
20 พ.ค. 2025
หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า “ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้ว แต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม?
หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า“ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้วแต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม? ยังเป็นห่วงเราอยู่ คนเราจะเลิกกัน ทั้งๆที่ยังรักกันอยู่ได้จริงๆหรอคะ? “คุณเจ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาความรัก 10 ปีที่ไปกันไม่รอด และเลิกกันทั้งๆที่ยังรัก โดย “คุณเจ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่สมัยเรียน ระยะเวลารวม 10 ปี เขาเป็นแฟนคนแรก เป็นทุกอย่างของชีวิตทั้ง แฟน เพื่อน พี่ น้อง เขาคอยซัพพอร์ตหนูทุกอย่างที่อยากทำ คอยตามใจ พาไปกิน พาไปเที่ยว รับ-ส่งถึงบ้าน คอยให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง คบกันมาเรื่อย ๆ จนถึงทำงาน มันยังไม่ได้มีเรื่องอะไรที่รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนไปหรือเลิกกัน ส่วนตัวหนูเป็นคนขี้หึง ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงและวีน ช่วงทำงานปีแรกๆ หนูค่อนข้างจับผิดคนที่ทำงานของแฟน ทุกครั้งถ้าเห็นแจ้งเตือนของเพศตรงข้าม หนูก็จะชักสีหน้าหรือหงุดหงิด จนกลายเป็นความไม่พอใจของหนูเอง และเราก็ทะเลาะกัน แต่หนูก็เชื่อใจและเข้าใจว่าแฟนคงไม่มีอะไร หนูเคยเข้าไปดูแชทของเขากับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งในมุมมองคนอื่นอาจจะมองว่าเป็นคนเฟรนด์ลี่สองคนคุยกัน แต่มุมมองของหนู หนูไม่ชอบ เพราะนี่คือแฟนของหนู ทำไมต้องคุยหรือทำแบบนี้กับแฟนคนอื่น? เพื่อนร่วมงานของแฟนคนนี้เขาเป็นคนที่ช่วยเหลือเรื่องงาน อยู่แผนกเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน เขาเลยปรึกษาเรื่องงานกัน บ้านเป็นทางผ่านก็อาจจะมีติดรถไป-กลับด้วยกัน ปฏิกิริยาของแฟนตอนหนูแสดงอาการ แรกๆแฟนหนูเขาจะอธิบายว่าไม่มีอะไรเลย แล้วก็ง้อและโอ๋ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะแฟนเขาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไร เวลาผ่านไปหนูแสดงอาการบ่อยขึ้น แฟนก็เริ่มหงุดหงิด อารมณ์เสียบอกว่า “อีกแล้วหรอ เรื่องคนนี้อีกแล้วหรอ เราอยู่กับแบบสงบ ๆ ไม่ได้หรอ ทำไมต้องเอามาเป็นประเด็น” พอเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นความประสาทของหนูเอง เริ่มท็อกซิกใส่แฟน จากที่เขาทำงานเหนื่อย เครียดเรื่องงาน เครียดหลาย ๆ อย่างรอบตัว พองานหนักขึ้นทุกปีก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ หนูก็ยิ่งท็อกซิกขึ้น งอแงใส่แฟน พอเห็นแจ้งเตือนก็จะเริ่มตึง จากที่เขาวางแพลนว่าวันนี้จะดูซีรีส์ เล่นเกม ทำกิจกรรมร่วมกัน พอหนูหงุดหงิดก็จะเริ่มเงียบ ไม่เล่น ไม่มีอารมณ์ร่วม จะเสียเวลาครึ่งวันนั้นไปเลย แฟนก็เลยตัดปัญหาโดยการปิดการแจ้งเตือนเวลาอยู่กับหนู แต่พอเขาปิด หนูก็อยากเป็นโคนันอยู่ดี พอความสัมพันธ์ผ่านไป 7 ปี หนูก็เริ่มปล่อยวาง ไม่สนใจแล้ว เวลาหนูหงุดหงิดแฟนจะคอยเตือนว่าอารมณ์เป็นปัญหาที่เราจะต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน หนูก็เลยปรับตัว เงียบขึ้น ปล่อยวางเรื่องเล็กน้อย เพื่อให้มีเรื่องกระทบกันน้อยที่สุด