หนูโตแล้ว แค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวคืน... ตั้งแต่เด็กแม่มีรหัส Facebook ของหนู แม่สวมรอย คอมเมนต์ ตอบเพื่อน ทักหาผู้ชายไปทั่ว ขอร้องหนูให้ช่วยวิดีโอคอลกับผู้ชาย 5 นาที ให้ผู้ชายมั่นใจว่าคือหนูจริงๆ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูโตแล้ว แค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวคืน... ตั้งแต่เด็กแม่มีรหัส Facebook ของหนู แม่สวมรอย คอมเมนต์ ตอบเพื่อน ทักหาผู้ชายไปทั่ว ขอร้องหนูให้ช่วยวิดีโอคอลกับผู้ชาย 5 นาที ให้ผู้ชายมั่นใจว่าคือหนูจริงๆ

29 มี.ค. 2024

หนูโตแล้ว แค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวคืน... ตั้งแต่เด็กแม่มีรหัส Facebook ของหนู

แม่สวมรอย คอมเมนต์ ตอบเพื่อน ทักหาผู้ชายไปทั่ว ขอร้องหนูให้ช่วยวิดีโอคอลกับผู้ชาย 5 นาที

ให้ผู้ชายมั่นใจว่าคือหนูจริงๆ พีคสุด นัดครอบครัวผู้ชายมากินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นหนูยังเด็ก ทำตัวไม่ถูกเลย

          “คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 มี.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่สวมรอยเป็นเราไปคุยกับผู้ชายในเฟสบุ๊คจนได้คบกัน ถึงขั้นนัดกันไปกินข้าวกับครอบครัวผู้ชายคนนั้น!

            โดย ​“คุณน้ำ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘มันเริ่มมาจากหนูมีเฟซบุ๊ก น่าจะช่วงวัยประถม ประมาณ ป.4-ป.5 และไม่ได้รู้สึกว่าการที่แม่รู้พาสเวิร์ดหรือเข้าไปอ่านแชทเวลาเราคุยกับเพื่อนเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะตอนนั้นเด็กมาก ๆ เลยคิดว่าแม่คงเป็นห่วง แต่มันกลายเป็นว่าคุณแม่ตอบแชท ตอบคอมเมนท์แทน โดยที่ทำตัวเป็นเราและเป็นอย่างนี้มาเรื่อย ๆ

            จนประมาณช่วง ม.1 โรงเรียนไม่ให้เอาโทรศัพท์ไป เพราะฉะนั้นหนูจะเล่นโทรศัพท์ได้ตอนที่อยู่บนรถ ก่อนจะลงจากรถเข้าโรงเรียน และตอนเลิกเรียน ทีนี้หนูก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้แม่ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน หนูเห็นแล้วว่ามีผู้ชายคนนึงแอดเฟซบุ๊กหนูมา แต่หนูไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่พอหนูกลับมา เฟซบุ๊กผู้ชายคนนั้นหายไป แต่มีแชทที่แบบถามต่อว่า เธอชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ คุณแม่ก็ตอบแทนปกติ แต่หนูมารู้ทีหลังว่า... จริง ๆ แล้วคุณแม่เอาไอดีไลน์ของคุณแม่ให้เขาไป แล้วเขาก็ไปคุยกันในไลน์

            โดยที่คุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะชอบเอารูปลูกสาวหรือลูกชายตั้งเป็นโปรไฟล์ เขาอาจจะรู้สึกว่าไม่ได้แปลกอะไร แต่ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย แล้วมันก็เกินเลยมาเรื่อย ๆ หนูแอบเห็น message ที่เด้งมา ตอนแรกเข้าใจว่าคงคุยกันปกติ แต่ไป ๆ มา ๆ มันเป็นการคุยเหมือนจีบกันเชิงชู้สาว จนมารู้ทีหลังว่าเขาคบกัน คุณแม่ก็มาพูดประมาณว่า ช่วยวิดีโอคอลคุยกับเขาให้หน่อยซัก 5-10 นาทีได้ไหม? ทั้ง ๆ ที่หนูไม่ได้รู้จัก ไม่ได้คุยกับเขาเลย แต่ให้หนูตีหน้าซื่อคุยวิดีโอคอลกับเขา หนูก็คุย ๆ ไปให้มันหมดเวลา แล้วก็วางสาย คุณแม่ก็คุยกันต่อในแชท คุณพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัดกลับมาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่คุณพ่อจับไม่ได้เพราะอาจจะเป็นคนไม่ค่อยเล่นโซเชียล และไม่ค่อยสนใจอะไร เขาก็ดูอินโทรเวิร์ตหน่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่คุยกับคุณแม่เลย

            ตอนหนูอายุ 15 ปี เป็นวันที่หนูต้องเปลี่ยนบัตรประชาชน หนูก็ถ่ายรูปลงมาจากอำเภอปุ๊บ แล้วคุณแม่ก็บอกว่า เดี๋ยวเราไปสยามกัน เนี่ยไปกินข้าวกัน นัดไว้แล้ว หนูก็ถามว่า ไปกินข้าวอะไร เขาก็เลยบอกว่า เขานัดผู้ชายคนนั้นกับครอบครัวเขาไว้แล้ว ต้องไปนะ เพราะว่าเขามาแล้ว หนูก็รู้สึกเหมือนโดนมัดมือชก ตอนนั่งกินอาหารก็คุยกันปกติ หนูอึดอัดมาก จนแบบหนูจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วแม่ของผู้ชายก็บอกผู้ชายคนนั้นว่า เนี่ย ไปกับน้องสิลูก จนหนูคิดว่าไม่ไปดีกว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย

            หลังจากเหตุการณ์วันนั้น หนูก็พยายามที่จะบอกผู้ชาย โดยใช้แอคหลุมไอจีของหนูทักไปเลยว่า เธอรู้ไหมที่คุยกันมาตลอด 4-5 ปี แล้วที่นัดไปเจอเรื่องมันเป็นแบบนี้ ๆ ผู้ชายก็ไม่เชื่อ หนูก็ตั้งกล้องอัดหน้าตัวเองพูดว่า เนี่ย ดูหน้าเอาไว้ แล้วก็จำเสียงไว้ เสียงเราเป็นแบบนี้ พอเขาไม่เชื่อ หนูก็ไม่รู้จะทำยังไงหนูก็ปล่อยเขาไป แล้วเหมือนผู้ชายเริ่มจะรู้ว่านี่คือแอคหลุมของหนู แต่หนูไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจว่าแอคหลุมเป็นของแม่ไหม เพราะหนูคิดว่าผู้ชายมันก็ต้องแคปแชทที่หนูคุยส่งไปให้แม่ แม่ก็คงน่าจะบอกว่า นั่นแม่เราอย่าไปสนใจเลย ฟีลแบบสลับกัน และหนูพยายามหาว่าแม่กำลังจะทำอะไร ก็เลยเริ่มรู้ว่าแม่มีอีกเฟซบุ๊ก มีอีกไอจีนึงที่แม่สร้างเอง เหมือนเป็นอีกโลกที่เอาไว้คุยกับผู้ชายคนนั้น

            ด้วยความที่อยู่กับแม่ที่บ้าน 2 คน ก็เลยไปบอกเขาว่า แม่ทำแบบนี้ไม่โอเคเลยนะ เลิกได้ไหม เขาก็ขำแล้วบอกว่า จะอะไรนักหนาก็คุยกันผ่านแชท ไม่ได้ไปหาเขาสักหน่อย หนูก็เคย message ไลน์ไปบอกคุณพ่อ คุณพ่อก็อ่านแต่ไม่ตอบ แต่พอเวลาผ่านไปเหมือนคุณแม่ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ หนูก็บอกว่า หนูทนไม่ไหวแล้วนะ หนูจะต้องบอกพ่อแล้วนะ เขาก็บอกว่า ครั้งที่แล้วก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าบอกอีกจะเลิกกันแล้วนะ จนปัจจุบันหนูเริ่มมีสังคม มีแฟน หนูควรจะทำยังไง หนูถึงจะเอาพื้นที่ส่วนตัวคืนมา หรือหนูควรจะเปิดเฟซบุ๊กใหม่ไปเลย?

            ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูต้องเรียกแม่มาคุย แล้วการคุยของหนูไม่ได้ถามว่าแม่โอเคไหม หนูต้องบอกโหมดที่แม่จะใช้ชีวิตอยู่กับหนูให้แม่รับทราบ หนูเปลี่ยนพาสเวิร์ดเฟซบุ๊กก่อนที่จะเรียกแม่เข้ามาคุย ให้ทุกอย่างมันเป็นไพรเวทอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา คนอื่นจะเข้ามาก้าวก่ายไม่ได้ เรียกแม่มาคุยเลยว่า...

            1. รับรู้เรื่องความเป็นส่วนตัวของเรา แล้วก็เราไม่ยุ่งเรื่องแม่ แม่ไม่ยุ่งเรื่องเรา อะไรที่เราอยากให้แม่รับรู้หรืออยากให้แม่แสดงความคิดเห็นเราจะบอก 

            2. เรื่องที่แม่แอบอ้างเป็นตัวตนของเราอันนั้นผิด อย่าทำอีก เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าถูกคุกคามแล้วไม่ปลอดภัย

            ถ้าทำทั้งหมดแล้วแม่ยังเป็นแบบนี้อยู่ เรื่องนี้จะเรียกพ่อมาคุย แล้วจะถามความคิดเห็นจากพ่อด้วย และถ้าพ่อกับแม่จะเลิกกัน ไม่ใช่ตัวหนูที่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อ แต่เป็นเพราะแม่ทำตัวแบบนี้ แล้วก็เราจะไม่คอลไลน์กับผู้ชายโดยที่เราหลอกเขา เพราะเท่ากับเราสมรู้ร่วมคิดกับแม่ ถ้าแม่อ้างเหตุผลอะไร ให้พูดไปเลยว่า ไม่ ก่อนที่แม่จะทำอะไร อยากให้แม่ใช้ความคิดมากกว่านี้ อีกนิดแม่จะเข้าข่ายไม่ปกติแล้ว ถ้าแม่ยังเป็นอย่างนี้หรือไม่สามารถขจัดนิสัยแบบนี้ออกไปได้ แม่ต้องปรึกษาแพทย์แล้ว’

            ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘การปลอมตัวเพื่อสวมรอยเป็นใครสักคนเพื่อคุยมันคือการหลอก ผู้ชายโดนเต็ม ๆ พี่ดูสารคดีของเมืองนอกเยอะเกี่ยวกับพวกหลอกลวง สวมรอย แล้วจุดจบมันไม่ค่อยดีทั้งนั้นเลยที่พี่ดู พี่เลยค่อนข้างตกใจ พอคิดตาม ที่มันรู้สึกไม่ปลอดภัยถูกต้องแล้วน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าจะคุยกับแม่ น้ำต้องเด็ดขาดว่านี่มันไม่ใช่แล้ว สิ่งที่แม่ทำ มันอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับลูกสาวตัวเองได้ ถ้าคิดว่าคุยไม่รู้เรื่องก็ปิดเฟสบุ๊คไปเลย ให้เขารู้ว่าเราไม่เอาแล้ว’

            สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ต้องปิดเฟสบุ๊ค ปิดช่องทางทุกอย่างที่เขาจะเป็นหนูได้ แม่ต้องไม่มีตัวตนของหนูอีกต่อไปแล้ว ต้องดูว่าเขาทนได้ไหม ถ้าเขาไม่ไหวต้องพาเขาไปหาหมอ แต่ถ้าไปหาหมอแล้วเขาทำไม่ได้ เขาก็ต้องหย่ากับพ่อ ตอนนี้เขามีพ่อเป็นสามี เขาไม่สามารถไปคุยกับคนอื่นได้ นอกจากเขาต้องหย่า ทีนี้เขาจะคุยกับคนอื่นไม่ว่า แต่เขาก็ต้องห้ามสวมรอยเป็นคนอื่น เขาต้องคุยในฐานะเป็นเขาเอง ถ้าเราอยากให้ปัญหานี้ยุติ ต้องถอนรากถอนโคน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ชอบเจอคนบังคับให้ดื่ม แล้วพูดว่า "ดื่มหน่อยน้อง บรรยากาศจะได้สนุก" แต่เราโดนบังคับแบบนี้ไม่สนุกเลย บางทีไม่เมาก็จอยได้ ทำไงดีไม่ชอบคนแบบนี้เลย

10 พ.ย. 2023

ชอบเจอคนบังคับให้ดื่ม แล้วพูดว่า "ดื่มหน่อยน้อง บรรยากาศจะได้สนุก" แต่เราโดนบังคับแบบนี้ไม่สนุกเลย บางทีไม่เมาก็จอยได้ ทำไงดีไม่ชอบคนแบบนี้เลย

