เซนส์แรงเป็นเหตุ จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อ ‘คน’ มีเพื่อนเป็น ‘ผี’ !!

ENTERTAINMENT NEWS

เซนส์แรงเป็นเหตุ จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อ ‘คน’ มีเพื่อนเป็น ‘ผี’ !!

27 ต.ค. 2022

ใครเป็นเด็กหอต้องมีเสียวสันหลัง เมื่อได้ฟังเรื่อง “รูมเมท” จากคุณนุ๊ก สายที่ 2 ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เธอได้โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ขวัญผวาของคนมีเซนส์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (25 ตุลาคม 2565)

อยู่ที่ไหน นุ๊กก็จะมีรูมเมท” คุณนุ๊กเปิดหัวเรื่องด้วยประโยคชวนขนลุก ก่อนจะเล่าว่า ในช่วงที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นั้น คุณนุ๊กพักอยู่หอในกับรูมเมท (คน) ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทางคุณนุ๊กเองก็ได้บอกรูมเมทไปล่วงหน้าว่า “เราอาจจะเห็นอะไรแปลกๆ นะ” รูมเมทก็ตอบกลับมาว่า “เราชอบฟังเรื่องผี” ทั้งสองจึงอยู่ด้วยได้กัน

ช่วงแรกหลังจากได้เข้าไปอยู่ คุณนุ๊กก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครอีกคนอยู่ในห้อง หลังๆ ก็เริ่มรู้สึกมากขึ้น อย่างตอนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะก็จะรู้สึกว่าที่หางตามีผู้หญิงนั่งอยู่ปลายเตียงของรูมเมท ในทุกๆคืน คุณนุ๊กจะสวดมนต์ก่อนนอน แต่ถ้าวันไหนไม่ได้สวด ก็จะรู้สึกว่ามีอะไรมาดึงขาบ้าง มาทุบที่คางบ้างและนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

มีอยู่วันหนึ่งคุณนุ๊กกลับมานอนพักที่ห้อง ระหว่างที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ตอนนั้นเธอรู้สึกตัว แต่ขยับไม่ได้ จากนั้นก็เห็นคนเปิดประตูเข้ามา ซึ่งก็คิดว่าเป็นรูมเมท สักพักพอคนนั้นเดินมาข้างๆ เตียง เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกเพราะตรงเตียงของคุณนุ๊กและรูมเมทนั้นจัดชิดติดกันตั้งแต่แรกไม่มีช่องว่างที่จะสามารถเดินเข้ามาได้

แล้วคนๆ นั้นเธอเดินเข้ามาระหว่างเตียงคุณนุ๊กกับเตียงรูมเมทได้ยังไง?

จากนั้นเธอก็ยื่นมือมาจัดหิ้งพระที่คุณนุ๊กนำมาวางไว้บนหัวเตียง พอเสร็จ เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก็กำลังจะเกิดขึ้น!

เธอค่อยๆ นั่งลงกับพื้นแล้วก็เอามือจับขอบเตียงทั้งสองข้าง ใบหน้ายื่นเข้ามาหาคุณนุ๊กในระยะประชิด! ลักษณะตาโบ๋ลึกเข้าไป ปากก็โบ๋กว้าง คุณนุ๊กคิดในใจว่าไม่ใช่รูมเมทแล้ว ไม่ใช่แม้กระทั่งคนด้วยซ้ำไป จึงพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้หลุดออกจากตรงนี้ ในระหว่างนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณนุ๊กก็หลุดออกจากตรงนั้นพลันคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ปรากฏว่าไม่มีเบอร์ใครโทรเข้ามาเลย คุณนุ๊กไม่รอช้า รีบออกจากห้องทันที

หลังจากวันนั้น คุณนุ๊กก็ไม่กล้านอนคนเดียวในตอนกลางวันอีกเลย และมักจะชวนเพื่อนอีก 2 คนมานั่งเล่นด้วยแทน หนึ่งในบทสนทนาคือประสบการณ์หลอนที่คุณนุ๊กมักจะเจอ แต่แล้วคุณนุ๊กและเพื่อนอีกคนก็ต้องหันมามองหน้ากัน เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังแว่วมา ทั้งคู่พยายามไม่คิดอะไร และทำตัวให้ปกติที่สุด เพื่อให้เพื่อนอีกคนที่ไม่ได้ยินเสียงนั้นสบายใจ

