หนูกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ทันตั้งตัว เอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถไปแอบส่องสามี ตอนทำงานร้องเพลงที่ร้านเหล้า เจอสาวนั่งเฝ้าสามี คอยถือของดูแลไม่ห่าง สุดท้าย สามีหนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาว 1 ขวบ และ ลูกในท้องเกือบ 3 เดือนไปเลย...

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ทันตั้งตัว เอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถไปแอบส่องสามี ตอนทำงานร้องเพลงที่ร้านเหล้า เจอสาวนั่งเฝ้าสามี คอยถือของดูแลไม่ห่าง สุดท้าย สามีหนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาว 1 ขวบ และ ลูกในท้องเกือบ 3 เดือนไปเลย...

28 ก.พ. 2023

“คุณก้อย (นามสมมุติ)” อายุ 37 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/02/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามี

โดย “คุณก้อย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เรากำลังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกะทันหัน เพราะโดนสามีสวมเขา เรื่องเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเลย ต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเรามีลูกอายุ 1 ขวบ 8 เดือน และตอนนี้ก็กำลังท้องอยู่ 2 เดือนกว่าๆ เรากับสามีจดทะเบียนสมรสกันแล้ว และสามีเราเป็นนักดนตรี ปกติเขาจะกลับบ้านตรงเวลา เลทนิดหน่อย โทรหาก็รับสายปกติ แต่ช่วงก่อนปีใหม่นี้ เราสังเกตเห็นว่าเขากลับบ้านช้า บางวันกลับบ้านเกือบเช้า โทรหาก็ไม่รับ วิดีโอคอลไปก็ไม่รับ เราก็เอะใจว่ามีอะไรหรือป่าว...

ยิ่งหนักเข้ามันยิ่งผิดสังเกต เราก็เลยเอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถตามไปดูที่ร้านเหล้าที่เขาไปทำงาน ไปแอบดูแบบเงียบๆ เจอผู้หญิงมานั่งเฝ้าเขาที่ร้านทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน สนิทกัน แต่เขาก็โกหกเราว่าไม่มีอะไร ไม่มีผู้หญิง ไว้ใจได้ มีแต่เพื่อนผู้ชาย เราตามไปเฝ้าดูประมาณ 2 เดือน ตอนแรกเห็นว่ามีคนมาเป็นกลุ่มๆ แต่ไปๆมาๆ เราเอะใจ ทำไมเห็นหน้าคนนี้บ่อยจัง ทำไมมานั่งเฝ้าสามีเรา มาถือของให้สามีเรา แล้วทำไมถึงขึ้นรถสามีเรา ตอนนั้นยังไม่กล้าบุกเข้าไปเพราะเราต้องมั่นใจก่อน กลัวสามีจะด่าด้วย อีกอย่างเขาก็ไม่ชอบที่ไม่ให้เกียรติเขา เราก็ทำได้แค่พยายามเงียบ พยายามเก็บข้อมูล

จนวันนึงมีเสื้อผ้าใหม่ๆ เสื้อผ้าแพงๆ ของแพงๆ กางเกงตัวละเกือบหมื่นมาส่งที่บ้าน เราก็ถามว่าใครซื้อให้ เขาบอกผ่อนกับรุ่นพี่ เราก็ถามว่ารุ่นพี่ผู้หญิง หรือผู้ชาย เขาบอกรุ่นพี่ผู้ชาย อ้วนๆดำๆตัวใหญ่ๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราโอเคและเชื่อ สักพักก็เริ่มมีเสื้อ มีของต่างๆมาส่งอีก เราก็ถามเขา เขาบอกว่าอ่อ อันนี้ซื้อต่อเพื่อนมา อันนี้รุ่นพี่เขาให้มา เราก็โอเค เราเชื่อ

คืนนั้นที่เกิดเรื่อง เขากลับบ้านมาประมาณตี 3 เราเห็นเขานอนดู TikTok สไลด์ไปเรื่อยๆ เราก็สงสัยว่าทำไมเขาสไลด์ TikTok แล้วกลับมาหน้าไลน์ แล้วกลับไปหน้าไลน์ แล้วก็กลับมาหน้า ไลน์อีก วนอยู่แบบนี้ ซึ่งเขาปิดเสียงแจ้งเตือน ด้วยความที่เราเก็บข้อมูลมาแน่นมากพอแล้ว เราเห็นทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง จังหวะที่เขาเอี้ยวตัวมาหอมลูก เรากระชากมือถือ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ล็อคประตูเลย ทีนี้ก็ไปดูในไลน์ว่าเขาคุยกับใครบ้าง ตอนแรกเราหาไม่เจอ เพราะเขาลบข้อความที่แชทข้อความหมด ลบทุกอย่าง แต่ด้วยความโชคดีของเรา ผู้หญิงทักไลน์เข้ามาพอดี เราก็เลยส่งคอนแทคของผู้หญิงคนนี้จากไลน์สามีเข้าเครื่องของเรา

สถานการณ์ข้างนอกคือเขานอนนิ่ง เก็บอาหาร หน้าตึง โกรธเรามากที่เราไปยุ่งของส่วนตัวของเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นแต่งตัว คว้ากุญแจรถ เราก็ถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่า บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ชอบให้ยุ่งของส่วนตัว เราก็ชิงกระชากกุญแจรถ แล้ววิ่งขึ้นรถ ล็อคตัวเองอยู่ในรถ เราก็โทรคุยกับผู้หญิงคนนั้น เล่าสารพัดความไม่ดีให้ฟัง เราถามว่าซื้อของให้สามีคนอื่นแบบนี้คืออะไร คิดอะไรกันหรือป่าว ผู้หญิงบอกว่าพี่ หนูไม่ได้คิดอะไร หนูเป็นคนเปย์เพื่อน เปย์ใครๆแบบนี้อยู่แล้ว คนเราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนสนิทเป็นเพศเดียวกันปะ? เราก็บอกว่าใช่ เพราะเราก็มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ว่าคงไม่ได้สนิทกันถึงขั้นขนาดนี้ ไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง บางครั้งเขาเอาผู้หญิงคนนี้ไปที่วงดนตรีอื่น แล้ววงอื่นก็รู้จักกับเราทุกคน เขาทำได้แค่มองหน้ากันแล้วแบบคืออะไร ทำไมทำแบบนี้ ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง ไม่มีใครสะกิดบอก แต่เรารู้สึกด้วยเซ้นส์ของเราเอง