“คุณมิน (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับเรื่องของเพื่อนที่ชอบชวนให้ออกไปดื่ม แต่ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ดื่มเลย กลายเป็นว่าอึดอัดเวลามีคนชวนไปสังสรรค์ โดย “คุณมิน (นามสมมติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘ส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ชอบสังสรรค์ และไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เราทำ ก็มักจะมีรุ่นพี่ในบริษัทชวนออกไปสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง หรือมีบางโอกาสที่ต้องไปร่วมเพราะบริษัทมีจัดเลี้ยงสังสรรค์ ด้วยความที่เราเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดในงาน จึงมักจะเป็นจุดสนใจของทุกคน เพราะทุกครั้งที่เราปฎิเสธก็จะเป็นการไม่รักษาน้ำใจ เพราะเขาก็ชงมาให้เราแล้ว ถ้าไม่ดื่มแล้วใครจะดื่ม หลังจากที่เราทำงานอยู่ที่เก่าได้ประมาณปีกว่า ๆ ก็ย้ายบริษัทออกมาทำงานอีกที่หนึ่งแทน แต่ปัจจุบันก็ยังเจอเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่รู้จัก เวลาชวนออกไปสังสรรค์ก็รู้ว่าไม่ชอบดื่ม แต่ทุกครั้งที่ไปก็มักจะบังคับให้ดื่มทุกครั้ง มันทำให้เรารู้สึกอึดอัดมาก และไม่อยากทำให้บรรยากาศเสีย เราจึงต้องยอมดื่ม ปัญหานี้มันเกิดขึ้นกับเรามาเรื่อย ๆ มันไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานที่ชอบชวนดื่มอย่างเดียว สังคมรอบข้างที่สนิทก็มักจะบังคับให้ดื่มอยู่บ่อยเหมือนกัน วันนี้เลยอยากปรึกษาว่า ดีเจทั้งสามคน มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคนประเภทนี้ ที่ชอบมักจะชวนดื่มอยู่ตลอด พวกเขาต้องการอะไร? เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่กับแค่คนในริษัทอย่างเดียว แต่สังคมรอบข้างที่รู้จักก็มักจะบังคับให้ดื่มเหมือนกัน “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ส่วนตัวพี่เอง ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ไม่สามารถปฎิเสธได้ เพราะก็มักจะปฎิเสธตลอด ตัวเองมีอาการแพ้เหล้า ดื่มไม่ได้ ร่างกายมันต่อต้าน และก็จะบอกไปเลยว่าไม่ชอบดื่ม และตั้งแต่ทำงานเป็นดีเจหรืองานในบริษัท ก็ไม่เห็นมีใครมาบังคับให้ดื่ม แต่ถ้ามีโอกาสไปร่วมงานสังสรรค์ เราก็สามารถเมาดิบได้ สามารถสนุกได้โดยที่ไม่ต้องดื่ม เพราะส่วนตัวพี่ไม่ได้เป็นคนที่ชอบสังสรรค์ เวลาที่ไปก็จะกลับเร็ว จึงแนะนำว่าถ้าจะให้อ้างเหตุผล ก็ควรจะอ้างเรื่องของสุภาพว่า แพ้แอลกอฮอล์ โรคตับ หมอบอกห้ามดื่ม วันก่อนที่ไปค่าตับขึ้น เดี๋ยวเต้นให้แล้วกัน อะไรก็ได้อ้างไป หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือไม่ต้องไปเลย ถ้าจะตกงานเพียงเพราะไม่ได้ดื่มก็หางานใหม่ เพราะในว่ารูปแบบงานบางงาน มันก็มีวัฒนธรรม หรือต้องไปดื่มจริง ๆ คนหมู่มากที่เขาทำงานก็ชอบสังสรรค์เป็นเรื่องปกติ ถามว่าคนหมู่น้อยอยู่ได้มั๊ย มันก็อยู่ได้แหละ แค่เรากล้าปฎิเสธหรือเปล่า หลักแน่นมากพอหรือเปล่า แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ก็หางานใหม่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็อย่าไปยุ่งชีวิตเขา เขาจะเอาอะไรเข้าร่างของเขามันเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะส่วนตัวพี่เองก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบดื่มเหมือนกัน ถึงแม้ในวงการบันเทิงมักจะมีการสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะปฎิเสธตลอด จึงแนะนำว่าให้กล้าปฎิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ดื่ม สัญญากับแม่ว่าจะไม่ดื่ม พี่ชายเคยเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตาย เราไปอยู่ในงานนั้นก็พอแล้ว เราสนุกกับงานได้โดยไม่ต้องกินเหล้า หรือว่าเลี่ยงการไปงานสังสรรค์ไปเลย ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เสนอไปเลย 3 ทางเลือกคือ 1. บอกไปว่าเป็นโรคตับ วันนั้นไปตรวจมา ปรากฏว่าตับอักเสบ ดื่มไม่ได้จริง ๆ ให้ยืนยันเสียงแข็งว่าดื่มไม่ได้ สักวันหนึ่งเขาคงรู้แหละว่าเราไม่ดื่ม 2. ถ้าไม่อยากอยากให้มันเสียบรรยากาศเราก็จิบ ๆ ได้ นั่งสักพักพอทุกคนเริ่มได้ที่แล้ว เราก็แอบหนีกลับบ้านไปเลย 3. ถ้าเราอยากอยู่ทั้งคืน ก็เนียน ๆ ไป เราก็ผสมโคล่าเพิ่มเข้าไป แก้วแรกอาจจะเป็นเหล้าปกติ แก้วต่อไปก็เป็นโคล่าไปอย่างเดียว จะได้ไม่เสียบรรยากาศ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ตลกแXก ของจริง ! หนูมีญาติคนนึง เขาชอบหาวาระยินดีกับครอบครัวหนู พีคสุด หมาบ้านหนูคลอดลูก ขับรถมาหาที่บ้าน บอกว่า ยินดีด้วย วันนี้จะเลี้ยงอะไร? แรกๆมากินคนเดียว หลังๆพาลูกหลานมาด้วย หนักสุดพาเพื่อนข้างบ้านเขามากินฟรีอีก

07 ก.พ. 2025

ตลกแXก ของจริง ! หนูมีญาติคนนึง เขาชอบหาวาระยินดีกับครอบครัวหนู พีคสุด หมาบ้านหนูคลอดลูก ขับรถมาหาที่บ้าน บอกว่า ยินดีด้วย วันนี้จะเลี้ยงอะไร? แรกๆมากินคนเดียว หลังๆพาลูกหลานมาด้วย หนักสุดพาเพื่อนข้างบ้านเขามากินฟรีอีก

