เจอแต่ผู้ชาย “โปรไฟล์ดีๆ” รู้สึกดี แต่พอถึงขั้นจะต้องจริงจัง นัดเจอ หนูกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าเจอ เพราะ แอบเข้าไปส่อง IG ส่องโปรไฟล์เขามาแล้ว ก็คิดไปเองว่า เราไม่คู่ควรกับเขาเลย 4 คนแล้ว ที่เรารู้สึกแบบนี้

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เจอแต่ผู้ชาย “โปรไฟล์ดีๆ” รู้สึกดี แต่พอถึงขั้นจะต้องจริงจัง นัดเจอ หนูกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าเจอ เพราะ แอบเข้าไปส่อง IG ส่องโปรไฟล์เขามาแล้ว ก็คิดไปเองว่า เราไม่คู่ควรกับเขาเลย 4 คนแล้ว ที่เรารู้สึกแบบนี้

31 ม.ค. 2025

เจอแต่ผู้ชาย “โปรไฟล์ดีๆ” รู้สึกดี แต่พอถึงขั้นจะต้องจริงจัง นัดเจอ หนูกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าเจอ

เพราะ แอบเข้าไปส่อง IG ส่องโปรไฟล์เขามาแล้ว ก็คิดไปเองว่า เราไม่คู่ควรกับเขาเลย 4 คนแล้ว

ที่เรารู้สึกแบบนี้ จะสร้างความมั่นใจให้ตัวเองกล้าอยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจังยังไงดีคะ?

            “คุณน้ำตาล (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาความไม่มั่นใจในตัวเองที่ส่งผลต่อความรัก ความสัมพันธ์

            โดย “คุณน้ำตาล (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองมาก ๆ จนกระทบต่อชีวิตและความสัมพันธ์ หนูเคยเลิกกับผู้ชายมาแล้ว 4 คน เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขา ตั้งแต่เด็ก ครอบครัวเลี้ยงหนูให้พึ่งพาตัวเอง ไม่ซัพพอร์ตเรื่องที่มองว่าไม่จำเป็น เช่น การเที่ยวเล่นหรือการซื้อของฟุ่มเฟือย ฐานะที่บ้านก็เป็นฐานะปานกลาง แต่หนูก็ต้องหาเงินเองมาตลอด และหนูก็เริ่มมองคนที่ประสบความสำเร็จ สวยๆ รวยๆ และเก่งๆ เพราะหนูอยากเป็นแบบนั้น รู้สึกว่าการมีเงินทำให้ชีวิตดีขึ้น

            ซึ่งหนูมองว่าความคิดนี้มันก็ดี เพราะผลักดันให้หนูพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด เพราะตอนที่เราเริ่มมีเงิน ชีวิตมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ  จริงๆ แต่ข้อเสียคือ หนูจะชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ดูดีและมีพร้อมทุกอย่าง จนเกิดความรู้สึกด้อยค่าตัวเอง รู้สึกซึมไปเลยว่าเราจะมีแบบนี้ได้มั้ย แล้วทำไมเราถึงไม่มีชีวิตแบบนี้? ต่อให้หนูจะมีแล้ว แต่หนูรู้สึกว่ามันยังไม่พอ เท่าไรก็ไม่พอ หนูอิจฉาคนที่มีอาชีพดี ชีวิตสบาย และครอบครัวที่ซัพพอร์ตโดยไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องลำบาก

            พอหนูเข้าใกล้ช่วงเรียนจบ หนูก็สร้างฐานะของตัวเองได้ในระดับที่ไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อน มีบ้าน มีรถ และเริ่มมีคนที่มีฐานะดีเข้ามาจีบ แต่พอความสัมพันธ์เริ่มจริงจัง หนูกลับคิดมาก เริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับสังคมและเพื่อนรอบข้างของเขา แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองสวยไม่พอ ฐานะปานกลาง หนูรู้สึกแย่มาก หนูเลยเลือกที่จะถอยห่างและหายไปแบบเงียบ ๆ เพราะไม่อยากคิดมากซ้ำ ๆ เป็นแบบนี้กับคนที่เข้ามาถึงสี่ครั้งแล้ว

            จนมาถึงช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา หนูได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งผ่านแอปฯ แล้วก็คุยกัน เลยได้แลก IG กัน หนูก็แอบอึ้งเพราะเขามีผู้ติดตามเยอะ และเป็นนักกีฬาระดับประเทศ มีหน้าตาดี จนเพจต่าง ๆ เอาไปลง และมีแฟนคลับสาว ๆ กรี๊ดเยอะ แรก ๆ หนูไม่ได้คิดอะไรมาก คุยกันตามปกติ แต่พอได้ลองพูดคุยจริง ๆ หนูกลับรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดีมาก ทั้งเรื่องฐานะ การงาน ปัญหาชีวิต รวมถึงความสัมพันธ์เก่า ๆ ของเขา เขากล้าเปิดใจและคุยกันจนหนูรู้สึกสบายใจมาก ไลฟ์สไตล์ก็ตรงกัน จนมันถึงในจุดๆนึงที่เขาอยากเจอหนู แต่ความรู้สึกเดิม ๆ ของหนูก็กลับมาอีก หนูเริ่มกังวล หนูรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่พร้อม หนูก็เลยหาข้ออ้างมาเรื่อยๆที่จะไม่ไปเจอเขา เขาเองก็เริ่มรู้สึกไม่ดีที่หนูเป็นแบบนี้ สุดท้ายความสัมพันธ์เราก็เริ่มห่างกันไป ต่างคนต่างหาย

