ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว

21 มี.ค. 2025

ผมอายุ 37 คบแฟน 24 น้องเขาขี้หึงมาก ผมทำงานเป็นตากล้อง เจอนางแบบสวยๆ แต่แฟนไม่โอเค

สั่งให้ลบรูปในโซเชียลทั้งหมด ผมลงเพราะเก็บพอร์ตก็ต้องลบ หลังๆมา แฟนบอกว่าให้เลิกทำอาชีพตากล้อง

ผมเลิกไม่ได้เพราะคือรายได้หลัก ตอนนี้ผมห่างกับเขาแล้ว แต่ยังไม่ได้ถอนหมั้นกัน จะทำยังไงดี?

            “คุณกอล์ฟ (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [19 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนขี้หึงมากจนกระทบกับงาน

            โดย “คุณกอล์ฟ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมหมั้นกับน้องคนนึง เขาอายุ 24 ปี เราคบกันและหมั้นมารวมทั้งหมด 2 ปี ผมทำอาชีพเป็นช่างภาพ ส่วนน้องเขาทำงานที่ร้านของบ้านผม น้องเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสังคม เอาแต่ใจ และเริ่มลามไปถึงเรื่องงานของผม ช่วงแรกๆที่คบกันน้องมีนิสัยงี่เง่านิดหน่อย แต่ยังไม่ได้ฉายแสงอะไร แต่ก็หึงหวงแรงมาก เช่น ตัดเพื่อนในโซเชียลมีเดียของผมเองเลย ช่วงที่ผมหมั้นกับเขาและทำงานไปด้วย ผมตัดเรื่องการถ่ายรูปเล่น เก็บพอร์ต ผมตัดทุกอย่างเพื่อเขา และรับแต่งานถ่ายภาพที่เป็นงานจริง ๆ เท่านั้น สาเหตุที่ผมตัดสินใจหมั้นกัน เพราะน้องเขาเป็นคนหน้าตาดี ผมก็อายุ 37 ปีแล้ว รู้สึกว่าถึงเวลาที่ควรจะมีครอบครัวได้แล้ว ถ้าช้ากว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวตอนไหน ก่อนคบกับเขา ผมค่อนข้างเจ้าชู้ เป็นคนเฟรนลี่ เล่นกับทุกคนไปหมด แต่พอคบกับเขา น้องก็มองว่าช่างภาพเจ้าชู้ทุกคน ผมเลยให้ความเชื่อใจโดยให้เขาดูทุกอย่าง รับงาน คุยกับใคร เช็คโทรศัพท์ได้ตลอด ซึ่งไม่เคยมีปัญหาเรื่องมือที่สามเลย

            จนกระทั่ง เวลาที่ผมจะต้องออกไปทำงาน ผมต้องคอยรายงานเขาตลอด แต่เวลาที่ผมเริ่มถ่ายงานเสร็จ ผมไม่ได้ทักบอกเขา เขาก็บอกว่า ทำไมถ่ายงานเสร็จแล้วไม่ทักบอกเลย ผมก็บอกว่า ขอนั่งพักซักแปปนึงได้ไหม เป็นแบบนี้ทุกครั้งมาตลอด เขาจะกลัวว่าผมจะไปจีบลูกค้า ไปคุยกับลูกค้าเกินกว่าที่เป็นช่างภาพกับลูกค้าคุยกัน ผมก็คอยแต่บอกเขาว่า มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็ให้เช็คได้ตลอดทุกครั้ง เราทะเลาะกันเรื่องนี้มาตลอด พอทะเลาะกันก็จะมีคำพูดนึงขึ้นมาว่า ไม่เคยชอบหรอกนะที่เธอถ่ายรูป และสุดท้ายเรื่องนี้ก็ลามไปถึงที่บ้านผม เพราะน้องอยากไปทำงานต่างจังหวัด ผมให้เขาไปคุยกับพ่อแม่ก่อน แต่พอคุยเสร็จก็ทะเลาะกับพ่อแม่ผม น้องยื่นคำขาดว่า ถ้าอยากให้เขาทำงานที่บ้าน ต้องให้ผมเลิกถ่ายรูป ผมถามเขาว่า แล้วจะทำอะไรกิน? เพราะแม้ว่าผมจะช่วยที่บ้านทำงาน แต่รายได้จากการถ่ายรูปก็ไม่ใช่น้อย ๆ ต่อเดือน กลายเป็นว่าเขาก็เลือกที่จะไปทำงานต่างจังหวัด ช่วงแรกเขาทดลองงาน 3 เดือน ผมซัพพอร์ตทุกอย่าง ค่าหอพัก ค่ากิน ค่าจิปาถะ

            ผมเคยแนะนำให้เขาทำงานที่บ้าน ถ้าไม่อยากทำงานที่บ้านก็ทำข้างนอก แต่ให้อยู่จังหวัดเดียวกัน จะได้กลับบ้านมาเจอกัน เป็นครอบครัว แต่น้องบอกว่า ไม่ ถ้าอยากให้เขาอยู่ ต้องเลิกถ่ายรูป หลังจากทดลองงานเสร็จ ผมบอกให้กลับมาขายของหน้าบ้านก็ได้ เพราะเขามีประสบการณ์ด้านร้านคาเฟ่ แต่น้องบอกหมดแพชชั่น ไม่อยากทำ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ คงเป็นเพราะไม่อยากมาเจอหน้าพ่อแม่ผม ที่เขาทะเลาะกับพ่อแม่ผมด้วยเรื่องที่เขาจะขอไปทำงานต่างจังหวัด เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ไป อยากให้ทำงานใกล้ ๆ ต่อให้ไม่ทำงานที่บ้านก็ไปทำงานในระแวกนั้นก็ได้ แล้วก็กลับบ้านมาเป็นครอบครัว แต่กลายเป็นว่า เขาเป็นคนดื้อ เขาเป็นคนเอาแต่ใจ ว่าฉันต้องทำแบบนี้ มีเส้นชัยไว้แบบนี้ ฉันต้องไปให้ได้ ซึ่งตอนนี้เขาไปทำงานไกลกว่าเดิมอีก ตอนแรกเขาฝึกงานกับอินฟลูเอนเซอร์คนนึงอยู่ในจังหวัดขอนแก่น แล้วก็ไปสมัครกับอินฟลูเอนเซอร์อีกคนที่โคราช ณ ตอนนี้ก็ทำงานอยู่ที่โคราช ยิ่งอยู่ห่างกัน น้องยิ่งหวงมากขึ้น พ่อแม่ผมถามว่า เธอไม่ไว้ใจลูกฉัน แล้วฉันไว้ใจเธอได้ไหม? น้องตอบว่า เชื่อใจได้สิ แต่ผมไม่เคยเช็คมือถือเขาเลย เพราะผมมองว่าชีวิตคู่ไม่ควรตึงหรือหย่อนเกินไป ต้องพอดี ๆ และเชื่อใจกัน ตอนแรกเราหมั้นกัน แล้วกะว่าครบปีจะจดทะเบียนสมรส แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าวันสุดท้ายที่ขาดสัมพันธ์กันเพราะความงี่เง่าของเขา

            วันนั้นผมออกไปถ่ายรูปรับปริญญาแต่เช้า บอกเขาแล้วว่าออกจากบ้านแล้วนะ แต่พอไปถึงที่งาน ผมไม่ได้ทักบอก น้องก็โกรธ พอตอนเย็นผมมีประชุมต่อ ก็ถ่ายรูปให้ดูว่าสถานที่ประชุมอยู่ตรงไหน แต่น้องก็งอนว่า ทำไมไม่บอกก่อนออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ผมเป็นคนง้อ ขอโทษทุกอย่าง แต่ครั้งนี้ผมสุดจริง ๆ ผมบอกว่า ถ้าผมไม่ดี เปลี่ยนใหม่ไหม หรือห่างกันสักพัก น้องเขาก็ไม่ง้อผม เปลี่ยนสีแชท ลบทุกอย่าง หายไปหมด ผมเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ผมทำถูกไหม ควรรอให้เขาคิดได้มากกว่านี้ หรือควรไปง้อเขา แล้วถ้าเขากลับมาง้อผม ผมควรพูดยังไง?

            เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คิดว่าเขายังคิดไม่ได้ แล้วก็ถ้าคุณกอล์ฟจะรอก็สุ่มเสี่ยงไป อายุ 37 แล้ว ถ้าคิดจะวางแผนอนาคต ลองมองหาคนที่เป็นผู้ใหญ่และเข้าใจเรามากกว่านี้ คือการมีแฟนต้องไม่แตะเรื่องการทำงานของเราเลย งั้นก็เลือกตัดแฟน ถูกต้องแล้ว คนนี้ไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงจรของเรา เขาไม่สามารถเข้ามาโลกของเราได้ เขาไม่ได้เหมาะ เปลี่ยนคน เอาผู้ใหญ่ที่โตกว่านี้ เข้าใจการทำงานของเรา ไม่ได้ผิดที่เราผิดที่เขา’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รู้สึกว่าคุณกอล์ฟดูถูกตัวเองไปหน่อย ว่าอายุ 37 แล้วยังไม่แต่งงานมันจะช้า เพราะรู้สึกว่า 37 มันควรได้อยู่ที่ส่งเสริมกันและกัน ซึ่งน้องเขาอาจจะไม่เหมาะกับแบบนี้ คุณกอล์ฟต้องถามตัวเองว่าถ้าแต่งงานแล้ว  เราจะอยู่กับเขาได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้าเขากลับมา แล้วคุณกอล์ฟใจอ่อน ก็ต้องคุยกับเขาว่า เป็นแบบนี้ไม่ได้ เพราะอันไหนที่มันเกินไป ก็ต้องบอกว่าคุณกอล์ฟไม่โอเคกับเรื่องนี้ ก็ต้องปรับตัว ถ้าไม่ได้ก็เลิก’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ด้วยความห่างของอายุ 37 กับ 24 มันห่างกันมาก และคนละ Generation วิธีคิด การแสดงออก คนละแบบ ความตกตระกอนในชีวิตคนละเรื่อง ถ้าเราจะรอให้ผู้หญิงคนนี้ให้โต มันไม่ได้การันตีว่า อายุเยอะขึ้นแล้วจะหาย บางคนก็งี่เง่าแบบนี้ไปเรื่อย ๆ  ถ้างี่เง่าเรื่องอื่นโอเค แต่ถ้ามาตัดรายได้มันอยู่ด้วยกันไม่รอดแล้ว นั่นแปลว่าทัศนคติในการสร้างครอบครัวมันไม่เหมือนกันแล้ว การสร้างครอบครัวมันไม่ใช่แค่การคบแค่เป็นแฟน มันคือการหาเงิน การช่วยกันบริหารรายจ่าย รายรับ แต่เราดันไปเจอคนที่ไม่พร้อมมาก ๆ ถ้ามีแล้วปวดหัว มีแล้วการงานเสีย มีแล้วรายได้หด ก็อย่าเพิ่งมีดีกว่า’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผู้ชายออกตัวแรง จีบเก่ง ดูแลดี แค่ช่วงแรกๆ พอเราเริ่มจริงจัง คุยมาเดือนกว่าๆ เขาก็เทแรง ซ่อนสตอรี่IG บล็อกเบอร์ ติดต่อไม่ได้ หายไปเลย ครั้งหน้าถ้าเจอผู้ชายทรงนี้อีก จะทำยังไงดีคะ?

27 พ.ค. 2024

ผู้ชายออกตัวแรง จีบเก่ง ดูแลดี แค่ช่วงแรกๆ พอเราเริ่มจริงจัง คุยมาเดือนกว่าๆ เขาก็เทแรง ซ่อนสตอรี่IG บล็อกเบอร์ ติดต่อไม่ได้ หายไปเลย ครั้งหน้าถ้าเจอผู้ชายทรงนี้อีก จะทำยังไงดีคะ?