ตลกแXก ของจริง ! หนูมีญาติคนนึง เขาชอบหาวาระยินดีกับครอบครัวหนูพีคสุด หมาบ้านหนูคลอดลูก ขับรถมาหาที่บ้าน บอกว่า ยินดีด้วย วันนี้จะเลี้ยงอะไร?แรกๆมากินคนเดียว หลังๆพาลูกหลานมาด้วย หนักสุดพาเพื่อนข้างบ้านเขามากินฟรีอีกจนตอนนี้มีข่าวดีอะไร หนูต้องแอบไปฉลองเงียบๆกันเอง “คุณหนู(นามสมมุติ)” อายุ 33 ปี สายสุดท้ายของรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาญาติหาทุกโอกาส ทุกเทศกาลในการกินฟรี โดย “คุณหนู (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีญาติคนนึงที่เขาอยากให้หนูเลี้ยงอาหารทุกมื้อ ทุกงานเทศกาล เเละทุกโอกาสที่สามารถเลี้ยงหรือจัดปาร์ตี้ได้ เขาเป็นญาติทางฝั่งของคุณเเม่ ซึ่งเขาเป็นน้าของหนู อายุประมาณ 60 กว่าๆ มีอยู่ครั้งนึงหนูโพสต์ว่า หลานของหนูได้เกรด 3.5 เขาก็โทรมาเลยว่า อุ้ย! วันนี้กินที่ไหน เลี้ยงที่ไหนดี หรือบางโอกาสอย่าง หมาที่บ้านหนูคลอดลูก เขาก็จะขับรถมาที่บ้านเเล้วถามเลยว่า อุ้ย ฉลองที่ไหนดีวันนี้ กินอะไรดี ร้านไหนดีวันนี้ ตอนเเรกหนูก็ยังโอเค ไปกินชาบู หมูกะทะ หนูก็ชวนเขาไปด้วย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ครั้งแรกๆเขาจะไปคนเดียว แต่พอชวนบ่อยๆ เขาก็จะเอา พ่อเขา , แม่เขา , ลูกชาย , หลาน , ลูกสะใภ้มากินด้วย หนักสุดคือเขาชวนคนข้างบ้านของเขา มาด้วยโดยที่ไม่ได้บอกหนูก่อนเลย เพราะหนูก็ต้องตั้งงบไว้ด้วยว่าใช้เท่าไหร่ หัวละเท่าไหร่ และทุกครั้งเขาก็จะคิดว่าหนูเป็นเจ้ามือ เป็นเจ้าภาพทุกครั้ง ไม่ว่าหนูจะโพสต์อะไรที่เป็นการแสดงความยินดีกับคนในครอบครัว เขาก็จะโทรมา หรือไม่ก็ขับรถมาหาที่บ้านเลย เเล้วก็จะถามว่าวันนี้กินที่ไหนดี ที่เขาทำแบบนี้ได้เพราะเขาค่อนข้างสนิทกับเเม่ของหนู แต่ก็ไม่ได้มีความสนิทกับหนูขนาดนั้น ก็เป็นเเค่ญาติคนนึง แล้วพอหนูปฎิเสธเขาไป เขาก็ไปคุยกับคนอื่นว่าบ้านหนูจะไปจัดกินเลี้ยงกันยิ่งใหญ่ เเล้วคนที่ได้ฟังก็จะโทรมาหาหนู เเล้วก็ถามว่าจริงหรอ ทำให้หนูรู้สึกว่าเขาพยายามที่จะกดดันให้หนูจัดเเละก็เลี้ยงเขาด้วย ก่อนหน้านี้หนูจัดงานวันเกิดคุณเเม่ของหนู หนูก็ต้องขับรถไปกินร้านไกลๆ ขนาดจะถ่ายรูปโพสต์ลงFacebook หนูยังไม่กล้าเลย หนูกลัวเขาจะทักมาว่าทำไมไม่ชวนเขา กลายเป็นตอนนี้หนูเริ่มรู้สึกอึดอัดมากเลย เพราะทุกครั้งที่ไปกินข้าวกับเขา เขาไม่เคยออกเงินเลยสักบาท คนข้างบ้านที่เขาชวนมา หนูก็ต้องเป็นคนจ่ายเงินให้ เเล้วถ้าหนูไปมีปัญหากับเขา เขาจะเอาเราไปพูดกับคนอื่นทำให้ญาติคนอื่นก็จะไม่คุยกับเราด้วย แล้วหนูก็จะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะกลัวพ่อเเม่หนูจะมีปัญหาอะไรกับเขาอีก เเละล่าสุดหนูกับเเฟน ก็พึ่งไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมด้วยกัน เขาก็ถามหนูตั้งแต่วันที่หนูจดว่า ครั้งนี้จะไปกินเลี้ยงอะไรดีล่ะ? แต่พอกลับกันเวลาบ้านเขามีงานปาร์ตี้หรือจัดฉลองอะไร เขาไม่เคยคิดที่จะชวนเราไปด้วยเลย ซึ่งที่หนูไม่ค่อยพูดอะไร เพราะพยายามรักษาน้ำใจเอาไว้อยู่ หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ‘หนูควรทำยังไงดีกับญาติคนนี้ หรือมีวิธีพูดยังไงไม่ให้เสียน้ำใจไหมคะ?’ โดย “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ญาติเเบบนี้เราไม่จำเป็นต้องไปเเคร์หรอก ไม่ต้องรักษาน้ำใจ ถ้าเขามาถามเราอีกรอบเรื่องที่หนูไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมกับแฟนมา แล้วจะเลี้ยงอะไร? ถามเขากลับไปเลยว่า รอบนี้น้าต้องใส่ซองให้หนูด้วยนะ เพราะเลี้ยงข้าวน้า ไปเยอะเเล้วเหมือนกัน หรือก็ไม่ต้องชวนเขาไปด้วย เพราะทีเขาจัดปาร์ตี้อะไร เขาก็ไม่เคยชวนเราไปด้วยเหมือนกัน ถ้าอยากปฎิเสธเเบบดีๆหน่อยก็บอกไปว่า ไม่เลี้ยง ไม่มีเงินเเล้ว เพราะงั้นอย่าไปยอม ให้พูดตรงๆกลับไปบ้าง สวนเขาไปเลยสักนึงเเมตช์’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผ่านมา 14 ปี ผมมีเรื่องสารภาพ ผมปิ๊งสาวเฝ้าร้านเกมเชียงใหม่ วันนั้นเข้าห้องน้ำ แต่ทำสายฉีดตกพื้น หัวฉีดหลุดน้ำสะบัดทั้งห้อง ตกใจจนลืมเช็ดตูด หันไปเห็นฟองน้ำล้างจานเลยหยิบมาเช็ด เช็ดเสร็จ ล้างวางที่เดิม กดชักโครก อ้าว ส้วมเต็ม

