อยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ แฟนหนูเป็นชาวต่างชาติ เค้าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ออกจากที่ทำงานมหาลัยมาแล้ว ประเด็นคือ มีนักศึกษาผู้หญิงคนนึง ส่งข้อความมาหาแฟนเราตลอด แฟนก็พูดถึงเด็กคนนี้ตลอดให้เราฟัง มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติไหม? แฟนบอกคุยทุกวันเพราะเอ็นดูเฉยๆ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

อยู่กับแฟนที่ต่างประเทศ แฟนหนูเป็นชาวต่างชาติ เค้าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ออกจากที่ทำงานมหาลัยมาแล้ว ประเด็นคือ มีนักศึกษาผู้หญิงคนนึง ส่งข้อความมาหาแฟนเราตลอด แฟนก็พูดถึงเด็กคนนี้ตลอดให้เราฟัง มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติไหม? แฟนบอกคุยทุกวันเพราะเอ็นดูเฉยๆ

20 พ.ค. 2025

            “คุณโดนัท (นามสมมติ)” อายุ 40 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาสามีเป็นครู แต่มีลูกศิษย์ที่สนิทกันเกินไป จนเรารู้สึกระแวง

            โดย “คุณโดนัท (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘สามีหนูเป็นชาวต่างชาติอายุจะ 50 ปีแล้ว เราแต่งงานกันมาได้ 10 กว่าปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ หนูกับสามีทำงานที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ทางแผนกของเขาจะมีการรับนักเรียนมาฝึกงาน แล้วก็เหมือนเขาเป็นเจ้านายโดยตรง และก็มีช่วยเหลือทั่วไป แต่จะมีนักเรียนอยู่คนนึงที่หนูรู้สึกว่าช่วยเหลือกันมาไปนิดนึง ทั้งช่วยพาไปสมัครต่างๆ หรือพาไปหาอะไรกิน เพราะนักเรียนคนนี้มาจากต่างประเทศ อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัวอยู่ที่นี่ เขาอายุประมาณ 20 ต้นๆ เพราะเขามาเรียนปริญญาโท

ส่วนตัวของสามีหนู เขาเป็นคนชอบช่วยเหลือคน เพราะเขาจะรู้สึกว่าดีกับตัวเขาเองที่ได้ช่วยเหลือ และตัวเด็กนักเรียนเขาก็มาขอความช่วยเหลือบ่อย ทั้งเรื่องงานด้วย และเรื่องส่วนตัวด้วย ถ้าครั้งไหนที่เขารู้สึกไม่สบายใจเขาก็จะมาปรึกษาสามีหนู บางที Long Weekend เด็กก็ไม่มีอะไรทำ สามีเขาก็ชวนไปเที่ยว ชวนมากินข้าว มาเล่นกับลูกที่บ้าน หรือถ้าเป็นช่วงวันพ่อ นักเรียนก็จะมีการ์ดวันพ่อให้สามีหนู และวันเกิดของสามีปีที่แล้ว นักเรียนคนนี้ก็ซื้อเสื้อโค้ทมาให้ หนูเลยถามว่าราคาเท่าไร ทำไมเสื้อดูดีมากเลย เขาบอกประมาณร้อยเหรียญครึ่ง หนูก็ตกใจ เพราะมันเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก แต่ก็พยายามไม่คิดอะไร

            ตอนนี้สามีของหนูก็ย้ายไปทำงานอีกแผนกนึงแล้ว จากสถานะหัวหน้างานกับนักเรียนก็กลายเป็นสถานะเพื่อนกัน เขาก็ยังคุยกันอยู่ ช่วงนี้นักเรียนคนนี้กำลังจะเรียนจบ เขาก็หางาน ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ครอบครัวกดดัน สามีหนูก็พยายามคุยและปลอบเขา แต่เขาก็ยังให้หนูดูโทรศัพท์ ว่าไม่ได้คุยกันเชิงชู้สาว แต่ที่คุยกันเพราะเป็นห่วง เอ็นดูเหมือนลูกคนนึง ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีสนิทกับนักเรียนคนอื่นเลย แต่เขาเคยเล่าให้ฟัง สมัยวัยรุ่นเขาก็มีเพื่อนเยอะ แต่พอเขาโตขึ้นและมีครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว เขาก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อ ไม่มีเพื่อน เขาแค่ชอบช่วยเหลือคน และพอมีเด็กคนนี้เข้ามาที่เป็นทั้งเด็กต่างชาติ มาคนเดียว และไม่ค่อยมีเพื่อน เขาก็เลยต้องคอยช่วยเหลือ

