หนูทำงานมา 5 อาชีพ ทุกที่ประเมินไม่ให้ไม่ผ่านงานเลย จนตอนนี้กลายเป็นเด็กจบใหม่ ที่รู้สึกหมดกำลังใจในการมองหางาน จะสร้างความมั่นใจยังไงให้ตัวเองดีคะ? ตอนนี้มันรู้สึกเฟลไปหมดเลย

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูทำงานมา 5 อาชีพ ทุกที่ประเมินไม่ให้ไม่ผ่านงานเลย จนตอนนี้กลายเป็นเด็กจบใหม่ ที่รู้สึกหมดกำลังใจในการมองหางาน จะสร้างความมั่นใจยังไงให้ตัวเองดีคะ? ตอนนี้มันรู้สึกเฟลไปหมดเลย

07 ก.พ. 2025

            “คุณปอ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาการทำงาน เปลี่ยนมาหลายที่แต่สุดท้ายก็โดนประเมินไม่ผ่าน

            โดย “คุณปอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยย่านบางเขน และกำลังหางานประจำอยู่ หนูลองสมัครงานหลายประเภท ทั้งพาร์ทไทม์ ผู้ช่วยครู และงานราชการ แต่ไม่ว่างานไหนก็รู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ชอบ พอทำไปสักพักก็ไม่แฮปปี้ ต้องลาออกเอง หรือบางครั้งก็ไม่ผ่านการประเมินงาน ตอนนี้หนูว่างงานได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ผ่านงานมา 5 - 6 ที่ แต่ก็ยังไม่เจองานที่ใช่ ก่อนหน้านี้ เคยทำงานเลขามา 5 เดือน แต่ล่าสุดทำงานธุรการโรงเรียนได้ 1 สัปดาห์ก็ถูกประเมินว่าไม่ผ่านการฝึกงาน เขาได้ให้เหตุผลที่ว่า หนูติดโทรศัพท์ ยังทำงานเอกสารไม่คล่อง และช่วยงานองค์กรได้น้อย และหนูเคยลาออกจากงานเลขา เพราะบริษัทกำลังจะ Lay off พนักงาน หนูเลยลาออกเอง แต่ในงานผู้ช่วยครูและธุรการ หนูโดนประเมินว่าไม่ผ่าน ตอนทำงานเป็นผู้ช่วยครูที่โรงเรียนเด็กเล็ก หนูโดนตำหนิว่าเข้ากับเด็กได้ยาก และผู้ปกครองให้ฟีดแบคว่าหนูดูหน้าตึง ทำให้เด็กกลัว หนูรู้ตัวว่าไม่ค่อยเหมาะกับงานนี้ แต่ก็สมัครเพราะอยากลองพัฒนาตัวเอง จนสุดท้ายก็รู้ว่ามันไม่ใช่

            นอกจากนี้ เคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านชา แต่ทำได้เพียงวันเดียวก็ถูกประเมินว่าไม่ผ่าน เพราะทำงานช้า ไม่ทันลูกค้า ทางร้านจึงให้หยุดทำต่อ หนูเป็นคนที่ค่อนข้างเฉื่อย ทำงานช้า ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคในการทำงานและการสมัครงานครั้งต่อ ๆ ไป หนูเลยอยากขอคำปรึกษาจากพี่ๆดีเจว่า สามารถแนะนำงานที่เหมาะกับหนูได้หรือเปล่า? เพราะตอนนี้หนูยังว่างงานอยู่ และไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี รวมถึงจะมีวิธีแก้ไขนิสัยส่วนตัวของหนูได้บ้างไหมคะ?

            เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ลองเสพคอนเทนต์ที่ต้องใช้พลังงานเยอะ ๆ ดูว่าคนเหล่านั้นมีเอนเนอจี้ในการใช้ชีวิตยังไง หรือฟังไลฟ์โค้ช พอดแคสต์ หรือเสิร์ชหาวิธีเพิ่มเอนเนอจี้ให้ตัวเอง พี่เชื่อว่าถ้าปอได้เจองานที่ตัวเองชอบจริง ๆ ปออาจจะรู้สึกสนุกและอยากไปทำงานเองโดยไม่ต้องฝืน’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้ปอยังไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้นให้ต้องดิ้นรน แต่ถ้าปอไม่ปรับตัว สุดท้ายจะไม่มีทางได้งาน และจะโดนประเมินไม่ผ่านแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งจะไม่มีกิน ปอลองคิดดูว่าตอนนี้เศรษฐกิจเป็นยังไง คนโดน Lay off ไปเยอะขนาดไหน เด็กจบใหม่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรายังมีเอนเนอจี้แบบนี้ก็ไม่มีทางรอด ไม่มีใครมาบังคับปอได้ นอกจากตัวปอเองที่ต้องหาทางทำให้รอดให้ได้’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ข้อเสียของปอเป็นข้อเสียที่ทำให้หางานยากมาก ถ้ายอมรับว่าตัวเองเฉื่อย การเป็นลูกน้องก็ลำบาก ออกมาทำธุรกิจเองก็ไม่รอดเหมือนกัน สิ่งเดียวที่ช่วยได้คือต้องหางานที่สนุกและรักมันจริง ๆ เพื่อให้ตัวเองมีแรงฮึด หรือถ้ายังไม่เจอ ก็อย่ายอมแพ้ หาไปเรื่อย ๆ เพราะนี่เป็นแค่ก้าวแรก หางานแรก ๆ อาจยังไม่ใช่สิ่งที่ชอบ แต่อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าอะไรไม่ใช่ แล้วใช้เป็นแนวทางหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเองต่อไป’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ไม่คิดว่าจะเป็นลุงตัวเอง ! ทำยังไงดีลุงหนูชอบทำตัวเป็น มนุษย์ลุง ด่าคนไปทั่ว พูดจาไม่ดี เคยไปร้านอาหาร นั่งหน้าพัดลม สั่งน้ำมูกกระเด็นติดคนด้านหลัง พอเขาเดินมาเตือน ก็ด่ากราดเขาอีก กลัวว่าสักวันเขาจะเจอคนจริงเข้า หนูควรเตือนหรือปล่อยไปเลย