10 มิ.ย. 2024

ผ่านมา 14 ปี ผมมีเรื่องสารภาพ ผมปิ๊งสาวเฝ้าร้านเกมเชียงใหม่ วันนั้นเข้าห้องน้ำ แต่ทำสายฉีดตกพื้น หัวฉีดหลุดน้ำสะบัดทั้งห้อง ตกใจจนลืมเช็ดตูด หันไปเห็นฟองน้ำล้างจานเลยหยิบมาเช็ด เช็ดเสร็จ ล้างวางที่เดิม กดชักโครก อ้าว ส้วมเต็ม

ผ่านมา 14 ปี ผมมีเรื่องสารภาพ ผมปิ๊งสาวเฝ้าร้านเกมเชียงใหม่ วันนั้นเข้าห้องน้ำแต่ทำสายฉีดตกพื้น หัวฉีดหลุดน้ำสะบัดทั้งห้อง ตกใจจนลืมเช็ดตูด หันไปเห็นฟองน้ำล้างจานเลยหยิบมาเช็ดเช็ดเสร็จ ล้างวางที่เดิม กดชักโครก อ้าว ส้วมเต็ม ไปบอกน้อง จากนั้นผมก็ไม่ได้ไปร้านนั้นอีกเลย “คุณเกม (นามสมมติ)” อายุ 36 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาสารภาพความผิดกับ ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต ซึ่งผ่านมา 14 ปีแล้ว และวันนี้ก็มาถึง… วันที่คุณเกมได้ตัดสินใจอยากที่จะสารภาพความผิด! โดย ​“คุณเกม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ผมมักจะไปเล่นเกมที่ร้านหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ผมไปร้านนี้เป็นประจำ เพราะผมแอบชอบน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนดูแลร้าน และในทุกครั้งที่ผมจะเข้าไปเล่นเกม ผมมักจะซื้อขนมขบเคี้ยวติดไม้ติดมือเข้าไปด้วยอยู่เสมอ ผมเป็นคนที่เมื่อกินเสร็จก็จะถ่ายเลยทันที เป็นเหมือนภารกิจประจำวันที่ผมจะทำทุกครั้งเมื่อมาที่ ‘ร้านเกม’ แห่งนี้ จนมีวันหนึ่งผมก็เข้ามาเล่นเกมตามปกติ ผมก็ปวดท้องจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ หลังทำภารกิจเสร็จสิ้น ผมก็เอื้อมมือไปหยิบสายฉีดชำระ จังหวะที่หยิบขึ้นมา มือของผมดันไปปัดชนกับขอบผนัง สายฉีดชำระจึงหล่นลงพื้นเสียงดัง ปั๊ก… ทำให้ตัวจับของสายฉีดชำระแตก สายฉีดชำระจึงสะบัดน้ำกระจายไปทั่วทั้งห้องน้ำ ซึ่งน้ำมันแรงมาก ทำให้ความเปียกครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งพื้นกระเบื้อง พื้นผนัง พื้นเพดาน รวมถึงตัวผมด้วย เปียกตั้งแต่เส้นผมจดถึงเท้า ในใจผมก็คิดว่า ผมควรจะทำยังไงดี ? เพราะผมยังไม่เสร็จธุระ และเท่าที่สมองผมจะคิดได้ ผมก็พยายามมองหาวาล์วปิดน้ำ แต่มันไม่มี! ผมเลยเลือกที่จะทนเปียก และลากสายอ้อมทางด้านหลังจากฝั่งขวามาฝั่งซ้าย เพราะทางฝั่งซ้ายมีรูท่อระบายน้ำอยู่ ผมจึงตัดสินใจ จุ่มหัวของสายฉีดชำระลงไปในรูท่อระบาย และใช้เท้าเหยียบสายกดเอาไว้ หลังจากนั้นผมก็สบายใจขึ้นที่จะไม่ต้องเปียกเพิ่ม แต่ผมลืมคิดไปว่า ผมยังไม่ได้ล้างก้น !? ซึ่งผมไม่สามารถใช้น้ำตรงนั้นได้เลย เพราะน้ำมันแรงมาก ทำได้เพียงแต่กดเท้าซ้ายไว้ ในใจก็ค่อนข้างกระวนกระวายมาก แต่ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ผมก็เห็นอ่างล้างหน้าที่มีสก็อตไบรท์วางอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่ผมเลือกอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าจะต้องจัดการปัญหาให้เร็วที่สุด