ยังไงคะคุณแม๊! คบกับแฟนมา 5 ปี ย้ายไปอยู่บ้านแฟน แต่แม่แฟนใช้ชื่อแฟนเก่า เรียกเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ชื่อไม่เหมือนกันเลย แฟนเก่าแฟนเค้าเคยคบกันมา 7 ปี จนตอนนี้เราอึดอัดย้ายออกจากบ้านแฟนมาแล้ว ล่าสุด แม่เพิ่งแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนใน Facebook ด้วย

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ยังไงคะคุณแม๊! คบกับแฟนมา 5 ปี ย้ายไปอยู่บ้านแฟน แต่แม่แฟนใช้ชื่อแฟนเก่า เรียกเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ชื่อไม่เหมือนกันเลย แฟนเก่าแฟนเค้าเคยคบกันมา 7 ปี จนตอนนี้เราอึดอัดย้ายออกจากบ้านแฟนมาแล้ว ล่าสุด แม่เพิ่งแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนใน Facebook ด้วย

22 มี.ค. 2024

          “คุณปาล์ม (นามสมมติ)” อายุ 33 ปีสายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [20 มี.ค. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และ ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับแม่แฟนชอบเรียกชื่อเราเป็นแฟนเก่าตลอด

            โดย “คุณปาล์ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า หนูคบกับแฟนมา 5 ปี ทุกครั้งที่ต้องไปเจอแม่แฟนหรือพูดคุยกัน เขาจะชอบเรียกชื่อหนูเป็นชื่อแฟนเก่าของลูกชายเขาตลอด ปกติหนูแทนตัวเองว่าหนูตลอด แต่แฟนจะเรียกชื่อของหนู แล้วคุณแม่เขาก็ชอบไปแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนเราด้วย เพราะเป็นรูปที่แฟนเก่าถ่ายกับหลานเขา หลานเป็นลูกของน้องชายแฟนที่แม่เคยเลี้ยง แต่หนูก็พยายามที่จะทำดีด้วย พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตลอด ตอนนี้หนูกับแฟนมีลูกด้วยกันแล้ว และก็แยกบ้านอยู่กับแม่แฟน แต่ก่อนที่จะแยกบ้านแม่เขาเคยพูดว่า ไม่ชอบเด็ก เกลียดเด็ก ไม่อยากได้ยินเสียงเด็ก หนูเลยแยกออกมาอยู่ที่อื่น เพราะหนูคิดว่า 5 ปีแล้วทำไมถึงยังเรียกผิดอยู่ แล้วหนูก็รู้สึกในใจว่าแม่เขาคิดอะไรเพราะแม่ก็อายุแค่ 55 เอง หนูอยากถามพี่ ๆ คิดว่าแม่เขาคิดอะไรไหมแล้วมีวิธีรับมือยังไงบ้าง

            คำแนะนำจากดีเจเผือก : มันแก้ไม่ได้หรอกกับคนที่ใช้ชีวิตมา 55 ปี มันมีแหละเวลาที่ผ่านไปแล้วจะชนะใจแม่ผัวได้ แต่ก็อย่าไปคาดหวังว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นแบบที่จะต้องรักกันเอ็นดูกัน แต่ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้เราก็ต้องเปลี่ยนที่ความรู้สึกของตัวเองว่าเราอย่าเอาความสุขของเราไปผูกกับปฏิกิริยาของเขามาก แล้วยิ่งได้แยกกันอยู่คิดว่าความปวดหัวมันลดไปเยอะเลยนะ คือจินตนาการว่าถ้ายังอยู่บ้านเดียวกันพวกคำพูดอะไรเหล่านี้คงจะทำร้ายเราแทบจะทุกวัน ซึ่งคำว่าทำร้ายเราต้องเข้าใจก่อนว่าบางทีเขาก็พูดไปเรื่อยนะ มันอาจจะไม่ถูกต้องถูกใจเราแต่บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าเจตนาเขาเป็นแบบไหน เราฟังก็ไม่รู้หรอกว่าคาแรคเตอร์แม่สามีคุณปาล์มเขาเป็นแนวไหนกันแน่ พูดไปเรื่อย ปากร้ายใจดีหรือไม่ชอบหน้ากันจริง ๆ แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณปาล์มอยากเอาชนะใจก็เป็นตัวของตัวเองแหละ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราเชื่อมั่นว่าตัวเราไม่ได้มาร้ายอะไร แล้วเราก็เป็นแม่ของหลานเขา เป็นเมียของลูกเขาวันนึงก็อาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่คุณปาล์มไม่ต้องไปหวังว่าจะดีขึ้นอะไรมากมายเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปอยู่ใกล้อะไรมากมีความสุขกับสามีกับลูกของตัวเอง เดี๋ยวพอเขาอายุสัก  3-4 ขวบ คุณปาล์มก็จะมีความสุขกับลูกมาก เพราะเดี๋ยวเขาเริ่มพูดเอง มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น อะไร ๆ ที่ออกมาจากปากเขามันจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ก็อยู่กับสิ่งที่สร้างความสุขให้เราอะไรที่มันทำให้เรารบกวนจิตใจมากก็เลี่ยง ๆ ไม่ต้องไปเจอ ส่วนเรื่องเรียกชื่อผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ก็แทนชื่อตัวเองไปเลย ถ้ายังผิดอีกก็หายใจลึก ๆ และคิดว่าเขาเป็นแม่ผัวเราแค่นั้นเอง

            คำแนะนำจากดีเจเติ้ล : พี่เห็นด้วยกับพี่เผือกว่าต้องไม่คาดหวังว่าเขาเรียกเราถูก ทำตัวให้ชินไปเลยว่าถ้าฉันไปบ้านเมื่อไรฉันจะมีอีกชื่อนึง เพราะว่าตอนนี้เราไม่รู้ว่าที่เขาเรียกเพราะเขาหลงลืม เขาติดปากหรือเขาตั้งใจซึ่งคิดไปก็ปวดหัว แต่ตอนนี้หนูออกมาอยู่กับครอบครัวแล้วอะพี่ว่าก็แฮปปี้และที่เขายอมปล่อยออกมา แล้วยิ่งไปคาดหวังก็จะยิ่งเฮิร์ทป่าว ๆ สำหรับพี่ก็แค่คนคนนึงที่เราไม่ได้สนิทอะไรกับชีวิตมากก็ไม่ต้องคาดหวังว่าเขาจะมาจำอะไรเราหรอกสำหรับพี่นะ ถ้ามันจะทำให้พี่ะบายใจอันนี้ตอบแบบจริงใจ ถ้าตอบแบบขำ ๆ ปาล์มลองแทนตัวเองเป็นชื่อที่เขาเรียกไปเลย สมมติเขาเรียกหนูว่ากิ๊ฟ อ๋อค่ะกิ๊ฟก็ว่าอย่างนั้นแหละ ดูสิว่าเขาจะเอ๊ะไหม ถ้าเขาแกล้งจริง ๆ เขาก็คงแบบ อ้าวไม่ได้ชื่อกิ๊ฟแล้วทำไมแทนตัวเองว่ากิ๊ฟอะ  ก็ลองดูว่าจะเอายังไง

