คบแฟนมา 6-7 ปี ไม่เคยไปบ้านเค้าเลย เพราะแฟนบอก 'พ่อไม่ชอบทอม' เราไม่เคยเจอสังคมอะไรของแฟนเลย มีแต่แฟนที่รู้ฝั่งเรา พีคสุด แฟนจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายอีกคนอยู่แล้วแต่แยกกันอยู่ ตอนนี้เราเลิกกันแล้วแต่แฟนขอให้กลับไปคบกันเหมือนเดิม

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบแฟนมา 6-7 ปี ไม่เคยไปบ้านเค้าเลย เพราะแฟนบอก 'พ่อไม่ชอบทอม' เราไม่เคยเจอสังคมอะไรของแฟนเลย มีแต่แฟนที่รู้ฝั่งเรา พีคสุด แฟนจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายอีกคนอยู่แล้วแต่แยกกันอยู่ ตอนนี้เราเลิกกันแล้วแต่แฟนขอให้กลับไปคบกันเหมือนเดิม

02 ก.พ. 2024

            “คุณยีนส์ (นามสมมติ)” อายุ 41 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (31 ม.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่มารู้ทีหลังว่าแฟนยังไม่หย่ากับสามี

            โดย “คุณยีนส์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็น LGBTQ คบกับแฟนมาประมาณ 6 - 7 ปีแล้ว ซึ่งตลอดเวลาที่คบกัน เรารู้แค่ว่าทางบ้านเขาไม่ชอบเรา และเราก็ไม่เคยรับรู้เรื่องทางบ้านเขาเลย ไม่เคยรู้เลยว่าบ้านเขาเป็นยังไง หรือแม้กระทั่งบ้านเขาอยู่ที่ไหน

            จนคบกันมาเข้าปีที่ 6 เป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสไปบ้านเขาใน ‘ฐานะเพื่อน’ หลังจากกลับมาจากบ้านเขา เราก็ได้รู้เรื่องต่าง ๆ จากปากเพื่อนเขาว่า ‘เขาแต่งงาน เคยจดทะเบียนสมรส แล้วยังคงคาทะเบียนสมรสกันอยู่ด้วย’ เราต้องไปคาดคั้นความจริงจากเขา เขาถึงยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง...

            ที่ผ่านมา เราไม่เคยมีตัวตนในชีวิตเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นในโซเชียล ทางบ้านหรือทางสังคมของเขา คือเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย แต่เขากลับรู้เรื่องเราทุกอย่าง เพราะว่าตอนที่คบกัน เขามาอยู่บ้านเราตลอด 24 ชม. แต่ในช่วงที่เขาอยู่บ้านเรา เขาก็จะมีกลับบ้านเขาไปบ้าง ซึ่งตอนที่เขากลับบ้าน เราจะไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย เขาจะพูดกับเราเสมอว่า “ครอบครัวเขาเกลียดมาก” ไม่ให้รับโทรศัพท์ ไม่ให้ทำอะไรเลย แล้วพอมารู้เรื่องนี้ เราก็เหมือนตัดสินใจแล้วว่า “ฉันไม่เอาละ ฉันเลิกดีกว่า” ที่อยากเลิกเพราะรู้สึกว่าเขาเหมือนโกหกเรามาตลอด เพราะเราเองก็ถามมาตลอดเหมือนกัน

            ณ ตอนนี้ หลังจากที่เลิกกันแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าคาราคาซังอยู่ เราก็คิดว่าเราไม่เอาแล้ว แต่ทางเขาก็ไม่ยอมเลิก จริง ๆ ก็เคยถามเขาเรื่องหย่า เขาก็บอกว่า “เดี๋ยวจะทำเรื่องหย่าให้” แต่พอถามเขาอีกรอบ เขาก็ยังตอบเหมือนเดิม โดยที่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย เหมือนเขาแค่ตอบให้ผ่านๆ ไป วันนี้จึงอยากจะถามพี่ๆดีเจว่า “เราควรจะไปต่อดีไหม ถ้าเรามองข้ามเรื่องนั้นไป หรือเราจะเข้าไปคุยกับพ่อแม่เขาดี หรือจริงๆ ควรจะจบแค่เพียงเท่านี้ ?”’

            ซึ่งทาง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าคนของเราโอเค มันจะแบ่งเบาภาระไปได้เยอะ ถ้าครอบครัวเขาไม่ชอบ อันนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งความลำบาก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคนกลางที่เป็นคนของเราเหมือนกัน เขาพร้อมที่จะเสียสละเพื่อที่จะอยู่กับเราไหม?

            ผมว่า 6 - 7 ปีที่ผ่านมา คุณยีนส์กำลังเข้าสู่ช่วงอยากมีตัวตน มันถึงวัยที่คุณยีนส์อยากได้รับการยอมรับ อยากเริ่มสร้างครอบครัวจริงจัง รวมถึงเริ่มรู้สึกเสียเวลาถ้าอยู่โดยไม่มีปลายทาง พอมาดูความรักของคุณยีนส์ มันก็ยังคงมีคำถามมากมาย ครอบครัวเขาจะรับเราได้ไหม? หรือเขาเองนี่แหละพร้อมที่จะเปิดตัวเรารึเปล่า? ซึ่งมันเป็นคำถามมากเลย

