ผมตาม Onlyfans อยู่ช่องนึง เค้าลงคลิป Collab กับอีก Channel เห็นภาพปกคลิปแล้ว เอ๊ะ... หน้าคุ้นๆ จมูกเอย ทรงผมเอย ทำไมเหมือนหัวหน้าเลย พอเขาหันหน้ามา สรุปใช่เลย! เลื่อนๆดูจนจบแล้วรีบปิด ตอนนี้กลัวเจอหน้าหัวหน้าแล้วจะโป๊ะ ทำตัวเลิ่กลัก

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมตาม Onlyfans อยู่ช่องนึง เค้าลงคลิป Collab กับอีก Channel เห็นภาพปกคลิปแล้ว เอ๊ะ... หน้าคุ้นๆ จมูกเอย ทรงผมเอย ทำไมเหมือนหัวหน้าเลย พอเขาหันหน้ามา สรุปใช่เลย! เลื่อนๆดูจนจบแล้วรีบปิด ตอนนี้กลัวเจอหน้าหัวหน้าแล้วจะโป๊ะ ทำตัวเลิ่กลัก

24 พ.ค. 2024

            “คุณเบล (นามสมมติ)” อายุ 38 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [22 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเจอคลิป OnlyFans ของหัวหน้าโดยบังเอิญ

            โดย “คุณเบล (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมพึ่งย้ายที่ทำงานมา ตอนนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งอยู่ และทางบริษัทก็ให้หยุดงาน 2 วัน ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้หยุด ผมเป็นคนที่ชอบเล่นแอป x มาก ก็คือจะเล่นเป็นประจำ ชอบดูชอบเสพคลิป 18+ ในแอปนี้นิดนึง ผมจะมีหลายแอคเค้าท์ที่ชื่นชอบ แต่ก็จะมีแอคเคาท์หนึ่งที่จะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ผมติดตามผลงานของแอคเค้าท์นี้มาตลอด

            แต่ว่าล่าสุด แอคเค้าท์นี้ได้ปล่อยคลิปวิดีโอ 18+ คลิปหนึ่ง ลงแอป x สิ่งที่ผมเห็น ณ ตอนนั้นก็คือเป็นภาพนิ่ง เพราะยังไม่ได้กดให้คลิปวิดีโอเล่น จะเรียกว่าเป็นปกคลิปวิดีโอก็ได้ แล้วก็จะมีคำบรรยายข้างบน ตาสองข้างของผมได้ไปสะดุดตากับผู้ชายคนหนึ่ง ที่อยู่ในรูปปกคลิปวิดีโอนั้น ผมก็รู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้นมากๆ ทรงผมก็ใช่ จมูกก็ใช่ มันเหมือนกับคนๆ หนึ่งที่ผมรู้จัก ผมก็เลยกดเข้าไปดูที่คลิปวิดีโอนั้น พอเปิดดูคลิปเท่านั้นแหล่ะ!! ผู้ชายที่อยู่ในคลิปนั้นคือ “หัวหน้าผม” ซึ่งหัวหน้าผมเขามี OnlyFans อีกอันหนึ่ง แต่คลิปวิดีโอนี้หัวหน้าผมน่าจะมา Collabs กับคนที่ผมชื่นชอบและติดตามอยู่

            ต้องขอบอกเลยว่า ผมดูคลิปวิดีโอนั้นจนจบแต่เป็นการดูแบบ เขยิบๆ ปกติเวลาดูคลิปพวกนี้ผมก็จะมีการทำกิจกรรมบนเตียงต่อ แต่พอดูคลิปนี้เสร็จผมงงมาก จนถึงเมื่อเช้าทำให้กิจกรรมบนเตียงของผมไม่เคลื่อนที่เลย ซึ่งผมก็เข้าใจเพราะมันเป็นเรื่องปกติมาก แล้วมันก็เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ผมแค่รู้สึกไม่มั่นใจว่า ถ้าพรุ่งนี้ผมเจอเขาหลังจากที่หยุดงานมา 2 วัน กลัวว่าตัวเองจะทำหน้าเลิ่กลั่ก และกลัวตัวเองไม่เหมือนเดิม เพราะว่าผมเคยมีประสบการณ์คลิปวิดีโอหลุดของเพื่อนเมื่อสมัยเรียน พอผมได้เห็นผมก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราเคย มองคนๆ หนึ่งไว้ ก็คือคนนี้เป็นเพื่อนเรา คนนี้เป็นหัวหน้างานเรา พอเราไปเห็นมุมมืดของเขา เราก็เลยรู้สึกดิ่งกลัวว่าตัวเองจะมีอาการเปลี่ยนไป?

            ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าต้องถามตัวเบลเอง ว่าเบลรู้สึกยังไง เหมือนเบลก็ยังตอบไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกยังไง พี่ว่า ไม่ควรรู้สึกอะไรมากมาย แล้วไอ่ความตกใจ! ไอ่ความเฮ้ยยย! มันก็คงจะมีบ้าง เวลาเจอกันก็ทำตัวปกติ นิ่งๆ ไว้ เพราะเราก็ดันดูคลิปวิดีโอนั้นจนจบด้วย คือถ้าช็อกตกใจจริงก็คงไม่ดูจนจบหรอก’

            ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปีนี้ 2024 แล้ว เบลไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าถ้าเบลบอกว่าเห็นคลิปวิดีโอนั้น แล้วมันจะทำให้เบลรู้สึกว่า เฮ้ยยยย! คุณค่าของเขาลดลงมันก็ไม่เกี่ยวกัน อันนี้พี่บอกในบริบทที่มันเป็นปี 2024 แล้ว มันไม่เกี่ยวแล้วอ่ะ แล้วพี่ก็รู้สึกว่า ถึงแม้ว่าเบลจะเก็บอาการไม่อยู่ ทำหน้าเลิ่กลั่ก เขาก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าฟีดแบคจะเป็นยังไงถ้ามีคนไปเห็น อันนี้มันคือ OnlyFans เขายินดีที่จะให้คนเห็น เพราะฉะนั้นเบลจะเป็นยังไงมันก็เป็นเรื่องของเบล เขาไม่แคร์อยู่แล้วพี่ว่า’

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เผือก พี่เติ้ล พูดเหมือนกันไปหมดแล้ว ว่าเฉยๆ  ไม่มีผลอะไรทั้งนั้น แต่ขอไว้อย่างหนึ่งนะเบล อย่าเอาเขาไปจินตนาการแล้วไปทำกิจกรรมบนเตียงมันใกล้ตัวเกินไป อันนี้มันจะทำให้มองหน้ากันไม่ติดยิ่งกว่าเดิมอีก’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

