ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ. แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า "แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด จนรู้สึกอึดอัด

15 ก.ค. 2024

ย้ายมาอยู่คอนโดใหม่ นิสัยส่วนตัว ชอบผูกมิตร เลยซื้อของกินไปฝากพี่ๆรปภ.

แต่เอาให้คนนึง อีกคนก็แซวว่า มีสาวเอาข้าวมาให้ด้วย ทั้งๆที่เราบอกว่า

"แบ่งๆกันกินได้เลยนะคะ" หลังจากนั้นโดนแซวทุกครั้งที่เข้าออกคอนโด

จนรู้สึกอึดอัด ถ้าแจ้งนิติ จะมีผลอะไรกับเราในอนาคตไหมคะ หนูกลัว

            “คุณต.น. (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [10 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับที่มีปัญหากับรปภ.ที่คอนโด เพราะเขาชอบแซว

            โดย “คุณต.น. (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูพึ่งย้ายมาอยู่คอนโดใหม่นี้ได้ 2 เดือน ซึ่งนิสัยส่วนตัวหนูเป็นคนชอบผูกมิตร หนูเลยชอบซื้อของไปฝากพี่รปภ.อยู่บ่อย ๆ เพราะพี่ ๆ เค้าดูแลเรา หนูก็อยากทำดีด้วย ตอนที่เอาของไปฝากก็จะมีพี่รปภ.ประมาณ 2 คน หลัก ๆ จะเป็นพี่รปภ.ตัวเล็ก แต่พักหลัง ๆ จะมีพี่รปภ.ตัวใหญ่ เขาชอบเดินไปแซวพี่รปภ.ตัวเล็กประมาณว่า “มีสาวซื้อของมาฝาก” ซึ่งหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบโดนแซว

            จนหลัง ๆ มันเริ่มหนักขึ้น คือ หนูแค่เดินผ่านทักทายพี่รปภ.ตัวเล็ก เค้าก็จะเริ่มแซวแล้ว มีครั้งหนึ่งแปลกมาก หนูเอารถไปจอดที่ข้างตึก พี่รปภ.ตัวใหญ่ก็มาโบกรถให้ พอหนูลงจากรถเค้าก็ถามหนูว่าหนูเป็นลูกบ้านรึเปล่า มีสติ๊กเกอร์คอนโดมั้ย ทั้ง ๆ ที่เค้าก็เคยแซวหนู หนักสุดคือตอนหนูลงไปเอาข้าว พี่รปภ.ตัวใหญ่ที่เปิดประตูกระจกให้ลูกบ้านคนอื่นอยู่ พอเห็นหนูเขาก็ปิดใส่ หนูเลย หนูอยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า หนูควรจัดปัญหายังไง? ถ้าหนูไปแจ้งนิติมันจะมีผลต่ออนาคตรึเปล่า? หรือหนูควรจัดการความคิดยังไงดี?’

            โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘นี่ยังหาเหตุผลไม่เจอเลยว่ารปภ.ตัวใหญ่เขาจะมาวุ่นวายอะไร และไม่ชอบอะไร หรือว่าหนูให้ของฝากไม่ทั่วถึงหรอ แต่พี่ว่ามันต้องมีสาเหตุที่คน ๆ หนึ่งจะไม่ชอบเรา ถ้าสมมติการซื้อของไปฝากให้รปภ.แล้วมีปัญหาขนาดนี้พี่ว่าไม่ต้องให้ และถ้าปัญหานี้มันทำให้หนูหงุดหงิดใจ และไม่ชอบกับการที่ต้องไปแล้ว แล้วไปเผชิญกับคนเหล่านี้ไม่ต้องซื้ออะไรไปฝาก และวางตัวห่าง ถ้าเราทักละมีปัญหาก็ไม่ต้องทัก’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘รายงานไปเลยว่าเขาพูดแบบนี้ บอกนิติไปเลย เค้าจะจัดการเอง หนูต้องยุติเรื่องซื้อของฝาก เพราะถ้าเอาจริง ๆ เค้าก็ไม่ทักกันด้วยซ้ำ นอกจากจะมีเรื่องให้ช่วยเหลือ’

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บอกนิติว่าให้ดูแลพฤติกรรม เราอยู่เหนือกว่าเค้าเราเป็นลูกบ้าน เค้าต้องดูแลเทคแคร์เรา และหนูต้องวางตัวใหม่’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูโดนพี่ที่อยู่ชมรมเต้นลวนลาม แต่แฟนเขาทักมาข่มขู่ว่า “ถ้ายังทำอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวเจอกูนะ เจอกูแน่” หลังจากนั้น เวลาเลิกเรียนก็มีคนขับรถตาม คนเดินตามบ้าง จนหนูประสาทหลอน หนูไม่ไหว หนูแพนิค หนูหวาดระแวง หนูควรทำยังไงดีคะ?

08 พ.ย. 2024

หนูโดนพี่ที่อยู่ชมรมเต้นลวนลาม แต่แฟนเขาทักมาข่มขู่ว่า “ถ้ายังทำอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวเจอกูนะ เจอกูแน่” หลังจากนั้น เวลาเลิกเรียนก็มีคนขับรถตาม คนเดินตามบ้าง จนหนูประสาทหลอน หนูไม่ไหว หนูแพนิค หนูหวาดระแวง หนูควรทำยังไงดีคะ?