“คุณสอง (นามสมมติ)” อายุ 20 ปีกว่าๆ สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [22 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาไม่เข้าใจผู้ชายที่เข้ามาจีบ ตอนจีบก็จีบแรง แต่พอจะเทก็เทแรงเหมือนกัน… โดย “คุณสอง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคุยกับผู้ชายคนหนึ่งมาได้ประมาณเดือนกว่าๆ ผู้ชายคนนี้เขาแก่กว่าหนู ประมาณ 3 ปี บุคลิกของเขาจะเป็นคนที่ขี้เล่น ขี้หยอด จีบแรง เหมือนเพลย์บอยคนนึง แต่เขาก็จะมีมุมที่จริงจังเหมือนกัน เขาบอกกับหนูว่า เขาอยากจะมองหาความสัมพันธ์ที่ระยะยาว คนที่จะสร้างอนาคตไปด้วยกันได้ แล้ว ณ ตอนนั้น เขาก็บอกกับหนูอีกว่า หนูตรงกับคนที่เขาวางเอาไว้มากๆ เป็นคนที่ใช่เลย แล้วเขาก็เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าเกิดว่าเขาเจอคนที่ไม่ตรงกับภาพในหัวของเขา เขาก็จะเทเลย ในช่วงที่คุยกันเหมือนเขาจะรู้สึกอินกับหนูมากๆ ทั้งเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งดูแล้วเขาก็ดูแคร์หนูมากๆ เลยด้วย มีอยู่วันนึง หนูมีนัดกับเพื่อนตอนค่ำๆ แล้วสรุปเพื่อนเทหนู หนูก็เลยทักแชทไปหาเขาว่า ว่างมั้ย แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า เขามีนัดกินข้าวกับที่บ้านแล้ว หนูก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไร งั้นไว้นัดกันวันหน้าก็ได้ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ปกติดีทุกอย่าง จนกระทั่งช่วงเวลาดึกๆ ของวันนั้นหนูส่งข้อความไปเขา เขาก็ไม่ตอบ หนูก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะปกติเวลาแบบนี้เขาจะตอบแชทหนู วันถัดไปหนูก็เลยส่งข้อความไปหาเขาอีก สลับกับโทรหา พยายามติดต่อเขาทุกช่องทาง แต่เขาก็ไม่ตอบข้อความแล้วก็ไม่รับสายโทรศัพท์ด้วย แล้วทีนี้เหมือนใน IG เขาจะ Hide ไม่ให้หนูเห็น Story เขาด้วย ที่หนูรู้ว่าเขา Hide เพราะโปรไฟล์เขาเป็นสาธารณะ มันก็จะมีเว็บไซต์ที่เอาไว้ส่องโปรไฟล์สาธารณะได้ แล้วดูว่าเขาลง Story อะไร เราก็แค่พิมพ์ชื่อแอคเคาท์ไปก็สามารถรู้ได้เลย แล้ววันนั้นที่เขาไม่ตอบแชท ไม่รับสายหนู แต่ใน IG เขาลง Story เยอะมาก คือหลังจากนั้นหนูก็มีทักไปหาเขาประมาณว่า เราขอ Unfollow แล้วกัน จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้พยายามทักอะไรเขากลับไป ส่วนเขาก็ไม่ได้มีทักอะไรหนูกลับมาเหมือนกัน มันเป็นความคาใจมากๆ เพราะก่อนหน้านี้หนูก็เคยเล่าให้เขาฟังว่า เคยเจอคนที่นิสัยเหมือนเขามากๆ แล้วเราก็โดนเทแรง ซึ่งตอนนั้นเขาก็รับฟัง แล้วก็ให้คำแนะนำดีมากๆ ดูเข้าอกเข้าใจ แต่มันกลับกลายมาเป็นว่าเขาเป็นคนทำซะเอง หนูก็เลยไม่เข้าใจคนแบบนี้มากๆ หรือมันมีอะไรในตัวหนูที่ไปทำให้เขาตัดสินใจหายออกไปจากชีวิตได้ไวขนาดนี้ วันนี้หนูมี 3 คำถามที่อยากจะปรึกษาพี่ๆ ดีเจ คำถามที่ 1. อยากรู้ว่าคนแบบอะไรที่มันทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ไวขนาดนี้ ? คำถามที่ 2. เขาไม่ละอายคำพูดตัวเองบ้างหรอ เพราะสิ่งที่เขาทำกับสิ่งที่เขาพูดมันคนละเรื่องกันเลย? คำถามที่ 3. ถ้าเราเจอคนที่นิสัยประมาณนี้อีก เราจะรู้ได้ยังไงว่าเขามาหลอกเรา? งานนี้ “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนพี่ไม่รู้หรอก มันสารพัดเหตุผลถ้าแค่รู้ว่าเรา ไม่ใช่สำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว ส่วนคำถามกล้าพูดได้ยังไง คนบุคลิกแบบนี้ไม่ละอายคำพูดตัวเองหรอ ช่วงการทำความรู้จักกันกับใครสักคนในช่วงแรกๆ เราก็จะพยายามทำให้อีกฝ่ายประทับใจกับสิ่งที่เราพูดอยู่แล้ว เพราะงั้นคำพูดที่อยู่ในช่วงนี้ก็อย่าไปนับ อย่าไปเชื่อมันมาก ให้ดูยาวๆ แล้วถ้าเจอคนประมาณนี้อีกทำยังไง ก็อยู่ที่ตัวเราว่า พร้อมจะเจ็บมั้ย ความรักคือการเสี่ยงอยู่แล้ว เราไม่มีวันรู้หรอกว่า คนทรงเดิม หน้าตาแบบเดิม เขาจะทำกับเราแบบเดิมมั้ย มนุษย์ถูกออกแบบมาไม่เหมือนกัน คนเรามีวิธีชิ่งจากใครสักคนหนึ่งในแบบที่แตกต่างกัน จงคิดในแง่ดีว่า อย่างน้อยเขาเด็ดขาดพอที่จะชัดเจน ไม่ก็คือไม่ หายก็คือหาย เพราะฉะนั้นจงคิดว่าเขาแฟร์กับเราแล้วนะ อาจจะไม่ได้บอกลากันดีๆ ก็เถอะ แล้วพี่ว่า 3 คำถามที่สองถามมา ขีดฆ่าไปได้เลย มันเป็นแค่ความสัมพันธ์ครั้งหนึ่งที่คนเราทำความรู้จักกัน แล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่อยากจะไปต่อแล้ว แต่มันดันซวยมาเกิดขึ้นกับสอง คล้ายๆ กันถึง 2 ครั้งแล้ว ทำให้สองเสียความมั่นใจในตัวเอง เราทำอะไรผิดมั้ย หรือในทางกลับกันไปโทษอีกฝั่งหนึ่งว่า ทำไมฉันต้องเจอคนอย่างเธอ แต่ทั้งหลายทั้งมวลแค่ ถ้าสองตั้งสติแล้วบอกกับตัวเองว่า คน 2 คนที่คุยกันแล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตัดสินใจไม่เดินต่อ ก็คือจบ เราก็แค่เริ่มมองหาความสัมพันธ์ใหม่ แล้วก็เสี่ยงวัดดวงกันใหม่ ชีวิตมีเท่านี้เอง แค่ยอมรับความจริงว่า “เออเทก็เท” มันโชคร้ายที่คน 2 คนรู้สึกไม่เท่ากันแค่นั้นเอง เราเลยพยายามที่จะหาคำตอบแวดล้อมเพื่อให้การโดนเทครั้งนี้มันชอบธรรมสำหรับเรามากขึ้น สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้มีความรักครั้งที่ 15 16 มันก็ยังต้องเสี่ยง ปัญหาบางอย่างอาจจะไปเกิดตอนคบกันก็ได้ สุดท้ายมันคือการเดิมพัน มันอีกเยอะอ่ะ เราอยู่แค่สเตจแรกแล้วมันไม่สมหวังแค่นั้นเอง มันยังเหลืออีกหลายสเตจเลยสอง ต่อให้ไม่ทิ้งไม่เทกันก็เถอะ อยู่กันไป แล้วเกิดการด่าทอ ตบสองทุกวัน อย่างงี้เอามั้ยล่ะ เทียบกับคนนี้ที่เขาชัดเจนว่า ไม่ใช่ก็ไป แยกย้ายจบ อย่าไปคิดว่าเราโชคร้าย อย่าไปคิดว่าฉันไม่ดี มีคนที่โชคร้ายในความรักหนักกว่าเราอีกเยอะเลยสอง ถ้าโชคดีแล้วล่ะที่ทุกอย่างมันจบภายในเดือนหนึ่งอ่ะ ให้เธอได้มีเวลา ให้เธอยังไม่ได้ผูกพันมาก แล้วก็ให้เธอได้ตั้งหลักพอที่จะหาใหม่’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เท่าที่ฟังพี่ว่าสองเป็นคนที่อินกับคนง่ายมากเลยนะ ยิ่งถ้าหนูเจอในออนไลน์อีกก็คือไม่ต้องสงสัยเลย อะไรทำให้เขาเปลี่ยนไป อันนี้พี่ไม่รู้เลย คือเขาไม่ชอบหนู หนูไม่ใช่ไทป์เขาแล้ว เขามีอีกคนที่ดูไว้อยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเขาคิดจะทิ้งหนู แต่พี่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันเป็นไปได้หมดทุกอย่าง คนที่บุคลิกแบบนี้ทำไมไม่ละอายคำพูดตัวเอง พี่ก็ไม่รู้อีก คนปกติก็มีแบบนี้ ยิ่งคนในออนไลน์เรื่องแบบนี้ยิ่งปกติสุดๆ มันอยู่ที่กมลสันดานของแต่ละคนด้วย บางคนก็อาจจะพูดไปเพราะเขาอยากได้เรา ให้เราชอบเขา เขาก็พูดไปก่อน สักพักไม่ชอบแล้วเขาก็เทเลย หรือบางคนอาจจะมีปมอะไรก็ได้หมดเลย เช่นเดียวกันพี่ก็ตอบไม่ได้ ถ้าเจอคนประมาณนี้อีกทำไง อย่างแรกที่พี่อยากจะแนะนำถ้าจะคุยผ่านออนไลน์ อย่าอินคนง่าย ต้องดูเขานานๆ มันมีคนดีแน่นอน แต่มันมีคนไม่ดีเยอะมาก อย่างแรกที่พี่ขอก็คือ 1.อย่าอินเกิน 2.ทำใจ เพราะว่าเจอแบบนี้ปกติสุดๆ 3.ถ้าอยากจะมีความรักก็ต้องยอมรับว่าเราต้องเจอคนแบบนี้เต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะออนไลน์หรือว่าจะในชีวิตจริง แต่ว่าถ้าวันหนึ่งมันมีคนดีจริง เดี๋ยวมันก็มีคนเข้ามาหาเราต้องรีบ อย่าไปลดคุณค่าตัวเอง อย่างที่พี่เผือกบอก ก็แค่หนึ่งคนที่คุยแล้ว มันไม่คลิกก็ไป ไม่ต้องไปตั้งคำถามมันเสียเวลา ยิ่งกับคนออนไลน์ เราหาใหม่ได้เลย’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอบคำถามแรกอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป เขาอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปก็ได้ เขาอาจจะเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว แล้วก็เขาก็ออกตัวแล้วนะว่า ถ้าไม่ใช่เขาก็เท แปลว่า ความสัมพันธ์ยังอยู่ในช่วงของการดูใจ แล้วก็สองแค่ไม่ใช่สำหรับเขาอีกต่อไป พอไม่ใช่เขาก็ไป คือเดือนหนึ่งโดนเทโดยที่ตัดขาดเลยอ่ะ ไม่น่าเกลียดนะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคุยกันมานานๆ แบบ 5 - 6 เดือนเกิดความผูกพันกัน แล้วเขาจะเทถ้าเป็นผู้ชายดีๆ เขาก็จะบอกเลยว่า ขอลดระดับความสัมพันธ์ ก็จะมีคำพูดดีๆ แบบนี้ แต่ถ้าแค่เดือนเดียวมันไม่ใช่แค่ผู้ชาย ถ้าเป็นพี่ พี่ก็เทเพราะมันไม่ใช่ มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่จำเป็นต้องแคร์กัน ส่วนทำไมไม่ละอายคำตัวเอง ก็อย่างที่พี่เผือกบอกเลย มันเป็นช่วงเวลาของการทำคะแนน ช่วงนี้อะไรมันก็ดีไปหมดแหล่ะ มันอยากได้อ่ะเนอะ บางคนก็มาเพื่อแบบหลอกฟันก็มี พอได้แล้วก็เลิก หรือช่วงนั้นเขาอาจะรู้สึกแบบ แฮปปี้ฉันอยู่กับเธอแล้วมีความสุข เพราะมันเป็นช่วงของการหลงใหลอยู่ไง แล้วพออยู่ไปนานๆ แล้วมันไม่ใช่ พอไม่ใช่เขาก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ ทำยังไงถ้าเจอคนประมาณนี้อีก เป็นสิ่งที่เราก็ต้องใช้เวลาในการเลือกเยอะๆ ไม่ให้ใจใครง่ายๆ วิธีการเช็คก็เข้าไปตรงแพลตฟอร์มเขา อย่างเช่นใน IG ผู้ชายคนนี้สนใจเรื่องอะไร ถ้าใน Followers มีแต่ผู้หญิงเซ็กซี่ๆ ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผู้ชายเจ้าชู้ หรือผู้ชายที่ชอบเซลฟี่หน้าตัวเองแล้วทำหน้าเซ็กซี่ๆ อันนี้ต้องการเรตติ้ง หรือถ่ายบอดี้ตัวเองที่แบบหุ่นดีๆ พยายามพรีเซ้นท์ความเซ็กซี่ของตัวเอง คนเหล่านี้มีความสุ่มเสี่ยง ไม่ได้บอกว่าเขาไม่ดี หรือไม่ได้บอกว่าเขาไม่ใช่ แต่ผู้ชายเหล่านี้สุ่มเสี่ยงที่จะบริหารเสน่ห์มีความเป็นไปได้ ฉะนั้นถ้าเราเจอคนประเภทนี้ เราอาจจะค่อยๆ ที่จะเรียนรู้กันไป ยังไม่ต้องรีบเท่านั้นเอง โดยสรุปเลยก็คือว่า สิ่งที่โดนเทมาไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วตัวสองเองก็สามารถที่จะเลือกคนใหม่ได้ แล้วถ้ามันไม่ใช่ก็สามารถเทแบบนี้ได้เหมือนกัน ไม่น่าเกลียด ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่าไปย้อนดูว่า ตอนนั้นทำไมเขาพูดดีกับเราจัง อันนั้นเป็นช่วงเวลาที่อยากได้ คือมันต้องเจอคนเยอะๆ เจอคนบ่อยๆ ถึงจะประเมินได้โดยเบื้องต้นว่า คนนี้ไม่ธรรมดา คนนี้เจ้าชู้ มันจะมีการกระทำอะไรบางอย่าง ให้วัดที่การกระทำ ไม่ใช่วัดที่คำพูด’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เรากับแฟน เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ แต่บางทีเราก็มีโมเมนต์อยากอ้อนแฟน โทรหาให้ขับรถมารับเราหลังเลิกงาน แต่แฟนตอบกลับมาว่า "ปกติก็ทำเองได้นิ ทำไมต้องให้ไปรับด้วย"

