แฟนเก่า ทำให้หนูกลายเป็นคนมีปมเรื่องความรักไปเลย เพราะแฟนหนูไปแอบถ่ายพี่หนูอาบน้ำตอนนี้ หนูแต่งงานกับสามีใหม่แล้ว แต่หนูไม่ได้บอกเรื่องนี้เลย ทำให้หนูระแวงกลัวว่าแฟนจะมีพฤติกรรมแอบถ่ายคนอื่นแบบคนเก่าจะทำยังไงดี??

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แฟนเก่า ทำให้หนูกลายเป็นคนมีปมเรื่องความรักไปเลย เพราะแฟนหนูไปแอบถ่ายพี่หนูอาบน้ำตอนนี้ หนูแต่งงานกับสามีใหม่แล้ว แต่หนูไม่ได้บอกเรื่องนี้เลย ทำให้หนูระแวงกลัวว่าแฟนจะมีพฤติกรรมแอบถ่ายคนอื่นแบบคนเก่าจะทำยังไงดี??

12 ธ.ค. 2025

แฟนเก่า ทำให้หนูกลายเป็นคนมีปมเรื่องความรักไปเลย
พี่สาวหนูอาบน้ำอยู่แล้วเงยหน้าไปดู เห็นว่ามีมือถือแอบถ่าย
สรุปว่าแฟนหนูไปแอบถ่ายพี่หนูอาบน้ำ นอกจากพี่สาว
น้องสาวแท้ๆของแฟนเก่าก็โดน ญาติ คนรอบตัวเขาก็โดนหมด
พอเลิกกันไป แฟนเก่าคนนี้ไปคบกับเพื่อนสนิทของหนูอีก
ตอนนี้ หนูแต่งงานกับสามีใหม่แล้ว แต่หนูไม่ได้บอกเรื่องนี้เลย
ทำให้หนูระแวงทุกครั้งที่สามีคุยกับเพื่อนหนู หนูก็จะไม่พอใจ
กลัวว่าเขาจะแอบคบกันเหมือนคนก่อน และ ก็กลัวว่า
แฟนจะมีพฤติกรรมแอบถ่ายคนอื่นแบบคนเก่าจะทำยังไงดี??

       “คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี เป็นสายแรกที่โทรเข้ามาในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 ธันวาคม 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนเก่าแอบถ่ายคลิปพี่สาว แม้จะเลิกกันไปแล้วแต่ก็รู้สึกผิดมาก

       “คุณเอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นหนูคบกับแฟนมาได้ประมาณ 3 ปี เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกัน แล้วเขามีปัญหาทะเลาะกับที่บ้านบ่อย โดยเฉพาะกับแม่ เขาเป็นพี่คนโต แล้วแม่เขาเหมือนกลัวว่ามีแฟนแล้วจะสนใจครอบครัวน้อยลง เลยทำให้แม่เขาไม่ชอบหนูหนักมาก ถึงขั้นตามมาด่าพ่อแม่หนูถึงที่บ้าน รุนแรงถึงขั้นสุดท้ายแม่เขาไล่เขาออกจากบ้าน พ่อกับแม่หนูเห็นว่าเขาดีกับหนูมาก ก็เลยให้เขามาอยู่ด้วย แต่ก็แยกบ้านกันคนละหลัง

       มีวันหนึ่งหลังทานข้าวกับครอบครัวเสร็จ พี่สาวหนูขอตัวไปอาบน้ำก่อน ห้องน้ำบ้านหนูเป็นแบบกำแพงปูนสูง ๆ มีสองห้องติดกัน แล้วมีช่องด้านบนโล่ง ๆ หน่อย ตอนที่พี่สาวอาบน้ำอยู่ เขาเงยขึ้นไปเห็นเสื้อของแฟนหนูพาดบนกำแพง แล้วก็เห็นมือถือที่ยื่นขึ้นมาในท่าทางเหมือนกำลังแอบถ่ายอยู่ พี่สาวหนูตกใจมาก รีบคลุมผ้าออกมาจากห้องน้ำ

       พี่สาวมาถามหนูว่า ‘เคสโทรศัพท์แฟนสีอะไร?’ หนูก็ตอบว่า ‘สีดำ’ แล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนพี่สาวพาหนูกลับไปดูที่ห้องน้ำ หนูเห็นเสื้อของแฟนพาดอยู่จริง ๆ หนูเลยให้พี่สาวไปพักก่อน เพราะตอนนั้นเขาเสียขวัญมาก ส่วนหนูเดินไปเรียกแฟนออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่นานมาก และพอออกมาก็สั่นเหมือนคนทำอะไรผิด หนูเลยขอดูโทรศัพท์ ซึ่งตอนนั้นไม่มีคลิปอะไรแล้ว หนูเลยเก็บโทรศัพท์ไว้กับพี่สาวเพื่อจะเอาไปให้ร้านเช็คในตอนเช้า

       คืนนั้นหนูให้น้า คอยเฝ้าแฟนไว้เพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรแปลก ๆ น้าบอกว่าเขานอนไม่ได้ทั้งคืน เดินไปเดินมาเหมือนคนกลัวมาก จนเช้าวันถัดมาเขาป่วย หนูเลยพาไปโรงพยาบาลและเขาขอให้หนูพากลับไปส่งที่บ้านเขา  พอหนูไปส่งเขาเสร็จกลับมาถึงบ้านตัวเอง พี่สาวก็เปิดคลิปที่ร้านโทรศัพท์กู้คืนมาให้ดู เป็นหลักฐานชัด ๆ ว่าเขาแอบถ่ายพี่สาวหนูจริง ๆ หนูช็อกมาก เพราะคนนึงก็แฟน อีกคนก็พี่ของตัวเอง