หลังจากนั้นลูกก็ร้อง เขาบอกว่าเดี๋ยวขอออกไปจัดการตัวเอง ไปเคลียตัวเองก่อน เดี๋ยวไม่กี่ชั่วโมงกลับมา แล้วเขาก็หายไปเลย จนถึงตอนนี้เกือบ 1 เดือนแล้ว เขาให้เราเตรียมเสื้อผ้าบางส่วนไว้ให้สำหรับใส่ทำงาน แต่พวกเสื้อผ้าอื่นๆ ใส่เล่น ใส่เที่ยวทั่วไปก็ยังอยู่ที่บ้าน แล้วทุกอย่างในบ้านยังอยู่ที่เดิม เหมือนตอนที่เขาอยู่ เรายังไม่ได้เก็บของให้ ช่วงที่เขาหายไปก็มีการติดต่อกันบ้าง แต่คุยไปเขาก็ทะเลาะ ซึ่งเราพยายามคุยดีๆว่ามีปัญหาอะไร ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าอยู่กับเราเขาไม่มีความสุข เราคอยตาม คอยเช็ค ไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่เป็นอิสระ เราก็เลยบอกว่าเราเป็นภรรยาที่งี่เง่าน้อยมากนะ เราทำดีทุกอย่างเลย ทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ทำหน้าที่แม่ของลูกที่ดี มาว่าเราแบบนี้เพื่อปกปิดความชั่วของตัวเองหรือป่าว เขาบอกเขาไม่ได้มีใคร แค่อยากอยู่ตัวคนเดียว อยากไปไหน ทำอะไรคนเดียว อยากมีอิสระ เราก็เลยถามว่า อ้าว แล้วอิสระที่พาผู้หญิงคนนี้ไปด้วยเกือบทุกคืนคืออะไร เขาก็ถามว่ารู้ได้ยังไง เราก็บอกว่าเราเห็น ซึ่งเราเห็นจริงๆ ก็เลยพูดได้ เขาไม่ยอมรับว่าเขาคบกัน หลังจากที่หนูจับได้เขาก็ล็อคหน้าจอมือถือ เปลี่ยนรหัสต่างๆ ทำอะไรไม่ได้เลย

นอกจากเรื่องนอกใจ ความเป็นสามี ความเป็นพ่อของเขาก็โอเค แต่เขาก็ไม่ได้ซัพพอร์ตเรามากมาย ส่วนตัวเราทำธรุกิจส่วนตัว จะพูดว่าเรามีมากกว่าเขาก็ได้ และเราไม่เคยยุ่งเรื่องเงินทองของเขาเลย เขาทำงานมาก็เก็บทุกบาททุกสตางค์ มีบ้างที่เขาช่วยออกค่ากับข้าว ซื้อนั่นซื้อนี้ให้บ้างแต่เล็กน้อยมากกับสิ่งที่เราให้เขา และค่าใช้จ่ายของลูกเขาก็ช่วยรับผิดชอบน้อยมาก ขนาดแพมเพิสยังไม่เคยซื้อให้เลย มีแต่คุณยายซื้อให้หมด เราก็ไม่อยากให้เขาเอาเรามาเป็นภาระ ต้องมาช่วยจ่ายนู้นนี่ เราจ่ายได้ก็จ่าย แต่เขาก็ติดเงินคุณแม่ของเราด้วย และก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีครอบครัว มีลูก และลูกคนแรกเขาก็ไม่เคยส่งเสีย

ล่าสุดเขาบอกว่าจะไม่กลับมาเป็นครอบครัวแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากเจอหน้าเรา หลบหน้าเรา อย่างเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราต้องไปฝากท้อง ซึ่งเราก็บอกเขาไปแล้ว แต่เขาก็ไม่มา ถามว่าเราสามารถเลี้ยงลูกเองได้มั้ย เราสามารถเลี้ยงได้ และเราก็ยังมีพ่อแม่ที่คอยซัพพอร์ตเราอยู่ข้างหลังด้วย เราทั้งเจ็บ ทั้งจุก เพราะลูกเคยนอนกอดเขาทุกวัน แต่วันนี้เขาเลือกที่จะทิ้งเรากับลูกๆไป เพราะผู้หญิงหนึ่งคน เพราะความโลภ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของเขา ถ้าวันหน้ากลับมาเราก็คงไม่เอาแล้ว เพราะในเมื่อวันที่เราต้องการเขา วันที่เราร้องไห้หาเขา เขากลับที่จะทิ้งเราไป

อยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี? เพราะลูกก็ถามหาพ่อ คนรอบข้างทุกคนก็ถามว่าสามีไปไหน ซึ่งทุกครั้งที่มีคำถามพวกนี้มันแทงใจมากๆ แต่คนที่ถามแทงใจที่สุด คือลูก ลูกจะถามคุณแม่ว่าปะป๊าไปไหน ทำไมปะป๊าไม่มาหาหนู...

3 ดีเจให้คำปรึกษากับ “คุณก้อย (นามสมมุติ)” ว่า ‘ก้อยแค่เจอผู้ชายที่ไม่ดี เขาไม่เหมาะที่จะเป็นสามี หรือเป็นพ่อ แยกย้ายกันถูกแล้ว สิ่งใดที่มันเกิดขึ้นแล้วมันดีเสมอแหละ ครบครัวที่มีครบ มันไม่เท่ากับครอบครัวที่สมบูรณ์ การที่เราจะเป็นทั้งพ่อและแม่ มันไม่ใช่เรื่องยาก แค่ให้ความสุขเขา และสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือเงิน ตอนนี้เรามีทั้งลูก ทั้งครอบครัว ส่วนใครที่เป็นภาระเรา ไม่ว่าจะเป็นภาระทางด้านการเงิน แถมภาระทางใจอีก อยู่กับคนนี้แล้วมันไม่ได้มีความสุขที่แท้จริง การที่เขาเดินออกจากชีวิตเราไป ถ้าเขาไม่ได้รักเราแล้ว การเริ่มต้นใหม่ของก้อยจะเป็นการเริ่มต้นการนับ 1 ของความสุขแล้ว มันเป็นข้อดีมากเลยนะที่ผู้ชายแบบนี้ออกไปจากชีวิตเรา

ความสุขคนเรามันไม่เหมือนกัน ความสุขของคนบางคนอาจจะมีครอบครัวสมบูรณ์ แต่ความสุขของคนบางคนคือการตัดใครบางคนที่ไม่รักเราออกจากชีวิต มันอาจจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้ การที่เขาตัดก้อยและลูกๆออกไป เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้คือภาระสำหรับเขาเหมือนกัน และแปลว่ามันไม่ได้มีค่าสำหรับเขา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่ต้องคิดถึงคนๆนึงที่เดินออกไปแล้ว

โชคดีที่ลูกยังอยู่ในวัยที่สามารถลืมได้ ถ้าเป็นไปได้อนาคตเลือกโรงเรียนดีๆให้กับเขา แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงเรียนนานาชาติ ขอแค่เป็นโรงเรียนที่ดี เพราะโรงเรียนจะสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้กับเด็กๆ แล้วของแบบนี้ไม่ต้องรีบไปฝังหัวลูกว่าพ่อเป็นคนแบบไหน แต่วันนึงเมื่อลูกโตขึ้น เราค่อยๆคุยกับเขา เดี๋ยวเขาจะเข้าใจทุกอย่างเองและอีกอย่างนึงที่เขาจะรับรู้ได้เลยว่าแม่คือทุกสิ่งทุกอย่าง

ถามว่าจะใช้ชีวิตยังไง ก้อยต้องรักตัวเองให้มากพอก่อน แล้วความรักนั้นจะส่งต่อถึงลูก ถึงคนรอบข้าง เอาชีวิตของเราเป็นที่ตั้งและมูฟออน ความสุขของลูกให้มันอยู่ที่ก้อย ถ้าวันนึงมีความสุขแล้ว เขาจะกลับมา จำไว้ว่าอย่าเอาความทุกข์กลับเข้ามาอีก...