            สมมติว่าถ้าผมซี้กับคุณยีนส์ ผมก็จะแนะนำว่า “เราเคยเห็นคนที่มันชัดเจน เป็นความรักของ LGBTQ ที่เปิดตัว สร้างครอบครัวไปด้วยกัน ซึ่งมันดี” ไม่อยากให้คุณยีนส์เสียเวลา ถ้าต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง อายุเราก็เดินทางมาถึงเลขสี่แล้ว การที่เราจะต้องซื้อเวลาไปข้างหน้า เพื่อความขมุกขมัวที่ไม่แน่นอน ผมไม่ค่อยสนับสนุน มันอาจจะต้องมองหาสิ่งที่มันแน่นอน และเริ่มสร้างครอบครัวด้วยกันได้แล้ว ถ้ามันต้องเลือก ผมอยากให้คุณยีนส์มองหาสิ่งที่ทำให้คุณยีนส์มีความสุขจริง ๆ ได้สักที’

            ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘การที่เรามีทะเบียนสมรสอยู่ แล้วเราอยู่กับใครคนนึงมา 6 ปี โดยที่ไม่บอกเรื่องนี้ หอมว่ามันใจดำไปนิดนึง เพราะมันผิดกฎหมายด้วย ถ้าอีกฝ่ายจะฟ้อง เราแย่แน่

            6 - 7 ปี ที่อยู่ด้วยกันมา เขาไม่คิดจะบอกคนที่อยู่ข้าง ๆ เลยเหรอ? ถ้าเกิดผู้ชายคนนั้นไม่มีตัวตน อันนี้มันพูดง่ายมาก แค่บอกว่ายังไม่หย่า มันได้ใจเรามากกว่าอีก แล้วการปกปิดนี้มันเป็นเราที่มารู้เอง อีกเรื่องคือ เขาไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติเราเลย อายุ 42 แล้ว ยังกลัวพ่อด่าเรื่อง LGBTQ อยู่อีกเหรอ?

            สมมติว่าการเลิกราเกิดขึ้น แล้วอีกฝ่ายไม่อยากเลิก สิ่งที่ยื้อคุณยีนส์กลับมาได้คือ การกระทำ เช่น 1. เดี๋ยวหย่าให้ 2. คือการพาไปไหว้พ่อ เปิดตัวให้รู้เลยว่าฉันจริงจัง มันต้องแสดงด้วยการกระทำ แต่นี่... ป่านนี้ยังไม่ทำอะไรเลย แล้วคือคุณยีนส์จะต้องรอคน ๆ นึงที่ไม่เคยให้เกียรติคุณยีนส์มาตลอด 6 ปี เลยเหรอ?

            เขามีราคาอะไรที่เราจะต้องจ่ายขนาดนั้น ความดีนี้ต้องซื้อด้วยอะไร ในเมื่อมันไม่มี ถ้าเขาอยากตื๊อก็ตื๊อได้ แต่ต้องอยู่กับปัจจุบัน ถ้าวันนี้ไม่เห็นอะไรที่น่ากลับไปก็ไม่ต้องกลับ แล้วยีนส์เปิดโอกาสให้ตัวเองเลย ใครสักคนที่ดีกว่านี้ ใครสักคนที่ไม่โกหกเรา ถ้าวันนี้คนเก่ายังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลับ’

            และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ดูที่พฤติกรรม ถ้าเกิดว่าพฤติกรรมเขาสวนทางกับคำพูด คือถ้ามันเป็นคนที่ใช่ มันจะไม่ยากลำบากขนาดนี้ แล้วสำหรับคู่คุณยีนส์มันหลายปีแล้ว มันควรจะต้องใช่ได้แล้ว มันไม่ควรจะมาตั้งคำถามในตอนนี้แล้ว

            มันเสียเวลาชีวิต 6 – 7 ปี มันพิสูจน์มามากพอแล้วว่าคุณยีนส์รักเขา และยอมขนาดไหน ขนาดให้เขาปกปิดโลกของเขาแล้วไม่งี่เง่าอะไรเลย วันนี้ถึงเวลาที่เขาจะทำให้เราเห็นแล้วว่า เขาอยากให้เราอยู่ ไม่ใช่แค่ปากที่มาง้อ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี ได้เกือบปี จับได้เขานอนกับหญิงอื่น ตอนนี้เลิกกันแล้ว แต่ห้ามใจตัวเอง ตามรังควานเขาไม่ได้ ตอนนี้ทั้งรัก ทั้งแค้น อยากมูฟออนทำไงดีคะ?

18 ธ.ค. 2023

คบผู้ชายโปรไฟล์ดี หน้าตาดี ได้เกือบปี จับได้เขานอนกับหญิงอื่น ตอนนี้เลิกกันแล้ว แต่ห้ามใจตัวเอง ตามรังควานเขาไม่ได้ ตอนนี้ทั้งรัก ทั้งแค้น อยากมูฟออนทำไงดีคะ?