05 ก.ค. 2024

เรากับแฟน เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ แต่บางทีเราก็มีโมเมนต์อยากอ้อนแฟน โทรหาให้ขับรถมารับเราหลังเลิกงาน แต่แฟนตอบกลับมาว่า "ปกติก็ทำเองได้นิ ทำไมต้องให้ไปรับด้วย"

เรากับแฟน เป็นผู้หญิงแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ แต่บางทีเราก็มีโมเมนต์อยากอ้อนแฟนโทรหาให้ขับรถมารับเราหลังเลิกงาน แต่แฟนตอบกลับมาว่า "ปกติก็ทำเองได้นิ ทำไมต้องให้ไปรับด้วย"อาจจะด้วยความที่แฟนเป็นคนที่วางตารางชีวิตตัวเองทุกวัน หรือ ไปทำให้แฟนเสียแพลนรึเปล่าคะ? “คุณเจน (นามสมมติ)” อายุ 38 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาอยากให้แฟนมารับมาส่งบ้าง แต่เขาบอกว่าเราบอกกะทันหันไป เขามีแพลนของตัวเองแล้ว โดย “คุณเจน (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูมีแฟนเป็นผู้หญิง เจอกันผ่านแอปพลิเคชัน ตอนแรกก็คุยกันแบบเป็นเพื่อน แต่พอคุยไปคุยมาแล้วมันคลิ๊ก ก็เลื่อนความสัมพันธ์มาเป็นแฟนกันได้ 1 ปี แต่ลักษณะของหนูกับแฟนจะเป็นประเภทที่ดูแลตัวเองกันได้ทั้งคู่ ตอนนี้เลยมีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่ง คือบางทีหนูทำงานเหนื่อย แล้วหนูอยากให้เขามารับไปส่งบางครั้ง เขาเลยถามหนูว่า “ทำไมอยู่ดีๆ ให้ทำแบบนี้” เพราะปกติหนูก็ไปทำงานเอง กลับเองได้ แล้วเขาบอกว่า การที่หนูไปขอเขาแบบนี้เลย มันเหมือนเขาต้องทำให้เลย ไม่มีตัวเลือกให้เลือก ซึ่งการที่หนูขอแบบนี้มันคือการบอกว่าให้เขาต้องทำ ไม่งั้นหนูจะงอน แต่จริงๆแล้วหนูแค่อยากมีโมเมนต์หวานๆบ้าง เพราะว่าพวกเราไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์คล้ายๆกัน คือวันนั้นหนูเลิกงานดึก แต่เขาเลิกงานแล้ว เขาว่างแล้ว หนูบอกเขาว่า “เธอขับรถมารับเราได้มั้ย” เขาก็บอกว่า “อ้าว แต่เราเพิ่งเลิกนะ เรากำลังจะดูหนัง พักผ่อน” คือเหมือนเขาเป็นคนที่ติดการวางแพลนในหัวตลอดเวลา ว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง แล้วเขาบอกว่า อยู่ดีๆหนูไปทำลายแพลนเขา เขาก็บอกว่า “แล้วฉันต้องทำงยังไงละ” เหมือนมันรวนเพราะเขาวางตารางไว้แล้ว เราหนูก็จะงอนถ้าเขาไม่ทำให้ คือหนูดูแลตัวเองได้มาตลอด แค่นานๆเขาที ส่วนเขาไม่เคยทำตัวอ่อนแอเลย เพราะเขาเคยบอกว่า เขาไม่ชอบเป็นภาระให้คนอื่น หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่าหนูกับแฟนควรจะหาตรงกลางร่วมกันยังไงดี? หนูควรจัดการยังไงให้ไม่รู้สึกนอยถ้าเขาปฏิเสธ’ โดย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาเราเลือกแฟน เราต้องรู้ไลฟ์สไตล์กับ เนเจอร์ของเขาก่อน อยากได้คนขี้อ้อน ก็เลือกคนขี้อ้อน แต่นี่เราเลือกแฟนที่ดูแลตัวเองได้ แปลว่าสิ่งที่เจออยู่นี้มันอยู่ในแพ็คเกจนี้ อยากได้แฟนแบบไหนก็เลือกแฟนแบบนั้นตั้งแต่แรก ทีนี้แฟนเรามาด้วยแพ็คเกจนี้ เราก็ต้องยอมรับสิ่งนั้น แต่ถ้าแบบว่าอยากมีโมเมนต์นั้น อยากให้มารับบ้าง ก็นัดล่วงหน้า ในเมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนชอบแพลน ปรับที่เราเพราะเราเลือกแล้ว หรือเรียกเขามาถูดคุย พี่ว่าพี่เขาใจเขา แต่ถ้าเกิดว่ามีเหตุการ์ฝนตกหนักมากกลับไม่ได้ ขอให้เขามารับแต่ไม่มา อันนี้ไม่ใช่แล้ว อันนี้คือเขาขาดตกบกพร่องในหน้าที่แฟนแล้ว ถ้ารู้สึกว่าเขาไม่มีน้ำใจ ไม่หยิบยื่นอะไรให้เรา หรือเราเจอสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาแล้วเขาไม่ช่วย คงต้องเปลี่ยนแฟน ไม่ได้บอกให้เลิกหรือให้คบ ลองประเมินดูว่าเขาเป็นแบบไหน ตรงกลางสำหร้บหอมคือ คุยกันล่วงหน้า’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนเราเป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีมุมที่อยากให้แฟนดูแลบ้าง สมมุติ “ถ้าฉันยกกระเป๋าให้เธอ มันก็มีบางวันที่ฉันเหนื่อย ฉันก็คาดหวังว่าเธอจะยกกระเป๋าให้ฉันบ้างเพราะเป็นแฟนกัน” เพราะที่เจนเล่าคือไม่ได้ขอทุกวัน ไม่ใช่อาทติิตย์ละครั้ง แต่นานๆทีถึงจะขอ เข้าใจนะว่าเขาวางแพลนทุกอย่างมาแล้ว แต่ในสถานะที่เป็นแฟนกัน ถ้าเขาต้องการสิ่งนี้ วันนั้นเขาเหนื่อย เขาอ่อนแอจริงๆ เขาไม่ได้ขอทุกวัน พี่คิดว่าเป็นแฟนกันควรทำให้กันได้ แต่ก็เข้าใจที่พี่หอมพูด ว่าเขาเป็นแบบนั้นตั้งแต่แรก เจนก็ดูแลตัวเองได้ตั้วแต่แรก แต่ถ้าวันนี้เจนไม่ได้แข็งแรงเท่าเดิม แล้วต้องการให้เขาเติมเต็มความต้องการของเจน พี่ว่าก็ต้องคุยกัน ซึ่งถ้าคุยกันแล้ว เขาบอกว่า ไม่ เขาไม่ใช่คนแบบนั้น งั้นเจนก็ต้องถามตัวเองว่า วันนั้นเจอลนยังโอเคอยู่มั้ย มันไม่ผิดเลยนะ เจนก็มีสิทธิ์ที่อยากจะเปลี่ยนไปอยากอ่อนเเอบ้าง และเขาก็มีสิทธิ์ที่เจนเปลี่ยนแต่เขาไม่พร้อมเปลี่ยนไปด้วย เพราะเขาก็ชัดเจอของเขาตั้งแต่แรก พี่ว่าคนเราเปลี่ยนกันได้’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เราต้องถามใจตัวเอง ว่าวันนั้นที่เราเรียกร้อง เป็นเพราะว่าเราต้องการจริงๆ หรือแต่เรียกร้องความสนใจ ก็มองดีๆนะ ว่าเขามีชีวิตของตัวเอฝ หรือไม่มีน้ำใจเลย แต่พี่ว่าเขาเป็นคนที่แน่นอน มีตารางวางไว้ว่าจะทำอะไร พี่รู้จักคนแบบนี้เยอะ การที่เราจะบอกแบบนั้นว่า “เธอเราเลิกงานแล้วมารับหน่อยสิ” คือทมันกนะทันหันมาก แล้วถ้าเขาไม่ได้เตรียมใจจะมา มันก็จะสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้เขา หมายถึงว่า อยู่ดีๆจะมาเอาแต่ใจอะไรตอนนี้ เพราะปกติก็ดูแลตัวเองมาตลอด พี่ว่ามันกระทันหัน แล้วก็มัดมือชกเขาไปหน่อย ถ้าลองเปลี่ยนวันคืนก่อนเราคุยกับเขา นัดกับเขาไม่ต้องนัดล่วงหน้านานหรอก แบบให้เขาได้รู้ว่า เจนอยากให่ไปรับหรอ อยากไปกินข้าวหรอ ลองวางแพลนมั้ย ถ้าเขาไม่เอาอีก ค่อยเริ่มมาคุยว่าเวลาที่ใช้ชีวิตด้วยกันมันอยู่ตรงไหน บอกเลย แล้วจะเอาเลย บางคนเขาก็ไม่ชอบนะ ยิ่งเขาเป็นคนวางตารางไว้ชัดเจน ยิ่งยากเลย เจนเองที่ต้องสังเกตุว่ามันเกิดจากสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวเขา แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า เราเรียกร้องโดยไม่มีเหตุผล หรือเขาแล้งน้ำใจ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจอแบบนี้รู้สึกเฟลไปเลย แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ เขาเซฟรูปผู้หญิงไว้เพียบ เซฟหนัง AV ไว้ดู พอถาม แฟนตอบมาว่า "แล้วเธอเสือกเข้าไปดูทำไม?" พีคสุด ตอนเขามีอะไรกับหนู มืออีกข้างเปิดคลิปผู้หญิงคนอื่นที่เซฟด้วย เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

03 พ.ค. 2024

เจอแบบนี้รู้สึกเฟลไปเลย แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ เขาเซฟรูปผู้หญิงไว้เพียบ เซฟหนัง AV ไว้ดู พอถาม แฟนตอบมาว่า "แล้วเธอเสือกเข้าไปดูทำไม?" พีคสุด ตอนเขามีอะไรกับหนู มืออีกข้างเปิดคลิปผู้หญิงคนอื่นที่เซฟด้วย เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