            เวลาเขาจะพาเด็กนักเรียนมาที่บ้านเขาก็จะขอเราก่อนตลอดว่า มาได้มั้ย? หนูก็โอเค ก็ได้ ที่หนูรู้สึกว่ามันเยอะขึ้นเพราะเขาคุยกันทุกวัน ส่งรูปลูกเราไปให้ดูทุกวัน หรือบางทีเด็ก TEXT มา แต่สามีไม่ได้ TEXT ไป เขาก็จะแบบเป็นอะไรรึป่าว? หนูก็เลยคิดว่าถ้าเป็นเพื่อนกัน ต้องสนิทกันขนาดไหน ถึง TEXT หากันบ่อยๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า หรือหนูคิดมากไปเอง เพราะไม่สามารถปรึกษาใครได้ หนูเคยคุยเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งมาก แต่เขาบอกว่าไม่มีอะไร เขาบริสุทธิ์ใจ แต่หนูเป็นคนคิดมาก ถึงสามีบอกว่าไม่มีอะไร แต่หนูก็ยังคิดมากอยู่ดี หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูคิดไปเอง หรือ แบบนี้มันปกติมั้ย แล้วทำยังไงไม่ให้คิดมากคะ?

            ซึ่ง “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่รู้ว่าสามีโดนัทอดีตเขาเป็นยังไง เขามีปมหรือไปเจออะไรมา แต่ถ้าเขาเป็นคนที่มีพลังมากมาย ชอบดูแล ช่วยเหลือคนอื่น แนะนำให้ไปทำอาสาสมัครเลย และอีกอย่างขึ้นอยู่กับการสื่อสารของคุณโดนัทกับสามีว่าสามารถทำได้ตรงแค่ไหน หรือทำให้เขาเห็นว่าเราคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าพื้นฐานสามีโดนัทเป็นคนชอบดูแล เทคแคร์คนอยู่แล้ว มันก็น่าจะพอเข้าใจได้ แต่ถ้าอยู่ๆ มาเป็นแบบนี้เลย มันก็อาจจะแปลกไป แต่ระวังไว้ก็ไม่น่าจะเสียหาย ขอแค่เวลาที่เขาทำอะไรให้อยู่ในสายตาเราเสมอ’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าให้ผมคิด ผมว่ามันอาจจะปกติ รู้สึกว่าอยู่ฝั่งไม่แปลกละกัน แต่ผมไม่กล้าฟันธง เพราะมันเป็นคนละวัฒนธรรมกับบ้านเรา แต่เท่าที่สัมผัสอาจารย์ต่างประเทศจะใกล้ชิดกันมากกว่า ด้วยความที่เขาเป็นต่างชาติ ความคิดเขาอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากกว่าอยากช่วยเหลือคนๆนึงที่โดดเดี่ยว แต่จำไว้ว่า เราไว้ใจคนของเราได้ แต่อย่าไปไว้ใจคนอื่น เรามีสิทธิ์ที่จะจับตาดู มีสิทธิ์ที่ทดสอบ มีสิทธิ์ที่จะไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นเราต้องคุยกันตรงๆ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

