นปโปะหม่ำๆ จะทำยังไง? ถ้าน้องหมาไม่ยอมกินอาหาร

HEALTHY LIFESTYLE

นปโปะหม่ำๆ จะทำยังไง? ถ้าน้องหมาไม่ยอมกินอาหาร

20 ส.ค. 2024

นปโปะหม่ำๆ หม่ำๆ กู๊ดบอย คือทำนองเพลงติดหู ที่เรามักได้ยินบนโลกโซเชียลในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งที่มาของเพลงสุดน่ารักนี้ ก็เกิดจากเจ้าหมา ‘นปโปะ’ ที่ไม่ยอมกินอาหารโดยเด็ดขาดถ้าเจ้าของไม่ร้องเพลงให้ฟัง (ต้องมีทำนองด้วยนะ ไม่งั้นหนูไม่กิน!) ทำให้ใครหลายๆคนที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของนปโปะต้องอมยิ้มไปตามๆกัน แต่เอ๊ะ…แล้วสาเหตุที่ทำให้น้องหมาหลายๆตัว ไม่ยอมกินอาหารง่ายๆคืออะไรกันนะ

 

สาเหตุที่สุนัขไม่กินอาหาร

1.อาการป่วย

ถึงแม้ว่าการอยากอาหารที่ลดลง ไม่ได้หมายความว่าน้องๆกำลังมีโรคร้ายแรงเสมอไป แต่การตรวจหาความผิดปกติอย่างทันท่วงทีก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การเจ็บปวดทางร่างกาย ปัญหาทางช่องปากและฟัน การติดเชื้อในลําไส้ หรือมีสิ่งแปลกปลอมอุดตันทางเดินอาหาร เป็นต้น

 

2.การฉีดวัคซีน

การฉีดวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอาจมีผลข้างเคียง ทำให้สุนัขสูญเสียความอยากอาหารในระยะเวลาสั้นๆได้

 

3.สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย 

สถานที่แปลกใหม่อาจทำให้น้องหมาเกิดความเครียดและประหม่าได้ รวมไปถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ก็อาจทำให้น้องๆรู้สึกคลื่นไส้ เมารถ ทำให้ไม่อยากอาหารได้เช่นกัน

4.พฤติกรรมส่วนตัว

นิสัยของสุนัขบางตัวอาจมีความ ‘เลือกกิน’ ไปนิด ลองสังเกตดูว่าน้องหมาของเรามีนิสัยส่วนตัวอย่างไร และนำมาปรับใช้กับวิธีการฝึกกินอาหาร เช่น การให้อาหารเป็นเวลา หลีกเลี่ยงการให้อาหารใกล้สุนัขตัวอื่นจนเกินไป การปรับชามข้าวให้มีความสูงพอดีต่อตัว ตรวจสอบอาหารว่าไม่เหม็นอับ และไม่แข็งจนเกินไป เป็นต้น

 

5.น้องหมาได้รับของรางวัลมากเกินไป

ความ ‘อิ่ม’ จากการกินขนมเยอะเกินไป อาจทำให้น้องๆรู้สึกไม่หิวอาหารแบบเดิมๆที่เคยกิน การกินขนมควรเป็น ‘รางวัล’ ของสุนัข ไม่ใช่อาหารจานหลัก และควรมีสัดส่วนไม่เกิน 10% ของแคลอรีต่อวันเมื่อคำนวณตามน้ำหนักตัว เพราะการให้ขนมมากเกินไปอาจนําไปสู่โรคอ้วนในสุนัขได้อีกด้วย

 

วิธีกระตุ้นความอยากอาหารของน้องหมา

1.เปลี่ยนอาหารเม็ด

โดยการเลือกสูตรอาหารที่มีส่วนผสมคล้ายกับอาหารสูตรเก่า และช่วยปรับให้ระบบย่อยอาหารของน้องๆรู้สึกคุ้นเคย ด้วยการค่อยๆผสมอาหารใหม่เข้ากับอาหารเก่า และเพิ่มปริมาณของอาหารใหม่ในแต่ละมื้อ

วันที่ 1-2: ผสมอาหารใหม่ 25% กับอาหารเก่า 75%

วันที่ 3-5: ผสมอาหารใหม่ 50% กับอาหารเก่า 50%

วันที่ 6-7: ผสมอาหารใหม่ 75% กับอาหารเก่า 25%

วันที่ 8 เป็นต้นไป : อาหารใหม่ 100%

ซึ่งสุนัขบางตัวอาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนนานมากกว่านี้ โดยเฉพาะกับน้องๆที่มีกระเพาะย่อยอาหารบอบบาง

 

2.เพิ่มท็อปปิ้งตกแต่งอาหาร หรือ ทําให้อาหารเม็ดนิ่มลง

เติมน้ำหรือซุปผักอุ่นๆลงในอาหารแห้งและปล่อยแช่ให้นิ่ม ช่วยให้น้องหมาเคี้ยวอาหารได้ง่าย เพิ่มกลิ่น กระตุ้นความอยากอาหาร (ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยนะ ว่าไม่มีหัวหอมหรือกระเทียมอยู่ในส่วนผสมของน้ำซุป เพราะอาจทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้น้องเป็นโรคโลหิตจางได้)