นอกจากเหตุการณ์นั้นแล้ว คุณนุ๊กก็ยังเจออีกเรื่อยๆ เช่น มีเพื่อนมาอยู่ด้วยในขณะที่คุณนุ๊กนั่งสวดมนต์อยู่ เพื่อนคนนั้นก็ได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นเสียงผู้หญิงหวานๆ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคุณนุ๊กที่สวด แต่พอมองไปที่คุณนุ๊กก็พบว่า เธอสวดอยู่ในใจ ไม่ได้อ้าปากออกเสียงอะไรเลย ส่วนคุณนุ๊กเองก็เคยได้ยินคนสวดมนต์ตามเสียงตัวเองเหมือนกัน ก็เข้าใจว่ารูมเมทมาร่วมสวดด้วย แต่พอหันไปดูก็พบว่าเขาแค่นั่งดูโทรทัศน์ไม่ได้ขยับปาก

แม้กระทั่งรูมเมทที่บอกว่าชอบฟังเรื่องผี แต่ไม่เคยเจอกับตัว กลายเป็นว่าเขาก็ต้องเจอไปด้วย อย่างในตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นผู้หญิงยืนหันหลังอยู่ คิดว่าเป็นคุณนุ๊ก จึงเรียก แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแต่อย่างใด รูมเมทจึงไม่ได้สนใจ พอเดินมาที่กลางห้อง ถึงได้เห็นว่าคุณนุ๊กยืนส่องกระจกอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นคนละตำแหน่งกับที่เจอเมื่อสักครู่นี้

เมื่อไม่สามารถย้ายหอได้เพราะข้อจำกัดหลายๆ อย่าง คุณนุ๊กจึงทำได้เพียงสวดมนต์และแผ่เมตตาให้บ่อยๆ หลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้น ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น และเริ่มมาเฉพาะตอนที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น มีครั้งหนึ่งที่คุณนุ๊กป่วย คืนนั้นคุณนุ๊กกำลังโทรคุยกับเพื่อน พอเวลาประมาณ 5 ทุ่ม เพื่อนก็ถามว่า “ห้ะ? พูดว่าอะไรนะ?” จากนั้นสายก็ตัดไป พยายามโทรกลับไปหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด แต่ก็ไม่คิดอะไรแล้วก็นอนหลับไป วันต่อมา คุณนุ๊กก็ถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็บอกว่าได้ยินเสียงผู้หยิงพูดแทรกเข้ามาว่า “พอแล้วนะ จะให้นอน” ด้วยน้ำเสียงไพเราะฟังสบาย

และอีกเหตุการณ์ที่คุณนุ๊กจำได้แม่นเลยก็คือ ในตอนนั้น สมุดบัญชีได้หายไปทั้งหมด 2 เล่ม คุณนุ๊กก็มานั่งที่เตียงแล้วก็พึมพำว่า “ช่วยนุ๊กหาสมุดบัญชีหน่อยสิ” สักพักก็มีความรู้สึกให้เดินไปที่เก้าอี้ที่มีประเป๋าแขวนไว้ พอเปิดดูก็พบสมุดบัญชีเล่มหนึ่ง จากนั้นคุณนุ๊กก็กลับมานั่งที่เตียงแล้วบอกว่า “เจอเล่มเดียวเอง แล้วอีกเล่มนึงล่ะ?” หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าต้องเดินกลับไปที่เดิม แล้วก็มองไปที่พื้น ซึ่งรอบแรก คุณนุ๊กมั่นใจเลยว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นจริงๆ พอมารอบนี้ก็พบสมุดบัญชีวางอยู่

