ปัญหาสุขภาพหัวใจ ที่คุณไม่รู้

HEALTHY LIFESTYLE

ปัญหาสุขภาพหัวใจ ที่คุณไม่รู้

27 ม.ค. 2022

ปัญหาสุขภาพหัวใจ ที่คุณไม่รู้

หลายคนมีปัญหาใจสั่น อ่อนเพลียง่าย นอนไม่หลับ หรือว่าเราเครียดนะ แต่ก็ไม่ได้เครียดอะไร แสดงว่าหัวใจคุณมีปัญหา แต่ไปตรวจก็ไม่ได้เจออะไร?


แพทย์แผนจีนรวบรวม กลุ่มอาการของหัวใจมาให้ เผื่อใครมีอาการ ไปดูกันเลยค่ะ


5 อาการ หัวใจไม่มีแรง (ชีพร่อง)

1.อ่อนเพลียง่าย

2.ใจสั่นบ่อย

3.หายใจไม่สุด

4.ปวดบริเวณหน้าอก

5.เหงื่อออกง่าย

5 อาการนี้ คือ หัวใจไม่มีแรง มักจะมีอาการ อ่อนเพลียง่าย หายใจไม่สุด ใจสั่นบ่อย ปวดตึงบริเวณหน้าอก และมีเหงื่อออกง่าย

แพทย์แผนจีนแนะนำ โสม โสมอเมริกา แปะฮัก เม็ดบัว พุทราจีน จะช่วยบำรุงหัวใจ ให้หัวใจกลับมาแข็งแรงได้ค่ะ


5 อาการ หัวใจหยางพร่อง

1.เหงื่อออกง่าย (กลางวัน)

2.ขี้หนาว มือเท้าเย็น

3.อ่อนเพลีย

4.ปวดบริเวณหน้าอก

5.ขาบวมน้ำ

ใครที่มีอาการมือเท้าเย็น เหงือออกง่าย ชอบอ่อนเพลียเสมอๆ แถมยังมีอาการ เท้าชอบบวม ๆ นิด ๆ นั่นคืออาการของหัวใจหยางพร่อง(ไม่มีไฟ) ธาตุไฟในหัวใจน้อย จนทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ทำให้เกิดน้ำคลั่งที่เท้า มือเท้าเย็นง่าย

แพทย์แผนจีนแนะนำสำหรับคนที่หัวใจหยางพร่อง สามารถทาน สมุนไพรจีน โสมคน โสมเกาหลี อบเชย ขิงแก่ ที่ช่วยบำรุงพลังหยางในหัวใจได้


6 อาการ หัวใจอินพร่อง

1.เหงื่อออกง่าย (กลางคืน)

2.นอนไม่หลับ

3.อ่อนเพลียง่าย

4.ปวดบริเวณหน้าอก

5.ใจสั่นบ่อย

6.คอแห้ง ปากแห้ง

6 อาการนี้ คุณอาจเป็นหัวใจไม่แข็งแรง ตรวจแล้วไม่เจออะไร

คุณอาจจะมีอาการหัวใจอินพร่อง เหงือออกง่ายในตอนกลางคืน นอนไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่าย ใจสั่นบ่อย อ่อนเพลียง่าย ปากแห้งคอแห้ง

บางครั้งปวดบริเวณกลางอก หลายคนมีอาการแบบนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องไทรอยด์ โรคหัวใจ วัณโรค และโลหิตจาง

แพทย์แผนจีนแนะนำ เนื้อเป็ด หนังหมู ไข่ไก่ สาลี เก๋ากี้ เห็ดหูหนูขาว นม รังนก ที่ช่วยบำรุงอิน ให้หัวใจได้ลดความร้อน บำรุงสารน้ำ ช่วยให้หัวใจแข็งแรงค่ะ


6 อาการ หัวใจขาดเลือด

1.นอนหลับไม่สนิท

2.เวียนศีรษะบ่อย

3.อ่อนเพลียง่าย

4.ขี้ลืม

5.ริมฝีปากซีด

6.ตื่นง่าย

อาการแบบนี้ อาจจะเป็นได้ว่า หัวใจขาดเลือด หัวใจขาดเลือดหมายถึง เลือดส่งไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดเข้าไปทั่วร่างกาย