07 มิ.ย. 2024

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้วเราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิตย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา รู้สึกติดค้างไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย “คุณนิค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [5มิ.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรักที่ความรู้สึกยังค้างคา โดย “คุณนิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นเรื่องราวที่เราเคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งไปนานมากแล้ว ซึ่งเรื่องมันจบไปแล้วแต่เรายังรู้สึกผิดอยู่ เริ่มจากเราเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อนตั้งแต่ม.ปลาย เค้าเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนแล้วก็ค่อยมาคบกับเราที่เป็นทอม เวลาที่เค้าทะเลาะกับเพื่อนเราก็จะอยู่ข้าง ๆ เค้าตลอด เค้าก็มักจะบอกกับเราว่า “อย่าทิ้งเค้าไปไหนนะ” เพราะเราเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจให้กับเค้า จนจุดเปลี่ยนมันเกิดช่วงที่เราทั้งคู่เข้ามหาลัย เค้าสอบติดมหาลัยที่อยู่ต่างจังหวัด เราก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน แต่หลังจากนั้นได้ 2 อาทิตย์เค้าก็โทรมาบอกเลิกเราเลย ทั้งๆไม่มีสัญญาณอะไรและเราก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกเราคือเราขี้หึงเกินไป งี่เง่าเกินไป โทษความผิดให้กับเราหมดเลย เราเลยไปส่องเฟซบุ๊คของเค้า และสิ่งที่เราเจอคือเค้าโพสรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนคุยใหม่ของเค้า เราเลยโกรธเค้ามาก ไล่ลบรูปคู่ทั้งหมด บล็อกเค้าทุกช่องทาง แต่ด้วยความที่พี่สาวของเราเรียนที่มหาลัยเดียวกับเค้า เราเลยยังได้ทราบข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง หลังจากจบมหาวิทยาลัย แฟนเก่าเราประกาศแต่งงานทันที เราก็แอบรู้สึกช็อคนิดนึงแต่ก็รู้สึกว่ามันผ่านมานานมากแล้วทำไมถึงต้องไปคิดอีก แต่มันดันมีเรื่องบังเอิญที่ทำให้เราต้องไปเจอเค้าและภาพที่เราเห็นคือเค้ากำลังอุ้มลูกอยู่ เราตัวชา ทำตัวไม่ถูก เลยเลือกที่จะเดินสวนไป ผ่านไปสักพักเราก็ได้ยินข่าวคราวอีกทีคือเค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทั้งแม่และพี่สาวก็ไปให้กำลังใจเค้าและเหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายเค้าก็เสียชีวิต พอเราได้ยินแบบนั้นก็เหมือนโลกถล่ม สิ่งที่เราพยายามเกลียดเค้าหรือลืมเค้ามาโดยตลอดทำให้เราเสียศูนย์ไปเลย เราเลยขอแฟนคนปัจจุบันไปงานศพของเค้า และเราก็เสียใจที่คุยกับเค้าผ่านธูป และบอกกับตัวเองว่าทำไมเราไม่ทักไปคุยกับเค้า ทำไมเราถึงใจร้ายกับเค้า เราเลยกลับไปดูในเฟสบุ๊คคือเค้าไม่เคยลบรูปคู่กับเราเลย มันเลยยิ่งทำให้เราคิดว่าทำไมมีแต่เราที่มีทิฐิ และโกรธเค้าอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้เราต้องไปปรึกษาจิตแพทย์และกินยา แต่เมื่อไหร่ที่นึกถึงเค้าเราก็จะร้องไห้ตลอด เลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่าเราผิดมั้ยที่ตอนเลิกกันเราบล็อกเค้าทุกช่องทาง และถ้าอยากเลิกคิดเรื่องนี้พี่ช่วยแนะนำมุมมองใหม่ให้ได้มั้ยคะเพราะเราจมปลักกับตรงนี้มานานมาเกินครึ่งปีแล้ว’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณนิคไม่ผิดที่บล็อกเค้าเพราะเค้าบอกเลิกเรา จริง ๆ สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้เค้าวางแผนมาแล้วว่าจะเลิก กะว่าไปถึงอีกจังหวัดเค้าจะหาวิธีบอกเลิก หรือเค้าอาจจะไปแล้วไปเจอใครที่นู้นภายใน 2 อาทิตย์ สำหรับหอมมันก็คือการนอกใจ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องเสียดาย เป็นหอมหอมก็ไม่ทักหา อาจจะใช้เวลาไปสักพักถึงจะให้อภัย ฉะนั้นตรงนี้ไม่ผิดอยู่แล้วเพราะเลิกกันไม่ดี ส่วนรื่องเปลี่ยนมุมมอง หอมว่าเราไม่ใช่หมอดู ไม่มีใครรู้อนาคตว่าใครจะต้องไปเจออะไร แล้วสัจธรรมของชีวิตคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติมาก ไม่วันหนึ่งคุณนิคไปเค้าก็ไป มันไม่ใช่ความผิดเรา สิ่งที่เราทำมันก็ถูกต้องแล้วคือต่างคนต่างใช้ชีวิตเพราะเลิกกันไปแล้ว นิคอาจจะรู้สึกเสียดายที่น่าจะให้อภัยและคุยกับเค้าเพราะนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง หอมคิดว่ามันเป็นความเสียดายมากกว่าที่คุณนิคจะเก็บมาโทษตัวเองว่าเราทำผิดทำไมเราไม่คุยกับเธอ มันไม่ใช่แค่คุณนิคอย่างเดียว เค้าอยากคุยกับเรารึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ แล้วที่บอกว่าไลน์เด้งมาหาเราก็มีคนให้ข้อสันนิฐานว่า จริง ๆ เค้าอาจจะไม่ได้แอดเรามา แต่ถ้ามีเบอร์เราไลน์มันก็จะเด้งอัตโนมัติเวลาที่เค้าเปลี่ยนมือถือ และในเมื่อเค้าเป็นคนทิ้งเราก่อนเราก็ไม่ผิดที่เราทักเค้าไป แล้วการที่คุณนิครู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และวันที่เค้าเสียชีวิตแล้วคุณนิคจะไปอโหสิกรรมอันนี้ก็เปนเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเค้าจะเจออะไร เค้าจะจากเราไปตอนไหน ถ้าคุณนิครู้สึกว่านี่เป็นบทเรียนและไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีก วันนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ คุณนิค คุณนิคก็ต้องทำดีกับเค้าเช่น แฟนใหม่ที่เราคบ ถ้าวันหนึ่งเค้าเป็นอะไรขึ้นมาเราจะเสียดายอะไรที่เรายังไม่ได้ทำบ้าง ให้ทำกับคนนี้หรือทำกับคนรอบข้างเหมือนจะจากกันตลอดเวลา เพราะงั้นทำตีต่อกันกับคนที่ยังเหลืออยู่ อันนี้หอมว่าดีกว่า และเลิกคิดถึงคนที่จากไปแล้วและไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะเค้าไปแล้วและไม่รับรู้อะไรแล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ใกล้เคียงกับหอม เพราะพี่ก็ถามว่าว่าทำไมนิคคิดว่าตัวเองผิด แต่ด้วยจังหวะของการเลิกกันมันอาจจะกระทันหัน ซึ่งการเลิกกันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับคู่อื่น ๆ คนเรามีการบอกบอกเลิกหรือวิธีหยุดความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หายไปเลย บางคนก็มานั่งคุย อันนี้ก็แล้วแต่คู่ แล้วพอเลิกกันไปผมมองว่าต่างคนต่างวางตัวกันดี เอาจริงคุณนิคก็ไม่ควรทักไปอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีสาเหตุที่ต้องคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าหรืออะไรก็ตาม ยิ่งทักคุยกันอาจจะยิ่งเป็นปัญหากับความสัมพันธ์ปัจจุบันของแฟนเค้าซะมากกว่า ผมว่าต่างฝ่ายต่างทำถูกแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน และสุดท้ายคนที่จะติดค้างเรื่องคำขอโทษก็น่าจะเป็นฝ่ายเค้ามากกว่า ผมมองว่าทุกอย่างดำเนินไปตามปกติที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีความผิดอะไรจากคุณนิคเลย ในเรื่องของมุมมองคุณนิคต้องล้างความคิดว่าตัวเองผิดก่อน ผมไม่เห็นว่าคุนนิคจะต้องมีอะไรที่ติดค้างหรือรู้สึกผิด เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไปมีชีวิต คนที่เลิกกันแล้วบางทีก็ไม่เหมาะไม่ควรที่เราจะคบหากันต่อ แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามมันต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาเป็นแฟน มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ย้อนกลับไปไม่ได้ พอเลิกกันก็ต้องทำใจว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันจะไม่กลับมา และทุกอย่างี่เกิดขึ้นมาผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติทุกอย่าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะเสนอมุมมองที่ต่างพี่เผือกพี่หอมนิดนึง เท่าที่พี่ฟังมาพี่รู้สึกเสียดายชีวิตคุณนิคมากเลย พี่รู้สึกว่า 9 ปีตั้งแต่เลิกกับเค้าคุณนิคไม่ได้ไปไหนเลย อย่างตอนที่เจอเค้าอุ้มลูกแล้วคุณนิคหนี ถ้าเป็นคนที่มูฟออนแล้วพี่ว่าเค้าคงเดินไปถามสารทุกข์สุขดิบ แต่สำหรับเติ้ลมองว่าเหมือนคุณนิคยังอยากได้เค้าเป็นแฟน ยังเฝ้าดูชีวิตเค้าตลอด เรื่องของเค้ายังเข้ามากระทบจิตใจคุณนิคตลอด แล้วสุดท้ายคนที่ไม่ไปไหนก็คือตัวคุณนิค แต่วันนี้เค้าเสียไปแล้วแต่คุณนิคเองที่ยังไม่ไปไหน ซึ่งทำให้เติ้ลเสียดายเวลาที่คุณนิคจะไปมีความสุขกับตัวเอง ถ้าคุณนิคยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิด ก็โปรดให้อภัยตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อายุ 24 ปี ทำสวนทุเรียนกับที่บ้าน ได้โบนัส 2 แสนต่อปี อุทิศตัวให้กับครอบครัวจนไม่มีความสุขเป็นของตัวเอง ทำยังไงก็ยังดีไม่พอ แต่พ่อก็บอกว่าเราต้องเก่งให้ได้ทุกอย่างความพอใจของเราเลยขึ้นอยู่กับพ่อ จะเลิกยึดติดกับความพอใจของพ่อยังไงดีคะ?

