![เรื่องเล่าจากแจ็ค The Ghost Radio 'อยากฟังเรื่องผีมั๊ย' I อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [18 ก.พ. 2568]](https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/23a31f82-db6c-4ae8-9c3c-986040f0e978.jpeg)
21 ก.พ. 2025
เรื่องเล่าจากแจ็ค The Ghost Radio 'อยากฟังเรื่องผีมั๊ย' I อังคารคลุมโปง X แจ็ค The Ghost Radio [18 ก.พ. 2568]
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเพื่อนที่ไม่ค่อยได้คุยกัน อยู่ดี ๆ ก็พิมพ์ข้อความมาหากลางดึกว่า อยากฟังเรื่องผีมั๊ย? พอตอบตกลงก็ทำให้ได้รับรู้ถึงเรื่องราวความหลอน! เรื่องนี้ ‘พี่แจ็ค The Ghost Radio‘ ได้นำมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (18 กุมภาพันธ์ 2568) เมื่อเล่าจบทั้ง ‘ดีเจเเนน’ เเละ ‘ดีเจเจ็ม’ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่ากลัวมาก ถ้าพร้อมเเล้วก็ไปอ่านกันเลย! พี่เเจ็คเล่าว่าเจ้าของเรื่องคือ ‘คุณลมหนาว’ เเฟนคลับจากรายการ The Ghost Radio โดยตัวของคุณลมหนาวในสมัยเรียนก็มีเพื่อนเยอะเเยะมากมาย เเต่พอจบการศึกษาก็ทำให้เเต่ละคนก็ต้องเเยกย้ายกันไป ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ มีอยู่คืนหนึ่ง คุณลมหนาวได้รับข้อความจากเพื่อนที่มีชื่อว่า ‘คุณบี’ ตอนแรกคุณลมหนาวก็ไม่ได้สนใจข้อความนั้น จนมีข้อความที่สองตามมา เเต่คราวนี้เป็นการเรียกชื่อของคุณลมหนาวเเทน จึงเอะใจคิดว่า เพื่อนจะมีธุระด่วน คุณลมหนาวจึงกดเข้าไปอ่านเเละตอบกลับไป ทั้งคู่ได้ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกัน ในตอนนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้ว คุณลมหนาวจึงถามว่า ทำไมคุณบีถึงยังไม่นอน คุณบีตอบกลับมาว่า ‘พอดีทีวีที่บ้านเสีย’ คุณลมหนาวก็คิดอยู่ในใจว่าแล้วมันเกี่ยวกันอย่างไร จากนั้นคุณบีก็ได้เงียบหายไปสักพักเเละพิมพ์ข้อความกลับมาอีกครั้งว่า ‘อยากฟังเรื่องผีมั๊ย?’ เเละด้วยความอยากรู้ คุณลมหนาวจึงตอบตกลงไป ไม่นานหลังจากนั้น คุณบี ก็โทรมาเเละเล่าให้คุณลมหนาวฟังว่า.. หลังจากที่เรียนจบไปก็ได้เเยกกับเพื่อน ๆ เพื่อไปชีวิตของตัวเอง ซึ่งตัวของคุณบีก็มีคุณยายหนึ่งคน คุณยายเคยให้สัญญากับคุณบีไว้ว่า ถ้าคุณบีเรียนจบก็จะสร้างบ้านให้ 1 หลัง บนที่ดินที่ไปซื้อมาเมื่อ 10 ปีก่อน ปรากฎว่าหลังคุณบีเรียนจบ คุณยายก็สร้างบ้านให้จริง ๆ ในตอนนั้นชีวิตของคุณบีรู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวมาก เพราะที่ทำงานก็อยู่ใกล้กับครอบครัว บ้านก็อยู่ใกล้กัน แต่เเล้วคืนหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นภายในบ้านของคุณบี ส่วนตัวของคุณบีจะเป็นคนที่ชอบเปิดเสียงฝนเเบบธรรมชาติเพราะช่วยให้นอนหลับได้ เเต่วันนั้น กลับมีเสียงของคนสูงอายุเเละเด็กเเทรกเข้ามาด้วย แม้จะเป็นเสียงที่เบามากจนจับใจความไม่ได้ ทำให้อีกใจก็คิดไปว่าตนนั้นอาจจะหูแว่วไปเอง แต่เสียงที่เกิดขึ้นนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก คุณบียังคงได้ยินเสียงแทรกเข้ามาแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ บางครั้งก็มีเสียงคนกระแอมแทรกเข้ามา พักหลังคุณบีเริ่มนอนไม่ค่อยหลับบ่อยขึ้น จึงเลือกที่จะเปิดทีวีเพื่อใช้กลบเสียงเหล่านั้นไป พอทุกอย่างผ่านไปจนถึงในช่วงที่คุณบีได้หยุดงาน คุณบีจึงทำงานบ้านทุกอย่างให้เสร็จเพื่อที่จะได้นอนพักผ่อน ระหว่างที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น คุณบีก็ได้ยินเสียงกรนของใครบางคน ในตอนเเรกเหมือนต้นเสียงนี้จะอยู่ไกลจากคุณบี เเต่มันก็เริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ข้างหู ทำให้คุณบีสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เเละพยายามมองหาต้นเสียงภายในห้อง เเต่เสียงนั้นก็เงียบหายไป คุณบีรู้สึกเหมือนว่าเจ้าของเสียงกรนรู้ตัวว่าคุณบีพยายามที่จะมองหา หลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้คุณบีเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้น ทั้งเสียงเท้าที่เดินในบ้าน เสียงเด็กวิ่ง เสียงของคนเเก่เเละเด็กคุยกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณบีเลิกงานดึกเเล้วกลับมาที่บ้าน ในตอนนั้นคุณบีกำลังจะทำอาหาร เเต่อยู่ ๆ ทีวีที่อยู่บริเวณห้องโถงก็เปิดขึ้นเอง เเละมันก็เร่งเสียงเองจนดังไปทั่วทั้งบ้าน คุณบีตกใจเเละจะเดินเข้าไปปิดทีวี เเต่ก็ต้องหันหลังกลับเพราะชามที่วางไว้อยู่บนเคาเตอร์อยู่ ๆ ก็ตกเเละเเตกทีละใบ คุณบีที่จะรู้อยู่เเล้วว่าบ้านหลังนี้มีอะไรเเปลก ๆ วันนั้นจึงหมดความอดทนเเละตะโกนด่าไปว่า “ถ้าพวกมึงจะทำให้กูกลัวเเบบนี้เพราะหวังให้กูทำบุญให้ ตั้งศาลให้ กูไม่ทำหรอกนะ ที่นี่บ้านกู..” แต่ยังไม่ทันพูดจบประโยค ไฟในบ้านทุกดวงก็ได้ดับลง เเละมีเสียงของคนเเก่มาพูดจากด้านหลังของคุณบีว่า “กูได้ยินมึงนะ” คุณบีได้ยินดังนั้นก็ทิ้งทุกอย่างเเละวิ่งหนีขึ้นไปที่ห้องนอนชั้น 2 ผ่านไปได้ประมาณ 2 - 3 นาที ไฟในบ้านก็ได้ติด เเต่หลังจากเจอเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้คุณบีเลือกที่จะนอนทันที ไม่ทำอาหารแล้ว เเต่ในระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับ คุณบีก็ได้ยินเสียงย่ำเท้าดังขึ้นจากชั้นล่างเดินขึ้นมาเเละหยุดที่หน้าประตูของห้องนอน แล้วเสียงก็เงียบไป คุณบีคิดว่าทุกอย่างคงจบเเค่นี้ เเต่เสียงนั้นกลับดังอีกครั้ง กลับกันคราวนี้เสียงนั้นอยู่ในห้องนอนบริเวณรอบเตียงเเทน เสียงเดินสลับกับเสียงเด็กวิ่งไปมารอบ ๆ เตียง เเต่ด้วยความที่คุณบีปิดไฟนอนเเล้วทำให้ไม่มองไม่เห็นอะไรมาก เเต่อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกดอะไรบางอย่างให้หันไปมองที่ปลายเท้า พอคุณบีหันไปมอง ก็ได้เห็นร่างคนเเก่หลังค่อม ดวงตากลวงโบ๋ยืนยิ้มอยู่ที่บริเวณปลายเท้า! คุณบีไม่สามารถส่งเสียงร้องหรือลุกขึ้นยืนได้จึงพยายามที่จะหันหน้าหนี เเต่พอหันหน้าหนีมาอีกฝั่ง คุณบีก็ได้เห็นเด็กคนหนึ่งยืนเกาะอยู่ที่บริเวณขอบเตียง พอเห็นเเบบนั้นคุณบีก็รู้สึกเหมือนภาพตัดเเละหลับไป หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้า สิ่งเเรกที่คุณบีทำคือขับรถไปที่บ้านของคุณยาย