ตอนนี้หนูต้องเลือกระหว่าง “ผู้ชาย” กับ “เพื่อนสนิท” หนูคุยกับผู้ชายคนนึงมา ตอนนี้กำลังคลั่งรักเขามาก เข้ากันได้ดีทุกอย่าง พอไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนกลับบอกว่า “ไม่โอเค ถ้าเราจะคบกับคนนี้” เพราะคนนี้เป็นคนคุยเก่าของเขามาก่อน

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ตอนนี้หนูต้องเลือกระหว่าง “ผู้ชาย” กับ “เพื่อนสนิท” หนูคุยกับผู้ชายคนนึงมา ตอนนี้กำลังคลั่งรักเขามาก เข้ากันได้ดีทุกอย่าง พอไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนกลับบอกว่า “ไม่โอเค ถ้าเราจะคบกับคนนี้” เพราะคนนี้เป็นคนคุยเก่าของเขามาก่อน

01 ส.ค. 2025

ตอนนี้หนูต้องเลือกระหว่าง “ผู้ชาย” กับ “เพื่อนสนิท” หนูคุยกับผู้ชายคนนึงมา

ตอนนี้กำลังคลั่งรักเขามาก เข้ากันได้ดีทุกอย่าง พอไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนกลับบอกว่า

“ไม่โอเค ถ้าเราจะคบกับคนนี้” เพราะคนนี้เป็นคนคุยเก่าของเขามาก่อน

อย่าพามาเจอหน้าเพราะจะทำตัวไม่ถูก หนูจะทำยังไงดี ทั้งๆที่เพื่อนหนูก็มีสามีมีลูกแล้วด้วย

ถ้าเป็นทุกคน จะเลือกอะไรกันคะ ??

            “คุณขนม (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [30 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาที่พึ่งรู้ว่าคนที่คุยอยู่ตอนนี้ เป็นคนคุยเก่าของเพื่อนสนิท แล้วต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง

            โดย “คุณขนม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผู้ชายคนนี้คุยกับหนูมาก่อนอยู่แล้ว ตั้งแต่เมื่อปี 54 แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนูมีแฟนจึงไม่ได้คุยกันต่อ จนหนูมาเข้าสู่ช่วงอายุ 29 ปี เขาทักมาคุยกับหนู เลยได้คุยกันไปประมาณเดือนกว่า ๆ และตอนนี้เรารู้สึกดีกับเขามาก ๆ แล้ว แต่พึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเคยเป็นคนคุยเก่าของเพื่อนสนิทเรา เพื่อนคนนี้เราสนิทมาตั้งแต่มัธยม ปัจจุบันเพื่อนมีลูกและสามีแล้ว ซึ่งเพื่อนเป็นคนที่เชิงว่าเป็นศูนย์กลางประจำกลุ่ม โดยทั้งกลุ่มจะมี 6 คน และปกติเวลาเพื่อนจะนัดเจอกัน เพื่อนจะนัดเจอกันบ่อยมากกว่าหนู หนูไม่ค่อยได้เข้าไปเจอสักเท่าไหร่ ช่วงหลัง ๆ มานี้เป็นช่วงที่เราโสด แล้วเราไม่รู้จะคุยกับใครเลยคุยกับเพื่อนคนนี้บ่อย ๆ และเหตุผลที่เพื่อนรู้เรื่องนี้เพราะว่าเวลาเรามีอะไร เรามักจะปรึกษากับเพื่อนตลอด เพื่อนจึงรู้จากตรงนี้และไม่โอเคที่เราจะไปคุยต่อจากเขา

            เกริ่นก่อนว่าผู้ชายคนนี้เขาเคยคุยกับเพื่อนหนูมาตั้งแต่ปี 65 คุยกันในเชิงจีบกันปกติ มีวิดีโอคอลกันส่วนใหญ่ แต่ถ้าเจอกันจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว ซึ่งเรื่องใครเป็นคนเทใครก่อนอันนี้หนูไม่แน่ใจ เพราะว่าทั้งสองคนเล่ามาไม่เหมือนกัน หนูเคยลองพยายามถามทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่เหมือนเขาก็ยังกั๊ก ๆ อะไรสักอย่างไว้อยู่

            ซึ่งคนที่หนูคุยอยู่เขาบอกว่าเขาเป็นคนหยุดคุยเองเพราะว่าคุยแล้วไม่คลิกกัน โดยเขาบอกมาประมาณว่า “คุยแล้วไม่คลิกกัน ไม่โอเค ก็แค่แยกย้ายแค่นั้น” ส่วนเพื่อนเราบอกว่าตัวเองเป็นคนเทเขา โดยให้เหตุผลว่าเขาเป็นคนมีความคิดที่แปลกประหลาด คุยเยอะมาก คุยไปทั่ว แต่จากที่หนูคุยกับเขามันไม่ใช่แบบที่เพื่อนบอก สำหรับหนู หนูคุยกับเขาแล้วรู้สึกดี เขาเป็นคนปากหวานด้วย จึงไม่กล้าฟันธงอะไรมาก และเหตุผลที่เพื่อนอยากให้เราหยุดคุยกับผู้ชายเพราะว่าเขาเป็นคนคุยเก่าเพื่อน เพื่อนกลัวตัวเองจะมองหน้าเขาไม่ติด

            จริง ๆ ตัวหนูเองเคยเชิง ๆ พูดไปกับเพื่อนแล้วว่าเราเคยคุยกับเขาไปตอนปี 54 ก่อนที่เขาจะมาคุยกับแก แต่เพื่อนก็ไม่ได้ฟังอะไร จะแทรกเรื่องตัวเองมาเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งเพื่อนยังเคยเชิงพูดอ้อม ๆ มาอีกประมาณว่า “ถ้ามึงจะคุยต่อก็คุยได้นะ แต่กูไม่โอเค” ถ้าถามว่าถ้าหนูเลือกผู้ชาย แล้วไม่เลือกเพื่อน หนูจะโอเคไหม เอาจริง ๆ หนูรู้สึกครึ่ง ๆ เพราะว่าหนูรู้สึกเสียดายที่ยังไม่ได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเองเลย แต่อีกใจนึงคือถ้าสมมติหนูเลือกเขา แล้ววันใดวันหนึ่งมันดันเข้ากันไม่ได้แล้วเราเลือกเขาไปแล้ว เราจะเสียทั้งเพื่อนเสียทั้งผู้ชายเลย

            ซึ่งคำถามที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้งสามคนมีทั้งหมด 2 เรื่องคือ หนูแค่อยากรู้ว่าในความคิดหนูตอนนี้มันแปลกหรือเปล่า? ที่มองว่าตอนนี้มันเป็นแค่คนคุย แต่เพื่อนในกลุ่มหนูทุกคนมองว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติและไม่สมควรที่จะคุยต่อจากเพื่อน ส่วนคำถามที่สองคือ หนูอยากถามว่าหนูควรจะไปต่อกับความสัมพันธ์นี้อย่างไรดี?’

            เริ่มต้นที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แปลกหรือเปล่า เพื่อนหนูสิแปลก กลุ่มนี้ควรหยุดตัวเป็นแกนของโลกได้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่แกจะมากั๊กของที่แกไม่เคยกิน แกไม่มีสิทธิ์ห้ามคนอื่นกิน เห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่เรียกว่าเพื่อน เลิกคบได้ไม่ติด ส่วนข้อสองถ้าไม่อยากเสียทั้งเพื่อนเสียทั้งผู้ชายให้แอบคบ อย่าให้มันรู้และถ้าเกิดมันไปไม่รอดก็กลับมาหาเพื่อน แต่เพื่อนกลุ่มนี้ไม่โอเคเท่าไหร่ เอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีความเมตตาในจิตใจสักนิดเลย’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ไม่แปลกที่จะคบกับคน ๆ นี้ พี่ว่าเพื่อนหนูมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ถ้าอยากจะให้มันเคลียร์พี่แนะนำว่าถ้าหนูแคร์ฝั่งเพื่อนด้วยให้บอกเพื่อนไปตรง ๆ ว่าเราจะคบ แต่ก่อนจะบอก หนูควรตัดสินใจถามเพื่อนไปตรง ๆ ก่อนเลยว่ามีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกไหม แต่คือถ้าเพื่อนให้เหตุผลแค่นี้ พี่รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ต้องดูที่เหตุผล

            ส่วนจะไปต่อกับความสัมพันธ์นี้ยังไงดี พี่ว่าถ้าขนมจะเอาทั้งซ้ายทั้งขวาให้ได้ดั่งใจเลย พี่ว่ามันยากในสถานการณ์นี้ ต้องลองเสี่ยงเพราะพี่รู้สึกว่ายังไงก็ตามมันไม่มีหลักประกันอยู่แล้วว่าคบผู้ชายคนนี้ไปแล้วมันจะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค แต่ไม่อยากให้เอาเรื่องมีมาเป็นปัจจัยหลักใหญ่ที่จะไม่คบเขา ถ้าเพื่อนจะโกรธก็สิทธิ์ของเพื่อน แต่เราก็มีสิทธิ์ของเราเหมือนกันที่จะทำแบบนี้ พี่ว่าสิ่งที่หนูทำไม่ใช่สิ่งที่ทำลายความเป็นเพื่อนกัน’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘ผมว่าไม่แปลกหรอก ผมมองว่าขนมก็ไม่แปลกและอีกฝั่งก็ไม่แปลกเหมือนกัน มันมีคนที่ไม่ได้ใช้ตรรกะเหมือนกับคนอื่นในการดำเนินชีวิต ผมได้เรียนรู้มาในอีกรายการหนึ่งว่าสมองคนเรามันสั่งการทุกอย่างอยู่นะ คนเรามีวิธีการดำเนินชีวิตที่ตามแต่ที่สมองมันบอก เข้าใจได้ในความเป็นแก๊งผู้หญิงแบบดาวเจ็ดแฉก เมย์ไหนไฟแรงส์เวอร์ สมมติมีคนนึงที่เป็นตัวตั้งตัวตีแล้วเจอกับอีก 6 คนแบบสม่ำเสมอ สารพัดเหตุผลที่จะบอกว่าทำไมถึงไม่โอเค ทั้ง ๆ ที่เรามองไปเราอาจจะโอเค มันสามารถเกิดขึ้นได้ในแก๊งแบบนี้ที่มันถูกกล่อมอยู่ และกับคนนั้นที่จะหวงก้างโดยไม่ได้ใช้เหตุผล

            ซึ่งสมมติว่าข้อมูลที่เราฟังในวันนี้มันมีแค่นี้จริง ๆ เจอกันครั้งเดียว คุยกันอยู่ช่วงนึง สุดท้ายไม่โอเค แค่คน ๆ นึงที่ไม่โอเคแบบไม่มีเหตุผลมันก็เกิดขึ้นได้นะขนม บางทีแล้วการที่เราจะคบกับอดีตของคนในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นอดีตในขั้นไหน เราจะต้องยอมรับว่ามันมีโอกาสที่จะผิดใจกัน มันอาจจะมีบางคนที่ก็นี่ไม่มีเหตุผลอะ แต่นี่ไม่ชอบไม่อยากเจอคนนี้ นี่เคยคุยแล้ว ทำไมแกต้องคุยซ้ำด้วย มันเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้

            ทีนี้ทำไงต่อ พี่เห็นด้วยกับดีเจเติ้ลคือ การที่ถ้าเรายืนยันจะคบกับผู้ชายได้ไหม ได้ หรือถ้าเราจะไม่คบเพื่อเพื่อนได้ไหม ได้เหมือนกัน แต่ว่าเราควรได้เหตุผลที่มากกว่านี้ ถ้าเราจะทำอะไรเพื่อเพื่อนกลุ่มนี้นะ คนที่ไม่โอเคควรจะบอกเหตุผลที่แท้จริงว่า “ทำไมหรืออะไรที่ทำให้มองหน้ากันไม่ติด?” หรือแค่แกไม่อยากให้เราคุยกับคนซ้ำกับแกแค่นี้ โดยที่ไม่ได้มีเหตุว่าไม่ได้เลิกกันไม่ดี ไม่ได้ไปแอบด่ากันลับหลังหลังจากเลิกกันหรือไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น เราจะได้เข้าใจว่าอ๋อมันมีเหตุผลแค่นี้ อยู่ที่ว่าขนมจะแคร์คนนี้มากพอไหมที่จะคบหากันต่อ มันเกิดขึ้นได้

            บางครั้งคนเราแบบเออนี่ไม่คบให้ก็ได้ เพราะนี่รักเพื่อนนะ แต่แกต้องบอกนะว่าทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น และมันก็มีคนที่บอกว่า นี่จะคบนะ นี่ต้องรู้อะไรอีกไหม มันไปได้หมดทุกทางเลยขนม ควรที่จะคุยกันและหลังจากนั้นขนมช่างใจเลย ถ้าผู้ชายคนนี้ดูมีความเป็นไปได้ เราคุยศึกษากันสักพัก ช่วงแรกอาจจะเก็บเป็นความลับก่อนก็ได้ จนเวลามันผ่านไปแล้วรู้สึกว่าคนนี้ใช้ได้ เขาดีพอที่เราจะมั่นใจเขาได้ และมันก็คงมีเหตุการณ์ที่เราคงพาไปเจอเพื่อนไม่ได้บ่อยหรือไม่ต้องพาไปเจอก็ได้ เราก็มีชีวิตของเรา สุดท้ายเวลาผ่านไปมันจะเยียวยาเรื่องพวกนี้เอง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบสามีมา 17 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสามีว่า สามีหนูไปข่มขืนผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันตอนไปดูงานที่จีน สถานทูตติดต่อมา สามีฝากข้อความมาแค่ "ให้รอ เดี๋ยวเค้าจะรับโทษแล้วกลับไป" ไม่ขอโทษหนูเลยสักคำ หนูควรรอตามที่เขาขอไหม?

09 พ.ค. 2025

คบสามีมา 17 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสามีว่า สามีหนูไปข่มขืนผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันตอนไปดูงานที่จีน สถานทูตติดต่อมา สามีฝากข้อความมาแค่ "ให้รอ เดี๋ยวเค้าจะรับโทษแล้วกลับไป" ไม่ขอโทษหนูเลยสักคำ หนูควรรอตามที่เขาขอไหม?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [7 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพิ่งรู้ว่าแฟนโดนจับ คดีข่มขืนเพื่อนร่วมงานที่ไปทำงานด้วยกันที่ประเทศจีน โดย “คุณน้ำ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเพิ่งได้รับสารจากเพื่อนแฟนว่า แฟนโดนจับคดีข่มขืนเพื่อนร่วมงาน หนูคบกับแฟนมา 17 ปีแล้ว ไม่ได้แต่งงาน แต่จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกด้วยกัน 3 คนแล้ว ซึ่งแฟนเพิ่งจะได้ไปดูงานที่ประเทศจีนชั่วคราว 3 เดือน แต่ไปได้แค่ 2 เดือนก็มีคดีแบบนี้แล้ว ผู้เสียหายที่โดนคือเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่ไปด้วยกันจากประเทศไทย แต่หนูไม่รู้จักเขา แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้ตัดสินใจเพราะเพิ่งโดนจับ แต่จากที่หนูฟังมา เหมือนเขาน่าจะตัดสิน และจำคุกที่จีนเลย ซึ่งหนูไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย และเรายังไม่ได้ติดต่อกันเลย เพราะทางนู้นเขาไม่ให้ติดต่ออะไรเลย ฟังจากเพื่อนที่ไปด้วยกันกับเขาเล่าให้ฟัง ตอนแรกเพื่อนเขาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่แฟนหนูเป็นคนยอมรับว่าเขาทำจริง เขาก็เลยต้องเชื่อแบบนั้น และมีทางสถานทูตโทรมาหา คือ แฟนหนูเขาฝากข้อความกลับมาหาหนูว่า เขาอยู่ได้นะ ไม่ต้องเป็นห่วง ให้รอเขานะ เดี๋ยวเขากลับมา แต่ไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ตอนที่เขาโดนจับมีตำรวจโทรมาหาหนู หนูก็ขอคุยกับเขาถามเขาว่า ทำไปทำไม เขาบอก เรื่องมันยาว เดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟัง แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรเลย ประเด็นคือทางคู่กรณีไม่ได้เป็นคนแจ้งตำรวจ แต่เขาไปให้บริษัทที่พาไปดูงานเป็นคนแจ้ง เพราะบริษัทเขาไม่ยอมที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ตอนแรกหนูไม่คิดและไม่เชื่อเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ และคนในครอบครัวก็ไม่มีใครเชื่อเลย เพราะอยู่กันมา 17 ปีเขาไม่เคยมีเรื่องนอกใจ หรือไปมีคนอื่นเลย เวลาฟังข่าวคุยกัน เขาก็จะชอบพูดว่า มีครอบครัวแล้ว มีภรรยาแล้วจะไปเอาคนอื่นทำไม? จะไปทำคนอื่นทำไม? เราคุยกันตลอด ไม่มีเรื่องแบบนี้เลย หนูเลยมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะทำ แต่เพื่อนเขาบอกว่าแฟนหนูเขายอมรับกับตำรวจทั้งหมดเลย หนูก็เลยต้องยอมรับความจริง จากที่เพื่อนเขามาเล่าให้ฟัง คือ เขาไม่ได้เมา เพิ่งไปกินข้าวมา แล้วทางคู่กรณีซื้อน้ำขึ้นมาบนห้อง แล้วให้แฟนหนูช่วยยกขึ้นไป แล้วเรื่องก็เกิดขึ้น หนูพยายามคิดว่าเขาตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่เขาก็ทำไปแล้ว ซึ่งตอนที่เขาทำมันไม่มีหรอกที่ไม่ตั้งใจ สุดท้ายเขาก็นอกใจหนูไปแล้ว มันเกิดขึ้นไปแล้ว หนูเลยคิดว่าหนูต้องรอเขาด้วยหรอทั้งๆที่เขาหักหลังหนู ในกรณีที่ไม่รอเขาแล้วในส่วนเรื่องลูก หนูน่าจะผ่อนรถไม่ไหว ก็น่าจะปล่อยให้เขายึดไป ให้เหลือแค่บ้าน เพราะบ้านหนูยังส่งไหว ทางแม่แฟนก็อยู่กับหนู ตอนแรกหนูก็โมโหแล้วถามแม่แฟนไปว่า แล้วแม่จะอยู่บ้านหนูในฐานะอะไร? พอหนูใจเย็นลง หนูก็คิดว่าแม่เขาไม่ได้ผิดอะไร ถ้าหนูไล่เขาไป เขาก็ไม่มีที่อยู่ หนูสามารถเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกเองได้ แล้วก็มีน้องหนูคอยซัพพอร์ตตลอด ทางแม่แฟนก็จะคอยช่วยเลี้ยงลูก และลูกๆก็รับรู้เรื่องนี้แล้วด้วย ใจหนูตอนนี้ไม่อยากรอแล้ว เพราะหนูรับไม่ได้ กลัวว่าวันนึงมันจะเกิดขึ้นอีก แล้วถ้าวันนึงกลับมาดีกับเขา แผลที่มันอยู่ในใจหนูมันจะอยู่กับหนูตลอด แล้วหนูจะมองหน้าเขายังไง หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูจะทำยังไงดี ควรรอดีมั้ย?’ ดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาในทางเดียวกันว่า ‘พวกพี่คิดว่าควรมูฟออน ไปต่อ ไม่รอแล้ว ไม่รู้จะรอไปเพื่ออะไร ถ้าเป็นคดีอื่นก็อาจจะเข้าใจ แต่นี่มันคดีข่มขืน เป็นคดีอาชญากรรม มันไปทำร้ายผู้หญิงอีกคนนึงด้วย ขนาดสมยอมระหว่างกันเรายังรับไม่ได้เลย แต่นี่เขาไม่ได้สมยอมด้วย ถึงใจมันจะอยากรอ แต่ไม่รู้โทษมันจะยาวนานแค่ไหน เพราะกฎหมายที่จีนน่าจะแรงมาก คงมีสิทธิ์ถึงตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดว่าไม่อยากรอ แล้วเราเลี้ยงลูกได้เอง ก็ไปต่อส่วนแม่เขา ถ้าเป็นคนดี ช่วยเลี้ยงหลานได้ก็อยู่ด้วยกันไป เพราะพ่อแม่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเขายังดีกับเราอยู่ พี่ๆว่าเราก็อยู่กันได้นะ แล้วถ้าลูกเขากลับมาก็ให้เขารับผิดชอบชีวิตกันเองต่อ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้ว แต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำ เขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย

25 ต.ค. 2024

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้ว แต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำ เขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้วแต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำเขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย เราน้อยใจสุดๆ เหมือนเขาไม่เห็นค่าเลย “คุณวัน (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเราซื้อของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟน แต่แฟนไม่ชอบ โดย “คุณวัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 9 ปี 10 เดือน กำลังจะเข้าปีที่ 10 ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน เเต่มีเเพลนว่าจะเเต่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดเขา สิ่งที่หนูตั้งใจทำให้กับเขาไม่ว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์ ของขวัญวันเกิดมันยังรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ เเล้วคำพูดกับการกระทำของเขามันทำให้หนูเสียใจมาก ๆ ก่อนวันเกิดเราไปซื้อของขวัญ ก็คือพาเขาไปเดินเลือก ตอนแรกเขาอยากได้กระเป๋าเเต่มันไม่มีของที่เขาอยากได้ เราเลยเสนอว่า “เอาเป็นเสื้อตัวนี้มั้ย เสื้อตัวนี้สวยดีนะ” เขาก็ไปลองใส่เเล้วเขาก็บอกว่า “เออ มันก็สวย” เลยตัดสินใจว่าเอา เขาก็เก็บเอาไว้ ไม่ยอมแกะเเล้วบอกว่าจะใส่ในวันเกิด ตอนที่ดูรูปในโทรศัพท์เขาก็บ่นประมาณว่า “เสื้ออะไรเนี้ย” หนูก็เลยรู้สึกว่ามันก็ค่อนข้าง Negative เนอะ เขาคงไม่ได้ชอบหรอก เพราะว่าปกติเเล้วถ้าเขาชอบ เขาจะบอกว่าเสื้อตัวนี้เท่จังเลย ในตอนหลังก็ได้มาคุยกัน เขาก็บอกว่าจริง ๆ ไม่ได้ไม่ชอบนะ เเค่จะสื่อว่ามันแพงไป อย่างที่ 2 ก็จะเป็นเค้กวันเกิด ก็คืออยากให้มันพิเศษนิดนึงเพราะว่าเป็นทั้งวันเกิดเเละทั้งวันครบรอบพอดี เราก็เลยตั้งใจสั่งเป็นเค้กเจ้าอร่อยที่เราชอบ เเล้วทางร้านก็ไม่ค่อยได้ทำรสชาตินี้ออกมาขายเเล้ว เราก็รู้สึกว่ามันพิเศษนะ เเล้วเขียนหน้าเค้กไปประมาณว่า Happy Birthday Happy Anniversary เเล้วก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษแปลประมาณว่า “คุณทำให้ 9 ปีกับอีก 10 มันเป็นเหมือนแค่วัน ๆ เดียว” เขาก็บอกว่า “ไม่อยากได้ อยากได้เป็นเค้กพิซซ่ามากกว่า” เเต่หนูมองว่ามันธรรมดาไป เพราะว่าเราก็กินกันบ่อยมาก ๆ เลย หนูก็เลยพูดหยอก ๆ เขากลับไปว่า “ก็เค้าอยากสั่งเค้กที่เค้าอยากกินอ่ะ” เขาก็เลยเงียบไป พอถึงวันเกิดเขาจริงๆ หนูก็ได้มีการแต่งภาพลงสตอรี่ เเต่ภาพที่เเต่งเป็นภาพขาวดำ เขาก็พิมพ์มาว่า “เฮ้ยย! มันทำไมถึงต้องขาวดำด้วย” หนูก็เลยบอกว่า “ก็มันเท่ดี” หนูก็รู้สึกว่าเขาก็ไม่พอใจประมาณนึง เพราะเขาบอกว่ามันดูเหมือนภาพงานศพ เเล้วก็พอถึงวันที่ฉลองวันเกิดเราก็ไปกันที่ร้านอาหาร หนูก็เลยได้มีการบอกเพื่อนว่า “ถ้าจะซื้ออะไรมาก็ซื้อเป็นพิซซ่าละกันเนอะ เพราะว่าเเฟนอยากเป่าเค้กพิซซ่า” เพื่อนก็เลยซื้อมาตามที่บอก พอมาถึงร้านหนูสัมผัสได้ว่าเขาได้เป่าเค้กพิซซ่าเขามีความสุข เพราะเขาบอกว่าคิดถึงโมเมนท์ตอนเด็ก ๆ ที่พ่อแม่ซื้อเค้กพิซซ่าให้กิน เเต่ว่าพอเป็นเค้กวันเกิดของหนูเขาดูเฉย ๆ มาก ๆ เค้กพิซซ่านั้นเขามีการเอาลงโซเชียลด้วย เเต่ว่าเค้กของหนูไม่ได้เอาลงโซเชียล เขาก็พูดมาประโยคนึงที่หนูเสียใจก็คือเขาบอกว่า “มีคนบางคนไม่ยอมซื้อเค้กพิซซ่าให้กิน ซื้อมาเเต่เค้กที่ตัวเองอยากกิน” หนูก็เลยรู้สึกว่าทำไมถึงพูดเเรงจัง พอหนูทำท่าโกรธเขาก็เหมือนประมาณว่าแบบหัวเราะกลบเกลื่อน เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เพราะเมื่อก่อนเวลาซื้อของขวัญวันเกิดให้เราจะไม่ให้เขาไปเลือกเอง เราจะซื้อให้เลย เขาก็จะขอบคุณตลอด เเล้วก็ชอบไม่ชอบเราก็ไม่ได้สังเกตไงเพราะเราซื้อมาเเล้ว เขาขอบคุณก็จบแล้ว เเต่รอบนี้คำขอบคุณก็ยังไม่มีเลย จนหนูต้องทวงว่าไม่ขอบคุณกันเลยหรอ? หนูมองว่า 10 ปีมันค่อนข้างหมดความหวานเเล้ว ในเมื่อเราตกลงกันเเล้วว่าเราจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เเต่ว่าถ้าเราจะต้องอยู่ด้วยกันโดยไม่รักษาน้ำใจกันเเบบนี้ มันจะทำยังไงให้มันตลอดรอดฝั่ง ถ้าเป็นแบบนี้หนูก็ไม่โอเคถ้ามันจะต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เขาก็ไม่ได้บอกว่าต่อไปจะไม่ทำเเล้ว เเต่เขาบอกว่าทุกอย่างที่ทำให้ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี คำพูดเขาก็มาจากคำพูดเรา หนูก็เลยอยากปรึกษาพี่ดีเจทั้ง 3 คนว่าหนูควรทำยังไงต่อดี ให้ชีวิตคู่ของหนูมันไปรอดตลอดฝั่ง?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าทั้งคู่จริง ๆ นอกจากจะถามเขาว่าจะอยู่ยังไงที่ไม่รักษาน้ำใจ เราต้องถามตัวเองด้วยว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปในวันเกิดเขารึเปล่า ถ้ามันเป็นเรื่องเเค่วันเกิดที่ผิดใจกันจริง ๆ โอเคไม่มีปัญหา หลังจากกลับมาเป็นเหมือนเดิม พฤติกรรมหลังจากเนี้ยะน่าจะบอกได้ว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมรึเปล่า เราแค่ผิดใจในวันนั้นรึเปล่า หรือจริง ๆ เเล้วมีปัญหาใหญ่ซ่อนอยู่ ถ้ามันมีหลังจากนี้มันจะเป็นอีกในลักษณะแบบนี้ เรื่องการคู่ชีวิตต้องรักษาน้ำใจถ้าตั้งเเต่คบมาเเล้วเขาเพิ่งจะมาไม่มีเเค่วันนี้ พี่ว่าก็ไม่ถือว่าคู่ชีวิตที่ไม่รักษาน้ำใจขนาดนั้นนะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องใช้เหตุเเละผลนะ สิ่งที่ทำวันนี้มันก็มีเหตุมีผลที่ทำให้เขาพูดแบบนั้น วันนึงถ้าคุยกันว่าชีวิตคู่จะไปยังไงให้รอด ก็ต้องคุยกับเขาว่าไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ โดยที่เราเองก็ต้องกลั่นกรองนะว่าถ้าเขาไม่รักษาน้ำใจในแบบที่ไม่มีเหตุผลแล้ว เพราะว่าเราจะมาไม่แฮปปี้ก็ไม่ได้อะ เราจะอยู่ต่อกันไปเรื่อย ๆ ลึก ๆ เเล้วคุณวันก็มีความคาดหวังสูงอยู่นะในการเซอร์ไพร์สแบบนี้ เเต่ถ้าเป็นเเบบนี้ไปตลอดในการมีชีวิตคู่พี่ว่ามันเหนื่อยนะ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นคู่ที่คุยกันได้ ลองเอานิสัยผู้หญิงออกไป อารมณ์แบบชั้นไม่ชอบไม่พอใจเเล้วชั้นเก็บอ่ะ ประมาณว่าแบบเรื่องเค้กอะก็พูดไปตรง ๆ ว่าถ้าไม่รู้ความหมายก็ถามสิ เดะแปลให้อยากให้เขารับรู้ ที่มันตรงกับความรู้สึกเราอะ โดยที่ไม่ต้องเก็บเอามาน้อยใจ การน้อยใจของผู้หญิงโคตรน่าสงสารเลยเว้ย เพราะมันจะนอนร้องไห้โดยที่ผู้ชายไม่รู้เรื่องอะไรเลย หรือว่าเราเคยทำอะไรผิดพลาดไป เคยพูดขอโทษกับเขาบ้างรึเปล่า ถ้าอยากให้กลับไปมีชีวิตคู่เหมือนแรก ๆ ที่คบกันน่ะ มันกลับไปไม่ได้แล้ว คนที่น่ารักในอดีตอ่ะมันไม่อยู่เเล้ว เพราะว่ามันใหม่มันมีปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่าง มันชาชินอยู่ด้วยความเป็นเพื่อน ความรักความหลงมันถูกทดแทนเป็นความผูกพันไปแล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเลิกกับแฟนมาแล้ว 3 ปี แต่ 3 ปีที่ผ่านมา เขาตามหนูไปแทบทุกที่ หนูจะไปไหน ทำอะไร ก็จะเจอเขา ไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะมาตามที่ร้าน เดินหนีไปห้องน้ำ เขาก็จะเดินตามไปดักรอหน้าห้องน้ำ บางวันมายืนรอหน้าหอ เขามาบ้านหนูจนเป็นเรื่องปกติ มาทักทายแม่

25 ก.ค. 2025

หนูเลิกกับแฟนมาแล้ว 3 ปี แต่ 3 ปีที่ผ่านมา เขาตามหนูไปแทบทุกที่ หนูจะไปไหน ทำอะไร ก็จะเจอเขา ไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะมาตามที่ร้าน เดินหนีไปห้องน้ำ เขาก็จะเดินตามไปดักรอหน้าห้องน้ำ บางวันมายืนรอหน้าหอ เขามาบ้านหนูจนเป็นเรื่องปกติ มาทักทายแม่

หนูเลิกกับแฟนมาแล้ว 3 ปี แต่ 3 ปีที่ผ่านมา เขาตามหนูไปแทบทุกที่ หนูจะไปไหน ทำอะไร ก็จะเจอเขาไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะมาตามที่ร้าน เดินหนีไปห้องน้ำ เขาก็จะเดินตามไปดักรอหน้าห้องน้ำบางวันมายืนรอหน้าหอ เขามาบ้านหนูจนเป็นเรื่องปกติ มาทักทายแม่ ทำเป็นซื้อของมาฝากอ้างว่ามาเพราะมีแมวที่เลี้ยงด้วยกัน มาหาแมวด้วย ตอนที่เรามีแฟนใหม่ แฟนใหม่เราก็เป็นคนใจเย็นไม่ได้ว่าอะไรแฟนเก่าเราคนนี้ ตอนนี้เรากลับมาโสดอีกครั้ง แฟนเก่าเราคนนี้ยิ่งเข้ามาวนเวียนในชีวิตบ่อยเกินรู้สึกไม่โอเคเลย หนูควรจะทำยังไงดีคะ? “คุณนิว (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี เป็นสายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจเผือก” เกี่ยวกับปัญหาแฟนเก่าที่ตามง้อไม่เลิกแถมยังมาคุกคามถึงบ้าน อยากรู้ว่าเราควรจะรับมือกับเขายังไงดี? โดย “คุณนิว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนเก่ายังตามง้อไม่เลิกและไม่ให้เกียรติเราเลย เราเลิกกันได้ 3 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่เลิกกันเขาก็จะตามมาหาเราที่หอบ้าง ที่บ้านบ้าง โดยอ้างว่าซื้อของมาให้คุณแม่ คือเราคบกันแบบเปิดเผย ตอนเลิกกันก็บอกแม่ว่าเลิกกัน แต่แม่เอ็นดูเขา ช่วงเทศกาลเขาก็มาหาคุณแม่ เราก็เคยเลี้ยงแมวด้วยกัน เขาอ้างว่ามาหาแมว และก่อนหน้าที่เราจะกลับมาอยู่บ้าน ตอนนั้นเขาก็มายืนรอหน้าหอพักหลังเลิกงาน แล้วก็บอกว่า ขอเข้าไปในห้องด้วยได้ไหม เขาขอร้องเราแต่เราก็ปฏิเสธไป เหตุผลที่เราเลิกกันเพราะความ TOXIC มีปัญหาทะเลาะกัน แล้วเขาก็ขู่จะทำร้ายเราด้วย ปีแรกที่เลิกกันไป เราก็มีแฟนใหม่ แต่เขาก็ยังตามเราอยู่ แฟนใหม่เราก็ไม่โอเค แต่แฟนใหม่เราเป็นคนใจเย็น เวลาเราออกไปดื่มก็เจอแฟนเก่า ออกกี่รอบก็เจอตลอด ไม่ว่าจะกี่ร้าน บางทีเราไม่ได้เจอกับเขาโดยตรง แต่เราดันไปเจอคนรู้จักของเขา คนนั้นก็เขาก็เอาไปบอกแฟนเก่าว่าหนูอยู่ที่นี่ ในโซเชียลเขาก็จะชอบแชร์เหมือนเรายังคบกันอยู่ ทำตัวเป็นเจ้าของ หนูเลยมองว่าเขาไม่ให้เกียรติเรา แม่เราก็ไม่กล้าบอกให้เขาออกไปจากเรา เพราะเขาดีต่อกันและไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ตอนไปเที่ยวสงกรานต์เจอคนรู้จักของเขาก็ถามถึงแฟนเก่าหนู เหมือนเขาไม่รู้ว่าเราเลิกกันแล้ว เราเจอแฟนเก่าที่ร้านเหล้าประมาณอาทิตย์ละครั้ง พอเจอกันเขาก็เดินเข้ามาในร้าน แล้วมานั่งจ้อง เพื่อนในกลุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไงกัน เพราะเขาก็เป็นรุ่นพี่ เคยลงสตอรี่ว่าเราจบกันไปแล้วด้วย แต่เขาก็ยังชอบลงอะไรเกี่ยวกับหนู พฤติกรรมก็แปลกขึ้นเรื่อย ๆ เหตุการณ์ล่าสุด คือ ตอนเราไปดื่มกับเพื่อน เขาก็มาช่วงร้านจะปิด เขามานั่งข้างเราแล้วพยายามจะจับมือ จับแขนเรา เราก็แสดงอาการขัดขืนแต่ไม่อยากพูดหักหน้าเขา เราเลยลุกหนีแล้วเข้าห้องน้ำ ซึ่งเวลาหนูเข้าห้องน้ำ เขาก็จะตามไปยืนรอหน้าห้องน้ำ แล้วบอกว่าให้เคลียร์กันก่อน แรก ๆ เขาเคยขู่ว่าจะทำร้ายตัวเองด้วยถ้าเราไม่คืนดี เพื่อน ๆ ก็แนะนำว่าให้ลองไปบอกที่บ้านของแฟนเก่าดู เราอยากขอวิธีรับมือจากพี่ๆดีเจว่า เราควรทำยังไงอีกดี?’ โดย “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าลองคุยกับที่บ้านเขาก่อนได้ ถ้าที่บ้านเขารับฟังเขาก็จะรู้ว่ามันเป็นปัญหา แต่ถ้าที่บ้านเขาบอกว่าจะไม่ยุ่ง สิ่งที่ต้องทำคือต้องเก็บหลักฐานการตามของเขาให้ตำรวจไว้ก่อน หรือบอกกับที่บ้านเลยว่าไม่ต้องให้เขามาแล้ว ถ้ายังเข้ามาในบ้านเราอีกก็แจ้งความ แต่ต้องเป็นช่วงที่มีคนในบ้านเยอะหน่อย เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเราบ้าง’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘อยากจะบอกน้องผู้ชายว่ามันไม่ใช่ที่ของเราอีกแล้ว จงเป็นผู้แพ้ที่และจงเป็นอดีตที่ดีของใครสักคน ดีกว่าเราฝืนทำอะไรไม่รู้ที่ไปทำลายช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยคบกันทำไมถึงดิ้นรนที่จะทำลายช่วงเวลาดี ๆ เหล่านั้น แล้วเราจะกลายเป็นใครสักคนที่นิวไม่อยากจะจำ บางครั้งการรออยู่เงียบ ๆ มันดีกว่า และถ้าชีวิตมันจะพัดพาให้มาเจอกันอีกก็ค่อยว่ากัน’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘คำว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ใช้ไม่ได้กับทุกคนนะ ถ้าคนที่มันเลิกแล้วผู้หญิงจะไม่ชอบผู้ชายที่ทำอะไรแบบนี้ เหมือนเป็นแม่เหล็กขั้วเดียวกันแล้วผู้หญิงจะรู้สึกว่าอยากผลักผู้ชายออกไป ถ้านิวไม่รู้จะทำยังไงให้หาใครสักคนมาเป็นแฟนใหม่ แล้วลงรูปให้รู้ว่าเรามีแฟนแล้ว ถ้าเขายังตามอีกก็แจ้งความเลย เก็บหลักฐานให้เยอะพอที่ตำรวจจะเห็นว่าเราโดนคุกคาม ไม่งั้นเขาจะไม่ตามเรื่องให้เรา หรือลองคุยกับเขาตรง ๆ เลยว่าถ้ายังไม่หยุดจะแจ้งความแล้วนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin#พุธทอล์คพุธโทร #พุธทอล์คพุธโทรRECAP #ดีเจเผือก #ดีเจเติ้ล #ดีเจต้นหอม #EFM94

คนกลางลำบากใจที่สุด... ลูกสาวโทรปรึกษา 3 ดีเจในรายการ คุณพ่อจับได้ว่า คุณแม่คุยกับเพื่อนสนิทผู้หญิงคนหนึ่งในเชิงชู้สาว สุดท้ายแม่ยอมรับว่าทั้งคู่ “ต่างคนต่างรู้สึก” เหมือนกัน และต่างคนก็ต่างมีสามีกันอยู่แล้ว พีคสุด! สามีฝั่งนู้นก็รับรู้และรับได้

08 ก.ย. 2023

คนกลางลำบากใจที่สุด... ลูกสาวโทรปรึกษา 3 ดีเจในรายการ คุณพ่อจับได้ว่า คุณแม่คุยกับเพื่อนสนิทผู้หญิงคนหนึ่งในเชิงชู้สาว สุดท้ายแม่ยอมรับว่าทั้งคู่ “ต่างคนต่างรู้สึก” เหมือนกัน และต่างคนก็ต่างมีสามีกันอยู่แล้ว พีคสุด! สามีฝั่งนู้นก็รับรู้และรับได้

คนกลางลำบากใจที่สุด... ลูกสาวโทรปรึกษา 3 ดีเจในรายการคุณพ่อจับได้ว่า คุณแม่คุยกับเพื่อนสนิทผู้หญิงคนหนึ่งในเชิงชู้สาวสุดท้ายแม่ยอมรับว่าทั้งคู่ “ต่างคนต่างรู้สึก” เหมือนกันและต่างคนก็ต่างมีสามีกันอยู่แล้ว พีคสุด! สามีฝั่งนู้นก็รับรู้และรับได้ตอนนี้พ่อเสียใจมาก อยากจะออกจากบ้าน แต่ไม่รู้จะไปนอนที่ไหน... “คุณกิ๊ฟ (นามสมมุติ)” อายุ 27 ปี สายแรกในรายการ “พุธทอล์ค พุธโทร” เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 ก.ย. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาเรื่องแม่ไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนที่เป็นผู้หญิง โดย “คุณกิ๊ฟ (นามสมมุติ)” เล่าว่า ‘เมื่อก่อนพ่อกับแม่เคยอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วก็ 3 ปีที่ผ่านมา กลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด ไปปลูกบ้านใกล้ๆกับบ้านของตา จะได้ดูเเลตากับยาย ในช่วงแรกแม่เขาก็รู้สึกนอยด์ๆ เพราะตอนที่เขาอยู่กรุงเทพฯ เขาเคยมีรายได้ รู้สึกมีประโยชน์ แต่พอมาอยู่ที่นี่เขาไม่มีรายได้ แล้วเขาก็เหงา ซึ่งพ่อของหนูก็หางานที่ใกล้ๆบ้านเเล้วก็ได้งาน โดยเงินที่ใช้ในแต่ละเดือนก็จะมาจากเงินเดือนของพ่อ เมื่อช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา ก็มีเพื่อนของเเม่ที่เป็นผู้หญิง ไม่ได้คุยกันมาประมาณ 10 ปีเเล้ว เขาเหมือนตั้งใจจะมาที่บ้านตา เพื่อจะมาขอที่อยู่ของเเม่ที่กรุงเทพฯ เพราะคิดว่าเเม่ยังอยู่ที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นแม่กับเพื่อนของแม่ก็ได้เจอกันพอดี เหมือนเขาก็ปรับความเข้าใจ กลับมาคุยกันเป็นเพื่อนกัน สำหรับครอบครัวฝั่งเพื่อนของแม่ เหมือนครอบครัวเขาจะมีปัญหาหลายเรื่อง เขาก็เลยจะมาหาเเม่อาทิตย์ละครั้ง มานั่งคุย ปรึกษา ทำอะไรกินด้วยกัน เเล้วเวลาเขามา เขาก็จะคอยใส่ใจ ซื้อของกินมาให้ตลอด จนเมื่อช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม่ก็ไปสารภาพกับเพื่อนว่าแม่รู้สึกกับเพื่อนคนนี้เกินเพื่อนไปแล้ว แล้วเพื่อนเเม่ก็ตอบกลับมาว่าก็รู้สึกเหมือนกัน เเต่ทางนั้นเขาก็มีสามี มีลูก ลูกอายุเท่าๆกับหนูเลย หลังจากนั้นเหมือนพ่อเริ่มสังเกตอาการได้ พ่อก็เลยแอบไปดูในไลน์ เขาก็เห็นว่าคุยกัน ใช้คำหวานๆ คลั่งรัก จากที่พ่อแคปแชทมาให้ดู เขาคุยเหมือนเป็นแฟนกัน พ่อรับไม่ได้ พ่อกับแม่ก็เลยทะเลาะกัน ทำให้พ่อต้องออกจากบ้านไป เเล้วเขาก็กลับมาคุยกัน พ่อก็ขอให้แม่หยุดได้ไหม? แล้วก็ให้กลับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิม แต่แม่บอกว่า เขาไม่ได้รู้สึกกับพ่อแบบนั้นแล้ว เขารู้สึกว่าที่ผ่านมาเหมือนพ่อละเลยเขา ไม่ค่อยสนใจเขา เวลาอยากจะไปไหนก็ไม่ไป จนมาวันนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเเล้ว แต่เขาก็ไม่ได้อยากจะไล่พ่อออกไปนะ แต่ถ้าจะอยู่ก็อยู่เป็นเพื่อนกัน แต่พ่อก็รับไม่ได้ พ่อรู้สึกว่าอยากให้แม่รักพ่อเหมือนเดิม เหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่ไปรักคนอื่น พอเป็นคนกลางก็คือฟังจากทางเเม่ด้วย บางทีในมุมเเม่เขาก็จะรู้สึกว่า ฉันก็ถูกละเลยมาหลายปีเเล้ว ในมุมพ่อ แม่ไม่เคยพูดเขาก็ไม่รู้ เขารู้สึกว่าอันนี้ก็คือปกติที่เคยทำ แต่ก่อนก็ไม่เคยเห็นเป็นอะไร ก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องรักษาความรู้สึกทั้งพ่อกับแม่เราควรจะทำยังไงดี? เพราะเเม่ก็ไม่ได้อยากจะเลิกกับพ่อ เพื่อที่จะไปอยู่กับเพื่อนสองคน จริงๆพ่อก็อยากออกไป แต่ก็ไม่รู้จะไปไหน ก็เลยเป็นห่วงพ่อว่าจะไปอยู่ที่ไหน หนูเคยคุยกับเเม่ว่าไม่เอาได้ไหม? แม่ก็พูดมาคำหนึ่งว่า มันคือความสุขของเขา เเค่เหมือนได้คุยก็มีความสุขเเล้ว จากที่ถามเเม่มา ครอบครัวทางฝั่งนู้น เขารู้เเล้วเขาก็รับได้ มีเเต่พ่อที่รับไม่ได้ แม่เขาก็บอกว่าเหมือนเป็นเพื่อนคนนึงที่สบายใจของเขา เข้าใจเขา... หนูก็เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า ทำยังไง จะไม่ให้พ่อกับเเม่เสียใจดี? งานนี้ “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คนที่ดูน่าสงสารที่สุดคือ คุณพ่อ คนที่จะได้รับการเยียวยาคนแรกจากกิ๊ฟก็คือคุณพ่อ คนอยู่ด้วยกันเป็น 20 - 30 ปี คำว่าละเลยกับการทำทุกอย่างเป็นปกติ มันมีเส้นบางๆ ถ้ายังรักกันอยู่ ก็มองว่ามันเป็นปกติ มันไม่เคยเป็นเรื่อง เเต่พอวันหนึ่งไม่ได้รักกันเเล้ว มันก็กลายเป็นเรื่องละเลย มันก็แอบไม่เเฟร์กับคุณพ่อเหมือนกัน ส่วนวิธีเยียวยาคุณพ่อ กิ๊ฟก็ชวนพ่อคุยทำนู้นนี่ แล้วค่อยๆแอบถามพ่อมีอะไรจะคุยหรือเปล่า? หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน คือดูแลให้เขามีเพื่อน และฝั่งคุณเเม่ก็ทำไรมากไม่ได้ ทำได้เเค่เตือนว่าสิ่งที่เเม่มองว่าเป็นเรื่องเล็ก เป็นเพื่อนกัน เป็นความสุข กิ๊ฟอยากให้เเม่ระวังว่า ผลกระทบของความสุขของเเม่เนี่ยมันทำให้คนรอบข้างเป็นทุกข์หรือเปล่า มันก็ทำได้เเค่เตือน ทางด้าน “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็น่าจะเป็นคุณพ่อ เป็นการนอกใจที่ชอบผู้หญิงเหมือนกันอีก ซึ่งก่อนหน้าก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะว่าเขาเป็นภรรยาของคุณพ่อมานานมากแล้ว พี่จะไม่บีบบังคับให้พ่อยอมรับ เพราะตอนนี้เเม่คุณกิ๊ฟต้องการแบบนั้น ซึ่งพี่รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ถ้าสถานการณ์กลับกันไม่ว่าจะฝั่งไหน มันก็ยอมรับไม่ได้เลย มันเห็นแก่ตัวไปนิดนึง พี่ก็คงบอกว่าถ้าพ่อไม่ไหว พ่อมีสิทธิ์ที่จะไปนะ มันเศร้าตรงที่พอรู้ว่า ภรรยาตัวเองมีคนอื่นเเล้ว เเต่ตัวเองยังอยู่ในพื้นที่บ้านตาบ้านยาย ณ ตอนนี้พี่คิดว่าเเม่จะอยู่บ้านคนเดียวได้อย่างมีความสุข ส่วนฝั่งคุณเเม่ ถ้าตอนนี้คุณแม่ค้นพบว่าฉันชอบเพศเดียวกัน พี่ก็จะตามใจเขา แต่ที่เเม่บอกพ่อละเลย ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง อาจจะเป็นคำอ้างก็ได้ แต่ถ้าเป็นจริงพี่ก็คงพูดกับเเม่ว่า ลองให้โอกาสพ่อไหม เพราะเขาไม่เคยพูดกับพ่อเลย ตอนนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เราเป็นลูก เราก็ทำได้เเค่ใครที่เสียใจเราก็ให้กำลังใจ เป็นเรื่องที่เขามีสิทธิ์ที่เขาจะทำได้ เลือกทางเดินชีวิตตัวเองเเล้ว สุดท้าย...เขาเลือกเเล้ว ถ้าเขามีความสุขกับทางที่เขาเลือกจริงๆ พี่ก็โอเคกับทั้งสองฝ่าย สำหรับพี่เขาก็คือพ่อเเละเเม่ที่พี่ก็ยังรักอยู่ดี และ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งที่ทำ มันก็คือการนอกใจ ส่วนบ้านนู้นก็ถามเลยว่า เขารับได้จริงๆใช่ไหมที่เขาคบกัน ถ้ารับได้จริงๆ ทางนี้ก็จะได้เปิดทางให้ที่รับได้นี่ทางนู้นอาจจะรู้เเค่ว่าเป็นเเค่เพื่อนหรือเปล่า ไม่ได้คลั่งรักขนาดนี้ ถ้าบ้านเขารับได้จริงๆเราทำได้เเค่ปล่อยอย่างเดียวเลย เราต้องมาฮีลใจคุณพ่อ แล้วก็คุยกับเเม่ ถ้าเเม่พูดว่านี่ คือความสุขของเเม่ เราก็บอกแม่ไปเลยว่า มันเป็นความสุขที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง ความสุขเเบบนี้มันเรียกเห็นแก่ตัว แล้วเราก็หันมาทางพ่อ การที่อยู่กับคนที่ไม่ได้รักเรามันเจ็บกว่าการที่จบเเล้วเดินออกไปมากกว่า สิ่งที่เยียวยาพ่อได้ดีที่สุดก็คือลูก เพราะตอนนี้ดูแล้วแม่กู้ไม่กลับเเล้ว เพราะฉะนั้นต้องดูเเลพ่อให้รู้สึกว่าอย่างน้อยลูกคือความหวังของพ่อ ให้กำลังใจพ่อ ถ้าพ่อคิดว่าตอนนี้พ่อทนได้ พ่ออยู่ไปก่อน แต่บอกล่วงหน้าเลย สิ่งที่พ่อทำอยู่มันเสียเวลา เเต่ถ้าพ่อรู้สึกว่าพอแล้ว พ่อปิดประตูบานนี้เเล้วเดินออกมา ให้ทางเลือกกับเขา บอกเขาว่าเราเข้าใจเขา... สุดท้ายนี้...พี่ๆดีเจก็เข้าใจคุณกิ๊ฟ ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณกิ๊ฟ ขอให้เรื่องราวผ่านไปได้ด้วยดีเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1