รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น" จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น" จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด

10 มี.ค. 2025

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ

แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น"

จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด ควรขอโทษดีไหมคะ?

            “คุณพี (นามสมมุติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มีนาคม 2568] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ของหนูกับเเม่เเฟน

            โดย “คุณพี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูรู้สึกผิดที่ด่ากับแม่ของเเฟน เเต่เขาก็สมควรโดนด่าเเล้ว ต้องเล่าก่อนว่าหนูคบกับเเฟนมาประมาณ 8 ปี ทางบ้านก็รับรู้ทุกอย่างเเม่ของเเฟนก็ดูแลหนูดีมาก หนูไม่ต้องทำงานบ้านหรือต้องทำอะไรเลยตอนอยู่บ้านเขา เเต่สิ่งที่ทำให้หนูมีปัญหากับเเม่ของเเฟนคือ เเม่เขาเริ่มขอเงินเเฟนบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเงินที่เเม่เขาขอไปก็เป็นเงินที่หนูกับเเฟนหามาด้วยกันทั้งคู่ ตอนเเรกหนูกับเเฟนก็ตกลงกันเเล้วว่าจะให้เงินกับเเม่เป็นรายเดือน จะไม่มีการให้เงินเเบบยิบย่อย ทั้งเเม่ของเขาเเละเเม่ของหนูเอง

            เรื่องที่ทำให้หนูกับเเม่ของเเฟนมีปัญหากัน เกิดขึ้นเมื่อตอนเดือนตุลาคมปีที่เเล้ว คือหนูน้อยใจเเฟน หนูเลยโพสต์ประมาณตัดพ้อในเฟซบุ๊ก แล้วเเม่ของเเฟนก็มาเห็นเลยเเคปภาพ เเล้วส่งไปให้เเฟนหนูดู เขาก็พูดว่า เเฟนมึงจะโพสต์อะไรหนักหนา หนูเลยทักไปหาเเม่ของเเฟนเลยว่า เเม่หนูน้อยใจเเฟน หนูก็โพสต์ในหน้าเฟสหนู ทีลูกสะใภ้คนโตโพสต์ด่าเเม่ เเม่ก็ลองไปว่าเขาบ้างนะ พอหนูพูดไปเเบบนั้น เเม่เขาก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น หลังจากที่หนูพิมพ์ไปเสร็จเเม่เเฟนก็ไปคุยกับเเฟนว่า หนูมันเป็นกะเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น ไปหาคนใหม่ดีกว่า พอหนูรู้ว่าเเม่เเฟนพูดเเบบนั้น หนูก็เลยด่ากลับไปบ้างเลย พอเเฟนรู้ เเฟนก็โกรธเเล้วเราก็ทะเลาะกัน เขาก็กลับบ้านไปหาเเม่เขาก่อน หนูก็เลยลองโทรไปหาเขาว่าจะเอายังไงจะเลิกใช่ไหม? เขาก็ไม่เลิกเเล้วก็หนีจากบ้านกลับมาหาเรา พอเเม่เขาจับได้ว่าลูกเขาหนีมาหาเรา เเม่เขาก็ด่าหนูอีกเเละก็โพสต์เเซะอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้หนูรู้สึกผิดที่ทำให้เเม่ลูกเขาทะเลาะกัน หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูควรจะทำยังไงดีกับเเม่เเฟน หนูควรจะขอโทษเลยดีไหม?’

            โดย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าแม่ลูกคู่นั้นเขายังคิดถึงกันอยู่ ส่องเฟซกันไปมา พี่ก็คงบอกให้เขากลับไปคุยกับเเม่เถอะ เเต่ก็ต้องบอกเขาว่าถ้าเขากลับไปปัญหาเรื่องเงินมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม สุดท้ายถ้าจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ก็ต้องถามตัวพีว่า พีจะเเยกกระเป๋าไหม สุดท้ายก็ให้เขาไปคุยกันเพราะพี่ก็ไม่อยากให้เขาตัดแม่ ตัดลูกเพราะเรื่องของเรา เเละเรื่องขอโทษถ้าพีรู้สึกไม่สบายใจ พี่ว่าพีก็ไปขอโทษเขาได้’

            ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าให้อยู่ในจุดที่ต่างคนต่างอยู่ เเล้วเเยกกระเป๋ากันดีกว่า ถามเเฟนว่าอยากกลับไปหาเเม่ไหม ถ้าอยากก็ต้องคุยเรื่องเงินกันให้เคลียร์ไปเลย เเละก็พยายามไม่ใช้คำที่เเรงมากเกินไป เพราะคนที่เจ็บไม่ใช่เเม่เเฟน เเต่เป็นตัวของเเฟนพีเองมากกว่า’

            ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถามว่าจะทำยังไงเพราถึงจะมีเรื่องมีราวมากเเค่ไหน เเต่ต้องทำให้เเม่ลูกเขาไม่คุยกันเลยเนี้ย มันก็ต้องรู้สึกผิดอยู่เเล้ว  เพราะฉะนั้นเรื่องจะขอโทษดีไหม พี่ว่าถ้าทำไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะ เเต่สถานการณ์มันจะดีขึ้นไหม ไม่รู้เเต่พี่เชื่อว่าพีจะรู้สึกสบายใจไปเรื่องนึง เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อย ที่บ้านผมค่อนข้างหัวโบราณ ผมถือคติว่า จะมีอะไรกับแฟนได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานกันแล้ว ตอนนี้คบกับแฟนมา 7 ปี แฟนผมเขาก็เรียบร้อยมาก 7 ปีที่ผ่านมา มากสุดของคู่เราคือ “จับมือ” ไม่เคยหอมแก้ม ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้

13 มิ.ย. 2025

ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อย ที่บ้านผมค่อนข้างหัวโบราณ ผมถือคติว่า จะมีอะไรกับแฟนได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานกันแล้ว ตอนนี้คบกับแฟนมา 7 ปี แฟนผมเขาก็เรียบร้อยมาก 7 ปีที่ผ่านมา มากสุดของคู่เราคือ “จับมือ” ไม่เคยหอมแก้ม ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้

ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อย ที่บ้านผมค่อนข้างหัวโบราณ ผมถือคติว่า จะมีอะไรกับแฟนได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานกันแล้วตอนนี้คบกับแฟนมา 7 ปี แฟนผมเขาก็เรียบร้อยมาก 7 ปีที่ผ่านมา มากสุดของคู่เราคือ “จับมือ” ไม่เคยหอมแก้มไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้ ตอนนี้วางแผนจะขอแฟนแต่งงานแล้วครับ แต่ก็กลัวว่าถ้าแต่งไปแล้ว เรื่องบนเตียงเข้ากันไม่ได้จะเป็นปัญหาของชีวิตคู่เรา ซึ่งถ้าแฟนเขาไม่อยากมีอะไรจริงๆ ผมก็พร้อมจะไม่มีอะไรกับเขา เพราะผมอยากมีเขาในชีวิตทุกคนว่ามันจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตไหมครับ? “คุณกู๊ด (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี เป็นสายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [11 มิ.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องปัญหาชีวิตคู่กับแฟนที่คบกันมานานหลายปีแต่เป็นคนเรียบร้อยทั้งคู่ เลยยังไม่เคยมีอะไรกันเลย โดย “คุณกู๊ด (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมคบกับแฟนอยู่ว่ากำลังจะขอเขาแต่งงาน ก่อนที่จะขอก็ลองคิดดูว่าเราพร้อมไหม ทุกอย่างดีไปหมด ผมชอบเขามาก เรามีทุกอย่างตรงกัน มองอนาคตเหมือนกัน แต่ติดอยู่อย่างเดียว ผมกับเขาค่อนข้างเนิร์ด หัวโปบราณนิดนึง เราคบกันมานานแล้วตั้งแต่ปี 2018 เคยแค่จับมือกัน ไม่เคยหอมแก้มกัน นอนกอดบ้าง แต่ไม่เคยเกินเลยไปกว่านั้นเลย เกือบ 7 ปี เขาไม่ได้ห้ามแต่เราทั้ง 2 คนไม่ได้คิดที่จะเริ่มทำอะไรกันไปมากกว่านี้ เอาจริง ๆ ก็อยากจะมี sex life เหมือนกัน จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังซิงอยู่เลย แต่ว่าไม่เคยกล้าที่จะคุยกับเขา เราก็เคารพเขามาก กลัวว่าถ้าวันนึงแต่งงานกันไป แล้วเขาไม่ชอบเรื่องนี้ ผมไม่รู้ว่าผมจะโอเคไหม แต่ก็คุยกับตัวเองระดับนึงว่าผมโอเค คิดว่ามันเป็นการเสียสละแล้วกัน แต่ผมก็เคยเห็นเคสต่าง ๆ ที่อยู่ในข่าว มันอาจจะเป็นจุดแตกหักให้ความสัมพันธ์ไปต่อไม่ได้ไหม ผมกังวลมาก เลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ผมควรจะทำยังไงดี ควรจะลองมีอะไรกันก่อนหรือจะลองทีเดียวหลังแต่งงานเลย?’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับหอมยังไงก็ต้องมี sex ก่อนแต่งงานเพื่อเป็นการดูว่าทุกอย่างจะไปด้วยกันได้ไหม แต่จะเริ่มยังไง ก็ให้ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป อาจจะเริ่มจากการหอมแก้ม ถ้าเขาปฏิกิริยาตอบสนอง พอถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรกันแล้วเขาไม่ได้ขัดขืน ให้เอ่ยปากขอไปเลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘โลกนี้มันก็มีคู่รักที่เขาอยู่ได้โดยไม่มี sex นะ แต่ถ้าอยากจะมีผมแนะนำว่าให้ขอก่อนจะเริ่มทำอะไรเพราะเดี๋ยวเขาอาจจะงง ลองเริ่มจากการ skinship ไปก่อนก็ได้’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘ลองเปิดหนัง หรือ ซีรีส์โรแมนติกดู เลือกหนังที่มี love scene แล้วค่อย ๆ เริ่มไปทีละ step แล้วดูปฏิกิริยาเขาอีกทีหรือให้อยู่ในบรรยากาศดี ๆ ที่เหมาะกับการจะลองทำได้’ และสุดท้ายดีเจทั้ง 3 คนได้ให้ความเห็นตรงกันว่า ‘ให้ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป เริ่มจากอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะทั้งคู่ยังไม่เคย อาจจะทำให้แฟนตกใจ ถ้าสุดท้ายแล้วเขาไม่ชอบ ก็สามารถคุยกันก่อนที่จะแต่งงาน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สายสุดท้าย #พุธทอล์คพุธโทร ดีเจต้นหอมขอปรึกษาเอง! ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย? มันเป็นเรื่องที่หนูเคลียร์หมดแล้ว ชัดเจนไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน พิสูจน์หมดแล้วว่าหนูไม่ผิด ตอนนี้เจอลูกค้าแคนเซิลงาน โดนผลกระทบแบบนี้ แฟร์แล้วหรอคะ?