06 ก.ย. 2024

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

“คุณเก๋ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [4 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนทำให้รู้สึกไร้ตัวตน โดย “คุณเก๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่มีตัวตนในพื้นที่ส่วนตัวของแฟน คือช่วงวันเกิดของหนูที่ผ่านมาเค้าลงสตอรี่ แต่หนูมารู้ทีหลังช่วงหลังวันเกิดหนูว่าเค้าซ่อนสตอรี่ 200 กว่าคน และเค้าก็ไม่เคยโพสต์รูปหนูในไอจีเลย หนูไม่เคยไปเจอเพื่อนเค้า มีแต่เค้ามาเจอเพื่อนหนูครอบครัวหนู ซึ่งหนูรู้ว่าการคบกันมันคือเรื่องของคน 2 คน แต่เรื่องตอนนี้มัน 2 คนจริง ๆ หรอ? เราไม่ได้มองอนาคตเหมือนกันหรอ? เค้าเองก็ตอบหนูทุกครั้งว่าเค้าอยากมีอนาคตไปกับหนู แต่สถานการณ์มันดันเป็นแบบนี้ และหนูก็เคยคิดว่าหนูเป็นน้อยเค้า ด้วยความที่เค้าซ่อนสตอรี่จำนวนมากประมาณ 200 กว่าคน ในนั้นก็จะมีเพื่อนเค้า แฟนเก่าเค้า คนรอบข้างแฟนเก่าเค้า ครอบครัวเค้า หนูก็เคยขอดูโทรศัพท์เค้าแต่ก็ไม่เจออะไรเลย หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ถ้าในมุมของคนอื่น ๆ ถ้าเจอความสัมพันธ์แบบนี้จะทำยังไง?’ ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เค้าไม่ปล่อยอย่างเดียว หนูเองก็ไปไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูเป็นมนุษย์ที่อดทนอยู่ ถ้าหนูไม่ไหวก็ออกมาพี่พูดได้เท่านี้ ถ้าไหวก็สู้ แต่อย่าให้ถึงขึ้นเป็นซึมเศร้า ป่วย เกิดอะไรในใจแล้วท้อ ถ้าหนูว่างที่จะทนหนูทนเลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่พี่เจอแบบนี้พี่ไปแน่นอน สมัยหนุ่ม ๆ พี่ก็เคยเจออะไรแบบนี้ ถ้าเป็นพี่ที่เห็นว่าความสัมพันธ์นี้มันแปลก ๆ พี่จะไปเลย อย่าให้เราต้องไปเสียทรงกับเค้า เพราะถ้าความสัมพันธ์มันใช่มันจะไม่ยาก แต่สุดท้ายชีวิตมันก็เท่านั้น มันรู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่มันออกมาไม่ได้ก็ทน พอมันเป็นเรื่องคนอื่นพี่พูดได้แหละ แต่ถ้าเราเจอเองเราอาจจะทนกว่าเก๋ก็ได้ เพราะงั้นถ้าไหวก็เช็คตัวเองบ่อย ๆ ดูใจตัวเองบ่อย ๆ จนวันที่เราไม่เอาแล้วเดี๋ยวมันจะมีทางไปของมันเอง แต่ 26 แล้วก็อย่าไปเสียเวลากับอะไรตรงนั้นมาก’ และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ามีคนมาทำให้เรารู้สึกไม่มีค่า พี่จะไม่ไหว เหมือนมันจะทุเรศตัวเอง แล้วมันจะหยุดเอง ตอนพี่อายุเท่าเก๋มีก็เคยเป็น แต่แพทเทิร์นแบบนี้มันก็จะจบเหมือนกันหมดแหละ พวกพี่เคยเป็นมาแล้ว อย่าหวังเพราะคิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นที่พี่ทนเพราะพี่คิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และส่วนใหย่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับคนต่อไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก

02 ก.ย. 2025

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้านคนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก แต่หนูกลับรู้สึกว่าไม่โอเคเลยที่แม่ทำแบบนี้ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้คะ?? “คุณหลง (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาแม่ชอบเอาเรื่องเราไปพูดให้คนอื่นรอบตัวฟัง จนเรากดดัน กลัวจะทำไม่ได้ โดย “คุณหลง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า “แม่ชอบเอาเรื่องหนูไปเล่าให้คนอื่นฟัง คือหนูมีแพลนที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศแต่ยังไม่ได้ไป ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัว อย่างเดือนหน้าหนูต้องไปฝึกงานก่อนแล้วค่อยไปสัมภาษณ์กับบริษัทต่างประเทศอีกที ซึ่งตามแพลนคือจะได้ไปประมาณกลางปีหน้า แต่แม่ก็ไปพูดให้เพื่อนที่ทำงานแล้วก็เพื่อนบ้านฟัง วันนั้นหนูไปหาแม่ที่บริษัท แม่ออกมากับเพื่อน แล้วแม่ก็บอกให้หนูเล่าให้เพื่อนของแม่ฟังว่า หนูจะไปทำอะไร ที่ไหน และไฟลท์บินเป็นอย่างไร ซึ่งด้วยความที่หนูรู้สึกว่าถ้าไม่บอกจะเสียมารยาทก็เลยต้องจำใจเล่าไป ทั้ง ๆ ที่ตัวหนูไม่โอเคมาก ๆ เลยที่จะต้องไปบอกแผนชีวิตของหนูให้คนอื่นฟัง มันเลยทำให้หนูกดดันขึ้นมาก ๆ เพราะหนูเป็นคนที่คิดเยอะและคิดมากตลอดเวลา หนูกลัวว่าถ้าหนูทำแพลนนี้ไม่สำเร็จแล้วสิ่งที่แม่ไปพูดเม้าท์ โอ้อวดไว้จะทำให้คนมองหนูยังไง ถึงมันจะมีโอกาสสูงถึง 80% ที่ได้ไปก็ตาม แต่มันก็ทำให้หนูกดดันในตัวเองมาก ๆ เหมือนกัน หนูเข้าใจแม่แต่แค่อยากให้มันประสบความสำเร็จก่อน คือถ้าจะเอาหนูไปเม้าท์ไปพูดหนูไม่ว่าเลย แต่หนูอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว แม่เพิ่งมาเป็นแบบนี้ตอนหนูเข้ามหาลัยเพราะตอนปี 2023 หนูมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ แล้วเหมือนเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้เพราะคนแถวบ้านไม่ได้ไป หนูรู้ว่าก็เป็นความภูมิใจของเขานั่นแหละ หนูดีใจมากแต่ทำไปทำมาแม่ก็เอาเรื่องนี้มาพูดเยอะเกินไปจนอึดอัด หนูไม่สบายใจ หนูเคยคุยกับแม่หลายครั้งแล้วว่าไม่โอเค ให้หนูทำให้เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันก่อนได้มั๊ยแล้วค่อยพูด แม่ก็รับปากทุกครั้งเลยแต่เขาทำไม่ได้ ล่าสุดเรื่องเกิดก็ขึ้นเมื่อวานเลย ขนาดหนูเป็นลูก พูดตรง ๆ แล้วเขายังไม่ฟังเลย ไม่ยอมปรับมายเซ็ทด้วย หนูก็เลยคิดว่าคงต้องปรับที่ตัวหนูเองแล้วแหละ แถมตอนนี้มีการสร้างรายได้ใหม่ที่เป็นการทำคลิปรีลลงแอปฟ้า ซึ่งแม่ก็เอาเรื่องหนูไปเล่าในนั้นด้วยว่าหนูทำอะไร ที่ไหน อย่างไรอยู่ หนูก็เคยพูดกับแม่เรื่องความปลอดภัยไปแล้วแต่แม่ก็บอกว่าให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนได้มั๊ย ให้แม่ได้สร้างรายได้ก่อน หนูก็เลยไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว หนูก็เลยอยากรู้ว่าหนูควรจัดการกับความคิดตัวเองยังไง?” เริ่มต้นที่ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าพื้นฐานนิสัยหลงกับแม่อาจจะไม่เหมือนกัน หลงเป็นคนที่ต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยภูมิใจ ไม่อยากพูดออกไปก่อน กลัวฝันเก้อเพราะมีหน้า ที่ต้องรักษา แต่แม่ก็มีหน้า ที่ต้องรักษาเหมือนกัน การที่เขาพูดเขาก็ได้หน้าแต่ไม่อยากให้ใช้คำว่าเม้าท์เพราะเป็นความหมายลบ พี่มองว่าแม่พูดด้วยความภาคภูมิใจไม่ใช่เรื่องไม่ดี แล้วมันเป็นความฝันของแม่อีก ยังไงมันก็คือความภูมิใจ ถ้าปิดหมู่บ้านได้แม่คงทำไปแล้ว ในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดแม่ไม่ได้และเหมือนยากที่จะเปลี่ยนด้วย เราจำกัดข้อมูลที่แม่ต้องรู้ได้มั๊ย หรือใช้ศิลปะในการพูดกับแม่ หลงใช้เงินแม่ก็จริงแต่บางแผนที่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินก็เล่าคร่าว ๆ ได้’ ต่อไป “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่กลัวหลงกดดันมากเกินจนมีผลต่อสิ่งที่หลงกำลังทำอยู่ว่ามันต้องสำเร็จเท่านั้น หลงก็ต้องพยายามคิดให้ได้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลงตั้งใจกับมัน แล้วท้ายที่สุดถ้า 80% นั้น ดันไม่สำเร็จขึ้นมา ก็เป็นความผิดพลาดในชีวิตซึ่งมันคือเรื่องปกติ ไม่อยากให้ความคิดของแม่หรือคนรอบตัวมากดดันเรา ต้องตัดออกไปให้ได้อย่าเอาปัจจัยอื่นที่ไร้สาระมาคิด และคงหาวิธีรับมือแบบประนีประนอม ถ้าเพื่อนแม่มาถามก็จะตอบแค่ความจริงแต่ไม่ลงรายละเอียด แล้วก็พูดไปเลยว่าหนูก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ป้าก็อย่าไปเชื่อแม่มาก ป้าเขารู้แหละแต่อย่างน้อยเราก็ได้ออกตัวแล้ว ลองนำประเด็นความกดดันและความคาดหวังไปคุยกับแม่อีกรอบ แม่อย่ามาคาดหวังในตัวเราเพราะมันอาจจะเป็น 20% ที่ไม่สำเร็จก็ได้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะพูดกับแม่ว่า โอ๊ยย แม่ก็ช่างเล่าเนอะ จะได้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้เลย แค่นี้ แล้วไม่ต้องเล่าอะไรเลยด้วยซ้ำ เป็นบทสนทนาที่คลายความกดดัน และมันมีวิธีที่จะรับมือกับความกดดันต่อหน้าคนอื่นอีกมากมายเลย ต้องทำให้ทั้งหมดไม่กดดัน พี่เชื่อว่าคนเรามีหลายโอกาสซึ่งนี่เป็นเพียงโอกาสแรกที่เข้ามาก็เท่านั้น ถ้าพลาดมันก็ยังมีโอกาสที่สอง สาม สี่ อีก ซึ่งหลงได้ไปต่างประเทศมาแล้ว ในแง่ของการสมัครงานถือว่าเป็นพอร์ตที่ดี ซึ่งเป็นอาวุธติดตัวถ้าพลาดขึ้นมาโอกาสก็ยังมีอีกมากมายที่ให้หลงได้เดินตามไป อย่ากดดันตัวเอง ส่วนแม่คือเปลี่ยนยากแล้วเพราะแม่ก็คาดหวัง เราก็ต้องจับเข่าคุยกันว่าให้แม่เผื่อใจไว้ด้วย เผื่อใจไว้อายบ้าง แต่หนูไม่อาย แม่ก็ต้องแฟร์ด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