“คุณกระต่าย(นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 ธ.ค 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น กับปัญหาเลิกกับแฟน แต่ยังรู้สึกรักเขา ถึงขั้นเคยไปตามรังควานผู้หญิงเขาทุกคน แต่ก็เลิกทำไปแล้ว โดย “คุณกระต่าย(นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า หนูไม่สามารถมูฟออนจากแฟนเก่าได้ ก่อนหน้านี้หนูรักเขามาก แต่ตอนนี้ทั้งรักทั้งเกลียด และไม่สามารถมูฟออนได้ เขาเป็นคนที่ดีมาก และอบอุ่นมากคนนึง ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดี ทำให้หนูคิดว่าเขาคงไม่จริงจังกับหนู แต่พอคุยกันไปมาก็ตกลงที่จะอยู่ด้วยกัน ซึ่งระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นไม่นานแต่ก็รักเขามาก อยู่มาวันนึงเขาขอไปกินเหล้า ต้องเท้าความก่อนว่าก่อนหน้านี้หนูเป็นคนที่ชอบโทรจิกโทรตามตลอด แต่รอบนี้หนูตัดสินใจที่จะปล่อยเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอเขากลับมาบ้านตัวเขากลับไม่มีกลิ่นเหล้า มีแต่กลิ่นน้ำหอม อีกทั้งเนื้อตัวก็สะอาดผิดปกติ หนูเองก็สงสัยอยู่ในใจแต่คิดว่าคงไม่มีอะไร ด้วยความที่คนเราจะมีเซนส์ถ้าเกิดว่ามีอะไรผิดปกติจะรับรู้ได้ จนวันถัดมาเขาทำตัวน่ารักซึ่งผิดปกติมาก ๆ จากที่ปกติชอบมีอะไรกับเราแล้วไม่ใส่ถุงยาง แต่วันนั้นเขากลับยอมใส่ถุงให้ ตอนที่เขาหลับ หนูจึงแอบเช็คโทรศัพท์เขา ลองเปิด Google Maps ดูไทมไลน์ ก็เห็นหมดเลยว่าเขาไปไหน ไปกี่โมง ไปที่ไหน ซึ่งตอนที่รู้ หนูไม่ได้โวยวายอะไรทำตัวตามปกติ แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไม่กี่วัน เพราะหนูรับไม่ได้ หนูจึงตัดสินใจที่จะคุยกับเขา สรุปความได้ว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่น หาสาวจากแอพลิเคชันนึงแล้วจึงนัดไปมีอะไรกัน เขาให้เหตุผลว่าเขาเบื่อหนู แต่ยังไม่อยากเริ่มต้นใหม่จึงยังไม่บอกเลิก เขาอยากลองไปมีอะไรกับคนอื่นดูก่อน เขายังบอกหนูอีกว่าการที่เขาไปมีอะไรกับคนอื่นมันทำให้เขามีความสุขมาก ๆ ทำให้เขาหายเครียดได้ ซึ่งหนูทำไม่ได้ สุดท้ายหนูกับเขาก็จบกันไม่ดี เพราะหนูตามราวีรังควานผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเขาไม่จบไม่สิ้น เพราะหนูทั้งแค้น ทั้งรัก ทั้งเป็นห่วงเขา เขาเป็นคนที่ทำให้หนูรู้จักคำว่า ทั้งรัก ทั้งเกลียด ว่ามันเป็นแบบไหน หนูจึงอยากขอคำปรึกษาว่า “หนูควรมูฟออนยังไง แล้วควรรักษาใจตัวเองยังไง ณ ตอนนี้หนูไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์กับใครได้เลย เพราะยังกลัวและเข็ดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น” คุณกระต่ายยังเสริมอีกว่า ตอนนี้หนูเลิกตามรังควานเขาประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่หนูแค่ต้องการที่จะมาจัดการความรู้สึกตัวเองว่าจะต้องทำยังไงถึงจะลืมเขา หรือจะทำยังไงให้ความรู้สึกที่มีกับเขาน้อยลง ตอนนี้แค่เหมือนหนูยังปล่อยวางไม่ได้ รอบล่าสุดที่คุยกันเขายังบอกหนูอีกว่าตอนแรกเขารู้สึกผิดแต่ก็รู้สึกเกลียดหนูด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนเกลียดกัน ไม่ได้ต้องการที่จะกลับมาหากัน เพราะตัวหนูก็ไม่รู้ว่าจะยังมีความเชื่อใจให้เขาได้มั้ย ถ้าเขากลับมา ก่อนหน้านี้หนูมีแฟนมีครอบครัวมาแล้วสองครั้งแต่ก็จบไม่ดีเหมือนกัน ส่วนตัวหนูก็มีลูกแล้ว 2 คน คนโตอยู่กับหนู ส่วนคนเล็กอยู่กับพ่อเขา หนูมีลูกคนแรกตอนอายุ 16 ปี ซึ่งตอนนี้คนโตก็อายุ 7 ขวบได้แล้ว โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘วิธีการที่จะตัดใครออกจากชีวิตมันง่ายมาก คือให้นึกถึงความเลวของเขา แต่พี่จะไม่แค้น ไม่ไปราวีผู้หญิง เพราะพี่รู้สึกว่ามันทำให้เราไร้คุณค่า พี่จะมองว่าเขาไม่ได้คู่ควรกับเรา แล้วก็ไม่ได้คู่ควรขนาดที่ต้องไปราวีเพื่อเอาเขาคืนมา ฉะนั้นการที่เขาจะไปอยู่กับใคร ถ้าภูมิคุ้มกันเราแข็งพอ เราไม่ต้องเลิกติดตามเขา แต่ถ้าภูมิคุ้มกันเราต่ำมากถึงขนาดไปราวีเขา พี่แนะนำให้เราเลิกติดตามเขาทุกช่องทาง แล้วก็บล็อค ลบรูปคู่ ที่มันทำให้เราดูแล้วรู้สึกเจ็บปวด หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกว่ายังแค้นให้ตัดออกไปเลย ทีนี้วิธีมูฟออนคือ ถ้ามีลูกให้มองหน้าลูกเยอะ ๆ เราคือโลกทั้งใบของลูก ลูกจะรู้สึกแย่มากถ้ารู้ว่าแม่ตัวเองกำลังทุกข์หรือเสียใจ โลกของเขาถ้าแม่เขามีความสุขมันทำให้โลกเขามีความสุขไปด้วย ทำให้โลกของลูกและเรามีความสุขไปด้วยกัน ตัดคนที่ไม่ใช่ออกจากชีวิต พี่ก็หวังว่ากระต่ายจะมีความสุขในเร็ววัน เพราะว่าความสุขของกระต่ายจะส่งผลถึงลูกของกระต่ายด้วย มองหน้าลูกเยอะ ๆ แล้วคิดว่าลูกเราไม่ควรต้องมาเห็นเรานั่งทุกข์เพราะคนเลว ๆ ลูกไม่ควรต้องรับสิ่งเหล่านั้น เพราะเขารักเรามาก’ ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าอันนี้เป็นห้วงเวลานึงที่คุณกระต่ายต้องใช้เวลาในการทำใจเหมือนเดิม คุณกระต่ายต้องเข้าใจว่าเราเป็นคนที่ใช้เวลามูฟออนนานกว่าคนอื่น อย่างแรกเลยพี่อยากให้คุณกระต่ายเข้าใจตัวเอง ไม่ต้องพยายามบีบคั้นให้ตัวเองทำใจให้ได้ เพราะโดยธรรมชาติของคุณกระตายเป็นคนแบบนี้ บางคนแผลเจ็บแล้วหายเร็ว บางคนใช้เวลานานเพราะเรื้อรัง พี่เห็นด้วยกับพี่หอม ถ้าคุณกระต่ายมีลูกแล้ว ความสำคัญที่สุดในชีวิตคุณกระต่ายก็คงเป็นเรื่องของลูก ไม่ว่าเราจะผิดหวังขนาดไหนกับเรื่องความรักที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา พี่ไม่อยากให้คุณกระต่ายเอาสิ่งนั้นมากระทบตัวคุณกระตาย จนลามไปกระทบลูก ถ้าเรายิ่งเสียเวลาให้เรื่องนั้นมากเท่าไหร่ เวลาที่เราควรมีให้กับลูกเรามันจะถูกลดทอนไปด้วยเท่านั้น เอาเวลามาใช้ประโยชน์กับลูก และตัวเราเองดีกว่าที่จะไปเฝ้ารออะไรที่จะไม่กลับมาอีก ซ้ำแล้วเขายังเกลียดเราอีก ทำสิ่งไม่ดีกับเราด้วย’ สุดท้ายเป็น “ดีเจอั๋น” ให้คำปรึกษาว่า ‘ในที่สุดแล้วเราอยากเห็นตัวเราเองเติบโตไปเป็นกระต่ายแบบไหนในอนาคต เราอยากเห็นตัวเราเองเป็นคุณแม่แบบไหน ไม่จำเป็นเป็นต้องเป็นภรรยาก็ได้ เป็นแค่คนหนึ่งคน เราอยากพาตัวเองไปจุดไหน ซึ่งมันจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เราอาจจะบังเอิญไปเจอคนเจ้าชู้ เข้าใจว่ามันคงต้องเจ็บบ้าง ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าเขาทรยศเรา แต่พี่คิดว่าถ้าเราอยู่กับความปรารถนาร้ายในทุกรูปแบบ ในที่สุดแล้วมันคือไฟที่เผาตัวเราเอง ตอนนี้เขาอาจจะมีความสุขอยู่ก็ได้ ในขณะที่เรายังรู้สึกร้อนรน เช่นกันถ้าตอนนี้ยังรู้สึก เจ็บ ปวด แค้น ยังปล่อยวางไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องพยายาม ถ้ายังอยากจะถือไว้ ก็ถือไว้สักพักเดี๋ยวก็เมื่อยเอง แล้วมันจะหยุดเอง เหมือนถ้าเสียใจ แล้วยังรู้สึกว่ายังอยากร้องไห้ก็ร้องออกมา ก็ค่อย ๆ คุยกับตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่เรายังปรารถนาร้ายกับคนอื่น ไม่มีทางเลยที่จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตเรา เอาพลังงานทำชีวิตเราให้ดี คือวิธีการแก้แค้นที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

