LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

HEALTHY LIFESTYLE

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

28 เม.ย. 2024

วันนี้เราจะมาพูดถึงทฤษฎีนึงที่ที่หลายคนอาจจะรู้จักนั่นก็คือ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)

 

ต้องขอถามก่อนว่าทุกคนเคยจำความฝันตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ? 
เราขอเดาว่ามันอาจจะมีส่วนใหญ่ก็อาจจะพอจำได้แต่คงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือบางคนอาจจะจำไม่ได้เลย แต่ทุกคนรู้ไหมว่ามีผู้คนบางกลุ่มที่สามารถรู้ว่าตัวเองกำลังฝันหรือควบคุมตัวเองในความฝัน และเมื่อตื่นมาพวกเขาก็สามารถเล่าความฝันของตัวเองเกือบทั้งหมดและนั่นก็คือการฝันแบบ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)

 

ลูซิดดรีม (Lucid Dream) ความฝันที่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่และลูซิดดรีมก็ยังสามารถช่วยเราพัฒนาความคิดสร้างด้วยเพราะสามารถ ควบคุมหรือกำหนดเรื่องราวที่เราจะฝันได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงภาวะหลับลึกก็คือช่วง REM (Rapid eyes movement) และมักจะไม่ได้รู้ตัวตั้งแต่ต้น แต่จะมารู้ตัวในช่วงกลาง-ปลายของความฝัน โดยทฤษฎีนี้เกิดขึ้นโดยจิตแพทย์ชาวดัตช์ เฟร็ดเดอริก แวน อีเด็น (Frederik Van Eeden) ซึ่งเขาเป็นผู้ที่ศึกษาความฝันในลักษณะนี้เป็นคนแรก หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักจิตวิทยาให้ความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาดภาพยนตร์ดังอย่าง Inception ที่เอาไอเดียนี้ไปพัฒนาเป็นเรื่องราว

 

อ้างอิงรูปภาพ : https://www.vecteezy.com/vector-art/11263251-man-counting-sheep

 

และด้วยความที่เราสามารถควบคุมความฝันได้ออกแบบเหตุการณ์ต่างๆได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ขณะที่เราฝัน มีการใช้ ‘สมองซีกขวา’ มากขึ้น ซึ่งเป็นสมองส่วนความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ จากความฝัน ไปใช้แก้ปัญหาหรือนำไปใช้กับงานของตัวเองรวมถึงยังช่วยควบคุมอารมณ์ได้อีกด้วยเพราะช่วงเวลาขณะที่หลับ ถือว่าเป็นอะไรที่ควบคุมยากที่สุด ดังนั้นการที่เราสามารถมีสติได้ในขณะที่เราฝัน เราก็จะสามารถควบคุมจิตใจได้ถึงแม้จะเป็นช่วงที่เราโกรธหรือเสียใจจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้

 

นอกจากนี้ ลูซิดดรีมยังช่วยขจัดความกลัวในจิตใจของเราได้อีกด้วย แน่นอนว่าทุกคนต้องมีความกลัวที่ซ่อนอยู่หรือเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ฝังใจ แต่ในความฝัน เราสามารถควบคุมความกลัวและอันตรายเหล่านั้นได้ ทำให้ชีวิตจริงเรามีแนวโน้มที่จะกลัวสิ่งนั้นน้อยลง

 

นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Lucid Dream เดนโฮล์ม แอสปาย (Denholm Aspy) เคยกล่าวไว้ว่า

“บางคนอาจค้นพบพลังวิเศษหรือความสามารถพิเศษขณะที่กำลังฝัน พวกเขาสามารถต่อสู้หรือจัดการกับสิ่งที่มาทำ   ร้ายได้ เช่น บินหนี หรือใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันร้ายนั้น”

 