24 ต.ค. 2024

สายสุดท้าย #พุธทอล์คพุธโทร ดีเจต้นหอมขอปรึกษาเอง! ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย? มันเป็นเรื่องที่หนูเคลียร์หมดแล้ว ชัดเจนไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน พิสูจน์หมดแล้วว่าหนูไม่ผิด ตอนนี้เจอลูกค้าแคนเซิลงาน โดนผลกระทบแบบนี้ แฟร์แล้วหรอคะ?

สายสุดท้าย #พุธทอล์คพุธโทร ดีเจต้นหอมขอปรึกษาเอง! ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย?มันเป็นเรื่องที่หนูเคลียร์หมดแล้ว ชัดเจนไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน พิสูจน์หมดแล้วว่าหนูไม่ผิดตอนนี้เจอลูกค้าแคนเซิลงาน โดนผลกระทบแบบนี้ แฟร์แล้วหรอคะ?ต้นหอมขอพูดบ้างที่รายการแฉ GMM25 คืนนี้!! “ดีเจต้นหอม” สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ต.ค.67] ได้ปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล’ ในรายการแบบสดๆ เกี่ยวกับปัญหาได้รับผลกระทบกับงานและเงิน โดย “ดีเจต้นหอม” ได้เล่าว่า ‘ลูกค้าแคนเซิลงานเรา กลัวไปทำภาพลักษณ์เเบรนด์เสียหาย ซึ่งเราไม่ได้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ พิสูจน์เเล้วเรื่องนี้หนูไม่ได้ผิดเเต่ก็ได้รับผลกระทบจนต้องเสียงานเสียเงิน ก็ไม่ใช่ที่เราเป็นต้นเหตุเลย เราไม่ได้สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ต่อให้หนูเคลียร์เเล้วเเต่มันก็มีผลกระทบอยู่ดี เเล้วแบบนี้ใครต้องรับผิดชอบชีวิตหนู การงานการเงินหนู รายได้หนูที่จะเข้ามา นาน ๆ ทีหนูจะมีอีเว้นท์ซักทีนึง เเล้วเนี่ยพรีเซ็นเตอร์อีก 1 ตัวก็ยังลุ้นอยู่ว่าลูกค้าขอประชุมกันก่อนว่ายังไง เเล้วมันถูกพิสูจน์แล้วว่าหนูไม่ได้ผิด คนอื่นสร้างเรื่องขึ้นมา เเต่หนูได้รับผลกระทบ ก็เลยอยากจะปรึกษาพี่ๆดีเจทั้ง 2 คนว่าหนูโดนเเบบนี้มันแฟร์เเล้วหรอคะ?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็เห็นใจ เป็นยุคที่ทำให้ทุกอย่างมันชัดเจน ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับว่าคุณต้นหอมก็ตอบได้ค่อนข้างชัดเจน อาจจะต้องใช้ความเชื่อมั่นในตัวเอง รวมถึงต้องภาวนาให้ลูกค้าเขาเชื่อมั่นด้วย เราก็คาดเดาไม่ได้เพราะลูกค้าอาจจะไม่ได้หมายถึงองค์รวมประชุม อาจจะหมายถึงคนที่สิทธิ์ในการตัดสินใจเพียงเเค่ 1-2 คนที่เขาติด อย่าไปเสียความมั่นใจในตัวเอง ถ้าของไหนเป็นของเรามันก็จะมา’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องมั่นใจในตัวเองว่าเราคือทองเเท้ ถ้าที่ชี้เเจงเมื่อ 5 ปีที่แล้วมันเหมือนในตอนนี้เเสดงว่ามันคือสัจจะ มันคือความจริง ระยะเวลามันจะพิสูจน์เอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูอายุ 19 แต่น้องชายหนูที่บ้านตามใจทุกเรื่อง แฟนก็มีได้ แต่หนูที่บ้านห้ามไม่ให้มี รู้สึกว่าไม่มีความเท่าเทียมเลย ความเท่าเทียมควรเริ่มต้นจากที่บ้านรึเปล่า? พอหนูถามไปผู้ใหญ่ที่บ้านก็ว่า Toxic ที่หนูคิดมันผิดมากเลยหรอคะ

11 เม.ย. 2025

หนูอายุ 19 แต่น้องชายหนูที่บ้านตามใจทุกเรื่อง แฟนก็มีได้ แต่หนูที่บ้านห้ามไม่ให้มี รู้สึกว่าไม่มีความเท่าเทียมเลย ความเท่าเทียมควรเริ่มต้นจากที่บ้านรึเปล่า? พอหนูถามไปผู้ใหญ่ที่บ้านก็ว่า Toxic ที่หนูคิดมันผิดมากเลยหรอคะ

“คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 18 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [9 เม.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในครอบครัว โดย “คุณเอ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่รู้ว่านิสัยเด็ก Gen Z เเบบหนูเรียกว่า Toxic รึป่าว หนูมีน้องชายเเท้ๆ อายุ 17 ปี อยู่ด้วยกัน แต่หนูก็มีความรู้สึกว่าคนทั้งบ้าน รัก เเละเอ็นดูน้องชายมากกว่าตัวหนู ตอนเเรกหนูไม่ได้สังเกต จนตอนที่เพื่อนหนูมาที่บ้านและถามว่า ทำไมรู้สึกว่าน้ามึงพูดกับน้องอย่างนึง พูดกับมึงอีกอย่าง ทั้งน้ำเสียงเเละคำพูด ท่าทาง ตอนเเรกหนูก็ไม่ได้คิดว่าจริงรึป่าว เเต่พอมานึกดูดีๆ บางอย่างก็จริงอย่างที่เพื่อนบอก จนหนูก็ลองสังเกตดู เเละเห็นว่าสิ่งที่น้องได้รับเเละหนูได้รับมันก็ต่างกัน เลยมีความรู้สึกน้อยใจ ไม่เท่าเทียมว่าทำไมน้องของหนูถึงมีสิทธิ์ทำอะไรได้มากกว่าหนู เช่น อิสระเรื่องความรัก เเละอีกหลายอย่าง ด้วยความที่บ้านของหนูเป็นเชื้อสายจีนเลยอาจจะเอ็นดูเด็กผู้ชายมากกว่า เวลาน้องหนูจะไปไหน ไปกับสาว ไปกับเเฟนเขาก็จะบอกที่บ้านตรงๆ เเต่พอเป็นหนู หนูไม่สามารถที่จะบอกเเบบนั้นได้เหมือนน้อง เพราะเวลาบอกไป เขาจะทำท่าทางไม่พอใจ และด้วยความที่น้องหนูเรียนโรงเรียนประจำห่างจากบ้าน ทำให้เวลาเสาร์ - อาทิตย์ น้องของหนูจะไปกรุงเทพ ไปเที่ยว เขาก็ไปได้ เเต่พอเป็นหนูที่ขอเขาไปอำเภอใกล้เคียง เขาก็จะถามมาเลยว่า กลับกี่โมง ไปกับใคร สมมติหนูบอกว่าจะกลับบ้านตอนเที่ยง สิบเอ็ดโมงครึ่ง เขาก็จะโทรมาตามหนูเเล้วว่า อยู่ไหนเเล้ว มันเลยทำให้หนูเกิดความอึดอัด เเล้วค้างคาใจ พอมีวันหนึ่งที่หนูมาหาเเม่ที่บ้าน เเล้วนั่งกินข้าวกัน 3 คน มีเเม่ น้องชาย แล้วก็หนู เเม่ก็เปิดประเด็นว่า ถ้าคราวหน้าน้องชายหนูจะพาเเฟนมานอนที่บ้านด้วยก็ได้ หนูเลยเเกล้งๆพูดไปว่า หนูทำบ้าง เเม่ของหนูก็พูดขึ้นมาเลยว่า ถ้าเป็นหนูต้องรอจนกว่าจะขึ้นมหาลัยก่อน หนูเลยไม่พอใจ เเล้วถามว่า เเล้วน้องหนูมีสิทธ์อะไรมากกว่าหนูถึงทำได้ อายุก็ไล่เลี่ยกัน เเม่ก็เลยบอกว่า ผู้ชาย กับ ผู้หญิง มันไม่เท่าเทียมกัน เกิดว่าหนูไปนอนบ้านเเฟนเเล้วพลาดท้อง ผู้หญิงอนาคตก็คือจบไปเลย เเต่ผู้ชายก็ยังไปเรียนต่อได้หรือว่าทำอะไรได้มากกว่าหนู อาจจะเพราะเเม่มีลูกตั้งเเต่ยังเด็กเลยทำให้เป็นห่วงหนู และสังคมรอบตัวหนู เพื่อนๆของหนูก็ท้อง มีลูกกันหมดแล้วด้วย หลังจากที่ทะเลาะกับเเม่เสร็จ น้องชายหนูก็เอาเรื่องนี้ไปฟ้องน้า เขาเลยอธิบายว่าทำไมเเม่ถึงพูดว่าไม่เท่าเทียม พยายามที่จะทำให้หนูเข้าใจ เเต่หนูก็คิดว่า ถึงหนูจะเป็นผู้หญิงเเต่หนูก็รับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ต้องทำให้ใครเป็นห่วงเหมือนกับน้องชาย เเต่หนูยิ่งพูดก็เหมือนน้าจะยิ่งไม่เข้าใจ เขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลา หนูก็เลยยิ่งสงสัยว่าทำไมน้องหนูเขาถึงทำได้ สุดท้ายหนูก็ได้ไปพูดกับเเม่ว่า ถ้าเเม่รู้สึกผู้หญิงกับผู้ชายไม่เท่าเทียมกัน เเม่ก็อย่าเเสดงออกเเบบนี้ได้ไหม ถ้าเเม่ไม่ให้หนูทำ ก็ต้องห้ามน้องทำเหมือนกัน พอหนูพูดไปเเบบนี้ เเม่เขาก็พูดสวนกลับมาว่า หนูเป็นลูก หนูมีสิทธิ์อะไรที่จะไปสั่งเขาเเบบนั้น ก็เลยทะเลาะกันใหญ่โต น้าเลยต้องเข้ามาคุยด้วย เเต่หนูก็ยังมีคำถามในหัวว่า ทำไม! ทำไม! หนูเลยไม่ได้คุยกับเเม่ ส่วนน้องชายก็มาเยาะเย้ย ซ้ำเติม ทำให้หนูรู้สึกว่าตอนนั้นไม่เหลือใครเลย เพราะน้าหนูก็เหมือนจะไม่เข้าใจตัวหนูเลย เเล้วบอกว่าหนู Toxic บอกให้หนูลองย้อนมามองตัวเองบ้าง เเละใน 2 เดือนที่หนูทะเลาะกับที่บ้าน ที่มี ลุง ป้า น้า น้องชาย ในบ้านไม่มีใครคุยกับหนูเลย พอหนูกลับไปเล่าเรื่องนี้ให้เเม่ฟัง เเม่ก็ถามว่า ให้หนูมาอยู่กับเเม่ไหม เเต่ป้าก็เหมือนจะไม่อยากให้ไป เพราะเเม่หนูไม่สามารถซัพพอร์ตเรื่องค่าใช้จ่ายให้หนูได้ จนตอนนี้พอน้าได้มาคุยกับหนู เขาบอกว่า เขาไม่สามารถเอ็นดูหนูได้เหมือนเมื่อก่อน เพราะทิฐิที่หนูมีกับคนในบ้านมันมากเกินไป หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆ ดีเจว่า หนูผิดไหมที่หนูทิฐิกับคนในบ้านมากเกินไป เเละ ความเท่าเทียมมันควรเริ่มจากคนในบ้านรึป่าว?’