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ห้ะ! อะไรนะ... สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ หยุดเจ้าชู้ไม่ได้ 15 ปีที่คบกันมา นอกใจแฟนมากกว่า 15 ครั้ง ทุกครั้งที่นอกใจ จะบอกคนที่คุยด้วยว่า ห้ามล้ำเส้นเด็ดขาด เผยเหตุผลที่ทำไปเพราะหนูชอบบริหารเสน่ห์ เช็คเรตติ้ง

31 มี.ค. 2023

ห้ะ! อะไรนะ... สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ หยุดเจ้าชู้ไม่ได้ 15 ปีที่คบกันมา นอกใจแฟนมากกว่า 15 ครั้ง ทุกครั้งที่นอกใจ จะบอกคนที่คุยด้วยว่า ห้ามล้ำเส้นเด็ดขาด เผยเหตุผลที่ทำไปเพราะหนูชอบบริหารเสน่ห์ เช็คเรตติ้ง

“คุณฟ้า (นามสมมุติ)” อายุ 30 ปี สายที่สองใน รายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 มี.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหามีแฟน แต่นอกใจแฟนมาตลอด โดย “คุณฟ้า (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันมา 15 ปี เขาเป็นแฟนคนที่ 2 ที่หนูคบแบบจริงๆ แต่หนูนอกใจเขาทุกปีมากกว่า 15 คนด้วยซ้ำ มีนอกกายบ้างบางคน ไม่รู้จะใช้คำว่านอกใจได้มั้ย แต่หนูชอบเช็คเรตติ้ง แบบไปอ่อย คุยกับคนนั้น คนนี้ แค่อยากเช็คความสวยว่าจะมีคนชอบเราหรือเปล่า หนูอยู่กับเขามานานมาก จนเหมือนเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน เป็นครอบครัวกันไปแล้ว ซึ่งหนูจะบอกกับคนที่มาคุยว่าหนูมีแฟนแล้วนะ ห้ามมาล้ำเส้นแฟนของหนูเด็ดขาด ถ้าใครรับได้ก็อีกเรื่องนึง ช่วงแรกๆหนูก็ภูมิใจแฟนนะ แฟนหนูเป็นคนดี แต่ตอนนี้แบบความหวานมันก็หมดไปแล้ว เราทำงานด้วยกัน อยู่ห้องเดียวกัน เหมือนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงเลย เราสองคนจะไม่ยุ่งโทรศัพท์ของกันและกันเลย แต่ส่วนใหญ่ที่แฟนจับได้ ไม่ได้มาจากคนที่คุยกับหนู แต่จะเป็นคนรอบข้างที่มาบอกเขา มาส่งซิกว่าหนูคุยกับคนนั้น คนนี้อยู่นะ พอเขารู้ เขาก็มาถามหนู หนูก็บอก แต่คือเราสองคนเลิกกันไม่ได้อยู่ดี แบบเขาเลิกกับหนูไม่ได้ และหนูก็เลิกกับเขาไม่ได้เหมือนกัน ช่วงแรกๆแฟนก็ร้องไห้ แล้วขอให้เลิกเจ้าชู้ได้มั้ย แต่หนูทำไม่ได้ เขาบอกว่าเขาแค่รับฟังคนอื่น แต่ถ้าเขาทนไม่ไหวเขาจะไปเอง แฟนเคยคุยกับคนอื่นด้วย แต่หนูไม่รู้ว่าถึงขั้นไหน หนูจับได้ก็บอกให้เขาไปเคลียร์แค่นั้นสั้นๆ แล้วเขาก็ไม่มีอีกเลย ตอนนี้หนูอยากเลิกนิสัยนี้มาก หนูพยายามไม่คุยกับคนอื่น ไม่อ่อยคนอื่น แต่มันก็ทำไม่ได้ ห้ามใจตัวเองไม่ได้อยู่ดี หนูอยากให้พี่ๆช่วยดึงสติหนูหน่อย...’ พี่ๆ 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษา “คุณฟ้า (นามสมมุติ)” ว่า ‘มันคือคนหนึ่งพิการสมอง อีกคนหนึ่งพิการหัวใจที่มาเจอกัน แต่คนที่โทรเข้ามาคือคนที่พิการหัวใจ ซึ่งอยู่ในหน้าได้เปรียบ เพราะเราทุกคนมีความเห็นแก่ตัว แต่ที่ต่างกันคือความละอาย ซึ่งคนอื่นมี แต่ฟ้าไม่มี.... ไม่โทษฟ้า เพราะมีคนๆนึงที่เขาทนได้ให้เอาเปรียบมาโดยตลอด แล้วในเมื่อเขาทนให้เอาเปรียบขนาดนี้ ทำไมวันนี้ถึงต้องหยุด 15 ปีไม่เคยไปไหนเลย ร้องไห้ให้ตาย ต่อให้เจ็บแค่ไหน เขาก็ยังทนให้เอาเปรียบ และก็ไม่ได้เดือดร้อนจะโทรมาปรึกษาด้วย ถ้าให้ฟ้าทิ้งแฟนไปเลย ฟ้าจะทำมั้ย? เพราะฟ้าก็รู้ตัวว่าเป็นคนเจ้าชู้ ถ้าอยากจะไปวัดความสวยก็วัดได้เต็มที่เลย เราแค่ต้องไปหาคนที่เขารับได้ แต่คนที่รับได้ก็แปลว่าเขาก็ทำได้เหมือนกันนะ ถ้าไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวมากเกินไป ถ้าเขามีก็อย่าไปว่า ไปอะไรเขา แฟร์ๆหน่อย อยู่กันแบบเสมอภาค อย่างน้อยเราจะได้เป็นคนที่ไม่ได้เห็นแก่ตัว ฟ้าไม่ได้รักแฟนขนาดนั้น ระยะเวลา 15 ปีมันคือคู่ชีวิต แต่ฟ้าไม่ได้เห็นคุณค่าของมันแค่นั้นเอง ถ้าการที่เราไม่ได้รักเขา มันก็เลยเป็นวิถีที่เราจะมองหาคนอื่น ถ้าไม่รักก็ให้เขาอยู่ในสถานะเพื่อนที่ดีที่สุด ไม่งั้นเขาก็ไม่ได้เริ่มต้นใหม่กับใครสักที ถ้าวันนึงแฟนไปเจอคนใหม่ที่นิสัยดีกว่าฟ้า ซึ่งมีโอกาสสูงมาก เพราะถ้าเจอใครสักคนที่ซื่อสัตย์ วันนั้น 15 ปีจะไม่มีความหมายสำหรับฟ้าเลย เพราะฉะนั้นละครเรื่องนี้ ไม่ได้บอกให้ฟ้าหยุด แต่มันจะจบที่แฟนฟ้าคนนี้เขาจะเจอใครสักคนนึงที่ใช่ และเขารู้เลยว่าฟ้าไม่ได้ดีพอ เขายอมไปเสี่ยงเอาดาบหน้าดีกว่าอยู่กับฟ้า เรื่องราวทั้งหมดมันจะจบตรงที่เขามีคนอื่น...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ถ้าเป็นคุณ... อยากฟังความจริงแบบนี้ไหม? หนุ่มตกงานโทรเล่าในรายการ มีเพื่อนผู้หญิงชวนมาสมัครงานที่บริษัท แต่พอไปสัมภาษณ์งานนี้... เจอ หัวหน้างาน (ผู้ชาย) เป็นคนที่เคยมีอะไรกัน พอทำงานก็มีอะไรกันอีก จนรู้ความจริงทีหลังว่าหัวหน้าคนนี้...