            หลังจากนั้น หนูลงสตอรี่แล้วเขาตอบกลับมา เราเลยกลับมาคุยกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หนูรู้สึกว่าเราเข้าใจกันมากกว่าเดิม จนถึงจุดที่ต้องเจอกันอีกครั้ง แต่หนูยังไม่มั่นใจเหมือนเดิม หนูก็ยังคงหาข้ออ้างไม่ไปหาเขาเหมือนเดิม หนูกังวลเพราะเพื่อนของเขาสวยมาก สังคมเขาครบมาก หนูกลัวว่าตัวเองจะไม่ดีพอสำหรับเขา หนูกลัวผิดหวัง และสงสัยว่าทำไมเขาถึงมาชอบหนู ทั้งที่คนรอบตัวเขามีแต่คนที่ดูดีและสมบูรณ์แบบ หนูก็เลยอยากจะมาปรึกษาพี่ ๆ ว่า หนูควรทำยังไงถึงจะก้าวข้ามความรู้สึกนี้ไปได้? ถึงจะไม่เจอคนนี้ แต่พอไปเจอคนอื่นต่อไป หนูไม่อยากจะหนีเขาไปอีกแล้ว เพราะเราก็มีโอกาสมาอยู่ข้างหน้าแล้ว’

            เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าความไม่มั่นใจของหนูรุนแรงจนกลัวไปหมด อาจต้องลองปรึกษานักจิตวิทยา เพราะต่อให้หนูไปเจอเขา ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าความสัมพันธ์จะราบรื่น และอย่ากังวลที่เขาจะมีแต่คนสวย ๆอยู่รอบตัว ผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิงสวยทุกคน บางคนมองหาคนที่ใช่ และไม่ใช่แค่เขาที่เป็นฝ่ายเลือก หนูก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน แต่ถ้าความรู้สึกนี้มันฝังลึกจริง ๆ การพบนักจิตวิทยาอาจช่วยได้’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูต้องเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นก่อนเลย เพราะว่าไม่มีทางที่หนูจะสวยที่สุด ดีที่สุด รวยที่สุด เพราะทุกอย่างจะมีขั้นกว่าเสมอ ถ้าหนูเทียบตัวเองกับคนอื่นไปเรื่อย ๆ จะไม่มีวันพอใจในตัวเอง และโลกโซเชียลเต็มไปด้วยภาพที่แต่งมาแล้ว หนูต้องเป็น The Best Version of ตัวเอง และอย่าลืมว่า ถ้าหนูไม่มีอะไรดี ทำไมถึงมีผู้ชายสี่คนมาสนใจ?

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในอีกมุมหนึ่ง คนที่ใช่สำหรับเรา ควรทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า ไม่ใช่ทำให้เราด้อยกว่าคนอื่น บางทีหนูอาจเคยเจอคนที่ดีแล้ว แต่ไม่ได้ให้โอกาสเขา และลอง Social Detox ถ้าหนูรู้ว่าตัวเองเปรียบเทียบกับโซเชียลจนเป็นปัญหา การลดการใช้ลงอาจช่วยให้หนูรู้สึกดีขึ้น‘

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ทุกคนคิดว่า "งานข้าราชการ" มั่นคงกันไหมครับ? ผมเป็นครูอัตราจ้างมาหลายปี แต่โดนคนรอบข้าง และ คนในครอบครัวดูถูกมาว่า "ทำงานมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"

16 ก.พ. 2024

ทุกคนคิดว่า "งานข้าราชการ" มั่นคงกันไหมครับ? ผมเป็นครูอัตราจ้างมาหลายปี แต่โดนคนรอบข้าง และ คนในครอบครัวดูถูกมาว่า "ทำงานมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"