       หนูกลัวมาก เลยขอให้พี่สาวตัวเองอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ หลังจากนั้นหนูขับไปที่บ้านเขาอีกรอบเพื่อมาเคลียร์เรื่องนี้กับเขา แต่เขามีอาการเหมือนคนเสียสติไปแล้ว ทั้งถอดสายน้ำเกลือ ขว้างของ และพยายามทำร้ายหนู หนูเลยเอาเรื่องนี้มาคุยกับญาติของเขาและมานั่งนึกก็รู้สึกแปลกใจว่าเมื่อตอนคบกันแรก ๆ เคยเห็นคลิปคล้าย ๆ แบบนี้ในมือถือเขาแล้ว แต่เป็นคลิปคุณอาของเขาที่โดนแอบถ่าย ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นคลิปทั่วไป เพราะหน้าไม่ชัด เขาก็บอกว่าเป็นแฟนเพื่อนถ่ายเล่นกัน จนตอนหลังมารู้ว่าน้องสาวแท้ ๆ ของเขาก็เคยโดนถ่ายเหมือนกัน… หนูเลยตัดสินใจเลิก

       แต่ตอนนี้หนูแต่งงานแล้ว สามีดีมาก เราเข้ากันได้ดีทั้งคู่และครอบครัว ถึงจะคบกันไม่นานก่อนจะแต่ง แต่ความสัมพันธ์มั่นคงและอบอุ่นมากจริง ๆ แต่เรื่องในอดีตมันกลายเป็นปมในใจหนูไปแล้ว

       เวลาสามีคุยกับเพื่อนผู้หญิง หนูก็จะคิดลบ คิดมาก จนต้องกินยาช่วยไม่ให้จิตใจพัง บางทีหนูยังไม่อยากกลับบ้าน เพราะพอเห็นหน้าพี่สาว ก็จะนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมาอีก ทั้งที่สามีไม่ได้ทำอะไรผิดเลย กลายเป็นหนูที่หงุดหงิดใส่เขาเฉย ๆ หนูยังไม่กล้าเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้สามีฟังด้วย เพราะมองว่าเรื่องมันหนักมาก ไม่อยากเอาความเครียดนี้ไปให้สามีต้องรับรู้ เลยมาถามว่า…หนูควรทำยังไงดี หนูไม่อยากเอาปมนี้ไปทำร้ายสามีของหนูอีกแล้ว’

       เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเราอยากจะแบกความเครียดไว้คนเดียวเพื่อคนที่เรารัก มันไม่ผิดนะ ถ้าเราแบกรับไหวและไม่กระทบกับคนรอบตัว ถ้ากับสามีคนนี้ เราตกลงว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว พี่เชื่อว่าเราสามารถเล่าให้เขาฟังได้นะ ยิ่งเป็นเรื่องในใจที่ส่งผลกับชีวิตคู่ในปัจจุบันเป็นพี่ก็จะคุยเรื่องนี้กับเขา ถ้าสามีเอเป็นคนดีแบบที่เล่าจริง พี่เชื่อว่าเขาจะเข้าใจและช่วยหาวิิิธีที่ทำให้เอค่อย ๆ ดีขึ้น การที่เรามีคนอยู่ข้าง ๆ กับเรื่องที่มันหนักมากพี่ว่ามันดีกว่าอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้ควบคู่ไปกับการปรึกษาจิตแพทย์ได้ เชื่อว่าคุณหมอจะมีวิธีการรักษา จัดการกับความคิดที่ยังจดจำเรื่องเดิม ๆ อยู่’

       ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘เคยได้ยินประโยคนี้ไหม อย่าเอาอดีตมากรีดปัจจุบัน วันนี้ถ้าเอรู้สึกว่าเจอคนที่ดีแล้ว เอต้องรักษาเขาไว้ มันเป็นเรื่องของความไว้ใจเพราะงั้นเราต้องมาแก้ไขปัญหานี้ด้วยกัน จริง ๆ เขาอาจจะคิดว่า ฉันไม่ได้คิดอะไร ฉันนั่งกับใครก็ได้ แต่ถ้าเขารับรู้ปมนี้ของเอ เขาจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเอ เพราะงั้นบอกสิ่งที่อยู่ในใจเรา เพื่อให้เขาสร้างความมั่นใจช่วยเหลือไปกับเรา แต่ในส่วนของเอ เอต้องคิดเสมอว่าเราเจอคนดีแล้ว หน้าที่คือต้องรักษาเขาให้ดี ทำให้เขาอยู่กับเราและสบายใจมากที่สุด’

       และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า  ‘พี่เป็นคนนอก พี่ฟังเรื่องนี้พี่ยังเห็นใจที่โดนกระทำจากแฟนเก่า อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เล่าแล้วจะยิ่งทำให้เขาทุกข์ใจ พี่ว่าเขาจะเข้าใจและเห็นใจเอนะ เขาจะได้รับรู้เรื่องที่มันเกิดขึ้นที่ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตคู่ของเราตอนนี้ แล้วอีกอย่างเอไม่ได้เป็นคนทำ เอเป็นเหยื่อ และซึ่งตอนนี้แต่งงานแล้ว เขาคือคนที่จะต้องอยู่ทุกช่วงเวลาของเราทั้งร้ายและดี และเรื่องสุดท้ายที่พี่จะบอกคือเอต้องไปคุยกับนักจิตบำบัด พี่ว่าสิ่งที่เจอมันอาจจะรุนแรงและฝั่งลึก คำแนะนำพวกพี่อาจจะช่วยเอมากไม่ได้ เอต้องต้องไปคุยแบบลึกซึ้งเลยว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง นักจิตบำบัดจะช่วยเอได้แน่นอน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 –23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุย แต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ

09 ก.ย. 2024

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุย แต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ

หนูมั่นใจในตัวเองว่าหนูสวย จนหนูสามารถใช้ความสวยของตัวเองหาประโยชน์จากผู้ชายคนอื่นได้ตอนนี้หนูมีคนคุย 4 คนพร้อมกัน แต่ละคนก็รู้ว่าหนูคุยกับคนอื่นอยู่ หนูชัดเจนตั้งแต่แรก บอกทุกคนก่อนคุยแต่ทุกคนก็จะซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ แล้วคาดหวังความรักจากหนู หนูรับมาตลอด มันผิดไหมคะ?“คุณแม็ก (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก- ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาว่าเราสวยมาก เลยคุยกับผู้ชายหลายคน แต่ก็ไม่ได้จะจริงจังกับใคร แล้วเขาก็เปย์ให้ เราผิดมั้ยที่รับของเขา?โดย “คุณแม็ก (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เรามองว่าเราสวย มีเสน่ห์ แล้วความสวยของเราสามารถหาประโยชน์ หรือทำอะไรให้กับเราได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ มีผู้ชายมาติด เราพยายามบอกเขาตั้งแต่แรกว่าเรายังไม่ได้หาความสัมพันธ์ที่จริงจัง ไม่ได้อยากให้ใครมาคาดหวังในตัวเรามาก แต่ผู้ชายก็มักจะหาวิธีชนะใจเรา โดยการซื้อของให้ พาไปกินอาหารหรู แล้วเวลาผ่านไปผู้ชายจะคาดหวังกับของที่ซื้อให้เรามากขึ้น จนบางทีก็รู้สึกว่า “นี่เราผิดหรือป่าวที่รับของเขามา” แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่า “เขาเต็มใจที่จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นเอง”ซึ่งความสัมพันธ์คนคุยนี้ เราไม่ได้มีแค่คนเดียว ถ้าคนที่คุยมานานมากก็จะได้รับของมาจากเขาประมาณหนึ่ง บางทีเขาก็จะแสดงความเป็นเจ้าของกับเราว่า เราไปไหน ไปกับใคร เราก็จะบอกตลอดว่า “เราไปกับคนคุยคนอื่น” เขาก็จะมีท่าทีไม่พอใจ มันทำให้เรารู้สึกว่าเขาคาดหวังในความสัมพันธ์ของเรา เราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเรายังไม่ได้อยากจริงๆ แต่ถ้าคุยไปเรื่อยๆ เราก็ยอมเปิดใจคุยด้วยได้ ซึ่งเป็นแบบนี้กับหลายๆคนที่คุยกับเราตอนนี้เราคุยอยู่ 4 คน แต่ละคนก็จะรู้ว่าเราไม่ได้คุยกับเขาคนเดียว และแต่ละคนก็ซื้อของให้ หรือดูแลเรา จะมากน้อยแล้วแต่คน ถ้าเป็นปกติ เราเจอคนที่หึงหวงเรา หรือมีท่าทีไม่พอใจ เราก็จะเลิกคุยกับเขาไปเลย แต่พอมันเป็นหลายๆคนเข้า ก็ทำให้รู้สึกว่า “หรือจริงๆเราผิดเอง ในแง่ที่เราไปอยู่ในความสัมพันธ์พวกนี้ จนทำให้เขาคาดหวังกับเรามากขึ้น และสุดท้ายเราก็ไปทำให้เขาเสียใจอยู่ดี” และเราคิดว่าใน 4 คนนี้ ยังไม่มีคนที่ใช่เลย แม็กเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่าในความคิดของคนอื่นมองว่ามันผิดไหม? กับการที่เราไปรับของคนอื่น แต่เราก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเราให้ความสัมพันธ์ได้แค่คนคุย’ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเราเห็นว่าปลายทางมันนำไปสู่สิ่งที่ไม่ชอบและผิด ต่อให้สิ่งนั้นบริสุทธิ์ ก็อาจจะต้องป้องกัน การออกตัวในบางครั้งมันเป็น Agenda ที่เราซ่อน เพื่อหลบเลี่ยงความผิดของเรา เพื่อปกป้องตัวเองว่า ”ฉันบอกเธอแล้วนะ“ แต่เรายังร่วมมือทำสิ่งนี้กับเขาอยู่ เราก็มีส่วน ถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายเขาจะโกรธ เสียใจ และพยายามทำอะไรให้ได้มาเพราะไม่ได้ดั่งใจ โทษเขาอย่างเดียวไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าแม็กผิดไหม แม็กไม่ได้ผิดจากการออกตัว แต่ Agenda ที่ซ่อนอยู่ในใจ แม็กรู้อยู่กับตัว คำตอบมันอยู่ในใจแต่มันมีข้ออ้างให้เราว่าฉันบอกตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นมาบอกว่าฉันผิดทั้งหมดก็ไม่ใช่ แต่แม็กก็รู้ว่าการทำแบบนี้ มันทำให้แม็กไม่สบายใจ เพราะถ้าแม็กสบายใจ และไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดตั้งแต่แรก แม็กจะไม่โทรหาพวกพี่เลย สำหรับพี่ พี่มองว่า แม็กรู้ตัวแล้ว แต่พี่เป็นห่วงว่า ถ้าเกิด 1 ใน 4 คนนี้ เกิดคิดทำอะไรแม็กขึ้นมา การมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องระวัง เราคาดเดาอะไรใครไม่ได้เลย พี่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะการบงทุนทุกอย่างมันหวังผลเสมอ ขนาดไปวัดทำบุญบางคนยังหวังขอเลย แล้วอย่าคิดว่า เวลาเลิกกับใคร บางทีมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด ฉันจบเธอต้องจบ มันไม่ได้เสมอไป แล้วถ้าทั้ง 4 คน ไม่พร้อมจบพร้อมกัน แม็กจะปวดหัวคูณ 4 บางทีอาจจะถึงชีวิต’ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ผิดหรือป่าวที่ทำอยู่ มันอยู่ที่ว่าใช้ไม้บรรทัดใครวัด ถ้าเป็นไม้บรรทัดของคนอายุเท่าพี่ๆ ซึ่งเป็นไม้บรรทัดที่โบราณ แต่พยายามจะปรับเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ แต่ยังไม่ชิน เลยมองว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คุ้นเลย เอาเป็นว่ามันทำร้ายคนอื่นแล้วกัน แต่ถ้าเปลี่ยนไม้บรรทัดของคนยุคสมัยนี้ที่วัยพอๆกับแม็ก ก็อาจจะมองว่าเรื่องนี้มันแฟร์แล้ว เพราะฉันเคลียร์แล้ว ไม่ได้บังคับให้ซื้อให้ ใครอยากจะให้ก็ให้ เธอเต็มใจวื้อเอง เพราะฉนั้นผิดไม่ผิดอยู่ที่ไม้บรรทัดที่มองจริงๆมแต่ถ้า 1 ใน 4 คนนี้ไม่ได้สนใจไม้บรรทัดขึ้นมา อาจจะเกิดอันตรายกับแม็ก เพราะยุคนี้มันแรงกันเหลือเกิน และเราไม่รู้ว่าคนเราจะขาดสติเมื่อไหร่ ต่อให้เขาไม่รู้บ้าน แต่เราก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางครั้งที่เห็นข่าว