ปากดีเป็นเหตุ เมื่อเข้าห้องพักหลอน แล้วเจอวิญญาณสยองนองเลือด พร้อมเสียงกระซิบข้างหู “มึงอยากเห็นกูตายมั้ยล่ะ” คลั่งจนธาตุแตก! | อังคารคลุมโปง

ENTERTAINMENT NEWS

ปากดีเป็นเหตุ เมื่อเข้าห้องพักหลอน แล้วเจอวิญญาณสยองนองเลือด พร้อมเสียงกระซิบข้างหู “มึงอยากเห็นกูตายมั้ยล่ะ” คลั่งจนธาตุแตก! | อังคารคลุมโปง

29 ธ.ค. 2022

ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ หลายคนมีแพลนไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แน่นอนว่าต้อง ‘เช่าห้องพัก’ ค้างคืนกันบ้าง หรือใครที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ก็คงจะคุ้นเคยกับการหาห้องพัก ที่ในบางครั้งเราก็คาดเดาไม่ได้ เช่นเดียวกับเรื่อง ‘ห้องพักรายวัน’ จากคุณหยก แม่มณี ที่ได้โทรเข้ามาเล่าประสบการณ์หลอนของรุ่นพี่ที่เจอดีจนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาล ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม 2565)

คุณหยกเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับ ‘คุณโก้’ รุ่นพี่ที่รู้จักกัน ตอนนั้นคุณโก้ต้องเดินทางไปคุยงานกับลูกค้าที่ต่างจังหวัดพร้อมกับรุ่นน้องอีก 1 คน เมื่อไปถึงทั้งคู่ก็หาโรงแรมเพื่อพักผ่อน ซึ่งไม่ได้มีการจองล่วงหน้า ทำให้ไม่ทราบว่าทุกห้องของโรงแรมนั้นถูกจองเต็มไปหมดแล้ว พนักงานจึงแนะนำที่พักอื่นใกล้ ๆ กันให้ คุณโก้จึงเลือกโรงแรมที่ใกล้กับบ้านของลูกค้า เพื่อที่จะได้เดินทางไปง่าย

เมื่อไปถึงโรงแรมนั้น ทั้งคู่ก็ตกใจ เพราะลักษณะภายนอกนั้นดูเหมือนกึ่งอะพาร์ตเมนต์กึ่งม่านรูดผสมกัน จากนั้นเด็กรับรถก็เดินเข้ามาทักทาย “ค้างคืนหรือชั่วคราวครับพี่?” คุณโก้จึงตอบกลับไปว่า “ค้างคืนเท่าไหร่อ่ะน้อง?” เด็กรับรถตอบว่า “300 ครับพี่” นั่นทำให้คุณโก้รู้สึกตกใจมาก และคิดว่ามันถูกเกินไป จึงถามกลับไปว่า “ไม่ใช่มีของแถมอะไรนะ” เด็กรับรถตอบกลับทันควันว่า “พวกถุงยางหรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ พี่ซื้อเองได้เลยครับ” คุณโก้ที่ไม่ได้หมายความอย่างว่าจึงตอบไปว่า “ไม่ใช่ ชั้นหมายถึงผี!” เด็กรับรถเงียบไปสักพัก แล้วก็ตอบกลับว่า “ทุกที่มีคนตาย อยู่ที่ว่าพี่จะเจอหรือเปล่า” เมื่อทำอะไรมากไม่ได้ คุณโก้ก็ตกลงเข้าพัก แล้วแยกย้ายกับน้องที่มาด้วย เพื่อเข้าห้องของใครของมัน...

เมื่อเข้าห้องพัก คุณโก้ก็เตรียมอุปกรณ์เพื่อที่จะไปอาบน้ำ นั่นทำให้คุณโก้สังเกตุเห็นผ้าม่าน พอเปิดม่านออกก็จะพบกับอ่างอาบน้ำ เรียกได้ว่าวิวดีเกินราคาสุด ๆ หลังจากนั้นคุณโก้ก็เตรียมน้ำแล้วลงไปแช่ในอ่าง กลิ่นหอมของสบู่คละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ เวลาผ่านไปสักพัก กลิ่นเหม็นเน่าคาวเลือดก็แทรกเข้ามาแทนที่ คุณโก้จึงพยายามเดินตามหาที่มาของกลิ่น แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ก็ดูเหมือนกลิ่นนั้นจะลอยไกลออกไปทุกที คุณโก้จึงคิดว่าหรือมันจะมาจากช่องระบายอากาศ แต่เมื่อเปิดดูแล้วก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ จึงตัดสินใจเลิกหาต้นตอ และรีบอาบน้ำให้เสร็จ

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย คุณโก้ก็นอนหลับไป จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืน คุณโก้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ จึงตะแคงพลิกตัวด้วยความงัวเงียเพื่อที่จะลุกขึ้น หน้าของคุณโก้หันไปทางกระจกห้องน้ำ แต่แล้วก็รู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ จากนั้นคุณโก้ก็ค่อย ๆ ลืมตา ก็รู้สึกเหมือนมีคนมาถ่างตาขึงไว้ให้มันตึงจนเหมือนตาจะถลนออกมา! และผู้หญิงที่เปลือยกายยืนหันหลังให้ก็ปรากฏขึ้นมา คุณโก้พยายามร้องและดิ้นแต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ค่อย ๆ หันหน้ามาแล้วก็ยิ้มมุมปากมาให้คุณโก้!