ทุกคนคิดว่า "งานข้าราชการ" มั่นคงกันไหมครับ? ผมเป็นครูอัตราจ้างมาหลายปีแต่โดนคนรอบข้าง และ คนในครอบครัวดูถูกมาว่า "ทำงานมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน"คนอื่นมีบ้าน มีรถกันหมดแล้ว ได้ยินบ่อยๆจนตอนนี้เริ่มท้อ คิดอยากเปลี่ยนอาชีพทั้งที่ยังรักการสอนอยู่ “คุณโอ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 ก.พ 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย นภาพร เกี่ยวกับเรื่องการทำงานข้าราชการ โดย “คุณโอ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานในสายข้าราชการมาประมาณ 5-6 ปี เมื่องช่วงปี 65 ผมตัดสินใจลาออก เพราะไม่ถูกกับผู้บริหาร เพราะผมเคยทำงานในตำแหน่งงานธุรการมาก่อน แล้วได้เลื่อนมาเป็นครูพิเศษสอน ผู้บริหารมักจะพูดกับผมประมาณว่า “เดี๋ยวให้ลงไปเป็นธุรการเหมือนเดิม” พูดแบบนี้กับผมทุกวัน และที่หนักสุดคือ เขาด่าผมว่า “โง่” ต่อหน้าเด็กนักเรียนกลางหน้าเสาธง จนทำให้ผมตัดสินใจลาออก และไปทำงานบริษัทเอกชนในกรุงเทพ 1-2 เดือนต่อมา ผมได้ข่าวว่าผู้บริหารคนนี้ลาออก คุณครูคนเก่าที่โรงเรียนนี้จึงโทรมาหาผม ถามว่า “ยังอยากกลับมาไหม” เพราะผลงานที่ผมทำให้กับโรงเรียนก็ได้มาตรฐาน คุณครูที่โรงเรียนก็เล็งเห็นเลยอยากให้ผมกลับไป ด้วยความที่ผมก็ทำงานสายข้าราชการมาโดยตลอด และรักในความเป็นครู ผมจึงตัดสินใจกลับไป ตอนที่ผมตัดสินใจลาออก จากบริษัทเอกชน ผมก็ได้ไปปรึกษากับหลายคน เริ่มจากคนในครอบครัว ครอบครัวของผมมีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน ผมเป็นคนสุดท้อง พี่ทุกคนต่างทำงานบริษัทเอกชนกันหมด ผมก็มีความคิดประมาณว่า “ต้องมีใครสักคนในครอบครัว เป็นข้าราชการ เพื่อจะได้รับสวัสดิการ” ผมก็เอาเหตุผลนี้ไปบอกกับครอบครัว แต่ครอบครัวก็ไม่เข้าใจ ผมพยายามหาหลาย ๆ เหตุผลมาอธิบาย เช่น “อยู่ไปก่อน เดี๋ยวก็ค่อยไล่สอบ ซึ่งไม่ใช่จะต้องเป็นครูอย่างเดียว งานข้าราชการไหนที่เปิดรับสมัครก็จะพยายามลงสอบให้ได้” พอผมอธิบายแบบนี้ไป ครอบครัวก็บอกว่า “ไหวหรอ เงินเดือนก็น้อย อยู่ได้ไม่นาน มีใต้โต๊ะบ้าง มีทุจริตบ้าง” ซึ่งผมก็บอกว่า “มันเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะทำตัวแบบไหน” และด้วยความที่ว่าอัตราเงินเดือนของผมตอนนี้ มันน้อยกว่าทุกคนในบ้าน เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปม ผมเลยไปปรึกษาเพื่อนที่ทำงานข้าราชการและทำงานเอกชน ผมถามคนที่ทำงานข้าราชการ เขาก็จะบอกข้อดีของการทำงานข้าราชการ ผมไปถามคนที่ทำงานเอกชน เขาก็จะบอกข้อดีของการทำงานเอกชน ย้อนกลับไปตอนที่ผมทำงานบริษัทเอกชน ผมก็ได้มีการเรียนต่อปริญญาโทด้วย พอตอนที่คุณครูที่โรงเรียนตามกลับไปทำงาน ผมก็ลาออกจากการเรียนปริญญาโท แล้วมาเรียนต่อป.