ผู้หญิงไร้ศีลธรรม กับ ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ... หนูคบแฟนมา 20 ปี ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในรูปแบบเพื่อนของแฟน สนับสนุนทุกเรื่อง ให้คำปรึกษาทุกอย่าง จนเรารู้สึกว่าทำไมเพื่อนเขาคนนี้ดีจัง... สุดท้าย ผู้หญิงโทรมาสารภาพ ‘ขออยู่ในสถานะเมียน้อย’ ได้ไหม?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผู้หญิงไร้ศีลธรรม กับ ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ... หนูคบแฟนมา 20 ปี ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในรูปแบบเพื่อนของแฟน สนับสนุนทุกเรื่อง ให้คำปรึกษาทุกอย่าง จนเรารู้สึกว่าทำไมเพื่อนเขาคนนี้ดีจัง... สุดท้าย ผู้หญิงโทรมาสารภาพ ‘ขออยู่ในสถานะเมียน้อย’ ได้ไหม?

18 เม.ย. 2023

         “คุณหนู (นามสมมุติ)” อายุ 39 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (12 เม.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหามือที่สามของแฟน

        โดย “คุณหนู (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เราคบกับแฟนมา 20 ปีแล้ว และมีลูกด้วยกัน จนเรามาจับได้ว่าแฟนเรามีคนอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้แฟนเป็นคนเจ้าชู้มาตลอด แต่ด้วยความที่มีลูกแล้ว เราก็ไม่ได้ตาม ไม่อะไรแล้ว ลูกก็เริ่มโตแล้ว สนใจลูกมากกว่า เพราะเราคิดว่าเขาจะปรับตัวให้ดีขึ้นได้

        จนวันหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาหาเรา เขาเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนของแฟน เขาเข้ามาหาแฟนในรูปแบบเพื่อน คอยให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ จนเราคิดว่าเขาเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี

        แล้วเขาก็ร้องไห้ สารภาพกับเราว่า เขาขอเป็นแบบนี้ได้ไหม ขออยู่ในสถานะเมียน้อยได้ไหม? เขาบอกว่าเขาช่วยแฟนเราทุกอย่าง เขาไม่ต้องการอะไรจากเราเลย ไม่ต้องการจะแย่ง แต่ขออยู่ในสถานะนี้ได้มั้ย ขอแค่ให้มาหาบ้าง โทรหาบ้าง ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน เราก็เลยถามเขาว่า ทำไมเกินเลยกันถึงขั้นนี้เลย เขาบอกไม่รู้เหมือนกัน เขารักไปแล้ว ไม่สามารถออกห่างหรือเลิกได้แล้ว

        ต้องท้าวความก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เขาเคยผ่านการมีสามีมาแล้ว มีลูกติด 1 คน แล้วเขาก็มีหน้าที่การงานที่ดี หน้าตาดี มีฐานะที่ดี เราก็เลยถามเขาไปว่าเขาก็มีทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมถึงยอมมาอยู่ในสถานะเมียน้อย ทำไมถึงไม่ยอมไปหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ ผู้ชายที่ยังไม่มีครอบครัว เขาบอกก็รักไปแล้ว เราก็เลยถามว่านานแค่ไหนแล้ว เขาพูดกลับมาแบบกวนๆใส่เราว่า ก็น่าจะรู้นะว่านานแค่ไหนแล้ว เราก็เลยเอะใจว่าเขามาขอร้องอ้อนวอนเป็นเมียน้อย หรือเขามาเยาะเย้ยเรา แบบอยากให้เรารู้ว่าเขามีตัวตน

        หลังจากวางสายผู้หญิงคนนี้เราก็ไปเคลียร์กับแฟนเลย ตอนแรกแฟนเราก็ยังไม่ยอมรับ จนเราต้องจี้จุด พูดชื่อผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา เขาก็ร้องไห้แล้วสารภาพกับเราว่าเขามีปัญหาเรื่องธุรกิจ การงานของเขา เขาบอกเขาโพสต์เฟซบุ๊ก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาทักถาม ให้คำปรึกษา เขาก็ไปคุยกันส่วนตัวเพราะเราไม่รู้ เราไม่เคยเช็คโทรศัพย์ของแฟนเลย เพราะเราเชื่อใจและไว้ใจเขา แฟนเราบอกว่าพยายามจะเลิกกับผู้หญิงคนนี้หลายรอบแล้ว แต่ผู้หญิงไม่ยอมเลิก บอกจะฆ่าตัวตายบ้าง แล้วแฟนเราก็พูดกับเราขึ้นมาคำนึงว่าแล้วลูกเขาล่ะ? แฟนบอกผู้หญิงคนนี้กำลังท้องอยู่ ซึ่งเขาบอกว่าท้องกับสามีเราจริง แต่ตอนนี้เขาแท้งไปแล้ว

        หลังจากเขายอมรับสารภาพ เราก็โทรไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนี้เลย เราด่าด้วยความโมโหว่ามายุ่งกับแฟนเราทำไม เขาก็พูดใส่เราขึ้นมาว่า แล้วเวลาเขาไล่ทำไมไม่ไปอ่ะ อยู่ทำไม? เหมือนกับว่าแฟนเราไปเล่าให้เขาฟังหลายครั้งแล้ว แต่เราไม่ไปเอง เราก็เลยโทรประชุมสายหาแฟนเราเลย ถามว่าเขาพูดแบบนี้จริงไหม แฟนบอกพูดจริง แต่คือจริงๆเขาไม่เคยไล่เราเลย ต่อให้ทะเลาะกันยังไงก็ไม่เคยไล่

        สรุปคือแฟนเราไปเล่าเรื่องทุกอย่างในส่วนของเราให้ผู้หญิงคนนี้ฟังหมด ให้เขามาดูถูกเรา ไม่ว่าจะเรื่องไล่เราออกจากบ้าน ทุบตีเรา หรือแม้กระทั่งเราไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน เพราะทุกวันนี้เราเป็นแม่บ้าน มีงานแต่ไม่ได้มีเงินเยอะ หลักๆคือใช้เงินของแฟน และเขาก็ต้องมาคอยดูแลเรา ดูแลลูกเรา เขาบอกเขาเหนื่อย เขาไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็เลยโอบอุ้มเขาไป

        ตอนนี้เราเลิกกันมาได้ 3 – 4 เดือนแล้ว คำถามวันนี้คือ ‘อยากถามพี่ๆว่า ผู้ชายสมัยนี้เขารักความสบาย ไปกับผู้หญิงที่มีเงินได้โดยทิ้งผู้หญิงที่ลำบากมาด้วยกัน 20 ปี มันง่ายขนาดนี้เลยหรอ?’

        3 ดีเจจึงให้คำแนะนำ “คุณหนู (นามสมมุติ)” ว่า เท่าที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวแค่เรื่องเงิน ไม่งั้นถ้ามีอะไรกันน่าจะป้องกันไปแล้ว แฟนเราน่าจะมีเรื่องของความรักมาแล้ว และระยะเวลา 20 ปีที่คบกัน มันอาจจะเป็นคู่ชีวิต อาจจะไม่หวือหวาเท่าคนใหม่ที่เข้ามา แต่สิ่งสำคัญคือมองผู้ชายของเราดีกว่า ทำไมไม่ปกป้องความรู้สึก ปกป้องครอบครัวเราเลย ถือว่าความรับผิดชอบเขาต่ำมาก

        หยุดถามคำถามได้แล้วว่า 20 ปี ทำไปเขาถึงไม่นึกถึงเลย ต่อให้ 20 ปี 30 ปี เขาก็ไป ถ้าเขาจะไปกับอีกคน ได้คำตอบมามันก็เท่านั้น จงใช้ชีวิตที่เหลือโดยการเอาลูกเป็นที่ตั้ง เป็นกำลังใจในการก้าวเดินต่อไป บอกตัวเองว่า เขาเลือกทิ้งเราไปจากชีวิตแล้ว แล้วถ้าวันนึง ถ้าเขาจะกลับมา เราควรค่าที่จะเอาเขากลับมาไหม อย่าเสียดายกับคำว่า พ่อ หรือ ผัว นับจากนี้ ปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตของเรา แล้วเรามีความสุขกับลูกต่อไป ไม่ต้องหาเหตุผลอะไรในอดีตอีกแล้ว...

        จริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้ชาย ไม่ว่าใคร คนเราถ้ามันจะเลิกกัน คนมันจะไป ยังไงก็ไป ต่อให้ทำดีแค่ไหน นานแค่ไหนเขาก็ทำได้ ถ้ามองจริงๆ มันแทบไม่มีอะไรซับซ้อน ถ้าคนมันไม่รักกันแล้ว เขาก็จะทิ้งเราไป ซึ่งถ้าคนมันจะอยู่ยังไงเขาก็จะอยู่ แต่สิ่งที่ยากคือ การทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว หลายครั้งที่เรามักจะไม่เรียนรู้ความเจ็บปวด แต่เรามักจะไปอาลัยอาวรณ์เขามากกว่า แล้วเรื่องที่เค้าเอาเราไปพูดเสียๆหายๆ ปกติคนเราเวลาพูดอะไรออกไปก็จะไม่พูดให้ตัวเองดูเสียๆหายๆอยู่แล้ว

        ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือ ง่าย ในหลายๆคู่ทำยิ่งกว่านี้อีก บางคนที่เห็นในข่าวฆ่าเมียเพื่อไปหาอีกคนก็ยังมี มันมีผู้ชายแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งผู้ชายคนนี้ก็กำลังทำอยู่เขาจะทำอะไรก็ได้เลยที่เขาอยากทำ เพื่อที่จะไปอยู่กับอีกคน ถ้าเรามองจากมุมข้างนอกเข้าไป เขาจะพูดถึงหนูยังไง เขาจะทำอะไร หนูก็โอเคกับเขา หนูเราเขา แต่ในขณะที่เขาไม่ได้รู้สึกเท่ากับหนู วันนี้ที่หนูออกมาแล้ว นับเป็นความโชคดีแล้ว แล้วเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว หนูจะพบเจอกับความสุข เราก็ทำหน้าที่แม่ที่ดีของเราต่อไป แล้วก็มูฟออนให้ได้ และถ้านับจากการวางหูที่โทรเข้ามาในรายการ เลิกถามคำถามนี้ได้แล้วว่า ทำไมทำไม โฟกัสไปที่ปัจจุบันแล้วเดินไปข้างหน้าต่อเลย...

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ไม่มีความเป็นผู้นำ หรือ ขี้เกียจกันแน่?? สาวสุดหนักใจ... คบกับแฟนมา 4 ปี แฟนให้คำปรึกษาไม่ได้เลย เวลาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตัดสินใจ ชอบพูดคำว่า แล้วแต่เธอเลย ตอนนี้เขาลาออกจากงานประจำมาช่วยงานเรา แต่เที่ยงยังไม่ตื่น...

11 ส.ค. 2023

ไม่มีความเป็นผู้นำ หรือ ขี้เกียจกันแน่?? สาวสุดหนักใจ... คบกับแฟนมา 4 ปี แฟนให้คำปรึกษาไม่ได้เลย เวลาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตัดสินใจ ชอบพูดคำว่า แล้วแต่เธอเลย ตอนนี้เขาลาออกจากงานประจำมาช่วยงานเรา แต่เที่ยงยังไม่ตื่น...