            และ คำแนะนำจากดีเจต้นหอม : พี่ว่าแม่ผัวยังไม่ได้ร้ายอะไรมาก มันแค่มีปัญหาเล็กน้อยสำหรับการได้แม่ผัวอย่างนี้ แล้วเขาไม่ยุ่งกับเราคือเป็นบุญที่สุดแล้ว การที่เรามีครอบครัวและแม่ผัวไม่มาวุ่นวายกับเรานี่คือข้อดีที่ใหญ่มากมาทดแทน แต่ถ้าเรื่องนี้มันกวนใจ อันดับที่ 1 คือแทนชื่อตัวเองทุกครั้งแบบที่พี่เผือกบอก แทนตัวเองว่าปาล์มอย่างนู้น ปาล์มอย่างนี้ และอย่างที่ 2 ก็คือพี่เติ้ล ก็เป็นคนนั้นไปเลยไม่ต้องไปคิดว่ามันคือแฟนเก่า แต่มันชื่อซ้ำกันได้ไม่เป็นไรฉันชื่อนี้ได้ กับ 3 แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ไปเลยที่เกี่ยวกับชื่อคุณ ถ้าสุดท้ายแล้วไม่รอดจริง ๆ ก็เปลี่ยนที่ความคิดเราเพราะว่าสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ชั่งน้ำหนักแล้วมันมากกว่าสิ่งเล็กน้อยนี้มาก แล้วให้ลูกเราเรียกว่า แม่ปาล์ม ๆๆ ทุกครั้ง หรือจริง ๆ เขาอาจจะลืมจริง ๆ ก็ได้เพราะเราก็ไม่ได้เจอเขาบ่อยขนาดนั้น

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แฟนหนูไม่กลับบ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะเขาไปอยู่กับเจ๊โมเดลลิ่ง หาเด็ก N ให้ลูกค้า ล่าสุดเจ๊ให้รถแฟนหนูใช้ 1 คัน พอแฟนกลับมาเอาของที่บ้านแต่ละที ทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากให้เขาชัดเจน หนูนอนรอเค้ามาทุกคืน

30 ก.ย. 2024

แฟนหนูไม่กลับบ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะเขาไปอยู่กับเจ๊โมเดลลิ่ง หาเด็ก N ให้ลูกค้า ล่าสุดเจ๊ให้รถแฟนหนูใช้ 1 คัน พอแฟนกลับมาเอาของที่บ้านแต่ละที ทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากให้เขาชัดเจน หนูนอนรอเค้ามาทุกคืน