อาการของหัวใจขาดเลือดในแพทย์แผนจีน มักจะนอนหลับไม่สนิท เวียนศีรษะบ่อย ๆ อ่อนเพลียง่าย ปวดบริเวณกลางอก บางคนริมฝีปากซีด ขี้ลืม และชอบตื่นง่าย

แพทย์แผนจีนแนะนำ พุทราจีน 10 ลูก เห็ดหูหนูดำ 30 กรัม น้ำตาลกรวด เล็กน้อย ต้มรวมกัน ทานเป็นประจำ จะช่วยบำรุงเลือด ขับเลือดลม ทำให้เลือดไหลเวียนดีค่ะ


6 อาการ หัวใจมีเลือดคั่ง

1.ปวดบริเวณหน้าอก

2.เจ็บเหมือนเข็มแทง

3.อ่อนเพลียง่าย

4.ใจสั่น

5.มือเท้าเย็น

6.ชอบปวดแขนซ้าย

ภาวะเลือดคั่งในหัวใจ 6 อาการนี้ คุณมีหรือไม่ ส่วนใหญ่คนที่มีอาการพวกนี้มักจะเป็นโรคหัวใจ 

แพทย์แผนจีนแนะนำ ดอกคําฝอย พุทราจีนแดง วันละ 10 เม็ด เมล็ดลำไย 10 เม็ด จะช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ถ้าหากมีอาการหนัก

แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ


ปัญหาหัวใจให้คุณหมอตี้ดูแล แต่ถ้าปัญหาความรักปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอดได้ทุกวันศุกร์ใน Club Friday ส่งเรื่องราวมาก่อนได้ที่ clubfriday@atimemedia.com หรือ Club Friday Fanpage นะคะ พี่อ้อยพี่ฉอดพร้อมดูแลค่ะ ^^


ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม


- Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music & Travel Lover -

related HEALTHY LIFESTYLE

สวยจากภายใน ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ

01 พ.ย. 2023

สวยจากภายใน ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ

เราทุกคนอยากดูเด็ก ชอบให้คนอื่นทักยิ่งมองยิ่งสวยนะทำอะไรมา? ทำอย่างไรให้สวยแบบธรรมชาติที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี ฉะนั้นเราควรรู้ว่าอวัยวะภายในของเราทำงานอย่างไร มันทำให้เราสวยได้ยังไง สวยอยู่แล้วต้องบำรุงแบบไหน ตรงจุดไหม แล้วความสวยของเรานั้นมันเกี่ยวอะไรกับอวัยวะของเรา วันนี้แพทย์แผนจีน มีคำตอบค่ะ1. ใบหน้างามด้วยหัวใจที่สดใส หน้าที่ของหัวใจจะเกี่ยวข้องกับการสูบฉีดเลือดโดยตรง คือพลังของหัวใจนั้นจะผลักดันให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ใบหน้านั้นเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงมาก ถ้าหากระบบการทำงานของหัวใจไม่ดีจะแสดงออกมาในรูปสีบนใบหน้า เช่นพลังหัวใจแข็งแกร่งเลือดลมไหลเวียนดี ก็จะทำให้ใบหน้าผิวแดง ดูสดใส หากพลังของหัวใจไม่เพียงพอ เลือดลมไหลเวียนไม่ดี ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใสหัวใจพลังไม่พอ อาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น นอนไม่หลับ ใจสั่น ใจหวิว ฝันบ่อย ปัสสาวะเหลืองมาก แนะนำให้ทาน ลำใยแห้ง เมล็ดบัว อย่างละ30g ข้าวเหนียว 100g ต้มรวมกัน ทำเป็นโจ๊ก แล้วรับประทานบ่อยๆ จะช่วยในการบำรุงหัวใจ บำรุงเลือด ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ทำให้ผิวแดงดูสดใส2. สวยได้ถ้าตับไม่ร้อน ในแพทย์แผนจีนตับมีหน้าที่เก็บเลือด ช่วยในเรื่องการขับเคลื่อนของชี่(气机คือพลังของร่างกายที่ เคลื่อนที่ ขึ้น ลง เข้า ออก ในร่างกาย) รักษาสมดุลของอารมณ์ ใบหน้าของเราเลือดลมไหลเวียนดี จะทำให้ใบหน้าแดงเรืองๆ ดูมีชีวิตชีวา หากตับมีปัญหา การขับเคลื่อนของชี่หยุดชงักเลือดลมไม่เดินเลือดคลั่งอยู่บริเวณใบหน้า ทำให้หน้าดูหมองเขียว เป็นสาเหตุให้เกิดฝ้าที่ใบหน้าได้ เลือดในตับพร่องทำให้ใบหน้าดูซีดเหมือนขาดเลือด ผิวแลดูไม่ชุมชื้น ผิวไม่มีประกาย อาจจะมีอาการของตาแห้งง่าย มองวัตถุไม่ค่อยเห็นอาการที่เกี่ยวกับตับ เช่น อารมณ์หงุดหงิดง่าย ปวดด้านข้าง เรอบ่อย พายลมบ่อย ตาแห้ง แนะนำให้ทาน เห็ดหูหนูขาว ดอกเก๊กฮวย อย่างละ 10g ต้มน้ำรับประทานบ่อยๆ หรือใส่น้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหวาน จะสามารถช่วย รักษาตับบำรุงเลือดแก้ปวดหัวที่มาจากความร้อนในตับสูงทำให้ดวงตาสว่าง บำรุงผิว และยังรักษาฝ้าได้อีกด้วยค่ะ3. บำรุงม้ามทำให้ผิวสวย