หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูคบแฟนมา 1 ปีที่ผ่านมา เหมือนหนูไร้ตัวตนในพื้นที่ของเขา ล่าสุดหนูขอให้เค้าลงโพสวันเกิดหนู ถ่ายรูปด้วยกัน พอไปเช็ค เค้าตั้งค่า Story IG ซ่อนคน 200 กว่าคน ในนั้นมีทั้งคนรอบตัว ครอบครัว เพื่อน และ แฟนเก่าของเขาทั้งนั้น หนูรู้สึกเศร้าไปเลย

06 ก.ย. 2024

        “คุณเก๋ (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [4 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนทำให้รู้สึกไร้ตัวตน

       โดย “คุณเก๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่มีตัวตนในพื้นที่ส่วนตัวของแฟน คือช่วงวันเกิดของหนูที่ผ่านมาเค้าลงสตอรี่ แต่หนูมารู้ทีหลังช่วงหลังวันเกิดหนูว่าเค้าซ่อนสตอรี่ 200 กว่าคน และเค้าก็ไม่เคยโพสต์รูปหนูในไอจีเลย หนูไม่เคยไปเจอเพื่อนเค้า มีแต่เค้ามาเจอเพื่อนหนูครอบครัวหนู ซึ่งหนูรู้ว่าการคบกันมันคือเรื่องของคน 2 คน แต่เรื่องตอนนี้มัน 2 คนจริง ๆ หรอ? เราไม่ได้มองอนาคตเหมือนกันหรอ? เค้าเองก็ตอบหนูทุกครั้งว่าเค้าอยากมีอนาคตไปกับหนู แต่สถานการณ์มันดันเป็นแบบนี้ และหนูก็เคยคิดว่าหนูเป็นน้อยเค้า ด้วยความที่เค้าซ่อนสตอรี่จำนวนมากประมาณ 200 กว่าคน ในนั้นก็จะมีเพื่อนเค้า แฟนเก่าเค้า คนรอบข้างแฟนเก่าเค้า ครอบครัวเค้า หนูก็เคยขอดูโทรศัพท์เค้าแต่ก็ไม่เจออะไรเลย หนูเลยอยากถามพี่ๆดีเจว่า ถ้าในมุมของคนอื่น ๆ ถ้าเจอความสัมพันธ์แบบนี้จะทำยังไง?’

      ซึ่งทางด้าน “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เค้าไม่ปล่อยอย่างเดียว หนูเองก็ไปไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูเป็นมนุษย์ที่อดทนอยู่ ถ้าหนูไม่ไหวก็ออกมาพี่พูดได้เท่านี้ ถ้าไหวก็สู้ แต่อย่าให้ถึงขึ้นเป็นซึมเศร้า ป่วย เกิดอะไรในใจแล้วท้อ ถ้าหนูว่างที่จะทนหนูทนเลย’

        ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่พี่เจอแบบนี้พี่ไปแน่นอน สมัยหนุ่ม ๆ พี่ก็เคยเจออะไรแบบนี้ ถ้าเป็นพี่ที่เห็นว่าความสัมพันธ์นี้มันแปลก ๆ พี่จะไปเลย อย่าให้เราต้องไปเสียทรงกับเค้า เพราะถ้าความสัมพันธ์มันใช่มันจะไม่ยาก แต่สุดท้ายชีวิตมันก็เท่านั้น มันรู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่มันออกมาไม่ได้ก็ทน พอมันเป็นเรื่องคนอื่นพี่พูดได้แหละ แต่ถ้าเราเจอเองเราอาจจะทนกว่าเก๋ก็ได้ เพราะงั้นถ้าไหวก็เช็คตัวเองบ่อย ๆ ดูใจตัวเองบ่อย ๆ จนวันที่เราไม่เอาแล้วเดี๋ยวมันจะมีทางไปของมันเอง แต่ 26 แล้วก็อย่าไปเสียเวลากับอะไรตรงนั้นมาก’

        และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ามีคนมาทำให้เรารู้สึกไม่มีค่า พี่จะไม่ไหว เหมือนมันจะทุเรศตัวเอง แล้วมันจะหยุดเอง ตอนพี่อายุเท่าเก๋มีก็เคยเป็น แต่แพทเทิร์นแบบนี้มันก็จะจบเหมือนกันหมดแหละ พวกพี่เคยเป็นมาแล้ว อย่าหวังเพราะคิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นที่พี่ทนเพราะพี่คิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และส่วนใหย่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับคนต่อไป’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูอายุ 23 รู้สึกชีวิตนี้ทำอะไรก็ล้มเหลว เรียนใกล้จะจบแล้วก็โดนรีไทน์ คุณแม่เศร้าจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนูคิดมาตลอดว่าหนูอาจจะเป็นสาเหตุ ญาติก็พูดดูถูก เปรียบเทียบหนูกับลูกเขาให้ครอบครัวหนูฟัง ตอนนี้หนูพยายาม เรียนเพิ่ม

06 ก.ย. 2024

หนูอายุ 23 รู้สึกชีวิตนี้ทำอะไรก็ล้มเหลว เรียนใกล้จะจบแล้วก็โดนรีไทน์ คุณแม่เศร้าจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนูคิดมาตลอดว่าหนูอาจจะเป็นสาเหตุ ญาติก็พูดดูถูก เปรียบเทียบหนูกับลูกเขาให้ครอบครัวหนูฟัง ตอนนี้หนูพยายาม เรียนเพิ่ม