07 ก.ค. 2023

ถ้าเป็นคุณ... อยากฟังความจริงแบบนี้ไหม? หนุ่มตกงานโทรเล่าในรายการ มีเพื่อนผู้หญิงชวนมาสมัครงานที่บริษัท แต่พอไปสัมภาษณ์งานนี้... เจอ หัวหน้างาน (ผู้ชาย) เป็นคนที่เคยมีอะไรกัน พอทำงานก็มีอะไรกันอีก จนรู้ความจริงทีหลังว่าหัวหน้าคนนี้...

ถ้าเป็นคุณ... อยากฟังความจริงแบบนี้ไหม? หนุ่มตกงานโทรเล่าในรายการมีเพื่อนผู้หญิงชวนมาสมัครงานที่บริษัท แต่พอไปสัมภาษณ์งานนี้...เจอ หัวหน้างาน (ผู้ชาย) เป็นคนที่เคยมีอะไรกัน พอทำงานก็มีอะไรกันอีกจนรู้ความจริงทีหลังว่าหัวหน้าคนนี้ เป็นแฟนกับเพื่อนที่ชวนเรามาสมัครงานสุดท้ายเมา เลยบอกความจริงกับเพื่อนว่า “แฟนเธอเคยมีอะไรกับเรามาแล้ว” “คุณคอย (นามสมมติ)” อายุ 34 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์แบบ FWB กับหัวหน้า โดย “คุณคอย (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ผมเป็น Bisexual ย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมได้เจอผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งจากการไปเที่ยว เราได้มีอะไรกันและขอช่องทางการติดต่อกันไว้ เราทั้งคู่เป็น FWB กันได้ประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็แยกย้าย หายจากกันไป ต่างคนต่างไม่ได้จริงจัง และเขาก็ต้องกลับประเทศไปเพราะวีซ่าหมด พอช่วงโควิด เพื่อนผมที่เป็นผู้หญิงก็โพสต์หาพนักงานฝ่าย IT ผมก็เลยส่ง Resume ไป ทางบริษัทสนใจเลยนัดผมสัมภาษณ์ผ่าน Zoom แล้วจู่ๆ ผู้ชายคนที่ผมเคย FWB ด้วยก็ถูกเชิญเข้ามาในห้อง Zoom ขณะที่ผมสัมภาษณ์ เพราะเขาเป็นคนที่ผมต้องทำงานด้วย ผมตกใจมาก เพราะผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาทำงานที่บริษัทนี้ หลังสัมภาษณ์เสร็จ ผมก็คิดว่ายังไงก็คงไม่ได้งานนี้ เพราะดูจากสีหน้าของคนที่สัมภาษณ์และจากการตอบคำถามของผม ผมเลยปล่อยไป แล้วก็นัดกับผู้ชายคนนี้ไปมีอะไรกันอีกรอบ หลังจากนั้นผ่านมา 1 เดือน เพื่อนของผมที่เป็นผู้หญิงบอกว่าผมได้งานนี้ แล้วยังบอกอีกว่ าเขาเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นที่มาสัมภาษณ์งานผม ซึ่งเพื่อนผมไม่รู้ว่าผมเคยเป็น FWB กับแฟนเขา แล้วผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นแฟนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นน่าจะรู้ว่าผมเป็นเพื่อนกับแฟนของเขา พอผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนกับเพื่อนผม ผมก็ไม่ยุ่งไม่ติดต่ออะไรกับเขาอีกเลย ช่วงที่ทำงาน 3 เดือนแรกผมมีหวั่นไหวบ้าง ฝั่งผู้ชายก็มีมาพูดคุย แซวๆบ้าง ผมพยายามเลี่ยงที่จะเจอเขา เลือกเข้าบริษัทวันที่เขาไม่เข้า เพราะบริษัททำงานแบบ Hybrid ผมเก็บเรื่องนี้ไว้ จนตอนนี้ทำงานที่นี่ได้เกือบ 2 ปี ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนผู้หญิงก็นัดไปกินเหล้ากันปกติ ก็นั่งคุยเรื่องงาน เรื่องชีวิตกัน ด้วยความที่ผมเมา ผมเลยหลุดสารภาพเรื่องที่ผมเคยเป็น FWB กับแฟนเพื่อนไป เพื่อนของผมก็นิ่งไปสักพัก แล้วทุบโต๊ะ ชี้หน้าผมแล้วพูดว่า “มึงกับกูอย่าเจอหน้ากันอีก!” แล้วก็เดินออกไป เขาบล็อกช่องทางการติดต่อผมทุกช่องทาง ผมพยายามติดต่อเขาทางช่องแชทของ Microsoft team เขาก็ไม่ยอมคุยด้วย ทางเดียวที่จะสามารถติดต่อได้คือต้องผ่านผู้ชายคนนั้นที่เป็นแฟนเขา แต่ผมก็ไม่อยากติดต่อกับเขา ผมเลยรอเคลียร์กันวันที่เข้าบริษัทแล้วเจอเพื่อนคนนี้ หลังจากเกิดเรื่อง ผมรู้สึกผิด ค่อนข้างอึดอัด และอยากขอโทษ เพราะผมคิดว่าเพื่อนผมคนนี้ก็มีส่วนที่ทำให้ผมได้งานนี้ด้วย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้แล้วรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีแฟนแล้ว ผมคงไม่ยุ่งด้วย ตอนนั้นผมแค่สนุกๆ เลยไม่ได้ถามอะไร แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มากๆ จึงอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ผมจะทำยังไงให้มิตรภาพของผมกับเพื่อนกลับมา และทำยังไงให้ทำงานที่นี่ได้ปกติเหมือนเดิม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำแนะนำว่า ‘ในเมื่อเพื่อนของคุณคอยปฏิเสธคุณคอยทุกช่องทาง สิ่งที่ทำได้คือพยายามสื่อสารในสิ่งที่อยากจะบอกต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าผลมันคงจะไม่เป็นตามที่เราอยากให้เป็น เราไม่รู้ว่าคนคนนึงจะสามมารถเข้าใจ ให้อภัย และ Move on ในแต่ละเรื่องได้มากน้อยแค่ไหน แล้วเราก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เราขอโทษจะทำให้ทุกอย่างกลับมาไหม ในเรื่องงานถึงเขาจะเป็น HR แต่คงไม่มีใครไล่คนออกด้วยเหตุผลส่วนตัว ถ้าคุณคอยยังสามารถทำงานและสื่อสารกับคนอื่นๆในองค์กรได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อน บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากที่จะแตกหักกับใคร แต่บางสถานการณ์ก็ทำให้ความสัมพันธ์กับคนบางคนห่างเหินกันไป คุณคอยต้องยอมรับว่าครั้งนี้เราทำพลาดไป และเรียนรู้ไว้ว่าการที่เราเมาบางทีมันก็ทำลายความสัมพันธ์ได้ คงต้องใช้เวลา ทำฝั่งเราให้ดีที่สุด และหวังว่าวันนึงเพื่อนคุณคอยจะได้รับรู้ถึงสิ่งที่คุณคอยพยายามที่จะบอกแล้วเปิดใจให้คุณคอยอีกครั้ง ถ้าไม่ คุฌคอยก็ต้องก้มหน้าและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น’ “ดีเจเติ้ล” เสริมว่า ‘คุณคอยต้องให้เวลาเพื่อนได้จัดการความรู้สึกของเขาก่อน การที่เพื่อนคุณคอยเพิ่งรู้ว่าแฟนเขาเป็น Bisexual แค่นี้ก็หนักมากแล้ว แล้วยังมารู้อีกว่าแฟนเคยมีอะไรกับเพื่อนสนิทอีก เพื่อนคงรู้สึกแย่มากๆ ณ เวลานั้นเราไม่รู้เลยว่าเขาเข้าใจอะไร และรับสารอะไรไปบ้าง เพื่อนคุณคอยคงต้องการเวลาในการจัดการความรู้สึกตัวเอง และความสัมพันธ์กับแฟนเขา ในความเห็นของพี่ มี 3 ข้อที่เป็นไปได้คือ 1.เขาคบกับแฟนต่อแล้วไม่คุยกับคุณคอยอีกเลย 2. เขาเลิกกับแฟนแต่ไม่คุยกับคุณคอยอีก เพราะเขาคิดว่าคอยคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ และ ข้อสุดท้าย เขาเลิกกับแฟนแล้วกลับมาคุยกับคุณคอย ตอนนี้พี่ไม่อยากให้คุณคอยทำอะไรเลย รอให้เพื่อนเย็นลง แล้วกลับมาฟังคุณคอยด้วยสติและเหตุผล ตอนนี้อย่าเพิ่งไปเซ้าซี้เขา ถ้าเป็นเพื่อนแท้กันจริงๆ วันนึงเขาจะกลับมา ส่วนเรื่องงานไม่ต้องถึงขั้นลาออกเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องงาน ส่วน “ดีเจต้นหอม” ให้คำแนะนำอีกว่า ‘สุดท้ายความจริงยังไงก็คือความจริง นี่คือการนอกใจของผู้ชายคนนั้น เพราะผู้ชายรู้อยู่แล้วว่าคุณคอยเป็นเพื่อนกับแฟนเขา ไม่รู้ว่าสิ่งที่เพื่อนของคุณคอยเข้าใจคือ คุณคอยมีอะไรกันตอนที่เริ่มทำงานที่นี่ หรือก่อนหน้านั้น ความรู้สึกของเพื่อนคุณคอยในตอนนี้คือ ความอาย ตกใจ และสับสน ระยะเวลามันเร็วเกินไป ถ้าคุณคอยอยากคุยกับเขาคงต้องรอแค่เขาติดต่อกลับมา ทำให้เขารู้ว่าคุณคอยยังรอและพร้อมที่จะเป็นเพื่อนเขา ถ้าเขาไม่กลับมาจริงๆก็ต้องทำใจ ก็แค่คนๆนึงเดินออกไปจากชีวิต เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่คุณคอยทำผิดเลยเพราะคุณคอยไม่รู้ แม้กระทั่งการบอกเพื่อนเพราะหวังดีแต่อาจจะผิดจังหวะไป ส่วนเรื่องงานถ้าคุณคอยมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ก็ทำต่อไปเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกัน ตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว ต่อจากนี้ก็ต้อง Move on สุดท้ายนี้พี่ๆดีเจบอกคุณคอยว่าอย่าคิดมากจนเกินไป เราไม่ได้ทำอะไรผิดแต่สถานการณ์มันทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ว่างเกิ๊นนน! ผมทำงานบริษัทเกือบปี แต่ไม่ค่อยมีงานให้ทำ ล่าสุดเข้างานตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น แต่ได้ทำแค่ยกของให้พี่ในแผนก ตอนนี้เบื่อมาก... อยากรู้ว่าพนักงานออฟฟิศอื่น ว่างๆทำอะไรกันบ้าง?

