. Sending you lots of love!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า… ระบายฝันไปด้วยกัน ถ้าชีวิตคือผืนผ้าใบหนึ่งผืน เราแค่อยากให้พี่ทั้งสองได้วาดทุกสีที่พี่ต้องการ ใช้ชีวิตตามฝันในแบบที่พี่อยากเป็น เพราะไม่ว่าพวกพี่จะเลือกระบายสีไหน มันก็สวยงามสำหรับเราเสมอ ตั้งแต่ได้มาตาม หยิ่น - วอร์ เราก็รู้สึกว่าชีวิตตัวเองได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำเยอะมาก หยิ่นวอร์เป็นแรงบันดาลใจให้เรากล้าจับพู่กันและลงมือระบายผืนผ้าของตัวเอง และการมีเรื่องราวของพวกพี่ในผืนผ้าใบเราด้วยนั้น มันสุดยอดที่สุดเลยLetter #4: This letter is titled... Let's dream together If life is like a canvas, we want you both to fill it with every color you desire and to chase your dreams in your own unique way, because to us, every choice you make is beautiful. Since we started following Yin-War, we've embraced so many new experiences that we never thought possible. Yin-War inspires us to bravely take up the paintbrush and create our own masterpieces, and having your stories woven into our canvas means the world to us.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า… คนแปลกหน้าที่แสนพิเศษ หยิ่น - วอร์ เป็นเหมือนโลกอีกใบที่เคยคิดว่าอยากอยู่ในโลกนี้ไปตลอด เพราะการได้คิดถึงหยิ่นวอร์เป็นความสุขเดียวที่มี จนผ่านมาสองปีหยิ่นวอร์ทำให้ได้เจอกับโลกความจริงที่มันมีความสุขมากขึ้น ยิ้มกับเรื่องง่ายๆ เจอท้องฟ้าสวย เจออาหารอร่อย เจอเรื่อง งงๆในแต่ละวันบ้าง แต่สุดท้ายก็ผ่านมันไปได้ รักตัวเองได้เก่งมากขึ้น ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้ให้รักและทำให้รู้สึกถูกรักเป็นอย่างดี ยินดีที่ได้รู้จักคนแปลกหน้าที่แสนพิเศษLetter #5: This letter is titled... A remarkable stranger Yin-War used to feel like a dream world where I thought I would want to stay forever, as it brought me my only joy. But over the past two years, Yin-War led me to discover the beauty of the real world, which is so much brighter. Now I find joy in the little things, from the lovely skies to the delightful meals, and I face new challenges every day. Through it all, I’ve learned to embrace and love myself even more. I’m so grateful for your presence, which makes me feel cherished and valued. It’s a pleasure to meet such a remarkable stranger!ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “หยิ่น - วอร์” กันทั้งคู่ยังคงเป็น “เคมีปีศาจสะกดทุกสายตา ทำลายทุกขีดจำกัด” หยิ่น : อาจจะยังใช้คำว่า เคมีปีศาจได้อยู่ครับ แฟนๆ ก็ยังชื่นชอบอยู่ พอเข้าไปใกล้ๆ ก็จะกรี๊ดกัน1 คำสำคัญในการใช้ชีวิตคู่... ที่ขาดไม่ได้! หยิ่น : ผมว่าคำว่า ขอโทษ สำคัญมาก ผมเชื่อว่าทุกๆ วันคนมันทำผิดพลาดกันอยู่แล้ว หรือบางอย่างไม่ได้ตั้งใจ มันอาจจะไปทำร้ายจิตใจกันและกัน ผมว่าคำนี้สำคัญนะ ถ้าไม่มีนี่ โอ้โหหายนะนะ ผมขอโทษยันคนไม่รู้จัก ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ วอร์ : คำว่า อภัย แล้วกันครับ เพราะว่าเขาขอโทษแล้วเราก็ต้องให้อภัยเขา ค่อยๆ ปรับกันไป เกิดมีแต่ขอโทษอย่างเดียว แล้วไม่ให้อภัย ก็ไม่ได้เพลงใหม่ล่าสุด “เพื่อนที่จริงใจ” ร้องพอไหว เต้นพอก่อน! วอร์ : รู้สึกว่ายิ่งทำเพลง ยิ่งมีการเต้น ก็ยิ่งรู้ ว่าผมไม่เหมาะกับการเต้นหรอก ยิ่งทำยิ่งรู้ว่าผมไม่เหมาะว่ะ หยิ่น : รู้สึกเหมือนกันเป๊ะเลย ก่อนขึ้นมารายการที่ห้องแต่งตัว มีการเปิดดูบอยแบนด์เต้น ไม่ว่าจะเป็นของเกาหลี ของไทยเพียบเลย มีแต่คนมองจอช่าง ผู้จัดการ ก็บอก เต้นเก่งมาก ผมแล้วก็แบบ มันไม่ใช่ง่ายๆ นะของอย่างเนี่ย ที่คุยกันอะ Final ออกไม่ได้สักที เพราะอะไรรู้ปะ เพราะว่าเคลียร์เทคเต้นอยู่ เต้นไปหลายเทคมากแต่มันตัดไม่ลงเพื่อนที่จริงใจของกันและกัน 6 ปี ที่มีความหมาย หยิ่น : อยู่ด้วยกันมา 6 ปีขนาดนี้ โดยยังอยู่ด้วยกันได้ไม่มีปัญหา ผมรู้สึกว่านี้แหละ ได้เพื่อนที่จริงใจละ วอร์ : เป็นความรู้สึกละกันครับ รู้สึกสบายใจ คือแบบ 6 ปีอะ มันไม่ได้มีเรื่องที่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อย หรือเขาทำอะไรให้ต้องคิดมากอะครับ แบบมีอะไรเขาก็พูด มีอะไรก็บอก ปรึกษาด้วยกัน มันผ่านอะไรมาเยอะ มันเป้นบทพิสูจน์แล้ว ไม่ต้องมาแสดงอะไรอีกแล้วเตรียมตัวกรี๊ดให้เต็มที่!! กับ THE SPECIAL EPISODE หยิ่น : ก็ตอนนี้ไม่มีบัตรให้กดแล้ว แต่ก็ดีใจครับ ก็ได้มาดูพร้อมกันดีกว่า อาจจะพูดลายครั้งแล้วว่าคิดถึงบรรยายกาศแบบนี้ เพราะปีที่แล้วเราก็ได้ดูทั้งตอนแรกและตอนสุดท้าย มันก็สนุกดี และรอบนี้อาจจะกรี๊ดกันหนัก ครั้งก่อนๆ เราอาจจะตรวจเทปมาก่อน แต่ว่ารอบนี้ไม่ได้ดู ได้ดูพร้อมกันเลย เพราะงั้นกรี๊ดให้ผมสั้นๆ ผมอยากฟังว่ามันคุยอะไรกัน วอร์ : ก็กรี๊ดไปเถอะ กรี๊ดให้เต็มที่ เพราะมันเหมือนแบบ รอบที่เชิญแฟนๆ อย่างหนังเรื่องอื่น เขาก็กรี๊ดกันแบบปล่อยจอย มีคนตีลังกาด้วย เรื่องสไปเดอร์แมนอะ ของเราก็กรี๊ดก็พอ เขินอะไรอย่าเก็บไว้ เดี๋ยวมันเก็บกดและเนื่องจากทั้งคู่มา EFM FANDOM LIVE ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ทางรายการก็มีเกมมาให้ “หยิ่น - วอร์” เล่นด้วยกัน!ชื่อเกมว่า... YIN WAR BE MY VALENTINE?? (เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆให้ “หยิ่น - วอร์” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “หยิ่น - วอร์” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก ความสุขให้กับแฟนๆ ฝากซีรีส์ JACKJOKERU STEAL MY HEART! ทำไมต้องเป็นเธอทุกที พร้อมมาเจอกันวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. 68 กับงาน THE SPECIAL EPISODE JACKJOKER U STEAL MY HEART ทำไมต้องเป็นเธอทุกที และฝากซิงเกิล 'เพื่อนที่จริงใจ' จากทั้งคู่ด้วยน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางSee you next week nakaa : )

ลูกหมี - ซอนญ่า 2 สาวสุดฮอตจากจอซีรีส์สู่เวทีแฟนมีต! บุก EFM FANDOM LIVE เปิดใจถึงเส้นทางดูโอ้ พร้อมจัดเต็มความสนุกที่แฟน ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน!

11 ก.พ. 2025

ลูกหมี - ซอนญ่า 2 สาวสุดฮอตจากจอซีรีส์สู่เวทีแฟนมีต! บุก EFM FANDOM LIVE เปิดใจถึงเส้นทางดูโอ้ พร้อมจัดเต็มความสนุกที่แฟน ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน!

รายการ EFM FANDOM LIVE [6 กุมภาพันธ์ 68] คืนนี้ต้อนรับ 2 สาว “ลูกหมี - ซอนญ่า” พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... นี่เป็นความน่ารักที่สุดในโลกแล้วหรือยัง นี่เป็นความน่ารักที่สุดในโลกแล้วหรือยัง หรือเธอยังน่ารักได้มากกว่านี้อีก — ประโยคนี้ยกให้ ลูกหมี - ซอนญ่า เวลาที่แฟนคลับเห็นลูกหมีซอนญ่าอยู่ด้วยกันแล้วเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กัน สิ่งนี้มันทำให้แฟนคลับรู้สึกอยากร้องไห้ตลอดเวลา ดีใจที่พาร์ทเนอร์ของเรามีพื้นที่และความสบายใจให้กัน ขอบคุณที่ลูกหมีและซอนญ่าได้มาเป็นพาร์ทเนอร์กันนะ ขอบคุณทุกความน่ารักที่มอบให้แฟนคลับตลอดเวลา รักลูกหมีซอนญ่าไม่เคยเสียใจเลยLetter #1: This letter is titled... Could there be anything cuter than this? Isn't this just the cutest thing ever? Or can it get even cuter? This message is for Lookmhee and Sonya. Whenever fans witness Lookmhee and Sonya together, supporting one another in such a safe and comforting way, it brings tears of joy to our eyes. I truly appreciate how our beloved partners create a nurturing space for each other. Thank you for making Lookmhee and Sonya a team. Your endless cuteness fills our hearts with happiness every day. I adore Lookmhee and Sonya and wouldn't change a thing about it!จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... สำนักข่าวผู้เฝ้าระวังคนคลั่งรัก (สาววาย) ข่าวด่วน! นักวิจัยพบสารเคมีใหม่ในอากาศ “เคมีลูกหมีซอนญ่า” ติดง่ายกว่า PM2.5 จากการทดลองพบว่า การรับชมความสัมพันธ์ของลูกหมีซอนญ่าที่เต็มไปด้วยพื้นที่วางใจของกันและกัน ความน่ารัก อบอุ่น ธรรมชาติ เป็นตัวเอง ส่งผลให้ผู้ชมมีโอกาส "ตกหลุมรักถาวร" สูงถึง 99.99% แม้เพียง 3 วินาที ด้านแฟนคลับต่างร่วมส่งข้อความขอบคุณให้กับทั้งคู่ที่มอบความสุขและแรงใจให้กับชาวแก๊งเสมอมา #AlwayssupportLMSY #ขอเป็นคิว0พี่ตี๋บางแคLetter #2: This letter is titled... A news agency that monitors infatuated fans (fangirls). Exciting news! Researchers have discovered a new chemical in the atmosphere, known as “Lookmhee Sonya” chemistry, and it’s even more contagious than PM2.5! Studies reveal that immersing oneself in the delightful and trusting vibes of Lookmhee Sonya, filled with love, cuteness, warmth, and authenticity, gives viewers an incredible 99.99% chance of “falling in love forever,” even if just for a brief three seconds. Fans have been expressing their heartfelt gratitude to the couple for consistently spreading joy and motivation within the community. #AlwayssupportLMSY #PleaseBe0QueueP’TeeBangkhaeจดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... little star around the shining moon หาก ลูกหมี - ซอนญ่า คือ พระจันทร์ และแฟนคลับ คือ ดวงดาว แม้พระจันทร์จะถูกมองเห็นได้ในยามค่ำคืนสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับดวงดาวนั้น พระจันทร์มีแสงสว่างในตัวเอง และจะถูกมองเห็นโดยเหล่าดวงดาวเสมอ ไม่ว่าดวงดาวจะมีจำนวนมหาศาล หรืออาจจะมีน้อยนิด แต่โปรดจงรู้ไว้ว่าพระจันทร์จะมองเห็นดวงดาวส่องสว่างอยู่ข้างๆเสมอ และไม่มีวันทิ้งกันไปไหน ถึงแม้ในสักวันพระจันทร์กับดวงดาวอาจจะโคจรไกลกันแค่ไหนก็ตามLetter #3: This letter is titled... Sweet little star twinkling around the lovely moon. If Lookmhee - Sonya represents the moon and the fans symbolize the stars, it’s important to remember that while the moon is often only visible to the world at night, it shines for the stars no matter the circumstances. The moon will always be aware of the stars twinkling by its side, and despite the distance that may sometimes come between them, they will never truly be apart. They share a bond that ensures they are always connected, no matter where their paths may lead.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... หัวใจขายได้สามล้านห้า ขอยกให้ลูกหมีซอนญ่าไปฟรีๆ อยากบอกว่าเรารู้สึกขอบคุณโชคชะตาอยู่เสมอเลยค่ะ ที่ทำให้เราได้มาเจอแล้วก็รัก ลูกหมี - ซอนญ่า ขอบคุณที่คอยมอบความรักดีๆให้ เราภูมิใจมากเลยนะที่ได้เป็นแฟนคลับของลูกหมีซอนญ่า ภูมิใจจนอยากป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้เลยว่าการเป็นแฟนคลับของลูกหมีซอนญ่าเป็นเรื่องโชคดีของเราขนาดไหน ลูกหมีซอนญ่าน่ะก็รักตัวเองได้เยอะๆเลยนะคะ รักให้มากพอจนสามารถแบ่งความรักที่ล้นนั้นส่งต่อมาให้เราได้ แค่นี้ก็เป็นความสุขของเราแล้วค่ะLetter #4: This letter is titled... You know, my heart is worth three and a half million Baht, but I'm more than happy to share it with Lookmhee - Sonya without for free. We are truly thankful to destiny for bringing us the wonderful opportunity to meet and love Lookmhee Sonya. Your constant love means the world to us, and it fills us with pride to call ourselves fans of Lookmhee Sonya. We feel so fortunate that we want to share our joy with everyone, celebrating just how special it is to be supporters of Lookmhee Sonya. Lookmhee Sonya, we hope you cherish yourself deeply and embrace that abundant love, sharing it with us. This brings us immense happiness.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... ต้าวแฝดสุดซี้ L[ove] Y[ou] S[o] M[uch] ดีใจกับน้องทั้งสองคนที่ประสบความสำเร็จนะคะ จะมีแฟนมีตที่ไทยแล้ว เย้ๆ อยากบอกว่า L[ove] Y[ou] S[o] M[uch] ข้อความธรรมดาๆ ที่เราเอามาจากชื่อของทั้งสองคน ก็คือ #LMSY เอามาสลับตำแหน่งกันนั่นเอง ก็เลยอยากใช้ข้อความธรรมดาๆ นี้ส่งไปหาทั้งสองคนว่า ถึงจะไม่เคยเจอกัน แต่ก็ขอบคุณสำหรับเอเนอร์จี้ดีๆ น่ารักๆ ฮาๆ เวลาอยู่ด้วยกัน รักมากๆ เลยน้า ไว้มีโอกาสจะไปเจอให้ได้เลย โชคดีกับแฟนมีตและรอติดตามผลงานนะคะLetter #5: This letter is titled... The finest of twins. L[ove] Y[ou] S[o] M[uch] Congratulations to both of you on your amazing achievement! I’m so excited about the upcoming fan meeting in Thailand—how wonderful! I want to share a heartfelt message, L[ove] Y[ou] S[o] M[uch] , which creatively combines parts of your names. Even though we've never met, I truly appreciate the good vibes, cuteness, and humor you bring when we’re together. I adore both of you so much, and I hope to meet you someday. Wishing you tons of luck with the fan meeting, and I can't wait to see more of your wonderful work!ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “ลูกหมี - ซอนญ่า”“ลูกหมี-ซอนญ่า” กับของขวัญวาเลนไทน์สุดคูลที่ไม่มีใครคาดถึง! ลูกหมี : จะให้แม่บ้านซอนญ่า 10 คน! เพราะซอนญ่าชอบทำงานบ้านเกินไป แล้วแทนที่จะเอาเวลาซักผ้า ตากผ้า พับผ้ามาอยู่กับเรา ก็เลยคิดว่าถ้ามีแม่บ้านช่วย ซอนญ่าจะได้ไม่ต้องทำเอง จะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง ซอนญ่า : หนูเครียดมากช่วงนี้ ไม่มีเวลาพับผ้าเลย 5555 ลูกหมี : คุย ๆ อยู่ก็แบบ “เดี๋ยวไปตากผ้าแป๊บนึงนะ” ซอนญ่า : ก็เฟซไทม์ให้ดูเลยว่าตากผ้าอยู่จริง ๆ วันนึงสามตะกร้า! เพราะหนูจะเป็นคนที่ซักผ้าทีเดียวทั้งบ้าน อาทิตย์ละครั้ง ซักให้แม่ด้วย บางทีซักเสร็จกลับบ้านมาไม่มีเวลาพับ แม่ก็พับให้ โชคดีที่แม่หนูก็ชอบพับผ้าเหมือนกัน ครอบครัวเราชอบทำงานบ้านกันเอง บางทีเครียด ๆ พับผ้าก็ช่วยให้หายเครียดได้ ซอนญ่า : ส่วนหนูให้เครื่องบินเลยค่ะ! จะได้ไปเที่ยวได้ทุกที่ เพราะหมีชอบเที่ยวมาก อยากไปไหนก็ไปได้เลย ลูกหมี : งั้นเอาแม่บ้านไปขับเครื่องบินด้วยเลย5555 รวมกัน!ถ้าได้เครื่องบินมา สถานที่แรกที่ “ซอนญ่า” จะพา “ลูกหมี” ไป… ซอนญ่า : Hallstatt ค่ะ! ลูกหมี : อ๋อ… Hallstatt ที่ออสเตรีย เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศโรแมนติกมาก เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนและฮันนีมูน ตอนวัยรุ่นเคยไปมาแล้วครั้งนึง ซอนญ่า : วัยรุ่น? หมีพูดเหมือนหมีแก่เลยนะ 5555 ลูกหมี : ตอนนั้นยังไม่ทำงานจริงจังเท่าไหร่ รู้สึกว่าเป็นวัยรุ่นอยู่ แต่ตอนนี้ทำงานแล้วไม่ค่อยรู้สึกแบบนั้นแล้ว 5555 ถ้าได้ไปอีกรอบก็อยากไปกับซอน เพราะเราคุยกันบ่อยว่าอยากไป รู้สึกว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการพักผ่อนมาก ๆ ซอนญ่า : เคยไปกับที่บ้านเหมือนกันค่ะ พอได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วเหมือนภาพวาดเลย สวยมาก ลูกหมี : ใช่ ๆ ซอนญ่า : เลยอยากรู้ว่าตอนนี้ยังสวยเหมือนเดิมไหมนะ?จากนักแสดงสู่ดูโอ้คู่แรกของ CHANGE 2561 ลูกหมี : รู้สึกเขินค่ะ 5555 ซอนญ่า : อาจจะกดดันนิดหน่อยช่วงทำงาน เพราะเราอยากให้งานออกมาดี แต่พอทำจริง ๆ แล้วสนุกมาก ตอนถ่าย MV คือจอยสุด!รีแอคชั่นเมื่อรู้ว่า... ทั้งคู่จะมีซิงเกิลแรก ลูกหมี : ห๊าาาา! ซอนญ่า : หนูไม่คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้เลย ตอนแรกคิดว่าแค่ร้องเพลงประกอบซีรีส์ของเรา สนุก ๆ แต่พอรู้ว่ามีซิงเกิ้ลจริง ๆ ดีใจมาก เพราะเกิดมาไม่เคยมีเพลงเป็นของตัวเอง พอเข้าห้องอัดครั้งแรก หมีต้องตื่นเต้นมากแน่ ๆ แต่พอทำจริง ๆ แล้วสนุกมาก! ลูกหมี : ใช่เลยค่ะ!เคล็ดลับเตรียมร้องเพลงแบบ “ลูกหมี - ซอนญ่า” ลูกหมี : อาบน้ำไปก็ร้องไปเลย 55555 ซอนญ่า : เราเรียนร้องเพลงจริงจังหลายคลาสเลยค่ะ ลูกหมี : ใช่ หมีเองก็ฝึกเยอะมาก ตอนแรกแค่ร้องเพลงประกอบซีรีส์ แต่พอเป็นซิงเกิ้ลจริง ๆ รู้สึกว่าต้องจริงจังขึ้น ทุกครั้งที่ร้อง เริ่มคิดมากขึ้นว่าใช้เสียงยังไงดี ที่สำคัญเลยคือซอนย่าเป็นคนเชียร์อัพตลอด ถ้าหมีร้องแล้วกลัว ซอนย่าจะบอก “หมีทำได้ ๆ ๆ” จนเรารู้สึกว่า เอ้า! เราก็ร้องได้นี่ ซอนญ่า : ด้วยบรรยากาศห้องอัด หนูว่ามันค่อนข้างจะทำให้เครียดนิดนึง ก็เลยให้กำลังใจเชียร์อัพกันบ่อย ๆ บางทีสลับกันเข้าไปอัด ถ้าใครอยู่ในห้องนานไป อีกคนก็จะบอก “สู้ ๆ นะ! เข้าไปใหม่” คอยช่วยกันตลอ“เปล่าหวง” แค่ห่วงเธอนิดหน่อย ~ ซอนญ่า : เพลงนี้เป็นเพลงที่ซอนญ่าลีด ร้องและเต้นด้วยค่ะ ครั้งแรกเลยที่เต้นจริงจัง ใน MV ต้องไปเรียนเต้นเพิ่มด้วย ได้สกิลเยอะมาก ปกติไม่ค่อยเต้น แต่เคยเรียนอยู่ พอสนิทกับร่างกายอยู่บ้าง ลูกหมี : โห เรียกว่าคนละทาง 5555 หมีไม่ใช่สายเต้น ขยับมือยังแข็งเลย ทุกครั้งที่ต้องเต้นคือเขินมาก แต่ดีที่มีซอนญ่าทำด้วยกัน เลยรู้สึกอยากลองและสนุกไปด้ว ซอนญ่า : MV ออกมาเป็นตัวเราสองคนสุด ๆ “เปล่าหวง” คือเพลงของคนปากแข็ง ตอนทำเพลง พี่ ๆ ถามว่าเรามองความรักยังไง เราก็บอกไปตามจริง พี่เขาก็แต่งออกมาเป็นเพลงนี้ วันถ่าย MV ได้ทำหลายอย่างเลย หนึ่งในนั้นคือขึ้นไปถ่ายบนดาดฟ้า หนูกลัวความสูงมาก ต้องนั่งแบบเกร็งแต่ต้องทำหน้านิ่งไปด้วย ลูกหมี : เคยโดนซอนญ่าหลอกว่ากลัวความสูงเหมือนกัน พอถึงเวลา…คนที่กลัวจริง ๆ คือหมี! ส่วนซอนญ่า…กรี๊ด สนุกอยู่คนเดียว ซอนญ่า : เรามาเล่นแล้วก็ต้อง enjoy กับ the moment สิ ลูกหมี : 555555“พื้นที่วางใจ”…ยกให้เธอ ~ ลูกหมี : ตอนคุยกันเรื่องเพลงนี้ พี่ ๆ ถามว่าความรักที่เราต้องการเป็นแบบไหน? สำหรับหมี…อยากให้ความรักมีความเป็นเพื่อนอยู่ด้วย ถ้ามีความรักแล้วเหมือนมีเพื่อนที่เข้าใจกัน ก็รู้สึกว่าสบายใจเหมือนมีเซฟโซน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แค่มีคนนี้อยู่ก็พอ ซอนญ่า : ใน MV ก็เหมือนในชีวิตจริงเลย หนูจำได้ว่าไม่ได้บรีฟกันเยอะเลย เข้าไปแล้วก็แสดงไปตามธรรมชาติ อุ๊ย! มีอย่างนึงที่ยังไม่เคยทำด้วยกัน…ถ่ายรูปสติกเกอร์! ลูกหมี : หึ้ย เคยแล้ว! ซอนญ่า : ก็ใน MV ไง ลูกหมี : ไม่ ๆ ที่อื่นเคยก็เคย ซอนญ่า : ที่ไหน? ลูกหมี : เดี๋ยวไว้หารูปมาให้ดู ซอนญ่า : แปลว่าไม่ได้เก็บรูปกลับไป หมีขโมยไปแน่ ๆ!แฟนมีตสุดพิเศษ ที่เหล่าแฟนๆ รอคอย! ลูกหมี : จริง ๆ บัตรขายไปตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้เหลือไม่เยอะแล้วนะคะ ก็เลยอยากเชียร์แฟน ๆ ที่ยังไม่ได้ซื้อ รีบมาหาพวกเรากันเยอะ ๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ แฟนมีตครั้งนี้คืออลังการและใหญ่มาก จัดที่ทรูไอคอนฮอลด้วย จุคนได้เยอะมากจริง ๆ แล้วพวกเราสองคนก็มีส่วนร่วมในการคิดโชว์เองด้วย ตอนประชุมคือได้คุยกันเลยว่า หมีอยากทำอะไร ซอนอยากโชว์อะไร แล้วก็มีหลายอย่างที่หมีเองก็แอบกลัว แต่ก็อยากให้แฟน ๆ ได้เห็น เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะอยากเห็นเหมือนกัน ก็เลยเลือกที่จะซ้อมแล้วทำมันออกมาให้ดีที่สุดค่ะ ซอนญ่า : พูดได้ แต่ไม่สปอยล์! จะมีการเปิดตัว Official Pilot ของโปรเจกต์ใหม่ของพวกเราด้วย ให้ทุกคนลุ้นกันว่าวันนั้นจะเป็นโปรเจกต์อะไร ถือเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ให้แฟน ๆ เลยค่ะ ลูกหมี : เพราะว่าแฟน ๆ ก็รอโปรเจกต์ใหม่ของพวกเรามาสักพักแล้ว… เอ๊ะ พูดได้ไหมนะ? ซอนญ่า : อุ้ย! 55555 ไม่ใช่ ๆ เราคุยกันเฉย ๆ ลูกหมี : ซอนญ่ากระตุกทำไมอะ? หมีกลัวนะเนี่ย! กลัวพูดอะไรที่พูดไม่ได้ 55555 ซอนญ่า : ไม่ ๆ อันนี้พูดได้ค่ะ วันนั้นทุกคนจะได้ดู Official Pilot พร้อมกัน แล้วก็น่าจะพอเห็นสตอรี่ของพี่ฉอดกันมาบ้างใช่ไหมคะ? บอกเลยว่าโชว์มีหลายแนวมาก โดยเฉพาะเพลงแดนซ์! แต่ลองทายกันดูนะคะว่าเป็นเพลงอะไร หนูไม่บอกหรอก เต้นกันทั้งเพลงเลยค่ะ ลูกหมี : ห้อยหัวลงไปเลย 55555 ซอนญ่า : 15 กุมภาพันธ์นี้ ที่ ทรูไอคอนฮอล ไอคอนสยาม นะคะ! แล้วสำหรับใครที่ยังไม่ได้ซื้อบัตร ยังมีเวลานะคะ สามารถซื้อได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ มีทั้งบัตรที่นั่งที่ยังเหลืออยู่นิดหน่อย และ บัตร Live Streaming Rerunสำหรับคนที่มาไม่ได้ค่ะ ลูกหมี : ใช่ค่ะ แล้วในงานเราก็มีของที่ระลึกให้แฟน ๆ ด้วยนะ ซอนญ่า : ใช่เลย! เป็น Merchandise น่ารัก ๆ มีเสื้อ ผ้าพันคอ พวงกุญแจ แล้วก็หมวกแก๊ป มีสองสี คือ ฟ้า กับ เหลือง ลูกหมี : ทั้งหมดเป็นไอเดียของพวกเราสองคนเลยค่ะ ซอนญ่า : เราสองคนช่วยกันวาดเอง! ลูกหมี : ทั้งเสื้อ ทั้งหมวก เป็นลายเส้นของซอนญ่ากับหมีเองค่ะ ซอนญ่า : ใช่ค่ะ! ก็ฝากทุกคนติดตามกันด้วยนะคะ สามารถพรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้!นอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “ลูกหมี - ซอนญ่า ” เล่นกันด้วย ชื่อเกมว่า “แปะหัวใจ LMSY”แล้วมาดูกันว่าทั้งสองคนจะหวงกันมากแค่ไหน~~ (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆให้ “ลูกหมี – ซอนญ่า” ได้เลือกเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “ลูกหมี – ซอนญ่า” มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ และอย่าลืมไปดูทั้งคู่เดินสับๆกันใน LMSY 1st Fan Meeting in Thailand "Be My Valentine" วันเสาร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ที่ TRUE ICON HALL 7th FLOOR, ICONSIAM และฝากผลงานในฐานะศิลปินหญิงคู่แรกของ CHANGE 2561 กับเพลง 'พื้นที่วางใจ (MY SAFE ZONE)' และ 'เปล่าหวง (Jealous)' ไว้ด้วยน้าาาสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางSee you next week nakaa : )

