“น้ำเต้าหู้” ประโยชน์คับแก้ว

HEALTHY LIFESTYLE

“น้ำเต้าหู้” ประโยชน์คับแก้ว

29 ส.ค. 2023

1.หลายคนดื่มน้ำเต้าหู้เพื่อลดความอ้วน ลดน้ำหนัก และไขมัน
            มีงานวิจัยหนึ่งที่ทดลองประสิทธิผลของนมวัว นมถั่วเหลืองปรุงแต่ง และอาหารเสริมแคลเซียมที่มีผลต่อการลดไขมันในผู้หญิงก่อนวัยทองที่มีภาวะอ้วน และภาวะน้ำหนักเกิน พบว่าการบริโภคนมไขมันต่ำอย่างนมถั่วเหลืองปรุงแต่ง ช่วยลดภาวะอ้วนและภาวะอ้วนลงพุงในกลุ่มตัวอย่างทดลองได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกหนึ่งการทดลองได้เปรียบเทียบประสิทธิผลของน้ำเต้าหู้กับนมวัวขาดมันเนยกับระดับไขมันในเลือดและการทำปฏิกิริยากับผนังเซลล์ไขมัน (Lipid Peroxidation) ในผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ผลลัพธ์ที่ได้ชี้ว่าน้ำเต้าหู้มีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันในเลือดและลดการเกิดปฏิกิริยาที่สารอนุมูลอิสระทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัวในผนังเซลล์ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ป่วยภาวะไขมันในเลือดสูง


            ส่วนการทดลองเพื่อหาประสิทธิผลในการลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายด้วยเครื่องดื่มที่ทำมาจากถั่วเหลือง โดยทำการทดลองในกลุ่มตัวอย่างชาวฝรั่งเศสที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงในกลุ่มความเสี่ยงระดับปานกลาง ผลที่ได้คือ การบริโภคเครื่องดื่มจากถั่วเหลืองที่มีสารแพลนท์ สเตอรอล (Plant Sterol) ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลชนิดเลว (non-HDL และ LDL) ลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า น้ำเต้าหู้อาจช่วยควบคุมและลดระดับไขมันในผู้ป่วยที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงที่อยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง


2.น้ำเต้าหู้บำรุงกระดูก
            การทดลองเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของนมถั่วเหลืองที่มีสารไอโซฟลาโวนที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตและกระบวนการสร้างหรือสลายกระดูกในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนชาวสเปน พบว่าการบริโภคนมถั่วเหลืองช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินดี และช่วยลดกระบวนการสลายกระดูก นอกจากนั้น การบริโภคสารไอโซฟลาโวนจากถั่วเหลืองเพิ่มเติม อาจช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างได้ และช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกได้อีกด้วย


3.สำหรับคนที่ความดันสูงเป็นประจำ น้ำเต้าหู้ช่วยลดความดันโลหิต
            มีการทดลองศึกษาประสิทธิผลของเครื่องดื่มที่ทำมาจากถั่วเหลือง ในด้านคุณค่าทางโภชนาการและอิทธิพลต่อการลดน้ำหนัก พบว่าเครื่องดื่มที่ทำมาจากถั่วเหลืองอาจช่วยลดระดับความดันโลหิตซิสโตลิกและไดแอสโตลิกลงได้ ซึ่งเป็นความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวและคลายตัว ในกลุ่มตัวอย่างเยาวชนเพศหญิงที่มีภาวะอ้วนและภาวะน้ำหนักเกิน อย่างไรก็ตาม ในการทดลองนี้ยังไม่พบผลลัพธ์ในด้านน้ำหนักตัวที่ลดลง หรือขนาดเส้นรอบเอวที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด


            อีกงานทดลองที่ศึกษาผลลัพธ์จากการบริโภคน้ำเต้าหู้ที่สัมพันธ์กับระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะไตผิดปกติร่วมด้วย พบว่าการบริโภคน้ำเต้าหู้มีผลต่อการควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นในผู้ป่วยกลุ่มนี้ค่ะ


