ได้ยินเสียงอุบัติเหตุ ด้วยความอยากรู้ จึงเดินเข้าไปดู เห็นร่างหญิงสาวถูกรถชน สภาพตัวขาดออกเป็นสองท่อน! พอตกกลางคืน ท่อนล่างเดินตามเข้ามาในฝัน แม้จะวิ่งหนีด้วยความตกใจ สวดมนต์ด้วยความกลัวแต่ก็หนีไม่พ้น เพราะท่อนบนตามมาเกาะบนคอแบบไม่ทันตั้งตัว!

อังคารคลุมโปง RECAP

ได้ยินเสียงอุบัติเหตุ ด้วยความอยากรู้ จึงเดินเข้าไปดู เห็นร่างหญิงสาวถูกรถชน สภาพตัวขาดออกเป็นสองท่อน! พอตกกลางคืน ท่อนล่างเดินตามเข้ามาในฝัน แม้จะวิ่งหนีด้วยความตกใจ สวดมนต์ด้วยความกลัวแต่ก็หนีไม่พ้น เพราะท่อนบนตามมาเกาะบนคอแบบไม่ทันตั้งตัว!

30 ส.ค. 2023

        เปิดสตูต้อนรับ ‘ต้า-สอง Paradox’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (22 สิงหาคม 2566)  พร้อมเรื่องเล่าที่จะมาเปิดประสบการณ์เรื่องราวอุบัติเหตุที่ชวน ‘ดีเจแนน’, ‘ดีเจเจ็ม’ มาขนหัวลุกด้วยกันกับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘สาวครึ่งตัว’

        เรื่องนี้มาจากประสบการณ์ตรงของ ‘คุณอ๊อฟ’ รูมเมทคุณต้า Paradox เหตุเกิดเมื่อคืนวันหนึ่ง มีเสียงดัง ตู้ม!! เกิดขึ้นบริเวณด้านข้างหอพัก คุณอ๊อฟได้ยินเสียงก็รีบลงมาดูด้วยความอยากรู้ ปรากฏว่าภาพที่เห็นคือ ผู้หญิงถูกรถชน และมีคนกำลังยืนมุงดูร่างที่มีสภาพตัวขาดออกเป็นสองท่อน! ส่วนรถที่ประสบอุบัติเหตุต้องหยุดทันที เพราะท่อนล่างของหญิงสาวติดอยู่ที่ด้านล่างของรถ ท่อนบนกระแทกทะลุกับกระจก มาตกอยู่ที่หน้าตักคนนั่งข้างคนขับ

        หลังจากเคลียร์อุบัติเหตุจบลง คุณอ๊อฟเดินกลับขึ้นห้องและเข้านอนตามปกติ ระหว่างนั้นเขาก็ฝันว่า ตัวเองกำลังเดินข้ามถนนเส้นที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ แล้วมีเสียงเท้าเหมือนคนกำลังเดินตามดังขึ้นเรื่อย ๆ สักพักเมื่อมองออกไปไกล ๆ ก็เห็นแสงไฟสลัวตามมุมเสาไฟ เมื่อเขาหันไปด้านหลัง ก็เห็นเป็นท่อนร่างของผู้หญิงที่เกิดอุบัติเหตุ เดินตามอยู่ไกล ๆ ทำให้เขาตกใจ! รีบข้ามถนนวิ่งกลับขึ้นห้องทันที แต่เสียงคนเดินตามก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงรีบวิ่งหนีเข้าไปแล้วปิดประตูล็อคห้องทันที แต่เมื่อมองออกไปเขาก็ยังเห็นเป็นเงาคนยืนรออยู่ที่ขอบประตู ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไง จึงตัดสินใจสวนมนต์และกลั้นใจเปิดประตูดู เงามืดนั้นก็หายไป เขาคิดว่าทุกอย่างคงสงบลงแล้ว จึงเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าตามเคล็ด แต่พอเงยหน้ามองที่กระจก สิ่งที่เขาเห็นปรากฏว่าเป็นท่อนบนของหญิงสาวผู้นั้นเกาะอยู่บนคอของเขา หลังจากนั้นก็สะดุ้งตื่นทันที!

        ที่จริงมีเคล็ดที่ผู้ใหญ่เคยพูดไว้ว่า ถ้าหากเราผ่านไปเจออุบัติเหตุ อย่าทัก เพราะว่าเขาอาจจะตามมาแบบไม่รู้ตัว..

 (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

 