คุณนุ๊กเล่าเพิ่มว่า ช่วงหนึ่งรูมเมทที่เคยอยู่ด้วยกันมีเหตุต้องย้ายออกไป ทำให้คนใหม่ย้ายมา แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างสบายใจนัก เพราะคนใหม่มักคุยโทรศัพท์เสียงดัง คุณนุ๊กจึงคิดในใจว่า “อยากนอนอ่ะ จัดการให้หน่อย” หลังจากพูดเสร็จ อยู่ดีๆ รูมเมทคนใหม่ก็วางสายแล้วก็นอนทันที

คุณนุ๊กเองในตอนนั้น ก็รู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นเพื่อนคนนึงไปแล้ว ตอนที่ต้องย้ายออกจากหอ คุณนุ๊กก็ร้องไห้เพราะรู้สึกผูกพัน หลังจากนั้นก็มีทำบุญให้เรื่อยๆ

อีกเหตุการณ์ที่คุณนุ๊กเล่า คือก่อนหน้าที่คุณนุ๊กจะย้ายเข้าไปอยู่ ที่ชั้น 5 ของหอนี้ได้เกิดเหตุมีคนเสียชีวิต คุณนุ๊กเองก็ทราบและไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากได้ห้องหมายเลข 214 ที่เป็นห้องตรงสามแยกพอดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วันหนึ่งขณะกำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ ก็สังเกตเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งใส่กระโปรงสั้นเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อน แต่คุณนุ๊กอยากขึ้นแค่คนเดียว จึงยืนรออยู่หน้าลิฟต์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กดลิฟต์สักที คุณนุ๊กจึงเดินเข้าไป ปรากฏว่าในลิฟต์ดันไม่มีใครอยู่เลย คุณนุ๊กที่ชินกับเรื่องแบบนี้ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับยามประจำหอ พี่ยามก็บอกว่า “อ๋อ คนเห็นประจำ น่าจะเป็นคนที่ชั้น 5 ส่วนลิฟต์ตัวนั้น เป็นลิฟต์ที่ขนศพเขาลงมา

ปัจจุบัน คุณนุ๊กก็ยังคงมีเซนส์ มักจะเห็นอะไรที่คนปกติไม่เห็นอยู่เสมอ

สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ทาง

related ENTERTAINMENT NEWS

“แปม อัญญ์ชิสา” โชว์สกิลร้องเพลง “ล้น (Overload)” เวอร์พิเศษที่คาดไม่ถึง ในรายการ พฤหัสจุ๊กกรู้ววว

11 ก.ค. 2022

“แปม อัญญ์ชิสา” โชว์สกิลร้องเพลง “ล้น (Overload)” เวอร์พิเศษที่คาดไม่ถึง ในรายการ พฤหัสจุ๊กกรู้ววว

2 ดีเจอารมณ์ดี (ดีเจอ๋องอ๋อง – ดีเจหยาดพิรุณ) เปิดสตูดิโอต้อนรับ “แปม อัญญ์ชิสา” มาแนะนำซิงเกิลใหม่ “ล้น (Overload)” กันสดๆ ในรายการ พฤหัสจุ๊กกรู้ววว นอกจากจะมาแนะนำซิงเกิลใหม่แล้วสาว “แปม” ยังได้พาทุกคนมาย้อนเล่าเรื่องราวถึงการทำซิงเกิล ตั้งแต่ซิงเกิลแรก...จนถึงซิลเกิลปัจจุบัน เรียกได้ว่ามาเปิดใจหมดเปลือก ในรายการกันเลยทีเดียว งานนี้มาถึงรายการ พฤหัสจุ๊กกรู้ววว ทั้งที จะมาร้องเพลงใหม่ “ล้น (Overload)” เวอร์ชันธรรมดาไม่ได้ ก็โชว์สกิลจัดเต็มร้องเพลง “ล้น” เวอร์ชันสุดพิเศษ ที่ฟังได้ในรายการ พฤหัสจุ๊กกรู้ววว ที่เดียวเท่านั้น!! บอกได้คำเดียวว่า ดีแต้ๆ เลยเจ้า ถ้าอยากรู้ว่าจะดีแต้ๆ ขนาดไหน ต้องไปติดตามย้อนหลังความจุ๊กกรู้วววกันแบบจุกจุกที่ หรือรอติดตามชมสดพร้อมกัน ทุกคืนวันพฤหัสบดี 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม ที่ EFM94 / Facebook Live / YouTube Live / App Atime FungFin และที่ atime.live/efmรายการ : พฤหัสจุ๊กกรู้ววว

