พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เพื่อนในกลุ่มเป็น VJ ในแอปกันหมด เพื่อนบอกไม่ต้องทำไรมาก ไลฟ์วันละ 2 ชั่วโมง เดือนนึงได้หลักหมื่น โชคดีก็จะมีลูกค้าขอแอดไลน์นอกรอบ อยากได้อะไรขอให้บอก ซื้อให้หมด ไม่ต้องการอะไรเลย หนูอยากทำแต่แฟนขอไว้ว่าอย่าทำได้ไหม?

15 มี.ค. 2024

            “คุณเตย (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 มีนาคม 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาอยากทำ VJ ในแอปพลิเคชันแต่แฟนหวงไม่อยากให้เราทำ

            โดย “คุณเตย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีเพื่อนในกลุ่มที่ทำวีเจด้วยกันหลายคน บางคนเขาทำ 2-3 แอป แต่แอปที่เพื่อนทำก็มีหลายเรท เริ่มตั้งแต่การชวนคุย ไปจนถึงเรื่อง 18+ เพื่อนส่วนใหญ่ก็ทำเรทชวนคุย แต่งหน้า แต่งตัวสวย ๆ ชวนคนในแอปคุย พูดอ้อน ให้คนในแอปเปย์ของขวัญ พอหนูอยู่ในกลุ่มเพื่อนแบบนี้ เพื่อนก็จะคุยกันประมาณว่า ได้เงินเยอะ บางคนที่โชคดีก็มีคนเปย์นอกแอป คือ ถ้ามี User ที่อยากได้ไลน์หรืออยากได้อินสตาแกรมส่วนตัวของเรา เราสามารถตั้งเรทราคาเองได้ ก็จะมีการทักมาเปย์หลังไมค์ เพราะถ้าเปย์ในแอปก็จะมีการหักส่วนต่าง บางคนได้เดือนละหลาย ๆ หมื่น พอหนูได้ยินบ่อย ๆ ก็เกิดกิเลส  อยากได้เงินบ้าง...

            ต่อมาหนูได้ไปปรึกษาแฟน ซึ่งแฟนอายุน้อยกว่าหนู 2 ปี และกำลังเรียนอยู่ แฟนก็ไม่ได้ห้ามแต่ขอว่าไม่ทำได้ไหม? แฟนให้เหตุผลว่า ถ้าหนูทำเขาจะรู้สึกแย่ที่ไม่มีปัญญาเลี้ยง จนต้องให้คนอื่นมาเปย์แฟนตัวเอง หนูก็บอกว่ากับเขาว่า ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเลี้ยง หนูก็ทำงานเลี้ยงตัวเองได้ แต่หนูแค่อยากมีรายได้เสริม อยากเอาเงินส่วนนี้ไปเสริมความงาม เข้าคลินิกทำหน้า เพราะเห็นว่าได้รายได้ดี ทำแค่วันละ 2 ชั่วโมงอยู่ที่บ้านก็ได้ แฟนก็บอกว่า ได้เงินก็จริง แต่แฟนคงเสียความรู้สึก และถ้าได้เงินง่าย ได้เยอะ มันจะทำให้เราติดสบายหรือเปล่า แต่ถ้าอยากทำจริง ๆ ก็ทำได้ แต่ไม่อยากให้ทำดีกว่า แฟนก็ถามหนูว่า เขาจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า?

            ซึ่งหนูก็ได้ไปเสิร์ชและอ่านในพันทิป มีหลายคู่ที่มีปัญหากันเพราะแฟนไปทำวีเจ อีกใจหนึ่งหนูก็อยากได้เงิน แต่อีกใจหนึ่งหนูก็แคร์ความรู้สึกแฟน ก็เลยมีคำถามอยากถามพวกพี่ ๆ ดีเจ 3 คำถาม คำถามละคนเพราะอยากเห็นมุมมองของพี่ ๆ ดีเจแต่ละคน

            ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้คำถามที่ 1 คือ ถ้าแฟนพี่มาขอทำวีเจ จะให้ทำไหมและเหตุผลคืออะไร?

            โดยให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องดูก่อนว่าในโลกสมมตินั้น ข้อจำกัดในการใช้ชีวิตของพี่เดือดร้อนขนาดไหน ถ้าไม่ได้เดือดร้อนพี่ก็ไม่อยากให้ทำ แอปวีเจก็เป็นการไลฟ์สดอีกแบบหนึ่ง หรือไลฟ์สดทำอาหารในอีกแพลตฟอร์มก็มี อย่างแอปที่พี่สตรีมเกมก็มีคนมาไลฟ์แบบพูดคุย ไลฟ์ประดิษฐ์ของ พี่คงอยากให้แฟนพี่ไปทำในแพลตฟอร์มที่พี่สบายใจและแฟนก็ยังหารายได้เสริมได้ด้วย พี่มองว่าถ้ามีทางเลือกอื่นที่สามารถสร้างรายได้เสริม พี่ก็อยากให้ทำทางเลือกอื่นที่สร้างรายได้มากกว่า พี่ก็จะช่วยหาด้วย’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้คำถามที่ 2 คือ ยังไงกับคนที่ทำงานแบบนี้ แล้วคิดว่าคนทำงานแบบนี้ติดสบายไหม?

            โดยให้คำปรึกษาว่า ‘พี่รู้สึกว่างานนี้ไม่ได้สบายและยากมาก คือ 1. ต้องมีรูปร่างหน้าตาที่ดี ที่จะดึงให้คนมาดูได้ 2. ต้องมีลูกล่อลูกชนที่จะดึงคนให้กดหัวใจ และส่งของขวัญเปย์ตลอดทั้งชั่วโมง สำหรับพี่ มันไม่ใช่งานสบายที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แล้วพี่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าคนที่ทำงานนี้ติดสบาย ต้องอาศัยความตั้งใจ ลงแรงกาย ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ พี่อยากจะบอกเตยอีกว่า อย่าพึ่งคิดว่าการทำวีเจมันทำง่าย ๆ แล้วจะได้เงิน ถ้าเรายังไม่ได้ทำ มันอาจจะมีรายละเอียดอีกหลายอย่าง ที่พอเราทำแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เตยต้องถามตัวเองให้ดี ๆ ก่อน’

            และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้คำถามที่ 3 คือ ถ้าแฟนพี่มาพูดแบบนี้พี่ยังจะทำงานวีเจอยู่ไหม?

            โดยให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะดูว่าพี่ต้องทำอะไรบ้าง ถ้าให้พี่ไปเต้น พี่ก็ไม่ทำเพราะไม่ใช่ทาง พี่เป็นสายขายความสามารถ พี่ว่าเตยควรหาตรงกลางระหว่างแฟน  เช่น ทำคอนเทนต์แต่งหน้า คอนเทนต์นั่งคุยไปเรื่อย ๆ หรือ NPC แต่ถ้าเตยเลือกแฟนคนนี้ เตยต้องเลือกคอนเทนต์ที่ไม่ทำร้ายจิตใจแฟน แต่ถ้าเตยเลือกทางวีเจ พูดอ้อน ขายเซ็กซี่ เตยก็ต้องไม่มีแฟน หรือต้องมีแฟนที่ยอมรับได้ ทุกวันนี้มีวิธีหาเงินทางออนไลน์หลายวิธีมาก ขายของออนไลน์ การทำ Affiliate เตยต้องไปหาความสามารถของตัวเองให้เจอก่อน มันจะดีกว่าการแก้ผ้าแล้วได้เงิน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบสามีมา 15 ปี มีลูก 2 คน ช่วงที่เรามีหนี้ สามีลากกระเป๋าออกบ้านไปเลย สุดท้ายมีผู้หญิงอีกคน สามีบอก "เธอต้องยอมรับนะ ถ้าเธอไม่มีหนี้วันนั้น ฉันคงไม่เจออีกคนหรอก" ตอนนี้สามีอยากกลับมาหาเรา แต่ผู้หญิงคนนั้นโทรมา...