ความเสี่ยงของ Lucid Dream

Lucid Dream อาจไม่เหมาะกับหลาย ๆ คน เช่นกลุ่มผู้มีจิตเปราะบาง มีความผิดปกติของคลื่นสมอง มีอาการเห็นภาพหลอน (Schizophrenia) หรือหลงผิด (Delusions) อาจยิ่งทำให้ยากต่อการแยกแยะโลกแห่งความจริง และโลกแห่งความฝัน หรือสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องการนอน ที่ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับลึก นอนให้เต็มอิ่ม ยิ่งฝันให้น้อยยิ่งดี มุ่งเน้นการนอนระดับ N-REM (Non-rapid Eye Movement) ไม่ใช่ REM (Rapid Eye Movement) 

 

อ้างอิงรูปภาพ : https://www.freepik.com/free-vector

 

หากใครอยากลองทำนักวิจัยเขาก็มีวิธีมาให้ทดลองกันแต่ก็อย่าลืมเรื่องความเสี่ยงกันนะต้องดูเรื่องสุขภาพตัวเองกันด้วย

1.นั่งสมาธิก่อนนอนซักประมาณ 20-30 นาที ก่อนนอน เพ่งจิตไปที่การหายใจ มีสติทุกลมหายใจ

2.ลองจดบันทึกความฝัน เพื่อจดจำรายละเอียดความฝันในแต่ละครั้งของเรา

3.ใช้เสียงเพลงมาขับกล่อมขณะหลับ โดยคลื่นความถี่ของเสียงเพลง มีส่วนในการทำให้คลื่นสมองเปลี่ยนไปได้ โดยเป็นเพลง เป็นจังหวะดนตรีที่เรียกว่า ‘binaural beats’ ความถี่ 4 – 8 Hz โดยควบคุมการหายใจให้สอคคล้องกับความถี่   

 

และนี่ก็คือ Lucid dream ความฝันที่รู้ตัว แต่ใดๆก็ตามถึงแม้เราจะสามารถควบคุมความฝันได้ด้วยตัวเองทุกคนอาจจะได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจแต่ก็อย่าลืมตระหนักว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงความฝันไม่ใช่ความจริง ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทางเราหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยให้ผู้อ่านทุกคนได้รับทฤษฎีความรู้ใหม่ๆแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อย

 

ที่มา : https://thematter.co/brief/goodsmorning/goodsmorning-1590107400/112552

https://rabbitcare.com/blog/lifestyle/lucid-dream-in-different-context-benefit-and-how-to