น้องชายหนูกำลังจะบวช พ่อบอกให้ใส่ชื่อแฟนใหม่พ่อเป็น "แม่" หน้าการ์ดเชิญ แต่หนูอยากใส่ว่าเป็น "น้า" พ่อก็ไม่ยอม ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้ทำการ์ดออกมา เพราะตกลงกันไม่ได้ จะทำยังไงดีคะ?

07 มี.ค. 2025

น้องชายหนูกำลังจะบวช พ่อบอกให้ใส่ชื่อแฟนใหม่พ่อเป็น "แม่" หน้าการ์ดเชิญ แต่หนูอยากใส่ว่าเป็น "น้า" พ่อก็ไม่ยอม ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้ทำการ์ดออกมา เพราะตกลงกันไม่ได้ จะทำยังไงดีคะ?

“คุณฟ้า (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ผ่านมา [5 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาน้องชายจะบวช พ่ออยากใส่ชื่อภรรยาใหม่เป็นแม่บนการ์ดเชิญ แต่เราอยากใส่ว่าเป็นแค่น้า โดย “คุณฟ้า (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘น้องชายของหนูกำลังจะบวช แล้วตอนนี้กำลังมีปัญหากับพ่ออยู่ คือพ่อจะให้หนูใส่ชื่อภรรยาใหม่ของเขาเป็นมารดาในการ์ดเชิญงานบวช เวลาจะบวชในต่างจังหวัด การ์ดเชิญหน้าซองมักจะมีวงเล็บว่าเป็น บิดา/มารดา ตามหลังชื่อเจ้าภาพในการ์ดเชิญ เหมือนเป็นแพทเทิร์นที่ทำต่อ ๆ กันมา หนูถามน้องชายที่กำลังจะบวช เขาก็บอกว่ายังไงก็ได้ แต่หนูรู้สึกว่าพ่อกับภรรยาใหม่ เขาเพิ่งแต่งงานกันมา 5 - 6 ปี หนูก็เลยไม่อยากใส่ อยากใส่เป็นวงเล็บแค่น้าแทนในการ์ดเชิญ จนตอนนี้ทำให้มีปัญหากันเพราะความคิดเห็นต่างกัน หนูเลยอยากปรึกษาพี่ ๆ ดีเจว่า หนูควรทำยังไงดีคะ?’ ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘เราลองไม่ต้องวงเล็บ ใส่เพียงแค่ชื่อและนามสกุล ไม่ต้องระบุศักดินา ในเมื่อมีวงเล็บแล้วมันมีปัญหา หรือถ้าจำเป็นต้องเขียน ก็เขียนเป็นว่าภรรยาแทน แต่ถ้านาคไม่มีปัญหาอะไร ก็ใส่มารดาไปเลย จะได้ไม่ต้องมีปัญหา เพราะว่าเขาต้องบวช เขาก็ควรจะเตรียมตัวอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์แล้ว ทำให้ปัญหามันน้อยที่สุด ไม่ให้ปัญหาไปรบกวนจิตใจของเขา เขาจะได้บวชอยากมีความสุข และความสงบ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ถ้าเป็นทุกคน จะทำยังไงต่อ? คบกับแฟนมา 10 ปี แต่ตอนนี้ เพิ่งรู้ว่า “พ่อของเรา ไปมีอะไรกับแม่ของแฟน” ทั้งๆที่พ่อก็ยังคบกับแม่อยู่ เคยคุยกับพ่อแล้ว พ่อตอบมาว่า “มึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ผัวหรอก” ได้ยินแล้วเสียใจมาก

28 ส.ค. 2023

ถ้าเป็นทุกคน จะทำยังไงต่อ? คบกับแฟนมา 10 ปี แต่ตอนนี้ เพิ่งรู้ว่า “พ่อของเรา ไปมีอะไรกับแม่ของแฟน” ทั้งๆที่พ่อก็ยังคบกับแม่อยู่ เคยคุยกับพ่อแล้ว พ่อตอบมาว่า “มึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ผัวหรอก” ได้ยินแล้วเสียใจมาก