04 เม.ย. 2023

ว่างเกิ๊นนน! ผมทำงานบริษัทเกือบปี แต่ไม่ค่อยมีงานให้ทำ ล่าสุดเข้างานตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น แต่ได้ทำแค่ยกของให้พี่ในแผนก ตอนนี้เบื่อมาก... อยากรู้ว่าพนักงานออฟฟิศอื่น ว่างๆทำอะไรกันบ้าง?

“คุณแบงค์ (นามสมมุติ)” สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 มีนาคม 2566) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่ว่าควรจะทำอะไรแก้เบื่อในเวลาว่างงาน โดย “คุณแบงค์ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ผทมีปัญหาเรื่องที่ทำงาน แต่จริงๆแล้วก็เหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สักเท่าไหร่ เพราะปัญหาที่ว่าคือ การว่างงานมากเกินไปในช่วงเวลาที่ทำงาน มันเหมือนกับไม่ค่อยได้มีงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมาก ผมเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 10 - 11 เดือน เกือบๆปีแล้ว ซึ่งตำแหน่งงานของผมเกี่ยวกับฝ่ายบุคคล ส่วนมากเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเอกสาร ส่วนงานอื่นๆก็แล้วแต่พี่ๆในแผนกจะมอบหมายให้ว่าต้องทำอะไรอย่างเช่นวันนี้ ผมนั่งที่โต๊ะทำงานของผมตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น ผมได้รับมอบหมายงานให้ทำแค่อย่างเดียวคือ ลงไปยกของให้พี่ในแผนก แต่บางครั้งเวลาที่คณะกรรมการหรือกลุ่มผู้บริหารในบริษัทนัดประชุมกัน บริษัทผมก็จะได้รับหน้าที่ให้ช่วยทำเอกสารเกี่ยวกับการประชุมตรงนั้น ซึ่งงานเหล่านี้ก็ไม่ได้มีทุกวัน แต่จะมีเป็นรอบๆไป ทำให้ตัวผมเองแอบเบื่อช่วงเวลาที่ว่างงานอยู่นิดหน่อย โดยผมจะหาวิธีแก้เบื่อด้วยการเล่นเกมหรือดู YouTube ที่โต๊ะทำงานของตัวเองเป็นประจำ และสามารถทำได้แบบเปิดเผย ไม่ต้องแอบไปทำสิ่งเหล่านี้ในห้องน้ำ และผมอยากจะมีการพบปะพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ เนื่องจากภายในแผนกของผมไม่ค่อยจะมีผู้ชาย มีแต่ผู้หญิงเกือบหมดทั้งแผนกแต่ช่วงประมาณกลางปีหลังจากนี้ทางบริษัทจะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนงาน ซึ่งเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจเพราะตัวผมเองจะได้ไปเรียนรู้งานของแผนกอื่นๆบ้าง อาจจะได้ไปเจอกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ ที่พร้อมจะให้เราได้อยู่ในทีมทำงานและให้เราได้ช่วยเหลืองาน หรือให้เราได้แสดงความคิดเห็นบ้าง ภายในอนาคตหากทางบริษัทมีการปลดหรือเลิกว่าจ้างพนักงานขึ้นมา ตัวผมเองก็ไม่ได้กังวลขนาดนั้นและคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะว่าบริษัทนี้ค่อนข้างที่จะมั่นคง โดยก่อนหน้านี้ผมก็เคยไปปรึกษาคนอื่นๆ แล้วคำตอบที่ได้คือ ก็ดีแล้วนิ อยู่ตลอด ผมอยากถามพี่ๆว่า พนักงานออฟฟิศ ถ้ามีเวลาว่าง เขาทำอะไรกัน เพราะตอนที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ ผมก็จะค่อนข้างยุ่งอยู่ตลอด ทั้งเรียน ทั้งอ่านหนังสือ หรือทำงานทำวิจัย แต่ตอนนี้ผมเบื่อมากๆงานนี้ทั้ง 3 ดีเจ ก็ได้ให้คำแนะนำว่า สถานการณ์ที่คุณแบงค์เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ถ้าให้ช่วยแนะนำกิจกรรมยามว่างก็คงจะเป็นการหาความรู้รอบตัวเพิ่มดีกว่า เช่น การดูสารคดีที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์จิตวิทยา, คดีลึกลับหรือคดีฆาตรกรรมต่างๆ เพื่อให้รู้ลึกถึงความคิดของฆาตกรแต่ละคน, หรือ จิตวิทยาแบบเชิงวิทยาศาสตร์ รับรองความรู้รอบตัวจะเพิ่มขึ้นอีกเยอะมากแถมฆ่าเวลาได้ดีอีกด้วย เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้าน บอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’...

24 มี.ค. 2023

สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้าน บอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’...

