แม่หนูเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก จนหนูเริ่มสังเกตว่าผิดปกติ ไปเจอว่าแม่ขายบริการทาง X มีลูกค้าติดต่อมา รับงานเรื่อยๆ หลังๆมาแม่เพิ่งทราบว่ามีเชื้อ HIV แต่แม่ก็ยังไม่หยุดทำงานนี้ ค่าตัวที่แม่รับ ทำหนูตกใจกว่าเดิม 200 – 300 บาท จะทำยังไงดีคะให้แม่เลิก

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แม่หนูเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก จนหนูเริ่มสังเกตว่าผิดปกติ ไปเจอว่าแม่ขายบริการทาง X มีลูกค้าติดต่อมา รับงานเรื่อยๆ หลังๆมาแม่เพิ่งทราบว่ามีเชื้อ HIV แต่แม่ก็ยังไม่หยุดทำงานนี้ ค่าตัวที่แม่รับ ทำหนูตกใจกว่าเดิม 200 – 300 บาท จะทำยังไงดีคะให้แม่เลิก

26 ก.ค. 2024

            “คุณมิ้นต์ (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่แรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [24 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่ติดเชื้อ HIV แต่ยังขายบริการอยู่

            โดย “คุณมิ้นต์ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่หนู พ่อกับแม่หนูแยกทางกันตั้งแต่เด็ก หนูอยู่กับพ่อ ส่วนน้องสาวอยู่กับแม่ แม่หนูอายุ 45 ปี จะเป็นคนที่มีนิสัยเปลี่ยนแฟนบ่อยแทบทุกเดือน ช่วงที่หนูเด็กๆ เวลาแม่มาเยี่ยมเค้าก็จะเปลี่ยนแฟนทุกครั้ง จนหนูไม่อยากให้แม่มาหาเพราะคนแถวบ้านเค้าก็จะนินทาเรื่องที่แม่มาหาแล้วเปลี่ยนแฟน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่มาหาแล้วเหมือนจะคืนดีกับพ่อ พอผ่านไปอยู่ดี ๆ เค้าก็กลับบ้านไปพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นแม่หนูไม่มีโทรศัพท์แต่เจอผู้ชายคนนั้นที่ขนส่งเลยพาเค้ากลับบ้าน แล้วเหมือนแฟนเก่าแม่ก็ไปเจอทวิตเตอร์แม่ที่ขายบริการด้วย หนูก็เลยถามน้องสาว ซึ่งน้องสาวก็ไม่รู้ จนเวลาผ่านไป 3 ปี แม่ก็กลับมาบอกว่าเค้าป่วยและอยากให้หนูไปหา หนูเลยถามเค้าว่าเค้าป่วยเป็นอะไร? เค้าก็บอกว่าเค้าเป็นโรคที่คนรังเกียจ หนูก็เลยพาเค้าไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ผลปรากฎว่าแม่หนูเค้าติดเชื้อ HIV แล้วหนูก็ให้เงินไปรักษา เพราะเค้าบอกว่าเค้าไม่สามารถทำงาน หาเงินได้แล้ว หนูก็เชื่อใจเค้า เพราะเค้าบอกเค้าจะหยุดเรื่องผู้ชายก็เลยช่วยเหลือเค้าไป

            จนผ่านมาประมาณเดือนกว่า หนูก็เห็นเค้าโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าเหงา อยากหาคนมาอยู่ด้วยหรือใครสักคนที่รักเค้าไปเลี้ยง หนูก็เริ่มเอะใจว่าเค้าไม่ได้เลิกทำเหมือนที่เค้าบอก เลยไปเสิร์ชในทวิตเตอร์ก็เจออีกว่าเค้ายังขายบริการอยู่ แต่ที่หนูตกใจคือเค้ารับแบบไม่ป้องกันด้วย หนูก็เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบอกเค้ายังไง หนูเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วเพราะว่าน้องสาวที่อยู่กับเค้าก็มีนิสัยเหมือนเค้าเลย คือมีพฤติกรรมเปลี่ยนแฟนทุกเดือน และหนูก็เคยเตือนเค้าไปแล้ว เค้าก็บอกว่าเค้าเลิกแล้ว ที่หนูกลัวคือแม่หนูเค้าขายถูกมาก 200 - 300 หนูก็กลัวว่าคนที่มาซื้อแม่จะมารับเชื้อไปแพร่ต่อในครอบครัว หนูไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเค้ายังไงให้เค้าหยุดเพราะหนูรู้สึกว่ามันเป็นตราบาป ปกติแม่หนูจะฟังรายการพุธทอล์คพุธโทร เค้าจะแชร์หน้าเฟสอยู่บ่อย ๆ เลยอยากให้พี่ ๆ พูดถึงแม่ว่าสิ่งที่เค้าทำมันเป็นยังไง?

            โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ทุก ๆ การกระทำของคนที่เป็นแม่ มันส่งผลถึงลูกอยู่แล้ว ทีนี้ลูกโทรเข้ามาแม่ก็ต้องคิดแล้วว่าที่ผ่านมาเราทำหน้าที่แม่ดีพอแล้วรึเปล่า ทำไมเราถึงทำให้ลูกเราทุกข์ขนาดนี้ แล้วสิ่งที่ลูกเรากำลังเป็นห่วงอยู่ มันเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นรึเปล่า คุณแม่ควรคุยกับลูก บางทีลูกก็ไม่กล้าที่จะเปิดใจหรือพูดคุยกับคุณแม่ แม่ลองเป็นฝ่ายเข้าหาลูกดู ลูกโทรเข้ามาวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากห่วง ฉะนั้นแม่ลูกควรพูดคุยกัน และสิ่งที่ลูกบอกคือไม่อยากให้แม่แพร่เชื้อ แม่ก็ลองหาวิธีดูว่าแม่จะไม่แพร่เชื้อได้อย่างไร ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการหอมว่าชั่งหัวมัน เพราะการไม่ใส่ถุง โอกาสของการติดเชื้อมันมีอยู่แล้ว ชั่งหัวลูกค้ามัน เอาเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกดีกว่า ว่าวันนี้เราจะดูแลสภาพจิตใจลูกเรายังไง เรามีคำตอบอะไรให้ลูกเรา ยังไงหน้าที่แม่ก็ลาออกไม่ได้ ฝากคุณแม่เรื่องนี้ละกัน’

            ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมไม่แน่ใจย่าคุณแม่จะติดขัดเรื่องเงินมากน้อยแค่ไหน แต่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง เข้าใจว่าชีวิตที่ลำบากมันทำให้ต้องคิดถึงตัวเราก่อน แต่ว่าในขณะที่เราต้องการพาตัวเราให้รอด ไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ตาม เราก็ไม่ควรพาเอาชีวิตคนอื่นเค้าแย่ไปด้วย ผมไม่รู้ว่าแม่ถือหรือเชื่อเรื่องอะไร แต่จริง ๆ บาปกรรมเราคงไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ว่าถ้าพูดถึงกรรม กรรมก็คือผลของการกระทำ ทุกอย่างที่เราทำมันมีผลเสมอ มันอาจจะไม่ได้ตกถึงแม่ แต่วันนี้ความทุกข์มันตกถึงลูกอย่างมหาศาล ถึงแม้จะไม่ใช่ความรับผิดชอบอะไรของเค้าเลยก็ตาม มิ้นเองก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจก็ได้ ชีวิตใครชีวิตมัน แม้กระทั่งลูกสาวังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมากกว่าเรา ผมว่ามันมีอะไรที่ผิดไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดที่จะพอนึกถึงคนอื่นได้บ้างก็ป้องกัน แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็คิดถึงชีวิตคนอื่นได้บ้าง’

            สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ ก็เคารพในการตัดสินใจที่จะทำอะไร เพราะมันก็ชีวิตใครชีวิตมัน มันก็อาจจะเป็นหนทางเดียวที่คุณแม่มีอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ ซึ่งเติ้ลก็ไม่สามรถไปตัดสินได้ ว่าอย่าทำแบบนั้น อย่าทำแบบนี้ แต่อย่างน้อย ๆ การกระทำของคนทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน แต่สิ่งที่คุณแม่ตัดสินใจทำอยู่ตอนนี้มันมีส่วนที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วตัวเองด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณแม่ป่วยขนาดไหน แต่การที่คุณแม่ขายบริการโดยใช้เรื่องการสดเป็นการดึงดูดมันเหมือนเป็นการทำร้ายคนอื่นทางอ้อม เพราะว่าการเป็นโรคนี้ไม่ใช่แค่คนที่มาใช้บริการจะติดได้ แต่ถ้าคนนั้นเค้าไปมีอะไรกับภรรยาหรือคนอื่น ๆ มันก็มีสิทธิ์ที่จะแพร่ไปได้อีก และมันจะควบคุมความเสียหายไม่ได้ อยากให้คิดดี ๆ การที่แค่จะให้ตัวเองรอดโดยที่ไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นยังไง มันสมควรแล้วมั้ยกับทางรอดของตัวเองในแบบนั้น เท่าที่น้องมิ้นเล่าให้ฟังมีน้องสาวที่เห็นคุณแม่เป็นตัวอย่าง อยากให้รู้ว่าบางอย่างไม่ใช่เราตัดสินใจแล้วจะทำได้เลย คิดหน้าคิดหลังว่าจะมีใครได้ผลกระทบจากสิ่งที่เราทำไหม’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

31 พ.ค. 2024

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวง แล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวัง ซึ่งผมไม่มี

