พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เอือมทั้งบริษัทแต่พูดอะไรไม่ได้! เจ้าของบริษัท มีลูกเมียแล้วแต่ชอบลวนลามพนักงานสาว แต่อ้างว่าทำเพราะเอ็นดู ทั้งจับขา เอามือล้วงเข้ามาในแมสก์แล้วหยิกแก้ม เคยทำท่าทีเล่นๆ ดึงคอพนักงานผู้หญิงให้เอาหน้ามาแนบตรงพุงเขา ตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย จะทำยังไงดี?

10 มิ.ย. 2024

            “คุณหนู (นามสมมติ)” อายุ 20 ปลายๆ สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (5 มิ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาโดนคุกคามทางเพศในที่ทำงาน

            ซึ่ง “คุณหนู (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่ใช่เหยื่อ แต่เห็นเหตุการณ์ และเพื่อนมาปรึกษา ซึ่งเหยื่อคือเพื่อนในที่ทำงาน เหตุการณ์ คือ เพื่อนถูก CEO ที่เป็นผู้ชายมีอายุมากแล้ว เขาเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนมาลวนลาม เช่น เดินเข้ามาจับเอว , เอามือสอดเข้ามาในแมสแล้วจับแก้ม , โอบไหล่ , ตอนที่พนักงานนั่งอยู่ก็ดึงมาซบพุง , เวลาเดินผ่านไปผ่านมาก็จับต้นคอ , ไปงานกินเลี้ยงก็แอบมาจับต้นขาแบบเนียนๆ สุดท้ายคนที่โดนลวนลามก็จะออกจากวงสนทนา หรือไม่ก็เดินหนี

            ซึ่งหนูเคยคิดกับเพื่อนที่ทำงานและเพื่อนที่โดนลวนลามว่า ควรพูดตรงๆไหม แต่สุดท้ายเขาก็จะมีข้ออ้างเสมอว่าที่ทำไปคือแค่ เอ็นดู และเหตุการณ์ที่เล่าไปข้างต้น ไม่ได้มีเหยื่อคนเดียว แต่มีเหยื่อหลายคน แล้วเหยื่อที่โดนก็ไม่ได้อยากหางานใหม่ เพราะถ้าตัดเรื่องนี้ออก สังคมในที่ทำงานก็คือดี อยากขอคำแนะนำจากพี่ๆดีเจว่าควรทำยังไงดี?

            ซึ่งดีเจทั้ง 3 ท่าน ให้คำแนะนำว่า ‘ทำอะไรไม่ได้ เขาเป็นเจ้าของบริษัท เพราะถ้าเราทำอะไรขึ้นมา ก็คงเป็นเราที่โดนไล่ออก แถมคนที่โดนก็ไม่อยากลาออกอีก งั้นก็ต้องอดทน จะแอบถ่ายคลิปไปฟ้อง เราก็จะโดนไล่ออกอยู่ดี ถ้าอยากแก้เผ็ดแบบมีศักดิ์ศรี ลองลาออกพร้อมกันทุกคนในทีม แล้วปล่อยคลิปที่ถูกลวนลามในโซเชียล ซึ่งคนที่พร้อมจะลาออกก็คงไม่ใช่ทุกคน ในตอนนี้เงื่อนไขคือ ไม่ลาออก ไม่ทน หรือจะลองสู้ดูมั้ย แต่ถ้าสู้ก็ต้องวนกลับมาที่ลาออกอยู่ดี ถ้าจะแจ้งตำรวจก็ต้องให้คลิปชัดเจน ถึงจะโดนตำรวจจับ บริษัทก็ต้องปิดตัวอยู่ดี เงื่อนไขเยอะขนาดนี้ ก็คือ ต้องเลี่ยง และให้ทุกคนรวมตัวรีแอ็คว่า ไม่ได้นะคะ ห้ามจับตัว หรือลองจัดงาน เอาท์ติ้งบริษัท ในธีม ห้าม Sexual Harassment สุดท้ายดีเจทั้ง 3 ท่าน ก็แนะนำว่าไม่อยากให้ทนกับการโดนลวนลามล่วงละเมิดสิทธิ์แบบนี้’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ไม่คิดว่าจะเป็นลุงตัวเอง ! ทำยังไงดีลุงหนูชอบทำตัวเป็น มนุษย์ลุง ด่าคนไปทั่ว พูดจาไม่ดี เคยไปร้านอาหาร นั่งหน้าพัดลม สั่งน้ำมูกกระเด็นติดคนด้านหลัง พอเขาเดินมาเตือน ก็ด่ากราดเขาอีก กลัวว่าสักวันเขาจะเจอคนจริงเข้า หนูควรเตือนหรือปล่อยไปเลย