ช็อคเรื่องไหนก่อนดี? สาวรอแฟนมารับ กลับจากงานศพเพื่อนสนิท คืนนั้นมีเบอร์แฟนโทรมาหาตอนตี 3 แต่เป็นสายจากเพื่อนบ้านบอกว่า ‘แฟนเราเสียชีวิตแล้ว’ รู้เพราะมีเพื่อนแฟนมาปลุกให้ไปช่วยดู มารู้ทีหลังว่าเพื่อนคนนั้น เป็นผู้หญิง ทำงานที่เดียวกับแฟน...และแอบมานอนกับแฟนเรา ที่สำคัญเค้ามีสามี แต่งงานมาแล้ว 8 ปี ทำเอา 3 ดีเจอึ้งกันทั้งห้องจัด! เมื่อ “คุณอุ้ย (นามสมมุติ)” อายุ 36 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาแฟนเสียชีวิตแต่มีเรื่องที่มารู้ทีหลัง โดย “คุณอุ้ย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 3 ปี จะเข้าปีที่ 4 แล้ว ระหว่างที่คบกันก็สร้างครอบครัว ซื้อบ้านด้วยกันมา ซึ่งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เรามีปัญหาทะเลาะกันบ่อย หนูก็กลับไปอยู่บ้านตัวเอง แต่เราก็ยังไม่ได้เลิกกัน ยังคุยกันทุกวัน เขาก็มารับพาไปนู้นไปนี่ตลอด ไปกินข้าวด้วยทุกอาทิตย์ เจอกันเหมือนเดิม ใช้ชีวิตเหมือนแฟนกันปกติ แต่เราแค่ห่างกันเพื่อปรับ เมื่อวันที่ 18 กุมภาที่ผ่านมา เพื่อนสนิทของเราเสียชีวิต แฟนเราก็ยังขับรถพาไปเดินเรื่องที่เพื่อนเสียให้อยู่เลย ทีนี้เราจะต้องไปต่างจังหวัดเพื่อไปร่วมงานศพเพื่อนคนนี้ แฟนเราก็ไปด้วย แต่พอเสร็จพิธี เราจะกลับแล้วแต่พ่อของเพื่อนยังไม่อยากให้เรากลับ เขากลัวบ้านเหงาก็เลยขอให้เราอยู่ต่อ เราก็นัดกับแฟนว่าให้มารับเราวันเสาร์ หลังจากนั้นแฟนก็เลยขับรถกลับบ้าน แต่เราก็ยังคุยโทรศัพท์กันปกติ วันศุกร์เขาก็ยังส่งคลิปรายการพุธทอล์ค พุธโทรมาให้เราดูอยู่เลยว่าคลิปนี้ตลกนะ แต่พอวันเสาร์ เวลาประมาณตี 3.49 น. เบอร์ของแฟนก็โทรเข้ามา แต่คนที่โทรมาเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเรา เขาแจ้งว่าแฟนเราเสียแล้ว เราถามเขาว่ารู้ได้ไง เขาก็เลยบอกว่าเพื่อนของแฟนเราวิ่งไปปลุกเขา ไปกดออดที่บ้านเรียกเขาให้ไปดูแฟนเราหน่อย เหมือนแฟนเรานอนละเมอแล้วปลุกไม่ตื่น แต่ตอนที่เพื่อนบ้านเข้ามาในบ้านเรา ขึ้นไปบนห้องนอนก็เห็นว่าแฟนเราหยุดหายใจไปแล้ว จริงๆบ้านหลังนั้นแฟนเราอยู่คนเดียว แต่เราเข้าใจว่าเพื่อนของแฟนคงไปสังสรรค์แล้วนอนค้างที่บ้าน เพราะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเขามานอนค้าง พอเพื่อนบ้านโทรมา เราก็เลยขอคุยกับเพื่อนแฟน เพราะเราอยากรู้อาการว่าเป็นอะไร ยังไง กลับกลายว่าเพื่อนที่ไปอยู่กับเขาเป็นผู้หญิง แล้วก็อยู่กันสองคนในห้องนอนของเรา ตอนนั้นเราช็อค ไม่อยากถามอะไรมาก เราเป็นห่วงแฟน จนสักพักพยาบาลโทรมาหาเราบอกว่าตอนนี้เขาปั้มหัวใจไปได้ 20 นาทีแล้วนะ เหลืออีก 10 นาที ถ้ายังไม่กลับมาเขาจะทำการหยุดปั้มหัวใจ เขาก็รายงาน บอกเราตลอด เราก็รีบกลับมาที่บ้านเลย พอกลับมาถึง ศพก็ถูกเคลื่อนย้ายไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแล้ว และทางญาติแฟนก็เอาศพกลับบ้านเกิด เราก็ข้องใจเลยโทรไปหาผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ถามว่าเขาเป็นอะไรกัน คบกันหรือเปล่า ถ้าเป็นแฟนกันบอกพี่ได้นะ พี่จะขอไปงานศพแค่วันเผาวันเดียวเพื่อไปอโหสิกรรมให้เขา ผู้หญิงก็บอกว่าหนูไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูเป็นเพื่อนกันค่ะ เราก็บอกว่าเป็นเพื่อนกันเอากันไม่ได้นะหนู เพราะเขาเล่าให้เราฟังว่า เขานัดเจอกัน ไปกินข้าวด้วยกันแล้วก็มีอะไรกัน เผลอหลับไป และก็เกิดเรื่อง เรามาเปิดดูกล้องวงจรปิดในบ้านย้อนหลัง เราเห็นตอนที่ผู้หญิงเข้ามาในบ้านเรา เขาก็กลัวคนอื่นจะรู้ คือนั่งเบาะหลังคนขับมา แล้วตอนเข้าบ้านก็เอารองเท้าเข้ามาซ่อนในบ้าน ปิดเงียบทุกอย่าง ไม่ให้ใครรู้ แล้วอีกคลิปก็เหมือนเขานอนดูหนังอยู่ด้วยกันบนโซฟา แฟนเรานอนดูหนังจริงๆ ไม่ได้กอด หรือหอมผู้หญิงคนนั้นเลย แต่ผู้หญิงพยายามกอด พยายามหอมแฟนเรา กลิ้งนอนทับตัวไปมา เราไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว แต่เราเจ็บมาก ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานกับแฟนเรา เขาบอกว่าเขาก็หวังว่าแฟนเราจะเลือกเขา เขารู้มาตลอดว่าแฟนมีเรา แต่เราไม่เคยรู้เลยว่าแฟนมีเขา ตอนแรกที่เราทะเลาะกัน