related อังคารคลุมโปง RECAP

เจอดีทั้งบ้าน! เมื่อเข้าพักโรงแรมดังในห้องหมายเลข 329

21 ส.ค. 2023

เจอดีทั้งบ้าน! เมื่อเข้าพักโรงแรมดังในห้องหมายเลข 329

‘ตั้ม The Shock’ กลับมาเล่าเรื่องหลอนในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (15 สิงหาคม 2566) ได้ฟังอีกครั้ง กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ห้อง 329’ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากคดีจริงเมื่อปี 2550 เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ปิดไฟแล้วไปอ่านเลย! เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากคดีฆาตกรรมเมื่อปี 2550 ที่จ.นครราชสีมา มีแม่บ้านจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ได้ขึ้นไปทำความสะอาดห้องพักที่ชั้น 3 หมายเลขห้อง 329 เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับต้องผงะ เพราะกลิ่นเหม็นสาบคาวเลือดพุ่งกระแทกจมูกเข้าอย่างจัง แถมยังลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งชั้น 3 อีกด้วย แม่บ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรม และติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งหน่วยกู้ภัย เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ตรวจสอบพบว่า มีคราบเลือด คราบน้ำเหลืองอยู่บนเพดานห้อง กู้ภัยจึงเปิดฝ้าเพดานและได้เจอกับศพผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งร่างมีคราบน้ำเหลืองและเลือดไหลปะปนกัน ยิ่งเข้าไปใกล้ ๆ ก็ยิ่งส่งกลิ่นให้แรงทวีคูณ เจ้าหน้าที่จึงทำการเคลื่อนย้ายร่างผู้ตายเพื่อส่งไปชันสูตรหาตัวตนและสาเหตุการตายต่อไป ตัดภาพมาที่ ‘คุณโก้’ เจ้าของเรื่องหลอนในครั้งนี้ คุณโก้เป็นคนเชียงใหม่ มีธุรกิจอยู่ที่โคราช ทำให้ต้องไป ๆ มา ๆ ระหว่าง 2 จังหวัดนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่หลังจากเจอวิกฤตโควิด-19 คุณโก้ก็ไม่ได้เดินทางมาที่โคราชเป็นเวลากว่า 3 ปี หลังจากนั้น สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย คุณโก้จึงเดินทางไปที่โคราชอีกครั้ง ในครั้งนี้มีครอบครัวที่ประกอบไปด้วย คุณแจง (นามสมมุติ) ผู้เป็นภรรยาและ น้องจอย (นามสมมุติ) ลูกไปด้วย เมื่อถึงวันเดินทาง คุณโก้ก็ได้มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ เป็นห้องชั้น 3 หมายเลข 329 ซึ่งปกติแล้วคุณโก้ก็เคยมาพักที่นี่ แต่ก็ได้ห้องชั้นอื่นตลอด คุณโก้เช็คอินเข้าห้องพัก กระเป๋าและสัมภาระก็ถูกขนขึ้นไปไว้บนห้อง ระหว่างนั้นครอบครัวคุณโก้ก็ออกไปรับประทานอาหารร้านประจำซึ่งมีพนักงานเสิร์ฟสาวที่รู้จักคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เธอกล่าวทักทายคุณโก้ “สวัสดีค่ะคุณโก้ มาเที่ยวเหมือนเดิมเหรอคะ? แล้วพักที่ไหนคะ?” คุณโก้บอกชื่อโรงแรมไป แล้วเธอก็ถามต่ออีกว่า “แล้ว.. ห้องไหนคะ?” คุณโก้ก็ตอบไปตามปกติว่า “เมื่อก่อนได้ห้องชั้น 1 บ้าง ชั้น 2 บ้าง แต่รอบนี้ได้ห้อง 329 เหมือนจะเลขสวยด้วยน้า” เด็กเสิร์ฟที่กำลังตักข่าวอยู่ก็หยุดชะงัก จากนั้นก็เดินหนีออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรเลย! คุณโก้ได้แต่สงสัยว่าทำไมเธอจึงเดินหนีออกไปแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ครอบครัวของคุณโก้ก็กลับมาที่โรงแรม เมื่อถึงโรงแรม คุณแจงและน้องจอยโก้ก็ขึ้นไปบนห้อง ส่วนคุณโก้นั้นลงมาซื้อขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเผื่อหิวกลางดึก ในระหว่างนั้น น้องจอยก็เข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำ สักพักก็เดินออกมาแล้วบอกว่า “แม่ มีผู้หญิงอยู่ในห้องน้ำ” คุณแจงบอกกับลูกว่า “ไม่มีหรอกลูก ผู้หญิงที่ไหน เราอยู่กันสองคน” น้องจอยก็ยืนยันว่ามีจริง คุณแจงคิดว่าน้องจอยไม่ได้โกหกแต่อาจจะเป็นจินตนาการของน้องจอยที่คิดไปเอง “งั้นพาแม่ไปดูหน่อยสิ้” น้องจอยก็พาคุณแจงเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่คุณแจงก็ไม่เจออะไร จึงถามน้องจอยว่าเจอผู้หญิงตรงไหน น้องจอยก็ชี้ไปที่อ่างน้ำ แต่ในเมื่อไม่เห็นอะไรผิดปกติ คุณแจงจึงพาน้องจอยออกมาเพื่อเตรียมตัวเข้านอน เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณโก้กลับมาเข้าที่ห้องพอดี คุณโก้และคุณแจงนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน ส่วนน้องจอยจะนอนอยู่บนเตียงเด็กที่เตรียมมาเองในตำแหน่งปลายเตียงของพ่อแม่ คุณโก้บอกให้คุณแจงและน้องจอยรีบนอน เพราะพรุ่งนี้หลังจากทำธุรเสร็จแล้ว จะพาไปเที่ยวสวนสัตว์ด้วยกัน ทุกคนดูกระตือรือร้นที่จะได้ไปเที่ยว คุณโก้จึงปิดไฟเหลือไว้เพียงแสงจากโทรทัศน์ หลังจากนอนไปได้สักพัก คุณแจงที่มักจะนอนหงายอยู่ฝั่งขวา ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก รู้สึกอบอ้าวและร้อนไปหมดทั้งตัว แถมยังรู้สึกระคายเคืองที่คอ และยังได้ยินเสียงเหมือนคนสำลักออกมาด้วย คุณแจงตื่นขึ้นมาแต่ก็ขยับตัวไม่ได้ ทำได้เพียงชำเลืองหางตาไปทางขวามือที่คุณโก้นอนอยู่ ก็เห็นว่ามีผู้หญิงผมยาวนั่งก้มหน้าในมุมมืดข้างเตียง ลิ้นจุกอยู่ที่ปากส่งเสียงสำลักในคอมาเป็นระยะ! คุณแจงที่ยังขยับตัวไม่ได้ก็สังเกตเห็นอีกว่ามือของผู้หญิงคนนั้นเอือมมาบีบคอตัวเองอยู่! คุณแจงพยายามดิ้นและนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สักพักก็หลุดพ้น คุณแจงลุกขึ้นมานั่งแล้วสะกิดคุณโก้เสียงเบาเพราะกลัวว่าลูกจะตื่น คุณแจงบอกว่าตนนั้นโดนผีหลอก คุณโก้ปลอบใจและพยายามบอกว่าอาจจะเหนื่อยมากไปเพื่อให้คุณแจงใจเย็นลง หลังจากใช้เวลาสักพัก คุณแจงก็ยอมนอนต่อแต่โดยดี เมื่อคุณแจงหลับไป คุณโก้ที่ปกติแล้วชอบนอนตะแคงก็รู้สึกได้ว่าเหมือนมีคนมากอดจากข้างหลัง จึงคิดว่าอาจจะเป็นคุณแจง แต่มันแปลกตรงที่การกอดมันแน่นรุนแรงขึ้น และยังรู้สึกอีกว่าแขนที่มากอดมันหนักเกินกว่าจะเป็นแขนของภรรยาได้! จากนั้นก็เริ่มได้กลิ่นแปลก ๆ และรู้สึกว่าแขนนั้นมันเปียกชื้นแฉะ คุณโก้จึงหันไปมอง ก็เห็นเป็นผู้หญิงผมยาว ลิ้นจุกปาก น้ำเหลืองและน้ำเลือดไหลออกจากตา สำลักในลำคอของเธอก็ดังขึ้นเป็นระยะพร้อมกับสายตาน่ากลัวที่มองคุณโก้! คุณโก้ตกใจดิ้นหลุดจนตกลงมาซอกเตียง หลังจากควบคุมสติได้ก็มองขึ้นบนเตียงอีกที ทุกอย่างก็หายไป! คุณโก้ใช้มือยันพื้นหลังติดผนังแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน จังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงกุกกักจากข้างบนฝ้าตามมาด้วยเสียงสำลักในลำคอดังขึ้นมาอีก! คุณโก้รู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ข้างบนนั้นมันกำลังจะร่วงลงมา จากนั้นฝ้าก็เผยอเปิดออก! คุณโก้รีบไปดึงตัวคุณแจงและน้องจอยออกจากห้องโดยที่ไม่พูดอะไรและทิ้งของทุกอย่างไว้ที่ห้องนั้น แล้วขับรถออกจากโรงแรมทันที! เมื่อมาถึงอีกโรงแรม คุณโก้ก็บอกน้องจอยแค่ว่า “พ่อนัดเพื่อนไว้ ลูกขึ้นไปนอนก่อนนะ” คุณแจงและน้องจอยก็ขึ้นไปบนห้อง คุณโก้นั่งอยู่ที่ฟร้อนโรงแรมเพื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นก็เห็นป้อมยามของโรงแรม จึงไปเดินถามเพราะคิดว่าถ้าเป็นเรื่องผีจริง คนที่จะรู้มากที่สุดก็คงจะเป็นคนในพื้นที่ ก็เจอลุงคนหนึ่งนั่งอยู่ในป้อมยาม คุณโก้เล่าให้คุณลุงฟังว่าเจออะไรมาบ้าง พร้อมกับบอกชื่อโรงแรมที่เจอ คุณลุงถามกลับมาทันทีว่า “329 ใช่มั้ย?” คุณโก้พยักหน้าตอบ คุณลุงจึงเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น นั่นทำให้คุณโก้ตัดสินใจว่าหลังจากนี้ จะไม่มาพักที่โรงแรมต้นเรื่องอีก ต้นตอของคดีฆาตกรรมห้อง 329 คือมีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีสามีอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำอาชีพเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ และมีงานพิเศษเป็นสาวอาบอบนวด ทำให้มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาพัวพันด้วย ผู้ชายคนนี้ทำอาชีพเป็นช่างแอร์ เมื่อคบกันไปได้สักพัก ผู้ชายก็จับได้ว่าเธอมีสามีอยู่แล้ว ทั้งคู่นักมาเคลียร์ใจกันที่โรงแรมนี้ในห้อง 329 เมื่อตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายชายเกิดบันดาลโทสะบีบคอฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต ด้วยความที่เขาเป็นช่างแอร์ จึงนำศพของผู้หญิงอำพรางไว้ในช่องข้างฝ้าเพดานข้างบน จากนั้นก็ลงไปซื้อเครื่องดื่มขึ้นบนดื่มบนห้องอย่างใจเย็น จนกระทั่งถึงเช้าอีกวัน เขาก็เช็คเอาท์ออก หลังจากนั้น 3 วัน แม่บ้านก็เข้ามาทำความสะอาดในห้อง จากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่และพบศพอยู่ข้างบนฝ้าในห้อง..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เดจาวูสุดหลอนในวัยเด็ก ฝันเห็นคนเสียชีวิต พอตื่นขึ้นมาเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงเหมือนในฝันเป๊ะ!