บัณฑิต(วิชาชีพครู) และช่วงเดือนธันวาคมผมเรียนจบ ผมก็เลยมีความคิดว่า อยากลาออกแล้วกลับไปทำงานที่บริษัทเอกชนอีก เพราะว่าผมก็อายุ 26 ปี แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ขณะที่พวกพี่ ๆ มีทุกอย่างหมดแล้ว ผมอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจว่าผมควรจะเลือกทางไหนดี? สำหรับคนที่อายุเท่านี้ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ที่พี่รู้คือ ตอนนี้คุณโออยากเป็นครู หรืออะไรก็ได้ที่เป็นราชการ ถ้าเรามี Passion กับเรื่องอะไร ก็อยากให้ทำอันนั้น แต่มันจะมีประโยคที่คุณโอพูดว่า “ต้องมีใครสักคนในครอบครัว เป็นข้าราชการ เพื่อจะได้รับสวัสดิการ” ถ้าเป็นเหตุผลนี้พี่ไม่เห็นด้วย เพราะพี่คิดว่ามันไม่ได้เป็นหน้าที่ใครในครอบครัวที่จะมารับผิดชอบชีวิตคนอื่น คุณโอไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปทำงานข้าราชการ ถ้าคุณโอไม่อยากทำ แต่ถ้าคุณโออยากเป็นครูจริง ๆ เพราะรักในการสอนนักเรียน เป็นครูที่ดี อันนี้พี่เชียร์ให้ทำ แต่ต้องขยัน สอบบรรจุเป็นครูประจำให้ได้ เพราะครูอัตราจ้างยังไม่มั่นคง เงินเดือนก็ค่อนข้างน้อย และไม่อยากให้คุณโอเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น คุณโออยากเห็นตัวเองเป็นอะไร และมีความสุขกับการทำอะไร อันนี้ต่างหากที่สำคัญ’ ต่อมา “ดีเจพี่อ้อย” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่มองว่าไม่ได้เกี่ยวกับข้าราชการหรือเอกชน พี่รู้สึกว่าชอบอะไร ทำสิ่งนั้น แต่ถ้ายังเป็นครูอัตราจ้างอยู่ ก็ไม่ได้สวัสดิการตามนั้น และถ้าคุณโอทำงานบริษัทเอกชน เรายังมีสวัสดิการเรื่องอื่น ๆ ที่เทียบกันแล้วก็อาจจะใกล้เคียงกับสิทธิ์ข้าราชการก็ได้ หรือแม้แต่พี่ ๆ ของคุณโอที่ทำงานบริษัทเอกชน ก็มีเงินเก็บ มีประกันชีวิต ถ้าเราคิดว่าจะต้องดูแลครอบครัว พี่น้องตั้งหลายคนก็ช่วยกัน เรื่องนี้ก็สามารถทำได้ ไม่อยากล็อกไว้แค่ว่า ตกลงเป็นข้าราชการหรือเอกชนเท่านั้น อันไหนถึงจะดี แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเราว่าเป็นงานที่ชอบ เป็นงานที่เรารัก และเป็นงานที่เราพร้อมจะพัฒนาตัวเอง ในที่สุดแล้วเราก็ต้องเลือกงานที่เราชอบก่อน ‘ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ครอบครัวน่าจะเข้าใจผิด เพราะหลายคนที่เลือกรับข้าราชการ ก็เพราะความมั่นคง เรื่องของรายได้ อาจจะสู้เอกชนไม่ได้ แต่ในระยะยาวมั่นคงกว่า เท่าที่พี่เคยคุยกับคนที่ทำอาชีพครู เขาก็บอกว่าครูเอกชน เงินดีจริง แต่เมื่อไหร่ที่คุณมาตรฐานตก หรือมีครูที่มีชื่อเสียงกว่า คุณมีสิทธิ์โดนแทนได้ทุกเมื่อ แต่การที่จะสอบครูข้าราชการมันยาก รับคนไม่เยอะ การที่คนจะไปเป็นครูอัตราจ้างก่อน เพื่อที่จะมีสนามสอบพิเศษ คุณโอต้องประเมินตัวเองก็ว่า อยากเป็นครูจริง ๆ และทำได้ดีในอาชีพครู ช่วงแรกก็คงต้องอดทนไปก่อน จนกว่าจะสอบบรรจุได้ และอยากจะส่งกำลังใจให้ เพราะหาคนที่มีใจรัก ที่อยากเป็นครูจริง ๆ หายาก แล้วผมก็อยากให้มีครูดี ๆ เยอะ ๆ เพราะการศึกษาไทยจะได้พัฒนาขึ้นไปอีก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูไม่สามารถเข้ากับเพื่อนแฟนได้เลย!! ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเพื่อนผู้ชาย หรือ แก๊งเพื่อนผู้หญิง ของแฟน เพราะสิ่งที่หนูเจอ หนูไม่โอเคเลย... 1.ไปเที่ยวกับแก๊งเพื่อนผู้ชายของแฟน เห็นเขาไปลวนลามแฟนของเพื่อนอีกคน ต่อหน้าเรา ตอนแฟนเขาไม่อยู่ มันไม่โอเคเลย

