เมื่อสถานบันเทิง ไม่ได้ให้ความบันเทิงอย่างที่คุณคิด! รวม 3 เรื่องสั้น ‘สถานไม่บันเทิง’ จาก ‘ตั้น The Shock’

ENTERTAINMENT NEWS

เมื่อสถานบันเทิง ไม่ได้ให้ความบันเทิงอย่างที่คุณคิด! รวม 3 เรื่องสั้น ‘สถานไม่บันเทิง’ จาก ‘ตั้น The Shock’

02 ธ.ค. 2022

หนึ่งในสถานที่ที่ใครหลายคนเลือกไปคลายทุกข์ แล้วปลดปล่อยความสนุกคงหนีไม่พ้น ‘สถานบันเทิง’ แต่เรื่องราวที่คุณ ‘ตั้น The Shock’ นำมาเล่า อาจทำให้นักท่องราตรีหลายคนต้องมีเสียวสันหลังกันบ้าง กับ 3 เรื่องหลอนในตีม ‘สถานไม่บันเทิง’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (29 พฤศจิกายน 2565)

เรื่องแรกที่จะเล่าต่อไปนี้ คุณตั้นบอกว่าเป็นเรื่องที่เล่ากันปากต่อปาก เกิดขึ้นที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในภาคอีสาน ที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มีทั้งโรงแรม สถานบันเทิง คาราโอเกะ รวมถึงอาบอบนวดด้วย แต่ในปัจจุบันมีแค่โรงแรมเท่านั้นที่ยังเปิดบริการอยู่ แต่นอกนั้นได้ปิดทำการไปเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากเป็นสถานบันเทิงที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มีพนักงานที่เป็นช่างซ่อมบำรุงเข้าออกอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่ง ทางสถานบันเทิงแห่งนี้ได้มีการแจ้ง ‘พี่ชัย (นามสมมติ)’ ให้เข้ามาซ่อมไฟเพดาน การเข้าไปซ่อมครั้งนี้ กำหนดเวลาไว้ที่ 2 ทุ่ม พี่ชัยพร้อมกับลูกน้องอีก 1 คน เตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ  และบันไดลิงเพื่อที่จะปีนขึ้นไปซ่อมไฟบนเพดาน เมื่อเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ชัยก็ขอไปเข้าห้องน้ำ…

ในระหว่างที่เดินไปเข้าห้องน้ำ พี่ชัยก็รู้สึกว่าทางเดินนี้มันมืดเกินไป และก็มองเห็นเป็นเงาคนอยู่ข้างหน้า แต่ก็คิดว่าคงเป็นพนักงานของที่นี่ จากนั้นก็เดินตามเขาไป จังหวะที่เดินไปนั้น ก็เกิดเสียง “ปึ้ง!” พี่ชัยเดินชนเข้ากับกำแพง! ในใจจึงคิดว่า “อ้าว...แล้วเขาเดินไปไหนวะ? แล้วห้องน้ำไปทางไหน?” แล้วก็คลำกำแพงเพื่อหาทางเดินไปต่อ คิดว่าตาคงพร่าเพราะความมืด เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วจึงเดินกลับมา มองซ้ายมองขวาหาลูกน้องก็ไม่เจอ พวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ก็ไม่มี สงสัยจะขึ้นไปข้างบนแล้ว งั้นเดี๋ยวจะตามขึ้นไป…

คิดได้ดังนั้น พี่ชัยก็ปีนบันไดตามขึ้นไป ด้วยความมืดก็เปิดไฟที่คาดอยู่กับหัวแล้วส่องมองขึ้นไป ก็พบว่าเป็นขาที่สวมชุดพนักงาน พี่ชัยคิดในใจว่านี่คงเป็นลูกน้องของตัวเองแน่ ๆ จึงแกล้งเงียบ เพราะอยากให้ตกใจ จากนั้นก็ค่อย ๆ ปีนย่องขึ้นไปจับขาคู่นั้น ในจังหวะที่เอื้อมมือไปจับขาก็มีเสียงคุ้นหูเรียก “พี่ชัย! ขึ้นไปทำอะไร ไม่รอกันเลยนะ” พี่ชัยคิดในใจว่า “เสียงมาจากไหนวะ?” ระหว่างนั้นเสียงคุ้นหูก็ตะโกนดังขึ้นมาอีกว่า “พี่ชัย ลงมาก่อน ของยังอยู่นี่อยู่เลย” ตอนนี้พี่ชัยรู้แล้วว่าเสียงอยู่ข้างล่าง แต่มือยังจับขาคู่นั้นอยู่ไม่ปล่อย พี่ชัยหันไปมองข้างล่าง แสงไฟจากไฟฉายคาดหัวสาดส่องไปหาลูกน้องที่อยู่ข้างล่าง จากนั้นพี่ชัยก็ค่อย ๆ เงยหน้ากลับขึ้นไปมองด้านบน สิ่งที่จับอยู่นั้นมั่นใจได้เลยว่าเป็นขา แต่มีแค่ขาเท่านั้น! ท่อนบนไม่มีอะไรทั้งนั้น! พี่ชัยตกใจสุดขีด รีบปล่อยมือและพลาดตกลงมาทันที

เมื่อสืบไปสืบมาก็พบว่า ก่อนหน้าที่พี่ชัยจะได้รับการจ้างวานให้เข้ามาทำงาน เคยมีช่างที่เข้ามาซ่อมฝ้าแล้วก็ถูกไฟช็อตจนเสียชีวิต เขาก็อาจจะเป็นช่างคนนั้นก็เป็นได้...