สิ่งที่คุณโก้ทำคือด่า! แต่ด่าในใจว่า “โถ่ อีชะนี มึงจะมายั่วอะไรกู กูเป็นตุ๊ด!” และก็บอกว่า “ถ้าจะอำแล้วอำกูแค่นี้ มึงจะทำเพื่ออะไร?” สิ้นเสียงในใจนั้น ก็มีเสียงเล็กแหลมลอดเข้ามาในหูว่า “แล้วมึงอยากเห็นกูตายมั้ยล่ะ?”  จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หันทั้งตัวกลับมา เผยให้เห็นใบหน้าและสรีระที่สะสวย ริมฝากเคลือบลิปสติกสีแดงสด เธอค่อย ๆ หย่อนตัวลงในอ่างอาบน้ำ แล้วค่อย ๆ บรรจงอาบน้ำให้คุณโก้เห็น คุณโก้ที่ควบคุมความคิดไม่ได้ก็คิดอยู่ในใจว่า “มึงจะอาบให้กูดูทำไมวะ?” จากนั้นเธอก็ดำลงไปในอ่างแล้วก็ขึ้นมาพร้อมกับหันหน้ามาหาคุณโก้ รอยยิ้มที่มุมปากผุดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับดูน่ากลัวกว่าครั้งแรก! เพราะมุมปากเริ่มสูงขึ้นจนเกือบจะถึงโหนกแก้ม ไม่นานเธอก็ลุกขึ้นแล้วมายืนที่หน้าอ่างล้างหน้า มือซ้ายก็หยิบอะไรบางอย่าง คุณโก้คิดในใจอีกครั้งว่า “อย่ามาหลอกมาหลอนกูเลย เดี๋ยวจะทำบุญไปให้ก็ได้” พร้อมกับสวดทุกบทที่รู้จัก แต่ไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นก็หันหน้ามายิ้มอย่างสยดสยองอีกครั้ง แล้วก็บอกว่า “มึงพร้อมจะเห็นกูตายหรือยัง?”

หลังจากนั้น มือซ้ายที่หยิบเอาใบมีดโกนขึ้นมา แล้วก็กรีดตั้งแต่กกหูลากมาจนถึงต้นคอ ยาวมาจนถึงราวหน้าอกซ้ายแล้วก็สะบัดแรง ๆ ไม่พอแค่นั้น เธอยังแอ่นตัวเพื่อให้เลือดกระฉูดออกมา! เธอหัวเราะออกมาด้วยเสียงเล็กแหลมสยดสยอง พร่ำพูดว่า “มึงอยากเห็นกูตายอีกมั้ย...มึงอยากเห็นกูตายอีกมั้ย!” แล้วเธอก็กรีดตามเนื้อตามตัวด้วยความบ้าคลั่ง ภาพนั้นทำให้คุณโก้สั่นเทาด้วยความกลัวอย่างถึงขีดสุด จึงพยายามเหลือกตาให้เหลือแค่ตาขาวเพื่อที่จะได้น็อคหลับไป… สักพักไม่นาน คุณโก้ก็รู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มผ่อนคลาย แต่ก็ยังขยับตัวไม่ได้ คุณโก้ยังรู้สึกตาพร่ามัว แต่นั่นไม่ใช่เพราะหลับตา แต่ขณะนั้นยังลืมตาอยู่แค่ยังโฟกัสไม่เข้าที่ เมื่อเริ่มเห็นภาพชัดขึ้น ก็รู้สึกได้ว่ามีสองมือเหม็นคาวเลือดมาโอบจากด้านหลังมากระชับที่เอวของคุณโก้ด้วยแรงแน่น จากนั้นก็มีคอมาวางเกยไหล่คุณโก้ พร้อมกับเสียงสยองเดิมว่า “มึงอยากเห็นกูตายอีกรอบมั้ยล่ะ?” คุณโก้คิดในใจว่า “ไม่ต้องตายแล้วแหล่ะ” สภาพของคุณโก้ตอนนี้ธาตุแตก ฉี่แตกเละเทะ ตาเหลือก นอนไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น…

เช้าวันต่อมา น้องที่มาด้วยกันก็มาเคาะที่ห้อง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ โทรไปก็ไม่มีใครรับ รถก็ยังจอดแน่นิ่งอยู่ จึงถามพนักงานแถวนั้นว่ามีเห็นใครออกมาจากห้องนี้หรือยัง ทางพนักงานก็ส่ายหัว เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงขอให้ใช้กุญแจสำรองเปิดห้อง พอเข้าไปก็พบคุณโก้นอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่แทบจะดูไม่ได้ ตาเหลือก ธาตุแตก ฉี่ราดเละเทะไปหมด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