31 พ.ค. 2024

ไม่คิดว่าจะเป็นลุงตัวเอง ! ทำยังไงดีลุงหนูชอบทำตัวเป็น มนุษย์ลุง ด่าคนไปทั่ว พูดจาไม่ดี เคยไปร้านอาหาร นั่งหน้าพัดลม สั่งน้ำมูกกระเด็นติดคนด้านหลัง พอเขาเดินมาเตือน ก็ด่ากราดเขาอีก กลัวว่าสักวันเขาจะเจอคนจริงเข้า หนูควรเตือนหรือปล่อยไปเลย

“คุณบิว (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก’ เกี่ยวกับปัญหาอยากตักเตือนมนุษย์ลุง โดย “คุณบิว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีลุงคนหนึ่ง เป็นคนที่อารมณ์ร้อน บางครั้งการพูดของแกก็จะดูเป็นการบูลลี่คนอื่น แต่หนูก็ไม่รู้ว่าแกจะรู้ตัวหรือไม่ จนมีเหตุการณ์นึงที่หนูรู้สึกว่ามันหนักแล้ว เหตุการณ์ก็คือ เมื่อประมาณ 10 วันที่แล้วหนูไปงานแต่ง ซึ่งมีแม่ หนู และลุงอายุ 67 ปี ในงานจะนั่งโต๊ะจีน โต๊ะละ 10 คน สักพักนึงก็จะมีผู้หญิงอายุประมาณ 60 กว่าๆ มาขอนั่งแชร์โต๊ะด้วย นั่งข้างหนู หลังจากนั้นก็มีคนมานั่งเรื่อยๆจนครบ 10 คน และพิธีการก็เริ่มไป งานเลี้ยงตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงตรง ก็จะมีคนที่พ่อแม่ของบ่าวสาว ให้เกียรติขึ้นไปอวยพร ซึ่งก็เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ พออวยพรเสร็จ ปกติงานอื่นๆมีมอบของที่ระลึก แม่ก็เลยถามว่า เอ๊ะ งานนี้เขาไม่มอบหรอ เพราะว่าพอพูดเสร็จก็เชิญลงไปพักผ่อนเลย หนูก็เลยแบบ เขาคงลืมแหล่ะแม่ แล้วลุงหนูอยู่ๆก็พูดขึ้นมา เขาเชิญมาก็บุญแล้ว ที่เขายังให้ความสำคัญอยู่ หนูก็อึ้งมากเลย เพราะว่าแกพูดต่อหน้าคนบนโต๊ะ 10 คน ซึ่งหนูนั่งห่างกับแกที่มีแม่นั่งขั้นกลาง ยังได้ยินชัด แล้วหนูคิดว่าคนอื่นที่เป็นแขกในงานเขาก็ต้องรู้จัก ไม่พ่อก็แม่ของบ่าวสาว หนูก็แบบ อึ้งว่าแกพูดไปได้ยังไง แกก็ดูเหมือนไม่สลด หนูก็เลยหันไปบอกแม่ แม่ก็บอกลุงว่า พี่อย่าพูดแบบนั้น แล้วก็นั่งไปจนจบงาน หลังจากนั้นป้าคนที่นั่งข้างหนูเขาก็บอกว่า เดี๋ยวขอตัวก่อนนะคะ พอดีสามีโทรตามไปอีกงานแล้ว แล้วเขาก็เอียงตัวมาหาหนูพุูดเบาๆว่า สามีพี่คือคนที่ขึ้นไปอวยพรเมื่อตะกี้ แต่เขาจงใจพูดให้หนูได้ยิน คือหนูก็แบบ ทำยังไงดีนะ แล้วหนูก็เก็บเรื่องนี้จนถึงบ้าน แล้วอยู่ๆแม่ก็พูดกับลุงขึ้นมาว่า วันนี้พี่ไม่ควรพูดแบบนั้นเลย เพราะคนที่นั่งในโต๊ะเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง แล้วลุงก็พูดเสียงดังด้วย หนูก็เลยเล่าประโยคที่ผู้หญิงคนนี้พูดกับหนูให้แม่ฟัง แล้วแม่ก็แบบ โอ๊ะ ตายละ และก็ยังมีเหตุการณ์พีคๆอีก วันนั้นหนูไปทานก๋วยเตี๋ยว หนูนั่งฝั่งเดียวกับแม่ ลุงแกนั่งตรงข้าม แล้วทีนี้พัดลมเป่าจากข้างหลังหนู แล้วเป่าไปก็ต้องผ่านแก แล้วแกมีอาการไอและเป็นหวัด ปกติเราก็ต้องเอาทิชชู่มาปิดตอนไอหรือเป็นหวัด แต่แกดันไอแล้วสั่งน้ำมูกไป แล้วลมมันก็พัดพอดี ไปโดนคนข้างหลัง แล้วคนข้างหลังก็เหมือนบ่นอะไรไม่รู้ แต่ประมาณว่า คุณสั่งน้ำมูกแล้วมันกระเด็นมาโดนฉัน แกเลยหันไปเหมือนจะหาเรื่อง ทำให้หนูอดกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นไปครึ่งปี พอชวนลุงไปลุงก็บอกว่าไม่ไป ไม่อร่อย ไม่อยากกินร้านนี้ ไม่กล้าไปกินเลย หลังจากนั้นหนูก็มาคุยกับแม่ว่า ถ้าเราจะปล่อยลุงเป็นอย่างงี้ แล้วไม่รู้ว่าแกรู้ตัวมั้ยว่าการพูดเเบบนี้ทำให้คนที่อยู่ด้วยอึ้ง และคนที่ไม่รู้จักก็มองลุงไม่ดี แล้วถ้าวันนึงเจอคนที่เอาจริง