ตู้ในตำนานของห้องซ้อมวงโยธวาทิต ที่ถูกปิดล็อกเอาไว้อย่างดี จู่ ๆ แม่กุญแจก็แกว่งเองเสียงดัง! หัวหน้าวงจึงนั่งสมาธิเพื่อสื่อสาร แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาบีบคอคนในวงโดยที่ไม่รู้ตัว! สุดท้ายจำได้ว่าในสมาธินั้นเจอพ่อแก่มาบอกว่าไม่พอใจที่มีคนไม่เคารพเครื่องดนตรี!

อังคารคลุมโปง RECAP

ตู้ในตำนานของห้องซ้อมวงโยธวาทิต ที่ถูกปิดล็อกเอาไว้อย่างดี จู่ ๆ แม่กุญแจก็แกว่งเองเสียงดัง! หัวหน้าวงจึงนั่งสมาธิเพื่อสื่อสาร แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาบีบคอคนในวงโดยที่ไม่รู้ตัว! สุดท้ายจำได้ว่าในสมาธินั้นเจอพ่อแก่มาบอกว่าไม่พอใจที่มีคนไม่เคารพเครื่องดนตรี!

04 ก.ย. 2023

       ‘อังคารคลุมโปง X’ (29 สิงหาคม 2566) ที่ผ่านมา ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ได้เปิดไมค์ต้อนรับ ‘คุณไอซ์’ สายจากทางบ้านที่โทรมาเล่าประสบการณ์หลอนสมัยที่ยังอยู่ในวงโยธวาทิตของโรงเรียน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ตู้ลับในห้องวงโย’ จะชวนขนลุกขนาดไหน ตั้งสติให้ดีแล้วไปอ่านต่อกันเลย!

       ย้อนกลับไปช่วงมัธยม คุณไอซ์เคยเป็นเด็กวงโยธวาทิตของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้ว วงโยฯจะต้องอยู่ซ้อมตั้งแต่บ่ายสองถึงห้าโมงเย็น ในบริเวณที่ซ้อมนั้นจะเป็นลักษณะห้อง 2 ส่วน คือห้องเล็กเป็นห้องพักครู และห้องใหญ่เป็นห้องสำหรับซ้อม ซึ่งสามารถมองทะลุหากันได้ แต่จะไม่มีหน้าต่าง เป็นห้องที่บุผนังด้วยแผงไข่ และมีตู้เหล็กไว้เก็บเครื่องดนตรี

       ในวันนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณบ่าย 3-4 โมงเย็น มีคนที่ยังอยู่ซ้อมทั้งหมดหกคน หนึ่งในนั้นเป็นพี่ผู้ชายคนนึง ซึ่งเป็นมือกลองประจำวง กำลังนั่งตีกลองชุดอยู่ ตำแหน่งของกลองชุดนั้นตั้งอยู่หน้าตู้เก็บเครื่องดนตรี ขณะที่เขากำลังตีกลองอยู่สักพัก เขาก็วิ่งกรี๊ดออกมา! และตะโกนโวยวายหาหัวหน้าวง ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างมีเซนส์ว่า “พี่ที พี่ที พี่ ผมเห็นอะไรไม่รู้ วาร์ปออกมาตรงตู้ ผมเห็นจริง ๆนะ ” แต่ทุกคนก็บอกกลับไปว่า “ คิดมาก มันเป็นห้องปิด มีแค่ไฟหลอด เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะมีอะไร”

       ในจังหวะที่เถียงกันอยู่นั้น สายตาคุณไอซ์ก็เหลือบไปเห็นตู้หนึ่ง มันเป็นตู้ที่เคยมีตำนานว่าเคยมีคนเจอบางสิ่งบางอย่างกันบ่อย ตรงนั้นเป็นตู้ที่ล็อกแม่กุญแจ แต่จู่ ๆ แม่กุญแจนั้นมันก็แกว่งและมีเสียงขึ้นดัง “แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก” ตีกับตู้เหล็กโดยไม่มีเหตุผล! แล้วพี่มือกลองที่วิ่งออกมา เขาก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง “เห้ยพี่! เห้ยเนี่ย เห้ยทำไมแม่กุญแจมันแกว่งแบบนั้นอะ เห้ย! ” พอเขาพูดขึ้นมา แม่กุญแจก็แกว่งแรงขึ้นอีก แรงขึ้นเรื่อย ๆ

       คุณไอซ์และเพื่อนผู้หญิงก็รีบวิ่งลงมาก่อน เพื่อนผู้ชายตัดสินใจเข้าไปรอที่ห้องพักครู ส่วนพี่ทีจะเข้าไปดูเพียงคนเดียวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่ห้องซ้อม จังหวะที่พี่ทีเข้าไปในห้อง เขานั่งลงทำสมาธิ เหมือนพยายามที่จะสื่อ และพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้มีใคร ต้องการจะทำอะไรถึงได้มีน้องเห็นเป็นแสงวาร์ปออกมา และแม่กุญแจแกว่งได้ยังไงทั้ง ๆ ที่เป็นห้องปิด และไม่มีลมเลย...

