สาเหตุที่ทำให้ปวดหลัง

HEALTHY LIFESTYLE

สาเหตุที่ทำให้ปวดหลัง

02 มิ.ย. 2022

อาการปวดหลัง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุนะคะ แม้ในสภาวะปกติ เนื่องจากกระดูกสันหลังรับน้ำหนักของร่างกายตลอดเวลา แต่ในเวลานอนจะรับน้ำหนักน้อยที่สุด ถ้าไม่เอาใจใส่กับอาการปวดหลังที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวแล้ว อาการปวดหลังในระยะเริ่มแรก ก็จะกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง ทําให้ยากต่อการรักษาให้หายขาดได้นะคะ การบําบัดรักษาที่จะได้ผลดี จําเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจทั้งผู้รักษาและผู้รับการรักษาค่ะ

 

สาเหตุของโรคหรือความผิดปกติที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง

1.การบาดเจ็บ เช่น ตกจากที่สูง หมอนรองกระดูกเคลื่อน

2.การติดเชื้อ เช่น วัณโรคของกระดูกสันหลัง

3.ความผิดปกติแต่กําเนิด

4.เนื้องอก เช่น การกระจายของมะเร็งจากอวัยวะอื่นมาที่กระดูกสันหลัง

5.ความเสื่อมทางชีวกลศาสตร์ของหลัง เช่น ท่าทางไม่ถูกต้อง กล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ขาดการออกกําลังกาย

6.อารมณ์ตึงเครียด อาจส่งผลถึงกล้ามเนื้อหลัง ทําให้มีอาการเกร็งและปวดหลังได้ค่ะ

ในที่นี้ขอกล่าวถึงอาการปวดหลังที่เกิดจากสาเหตุ ข้อที่ 5 และ 6

 

การวิเคราะห์แยกกลุ่มอาการโรค

อาศัยประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการ จากประวัติในพวกที่มีความผิดปกติของกระดูกสันหลัง เช่น กระดูกสันหลังไม่ตรง แอ่นเกินไป หรือหลังค่อมเกินไป ผู้ป่วยพวกนี้จะมีอาการปวดเวลาเคลื่อนไหว ถ้าได้พักจะทุเลาค่ะ


พวกที่เป็นเนื้องอกของกระดูกสันหลัง หรือจากต่อมไร้ท่อ ที่มีความผิดปกติ อาการปวดในกระดูกก็จะพบได้ โดยเฉพาะเวลานอนพักยิ่งปวดมากขึ้น และจะปวดตลอดเวลาเมื่อเคลื่อนไหวกระดูกสันหลัง บางครั้งจะเห็นอาการกระดูกสันหลังของผู้ป่วยคด(scoliosis) ทั้งนี้เป็นเพราะกล้ามเนื้อหลังหดเกร็งตัว การที่กระดูกสันหลังคด ทำให้การหดเกร็งของกล้ามเนื้อไม่สมดุล จึงทำให้ขาสั้นยาวไม่เท่ากัน


พวกที่มีข้อสันหลังเสื่อม จะเคลื่อนไหวไม่ได้เต็มที่ โดยเฉพาะท่าเอียงตัวไปซ้ายหรือขวา ในโรคข้อสันหลังอักเสบยึดติด จะเอียงตัวไปด้านซ้ายหรือขวาไม่ได้เลยค่ะ


การตรวจกระดูกสันหลัง จำเป็นต้องตรวจหาอาการกดทับประสาทสันหลังด้วย เช่น การดึงตัวของประสาทขาทางด้านหลัง(Sciatic nerve) พวกนี้ถ้าก้มตัวจะปวดร้าวลงไปตามขาทางด้านหลัง และยิ่งถ้าไอหรือจามก็จะปวดหลังมาก มีอาการปวดร้าวแปลบไปตามแนวด้านหลังขาที่ประสาทผ่านไป

 