เราก็เคยบอกว่าถ้าจะมีใครใหม่ให้บอกกันนะ แต่แฟนเราเขาเป็นคนบอกเองว่าไม่เอา ไม่เลิก เราห่างเพื่อปรับกัน เรายังคบกันอยู่นะ เราก็เลยคิดว่ามันเป็นแบบนั้นมาตลอด และหลังจากวันที่แฟนเราเสียชีวิต โทรศัพท์ของแฟนก็อยู่ที่เรา แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทักแชทไลน์มาหาแฟนเราว่าคิดถึงจังเลย เราก็ตอบกลับไปบอกว่าโทรศัพท์อยู่กับพี่นะ เขาบอกว่าเขาขอคลิปตอนที่ช่วยชีวิตแฟนเราหน่อยได้มั้ย เขาคิดถึง คือเพื่อนบ้านเขาถ่ายคลิปเป็นหลักฐานไว้ว่าเขามาช่วยนะ เราก็เลยบอกว่าเอาเบอร์พี่ไปนะ แอดไลน์พี่มา เดี๋ยวส่งให้ทางเครื่องของพี่ เพราะเครื่องนี้มันส่งยาก แล้วเราก็ส่งให้ปกติ และเราก็บอกกับเขาไปว่าตอนนี้พี่ยังคุยกับหนูไม่ได้ทุกเรื่องนะ เพราะพี่ยังทำใจไม่ได้ พี่ยังสับสนอยู่ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังตัดสินใจว่าเราจะไปงานศพเขาดีมั้ย ถ้าเราไป แล้วเราไปในฐานะอะไร เราควรไปหรือไม่ไปดี พอวันที่ 2 ผู้หญิงคนนั้นเขาไลน์มาบอกอีกว่าวันนี้กินข้าวกับอะไร จนเราไม่ไหวแล้วก็เลยพิมพ์กลับไปบอกว่าถ้ามาพิมพ์อะไรแบบนี้ เขารับรู้ไม่ได้หรอก หนูไปจุดธูปบอกเขาเองนะ ยิ่งเขาทำแบบนี้ เรายิ่งทำใจไม่ได้ เรายิ่งไม่อยากไปงานศพเขาเลย แต่ทางญาติแฟนก็ตามให้เราไปงานศพสักที อยากให้ลูกเขาหมดห่วง ให้เราไปร่วมงานไปอโหสิกรรม เราก็พิมพ์ไปบอกผู้หญิงว่า อย่าทำแบบนี้นะ พี่ไม่ไหวจริงๆ มันเป็นการตอกย้ำว่าเขาหักหลัง ทำร้ายเราจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ และเราก็ไปร่วมงานศพของเขา แต่ไปวันสุดท้าย ก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ คนที่เขาไม่รู้เรื่องเขาก็มองว่าแบบเป็นแฟนภาษาอะไร ทำไมเพิ่งมาร่วมงาน เราก็ตอบทุกคนว่าเขาเสียด้วยโรคประจำตัว เราก็ไม่รู้จะตอบแบบไหนที่จะไม่สะเทือนใจญาติพี่น้องของเขา ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไปร่วมงานศพด้วย แต่การกระทำในงานศพเขาล้ำเส้นเรามาก ล้ำเส้นจนกระทั่งวันเผา ทางญาติของเขามาตามให้เราไปทำพิธีตัดกรรมตามประเพณีของบ้านเขา ซึ่งเราจะต้องขึ้นไปบนเมรุคนเดียว ระหว่างที่เราขึ้นไป เราได้ยินเสียงลุงสัปเหร่อที่อยู่ข้างบน เขาพูดว่า อ้าว เมียเขาคนนี้หรอ? ตอนเปิดโลงเขาก็ยืนร้องไห้ เอาหน้าถูโลง อยู่ตั้งแต่คนแรกจนลงคนสุดท้าย แต่หนูขึ้นไปแปปเดียวเพราะหนูทำใจไม่ได้ ญาติเขารู้วันที่แฟนเสียว่ามันมีเรื่องแบบนี้ แล้วก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเขาไปร่วมงานก็ไม่ได้อะไร แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็เลยทำในสิ่งที่ไม่ดีอย่างนึง คือ ผู้หญิงคนนั้นเขามีสามีแล้ว เขาเคยผูกข้อไม้ข้อมือด้วยกัน ตอนแรกเราจะไม่ยุ่งเลย อยากให้มันจบๆไป แต่สิ่งที่เขาทำเหมือนไม่ให้เกียรติเราเลย เราเลยทักไปหาแฟนเขา ไปเล่าให้แฟนเขาฟังเรื่องที่เกืดขึ้น แฟนเขาก็บอกว่าเขาสองคนยังไม่ได้เลิกกันนะ เขายังคบกันดีอยู่ ซึ่งเขาคบกันมา 8 ปีแล้ว วันนั้นที่ผู้หญิงแอบมาหาแฟนเรา คือแฟนของผู้หญิงเขาไปทำงาน เข้ากะดึก คือเขาไม่รู้เรื่องเลย และเราก็บอกว่าถือว่าฝั่งพี่หมดกรรมแล้ว พี่จะไม่ขอยุ่งอะไรแล้ว แต่พอเสร็จจากงานศพ ผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาเรา เขาน่าจะรู้เรื่องว่าเราโทรไปบอกแฟนเขา เขาบอกว่าสิ่งที่เขากลัว คือกลัวโดนเราประจาน เขาอาย เราก็เลยบอกว่าอย่ามายุ่งกับเราเลย เราอโหสิกรรมให้ แต่ถ้ายิ่งมายุ่งวุ่นวายกับเรา เรายิ่งทำใจไม่ได้ ตอนนี้มันไปต่อไม่ได้เลย มันคิดวนอยู่ในหัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น แฟนเราเขาหักหลังเราอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย ผู้หญิงคนนั้นก็ไปบอกแฟนเขาว่าแฟนเราเป็นคนไปจีบเขาก่อน เราก็เหมือนมูฟออนไม่ได้ บางทีอยากจะอโหสิกรรมให้เขา แต่บางทีมันก็ปรี๊ดขึ้นมาว่าตกนรกแน่ๆ แต่บางทีเราก็ยังคิดถึง โหยหาเขา แบบทั้งรักทั้งแค้น มันงงไปหมด เพราะสิ่งที่เรารับรู้คือได้แค่ฝั่งผู้หญิงคนนั้นว่ามันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้... แฟนเราเพิ่งเสียไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาที่ผ่านมา