เรื่องถัดมา ต้องขอย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ช่วงที่สถานบันเทิงยังสามารถเปิดได้ถึงตี 2-3 มีแม่บ้านคนหนึ่ง นามสมมติว่า ‘ป้าพิมพ์’ อายุประมาณ 60 ปี รับหน้าที่ทำความสะอาดอยู่ในส่วนเดียวกับที่พี่ชัยเข้าไปซ่อมไฟ และชอบมากวาดพื้นโดยจะห้ามไม่ให้คนอื่นเข้ามาช่วย เพราะมักจะมีเศษเงิน หรือของมีค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ตกตามพื้น ป้าพิมพ์จะได้เก็บไว้คนเดียว และด้วยความที่ป้าพิมพ์ไม่อยากให้ใครเข้ามาช่วยหรือแอบมาเก็บของมีค่าไป จึงจะกวาดพื้นจากหน้าเวทีไล่ไปจนถึงประตูทางออก เพื่อที่จะได้มองประตูอยู่ตลอดเวลา

คืนหนึ่ง หลังจากที่สถานบันเทิงปิดบริการ ป้าพิมพ์ก็บอกให้ทุกคนกลับบ้าน ส่วนตัวเองจะอยู่ทำความสะอาดคนเดียวเช่นเคย ระหว่างที่ป้าพิมพ์กวาดขยะอยู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นมา เห็นผู้หญิงคนนึง ใส่เสื้อผ้าดูเป็นนักท่องราตรี เธอยืนอยู่ที่โต๊ะถัดไปจากจุดที่ป้าพิมพ์ยืนอยู่ประมาณ 3-4 โต๊ะ ป้าพิมพ์ก็ตกใจ แล้วร้องถามว่า “หนู! ที่นี่ปิดแล้วนะ หนูไม่กลับบ้านหรอ? หนูรอใครอยู่” ผู้หญิงคนนั้นนิ่งแล้วก็ตอบกลับว่า “หนูมารอแฟน” ด้วยความสงสัยป้าพิมพ์ก็ถามต่อไปว่า “แล้วแฟนหนูไปไหนแล้ว?” อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า “หนูก็ไม่รู้” ป้าจึงพูดไปว่า “อ้าว แล้วทำไมไม่กลับบ้านล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบกลับว่า “หนูก็ไม่รู้จะกลับยังไง” ป้าพิมพ์ที่เป็นห่วงจึงบอกไปว่า “งั้นรอป้ามั้ย? ป้าจะไปส่ง” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยเสียงนิ่งเรียบว่า “หนูไปไหนไม่ได้ หนูต้องอยู่ที่นี่…

ป้าพิมพ์ที่ในใจเต็มไปด้วยความมึนงงแต่ก็ไม่ได้จะซักไซ้ถามต่อ จึงกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง เมื่อกำลังกวาดไล่เข้าไปใกล้อีกฝ่ายขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่ป้าพิมพ์มองเห็นก็คือร่างกายของผู้หญิงคนนี้ก็เริ่มบวมและปริเหมือนกำลังจะแตก ผิวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว สิ่งที่ป้าพิมพ์เห็นชัดที่สุดเลยก็คือลิ้นของผู้หญิงคนนี้จุกปาก แล้วเธอก็บอกกับป้าพิมพ์ว่า “หนูต้องอยู่ จนกว่าเขาจะให้หนูไป...” จากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็ค่อย ๆ เดินผ่านไหล่ของป้าพิมพ์ไป ป้าพิมพ์ก็หันตามไปดู แล้วร่างของผู้หญิงคนนั้นก็หายไป ไม่ทันไรก็มีเสียงกรี๊ดของผู้หญิงจากข้างบนดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ พอป้าพิมพ์เงยหน้ามองขึ้นไป ก็เห็นเป็นร่างของผู้หญิงคนนึงแขวนคอห้อยลงมา!

รู้ตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงจากใครบางคนพูดว่า “ป้าทำอะไร ทำไมไม่กลับบ้าน? หวงเงินถึงกับต้องนอนเฝ้าที่นี่เลยหรอ” ป้าพิมพ์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แล้วทุกคนที่ได้ฟังต่างก็งงว่าผีผู้หญิงที่ว่านี้ มาจากไหน? ลุงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทำงานอยู่ที่มานานที่สุด จึงเล่าว่าน่าจะเป็นผู้หญิงคนนึง เป็นนักเที่ยวแล้วดันมาชอบนักร้องคนนึง แต่ก็เหมือนถูกหลอกให้มานั่งเฝ้าเขาทุกคืน แต่นักร้องคนนั้นก็ไม่เคยกลับพร้อมกับเธอเลย จนวันหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ก็จับได้ว่านักร้องคนนี้กลับไปกับผู้หญิงคนอื่น ด้วยความเสียใจเพราะโดนหลอก จึงแขวนคอฆ่าตัวตาย!!