       สักพักพี่ทีก็เดินออกมาจากห้องซ้อมใหญ่ และเดินตรงมาบีบคอเพื่อนผู้ชาย ที่ยืนรออยู่ที่ห้องพักครู เพื่อนที่ถูกบีบคอเริ่มทนไม่ไหวจึงพูดขึ้นมาว่า “ถ้าพี่ไม่ปล่อยผม ผมจะต่อยหน้าพี่จริง ๆนะ!” แล้วเพื่อนก็ต่อยเข้าที่หน้าด้านขวาจริง ๆ พี่ทีก็ล้มลงไป จากนั้นเพื่อนคนที่ถูกบีบคอก็รีบวิ่งหนีออกและกลับบ้านทันที

       หลังจากนั้น พอพี่ทีรู้สึกตัว เขาก็เล่าว่าตอนที่นั่งสมาธิ เขาเห็นว่ามีพ่อแก่ที่เป็นครูมาบอกว่า “ทำไมมีคนเอาขลุ่ยเพียงออ ไปเช็ดกระโปรงแบบนั้น” เขาเลยมาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่พอใจ ให้ไปทำพิธีขอขมาเครื่องดนตรีก่อน

       ใครที่อยู่สายดนตรีไทยอยู่แล้ว เขาจะถือกันว่าห้ามทำพฤติกรรมที่แสดงถึงการไม่เคารพเครื่องดนตรี เพราะของทุกชิ้นมีครูดูแล..

(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

 

 

 

related อังคารคลุมโปง RECAP

เรื่องเล่าจาก นนท์ อินทนนท์ ’เปรตขอส่วนบุญ‘ I อังคารคลุมโปง X นนท์ อินทนนท์ [ 9 ก.ค. 2567]

15 ก.ค. 2024

เรื่องเล่าจาก นนท์ อินทนนท์ ’เปรตขอส่วนบุญ‘ I อังคารคลุมโปง X นนท์ อินทนนท์ [ 9 ก.ค. 2567]

เรื่องราวนี้ ‘คุณนนท์ อินทนนท์‘ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (9 กรกฎาคม 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’, ‘ดีเจเจ็ม’ และ ‘ดีเจมดดำ‘ กับเรื่องราวที่มีชื่อว่า ’เปรตขอส่วนบุญ‘ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันเลย! คุณนนท์เล่าว่า ตนเคยไปบวชที่เชียงราย เป็นวัดตรงข้ามบ้าน เป็นการบวชหลังเรียนจบก็เมื่อ 10 ปีที่เเล้ว เพราะเคยคิดหลังเรียนจบก็ตั้งใจจะบวช โดยปกติของพระใหม่ส่วนใหญ่ที่ต่างจังหวัดก็จะให้นอนในโบสถ์ ซึ่งโบสถ์ส่วนใหญ่จะไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องเดินไปเข้าห้องน้ำด้านนอก ในคืนนั้นคุณนนท์ไม่ได้นอนคนเดียว มีคุณพ่อ คุณลุงเเละเณร 7 คน เมื่อทราบว่ามีเณรมาอยู่ด้วยก็สบายใจ จากนั้นก็พากันเข้านอน ในกลางดึกคืนนั้นคุณนนท์ตื่นขึ้นมาเพราะปวดปัสสาวะ จึงสะกิดปลุกคุณลุงไปเข้าห้องน้ำนอกโบสถ์ด้วยกัน พอทำธุระเสร็จก็กลับเข้ามานอนในโบสถ์ ระหว่างที่กำลังจะล้มตัวนอนก็มีเสียง เอี๊ยด เอี๊ยดด ดังขึ้น พอมองดูรอบ ๆ ก็ไม่มีอะไร เเต่หลังจากนั้นเสียง เอี๊ยดดด นั้นก็ลากยาวขึ้น ดังรอบ ๆ โบสถ์ คุณนนท์จึงสะกิดถามคุณลุงว่า “ลุงได้ยินเสียงอะไรมั้ย หนูว่าเสียงมันแปลก ๆ อ่ะ” ลุงตอบกลับว่า “ลุงอ่ะ ได้ยินตั้งเเต่เเรกแล้ว ที่นนท์ขยับตัวก็ไม่รู้จะได้ยินเหมือนกันมััย” แล้วลุงก็ได้บอกกับคุณนนท์ว่ามันคือเสียง เปรต พอรู้ว่าเป็นเสียงเปรตคุณนนท์ก็รู้สึกขนลุก จึงถามลุงต่อว่า “ทำไรได้บ้าง สวดมนต์ได้มั้ย อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขาได้มั้ย“ ลุงก็ตอบกลับว่า ”ถ้ายิ่งทำ เขาจะยิ่งมาขอเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นนอนเเล้วตั้งสติ“ คุณนนท์รู้แบบนี้เเล้วก็ทำอะไรไม่ได้จึงต้องข่มตาหลับ หลังจากที่บวชเสร็จ คุณนนท์ได้ไปถามกับหลวงพ่อว่า “หลวงพ่อ วันนั้นนนท์ได้ยินเสียงเเบบนี้นะ มันคือเสียงอะไร” หลวงพ่อตอบกลับว่า “เป็นเสียงเปรตนี่แหละ เเต่เป็นเปรตที่มีชีวิต“ คุณนนท์ได้เเต่งงว่าเปรตที่มีชีวิตคืออะไร ลุงของคุณนนท์ที่นั่งอยู่ข้างกันก็สะกิดเเล้วพูดว่า ”เห็นป้าคนนั้นมั้ย เขาชอบขโมยของที่บิณฑบาตมาแล้วเอาไปกินเอาไปใช้“ เเล้วลุงของคุณนนท์ก็ได้อธิบายเพิ่มว่า ”เขายังไม่เสียชีวิต เเต่จิตเขาเป็นเปรต ตอนเขานอนเขาต้องชดใช้กรรม ด้วยการเป็นเปรตอยู่ในวัด“ จนตอนนี้คุณนนท์ก็ยังเห็นคุณป้าคนนี้อยู่ที่วัด เเละยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม…(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากจี๋ สุทธิรักษ์ 'เเพกลางป่า' I อังคารคลุมโปง X จี๋ สุทธิรักษ์ - แพรว นฤภรกมล [ 20 ส.ค. 2567]

