ไม่มีความเป็นผู้นำ หรือ ขี้เกียจกันแน่?? สาวสุดหนักใจ... คบกับแฟนมา 4 ปี แฟนให้คำปรึกษาไม่ได้เลย เวลาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตัดสินใจ ชอบพูดคำว่า แล้วแต่เธอเลย ตอนนี้เขาลาออกจากงานประจำมาช่วยงานเรา แต่เที่ยงยังไม่ตื่น...

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ไม่มีความเป็นผู้นำ หรือ ขี้เกียจกันแน่?? สาวสุดหนักใจ... คบกับแฟนมา 4 ปี แฟนให้คำปรึกษาไม่ได้เลย เวลาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตัดสินใจ ชอบพูดคำว่า แล้วแต่เธอเลย ตอนนี้เขาลาออกจากงานประจำมาช่วยงานเรา แต่เที่ยงยังไม่ตื่น...

11 ส.ค. 2023

ไม่มีความเป็นผู้นำ หรือ ขี้เกียจกันแน่?? สาวสุดหนักใจ... คบกับแฟนมา 4 ปี

แฟนให้คำปรึกษาไม่ได้เลย เวลาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตัดสินใจ

ชอบพูดคำว่า แล้วแต่เธอเลย ตอนนี้เขาลาออกจากงานประจำมาช่วยงานเรา

แต่เที่ยงยังไม่ตื่น และ ชอบมาขอเงินเรา อ้างว่า เงินไม่พอใช้ ขอยืมทีละนิดๆ

ตอนนี้หนูอยากจะเลิก แต่ติดตรงที่มองหน้าเขาแล้วสงสาร ควรทำยังไงดี?

          “คุณแพท (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายแรกในรายการ “พุธทอล์ค พุธโทร” เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ส.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาแฟนไม่มีภาวะเป็นผู้นำ ไม่ขยันทำงานหาเงิน ไม่คิดสร้างอนาคตไปด้วยกัน

          โดย “คุณแพท (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 4ปีแล้ว แฟนอายุเท่ากัน ยังไม่ได้แต่งงาน แต่อยู่ด้วยกัน คือ... แฟนหนูไม่มีความเป็นผู้นำเลย เวลาที่เราต้องตัดสินใจอะไรเรื่องใหญ่ๆ หนูจะปรึกษาเขาไม่ค่อยได้ เขาจะพูดแค่คำว่า แล้วแต่เรา ตอนที่ซื้อบ้านด้วยกัน หนูก็ถามเขาว่า เธอเราซื้อตรงนี้ดีไหม หรือว่าราคาอย่างนี้เธอโอเคไหม เขาก็จะตอบแล้วแต่เธอ  หรือแม้แต่ภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เราจะแยกเงินคนละกระเป๋า เราจะไม่ยุ่งกับเงินเขา เขาก็จะไม่มายุ่งกับเงินของเรา ช่วงแรก ๆมันได้ แต่ช่วงหลัง ๆมาเขาก็จะมาขอเรา ในแต่ละครั้งไม่เยอะมากแต่ระยะเวลา ถ้าทบรวมๆกันก็เยอะ ครั้งละ 10,000-8,000 บาท

            บางทีเขาก็จะบอกเงินไม่พอจ่ายค่างวดรถ ไม่พอจ่ายค่านู้นค่านี่ ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขาเอง อย่างเช่น รถเป็นชื่อเขา แต่เราก็ใช้ด้วยกัน คือแพทจะทำงานอยู่ที่บ้าน เขาจะเป็นคนที่ใช้รถคนเดียว แพทก็จะไม่ค่อยได้ใช้ แต่รถออกเป็นชื่อเขาเพราะว่าชื่อแพทติดแบล็คลิสต์ออกรถไม่ได้ เขาจะมีขอจุกจิก บางทีก็ขอน้ำมันเติมค่ารถ 1,000-2,000 บาท ขอจุกขอจิกเราก็จะถามเขาว่า เงินเดือนเธอไม่พอหรอ? เขาก็จะบอกว่า ไม่พอ ไม่พอจริง ๆ

            แพททำงานอยู่ที่บ้าน เปิดเป็นร้านเบเกอรี่ แล้วทีนี้หลังๆมา ด้วยความที่เขาคิดว่าอยากมาช่วยเรา เขาก็ลาออกจากงานประจำ แต่เอาจริงๆ ร้านหนูเปิด 10 โมง เที่ยงเขายังไม่ตื่นเลย ตอนนี้เขาออกจากงานได้ 2 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีรายได้ หลักๆก็มาจากหนูกับคุณพ่อของหนู เพราะหนูก็ไปคุยกับคุณพ่อ คุณพ่อก็เลยให้เขามาทำงานกับพ่อ เพราะพ่อเปิดร้านขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เขาไปเฝ้าร้านให้ แล้วพ่อก็ให้เงินเดือนกับเขาต่างหาก เขาก็ทำงานแต่ไม่ค่อยดี เหมือนที่เขาทำก็อาจจะเกรงใจพ่อหนูด้วย แต่พ่อจะชอบโทรมาบ่นว่า เขาชอบหนีไปเข้าห้องน้ำนาน ๆ ชอบไปสูบบุหรี่หลังร้านนาน ๆ พอไปทำงานกับคุณพ่อแล้ว เขาก็ยังมีปัญหาการเงินเหมือนเดิม ยังมาขอเงินหนูเหมือนเดิม แต่ไม่ได้เยอะเท่าเดิม คือก่อนหน้านี้หนูเคยแต่งงานมาแล้วครั้งนึง หนูมีลูกกับแฟนเก่า หนูก็เลยบอกเขาไปว่า เรามีลูกนะ การที่เราจะเอาใครสักคนเข้ามา ถ้าจะให้เรารับผิดชอบเธอด้วย รับผิดชอบลูกด้วยเราก็ไม่ไหว...

            แพทก็มีความรู้สึกอยากจะเลิกกับเขานะ แต่มันติดตรงที่เขาก็มีความดีของเขาอยู่ เขาไม่เคยนอกใจเรา แล้วเราสัมผัสได้ว่าเขาก็รักเรา เขาทำกับข้าวให้กิน ทำงานบ้านให้หนู เวลาที่หนูจะบอกเลิกเขา แล้วหันมองหน้าเขา มันก็เลยกลายเป็นสงสารเขา แต่มันก็ไม่ใช่ทุกวันที่เขาทำให้เรานะ ในสายตาเราก็นับว่าเขาเป็นคนขี้เกียจในระดับนึง แต่ในความรู้สึกก็ยังว่า...เหมือนเขาเป็นคนดีคนหนึ่งอยู่ เพราะไม่เคยโกหกเรา ไม่เคยไปเที่ยว หรือไม่เคยไปเมาเละเทะที่ไหน และหนูก็เคยบอกเขาให้ไปทำงานเพื่อหาเงิน แต่เขาก็ถามหนูกลับมาว่า จะให้เราไปทำอะไร?

            เขาก็ดูเหมือนจะรักลูกติดของหนูนะ อย่างเวลาไปเดินห้าง เขาก็จะบอก เห้ยเธอชุดนี้สวยจัง ซื้อแล้วก็ส่งไปให้ลูกไหม? ซึ่งลูกของหนูคุณแม่จะเป็นคนเลี้ยงให้อยู่ที่ต่างจังหวัด แต่เขาก็ไม่เคยถามเลยว่า เธอเดือนนี้ส่งเงินให้ลูกหรือยัง มีเงินพอส่งให้ลูกไหม? เขาไม่เคยถามแบบเป็นห่วง เป็นใย อย่างคำถามที่ว่า ลูกเป็นไงบ้าง ลูกเปิดเทอมหรือยัง ลูกปิดเรียนวันไหน เขาจะไม่เคยมีคำถามพวกนี้เลย เขาเคยเจอลูกของหนู ความสัมพันธ์ก็ปกติ เจอกันก็พาไปซื้อขนม อยากได้อะไรซื้อให้  