บิวกิ้น พุฒิพงศ์-พีพี กฤษฏ์ เปิดช่องทางใหม่สำหรับติดต่องาน Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ทุกช่องทางบนโซเชียลมีเดีย

01 มิ.ย. 2022

บิวกิ้น พุฒิพงศ์-พีพี กฤษฏ์ เปิดช่องทางใหม่สำหรับติดต่องาน Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ทุกช่องทางบนโซเชียลมีเดีย

พร้อมแล้วสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ หลังจากค่าย นาดาว บางกอก ได้ออกมาประกาศขอยุติบทบาทการเป็นบริษัทพัฒนาศิลปิน ผลิตซีรีส์ ละคร และเพลง ทำให้ศิลปินและนักแสดงในสังกัดทุกคนต้องแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง และศิลปินที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ 2 หนุ่มสุดฮอต บิวกิ้น พุฒิพงศ์ และพีพี กฤษฏ์ ทำให้แฟน ๆ ตั้งคำถามถึงเส้นทางในอนาคตของทั้งสองคนว่า จะมีการเปิดค่ายด้วยกันหรือไม่?ขอบคุณภาพจาก Billkin Entertainmentล่าสุดบิวกิ้นและพีพี ได้เปิดช่องทางใหม่สำหรับการติดต่องานอย่างเป็นทางการแล้ว ผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ทั้ง Instagram Twitter Facebook และ TikTok โดยใช้ชื่อว่า Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ทำเอาแฟน ๆใจฟู ตื่นเต้นกับการเติบโตก้าวใหม่ของบิวกิ้นและพีพีด้วยการติด #BillkinEntertainment และ #PPKritEntertainment บนทวิตเตอร์ขอบคุณภาพจาก PP Entertainmentซึ่งทั้งบิวกิ้นและพีพีได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมทั้งเขียนแคปชั่นว่า Billkin Begins และแคปชั่นของพีพีคือ Begin together ซึ่งแฟน ๆ ก็ได้เข้ามาร่วมกันคอมเมนต์แสดงความยินดีให้กับการเดินทางครั้งใหม่ของทั้งสองคนส่วนผลงานต่าง ๆ ของบิวกิ้นและพีพีจะมีโปรเจกต์พิเศษอะไรออกมาเซอร์ไพร์สให้กับแฟน ๆกัน บ้าง EFM จะมาอัพเดทให้ทราบกันแน่นอนค่ะ

เพราะไม่เชื่อและคึกคะนองอยากลองของดี ตกดึกเจอ ‘ผี’ หลอนจนไข้ขึ้น! เรื่องเล่าจาก ‘แจ็ค The Ghost Radio’

25 พ.ย. 2022

เพราะไม่เชื่อและคึกคะนองอยากลองของดี ตกดึกเจอ ‘ผี’ หลอนจนไข้ขึ้น! เรื่องเล่าจาก ‘แจ็ค The Ghost Radio’