หน้าไม่เหลือง สิ่งที่เป็นคุณค่า สารอาหาร ต่างๆ ที่รับประทานและส่งไปทั่วร่างกาย ล้วนมาจากพลังม้ามทั้งสิ้นม้ามจะเป็นที่ผลิตพลังและเลือดให้กับร่างกายด้วย(ม้ามในหลักของแพทย์จีน)จะเห็นได้ว่าเมื่อเลือดลมไหลเวียนได้ดีแล้ว จะทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ความยืดหยุ่นของผิวจะดี ผิวไม่แห้งกร้านและไม่เหี่ยวง่าย ถ้าหากม้ามไม่แข็งแรง การส่งอาหารให้กับร่างกายก็จะช้าลง เลือดลมไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่อาจจะไปหล่อเลี้ยงผิวหนังบนใบหน้าได้อาการที่เกี่ยวข้องกับม้ามพร่อง เช่น หน้าดูซีดเหลือง ไม่มีชีวิตชีวา เหนื่อยง่าย อาหารไม่ย่อย มีเสียงดังในลำไส้บ่อยๆ แนะนำให้ทาน พุทราแดง วันละ 10 เม็ด เพราะพุทราแดง จะช่วยบำรุงม้ามบำรุงเลือดจะทำให้ผิวพรรณดูแดงสดใส4. บำรุงปอดหน่อย ผิวจะได้ไม่แห้งกร้าน หน้าที่ของปอดคือหายใจ แต่ในทางแพทย์แผนจีนปอดจะช่วยนำพลังชี่(พลังจากสารอาหาร น้ำ)ส่งลงล่างเพื่อให้ เลือดลม น้ำ สารอาหารต่างๆกระจายสู่ร่างกาย ถ้าหากปอดทำงานผิดปกติ จะทำให้ผิวหนังของเราแห้งง่าย กระด้าง ใบหน้าดูหมองหม่น และขาวซีดผิดปกติอาการที่ร่วมกับปอดเช่น หายใจสั่น ติดขัด ผิวหนังแห้ง ไอ บ่อย เป็นภูมิแพ้ แนะนำให้ทาน ดอกแปะฮะหรือดอกลินลี่(百合หาได้ตามร้านยาจีนทั่วไป) 15g เห็ดหูหนูขาว30g ใบเตย 2 ใบ น้ำตาลกรวด 1 ก้อน พอให้หวาน ต้มรวมกัน ทานแทนน้ำ สรรพคุณจะทำให้ร่างกายเย็นบำรุงปอดทำให้ผิวชุ่มชื้นขับเสมหะ แก้ไอได้5. ถั่วดำต้มบำรุงไต ตามหลักแพทย์จีนไตทำหน้าที่เก็บสารจิง(精คือ สารจำเป็นพื้นฐาน ช่วยพยุงร่างกายให้ดำรงชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ และยังหมายถึงสารจำเป็นต่อการสืบพันธุ์) ถ้าหากไตมีสารจิงเพียงพอ อวัยวะในร่างกายก็จะสมบูรณ์ไปด้วย เลือดลมก็จะไหลเวียนดี หน้าจะไม่แก่ง่าย ผมก็จะไม่ขาวเร็ว ฟันจะไม่ร่วงง่าย และไม่แก่ก่อนวัยถ้าหากไตพร่องสามารถทาน ข้าวเหนียวถั่วดำ เพราะ ข้าวเหนียว จะช่วยบำรุงเลือดลมช่วยกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนดีขึ้น ถั่วดำมีฤทธิ์ช่วยบำรุงไตเสริมหลังอินในไต ในกะทิจะมีไขมันดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และใบหน้าของคุณได้ค่ะ หลายคนที่มองตัวเองแล้วรู้สึกใบหน้าดูแล้วไม่เปล่งประกาย ไม่บริ้ง รู้สึกว่าตัวเองหน้าแก่ ขาวซีด หรือใบหน้าคล้ำลง ผิวหนังไม่รื่นเรียบเหมือนสมัยก่อน ใบหน้ามีทั้งฝ้าทั้งกระ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วมาจากอวัยวะต่างในร่างกายที่ขาดสมดุลทั้งสิ้น ฉะนั้นถ้าอยากจะสวย ต้องเพิ่มพลังให้กับอวัยวะนั้นๆ จะได้สวยโดยที่ไม่ต้องพึ่งมีดหมอนะคะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