และเรื่องสุดท้าย เกิดขึ้นในโรงแรมที่มีอาบอบนวดเปิดให้บริการ นักเที่ยวคนหนึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัดพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ขอใช้นามสมมติว่า ‘บอย’ เขาเป็นนักเที่ยวอาบอบนวดที่ไปมาแทบทุกจังหวัด เมื่อมาเยือนถึงจังหวัดนี้ ก็ต้องลองใช้บริการที่นี่สักหน่อย

คืนนั้นบอยรู้สึกว่าสาว ๆ ที่อยู่ในตู้ข้างหน้า ช่างไม่โดนใจเขาเอาเสียเลย จนเพื่อนที่มาด้วยกันเลือกได้แล้วก็ขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว บอยก็ยังนั่งรออยู่ หวังว่าจะมีสักคนที่โดนใจเขาสักที เวลาล่วงเลยไปถึง 5 ทุ่ม สาว ๆ ในตู้หลาย ๆ คนก็เริ่มไปรับแขก พนักงานเชียร์แขกก็เริ่มเอือมระอากับบอยที่ไม่ยอมเลือกผู้หญิงสักที จึงไม่ขอยุ่งและไม่สนใจบริการบอย

ระหว่างนั้นบอยก็จิบเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ มีคนเข้าออกวนเวียนไปมา ปรากฏว่าบอยหันไปสะดุดตากับผู้หญิงคนนึง เดินออกมาจากประตูทางเดิน แล้วก็มานั่งอยู่คนเดียว บอยถูกใจมากแต่ก็ขอดูอีกหน่อยว่าสวยโดนใจจริงหรือไม่ เพราะไฟในที่นี่มักจะหลอกตา เมื่อนั่งเพ่งจนรู้สึกว่าคนนี้ใช่ จึงกวักมือเรียกพนักงานเชียร์แขก แต่ก็ไม่มีใครสนใจ พอหันกลับไปมองที่ผู้หญิงคนนั้นอีกรอบ ก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของผู้หญิงคนนี้..

โดยปกติสาว ๆ ในตู้กระจกก็มักจะนั่งแต่งหน้าบ้าง หรือมองลูกค้าไปเรื่อยเปื่อย แต่กับเธอไม่ใช่ เธอมองจ้องมาที่บอยอย่างเห็นได้ชัด บอยสบตากลับไป จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มร้องไห้ จากน้ำตาสีใสกลายเป็นสีแดงเหมือนเลือด จนทั้งตัวเริ่มเปียกเป็นสีแดงไปหมด ตามธรรมชาติของคนเมื่อเจอเรื่องแบบนี้ก็จะต้องโวยวายหรือรีบเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ไม่ก็หาคนมาช่วย แต่ ณ ตอนนั้น บอยกลับขยับตัวไม่ได้!

ไม่นานบอยก็ได้ยินเสียงดังเข้ามาในหูว่า “มึงฆ่ากูทำไม” พูดย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ อยู่แบบนั้น ตัวบอยเองนั้นพูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ ในระหว่างที่คิดอยู่ในหัวว่าจะทำยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มลุกขึ้น เดินลงมาจากบันไดทีละขั้นด้วยความไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนเดินลงมาแล้วขาหักไปทีละข้าง จนล้มลงไปแล้วก็คลานมากับพื้น เธอลากตัวเองมาจนถึงที่กั้น ส่วนมือก็ข้ามกระจกออกมา ตรงมาหาบอยที่นั่งอยู่! ระหว่างที่คลานมาบอยก็ได้ยินเสียงในหูดังอยู่ตลอดว่า “มึงฆ่ากูทำไม!”

เมื่อเข้ามาประชิดตัว มือทั้ง 2 ข้างของผู้หญิงคนนี้จิกอยู่ที่ขาของบอย แล้วก็เงยหน้ามอง แล้วปากก็พูดว่า “มึง ฆ่า กูทำ ไม!” หลังจากนั้นบอยก็รู้สึกเหมือนหลุดจากภวังค์ แล้วก็ตะโกนขึ้นมาว่า “กูไม่ได้ทำ!” จากนั้นภาพก็ตัดไป!