24 ส.ค. 2024

เรื่องเล่าจากจี๋ สุทธิรักษ์ 'เเพกลางป่า' I อังคารคลุมโปง X จี๋ สุทธิรักษ์ - แพรว นฤภรกมล [ 20 ส.ค. 2567]

‘คุณจี๋’ ได้นำเรื่องราวสุดหลอนมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (20 สิงหาคม 2567) ขนหัวลุกไปกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องราวที่มีชื่อว่า ‘แพกลางป่า’ จะหลอนขนาดไหนนั้น ไปอ่านกันได้เลย! ‘คุณจี๋’ เล่าว่าตัวคุณจี๋เองไม่เคยเจอผีมาก่อน และเรื่องที่จะเล่านี้ไม่ใช่เรื่องของคุณจี๋ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนคุณจี๋ ที่ตัวคุณจี๋ได้ไปอยู่ในสถานการณ์นั้น ณ ตอนนั้นด้วย แต่คุณจี๋ไม่ได้พบเห็นอะไร เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนนี้คุณจี๋ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และได้มีโอกาสไปเที่ยวแพ ที่จังหวัดกาญจนบุรีกับเพื่อนผู้ชายประมาณ 10 คน และมีแฟนเพื่อนอีกประมาณ 2-3 คน ซึ่งแพที่ไปจะเป็นแพบ้านที่จะต้องใช้เรือหางยาวลำเล็กลากไป ซึ่งเพื่อนของคุณจี๋ก็ได้บอกให้คุณลุงที่ขี่เรือหางยาวให้ลากตัวแพออกไปไกล ๆ เพราะอาจจะเสียงดังจากการปาร์ตี้ และต้องการความเป็นส่วนตัว คุณลุงจึงทำตามคำขอของเพื่อนคุณจี๋ โดยการลากแพบ้านไปลึกมาก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่นานมากสำหรับการลากแพออกไป เมื่อถึงคุณลุงก็นำเชือกของแพไปผูกกับตอไม้ ซึ่งที่ตรงนั้นไม่มีอะไรเลย และเงียบมาก น้ำก็เชี่ยวประมาณหนึ่ง ก่อนคุณลุงกลับคุณลุงได้ถามว่า “เอาน้ำมันปั่นไปไหม” เพื่อน ๆ ของคุณจี๋ก็บอกไม่เป็นไร คุณลุงจึงขับกลับไป โดยแพจะมีลักษณะ 2 ชั้น ด้านบนเป็นห้องนอน ด้านล่างเป็นลานโล่ง และมีห้องน้ำ โดยบริเวณลานแพจะหันไปขนานกับฝั่งป่าทึบที่มองไม่เป็นอะไร ส่วนฝั่งห้องนอนและห้องน้ำจะหันไปทางแม่น้ำ เวลาประมาณ 4 โมง คุณจี๋และเพื่อน ๆ ก็กระโดดเล่นน้ำกัน แต่อยู่ ๆ มีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งวิ่งไปขึ้นไปชั้น 2 ที่เป็นห้องนอน เขาวิ่งไปหยิบพระใต้หมอนของแฟนเพื่อนและเขวี้ยงพระออกนอกแพ ซึ่งผู้หญิงที่เป็นเจ้าของพระบอกว่าเธอนั้นไม่ได้บอกใครว่าเก็บพระไว้ใต้หมอน แต่โชคดีที่พระไปติดอยู่กับขื่อ แล้วเพื่อนผู้ชายคนนั้นก็วิ่งไปเอาพระที่ติดอยู่เพื่อเขวี้ยงออกไปจากแพ ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของจึงไปห้ามและหยิบกลับพระมา ตกดึกทุกคนก็นอนหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นเพื่อนคนหนึ่งนั่งหน้าซีดตัวซีดถามอะไรก็ไม่ตอบ จนเพื่อนคนนี้บอกว่า “เดี๋ยวเข้าเมืองแล้วเล่าให้ฟัง” สรุปว่าสิ่งที่เพื่อนเล่าให้ฟังคือ ในขณะที่ทุกคนเมาและนอนเรียงกัน โดยตอนนอนหัวจะอยู่ตรงกับแกล้ม เท้าจะหันไปทางฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเพื่อนคนนี้ได้ตื่นมากลางดึกก็เห็นคนกำลังกินกับแกล้ม เพื่อนคนนี้ก็เข้าใจว่าเป็นกลุ่มเพื่อนที่ยังปาร์ตี้ต่อจึงตั้งใจจะลุกไปกินด้วย แต่พอหันไปดันเห็นเป็นคุณยายคนหนึ่งใส่ผ้าถุงนั่งยอง ๆ กำลังกินกับแกล้มอยู่ คุณยายจึงหันมามองหน้าเพื่อนคนนี้ เมื่อทั้งสองมองหน้ากันคุณยายก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งแบบนั่งยอง ๆ กลับเข้าป่าทึบไป!(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เรื่องเล่าจากคุณเป็ดน้อยลูกหมอผี 'มันใกล้เข้ามาเเล้ว' l อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568 ]