15 มี.ค. 2024

คบสามีมา 15 ปี มีลูก 2 คน ช่วงที่เรามีหนี้ สามีลากกระเป๋าออกบ้านไปเลย สุดท้ายมีผู้หญิงอีกคน สามีบอก "เธอต้องยอมรับนะ ถ้าเธอไม่มีหนี้วันนั้น ฉันคงไม่เจออีกคนหรอก" ตอนนี้สามีอยากกลับมาหาเรา แต่ผู้หญิงคนนั้นโทรมา...

คบสามีมา 15 ปี มีลูก 2 คน ช่วงที่เรามีหนี้ สามีลากกระเป๋าออกบ้านไปเลยสุดท้ายมีผู้หญิงอีกคน สามีบอก "เธอต้องยอมรับนะ ถ้าเธอไม่มีหนี้วันนั้น ฉันคงไม่เจออีกคนหรอก"ตอนนี้สามีอยากกลับมาหาเรา แต่ผู้หญิงคนนั้นโทรมา"ตอนสามีพี่อยู่กับหนูเขาก็พูดถึงแต่พี่" ขออยู่กัน 3 คนผัวเมีย “คุณเค(นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 มี.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับแฟน โดย ​“คุณเค(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งมา 15 ปี เราเป็นแฟนกันตั้งแต่หนูอายุ 17 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ตลอดเวลา 15 ปี เราก็ใช้ชีวิตของเรา มีปัญหามากมายเข้ามา เขาก็ทะเลาะวิวาท ไปติดคุก เราก็รอเขาอยู่ 3 - 4 ปี จนเดินทางมาถึงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายนปลายปีที่แล้ว หนูมีปัญหาเรื่องหนี้สิน บริหารการเงินผิดพลาด มันมาจากหนี้ก้อนเล็ก ๆ เหมือนเรายืมเงินจากเจ้านี้ไปจ่ายเจ้านู้น ก็เลยกลับกลายเป็นงูกินหาง แล้วทีนี้เขาก็มีการถามหนู แต่หนูบอกเขาไม่หมด จนวันหนึ่งเขามารู้ความจริง หนูก็คิดว่าเขาน่าจะช่วยหนูแหละ แต่เขากลับเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีในบ้านออกไป แต่การไปของเขาคือ เรายังไปมาหาสู่กัน ยังมารับไปกินข้าว ไปนอนด้วยกัน เราก็ไม่ได้เลิกขาดแต่เราแค่ห่างกัน แล้วเขาก็บอกหนูตลอดว่า เนี่ยเธอก็ไปจัดการของเธอให้เสร็จนะ แล้วเดี๋ยวเราก็กลับมาอยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เราตกลงเป็นแฟนกัน จนมาถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 วันนั้นหนูรู้สึกไม่อยากไปทำงาน เลยโทรไปถามเขาว่า อยู่ห้องหรือเปล่า? ด้วยความที่เขาออกจากบ้านไปเช่าห้องอยู่ เขาก็บอกว่า ไม่ได้อยู่ห้อง หนูก็บอกว่า ไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ต้องล็อคห้องนะ เดี๋ยวจะไปนอน เขาบอกว่า ไม่ต้องมา ออกมาแล้ว ซึ่งหนูก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง หนูก็ไปถึงปุ๊บ เห็นรถเขาจอดอยู่ หนูก็เลยไลน์ไปถามอีกว่า อยู่ห้องหรือเปล่า? เขาบอกว่า ไม่อยู่ ออกมาแล้ว หนูก็เลยถามตัวเองว่า ยอมรับได้หรือเปล่าถ้าต้องเจออะไร ก็เลยเลือกที่จะรออยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ก็คิดในใจว่าขึ้นไปดีกว่า แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็เหมือนในหนังเลย พอหนูผลักประตูเข้าไปในตัวอาคาร เขาเดินลงมาด้วยกัน 2 คนจากบันไดขั้นสุดท้ายพอดี พอเขาเห็นหนู เขาดึงมือผู้หญิงคนนั้นไว้ข้างหลังเขา หนูก็เลือกที่จะไม่พูด ไม่ถามอะไรสักคำ แล้วเดินหันหลังมาเลย หนูได้แต่บอกตัวเองว่ามันจบแล้ว และหนูก็ไม่ติดต่อเขาไปอีก จนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาไลน์มาว่า เธอพรุ่งนี้วันวาเลนไทน์นะ อยากได้อะไรหรือเปล่า? เขาอยากให้หนูเป็นครั้งสุดท้าย หนูก็ตอบไปว่า ไม่อยากได้อะไรเลย เพราะสิ่งที่ขอ ได้ขอไปหมดแล้ว ไม่เอาแล้ว เขาก็บอกว่า งั้นดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกัน หนูก็มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เช่าห้องเล็ก ๆ อยู่คนเดียว เพราะบางวันเราเลิกงานดึก เผื่อไม่ต้องกลับบ้าน ส่วนลูกอยู่กับพ่อ-แม่ของหนู วันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พอหนูขับรถจากที่ทำงานมาถึงหอพัก รถเขาก็จอดอยู่ หนูก็ตกใจว่าเขามาได้ยังไง เขาก็บอกว่า ทุกวันเขาไปแอบดูหนูที่ทำงาน แล้วก็สะกดรอยตามจนรู้ว่าหนูอยู่ที่นี่ ตลอดเวลาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เขาพูดตลอดว่า ขอเวลาได้ไหม สัญญาด้วยชีวิตว่าวันหนึ่งจะกลับมา ขอโอกาสได้ไหม? ซึ่งหนูก็บอกเขาไปว่า ให้เวลาได้แต่ไม่นานพอถึงกับไม่มีกำหนด แล้วมันคาราคาซังแบบนี้ตลอดเวลา ทุกครั้งที่เขามาหาหนู เขาก็จะพูดแบบนี้ ซึ่งหนูไม่อยากจะเชื่อในคำพูดเขาแล้ว เพราะการกระทำของเขามันทำให้เห็นชัดแล้วว่า เขาไม่กลับมาหรอก... แต่ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันมานาน ทุกครั้งที่เขาจะมา เหมือนเราใจอ่อนปล่อยให้เขามา ทุกครั้งที่หนูเริ่มที่จะอยู่ได้ พอเขามาหนูต้องเริ่มต้นใหม่อีก แต่หนูก็ได้บอกสิ่งที่ต้องการกับเขาไปแล้วว่า ถ้าคุณจะไป คุณไปจากเราได้เลย ไม่ต้องหันหลังกลับมา ซึ่งเขาก็บอกว่า เขารู้แค่ว่าเขาไม่มีวันทิ้งหนู เขาไปจากหนูไม่ได้ เขาไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่เขาก็คิดถึงหนู แต่หนูบอกว่า ไม่เป็นไร ถ้าจะไปคุณไปให้สุดเลย แต่ถ้าวันหนึ่งคุณอยากกลับมา คุณต้องมาแบบ 100% เขาก็บอกว่า ขอได้ไหมอย่าเป็นแบบนี้ ช่วยยอมรับหน่อยได้ไหมว่ามันเป็นความผิดของหนู ถ้าวันนั้นหนูไม่เป็นหนี้ ไม่มีปัญหาชีวิตแบบนั้น เขาก็ไม่ออกจากบ้านมาหรอก เราก็มีความสุขกันดี แต่วันนี้ที่เขาไปมีคนอื่นมันเป็นเพราะหนู ในเรื่องของความเป็นพ่อ เขาก็เป็นพ่อที่ดีในระดับหนึ่ง เขาส่งเงินมาให้ตลอดทุกอาทิตย์ แต่ตอนที่ลูกอยู่กับพ่อ-แม่ของหนู เราก็ไม่ได้ห่างกัน เพราะบ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน เมื่อก่อนเราทำงานกลางคืน ช่วงกลางวันลูกจะอยู่กับเรา เราจะไปส่งลูกที่โรงเรียน ไปรับลูกมาอยู่ด้วยกัน พอถึงเวลานอนแค่นั้นที่จะให้อยู่กับตายาย หลังจากนั้นเขาก็บอกว่า เขาเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เขายอมรับว่ารักผู้หญิงคนนั้น แต่รักหนูมากกว่า วันที่หนูจับได้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ทางผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาหนูว่า พี่จะเอายังไง? หนูก็บอกว่า พี่ต้องเอาสามีพี่คืนสิ เขาก็บอกว่า ไม่ให้ ก็นี่จะเอาเหมือนกัน หนูก็บอกว่า พี่ก็ไม่อยากแย่งผู้ชายกับใครนะ แม้ผู้ชายคนนี้จะเป็นสามีพี่ก็ตาม ถ้าหนูจะเอาก็เอาไปเถอะ จนเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้โทรมาหาหนูและถามว่า พี่คิดว่าเราจะใช้ชีวิตกันแบบ 3 คนได้ไหม เพราะเขาก็ยังคิดถึงพี่ พี่จะรับได้ไหม? หนูก็บอกว่า รับไม่ได้ ไปอยู่กันเถอะ หนูอยากถามว่า หนูจะทำยังไง ให้ตัวเองเด็ดขาดที่ไม่ให้เขามาหาอีก? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่มีวันทำได้ ไม่ต้องพยายาม หนูเฝ้าบอกทั้งตัวเองและพวกพี่ทั้ง 3 คนว่าหนูทำใจได้ แต่ในความเป็นจริงหนูไม่มีวันทำได้ ถ้าทำได้มันทำไปแล้ว และปลายทางที่ยังบอกเขาว่า ถ้าเธอจะกลับมาเมื่อไหร่ เธอต้องกลับมา 100% นะ แค่คำนี้ก็บอกแล้วว่าต่อให้เขาไปเลวระยำตำบอนที่ไหน กลับมาได้ทุกเมื่อ สำหรับเคก็ยอมผู้ชายคนนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ไม่มีวันที่เคจะต่อต้านอะไรเขาได้ เพราะลึก ๆ แล้วจิตใต้สำนึกเคไม่ได้จะต่อต้านเขา จริง ๆ วิธีการที่เราจะตัดใครสักคน ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าก็ตัดให้มันเด็ดขาด แต่สุดท้ายเราฟังออกว่า ใครที่มีความเด็ดเดี่ยวที่จะตัดจริง ๆ กับใครที่ไม่มีวันตัดได้ คือถ้าคนที่บอกว่าตัวเองเด็ดขาด มันจะไม่รับโทรศัพท์ด้วยซ้ำ ไม่ว่าเขาจะขอกลับมาด้วยรูปแบบไหน เขาจะไม่มีวันได้กลับมา แต่ตอนนี้กับเคมันไม่ใช่ วัดจากอายุเขาอยู่กับเรามาครึ่งชีวิต แต่เขาคือส่วนที่เลวร้ายของชีวิต ถ้าเป็นร่างกายเขาก็อาจจะไม่ต่างอะไรกับเนื้อร้าย วันหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็มีคนเอาก้อนเนื้อร้ายนั้นออกไป แต่เราเองนี่แหละที่พยายามแย่งชิงเนื้อร้ายกลับมา มันแค่นี้เอง โดยที่เราคิดว่านี่คือแฟนคนแรกที่อยู่กับเรามาครึ่งชีวิต แต่เราไม่ได้คิดว่าชีวิตฉันแย่มาครึ่งชีวิตแล้ว คำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องครบพ่อ แม่ ลูก 3 คน จำนวนของคนครอบครัวที่น้อยที่สุดคือ 2 คน ตอนนี้โรงเรียนเขาสอนเด็กทุกคนแบบนี้ หลาย ๆ ครอบครัวเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์เมื่อมีใครสักคนออกไป ลองเปลี่ยนความคิดนี้ดูใหม่ ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับมัน แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีกับชีวิต ครอบครัว และลูกของตัวเอง ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ช่วยยังไงในเมื่อปากเคยังบอกให้เขาเข้ามา พวกพี่จะทำอะไรได้ แย่งเขากลับมายังง่ายกว่าเลย เพราะผู้หญิงคนนั้นเขาเริ่มลังเลแล้วว่า ผู้ชายอยู่กับเรายังบอกคิดถึงเมียเก่า แต่สิ่งที่แย่งชิงคือ แย่งขยะกันอยู่ไง ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่สบายใจหรอก โยนกันไป โยนกันมา ขยะติดมือใครคนนั้นก็เหม็นแค่นั้นเอง แล้วก็ผู้ชายที่มีคนอื่น มีโลกสองใบ ยังจะโยนความผิดให้กูอีก เพราะว่ากูเป็นหนี้ถึงทำให้มึงมีเมียน้อยมันใช่ไหมล่ะ ตอนนี้พี่ก็เหลือแค่งัดปากเคขึ้นมาบอกว่า ไม่ให้มา ปากเคเป็นคนพูดเอง เคต้องรู้จักปฏิเสธ และขอย้ำเลยว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่ใช่พ่อ แม่ ลูกเท่านั้น ครอบครัวที่สมบูรณ์คือ การดูแลเด็กคนนี้ด้วยความรัก ความสุข ด้วยกำลังแรงกายแรงใจทั้งหมดที่เธอมี ซึ่งวันนี้เธอจะเอาความสุขไปดูแลลูกไม่ได้เลย ถ้าชีวิตเธอยังไม่มีความสุข ผู้ชายคนนี้อยู่ในชีวิต ต่อให้มันไปมีเมียน้อยก็ไม่มีความสุข กลับมาก็ไม่มีความสุข ให้ผู้คนหญิงคนนั้นไป เด็ดเดี่ยวในการพูดว่า ไม่ แล้วบล็อก ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉัน เธอไม่ได้ดีพอที่จะเป็นสามีที่ดีและพ่อของลูกฉัน ณ วันนี้ทำหน้าที่พ่อไป เพราะหน้าที่สามีสิ้นสุดตั้งแต่มีผู้หญิงคนนั้นแล้ว สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งที่พูดมันอาจจะทำร้ายความรู้สึกหนู แต่ว่าพี่อยากให้หนูมีชีวิตที่ดีกว่านี้ คำถามที่หนูถามว่า ทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้ พี่ก็จะบอกว่า ทำให้ได้อย่างที่หนูพูดกับพวกพี่ทั้งหมดตั้งแต่ต้นรายการ ถ้าหนูจำไม่ได้หนูไปเปิดฟังอีกทีก็ได้ เอาจริง ๆ หนูเป็นคนฉลาด หนูพูดเหมือนหนูรู้ทุกอย่างว่าสามีคนนี้เป็นคนแบบไหน หนูแค่ต้องทำให้ได้อย่างที่หนูรู้ด้วยการใช้สมอง เพราะพี่รู้สึกว่าทุกครั้งเวลาที่เขากลับมา หนูจะใช้ความรู้สึกอย่างเดียวเลยว่า หนูขาดเขาไม่ได้ แต่ถ้าหนูใช้สมองตามที่หนูคิด อย่างที่พูดกับพวกพี่มาทั้งหมด หนูจะบอกกับตัวเองได้ทันทีว่า หนูจะไม่ปล่อยให้คนนี้กลับเข้ามาในชีวิตเป็นอันขาด มันยากพี่เข้าใจ แต่ถ้าเราใช้เหตุผลคุยกับตัวเอง พี่ว่าหนูจะผ่านมันไปได้ การที่เขาอยู่กับเรามาตลอดครึ่งชีวิต แล้วเขาทำกับเราแบบนี้ มันยิ่งชัดเจนเหลือเกินว่า คนนี้ไม่มีค่าอะไรเลยที่เราจะต้องรักษาเอาไว้ อยากให้กลับไปฟังสิ่งที่ตัวเองพูดทั้งหมด แล้วทุกครั้งถ้าเขาจะกลับมาก็เปิดสิ่งที่พูดให้พวกพี่ฟังก็ได้ และเราเป็นคนเลือกได้นะเค ไม่ใช่เขาเป็นคนเลือก ว่าจะกลับหรือไม่กลับมาในชีวิตเรา มันเป็นสิทธิ์ของเรา เหมือนที่เขาเลือกชีวิตของเขาที่จะทิ้งเราไปและมีผู้หญิงคนอื่น...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา 8 เดือน ล่าสุดแพลนทริปไปเที่ยวตปท. ด้วยกัน แต่กลับโดนแม่แฟนว่า ไปเที่ยวกัน แต่ไม่ให้เงินพ่อ-แม่ใช้ แฟนน้อยใจให้เราไปคุยแทน เลยบอกไปว่า คนอื่นเขายังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลยนะ แม่แฟนสวนกลับมาว่า คิดได้แค่นี้เองหรอ สมองหมาปัญญาควาย

