เป็นคนร้อนในง่าย ควรปฏิบัติตัวยังไง

HEALTHY LIFESTYLE

เป็นคนร้อนในง่าย ควรปฏิบัติตัวยังไง

01 พ.ย. 2024

คนอินพร่อง (ร้อนในบ่อย คอแห้ง มือเท้าร้อน)

อินพร่อง คือ ระดับเลือดและน้ำในร่างกายที่ต่ำลง แต่พลังหยางนั้น(ความร้อนในร่างกาย)เท่าเดิม ทำให้เกิดไฟน้อยๆที่เผาพลานร่างกายตลอดเวลา เสมือนเปิดแก๊สไฟวงในเพื่อที่จะต้มน้ำซุป และทำให้น้ำในร่างกายเหือดแห้งไป ร่างกายมีแต่ความร้อน สภาพเหมือนทะเลทราย น้ำน้อย แต่ร้อนมาก ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น เสมือนร่างกายเรา ถ้าหากว่าร้อนแบบนี้เป็นเวลานานๆ เราจะกลายเป็นโรคได้ค่ะ


คนที่มีลักษณะอินพร่อง จะเป็นคนที่มีรูปร่างผอมสูง คอแห้งบ่อย รู้สึกแก้มร้อนบ่อย ใจร้อนง่าย อุ้งมือเท้าจะร้อน นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ร้อนในบ่อย นิสัยของคนที่อินพร่อง จะเป็นคนอารมณ์ร้อนง่าย ชอบคิดในเรื่องไม่สบายใจ เป็นคนช่างพูด ลักษณะแบบนี้ในทางแพทย์แผนจีนจำเป็นที่จะต้องบำรุงเหมือนกัน แต่เป็นเพราะว่าการบำรุงที่ต่างกันออกไป ในส่วนที่อินพร่อง ก็ต้องบำรุงอิน เหมือนกับบำรุงน้ำเข้าไปในร่างกาย แต่อินในร่างกายไม่ได้หมายถึงน้ำเท่านั้นนะคะ แต่จะหมายถึงน้ำ และเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของคนเรา และจะต้องบำรุงไต บำรุงกระเพาะ ม้ามให้แข็งแรงด้วย เสมือนการปลูกต้นไม่ให้เยอะๆ และเสริมน้ำให้ด้วย ถ้าต้นไม่เยอะเกินไปก็จะดูดแต่น้ำ เราก็กลับมาสู่สภาวะเดิมคือไม่มีน้ำ 

ฉะนั้น ยาที่บำรุงอินที่เหมาะกับคนอินพร่องนั้นคือ 六味地黄丸(ลิ้วเว้ยตี้หวงหวาน) 大补阴煎(ต้าปู่หยินเจียน)ยาสองตัวนี้หาได้ตามร้านยาทั่วไปค่ะ

อาหารที่เหมาะสม จะมีฤทธิ์บำรุงอิน เช่น ข้าวเหนียว งา เต่า ตะพาบ เนื้อปู หอย เนื้อเป็ด นม หนังหมู เห็ดหูหนูขาว สาลี่ ปลาหมึก ไข่ นม เนื้อปลา หอย ปลิงทะเล รังนก ที่สำคัญไม่ควรทานอาหารที่มีรสเผ็ด หรืออาหารที่มีรสจัดค่ะ

คนอินพร่องจำเป็นต้องเข้านอนให้เร็วกว่าคนที่มีลักษณะอื่น ไม่ควรเล่นกีฬาหนักกลางแจ้ง และซาวน่า ที่ทำให้เหงื่อออกเยอะๆค่ะ เพราะจะทำให้น้ำในร่างกายลดน้อยลง เพราะคนอินพร่อง น้ำในร่างกายจะน้อยกว่าปกติอยู่แล้ว กีฬาที่เหมาะสมกับคนอินพร่อง คือ ว่ายน้ำ แต่อย่าว่ายนานเกินไปนะคะ แค่ 30 นาที ก็เพียงพอ เพราะจะทำให้เราขาดน้ำได้เช่นกันค่ะ

โรคที่พบมากสำหรับคนอินพร่องคือ โรคแห้งทั้งตัว ตาแห้ง เบาหวาน โรคกระเพาะ เพลียง่าย นอนไม่หลับ โรคไต หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการคอแห้งปากแห้งเป็นประจำ 

สำหรับใครที่กำลังมีอาการแบบนี้อยู่ ให้ลองปฏิบัติตามคำแนะนำได้นะคะ อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ละเลยร่างกายของเราค่ะ 