25 ส.ค. 2025

หนูไม่สามารถเข้ากับเพื่อนแฟนได้เลย!! ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเพื่อนผู้ชาย หรือ แก๊งเพื่อนผู้หญิง ของแฟน เพราะสิ่งที่หนูเจอ หนูไม่โอเคเลย... 1.ไปเที่ยวกับแก๊งเพื่อนผู้ชายของแฟน เห็นเขาไปลวนลามแฟนของเพื่อนอีกคน ต่อหน้าเรา ตอนแฟนเขาไม่อยู่ มันไม่โอเคเลย

หนูไม่สามารถเข้ากับเพื่อนแฟนได้เลย!! ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเพื่อนผู้ชาย หรือ แก๊งเพื่อนผู้หญิง ของแฟนเพราะสิ่งที่หนูเจอ หนูไม่โอเคเลย... 1.ไปเที่ยวกับแก๊งเพื่อนผู้ชายของแฟน เห็นเขาไปลวนลามแฟนของเพื่อนอีกคนต่อหน้าเรา ตอนแฟนเขาไม่อยู่ มันไม่โอเคเลย 2.พอไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงของแฟน ก็จะมีคนนึงมาใกล้ชิดสนิทสนม กอดแขนแฟนเราบ่อยเกิน จนเรารู้สึกไม่โอเค ตอนนี้คบกันมาหลายปีแล้ว รู้สึกว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทางมันผิดที่สังคมของแฟน หรือ ผิดที่ตัวหนูเองที่ไม่โอเคกับสิ่งที่หนูเจอมา “คุณฝน (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [20 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเข้ากับแฟนเพื่อนไม่ได้ โดย “คุณฝน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมานานแล้ว และแฟนก็พาไปรู้จักกับเพื่อนๆของเขา อย่างเพื่อนผู้ชายกลุ่มแรก เพื่อนๆเขาก็พาแฟนแต่ละคนมารู้จักกันไว้ มีนัดปาร์ตี้สังสรรค์กัน ค่อนข้างเจอกันบ่อย ในช่วงแรกก็เหมือนจะเข้ากันได้ แต่พอรู้จักกันไปสักพัก ในกลุ่มเนี่ยจะมีกัน 5 คน แต่เหมือนว่าหนึ่งจะไปลวนลามแฟนของสอง ซึ่งคนที่โดนก็ไม่ได้ยินยอม พวกเราก็รู้กันว่า คนนี้ทำแบบนี้กับเพื่อน แล้วหนูก็รู้สึกว่าหนูไม่โอเคกับเรื่องนี้มากๆ ก็เลยบอกแฟนว่า เราเลี่ยงที่จะไม่ไปเจอเขาได้มั้ย แต่แฟนก็ยังไปอยู่ หนูก็เลยปล่อยให้เขาไปคนเดียว ต่อมาแฟนก็พาไปเจอเพื่อนอีกกลุ่มนึง เป็นกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แรกๆก็เหมือนจะเข้าได้ แต่พอล่าสุดที่ผ่านมา ในงานวันเกิดของเพื่อนในกลุ่มนั้น เขาก็ชวนไป แต่พอถึงเวลาที่จะกลับ เพื่อนของแฟนก็มาเกาะแกะแฟนหนู มันทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าตรงนั้นมันไม่น่าอยู่ เราจะไปอยู่ที่ตรงนั้นทำไม แต่แฟนก็ยังคะยั้นคอให้เราไปอยู่ดี พอหลังจากนั้น หนูก็ถ่ายรูปแฟน แต่ติดแขนเพื่อนผู้หญิงคนนั้น ลงสตอรี่ไอจีใส่แคปชั่นว่า ‘เออเอ๊า เอาเข้าไป’ แล้วเหมือนเจ้าของวันเกิด เขาจะเห็น เพื่อนผู้หญิงคนที่เกาะแกะแฟนก็เลยทักมา ‘เออเนี่ยขอโทษที่เมื่อวานไปเกาะแกะ แล้วก็ฝากขอโทษฝนด้วยนะ รู้ว่าไม่โอเค’ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า มันผิดที่หนูเองที่เข้ากับกลุ่มเพื่อนแฟนไม่ได้ หรือมันผิดที่เพื่อนแฟน?’ โดยทั้ง “ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘เป็นเรื่องของการที่รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ไม่ใช่ว่าเราเข้ากับเพื่อนแฟนไม่ได้ แต่สถานการณ์ต่างๆที่เจอ มันคงน่าอึดอัด และเรารับไม่ได้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องเจอ อยู่กับแฟนไป ไม่ต้องฝืนตัวเอง อย่างเรื่องการโพส อาจจะใจเร็วเกินไป คนที่เราควรบอก คือแฟนของเรา ว่าเราไม่โอเค ช่วยห่างๆคนนี้ได้มั้ย ส่วนเรื่องปัญหาระยะไกล คือสังคมแฟนเราแปลกๆ ดูไว้ใจอะไรไม่ได้ เขาอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ แล้วอะไรจะการันตีว่า เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น นอกจากจะศีลเสมอกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แฟนผมเขาลำบากมาก่อน จนตอนนี้ได้งานเป็นเลขา ไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานได้ 2 อาทิตย์ หัวหน้าผู้ชายซื้อของแบรนด์เนมให้ ปลดหนี้ให้หลักแสน ล่าสุด หัวหน้าแฟนผมเมาสารภาพรักกับแฟนผม ตอนนี้ผมกลัวมากว่าเค้าจะใช้เงินซื้อแฟนไปจากผม...

05 ก.ค. 2024

ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แฟนผมเขาลำบากมาก่อน จนตอนนี้ได้งานเป็นเลขา ไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานได้ 2 อาทิตย์ หัวหน้าผู้ชายซื้อของแบรนด์เนมให้ ปลดหนี้ให้หลักแสน ล่าสุด หัวหน้าแฟนผมเมาสารภาพรักกับแฟนผม ตอนนี้ผมกลัวมากว่าเค้าจะใช้เงินซื้อแฟนไปจากผม...