08 ส.ค. 2025

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดี ยังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อน สัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี

คุณพ่อหนูอยากให้หนูสานต่อธุรกิจโรงงานครอบครัว แต่หนูรู้สึกว่าที่นี่ยังไม่มีระบบการทำงานที่ดียังเป็นโรงงานเล็กๆ ความตั้งใจของหนูอยากจะไปทำงานที่โรงงานใหญ่ๆ ไปเปิดโลก เรียนรู้ก่อนสัก 1-2 ปี กลับมาพัฒนาธุรกิจครอบครัวของหนู แต่จะพูดยังไงให้พ่อเข้าใจดี เพราะถ้าหนูทำตามที่พ่อบอกพ่อหนูก็อายุมากแล้ว สอนอะไรก็หลงๆลืมๆ สอนไม่เป็น ทุกคนคิดว่าควรจะเริ่มพูดกับคุณพ่อยังไงดีคะ? “คุณพี (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ในคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากไปทำงานหาประสบการณ์ข้างนอก ก่อนที่จะมาบริหารกิจการที่บ้าน แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย โดย “คุณพี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตัวหนูเองเป็นนักศึกษาจบใหม่ และที่บ้านก็เป็นครอบครัวคนจีน คุณพ่อมีบริษัทที่อยากจะให้มารับช่วงต่อ ในช่วงเวลาที่ได้เรียนจบใหม่ๆ หนูก็เริ่มทำงานกับที่บ้านเลย แต่ความกดดันหลายๆอย่างทำให้รู้สึกว่า ยังทำได้ไม่ดี รวมกับว่าที่คุณพ่ออายุมากแล้ว มีหลายครั้งที่ท่านเกิดอาการหลงๆลืมๆทำให้สอนงานได้ไม่ต่อเนื่อง หนูเลยตัดสินใจว่า จะไปทำงานที่อื่นก่อน แล้วค่อยเก็บประสบการณ์กลับมาทำงานที่บ้าน พอปรึกษาคุณแม่ ท่านก็เห็นด้วยกับสิ่งที่หนูจะทำ แต่คุณพ่อไม่เห็นด้วย ท่านอยากให้เราทำที่บ้านเลย เขาบอกว่าสามารถสอนเราได้ แต่ระยะเวลามันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หนูก็เห็นแล้วว่า หนูควรจะได้ประสบการณ์จากที่อื่นมากกว่า ท่านรู้ตัวถึงอาการหลงๆลืมๆของตัวเอง บางทีที่จะอยากจะสอนงาน ท่านก็ลืมว่าจะสอนอะไร คนในบริษัทคนอื่นก็ไม่สามารถสอนแทนได้ในส่วนของท่าน ประเภทงานที่บ้านของหนูทำ เป็นโรงงาน นำเข้าส่งออก ด้วยความที่หนูเรียนไม่ตรงสาย บางครั้งก็ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรท่าน แล้วหนูก็ได้งานแล้ว ที่ยื่นสมัครไปเป็นโรงงานนิคม ทำหน้าที่ล่าม เอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก โรงงานของคุณพ่อเป็นกิจการเล็ก ยังไม่ค่อยมีระบบ หนูไม่ชอบ เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก เลยอยากที่จะมีประสบการณ์ก่อน เพื่อมาพัฒนา ระบบตรงนี้ หนูอยากจะปรึกษาพวกพี่ว่า หนูตัดสินใจแล้วว่าจะไป ควรอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจยังไงดี ว่าหนูไม่ได้ทิ้งกิจการที่บ้าน แค่อยากมีประสบการณ์มากพอ ที่จะกลับมาช่วยที่บ้าน’ โดยทั้ง ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจพี่อ้อม’ ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘การที่จะออกไปทำข้างนอก ต้องรีบทำให้ไว ครูพักลักจำให้มาก อาจจะเหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อย ด้วยความที่เรียนไม่ตรงสาย หวังว่าทางที่พีเลือกไป จะสามารถนำมาปรับใช้กับกิจการที่บ้านได้จริงๆ มีโอกาสเรียนรู้ ควรเรียนรู้ให้มาก แต่เส้นทางที่เลือก เป็นเส้นทางที่ดี ควรตั้งเวลาให้กับคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อสบายใจ ว่าเราจะไม่ทิ้งกิจการ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า “ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้ว แต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม?