01 มี.ค. 2024

คบกับแฟนมา 8 เดือน ล่าสุดแพลนทริปไปเที่ยวตปท. ด้วยกัน แต่กลับโดนแม่แฟนว่า ไปเที่ยวกัน แต่ไม่ให้เงินพ่อ-แม่ใช้ แฟนน้อยใจให้เราไปคุยแทน เลยบอกไปว่า คนอื่นเขายังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลยนะ แม่แฟนสวนกลับมาว่า คิดได้แค่นี้เองหรอ สมองหมาปัญญาควาย

คบกับแฟนมา 8 เดือน ล่าสุดแพลนทริปไปเที่ยวตปท. ด้วยกัน แต่กลับโดนแม่แฟนว่า ไปเที่ยวกัน แต่ไม่ให้เงินพ่อ-แม่ใช้แฟนน้อยใจให้เราไปคุยแทน เลยบอกไปว่า คนอื่นเขายังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลยนะแม่แฟนสวนกลับมาว่า คิดได้แค่นี้เองหรอ สมองหมาปัญญาควาย ได้ยินปุ๊บน้ำตาไหลปั๊บที่บ้านไม่เคยใช้คำพูดรุนแรงแบบนี้กับเราเลย ถ้าเจอแบบนี้อีก ควรรับมือยังไงดี? “คุณจี (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [28 ก.พ. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาแม่แฟนไม่พอใจและชอบใช้คำพูดรุนแรง “คุณจี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พอดีหนูมีเรื่องไม่สบายใจ โดนว่าด้วยคำพูดที่ไม่โอเค คือหนูเพิ่งคบกับแฟนมาประมาณ 8 เดือน แฟนหนูอายุ 29 ปี ซึ่งแฟนก็ซื้อบ้านเป็นของตัวเองแล้ว แยกออกมาอยู่ด้วยกัน 2 คน ขอเกริ่นก่อนว่าทางแม่ของแฟนค่อนข้างเป็นห่วงลูกชายมาก เพราะเขากลัวคนจะมาหลอกลูกเขา ครั้งแรกที่หนูโดนแม่แฟนว่าคือตอนที่เพิ่งคบกัน แล้วแม่เขาก็มาว่าหนู พูดให้ลูกเขาฟังว่าหนูอายุเยอะกว่า จะมาหลอกลูกเขาหรือเปล่า? ทำงานอะไรก็ยังไม่รู้ แล้วก็ได้เคลียร์กันไปรอบนึง บางทีเขาก็มาว่าหนูตอนที่ลูกชายเขาไปทำงาน เขาเข้ามาถามว่า หนูทำงานอะไร รู้จักกันได้ยังไง มีแพลนอะไรต่อในชีวิต แล้วก็ถามว่าไม่เคยแต่งงานใช่ไหม? อายุก็ขนาดนี้แล้ว หนูก็เลยบอกเขาไปว่าหนูยังไม่เคยแต่งงาน เพื่อนๆของหนูก็ยังโสดกันอยู่เลย แล้วเขาก็บอกมาอีกว่า ไม่ได้มาชุบมือเปิบใช่ไหม หนูก็ไม่ตอบโต้อะไร แล้วก็ไปบอกแฟน แฟนหนูเลยบอกว่า ขอโทษนะแม่เราเป็นแบบนี้ตลอดเลย แต่ถ้ามีอะไรให้บอกนะ เดี๋ยวเขาจะคุยกับแม่เขาเอง ต่อมาอีก 4 เดือน หนูก็กำลังจะมีทริปไปเที่ยวต่างประเทศกัน แล้วแฟนหนูเป็นคนที่ถ้ามีอะไรก็จะบอกแม่ทุกอย่าง ตอนที่อยู่ต่อหน้ากันแม่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พอตกเย็น แม่เขาก็โทรมาหาแฟน หนูก็ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันเพราะหนูเห็นแฟนหนูหน้าเครียด ๆ แล้วเขาก็เอาโทรศัพท์มาให้หนูคุยกับแม่เขา แม่เขาก็พูดมาว่า จะไปเที่ยวกัน ทำไมไม่เก็บเงินไว้จ่ายหนี้ บ้านเป็นหนี้แล้วนะ หนูก็บอกอธิบายไปว่า แบ่งเงินไว้แล้ว แต่อันนี้ขอไปเที่ยวหน่อย ทำงานหนักมาทั้งปี พอคุยจบก็วางสายไปและคิดว่าไม่น่ามีอะไร จนเช้ามาแม่เขาก็ส่งข้อความมาหาหนูว่า เมื่อวานไม่โอเคเลยนะ ดูไม่มีมารยาททางสังคมเลย แม่ลูกเขาคุยกันอยู่มาคุยแทรกทำไม หนูก็บอกว่า ไม่ได้คุยแทรก แฟนหนูอะเป็นคนยื่นโทรศัพท์มาให้ แม่เขาก็ส่งมาอีกว่า ฉันไม่รู้หรอกนะเพราะฉันไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นด้วย หนูก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แล้วก็ไปบอกแฟนว่าแม่เธอส่งข้อความมานะ แม่ไม่โอเค แฟนก็บอกหนูว่า งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เข้าไปคุยกัน คุยต่อหน้าจะได้ไปอธิบายด้วย พอตอนเย็นเราก็ไปหาแม่แฟนกัน แฟนหนูก็บอกแม่เขาว่า เนี่ยเมื่อวานนี้หนูอะไม่ได้แย่งโทรศัพท์ไป เพราะแฟนเริ่มอารมณ์ร้อนแล้ว เลยให้หนูคุยแทนเพราะหนูเป็นคนอารมณ์เย็น แม่เขาก็บอกว่า ฉันไม่รู้หรอก แต่ว่าพวกเธอก็เข้าข้างกันอยู่แล้ว อะไรก็ไม่เห็นหัวแม่ ทำงานได้ดิบได้ดีอะไรฉันก็ไม่รู้หรอก ไม่เห็นให้เงินแม่เลย เอาแต่ไปเที่ยว คือ บ้านแฟนหนูมีลูก 2 คน แฟนหนูเป็นลูกคนเล็ก พ่อเขาอยู่ต่างประเทศ แล้วเหมือนแม่จะคาดหวัง วันนั้นที่ไปคุยก็เกิดถกเถียงกัน แล้วเขาก็พูดประมาณว่า ทำไมลูกคนอื่นให้เงินพ่อแม่ ลูกฉันเป็นลูกอกตัญญูนะ ไม่ให้เงินพ่อแม่ใช้ แฟนหนูก็บอกว่า เดี๋ยวจะให้เงินนะ แล้วแฟนหนูก็มาบ่นตลอดเลยว่า แม่ไม่เคยภูมิใจในตัวเขาเลย ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนเลย หนูก็ให้กำลังใจเขาไปว่า เธอก็ดีกว่าคนอื่นตั้งเยอะนะ คนอื่น ๆ รอบตัวเราบางคนยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย ไปเที่ยวไหนเราก็เลี้ยงพ่อแม่ตลอดเลยนะ แฟนหนูก็บอกว่า เธอไปพูดให้แม่เขาฟังหน่อยว่าคนอื่นๆ เขาเป็นยังไงกัน หนูเลยยกตัวอย่างไปว่า เนี่ยคนอื่น ๆ เขายังไปขอเงินพ่อแม่อยู่เลยนะ เขาก็สวนมาเลยว่า โอ้โห!! เธอคิดได้แค่นี้เองหรอ สมองหมาปัญญาควาย หนูช็อคตรงนั้นเลย ทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลออกมา แล้วเขาก็พูดมาอีกว่า ก็คิดกันแบบนี้ไง มันถึงได้ต่ำ มันมีที่ไหนเอาไปเทียบกับคนที่ต่ำกว่า เขามีแต่เทียบกับคนที่สูงกว่า แฟนหนูก็เลยบอกว่า แม่ มันก็แรงไป มันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น... หนูก็เฟลไปเลย แฟนหนูก็บอกว่า อย่าไปโกรธแม่เลย เพราะแม่เขาเป็นคนปากร้ายใจดี เดียวเขาก็หาย แต่หนูเสียความรู้สึกไปแล้วแล้วก็กลัวว่าวันไหนจะโดนอีกหนูอยากจะถามพี่ๆดีเจว่า หนูควรจะรับมือยังไง ถ้าเจอแบบนี้อีก?’ โดย “ดีเจเติ้ล” ให้คำแนะนำว่า ‘พี่มีคำเดียวให้น้องจี คือคำว่าอดทน เพราะพี่รู้สึกว่าแม่เขาตั้งแง่ หรือว่าเขาเห็นว่าน้องจีไม่ดีพอสำหรับลูกเขา พี่ว่าที่เขาพูดมาตอนนี้มันดูไม่มีเหตุผล เหมือนเขาแค่งองแง เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง เหมือนเรื่องที่จะไปเที่ยวเมืองนอก ว่าจริง ๆ แล้วเราไม่ได้เอาเงินทั้งหมดไปเที่ยวนะ เราแบ่งค่าบ้านไว้แล้ว เขาก็เปลี่ยนเรื่องไป เป็นแล้วทำไม่ไม่ให้เงินฉัน เอาเงินไปเที่ยวกันน่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าไม่มีจี หรือไม่มีเรื่องนี้เขาก็ไม่พูด เราก็รู้แค่ว่า เขาก็แค่หาเรื่องว่าเรา แต่เท่าที่ฟังมาพี่ว่าก็ยังดีนะที่เขาก็แค่นี้ หมายถึงว่าเขาไม่ได้เข้ามาแทรก ๆ ด้วยวิธีอื่น เต็มที่ก็แค่โทรมาด่า มาคอมเม้นท์ เวลามีเรื่องมีราว พี่ก็รู้สึกว่ายังรับได้เหมือนแม่ผัวงี่เง่าที่ยังรับได้ แต่น้องจีก็ต้องอดทนและไม่เอาคำพูดเก็บมาคิดมาก พี่ว่าจีต้องอาจจะมองว่าเขาเป็นเด็กไปเลย คิดว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันมาจากอารมณ์เขา แล้วก็คิดไปเลยว่าเขางี่เง่า แล้วพี่คิดว่าแฟนน้องจีก็ทีมหนูนะ แม้ว่าเขาก็อาจจะสปอยแม่นิดนึง แต่ยังไงเขาก็รู้ว่าแม่เขาเป็นแบบนี้เลยไม่อยากให้ปะทะ เพราะฉนั้นรักษาความสัมพันธ์ไว้ อันไหนเลี่ยงได้เลี่ยง สำหรับพี่นะ’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำแนะนำว่า ‘เป็นเคสที่เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรเขาได้ยากที่สุด แล้วก็ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นจีหรือเป็นใคร หมายถึงใครที่เข้ามาก็ต้องเจอหมด ก็ต้องอดทน คนที่จะทำให้คลี่คลายได้ก็มีแค่ลูกชายเท่านั้น ไม่งั้นก็จะไม่มีปากมีเสียงถ้าลูกชายเอาอยู่ ก็ต้องทนอะถ้ารักลูกชายเขามากพอ เพราะทำอะไรไม่ได้ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เขาอาจจะหวงลูกชายเขาเพราะเขาไม่ได้เป็นความสำคัญเบอร์หนึ่งแล้ว เขาอาจจะน้อยใจ แล้วมันอาจจะหนักขึ้นด้วยเพราะเขาอายุเยอะนิดนึง ก็ต้องทนแหละ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำแนะนำว่า ‘แต่ถ้าทนไม่ไหว ลองบอกกับคุณแม่เขารู้สึกตัวว่า หนูไม่ได้มาให้เขาเลือกอย่างเดียว หนูก็มาดูลูกชายคุณแม่ด้วยว่าผ่านไหม แล้วแม่แบบนี้เขาจะมีความภูมิใจในลูกชายตัวเองมาก ถ้าเรารู้สึกว่าลูกเขาก็ยังไม่ผ่าน เพราะครอบครัวแบบนี้หนูก็ยังไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะหนูเองก็อยู่ในช่วงศึกษา แสดงออกไปเลย เพราะแฟนมีหน้าที่เป็นกาวระหว่างคนสองคน ฉะนั้นเราให้เวลาเขาแต่เธอก็ต้องเด็ดขาดอะไรบ้าง แต่พี่รู้สึกว่าให้เว้นระยะไปเลยแล้วให้เขาไปคุยกับลูกเขา พอเขาจะวีนก็บอกไปเลยว่า แม่คุยกับลูกแม่ดีกว่า เพราะว่าลูกแม่เป็นคนตัดสินใจ ขอตัวไปนั่งรอที่อื่นดีกว่า แบบว่าให้เขาคุยกับรู้เขาดีกว่า อยู่กับปัจจุบัน ถ้าวันนี้มันยังดีอยู่ก็โอเค แต่ถ้ามาก้าวก่ายมาก็อาจจะต้องทบทวน และถามแฟนไปเลยว่า ที่เลิกกับแฟนเก่าเพราะเหตุผลอะไร นี่เป็นส่วนหนึ่งหรือป่าว เธอคิดที่จะแก้ไขไหม ถ้าเธอไม่แก้เราก็อาจจะมีจุดจบเหมือนแฟนเก่าเธอ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผิดหรอครับที่ผม Move on จากความเศร้าได้ไว... คุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต ผมร้องไห้หนักชั่วโมงเดียว แล้วบอกตัวเองเดินหน้าต่อ แต่ญาติไปบอกแม่ว่า "ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อเลย หวังแค่สมบัติพ่อรึเปล่า?"

01 เม.ย. 2024

ผิดหรอครับที่ผม Move on จากความเศร้าได้ไว... คุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต ผมร้องไห้หนักชั่วโมงเดียว แล้วบอกตัวเองเดินหน้าต่อ แต่ญาติไปบอกแม่ว่า "ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อเลย หวังแค่สมบัติพ่อรึเปล่า?"