มุมมองต่อโรคในศาสตร์การแพทย์แผนจีน

ปวดหลังบั้นเอว อาจปวดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ค่ะ มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างแนวกลางกระดูกสันหลัง และบริเวณด้านข้างทั้งสองข้าง โดยเฉพาะเวลามีอาการปวดจะเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า Lumbospinal pain โดยทั่วไปมักเรียก Lumbago หรือ TCM เรียกอาการนี้ว่า Yao Tong บริเวณบั้นเอวเป็นที่อยู่ของไต ดังนั้นอาการปวดบั้นเอวจึงสัมพันธ์กับไต อาการอาจเป็นแบบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังก็ได้ค่ะ

 

หลักการรักษา

1. ความเย็นชื้น ขับความเย็น สลายความชื้น ทะลวงและอุ่นเส้นลมปราณ

ความร้อนชื้น ขจัดร้อน สลายความชื้น คลายกล้ามเนื้อและเอ็นเพื่อระงับปวด

2. ชี่ติดขัดและเลือดคั่ง กระตุ้นเลือดให้ไหลเวียน เพื่อสลายเลือดคั่ง ปรับการไหล เวียนของชี่เพื่อระงับปวด

3. ไตพร่อง บำรุงไตเพื่อเสริมความแข็งแรงให้บั้นเอว เป็นหลักการทั่วไป กรณีไต หยางพร่อง บำรุงไตหยาง เพื่อเสริมความแข็งแรงให้บั้นเอว กรณีไตอินพร่อง เลี้ยงบำรุงไตอินให้สมบูรณ์

4. ความผิดปกติของเส้นลมปราณที่เกี่ยวข้องกับไต ทะลวงเส้นลมปราณ ปรับการไหลเวียนของจิงชี่ บริเวณบั้นเอว และระงับปวด


           สาเหตุที่ทำให้ปวดหลังมีหลายสาเหตุนะคะ เรามาค่อยๆเริ่มดูแลรักษาสุขภาพหลังไปด้วยกัน เริ่มจากเปิด Green Wave แล้วค่อยๆเอนหลัง นอนพักกันก่อนนะคะ ^^

 

ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม


Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music & Travel Lover

related HEALTHY LIFESTYLE

เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ระวังเป็นโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล

01 พ.ย. 2022

เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ระวังเป็นโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล

ตื่นเช้ามาอากาศเย็นๆ พอเที่ยงๆเริ่มแดดออก ตกบ่ายฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก…ปรับการใช้ชีวิตกันไม่ทันแล้วค่ะ แล้วอารมณ์ของเราจะปรับทันหรอ จริงมั้ยคะ ? บางวันแอดตื่นมาก็รู้สึกเหนื่อยๆ มองท้องฟ้าครึ้มๆยิ่งรู้สึกเศร้าใจ โดยไม่มีสาเหตุ บางวันแดดร้อนมากๆก็รู้สึกหงุดหงิด