คบกับแฟนมา ไม่เคยเจอคุณแม่ แต่คุณแม่แฟนเอา วัน เดือน ปีเกิดเราไปเช็คดวงแล้วบอกกับลูกสาวว่า ดวงไม่สมพงษ์กัน แล้วหมอดูก็ยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีครอบครัวแล้วให้ระวังซึ่งผมไม่มี ตอนนี้ทุกคนในบ้านฟังแม่เขาหมด แล้วแฟนก็ขอห่างกับผม เหมือนผมโดนตัดสินโดยใครก็ไม่รู้... “คุณเอ็กซ์ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่แฟนเอาวันเดือนปีเกิดไปดูดวงจนทำให้ต้องเลิกกับแฟน โดย “คุณเอ็กซ์ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานอยู่ที่บริษัทซอฟแวร์แห่งหนึ่ง ที่บริษัทจะมีรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง คือว่าเราสองคนได้รับหน้าที่ให้ทำโปรเจ็คด้วยกัน ทำให้เราสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น ได้อยู่ด้วยกันตลอดทุกวัน เราก็เริ่มชอบกัน เพราะเราคุยกันถูกคอมากๆ ระบายกันทุกเรื่อง แล้วทีนี้เราก็ได้มีการนัดไปทำงานกันที่ห้างแห่งหนึ่ง เราก็มานั่งทำงานกันพอทำงานเสร็จ เราก็ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วพอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ แต่บ้านผมอยู่ไกลมาก ผมก็ต้องนั่งรถไฟฟ้ากลับ แต่ว่าผมเข้าใจผิดคิดว่าขบวนรถไฟสุดท้ายคือเที่ยงคืน แต่จริงๆ ขบวนสุดท้ายของสายนั้นคือ 5 ทุ่ม ทีนี้ผมก็ไม่มีรถกลับ ผมก็เลยโทรบอกเขา เออเนี่ย…เดี๋ยวจะไปเปิดห้องนอนก่อน แล้วเช้าค่อยกลับ แต่เขาก็บอกว่า ไม่เอาๆ เดี๋ยวเขาวนรถกลับมารับ แล้วก็ไปนอนบ้านเขา ผมก็ตกลง วันนั้นผมก็ได้ไปนอนบ้านเขาและวันนั้นเราสองคนก็ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เราก็คบกันมาได้เกือบอาทิตย์ ต้องขอบอกเลยว่าพี่เขาเป็นคนที่เชื่อแม่ และรักแม่มากๆ สำหรับเขาแม่มีอิทธิพลมากพอสมควร ผมก็มองว่าไม่ผิดคนเราต้องรักแม่ถูกแล้ว แล้วทีนี้แม่เขาก็เอาวันเดือนปีเกิดของผมไปดูดวง ว่าดวงผมกับพี่เขาเป็นยังไง แล้วหมอดูทำนายว่า ดวงผมไม่สมพงศ์กับพี่เขา และมีอีกคำนายหนึ่งที่ไม่เป็นความจริงเลยคือ หมอดูทำนายว่า ผมมีครอบครัวแล้ว โดยที่ไม่ถามไถ่ผมเลย ซึ่งแฟนผมก็น่าจะยังไม่ได้บอกแม่เขาว่าผมยังไม่มีครอบครัว เพราะเขาน่าจะดูเชื่อไปด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าเชื่อกี่เปอร์เซ็นต์ แต่หลักๆ เลยก็คือแม่เขาก็ไม่อยากให้ไปต่อกับผมนั่นแหล่ะ พี่เขาก็เลยขอลดสถานะความสัมพันธ์กับผม และไม่ขอพัฒนาต่อไปมากกว่านี้แล้ว การขอลดสถานะความสัมพันธ์ครั้งนี้ ผมไม่ติดอยู่แล้ว ผมเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะเราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ แต่ที่ผมนอยมากๆ เลยก็คือ ผมถูกตัดสินจากใครก็ไม่รู้ ที่รู้แค่ วันเดือนปีเกิดของผมแค่นั้น ซึ่งหลังจากที่เราเลิกกัน ผมก็ลาออก แต่พี่เขาก็ยังมีทักมาหาผมบ้าง มาระบายเรื่องงาน ถามเรื่องโปรเจคที่ผมกับพี่เขาเคยทำร่วมกัน ตอนนี้พี่เขารับหน้าที่ดูแลต่อ แล้วก็มีคุยเรื่องส่วนตัวบ้าง ผมก็มีถามเขาบ้างว่า สบายดีมั้ย เหนื่อยรึเปล่า ผมก็ถามไปปกติ ผมอยากถามพี่ๆดีเจว่า ควรปล่อยเขาไปใช่มั้ย หรือว่าควรจะสู้กับดวงที่หมอดูทำนายมาดี?’ โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับหอม ชีวิตเราเป็นคนเลือกเอง หมอดูเป็นแค่สิ่งที่นำทางให้เราเฉยๆ ถ้าหมอดูพูดอะไรแล้วมันซัพพอร์ตกับสิ่งที่อยู่ในใจเรา เราจะมีความมั่นใจในการลุยกับสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้นเอง แล้วก็ที่ถามว่าเราจะยังไปรอผู้หญิงคนนี้อีกมั้ย หอมบอกเลยว่า ตัดไปเลย ทิ้งไปเลย ให้รู้ซะบ้าง ไม่ใช่ว่าแบบ เธอเลิกกับฉันง่ายๆ เพียงแค่ฟังคำหมอดู ซึ่งมัน Non sense ถ้าเกิดเราคบกันแล้วเธอเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านี้ แล้วแม่เธอพูดอะไรสักอย่างหนึ่ง เราก็เลิกกันได้อยู่ดี เรื่องเล็กๆ เธอยังเลิกกับเราได้ง่ายขนาดนี้เลย ฉะนั้นถ้ามีปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิต เธอจะไม่ปล่อยมือกันง่ายๆ หรอ แล้วก็ไม่ต้องถามเขาว่า สบายดีมั้ย เขาเทเรา ด้วยเหตุผลที่งี่เง่ามาก เขาต้องได้รับบทเรียน เธอกำลังเสียผู้ชายที่ดีที่สุดไป แล้วไปหาคนใหม่เลย หาคนที่เขาเห็นคุณค่าในตัวเราไม่ใช่แค่รู้สึกว่า เราไม่มีคุณค่าอะไรเลยหรอ ถึงได้ตัดสินเรากับเรื่องงี่เง่าแค่นี้ อันนี้คือไร้เหตุผลมากๆ และครอบครัวนี้ไม่เหมาะกับเรา ครอบครัวที่ใช้พ่อแม่บงการทุกอย่างในชีวิต จนไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ให้เขาอยู่กับแม่ไปหรือไม่ก็ให้เขามีแฟนกับคนที่แม่เขาหาให้ แล้วไม่ต้องรอให้มันเสียเวลา เชิ่ด !!!!’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันมี 2 ประเด็นสำหรับพี่นะ เวลาที่พี่เห็นใครที่เขาเชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้ เรื่องหมอดู ดวงชะตา โชคชะตา และถ้าเขายึดมันเป็นแกนหลักในการใช้ชีวิตแล้ว พี่รู้สึกว่า อะไรก็เอาเขาไม่อยู่ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อแบบนี้แล้ว ถ้าเขาใช้สิ่งนี้เป็นที่ตั้ง แสดงว่าเขามีแนวคิดที่คิดมาแล้ว หรือว่าประสบการณ์ชีวิตของเขา สิ่งนี้มันพิสูจน์ได้ว่า มันจริงสำหรับเขา พี่ว่าการจะไปสู้กับอะไรแบบนี้ เหมือนเราแพ้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว ซึ่งมันเหนื่อยมากเลยกับการแพ้ ให้กับสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วเราไม่รู้ว่าจะไปพิสูจน์มันยังไง นอกจากเราต้องใช้เวลา เข้าใจมั้ย ซึ่งบางอย่างเขาไม่มารอเรา แล้วเขาตัดสินเราไปแล้ว อันนี้สำหรับเรื่องแรกพี่ว่ามันยาก สำหรับอันที่ 2 พี่เห็นด้วยกับพี่หอมว่า ถ้าคนๆ หนึ่งเลือกเรา ในการคบหาจากการดวงล้วนๆ หรือจากสิ่งที่หมอดูบอก โดยที่ไม่ได้ดูสิ่งที่เราทำ ไม่ดูว่าเรามีพฤติกรรมที่ปฎิบัติกับเขายังไงในฐานะคนรัก พี่ว่าคนแบบนี้ พี่ไม่เลือกเอามาเป็นแฟนนะ ถ้าเขาไม่เอา เราก็ไปหาคนอื่น มันไม่ได้มีคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เราจะต้องรักพุ สำหรับพี่มันง่ายแค่นี้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมมีความเชื่อว่าถ้าเห็นลู่ทางไม่ดี เราอย่าชิงแพ้ให้เละเทะ เราไปแบบเชิ่ดๆ หล่อๆ ก่อนดีกว่า แล้วไปแบบให้เขาเสียดาย ไปแล้วไปลับไม่กลับมา ให้เขาเสียดายว่า ไอความไร้สาระของเขามันเคยทำให้เขาพลาดอะไรไป คือถ้าเรื่องแค่นี้เขามาขอลดความสัมพันธ์กับเรา หมอดูคนนี้จะดูชีวิตคู่ของคุณเอ็กซ์กับเขาเนี่ยไปตลอดเลย จะมีลูกปีไหน จะเกิดเดือนไหน จะให้เรียนโรงเรียนอะไร มันจะวุ่นวายไปหมด แล้วก็นอกจากหมอดูแล้วเนี่ย คิดว่าครอบครัวเขาก็จะมามีอิทธิพลกับชีวิตคู่คุณเอ็กซ์กับเขาไปตลอด ซึ่งถ้าคุณเอ็กซ์ได้ฟังพุธทอล์คพุธโทรมา ปัญหาที่ครอบครัวเข้ามาวุ่นวายในชีวิตคู่เนี่ยโครตปวดหัวเลย เพราะฉะนั้นไปแบบผู้ชนะถึงแม้ว่าใจลึกๆ เราจะรู้สึกว่าโดนเทก็ตาม แต่จงรักษาทรง แล้วเดินออกไปอย่างผู้ที่เหมือนว่าชนะ แบบโดนเทแต่ยังเท่อยู่ ให้เขาเสียดายเราในภายหลัง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจตนายังไงกันแน่? สาวโทรปรึกษา อัดอัดใจมากตอนนี้ คบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว แต่แฟนเก่าเค้ายังเข้าออกบ้านแฟน ทุกคนในบ้าน WELCOME ต้อนรับ ทักทายตลอด จนเราเป็นฝ่าย เข้าไปหลบในห้อง เพราะไม่อยากเจอ... ไม่ได้รบกวนกาย แต่มันกวนใจ