เรื่องเล็กน้อยกันมากๆก็ทำให้ฆ่ากันตายได้ ยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก มันยิ่งทวีความ หึง หวง โกรธ แค้น เยอะแยะไปหมดเพราะฉะนั้นคำว่า “แฟร์เกม” ตั้งแต่แรก เรามั่นใจหรือยัง ว่าเคลียร์ 100% คือคำว่า ”คนคุย“ ถ้าเป็นไม้บรรทัดในยุสมัยพี่ คนคุยคือการที่คุยกัน ศึกษากัน เพื่อที่จะเป็นแฟนในอนาคต หรือเพื่อตัดสินว่าเธอจะเป็นคนที่เป็นแฟนฉันไหมนะ ฉันขอคุยก่อน ถ้าใช่ค่อยคบหากัน ถ้าไม่ใช่ก็คือจบ พี่เลยไม่รู้ว่ายุคนี้มันมีคำบัญญัติสำหรับ เสตตัสที่แม็กมีไว้ให้ 4 คนนี้เป็นคำเฉพาะขึ้นมาหรือป่าว เพราะพี่รู้สึกว่า ถ้าคนคุยมีไว้เพื่อศึกษา และคัดออก-เข้า ใครเข้า ก็มาคบหากัน นี่คือคนคุย แต่จะว่าเป็น FWB ก็ไม่ใช่ เพราะอันนั้นมันมีแค่เรื่อง Sex จะมีสเตตัสตรงนี้หรือป่าวพี่ไม่รู้ แต่แม็กต้องเคลียร์ให้ชัดกว่านี้ ถ้า 1 ใน 4 ถ้าเขารู้สเตตัสดีพอก็คนไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือถึงเขารู้สเตตัสดีพอ ในวันที่ความหึงหวงเกิดขึ้น เหตุผลก็ไม่สำคัญอีกต่อไป มันหน้ามืด มันเสียไปเท่าไหร่แล้ว เพราะฉนั้น เป็นห่วงความปลอดภัยตัวเองด้วยละกัน และถ้าเรายิ่งชัดเจน เราต้องตอกย้ำให้ชัดเจนว่าทุกคนไม่มีสิทธิ์ บอกให้รู้ว่า “พี่ยังไม่ใช่นะ ถึงจะพยายามก็ไม่ใช่ แต่ถ้าพี่จะยังอยู่ ก็แล้วแต่พี่” ทำให้เขาไม่มีความคาดหวัง ให้เขาไม่ต้องมีความผิดหวัง แล้วนำไปสู่ความแค้น ก็พอไปต่อกันได้’และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่ากติกาที่แม็กบอก มันเหมือนมีช่องโหว่อยู่ จริงๆมันก็แอบไม่แฟร์ เพราะแม็กใช้คำสุดท้ายว่า “หนูเปิดใจ ถ้าว่านึงหนูรู้สึกยังไง ก็อาจจะเกิดขึ้นได้” ซึ่งอันนี้มันทำให้มีความหวัง แต่ตัวแม็กเองคือ “ป่าว หนูไม่ได้อยากจะมีความสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น” คือถ้าแม็กพูดกับเขาว่า “หนูชอบไปกินข้าวร้านอร่อยๆ หนูชอบไปที่สวยๆ หนูชอบให้คนซื้อของให้ แต่หนูจะไม่คบกับใครสักคนเป็นแฟนนะ” แบบนี้ถึงจะแฟร์ แล้วถ้าแบบนี้คนไหนยังอยู่กับเรา แล้ววันนึงแม็กเปิดใจ มันจะเหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวเขามากเลย แต่ตอนนี้มันเหมือนแฟร์ แต่จริงๆมันไม่แฟร์เพราะมันมีรูโหว่ของมันอยู่ว่า เขามีความหวัง ซึ่งพี่ว่าแม็กก็รู้ว่าเขามีความหวังจากกติกาที่แม็กสร้างขึ้น ถ้าจะให้ตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด จริงๆแล้วกติกาเหมือนจะแฟร์ แต่ตัวแม็กเล็งเห็นผลว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วแม็กก็โอเคที่จะเห็นมัน เพราะเราเห็นคนซื้อของแพงๆให้เรา คนพาเราไปนู่นไปนี่ เพราะเขามีความหวังว่า สักวันหนึ่ง แม็กจะถูกใจเขา แต่แม็กรู้ทั้งรู้ว่าป่าว เราไม่ได้อยากได้ใครสักคน เราแค่มีความสุขที่มีคนมาดูแล มีคนมาพาเราเที่ยวแบบนี้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิท ตอนนี้อยากถอยออกมา แต่เมียหลวงที่เป็นเพื่อนเรา กับ สามีของเพื่อน เขาโอเคที่เราสามคนจะอยู่ด้วยกัน กลับกลายเป็นหนูเอง ที่มีความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไป ก็จะมีแต่หนูที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว

17 ต.ค. 2025

หนูเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิท ตอนนี้อยากถอยออกมา แต่เมียหลวงที่เป็นเพื่อนเรา กับ สามีของเพื่อน เขาโอเคที่เราสามคนจะอยู่ด้วยกัน กลับกลายเป็นหนูเอง ที่มีความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไป ก็จะมีแต่หนูที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว

หนูเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิท ตอนนี้อยากถอยออกมา แต่เมียหลวงที่เป็นเพื่อนเรา กับ สามีของเพื่อนเขาโอเคที่เราสามคนจะอยู่ด้วยกัน กลับกลายเป็นหนูเอง ที่มีความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไปก็จะมีแต่หนูที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว ที่ผ่านมา หนูก็เคยมีแฟนมาตลอด แต่สามีเพื่อนสนิทบอกทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้เพราะหนูมีแฟน แต่ตอนนี้หนูโสด เขาเลยอยากจะคบเราอีกคนหนูรู้เลยว่าถ้าหนูตกลง เขาจะไม่เปิดตัวหนูกับที่บ้าน เขาจะไม่เปิดตัวกับใครเพราะเขาก็จดทะเบียนสมรสกับเพื่อนสนิทหนูไปแล้ว “คุณเอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาอยากออกจากสถานะเมียน้อย แต่ภรรยาหลวงเขาโอเคที่เราจะอยู่กันสามคน โดย “คุณเอ (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘มีเพื่อนอยู่กลุ่มนึง ในทีแรกก็เป็นกลุ่มเพื่อนปกติ จนกระทั่งหนูโสด เลิกกับแฟนไปได้ไม่นาน แล้วมีคนเข้ามาจีบที่ร้านเหล้า เพื่อนผู้ชายก็แสดงท่าทีชัดเจนให้หนูรู้ว่า ไม่โอเคนะ ทั้งๆที่ตัวเขาก็มีแฟน ซึ่งเป็นเพื่อนหนูเอง เขาก็ชัดเจนออกไปว่า หนูเป็นของเขานะ ตอนแรกหนูก็คิดว่า เขาเมาหรือเปล่า จนกระทั่งได้มาเปิดใจคุยกัน เลยได้รู้ว่าเขารู้สึกมาตั้งนานแล้ว แต่ตอนนั้นตัวเราเองก็มีแฟน ก็เลยไม่คิดจะข้ามเส้น พอมองย้อนกลับไป เขาก็ดีกับเราจริงๆ ตัวหนูเองก็หวั่นไหว จนมองข้ามไปว่าเพื่อนผู้ชายของเรามีแฟนแล้ว เรื่องมันก็เลยเถิดไปถึงว่า พวกเราแอบคบกัน หนูอยู่ในความสัมพันธ์นี้ แบบเจียมเนื้อเจียมตัว รู้ว่าหน้าที่ของตนเองคืออะไร ทำได้มากแค่ไหน แต่ยิ่งนานก็ยิ่งถลำลึก เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปกับแฟนเขา หนูที่มีความรู้สึกผิดอยู่ในใจ ก็จะทำตัวไม่เหมือนเดิม จนกระทั่งแฟนเขาจับได้ ตอนจับได้ ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง เพื่อนผู้หญิงหนูก็ถามว่าทำไมทำแบบนี้ เกิดการพูดคุยเพื่อตกลงเรื่องความสัมพันธ์กัน หนูตัดสินใจถอยออกมา ขอแค่เขาทั้งคู่อย่าเลิกกัน เพราะว่าเขาคบกันมานาน ผ่านไปสักพัก ผู้ชายก็ติดต่อมา ว่าเขาไม่อยากทิ้งเรา ใจหนูก็ยังรักอยู่ เลยกลับไปอีกครั้ง หนู ผู้ชาย และแฟนเขา ก็คุยกันว่า ถ้ายังไปไม่ได้ก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ เขาโอเค ผู้ชายก็ชัดเจนว่า เขาก็รักแฟนเขา แต่ก็รักหนูเหมือนกัน ‘เราอยู่ด้วยกันได้มั้ย’ เป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่ แต่งงาน จดทะเบียนสมรสแล้ว หนูกับรู้สึกว่า รับไม่ได้ ไม่อยากอยู่ตรงนี้ ความรู้สึกผิด มันกัดกินในใจ ไม่อยากให้เพื่อนเราเสียใจ หนูเลยอยากจะปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูจะออกจากความสัมพันธ์นี้ยังไงดี? อยากได้คำแนะนำให้เดินออกไปได้สักที’ เริ่มที่ “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘การออกจากตรงนี้ ไม่มีอะไรยากเลย ถ้าหนูอยากออก ไม่มีใครกำหนดลมหายใจหนูได้ กับภรรยาของเขา ไม่มีทางเลิกกันหรอก เพราะผู้หญิงยอมให้หมดทุกอย่างเขาจะเลิกทำไม น้องจะหยุด หรือน้องจะทน เขาก็มีอีกคนอยู่ดี คุยกับตัวเองเยอะๆ ทางออกอยู่ที่เรา’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเลิกไม่ได้ ก็อยู่กับความไม่สบายใจ ความนอย ความอยากที่จะมีเขาคนเดียว จนกว่ามันจะชิน หรือไม่ก็เจ็บจนไม่ไหวแล้ว เราจะเดินออกได้อัตโนมัติ เอบอกว่า เอรู้สึกผิด ลองเปลี่ยนจากความรู้สึกผิดจากเขา มารู้สึกผิดกับตัวเองมั้ย ว่าทำไม เราไม่ให้โอกาสตัวเองไปเจอสิ่งที่เรามองหา ทำไมเราต้องเลือกทางที่บัดซบให้ตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เมื่อใดก็ตามที่หนูอยากกลับเข้าไป ถ้าหนูรู้สึกผิดกับเพื่อนจริงๆ หนูก็ต้องมองตัวเองอย่างละอายใจ ว่าหนูทำให้เพื่อนที่เขารักหนู ยอมให้สามีเขามามีหนูอีกคนเสียใจ เขาต้องเจ็บขนาดไหน สุดท้ายแล้วมันทำลายคุณค่าของหนูเอง คุณค่าในการจะเลือกสามี ที่ไม่ใช่สามีของคนอื่น ตอนนี้หนูยังมีโอกาส ไม่มีใครให้หนูอยู่ตรงนั้นได้ นอกจากตัวหนูเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

เจอแฟนแบบนี้ทำไง? สาวกลุ้มใจโทรปรึกษา คบกับแฟน มีอะไรพูดกันได้ทุกเรื่อง แต่พอบอกว่าเราทำงานเซลล์มา 5 ปี ได้เงินเดือนมากกว่าแฟน เขารู้สึกนอยด์ เทคแคร์เราน้อยลง พร้อมให้เหตุผลว่า 'เราไม่สมควรจะได้รับเงินเดือนเท่านี้'

26 พ.ค. 2023

เจอแฟนแบบนี้ทำไง? สาวกลุ้มใจโทรปรึกษา คบกับแฟน มีอะไรพูดกันได้ทุกเรื่อง แต่พอบอกว่าเราทำงานเซลล์มา 5 ปี ได้เงินเดือนมากกว่าแฟน เขารู้สึกนอยด์ เทคแคร์เราน้อยลง พร้อมให้เหตุผลว่า 'เราไม่สมควรจะได้รับเงินเดือนเท่านี้'