            ตอนนี้หนูกำลังอยากสร้างครอบครัว อยากได้คนที่แบบมาเป็นคู่คิด ซึ่งเขาเป็นคู่คิดให้หนูไม่ได้ เขาจะคอยต้านหนูตลอด สมมติถ้าบอกว่าอันนี้ได้นะ เขาก็จะแย้งขึ้นมาทันทีว่าอันนี้ไม่ได้ อย่างหนูเคยทำขนมออกมาชิ้นนึง คิดแล้วว่ามันต้องขายได้แหละ เขาก็จะสวนขึ้นมาทันทีเลยว่า มันขายไม่ได้หรอก ทั้ง ๆที่ยังไม่ได้ลองขายเลย แค่ทำออกมาชิมกัน มันก็เลยเหมือนเขามาบั่นทอน

            ปีแรกๆ เขาดีมาก คือทำงานตลอด OT ยันดึกดื่น เขาดูเป็นคนขยันมาก จนหนูรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เราฝากชีวิตได้แหละ ก็เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกันกับเขา จุดเปลี่ยนเขา เอาจริงๆแพทก็ไม่รู้ เพราะแพทก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน อยู่ดีดีเขาก็เปลี่ยนไปเลย แพทยังเคยคุยกับเขาเลยว่า แพทรู้สึกว่าตอนนี้เขาไม่เหมือนคนเดิมคนนั้นเลยนะ เขาก็บอกว่า เราก็เป็นของเราแบบนี้แหละ เธอไม่สังเกตเอง

            เขาไม่ได้ทำให้เราเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ซัพพอร์ตความรู้สึกเราเหมือนกัน เขาเป็นคนไม่ทำอะไรผิดร้ายแรง แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรดีด้วย ทนมาประมาณ2ปี ตั้งแต่เขาลาออกจากงาน เลยอยากถามว่า แพทอยากเลิกค่ะ แต่ตัดความสงสารที่มีต่อเขาไม่ได้ ควรทำยังไงดี?

            งานนี้ในความคิดเห็นของผู้ชายอย่าง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริงๆแล้วเคสอย่างคุณแพท น่าแปลกใจตรงมีประสบการณ์ความรักมาแล้ว พอเป็นความรักครั้งที่สอง การจะมีครอบครัวผมว่า ส่วนใหญ่มันจะทำให้เราตัดช้อยส์ง่ายขึ้น เมื่อตอนพ่อของลูกเลิกกันเพราะเขานอกใจ เขาไปมีผู้หญิงคนอื่น ทำให้คุณแพทมีปม พอคนนี้ไม่นอกใจเขาเลยได้คะแนนบวกเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นอันนี้เลยเป็นข้อเสียที่คุณแพทยังไม่เคยเจอ บวกกับข้อดีที่มันไปคลายปมของคุณแพทในความรักครั้งแรก เขาไม่มาซ้ำในแผลเดิม เราก็เลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้บวกมาก แต่จริงๆแล้วถ้าคุณแพทย์ยังรู้สึกสงสาร นั่นแปลว่าคุณแพทยังสงสารตัวเองไม่มากพอ เลยยังมีแรงไปสงสารเขาอยู่ ก็คงต้องทน ก็คือถ้าให้ผมบอกนะ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ก็ต้องทน ทนจนกว่าคุณแพทจะเริ่มสงสารตัวเองและครอบครัว ถึงเวลานั้นคุณแพทจะรู้ว่าควรทำอย่างไร

            จริงๆมันควรเป็นวัยและเวลาที่เราไม่อยากเสียเวลาแล้ว เราเคยผ่านความรักครั้งแรกมา แล้วมันก็ล้มเหลว ความรักครั้งที่สองมันควรจะชัดเจนขึ้น อะไรที่ไม่ใช่ไปให้เร็ว ไม่มาอารัมภบทให้วุ่นวาย ไม่มาดราม่ากันแบบไร้สาระ ไม่ใช่ก็แยกย้าย มันควรจะเป็นอย่างนั้น นั่นแปลว่าความสงสาร คุณแพทยังชั่งน้ำหนักแล้วรู้สึกยังทนกับข้อเสียของเขาได้ และข้อดีของเขายังชนะอยู่ หรือมันเสมอกันแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็ว่าเหลือเวลาไม่นานที่ความอดทนครั้งนี้มันจะหมดลง มันอาจจะเป็นฝางเส้นสุดท้ายก็ได้ ผมว่าคุณแพทไม่ต้องกังวล ถ้าความรู้สึกนี้ค่อย ๆก่อตัว เดี๋ยววันนึงมันก็จะชัดเจน อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะมีวิธีจบเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน บางคนเตือนก่อน บางคนระเบิดบึ้มแล้วไปเลย คุณแพทเองก็เคยยื่นคำขาดมาหลายทีแล้ว แต่เขารู้ไหมว่าเขาอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างวิกฤต แล้วก็คุณแพทมีทางเลือกที่จะเลิก

            ไปต่อกันที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘คุณแพท คือต้นหอมเวอร์ชั่นเก่า ที่ยังไม่ตรัสรู้ เพราะหอมเคยเป็น หอมเคยมีแฟนที่นอกใจ พอวันที่เรามีแฟนที่นอกใจ เราจะมีปมเลยหนึ่งอย่างว่า ครั้งหน้าขอแค่ข้อเดียว ขอคนที่ไม่นอกใจ พอแล้วเพราะว่ามันเจ็บกับสิ่งนี้มาก ขอคนที่ไม่นอกใจ แล้ววันนึงเจอผู้ชายที่ไม่นอกใจ แค่คำว่า ไม่นอกใจ เรากลายเป็นเราตกเป็นทาสคำนี้เลย ที่เหลือผู้ชายแม่งเห็นแก่ตัว ขี้เกียจ เอาเปรียบสารพัด แล้วอยู่ก็ไม่มีความสุข แต่เขาไม่นอกใจ คิดแบบนี้อยู่ จนไม่มีความสุข หรือเป็นที่ตัวเราเอง เราปรับเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง สุดท้ายคือ เราไม่ได้ต้องการแค่ไม่นอกใจ เรามีผู้ชายในแบบที่เราต้องการ และ ผู้ชายที่เราไม่ต้องการ ซึ่งเขามีสิ่งที่คุณแพทไม่ต้องการ เมื่อใครก็ตาม ที่ไปแตะสิ่งที่คุณแพทไม่ต้องการ แปลว่าคนนี้ไม่ใช่ คุณแพทกำลังอยู่กับจิ๊กซอว์ที่ไม่ใช่

            ฉะนั้นวันนี้จะไปถามหาความสุขจากคนที่เขาไม่มีสิ่งนั้นให้คุณแพท คุณแพทก็จะอยู่ไม่มีความสุข คือเขาไม่ใช่ แล้วก็สิ่งที่คุณแพทบอก ลุกไปทำงานหรืออะไรก็ตาม เขาไม่ทำเพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาปรับเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นตัวเขาไปแล้ว แล้วคุณแพทก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทน แต่ในเมื่อมองหน้าเขา เห็นหน้าเขาแล้วสงสาร คุณแพทก็แค่ลองหันกระจก แล้วมองหน้าตัวเองดูบ้าง ฉันสงสารตัวเองอยู่หรือเปล่าทุกวันนี้ ที่ต้องทนอยู่กับคนแบบนี้ ถ้าแพทคิดว่าการเลิกกับเขามันยากที่สุด เดี๋ยวแพทจะทำใจไม่ได้ ไม่ใช่นะ หอมบอกเลยว่า ผู้ชายทรงแบบนี้ไล่ไม่ไป เพราะเขาอยู่สบายแล้ว อันนี้หนักกว่า ทำอย่าไงให้คนนี้ไปเถอะ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการทำอย่าไงให้เขาออกไปจากบ้าน อันนี้ยากมาก คนแบบนี้ไม่ออก