“คุณเอ็ม (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [3 ก.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องแฟนที่ลังเลในความสัมพันธ์ระหว่างเราหลังจากที่หัวหน้ามาสารภาพรัก โดย “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัญหาของผมตอนนี้ คือแฟนผมต้องไปทำงานที่อยู่ไกลกัน ซึ่งตำแหน่งงานของแฟนผม คือเลขา เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องตัวติดกับหัวหน้า 24 ชั่วโมง ทำให้ผมและเค้ามีเวลาติดต่อกันน้อย โดยหัวหน้าคนนี้เป็นคนที่รวยมาก ในวันแรก ๆ ที่แฟนผมไปทำงานหัวหน้าคนนี้ก็ซื้อโทรศัพท์ให้แฟนผม ซื้อของให้หรู ๆ พาไปกินของแพง ๆ แถมยังใช้หนี้ให้แฟนผม ในใจผมก็คิดว่าดีเพราะหัวหน้าดูแลดี แต่บางเวลาก็ต้องอยู่กับหัวหน้าแบบสองต่อสอง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรผมเลยให้แฟนรายงานเวลาไปไหนมาไหนตามประสาแฟน แต่มันทำให้แฟนผมน้อยใจ เพราะก่อนหน้านี้แฟนผมเทคแคร์ เอาใจใส่ผม แต่ผมให้ความสำคัญกับมันน้อย แฟนผมจึงน้อยใจว่าตอนร้องขอทำไมไม่ได้บ้าง อยู่มาวันหนึ่งหัวหน้าของแฟนผมก็เมา แล้วสารภาพกับแฟนของผมว่าแอบชอบแฟนผม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าต่อจากนั้นเป็นยังไงเพราะแฟนผมก็เล่าให้ผมฟังแค่นี้ แต่เรื่องนี้ทำให้แฟนของผมรู้สึกอึกอัดว่าตัวแฟนเองก็มีผมและมีหัวหน้าที่มาสารภาพว่าชอบ บวกกับแฟนผมที่กำลังน้อยใจผมอยู่ก็เครียดขึ้นไปอีก ซึ่งเรื่องราวนี้พึ่งเกิดขึ้นได้แค่ 1 สัปดาห์ แฟนผมจึงเอาเรื่องนี้ไประบายกับหัวหน้า ซึ่งพอหลังจากที่แฟนผมไประบายกับหัวหน้าผมก็รู้สึกว่าทัศนคติแฟนผมเปลี่ยนไป และสนใจผมน้อยลง เช่นเวลาผมลงสตอรี่แล้วแท็กไป แฟนผมก็จะไม่สนใจเหมือนแต่ก่อน เวลาทักไปหาก็ถามคำตอบคำเหมือนไม่อยากคุยด้วย ทั้งที่แต่ก่อนแฟนผมจะเป็นคนที่ลงสตอรี่และแท็กมา แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ผมกังวลว่าแฟนผมจะทิ้งผมไปหาคนที่มีเงินมากกว่ารึเปล่า บวกกับเรื่องที่อยู่ไกลกัน และไม่ค่อยได้คุยกัน ผมเลยอยากให้พี่ ๆ ช่วยประเมินสถานการณ์ว่าต่อไปจะเป็นยังไง และมันจะแก้ไขตรงไหนได้บ้าง เพราะผมเองก็ไม่อยากเสียเค้าไป’ โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สถานการณ์ของเอ็มตอนนี้ พี่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว มันก็คือสถานการณ์ของแฟนที่กำลังนอกใจ แล้วเวลาที่แฟนมีคนอื่น เค้าจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิม และเราในฐานะแฟนเราจะสัมผัสได้ว่าแฟนของเราไม่เหมือนเดิม มันเป็นสัญญาณ พี่ไม่สามารถพูดได้ว่าแฟนของเอ็มไปกับทางนู้นแล้ว 100% แต่มันเป็นสัญญาณของคนที่นอกใจคือเค้าจะเริ่มเป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็อยากให้เอ็มอยู่กับปัจจุบัน แล้วก็สังเกตเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเอ็มกับแฟนมันเป็นยังไง