อังคารคลุมโปง RECAP

เรื่องเล่าจากคุณแทค 'ดงปอบ' l อังคารคลุมโปง X ส้ม มัลนิการ์ คนตาทิพย์ [11 มี.ค. 2568 ]

15 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากคุณแทค 'ดงปอบ' l อังคารคลุมโปง X ส้ม มัลนิการ์ คนตาทิพย์ [11 มี.ค. 2568 ]

ไปหานักเรียนที่ขาดเรียนไปถึง 10 วัน มีคนมาเตือนว่าอย่าไปเลย แต่ก็ไม่เชื่อ จนเจอดีถึงในที่นอน! เรื่องราวสุดหลอนนี้จะจบลงอย่างไร? ติดตามได้กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ดงปอบ’ จาก ‘คุณแทค’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’(11 มีนาคม 2568) พร้อมด้วย ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีีเจเจ็ม’ ที่จะเป็นเพื่อนหลอนไปกับคุณ!! ‘คุณแทค’ ได้นำเรื่องเล่าของ ‘ครูเอ’ (นามสมมติ) มาเล่าให้ฟัง เรื่องนี้ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วโดยในช่วงนั้น ครูเออายุเพียง 20 ต้น ๆ เพิ่งได้บรรจุเป็นข้าราชการใหม่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด หลังจากที่ได้เข้าไปสอนในโรงเรียนนี้ มีนักเรียนในห้องที่ครูเอได้ประจำชั้นอยู่ไม่มาโรงเรียนนานถึง 10 วัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของครูที่ต้องไปหาที่บ้าน เพื่อตรวจดูว่านักเรียนคนนี้เกิดอุบัติเหตุ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น บ้านของนักเรียนคนนี้อยู่ถัดไปอีกหนึ่งหมู่บ้าน โดยอยู่ท้ายหมู่บ้านและเป็นหลังเดียวที่อยู่ตรงนั้น พอไปถึงครูเอจึงไปสังเกตดูว่าใช่หลังนี้หรือไม่ เมื่อสังเกตอยู่นานก็คิดจะกลับ แต่ตาก็ไปเห็นนักเรียนของตัวเองที่เดินอยู่ในบ้าน จึงมั่นใจว่าเป็นบ้านหลังนี้ และเมื่อเข้าไปในบ้านสิ่งที่ครูเอเห็นก็คือ แมวประมาณ 100 ตัวที่อยู่ภายในบ้าน ซึ่งนักเรียนคนนี้อยู่กับคุณยาย 2 คน คุณยายนุ่งขาวห่มขาว ผมหงอกทั้งหัว ครูเอจึงเข้าไปคุยกับคุณยายถึงสาเหตุที่หลานไม่ไปโรงเรียน พอคุยกับคุณยายเสร็จ ครูเอก็เห็นว่านักเรียนกำลังให้นมแมวอยู่ เป็นนมโรงเรียน ซึ่งแมวก็ไม่กิน ครูเอคิดไปว่า แมวน่าจะชอบรสหวาน ครูเอจึงอาสาจะไปซื้อน้ำตาลเพื่อมาใส่ในนม จากนั้นก็ขับรถไปซื้อน้ำตาลจากร้านค้าที่อยู่ในหมู่บ้าน ด้วยความที่คนในชนบทจะรู้จักกันทุกบ้าน แม่ค้าจึงถามกับครูเอว่า “น้าครูจะซื้อไปไหน ซื้อไปทำอะไร มาหมู่บ้านนี้ทำไม” ครูเอเล่าเหตุผลที่ตนต้องมาหมู่บ้านนี้ให้แม่ค้าฟัง เมื่อเล่าจบแม่ค้าก็บอกต่อว่า “อย่าไปบ้านหลังนั้นได้ไหม กลับบ้านเลยเถอะ นี้มันก็มืดแล้ว” ครูเอนึกสงสัย จึงถามไปว่า “ทำไมครับ” แม่ค้าตอบว่า “บ้านหลังนั้นเขาเลี้ยงปอบ ไม่อยากให้ไป” ครูเอตอบกลับเชิงตลกไปว่า “ผมไม่กลัวหรอก ปอบอะ ให้มันมากินผมเลย” หลังจากนั้นครูเอก็กลับหมู่บ้านของตนเอง และด้วยความที่เป็นบ้านสมัยก่อน บันไดที่จะขึ้นไปชั้น 2 จึงเป็นแบบพับเก็บได้ด้วยการดึง ซึ่งครูเอก็นอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ช่วงกลางดึกที่ครูเอเข้านอนแล้ว ครูเอก็ได้ยินเสียงคนเดินอยู่รอบบ้าน แต่ครูเอก็คิดว่าคงเป็นคู่อริเก่าหรือโจรขึ้นบ้าน จึงจะไปหยิบปืนมาป้องกันตัว แต่จู่ ๆ ครูเอก็ตกใจ ที่แขนและขาของตัวเองไม่สามารถขยับได้ ขยับได้เพียงแค่ส่วนหัวและตาเท่านั้น และเสียงเดินก็ไปหยุดอยู่ที่บันไดบ้าน แต่เพราะครูเอดึงบันไดเก็บเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าคงขึ้นมาไม่ได้ แต่ในตอนนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนปีนเสาบ้านขึ้นมา คืนนั้นเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ถึงแม้ไม่ได้เปิดไฟก็สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน และครูเอก็ได้เห็นเงาตะคุ้ม ๆ ที่กำลังปีนเสาบ้านขึ้นมา ในใจของครูเอตอนนั้นคิดว่า คงตายแน่ ๆ เพราะไม่สามารถขยับตัวได้เลย พอเงานั้นปีนขึ้นมาได้สำเร็จ มันก็เริ่มคลานเข้ามาใกล้ครูเอ จนมาถึงหน้ามุ้งที่ครูเอนอนอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ต้องตกใจมากขึ้นไปอีก คือ สิ่งที่ครูเอเห็น เป็นคุณยายแก่ ๆ คนหนึ่ง ผมขาวทั้งหัว ใส่ชุดสีขาวทั้งชุด และยายคนนี้ก็เปิดมุ้งขึ้น เมื่อมุ้งเปิด ครูเอก็เห็นใบหน้าของคุณยายคนนั้น แต่บนหน้ากลับไม่มีจมูก ไม่มีปาก ไม่มีตา ไม่มีคิ้ว เป็นแค่หน้าโล้น ๆ และมีเสียงพูดขึ้นมาว่า “กูมาแล้ว เดี๋ยวกูจะกินมึงให้หมดเลย” ครูเอช็อคไป และไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแขนขาก็ไม่สามารถขยับได้ บทสวดก็ท่องไม่ได้เพราะไม่ได้นับถือศาสนาอะไร และเป็นคนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ ในจังหวะเดียวกันที่ยายคนนั้นเริ่มใกล้เข้ามา ขาข้างหนึ่งของครูเอก็ขยับได้ จึงถีบเข้าไปที่ตรงกลางอกจนร่างยายกระเด็นตกลงไปข้างล่าง จากนั้นครูเอก็ขยับตัวได้ จึงรีบไปเปิดไฟให้ทั่วบ้าน ครูเอไม่กล้าลงไปดูเพราะยังช็อกอยู่ จึงเลือกที่จะนั่งอยู่ตรงทางขึ้นชั้น 2 จนเกือบจะสว่าง ระหว่างนั้นก็เดินไปที่หน้ากระจก เห็นว่ามีเลือดไหลออกจากจมูก ปาก และทั้งตัวก็เต็มไปด้วยเลือดของตัวเอง และเมื่อใกล้เช้าก็มีคนมาเรียกครูเอ ซึ่งเป็นเสียงของผู้ใหญ่บ้านที่ครูเอจำได้ แต่ครูเอก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านจริง ๆ หรือเปล่า จึงไม่ยอมลงไปข้างล่าง เพราะข้างนอกยังไม่สว่างมาก ครูเอเลือกที่จะอยู่บนบ้านและถือปืนไว้เผื่อเกิดอะไรขึ้น คนที่อยู่ข้างล่างบอกให้ครูดึงบันได้ลงมาเพื่อจะขึ้นไปดู ครูเอตัดสินใจให้ขึ้นมา แต่ถ้าไม่ใช่ผู้ใหญ่บ้านครูเอก็จะยิงทันที และก็เป็นผู้ใหญ่บ้านจริง ๆ ที่ขึ้นมา ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยถามว่า “ทำไมเปิดไฟไว้ทั้งคืน เป็นอะไรลูก เลือดเต็มตัวเลย“ ครูเอที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ร้องไห้ออกมา และเข้าไปกอดผู้ใหญ่บ้าน เมื่อได้สติจึงเล่าทุกอย่างให้ผู้ใหญ่บ้านฟัง จากนั้นในตอนเช้าผู้ใหญ่บ้านจึงพาครูเอไปรดน้ำมนต์ และชาวบ้านในหมู่บ้านก็มาผูกแขนเพื่อรับขวัญให้ครูเอ รวมถึงแม่ค้าที่เคยเจอกันในตอนนั้น ซึ่งแม่ค้าคนนั้นก็บอกกับครูเอว่า “หนูบอกน้าครูแล้ว ว่าอย่าไปพูดแบบนั้น” หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ทำให้ครูเอกลายเป็นคนที่มีเซ้นส์ จากที่ไม่เคยเห็นผี ครูเอก็รู้ได้ในทันทีว่าใครคือคนหรือไม่ใช่คน(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณเรนนี่น้ำพริกผีบอก 'ตามหาเเฟน' | อังคารคลุมโปง X ไท ธนาวุฒิ [4 มี.ค. 2568 ]

09 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากคุณเรนนี่น้ำพริกผีบอก 'ตามหาเเฟน' | อังคารคลุมโปง X ไท ธนาวุฒิ [4 มี.ค. 2568 ]

ไปส่งของให้แม่ตอนตี 3 เพราะจำเป็นต้องใช้เงิน รถก็ไม่มี ต้องนั่งรอวินอยู่หน้าวัดกับน้องชาย 2 คน แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงวิ่งเข้ามาแล้วถามหาแฟน ‘แฟนพี่หายไปไหนไม่รู้!!’ และพอมองไปที่เท้าก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ลอยอยู่!! #อังคารคลุมโปงวิญญาณที่ล่องลอยไม่มีที่ไป!! วนเวียนตามหาแฟน จนคนในชุมชนต้องเจอเหตุการณ์สุดหลอนไปตามๆ กันเรื่องราวสุดเฮี้ยนนี้จะจบลงอย่างไร….?! ติดตามได้กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ตามหาแฟน’ จาก ‘คุณเรนนี่’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’(4 มีนาคม 2568) พร้อมด้วย ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีีเจเจ็ม’ ที่จะเป็นเพื่อนหลอนไปกับคุณ!! เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่คุณเรนนี่อายุประมาณ 19-20 ปี ตั้งแต่จำความได้ ที่บ้านประกอบอาชีพเย็บกระเป๋าขาย ในช่วงนั้นธุรกิจที่บ้านได้มีการทำข้อตกลงกับร้านในสำเพ็งไว้ และเป็นที่รู้กันว่า ถ้าต้องไปเดินสำเพ็งจะต้องไปช่วงกลางคืน และเช่นเดียวกับที่ต้องไปส่งสินค้า ก็ต้องไปช่วงกลางคืน บ้านของคุณเรนนี่จะอยู่ติดกับวัด โรงเรียน ไม่มีรถประจำทางผ่านเข้ามา และเป็นชุมชนที่มักจะเห็นอะไรแปลกๆ อยู่บ่อยครั้งในวันเกิดเหตุคุณเรนนี่ และน้องชายอายุ 9 ขวบ ได้รับภารกิจจากคุณพ่อคุณแม่ ให้ไปส่งสินค้าช่วงตี 2 ตี 3 ให้กับคุณป้าเหี่ยว และต้องไปส่งที่ร้านของ ป้าเหี่ยว ซึ่งเป็นเจ้าของร้านกระเป๋าที่สำเพ็ง พากันแบกของเพื่อที่จะไปส่งของ ที่ต้องไปส่งเวลานี้เพราะแม่บอกว่า ต้องเอาเงินค่าสินค้า ไปจ่ายค่าบ้าน จึงจำเป็นมาก ๆ ที่จะออกไปส่งในตอนนั้นในคืนนั้น แถวบ้านของคุณเรนนี่ ก็ไม่มีรถประจำทาง หรือรถสองแถว มีแค่วินมอเตอไซค์ที่จะวิ่งทั้งคืน เพราะออกไปถนนหลัก ตรงที่คุณเรนนี่และน้องชายยืนอยู่นั้น เมื่อก่อนจะมีตู้โทรสับสาธารณะ ติดกับกำแพงของโรงเรียน เมื่อถัดไปอีกก็จะเป็นโกศที่เก็บอัฐิที่ดูสยดสยอง แต่ด้วยความเป็นคนในพื้นที่จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และรอวินต่อไป…เมื่อรอไปได้ 15 นาที ก็ยังไม่มีวินมอเตอร์ไซค์มา แต่จู่ๆ ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ผมยุ่งเหยิง อาการเหมือนคนขาดสติ วิ่งมาหาคุณเรนนี่ และน้องชายด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก ทั้งสองพี่น้องก็หันมองหน้ากัน และสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้มาจากไหน ไม่เคยเห็นอยู่ในชุมชนเลย และเมื่อหันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้น ก็เข้ามาใกล้ทั้งสองคน ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นว่า“น้องๆ ช่วยพี่ด้วย เนี่ย ไม่รู้ว่าพี่มาอยู่ที่ไหน พี่จะกลับบ้าน แล้วแฟนพี่ก็หายไปไหนไม่รู้”ในขณะนั้นคุณเรนนี่ก็เริ่มรู้สึกกลัว เพราะผู้หญิงคนเข้ามาด้วยท่าทีโวยวาย คุณเรนนี่เลยบอกไปว่า “พี่คะ ใจเย็นๆ นะ คือยังไงคะพี่ พี่จะไปไหน”ตอนนั้นคุณเรนนี่คิดว่าผู้หญิงคนนี้หลงทางมา เนื่องจากซอยเข้าออกค่อนข้างลำบาก ผู้หญิงคนนั้นจึงเลยพูดต่อว่า “พี่ก็ไมรู้” แล้วร้องไห้ออกมา“เนี่ยพี่มากับแฟน พี่นั่งรถมากับแฟน ไม่รู้ว่าแฟนพี่หายไปไหนแล้ว”ทำให้ผู้หญิงคนนั้นก็พยายามที่เข้ามาประชิดตัว โดยการเอามือมาจับที่ไหล่ และเขย่าตัวคุณเรนนี่ ในขณะที่ตัวของผู้หญิงคนนั้นก็สั่น แต่คุณเรนนี่ก็รู้สึกว่า ‘มือที่จับอยู่นั้นไม่รู้สึกถึงแรงกด และทำไมตัวเราถึงไม่สั่นตามแรงเขย่า‘คุณเรนนี่กับน้องชายจึงค่อยๆ หันลงไปมองช่วงตัวของผู้หญิงคนนั้น และสิ่งที่เห็นคือ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีขา มีแค่ท่อนบนและกางเกงยีนส์ แต่ส่วนเท้าหายไป ไม่มีรองเท้า เมื่อเห็นดังนั้นคุณเรนนี่ก็รีบยกกระเป๋า และวิ่ง โดยน้องชายก็วิ่งนำไปก่อนแล้วเมื่อกลับไปถึงบ้านก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ่อ และแม่ฟัง ซึ่งพ่อ และแม่ก็เข้าใจเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับคุณเรนนี่ และน้องชายแต่ครั้งนี้ทำให้ต้องเสียงานที่ต้องไปส่ง แม่จึงตำหนิ และโทรไปหาป้าเหี่ยว เพื่อขอไปส่งของใหม่ในตอน 9 โมงเช้า ตอนที่ป้าเหี่ยวเก็บร้านแล้ว ป้าเหี่ยวตอบตกลง โดยคุณเรนนี่ให้เหตุผลกับป้าเหี่ยวว่า ที่ไม่สามารถไปส่งของให้ได้เพราะปวดท้องในตอนเช้า เมื่อคุณเรนนี่ไปส่งของให้ป้าเหี่ยวเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับมาบ้านใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม และวันหนึ่งเวลา 6 โมงเย็น คุณเรนนี่ที่กำลังล้างจานอยู่ โดยที่ล้างจานที่บ้านจะอยู่ข้างหน้าบ้าน เมื่อใกล้ล้างเสร็จ น้องชายของคุณเรนนี่ก็วิ่งมาหา ด้วยหน้าตาตื่นแล้วมาบอกกับคุณเรนนี่ว่า“พี่ พี่มากับผมหน่อย” คุณเรนนี่จึงถามว่า “ไปไหน พี่ยังล้างจานไม่เสร็จเลย”แต่น้องชายก็ยังลากคุณเรนนี่ไปจนเกือบใส่รองเท้าไม่ทัน และระหว่างทางคุณเรนนี่ก็ยังถามน้องชายตลอดว่าจะไปไหน เพื่อที่จะได้รับมือถูก แต่ถามมาตลอดทางน้องชายก็ยังไม่ตอบ จนกระทั้งมาถึงวัดที่อยู่ติดกับบ้าน พอมาถึงทั้งสองคนก็ไปที่ศาลาหนึ่ง ที่มีคนกำลังจัดงานศพอยู่ ซึ่งก็เป็นปกติของวัด แต่น้องชายก็ยังยืนยันให้คุณเรนนี่เข้าไปดูรูปข้างในงาน คุณเรนนี่ก็สังสัยว่าเข้าไปทำไม และพอเดินเข้าไปในงานรูปที่อยู่หน้าโรงศพคือ ผู้หญิงที่คุณเรนนี่ และน้องชายเห็นในคืนนั้น น้องชายจึงหันมาถามคุณเรนนี่ว่า..“พี่ ใช่ปะเนี่ย ใช่ ใช่ไหม”“เออ ใช่”ในตอนนั้นคุณเรนนี่ก็อึ้งกับสิ่งที่เห็น เลยได้ไปคุยกับคนในงานศพว่า ศพนี่คือใคร ซึ่งก็ได้รู้ว่าคุณแม่ของผู้ตาย เป็นคนที่คุณเรนนี่รู้จัก และผู้ใหญ่ในงานก็ถามกับคุณเรนนี่ว่า“จำไอยุ้ยไม่ได้หรอ” แต่คุณเรนนี่ก็ยังนึกไม่ออกว่ายุ้ยไหน ผู้ใหญ่ในงานเลยพูดต่อว่า “มันน่าจะจำไม่ได้แหละ”ซึ่งคุณเรนนี่ และยุ้ย เคยเล่นด้วยกันตอนอายุ 4-5 ขวบ และยุ้ยก็ได้กลับไปบ้านพ่อที่ต่างจังหวัด ไม่ได้กลับมาอยู่ที่กรุงเทพอีก ต่อมายุ้ยได้มาอยู่กับแฟนที่กรุงเทพ และระหว่างที่นั่งรถเพื่อจะไปที่ไหนสักแห่ง ก็ได้เกิดอุบัติเหตุทำให้ยุ้ย และแฟนเสียชีวิตทั้งคู่ แม่ของยุ้ยจึงได้นำศพของลูกสาวมาบำเพ็ญกุศลที่วัดนี้แต่เรื่องก็ไม่ได้จบเพียงแค่นี้ เพราะลุงวินแถวนั้นก็เอาเรื่องที่ไปพูดต่อๆ กันว่า มีผู้หญิงใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ มายืนโบกรถ แล้วขอให้ไปส่งเพราะว่าเแฟนรออยู่ พอลุงวินขี่มาได้สักพักก็เจอเข้ากับลูกระนาดบนถนน แต่ลุงวินก็มองไม่เห็น ด้วยความเป็นห่วงผู้โดยสารลุงวินจึงหันกลับไปมองข้างหลัง แต่ก็ไม่พบผู้โดยสารที่นั่งซ้อนมา ลุงวินจึงวนรถกลับไปดูว่าผู้โดยสารอยู่ไหน แต่ก็ไม่พบใคร ลุงวินจึงขี่รถกลับบ้านและยังมีคนที่เจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน คือ น้าจ่า เป็นทหารเก่า น้าจ่าก็เป็นวินเหมือนกัน และมีผู้หญิงโบกรถจากหน้าวัด เพื่อให้ไปส่งที่หน้าปากซอยเหมือนกัน พอขี่ไปถึงที่หน้าปากซอยก็ไม่เจอคนกลายเป็นว่า ยุ้ย ก็เป็นวิญญาณที่ล่องลอยที่ตาหาแฟน และฝั่งของฝ่ายชาย แฟนของยุ้ย ที่ได้ถูกนำศพไปทำพิธีที่บ้านเกิด ก็ได้เป็นวิญญาณที่ล่องลอย และตามหาแฟนเหมือนกัน จนสุดท้ายก็ได้มีการนำศพของทั้งคู่ไปตั้งคู่กัน และได้ทำการเผาพร้อมกัน ทุกอย่างถึงได้สงบลง(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากไท ธนาวุฒิ 'เรื่องผีหัวโต' | อังคารคลุมโปง X ไท ธนาวุฒิ [4 มี.ค. 2568 ]

08 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากไท ธนาวุฒิ 'เรื่องผีหัวโต' | อังคารคลุมโปง X ไท ธนาวุฒิ [4 มี.ค. 2568 ]

“คืนหนึ่งเจอสิ่งแปลกประหลาด หน้าดำ ตาแดง จ้องมองจากหน้าต่าง เลยพูดท้าทายไปว่า ‘ถ้าเก่งจริงก็มา’ จนอีกวัน… เจอดี! ตามมาหลอกถึงในห้อง มาเหยียบหน้าอก พร้อมคำเตือนว่า ‘มึงทำตัวให้ดีหน่อย’ แล้วรู้ตัวไหมว่าบางครั้งคำท้าทายอาจทำให้เจอสิ่งที่ไม่ควรเจอ!”‘ไท ธนาวุฒิ’ เปิดเรื่องหลอนใน ‘อังคารคลุมโปง X (4 มี .ค. 2568)’ กับเรื่องราว ‘’ผีหัวโต’’ ที่ทำเอาขนหัวลุก กับเงาปริศนานุ่งโจงกระเบนแดง ดวงตาแดงฉาน… ที่โผล่มาถึงห้อง มันคืออะไรกันแน่? มาฟังไปพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ แล้วอย่าลืมระวัง… คืนนี้ อาจมีบางอย่างมาหาคุณ!คุณไท ได้เล่าว่า คืนหนึ่งขณะกึ่งหลับกึ่งตื่น เขาหันไปมองที่หน้าต่างแล้วต้องชะงัก เพราะมีบางสิ่งอยู่ตรงนั้น… เป็นใบหน้าขนาดใหญ่เต็มกระจก ดวงตาสีแดงก่ำจ้องตรงมาที่เขา คุณไท ถึงกับตกใจ แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น จึงพูดท้าทายออกไปว่า “ไม่จริงเว้ย! ถ้าเก่งจริงก็มา”ทำให้ในคืนต่อมา… ก็ได้เจอจริงๆ ร่างนั้นยืนอยู่ปลายเตียง สวมโจงกระเบนแดง ผิวดำคล้ำ ดวงตาแดงฉาน ก่อนจะก้าวขึ้นมาเหยียบบนอกเขา หนักจนแทบหายใจไม่ออก แล้วพูดด้วยเสียงเย็นเยียบว่า “มึงทำตัวให้ดีหน่อย”ในคืนต่อมา เพื่อนของพี่ชายมาขอนอนที่ห้องคุณไท แต่เขาอยู่ได้เพียงสองคืนก่อนจะหนีไป คุณไทสงสัยจึงถามถึงสาเหตุ และคำตอบที่ได้รับทำให้ขนลุกไปทั้งตัว เพราะพี่ชายก็ได้ “โดนคนใส่โจงกระเบนแดงเหยียบ” เหมือนกันและเหตุผลที่เขาโดนแบบนั้น… เป็นเพราะพี่ชายของเขาเคยฆ่าคนตายแล้วหนีคดี ผีตนนั้นเลยมาเตือน… ทำให้คุณไทนึกขึ้นได้ว่า ตัวเขาเองก็เคยถูกเตือนแบบนี้มาก่อน และบางที อาจเป็นเพราะตอนเด็กๆ เขาเองก็เคยเป็นเด็กแสบไม่แพ้กัน ผีตนนั้น… ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ “เจ้าที่ เจ้าบ้าน” ที่คอยมาเตือนให้ผู้คนอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ใครที่ปฏิบัติตัวดี ก็จะไม่เจอ แต่หากใครทำผิด คิดไม่ซื่อ หรือก้าวล้ำเส้นที่ไม่ควรก็อาจได้รับการเตือนในแบบที่ลืมไม่ลง…(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณบอส 'บ้านอาม่า' | อังคารคลุมโปง X ไท ธนาวุฒิ [4 มี.ค. 2568 ]

07 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากคุณบอส 'บ้านอาม่า' | อังคารคลุมโปง X ไท ธนาวุฒิ [4 มี.ค. 2568 ]