31 พ.ค. 2024

ไม่คิดว่าจะเป็นลุงตัวเอง ! ทำยังไงดีลุงหนูชอบทำตัวเป็น มนุษย์ลุง ด่าคนไปทั่ว พูดจาไม่ดี เคยไปร้านอาหาร นั่งหน้าพัดลม สั่งน้ำมูกกระเด็นติดคนด้านหลัง พอเขาเดินมาเตือน ก็ด่ากราดเขาอีก กลัวว่าสักวันเขาจะเจอคนจริงเข้า หนูควรเตือนหรือปล่อยไปเลย

“คุณบิว (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก’ เกี่ยวกับปัญหาอยากตักเตือนมนุษย์ลุง โดย “คุณบิว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีลุงคนหนึ่ง เป็นคนที่อารมณ์ร้อน บางครั้งการพูดของแกก็จะดูเป็นการบูลลี่คนอื่น แต่หนูก็ไม่รู้ว่าแกจะรู้ตัวหรือไม่ จนมีเหตุการณ์นึงที่หนูรู้สึกว่ามันหนักแล้ว เหตุการณ์ก็คือ เมื่อประมาณ 10 วันที่แล้วหนูไปงานแต่ง ซึ่งมีแม่ หนู และลุงอายุ 67 ปี ในงานจะนั่งโต๊ะจีน โต๊ะละ 10 คน สักพักนึงก็จะมีผู้หญิงอายุประมาณ 60 กว่าๆ มาขอนั่งแชร์โต๊ะด้วย นั่งข้างหนู หลังจากนั้นก็มีคนมานั่งเรื่อยๆจนครบ 10 คน และพิธีการก็เริ่มไป งานเลี้ยงตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงตรง ก็จะมีคนที่พ่อแม่ของบ่าวสาว ให้เกียรติขึ้นไปอวยพร ซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ พออวยพรเสร็จ ปกติงานอื่นๆมีมอบของที่ระลึก แม่ก็เลยถามว่า เอ๊ะ งานนี้เขาไม่มอบหรอ เพราะว่าพอพูดเสร็จก็เชิญลงไปพักผ่อนเลย หนูก็เลยแบบ เขาคงลืมแหล่ะแม่ แล้วลุงหนูอยู่ๆก็พูดขึ้นมา เขาเชิญมาก็บุญแล้ว ที่เขายังให้ความสำคัญอยู่ หนูก็อึ้งมากเลย เพราะว่าแกพูดต่อหน้าคนบนโต๊ะ 10 คน ซึ่งหนูนั่งห่างกับแกที่มีแม่นั่งขั้นกลาง ยังได้ยินชัด แล้วหนูคิดว่าคนอื่นที่เป็นแขกในงานเขาก็ต้องรู้จัก ไม่พ่อก็แม่ของบ่าวสาว หนูก็แบบ อึ้งว่าแกพูดไปได้ยังไง แกก็ดูเหมือนไม่สลด หนูก็เลยหันไปบอกแม่ แม่ก็บอกลุงว่า พี่อย่าพูดแบบนั้น แล้วก็นั่งไปจนจบงาน หลังจากนั้นป้าคนที่นั่งข้างหนูเขาก็บอกว่า เดี๋ยวขอตัวก่อนนะคะ พอดีสามีโทรตามไปอีกงานแล้ว แล้วเขาก็เอียงตัวมาหาหนูพุูดเบาๆว่า สามีพี่คือคนที่ขึ้นไปอวยพรเมื่อตะกี้ แต่เขาจงใจพูดให้หนูได้ยิน คือหนูก็แบบ ทำยังไงดีนะ แล้วหนูก็เก็บเรื่องนี้จนถึงบ้าน แล้วอยู่ๆแม่ก็พูดกับลุงขึ้นมาว่า วันนี้พี่ไม่ควรพูดแบบนั้นเลย เพราะคนที่นั่งในโต๊ะเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง แล้วลุงก็พูดเสียงดังด้วย หนูก็เลยเล่าประโยคที่ผู้หญิงคนนี้พูดกับหนูให้แม่ฟัง แล้วแม่ก็แบบ โอ๊ะ ตายละ และก็ยังมีเหตุการณ์พีคๆอีก วันนั้นหนูไปทานก๋วยเตี๋ยว หนูนั่งฝั่งเดียวกับแม่ ลุงแกนั่งตรงข้าม แล้วทีนี้พัดลมเป่าจากข้างหลังหนู แล้วเป่าไปก็ต้องผ่านแก แล้วแกมีอาการไอและเป็นหวัด ปกติเราก็ต้องเอาทิชชู่มาปิดตอนไอหรือเป็นหวัด แต่แกดันไอแล้วสั่งน้ำมูกไป แล้วลมมันก็พัดพอดี ไปโดนคนข้างหลัง แล้วคนข้างหลังก็เหมือนบ่นอะไรไม่รู้ แต่ประมาณว่า คุณสั่งน้ำมูกแล้วมันกระเด็นมาโดนฉัน แกเลยหันไปเหมือนจะหาเรื่อง ทำให้หนูอดกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นไปครึ่งปี พอชวนลุงไปลุงก็บอกว่าไม่ไป ไม่อร่อย ไม่อยากกินร้านนี้ ไม่กล้าไปกินเลย หลังจากนั้นหนูก็มาคุยกับแม่ว่า ถ้าเราจะปล่อยลุงเป็นอย่างงี้ แล้วไม่รู้ว่าแกรู้ตัวมั้ยว่าการพูดเเบบนี้ทำให้คนที่อยู่ด้วยอึ้ง และคนที่ไม่รู้จักก็มองลุงไม่ดี แล้วถ้าวันนึงเจอคนที่เอาจริง เอาเรื่องมาจะทำยังไง หนูเลยบอกแม่ว่า หรือเราควรสะกิดเวลาที่ลุงมีพฤติกรรมแบบนี้ แม่หนูบอกว่า อย่าเลย แกดึงดัน เถียงไปก็ไม่ชนะหรอกลูก ก่อนหน้านี้เขาก็เป็น