จะได้อยู่กันแบบสงบ จนช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ หนูจะไม่ค่อยทักแฟนไปช่วงทำงานเพราะรู้ว่างานเขาหนัก และเขาไม่ว่าง หนูก็จะรอให้แฟนทักมาเอง ด้วยความคิดที่ว่าถ้าแฟนทักมาแปลว่าเค้าว่าง ถ้าเราทักไปแฟนอาจจะยังไม่สะดวก หนูจะได้ให้แฟนโฟกัสกับงานอย่างเต็มที่ หลังจากที่เจย้ายออกจากบ้านแฟนมาอยู่บ้านตัวเอง เลยทำให้เราห่างกัน แต่พอช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากโฟกัสตัวเองบ้าง อยากให้ความสำคัญกับตัวเอง เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาแฟนให้หนูเป็นอันดับ 1 เสมอ เขาอยากโฟกัสว่าจริงๆตัวเองต้องการอะไร? หนูขอโอกาสจากแฟน “ไม่ไปได้มั๊ย ไม่เลิกกันได้มั้ย” เขาบอกว่าเขาก็ไม่ได้อยากเลิก แต่ไม่อยากทำร้ายเราต่อไป เขายังรักหนูนะ ไม่อยากยื้อไว้ให้เราสองคนยิ่งเจ็บ แต่อนาคตเราก็อาจจะมาคบกันอีกก็ได้ หลังจากเลิกกันอาทิตย์นึงไป เขาก็ยังทักมาถามทุกวันเป็นระยะ หนูเริ่มไม่แน่ใจว่าที่ทักมาเพราะแฟนรู้สึกผิดที่บอกเลิก หรือรักและเป็นห่วงเรากันแน่ ตัวเขาเองบอกว่ายังรักเราอยู่ เขาเป็นห่วงเรา ถึงเขาจะไม่สามารถเทคแคร์เราได้ แต่เค้าไม่สามารถปล่อยให้เราจมอยู่คนเดียวได้ ที่ผ่านที่หนูพยายามปรับปรุงตัว เขาบอกว่าเขาเห็นว่าหนูพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอด เห็นว่าเราน่ารักขึ้น แต่พอยิ่งเราเติมเต็มเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดที่รู้สึกกับเราแบบนั้น ส่วนนึงไม่รู้ว่ามาจากการที่หนูถามเรื่องอนาคตบ่อยเกินไปหรือเปล่า หรือเปรียบแฟนตัวเองกับแฟนคนอื่นเพียงเพราะอยากรู้ว่าในอนาคตของเขามีหนูอยู่มากน้อยแค่ไหน การที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน หนูเลยไม่รู้ว่าอนาคตเขาวางแพลนไว้ มีหนูอยู่ในอนาคตของเขาหรือเปล่า แล้วเวลาหนูถามเขาก็จะบอกว่า ไม่ใช่ไม่อยาก แต่ก็เห็นอยู่ว่าสภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นยังไง ภาระทางบ้านเขาค่อนข้างเยอะ แต่หนูไม่ได้ต้องการคำตอบชัดๆ หรือเขาจะโกหกหนูก็ได้ว่าในอนาคตแฟนก็มีเจอยู่ แต่เจก็ไม่ได้เซ้าซี้ ตอนนี้หนูก็รอเขาอยู่ หนูยอมรับว่าเป็นคนเริ่มทำให้มันแย่ และความสะสมของเขาที่ผ่านมามันทำให้รู้สึกแย่กับเจ สำหรับหนู เขาเป็นคนดี เป็นคนที่หนูรัก หนูก็ยังรักอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่พอต้องห่างกันก็ยังตัดใจไม่ได้ เขาก็ยังทักมา ยังคงเป็นห่วงว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง ทุกอย่างยังเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนสรรพนามเท่านั้น ถ้าเขาไม่ทักมาก็กระวนกระจายใจ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูรู้สึกสับสนว่าจะต้องทำยังไงดี ระหว่างรอเค้าต่อไปหรือมูฟออนออกไป? ดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ได้ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ไม่ต้องไปตามหาเหตุผลของการเลิกกัน เพราะคนที่จะเลิกกันคงหาหลายเหตุผลมาบอกเรา มันเป็นความลับที่ไม่มีทางรู้ แม้เค้าจะพูดออกมาก็ไม่มีทางรู้ในใจเค้า คิดไปก็เจ็บ เจควรยอมรับความจริงว่าวันนี้เค้าไม่ได้รักเราเหมือนเดิม’ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘ตามจิตวิทยาคนที่ถูกบอกเลิกเป็นเรื่องธรรมดาที่ช่วงแรก จะไม่อยากยอมรับความจริง