หนูอายุ 23 รู้สึกชีวิตนี้ทำอะไรก็ล้มเหลว เรียนใกล้จะจบแล้วก็โดนรีไทน์คุณแม่เศร้าจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนูคิดมาตลอดว่าหนูอาจจะเป็นสาเหตุญาติก็พูดดูถูก เปรียบเทียบหนูกับลูกเขาให้ครอบครัวหนูฟังตอนนี้หนูพยายาม เรียนเพิ่ม เตรียมสอบทหารตำรวจ แต่ก็กลัวจะล้มเหลวอีก“คุณวี (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [4 ก.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม’ เกี่ยวกับเรื่องโดนรีไทร์ปีสุดท้ายของมหาลัย เจอคำพูดญาติดูถูกจนเราหมดกำลังใจโดย “คุณวี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เมื่อต้นปีที่ผ่านมาคือวีกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งอยู่ ในช่วงชั้นปีที่ 4 เทอม 1 ในระหว่างเรียน หนูก็เรียนนักศึกษาวิชาทหารไปด้วยเเล้ว เหลือเวลาอีก 1 เทอมก็จะจบเเล้ว ปรากฎว่าสิ่งที่มันเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวในตอนนั้นก็คือวีโดนรีไทร์ก่อน เพราะว่าเกิดจากที่เกณฑ์คะเเนนในเเต่ละปีของเราทำไม่ถึงเขา เลยส่งผลทำให้เราโดนรีไทร์ออกมา มันเหลืออีกเเค่เทอมเดียว เลยเกิดความเสียใจ ตอนนั้นที่ประกาศผล เกรดออกมาก็อยู่กับคุณพ่อคุณเเม่นี่แหละ 3 คน วันที่ประกาศออกมาว่าโดนรีไทร์ ก็เสียใจทั้งบ้านเลยก็กอดกัน คือตอนนั้นมันตันไปหมดเลย มันไม่รู้จะทำยังไง เราอุตส่าห์เตรียมใจไว้เเล้วว่ามันมีโอกาสแหละ คือเราใช้ความพยายามของเรามาตลอด วีเป็นคนที่ไม่ได้เรียนเก่งอะไร เเต่อาศัยความพยายาม การส่งงาน การอ่านหนังสือให้หนักกว่าคนอื่นให้เข้าไว้ เพื่อให้ผ่านไปในเเต่ละเทอม เเต่เหมือนว่าเราพยายามดีที่สุดเเล้วในจุด ๆ นั้น พอเรารู้ว่าประกาศผลออกมามันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังเเละมันถึงทางตันไปหมดเลย ทีนี้ปัญหามันเข้ามาในชีวิตเยอะมากในครอบครัวปัญหา Topic แรกที่เกิดขึ้นในครอบครัวคือ คุณแม่กลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย จริง ๆ ตอนแรกวีคิดว่าเป็นเรื่องของวีนี่แหละ เเต่พอเราไปถามจากคุณเเม่มา ก็ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ เขาสะสมมานานเเล้วเเต่อาการยังไม่ออก จนมาถึงวันที่ประกาศผล วีถึงได้รู้ว่ามันเกิดจากที่สะสมมาเเละเงียบมานาน โดนเรื่องวีด้วยมันก็เลยทำให้หนักเข้าไปอีก หลังจากนั้นพอรู้ว่าคุณเเม่เป็นโรคซึมเศร้า ตอนแรก ๆ เราเคว้งกันมาก ไม่รู้จะไปต่อทางไหนดี ได้เเต่พึ่งการสวดมนต์ คุณเเม่ก็จะบอกไว้ว่าสวดมนต์ทุกวันนะ มันจะช่วยทำให้เราเเบบจิตใจเราได้จะดีขึ้น เราจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เราจะได้ลุกขึ้นมาให้ได้เร็วที่สุด เราก็ต้องใช้การสวดมนต์ในการบำบัดทั้งครอบครัวเลยจนทีนี้เราได้มานั่งคุยกันเเล้วต่อจากนี้วีจะทำยังไงต่อไป วีจะยังกลับไปเรียนที่ตรงนั้นอยู่มั้ย คือมหาลัยที่วีเรียนอยู่ มันค่อนข้างที่จะหนักมาก ๆ คือเกณฑ์การให้คะแนนเขาค่อนข้างสูงมาก เราประเมินตัวเองเเล้ว ยังไงกลับไปก็น่าจะไม่ไหวเหมือนเดิม หนูก็เลยตัดสินใจเลือกชีวิตของหนู เส้นทางที่หนูเลือก คือการเป็นตำรวจ หรือ ทหารได้มั้ย? หนูก็เลยตัดสินใจบอกคุณพ่อคุณเเม่ไป คุณพ่อคุณเเม่ก็บอกว่า “โอเค ถ้ามันคือการตัดสินใจของหนู ก็ทำมันให้เต็มที่เลย” ในระหว่างนั้นหนูใช้เวลาประมาณ 