แฟนหนูไม่กลับบ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะเขาไปอยู่กับเจ๊โมเดลลิ่งหาเด็ก N ให้ลูกค้า ล่าสุดเจ๊ให้รถแฟนหนูใช้ 1 คัน พอแฟนกลับมาเอาของที่บ้านแต่ละทีทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากให้เขาชัดเจน หนูนอนรอเค้ามาทุกคืน จะเดินออกไปแต่เค้าก็บอกยังแคร์หนูอยู่ ให้เชื่อใจ “คุณมิว (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 ก.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนติดเจ๊ที่เป็นโมเดลลิ่งหาเด็กเอ็น ไม่กลับบ้านเลย โดย “คุณมิว(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้แฟนหนูเขาอายุ 29 ปี เราคบกันมาเข้าปีที่ 3 เเล้ว ปัญหาที่อยากมาปรึกษาพี่ๆวันนี้ คือเหมือนแฟนหนูไปติดเจ๊คนนึงที่เป็นโมเดลลิ่งหาเด็กเอ็น เจ๊อายุประมาณ 35-36 ปี ซึ่งเจ๊เขามีแฟนอยู่เเล้วด้วย เเล้วเขาไม่กลับบ้านเลย ก่อนที่เขาจะรู้จักเจ๊คนนี้ก็รู้จักจากรุ่นพี่คนนี้ เพราะรุ่นพี่คนนี้เขาฝากงานให้ ตั้งเเต่ที่เขาไปรู้จักรุ่นพี่คนนี้ เขาเปลี่ยนไปมากเลยทั้งนิสัย การใช้ชีวิต ทุกอย่างเขาทุ่มให้ทางนู้นหมดเลย คือเหมือนเขาลืมไปเลยว่าเขามีหนูอยู่ที่บ้าน เวลาเขาเข้าบ้าน สายตาหรือหน้าตาเขา เหมือนไม่อยากจะอยู่บ้าน ใจเขาเหมือนอยากจะไปอยู่เเต่ตรงนั้น พอเเม่เขาโทรหาเขาบอกเเม่ว่า ตอนนี้เขาอยู่ กทม.เขามากับรุ่นพี่เขา หนูเลยโทรหาเขาเเต่เขาไม่รับสายหนูเลย ไม่ตอบ ไม่ทักหาหนูเลย หายไปจะเป็นเดือนเเล้ว เเต่เขาจะมีการเเวะมาบ้าน มาแปป ๆ เเล้วก็ออกไป หนูรู้เพราะว่าตอนแรกเจ๊คนนี้เขาไลน์มาหาเเฟนหนูในโทรศัพท์อีกเครื่องนึง เขาบอกว่าอยู่ไหน เเล้ววันนั้นเป็นวันที่รุ่นพี่เขาโทรมาตอนเที่ยงคืนว่าให้พาไปทำธุระที่ประจวบหน่อย เเล้วเป็นจังหวะตรงกันที่เจ๊คนนั้นเขาทักมาพอดี พอเขาออกไปหนูก็เลยลองโทร ลองทักหา เขาก็ไม่ตอบไม่อ่านจนเช้าถึงโทรมาหาเเล้วบอกว่า ไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกไป เอาไว้ในรถ เเต่ตอนนั้นหนูก็ไม่ได้เอะใจ มีวันนึงเขาขับรถเจ๊มารับหนูไปส่งที่ทำงาน หนูรู้เพราะว่าไปส่องเฟซเจ๊เขา หนูเข้าไปส่องก็งงว่าแฟนไปติดอะไรเขา เขาก็เหมือนคนบ้าน ๆ ไม่ได้มีเยอะมีมาก เเล้วหน้าเฟซบุ๊กเขาเขียนว่าจัดหาเด็กเอ็น , PR , จัดเลี้ยงงี้ เเต่พอเขาเข้าบ้านก็จะชอบมีเเว่น วันต่อไปมีเสื้อ มีรองเท้าเเต่ไม่ใช่รุ่นเเบรนด์อะไร พอหนูถามเขาว่าได้มาจากไหน เขาบอกเอามาจากรุ่นพี่ให้มา วันนั้นที่เขาเอารถเจ๊มารับหนู เขาบอกว่าเขาจะไปนั่งเล่นที่ห้องรุ่นพี่คนนี้ เเต่พอตอนเช้ามาเขาดันเอารถเจ๊มารับหนู หนูเลยคาใจ วันที่เจ๊ให้รถมาใช้ เขาก็ทักหาเจ๊ว่าผมสัญญาว่าผมจะไม่ดื้อ เเล้วก็อ้อน ๆ ไป เเล้วเจ๊ก็เรียกเเฟนหนูว่า “อ้วน” เขาก็คอลหาเเฟนหนูด้วย เเล้วถามแฟนหนูว่าจะกินอะไรมั้ย? แฟนหนูก็ตอบว่าพี่ก็รู้ ผมกินอะไรที่พี่ชอบ วันนั้นหนูทะเลาะกันหนักมาก เเต่เเฟนหนูเขาไม่ยอมรับ บอกว่าไม่มีอะไร เขาบอกว่าถ้าจะได้งานจากเขาก็ต้องอ้อนเขาหน่อย เขาไม่ได้ทำงานเอ็น เขาเเค่แบบรับส่งเด็กเอ็นเเล้วก็หาเด็กเอ็นให้ลูกค้า เขาก็ได้ค่าหัวจากเจ๊คนนี้ ก่อนหน้านี้หนูเเอบถ่ายรถเจ๊ไว้ เลยแกล้งบอกแฟนว่า งั้นหนูจะส่งข้อความหาแฟนเจ๊ว่าเขารับรู้ใช่มั้ยว่าเจ๊ให้เอารถมาใช้? เเล้วเขาก็โวยวายใหญ่เลย บอกว่า ถ้าอย่างงี้ ก็เหมือนทำชีวิตเขาพัง ทำงานเขาพัง ทุกสถานการณ์มีเจ๊ตลอดเลย ขนาดไปคอนเสิร์ตเขาบอกหนูว่าไม่ได้ไปด้วยกัน เเต่หนูเห็นเจ๊เขาลง TikTok อยู่คอนเสิร์ตเดียวกัน เจ๊เขารู้ว่าแฟนหนูมีแฟนอยู่เเล้วเพราะหนูเคยทักไปหาเจ๊ เจ๊เขาก็บอกว่า “ก็คุยเเค่เรื่องงาน ถ้าข้องใจหรือไม่สบายใจอะไร ออกมาคุยกันมั้ย จะได้สบายใจ” หนูไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะหนูไม่มีใคร เพื่อนก็ไม่มี หนูอยากออกไปเที่ยวหรือทำไรก็ไม่ได้เลย เพราะหนูมาจากต่างจังหวัด มาทำงานที่หัวหิน เลยมาอยู่กับเขา หนูก็รักเขานะ หนูก็คุยกับเขาดี ๆ เพื่อที่อยากจะให้เขามาคุยกับหนู เเล้วเขาบอกว่า เชื่อใจเขาเถอะ ว่าเขาไม่มีอะไรจริง ๆ เขาบอกให้เชื่อเขาเเต่เขาไม่ยอมกลับมาคุยที่บ้านเลย คำพูดกับการกระทำเขามันสวนกันมาก ๆ เลย หนูก็เลยบอกว่า มีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า อะไร สงสัยน่าจะไม่อยากอยู่ หนูก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า หนูควรทำยังไงต่อดีคะ?’ ซึ่งดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ไม่ต้องหาคำตอบว่าเขาจะมีหรือไม่มี เพราะปัจจุบันอยู่แล้วไม่มีความสุข ตัดสินคนที่ปัจจุบันเเละการกระทำที่เขาทำกับเรา ไม่ต้องหาคำตอบว่าต้องรอให้เขามีคนเเล้วเราจะเลิกกัน คนเราสามารถเลิกกันได้หลายเหตุผลเลย การที่เราอยู่เป็นฝ่ายรอให้เขากระทำอย่างเดียว ชีวิตเรามันไม่น่าสงสารหน่อยหรอ ชีวิตเราเราน่าจะเป็นฝ่ายเลือกได้เองบ้างนะ เราเลือกตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีความสุขสิ รักตัวเองหน่อย กอดตัวเองหน่อย อายุเเค่นี้เองต้องมีความสุขกับชีวิตสิ เเล้วถ้าเขารักหนูเขาจะพยายามทำทุกอย่างให้หนูกลับมาเอง เเต่กลับมาเเล้วต้องไม่ใช่เเบบเดิมนะ ชีวิตเราเรามีสิทธิ์เลือก ถ้ากลับบ้านได้กลับไปเเล้วสร้างตัว หาคนที่เขาเห็นค่าในตัวเรา เป็นกำลังใจให้นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูโดนพี่ที่อยู่ชมรมเต้นลวนลาม แต่แฟนเขาทักมาข่มขู่ว่า “ถ้ายังทำอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวเจอกูนะ เจอกูแน่” หลังจากนั้น เวลาเลิกเรียนก็มีคนขับรถตาม คนเดินตามบ้าง จนหนูประสาทหลอน หนูไม่ไหว หนูแพนิค หนูหวาดระแวง หนูควรทำยังไงดีคะ?

08 พ.ย. 2024

หนูโดนพี่ที่อยู่ชมรมเต้นลวนลาม แต่แฟนเขาทักมาข่มขู่ว่า “ถ้ายังทำอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวเจอกูนะ เจอกูแน่” หลังจากนั้น เวลาเลิกเรียนก็มีคนขับรถตาม คนเดินตามบ้าง จนหนูประสาทหลอน หนูไม่ไหว หนูแพนิค หนูหวาดระแวง หนูควรทำยังไงดีคะ?