นั้นเป็นเพราะอากาศส่งผลต่ออารมณ์ของเรานั้นเองภาพจาก pixabay.com ในทางการแพทย์กล่าวว่า อุณหภูมิที่อยู่ภายนอกมักจะส่งผลต่อระบบการทำงานในร่างกายของตัวเราด้วยยิ่งอากาศลดต่ำลงการทำงานของร่างกายก็จะช้าลง และยังสอดคล้องในเรื่องของระยะเวลาการเกิดกลางวันกลางคืนอีกด้วย ซึ่งช่วงฤดูหนาวเวลากลางวันจะสั้นกว่าช่วงกลางคืน ทำให้ส่งผลต่อนาฬิกาในการใช้ชีวิตของเรา หรือการดำเนินชีวิตของเราก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย ทำให้ร่างกายมีการทำงานและมีกลไกบางอย่างที่ทำงานผิดปกติไป หรือไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับอุณหภูมิภายนอก ก็จะส่งผลให้เกิดอาการทางจิตเวชตามมาภาพจาก brandinside.asiaหรือที่เรียกว่าโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล Seasonal affective disorder (SAD) คือ โรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่จะเกิดในช่วงเวลาเดียวกัน ในแต่ละปี และมักจะเกิดขึ้นในหน้าหนาว อาจจะทำให้มีอากาศ ซึมเศร้า เก็บตัว รู้สึกเหนื่อยล้าแล้วแบบนี้มีวิธีแก้ไหมนะ?ภาพจาก sunawaythailand.comหากไม่อยากอารมณ์เปลี่ยนไปตามอากาศแบบนี้ก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ง่ายๆ1.เปิดม่าน ให้ร่างกายได้โดนแดดอ่อนๆในยามเช้า เพราะแสงแดดมีสารที่ชื่อว่า เซโรโทนิน ทำให้อารมณ์ดีขึ้น2.เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น กล้วย ถั่ว ป๋นอาหารที่ช่วยสร้าง เซโรโทนิน ทำให้เราอารมณ์ดี3. ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30-60 นาทีต่อวัน นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเอง ทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นค่ะ ถ้ามีอาการ บางทีก็เศร้าซึมแบบไม่ทราบสาเหตุ อย่าพึ่งคิดมากนะทุกคน บางทีอาจจะเป็นเพราะ สาเหตุข้างต้นได้ เพราะฉนั้น ลองแก้ไขตามวิธีที่แอดให้ไปก่อน หรือวิธีที่ง่ายที่สุด เปิดเพลงฟังให้สบายหู ที่ Green Wave 106.5 FM ก็จะช่วยให้อารมณ์ดีได้นะคะ และหากบทความนี้เป็นประโยชน์ก็แชร์ให้เพื่อนๆได้รู้กันได้เลยน้าแหล่งอ้างอิง : https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/men-improve-sex-life-doing-householdแหล่งอ้างอิง : https://nph.go.th/?p=4758แหล่งอ้างอิง : https://www.alljitblog.com/?p=3710