“คุณแซน (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาเงินเดือน โดย “คุณแซน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนอายุเท่ากัน เป็นรุ่นเดียวกันเลย คบกันมาประมาณ 1 ปีกว่าๆ ตั้งแต่คบกันมาก็รักกันดี ไม่ได้มีการทะเลาะรุนแรง มีงอนบ้าง มีปัญหา เราก็พยายามปรับกันมาได้ตลอด ถึงขั้นมีแพลนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันด้วย แต่มันจะมีอยู่ 1 ปัญหาในความสัมพันธ์ที่มันบั่นทอนจิตใจ และยังหาทางแก้ไขกันไม่ได้ จนมาถึงทุกวันนี้ต้องบอกก่อนว่า ตัวหนูเองทำงานเป็นเซลล์ ประสบการณ์ในอาชีพนี้ก็เกือบๆ 5 ปี ซึ่งรายได้เซลล์มันค่อนข้างจะสูง ส่วนแฟนทำงานคนละบริษัทกัน แต่งานที่เขาทำจะเป็นงานประเภท back office ซึ่งรายได้ก็จะน้อยกว่าหนูค่อนข้างเยอะ ประมาณ 30% 40%ช่วงที่คบกันแรกๆ เราก็เปิดใจคุยกันทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องรายได้ด้วย แบบเราบอกหมดเลยว่าเราทำงานอะไร รายได้เท่าไร หลังจากที่เขารับรู้เรื่องรายได้ของเรา การกระทำของเขาก็เปลี่ยนไปจนเรารู้สึกได้ มันไม่เชิงเป็นปัญหาที่ทะเลาะกัน แต่เหมือนเขาเคยเล่นกับเรา เคยมุ้งมิ้งกับเรา เคยหวานกับเรา ทุกอย่างมันน้อยลงหมดเลยจนเรารู้สึกได้เราก็เลยถามเขาว่าเป็นอะไร เขาก็บอกว่าเขารักหนูเหมือนเดิมนะ แต่ในหัวเขามีเรื่องรายได้หนูอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เขาแสดงออกกับเราน้อยลง ด้วยเหตุผลที่ว่าเขามองว่าทำไมงานเซลล์กับงาน back office รายได้มันถึงต่างกันขนาดนี้ เพราะในขณะที่เขาทำงานหนักมากๆ เขาเลยรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเขาเลย รวมถึงเขามองว่าหนูไม่สมควรที่จะได้รับเงินเดือนมากขนาดนี้หนูพยายามอธิบายเหตุผลในอาชีพของเซลล์แล้ว และอธิบายว่าพาร์ทงาน การใช้สกิล ความเครียดอะไรมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว กว่าหนูจะได้เงินเดือนเท่านี้ หนูก็สะสมประสบการณ์ ใช้ความพยายามมาเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้รู้สึกยินดีกับสิ่งที่หนูได้รับเลย ทุกครั้งที่คุยเรื่องนี้ มันก็จบตรงที่ว่าเขาจะมองว่าหนูไม่สมควรได้รับมันอยู่ดี หนูก็เคยถามเขาว่าหนูจะทำยังไงกับความคิดนี้ของเขา เขาก็บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงมีความคิดแบบนี้ แต่ถ้าความคิดนี้ของเขาหายไปได้ มันก็อาจจะเป็นในวันที่เขาจะยอมรับหนูก็ต่อเมื่อหนูทำอะไรที่เขาเห็นว่าหนูสมควรได้รับเงินเดือนเท่านี้ หรือวันหนึ่งที่เขามีรายได้มากกว่าหนู เขาก็อาจจะล้มเลิกความคิดนี้ไปก็ได้หนูรู้สึกบั่นทอนจิตใจมากที่เขาคิดแบบนี้ เพราะเราก็มีแพลนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่หนูยังไม่สามารถเปลี่ยนความคิดนี้เขาได้ มันก็เลยกระทบความสัมพันธ์ของเรา ซึ่งหนูคิดว่าเรื่องที่ทำให้เขาคิดแบบนี้ อาจจะเป็นเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะหนูไม่ค่อยแข็งแรง และจะมีเขาซัพพอร์ตในเรื่องนี้ แต่ในส่วนเรื่องการใช้ชีวิต เราจะค่อนข้างที่จะช่วยเหลือ ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีปัญหาตรงนี้หนูอยากถามพี่ๆว่า การที่หนูพูดเรื่องเงินเดือนไป หนูผิดมากมั้ย? เพราะมันเซนซิทีฟ และอีกคำถามคือ หนูควรจะพูดหรือทำยังไงที่จะเปลี่ยนความคิดเขาได้บ้าง…3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในวันที่เราจะเป็นคู่ชีวิตกัน มันควรจะส่งเสริมกัน มันไม่ควรกดอีกฝ่ายให้ต่ำ อยู่ด้วยกันมันไม่ควรเป็นจ่าฝูง แซนกำลังเจอคนที่ทัศคติแย่มาก และมันลามไปทุกเรื่องเลยนะ ถ้าวันนึงมีลูกขึ้นมา แล้วจะสอนเขายังไงแนะนำประโยคที่ทำให้เขาเปลี่ยน คือ พวกพี่ๆจะพูดว่า ถ้าเธอยังมีความคิดอย่างนี้อยู่ เธอก็ไม่สมควรมาเป็นแฟนเรา แค่นี้เลย เพราะมันไม่มองเห็นมุมไหนที่เราจะไปแก้ไขชุดตระกระความคิดนี้ของเขาได้ เราสมควรจะมีเงินเดือนตามความสามารถเรา และมีแฟนที่ยินดีกับเราในเรื่องนี้พี่แนะนำอีก 1 ทางเลือก บอกเขาไปว่า ไม่มีแฟนคนไหนหรอกนะที่เขาจะกดอีกคนให้ตกต่ำ พี่ควรจะดีใจที่หนูพัฒนาตัวเองได้ขนาดนี้ ถ้าพี่คิดว่าพี่ต่ำกว่าหนู พี่ต้องพัฒนาตัวเอง อย่ามาพูดกับหนูแบบนี้อีก พี่ไปหาคนใหม่ที่เงินเดือนต่ำกว่าหนู เราต้องพูดในสิ่งที่เราต้องการ และลองดูว่าเราพูดขนาดนี้ เขาจะรู้สึกตัวมั้ย ถ้าเขาไม่รู้สึกตัว แนะนำให้แซนเปลี่ยนแฟน…เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ หนูจะได้กลิ่นเหม็นมากๆจากห้องข้างๆ พอหนูสังเกตุ กลิ่นเหล่านั้นจะมาจาก คนที่ขับถ่ายแล้วกดน้ำทีเดียวตอนจบ จะแช่ไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ ส่วนหนูจะขับถ่ายไปด้วย แล้วก็กดน้ำไปด้วย กลบเสียงด้วยเพราะเกรงใจห้องข้างๆ

