คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา

18 ต.ค. 2024

คบแฟนมา 5 ปี แฟนหนูเป็นทอม แต่แม่แฟนอยากให้แฟนหนูแต่งงาน

มีอนาคตกับผู้ชายมากกว่า หนูพยายามเอาชนะใจแม่เขามาตลอด 5 ปี

แต่ล่าสุดแม่เขาเพิ่งมาด่าแม่หนูถึงที่ทำงาน ยืนด่า 1 ชั่วโมงกว่า แม่หนูรับฟัง

แม่บอกทนได้เพราะลูกรักลูกเขา หนูจะเอาชนะใจแม่แฟนต่อไปยังไงดีคะ?

                “คุณพลอย (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาพ่อแม่เเฟนกีดกันไม่ให้เราสองคนคบกัน อยากให้ลูกของเขามีแฟนเป็นผู้ชาย เเต่งงาน มีลูก

                โดย “คุณพลอย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนคบกันมา 5 ปี หนูเป็นผู้หญิง แต่แฟนหนูเป็นทอม เราเริ่มคบมาตั้งเเต่ปีแรกก็มีฟีดแบ็กจากแม่แฟนทักมาด่าทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของหนู เเล้วก็มาคอมเมนต์รูปคู่ของเรา 2 ว่า “ให้เลิกกันเเล้วก็ลบรูปคู่นั้นออกซะ” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปีแม่แฟนเขาก็จะตามสืบเรื่องราวของหนูทั้งหมดเลย ว่าหนูไปคบกับแฟนคนไหนมาบ้าง สืบย้อนหลัง 5 - 6 ปีเลย ที่ผ่านมาแฟนไม่ได้มีปัญหาเลย ก่อนหน้าที่แฟนจะคบหนูเขาก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน พ่อเเม่เขาอาจจะคิดว่ายังเด็กเลยไม่ได้สนใจอะไร เเต่เริ่มมีปัญหาตอนที่ขึ้นมหาลัยเขาอาจจะคิดว่า ต้องตั้งใจเรียน นึกถึงอนาคตเยอะขึ้น เเล้วเป็นจังหวะที่เขาเป็นเเฟนกับหนูพอดี

                ตอนแรกหนูก็ยังไม่ตอบโต้อะไร ยังพยายามพิสูจน์ความรักของหนูอยู่ว่าหนูจริงใจกับลูกเขาจริง ๆ ไม่ได้มาเพื่อที่จะหลอกอะไร เเต่พอเขารู้ว่าหนูเคยคบกับผู้ชายมาก่อน เขาเลยรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่จริงใจกับลูกเขาเเน่นอน ไม่มีทางที่ความรักของเรา 2 คนจะเป็นไปได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแฟนก็จะรู้ว่าแม่ของเขามีนิสัยเป็นยังไง เขาถึงไม่กล้าที่จะให้เราเปิดเผยตัวตน เพราะว่ามันเคยมีเหตุการณ์ครั้งนึงที่เราไปทานข้าวด้วยกัน เเม่แฟนโทรมาเเล้วถามว่าไปทานข้าวกับใคร เขาก็บอกตรง ๆ ไปว่ามาทานข้าวกับเรา พอเขาได้ยินยังไม่ทันขาดคำเลย เขาก็กดวางสายใส่ลูกเขาเลย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหนูรู้แบบนี้ ก็พยายามทำตัวล่องหนตลอด เราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง พักหอพักเดียวกัน ไปเรียนด้วยกันเเล้วก็เลิกเรียนด้วยกัน ทุกครั้งที่เเม่เขาโทรมาหนูจะต้องเงียบเสียงตลอด เเต่ว่าทั้งหมดนี้หนูทนมาได้ ไม่ค่อยซีเรียส เรื่องนี้หนูยอมรับได้เพราะว่าหนูจะใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองว่าหนูจริงใจจริง ๆ