เหงื่อบอกโรค

20 ส.ค. 2024

เหงื่อบอกโรค

เหงื่อมี2ประเภทใหญ่ๆ1.เหงื่อแตกทั้งตัว อาจจะมีปัจจัยมาจากหลายๆสาเหตุไม่ว่าจะมาจากโรคร้อนที่เข้าไปทำร้ายร่างกาย เมทาบอลิทึมที่สูงขึ้นหรืออารมณ์ตื่นเต้น ก็อาจทำให้มีเหงื่อออกได้เช่นกันค่ะโรคบางโรคก็ทำให้เหงื่อทั้งตัวได้เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำ ไฮเปอร์ โรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคที่สาวๆมักจะกลัวกัน คือ โรควัยทอง2.เหงื่อออกเฉพาะที่ ตามหลักแพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไรอาจจะเกิดจากต่อมเหงื่อบริเวณนั้นทำงานผิดปกติแต่ตามหลักแพทย์แผนจีนแบ่งออกเป็น1.เหงื่อออกตอนกลางวันอยู่ดีๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยเหงื่อก็ไหลเองค่ะ เหงื่อแบบนี้มาจากม้ามที่อยู่ในร่างกายเราพร่อง หรือ อ่อนแอการบำรุงม้ามจะช่วยหยุดเหงื่อได้หน่อยค่ะ แล้วอาการจะดีขึ้นตามมา2.เหงื่อออกตอนกลางคืนเป็นเหงื่อที่ออกตอนนอน ตื่นเช้ามาก็ไม่มีแล้วทางแพทย์แผนจีน คือ อาการของอินพร่อง หมายถึงอินน้อย ซึ่งต้องบำรุงอินโดยทางที่ดีแนะนำให้รักษากับหมอผู้เชี่ยวชาญนะคะ3.เหงื่อออกที่รักแร้มากเกินไปเหงื่อออกที่รักแร้เป็นปัญหาสำหรับเราอย่างมากถ้ามีกลิ่นด้วยจะทำให้เรายิ่งเสียความมั่นใจเหงื่อบริเวณรักแร้มากผิดปกตินั้นอาจเกิดมาจากต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อมากเกินไป หรือว่าเรารับประทานอาหารมากเกินไป อันนี้มีวิธีแก้ค่ะอาจจะงดอาหารที่รสจัดเกิดไป เช่น กระเทียม เครื่องเทศต่างๆตามหลักแพทย์แผนจีนอาจจะมาจากหัวใจร้อน หรือหัวใจพร่องเพราะเส้นลมปรานจุดแรกของหัวใจก็มาจากรักแร้นั้นเองค่ะความเครียดก็เป็นผลทำให้เหงื่อออกเยอะนะคะ เหมือนตอนเข้าห้องสอบหรือสัมภาษณ์งานแอดมินก็เคยเป็นค่ะ^^4.เหงื่อออกบริเวณรอบอวัยวะเพศหลายคนมีอาการนี้เหงื่อออกบริเวณอวัยเพศมากเกินไปนั้น จะทำให้เกิดการหมักหมม และมีกลิ่นเกิดมาจากความร้อนชื้นอยู่ด้านล่าง ทำให้มีอาการหลายอย่างตามมาเช่น คันบริเวณอวัยวะเพศ อวัยวะเพศมีกลิ่นแรงไม่พึงประสงค์ทางที่ดีพบแพทย์ดีกว่านะคะ เพราะการรักษาความชื้นค่อนข้างยากหน่อยบางคนอาจจะมีอาการของต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็มีสิทธิ์ทำให้ทำให้เหงื่อออกที่อวัยเพศได้เช่นกันค่ะ5.เหงื่อออกที่มือที่เท้าหลายคนถามว่าเป็นโรคหัวใจหรือป่าว แต่ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยคุณหมอบอกว่าปกติ ตามหลักแพทย์แผนจีนนั้นมาจากหลายสาเหตุเช่นกระเพาะและม้ามร้อนชื้น หรืออาจจะเกิดจากภายในมีความร้อนชื้นสูงก็ทำให้เหงื่อโดนขับออกตามมือตามเท้าได้และอีกอย่างคือม้ามพร่องก็อาจจะทำให้เหงื่อออกตามมือตามเท้าได้เช่นกัน เพราะม้ามควบคุมกล้ามเนื้อมือและเท้าค่ะสุดท้ายไม่ว่าเราจะมีอาการแปลกๆแบบไหน อย่านิ่งนอนใจนะคะควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการรักษาต่อไป ด้วยความห่วงใยจาก Green wave 106.5 FM ค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