ถ้าเป็นทุกคน จะทำยังไงต่อ? คบกับแฟนมา 10 ปีแต่ตอนนี้ เพิ่งรู้ว่า “พ่อของเรา ไปมีอะไรกับแม่ของแฟน”ทั้งๆที่พ่อก็ยังคบกับแม่อยู่ เคยคุยกับพ่อแล้ว พ่อตอบมาว่า“มึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ผัวหรอก” ได้ยินแล้วเสียใจมากตอนนี้พ่อเลิกยุ่งกับแม่แฟนแล้ว แต่อนาคตจะจัดงานแต่งกันได้ไหม... “คุณหนู (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ส.ค. 66] โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาพ่อแอบมีความสัมพันธ์กับแม่ของแฟน โดย “คุณหนู (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับแฟนจะไปต่อยังไง... เพราะพ่อของหนูแอบไปมีความสัมพันธ์กับแม่ของแฟนหนู ในขณะที่พ่อหนูยังอยู่กับแม่หนูปกติ แต่แม่แฟนเขาเลิกกับพ่อแฟนแล้ว ก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว พ่อแม่แฟนเขาเลิกกันด้วยเหตุผลส่วนตัวทางบ้านเขา ตัวของแฟน พี่สาว และพ่อ เขาก็ออกมาซื้อบ้านอยู่กันข้างนอก แต่ให้แม่อยู่ในบ้านเดิมไป ซึ่งบ้านหลังนั้นอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับบ้านหนู หนูคบกับแฟนมา 10 ปีแล้ว ปกติพ่อหนูจะเป็นคนเจ้าชู้ และหวงลูกสาวมาก เพราะหนูเป็นลูกคนเดียว แต่เรื่องที่หนูมีแฟน ทุกคนรู้หมด แต่ทำยังไงก็ได้ห้ามให้พ่อรู้ว่าหนูมีแฟน เพราะเดี๋ยวพ่อจะจำกัดอิสระของหนู เวลาไปไหนก็ไปไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้พ่อไม่รู้ แต่แม่รับรู้ว่าคบกับแฟนคนนี้ ซึ่งแม่แฟนรู้ว่าคนนี้เป็นพ่อของหนู ก่อนหน้านี้พ่อเคยทำงานบริษัทเดียวกับแม่ของแฟนและแฟน เขาก็คุยกันตลอด แต่คุยกันแบบปกติ มีการขับรถไปรับไปส่งกันด้วย แต่พ่อไม่รู้ว่าคนนี้คือแม่ของแฟนหนู จนมีช่วงนึง พ่อกับแม่หนูทะเลาะกัน หนูเลยพาแม่ออกมาอยู่ข้างนอก ให้เขาแยกกันสักพัก คลี่คลายแล้วจะพาแม่กลับไป ซึ่งเรื่องทะเลาะก็เป็นการทะเลาะกันปกติของสามี-ภรรยา ช่วงหลังๆพ่อเริ่มเปลี่ยนไป จากปกติเคยมาง้อให้พวกเรากลับบ้าน แต่ครั้งนี้เขาไม่มา แล้วก็มีคนรอบข้างที่อยู่แถวบ้าน เริ่มมาพูดกับแม่แปลกๆ เขาพูดประมาณว่า พี่ไม่กลับมาดูบ้านเลยหรอ หนูคิดถึงพี่จังเลย มีเรื่องอยากคุยกับพี่จัง แม่ก็เลยแปลกใจ เพราะพ่อเป็นคนเจ้าชู้อยู่แล้ว ตัวหนูเองก็เลยเปิดกล้องวงจรปิดดูว่าพ่อทำอะไรอยู่ เขาอยู่บ้านใช้ชีวิตยังไง ปกติดีมั้ย? หนูก็บังเอิญไปได้ยินว่าพ่อกำลังจะไปรับแม่ของแฟน จะออกไปข้างนอกกัน หนูเลยตัดสินใจว่ายังไงวันนี้ก็จะบอกพ่อว่าคบกับคนนี้ จะบอกว่าคนนี้คือแม่แฟน จะได้ไม่เกิดอะไรขึ้น เขาจะได้วางตัวกันถูก หนูก็เลยโทรไปบอกพ่อ แต่พ่อบอกว่าไม่มีอะไร ตอนแรกเขายังไม่ยอมรับ หนูก็เลยชวนแม่กลับไปอยู่บ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นหนูก็ยังคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก เขาคงเป็นเพื่อนกัน พอกลับมาถึงบ้านหนูก็เลยไปคุยส่วนตัวกับพ่อ หนูบอกพ่อว่า หนูขอร้องได้มั้ย กับคนนี้อย่าไปยุ่งได้มั้ย เขาเป็นแม่แฟนหนู ให้หนูได้ใช้ชีวิตต่อไป หนูคบกันมา 10 ปีแล้ว ถ้าเกิดพ่อไปยุ่งกับเขา ชีวิตหนูจะพังเลยนะ หนูไม่รู้จะก้าวต่อไปยังไง หนูก็ขอร้องเขา เขาก็พูดกลับมาว่า แกไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีสามีหรอกนะ แล้วแกอย่าไปบูลลี่เขา อย่าไปใส่ร้ายเขา เขาบอกว่าแม่แฟนบอกว่าเขาไม่รู้เลยว่าลูกคบกันอยู่ หนูก็เสียใจว่าทำไมพ่อถึงพูดกับเราแบบนั้น ที่ผ่านมาหนูมองว่า การที่หนูไม่ได้บอกพ่อ คือ เหมือนเราอยากจะไปบอกเขาตอนที่เราตกลงปลงใจว่าจะแต่งงานกับคนนี้ พ่อจะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่ เพราะพ่อหวงหนูมาก อยากให้เขารับรู้ว่าลูกฉันมีแฟน แต่งงานไปเลยทีเดียว จบ! หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนมาพูดว่า