ปล. การช่วยตัวเองบ่อยๆ ทำให้สารอินในร่างกายลดน้อยลง ไม่ควรถี่เกินไป เพราะจะทำให้ไตอ่อนแอได้นะคะ ^^

 

ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม

Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music & Travel Lover

related HEALTHY LIFESTYLE

สูตรลับความงามดั่งไทเฮา

17 เม.ย. 2023

สูตรลับความงามดั่งไทเฮา

ช่วงนี้แอดมินดูซีรี่จีนเห็นไทเฮาสวย ผิวดี จริงๆมีสูตรลับค่ะ ประวัติอันยาวนานกว่า 2000 ปี ของการแพทย์แผนจีนมีบันทึกถึงการรับประทานอาหารเพื่อความงาม ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในวังหลวง และแพร่กระจายมาสู่สามัญชนวันนี้ขอนำเคล็ดลับความงามสองพันปีมาบอกต่อ เพื่อให้สาวไทยได้งามสะพรั่งดั่งไทเฮา ฮองเฮา แห่งพระราชวังต้องห้ามกันเลยค่ะอาหารที่ช่วยเรื่องความสวยความงามประกอบด้วย1.พุทราแดง พุทราแดงมีรสหวาน ฤทธิ์อุ่น สรรพคุณบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร บำรุงเลือด ช่วยเรื่องการนอน ในทางวิทยาศาสตร์พุทราแดงยังประกอบไปด้วยวิตามินมากมาย เช่น วิตามินเอ บำรุงสายตา วิตามินซีช่วยให้ผิวขาว มีแคลเซียมป้องกันโรคกระดุกพรุน และธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด ตามสุภาษิตจีนที่ว่า "พุทรา3 ลูก หน้าอ่อนลง 3 ปี" พุทราจีน ยังเหมาะกับผู้หญิงที่กลัวหนาว และเหนื่อยง่ายด้วยนะคะ2.ลำไยแห้ง ลำไยแห้งมีรสหวาน ฤทธิ์อุ่น ช่วยเรื่องหัวใจและบำรุงม้ามรักษาโรคเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ ลืมง่าย ใจสั่นลำไยแห้งยังช่วยชะลอความแก่ มากไปกว่านั้นยังอุดมไปด้วยวิตามิน โปรตีน น้ำตาล และสารต่อต้านเซลล์มะเร็งในมดลูก เหมาะสำหรับผู้หญิงวัยทอง ใจร้อน หงุดหงิดง่าย เหงื่อออกง่าย หรือผู้หญิงที่คลอดบุตร/อยู่ไฟค่ะ3.เก๋ากี้ เก๋ากี้มีรสหวาน สรรพคุณรักษาตับทำให้ปอดชุ่มชื้น บำรุงร่างกาย ลดความร้อนและทำให้ตาสว่าง ผลจากการวิจัยพบว่าน้ำตาลในเก๋ากี้ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ชะลอความแก่ ต่อต้านเซลล์มะเร็ง ขจัดอนุมูลอิสระ และลดความอ่อนเพลียของร่างกายได้เช่นกัน4.แครอท แครอทมีรสหวาน มีฤทธิ์อุ่น สรรพคุณบำรุงตับทำให้ตาสว่าง ลดความร้อน และแก้พิษ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "โสมดิน" ทั้งอุดมไปด้วยวิตามินเอและสารแคโรทีนบำรุงสายตา แครอทยังช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค มีฤทธิ์ขับเหงื่อได้เล็กน้อย ทำให้กระบวนการเมตาบอลิซึมให้ร่างกายและการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น มีผลทำให้ผิวนุ่มลื่น แลดูสุขภาพดี นอกจากนี้แครอทยังช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง5.รากบัว รากบัวมีรสหวาน ฤทธิ์เย็น สรรพคุณลดความร้อน เพิ่มน้ำให้ร่างกาย ทำให้เลือดเย็น ช่วยหยุดเลือด ขับพิษ แต่หากทำสุกจะช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รากบัวอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดต วิตามินซี และบีหนึ่ง ยังมีโพแทสเซียม แคลเซียม และธาติเหล็ก เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ หงุดหงิดง่าย ใจร้อน หากทานรากบัวบ่อยๆ ยังช่วยให้ใบหน้าและสีผิวดูมีน้ำมีนวล ขาวอมชมพู และลดสิวที่อยู่บนใบหน้าได้ด้วยนะคะ6.ว่านหางจระเข้ (ใช้พอกหน้า) ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณทางยามากมาย ในทางวิทยาศาสตร์ ตัวว่านอุดมไปด้วย วิตามิน อี ช่วยบำรุงผิว วิตามินซี ทำให้ผิวขาว วิตามินเอ และวิตามินบี ที่ทำให้ผิวดูสดใสอ่อนต่อวัย สาร Polysaccharide ในว่านหางจระเข้ ยังช่วยเพิ่มให้ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ขจัดจุดด่างดำป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเลต ชะลอความแก่ และทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ของใกลัตัวหลายอย่าง ช่วยให้สาวๆ 'เป๊ะ' ได้ไม่ยาก แถมราคาไม่แพง ใครสนใจลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ เราจะสวย สุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

ท้องผูกเรื้อรังทำไงดี?