เรื่องราวที่พี่ ‘แจ็ค The Ghost Radio’ นำมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน 2565) เป็นเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องเสียวสันหลัง กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘กระทงผี’ เรื่องนี้จะหลอนชวนคลุมโปงแค่ไหน แท็กเพื่อนมาอ่านความหลอนไปด้วยกันเลย!‘กระทง’ ที่ว่านี้ ไม่ใช่กระทงที่เราคนไทยใช้เพื่อขอขมาพระแม่คงคาในเทศกาลลอยกระทง แต่หมายถึง ‘กระทงเซ่นไหว้’ และเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนเจ้าของเรื่องคือ ‘คุณหนูฝน’ แฟนคลับรายการ ‘The Ghost Radio’ นั่นเองเรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณหนูฝนซึ่งเป็นคนไทยคนเดียว ได้เดินทางไปเที่ยวกับแฟนและกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติที่ประเทศอินโดนีเซีย คุณหนูฝนเล่าว่าคนที่บาหลีส่วนใหญ่มักจะนับถือศาสนาฮินดูเป็นหลัก และมีพิธีการเซ่นไหว้เทพเจ้าหรือภูติผีปีศาจต่าง ๆ ผ่านกระทงเซ่นไหว้ จากนั้นก็นำไปวางไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ตามถนน เรียกได้ว่าสามารถเห็นได้แทบจะทุก 3 ก้าวเลยทีเดียว แถมยังบอกอีกว่าทุก 3-4 ชั่วโมง ต้องเห็นคนมาไหว้อยู่ตลอดระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวกันอยู่ ‘คุณซันนี่’ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติก็เผลอเดินไปเหยียบกระทงแบบไม่ตั้งใจ คุณหนูฝนจึงบอกให้เพื่อนขอโทษเพราะนี่ถือว่าเป็นความเชื่อของเขา แต่คุณซันนี่ก็ถามกลับว่า “ทำไมต้องขอโทษกระทงด้วย กระทงนี่คืออะไร?” แล้วทั้งกลุ่มก็หัวเราะขำขัน ไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวคุณหนูฝนก็พยายามพูดขอโทษแทนคุณซันนี่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า “เพื่อนไม่ได้ตั้งใจนะ” หลังจากนั้นทุกคนก็พากันไปดื่มสังสรรค์ตามแพลนที่วางไว้ขากลับทุกคนในกลุ่มก็เริ่มกรึ่ม ๆ ปรากฏว่าแฟนของคุณหนูฝน ดันเดินไปเหยียบกระทงที่วางอยู่ข้างทาง หนึ่งในกลุ่มเพื่อนจึงพูดว่า “เธอเดินเหยียบผีอ่ะ ระวังผีหลอกนะ” แล้วทุกคนก็เฮฮากัน เพราะด้วยความที่เป็นฝรั่งก็ไม่ได้คิดหรือมีความเชื่ออะไร แฟนคุณหนูฝนที่กำลังกรึ่มเมาได้ที่ก็บอกว่า “อ๋อ นี่ผีใช่มั้ย? ได้เลย!” แล้วก็เดินไล่เหยียบกระทงทีละอัน! คุณหนูฝนจึงรีบตักเตือนแฟนชาวต่างชาติว่าไม่ควรทำแบบนี้ทันที ดังนั้นทุกคนในกลุ่มจึงหยุดหัวเราะ ส่วนคุณหนูฝนที่ไม่สบายใจ จึงขอขมาเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง และพากันเดินกลับที่พักไปเมื่อเดินทางกลับมาถึงที่พัก ซึ่งได้จองไว้เป็นวิลล่า แยกกันนอนคนละหลัง แต่ละคนก็อาบน้ำและเข้านอนตามปกติ ระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้น คุณหนูฝนก็รู้สึกได้ยินเสียงเหมือนกับมีอะไรมาขูดที่ผนังดัง “แกร๊ก แกร๊ก” จึงเปิดไฟหัวเตียง แล้วก็พบว่าแฟนของคุณหนูฝนหายไป! คุณหนูฝนจึงมองหาไปรอบ ๆ จนสายตาหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าที่เปิดอยู่ คุณแจ๊คเล่าเสริมว่าแฟนคุณหนูฝนมีร่างใหญ่ สูงกว่า 185 เซนติเมตร ยืนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วทำคอพับ จากนั้นก็เอาเล็บตะกุยผนังตู้เสื้อผ้า คุณหนูฝนเห็นดังนั้นจึงรีบตะโกนถามว่าเป็นอะไร แล้วก็พยายามลุกไปปลุกให้แฟนมีสติ แต่ระหว่างนั้นแฟนคุณหนูฝนก็ได้ปัสสาวะราด