แต่เป็นน้อยกว่านี้ ภรรยาเขาก็มองเวลาเขาพูดแบบนี้ แต่ก็ตามๆ คือหนูอยากรู้ว่า หนูควรพูดเตือนใน ณ ขณะนั้นดี หรือว่า อยู่ๆไปพูดกับลุงทีหลัง มันจะแปลกๆมั้ยคะ’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่ พี่ไม่พูด เพราะว่าพี่ไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยน และพี่ก็ไม่คิดว่า เขาจะมาเห็นความสำคัญของพี่ ที่เขาจะเปลี่ยนอะไร ถ้าเป็นแม่พี่ พี่จะพูด แต่นี่เป็นลุงพี่ไม่พูด พูดไปพี่คิดว้าเขาไม่เปลี่ยนนะถ้าทำมาขนาดนี้ ถามว่าเขารู้ตัวมั้ย พี่ว่าเขารู้แหล่ะ แต่เขาก็คือ ก็รู้แล้ว กูก็จะทำ จนกว่าเขาจะเจอของแข็ง เขา 67 ปี แล้ว ถ้าวันไหนเขาเจอของแข็ง มันก็จะเป็นบทเรียนของเขา ก็เพราะลุงทำตัวแบบนี้ไง เขาไม่ใช่คนไม่มีสติ กินเหล้าเมา หรืออะไรอย่างงี้ เขาพูด เขารู้ เขามีสติทุกอย่าง เพียงแต่มันเป็นนิสัยของเขาที่เขาปากไวแบบนั้น คนที่จะเตือนเขาก็คือเมีย และลูกเขา หรือไม่ก็แม่บิว สำหรับพี่คิดนะ บิวไม่จำเป็นต้องพูด นอกจากสมมติอย่างเรื่องก๋วยเตี๋ยว พี่คิดว่าบิวไม่ต้องไปยอมไม่ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นนะ ถ้าจะไป แล้วทำไมลุงต้องมาห้ามไม่ให้หนูไปกินละ แล้วถ้าแกบอกว่า ”ก็วันนั้นลุงไปทะเลาะกับเขา“ เราก็บอกไปเลย ก็ลุงไปสั่งขี้มูกโดนเขา ลุงควรที่จะขอโทษเขาสิ แบบนี้ มันจะได้มีเรื่องที่ทำให้พูด แต่พี่จะไม่อยู่ๆไปพูดว่าแบบ ”ลุง หนูว่าลุงเป็นคนพูดไม่คิด“ พี่ว่าจังหวะมันไม่ได้ มันงงอะ และคิดว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่แก้ไข’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่คิดว่าพูดแล้ว จะมีผลดีขึ้นมา ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนอะไรเขาได้ ยิ่งอายุเยอะจะยิ่งหนักขึ้นด้วย ถ้าอยากจะพูดจริงๆ ลองได้ แต่พี่ค่อนข้างอยากจะการันตีแทบจะ 100% ว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าอยากพูด พูดหลังจากเหตุการณ์นั้นได้ แต่ไม่ใช่สดๆร้อนๆ รอออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวก่อน ขึ้นรถแล้วพูดว่า พูดแบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวทัวร์ลงนะ เอาเป็นว่าคนรุ่นเราจะเปลี่ยนตัวเองยังยากเลย ขนาดเรารู้ว่าสังคมมันเป็นยังไง บางทีข้อเสียของเราก็ยังเปลี่ยนกันยากเลย นี่เขาอยู่มาจะ 70 ปี นิสัยมันคงฝังลึกไปแล้วแหล่ะ ยิ่งอายุเยอะมันจะคิดน้อย พูดมาก อย่าไปอยู่กับเขามาก เวลาเสียมันไม่ได้เสียที่เขาคนเดียว มันเสียทั้งตระกูล เสียทั้งกลุ่ม’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็อย่างที่รู้เเหล่ะ ไม้แก่ดัดยาก แต่มันต้องพูดนะ บอกเขาว่า เอาวัน เดือน ปีเกิดของลุงไปดูมาละ ชาติที่แล้วลุงฆ่าเป็นอย่างทรมานเพื่อเอาปากเป็นมากิน ชาตินี้ปากลุงเลยไม่ดี ฉะนั้น เมื่อไหร่ลุงอยากเจริญ ลุงต้องพูดดีๆ แล้วไปหาลิปมันสาลิกาที่หมอดูเขาลงมาทาปากบอกเขาไปว่า ถ้าทาปากแล้วให้พูดแต่สิ่งดีๆ แล้วสิ่งดีๆจะเข้ามาหาตัวลุง บางทีเรื่องไสยศาสตร์ อาจจะช่วยได้ และไปไหนมาไหนกับเขาน้อยลง ให้เขารู่ว่าเขาไม่น่าคบหา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นสาวสอง อายุ 18 ค่ะ เจอผู้ชายคนนึง เขามาจีบหนู คบกันได้เดือนนึง เขาบอกว่าจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้าน แต่ที่บ้านเขาไม่โอเคกับสาวสอง เพราะแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้เคยไปหลอกเค้ามา เค้าเลยบอกว่าขอเลิกกับหนูเพราะที่บ้านไม่โอเค