 

3.หลีกเลี่ยงการให้อาหารโดยไม่มีเงื่อนไข

การวางอาหารของน้องหมาทิ้งไว้ให้เดินมากินตอนไหนก็ได้ อาจจะดูเป็นวิธีที่สะดวก แต่ก็ส่งผลตามมาหลายอย่าง เช่น การไม่เห็นพฤติกรรมความอยากอาหารที่เปลี่ยนไปของน้องๆ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางร่างกาย

 

ผู้เลี้ยงควรกำหนดเวลาให้อาหารอย่างชัดเจน และทำการจับเวลา 15 นาที หากในช่วงเวลานี้น้องๆมีท่าทีไม่ยอมกินอาหารที่วางไว้ ให้เก็บอาหารจนกว่าจะถึงเวลามื้อต่อไป เป็นการฝึกให้น้องหมาไม่ติดนิสัยเมินอาหารนั่นเอง

 

4.ทําให้มื้ออาหารเป็นเรื่องสนุก

ทำให้การกินอาหารตื่นเต้นขึ้น ด้วยการใส่อาหารไว้ในเครื่องเล่นสำหรับน้องหมา กระตุ้นสัญชาตญาณการหาอาหาร รวมไปถึงการให้คำชมเมื่อน้องๆยอมกินอาหารนั่นเอง

 

สุดท้ายนี้ การเมินไม่ยอมกินอาหารของน้องหมาเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมส่วนตัว ความประหม่า หรืออาการเจ็บป่วย เจ้าของจำเป็นต้องสังเกตนิสัยและความผิดปกติที่น้องๆพยายามจะบอกเรา และหากน้องหมาไม่ยอมกินอาหารนานกว่าสองวัน (หรือสองมื้อหากมีโรคประจําตัว) ควรติดต่อสัตวแพทย์ เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าน้องๆจะสุขภาพดี เหมือนกับน้องนปโปะ ที่หนูแค่อยากได้ยินคำชมเยอะๆตอนกินข้าวเฉยๆน้า

 