เเละเล่าเรื่องให้คุณยายฟัง เเต่คุณยายก็บอกว่าไม่รู้เรื่องอะไร เพราะบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านที่พึ่งสร้างใหม่ คุณยายจึงเเนะนำให้ไปหาพ่อหมอคนหนึ่งที่รู้จัก คุณบีรีบเดินทางไปหาพ่อหมอคนนั้น พอถึง คุณบีก็ได้เล่าทุกอย่างให้พ่อหมอฟัง พ่อหมอจึงตัดสินใจที่จะมอบยันต์ที่ปลุกเสกให้กับคุณบี เพื่อที่จะให้นำกลับไปติดไว้ที่บ้าน เเต่ข้อเเม้ก็คือ คุณบีต้องเเปะยันต์นี้ก่อนที่ตะวันจะตกดิน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 4 โมงเย็นเเล้ว คุณบีรีบขับรถกลับบ้านเเละเเปะยันต์ทันที หลังจากเเปะเสร็จ ก็ไปอาบน้ำ และรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ กลับกลายเป็นว่าเสียงทุกอย่างเงียบสงัดไม่มีเสียงเดิน ไม่มีเสียงคนคุยกัน คุณบีจึงตัดสินใจที่จะนอนหลับ ถึงเเม้ว่าจะไม่มีเสียงอะไรก็ตาม แต่คุณบีก็ได้เห็นร่างคนแก่ชัดมากยิ่งขึ้น คนเเก่คนนั้นได้ยืนจ้องเเละชี้นิ้วมาทางคุณบี เเละคุณบีก็ไม่สามารถขยับตัวได้ ส่วนเสียงฝีเท้าของเด็กที่วิ่งรอบเตียงเปลี่ยนมาวิ่งบนเตียง ที่หลอนกว่านั้นคือมีแค่ข้อเท้ากับกระพรวนไม่มีตัว! จากนั้นคุณบีก็ได้สลบไป เช้าวันถัดมาพอคุณบีตื่นขึ้น ก็รีบขับรถไปที่ตำหนักของพ่อหมออีกครั้งเพื่อที่จะขอให้พ่อหมอช่วย เเต่คราวนี้พ่อบอกว่า “กูช่วยไม่ได้เเล้วละ” จากนั้นพ่อหมอก็ได้เริ่มเล่าให้ฟังว่า.. บ้านของคุณบีถูกสร้างบนที่ดินของคนเเก่คนหนึ่งที่เคยอยู่ตรงนั้น เเล้วโดนฟ้าผ่าตาย ทำให้จิตผูกเอาไว้กับที่นั้น ส่วนเด็กคนนั้นเป็นกุมาร ซึ่งตัวของคุณบีเป็นคนไปเรียกเขามาเอง ทำให้คุณบีนึกขึ้นได้ว่า คุณบีเคยไปงานศพของครอบครัว ในตอนที่กำลังจะกลับ คุณบีก็ได้ตะโกนถามญาติผู้ใหญ่ไปว่า ‘ใครจะกลับด้วยกันไปเร็ว ขึ้นรถเลย’ จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีวิญญาณตามคุณบีกลับมาด้วย พ่อหมอจึงเเนะนำว่า ให้ไปหาท้าวเวสสุวรรณมาตั้งไว้ในบ้านเเละบอกให้คุณบีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ด้วย เพราะตั้งแต่อยู่มา คุณบียังไม่เคยทำบุญบ้าน หลังจากคุยกับพ่อหมอเสร็จ คุณบีก็ขับรถกลับมาที่บ้านของคุณยายเเละพูดคุยกันในเรื่องนี้ ซึ่งคุยยายได้ฟังก็ตกใจเพราะไม่รู้ว่าที่ดินที่ตนซื้อ จะมีเจ้าของที่คนเก่าเสียชีวิต หลังจากคุยกันเสร็จคุณยายก็ตัดสินใจว่าจะนำท้าวเวสสุวรรณมาให้คุณบีเเละบอกกับคุณบีให้นอนที่บ้านนี้ก่อน เเล้วในวันรุ่งขึ้นก็ได้นิมนต์หลวงพ่อเพื่อมาทำพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เมื่อพิธีทุกอย่างเสร็จสิ้น ในกลางดึกคืนนั้น คุณบีก็ได้ฝันเห็นเด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเเละพูดว่า “พ่อ หนูขออยู่ด้วยได้ไหม ไหน ๆ พ่อก็เรียกหนูมาเเล้ว หนูขออยู่ด้วยนะ” ซึ่งในความฝันนั้น คุณบีได้ตอบตกลงไป หลังจากสิ้นคำตอบคุณบีก็ได้สะดุ้งตื่นขึ้น หลังจากผ่านคืนนั้นไป บ้านทั้งหลังก็ปกติ เเต่ก็ยังคงมีเสียงวิ่ง เสียงคนเเก่บ้างในบางวัน จนทำให้ทุกวันนี้คุณบีต้องนอนเปิดทีวีทุกคืนตลอดมา..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่