เขาทั้งสองคนไปอย่างนั้นอย่างนี้กันนะ หนูก็เริ่มมีเซ้นส์แล้วด้วย ก็เลยแอบติด GPS ที่รถของพ่อ และหนูกับแม่ก็ไปจับได้ที่โรงแรมว่าเขาอยู่ด้วยกัน หนูเจอเขาอยู่ในห้อง พอเราเคาะประตูเหมือนเขารีบแต่งตัวมาเปิดประตู เขาอ้างว่ามาคุยกันเฉยๆ คุยกันเรื่องเงิน เพราะเขามีการยืมเงินกัน แม่ก็เสียใจ และไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพร์สเลย เพราะแม่เจอเรื่องแบบนี้มาตลอด ตอนแรกที่เจอ แม่ก็โมโห จะเลิกเลย พ่อก็หลบไปอยู่บ้านเพื่อน คือพ่อกับแม่เป็นเพื่อนกันมาก่อน พ่อก็คุยกับเพื่อนแล้วให้เพื่อนช่วยเป็นคนกลางมาไกล่เกลี่ยให้กลับมาดีกัน ตอนนี้พ่อกับแม่กลับมาดีกันได้แค่ 1 อาทิตย์ ความรู้สึกของหนูยังรู้สึกตกใจ เสียใจ ยังทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์นี้ แต่พ่อก็กลับมาอยู่ในบ้านแล้วเรียบร้อย ปฎิกิริยาของแม่แฟน เขาก็ด่าหนู เอาบ้านหนูไปนินทาให้คนอื่นในหมู่บ้านฟัง เหมือนมีคนมาเล่าให้ฟังว่า อีกคนพูดว่า ลูกชายเธออ่ะ ชะตาอวัยวะเพศขาดมากเลยนะที่ได้ E คนนี้เป็นแฟน พูดเหมือนหนูเป็นคนไม่ดี เป็นผู้หญิงไม่ดี หนูไม่รู้เลยว่าหนูไปทำอะไรให้เขา แล้วเขาก็พูดว่า ยังไงพ่อ E นี้ก็เลิกกับฉันไม่ได้หรอก จะต้องเลี้ยงฉันไปจนตาย ฉันจะเอาให้หมดตัวเลย ตอนนี้หนูกับแฟนไม่รู้จะทำยังไงกัน ความสัมพันธ์ก็ยังปกติมาก ยังรักกันปกติ แฟนรู้ แต่เขาไม่รู้จะทำยังไงกับแม่เขาแล้ว แม่หนูไม่ได้บังคับให้ต้องเลิกกัน แม่หนูก็บอกว่า แม่เข้าใจ แม่รู้ว่ามันคนละคนกัน ความผิดนี้มันไม่ใช่ความผิดของเด็ก ผู้ใหญ่เป็นคนทำเรื่องนี้เอง ฝากบอกแฟนด้วยว่า แม่เหมือนเดิมกับเขาทุกอย่าง ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกร็งแม่เลย หนูดีใจมากที่แม่เข้าใจ แต่แม่ก็ยังไม่ได้เลิกกับพ่อ หนูก็เลยไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี หนูเคยคิดกันว่าเก็บเงินทำงานกัน จนอายุ 30 ค่อยลงหลักปักฐานกัน เราคงได้มีครอบครัวแล้ว แต่ตอนนี้ที่เราฝันไว้ ตั้งใจไว้ มันไม่สามารถเป็นจริงได้แล้ว เพราะทุกคนเข้าหน้ากันไม่ติด ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับพี่ๆ พี่ๆจะทำยังไงต่อไป..? งานนี้ 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เข้าใจความรู้สึกคุณหนูนะ แต่ถ้าฟังจากบุคคลภายนอก มันดูไม่เป็นอุปสรรคในความรักของคุณหนูกับแฟนเลย เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราสองคนเลย มันเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่เราทำ เขาโตขนาดนั้นแล้ว ซึ่งเราก็ได้บอกเขาไปแล้วด้วย แต่เขาไม่ฟัง เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว หลังจากนี้โฟกัสกับแม่ให้มากกว่า จับแม่มานั่งคุยเลยว่า ถ้าแม่ทนไหวแม่ก็ทนไป แต่ถ้าทนไม่ไหว ก็แนะนำให้แม่เลิกกับพ่อเลย แต่ถ้าแม่ไม่ยอมเลิก ก็บอกเขาว่าแม่ต้องยอมรับว่าพ่อจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แม่ก็จะมีชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆนะ จนกว่าพ่อจะตายหรือแม่จะเลิกกับเขาอ่ะ ส่วนพ่อกับแม่ของแฟน จะไม่ยุ่งกับเขาเลย เราได้บอกเขาไปแล้ว จากนี้ไปเขาจะทำดีทำชั่วก็เรื่องของเขาแล้ว ตราบใดที่เขาไม่มายุ่งกับเรา เขาจะทำไรทำ จะลงนรก ขึ้นสวรรค์ก็ตามใจเลย’ และถ้าพวกพี่เป็นหนู พี่คงจะไม่สูญเสียความมั่นใจ ไม่นึกถึงขั้นที่ว่าชีวิตจะไปต่อไม่ได้ แต่มานั่งคุยกับแฟนว่างานแต่งงานของเราจะเอายังไง จะเชิญใคร จะจัดรูปแบบไหน ให้ปัญหาน้อยที่สุด 2 คนนี้ที่เขาไปได้กัน มันคือศีลเสมอกัน ถ้าเราศีลไม่เสมอกับเขา เราก็อย่าไปสนใจอะไรมาก ถึงแม้เขาจะเป็นพ่อบังเกิดเกล้าก็ตาม’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