            และคนสุดท้ายของค่ำคืนนี้ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘งั้นพี่พูดในเชิงที่ว่า จะทำให้หนูเวลามาคิดแล้วสงสารเขาดีกว่านะ ว่าจะเอาความรู้สึกนี้ออกไปยังไงดีกว่าเนอะ พี่รู้สึกว่าอยากให้แพทถามตัวเองว่า ถ้าหนูจะมีคนรัก จะมีสามีหนูต้องการอะไรจากสถานะนี้ ต้องการคนที่เป็นผู้นำ ต้องการคนที่เป็นกำลังใจ ต้องการคนที่มีความรับผิดชอบทั้งตัวเขาเองและครอบครัว หรือหนูต้องการแค่แบบทำกับข้าว คนดูแลบ้าน คนที่ไม่นอกใจ ซึ่งถ้าต้องการแค่นี้ หนูจ้างแม่บ้านดีดีสักคนก็ได้เลยนะ แล้วทำแบบFULL-TIME ไม่แบบ 3วันดี 4วันไข้ด้วย

            แต่เรากอดแม่บ้านไม่ได้ แสดงว่าหนูต้องการที่พึ่งทางใจ ที่จะให้ความรัก การดูแล ความรับผิดชอบ ซึ่งแสดงว่าในตัวผู้ชายคนนี้ มันไม่มี แล้วหนูต้องหาคนอื่นมาทำหน้าที่แทนเขา สำหรับพี่ คือ ก้อนที่เขาทำได้ ตอนนี้ที่หนูบอก ทำกับข้าว ดูแลบ้าน ไม่นอกใจ ก้อนนี้มันหาคนมาทำแทนเขาได้เลย มันแล้วแต่ว่า คนรักที่หนูต้องการจะมี หนูอยากให้เขาเป็นอะไรสำหรับหนูในตอนนี้ เท่านั้นเอง

            เพราะว่าถ้าหนูสงสารเขาไป แต่เขาไม่หยุดเอาเงิน มันสงสารตัวเองดีกว่าไหม เพราะแพทไม่ใช่คนที่มีฐานะร่ำรวยถูกไหม ที่แบบอยากได้เท่าไหร่ เปย์ เปย์ ขอแค่อยู่กับฉัน ไม่นอกใจฉัน ไม่ใช่อะ หนูก็ทำมาหากิน เขาที่ตอนนี้อายุ 30 แล้วอยู่จะทำงานเลย อย่างที่พี่บอก ผู้ชายคนนี้ยังรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้เลย แล้วเขาจะไปรับผิดชอบชีวิตใครได้ แล้วเขาไม่ใช่เด็กอายุ 15-16 ที่เหมือนกำลังเรียนรู้ชีวิตที่ต้องการอะไร ตอนนี้เขาอายุ 30 ที่มีหนูอยู่ข้าง ๆแล้ว ในฐานะสามีภรรยากัน ทุกครั้งถ้าจะสงสารเขา ลองคุยกับตัวเองว่าสิ่งที่เราเจอแบบนี้ถ้ามันต้องเจอไปอีก 5ปี 6ปี 7ปี ใครกันที่น่าสงสาร หนูตื่นมาทำขนม ตื่นมาทำมาหากินของหนู ในขณะที่เขานอนตื่นเที่ยง แล้วให้ไปทำงานไม่ทำ สำหรับพี่ตอนนี้นะ ถ้าพี่คิดไวๆ พี่จะบอกให้เขาไปทำงาน ถ้าเขาไม่ทำ พี่ก็บอกว่า งั้นเธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับเงินแพทแล้วนะ แพทมีลูกต้องเลี้ยง แพทย์มีที่บ้านต้องดูแล เขาควรดูแลชีวิตตัวเองให้ได้ก่อนด้วยซ้ำในตอนนี้ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรจะเก็บคนแบบนี้ไว้ในฐานะคนรักนะคะ หรือถ้าเขาบอกว่าเขาอยากอยู่ ก็มาเป็นคนงานที่บ้านไหมหละ

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เรื่องนี้ต้องถึงสื่อ!! ลูกสาวโทรปรึกษา พ่อหย่ากับแม่มา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อไม่ยอมไปไหนและไม่ทำงาน ทำร้ายแม่กับลูกๆ พ่อเคยใช้มีดดาบซามูไร แทงทะลุประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งหนูก็มีหลักฐาน คลิปเหตุการณ์ ผลตรวจร่างกายครบ

12 พ.ค. 2023

เรื่องนี้ต้องถึงสื่อ!! ลูกสาวโทรปรึกษา พ่อหย่ากับแม่มา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อไม่ยอมไปไหนและไม่ทำงาน ทำร้ายแม่กับลูกๆ พ่อเคยใช้มีดดาบซามูไร แทงทะลุประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งหนูก็มีหลักฐาน คลิปเหตุการณ์ ผลตรวจร่างกายครบ