คุณโก้ไม่ได้สติ 2 คืนเต็ม เมื่อได้สติก็โทรเล่าเรื่องให้กับเจ้านายฟัง ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน จึงบอกให้คุณโก้รักษาตัวให้เรียบร้อย พอวางสายเสร็จกำลังจะล้มตัวนอนลง เสียงเล็กแหลมเดิมก็ลอดเข้ามาในหูอีกครั้งด้วยประโยคเดิมว่า “มึงอยากเห็นกูตายอีกรอบมั้ยล่ะ?” ประโยคนั้นทำให้คุณโก้สติแตกอีกครั้ง เรียกได้ว่าจิตเสียไปเลย จนกระทั่งกลับมากรุงเทพ คุณโก้ก็พยายามใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นปกติมากที่สุด แต่ทุกครั้งที่จิตว่าง ก็จะมีเสียงเดิมพูดข้างหูขึ้นมา “มึงอยากเห็นกูตายอีกรอบมั้ย”

คุณโก้ก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็แนะนำให้ไปทำบุญชุดใหญ่ แต่ก็ยังเหมือนเดิม จึงคิดว่าหรือต้องบวชพระ พอดีกับแม่บ้านที่บริษัทก็กำลังจะบวชลูกชาย จึงตัดสินใจจะไปช่วยงานบวชนี้ ระหว่างที่อยู่ในงาน คุณโก้ก็คิดว่าหลังจากนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว จังหวะที่ส่งนาคนั้น ก็มีเสียงพูดขึ้นมาดัง ๆ ว่า “กูไม่ได้จะเอาบุญ! มึงอยากเห็นกูตายอีกรอบมั้ย!” แม้จะมาแค่เสียง แต่คุณโก้ก็ไม่สบายใจ เพื่อนจึงแนะนำให้ไปอาบน้ำมนต์ วัดที่หนึ่งก็แล้ว วัดที่สองก็ยังเจอ จนมาวัดที่สาม พระท่านก็รดมาขันแรกไม่เท่าไหร่ ขันที่สองลงหัวปุ๊บ น้ำที่หลังจากรดตัวคุณโก้ไปแล้วมันกลายเป็นสีขุ่นเลือด สรุปแล้วก็รดไปประมาณ 4 ถัง จนน้ำมันเริ่มจางลง คุณโก้ก็เล่าเรื่องที่เจอให้กับพระฟัง ท่านก็บอกว่า “มันเป็นกรรมที่เกิดจากวาจาของโยม โยมลองไปถือศีลเรื่องวาจาดูมั้ย” คุณโก้ก็ตกลงจะทำ พระท่านก็ถามต่อว่า “ตอนที่เจอได้แผ่เมตตามั้ย? ถ้าไม่ เขาก็อาจจะเข้าใจว่าโยมสื่อสารกับเขาได้ เขาก็เลยตามต่อ แถมยังเขาหลอกให้ทำบุญให้อีก เพราะเราสื่อสารได้แล้วเขาจะไปทำไม เขาก็อยู่กับโยมสิ” เมื่อรู้แบบนั้นแล้ว คุณโก้จึงถือศีลปิดวาจาประมาณ 2 อาทิตย์ถึงจะหลุดออกไป...

ชมความหลอนย้อนหลัง

related ENTERTAINMENT NEWS

Anhedonia ภาวะสิ้นยินดี สัญญาณของภาวะซึมเศร้า ไม่รู้สึกยินดี ยินร้าย กับกิจกรรมที่เคยสร้างสุข อีกต่อไป... "หมอแพท" แนะ! แบบทดสอบ ภาวะโรคซึมเศร้า PHQ-9 ตอบคำถาม 9 ข้อ ประเมินเบื้องต้น ก่อนไปพบแพทย์

19 ม.ค. 2023

Anhedonia ภาวะสิ้นยินดี สัญญาณของภาวะซึมเศร้า ไม่รู้สึกยินดี ยินร้าย กับกิจกรรมที่เคยสร้างสุข อีกต่อไป... "หมอแพท" แนะ! แบบทดสอบ ภาวะโรคซึมเศร้า PHQ-9 ตอบคำถาม 9 ข้อ ประเมินเบื้องต้น ก่อนไปพบแพทย์