23 มิ.ย. 2025

ท้องผูกเรื้อรังทำไงดี?

5 อาหาร ยิ่งกิน ยิ่งถ่ายดี1. ลูกพรุน (Prunes)สรรพคุณ: ลูกพรุนมีไฟเบอร์สูงและมีซอร์บิทอล (sorbitol) ซึ่งช่วยเพิ่มความถี่ในการขับถ่ายและปรับปรุงความสม่ำเสมอของอุจจาระงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการบริโภคลูกพรุนและไซเลียม พบว่าลูกพรุนมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการท้องผูกได้ดีกว่าวิธีบริโภค: รับประทานลูกพรุนแห้งประมาณ 50 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 5-6 เม็ดค่ะ2. งาดำ (Black Sesame Seeds)สรรพคุณ: งาดำมีโอเมก้า 3 และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยหล่อลื่นผนังลำไส้และส่งเสริมการขับถ่ายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: การศึกษาพบว่างาดำสามารถปรับปรุงการเคลื่อนไหวของลำไส้และบรรเทาอาการท้องผูกได้วิธีบริโภค: โรยงาดำคั่วบนข้าว โจ๊ก หรือผสมในสมูทตี้ก็ได้ค่ะ3. ฟักทอง (Pumpkin)สรรพคุณ: ฟักทองมีไฟเบอร์สูงและน้ำช่วยเพิ่มปริมาณและความนุ่มของอุจจาระงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: การศึกษาพบว่าซุปฟักทองสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในผู้สูงอายุได้วิธีบริโภค: ทำซุปฟักทองหรือเพิ่มฟักทองในเมนูอาหารประจำวัน4. ข้าวกล้อง (Brown Rice)สรรพคุณ: ข้าวกล้องมีไฟเบอร์สูง ช่วยเพิ่มความถี่ในการขับถ่ายและลดเวลาที่อาหารอยู่ในลำไส้งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: การศึกษาพบว่าการบริโภคข้าวกล้องช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้ได้อย่างมีนัยสำคัญวิธีบริโภค: ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาวในมื้ออาหารประจำวันค่ะ5. เมล็ดเจีย (Chia Seeds)สรรพคุณ: เมล็ดเจียมีไฟเบอร์สูงและเมื่อแช่น้ำจะเกิดเจลที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มลงงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: แม้จะไม่มีการศึกษาที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเมล็ดเจียและอาการท้องผูก แต่ไฟเบอร์ในเมล็ดเจียเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยในการขับถ่ายวิธีบริโภค: แช่เมล็ดเจียในน้ำหรือนมพืช แล้วผสมในโยเกิร์ตหรือสมูทตี้ท้องผูกอาจจะเหมือนเรื่องเล็ก แต่ถ้าสะสมไปนานๆ อาจทำให้เกิดหลายโรคได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น โรคริดสีดวงทวาร, แผลปริรอบทวารหนัก, กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอ, ไส้เลื่อน, ลำไส้อุดตัน และอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ มาเริ่มปรับ เปลี่ยน เพิ่มอาหารที่จะช่วยให้เราท้องผูกน้อยลงดีกว่าค่ะขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

งานหนัก ใจยังไหว ร่างกายไหวไหม ?

26 เม.ย. 2023

งานหนัก ใจยังไหว ร่างกายไหวไหม ?