ไม่อยากเป็นเกาต์ ให้เค้าดูแลสิ

01 มี.ค. 2022

ไม่อยากเป็นเกาต์ ให้เค้าดูแลสิ

โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดจากผลึกของ Monosodium Urate Monohydrate ตกตะกอนในข้อ ซึ่งมีผลมาจากกรดยูริก ซึ่งเป็นผลผลิตของกระบวนการเมตาบอลิสซึ่มของสารพิวรีน (Purene metabolism) ฟังแล้วอาจจะงง แต่ถ้า พิวรีนสูงมากจนตกตะกอนเป็นผลึกของยูเรทสะสมตามข้อต่อเนื้อเยื่อ รอบๆ ข้อและไต ทำให้พบผลึกนี้ในเม็ดเลือดขาวของน้ำไขข้อจากการเจาะข้อที่กำลังอักเสบได้เลยนะคะโรคเกาต์เป็นโรคปวดข้อเรื้อรังชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่จะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงส่วนมากพบในผู้ชายอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป เพราะผู้ชาย ชอบกินเหล้า กินเบียร์ จริงๆ แล้วการขับยูริกในผู้หญิงจะดีกว่าผู้ชายส่วนผู้หญิงพบได้น้อย ถ้าพบมักจะเป็นหลังวัยหมดประจำเดือนค่ะปวดเกาต์ ปวดแรกๆมักจะเป็นเพียงข้อเดียว ข้อที่พบส่วนมาก จะเป็นนิ้วหัวแม่เท้า ส่วนข้อเท้า ข้อเข่า ก็อาจพบในผู้ป่วยบางราย ข้อจะบวมและเจ็บมากจนเดินไม่ไหว ผิวหนังในบริเวณนั้นจะตึง เอาหลังมือไปวัดจะร้อนและแดง ขณะที่เดินอาการ เริ่มทุเลา ผิวหนังบริเวณนั้นจะลอกและคันได้ผู้ป่วยมักเริ่มมีอาการปวดในช่วงตอนกลางคืน และมักจะเป็นหลังดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ไตขับกรดยูริกได้น้อยลง หรือ หลังกินเลี้ยง โต๊ะจีนมื้ออาหารที่กินมากกว่าปกติ หรือ เดินสะดุด บางครั้งอาจมีอาการขณะมีภาวะความเครียดทางจิตใจก็อาจจะทำให้ปวดได้ค่ะถ้าปวดเกาต์ข้อที่ปวดจะมีลักษณะ บวม แดง ร้อน อาจมีไข้ร่วมด้วย บางรายอาจมีตุ่มขึ้นใสๆ หรือมีน้ำไหลออกมา ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาจะทำให้เกิดภาวะข้อพิการ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะแทรกซ้อนตามมาได้และเป็นโรคไตในที่สุดค่ะนอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วยโรคเกาต์มักมีโอกาสเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และภาวะหลอดเลือดแดงแข็งมากกว่าคนปกติ และหากไม่ได้ควบคุมโรคเหล่านี้ ในที่สุดก็อาจกลายเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมองตีบและไตวายได้นะคะ1. อาการปวดจาก ลม-ชื้น-ร้อนอาการอักเสบเฉียบพลัน มักเกิดเวลากลางคืนมีไข้ร่วม กระหายน้ำ แน่นหน้าอกปวดหัว เหงื่อออก ปัสสาวะเข้ม ท้องผูก- อาการโรคเกาต์ตามกลุ่มอาการลมร้อนชื้น ทานยาสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณ แก้ปวด ขับร้อน ขับชื้น สลายลมร้อน2. อาการปวดจาก ลม-เย็น-ชื้น ข้อบวม อักเสบ เคลื่อนไหวข้อลำบาก มีก้อน Tophiถ้าลมเยอะตำแหน่งข้อที่อักเสบจะเปลี่ยน ถ้าความเย็นมาก จะปวด อักเสบมากและเป็นเฉพาะบางที่ ถ้าความชื้นมาก ข้อจะหนัก ไม่เปลี่ยนตำแหน่ง ร่วมกับอาการชาร่วมด้วย- อาการตามกลุ่มลมเย็นชื้น