จากกรณีน้องเพ้นท์ อายุ 19 ปี ที่ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม ในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับปัญหาไม่มีแพชชั่นในการใช้ชีวิต รู้สึกว่า ชีวิตไร้จุดหมาย ไม่ได้อยากตาย แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่ต่อโดย “หมอแพท จากเพจหมอตุ๊ด” ได้แนะนำว่า ‘คำว่าไม่มีแพชชั่น คือคนมักจะใช้คำนี้กันเยอะ เราต้องแยกก่อน คำว่าแพชชั่นหมายถึง มีใจ ใฝ่จะทำ... เช่น เรามีแพชชั่นต่อการอ่านหนังสือ ถ้าเราเจอหนังสือที่ไม่สนุกก็เปลี่ยนไปอ่านหนังสือเล่มอื่น แต่สิ่งที่น้องเพ้นท์เล่าให้ฟัง ไม่ใช่น้องไม่มีแพชชั่น แต่น้องมีภาวะ Anhedonia (แอนฮีโดเนีย) หมายถึงภาวะที่เกี่ยวกับกิจกรมที่เคยสร้างความรู้สึกให้เขาไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับสิ่งนั้นอีกต่อไป เพราะฉะนั้นเขาจะรู้สึกไม่ได้อยากออกไปทำอะไร แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่เฉยๆ เหมือนติดอยู่ตรงกลาง สุดท้ายเลือกที่จะนอนอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันภาวะนี้เป็นสัญญาณและเป็นอาการเริ่มต้นของคนที่มีภาวะซึมเศร้า มันจะดูคล้ายกับภาวะที่ไม่มีแพชชั่น แต่จริงๆแล้วเราไม่ได้คาดหวังอะไรกับแพชชั่นนี้ อันนี้คือสิ่งเดิมๆที่เคยให้ความสุขกับเรามันไม่ก่อความสุขให้เราอีกแล้ว สุดท้ายก็มีความกระวนกระวายอยู่ข้างใน แต่ร่างกายไม่เคลื่อนไหวใดๆ ขอนอนอยู่เฉยๆ พอมันเจอแบบนี้ทุกวัน อะไรๆก็ไม่ได้สร้างความสุข ไม่รู้ว่าอยากทำอะไร แล้วก็คิดวนลูปว่าจะแบบนี้ไปทำไม บางคนถึงขั้นรู้สึกว่าหรือเราจะจบชีวิตไปเลยดีมั้ย? ถ้าคนที่มีความรู้สึกแบบนี้ แนะนำว่าควรไปพบหมอนะ...หลายๆคนที่มีภาวะแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าไปพบจิตแพทย์ แนะนำให้เปิด Google เสิร์จคำว่า PHQ9 ภาษาไทย https://www.rama.mahidol.ac.th/th/depression_risk มันเป็นแบบทดสอบภาวะโรคซึมเศร้าด้วยตัวเอง ถ้าสมมุติรู้สึกว่าอารมณ์เราไม่ปกติเลย ไม่ได้เป็นคนเดิมแบบที่เรารู้สึกโอเค ไม่สามารถพาใจออกจากสิ่งที่เราไม่โอเคได้ นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าจะเป็นภาวะซึมเศร้าแล้ว และสาเหตุที่คนเป็นกันภาวะนี้กันเยอะ คือสมัยก่อนกับสมัยปัจจุบันนี้จำนวนคนที่เป็นเท่ากันเลย แต่สมัยก่อนการเข้าถึงมันน้อยมาก ไม่เหมือนสมัยนี้ และสังคมปัจจุบันทำให้เราหาความสุขได้ยากขึ้น เหมือนผลักดันให้เราไปอยู่ในจุดที่ความเศร้าเข้ามาเยือนจริงๆสมาธิกับความสุขมันมีความเกี่ยวข้องกัน ถ้าแบ่งตามสมอง สื่อในปัจจุบันที่เรารับชม รับเสพกัน มันจะมี 2 ประเภท คือเป็นสื่อที่ใช้สมาธินิดเดียว กับสื่อที่ใช้สมาธิยาวๆ แต่ปัจจุบันนี้มันมีสื่อแบบ Ultra Short เช่นการดู TikTok , Short Video หรือ Reel บางทีสมาธิยังไม่ทันก่อเกิดเลย แต่ว่าเราก็เปลี่ยนไปดูอย่างอื่นแล้ว เพราะฉะนั้นสมองจะรู้สึกชิวมากเลย ไม่ต้องมีการสร้างสมาธิ ซึ่งเราใช้เวลา 2 ชั่วโมงดูหน้าจอโดยสมองไม่ได้สร้างสมาธิ และเราก็จะทำอะไรยากขึ้น ดังนั้นก็อาจจะเป็นเหตุผลของการเกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วย แต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้ แต่มันก็มีความเสี่ยงส่วนมุมมองของคนรอบข้างที่ให้คำปรึกษา ลองคิดดูว่าที่เขามาปรึกษาเราเพราะเขาอยากให้เราแสดงความเห็นใจ ดังนั้นคำพูดอะไรก็ได้ที่ทำให้เราเห็นใจเขา แต่เราไม่สามารถเข้าใจความทุกข์ของอีกคนหนึ่งได้ เพราะความทุกข์เป็นสมบัติส่วนตัว แต่เราเห็นใจกันได้ เราจะพูดกับเขาด้วยคำพูดไหนก็ได้ และคุยกับเขาด้วยภาษาเพื่อน การแสดงความเห็นใจคือสิ่งที่ดีที่สุด คนที่เป็นโรคซึมเศ้ราเขาไม่จำเป็นให้เราต้องไปช่วยเขา ไปพยุงหรืออุ้มเขา ขอแค่เราอยู่ข้างๆเขาก็พอสุดท้ายอยากจะบอกคนที่มีอารมณ์แบบนี้ว่าอย่าเพิ่งคิดไปเอง อย่าเพิ่งฟุ้งซ่าน แต่อยากให้ลองทำแบบทดสอบด้วยตัวเองดูก่อน และถ้ารู้สึกไม่โอเคจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ตาม ลองปรึกษาเพื่อนใกล้ๆตัวดูก่อน ถ้าบางทีคุณได้รับความเห็นใจ คุณอาจจะรู้สึกดีโดยที่ยังไม่ต้องไปปรึกษาใครเลยก็ได้ และถ้าไม่ไหวจริงๆลองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดู และสำหรับคนที่มีคนแบบนี้ใกล้ตัว ให้คุยกับเขาด้วยภาษาเพื่อน และแสดงความเห็นใจกับเขา...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ติดตามชมรายการพุธทอล์คพุธโทร แบบเต็ม ๆ ได้ที่https://youtu.be/Y5w2d7AqOLwและรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime FungFin