คนทำงานบางคนอาจเจองานหนักบ้าง เบาบ้างไม่เหมือนกันแต่ทราบไหมคะว่าคนที่ทำงานหนักจะเกิดความเครียดสะสม ซึ่งเจ้าความเครียดนี่เหละค่ะเป็นสาเหตุของหลายโรคเลยนะคะ เรามาเรียนรู้ลักษณะของคนที่'ทำงานหนัก'เกินไปกันดีกว่าค่ะ1.ปวดตาและตาแห้ง คนที่ทำงานหนักมักจะมีความเครียด ทำให้ตับเสียสมดุล ดวงตาเป็นประตูแห่งตับ เมื่อตับร้อน จะทำให้ปวดตา ตาร้อน และตาแห้งได้ แพทย์แผนจีนแนะนำให้เอาผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนแล้วประคบไว้บริเวณดวงตาประมาณ30นาทีค่ะ2.เจ็บคอ เสียงแหบ การทำงานหนักนั้นจะทำให้ใจร้อน เร่งรีบ แล้วร่างกายจะร้อนตามหัวใจไปด้วยคนที่ทำงานหนักมักจะเจ็บคอ หรือเป็นแผลในปากได้ง่ายแพทย์แผนจีนแนะนำให้ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งนะคะจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ค่ะ3.ปวดหัว มึนหัว ความเครียดทำให้ตับขาดสมดุล เมื่อตับขาดสมดุลก็จะเกิดความร้อนที่ตับความร้อนมีลักษณะที่พุ่งขึ้น ทำให้รู้สึกปวดหัว หรือมึนหัวได้ง่ายแพทย์แผนจีนแนะนำให้ใช้นิ้วมือนวดด้วยตัวเองบริเวณระหว่างหัวคิ้ว ท้ายทอยและขมับ สัก30นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการปวดหัวได้ค่ะ4.กล้ามเนื้อบริเวณไหล่แข็งกว่าปกติ อาการนี้เป็นผลจากการนั่งท่าเดียวนานๆ ทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่ดีและเกิดการเกร็งบริเวณไหล่ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งกว่าปกติแนะนำให้นวด หรือไม่ก็ลองจัดกระดูก ฝังเข็มค่ะ5.รับประทานอาหารมากกว่าปกติ ภาวะเครียดจะทำให้เรารับประทานอาหารมากเป็นพิเศษตามหลักแพทย์แผนจีนนั้นเมื่อม้ามอ่อนแอจะทำให้ไฟในกระเพาะมากขึ้นไฟมากก็เผาพลาญแรง ทำให้กินอาหารไม่อิ่ม และอยากกินเรื่อยๆข้อนี้อาจต้องใช้ยาทานเข้าช่วยปรับสมดุลในร่างกายค่ะ6.ความจำลดลง การทำงานหนักจะเผาพลาญพลังของร่างกาย โดยส่วนใหญ่แล้วพลังนี้จะมาจากไตพลังไตเป็นพลังที่หล่อเลี้ยงสมอง หากพลังไตโดนใช้ไปหมดพลังไตก็จะขึ้นไม่ถึงสมอง ทำให้ความจำเราลดลง แพทย์แผนจีนแนะนำให้นั่งสมาธิช่วยได้ค่ะ7.หงุดหงิดง่าย หงุดหงิดง่ายอันนี้ปกติค่ะใครทำงานหนักแล้วไม่หงุดหงิด นับถือจริงๆความหงุดหงิดเกิดมาจากความเครียดที่สะสม อาการนี้ตามหลักแพทย์แผนจีนเรียกว่า'พลังตับติดขัด'แบบว่ามันแน่นอก ต้องยกออก เป็นบ่อยกับคนที่เครียดวิธีแก้อาจจะต้องปล่อยวาง หรือกินยาปรับสมดุล ลดไฟในตับค่ะ8.ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่าย เหนื่อยง่ายมาจากสาเหตุที่ร่างกายทำงานหนัก ใช้พลังจนหมด ในทางแพทย์แผนจีนเมื่อพูดว่าพลัง ก็คือ'ชี่'ถ้าพลังชี่อ่อนแอหรือใช้จนหมด ก็เหมือนแบตเตอรี่ที่เหลือไฟแค่ขีดเดียว รอเวลาชาร์ตซึ่งแพทย์แผนจีนแนะนำให้ดื่มชา หรือซุปที่มีส่วนผสมของโสมอเมริกาเพราะสรรพคุณเป็นยาบำรุงพลังและหยิน หรือว่าทานยาปรับสมดุลก็ได้เช่นกันค่ะ เราต่างต้องทำงานหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว สุขภาพของเราย่อมสำคัญที่สุด ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ขอให้มีความสุขกับการทำงานค่ะ หรือจะเปิด Green Wave เป็นเพื่อนระหว่างทำงาน ช่วยลดความเครียดได้นะคะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

โมโห ทำลายตับ

24 ก.พ. 2023

โมโห ทำลายตับ

ตับเป็นอวัยวะสำคัญของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นของเสีย พิษที่อยู่ในร่างกายหรืออาหารมีพิษที่เรารับประทานกันเข้าไปล้วนแต่ต้องผ่านการกรองสารพิษของตับทั้งสิ้นถ้าหากคุณยังไม่เคยคำนึงถึงการทำงานหนักของตับ คุณอาจจะมีโรคตามมาได้นะคะ1. ดื่มเหล้า ปัจจุบันการดื่มเหล้าสังสรรค์ เป็นเรื่องปกติ สำหรับชีวิตประจำวันไปแล้วไม่ว่าคุณจะมีเรื่องทุกข์ เรื่องสุขก็ขาดเหล้าไม่ได้ เหล้ามีทั้งคุณและโทษเหล้าในหลักแพทย์แผนจีนนั้น มีรสเผ็ด ร้อน สามารถขับเลือด กระตุ้นชีพจรขับความหนาวเย็น นำพายาไปสู่ที่ต่างๆในร่างกายเหล้าเป็นสารที่เข้าทำลายตับโดยตรง เพราะเหล้านั้นจะผ่านตับเพื่อกรองสารพิษดังนั้นตับจะทำงานหนัก ดื่มเหล้ามากๆจะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้ เช่นตับอักเสบ ตับแข็ง เป็นต้นค่ะ2. หงุดหงิด และโกรธง่าย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด คิดมาก ความโกรธ ล้วนแต่เป็นประตูสำหรับโรคภัยไข้เจ็บทั้งสิ้น ดังนั้นเราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยง เรื่องเช่นนี้ได้ในหลักแพทย์แผนจีนความโกรธ จะไปลงอยู่ที่ตับ ทำให้ตับร้อนและทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย วิธีทำให้หายหงุดหงิด ลองตะโกนดังๆ หรือว่าฟังเพลงสบายๆที่ Green Wave เพื่อให้ อารมณ์ calm down ลงนะคะ3. กินยามั่ว ยาต่างๆมีอันตรายต่อตับและไต ตามสำนวนจีนที่ว่า"ขอแค่เป็นยาล้วนมีพิษ" มนุษย์เราก็ไม่ค่อยที่จะระวังเรื่องการทานยาตอนร่างกายแข็งแรงก็กินยาโด๊ปยาบำรุง พอร่างกายอ่อนแอ ก็กินยารักษาแต่รู้ไหมว่า สิ่งที่ทำงานหนักที่สุดคือ ตับและไตฉะนั้นเราควรที่จะออกกำลังกายรักษาสุขภาพ ไม่ให้เราเจ็บไข้ไม่สบายเท่านี้เราก็ไม่ต้องทานยาเหล่านั้นแล้วและเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วงดูแลตับให้ไม่ต้องทำงานหนักได้อีกด้วยค่ะ4. นอนไม่เพียงพอ การนอนไม่เพียงพอนั้นทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า แล้วยังทำให้ตับทำงานแย่ลงอีกด้วย บางคนไม่นอนกลางคืน ทำให้ระบบหยินหยางเสียสมดุลบางคนออกไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ กลับมาก็รุ่งเช้าในทางแพทย์แผนจีนตับทำงานตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงตี 1ฉะนั้นเราต้องนอนก่อนเพื่อรักษาสมดุลของตับนะคะ5. ทานอาหารที่เป็นน้ำมันเยอะ หรืออาหารเลี่ยนมากๆ ไขมัน หรือน้ำมันนั้นเป็นอาหาร ที่ต้องมีในชีวิตประจำวันเพราะเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการนำมาใช้เป็นพลังงาน แต่ทราบไหมคะว่าพวกไขมันจะไปเกาะตับ ทำอันตรายต่อตับ ทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมา เช่นโรคไขมันในเลือดสูง ไขมันที่ตับ หรือโรคอ้วนด้วย6. ทานอาหารมื้อดึก การทานอาหารดึกทำให้มีการหลั่งน้ำดีออกมาโดยไม่เป็นเวลา เพื่อที่จะมาช่วยย่อยอาหารที่เรากินเข้าไปทำให้ตับมีการผลิตน้ำดีเพิ่มขึ้นแล้วทำให้ตับทำงานหนักอีกทั้งการเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็จะลด ทำให้อ้วนได้ง่ายอีกด้วยค่ะ ตับเป็นเพื่อนที่อยู่ข้างคุณเสมอ ถ้าอยากให้ตับอยู่คู่กับคุณไปนานๆ โปรดหยุดทำร้ายเขาเพราะถ้าตับไม่แข็งแรง สุขภาพโดยรวมของเราก็จะแย่ไปด้วยนะคะ อยากสดใส สุขภาพดี ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ก็อย่าลืมดูแลตับของเรานะคะขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

album

0
0.8
1