เมื่อพ่อของคุณบอส เข้าไปเก็บลูกฟุตบอลในบ้านของอาม่าข้างบ้าน เขาเห็นอาม่ายืนอยู่หน้าประตู แลบลิ้นใส่ จึงแลบลิ้นตอบกลับไปคิดว่าเป็นการหยอกล้อ แต่คืนถัดมาผีเสื้อดำตัวหนึ่งบินเข้ามาในห้อง และเมื่อมันเข้าใกล้ เขาต้องตกใจสุดขีด เพราะใบหน้าของผีเสื้อตัวนั้นคือใบหน้าของอาม่า! ต่อมาถึงได้รู้ว่าอาม่าที่เขาคุ้นเคยได้เสียชีวิตไปแล้ว!! #อังคารคลุมโปง‘คุณบอส’ เล่าเรื่องหลอนเมื่อคุณพ่อได้เห็นเหตุการณ์สุดสยองที่ไม่เคยลืม! จากการเห็นอาม่าข้างบ้าน ที่ดูเหมือนจะเป็นการหยอกล้อธรรมดา แต่กลับกลายเป็นภาพหลอนของวิญญาณที่ผูกคอตาย! ทำไมถึงเป็นผีเสื้อที่มีหน้าคล้ายอาม่า? ฟังเรื่องสุดหลอนนี้ไปพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (4 มีนาคม 2568) แล้วเหตุการณ์ณ์สุดหลอนนี้จะจบลงอย่างไร ไปติดตามพร้อมกันเลย!!‘คุณบอส’ เล่าว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่คุณพ่อของตนเคยพบเจอ และถูกเล่าต่อกันมาจนถึงรุ่นของตน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ในกรุงเทพมหานคร บ้านของคุณบอสเป็นครอบครัวชาวจีน อากงและอาม่า มีลูกทั้งหมด 5 คน โดยคุณพ่อของคุณบอสเป็นลูกคนกลาง ในสมัยนั้นซอยที่บ้านของคุณพ่อตั้งอยู่เป็นซอยลึก และเงียบสงบ มีบ้านเรือนอยู่ไม่มากนัก ส่วนตัวบ้านของคุณพ่อมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ข้างบ้านเป็นที่อาศัยของ ‘อาม่า’ ท่านหนึ่ง ซึ่งอยู่เพียงลำพัง ลูกหลานของท่านจะมาเยี่ยมเพียงนาน ๆ ครั้งในสมัยนั้น คุณพ่อของคุณบอสยังเป็นเด็ก มักออกไปวิ่งเล่น และเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้กัน คุณพ่อจึงสนิทกับอาม่า ข้างบ้านไปด้วย อาม่าท่านนี้มักทำกิจวัตรประจำวันในตอนเช้า และทุกครั้งที่พบกันก็มักจะทักทายคุณพ่ออยู่เสมอ ทำให้ทั้งสองมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยภายในซอยที่บ้านตั้งอยู่นั้นค่อนข้างเงียบสงบมาตั้งแต่เดิม ดังนั้นหากมีสิ่งใดผิดปกติ ก็มักจะสังเกตเห็นได้ไม่ยากวันหนึ่ง คุณพ่อสังเกตเห็นว่า อาม่าข้างบ้านไม่ออกมาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ต่างจากทุกวันที่มักจะเห็นท่านเดินไปเดินมา และทักทายกันเสมอคุณพ่อรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เวลาผ่านไปสักพัก ขณะที่คุณพ่อกำลังเล่นฟุตบอลกับพี่ ๆ ของตนอยู่นั้น บังเอิญเตะบอลพลาด ลูกบอลกระเด็นเข้าไปในบ้านของอาม่า บ้านของอาม่าเป็นบ้านแถว ด้านหน้ามีประตูลูกกรงกั้นไว้ และด้านในมีประตูอีกชั้นหนึ่ง คุณพ่อจึงยืนมองเข้าไปภายในบ้าน พลางคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปขณะที่คุณพ่อกำลังจะเดินเข้าไปหยิบลูกฟุตบอล เมื่อเดินผ่านหน้าบ้านก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อมองเข้าไปในบ้านกลับเห็นอาม่ายืนแนบชิดกับประตูด้านใน จ้องมองออกมา ดวงตาถลน และแลบลิ้นออกมาคุณพ่อชะงักไปชั่วขณะ แต่พอได้สติ ก็คิดว่าอาม่า คงแกล้งหยอกเล่น เพราะปกติแล้วท่านเป็นคนใจดีและชอบหยอกเด็ก ๆ อยู่เสมอ ด้วยความคิดแบบเด็ก ๆ คุณพ่อจึงแลบลิ้นตอบกลับไปเป็นเชิงเล่นสนุก จากนั้นก็หยิบลูกฟุตบอลแล้ววิ่งกลับไปหาพี่ ๆวันนั้น คุณพ่อสังเกตว่าบรรยากาศในซอยบ้านที่เคยเงียบสงบกลับดูคึกคักขึ้นอย่างผิดสังเกต มีผู้คนเข้าออกมากกว่าปกติ และหลายคนก็เดินเข้าไปในบ้านของอาม่า คุณพ่อจึงคิดว่า น่าจะเป็นลูกหลานของอาม่าที่มาเยี่ยมท่านโดยปกติแล้ว คุณพ่อจะนอนรวมกับพี่ ๆ ทั้ง 5 คน และอากงอาม่า ภายในห้องเดียวกัน คืนนั้น.. ขณะที่ทุกคนกำลังหลับสนิท คุณพ่อสังเกตเห็นผีเสื้อตัวหนึ่งบินวนอยู่รอบ ๆ ห้อง ลักษณะคล้ายผีเสื้อกลางคืน มีปีกสีดำสนิท มันบินมาเกาะอยู่ใกล้ใบหน้าของคุณพ่อ จนรู้สึกรำคาญ ด้วยความรำคาญ คุณพ่อจึงลุกขึ้นไปหยิบหนังสือพิมพ์มาม้วน แล้วพยายามไล่ตีผีเสื้อตัวนั้น เสียงการเคลื่อนไหวทำให้คนในห้องตื่นกันหมด แต่สิ่งที่ทำให้คุณพ่อต้องขนลุกคือ ไม่มีใครเห็นผีเสื้อแม้แต่คนเดียว ทุกคนพากันบอกว่า คุณพ่อคงเล่นมากไปจนเหนื่อย และอาจตาฝาดหรือฝันไปเองหลังจากเวลาผ่านไป 2-3 วัน นับตั้งแต่คืนที่คุณพ่อเห็นผีเสื้อ ทุกอย่างก็ดูเป็นปกติ ไม่มีสิ่งผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น จนกระทั่ง คืนที่สาม ขณะที่คุณพ่อเข้านอนตามปกติ ผีเสื้อตัวเดิมก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันบินวนไปมาอยู่ภายในห้อง ราวกับมีจุดมุ่งหมายบางอย่าง ครั้งนี้ คุณพ่อไม่ได้พยายามไล่ตีมันเหมือนครั้งก่อน แต่กลับรู้สึกสงสัยแทนว่า เหตุใดมันจึงบินกลับมาอีกภายในห้องที่มืดสนิท คุณพ่อพยายามปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืด ทันใดนั้น ผีเสื้อตัวนั้นก็ค่อย ๆ บินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แต่เมื่อเพ่งมองให้ชัดขึ้น คุณพ่อก็ต้องตกตะลึง เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไม่ใช่ผีเสื้อธรรมดา ใบหน้าของมัน กลับเป็นใบหน้าของอาม่าข้างบ้าน!!!“อ๊ากกกกกกก!!” เสียงกรีดร้องดังลั่น ปลุกทุกคนในบ้านให้ตื่นขึ้นอย่างตกใจ ทุกคนต่างพากันรีบเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น คุณพ่อยังคงตัวสั่น และตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว “ผีหลอก! ผีหลอก!! ผีอาม่าข้างบ้านมาหลอก!!!”ทางอากง และอาม่าไม่ได้แสดงท่าทีตกใจ หรือคิดว่าคุณพ่อเป็นคนบ้าแต่อย่างใด พวกท่านเพียงพูดขึ้นมาว่า “อาม่าท่านคงมาหยอกเล่น”ต่อมา คุณพ่อจึงได้รู้ความจริงว่า อาม่าข้างบ้านได้ผูกคอตายอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน ร่างของท่านห้อยโชว์อยู่ตรงนั้น ภาพที่คุณพ่อเคยเห็นในวันนั้น เป็นภาพของอาม่า ที่แลบลิ้นและทำตาถลนใส่ แท้จริงแล้ว ไม่ใช่การหยอกล้อ แต่เป็นภาพของอาม่าขณะที่กำลังแขวนคอเสียชีวิต! ในตอนนั้น อาม่าอาจเสียชีวิตไปแล้ว และคุณพ่ออาจเป็นคนแรกที่เห็นท่านในสภาพนั้น ส่วนคนที่พบเป็นลำดับถัดไป อาจเป็นอากง และอาม่าของท่าน ที่เข้าไปเห็นและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ และเหตุการณ์ที่คุณพ่อเห็นผู้คนเข้าออกซอยมากผิดปกติในวันนั้น ก็ไม่ใช่ลูกหลานของอาม่า ที่มาเยี่ยมท่าน แต่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเก็บศพของอาม่าออกไปคิดย้อนกลับไป ในตอนที่คุณพ่อเข้าไปในบ้านของอาม่า เพื่อเก็บลูกฟุตบอล คุณพ่อได้แลบลิ้นหยอกล้ออาม่า ไปตามประสาเด็ก ส่วนผีเสื้อที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนอาม่า บินมาให้คุณพ่อเห็น คงเป็นอาม่า ทีอาจไม่ได้ตั้งใจจะหลอกหลอน ทว่าเพราะท่านคุ้นเคย และสนิทสนมกับคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก จึงอาจต้องการมาหาตามความเชื่อของคนจีน มีความเชื่อว่าเมื่อผู้คนเสียชีวิต วิญญาณของพวกเขาอาจปรากฏในรูปของผีเสื้อ เพื่อสื่อถึงการกลับมาหรือการเยี่ยมเยียนคนที่ยังมีชีวิตอยู่…(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณเป้ 'ความรักจากยาย(ทายาท)' l อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568]

03 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากคุณเป้ 'ความรักจากยาย(ทายาท)' l อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568]

‘คุณเป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ เล่าเรื่องสุดหลอนจากประสบการณ์ของ ‘คุณปอย’ ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านเช่ากับ ‘ยายแก้ว’ ผู้มีความลับสุดสยอง! เมื่อคุณปอยตัดสินใจย้ายมาเช่าบ้านหลังนี้ อะไรบางอย่างเริ่มไม่ปกติ จนถึงคืนหนึ่งที่เธอเห็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด! ยายแก้วจริง ๆ แล้วคือใคร? อย่าพลาดเรื่องราวสุดหลอนที่ทำให้คุณปอยถึงกับหนีออกจากบ้านหลังนี้! ฟังเรื่องนี้ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (25 กุมภาพันธ์ 2568) พร้อม ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ร่างที่นอนข้างคุณปอยคือใครกันแน่? บางที “ความจริง” อาจน่ากลัวกว่าที่คุณคิด! ‘คุณเป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ เล่าว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ‘คุณปอย’ ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเคยเล่าให้คุณเป้ฟังถึงช่วงเวลาที่สอบชิงทุนและได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย ในอดีตการสอบชิงทุนครอบคลุมเพียงค่าเล่าเรียน แต่ไม่ได้รวมค่าที่พัก ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ ด้วยเหตุนี้ คุณปอยจึงต้องทำงานเกษตรในโรงเรียนเพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่าย คุณปอยมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาดีซึ่งเคยอยู่หอพักด้วยกัน แต่เพื่อนคนนั้นมีแฟนและเริ่มออกไปเที่ยวกับแฟนบ่อย ๆ ทำให้ไม่ค่อยได้กลับห้อง คุณปอยจึงต้องอยู่หอพักคนเดียว โดยส่วนตัวแล้ว คุณปอยเป็นคนที่กลัวผีมาก จึงเริ่มรู้สึกไม่อยากอยู่ในห้องนี้แล้ว และอยากหาที่พักข้างนอกแทน แต่เนื่องจากคุณปอยมีเงินไม่พอ ทำให้ต้องหางานพิเศษทำเพิ่ม หลังจากทำงานพิเศษและเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็เพียงพอที่จะสามารถเช่าบ้านได้แล้ว เมื่อเริ่มหาบ้าน คุณปอยได้ไปเจอบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านทรงไทยเก่า ๆ ที่ไม่ได้หรูหราอะไร เมื่อได้ไปเจอและพูดคุยกับ ‘ยายแก้ว’ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านคนเดียว คุณปอยพูดสอบถามไปว่า “ยาย พอดีหนูจะมาสอบถามเรื่องค่าเช่าบ้าน” “อ้าวเหรอ หนูจะมาหาบ้านเหรอ มา ๆ คุยกับยายก่อน” ยายแก้วพูดตอบกลับ ยายแก้วเป็นหญิงชราที่มีอายุมาก แต่กลับไม่ได้ดูแก่เลย แม้จะมีเส้นผมหงอกแซมอยู่บ้าง ทว่าใบหน้ายังคงแลดูอ่อนเยาว์ ราวกับหญิงสาว หลังจากได้พูดคุยกัน คุณปอยรู้สึกถูกชะตากับยายแก้ว จึงตัดสินใจเช่าบ้านหลังนี้ อีกทั้งค่าเช่ายังถูกมาก ทำให้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ตัดสินใจอยู่ ภายในบ้านมีสองห้อง ได้แก่ ห้องส่วนตัวของยายแก้ว และห้องโถงขนาดใหญ่ คุณปอยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักเมื่อต้องอยู่ในห้องโถงนั้น เพราะภายในมีเสาตกน้ำมันตั้งอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงขออนุญาตย้ายไปนอนที่ห้องครัวแทน ภายในห้องครัวมีซี่ไม้ไผ่รวกกั้นเป็นแนวเป็นระเบียบ บางครั้งลมก็พัดผ่านเข้ามาให้ได้ยินเสียง ส่วนด้านหลังครัวมีบันไดลงไปยังห้องน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับวัด หลังจากที่คุณปอยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้สักพัก ในตอนที่คุณปอยกำลังซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่ตลาด ทว่ากลับสังเกตเห็นสายตาของผู้คนในตลาดที่มองมาอย่างแปลก ๆ ตอนนั้นคุณปอยไม่ได้คิดอะไรมาก คิดเพียงแค่ว่าอาจเป็นเพราะตนเองเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ คนในละแวกนั้นจึงเกิดความสงสัย หลังจากซื้อของเสร็จ ก็กลับไปที่บ้านพักตามปกติ วันนั้นเป็นวันที่คุณปอยย้ายมาอยู่ครบหนึ่งเดือนพอดี คุณปอยก็ได้นำเงินค่าเช่าไปจ่ายกับยายแก้ว หลังจากที่ยายแก้วรับเงินก็นำเงินของคุณปอยไปซื้อกับข้าวกลับมา และพูดกับคุณปอยว่า “หนู หนูชอบบ้านหลังนี้ไหม ถ้าชอบยายยกให้เอาไหม หนูมาเป็นลูกยายไหม ยายมีสมบัติด้วยนะ แล้วก็ยายไม่มีลูกหลานที่ไหน ยายถูกชะตากับหนูมาก มาเป็นลูกยายนะ” ยายแก้วพูดออกไปแบบนั้น ทางคุณปอยไม่ได้รู้สึกดีใจแต่อย่างใด ตอบกลับไปแค่ว่า “ไม่ได้หรอกยาย ยายเก็บไว้เถอะ” หลังจากที่คุณปอยปฏิเสธยายแก้ว เวลาก็ผ่านไป วันหนึ่งเริ่มมีเพื่อน ๆ ที่มหาลัยทั้งชายและหญิง มาที่บ้านมาเพื่อทำรายงาน หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว ยายแก้วเดินมาพร้อมพูดตำหนิคุณปอยว่า “ปอยเอ้ย ถ้าเป็นไปได้อย่าพาเพื่อนมาอีกนะ โดยเฉพาะเพื่อนผู้ชาย แล้วว่ายังไงหล่ะเรื่องที่จะมาเป็นลูกยาย ยายยกบ้านให้เลย ยกสมบัติให้หมดเลย แต่ขออย่างเดียว อย่ามีแฟนนะ” ยายแก้วยังคงไม่ยอมลดความตั้งใจที่อยากให้คุณปอยมาเป็นลูกของตน คุณปอยรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของยายแก้ว แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร หลังจากนั้น ยายแก้วเริ่มมาขอคุณปอยนอนด้วย คุณปอยก็ตอบรับ เนื่องจากตนเองเป็นคนที่กลัวผีมากอยู่แล้ว จึงรู้สึกสบายใจที่มียายแก้วมานอนเป็นเพื่อน จากนั้นยายแก้วก็มานอนด้วยบ่อยขึ้น ในทุกเช้า ยายแก้วจะเป็นคนทำอาหารให้ และไม่เคยเก็บค่าเช่าบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่ออยู่ไปนานวันเข้า คุณปอยเริ่มรู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนี้ และค่อย ๆ ปรับตัวจนรู้สึกเหมือนเป็นบ้านของตนเอง จึงเริ่มช่วยดูแล ทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูให้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณปอยตัดสินใจเข้าไปทำความสะอาดในห้องของยายแก้ว ภายในห้องมืดสนิทเพราะหน้าต่างถูกปิดไว้ทั้งหมด คุณปอยจึงเปิดหน้าต่างเหล่านั้น และเริ่มทำความสะอาดพื้นโดยนั่งคุกเข่าถูระหว่างที่กำลังถอยหลังไปข้างหลัง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีมือมาจับที่ก้นของตนเอง คุณปอยสะดุ้งขึ้นมาทันทีแล้วหันไปมอง แต่กลับไม่เห็นใครอยู่เลย ในขณะนั้น หน้าต่างที่เปิดอยู่ก่อนหน้านี้ก็ปิดลงทันทีพร้อมเสียงดัง ปัง!! ปัง!! ปัง!! คุณปอยเริ่มรู้สึกกลัวมาก จึงรีบเข้าไปปิดหน้าต่างและล็อคมันไว้ ก่อนจะรีบออกมาข้างนอกทันที แล้วหลังจากนั้นคุณปอยก็ไม่กล้าเข้าไปที่ห้องยายแก้วอีกเลย คืนที่ทำให้คุณปอยตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่อยู่ในบ้านหลังนี้อีกต่อไปเกิดขึ้นในคืนหนึ่ง ตอนที่ยายแก้วและคุณปอยนอนด้วยกัน ระหว่างที่กำลังนอน คุณปอยเริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นที่ลอยมาในอากาศ กลิ่นนั้นไม่ได้เป็นกลิ่นเหม็นสาบทั่วไป แต่กลับเป็นกลิ่นเหม็นของอุจจาระ ในตอนแรก คุณปอยคิดว่ากลิ่นดังกล่าวอาจมาจากห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังของบ้าน และเป็นไปได้ว่าลมพัดพากลิ่นโชยเข้ามาในห้อง และจากที่คุณปอยนอนอยู่ ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงหมาหอนดังมาก หลังจากที่ลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่คุณปอยเห็นคือ ตรงส่วนของซี่ไม้ไผ่รวกที่กั้นเป็นแนว เขาเห็นแสงไฟสีเหลือง ๆ เขียว ๆ สว่างแบบวูบวาบ ๆ แถมยังมีเสียงดังพรึบ ๆ พรึบ ๆ ด้วยความสงสัย คุณปอยจึงค่อย ๆ ก้มลงไปมองผ่านช่องว่างระหว่างไม้ไผ่ที่กั้นอยู่ ทันทีที่สายตาสอดผ่านช่องนั้น สิ่งที่เห็นทำให้คุณปอยตกใจจนเผลอถอยหลังล้มลงไปกระแทกพื้น เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือ ใบหน้าของยายแก้วที่มีเพียงศีรษะลอยอยู่! ขณะที่คุณปอยกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น ก็พลันนึกขึ้นได้ว่าแล้วร่างที่นอนอยู่ข้างตนเองคือใคร? ด้วยความหวาดกลัว คุณปอยรีบหันไปมองที่ฟูกนอน แล้วสิ่งที่เห็นกลับทำให้ขนลุกไปทั้งตัวยายแก้วยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม แต่ศีรษะของเธอกลับหายไปแล้ว! เมื่อเห็นเช่นนั้น คุณปอยก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก ด้านนอกมีศีรษะของยายแก้วลอยอยู่ ส่วนร่างที่นอนอยู่ข้างในกลับไร้ศีรษะ หากจะวิ่งออกไป เวลานั้นก็ดึกมากแล้ว อีกทั้งข้างนอกก็เป็นวัด ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัดและมืดสนิท สุดท้าย คุณปอยตัดสินใจดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง พยายามข่มตาหลับ และนอนหันหลังให้ร่างไร้ศีรษะของยายแก้วด้วยความหวาดกลัวสุดขีด เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อคุณปอยลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่ายายแก้วที่นอนอยู่เมื่อคืนได้หายไปแล้ว ด้วยความหวาดกลัว คุณปอยจึงพยายามเก็บเสื้อผ้าอย่างเงียบ ๆ และรอจังหวะที่ยายแก้วไม่อยู่บ้าน ก่อนจะรีบหนีออกมา หลังจากนั้น คุณปอยได้นำเรื่องที่พบเจอไปเล่าให้เพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยฟัง เรื่องราวของคุณปอยถูกเล่าต่อกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปถึงหูของเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ เมื่อได้ฟังเรื่องนี้ เพื่อนคนนั้นจึงแนะนำให้คุณปอยลองไปถามแม่ของตน เผื่อว่าเธออาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นบ้าง หลังจากที่สอบถาม จนกระทั่งได้รู้ว่าความจริงแล้วว่า ยายแก้วคือกระสือ! อย่างไรก็ตาม ยายแก้วเป็นกระสือที่ไม่เคยหลอกหลอนหรือทำร้ายใคร ชาวบ้านต่างรู้เรื่องนี้กันดี ส่วนลูกหลานที่ยายแก้วเคยมีต่างก็ทิ้งหายกันไปหมด ยายแก้วจึงเฝ้าหาทายาทสืบทอดอยู่เสมอ และดูเหมือนว่าคุณปอยอาจเป็น “คนโชคดี” ที่ได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นพอดี… เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด คุณปอยอดคิดไม่ได้ว่าหากตอนนั้นตนเองเกิดความโลภ อยากได้สมบัติของยายแก้ว และเลือกที่จะรับบ้านหลังนั้นไว้ บางที… ตอนนี้ตนอาจจะกลายเป็นกระสือไปแล้วก็ได้!!(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณเต้ย ผีเหรียญ 'คนขวัญเเหลว' l อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568 ]

02 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากคุณเต้ย ผีเหรียญ 'คนขวัญเเหลว' l อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568 ]

จะเป็นอย่างไร ถ้านาน ๆ ทีจะได้กลับบ้านเกิด แต่ดันได้เจอกับ “คนที่ไม่อยู่แล้ว” แบบไม่รู้ตัว!? เรื่องนี้ ‘คุณเต้ย ผีเหรียญ‘ ได้นำมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (25 กุมภาพันธ์ 2568) เมื่อเล่าจบทั้ง ’ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม‘ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพีคสุด! ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย! ‘คุณเต้ย ผีเหรียญ’ เล่าว่าเจ้าของเรื่องคือ ‘คุณเม่น’ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2567 เมื่อ คุณเม่น เดินทางกลับมายังบ้านเกิด หลังจากทำงานขุดเจาะน้ำมันในต่างประเทศเป็นเวลานาน การเดินทางกลับล่าช้าไปมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิดในช่วงก่อนหน้านั้น เมื่อกลับถึงบ้านในจังหวัดทางภาคเหนือ ทางบ้านของคุณเม่นได้จัด ‘พิธีฮ้องขวัญ’ หรือ ‘สู่ขวัญ’ ตามประเพณีท้องถิ่น โดยหมอทำขวัญทางภาคเหนือจะเรียกกันว่า ‘หมอมด’ (หมอมด หรือหมอทำขวัญ หรือหมอพื้นบ้าน ที่ทำหน้าที่ประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ เช่น พิธีสู่ขวัญ (ฮ้องขวัญ) เพื่อเรียกขวัญให้กลับมาอยู่กับร่างกาย หรือทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวคน) โดยเขาได้เตือนคุณเม่นว่า ให้ระวังตัวเพราะว่าตอนนั้นอายุของคุณเม่นอยู่ในช่วงเบญเพสพอดี อีกทั้งยังกล่าวว่าคุณเม่นเป็น คนขวัญแหลว หรือ ขวัญอ่อน อาจถูกสิ่งไม่ดีรังควานได้ หลังจากทำพิธีผ่านไป 1 วัน คุณเม่นออกเดินทางไปเยี่ยมญาติ พร้อมนำของฝากไปมอบให้แต่ละบ้าน จนกระทั่งไปถึงบ้านหลังสุดท้าย ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ‘พี่ตาล’ พี่ชายที่เคยสนิทกันมากในวัยเด็ก แต่ด้วยปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ใหญ่ในครอบครัว ทำให้พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปี ด้วยความคิดถึง เม่นจึงตัดสินใจไปหาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เนื่องจากขาดการติดต่อไปเป็นเวลานาน เลยทำให้ไม่มีช่องทางการติดต่อ เมื่อไปถึงหน้าบ้านพี่ตาล เวลาราว 6 โมงเย็น บริเวณรอบบ้านเปลี่ยนแปลงไปมาก จากพื้นที่ว่างเปล่ากลายเป็นบ้านเรียงราย และประตูหน้าบ้านของพี่ตาลถูกคล้องโซ่ปิดไว้ คุณเม่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจกลับ ทันใดนั้น เสียงเรียกดังขึ้นจากในบ้าน “ใครมา?” เสียงนั้นเป็นของ ‘ยายไทย’ ยายของพี่ตาล คุณเม่นจึงตอบกลับไปว่าเขามาหาพี่ตาล ยายไทยกล่าวว่า “ตาลยังไม่กลับบ้าน” ก่อนจะชวนคุณเม่นเข้าไปนั่งรอในบ้าน ทั้งสองพูดคุยกันเกือบสิบนาที แต่พี่ตาลก็ยังไม่กลับมา เวลานั้น ฟ้าเริ่มมืด คุณเม่นจึงขอตัวกลับก่อน ขณะที่กำลังเดินออกไป เสียงตะโกนโวยวายก็ดังขึ้นจากข้างบ้าน “ใครน่ะ!? เข้ามาทำอะไรบ้านคนอื่น!?” คุณเม่นหันไปตามเสียง ก็พบ อาม่าท่านหนึ่ง เดินถือไม้เท้า ขากะเผลกแล้วพูดว่า “บ้านนี้มีแต่อาตาลคนเดียว! ซี้ซั้ว! ขโมย! ขโมยขึ้นบ้าน!” คุณเม่นพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนอาม่าจะไม่ฟัง กลับตะโกนโวยวายเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ เวลานั้นฟ้ามืดสนิทแล้ว คุณเม่นกลัวว่าชาวบ้านจะเข้าใจผิด จึงรีบวิ่งออกจากบ้านไปขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านทันที เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณเม่นพบว่าพ่อและแม่แต่งกายด้วยชุดดำ กำลังจะออกไปงานศพที่หมู่บ้านข้าง ๆ เขาจึงยังไม่ได้เล่าเรื่องที่เพิ่งพบเจอ จนกระทั่งสามทุ่มกว่า พ่อแม่กลับมาถึงบ้าน คุณเม่นจึงตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ทันทีที่พูดจบ แม่ของคุณเม่นกลับมีสีหน้าตกใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ยายไทยเสียไปนานแล้วนะ…” คำพูดนั้นทำให้คุณเม่นขนลุกไปทั้งตัว “เป็นไปไม่ได้… ผมเพิ่งคุยกับท่านมา!” พ่อของคุณเม่นได้เดินเข้ามาสมทบ และยืนยันว่าจริง “ยายไทยเสียไปตั้งแต่ช่วงโควิด ตอนที่ลูกยังอยู่ต่างประเทศ” แม้จะมีการส่งข่าวไป แต่ด้วยความวุ่นวายในช่วงนั้น ทำให้เขาอาจลืมไปแล้ว เขาพยายามคิดทบทวนถึงสิ่งที่ได้ยิน แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ตกลงแล้ว…เขาเจอผีจริง ๆ ใช่ไหม? เมื่อพ่อแม่ยืนยันเรื่องการเสียชีวิตของยายไทย รวมถึงสิ่งที่เขาได้พบเจอ มันทำให้เม่นแน่ใจว่านี่คือ ครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับวิญญาณแบบเต็ม ๆ โดยไม่รู้ตัว พ่อแม่พยายามปลอบใจ บอกว่า “ท่านคงคิดถึง เพราะเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เด็ก” พร้อมกำชับให้คุณเม่นไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ยายไทย เช้าวันรุ่งขึ้น คุณเม่นไปทำบุญตามที่พ่อแม่แนะนำ และความหวาดกลัวก็เริ่มผ่อนคลายลง กลายเป็นเพียงความคิดถึง ตกเย็น พ่อแม่ชวนเม่นไปงานศพของเพื่อนบ้านเก่าสมัยเด็ก ๆ เม่นรับปากและเดินทางไปด้วยกัน เมื่อไปถึงศาลา เขากำลังจะเดินไปไหว้ศพ แต่แล้วภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เข่าทรุดลงแทบจะล้มทั้งยืน ในกรอบรูปของผู้เสียชีวิต คือใบหน้าของอาม่าที่ไล่เขาเมื่อวาน! เม่นพยายามตั้งสติ ก่อนจะสอบถามข้อมูลจากลูกหลานของอาม่าและได้ทราบว่า อาม่าเพิ่งเสียจากอาการหัวใจวายเมื่อสองวันก่อน ที่สำคัญ ลูกหลานยังบอกว่า “อาม่าขาไม่ค่อยดี เวลาจะเดินไปไหนต้องใช้ไม้เท้าพยุง” ทุกอย่างตรงกับสิ่งที่เขาเห็นไม่มีผิด… เท่ากับว่าเย็นวันนั้น คุณเม่นได้คุยกับวิญญาณถึง 2 ดวงในวันเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัวว่านั่นไม่ใช่คน ซึ่งเขาก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะเขาขวัญแหลวแบบที่หมอมดบอก จนทำให้เขาสื่อสารกับดวงวิญญาณได้(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แฟนหนูเขาชอบแสดงความรักโดยการ เอาเอวมาถูที่ตัวหนู แล้วกะยึกๆน้องชายเขาให้มันขยับกะยึกๆ ความรู้สึกหนูเหมือนมีหนอนมาดุ๊กดิ๊กๆใส่เรา บอกไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่แฟนก็ยังแกล้งทำอยู่ จะทำยังไงให้แฟนไม่กะยึกๆน้องชายใส่เราดีคะ