และม้ามพร่อง ทานยาสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณ แก้ปวด สลายลมเย็น ขับชื้น อุ่นเส้นลมปราณ บำรุงม้าม3. อาการปวดจากเสมหะอุดตันเป็นระยะข้ออักเสบเรื้อรัง ข้อผิดรูป มีก้อน Tophi มากจนทะลุออกมา ผิวหนังเปลี่ยนสีลิ้นซีดและใหญ่หรือเป็นสีม่วงคล้ำ มีตำรับยาสมุนไพรจีนต่างๆ หลายตำรับสำหรับอาการปวดบวมแต่ละชนิด- อาการโรคเกาต์ตามกลุ่มอาการเสมหะอุดตัน ทำการฝังเข็มตามจุดเส้นลมปราณที่มีสรรพคุณ แก้ปวด สลาย และขับเสมหะฝังเข็มตามกลุ่มอาการ ทำการฝังเข็มปรับสมดุลร่างกายตามกลุ่มอาการต่างๆ ลดเสมหะ ขับลม ลดร้อน หรือลดเย็น ขึ้นอยู่กับหัตถการของแพทย์แต่ละท่านถ้ารู้ว่าเป็นเก๊าต์หรือยูริกสูง ควรปฏิบัติตัวยังไง เรามีคำแนะนำจากแพทย์แผนจีนมาฝากค่ะ1. ควรดื่มน้ำสะอาดให้ปริมาณเพียงพอ เพื่อป้องกันนิ่วในไต2. กรณีอ้วน ควรลดน้ำหนักลงทีละน้อย ไม่ควรลดแบบหักโหมฮวบฮาบ เพราะอาจทำให้มีการสลายตัวของเซลล์รวดเร็วเกินไป และมีการสร้างกรดยูริก ทำให้ข้ออักเสบกำเริบได้ค่ะ3. ควรงดแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์4. ควรระวังอย่าให้ข้อกระดูกได้รับบาดเจ็บ5. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่ปลา ปลาซาร์ดีน หอย กะปิ อาหารที่มียีสต์ และยอดผักชนิดต่างๆสมุนไพรที่ช่วยลดการเกิดเก๊าต์1.ลูกเดือยสรรพคุณของลูกเดือยนั่นก็คือ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน ขับความชื้นบำรุงสุขภาพ บำรุงไต ม้าม บำรุงเลือดลม อีกทั้งยังบรรเทาอาการโรคเก๊าต์ จากความร้อนชื้น ได้อีกด้วย วิธีใช้ ต้มเป็นน้ำ กินได้ทั้งเนื้อและน้ำค่ะ2.เห็ดหลินจือมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูการทำงานของไต และลดการอักเสบของไต เมื่อไตทำงานดีขึ้นทำให้ไตสามารถขับกรดยูริคออกจากร่างกายได้มากขึ้น ยิ่งควบคุมอาหารที่มีสารพิวรีนด้วยแล้ว ยิ่งทำให้บรรเทาอาการได้ดียิ่งขึ้น ชงเป็นชาก็ได้นะคะ3.ขมิ้นชันจัดเป็นสมุนไพรประจำบ้านสรรพคุณครอบจักรวาล ซึ่งขมิ้นชันช่วยลดอาการอักเสบ ลดอาการปวดข้อ ทำให้อาการปวดข้อลดลง เป็นผลดีต่อคนเป็นเกาต์ วิธีใช้ ใช้ทานเป็นอาหาร หรือทานสด4.ชาตะไคร้ใบเตยนำตะไคร้ 4 - 5 ต้น ใบเตย 2 - 3 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด นำไปต้มในน้ำ ปิดฝาประมาณ 30 นาที ดื่มแทนน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ ช่วยล้างกรดยูริคในกระแสเลือด แต่การทานสมุนไพรนี้มีผลให้ปัสสาวะบ่อยนะคะ“ไม่อยากเป็นเกาต์ ให้เค้าดูแล” แต่ถ้าไม่มีใครเทคแคร์ เราก็ต้องดูแลตัวเองนะคะทุกคน ด้วยความปรารถนาดีจาก Green Wave ค่ะ ^^ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดีดีจากคุณหมอตี้ค่ะ Facebook : ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็มCollector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