เรื่องนี้ต้องถึงสื่อ!! ลูกสาวโทรปรึกษา พ่อหย่ากับแม่มา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อไม่ยอมไปไหนและไม่ทำงาน ทำร้ายแม่กับลูกๆ พ่อเคยใช้มีดดาบซามูไร แทงทะลุประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งหนูก็มีหลักฐาน คลิปเหตุการณ์ ผลตรวจร่างกายครบ พอไปแจ้งความ ตำรวจบอกแค่... ‘เป็นปัญหาในครอบครัว’ หนูสงสัย หรือต้องรอให้มีคนตายก่อนหรอคะ? “คุณหลิน (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว โดย “คุณหลิน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พ่อของหนู เขาไม่ใช่พ่อและสามีที่ดีเลย เพราะเขาทำร้ายร่างกายแม่โดยตลอด หนูเห็นมาตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยให้ความรักกับลูกๆเลย และเป็นคนเจ้าชู้ มีเล็ก มีน้อย มาตลอด ทั้งพาเข้าบ้าน เป็นเพื่อนของแม่ ลูกค้าในร้าน แม้กระทั่งแม่บ้านก็มี ส่วนแม่ก็ไม่โอเค เพราะตั้งแต่หนูเด็กๆต้องนั่งรถกับแม่ตอนกลางคืน เพื่อไปขับรถตามหาพ่อทั่วเมือง และเวลาที่พ่อทำร้ายร่างกายหรือเอาผู้หญิงเข้าบ้าน แม่ก็เคยพาหนูหนีออกจากบ้านด้วย และเวลาที่พ่อทำร้ายร่างกายแม่ หนูก็เข้าไปห้ามแต่ก็จะโดนด้วยตลอด หนูมีพี่น้อง 4 คน หนูเป็นคนที่ 2 น้องเล็กสุดอายุ 16-17 ปี ซึ่งแม่ก็ต้องพึ่งเรื่องเงินจากพ่อ และพ่อก็ไม่สามารถดูแลลูกได้ เพราะส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนที่คอยรับ-ส่งโรงเรียน แม่จะเป็นคนที่รู้รายละเอียดของลูกทุกอย่าง พ่อไม่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเลี้ยงเลย ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกไม่เคยมีการพูดคุยกันเลย จะต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่เด็กๆเลย หนูเลิกเรียนกลับบ้านมาก็จะเห็นพ่อนั่งกินเหล้าอยู่ทุกวัน ถ้าวันหยุดพ่อก็จะบังคับให้ช่วยทำงาน เพราะเขาทำงานแบบต่อเติมบ้าน หนูกับพี่ๆก็ต้องช่วยเขาแบกของทาสีตลอด ณ ปัจจุบัน แม่หย่ากับพ่อมา 5-6 ปีแล้ว แต่หลังจากที่หย่ากัน พ่อก็ไม่ไปไหน ยังอยู่บ้านเดียวกับพวกหนู เขาไม่ยอมออกไป ทางคุณย่าและญาติเขาก็ไม่มีใครรับด้วย และที่สำคัญคือเขาก็เลิกทำงานไปเลย หนูคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยของเขาด้วย เวลาเขาไปทำงานให้ใคร เขาก็จะแอบไปมีอะไรกับภรรยาของลูกค้า หรือด้วยหลายๆอย่างที่ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาร่วมงานกับเขา ลูกค้าใหม่ก็ไม่มีเลย ทำให้พ่อไม่มีงาน และไม่มีใครอยากจะยุ่ง ตอนนี้คุณแม่เป็นเสาหลักของบ้านแทนแล้ว แม่ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน ลูกอีก 4 คน และพ่อที่หย่ากันไปนานแล้ว ตอนนี้พี่สาวกับหนูก็ทำงานแล้ว จะดูแลตัวเองกันและมีช่วยในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งบ้านของหนูที่อยู่ตอนนี้เป็นอาคารพาณิชย์ เป็นบ้านที่ซื้อแล้ว ชื่อเจ้าของบ้านเป็นชื่อของลูก 3 คน ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ประกาศขายบ้านไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจเลย พวกหนูแยกสัดส่วนพื้นที่กัน แม่จะอยู่ชั้น 2 ส่วนพ่อจะอยู่ชั้น 3 เวลากินข้าวก็จะไม่กินร่วมกัน ทุกอย่างแยกกันอยู่หมด แต่เขาจะคอยมาขอเงินตลอด ถ้าไม่ให้เขาก็จะขู่ว่าแบบอย่ากดดันเขามาก เขาไม่อยากฆ่าคนตอนแก่ การที่แบ่งชั้นให้พ่อกับแม่ ก็มีการคุยกันแล้วว่าจะไม่มีการมายุ่งกัน ไม่ให้มาเกี่ยวข้องกันอีก ถ้ามีอะไรต้องคุยผ่านลูกอย่างเดียว แต่พ่อก็ยังเข้าไปทำร้ายแม่ในห้อง ในพื้นที่ของแม่อีก เข้าไปตบตี ซึ่งหนูมีคลิปวิดีโอ มีกล้องวงจรปิดทุกอย่าง หนูเอาไปแจ้งความก็แล้ว ตรวจร่างกายก็แล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะตำรวจบอกว่าเป็นปัญหาของครอบครัว นอกจากเขาทำร้ายแม่แล้ว เขาก็ยังทำร้ายลูกๆอีกด้วย เหมือนเขาพยายามจะเปิดห้องเข้ามา แต่ลูกๆไม่ให้เข้า เขาใช้มีดเหมือนดาบซามูไรแทงสวนมาตรงซอกประตู แล้วเขาบอกให้ออกมาคุย ทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็มีการโทรแจ้งตำรวจตลอด พอตำรวจมา พ่อก็จะบอกไม่มีอะไรครับ เขาดูเป็นคนปกติ แบบคุยรู้เรื่องขึ้นมาทันที หนูมีคลิปทุกอย่าง แต่ตำรวจบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เหตุสงบแล้ว ไม่ได้เป็นเหตุซึ่งหน้า พวกหนูทำทุกทางแล้ว แจ้งตำรวจหลายรอบมาก แจ้งหน่วยงานความรุนแรงในครอบครัว เขาก็มาทำข้อตกลง ทำสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หน่วยงานก็บอกว่าเขาทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตอนนี้หนูห่วงแม่ที่สุด เพราะแม่ก็เพิ่งตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็ง ร่างกายเขาก็แย่แล้ว จิตใจต้องมาเจอเรื่องอะไรพวกนี้อีก หนูก็เลยติด Digital door lock เพื่อความปลอดภัยของแม่มากขึ้น แต่ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาก็พยายามใส่รหัส แล้วก็จะพังประตู พวกหนูก็เลยแจ้งตำรวจอีก เขามาและก็กลับไปเหมือนเดิม... โดยเรื่องนี้ ทั้ง 3 ดีเจได้ให้ความคิดเห็นตรงกันว่า 'ควรที่จะออกมาจากบ้านหลังนี้ก่อน เพราะสถานการณ์ค่อนข้างอันตราย เรื่องที่พ่อใช้ความรุนแรงก็เพิ่งเกิดเมื่อสัปดาห์ก่อนนี่เอง อยากจะให้ถอยออกมาตั้งหลัก คิดหาทางออกในที่ที่ปลอดภัยก่อน การขายตึก หรือ ประกาศขาย อาจจะไม่ใช่ทางออกทั้งหมดของเรื่องนี้ แนะนำให้ ประกาศขายออนไลน์ หาคนมาซื้อตึกอีกที แล้วถ้าคุณแม่มีญาติ ลองขอย้ายไปอยู่บ้านญาติก่อนดีไหม? มันเป็นกรณีฉุกเฉิน คุยกับญาติเลย เพราะการอยู่ต่อไปในบ้านหลังนี้ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ลองติดต่อหา มูลนิธิ เพจ หรือ สื่อต่างๆ ที่รับเรื่องนี้ พอเรื่องมันดัง มีคนให้ความสนใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ น่าแปลกใจที่สังคมเป็นแบบนี้ไปแล้ว คนหันไปหาช่องทางช่วยเหลืออื่นๆแทนที่จะไปแจ้งความเพียงอย่างเดียว สุดท้ายทั้ง 3 ดีเจขอส่งกำลังใจไปถึงน้องหลิน ครอบครัว และ ทุกคนในครอบครัวด้วยนะ มีอะไรสามารถอัปเดตเพิ่มเติม ติดต่อทางทีมงานเรามาได้ตลอดเลย'เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูอายุ 15 อยาก Make Friend กับเพื่อนผู้ชายคนนึง แต่ไม่กล้า หนูชอบเพลงยุค 90 มี ‘พี่มาช่า’ เป็นศิลปินในดวงใจ ตอนอยู่โรงเรียน เขาดีดกีต้าร์ร้องเพลงของ ‘พี่หนุ่ย อำพล’ ด้วย พีคสุด! เพิ่งรู้ว่าร้านเทปที่หนูเคยไปซื้อ แม่เค้าก็เป็นเจ้าของร้าน...

07 มี.ค. 2023

หนูอายุ 15 อยาก Make Friend กับเพื่อนผู้ชายคนนึง แต่ไม่กล้า หนูชอบเพลงยุค 90 มี ‘พี่มาช่า’ เป็นศิลปินในดวงใจ ตอนอยู่โรงเรียน เขาดีดกีต้าร์ร้องเพลงของ ‘พี่หนุ่ย อำพล’ ด้วย พีคสุด! เพิ่งรู้ว่าร้านเทปที่หนูเคยไปซื้อ แม่เค้าก็เป็นเจ้าของร้าน...