02 ต.ค. 2023

เจตนายังไงกันแน่? สาวโทรปรึกษา อัดอัดใจมากตอนนี้ คบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว แต่แฟนเก่าเค้ายังเข้าออกบ้านแฟน ทุกคนในบ้าน WELCOME ต้อนรับ ทักทายตลอด จนเราเป็นฝ่าย เข้าไปหลบในห้อง เพราะไม่อยากเจอ... ไม่ได้รบกวนกาย แต่มันกวนใจ

เจตนายังไงกันแน่? สาวโทรปรึกษา อัดอัดใจมากตอนนี้คบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว แต่แฟนเก่าเค้ายังเข้าออกบ้านแฟนทุกคนในบ้าน WELCOME ต้อนรับ ทักทายตลอด จนเราเป็นฝ่ายเข้าไปหลบในห้อง เพราะไม่อยากเจอ... ไม่ได้รบกวนกาย แต่มันกวนใจจนเกิดคำถามในหัวว่า ‘จะมาเพื่อ??’ หนูจะรับมือเรื่องนี้ยังไงดี... “คุณโอ (นามสมมุติ)” อายุ 21 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 ก.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหาแฟนเก่ามาที่บ้านแฟนเรา แต่คนในครอบครัวก็ต้อนรับอย่างดี จนเรารู้สึกอึดอัด โดย “คุณโอ (นามสมมุติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘หนูมีปัญหากับแฟนคนเก่าของแฟนหนู เขายังมาบ้านแฟนหนูอยู่เรื่อย ๆแล้วทางบ้านแฟนก็ยังต้อนรับกันเป็นอย่างดี ปกติหนูไม่ได้อยู่ที่บ้านแฟนทุกวัน ตัวหนูจะไปบ้านแฟนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วเวลาที่เขามาก็มักจะเป็นวันที่หนูอยู่ เขาก็จะเดินเปิดประตูเข้ามา ยิ้มร่าเริง ยกมือไหว้ทุกคน แล้วทุกคนในบ้านก็จะถามไถ่เป็นยังไงบ้าง มาได้ยังไง ตัวหนูเองกับเขาก็เคยเห็นหน้ากันแต่ไม่เคยทักหรือคุยกัน ส่วนกับแฟนหนู เขาก็ไม่ทัก ไม่คุยกันเพราะแฟนหนูเค้ารู้ว่าหนูไม่โอเค หนูก็อดคิดไม่ได้มันก็เกิดคำถามอยู่ตลอดว่า ‘มาทำไม’ ส่วนความสัมพันธ์ของหนูกับพ่อแม่แฟนก็ดีนะคะ โอเคเลยเหมือนกับว่าลูกเค้ามีแฟนใหม่แล้ว ก็ต้อนรับหนูที่เป็นแฟนใหม่เป็นอย่างดีเลยเหมือนกัน คือถ้าไม่มีเรื่องแฟนเก่าเกิดขึ้น ก็คือปกติไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย หนูก็พยายามเข้าใจนะว่าในมุมผู้ใหญ่เค้าคงมองว่าเป็นลูกหลานอีกคนนึง หนูขอเล่าย้อนไปตอนที่เค้ายังคบกันคือเค้าคบกันมาประมาณ 3 ปี ตอนที่เค้าคบกันแฟนเก่าก็ย้ายมาอยู่บ้านแฟนหนูถาวร บางทีที่เขามาที่บ้าน แฟนหนูก็จะออกไปบ้าง ไม่ออกบ้าง แต่เวลาออกไปคือไปทำกับข้าว ไม่ได้สนใจ แล้วตัวแฟนหนูก็คุยกับหนูว่า ‘เธอปล่อยให้มันเป็นอากาศไปเลยได้ไหม ไม่ต้องไปสนใจมัน’ แต่หนูพูดตรง ๆนะหนูทำไม่ได้ หนูเป็นแฟนใหม่นะ หนูอยู่ตรงนั้น แล้วหนูเป็นคนที่แสดงสีหน้าชัดเจนมาก พร้อมบวกตลอดเวลา แต่หนูเองก็ไม่ได้อยากทำให้เค้าเสียบรรยากาศกัน พวกน้า ๆ เค้าจะมีนั่งสังสรรค์กัน กลายเป็นว่าต้องมานั่งหยุมหยิมกันเรื่องเด็ก หนูก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เลยตัดปัญหาที่เวลาเขามาหนูไม่ออกไป นั่งอยู่ในห้องดีกว่า หนูไม่รู้ว่าจะออกไปทำไมด้วย เพราะออกไป เขาก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้น แต่มันก็มีความรู้สึกที่เกิดขึ้นเอง เหมือนหนูรู้สึกว่าหนูเป็นคนนอกหรือเปล่า ระยะเวลาที่เขามาที่บ้านก็เฉลี่ย ๆ ประมาณ 2 เดือนครั้ง แม้เลิกกันไปแล้ว 2 ปีกว่าแล้วนะ อีกอย่างเขาก็เป็นฝ่ายบอกเลิกแฟนหนูด้วย อย่างในช่วงแรก ๆที่เขามาที่บ้านมันมีเหตุให้ต้องมาอย่างงานบวช งานศพ หนูก็รู้ว่าส่วนนี้หนูห้ามเขาไม่ได้เพราะเขาก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวนี้ไปแล้ว แต่หลัง ๆเวลาที่เขามาด้วยความที่บ้านนี้ มีเด็ก ๆเยอะด้วยอายุก็ไล่ ๆกัน 17-18 พวกเด็ก ๆกับเขาก็จะเล่นเกมด้วยกันสนิทสนมกันมากกว่าหนู หนูรู้นะว่าเขาก็มีบ้านเขา แต่ว่าไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ ในบางมุมหนูก็เห็นใจเขา แต่บางมุมมันก็อดคิดไม่ได้ว่า ก็เลิกไปแล้วไง วันนี้หนูเลยอยากปรึกษาว่าหนูต้องทำยังไง