01 มี.ค. 2025

เรื่องเล่าจากคุณเป็ดน้อยลูกหมอผี 'มันใกล้เข้ามาเเล้ว' l อังคารคลุมโปง X เป้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก [25 ก.พ. 2568 ]

เมื่อสิ่งที่คืบคลานเข้ามาคือสิ่งที่มองไม่เห็น มันเป็นเสียงเหยียบหญ้าดัง สวบ สวบ สวบ แต่กลับไม่พบใคร จนต้องปั่นจักรยานหนีสุดชีวิต! แต่ใครจะคิดว่าเสียงนั้น ดันตามมาหลอกหลอนถึงในฝันเกือบทั้งอาทิตย์! เรื่องราวสุดหลอนในวัยเด็กจะจบลงอย่างไร? ติดตามได้กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘มันใกล้เข้ามาแล้ว’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’(25 กุมภาพันธ์ 2568) พร้อมด้วย ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีีเจเจ็ม’ ที่จะเป็นเพื่อนหลอนไปกับคุณ!! ‘คุณเป็ดน้อย’ เล่าว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวคุณเป็ดน้อยเอง เกิดขึ้นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2534 สมัยก่อนคุณเป็ดน้อยชอบปั่นจักรยานไปเล่นบ้านคนนั้นคนนี้ ซึ่งในวันนั้นคุณเป็ดน้อยได้ปั่นจักรยานไปงานวันเกิดเพื่อนคนหนึ่ง พอถึงช่วงเย็นคุณเป็ดน้อยและเพื่อน ๆ ก็นัดกันเพื่อจะมารวมตัวที่บ้านคุณเป็ดน้อย ที่อยู่ซอยที่ 3 ถัดมาจากนั้นหนึ่งซอย จะเป็นซอยที่มียาวที่สุดในหมู่บ้าน ตรงกลางซอยจะมีสะพานข้ามคลองเล็ก ๆ เมื่อนัดแนะกันเสร็จ เด็ก ๆ ก็ปั่นจักรยานออกมา แต่เพื่อนคนอื่นปั่นกันเร็วมาก ยกเว้นคุณเป็ดน้อยที่ปั่นช้า พอไปถึงกลางซอยทางขึ้นสะพาน คุณเป็ดน้อยเริ่มรู้สึกเหนื่อยจึงหยุดพักที่กลางสะพาน ซึ่งทั้งสองข้างของคลองจะเป็นตลิ่ง พอมองไปก็จะเห็นเป็นต้นไม้เรียงรายไม่มีบ้านคน และในตอนที่นั่งพักอยู่นั้น คุณเป็ดน้อยก็ได้ยินเสียง สวบ สวบ สวบ เหมือนเสียงคนเดินผ่านกอหญ้ามาจากตลิ่งริมคลอง ด้วยความปากไว จึงพูดไปว่า “ใครหน่ะ” แต่ก็ไม่เห็นใคร และยังได้ยินเสียงเดินอยู่ แล้วเสียงนั้นก็เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ คุณเป็ดน้อยก็ยังคงถามว่าใคร จนกระทั่งคุณเป็ดน้อยเริ่มคิดว่า เสียงที่ดังอยู่คงไม่มีใครหรอกแต่กอหญ้ายวบเหมือนเป็นรอยเท้า และรอยที่กอหญ้ายวบก็มาทางคุณเป็ดน้อยเรื่อย ๆ โดยที่คุณเป็ดน้อยไม่เห็นอะไรเลย ตอนนั้นความคิดในหัวของคุณเป็ดน้อยคิดว่า ‘หญ้ามันยวบได้ยังไง มันเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมมันถึงมาทางเรา’ จนกระทั่งหญ้ายวบมาถึงส่วนปูนที่เป็นสะพาน และเสียงก็เงียบไป คุณเป็ดน้อยจึงได้สติจากเสียงที่เพื่อนตะโกน แล้วรีบปั่นจักรยานต่อ คุณเป็ดน้อยปั่นแบบไม่คิดชีวิตจนล้มได้แผล