24 พ.ย. 2023

เดจาวูสุดหลอนในวัยเด็ก ฝันเห็นคนเสียชีวิต พอตื่นขึ้นมาเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงเหมือนในฝันเป๊ะ!

ระหว่างทางไปน้ำตกเผลอนอนหลับในรถ จึงฝันเห็นเหตุการณ์​คนเสียชีวิตในสถานที่ที่กำลังจะไป ปรากกฎว่า พอไปถึง.. เหตุการณ์เหมือนในฝันดันเกิดขึ้นจริง! เรื่องนี้ ‘NICECNX’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (21 พฤษจิกายน 2566) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ตัวตายตัวแทน’ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันได้เลย! คุณไนซ์เล่าว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของทีมงานใกล้ตัว นามสมมติว่า ‘พี่หนึ่ง’ ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตคุณไนซ์พอสมควร เพราะทุกคนล้วนเคยเกิดเหตุการณ์ ‘เดจาวู’ แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่หนึ่งถือว่าแรงมาก ๆ เพราะพอเดจาวูเสร็จ เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงในอีกประมาณ 10 นาทีต่อมา เรื่องมีอยู่ว่าในตอนเด็ก พ่อกับแม่พาพี่หนึ่งไปเที่ยวน้ำตก เป็นน้ำตกที่มีหลายชั้น ซึ่งในน้ำตกจะมีชั้นนึงที่เป็นวังน้ำวน พี่หนึ่งชอบไปเล่นที่ชั้นนี้มาก ขณะเดินทางไปน้ำตก ด้วยความเป็นเด็กจึงนอนหลับในรถตามปกติ แต่แล้วก็ฝันว่า พอไปถึงน้ำตก กำลังจะลงเล่นน้ำ คนที่อยู่บริเวณนั้นอย่างพ่อค้าแม่ค้าวิ่งแตกตื่นกันมา พ่อกับแม่จึงถามไปถามคนแถวนั้นว่า “เกิดอะไรขึ้น อันนี้น้ำตกเปิดตามปกติรึเปล่า?” พ่อค้าแม่ค้าก็ตอบว่า “มีเด็กผู้หญิงจมน้ำ ไม่รู้เสียชีวิตรึเปล่า เพราะยังหาร่างไม่เจอ หากันมาเป็นชั่วโมงแล้ว อาจจะไม่รอดแล้วมั้ง” จากนั้นในฝันก็ตัดภาพเห็นพี่หนึ่งถึงน้ำตก เดินงัวเงียลงจากรถเพราะพึ่งตื่น เป็นจังหวะที่เขากู้ศพขึ้นมาพอดี พี่หนึ่งจึงชะเง้อดู เห็นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าหมวย ใส่ชุดแขนสั้นสีฟ้า ผมประบ่า เป็นศพที่ถูกกู้ขึ้นมาจากในน้ำ จนในที่สุดก็สะดุ้งตื่น เป็นจังหวะเดียวกับรถใกล้จะถึงน้ำตกพอดี พอรถจอด พ่อกับแม่ก็ลงไปจากรถ แล้วคนก็วิ่งแตกตื่น แล้วหลังจากนั้นก็มีการพบศพคนเสียชีวิตเหมือนกับในฝัน! นั่นเป็นเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกที่หนึ่งไม่เคยลืม นอกจากนี้ คุณไนซ์ยังเสริมอีกว่า จริง ๆ แล้วตอนแรกน้ำตกมีชื่ออีกชื่อหนึ่ง แต่พอมีนักท่องเที่ยวมาเสียชีวิตซ้ำเยอะ ๆ เขาจึงตั้งชื่อตามและเปลี่ยนชื่อมาเรื่อย ๆ ในมุมหนึ่งอาจเป็นเพราะสถานที่อันตราย แต่ว่าถ้าลองมุมอีกมองอาจจะเป็นการหาตัวตายตัวแทนก็เป็นได้...(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เลือกพักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่พอตกดึกก็ต้องสะดุ้งตื่น แรก ๆ นึกว่าคน พออยู่ไปหลายคืนกลับเจอดีจนขนหัวลุก!

11 เม.ย. 2023

เลือกพักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่พอตกดึกก็ต้องสะดุ้งตื่น แรก ๆ นึกว่าคน พออยู่ไปหลายคืนกลับเจอดีจนขนหัวลุก!