4.มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน
            จากการค้นคว้าหาประสิทธิผลของการบริโภคผลิตภัณฑ์นมและนมถั่วเหลืองเป็นประจำทุกวันทั้งก่อนมื้ออาหาร 30 นาที และพร้อมมื้ออาหารในกลุ่มทดลองเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี เพื่อศึกษาหาอิทธิพลต่อระบบย่อยอาหาร ระดับน้ำตาลและสารอินซูลินในเลือด พบว่า การดื่มนม ทั้งนมถั่วเหลืองและนมวัวก่อนมื้ออาหาร 30 นาที จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารได้มากกว่าการดื่มพร้อมมื้ออาหาร ซึ่งวิธีการนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานจากการบริโภคอาหารที่มีค่า GI สูง (Glycemic Index: ค่าดัชนีน้ำตาล) ซึ่งยังต้องค้นคว้าทดลองในด้านนี้ต่อไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดและเป็นประโยชน์ในอนาคต


5.ลดความเครียดแถมยังสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้ด้วย
            งานวิจัยมากมายได้นำเสนอประสิทธิผลของน้ำเต้าหู้และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง มีงานวิจัยหนึ่งที่สนับสนุนคุณประโยชน์ของโปรตีนถั่วเหลืองเช่นกัน แต่นำเสนอในด้านที่แตกต่าง คือ การทดลองให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการเมตาบอลิก (Metabolic Syndrome) บริโภคโปรตีนถั่วเหลืองในปริมาณแต่น้อยเพียง 25 กรัม ทุกวัน ผลคือกลุ่มทดลองได้บริโภคโปรตีนถั่วเหลืองปริมาณ 25 กรัม ทุกวัน เป็นเวลา 90 วัน โดยไม่พบผลข้างเคียงในการทดลองนี้ และยังเป็นประโยชน์ในทางรักษา คือ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มไขมันดี (HDL) ในผู้ป่วยกลุ่มอาการเมตาบอลิกอีกด้วยค่ะ
      

            พูดง่ายๆคือน้ำเต้าหู้อุดมไปด้วยโปรตีนและฮอร์โมนเอสโตรเจน น้ำเต้าหู้ มีคุณสมบัติ ช่วยเพิ่มพลังและขจัดความอ่อนแอให้กับร่างกาย ลดสารตะกั่วในเลือด ช่วยป้องกันตับไม่ให้ถูกทำลายได้ง่าย และยังช่วยให้เมทาบอริซึมในร่างกายเผาพลานทำงานดีขึ้น แนะนำผู้สูงอายุดื่มบ่อยๆจะช่วยไม่ให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว หรือโรคกระดูกพรุนได้ง่ายอีกด้วยนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม

Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music & Travel Lover

related HEALTHY LIFESTYLE

ผู้หญิง ผู้ชาย ไตอ่อนแอ อาการเหมือนกันไหม ?

16 ส.ค. 2023

ผู้หญิง ผู้ชาย ไตอ่อนแอ อาการเหมือนกันไหม ?