ผมจึงเอี้ยวตัวพยายามเอื้อมมือไปหยิบ ‘สก็อตไบรท์’ และพยายามที่จะเปิดน้ำที่อ่าง ทั้งที่ธุระของผมก็ยังค้างอยู่ ผมจึงเอาสก็อตไบรท์ชุบกับน้ำมาเช็ดก้น ซึ่งหลังจากเช็ดเสร็จ ผมก็ล้างทำความสะอาดสก๊อตไบรท์ และวางมันไว้ที่เดิม… หลังจากนั้นผมก็คิดว่า ผมจะทำอะไรต่อไปดี ? แม้ว่าผมจะทำธุระล้างก้นเสร็จแล้ว ผมก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้ เพราะเท้าของผมยังเหยียบกับสายฉีดชำระอยู่ ผมจึงตัดสินใจถอดถุงเท้าข้างหนึ่ง และยัดอุดเข้าไปในรูท่อ เพื่อที่จะล็อคสายฉีดชำระกับรูท่อระบายไว้ด้วยกันได้ ซึ่งมันก็ได้ผล ! ผมจึงสามารถลุกขึ้นเพื่อที่จะแต่งตัว และทำการกดชักโครก เพื่อที่จะเคลียร์กับปัญหาตรงนี้ให้หมดไปได้สักที แต่เหมือนผมมีเคราะห์ซัดกรรมซัด… เพราะชักโครกมันตัน ซึ่งหลังจากที่ผมกดชักโครก ทำให้น้ำและสิ่งปฏิกูลตรงนั้นมันเอ่อล้นขึ้นมา ผมจึงรีบปิดฝาชักโครก และตั้งสติใหม่อีกครั้ง ผมเลือกที่จะไม่กดน้ำซ้ำ เพราะกลัวว่าครั้งนี้มันจะล้นออกมาข้างนอก หลังจากนั้นผมจึงจัดการกับตัวเอง สะบัดผมให้แห้ง รวมถึงบิดเสื้อผ้าให้หมาด ทำให้ทุกอย่างดูเป็นปกติที่สุด แต่เมื่อผมเดินเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ… ผมก็เจอกับน้องผู้หญิงคนนั้น ผมบอกกับเธอว่า ขอโทษครับ ห้องน้ำพัง… น้องผู้หญิงคนนั้นก็ทำหน้างุนงงใส่ผม แล้วก็เดินตรงไปเช็คที่ห้องน้ำ ด้วยความที่ผมกลัวความผิดและอับอาย จึงรีบเก็บของและออกไปทันที จากนั้นผมก็นำเหตุการณ์นี้มาเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ถามผมว่า แล้วทำไมถึงไม่เอาสก็อตไบรท์ทิ้งไปใส่ถังขยะ !? ผมจึงตอบว่า ก็ตอนนั้นมันคิดไม่ทัน แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่า สก็อตไบรท์อันนั้น โดยปกติแล้ว น้องผู้หญิงคนนั้นน่าจะเอาไว้ใช้ล้างแก้วและจาน เพราะมันเป็นที่เดียวที่เธอสามารถจัดการกับภาชนะได้ ซึ่งหลังเหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมรู้สึกผิดและฝังใจกับเรื่องนี้มาก ๆ เพราะผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงไม่ทิ้งสก็อตไบรท์ไป ทำไมถึงเลือกที่จะทำความสะอาด เพื่อที่จะทำลายหลักฐาน หรือมันเป็นเพราะว่า ผมรนที่จะแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า’ งานนี้ 3 ดีเจก็ให้ความคิดเห็นคล้ายกันว่า ‘เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณเกม มันทรหดและเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจริง ๆ ซึ่งคนที่น่าสงสารที่สุดสำหรับเรื่องนี้ ก็คือ น้องผู้หญิงคนนั้น ไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอได้ใช้สก็อตไบรท์ไปหรือเปล่า ?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