ผิดหรอครับที่ผม Move on จากความเศร้าได้ไว... คุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต ผมร้องไห้หนักชั่วโมงเดียวแล้วบอกตัวเองเดินหน้าต่อ แต่ญาติไปบอกแม่ว่า "ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อเลย หวังแค่สมบัติพ่อรึเปล่า?"คุณแม่ก็ฟังคำพวกเขา ตอนนี้ทุกคนในบ้านยังเสียใจร้องไห้ไม่หยุด ผมจะทำยังไงดี “คุณมิน(นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 มี.ค. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และ ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับมูฟออนจากการเสียคุณพ่อเร็วเกินไป จนที่บ้านคิดว่าไม่เสียใจเลยหรอ... โดย “คุณมิน(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมมูฟออนไวจากการเสียคุณพ่อ ผมผิดหรือเปล่า? คือคุณพ่อของผมเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว และผมสนิทกับพ่อมาก พ่อผมเสียชีวิตที่กรุงเทพแต่ผมนั่งรถขนศพคุณพ่อ มาทำพิธีที่บ้านเกิดของพ่อ ที่บ้านก็เตรียมไว้เรียบร้อยและจัดการทุกอย่าง หลังจากเอาศพของพ่อไปไว้ที่วัด ผมก็กลับมาที่บ้าน พอมาที่บ้านก็เห็นบรรยากาศและนึกถึงพ่อว่า... ต่อไปนี้บ้านที่พ่อสร้างจะไม่มีพ่อตลอดไปแล้วนะ ผมก็ร้องไห้ชั่วโมงเดียว แล้วก็จบนั่นคือการร้องไห้ครั้งเดียวตอนที่ผมสูญเสียคุณพ่อ ผมก็ไปช่วยงานศพปกติ แต่อยู่ๆก็มีญาติของแม่บอกว่าไม่คิดจะร้องไห้ให้พ่อหน่อยหรอ? ผมก็บอกว่าผมร้องไปแล้ว ผมทำใจได้แล้ว จะร้องทำไมเยอะแยะ เขาก็พูดกับมาว่า ถ้าร้องแค่นี้แสดงว่าไม่รักพ่อจริงนะ ส่วนแม่ผมก็ร้องไห้เหมือนขาดสติก็มีญาติคนนี้แหละที่คอยปลอบเขา คอยให้กำลังใจ ผมเป็นคนที่ปลอบคนไม่เก่ง เพราะผมเป็นคนที่สนิทกับพ่อและมูฟออนไวไม่ยึดติดอะไรมาก น้าเค้าก็บอกว่าเนี้ยไม่รักพ่อจริงนี่น่า ถ้ารักจริงก็ต้องร้องไห้มากกว่านี้สิ อย่างนี้ก็ดูออกว่าไม่รัก หวังสมบัติ เขาก็ไปบอกแม่ผม ซึ่งแม่ก็สนิทกับเขาอยู่แล้ว แม่ผมก็เชื่อเขา แม่ผมก็มาต่อว่าผมด้วยทำนองเดียวกันว่าทำไมถึงไม่ร้องไห้เลย ระหว่างช่วงงานศพเวลากลางวันผมก็มีการเข้ายิมปั้นหุ่น เพราะนอกจากงานประจำผมรับงานนายแบบด้วย ผมมีถ่ายงานช่วงก่อนสงกรานต์ที่ต้องใช้รูปร่างเลยไปเข้าฟิตเนส เขาเลยบอกว่า เนี่ยช่วงงานศพพ่ออยู่ยังมีอารมณ์ไปเล่นฟิตเนส เข้ายิมอีกหรอ? พอหลังจากจบงานศพจากพระสวดเสร็จ ผมก็กลับมาที่บ้าน และผมเป็นคนที่ชอบเต้นตามเทรน ผมก็เต้นอยู่ในห้องของผมในจังหวะเดียวกัน แม่เปิดประตูมาเจอและบอกว่าทำไมอารมณ์ดีในช่วงงานศพพ่อ แต่ผมก็เต้นในห้องของผมไม่ได้ไปเต้นในวัดผมก็รู้กาลเทศะ แค่บรรยากาศในบ้านก็อึมครึมพอแล้ว เพราะว่าทุกคนก็มานอนกันอยู่ที่บ้านและมีแต่เสียงร้องไห้ แล้วผมเป็นคนเดียวที่มูฟออนอยู่คนเดียวในบ้าน ผมก็ฟังเพลง เต้นของผมอยู่คนเดียวในบ้าน ผมก็โดนด่า แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รักพ่อนะ ถ้าพ่อยังอยู่พ่อก็คงโอเคกับการที่ผมทำอย่างนี้ด้วยซ้ำ แต่ในมุมมองของคนอื่นเขาอาจจะไม่โอเค แล้วแม่ก็จะเชื่อคำพูดของญาติ ๆ มาก ตอนนี้ก็เหลือผมที่ Work form home อยู่ที่บ้านกับแม่แค่ 2 คน แม่ก็เอาแต่โทษผมว่าผมไม่รักพ่อ ผมก็พูดกับแม่แบบจริงใจสุด ๆ แล้วว่าที่ผมไม่เศร้าไม่ใช่ว่าผมไม่รักนะ ผมอยากกลับ กทม. มากเลยแต่ผมก็เป็นห่วงแม่ อยากถามพี่ๆดีเจว่า ผมจะ Work form home ต่อดีไหม? หรือจะหนีความ toxic ไปเลย ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าถามว่าพี่รู้สึกยังไงถ้าสมมุติพี่เป็นญาตินั่งอยู่ตรงนั้น เรื่องร้องไห้ตัดไปเลยเพราะมันไม่เกี่ยวการร้องไห้ไม่ได้แสดงรักหรือไม่รัก การร้องไห้คือการแสดงออกของอารมณ์ ณ ตอนนั้น บวกกับใครที่สามารถควบคุมและกลั้น คนบางคนที่เขาไม่ร้องเขาอาจจะกลั้นมันอยู่มือเค้าอาจจะกำ แทบจะจิกเข้าไปในเนื้อแต่แค่ว่าน้ำตาเขาไม่ได้อยากให้ไหลออกมาด้วยหลากหลายสาเหตุ เพราะฉะนั้นอย่าเอาการที่ว่าร้องไห้เยอะหรือร้องไห้น้อยมาวัดว่ารักหรือไม่รัก ถ้ามีญาติมาคุยกับพี่แบบนี้พี่ด่า อันนี้พี่มองว่ามันไม่เกี่ยว แต่พี่มาสะดุ้งนิดนึงตอนเต้นอันนี้พี่ตกใจพี่พูดตรง ๆ แต่พี่ก็จะแค่ตกใจที่เต้นพี่ก็คงจะไม่ไปผูกกับเรื่องที่ว่าไอ้นี่ไม่รักพ่อถึงเต้น อย่างมากพี่ก็จะคิดแค่ว่า อ๋อ มันทำใจได้เร็ว เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าเวลานี้แล้วเอายังไงต่อ ก็ถ้าที่บ้านเขาอยู่กันได้แล้วเราก็สามารถ Work form home ได้ก็อยู่ดูอีกสักหน่อย ให้เขาค่อย ๆ ทำใจกันได้ เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งในครอบครัวเสียชีวิตบรรยากาศความเศร้ามันก็ตลบอบอวลอบอยู่ในนั้นสักพักนึง