อยากได้แนวคิดดีๆที่มันไปต่อได้ ตอนนี้คือเราสะดุ้งตื่นตอนตี 3 ทุกวัน กินยาไปแล้วก็ยังสะดุ้งตื่น มันวนเวียนอยู่ในหัว บางทีทำงานไม่ได้ มันคิดวกไปวนมา ทั้งๆที่เขาก็ตายไปแล้ว 3 ดีเจให้คำปรึกษาว่า ‘ให้คิดว่าเขาตายไปแล้ว ไม่ว่าเค้าจะนอกใจ หรืออะไรก็ตาม ณ ตอนนี้ เค้าเสียชีวิตไปแล้ว ปกติที่จะเป็นความลังเลว่าควรจะเสียใจดีไหมที่เขาจากเราไป แต่ในคณะเดียวกันการจากไปครั้งนี้ เขาก็นอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น ณ วันนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบบังคับตัวเองว่าจะต้องอโหสิกรรม หรือให้อภัย เพราะเรื่องมันเพิ่งเกิด คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ มองปัจจุบันว่าคนที่อยู่คือเรา ตัวเขาไม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแบกเรื่องนั้นไปตลอด เพราะยังไงเขาก็มาให้คำตอบเราไม่ได้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือโฟกัสที่ตัวเอง อย่าให้เขามาส่งผลต่อความรู้สึกของเราตอนนี้เลย ท่องไว้เลยว่า มันไม่มีเขาแล้ว จากนี้ไปเราจะเป็นคนกำหนดเองว่าชีวิตเราต่อจากนี้จะเป็นยังไง... คนที่ให้คำตอบเราได้วันนี้คือตัวเขา ซึ่งไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปหาคำตอบ หาเหตุผล หรือ สิ่งที่มันเกิดขึ้นจากใครทั้งนั้น เพราะมันมีแต่จะทำให้เราเสียใจเปล่าๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันยุ่งเหยิง วุ่นวายไปหมด จึงเป็นเรื่องที่จะต้องรอเวลา ใช้เวลาเยียวยาที่นานกว่าคนปกติ รอให้เวลาผ่านไปก่อน ณ วันนี้เป็นเรื่องปกติมากที่เราจะยอมรับความจริงอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกลไกความคิดที่คนเราต้องเจอ ทำความเข้าใจกับมันว่า ช่วงนี้คือช่วงที่หนักสำหรับเรา แต่สักพักมันต้องดีขึ้น จะช้าจะเร็วก็แล้วแต่คน แต่อยากให้เชื่อว่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว มันต้องดีขึ้น... ‘ความคิด’ ของเราเอง คือสิ่งที่กำหนดทุกอย่าง ถ้าเรามีสติและมองให้ลึกมากพอ เราจะรู้ว่าความคิดของเราเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่จะกำหนดว่าเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร อย่าเพิ่งมองถึงอนาคตว่าจะทำอะไรยังไง มองปัจจุบันก่อน ตื่นมาทำอะไร อยากกินอะไรก็กิน ร้องไห้จนไม่ไหวก็ร้องไป อยากนอนก็นอนไป อย่างน้อยการร้องไห้มันก็เป็นการเผาความเศร้าออกไปได้ รอวันที่เรายอมรับความจริงได้ เราก็รู้ว่าเขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับเรา ณ ตอนนี้ การที่เขาเอาผู้หญิงเข้าบ้านขนาดนั้น มันคือการนอกใจแล้ว โทษสูงสุดของการนอกใจคือการเลิก แต่ขั้นกว่าคือ ตายไปเลย!! วันนี้คิดซะว่าถ้าจะลงโทษเค้าเรื่องการนอกใจ คิดซะว่า ณ ตอนนี้เขาได้รับโทษไปแล้ว เป็นโทษที่สูงสุดด้วย ควรถามตัวเองดีกว่าว่า เราเสียใจมากกว่า หรือ โกรธมากกว่า ถ้าวันนี้ตามที่คุณอุ้ยบอกมาว่า เสียใจมากกว่า ให้ตัดเรื่องการนอกใจออกไปเลย หันกลับมาทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ยังไงสักวันหนึ่งคนเราก็ต้องจากกันไป ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตายอยู่แล้ว วิธีที่อยากจะแนะนำคือ หยุดเอาคำถามเรื่องที่เกิดขึ้นมาใส่ในหัว แล้วบอกตัวเองว่าเราจะอยู่ให้ได้ ช่วงนี้ก็หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว อยากพูด อยากทำอะไรทำ ปลดปล่อยตัวเอง แล้วให้เวลาเยียวยาเรา ตัดเรื่องผู้หญิงคนนั้นออกไปเลย ความแค้นมันทำให้เราเป็นทุกข์ เรื่องที่คุณอุ้ยเจออยู่มันไม่ง่ายเลย แต่บอกตัวเองว่าฉันจะผ่านไปให้ได้ และเรื่องที่เกิดความสูญเสีย เจอกับเหตุการณ์ช็อคๆแบบนี้ อยากจะแนะนำให้ไปปรึกษา พูดคุยกับจิตแพทย์ดู อย่าปล่อยให้ตัวเองดิ่งนานๆ มันอาจจะเป็นสัญญาณสู่ ‘โรคซึมเศร้า’ ได้ และถ้าการไปหาจิตแพทย์แล้วไม่เวิร์ค อย่าเพิ่งถอดใจไป ให้ลองเปลี่ยนจิตแพทย์คนอื่นดูก่อน ขอร่วมส่งกำลังใจให้คุณอุ้ย ผ่านเรื่องนี้ไปได้เร็วๆ...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1