เมื่อได้สติเขาก็บอกว่าในฝันมีผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือนจะเข้ามาทำร้ายเขา แต่เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณหนูฝนจึงบอกให้ไปอาบน้ำให้สบายตัว แล้วกลับมานอนใหม่ดีกว่า พรุ่งนี้ ตั้งสติได้ เราค่อยมาคุยรายละเอียดกันอีกทีเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็ออกไปกินข้าวเช้ายกเว้นคุณซันนี่ที่ยังไม่ออกมา แต่ทุกคนก็คิดว่าคงไม่มีอะไร ในตอนที่กินข้าวอยู่นั้น คุณหนูฝนก็ถามแฟนว่า “ตกลงเมื่อคืนนี้ เป็นอะไร? มันเกิดอะไรขึ้น?” เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาฝันว่ามีผู้หญิงตาสีดำเหมือนตาโบ๋มีผมฟู พยายามวิ่งไล่เขาอยู่ในห้อง ด้วยความกลัวเขาก็เลยวิ่งหนีวนในห้อง จนถึงประตู เขาก็เลยเปิดเพื่อที่จะหนีออกไปข้างนอก ปรากฏว่าเปิดออกไป ประตูนี้มันดันเป็นทางตัน ซึ่งมันก็เป็นภาพเดียวกับที่คุณหนูฝนเห็นว่าแฟนกำลังตะกุยตะกายตู้เสื้อผ้านั่นก็เพราะเขาจะหาทางออกนั่นเอง คุณหนูฝนจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นผลพวงจากเมื่อวานก็ได้ แต่ทุกคนก็ยังงง ๆ และยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่ เวลาผ่านไปสักพัก คุณซันนี่ก็ยังไม่ปรากกฎตัว ทุกคนจึงคุยกันว่าจะไปตามที่บ้านพักเมื่อไปถึงบ้านพักของคุณซันนี่ ก็พบว่าคุณซันนี่นอนไข้ขึ้นสูง แล้วก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเขาได้ฝัน ซึ่งเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก เพราะหลังจากที่คุณซันนี่อาบน้ำเสร็จแล้วมานอนที่เตียง สายตาก็มองไปที่หน้าต่าง ก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดคล้ายกับนางรำของบาหลี มีผมฟูยืนอยู่ตรงหน้าต่าง คุณซันนี่คิดในใจว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีแถวนี้ จึงปิดหน้าต่างแล้วก็นอน ระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกุกกัก จึงลืมตาขึ้นมาดู พบว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง ตอนนี้ได้มายืนอยู่ตรงปลายเตียง แถมยังรำท่าทางน่ากลัว! เขาก็เลยตกใจจนไข้ขึ้น เมื่อได้ยินดังนั้น คุณหนูฝนจึงบอกว่าสิ่งที่ได้ทำไปเมื่อวานนั้นมันไม่ถูกต้อง และนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ไกด์ท้องถิ่นฟัง หลังจากฟังจบไกด์ท้องถิ่นคนนั้นก็รู้สึกโมโห และบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ คนที่นี่เขามีความเชื่อและศรัทธามาก ถ้าคุณไปทำแบบนี้ให้ชาวบ้านเห็น คุณจะไม่ได้เจอแค่ผีหลอกนะ คุณอาจจะโดนรุมประชาทัณฑ์ได้เลยเมื่อเห็นว่านี่เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด ไกด์ท้องถิ่นจึงได้พาทุกคนไปยังวัดแห่งหนึ่งที่มีอ่างน้ำมนต์เพื่อให้ทุกคนได้ไปอาบ ทุกคนก็ยอมทำตามนั้น หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มสบายใจขึ้น และเที่ยวต่อตามแผนเดิมได้อย่างปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากจบทริปก็แยกย้ายกันกลับประเทศของตัวเองไปคุณแจ็คเล่าเสริมว่าที่นำมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้ เพราะรู้สึกทึ่งกับความเชื่อและวัฒนธรรมของบาหลี และอยากเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนที่จะต้องเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ถึงเราจะไม่มีความเชื่อเหมือนกับประเทศของเขา แต่ก็อยากให้เคารพวัฒนธรรมและสิ่งที่เขาเชื่อด้วยติดตามความหลอนย้อนหลังได้