Author : L’ara

related HEALTHY LIFESTYLE

อยากเผาผลาญดี วิตามินอะไรช่วยได้

14 ก.ค. 2023

อยากเผาผลาญดี วิตามินอะไรช่วยได้

วางแผนมาตั้งแต่ต้นปี ว่าปีนี้จะลดน้ำหนัก ปาเข้าไปกลางปีน้ำหนักไม่ลด แถมยังเพิ่มอีกต่างหาก จะทำยังไง ทำเท่าไหร่ น้ำหนักก็ไม่ลดซักที พูดแล้วก็ท้อใจจจจจ TT แต่ไม่เป็นไรทุกคน วันนี้มีตัวช่วยมาให้ทุกคน เป็นทริคลดน้ำหนักจากคุณหมอเพื่อน ซึ่งคุณหมอได้พูดในราบการเพื่อนเป็นหมอ ถึงเรื่องวิตามินที่ช่วยในเรื่องของการ Burn Fat ช่วยในการเผาผลาญเอาไว้ วันนี้กรีนเวฟเลยสรุปมาให้ทุกคน ใครอยากรู้จะมีวิตามินอะไรบ้างตามไปดูกัน ^^ทำไมหนักลงเป็นขีด ขึ้นทีเป็นโล มันเพราะอะไร !เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนก็คงสงสัยกันใช่ไหมหละ นั่นก็เพราะว่าสาเหตุของการที่น้ำหนัดลดยากของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการเผาผลาญ Metabolism ด้วย ถ้าใครที่ เหงื่อออกง่าย ท้องไม่ค่อยผูก ทานอาหารแล้วย่อยได้ดี คนเหล่านี้มักจะมี Metabolism ดี นอกจากนี้เรายังจะต้องดูอีกว่า เรากินถูกรึเปล่า ออกกำลังกายไหม หรือนอนดีรึเปล่าการ Fasting ที่ดีที่สุด คือการงดอาหารมื้อเย็นบางคนลดน้ำหนัก จะเลือกไม่ทานอาหารเลย หรืออาจจะทานน้อยมาก แต่น้ำหนักก็ยังขึ้น แปลว่าสารอาหารที่ได้รับเข้าไปไม่เพียงพอ เลยกลายเป็นการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี เพราะฉะนั้นถ้าจะลดน้ำหนักจริง ๆ 4 อาหารที่ไม่ควรงดเลยก็คือไขมันดี ถ้าเราขาดไขมันดีการ Burn Fat จะลดลง ซึ่งไขมันดีสามารถหาได้จาก ถั่ว อะโวคาโด น้ำมันมะกอกโปรตีน โปรตีนจะเป็นตัวทำให้เรารู้ว่าอิ่มท้องและอยู่ได้นานขึ้น ถ้าสมุติว่าเราทานอาหารตอน และทานอาหารตอนเที่ยง ช่วงเย็นจะรู้สึกหิวน้อยลง เพราะโปรตีนจะทำให้เราไม่ดื้ออินซูลินในช่วงบ่าย และจะโหยน้อยลงคาร์โบไฮเดรตที่ดี ตอนช่วงเช้าถ้าเราไม่ทานคาร์โบไฮเดรตที่ดี กล้ามเนื้อไม่สร้าง ตัวที่เผาผลาญและเก็บกล้ามเนื้อไม่มีเลยจะทำให้ Burn Fat ได้น้อยลงไฟเบอร์ การที่มีไฟเบอร์ถ่วงที่ท้องให้หนักขึ้น เขาจะเป็นตัวนำพาเอาน้ำตาลที่ไม่ดี ไขมันที่ไม่ดี ออกไปทางอุจจาระเวลาขับถ่าย4 หลักการก่อนที่จะ Burn Fatเซลล์เราต้องการใช้พลังงานให้มากขึ้น เพราะฉะนั้น วิตามินหรือสิ่งที่เสริมเค้าต้องทำให้เซลล์เหมือนถูกกระตุ้นแล้วใช้พลังงานมากขึ้น เช่นกลุ่มคาเฟอีนต้องถ่วงในกระเพาะเราอิ่มตัว ซึ่งสิ่งที่ช่วยถ่วงให้อิ่มก็คือพวกไฟเบอร์ เพราะฉะนั้นจะต้องทานผักเพิ่มขึ้นวันประมาณ 40 กรัม (ในจานข้าวต้องมีผักครึ่งหนึ่ง)ต้องมีตัวนำพาไขมันเข้าไปในเซลล์ที่ชื่อว่า Mitochondrion ซึ่งตัวที่นำพามาก็คือ L-carnitine ถ้าเราไม่ออกกำลังกาย การที่จะพาไขมันเข้าไปในเซลล์มันจะไม่ถูกพาเข้าไป เพราะฉะนั้น หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคุณหมอพูดว่า ถ้าทาน L-carnitine ให้ออกกำลังกายเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเมื่อ L-carnitine เข้ามาในเซลล์แล้ว เขาจะมีการช่วยให้ตัวพันธะของไขมันเหมือนกรรไกร ย่อยให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็จะเป็นการสลาย FAT ที่ดีการต้องการทำให้น้ำตาลเผาผลาญดียิ่งขึ้น แร่ธาตุที่สำคัญคือโครเมียม ซึ่งจะได้จากธัญพืช ข้าวกล้องไม่ขัดสี ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวโอ๊ต อีกหนึ่งอย่างก็คืออบเชย อบเชยจะเป็นตัวที่ทำให้เราสามารถลดภาวะการณ์ดื้ออินซูลิน หรือสามารถทำให้น้ำตาลที่เราทานเข้าไปสลายออกไปใช้มากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้สะสมเป็น FAT หรือ ไขมันวิตามินอะไรช่วงในเรื่องของการเผาผลาญวิตามิน D เป็นวิตามินที่ดีสมชื่อ ถ้าใครมีวิตามิน D ต่ำจะทำให้การ Burn Fat แย่ลง เพราะวิตามิน D จะทำให้กลไกล 4 อย่างด้านบนที่กล่าวมานั้น ทำงานได้เป็นอย่างดีวิตามิน B เป็นวิตามินที่หลายคนทานแล้วสดชื่นขึ้น ทานตอนเช้าแล้วอาจจะทำให้รู้สึกมีพลัง หนึ่งในข้อดีของวิตามิน B คือ ช่วยในเรื่องของการ Burn Fat ร่วมด้วยปริมาณในการกินวิตามินL-carnitine โดสโดยปกติจะเม็ดละ 500 มิลลิกรัม การกินจะอยู่ที่ 500 – 2,000 มิลกรัมแล้วแต่คน ถ้าคนที่ Burn ยากหน่อยก็อาจจะเพิ่มเป็น 2,000 มิลลิกรัมได้ โดยควรรับประทาน ครึ่งชั่วโมงก่อนออกกำลัง เพื่อให้ L-carnitine เข้าเซลล์แล้วไปตัดไขมันวิตามิน B ส่วนมากจะกระจายโดสอยู่ที่ 5-10 มิลลิกรัม สามารถทานเป็นวิตามิน B รวมก็ ได้ แต่ต้องระวังถ้ามีวิตามิน B6 เยอะอาจจะทำให้หิวมากยิ่งขึ้นวิตามิน D โดสจะอยู่ที่ 3,000 วิตามิน D3 โดสจะอยู่ที่ 3,000 – 5,000 IU ถ้าคนอยากรู้สึกเผาผลาญเร็ว หรือถ้าอยาก Boost ก่อนในช่วงแรก อาจจะ Overdose ได้ แต่ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์อบเชย 1 ช้อนชาต่อวันโครเมียม 200-600 ไมโครกรัมได้วิตามินกันไปแล้วก็อย่าลืมที่จะออกกำลังกายและดูแลเรื่องอาหารควบคู่กันไปด้วยน้า ฝากไว้นิดดดนึงการออกกำลังกายควรออก 30 นาที ขึ้นไป ถึงจะเกิดการ Burn Fatแต่ถ้าออกแค่ 15 นาที คุณจะน่องโต แทนที่จะ Burn Fat ออกได้ถ้าเดินต้องเดิน 7,499 ก้าว ถึงจะกลายเป็นการ Burn Fat ประมาณ 20 นาที