ไม่มีความเป็นผู้นำ หรือ ขี้เกียจกันแน่?? สาวสุดหนักใจ... คบกับแฟนมา 4 ปีแฟนให้คำปรึกษาไม่ได้เลย เวลาปรึกษาเรื่องใหญ่ๆที่ต้องตัดสินใจชอบพูดคำว่า แล้วแต่เธอเลย ตอนนี้เขาลาออกจากงานประจำมาช่วยงานเราแต่เที่ยงยังไม่ตื่น และ ชอบมาขอเงินเรา อ้างว่า เงินไม่พอใช้ ขอยืมทีละนิดๆตอนนี้หนูอยากจะเลิก แต่ติดตรงที่มองหน้าเขาแล้วสงสาร ควรทำยังไงดี? “คุณแพท (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายแรกในรายการ“พุธทอล์ค พุธโทร” เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา[2ส.ค. 66]ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหาแฟนไม่มีภาวะเป็นผู้นำ ไม่ขยันทำงานหาเงิน ไม่คิดสร้างอนาคตไปด้วยกันโดย “คุณแพท (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 4ปีแล้ว แฟนอายุเท่ากัน ยังไม่ได้แต่งงาน แต่อยู่ด้วยกัน คือ... แฟนหนูไม่มีความเป็นผู้นำเลย เวลาที่เราต้องตัดสินใจอะไรเรื่องใหญ่ๆ หนูจะปรึกษาเขาไม่ค่อยได้ เขาจะพูดแค่คำว่า แล้วแต่เรา ตอนที่ซื้อบ้านด้วยกัน หนูก็ถามเขาว่า เธอเราซื้อตรงนี้ดีไหม หรือว่าราคาอย่างนี้เธอโอเคไหม เขาก็จะตอบแล้วแต่เธอ หรือแม้แต่ภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เราจะแยกเงินคนละกระเป๋า เราจะไม่ยุ่งกับเงินเขา เขาก็จะไม่มายุ่งกับเงินของเรา ช่วงแรก ๆมันได้ แต่ช่วงหลัง ๆมาเขาก็จะมาขอเรา ในแต่ละครั้งไม่เยอะมากแต่ระยะเวลา ถ้าทบรวมๆกันก็เยอะ ครั้งละ 10,000-8,000 บาท บางทีเขาก็จะบอกเงินไม่พอจ่ายค่างวดรถ ไม่พอจ่ายค่านู้นค่านี่ ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขาเอง อย่างเช่น รถเป็นชื่อเขา แต่เราก็ใช้ด้วยกัน คือแพทจะทำงานอยู่ที่บ้าน เขาจะเป็นคนที่ใช้รถคนเดียว แพทก็จะไม่ค่อยได้ใช้ แต่รถออกเป็นชื่อเขาเพราะว่าชื่อแพทติดแบล็คลิสต์ออกรถไม่ได้ เขาจะมีขอจุกจิก บางทีก็ขอน้ำมันเติมค่ารถ 1,000-2,000 บาท ขอจุกขอจิกเราก็จะถามเขาว่า เงินเดือนเธอไม่พอหรอ? เขาก็จะบอกว่า ไม่พอ ไม่พอจริง ๆ แพททำงานอยู่ที่บ้าน เปิดเป็นร้านเบเกอรี่ แล้วทีนี้หลังๆมา ด้วยความที่เขาคิดว่าอยากมาช่วยเรา เขาก็ลาออกจากงานประจำ แต่เอาจริงๆ ร้านหนูเปิด 10 โมง เที่ยงเขายังไม่ตื่นเลย ตอนนี้เขาออกจากงานได้ 2 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีรายได้ หลักๆก็มาจากหนูกับคุณพ่อของหนู เพราะหนูก็ไปคุยกับคุณพ่อ คุณพ่อก็เลยให้เขามาทำงานกับพ่อ เพราะพ่อเปิดร้านขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เขาไปเฝ้าร้านให้ แล้วพ่อก็ให้เงินเดือนกับเขาต่างหาก เขาก็ทำงานแต่ไม่ค่อยดี เหมือนที่เขาทำก็อาจจะเกรงใจพ่อหนูด้วย แต่พ่อจะชอบโทรมาบ่นว่า เขาชอบหนีไปเข้าห้องน้ำนาน ๆ ชอบไปสูบบุหรี่หลังร้านนาน ๆ พอไปทำงานกับคุณพ่อแล้ว เขาก็ยังมีปัญหาการเงินเหมือนเดิม ยังมาขอเงินหนูเหมือนเดิม แต่ไม่ได้เยอะเท่าเดิม คือก่อนหน้านี้หนูเคยแต่งงานมาแล้วครั้งนึง หนูมีลูกกับแฟนเก่า หนูก็เลยบอกเขาไปว่า เรามีลูกนะ การที่เราจะเอาใครสักคนเข้ามา ถ้าจะให้เรารับผิดชอบเธอด้วย รับผิดชอบลูกด้วยเราก็ไม่ไหว... แพทก็มีความรู้สึกอยากจะเลิกกับเขานะ แต่มันติดตรงที่เขาก็มีความดีของเขาอยู่ เขาไม่เคยนอกใจเรา แล้วเราสัมผัสได้ว่าเขาก็รักเรา เขาทำกับข้าวให้กิน ทำงานบ้านให้หนู เวลาที่หนูจะบอกเลิกเขา แล้วหันมองหน้าเขา มันก็เลยกลายเป็นสงสารเขา แต่มันก็ไม่ใช่ทุกวันที่เขาทำให้เรานะ ในสายตาเราก็นับว่าเขาเป็นคนขี้เกียจในระดับนึง แต่ในความรู้สึกก็ยังว่า...เหมือนเขาเป็นคนดีคนหนึ่งอยู่ เพราะไม่เคยโกหกเรา ไม่เคยไปเที่ยว หรือไม่เคยไปเมาเละเทะที่ไหน และหนูก็เคยบอกเขาให้ไปทำงานเพื่อหาเงิน แต่เขาก็ถามหนูกลับมาว่า จะให้เราไปทำอะไร? เขาก็ดูเหมือนจะรักลูกติดของหนูนะ อย่างเวลาไปเดินห้าง เขาก็จะบอก เห้ยเธอชุดนี้สวยจัง ซื้อแล้วก็ส่งไปให้ลูกไหม? ซึ่งลูกของหนูคุณแม่จะเป็นคนเลี้ยงให้อยู่ที่ต่างจังหวัด แต่เขาก็ไม่เคยถามเลยว่า เธอเดือนนี้ส่งเงินให้ลูกหรือยัง มีเงินพอส่งให้ลูกไหม? เขาไม่เคยถามแบบเป็นห่วง เป็นใย อย่างคำถามที่ว่า ลูกเป็นไงบ้าง ลูกเปิดเทอมหรือยัง ลูกปิดเรียนวันไหน เขาจะไม่เคยมีคำถามพวกนี้เลย เขาเคยเจอลูกของหนู ความสัมพันธ์ก็ปกติ เจอกันก็พาไปซื้อขนม อยากได้อะไรซื้อให้ ตอนนี้หนูกำลังอยากสร้างครอบครัว อยากได้คนที่แบบมาเป็นคู่คิด ซึ่งเขาเป็นคู่คิดให้หนูไม่ได้ เขาจะคอยต้านหนูตลอด สมมติถ้าบอกว่าอันนี้ได้นะ เขาก็จะแย้งขึ้นมาทันทีว่าอันนี้ไม่ได้ อย่างหนูเคยทำขนมออกมาชิ้นนึง คิดแล้วว่ามันต้องขายได้แหละ เขาก็จะสวนขึ้นมาทันทีเลยว่า มันขายไม่ได้หรอก ทั้ง ๆที่ยังไม่ได้ลองขายเลย แค่ทำออกมาชิมกัน มันก็เลยเหมือนเขามาบั่นทอน ปีแรกๆ เขาดีมาก คือทำงานตลอด OT ยันดึกดื่น เขาดูเป็นคนขยันมาก จนหนูรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เราฝากชีวิตได้แหละ ก็เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกันกับเขา จุดเปลี่ยนเขา เอาจริงๆแพทก็ไม่รู้ เพราะแพทก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน อยู่ดีดีเขาก็เปลี่ยนไปเลย แพทยังเคยคุยกับเขาเลยว่า แพทรู้สึกว่าตอนนี้เขาไม่เหมือนคนเดิมคนนั้นเลยนะ เขาก็บอกว่า เราก็เป็นของเราแบบนี้แหละ เธอไม่สังเกตเอง เขาไม่ได้ทำให้เราเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ซัพพอร์ตความรู้สึกเราเหมือนกัน เขาเป็นคนไม่ทำอะไรผิดร้ายแรง แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรดีด้วย ทนมาประมาณ2ปี ตั้งแต่เขาลาออกจากงาน เลยอยากถามว่า แพทอยากเลิกค่ะ แต่ตัดความสงสารที่มีต่อเขาไม่ได้ ควรทำยังไงดี? งานนี้ในความคิดเห็นของผู้ชายอย่าง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริงๆแล้วเคสอย่างคุณแพท น่าแปลกใจตรงมีประสบการณ์ความรักมาแล้ว พอเป็นความรักครั้งที่สอง การจะมีครอบครัวผมว่า ส่วนใหญ่มันจะทำให้เราตัดช้อยส์ง่ายขึ้น เมื่อตอนพ่อของลูกเลิกกันเพราะเขานอกใจ เขาไปมีผู้หญิงคนอื่น ทำให้คุณแพทมีปม พอคนนี้ไม่นอกใจเขาเลยได้คะแนนบวกเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นอันนี้เลยเป็นข้อเสียที่คุณแพทยังไม่เคยเจอ บวกกับข้อดีที่มันไปคลายปมของคุณแพทในความรักครั้งแรก เขาไม่มาซ้ำในแผลเดิม เราก็เลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้บวกมาก แต่จริงๆแล้วถ้าคุณแพทย์ยังรู้สึกสงสาร นั่นแปลว่าคุณแพทยังสงสารตัวเองไม่มากพอ เลยยังมีแรงไปสงสารเขาอยู่ ก็คงต้องทน ก็คือถ้าให้ผมบอกนะ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ก็ต้องทน ทนจนกว่าคุณแพทจะเริ่มสงสารตัวเองและครอบครัว ถึงเวลานั้นคุณแพทจะรู้ว่าควรทำอย่างไร จริงๆมันควรเป็นวัยและเวลาที่เราไม่อยากเสียเวลาแล้ว เราเคยผ่านความรักครั้งแรกมา แล้วมันก็ล้มเหลว ความรักครั้งที่สองมันควรจะชัดเจนขึ้น อะไรที่ไม่ใช่ไปให้เร็ว ไม่มาอารัมภบทให้วุ่นวาย ไม่มาดราม่ากันแบบไร้สาระ ไม่ใช่ก็แยกย้าย มันควรจะเป็นอย่างนั้น นั่นแปลว่าความสงสาร คุณแพทยังชั่งน้ำหนักแล้วรู้สึกยังทนกับข้อเสียของเขาได้ และข้อดีของเขายังชนะอยู่ หรือมันเสมอกันแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็ว่าเหลือเวลาไม่นานที่ความอดทนครั้งนี้มันจะหมดลง มันอาจจะเป็นฝางเส้นสุดท้ายก็ได้ ผมว่าคุณแพทไม่ต้องกังวล ถ้าความรู้สึกนี้ค่อย ๆก่อตัว เดี๋ยววันนึงมันก็จะชัดเจน อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะมีวิธีจบเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน บางคนเตือนก่อน บางคนระเบิดบึ้มแล้วไปเลย คุณแพทเองก็เคยยื่นคำขาดมาหลายทีแล้ว แต่เขารู้ไหมว่าเขาอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างวิกฤต แล้วก็คุณแพทมีทางเลือกที่จะเลิก ไปต่อกันที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘คุณแพท คือต้นหอมเวอร์ชั่นเก่า ที่ยังไม่ตรัสรู้ เพราะหอมเคยเป็น หอมเคยมีแฟนที่นอกใจ พอวันที่เรามีแฟนที่นอกใจ เราจะมีปมเลยหนึ่งอย่างว่า ครั้งหน้าขอแค่ข้อเดียว ขอคนที่ไม่นอกใจ พอแล้วเพราะว่ามันเจ็บกับสิ่งนี้มาก ขอคนที่ไม่นอกใจ แล้ววันนึงเจอผู้ชายที่ไม่นอกใจ แค่คำว่า ไม่นอกใจ เรากลายเป็นเราตกเป็นทาสคำนี้เลย ที่เหลือผู้ชายแม่งเห็นแก่ตัว ขี้เกียจ เอาเปรียบสารพัด แล้วอยู่ก็ไม่มีความสุข แต่เขาไม่นอกใจ คิดแบบนี้อยู่ จนไม่มีความสุข หรือเป็นที่ตัวเราเอง เราปรับเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง สุดท้ายคือ เราไม่ได้ต้องการแค่ไม่นอกใจ เรามีผู้ชายในแบบที่เราต้องการ และ ผู้ชายที่เราไม่ต้องการ ซึ่งเขามีสิ่งที่คุณแพทไม่ต้องการ เมื่อใครก็ตาม ที่ไปแตะสิ่งที่คุณแพทไม่ต้องการ แปลว่าคนนี้ไม่ใช่ คุณแพทกำลังอยู่กับจิ๊กซอว์ที่ไม่ใช่ ฉะนั้นวันนี้จะไปถามหาความสุขจากคนที่เขาไม่มีสิ่งนั้นให้คุณแพท คุณแพทก็จะอยู่ไม่มีความสุข คือเขาไม่ใช่ แล้วก็สิ่งที่คุณแพทบอก ลุกไปทำงานหรืออะไรก็ตาม เขาไม่ทำเพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาปรับเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นตัวเขาไปแล้ว แล้วคุณแพทก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทน แต่ในเมื่อมองหน้าเขา เห็นหน้าเขาแล้วสงสาร คุณแพทก็แค่ลองหันกระจก แล้วมองหน้าตัวเองดูบ้าง ฉันสงสารตัวเองอยู่หรือเปล่าทุกวันนี้ ที่ต้องทนอยู่กับคนแบบนี้ ถ้าแพทคิดว่าการเลิกกับเขามันยากที่สุด เดี๋ยวแพทจะทำใจไม่ได้ ไม่ใช่นะ หอมบอกเลยว่า ผู้ชายทรงแบบนี้ไล่ไม่ไป เพราะเขาอยู่สบายแล้ว อันนี้หนักกว่า ทำอย่าไงให้คนนี้ไปเถอะ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการทำอย่าไงให้เขาออกไปจากบ้าน อันนี้ยากมาก คนแบบนี้ไม่ออก และคนสุดท้ายของค่ำคืนนี้ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘งั้นพี่พูดในเชิงที่ว่า จะทำให้หนูเวลามาคิดแล้วสงสารเขาดีกว่านะ ว่าจะเอาความรู้สึกนี้ออกไปยังไงดีกว่าเนอะ พี่รู้สึกว่าอยากให้แพทถามตัวเองว่า ถ้าหนูจะมีคนรัก จะมีสามีหนูต้องการอะไรจากสถานะนี้ ต้องการคนที่เป็นผู้นำ ต้องการคนที่เป็นกำลังใจ ต้องการคนที่มีความรับผิดชอบทั้งตัวเขาเองและครอบครัว หรือหนูต้องการแค่แบบทำกับข้าว คนดูแลบ้าน คนที่ไม่นอกใจ ซึ่งถ้าต้องการแค่นี้ หนูจ้างแม่บ้านดีดีสักคนก็ได้เลยนะ แล้วทำแบบFULL-TIME ไม่แบบ 3วันดี 4วันไข้ด้วย แต่เรากอดแม่บ้านไม่ได้ แสดงว่าหนูต้องการที่พึ่งทางใจ ที่จะให้ความรัก การดูแล ความรับผิดชอบ ซึ่งแสดงว่าในตัวผู้ชายคนนี้ มันไม่มี แล้วหนูต้องหาคนอื่นมาทำหน้าที่แทนเขา สำหรับพี่ คือ ก้อนที่เขาทำได้ ตอนนี้ที่หนูบอก ทำกับข้าว ดูแลบ้าน ไม่นอกใจ ก้อนนี้มันหาคนมาทำแทนเขาได้เลย มันแล้วแต่ว่า คนรักที่หนูต้องการจะมี หนูอยากให้เขาเป็นอะไรสำหรับหนูในตอนนี้ เท่านั้นเอง เพราะว่าถ้าหนูสงสารเขาไป แต่เขาไม่หยุดเอาเงิน มันสงสารตัวเองดีกว่าไหม เพราะแพทไม่ใช่คนที่มีฐานะร่ำรวยถูกไหม ที่แบบอยากได้เท่าไหร่ เปย์ เปย์ ขอแค่อยู่กับฉัน ไม่นอกใจฉัน ไม่ใช่อะ หนูก็ทำมาหากิน เขาที่ตอนนี้อายุ 30 แล้วอยู่จะทำงานเลย อย่างที่พี่บอก ผู้ชายคนนี้ยังรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้เลย แล้วเขาจะไปรับผิดชอบชีวิตใครได้ แล้วเขาไม่ใช่เด็กอายุ 15-16 ที่เหมือนกำลังเรียนรู้ชีวิตที่ต้องการอะไร ตอนนี้เขาอายุ 30 ที่มีหนูอยู่ข้าง ๆแล้ว ในฐานะสามีภรรยากัน ทุกครั้งถ้าจะสงสารเขา ลองคุยกับตัวเองว่าสิ่งที่เราเจอแบบนี้ถ้ามันต้องเจอไปอีก 5ปี 6ปี 7ปี ใครกันที่น่าสงสาร หนูตื่นมาทำขนม ตื่นมาทำมาหากินของหนู ในขณะที่เขานอนตื่นเที่ยง แล้วให้ไปทำงานไม่ทำ สำหรับพี่ตอนนี้นะ ถ้าพี่คิดไวๆ พี่จะบอกให้เขาไปทำงาน ถ้าเขาไม่ทำ พี่ก็บอกว่า งั้นเธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับเงินแพทแล้วนะ แพทมีลูกต้องเลี้ยง แพทย์มีที่บ้านต้องดูแล เขาควรดูแลชีวิตตัวเองให้ได้ก่อนด้วยซ้ำในตอนนี้ ซึ่งถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรจะเก็บคนแบบนี้ไว้ในฐานะคนรักนะคะ หรือถ้าเขาบอกว่าเขาอยากอยู่ ก็มาเป็นคนงานที่บ้านไหมหละเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจ็บปวดจนพูดไม่ออก... หนูแต่งงานกับสามีมา 12 ปี มีลูก 1 คน เพิ่งจับได้ว่า ‘สามีที่รัก’ แอบมีอะไรกับ ‘พี่สาวแท้ๆ’ ของหนู สุดท้าย พี่สาว ขอตัดพี่ตัดน้อง แล้วเลือกที่จะอยู่กับสามีเรา ส่วนสามีก็บอกว่า ขอรักพี่สาวของเธอเพิ่มอีกคนนึงได้ไหม?