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

19 ธ.ค. 2022

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (13 ธันวาคม 2565) มีสายจาก ‘คุณโก้’ ได้โทรเข้ามาเล่าเรื่องชวนขนหัวลุกเกี่ยวกับการไปตั้งแคมป์นอนเต็นท์ที่ต่างจังหวัดคนเดียว ชวนให้ดีเจแนน - ดีเจ็ม - และดีเจมดดำ ได้อุทานร้องหวอไปตาม ๆ กัน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘เขย่าเต็นท์’การตั้งแคมป์นอนเต็นท์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในการท่องเที่ยวของบ้านเรา คุณโก้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากจะชมวิว ชิลไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว คุณโก้นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนเต็นท์ด้วยกันในวันธรรมดา เพราะวันหยุดจะมีคนเยอะ เมื่อได้จัดการจองและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พอถึงหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทาง เพื่อนคุณโก้กลับเปลี่ยนใจไม่ไปเสียอย่างนั้น คุณโก้ที่เสียดายเงินที่จ่ายไป บวกกับสถานที่นอนเต็นท์อยู่ใกล้บ้าน ห่างประมาณ 30 กิโลเมตร จึงตัดสินใจเดินทางไปคนเดียวคุณโก้ไปถึงลานกางเต็นท์ในช่วงเที่ยง ลูกของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีเชื้อสายไทย-มอญ ก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอัธยาศัยดีและช่วยกางเต็นท์จนเสร็จเรียบร้อย จนเกือบจะถึงเวลาเย็น คุณโก้ก็ออกไปกินข้าว พอใกล้ 6 โมงเย็น ก็กลับมาที่เต็นท์ของตัวเอง ก็พบว่าบริเวณนั้น แทบจะไม่มีใครมากางเต็นท์นอนกันเลย ส่วนลูกเจ้าของสถานที่ก็กลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณนี้ไป คุณโก้อธิบายเสริมว่า ด้านหน้าของเต็นท์จะมีลำธารเล็ก ๆ ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ เวลาผ่านไปจนถึง 1 ทุ่ม แม้จะมีแสงไฟอยู่บ้าง แต่ความมืดที่มากกว่าก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ คุณโก้ตัดสินใจเข้าไปนอนในเต็นท์ เพราะลึก ๆ ก็แอบหวั่นใจกับบรรยากาศในที่แห่งนี้…ใช้เวลาไม่นานคุณโก้ก็ผล็อยหลับไป กระทั่งเวลา 2 ทุ่ม คุณโก้ตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นเพื่อนคนที่ตั้งใจจะมาด้วยกันนั่นเองที่โทรเข้ามา คุณโก้หัวเสียเล็กน้อยเพราะเพื่อนโทรมาจนทำให้ตื่น และบอกเพื่อนว่าที่นัดกันไว้นั้นตนมาคนเดียว คุยกันได้สักพักก็วางสายไป คุณโก้ตั้งว่าจะนอนต่อแต่ก็ไม่สำเร็จ ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของคนประมาณ 3-4 คน เหมือนกำลังหาปลาอยู่ในลำธารด้านหน้าเต็นท์ (ซึ่งความสูงของน้ำในลำธารนั้นประมาณค่อนเอว) เสียงนั้นเดินใกล้เต็นท์มากขึ้นทุกที จากนั้นก็หยุด แล้วเสียงภาษาพม่าก็เริ่มดังขึ้น คุณโก้เริ่มคิดเตลิดในหัว ถ้าเปิดออกไปแล้วเป็นคน ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อย เพราะเขามากันหลายคน แต่ถ้าเปิดไปแล้วไม่เจอใคร ก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เสียงคุยยังคงดำเนินต่อไปประมาณ 10 นาทีได้ คุณโก้ที่เริ่มทนไม่ไหวก็ตัดสินใจจะเปิดเต็นท์ออกไปดู เพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าเป็นคนก็คงจะชื่นใจกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เปิดเต็นท์ออกไป ภาพที่เห็นนั้นแทบไม่เชื่อสายตา!