เจอแบบนี้รู้สึกเฟลไปเลย แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ เขาเซฟรูปผู้หญิงไว้เพียบเซฟหนัง AV ไว้ดู พอถาม แฟนตอบมาว่า "แล้วเธอเสือกเข้าไปดูทำไม?"พีคสุด ตอนเขามีอะไรกับหนู มืออีกข้างเปิดคลิปผู้หญิงคนอื่นที่เซฟด้วย เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้วจนหนูเสียความมั่นใจไปเลย ทำยังไงดีคะ? “คุณแทน (นามสมมุติ)” อายุ 22 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [1 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนเซฟรูปผู้หญิงเซ็กซี่ไว้ พอมีอะไรกัน เขาก็ขอเปิดคลิปแล้วทำไปด้วย โดย “คุณแทน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 3 ปี เราสองคนอายุเท่ากัน คือ 22 ปี แฟนหนูเป็นคนขี้เบื่อ ตลอดเวลาที่คบกันมา เรื่องกิจกรรมบนเตียง โดยปกติแล้วเราจะมีกิจกรรมแบบนี้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่พอคบกันมาเข้าปีที่ 3 เรื่องบนเตียงจากอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็ลดลงเหลือเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งรู้เลยว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ พอเขาไม่ค่อยทำกิจกรรมหนูก็เลย เกิดความสงสัยว่าเขามีอะไรในโทรศัพท์หรือป่าว หนูก็เลยเข้าไปเช็คในโทรศัพท์เขาดู แล้วกดเข้าไปดูที่แกลลอรี่ หมวดรูปภาพที่ซ่อนไว้ ซึ่งหนูก็ไปเจอว่าเขาบันทึกหน้าจอผู้หญิงที่เขาติดตามในไอจี เป็นรูปผู้หญิงเซ็กซี่ หรือรูปวาบหวิว เก็บไว้ดูเต็มไปหมด และตอนที่เราสองคนมีกิจกรรมด้วยกัน เขาขอดูคลิปหนังเอวีพวกนี้ไปด้วยระหว่างที่เรามีอะไรกัน หนูก็ไม่อยากให้เขาทำแบบนั้น ซึ่งเป็นบ่อยมากๆเลยช่วงหลัง หนูเลยคิดว่ามันแปลกมาก มันเริ่มไม่ใช่แล้ว และพฤติกรรมของแฟนก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยใส่ใจ ละเลยในการทำหน้าที่แฟน พูดจาหยาบคายใส่อารมณ์กับเรา และช่วงหลังมานี้ก็ทะเลาะกันบ่อยมากๆ พอหนูลองเปิดใจคุยกับเขา เขาก็บอกว่า เขาก็รักแหล่ะ แต่แบบว่าเขาแค่แบบเป็นคนขี้เบื่อ แต่เขาก็พยายามเปลี่ยนตัวเอง แต่หนูไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเขาเลย หนูรู้สึกว่าเขาแค่พูดเฉยๆ และก่อนหน้านี้หนูเคยถามเขาว่า “ทำแบบนี้ทำไม เรื่องที่บันทึกสตอรี่ผู้หญิงคนอื่นไว้ในโทรศัพท์” เขาก็พูดกลับมาว่า “แล้วเธอเสือกเข้าไปดูเองทำไม” หนูอยากถามว่า การที่แฟนทำแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายมั้ย? และ การที่หนูเข้าไปดูแกลลอรี่ที่แฟนซ่อนไว้มันเหมือนเป็นการลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของแฟนมั้ย?’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับคำถามแรก พี่ว่าที่เขาทำแบบนี้คือไม่ปกตินะ คืออายุ 22 แล้ว ส่วนที่บันทึกคลิปหนังเอวีไว้เป็นเรื่องปกติของผู้ชายส่วนใหญ่ แต่ถ้าเอามาดูตอนที่มีกิจกรรมบนเตียงกับแฟนอันนี้ไม่ปกติ ส่วนเซฟรูปผู้หญิงที่อยู่ในไอจีสตอรี่อันนี้ผมไม่ค่อยเห็น หมายถึงว่า แคปหน้าจอเก็บไว้ แต่ถ้าเป็นดาราพอเข้าใจว่าอาจจะมีได้เป็นเรื่องปกติ แต่มันก็จะมีคู่ที่เปิดคลิปหนังเอวีตอนมีอะไรกันกับแฟนแล้วโอเคทั้งคู่ก็มีนะ เหมือนเปิดบิ้วอารมณ์ พี่รู้สึกว่าตราบใดที่ไม่ได้เปิดคลิปของคนอื่นที่เป็นคลิปแอบถ่ายอันนั้นอ่ะไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคลิปหนังเอวีที่ีการสร้างสตอรี่อันนี้อ่ะเคยได้ยิน การเปิดคลิปแบบที่แฟนคุณแทนทำ มันเหมือนเป็นการหักหารน้ำใจอีกฝั่งมากเลยนะอยากให้มองอย่างอื่นนอกจากเรื่องบนเตียงด้วย เขาไม่ได้รักษาน้ำใจเราเลย คือเอาจริงถ้าวัดถึงเรื่องความห่างหายในเรื่องบนเตียง อายุ 22 เป็นช่วงที่ฮอร์โมนเพศกำลังพุ่งพล่านอมันไม่น่าหายกันแบบนี้ แล้วเรื่องนอกเตียงเขาก็ไม่ได้ดีกับเราเลย ด่าท่อ พูดจากหยาบคาย ใช้อารมณ์รุนแรง เรื่องพวกนี้ก็หนักไม่แพ้กับเรื่องกิจกรรมบนเตียงนะ อย่าคิดแค่เรื่องที่เขาขี้เบื่อบนเตียงอะไรอย่างเดียว อันนั้นมันเป็นแค่ หนึ่งในซับเซตย่อย มันยังมีทั้งเรื่องการดูแลกัน การทะเลาะกัน แล้วเป็นยังไงมันดีเท่ากับวันที่เข้ามาจีบใหม่ๆมั้ย อะไรพวกนี้อ่ะ ที่น่าจะกังวลเหมือนกันนอกจากเรื่องกิจกรรมบนเตียง ซึ่งเขาผิดปกติไปหมดเลย มันไม่ใช่อาการของคนที่หวังดีต่อกันเหมือนเดิม มันต้องแยกว่า หนึ่งเรามีอะไรแอบซ่อนอยู่จริงมั้ย ถ้าไม่มีบางคนก็พร้อมที่จะเปิดเต็มที่ แต่บางคนเขาไม่ชอบที่จะให้มายุ่งในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีความผิดซ่อนอยู่รึป่าวก็ตาม อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เขาก็ไม่ชอบอ่ะ มันพูดยากนะ พอเราเข้าไปเจอแล้ว ถึงหนูจะมีความผิดกับการที่ไปดูของเขา