“น้องมัมมัม (นามสมมุติ)” อายุ 15 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (01/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาพี่ๆ ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาการแอบชอบเพื่อนโดย “น้องมัมมัม (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ส่วนตัวหนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเข้าหาคนอื่น ซึ่งเวลาที่คนนอกมองมาจะดูเหมือนคนหยิ่ง ไม่มองใคร ดูแบบใครๆก็เข้าถึงตัวยาก ทั้งๆที่ในใจหนูก็อยากเข้าหาแต่ไม่กล้า ตอนนี้หนูมีกลุ่มเพื่อนที่สนิทๆกัน แต่เพื่อนๆก็เป็นคนเข้าหาหนูก่อน เลยได้สนิทกันคือหนูอยากเมคเฟรนด์กับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง อยู่ห้องเดียวกัน นั่งใกล้ๆกัน ที่หนูอยากเมคเฟรนด์กับเขาเพราะเขามีอะไรคล้ายๆกับหนูมากๆเลย หนูจะเป็นคนที่รสนิยมไม่ได้เหมือนกับเพื่อนในวัยเดียวกัน เพราะหนูชอบฟังเพลงเก่าๆ ยุค 90 หนูมีศิลปินในดวงใจคือ พี่มาช่า วัฒนพานิช...ตอนหนูขึ้นชั้น ม.4 มันทำให้หนูรู้ว่า จริงๆแล้วก็มีคนที่ฟังเพลงเหมือนหนูเหมือนกัน ซึ่งคนๆนั้นก็คือเพื่อนคนนี้ที่หนูอยากเมคเฟรนด์ด้วย จริงๆหนูแค่อยากเมคเฟรนด์กับเขา แต่สถานการณ์ทุกอย่างมันไม่เอื้ออำนวยเลย หนูเป็นคนขี้อายด้วย และเขาก็ไม่กล้าที่จะมาคุยกับหนูด้วยเหมือนกัน แรกๆก็ไม่รู้ว่าเขาชอบเพลงพวกนี้ แต่พอหลังๆเขาก็หยิบกีต้าร์ขึ้นมาเล่นเพลงเก่าๆ แล้วก็นั่งเล่นอยู่หลังห้อง เขาจะร้องพวกเพลงไทยสากล โมเดิร์นด็อก พอส เพลงแกรมมี่ และเขาก็เล่นเพลงของพี่หนุ่ย อําพล ด้วย ตอนนั้นหนูปลื้มใจมาก ไม่เคยมีใครรู้ว่าหนูชอบเพลงนี้ หนูนั่งเงียบอยู่หน้าห้อง เขินมาก แต่ไม่กล้าเลยและมีครั้งหนึ่งที่ความพยายามหนูจะเพิ่งขึ้น ตอนนั้นไปทัศนศึกษาที่ต่างจังหวัด มันจะมีพวกที่ร้องเพลงบนรถ แล้วช่วงนั้นเป็นขากลับ หนูเหมือนโดนเจ้าเข้า วิญญาณพี่ช่าเข้าใส่ร่างหนู แล้วหนูก็ร้องเพลงออกไป เพื่อนคนอื่นก็นั่งเงียบ เพราะไม่มีใครรู้จักพี่ช่าเลย หนูก็ไม่รู้เลยว่าหนูกับเขาร้องเพลงคู่กัน เขาร้องอยู่ของเขา หนูก็เลยไปแย่งไมค์คนอื่นมาร้อง หนูก็อยากจะเมคเฟรนด์กับเขาขึ้นเรื่อยๆ และเหมือนเขาก็อยากจะเมคเฟรนด์กับหนูเหมือนกัน เวลาที่หนูลงสตอรี่ไอจีอะไรเกี่ยวกับพวกเก่าๆ ที่บ้านหนูมีเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ท หนูก็ชอบเอามาเปิดเล่นลงสตอรี่ไอจี เขาก็ชอบมากดใจให้ ก่อนหน้านี้หนูปิดรีพายไว้ แต่ตอนนี้เพิ่งเปิดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มันก็มีเหตุการณ์ที่เราได้คุยกันจริงๆจัง คือ หนูเดินไปซื้อเทปอยู่แถวๆตลาด หนูก็ได้เจอกับร้านๆนึง ซึ่งมันพีคมากตรงที่เจ้าของร้านนั้นเป็นแม่ของเขา บังเอิญมาก แล้วเราก็เลยได้ทักกัน หนูก็เลยเอาเทปที่เพิ่งซื้อมาลงในสตอรี่ไอจี เขาก็รีพายมาว่า เขาเพิ่งรู้ว่าคนที่ซื้อเทปจากร้านแม่เขาไปคือหนู แล้วก็คุยกัน ถามกันเป็นไงบ้าง อะไรประมาณนี้ ตอนนั้นหนูรู้สึกใจเต้นมากเลย เพราะเขาทักมา หนูไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยแล้วหนูก็แอบมองเขามาเรื่อยๆ จนเดือนที่ผ่านมา หนูก็นั่งเรียนวิชาพระพุทธในห้องพระตามปกติ แล้วมันเหลือที่ว่างข้างๆ หนูแค่ทีเดียว เขาเดินเข้ามาในห้องแล้วเห็นที่ว่างตรงนั้น เขาก็ไม่นั่ง เดินหนีไปทางอื่น แล้วก็พูดอะไรไม่รู้กับเพื่อน เหมือนไม่พอใจที่เหลือที่ว่างแค่ข้างหนู เขาก็ไปเบียดนั่งกับคนอื่นแทน ทำให้หนูรู้สึกว่า เอ๊ะ! หรือว่าจริงๆแล้วเขาไม่อยากเมคเฟรนด์กับเรา หรือเขาไม่ชอบเรารึป่าว หนูแค่หวังว่าอยากจะเมคเฟรนด์กับเขาในฐานะเพื่อน แต่ถ้าจะเป็นแฟนก็ไม่ปิดกั้นมันไม่ใช่แค่กับเขาคนเดียวที่หนูอยากจะเมคเฟรนด์ แต่หนูอยากเมคเฟรนด์กับเพื่อนๆหลายคน แต่ไม่กล้าเลย ไม่กล้าที่จะเข้าหาใครเลย รวมถึงกรณีของเขาด้วย...3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษา “น้องมัมมัม (นามสมมุติ)” ว่า ‘สมัยนี้มันมีตัวช่วยเยอะมาก แอปพลิเคชันต่างๆ หลักพื้นฐานง่ายๆเวลาที่หนูอยากรู้จักกับใคร คือต้องพยายามสร้างบทสนทนาที่เป็นปลายเปิด เพื่อให้เขาได้แสดงความเห็นแล้วเราจะได้มีบทสนทนาการโต้ตอบกับเขาได้ การสร้างบทสนทนานั่นคือสิ่งสำคัญมาก การพูดคุย พยายามหาประสบการณ์ร่วมอะไรก็ได้ ที่หนูรู้สึกว่าถ้าคุยกันเรื่องนี้ หนูมีเรื่องที่จะคุยได้ และเขาก็มีเรื่องจะคุยกับเราได้ อย่างเพื่อนผู้ชายคนนี้ก็คือเรื่องเพลง หนูลองไปชวนเขาคุยเลย เช่น ได้ฟังเพลงนั้นเพลงนี้มั้ย เราชอบเพลงนี้เหมือนกันหนูลองหากิจกรรมที่มันจะเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้หนูปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ไปเข้าชมรมอะไรก็ตามที่ทำให้หนูได้อยู่กับคน ได้พูดกับคน ทำความรู้จักกับคน เราต้องพยายามเอาตัวเองออกไปจากที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยสำหรับเรา เพื่อที่เราจะได้รู้จักคนอื่นและโลกใหม่ๆแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่งหนูรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวหนู หนูไม่ใช่คนที่จะเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องพยายามนะ เพราะวันนึงโลกมันจะเหวี่ยงคนแบบหนูนี่แหละมาให้เจอกัน มองหน้ากันแล้วเดี๋ยวก็เป็นเพื่อนกันเอง มันเป็นการตามหาจุดที่เราสบายใจด้วย ว่าเราเป็นคนแบบไหน วางตัวแบบไหน จุดไหนที่เราเองก็แฮปปี้ เพื่อนก็แฮปปี้กับเรา แต่หลักๆคือไม่ต้องพยายามจนไม่เป็นตัวของตัวเองนะ...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมา 5 ปี รู้อีกที... เป็นเมียคนที่ 4 ไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายขอไปๆมาๆ หาเมียคนที่ 1 คนที่ 2 เพราะมีลูกด้วยกัน ตอนนี้หนูตัดสินใจถอยออกมาจากบ้านเขาแล้ว... แต่ยังกลัวตัวเองจะใจอ่อนกลับไปหาเขา ถ้าเขาตามมาของ้อ

19 พ.ค. 2023

คบแฟนมา 5 ปี รู้อีกที... เป็นเมียคนที่ 4 ไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายขอไปๆมาๆ หาเมียคนที่ 1 คนที่ 2 เพราะมีลูกด้วยกัน ตอนนี้หนูตัดสินใจถอยออกมาจากบ้านเขาแล้ว... แต่ยังกลัวตัวเองจะใจอ่อนกลับไปหาเขา ถ้าเขาตามมาของ้อ