https://www.medicalnewstoday.com/articles/323077#definition

https://www.facebook.com/brandthink.me

related HEALTHY LIFESTYLE

5 โรค ที่ทำให้คุณง่วงกลางวัน กลางคืนก็นอนไม่หลับ

24 ม.ค. 2022

5 โรค ที่ทำให้คุณง่วงกลางวัน กลางคืนก็นอนไม่หลับ

หลายๆคนโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษารวมถึงแอดก็ชอบมีอาการแบบนี้ประจำจะชอบง่วงมากเวลาบ่ายเริ่มตาปรือสัปหงกหรือบางทีก็ต้องลุกไปชงกาแฟดื่มแก้ง่วงดื่มกาแฟและกลางคืนก็นอนไม่ค่อยจะหลับถ้านานๆทีง่วงทีก็พอจะเข้าใจได้แต่ถ้าง่วงมันทุกวันต้องลองเช็คสุขภาพแล้วนะคะ เพราะคุณอาจกำลังเป็นโรคบางอย่างหรือเปล่าวันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าโรคอะไรชอบง่วงกลางวัน1.โรคนอนไม่หลับหลายต่อหลายคน เพราะกลางคืนนอนไม่หลับก็เลยง่วงลองสังเกตตัวเองดูนะคะว่าที่นอนไม่หลับหรือนอนดึกมากๆเพราะทำงานหนักงานเยอะตี1ตี2ยังนอนไม่หลับหรือเครียดจนนอนไม่หลับหรือเปล่าถึงทำให้วันต่อมาง่วงนอนจัด บางครั้งก็อยากจะงีบพองีบ กลางคืนนอนไม่หลับซะงั้นถ้าเป็นอย่างนั้นก็ควรคลายเครียดลดการทำงานในตอนกลางคืนแพทย์แผนจีนแนะนำพุทราจีนเก๊กฮวย ช่วยบำรุงเลือดเพราะถ้าหากนอนไม่พอ เลือดจะพร่องเก๊กฮวยจะช่วยลดอาการร้อนในจากการนอนไม่หลับเป็นเวลานานๆได้ค่ะ2.โรคอ่อนเพลียล้าเรื้อรังคนไข้อาจจะมีโรคนอนไม่หลับด้วยซึ่งก็หมายถึงการนอนไม่หลับติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน และเมื่อร่างกายสะสมความอ่อนเพลียหนักขึ้นเรื่อยๆนอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุจากการบริโภคอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไปจนส่งผลให้มีอาการเพลียล้าง่วงนอนความจำไม่ค่อยดีปวดหัวเป็นประจำปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบ่อยๆและหลับไม่สนิทนอนเท่าไรก็ไม่พออาการเหล่านี้กลุ่มวัยทำงานมีความเสี่ยงสูงที่สุดแพทย์แผนจีนแนะนำโสมจะช่วยเสริมภูมิเพิ่มพลังให้กับร่างกายและยังช่วยเรื่องนอนหลับด้วยนะคะ3.โรคเบาหวานโรคเบาหวานก็ทำให้อ่อนเพลียเรื้อรังได้ เพราะเลือดมีปริมาณน้ำตาลสูงและอาการง่วงนอนเป็นสัญญาณแรกๆที่แสดงหรือเตือนให้ร่างกายทราบว่ากำลังอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนำไปสู่โรคเบาหวานได้ในอนาคตการบริโภคแป้งและน้ำตาลจำนวนมาก ทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้สามารถลดเบาหวานด้วยมะระขี้นกโสม4.โรคลมหลับง่วงกลางวันค้างกลางคืนง่วงนอนมากในตอนกลางวันแต่ตอนกลางคืนกลับตาใสแป๋วและนอนไม่หลับหรือชอบหลับไม่สนิทซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงเรื่อยๆถ้าเป็นเด็ก การพัฒนาการสมองจะช้าเรียนไม่เก่งหรือถ้าเป็นผู้ใหญ่ ก็อาจมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลงหรือแม้กระทั่งเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิตด้วยเช่นง่วงระหว่างขับรถหรือใช้เครื่องจักรกลต่างๆ นอกจากนี้ยังส่งผลถึงสุขภาพจิตที่อาจกลายเป็นคนหงุดหงิดง่ายจากการพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วยแพทย์แผนจีนจะช่วยบำรุงด้วยปั๊กคี้โสมตังกุยแป๊ะตุ๊กฟกเหล็งเป็นต้น5.โรคโลหิตจางผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคโลหิตจางได้ง่ายเพราะสูญเสียเลือดจากการมีประจำเดือน สาเหตุอาจมาจากการได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่เพียงพอ(จากดัชนีชี้วัดผู้หญิงเลือกกินมากกว่า)ส่วนสาเหตุอื่น ยังมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจึงรู้สึกอ่อนเพลียหน้ามืดบ่อยเหนื่อยง่ายเชื่องช้าเซื่องซึมไม่สดใสจึงทำให้รู้สึกง่วงนอนบ่อยๆนั่นเองแพทย์แผนจีนแนะนำตังกุยเส็กตี่โสมและสมุนไพรที่ช่วยบำรุงเลือด5 โรคที่ทำให้เราอ่อนเพลีย แต่ละโรคไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะคะทางที่ดีลองปรับชีวิตให้เป็นปกติแบบแพทย์แผนจีนนอนให้เร็วตื่นให้เช้าหรือหากนอนไม่หลับลองเลี่ยงพฤติกรรมที่สงผลต่อการนอนหลับหรือกินอาหารที่ช่วยนอนหลับข้างต้นที่แพทย์แผนจีนแนะนำ เพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น หรือกดจุดช่วยอาการนอนไม่หลับ ก็เป็นอีกทางเลือกนึงค่ะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนเรื่องพักใจ ยกให้Green Waveเสิร์ฟ เพลงดีดีกับความรู้สึกดีดีให้คุณเองค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะFacebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’GirlMusic Travel Lover

นปโปะหม่ำๆ จะทำยังไง? ถ้าน้องหมาไม่ยอมกินอาหาร

20 ส.ค. 2024

นปโปะหม่ำๆ จะทำยังไง? ถ้าน้องหมาไม่ยอมกินอาหาร

นปโปะหม่ำๆ หม่ำๆ กู๊ดบอย คือทำนองเพลงติดหู ที่เรามักได้ยินบนโลกโซเชียลในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งที่มาของเพลงสุดน่ารักนี้ ก็เกิดจากเจ้าหมา ‘นปโปะ’ ที่ไม่ยอมกินอาหารโดยเด็ดขาดถ้าเจ้าของไม่ร้องเพลงให้ฟัง (ต้องมีทำนองด้วยนะ ไม่งั้นหนูไม่กิน!) ทำให้ใครหลายๆคนที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของนปโปะต้องอมยิ้มไปตามๆกัน แต่เอ๊ะ…แล้วสาเหตุที่ทำให้น้องหมาหลายๆตัว ไม่ยอมกินอาหารง่ายๆคืออะไรกันนะสาเหตุที่สุนัขไม่กินอาหาร1.อาการป่วยถึงแม้ว่าการอยากอาหารที่ลดลง ไม่ได้หมายความว่าน้องๆกำลังมีโรคร้ายแรงเสมอไป แต่การตรวจหาความผิดปกติอย่างทันท่วงทีก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การเจ็บปวดทางร่างกาย ปัญหาทางช่องปากและฟัน การติดเชื้อในลําไส้ หรือมีสิ่งแปลกปลอมอุดตันทางเดินอาหาร เป็นต้น2.การฉีดวัคซีนการฉีดวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอาจมีผลข้างเคียง ทำให้สุนัขสูญเสียความอยากอาหารในระยะเวลาสั้นๆได้3.สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยสถานที่แปลกใหม่อาจทำให้น้องหมาเกิดความเครียดและประหม่าได้ รวมไปถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ก็อาจทำให้น้องๆรู้สึกคลื่นไส้ เมารถ ทำให้ไม่อยากอาหารได้เช่นกัน4.พฤติกรรมส่วนตัวนิสัยของสุนัขบางตัวอาจมีความ ‘เลือกกิน’ ไปนิด ลองสังเกตดูว่าน้องหมาของเรามีนิสัยส่วนตัวอย่างไร และนำมาปรับใช้กับวิธีการฝึกกินอาหาร เช่น การให้อาหารเป็นเวลา หลีกเลี่ยงการให้อาหารใกล้สุนัขตัวอื่นจนเกินไป การปรับชามข้าวให้มีความสูงพอดีต่อตัว ตรวจสอบอาหารว่าไม่เหม็นอับ และไม่แข็งจนเกินไป เป็นต้น5.น้องหมาได้รับของรางวัลมากเกินไปความ ‘อิ่ม’ จากการกินขนมเยอะเกินไป อาจทำให้น้องๆรู้สึกไม่หิวอาหารแบบเดิมๆที่เคยกิน การกินขนมควรเป็น ‘รางวัล’ ของสุนัข ไม่ใช่อาหารจานหลัก และควรมีสัดส่วนไม่เกิน 10% ของแคลอรีต่อวันเมื่อคำนวณตามน้ำหนักตัว เพราะการให้ขนมมากเกินไปอาจนําไปสู่โรคอ้วนในสุนัขได้อีกด้วยวิธีกระตุ้นความอยากอาหารของน้องหมา1.