ครอบครัวคนเป็น ย้ายเข้ามาอยู่ทับที่ครอบครัวคนตาย.. เฮี้ยนจนต้องนอนกอดโฉนดเพื่อบอกว่าที่นี่เป็นของเรา!

27 ม.ค. 2023

ครอบครัวคนเป็น ย้ายเข้ามาอยู่ทับที่ครอบครัวคนตาย.. เฮี้ยนจนต้องนอนกอดโฉนดเพื่อบอกว่าที่นี่เป็นของเรา!

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘คอนโด’ เป็นหนึ่งทางเลือกที่อยู่อาศัยของคนสมัยใหม่ แต่ขึ้นชื่อว่า ‘ที่อยู่’ คงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนมือ ผลัดวนกันเข้ามาอยู่อาศัย เรื่องนี้ก็เช่นกัน จะเป็นอย่างไร..? เมื่อหนึ่งครอบครัวคนเป็น ย้ายเข้าไปอยู่คอนโดของครอบครัวคนตาย เรื่องหลอนจาก ‘คุณหยก’ ที่ได้โทรเข้ามาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (24 มกราคม 2566) ที่ผ่านมาคุณหยกเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเพื่อนที่ชื่อว่า ‘คุณข้าวโอ๊ต’ มีน้องสาวชื่อ ‘เปิ้ล’ และยังเป็นคนแม่เลี้ยงเดี่ยวของ ‘น้องแอคชั่น’ เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น คุณข้าวโอ๊ตก็ได้เริ่มความสัมพันธ์กับ ‘คุณเก่ง’ จนในที่สุดก็จดทะเบียนสมรสด้วยกัน ครอบครัวที่เริ่มจะสมบูรณ์จึงมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ด้วยกัน คอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่เดินทางสะดวก ราคาไม่สูงมาก แถมยังเป็นคอนโดใหม่ คอนโดมือสองแห่งนี้จึงตอบโจทย์ครอบครัวนี้ได้ไม่ยากในช่วงแรก คุณข้าวโอ๊ตก็ยังไป ๆ มา ๆ ระหว่างคอนโดเก่าเคยอยู่กับน้องสาวอย่างคุณเปิ้ล และคอนโดของครอบครัวใหม่ เพราะน้องแอคชั่นติดแม่และน้ามาก จึงไม่อยากรวบรัดให้ย้ายที่อยู่ ต้องให้เวลาน้องแอคชั่นปรับตัวด้วย ส่วนทางด้านคุณเก่ง ก็เข้าไปอยู่ก่อนเพื่อเช็คระบบ ทั้งประปา ไฟฟ้า และความเรียบร้อยทั้งหมดของคอนโดนิสัยการนอนของคุณข้าวโอ๊ตคือไม่ค่อยชอบนอนเปิดแอร์ ถ้านอนคนเดียวก็จะเปิดหน้าต่างไว้ ซึ่งนั่นทำให้ได้กลิ่น Aftershave อ่อน ๆ ในช่วงเช้า และจะเริ่มเข้านอนเวลา 3 ทุ่มทุกวัน ความหลอนเริ่มต้นขึ้นจากจุดนี้ ระหว่างที่นอนเล่นโทรศัพท์กำลังจะเคลิ้มหลับ คุณข้าวโอ๊ตก็ได้ยินเสียงเปิดประตู และเสียงของชายที่ไม่รู้จักดังขึ้นว่า “อ้าวคุณ” หรือบางทีก็เป็นเสียงผู้หญิงพูดขึ้นก่อน พูดประมาณว่า “วันนี้ทำงานมาเหนื่อยมั้ย?” “วันนี้กินข้าวกับอะไรมา” เป็นบทสนทนาสั้น ๆ ทั่วไปเหมือนครอบครัวนึง คุณโอ๊ตก็คิดแค่เพียงว่าอาจจะเป็นเสียงจากห้องข้าง ๆ สักพักก็เริ่มชินกับเหตุการณ์นี้ จากนั้นก็พาน้องแอคชั่นย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันหลังจากน้องแอคชั่นย้ายเข้ามา พฤติกรรมการกินของน้องก็เปลี่ยนไป ปกติแล้วน้องจะกินข้าวจนหมด แต่หลัง ๆ ไม่เป็นแบบนั้น คุณข้าวโอ๊ตสงเกตุว่าน้องจะเหลือข้าวไว้ช้อนนึงบ้าง