ไปทำงานต่างจังหวัดจึงเลือกพักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่พอตกดึกก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะมีเสียงเปิด-ปิดประตูตลอดเวลา! แรก ๆ นึกว่าคน พออยู่ไปหลายคืนกลับเจอดีจนขนหัวลุก! จะออกไปทำบุญก็เจออุปสรรค พอทำบุญให้ก็ยังไม่หายไปไหน! ..ต้องทนนอนด้วยความหวาดผวาถึง 8 คืน! หลายคนคงไม่เชื่อว่าประสบการณ์ขนหัวลุกจะเกิดขึ้นขณะที่เรากำลังนอนอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวได้ เรื่องราวสุดหลอนนี้มาจากสาย ‘คุณแดน’ ที่ได้โทรมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ ที่ผ่านมา (4 เมษายน 2566) ให้ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ฟัง เป็นเรื่องที่ทั้งสตูต้องร้อง “ห๊า!” ไปตาม ๆ กัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น แท็กชวนเพื่อนมาอ่านไปพร้อมกันได้เลย! คุณแดนเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นได้ไปทำงานที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน เป็นเวลา 9 วัน 8 คืน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ไม่เคยไปมาก่อน จึงวางแผนว่าจะนอนพักที่โรงแรม 5 ดาว เพื่อความปลอดภัย แต่จังหวัดนั้นมีโรงแรม 5 ดาวอยู่เพียง 2 แห่ง จึงเลือกโรงแรมที่เป็นแบรนด์ที่เคยใช้บริการ ผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 คน ได้แก่ คุณแดน พี่สาว บัดดี้ของพี่สาว และทีมงานอีก 2 คน ทั้งหมดได้จองห้องพักไว้ 3 ห้อง โดยคุณแดนนอนคนเดียว ส่วนพี่สาวนอนกับบัดดี้ ทั้ง 2 ห้องนี้จะอยู่ติดกัน ส่วนอีกห้องเป็นของทีมงานที่เหลือ ตำแหน่งของห้องอยู่ตรงข้ามห้องของพี่สาว เมื่อมาถึงโรงแรม ทุกอย่างก็ดูจะเป็นไปตามที่คาดหวังสมมาตรฐานระดับ 5 ดาว บรรยากาศในโรงแรมดูคึกคักเพราะช่วงนั้นมีการจัดสัมมนาด้วย ส่วนห้องพักเองก็ดูใหม่ มีผนังห้องน้ำเป็นกระจกและมีผ้าม่านช่วยเพิ่มความหรูหรา และยังมี Daybed (เตียงนอนเล่น) ให้นั่งพักผ่อนอย่างสะดวกสบาย ส่วนด้านนอกมีระเบียงหลอก ๆ ที่ทำขึ้นเพื่อความสวยงาม แต่ไม่สามารถออกไปยืนข้างนอกได้ แม้ในห้องจะดูสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว แต่ในคืนแรก เวลาประมาณ ตี 1 – 2 คุณแดนก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคนเปิด-ปิดประตูเสียงดังอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่เพียงว่าอาจเป็นเพราะมีสัมมนาจึงทำให้คนเยอะกว่าปกติ และเดินเข้าออกบ่อย จากนั้นคุณแดนก็ได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูดังมาจากห้องของพี่สาว จึงคิดว่าพี่สาวและบัดดี้คงออกไปเที่ยวกันแน่ ๆ จากนั้นก็หลับต่อจนถึงเช้า เมื่อเจอพี่สาวตอนเช้าก็ได้ถามไปว่า “เมื่อคืนออกไปไหนกันมาหรอ เห็นเปิด-ปิดประตูเสียงดัง” แต่เธอก็ปฏิเสธ จากนั้นก็ถามคุณแดนกลับ เพราะเธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องคุณแดนเหมือนกัน คุณแดนตอบปฏิเสธไป เพราะไม่ได้ออกไปไหนจริง ๆ ส่วนห้องของทีมงานอีก 2 คนที่เหลือ เขากลับบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย คุณแดนและพี่สาวจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก คืนที่สอง ก็ยังเกิดเหตุการณ์ขึ้นเหมือนเดิมคือมีเสียงเปิด-ปิดประตูอยู่แทบจะตลอดเวลา ก่อนหน้านี้คุณแดนก็ได้ไปเช็คกิจกรรมภายในโรงแรม ซึ่งก็มีตารางค่อนข้างเยอะ จึงพอจะเข้าใจได้และทำใจนอน แต่ยังไม่ทันได้เคลิ้มหลับ คุณแดนก็ได้ยินเสียงเหมือนเดิมดังขึ้นมาจากห้องพี่สาว แล้วเสียงนั้นก็ดังมาที่ห้องคุณแดนแทน เป็นเสียงที่เหมือนมีใครพยายามเข้ามาในห้องแต่เปิดประตูไม่ได้ เนื่องจากประตูมีโซ่ล็อคอยู่อีกชั้นหนึ่งจากประตูดิจิทัล สักพักอีกประมาณ 10 นาที ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคน เดินลากเท้าเข้ามาในห้อง และมาหยุดที่ปลายเตียงของคุณแดน คุณแดนขนลุกกลัวไปหมดจนไม่กล้าลืมตา และก็รู้สึกว่าเขายืนแบบนั้นอยู่ ประมาณ 5 นาที คุณแดนจึงพูดในใจว่า “ผมกลัวนะ อย่าทำอะไรผม” แล้วเขาก็หายไป..! เช้าของวันถัดมา พี่สาวคุณแดนก็มาสะกิดถามว่า “เมื่อคืนเธอเจออะไรมั้ย” คุณแดนจึงเล่าเรื่องที่เจอมาให้ฟัง และเธอก็บอกว่าเจอเหมือนกัน โดยเขาเดินมาหยุดที่หน้าห้องน้ำที่แสงไฟเล็ดลอดออกมา (พี่สาวเปิดไฟห้องน้ำทิ้งไว้ก่อนนอน) เธอจึงเหลือบตามอง และพบว่าเป็นผู้ชายยืนมองเธออยู่! เพื่อให้แน่ใจจึงรวบรวมความกล้าเปิดไฟหรี่ที่หัวเตียงขึ้นเพื่อดูให้ชัดว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่คน! เพราะมองไม่เห็นส่วนของใบหน้า เป็นเพียงเงาลาง ๆ ดำ ๆ และยังยืนมองมาอยู่ประมาณ 5 นาที เหมือนกับเวลาที่เขายืนมองคุณแดนด้วยเช่นกัน! คุณแดนกับพี่สาวจึงตัดสินใจว่าจะปลีกตัวออกไปทำบุญ ซึ่งมีบัดดี้ติดรถมาด้วย เมื่อซื้อสังฆทานเสร็จ ก็กำลังจะนำไปทำบุญตามที่ตั้งใจ คุณแดนก็เดินจ้ำไปที่รถ จู่ ๆ ก็มีรถอีกคันมาจอดแนบตรงประตูฝั่งคนขับ ทำให้ไม่สามารถขึ้นรถได้ คุณลุงเจ้าของรถลงมาเห็นพอดี จึงกล่าวขอโทษและย้ายรถออกให้ จากนั้นคุณแดนก็รีบนำสังฆทานไปยังวัดที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที แต่พอไปถึงปรากฏว่าวัดเงียบมาก คุณแดนวนรถหากุฏิเจ้าอาวาสก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจหาวัดใกล้ ๆ อีกแห่ง พอมาถึง พระที่นั่นกลับไม่รับถวายสังฆทาน โดยให้เหตุผลว่า “วันนี้เขาจะอ่านหนังสือเพื่อเตรียมไปสอบ” คุณแดนก็คิดในใจว่า “ทำไมอุปสรรคเยอะจัง” สุดท้ายก็ไปอีกวัด และคิดว่าถ้าไม่ได้ถวายสังฆทานในวัดนี้ คืนนี้ก็คงต้องกล้ำกลืนอดทนกันไป แต่ในที่สุดก็สามารถถวายสังฆทานได้เป็นที่เรียบร้อย คืนที่สามนี้ คุณแดนและพี่สาวพยายามดื่มกันหนักมาก เพื่อที่จะได้หลับแบบไม่รู้สึกตัว ทำให้ผ่านพ้นไปด้วยดี จึงคิดว่าเขาน่าจะได้รับส่วนบุญกุศลที่พึ่งทำไปให้ไปแล้ว แต่พอตกคืนที่สี่คุณแดนและทีมงานทั้งหมดออกไปเที่ยวกลางคืน และกลับมานอนตามปกติ ซึ่งงานสัมมนาและงานประชุมใด ๆ ที่โรงแรมจัดได้หมดไปแล้ว ทำให้บรรยากาศในโรงแรมค่อนข้างเงียบ และเหตุการณ์เดิม ๆ ก็วนมาอีกครั้ง หนึ่งในผู้ร่วมชะตาหลอนคนใหม่ คือบัดดี้ของพี่สาวนั่นเอง.. ต่อมาในคืนที่ห้า คุณแดนและทีมงานยังคงอยู่ระหว่างการคุยงานเนื่องจากลูกค้าอยากนัดทานข้าวไปด้วย ซึ่งทางลูกค้าก็ถามว่า “นอนพักที่ไหนกัน” พอคุณแดนตอบไป เขาก็เลยเล่าให้ฟังว่า “คนที่นี่เขาไม่นอนที่โรงแรมนั้นกันหรอกนะ” เนื่องจากตึกของโรงแรมมันเคยร้างมา 10 กว่าปี จนได้เจ้าของใหม่มารีโนเวทและเปิดกิจการโรงแรม ซึ่งก็ถูกเทคโอเวอร์ไปเป็นแบรนด์ปัจจุบันนี้ และเล่าต่ออีกว่า เพื่อนของลูกค้าเคยมาพักที่นี่ เป็นห้องและชั้นเดียวกันกับที่คุณแดนพัก แถมยังเจอเหตุการณ์เดียวกันแบบเป๊ะ ๆ อีกด้วย คุณแดนได้ยินก็ตกใจและกลัวมาก จึงดื่มแอลกอฮอล์เพื่อมอมตัวเอง