เปลี่ยนอาหารเม็ดโดยการเลือกสูตรอาหารที่มีส่วนผสมคล้ายกับอาหารสูตรเก่า และช่วยปรับให้ระบบย่อยอาหารของน้องๆรู้สึกคุ้นเคย ด้วยการค่อยๆผสมอาหารใหม่เข้ากับอาหารเก่า และเพิ่มปริมาณของอาหารใหม่ในแต่ละมื้อวันที่ 1-2: ผสมอาหารใหม่ 25% กับอาหารเก่า 75%วันที่ 3-5: ผสมอาหารใหม่ 50% กับอาหารเก่า 50%วันที่ 6-7: ผสมอาหารใหม่ 75% กับอาหารเก่า 25%วันที่ 8 เป็นต้นไป : อาหารใหม่ 100%ซึ่งสุนัขบางตัวอาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนนานมากกว่านี้ โดยเฉพาะกับน้องๆที่มีกระเพาะย่อยอาหารบอบบาง2.เพิ่มท็อปปิ้งตกแต่งอาหาร หรือ ทําให้อาหารเม็ดนิ่มลงเติมน้ำหรือซุปผักอุ่นๆลงในอาหารแห้งและปล่อยแช่ให้นิ่ม ช่วยให้น้องหมาเคี้ยวอาหารได้ง่าย เพิ่มกลิ่น กระตุ้นความอยากอาหาร (ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยนะ ว่าไม่มีหัวหอมหรือกระเทียมอยู่ในส่วนผสมของน้ำซุป เพราะอาจทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้น้องเป็นโรคโลหิตจางได้)3.หลีกเลี่ยงการให้อาหารโดยไม่มีเงื่อนไขการวางอาหารของน้องหมาทิ้งไว้ให้เดินมากินตอนไหนก็ได้ อาจจะดูเป็นวิธีที่สะดวก แต่ก็ส่งผลตามมาหลายอย่าง เช่น การไม่เห็นพฤติกรรมความอยากอาหารที่เปลี่ยนไปของน้องๆ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางร่างกายผู้เลี้ยงควรกำหนดเวลาให้อาหารอย่างชัดเจน และทำการจับเวลา 15 นาที หากในช่วงเวลานี้น้องๆมีท่าทีไม่ยอมกินอาหารที่วางไว้ ให้เก็บอาหารจนกว่าจะถึงเวลามื้อต่อไป เป็นการฝึกให้น้องหมาไม่ติดนิสัยเมินอาหารนั่นเอง4.ทําให้มื้ออาหารเป็นเรื่องสนุกทำให้การกินอาหารตื่นเต้นขึ้น ด้วยการใส่อาหารไว้ในเครื่องเล่นสำหรับน้องหมา กระตุ้นสัญชาตญาณการหาอาหาร รวมไปถึงการให้คำชมเมื่อน้องๆยอมกินอาหารนั่นเองสุดท้ายนี้ การเมินไม่ยอมกินอาหารของน้องหมาเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมส่วนตัว ความประหม่า หรืออาการเจ็บป่วย เจ้าของจำเป็นต้องสังเกตนิสัยและความผิดปกติที่น้องๆพยายามจะบอกเรา และหากน้องหมาไม่ยอมกินอาหารนานกว่าสองวัน (หรือสองมื้อหากมีโรคประจําตัว) ควรติดต่อสัตวแพทย์ เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าน้องๆจะสุขภาพดี เหมือนกับน้องนปโปะ ที่หนูแค่อยากได้ยินคำชมเยอะๆตอนกินข้าวเฉยๆน้าAuthor : L’ara