17 มี.ค. 2025

แฟนหนูเขาชอบแสดงความรักโดยการ เอาเอวมาถูที่ตัวหนู แล้วกะยึกๆน้องชายเขาให้มันขยับกะยึกๆ ความรู้สึกหนูเหมือนมีหนอนมาดุ๊กดิ๊กๆใส่เรา บอกไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่แฟนก็ยังแกล้งทำอยู่ จะทำยังไงให้แฟนไม่กะยึกๆน้องชายใส่เราดีคะ

“คุณเเตง (นามสมมุติ)” อายุ 36 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจอ๋อง - ดีเจพี่อ้อย” เกี่ยวกับปัญหาพฤติกรรมการเเสดงความรักของเเฟนเเบบเเปลกๆ โดย “คุณเเตง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบเเฟนคนนี้มา 4 ปี จะ 5 ปีแล้ว อยู่ด้วยกันก็อบอุ่น ละมุนละไม บอกรัก น่ารักกันมากๆ แต่พอเราอยู่ด้วยกัน เผยตัวตนของกันและกัน หนูเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการเเสดงความรักของเขา ซึ่งวิธีการเเสดงความรักของคนปกติก็อาจจะกอดกัน หอมกัน หวานๆ เเต่ของเเฟนหนูมันค่อนข้างจะทุเรศ คือเขาจะวิ่งมากอดเเล้วเอาขามาก่ายตัวหนู ประเด็นคือเวลาเขาทำเเบบนั้น น้องเจลลี่เเบร์เขา(อวัยวะเพศ) จะมาโดนที่ขาเรา ถ้าเเค่โดนเฉยๆแล้วมันนิ่งหนูก็จะโอเคกับมัน เเต่มันไม่นิ่ง เพราะเเฟนหนูเขาจะทำให้มันกะยึกๆมาชนสะโพก ชนขาเรา หนูรู้สึกได้ว่าเขากำลังขมิบ หนูก็รู้สึกรำคาญเหมือนโดนหนอนนุ่มๆมาอยู่ตรงขาเรา บางทีหนูก็คิดว่าเเค่กอดกันเเบบปกติไม่ได้หรอ เเล้วเขาก็ไม่เคยที่จะหยุดทำเลย ไม่ว่าจะนอนกอดท่าไหน หรือหนูนั่งตัก ถึงเขาจะไม่ได้ทำเเบบนี้ทุกที่ เเต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เเบบ Feel good ต่อกันเขาก็จะทำเเบบนี้ และจะจบด้วยการที่หนูด่าเขา หรือบางทีเคยจับมือกันแล้วบอกให้หยุด พอแล้ว พอนะ! แต่เขาจะรีแอคแบบยิ้มๆ แล้วพูดว่า นั่นไม่ใช่เรา อยู่ตลอดเลย เคยมีครั้งหนึ่งโมโหมากๆ หนูก็ฟาดไปที่เป้าเขาเลย แล้วเขาก็จบ หนูสงสารเขา แต่หนูก็ว่าเขาสมควรแล้ว เหมือนเขาดูภูมิใจทุกครั้งที่ทำให้หนูโมโหได้ด้วยสิ่งนี้ หนูเลยคิดว่านี่มันเป็นนิสัยปกติของเธอแล้วใช่มั้ย มันหนักถึงขั้นทำให้หนูรู้สึกอยากเลิกกับเขาเลย เพราะบางครั้งที่หนูทำงานมาเหนื่อยๆก็เเค่อยากได้กอดธรรมดาๆ ไม่อยากให้เขามาทำแบบนี้ เเต่เขาก็ยังทำ แล้วเขาเหมือนทำว่ามันเป็นเรื่องตลก เรื่องขำๆอยู่ตลอด พอหนูบอกเขา ด่าเขา เขาก็จะสลด แล้วหยุดไปแปปนึง เเล้วสักพักก็กลับมาทำอีก เพราะเขารู้สึกว่าเรื่องแค่นี้มันอาจจะไม่ได้ทำให้เราเลิกกัน ส่วนตัวก็แอบคิดในใจว่าเรื่องติ๊งต๊องแบบนี้จะทำให้เราเลิกกันจริงๆหรอ แต่มันก็ทำให้รู้สึกรำคาญได้จริงๆ หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า เเฟนหนูเขาเป็นโรคจิตรึป่าวคะ? ผู้ชายรู้สึกดีที่ได้ทำเเบบนี้หรอคะ แล้วทำยังไงเขาถึงจะหยุด?’ เริ่มที่ “ดีเจพี่อ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่รู้สึกว่าการที่หนูไปตีเขา มันทำให้รู้สึกว่า ยิ่งเธอไม่ชอบ ฉันยิ่งอยากที่จะเเกล้ง พี่เลยคิดว่าภาษารักคนเราอาจจะต่างกัน เเต่ถ้าสมมุติในวันหนึ่งเขาไม่ได้ทำเเบบนี้กับเราเเล้ว เขาไปมีความสุขกับสิ่งอื่น เเตงก็อาจจะคิดว่าทำไมเขาถึงไม่ได้คลั่งไคล้เราเท่าเมื่อก่อนเเล้ว ซึ่งถ้าเขาทำเเบบนี้ในพื้นที่ส่วนตัว ไม่ได้ทำต่อหน้าคนอื่นเเบบนี้ก็ยังโอเคเเต่ถ้าเขาทำต่อหน้าเพื่อนเรา อันนี้ก็จะเหมือนเขาไม่ให้เกียรติเราเลย เพราะงั้นคบกันมา 4 ปี เเล้วก็ควรที่จะพูดคุยกันให้เยอะมากขึ้นว่าต้องการเเบบไหน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าปัญหาของเเตง ถ้านำไปเล่าให้คนอื่นฟัง ก็อาจจะมีคนที่อิจฉา เพราะเขาอาจจะอยากได้เเฟนที่ขี้ๆเล่นเเบบนี้ เเละการที่มีคู่ไหนที่จะเลิกกันด้วยเหตุผลเล็กๆ ผมเชื่อว่าคู่นั้นอาจจะสื่อสารกันไม่มากพอ เพราะงั้นพี่เลยคิดว่าอาจจะให้เเตงบอกเขาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าเเตงต้องการอะไรหรือไม่ชอบอะไร’ เเละสุดท้าย “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ฉันว่าเธอโทรมาไม่ได้เหมือนมาปรึกษาเเต่เหมือนมาอวด เพราะฉันอิจฉาเธอมาก เเต่อ๋องจะบอกคุณเเตงว่าที่คุณเเตงบอกอยากเลิกเพราะเรื่องนี้ ถึงมันจะเป็นเหตุผลที่เล็กน้อยเเค่ไหนเเต่มันทำให้เรารู้สึกไม่ได้ คุณเเตงก็อาจจะต้องพูดออกไปตรงๆกับเเฟนเลย ลองเปิดใจคุยกันเเบบอาจจะไม่ต้องถึงขั้นซีเรียส เเต่เป็นการเเชร์มุมมองกัน เเต่สุดท้ายอ๋องก็คิดว่าถ้าเขาเเสดงออกเเบบนี้อาจจะเเปลว่าเขารักเราจริงๆ สุดท้ายก็อยู่ที่การพูดคุยกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก รู้เหตุผลมาจากเพื่อนของเขาอีกที เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ ไม่ค่อยถามเขาว่าเหนื่อยไหม? ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน หนูก็ให้ความรักเขาเต็มที่แล้ว ปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้อยากเดินหน้าง้อเขากลับมาในความสัมพันธ์เดิม

17 มี.ค. 2025

หนูเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก รู้เหตุผลมาจากเพื่อนของเขาอีกที เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ ไม่ค่อยถามเขาว่าเหนื่อยไหม? ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน หนูก็ให้ความรักเขาเต็มที่แล้ว ปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้อยากเดินหน้าง้อเขากลับมาในความสัมพันธ์เดิม

หนูเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก รู้เหตุผลมาจากเพื่อนของเขาอีกที เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ไม่ค่อยถามเขาว่าเหนื่อยไหม? ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน หนูก็ให้ความรักเขาเต็มที่แล้ว ปกติดีทุกอย่างตอนนี้อยากเดินหน้าง้อเขากลับมาในความสัมพันธ์เดิม แต่เขาไม่เปิดใจให้เราเข้าไปเลย “คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจอ๋อง – ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนบอกเลิก เพราะเรื่องไม่ค่อยใส่ใจเขาพูดกับเพื่อนว่า เราไม่ดูแล ไม่ถามเขาว่าเหนื่อยมั้ย? โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูเพิ่งรู้สาเหตุที่เลิกกับแฟน คือแฟนเพิ่งบอกเลิกเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ตลอดเวลาที่คบกัน เขาเป็นคนที่สม่ำเสมอมาก ช่วงก่อนเลิกกัน แฟนขายของออนไลน์กับหนู ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกันตลอด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน แต่วันหนึ่งเราคุยกันว่า รายได้ที่มีอยู่ตอนนี้พอหารสองแล้วไม่พอใช้ แฟนก็เลยกลับไปทำงานกับที่บ้าน แล้วทางบ้านแฟนก็ไปเคลียร์ที่เพื่อทำสวน ทำธุรกิจที่ต่างจังหวัดเพิ่มเติม เลยทำให้แฟนต้องเดินทางไป - กลับ 2 – 3 วันกลับมาที่ หรือมาหาดึก แต่ตอนเช้าต้องเดินทางต่อ ระหว่างนั้นทุกครั้งที่เขากลับมา เขาก็ยังมารับและไปส่งเราตอนเช้าเหมือนเดิม มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม จนวันหนึ่ง เขาก็มาบอกว่าขอไม่ไปรับเพราะรู้สึกเหนื่อย ถึงแม้เราจะน้อยใจ แต่ก็เข้าใจ และบอกเขาว่าไม่โกรธ ทำให้ 1-2 สัปดาห์ก่อนเลิกกัน เราไม่ได้เจอกันเลย แต่ยังคุยกันผ่านแชทและโทรหากันตลอด จนวันที่เราเลิกกัน วันนั้นหนูไปมูกับเพื่อน แล้วแฟนกลับมาพอดี เราก็เลยคุยกันว่า เดี๋ยววันนี้เค้าไปหานะ จะไปนอนที่บ้านเธอ หนูมาถึงบ้านเขาก่อน ซึ่งระหว่างทางก็คุยกันปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เขายังถ่ายรูป ส่งรายงานหนูตลอด พอเขามาถึง เขากลับบ่นว่าโทรหาแล้วหนูไม่รับ ทำให้เขาเข้าบ้านไม่ได้ ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านั้นโทรศัพท์หนูตกจนหน้าจอแตก ทำให้บางครั้งสายที่โทรเข้ามา มันก็ไม่แจ้งเตือน แล้วพอเขาเข้าไปในบ้าน เขาก็มานอนนิ่ง ๆ บนพื้น ดูเหนื่อยมาก หนูเลยปล่อยให้เขานอนไปก่อน แต่หนูก็สังเกตเห็นว่าเขาทำหน้าแปลก ๆ เลยถามว่าเธอเป็นอะไร? ตอนแรกเขาบอกว่าไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ แต่หนูดูออกว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เลยถามเขาไปอีกว่าเป็นอะไร? แต่สุดท้ายเขาก็ยอมพูดว่า เขานอนมานานแล้ว ทำไมหนูไม่ถามเขาเลยว่าเหนื่อยไหม เป็นยังไงบ้าง? หนูก็พยายามง้อ แต่เขาเงียบ ไม่พูดอะไร และสีหน้าดูแปลกไป ตลอด 4 ปีที่คบกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย แล้วอยู่ ๆ เขาก็ร้องไห้ และบอกว่า เขารู้สึกว่าตัวเองทำตามแผนที่เราคุยกันไว้ไม่ได้ เขาไม่พร้อม ไม่รู้เลยว่าถ้าย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วชีวิตจะเป็นยังไงต่อ ซึ่งช่วงต้นปีใหม่ เขาอยากให้หนูไปต่างจังหวัดด้วย แต่ความคิด ณ ตอนนั้น คือด้วยความที่หนูขายของอยู่ที่นี่ ฐานลูกค้าหนูอยู่ที่นี่ หนูก็เลยกลัวว่ามันจะเกิดปัญหาตามมา ถ้าจะไปอยู่ที่นู้น แล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ พ่อแม่หนูเขาก็เป็นห่วง แต่เขาก็ไม่ได้ห้าม เขาบอกว่า ถ้าสุดท้ายเราจะอยู่กับเขา เขาเชื่อว่าเราโตแล้ว เราตัดสินใจได้ แก้ปัญหาได้อยู่แล้ว ถ้าอยากจะไปก็ไป หนูก็บอกเขาว่า ถ้าหนูไป เป็นไปได้ก็อยากทำอะไรให้มันถูกต้องก่อน เหมือนเขาเก็บเรื่องนี้เอาไปคิด แล้วเขาก็มาพูดกับเราแบบนั้น หนูก็บอกเขาว่า แผนมันเปลี่ยนได้นะ คือหนูคิดไว้อยู่แล้วว่าในอนาคตหนูก็คงไป แต่หนูก็ไม่เคยบอกเขาว่าหนูคิดจะไป หลังจากเลิกกัน 2-3 วัน หนูก็ไปถามเพื่อนเขาว่าเขาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น เพราะเหตุผลที่เขาบอกหนูมันดูไม่ค่อยเมคเซ้นต์ แต่หนูก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องที่เขามีคนอื่น เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นแฟนที่ดีมาก ไม่เคยมีเรื่องปิดบังเลย อยู่กับหนูตลอดเวลา ใส่ใจตลอดเวลา ไม่มีเรื่องผู้หญิงเลย หนูก็สงสัยว่ามันคงมีเหตุผลอื่นแหละ แล้วเพื่อนเขาก็เลยบอกว่า แฟนหนูก็ไปพูดว่ามันมีเรื่องนิสัยของหนูที่เขาไม่โอเค บางเรื่องเขาก็พูดนะ แต่บางเรื่องส่วนใหญ่เขาผิดเองที่ไม่ได้พูด หลักๆคือเขาบอกว่าหนูไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยเทคแคร์เขา ซึ่งจริง ๆ ที่ผ่านมาหนูมองว่าหนูเทคแคร์แล้ว แต่หนูก็เข้าใจว่าภาษารักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การแสดงออกของหนู คือหนูให้เวลาเขา เวลามีอะไรเขาเป็นที่หนึ่งตลอด หนูทำอะไรคล้ายๆเขา ก็เลยคิดว่าที่ผ่านมามันดีมากตลอด ส่วนเรื่องนิสัยหนูเป็นคนพูดห้วน ๆ ไม่ค่อยอ้อน ในขณะที่แฟนเด็กกว่า จะมีความอ้อน บางครั้งเขาทำอะไรที่ทำตามอารมณ์มากกว่า และต้องการการดูแลมากกว่านี้ ผิดกับหนูที่หนูเป็นคนชอบวางแผน ชอบเตือนแฟนว่า ถ้าเธอทำแบบนี้ เกิดเหตุการณ์แบบนี้เธอจะทำยังไง? เหมือนเรายกตัวอย่างให้เขาฟัง แล้วเขาจะคิดว่าเราชอบคิดในแง่ร้ายไปก่อน ตอนที่หนูไปง้อ เขาบอกว่าเขาพอแล้ว และเขาไม่ได้รู้สึกรักหนูเหมือนเมื่อก่อน แต่ค่าใช้จ่ายที่เราหารกันปัจจุบัน รายรับ - รายจ่าย - รายได้ เรายังหารกันเหมือนเดิม แต่เขาบอกว่าเขาจะแบ่งให้แค่ช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งหนูคิดว่าถ้าเรากลับมาคบกัน ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว หนูรู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร แล้วข้อเสียของหนูที่เขาไม่ชอบมันคืออะไร ที่ผ่านมาหนูก็เชื่อว่าหนูสามารถทำได้ เพราะหนูก็เคยเป็นคนแบบนั้นมาก่อน ทั้งขี้อ้อน พูดจาดี แต่พอเราโตขึ้น อะไรหลายๆอย่างมันทำให้หนูแข็งขึ้น แต่หนูอาจจะแข็งมากเกินไป หนูก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและแคร์เขามากขึ้น แต่ตอนนี้เขาใจแข็งมาก เขามองว่าเราเปลี่ยนนิสัยตรงนี้ไม่ได้หรอก หนูเลยอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจว่า หนูควรวางตัวยังไงคะ? หนูพร้อมที่จะเป็นคนที่แคร์เขามากขึ้น อยากให้เขาเชื่อว่าหนูทำได้ เปลี่ยนเพื่อเขาได้’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาโดนบอกเลิก ก็คงอยากทำทุกอย่างเพื่อง้อ เพื่อคืนดี ซึ่งเอมีสิทธิ์ง้อได้ แต่เขาจะคืนดีหรือเปล่าก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ ซึ่งตอนนี้เราพยายามหาเหตุผลทุกอย่างมาอธิบายการเลิกกัน ซึ่งพี่บอกเลยว่าเราไม่มีทางรู้หรอกว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร แต่เอาเป็นว่า เขาไม่ได้อยากคบหาเราแล้วตอนนี้ อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น คนเราเวลาทะเลาะกัน ถ้าอยากที่จะคบหากันอยู่ มันจะหาวิธีแก้ ไม่ได้หาวิธีเลิก แต่สิ่งที่คนทุ่มเทในการง้อใครสักคนต้องเจอ คือเจอรีแอคที่ทำร้ายจิตใจกันแบบสุด ๆ คนนึงหวังที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่อีกคนไม่เอาแล้ว การแสดงออกมันจะตรงกันข้ามกันเลย มันจะยิ่งทำให้เราเจ็บนะ ต้องยอมรับความจริง และรอด้วยความเจ็บพอสมควร’ ต่อมา “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เอต้องมีสติก่อน เพราะเขาพูดเองแล้วว่า เขาไม่รักเหมือนเดิม และกลับมาไม่ได้แล้ว นี่คือเคลียร์สุด ๆ เขาไม่ได้ต้องการเราในชีวิตอีกแล้ว พี่ว่าการปรับปรุงตัวเพื่อเขาอาจไม่เวิร์ค เพราะต่อให้เอเปลี่ยนยังไง เขาก็หมดรักไปแล้ว และคนหมดรักจะโทษเราแค่ไหนก็ได้ ถ้าถามพี่ เอควรมูฟออน หรือถ้ายังรักแล้วอยากง้อ ต้องตั้งลิมิตให้ตัวเอง แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ควรทำคือ รักตัวเอง ให้เวลาตัวเอง ตั้งสติ และก้าวออกมา’ สุดท้าย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ความเบื่อมันทำหน้าที่ทุกวัน เราต้องยอมรับ แต่ทำไมบางคนถึงรักกันได้นานเป็น 10 ปี? เพราะเขาคุยกัน มีอะไรบอกกัน แต่แฟนเอเลือกที่จะเงียบ แล้วไปพูดกับเพื่อนแทน มันแฟร์กับอีกคนไหม? แต่สิ่งที่พี่ห่วงตอนนี้คือ เอกำลังโทษตัวเองหมดทุกอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่ คนเลิกกันไม่มีใครต้องรับผิดชอบความผิดแต่เพียงผู้เดียว สิทธิ์ในการขอโทษเป็นของเอ สิทธิ์ในการให้อภัยเป็นของเขา แต่เออย่าด้อยค่าตัวเอง คุณค่าของเราอยู่ที่ตัวเราเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาเลือกหรือไม่เลือก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทำไมยังเป็นผมคนเดียวที่ Move on จากความรู้สึกแย่ๆนี้ไม่ได้สักที สงกรานต์ปีที่แล้ว แฟนเราไปนัวกับเพื่อนเรา 3 คนพร้อมกันในห้องน้ำ เหตุการณ์วันนั้นรู้เห็นกันเป็น 10 คน แต่ปิดปากเงียบไม่พูดกันเลยสักคน จนเราต้องไล่ถามทีละคนถึงรู้ความจริง

14 มี.ค. 2025

ทำไมยังเป็นผมคนเดียวที่ Move on จากความรู้สึกแย่ๆนี้ไม่ได้สักที สงกรานต์ปีที่แล้ว แฟนเราไปนัวกับเพื่อนเรา 3 คนพร้อมกันในห้องน้ำ เหตุการณ์วันนั้นรู้เห็นกันเป็น 10 คน แต่ปิดปากเงียบไม่พูดกันเลยสักคน จนเราต้องไล่ถามทีละคนถึงรู้ความจริง

ทำไมยังเป็นผมคนเดียวที่ Move on จากความรู้สึกแย่ๆนี้ไม่ได้สักทีสงกรานต์ปีที่แล้ว จับได้ว่าแฟนเรา ไปนัวกับเพื่อนเรา 3 คนพร้อมกันในห้องน้ำแล้วมีเพื่อนอีกคนช่วยดูต้นทาง เหตุการณ์วันนั้นรู้เห็นกันเป็น 10 คนแต่ปิดปากเงียบไม่พูดกันเลยสักคน จนเราต้องไล่ถามทีละคนถึงรู้ความจริง“คุณไอ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนแอบไปมีอะไรกับเพื่อนของเราโดย “คุณไอ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมคบกับแฟนผู้ชายมา 4 ปีแล้วครับ พวกเราเป็นคนต่างจังหวัดที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ช่วงสองปีแรกทุกอย่างเป็นปกติดี แต่หลังจากนั้น แฟนเริ่มอยากให้มี “คนที่สาม” เข้ามามีอะไรกัน ซึ่งผมไม่โอเคเลย ทำให้เราทะเลาะกันหนัก จนถึงขั้นที่เขาบอกเลิกผม ผมพยายามเจรจาแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลก็เลยยอมตอบตกลง เพราะอยากให้เขามีความสุข จากนั้นมาเราคบกันต่อ และเป็นแบบนั้นอยู่ประมาณ 3 - 4 ครั้ง นอกเหนือจากนี้เขาก็มีเปลี่ยนมู้ดบ้าง ไปเล่นเว็บแคมผู้ใหญ่จนถึงช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ผมพาแฟนกลับบ้านเกิดเป็นครั้งแรก และแนะนำให้เขารู้จักกับเพื่อน ๆ สมัยมัธยมที่รวมตัวกัน พวกเราฉลองสงกรานต์กันที่บ้าน ฟีลเหมือนถนนข้าวสาร มีซุ้ม แล้วก็มีการกินเหล้าจนเมา ไม่ได้สติกันทั้งคู่ แล้วก็ภาพตัดไปตื่นเช้าวันที่ 2 ผมพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงแรมกับแฟน จำอะไรไม่ได้เลย เสื้อผ้าขาดหมด ในขณะที่เรากำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงแรม แฟนพูดขึ้นมาว่า “อยากพาเพื่อนของผมมาทำอะไรด้วยกัน” ซึ่งทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะแฟนไม่เคยพูดถึงเพื่อนคนนี้มาก่อน ผมเลยถามว่าทำไมถึงอยากชวนเพื่อนคนนี้ เขาบอกว่าเพื่อนคนนั้น (นามสมมุติ “A”) ทักมาหาเขาผ่านแอปพลิเคชันซึ่งในวันที่ 2 ก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ กับบ้านแฟน เล่นน้ำกับแฟน และในช่วงเย็นของวันนั้น ผมได้รับข้อความจากเพื่อนอีกคน (นามสมมุติ “C”) ส่งมาบอกว่า “ดูแลแฟนตัวเองดีๆ นะ” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นจนวันสงกรานต์วันสุดท้าย ผมแยกกับแฟนและกลับมาที่บ้านเกิดคนเดียว ได้กลับมาเจอเพื่อนกลุ่มเดิมที่เล่นน้ำด้วยกันวันแรก และมีโอกาสเจอ A ผมเลยถามว่า “วันนั้นทักไปหาแฟนเราทำไมหรอ?” A กลับตอบว่า “เราไม่ได้เป็นคนทัก แฟนเธอเป็นคนขอคอนแทคเราเอง แล้วก็ชวนเรากลับห้อง”A ยังบอกอีกว่า จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ทำอะไร แต่เพื่อนอีกคน (นามสมมุติ “B”) เป็นคนลากแฟนผมเข้าไปในห้องน้ำ และ A เป็นคนยืนดูต้นทาง ซึ่งทำให้ผมช็อกหนักมากผมพยายามหาตัว B แล้วเดินไปถามตรงๆ ว่า “วันนั้นเธอทำอะไรกับแฟนเรา?” B ตอบว่า “อุ้ย เราเมามาก จำอะไรไม่ได้ แต่เธออย่าโกรธเรานะ ” ซึ่งทำให้ผมยิ่งงงว่า ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็พยายามทำตัวปกติเพื่อที่ให้ทุกคนไม่ช็อตฟีล และเล่นน้ำด้วยกันจนจบเทศกาลเพื่อที่จะเก็บของกลับสู่สภาวะปกติ และไม่ได้เลือกที่จะโทรไปเคลียกับแฟนในวันนั้นเพราะมันดึกแล้วหลังจากสงกรานต์จบ ผมยังคงรู้สึกติดใจ จึงติดต่อหา C ที่เคยเตือนผมวันนั้น ผมถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้น?” C เล่าให้ฟังว่า คืนที่ผมเมาหลับอยู่ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงซุ้มที่เราเล่นน้ำกัน A เดินเข้ามาดึงแฟนผมไปจูบกัน ซึ่ง C แอบถ่ายคลิปไว้ซึ่งในคลิป B เขาได้เดินเข้ามาเห็น A ทำอะไรกับแฟนเราอยู่ A ก็เลยผลัก B เข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็คอยยืนดูต้นทางให้ นอกเหนือจากนั้นมีเพื่อนอีกคน (นามสมมุติ “D”) ตามเข้าไปในห้องน้ำด้วย ซึ่งทั้ง 3 คนหายเข้าไปในห้องน้ำนานมากพอทุกคนออกจากห้องน้ำกันหมด C จึงเดินมาปลุกผม พอผมเริ่มรู้สึกตัว แต่แฟนผมหายตัวไป ทุกคนเลยช่วยกันหา จนเจอว่าเขากำลังจะขึ้นรถไปกับ A เพื่อนๆ ต้องรีบดึงตัวเขากลับมา แล้วพาผมกลับโรงแรมซึ่งพอได้ฟังถึงตรงนี้ ผมรู้สึกสับสนมาก เลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 10 กว่าคนได้ ซึ่งหลาย ๆ คนเขารู้เรื่องนี้กันแต่ไม่มีใครบอกผมเลย แล้วทุกคนเล่าเรื่องนี้ในทิศทางเดียวกันหมดเลยว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไรบ้างผมเลยตัดสินใจคุยกับแฟนตามตรงว่า เธอเล่าในมุมเธอบ้างให้ฟังได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขายอมรับว่า “มีสติ 50-50” แต่ไม่กล้าเล่าทั้งหมด เพราะกลัวผมโกรธ หลังจากนั้น ผมรู้สึกเหมือนมองหน้าเขาไม่ติดไปเป็นสัปดาห์ จนแฟนเริ่มอึดอัด และพูดว่า “ถ้าเกิดว่าเราใช้เวลาทำใจนานเกินไป เขาจะรู้สึกรักเราน้อยลงและอยากเลิกกับเรานะ”และคืนนั้นเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อน ปล่อยให้ผมอยู่ห้องคนเดียว ผมเลยนั่งเล่นโซเชียลและเปิดเว็บแคมตามปกติ อยู่ ๆ เขาก็เข้ามาเช็กผ่านเว็บแคม และทักทำนองว่า “หึงหวง”เราอยู่ ถามเราว่า ทำไมยังไปเล่นอะไรแบบนั้นอยู่ ตอนนั้นผมฟิวขาด เลยตอบกลับไปว่า “เธอจะมาหวงอะไร ทั้งๆ ที่ตัวเองทำเรื่องแย่กว่านั้นไปแล้ว”สุดท้ายเราตัดสินใจเลิกกัน เขากลับมาเก็บของและแยกทางกัน โดยปัจจุบันผมโสด และไม่ได้เจอเขามาเกือบปีแล้ว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า เหมือนทุกคนดูเหมือนจะมูฟออนกันหมด ยกเว้นผมที่ยังเดินหน้าถอยหลังอยู่ตรงนี้ มันรู้สึกแย่ที่เรารู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้าย และรู้สึกดาวน์มาก เลยอยากจะปรึกษาพี่ ๆ ว่า จากเรื่องทั้งหมดผมต้องปรับปรุงตัวอะไรบ้างไหมครับ ผมอยากได้วิธีการแก้ไขปัญหา หรือมุมมอง แง่คิด จากพี่ ๆ เพื่อเอามาปรับใช้กับสถานการณ์ที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้’เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ออกไปมีสังคมที่ดีกว่านี้ คบหาคนที่ดีกว่านี้ ทั้งแฟนทั้งเพื่อน แล้วการที่ไอยังอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ ใครฟังก็ต้องรู้สึกกลัวในสิ่งที่คนกลุ่มนี้ทำ มันรุนแรงถึงขั้นแจ้งความได้เลยนะ แต่ทุกคนดูไม่ได้เดือดร้อนอะไร แม้แต่แฟนของไอเอง แต่กลับเป็นไอที่มานั่งตั้งคำถามว่าเราต้องปรับนิสัยอะไรไหมนะ พี่ว่าเราอยู่สังคมแบบไหนเราคบเพื่อนแบบไหน มันก็จะพาเราไปสู่ชีวิตแบบนั้น เลือกเพื่อนให้ดีครับ’ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าสิ่งที่ไอตัดสินใจก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ในการที่จะแยกออกมา พี่ว่าไม่ต้องตั้งคำถามตั้งแต่เขามาละเมิดกฏแล้วหล่ะ การที่เราไม่ได้แฮปปี้ที่จะมีอะไรกัน 3 คน แต่เรารักเขาจนเรายอมปรับในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ นั่นก็คือเราทำเพื่อชีวิตคู่มากแล้ว เพราะฉนั้น พี่ว่านี่มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่เราเลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวิต แล้วไอก็แค่มีความสุขกับตัวเอง เพื่อวันนึงได้ไปเจอคนใหม่ที่เขามีคอนต์เซปในการใช้ชีวิตอยู่เหมือนกัน’สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไอโชคดีแล้ว เพราะแฟนเราและเพื่อนคนนี้ศีลเสมอกัน คือ เลวได้ทั้งกลุ่ม ไม่ได้เหมาะกับเราเลย แล้ววิธีแก้ปัญหาคือ ไปหาสังคมที่ใช่สำหรับเรา พี่เชื่อว่าสังคมดี ๆ มันมีเยอะมาก ไอสามารถมูฟออนได้เลยเพราะเราอยู่ในจุดที่พ้นน้ำแล้ว เราต่ำตมไม่พอที่จะให้เขาได้รับความเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทุกครั้งที่ผมมีแฟน ผมรักแฟนของผมมาก แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะนัดไปมีอะไรกับคนอื่น โดยที่แฟนไม่รู้เลย เพราะผมคิดว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่ผิดรึเปล่า แต่ทุกคนที่ผมนอนกับเขาผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะผมรักแฟนของผมคนเดียว

13 มี.ค. 2025

ทุกครั้งที่ผมมีแฟน ผมรักแฟนของผมมาก แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะนัดไปมีอะไรกับคนอื่น โดยที่แฟนไม่รู้เลย เพราะผมคิดว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่ผิดรึเปล่า แต่ทุกคนที่ผมนอนกับเขาผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะผมรักแฟนของผมคนเดียว

ทุกครั้งที่ผมมีแฟน ผมรักแฟนของผมมาก แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะนัดไปมีอะไรกับคนอื่นโดยที่แฟนไม่รู้เลย เพราะผมคิดว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่ผิดรึเปล่าแต่ทุกคนที่ผมนอนกับเขาผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเพราะผมรักแฟนของผมคนเดียว อยากหยุดพฤติกรรมนี้ ควรจะเริ่มจากอะไรดีครับ? “คุณนัท (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มีนาคม 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจอ๋อง – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหามีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังไปมีอะไรกับคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส โดย “คุณนัท (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ตั้งแต่แฟนคนแรก ก็เป็นแฟนที่ผมรักมาก เพราะมันเป็นรักแรก ทุกอย่างก็อาจจะจับผิด จับถูก แต่ทุกครั้งเลยที่ผมมีแฟน ถ้ามีโอกาสผมก็จะนัดเจอกับคนอื่นหรือว่ามีเซ็กส์กับคนอื่นทุกครั้ง ถ้าโดนจับได้ แล้วแฟนให้อภัย ผมก็ยังเลือกที่จะรักแฟนต่อ แต่แฟนคนแรกไม่ได้โชคดี เพราะเขารับไม่ได้เลยเลิกกันไป พอมาแฟนคนที่สอง ผมก็รักมาก ยังรู้สึก appreciate กับแฟนเสมอ แต่ทุกครั้งที่มีโอกาส ผมก็จะนัดกับคนอื่น ไม่ใช่แค่นัดมีเซ็กซ์อย่างเดียว แต่จะนัดเจอหาเพื่อนทานข้าว นัดแฮงค์เอ้าท์กัน แต่ว่าที่นัดกันไม่ใช่เพื่อนของผม ผมจะหาคนแปลกหน้าคนอื่น และเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ จนกระทั้งถึงแฟนคนปัจจุบัน ที่คบกันได้จะ 3 ปีแล้ว ช่วงแรกๆ ที่คุยกันเหมือนความสัมพันธ์มันยังไม่ชัดเจน เราก็รู้สึกฟรีสไตล์อยู่แล้ว จะเจอใครก็ได้ และตั้งแต่แฟนคนแรกจนถึงคนนี้ มันไม่เกี่ยวกับช่วงเวลา ถึงจะเป็นการจีบกันตั้งแต่เดือนแรกๆ ผมก็จะสามารถไปมีอะไรกับคนอื่นได้ ผมไม่มีช่วงโปรโมชั่นเลย ผมจะคุยกับเขาบอกฝันดี อะไรเสร็จ พอมีเวลา ผมก็จะไปดื่ม ไปกับคนอื่น ยกเว้นตอนคบกับแฟนคนแรก ผมยังรู้สึกแบบไม่กล้าทำ และจะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมลองทำ มันรู้สึกตื่นเต้น ตั้งแต่นั้นมามันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมทำแบบนั้น ทุกวันนี้ผมก็ยังอยู่กับแฟน เขาจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านเขากับคอนโดผม แฟนไม่รู้เลยว่าผมไปมีอะไรกับคนอื่น เขาก็เคยจับได้ 1 ครั้ง แล้วเขาก็ให้อภัย และอีก 1 ครั้ง คือเกือบจะจับได้ แต่ผมก็บอกไปว่านั้นเป็นเพื่อนผมจริงๆ เพราะตอนที่จับได้ตอนนั้นคือการไป แฮงค์เอ้าท์ แต่ตัวผมเวลาที่มีโอกาส ไม่ว่าแฟนจะกลับบ้านหรืออยู่ห่างกัน ผมก็จะมีเพื่อนที่แฮงค์เอ้าท์หรือว่ามีเซ็กส์กันได้ และก็ไม่ใช่คนเดิม เวลาที่ผมจะปรึกษาเพื่อน หรือคนรอบตัว เพื่อนก็จะเป็นสไตล์ประมาณว่า ไม่ได้เบลม ไม่ได้ห้ามอะไร ก็จะกลางๆ ผมเลยไม่ได้มองมุมอื่นว่าจะมีคนที่รู้สึกแบบนี้ไหม แล้วผมอยากรู้ว่า จะเริ่มจากอะไร ถ้าเราไม่อยากทำแบบนี้แล้ว แล้วเหตุผลอะไรที่เราต้องไม่ทำแล้ว การที่ผมเหงาแล้วนัดกับคนอื่นตลอด อยากเจอคนอื่น หรือว่ามีเซ็กส์ ผมรู้สึกว่าถ้าแฟนจับไม่ได้มันก็ดูไม่ได้มีอะไร ด้วยความที่ผมรู้ว่าเขาจะจับผมได้ด้วยอะไร และก็คำพูดอะไรที่เขาจะยอมใจอ่อน แต่ผมก็ยังไม่ได้นึกภาพวันนั้นว่าเขาจะจับได้ แล้วเลิกกับผมเลยหรือเปล่า แล้วเรื่องเซ็กส์กับแฟน แรกๆ มันก็บ่อย แต่พอมาหลังๆ ก็ยังมีอยู่ มันก็ไม่แย่ แฟนก็ไม่ได้รู้สึกว่าผมทำแย่ และผมก็ยังแฮปปี้ทุกครั้งที่มีอะไรกับเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้บ่อยครั้งเหมือนเมื่อก่อน ด้วยความที่แฟนผมก็งานยุ่ง ยิ่งตอนทำงานต่างคนก็ต่างยุ่ง คือ เลิกงานมามันก็เหนื่อย แต่ว่าบางครั้ง สมมติว่าผมไปเจอคนอื่นมาแล้ว หรือว่าไปทำกับคนอื่นมาแล้ว พอกลับมามันก็ไม่ได้อยากจะมีอะไรกับเขา เพราะว่าเราก็เหนื่อยแล้ว ซึ่งผมก็เปิดเผยตัวแฟนกับที่บ้านอยู่แล้ว คือผมก็อยากมีแฟน อยากไปไหนมาไหน แล้วมีแบบว่าคนนี้นะ คือแฟนเรา อะไรแบบนี้ และผมก็รักแฟนมาก เพราะทุกครั้งผมไม่เคยคิดที่จะหนีคนนี้ไปคบกับใคร ที่เคยไปเจอกันเลย ต้องบอกว่าจริงๆ ผมรู้สึกเหงาทุกครั้งที่อยู่คนเดียว เพราะมันก็จะมีบางอย่างที่ผมขาดไปในตอนเด็ก เรื่องปมในตอนเด็ก คือ ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนขี้น้อยใจ ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ซึ่งผมเป็นลูกคนเดียวที่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยง เนื่องจากช่วงที่ผมเกินเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี พ่อกับแม่ต้องทำงานหนักมาก ผมเป็นคนเดียวที่ถูกจ้างเลี้ยงและอยู่ห่างไกลจากคุณพ่อคุณแม่ แบบกินนอนอยู่กับคนที่เลี้ยง ทุกคนนี้ก็ยังติดต่อกับคนที่เลี้ยงผมอยู่และสนิทกับเขามาก แต่บางทีผมก็รู้สึกว่า ผมน้อยใจที่พอไปเปิดรูปตอนเด็กๆ จะมีรูปที่พ่อแม่อยู่กับพี่สาวพี่ชายทุกรูปเลย และตอนที่ผมเป็นเด็ก ก็ไม่มีรูปผมเลย ซึ่งน้อยมากๆ พอเทียบกับพี่สาวพี่ชาย เช่น ตอนที่พี่ๆ รับบัณฑิตจะมีรูปคู่ตลอด และคือ พี่สาวคนกลางเขาจะได้รับความเป็นห่วงจากครอบครัวมาก หรือว่าผมคิดไปเอง ผมก็ไม่แน่ใจ ซึ่งต่างจากผมเลย มันเป็นคนรู้สึกด้วยที่ตอนเด็กๆ ผมรู้ว่านี่คือ พ่อกับแม่นะ แต่ผมไม่ได้นอนกับพวกเขาเลย รู้แค่ว่าตอนเย็นเขาก็จะมารับผมกลับบ้าน มันเลยยังรู้สึกน้อยใจจนถึงทุกวันนี้ ผมก็พยายามคิดว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่พอมาจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังแอบรู้สึกว่า ถ้าสมมติว่าเขาจับได้ อาจจะไปกันไม่รอดแล้ว และตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเทศกาลไหนก็แล้วแต่ ผมจะโรแมนติกมาก ทำทุกอย่างให้เขา จากใจจริงๆ ไม่ใช่ทำเพื่อกลบความผิด แต่เวลาที่เขาไม่อยู่ เขากลับบ้านหลายวันอะไรแบบนี้ ผมก็ไม่อยากอยู่คนเดียว แต่ถ้าเกิดแฟนผมไปมีอะไรกับคนอื่น ผมว่าผมก็คงไม่โอเค แล้วคิดว่าเขาก็คงจะไม่ทำ ผมอยากจะปรึกษาพี่ๆ ดีเจว่า ถ้าผมจะหยุด ผมควรจะเริ่มจากอะไรดี และการหยุดของผมเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ใช่ไหมครับ?’ เริ่มที่ “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หลังจากนี้ ถ้าเราเหงาและอยากไปมีอะไรกับคนอื่น ลองเปลี่ยนไปทำในสิ่งที่เราชอบและมีคุณค่าในชีวิตแทนดีไหม?’เพราะบางครั้ง ความเหงาอาจมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกดีไม่พอ หรือไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้อย่างสบายใจ จึงพยายามหาคนอื่นมาช่วยเติมเต็มให้รู้สึกว่ามีค่าและได้รับความสนใจ แต่จริง ๆ แล้วคุณค่าในตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับการได้รับความสนใจจากคนอื่น เราสามารถเติมเต็มตัวเองได้ด้วยสิ่งที่มีความหมายในชีวิต และที่สำคัญ อย่าลืมนึกถึงแฟนของเราด้วย อย่ามัวแต่พยายามทำให้คนอื่นมีความสุขจนลืมใส่ใจคนที่อยู่ข้าง ๆ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คำว่าแฟนต้องแฟร์ มันมีคู่หลาย ๆ คู่นะที่รักกันแล้วก็ไปมีอะไรกับคนอื่นได้ แต่อันนั้นต้องเกิดภายใต้เงื่อนไขว่า ทุกฝ่ายต้องรู้ แต่อันนี้น้องปิดบังแฟน พี่กลับรู้สึกว่าถ้ามีแฟนแล้วเอาไว้หลอก อย่างงั้นก่อนจะเลิกมีเซ็กพล้ำเพื่อ พี่ว่าน้องเลิกกับแฟนก่อนดีกว่า คำว่าแฟนไม่ได้เป็นเครื่องประดับ ว่ามีคนนี้เป็นแฟนแล้วจบ แต่การเป็นแฟนคือการที่เรารับผิดชอบความรู้สึกซึ่งกันและกัน ทั้งต่อหน้าและรับหลัง คนทุกคนอยากได้ความจริงใจ อย่าเอาความหลายใจไปแลกกับความรัก เพราะมันแลกกันไม่ได้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คำถามที่นัทโทรมาถามว่า “การหยุดเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องดีใช่ไหม?” ถ้าจุดเริ่มต้นคือคำถามนี้ ว่าอะไรดีหรือไม่ดี นั่นถือว่าหนักเลยนะ… เพราะคนเราจะหยุดบางอย่างได้เพราะสองเหตุผลหลัก ๆ คือ เราคิดได้ และ หยุดเพื่อใครสักคน แต่ถ้านัททำไม่ได้สักอย่าง การหยุดอาจไม่ใช่คำตอบของนัทก็ได้ ลองตกลงกับตัวเองให้ดีว่าต้องการอะไรจริง ๆ”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น" จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด

10 มี.ค. 2025

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น" จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซแม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น"จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด ควรขอโทษดีไหมคะ? “คุณพี (นามสมมุติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มีนาคม 2568] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ของหนูกับเเม่เเฟน โดย “คุณพี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูรู้สึกผิดที่ด่ากับแม่ของเเฟน เเต่เขาก็สมควรโดนด่าเเล้ว ต้องเล่าก่อนว่าหนูคบกับเเฟนมาประมาณ 8 ปี ทางบ้านก็รับรู้ทุกอย่างเเม่ของเเฟนก็ดูแลหนูดีมาก หนูไม่ต้องทำงานบ้านหรือต้องทำอะไรเลยตอนอยู่บ้านเขา เเต่สิ่งที่ทำให้หนูมีปัญหากับเเม่ของเเฟนคือ เเม่เขาเริ่มขอเงินเเฟนบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเงินที่เเม่เขาขอไปก็เป็นเงินที่หนูกับเเฟนหามาด้วยกันทั้งคู่ ตอนเเรกหนูกับเเฟนก็ตกลงกันเเล้วว่าจะให้เงินกับเเม่เป็นรายเดือน จะไม่มีการให้เงินเเบบยิบย่อย ทั้งเเม่ของเขาเเละเเม่ของหนูเอง เรื่องที่ทำให้หนูกับเเม่ของเเฟนมีปัญหากัน เกิดขึ้นเมื่อตอนเดือนตุลาคมปีที่เเล้ว คือหนูน้อยใจเเฟน หนูเลยโพสต์ประมาณตัดพ้อในเฟซบุ๊ก แล้วเเม่ของเเฟนก็มาเห็นเลยเเคปภาพ เเล้วส่งไปให้เเฟนหนูดู เขาก็พูดว่า เเฟนมึงจะโพสต์อะไรหนักหนา หนูเลยทักไปหาเเม่ของเเฟนเลยว่า เเม่หนูน้อยใจเเฟน หนูก็โพสต์ในหน้าเฟสหนู ทีลูกสะใภ้คนโตโพสต์ด่าเเม่ เเม่ก็ลองไปว่าเขาบ้างนะ พอหนูพูดไปเเบบนั้น เเม่เขาก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น หลังจากที่หนูพิมพ์ไปเสร็จเเม่เเฟนก็ไปคุยกับเเฟนว่า หนูมันเป็นกะเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น ไปหาคนใหม่ดีกว่า พอหนูรู้ว่าเเม่เเฟนพูดเเบบนั้น หนูก็เลยด่ากลับไปบ้างเลย พอเเฟนรู้ เเฟนก็โกรธเเล้วเราก็ทะเลาะกัน เขาก็กลับบ้านไปหาเเม่เขาก่อน หนูก็เลยลองโทรไปหาเขาว่าจะเอายังไงจะเลิกใช่ไหม? เขาก็ไม่เลิกเเล้วก็หนีจากบ้านกลับมาหาเรา พอเเม่เขาจับได้ว่าลูกเขาหนีมาหาเรา เเม่เขาก็ด่าหนูอีกเเละก็โพสต์เเซะอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้หนูรู้สึกผิดที่ทำให้เเม่ลูกเขาทะเลาะกัน หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูควรจะทำยังไงดีกับเเม่เเฟน หนูควรจะขอโทษเลยดีไหม?’ โดย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าแม่ลูกคู่นั้นเขายังคิดถึงกันอยู่ ส่องเฟซกันไปมา พี่ก็คงบอกให้เขากลับไปคุยกับเเม่เถอะ เเต่ก็ต้องบอกเขาว่าถ้าเขากลับไปปัญหาเรื่องเงินมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม สุดท้ายถ้าจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ก็ต้องถามตัวพีว่า พีจะเเยกกระเป๋าไหม สุดท้ายก็ให้เขาไปคุยกันเพราะพี่ก็ไม่อยากให้เขาตัดแม่ ตัดลูกเพราะเรื่องของเรา เเละเรื่องขอโทษถ้าพีรู้สึกไม่สบายใจ พี่ว่าพีก็ไปขอโทษเขาได้’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าให้อยู่ในจุดที่ต่างคนต่างอยู่ เเล้วเเยกกระเป๋ากันดีกว่า ถามเเฟนว่าอยากกลับไปหาเเม่ไหม ถ้าอยากก็ต้องคุยเรื่องเงินกันให้เคลียร์ไปเลย เเละก็พยายามไม่ใช้คำที่เเรงมากเกินไป เพราะคนที่เจ็บไม่ใช่เเม่เเฟน เเต่เป็นตัวของเเฟนพีเองมากกว่า’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถามว่าจะทำยังไงเพราถึงจะมีเรื่องมีราวมากเเค่ไหน เเต่ต้องทำให้เเม่ลูกเขาไม่คุยกันเลยเนี้ย มันก็ต้องรู้สึกผิดอยู่เเล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องจะขอโทษดีไหม พี่ว่าถ้าทำไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะ เเต่สถานการณ์มันจะดีขึ้นไหม ไม่รู้เเต่พี่เชื่อว่าพีจะรู้สึกสบายใจไปเรื่องนึง เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

น้องชายหนูกำลังจะบวช พ่อบอกให้ใส่ชื่อแฟนใหม่พ่อเป็น "แม่" หน้าการ์ดเชิญ แต่หนูอยากใส่ว่าเป็น "น้า" พ่อก็ไม่ยอม ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้ทำการ์ดออกมา เพราะตกลงกันไม่ได้ จะทำยังไงดีคะ?

07 มี.ค. 2025

น้องชายหนูกำลังจะบวช พ่อบอกให้ใส่ชื่อแฟนใหม่พ่อเป็น "แม่" หน้าการ์ดเชิญ แต่หนูอยากใส่ว่าเป็น "น้า" พ่อก็ไม่ยอม ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้ทำการ์ดออกมา เพราะตกลงกันไม่ได้ จะทำยังไงดีคะ?

“คุณฟ้า (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ผ่านมา [5 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาน้องชายจะบวช พ่ออยากใส่ชื่อภรรยาใหม่เป็นแม่บนการ์ดเชิญ แต่เราอยากใส่ว่าเป็นแค่น้า โดย “คุณฟ้า (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘น้องชายของหนูกำลังจะบวช แล้วตอนนี้กำลังมีปัญหากับพ่ออยู่ คือพ่อจะให้หนูใส่ชื่อภรรยาใหม่ของเขาเป็นมารดาในการ์ดเชิญงานบวช เวลาจะบวชในต่างจังหวัด การ์ดเชิญหน้าซองมักจะมีวงเล็บว่าเป็น บิดา/มารดา ตามหลังชื่อเจ้าภาพในการ์ดเชิญ เหมือนเป็นแพทเทิร์นที่ทำต่อ ๆ กันมา หนูถามน้องชายที่กำลังจะบวช เขาก็บอกว่ายังไงก็ได้ แต่หนูรู้สึกว่าพ่อกับภรรยาใหม่ เขาเพิ่งแต่งงานกันมา 5 - 6 ปี หนูก็เลยไม่อยากใส่ อยากใส่เป็นวงเล็บแค่น้าแทนในการ์ดเชิญ จนตอนนี้ทำให้มีปัญหากันเพราะความคิดเห็นต่างกัน หนูเลยอยากปรึกษาพี่ ๆ ดีเจว่า หนูควรทำยังไงดีคะ?’ ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘เราลองไม่ต้องวงเล็บ ใส่เพียงแค่ชื่อและนามสกุล ไม่ต้องระบุศักดินา ในเมื่อมีวงเล็บแล้วมันมีปัญหา หรือถ้าจำเป็นต้องเขียน ก็เขียนเป็นว่าภรรยาแทน แต่ถ้านาคไม่มีปัญหาอะไร ก็ใส่มารดาไปเลย จะได้ไม่ต้องมีปัญหา เพราะว่าเขาต้องบวช เขาก็ควรจะเตรียมตัวอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์แล้ว ทำให้ปัญหามันน้อยที่สุด ไม่ให้ปัญหาไปรบกวนจิตใจของเขา เขาจะได้บวชอยากมีความสุข และความสงบ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

EFM Fandom Live

EFM FANDOM LIVE 6 มีนาคม 68 - GELBOYS

06 มี.ค. 2025

EFM FANDOM LIVE 6 มีนาคม 68 - GELBOYS

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

EFM FANDOM LIVE 27 กุมภาพันธ์ 68 - PROXIE [ENG SUB]

27 ก.พ. 2025

EFM FANDOM LIVE 27 กุมภาพันธ์ 68 - PROXIE [ENG SUB]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

EFM FANDOM LIVE 20 กุมภาพันธ์ 68 - บอส โนอึล [ENG SUB]

20 ก.พ. 2025

EFM FANDOM LIVE 20 กุมภาพันธ์ 68 - บอส โนอึล [ENG SUB]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

EFM FANDOM LIVE 13 กุมภาพันธ์ 68 - หยิ่น วอร์ [ENG SUB]

13 ก.พ. 2025

EFM FANDOM LIVE 13 กุมภาพันธ์ 68 - หยิ่น วอร์ [ENG SUB]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

EFM FANDOM LIVE 6 กุมภาพันธ์ 68 - ลูกหมี ซอนญ่า [ENG SUB]

06 ก.พ. 2025

EFM FANDOM LIVE 6 กุมภาพันธ์ 68 - ลูกหมี ซอนญ่า [ENG SUB]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

EFM FANDOM LIVE 30 มกราคม 68 - อิงฟ้า ชาล็อต [ENG SUB]

30 ม.ค. 2025

EFM FANDOM LIVE 30 มกราคม 68 - อิงฟ้า ชาล็อต [ENG SUB]

พบกับ #EFMFandomlive ได้ทุกคืนวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.00 น. #EFMFandomlive รวม Game ฟินๆ ในรายการ EFM Fandom Live EFM FANDOM LIVE ด้อมไหนก็ฟินได้!! ช่วงเวลาที่จะพาคุณมาฟิน มาส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ถึงศิลปิน เปิดอาณาจักรต้อนรับทุกด้อมที่ #EFM94 ฟินไปพร้อม กับสองดีเจสาวสวย #ดีเจดาว และ #ดีเจแนน

แฉข่าวเช้า

แฉข่าวเช้า 19 มีนาคม 2568

19 มี.ค. 2025

แฉข่าวเช้า 19 มีนาคม 2568

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 18 มีนาคม 2568

18 มี.ค. 2025

แฉข่าวเช้า 18 มีนาคม 2568

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 17 มีนาคม 2568

18 มี.ค. 2025

แฉข่าวเช้า 17 มีนาคม 2568

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 14 มีนาคม 2568

14 มี.ค. 2025

แฉข่าวเช้า 14 มีนาคม 2568

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 13 มีนาคม 2568

13 มี.ค. 2025

แฉข่าวเช้า 13 มีนาคม 2568

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

แฉข่าวเช้า 12 มีนาคม 2568

12 มี.ค. 2025

แฉข่าวเช้า 12 มีนาคม 2568

พบกับ #แฉข่าวเช้า ได้ทุกเช้าวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00 - 10.00 น. ทันทุกกระแส แฉทุกข่าว กับ 'แฉข่าวเช้า’ ที่นี่ #EFM94 ทอล์คอารมณ์ดี เพลงดีทุกแนว

ใต้โต๊ะทำงาน

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67]

15 ม.ค. 2024

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67]

ใต้โต๊ะทำงาน เทิร์นโปร : โปรดิวเซอร์ | ดีเจ เผือก-อาร์ต-โบ [15 ม.ค. 67] พบกับ #ใต้โต๊ะทำงาน ได้ทุกคืนวันจันทร์ เวลา 20.15 - 22.00 น. ติดต่อลงโฆษณา โทรมาได้เลยที่ 02-669-9512,081-923-9823

พุธทอล์ค พุธโทร

พุธทอล์ค พุธโทร [12 มี.ค. 68] "คุณคิดว่าการแจกเงินดิจิทัลควรไปต่อหรือพอแค่นี้??"