05 พ.ค. 2023

เจ็บปวดจนพูดไม่ออก... หนูแต่งงานกับสามีมา 12 ปี มีลูก 1 คน เพิ่งจับได้ว่า ‘สามีที่รัก’ แอบมีอะไรกับ ‘พี่สาวแท้ๆ’ ของหนู สุดท้าย พี่สาว ขอตัดพี่ตัดน้อง แล้วเลือกที่จะอยู่กับสามีเรา ส่วนสามีก็บอกว่า ขอรักพี่สาวของเธอเพิ่มอีกคนนึงได้ไหม?

“คุณเก๋ (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (3 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาพี่สาวแท้ๆ กับสามีสุดที่รัก โดย “คุณเก๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานกับสามีมา 12 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่หนูมีลูกติดอีก 1 คน เรื่องมันเกิดจากพี่สาวของหนูทะเลาะกับพ่อ หนูก็เลยพาพี่สาวเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ประมาณ 6-7 เดือน ซึ่งพี่สาวก็ช่วยเลี้ยงลูกติดของหนูด้วย เพราะพี่สาวไม่มีครอบครัว ซึ่งพี่สาวแท้ๆ พ่อกับแม่เดียวกัน หนูมีแค่เขา เพราะเขาเลี้ยงหนูมาเหมือนแม่เลย เลี้ยงหนูมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เพราะพ่อกับแม่ของพวกหนูเขาเลิกกัน และมันเริ่มแปลกๆ คือ พี่สาวของหนูกับสามีของหนูเขาเริ่มคุยกันแปลกๆ แล้วมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้หนูสงสัย แต่ก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรขนาดนั้น พอมาเริ่มสังเกต สามีหนูมีการลบแชททุกอย่างออก แต่ในแชทไลน์เขาก็มีการส่ง Good Morning กันทุกวัน ส่งสติ๊กเกอร์จุ๊บทุกวัน มีการแลกดูกับข้าวกันด้วย วันละ 3 มื้อ ซึ่งกับหนูเขาไม่เคยทำแบบนี้เลย พอหนูจับได้ หนูก็ถามเขาว่า มันคืออะไร? ยังไง? แล้ววันนั้นเรา 3 คนอยู่ข้างนอกด้วยกัน แต่แฟนบอกว่ามีอะไรให้กลับไปคุยกันที่บ้าน พอมาถึงบ้านเราก็มีการคุยกัน แต่สามีของหนูโวยวายขึ้นมา แล้วเขาก็หนีออกจากบ้านไปเลย กลับบ้านอีกทีตอนเช้าอีกวัน แต่ตอนนั้นเหลือหนูกับพี่สาว หนูก็เลยถามพี่สาวว่ามันเกิดอะไรขึ้น พี่สาวก็ไม่ได้ยอมรับ หนูก็พูดไปประมาณว่า ถ้าแฟนหนูรู้สึก หนูอยากให้เขาหยุด แต่ตอนนั้นหนูไม่ได้โทษพี่สาวเลยว่าเขาจะรู้สึกอะไรกับแฟนหนู ทางฝั่งพ่อกับแม่ของสามีก็มาด่าหนูว่า หนูหึงสามีไม่เข้าเรื่อง พอใช้ประโยชน์พี่สาวหมดก็จะไล่เลยหรอ? หนูก็เลยยอมขอโทษที่หนูโวยวาย จนเหตุการณ์มันเกิดไปได้ประมาณอาทิตย์นึง หนูก็กลับไปเห็นแชทไลน์ในโทรศัพท์ของพี่สาว ประมาณว่า สามีของหนูไปหึงผู้ชายที่ทักมาคุยกับพี่สาวหนู หนูก็เลยแคปแชทนี้ส่งไปให้สามีดู แล้วถามเขาว่า มันคืออะไร? เขาก็ไม่ตอบหนูเลยทั้งวัน จนกลับมาตอนเย็น เขาก็มายอมรับกับหนูว่าเขารักพี่สาวหนู แต่ยังไม่ได้มีอะไรกัน แล้วพี่สาวก็มายอมรับว่ารู้สึกดีกับสามีหนู หลังจากนั้นทุกอย่างมันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ใช้ชีวิตระแวงกันมาตลอด และสามีก็มาพูดกับหนูว่า ขออยู่แบบ 3 คนผัวเมียได้ไหม? หนูก็เลยย้อนถามกลับไปว่ามีอะไรกันแล้วหรอ? ทำไมถึงมาขอแบบนี้ เขาบอกยังไม่ได้มีอะไรกัน แต่เขาอยากได้ เขาจะเอา หนูก็บอกว่าไม่ได้หรอก แล้วลูกจะอยู่ยังไง เพราะลูกทั้ง 2 คนก็อยู่ในบ้านด้วย เขาก็บอกว่า ขอรักพี่สาวหนูเพิ่มอีกคนนึงได้ไหม? หนูไม่รู้จะพูดยังไงเลย พอเขาพูดจบปุ๊บ พี่สาวหนูก็พูดขึ้นมาว่า ลองให้มันไปอยู่กับพี่ไหม แบบไปเช่าหออยู่ด้วยกัน หนูก็เลยถามว่า อยากลองหรอ ตอนนั้นหนูรู้สึกอยากดึงใครสักคนไว้กับหนู หนูขอร้องให้พี่สาวกลับมาเป็นพี่สาวของหนู ส่วนผู้ชายอยากออกไปไหนก็ไปเลย... แต่พี่สาวพูดกับหนูว่า เขาไม่สามารถกลับมาเป็นพี่สาวหนูได้แล้ว เขาให้เหตุผลว่าหนูคิดไปไกลเกินที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันได้แล้ว หนูไม่รู้เลยว่าเขาไปถึงขั้นไหนกัน ตลอดระยะเวลาหนูก็ถามสามีตลอดว่าเอาความรู้สึกกลับมาได้ไหม ถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่มีอะไรกัน หนูเชื่อนะ ขอร้องได้ไหม อยู่กับหนูกับลูกได้ไหม? หลังจากวันนั้น พี่สาวก็ขอออกจากบ้าน เขาบอกเขาอึดอัด อยู่ไม่ได้ แต่พอพี่สาวย้ายออกไป เหตุการณ์มันเริ่มแย่ลงทุกวัน สามีหนูไม่กลับบ้านเลย เขาบอกขอออกไปขับรถเล่น ค่ำไหนก็นอนนั่น เขาบอกอยู่กับหนูแล้วอึดอัด เพราะหนูจับผิดเขาตลอดเวลา หลังจากนั้นผู้ชายก็มาขอกลับไปอยู่บ้านกับพ่อ-แม่ หนูก็บอกโอเค ถ้าเธออยากกลับไป ก็ไปจัดการความรู้สึกตัวเองให้ได้ก่อน แล้วเธออยากเลือกทางซ้าย ทางขวา เธอไปได้เลย หนูก็พูดและกอดเขาทั้งน้ำตา แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป ซึ่งหนูก็อยากรู้ว่าเขาโกหกไหม เพราะตลอดระยะเวลาที่พี่สาวหนูออกไปอยู่ข้างนอก หนูไม่เคยตาม ไม่เคยรู้เลยว่าพี่สาวอยู่ที่ไหน แต่วันนั้นหนูตามไปดู ไปถึงพักพี่สาวประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง หนูเจอเขาอยู่ด้วยกัน หนูก็ไปคุยกับสามีว่ามาอยู่ทำไมที่นี่ เขาบอกว่า พี่สาวขอให้มาหา มาคุยกันเรื่องหนู เพราะพี่สาวอยากให้สามีกลับไปอยู่กับหนู หนูไม่มีอะไรจะต้องเชื่อแล้ว ทุกอย่างที่หนูเห็น หนูให้โอกาสเขาทั้งคู่มาตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม แล้วคืนนั้นเขาก็หายไปพร้อมกันเลย แต่หนูไม่ได้โทษว่าเขาไปด้วยกัน พี่สาวหนูกลับมาอีกทีวัน 10 ประมาณอาทิตย์กว่าๆ แต่แฟนหนูกลับมาอีกทีวันสงกรานต์ เขาก็ไม่เข้าบ้านอีกเลยจนถึงวันนี้ และเขาก็ไม่สนใจลูกด้วย หนูอยากจัดการความรู้สึกตัวเอง ตอนนี้หนูทรมานมากๆ หนูควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง? หนูกลัวตัวเองดิ่งไปมากกว่านี้ ซึ่ง “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อย่างแรกเลยคือยอมรับกับตัวเองว่ามันหนัก แล้วก็เผชิญกับความจริงก่อนในตอนนี้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว พี่คิดว่าการที่เรายอมรับว่าเจ็บคือเจ็บ เสียใจคือเสียใจ ผิดหวังคือผิดหวัง อยู่กับความจริงให้ได้มากที่สุดก่อน เป็นใครเจอก็คงไม่ สามารถที่จะรับมือมันได้แบบยิ้มสู้ ไม่มีทาง แต่สักวันคงทำได้ แต่เร็วช้าพี่ยังไม่กล้าพูดเลยจริงๆ เพราะมันก็เป็นเรื่องหนักและเรื่องใหญ่ แล้วเป็นพี่สาวที่เป็นคนสำคัญและกำลังสำคัญในชีวิต แต่ในตอนนี้เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราต้องแยกเรื่องของอารมณ์ กับ การใช้ชีวิตของเราต่อไปให้ได้ถ้าเป็นพี่นะ ในส่วนเสียใจพี่เข้าใจ แต่เราต้องเริ่มคิดละว่า ฉันจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรก่อน เพราะฉันไม่ได้ตัวคนเดียว ถ้าเราตัวคนเดียว โอเค เราปล่อยตัวเองให้จมลงสักพักนึง เพราะรู้สึกเหมือนว่ามันใกล้จะขาดใจ เราค่อยตะเกียกตะกายขึ้นมาหายใจแล้วอาจจะยังพอไปต่อได้ แต่ตอนนี้มีคนที่อยู่บนบ่า มีคนที่อยู่บนไหล่ ของเราอยู่ด้วยนั่นก็คือลูกถ้าเป็นพี่ พี่จะรวบรวมสติเอามาตั้งไว้อยู่ตรงนี้ก่อน ย้ายโฟกัส ย้ายที่วางหัวใจ คือมันย้ายไม่ได้แบบสมบูรณ์แบบหรอก หยิบตรงโน้นมาวางตรงนี้มันไม่ได้ขนาดนั้น แต่อย่างน้อยแค่พยายาม เมื่อไหร่ที่เผลอไปคิด ไม่ถึงกับขนาดที่ว่าต้องบีบคั้นตัวเอง จนเกินไปแต่ลองค่อยๆ พยายาม นึกถึงเรื่องนี้ให้น้อยลงแล้วมาโฟกัสก่อนว่า