หรือหนูควรไปพูดกับเขาตรง ๆเลยไหม “ดีเจต้นหอม” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่ พี่จะไม่ร้าย เพราะเราดูที่คนของเรา เค้าไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์หรืออะไร คือการที่เขามาบ้านแล้วเราดูแล้วว่าเค้าสนิทกัน แล้วเราก็มาที่หลังด้วย มันมีเหตุการณ์เกิดก่อนที่เราจะมา เราดูแค่คนกลางก็พอ ถ้าคนกลางไม่ไปยุ่ง แปลว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ต้องระแวงหรือไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องร้าย แล้วการที่เราจะไปร้ายในบ้านแฟน ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และพี่ว่าเราต้องไม่เอาตัวเองไปเทียบกับเขาอะ เราไม่ได้อยู่ในจุดที่เราต้องแย่งชิง เพราะว่าคนกลางอยู่กับเรา เขาก็มีคนใหม่ แล้วถ้าสวย ๆเลยเดินเจอกันก็ทัก คือให้รู้ไปเลยว่าเขาไม่ใช่สิ่งที่เราต้องกังวล ไม่ต้องไปหาเรื่อง เพราะรู้สึกว่าเราอาจจะได้เพื่อนเพิ่มก็ได้ ซึ่งเขาอาจจะน่ารักก็ได้นะ เพราะส่วนของเขากับแฟนเรามันจบไปแล้ว แต่เข้าใจมันเป็นที่วัยด้วยว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้ มันมีเงื่อนไข แต่เวลาที่เจอกันแล้วเราต้องหลบ มันรู้สึกอึดอัด ใช้ชีวิตสบาย ๆดีกว่าไม่ต้องหลบเพียงแต่แฟนเราห้ามคุยนะ” ต่อมาที่ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า “เอาความจริงก็เข้าใจได้ ถ้าคนที่เป็นแฟนเก่า แล้วรู้สึกไม่อยากมีปัญหาเค้าก็จะไม่ปรากฎตัวหรอก แต่ในเมื่อคนเนี่ยไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่าเขามาแบบบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มาระราน ที่มาก็เพราะความเคยชิน และยังคิดไม่ได้ว่าเอ้ยเราเป็นแฟนเก่าไม่ควรไปอยู่ในพื้นที่ของแฟนใหม่ ซึ่งพี่รู้สึกว่าถ้าแฟนเราไม่ได้ไปรู้สึกอะไรกับเขา แสดงว่าแฟนเราไม่ได้อะไรจริง ๆแต่โอก็ต้องเข้าใจว่าเขาสนิทกับคนในพื้นที่นั้นมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ต้องไปสนใจ ใช้ชีวิตตามปกติไม่ต้องหลบ เขามาในฐานะแขกคนนึง เราอยู่แบบสันติของเรา ยิ่งเราอยู่ตรงนั้นให้รู้ว่ามีเราอยู่นะเขาเห็นเรา อาจจะทำให้เขามาที่บ้านน้อยลงก็ได้นะ เมื่อเราอยู่กับแฟนเรา ถึงวันนั้นสภาวะความที่เขารู้สึกไม่สบายตัว เขาก็คิดได้เอง ” ปิดจบกันที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า “เห็นด้วยกับทั้งสองคนเลย โอฟังพี่เติ้ลพี่หอมแนะนำซ้ำ ๆเลยนะเราเป็นเจ้าถิ่น เจ้าบ้าน นิ่ง สยบความเคลื่อนไหว ให้เอาบารมีความเป็นสะใภ้คนใหม่ ขวัญใจคนใหม่ ผู้ซึ่งน่ารักใจกว้าง ต้อนรับแฟนเก่าอย่างดี จนเขาเกรงใจไปเอง มันต้องอย่างงั้น พี่หอมพูดถูกว่ามันคือชั้นเชิงยิ่งเราดีกับเขามากเท่าไหร่ ในแบบที่ยังรู้สึกได้บาง ๆว่าก็ไม่ได้ชอบสักเท่าไหร่ แล้วเดี๋ยวเขาจะไปเอง แล้วพ่อแม่จะรู้สึกว่าโอมันก็น่ารักเนอะ อย่าไปแบบเป็นตัวร้าย ตื้น ๆเปิดประตูออกมาจ้อง สะบัดหน้าคือชั้นเชิงหนูมันตื้นเขินเกินไป จากนางเอกหนูจะกลายเป็นตัวอิจฉาทันที แล้วเขาจะเป็นนางเอก ตอนนี้มุมนางเอกคือ 2 ปีแล้วแหละคงไม่มีใครคิดอะไรแล้วแหละ โต ๆกันแล้วแหละ เราก็ไปเยี่ยมผู้ใหญ่ได้ เขาอาจจะคิดแบบพี่แอฟ ทักษอรก็ได้นะตอนนี้ด้วยความใสเลย ตัวเขาก็มีแฟนใหม่แล้วด้วย ใครคิดอะไรก็บ้าแล้ว ไปสวัสดีพ่อแม่หน่อยคงไม่อะไรหรอกมั้ง ตอนนี้กลายเป็นโอเป็นตัวอิจฉาเลยนะ แล้วแฟนเราก็ประพฤติตัวดีด้วย ดังนั้นนิ่งไว้ลูก อย่าไปร้ายมากเก็บมันไว้กดความร้ายมันไว้”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผ่านมา 14 ปี ผมมีเรื่องสารภาพ ผมปิ๊งสาวเฝ้าร้านเกมเชียงใหม่ วันนั้นเข้าห้องน้ำ แต่ทำสายฉีดตกพื้น หัวฉีดหลุดน้ำสะบัดทั้งห้อง ตกใจจนลืมเช็ดตูด หันไปเห็นฟองน้ำล้างจานเลยหยิบมาเช็ด เช็ดเสร็จ ล้างวางที่เดิม กดชักโครก อ้าว ส้วมเต็ม