เลือกกินชีสให้เหมาะกับตัวเอง

24 ก.ค. 2023

เลือกกินชีสให้เหมาะกับตัวเอง

โอ้ยยย แค่พูดชื่อก็อยากกินแล้วค่าาาาา คนรักชีสอย่างเรา ๆ ถ้าเมนูไหนมีชีสต้องขอเพิ่มเท่านั้น!!! ถึงแม้จะรู้ว่ากินเยอะ อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ใครมันจะไปอดใจไหว่อ่าาาาา ฮือออ แต่ไม่เป็นไรทุกคน ในเมื่อมันหยุดกินไม่ได้ วันนี้กรีนเวฟแจกทริคในการเลือกกินชีส ชีสแบบไหนที่ควรกิน ชีสแบบไหนที่เหมาะกับเรา เวลากินชีสจะได้ไม่รู้สึกผิด ว่าแล้วตามไปดูกันดีกว่าประเภทของชีสชีสจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆDairy Product ที่ทำจากนมNon Dairy Product ไม่ได้ทำจากนมวัว ซึ่งจะเรียกว่า Vegan CheeseDairy Product ที่ทำจากนมวัวเอานมวัวทั้งหมดมาทำเป็นชีส โดยไม่มีการสกัดเอา Fat ออก ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นไขมันเยอะ เลยทำให้มี Saturated Fat หรือไขมันอิ่มตัวที่สูง และคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งจะไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคหัวใจ หรือว่าคนที่มีไขมันในเลือดสูงชีสที่เขียนว่า LOW FAT คือมี % ของ FAT หรือไขมันน้อยกว่าชีสอื่น ๆ ประมาณ 25% ซึ่งชีสที่มีเขียนว่า LOW FAT จะมีการสกัดเอา FAT ออกไปให้ 25%Non Dairy Product ที่ทำจากถั่ว มะพร้าวหรือเรียกอีกอย่างว่า Vegan Cheese รสชาติจะไม่ได้อร่อยเท่าชีสที่ทำจากนมวัว แต่มีประโยชน์มากกว่า เพราะชีสที่ทำจากนมวัวจะไม่มีไฟเบอร์ แต่ถ้าเป็นชีสที่ทำมาจากพืชหรือที่เราเรียกว่า Non Dairy จะมีไฟเบอร์เข้ามาเพิ่มขึ้นทำให้การขับถ่ายดี และก็ Low Sugar ควบคุมระดับน้ำตาลให้ลดลง ลดคอเลสเตอรอลได้ โซเดียมน้อยกว่า Texture จะไม่แข็งมาก เพราะไม่ได้ผ่านการบ่ม ส่วนใหญ่จะทำจากถั่ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนอยากกินชีสแต่ก็อยากดูแลสุขภาพ ออกแนว Plant basedการแบ่งชีสออกตาม Textureถ้าสังเกตชีสที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เราจะพบว่าจะมีทั้งแบบที่เป็นก้อน ๆ และแบบที่เป็นนุ่ม ๆ ซึ่งชีสที่แข็ง ๆ หน่อย มันจะเป็นชีสที่ผ่านการบ่ม จนกลายเป็นก้อนแข็ง ชีสประเภทที่เราพบเจอได้ ก็จะมีอย่างเช่นCheddar CheeseParmesan CheeseMozzarella CheeseSwiss Cheeseส่วนชีสอีกแบบคือชีสที่จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม หรือ Fresh Cheese ซึ่งชีสประเภทนี้จะไม่ได้ผ่านการบ่ม เช่นCottage cheeseFeta cheeseRicotta cheeseเลือกกิน Chesses ยังไงให้เหมาะกับตัวเองในความเป็นชีส มันจะมีวิตามินและแร่ธาตุในตัวอยู่แล้ว จะมีทั้ง ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามิน B12 อันนี้คือ Basic ที่ชีสทุกชนิดจะมี เพียงแต่ว่าอันไหนมีอะไรมากน้อย อันนั้นก็อาจจะต้องลงรายละเอียดอีกทีนึง แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องการกินชีสให้เหมาะสมกับตัวเอง อาจจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆกลุ่มที่ต้องการแคลเซียมสูง ก็จะให้กิน Cheddar Cheese เพราะว่า Cheddar Cheese 100 กรัมมีแคลเซียม 710 มิลลิกรัม (ซึ่งมีมากกว่านมวัวอีก) และมีวิตามิน D เหมาะกับคนที่ต้องการช่วยเรื่องกระดูกกลุ่มที่ต้องระวังเรื่องความเค็ม ก็คือคนที่มีปัญหาเรื่องไต หรือว่าความดันสูง ที่ต้องควบคุมในเรื่องของเกลือก็ต้องทานประเภท Swiss Cheese เพราะว่าใน 1 Oz. มันจะมีโซเดียมแค่ 53 มิลลิกรัม ต่างจากพวก Feta cheese เพราะใน Feta cheese 1 Oz. มีโซเดียม 323 มิลลิกรัม ถ้าคนเป็นโซเดียมสูงก็ให้เลือกเป็น Swiss Cheeseถ้าอยู่ในกลุ่มที่ต้องการคุมเรื่องน้ำหนัก แล้วยังอยากจะทานชีสก็ให้เลือก Cottage cheese เพราะว่า Cottage cheese เค้าทำจากนมที่พร่องมันเนย มีไขมันต่ำ แต่มีโปรตีนสูง และก็ไม่ผ่านการบ่มด้วย แคลอรี่ก็จะน้อยถ้าอยากดูแลเรื่องสมดุลลำไส้ ก็อาจจะต้องบอกเลยว่าในตัวชีสทำให้เรามี Probiotic ในร่างกายเยอะอยู่แล้ว ในชีสอย่าง Cheddar Cheese เขามีทั้ง lactobacillus acidophilus lactobacillus paracasei คือเป็นกลุ่มตระกูลแบคทีเรียตัวดีเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นสมดุลลำไส้เราต่อให้เรารู้แล้วว่าควรชีสอะไรให้เหมาะกับตัว แต่ก็อย่าลืมนะทุกคน ว่าควรกินแต่พอดีด้วย อย่ากินเยอะมากจนเกินไป เลือกที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะถ้าเลือกกินให้ดีก็มีประโยชน์ในตัวมันได้