                เเต่ตอนนี้เรื่องมันเริ่มหนักขึ้น เรื่องเพิ่งเกิดเมื่อ 3 วันที่เเล้ว ก็คือคุณเเม่เขาตามมาด่าคุณเเม่ของหนูอยู่ที่ทำงานเลย เขารู้ว่าเเม่ของหนูทำงานที่ไหน บ้านของหนูอยู่ที่ไหน เพราะว่าเคยมาเเล้วครั้งนึง ช่วงนี้พวกหนูเรียนจบมาเเล้ว ก็อยากที่จะมาหา มาเล่นด้วยกันเสาร์-อาทิตย์ ตอนนี้ 2 - 3 เดือนมาเล่นด้วยกันทีนึง เเต่ทีนี้เหมือนเเม่เขารู้ว่าลูกเขามาเล่นกับหนู เขาก็มารับลูกเขากลับไป เเล้วในวันนั้นช่วงเย็นประมาณบ่ายโมง เเม่เขาก็ได้ขับรถจากอีกจังหวัดนึงมาหาหนู เเต่ไม่ได้เข้ามาที่บ้านหนู ดิ่งตรงไปที่ทำงานของเเม่หนู เเล้วก็ไปนั่งร้องไห้ให้เเม่หนูออกมาเพื่อที่จะคุยเจรจากันให้รู้เรื่องพอหนูทราบเรื่องหนูก็ขี่รถไปเพื่อที่จะไปฟังเขาว่าเขาจะทำอะไรกับเเม่หนู หนูต้องไปปกป้องเเม่ของหนู เเต่หลังจากที่หนูยืนฟังเขาพูด เขาพูดไม่ได้ใจความ อาละวาดเสียงดัง พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจเขา เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปนไปหมด ทั้งเรื่องที่ลูกของตัวเองเกิดมาเเล้วไม่ได้ดั่งใจ ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ให้สอบอะไรก็สอบไม่ได้ เขาต้องทำงานหาเงินมาเพื่อเลี้ยงลูก เเล้วก็ลามมาว่าเหมือนหนู ไม่ได้จริงใจกับลูกเขาหรอก เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน เขาไม่ได้จะเอาหนูหรอก

                สิ่งที่เขาต้องการเเละอยากได้มาตลอดคือต้องการให้เรา 2 คนเลิกกัน เเล้วก็ห่างกันไปซะ ไม่ต้องมายุ่งด้วยกันอีก เเต่ทางเเม่ของหนูก็นั่งให้เขาด่ามาตลอดเป็นชั่วโมง ไม่ได้ตอบโต้อะไร นั่งน้ำตาคลอ คนในพื้นที่เขาจะรู้จักคุณแม่หนูหมดเลย ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน เเล้วก็ความเสียหายต่อหน้าตาของเรา ซึ่งแฟนของหนูเขาค่อนข้างที่จะรักครอบครัว เเล้วเขาก็รักเรา ไม่อยากให้เรา 2 คนห่างกันออกไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้มันมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่คิดว่ามันจะมีวันนี้ เลยค่อนข้างที่จะค่อย ๆ คุยกับคุณเเม่ นาน ๆ ทีขออนุญาตมาหาซัก 3 เดือนทีนึง ที่ผ่านมาเขาจะไม่เล่าให้เเม่ฟังเลยว่าเราเคยอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน หาเงินเรียนด้วยกัน เเม่เขาไม่ทราบเรื่องนี้เลย แฟนเขาเลือกที่จะมาอยู่กับเราเเต่เขาไม่ได้จะทิ้งเเม่ เเต่เขาอยากจะออกมาจากพื้นที่นั้นเพื่อมาอยู่กับพื้นที่เซฟโซนอย่างเรา เพราะว่าเค้าไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว ทุกวันเเม่เขาจะมาปลุกตี 3 - 4 เพื่อให้อ่านหนังสือ วันเสาร์ – อาทิตย์ก็ไปกับเเม่ ไปทำงานด้วยกัน เขาอยากย้ายออกมากเเต่สุดท้ายเเม่เขาก็ต้องตามกลับมาอยู่ดี เเล้วคุณพ่อเขาก็เห็นด้วยกับคุณเเม่เขา ไม่ค่อยขัดคุณเเม่เท่าไหร่

                ตอนนี้เราสองคนก็ยังคบกันอยู่เเต่ต้องเงียบ ทำเหมือนเราเลิกกันไปแล้ว ไม่ให้เขาทราบว่าเรายังคุยกันอยู่หลังจากเรื่องมันเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้าเขาหนูก็เคยมีแฟนมาเเล้ว เเต่เป็นความรักที่ไม่ดี ส่วนมากที่เจอก็จะนอกใจ หนูรับไม่ได้เลยเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง แต่กับคนนี้หนูไม่อยากเลิกกับเขา อยากคบกับเขาไปตลอดชีวิต เขาเป็นคนที่ดีที่สุด ไม่เคยมีปัญหากันเลย ดูแลเราดีทุกอย่าง อยากจะใช้ชีวิตต่อไปกับเขาไปเรื่อย ๆ ก็เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ทำยังไงกับสถานการณ์นี้ อยากจะชนะใจเเม่เขาให้ได้อย่างไร?

                ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ต้องทนอย่างเดียว เราไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติคนเป็นพ่อเป็นเเม่ของเขาได้ เเม่เรารักเรายังไง เเม่เขาก็ต้องรักลูกเขาแบบนั้นเหมือนกัน ต่างคนต่างรักเเต่มันคนละแบบ เรื่องชนะใจก็พอคุยกันได้ ในวัย 24 กับความรักที่มันเกิดขึ้นหลังจากรักที่ผิดหวัง เขาทำให้เรารู้จักคำว่ารักเเละการดูเเลซึ่งกันเเละกัน

                5 ปีที่คบมาก็เป็นระยะเวลาที่ยาวเเต่ก็ยังไม่ได้เป็นเวลาที่จะพิสูจน์ความเป็นคู่ชีวิตกันขนาดนั้น คบกันเเต่งงานเเล้วเลิกหลังเเต่งก็มี พี่ไม่ได้เเช่งเเต่อยากให้มีสติในการคบกันครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถ้าวันนี้มั่นใจกันมากขนาดนี้เเล้วอยากชนะใจ พลอยยอมรับได้มั้ยกับความเสี่ยงที่ต้องสู้เเล้วไม่ได้เห็นปลายทาง อะไรที่ขัดใจเเม่อย่าเพิ่งทำให้เขาเห็น ก็ต้องยอมอดทน สุดท้ายเราจะเข้าไปเพื่อที่จะดูเเลลูกเขา ถ้าทำให้เเม่ของเขารู้สึกแบบนี้ได้ หนูจะสิทธิ์ชนะใจได้ เเต่ต้องมีเดดไลน์ให้ตัวเองว่าจะลองพิสูจน์อีกนานเเค่ไหน การที่หนูมีเเม่ที่ดีก็ถือว่าโชคดี เเต่เราก็ต้องทำให้แม่เขาเชื่อในความสัมพันธ์ของเรากับลูกเขา ว่าเจตนาของเรานั้นต้องการที่จะดูแลลูกเขาจริง ๆ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบ เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนู ตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด

20 พ.ค. 2025

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบ เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนู ตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบเพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนูตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด คบได้แต่ฝีมือฟุตบอลห้ามตก แฟนหนูกดดันมาก “คุณซี” (นามสมมติ)” อายุ 17 ปี เป็นสายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาการมีแฟนเป็นนักฟุตบอล แต่ถูกคุณพ่อของแฟนกีดกัน เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้ลูกชายเสียสมาธิในการเดินตามเส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ โดย “คุณซี” (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟนอายุ 15 ปี เขาเป็นนักกีฬา นักบอล แล้วเขาอาศัยอยู่กับคุณพ่อ เพราะพ่อแม่เขาแยกทางกัน บ้านเขาค่อนข้างมีฐานะ แต่เหมือนคุณพ่อเขาไม่ค่อยโอเคที่เขามีแฟน และพ่อเขาค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณ เพราะด้วยความที่เขาคาดหวังกับลูกเขาว่าต้องเป็นนักบอลมืออาชีพ คบกันช่วงแรกๆยังไม่มีอะไร แค่พ่อเขาไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้พูดถึง แต่พอช่วงหลังๆเขากับพ่อทะเลาะกันทุกวันเพราะพ่ออยากให้เลิกกับหนู ช่วงนี้แฟนหนูเขาขึ้นมอสาม แต่มอปลายเขาวางแผนไว้แล้วว่าจะไปสายฟุตบอลเลย ก็เลยกลายเป็นว่าเขาต้องเข้มงวดและแข่งเยอะมากขึ้น พ่อเขาก็พูดว่าอยากให้แฟนหนูห่วงอนาคตตัวเอง หนูไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพราะแฟนไม่ได้พูดให้ฟัง จนมีวันนึงหนูทะเลาะกับแฟน เขาก็ได้บอกเลิกหนู ที่ผ่านมาเขาไม่เคยบอกเลิกหนูเลย มากสุดคือการประชดกันเฉยๆ ตอนแรกหนูคิดว่าเขาก็คงเหนื่อยกับหนูแล้วก็คงไม่อยากไปต่อ แต่หนูก็ยังคาใจ ก็เลยทักไปถามว่าเหตุผลคืออะไร ขอชัดๆเลย เขาเลยบอกว่าก่อนที่เขากับหนูจะทะเลาะกันประมาณ 2 – 3 วัน พ่อเขามาพูดกับเขาจริงๆจังๆ ว่าให้เขาห่วงอนาคตตัวเองก่อน เรื่องนี้ยังไม่ต้องมีก็ได้ เขาเลยไม่มีทางเลือก ที่ผ่านมาหนูเข้าใจเขาว่าเขาต้องยอมพ่อตลอด เพราะพ่อเขาค่อนข้างเข้มงวดและกดดันมากๆ ตอนแรกหนูก็ต้องยอมรับสภาพ แต่หลังจากที่เลิกกัน 2 – 3 วันเราก็ยังคุยกัน เลยให้เขาลองไปเปิดใจคุยกับพ่อ แต่พ่อเขาก็ยังยืนคำเดิม จนเขาโทรไปปรึกษาแม่ เขาขอร้องแม่ให้ไปคุยกับพ่อให้หน่อย เพราะตัวหนูกับตัวเขาเองไม่ได้อยากเลิกกัน และค่อนข้างยอมรับได้ยาก เพราะการเลิกกันครั้งนี้มันไม่ใช่การตัดสินใจของเราสองคน เมื่อวานที่ผ่านมาพ่อเขาก็บอกว่า ให้มีได้ แต่ถ้าไม่รู้หน้าที่ตัวเองก็ให้เลิก ซึ่งก่อนหน้านั้นหนูพยายามที่จะให้เขาพิสูจน์ตัวเอง เพราะหนูไม่ทำให้เขาเสียอนาคตแน่นอน เวลาเขาไปซ้อม ไปแข่งหนูก็ไม่เคยไปขัดเขาเลย และหนูก็บอกฝั่งทางบ้านหนูด้วยว่าหนูคบอยู่กับน้องคนนี้ๆ หนูก็มีการชวนให้น้องมากินข้าวกับที่บ้านหนู แต่พ่อเขาก็ยังไม่ยอม ถึงจะมีแม่หนูด้วย เขาก็ไม่ไว้ใจ ทุกวันนี้พ่อเขายังยอมรับไม่ได้ว่าแฟนหนูมีหนู เหมือนแค่ยอมจำนน เพราะแม่ของแฟนไปพูดให้ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูพอจะแก้อะไรได้บ้าง หรือ พอจะช่วยอะไรแฟนได้บ้าง? เพราะเขาไม่พูดเรื่องนี้กับหนูเลย เขาบอกว่าเขากลัวหนูไม่สบายใจเวลาพูดเรื่องพ่อเขา และอยากช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเขาให้ดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องเลิกกับหนู’ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ต้องทำตามพันธะสัญญาที่หนูให้ไว้กับพ่อเขาว่าหนูจะทำให้แฟนหนูไปเป็นนักบอลตามที่พ่อเขาฝัน จะไม่หือ ไม่อือ ไม่ขัด หรือทำทุกอย่างเพื่อรั้งอนาคตเขาเลย เพราะพ่อเขาคิดว่าหนูคืออุปสรรคในการเป็นนักบอลของลูกเขา เพราะฉะนั้นที่เขายังยอมให้มีหนูได้ เป็นแฟนได้ หนูต้องทำทุกอย่างให้เขาเห็นว่าหนูไม่ทำให้เขาเสียอนาคต’ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ซีต้องเข้าใจเส้นทางนักกีฬาอาชีพ ชีวิตมันต้องสูญเสียอะไรไปเยอะเหมือนกัน ทั้งชีวิตส่วนตัว เวลาว่าง หรือแม้กระทั่งชีวิตวัยเด็ก จะไม่ค่อยได้ไปมีแฟน หรือไปดูหนัง และไม่ใช่แค่พ่อเขาที่กดดัน แต่เป็นตัวเขาด้วยที่กดดันตัวเอง ส่วนเรื่องการจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเขาดี ระหว่างมีเราอยู่ ซีก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเพื่อนต่างเพศที่สนิทที่สุด การมีซี ดีกว่าไม่มี เช่น เราต้องไม่ทำตัวมีปัญหา’ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในวันที่เขายังอายุ 15 เขาอยู่ใต้หลังคาบ้านของพ่อเขา เขาต้องทำตามกฎของพ่อ อันนี้คือเรื่องธรรมชาติที่สุด พ่อเขาเลี้ยงลูก ถึงเราจะไม่ชอบ แต่นั่นก็คือกฎของบ้านเขา เพราะฉะนั้นหนูสามารถเป็นเชียร์หลีดเดอร์ให้เขาได้ คือ หนูจะต้องไม่ทำให้คนกลางอึดอัด ไม่บั่นทอนให้จิตใจเขาระส่ำ พร้อมจะเผชิญกับทุกสถานการณ์’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