12 มี.ค. 2025

พุธทอล์ค พุธโทร [12 มี.ค. 68] "คุณคิดว่าการแจกเงินดิจิทัลควรไปต่อหรือพอแค่นี้??"

พบกับ #พุธทอล์ค พุธโทร ได้ทุกคืนวันพุธ เวลา 21.00 - 23.00 น. "ถ้าเราแต่งตัว-แต่งหน้าแบบมั่นใจสุดๆแล้วถูกคุกคามจะทำอย่างไร?" คุยกันได้ทุกรุ่น คุยกันได้ทุกเรื่องที่ #EFM94 กับ #ดีเจเผือก #ดีเจต้นหอม #ดีเจเติ้ล

พุธทอล์ค พุธโทร [5 มี.ค. 68] "ถ้าเราแต่งตัว-แต่งหน้าแบบมั่นใจสุดๆแล้วถูกคุกคามจะทำอย่างไร?"

05 มี.ค. 2025

พุธทอล์ค พุธโทร [5 มี.ค. 68] "ถ้าเราแต่งตัว-แต่งหน้าแบบมั่นใจสุดๆแล้วถูกคุกคามจะทำอย่างไร?"

พบกับ #พุธทอล์ค พุธโทร ได้ทุกคืนวันพุธ เวลา 21.00 - 23.00 น. "ถ้าเราแต่งตัว-แต่งหน้าแบบมั่นใจสุดๆแล้วถูกคุกคามจะทำอย่างไร?" คุยกันได้ทุกรุ่น คุยกันได้ทุกเรื่องที่ #EFM94 กับ #ดีเจเผือก #ดีเจต้นหอม #ดีเจเติ้ล

อังคาร คลุมโปง

อังคารคลุมโปง X ส้ม มัลนิการ์ คนตาทิพย์ [11 มี.ค. 2568 ]

11 มี.ค. 2025

อังคารคลุมโปง X ส้ม มัลนิการ์ คนตาทิพย์ [11 มี.ค. 2568 ]

พบกับ #อังคารคลุมโปงX ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94

อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568 ]

25 ก.พ. 2025

อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568 ]

พบกับ #อังคารคลุมโปงX ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94

อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [18 ก.พ. 2568 ]

18 ก.พ. 2025

อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [18 ก.พ. 2568 ]

พบกับ #อังคารคลุมโปงX ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94

อังคารคลุมโปง X ตั้ม The Shock [11 ก.พ. 2568 ]

11 ก.พ. 2025

อังคารคลุมโปง X ตั้ม The Shock [11 ก.พ. 2568 ]

พบกับ #อังคารคลุมโปงX ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94

อังคารคลุมโปง X ฟิล์ม ธนภัทร - นุ่น ศิรพันธ์ [4 ก.พ. 2568 ]

04 ก.พ. 2025

อังคารคลุมโปง X ฟิล์ม ธนภัทร - นุ่น ศิรพันธ์ [4 ก.พ. 2568 ]

พบกับ #อังคารคลุมโปงX ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94

อังคารคลุมโปง X ม้าม่วง PowerpuffGAY [28 ม.ค. 2568 ]

28 ม.ค. 2025

อังคารคลุมโปง X ม้าม่วง PowerpuffGAY [28 ม.ค. 2568 ]

พบกับ #อังคารคลุมโปงX ได้ทุกคืนวันอังคาร เวลา 20.00 - 22.00 น. Talk เรื่องลี้ลับ หลอน จนกรามค้าง! พร้อมชวนเซเลบคนดัง คลุมโปงด้วยกันที่ #EFM94 กับ #ดีเจมดดำ #ดีเจแนน #ดีเจเจ็ม #อังคารคลุมโปงX #อังคารคลุมโปง #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94

HOLLYWOOD GOSSIP

[REVIEW] ‘Wicked’ หนังมิวสิคัลที่เต็มเปี่ยมด้วยความอัศจรรย์และพลังความสุข

21 พ.ย. 2024

[REVIEW] ‘Wicked’ หนังมิวสิคัลที่เต็มเปี่ยมด้วยความอัศจรรย์และพลังความสุข

การหยิบเอาละครเวทีระดับตำนานจากบรอดเวย์ มาดัดแปลงขึ้นจอใหญ่ ไม่ได้การันตีความสำเร็จเสมอไป สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ได้เผชิญกับผลลัพธ์ทั้ง 2 แบบมาแล้ว ทั้งกวาดเงินและกวาดรางวัลจาก Les Miserables รวมถึงกวาดคำด่าและขาดทุนยับไปกับ Cats ดังนั้นการหยิบเอา ‘Wicked’ มาขึ้นจอใหญ่ในคราวนี้ ใช่ว่าจะการันตีความสำเร็จเสมอไป แม้ว่าเวอร์ชั่นบรอดเวย์จะเปิดการแสดงมาอย่างยาวนานถึง 20 กว่าปีแล้ว จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในละครเวทีที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ก็ใช่ว่าหนังจะกวาดเงินบน Box Office แต่ทางยูนิเวอร์แซลดูเหมือนจะมั่นใจเป็นพิเศษ หลังมอบโปรเจกต์นี้ให้ จอน เอ็ม.ชู ผู้กำกับจาก Crazy Rich Asians และ In The Heights มาคุมโปรเจกต์ ทางสตูดิโอตัดสินใจอนุมัติสร้างทีเดียว 2 ภาครวด (องก์แรกของละครอยู่ในพาร์ทแรก องก์ที่ 2 ก็จะอยู่ในพาร์ทที่2 เช่นกัน) ซึ่งข่าวดีล็อตแรกก่อนออกฉายนั้น คือรีวิวหนังออกมาในแง่บวกมาก ทั้งคะแนนนักวิจารณ์จาก Rotten Tomatoes และคะแนนผู้ชมจาก Audience Score อยู่ในระดับที่สูงมาก‘Wicked’ เล่าเรื่องราวในโลกแฟนตาซีใบเดียวกับหนังคลาสสิกอย่าง ‘The Wizard of Oz’ ในช่วงเหตุการณ์ก่อนที่โดโรธีจะเดินทางมาสู่โลกของอ๊อซ ในโลกใบนี้มีแม่มดร้ายที่ผู้คนรู้จักในนาม ‘Wicked Witch of the West’ ซึ่งมีรูปโฉมเป็นสีเขียวน่าอัปลักษณ์ สร้างความเกลียดกลัวให้กับประชาชนชาวอ๊อซไปทั่ว แต่อันที่จริงแล้ว น้อยคนจะรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแม่มดชั่วร้ายแต่อย่างดี เรื่องราวใน ‘Wicked’ จึงพาย้อนกลับไป สมัยที่เธอยังเป็น เอลฟาบา เด็กสาวที่เกิดมาสุดรันทด พ่อแม่รังเกียจเพราะเธอตัวสีเขียว จนกระทั่งได้เข้าเรียนในสถาบันเวทมนตร์ ก็ยังถูกรังเกียจจากเพื่อนๆ จนได้มาเจอกับ กลินดา สาวป็อปสุดไฮโซ ที่แม้ตอนแรกทั้งสองจะต่างกันสุดขั้ว แต่เหตุการณ์ก็ทำให้ทั้งคู่สนิทกัน และนำพาให้ เอลฟาบาได้ไปเจอกับพ่อมดอ๊อซ ในขณะเดียวกัน อาณาจักรแห่งนี้ก็กำลังเผชิญเรื่องราวสุดเลวร้าย เพราะเหล่าสัตว์พูดได้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันมนุษย์ ต่างถูกจับตัวไป ทำให้เอลฟาบาต้องทำทุกทางเพื่อตามล่าหาความจริงและช่วยเหลือพวกเขาข่าวดีสำหรับแฟนๆของ ‘Wicked’ คือ ผลลัพธ์ของหนังออกมาอย่างน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และน่าจะเป็นหนังมิวสิคัลที่ลงตัวที่สุดเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ หลักๆต้องขอบคุณการกำกับอารมณ์ที่ค่อนข้างแม่นยำของผู้กำกับ จอน เอ็ม.ชู ที่ทำให้ผู้ชมสามารถอินกับตัวละครและตกหลุมรักตัวละครได้ทั้งแต่แรก ทำให้ซีนที่ต้องบีบอารมณ์ก็ขยี้อารมณ์ได้สำเร็จ ฉากไหนที่ควรทรงพลังก็ทำให้ผู้ชมหึกเหิมตามได้ ในแง่ของฉากมิวสิคัลเองก็ ยิ่งใหญ่ตื่นตา คุ้มค่าแก่การรอคอย หากเวอร์ชั่นละครเวทีทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินได้แค่ไหน ผู้กำกับก็ใช้ศาสตร์ของภาพยนตร์เติมความอลังการเข้าไปอย่างเหมาะสม จนทำให้การเล่าของหนังค่อนข้างไหลลื่นมาก แม้ว่าภาคแรกจะมีความยาวมากถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที แต่กลับไม่รู้สึกว่ามันยาวหรือยืดเกินไปตอนไหนเลย จังหวะกำลังดีทีเดียวแน่นอนว่า สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหนัง คงหนีไม่พ้นสองนักแสดงนำ เริ่มจาก ซินเทีย อารีโว่ ในบทของ เอลฟาบา ที่คงไม่รู้จะติอะไรนอกจากชม เพราะเธอคือตัวแม่ของสายมิวสิคัลอยู่แล้ว การันตีจากการชนะรางวัลทั้ง Tony Awards, Emmy Awards และ Grammy Awards มาแล้ว (ขาดเพียง Oscars เธอก็จะชนะ EGOT แล้ว) ซินเทีย กลายเป็น Wicked Witch ได้อย่างกลมกลืน ทำให้เราตกหลุมรักเธอได้ เอาใจช่วยเธอได้ บวกกับน้ำเสียงอันทรงพลังอย่างไร้ข้อกังขา เธอคือแสดงนำที่ยอดเยี่ยมตัวจริง แต่ที่ชวนเซอร์ไพรสคือ อารีอาน่า กรานเด ที่ทุกคนรู้จักเธอในฐานะป็อปสตาร์ อาจไม่เคยผ่านตางานแสดงเท่าไหร่นัก อารีอาน่า เหมือนเกิดมาเพื่อรับบท กลินดาเลย ในแง่ของการสวมคาแรคเตอร์ จริตของตัวละครคือใช่แบบ 100% จริงๆตัวละครนี้ ถ้าเล่นไม่ดีคนจะเกลียดเธอได้ไม่ยาก แต่อารีอาน่าสามารถเล่นคนดูตกหลุมรัก เอ็นจอย และเข้าอกเข้าใจตัวละครได้ ส่วนในแง่เสียง ก็สามารถเอาสไตล์การร้องแบบตัวเองมาผสมในหนังได้อย่างไม่ขัดเขินเลย เชื่อว่าเธอจะสามารถตกแฟนคลับเพิ่มได้อีกจาก Wicked อีกกลุ่มใหญ่ จากฐานแฟนเดิมที่มหาศาลอยู่แล้ว‘Wicked’ คือหนังที่เพอร์เฟคมากสำหรับช่วงเทศกาลฮอดิเดย์ปลายปีแบบนี้ ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุข ผู้คนต่างเฉลิมฉลอง นี่คือหนังที่เหมาะจะพาคนรัก พาเพื่อน พาครอบครัวไปดูพร้อมกัน ทั้งวิชวลของหนังที่สดใสสดชื่นตลอดเวลา และแม้แต่ตัว Key Message ของหนังเองที่ พยายามสื่อสารตลอดว่า เราไม่ควรมองคนแต่ที่ภายนอก หนังสอดแทรกประเด็นการเหยียดผิวอย่างกำลังพอเหมาะ จากภาพรวมของหนัง สามารถการันตีได้เลยว่า ช่วงวันหยุดใกล้จะปลายปีแบบนี้ ตัวหนังเองมีโอกาสอย่างมากที่จะกวาดรายได้อย่างงดงาม ใครที่อยากดูหนังแล้วมีความสุขมากๆ ลองพิสูจน์กับ ‘Wicked’ นอกจากระบบปกติแล้ว ดูบนจอยักษ์ระดับ IMAX ก็ยิ่งเพิ่มความตื่นตาของอาณาจักรอ๊อซ และฉากมิวสิคัลได้อย่างดีเยี่ยมเลยชมตัวอย่างเสียงไทยของ Wicked เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : UIP Thailand

[REVIEW] ‘ธี่หยด 2’ ที่สุดแห่งความมันส์ ซัดหนัก-ด่าผีฉ่ำ อัดแน่นเอเนอร์จี้แบบภาคแรก

09 ต.ค. 2024

[REVIEW] ‘ธี่หยด 2’ ที่สุดแห่งความมันส์ ซัดหนัก-ด่าผีฉ่ำ อัดแน่นเอเนอร์จี้แบบภาคแรก

ปรากฏการณ์ความสำเร็จของหนังผีแบบ ‘ธี่หยด’ ไม่ได้มีบ่อยครั้งนัก จากเรื่องสยองขวัญบนเว็บไซด์พันทิป ที่ผู้เขียนเผยว่า เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ กลายมาเป็นนวนิยายที่มียอดผู้อ่านถล่มทลาย สู่เรื่องสยองบนรายการวิทยุที่มียอดผู้ฟังระดับหลายล้าน ทั้งหมดนี้ ส่งต่อให้ภาพยนตร์เรื่อง ‘ธี่หยด’ กลายเป็นหนังสยองขวัญที่กวาดรายได้ถล่มทลายทั่วประเทศระดับ 500 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล ซัดไปถึง 197 ล้านบาท) แน่นอนว่าเจ้าของโปรเจกต์อย่าง ช่อง 3 และเอ็ม สตูดิโอ ไม่รอช้า เข็นภาคต่อออกมาอย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าฉายภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากภาคแรกด้วยซ้ำ โดยในภาคใหม่นี้ อะไรที่ทำให้คนดูคลั่งไคล้ ‘ธี่หยด’ ภาคแรก องค์ประกอบที่ทำให้แฟนหนังชาวไทยชื่นชอบ ดูเหมือนผู้สร้างจะทำการบ้านมาอย่างดี แล้วจัดเต็ม ทำให้ ‘ธี่หยด 2’ คือหนังที่ทำได้ดียิ่งกว่าภาคแรกในแทบทุกองค์ประกอบณเดชน์ คูกิมิยะ กลับมารับบท ยักษ์ พี่ชายคนโตสายลุย ที่พร้อมซัดแหลกกับเหล่าบรรดาผีชั่วอีกครั้ง โดยในภาคนี้จะเล่าเหตุการณ์ 3 ปีหลังจากภาคแรก ครอบครัวของยักษ์ยังคงหวาดกลัวและฝันร้ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ยักษ์ลุยดะ หาทางปราบผีชุดดำให้ได้ หลักฐานต่างๆ พาเขาเข้าไปยังดงโขนด สถานที่ผีชุกกลางป่าลึก โดยว่ากันว่าเป็นที่อยู่ของปอปตาพวง ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับผีชุดดำ ในขณะที่ฝั่งบ้านของยักษ์นั้น หยาดกำลังหมั้นหมายกับแฟนหนุ่มที่ชื่อประดิษฐ์ และมีแผนกำลังจะแต่งงานกัน แต่ในคืนวันก่อนแต่งงาน ผีชุดดำก็ได้ปรากฏกายมาหลอกหลอนครอบครัวนี้อีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว ยักษ์จะสามารถปราบผีชั่วได้หรือไม่ ต้องไปลุ้นเชื่อว่าหลายคนไปดูภาคแรกแบบคาดหวังความสยอง แต่ปรากฏว่านอกจากความหลอนแล้ว สิ่งที่เซอร์ไพรสมาก คือความเดือดของหนัง ที่อัดแน่นไวป์แบบหนังแอ็กชัน ด้วยซีนยักษ์แบกปืนยิงปราบผีแบบสนั่นลั่นทุ่ง ซึ่งจากเสียงปากต่อปากที่คนดูชอบมาก ทำให้ภาคนี้ ผู้กำกับเดินหน้าด้วยเอนเนอร์จี้แบบนั้นแทบตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ ‘ธี่หยด 2’ ไม่ใช่หนังผีแบบเพียวๆอีกต่อไป ต้องเรียกว่าเป็นหนังแบบ Action-Horror ซึ่งยังคงทำออกมาได้สนุกมาก และเนื่องจากหนังไม่ต้องเสียเวลาในการปูเรื่องใดๆแล้ว ทำให้หนังภาคนี้สามารถลุยได้ทันทีตั้งแต่ฉากแรก มาถึงก็ซัดกับผี จัดหนักด้วยซีนบู๊ปนสยองแบบทันที แล้วจัดเต็มด้วยพลังความมันส์แบบนั้นตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอนว่า ณเดชน์ คูกิมิยะ ยังคงเป็น MVP สำหรับภาคนี้ เขาทำให้ยักษ์กลายเป็นแอ็กชันฮีโร่ที่ทั้งเท่ ทั้งกวนตีน และเป็นที่รักของคนดู ด้วยพลังความรักที่เขายอมทุ่มทั้งชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัว และที่สำคัญคือ ฉากด่าผีแบบไม่เกรงกลัวที่ถูกใจคนดูยิ่งนัก ซึ่งในภาคนี้ ตัวละครยักษ์ ด่าผีฉ่ำยิ่งกว่าภาคแรก ทำให้ความสนุกของ ธี่หยด 2 นอกจากการประชันพลังกันของคนกับผีแล้ว การประชันฝีปากก็สนุกไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าหนังภาคนี้ เดือดทั้งผี เดือดทั้งคน จนแทบจะตอบไม่ได้ว่าอะไรเดือดกว่ากัน ใครที่เคยสนุกกับ ‘ธี่หยด’ ภาคแรก ขอคอนเฟิร์มว่าหนังภาคนี้ สนุกไม่แพ้กัน จัดหนักไม่แพ้ และถ้ามีโอกาสดูในระบบ IMAX รับประกันความเต็มตา ทั้งผีชุดดำ และซิกซ์แพคของณเดชน์ เต็มตาสมศักดิ์ศรีจอสูงเท่าตึก 7 ชั้นจริง ๆชมตัวอย่าง ‘ธี่หยด 2’ วันนี้ในโรงภาพยนตร์

[REVIEW] ‘Joker : Folie a Deux’ โลกแห่งมิวสิคัลของโจ๊กเกอร์ ที่ไม่เกรงใจคนดู

02 ต.ค. 2024

[REVIEW] ‘Joker : Folie a Deux’ โลกแห่งมิวสิคัลของโจ๊กเกอร์ ที่ไม่เกรงใจคนดู

สิ่งที่บ้าบิ่นยิ่งกว่าตัวละคร ‘โจ๊กเกอร์’ ในหนัง เห็นจะเป็นไอเดียของผู้กำกับ Todd Phillips และพระเอกอย่าง Joaquin Pheonix ที่อยากให้ภาคต่อของ Joker เป็นหนังในแนว ‘มิวสิคัล’ แต่คนที่บ้ายิ่งกว่าเห็นจะเป็นสตูดิโอเจ้าของหนังอย่าง Warner Bros. ที่ตัดสินใจอนุมัติ แม้ว่า ‘มิวสิคัล’ จะกลายเป็นของขายยากในยุคหลัง เพราะความล้มเหลวติดต่อกันของหนังแนวนี้ อย่าง West Side Story, In The Height และ Cats ที่ทำรายได้ไม่ถึงเป้า ทำให้แม้แต่Universal ที่กำลังจะมี Wicked ฉายในเดือนหน้า ตัดสินใจโปรโมตเอนไปทางหนังแฟนตาซีมากกว่าหนังขายเสียงเพลง แต่เพราะฐานแฟนของหนัง Joker ภาคแรกที่กวาดรายได้เกินคาดจนทะลุหลัก 1 พันล้านเหรียญฯ ทำให้ Warner Bros. ยอมเสี่ยงกับไอเดียนี้ และปล่อยให้ วาคีนและทอดด์ พาภาคต่อของ Joker ไปในทิศทางที่พวกเขาต้องการ และการที่ได้ Lady Gaga มารับบทนักแสดงทำฝ่ายหญิง ยิ่งทำให้ ‘Joker : Folie a Deux’ ดูแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าไอเดียตั้งต้นจะเสี่ยงแค่ไหนก็ตามภาคต่อของ Joker เน้นพาผู้ชมไปสำรวจสภาพจิตใจของ Arthur Fleck ที่ในตอนนี้เขากลายเป็นนักโทษประหารในเรือนจำ Arkham แม้ความหวังในการรอดชีวิตจะริบหลี่ แต่ก็มีทนายความที่พยายามจะหาแง่มุมเพื่อช่วยให้การอุทธรณ์เกิดขึ้น โดยอ้างว่า โจ๊กเกอร์ เป็นอีกบุคลิกที่เกิดจากอาการป่วย ในขณะที่อาเธอร์​กำลังเตรียมตัวเพื่อขึ้นศาล เขาก็ไปพบรักของ ‘ลี’ หรือชื่อเต็มๆคือ Harley Quinn ตัวละครที่แฟนคอมมิครู้จักกันดีในฐานะคู่รักตลอดกาลของโจ๊กเกอร์ ซึ่งในเรื่องนี้ ถ่ายทอดโดย เลดี้กาก้า เธอคือผู้หญิงที่รักและเข้าใจอาเธอร์ในแบบที่เขาเป็น และพยายามทำทุกทางเพื่อให้ทั้งคู่ออกจากเรือนจำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่กดดัน พวกเขาต่างมีความสุขในจินตนาการ จนกลายมาเป็นฉากมิวสิคัลอันมากมายในหนังเรื่องนี้อย่างที่เกริ่นไปว่า ต้องยกย่องวอร์เนอร์ ผู้กำกับทอดด์ และวาคีน ที่บ้าบิ่นพอจะพาหนังมาทางนี้ หลังจากภาคแรกที่ค่อนข้างไม่ประนีประนอมกับคนดูอยู่แล้ว ด้วยจังหวะการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้า บวกกับบรรยากาศสุดตึงเครียดของหนัง มาภาคนี้ พวกเขายิ่งใส่องค์ประกอบที่ยากขึ้นเข้าไปอีก ด้วยฉากมิวสิคัลที่ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแฟนละครเพลง และฉากสไตล์คอร์ตรูมดราม่า (หรือหนังที่เล่าถึงการไต่สวนในศาล) ที่ต้องอาศัยสมาธิในการโฟกัสกับเรื่องราวอย่างมาก พอทั้งหมดผสมรวมกัน ‘Joker : Folie a Deux’ จึงกลายเป็นหนังจากคอมมิคที่แทบไม่ง้อคนดูเลย เพราะผู้สร้างต้องการจะสร้างออกมาแบบนี้ ไม่ว่ามันจะเฟรนด์ลี่กับคนดูหรือไม่ โดยเฉพาะแฟนหนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่หลายครั้งต้องการเสพอะไรที่ย่อยง่าย ในสไตล์ที่หนังมาร์เวลชอบทำ สิ่งที่ผู้เขียนชอบในหนังเรื่องนี้ จึงเป็นการชอบในความกล้าของผู้สร้าง แต่ต้องยอมรับว่า ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น ค่อนข้างมีพาร์ทที่ทั้งชอบและไม่ชอบอย่างชัดเจนแน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนน่าจะเห็นตรงกัน คือ รสนิยมในงานโปรดักชั่นที่ Joker : Folie a Deux เป็นหนังที่ออกแบบงานสร้างสวยและดูแพง การถ่ายทำดูเป็นหนังมีเกรด ยิ่งเวลาดูบนจอใหญ่ๆอย่าง IMAX ยิ่งทำให้หนังดูอลังการ และอีกอย่างที่ดีงามเช่นเดิมคือการแสดงของ วาคีน ที่ยังคงลึกล้ำ แปลกประหลาดจนคาดเดาไม่ได้ ซึ่งเขาสามารถเข้าคู่กับ Lady Gaga ได้อย่างดี กาก้าคือตัวเลือกสำหรับบท ฮาร์ลี่ ควินน์ ในแบบมิวสิคัลที่เพอร์เฟคมากๆ ด้วยอิมเมจของเธอในฐานะนักร้องที่แตกต่างอยู่แล้ว พอมารับบทนี้ยิ่งเสริมให้เข้ากับบทไปอีก แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ เวลาบนจอของกาก้า ค่อนข้างน้อยไปนิดในฐานะนักแสดงนำ เชื่อว่าเมื่อดูจบหลายคนจะกระหายกาก้ามากขึ้น เพราะเธอทำได้ดีจริงๆในบทนี้ และฉากมิวสิคัลที่สามารถสะกดอารมณ์ได้ทุกรอบ ไม่มีซีนไหนที่สามารถกังขาเธอได้ปัญหาอย่างชัดเจนของ ‘Joker : Folie a Deux’ คืออารมณ์ร่วมสำหรับฉากมิวสิคัล และจำนวนที่อาจมากเกินไป จนหลายคนบ่นตรงกันว่ากระทบกับเนื้อเรื่อง หลายฉากมิวสิคัลนั้น คือ ฉากที่พยายามให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงตัวละครโจ๊กเกอร์มากขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันไม่บรรลุผลเท่าไรนัก แม้ว่าทอดด์และวาคีนจะกระหายอยากทำสิ่งนี้ แต่ต้องยอมรับว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ถนัดด้านนี้เอาเสียเลย แม้องค์ประกอบความเป็นมิวสิคัลมันจะครบถ้วน แต่กลับสร้างอารมณ์ร่วมได้ไม่ดีนัก ขาดความแม่นยำในการเล่นกับอารมณ์คนดู แล้วพอหนังใช้การเล่าแบบมิวสิคัลเยอะเข้า ทำให้เส้นเรื่องของหนังภาคนี้ ก็ไม่ค่อยไปไหนเสียที ซึ่งปกติหนังก็แทบจะเดินเรื่องช้าอยู่แล้ว กลายเป็นเพซซิ่งสำหรับภาคนี้ที่ยาวถึง 2:20 ชั่วโมง เข้าขั้นยาวจนต้องหันมาดูนาฬิกาหลายรอบ ซึ่งผู้เขียนคงไม่สามารถตัดสินแทนทุกคนได้ ว่าคุณจะเอ็นจอยกับ Joker ภาคนี้หรือไม่ มันคือความท้าทาย ที่อาจจะต้องหาเวลาไปลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง

[REVIEW] ‘Transformers One’ นี่คือภาค Prequel ที่ติ๊กถูกแทบทุกข้อ ปลุกชีพทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างดีงาม

17 ก.ย. 2024

[REVIEW] ‘Transformers One’ นี่คือภาค Prequel ที่ติ๊กถูกแทบทุกข้อ ปลุกชีพทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างดีงาม