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

28 เม.ย. 2024

LUCID DREAM ความฝันที่รู้ตัว

วันนี้เราจะมาพูดถึงทฤษฎีนึงที่ที่หลายคนอาจจะรู้จักนั่นก็คือ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)ต้องขอถามก่อนว่าทุกคนเคยจำความฝันตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ?เราขอเดาว่ามันอาจจะมีส่วนใหญ่ก็อาจจะพอจำได้แต่คงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือบางคนอาจจะจำไม่ได้เลย แต่ทุกคนรู้ไหมว่ามีผู้คนบางกลุ่มที่สามารถรู้ว่าตัวเองกำลังฝันหรือควบคุมตัวเองในความฝัน และเมื่อตื่นมาพวกเขาก็สามารถเล่าความฝันของตัวเองเกือบทั้งหมดและนั่นก็คือการฝันแบบ ลูซิดดรีม (Lucid Dream)ลูซิดดรีม (Lucid Dream) ความฝันที่รู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่และลูซิดดรีมก็ยังสามารถช่วยเราพัฒนาความคิดสร้างด้วยเพราะสามารถ ควบคุมหรือกำหนดเรื่องราวที่เราจะฝันได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงภาวะหลับลึกก็คือช่วง REM (Rapid eyes movement) และมักจะไม่ได้รู้ตัวตั้งแต่ต้น แต่จะมารู้ตัวในช่วงกลาง-ปลายของความฝัน โดยทฤษฎีนี้เกิดขึ้นโดยจิตแพทย์ชาวดัตช์ เฟร็ดเดอริก แวน อีเด็น (Frederik Van Eeden) ซึ่งเขาเป็นผู้ที่ศึกษาความฝันในลักษณะนี้เป็นคนแรก หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักจิตวิทยาให้ความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาดภาพยนตร์ดังอย่าง Inception ที่เอาไอเดียนี้ไปพัฒนาเป็นเรื่องราวอ้างอิงรูปภาพ : https://www.vecteezy.com/vector-art/11263251-man-counting-sheepและด้วยความที่เราสามารถควบคุมความฝันได้ออกแบบเหตุการณ์ต่างๆได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ขณะที่เราฝัน มีการใช้ ‘สมองซีกขวา’ มากขึ้น ซึ่งเป็นสมองส่วนความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ จากความฝัน ไปใช้แก้ปัญหาหรือนำไปใช้กับงานของตัวเองรวมถึงยังช่วยควบคุมอารมณ์ได้อีกด้วยเพราะช่วงเวลาขณะที่หลับ ถือว่าเป็นอะไรที่ควบคุมยากที่สุด ดังนั้นการที่เราสามารถมีสติได้ในขณะที่เราฝัน เราก็จะสามารถควบคุมจิตใจได้ถึงแม้จะเป็นช่วงที่เราโกรธหรือเสียใจจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้นอกจากนี้ ลูซิดดรีมยังช่วยขจัดความกลัวในจิตใจของเราได้อีกด้วย แน่นอนว่าทุกคนต้องมีความกลัวที่ซ่อนอยู่หรือเหตุการณ์ร้ายๆ ที่ฝังใจ แต่ในความฝัน เราสามารถควบคุมความกลัวและอันตรายเหล่านั้นได้ ทำให้ชีวิตจริงเรามีแนวโน้มที่จะกลัวสิ่งนั้นน้อยลงนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Lucid Dream เดนโฮล์ม แอสปาย (Denholm Aspy)เคยกล่าวไว้ว่า“บางคนอาจค้นพบพลังวิเศษหรือความสามารถพิเศษขณะที่กำลังฝัน พวกเขาสามารถต่อสู้หรือจัดการกับสิ่งที่มาทำ ร้ายได้ เช่น บินหนี หรือใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันร้ายนั้น”ความเสี่ยงของ Lucid DreamLucid Dream อาจไม่เหมาะกับหลาย ๆ คน เช่นกลุ่มผู้มีจิตเปราะบาง มีความผิดปกติของคลื่นสมอง มีอาการเห็นภาพหลอน (Schizophrenia) หรือหลงผิด (Delusions) อาจยิ่งทำให้ยากต่อการแยกแยะโลกแห่งความจริง และโลกแห่งความฝัน หรือสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องการนอน ที่ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับลึก นอนให้เต็มอิ่ม ยิ่งฝันให้น้อยยิ่งดี มุ่งเน้นการนอนระดับ N-REM (Non-rapid Eye Movement) ไม่ใช่ REM (Rapid Eye Movement)อ้างอิงรูปภาพ : https://www.freepik.com/free-vectorหากใครอยากลองทำนักวิจัยเขาก็มีวิธีมาให้ทดลองกันแต่ก็อย่าลืมเรื่องความเสี่ยงกันนะต้องดูเรื่องสุขภาพตัวเองกันด้วย1.นั่งสมาธิก่อนนอนซักประมาณ 20-30 นาที ก่อนนอน เพ่งจิตไปที่การหายใจ มีสติทุกลมหายใจ2.ลองจดบันทึกความฝัน เพื่อจดจำรายละเอียดความฝันในแต่ละครั้งของเรา3.ใช้เสียงเพลงมาขับกล่อมขณะหลับ โดยคลื่นความถี่ของเสียงเพลง มีส่วนในการทำให้คลื่นสมองเปลี่ยนไปได้ โดยเป็นเพลง เป็นจังหวะดนตรีที่เรียกว่า ‘binaural beats’ ความถี่ 4 – 8 Hz โดยควบคุมการหายใจให้สอคคล้องกับความถี่และนี่ก็คือ Lucid dream ความฝันที่รู้ตัว แต่ใดๆก็ตามถึงแม้เราจะสามารถควบคุมความฝันได้ด้วยตัวเองทุกคนอาจจะได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจแต่ก็อย่าลืมตระหนักว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงความฝันไม่ใช่ความจริง ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทางเราหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยให้ผู้อ่านทุกคนได้รับทฤษฎีความรู้ใหม่ๆแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อยที่มา : https://thematter.co/brief/goodsmorning/goodsmorning-1590107400/112552https://rabbitcare.com/blog/lifestyle/lucid-dream-in-different-context-benefit-and-how-tohttps://www.medicalnewstoday.com/articles/323077#definitionhttps://www.facebook.com/brandthink.me