“คุณเม (นามสมมติ)” อายุ 16 สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหา การถูกลวนลามจากคนรู้จักในชมรม แล้วส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดย “คุณเม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า เดิมทีหนูเป็นคนชอบเต้นได้เข้ามาเรียน แล้วมันจะมีชมรมนึงที่รวมทุกสายชั้นทุกเพศทุกวัยชอบเต้นก็สามารถมาเข้าได้ หนูก็เลยเข้าไปอยู่ได้สักพักนึง แล้วทีนี้มันมีพี่คนนึงเขาบอกว่าเหมือนอยากจะเต้นวงผู้ชายบ้าง เขาก็เลยโพสต์หาในเพจของโรงเรียนว่าแบบมีใครสนใจไหม แล้วมีพี่ผู้ชายคนนึงทักมาแล้วเขาก็มาขอเข้า เขาดูเป็นคนที่แบบว่าหน้าตาคือโอเคเลยดูเป็นคนดีหล่อด้วยในระดับนึง ทุกคนก็เลยจะว่าชอบก็ชอบ แต่ว่าเขาคนนั้นก็มีแฟนแล้วด้วย แล้วทีนี้ก็คือมันมีวันนึงที่เราซ้อมกันอยู่ แล้วก็คือโรงเรียนหนูมันจะมีลิฟต์ พอซ้อมเสร็จหนูก็รอซ้อมทีมหญิงต่อ ซ้อมทีมหญิงเสร็จทุกคนก็จะแยกย้ายกลับบ้าน แต่ทางกลับก็คือมันต้องไปลงลิฟต์กันหนูเดินรั้งท้ายสุดเลย แล้วก็มีพี่ผู้ชายเขารั้งท้ายกับหนูก็คืออยู่หลังหนู เขาก็เหมือนเอามือมาจับก้นหนู แต่ว่าหนูหันไปแล้วก็แบบว่าเอ้ยอะไรอะพี่ แล้วเขาก็เฉย ๆ หนูก็เลยคิดว่าเขาน่าจะมือโดนหรือเปล่าอะไรแบบนี้ ก็เลยลงไปข้างล่าง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับพี่เขาก็เลยถามหนูว่า ตอนนั้นก็มีหนูกับพี่เขาสองคนก็เลยถามว่าไปซื้อส้มตำเป็นเพื่อนพี่ได้ไหม หนูก็ไม่ได้คิดไรมาก หน้าตาเขาก็ดูเป็นคนดีหนูก็เลยบอกว่าโอเคค่ะได้เดี๋ยวหนูไปเป็นเพื่อน อันนี้ก็คือนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไป สั่งส้มตำปกติแล้วสักพักนึงเขาก็บอกว่าเดี๋ยวพาพี่ไปเอาของแป๊บนึงนะ หนูก็เลยตามเขาไปแต่ว่ามันเป็นเหมือนร้านที่ปิดอยู่ แล้วก็มันมีช่องเล็ก ๆ ให้เข้าไปหนูก็เดินตามเขาไป แล้วสักพักเขาก็เหมือนหันมาแล้วก็แบบจับหน้าอกหนูเลย แบบจับหน้าอกหนูแล้วก็บีบหน้าอกหนูเลย แล้วหนูก็เลยถามว่าพี่ทำอะไร เขาก็เลยบอกว่าพี่ชอบเรา พี่อยากได้เรามากเลย หนูก็บอกว่าหนูไม่โอเค คือพี่มีแฟนแล้ว หนูก็บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นหนูก็กลัวด้วย แล้วทีนี้ก็เลยพยายามเดินออกมาจากตรงนั้น แล้วพี่เขาก็เลยแบบเอามือหนู กระชากมือหนูแล้วก็ไปจับตรงเป้าของพี่เขา แล้วก็เลยถามว่า พี่พอจะได้ไหมขนาดพี่แบบโอเคไหม หนูก็เลยแบบเออพี่หนูไม่โอเคค่ะพี่ จนหนูพยายามเดินหนีหรือพยายามกลับมาเอารถที่โรงเรียน เพราะว่าหนูมีรถของหนูอยู่หนูก็พยายามกลับมาเอารถที่โรงเรียนหนูก็เดินมาเลย พี่เขาก็ขับรถตามมาแล้วก็แบบโอเคเดี๋ยวพี่ไปส่ง หนูก็ให้เขาไปส่ง ครั้งนี้เขาไปส่งที่โรงเรียนจริงๆ พี่เขาก็บอกว่าเรื่องนี้เก็บไว้เป็นความลับระหว่างเรานะ แต่หนูเป็นคนที่คิดมากด้วย หนูก็เลยไปปรึกษาพี่คนนึงที่เขาแบบเต้นเก่งมาก เขามีคนรู้จักเยอะ พี่เขาก็เอาไปโพสต์ในสตอรี่ ว่าถ้ายังอยากมีที่ยืนในสังคมเต้นอยู่ไหมแล้วเขาก็มาเห็น เขาก็ทักเข้าไปใน DM ไอจีของพี่เขาแล้วก็แบบเออเหมือนขอโทษ พี่เขาก็เลยให้ทักมาขอโทษหนูพอขอโทษหนูเสร็จ เรื่องก็จบเลยวันสองวัน หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงเขาทักมาพี่หนูในวงที่เป็นหัวหน้าวงที่เป็นผู้หญิง เขาก็ทักมาแล้วก็เชิงประมาณด่าลง ๆ ในกลุ่มว่าแบบไปทำอะไรกับผัวคนอื่นไว้ก็แบบรับหน่อยนะ แบบมารับความจริงหน่อย เขาก็ทักไปหาพี่หัวหน้าวงว่าแบบอยากจะให้หนูมาขอโทษ แต่พอหนูทักไปเขาก็แบบเหมือนด่าหนูอย่างเดียวจนไม่ฟัง หนูก็เลยบอกว่าถ้าไม่ฟังกันก็ไม่ต้องทักมา จะฟังเมื่อไหร่ค่อยทักมาจนพี่หัวหน้าวงเขาตั้งกลุ่มให้เลยแล้วเคลียร์กันในกลุ่ม หนูก็บอกว่าหนูโอเคหนูก็พยายามขอโทษที่หนูเอาไปบอกคนอื่นคือเขาโกรธที่หนูเอาไปบอกคนอื่น เขาด่าประมาณว่าทำอะไรไว้กับผัวคนอื่นหัดมารับเรื่องรับความจริงหน่อยนะ แล้วก่อนหน้านี้หนูเพิ่งมารู้เรื่องจากรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าวงว่าเขาโทรมาบอกว่า เขาอยู่กับแฟนเขาเขาอยู่กับผัวเขาใช่ไหมค่ะ เขาก็เหมือนโทรมาแล้วผัวเขาก็แย้งว่าแบบไม่น้องมันมาอ่อยก่อน เหมือนพี่หัวหน้าวงเขาก็ได้ยินแต่พี่หัวหน้าวงเขาก็เข้าข้างหนูเขาก็แบบว่า ถ้าแฟนมันไม่คิดอะไรจริง ๆ มันไม่ไปทำกับน้องแบบนั้นหรอก หลังจากนั้นพี่ผู้หญิงเขาก็เหมือนทักมาขู่หนูว่า ถ้ายังอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวเจอกูนะ เจอกูแน่อะไรแบบนี้ ช่วงหลังจากนั้นมันก้มีคนขับรถตามมั่ง