“คุณเม (นามสมมติ)” อายุ 16 สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหา การถูกลวนลามจากคนรู้จักในชมรม แล้วส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดย “คุณเม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า เดิมทีหนูเป็นคนชอบเต้นได้เข้ามาเรียน แล้วมันจะมีชมรมนึงที่รวมทุกสายชั้นทุกเพศทุกวัยชอบเต้นก็สามารถมาเข้าได้ หนูก็เลยเข้าไปอยู่ได้สักพักนึง แล้วทีนี้มันมีพี่คนนึงเขาบอกว่าเหมือนอยากจะเต้นวงผู้ชายบ้าง เขาก็เลยโพสต์หาในเพจของโรงเรียนว่าแบบมีใครสนใจไหม แล้วมีพี่ผู้ชายคนนึงทักมาแล้วเขาก็มาขอเข้า เขาดูเป็นคนที่แบบว่าหน้าตาคือโอเคเลยดูเป็นคนดีหล่อด้วยในระดับนึง ทุกคนก็เลยจะว่าชอบก็ชอบ แต่ว่าเขาคนนั้นก็มีแฟนแล้วด้วย แล้วทีนี้ก็คือมันมีวันนึงที่เราซ้อมกันอยู่ แล้วก็คือโรงเรียนหนูมันจะมีลิฟต์ พอซ้อมเสร็จหนูก็รอซ้อมทีมหญิงต่อ ซ้อมทีมหญิงเสร็จทุกคนก็จะแยกย้ายกลับบ้าน แต่ทางกลับก็คือมันต้องไปลงลิฟต์กันหนูเดินรั้งท้ายสุดเลย แล้วก็มีพี่ผู้ชายเขารั้งท้ายกับหนูก็คืออยู่หลังหนู เขาก็เหมือนเอามือมาจับก้นหนู แต่ว่าหนูหันไปแล้วก็แบบว่าเอ้ยอะไรอะพี่ แล้วเขาก็เฉย ๆ หนูก็เลยคิดว่าเขาน่าจะมือโดนหรือเปล่าอะไรแบบนี้ ก็เลยลงไปข้างล่าง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับพี่เขาก็เลยถามหนูว่า ตอนนั้นก็มีหนูกับพี่เขาสองคนก็เลยถามว่าไปซื้อส้มตำเป็นเพื่อนพี่ได้ไหม หนูก็ไม่ได้คิดไรมาก หน้าตาเขาก็ดูเป็นคนดีหนูก็เลยบอกว่าโอเคค่ะได้เดี๋ยวหนูไปเป็นเพื่อน อันนี้ก็คือนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไป สั่งส้มตำปกติแล้วสักพักนึงเขาก็บอกว่าเดี๋ยวพาพี่ไปเอาของแป๊บนึงนะ หนูก็เลยตามเขาไปแต่ว่ามันเป็นเหมือนร้านที่ปิดอยู่ แล้วก็มันมีช่องเล็ก ๆ ให้เข้าไปหนูก็เดินตามเขาไป แล้วสักพักเขาก็เหมือนหันมาแล้วก็แบบจับหน้าอกหนูเลย แบบจับหน้าอกหนูแล้วก็บีบหน้าอกหนูเลย แล้วหนูก็เลยถามว่าพี่ทำอะไร เขาก็เลยบอกว่าพี่ชอบเรา พี่อยากได้เรามากเลย หนูก็บอกว่าหนูไม่โอเค คือพี่มีแฟนแล้ว หนูก็บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นหนูก็กลัวด้วย แล้วทีนี้ก็เลยพยายามเดินออกมาจากตรงนั้น แล้วพี่เขาก็เลยแบบเอามือหนู กระชากมือหนูแล้วก็ไปจับตรงเป้าของพี่เขา แล้วก็เลยถามว่า พี่พอจะได้ไหมขนาดพี่แบบโอเคไหม หนูก็เลยแบบเออพี่หนูไม่โอเคค่ะพี่ จนหนูพยายามเดินหนีหรือพยายามกลับมาเอารถที่โรงเรียน เพราะว่าหนูมีรถของหนูอยู่หนูก็พยายามกลับมาเอารถที่โรงเรียนหนูก็เดินมาเลย พี่เขาก็ขับรถตามมาแล้วก็แบบโอเคเดี๋ยวพี่ไปส่ง หนูก็ให้เขาไปส่ง ครั้งนี้เขาไปส่งที่โรงเรียนจริงๆ พี่เขาก็บอกว่าเรื่องนี้เก็บไว้เป็นความลับระหว่างเรานะ แต่หนูเป็นคนที่คิดมากด้วย หนูก็เลยไปปรึกษาพี่คนนึงที่เขาแบบเต้นเก่งมาก เขามีคนรู้จักเยอะ พี่เขาก็เอาไปโพสต์ในสตอรี่ ว่าถ้ายังอยากมีที่ยืนในสังคมเต้นอยู่ไหมแล้วเขาก็มาเห็น เขาก็ทักเข้าไปใน DM ไอจีของพี่เขาแล้วก็แบบเออเหมือนขอโทษ พี่เขาก็เลยให้ทักมาขอโทษหนูพอขอโทษหนูเสร็จ เรื่องก็จบเลยวันสองวัน หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงเขาทักมาพี่หนูในวงที่เป็นหัวหน้าวงที่เป็นผู้หญิง เขาก็ทักมาแล้วก็เชิงประมาณด่าลง ๆ ในกลุ่มว่าแบบไปทำอะไรกับผัวคนอื่นไว้ก็แบบรับหน่อยนะ แบบมารับความจริงหน่อย เขาก็ทักไปหาพี่หัวหน้าวงว่าแบบอยากจะให้หนูมาขอโทษ แต่พอหนูทักไปเขาก็แบบเหมือนด่าหนูอย่างเดียวจนไม่ฟัง หนูก็เลยบอกว่าถ้าไม่ฟังกันก็ไม่ต้องทักมา จะฟังเมื่อไหร่ค่อยทักมาจนพี่หัวหน้าวงเขาตั้งกลุ่มให้เลยแล้วเคลียร์กันในกลุ่ม หนูก็บอกว่าหนูโอเคหนูก็พยายามขอโทษที่หนูเอาไปบอกคนอื่นคือเขาโกรธที่หนูเอาไปบอกคนอื่น เขาด่าประมาณว่าทำอะไรไว้กับผัวคนอื่นหัดมารับเรื่องรับความจริงหน่อยนะ แล้วก่อนหน้านี้หนูเพิ่งมารู้เรื่องจากรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าวงว่าเขาโทรมาบอกว่า เขาอยู่กับแฟนเขาเขาอยู่กับผัวเขาใช่ไหมค่ะ เขาก็เหมือนโทรมาแล้วผัวเขาก็แย้งว่าแบบไม่น้องมันมาอ่อยก่อน เหมือนพี่หัวหน้าวงเขาก็ได้ยินแต่พี่หัวหน้าวงเขาก็เข้าข้างหนูเขาก็แบบว่า ถ้าแฟนมันไม่คิดอะไรจริง ๆ มันไม่ไปทำกับน้องแบบนั้นหรอก หลังจากนั้นพี่ผู้หญิงเขาก็เหมือนทักมาขู่หนูว่า ถ้ายังอะไรแบบนี้อยู่ เดี๋ยวเจอกูนะ เจอกูแน่อะไรแบบนี้ ช่วงหลังจากนั้นมันก้มีคนขับรถตามมั่ง