เปิดมุมมอง LGBTQ+ Idol กับ พินเนอร์ STARDASH

06 ก.พ. 2024

เปิดมุมมอง LGBTQ+ Idol กับ พินเนอร์ STARDASH

ในปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “วงไอดอล” กันมาบ้างอยู่แล้วเป็นคำที่เราเห็นคุ้นชินถึงบุคคล หรือ กลุ่มคน ที่เก่งทั้งเต้น ร้อง มอบความสดใส และส่งต่อกำลังใจให้แก่ผู้ชมอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดีจะทั้ง ไอดอลชาย หรือไอดอลหญิง ก็เป็นที่โด่งดังมากในยุคสมัยนี้ แล้วไอดอล LGBTQ+ ละเราเคยรู้จักกันหรือเปล่า?“ Idol ” หรือ ไอดอล เป็นคำสั้น ๆ แต่กลับมีความหมายแฝงมากมาย หากอ้างอิงตามหลักพจนานุกรมของไทยเรานั้น แปลได้ว่า “คนหรือสิ่งที่ได้รับความชื่นชมหรือคลั่งไคล้อย่างมาก” หรือ “รูปเคารพ เทวรูป” แต่หากพูดกันตามความเข้าใจของทุกท่านนั้น คงจะหมายถึง บุคคลแบบอย่าง หรือ บุคคลที่จะมอบความ สดใส และเป็นแรงบัลดาลใจให้กับใครหลายๆคนวันนี้ Green Wave จะพาทุกท่านมารู้จักกับ คุณพิณ พินเนอร์ เรณุกา ปัญญาคุ้มวงศ์ หรือ พินเนอร์ ‘STARDASH’(สตาร์แดช) ไอดอล LGBTQ+ คนแรกของประเทศไทย ที่จะทำให้เราได้เห็นถึงมุมมองที่หลากหลายของคำว่า “ไอดอล”จุดเริ่มต้นการเป็น Idol“ตัวพินเนอร์เอง เคยได้รับโอกาศจากผู้ใหญ่เป็นไอดอลอยู่ในค่ายๆนึง แต่ในตอนนั้นตัวพินเนอร์เอง ด้วยความที่อายุยังน้อย และการควบคุมอารมณ์ กับปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่ทำให้ พินเนอร์เองไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่นัก สุดท้ายก็เลยไม่ได้ไปต่อ ทำให้พินเนอร์มีปมในใจว่า ตัวเราเองนั้นยังไม่เคยขึ้นเวทีเลยสักครั้ง แต่ด้วยความฝันและความชอบที่อยากเป็นไอดอล พินเนอร์จึงได้ตัดสินใจทำวงไอดอลขึ้นมา ทำให้เกิดวง STARDASH ขึ้นมา และมีเพลงแรกออกมาในปี 2019 ค่ะ”ที่มาของชื่อ ‘STARDASH’(สตาร์แดช)“คำว่า STARDASH (สตาร์แดช) นะคะ มาจากคำว่า Stardust (สตาร์ดัช) ที่แปลว่า ละอองดาว เปรียบกับคนที่ไล่ตามความฝัน แต่แตกสลายไม่รู้จนกี่ครั้ง แต่ไม่อยากหยุดฝัน พุ่ง DASH ตัวเองออกไปข้างหน้าเพื่อไล่ตามความฝันต่อไป จาก STARDUST จึงกลายมาเป็น STARDASH ค่ะ”Idol ในมุมมองของคุณพินเนอร์นั้นคืออะไร“คำว่าไอดอล แปลตรงตัวสำหรับคนไทยเลย นั้นคือ บุคคลตัวอย่างค่ะ แต่สำหรับตัวพิณเองนั้นชอบดูการ์ตูนค่ะ เป็นการ์ตูนแนวไอดอล อย่าง Love Live! School Idol ทำให้เรามองว่า ไอดอล คือเหล่าผู้คนที่เปล่งประกาย ที่จะมอบแรงบัลดาลใจ ความฝันให้แก่ผู้อื่นได้ เราจึงอยากเป็นคนหนึ่ง ที่เป็นแรงบัลดาลใจ เป็นความสุข เป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะ และสร้างพลังบวกให้กับพวกเขาได้ค่ะ”Idol กับ LGBTQ+“ในมุมมองของพิณเอง มองว่า LGBTQ+ เป็นอะไรที่ปกติมาก ก็เหมือนมนุษย์อย่างเราๆที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะทั้ง ความเชื่อ ทั้งนิสัย เพศก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกัน พิณจึงมองว่าจะ หญิง หรือ ชาย หรือ LGBTQ+ เองนั้นไม่มีความแตกต่าง หรือต้องแบ่งแยกกันเลยค่ะ เหมือนกับความเป็นไอดอลที่แต่ละวงก็จะมีความชอบ นิสัย แนวเพลงที่แตกต่างกัน ทำให้พิณมองว่า ไม่ว่าคุณจะเป็น ชาย หญิง กระเทย LGBTQ+ หรือไอดอล หรือเพศใด ๆ ก็ตาม ทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือน ๆ กัน มีความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง เสียใจ ดีใจ ขอให้เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ให้เกียรติกันและกันไม่สร้างความเดือดร้อนก็เพียงพอค่ะพิณเป็นไอดอลคนแรกๆเป็น LGBTQ+ ในไทย อย่างญี่ปุ่นที่เป็นต้นกำเนิดไอดอลนั้น วงLGBTQ+ ก็มีมานานแล้วค่ะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พิณก็ผ่านอะไรมาหลาย ๆ อย่างเลย