11 ต.ค. 2024

หนูเป็นสาวสอง อายุ 18 ค่ะ เจอผู้ชายคนนึง เขามาจีบหนู คบกันได้เดือนนึง เขาบอกว่าจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้าน แต่ที่บ้านเขาไม่โอเคกับสาวสอง เพราะแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้เคยไปหลอกเค้ามา เค้าเลยบอกว่าขอเลิกกับหนูเพราะที่บ้านไม่โอเค

หนูเป็นสาวสอง อายุ 18 ค่ะ เจอผู้ชายคนนึง เขามาจีบหนู คบกันได้เดือนนึง เขาบอกว่าจะพาไปเปิดตัวกับที่บ้านแต่ที่บ้านเขาไม่โอเคกับสาวสอง เพราะแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้เคยไปหลอกเค้ามาเค้าเลยบอกว่าขอเลิกกับหนูเพราะที่บ้านไม่โอเค หนูควรขออีกสัก 2 ปี แล้วกลับไปทักเขาดีไหมคะ? “คุณเนเน่ (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเราเป็น LGBTQ+ คบกับผู้ชายคนนึง เเต่พ่อเเม่แฟนไม่ชอบเราเลยต้องเลิกคุย ควรรอเขาดีมั้ย? โดย “คุณเนเน่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้หนูทำงานเป็นเซลล์ ได้ไปเจอผู้ชายคนนึงในแอป ๆ นึง เขาอายุ 29-30 ปี คุยกันจนได้มาอยู่กัน อยู่กินกันมาด้วยกันอะไรเเบบนี้เหมือนแฟนคนนึง คบกันได้ซักพักไม่ถึงปี โดยส่วนตัวหนูเป็นสาวสอง ตอนแรกครอบครัวเขาไม่รู้ว่าเขาคบกับหนู มีวันนึงตัวผู้ชายเขาจะพาหนูไปพบกับครอบครัวเขา เขาก็ได้บอกกับพ่อเเม่เขาว่าจะพาเราไปหานะ เเล้วก็ได้โทรกลับมาหาเราบอกว่า พ่อแม่เขาไม่โอเคนะที่เราเป็นสาวสองอะไรเเบบนี้ หนูต้องการอยู่กับเขาเเต่ตอนนี้เขาเลิกคุยกับหนูไปแล้วได้ประมาณครึ่งเดือน ก่อนหน้าที่จะเลิกกันเขาบอกว่าไม่อยากทิ้งหนูไปไหน ยังอยากอยู่กับหนู เเต่เหมือนเขาเลือกครอบครัว พ่อแม่เขาบอกว่าอายุก็ต่างกัน อายุเท่านี้จะไปทำงานอะไรได้ ดูเเลลูกเขายังไงได้ เเละเขาก็บอกว่าถึงเราคุยกันไปก็ไม่ได้คบกันอยู่ดี ซึ่งก่อนหน้านั้นลูกเขาเคยมีแฟนเป็นสาวสองมาก่อน เเต่เหมือนแบบไปหลอกลูกชายเขา หลอกเงิน หลอกอะไรเเบบนี้ ตัวเขาก็เลยไม่โอเคกับการที่ให้ลูกชายเขามีแฟนเป็นสาวสองอีกครั้ง เพราะกลัวเราจะไปหลอกเขาอีก หลังจากที่เลิกคุยกันก็มีการติดต่อกันนิดหน่อย ประมาณว่าทำอะไร เป็นยังไงบ้าง เเล้วเหมือนหนูจะทักไปหาเขาอีกเขาก็บอกว่าไม่อยากให้เราทักไปอีก กลัวลืมเราไม่ได้เเล้วก็ขอบล็อค หนูลืมเขาไม่ได้หรอกเพราะสำหรับหนูเขาเป็นผู้ชายที่ดีที่หนูเจอมา ถ้าเกิดคนเขารักเราจริงเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเรา มันมีอยู่วันนึงรถพ่อของเขาเสียกลางทางด่วน เเล้วเหมือนเขาเงินไม่พอเลยทักมายืมเรา เราก็เลยโอนไปให้ทันที หนูก็อยากรู้ว่า เฮ้ย! เราก็อยากรู้ว่าเราก็เคยช่วยพ่อเธอนะ ทำไมเธอไม่ลองคุยกับเขาว่าเราก็มีข้อดีนะ ตอนนั้นโอนไป 2 ยอด เป็นยอดรวม 5,000 บาท ตอนนี้เขาก็โอนคืนเเล้วเเต่คืนไม่หมดยังเหลืออีกนิดหน่อย เเต่เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะตอนที่เขามาหาเราเขาพาไปเลี้ยงข้าวเงี้ย เราก็ไม่เคยออกเองซักบาท หนูว่าจะเริ่มต้นใหม่ พยายามคุยกับคนอื่นเเต่ก็ไม่มีใครดีเท่าเขา ก็เลยอยากปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนว่าอีก 2 ปีบรรลุนิติภาวะเเล้ว หนูควรรอเขาอีกดีมั้ย?