08 ส.ค. 2025

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดียังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อนสัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี เพราะถ้าหนูทำตามที่พ่อบอกพ่อหนูก็อายุมากแล้ว สอนอะไรก็หลงๆลืมๆ สอนไม่เป็น ทุกคนคิดว่าควรจะเริ่มพูดกับคุณพ่อยังไงดีคะ? “คุณพี (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากไปทำงานหาประสบการณ์ข้างนอก ก่อนที่จะมาบริหารกิจการที่บ้าน แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย โดย “คุณพี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตัวหนูเองเป็นนักศึกษาจบใหม่ และที่บ้านก็เป็นครอบครัวคนจีน คุณพ่อมีบริษัทที่อยากจะให้มารับช่วงต่อ ในช่วงเวลาที่ได้เรียนจบใหม่ๆ หนูก็เริ่มทำงานกับที่บ้านเลย แต่ความกดดันหลายๆอย่างทำให้รู้สึกว่า ยังทำได้ไม่ดี รวมกับว่าที่คุณพ่ออายุมากแล้ว มีหลายครั้งที่ท่านเกิดอาการหลงๆลืมๆทำให้สอนงานได้ไม่ต่อเนื่อง หนูเลยตัดสินใจว่า จะไปทำงานที่อื่นก่อน แล้วค่อยเก็บประสบการณ์กลับมาทำงานที่บ้าน พอปรึกษาคุณแม่ ท่านก็เห็นด้วยกับสิ่งที่หนูจะทำ แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย ท่านอยากให้เราทำที่บ้านเลย เขาบอกว่าสามารถสอนเราได้ แต่ระยะเวลามันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หนูก็เห็นแล้วว่า หนูควรจะได้ประสบการณ์จากที่อื่นมากกว่า ท่านรู้ตัวถึงอาการหลงๆลืมๆของตัวเอง บางทีที่จะอยากจะสอนงาน ท่านก็ลืมว่าจะสอนอะไร คนในบริษัทคนอื่นก็ไม่สามารถสอนแทนได้ในส่วนของท่าน ประเภทงานที่บ้านของหนูทำ เป็นโรงงาน นำเข้าส่งออก ด้วยความที่หนูเรียนไม่ตรงสาย บางครั้งก็ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรท่าน แล้วหนูก็ได้งานแล้ว ที่ยื่นสมัครไปเป็นโรงงานนิคม ทำหน้าที่ล่าม เอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก โรงงานของคุณพ่อเป็นกิจการเล็ก ยังไม่ค่อยมีระบบ หนูไม่ชอบ เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก เลยอยากที่จะมีประสบการณ์ก่อน เพื่อมาพัฒนา ระบบตรงนี้ หนูอยากจะปรึกษาพวกพี่ว่า หนูตัดสินใจแล้วว่าจะไป ควรอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจยังไงดี ว่าหนูไม่ได้ทิ้งกิจการที่บ้าน แค่อยากมีประสบการณ์มากพอ ที่จะกลับมาช่วยที่บ้าน’ โดยทั้ง ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘การที่จะออกไปทำข้างนอก ต้องรีบทำให้ไว ครูพักลักจำให้มาก อาจจะเหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อย ด้วยความที่เรียนไม่ตรงสาย หวังว่าทางที่พีเลือกไป จะสามารถนำมาปรับใช้กับกิจการที่บ้านได้จริงๆ มีโอกาสเรียนรู้ ควรเรียนรู้ให้มาก แต่เส้นทางที่เลือก เป็นเส้นทางที่ดี ควรตั้งเวลาให้กับคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อสบายใจ ว่าเราจะไม่ทิ้งกิจการ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ แฟนหนูเป็นชาวต่างชาติ เค้าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ออกจากที่ทำงานมหาลัยมาแล้ว ประเด็นคือ มีนักศึกษาผู้หญิงคนนึง ส่งข้อความมาหาแฟนเราตลอด แฟนก็พูดถึงเด็กคนนี้ตลอดให้เราฟัง มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติไหม? แฟนบอกคุยทุกวันเพราะเอ็นดูเฉยๆ