ฉันจะดูแลลูกยังไงฉันจะเดินหน้าต่อไปยังไง แปลว่าถ้าตอนนี้ไม่มีเขาเราอยู่ได้เพราะเรามีบ้านเป็นของตัวเองและที่ผ่านมาเราไม่ได้พึ่งเงินหรือรายได้จากของผู้ชายขนาดนั้น เราเลี้ยงดูลูกได้ เราเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่ต้องหยิบยืม ไม่ต้องเป็นหนี้นอกระบบ อย่างน้อยก็โฟกัสตรงนี้ก่อน ณ ตอนนี้ปัญหาเดียวคือเรื่องใจแล้วมาที่เรื่องใจ เราจะเริ่มคิดวนอยู่ในหัวว่านี่พี่สาวเรา นี่คือคนสำคัญในชีวิตเรานะ นี่คือสามีเรานะ ซึ่งความคิดเหล่านี้ไม่ผิดหรอก พี่เข้าใจ แต่การคิดมันเหมือนกับเอามีดเล่มเดิมมาแทงตัวเองซ้ำๆ ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็คือเกิดขึ้นแล้ว ยอมรับมันซะ ถ้าการคิดประโยคเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรแล้วก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว โกรธได้ ผิดหวังได้ แต่อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นความรู้สึกเคียดแค้นหรือพยาบาท หรืออย่าพาตัวเองไปถึงจุดที่อยากทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเจ็บปวดอย่างสาสมบ้าง จะพาทุกคนให้ดิ่งลงไปหมดในท้ายที่สุดถึงแม้ว่ามันจะยังทำไม่ได้แต่ให้ปักธงปักหมุดตั้งเป้าหมายไว้ว่า เราจะใช้พละกำลังทั้งหมด สติทั้งหมดที่มี เท่าที่จะกอบกู้ได้ ในการทำชีวิตจากวันนี้ให้ดียิ่งขึ้น โดยโฟกัสที่ชีวิตของเรา และครอบครัวของเรา คือเราและลูกก่อน เป็นการลำดับความสำคัญแรก ที่เหลือช่างเขา เพราะเราทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อให้เขากลับมา ซึ่งในใจเราอาจจะยังอยากจะให้เขากลับมาในวันนี้ พี่เข้าใจในส่วนนี้ แต่มันบังคับไม่ได้สรุป : ความเสียดายความผิดหวังทั้งหมดที่หนูพูดให้พี่ฟัง พี่โคตรเข้าใจเลยจริงๆ ถ้ามันเกิดขึ้นกับพี่ พี่คงไม่ได้พูด ถึงเรื่องนี้ได้แบบชัดเจนและเข้มแข็งขนาดนี้เหมือนกัน อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอได้นะ แต่หลังจากที่อ่อนแอเสร็จแล้ว ตอนที่เข้มแข็งแล้ว ต้องลุกขึ้นมาแล้วกอบกู้ทุกอย่าง แล้วปักธงว่าฉันจะเอาพละกำลังในชีวิตนี้ที่มันยังดีอยู่ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นไปให้ได้ และดีต่อไปให้ได้ อย่ายอมให้ส่วนอื่นๆมันพังไปด้วยโดยไม่จำเป็น “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เก๋อยากได้พี่สาวคืนแต่เก๋ต้องดูด้วยว่าพี่สาวของเรา อยากได้ความสัมพันธ์กับเราในแบบเดิมคืนหรือเปล่า เรื่องครอบครัวเราเลือกไม่ได้ คำถามที่ว่าทำไมต้องเกิดขึ้นกับฉัน ทำไมพี่สาวถึงต้องเป็นแบบนี้ ให้สามีฉันเป็นแบบนี้ ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นคำถามบั่นทอนทั้งหมดเลย แต่โหมดเสียใจ เราก็จะฟูมฟายไป แต่โหมดแห่งสติก็ต้องวางแผนแล้วเหมือนกัน ถ้าเวลาที่ลูกถามบางอย่าง ซึ่งมันเป็นคำถามที่ช่างบั่นทอนเราเหลือเกิน แต่อย่าลืมว่าเด็กเค้าก็มีคำถามแบบเด็กๆของเค้าเหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าความเจ็บปวดตรงนั้นเราต้องมีสติก่อน เมื่อไหร่ที่ลูกถามคำถามนี้ปุ้ป แล้วเก๋พังพินาศลงไป ลูกยิ่งใจเสียใหญ่เลย เมื่อลูกมีพ่อที่กอดเขาไม่แน่นพอ เราก็ต้องเป็นแม่ที่กอดเค้าให้แน่นขึ้นเป็นสองสามเท่า เหตุการณ์ใดใดที่เกิดขึ้น ตอนนี้คนที่ควรอายไม่ใช่ฉัน เพราะฉะนั้นต้องใช้ชีวิตแบบที่ให้เกียรติตัวเอง ฉันไม่ได้ผิด ฉันเป็นภรรยาที่ดีที่สุด ฉันซื่อตรงต่อสามีที่สุด ฉันเป็นน้องที่กตัญญูต่อพี่สาวที่สุด แต่วันหนึ่งมนุษย์คือมนุษย์ มีความเลวร้ายมีความดี แล้วอยู่ที่ว่าจะหันมุมไหนออกมาให้เราเห็นได้มากกว่า และวันนี้ต่อให้เป็นพี่สาว พี่ก็จะใช้คำว่า “พี่สาวแล้วไง? เมื่อสำนึกความเป็นพี่สาวของเค้ายังไม่มีเลย!” แล้วการที่เรียกร้องความเป็นพี่สาวให้กับเราในวันนี้พี่เชื่อเลยว่ามันเรียกร้องไม่ได้หรอก วันนี้เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นก็ยอมรับให้ได้ก่อน น้องต้องทำให้เห็นให้ได้ว่าความถูกต้อง และฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด และฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องกับคนที่ฉันไว้ใจ แต่คนที่ฉันไว้ใจเลวร้ายที่สุดเลย เราเลยจำเป็นต้องพยายามยืนให้อยู่ ซึ่งพี่ไม่ได้หมายความว่าต้องเข้มแข็งภายในวันนี้นะ ไม่มีทางหรอก อ่อนแอคืออ่อนแอ ร้องไห้คือร้องไห้ สู้ไหวก็เดินหน้า สู้ไม่ไหวปุ๊บ ลงไปนั่งพักแป๊บนึง และไม่จำเป็นจะต้องมานั่งกระหน่ำซ้ำเติมตัวเองว่า ให้ฉันต้องมาเจอแต่เรื่องอะไรแบบนี้ เมื่อเจอแล้วก็ต้องลุยแล้วต้องเดินหน้า ให้คนศีลเสมอกันไปอยู่รวมกันเลย วันนี้ฉันจะใช้ชีวิตอย่างถูกต้องที่สุด ฉันแค่คนโชคร้ายที่คนหันมุมร้ายๆมาใส่ฉันพอดี จะร้องไห้อีกกี่วันก็ได้นะ พี่ไม่ได้บอกว่าต้องเข้มแข็งนะคนเรามันก็มีมุมอ่อนแอได้ ขอให้ร้องไห้ปั๊บ อยากให้รู้ตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วนะ ลูกมองอยู่ “ไม่ต้องเข้มแข็งในวันที่อ่อนแอเพราะแผลจะใหญ่กว่าเดิม” บางเรื่องแก้ได้ที่เราก็แก้เลย แต่บางเรื่องที่คนสองคนไปทำเลวร้ายกัน เราแก้ไม่ได้ก็ปล่อยให้มันเป็นกรรมของเค้าสองคนไป เห็นไหม? หนูไม่มีเขาหนูก็ยังอยู่ได้ และบอกกับตัวเองเสมอว่า ฉันเป็นแม่ที่แข็งแรงมาก เพราะในวันที่ควรจะอ่อนแอเหลือเกินฉันก็ยังไหวอยู่เลย’ “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษว่า ‘เรื่องนี้ ที่เกิดขึ้น ในมุมดีมันจะทำให้เก๋หลุดพ้น จากเรื่องนี้ได้ง่ายมาก ก็เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันคือสถานการณ์วัดคนได้เลยว่า ไม่มีศีลธรรม ไม่มีมโนสำนึก ไม่มีสิ่งดีๆ ที่คนในฐานะสามีและพี่สาวควรจะทำ ฉะนั้นพี่เลยรู้สึกว่า สองคนนี้ ไม่ได้มีค่าอะไรที่เราจะเอาไว้ในชีวิต เมื่อเขาตัดสินใจทำสิ่งเหล่านี้กับเรา พี่สาวตัดสินใจจะแย่งสามีเรา ส่วนสามีก็ไปเป็นชู้กับพี่สาวเรา แล้วเขาทั้งสองคนก็แสดงความเหี้ยม ที่จะชัดเจนมากว่าต้องการอะไรในชีวิต แล้วเขาก็ทำเลย โดยที่มันโหดร้ายกับเก๋ แต่ไม่ได้เลี้ยงเก๋ไว้จนแบบทรมาน สิ่งเหล่านี้ถ้าพยายามบอกและเข้าใจมัน และยอมรับมันว่า ทั้งสองคนคือสามีเราและพี่สาวเรา ซึ่งเค้าเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ใช่คนที่เราเคยรู้สึกกับเขาในอดีต ว่าเรารักเขา เขารักเราและเราต้องดีต่อกัน 2 คนนี้เค้าไม่ใช่คนเดิมแล้ว จะยิ่งทำให้เก๋เดินออกจากชีวิตของพวกเขาได้เร็วขึ้น เพื่อตัวหนูและเพื่อลูกของหนู เพราะยิ่งหนูเศร้านานเท่าไหร่ ชีวิตหนูก็จะยิ่งอยู่ในความทุกข์เท่านั้น ลูกของหนูที่ได้มองแม่ร้องไห้อยู่นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งไม่มีความสุขกับชีวิตเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องรีบลุกขึ้นเพื่อตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ถ้าเป็นคุณ... อยากฟังความจริงแบบนี้ไหม? หนุ่มตกงานโทรเล่าในรายการ มีเพื่อนผู้หญิงชวนมาสมัครงานที่บริษัท แต่พอไปสัมภาษณ์งานนี้... เจอ หัวหน้างาน (ผู้ชาย) เป็นคนที่เคยมีอะไรกัน พอทำงานก็มีอะไรกันอีก จนรู้ความจริงทีหลังว่าหัวหน้าคนนี้...

07 ก.ค. 2023

ถ้าเป็นคุณ... อยากฟังความจริงแบบนี้ไหม? หนุ่มตกงานโทรเล่าในรายการ มีเพื่อนผู้หญิงชวนมาสมัครงานที่บริษัท แต่พอไปสัมภาษณ์งานนี้... เจอ หัวหน้างาน (ผู้ชาย) เป็นคนที่เคยมีอะไรกัน พอทำงานก็มีอะไรกันอีก จนรู้ความจริงทีหลังว่าหัวหน้าคนนี้...

ถ้าเป็นคุณ... อยากฟังความจริงแบบนี้ไหม? หนุ่มตกงานโทรเล่าในรายการมีเพื่อนผู้หญิงชวนมาสมัครงานที่บริษัท แต่พอไปสัมภาษณ์งานนี้...เจอ หัวหน้างาน (ผู้ชาย) เป็นคนที่เคยมีอะไรกัน พอทำงานก็มีอะไรกันอีกจนรู้ความจริงทีหลังว่าหัวหน้าคนนี้ เป็นแฟนกับเพื่อนที่ชวนเรามาสมัครงานสุดท้ายเมา เลยบอกความจริงกับเพื่อนว่า “แฟนเธอเคยมีอะไรกับเรามาแล้ว” “คุณคอย (นามสมมติ)” อายุ 34 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์แบบ FWB กับหัวหน้า โดย “คุณคอย (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘ผมเป็น Bisexual ย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมได้เจอผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งจากการไปเที่ยว เราได้มีอะไรกันและขอช่องทางการติดต่อกันไว้ เราทั้งคู่เป็น FWB กันได้ประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็แยกย้าย หายจากกันไป ต่างคนต่างไม่ได้จริงจัง และเขาก็ต้องกลับประเทศไปเพราะวีซ่าหมด พอช่วงโควิด เพื่อนผมที่เป็นผู้หญิงก็โพสต์หาพนักงานฝ่าย IT ผมก็เลยส่ง Resume ไป ทางบริษัทสนใจเลยนัดผมสัมภาษณ์ผ่าน Zoom แล้วจู่ๆ ผู้ชายคนที่ผมเคย FWB ด้วยก็ถูกเชิญเข้ามาในห้อง Zoom ขณะที่ผมสัมภาษณ์ เพราะเขาเป็นคนที่ผมต้องทำงานด้วย ผมตกใจมาก เพราะผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาทำงานที่บริษัทนี้ หลังสัมภาษณ์เสร็จ ผมก็คิดว่ายังไงก็คงไม่ได้งานนี้ เพราะดูจากสีหน้าของคนที่สัมภาษณ์และจากการตอบคำถามของผม ผมเลยปล่อยไป แล้วก็นัดกับผู้ชายคนนี้ไปมีอะไรกันอีกรอบ หลังจากนั้นผ่านมา 1 เดือน เพื่อนของผมที่เป็นผู้หญิงบอกว่าผมได้งานนี้ แล้วยังบอกอีกว่ าเขาเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นที่มาสัมภาษณ์งานผม ซึ่งเพื่อนผมไม่รู้ว่าผมเคยเป็น FWB กับแฟนเขา แล้วผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นแฟนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นน่าจะรู้ว่าผมเป็นเพื่อนกับแฟนของเขา พอผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนกับเพื่อนผม ผมก็ไม่ยุ่งไม่ติดต่ออะไรกับเขาอีกเลย ช่วงที่ทำงาน 3 เดือนแรกผมมีหวั่นไหวบ้าง ฝั่งผู้ชายก็มีมาพูดคุย แซวๆบ้าง ผมพยายามเลี่ยงที่จะเจอเขา เลือกเข้าบริษัทวันที่เขาไม่เข้า เพราะบริษัททำงานแบบ Hybrid ผมเก็บเรื่องนี้ไว้ จนตอนนี้ทำงานที่นี่ได้เกือบ 2 ปี ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนผู้หญิงก็นัดไปกินเหล้ากันปกติ ก็นั่งคุยเรื่องงาน เรื่องชีวิตกัน ด้วยความที่ผมเมา ผมเลยหลุดสารภาพเรื่องที่ผมเคยเป็น FWB กับแฟนเพื่อนไป เพื่อนของผมก็นิ่งไปสักพัก แล้วทุบโต๊ะ ชี้หน้าผมแล้วพูดว่า “มึงกับกูอย่าเจอหน้ากันอีก!” แล้วก็เดินออกไป เขาบล็อกช่องทางการติดต่อผมทุกช่องทาง ผมพยายามติดต่อเขาทางช่องแชทของ Microsoft team เขาก็ไม่ยอมคุยด้วย ทางเดียวที่จะสามารถติดต่อได้คือต้องผ่านผู้ชายคนนั้นที่เป็นแฟนเขา แต่ผมก็ไม่อยากติดต่อกับเขา ผมเลยรอเคลียร์กันวันที่เข้าบริษัทแล้วเจอเพื่อนคนนี้ หลังจากเกิดเรื่อง ผมรู้สึกผิด ค่อนข้างอึดอัด และอยากขอโทษ เพราะผมคิดว่าเพื่อนผมคนนี้ก็มีส่วนที่ทำให้ผมได้งานนี้ด้วย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้แล้วรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีแฟนแล้ว ผมคงไม่ยุ่งด้วย ตอนนั้นผมแค่สนุกๆ เลยไม่ได้ถามอะไร แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มากๆ จึงอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ผมจะทำยังไงให้มิตรภาพของผมกับเพื่อนกลับมา และทำยังไงให้ทำงานที่นี่ได้ปกติเหมือนเดิม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำแนะนำว่า ‘ในเมื่อเพื่อนของคุณคอยปฏิเสธคุณคอยทุกช่องทาง สิ่งที่ทำได้คือพยายามสื่อสารในสิ่งที่อยากจะบอกต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าผลมันคงจะไม่เป็นตามที่เราอยากให้เป็น เราไม่รู้ว่าคนคนนึงจะสามมารถเข้าใจ ให้อภัย และ Move on ในแต่ละเรื่องได้มากน้อยแค่ไหน แล้วเราก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เราขอโทษจะทำให้ทุกอย่างกลับมาไหม ในเรื่องงานถึงเขาจะเป็น HR แต่คงไม่มีใครไล่คนออกด้วยเหตุผลส่วนตัว ถ้าคุณคอยยังสามารถทำงานและสื่อสารกับคนอื่นๆในองค์กรได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อน บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากที่จะแตกหักกับใคร แต่บางสถานการณ์ก็ทำให้ความสัมพันธ์กับคนบางคนห่างเหินกันไป คุณคอยต้องยอมรับว่าครั้งนี้เราทำพลาดไป และเรียนรู้ไว้ว่าการที่เราเมาบางทีมันก็ทำลายความสัมพันธ์ได้ คงต้องใช้เวลา ทำฝั่งเราให้ดีที่สุด และหวังว่าวันนึงเพื่อนคุณคอยจะได้รับรู้ถึงสิ่งที่คุณคอยพยายามที่จะบอกแล้วเปิดใจให้คุณคอยอีกครั้ง ถ้าไม่ คุฌคอยก็ต้องก้มหน้าและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น’ “ดีเจเติ้ล” เสริมว่า ‘คุณคอยต้องให้เวลาเพื่อนได้จัดการความรู้สึกของเขาก่อน การที่เพื่อนคุณคอยเพิ่งรู้ว่าแฟนเขาเป็น Bisexual แค่นี้ก็หนักมากแล้ว แล้วยังมารู้อีกว่าแฟนเคยมีอะไรกับเพื่อนสนิทอีก เพื่อนคงรู้สึกแย่มากๆ ณ เวลานั้นเราไม่รู้เลยว่าเขาเข้าใจอะไร และรับสารอะไรไปบ้าง เพื่อนคุณคอยคงต้องการเวลาในการจัดการความรู้สึกตัวเอง และความสัมพันธ์กับแฟนเขา ในความเห็นของพี่ มี 3 ข้อที่เป็นไปได้คือ 1.เขาคบกับแฟนต่อแล้วไม่คุยกับคุณคอยอีกเลย 2. เขาเลิกกับแฟนแต่ไม่คุยกับคุณคอยอีก เพราะเขาคิดว่าคอยคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ และ ข้อสุดท้าย เขาเลิกกับแฟนแล้วกลับมาคุยกับคุณคอย ตอนนี้พี่ไม่อยากให้คุณคอยทำอะไรเลย รอให้เพื่อนเย็นลง แล้วกลับมาฟังคุณคอยด้วยสติและเหตุผล ตอนนี้อย่าเพิ่งไปเซ้าซี้เขา ถ้าเป็นเพื่อนแท้กันจริงๆ วันนึงเขาจะกลับมา ส่วนเรื่องงานไม่ต้องถึงขั้นลาออกเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องงาน ส่วน “ดีเจต้นหอม” ให้คำแนะนำอีกว่า ‘สุดท้ายความจริงยังไงก็คือความจริง นี่คือการนอกใจของผู้ชายคนนั้น เพราะผู้ชายรู้อยู่แล้วว่าคุณคอยเป็นเพื่อนกับแฟนเขา ไม่รู้ว่าสิ่งที่เพื่อนของคุณคอยเข้าใจคือ คุณคอยมีอะไรกันตอนที่เริ่มทำงานที่นี่ หรือก่อนหน้านั้น ความรู้สึกของเพื่อนคุณคอยในตอนนี้คือ ความอาย ตกใจ และสับสน ระยะเวลามันเร็วเกินไป ถ้าคุณคอยอยากคุยกับเขาคงต้องรอแค่เขาติดต่อกลับมา ทำให้เขารู้ว่าคุณคอยยังรอและพร้อมที่จะเป็นเพื่อนเขา ถ้าเขาไม่กลับมาจริงๆก็ต้องทำใจ ก็แค่คนๆนึงเดินออกไปจากชีวิต เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่คุณคอยทำผิดเลยเพราะคุณคอยไม่รู้ แม้กระทั่งการบอกเพื่อนเพราะหวังดีแต่อาจจะผิดจังหวะไป ส่วนเรื่องงานถ้าคุณคอยมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ก็ทำต่อไปเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกัน ตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว ต่อจากนี้ก็ต้อง Move on สุดท้ายนี้พี่ๆดีเจบอกคุณคอยว่าอย่าคิดมากจนเกินไป เราไม่ได้ทำอะไรผิดแต่สถานการณ์มันทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจ็บทุกทาง... ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร หนุ่มโทรเข้ารายการ เล่าปัญหาสุดหนักใจ ผมนอนไม่สบายอยู่ในบ้าน ตอนแฟนไม่อยู่ พี่สาวแฟนมาเช็ดตัวให้ จนเผลอไปมีอะไรกัน ตอนนี้ตั้งท้อง 5-6 เดือนแล้ว แต่พี่สาวขอแก้ไขเรื่องนี้ โดยการ...

29 พ.ค. 2023

เจ็บทุกทาง... ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร หนุ่มโทรเข้ารายการ เล่าปัญหาสุดหนักใจ ผมนอนไม่สบายอยู่ในบ้าน ตอนแฟนไม่อยู่ พี่สาวแฟนมาเช็ดตัวให้ จนเผลอไปมีอะไรกัน ตอนนี้ตั้งท้อง 5-6 เดือนแล้ว แต่พี่สาวขอแก้ไขเรื่องนี้ โดยการ...