เมื่อถึงบ้านจึงเข้าไปทำแผลเป็นอันดับแรก ในคืนนั้น คุณเป็ดน้อยก็ฝันว่า ตัวเองมายืนอยู่หน้าบ้าน แล้วมองไปที่สะพาน แล้วก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสแลค ค่อย ๆ เดินมาจากสะพาน จนผ่านบ้านหลังแรก คุณเป็ดน้อยก็สะดุ้งตื่น และวันต่อมาคุณเป็ดน้อยได้ฝันแบบเดิม แต่ผู้ชายคนนั้นก็เดินผ่านมาเรื่อย ๆ จนผ่านบ้านหลังที่สอง คุณเป็ดน้อยสะดุ้งตื่นเช่นเดิม โดยที่คุณเป็ดน้อยก็ฝันแบบนี้ทุก ๆ คืน เป็นเวลาเกือบอาทิตย์ จนเริ่มเห็นผู้ชายคนนั้นชัดเจนขึ้น ผู้ชายคนนั้นใส่เสื้อเซิ้ตสีขาวตรงกลางเสื้อมีสีน้ำตาล และก็ไม่ได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นพูด เพราะมองยังเห็นไม่ชัดพอ มีอยู่คืนหนึ่งที่คุณเป็ดน้อยฝันว่าอยู่ในบ้าน ประตูหน้าบ้านเปิดอยู่ และผู้ชายที่เห็นในฝันก็ยืนอยู่หน้าบ้าน ผู้ชายคนนั้นมีแผลขนาดใหญ่อยู่ที่คอ และตรงที่คุณเป็ดน้อยเห็นเป็นสีน้ำตาลคือรอยคราบเลือด ผู้ชายคนนั้นยื่นมือมาและโวยโวยว่าอะไรบางอย่าง ซึ่งได้ยินเสียงไม่ชัด ในตอนที่คุณเป็ดน้อยกำลังตกใจอยู่ ก็ได้มีคนมาจับไหล่จากด้านหลัง และคนที่ยื่นมือมาจับนั้นก็เป็นคุณอาของคุณเป็ดน้อย และคุณอาก็พูดว่า “มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” พอคุณเป็ดน้อยรู้สึกตัว ก็ไม่เห็นอะไรแล้ว ประตูบ้านก็ปิดสนิท และคุณอายังบอกต่อว่า ทุกคืนคุณเป็ดน้อย มักจะละเมอเดินออกมายืนหน้าบ้าน จนทุกคืนคนในบ้านต้องออกมาอุ้มคุณเป็ดน้อยกลับไปนอนที่เตียงตามเดิม ซึ่งตัวคุณเป็ดน้อยเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นได้อย่างไร คุณเป็ดน้อยจึงพยายามเล่าเรื่องที่ฝันให้คุณอาฟัง แต่คุณอาก็บอกว่า “โอ๊ย เด็กฝัน ไร้สาระ” จากนั้นก็พาคุณเป็ดน้อยกลับไปนอน คืนต่อมาคุณเป็นน้อยก็เห็นผู้ชายที่อยู่ในฝัน มายืนอยู่ตรงหน้าต่างปลายเตียง ในฝันผู้ชายคนนั้นก็ได้ยื่นมือมาจับขาคุณเป็ดน้อย แล้วดึงลงมาจากเตียง จนหล่นลงมาที่พื้น คุณเป็ดน้อยก็ร้องไห้โวยวาย จนปัสสาวะราดอยู่ตรงนั้น ในที่สุดคุณเป็ดน้อยก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาที่ปลายเตียง เพราะเสียงของคนในบ้านที่วิ่งมาในห้อง ทุกคนจึงเริ่มเชื่อในสิ่งที่คุณเป็ดน้อยเล่าเกี่ยวกับความฝัน จึงพาไปทำพิธีที่วัด และหลังจากนั้นคุณเป็ดน้อยก็ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้นอีกเลย คุณเป็ดน้อยยังบอกต่ออีกว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เป็นคนกลัวผีจนขึ้นสมองไปเลย(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