20 พ.ค. 2025

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า “ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้ว แต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม?

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี เขาคือแฟนคนแรกของหนู ตอนนี้เขาเพิ่งบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลว่า“ขออยู่คนเดียวที่ผ่านมาเขาให้หนูเป็นที่ 1 ในทุกเรื่อง ตอนนี้ขอเวลาเลือกตัวเองก่อนบ้าง” รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของหนูพังลงแล้วแต่เขายังทักมาถามว่าเราโอเคไหม? ยังเป็นห่วงเราอยู่ คนเราจะเลิกกัน ทั้งๆที่ยังรักกันอยู่ได้จริงๆหรอคะ? “คุณเจ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาความรัก 10 ปีที่ไปกันไม่รอด และเลิกกันทั้งๆที่ยังรัก โดย “คุณเจ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่สมัยเรียน ระยะเวลารวม 10 ปี เขาเป็นแฟนคนแรก เป็นทุกอย่างของชีวิตทั้ง แฟน เพื่อน พี่ น้อง เขาคอยซัพพอร์ตหนูทุกอย่างที่อยากทำ คอยตามใจ พาไปกิน พาไปเที่ยว รับ-ส่งถึงบ้าน คอยให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง คบกันมาเรื่อย ๆ จนถึงทำงาน มันยังไม่ได้มีเรื่องอะไรที่รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนไปหรือเลิกกัน ส่วนตัวหนูเป็นคนขี้หึง ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงและวีน ช่วงทำงานปีแรกๆ หนูค่อนข้างจับผิดคนที่ทำงานของแฟน ทุกครั้งถ้าเห็นแจ้งเตือนของเพศตรงข้าม หนูก็จะชักสีหน้าหรือหงุดหงิด จนกลายเป็นความไม่พอใจของหนูเอง และเราก็ทะเลาะกัน แต่หนูก็เชื่อใจและเข้าใจว่าแฟนคงไม่มีอะไร หนูเคยเข้าไปดูแชทของเขากับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งในมุมมองคนอื่นอาจจะมองว่าเป็นคนเฟรนด์ลี่สองคนคุยกัน แต่มุมมองของหนู หนูไม่ชอบ เพราะนี่คือแฟนของหนู ทำไมต้องคุยหรือทำแบบนี้กับแฟนคนอื่น? เพื่อนร่วมงานของแฟนคนนี้เขาเป็นคนที่ช่วยเหลือเรื่องงาน อยู่แผนกเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน เขาเลยปรึกษาเรื่องงานกัน บ้านเป็นทางผ่านก็อาจจะมีติดรถไป-กลับด้วยกัน ปฏิกิริยาของแฟนตอนหนูแสดงอาการ แรกๆแฟนหนูเขาจะอธิบายว่าไม่มีอะไรเลย แล้วก็ง้อและโอ๋ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะแฟนเขาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไร เวลาผ่านไปหนูแสดงอาการบ่อยขึ้น แฟนก็เริ่มหงุดหงิด อารมณ์เสียบอกว่า “อีกแล้วหรอ เรื่องคนนี้อีกแล้วหรอ เราอยู่กับแบบสงบ ๆ ไม่ได้หรอ ทำไมต้องเอามาเป็นประเด็น” พอเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นความประสาทของหนูเอง เริ่มท็อกซิกใส่แฟน จากที่เขาทำงานเหนื่อย เครียดเรื่องงาน เครียดหลาย ๆ อย่างรอบตัว พองานหนักขึ้นทุกปีก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ หนูก็ยิ่งท็อกซิกขึ้น งอแงใส่แฟน พอเห็นแจ้งเตือนก็จะเริ่มตึง จากที่เขาวางแพลนว่าวันนี้จะดูซีรีส์ เล่นเกม ทำกิจกรรมร่วมกัน พอหนูหงุดหงิดก็จะเริ่มเงียบ ไม่เล่น ไม่มีอารมณ์ร่วม จะเสียเวลาครึ่งวันนั้นไปเลย แฟนก็เลยตัดปัญหาโดยการปิดการแจ้งเตือนเวลาอยู่กับหนู แต่พอเขาปิด หนูก็อยากเป็นโคนันอยู่ดี พอความสัมพันธ์ผ่านไป 7 ปี หนูก็เริ่มปล่อยวาง ไม่สนใจแล้ว เวลาหนูหงุดหงิดแฟนจะคอยเตือนว่าอารมณ์เป็นปัญหาที่เราจะต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน หนูก็เลยปรับตัว เงียบขึ้น ปล่อยวางเรื่องเล็กน้อย เพื่อให้มีเรื่องกระทบกันน้อยที่สุด จะได้อยู่กันแบบสงบ จนช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ หนูจะไม่ค่อยทักแฟนไปช่วงทำงานเพราะรู้ว่างานเขาหนัก และเขาไม่ว่าง หนูก็จะรอให้แฟนทักมาเอง ด้วยความคิดที่ว่าถ้าแฟนทักมาแปลว่าเค้าว่าง ถ้าเราทักไปแฟนอาจจะยังไม่สะดวก หนูจะได้ให้แฟนโฟกัสกับงานอย่างเต็มที่ หลังจากที่เจย้ายออกจากบ้านแฟนมาอยู่บ้านตัวเอง เลยทำให้เราห่างกัน แต่พอช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาบอกเลิกหนู ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากโฟกัสตัวเองบ้าง อยากให้ความสำคัญกับตัวเอง เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาแฟนให้หนูเป็นอันดับ 1 เสมอ เขาอยากโฟกัสว่าจริงๆตัวเองต้องการอะไร? หนูขอโอกาสจากแฟน “ไม่ไปได้มั๊ย ไม่เลิกกันได้มั้ย” เขาบอกว่าเขาก็ไม่ได้อยากเลิก แต่ไม่อยากทำร้ายเราต่อไป เขายังรักหนูนะ ไม่อยากยื้อไว้ให้เราสองคนยิ่งเจ็บ แต่อนาคตเราก็อาจจะมาคบกันอีกก็ได้ หลังจากเลิกกันอาทิตย์นึงไป เขาก็ยังทักมาถามทุกวันเป็นระยะ หนูเริ่มไม่แน่ใจว่าที่ทักมาเพราะแฟนรู้สึกผิดที่บอกเลิก หรือรักและเป็นห่วงเรากันแน่ ตัวเขาเองบอกว่ายังรักเราอยู่ เขาเป็นห่วงเรา ถึงเขาจะไม่สามารถเทคแคร์เราได้ แต่เค้าไม่สามารถปล่อยให้เราจมอยู่คนเดียวได้ ที่ผ่านที่หนูพยายามปรับปรุงตัว เขาบอกว่าเขาเห็นว่าหนูพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอด เห็นว่าเราน่ารักขึ้น แต่พอยิ่งเราเติมเต็มเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดที่รู้สึกกับเราแบบนั้น ส่วนนึงไม่รู้ว่ามาจากการที่หนูถามเรื่องอนาคตบ่อยเกินไปหรือเปล่า หรือเปรียบแฟนตัวเองกับแฟนคนอื่นเพียงเพราะอยากรู้ว่าในอนาคตของเขามีหนูอยู่มากน้อยแค่ไหน การที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน หนูเลยไม่รู้ว่าอนาคตเขาวางแพลนไว้ มีหนูอยู่ในอนาคตของเขาหรือเปล่า แล้วเวลาหนูถามเขาก็จะบอกว่า ไม่ใช่ไม่อยาก แต่ก็เห็นอยู่ว่าสภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นยังไง ภาระทางบ้านเขาค่อนข้างเยอะ แต่หนูไม่ได้ต้องการคำตอบชัดๆ หรือเขาจะโกหกหนูก็ได้ว่าในอนาคตแฟนก็มีเจอยู่ แต่เจก็ไม่ได้เซ้าซี้ ตอนนี้หนูก็รอเขาอยู่ หนูยอมรับว่าเป็นคนเริ่มทำให้มันแย่ และความสะสมของเขาที่ผ่านมามันทำให้รู้สึกแย่กับเจ สำหรับหนู เขาเป็นคนดี เป็นคนที่หนูรัก หนูก็ยังรักอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่พอต้องห่างกันก็ยังตัดใจไม่ได้ เขาก็ยังทักมา ยังคงเป็นห่วงว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง ทุกอย่างยังเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนสรรพนามเท่านั้น ถ้าเขาไม่ทักมาก็กระวนกระจายใจ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูรู้สึกสับสนว่าจะต้องทำยังไงดี ระหว่างรอเค้าต่อไปหรือมูฟออนออกไป? ดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ได้ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ไม่ต้องไปตามหาเหตุผลของการเลิกกัน เพราะคนที่จะเลิกกันคงหาหลายเหตุผลมาบอกเรา มันเป็นความลับที่ไม่มีทางรู้ แม้เค้าจะพูดออกมาก็ไม่มีทางรู้ในใจเค้า คิดไปก็เจ็บ เจควรยอมรับความจริงว่าวันนี้เค้าไม่ได้รักเราเหมือนเดิม’ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘ตามจิตวิทยาคนที่ถูกบอกเลิกเป็นเรื่องธรรมดาที่ช่วงแรก จะไม่อยากยอมรับความจริง เป็นการปฏิเสธ เรายังรักกันอยู่ เราไม่ได้เลิกกัน อนาคตอาจจะกลับมาเจอกันอีกก็ได้ จากเหตุผลที่เขาพูดมาว่า “เดิมให้เจเป็นที่หนึ่ง แล้ว ณ วันนี้อยากดูตัวเองบ้าง” นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเลิกกับใครสักคน แฟนสามารถดูแลเราให้เป็นที่หนึ่ง แล้วก็ดูแลตัวเองได้ด้วย ไม่เป็นปัญหา แต่จะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อเราไม่ได้รักเขาแล้ว มันอาจจะเป็นแค่ประโยคที่ถูกคิดมาหลายวันเพื่อให้คนที่ถูกบอกเลิกรู้สึกดีที่สุด ทุกคนดูแลตัวเองทุกวันอยู่แล้ว พอเวลาผ่านไปเจจะเริ่มยอมรับความจริงได้ เข้าใจแล้วว่าเลิกกันแล้วจริง ๆ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาต่อไป การโดนบอกเลิก มันก็จะหนักหนาหน่อย ยิ่งคบกันมานานสิบปี หายไปใครก็เหวอ แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่เป็นเจ้าของโลกของเรา แฟนเป็นแค่หนึ่งในสามเองแล้วอีกสองในสามที่ไม่เคยมีเขาเราโตมาได้ยังไง เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากว่าเราเป็นคนผิดหรือเปล่า ชีวิตเจอาจจะไม่มีวันได้รู้เหตุผลเลยก็ได้ ใช้ชีวิตให้พ้นเป็นวันต่อวัน ถ้าวันนี้เศร้าก็แค่ร้องไห้ ถ้าอึดอัดก็หาเพื่อนระบาย แล้วค่อยเข้าสู่กระบวนการเยียวยาด้วยวิธีการต่าง ๆ ต่อไปแล้วมันจะค่อย ๆ ดีขึ้น’ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘ไม่ว่าจะรักกันกี่ปีคนเราหมดรักกันได้ ของเจยังโชคดีที่มีสถานการณ์แบบนี้ให้รู้สึกว่าเราเคยรักกัน ตอนนี้อาจจะโหดร้าย เจต้องเปลี่ยนความคิดที่ว่าอยู่บนโลกนี้โดยที่ไม่มีเขาไม่ได้ เพราะเจอยู่ได้ ทุกคนอยู่ได้ ยกเว้นคนคิดสั้น ถ้าทำใจได้เมื่อไหร่ ก็อยากบอกว่าอย่าให้ใครเป็นโลกทั้งใบของเรา เพราะถ้าวันใดมันถล่มก็จะเป็นเหมือนวันนี้’ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ‘เรื่องราวในอดีตปัญหาส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการสื่อสาร ถ้าไม่ได้พูดกันบางทีมันก็สะสม แต่พูดมากไปก็ไม่พอดี แต่เท่าที่ฟังฝั่งผู้ชายก็ต้องตัดเลยอย่ายึกยัก ไม่ต้องส่งข้อความมาแสดงความเป็นห่วง ถ้าเราตั้งใจเลิกแปลว่าเราตั้งใจเปลี่ยนสถานะ บางทีอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่พร้อม ทำให้เจยังอาลัยอาวรณ์ สุดท้ายนี้…เจต้องชัดเจนก่อนว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร จะรอก็ได้ รอแบบไม่มีความหวังใช้ชีวิตไปวัน ๆ ก็ได้ หรือตั้งใจที่จะมูฟออน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัดใจแต่มูฟไปอยู่ในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เห็นคุณค่าของตัวเอง ถ้าเป็นพี่ พี่เชียร์ให้มูฟออนเพื่อสร้างเวอร์ชั่นใหม่ของตัวเอง แฟนจะกลับมาหรือไม่ ไม่ต้องไปสน ถ้าเขากลับมาเจอเราเวอร์ชั่นใหม่ เราอาจจะเป็นคนเลือกเองว่าได้ว่าเราไม่พอดีกัน หรือเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่มีคนเข้ามาหา หรือเอนจอยกับการอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่ว่าจะคบกี่คนเราก็สะดุด การเริ่มต้นสดใหม่เสมอ เป็นไปไม่ได้ที่ความรักจะไม่เจ็บ มันจะเจ็บทางใดทางหนึ่งเสมอ ลองหากิจกรรมอื่นทำ หรือหาเพื่อนที่รับฟังเรามากขึ้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1