เอาเรื่องมาจะทำยังไง หนูเลยบอกแม่ว่า หรือเราควรสะกิดเวลาที่ลุงมีพฤติกรรมแบบนี้ แม่หนูบอกว่า อย่าเลย แกดึงดัน เถียงไปก็ไม่ชนะหรอกลูก ก่อนหน้านี้เขาก็เป็น แต่เป็นน้อยกว่านี้ ภรรยาเขาก็มองเวลาเขาพูดแบบนี้ แต่ก็ตามๆ คือหนูอยากรู้ว่า หนูควรพูดเตือนใน ณ ขณะนั้นดี หรือว่า อยู่ๆไปพูดกับลุงทีหลัง มันจะแปลกๆมั้ยคะ’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่ พี่ไม่พูด เพราะว่าพี่ไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยน และพี่ก็ไม่คิดว่า เขาจะมาเห็นความสำคัญของพี่ ที่เขาจะเปลี่ยนอะไร ถ้าเป็นแม่พี่ พี่จะพูด แต่นี่เป็นลุงพี่ไม่พูด พูดไปพี่คิดว้าเขาไม่เปลี่ยนนะถ้าทำมาขนาดนี้ ถามว่าเขารู้ตัวมั้ย พี่ว่าเขารู้แหล่ะ แต่เขาก็คือ ก็รู้แล้ว กูก็จะทำ จนกว่าเขาจะเจอของแข็ง เขา 67 ปี แล้ว ถ้าวันไหนเขาเจอของแข็ง มันก็จะเป็นบทเรียนของเขา ก็เพราะลุงทำตัวแบบนี้ไง เขาไม่ใช่คนไม่มีสติ กินเหล้าเมา หรืออะไรอย่างงี้ เขาพูด เขารู้ เขามีสติทุกอย่าง เพียงแต่มันเป็นนิสัยของเขาที่เขาปากไวแบบนั้น คนที่จะเตือนเขาก็คือเมีย และลูกเขา หรือไม่ก็แม่บิว สำหรับพี่คิดนะ บิวไม่จำเป็นต้องพูด นอกจากสมมติอย่างเรื่องก๋วยเตี๋ยว พี่คิดว่าบิวไม่ต้องไปยอมไม่ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นนะ ถ้าจะไป แล้วทำไมลุงต้องมาห้ามไม่ให้หนูไปกินละ แล้วถ้าแกบอกว่า ”ก็วันนั้นลุงไปทะเลาะกับเขา“ เราก็บอกไปเลย ก็ลุงไปสั่งขี้มูกโดนเขา ลุงควรที่จะขอโทษเขาสิ แบบนี้ มันจะได้มีเรื่องที่ทำให้พูด แต่พี่จะไม่อยู่ๆไปพูดว่าแบบ ”ลุง หนูว่าลุงเป็นคนพูดไม่คิด“ พี่ว่าจังหวะมันไม่ได้ มันงงอะ และคิดว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่แก้ไข’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่คิดว่าพูดแล้ว จะมีผลดีขึ้นมา ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนอะไรเขาได้ ยิ่งอายุเยอะจะยิ่งหนักขึ้นด้วย ถ้าอยากจะพูดจริงๆ ลองได้ แต่พี่ค่อนข้างอยากจะการันตีแทบจะ 100% ว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าอยากพูด พูดหลังจากเหตุการณ์นั้นได้ แต่ไม่ใช่สดๆร้อนๆ รอออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวก่อน ขึ้นรถแล้วพูดว่า พูดแบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวทัวร์ลงนะ เอาเป็นว่าคนรุ่นเราจะเปลี่ยนตัวเองยังยากเลย ขนาดเรารู้ว่าสังคมมันเป็นยังไง บางทีข้อเสียของเราก็ยังเปลี่ยนกันยากเลย นี่เขาอยู่มาจะ 70 ปี นิสัยมันคงฝังลึกไปแล้วแหล่ะ ยิ่งอายุเยอะมันจะคิดน้อย พูดมาก อย่าไปอยู่กับเขามาก เวลาเสียมันไม่ได้เสียที่เขาคนเดียว มันเสียทั้งตระกูล เสียทั้งกลุ่ม’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็อย่างที่รู้เเหล่ะ ไม้แก่ดัดยาก แต่มันต้องพูดนะ บอกเขาว่า เอาวัน เดือน ปีเกิดของลุงไปดูมาละ ชาติที่แล้วลุงฆ่าเป็นอย่างทรมานเพื่อเอาปากเป็นมากิน ชาตินี้ปากลุงเลยไม่ดี ฉะนั้น เมื่อไหร่ลุงอยากเจริญ ลุงต้องพูดดีๆ แล้วไปหาลิปมันสาลิกาที่หมอดูเขาลงมาทาปากบอกเขาไปว่า ถ้าทาปากแล้วให้พูดแต่สิ่งดีๆ แล้วสิ่งดีๆจะเข้ามาหาตัวลุง บางทีเรื่องไสยศาสตร์ อาจจะช่วยได้ และไปไหนมาไหนกับเขาน้อยลง ให้เขารู่ว่าเขาไม่น่าคบหา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