ไตพร่อง เป็นปัญหาของหลายคน ลักษณะอาการ ใบหน้าจะมองคล้ำ ปวดหลัง ขาไม่มีแรง อาจจจะรวมไปถึงคนที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันสูง เส้นเลือดสมองอุดตัน อาการเป็นพิษในเลือด หรือโรคไตวายเรื้อรัง โรคที่กล่าวมาข้างต้นล้วนแต่มีอาการไตพร่องระยะสุดท้ายแทบทั้งสิ้น แต่เราจะรอจนเป็นระยะสุดท้ายแล้วค่อยดูแลตามแนวการรักษาแบบฉบับแพทย์แผนจีน เมื่อเห็นตับมีปัญหา ให้ไปรักษาที่ม้าม หมายถึงการรักษาเมื่อโรคยังไม่เกินนั่นเอง หลายคนที่คิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไรและไม่คิดรักษา แต่พอเป็นแล้วมันอาจจะใกล้จุดจบของชีวิตแล้วก็ได้นะคะ ไตในหลักแพทย์แผนจีนจะเสื่อมลงเรื่อยๆตามอายุของเรา ฉะนั้นการดูรักษาไตให้คงอยู่ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ยังไม่เป็นโรค อาการที่กล่าวไปนั้นถ้าหากคุณมีอาการ 1 ใน 3 แสดงว่าไตคุณเริ่มพร่องแล้วค่ะอาการไตพร่องจะมีอาการปวดหลัง เหนื่อยง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง ระบบการมองและการฟังประสิทธิภาพแย่ลง ผมร่วงง่าย ผมขาวก่อนวัย ฟันโยกง่ายและรากฟันไม่แข็งแรง ขอบตาดำคล้ำ ผิวหน้าดำคล้ำ สภาวะแก่ก่อนวัย ลืมง่าย ไม่อยากอาหาร ปวดกระดูกหรือข้อรู้สึกตัวร้อนโดยไม่มีสาเหตุ และมีอาการมึนหัวบ่อยๆอาการไตพร่องในผู้ชายและผู้หญิงมีบางส่วนที่ไม่เหมือนกันนะคะอาการไตพร่องของผู้ชายอาการไตพร่องจะเกี่ยวกับสมรภาพทางเพศ ทำให้สมรภาพทางเพศลดลง ความต้องการทางเพศลดลง ถ้าหนักเข้า จะทำให้อวัยเพศไม่แข็งตัว หลั่งเร็ว เมื่อนำอสุจิไปตรวจสอบ อสุจิจะไม่แข็งแรง ซึ่งเป็นสาเหตุของคนมีบุตรยากค่ะส่วนผู้หญิงที่มีอาการไตพร่องผู้หญิงจะเกี่ยวกับประจำเดือนมาร่วมด้วย เช่น เลือดออกกระปิดกระปอย ประจำเดือนมานานกว่าปกติ การตั้งครรภ์ได้ยาก แท้งบ่อยก็เป็นอาการของคนไตพร่องได้เช่นกันค่ะอาหารที่เหมาะกับคนไตพร่องอาการไตพร่องจะแบ่งออกเป็นไตหยินพร่อง และไตหยางพร่อง อาการไตหยางพร่องนั้นจะเป็นคนที่ขี้หนาว ส่วนอาการไตหยินพร่องจะมีอาการร้อนวูบวาบ กระหายน้ำง่าย อุ้งมือเท้าร้อนไตหยินพร่อง เช่น ปลิงทะเล เก๋ากี้ ตะพาบน้ำ เห็ดหูหนูขาว เพื่อที่จะไปบำรุงไตหยินไตหยางพร่อง เช่น เนื้อแพะ เขากวาง อบเฉยเป็นต้นการบำรุงไตไม่ใช่แค่อาหารตามข้างต้นนี้ แต่ตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว อาหารที่เป็นสีดำก็สามารถบำรุงไตได้เช่นกัน อาทิ ถั่วดำ งาดำ เห็ดหูหนูดำ เห็ดหอม สาหร่ายทะเลก็สามารถบริโภคได้เช่นกันค่ะการถูเอวบำรุงไตในทางทฤษฏีของแพทย์แผนจีน "เอวคือบ้านของไต" เราสามารถถูเอวเพื่อที่จะบำรุงไต เพราะการถูเอวทำให้เอวมีความร้อน สรรพคุณบำรุงไตให้ไตแข็งแรง ทำให้เลือดลมบริเวณเอวไหลเวียนได้ดีขึ้นนวดท้องน้อยเพิ่มพลัง (จุดตานเทียน)จุด丹田(ตานเทียน)อยู่ใต้สะดึอ 3 นิ้ว หรือ 1 ฝ่ามือการนวดท้องน้อยหรือตานเทียนจะช่วยเพิ่มพลัง สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อที่จะไปต่อสู้กับโรคต่างๆ และยังสามารถบำรุงไต ทำให้อายุยืนได้อีกด้วย การนวดจุดตานเทียน ต้องถูฝ่ามือให้ร้อนก่อน นำมาตั้งที่จุดตานเทียน นวดเบาๆทิศทางสวนเข็มนาฬิกาการบำรุงสามารถทำได้หลายอย่าง1.รักษาระดับอารมณ์“ความกลัวจะไปทำร้ายไต”คนเป็นโรคไต ต้องรักษาระดับอารมณ์ให้ดี ทำจิตใจให้สงบ สดชื่น ไม่เครียด เท่านี้พลังไตก็จะไม่สูญเสีย ถ้าหากพลังไตเพียงพอ อวัยวะต่างๆก็จะมีพลังไปหล่อเลี้ยงด้วย จะทำให้ร่างกายแข็งแรง2.ดุแลระบบทางเดินอาหารการบำรุงดูแลไตนั้น ต้องให้ความสำคัญกับม้ามและกระเพาะอาหาร เพราะม้ามกระเพาะอาหารเป็นจุดศูนย์กลางของร่างกาย การรับประทานอาหารที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคไต ต้องลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะอาหารเหล่านี้อาจจะไปทำให้ไตเสื่อมได้เร็วขึ้น ตามหลักแพทย์แผนจีนแล้วการดูแลม้ามกระเพาะอาหาร ทำให้ศูนย์กลางแข็งแรง สามารถนำพลังไปเลี้ยงไตได้ เมื่อไตแข็งแรงจะทำให้ร่างกาย มีพลังที่จะไปต่อสู่กับโรค3.อย่าเหนื่อยเกินเหตุความเหนื่อยจนเกินไป ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม จะทำให้สูญเสียพลังของร่างกายไป พลังต่างๆของร่างกายล้วนแต่มาจากเลือดทั้งสิ้น การที่เราเหนื่อยจนเกินไปนั้น ทำให้สูญเสียเลือดไป พอขาดเลือด พลังก็จะไม่เพียงพอที่จะไปเลี้ยงร่างกาย เช่น การใช้สมองบ่อย การใช้สายตาบ่อย จะทำให้สูญเสียพลังเช่นกัน ฉะนั้นการทำกิจกรรมทุกอย่าง อย่าให้เยอะจนเกินไป อย่าให้เหนื่อยจนเกินไป เพราะเราไม่ทราบได้ว่าจะทำให้เลือดที่หล่อเลี้ยงเราสูญเสียไปแค่ไหน ดูแล ป้องกัน ดีกว่าการมารักษาทีหลังนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจาก GREEN WAVE ค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