แต่รู้สึกดีใจที่ได้ทำตามความฝัน ไม่อยากให้ LGBTQ+ ในไทยมองว่า เป้าหมายของเรามีแค่ เวทีนางงาม เพียงอย่างเดียว อยากให้เห็นว่า เราเป็นได้ทุกอย่างตามที่ความฝันเราอยากจะเป็นไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน หรือเป็นไอดอลเองก็ตาม”รู้สึกอย่างไรหากมีคนเรียกเราว่าเป็น กะเทย ตุ๊ด สาวสอง“พิณมองว่า มันเป็นอัตลักษณ์ทางเพศของเราค่ะ จะเรียกว่ากะเทย ตุ๊ด สาวสอง หรืออะไรก็ตาม พิณไม่ได้มองว่า คำเหล่านี้มันกลายเป็นคำดูถูกหรือเหยียดหยาม เราจะเป็นผู้ชายแต่งหญิง กะเทยแต่งหญิง ถ้ามันเป็นความชอบของตัวเราเอง ก็ให้เกียติตัวเองให้เกียติผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนก็เพียงพอค่ะ”ความเป็นไอดอล ในแบบของตนเอง“ตัวพิณเอง ก็ไม่ถือว่าเป็นไอดอลตรงตามฉบับที่คนอื่น ๆ คุ้นเคยเท่าไหร่ พิณค่อนข้างจะมีความพูดตรง ๆ หรือบางครั้งก็พูดแรงออกไปบ้าง ภาพลักษณ์เลยอาจจะดูเป็นไอดอลแรง ๆ ซึ้งพิณเองก็ยอมรับว่าในบางครั้งมันก็ไม่ดีหรอก แต่แฟนคลับหลาย ๆ คนก็เข้าใจเราค่ะ เราอยากให้เห็นถึงความหลากหลายของไอดอลเหมือนกัน ว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ และความรู้สึกเหมือนกันให้เห็นถึงความหลากหลายของการเป็นไอดอลค่ะ ไม่ได้ติดภาพจำว่าไอดอลต้องเป็น บุคคลที่น่ารักสดใสเพียงอย่างเดียว พิณเองก็มีกลุ่มคนที่ไม่ชอบพิณ โดนพิมพ์คอมเม้นต์แย่ๆใส่อยู่บ่อยครั้ง แต่พิณมองว่า หากเค้าไม่ให้เกียรติเรา เราคงทำอะไรไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ไม่ชอบเรา ทำยังไงเค้าก็ไม่ชอบเราอยู่ดี อยากให้เราใส่ใจตัวเองรักตัวเอง ลงมือทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนดีกว่าค่ะ สร้างความสุข สร้างแรงบัลดาลใจ สร้างความฝัน ให้กับผู้อื่นดีกว่า อย่าเอาคำเหล่านั้นมาด้อยค่าตัวเองเลย ภูมิใจกับความเป็นตัวเองไว้ดีกว่า เพราะก็ไม่รู้ว่า ‘เราจะอยู่กับการไม่ภูมิใจในตัวเองไปทำไม’ ”รูปร่างหน้าตาไม่ดี จะมาเป็นไอดอล ?“พิณ มองว่าทุกคนสามารถดูดีได้สามารถ สวย หล่อ เท่ น่ารักได้หมดค่ะ แต่การที่เราจะดูดี ก็ขอให้เรานั้นดูดีเพื่อตัวเราเอง สวยเพื่อตัวเราเอง อย่าพยายามสวยเพื่อให้ผู้อื่นมองว่าสวยแต่ตัวเรานั้นเหนื่อยหรือทุกข์ใจ เพราะพิณ เชื่อว่า ความสวยที่เรามอบให้แก่ตนเองนั้น มันหมายถึง การที่เรารักตัวเอง เพราะเรารักตัวเองจึงได้ดูแลตัวเอง อยากให้ทุกคนทำอะไรเพื่อตัวเอง เพราะทุกคนมีชีวิตนี้แค่ครั้งเดียว อายุ 26 ครั้งเดียว 27 ครั้งเดียว เลยอยากให้ทุกคนกล้าที่จะทำอะไรเพื่อตนเอง รักตัวเองให้มากๆ และมีความกล้าที่จะทำความฝันค่ะ”หากในอนาคตมี มีวง ไอดอล LGBTQ+ เกิดขึ้นมาในประเทศไทยมากขึ้น“พิณอยากให้ทุกคนเปิดรับให้มากขึ้นค่ะ ไม่อยากให้ไอดอล จำกัดอยู่แค่เพศใดเพศหนึ่ง และก็อยากฝากว่า อย่าล้อเล่นกับความฝันของคนอื่น ไม่ว่าจะจากทางบริษัทเอง ไม่อยากให้เปิดรับเพียงเพราะเอากระแสหรือด้านธุรกิจเพียงอย่างเดียว เพราะอย่าลืมว่า ไอดอลก็เป็นมนุษย์ และพวกเขามีความฝัน ความเสียใจ ความดีใจ ความผิดหวัง เหมือนอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ หรือทั้งจากผู้ที่อยากเป็นไอดอลเองก็ตาม ไม่อยากให้ทำเล่นๆ เพราะเมื่อได้รับเลือกแล้ว ก็จะมีคนที่ไม่ได้รับเลือกด้วยเช่นกัน อยากให้เต็มที่และเต็มใจที่จะเป็นไอดอล ผู้ที่มอบ แรงบัลดาลใจ ความฝัน ความสุข ความสนุก และรอยยิ้มให้แก่ผู้อื่นค่ะ”“ขอฝากวง STARDASH วงไอดอลที่จะมอบแรงบัลดาลใจ ความสุข ความสนุก ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่ทุกคนด้วยนะคะ เร็วๆนี้ภายในปี 2024 ก็จะมีเพลงใหม่ๆออกมากันด้วย ฝากติดตามกันด้วยนะคะ”IG : pinnerz.stardashFackbook : PinNerz STARDASHTIKTOK : @pinnerz_stardashAuthor : MIKA_MIKAZUKI สิริชัย จันทร์เจริญ

album

0
0.8
1