เป็นการปฏิเสธ เรายังรักกันอยู่ เราไม่ได้เลิกกัน อนาคตอาจจะกลับมาเจอกันอีกก็ได้ จากเหตุผลที่เขาพูดมาว่า “เดิมให้เจเป็นที่หนึ่ง แล้ว ณ วันนี้อยากดูตัวเองบ้าง” นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเลิกกับใครสักคน แฟนสามารถดูแลเราให้เป็นที่หนึ่ง แล้วก็ดูแลตัวเองได้ด้วย ไม่เป็นปัญหา แต่จะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อเราไม่ได้รักเขาแล้ว มันอาจจะเป็นแค่ประโยคที่ถูกคิดมาหลายวันเพื่อให้คนที่ถูกบอกเลิกรู้สึกดีที่สุด ทุกคนดูแลตัวเองทุกวันอยู่แล้ว พอเวลาผ่านไปเจจะเริ่มยอมรับความจริงได้ เข้าใจแล้วว่าเลิกกันแล้วจริง ๆ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาต่อไป การโดนบอกเลิก มันก็จะหนักหนาหน่อย ยิ่งคบกันมานานสิบปี หายไปใครก็เหวอ แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่เป็นเจ้าของโลกของเรา แฟนเป็นแค่หนึ่งในสามเองแล้วอีกสองในสามที่ไม่เคยมีเขาเราโตมาได้ยังไง เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากว่าเราเป็นคนผิดหรือเปล่า ชีวิตเจอาจจะไม่มีวันได้รู้เหตุผลเลยก็ได้ ใช้ชีวิตให้พ้นเป็นวันต่อวัน ถ้าวันนี้เศร้าก็แค่ร้องไห้ ถ้าอึดอัดก็หาเพื่อนระบาย แล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการเยียวยาด้วยวิธีการต่าง ๆ ต่อไปแล้วมันจะค่อย ๆ ดีขึ้น’ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘ไม่ว่าจะรักกันกี่ปีคนเราหมดรักกันได้ ของเจยังโชคดีที่มีสถานการณ์แบบนี้ให้รู้สึกว่าเราเคยรักกัน ตอนนี้อาจจะโหดร้าย เจต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าอยู่บนโลกนี้โดยที่ไม่มีเขาไม่ได้ เพราะเจอยู่ได้ ทุกคนอยู่ได้ ยกเว้นคนคิดสั้น ถ้าทำใจได้เมื่อไหร่ ก็อยากบอกว่าอย่าให้ใครเป็นโลกทั้งใบของเรา เพราะถ้าวันใดมันถล่มก็จะเป็นเหมือนวันนี้’ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘เรื่องราวในอดีตปัญหาส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการสื่อสาร ถ้าไม่ได้พูดกันบางทีมันก็สะสม แต่พูดมากไปก็ไม่พอดี แต่เท่าที่ฟังฝั่งผู้ชายก็ต้องตัดเลยอย่ายึกยัก ไม่ต้องส่งข้อความมาแสดงความเป็นห่วง ถ้าเราตั้งใจเลิกแปลว่าเราตั้งใจเปลี่ยนสถานะ บางทีอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่พร้อม ทำให้เจยังอาลัยอาวรณ์ สุดท้ายนี้…เจต้องชัดเจนก่อนว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร จะรอก็ได้ รอแบบไม่มีความหวังใช้ชีวิตไปวัน ๆ ก็ได้ หรือตั้งใจที่จะมูฟออน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัดใจแต่มูฟไปอยู่ในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เห็นคุณค่าของตัวเอง ถ้าเป็นพี่ พี่เชียร์ให้มูฟออนเพื่อสร้างเวอร์ชั่นใหม่ของตัวเอง แฟนจะกลับมาหรือไม่ ไม่ต้องไปสน ถ้าเขากลับมาเจอเราเวอร์ชั่นใหม่ เราอาจจะเป็นคนเลือกเองว่าได้ว่าเราไม่พอดีกัน หรือเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่มีคนเข้ามาหา หรือเอนจอยกับการอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่ว่าจะคบกี่คนเราก็สะดุด การเริ่มต้นสดใหม่เสมอ เป็นไปไม่ได้ที่ความรักจะไม่เจ็บ มันจะเจ็บทางใดทางหนึ่งเสมอ ลองหากิจกรรมอื่นทำ หรือหาเพื่อนที่รับฟังเรามากขึ้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin