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันยากมากที่จะทำให้คนที่มีอายุต่างกัน มองในมุมกันเเละกัน พวกพี่ที่นั่งกันตรงนี้ก็มีลูก เเละหลาน การพยายามปรับตัวเรื่องการสื่อสาร หรือมุมมอง คำเดียวที่พี่จะบอกเอได้ คือในวันที่เอมีลูก เอจะเข้าใจเพราะฉะนั้น ณ วันนี้เอรู้สึกไม่เเฟร์ เออาจจะต้องอดทนเพราะอีกนิดเดียวเอก็จะเข้ามหาลัย มีชีวิตเป็นของตัวเองเเล้ว เพราะเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของคนที่มีอายุห่างกันเยอะๆได้อยู่เเล้ว เพราะงั้นอีกนิดเดียว เอก็จะได้กำหนดชีวิตตัวเองเเล้ว ใช้ชีวิตให้มันดี’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าน้องเอเป็นตัวเเทนของเด็กหลายๆบ้านที่มีความคิดเเบบเดียวกัน เเละที่น้องเอถามว่า เพศสภาพ ควรเริ่มที่จะเท่าเทียมกันตั้งเเต่ในครอบครัวรึเปล่า อันนี้พี่เห็นด้วย เเต่ความเท่าเทียมในสังคมเป็นเรื่องที่ยากมากในบางประเทศ ผู้หญิงยังไม่มีสิทธิ์ได้รับการศึกษาเลย เพราะฉะนั้นพี่รู้สึกดีที่น้องเอ เข้าใจถึงข้อนี้ เเต่สำหรับเรื่องที่บ้านของน้องเอ พี่ว่าเขารักน้องเอเเหละ เเต่อาจจะสื่อสารไม่ดี เเละที่เขาเข้มงวดกับเอ เพราะเขามองเห็นว่าเอเป็นผู้หญิงเลยอาจจะดูเเลตัวเองได้ไม่ดีเท่ากับน้องชายตัวเอง เพราะผู้หญิงมีความเสี่ยงกว่า มีพันธะมากกว่า เพราะงั้นเออาจจะลองมองในมุมว่าเขาเข้มงวด เพราะเขาเป็นห่วงเรา ลองหาความสุขในบ้านหลังนี้จนกว่าเอจะย้ายออกจากบ้านไปใช้ชีวิตของตัวเอง น้อยใจเรื่องเพศสภาพได้ เเต่อย่าน้อยใจว่าเขาไม่รักเรา พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราดูเเลตัวเองได้’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เอมีทางเลือกอยู่อย่างเดียวคือ พิสูจน์ตัวเอง ทำในสิ่งที่ที่บ้านทำไม่ได้ เอาชนะในเรื่องความสำเร็จ ไม่ใช่เอาชนะในเรื่องคำพูด เมื่อเราทำงานได้ หาเงินได้ นั่นเเหละคือตอนที่เราจะมีอิสระจากครอบครัว อย่าเกลียดคนในบ้านเช่น ป้า น้า น้องชาย เพราะสุดท้ายทุกคนก็คือครอบครัวของเอ อาจจะไม่ต้องใช้เหตุผลคุยกัน เพราะทั้งเหตุผลของเอ เเละเหตุผลของครอบครัว ทั้งคู่เป็นเหตุผลที่ถูก ไม่ได้ผิด เเต่เเค่ต่างมุมมองกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูถูกพี่เขย ชวนให้มีอะไรด้วยมา 5 ปีแล้ว หนูขับรถไม่เป็น ที่บ้านหนูจะต้องให้พี่เขยขับไปส่งหนู ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลในเมืองตลอด บ้านหนูอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้บอกพี่สาวไปแล้ว พี่สาวก็เข้าข้างพี่เขย ไม่สนใจอะไร เรื่องนี้แม่ก็รู้

20 มิ.ย. 2025

หนูถูกพี่เขย ชวนให้มีอะไรด้วยมา 5 ปีแล้ว หนูขับรถไม่เป็น ที่บ้านหนูจะต้องให้พี่เขยขับไปส่งหนู ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลในเมืองตลอด บ้านหนูอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้บอกพี่สาวไปแล้ว พี่สาวก็เข้าข้างพี่เขย ไม่สนใจอะไร เรื่องนี้แม่ก็รู้

หนูถูกพี่เขย ชวนให้มีอะไรด้วยมา 5 ปีแล้ว หนูขับรถไม่เป็น ที่บ้านหนูจะต้องให้พี่เขยขับไปส่งหนูไปหาแม่ที่โรงพยาบาลในเมืองตลอด บ้านหนูอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้บอกพี่สาวไปแล้ว พี่สาวก็เข้าข้างพี่เขยไม่สนใจอะไร เรื่องนี้แม่ก็รู้ แม่บอกว่า “เขาคงแหย่เล่นๆ หยอกเฉยๆ” พอบอกพี่สาวคนโตพี่สาวคนโตก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ย้ายออกบ้านมาสร้างครอบครัวแล้วไม่ได้เจอพี่เขยตอนนี้หนูแต่งงานมีสามีแล้ว เขาชอบมาถามว่า “เวลามีอะไรกับสามีเป็นยังไงบ้าง สามีโอเคไหม?”หนูควรจะทำยังไงต่อดีคะ “คุณอัน (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา [18 มิ.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องพี่เขยที่ชอบมาขอมีอะไรกับเรา โดย “คุณอัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเรายังไม่ได้แต่งงาน คือบ้านเรากับพี่สาวอยู่ใกล้กัน เรามักจะโดนพี่เขยชวนมีอะไรด้วย ปกติเราเป็นคนที่ขับรถไม่เป็นเวลาไปต่างจังหวัด หรือพาแม่ไปหาหมอ เลยมักจะไปกับพี่คนนี้ และแม่จะวานให้พี่เขยคนนี้พาไป เวลาอยู่สองต่อสอง เขาชอบชวนเราประมาณว่า “ไปรีสอร์ทไหม มีรีสอร์ทอยู่ข้างหน้า” “ไปนอนกับเขาไหม เดี๋ยวเขาจะให้เงินจ่าย” คือให้เงินเราเพื่อให้เราเอาไปใช้จ่ายหรือช็อปปิง ซึ่งพี่สาวเรารับรู้มาตลอด แต่จนถึงปัจจุบันเขาก็ยังไม่เลิกกัน ปกติแล้วพี่เขยมักมีพฤติกรรมที่มีบ้านเล็กบ้านน้อยมาเรื่อย ๆ เสมอ ซึ่งเรื่องที่พี่สาวเราได้รู้คือ วันนึงพี่เขยได้นอกใจไปทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรานะ อยู่ ๆ มาวันนึง วันนั้นมีแม่ พี่สาวคนโต พี่คนนี้ที่เป็นพี่สาวเรา และเรา แม่ได้พูดเรื่องที่จับได้ว่าพี่เขยเราได้นอกใจพี่สาว เราจึงยอมเปิดใจพูดคุยว่า “จริง ๆ พี่เขยเขาก็มีพฤติกรรมที่พูดจา ชวนเราไปทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน” และพี่สาวคนโตก็พูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “ทำกับเขาเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่เล่นด้วยเหมือนกัน” พอพี่สาวที่เป็นภรรยาพี่เขยรู้เขาก็นิ่งและไม่พูดอะไรต่อเลย แม่จึงพูดขึ้นมาว่า “เขาคงแหย่เล่น คงหยอกเฉย ๆ” ตอนนั้นไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ หรือพยายามที่จะให้กำลังใจเราไม่ให้เราคิดเยอะ จนจบบทสนทนานี้ก็ไม่มีใครพูดและถามอะไรต่ออีกเลย พี่เขยเขายังคงพยายามทำพฤติกรรมแบบนี้กับเรามาเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ที่เรายังไม่ได้แต่งงาน เรามักจะไปนอนกับหลานที่เป็นลูกของพี่สาวเราที่บ้าน บางทีนอนบนโซฟาเราจะใส่กางเกงขาสั้น อารมณ์เหมือนชุดบอลผู้ชาย แล้วเขาเข้ามามาจับตรงต้นขาเรา เหมือนจะปลุกเราให้ตื่น ๆ เรารับรู้ได้เลยว่าเหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาเรา จนเราแต่งงานมีแฟน