26 ก.ค. 2024

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

“คุณมิ้ว (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาซื้อขนมมากินคนเดียว เคยถามแฟนแล้วว่าจะกินมั้ย แต่เขาบอกไม่กิน สุดท้ายโดนแย่งเฉย “คุณมิ้ว (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เวลาที่เราไปห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ เราจะชอบของขนมมาตุนเอาไว้ เพราะบ้านเราอยู่ไกลจากสถานที่ที่สามารถไปซื้อของได้ ก็จะซื้อไว้เยอะๆ แล้วเราจะถามแฟนว่า “เธอจะเอาอะไรไหม เธอจะกินอะไรไหม อันนี้เอาป่าว” ก็จะถามตลอด แต่คำตอบคือ “ไม่เอา ไม่กินหรอก พอแล้วๆๆ” พอเราซื้อกลับมากลับมาที่บ้านแล้วก็จะมาแบบ “ขอกินหน่อย ขอคำนึง” แต่คำว่าหน่อยของเขามันเยอะ มีอยู่ครั้งนึงที่ต้องทำให้มาเล่าเลยคือ วันนั้นเราซื้อชนมไว้ แล้วเราเก็บไว้ กะไว้ว่าจะมากินตอนเย็น วาดภาพในหัวไว้แล้วว่า ขนมชิ้นนี้มีอยู่เดี๋ยวฉันจะกลับมากิน พอกลับมาที่บ้าน ขนมหาย แล้วเราก็หา แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร เราถามเขาว่า “ขนมฉันหายไปไหน” เขาก็ทำเป็นขำแล้วบอกว่า “ฉันกินเอง” แล้วตอนนั้นเราเป็นประจำเดือนด้วย เราก็แบบ “เอ้า อะไรอะ” คือหงุดหงิด โกรธ น้ำตาคลอเลย “ทำไมอะ ฉันถามเธอแล้วใช่ไหม ว่าเธอกินไหม ถ้ากินฉันจะซื้อมาเผื่อ ทำไมเธอถึงมสเเย่งฮันกิน” แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร นั่งฟัง “ขอโทษค้าบบบ” ของที่ซื้อแต่ละครั้งก็เป็นเงินที่ใช้ร่วมกัน เคยลองซื้อมาเป็น 2 เท่าแล้วเขาก็จะไม่กิน เขาจะชอบแบบขนมอยู่ในมือเราแล้วมาขอกิน’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คนให้คำปรึกษาว่า ‘ในวินาทีที่ผู้ชายถูกถามมันยังไม่หิว ไม่อยากกิน ถ้าหิวถึงจะกิน แต่พอมาเห็นตรงหน้ามันเย้ายวน ด้วยรูป รส กลิ่น เสียง แล้วกว่าจะมาถึงบ้านของก็เริ่มหิวนิดๆแล้วส่วนผู้หญิงจะประมาณว่าไม่หิวก็กินได้ กินจุกจิก เพราะฉนั้นเวลาไปซื้อขนมลองถามเขาดูว่าอีก 2 ชม.จะเริ่มอยากกินไหม ถ้าหิวนิดๆแล้วอยากกินฉันจะได้ซื้อเลย ให้ผู้หญิงเเพลน เหลือดีกว่าขาด ซื้อเผื่อไปเลย ไม่ต้องถาม พอถึงเวลาก็บอกเลยว่าเธอต้องกิน หรือเมนูไหนที่มันหายากหรือมิ้วอยากกินจริงๆ ของจำกัดให้ซ่อนแล้วแอบกิน เพื่อลดปัญหาครอบครัว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สาววัย 20 กลุ้มใจ ทะเลาะแฟนโดนบีบคอ จนหายใจไม่ออก ตอนนี้ตัดสินใจจะยุติความสัมพันธ์ แต่พ่อแม่เค้าบอกว่า "ระวังจะเป็นฝ่ายแพ้นะ ถ้าเลิกกับลูกเค้า"