เหงื่อบอกโรค

20 ส.ค. 2024

เหงื่อบอกโรค

เหงื่อมี2ประเภทใหญ่ๆ1.เหงื่อแตกทั้งตัว อาจจะมีปัจจัยมาจากหลายๆสาเหตุไม่ว่าจะมาจากโรคร้อนที่เข้าไปทำร้ายร่างกาย เมทาบอลิทึมที่สูงขึ้นหรืออารมณ์ตื่นเต้น ก็อาจทำให้มีเหงื่อออกได้เช่นกันค่ะโรคบางโรคก็ทำให้เหงื่อทั้งตัวได้เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำ ไฮเปอร์ โรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคที่สาวๆมักจะกลัวกัน คือ โรควัยทอง2.เหงื่อออกเฉพาะที่ ตามหลักแพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไรอาจจะเกิดจากต่อมเหงื่อบริเวณนั้นทำงานผิดปกติแต่ตามหลักแพทย์แผนจีนแบ่งออกเป็น1.เหงื่อออกตอนกลางวันอยู่ดีๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยเหงื่อก็ไหลเองค่ะ เหงื่อแบบนี้มาจากม้ามที่อยู่ในร่างกายเราพร่อง หรือ อ่อนแอการบำรุงม้ามจะช่วยหยุดเหงื่อได้หน่อยค่ะ แล้วอาการจะดีขึ้นตามมา2.เหงื่อออกตอนกลางคืนเป็นเหงื่อที่ออกตอนนอน ตื่นเช้ามาก็ไม่มีแล้วทางแพทย์แผนจีน คือ อาการของอินพร่อง หมายถึงอินน้อย ซึ่งต้องบำรุงอินโดยทางที่ดีแนะนำให้รักษากับหมอผู้เชี่ยวชาญนะคะ3.เหงื่อออกที่รักแร้มากเกินไปเหงื่อออกที่รักแร้เป็นปัญหาสำหรับเราอย่างมากถ้ามีกลิ่นด้วยจะทำให้เรายิ่งเสียความมั่นใจเหงื่อบริเวณรักแร้มากผิดปกตินั้นอาจเกิดมาจากต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อมากเกินไป หรือว่าเรารับประทานอาหารมากเกินไป อันนี้มีวิธีแก้ค่ะอาจจะงดอาหารที่รสจัดเกิดไป เช่น กระเทียม เครื่องเทศต่างๆตามหลักแพทย์แผนจีนอาจจะมาจากหัวใจร้อน หรือหัวใจพร่องเพราะเส้นลมปรานจุดแรกของหัวใจก็มาจากรักแร้นั้นเองค่ะความเครียดก็เป็นผลทำให้เหงื่อออกเยอะนะคะ เหมือนตอนเข้าห้องสอบหรือสัมภาษณ์งานแอดมินก็เคยเป็นค่ะ^^4.เหงื่อออกบริเวณรอบอวัยวะเพศหลายคนมีอาการนี้เหงื่อออกบริเวณอวัยเพศมากเกินไปนั้น จะทำให้เกิดการหมักหมม และมีกลิ่นเกิดมาจากความร้อนชื้นอยู่ด้านล่าง ทำให้มีอาการหลายอย่างตามมาเช่น คันบริเวณอวัยวะเพศ อวัยวะเพศมีกลิ่นแรงไม่พึงประสงค์ทางที่ดีพบแพทย์ดีกว่านะคะ เพราะการรักษาความชื้นค่อนข้างยากหน่อยบางคนอาจจะมีอาการของต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็มีสิทธิ์ทำให้ทำให้เหงื่อออกที่อวัยเพศได้เช่นกันค่ะ5.เหงื่อออกที่มือที่เท้าหลายคนถามว่าเป็นโรคหัวใจหรือป่าว แต่ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยคุณหมอบอกว่าปกติ ตามหลักแพทย์แผนจีนนั้นมาจากหลายสาเหตุเช่นกระเพาะและม้ามร้อนชื้น หรืออาจจะเกิดจากภายในมีความร้อนชื้นสูงก็ทำให้เหงื่อโดนขับออกตามมือตามเท้าได้และอีกอย่างคือม้ามพร่องก็อาจจะทำให้เหงื่อออกตามมือตามเท้าได้เช่นกัน เพราะม้ามควบคุมกล้ามเนื้อมือและเท้าค่ะสุดท้ายไม่ว่าเราจะมีอาการแปลกๆแบบไหน อย่านิ่งนอนใจนะคะควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการรักษาต่อไป ด้วยความห่วงใยจาก Green wave 106.5 FM ค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