“คุณเล็ก (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [24 พ.ค. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับพี่สาวของแฟน โดย “คุณเล็ก (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมคบกับแฟนมาได้ปีกว่าๆแล้ว เหตุการณ์นี้มี 3 ตัวละคร คือ แฟนของผม แม่แฟน และพี่สาวแท้ๆของแฟน อายุ 27 ปี พอดีวันนั้นผมป่วย ไข้สูง แฟนกับแม่แฟนก็ออกไปข้างนอก ในบ้านมีแต่ผมกับพี่สาวของแฟน แม่แฟนก็เลยฝากให้พี่สาวอยู่ดูแลผมหน่อย แล้วพี่สาวแฟนก็มาดูแลผมปกติ เอายามาให้กิน เช็ดตัวให้ ผมก็กินยาแล้วมันเพลียก็เลยหลับไป อยู่ดีๆ ผมก็สะดุ้งตื่น เห็นพี่สาวแฟนมาโอบกอดผม ผมก็ตกใจ แต่ตอนแรกผมก็นึกว่าเขาจะมาวัดอุณหภูมิ แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเช็ดตัวให้นะ ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วเขาก็จะถอดเสื้อผม ตอนนั้นผมก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องลองใจผมแน่ๆ ผมก็ไม่เล่นด้วย เวลานั้นเป็นช่วงเช้าและฝนกำลังตกพอดี บรรยากาศกำลังเย็นๆ แล้วเขาก็มาหอมแก้มผม จนผมมีอารมณ์ขึ้นมา ก็เลยได้มีอะไรกัน หลังจากนั้นผมกับพี่สาวก็งงว่าทำอะไรกันลงไป สุดท้ายก็แยกย้ายกัน จนเวลามันก็ผ่านมา ในระหว่างนั้นเวลาที่เขาจะไปซื้อของหรือไปไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เขาก็จะพาผมไปด้วย และอ้างว่าเอาผมไปขับรถให้ เพราะผมเป็นคนเดียวที่ขับรถยนต์เป็นในครอบครัว ทางแฟนและแม่แฟนก็ไม่ได้ติดใจอะไรกัน เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมาก อาทิตย์นึงประมาณ 3-4 ครั้ง และทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน ก่อนจะเข้าบ้าน เราจะแวะโรงแรมมีอะไรกันก่อน ผมยอมรับว่ามีความคิดร่วมด้วย และไม่เคยขัด... ตลอดเวลาที่มีอะไรด้วยกันมา ผมไม่เคยป้องกันเลย เพราะพี่สาวแฟนบอกว่าเขากินยาคุมแบบรายเดือน เขาบอกว่ามันกันได้ 100% ไม่ต้องป้องกันก็ได้ จนวันนั้นผมเดินไปหลังบ้าน เขาก็เดินมาเจอกับผม 2 คน ทุกคนอยู่หน้าบ้านกันหมด เขาก็มาบอกกับผมว่า พี่ท้องนะ แต่จะไม่ให้วุ่นวายด้วย เดี๋ยวจะหาวิธี หาทางเอง เพราะเขากลัวน้องสาวกับแม่โกรธ ผมก็เสียใจที่เขาคิดแบบนี้ ต้องบอกก่อนว่าพี่สาวของแฟน เขาก็สวย มีคนแถวบ้านมาชอบ มาจีบเยอะมาก จนเขาได้แฟนมาคนนึง อายุ 23 ปี เขาคุยกันแปปเดียวก็คบกันเลย เหมือนพอเขารู้ว่าท้อง เขาก็ตั้งใจไปคุยกับผู้ชายคนนั้น แล้วเขาก็ไปบอกผู้ชายคนนั้นว่าเขาท้องด้วยกัน แต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่สงสัยอะไร และเขาก็แต่งงานกันแล้วด้วย หลังจากนั้นเขาก็ไม่มาอะไรกับเราอีกเลย ตอนนี้ก็ห่างกันแล้ว เขาบอกว่าไม่อยากให้ผมยอมรับ เพราะเขาไม่อยากให้ผมกับน้องสาวเขาต้องแยกกัน และครอบครัวเขาจะแตก เพราะมาทำแบบนี้กับแฟนน้อง ตอนนี้เขาตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ผมเคยคุยกับเขาด้วย แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเลย เขาดูแลได้ แต่มันก็เป็นตราบาปให้ผม ผมคิดว่าถ้าลูกคลอดออกมาแล้ว ผมอยากได้ลูกของผม ไม่ว่าจะเลิกกับแฟน เลิกกับพี่สาวแฟน หรือเลิกกับทั้งสองคนผมก็ยอม... ผมอยากรู้ว่า มันพอจะมีทางออกเพิ่มมั้ยครับ?’ 3 ดีเจให้คำปรึกษา “คุณเล็ก (นามสมมติ)” ว่า ‘ถ้าแม่ของลูกเขาบอกว่าเขาสามารถเลี้ยงได้ และเลี้ยงได้ดี เราก็ควรเดินออกมา เพราะวันนึงเล็กจะต้องแต่งงานและมีลูกใหม่ การที่เล็กไปบอกความจริงทุกอย่าง ไม่รู้ว่าแม่เขาจะยอมให้ลูกกลับมามั้ย? เอาจริงๆ เล็กก็ยังเป็นคนนอกสำหรับครอบครัวนี้ เป็นผู้ชายคนนึงที่นอกใจและไม่มีความยับยั้งชั่งใจ แต่พี่น้องที่คลานตามกันมา ทำไมถึงทำอย่างนั้นได้ลง และที่สำคัญต่อให้เล็กเปิดโปงความจริงทุกอย่าง คนที่เจ็บ ก็คือ แม่แฟนและแฟนที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันยากนะที่ใครหลายคนจะรับได้ แล้วคนที่เจ็บคือคนบริสุทธิ์ทั้งนั้นเลย ถ้าเล็กออกจากวงจรเขา เล็กก็ไม่ได้ผูกพันกับเด็กขนาดนั้น เราจะผูกพันกับเด็กคนนี้ก็ต่อเมื่อเราอยู่ในวันที่แม่เขาตั้งท้อง เราอยู่ในวันที่เขาคลอด เราอยู่และดูแลเด็กคนนั้นขึ้นมา แต่ถ้าวันนึงเราออกจากวงจรชีวิตนี้ไป แล้วไปเจอเด็กตอนโต เราจะไม่ผูกพัน แต่จะรู้สึกแค่ว่านี่คือลูกของเรา และความรักครั้งนี้ไม่อยากให้เปิดเผยด้วย... การที่จะไถบาปครั้งนี้ของเล็ก มันอาจจะสร้างบาปหนักไปมากกว่าอีก เล็กต้องไม่สปอยความอยากได้ของตัวเองแล้ว เล็กต้องระงับการที่จะอยากได้เด็กคนนี้มาเลี้ยงเป็นลูก เพราะไม่งั้นมันจะเป็นเหมือนเดิมที่เคยอยากได้กันกับพี่สาว แล้วปล่อยให้ทุกอย่างมันพังขนาดนี้ เล็กต้องไม่ได้ทุกอย่างที่อยากได้ได้แล้ว เพราะมันจะทำลายชีวิตคนอื่นไปด้วย ถ้าเล็กรู้สึกผิด อยากชดใช้ อยากแก้ไข พวกพี่ๆมองว่าเล็กทรมานไปคนเดียวน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะการรับผิดชอบโดยการเอาเด็กมาเลี้ยง มันสร้างผลกระทบกับคนอื่นที่ต้องเจ็บไปพร้อมๆกับเราอีกมากมาย เพราะเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่เอาลูกมาอยู่กับเรา โดยที่ยอมเลิกกับแฟนทั้งสองคน มันจะยิ่งทำให้ปัญหานี้ ไม่จบไม่สิ้นสักที พวกพี่ๆให้ 2 ทางเลือก เล็กลองไปคิดดูว่าจะเอาแบบไหน โดยทางแรก คือ เล็กอยู่แบบนี้ แล้วเห็นเด็กคนนี้เติบโตขึ้นทุกๆวัน โดยที่เล็กต้องคิดและกล่อมตัวเองว่านี่ไม่ใช่ลูกของเราหรอก กับทางที่สอง คือ ออกมาเลย เล็กไปแบบช้ำๆ ไปเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่ไม่ได้อยู่ในวงจรครอบครัวนี้ ถือว่านี่เป็นผลที่มันเกิดขึ้นสำหรับการกระทำที่ผ่านมาของเรา สุดท้ายทางที่จะทำให้เล็กไปยุ่งกับเด็กคนนี้ได้ คือ ณ วันนั้นที่แม่เขาต้องการเรา สมมติอนาคต ถ้าสามีของเขาจับได้ว่านี่ไม่ใช่ลูกของเขา ตัวแม่ของเด็กไม่ไหว ดูแลลูกไม่ได้ แบบนี้มันน่าจะคุ้มที่เราไปแสดงความรับผิดชอบอะไรก็ตาม…’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1