07 ก.พ. 2025

อายุ 24 ปี ทำสวนทุเรียนกับที่บ้าน ได้โบนัส 2 แสนต่อปี อุทิศตัวให้กับครอบครัวจนไม่มีความสุขเป็นของตัวเอง ทำยังไงก็ยังดีไม่พอ แต่พ่อก็บอกว่าเราต้องเก่งให้ได้ทุกอย่างความพอใจของเราเลยขึ้นอยู่กับพ่อ จะเลิกยึดติดกับความพอใจของพ่อยังไงดีคะ?

“คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความพอใจของเราขึ้นอยู่กับพ่อ โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นลูกสาวคนเล็ก ทำสวนทุเรียนกับครอบครัวมา 5 ปีแล้ว ที่สวนได้รายได้ปีละ 6 ล้าน หนูได้โบนัสปีละ 2 แสน ไม่มีเงินเดือน แต่ถ้าเป็นของใช้ในบ้าน ค่าข้าว ก็จะเป็นเงินพ่อแม่ เงินโบนัสหนูก็เอาไปใช้ส่วนตัว ซึ่งตอนนี้หนูมีความรู้สึกว่าหนูชอบเอาคุณค่าของตัวเองไปผูกติดอยู่กับความพึงพอใจของพ่อมากเกินไป พ่อหนูอายุ 59 ปี พ่อเป็นคนที่เก่งมากๆ เก่งทุกอย่างรอบด้าน งานในสวนหนูแฮปปี้ แต่ว่าหนูไม่แฮปปี้กับความถูกกดดันว่าจะต้องเก่งมากๆ ถ้าเกิดว่าหนูได้รับคำชมหนูก็จะรู้สึกดีมาก แต่ถ้าวันไหนหนูถูกตำหนิ หรือถูกเข้าใจผิด เขาก็จะมองว่าหนูฉลาดน้อย บริหารงานแบบไม่ถูก บางทีหนูมีแผนงานของหนู มันก็ไม่ได้ผิด ไม่ได้เสียหาย หนูมีเหตุผลในการทำงานมากพอ มันเลยทำให้หนูรู้สึกเฟล เป็นรุ่นพ่อกับเป็นรุ่นลูกก็มีวิธีคิดที่ต่างกันมากแล้ว เช่น รถไถ รถตัดหญ้า กลไกในเครื่องยนต์ เครื่องจักร หนูรู้สึกว่าหนูน้อยใจตัวเองที่ว่าทำไมหนูไม่เก่ง รู้สึกว่าหนูช่วยอะไรเขาไม่ได้ คือทุกอย่างหนูทำได้หมดเลยยกเว้นเรื่องนี้ สมมติถ้าเกิดว่ามันมีปัญหาขัดข้องขึ้นมา ก็จะมีแค่พ่อคนเดียวที่ทำเป็น หนูก็จะรู้สึกแย่เองคนเดียวที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ถึงพ่อไม่ได้ว่าหนูตรงๆ แต่พ่อพูดว่าเราจะต้องเก่งให้ได้ทุกอย่าง หมายถึงเราจะต้องสมบูรณ์แบบในเรื่องนี้นะ ต้องรู้ทุกอย่างรอบตัวในการทำสวนทุเรียน ก่อนหน้านี้เขาก็ค่อนข้างกดดันหนู แต่พอมาถึงตอนนี้เขาก็มีทัศนคติใหม่ที่ว่า ไม่ต้องจริงจังเรื่องเรียนมากก็ได้ ออกมาทำสวนดีกว่า มันคือของจริง แต่มันก็เป็นความคิดที่หลังจากที่หนูเรียนจบแล้ว และหนูยังไม่มีครอบครัว คือ ถ้ามีครอบครัวปุ๊บเขาถึงจะแบ่งสวนให้ เคยไประบายเรื่องนี้กับพี่สาว พี่กับหนูห่างกัน 13 ปี พี่เป็นคนที่ค่อนข้างดื้อ พี่ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ คือเขาเรียนสูง จบป.โท ไปเรียนต่างจังหวัด พอกลับมาก็ทำงานข้างนอก ไม่ได้มาทำสวน แล้วพี่ก็ไปเจอกับแฟน แต่งงานกัน แล้วก็ย้ายออกไปอยู่ด้วยกันเลย พ่อก็แบ่งสวนให้ทำแบบส่วนตัว พี่สาวก็บริหารแบบ ถ้าพ่อทำอะไรฉันทำด้วย แค่ทำตามไม่ได้คิดเองเท่าไหร่ ตอนแรกพ่อก็โฟกัสที่พี่สาว แต่เขาดื้อกว่าหนู คิดจะไปเขาก็ไปเลย พอพ่อเริ่มแก่ลง เริ่มมาคาดหวังว่าลูกจะต้องมาสานต่องานของเขา อีกอย่างคือเขาเป็นคนติดลูก ไม่อยากให้ลูกไปไหนเลย ไม่อยากให้ไปเรียนต่างจังหวัด ไม่อยากให้ไปทำงานข้างนอก จะต้องทำสวนเท่านั้น อันนี้คือความคิดที่เขาปักหมุดปักธงไว้เลย ซึ่งหนูเป็นคนที่ตามใจพ่อ หนูยอมไม่เรียนป.ตรี หนูจบปวส. และมาช่วยเขาทำสวนเลย ถ้าเขาไม่ได้บังคับให้ทำสวนทุเรียน หนูก็อยากไปเรียนต่อสายสถาปัตย์ แต่คือตอนนี้หนูชอบทำสวน แต่พอหนูมีความคิดเป็นของตัวเอง เลยแค่รู้สึกอึดอัดที่อยู่ภายใต้อานัส (คำสั่ง) ของเขา จนหนูไม่เป็นตัวเองแบบนี้ หนูอยากเลิกเอาความพอใจของตัวเองไปผูกกับความพอใจของพ่อ บางทีหนูก็อยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง โดยที่ไม่ได้สนใจงานจนมีความสุข แต่หนูเป็นคนที่ค่อนข้างห่วงที่บ้าน ห่วงงาน ห่วงพ่อกับแม่มาก เหมือนถวายตัวทุกอย่างเพื่องาน เพื่อที่บ้าน หนูเคยบอกว่าจะไปเที่ยว เขาก็ให้ไป ไม่ได้ห้าม แต่บรรยากาศก็จะตึงๆ ประเด็นหลักเลย คือ หนูไม่เคยดื้อเลย จนหนูรู้สึกว่าถูกครอบงำ ถูกยัดความคิดของพ่อทุกอย่างมาใส่ในตัวหนู หนูมองไปที่คนอื่น แต่คนอื่นก็ดื้อจนได้ทำสิ่งที่เขาต้องการ หนูเคยพูดกับแม่ว่าถ้าหนูไม่ได้เก่งหรือสมบูรณ์แบบ แบบที่พ่อหวังยังจะยินดีที่มีหนูเป็นลูกอยู่ไหม? หนูเลยอยากถามพี่ๆ ดีเจว่า จะทำยังไงถึงจะเลิกยึดติดกับความพอใจของพ่อคะ?’ เริ่มที่ “ดีเจผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เคยอ่านเจอว่า เวลาคนเราทำอะไรจงทำให้ตัวเองภูมิใจ อย่าทำอะไรเพื่อให้คนข้างๆ ภูมิใจ จงดีกว่าตัวเองในเวอร์ชั่นก่อน อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร สิ่งที่ดีที่สุดเวลาทำอะไรสักอย่างแล้วรู้สึกภูมิใจในตัวเองจังเลย นี้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา มันเป็นการเปลี่ยนมุมมองความคิดของตัวเอง ลองเปรียบมุมมองของตัวเอง ดูว่าเมื่อวานเราทำอะไรผิดพลาด พอมาวันนี้เราทำได้ ทำดีขึ้น อยากให้ภูมิใจกับตัวเอง ให้แยกกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่แสดงออกมา วิธีการที่คุณพ่อคุณแม่บีจะสอน หรือถ่ายทอด จะทิ้งมรดกอะไรไว้สักอย่างหนึ่ง มันต่างจากพ่อแม่ในยุคปัจจุบัน สุดท้ายแล้วเจตนา เนื้อแท้ในใจพ่อไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากอยากให้ลูกสบายในวันที่ตัวเองไม่อยู่แล้ว ช้าหรือเร็ว สุดท้ายพ่อแม่ก็จะจากไป สิ่งที่เขาจะทิ้งไว้ให้บี คือสวนทุเรียนแห่งนี้ ซึ่งมันมีหลายวิธีมากที่จะสอน แต่คุณพ่ออายุ 59 แล้วเขามีแค่วิธีเดียวคือ ยัดให้บี บีต้องเก่ง บีต้องรู้ทุกอย่าง เพราะวันที่เขาไม่อยู่ บีจะได้ทำมันได้ แต่ในมุมของบี บีไม่เห็นจะต้องรู้ทุกอย่าง ไม่รู้วิธีการซ่อมรถไถก็จ้างแค่คนมา วิธีการคิดมันคนละโลกกันเลย แต่เจตนามันคือเจตนาเดียวกัน ฉะนั้นถ้าบีเปลี่ยนมุมมองได้ทั้งสองเรื่อง บีจะเข้าใจในความเป็นเขาและบีจะทำเพื่อให้ตัวเองภูมิใจ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนวิธีการของพ่อในวัย 59 ปีได้แล้ว ถ้าบีช่างมันได้ในบ้างประโยค เข้าใจและรับฟัง หันหลังเดินกลับพรุ่งนี้ตื่นมาใช้ชีวิตต่อ บีทำสวนทุเรียนได้ 6 ล้านต่อปี มันแทบจะไม่มีอาชีพไหนที่ได้เยอะขนาดนี้แล้ว ลองเอาชนะตัวเองค่อยๆ ทีละเรื่อง ให้ดีกว่าเมื่อวาน’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องที่ทุกคำของคุณพ่อมันส่งผลกับหนู พี่ก็จะขอตอบว่า บีต้องโฟกัสคำตอบของเรื่องต่างๆ ในชีวิต ที่มาจากตัวเอง ไม่ใช่มาจากคุณพ่อ เช่น ถ้าบีเลือกที่จะทำสวนทุเรียน ไม่ได้เลือกเรียนสถาปัตย์ที่บีชอบ บีต้องหาคำตอบให้กับตัวเองว่า เลือกเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จะได้ช่วยเหลือครอบครัว หรือเลือกเพราะว่ามันจะดีกับอนาคตของตัวเอง แต่ว่าถ้าทำไปได้รายได้ปีละ 6 ล้าน ในอนาคตมันก็ถือว่าเป็นอาชีพที่ยั่งยืน หรือเรื่องเครื่องจักรถ้าวันนี้เราเรียนรู้มัน ก็จะมีประโยชน์กับสวนแน่ๆ เพราะพี่ก็เป็นเหมือนกัน พอมีช่างมาซ่อมถ้าเราไม่รู้ เราก็จะไม่รู้ว่าเขาโกงเราหรือเปล่า พี่ก็เข้าใจในมุมของพ่อบี เพราะพี่รู้สึกว่าเขาน่าจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เขาเลี้ยงบีมาแบบ ถ้ามันทำไม่ดีก็ด่ามันไปตรงๆ ถ้ามันทำดีก็ชมมันจะได้ทำต่อไปเรื่อยๆ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ถ้าบีไม่ได้ทำสวนทุเรียนเพื่อที่อยากให้พ่อบอกว่า บีเป็นลูกที่ดี พี่ว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวบีมากกว่า ถ้าทำอะไรให้โฟกัสไปที่เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร ไม่ใช่ทำเพื่อดูว่าพ่อเขาชอบหรือไม่ชอบ’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘งานที่บีทำอยู่มันไม่ง่าย แต่บีโชคดีที่พ่อบีรู้ทุกอย่าง เหมือนบีเป็นความหวัง เขาเลยอยากเอาสิ่งที่รู้ทั้งหมดมาใส่ที่ตัวบี มันเลยทำให้บียากกว่าคนอื่น เหนื่อยกว่าคนอื่น แต่พี่มองว่าบีเก่งนะ บีอายุ 24 บีสามารถมีโบนัสปีละ 2 แสน พี่เลยไม่รู้ว่าจะต้องแนะนำอะไรบี เพราะบีเก่งอยู่แล้ว แค่บีไปต่อด้วยความเข้าใจ เอามายเซ็ทของพี่เผือกและพี่เติ้ลบวกๆ ไปแล้วใช้ชีวิตต่อ บีรักในสวนทุเรียน แล้วพ่อก็รักในสวนทุเรียน แค่ทั้ง 2 คน มีระหว่างทางที่วิธีคิดมันต่างกัน แต่เป้าหมายเหมือนกันเลย แค่ลองเปลี่ยนมุมมองดู’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมือง มาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพส ตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่