แต่สุดท้ายแล้วทุกชีวิตมันก็จะค่อย ๆ เดินต่อตามความจำเป็นของแต่ละคน บางคนชีวิตเขาไม่ต้องมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากหรือไม่ได้มีสิ่งที่จะต้องลุกขึ้นและเดินต่อ เขาก็สามารถปล่อยให้มันจมอยู่กับความเศร้าได้เต็มที่ แต่สำหรับคนที่พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงาน มันก็ต้องตื่นก็ต้องหยุดร้องไห้ เพราะฉะนั้นเราก็คงไม่ตัดสินว่าใครจะร้องมากร้องน้อย ชีวิตแล้วสุดท้ายจะ ช้าหรือเร็วมันก็ต้องเดินต่อ และถ้ามินถามว่ามินจะต้องอยู่ต่อไหมก็กลับมาที่พี่พูดเมื่อกี้ แล้วชีวิตมินจำเป็นที่จะต้องเดินต่อหรือยัง งานการมันต้องลุยเลยไหม ถ้ามีก็ไปทำแต่ถ้ามันยังอยู่ดูแลกันได้ใช้เวลาตรงนี้ได้ ก็ลองอยู่อีกสักหน่อย สุดท้ายชีวิตมันก็ต้องเดิน’ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่แยกก่อนนะเรื่องร้องไห้ พี่ว่าหลายคนเป็นบางทีเจอเรื่องเศร้าแล้วมันไม่ร้อง พี่เองก็เป็นพี่เสียน้ำตาให้เรื่องที่ตัวเองมีความสุข แต่คนตายหรืออะไรอย่างเงี้ยไม่ร้อง ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่ว่าพี่เป็นนิสัยอย่างเงี้ย ซึ่งพี่ว่าหลาย ๆ คนเป็น บางทีเราอาจจะรู้สึกเสียใจข้างในแต่แค่ว่ามันไม่ร้องออกมา อีกเรื่องหนึ่งเท่าที่พี่ฟังมินมาพี่ว่ามินเป็นคนสุขนิยมจริง ๆ หมายถึงว่าพร้อมที่จะบล็อกเรื่องที่ไม่สบายใจได้เลย แล้วก็มีความสุขกับตัวเองได้เลย กับอีกแบบนึงมินเป็นคนที่ ถ้าบรรยากาศรอบข้างมันทำให้มินไม่มีความสุข มันจะทำอะไรบางอย่างเพื่อที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกว่า ไม่อยากเป็นแบบนั้นมันก็เลยเกิดอาการเต้นออกมาถ้าให้เราวิเคราะห์ แต่ไม่ว่าอย่างไรพี่รู้สึกว่าเหมือนมินจะลืมนึกถึงความรู้สึกคนรอบข้างไปหน่อยในกรณีนี้ สำหรับพี่นะคือมินรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าคนรอบข้างบ้านมินเขาเป็นแบบนี้กันหมด เหมือนเขาต้องการให้เราอยู่ฝั่งเดียวกับเขา ด้วยการแสดงออกหรืออะไรก็ได้ พี่ไม่ได้หมายความว่าให้มินไปร้องห่มร้องไห้กับเขานะ แต่พี่รู้สึกว่าถ้าบางอย่างทำได้เช่นเรารู้อยู่แล้วว่าเขาจับตามองเราแล้วการเต้นของมินอาจจะรู้ว่าเค้าจะเห็นเราก็ต้องห้ามตัวเอง ซึ่งมินต้องนึกถึงแม่ด้วยว่าตอนนี้เขาเศร้าอยู่ เราอ่ะไม่อยากเศร้าอยากมูฟออนนั่นมันไม่ผิด แต่ ณ ตอนนี้เขายังไปไหนไม่ได้ ณ ตอนนี้เขายังไม่มีใคร เพราะฉะนั้นมินอาจจะต้องบังคับตัวเองอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อนนะตอนนี้ ในฐานะลูก ที่จะทำให้แม่ได้ พี่รู้สึกว่าถ้ามินแบบไม่เอาแล้วว่ะไม่อยากเศร้าแล้ว พี่ว่าอันนี้มันก็สนใจแต่เรื่องเราเกินไป มันก็ต้องฝืนใจตัวเองแหละพี่รู้ว่ามินไม่อยากเศร้าอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ทำยังไงได้ถ้าแม่ที่เขารักเราแล้วเขายังเศร้าอยู่ เราก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเขาก่อน แล้วรอเวลาที่เขาดีขึ้นเราก็กลับมา ใช้ชีวิตของเราได้’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยว่าตอนนี้ควรอยู่ดูใจแม่ เพราะบรรยากาศในบ้านตอนนี้แม่เขาดูเจ็บมากถ้าเราทิ้งไปอีกคนนึงแม่ก็ไม่เหลือใคร อยากให้มินมองภาพรวมของบ้านมากกว่าเรื่องราวของตัวเอง การมูฟออนได้เป็นสิ่งที่ไม่ได้ดูแย่อะไรเลยเพียงแต่ว่าบรรยากาศในบ้านเราต้องไม่สวนทางกับเขา เราอาจจะต้องสำรวมสักนิดนึงแต่การที่เราไม่ร้องไห้มันไม่ผิดเลยแล้วญาติคือผิด ส่วนมินพี่ว่าอยู่ที่นั่นก็ปั้นหุ่นได้นะ จะเข้ายิมหรือเล่นฟิตเนสไปได้เลย เพราะว่าเราต้องทำงานแล้วเมษาเรามีงานเราก็กลับไปทำงานเท่านั้นเอง แต่พี่ว่าเวลานี้เราไม่ควรทิ้งคุณแม่ เพราะว่าสภาพจิตใจเขาแย่ถ้าเราไม่ดูเขาก็ไม่มีใครดูเขา แล้วสภาพจิตใจเขาตอนนี้คือแกว่งมาก เหมือนลอยอยู่กลางน้ำ มินอาจจะต้องทำอะไรที่ไม่ขัดหูขัดตาเพิ่ม เราบอกตัวเองเลยว่าเรามีหน้าที่เป็นยารักษาเขา เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นพิษต่อเขามินเลี่ยงแค่ช่วงนี้ที่เขาจะหนัก อดทนหน่อยเพราะตอนนี้เราคือที่พึ่ง เวลานี้เขาต้องการเราก็มีมินนั่นแหละที่ต้องอยู่ตรงนี้กับเขา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมาทำงานต่างประเทศ สามีบอกเดี๋ยวจะตามมา หนูส่งเงินค่ากิน ค่าใช้ ค่าเช่าบ้าน ค่ารถให้เขามา 8 เดือนกว่า เขาไม่ทำงานเลย จนมารู้ทีหลังว่ามีผู้หญิงอีกคน ตอนนี้สามีขอคบ 2 คน ถ้าไม่ยอมก็ท้าให้เราฟ้องเอา หาหลักฐานมาให้ได้สิ หนูเสียใจที่สุด...