คนเดินตามบ้าง จนหนูประสาทหลอนจนหนูไม่ไหวหนูแพนิคเพราะว่าเดิมทีหนูก็เป็นซึมเศร้ากับแพนิคอยู่แล้วด้วย หนูก็เลยแบบไปกันใหญ่เลยหวาดระแวง หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ว่า หนูควรทำยังไงคะ? เพราะว่าหนูไปพบจิตแพทย์แล้วหนูก็แบบไม่ดีขึ้นเลยแถมยังได้ยามาเพิ่มด้วย! เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แนะนำให้พ่อแม่พาไปลงบันทึกประจำวัน แล้วก็อาจจะแบบขอเบอร์ที่ติดต่อคุณตำรวจว่า ถ้าสมมุติเรากำลังขับรถหลังจากเลิกเรียน แล้วถ้าเกิดเราเจออะไรแบบนี้ให้เราโทรหาเขาได้ไหม เพื่ออย่างน้อยมันจะได้อุ่นใจว่าก่อนที่มันจะทำอะไรเรา เรายังมีเวลาโทรหาคุณตำรวจหรือโทรหาใครสักคนนึงที่เป็นผู้ใหญ่ ที่พอรับรู้ว่าอีนี่มันมาแล้วนะอะไรอย่างงี้ แล้วก็ถ้าเกิดเขามีการข่มขู่อะไรอีก ต้องเก็บหลักฐานไว้ถ้าคราวหน้ามันมีอีก มีคนคำแนะนำว่ากลับดึกๆ พกอุปกรณ์ป้องกันตัวเอาไว้ด้วยจะได้อุ่นใจ แล้วพี่ก็จะบอกให้หนูสบายใจอย่างนึงว่า ด้วยความที่เขาอยู่โรงเรียนเดียวกับเราการที่เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามมันก็จะมีผลกับเขาตอนเรียนเหมือนกัน ส่วนใหญ่ที่มันตีกันมันจะต่างโรงเรียนที่มันจะเอาเรื่องกันส่วนใหญ่จะต่างโรงเรียน แล้วถ้าโรงเรียนเดียวกัน ถ้ามันจะทำมันทำไปแล้ว ครั้งหน้าว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือว่าต้องเด็ดขาดในการไม่เข้าไปกับเขา เคสนี้ยังมองว่าโชคดีที่ผู้ชายยังไม่กล้าที่จะข่มขืน หรือซื้ออุปกรณืเพื่อป้องกันตัวเยอะแยะ ติดตัวไว้ พวงกุญแจสำหรับส่งสัญญาณเสียงขอความช่วยเหลือก็สามารถช่วยได้ให้คนร้ายมันรู้สึกตกใจ หรือ อะไรอื่นๆเมลองไปศึกษาดู ต่อมา “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ลองดูถ้าไม่อยากได้คนปรึกษาที่ไม่ใช่จิตแพทย์ก็ มีแบบที่เขาจะเป็นคนที่เคยถูกล่วงละเมิดคือจริง ๆ เราหาคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆกัน มันอาจจะแชร์ความรู้สึกกันได้มากกว่าหมอที่เราไปคุยแล้วมันไม่ชอบ คือจริงๆแล้วจิตแพทย์มันก็เปลี่ยนคนได้แต่ว่าด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด การจะเข้าถึงจิตแพทย์ที่อาจจะดีๆ กรุงเทพมันก็ไม่ได้ง่ายบางคนก็ถูกจริตเรา บางคนให้คำแนะนำไม่ถูกก็ยิ่งหนัก ก็ถ้าอยู่ต่างจังหวัดแล้วจิตแพทย์มันหาไม่ได้ก็ลองทางเพจ มันมีคนที่เคยเป็นเหยื่อมาก่อนแล้วเขาก็ผ่านพ้นมาได้ มันมีวิธีที่จะจัดการกับความคิดตัวเองอยู่บ้าง ถ้าเรามีโอกาสได้คุยกับคนเหล่านั้นอาจจะดีขึ้น ลองหาพวกช่องทางเสิร์ช Google ดูก็ได้ เพจผู้หญิงที่ชื่อข้างกาย สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า เลี่ยงไปไหนที่เปลี่ยว ๆ คนเดียวสุ่มเสี่ยงทางไหนที่ไม่ใช่ทางปกติที่คนชุมชน หนูเลี่ยงดีกว่าช่วงนี้ แล้วก็ลองคุยกับนักจิตบำบัดพี่เห็นมีสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ลองดูได้เผื่อเราลองหานักจิตบำบัดหรืออะไรที่เรารู้สึกว่า ถ้าคนแนะนำแล้วเราโอเค เราแบบอยากฟังอย่างที่เหมือนว่ามันดูถูกจริตกับเราที่เราสามารถทำได้ แต่มีอันนึงที่ฟังแล้วแบบเหมือนอยากจะให้ข้อคิดน้องเมย์นะ คือบางทีเราแบบเห็นคนคนนึงหน้าตาไว้ใจได้อะไรแบบนี้ บางทีเราแบบไปกับเขาสองต่อสองอาจจะต้องระวังตัวมากกว่านี้ เพราะว่าคือเอาจริงๆถ้าวันนั้นรู้สึกว่าเขาเป็นคนมาจับก้นเราแล้ว ก็ไม่ควรไปกับเขาแล้วแม้ว่าเราจะแบบใช่ไม่ใช่ แต่พี่รู้สึกว่าสัญชาตญาณมันไม่ควรไปกับเขาแล้วกับการที่เห็นว่าบ้านหลังนั้นต้องเดินเข้าไปในช่องลึก ๆ พี่ว่าเราต้องรู้สึกตัวแล้วว่าห้ามเขาไป หนูอาจจะต้องมีกลไกลป้องกันตัวเองมากกว่านี้ที่มันจะต้องรู้สึกว่ามันอันตรายนะมันดูสุ่มเสี่ยง คือสำหรับพี่รู้สึกว่าเขาบอกว่าเขาจะไปส่งเป็นพี่พี่ไม่ไปกับเขาแล้วนะ ตอนท้ายคือหลังจากเกิดเรื่องทั้งหมดแล้วเขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปส่งเป็นพี่พี่ไม่ไปกับเขาแล้ว แต่เมย์ยังตัดสินใจไปกับเขาอันนี้พี่ว่ามันเหมือนเอาตัวเองกลับไปอยู่กับเขาอีก มันก็เลยรู้สึกว่ามันเสี่ยงเกินไป ถ้าอนาคตสถานการณ์มันแบบนี้อีกเมย์ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ ขอให้มันผ่านไปวันนี้หนูไม่เป็นไรก็ดีแล้วก็ระวังตัวไม่ให้มันสุ่มเสี่ยงแบบนั้นอีกเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin#พุธทอล์คพุธโทร #พุธทอล์คพุธโทรRECAP #ดีเจเผือก #ดีเจเติ้ล #ดีเจเผือก #EFM94