ถ้าพูดถึงสถานะของแฟรนไชส์ตระกูล Transformers แล้ว ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า อยู่ในลักษณะลุ่มๆดอนๆ เพราะหลังจาก ไมเคิล เบย์ ปั้นหนังตระกูลนี้มากับมือ จนกวาดเงินระดับพันล้าน ในภาคที่ 3-4 แต่เขาเองก็ทำให้แฟรนไชส์นี้มาอยู่ในขาลง ด้วยคุณภาพของภาคสุดท้ายที่เขากำกับอย่าง Transformers : The Last Knight ที่ยุ่งเหยิงจนน่าตกใจ ส่งผลให้รายได้และความนิยมหล่นฮวบไปด้วย แต่ทางพาราเมาต์และฮาสโบร (เจ้าของสิทธิ ผู้ผลิตของเล่นชุดนี้) ก็ไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ ด้วยการเริ่มสร้าง Bubblebee หนัง Spin-Off ตัวละครที่แฟนๆรัก ต่อด้วย Transformers : Rise of the Beasts ที่ทำหน้าที่เป็น Prequel ทั้งสองภาคได้รับคำชมพอสมควร แม้รายได้จะกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังไม่มากนัก จนมาถึงความพยายามครั้งล่าสุดกับ ‘Transformers One’ ครั้งแรกที่ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ถูกสร้างเป็นหนังใหญ่ด้วยการเป็นหนังแอนิเมชั่น พร้อมย้อนกลับไปเล่าต้นกำเนิดของสองตัวละครหลักอย่าง ออพติมัส ไพรม์ และ เมกะตรอนก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นศัตรู ทั้งคู่คือมิตรสหายกันมาก่อน นี่คือธีมหลักของ ‘Transformers One’ ที่เล่าเหตุการณ์ก่อน Transformers ทุกภาค และเป็นภาคแรกที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวบนโลกมนุษย์ และไม่มีตัวละครมนุษย์แม้แต่คนเดียว เพราะหนังได้พาผู้ชมไปยังดาวต้นกำเนิดของ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ในยุคสมัยที่ ออพติมัส ไพรม์ และ เมกะตรอน ยังเป็นเพียงหุ่นยนต์ใช้แรงงานในเหมือง พวกเขาไม่มีพลังในการแปลงกายด้วยซ้ำ ใช้ชีวิตไปวันๆในฐานะกรรมกร แต่แล้วสถานการณ์กลับพลิกพัน ทำให้พวกเขาต้องออกผจญภัยไปยังพื้นผิวของดาว พื้นที่รกร้างที่ไม่มีหุ่นยนต์ตัวไหนอาศัยอยู่ได้ เพื่อค้นหาขุมพลัง ที่หายไปนานถึง 500 ปี จนกระทั่งเจอกับความลับบางอย่าง ที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล จากมิตรเริ่มกลายเป็นศัตรู นำไปสู่สงครามจักรกลข้ามจักรวาล ในแบบที่พวกเราได้ชมกันใน Transformers ทุกภาคก่อนหน้านี้แม้หน้าหนังของ ‘Transformers One’ จะเป็นหนังแอนิเมชั่น แต่ตัวหนังเองกลับไม่ได้ทำตัวเป็นหนังเด็กด้วยซ้ำ องค์ประกอบทั้งหมดเหมือนเราดู Transformers ภาคปกติเลย เพียงแค่ผู้สร้างเลือกเล่าในแบบแอนิเมชั่น เพราะหนังไม่ได้มีตัวละครมนุษย์ เส้นเรื่องของ ‘Transformers One’ ยิ่งใหญ่และไปไกลกว่าที่ทุกคนคาดคิด อัดแน่นไปด้วยประเด็นที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าตัวละครใดตัวละครหนึ่ง แล้วหนังก็ประกอบด้วยฉากต่างๆ ที่ทำให้สนุกครบรส ไม่แพ้กับ Transformers ภาคอื่นๆ ทั้งฉากแอ็กชันสุดตื่นตา มาพร้อมกับสเกลที่ใหญ่มากๆ สอดแทรกด้วยซีนตลกอารมณ์ขัน ที่มีจังหวะมุกแบบพอดิบพอดี และปิดท้ายด้วยฉากชวนหึกเหิมและประทับใจ ที่ได้ค่อนข้างดีเลย กลายเป็นว่า ‘Transformers One’ คือหนังบันเทิงที่สนุกลงตัวมากที่สุดเรื่องหนึ่งในแฟรนไชส์นี้ทั้งหมด ในแง่ของพล็อตก็เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่เป็นเชื่อมต่อกับภาคหลักอย่างพอดิบพอดี ในขณะที่ตัวหนังเอง ก็มีเอกลักษณ์ในแบบของมัน สามารถดูได้ในฐานะหนัง Stand Alone เช่นกันอย่างที่เกริ่นไปในหัวข้อ ‘Transformers One’ มีคุณภาพในฐานะหนัง Prequel (หนังที่เล่าเหตุการณ์ก่อนภาคหลัก) ที่ครบถ้วน ทำให้ผู้ชมที่ดูภาคหลักแล้ว รู้สึกสมบูรณ์กับเรื่องราวมากขึ้น ในขณะเดียวกันใครที่ไม่เคยดู Transformers มาเลย หนังก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี ในการชักชวนให้อยากไปชมภาคอื่นๆในแฟรนไชส์นี้ต่อ ระหว่างดู ผู้เขียนนึกถึงหนังเรื่องอื่นอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ X-Men : First Class ทั้งในแง่คุณภาพ และในแง่โครงหลักของเรื่อง ซึ่งเล่าถึงสองตัวละครที่ผู้ชมรู้จักพวกเขาในฐานะศัตรู แต่ในภาคนี้พาย้อนกลับไปสมัยที่ยังเป็นมิตร อะไรคือจุดแตกหักที่ทำให้ทั้งสองต้องไปคนละทิศคนละทาง อีกหนึ่งคือ Spider-Man Into The Spider-Verse ในฐานะหนังภาคแยกที่วางตัวเป็นแอนิเมชั่น แต่กลับกินคาดในแง่คุณภาพ ความลงตัว จนเป็นที่โปรดปรานในกลุ่มแฟนประจำของแฟรนไชส์ สำหรับ ‘Transformers One’ มีสถานะเช่นนั้นอยู่ ใครที่อาจจะเบื่อหน่ายกับทรานส์ฟอร์มเมอร์แล้ว ขอเชียร์ว่าอย่าเพิ่งรีบหมดใจและมองข้ามภาคนี้ นี่เป็นเหมือนภาคที่พา Transformers เข้าใกล้จุดพีกอีกครั้ง ส่วนใครที่ไม่เคยชมมาก่อน ก็สามารถมาเปิดตัวกับภาคนี้ได้เช่นกัน เป็นหนัง Transformers ภาคที่มีหัวใจมากที่สุด ครบเครื่องสุดภาคะนึงเท่าที่มีมาเลยทีเดียวชมตัวอย่าง Transformers One เข้าฉาย 26 กันยายนในโรงภาพยนตร์(เปิดรอบพิเศษ 20-22 กันยายนนี้ ช่วงบ่ายถึงค่ำ)

[REVIEW] ‘PROJECT SILENCE’ อีกครั้งที่หนังเกาหลีทำถึง จัดหนักหายนะแบบมะรุมมะตุ้ม

28 ส.ค. 2024

[REVIEW] ‘PROJECT SILENCE’ อีกครั้งที่หนังเกาหลีทำถึง จัดหนักหายนะแบบมะรุมมะตุ้ม

จากความสำเร็จของ ‘Train To Busan’ ที่เป็นหมุดหมายสำคัญ ส่งให้แวดวงหนังเกาหลีก็ขยันสร้างสรรค์ไอเดียหนังหายนะ ให้ออกมามีความแปลกใหม่อยู่เสมอ ครีเอตสถานการณ์อันบีบคั้นด้วยข้อจำกัดที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับหนังแอ็กชันโปรเจกต์ยักษ์ล่าสุดอย่าง ‘Project Silence’ ที่ใส่ข้อแม้เพื่อให้ตัวละครเอาตัวรอด เปลี่ยนจากซอมบี้ที่เริ่มซ้ำซากในยุคหลัง เป็น ‘สุนัขชีวะ’ ที่ผ่านการทดลองทางการทหารให้สังหารมนุษย์อย่างอำมหิต โอกาสที่มนุษย์หน้าไหนจะรอดไปนั้น โอกาสคือศูนย์ จะเปลี่ยนเซ็ตติ้ง จากพื้นที่จำกัดทั้งบนรถไฟหรือเครื่องบิน ให้เป็นสะพานสูงที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และใส่อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญเพิ่มเข้ามาอีก คือหมอกที่บดบังวิสัยทัศน์ของทุกตัวละคร ทำให้อาจกล่าวได้ว่า ‘Project Silence’ คือหนังที่จัดองค์ประกอบความหายนะ เสิร์ฟมาให้แบบเต็ม ๆ เข้าขั้นมะรุมมะตุ้มอย่างที่เกริ่นไปเลยทีเดียวศูนย์กลางของ ‘Project Silence’ คือ จองวอน (รับบทโดย อีซอนคยุน นักแสดงผู้ล่วงลับจาก ‘Parasite’) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงความมั่นคง ที่กำลังขับรถไปส่งลูกสาวที่สนามบินเพื่อเรียนต่อ แต่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้นบนสะพานเชื่อมระหว่างกรุงโซล กับ สนามบินอินชอน เมื่อหมอกหนาเริ่มปกคลุม ทำให้เกิดเหตุการณ์รถชนกันนับสิบ และหนึ่งในนั้น คือรถบรรทุกลึกลับของกองทัพ ที่กำลังขนอาวุธลับร้ายแรง ไม่นานผู้ประสบภัยบนสะพานก็ค่อย ๆ รู้ชะตากรรมว่าอาวุธดังกล่าว คือ สุนัขที่ผ่านการทดลอง ให้เป็น อาวุธสังหาร มีความแข็งแกร่งและเกรี้ยวกราด พร้อมที่จะสังหารมนุษย์ทุกชีวิต ในขณะที่ทุกคนกำลังพยายามหนีเอาตัวรอด สะพานก็เริ่มพังและถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พวกเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เมื่อสะพานแห่งนี้เต็มไปด้วยความคลั่ง และความตายที่รอพวกเขาอยู่เชื่อว่าหลายคนรอคอย ‘Project Silence’ เพราะนี่คือผลงานการแสดงชิ้นสุดท้ายของ อีซอนคยุน นักแสดงผู้ล่วงลับที่ฝากผลงานชิ้นนี้ไว้เป็นเรื่องสุดท้าย โดยรวมซอนคยุนยังคงฝากฝีมือการแสดงไว้ได้อย่างน่าจดจำ กับตัวละครที่ค่อนข้างมีมิติ โดยเฉพาะซีนท้าย ๆ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกบีบหัวใจ และยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นไปอีก ว่าหลังจากนี้จะไม่ได้ดูฝีมือการแสดงของนักแสดงมากฝีมือคนนี้อีกแล้ว และที่โดดเด่นไม่แพ้กัน จนไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ จูจีฮุน ที่คาแรกเตอร์ในหนังรับบทเป็นคนขับรถสิบล้อ ที่มีมาดกวนและเรียกเสียงฮาได้ตลอด ต่างจากมาดนิ่ง ๆ แบบในซีรีส์ ‘Kingdom’ หรือหนังอย่าง ‘Along with The Gods’ กลายเป็นตัวละครของ จูจีฮุน ที่สร้างความบันเทิงและเรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง ทุกครั้งที่ปรากฏตัวขโมยซีนอยู่เสมอ สามารถบาลานซ์จากความจริงจังของตัวละคร อีซอนคยุน ให้หนังมีความครบรสมากยิ่งขึ้น มีทั้งมุมจริงจังมาก ๆ และมุมผ่อนคลายเรื่อย ๆและ ‘Project Silence’ คืออีกครั้งที่เกาหลีสามารถทำหนังหายนะได้อย่างถึงรสชาติ แน่นอนว่าเรื่องของงานโปรดักชั่นแทบจะไม่ต้องเป็นห่วง เพราะงานสร้างดูยิ่งใหญ่ สมจริง และสร้างอารมณ์ร่วมได้อย่างดี ที่เอ่ยว่าทำถึง คือหนังสามารถใส่สถานการณ์ชวนตื่นเต้น เสิร์ฟความระทึกมาให้แบบไม่หยุดหย่อน แค่คนดูติดตามเชียร์ตัวละคร ให้รอดพ้นไปจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไปตามเส้นเรื่องก็สนุกมากพอแล้ว หนังใส่อุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาอย่างไม่สนใจว่ามันจะเว่อร์ หรือเกินจริง เน้นให้คนดูได้เอ็นจอยกับหายนะที่ถาโถมไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรฐานที่ถูกวางไว้สูงโดย ‘Train To Busan’ ตัวหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้แตะสแตนดาร์ดนั้น ในแง่ของความบีบคั้นของเรื่องราว และแง่มุมสะท้อนสังคมที่เรื่องดังกล่าวทำได้เหนือกว่า แต่โดยรวม ‘Project Silence’ ก็ยังเป็นหนังหายนะที่สนุก แปลกใหม่ น่าสนใจทั้งฉากต่าง ๆ และตัวละคร สามารถดูแบบบันเทิงและเอ็นจอยได้อย่างแน่นอนชมตัวอย่าง Project Silence เขี้ยวชีวะคลั่งสะพานนรก ก่อนเข้าไปชมพร้อมกัน 29 สิงหาคมในโรงภาพยนตร์ภาพ : Mongkol Major Mongkol Cinema

[REVIEW] ‘วิมานหนาม’ หนังกำหมัดแห่งปี ที่มาพร้อมกับงานสร้างระดับเวิลด์คลาส

20 ส.ค. 2024

[REVIEW] ‘วิมานหนาม’ หนังกำหมัดแห่งปี ที่มาพร้อมกับงานสร้างระดับเวิลด์คลาส

ถ้าผลงานชิ้นก่อนจากค่าย GDH อย่าง ‘หลานม่า’ คือหนังฟีลกู้ดสร้างความประทับใจแห่งปี ผลงานชิ้นใหม่อย่าง ‘วิมานหนาม’ ย่อมเป็นหนังขั้วตรงข้าม มันคือ ‘หลานม่า’ ฉบับฟีลแองกรี้ แม้โครงพล็อตจะเกี่ยวกับวัยรุ่น ที่ต้องการครอบครองเคหะสถานของผู้สูงอายุเหมือนกัน แต่รสชาติในการเล่า ข้อแม้ของเรื่องราว และองค์ประกอบของหนังช่างต่างกันลิบลับ แต่ที่เหมือนกันอย่างแน่ชัดคือ ‘คุณภาพ’ ที่ล้นจอ ถ้า หลานม่า ได้รับตำแหน่งหนังเสียน้ำตาแห่งปี ภาพยนตร์เรื่อง ‘วิมานหนาม’ ก็ขอมอบตำแหน่งหนังกำหมัดแห่งปีเช่นกัน‘วิมานหนาม’ คือผลงานล่าสุดของ บอส-นฤเบศ จากซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ เล่าถึงโชคชะตาที่แปรผันของ ‘ทองคำ’ (รับบทโดย เจฟ ซาเตอร์) หนุ่มชาวไร่ที่ใช้ชีวิตในสวนทุเรียนกับ เสก (รับบทโดย เต้ย พงศกร) พวกเขาทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับสวนนี้ จนเสกสามารถไถ่โฉนดที่ดินจากการจำนอง ออกมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จ แต่ชีวิตกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเสกเสียชีวิตกะทันหัน บ้าน ที่ดิน และสวนทุเรียนทั้งหมด จึงตกเป็นชื่อของ ‘แม่แสง’ (รับบทโดย สีดา พัวพิมล) เพราะแม้ ทองคำกับเสก จะแต่งงานกันแล้ว แต่ด้วยกฎหมายไม่รองรับ ทองคำจึงกลายเป็นคนตัวเปล่า เขาพยายามทำทุกทางเพื่อขอสวนทุเรียนในฝันคืนจากแม่ของเสก แต่กลับถูกกีดกันโดย ‘โหม๋’ (รับบทโดย อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวของแม่แสงที่ถูกเก็บมาเลี้ยง สงครามในวิมานหนาม เพื่อแย่งชิงสวนทุเรียนแห่งนี้จึงเกิดขึ้นแน่นอนว่า ‘วิมานหนาม’ คือผลงาน GDH ที่ท้าทายในหลายแง่มุม แต่ก็ยังคงทำถึงแบบไม่เกินคาด หลังจากปล่อยตัวอย่างออกมาสร้างความฮือฮา พร้อมคำโปรยที่ว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากความไม่เท่าเทียม หนังหยิบเอาประเด็นด้านกฏหมายที่ไม่สามารถสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมได้ มาเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความฉิบหายทั้งหมด ตอกย้ำว่าหลาย ๆ แง่มุม ข้อกฎหมายก็ยังไม่สามารถคุ้มครองคนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคกันได้ โดยเฉพาะช่วงแรกของหนังที่สร้างบาดแผลในใจให้กับตัวละครของ ‘ทองคำ’ ได้อย่างดี เมื่อความรักที่เขาให้ต่อเสกนั้น กฎหมายมองเพียงแค่ ‘เพื่อน’ เท่านั้น ไม่ใช่ ‘สามีภรรยา’ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะถ้ากฏหมายคุ้มครองชีวิตคู่ของพวกเขาจริง เหตุการณ์ที่กลายเป็นดั่งฝันร้ายหรือวิมานล่มสลาย คงไม่ตามมาเป็นพาเหรดอย่างที่หนังจะค่อยๆเล่าต่อจากนั้นอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ‘วิมานหนาม’ คือหนังกำหมัดแห่งปี เพราะดีกรีเกรี้ยวกราดของเส้นเรื่องมันค่อย ๆ ทวีความเข้มข้นมากขึ้น จนกระทั่งปรอทแตกในตอนท้าย การเข้ามาของตัวละคร ‘แม่แสง’ และ ‘โหม๋’ คือตัวเร่งปฏิกริยาให้เรื่องราวมันร้อนแรงมากขึ้น คนดูได้ลุ้นในแทบทุกฉาก เริ่มต้นจากคำพูดที่เชือดเฉือน แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับเป็นการกระทำที่รุนแรงมากขึ้น จนบางครั้งให้ฟีลลุ้นระทึกยิ่งกว่าฉากแอ็กชันด้วยซ้ำ ว่าหนังมันจะยกระดับความร้อนแรงไปถึงเบอร์ไหน แต่ที่แน่ ๆ คือหนังสามารถตรึงอารมณ์คนดูไว้ได้ตลอด จนหลายคนแอบกำหมัดในโรง อยากจะจัดการตัวละครที่ชวนโมโหเหล่านี้ให้พ้นทางไปไว ๆแน่นอนว่า อารมณ์ร่วมทั้งหมดของ ‘วิมานหมาน’ ต้องขอบคุณบทภาพยนตร์ที่สร้างทุกตัวละครออกมาอย่างมีมิติ ไม่มีใครขาวหรือดำไปทั้งหมด และถูกถ่ายทอดออกมาโดยทีมนักแสดงนำ ที่ทุกคนแอคติ้งได้อย่างไร้กังขา สามารถเป็นตัวละครนั้น จนคนดูเชื่อตั้งแต่แรก และห่อหุ้มด้วยงานโปรดักชั่น โดยเฉพาะโลเคชั่นและออกแบบงานสร้าง ที่ทำสวยแบบคุมโทนและถึงอารมณ์ จนทุกอย่างผสมออกมาอย่างกลมกล่อม ถือเป็นหนังที่รวมงานสร้างไว้ในระดับเวิร์ลคลาส และนำออกไปฉายโชว์ให้คนทั่วโลกดูในฐานะหนังไทยได้อย่างสบาย‘วิมานหนาม’ เข้าฉาย 22 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

NEW RELEASE

PERSES x PiXXiE คอลแลบสุดร้อนแรงต้อนรับซัมเมอร์! ปล่อยซิงเกิลใหม่ ONE SHOT สาดความสนุกแบบจัดเต็ม

13 มี.ค. 2025

PERSES x PiXXiE คอลแลบสุดร้อนแรงต้อนรับซัมเมอร์! ปล่อยซิงเกิลใหม่ ONE SHOT สาดความสนุกแบบจัดเต็ม

PERSES บอยกรุ๊ปสุดฮอตจากค่าย G’NEST ปล่อยซิงเกิลที่ 3 ‘ONE SHOT’ จากอัลบั้มที่ 2 Alterland พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ด้วยการคอลแลบครั้งแรกกับ PiXXiE เกิร์ลกรุ๊ปตัวท็อปของยุค ที่มาร่วมเติมสีสันความสดใส จัดเต็มทั้งพลังเสียงและเพอร์ฟอร์แมนซ์สุดปัง ส่งซิงเกิลนี้ให้กลายเป็นเพลงประจำซัมเมอร์ที่แฟน ๆ T-POP ห้ามพลาดสำหรับ ‘ONE SHOT’ ถ่ายทอดเรื่องราวของการเจอใครสักคนที่ใช่ และไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป เพราะบางครั้ง โอกาสดี ๆ อาจมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพลงนี้มาในจังหวะ POP-FUNK ที่สนุกเร้าใจ เอาใจสายแดนซ์ พร้อมกิมมิกเสียงชัตเตอร์ที่เพิ่มเสน่ห์ให้ท่อนฮุกติดหู“5 4 3 2… One shot I’ve got, one shot ขอฉันเพียงแค่ One shot I’ve got, one shot ก่อนสายเกินไป”นอกจากพาร์ตดนตรีและทำนอง ความสนุกของเพลงนี้ยังถูกถ่ายทอดผ่านมิวสิกวิดีโอสุดมันส์ในธีม Pool Party ที่ PERSES และ PiXXiE ต้องประชันกันอย่างดุเดือด เมื่อหนุ่ม ๆ PERSES ถูกเสน่ห์ของสาว ๆ PiXXiE ตกเข้าเต็ม ๆ จนต้องรีบคว้ากล้องขึ้นมาเก็บโมเมนต์ แต่สาว ๆ เองก็ไม่ยอมให้ถ่ายได้ง่าย ๆ นำไปสู่ศึกแห่ง ONE SHOT ที่เต็มไปด้วยลูกเล่น แพรวพราว และเสน่ห์เกินต้านจากทั้งสองวงเบื้องหลังการถ่ายทำก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เพราะต้องถ่ายกลางแจ้งท่ามกลางแดดซัมเมอร์ แต่ทั้ง PERSES และ PiXXiE ต่างโชว์สปิริตเต็มร้อย กฤติน PERSES เล่าว่า“ปกติมิวสิกวิดีโอของพวกเราจะถ่ายทำกลางแจ้งอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นห่วงน้อง ๆ PiXXiE เพราะตัวเล็กปุ๊กปิ๊ก กลัวจะเป็นลมกัน (หัวเราะ) แต่พอได้ร่วมงานกันแล้วต้องบอกเลยว่า น้อง ๆ สู้สุดใจ! พวกเราสองวงช่วยบิ้วกันตลอด ทำให้การถ่ายทำสนุกมาก และแน่นอนว่าเมื่อ PERSES x PiXXiE เจอกัน กิจกรรม ‘ส้มตำมิตรภาพ’ ก็ต้องมา”ใครจะเป็นฝ่ายชนะในศึกแห่ง ONE SHOT? ต้องไปพิสูจน์กันเองในมิวสิกวิดีโอเพลง ‘ONE SHOT’ จาก PERSES x PiXXiE รับฟังและชมมิวสิกวิดีโอได้ที่ YouTube: gnest_officialภาพ : G’NEST

ใครไหวไปก่อนเลย…เพราะเธอน่ารักขนาดนี้ พี่คง ‘รอไม่ไหว’ เพลงรักสุดจริงใจจาก Instinct

13 มี.ค. 2025

ใครไหวไปก่อนเลย…เพราะเธอน่ารักขนาดนี้ พี่คง ‘รอไม่ไหว’ เพลงรักสุดจริงใจจาก Instinct

หลังจากส่งซิงเกิลสุดเจ็บอย่าง ‘เพื่อนรัก’ ออกมาให้แฟนเพลงได้อินไปกับความเศร้า ปาล์ม-ปรียวิศว์ นิลจุลกะ และ ปอ-อนุกานต์ จันทร์อุไร แห่งวง Instinct จากค่าย genie records ในเครือ GMM MUSIC ก็พร้อมกลับมาพร้อมกับบทเพลงรักสุดละมุนที่พี่ ๆ อาจต้องรีบส่งจีบน้อง ๆ กันให้ไวกับซิงเกิลใหม่ล่าสุด ‘รอไม่ไหว’เพลงนี้มาในดนตรีสไตล์สนุก ๆ อบอุ่นแบบฉบับของ Instinct ที่ทุกคนคิดถึง ซึ่ง ปาล์ม ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของตัวเอง เมื่อเขาเริ่มรู้สึกถึงการก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และอยากเขียนเพลงที่สะท้อนเรื่องราวของความรักต่างวัย โดยได้ เหนือ-เหนือวงศ์ ต่ายประยูร สมาชิกจาก Mango Team ผู้เคยสร้างเพลงฮิตให้ศิลปินระดับแถวหน้าอย่าง bodyslam, Big Ass และ Labanoon มาร่วมเขียนเนื้อร้อง เพื่อเติมเต็มความน่ารักและกลมกล่อมให้กับบทเพลงนี้“ฝากถึงวัยรุ่นทุกคนนะครับ ใครที่แอบชอบคนอายุน้อยกว่า ลองส่งเพลงนี้ไปจีบคนที่คุณชอบดูนะครับ หรือถ้าใครมองหาเพลงรักที่จริงใจ ไม่จีบเล่น ๆ แต่รักจริงหวังแต่ง พร้อมดูแลเสมอ ‘รอไม่ไหว’ คือเพลงที่เหมาะกับคุณ” Instinctใครที่พร้อมจะตกหลุมรัก มาฟัง ‘รอไม่ไหว’ ไปพร้อมกันแล้วลองส่งให้คนคนนั้นดูสิ บางทีเขาอาจจะรอคุณอยู่เหมือนกันก็ได้ ติดตามชมมิวสิกวิดีโอ ‘รอไม่ไหว’ จาก Instinct ได้แล้ววันนี้ทางช่อง Youtube : genierock และขอเพลงนี้เข้ามาที่ EFM ได้ทุกวันและทุกช่วง DJภาพ : genie records

‘สัมภเวซี้’ ประกอบภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’ โดย พีพี-บิวกิ้น ที่มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด

12 มี.ค. 2025

‘สัมภเวซี้’ ประกอบภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’ โดย พีพี-บิวกิ้น ที่มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด

ก่อนจะไปสัมผัสความสนุกแบบเต็มอิ่มใน ‘ซองแดงแต่งผี’ GDH ร่วมกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ขอเสิร์ฟความน่ารักมาให้แฟน ๆ ได้อบอุ่นหัวใจก่อน กับ ‘สัมภเวซี้ (GFF Ghost Friend Forever)’ ซิงเกิลใหม่จาก บิวกิ้น พุฒิพงศ์ และ พีพี กฤษฏ์ ที่สื่อถึงมิตรภาพสุดพิเศษระหว่าง เม่น และ ผีตี่ตี๋ จากโชคร้ายกลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ และจากสัมภเวสี กลายเป็นคู่ซี้ ที่พร้อมจะซัพพอร์ตกันในทุกช่วงเวลาของชีวิตเพลงนี้มาในแนวป๊อปฟีลกู้ดที่ให้ความสดใสและอบอวลไปด้วยพลังบวก แถมยังได้ THE TOYS มานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ พร้อมร่วมแต่งเพลงกับ Marc Tatchapon ภายใต้การดูแลของ เบล สุพล, โต้ง บรรจง และ หมู ชยนพ ในฐานะ Executive Producersและที่พิเศษสุด ๆ ทั้งมู้ดและโทนของเพลง ไปจนถึงมิวสิกวิดีโอล้วนเต็มไปด้วยความน่ารักที่ทำให้หัวใจเต้นแรง โดยผู้กำกับ จีน-ปราชญ์ โรจนสินวิไล จะพาทุกคนทะลุไปอีกมัลติเวิร์สของ เม่น และ ตี่ตี๋ กับภาพที่สดใส สนุกสนาน พร้อมท่าเต้นสุดคิ้วท์ที่ชวนขยับไปตามจังหวะเตรียมไปฟินกับ ‘สัมภเวซี้’ ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : Billkin PP Krit Official แล้วอย่าลืมนับถอยหลังไปสนุกกันต่อในภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’ 20 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ภาพ : Billkin PP Krit Official

‘ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah)’ ประกอบซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ ครั้งแรกของ เลออน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านชีวิตตัวละคร ‘บัว’

10 มี.ค. 2025

‘ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah)’ ประกอบซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ ครั้งแรกของ เลออน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านชีวิตตัวละคร ‘บัว’