คุณโก้พบว่าข้างนอกนั้น ไม่มีใครอยู่เลย! ภาพข้างหน้าเป็นธารน้ำที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากดวงไฟไม่กี่ดวง คุณโก้เริ่มตระหนักในใจว่ายังไงก็โดนเข้าให้แล้ว แต่ด้วยความใจกล้า จึงจะยังนอนอยู่ที่นี่ อีกสักหน่อยตัวเองคงจะหลับไปเอง แต่แล้วก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเดินเหยียบใบไม้บริเวณรอบ ๆ เต็นท์ และก็อีกครั้ง ที่เสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าเต็นท์ คุณโก้ที่นอนหันหลังให้ฝั่งนั้นก็ต้องสั่นสะท้าน ไม่กล้าหันไปมอง จากนั้นเสียงก็ค่อย ๆ ย่องเดินไปต่อจนเริ่มเบาและหายไป วินาทีนั้นคุณโก้ก็โล่งใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว..อากาศข้างนอกดูเหมือนจะเย็นลง แต่คุณโก้ก็ไม่แน่ใจว่าข้างนอกมีลมแรงหรือไม่ สักพักเต็นท์ก็เริ่มเขย่าโดยอะไรบางอย่าง! คุณโก้ลุกขึ้นมานั่งชันเข่าตัวแข็งไปหมด เพราะจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในใจคิดว่าจะเอายังไงดี ถ้าจะกลับบ้านมันก็ดึกแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนได้ ครั้นจะอยู่ต่อมันก็นอนไม่หลับแล้ว คุณโก้จึงบอกกับตัวเองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก จะกลับบ้านทันที!ไม่นาน ขณะที่คุณโก้นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมบนตรงกลางเต็นท์ ใบหน้าก็มองไปที่อีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีหน้าคนยื่นเข้ามาจากข้างนอกทั้งที่ไม่ได้เปิดเต็นท์แล้วก็เด้งกลับไปในเสี้ยววินาที! (มียื่นหน้าเข้ามา แม้จะมีผ้าเต็นท์กั้นอยู่ คล้ายกับแม่พิมพ์) จังหวะนั้นคุณโก้ก็รู้ดีว่ามันคือใบหน้าของคนแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร จากที่กลัวมาก คุณโก้ก็ปลดล็อคดับเครื่องชน รีบเปิดเต็นท์ออกไปดูและตะโกนลั่นป่าถามว่า “ใครครับ! ออกมาได้มั้ย?” สุดท้ายก็ไม่มีใครหรือเสียงอะไรตอบกลับมา ด้วยความที่อยู่คนเดียว จึงโทรหาเพื่อนคนเดิมแล้วเปิด Speakerphone ไว้ แต่เพื่อนบอกว่าคุยกับแฟนอยู่ คุณโก้จึงบอกว่า “กูกำลังเก็บเต็นท์กลับบ้าน มึงพูดอะไรก็ได้ แต่กูขอเก็บเต็นท์แปปนึง” (ประมาณว่าให้เพื่อนอยู่ในสายรอไว้) คุณโก้ใช้เวลาเก็บเต็นท์น้อยกว่ากางเต็นท์มาก คุณโก้เล่าเสริมว่า ขณะที่เดินกลับรถ ก็พึ่งจะรู้ตัวว่าบรรยากาศตรงนั้น มันไม่ปลอดภัยมาก ๆ ทั้งมืด และไม่มีใคร แล้วก็บอกกับตัวเองในใจว่า “กูนอนไปได้ไงเนี่ย” จากนั้นก็รีบออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองลานกางเต็นท์นั้นอีกเลยซึ่งทางดีเจเจ็มจึงถามกลับไปว่า “ปกติแล้ว เวลาเราไปกางเต็นท์ ก็มักจะต้องบอกเจ้าที่เจ้าทาง คุณโก้ได้ทำบ้างมั้ย?” คุณโก้บอกว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เรามานอนคนเดียว ไม่มีเจตนาร้ายใครได้ฟังหรืออ่านเรื่อง ‘เขย่าเต็นท์’ จากคุณโก้กันแล้ว ถ้ามีแพลนจะไปนอนเต็นท์กลางป่า ก็พกเพื่อนตัวเป็น ๆ ไปด้วยสักคน ดีกว่าไปเจอเพื่อนที่อาจไม่ใช่คนจะดีกว่านะ...ติดตามความสนุกย้อนหลัง

album

0
0.8
1