เช็คด่วน! พฤติกรรมเสี่ยงโรคร้ายทำลายสุขภาพวัยทำงาน

18 ม.ค. 2024

เช็คด่วน! พฤติกรรมเสี่ยงโรคร้ายทำลายสุขภาพวัยทำงาน

ในชีวิตของการทำงานผู้คนมักเร่งรีบ แข่งขันกับเวลาอยู่เสมอ เลยอาจจะมักทำพฤติกรรมที่ส่งผลร้ายจนเป็นเรื่องปกติ และเผลอละเลยสุขภาพของตนเองไป1. นั่งท่าเดิมนานเกินไปโรคออฟฟิศซินโดรมเป็นโรคที่ชาวออฟฟิศหลายคนรู้จักกัน เพราะเกิดจากการนั่งทำงานตลอดวันแบบไม่ค่อยได้เปลี่ยนท่าทาง ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึง ก่อให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบจนมีอาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ปวดหลัง ไหล่ คอ และบ่า รวมถึงการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ส่งผลให้ปวดตา ปวดกระบอกตา และเสี่ยงโรคไมเกรนได้ด้วยเช่นกัน2. นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอคนส่วนใหญ่มักคิดว่าการนอนดึกมักไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และไม่ทราบถึงภัยอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพหลายคนอาจคิดว่านอนดึก เดี๋ยวค่อยตื่นสายก็ได้ แต่พฤติกรรมแบบนี้จะส่งผลให้นาฬิกาชีวิตพังหรือร่างกายทำงานไม่เป็นระบบ เพราะอวัยวะในแต่ละส่วนของร่างกายมีนาฬิกาเป็นของตัวเอง ฮอร์โมนในร่างกายอีกหลายชนิดหลั่งเป็นเวลา ส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญคือ การนอน เนื่องจากร่างกายต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ที่ซึกหรอ รวมไปถึงฟื้นฟูร่างกายให้พร้อม การที่นอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอนั้น จะทำให้มีปัญหาในระยะยาวได้ เช่น นอนตื่นมาแล้วไม่สดชื่น สมาธิสั้น รวมถึงเสี่ยงต่อโรคร้ายอีกหลายโรค3. อดอาหารเช้า/ทานอาหารไม่ตรงเวลาเพื่อที่จะได้เข้างานตรงเวลา หลายคนเลยมองข้ามการทานอาหารเช้าไป หรือว่าทำงานจนลืมเวลาอาหาร ทานไม่ตรงเวลา หรือกระทั่งอดมื้อนั้นๆไปเลย พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะอาหารอักเสบ โรคกรดไหลย้อน โรคลำไส้แปรปรวน และโรคท้องผูกเรื้อรังได้4. ทานอาหารไม่มีประโยชน์ชีวิตประจำวันที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา คนส่วนใหญ่มักบริโภคอาหารรสจัด ของมัน ของทอด น้ำอัดลม อาหารJunk Food หรืออาหารสำเร็จรูปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือการทำงานจนดึกดื่นแล้วค่อยมากินข้าวทีเดียวก่อนนอน พฤติกรรมแบบนี้ทำให้มีความเสี่ยงที่เกิดโรคตามมามากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคตับ โรคอาหารไม่ย่อย และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากอาหารประเภทนี้มักจะมีไขมันและคอเลสเตอรอลในอัตราที่สูงมาก รวมไปถึงปริมาณน้ำตาลและโซเดียมที่สูงกว่าอาหารทั่วไป5. ดื่มเหล้า สูบบุหรี่การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสังสรรค์กับเพื่อนหลังเลิกงาน ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสุขและความสัมพันธ์ที่ดี แต่การสังสรรค์ที่มากจนเกินไป อาจเกิดภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษและทำให้ร่างกายพังได้ รวมถึงส่งผลให้พักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะทำให้เสี่ยงต่อโรคตับแข็ง มะเร็งตับ หรือโรคหัวใจได้ นอกจากนี้บางคนยังนิยมสูบบุหรี่ระหว่างการทำงานด้วย ทำให้เสี่ยงต่อการโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคต6. กลั้นปัสสาวะขณะทำงาน ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำการนั่งเป็นเวลานานและไม่หยุดพัก นอกจากจะเสี่ยงในเรื่องของออฟฟิศซินโดรมแล้ว อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของกระเพาะปัสสาวะอีกด้วย เนื่องจากการนั่งทำงานจนไม่ลุกไปไหนแม้แต่การเข้าห้องน้ำและกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อโรคในปัสสาวะเจริญเติบโตได้ดี เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและกรวยไตอักเสบขอบคุณข้อมูลจาก:https://th.jobsdb.com/th/career-advice/article/7-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9Ehttps://www.bangkokhospital.com/content/7-popular-diseases-that-threaten-workersAuthor : สามสิบสิงหา