แต่เขาก็มีอะไรบางอย่าง ปิดบังหนูอยู่ คือมันก็ต่างกรรมต่างวาระ เพราะแฟนก็ซ่อน ความผิดก็ต้องแยกกันสิ่ ฉันเข้าไปฉันก็ผิด แต่เธอก็ซ่อนรูป ซ่อนคลิป มันก็ผิดกันคนละคดี มันก็ต้องเคลียร์กันคนละอย่างไป ไม่ใช่ว่าการที่ฉันเข้าไปดูมันจะลบล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เธอซ่อนหมดเลยไม่ใช่ ฉันเข้าไปดูของของเธอฉันก็ผิด แต่ฉันก็มีสาเหตุที่ฉันทำผิด เพราะว่าเธอมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปถูกมั้ย ทำให้ฉันไม่สบายใจ ฉันถึงเข้าไปดู ไม่ใช่ว่าฉันเข้าไปดูทุกๆ 2 อาทิตย์ มันก็ไม่ใช่ขนาดนั้น เราก็ยังมีเหตุผลรับรอง ก็ต้องมาเคลียร์กับฝั่งของเขา ความผิดของเขาว่า แล้วเธอซ่อนรูปพวกนี้ทำไม แล้วเอามาเปิดต่อหน้าฉันอีก ทั้งหลายทั้งมวลอยากให้กังวลเรื่อง นอกเตียงด้วย พวกเรื่องพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขา พี่ว่าอันนั้นมันก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องกังวลมากๆ แทนลองไปช่างน้ำหนักดูเอาเอง’ ต่อด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็เป็นปกติของคนหมดรัก เมื่อไม่มีใจบวกกับหมดรัก สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ 1.ไม่แคร์ 2.เวลาที่เราทะเลาะกันสามารถพูดแรงได้โดยไม่รักษาน้ำใจก็ไม่ได้รักแล้ว เรื่องบนเตียงก็อย่างที่บอก เป็นซับเซต เป็นเรื่องย่อย เมนหลักคือ เมื่อไม่ได้รัก เมื่อหมดใจ เรื่องบนเตียงมันก็ไม่อยากจะทำ มันไปหมดเลยมันไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องที่บอกว่าลุกล้ำที่บอกว่าผิดมั้ย ก็อยู่ที่แต่ละคู่ว่าคุยกันยังไง แล้วสามารถลุกล้ำได้แค่ไหน แต่ถ้าลุกล้ำแล้วเจอหนูจะไม่มีความผิดเรื่องลุกล้ำปัดตกไปเลย แล้วก็เรื่องที่เขาเปิดหนังเอวี ก็ตัดไปเลย เพราะคนมันไม่รักเราอ่ะ มันจะกระทำสิ่งนั้นมันก็เลยใช้ตัวช่วย เมื่อหมดรักแล้วทำไมสิ่งที่อยู่ ถึงอยู่ก็อยู่เพราะผูกพันไม่รู้จะไปไหน หมดรักบวกผูกพันเท่ากับ รอวันโดนเท มันเป็นสมการที่ส่วนใหญ่จะเจอ คือจังหวะที่เราเจ็บแล้วเนี่ย ถ้าคนมีสติหรือประสบการณ์เยอะๆอ่ะ เขาก็จะเลิก เขาจะไม่มานั่งย้อนหาอดีต เขาจะอยู่กับปัจจุบัน ว่าปัจจุบันเป็นยังไง เมื่อปัจจุบันไม่มีอะไรเลยที่บ่งบอกถึงคำว่ารัก นอกจากลมปาก ซึ่งลมปากเราให้น้ำหนักเบามาก เมื่อเทียบกับการกระทำ คือถ้าช่างน้ำหนักแล้ว จะเอียงไปข้างนึงเลย คือไม่ได้รักแล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับแทนแล้ว เมื่อเขาไม่รักแล้ว ณ วันนี้เราเจ็บแล้ว เลิกหรือไม่เลิกอยู่ที่เราเป็นคนเลือก แต่ถ้าสุดท้ายเรายังไม่เลือก วันนึงเขาจะเป็นคนเลือกเอง แทนเคยเรียกเขามาพูดแล้ว แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรพัฒนาแปลว่า คำตอบนี้สมการมันชัดเจนแล้ว ขึ้นอยู่กับแทนแล้วว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ลองสงสารตัวเองดูแล้วเดี๋ยวจะเดินออกมาเอง เราต้องมีสิทธิ์เลือก’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เผือกพี่หอมพูดไปหมดแล้ว แต่พี่ขอตอบแทนแบบตรงๆแบบขวานผ่าซาก เรื่องว่า ถ้าแฟนทำแบบนี้กับพี่ จริงๆ การที่แฟนมีอะไรกับพี่เดือนละครั้ง ตอนอายุ 22 พี่ก็จะไปแล้วนะ เพราะ 22 มันเป็นวัยที่น่าหลงไหล เป็นแฟนกันมีกิจกรรมจากอาทิตย์ละ 2 ครั้งลดเหลือเดือนละครั้ง แถมดูหนังเอวีตอนมีไรกับเราอีก พี่รู้สึกว่าถ้าคนรักกัน ถ้าไม่เสร็จนะ จะดูหนังเรื่องนี้จากทำให้เราเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหมือนมันจะต้องแคร์กันอ่ะ แต่ไม่ใช่มาทำโดยที่แล้วเราเป็นอะไร เป็นร่างทรงหรอ เป็นเครื่องมือสื่อสารให้เขาสำเร็จหรอ พี่ว่าสิ่งที่เขาทำ มันบอกแล้วว่า เขาไม่ได้รักหนู เขาไม่ได้ห่วงใยความรู้สึกของหนู แล้วพอประกอบกับเรื่องอื่นๆ ที่แทนเล่าอีก พี่ก็รู้สึกว่า อายุ 22 เอง แล้วคบกันมา 3 ปี ถ้าเป็นแบบนี้ปรับปรุงตัวแค่ลมปาก ไม่ได้ทำอะไรให้ฉันรู้สึกว่า เขาปรับปรุงจริงๆ เพราะแทนพูดเอง ว่าเขาไม่เห็นทำไรเลย แล้วถ้าหนูจะต้องรู้สึกว่าเขาไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ดูแล พี่ว่า แยกย้ายกันไปเติบโต น่าจะมีความสุขมากกว่ารึป่าว แล้วหนูเป็นคนดูแลตัวเองอีกอ่ะ มันยิ่งแบบ อ่าวว ฉันดูแลตัวเองเพื่ออะไรอ่ะ แล้วพี่ไม่อยากให้แทนคิดทุกอย่างเพื่อจะมาบอกว่าตัวเองผิดนะ เพราะตอนนี้คำถามของแทน เป็นอย่างงั้นอยู่ตอนนี้ พยายามจะถามเพื่อที่จะบอกว่า หนูเป็นคนผิดเองที่ทำแบบนี้ หนูเป็นคนผิดที่ไปเปิดดูโทรศัพท์ของเขา เหมือนหนูไม่ได้มองตัวเองเลยอ่ะ หนูมองแต่เขา ซึ่งพี่ว่าแทนอาจจะต้องปรับวิธีคิดใหม่ พี่ฝากไว้แค่นี้ละกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