01 ธ.ค. 2023

สาววัย 20 กลุ้มใจ ทะเลาะแฟนโดนบีบคอ จนหายใจไม่ออก ตอนนี้ตัดสินใจจะยุติความสัมพันธ์ แต่พ่อแม่เค้าบอกว่า "ระวังจะเป็นฝ่ายแพ้นะ ถ้าเลิกกับลูกเค้า"

“คุณจี (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่ทะเลาะกับแฟนรุนแรง จนถึงขั้นโดนเขาทำร้ายร่างกาย แต่ครอบครัวแฟนกลับบอกให้เราอยู่ต่อ โดย “คุณจี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เพิ่งทะเลาะกับแฟนมา แล้วโดนบีบคอ แต่ทางฝั่งครอบครัวแฟนบอกให้อยู่ต่อ เพราะกลัวเราจะแพ้ คือเราเป็นเมียหลวง แต่ทีนี้แฟนหนูเขาไปมีมือที่สาม เรื่องราวเกิดขึ้นมาหลายครั้ง แต่ว่าครั้งนี้หนักที่สุด เราอยู่กับแฟนมา 3 - 4 ปี แล้วก็มีเรื่องมือที่สามมาตลอด โดยที่เขาไม่ได้มีคนเดิมแต่เปลี่ยนคนไปเรื่อย ๆ เวลาเราจับได้ เขาก็จะยอมเลิกแล้วเลือกเรา เหมือนว่าพอต่างคนต่างตัดสินใจไปมีคนอื่น สุดท้ายก็กลับมาหากันอยู่ดี หนูตัดสินใจมาอยู่กับเขาตั้งแต่เรียนอยู่ จนตอนนี้ก็ทำงานไปด้วย เรียนมหาลัยไปด้วย เขาก็คะยั้นคะยอตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ว่าให้เรามาอยู่ด้วยกับเขา ถ้าเรามาอยู่กับเขา เขาจะปรับปรุงตัว ก็ทำให้เราเชื่อ แต่หนูก็พยายามปฏิเสธมาตลอด จนกระทั่งสุดท้ายหนูตัดสินใจมา เพราะว่าทางครอบครัวหนูเองก็มีปัญหาเลยตัดสินใจมาอยู่กับเขา พอมาอยู่ ก็ทะเลาะกับเขา เรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้เราเลิกกันไปแล้ว หนูก็มีผู้ชายคนอื่น แต่เราก็เคลียร์กันไปหมดแล้วก่อนที่จะมาอยู่กับเขา แต่เขาก็มาเห็นแชทที่เราคุยกับผู้ชายพวกนั้น จนเกิดการทะเลาะกันขึ้นมา เขาโมโหเรา แย่งโทรศัพท์กัน แล้วเขาก็บีบคอเรา คือเขาบีบคอเหมือนเราใกล้จะตาย บีบทั้งหมดสามรอบ โดยรอบแรกบีบเบา ๆ รอบสองหนักขึ้นเรื่อย ๆ พอมารอบที่สามหนูหายใจไม่ออกแล้ว ไม่มีใครห้ามเพราะไม่มีใครเห็น ที่เขาหยุดเพราะหนูพูดเบา ๆ ว่า “มึงบีบกูให้ตายไปเลย ให้ตายคามือมึงไปเลย” เขาเลยค่อย ๆ คลายมือเขาออก พอหนูเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวแฟนฟัง ตอนแรกเขาก็จะให้หนูกลับไปอยู่บ้านหนู แต่สุดท้ายเขาไม่ให้หนูกลับ เพราะเขากลัวว่าหนูจะแพ้ผู้หญิงที่เป็นมือที่สาม คำถามที่อยากถามพี่ๆวันนี้ก็คือ หนูจะทำยังไงต่อไปดี ในเมื่อฝั่งทางแฟนไม่ให้หนูไปไหน...’