10 มิ.ย. 2024

ผ่านมา 14 ปี ผมมีเรื่องสารภาพ ผมปิ๊งสาวเฝ้าร้านเกมเชียงใหม่ วันนั้นเข้าห้องน้ำ แต่ทำสายฉีดตกพื้น หัวฉีดหลุดน้ำสะบัดทั้งห้อง ตกใจจนลืมเช็ดตูด หันไปเห็นฟองน้ำล้างจานเลยหยิบมาเช็ด เช็ดเสร็จ ล้างวางที่เดิม กดชักโครก อ้าว ส้วมเต็ม

ผ่านมา 14 ปี ผมมีเรื่องสารภาพ ผมปิ๊งสาวเฝ้าร้านเกมเชียงใหม่ วันนั้นเข้าห้องน้ำแต่ทำสายฉีดตกพื้น หัวฉีดหลุดน้ำสะบัดทั้งห้อง ตกใจจนลืมเช็ดตูด หันไปเห็นฟองน้ำล้างจานเลยหยิบมาเช็ดเช็ดเสร็จ ล้างวางที่เดิม กดชักโครก อ้าว ส้วมเต็ม ไปบอกน้อง จากนั้นผมก็ไม่ได้ไปร้านนั้นอีกเลย “คุณเกม (นามสมมติ)” อายุ 36 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาสารภาพความผิดกับ ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต ซึ่งผ่านมา 14 ปีแล้ว และวันนี้ก็มาถึง… วันที่คุณเกมได้ตัดสินใจอยากที่จะสารภาพความผิด! โดย ​“คุณเกม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ผมมักจะไปเล่นเกมที่ร้านหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ผมไปร้านนี้เป็นประจำ เพราะผมแอบชอบน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนดูแลร้าน และในทุกครั้งที่ผมจะเข้าไปเล่นเกม ผมมักจะซื้อขนมขบเคี้ยวติดไม้ติดมือเข้าไปด้วยอยู่เสมอ ผมเป็นคนที่เมื่อกินเสร็จก็จะถ่ายเลยทันที เป็นเหมือนภารกิจประจำวันที่ผมจะทำทุกครั้งเมื่อมาที่ ‘ร้านเกม’ แห่งนี้ จนมีวันหนึ่งผมก็เข้ามาเล่นเกมตามปกติ ผมก็ปวดท้องจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ หลังทำภารกิจเสร็จสิ้น ผมก็เอื้อมมือไปหยิบสายฉีดชำระ จังหวะที่หยิบขึ้นมา มือของผมดันไปปัดชนกับขอบผนัง สายฉีดชำระจึงหล่นลงพื้นเสียงดัง ปั๊ก… ทำให้ตัวจับของสายฉีดชำระแตก สายฉีดชำระจึงสะบัดน้ำกระจายไปทั่วทั้งห้องน้ำ ซึ่งน้ำมันแรงมาก ทำให้ความเปียกครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งพื้นกระเบื้อง พื้นผนัง พื้นเพดาน รวมถึงตัวผมด้วย เปียกตั้งแต่เส้นผมจดถึงเท้า ในใจผมก็คิดว่า ผมควรจะทำยังไงดี ? เพราะผมยังไม่เสร็จธุระ และเท่าที่สมองผมจะคิดได้ ผมก็พยายามมองหาวาล์วปิดน้ำ แต่มันไม่มี! ผมเลยเลือกที่จะทนเปียก และลากสายอ้อมทางด้านหลังจากฝั่งขวามาฝั่งซ้าย เพราะทางฝั่งซ้ายมีรูท่อระบายน้ำอยู่ ผมจึงตัดสินใจ จุ่มหัวของสายฉีดชำระลงไปในรูท่อระบาย และใช้เท้าเหยียบสายกดเอาไว้ หลังจากนั้นผมก็สบายใจขึ้นที่จะไม่ต้องเปียกเพิ่ม แต่ผมลืมคิดไปว่า ผมยังไม่ได้ล้างก้น !? ซึ่งผมไม่สามารถใช้น้ำตรงนั้นได้เลย เพราะน้ำมันแรงมาก ทำได้เพียงแต่กดเท้าซ้ายไว้ ในใจก็ค่อนข้างกระวนกระวายมาก แต่ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ผมก็เห็นอ่างล้างหน้าที่มีสก็อตไบรท์วางอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่ผมเลือกอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าจะต้องจัดการปัญหาให้เร็วที่สุด ผมจึงเอี้ยวตัวพยายามเอื้อมมือไปหยิบ ‘สก็อตไบรท์’ และพยายามที่จะเปิดน้ำที่อ่าง ทั้งที่ธุระของผมก็ยังค้างอยู่ ผมจึงเอาสก็อตไบรท์ชุบกับน้ำมาเช็ดก้น ซึ่งหลังจากเช็ดเสร็จ ผมก็ล้างทำความสะอาดสก๊อตไบรท์ และวางมันไว้ที่เดิม… หลังจากนั้นผมก็คิดว่า ผมจะทำอะไรต่อไปดี ? แม้ว่าผมจะทำธุระล้างก้นเสร็จแล้ว ผมก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้ เพราะเท้าของผมยังเหยียบกับสายฉีดชำระอยู่ ผมจึงตัดสินใจถอดถุงเท้าข้างหนึ่ง และยัดอุดเข้าไปในรูท่อ เพื่อที่จะล็อคสายฉีดชำระกับรูท่อระบายไว้ด้วยกันได้ ซึ่งมันก็ได้ผล ! ผมจึงสามารถลุกขึ้นเพื่อที่จะแต่งตัว และทำการกดชักโครก เพื่อที่จะเคลียร์กับปัญหาตรงนี้ให้หมดไปได้สักที แต่เหมือนผมมีเคราะห์ซัดกรรมซัด… เพราะชักโครกมันตัน ซึ่งหลังจากที่ผมกดชักโครก ทำให้น้ำและสิ่งปฏิกูลตรงนั้นมันเอ่อล้นขึ้นมา ผมจึงรีบปิดฝาชักโครก และตั้งสติใหม่อีกครั้ง ผมเลือกที่จะไม่กดน้ำซ้ำ เพราะกลัวว่าครั้งนี้มันจะล้นออกมาข้างนอก หลังจากนั้นผมจึงจัดการกับตัวเอง สะบัดผมให้แห้ง รวมถึงบิดเสื้อผ้าให้หมาด ทำให้ทุกอย่างดูเป็นปกติที่สุด แต่เมื่อผมเดินเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ… ผมก็เจอกับน้องผู้หญิงคนนั้น ผมบอกกับเธอว่า ขอโทษครับ ห้องน้ำพัง… น้องผู้หญิงคนนั้นก็ทำหน้างุนงงใส่ผม แล้วก็เดินตรงไปเช็คที่ห้องน้ำ ด้วยความที่ผมกลัวความผิดและอับอาย จึงรีบเก็บของและออกไปทันที จากนั้นผมก็นำเหตุการณ์นี้มาเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ถามผมว่า แล้วทำไมถึงไม่เอาสก็อตไบรท์ทิ้งไปใส่ถังขยะ !? ผมจึงตอบว่า ก็ตอนนั้นมันคิดไม่ทัน แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่า สก็อตไบรท์อันนั้น โดยปกติแล้ว น้องผู้หญิงคนนั้นน่าจะเอาไว้ใช้ล้างแก้วและจาน เพราะมันเป็นที่เดียวที่เธอสามารถจัดการกับภาชนะได้ ซึ่งหลังเหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมรู้สึกผิดและฝังใจกับเรื่องนี้มาก ๆ เพราะผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงไม่ทิ้งสก็อตไบรท์ไป ทำไมถึงเลือกที่จะทำความสะอาด เพื่อที่จะทำลายหลักฐาน หรือมันเป็นเพราะว่า ผมรนที่จะแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า’ งานนี้ 3 ดีเจก็ให้ความคิดเห็นคล้ายกันว่า ‘เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณเกม มันทรหดและเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจริง ๆ ซึ่งคนที่น่าสงสารที่สุดสำหรับเรื่องนี้ ก็คือ น้องผู้หญิงคนนั้น ไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอได้ใช้สก็อตไบรท์ไปหรือเปล่า ?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูบูชาปี่เซียะมา ร้านแนะนำให้ทำพิธีก่อนเริ่มวันใหม่ วันนั้นกลับมา ห้าทุ่มครึ่ง เหลือเวลาครึ่งชั่วโมง รีบจุดธูป ทำพิธี แล้วไปอาบน้ำ ออกมาควันเต็มห้อง แฟนโกรธมาก แต่เราดันไปถามว่า "เธอเห็นตัวเลขบนรูปไหม?" เพราะตอนเช้าวันที่ 16 แล้ว แฟนด่าเราใหญ่เลย