คำสองคำบ้าง บางทีก็นั่งเล่นหัวเราะอยู่คนเดียว ซึ่งน้องแอคชั่นที่อายุ 6-7 ขวบ ก็น่าจะเลยวัยที่จะนั่งเล่นหรือพูดคนเดียวแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณข้าวโอ๊ตหนักใจอะไร เพราะบางทีก็คิดว่าคุยกับน้าในมือถือ หรือเล่นเกมอยู่คนเดียวจนกระทั่งวันหยุดวันหนึ่ง คุณข้าวโอ๊ตกำลังทำสวนเล็ก ๆ อยู่ที่ระเบียง ซึ่งมีทั้งต้นไม้ใหม่ที่ย้ายเข้ามา และต้นไม้เก่าของเจ้าของเก่าปะปนกันอยู่ด้วย ถ้าใบไหนตายแล้ว คุณข้าวโอ๊ตก็จะดึงออก ระหว่างที่ทำสวนอยู่นั้น น้องแอคชั่นก็ร้องขึ้นมาว่า “ไม่เอาๆ อย่าทำแบบนี้ แอคชั่นกลัว ไม่เอาน้องแพรว พี่ไม่เล่น!” คุณข้าวโอ๊ตก็สงสัยว่าน้องแพรวเป็นใครจึงเอ่ยปากถามว่า “น้องแอคชั่นคุยกับใครคะลูก?” น้องก็ตอบกลับมาว่า “เนี่ยแม่ น้องแพรวชอบเล่นแบบนี้ ยิ้มกว้างเลย” คุณข้าวโอ๊ตก็สงสัยว่าเล่นยังไง จึงเดินเข้าไปหาและถามให้แน่ใจอีกครั้งว่า “หนูเล่นกับใครอยู่หรอ?” น้องตอบกลับทันควันด้วยความใสซื่อว่า “เนี่ยไง น้องแพรว ยืนอยู่ข้างหลังแม่ไง” “ตอนนี้น้องแพรววิ่งเข้าไปในห้องแม่แล้ว” นั่นทำให้คุณข้าวโอ๊ตถึงกับต้องนิ่ง เมื่อตั้งสติได้ก็รีบชวนน้องแอคชั่นออกไปกินข้าวข้างนอก แต่ก่อนจะไป คุณข้าวโอ๊ตต้องอาบน้ำก่อน ระหว่างที่จะเปิดประตูเข้าห้องน้ำ น้องแอคชั่นก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “เนี่ย.. น้องแพรวอยู่ในตู้ ถ้าไม่เชื่อแอคชั่นแม่ลองเปิดดูเลย!” พอเห็นลูกรบเร้าแบบนั้น คุณข้าวโอ๊ตจึงตัดสินใจเปิดดูข้างในตู้ พอเปิดออกมาก็ได้กลิ่นแป้งเด็กลอยเข้ามาเตะจมูกทันที จากนั้นคุณข้าวโอ๊ตก็บอกลูกว่า “น้องแอคชั่นอย่าไปไหนนะ รอแม่แปปนึง” พูดเสร็จก็รีบกุลีกุจอล้างตัวแล้วขับรถออกไปห้างทันที หลังจากนั้นก็โทรเล่าเรื่องราวที่เจอให้คุณเก่งฟัง คุณเก่งก็บอกว่า “ที่นี่พึ่งเปิดใหม่ ไม่น่าจะมีประวัติอะไรนะ แล้วเราก็ซื้อตรงกับเจ้าของเลย ไว้เดี๋ยวเราว่างตรงกันจะเล่าให้ฟัง จะได้สบายใจ” แล้วก็วางสายไป คุณข้าวโอ๊ตพาน้องแอคชั่นเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่ห้างจนถึงเวลาต้องกลับ เมื่อถึงหน้าคอนโด น้องแอคชั่นก็อยากกินไก่ทอดขึ้นมา จึงแวะซื้อก่อนเข้าห้อง น้องก็พูดขึ้นมาว่า “แม่ซื้อเผื่อน้องแพรวด้วยนะชิ้นนึง เพราะน้องแพรวชอบแย่งน้องกิน แอคชั่นต้องแบ่งข้าวไว้ให้น้องกินด้วยช้อนนึงตลอด” ประโยคนั่นทำให้คุณข้าวโอ๊ตปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันถึงพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปของลูกเมื่อถึงห้อง น้องแอคชั่นก็แบ่งไก่ทอด 1 ชิ้นไว้อีกจานข้าง ๆ แล้วก็นั่งกินในส่วนของตัวเองไป คุณข้าวโอ๊ตก็ชวนลูกคุยตามประสาคนเป็นแม่ จนกระทั่งน้องแอคชั่นพูดขึ้นมาว่า “แม่ครับ น้องแพรวมาขอบคุณครับ อยู่ข้าง ๆ แม่เลย” คุณข้าวโอ๊ตที่ใจไม่ดีมาทั้งวันก็รีบพาน้องแอคชั่นอาบน้ำเข้านอนทันที ส่วนตัวเองก็กินยาแก้แพ้เพื่อที่จะได้นอนหลับ กระทั่งหลับไป..