12 เม.ย. 2024

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย นภาพร’ เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนหวงห้ามเล่นสงกรานต์ โดย ​“คุณน้ำ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนไม่ให้หนูไปเล่นน้ำสงกรานต์ เขาให้เหตุผลว่า ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะโดนปะแป้ง โดนลวนลามมากกว่าผู้ชาย เขาเป็นแฟนหนูเขาจะไม่ยุ่งเรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าตัวหนูเป็นผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเขาเลยไม่ให้หนูไป แต่เขาออกไปเล่นได้ เขาไม่พาหนูไปด้วยเพราะว่าอยู่ไกลกันก็เลยไม่ได้เล่นน้ำด้วยกัน เขาเป็นคนหวงหนูมาก ชอบห้ามหนูในสิ่งที่เป็นตัวหนู เช่น เรื่องการแต่งตัว เรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะห้ามนู่นห้ามนี่ หนูก็รู้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic แต่หนูก็รักเขาเลยยังอยู่ หนูกับเขาอายุ 22 ปีเท่ากัน คบกันมาประมาณปีกว่า ๆ ถ้ารวมคุยด้วย สิ่งที่เขาห้ามมีเรื่องแต่งตัว แล้วก็ถ้าไปร้านเหล้าก็ห้ามเต้นกับเพื่อน ให้นั่งเฉย ๆ ต้องใส่เสื้อยืดเท่านั้น กางเกงขาสั้น บางทีก็ให้ใส่กางเกงบอล ชุดนักศึกษาหนูใส่ได้แค่ทรงพลีท ไม่สามารถใส่ทรงเอได้เลย แต่เรื่องที่กำลังเป็นปัญหาในตอนนี้คือ เรื่องเล่นน้ำสงกรานต์ หนูแค่ไม่เข้าใจว่าเขาไปเล่นได้ ทำไมหนูถึงไปเล่นไม่ได้ หรือว่าถ้าเขาไม่ให้หนูเล่น เขาก็ไม่ควรออก เพราะคนที่นอนอยู่บ้านรู้สึกกังวล เป็นห่วงเขา หนูอยากออกไปสักแค่วันนึง แต่หนูไม่ได้อยากไปสาดน้ำ แค่อยากออกไปเจอเพื่อนเฉย ๆ เวลาหนูโดนเขาห้ามเยอะ หนูก็เลยพูดกับเขาว่า เนี่ย ถ้าเกิดเธอมาห้ามในสิ่งที่เราชอบ งั้นเราก็ห้ามเธอไปร้านเหล้าเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า ได้ แต่สุดท้ายก็มีไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยเท่าเดิม ล่าสุดหนูพยายามไกล่เกลี่ยขอเขาว่า ขอให้เขาเล่นน้ำแค่ 2 วันได้ไหม เขาก็บอกว่า ไม่ได้เลย ทีนี้ก็ทะเลาะกันหนักมาก เพราะว่าหนูก็ขอเขา เขาไม่ยอม เถียงกันไปเถียงกันมาก็บอกเลิกหนูเลย พอเขาบอกเลิกหนูก็ง้อ หนูรู้สึกว่าไม่ควรบอกเลิกเพราะเรื่องแค่นี้ หนูก็เลยพยายามง้อเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยจะคุยกับหนูเท่าไหร่ ค่อย ๆ เฟดตัวออกไป แต่หนูก็พยายามทำตัวดี ๆ ก็บอกเขาว่า โอเค เธอไปเล่นได้เลย เราอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่อยากถามพี่ๆดีเจ คือ มีวิธีไหนบ้างที่จะบอกให้เขาแฟร์ ๆ กับเรา หรือวิธีพูดให้เขาเปลี่ยนความคิดสักนิดนึงได้ไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนลักษณะนี้ ด้วยอายุเท่านี้ พูดไปเขาก็ไม่น่าจะฟังเหตุผลหรอก น้ำก็เคยคุยกันไปแล้วเรื่องสงกรานต์จบที่เลิกกัน พี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันจะมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้คนคนนึงเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกซะจากว่าวันหนึ่งเขาจะอายุมากพอ ความคิดโตพอที่จะแยกแยะได้ ระหว่างความหึงหวงใดใดก็ตามกับความไว้ใจคนของเรา แล้วก็เหมือนใจกว้างมากขึ้น ถ้าหนูพยายามที่จะหาจุดกึ่งกลางกับผู้ชายคนนี้ ณ เวลานี้พี่ว่ายังยากอยู่ ถ้ารักจริง ๆ พร้อมที่จะยอมจริง ๆ ก็อาจจะต้องทนก่อนระยะนี้ แต่พี่คิดว่าเขาไม่น่าจะเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้ ด้วยความที่อายุ 22 ปีเท่ากันอยู่ แล้วหนูก็ไม่อยากให้เขามาเปลี่ยนตัวตนหนู แต่เอาเข้าจริงหนูก็ยอมเขา เพราะฉะนั้นถ้ายังคบกับเขา พี่ว่ายังไงก็ต้องยอมแบบนี้ ให้เอาเหตุผลอะไรไปพูด เดี๋ยวก็เลิกกันอีก เอาเป็นว่าถ้าเขามาฟัง สิ่งเดียวที่พี่พอจะช่วยได้ก็คือ ไอ้หนุ่มเอ้ย พ่อหนุ่ม เมื่อก่อนพี่ก็เป็น แต่เดี๋ยวเราโตขึ้นมันจะค่อย ๆ ใจกว้างขึ้นแหละ แล้วถ้ายิ่งโตขึ้นได้เร็วเมื่อไหร่ แฟนเราก็จะได้หายใจหายคอ แล้วความอึดอัดที่อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ชีวิตจะยิ่งมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรารู้จักปล่อยวางนะไอ้หนุ่มนะ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าก่อนจะไปคุยกับเขา หนูคุยกับตัวเองก่อน ไม่รู้สิเวลาที่คนเรารักกันมันก็ต้องอยากให้เขามีความสุขในการอยู่ข้าง ๆ เรา ไม่ได้แปลว่าอยู่กับฉัน แล้วเธอต้องทำสิ่งสิ่งนั้น สิ่งนี้ นี่มีแฟนไม่ได้เข้าคุก การที่บอกว่าต้องแฟร์กับหนูหน่อย หนูก็ต้องแฟร์กับตัวเองด้วยเหมือนกันว่า เฮ้ย ชีวิตฉัน ฉันอยากมีแฟนแล้วทำให้ฉันมีความสุขในทางของฉันเช่นเดียวกัน และเมื่อไหร่ก็ตามทีที่เขาเองบังคับใด ๆ แล้วน้องก็ทำตามสิ่งที่เขาบังคับมาโดยตลอด อะไรจะเข้าฝันเขาหรอว่า เขาฝันเสร็จปั๊บ พรุ่งนี้ปล่อยให้น้ำเป็นอิสระบ้างดีกว่า สงสารน้ำจังเลย ไม่มีทาง วันนี้พี่ยังเป็นคนที่เชื่อเสมอว่า คนเราอะไรก็ได้ ไม่มีอยู่จริงหรอก ความรักของคนที่เป็นผู้ใหญ่ มันจะไม่ใช่แค่ห้ามทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ พี่ว่านิดนึงน้ำเองก็ดันมีความรู้สึกว่า พี่ แต่เขาก็หวงหนูไงคะ หนูก็เลยรู้สึกว่าการหวงถือว่าเป็นการรักมาก แต่พี่ไม่ได้อยากพูดให้น้องนอยด์นะ พี่เห็นมาเยอะมากว่า ไอ้คนที่หวงแฟนระดับเกินเบอร์ไปมาก ตัวเองทำทุกอย่างเลย แล้วยิ่งถ้าน้องทำตัวเองเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบตัวเขา ยอมเขาอะไรก็ได้ ขนาดเรื่องนี้คนที่ควรโกรธคือเราด้วยซ้ำ น้องกลับกลายเป็นง้อ พี่ว่าคน 2 คนเวลารักกัน เราต้องแคร์ความสุขของกันและกันด้วย ไม่ใช่พยายามบังคับให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเราเองก็ดันพยายามบังคับตัวเองให้เป็นแบบนี้ด้วย อึดอัดก็อึดอัด แต่แสดงออกก็ไม่ได้กลัวเขาไม่รัก พี่รู้สึกว่าหึงนิด ๆ น่ารักนะ แต่หึงมากไปคล้ายดูถูก หึงมากไม่ได้แปลว่ารักมาก แต่แค่อยากเป็นเจ้าของชีวิต พี่เป็นคนที่เชื่อว่าคนรักกันเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิต เขาควรจะรู้ว่าน้ำมีความสุขกับเรื่องนี้ และถ้าเกิดเขาหวงมากก็แค่มาเล่นน้ำกับหนู พาหนูไปด้วย เขาไม่แฟร์กับหนูไม่เท่าหนูไม่แฟร์กับตัวเอง คือรักเขาพี่เข้าใจ แต่การรักเขาไม่ได้แปลว่าต้องยอมทุกสิ่ง จนกระทั่งเบียดบังความสุขของตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะให้พี่พูดอะไรกับแฟนหนู พี่ก็จะบอกเขาว่า ต้องรู้จักที่จะให้เกียรติคนรักมากกว่านี้ สิ่งเดียวที่เขาทำตอนนี้มันมาจากเรื่องเดียวที่พี่รู้สึกคือ เขาไม่ไว้ใจ เหมือนเขาจะตัดสินว่าการที่น้องน้ำแต่งตัวแบบนี้ มันจะทำให้น้องน้ำนอกใจเขา สำหรับพี่รู้สึกว่าแฟนกันมันต้องไม่ทำให้พี่ไม่ชอบตัวเอง เราชอบแต่งตัวแบบนี้ เรามีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้ ซึ่งมันอยู่ในขอบข่ายที่ไม่ได้อนาจาร คนทั่วไปเขาก็แต่งกัน อยู่ ๆ ก็ไม่ให้เราแต่ง น้ำต้องตื่นมาใส่กางเกงบอล ใส่เสื้อตัวใหญ่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ตัวเองไม่ได้ชอบ พี่รู้สึกว่ามันคือคนรักที่เราจะมีความสุขจริง ๆ หรอ คนที่อยู่ด้วยกันแต่ทำให้เราไม่ชอบตัวเองอยู่คนเดียวดีกว่าหรือเปล่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1