เขายังคงชอบถามเราประมาณว่า “เวลามีเพศสัมพันธ์กับสามีเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม ?” พยายามจะพูดกับเราแต่เรื่องอย่างว่าให้ได้ เราก็ตอบไปประมาณว่า “ทั่วไป ไม่มีอะไรก็เหมือนกับที่เขาทำ ๆ กันนั่นแหละ” ส่วนใหญ่ถ้าเลี่ยงไม่ได้เราจะตอบแบบนั้น ไม่ก็ตอบว่า “อะไรอะ” แล้วเดินหนีไปเลย ซึ่งแฟนเรารับรู้ทุกอย่าง เพราะเราก็เล่าให้เขาฟัง จริง ๆ เขาก็พยายามปลอบใจเรานะ แต่แฟนก็ไม่ได้พูดอะไรไป เหมือนกับที่บ้านทำอะไรไม่ได้เลย เพราะพี่เขยคนนี้เขาเป็นคนที่ดีในสายตาของทุกคนในบ้าน คือไม่ได้เกี่ยวอะไรในเรื่องเงินนะ แต่แม่เขาก็รักของเขา และพี่สาวเราก็รักเขามาก จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้เลิกกัน 5 ปีที่ผ่านมา เราพยายามที่จะพูดให้พี่สาวเลิก แต่พี่สาวไม่ยอมเลิก หลังจากที่พี่สาวจับได้เรื่องนอกใจ พี่เราร้องไห้นะ แต่อารมณ์เหมือนแค่อยากปรึกษา อยากระบายเฉย ๆ ไม่ได้อยากเลิก ขนาดพี่เขยเคยมีอะไรกับบ้านตรงข้าม พี่สาวยังไม่ยอมเลิกเลย แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกไปแล้ว เพราะเขาเชื่อพี่เขยอย่างเดียว แล้วเหมือนพี่เขยบอกว่า “อย่าไปพูดคุยกับแม่กับน้องนะ” “อย่าไปหาแม่ที่บ้านนะ” อะไรแบบนี้ พี่สาวจะเชื่อและจะไม่มาเลยจริง ๆ บางที่สถานการณ์มันทำให้เราช็อค แล้วทำอะไรไม่ถูก จริง ๆ เราไม่ได้แคร์เขานะ แต่ยังไงคงต้องพึ่งพาเขาอยู่ดี บ้านเราอยู่ต่างจังหวัดมาก มันไม่ได้สามารถจ้างรถไรเดอร์ ไลน์แมนได้เหมือนในเมือง เราจะมีแค่คนในครอบครัว ส่วนแฟนเราก็ธุรกิจส่วนตัว บางทีเลยไม่สามารถช่วยเราในเรื่องนี้ได้ เราอยากปรึกษาดีเจทั้งสามคนว่า เรายังต้องเจอพี่เขยคนนี้อยู่ เพราะต้องพาแม่ไปหาหมอ แล้วไม่มีใครขับรถให้ หนูก็ยังต้องพึ่งเขา บางครั้งต้องอยู่กับเขาสองคนแล้วเขามักจะพูดจาสองแง่สองง่ามใส่ อยากถามว่าหนูควรรับมือ หรือพูดยังไงดีคะ?’ โดยดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม) ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘ถ้าคุณอินพอมีพื้นฐานในการขับรถอยู่บ้าง ให้ไปเรียนขับรถ หรือจ้างให้คนมาขับรถให้ เพื่อที่จะไม่ต้องไปยุ่งกับเขาอีก นี่คือทางเลือกแรก แต่ถ้าในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ ยังต้องเจอกับพฤติกรรมนี้ของเขาอยู่ แนะนำให้แฟนคุณอันไปเปิดเลย เพราะว่านี่คือพฤติกรรมคุกคาม ถ้าทุกวันนี้ยังคงทำแบบนี้อยู่ พี่คงให้แฟนไปเปิดแล้ว เพราะยิ่งถ้าพี่สาวเราเมินเฉยขนาดนั้น ทำไมเราถึงยังเอาตัวเราไปตกเป็นเหยื่ออยู่ ถ้าวันใดวันนึงเขาหน้ามืด เกิดการเมาหรือทำอะไรไปมากกว่านี้ ไปทำกับคนอื่นในบ้านอีกจะทำยังไง รู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ควรเป็นสิ่งที่ต้องยอม เพราะนี่คือการล่วงละเมิดทางเพศ และที่สำคัญคือทำกับคนในครอบครัวด้วยซ้ำ เราควรที่จะชัดเจนไปเลยว่าไม่ต้องแคร์ และบ้านนี้ควรมีใครสักคนต้อง Take Action อะไรสักอย่างให้เด็ดขาดในเรื่องนี้ ไม่ใช่ยอมรับไปเฉย ๆ ว่าคน ๆ นี้ทำแบบนี้ได้ และไม่มีใครทำอะไรกับเขาได้เลย พยายามคุยกับพี่สาวให้จริงจังไปเลย หรือพยายามเก็บหลักฐานเท่าที่จำเป็น เพราะเราควรทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องตัวเราเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1