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องถามว่าการรอของเนทรมานรึเปล่า ถ้าเรายังไม่ได้เจอไปเจอใครใหม่ มันก็เป็นสิทธิ์ของเราที่จะอยู่ไปแบบนี้ รอเขาอยู่เงียบ ๆ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับความฝันนี้ได้ ถ้าชีวิตมันไม่ทรมานมาก คนเรามันรอได้อยู่เเล้วเเต่อย่าไปรบกวนเขา เเล้วลองดูพอเราโตขึ้น มีงานมีการเป็นหลักเป็นฐานมากขึ้น บ้านเขาจะเปิดรับเราอย่างที่เราคิดมั้ย เเต่เตือนตัวเองนะว่าผลลัพธ์มันจะออกมายังไงก็ได้ เขาอาจจะยังไม่ได้ชอบเราเหมือนเดิม 2 ปีอาจจะสูญเปล่าก็ได้ ก็เตือนตัวเองนะว่ามีสิทธิ์ผิดหวัง’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ’ไม่น่าลงทุนต่อ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีอะไรดีขึ้นในการรอ เพราะคบกันไม่ถึงเดือน ยังไม่มีความผูกพัน ยังไม่มีความรักเกิดขึ้นก่อตัวขึ้นมา การรอของเนเน่ถ้ามีความสุขก็รอไป เเต่คุณเเม่คิดว่าอย่าเอาใจไปเล่นทั้งใจเลยว่าจะรอผู้ชายคนนี้ ตามหาสิ่งที่ใช่สำหรับเรา อะไรที่ไม่ใช่เทได้นะ ไม่ใช่ไม่มีใครดีเท่าเขา เเค่เรายังไม่เจอ ช่วงเวลาสั้น ๆ มักจะหอมหวานเสมอมันยังไม่ใช่ ถ้าเริ่มต้นเเค่เนี้ยเเล้วเทเราอะ ไม่ต้องรอเขาไม่ได้ควรค่า’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ’การที่เราคบกันไม่ถึงเดือนเเล้วเขาพาเราไปเปิดตัวกับพ่อเเม่ คิดว่ามันสมเหตุสมผลมั้ย อย่าลืมนะเขาบอกมาเเล้วว่าเขาเคยมีแฟนเป็นสาวสอง พ่อแม่เขาก็ไม่ชอบ คนปกติก็ยิ่งระวังตัวนะว่าอย่าเพิ่งให้พ่อแม่รู้ เขาอยู่กับหนู 2 คนสบาย ๆ ในห้องก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องให้พ่อแม่ตัดสินเลยอยู่ด้วยกันถ้าเขาชอบหนูรักหนู ลองนิ่ง ๆ คิดดูว่าสิ่งที่เขาทำมันสมเหตุสมผลหรือเปล่า ถ้าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องจริง พี่ว่ามันก็ยากมากเหลือเกินที่หนูจะไปทำให้เขาไม่ชอบ ในเมื่อเราเกิดมาแบบนี้อ่ะ หนูอายุเท่านี้หนูมีความสุขกับชีวิตดีกว่า หนูควรจะเจอคนที่น่ารักกับหนูอ่ะ ยุคนี้มีพ่อแม่มากมายที่เขาโอเคที่ลูกเขาจะมีแฟนเป็นสาวสอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูหมั้นกับแฟน มั่นใจในรักครั้งนี้ ก็ตัดสินใจท้องกับแฟน แต่เพิ่งรู้ว่ามีผู้หญิงอีกคนก็ท้องกับแฟนหนูเหมือนกัน พอถามแฟน แฟนบอกว่าถ้าจะต้องเลือกคนใดคนนึง ขอเลือกตัวเองดีกว่า หนูจะทำยังไงต่อไปดีคะ?