30 มิ.ย. 2025

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมือง มาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพส ตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมืองมาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพสตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่ว่า ถ้าพ่อยังทำต่ออีกเรื่อยๆ อนาคตอาจจะเกิดกระทบต่อแม่ได้เรื่องนี้ปรึกษาพี่ชายแล้ว พี่ชายบอกว่า ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับพ่อ ปล่อยให้เขาทำไปแต่หนูเห็นโพสแล้วก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ “คุณก้าน (นามสมมติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 มิ.ย 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาพ่อเอาเฟซบุ๊กแม่มาโพสต์สุ่มเสี่ยง โดย “คุณก้าน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พ่อชอบเอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์เล่น แล้วโพสต์ล่าสุดจริง ๆ มันเป็นเหมือนโพสต์ตลก แต่หนูรู้สึกว่ามันสุ่มเสี่ยง เพราะมันเกี่ยวกับบ้านเมือง หนูเลยค่อนข้างเป็นห่วงแม่ เพราะมันไม่ใช่แนวที่แม่จะทำ ปกติแม่ลงแต่เรื่องผ้าปัก หนูจึงถามพ่อ เขาให้เหตุผลมาว่า “เขาเพื่อนในเฟสน้อย อยากให้แม่ลองโพสต์อะไรออกสื่อบ้าง” ซึ่งตอนโพสต์แม่น่าจะรู้ เพราะเหมือนก่อนหน้านี้ พ่อได้เอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์เกี่ยวกับเรื่องไปเที่ยว ในส่วนนี้หนูไม่ติดอะไร ตอนแรกที่เห็น หนูคิดว่าพ่อโพสต์ จึงไม่ได้อะไร เพราะปกติพ่อเขาเป็นคนตลก แต่จะเจ้าอารมณ์หน่อย แล้วหนูพึ่งมาเห็นว่าเป็นเฟซบุ๊กแม่ที่โพสต์ หนูจึงทักไปถามพ่อว่า “ทำไมไม่เอาเฟซบุ๊กตัวเองโพสต์ มันไม่ควรหรือเปล่า ทำไมถึงเอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์แบบนั้น” พ่อจึงตอบกลับแนวประชด ๆ กวน ๆ มาประมาณว่า “พ่อก็โพสต์ไปแบบขำ ๆ อย่าซีเรียส ใครไม่โอเคก็เรื่องของเขา” แต่กลายเป็นว่าตัวของหนูเองที่ไม่โอเค จึงพูดกับพ่อไปว่า “ลูกไม่โอเค คือ ลูกต้องต้องไปจัดการตัวเองใช่ไหม” พ่อจึงตอบกลับมาว่า “ถูกต้อง” หนูยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับแม่เลย เพราะเขาอยู่ด้วยกันสองคนที่ต่างจังหวัด ส่วนหนูอยู่กรุงเทพ พ่อเขาจะเป็นคนเอาโทรศัพท์ของแม่ไปเล่นเป็นเหมือนของตัวเองเลย ก่อนหน้านี้พ่อเขาไม่ได้โพสต์เชิงนี้ มีแต่โพสต์รูปไปเที่ยว, เช็คอิน แค่นั้นเลย แต่จะใช้เฟซบุ๊กแม่ลง อีกทั้งพ่อเขาจะเอาเฟซบุ๊กตัวเองไปเมนต์ในโพสที่ลงในเฟซบุ๊กแม่อีกที คือเจตนาของหนูคือหนูแค่เป็นห่วงแม่เฉย ๆ กลัวในอนาคตเผื่อพ่อไปทำอะไรมากกว่านี้มันจะมีปัญหา คือถ้าโพสต์ไปอยู่ในเฟซบุ๊กพ่อหนูจะไม่อะไรเลย รวมถึงจริง ๆ พ่อเขาเป็นข้าราชการเกษียณ หนูเลยค่อนข้างห่วงเขาด้วย’ โดยดีเจทั้งสาม (ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม) ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘จริง ๆ พ่อเขาคงตั้งใจให้มันเป็น comedy แต่ว่าข้อความและแคปชั่น มันค่อนข้าง sensitive ซึ่งจริง ๆ หนูควรบอกเขาเรื่องนี้ อย่างแรกคือ ควรเริ่มต้นคุยกับแม่ก่อนว่า “แม่โอเคไหม กลัวไหม” ซึ่งถ้าแม่บอกกลับมาว่า “โอ๊ย แม่ชอบ แม่ก็ขำด้วยเนี่ย” แบบนี้ก้านจะทำอย่างไร คงทำได้เพียงแค่เตือนไปว่า “โพสต์อะไร ให้ระวัง ๆ หน่อย” หรืออาจจะต้องพูดบอกทั้งแม่และพ่อไปว่า“เรื่องนี้มันค่อนข้างเสี่ยงมาก หากมีคนไม่หวังดี เอาไป เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องไป อย่าไปเล่นเรื่องนี้ ข้อความมันแรงไปหน่อย ไปเล่นเรื่องอื่นแทน จริง ๆ มันแก้แค่ไม่กี่คำ แค่ดึงบางคำออกมันจะเซฟขึ้นเยอะ แต่นึกภาพออกนะว่าคนแก่ อาจจะอารมณ์ขันประมาณนี้ พี่แนะนำคือ เตือนพ่อได้ ซึ่งพ่ออาจจะเข้าใจ แต่เขาอาจจะตอบกวน ๆ กลับมา แต่ว่าอนาคตเขาอาจจะระวังขึ้น ถ้าเขาไม่ระวัง หากเขาโดนทัวร์ลงครั้งนึง เดี๋ยวเขาจะระวังขึ้นเอง อาจจะรีพอร์ต ลบโพสต์เฟซบุ๊กแม่ หรือไม่ก็ไปแก้ไขโพสต์ให้เป็น privacy ให้เห็นแค่ only me เลย เขาจับไม่ได้หรอก อีกทั้งหนูเองอยู่ไกลแม่ ไม่สามารถ control ได้ หนูอาจจะต้องสอนแม่อีกที มันสามารถจัดการได้คุณก้าน ลองคุยดูนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบสามีมา 17 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสามีว่า สามีหนูไปข่มขืนผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันตอนไปดูงานที่จีน สถานทูตติดต่อมา สามีฝากข้อความมาแค่ "ให้รอ เดี๋ยวเค้าจะรับโทษแล้วกลับไป" ไม่ขอโทษหนูเลยสักคำ หนูควรรอตามที่เขาขอไหม?