3 โรคเสี่ยง หากจ้องคอมนาน

05 ก.ค. 2024

3 โรคเสี่ยง หากจ้องคอมนาน

ในยุคดิจิทัลที่เราต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ จึงกลายเป็นเรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่การใช้เวลาไปกับหน้าจอมากจนเกินไปอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพที่ไม่คาดคิด วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีโรคอะไรบ้างที่เกิดจากการจ้องจอคอมนาน ๆโรค CVS หรือคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) โรค Computer Vision Syndrome หรือ CVS คือกลุ่มของอาการทางตาและการมองเห็น ที่มีผลมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเลต หรือโทรศัพท์มือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงพฤติกรรมการมองจอคอมพิวเตอร์ที่ใกล้จนเกินไป เกิดได้ทั้งเด็กแหละผู้ใหญ่อาการของโรค·รู้สึกแสบตา ไม่สบายตา มีอาการระคายเคืองตา เจ็บตา·ตาพร่าจากการจ้องมองที่ไม่ค่อยกระพริบตา·มีอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นอาการเพียงชั่วคราวการป้องกัน·พักสายตา เช่น หลับตาทุก 10 นาทีต่อการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ 1 ชั่วโมง หรือพักทุก 15 นาทีต่อการทำงานต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง เป็นต้น·ควรจัดสถานที่ตั้งคอมพิวเตอร์ในที่ที่มีแสงสว่างพอเหมาะ เพื่อช่วยให้สบายตา·ควรใช้แผ่นกรองแสงเพื่อลดแสงจ้าและแสงสะท้อน จะช่วยลดความล้าของสายตาลงได้โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndorme)ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือกลุ่มอาการที่เกิดจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือใช้ท่าทางในการทำงานที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จนทำให้เกิดความผิดปกติของระบบในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบกระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ หรือดวงตา ที่ต้องรับบทหนักขณะทำกิจกรรมเหล่านี้ มักจะเกิดขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงานหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ทำงานกันมากขึ้นอาการของโรค· อาการบาดเจ็บเริ่มต้นเริ่มต้นจากอาการเมื่อยที่เมื่อเราพักผ่อน นวด ยืดเหยียดในบริเวณดังกล่าว หรือเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ก็จะหายหรือทุเลาลงได้·อาการบาดเจ็บซ้ำ ๆทุกครั้งที่อาการปวดเมื่อยเริ่มเป็นซ้ำ ๆ ระหว่างทำงาน นี่คือสัญญาณเตือนภัยว่าออฟฟิศซินโดรมกำลังเป็นอันตราย ในระยะนี้ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรักษาอาการบาดเจ็บแต่เนิ่น ๆ·อาการเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้นแม้ในเวลาไม่ได้ทำงานเมื่ออาการเจ็บปวดบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายเพิ่มมากขึ้น แม้ตอนที่ไม่ได้ทำงานก็ยังเจ็บ และแม้จะลองพัก ลองยืดเหยียดอย่างไรก็ไม่หาย ลามไปถึงกระทบกระเทือนต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน นี่คือระดับอาการที่ควรพบแพทย์โดยด่วนการป้องกัน·ออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง·หยุดพักการทำงานทุกหนึ่งชั่วโมงเพื่อยืดคลายกล้ามเนื้อด้วยการลุกเดิน หรือเปลี่ยนท่าทาง·กายบริหารด้วยอุปกรณ์ใกล้ตัวโรคกระดูกต้นคอเสื่อม (Cervical Spondylosis)โรคกระดูกต้นคอเสื่อม เป็นภาวะที่ส่วนประกอบของกระดูกต้นคอเสื่อมลง ทั้งจากอายุที่เพิ่มขึ้นและจากการใช้คอในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องเป็นประจำ ซึ่งเมื่อกระดูกต้นคอเสื่อมก็จะส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาทต่าง ๆ ในร่างกาย การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ในท่าทางที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้กระดูกคอเกิดการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติอีกด้วยอาการของโรค·มีอาการคอติด หันซ้าย-ขวาไม่สะดวก เหมือนมีอะไรยึดรั้งไว้·ปวดตึงต้นคอ เคลื่อนไหวคอได้น้อยลง·ปวดร้าวตามแนวเส้นประสาท ตั้งแต่หัวไหล่และบ่า·ปวดร้าวบริเวณข้อศอกด้านข้าง ปวดร้าวไปถึงปลายนิ้วมือ·มีอาการชาตามแขน ขา มือ และเท้า·มีอาการอ่อนแรงจนเคลื่อนไหวไม่สะดวกการป้องกัน·ปรับเก้าอี้และโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับร่างกาย·หลีกเลี่ยงการนั่งทำงานนานๆ โดยไม่ขยับร่างกาย·การออกกำลังกายเฉพาะส่วนคอและหลังเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและนี่ก็คือ 3 โรคเสี่ยงหากคุณจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานจนเกินไป การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคปัจจุบัน แต่หากเรามีการดูแลสุขภาพร่างกายให้เหมาะสมจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเหล่านี้ได้อย่างมากทีเดียว เพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยนั้น สามารถสร้างผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวให้กับตัวเราได้นั้นเองที่มา :https://www.phyathai.com/th/article/3743-computer_vision_syndrome_%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%AD_%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8https://kdmshospital.com/article/office-syndorme/https://www.phyathai.com/th/article/symptoms-of-cervical-spondylosis