“คุณเอ็ม (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (17 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับแฟน โดย “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับผู้ชายคนหนึ่งมา 5 ปีแล้ว คบกันตั้งแต่หนูอายุยังไม่ถึง 20 เลย อายุเราสองคนห่างกัน 18 ปี แต่หนูมารู้ตัวอีกทีก็เป็นเมียที่ 4 ของเขาแล้ว ซึ่งช่วงปีแรกๆ หนูไม่รู้อะไรเลย มารู้ก็ช่วงคบกันได้ประมาณ 2 ปีกว่า ตอนที่คบกัน หนูอยู่บ้านเขา เราอยู่ด้วยกันจนไม่มีอะไรให้เอะใจเลย แต่หนูรู้ว่าเขามีลูก เขาบอกเลิกกันแล้ว แต่ต้องติดต่อกับแม่ของลูกตลอด ซึ่งเวลาคุยกันเขาจะคุยต่อหน้าหนู และจะคุยกันแต่เรื่องลูก ในระหว่างที่เขาอยู่กับหนู เขาไม่เคยไปหาลูกเลย วันนั้นหนูทำงานร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แล้วก็ไปเจอแฟนคนที่ 3 ของเขา เดินมาคุยกับหนู แล้วถามหนูว่าคุยกับคนนี้อยู่หรอ? หนูก็บอกว่าคุย พอกลับมาถึงบ้านหนูก็ไปถามแฟนหนูว่าคนนี้เขาเป็นใคร ยังไง เขาก็ยอมรับมาว่าเขามีแม่ของลูก 2 คน แล้วลูกอายุเท่ากันด้วย ห่างกันไม่กี่เดือน ก่อนที่เขาจะเอาหนูมาอยู่บ้านด้วย เขาก็เคยอยู่กับคนที่ 3 เหมือนกัน แต่อีก 2 บ้านแรกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน คนที่ 3 ของเขาอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่คนละอำเภอ หนูก็ไม่เคยรู้ว่ามีคนนี้อยู่ ซึ่งช่วงที่แฟนมาเจอหนู คนที่ 3 เขาไปอยู่ต่างจังหวัด ในระหว่างที่อยู่กับหนูหลายๆเดือน แฟนหนูไม่มีการบินไปหาหรือติดต่อกันเลย จนผู้หญิงคนที่ 3 เขากลับมาแล้วมาเจอหนูว่าหนูไปเฝ้าผู้ชายคนนี้ ซึ่งแฟนหนูเขาก็ทำงานสถานบันเทิงเหมือนกัน เขาไม่เคยเลิกกันเลย เขาบอกกับหนูว่าจะเคลียร์กับทุกบ้านให้ เขาขอรับผิดชอบแค่ลูกของบ้านแรกกับบ้าน 2 แล้วเขาก็ไปเคลียร์กับคนที่ 3 ให้จริงๆ เพราะคนที่ 3 เขามาโวยวายใส่หนู แต่ 2 บ้านแรก หนูก็ไม่ได้อะไร เพราะคิดว่าเขาไม่ได้ติดต่อกัน เพราะหนูอยู่บ้านกับเขาตลอด แทบจะ 24 ชั่วโมง ตอนแรกหนูก็ไปๆมาๆ บ้านหนูกับบ้านเขา แต่ครอบครัวหนูค่อนข้างท็อกซิกนิดนึง หนูก็เลยไม่อยากอยู่บ้าน ส่วนมากก็ใช้ชีวิตที่บ้านเขา หลังจากที่รู้ได้ไม่นาน หนูเข้าโทรศัพท์เขาได้ตลอด แต่เขาไม่รู้ แล้วมีช่วงนึงที่เขาขอไปนอนบ้านแรก เขาบอกเหมือนลูกอยากอยู่กับเขา ซึ่งหนูก็มารู้ทีหลังเหมือนกันว่า บ้านแรกเขาจดทะเบียนและก็ยังไม่ได้หย่ากันด้วย เหมือนบ้านแรกเขาก็รู้ว่าผู้ชายอยู่กับผู้หญิงอีกคนนึง แต่เขาไม่รู้ว่าหนูคือใคร หนูก็โอเค ให้เขาไปได้ หนูเชื่อใจเขา เพราะลูกเขามาอยู่กับหนูก็ไม่ได้ หลังจากนั้นทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เขาก็ไปนอนบ้านแรกทุกสัปดาห์ จนมีอยู่วันนึง หนูเข้าไปเช็คโทรศัพท์เขา หนูเห็นว่าบ้านแรกส่งที่ตรวจครรภ์มาให้เขาดูว่าท้องอีกรอบนึง หลังจากที่หนูรู้ หนูก็นิ่งมาตลอด ไม่เคยถามอะไรเขา หนูนั่งนับเดือนตลอดว่าจะคลอดเดือนไหน จนถึงเดือนที่ใกล้จะคลอด หนูก็คุยกับเขาว่าสรุปจะเอายังไง จะคลอดวันไหน เขาก็อึ้งไปเลย คือ เขาไม่รู้ว่าหนูรู้เรื่องนี้ เขาคิดว่ามีคนมาบอกหนู แล้วเขาก็ยอมรับและบอกว่าเดี๋ยวจะคลอดเร็วๆนี้แล้ว หนูก็เลยถามไปว่าแล้วจะเอายังไง จะให้หนูอยู่ต่อยังไง หนูอยู่ต่อไม่ได้... เขาก็บอกว่าเขาเคลียร์กันแล้ว ผู้ชายจะเอาลูกคนเล็กมาเลี้ยง แล้วให้ผู้หญิงเอาลูกคนโตไป หนูก็เชื่อเขาอีก ถ้าเขาจะเอาลูกมาเลี้ยง หนูก็ยินดีและเต็มใจ เขาบอกว่าเขาขอโทษ เขาพลาด ไม่ได้มีอะไรกันมานานแล้ว พลาดครั้งเดียว มันก็ดันติดเลย ตอนนี้หนูก็เลยคุยกับเขา แล้วก็โอเคกัน จนถึงวันที่ผู้หญิงคนนั้นคลอด เขาก็พาไปส่งและจนถึงตอนนี้ 2 ปี จะ 3 ปีแล้ว เขาก็ไม่ได้กลับมาอยู่บ้านกับหนูอีกเลย แต่ก็ยังคุยกัน เขาแค่ไม่กลับมานอนบ้านด้วยกัน หนูก็ยังอยู่บ้านเขา ตอนนี้ชีวิตหนูเหมือนมีจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง ทุกวันนี้หนูตื่นมาไม่มีความสุขเลย แล้วก็เป็นโรคซึมเศร้าด้วย เราได้เจอกันแค่ตอนเขาเลิกงานวันละ 1 ชั่วโมงเอง บางวันก็ไม่ได้เจอ แค่เวลากินข้าวด้วยกันยังไม่มีเลย เขาให้เหตุผลว่าเขาต้องช่วยดูลูกฝั่งนู้น เพราะผู้หญิงไม่ให้ลูกมาเลี้ยง ในระหว่าง 2 ปีนี้เราก็ยังมีอะไรกับเขา เขาก็ยังวาดฝันให้หนูว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกัน จะสร้างนั่น สร้างนี้ด้วยกัน จนสุดท้ายมาถึงทุกวันนี้ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้หนูเก็บเสื้อผ้ากลับออกมาอยู่บ้านหนูแล้ว แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะชอบพูดว่าถ้าหนูเจอคนใหม่ที่ดีกว่า หนูไปได้เลยนะ แต่พอทุกครั้งที่หนูจะไปจริงๆ เขาจะมาดึงหนูกลับไปตลอด แล้วหนูก็กลับไปกับเขา ล่าสุดเขาโทรมาแต่หนูไม่ได้รับ ส่งข้อความมาหนูก็ไม่ได้อ่าน หนูพยายามใจแข็งมากจริงๆ แต่หนูกลัวว่าถ้าวันนึงเขาจะมาหาหนู แล้วเจอหน้ากัน หนูกลัวจะใจอ่อน... 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษา โดยเริ่มจาก “ดีเจเติ้ล” : สมมุติถ้าเราดิ่งแล้วเค้ากลับมาวิธีแรกเลย คือ เอ็มต้องคิดว่าโหตั้งแต่จับได้จนถึงตอนนี้ มันคือชีวิตของเอ็มที่เสียเวลาไปโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย จากความทุกข์ใจที่เอ็มต้องรอคนคนนึงอยู่ ไม่มีคำตอบ ไม่มีอะไรให้เราทั้งสิ้น เอาเราไปแขวนไว้ตรงนั้น เหมือนกับเราเป็นอะไรก็ไม่รู้ จะมาก็มา จะไปก็ไป ตอนนี้คำสัญญาของเขา มันคือคำโกหกหลอกลวง เขาไม่ทำจริงหรอก เค้าเคลียร์ก็คงเคลียร์ไปตั้งแต่ตอนนู้นแล้ว มันชัดเจนตั้งแต่ที่บอกเอ็มว่าจะไปดูแลลูกแต่ก็ไปเผลอมีอะไรกันกับเมียคนแรก จนมีลูกอีกรอบ เค้าคงเห็นหนูเป็นแค่ชู้ทางใจ เค้าให้ค่าหนูเท่านี้แหละ เพราะฉะนั้นถ้าเค้าจะดึงให้หนูกลับมาอีกหนูต้องคิดแล้วนะ ว่าถ้าหนูกลับไปหนูก็จะต้องกลับไปเป็นแบบเดิม เวลาที่เหลือในชีวิตหนูอ่ะ หนูอยากจะเห็นตัวเองเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเมื่อไหร่ ตอนเนี่ยไม่มีใครที่จะพาตัวหนูออกมาได้เลย เพราะถ้าหนูกลับไปมันก็เป็นตัวหนูที่เลือกกลับไปเอง ซึ่งมันก็จะไม่มีจุดสิ้นสุดเลย เพราะยังไงเค้าดูก็เป็นคนที่ไม่ปล่อยหนูอยู่แล้ว อย่างที่สอง คือ อยากให้หนูคิดในมุมที่ว่า