29 ก.ย. 2023
บ้านเช่าใจกลางเมืองราคาเดือนละ 1,000 บาท มีข้อแม้คือห้ามเปิดประตูห้องในสุดที่ล็อคกุญแจไว้ และก่อนย้ายเข้า ยายเจ้าของบ้านยังบอกอีกว่า “ถ้าอยู่ไม่ครบ กูไม่คืนเงินประกันนะโว้ย!” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องหลอนในครั้งนี้!
เมื่อตัดสินใจเช่าบ้านใจกลางเมืองในราคาถูก แถมยังได้รับคำเตือนชวนหลอนจากยายเจ้าของบ้านอีก งานนี้จะเจออะไรในบ้านหลังนี้บ้าง รายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (26 ก.ย. 2566) จะพาทุกคนหลอนไปกับ ‘คุณอ๊อฟ คนเห็นผี’, ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ เรื่องราวที่คุณอ๊อฟไปประสบพบเจอเป็นมาจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันเลย! เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของญาติคุณอ๊อฟ เริ่มจากเขาอยู่กับครอบครัวใหญ่ มีพี่สาว3 คน พี่สาวต่างก็มีแฟนกันหมด จึงคิดว่าจะแยกตัวออกมาเช่าบ้านด้วยกัน และก็มีคนแนะนำบ้านมาให้ลองไปติดต่อดู เหล่าพี่น้องจึงไปดูบ้านตามคำแนะนำ บ้านที่ไปดูคือบ้านไม้ใหญ่สองชั้น มองไปก็เห็นว่ามีคุณยายกวาดพื้นอยู่ข้างล่าง หนึ่งในพี่สาวของคุณอ๊อฟจึงเดินไปถามว่า “ขอโทษนะคะ จะมาเช่าบ้าน” จากนั้นก็ได้รายละเอียดค่าเช่าบ้านจากคุณยาย เช่าเพียงเดือนละ 1,000 บาท มัดจำอีก 3,000 บาท ได้ยินดังนั้นก็ตัดสินใจตกลงเช่าบ้านตอนนั้นทันที จากนั้นคุณยายก็พูดกลับมาว่า “ถ้าอยู่ไม่ครบ กูไม่คืนเงินประกันนะโว้ย” แต่ทุกคนก็ไม่คิดอะไร จนกระทั่งวันที่ต้องย้ายเข้าไป คุณยายก็ให้กุญแจมาพร้อมกับบอกว่า “ห้องในสุด ที่ล็อคกุญแจไว้ เป็นห้องของเจ้าของบ้าน ห้ามไปเปิด ห้ามไปยุ่งกับมัน” ซึ่งทุกคนก็คิดว่าในเมื่อเช่าทั้งหลังแล้วมันก็ต้องเป็นของเราทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ และคิดต่อว่าคงเป็นที่เก็บของ บ้านหลังนี้อาจจะมีเจ้าของที่ไปอยู่ต่างประเทศ หลังจากนั้นทุกคนก็ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ ซึ่งจะแบ่งห้องเป็นพี่สาวทั้งสามและแฟนอยู่ชั้นบน ญาติคนอื่นและคุณอ๊อฟจะนอนชั้นล่าง หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ได้สักพัก คุณอ๊อฟเริ่มรู้สึกว่า มีเงาสีขาว ๆ เหมือนกลุ่มควัน แอบมองคุณอ๊อฟอยู่ตลอด แต่พอหันไปก็ไม่มีอะไร แต่พออยู่ไปนาน ๆ คุณอ๊อฟก็รู้สึกว่า ‘บ้านหลังนี้ต้องมีอะไรแน่นอน’ จึงไปบอกพี่คนโต แต่พี่คนโตก็บอกว่าคิดมากไปเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง ทุกคนไปต่างจังหวัดกันหมด เหลือแค่แฟนของพี่คนโตอยู่คนเดียว ซึ่งห้องของเขาจะอยู่ตรงข้ามกับห้องที่ล็อคกุญแจ พอตกดึกเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนเป็นเสียงเคาะฝาบ้านรอบ ๆ ข้างนอก แต่ก็คิดว่าคงเป็นกิ่งไม้ พอนอนไปสักพัก ก็รู้สึกร้อนจนเหงื่อออกมาก พอมองไปที่พัดลมปลายเท้าก็รู้สึกว่ามีหมอกกลุ่มควันดำ ๆ เขาคิดว่าพัดลมไหม้ จึงลุกขึ้นมาดู ปรากฏว่าทุกอย่างยังปกติเหมือนเดิม และกลุ่มควันนั้นได้หายไปแล้ว จึงตัดสินใจหลับต่อ แต่รอบนี้เสียงมันดังขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเสียงรอบนอกและตัวพัดลมก็มีเสียง แป๊ก! เหมือนเป็นเสียงกดพัดลม ตอนนั้นก็คิดว่าเขาอยู่คนเดียว ถ้าเขาไม่กดแล้วใครจะกด จึงคิดว่าเป็นขโมย เขาจึงลุกขึ้นมา แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำให้เขาช็อกมาก! เพราะมันคือเงาสีขาว ๆ เป็นกลุ่มควัน นั่งเอามือจิ้มปุ่มพัดลมอยู่ ดัง แป๊ก แป๊ก แป๊ก