ใช้ชีวิตสิ้นเปลือง ต่อไประวังไตอ่อนแอ

06 มี.ค. 2025

ใช้ชีวิตสิ้นเปลือง ต่อไประวังไตอ่อนแอ

หลายคนอยากให้ตัวเองมีความหนุ่มสาวในระยะเวลายาวนานมีอายุให้ยืนยาวเป็นสิ่งที่ทุกคนไฝ่ฝันไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก จึงมีการเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะและวิธีหลากหลายมาช่วยดูแลบำรุงรักษาชะลอความเหี่ยวย่นความชราเพื่อให้อายุยืนยาวอยู่ได้นานๆไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ต้องมีต้นทุนทรัพย์สินหากไม่มีต้นทุนจะทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ และพบกับความยุ่งยากชีวิตก็เหมือนกับเราแต่ละคนมีต้นทุนที่ต่างกันต้นทุนชีวิตซึ่งได้มาจากพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษหรือในแพทย์แผนปัจจุบันเราเรียกว่า DNAแต่ในแพทย์แผนจีนจะเรียกว่า”ทุนก่อนกำเนิด”และ”ทุนก่อนกำเนิด”นั้นมักจะสะสมอยู่ในไต ถ้าหากคุณอยากมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรง เฉลียวฉลาดไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยมีอายุยืนยาว ต้องเรียนรู้ในการดูแลบำรุงต้นทุนของตัวเองให้ดีนะคะไตในแพทย์แผนจีนนอกจากเป็นต้นทุนก่อนกำเนิดแล้ว ยังเก็บสะสมพลังงานที่กินจากกระเพาะ ม้ามที่ย่อยแล้วส่งไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกายเสมือนแบตเตอร์รี่ของร่างกายแต่เมื่ออวัยวะอื่นถูกใช้พลังงานไปจนหมดจนไตต้องส่งพลังงานไปเสริมถ้าหากใช้พลังงานไปมากใช้จนเกินตัวใช้ชีวิตสิ้นเปลืองเพราะตอนวัยหนุ่มสาววัยรุ่นนั้นใช้ยังไงก็ไม่หมด ไม่รู้สึก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวเองบ่อยๆหลายๆรอบต่อวันการมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งดื่มเหล้า เมายาทำงานหนัก นอนน้อยจนกระทบกระเทือนกับร่างกาย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ร่างกายเสื่อมถอยลง พลังงานที่อยู่ในไตก็เริ่มหมด ถึงตอนนั้นคุณจะมีหมอเป็นที่พึ่งมีโรงพยาบาลเป็นที่ท่องเที่ยวอย่างแน่นอนค่ะแพทย์แผนจีนนั้นเน้นย้ำถึงการบำรุงไต เพราะการบำรุงไตนั้นยากมาก และต้องใช้เวลาเพราะเราใช้พลังงานของมันไปจนหมดแล้วสำหรับผู้สนใจในแพทย์แผนจีนซึ่งมองเห็นความสำคัญในการดูแลไตจึงมีอาหารเสริมออกมามากมาย ผู้คนเข้าถึงกันง่าย ซื้อกินกันราคาก็สูงลิบลิ่วหลายคนไปเที่ยวต่างประเทศถูกต้อนให้ไปตรวจแมะ และซื้อยาแพงๆ โดนหลอกกลับมากลับมาแล้วก็ไม่กล้ากินเพราะกลัวว่าจะกระทบกับร่างกาย เก็บไว้จนหมดอายุหลายคนไปซื้อยาที่คนขายยาอวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นยาดีรักษาไต ได้เกิดความหลงเชื่อแต่สุดท้ายเมื่อกินไป กลับทำให้ไตเสื่อมหนักกว่าเดิมฉะนั้นแพทย์แผนจีนแนะนำถ้าอยากจะดูแลเรื่องไตอย่างจริงจัง ให้มาปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์แผนจีนที่มีใบประกอบจะดีกว่านะคะเพราะไตในแพทย์แผนจีนประกอบไปด้วยชี่ของไตไตอินไตหยางเพราะคำว่าโป๊วเสียงปู่เสิ้น补肾ไม่ใช่การรักษาในระยะสั้นแน่นอน พยายามบริหารเวลากันให้พอดี ดีกว่านะคะ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักเกินไป ไตจะได้ไม่ทำงานหนัก หรือจะทำงานไปเปิด Green Wave ไป ผ่อนคลายไปในตัวนะคะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