มันยังโอเคอยู่มั้ย ถ้าไม่โอเคต้องพูดคุยกัน แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่มีการพัฒนา หรือแฟนเอ็มกลับมาเป็นเหมือนเดิม เอ็มต้องทำใจค่ะ เราทำอะไรไม่ได้’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้ก็อย่าไปงอแงหรือเพิ่มปัญหา ถ้าแฟนเอ็มออกตัวมาว่าตอนนี้กำลังสับสนวุ่นวาย เราต้องเป็นคนใจเย็นให้เค้าถึงแม่ว่าในใจเราจะว้าวุ่น เราต้องทำให้เค้าอยากจะคุยอยากจะปรึกษากับเอ็มอยู่ แต่ถ้าเอ็มไปงี่เง่าเค้าจะยิ่งไป แต่ในกรณีที่ถ้าเค้าไปอยู่แล้ว มันก็จะทำให้เอ็มแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งพี่ว่าสถานการณ์นี้จะเป็นสถานการณ์ที่วัดคนเลย ถ้าเค้ากลับมาหาเอ็มก็อยากให้เอ็มรักษาคนนี้ไว้นาน ๆ แต่ถ้าเค้าไปก็นะได้รู้ส่าเค้าเป็นคนแบบนี้ เพราะระยะเวลาหนึ่งปีเรายังไม่รู้จักกันมากหรอกเอ็ม ถ้าเราเสียเค้าด้วยเรื่องนี้ไป ก็ถือว่าดีแล้วที่เสียคนแบบนี้ไป’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคำว่ารักแท้แพ้เงินมันก็มีอยู่จริง เราก็ต้องยอมรับว่าบางทีรักแท้มันกินไม่ได้ และเอ็มกับเค้าก็พึ่งเริ่มต้นยังไม่ถึงหนึ่งปี มันก็ไม่ได้บอกว่าเราจะต้องร่วมหัวจมท้ายเป็นคู่ชีวิตกันไปตลอด มันยังไม่ถึงวันนั้น เพราะฉะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ลองดูละครสิละครก็สร้างมาจากชีวิตจริง บางทีชีวิตจริงจริงก็แรงกว่าละครอีก ทั้งหลายทั้งมวลเป็นเป็นเหตุการณ์ที่พิสูจน์ว่าคน ๆ หนึ่งเค้าจะอยู่กับเรารึเปล่า เงื่อนไขมันมีแค่นี้เองว่าเค้าอยากจะอยู่กับเอ็มรึเปล่า ถ้าเค้ามีอะไรที่ทำให้ไขว้เขวแล้วคำตอบเค้าคือ “ฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่กับเอ็มไปตลอดนี่” มันก็ต้องแยกกันแค่นั้นเอง มันก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เอ็มเก็บเลเวลในเรื่องความรัก อดหักบ้างจะได้รู้ว่าความรู้สึกนี้เป็นยังไง ครั้งหน้าพี่เชื่อว่ามันจะแข็งแกร่งมากขึ้น แค่ต้องยอมรับความจริง พี่ว่ามันชัดตั้งแต่ให้เค้าใช้หนี้ให้แล้ว และเลือกที่จะระบายกับหัวหน้าไม่ใช่เอ็ม การที่เราจะเสียคน ๆ หนึ่งไปกับสถานการณ์แบบนี้มันก็เข้าใจได้ คนเรามันก็มีเหตุผลในการตัดสินใจคนละแบบ ณ วันที่ยังวัยรุ่นกันอยู่เค้าก็มีโอกาสที่จะได้เลือกได้ลองได้เจอกับชีวิตที่เค้าอาจจะไม่เคยเจอ เช่น ความหรูหราที่เข้ามา ได้เป็นแฟนซีอีโอ ซึ่งมันเข้าใจได้ ว่า ณ วันนี้เราอาจจะแพ้ แต่เราอาจจะไม่ได้แพ้ตลอด’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ยังไงคะคุณแม๊! คบกับแฟนมา 5 ปี ย้ายไปอยู่บ้านแฟน แต่แม่แฟนใช้ชื่อแฟนเก่า เรียกเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ชื่อไม่เหมือนกันเลย แฟนเก่าแฟนเค้าเคยคบกันมา 7 ปี จนตอนนี้เราอึดอัดย้ายออกจากบ้านแฟนมาแล้ว ล่าสุด แม่เพิ่งแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนใน Facebook ด้วย