เติมความหวาน กับ 5 ร้านโกโก้เข้มข้น

18 ก.ค. 2022

เติมความหวาน กับ 5 ร้านโกโก้เข้มข้น

“ความหวาน ในใจฉันเหมือนมันต่ำไป” ไปเติมกันหน่อยดีกว่าค่ะ วันนี้กรีนเวฟมีร้านโกโก้มาให้ทุกคนเลือกไปเติมความหวานกัน ขอบอกนะคะว่าโกโก้นอกจากเป็นเครื่องดื่มและขนมที่แสนอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มาก ๆ เพราะมีสารที่มีประโยชน์เต็มไปหมดเลยค่ะ ช่วยให้คลายเครียด และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงด้วย แต่ละร้านที่กรีนเวฟเลือกมาฝากขอบอกว่าคับแก้วมากๆมาค่ะ ไปเริ่มกันที่ร้านแรกกันเลย1. Butter UP Cafeคาเฟ่ขนมหวาน กาแฟ และเครื่องดื่มในบรรยากาศแสนอบอุ่น ย่านเมืองทองธานี มีเมนูโกโก้เข้มข้น พร้อมขนมที่คนรักช็อคโกแลตจะต้องหลงรัก กับ Salted caramel chocolate tart ทาร์ตช็อคโกแลต แป้งโฮมเมด บางกรอบ สอดไส้ด้วยซอลท์คาราเมล และช็อคโกแลตกานาช ทานคู่กับโกโก้ ฟินมากค่ะที่อยู่ : ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 29 เข้ามา 100 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงสามแยกเวลาเปิด – ปิด : 09:00 - 19:00 น. ปิดวันพุธโทรศัพท์ : 099-4247996ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/butterupcafe/2. Under Black Coffeeคาเฟ่สไตล์เท่ๆ กับโกโก้เข้มๆ ที่ทางร้านนำมากจากจังหวัดเชียงราย จะทำให้คุณได้พบกับช็อกโกแลตไทย ที่มีคุณภาพ และพบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ กับรสชาติไปทาง ผลไม้สด ดอกไม้ ไวน์และมีถั่วเล็กน้อย ทำให้เครื่องดื่มออกมาสดชื่น ไปลองชิมกันได้นะคะมี 3 สาขาค่ะ ทาวน์อินทาวน์, ลาดพร้าว, เกษตร-เสนาที่อยู่ : ทาวน์อินทาวน์, ลาดพร้าว, เกษตร-เสนาเวลาเปิด – ปิด : 07.00-19.00 น.โทรศัพท์ : ทาวน์อินทาวน์ 093-5424655, ลาดพร้าว 101 063-5544991,เกษตร-เสนา 095-4466224ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/UnderBlackCoffee/3. Midnight A Cocoaร้านโกโก้ขวัญใจคนนอนดึก มาพร้อม 3 ระดับให้เลือกตามความเข้มข้น กับ 3 สาขาให้ไปเลือกเติมความหวาน เจริญกรุง 86, สายไหม หทัยราษฎร์7, สี่เเยกบ้านเเขก ที่มาพร้อมสโลแกน “ความสุข คือ กำไร จ่ายแบงก์ 50 คือ จุดขาย” คุณผู้ฟังคนไหนเลิกงานดึกๆ แวะไปเติมความหวาน ให้หายเหนื่อยได้ตามสาขาใกล้บ้านเลยนะคะที่อยู่ : เจริญกรุง 86, สายไหม หทัยราษฎร์7, สี่เเยกบ้านเเขกเวลาเปิด – ปิด : 20.00-24.00 น.โทรศัพท์ : 080-0766767ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/midnightacocoa4. Frank Cake Barร้านโกโก้ดังย่านอารีย์ ทางร้านใช้ผงโกโก้นำเข้าจากยุโรป มีให้เลือก 2 สูตร สูตรแรก ออริจินัล โกโก้มีความหวานกลาง(25%) รสชาติทานง่าย สำหรับทุกเพศทุกวัย ส่วนดาร์คโกโก้ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยการถอดความหวานและเพิ่มปริมาณโกโก้ ทำให้มีลักษณะเหนียวหนืดกว่าและไม่มีความหวานเลย(0%) ถูกใจสายโกโก้เข้มข้นเลยค่ะที่อยู่ : 46 ซ.อารีย์ 1 สามเสนใน พญาไท กทมเวลาเปิด – ปิด : 9:30-18:00โทรศัพท์ : 088-5770502ขอบคุณภาพจาก: https://www.linktr.ee/frankcakebar5. โกโก้ร้านไอ้ต้นร้านนี้มีความเข้มข้น 3 ระดับให้เลือกค่ะ เริ่มตั้งแต่ “ละอ่อน”สำหรับคนที่ชอบทานโกโก้เข้มๆ แต่ก็ยังรักในความหวาน, “เข้ม” จะมีความขมมากกว่าระดับแรก แต่ก็ยังมีความหวาน เหมาะสำหรับสายกลาง และ “โคตรเข้ม” สำหรับท่านที่ชอบความขม เข้มของรสชาติโกโก้ ความหวานจะน้อยลงกว่าเดิม สายเข้มห้ามพลาดเมนูนี้ค่ะที่อยู่ : สายไหม, เจริญกรุง86, สี่แยกบ้านแขกเวลาเปิด – ปิด : 17.00-22.00 น. ปิดทุกวันจันทร์โทรศัพท์ : 088-3381788, 081-4560172ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/cocoaiton/เติมความหวาน กับ 5 ร้านโกโก้เข้มข้นแล้ว อยากได้เพลงหวานๆเพิ่ม ขอได้ที่ https://atime.live/greenwave/live และ App Atime Fungfin ได้เลยนะคะ เพลงดีดี กับความรู้สึกดีดีรอคุณอยู่ที่ Green Wave 106.5 fm ค่ะ ^^Collector by รุ่งโนรี ’Girl Music Travel Lover

album

0
0.8
1