กำลังจะแต่งงานต้นปีหน้ากับแฟนที่คบกันมา 3 ปี เรากับเขารักกันดี แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... ครอบครัวของแฟนขอให้ลาออกจากงานที่มั่นคง มาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ให้ย้ายไปอยู่ร่วมกับ ครอบครัวใหญ่ของฝ่ายชาย เราไม่ชอบทำอาหาร ทำงานบ้านเท่าไหร่

30 พ.ค. 2025

กำลังจะแต่งงานต้นปีหน้ากับแฟนที่คบกันมา 3 ปี เรากับเขารักกันดี แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... ครอบครัวของแฟนขอให้ลาออกจากงานที่มั่นคง มาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ให้ย้ายไปอยู่ร่วมกับ ครอบครัวใหญ่ของฝ่ายชาย เราไม่ชอบทำอาหาร ทำงานบ้านเท่าไหร่

กำลังจะแต่งงานต้นปีหน้ากับแฟนที่คบกันมา 3 ปี เรากับเขารักกันดี แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่...ครอบครัวของแฟนขอให้ลาออกจากงานที่มั่นคง มาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ให้ย้ายไปอยู่ร่วมกับครอบครัวใหญ่ของฝ่ายชาย เราไม่ชอบทำอาหาร ทำงานบ้านเท่าไหร่ครอบครัวแฟนก็ค่อนข้างหัวโบราณและเข้มงวด ซึ่งเราไม่อยากทิ้งอาชีพที่รักด้วย จะปรับที่ตัวเราหรือถอยออกมาดี? “คุณจิ๊บ (นามสมมติ)” เป็นสายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [28 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องปัญหาชีวิตคู่กับแฟนที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่ครอบครัวของผู้ชายบอกให้ลาออกจากอาชีพที่มั่นคงมาเป็นแม่บ้านแทน โดย “คุณจิ๊บ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘จิ๊บคบกับแฟนมา 3 ปี เราก็มีการงานที่มั่นคงกันทั้งคู่ มีแพลนที่จะแต่งงานกันแล้วในปีนี้ แต่ดันเป็นปีชงของแฟน ต้องเลื่อนการแต่งงานออกไปเป็นต้นปีหน้าแทน เลยปรึกษาแฟนว่าอยากให้ทางผู้ใหญ่คุยกัน เพราะจะได้วางแผนจัดการเรื่องงานแต่ง ปรากฏว่าพอจิ๊บไปคุยกับที่บ้านของแฟน เขาบอกว่า “เราเนี่ยใช่แล้วหรอ ดีรึยัง” ด้วยความที่จิ๊บไม่ได้คลุกคลีกับที่บ้านของแฟน เหมือนเขาก็ไม่ค่อยรู้จักเราดี แล้วที่บ้านเขาก็บอกมาว่า ถ้าแต่งไปก็อยากให้จิ๊บช่วยดูแลลูกชายเขาด้วยความเป็นห่วง แต่จิ๊บไม่อยากทำอาหาร แม่เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่ ขนาดเขายังต้องตื่นขึ้นมาทำกับข้าวอยู่เลย เราใช้ชีวิตเหมือนเป็นเจ้าหญิงที่บ้านของเรา เราคิดว่าทำงานแล้วค่อยเอาเงินมาจ้างเชฟไว้ทำอาหารดีกว่า ถ้าแต่งงานไปก็ควรจะทำได้ และจิ๊บต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวเขา แต่เรารู้สึกว่าอยากสร้างครอบครัวเองมากกว่า เพราะครอบครัวของแฟนเป็นครอบครัวที่ใหญ่มาก ขนาดพวกเขากันเองยังมีปัญหาภายในกันเยอะ เลยเป็นความกลัวว่าจะถูกเพ่งเล็ง เวลาทะเลาะกับแฟนก็กลัวจะโดนว่า และสุดท้ายเขาอยากให้เราลาออกจากงานของเรา ซึ่งเรารู้สึกงานของเรามั่นคงดี รายได้ก็โอเค เลยไม่เข้าใจว่าทำไม่เราต้องทำแบบนั้น แฟนก็อยากให้เราเข้าไปอยู่กับครอบครัวเขา ซึ่งเขาทำงานเยอะมาก เขาเลยอยากได้เพื่อนคู่คิด หรือ คนที่จะสามารถไว้ใจเรื่องเงินได้ จิ๊บแค่รู้สึกว่าถ้าไปทำงานกับแฟน เขาก็น่าจะให้เราเป็นเงินเดือนเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่ามันจะดีกว่ามั้ย เพราะเราก็เก่งในอาชีพของเราด้วย แฟนรู้สึกว่าอาชีพของเราก็ดี แต่เขารู้สึกว่าถ้าเราช่วยกันเราจะไปไกลกัน มากกว่านี้ ให้ค่อย ๆ ปรับ ถ้าเบื่องานของเราเมื่อไหร่ก็ค่อยมาช่วยงานเขาแทน จิ๊บก็สร้างบ้านของตัวเองเหมือนกัน แต่ก็เลือกที่จะไปอยู่กัยเขาเนื่องจากเขาขอไว้ แต่เราก็รู้สึกว่าช่วงแรกที่คบกันเรื่องแต่งงานมันดูง่าย คนรอบตัวที่แต่งงานก็บอกจิ๊บว่าปัญหาพวกนี้มันละเอียดอ่อน วันที่เราแต่งงานกันแล้วมันจะเป็นอีกเรื่อง เราคิดว่าหรือเราจะลองสักตั้ง แต่ทุกคนรอบตัวก็บอกว่าให้คิดดี ๆ พ่อแม่เขาก็มีเหตุผลแต่มันก็เป็นเหมือนผลของคนจีนที่โบราณหน่อย ส่วนเราเป็นเด็กยุคใหม่ที่เราเข้าใจเหตุผลขอลทุกคน จนบางทีเราก็คิดว่าหรือเราเองที่เป็นคนผิด ที่บ้านเขาบอกว่าถ้าแต่งกันแล้วก็ไม่มีวันเลิกกัน แต่จิ๊บมองความเป็นจริงมากกว่า แต่สุดท้ายจิ๊บกับแฟนก็รักกันมาก ระหว่างที่เราคบกันก็ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องใหญ่ อยากถามว่าพี่ ๆ ดีเจว่า มีความคิดเห็นยังไง ถ้าสมมติว่าจิ๊บเป็นน้องสาวของพี่ ๆ’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ให้ลองข้าไปอยู่ในบ้านเขาก่อน ถ้ามันไม่เวิร์คก็แค่เลิก ลองไปเทสว่าจะอยู่กับพ่อแม่เขาได้มั้ย หรือ ลองแต่งงานไปเลยแล้วถ้าไม่ใช่ก็แค่หย่า ไม่ต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่เพราะอย่างน้อยถ้าวันนึงเลิกกัน อาชีพนี้จะทำให้จิ๊บมีรายได้ และเรื่องการอาหารมันไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้ามีเงินก็จ้างแม่บ้านเอา’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะบอกว่าให้ลองแต่งงานเข้าบ้านเขาไปอยู่ให้แน่ใจ แล้วให้ลองทำงานบ้านให้เขาเห็นว่าเราพยายาม แต่อย่าเพิ่งลาออกจากงาน อย่าไปฟังคำที่เขาพูดว่า มันจะไม่มีการหย่า’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องมีใครสักคนที่ต้องยอม เช่น พ่อแม่แฟนอาจจะต้องยอมปล่อยลูกชายออกไป หรือ คุณจิ๊บต้องยอมไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแทน แฟนคุณจิ๊บเลยสำคัญมากในการตัดสินใจครั้งนี้ แล้วคุณจิ๊บพร้อมที่จะชีวิตของตัวเองเพื่อไปเป็นสะใภ้ของครอบครัวนี้ได้มั้ย ถ้ายังไม่พร้อมก็ยากที่จะไปกันรอด’ และสุดท้ายดีเจทั้ง 3 คนได้ให้ความเห็นตรงกันว่า ‘ให้คุณจิ๊บลองเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของแฟนดูก่อน แต่อย่าเพิ่งมีลูกและห้ามออกจากงานเด็ดขาด’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1