ตอนนี้มีพ่อกับแม่ที่ต้องการหนู ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกอย่างเพื่อดูแลเขา ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่หนักหนาสำหรับชีวิตเราแล้วแหละ แต่ถ้าหนูยังจะมีผู้ชายคนนี้อีก มันก็จะเป็นสามเด้งเลยนะ หนูจะเอาเวลาไหนไปเติบโตในชีวิตอ่ะ หรือไปมีชีวิตที่มันดีขึ้นกว่านี้และระหว่างทางที่หนูมีคนมารู้จัก หนูลองเปิดใจดูก็ได้นะ เผื่อมันจะมีคนดีๆที่เขาเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ใช่คนแบบนี้ แล้วทำไมเราจะต้องเสียดายคนดีๆที่มีโอกาสรู้จักไป เพราะผู้ชายแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วเค้าลากหนูไปไม่ได้นะ ถ้าหนูไม่กลับไปเอง สุดท้ายมันเป็นขาของหนูสองขาที่เดินตามเขากลับไปเอง เพราะฉะนั้นถ้าหนูรู้ตัวแล้วมันก็เป็นขาของหนูเองที่จะอยู่กับบ้านไม่ออกไปกับเขา... “ดีเจต้นหอม” : เอ็มต้องยอมรับความจริงก่อนว่านี่มันไม่ใช่ความรัก ที่ได้อยู่ มันเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยน คนรักกันไม่ทำกันอย่างนี้อยู่แล้ว ดูจากพฤติกรรมที่เรามาผู้ชายคนเนี้ยไข่ไปทั่ว แล้วก็เอาไปทั่ว ในจังหวะที่เมียกำลังท้องก็ไปมีอะไรกับอีกคนนึง เอ็มก็บอกเองว่าในขณะที่อยู่กับเอ็มเค้าไม่เคยไปดูลูกเลย แสดงว่าความรับผิดชอบของผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้ดีเลย แต่ในวันนี้คงไปตกลงไปดิวอะไรกับเมียซักอย่างนึง เมียถึงต้องยื่นคำขาดมาว่าต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก เค้าก็เลยให้เอ็มได้แค่นี้ และการได้อยู่บ้านเขามันไม่ใช่สิทธิพิเศษนะ มันแค่ผู้หญิงคนอื่น ไม่ได้มาอยู่เพื่อเฝ้ารออะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่เอ็มอยู่รอ ในวันนี้เป็นเรื่องที่ดีนะที่เอ็มตัดสินใจว่า จะไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว มีทางไป ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเอ็มไม่ใช่เรื่องผู้ชายแต่คือเรื่องเงิน แนะนำให้เปลี่ยนโฟกัสเลย ผู้ชายเอาปัญหาเค้ามาถ่วงอีก เขาก็ไม่ได้เข้ามาให้ความรัก ไม่ได้เข้ามาเป็นแบตเตอรี่ ไม่ได้เข้ามาชาร์จแบตให้ที่ทำให้มี energy หรือรู้สึกดีขึ้น แถมยังทำให้เป็นโรคซึมเศร้าอีก เขาคือภาระ เขาคือมะเร็ง เขาจะก้าวเข้ามาในชีวิตเราไม่ได้แล้ว บล็อกทุกอย่าง แล้วเวลาดิ่งเขาไม่ได้อยู่ช่วยแก้ปัญหา เพราะคนนี้คือคนที่ทำให้เราดิ่งลงไปอีก มันไม่มีทางแบบเติมน้ำให้เต็มในทะเลทราย ซึ่งผู้ชายคนนี้ไม่ใช่โลกทั้งใบของเอ็ม แต่เป็นถังขยะ เอาตัวเราไปอยู่ในที่ที่ถูกต้องดีกว่า โฟกัสวันนี้คือเรื่องงาน เรื่องเงิน คิดว่าวันนี้เราจะทำยังไงให้ได้เงิน ทำยังไงให้สภาพ การเป็นอยู่ของเรามันดีกว่านี้ แล้วมันอาจจะมีคนเข้ามาในชีวิตเอ็มอีกแหละ ให้ระวังในวันที่เราเป็นโรคซึมเศร้า คนที่เข้ามาอาจจะทำให้เราดิ่งอีก วิธีการ คือ อย่าเอาชีวิตตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่น เราจะเริ่มมีใครซักคนนึงอาจจะแบบใจเย็นๆ คือ รอดูว่าให้เขามาเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ละ แนะนำให้เช็คบิลเลย เราไม่เอา ถ้าวันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะออกมา ขั้นแรกคือบล็อก เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นข้อความเขาขึ้นอยู่ จนรู้สึกว่าเนี่ยเค้ามาตามง้อละ มันเป็นการหลอกตัวเองเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองสำคัญ ทั้งๆที่ผ่านมาไม่เคยสำคัญเลย แต่เราแค่ปิดประตูความจริงอยู่ เพราะการกระทำเค้ามันชัดมาก คนเป็นแฟนกันหายหัวไปเดือนนึง คนเป็นแฟนกัน มันต้องรู้แล้ว เราต้องรู้แล้วว่าเราไม่ได้สำคัญ แต่นี่หายหัวไปสองเกือบสามปี หล่อเลี้ยงด้วยการมาเจอกันวันละ 1 ชั่วโมง คนรักกันไม่ห่างกันขนาดนั้นอยู่แล้ว ให้มันเจ็บแล้วมันจบ เพราะไม่งั้นมันมูฟออนหรือเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ การที่เราเป็นโรคซึมเศร้าเพราะใครคนหนึ่งที่ไม่ได้รักเรามันสุดมากแล้วนะ จะป่วยทั้งที ก็ป่วยกับคนที่มันสมควรที่ทำให้เราเจ็บหน่อยดิ เพราะเท่าที่ฟังมาไม่มีอะไรดีเลย แต่วันนี้เริ่มต้นใหม่ได้อ่ะ ถ้าลุกขึ้นได้เร็ว ก็วิ่งได้เร็ว คิดซะว่าถึงแล้วต้องวิ่งละ จะไม่ย่ำอยู่กับที่ หมดเวลาละ ปาดน้ำตา ปัดมาสคาร่าออกไปหาแขกเราต้องการเงินค่ะ... “ดีเจเผือก” : พี่ไม่รู้สึกถึง ความมั่นคง ความมั่นใจ ความเด็ดเดี่ยว ที่จะพาตัวเองออกจากสถานการณ์นี้เลย มันชัดเจนไปหมดเนอะ คนๆหนึ่งที่ผ่านความรักมา 4 เมีย มันไม่น่าจะใช่คนที่เราเห็นได้บ่อยๆ อันนี้เค้าพาตัวเองมาถึงจุดที่มี 4 เมียได้ ปัญหาของเมียแต่ละคนก็เยอะแยะไปอีก ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงพยายามถามหาข้อดีว่าอะไรที่ทำให้เราทนอยู่กับคนๆนี้ได้ เสียทั้งเวลา เสียทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต และวันนี้ที่เอ็มโทรมา เอ็มไม่ได้มีพลังพอที่จะพาตัวเองออกมาจากจุดนั้นได้ มันเพราะอะไร คงจะไม่ใช่เรื่องของเหตุผลแล้ว เพราะถ้าวันนี้เราคุยกันด้วยเหตุผล มันไม่มีข้อดีเลยนะ เพราะถ้ามันเป็นเรื่องของเหตุและผล เอ็มทำความเข้าใจกับมันได้ เอ็มคงเดินออกไปนานแล้ว ถ้าการอยู่ใกล้แล้วมันห้ามใจตัวเองไม่ได้ การพาตัวเองไปอยู่อีกที่ก็เป็นทางออกที่ดี ซึ่งพี่ก็เห็นด้วยว่าชีวิตของเอ็มปัญหามันรุมเร้าเหลือเกิน ชีวิตคนเรามันจะมีปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้ และเราก็ต้องเผชิญมันในทุกๆวัน แต่มันมีปัญหาที่เอ็มเลี่ยงได้ กับการพอสักทีกับผู้ชายคนนี้ เอ็มหยุดมันได้ แต่เหมือนกับเอ็มไม่ยอมให้ตัวเองออกจากปัญหานี้ คนเราต้องหัดเอาปัญหาออกจากตัวเอง และเราก็เห็นๆกันอยู่ว่าเราสามารถหยุดมันได้ และไม่มีใครมาดึงใครทั้งนั้น เห็นแค่ว่าเค้ากวักมือเรียกเราก็พร้อมที่จะกลับไปหาเขาแล้ว หลังจากนี้ก็เป็นกำลังใจให้ในสิ่งที่ตั้งใจทำให้มันสำเร็จ ไปตั้งหลักที่อื่นยังไงก็ลองดูสักตั้ง ถ้าใจเรามันอ่อนก็ให้เทคโนโลยีช่วย โดยการบล็อกเขาซะ ถ้าวันไหนที่ไม่มีสติก็ย้อนกลับมาฟังสิ่งที่ตัวเองพูดกับพวกพี่ในวันนี้แหละ....เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