20 พ.ค. 2025

อยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ แฟนหนูเป็นชาวต่างชาติ เค้าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ออกจากที่ทำงานมหาลัยมาแล้ว ประเด็นคือ มีนักศึกษาผู้หญิงคนนึง ส่งข้อความมาหาแฟนเราตลอด แฟนก็พูดถึงเด็กคนนี้ตลอดให้เราฟัง มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติไหม? แฟนบอกคุยทุกวันเพราะเอ็นดูเฉยๆ

“คุณโดนัท (นามสมมติ)” อายุ 40 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาสามีเป็นครู แต่มีลูกศิษย์ที่สนิทกันเกินไป จนเรารู้สึกระแวง โดย “คุณโดนัท (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘สามีหนูเป็นชาวต่างชาติอายุจะ 50 ปีแล้ว เราแต่งงานกันมาได้ 10 กว่าปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ หนูกับสามีทำงานที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ทางแผนกของเขาจะมีการรับนักเรียนมาฝึกงาน แล้วก็เหมือนเขาเป็นเจ้านายโดยตรง และก็มีช่วยเหลือทั่วไป แต่จะมีนักเรียนอยู่คนนึงที่หนูรู้สึกว่าช่วยเหลือกันมาไปนิดนึง ทั้งช่วยพาไปสมัครต่างๆ หรือพาไปหาอะไรกิน เพราะนักเรียนคนนี้มาจากต่างประเทศ อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัวอยู่ที่นี่ เขาอายุประมาณ 20 ต้นๆ เพราะเขามาเรียนปริญญาโทส่วนตัวของสามีหนู เขาเป็นคนชอบช่วยเหลือคน เพราะเขาจะรู้สึกว่าดีกับตัวเขาเองที่ได้ช่วยเหลือ และตัวเด็กนักเรียนเขาก็มาขอความช่วยเหลือบ่อย ทั้งเรื่องงานด้วย และเรื่องส่วนตัวด้วย ถ้าครั้งไหนที่เขารู้สึกไม่สบายใจเขาก็จะมาปรึกษาสามีหนู บางที Long Weekend เด็กก็ไม่มีอะไรทำ สามีเขาก็ชวนไปเที่ยว ชวนมากินข้าว มาเล่นกับลูกที่บ้าน หรือถ้าเป็นช่วงวันพ่อ นักเรียนก็จะมีการ์ดวันพ่อให้สามีหนู และวันเกิดของสามีปีที่แล้ว นักเรียนคนนี้ก็ซื้อเสื้อโค้ทมาให้ หนูเลยถามว่าราคาเท่าไร ทำไมเสื้อดูดีมากเลย เขาบอกประมาณร้อยเหรียญครึ่ง หนูก็ตกใจ เพราะมันเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก แต่ก็พยายามไม่คิดอะไร ตอนนี้สามีของหนูก็ย้ายไปทำงานอีกแผนกนึงแล้ว จากสถานะหัวหน้างานกับนักเรียนก็กลายเป็นสถานะเพื่อนกัน เขาก็ยังคุยกันอยู่ ช่วงนี้นักเรียนคนนี้กำลังจะเรียนจบ เขาก็หางาน ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ครอบครัวกดดัน สามีหนูก็พยายามคุยและปลอบเขา แต่เขาก็ยังให้หนูดูโทรศัพท์ ว่าไม่ได้คุยกันเชิงชู้สาว แต่ที่คุยกันเพราะเป็นห่วง เอ็นดูเหมือนลูกคนนึง ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีสนิทกับนักเรียนคนอื่นเลย แต่เขาเคยเล่าให้ฟัง สมัยวัยรุ่นเขาก็มีเพื่อนเยอะ แต่พอเขาโตขึ้นและมีครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว เขาก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อ ไม่มีเพื่อน เขาแค่ชอบช่วยเหลือคน และพอมีเด็กคนนี้เข้ามาที่เป็นทั้งเด็กต่างชาติ มาคนเดียว และไม่ค่อยมีเพื่อน เขาก็เลยต้องคอยช่วยเหลือ เวลาเขาจะพาเด็กนักเรียนมาที่บ้านเขาก็จะขอเราก่อนตลอดว่า มาได้มั้ย? หนูก็โอเค ก็ได้ ที่หนูรู้สึกว่ามันเยอะขึ้นเพราะเขาคุยกันทุกวัน ส่งรูปลูกเราไปให้ดูทุกวัน หรือบางทีเด็ก TEXT มา แต่สามีไม่ได้ TEXT ไป เขาก็จะแบบเป็นอะไรรึป่าว? หนูก็เลยคิดว่าถ้าเป็นเพื่อนกัน ต้องสนิทกันขนาดไหน ถึง TEXT หากันบ่อยๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า หรือหนูคิดมากไปเอง เพราะไม่สามารถปรึกษาใครได้ หนูเคยคุยเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งมาก แต่เขาบอกว่าไม่มีอะไร เขาบริสุทธิ์ใจ แต่หนูเป็นคนคิดมาก ถึงสามีบอกว่าไม่มีอะไร แต่หนูก็ยังคิดมากอยู่ดี หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูคิดไปเอง หรือ แบบนี้มันปกติมั้ย แล้วทำยังไงไม่ให้คิดมากคะ? ซึ่ง “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่รู้ว่าสามีโดนัทอดีตเขาเป็นยังไง เขามีปมหรือไปเจออะไรมา แต่ถ้าเขาเป็นคนที่มีพลังมากมาย ชอบดูแล ช่วยเหลือคนอื่น แนะนำให้ไปทำอาสาสมัครเลย และอีกอย่างขึ้นอยู่กับการสื่อสารของคุณโดนัทกับสามีว่าสามารถทำได้ตรงแค่ไหน หรือทำให้เขาเห็นว่าเราคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าพื้นฐานสามีโดนัทเป็นคนชอบดูแล เทคแคร์คนอยู่แล้ว มันก็น่าจะพอเข้าใจได้ แต่ถ้าอยู่ๆ มาเป็นแบบนี้เลย มันก็อาจจะแปลกไป แต่ระวังไว้ก็ไม่น่าจะเสียหาย ขอแค่เวลาที่เขาทำอะไรให้อยู่ในสายตาเราเสมอ’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าให้ผมคิด ผมว่ามันอาจจะปกติ รู้สึกว่าอยู่ฝั่งไม่แปลกละกัน แต่ผมไม่กล้าฟันธง เพราะมันเป็นคนละวัฒนธรรมกับบ้านเรา แต่เท่าที่สัมผัสอาจารย์ต่างประเทศจะใกล้ชิดกันมากกว่า ด้วยความที่เขาเป็นต่างชาติ ความคิดเขาอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากกว่าอยากช่วยเหลือคนๆนึงที่โดดเดี่ยว แต่จำไว้ว่า เราไว้ใจคนของเราได้ แต่อย่าไปไว้ใจคนอื่น เรามีสิทธิ์ที่จะจับตาดู มีสิทธิ์ที่ทดสอบ มีสิทธิ์ที่จะไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นเราต้องคุยกันตรงๆ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แฟนหนูชอบเล่าเรื่องพี่ที่ทำงานคนนึงให้หนูฟังตลอด วันนี้พี่เขาไปไหน ทำอะไร ซื้ออะไรมาใหม่ เขาก็จะเล่าให้หนูฟัง หนูกับแฟนเป็นรักทางไกล นานๆทีได้เจอกัน แต่ทุกครั้งที่เราได้คอลกัน คุยกัน ในบทสนทนาก็จะมีเรื่องผู้หญิงคนนี้ตลอด