คนเดินตามบ้าง จนหนูประสาทหลอนจนหนูไม่ไหวหนูแพนิคเพราะว่าเดิมทีหนูก็เป็นซึมเศร้ากับแพนิคอยู่แล้วด้วย หนูก็เลยแบบไปกันใหญ่เลยหวาดระแวง หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ว่า หนูควรทำยังไงคะ? เพราะว่าหนูไปพบจิตแพทย์แล้วหนูก็แบบไม่ดีขึ้นเลยแถมยังได้ยามาเพิ่มด้วย! เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แนะนำให้พ่อแม่พาไปลงบันทึกประจำวัน แล้วก็อาจจะแบบขอเบอร์ที่ติดต่อคุณตำรวจว่า ถ้าสมมุติเรากำลังขับรถหลังจากเลิกเรียน แล้วถ้าเกิดเราเจออะไรแบบนี้ให้เราโทรหาเขาได้ไหม เพื่ออย่างน้อยมันจะได้อุ่นใจว่าก่อนที่มันจะทำอะไรเรา เรายังมีเวลาโทรหาคุณตำรวจหรือโทรหาใครสักคนนึงที่เป็นผู้ใหญ่ ที่พอรับรู้ว่าอีนี่มันมาแล้วนะอะไรอย่างงี้ แล้วก็ถ้าเกิดเขามีการข่มขู่อะไรอีก ต้องเก็บหลักฐานไว้ถ้าคราวหน้ามันมีอีก มีคนคำแนะนำว่ากลับดึกๆ พกอุปกรณ์ป้องกันตัวเอาไว้ด้วยจะได้อุ่นใจ แล้วพี่ก็จะบอกให้หนูสบายใจอย่างนึงว่า ด้วยความที่เขาอยู่โรงเรียนเดียวกับเราการที่เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามมันก็จะมีผลกับเขาตอนเรียนเหมือนกัน ส่วนใหญ่ที่มันตีกันมันจะต่างโรงเรียนที่มันจะเอาเรื่องกันส่วนใหญ่จะต่างโรงเรียน แล้วถ้าโรงเรียนเดียวกัน ถ้ามันจะทำมันทำไปแล้ว ครั้งหน้าว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือว่าต้องเด็ดขาดในการไม่เข้าไปกับเขา เคสนี้ยังมองว่าโชคดีที่ผู้ชายยังไม่กล้าที่จะข่มขืน หรือซื้ออุปกรณืเพื่อป้องกันตัวเยอะแยะ ติดตัวไว้ พวงกุญแจสำหรับส่งสัญญาณเสียงขอความช่วยเหลือก็สามารถช่วยได้ให้คนร้ายมันรู้สึกตกใจ หรือ อะไรอื่นๆเมลองไปศึกษาดู ต่อมา “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ลองดูถ้าไม่อยากได้คนปรึกษาที่ไม่ใช่จิตแพทย์ก็ มีแบบที่เขาจะเป็นคนที่เคยถูกล่วงละเมิดคือจริง ๆ เราหาคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆกัน มันอาจจะแชร์ความรู้สึกกันได้มากกว่าหมอที่เราไปคุยแล้วมันไม่ชอบ คือจริงๆแล้วจิตแพทย์มันก็เปลี่ยนคนได้แต่ว่าด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด การจะเข้าถึงจิตแพทย์ที่อาจจะดีๆ กรุงเทพมันก็ไม่ได้ง่ายบางคนก็ถูกจริตเรา บางคนให้คำแนะนำไม่ถูกก็ยิ่งหนัก ก็ถ้าอยู่ต่างจังหวัดแล้วจิตแพทย์มันหาไม่ได้ก็ลองทางเพจ มันมีคนที่เคยเป็นเหยื่อมาก่อนแล้วเขาก็ผ่านพ้นมาได้ มันมีวิธีที่จะจัดการกับความคิดตัวเองอยู่บ้าง ถ้าเรามีโอกาสได้คุยกับคนเหล่านั้นอาจจะดีขึ้น ลองหาพวกช่องทางเสิร์ช Google ดูก็ได้ เพจผู้หญิงที่ชื่อข้างกาย สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า เลี่ยงไปไหนที่เปลี่ยว ๆ คนเดียวสุ่มเสี่ยงทางไหนที่ไม่ใช่ทางปกติที่คนชุมชน หนูเลี่ยงดีกว่าช่วงนี้ แล้วก็ลองคุยกับนักจิตบำบัดพี่เห็นมีสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ลองดูได้เผื่อเราลองหานักจิตบำบัดหรืออะไรที่เรารู้สึกว่า ถ้าคนแนะนำแล้วเราโอเค เราแบบอยากฟังอย่างที่เหมือนว่ามันดูถูกจริตกับเราที่เราสามารถทำได้ แต่มีอันนึงที่ฟังแล้วแบบเหมือนอยากจะให้ข้อคิดน้องเมย์นะ คือบางทีเราแบบเห็นคนคนนึงหน้าตาไว้ใจได้อะไรแบบนี้ บางทีเราแบบไปกับเขาสองต่อสองอาจจะต้องระวังตัวมากกว่านี้ เพราะว่าคือเอาจริงๆถ้าวันนั้นรู้สึกว่าเขาเป็นคนมาจับก้นเราแล้ว ก็ไม่ควรไปกับเขาแล้วแม้ว่าเราจะแบบใช่ไม่ใช่ แต่พี่รู้สึกว่าสัญชาตญาณมันไม่ควรไปกับเขาแล้วกับการที่เห็นว่าบ้านหลังนั้นต้องเดินเข้าไปในช่องลึก ๆ พี่ว่าเราต้องรู้สึกตัวแล้วว่าห้ามเขาไป หนูอาจจะต้องมีกลไกลป้องกันตัวเองมากกว่านี้ที่มันจะต้องรู้สึกว่ามันอันตรายนะมันดูสุ่มเสี่ยง คือสำหรับพี่รู้สึกว่าเขาบอกว่าเขาจะไปส่งเป็นพี่พี่ไม่ไปกับเขาแล้วนะ ตอนท้ายคือหลังจากเกิดเรื่องทั้งหมดแล้วเขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปส่งเป็นพี่พี่ไม่ไปกับเขาแล้ว แต่เมย์ยังตัดสินใจไปกับเขาอันนี้พี่ว่ามันเหมือนเอาตัวเองกลับไปอยู่กับเขาอีก มันก็เลยรู้สึกว่ามันเสี่ยงเกินไป ถ้าอนาคตสถานการณ์มันแบบนี้อีกเมย์ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ ขอให้มันผ่านไปวันนี้หนูไม่เป็นไรก็ดีแล้วก็ระวังตัวไม่ให้มันสุ่มเสี่ยงแบบนั้นอีกเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin#พุธทอล์คพุธโทร #พุธทอล์คพุธโทรRECAP #ดีเจเผือก #ดีเจเติ้ล #ดีเจเผือก #EFM94

คบแฟนได้ 6 เดือน แฟนบอกว่ามี FWB กับผู้หญิงอีกคน ตอนแรกคิดว่าพูดเล่น หลังๆเริ่มชวนไปกินข้าวกัน 3 คน แฟนหนูสั่งน้ำโปรดให้เขา ตักข้าวให้เขา จนหนูรู้สึกว่า "เรายังเป็นแฟนอยู่ไหม" พีคสุด เจอแชทเขาคุยเสียวกัน

10 พ.ค. 2024

คบแฟนได้ 6 เดือน แฟนบอกว่ามี FWB กับผู้หญิงอีกคน ตอนแรกคิดว่าพูดเล่น หลังๆเริ่มชวนไปกินข้าวกัน 3 คน แฟนหนูสั่งน้ำโปรดให้เขา ตักข้าวให้เขา จนหนูรู้สึกว่า "เรายังเป็นแฟนอยู่ไหม" พีคสุด เจอแชทเขาคุยเสียวกัน

คบแฟนได้ 6 เดือน แฟนบอกว่ามี FWB กับผู้หญิงอีกคน ตอนแรกคิดว่าพูดเล่นหลังๆเริ่มชวนไปกินข้าวกัน 3 คน แฟนหนูสั่งน้ำโปรดให้เขา ตักข้าวให้เขาจนหนูรู้สึกว่า "เรายังเป็นแฟนอยู่ไหม" พีคสุด เจอแชทเขาคุยเสียวกันตอนนี้เขาบอกไม่ได้ยุ่งกันแล้ว หนูควรเชื่อและคบแฟนต่อดีไหม? “คุณมน (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหารักของเราสามคน เพราะแฟนของคุณมนแอบมี FWB ลับหลัง โดย ​“คุณมน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘มนมีแฟนอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก่อนที่จะคบกัน คู่ของเราก็มีการพูดคุยดูใจกัน เหมือนคู่อื่น ๆ แต่ช่วงที่เรายังคุยกันอยู่ ทางฝ่ายชายก็ชอบเอ่ยปากว่า เขาอยากมีภรรยาสองคน แต่มนก็คิดว่าที่เขา พูดมันเป็นเรื่องขำ ๆ เพราะมนก็ถามเขาเกือบทุกครั้งว่า มันมีทางเป็นไปได้จริง ๆ หรอ ? เขาก็ตอบว่า ไม่มีอะไร เขาแค่ถามเล่น ๆ แค่ลองถามดู ซึ่งมนก็เป็นคนที่ไม่ได้คิดอะไรก็ลองคุยต่อไป ระยะเวลาก็ผ่านไป เราใช้เวลาคุยกัน 6 เดือน หลังจากนั้นก็เลยตัดสินใจคบกันดู ซึ่งตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปีที่คบกันมา มันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาก เทคแคร์ ดูแล ใส่ใจกันมาตลอดทั้งเขาทั้งเรา แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็อยากพามนไปทานข้าวกับ “บี (นามสมมติ)” มนก็ถามเขาว่า บีเป็นใคร ? เขาก็เล่าให้ฟังว่า บีเป็น FWB กับเขามาก่อน เป็นแบบนี้มานานแล้ว และปัจจุบันนี้ ก็ยังเป็นอยู่ ซึ่งมนคิดว่า เขาคงอยากให้ความคิดของเขามันเป็นจริงมั้งคะ ความคิดที่ว่า… เขาอยากมีภรรยาสองคน ความพีคก็ คือ มนก็ตอบ ตกลง ยอมที่จะไปทานข้าวกับพวกเขา ซึ่งเป็นตัวของมนเองที่ปล่อยเลยตามเลย เพราะตอนนั้นมนแค่รู้สึกว่า ยังเลิกกับเขาไม่ได้ และ ยังรักเขาอยู่ และมนก็คิดว่า บนโลกใบนี้ ยังมีความสัมพันธ์อีกมากมายที่เรายังไม่รู้จัก ก็เลยอยากจะลองเปิดใจดูว่า มันอาจจะดีหรือว่ามันอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ อยากลองดูสักตั้งให้มันรู้ ดีกว่าปฏิเสธตั้งแต่ต้น หลังจากตกลงไปทานข้าวด้วยกัน มนก็ถามแฟนว่า ให้เราไปรับไหม ? เพื่อที่เราจะได้ไปร้านด้วยกัน เขาก็บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาไปเอง แต่พอมนไปถึงที่ร้าน มนกลับเจอเขามากับบีก่อนแล้ว พอถึงเวลาทานอาหาร มนก็นั่งข้างแฟน ส่วนบีก็นั่งฝั่งตรงข้าม ต้องขอเกริ่นก่อนว่า มนเป็นคนที่ชอบดื่มโคล่า ซึ่งมนก็คิดว่า บีก็ชอบดื่มเหมือนกัน แต่พอเริ่มสั่งอาหาร แฟนของมนกลับสั่งน้ำเปล่าให้มน แต่สั่งโคล่าให้บี มนก็เริ่มมีอารมณ์นิดหน่อยที่แฟนจำของเราไม่ได้ แต่กลับจำของบีได้ แต่มนก็ยังเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ คิดว่า เขาคงรู้จักกันมานาน ระหว่างที่ทานข้าวแฟนของมนก็ตักข้าวให้ทั้งตัวเราและบี สลับวนอยู่แบบนี้ตลอด ส่วนบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร ส่วนใหญ่จะพูดถึงการทำธุรกิจ เพราะมนกับแฟนวางแผนกันว่า จะเปิดบริษัทร่วมกัน โดยตามหลักของการเปิดบริษัทจะต้องมีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 คน ซึ่งมนก็คิดว่า ฝ่ายชายน่าจะวางแผนไว้แล้ว ว่าอยากจะให้เป็นตัวเขาเอง มน และบี เรื่องผู้ถือหุ้นในความรู้สึกของมน มนเฉยมาก ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่ามนก็มีเรื่องที่รู้สึกน้อยใจ เพราะหลายอย่างที่แฟนมาขอความคิดเห็น เช่น รูปแบบโลโก้ หรือเรื่องภายในบริษัท แฟนกลับเลือกความคิดเห็นของบีมากกว่าของมน หลังจากนี้ เราก็เริ่มที่จะทะเลาะกัน เขาก็มีคำพูดที่ว่า จริง ๆ เราเลือกคนอื่นมาเป็นผู้ถือหุ้นก็ได้นะ ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นเธอ และเธออย่าคิดว่า เรามาหลอกเธอ เพราะเธอจะไม่ถือหุ้นก็ได้ แต่เราต้องไม่เลิกกันนะ เรายังอยากมีเธออยู่ข้าง ๆ เรา ซึ่งการทำธุรกิจร่วมกันนี้ มนไม่มีการลงทุนลงเงิน เพราะมนรับผิดชอบด้านบัญชี ต้องลงแรง จึงไม่จำเป็นต้องลงเงิน ซึ่งมนไม่รู้ว่า เขาเข้าหามน เพราะทำบัญชีได้ เลยมาหลอกเอาผลประโยชน์ จากมนหรือเปล่า ? หลังจากที่กลับมาจากการรับประทานอาหารกัน มนก็มานั่งตกตะกอนความคิด ก่อนที่จะตัดสินใจคุยกับเขา อย่างเปิดใจว่า เรารู้สึกไม่โอเคกับความสัมพันธ์แบบนี้ เราไม่สามารถรับมือและไปต่อได้ เธอต้องเป็นคนเลือกแล้วว่า เธอจะอยู่กับเขา หรือเธอจะอยู่กับเรา ซึ่งถ้าเธอจะอยู่กับเรา เธอก็ไปเลิกกับเขามาให้ชัดเจน ไปหาหลักฐานหรืออะไรก็ตามมายืนยันให้ได้ว่า เธอได้เลิกกับเขาแล้วจริง ๆ หลังจากนั้น เขาก็ไปเคลียร์กันมา เขากลับมาบอกเราว่า เขาเลือกเรานะ แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราพลาด คือ เขาแคปแชทมาให้ดูว่า เขาได้บอกเลิกกับทางฝั่งนั้นแล้ว และเราก็เลือกที่จะไม่ทักถามฝ่ายหญิง เพราะโดยปกติเราก็ไม่เคยเช็คโทรศัพท์ของกันและกัน จากนั้นมนก็กลับมาเชื่อใจและให้โอกาสเขาอีกครั้ง จนกระทั่งเข้าปีที่ 2 แฟนของเราก็เริ่มพูดถึงชื่อของบีเยอะขึ้น อย่างเช่น นั่งดูหนังกันอยู่ เขาก็จะพูดแล้วว่า เรื่องนี้บีบอกว่าสนุกนะ หรือว่า ข้าวร้านนี้บีบอกว่าอร่อยนะ ซึ่งเราเป็นสายนิ่งเงียบอยู่แล้ว เวลาได้ยินชื่อก็ทำนิ่งไว้ แล้วก็ตามน้ำเขาไปว่า อ๋อ เหรอคะ พอเขาหลับเราก็แอบเช็คมือถือ เราได้แต่ภาวนาคิดว่า เขาคงคุยกันเรื่องงานที่บริษัท แต่ภายในแชทกลับกลายเป็นว่า เขาคุยไปในทาง 18+ มีการส่งรูปลับหากัน ไม่ได้มีเรื่องงานปนอยู่เลย ณ วันที่เราเห็น เราก็รู้สึกช็อคมาก เหมือนกลับว่าจะเป็นลม ในคืนนั้นมนก็เก็บเสื้อผ้าออกไปนอนอยู่ที่โรงแรม 2-3 วัน และใช้เวลาอยู่กับตัวเอง แต่ก็ยังต้องไปทำงานอยู่ ความรู้สึกคือตีกันหนักหน่วงมาก พอได้สติเราเลยเลือกที่จะกลับไปคุย และถามเขาว่า มันเกิดอะไรขึ้น ? ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นมันกลายเป็นสงครามแล้ว มนทะเลาะกับเขา และบีด้วย ฝ่ายชายก็บอกว่า มันไม่มีอะไร มันเป็นเพียงข้อความที่คุยกันเท่านั้น เขาไม่ได้ไปมีสัมพันธ์อะไรกันเลยตั้งแต่ตอนนั้น มันจบกันนานแล้ว เธอก็เห็นว่า เราก็อยู่ด้วยกันทุกวัน คุยจบมนก็เลือกที่จะทักหาบีต่อว่า ทำไมถึงคุยกันแบบนี้ คือถ้าผู้หญิงบอกว่าผู้ชายมาหลอกเขา เราจะได้ด่าผู้ชายคนเดียวให้จบ แต่ผลสรุปแล้ว บีก็รู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว บอกมนว่า ขอโทษที่พิมพ์ไปแบบนั้น ก็คนมันเคยคุยกันแบบนี้ แต่จะไม่คุยกันแบบนั้นอีกแล้ว แล้วก็ขอโทษเรา ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มนก็ยังคบกับแฟนมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเหตุผลที่มนไม่เลิก แม้ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรสารพัด เป็นเพราะฝ่ายชายเคยพูดว่า เราอยู่ด้วยกันมา เขาเทคแคร์ ดูแลเราดีมากเลยในสถานะของแฟน ซึ่งตรงนี้มนก็ไม่เถียง เขาก็เลยถามเราว่า เขาทำผิดแค่นี้เอง ทำไมมนถึงไม่มองข้อดีของเขาบ้าง ? แต่มนกลับรู้สึกว่า ที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้ มันเป็นเพราะความผูกพัน ซึ่งมนไม่รู้ว่าจะเดินออกมาจากเขายังไง หรือจริง ๆ แล้ว มนยังรักเขาอยู่ ? ซึ่งมนอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า มนควรไปต่อหรือพอแค่นี้แบบ… เลิกกันไปเลย โดย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ามนรู้สึกไม่โอเคกับการที่เขายังมีบีอยู่ มนก็ได้คำตอบแล้วว่า มนต้องเดินออกมา แล้วถ้ามนคิดว่าปัญหานอกใจเป็นเรื่องใหญ่ มนก็ไม่ต้องคิดแล้ว เดินออกมาเลย ซึ่งถ้ามนคิดว่า ความผิดมันสามารถหักล้างกับความดีของเขาได้ มนแน่ใจใช่ไหมว่า มนจะทนไหวกับสถานการณ์ แบบนี้ได้ไปตลอดชีวิต สรุปแล้วพี่ว่า มนกำลังสับสนในตัวเอง คือมนไม่ได้อยากเลิก แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มนก็ไม่สามารถรับได้ มนก็แค่รอวันที่มนทนไม่ไหว จนมนต้องเลิก สมมติว่าวันนี้มนจะซื้อบ้านหนึ่งหลัง เหนื่อยมากอยากจ่ายก้อนไปเลย แต่วันนี้มนเลือกที่จะจ่ายดอกเบี้ยไปก่อนเรื่อย ๆ จนกว่ามนจะหมดแรง แต่บ้านมันยังดีที่มันเป็นของเรา แต่นี่คือมนจ่ายโดยไม่รู้เลยว่า สุดท้ายแล้วจะเป็นของเราหรือเปล่า ? เพราะเขาเองก็พยายามสื่อและบอกมนมาตลอดว่า เขาต้องการมี 2 คน เขาพยายามบอกมนแล้วตั้งแต่วันแรก เราแค่ไม่ได้ฟังเสียงเขาเอง คือเอาจริงก็ฟัง แต่ไม่เอามาคิด ไม่ยอมรับว่า เขาเป็นคนแบบนี้ ซึ่งคนนี้เขาไม่ใช่คนซื่อสัตย์ เพราะถ้าเขาซื่อสัตย์ เขาจะไม่เอา FWB มารู้จักกัน เขาจะตัดตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง คือตอนนั้นเขาเผื่อฟลุ๊ค เผื่อว่า มนจะยอม แต่สรุปมนไม่ยอม แทนที่เขาจะตัด แต่เขาก็เลือกทำต่อแปลว่า เขาไม่ใช่คนซื่อสัตย์ ลองเทียบว่า อยู่คนเดียวกับการที่มีเขาอยู่อันไหนสบายใจกว่ากัน’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ถึงถามไงว่า ถ้าพี่บอกให้เลิก คนทั้งอินเตอร์เน็ตก็บอกให้เลิก มนทำได้หรือเปล่า ? เพราะวันนี้มนเองก็ไม่ได้มีน้ำเสียงที่พี่รู้สึกว่า มนสามารถตัดสินใจเลิกได้ คือการที่เจอแบบนี้ 2 รอบ เป็นคนอื่นอาจจะไปแล้ว แต่ความอดทนนมนอาจจะสูงกว่า มนก็แค่ต้องอยู่ไปเรื่อย ๆ แบบที่พี่หอมบอก จนกว่ามนจะทนไม่ได้ เดี๋ยวมนก็เดินออกมาเอง เพราะความอดทนนของคนเราไม่เท่ากัน ของมนพี่ว่า น่าจะมีความทนทานสูงอยู่ แล้วก็ไม่ต้องไปคิดว่ายังรักหรือว่าผูกพัน มันไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายแล้วมนก็ยังเลิกกับเขาไม่ได้ มนยังไม่ใจแข็งพอที่จะเลิกกับเขา ไม่ต้องถามหาสาเหตุ’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่มองว่า ช่วงระยะเวลา 2 ปีนี้มันยากก็จริง แต่ถ้าเทียบว่า ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ แล้ววันหนึ่งเขาเป็นคนบอกเลิก อันนี้พี่ว่า ไปไม่รอดกว่า เพราะเราเป็นฝ่ายตาย คือตอนนี้มนมีสิทธิเลือก เลิกออกมาก็เจ็บพี่เข้าใจ แต่ถ้ามนจะรอวันนั้น วันที่เขาบอกว่า ออกไปได้แล้ว ซึ่งถ้าวันนั้นมาถึง มนจะไปไม่รอดมากกว่านี้อีก จะยิ่งซ้ำตายกว่านี้อีก เพราะตอนนั้นมนจะรู้สึกว่า ยอมมาขนาดนี้แล้ว แล้วยังมาโดนบอกเลิกอีก พี่ว่ามันเจ็บคนละแบบ แล้วถ้ามนอยากจะมีอนาคตกับผู้ชายคนนี้ คิดภาพแต่งงาน มีลูก แต่มนก็ยังต้องทนกับผู้หญิงคนนี้ตลอดเวลา หรือจะมีผู้หญิงคนอื่นอีก แล้วเราจะยังแข่งอดทนกับบีอยู่เหรอ ?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ลูกสาวเศร้า คุยกับผู้ชายคนนึง เคยมีอะไรกันแล้ว แม่เป็นห่วงเลยฟอล IG ผู้ชาย ปรากฏผู้ชายทักมาจีบแม่ แม่ลองใจพาผู้ชายมาดื่มที่บ้านกัน 3 คน ไว้ใจแม่ สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าแม่มีอะไรกับผู้ชายคนเดียวกับหนู