เมื่อรู้สึกตัว บอยที่อยู่ในสภาพน็อคอยู่กับเก้าอี้ลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มเพื่อน และพนักงานเชียร์แขกมารุมถามว่าเกิดอะไรขึ้น บอยได้เล่าเรื่องที่เจอให้กับทุกคนฟังถึงได้รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้เธอเคยให้บริการอยู่ที่นี่จริง ๆ แต่ถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตอยู่ในห้องที่ให้บริการ ทำให้สภาพที่บอยเห็นว่ามีขาหักแขนหักนั้น ก็อาจจะเกิดจากการโดนซ้อมจนกระดูกหักนั่นเอง

ติดตามความหลอนย้อนหลังได้

related ENTERTAINMENT NEWS

Netflix ประกาศไลน์อัพที่จ่อสตรีมให้ชมตลอดปี 2024 และเตรียมพบกับ ‘อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม’ ซีรีส์ผีจากเรื่องเล่าหลอนในรายการวิทยุ

03 ก.พ. 2024

Netflix ประกาศไลน์อัพที่จ่อสตรีมให้ชมตลอดปี 2024 และเตรียมพบกับ ‘อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม’ ซีรีส์ผีจากเรื่องเล่าหลอนในรายการวิทยุ

Netflix ประเทศไทย จัดงานสุดยิ่งใหญ่ประเดิมต้นปีด้วยการประกาศไลน์อัพผลงานหลากรสชาติ ปี 2024ในงาน Next on Netflix Thailand ซึ่งนอกจากผลงานที่น่าตื่นเต้นจากทั่วโลกแล้ว ยังมีการเปิดตัวคอนเทนต์ไทยใน ‘ทีไทย ทีมันส์’ อัดแน่นซีรีส์และภาพยนตร์ 8 เรื่องเยี่ยม ที่จะทยอยสตรีมสู่สายตาผู้ชมชาวไทยและอีกกว่า 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ และคุณภาพที่เข้มข้นของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยด้วยโดย ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ประจำประเทศไทยของ Netflix กล่าวว่า“ผมเชื่อมาโดยตลอดว่าเรื่องราวไทย ๆ มีเสน่ห์เฉพาะตัว และมีความเป็นสากล ปีนี้เราจึงก้าวไปอีกขั้นกับงานคุณภาพระดับโลกความหลากหลายของคอนเทนต์ รวมถึงการเล่าเรื่องในแบบที่ผู้ชมชาวไทยอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแนวไซไฟ สยองขวัญ โรแมนติกคอเมดี้ หรือดราม่าพรีเมียมสุดแซ่บ เราตั้งใจให้คอนเทนต์ในปีนี้มีหลากหลายและครบรสยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ชมทุกแนว ที่คาดหวังจะได้เห็นงานโปรดักชันที่ดีที่สุด“โดยในปีนี้ Netflix ก็ได้ยกระดับมาตรฐานไปอีกขั้นผ่านการร่วมงานกับผู้สร้างระดับแถวหน้าของไทยทั้งผู้กำกับชื่อดังและผู้กำกับดาวรุ่ง ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยมากฝีมือ รวมถึงเหล่านักแสดงมากความสามารถอีกคับคั่ง เพื่อปักธงให้ปี 2024 นี้เป็นปีแห่งการพลิกโฉมอุตสาหกรรมบันเทิงไทยอย่างแท้จริง”จากไลน์อัพคอนเทนต์ซึ่งประกาศเปิดตัวในงาน Next on Netflix Thailand 2024 ผู้ชมจะได้เห็นตั้งแต่การใช้เทคนิค VFXถ่ายทอดภาพอนาคตของเมืองไทยในซีรีส์เรื่อง ‘Tomorrow and I’ ไปจนถึงการนำละครเมโลดราม่าสไตล์ไทยมาเล่าแบบเล่นใหญ่ ชิงไหวชิงพริบ และหักเหลี่ยมเฉือนคมในซีรีส์เรื่อง ‘สืบสันดาน’ ยิ่งไปกว่านั้น Netflix ยังมีความตั้งใจจะขยายขอบเขตความหลากหลายของคอนเทนต์ไทย ไปสู่ประเด็นสังคมที่นับว่าสดใหม่สำหรับผู้ชมชาวไทยและยังไม่เคยมีใครหยิบมาเล่า ไม่ว่าจะเป็นประเด็นศาสนาในซีรีส์เรื่อง ‘สาธุ’ และประเด็นของเซ็กซ์ในซีรีส์เรื่อง ‘Doctor Climax ปุจฉาพาเสียว’เพราะคนไทยกับเรื่องผีเป็นของคู่กัน Netflix ยังเซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วยการนำเรื่องราวสุดหลอนจาก อังคารคลุมโปง X รายการวิทยุสุดฮิตมาเล่าใหม่ในรูปแบบของซีรีส์สยองขวัญเรื่อง ‘อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม’ และพาผู้ชมดำดิ่งลงสู่ปมปริศนาชวนขนลุกในซีรีสเรื่อง ‘อย่ากลับบ้าน’ พร้อมกันนี้ยังประกาศสร้างภาคแยกของซีรีส์ ‘Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง’ ซึ่งจะมาในเวอร์ชันภาพยนตร์ที่จะเข้มข้นขึ้นและระทึกยิ่งขึ้นไปกับฉากบู๊จัดเต็ม โดยใช้ชื่อว่า ‘Bangkok Breaking: ฝ่านรกเมืองเทวดา’แต่ก่อนหน้านั้น Netflix ขอเปิดปีอย่างสดใสด้วยซีรีส์ ‘Ready, Set, Love เกมชนคนโสด’ ผลงานแนวโรแมนติกคอเมดี้สีลูกกวาด ที่อาจแฝงความหมายไว้มากกว่าที่คิด ซึ่งพร้อมสตรีมให้ได้รับชมในกว่า 190 ประเทศทั่วโลกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ที่ Netflix เท่านั้นรอติดตามชมความบันเทิงจัดเต็มจากไอน์อัพคอนเทนต์ฝีมือคนไทยใน ‘ทีไทย ทีมันส์’ ได้ตลอดทั้งปี 2024 นี้ผ่านทาง Netflixภาพ : Netflix

