จะทำยังไงดีคะ? เป็นห่วงคุณแม่วัย 76 แกเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่ ของทุกคนเลย ช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามา ให้เงินญาติ หลานห่างๆ อาสาขับรถไปส่งคนนู้น คนนี้ ไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมอุปกรณ์ให้บ้านคนอื่น แกทำหมดเลย บางวันออกบ้านไปติดต่อไม่ได้แบตหมด

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

จะทำยังไงดีคะ? เป็นห่วงคุณแม่วัย 76 แกเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่ ของทุกคนเลย ช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามา ให้เงินญาติ หลานห่างๆ อาสาขับรถไปส่งคนนู้น คนนี้ ไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมอุปกรณ์ให้บ้านคนอื่น แกทำหมดเลย บางวันออกบ้านไปติดต่อไม่ได้แบตหมด

09 ธ.ค. 2024

จะทำยังไงดีคะ? เป็นห่วงคุณแม่วัย 76 แกเป็น ซุปเปอร์ฮีโร่ ของทุกคนเลย ช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามา

ให้เงินญาติ หลานห่างๆ อาสาขับรถไปส่งคนนู้น คนนี้ ไปเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมอุปกรณ์ให้บ้านคนอื่น

แกทำหมดเลย บางวันออกบ้านไปติดต่อไม่ได้แบตหมด ลืมเอามือถือไป ก็เป็นห่วงเค้ามาก

          “คุณมะม่วง (นามสมมติ)” อายุ 40 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [4 ธ.ค 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาคุณแม่ชอบช่วยเหลือคนอื่น

            โดย “คุณมะม่วง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘มันเริ่มจากคุณแม่เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือทุกคนตั้งแต่ญาติพี่น้อง แล้วตอนนี้ก็ขยายไปถึงเพื่อนของญาติพี่น้องด้วย อย่างญาติพี่น้องก็จะขอหยิบยืมเงิน แต่ส่วนใหญ่คือให้ไปเลย ญาติห่าง ๆ ใครมาขอก็จะให้ไป หลาน ๆ ก็จะให้ 1,000 – 5,000 บาท เรื่องเงินก็เรื่องนึง ตอนนี้ด้วยความที่ท่านก็อายุเยอะแล้ว 76 ปี แต่ท่านก็ยังแอคทีฟมาก ช่วยเหลือทุกคน เช่น เพื่อนไม่สบายก็ขับรถไปรับเพื่อนที่บ้าน แล้วก็พาไปหาหมอนั่งรอ และก็พากลับไปส่งบ้าน แล้วก็ขับกลับบ้านเรา บางที่เป็นโรงบาลรัฐก็ต้องไปรอนาน ๆ ก็เลยคิดทำไมแม่เราต้องไปนั่งรอกับเขาด้วย? ทำไมญาติพี่น้องเขาไม่ช่วย

            จนล่าสุดอันนี้เป็นเพื่อนคุณป้าอีกทีนึง เขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วขโมยขึ้นบ้าน ขโมยก็แงะประตู หน้าต่างแล้วเหมือนก็เขาอยู่ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย คุณแม่ก็เลยไปซ่อมหน้าต่าง ซ่อมประตู ซื้อม่าน คือเหมือนทำบ้านให้เขาใหม่ เราก็แบบทำไมญาติพี่น้องเขาไม่ทำให้ ซึ่งเรื่องการช่วยเหลือความใจดีของคุณแม่เนี่ยเคยเป็นประเด็นในที่บ้านมาแล้ว เพราะว่าตอนนั้นคุณพ่อยังอยู่ คุณพ่อก็ค่อนข้างจะน้อยใจว่า ทำไมไม่ดูแลคนที่บ้านก่อน คุณแม่ออกจากบ้านแทบทุกวัน ไปช่วยคนนู้นช่วยคนนี้ ขับรถให้ญาติ ๆ บ้างเพื่อนบ้าง  แต่ตอนนี้คุณพ่อไม่อยู่แล้ว คุณแม่เลยยิ่งแอคทีฟไปใหญ่ ทั้งที่อายุก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาคือคุณแม่ก็อายุเยอะแล้วก็ไม่อยากให้ขับรถ บางครั้งรถก็มีไปเฉี่ยวกับที่จอดรถบ้าง แต่ไม่ได้รุนแรง เคยพยามพูดแล้วแต่แม่ก็ไม่เชื่อ หนูอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจ 2 ข้อคือ “พอจะพูดยังไงให้มัน Effective กว่านี้ หรือว่าเราควรจะพอได้แล้ว?” กับ “ควรจะหากิจกรรมอะไรให้ทำดี”

            ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ทั้งสองข้อแก้ให้ไม่ได้ค่ะ มันคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในคำถามแรกพูดยังไงให้แม่เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าถามว่าคุณแม่ทำมาทั้งชีวิตจะเปลี่ยนยังไงคะ ไม่มีทางเลยก็ให้มอง ถ้ามันเป็นความสุขของเขาก็ปล่อยเขา แต่ว่าดูอันนี้ไม่ได้อันตรายกับท่าน แล้วท่านยังดูแข็งแรงอยู่นะ 76 แล้วออกมาทำแบบบเนี้ยมันคือความสุขจริง ๆ ก็ได้นะถ้าอยู่บ้านแล้วมันไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นข้อแรกเราตีไปเลยว่ามันทำไม่ได้มันไม่มีวิธีพูดใด ๆ ส่วนข้อสองกิจกรรมมีครบหลากหลายแล้ว มันต้องมีกิจกรรมที่คนสูงอายุทำแล้วเผาเวลา อย่างเช่นกิจกรรมที่บ้านพักคนชราเขาทำกัน “ไผ่นกกระจอก”

            “คุณมะม่วง” เสริมต่อว่า ‘เสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่ได้ทำงานก็จะพาแม่ไปกินข้าวไปคาเฟ่กับหลานซึ่งท่านก็ไปด้วย’ ดีเจเลยให้คำปรึกษาต่อว่า ‘คุณแม่ก็ทำดีแล้ว ทำครบทุกย่างแล้วจัดสรรเวลาดีซะด้วย ไม่ได้บกพร่องอะไรที่เราจะไปริดรอนความสุขเขา’

            “ดีเจเติ้ล” เสริมต่อว่า ‘เพราะนี่พึ่งเห็นบทความ ‘การที่เราปล่อยให้พ่อแม่เราเกษียณ แล้วปล่อยให้อยู่บ้านเฉย ๆ อ่ะยิ่งทำให้เขาแก่ทำให้เสี่ยงอัลไซเมอร์’ ทำให้ชีวิตเฉามากเลยนะ เพราะเขารู้สึกว่าทำได้อีกตั้งเยอะ นอกจากนี้อาจจะให้ท่านเล่นเกม ออกกำลังกายหน้าห้าง เต้นลีลาศอะไรประมาณนี้ ดีเจมองว่า สิ่งที่คุณแม่ทำเป็นเรื่องน่ารักในวัยเขามากเลยนะ ถ้ามันไม่ได้เสี่ยงอันตรายอะไร แต่ทางที่ดีควรหาคนไปเป็นเพื่อนเขาคอยโทรบอกเวลามีอะไร ถ้าเราไม่มีเวลาตามเขาไปตลอด หรือหาอะไรติดตาม’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมือง มาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพส ตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่

30 มิ.ย. 2025

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมือง มาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพส ตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมืองมาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพสตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่ว่า ถ้าพ่อยังทำต่ออีกเรื่อยๆ อนาคตอาจจะเกิดกระทบต่อแม่ได้เรื่องนี้ปรึกษาพี่ชายแล้ว พี่ชายบอกว่า ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับพ่อ ปล่อยให้เขาทำไปแต่หนูเห็นโพสแล้วก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ “คุณก้าน (นามสมมติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 มิ.ย 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาพ่อเอาเฟซบุ๊กแม่มาโพสต์สุ่มเสี่ยง โดย “คุณก้าน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พ่อชอบเอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์เล่น แล้วโพสต์ล่าสุดจริง ๆ มันเป็นเหมือนโพสต์ตลก แต่หนูรู้สึกว่ามันสุ่มเสี่ยง เพราะมันเกี่ยวกับบ้านเมือง หนูเลยค่อนข้างเป็นห่วงแม่ เพราะมันไม่ใช่แนวที่แม่จะทำ ปกติแม่ลงแต่เรื่องผ้าปัก หนูจึงถามพ่อ เขาให้เหตุผลมาว่า “เขาเพื่อนในเฟสน้อย อยากให้แม่ลองโพสต์อะไรออกสื่อบ้าง” ซึ่งตอนโพสต์แม่น่าจะรู้ เพราะเหมือนก่อนหน้านี้ พ่อได้เอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์เกี่ยวกับเรื่องไปเที่ยว ในส่วนนี้หนูไม่ติดอะไร ตอนแรกที่เห็น หนูคิดว่าพ่อโพสต์ จึงไม่ได้อะไร เพราะปกติพ่อเขาเป็นคนตลก แต่จะเจ้าอารมณ์หน่อย แล้วหนูพึ่งมาเห็นว่าเป็นเฟซบุ๊กแม่ที่โพสต์ หนูจึงทักไปถามพ่อว่า “ทำไมไม่เอาเฟซบุ๊กตัวเองโพสต์ มันไม่ควรหรือเปล่า ทำไมถึงเอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์แบบนั้น” พ่อจึงตอบกลับแนวประชด ๆ กวน ๆ มาประมาณว่า “พ่อก็โพสต์ไปแบบขำ ๆ อย่าซีเรียส ใครไม่โอเคก็เรื่องของเขา” แต่กลายเป็นว่าตัวของหนูเองที่ไม่โอเค จึงพูดกับพ่อไปว่า “ลูกไม่โอเค คือ ลูกต้องต้องไปจัดการตัวเองใช่ไหม” พ่อจึงตอบกลับมาว่า “ถูกต้อง” หนูยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับแม่เลย เพราะเขาอยู่ด้วยกันสองคนที่ต่างจังหวัด ส่วนหนูอยู่กรุงเทพ พ่อเขาจะเป็นคนเอาโทรศัพท์ของแม่ไปเล่นเป็นเหมือนของตัวเองเลย ก่อนหน้านี้พ่อเขาไม่ได้โพสต์เชิงนี้ มีแต่โพสต์รูปไปเที่ยว, เช็คอิน แค่นั้นเลย แต่จะใช้เฟซบุ๊กแม่ลง อีกทั้งพ่อเขาจะเอาเฟซบุ๊กตัวเองไปเมนต์ในโพสที่ลงในเฟซบุ๊กแม่อีกที คือเจตนาของหนูคือหนูแค่เป็นห่วงแม่เฉย ๆ กลัวในอนาคตเผื่อพ่อไปทำอะไรมากกว่านี้มันจะมีปัญหา คือถ้าโพสต์ไปอยู่ในเฟซบุ๊กพ่อหนูจะไม่อะไรเลย รวมถึงจริง ๆ พ่อเขาเป็นข้าราชการเกษียณ หนูเลยค่อนข้างห่วงเขาด้วย’ โดยดีเจทั้งสาม (ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม) ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘จริง ๆ พ่อเขาคงตั้งใจให้มันเป็น comedy แต่ว่าข้อความและแคปชั่น มันค่อนข้าง sensitive ซึ่งจริง ๆ หนูควรบอกเขาเรื่องนี้ อย่างแรกคือ ควรเริ่มต้นคุยกับแม่ก่อนว่า “แม่โอเคไหม กลัวไหม” ซึ่งถ้าแม่บอกกลับมาว่า “โอ๊ย แม่ชอบ แม่ก็ขำด้วยเนี่ย” แบบนี้ก้านจะทำอย่างไร คงทำได้เพียงแค่เตือนไปว่า “โพสต์อะไร ให้ระวัง ๆ หน่อย” หรืออาจจะต้องพูดบอกทั้งแม่และพ่อไปว่า“เรื่องนี้มันค่อนข้างเสี่ยงมาก หากมีคนไม่หวังดี เอาไป เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องไป อย่าไปเล่นเรื่องนี้ ข้อความมันแรงไปหน่อย ไปเล่นเรื่องอื่นแทน จริง ๆ มันแก้แค่ไม่กี่คำ แค่ดึงบางคำออกมันจะเซฟขึ้นเยอะ แต่นึกภาพออกนะว่าคนแก่ อาจจะอารมณ์ขันประมาณนี้ พี่แนะนำคือ เตือนพ่อได้ ซึ่งพ่ออาจจะเข้าใจ แต่เขาอาจจะตอบกวน ๆ กลับมา แต่ว่าอนาคตเขาอาจจะระวังขึ้น ถ้าเขาไม่ระวัง หากเขาโดนทัวร์ลงครั้งนึง เดี๋ยวเขาจะระวังขึ้นเอง อาจจะรีพอร์ต ลบโพสต์เฟซบุ๊กแม่ หรือไม่ก็ไปแก้ไขโพสต์ให้เป็น privacy ให้เห็นแค่ only me เลย เขาจับไม่ได้หรอก อีกทั้งหนูเองอยู่ไกลแม่ ไม่สามารถ control ได้ หนูอาจจะต้องสอนแม่อีกที มันสามารถจัดการได้คุณก้าน ลองคุยดูนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ครอบครัวแฟนทุกคนเรียนหมอ แต่แฟนหนูสอบติดเภสัช ครอบครัวกดดันให้สอบหมอใหม่ทุกปี แฟนหนูเครียดจนร้องไห้ พีคสุดวันรวมญาติ มีคนเล่าข่าว นศ.แพทย์เรียนไม่ไหวกระโดดตึกเสียชีวิต ปู่แฟนได้ยินแล้วพูดว่า "สมควรแล้ว เรียนแค่นี้ทำไมไม่ไหว" แฟนได้ยินแบบนี้ยิ่งกดดัน

12 เม.ย. 2024

ครอบครัวแฟนทุกคนเรียนหมอ แต่แฟนหนูสอบติดเภสัช ครอบครัวกดดันให้สอบหมอใหม่ทุกปี แฟนหนูเครียดจนร้องไห้ พีคสุดวันรวมญาติ มีคนเล่าข่าว นศ.แพทย์เรียนไม่ไหวกระโดดตึกเสียชีวิต ปู่แฟนได้ยินแล้วพูดว่า "สมควรแล้ว เรียนแค่นี้ทำไมไม่ไหว" แฟนได้ยินแบบนี้ยิ่งกดดัน

“คุณฟิล์ม(นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [10 เมษายน 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย นภาพร เกี่ยวกับครอบครัวแฟนกดดันให้แฟนเป็นหมอ... โดย “คุณฟิล์ม(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องของแฟน พอดีที่บ้านแฟนกดดันให้เป็นหมอตลอดเวลา ต้องบอกก่อนว่าครอบครัวแฟนเป็นครอบครัวคนจีนและญาติพี่น้องก็เป็นหมอกันหมด ยกเว้นพ่อแฟน แฟนเล่าให้ฟังว่าตอนเด็ก ๆ พ่อแม่บอกตลอดว่า “เป็นหมอดีที่สุด” จนตอนนี้แฟนอายุได้ 20 ปี ปัจจุบันก็เรียนคณะเภสัช แต่หนูรู้สึกว่าพ่อกับแม่ก็ยังไม่พอใจ เขาให้แฟนสอบหมอทุกปี จนตอนนี้ผ่านมา 2 ปีแล้ว พ่อแม่ก็ยังให้สอบอยู่ มีอยู่ช่วงหนึ่งแฟนเปิดใจคุยกับพ่อแม่แบบจริงจังว่า “ไม่ไหวแล้ว” ร้องไห้ ไม่สมัครสอบหมอแล้ว แต่พ่อกับแม่ก็จะโทรตามให้คนใกล้ชิดมาช่วยดูแลให้หน่อย ล่าสุดแฟนได้ไปทานข้าวกับครอบครัว แล้วก็มีคนในรถพูดขึ้นมาว่า “เหมือนมีรุ่นพี่นักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง กระโดดตึกตาย” คุณปู่ก็พูดว่า “ถ้าเรื่องแค่นี้เรียนไม่ได้ ก็สมควรแล้วล่ะ” มันเลยทำให้แฟนมีความรู้สึกกดดันในระดับนึง จึงอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจว่า ถ้าพวกพี่ ๆ อยู่ในสถานการณ์เดียวกับแฟนหนู ควรทำยังไงดี? แล้วในฐานะที่เราเป็นแฟนเราควรที่จะให้กำลังใจแฟนยังไง? ให้เขาไม่เครียด ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ก็เคยโดนเหมือนกัน แต่พี่ก็ไม่ยอมให้ใครมาบงการชีวิต พ่อกับแม่พี่พยายามโน้มน้าวใจให้เรียนนิติศาสตร์ แล้วอยากได้อะไรก็บอกมาเลย แต่ก็ไม่มีอะไรมาโน้มน้าวใจพี่ได้ จนสุดท้ายพ่อแม่ก็ปล่อย เท่าที่พี่ได้สัมภาษณ์เภสัชในรายการใต้โต๊ะทำงาน พี่รู้สึกว่าอาชีพเภสัชเป็นอาชีพที่ขาดแคลนมาก ๆ โดยเฉพาะเภสัชที่ไปประจำอยู่ร้านขายยาใหญ่ ๆ ถ้าเรียนจบมาก็จะได้เงินเดือนทันทีเลย ซึ่งมันก็เป็นอาชีพที่สร้างรายได้มากมาย และเอาตรง ๆ คือสบายกว่าหมอเยอะมาก แค่ต้องต่อสู้กับความเบื่อในการเฝ้าร้าน ซึ่งแต่ละอาชีพมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน พี่ก็จะพยายามบอกพ่อแม่ว่า “รอให้เรียนจบก่อน แล้วเดี๋ยวจะทำให้ดูว่าอาชีพเภสัชสามารถเลี้ยงครอบครัวเราได้ขนาดไหน” จะไปประจำร้านขายยาหรือเปิดเองก็ได้ พ่อก็ไม่ได้เป็นหมดเหมือนกัน อย่าเอาความผิดหวังของตัวเองมากดดันลูกซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน พี่ว่าต้องอดทนและพิสูจน์ตัวเองตอนเรียนจบ ส่วนฟิล์มก็ให้กำลังใจแฟนเยอะ ๆ อย่าไปใส่ใจ ผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้ บางทีเขาก็อยู่ในชุดความคิดเดิม’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าเปลี่ยนชุดความคิดของครอบครัวไม่ได้ พี่ว่าถ้าแฟนยังใช้เงินของพ่อแม่ส่งเสียตัวเองเรียน ยังต้องอยู่บ้านพ่อแม่อยู่ก็อดทนเรียนให้จบก่อน จนกว่าจะทำงานหาเงินเองได้ ถ้าเป็นพี่ ถ้าพ่อแม่ให้สอบก็จะไปสอบทุกปี แต่ก็ไม่ติดสักปี เข้าไปกามั่ว ๆ เพื่อให้จะได้ไม่ต้องพูดว่า ไม่ไปสอบ แล้วพ่อกับแม่จะให้ทำยังไงในเมื่อสอบไม่ติดจนเรียนจบเภสัช ก็ลองดูว่าพ่อกับแม่จะเป็นยัง สำหรับฟิล์มคือต้องให้กำลังใจอย่างเดียวเลย วันรวมญาติพอแฟนกลับมาฟิล์มต้องรู้เลย ฟิล์มต้องเป็นที่พื้นที่ปลอดภัยของแฟน และฟิล์มก็ต้องอดทน เข้าใจเขา ไม่ทางออกนอกจากจะอดทน’ สุดท้าย “ดีเจอ้อย” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เราจะไปเปลี่ยนความคิดของพ่อกับแม่ก็ยาก ถ้าเราจะทำตามความคิดของพ่อแม่ทุกอย่างก็ไม่ได้ และคิดดูว่าถ้าไปสอบหมอใหม่เรื่อย ๆ การสอบได้หรือไม่ได้ จากปี 2 เริ่มไปเป็นเฟรชชีเราก็กำลังไปนั่งทบสิทธิของคนอื่น มันไม่ใช่แค่การสอบติดหมอแล้วจบ ถ้าเรียนหมอเพียงแค่พยายามอยากเป็นหมอ พอเรียนจบก็เป็นหมอที่คุณภาพไม่ดีมา 1 คน กับการที่จะต้องเสียเภสัชฝีมือดีไป 1 คน มันไม่คุ้มค่าการลงทุน แต่ทั้งหมดที่พี่พูดมาก็ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องเอาไปอธิบายให้กับพ่อแม่ฟัง เพราะเขาก็แค่คิดว่าแล้วทำไมไม่เป็นหมอ อย่างวันร่วมญาติมีคำถามเยอะแยะมากมาย ซึ่งอธิบายยังไงเขาก็ไม่ฟัง เพียงแค่ถ้าเราไปรู้สึกกับประโยคแบบนั้นเราก็ยิ่งจะกดดันตัวเอง ถ้ามั่นใจว่าเภสัชปี 2 ที่กำลังปีนชั้นขึ้นไป เรียนจบเภสัช 6 ปี และมาเป็นบุคลากรที่มีคุณค่า กล้าที่จะเลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบ กล้าที่จะเป็นสิ่งนั้นให้ดีที่สุดตามกำลังความสามารถของตัวเอง ฟิล์มเป็นกำลังใจให้แฟนได้ บอกกับแฟนเลย “มีคนอยากเป็นเภสัชเยอะแยะ เมื่อสอบได้ ต้องใช้สิทธินี้แทนคนอื่น ไม่ใช่สละสิทธิเมื่อตอนสอบหมอได้” ในวันหนึ่งเราต้องเดินหน้าตามความฝันของตัวเองให้ชัดเจน และคำถามของคนใด ๆ ไม่สามารถทำอะไรเราได้ ถ้าเราไม่ได้รู้กับคำถามเหล่านั้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทำงานขายของฝาก เฝ้าร้านกันอยู่สองคน หนูกับพี่ที่อายุ 30 แล้ว แต่พอเค้าเจอลูกค้าต่างชาติ เค้าวิ่งหนีมาหาหนู ให้หนูพูดอยู่คนเดียว เค้าเคยหาคอร์สภาษาบอกให้หนูไปเรียน แต่เค้าไม่กระตือรือร้นเลย พี่เจ้าของร้านก็ยังเก็บเขาไว้ เพราะเขาขายคนไทยได้

28 ต.ค. 2024

ทำงานขายของฝาก เฝ้าร้านกันอยู่สองคน หนูกับพี่ที่อายุ 30 แล้ว แต่พอเค้าเจอลูกค้าต่างชาติ เค้าวิ่งหนีมาหาหนู ให้หนูพูดอยู่คนเดียว เค้าเคยหาคอร์สภาษาบอกให้หนูไปเรียน แต่เค้าไม่กระตือรือร้นเลย พี่เจ้าของร้านก็ยังเก็บเขาไว้ เพราะเขาขายคนไทยได้

ทำงานขายของฝาก เฝ้าร้านกันอยู่สองคน หนูกับพี่ที่อายุ 30 แล้ว แต่พอเค้าเจอลูกค้าต่างชาติเค้าวิ่งหนีมาหาหนู ให้หนูพูดอยู่คนเดียว เค้าเคยหาคอร์สภาษาบอกให้หนูไปเรียน แต่เค้าไม่กระตือรือร้นเลยพี่เจ้าของร้านก็ยังเก็บเขาไว้ เพราะเขาขายคนไทยได้ ใกล้ high season แล้วทำไงดีคะ? “คุณนก (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [23 ต.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาพี่ที่ทำงานไม่ยอมใช้ภาษาอังกฤษ โดย “คุณนก (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘งานที่หนูทำคือเป็นงานค้าขาย/ขายของโซนทะเล ภาคตะวันออก ซึ่งจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ แล้วช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ฝรั่งเข้ามาเยอะมาก เวลาที่ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามา พี่ที่ทำงานอายุ 30 กว่าๆ เขาไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ เพราะเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ซึ่งเขาจะเลี่ยงให้หนูไปขายของ ไปคุยกับฝรั่งแทน แต่พอลูกค้าคนไทยเข้ามาซื้อ เขาก็ขายปกติ แต่เขาก็ไม่ได้ดูเป็นคนขี้เกียจ หนูก็เคยแนะนำให้เขาใช้มือถือ ใช้ Google หรือไปซื้อหนังสือมาอ่าน เขาก็ไม่เอา ส่วนเจ้านายก็เคยแนะนำเขาแล้วเหมือนกัน เลยทำให้หนูรับภาระมากขึ้นประมาณนึง และก็มีฝรั่งบางคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็ต้องแปลเป็นภาษาอื่น เคยมีเหตุการณ์นึงมีฝรั่งมาซื้อของแล้วถามว่าชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่? เขาก็เดินมาตามหนู และบอกให้หนูแปลให้หน่อย เขาฟังไม่ออก แต่ก็มีครั้งนึง เพิ่งผ่านมาได้ไม่ถึงเดือนพี่เขาแนะนำแอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษให้หนู เขาบอกว่าไปเจอมาจากใน Facebook / Tiktok มันเป็นแบบทดลองเรียนฟรี หนูก็เลยลองไปทดลองเรียนตามที่เขาบอก แล้วหนูก็ไปบอกเขาว่าหนูเรียนมาแล้วนะ มันเป็นแบบนี้ มันดีมากเลยนะ ได้คุยกับฝรั่งด้วย เขาบอกเขาไม่เอา เขาไม่กล้าลอง สำหรับหนู ถามว่าคุยกับฝรั่งได้ไหม? ก็พอคุยได้ แบบเบสิคๆ สามารถสื่อสารในการขายของได้ แต่ถ้าเป็นคำถามที่ยากเกินไปหนูไม่เข้าใจ หนูก็ยังพยายามเปิด Translate แต่ทำไมพี่คนนี้เขาไม่เอาภาษาเลย ส่วนเงินเดือนเราก็เท่ากัน หนูทำงานก่อนเขา ได้ทำงานด้วยกันประมาณปีนึง เลยอยากจะถามพี่ๆดีเจว่าหนูอยากให้เขาไปเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบเบสิค ง่ายๆ เพื่อเอาไว้ใช้ขายของ หนูจะทำยังไงดี?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แม่โทรหาพ่อ พ่อออกไปสังสรรค์กับเพื่อน พ่อลืมกดวางสาย แม่นั่งฟังต่อ 1 ชั่วโมงกว่า ได้ยินตั้งแต่พ่อเมากับเพื่อน จนพาผู้หญิงอีกคนไปนอนด้วยกัน ตอนมีอะไรกัน แม่ได้ยินทุกอย่าง พีคสุดผู้หญิงคนนั้นคือคนแถวบ้านที่รู้จักด้วย

08 มี.ค. 2024

แม่โทรหาพ่อ พ่อออกไปสังสรรค์กับเพื่อน พ่อลืมกดวางสาย แม่นั่งฟังต่อ 1 ชั่วโมงกว่า ได้ยินตั้งแต่พ่อเมากับเพื่อน จนพาผู้หญิงอีกคนไปนอนด้วยกัน ตอนมีอะไรกัน แม่ได้ยินทุกอย่าง พีคสุดผู้หญิงคนนั้นคือคนแถวบ้านที่รู้จักด้วย

แม่โทรหาพ่อ พ่อออกไปสังสรรค์กับเพื่อน พ่อลืมกดวางสายแม่นั่งฟังต่อ 1 ชั่วโมงกว่า ได้ยินตั้งแต่พ่อเมากับเพื่อนจนพาผู้หญิงอีกคนไปนอนด้วยกัน ตอนมีอะไรกัน แม่ได้ยินทุกอย่างพีคสุดผู้หญิงคนนั้นคือคนแถวบ้านที่รู้จักด้วย ตอนนี้แม่เศร้ามา 2-3 แล้ว หนูจะทำยังไงดีคะ? “คุณนิค(นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 มี.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาที่คุณแม่ได้ยินเสียงคุณพ่อกับชู้กำลังมีอะไรกันในโทรศัพท์ โดย ​“คุณนิค(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณแม่คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ได้ยินเสียงคุณพ่อสังสรรค์กับเพื่อนๆ และมีอะไรกับผู้หญิงอีกคนนึง เพราะคุณพ่อเมาแล้วลืมกดวาง แต่คุณแม่ไม่วางสาย เพราะอยากรู้ว่าในวงนั้นเขาคุยอะไรกันบ้าง? จนมันลามไปถึงตรงนั้น คุณแม่อายุ 69 ปี ส่วนคุณพ่ออายุ 58 ปี จะอายุน้อยกว่าคุณแม่ วันเกิดเหตุ คือคืนวันเสาร์ จากที่คุณแม่เล่าให้ฟัง คุณพ่อขอไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ตามปกติ คุณแม่เป็นคนไม่โทรจิก ไม่โทรตาม แค่จะถามว่าอยู่ไหน เมื่อไหร่จะกลับแค่นั้น คุณพ่อเป็นคนที่ชอบสังสรรค์กับเพื่อนอยู่ตลอด แต่คุณแม่ก็เข้าใจในส่วนนี้ วันนั้นเหตุการณ์คือ คุณพ่อไปสังสรรค์ คุณแม่ก็โทรตามปกติ คุณพ่อบอกว่า เดี๋ยวกลับแล้ว คุณพ่อก็คิดว่าคุณแม่วางสายโทรศัพท์ไปแล้ว แต่หลังจากนั้นคุณแม่ก็แอบฟังว่าเขาคุยอะไรกัน ก็ฟังไปเรื่อย ๆ จนถึงจุด ๆ หนึ่ง เขาได้ยินเสียงคุณพ่อกับผู้หญิงคนนึงมีอะไรกัน มีการบอกว่าต้องทำยังไง และเสียงผู้หญิงตอนมีอะไรกันมันออกมาด้วย ซึ่งคุณพ่อน่าจะเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงและเมาในระดับหนึ่ง คุณแม่ก็ฟังจนเขาเสร็จภารกิจ ไปส่งกันแต่ไม่ถึงหน้าบ้าน เพราะเขาตกลงกันว่าจะส่งแค่ครึ่งทาง หลังจากที่กลับมาบ้าน คุณแม่ก็เคลียร์ตรงนั้นเลย คุณแม่มีสติ แต่ไม่รู้ว่าคุณพ่อพูดอะไรออกไปบ้าง เช้ามาคุณแม่ก็โทรหานิคเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่วนนิคก็โทรถามคุณพ่อว่า เหตุการณ์มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงทำแบบนั้นลงไป คุณพ่อก็ไม่ปฏิเสธ เขาบอกว่า เขาเมา อารมณ์ชั่ววูบ และไม่ได้ป้องกันด้วย ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนกับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงาน เขาก็ไม่ใช่คนไกล อยู่หมู่บ้านข้าง ๆ คุณพ่อบอกคุณแม่ว่าเขามีครอบครัว มีสามี มีลูกแล้ว แต่สามีของผู้หญิงคนนั้นทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด คุณแม่บอกว่าไม่ได้นอนเลย 2 - 3 วัน หนูกับคุณแม่อยู่คนละจังหวัด แต่อยู่จังหวัดใกล้ ๆ กัน หนูก็ได้แต่โทรไปถามว่า โอเคใช่ไหม จะทำยังไงกันดี คุณแม่ก็บอกว่า ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลย คุณแม่ค่อนข้างช็อคเพราะได้ยินทุกอย่าง หนูอยากถามว่า หนูจะปลอบใจแม่ยังไงดี เพราะไม่รู้ว่าแบบไหนจะช่วยให้ดีขึ้น?’