ทำให้กลับมาถึงห้องพักเกือบตี 2 พอออกจากลิฟต์ หางตาก็มองไปสุดทางเดิน ปรากฏว่าเห็นเป็นเงาคนยืนอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนที่เจอตลอดเกือบทุกคืน ทั้งหมดจึงรีบแยกย้ายพากันเข้าห้องทันที ระหว่างนั้นสุนัขก็พากันหอนเสียงดังมาจากหลังโรงแรม แต่ความหลอนมันก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะกลางดึกคืนนั้น คุณแดนสะดุ้งตื่นเนื่องจากพี่สาวโทรมาขอให้เปิดประตูห้อง เมื่อไปเปิดก็เห็นพี่สาวและบัดดี้เดินหน้าซีดเข้ามาในห้องพร้อมกับหมอนผ้าห่ม ทั้งสองเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบเดิมเลย แต่บัดดี้ดันเห็นว่าเงานั้นเดินชนเก้าอี้ ทำให้มีเสียงดัง บัดดี้จึงกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว และพากันหนีมานอนที่ห้องคุณแดนแทน! พอเช้าวันถัดมา คุณแดนได้มอบผ้ายันต์พระเวสสุวรรณให้กับบัดดี้เพื่อนำไปติดในห้อง และขอให้แผนกต้อนรับของโรงแรมแจ้งกับแม่บ้านว่าอย่าขยับเขยื้อนผ้ายันต์เด็ดขาด ซึ่งพอวันใกล้จะกลับกรุงเทพฯ ก็เกิดเหตุการณ์เดิมอีกซ้ำ ๆ แต่ครั้งนี้กลับมีเสียงเคาะมาจากกระจกฝั่งระเบียงห้องคุณแดน 3 ครั้ง! ซึ่งตอนนั้นมีผ้าม่านกั้นไว้อยู่ คุณแดนแกล้งทำเป็นไม่สนใจและไม่ยอมเปิดผ้าม่าน จนผ่านไปสักพัก เสียงเคาะนั้นก็ดังและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จากก๊อก ก๊อก ก๊อก เป็น ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ คุณแดนกลัวมาก จึงตัดสินใจเปิดไฟนอน สักพักพี่สาวก็ไลน์มาถามว่า “เค้ามาเคาะกระจกห้องเธอหรือเปล่า” คุณแดนเลยตอบกลับไปว่า “ใช่” จนมาถึงวันสุดท้ายที่กำลังจะกลับ พี่สาวเก็บของเตรียมเช็คเอาท์ ปรากฏว่ามีน้ำอัดลมที่ถูกดื่มไปแล้วประมาณ 1/4 ของขวดถูกแช่อยู่ในตู้เย็น ซึ่งพอสอบถามกันไปมา ก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของน้ำอัดลมที่ว่าเลยสักคน จึงสันนิษฐานกันว่า หรือแม่บ้านอาจจะรู้ ว่าในห้องนี้มีอะไรจึงนำน้ำอัดลมมาให้สิ่งนั้น.. และขณะที่กำลังเช็คเอาท์ออกจากห้องพัก คุณแดนได้ถามพนักงานต้อนรับว่าที่ห้องนี้มีอะไรหรือเปล่า เขาก็ไม่ยอมบอก และถามกลับว่าเจออะไร คุณแดนจึงเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่พนักงานต้อนรับกลับมองหน้ากันแล้วหัวเราะเบา ๆ จากนั้นก็ถามต่อว่า “ทำไมไม่แจ้งตั้งแต่แรก จะได้ย้ายห้องให้” คุณแดนจึงบอกไปว่า “ตอนแรกผมคิดว่าทำบุญให้จะไม่เจออีก แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอเกือบทุกวัน” เมื่อออกจากโรงแรมมาแล้ว คุณแดนและพี่สาวจึงตัดสินใจกลับไปเจอลูกค้าอีกครั้งเพื่อสอบถามถึงเรื่องเหล่านี้ จนรู้คำตอบว่าตอนที่ตึกมันร้าง วิญญาณตนนั้นอาจจะมาเสียชีวิตตรงเตียงห้องของพี่สาว นั่นเลยทำให้เขากลับมายังที่ตรงนั้นตลอดวนซ้ำไปมาไม่รู้จบ ซึ่งคุณแดนเองก็คิดว่าที่เขามาบ่อยก็เพราะเขาตายมานานแล้วไม่มีใครทำบุญให้ ทางลูกค้าก็ได้เล่าต่ออีกว่า อย่างน้อยโรงแรมแห่งนี้ยังดีกว่า 5 ดาวอีกแห่งหนึ่ง ตรงนั้นเจอหนักกว่านี้เยอะ เพราะเพื่อนลูกค้าที่เคยไปพัก ถึงขั้นต้องอุ้มลูกวิ่งหนีออกมาจากห้องพักเลย เพราะมีเงาผู้หญิงใส่ชุดไทยเดินออกมาจากผนังห้อง คุณแดนยังทิ้งท้ายอีกว่า “การที่โรงแรมดาวเยอะ ไม่ได้การันตีว่าจะไม่เจอเรื่องอะไรแบบนี้เสมอไป”(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)ฟังเรื่องหลอนแบบเต็ม ๆ ได้ที่