01 พ.ย. 2024

หนูมาทำงานต่างประเทศ สามีบอกเดี๋ยวจะตามมา หนูส่งเงินค่ากิน ค่าใช้ ค่าเช่าบ้าน ค่ารถให้เขามา 8 เดือนกว่า เขาไม่ทำงานเลย จนมารู้ทีหลังว่ามีผู้หญิงอีกคน ตอนนี้สามีขอคบ 2 คน ถ้าไม่ยอมก็ท้าให้เราฟ้องเอา หาหลักฐานมาให้ได้สิ หนูเสียใจที่สุด...

“คุณมิวสิค (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [30 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาทำงานอยู่ต่างประเทศ ส่งเงินให้แฟนที่ไทยตลอด แต่ตอนนี้เขาไปกับคนอื่น โดย “คุณมิวสิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พอดีเรามาทำงานตามความฝันที่ต่างประเทศก่อนแฟน แล้วก็ส่งเงินให้เขาใช้จ่ายส่วนตัว พร้อมกับจ่ายค่าธุรกิจของเขาตลอดเลย แต่ตอนนี้เขาไปกับอีกคนนึง หนูมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณปีกว่าๆ เราทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่มีการจดทะเบียนกันเพื่อจะไปทำงานที่ต่างประเทศ หนูคบกับแฟนคนนี้มาประมาณ 10 ปี คบกันตั้งแต่เรียนอยู่ ซึ่งเขาเป็นคนที่เจ้าชู้มากๆ ตั้งแต่คบกันมาเขามีคนอื่นมาตลอด จับได้ตลอด นิ้วมือนิ้วเท้าหนูนับไม่ได้เลย บางคนหนูก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่หนูก็ให้อภัยเขามาตลอด บวกกับพอเราทำงาน เขาก็จะมีช่วงที่ทำงานไม่ได้ ทำงานได้บ้าง หนูก็จะเป็นคนที่ซัพพอร์ตเขามาตลอด จนมีช่วงนึงที่เขาป่วย แทบจะเดินไม่ได้เลย หนูก็ยังอยู่กับเขา พอเขาหายดีขึ้น เขาก็กลับมาเป็นคนเดิมที่ก็ยังแอบนอกลู่นอกทางมาตลอด แต่เขาก็ไม่ได้ไปไหน ยังอยู่กับหนู แล้วหนูก็ให้อภัยเขา จนพอเราอายุมากขึ้น เรามีการพูดถึงอนาคตมากขึ้นว่าจะทำยังไง? ด้วยความที่เขาไม่ได้มีการงานที่มั่นคง เราจึงคุยกันว่าเราจะมาทำงานที่ต่างประเทศ มีการเลือกหลายๆประเทศ แต่ก็มาจบที่ออสเตรเลีย ซึ่งคุณสมบัติการมาที่นี่ของเขามันยากกว่าของหนู ด้วยวุฒิการศึกษา หน้าที่การงานของหนูดีกว่าเขา จึงทำให้เขาไม่สามารถมาพร้อมกับหนูได้ หนูเลยต้องมาคนเดียว และเราก็มีการตกลง สัญญากันว่าถ้าหนูมาครบ 1 ปีแล้วเขาจะตามหนูมาที่นี่ แต่พอหนูมาจริงๆ เขาก็ไม่ได้มีความกระตือรือร้นที่จะมาที่นี่ ตลอดระยะเวลาประมาณ 8 – 9 เดือนที่ผ่านมาเขาไม่ทำงานเลย แล้วเขาก็ต้องมีรถยนต์ที่ต้องผ่อนเดือนละ 9 พัน บวกกับค่าใช้จ่ายของเขา ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง เหมือนบางวันเขาก็บอกจะไปหางานทำ แต่ก็ไปแล้วไม่ได้ ไปแล้วไม่เอา จริงๆก่อนหน้านี้ตัวหนูเองอยากแต่งงานมาตลอด แต่ด้วยความที่มันไม่พร้อมอะไรเลย มันทำให้ไม่มีการได้แต่งงานกัน แต่พอวีซ่าหนูผ่านปุ๊บ เขาก็ขอหนูแต่งงาน พอวันเกิดหนูเขาก็พาไปจดทะเบียนสมรส แล้วหนูก็ถามเขาว่ามั่นใจหรอว่าจะอยู่กับคนแบบเราได้ ซึ่งหนูก็ถามตัวเองเหมือนกันว่าหนูจะอยู่กับเขาได้มั้ย? หนูก็คิดว่าเราไม่น่าจะอยู่กับคนแบบนี้ได้ แต่เหมือนเราคบกันมานาน แล้วเขาก็เป็นแฟนคนแรกของหนู มันมีความไม่กล้าเดินออกมา หนูคิดข้อดีของเขาไม่ออกเลย พอหนูมาอยู่ที่นี่ ด้วยความที่หนูอยากให้เขามาที่นี่ด้วย หนูก็ช่วยเขา เพราะเขาต้องทำตัวเองให้มีคุณสมบัติที่ดีเหมือนซัพพอร์ตเราได้ มีการมีงานที่ดีทำถึงจะติดตามมาที่นี่ได้ พอเขาไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลยเป็นเวลาเกือบปี หนูก็รู้สึกว่าทำไมเขาไม่มีความกระตือรือร้น พยายามพูดแล้ว แต่พอพูดเราก็จะทะเลาะกัน หนูเลยเสนอเขาไปว่าถ้าเขาไม่อยากทำงานประจำ ไม่อยากเป็นลูกน้องคนอื่น งั้นเราเปิดธุรกิจกันมั้ย? เราเปิดร้านอาหารเล็กๆให้เธอ เพื่อทำสเตจเม้นแล้วให้เธอได้มาที่นี่ แล้วหนูก็เป็นคนลงทุนให้เขา ตอนแรกเขาไม่อยากทำเลย แต่พอหนูพูดให้เขาทำ เขาก็ไปทำจริงๆ ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำอยู่ 3 เดือนแรกหลังจากเปิดร้านอาหารก็ดูโอเค เขายังคุยกับหนูปกติ แต่หนูเป็นคนที่ติดเขา หนูเลิกเรียนหนูโทรหาเขา หลังเลิกงานหนูโทรหาเขา แต่หลังๆมานี้ทุกอย่างที่หนูทำคือเขารำคาญหนู เขาทำให้หนูร้องไห้ตลอดเวลา ตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางปีนี้ หนูไม่รู้สาเหตุด้วย หนูพยายามถามเขาว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมดูเหมือนไม่รัก ไม่คิดถึง ไม่โหยหา ทั้งๆที่หนูดูแล้วว่าโอกาสที่เขามาที่นี่ไม่ได้ หนูพยายามกลับไปหาเขามากๆ หนูพยายามพูดว่าถ้างั้นไม่เป็นไร ขอกลับบ้านไปอยู่กับเขาได้มั้ย? ซึ่งเขาจะพูดประมาณว่ากว่าจะได้มา มันยากนะ อยู่ต่ออีกหน่อยสิ เหมือนพูดเกลี่ยกล่อมให้เราอยู่ต่อ มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า เรามาทำเพื่อความฝันของเรา เอาจริงหนูไม่ได้มีความฝันอะไรมากเลย หนูแค่อยากอยู่กับเขา แต่ความฝันของเขา เขาอยากมีนู้นมีนี่ ซึ่งหนูคิดว่าเขาทำคนเดียวไม่ได้ หนูต้องช่วยเขา เพราะฉะนั้นหนูเลยต้องอยู่ต่อ จนความรู้สึกนั้นมันมากเลยทำให้หนูน้อยใจ แล้วเวลาที่ไทยกับออสเตรเลียต่างกัน 3 – 4 ชั่วโมง หนูยอมนอนดึกทุกวัน เพื่อรอคุยกับเขาหลังจากที่เขาเก็บร้านเสร็จ แต่เขาบอกหนูว่า รอเขาทำไม? จากที่เราเคยคอลกัน เขาเริ่มไม่อยากคอล ไม่อยากคุย เขาบอกว่าหนูทำแบบนี้ เขาเหนื่อย แค่ทำงานเขาก็เหนื่อยแล้ว ทำไมเขาต้องมาเหนื่อยกับหนูอีก จนหนูเลยลองไม่ตามเขาบ้าง แล้วเขาก็บอกเลิกหนู แต่เขากลับมาแอดเฟซบุ๊กหนู ตอนนั้นหนูดีใจมาก แต่หนูไปเห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงคอมเมนต์เขาทุกโพสต์ หนูก็เอะใจเพราะเป็นพี่ที่หนูรู้จัก แล้วคุณแม่ของเขาเป็นคนบอกหนูเองว่าเขามีคนอื่นมาตลอด ผู้หญิงคนนั้นก็บอกหนูว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้นปี แต่ผู้ชายไม่ยอมรับ แล้วบอกหนูว่าเขาขอมี 2 คนได้มั้ย? เพราะเขาขาดใครไปไม่ได้สักคน เลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูอยากหย่ากับเขา แต่เขาไม่ยอมหย่า หนูต้องทำไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110