‘ขวัญ INDIGO’ เผลอพูดจะทำบุญให้ แต่ไม่ได้ไป สุดท้ายเจอโดนของดีเข้าอย่างจัง!

17 พ.ย. 2022

‘ขวัญ INDIGO’ เผลอพูดจะทำบุญให้ แต่ไม่ได้ไป สุดท้ายเจอโดนของดีเข้าอย่างจัง!

เรื่องเล่าที่ชาว EFM ต้องขนหัวลุกทั้งสตูนี้ มาจากประสบการณ์หลอนของ ‘ขวัญ วง INDIGO’ที่ได้แชร์เรื่องราวของการไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัดในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 พฤศจิกายน 2565) เรื่องราวของ ‘ขวัญ’ จะเป็นอย่างไร เตรียมขนหัวลุกกันในเรื่องที่มีชื่อว่า ‘หุ่นพยนต์’ ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่อง ขวัญได้เท้าความว่าหลังจากที่ได้มีการบวช ต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นเป็นคนมี sense ทำให้ขวัญนั้นค่อนข้างที่จะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง แต่จะรู้สึกได้กับคนใกล้ชิดที่อยู่ด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ กับคนที่ไม่สนิทหรือพึ่งเคยเจอกัน จะไม่รู้สึกถึงอะไรเลย จากนั้น ขวัญก็ย้ำอย่างชัดเจนในรายการว่า ‘หุ่นพยนต์’ ที่พูดถึงนี้ ไม่ได้เป็นของสมาชิกในวงและทีมงานใด ๆ แต่เกี่ยวข้องกับโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ล่าสุด ‘INDIGO’ ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตร้องเพลงเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาขวัญเล่าว่า ทุกครั้งที่จะเข้าโรงแรมหรือเปลี่ยนสถานที่นอน ก็มักจะพูดเสมอว่า “ถ้าวันนี้มีโอกาส จะไปทำบุญให้นะ แล้วก็ขอนอน ขอเข้าพื้นที่ตรงนี้นะ” ขวัญยังบอกอีกว่าถ้าไม่พูดหรือไม่พกพระไปด้วย ขวัญจะโดนตลอด “คล้าย ๆ กับว่าโดนคนมาขอบุญอะไรแบบนี้ค่ะ” ขวัญกล่าว และยังเสริมว่าขวัญเคยมานอนที่โรงแรมแห่งนี้ และรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ที่นี่...วันนี้เองก็เช่นกัน เมื่อมาถึงโรงแรมในช่วงเกือบจะพลบค่ำ ขวัญจึงขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง และพูดประโยคที่ต้องพูดทุกวัน แต่ด้วยความที่เหนื่อยมาก จึงคิดในใจว่า “วันนี้คงไม่ได้ไปทำบุญแล้วแหละ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าถ้ามีโอกาสค่อยว่ากัน” จากนั้นก็ผล็อยหลับไปหลังจากนั้น ขวัญก็เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก จึงทุบหน้าอกตัวเองเบาๆ แต่ก็ไม่มีอะไร สักพักก็มี ‘ขาม้าสีน้ำตาล’ มาวางพาดบนหน้าอกของขวัญ! ขวัญพยายามคิดว่าตัวเองคงฝันไป