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้ชายแบบนี้น่ากลัวที่สุด ไอพวกเลิกยาก ต้องหนีเท่านั้น กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ก็โดนตาม แล้วทรงหนูดูใจอ่อนด้วย เขาทำหนูตั้งกี่ครั้งแล้วหนูยังทนได้เลย ฉะนั้นหนูมีทางเดียวคือ บล็อคทุกอย่างแล้วก็หนี หนีไปอยู่กับใครสักคนนึงที่เขาไม่รู้จักแล้วตามไม่ได้ โทรศัพท์ก็เปลี่ยนเบอร์เลย ไม่งั้นชีวิตพ้นน้ำยากมาก อีนี่จะตามอยู่เป็นปีบอกเลย ยกเว้นอีตัวเมียใหม่มันดี แต่คือถ้าเขายังหึงขนาดบีบคอหนูได้ แบบนี้พี่ว่าตามแน่นอน แล้วอีกอย่างนึงก็คือการมีหนูอยู่เขาไม่ได้เสียอะไรเลยนะ เขาสามารถมีคนอื่นก็ได้ ซึ่งผู้หญิงฉลาด ๆ จะไม่ทน ฉะนั้นพี่แนะนำให้หนูไปอยู่กับใครสักพักนึง แล้วก็ค่อยหางานทำ แต่ใจต้องแข็งต้องบล็อก บล็อกทุกอย่างเลย ส่วนพ่อแม่เขาก็ช่าง ไม่ใช่พ่อแม่เรา ไม่ใช่เรื่องที่จะมาให้กูไปทนทุกข์ บ้าหรือเปล่า การที่เราได้ลูกเขาคือการแพ้ ใครได้ผู้ชายแบบนี้เป็นผัวคือแพ้กว่า ห่วงอีมือที่สามเหอะอีนั่นอะซวย’ ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนีไปที่ ๆ เขาไม่รู้ แต่ว่าเราก็ต้องบอกคุณพ่อคุณแม่ไว้ แล้วหนูก็ลบทุกอย่างที่จะตามได้ โซเชียลทุกอย่างหนูลบไปก่อนให้หายไปก่อน ไปเริ่มชีวิตใหม่ไปหางานใหม่ทำ แล้วก็พี่อยากเสริมว่าอย่าคิดว่าเป็นคู่แท้ อันนี้คือคู่ดันทุรังนะ คู่กรรมคูเวร ที่เหมือนหนูไม่รู้กันสักทีว่าจริง ๆ มึงไม่ควรอยู่ด้วยกันได้แล้ว แต่มึงยังหากลับมาเพื่อวันนี้มาบีบคออีก แล้วบีบครั้งนึงได้แล้วพี่ว่านางทำได้อีกแหละ’ และสุดท้ายเป็น “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ มันหมดคำถามตั้งแต่บีบคอแล้ว ไม่ต้องฟังอะไรอื่นเลย คืออย่างที่หอมบอกแค่มีชู้มันก็ควรจะเลิกละ แล้วแบบบีบคอกันมันไม่มีอะไรจะต้องฟังต่อแล้ว นอกจากเลิกซะ ไอที่เขาบีบคอเราเนี่ยถ้ามันเลยกว่านั้นอีกสักเท่าไหร่หนูก็คงไม่มีโอกาสโทรมาแล้ว การที่คนเรามันจะทำร้ายคนอื่นได้ มันไม่เหลือความชอบธรรมที่จะอยู่ด้วยกันแล้วแหละ ส่วนคำพูดจากพ่อแม่ พ่อแม่ก็ไม่ต่างจากลูกเขาเลย ตรรกะประหลาดมาก คนที่ได้ลูกเขาไปนั่นแหละคือคนที่พ่ายแพ้ในชีวิตนี้ อย่าคิดว่าไอคนที่เราคบมาตั้งแต่มัธยม จะกี่ปี ๆ ก็เหอะ มันเป็นความคิดที่ผิด คือคนที่คิดแบบนี้โทรมารายการเราเยอะมาก ว่าแบบนี่คือแฟนคนแรก ก็เพราะมันเป็นแฟนคนแรกและหนูยังไม่เห็นคนที่ดีกว่าไง หนูถึงคิดว่านี่คือรักแท้ ถ้าหนูแค่ปิดประตูบ้านออกไปมองซ้ายมองขวาบางคนเดินผ่านไปผ่านมา ไอนี่ก็ดีกว่าผัวหนู ไอนี่ก็ดีกว่าแฟนหนู คนที่ดีกว่าแฟนหนูเยอะแยะไปหมด แต่เขาก้ไปมีคู่ดี ๆ แล้วแหละ ยิ่งหนูเสียเวลากับคนนี้ หนูก็จะไม่มีโอกาสเจอคนดี ๆ เพราะว่าเปิดประตูออกไป อ่อ...คนนั้นก็มีแฟน คนนั้นเขาก็เพิ่งแต่งงาน คนนั้นเขามีครอบครัวที่ดีไปแล้ว สุดท้ายจะเหลือแต่คนไม่ดีให้หนูเลือก เลือกหน่อย แล้วก็ครั้งแรกไม่จำเป็นต้องดีที่สุดลูก แล้วมันน้อยมากเท่าที่พี่เจอมาที่รักครั้งแรกจะเป็นรักครั้งสุดท้าย มันต้องโป๊ะเชะ มันต้องคนดีเจอคนดี ไม่แน่คนดีเจอคนดียังเลิกกันก็มี เพราะมันเจอกันเร็วไป หรือมันคบกันนานไป มันไม่มีความเชื่อมโยงอะไรเลยกับรักครั้งแรก กับคู่ชีวิต ไม่เกี่ยวเลย แล้วก็การที่เขามาบรรจงบีบคอเราสามสเต็ปเนี่ย มันไม่ต้องมีคำถามอะไรอีกแล้ว จริง ๆ จีไม่ต้องโทรมาถามก็ได้ ถ้าจีรักตัวเองมากพอ มันไม่ควรมีใครทั้งนั้นมาบีบคอเรา จงรักตัวเองให้มาก แล้วจีจะรู้ว่าจีต้องทำยังไง มันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอด สัญชาตญาณการหนีตายของสิ่งมีชีวิตพื้นฐานเลย เราไม่อยู่กับสิ่งที่เป็นอันตรายกับชีวิตเรา นี่คือพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตไม่นับมนุษย์ด้วยซ้ำ สัตว์เดรัจฉานยังหนีสิ่งที่เป็นภัยต่อชีวิตมันเลย แล้วทำไมมนุษย์เราที่มีมันสมองมีความคิดขนาดนี้ ถึงยอมที่จะอยู่กับคนที่เป็นอันตรายกับชีวิตเราหล่ะ ม้าลายมันยังวิ่งหนีสิงโตเลย รักชีวิตเราให้มากลูกแล้วก็เด็ดขาด ต้นหอมอาจจะคิดว่าเขาจะตามไป แต่ถ้ามันไม่มีหนทางแล้วจริง ๆ อย่างน้อยก็ไปอยู่กับพ่อแม่ให้พ่อแม่คุ้มครองเรา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เพื่อนหนูเปิดร้านอาหารตามสั่ง ลูกค้าออเดอร์ "กะเพราไม่เผ็ด" คนในครัวเสียงแตก คนนึงบอกไม่เผ็ดคือต้องใส่พริกนิดเดียว อีกคนบอก ไม่เผ็ดคือไม่ใส่พริกเลย สุดท้ายทำไม่ใส่พริกไปส่งลูกค้า ลูกค้าบอกอยากได้แบบใส่พริกนิดนึง