19 เม.ย. 2024

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

“คุณแม่เอ (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ได้โทรมาอัพเดทเรื่อง จากกรณีที่ลูกชายตั้งใจเก็บเงินซื้อของเล่น แต่รู้สึกเหมือนโดนโกง พนักงานไม่รับผิดชอบ จนลูกไม่อยากเก็บเงินต่ออีกเลย ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อคืนวันพุธวันที่ 17 เมษายน 67 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร โดย “คุณแม่เอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ได้ของเล่นแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แล้วก็ได้เงินคืน หลังจากที่โทรเข้ามาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร วันรุ่งขึ้นดีเจต้นหอมก็ได้มีการโพสต์ในไอจี ทีแรกแม่ไม่ค่อยเล่นไอจี ส่วนจะใหญ่เล่น Facebook มากกว่า แต่เห็นในเพจ EFM station โพสต์ว่าดีเจต้นหอมทวงถามทางร้านของเล่นให้ แม่ก็เลยเปิดเข้าไอจีไปดู พอวันศุกร์ทางร้านของเล่นก็โทรมา เหมือนทางร้านได้คุยกับดีเจต้นหอมแล้ว ทางร้านก็โทรมาหาแม่ ตอนที่คุยโทรศัพท์จำไม่ได้ว่า เขาแนะนำว่าเป็นผู้จัดการสาขาหรือผู้จัดการ เขาก็ขอโทษ วันนั้นที่โทรเข้าหาทางรายการได้คุยกับดีเจทั้ง 3 คน ก็มีกำลังใจขึ้นมา พอมีกำลังใจขึ้นก็ฮึดสู้ขึ้นอีกรอบหนึ่ง แม่ก็เลยไปแจ้ง สคบ. แล้วก็ส่งข้อความไปทางเพจร้านของเล่นว่า “เราไปแจ้ง สคบ. มาแล้วนะ” เหมือนพนักงานไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ พอวันศุกร์ที่ผู้จัดการโทรมา แม่ก็มีอารมณ์นิดหน่อยก็เลยต่อว่าเขาไป มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผู้จัดการก็รับฟังโดยดีและขอโทษ ผู้จัดการก็รับปากว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าจะได้ของเล่นแน่นอน แต่ว่าเมื่อไหร่จะโทรมาแจ้งอีกที พอวันพุธเขาก็โทรมาแจ้งว่า “ของเข้าแล้วนะคะ สะดวกวันไหน เขาอยากมามอบให้ด้วยตัวเอง จะได้มาขอโทษด้วยตัวเอง” แม่ก็บอกว่าวันพฤหัสบดี บ่าย 2 หลังจากที่โทรมาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร ก็ได้บอกกับลูกว่า “แม่โทรไปนะ” ลูกก็เขินอายนิดหน่อย แล้วลูกก็ไปเปิดฟังย้อนหลัง ลูกก็พูดกับเราว่า “ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้กดดันเรา เขาถามปกติว่าได้หรือยัง” ในใจลูกไม่ได้มีความรู้สึกว่ากดดันแม่หรืออะไร ลูกก็ไม่รู้ตัวว่าการที่ทำแบบนั้นจะทำให้แม่กดดัน ลูกก็ขอโทษ หลังจากที่ได้คุยกับทางผู้จัดการร้าน วันนั้นก็บอกกับลูกเลยว่า “เขาโทรมาแล้วนะ เขาคอนเฟิร์มว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าว่าได้แน่นอน” พอลูกได้ฟังตั้งแต่วินาทีนั้นลูกก็ดีใจมาก แล้วลูกก็เริ่มมีโครงการใหม่ อยากได้ตัวนู้นตัวนี้ เขาจะเก็บเงิน เขาก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที แต่รอบนี้ก็สัญญากัน คุยกันว่าเดี๋ยวเราจะไปดูที่สะพานเหล็ก ดูหลาย ๆ ร้าน แล้วแม่ก็จะช่วยดู เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก วันที่ไปรับของ พูดได้เลยว่าโอเคมาก จากที่ได้พูดคุยกับทางร้าน เขาขอโทษ ก็คือไม่ติดใจอะไร แล้วผู้จัดการก็อธิบายว่ามันเป็นของที่ส่งมาจากต่างประเทศ ต้องใช้เวลา แต่จริง ๆ ถ้าทางร้านของเล่นบอกแม่ว่าในกระบวนการนี้ มันเป็นแบบนี้ว่าต้องรอ แม่ก็รอได้ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ตอบ ไม่หือ ไม่อือ แต่ถ้าตอบว่ารอก่อน ก็แค่นี้ ผิดพลาดที่การสื่อสาร พอลูกเห็นกล่องก็คือดีใจมาก เป็นกล่องสีน้ำตาล ซึ่งเป็นต้นทางจากบริษัท ลูกชอบมาก ผู้จัดการเขาก็ขอโทษแม่ เขาก็เลยยื่นซองสีขาวให้ แล้วก็บอกว่า “พี่อยากช่วยเป็นกำลังใจให้น้องที่เก็บเงินซื้อ” คือแม่ไม่ได้อยากได้เงิน คือถ้าได้ของก็โอเคจบแค่นั้น แต่ก็รับมาและคิดกันว่า เงินส่วนหนึ่งอาจจะเอาไปให้น้อง ๆ ตามสถานสงเคราะห์ เพราะคุยกับลูก ลูกก็ไม่สบายใจที่จะรับเงินมาเพราะก็ได้ของเล่นแล้ว แม่ก็พูดว่า “เอางี้ไหมล่ะ หนูอยากทำบุญไหม เราก็อาจจะไปทำบุญตรงนั้นตรงนี้” ลูกก็โอเค สุดท้ายอยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ ทั้งทีมงานและดีเจทั้ง 3 คน โดยเฉพาะดีเจต้นหอม แล้วก็ชาวพุธโทรเรี่ยนทุกคน อยากขอบคุณจริง ๆ เพราะแม่ก็เป็นแฟนคลับรายการพุธทอล์ค พุธโทร มาตั้งแต่เรื่องคุณอั๋นที่เป็นมะเร็ง พอฟังแล้วรู้สึกว่ารายการนี้ดี ก็ฟังย้อนหลังแล้วก็ฟังมาตลอด ลูกก็อยากขอบคุณดีเจต้นหอมมาก ๆ แต่ลูกฝากขอบคุณ เพราะลูกไม่กล้าพูดเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1