เรื่องสิวสิวจากนมวัว

07 ก.พ. 2024

เรื่องสิวสิวจากนมวัว

ใคร ๆ ก็บอกว่าการดื่มนมทุกวันมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วมันดีต่อสุขภาพจริงไหม ทำไมดื่มแล้วสิวถึงขึ้นล่ะ แล้วนมทำให้สิวขึ้นจริงหรือเปล่า วันนี้เรามาตอบข้อสงสัยกันนมวัวมีประโยชน์จริงหรือเปล่า ?นมวัวมีประโยชน์จริง เพราะอุดมไปด้วยสารยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์หลายชนิด หลัก ๆ ก็คือแคลเซียมที่ช่วยดูแลกระดูก และช่วยให้ฟันแข็งแรง มีโพแทสเซียมช่วยป้องกันโรคหัวใจ รวมถึงวิตามินบี แร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวานการดื่มนมวัวทำให้สิวขึ้นจริงเหรอ ?จากการวิจัยของแพทย์ผิวหนังที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า “นมวัว” มีส่วนทำให้ผู้ที่เป็นสิวที่เกิดจากฮอร์โมน เป็นสิวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากกระบวนการในการย่อยนมของร่างกายนั้นจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตขึ้นมา ทำให้ฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวอย่าง แอนโดรเจน ก็ถูกผลิตขึ้นมาเพิ่มด้วย นอกจากนั้นในนมวัวที่รีดออกมาจากแม่วัวที่เพิ่งคลอดลูก ก็จะมีฮอร์โมนสูง ทำให้เวลาที่คนเราดื่มนมเข้าไป ฮอร์โมนในนมวัวเหล่านี้กลับไปกระตุ้นต่อมไขมันของเราให้ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการหน้ามัน และเป็นสิวตามมา สำหรับคนที่มีปัญหาสิวฮอร์โมน ควรจะเปลี่ยนมาดื่มนมที่เป็นสารสกัดจากพืชแทน เช่น นมถั่วเหลือง หรือนมข้าว เป็นต้นตอนนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าผลข้างเคียงจากนมวัวสามารถทำให้สิวเราขึ้นได้เหมือนกัน แต่เราไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องงดการดื่มนมไปเลย ซึ่งเราสามารถเลี่ยงไปดื่มนมแพะ นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ หรือน้ำนมข้าวแทนได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารมีประโยชน์ วิตามิน ที่สามารถทดแทนนมวัวได้เหมือนกันที่มา https://www.wongnai.com/articles/6-acne-treatment-doubthttps://www.sanook.com/health/31693/Author : DODOMILK

album

0
0.8
1