และบอกในใจว่า “อย่ามายุ่ง” ไม่ทันไร ม้าทั้งตัวก็ทับตัวขวัญ แล้วก็ร้องเสียงแหลมโหยหวนชวนขนลุก! ขวัญคิดในใจว่า “หายใจไม่ออก เอาออกไปเถอะ” ทันดันใดนั้นเอง ก็มี ‘คุณยาย’ ที่มีผมหยิกฟันดำกระโดดมาทับตัวขวัญอีก แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามายิ้มใกล้ ๆ แถมยังหัวเราะเสียงแหลมดังก้อง!ขวัญรู้ทันทีว่าโดนเข้าให้แล้ว แต่จะให้ขยับตัวก็ทำไม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ไม่สามารถท่องบทสวดมนต์อะไรได้เลย ทั้ง ๆ ที่ตัวขวัญนั้นเข้าห้องพระสวดมนต์ทุกเช้า ขวัญพยายามรวบรวมสติและพูดในใจว่า “เดี๋ยวขวัญทำบุญให้ ตอนนั้นที่พูดว่าจะไปทำบุญให้แล้วไม่ได้ไป ขวัญปากพล่อย ขวัญขอโทษ ขวัญไม่ได้ลบหลู่นะ” สักพักแสงสว่างจ้าก็ว้าบขึ้นมา แล้วภาพก็ตัดหายไปไม่นาน ขวัญก็รู้สึกตัวและหายใจได้อย่างเต็มปอดอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน และยังไม่กล้าลืมตาเพราะกลัวจะเห็นม้าอยู่ แต่แล้วก็ตัดสินใจเฮือกสุดท้าย เอื้อมมือไปขวานหาโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นก็พิมพ์ไปหาผู้จัดการว่า “หนูเจอยายแก่กับม้าว่ะ หนูเจอแล้วก็หายใจไม่ออก” ผู้จัดการถามกลับมาด้วยความห่วงใยว่าอยู่ได้มั้ย ขวัญที่เริ่มได้สติกลับมาก็ตอบกลับไปว่า “อยู่ได้ค่ะ” จากนั้นผ่านไปสักพักก็ได้เวลาที่จะต้องไปทำงานแล้ว เมื่อขวัญเตรียมตัวออกจากห้องเสร็จ ลงมาที่หน้า Lobby ผู้จัดการก็ถามว่า “เขามายังไง” ขวัญก็เล่ารายละเอียดให้ฟังระหว่างนั้นก็ลงลิฟต์แล้วเดินไปที่หน้าประตูโรงแรม ผู้จัดการก็วิ่งมาหาขวัญหน้าตาตื่น แล้วกระซิบบอกให้ขวัญดูทางขวามือ เมื่อหันไปดูก็พบ ‘หุ่นพยนต์ที่เป็นผู้หญิงผมหยิกฟันดำขี่ม้าสีน้ำตาล’ วางตั้งไว้กับประตูโรงแรม ซึ่งก่อนหน้านี้ ทีมงานทั้งหมด รวมทั้งขวัญและสมาชิกในวงเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลยขวัญเล่าเพิ่มเติมว่า หุ่นนั้นได้ถูกนำมาวางครอบไว้ที่ประตูอีกทีนึง จนกระทั่งต้องเดินทางกลับ ขวัญจึงได้เล่าเรื่องนี้ให้กับ ‘บลู’ และ ‘โดนัท’ สมาชิกในวงได้ฟัง โดนัทจึงลองหาข้อมูลแล้วก็นำมาสันนิษฐานกันเองว่า เขาน่าจะนำหุ่นนี้มาครอบเพื่อปกปักรักษาโรงแรมไว้ เพราะที่ตรงนั้นเคยเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้นหลังจากนั้น ขวัญก็ได้ไปแสดงคอนเสิร์ตในงานไหว้พระจันทร์ และก็ได้ไหว้พร้อมทั้งบอกว่า “บุญนั้นหนูอุทิศให้หมดเลย”ติดตามชมรายการย้อนหลังได้

