
27 พ.ค. 2025
นิ่วในไต อย่าให้เป็นซ้ำๆ
นิ่วในไต (Kidney Stones) คือโรคที่เกิดจากแร่ธาตุแข็งชนิดต่างๆ ที่รวมตัวกันเป็นก้อน โดยมักเกิดขึ้นบริเวณไต แต่พบได้ตลอดระบบทางเดินปัสสาวะ และมีโอกาสเกิดได้สูงหากปัสสาวะมีความเข้มข้นจนตกตะกอนจับตัวเป็นนิ่ว นิ่วในไตอาจสร้างความเจ็บปวดทรมานให้ผู้ป่วยได้อย่างมาก หากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่จนเกินไป ปิดกั้นและสร้างแผลบาดเจ็บที่ท่อไต และอาจส่งผลให้ปัสสาวะออกมาเป็นเลือดได้ รู้หรือไม่? การมีนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้การทำงานของไตเสื่อมลง และอาจร้ายแรงจนถึงเกิดภาวะไตวายเรื้อรังและโรคไตระยะสุดท้าย ซึ่งทำให้ถึงแก่ความตายได้นะคะ อาการจะประกอบด้วย การปวดแบบเฉียบพลันเสมือนถูกมีดบาดในบริเวณช่วงเอวหรือท้องน้อย และมีปัสสาวะเป็นเลือด อาการปวดอาจอยู่นานราว 2 – 3 นาที แล้วหายไป ปวดเป็นๆ หายๆ หรืออาจปวดนานเป็นชั่วโมง หรือกว่านั้นก็ได้ค่ะ มักจะปวดตั้งแต่บริเวณเอวช่วงไตร้าวลงมาท้องน้อยฝั่งเดียวกันลงไปจนถึงท่อปัสสาวะ หรืออวัยวะเพศภายนอกได้ หรือบางรายอาจเลยไปจนถึงต้นขาด้านในก็ได้ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย หรืออาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้ค่ะปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่ว1. ดื่มน้ำน้อยเกินไป2. พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีสารก่อนิ่วในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น เกลือ น้ำตาล และโปรตีนสูง3. ภาวะอ้วน น้ำหนักมากเกิน4. มีโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบทางเดินอาหาร เช่น ไตอักเสบ โรคหลอดเลือดในท่อไต ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ โรคลำไส้อักเสบ ท้องเสียเรื้อรัง และโรคเกาต์5. ปัจจัยทางพันธุกรรม คือพ่อแม่มีประวัติเป็นโรคนิ่วมาก่อนป้องกันยังไงไม่ให้เป็นนิ่วในไตซ้ำ1. ควรดื่มน้ำปริมาณมาก ในแต่ละวันควรดื่มน้ำให้ได้มากกว่า 8 แก้วต่อวัน หรือให้ได้ปริมาตรของปัสสาวะมากกว่า 2 ลิตรต่อวัน2.อาหารจำพวกผักและผลไม้ เป็นแหล่งของสารยับยั้งการเกิดนิ่ว และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ช่วยให้ปริมาณของซิเทรต โพแทสเซียม และความเป็นกรด-ด่างของปัสสาวะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีไฟเบอร์ช่วยลดแคลเซียมในปัสสาวะได้ด้วยค่ะ3.ไขมันจากพืชและไขมันจากปลา สามารถลดปริมาณแคลเซียมในปัสสาวะได้ดีกว่าไขมันที่ได้จากเนื้อสัตว์อื่นๆ ลดโอกาสการเกิดนิ่วซ้ำได้ค่ะ4.ลดอาหารที่มีเนื้อสัตว์ ไขมันสัตว์ อาหารหวาน เค็มมาก และอาหารที่มีกรดยูริกสูง ได้แก่ หนังสัตว์ปีก ตับ ไต ปลาซาร์ดีน การบริโภคอาหารโปรตีนสูงจะทำให้เพิ่มสารก่อนิ่วและเพิ่มโอกาสการเกิดนิ่วสูงมาก5.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีออกซาเลตสูง ได้แก่ งา ผักโขม ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ชอกโกแลต และชา เป็นต้น ในผู้ป่วยชนิดแคลเซียมออกซาเลต หากจำเป็นต้องบริโภคควรรับประทานควบคู่ไปกับแคลเซียมหรือดื่มนมจะช่วยลดปริมาณออกซาเลตในปัสสาวะได้ค่ะ6.เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ปัจจุบันพบว่าการลดอาหารที่มีแคลเซียมในผู้ป่วยโรคนิ่ว นอกจากจะทำให้สมดุลของแคลเซียมเปลี่ยนแปลง ยังเพิ่มปัจจัยเสี่ยงของโรคกระดูกในอนาคตและยังทำให้ปริมาณสารออกซาเลตในปัสสาวะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากแคลเซียมจะไปจับและยับยั้งการดูดซึมออกซาเลตทางลำไส้จึงช่วยลดระดับออกซาเลตในปัสสาวะได้7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคเป็นเวลาอย่างน้อย 10-20 นาทีทุกวัน เช่น การเดินจะช่วยทำให้นิ่วขนาดเล็กหลุดได้ การเดินสมาธิ โยคะ ไทเก๊ก ทำให้การทำงานของร่างกายดีขึ้น ลดความเครียด และลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดก้อนนิ่วได้อีกด้วย ศาสตร์การแพทย์แผนจีนพบว่า มีสาเหตุจากการรับประทานอาหารที่มีรสจัด ร้อน หรือมันมากเกินไป หรือดื่มสุรามากเกินไป ก่อให้เกิดความร้อนชื้นไหลลงสู่ไตและกระเพาะปัสสาวะ หรือเกิดจากสุขอนามัยที่ไม่ดีของทางเดินปัสสาวะก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อก่อโรค ทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมในระบบทางเดินปัสสาวะ หากมีการสะสมของความร้อนชื้นเหล่านี้นานจะเปลี่ยนเป็นทราย และก่อให้เกิดก้อนนิ่วขึ้นมาได้ทั้งในไตและกระเพาะปัสสาวะ เกิดการขัดขวางการไหลของปัสสาวะและหน้าที่การขับปัสสาวะตามปกติ รวมถึงขัดขวางการไหลเวียนของชี่ด้วยนะคะนิ่วในไต ป้องกันได้หลายวิธีนะคะ ว่าแล้วแอดไปดื่มน้ำเพิ่มก่อนค่ะขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover