หนูนั่งคุยกับเพื่อนที่ทำงานข้างๆ แต่จะมีพี่ที่ทำงาน ชื่อสมมุติ "รำพึง กับ รำพัน" เขาจะตอบ จะคุยใน Topic ที่หนูกำลังคุยกับเพื่อนมาตลอด อยู่ๆก็พูดแทรกมาเลย บางทีหนูกระซิบจนเพื่อนข้างๆยังไม่ได้ยิน แต่เค้าตอบเสียงดัง แล้วคุยกันอยู่สองคน

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูนั่งคุยกับเพื่อนที่ทำงานข้างๆ แต่จะมีพี่ที่ทำงาน ชื่อสมมุติ "รำพึง กับ รำพัน" เขาจะตอบ จะคุยใน Topic ที่หนูกำลังคุยกับเพื่อนมาตลอด อยู่ๆก็พูดแทรกมาเลย บางทีหนูกระซิบจนเพื่อนข้างๆยังไม่ได้ยิน แต่เค้าตอบเสียงดัง แล้วคุยกันอยู่สองคน

12 พ.ย. 2024

      “คุณหนึ่ง (นามสมมุติ)” อายุ 28  สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหา การแอบฟังและขโมย topic เราไปพูดกับเพื่อนของเขา

      โดย “คุณหนึ่ง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า คุณพี่ที่ทำงานเขาชอบขโมย topic เราไปพูดกันเอง คือเหมือนห้องทำงานเรามันไม่ได้ใหญ่มากแต่ว่ามันก็มีแบ่งเวิ้ง มีเวิ้งเราแล้วก็เวิ้งเขา คือมันอยู่ในห้องเดียวกันเวลาเราพูดมันก็คงได้ยินแหละแต่เขาชอบขโมย topic เราไปพูด เช่น ช่วงนี้หนูอินกับเรื่องที่ฟังอยู่ในพอดแคสต์ เขาก็เลยเอาประเด็นนั้นไปคุยกัน แซะกัน ว่าแบบอืม ๆ เออ ๆ น่ากลัวอะไรอย่างงี้ คือเรากำลังเล่าเรื่องที่เราฟังอยู่อะไรประมาณนี้ หนูสังเกตมาหลายรอบแล้วเป็นปีแล้วพี่แต่ว่าเขาจะพูดกันเองสองคน (ให้นามสมมุติว่า พี่รำพึงและพี่รำพัน) หรือว่าบางทีเขาจะชอบอยู่เงียบ ๆ แต่ว่าเขาจะคอยแทรกซึมบทสนทนาเพื่อที่จะรอฟังเราความสามารถพิเศษของเขาคือ สามารถต่อบทสนทนาเราได้เลยทั้ง ๆ ที่เพื่อนเรามันตามไม่ทัน สมมุติว่าหนูคุยกันเรื่องกินข้าวอยู่ เขาก็จะบอกว่า เออเดี๋ยววันนี้กินก๋วยเตี๋ยวดีกว่าอะไรประมาณนี้ ทำเป็นคุยกันเอง ทั้ง ๆ ที่หนูคุยกับเพื่อนในเรื่องนี้อยู่แต่เพื่อนหนูหัวมันไม่ไวตอบไม่ทัน แต่พี่เขากลับพูดตอบดังขึ้นมาจากอีกฝั่งนึง ซึ่งหนูไม่ได้คุยกับเขา คือหนูก็ไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้นแต่ด้วยความที่ห้องเดียวกัน หนูว่าหนูก็พูดในระดับเสียงที่โอเคแล้วแต่คือเขาก็ยังได้ยิน หรือบางทีเพื่อนหนูเดินมาจากอีกห้องนึงเดินมาคุยด้วยแต่ด้วยความที่ว่ามันเป็นคนพูดเสียงเบามาก หนูก็จะเริ่มรู้สึกว่าห้องมันจะเงียบลงเพื่อที่เขาจะฟังว่าเพื่อนหนูมาคุยเรื่องอะไร แล้วส่วนใหญ่หนูจะคุยกับพี่ในเวิ้งหนู คือ topic มันเป็นเรื่องทั่วไป เขาก็จะพูดเรื่องที่พวกหนูคุยกันอยู่ในกลุ่มเขาถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น แต่ถ้าเรื่องนั้นเขารู้หรือมีเหตุการณ์ร่วมเขาจะโพล่งขึ้นมาทันทีแล้วเขาก็ร่วมวงเข้ามาคุยกับเราเลย ซึ่งหนูเคยทดลองเหมือนกันแบบเราลองคุยกันตอนที่เขาคุยเรื่องอื่นอยู่ หนูก็คุยเรื่องของหนูแต่ว่าเขาจะค่อยๆเงียบลง แล้วพอเขาเงียบหนูก็หยุด พอเขาพูดหนูก็พูดเขาก็ค่อย ๆเงียบลงอีก เพื่อที่จะฟังเราแล้วก็ถามว่า “แล้วยังไงต่อเหรอ” อะไรแบบนี้ทุกเรื่องที่หนูเล่าแต่เรื่องของเขาหนูไม่เคยฟังเลย หนูอยากถามว่า บางทีหนูอยากจะคุยแค่เวิ้งเรา จะทำยังไงให้เขาไม่โฟกัสเรื่องของเรา? กับ ข้อสองใครเคยเจอเรื่องราวแบบนี้กันบ้างไหม!

          เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ลองใช้โทรศัพท์แก้วดู คนข้างนอกจะได้ไม่ได้ยิน หนูกับเพื่อนก็คุยกันผ่านตรงนี้ หรือไม่ลองเปลี่ยนเป็นคนชอบแอบฟังคนอื่น แล้วลองดูปฏิกิริยาเขา เพราะว่าพวกนี้แก้วหูมันประหลาดกระดูก

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘อย่างแรกเปลี่ยนเพื่อนการที่หนึ่งพูดมาเพื่อนไม่เคยโต้ตอบอะไรทันเลย หรือไม่ก็พิมคุยกันในไลน์ แต่พี่ว่าลองชวนเขาคุยขำ ๆ สักวันนึง topic เบา ๆ ลองชวนมานั่งคุยกัน

        สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เช็คให้ดีวันนึงถ้าเพื่อนโทรเขามาพุธทอล์คพุธโทรว่าแบบมีเพื่อนคนนึงชวนคุยตอนทำงานตลอดหนูไม่อยากคุยกับมันเลย เพราะเคยมีคนโทรเขามาในรายการแล้วมองอีกมุมนึงนะ ประเมินตัวเองก่อนตอนนี้อย่างน้อยรำพึงรำพันก็เป็นพวกเราดูหลาย ๆ มุม วันนี้พี่แก้ให้ไม่ได้ เพราะว่ามันงกเกินไปเรื่อง topic หรือลองตั้งใจทำงาน แล้วไม่คุยดู

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

#พุธทอล์คพุธโทร #พุธทอล์คพุธโทรRECAP #ดีเจเผือก #ดีเจเติ้ล #ดีเจเผือก #EFM94

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คุณแม่โทรปรึกษา 3 ดีเจ มีลูกสาวอายุ 11 ขวบ เขาเป็นคนที่ทำอะไรต้องเป๊ะทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องเรียน บางวันทำการบ้าน อ่านหนังสือถึงตี 1 – 2 รู้สึกว่าเขาจะมีภาวะเครียดสะสม ไม่มีความสุขเวลาไปโรงเรียน พาเขาย้ายโรงเรียนแล้วก็ยังเครียดเหมือนเดิม

22 พ.ย. 2023

คุณแม่โทรปรึกษา 3 ดีเจ มีลูกสาวอายุ 11 ขวบ เขาเป็นคนที่ทำอะไรต้องเป๊ะทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องเรียน บางวันทำการบ้าน อ่านหนังสือถึงตี 1 – 2 รู้สึกว่าเขาจะมีภาวะเครียดสะสม ไม่มีความสุขเวลาไปโรงเรียน พาเขาย้ายโรงเรียนแล้วก็ยังเครียดเหมือนเดิม

คุณแม่โทรปรึกษา 3 ดีเจ มีลูกสาวอายุ 11 ขวบเขาเป็นคนที่ทำอะไรต้องเป๊ะทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องเรียนบางวันทำการบ้าน อ่านหนังสือถึงตี 1 – 2 รู้สึกว่าเขาจะมีภาวะเครียดสะสมไม่มีความสุขเวลาไปโรงเรียน พาเขาย้ายโรงเรียนแล้วก็ยังเครียดเหมือนเดิมตอนนี้แม่รู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก ควรพาลูกสาวไปพบจิตแพทย์ดีไหม? “คุณแม่เหมียว (นามสมมติ)” อายุ 48 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับเรื่องของลูกสาวอายุ 11 ขวบ รู้สึกกังวลและเป็นห่วง เพราะเขาเครียดเกินวัย โดยสายนี้ “คุณแม่เหมียว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ลูกสาวค่อนข้างมีภาวะเครียดสะสม ไม่มีความสุขเลยเวลาที่ลูกสาวอยู่ในโรงเรียน ต้องบอกว่าลูกสาวส่วนตัวเป็นคน Perfectionist มาก ทำอะไรก็ต้องดีทุกอย่าง เขาเป็นคนที่ลายมือสวย ระบายสีสวย แม้กระทั่งการเรียนก็ต้องดีที่สุด เขาจะสร้างบรรทัดฐานของตัวเองให้เป็นคนที่ดีมาตลอด จนทำให้เขาเริ่มมีความเครียดสะสม พอลูกสาวเราขึ้น ป.5 การเรียนของเขาก็เริ่มเข้มข้นขึ้น ครูที่สอนก็ไม่ได้ใจดีเหมือนเมื่อก่อน จะมีดุบ้าง ด่าบ้าง แต่ไม่ได้ดุหรือด่าลูกสาวเราคนเดียว หมายถึงว่าเขาก็พูดถึงโดยรวม แต่ลูกสาวเราก็จะเก็บมาคิดมาก เวลามีการบ้านเขาก็จะนั่งทำจนดึกดื่น ยิ่งช่วงสอบเขาจะนั่งติวหรืออ่านหนังสือดึกมาก บางทีอ่านไม่เข้าใจ เขาก็จะร้องไห้ หรือให้เราปลุกเขาตั้งแต่ตี 5 เรารู้สึกว่ามันเครียดเกินกว่าที่เด็กวัยนี้ควรจะเป็น ซึ่งเขาก็เป็นคนที่มีภาวะเครียดมาหลายปีอยู่แล้ว เคยมีเหตุการณ์หนึ่ง สมัยที่ลูกสาวเราเรียนอยู่ที่โรงเรียนเก่า เขามีภาวะเครียดเกี่ยวกับครูผู้สอน แม่ก็แก้ปัญหา โดยการพาเขาย้ายโรงเรียนไป ซึ่งเราก็มีการคุยกับครูไว้ว่าให้ดูแลเขาเป็นพิเศษ ตอนที่ลูกสาวขึ้น ป.5 คุณครูที่สอนแต่ละวิชาก็มีหลากหลายขึ้น แม่ก็เข้าใจ เพราะว่าแม่ก็อยากให้เขาเจอกับสังคมที่มันหลากหลายอยู่เหมือนกัน เพราะโตไปเขาก็ต้องเจออะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่เหมือนว่าลูกสาวยังคงเครียดอยู่เหมือนเดิม วันนี้เลยอยากปรึกษาว่า แม่ควรพาลูกสาวไปพบจิตแพทย์ไหม? เพราะว่าคุยกับหลาย ๆ บอกเราคิดไปเอง บางคนก็บอกว่ามันคือธรรมชาติของเด็ก ดีแล้วที่ลูกสาวเรามีความขยันมุ่งมั่นดี แต่เราก็รู้สึกว่ามันหนักเกินไปอยู่ดี หรืออีกอย่างที่อยากสอบถามคือ เราเองหรือเปล่าที่ต้องไปพบจิตแพทย์เอง เพราะรู้สึกว่าเราจะห่วงลูกมากเกินไป ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ว่า ‘สำหรับพวกเรา สิ่งที่เกิดกับลูกเป็นสิ่งที่ต้องคิดมาก ต้องใส่ใจอยู่แล้ว มันต้องคอยสังเกต สิ่งแบบนี้มันเป็นอะไรที่น่ากังวลมาก อะไรที่มันแพ้ไม่ได้ ยอมรับความผิดหวังไม่ได้ เราควรที่จะพาเขาไปพบจิตแพทย์เลยตอนนี้ เพราะว่าเด็กวัยนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้ว ตอนนี้เรายังควบคุมเขาได้ ควรที่จะพาเขาไปให้เร็วที่สุด มันเครียดเกินไป เหมือนว่าเขาไม่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กเลย ได้วิ่งเล่นหมือนเด็กคนอื่น ๆ เลย ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าตัวเองเลี้ยงลูกแล้วมันเครียด มันมีปัญหา ก็ไปพบจิตแพทย์ได้ เพราะเขาจะบอกเลยว่าคุณแม่ควรที่จะทำตัวยังไงเพราะว่าเราเป็น Effect สำหรับเขาอยู่แล้ว มันต้องเริ่มที่คุณแม่ เดี๋ยวลูกก็จะปรับไปตามนั้น การมีลูกเราคิดน้อยไม่ได้ มันควรมีความบาลานซ์กัน ในระหว่างรอที่จะไปพบแพทย์ เราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกในเน็ตดูก่อน มันจะมีข้อมูลมากมาย ทั้งเทคนิคต่าง ๆ หรือคลิปวิดีโอที่มันจะพอเป็นแนวทางสำหรับคุณแม่ได้ หรือหากิจกรรมระหว่างครอบครัวให้เขารู้สึกได้ผ่อนคลาย รวมถึงการศึกษาที่มันเข้มข้นมากเกินไปอาจจะยังไม่เหมาะ ถ้ามันจะทำให้เด็กคนนึงต้องมีภาวะเครียดขนาดนี้ โรงเรียนทางเลือกอาจจะเป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่งก็ได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูทำงานมา 5 อาชีพ ทุกที่ประเมินไม่ให้ไม่ผ่านงานเลย จนตอนนี้กลายเป็นเด็กจบใหม่ ที่รู้สึกหมดกำลังใจในการมองหางาน จะสร้างความมั่นใจยังไงให้ตัวเองดีคะ? ตอนนี้มันรู้สึกเฟลไปหมดเลย

07 ก.พ. 2025

หนูทำงานมา 5 อาชีพ ทุกที่ประเมินไม่ให้ไม่ผ่านงานเลย จนตอนนี้กลายเป็นเด็กจบใหม่ ที่รู้สึกหมดกำลังใจในการมองหางาน จะสร้างความมั่นใจยังไงให้ตัวเองดีคะ? ตอนนี้มันรู้สึกเฟลไปหมดเลย

“คุณปอ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาการทำงาน เปลี่ยนมาหลายที่แต่สุดท้ายก็โดนประเมินไม่ผ่าน โดย “คุณปอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยย่านบางเขน และกำลังหางานประจำอยู่ หนูลองสมัครงานหลายประเภท ทั้งพาร์ทไทม์ ผู้ช่วยครู และงานราชการ แต่ไม่ว่างานไหนก็รู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ชอบ พอทำไปสักพักก็ไม่แฮปปี้ ต้องลาออกเอง หรือบางครั้งก็ไม่ผ่านการประเมินงาน ตอนนี้หนูว่างงานได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ผ่านงานมา 5 - 6 ที่ แต่ก็ยังไม่เจองานที่ใช่ ก่อนหน้านี้ เคยทำงานเลขามา 5 เดือน แต่ล่าสุดทำงานธุรการโรงเรียนได้ 1 สัปดาห์ก็ถูกประเมินว่าไม่ผ่านการฝึกงาน เขาได้ให้เหตุผลที่ว่า หนูติดโทรศัพท์ ยังทำงานเอกสารไม่คล่อง และช่วยงานองค์กรได้น้อย และหนูเคยลาออกจากงานเลขา เพราะบริษัทกำลังจะ Lay off พนักงาน หนูเลยลาออกเอง แต่ในงานผู้ช่วยครูและธุรการ หนูโดนประเมินว่าไม่ผ่าน ตอนทำงานเป็นผู้ช่วยครูที่โรงเรียนเด็กเล็ก หนูโดนตำหนิว่าเข้ากับเด็กได้ยาก และผู้ปกครองให้ฟีดแบคว่าหนูดูหน้าตึง ทำให้เด็กกลัว หนูรู้ตัวว่าไม่ค่อยเหมาะกับงานนี้ แต่ก็สมัครเพราะอยากลองพัฒนาตัวเอง จนสุดท้ายก็รู้ว่ามันไม่ใช่ นอกจากนี้ เคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านชา แต่ทำได้เพียงวันเดียวก็ถูกประเมินว่าไม่ผ่าน เพราะทำงานช้า ไม่ทันลูกค้า ทางร้านจึงให้หยุดทำต่อ หนูเป็นคนที่ค่อนข้างเฉื่อย ทำงานช้า ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคในการทำงานและการสมัครงานครั้งต่อ ๆ ไป หนูเลยอยากขอคำปรึกษาจากพี่ๆดีเจว่า สามารถแนะนำงานที่เหมาะกับหนูได้หรือเปล่า? เพราะตอนนี้หนูยังว่างงานอยู่ และไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี รวมถึงจะมีวิธีแก้ไขนิสัยส่วนตัวของหนูได้บ้างไหมคะ?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ลองเสพคอนเทนต์ที่ต้องใช้พลังงานเยอะ ๆ ดูว่าคนเหล่านั้นมีเอนเนอจี้ในการใช้ชีวิตยังไง หรือฟังไลฟ์โค้ช พอดแคสต์ หรือเสิร์ชหาวิธีเพิ่มเอนเนอจี้ให้ตัวเอง พี่เชื่อว่าถ้าปอได้เจองานที่ตัวเองชอบจริง ๆ ปออาจจะรู้สึกสนุกและอยากไปทำงานเองโดยไม่ต้องฝืน’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้ปอยังไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้นให้ต้องดิ้นรน แต่ถ้าปอไม่ปรับตัว สุดท้ายจะไม่มีทางได้งาน และจะโดนประเมินไม่ผ่านแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งจะไม่มีกิน ปอลองคิดดูว่าตอนนี้เศรษฐกิจเป็นยังไง คนโดน Lay off ไปเยอะขนาดไหน เด็กจบใหม่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรายังมีเอนเนอจี้แบบนี้ก็ไม่มีทางรอด ไม่มีใครมาบังคับปอได้ นอกจากตัวปอเองที่ต้องหาทางทำให้รอดให้ได้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ข้อเสียของปอเป็นข้อเสียที่ทำให้หางานยากมาก ถ้ายอมรับว่าตัวเองเฉื่อย การเป็นลูกน้องก็ลำบาก ออกมาทำธุรกิจเองก็ไม่รอดเหมือนกัน สิ่งเดียวที่ช่วยได้คือต้องหางานที่สนุกและรักมันจริง ๆ เพื่อให้ตัวเองมีแรงฮึด หรือถ้ายังไม่เจอ ก็อย่ายอมแพ้ หาไปเรื่อย ๆ เพราะนี่เป็นแค่ก้าวแรก หางานแรก ๆ อาจยังไม่ใช่สิ่งที่ชอบ แต่อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าอะไรไม่ใช่ แล้วใช้เป็นแนวทางหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเองต่อไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เป็นเจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่เล็กๆ ทั้งร้านมี 3 ที่นั่ง แต่เจอลูกค้าที่ชอบนั่งแช่นานๆ มาคนเดียวยังนั่งโต๊ะใหญ่ ทั้งวันสั่งกาแฟแก้วเดียว บางวันเอาน้ำขวดใหญ่เข้ามากินในร้าน พีคสุดคือหายไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไงดี..

17 ม.ค. 2025

เป็นเจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่เล็กๆ ทั้งร้านมี 3 ที่นั่ง แต่เจอลูกค้าที่ชอบนั่งแช่นานๆ มาคนเดียวยังนั่งโต๊ะใหญ่ ทั้งวันสั่งกาแฟแก้วเดียว บางวันเอาน้ำขวดใหญ่เข้ามากินในร้าน พีคสุดคือหายไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไงดี..

เป็นเจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่เล็กๆ ทั้งร้านมี 3 ที่นั่ง แต่เจอลูกค้าที่ชอบนั่งแช่นานๆมาคนเดียวยังนั่งโต๊ะใหญ่ ทั้งวันสั่งกาแฟแก้วเดียว บางวันเอาน้ำขวดใหญ่เข้ามากินในร้านพีคสุดคือหายไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไงดี.. “คุณโมโม่ (นามสมมติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [15 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาลูกค้าชอบนั่งแช่ในคาเฟ่นานๆ โดย “คุณโมโม่” ได้เล่าว่า “ที่ร้านจะเป็นร้านขายขนมเล็กๆ มีที่นั่งประมาณ 3 ชุด คือ โต๊ะใหญ่ 1 ชุด โต๊ะเล็ก 2 ชุด แล้วจะมีน้องลูกค้าคนหนึ่งที่แรกๆ เขาก็มาซื้อทุกวันปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จะมีเหตุการณ์หนึ่งที่พีคๆ ของเขา คือ เขามานั่งทานที่ร้านคนเดียว แล้วเขาเอาชุดวาดระบายสีมากางเต็มโต๊หะ ซึ่งเขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะใหญ่ แล้วก็นั่งแช่อยู่แบบนั้น แต่เขาจะสั่งกาแฟวันละ 1 แก้วเท่านั้น แล้วก็อยู่ยาวๆ เลยคือ 2 - 3 ชั่วโมงจนไม่มีลูกค้าแล้ว เขาก็ทานกาแฟแก้วนั้นแป๊ปเดียวก็หมด แต่เขาก็ยังนั่งอยู่ เหตุการณ์ต่อมา คือ ช่วงปีใหม่ที่ร้านลูกค้าจะเยอะมากอยู่แล้ว น้องคนนี้เขาก็มาแต่พกขวดน้ำส่วนตัว 1.5 ลิตรมาด้วย เราก็ไม่เห็น มาเห็นตอนที่เราไปเก็บโต๊ะแล้วน้องเขาทิ้งขวดไว้ อันนี้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อีกวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ติดๆ กันทุกวัน เขาก็มาเหมือนเดิม สั่งน้ำแก้วเดียว 65 บาท แล้วก็นั่งทานที่ร้าน เขาเลือกนั่งโต๊ะเล็กและมีอุปกรณ์ของเขาครบมือเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เขาเอาหูฟังอันใหญ่ๆ ที่แบบครอบทั้งหูมาใส่ ซึ่งน้องก็ยังเป็นเด็กมัธยม มีหนังสือ IPad มือถือ น้องเขาก็นั่งอยู่แบบนั้นจนลูกค้าเยอะ ไม่มีที่นั่ง น้องเขาก็ไม่ลุกไปไหน เราก็แบบเอ๊ะ... น้องเขาทำอะไร หนูเลยไปดู ทีนี้ก็เห็นน้องเขานั่งหลับ หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยไปจนลูกค้าหมดร้านไป วันต่อมาน้องเขาก็มาอีก ลูกค้าในร้านก็เยอะอยู่ เขาก็เอาหนังสือมาอ่าน อุปกรณ์ก็ยังครบมือเหมือนเดิม จนลูกค้าหมด ตอนอยู่ที่โต๊ะเขาไม่ได้อ่านหนังสือแต่เล่นมือถือ พอไม่มีลูกค้าก็จะเหลือแค่หนู แล้วก็น้องลูกค้าคนนี้ 1 คน เขาก็เอาหนังสือไปอ่านในห้องน้ำ ทีนี้เราก็จับเวลาเลยว่าเขาเข้าไปกี่นาที ก็คือเขาเข้าไปประมาณครึ่งชั่วโมง อีกวันหนึ่งเขามาอีกเหมือนเดิม แต่ไม่สั่งขนมเลย ทั้งๆที่ร้านเราเน้นขายขนม แล้วเขาก็เอาขวดน้ำดื่มของตัวเองไปเติมน้ำที่ร้าน เพราะที่ร้านเราจะมีน้ำดื่มให้ทานฟรีเป็นแบบเหยือก เขาก็เอาขวดตัวเองไปเติมจนหมดเหยือก แต่หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร และอีกวันหนึ่งน้องเขาก็มาอีก จนเราเดินเข้าไปถามน้องเขาว่า “น้องรับอะไรเพิ่มไหมคะ?” น้องก็มองหน้าเรามึนๆ แล้วก็บอกว่า “อ๋อ ไม่ครับ” เราก็บอกว่า “พอดีว่าเดี๋ยวมีลูกค้าจองโต๊ะเข้ามา พี่ขอรบกวนได้มั้ยคะ” น้องก็บอก “อ๋อ งั้นผมย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นได้ไหม” ทั้งๆ ที่น้องก็ไม่เหลืออะไรทานแล้ว เขาสั่งแค่น้ำแก้วเดียวแต่เขาก็ยังนั่งอยู่ หนูก็เลยบอกเขาไปว่า “อ๋อ พอดีว่าเขามาเยอะอ่ะค่ะ” ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย 2 ครึ่ง น้องก็เลยบอกว่า “อ๋อเดี๋ยวบ่าย 3 ผมไปครับ” แล้วก็คือบ่าย 3 เป๊ะน้องเขาก็ไปจริงๆ อีกวันหนึ่งเขาก็มาอีก พกขวดน้ำมาอีก ทีนี้เราก็เลยเดินไปเตือนเขาว่า “น้องครับ ขอรบกวนไม่เอาน้ำดื่มหรืออาหารข้างนอกเข้ามาทานที่ร้านได้มั้ยครับ” เขาก็แบบ “อ๋อ ครับ” แค่นี้ ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร หลังจากนั้นเขาก็ยังมาทุกวัน ๆ เหมือนเดิม แต่พฤติกรรมพกขวดน้ำมาก็เริ่มหายไป มีวันหนึ่งที่หนูก็ทักเขาว่า “อ๋อ น้องวันนี้เหมือนเดิมเนอะ” น้องเขาก็เหมือนไม่ได้อยากคุยกับเรา น้องก็บอก “อ๋อ ไม่ครับ” แล้วเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นเลย หนูก็เข้าใจได้ว่า น้องเขาก็ไม่ได้อยากให้ใครรบกวนเขา หนูไม่ทราบว่าเขาโดดเรียนมามั้ย หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือช่วงเด็กม.6 ใกล้สอบเข้ามหาลัยอาจจะเข้า-ออกโรงเรียนช่วงไหนก็ได้ บางทีน้องเอาของมาวางโต๊ะเต็ม ลูกค้าที่ไม่มีที่นั่งเขาก็กลับไป ซึ่งตรงนี้เราเสียโอกาส เสียลูกค้าที่เขาตั้งใจมากินขนม หนูอยากถามพี่ๆ ดีเจว่า จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไง?” ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ให้ตั้งกฎเวลาว่าให้นั่งได้กี่ชั่วโมง 1 แก้ว ให้นั่งได้กี่ชั่วโมง หรือลองถามๆ เรื่องเรียนเขาหน่อยว่าไม่เข้าเรียนหรอ หรือมีเรื่องอะไรที่บ้าน เผื่อน้องเขามีปัญหา เราจะได้จัดการกับเขาอีกแบบหนึ่ง’ นอกจากนี้ “คุณโมโม่” ยังทิ้งท้ายถึงผู้ใช้บริการด้วยว่า “อยากให้เห็นใจผู้ประกอบการนิดนึง การใช้สถานที่หรืออะไรก็ตาม บางทีเราเอางานไปทำในที่ของเขา อยากให้เขาเห็นใจทางร้านด้วย เพราะบางทีทางร้านก็อึดอัดใจที่จะพูด เพราะกลัวจะเป็นดราม่า”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เป็นคนคุยที่มาทีหลัง ไม่มีสิทธิ์หรอคะ? เราคุยกับผู้ชายคนนึง ไม่นานมีสาวปริศนา โผล่มาบอกว่า เรามาทีหลังเค้า เค้าคุยก่อนเรามา 1 อาทิตย์ สุดท้ายผู้ชายเลือกเรา จนอดคิดไม่ได้ว่า หรือจริงๆแล้ว เราคือสาเหตุ ที่ทำให้เค้าสองคนเลิกคุยกัน....

10 ม.ค. 2025

เป็นคนคุยที่มาทีหลัง ไม่มีสิทธิ์หรอคะ? เราคุยกับผู้ชายคนนึง ไม่นานมีสาวปริศนา โผล่มาบอกว่า เรามาทีหลังเค้า เค้าคุยก่อนเรามา 1 อาทิตย์ สุดท้ายผู้ชายเลือกเรา จนอดคิดไม่ได้ว่า หรือจริงๆแล้ว เราคือสาเหตุ ที่ทำให้เค้าสองคนเลิกคุยกัน....

“คุณอูน (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ม.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาความรักในวัย Gen Z โดย “คุณอูน (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูเล่นแอปพลิเคชันหาคู่ จนได้พบกับหนุ่มคนหนึ่งที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน มีการเจอกันผ่าน ๆ บ้างตามมหาวิทยาลัย เพราะตึกอยู่ใกล้ ๆ กัน หลังจากได้คุยกันผ่านแอปพลิเคชันนั้นสักพักหนึ่ง เราทั้งคู่ได้ย้ายมาคุยกันในไอจี เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ต่อ เราคุยกันมาได้ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทักมาหาหนู เขาถามว่า “เธอคุยกับผู้ชายคนนี้อยู่หรือเปล่า?” แล้วเขาก็ย้ำว่า “อย่าเพิ่งบอกผู้ชายนะว่าเราทักมา” หนูก็ถามกลับไปว่า “มีอะไรรึเปล่าคะ?” เขาตอบว่า “เราคุยกับผู้ชายคนนี้อยู่นะ แล้วเธอคุยกับเขามานานหรือยัง?” หนูตอบไปว่า “เพิ่งคุยได้สักพักค่ะ” เขาถามต่อทันทีว่า “สักพักนี่นานแค่ไหน?” หนูบอกว่า “ประมาณ 3 อาทิตย์ค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นเขาได้บอกกับหนูว่า เขาเลิกคุยกับผู้ชายคนนี้เพื่อให้หนูคุยต่อ แต่เมื่อหนูไปถามผู้ชายว่า “ผู้หญิงคนที่ทักมาเป็นคนคุยกับเธอหรือเปล่า?” ผู้ชายตอบว่า “เราเลิกคุยกันไปนานแล้ว ก่อนที่เราจะมาคุยกับเธออีก” และตอนนี้ฝั่งผู้ชายได้มีการบล็อกผู้หญิงคนนั้นไปแล้วด้วย และมากไปกว่านั้นผู้หญิงคนนี้เขามักจะพูดเหน็บแนมใส่หนู เช่น ถ้าไปห้องผู้ชายก็ฝากเก็บของที่เป็นของเราออกด้วยนะ เลยยิ่งทำให้หนูรู้สึกผิด ตอนนี้หนูไม่แน่ใจว่าเจตนาของผู้หญิงคนนั้นที่ทักมาคืออะไร เขาอยากได้ผู้ชายกลับคืน หรือมาโทษว่าหนูคือสาเหตุที่ทำให้เขาเลิกคุยกัน หนูก็เลยอยากจะมาปรึกษาพี่ ๆ ว่า หนูผิดไหม? เพราะหนูเป็นฝ่ายที่มาทีหลัง’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเรื่องที่หนูเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าไม่ผิดเพราะผู้ชายอิสระแล้ว และฝ่ายหญิงก็เป็นคนบอกเองว่าสามารถคุยกันต่อได้เลย แต่แนะนำเพิ่มให้เลี่ยงการอ่านข้อความของผู้หญิงคนนั้นเวลาที่เขาทักมา เพราะไม่ได้ประสงค์ดีสักเท่าไหร่’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าคนคุยในความหมายของพี่ พี่มีสิทธิ์ที่จะคุยเพราะยังไม่ใช่แฟน แล้วเธอมาก่อนฉันแค่อาทิตย์เดียวแล้วยังไง และทั้งสองคนคุยกับผู้ชายในเวลาที่แทบจะทับซ้อนกัน ดังนั้นจึงถือว่าไม่ผิด เพราะเรามีสถานะเท่ากันคือ คนคุย แต่ถ้าเขาเป็นแฟนกันแล้ว แบบนั้นถือว่าผิด เรามาทีหลังเราควรที่จะถอยออกมา’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้สอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการจีบกันในยุคปัจจุบัน และได้คำตอบว่า คนสมัยนี้มักจะคุยกันผ่านทางดีเอ็มในไอจี และมักจะเก็บไลน์ไว้เพื่อคุยเรื่องเรียนหรือเรื่องงานมากกว่า พร้อมให้กำลังใจเพิ่มเติมว่า ถ้าหนูอยู่ในสถานะคนคุยกันทั้งสองฝ่าย มันก็เท่ากัน ไม่ต้องไปคิดว่าใครมาก่อนหรือมาหลัง เพราะไม่เกี่ยวกัน และฝ่ายผู้ชายอาจจะมีคนคุยมากกว่านี้ก็ได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลหรือรู้สึกผิด เพราะในเรื่องนี้ไม่มีใครผิด ทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1