กันไว้ดีกว่าแก้! อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี แนะควรหรือไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ดวงเฮงตลอดปี 66! | อังคารคลุมโปง

12 ม.ค. 2023

กันไว้ดีกว่าแก้! อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี แนะควรหรือไม่ควรทำอะไร เพื่อให้ดวงเฮงตลอดปี 66! | อังคารคลุมโปง

‘อังคารคลุมโปง X’ ที่ผ่านมา (10 มกราคม 2565) ถือได้ว่าเป็นเทปแรกของปี 2566 ‘อุ๋มอิ๋ม คนเห็นผี’ จึงถือโอกาสนี้ เตือนชาวอังคารคลุมโปงถึงสิ่งที่ควรระวังและมีเคล็ดลับเสริมดวงให้เฮงตลอดปี จะมีอะไรบ้างนั้น เชิญอ่านกันเลย!มากันที่คำเตือนกันก่อนคุณอุ๋มอิ๋มบอกว่าปีกระต่ายปีนี้ จะมีเหตุการณ์ผู้สูงอายุเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ชนิดที่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อาจจะเป็นอุบัติเหตุหรืออยู่ ๆ ก็ไม่หายใจไปเสียดื้อ ๆ ก็มี ดังนั้นหากมีผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัว แนะนำให้พาไปตรวจสุขภาพ จะได้รักษาได้ทันท่วงทีอีกเรื่องที่อยากจะเตือนให้ระมัดระวัง คือในช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจที่เริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้วนั้น หลายคนพอทรงตัว แต่ก็ไม่อยากให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกควบคู่ไปด้วย ใครที่เล่นหุ้น จะเล่นแบบ Long Term ยาก ส่วนเรื่องทอง ยังเป็นทางเลือกที่ดีแต่ไม่ควรลงทุนมากจนเกินไป ไม่ควรลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามาก และให้ระวังมิจฉาชีพให้มาก ๆ เพราะจะมาในทุกรูปแบบ ต้องระวัง รอบคอบ อย่าลงทุนกับสิ่งที่เราไม่รู้ ส่วนเรื่องที่ดิน กฎหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออุบัติเหตุบนท้องถนน คุณอุ๋มอิ๋มอธิบายเพิ่มว่า คนเก็บวิญญาณ จะมาเก็บตามถนนเพิ่มมากขึ้น อาจเพราะดวงบ้านดวงเมืองเปลี่ยน ดังนั้นไม่ว่าจะรถประเภทไหน ก็อยากให้มีสติก่อนสตาร์ท ง่วง เมา ไม่ขับส่วนคำแนะนำสำหรับต้นปีคุณอุ๋มอิ๋มก็แนะนำให้ไปไหว้ศาลหลักเมืองประจำจังหวัด ถ้าตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ชื่ออยู่ที่จ.อื่น ก็ให้ไหว้ที่กรุงเทพฯก่อน แล้วค่อยไปต่างจังหวัด จากนั้นให้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดที่คุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็น วัด ศาลเจ้า หรืออะไรก็ได้หมดเลย อีกหนึ่งที่คือศาลเจ้าแม่กวนอิม สามารถขอให้ท่านดูแลเรื่องสุขภาพ ความเป็นมงคล บุญบารมีต่าง ๆ ของไหว้ต้องเป็นของบริสุทธิ์ เช่น ดอกบัวสีขาว หรือส้มส่วนอากงนั้น คุณอุ๋มอิ๋มแนะนำให้ไหว้ด้วยกล้วยหอมสุกสีเหลือง, สัปปะรดภูแล ยิ่งลูกเล็ก ๆ ตาสัปปะรดก็จะเยอะ สื่อว่าหูตาเราจะเยอะ เวลามองหรือจับอะไรจะได้มีช่องทางมากขึ้น และสุดท้ายคือลูกท้อหรือพีช กี่ลูกก็ได้ตามสะดวก และหากมีโอกาสให้นำพวงมาลัยติดไปเอง จะได้สื่อถึงความตั้งใจ สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือให้เขียนคำอธิษฐานไว้ให้ครบ อย่าอายที่จะหยิบขึ้นมาดู เพราะการไม่ได้เขียนเรียบเรียงไว้ก่อนอาจจะทำให้เราพูดวนไปมาได้ แล้วก็อาจจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากนี้ คุณอุ๋มอิ๋มยังมีทริคในการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ถ้าหากไปไหว้ในช่วงที่คนเยอะ ให้เดินเข้าไปถ่ายรูปคำอธิษฐานออกมาก่อน แล้วหาพื้นที่ที่ทำให้จิตใจเราสงบ แล้วอธิษฐานจากตรงนั้นส่วนใครที่ทำการค้า แนะนำให้ปล่อยสัตว์น้ำ ที่กรมประมงอนุญาต และต้องมีการไถ่ชีวิต ส่วนสินค้าที่เป็นปัจจัย 4 นั้นจะขายดีเสมอกระเป๋าสตางค์เองก็สำคัญ ถ้าหากมีการชำรุด รูดซิปไม่ดีติดขัด ให้เปลี่ยนในช่วงตรุษจีนจะถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีมาก แต่ถ้าใครชอบการสแกนจ่ายมากกว่า ก็ระวังอย่าให้ฟิล์มหรือหน้าจอโทรศัพท์ชำรุด เพราะอาจเกิดความเสียหายระหว่างการโอนเงินได้ คุณอุ๋มอิ๋มเสริมว่าแม้จะสแกนจ่ายมากกว่า แต่ก็ควรจะมีกระเป๋าสตางค์ติดตัวไว้ เผื่อพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้กับตัวได้ ถือว่าเป็นเคล็ดสำหรับปีชง ให้ทำพิธีปัดชง 3 เดือนครั้งทั้งปี โดยให้ปัดตั้งแต่หัวจรดพื้น 13 ครั้ง หรือใครไม่ชงอยากจะปัดก็ปัดได้เลย และไม่แนะนำให้ปัดแทนคนอื่นติดตามความสนุกย้อนหลัง

หลอนข้างทาง! เมื่อขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล ดันเจอประสบการณ์ที่ทำให้ต้องโกนหัวตลอดชีวิต!

12 ต.ค. 2022

หลอนข้างทาง! เมื่อขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล ดันเจอประสบการณ์ที่ทำให้ต้องโกนหัวตลอดชีวิต!