ผมผิดไปแล้ว... ภรรยาจับได้ว่าผมเซฟรูปเพื่อนภรรยาไว้ในไดร์ฟ ใช้ AI ตัดต่อให้เพื่อนภรรยาเปลือย จะเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะไปอ่านเจอในกระทู้มาว่า ‘ลองกับคนใกล้ตัวจะตื่นเต้นดี’ พอภรรยาเห็น รับไม่ได้ ไม่ให้อภัยผม ต่อจากนี้ผมจะทำยังไงดีครับ?

08 มี.ค. 2024

ผมผิดไปแล้ว... ภรรยาจับได้ว่าผมเซฟรูปเพื่อนภรรยาไว้ในไดร์ฟ ใช้ AI ตัดต่อให้เพื่อนภรรยาเปลือย จะเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะไปอ่านเจอในกระทู้มาว่า ‘ลองกับคนใกล้ตัวจะตื่นเต้นดี’ พอภรรยาเห็น รับไม่ได้ ไม่ให้อภัยผม ต่อจากนี้ผมจะทำยังไงดีครับ?

“คุณปุ๋ย (นามสมมติ)” อายุ 39 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 มีนาคม 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่ภรรยาไปเจอรูปวาบหวิวของคนใกล้ตัวที่เราแอบเซฟไว้ โดย “คุณปุ๋ย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้ผมมีปัญหากับภรรยา เนื่องจากภรรยาเปิดคอมพิวเตอร์ผมเพื่อหารูปลูกสาวที่ภรรยาเผลอลบไป แล้วดันไปเจอรูปวาบหวิว หนังติดเรท ซึ่งเป็นรูปของเพื่อนสนิทและคนใกล้ตัวของภรรยาที่ผมเป็นคนตัดต่อ เพื่อเอาไว้ช่วยตัวเอง เพราะผมไปอ่านเจอในอินเทอร์เน็ตว่า “ลองช่วยตัวเองกับรูปคนใกล้ตัวจะตื่นเต้นมากกว่า” พอภรรยาเห็นรูปพวกนั้นก็พยายามคิดหาเหตุผลกับตัวเองว่าผมทำแบบนั้นทำไม จนภรรยาบอกกับผมว่าเราควรแยกทางกัน ส่วนลูกสาวภรรยาจะเป็นคนดูแลเอง อีกอย่างหนึ่งที่ผมยอมรับผิด คือ ผมเฉยชากับครอบครัวและมักจะผลักภาระทุกอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้ภรรยาดูแลทั้งหมด ซึ่งภรรยาก็ทำงานไปด้วยและเลี้ยงลูกไปด้วย เวลาที่ผมเหนื่อยกับการทำงานและกลับบ้านมาเจอลูกงอแง ผมก็จะผลักให้ภรรยา เรื่องนี้ก็สะสมมาเรื่อย ๆ จนทำให้ผมมองว่าความรักที่เคยมีให้กันจืดจางลง ยิ่งภรรยาไปเจอรูปวาบหวิวก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ภรรยาก็พูดกับผมว่า “ผมทำหน้าที่พ่อได้ขาดตกบกพร่อง ในเรื่องของการดูแลภรรยาและลูก” ผมเองก็รู้สึกผิดกับภรรยามาก เพราะไม่ดูแลเหมือนตอนแรก ๆ ที่จีบกัน หลังจากที่ภรรยาขอหย่า ผมก็พยายามเปลี่ยนตัวเอง พยายามเข้าหาลูก ดูแลลูกมากขึ้น ผมยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อย แต่ลูกก็เข้าหาผมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผมคิดกับตัวเองว่าผมก็ทำได้แต่ทำไมผมถึงไม่ทำตั้งแต่แรก ตอนนี้ภรรยาก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ภรรยาก็ยังมองว่าที่ผมทำอยู่เพราะรู้สึกผิดหรือเปล่า ทำแค่ช่วงแรก ๆ พอเวลาผ่านไปก็คงเป็นเหมือนเดิมอีก เพราะความเชื่อมั่นที่มีผมเป็นคนทำมันพังกับมือตัวเอง แล้วผมจะเป็นคนแก้ไขได้ยังไง? ซึ่งเหตุผลที่ภรรยาขอหย่าก็คือ ภรรยารับไม่ได้เรื่องรูปวาบหวิว เพราะภรรยาไม่รู้จะทำตัวยังไงเวลาเจอเพื่อน จะมองหน้าเพื่อนติดไหม? ทำไมภรรยาต้องมารู้สึกผิดกับเพื่อน ทั้งที่ภรรยาไม่ได้เป็นคนทำผิด แล้วยิ่งผมก็มีลูกสาว ผมทำอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกลูกสาว ภรรยารู้สึกขยะแขยงผมมาก ผมก็รู้สึกแย่มาก ๆ อยากขอโอกาสแก้ตัว แก้ไขเรื่องนี้ ผมก็กลัวว่าภรรยากับลูกจะทิ้งผมไปก่อนที่ผมจะทำสำเร็จ เพราะภรรยามองว่ามันทรมานมาก เรื่องที่อยากขอคำปรึกษาคือ ผมจะสร้างความเชื่อใจใหม่ให้กับภรรยาได้ยังไง?’ งานนี้ “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘2 สิ่งที่ผู้หญิงจะดูคือ 1. คือความตั้งใจในการสำนึกผิดและเรื่องคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก 2. คือการกระทำ ซึ่งจุดอ่อนของผู้หญิงคือ ลูก เล่นกับลูกในสิ่งที่ภรรยาเล่นกับลูกไม่ได้ ทำให้ครอบครัวนี้ขาดคุณปุ๋ยไม่ได้ แต่ไม่ได้ทำเพื่อเอาคะแนน ทำเพื่ออยากรักษาครอบครัวไว้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องมาจากใจ ถ้าวันนี้ครอบครัวที่มีภรรยาและลูกคือความสุขของคุณปุ๋ย ทุ่มทุกอย่างให้สุด เพื่อที่จะดูแลครอบครัวนี้ ให้เวลา และชดเชยในสิ่งที่ผ่านมา ทำให้ภรรยาไม่เหนื่อย ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือทางจิตใจ ก็อยากอวยพรให้ภรรยายังอยากอยู่เป็นครอบครัวต่อ เพราะฉะนั้นรีบซื้อใจลูกให้ได้มากที่สุด’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณปุ๋ยต้องบอกกับตัวเองก่อนว่าต้องเหนื่อยแน่ ๆ กับการที่จะทำทุกอย่างให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าคุณปุ๋ยเห็นปลายทางว่า ความเหนื่อยที่เราจะต้องตัด เรื่องรสนิยมบางอย่างที่เราชอบออก เปลี่ยนแปลงนิสัยที่เคยทำกับครอบครัว และไม่รู้ว่าความไว้ใจจะกลับมาเมื่อไหร่ ซึ่งคุณปุ๋ยก็ไม่มีสิทธิ์ไปเร่งภรรยาว่าทำมาจะกี่ปีแล้วแต่ทำไมยังต้องทำอยู่ ทั้งหมดคือคุณปุ๋ยต้องทำใจยอมรับเลยว่า ไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งสิ้น ถ้าคุณปุ๋ยอยากให้ปลายทาง ยังคงเป็นครอบครัวเหมือนเดิมอย่างที่คุณปุ๋ยต้องการ พี่อยากให้กำลังใจว่า สักวันมันต้องมีวันที่คุณปุ๋ยเหนื่อยมาก ๆ ทั้งเอาใจภรรยาและดูแลลูก ก็อยากให้คุณปุ๋ยนึกถึงภาพสุดท้ายว่า วันนั้นเรายังมีกันและกันเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก สุดท้ายไม่ว่าคุณปุ๋ยจะพยายามสักเท่าไหร่ แต่ภรรยาไม่สามารถเอาความเชื่อใจนั้นกลับมาได้ คุณปุ๋ยก็ต้องยอมรับให้ได้ หลังจากนั้นก็หาวิธีที่จะเป็นพ่อแม่ของลูกให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ อย่าเอาแต่ความต้องการเราอย่างเดียว จนอีกคนเขาไม่มีความสุข’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องนี้ต้องขอบคุณลูกสาวให้เยอะ ๆ คุณปุ๋ยต้องใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดเพื่อภรรยาและลูก คุณปุ๋ยทำเพื่อตัวเองมาตลอด ละเลยครอบครัวจนลูกสาว 4 ขวบ ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก ต่อจากนี้ไม่ว่าภรรยาจะไม่มีเหตุผล หรืองี่เง่าอะไร คุณปุ๋ยคงต้องยอมทุกอย่าง เพื่อที่จะให้ได้ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้สำหรับผมมันหนักเหลือเกิน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