30 ก.ย. 2025

เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ หนูจะได้กลิ่นเหม็นมากๆจากห้องข้างๆ พอหนูสังเกตุ กลิ่นเหล่านั้นจะมาจาก คนที่ขับถ่ายแล้วกดน้ำทีเดียวตอนจบ จะแช่ไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ ส่วนหนูจะขับถ่ายไปด้วย แล้วก็กดน้ำไปด้วย กลบเสียงด้วยเพราะเกรงใจห้องข้างๆ

เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ หนูจะได้กลิ่นเหม็นมากๆจากห้องข้างๆ พอหนูสังเกตุ กลิ่นเหล่านั้นจะมาจากคนที่ขับถ่ายแล้วกดน้ำทีเดียวตอนจบ จะแช่ไว้จนกว่าจะทำธุระเสร็จ ส่วนหนูจะขับถ่ายไปด้วยแล้วก็กดน้ำไปด้วย กลบเสียงด้วยเพราะเกรงใจห้องข้างๆ เลยอยากรู้ว่าเป็นเรื่องปกติไหมทุกคนทำยังไงกันคะ? กดน้ำทีเดียวตอนเสร็จ หรือ กดน้ำระหว่างขับถ่ายไปเรื่อยๆ “คุณนุ่น (นามสมมติ)” อายุ 20 สายที่ 3 ในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [24 ก.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาการขับถ่ายในที่สาธารณะ โดย “คุณนุ่น (นามสมมติ) ได้เล่าว่า หนูไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งที่หนูเข้ามันเป็นห้องน้ำสาธารณะของออฟฟิศ บางครั้งเราจะเจอปัญหา เหมือนห้องข้างๆ เขากำลังถ่ายอยู่ แล้วกลิ่นมันแรงมากจนโชยตีขึ้นจมูก หนูไม่ได้ตั้งใจทำกริยา พะอืดพะอม แต่มันอั้นไว้ไม่ไหวเลย เพราะมันเหม็นมากจนอาการของเรา มันมาทันทีที่ได้กลิ่น เขาจะรู้ตัวมั้ยว่าการทำธุระของเขามันส่งกลิ่นแบบแรงมาก หนูเลยตัดสินใจไปค้นหาดูในกูเกิ้ล แล้วก็เจอว่าเวลาที่ขับถ่ายออกมา แล้วระเบิดก้อนนั้นลงน้ำแล้ว บางคนเขาก็จะกดน้ำทันที จะถ่ายกี่ครั้งก็จะกดน้ำตามเลย เพื่อที่จะไม่ให้กลิ่นมันฟุ้งออกมา แต่หลายๆคนก็จะรอปล่อยให้หมดไส้ หมดพุง แล้วค่อยกดน้ำทีเดียว หนูอยากถามว่า... คนส่วนใหญ่ เขาเป็นแบบที่กดทันทีเลย หรือ ปล่อยให้หมดแล้วกดทีเดียว และอีกคำถามคือ หนูชอบรู้สึกว่า เวลาทำธุระ จะไม่ทำให้มีเสียงดังเพราะเกรงใจคนอื่น อันนี้ปกติมั้ยคะ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ส่วนใหญ่ผมทยอยกดหมด เพราะไม่อยากให้เหม็นบ้าน แต่จริงๆที่ไหนก็กดหมดเลย หลักๆเพราะไม่อยากให้เหม็น ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า นี่ว่าสถานที่มีผล ถ้าเข้าข้างนอกก็อาจจะต้องทยอยกด แต่ถ้าโดยส่วนตัวก็รอทำธุระให้หมดทีเดียว ค่อยปิดฝา แล้วกด ส่วนที่ทำธุระเบาๆ ก็เป็นปกติมาก เพราะเราเกรงใจถูกแล้ว สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ไม่ควรกด ทำธุระเสร็จแล้วค่อยกดทีเดียว เพราะเชื้อโรคจะขึ้นมา แล้วอวัยวะผู้หญิงมันซับซ้อนมาก เชื้อโรคจากการกดมันพุ่งได้เป็นเมตร ยิ่งถ้าช่องคลอดคุณแห้ง เชื้อก่อโรคก็จะเกาะติดกับเชื้อโรคคุณง่ายขึ้น มันจะทำให้คุณติดเชื้อ ส่วนมากต่างประเทศ เขาจะทำธุระให้เสร็จ แล้วค่อยกด เราเป็นกุลสตรี ไม่แปลกที่เราจะขับถ่ายเสียงเบา เป็นเรื่องที่ดี อีกวิธีที่อยากแนะนำ คือให้พกน้ำหอมกันไป หลังทำธุระเสร็จก็ดับกลิ่นหน่อยเรื่องราวทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App AtimeFung Fin

album

0
0.8
1