พายุฝนโหมกระหน่ำ จะขับรถต่อไปก็กลัวอันตราย จึงเลี้ยวเข้าไปพักในโรงแรมหนึ่ง ได้เจอกับผู้ชายใส่เสื้อลายสก็อตท่าทางแปลกพิลึก! แล้วหลังจากนั้นก็เจอเรื่องหลอนจนนอนไม่ได้! รุ่งสางรีบขับรถออกมาก็พบว่า โรงแรมที่เข้าพักไปมันเป็นโรงแรมร้าง!

02 มิ.ย. 2023

พายุฝนโหมกระหน่ำ จะขับรถต่อไปก็กลัวอันตราย จึงเลี้ยวเข้าไปพักในโรงแรมหนึ่ง ได้เจอกับผู้ชายใส่เสื้อลายสก็อตท่าทางแปลกพิลึก! แล้วหลังจากนั้นก็เจอเรื่องหลอนจนนอนไม่ได้! รุ่งสางรีบขับรถออกมาก็พบว่า โรงแรมที่เข้าพักไปมันเป็นโรงแรมร้าง!

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง ‘พี่แจ็ค The Ghost Radio’ ในรายการ ‘อังคารคลุมโปงX’ ที่ผ่านมา (30 พฤษภาคม 2566) กับเรื่องหลอน 100/100 ทำเอา ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ เสียวสันหลังตลอดการเล่า! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ปิดไฟแล้วอ่านไปพร้อมกันเลย! พี่แจ็คเล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของ ‘คุณแอมแปร์’ เมื่อ 4 ปีก่อน ครอบครัวคุณแอมแปร์ประกอบไปด้วย ตัวคุณแอมแปร์เอง แฟน คุณแม่ และน้องสาว ทั้งหมด 4 คน ซึ่งต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ตอนแรกทุกคนก็ตั้งใจว่าจะออกเดินทางซัก ตี 3 – 4 จะได้ไปถึงจุดหมายเวลาเที่ยงพอดี แต่คืนนั้นทุกคนกลับนอนไม่หลับ จึงตกลงกันว่าไหน ๆ ก็นอนไม่หลับแล้ว เราออกเดินทางกันเลยแล้วกัน ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืน และฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย.. หลังจากขับรถไปได้ 2 ชั่วโมง ก็เป็นเวลาตี 2 แล้ว พายุฝนยิ่งโหมซัดกระหน่ำเข้าไปใหญ่ คุณแอมแปร์เล่าว่าตอนนั้นขับรถไม่ไหวจริง ๆ จึงคุยกับทุกคนว่าต้องหาที่จอดพัก ระหว่างหาที่จอดพักอยู่นั้น คุณแอมแปร์ก็นึกขึ้นมาในใจเล่น ๆ ว่า “ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้ลูกได้เจอโรงแรมในการพักหลบฝนหน่อยเถอะ” หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปสักพักใหญ่ แฟนคุณแอมแปร์ก็พูดขึ้นมาว่า “นี่ไง ๆ ข้างหน้านี่ไง!” ข้างหน้าเป็นป้ายไฟที่เขียนว่า ‘โรงแรม’ ทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าจะเข้าไปพักที่นี่ ดีกว่าฝืนขับไป เพราะพายุฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย พอเลี้ยวซ้ายเข้าไป คุณแอมแปร์บอกว่ามันเข้าไปลึกมากเกือบ 400 เมตร จนในที่สุดก็เจอ สถานที่ตรงนั้นเป็นเหมือนกับสำนักงาน เข้าในมีไฟเปิดทิ้งไว้อยู่ คุณแอมแปร์จึงเปิดไฟรถให้สัญญาณและบีบแตรให้คนข้างในได้ยิน แต่ก็ไม่มีพนักงานคนไหนสนใจออกมาดูเลย เวลาผ่านไปสักพัก ทุกคนในรถก็ต้องตกใจ! เพราะเสียงเคาะดัง “ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!” อยู่ที่กระจกด้านขวาของรถ! เจ้าของเสียงคือร่างของผู้ชายใส่เสื้อลายสก็อตยืนกางร่มแล้วเอาหน้าแนบกระจกอยู่! อีกมือหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นก็ทำสัญญาณบอกให้หมุนกระจกรถลง คุณแม่คิดว่าคงจะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรม จึงบอกให้คุณแอมแปร์ลดกระจกลง แล้วถามไปว่า “พอดีมาหาห้องพักอ่ะค่ะ” ผู้ชายคนนั้นชี้มือไปทางด้านขวาแล้วพูดว่า “เข้าไปในซอยนั้น แล้วตรงเข้าไปอีก 300 เมตร อยู่ซ้ายมือ ขับรถเข้าไปจอดได้เลย” คุณแอมแปร์ก็คิดในใจว่ามันเข้าไปอีกลึกมาก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอะไร นอกจากขับต่อไป หลังจากขับเข้าไปได้ประมาณ 300 เมตร ก็เห็นแสงไฟจากตึกแถวเรียงกัน คล้าย ๆ กับโรงแรมม่านรูด ที่สามารถเอารถเข้าไปจอดหน้าห้องแล้วเข้าพักได้เลย คุณแอมแปร์เลือกห้องที่ 3 ขณะที่กำลังจอดรถอยู่นั้น ผู้ชายเสื้อลายสก็อตที่เจอเมื่อกี้ ก็ปรากฏตัวขึ้น! คุณแอมแปร์มั่นใจว่าเขาไม่ได้ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังมาแน่นอน ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ที่ประตูห้องหนึ่ง แต่ไม่ยอมเดินเข้ามาหา ทางครอบครัวคุณแอมแปร์ที่กำลังขนของเข้าห้องพักก็ตะโกนถามไปว่า “พี่! ค่าห้องเท่าไหร่ หนูต้องจ่ายเลยมั้ย” ผู้ชายคนนั้นก็พูดว่า “จ่ายเลย” คุณแอมแปร์รู้สึกแปลก ๆ แต่ก็หยิบเงิน 500 บาทเอาไปให้ ระหว่างที่เดินเอาไปให้ก็รู้สึกกลัว ๆ สั่น ๆ เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย จึงอยากจะคลายความกลัวด้วยการชวนผู้ชายเสื้อลายสก็อตคุย “ฝนตกหนักเลยเนอะพี่ ดีนะมาเจอโรงแรมนี้ ไม่งั้นพวกหนูแย่แน่เลย” แล้วผู้ชายเสื้อลายสก็อตก็หัวเราะในลำคอ “หึ! ก็มีแต่พวกไปไม่รอดเท่านั้นแหล่ะ ที่เข้ามาพักตรงนี้” คุณแอมแปร์ก็ถามกลับไปว่า “เอ่อ.. แล้วค่าห้องเท่าไหร่คะ?” เขาก็ตอบมาว่า “500” เป็นจำนวนเงินพอดิบพอดีที่คุณแอมแปร์หยิบมา เมื่อจ่ายค่าห้องเสร็จ คุณแอมแปร์ก็รีบเดินกลับไปที่หน้าห้อง และเล่าให้ทุกคนฟัง คุณแม่ก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เรามากันตั้ง 4 คน คงไม่เป็นไร” หลังจากนั้นก็เตรียมจะเปิดประตูห้องเข้าไป แต่คุณแม่ก็หยุดเดินไปเสียดื้อ ๆ ! “แม่ แม่ แม่! แม่เป็นไร?” คุณแอมแปร์ถาม แต่คุณแม่ก็บอกว่าไม่มีอะไร แล้วพาทุกคนเข้าห้องไป.. ขณะที่กำลังจัดเตรียมข้าวของ เสียงของแฟนคุณแอมแปร์ก็ดังขึ้นว่า “อาย! ก่อนจะขึ้นไปนอนอ่ะ ไปล้างเท้าก่อนเลย!” เป็นการบอกให้ ‘อาย’ น้องสาวไปล้างเท้าก่อนนอนนั่นเอง แต่คุณแอมแปร์กับแม่ก็ต้องหันมามองหน้ากัน และคิดในใจว่า ก็น้องอายกำลังล้างเท้าอยู่ในห้องน้ำ แล้วแฟนพูดกับใคร? แต่ทุกคนก็ไม่พูดอะไร รวมถึงแฟนคุณแอมแปร์ที่หลังจากพูดแบบนั้นออกมา เขาก็หยุดกึ้ก! ไม่พูดอะไรอีก เนื่องจากอากาศเย็นเพราะฝน ทุกคนจึงไม่อาบน้ำ แค่ล้างมือล้างเท้าแล้วเข้านอน จนกระทั่งตี 3 ลำดับการนอนคือ น้องอายนอนติดกำแพง ถัดมาเป็นคุณแม่ คุณแอมแปร์ และแฟนคุณแอมแปร์ นอนเรียงกัน 4 คน ระหว่างที่นอนอยู่ คุณแอมแปร์ก็ได้ยินเสียงหายใจฮึดฮัด เหมือนคนกำลังดิ้นอยู่ ปรากฏว่าเป็นคุณแม่ จึงพยายามปลุกคุณแม่ พอตื่น คุณแม่ก็บอกว่า “แอม! เอาสร้อยครุฑมาให้แม่หน่อยสิ” แล้วก็เอาสร้อยครุฑมาใส่ แม้คุณแอมแปร์จะพยายามถามว่าเป็นอะไร แต่แม่ก็บอกว่า “ไม่มีอะไร” สิ้นเสียงแม่ เสียงชักโครกในห้องน้ำก็ดังขึ้น! ทุกคนก็ตื่นขึ้นมา แฟนคุณแอมแปร์จึงพยายามปลอบใจทุกคนว่าคงเป็นเสียงห้องข้าง ๆ แต่คุณแอมแปร์ก็รีบบอกไปว่า “ฝักบัวในห้องน้ำมันเปิด! เหมือนกับมีคนกำลังอาบน้ำอยู่เลย!” แล้วทุกคนก็เกาะกลุ่มกัน เพื่อที่จะเดินเข้าไปดูในห้องน้ำ พอแฟนเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ก็รู้สึกได้ถึงไออุ่น เหมือนมีคนพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ มีไอน้ำอยู่ที่กำแพงจริง พอดูที่เครื่องทำน้ำอุ่น ก็เห็นว่ามันเปิดอยู่! พอเจอแบบนี้ คุณแอมแปร์ก็ชวนทุกคนออกจากห้อง แต่คุณแม่ก็บอกว่า “มันออกไปไหนไม่ได้ ฝนมันตกหนัก ออกไปก็อันตราย” จึงคิดกันว่าจะสวดมนต์และพยายามหลับ เพราะต้องเดินทางต่อ หลังจากสวดมนต์เสร็จ ทุกคนก็ดูจะสงบมากขึ้น จึงเตรียมจะนอนอีกรอบ คุณแอมแปร์ในตอนนั้นกลัวคนมากกว่าผี จึงใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหลับ และฝันว่า มีเสียงเคาะประตู พอเปิดประตูก็เห็นผู้ชายเสื้อลายสก็อตไว้ผมรากไทร แล้วเขาก็บอกว่า “กูไม่ใช่คนดี กูจะมาปล้น” คุณแอมแปร์ก็ตอบไปว่า “อย่ามาปล้นพวกหนูเลย พวกหนูไม่มีของมีค่าอะไร มีแค่ร่มคันหนึ่งกับเงิน 500 ที่ให้พี่ไป” ผู้ชายคนนั้นก็ตอบว่า “ถ้าไม่มีกูฆ่า!” แล้วเขาก็เดินออกไปเปิดรถคุณแอมแปร์เพื่อคุ้ยข้าวของ แล้วก็หอบเอาข้าวของพยายามจะเดินหนี! คุณแอมแปร์ก็เรียกแฟนให้ช่วยกันวิ่งตาม ผู้ชายคนนั้นก็วิ่งหนีพลางหันมามองไปด้วย พอวิ่งไปถึงถนนใหญ่ ก็มีรถบรรทุกวิ่งมาชนจนร่างของผู้ชายคนนั้นแหลกไม่มีชิ้นดี! ร่างขาดออกเป็นส่วน ๆ จนส่วนหัวของผู้ชายคนนั้นกลิ้งมาหยุดอยู่ตรงหว่างขา แถมยังจ้องตาแข็งอีก! คุณแอมแปร์เห็นดังนั้นก็ร้องกรี๊ด