12 เม.ย. 2024

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย นภาพร’ เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนหวงห้ามเล่นสงกรานต์ โดย ​“คุณน้ำ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนไม่ให้หนูไปเล่นน้ำสงกรานต์ เขาให้เหตุผลว่า ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะโดนปะแป้ง โดนลวนลามมากกว่าผู้ชาย เขาเป็นแฟนหนูเขาจะไม่ยุ่งเรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าตัวหนูเป็นผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเขาเลยไม่ให้หนูไป แต่เขาออกไปเล่นได้ เขาไม่พาหนูไปด้วยเพราะว่าอยู่ไกลกันก็เลยไม่ได้เล่นน้ำด้วยกัน เขาเป็นคนหวงหนูมาก ชอบห้ามหนูในสิ่งที่เป็นตัวหนู เช่น เรื่องการแต่งตัว เรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะห้ามนู่นห้ามนี่ หนูก็รู้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic แต่หนูก็รักเขาเลยยังอยู่ หนูกับเขาอายุ 22 ปีเท่ากัน คบกันมาประมาณปีกว่า ๆ ถ้ารวมคุยด้วย สิ่งที่เขาห้ามมีเรื่องแต่งตัว แล้วก็ถ้าไปร้านเหล้าก็ห้ามเต้นกับเพื่อน ให้นั่งเฉย ๆ ต้องใส่เสื้อยืดเท่านั้น กางเกงขาสั้น บางทีก็ให้ใส่กางเกงบอล ชุดนักศึกษาหนูใส่ได้แค่ทรงพลีท ไม่สามารถใส่ทรงเอได้เลย แต่เรื่องที่กำลังเป็นปัญหาในตอนนี้คือ เรื่องเล่นน้ำสงกรานต์ หนูแค่ไม่เข้าใจว่าเขาไปเล่นได้ ทำไมหนูถึงไปเล่นไม่ได้ หรือว่าถ้าเขาไม่ให้หนูเล่น เขาก็ไม่ควรออก เพราะคนที่นอนอยู่บ้านรู้สึกกังวล เป็นห่วงเขา หนูอยากออกไปสักแค่วันนึง แต่หนูไม่ได้อยากไปสาดน้ำ แค่อยากออกไปเจอเพื่อนเฉย ๆ เวลาหนูโดนเขาห้ามเยอะ หนูก็เลยพูดกับเขาว่า เนี่ย ถ้าเกิดเธอมาห้ามในสิ่งที่เราชอบ งั้นเราก็ห้ามเธอไปร้านเหล้าเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า ได้ แต่สุดท้ายก็มีไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยเท่าเดิม ล่าสุดหนูพยายามไกล่เกลี่ยขอเขาว่า ขอให้เขาเล่นน้ำแค่ 2 วันได้ไหม เขาก็บอกว่า ไม่ได้เลย ทีนี้ก็ทะเลาะกันหนักมาก เพราะว่าหนูก็ขอเขา เขาไม่ยอม เถียงกันไปเถียงกันมาก็บอกเลิกหนูเลย พอเขาบอกเลิกหนูก็ง้อ หนูรู้สึกว่าไม่ควรบอกเลิกเพราะเรื่องแค่นี้ หนูก็เลยพยายามง้อเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยจะคุยกับหนูเท่าไหร่ ค่อย ๆ เฟดตัวออกไป แต่หนูก็พยายามทำตัวดี ๆ ก็บอกเขาว่า โอเค เธอไปเล่นได้เลย เราอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่อยากถามพี่ๆดีเจ คือ มีวิธีไหนบ้างที่จะบอกให้เขาแฟร์ ๆ กับเรา หรือวิธีพูดให้เขาเปลี่ยนความคิดสักนิดนึงได้ไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนลักษณะนี้ ด้วยอายุเท่านี้ พูดไปเขาก็ไม่น่าจะฟังเหตุผลหรอก น้ำก็เคยคุยกันไปแล้วเรื่องสงกรานต์จบที่เลิกกัน พี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันจะมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้คนคนนึงเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกซะจากว่าวันหนึ่งเขาจะอายุมากพอ ความคิดโตพอที่จะแยกแยะได้ ระหว่างความหึงหวงใดใดก็ตามกับความไว้ใจคนของเรา แล้วก็เหมือนใจกว้างมากขึ้น ถ้าหนูพยายามที่จะหาจุดกึ่งกลางกับผู้ชายคนนี้ ณ เวลานี้พี่ว่ายังยากอยู่ ถ้ารักจริง ๆ พร้อมที่จะยอมจริง ๆ ก็อาจจะต้องทนก่อนระยะนี้ แต่พี่คิดว่าเขาไม่น่าจะเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้ ด้วยความที่อายุ 22 ปีเท่ากันอยู่ แล้วหนูก็ไม่อยากให้เขามาเปลี่ยนตัวตนหนู แต่เอาเข้าจริงหนูก็ยอมเขา เพราะฉะนั้นถ้ายังคบกับเขา พี่ว่ายังไงก็ต้องยอมแบบนี้ ให้เอาเหตุผลอะไรไปพูด เดี๋ยวก็เลิกกันอีก เอาเป็นว่าถ้าเขามาฟัง สิ่งเดียวที่พี่พอจะช่วยได้ก็คือ ไอ้หนุ่มเอ้ย พ่อหนุ่ม เมื่อก่อนพี่ก็เป็น แต่เดี๋ยวเราโตขึ้นมันจะค่อย ๆ ใจกว้างขึ้นแหละ แล้วถ้ายิ่งโตขึ้นได้เร็วเมื่อไหร่ แฟนเราก็จะได้หายใจหายคอ แล้วความอึดอัดที่อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ชีวิตจะยิ่งมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรารู้จักปล่อยวางนะไอ้หนุ่มนะ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าก่อนจะไปคุยกับเขา หนูคุยกับตัวเองก่อน ไม่รู้สิเวลาที่คนเรารักกันมันก็ต้องอยากให้เขามีความสุขในการอยู่ข้าง ๆ เรา ไม่ได้แปลว่าอยู่กับฉัน แล้วเธอต้องทำสิ่งสิ่งนั้น สิ่งนี้ นี่มีแฟนไม่ได้เข้าคุก การที่บอกว่าต้องแฟร์กับหนูหน่อย หนูก็ต้องแฟร์กับตัวเองด้วยเหมือนกันว่า เฮ้ย ชีวิตฉัน ฉันอยากมีแฟนแล้วทำให้ฉันมีความสุขในทางของฉันเช่นเดียวกัน และเมื่อไหร่ก็ตามทีที่เขาเองบังคับใด ๆ แล้วน้องก็ทำตามสิ่งที่เขาบังคับมาโดยตลอด อะไรจะเข้าฝันเขาหรอว่า เขาฝันเสร็จปั๊บ พรุ่งนี้ปล่อยให้น้ำเป็นอิสระบ้างดีกว่า สงสารน้ำจังเลย ไม่มีทาง วันนี้พี่ยังเป็นคนที่เชื่อเสมอว่า คนเราอะไรก็ได้ ไม่มีอยู่จริงหรอก ความรักของคนที่เป็นผู้ใหญ่ มันจะไม่ใช่แค่ห้ามทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ พี่ว่านิดนึงน้ำเองก็ดันมีความรู้สึกว่า พี่ แต่เขาก็หวงหนูไงคะ หนูก็เลยรู้สึกว่าการหวงถือว่าเป็นการรักมาก แต่พี่ไม่ได้อยากพูดให้น้องนอยด์นะ พี่เห็นมาเยอะมากว่า ไอ้คนที่หวงแฟนระดับเกินเบอร์ไปมาก ตัวเองทำทุกอย่างเลย แล้วยิ่งถ้าน้องทำตัวเองเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบตัวเขา ยอมเขาอะไรก็ได้ ขนาดเรื่องนี้คนที่ควรโกรธคือเราด้วยซ้ำ น้องกลับกลายเป็นง้อ พี่ว่าคน 2 คนเวลารักกัน เราต้องแคร์ความสุขของกันและกันด้วย ไม่ใช่พยายามบังคับให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเราเองก็ดันพยายามบังคับตัวเองให้เป็นแบบนี้ด้วย อึดอัดก็อึดอัด แต่แสดงออกก็ไม่ได้กลัวเขาไม่รัก พี่รู้สึกว่าหึงนิด ๆ น่ารักนะ แต่หึงมากไปคล้ายดูถูก หึงมากไม่ได้แปลว่ารักมาก แต่แค่อยากเป็นเจ้าของชีวิต พี่เป็นคนที่เชื่อว่าคนรักกันเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิต เขาควรจะรู้ว่าน้ำมีความสุขกับเรื่องนี้ และถ้าเกิดเขาหวงมากก็แค่มาเล่นน้ำกับหนู พาหนูไปด้วย เขาไม่แฟร์กับหนูไม่เท่าหนูไม่แฟร์กับตัวเอง คือรักเขาพี่เข้าใจ แต่การรักเขาไม่ได้แปลว่าต้องยอมทุกสิ่ง จนกระทั่งเบียดบังความสุขของตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะให้พี่พูดอะไรกับแฟนหนู พี่ก็จะบอกเขาว่า ต้องรู้จักที่จะให้เกียรติคนรักมากกว่านี้ สิ่งเดียวที่เขาทำตอนนี้มันมาจากเรื่องเดียวที่พี่รู้สึกคือ เขาไม่ไว้ใจ เหมือนเขาจะตัดสินว่าการที่น้องน้ำแต่งตัวแบบนี้ มันจะทำให้น้องน้ำนอกใจเขา สำหรับพี่รู้สึกว่าแฟนกันมันต้องไม่ทำให้พี่ไม่ชอบตัวเอง เราชอบแต่งตัวแบบนี้ เรามีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้ ซึ่งมันอยู่ในขอบข่ายที่ไม่ได้อนาจาร คนทั่วไปเขาก็แต่งกัน อยู่ ๆ ก็ไม่ให้เราแต่ง น้ำต้องตื่นมาใส่กางเกงบอล ใส่เสื้อตัวใหญ่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ตัวเองไม่ได้ชอบ พี่รู้สึกว่ามันคือคนรักที่เราจะมีความสุขจริง ๆ หรอ คนที่อยู่ด้วยกันแต่ทำให้เราไม่ชอบตัวเองอยู่คนเดียวดีกว่าหรือเปล่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album
HOT DEAL

Artist: เบนซ์ ข้าวขวัญ

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110