ยังคงตามลุ้นตามเชียร์กันหนักมาก สำหรับเรื่องราวในซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ ผลงานจากค่ายน้องใหม่ LOOKE ที่นอกจากจะชวนน่าติดตามผ่านเรื่องราว ล่าสุดยังส่งเพลงประกอบเพลงใหม่ ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah) ซิงเกิลที่ 5 จากเพลงประกอบซีรีส์ร้องโดย เลออน เซ็ค (LEON ZECH) ถ่ายทอดความรู้สึกของ ‘บัว’ ตัวละครที่ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์แบบกั๊ก ๆ หลังจาก ‘เชียร’ หรือ ไป๊ป-มนธภูมิ สุมนวรางกูร กำลังจะเริ่มต้นกับความรักครั้งใหม่ ทำเอา ‘บัว’ เกิดอาการนอยด์ เพราะสำหรับ ‘บัว’ แล้ว ‘เชียร’ คือคนสำคัญที่เป็นมากกว่าเพื่อนสนิท แม้จะไม่ใช่แฟนแต่ก็เป็นคนพิเศษที่ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้โดยเพลง ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah) เป็นเพลงป๊อปอาร์แอนด์บี ที่มี ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ จากวง Paper Planes มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ ออกแบบเนื้อร้องและทำนองให้มีกลิ่นอายของวัยรุ่นยุคใหม่ พร้อมดึงคาแรกเตอร์ของ เลออน ออกมาได้อย่างลงตัว และยังถึงสะท้อนอารมณ์นอยด์และน้อยใจ ของคนที่กำลังจะถูกลดความพิเศษลง เลยอยากให้ทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกลับไปเท่าเดิมขณะที่ เลออน เล่าความรู้สึกให้ฟังว่า “สำหรับเพลง ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah) เป็นซิงเกิลแรกในชีวิตของผมเลยครับ บอกเลยว่าปลื้มสุด ๆ ที่ความฝันเป็นจริง และรู้สึกดีใจมากครับที่พี่ฮาย Paper Planes มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ พี่ฮายใจดี เป็นกันเองมาก พี่เขาจะคอยแนะนำเเลกเปลี่ยนไอเดีย เพื่อให้เพลงออกมาตรงกับสไตล์เรามากที่สุด ตอนแรกรู้สึกกดดัน และตื่นเต้นมากครับ แต่ผมก็พยายามทำการบ้านหนักมาก ฝึกจำเมโลดี้ของเพลงนี้จนซึมเข้าหัว ตอนอัดเพลงจริงก็เลยผ่านไปได้ด้วยดี พอได้ยินเสียงตัวเองในในเวอร์ชันมาสเตอร์ รู้สึกฟินมากเลยครับ“เนื้อหาในเพลง ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah) มีท่อนหนึ่งที่ร้องว่า รักเราไม่เท่ากัน ฉันจึงสำคัญไม่เท่าเดิม เป็นเพลงที่ร้องเองก็ชอบเอง นั่งฟังวนไปทั้งวันเลยครับ คิดว่าเพลงนี้น่าจะรีเลทกับทุกคนที่เคยเจอประสบการณ์ความรักแบบนี้นะครับ สิ่งที่เราให้ไป แอกชันกับรีแอกชันมันอาจจะไม่เท่ากัน หวังว่าจะชอบเพลงนี้กันนะครับ อยากให้ทุกคนได้อินไปด้วยกัน ฟังเพลง ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah) แล้วอย่าลืมกดเซฟไว้ในเพลย์ลิสต์ของทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ”ติดตามฟังและชมมิวสิกวิดีโอ ไม่เท่าเดิม (Noid-Ah) ได้ที่ YouTube : LOOKE และติดตามชมซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ ทุกวันเสาร์ ดูสดพร้อมกัน เวลา 20:30 น. ทาง ช่องวัน 31 และรับชมออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 21:45 น. บนแอป iQIYI และเว็บ www.iQ.com ที่เดียวเท่านั้น

‘ไอ้บ้า (Gu ja Crazy)’ เพลงแทนใจของคนแอบรัก ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ ‘บ้าบิ่น’ ในซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ

03 มี.ค. 2025

‘ไอ้บ้า (Gu ja Crazy)’ เพลงแทนใจของคนแอบรัก ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ ‘บ้าบิ่น’ ในซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ

กลายเป็นขวัญใจแฟน ๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวละคร ‘บ้าบิ่น’ ที่รับบทโดย PJ หรือ พีเจ-มหิดล พิบูลสงคราม ในซีรีส์ GELBOYS สถานะกั๊กใจ ซึ่งมาในลุคไทป์หมาเด็กสุดน่ารัก จนแฟน ๆ ต้องพากันชูป้ายไฟส่งกำลังใจให้แบบสุดพลัง ล่าสุด LOOKE ค่ายผู้ผลิตซีรีส์ iQIYI GELBOYS สถานะกั๊กใจ ไม่รอช้าปล่อยเพลงประกอบซีรีส์ซิงเกิลที่สี่ ไอ้บ้า (Gu ja Crazy) ซึ่งได้ PJ ศิลปินน้องใหม่แกะกล่อง มาถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครนี้ด้วยตัวเองเพลง ไอ้บ้า (Gu ja Crazy) ถ่ายทอดเรื่องราวของ บ้าบิ่น ที่แอบรัก โฟร์มด รับบทโดย นิว-ชยภัค ตันประยูร เพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาตลอด แต่กลับไม่กล้าสารภาพความในใจ เพราะกลัวจะสูญเสียความสัมพันธ์ไป ได้แต่ทำเรื่องบ้า ๆ เพียงเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ ๆ คนที่แอบรัก และสุดท้ายก็ต้องกลับมาด่าตัวเองว่า ‘ไอ้บ้า’ ซึ่งเป็นการเล่นคำล้อไปกับชื่อตัวละครได้อย่างลงตัวซิงเกิลนี้ถือเป็นผลงานแรกของ PJ ในฐานะนักร้อง ซึ่งได้โปรดิวเซอร์มากฝีมืออย่าง แทน-ธารณ ลิปตพัลลภ แห่งวง LIPTA มาช่วยดูแลทั้งเนื้อร้องและทำนอง ทำให้เพลงออกมาเป็นแนวป๊อปฟังสบาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเข้ากับเสียงของ PJ ได้เป็นอย่างดี“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่คอยซัปพอร์ตกันมาตลอด พอได้เห็นฟีดแบ็กแล้วดีใจมาก ๆ ครับ พวกเราปลื้มมากที่ซีรีส์ iQIYI GELBOYS สถานะกั๊กใจ ติดเทรนด์ตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ สำหรับ ไอ้บ้า (Gu ja Crazy) นี่เป็นซิงเกิลแรกของผมเลย ตอนเข้าห้องอัดยอมรับว่ากลัวมาก เพราะการร้องเพลงเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม แถมยังเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับพี่แทน ลิปตา ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ที่เก่งมาก พี่เขาเขียนเนื้อเพลงออกมาได้ตรงกับคาแรกเตอร์ของบ้าบิ่น และสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ ทำให้ผมดึงอินเนอร์ของบ้าบิ่นออกมาได้เต็มที่ ก็ขอฝากซิงเกิล ไอ้บ้า (Gu ja Crazy) เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกของตัวละครนี้ และขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่เอ็นดูบ้าบิ่น ขอบคุณมากครับ”แฟน ๆ สามารถรับชมมิวสิกวิดีโอเพลง ไอ้บ้า (Gu ja Crazy) ได้ทาง YouTube : LOOKE ติดตามซีรีส์ iQIYI Original GELBOYS สถานะกั๊กใจ ทุกวันเสาร์ ดูสดพร้อมกัน เวลา 20:30 น. ทางช่อง วัน 31 และรับชมออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 21:45 น. บนแอป iQIYI และเว็บไซต์ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น!ภาพ : LOOKE

PP Krit x MILLI ชวนไปอุ่นเครื่องความสนุกด้วยเพลง ‘ตื่น’ ประกอบภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’

28 ก.พ. 2025

PP Krit x MILLI ชวนไปอุ่นเครื่องความสนุกด้วยเพลง ‘ตื่น’ ประกอบภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’

หลังจากที่ GDH จับมือกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment เปิดตัวภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’ ไปได้ไม่นาน ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟน ๆ อีกครั้งด้วยการปล่อยเพลง ‘ตื่น’ (Wake Up Call) ซิงเกิลใหม่จาก PP Krit พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร หนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์ที่มาพร้อมบีทสนุกสุดมันส์ พร้อมปลุกสติให้เลิกจมอยู่กับความเศร้า และมูฟออนไปกับจังหวะที่พร้อมจุดไฟให้ลุกท่วมแดนซ์ฟลอร์เพลง ‘ตื่น’ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย BADMIXY ที่รับหน้าที่แต่งทำนองและเรียบเรียง เพิ่มพลังความมันส์ด้วยไรม์สุดจี๊ดจาก MILLI แร็ปเปอร์สาวสุดฮอต และได้ Mek Machina มานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ เพิ่มสีสันให้กับเพลงได้อย่างลงตัว โดยแรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากฉากในภาพยนตร์ที่ เม่น และ ตี่ตี๋ กำลังทำภารกิจสำคัญ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสุดบันเทิงไม่เพียงแค่เพลงที่จัดจ้าน แต่มิวสิกวิดีโอก็ถูกยกระดับความสนุกโดย หมู-ชยนพ บุญประกอบ ผู้กำกับภาพยนตร์ ‘ซองแดงแต่งผี’ ที่มาสร้างสรรค์การเล่าเรื่องผ่านการสิงร่างของ ผีตี่ตี๋ ในทุกตัวละคร พร้อมนักแสดงนำที่มาร่วมสร้างสีสันกันแบบจัดเต็ม นำโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์ และ พีพี กฤษฏ์ คู่ซี้สุดฮอต รวมถึง ก้อย อรัชพร, ปิยะมาศ โมนยะกุล, จตุรงค์ พลบูรณ์, รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น, เอ็ดดี้ จรรยหาญ, ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม, แอนนา ชวนชื่น และ ธนวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ที่จะมาสร้างความเฮฮาให้กับมิวสิกวิดีโอนี้แบบจัดเต็มรับชมมิวสิกวิดีโอเพลงฟังเพลง ‘ตื่น’ (Wake Up Call) จาก PP Krit feat. MILLI ได้แล้วทาง YouTube : Billkin PP Krit Official ไปอุ่นเครื่องความสนุกก่อนเปิดซองรับชมภาพยนตร์กันแบบเต็ม ๆ กับ ‘ซองแดงแต่งผี’ 20 มีนาคมนี้ภาพ : GDH

ENTERTAINMENT NEWS

หลิงหลิง และ ออม ติดอันดับคนดังสร้างมูลค่าทางสื่อสูงใน Paris Fashion Week

19 มี.ค. 2025

หลิงหลิง และ ออม ติดอันดับคนดังสร้างมูลค่าทางสื่อสูงใน Paris Fashion Week

Paris Fashion Week ฤดูกาล Autumn/Winter 2025 กลายเป็นเวทีสำคัญที่ต้องจารึกไว้ในวงการแฟชั่นโลก เมื่อสองนักแสดงไทย หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง และ ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ สร้างปรากฏการณ์ Engagement ที่ทะลุทุกสถิติจนสามารถคว้าอันดับ 2 และ 3 ของ Earned Media Value (EMV) ในงาน Dior AW25 PFW ได้สำเร็จ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลและพลังของนักแสดงไทยบนเวทีระดับโลกในงาน Dior AW25 ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส หลิงหลิง และ ออม ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงอิทธิพลของพวกเธอในอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยสามารถทำสถิติ EMV รวมกว่า $35.5M (ประมาณ 1,280 ล้านบาท) คิดเป็น 42.13% ของมูลค่าทั้งหมดที่ Dior สร้างขึ้น ($84.31M หรือประมาณ 3,040 ล้านบาท) ซึ่งส่งผลให้ Dior ขึ้นแท่นแบรนด์ที่สร้างมูลค่าสื่อสูงที่สุดในซีซันนี้สำหรับ ออม พลังของเธอในโลกดิจิทัลสามารถทำยอด EMV ได้สูงถึง $18.4M (ประมาณ 660 ล้านบาท) และขึ้นแท่นอันดับ 2 ของงาน Dior AW25 PFW พร้อมสร้าง Engagement Rate สูงถึง 104.2% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบสามปีที่ผ่านมาขณะที่ หลิงหลิง คว้าอันดับ 3 ด้วย EMV $17.1M (ประมาณ 615 ล้านบาท) และ Engagement Rate 75.8% เธอพิสูจน์ให้เห็นว่าอิทธิพลของแฟน ๆ สามารถขับเคลื่อนชื่อของเธอให้โดดเด่นบนเวทีระดับโลกได้สำเร็จโดยมีตัวเลขที่ยืนยันกระแสความแรงของทั้งคู่ในโลกออนไลน์ ด้วยยอดรีโพสต์บน X 3,354,923 ครั้งใน 24 ชั่วโมง / ยอด Engagement รวมบน X 15,160,300 ครั้ง และจำนวน Potential Reach บน X 428,100,000ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า หลิงหลิง และ ออม ไม่ได้เป็นเพียงแขกรับเชิญใน Paris Fashion Week เท่านั้น แต่พวกเธอเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ Dior AW25 PFW กลายเป็นกระแสหลักที่ถูกพูดถึงทั่วโลก นี่คือหลักฐานว่าพลังของแฟนคลับและการสนับสนุนอย่างท่วมท้น สามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการแฟชั่นระดับโลกได้อย่างแท้จริงแสดงความยินดีกับ หลิงหลิง และ ออม ที่ได้จารึกชื่อของพวกเธอลงในวงการแฟชั่นระดับโลก นี่ไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จของเฉพาะตัวบุคคล แต่เป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยที่กำลังก้าวไกลสู่เวทีสากลภาพ : Diorขอบคุณข้อมูลจาก : LingOrmTagTrend

Jeff Satur กวาดรางวัลบนเวที TOTY MUSIC AWARDS ‘Thai Music Of The Year’

18 มี.ค. 2025

Jeff Satur กวาดรางวัลบนเวที TOTY MUSIC AWARDS ‘Thai Music Of The Year’

TOTY MUSIC AWARDS ‘Thai Music Of The Year’ งานประกาศรางวัลประจำปีของคนดนตรี ได้ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ โดยเป็นเวทีที่ศิลปินและแฟนเพลงต่างเฝ้ารอคอย เพื่อร่วมลุ้นและเฉลิมฉลองให้กับผลงานเพลงไทยที่โดดเด่นในปี 2024 รวมถึงผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ งานนี้จัดขึ้น ณ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ศูนย์การค้า ICONSIAMรางวัลในปีนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ รางวัลที่เปิดโอกาสให้แฟนเพลงมีส่วนร่วมผ่านการโหวต และรางวัลที่พิจารณาโดยคณะกรรมการ ซึ่งปีนี้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการขยายขอบเขตของรางวัลให้ครอบคลุมทุกแนวเพลงของไทย ไม่จำกัดเพียงแค่ T-POPศิลปินที่โดดเด่นที่สุดของค่ำคืนคือ Jeff Satur ศิลปินและนักแต่งเพลงมากความสามารถ เจ้าของเพลงฮิต ‘ซ่อน (ไม่) หา’ สามารถคว้ารางวัลไปได้ถึง 6 สาขา อาทิ THE BEST SONG OF THE YEAR, THE BEST RECORD OF THE YEAR และ THE BEST SOLO ARTIST OF THE YEARขณะที่ นนท์ ธนนท์ ก็ฮอตไม่แพ้กัน คว้ารางวัล THE MOST POPULAR MUSIC OF THE YEAR จากเพลง ‘จำนน’ และ THE MOST POPULAR MALE ARTIST OF THE YEAR ด้าน PUN หรือ ปัน-สรณวรรธ พิชัยรณรงค์สงคราม ก็คว้ารางวัลสำคัญอย่าง THE BEST ALBUM OF THE YEAR และ THE BEST NEW ARTIST OF THE YEARส่วนผลรางวัล TOTY MUSIC AWARDS ‘Thai Music Of The Year’ มีดังต่อไปนี้• THE BEST SONG OF THE YEARJeff Satur และ Pluviophile จากเพลง ‘ซ่อน (ไม่) หา’• THE BEST RECORD OF THE YEARJeff Satur และ BILLbilly01 จากเพลง ‘ซ่อน (ไม่) หา’• THE MOST POPULAR MUSIC OF THE YEARนนท์ ธนนท์ จากเพลง ‘จำนน’• THE MOST POPULAR BAND OF THE YEARCOCKTAIL• THE BEST PRODUCER OF THE YEARJeff Satur และ BILLbilly01 จากเพลง ‘ซ่อน (ไม่) หา’• THE BEST ALBUM OF THE YEARPUN• THE MOST POPULAR MALE GROUP OF THE YEARBUS because of you i shine• THE MOST POPULAR FEMALE GROUP OF THE YEAR4EVE• THE MOST POPULAR FEMALE ARTIST OF THE YEARINK WARUNTORN• THE BEST SOLO ARTIST OF THE YEARJeff Satur• THE BEST GROUP ARTIST OF THE YEARSRIRAJAH ROCKERS• THE MOST POPULAR ROOKIES OF THE YEARZeePruk• THE MOST POPULAR MALE ARTIST OF THE YEARนนท์ ธนนท์• THE BEST POP ARTIST OF THE YEARJeff Satur• THE BEST ROCK / ALTERNATIVE ARTIST OF THE YEARTaitosmitH• THE BEST HIP HOP / RAP ARTIST OF THE YEARRéjizz• THE BEST RB ARTIST OF THE YEARDREAMGALS• THE BEST MUSIC VIDEO OF THE YEARGreasy Cafe และ jirat SOMPAKDEE (Director) จากเพลง ‘ความหมายของการมีลมหายใจ’• THE BEST NEW ARTIST OF THE YEARPUN• THE MOST POPULAR MIXED GENDER OF THE YEARSERIOUS BACON• THE MOST POPULAR COLLABORATION OF THE YEARPaper Planes x โจอี้ ภูวศิษฐ์ จากเพลง ‘สาริกาลิ้นทอง’• THE MOST POPULAR ORIGINAL SOUNDTRACK OF THE YEARBillkin จากเพลง ‘สวยงามเสมอ’ ประกอบภาพยนตร์ ‘หลานม่า’• THE BEST HIDDEN GEM OF THE YEAR_less• THE BEST ALBUM PACKAGING OF THE YEAROdd Rojvanich จากอัลบั้ม ‘Space Shuttle No.8’ ศิลปิน Jeff Satur• THE BEST COVER ART OF THE YEARบ.บางพระ จากผลงาน ENDURO - SRIRAJAH ROCKERSนอกจากการประกาศรางวัลที่ศิลปินต่างภาคภูมิใจ งานนี้ยังมีโชว์พิเศษจากศิลปินหลากหลายแนวเพลง มอบความสนุกและความประทับใจให้กับแฟนเพลงทุกคนภาพ : TOTY MUSIC AWARDS / studio_onsaturn

ป.ป.ส.แถลงจับกุม แซ็ก พัชรพล ฐานครอบครองยาเสพติด โดยขยายผลจากข้อความสั่งซื้อในไลน์

18 มี.ค. 2025

ป.ป.ส.แถลงจับกุม แซ็ก พัชรพล ฐานครอบครองยาเสพติด โดยขยายผลจากข้อความสั่งซื้อในไลน์

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้จัดแถลงข่าวจับกุม แซ็ก-พัชรพล ปานพุ่ม อดีตนักร้องนำวง I-ZAX ในข้อหาครอบครองยาเสพติด โดยเป็นผลจากการขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดออนไลน์พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ทางการจีนจับกุมชาวไทย 2 รายที่สนามบินหนานจิง ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ และส่งข้อมูลกลับมาให้ ป.ป.ส. ไทย นำไปสืบสวนต่อจนพบว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดที่ทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์เป็นประจำ และมีบุคคลในวงการบันเทิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยภาพ : AMARIN TVจากนั้นลงพื้นที่ตรวจสอบตามข้อมูลของทางการจีน เจ้าหน้าที่พบว่าผู้จำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญ เป็นหญิงสาวที่เคยทำงานในวงการบันเทิงเป็นผู้ขายรายใหญ่ โดยจะทำการส่งยาเสพติดไปจำหน่ายในสถานบันเทิงย่านสุทธิสาร-รัชดาภิเษก และขณะกำลังสอบสวนอยู่นั้นมีข้อความส่งเข้ามาเพื่อสั่งซื้อยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงอาศัยจังหวะนี้ติดตามไปยังจุดนัดรับยาเสพติด ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในที่เกิดเหตุคือ แซ็ก พัชรพล นักร้องชื่อดังจากยุค 2000 จากข้อมูลพบว่าเขาเป็นลูกค้าระดับ VIP ของเครือข่ายดังกล่าว โดยเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าซื้อมาเพื่อเสพเท่านั้น และไม่ได้มีการจำหน่ายต่อ โดยขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินคดีแล้วภาพ : กรรมกรข่าวเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการสอบสวนต่อไป เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา พบว่ามีบุคคลในวงการบันเทิงอีกนับร้อยรายที่อาจเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งนี้ ป.ป.ส. เน้นย้ำถึงมาตรการเข้มงวดในการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งในและนอกประเทศ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาด

‘ซองแดงแต่งผี’ ขึ้นอันดับ 1 ภาพยนตร์ที่มียอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุดตลอดกาลของ GDH

18 มี.ค. 2025

‘ซองแดงแต่งผี’ ขึ้นอันดับ 1 ภาพยนตร์ที่มียอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุดตลอดกาลของ GDH

แสดงความยินดีกับสถิติแรกของ ‘ซองแดงแต่งผี’ ภาพยนตร์คอมเมดี้แห่งปีจาก GDH ที่จับมือร่วมกับ Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment โดยสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการหนังไทย ด้วยการทำยอดจองตั๋วล่วงหน้าพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 สูงสุดตลอดกาลของค่าย GDH ได้สำเร็จ‘ซองแดงแต่งผี’ ผลงานการกำกับของ หมู-ชยนพ บุญประกอบ ที่ฝากความประทับใจไว้ใน ‘FRIEND ZONE ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน’ และการโปรดิวซ์โดย โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ตั้ม-วีรชัย ใหญ่กว่าวงศ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ‘พี่มาก..พระโขนง’ นำแสดงโดย บิวกิ้น–พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 20 มีนาคมนี้โดย หมู ชยนพ ผู้กำกับของเรื่อง เผยความรู้สึกว่า “ผมดีใจและตื่นเต้นมากที่หนังของเราได้รับความสนใจขนาดนี้ อยากขอบคุณทุกฝ่ายที่ทุ่มเทเต็มที่ โดยเฉพาะทีมโปรโมทที่ทำงานกันแบบไม่มีวันหยุด เพื่อให้หนังเข้าถึงผู้ชมในยุคที่มีสิ่งล่อตาล่อใจมากมาย การที่คนจำนวนมากตัดสินใจจองตั๋วล่วงหน้า ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้หายเหนื่อยไปครึ่งหนึ่งแล้ว ผมหวังว่าผู้ชมจะได้รับทั้งความสนุก ความบันเทิง และเซอร์ไพรส์แบบเต็มอิ่มจากหนังเรื่องนี้”ก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ของ ‘ซองแดงแต่งผี’ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หากไม่อยากพลาดปรากฎการณ์ความสนุก จองตั๋วล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ ก่อนเปิดซองไปร่วมเป็นสักขีพยานรักระหว่างผีกับคน 20 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

ครอบครัว คิมแซรน ทวงคืนความยุติธรรม ด้วยการยื่นฟ้องนักข่าวอีจินโฮข้อหาหมิ่นประมาท

17 มี.ค. 2025

ครอบครัว คิมแซรน ทวงคืนความยุติธรรม ด้วยการยื่นฟ้องนักข่าวอีจินโฮข้อหาหมิ่นประมาท

มีรายงานงานเช้าวันที่ 17 มีนาคม 2568 ครอบครัวของ คิมแซรน นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ เดินทางไปยัง สำนักงานตำรวจนครบาลโซล เขตจงโน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อยื่นฟ้อง อีจินโฮ นักข่าวชื่อดังในข้อหาหมิ่นประมาทจากการนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกและชื่อเสียงของ คิมแซรนตัวแทนทางกฎหมายของครอบครัวเปิดเผยว่า อีจินโฮ ได้ผลิตและเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับ คิมแซรน หลายชิ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2022 ผ่านช่อง YouTube ของเขาคือ Entertainment Behind President Lee Jin-ho ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าคอนเทนต์ที่เผยแพร่มีเนื้อหาบิดเบือน และสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของ คิมแซรน อย่างมากภายหลังการจากไปของ คิมแซรน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 อีจินโฮ ได้ตั้งวิดีโอเก่าที่เคยรายงานเกี่ยวกับเธอเป็น ‘ส่วนตัว’ แต่ยังคงนำเสนอข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยไม่ได้มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบใด ๆอีกหนึ่งประเด็นที่กลายเป็นกระแสถกเถียงในขณะนี้คือ ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง คิมแซรน และ คิมซูฮยอน ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าเกิดขึ้นในช่วงที่ คิมแซรน ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือไม่ ทนายความของครอบครัวยืนยันว่าทั้งคู่เคยคบหากันจริง แต่การกล่าวอ้างของ อีจินโฮ ที่ระบุว่านี่เป็นเพียงการแสดงของ คิมแซรน นั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งครอบครัวมองว่าเป็นข้อมูลบิดเบือนที่ทำลายชื่อเสียงของเธอสุดท้ายทนายความเผยว่า แม่ของคิมแซรน ตั้งใจออกแถลงการณ์เรียกร้องคำขอโทษอย่างเป็นทางการจาก คิมซูฮยอน รวมถึงต้นสังกัด Gold Medalist อย่างไรก็ตาม ทางฝั่ง คิมซูฮยอน กลับแจ้งให้ครอบครัวเป็นฝ่ายติดต่อไปยังค่ายแทน หากต้องการพูดคุยและอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยคดีความนี้กำลังเป็นที่จับตามองในวงการบันเทิงเกาหลี และยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวของ คิมแซรน จะได้รับความเป็นธรรมมากน้อยเพียงใดภาพ : ron_sae

PALMY คัมแบ็ก! ชวนมิตรรักร่วมบุญในคอนเสิร์ตการกุศล สมทบสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่

17 มี.ค. 2025

PALMY คัมแบ็ก! ชวนมิตรรักร่วมบุญในคอนเสิร์ตการกุศล สมทบสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่

หลังจากห่างหายจากเวทีคอนเสิร์ตไปช่วงหนึ่งเพื่อทุ่มเทดูแลสมาชิกในครอบครัวที่ป่วย ล่าสุด PALMY หรือ ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ ศิลปินขวัญใจมหาชน กลับมาพร้อมข่าวดี! ชวนเหล่ามิตรรักไปร่วมสนุกและทำบุญในคอนเสิร์ตการกุศล "PALMY CONCERT ทำบุญหวังผล" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 และ 4 พฤษภาคม 2568 ณ UOB LIVEโดยรายได้ทั้งหมดจากคอนเสิร์ตครั้งนี้จะนำไปสมทบทุนสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยยากไร้ สนับสนุนงานวิจัย รวมถึงช่วยสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่แฟนเพลงจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ พร้อมเพลิดเพลินไปกับบทเพลงและการแสดงสดสุดพิเศษจาก PALMY“ขอเรียนเชิญมิตรรักที่อยากทำบุญแล้วเห็นผล มาร่วมใจกันกับมี่นะคะ งานจัดวันที่ 3 และ 4 พฤษภาคมปีนี้ค่ะ รายได้ทั้งหมดมอบให้โรงพยาบาลรามาธิบดีค่ะ” PALMYสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่เพียงแค่แฟน ๆ จะได้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงที่คิดถึง แต่ยังได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสิ่งดี ๆ ให้สังคม มิตรรักตัวจริงต้องห้ามพลาด ซื้อบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ทาง ALL TICKET ทุกสาขาและ allticket.comภาพ : PALMY

album

0
0.8
1