26 ม.ค. 2024

ลูกสาวเศร้า คุยกับผู้ชายคนนึง เคยมีอะไรกันแล้ว แม่เป็นห่วงเลยฟอล IG ผู้ชาย ปรากฏผู้ชายทักมาจีบแม่ แม่ลองใจพาผู้ชายมาดื่มที่บ้านกัน 3 คน ไว้ใจแม่ สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าแม่มีอะไรกับผู้ชายคนเดียวกับหนู

ลูกสาวเศร้า คุยกับผู้ชายคนนึง เคยมีอะไรกันแล้ว แม่เป็นห่วงเลยฟอล IG ผู้ชายปรากฏผู้ชายทักมาจีบแม่ แม่ลองใจพาผู้ชายมาดื่มที่บ้านกัน 3 คน ไว้ใจแม่สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าแม่มีอะไรกับผู้ชายคนเดียวกับหนูตอนนี้ทั้งหนูและแม่เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่รู้สึกไม่ค่อยดีกับแม่เลย ​“คุณแนน(นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ม.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจเผือก’ กับปัญหาที่มารู้ทีหลังว่าแม่แอบมีอะไรกับคนคุยเรา โดย ​“คุณแนน(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คือหนูไปเจอผู้ชายคนหนึ่งในแอปพลิเคชัน ก็คุยกันแล้วไปเจอกัน แม่ของหนูก็มารู้ว่าหนูคุยกับคนนี้ แม่ก็ไปสืบมาและก็ให้หนูเลิกคุย หนูก็หลอกเขาว่าเลิก แต่จริง ๆ ก็ยังคุยอยู่ เขาก็จับได้อีกรอบนึง เขาก็เลยฟอลไอจีผู้ชายคนนั้นไป แล้วผู้ชายคนนั้นก็เลยทักมาจีบแม่ แม่ก็บอกให้หนูรู้ว่าผู้ชายคนนั้นจีบแม่ ซึ่งผู้ชายคนนั้นอายุ 27 ปี แม่อายุ 40 ปี และที่แม่มาบอกแบบนั้นเพราะอยากให้หนูรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนไม่ดี แล้วเขาก็อยากลองใจผู้ชายคนนั้นเลยให้มานั่งดื่มที่บ้าน ผู้ชายคนนั้นก็มาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแม่เป็นแม่ของหนู แต่ผู้ชายคนนั้นเขาก็ยังคุยกับหนูปกติ และก็จีบทั้งแม่ทั้งหนู ตอนนั่งดื่มก็นั่งกัน 3 คน ฟังเพลงและก็ดื่มไปด้วย หนูดื่มได้นิดเดียวก็ขึ้นไปนอนก่อน คือหนูไว้ใจแม่ เวลาเจอหน้ากันเขาก็เรียกหนูว่าน้อง เรียกแม่ว่าพี่ ทีนี้เขาก็มาทุกวัน แม่ก็อนุญาตให้เขามา แล้วก็มีอยู่คืนหนึ่งที่หนูเมามาก ๆ แล้วก็ไปทำตัวหึงใส่เขา คือตอนแรกหนูบอกแม่ว่าแค่คุยกับคนนี้ไม่ได้มีอะไร แม่ก็มาแบบซักถามหนูว่าเคยมีอะไรกันใช่ไหมกับผู้ชายคนนี้ คือเขาซักจนหนูบอกไปว่า ใช่ ครั้งนึง เขาก็ร้องไห้ออกมา ที่เขาร้องไห้เพราะเขาบอกว่าคนนี้นิสัยไม่โอเค แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยมีอะไรกับผู้ชายคนนี้แต่ว่าหนูพึ่งมารู้ทีหลัง เขารู้ว่าหนูคุยแล้วแต่ว่าเขาเผลอไปมีอะไรด้วยเพราะเขาเมามาก ผู้ชายก็เมา แล้วแม่ก็เลยห้ามไม่ให้คุยอ้างว่านิสัยไม่ดีแต่ที่จริงตัวเองเคยมีแล้ว ซึ่งแม่ชอบผู้ชายคนนี้เลยบอกให้เลิก คือหนูให้อภัยแม่ได้ แต่ว่าบางทีก็ยังคิดถึงเรื่องนี้และมันทำให้หนูทุกข์ใจว่าทำไมแม่ถึงโกหกหนู คำถามคือหนูควรที่จะต้องจัดการกับความรู้สึกตรงนี้ยังไงอะค่ะ? ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ก็คือว่าเรายังเรียนอยู่ 20 ปีเรายังต้องใช้เงินแม่ ไม่ใช่ทุกคนบนโลกเป็นคนดี ก็แค่คนไม่ดีที่มีลูก เขาบังเอิญมีแนนออกมา ความผิดที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างร้ายแรงในฐานะคนเป็นแม่ ในฐานะที่พี่เป็นแม่ พี่ก็รู้สึกสะอึกกับเรื่องนี้ว่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับลูกเราได้ยังไง แต่วันนี้ถ้าแนนคิดจะให้อภัย พี่คิดว่าแม่คงได้รับบทเรียนแล้ว แล้วเราก็คงรู้แล้วว่าอย่าเอาผู้ชายเข้าใกล้แม่ ถ้าสมมุติว่าเรามีแฟนแล้ววันหนึ่งเขามายุ่งกับเราอีก เราก็พูดกับเขาดี ๆ ว่าให้แม่ควบคุมตัวเองหรือเป็นตัวอย่างที่ดีให้ได้ก่อน ก่อนที่จะสอนเรา แต่ถ้าแนนคิดจะให้อภัยแล้ว พี่คิดว่าแนนควรปล่อยวาง ไม่ต้องไปคิดเรื่องพวกนั้นอีก คิดซะว่าผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งออกไปจากชีวิตเราแล้ว ผู้ชายดี ๆ เขาก็ไม่จีบทั้งแม่ทั้งลูกเหมือนกัน ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า พี่จะมองแบบนี้แนน ถ้าแนนอยากจะให้อภัยเขาเหมือนแบบแนนรักเขา พี่จะมองว่า อย่างน้อยแม่เขาจะทำตัวยังไง นั่นเป็นอีกเรื่องนึง แต่ว่าอย่างน้อยเขาทำให้เห็นจริง ๆ แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าเอาเป็นผัว เหมือนเขาเอาตัวเขาทำให้เราเห็น อย่างน้อยปลายทางคือเราได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ควรเอาเป็นผัว ถ้าพยายามอยากจะให้อภัยเขา แต่ว่าสิ่งที่เค้าทำอันนั้นไว้อีกเรื่องนึง สุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ถ้าเป็นพี่ก็คงคิดว่าเป็นแอลกอฮอล์ ถ้าจะคิดให้มันสบายใจขึ้น มันอาจจะเป็นแอลกอฮอล์ที่ทำให้สมองที่มันยับยั้งชั่งใจมันหายไป แล้วเพศชาย เพศหญิงอยู่ด้วยกันความยับยั้งชั่งใจมันหาย แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูโตแล้ว แค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวคืน... ตั้งแต่เด็กแม่มีรหัส Facebook ของหนู แม่สวมรอย คอมเมนต์ ตอบเพื่อน ทักหาผู้ชายไปทั่ว ขอร้องหนูให้ช่วยวิดีโอคอลกับผู้ชาย 5 นาที ให้ผู้ชายมั่นใจว่าคือหนูจริงๆ