ทำยังไงดีเมื่อปลาไม่ติดเบ็ด ตัดสินใจค่อย ๆ เดินหา จนไปเจอกับดักของใครไม่รู้มีปลาติดอยู่ จึงขอแบ่งมากินสักหน่อย มารู้ทีหลังว่า..?!

27 ต.ค. 2023

ทำยังไงดีเมื่อปลาไม่ติดเบ็ด ตัดสินใจค่อย ๆ เดินหา จนไปเจอกับดักของใครไม่รู้มีปลาติดอยู่ จึงขอแบ่งมากินสักหน่อย มารู้ทีหลังว่า..?!

รายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (24 ตุลาคม 2566) ต้อนรับฮาโลวีนที่กำลังจะถึงกับเรื่องชวนขนหัวลุกจากสาย ‘คุณแฟร้งค์’ ที่ทำเอา ‘ดีเจเจ็ม’ ‘ดีเจเคเบิ้ล’ และ ‘ดีเจมดดำ’ ต้องอึ้ง! กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ยายคง’ ถ้าพร้อมแล้วก็ปิดไฟแล้วอ่านไปพร้อมกันเลย! เรื่องนี้ต้องเล่าย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว ความหลอนได้เกิดขึ้นที่จังหวัดอุทัยธานี โดยคุณแฟร้งค์เป็นคนชื่นชอบการตกปลาและได้ทำการวางแผนนัดกับเพื่อนว่าจะไปตกปลาด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง ผลัดเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ แต่มีอยู่ที่หนึ่ง ที่คนมักจะเล่าต่อกันมาว่าเป็นห้วยตกปลาที่เหี้ยนที่สุด และคุณแฟร้งค์ก็ดันนัดกับเพื่อนว่าจะไปตกปลาที่ห้วยแถวนั้นด้วยกัน เวลาประมาณสองทุ่มของคืนที่นัดกันไว้ คุณแฟร้งค์กับเพื่อนกำลังเตรียมอุปกรณ์ไปตกปลาและได้เดินทางไปถึงที่หมายประมาณสามทุ่ม ทุกคนเริ่มเขวี้ยงเบ็ดตกปลาทิ้งไว้จนถึงสี่ทุ่ม แต่ดูแล้วก็ยังไม่มีท่าทีที่จะมีปลาสักตัวมาติดเบ็ด เพื่อนคุณแฟร้งค์จึงเปิดไฟฉาย เดินส่องตามทางข้าง ๆ ห้วยนั้น เมื่อเดินไปเรื่อย ๆก็ได้ไปเจอกับที่ดักปลา มีปลาติดอยู่ประมาณ 2-3 ตัว เพื่อนคุณแฟร้งค์จึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูและยกขึ้นมา ก็เห็นว่ามีปลาติดอยู่ คุณแฟร้งค์รีบพูดห้าม “เห้ย!! นั้นมันของเค้านะ เอาไปไม่ได้นะ” แต่เพื่อนคุณแฟร้งกลับไม่ได้มีท่าทางกลัว และตอบกลับมาเพียงว่า “ไม่เป็นอะไรหรอกน่า แค่ตัวสองตัวเองเอาไปเผากินกัน” จากนั้นเพื่อนของคุณแฟร้งค์ก็เอาปลามาเผานั่งกินกันตามประสาวัยรุ่น ในระหว่างที่นั่งกินด้วยกันเพื่อนของคุณแฟร้งค์อีกคนก็ลืมเตรียมน้ำมาด้วย ทำให้สถานการณ์ตอนนั้นเริ่มไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกคนตัดสินใจนั่งกินกันต่อค่อยไปหาน้ำทีหลัง ไม่นาน จู่ ๆ ก็มีคุณยายคนหนึ่งเดินตรงออกมาจากในป่า และเดินไปยกกับดักปลาพร้อมกับบ่นพึมพำว่าทำไมปลาไม่ติดเลย หรือว่าปลาหายไปไหน คุณแฟร้งค์จึงตะโกนพูดคุยกับคุณยายว่า “ยายได้ไปแล้ว” แต่ในความจริงแล้ว ปลาที่หายไปคือปลาที่พวกเขากำลังเผานั่งกินกันอยู่ คุณยายส่ายหัวส่งท่าทางกลับมาว่ายังไม่ได้ คุณแฟร้งค์ถามคุณยายอีกว่า “ยาย บ้านยายอยู่ไหน” คุณยายก็ชี้นิ้วไปทางหลังป่า โดยไม่พูดไม่จาอะไร คุณแฟร้งค์จึงเอ่ยปากขอน้ำดื่มจากคุณยาย และถามซ้ำไปว่า “บ้านยายอยู่ไกลไหม ผมลืมเอาน้ำมา ขอน้ำดื่มจากยายหน่อยได้ไหม” คุณยายจึงตอบกลับมาว่า “ได้ เอ็งเดินตามทางไปนะ เดี๋ยวยายเดินตามไป เอ็งเดินตามทางไปเลยมันจะมาทางไปบ้านยายอยู่” คุณแฟร้งค์และเพื่อนก็ไม่รอช้า เดินตามหลังคุณยายเข้าไปในป่า ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันนั่งรออยู่ที่ห้วยตกปลา คุณแฟร้งค์และเพื่อนเดินเข้าไปตามทางสักพักก็ได้เห็นปลายทางเป็นบ้านไม้ หลังคาแฝก มีใต้ถุนต่ำ สามารถเหยียบจากพื้นขึ้นบ้านได้เลย และมีโอ่งตั้งอยู่ จากนั้นบริเวณรอบเป็นป่าทั้งหมด คุณแฟร้งค์และเพื่อนก็ไม่ได้คิดอะไร มองหาขวดน้ำเพื่อจะกรอกน้ำในโอ่งไปให้เพื่อนที่นั่งรออยู่ เมื่อคุณแฟร้งค์กรอกน้ำใส่ขวดจนเต็ม จึงตะโกนขอบคุณยายแล้วหันหลังจะเดินกลับไปยังห้วยตกปลา จังหวะที่กำลังจะเดินออกก็ได้ยินเสียงครก เหมือนยายกำลังตำหมากหรือตำอะไรสักอย่าง จากนั้นสายตาคุณแฟร้งค์ก็มองไปยังประตูบ้านของยาย เห็นว่าประตูบานนั้นค่อย ๆ เปิดออกเองและมีเสียงดังขึ้น ‘แกร๊กกกกก’ แล้วยายก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับค่อย ๆ ยิ้มเห็นฟันดำมาทางคุณแฟร้งค์และเพื่อนอย่างช้า ๆ จังหวะนั้นยายก็หักคอตัวเอง! ต่อหน้าต่อตาคุณแฟร้งค์และเพื่อน จากนั้นก็ก้มเก็บหัวขึ้นมายิ้มให้อีกครั้ง ในตอนนั้นทั้งคู่สติแตก พร้อมกับตะโกนว่า “ผีหลอก ผีหลอก!!!” แล้วก็รีบวิ่งหนีทะลุป่าออกไป เมื่อวิ่งไปถึงยังห้วยตกปลา ปรากฏว่าเพื่อนที่นั่งรออยู่ก็หายไป คุณแฟร้งค์และเพื่อนไม่สามารถติดต่อได้ พยายามโทรหาแต่ก็ไม่รับสาย ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็รีบเก็บของและระแวงอยู่ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าคุณยายจะตามมา จู่ ๆ เพื่อนที่หายไปก็โทรกลับมา คุณแฟร้งค์ได้ถามหาว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน พร้อมกับเล่าว่าทั้งคู่โดนผีหลอกมา เพื่อนที่หายไปรีบตอบกลับมาว่าโดนผีหลอกเหมือนกัน! ตอนนี้อยู่ที่บ้านใครก็ไม่รู้วิ่งหนีมาด้วยความตกใจกลัว ตัวคุณแฟร้งค์เองก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ ทำได้เพียงรวบรวมสติให้ได้มากที่สุด และรีบตามไปหาเพื่อน เมื่อตามไปเจอเพื่อนคุณแฟร้งค์รีบเล่าทันทีว่าตนไปเจอดีอะไรมา จากนั้นเพื่อนที่หายตัวไปก็รีบเล่าให้ฟังว่า จังหวะที่คุณแฟร้งค์และเพื่อนเดินตามเข้าไปในป่า จู่ ๆ ยายก็หันแค่คอมาแล้วส่งยิ้มมาให้ จังหวะนั้นตกใจกลัวและทำอะไรไม่ถูกจึงรีบวิ่งหนีออกไปก่อนโดยไม่ได้ตะโกนบอกคุณแฟร้งค์และเพื่อนก่อน คุณแฟร้งค์จึงตัดสินใจถามคุณลุงเจ้าของบ้านที่เพื่อนวิ่งหนีมาหลบ คุณลุงเล่าว่ายายที่ทั้งสามคนเจอชื่อว่า ‘ยายดง’ แกชอบมาดักปลาอยู่ตรงริมห้วยนี้ แล้ววันดีคืนดีแกก็มาดักปลาตามปกติ จู่ ๆ ก็เกิดฝนฟ้าตกลมแรงจนพัดต้นไม้หักมาทับคอยายแกตายบริเวณตรงนั้น และคาดว่าปลาที่ทั้งสามคนนำมาเผากินกัน น่าจะเป็นปลาที่ยายแกดักไว้ก่อนตาย คุณลุงก็พาเดินย้อนกลับไปดูว่ายังมีรอยคราบเลือดติดอยู่เลย เพราะเหตุเพิ่งเกิดได้เพียง 7 วันเท่านั้น(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

album

0
0.8
1