กลางดึกคืนนั้น.. คุณข้าวโอ๊ตรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ และเมื่อพลิกตัวก็ได้กลิ่น Aftershave ลอยมาอีกครั้ง พอลืมตาก็เห็นร่างของผู้ชายและผู้หญิงลอยขนาบข้างน้องแอคชั่น เสียงผู้หญิงพูดว่า “ทำไมทิ้งของของชั้นแล้วไม่บอกกันก่อน” คุณข้าวโอ๊ตตกใจสบถคำหยาบคายออกมาเป็นประโยค แล้วผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นว่า “ชั้นไม่ได้พูดจาหยาบคายกับเธอเลยนะ ทำไมไม่พูดกับชั้นดี ๆ ” จากนั้นก็มีเสียงดัง “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” ตรงหัวเตียง พอมองขึ้นไปก็เห็นร่างของเด็กอายุประมาณ 4-5 ขวบ มองก้มหน้าโกรธ ๆ แล้วก็อ้าปากขึ้น กรามล่างหักค้างอย่างสยดสยอง คุณข้าวโอ๊ตเห็นดังนั้นก็กรี๊ดแล้วสลบไป!เช้าวันต่อมา คุณข้าวโอ๊ตรู้สึกตัวขึ้นก็เห็นว่าน้องแอคชั่นอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รีบพาลูกไปส่งโรงเรียน พอจะกลับคอนโด ในใจก็คิดหนัก เพราะยังรู้สึกสยองกับเรื่องที่เจอเมื่อคืนมาก จึงกลับไปที่อยู่เก่าก่อน แล้วค่อยไปทำงาน หลังจากนั้นก็คุยกับคุณเก่งว่าสรุปที่นี่มีประวัติอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรมาก เพราะคุณเก่งเองก็พยายามถามเจ้าของเก่าแล้ว ระหว่างนั้นเอง คุณข้าวโอ๊ตที่เจอเรื่องนี้บ่อยเข้าก็ทนไม่ไหว หยิบเอาโฉนดมานอนกอด พอเจอก็บอกว่า “ขอโทษนะคะ แต่หนูเป็นเจ้าของห้องนี้ร่วมกับแฟนหนูค่ะ หนูซื้อโดยถูกต้อง อย่ามาทำแบบนี้ ถ้ามีอะไรอย่ามาทำให้เห็นแบบนี้ บอกมาได้ เข้าฝันก็ได้ บอกดี ๆ แล้วลูกพี่ พี่ดูแลด้วย อย่ามายุ่งกับลูกหนู หนูกลัว!” แล้วร่างที่ลอยอยู่ก็ค่อย ๆ หายไป ส่วนน้องแพรวก็ยังเล่นแบบนั้นอยู่จนกระทั่งวันหยุดของคุณเก่งมาถึง คุณเก่งบอกว่า “เจ้าของห้องบอกว่า ผมรับช่วงต่อมา เป็นห้องของครอบครัวพี่ชายผม แล้วเขาประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตายยกครอบครัวในระหว่างทางที่กำลังขับกลับมาที่คอนโด ส่วนน้องแพรวที่ตอนนั้นไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ก็กระเด็นไปนอกกระจก แล้วปากก็ไปเกี่ยวกับกระจกข้าง จนกรามล่างฉีก จิตสุดท้ายของครอบครัวนี้ก็คงจะอยากกลับบ้าน”เมื่อได้ยินดังนั้น ครอบครัวคุณข้าวโอ๊ตก็หมั่นทำบุญตักบาตรทุกเช้า กลายเป็นธรมมเนียมจนชินชา เพราะก่อนออกจากบ้านก็จะพูดว่า “น้องแพรวฝากดูบ้านด้วยนะ มีอะไร อยากบอกอะไรก็มาเข้าฝันน้านะ” พอกลับเข้าบ้านก็จะพูดว่า “กลับมาแล้วนะ ของอยู่ตรงนี้นะ” กลายเป็นอยู่ด้วยกันแต่เหตุการณ์สยองนั้นไม่ได้เจออีกแล้ว..ติดตามความหลอนย้อนหลัง