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ช่วงนี้ก็วิดีโอคอลหาคุณแม่บ่อย ๆ ปลอบใจกัน เวลาเห็นหน้าอาจจะส่งผลดีมากขึ้น สุดท้ายแล้วถึงแม่จะร้องไห้ ก็จะค่อย ๆ เยียวยาในตัวของมันเอง ได้เห็นหน้าลูก ได้เห็นหน้าหลาน อาจจะพอช่วยเยียวยาในช่วงนี้ไปได้บ้าง เรื่องราวมันค่อนข้างจะแรงมาก สิ่งที่ได้ยินมันเป็นซีนที่ทำร้ายจิตใจแบบมหาศาล ถ้าเราจะปลอบแม่ เราก็ต้องเชื่อก่อนว่า มันคือความผิดพลาด สิ่งที่เกิดขึ้นจากความมึนเมาแค่ครั้งเดียว คืนเดียวของพ่อ ก็คงต้องบอกว่า พ่อไม่เคยมีประวัติ มันก็เป็นไปได้ที่เขาจะเมาแล้วขาดสติ ชั่ววินาทีเดียวอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ แต่เชื่อว่าไปนั่งพร่ำบอกว่าพ่อเป็นยังไง มันก็คงช่วยลำบากเพราะเหตุการณ์พึ่งเกิด ก็ทำได้แต่ชวนคุณแม่คุยเรื่องอื่น ชวนดูหลาน เลี้ยงหลาน ส่งรูปหลานให้ดูเยอะ ๆ ก็จะช่วยเยียวยาคนแก่ได้มาก เอาลูกของเราเป็นตัวช่วยสมานแผลให้กับคุณยาย’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าทำได้อยากให้คุณนิคจับเขาแยกกันก่อน เพราะว่าเขาอยู่ด้วยกัน 2 คน ถ้าคุณแม่ไม่เคยรับรู้ ไม่เคยระแคะระคาย แล้วมาเจอตอนอายุ 69 ปี พี่ว่าก็ช็อค แล้วมาเจอเหมือนอยู่ในไลฟ์สด ต้องฟังไปเรื่อย ๆ จนจบ ก็ไม่แปลกที่คุณแม่จะมีอาการอย่างนี้ อาจจะให้มาอยู่กับทางหนูก่อน เพื่อไม่ให้ว่างหรือฟุ้งซ่าน เพราะตอนนี้พี่ว่าถ้าเขาอยู่คนเดียว ไม่มีอะไรมาดึงความสนใจ เขาก็ต้องคิดแต่เรื่องนี้ คล้าย ๆ กับพี่เผือกว่า เอาอย่างอื่นมาดึงความสนใจเขาก่อน พี่ว่ามันต้องใช้เวลาสักพักกับเรื่องนี้ จนเขาตกตะกอน ซึ่งพอเขาแยกออกมามันอาจจะเป็นได้ 2 ทางเลยคือ เขาตัดสินใจให้อภัยคุณพ่อ หรือเลิกกัน ซึ่งไม่ว่าจะยังไง พี่ว่าการที่นิคจะทำได้ดีที่สุดคือ น่าจะทำให้เขาเห็นว่า ไม่ว่ามันจะหัวหรือก้อย อยู่ต่อหรือเลิก คุณแม่จะมีคุณนิคอยู่ด้วย พร้อมซัพพอร์ตคุณแม่’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ตัวต้นเหตุคือคุณพ่อ สร้างความกลัวให้คุณพ่อเรื่องการที่ไม่ป้องกัน พ่อรู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? แชร์ตัวอย่างต่าง ๆ ที่ผิดพลาดในครั้งเดียว แล้วชีวิตเปลี่ยนไปทั้งชีวิต บอกพ่อเลยว่าอีก 3 เดือนพ่อต้องไปตรวจ ถ้าเกิดว่าพ่อไม่เป็น ถือว่าพ่อโชคดีมาก ๆ ฉะนั้นพ่อจงรักษาความโชคดีนี้เอาไว้ เพราะวันนี้ถ้าพ่อเป็นอะไรขึ้นมา พ่ออาจจะเสียแม่ไปด้วย การแยกตอนนี้มันยากมาก ความผูกพันที่แม่มีกับพ่อมันยาวนานมากแหละ แต่คนที่ตัดสินใจคือคุณแม่ว่าจะอยู่หรือจะไป เพียงแต่ ณ ตอนนี้เราดึงคุณแม่ออกมาก่อน ให้คุณแม่ตกตะกอนทางด้านความคิด ความรู้สึก ตอนนี้ฮีลใจคุณแม่ สร้างความกลัวให้คุณพ่อเพื่อไม่ให้ทำผิดอีก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1