เหตุการณ์นั้นทำให้เขาตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านไปหน้าปากซอยเพราะเป็นจุดที่สว่างที่สุด จนถึงเวลาตี 4 จึงกลับไปที่บ้าน หลังจากวันนั้นผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ อยู่ดี ๆ ก็เกิดลมพัดแบบแปลก ๆ และมีเสียงแปลก ๆ เกิดขึ้นเหมือนเสียงของเล็บขูดผนังไม้ ทุกคนก็คิดว่าเป็นกิ่งไม้ แต่น้องของคุณอ๊อฟพูดขึ้นมาว่า “กิ่งไม้บ้าอะไรล่ะ ต้นไม้บ้านเรายังไม่มีเลยซักต้น” เมื่อทุกคนคิดได้ดังนั้น ก็คิดกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อดี จึงตัดสินใจแยกกันไปนอนชั้นบนกับพี่ ๆ ตัวคุณอ๊อฟได้ไปนอนกับพี่คนโต ซึ่งก่อนที่คุณอ๊อฟจะเข้าห้องไป ได้เห็นห้องตรงข้ามที่ล็อคกุญแจอยู่ แต่ว่าในตอนนั้น กุญแจมันได้หายไป! แต่คุณอ๊อฟก็ไม่ได้คิดอะไรจึงเข้าห้องของพี่สาวคนโตไป แล้วคุยกับพี่สาวว่า “มันไม่มีกุญแจแล้วนะ ใครเปิดห้องหรือเปล่า เดี๋ยวคุณยายก็ว่าเอา” พี่สาวจึงตอบกลับมาว่า “มันไม่มีใครเปิด ใครจะเปิดไม่มีลูกกุญแจ” แต่ตัวของแฟนพี่สาวพูดออกมาว่า “ไม่มีลูกได้ไง วันนั้นผมยังเห็นคุณเปิดอยู่เลย!” เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนจึงพากันออกไปดูที่ประตู คนที่อยู่ห้องอื่น ๆ ก็พากันออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นเหมือนกันคือตัวแม่กุญแจ ดังแกร๊กขึ้นมา ซึ่งมันปลดล็อคเอง! ทุกคนอึ้งแต่ก็คิดว่า มันคงเก่าสลักเลยปลดเอง แล้วตัวของแฟนพี่สาวคนโตก็เป็นคนเปิดประตูเข้าไป ข้างในที่เห็นคือเป็นห้องไม้ มีหยากไย่ มีฝุ่นเยอะ มีโต๊ะสี่เหลี่ยมสูงจากพื้นเล็กน้อย มีผ้าคลุมกล่องปริศนา และผนังจะมีรูปอยู่ 3 ใบ แต่ฝุ่นเยอะมากจนทำให้ไม่เห็นว่าเป็นรูปอะไร ด้วยความสงสัยทำให้เขาไม่ฟังคำเตือนของทุกคนว่าอย่าไปยุ่ง เขาจึงเปิดผ้าออก ซึ่งปรากฏว่าสิ่งที่ผ้าคลุมอยู่คือหีบใบใหญ่ใบหนึ่ง มีเงินวางอยู่ในหีบ 4,000 บาท บนห่อผ้าขาว! เงิน 4,000 บาท นั้นเท่ากับเงินที่จ่ายค่าเช่าไป จากนั้นพี่สาวคนเล็กหันไปทางขวามือ ก็เจอคุณยายคนที่กวาดพื้นนั่งกอดเข่าอยู่ในห้องกำลังกอดรูปอยู่! จากนั้นก็ค่อย ๆ ลดรูปลง และแสยะยิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้พี่สาวคนเล็กกรี๊ดออกมา! ทุกคนจึงหันไปมอง แล้วทุกคนก็เห็นคุณยายเหมือนกันหมด! ทุกคนก็คิดว่า คุณยายเข้ามาอยู่ในนี้ได้อย่างไร ในเมื่อปล่อยเช่าแล้ว หรือว่าคุณยายนอนอยู่ในนี้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงไม่ให้เราเข้ามายุ่ง ทุกคนก็พยายามถามคุณยาย แต่คุณยายก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วหยิบรูปขึ้นมาค่อย ๆ ปัดเช็ดรูปให้สะอาดจนเห็นภาพชัดขึ้น.. ปรากฏว่านั่นเป็นรูปของตัวคุณยายเอง! ในรูปเขียนว่า ชาตะ-มรณะ ทำให้ทุกคนตกใจวิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง หลังจากนั้นทุกคนก็มาคิดย้อนคำของคุณยายที่บอกว่า “ถ้าอยู่ไม่ครบ กูไม่คืนเงินประกันนะโว้ย” ทุกคนก็กลับไปซักถามกับพี่คนโตว่า “คนที่รู้จักอ่ะ ไหนบอกว่ามีบ้านเช่าที่มันปลอดภัยไงวะ” พี่คนโตจึงไปคุยกับคนที่แนะนำบ้านเช่า สรุปว่า บ้านที่เขาบอกนั้นให้เข้าซอยกลาง แต่ที่ทุกคนเข้าไปคือเข้าซอยซ้ายมือสุด สรุปคือทุกคนไปผิดหลัง เมื่อไปสอบถามคนระแวกแถวนั้นก็ได้ความมาว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณยายที่มีนิสัยงกมาก ขนาดที่ว่าพระมาบิณฑบาตก็ว่าพระ ทำให้ชาวบ้านทนไม่ได้ก็ย้ายออก จนเหลือบ้านคุณยายหลังเดียว นอกนั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกเลย.(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่