22 มี.ค. 2024

ยังไงคะคุณแม๊! คบกับแฟนมา 5 ปี ย้ายไปอยู่บ้านแฟน แต่แม่แฟนใช้ชื่อแฟนเก่า เรียกเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ชื่อไม่เหมือนกันเลย แฟนเก่าแฟนเค้าเคยคบกันมา 7 ปี จนตอนนี้เราอึดอัดย้ายออกจากบ้านแฟนมาแล้ว ล่าสุด แม่เพิ่งแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนใน Facebook ด้วย

“คุณปาล์ม (นามสมมติ)” อายุ 33 ปีสายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [20 มี.ค. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และ ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับแม่แฟนชอบเรียกชื่อเราเป็นแฟนเก่าตลอด โดย “คุณปาล์ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 5 ปี ทุกครั้งที่ต้องไปเจอแม่แฟนหรือพูดคุยกัน เขาจะชอบเรียกชื่อหนูเป็นชื่อแฟนเก่าของลูกชายเขาตลอด ปกติหนูแทนตัวเองว่าหนูตลอด แต่แฟนจะเรียกชื่อของหนู แล้วคุณแม่เขาก็ชอบไปแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนเราด้วย เพราะเป็นรูปที่แฟนเก่าถ่ายกับหลานเขา หลานเป็นลูกของน้องชายแฟนที่แม่เคยเลี้ยง แต่หนูก็พยายามที่จะทำดีด้วย พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตลอด ตอนนี้หนูกับแฟนมีลูกด้วยกันแล้ว และก็แยกบ้านอยู่กับแม่แฟน แต่ก่อนที่จะแยกบ้านแม่เขาเคยพูดว่า ไม่ชอบเด็ก เกลียดเด็ก ไม่อยากได้ยินเสียงเด็ก หนูเลยแยกออกมาอยู่ที่อื่น เพราะหนูคิดว่า 5 ปีแล้วทำไมถึงยังเรียกผิดอยู่ แล้วหนูก็รู้สึกในใจว่าแม่เขาคิดอะไรเพราะแม่ก็อายุแค่ 55 เอง หนูอยากถามพี่ ๆ คิดว่าแม่เขาคิดอะไรไหมแล้วมีวิธีรับมือยังไงบ้าง คำแนะนำจากดีเจเผือก : มันแก้ไม่ได้หรอกกับคนที่ใช้ชีวิตมา 55 ปี มันมีแหละเวลาที่ผ่านไปแล้วจะชนะใจแม่ผัวได้ แต่ก็อย่าไปคาดหวังว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นแบบที่จะต้องรักกันเอ็นดูกัน แต่ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้เราก็ต้องเปลี่ยนที่ความรู้สึกของตัวเองว่าเราอย่าเอาความสุขของเราไปผูกกับปฏิกิริยาของเขามาก แล้วยิ่งได้แยกกันอยู่คิดว่าความปวดหัวมันลดไปเยอะเลยนะ คือจินตนาการว่าถ้ายังอยู่บ้านเดียวกันพวกคำพูดอะไรเหล่านี้คงจะทำร้ายเราแทบจะทุกวัน ซึ่งคำว่าทำร้ายเราต้องเข้าใจก่อนว่าบางทีเขาก็พูดไปเรื่อยนะ มันอาจจะไม่ถูกต้องถูกใจเราแต่บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าเจตนาเขาเป็นแบบไหน เราฟังก็ไม่รู้หรอกว่าคาแรคเตอร์แม่สามีคุณปาล์มเขาเป็นแนวไหนกันแน่ พูดไปเรื่อย ปากร้ายใจดีหรือไม่ชอบหน้ากันจริง ๆ แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณปาล์มอยากเอาชนะใจก็เป็นตัวของตัวเองแหละ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราเชื่อมั่นว่าตัวเราไม่ได้มาร้ายอะไร แล้วเราก็เป็นแม่ของหลานเขา เป็นเมียของลูกเขาวันนึงก็อาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่คุณปาล์มไม่ต้องไปหวังว่าจะดีขึ้นอะไรมากมายเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปอยู่ใกล้อะไรมากมีความสุขกับสามีกับลูกของตัวเอง เดี๋ยวพอเขาอายุสัก 3-4 ขวบ คุณปาล์มก็จะมีความสุขกับลูกมาก เพราะเดี๋ยวเขาเริ่มพูดเอง มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น อะไร ๆ ที่ออกมาจากปากเขามันจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ก็อยู่กับสิ่งที่สร้างความสุขให้เราอะไรที่มันทำให้เรารบกวนจิตใจมากก็เลี่ยง ๆ ไม่ต้องไปเจอ ส่วนเรื่องเรียกชื่อผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ก็แทนชื่อตัวเองไปเลย ถ้ายังผิดอีกก็หายใจลึก ๆ และคิดว่าเขาเป็นแม่ผัวเราแค่นั้นเอง คำแนะนำจากดีเจเติ้ล : พี่เห็นด้วยกับพี่เผือกว่าต้องไม่คาดหวังว่าเขาเรียกเราถูก ทำตัวให้ชินไปเลยว่าถ้าฉันไปบ้านเมื่อไรฉันจะมีอีกชื่อนึง เพราะว่าตอนนี้เราไม่รู้ว่าที่เขาเรียกเพราะเขาหลงลืม เขาติดปากหรือเขาตั้งใจซึ่งคิดไปก็ปวดหัว แต่ตอนนี้หนูออกมาอยู่กับครอบครัวแล้วอะพี่ว่าก็แฮปปี้และที่เขายอมปล่อยออกมา แล้วยิ่งไปคาดหวังก็จะยิ่งเฮิร์ทป่าว ๆ สำหรับพี่ก็แค่คนคนนึงที่เราไม่ได้สนิทอะไรกับชีวิตมากก็ไม่ต้องคาดหวังว่าเขาจะมาจำอะไรเราหรอกสำหรับพี่นะ ถ้ามันจะทำให้พี่ะบายใจอันนี้ตอบแบบจริงใจ ถ้าตอบแบบขำ ๆ ปาล์มลองแทนตัวเองเป็นชื่อที่เขาเรียกไปเลย สมมติเขาเรียกหนูว่ากิ๊ฟ อ๋อค่ะกิ๊ฟก็ว่าอย่างนั้นแหละ ดูสิว่าเขาจะเอ๊ะไหม ถ้าเขาแกล้งจริง ๆ เขาก็คงแบบ อ้าวไม่ได้ชื่อกิ๊ฟแล้วทำไมแทนตัวเองว่ากิ๊ฟอะ ก็ลองดูว่าจะเอายังไง และ คำแนะนำจากดีเจต้นหอม : พี่ว่าแม่ผัวยังไม่ได้ร้ายอะไรมาก มันแค่มีปัญหาเล็กน้อยสำหรับการได้แม่ผัวอย่างนี้ แล้วเขาไม่ยุ่งกับเราคือเป็นบุญที่สุดแล้ว การที่เรามีครอบครัวและแม่ผัวไม่มาวุ่นวายกับเรานี่คือข้อดีที่ใหญ่มากมาทดแทน แต่ถ้าเรื่องนี้มันกวนใจ อันดับที่ 1 คือแทนชื่อตัวเองทุกครั้งแบบที่พี่เผือกบอก แทนตัวเองว่าปาล์มอย่างนู้น ปาล์มอย่างนี้ และอย่างที่ 2 ก็คือพี่เติ้ล ก็เป็นคนนั้นไปเลยไม่ต้องไปคิดว่ามันคือแฟนเก่า แต่มันชื่อซ้ำกันได้ไม่เป็นไรฉันชื่อนี้ได้ กับ 3 แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ไปเลยที่เกี่ยวกับชื่อคุณ ถ้าสุดท้ายแล้วไม่รอดจริง ๆ ก็เปลี่ยนที่ความคิดเราเพราะว่าสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ชั่งน้ำหนักแล้วมันมากกว่าสิ่งเล็กน้อยนี้มาก แล้วให้ลูกเราเรียกว่า แม่ปาล์ม ๆๆ ทุกครั้ง หรือจริง ๆ เขาอาจจะลืมจริง ๆ ก็ได้เพราะเราก็ไม่ได้เจอเขาบ่อยขนาดนั้นเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1