ประสบการณ์ขวัญผวานี้ มาจากคุณเบิร์ดพาหลอน สายแรกในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (11 ตุลาคม 2565) ได้โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ฟังจากรุ่นพี่ในวงดนตรีให้ดีเจแนน และดีเจเจ็มได้คลุมโปงไปพร้อมกัน เรื่องราวจะหลอนและชวนขวัญหนีดีฝ่ออย่างไร เชิญอ่านความหลอนกันได้เลย!คุณเบิร์ดเล่าว่าประสบการณ์หลอนนี้ ได้ฟังมาจากรุ่นพี่ที่เคยเล่นดนตรีด้วยกัน (ขอแทนว่า พี่เอ) ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณเบิร์ดยังเล่นดนตรีกลางคืนอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทุกครั้งที่ต้องไปรับงานเล่นดนตรีด้วยกัน พี่เอจะใส่หมวกอยู่ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังเล่นดนตรีเสร็จ พี่เอได้ถอดหมวกออกมา ทำให้คุณเบิร์ดเห็นว่าพี่เอหัวโล้น จึงถามไปว่า “ทำไมถึงโกนหัวล่ะครับพี่?” พี่เอได้ตอบกลับมาว่า “เบิร์ด...เอ็งเชื่อเรื่องผีหรือเปล่า? ถ้าเอ็งเชื่อ พี่จะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าไม่เชื่อ พี่จะไม่เล่า” คุณเบิร์ดตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เชื่อครับ”พี่เอเล่าว่า ก่อนที่จะมาทำวงดนตรีกับคุณเบิร์ดในขณะนั้น เขาเคยเล่นอยู่อีกวงใน จ.พระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน แต่อาศัยอยู่ที่บ้านใน จ.อ่างทอง ทำให้ต้องขับรถไปกลับอ่างทองและอยุธยาอยู่เสมอ แน่นอนว่าหลังเลิกงาน เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงตี 2-3 แล้ว และนั่นคือเวลาที่พี่เอต้องขับรถกลับบ้าน...จนกระทั่งคืนหนึ่ง พี่เอได้ขับรถกลับบ้านในเวลาปกติ โดยใช้เส้นทางที่หลายคนก็รู้กันดีว่ามืดมาก พอขับไปสักระยะ พี่เอก็สังเกตเห็น “คน” ยืนอยู่ข้างหน้าไกลๆ เมื่อรถขับเข้าไปใกล้ “คน” ที่ว่า ก็เริ่มเห็นชัดแล้วว่าคนคนนี้ “ไม่มีหัว!”เมื่อพี่เอเห็นดังนั้น ก็รวบรวมสติไม่ให้ตัวเองหันไปมอง และพยายามมองตรงไปข้างหน้า พอขับผ่านตรงนั้นไป พี่เอมองไปที่กระจกรถก็ยังเห็น “ร่างที่ไม่มีหัว” ยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน แต่ยังไม่ทันได้หายตกใจ ขับต่อไปอีกสักพัก ก็ยังเจอร่างเดิมย้ายมายืนอยู่ข้างหน้าอีกครั้ง!รอบนี้พี่เอแทบตั้งสติไม่อยู่ แต่ก็พยายามเอาหน้าไปแนบกับพวงมาลัย เพื่อที่จะได้ไม่เห็นเงาสะท้อนกระจกอีก ไม่กี่อึดใจ ก็มีเสียงดังมาจากหลังรถ “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” พี่เอทำตามสัญชาติญาณหันกลับไปดูทันที สิ่งที่เห็นคือร่างที่ไม่มีหัว กำลังวิ่งตามรถมาอย่างบ้าคลั่ง และที่มาของเสียง “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” คือ “หัว” ที่กระทบกระรถของพี่เอนั่นเอง!เมื่อขับรถกลับถึงบ้าน พี่เอก็รีบลงจากรถ และตรงไปที่นอนเพื่อคลุมโปงทันที ด้วยความแปลกใจของภรรยา เธอจึงถามพี่เอว่า “เกิดอะไรขึ้น?” แต่พี่เอก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา ภรรยาที่เห็นดังนั้นจึงออกไปเลื่อนรถมาจอดในบริเวณบ้านเช้าวันรุ่งขึ้น พี่เอได้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้กับภรรยาฟัง เธอจึงบอกว่า “ตอนที่ขับรถเข้าไปจอดในบ้าน เห็นมีคนมายืนอยู่หน้าบ้าน คิดว่าเป็นเพื่อนของพี่ กะว่าขยับรถเข้ามาแล้ว จะไปเรียกคนนั้นเข้ามาในบ้าน แต่พอลงจากรถมาก็ไม่เจอคนนั้นยืนอยู่แล้ว” นอกจากนี้ภรรยาก็ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่าคนคนนั้นเขามีหัวปกติหลังจากคืนนั้น พี่เอต้องหยุดงานเล่นดนตรีกลางคืนเกือบทั้งสัปดาห์ เพราะมีไข้ขึ้นสูง และเส้นผมก็หลุดออกมาเป็นกระจุกอย่างไม่มีสาเหตุ แถมผมที่ขึ้นใหม่นั้น ยังมีสภาพไม่เหมือนเดิมอีกด้วย พี่เอจึงตัดสินใจตัดโกนผมจนกระทั่งทุกวันนี้…สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

album

0
0.8
1