“เจมมี่เจมส์” ชวนแฟน ๆ ชมไดอารี่ชีวิต JMJ : LESSON 25 เปิดเรื่องราวลับ รวมถึงเรื่องรักเป็นครั้งแรก!

20 ก.ค. 2022

“เจมมี่เจมส์” ชวนแฟน ๆ ชมไดอารี่ชีวิต JMJ : LESSON 25 เปิดเรื่องราวลับ รวมถึงเรื่องรักเป็นครั้งแรก!

“เจมมี่เจมส์ (JamyJamess)” หรือ “ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ” ลุยเต็มที่เดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง ประเดิมด้วยสารคดีเรื่องราวชีวิต Documentary | JMJ : LESSON 25 ที่เปรียบเสมือนไดอารี่ บอกเล่า 5 เรื่องราวชีวิต ที่ไม่เคยถูกเล่าที่ไหนมาก่อน และยังถือเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดในวัย 25 ปีอีกด้วย โดยได้ผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง “อัด อวัช” มากำกับและควบคุมการผลิตทั้งหมด ซึ่ง EP.1 FAMILY LETTER เป็นจดหมายความในใจของคนในครอบครัว, EP.2 SERVE PASSION TO TABLE แพสชั่นใหม่ที่ถูกค้นพบด้วยความบังเอิญ, EP.3 ON THE BUSINESS ROAD เปิดเรื่องราวเส้นทางของนักธุรกิจมือใหม่, EP.4ART BRINGS US BACK ศิลปะที่เข้ามาเติมความสดใสให้กับความมืดมนของชีวิต และ EP.5 PEAR OF ME เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวความรักครั้งแรก ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาในวงการบันเทิง แง่มุมความรักเป็นแง่มุมในชีวิตที่ “เจมมี่เจมส์” ให้ความสำคัญมาก แต่เพราะอะไรถึงพูดถึงน้อยที่สุด! สำหรับทั้ง 5 EP. ออนแอร์ให้ได้ชมกันครบแล้ว ทาง YouTube : JMJ LABEL “เจมมี่เจมส์” กล่าวว่า “ทั้ง 5 อีพีเป็นสิ่งที่มีความหมายกับชีวิตผม และถือว่าเป็นการแนะนำตัวใหม่ของผมฐานะ ‘เจมมี่เจมส์’ ใน 8 ปีของวงการบันเทิง และเส้นทางที่ผมจะเดินต่อไปหลังจากนี้ ซึ่งงานนี้ผมให้เครดิตทีมมากๆ โดยเฉพาะ “ผู้กำกับอัด” ผมต้องขอบคุณเขามากๆ เพราะบางจุดทำให้ผมรู้จักตัวเองและเข้าใจตัวเองมากขึ้น อยากให้ทุกคนได้ลองดู แล้วมารู้จักกันใหม่ในฐานะ ‘เจมมี่เจมส์’ วันนี้”

“ไบร์ท วชิรวิชญ์” เสียอาการหนักมาก ร่วมกระทบไหล่ทีมโปรด “แมนยูฯ”

12 ก.ค. 2022

“ไบร์ท วชิรวิชญ์” เสียอาการหนักมาก ร่วมกระทบไหล่ทีมโปรด “แมนยูฯ”

“ไบร์ท วชิรวิชญ์” เสียอาการหนักมาก หลังเจอทีมโปรด “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในงาน MEET THE RED DEVILS ที่ทาง “Adidas Thailand” จัดขึ้น สำหรับหนุ่ม “ไบร์ท วชิรวิชญ์” ได้ร่วมงานในฐานะ Brand Ambassador Adidas Thailand งานนี้ไม่ได้ขึ้นไปบนเวทีอย่างเดียว แต่ยังได้ร่วมโชว์เดาะบอลกับ 3 นักเตะอย่าง “บรูโน เฟอร์นันด์ส” , “มาร์คัส แรชฟอร์ด” และ “ดาบิด เด เคอา” จากทีม “แมนยูฯ” อีกด้วย ซึ่งทำเอาหนุ่ม “ไบร์ท” ถึงขั้นออกมาทวิตว่า “I'm not feeling like myself today” และโพสต์ภาพบนอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชัน “Its such a dream coming true experience, words cannot describe how excited i am. I grewing up watching Manchester united and will always support”โดยทันทีที่หนุ่ม “ไบร์ท” ลงรูปบนอินสตาแกรมส่วนตัวก็มีเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงและ แฟนคลับต่างเข้ามาคอมเมนต์กันอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่าฟินกันทั้งเจ้าตัวและคนดูเลยงานนี้

album

0
0.8
1