25 มี.ค. 2024

เพื่อนหนูเปิดร้านอาหารตามสั่ง ลูกค้าออเดอร์ "กะเพราไม่เผ็ด" คนในครัวเสียงแตก คนนึงบอกไม่เผ็ดคือต้องใส่พริกนิดเดียว อีกคนบอก ไม่เผ็ดคือไม่ใส่พริกเลย สุดท้ายทำไม่ใส่พริกไปส่งลูกค้า ลูกค้าบอกอยากได้แบบใส่พริกนิดนึง

เพื่อนหนูเปิดร้านอาหารตามสั่ง ลูกค้าออเดอร์ "กะเพราไม่เผ็ด"คนในครัวเสียงแตก คนนึงบอกไม่เผ็ดคือต้องใส่พริกนิดเดียวอีกคนบอก ไม่เผ็ดคือไม่ใส่พริกเลย สุดท้ายทำไม่ใส่พริกไปส่งลูกค้าลูกค้าบอกอยากได้แบบใส่พริกนิดนึง ทุกคนคิดว่า กะเพราไม่เผ็ด สรุปต้องใส่พริกไหมคะ?? “คุณกิ๊ฟ(นามสมมติ)” สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (20 มี.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหากะเพราไม่เผ็ด... โดย ​“คุณกิ๊ฟ(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘เพื่อนหนูเปิดร้านอาหาร มีออเดอร์เข้ามาว่ากะเพราไม่เผ็ด แม่ของเพื่อนเห็นออเดอร์ปุ๊บ เขาก็เลยบอกว่าให้ใส่พริกไป แต่เพื่อนตัดสินใจไม่ใส่เพราะเขามีความรู้สึกว่า ถ้าเกิดใส่พริกยังไงมันก็ต้องเผ็ด แต่อาจจะเผ็ดน้อย เขาก็เลยไม่ใส่ พอเอาไปให้ลูกค้า ปรากฏลูกค้าบอกว่า...ใส่ ทีนี้เขาก็เลยกลับมาบ้าน แล้วเหมือนเขาโทรไปถามยายกับสามีของเขา สามีกับยายเขาก็เลยบอกว่า ต้องใส่ เขาก็โทรมาถามกิ๊ฟ ก็เลยบอกว่าถ้าเป็นเรา เราก็ไม่ใส่ เพราะว่าถ้าใส่ยังไงมันก็ต้องมีความเผ็ดนิดนึง สามีเขาก็ประมาณว่า ทำไปให้เขาใหม่เลยนะ เดี๋ยวเสียลูกค้า เพื่อนเขาก็มองว่าไม่ได้ผิด ไม่เผ็ด มันก็แปลว่าไม่ใส่พริกก็ได้ ซึ่งกิ๊ฟกับเพื่อนมองว่า ไม่ใส่ มันน่าจะโอเค เพราะเผื่อเขาเอาไปให้เด็กกิน อยากถามพี่ ๆ ว่า ถ้าสมมติสั่งกะเพราไม่เผ็ด คือใส่พริก หรือไม่ใส่พริก? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ผมว่าอยู่ที่ออเดอร์ไม่ชัดเจน คือคำว่าไม่เผ็ด ถ้าสำหรับความหมายของผม ไม่เผ็ดคือไม่ใส่พริก ต้องเปลี่ยน ถ้าอย่างงั้นต้องบอกว่ากะเพราไม่ใส่พริก เพราะว่าปลายพริกนิดเดียวกับบางคนก็เผ็ด’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าของดิฉันที่กินกะเพราแล้วก็เป็นคนไม่กินเผ็ด ถ้าบอกว่าไม่เผ็ด คือใส่ แต่ใส่นิดเดียว ต้องบอกให้เพื่อนใส่ในช้อยส์ให้เคลียร์ไปเลยว่า ไม่ใส่พริก เผ็ดน้อย เผ็ดมาก รณรงค์คนไทยสั่งกะเพราครั้งต่อไป ถ้าจะเอาไม่เผ็ด ต้องบอกว่าไม่ใส่พริก’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘คือหอมรู้สึกว่า Wording คำว่าไม่เผ็ด หมายถึงเผือกที่ถูกต้อง แต่เราส่วนใหญ่ใช้ผิดกันมาโดยตลอด จนมันกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมที่ใช้ผิดไปแล้วว่าไม่เผ็ดคือพริกน้อย ระดับเผ็ดไม่เผ็ด สุกไม่สุก แม้กระทั่งไข่ดาวยังยากเลย เราว่าน่าจะเป็นปัญหากับหลาย ๆ ร้านเหมือนกัน บางร้านเลยมีเป็นช้อยส์ให้ว่า เผ็ดน้อย เผ็ดกลาง ผิดมาก ไม่ใส่พริก ต้องมีช้อยส์แบบนี้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110