มันผิดขนาดนั้นเลยหรอครับ? ก่อนหน้านี้เคยทำ Sex Creator ผมเปิด Onlyfans แต่ตอนนี้เลิกทำไปนานแล้ว พอไปสมัครงาน กลับโดนผู้บริหาร และแผนก HR เรียกพบ บังคับให้เซ็นลาออก เหตุผลเพราะเขาไปเห็นคลิปผมมา คุณสมบัติไม่เหมาะกับบริษัทนี้

14 มี.ค. 2023

มันผิดขนาดนั้นเลยหรอครับ? ก่อนหน้านี้เคยทำ Sex Creator ผมเปิด Onlyfans แต่ตอนนี้เลิกทำไปนานแล้ว พอไปสมัครงาน กลับโดนผู้บริหาร และแผนก HR เรียกพบ บังคับให้เซ็นลาออก เหตุผลเพราะเขาไปเห็นคลิปผมมา คุณสมบัติไม่เหมาะกับบริษัทนี้

“คุณคิว (นามสมมุติ)” อายุ 27 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (08/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาอาชีพที่เคยทำ โดย “คุณคิว (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เมื่อปีก่อน ผมเคยทำ Sex Creator เป็นคนเล่นเอง คล้ายๆกับ OnlyFans ที่ทำเพราะความจำเป็น ตอนนั้นไม่มีงานทำ แล้วต้องการใช้เงิน พอดีเห็นว่าช่องทางนี้เป็นช่องทางหาเงินได้ง่าย ผมทำได้สักพักแล้วรู้สึกว่ามันไม่น่าจะคุ้มกับสิ่งที่ผมเสียไป ซึ่งในระหว่างที่ทำ ผมพยายามระวังที่สุดเลย ไม่ให้มีการเปิดหน้าหรือมีการเห็นหน้าผมชัดเจน บางทีก็บอกกับคนที่ร่วมด้วยว่าผมไม่ให้เห็นหน้านะ แต่สุดท้ายหน้ามันก็หลุดออกไปจนได้ ผมก็แก้อะไรไม่ได้แล้ว เพราะมันกระจายไปเร็วมาก หลังจากนั้นผมก็ออกมาจากตรงนั้น เพราะคิดว่าลองไปทำงานด้านสว่างดูบ้าง ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้ทำแล้ว และผมก็ลองหางานจริงจัง สมัครงานจนได้มาที่นึง ทำมาได้เกือบๆปีแต่ก็ลาออกมาแล้ว มาสมัครอีกที่นึง เป็นบริษัทเอกชน ทำได้ประมาณ 2 เดือน ยังอยู่ในช่วงโปร (probation) จนเช้าวันนึงผมโดนเรียกไปพบ ในห้องนั้นมีทั้ง HR และผู้บริหารนั่งอยู่ด้วยกัน ผมก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาก็ค่อยๆอธิบายว่าไปเจออะไรมา ไปเห็นอะไรมา แล้วก็ประเมินผมทันทีว่าผมไม่มีคุณสมบัติเพื่อทำงานที่นี่ต่อ เขาให้เหตุผลว่าอาจจะทำให้บริษัทเสียหาย เขาก็จับมือให้ผมเซ็นใบลาออก เขาไม่ได้ไล่ออกเพราะเขาก็กลัวว่าจะเสียอะไรด้วย ซึ่งผมมั่นใจว่างานนี้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่ผมเคยทำมา ผมยอมรับตามตรงว่ารู้สึกเฟลมาก ผมนอยกับตัวเองว่าการที่เคยทำแบบนั้นมาก่อน มันจะทำให้บริษัทเสียหายเลยหรอ ในขณะที่ทำงานอยู่ผมก็ไม่ได้ไปทำแบบนั้นเลย แล้วก็กลัวด้วยว่าถ้าไปสมัครที่อื่นจะมีเหตุการณ์แบบนี้อีกมั้ย ทำไมคนที่เคยทำ OnlyFans แล้วอยากกลับมาทำด้านสว่าง ต่อให้ทิ้งระยะเวลาแล้วก็ตาม แต่คนที่เขามองว่าไม่ดี ยังไงเขาก็ยังบอกว่ามันไม่ดีอยู่ดี ถ้างั้นคนที่เขาทำตอนนี้ ถ้าเขาอยากปรับตัวมาในด้านสว่างจริงๆ เขาก็ไม่มีโอกาสทำเลย ตอนนี้ผมก็ทำงานที่ใหม่อยู่ แต่ที่ทำงานก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผมไม่เคยพูดถึง ผมกลัวเขารู้และจะเกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำเหมือนกัน ผมอยากรู้ว่าพี่ๆคิดยังไงกับเหตุการณ์นี้บ้าง 3 ดีเจ ให้คำปรึกษาว่า ‘เราต้องยอมรับว่าเรื่องของความอิสระในร่างกายของตัวเองหรืออิสระในการทำงานด้านนี้ ประเทศเราถือว่าใหม่มากกับการที่สังคมในวงกว้างจะยอมรับเรื่องนี้ได้ 100% บางทีมันก็ไม่ได้ส่งผลเสียกับบริษัทโดยตรงหรอก บางทีกฎบริษัทก็อาจจะไม่เท่าดุลพินิจของคนไม่กี่คนในบริษัทที่มีอำนาจ เพราะพวกเขามีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้เขาอาจจะไม่โอเค เราแค่ไปเจอบริษัทที่เขายังหัวโบราณ ไม่ต้องไปซีเรียสหรอก แค่ต้องอยู่ให้ถูกที่ หาที่ที่เขาโอเคกับมัน ที่เขารู้สึกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการทำงานของเขา และมีอีกหลายบริษัทที่เขาไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว สนใจแค่เรื่องการทำงานมากกว่า แค่อย่าไปทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ สำหรับบางคน บางกลุ่ม การทำ Sex Creator มันไม่มีปัญหาสำหรับพวกเขาเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำเพื่อแลกเงิน เพื่อดูแลตัวเอง ถ้าคิวรู้สึกไม่ดี คิดว่ามันเป็นตราบาปติดตัว มันจะส่งผลในระยะยาวเหมือนกันว่าคิวจะไม่มั่นใจไปเลย ถึงแม้คิวจะไปทำงานในที่ที่เขาโอเคแล้วก็ตาม อยากให้คิวปรับทัศนคติตรงนี้มากกว่า อย่าไปรู้สึกว่ามันเป็นจุดบอดทั้งชีวิตขนาดนั้น...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1