13 ก.ย. 2024

หนูหมั้นกับแฟน มั่นใจในรักครั้งนี้ ก็ตัดสินใจท้องกับแฟน แต่เพิ่งรู้ว่ามีผู้หญิงอีกคนก็ท้องกับแฟนหนูเหมือนกัน พอถามแฟน แฟนบอกว่าถ้าจะต้องเลือกคนใดคนนึง ขอเลือกตัวเองดีกว่า หนูจะทำยังไงต่อไปดีคะ?

“คุณตาล (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (11 ก.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาหมั้นกับแฟนเลยปล่อยท้อง แต่จับได้ว่าแฟนไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องเหมือนกัน โดย “คุณตาล (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาเกือบ 3 ปี เขาดีกับหนูทุกอย่างจนทำให้หนูไว้ใจเขา และช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเขาบอกหนูว่า เขาอยากมีลูก ด้วยความที่พวกเรามีแพลนที่จะหมั้นกัน หนูจึงตัดสินใจว่า ถ้าอยากมีหนูก็จะมีให้ พอผ่านมาไม่กี่เดือน ก็รู้ว่าตัวเองท้องตามที่อยากได้ เราดีใจมากบอกพ่อแม่เขา แล้วก็พาหนูไปฝากครรภ์ พอหลังจากนั้นประมาณ 2 - 3 วัน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง แอดเฟซบุ๊กหนูมา หนูจึงเข้าไปดูด้วยความสงสัยว่าเป็นใคร ทำไมถึงแอดมา พอเข้าไปดูสตอรี่ที่เขาตั้งเอาไว้ ก็ได้เห็นว่าเขาอยู่กับแฟนเรา ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาๆ เป็น 10 อัน หนูจึงไปถามแฟนว่า “คนนี้คือใคร ทำไมถึงอยู่ด้วยกัน” แฟนหนูก็ยอมรับแต่โดยดีว่า “เขาคุยกับผู้หญิงคนนี้อยู่” หนูทั้งโกรธ และตกใจ คือเขามีคนอื่นก่อนหนูท้องอยู่แล้ว แต่ที่ให้หนูตั้งท้องเพราะเขารู้ว่า ถ้าหนูท้องแล้วจับได้ว่าเขามีคนอื่น หนูก็ต้องให้อภัยเขาอยู่แล้ว หลังจากนั้นหนูก็คุยกับเขา หนูก็ให้โอกาสเขาปรับปรุงตัว แล้วก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้น พอหลังจากนั้น 3 - 4 เดือน หนูเข้าไปส่องเฟซของผู้หญิงคนนั้น ก็เห็นว่าเขาโพสต์ว่าเขาท้อง หนูก็สงสัยว่าเขาท้องกับใคร ก็เลยไปถามแฟน ตอนแรกแฟนไม่ยอมรับ พอหนูเค้นถามไปเรื่อย จนเขายอมรับว่า “เขากำลังไปคุยกัน เพราะผู้หญิงคนนั้นขู่ว่า ถ้าแฟนของหนูไม่กลับไปคบกับเขา เขาจะฆ่าตัวตาย” แฟนหนูเลยยอมกลับไปคบกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผู้หญิงคนนั้นที่ท้อง ก็ท้องกับแฟนหนู ตอนนี้ท้องประมาณ 2 - 3 เดือน หลังจากนั้น แฟนก็มาขอโอกาสหนู เขาบอกว่า “ถ้าให้เลือก เขาเลือกหนู เขาตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นได้ แต่เขาตัดขาดจากลูกไม่ได้” ซึ่งหนูเลยบอกว่า “ถ้าให้อยู่แบบนั้น หนูไม่โอเค” แล้วคำตอบที่ได้มาจากเขาคือ “งั้นขอไม่เลือกใคร จะอยู่คนเดียวเอง” ตอนนี้คือพ่อแม่ของหนูอยากให้หนูกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด หนูคิดว่าจะกลับบ้าน แล้วหนูก็คิดว่า ต่อให้กลับไปคืนดีกับเขาก็คงทำไม่ได้ เพราะหนูหมดความเชื่อใจเขาไปหมดแล้ว หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูควรมูฟออนจากตรงนี้ยังไงดีคะ?’ เริ่มจาก “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ในภาวะของคนเป็นแม่จะมีฮาร์โมนอะไรบางอย่างที่ฟุ้งซ่าน และเป็นความกังวล พอเป็นลูกคนแรกตาลอาจจะคิดว่า เวลานี้เราไม่ควรอยู่คนเดียว แต่ในการที่พี่ได้คุยกับตาล ตาลเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ค่อนข้างแน่วแน่ ซึ่งตอนนี้เหมือนตาลได้ตัดแฟนที่เป็นเนื้อร้ายอออกไปได้ 1 ก้อนแล้ว ทีนี้เราต้องอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะเกิดซึ่งคือลูกของเรา พี่อยากให้ตาลมีความสุขและสนุกกับสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะเกิดมา ให้มีความสุขกับการรอคอยว่าเมื่อไหร่เขาจะเกิด ตัดไปเลยว่าการมีความสุขไม่ต้องมีผู้ชายคนนั้น ยิ่งตัดผู้ชายคนนั้นออกไปได้เท่าไหร่จะยิ่งดี ความสุขของตาลจะหดหายก็ต่อเมื่อตัดเขาไม่ขาด เขาจะวุ่นวายจนทำให้ตาลรู้สึกลังเล ในมุมของพี่ พี่อยากให้ตาลกลับไปอยู่กับที่บ้านกับพ่อแม่ แล้วรู้สึกว่า ”เราไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ตอนนี้เราอยู่กับคนที่รักเราทั้งหมดเลย คนที่ไม่รักเรา คนที่เห็นแก่ตัว คนที่พูดจาโกหกใส่เรา มันออกไปแล้ว” แล้วถ้าระหว่างนี้ตาลรู้สึกว่าเหงา ฟุ้งซ่าน หรืออยู่คนเดียว ตาล Direct มาหาพี่เลย เดี๋ยวพี่จะเป็นเพื่อนคุยกับตาล ทำยังไงก็ได้พี่หอมไม่อยากให้ตาลกลับไป พี่อยากให้ตาลมีความสุข อีกไม่กี่เดือนน้องจะเกิดมาแล้ว ”เราจะซื้อของอะไรไว้ดี เราจะสอนอะไรเขาดี” อย่าให้ใครมาทำลายความสุขเรา คนที่เขามาเพื่อทำร้ายเรามันจะออกไปแล้ว อดทนอีกนิดนึง เมื่อไหร่ที่มันออกไป วันนั้นจะไม่มีอะไรกวนใจตาลได้เลย’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘วิธีที่ตาลจะมูฟออนคือโฟกัสกับตัวเองและลูกเลย หลังจากที่เราโชคร้ายเจอคนที่ไม่ดีคนนี้ จากนี้ไปมีจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตาลจะตั้งใจเลี้ยงลูกโดยมีคุณตาคุณยายช่วยเลี้ยงเขามาให้ดีที่สุด แล้วลูกก็จะออกมาเป็นคนดีที่ไม่ทำตัวเหมือนพ่อ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจ และพร้อมรับให้ตาลกลับบ้านเสมอ กลับไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่เริ่มใหม่ ดูแลตัวเอง อีก 3 เดือนก็จะได้เจอเขาแล้ว ถ้าเป็นพี่พี่จะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด ให้เขาไม่ทำผู้หญิงคนไหนเสียใจ เขาจะไม่มีวันทำแบบนี้กับสิ่งที่พ่อทำกับแม่เขา เอาให้พ่อในอนาคตมาเห็น มันละอายใจตัวเอง เราต้องยืนอย่างสง่า กับลูก กับตา กับยาย’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้ความคิดเห็นต่อว่า “ผู้ชายคนไหนที่ทำร้ายภรรยาในขณะที่ท้องอยู่ ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ พี่ให้เป็น 1 ในเคสที่ไม่น่าคบหามากที่สุด พี่ว่ามันเกิดกว่าจะให้โอกาส ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้โอกาส หรืออยู่กับเขาต่อ แถวเขายังหลอกให้ตาลท้องอีก ใจร้ายมาก เห็นด้วยกับพี่หอมเลยว่า การเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เปลี่ยนบรรยากาศ กลับไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่น่าจะดีที่สุด อย่างน้อยยังมีคนที่ช่วยเลี้ยงน้อง แล้วอยากให้ตาลรู้เสมอว่า ด้วยฮอร์โมนจากการคลอด ไม่ว่าจะเศร้าอยู่ หรือปกติ ก็มีโอกาศที่จะเป็นซึมเศร้าหลังคลอด แต่ให้คิดว่า ถ้ามีผู้ชายคนนี้อยู่อาจจะหนักกว่านี้ก็ได้ พี่คิดว่าตาลเป็นคนฉลาด และรู้ว่าควรเลือกสิ่งไหนให้ตัวเองและลูก แล้ววันนี้ตาลได้เลือกแล้ว ด้วยความมั่นใจและเด็ดขาดในการตัดสินใจครั้งนี้ ขอเป็นคนที่สนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ของตาล หลังจากนั้นไม่ต้องกังวลอะไรมาก แม่เลี้ยงเดี่ยวเก่งๆมีเยอะมากมากในวยุค จงเชื่อว่าเราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราและลูกแล้วในวันนี้ คนบางคนไม่มีดีกว่ามี และดูแลสุขภาพให้ดีนอนให้ดี กินให้ดี รู้สึกอุ่นใจที่ตาลตัดสินใจแบบนี้นะ ตาลเด็ดเดี่ยวมาก พวกพี่ขอส่งกำลังใจให้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิง จะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่น