29 มี.ค. 2024

หนูโตแล้ว แค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวคืน... ตั้งแต่เด็กแม่มีรหัส Facebook ของหนู แม่สวมรอย คอมเมนต์ ตอบเพื่อน ทักหาผู้ชายไปทั่ว ขอร้องหนูให้ช่วยวิดีโอคอลกับผู้ชาย 5 นาที ให้ผู้ชายมั่นใจว่าคือหนูจริงๆ

หนูโตแล้ว แค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวคืน... ตั้งแต่เด็กแม่มีรหัส Facebook ของหนูแม่สวมรอย คอมเมนต์ ตอบเพื่อน ทักหาผู้ชายไปทั่ว ขอร้องหนูให้ช่วยวิดีโอคอลกับผู้ชาย 5 นาทีให้ผู้ชายมั่นใจว่าคือหนูจริงๆ พีคสุด นัดครอบครัวผู้ชายมากินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นหนูยังเด็ก ทำตัวไม่ถูกเลย “คุณน้ำ(นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 มี.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่สวมรอยเป็นเราไปคุยกับผู้ชายในเฟสบุ๊คจนได้คบกัน ถึงขั้นนัดกันไปกินข้าวกับครอบครัวผู้ชายคนนั้น! โดย ​“คุณน้ำ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘มันเริ่มมาจากหนูมีเฟซบุ๊ก น่าจะช่วงวัยประถม ประมาณ ป.4-ป.5 และไม่ได้รู้สึกว่าการที่แม่รู้พาสเวิร์ดหรือเข้าไปอ่านแชทเวลาเราคุยกับเพื่อนเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะตอนนั้นเด็กมาก ๆ เลยคิดว่าแม่คงเป็นห่วง แต่มันกลายเป็นว่าคุณแม่ตอบแชท ตอบคอมเมนท์แทน โดยที่ทำตัวเป็นเราและเป็นอย่างนี้มาเรื่อย ๆ จนประมาณช่วง ม.1 โรงเรียนไม่ให้เอาโทรศัพท์ไป เพราะฉะนั้นหนูจะเล่นโทรศัพท์ได้ตอนที่อยู่บนรถ ก่อนจะลงจากรถเข้าโรงเรียน และตอนเลิกเรียน ทีนี้หนูก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้แม่ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน หนูเห็นแล้วว่ามีผู้ชายคนนึงแอดเฟซบุ๊กหนูมา แต่หนูไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่พอหนูกลับมา เฟซบุ๊กผู้ชายคนนั้นหายไป แต่มีแชทที่แบบถามต่อว่า เธอชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ คุณแม่ก็ตอบแทนปกติ แต่หนูมารู้ทีหลังว่า... จริง ๆ แล้วคุณแม่เอาไอดีไลน์ของคุณแม่ให้เขาไป แล้วเขาก็ไปคุยกันในไลน์ โดยที่คุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะชอบเอารูปลูกสาวหรือลูกชายตั้งเป็นโปรไฟล์ เขาอาจจะรู้สึกว่าไม่ได้แปลกอะไร แต่ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย แล้วมันก็เกินเลยมาเรื่อย ๆ หนูแอบเห็น message ที่เด้งมา ตอนแรกเข้าใจว่าคงคุยกันปกติ แต่ไป ๆ มา ๆ มันเป็นการคุยเหมือนจีบกันเชิงชู้สาว จนมารู้ทีหลังว่าเขาคบกัน คุณแม่ก็มาพูดประมาณว่า ช่วยวิดีโอคอลคุยกับเขาให้หน่อยซัก 5-10 นาทีได้ไหม? ทั้ง ๆ ที่หนูไม่ได้รู้จัก ไม่ได้คุยกับเขาเลย แต่ให้หนูตีหน้าซื่อคุยวิดีโอคอลกับเขา หนูก็คุย ๆ ไปให้มันหมดเวลา แล้วก็วางสาย คุณแม่ก็คุยกันต่อในแชท คุณพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัดกลับมาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่คุณพ่อจับไม่ได้เพราะอาจจะเป็นคนไม่ค่อยเล่นโซเชียล และไม่ค่อยสนใจอะไร เขาก็ดูอินโทรเวิร์ตหน่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่คุยกับคุณแม่เลย ตอนหนูอายุ 15 ปี เป็นวันที่หนูต้องเปลี่ยนบัตรประชาชน หนูก็ถ่ายรูปลงมาจากอำเภอปุ๊บ แล้วคุณแม่ก็บอกว่า เดี๋ยวเราไปสยามกัน เนี่ยไปกินข้าวกัน นัดไว้แล้ว หนูก็ถามว่า ไปกินข้าวอะไร เขาก็เลยบอกว่า เขานัดผู้ชายคนนั้นกับครอบครัวเขาไว้แล้ว ต้องไปนะ เพราะว่าเขามาแล้ว หนูก็รู้สึกเหมือนโดนมัดมือชก ตอนนั่งกินอาหารก็คุยกันปกติ หนูอึดอัดมาก จนแบบหนูจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วแม่ของผู้ชายก็บอกผู้ชายคนนั้นว่า เนี่ย ไปกับน้องสิลูก จนหนูคิดว่าไม่ไปดีกว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย หลังจากเหตุการณ์วันนั้น หนูก็พยายามที่จะบอกผู้ชาย โดยใช้แอคหลุมไอจีของหนูทักไปเลยว่า เธอรู้ไหมที่คุยกันมาตลอด 4-5 ปี แล้วที่นัดไปเจอเรื่องมันเป็นแบบนี้ ๆ ผู้ชายก็ไม่เชื่อ หนูก็ตั้งกล้องอัดหน้าตัวเองพูดว่า เนี่ย ดูหน้าเอาไว้ แล้วก็จำเสียงไว้ เสียงเราเป็นแบบนี้ พอเขาไม่เชื่อ หนูก็ไม่รู้จะทำยังไงหนูก็ปล่อยเขาไป แล้วเหมือนผู้ชายเริ่มจะรู้ว่านี่คือแอคหลุมของหนู แต่หนูไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจว่าแอคหลุมเป็นของแม่ไหม เพราะหนูคิดว่าผู้ชายมันก็ต้องแคปแชทที่หนูคุยส่งไปให้แม่ แม่ก็คงน่าจะบอกว่า นั่นแม่เราอย่าไปสนใจเลย ฟีลแบบสลับกัน และหนูพยายามหาว่าแม่กำลังจะทำอะไร ก็เลยเริ่มรู้ว่าแม่มีอีกเฟซบุ๊ก มีอีกไอจีนึงที่แม่สร้างเอง เหมือนเป็นอีกโลกที่เอาไว้คุยกับผู้ชายคนนั้น ด้วยความที่อยู่กับแม่ที่บ้าน 2 คน ก็เลยไปบอกเขาว่า แม่ทำแบบนี้ไม่โอเคเลยนะ เลิกได้ไหม เขาก็ขำแล้วบอกว่า จะอะไรนักหนาก็คุยกันผ่านแชท ไม่ได้ไปหาเขาสักหน่อย หนูก็เคย message ไลน์ไปบอกคุณพ่อ คุณพ่อก็อ่านแต่ไม่ตอบ แต่พอเวลาผ่านไปเหมือนคุณแม่ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ หนูก็บอกว่า หนูทนไม่ไหวแล้วนะ หนูจะต้องบอกพ่อแล้วนะ เขาก็บอกว่า ครั้งที่แล้วก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าบอกอีกจะเลิกกันแล้วนะ จนปัจจุบันหนูเริ่มมีสังคม มีแฟน หนูควรจะทำยังไง หนูถึงจะเอาพื้นที่ส่วนตัวคืนมา หรือหนูควรจะเปิดเฟซบุ๊กใหม่ไปเลย? ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูต้องเรียกแม่มาคุย แล้วการคุยของหนูไม่ได้ถามว่าแม่โอเคไหม หนูต้องบอกโหมดที่แม่จะใช้ชีวิตอยู่กับหนูให้แม่รับทราบ หนูเปลี่ยนพาสเวิร์ดเฟซบุ๊กก่อนที่จะเรียกแม่เข้ามาคุย ให้ทุกอย่างมันเป็นไพรเวทอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา คนอื่นจะเข้ามาก้าวก่ายไม่ได้ เรียกแม่มาคุยเลยว่า... 1. รับรู้เรื่องความเป็นส่วนตัวของเรา แล้วก็เราไม่ยุ่งเรื่องแม่ แม่ไม่ยุ่งเรื่องเรา อะไรที่เราอยากให้แม่รับรู้หรืออยากให้แม่แสดงความคิดเห็นเราจะบอก 2. เรื่องที่แม่แอบอ้างเป็นตัวตนของเราอันนั้นผิด อย่าทำอีก เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าถูกคุกคามแล้วไม่ปลอดภัย ถ้าทำทั้งหมดแล้วแม่ยังเป็นแบบนี้อยู่ เรื่องนี้จะเรียกพ่อมาคุย แล้วจะถามความคิดเห็นจากพ่อด้วย และถ้าพ่อกับแม่จะเลิกกัน ไม่ใช่ตัวหนูที่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อ แต่เป็นเพราะแม่ทำตัวแบบนี้ แล้วก็เราจะไม่คอลไลน์กับผู้ชายโดยที่เราหลอกเขา เพราะเท่ากับเราสมรู้ร่วมคิดกับแม่ ถ้าแม่อ้างเหตุผลอะไร ให้พูดไปเลยว่า ไม่ ก่อนที่แม่จะทำอะไร อยากให้แม่ใช้ความคิดมากกว่านี้ อีกนิดแม่จะเข้าข่ายไม่ปกติแล้ว ถ้าแม่ยังเป็นอย่างนี้หรือไม่สามารถขจัดนิสัยแบบนี้ออกไปได้ แม่ต้องปรึกษาแพทย์แล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘การปลอมตัวเพื่อสวมรอยเป็นใครสักคนเพื่อคุยมันคือการหลอก ผู้ชายโดนเต็ม ๆ พี่ดูสารคดีของเมืองนอกเยอะเกี่ยวกับพวกหลอกลวง สวมรอย แล้วจุดจบมันไม่ค่อยดีทั้งนั้นเลยที่พี่ดู พี่เลยค่อนข้างตกใจ พอคิดตาม ที่มันรู้สึกไม่ปลอดภัยถูกต้องแล้วน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าจะคุยกับแม่ น้ำต้องเด็ดขาดว่านี่มันไม่ใช่แล้ว สิ่งที่แม่ทำ มันอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับลูกสาวตัวเองได้ ถ้าคิดว่าคุยไม่รู้เรื่องก็ปิดเฟสบุ๊คไปเลย ให้เขารู้ว่าเราไม่เอาแล้ว’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ต้องปิดเฟสบุ๊ค ปิดช่องทางทุกอย่างที่เขาจะเป็นหนูได้ แม่ต้องไม่มีตัวตนของหนูอีกต่อไปแล้ว ต้องดูว่าเขาทนได้ไหม ถ้าเขาไม่ไหวต้องพาเขาไปหาหมอ แต่ถ้าไปหาหมอแล้วเขาทำไม่ได้ เขาก็ต้องหย่ากับพ่อ ตอนนี้เขามีพ่อเป็นสามี เขาไม่สามารถไปคุยกับคนอื่นได้ นอกจากเขาต้องหย่า ทีนี้เขาจะคุยกับคนอื่นไม่ว่า แต่เขาก็ต้องห้ามสวมรอยเป็นคนอื่น เขาต้องคุยในฐานะเป็นเขาเอง ถ้าเราอยากให้ปัญหานี้ยุติ ต้องถอนรากถอนโคน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1