พอกรี๊ดเสร็จ เหตุการณ์ทุกอย่างก็วนลูปกลับไปที่เดิม คือมีเสียงเคาะประตู เปิดไปเป็นผู้ชายคนนั้น เขาบอกจะปล้น แล้วก็หอบของวิ่งหนี จากนั้นก็ถูกรถบรรทุกชน วนไปวนมา จนคุณแอมแปร์ทนไม่ไหว ตะโกนออกมาว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเห็นแบบนี้แล้ว!” สิ้นเสียงนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้น เพราะคุณแม่มาปลุกและผูกข้อมืออยู่ พอตื่นขึ้นก็หันไปมองหน้าน้องสาว แล้วน้องก็พูดขึ้นว่า “ผู้ชายที่ใส่เสื้อลายสก็อตเขาเป็นโจร เขาจะมาปล้น เขาจะมาฆ่าเรา!” กลายเป็นว่าทั้งสองคนฝันเรื่องเดียวกัน! ทุกคนคิดว่านี่เป็นเรื่องผิดปกติ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ออกไปไหนก็ไม่ได้ จึงคิดว่าจะไม่นอน และนั่งรวมตัวกันอยู่อย่างนั้นจนถึงตี 5 ฝนก็เริ่มซา ทุกคนเก็บของแล้วเตรียมจะถอยรถออกไป ก็เห็นว่าตึกที่เหมือนจะมีคนอยู่ มันกลายเป็นตึกร้าง! ไม่มีไฟ ไม่มีลูกค้า ไม่มีใคร เป็นเหมือนพื้นที่รกร้าง! คุณแอมแปร์พยายามจะสังเกตว่าที่นี่มันคืออะไรกันแน่ แต่คุณแม่ก็เร่งเร้าบอกให้รีบขับรถออกไป พอขับออกไปก็เห็นว่าสำนักงานเมื่อคืนนี้ มันกลายเป็นศาลารอรถเก่า ๆ โทรม ๆ ขับออกมาอีกก็เห็นป้ายที่เมื่อคืนเห็นเป็นป้ายไฟ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นป้ายไม้เก่า ๆ เขียนด้วยถ่านสีดำว่า ‘โรงแรมXXX’ หลังจากนั้นก็ขับออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็เห็นร้านอาหารที่เปิด 24 ชั่วโมง ทุกคนจึงเข้าไปนั่งคุยกันในร้าน.. คุณแอมแปร์ถามว่า “ทำไมตอนจะเข้าห้อง แม่ถึงหยุดเดิน” แม่ก็ตอบว่า “เห็นผู้หญิงเดินแว๊บเข้าไปห้องน้ำ” แต่ตอนนั้นแม่คิดว่าไม่พูดออกไปจะดีกว่า แล้วคุณแอมแปร์ก็ถามแฟนต่อว่า “ทำไมตอนที่พี่บอกให้อายไปล้างเท้า แล้วพี่หยุดอ่ะ พี่หยุดทำไม” แฟนก็บอกว่า “เห็นผู้หญิงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ก็เลยคิดว่าเป็นน้อง ก็เลยบอกให้น้องไปล้างเท้า แต่พอดูอีกทีก็เห็นว่าน้องอยู่ในห้องน้ำแล้ว หันกลับมาที่เตียงอีกที ก็ไม่มีผู้หญิงคนนั้นแล้ว ก็เลยเงียบไป” ระหว่างที่คุยกัน พนักงานในร้านที่ยืนรอหาจังหวะเข้ามารับออเดอร์ก็เดินเข้ามาถามว่าจะสั่งอะไร คุณแอมแปร์ก็ถามไปเลยว่า “พี่รู้จักโรงแรมที่อยู่ตรงนี้มั้ย?” พนักงานก็ตอบว่ารู้จัก และบอกว่า “เข้าไปพักได้ยังไง โรงแรมนั้นมันร้างมาตั้งนานแล้ว!” ด้วยความสงสัย คุณแอมแปร์จึงถามต่อไปว่า “แล้วนอกจากร้าง มันมีอะไรอีกมั้ย?” หลังจากนั้นก็เริ่มเล่าสิ่งที่เจอเมื่อคืนให้พนักงานฟัง แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “อ๋อ.. มันมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ก่อนโรงแรมนี้มันคล้าย ๆ กับม่านรูด แล้วก็มีคนสวนคอยดูแล แล้วมันก็มีเหตุฆ่าข่มขืนผู้หญิงคนนึง แต่ไม่รู้นะว่าเป็นห้องไหน คนที่ทำก็เป็นคนสวน ไอ้คนที่ทำเนี่ย ผมรู้จักดี เขามากินข้าวบ่อย แล้วก็หลังจากที่ทำเสร็จปุ๊บ เขาก็โดนรถชนตาย! ผู้ชายคนนี้ชอบใส่เสื้อลายสก็อตสีแดง ไว้ผมทรงรากไทรด้วย!” ปรากฏว่าทุกอย่างมันตรงกับที่เจอพอดี! หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็เดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง และทำบุญไปให้ นอกจากนี้พี่แจ็คก็ยังเสริมอีกว่า ตอนที่คุณแอมแปร์เปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็เห็นว่าในห้องมีแอร์เก่า ๆ ตู้เย็นไม่ได้เสียบปลัก ฝุ่นหนา แต่ก็มองว่าโรงแรมมันคงสกปรกแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องเงิน 500 บาท คุณแอมแปร์บอกว่าจ่ายไปจริง ๆ และคุณแม่ก็บอกว่าคิดซะว่าทำบุญให้เขา ก่อนปิดรายการพี่แจ็คทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ระบุไปด้วยว่า “ขอให้เจอที่ที่ไม่มีผี นอนรอดปลอดภัย”(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)ฟังเรื่องหลอนแบบเต็ม ๆ ได้ที่

album

0
0.8
1