เป็นคนร้อนในง่าย ควรปฏิบัติตัวยังไง

01 พ.ย. 2024

เป็นคนร้อนในง่าย ควรปฏิบัติตัวยังไง

คนอินพร่อง (ร้อนในบ่อย คอแห้ง มือเท้าร้อน)อินพร่อง คือ ระดับเลือดและน้ำในร่างกายที่ต่ำลง แต่พลังหยางนั้น(ความร้อนในร่างกาย)เท่าเดิม ทำให้เกิดไฟน้อยๆที่เผาพลานร่างกายตลอดเวลา เสมือนเปิดแก๊สไฟวงในเพื่อที่จะต้มน้ำซุป และทำให้น้ำในร่างกายเหือดแห้งไป ร่างกายมีแต่ความร้อน สภาพเหมือนทะเลทราย น้ำน้อย แต่ร้อนมาก ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น เสมือนร่างกายเรา ถ้าหากว่าร้อนแบบนี้เป็นเวลานานๆ เราจะกลายเป็นโรคได้ค่ะคนที่มีลักษณะอินพร่อง จะเป็นคนที่มีรูปร่างผอมสูง คอแห้งบ่อย รู้สึกแก้มร้อนบ่อย ใจร้อนง่าย อุ้งมือเท้าจะร้อน นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ร้อนในบ่อย นิสัยของคนที่อินพร่องจะเป็นคนอารมณ์ร้อนง่าย ชอบคิดในเรื่องไม่สบายใจ เป็นคนช่างพูด ลักษณะแบบนี้ในทางแพทย์แผนจีนจำเป็นที่จะต้องบำรุงเหมือนกัน แต่เป็นเพราะว่าการบำรุงที่ต่างกันออกไป ในส่วนที่อินพร่องก็ต้องบำรุงอินเหมือนกับบำรุงน้ำเข้าไปในร่างกาย แต่อินในร่างกายไม่ได้หมายถึงน้ำเท่านั้นนะคะ แต่จะหมายถึงน้ำ และเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของคนเรา และจะต้องบำรุงไตบำรุงกระเพาะ ม้ามให้แข็งแรงด้วย เสมือนการปลูกต้นไม่ให้เยอะๆ และเสริมน้ำให้ด้วย ถ้าต้นไม่เยอะเกินไปก็จะดูดแต่น้ำ เราก็กลับมาสู่สภาวะเดิมคือไม่มีน้ำฉะนั้น ยาที่บำรุงอินที่เหมาะกับคนอินพร่องนั้นคือ 六味地黄丸(ลิ้วเว้ยตี้หวงหวาน) 大补阴煎(ต้าปู่หยินเจียน)ยาสองตัวนี้หาได้ตามร้านยาทั่วไปค่ะอาหารที่เหมาะสม จะมีฤทธิ์บำรุงอิน เช่น ข้าวเหนียว งา เต่า ตะพาบ เนื้อปู หอย เนื้อเป็ด นม หนังหมู เห็ดหูหนูขาว สาลี่ ปลาหมึก ไข่ นม เนื้อปลา หอย ปลิงทะเล รังนก ที่สำคัญไม่ควรทานอาหารที่มีรสเผ็ด หรืออาหารที่มีรสจัดค่ะคนอินพร่องจำเป็นต้องเข้านอนให้เร็วกว่าคนที่มีลักษณะอื่น ไม่ควรเล่นกีฬาหนักกลางแจ้ง และซาวน่า ที่ทำให้เหงื่อออกเยอะๆค่ะ เพราะจะทำให้น้ำในร่างกายลดน้อยลง เพราะคนอินพร่องน้ำในร่างกายจะน้อยกว่าปกติอยู่แล้ว กีฬาที่เหมาะสมกับคนอินพร่องคือ ว่ายน้ำ แต่อย่าว่ายนานเกินไปนะคะ แค่ 30 นาที ก็เพียงพอ เพราะจะทำให้เราขาดน้ำได้เช่นกันค่ะโรคที่พบมากสำหรับคนอินพร่องคือ โรคแห้งทั้งตัว ตาแห้ง เบาหวาน โรคกระเพาะ เพลียง่าย นอนไม่หลับ โรคไต หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการคอแห้งปากแห้งเป็นประจำสำหรับใครที่กำลังมีอาการแบบนี้อยู่ ให้ลองปฏิบัติตามคำแนะนำได้นะคะ อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ละเลยร่างกายของเราค่ะปล.การช่วยตัวเองบ่อยๆทำให้สารอินในร่างกายลดน้อยลง ไม่ควรถี่เกินไป เพราะจะทำให้ไตอ่อนแอได้นะคะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

album

0
0.8
1