02 ก.ย. 2025

แฟนหนูชอบเล่าเรื่องพี่ที่ทำงานคนนึงให้หนูฟังตลอด วันนี้พี่เขาไปไหน ทำอะไร ซื้ออะไรมาใหม่ เขาก็จะเล่าให้หนูฟัง หนูกับแฟนเป็นรักทางไกล นานๆทีได้เจอกัน แต่ทุกครั้งที่เราได้คอลกัน คุยกัน ในบทสนทนาก็จะมีเรื่องผู้หญิงคนนี้ตลอด

แฟนหนูชอบเล่าเรื่องพี่ที่ทำงานคนนึงให้หนูฟังตลอด วันนี้พี่เขาไปไหน ทำอะไรซื้ออะไรมาใหม่ เขาก็จะเล่าให้หนูฟัง หนูกับแฟนเป็นรักทางไกล นานๆทีได้เจอกันแต่ทุกครั้งที่เราได้คอลกัน คุยกัน ในบทสนทนาก็จะมีเรื่องผู้หญิงคนนี้ตลอดแต่ผู้หญิงคนนี้เขาก็มีแฟนแล้วนะคะ หรือ หนูคิดมากไปเอง หลังๆมานี้ ไม่ได้แค่เล่าให้ฟังแล้วเขาขับรถไปรับ นั่งมาทำงานด้วยกันบ่อยๆ จะทำยังไงให้เขาเลิกพูดถึงผู้หญิงคนนี้สักทีโดยที่เราเองจะดูเป็นคนรักที่ไม่งี่เง่าเกินไป เพราะเขาอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเฉยๆก็ได้... “คุณเจ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาที่แฟนชอบเอาเรื่องของรุ่นพี่ในที่ทำงานมาเล่าเยอะเกินไป จนเรารู้สึกว่าเขาไม่สนใจเราและไม่ชอบใจเท่าไหร่ โดย “คุณเจ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 6 ปี หนูกับแฟนอยู่คนละจังหวัดกัน แต่ละเดือนจะเจอกันแค่ประมาณ 2-3 ครั้ง แฟนชอบเล่าเรื่องของพี่ที่ทำงานให้ฟังทุกวัน แฟนหนูเขาทำงานที่นี่มาก่อน แล้วรุ่นพี่เขามาทำงานทีหลัง เขาสนิทกันเพราะว่าเขาอยู่ห้องพักใกล้กัน แฟนหนูเป็นผู้หญิง พี่เขาก็เป็นผู้หญิง เขาไปทำงานและกินข้าวด้วยกันทุกวันแบบนี้มาประมาณ 1 ปี แรก ๆ แฟนหนูเขามาชมพูดเขาให้ฟังว่าพี่เขาเก่ง มีอะไรแฟนหนูก็จะปรึกษาพี่คนนี้ตลอด หนูก็ดีใจเพราะก่อนหน้านี้แฟนหนูไม่ค่อยสนิทกับคนในที่ทำงาน แต่พักหลังแฟนหนูชอบมาเล่าให้ฟังว่าพี่เขาเป็นยังไง ซื้อของอะไรมาใหม่ แล้วก็เล่าว่าพี่เขาพาไปดูน้ำหอมกัน หนูเคยพูดเรื่องน้ำหอมกับแฟนไปหลายครั้งมาก แต่เหมือนเขาไม่เคยสนใจ จนกระทั่งพี่คนนี้เขาพูด เขากลับก็สนใจขึ้นมาเลย หนูเลยคิดว่าทำไมเขาไม่สนใจสิ่งที่หนูพูดบ้าง เพราะหนูก็เคยพูดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่หนูไม่เคยบอกเขาว่าหนูไม่ชอบแล้วก็ไม่ได้อยากฟังเรื่องของพี่คนนี้ อย่างล่าสุดหนูเคยส่งร้านอาหารไปให้เขาดูว่าอยากกินร้านนี้ แต่เขาไปกินกับพี่คนนั้นแทนที่ีจะไปกินกับหนู หนูแค่ไม่ชอบที่แฟนเอาเรื่องของคนอื่นมาเล่าให้เราฟัง หนูไม่กล้าพูดกับเขากลัวว่าเขาจะหาว่าเราคิดเล็กคิดน้อย กลัวเขาจะเสียใจ อยากรู้ว่าจะทำยังไงดีให้หนูสบายใจขึ้น?’ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องยินดีไปกับเขาว่าเขาเจอคนที่สนิทมากคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเจอในที่ทำงาน พี่ว่าคบกันมา 6 ปี พูดตรง ๆ ได้เลยว่า เราเชื่อมั่นในตัวเขา แต่การกระทำของเขาทำให้เรารู้สึกสำคัญน้อยลงเรา แต่ไม่ถึงกับต้องให้เขาเลิกคบกัน เราอาจจะต้องลองมาปรับความสัมพันธ์ของเรากันใหม่ แต่พี่ว่าสุดท้ายควรต้องพูด’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะบอกว่าไม่ต้องพูด แล้วเก็บศัตรูให้ใกล้ตัวที่สุด ถ้าวันหนึ่งเขาพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นมามันก็เป็นไปได้ อย่างน้อยเขาก็เล่าให้เราฟังตลอด แต่ถ้าเจรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรจริง ๆ แต่เรื่องนี้มันกวนใจมันก็เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะมีหึงหวงกันบ้าง ถ้าคบกับด้วยความเข้าใจ เขาก็คงเข้าใจแหละ สุดท้ายมันก็ต้องช่วยกันหาทางออก’ และสุดท้าย “ดีเจอ้อม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยสนิทกับใคร พอเขามีเพื่อนเขาเลยอยากเล่าให้เราฟัง ก็บอกกับเขาไปตรง ๆ เลยว่า เรายินดีกับเขานะที่มีเพื่อนร่วมงานที่ดี แต่ช่วยเราลดเรื่องของเขาให้น้อยลงหน่อย แล้วหันมาพูดเรื่องของเราสองคนให้มากขึ้น แล้วความสัมพันธ์ของเราก็จะดีขึ้นด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1