9 วิธี ทำแล้วสุขภาพดีขึ้นแน่นอน

01 ก.ค. 2024

9 วิธี ทำแล้วสุขภาพดีขึ้นแน่นอน

1.หัดเดินถอยหลังจะทำให้สันหลังงอไปด้านหลัง ช่วยลดการปวดเอว แก้อาการปวดหลังได้ดี เพราะการเดินถอยหลังเราจะงอสันหลังไปทางด้านหลัง มีแรงโน้มถ่วงไปทางด้านหลัง จะทำให้ไม่ปวดหลังค่ะ2.ยกส้นเท้า 30 ครั้ง ค้างไว้ช่วยบำรุงไตและแก้ปวดเข่า จุดไตจุดแรก คือจุดที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า จุดแรกของไตนั้นบำรุงไตดีที่สุด นอกจากเราจะนวดแล้ว เรายังสามารถยกส้นเท้าค้างเอาไว้ เพื่อช่วยบำรุงไตถ้าหากกล้ามเนื้อแถวนั้นแข็งแรง ก็ช่วยลดอาการปวดเข่าปวดข้อได้อีกด้วย จะยืนทำ หรือนั่งทำก็ได้นะคะ ไม่มีได้ข้อห้ามอะไรค่ะ3.ตื่นเช้าดื่มน้ำอุ่น 1 - 2 แก้วเพื่อช่วยเพิ่มการทำงานของเมทาบอลิซึมและช่วยล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย การที่ดื่มน้ำหลังตื่นนอน จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกาย ช่วยลดความอ้วน และล้างสิ่งสกปรก ลดความเป็นกรดในร่างกายได้อีกด้วย และยังช่วยให้การทำงานของไตมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ4.ทานเนื้อน้อย ทานผักมากเพื่อป้องกันโรคไขมันอุดตันและลดความเป็นกรดในร่างกาย การที่ทานเนื้อสัตว์น้อยๆ ทานผักเยอะๆ จะช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันหลอดเลือด ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดสมองหรือหลอดเลือดหัวใจ ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ ยังป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ และลดความเป็นกรดในเลือดอีกด้วยค่ะ5.แช่เท้าก่อนนอน 20 นาทีจะช่วยให้ผ่อนคลาย ช่วยให้หลับได้ดีขึ้น และนวดฝ่าเท้าเบาๆ จะช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ช่วยบำรุงไตได้อีกด้วย เพราะฝ่าเท้าเป็นศูนย์รวมประสาท และเป็นจุดของไตค่ะ6.นั่งให้ตัวตรง น่องตั้งฉากลดอาการปวดหลังได้ค่ะ การนั่งที่ดี ต้องนั่งตัวตรง อกผาย ไหล่พึงอาจจะเมื่อยนิดนึง แต่ถ้าชินแล้ว จะทำให้อาการปวดหลังที่มาจากการนั่งตัวไม่ตรงจะดีขึ้น แนะนำให้เอาหมอนมาลองหลังด้วยนะคะ เพราะป้องกันอาการปวดหลังได้อีกทางค่ะ7.ดื่มน้ำขิงทุกเช้าเพื่อป้องกันโรคหวัดและภูมิแพ้ การทานขิงไม่ว่าจะเป็นน้ำขิงตอนเช้า หรือไก่ผัดขิง เมนูขิงต่างๆ ขิงในแพทย์แผนจีน ช่วยไล่ลม ขับความเย็น ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหมาะสำหรับคนที่ขี้หนาว ท้องอืดบ่อยๆ8.ทำสมาธิหลังตื่นนอน และก่อนนอนจะช่วยให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน ลดอาการเวียนศีรษะและความดันต่ำ ให้เรากำหนดลมหายใจ สักพักเราก็หลับไปเอง การที่เราฝัน ในแพทย์แผนจีนเรียกว่า พลังหยางไม่เข้าในอิน ฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจ พลังหัวใจกับตับและไตทำงานไม่ปกตินั้นเองค่ะ อาจจะมาจากหัวใจที่ร้อน ตับที่ร้อน หรือพลังไตส่งไม่ถึงหัวใจและพลังหัวใจส่งไม่ถึงไต จะทำให้เราฝันร้ายง่าย9.ใช้น้ำอุ่นสลับน้ำเย็นล้างหน้าช่วยป้องกันหวัด และช่วยกระชับรูขุมขน การที่เราใช้น้ำอุ่นล้างหน้าก่อนและตามด้วยน้ำเย็นจะช่วยให้หน้าไม่มัน ไม่มีสิว รูขุมขนเปิดกว้างก่อน น้ำอุ่นล้างฝุ่นละอองที่ติดข้างในออก ค่อยตามด้วยน้ำเย็นเพื่อมากระชับรูขุมขน และการล้างแบบนี้ช่วยให้เรามีภูมิต่อปัจจัยภายนอกที่ทำให้ก่อโรค เช่น ลมร้อน และลมเย็น หน้าเป็นส่วนแรกที่เจอกับปัจจัยเหล่านี้ เพราะเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวจะทำให้เราไม่สบายง่าย ถ้าเรารับกับความเย็นความร้อนได้ เราจะมีภูมิไม่เป็นหวัดง่ายค่ะ9 วิธีง่ายๆ ทำตามได้ไม่ยาก คุณผู้ฟังลองเอาไปทำตามดูนะคะ เราจะสุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

เม็ดเลือดขาวต่ำ ดูแลตัวเองยังไง?

04 ก.ย. 2024

เม็ดเลือดขาวต่ำ ดูแลตัวเองยังไง?

ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นชัดเจน โดยปกติเม็ดเลือดขาวของคนปกติ อายุ 12 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 3,500 - 10,500 เซลล์ต่อไมโครลิตร ทว่าผู้ป่วยบางคนจะพบอาการข้างเคียงจากการที่ปริมาณเม็ดเลือดขาวลดลง โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำต่อเนื่องจะเกิดการติดเชื้อง่าย ซึ่งอาการที่ปรากฏอาจจะ- มีไข้ หนาวสั่น มีอาการบวมแดง- มีแผลที่ปาก มีปื้นสีแดงหรือฝ้าสีขาวอยู่ภายในปาก- เจ็บคอ มีอาการไออย่างรุนแรง- มีอาการเจ็บหรือปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ- ท้องเสียง่าย- รู้สึกเจ็บบริเวณทวารหนัก- มีอาการบวมแดง และมีหนองออกมาจากบริเวณแผลเป็นประจำ- มีอาการระคายเคืองที่ช่องคลอด หรือคันช่องคลอดผิดปกตินอกจากนี้ หากเป็นภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำเนื่องจากโรค อาจพบอาการอื่นๆ ที่เป็นสัญญาณของโรคร่วมด้วย แต่บางคนอาจจะไม่มีอาการเหล่านั้น ผลตรวจออกมามีความผิดปกติเม็ดเลือดขาวต่ำ ซึ่งผู้ป่วยควรสังเกตความผิดปกติของร่างกายได้ในทางแพทย์แผนจีนเม็ดเลือดขาวน้อย จะอยู่ในส่วนการรักษาแบบเลือดจาง อวัยวะในร่างกายอ่อนเพลีย อ่อนล้า ไม่สามารถผลิตเม็ดเลือดขาวได้ ทำให้ภูมิตก อาการมักจะมีเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพออาจทำให้ใบหน้าขาวซีดหรือเหลืองซีดร่วมกับอาการเวียนศีรษะ ตาลาย ใจสั่น นอนไม่หลับ บางครั้งมีอาการแขนขาชา ในสตรีจะมีประจำเดือนน้อยสีซีด ประจำเดือนมาช้ากว่ากำหนด กระทั่งขาดประจำเดือนได้อย่างไรก็ตาม ในแง่การบำรุงเลือด เสริมภูมิให้กับร่างกายแพทย์แผนจีนเน้นบำรุงเลือด ต้องบำรุงพลังร่วมด้วย บำรุงอวัยวะต่างๆ สร้างเม็ดเลือด ป้องกันการติดเชื้อ บางครั้งต้องเสริมยาบำรุงระบบการย่อยดูดซึมอาหารให้ดี หรือต้องบำรุงจิง บำรุงไต (เพื่อกระตุ้นการทำงานของ ฮอร์โมน) ควบคู่กันไป และแนะนำให้ทานยาปัจจุบันควบคู่กันไปอาหารที่ต้องห้ามสำหรับผู้ป่วย ได้แก่- นม หรือ ผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการ sterilized หรือ ที่ไม่ใช่นม UHT- โยเกิร์ต ยาคูลท์ ไอศกรีมที่ไม่มียี่ห้อการันตีความสะอาด- น้ำผักสด น้ำผลไม้สดที่ไม่ผ่านการ sterilized- น้ำแข็งที่ทำจากน้ำประปา ที่ไม่ผ่านการต้ม หรือกรอง หรือน้ำที่มีสิ่งปนเปื้อน- อาหารทุกชนิดที่ไม่ได้ปรุงให้สุก หรือ สุกๆ ดิบๆ เช่น ไข่ดาว ไข่ลวก น้ำสลัด ส้มตำ น้ำพริก และอาหารประเภทยำเป็นต้น- หลีกเลี่ยงการเติมเครื่องปรุงลงในอาหารที่ปรุงสุกแล้วเช่น พริกไทย พริกป่น ถั่วลิสง เป็นต้น- หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารปรุงสำเร็จตามร้านอาหารมารับประทาน- หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะในการรับประทานอาหารร่วมกับบุคคลอื่น- หลีกเลี่ยงการรับประทานผักสดหรือผลไม้สด (ผลไม้สดที่อนุโลมให้รับประทานได้คือผลไม้ที่สามารถล้างภายนอกทั้งเปลือกให้สะอาดแล้ว ปอกเปลือกรับประทานทันที ได้แก่ ส้มโอ ส้ม กล้วย เป็นต้น) ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นชัดเจน ทุกคนต้องคอยสังเกตตัวเองนะคะ ถ้ามีอาการข้างต้นต้องรีบไปพบคุณหมอนะคะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

album

0
0.8
1