25 พ.ย. 2024

หนูบูชาปี่เซียะมา ร้านแนะนำให้ทำพิธีก่อนเริ่มวันใหม่ วันนั้นกลับมา ห้าทุ่มครึ่ง เหลือเวลาครึ่งชั่วโมง รีบจุดธูป ทำพิธี แล้วไปอาบน้ำ ออกมาควันเต็มห้อง แฟนโกรธมาก แต่เราดันไปถามว่า "เธอเห็นตัวเลขบนรูปไหม?" เพราะตอนเช้าวันที่ 16 แล้ว แฟนด่าเราใหญ่เลย

หนูบูชาปี่เซียะมา ร้านแนะนำให้ทำพิธีก่อนเริ่มวันใหม่ วันนั้นกลับมา ห้าทุ่มครึ่งเหลือเวลาครึ่งชั่วโมง รีบจุดธูป ทำพิธี แล้วไปอาบน้ำ ออกมาควันเต็มห้อง แฟนโกรธมาก แต่เราดันไปถามว่า"เธอเห็นตัวเลขบนรูปไหม?" เพราะตอนเช้าวันที่ 16 แล้ว แฟนด่าเราใหญ่เลย หนูผิดมากหรอคะ? “คุณส้ม (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [20 พ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเรื่องบูชาปี่เซี๊ยะจนเกือบไฟไหม้บ้านแฟน โดย “คุณส้ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า สำหรับตัวหนูเป็นคนที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องปี่เซี๊ยะ ก็เลยไปซื้อปี่เซี๊ยะที่ร้าน ๆ นึงมา โดยทางร้านเขาก็บอกว่า จะมีวันที่ที่ต้องบูชาตาม วัน/เดือน/ปี/เกิด ของหนู พอเสร็จเรียบร้อย วันนั้นหนูกลับถึงบ้าน 5 ทุ่มครึ่ง คืออีกครึ่งชั่วโมง มันเป็นวันเกิดของหนู ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่หนูต้องบูชา ไม่งั้นมันจะเลยฤกษ์ แล้วหนูต้องนอนกับแฟนที่บ้าน แต่หนูต้องบอกก่อนว่าแฟนหนูเป็นคนใจเย็นมาก ไม่พูดคำหยาบ เรียบร้อย สุภาพ ทีนี้หนูก็ทำพิธีอย่างรวดเร็ว แบบว่ามันก็จะมีพาน แต่หนูไม่ได้ไปจุดธูปข้างล่าง เพราะคนอื่นเค้านอนกันหมดแล้ว หนูก็เลยขออนุญาตแฟนว่า ขอจุดในห้องนอนได้ไหม แค่แบบแปปเดียวจริง ๆ มันก็จะมีธูป มีแผ่นทอง มีกำไล มีเส้นแดง หนูก็จุดเรียบร้อย ทีนี้ระหว่างรอธูปดับ หนูก็ไปอาบน้ำ พอหนูอาบน้ำเสร็จ หนูคิดในใจ หนูจะได้เลขเด็ดแล้ว แต่พอออกมาจากห้องน้ำ เห็นแฟนกำลังพัด คือเหมือนธูปมันจะมอด ใกล้จะดับ แต่กลิ่นมันโขมงมาก สิ่งที่หนูเห็น หนูก็อึ้ง หนูทำไร ไม่ถูก แต่แฟนหนูก็เคลียร์ทุกอย่าง ทั้งธูป ทั้งควัน เสร็จแล้วเขาก็พูดว่า เฮ้ยส้ม!! ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ ฉันเตือนแล้ว มาเป็นชุด หนูก็เลย ทำไรไม่ถูก เสร็จปุ๊ปหนูก็เลยเดินไปถามเขาดี ๆ ว่า ‘เธอ ๆ เธอเห็นเลขไหม?’ คำถามนี้แหล่ะมันเลยทำให้เค้าโมโหหนักกว่าเดิม หนักกว่าเดิมแบบว่า เฮ้ย!! ส้มทำไมเธอถึงถามฉันด้วยคำถามแบบนี้วะ แทนที่จะมาดูว่าบ้านเป็นอะไรไหม? หนูก็เลยยืนงงอยู่ แฟนหนูก็เลยพูดต่อว่า ทำไมส้มโตแต่ตัว ทำไมส้มไม่ใช้สมองเลย เราคบกันมานานมาก คำพูดเหล่านั้นหนูไม่เคยได้ยินจากปากเขาเลย วันนี้ได้ยินแล้วค่อนข้างอึ้ง หนูก็เลยตะคอกกลับไปว่า หุบปากได้ไหม!! แล้วเค้าก็สบถคำที่ค่อนข้างทำให้หนูตกใจ หลังจากคืนนั้น คือก้นชนก้น ไม่พูดไม่จา ไม่อะไรกันทั้งนั้น คือคิดในใจแล้วว่า ‘หนังสือเล่มสุดท้ายของชีวิตล่ะ’ คือกำลังจะโบกมือบ๊ายบายกันแล้ว แต่สุดท้ายคือหนูก็ตกลงกันว่าโอเค ปรับความเข้าใจกัน คำถามที่หนูอยากจะถามพี่ๆดีเจคือ “หนูรู้นะหนูผิดตรงที่หนูไม่รู้ หนูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ อยากรู้แค่ว่าหนูผิดมากไหม? ที่ต้องมาพูดแรงกับหนูขนาดนี้” ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นพร้อมกันไปในทางเดียวกันว่า ‘มากกก’ ส้มผิดมากค่ะ ส้มสมควรโดนด่า ถูกต้องแล้ว ไม่โดนทำร้ายกายก็ดีแค่ไหนแล้ว ต้องขอบคุณแฟนของส้มที่เตือนสติส้ม นอกจากนี้ “ดีเจต้นหอม” ยังพูดทิ้งท้ายอีกว่า ‘กลับไปบ้าน แล้วไปนวดแข้ง นวดขา นวดบ่าเขาให้ดี ดีที่เค้ายังไม่บอกเลิก ‘หนังสือเล่มสุดท้าย’ เค้าควรเป็นคนพูด...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1