04 ก.ค. 2025

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิง จะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่น

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิงจะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่นเพื่อนคนนี้บอกว่า มาเลย นอนด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา หนูรู้สึกว่าอยากประหยัดเงิน แต่จะบอกแฟนหนูยังไงดีให้เขาเข้าใจว่าจะขออยู่ห้องเพื่อนผู้ชายคนนี้ กลัวว่าแฟนจะหึง แต่ถ้าต้องไปจ่ายค่าโรงแรมเองหนูก็คิดว่าจะรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว “คุณทราย (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ก.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องราววีซ่าเหลือ อยากเที่ยวต่อ มีเพื่อนให้พักฟรีแต่ก็ดันเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่กลัวแฟนไม่สบายใจ โดย “คุณทราย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนอยู่ประเทศญี่ปุ่น โครงการ 1 ปี เดือนหน้าจะเรียนจบแล้วแต่วีซ่ายังไม่หมดจึงวางแผนที่จะเที่ยวต่อ ซึ่งการวางแผนเที่ยวก็ต้องจองโรงแรมก่อน แต่เราก็มีเพื่อนที่ยังอยู่ญี่ปุ่นสามารถให้เราไปพักฟรีด้วยได้ แต่ประเด็นคือ เขาเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เราเป็นผู้หญิง หนูเองก็มีแฟนอยู่ที่ประเทศไทยก็เลยตัดสินใจอยู่ว่าจะจองโรงแรมดีมั๊ยหรือว่าไปนอนหอพักกับเพื่อนดี แต่ก็เกรงใจแฟนกลัวแฟนจะไม่สบายใจ ไม่รู้จะบอกแฟนยังไงดี? ปกติหนูกับแฟนมีอะไรจะปรึกษากันตลอด มาอยู่ญี่ปุ่นความสัมพันธ์ก็ยังดี แต่ช่วงนี้เขาไปเกณฑ์ทหาร ก็เลยไม่ได้ปรึกษาในเรื่องนี้ หนูอยากไปอยู่หอเพื่อนผู้หญิงก็เป็นหอในไปอยู่ด้วยไม่ได้ หนูอยากจะถาม 2 คำถามคือ 1. ในฐานะที่หนูยังเป็นนักศึกษาอยู่ยังไม่มีรายได้ของตัวเอง ควรจะอยู่หอเพื่อนหรือไปจองโรงแรมดี 2. ถ้าตัดสินใจไปพักกับเพื่อนผู้ชายจะบอกแฟนยังไงดี’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาตรงกันว่า ‘จะไปนอนที่หอพักของเพื่อนผู้ชายไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่ากรณีไหนก็ตามเพราะเขาเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง บนโลกใบนี้ผู้หญิงผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้แต่จะไปนอนค้างด้วยกันเป็นเดือนไม่ได้ หรือถ้ามีเหตุจำเป็น มากที่สุดก็ให้แค่ 1 คืนเท่านั้น หรือไม่ก็ไปหาที่พักแบบ Airbnb หรือ Hostel อะไรราคาถูกก็นอนไป อย่าดิ้นรนหรือพยายามทำอะไรเกินตัว การอยู่ต่อเพื่อที่จะเที่ยวเพราะวีซ่าเหลือ มันไม่ใช่เหตุผลจำเป็นอะไรเลย ที่สำคัญเรื่องนี้อย่าไปเอ่ยปากถามแฟนเด็ดขาดเพราะจะกลายเป็นว่าทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ เขาอาจจะระแวงเราไปเลย จากความสัมพันธ์ดี ๆ จะกลายเป็นไม่โอเค จริงอยู่ที่เราไว้ในแฟนแต่เราไม่ควรไว้ใจคนอื่นหรือใครทั้งสิ้น’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘จริง ๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องแฟนหึง แต่มันมีเรื่องความปลอดภัยของตัวเราเองเข้ามาเกี่ยวด้วย เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่ทำอะไรเรา รู้จักกันมาแค่ 1 ปีเอง ไม่มีใครการันตีได้เลย ต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย หรือสมมติว่าอยากมาหางานที่นี่ ก็ตั้งเดดไลน์ไว้ ถ้าเดือนนี้เราเช่าคอนโด แล้วต้องหางานให้ได้ภายในตอนไหน ถ้าเดือนนี้ไม่สามารถมีเงินจ่ายค่าคอนโดได้ให้บินกลับเลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1