09 พ.ค. 2025

คบสามีมา 17 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสามีว่า สามีหนูไปข่มขืนผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันตอนไปดูงานที่จีน สถานทูตติดต่อมา สามีฝากข้อความมาแค่ "ให้รอ เดี๋ยวเค้าจะรับโทษแล้วกลับไป" ไม่ขอโทษหนูเลยสักคำ หนูควรรอตามที่เขาขอไหม?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [7 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพิ่งรู้ว่าแฟนโดนจับ คดีข่มขืนเพื่อนร่วมงานที่ไปทำงานด้วยกันที่ประเทศจีน โดย “คุณน้ำ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งได้รับสารจากเพื่อนแฟนว่า แฟนโดนจับคดีข่มขืนเพื่อนร่วมงาน หนูคบกับแฟนมา 17 ปีแล้ว ไม่ได้แต่งงาน แต่จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกด้วยกัน 3 คนแล้ว ซึ่งแฟนเพิ่งจะได้ไปดูงานที่ประเทศจีนชั่วคราว 3 เดือน แต่ไปได้แค่ 2 เดือนก็มีคดีแบบนี้แล้ว ผู้เสียหายที่โดนคือเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่ไปด้วยกันจากประเทศไทย แต่หนูไม่รู้จักเขา แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้ตัดสินใจเพราะเพิ่งโดนจับ แต่จากที่หนูฟังมา เหมือนเขาน่าจะตัดสิน และจำคุกที่จีนเลย ซึ่งหนูไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย และเรายังไม่ได้ติดต่อกันเลย เพราะทางนู้นเขาไม่ให้ติดต่ออะไรเลย ฟังจากเพื่อนที่ไปด้วยกันกับเขาเล่าให้ฟัง ตอนแรกเพื่อนเขาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่แฟนหนูเป็นคนยอมรับว่าเขาทำจริง เขาก็เลยต้องเชื่อแบบนั้น และมีทางสถานทูตโทรมาหา คือ แฟนหนูเขาฝากข้อความกลับมาหาหนูว่า เขาอยู่ได้นะ ไม่ต้องเป็นห่วง ให้รอเขานะ เดี๋ยวเขากลับมา แต่ไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ตอนที่เขาโดนจับมีตำรวจโทรมาหาหนู หนูก็ขอคุยกับเขาถามเขาว่า ทำไปทำไม เขาบอก เรื่องมันยาว เดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟัง แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรเลย ประเด็นคือทางคู่กรณีไม่ได้เป็นคนแจ้งตำรวจ แต่เขาไปให้บริษัทที่พาไปดูงานเป็นคนแจ้ง เพราะบริษัทเขาไม่ยอมที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ตอนแรกหนูไม่คิดและไม่เชื่อเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ และคนในครอบครัวก็ไม่มีใครเชื่อเลย เพราะอยู่กันมา 17 ปีเขาไม่เคยมีเรื่องนอกใจ หรือไปมีคนอื่นเลย เวลาฟังข่าวคุยกัน เขาก็จะชอบพูดว่า มีครอบครัวแล้ว มีภรรยาแล้วจะไปเอาคนอื่นทำไม? จะไปทำคนอื่นทำไม? เราคุยกันตลอด ไม่มีเรื่องแบบนี้เลย หนูเลยมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะทำ แต่เพื่อนเขาบอกว่าแฟนหนูเขายอมรับกับตำรวจทั้งหมดเลย หนูก็เลยต้องยอมรับความจริง จากที่เพื่อนเขามาเล่าให้ฟัง คือ เขาไม่ได้เมา เพิ่งไปกินข้าวมา แล้วทางคู่กรณีซื้อน้ำขึ้นมาบนห้อง แล้วให้แฟนหนูช่วยยกขึ้นไป แล้วเรื่องก็เกิดขึ้น หนูพยายามคิดว่าเขาตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่เขาก็ทำไปแล้ว ซึ่งตอนที่เขาทำมันไม่มีหรอกที่ไม่ตั้งใจ สุดท้ายเขาก็นอกใจหนูไปแล้ว มันเกิดขึ้นไปแล้ว หนูเลยคิดว่าหนูต้องรอเขาด้วยหรอทั้งๆที่เขาหักหลังหนู ในกรณีที่ไม่รอเขาแล้วในส่วนเรื่องลูก หนูน่าจะผ่อนรถไม่ไหว ก็น่าจะปล่อยให้เขายึดไป ให้เหลือแค่บ้าน เพราะบ้านหนูยังส่งไหว ทางแม่แฟนก็อยู่กับหนู ตอนแรกหนูก็โมโหแล้วถามแม่แฟนไปว่า แล้วแม่จะอยู่บ้านหนูในฐานะอะไร? พอหนูใจเย็นลง หนูก็คิดว่าแม่เขาไม่ได้ผิดอะไร ถ้าหนูไล่เขาไป เขาก็ไม่มีที่อยู่ หนูสามารถเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกเองได้ แล้วก็มีน้องหนูคอยซัพพอร์ตตลอด ทางแม่แฟนก็จะคอยช่วยเลี้ยงลูก และลูกๆก็รับรู้เรื่องนี้แล้วด้วย ใจหนูตอนนี้ไม่อยากรอแล้ว เพราะหนูรับไม่ได้ กลัวว่าวันนึงมันจะเกิดขึ้นอีก แล้วถ้าวันนึงกลับมาดีกับเขา แผลที่มันอยู่ในใจหนูมันจะอยู่กับหนูตลอด แล้วหนูจะมองหน้าเขายังไง หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูจะทำยังไงดี ควรรอดีมั้ย?’ ดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาในทางเดียวกันว่า ‘พวกพี่คิดว่าควรมูฟออน ไปต่อ ไม่รอแล้ว ไม่รู้จะรอไปเพื่ออะไร ถ้าเป็นคดีอื่นก็อาจจะเข้าใจ แต่นี่มันคดีข่มขืน เป็นคดีอาชญากรรม มันไปทำร้ายผู้หญิงอีกคนนึงด้วย ขนาดสมยอมระหว่างกันเรายังรับไม่ได้เลย แต่นี่เขาไม่ได้สมยอมด้วย ถึงใจมันจะอยากรอ แต่ไม่รู้โทษมันจะยาวนานแค่ไหน เพราะกฎหมายที่จีนน่าจะแรงมาก คงมีสิทธิ์ถึงตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดว่าไม่อยากรอ แล้วเราเลี้ยงลูกได้เอง ก็ไปต่อส่วนแม่เขา ถ้าเป็นคนดี ช่วยเลี้ยงหลานได้ก็อยู่ด้วยกันไป เพราะพ่อแม่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเขายังดีกับเราอยู่ พี่ๆว่าเราก็อยู่กันได้นะ แล้วถ้าลูกเขากลับมาก็ให้เขารับผิดชอบชีวิตกันเองต่อ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1