2 เดือนกว่า ๆ กว่าจะลุกขึ้นมาให้ตัวเองได้พยายามให้มากขึ้น อ่านหนังสือให้เยอะมากขึ้น เเละก็ไปสอบให้ได้ใบเบิกทางมา อะไรหลาย ๆ ให้เราได้มีโอกาสได้เข้าไปสอบในสิ่งที่เราอยากสอบตอนนี้หนูก็ได้ไปลองข้อสอบในการสอบหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางทหารอากาศ หรือว่าอะไรหลาย ๆ อย่าง เหมือนหนูอยากเข้าไปหาประสบการณ์ให้ตัวเองว่าครั้งนึงสิ่งที่เราเลือกเราจะต้องไปเจออะไรบ้าง ถ้ามันไม่ผ่านจริง ๆ เราก็เเค่กลับมาทบทวนในสิ่งที่เราเจอว่าเราเจออะไร เราจะต้องเพิ่มตรงไหน เราจะต้องแก้ตรงไหน? ตอนนี้หนูก็ลงคอร์สของพี่คนนึงไว้ เป็นคอร์สของการสอบตำรวจโดยเฉพาะ เเละพอพยายามไปเรื่อย ๆ ความสำเร็จมันก็เกิดขึ้น แต่ว่าความสำเร็จตรงนี้มันก็ยิ่งทำให้อุปสรรคยิ่งเข้ามาถาโถมอีกครอบครัวของวี ฝั่งคุณพ่อจะเป็นทางญาติของย่า เขารู้ว่าหนูล้มเหลวจากการโดนรีไทร์เเล้ว ต่อจากนี้หนูจะทำอะไรต่อ เหมือนเขาไม่ได้สนับสนุนให้หนูเรียนในคณะหรือสิ่งที่หนูอยากเรียนมาตั้งเเต่เเรก คือ เขาอยากให้หนูเรียนปกติ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ออกมาก็ทำงานเหมือนพ่อ เหมือนเเม่ เขาก็เลยไม่ค่อยสนับสนุนในสิ่งที่หนูเรียนมากเท่าไหร่ ตลอดระยะเวลาที่เริ่มเรียนมาตั้งเเต่มัธยมจนถึงมหาลัย เหมือนเราโดนเขาใช้คำพูดที่เราโดนดูถูกมาตลอด เเบบเขาเตือนเรามาหลายครั้งเเล้วว่าอย่าหวังเกินตัว อย่าฝันให้สูงเกินตัวเองทั้ง ๆ ที่ตัวเองทำไม่ได้ เขาไม่ได้บอกทางหนูหรอก เหมือนเขาพูดทางพ่อเเม่เอา เพราะหนูไม่ค่อยได้เจอเขาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นคุณพ่อคุณเเม่ที่ไปเยี่ยมเขา เเล้วก็โดนมาตลอด เเต่ว่าคุณพ่อคุณเเม่ก็ไม่เคยบอกว่าเขาเจอคำพูดไหนมาบ้าง จนถึงปัจจุบันก็ยังโดนอยู่ เหมือนยิ่งโดนคำพูดนี้มากขึ้น คุณเเม่หนูก็ยิ่งเเย่ลงไปเรื่อย ๆ เหมือนโรคซึมเศร้าที่เขาเป็นอยู่มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ดี ๆ ความรู้สึกที่หนูมองเเม่ อยู่ดี ๆ เขาก็ร้องไห้คนเดียวโดยที่แบบไม่มีเหตุผลหนูโทษตัวเองไปเรื่อย ๆ ว่าเพราะเเบบนี้ใช่มั้ย? หนูถึงทำให้แม่อยู่ในจุดที่มันดิ่งที่สุดในชีวิตในครอบครัวของหนู คือ มันทำให้แม่ของหนูร้องไห้ทุกวันจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะเกิดจากความล้มเหลวของหนูด้วยใช่มั้ย? หนูพยายามเก็บอารมณ์ในการร้องไห้ของหนูมาตลอด เพราะหนูก็ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าหนูจะล้มกับเขาไปอีกคนนึง เเค่เเม่คนเดียวมันก็เสียใจกันทั้งครอบครัวเเล้ว ถ้าเราล้มตามเเม่ไปอีก คนที่เป็นพ่อเขาก็จะไม่สบายใจมากขึ้น หนูก็เลยพยายามเข้มแข็งให้เขาเห็นว่าหนูไม่เป็นไรนะเเม่ หนูจะผ่านมันไปให้ได้ หนูจะพิสูจน์ให้เเม่ได้เห็นเองว่าสิ่งที่หนูทำเลือกจริง ๆ มันถูกต้องเเละมันคือสิ่งที่หนูรักจริง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็พาคุณเเม่ไปหาหมอตลอด ที่เป็นหมอเกี่ยวกับด้านโรคซึมเศร้า คุณเเม่ก็จะกินยาอยู่เเบบนี้ตลอดเพราะว่าอาการมันยังไม่หาย หนูก็เลยอยากให้พี่ ๆ ดีเจช่วยดึงสติ อยากให้พี่ ๆ ช่วยพูดให้กำลังใจให้หนูได้ลุกขึ้นมาพยายามอีกครั้งนึงหน่อย’ซึ่งดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ไม่จำเป็นต้องกลับไปหาคำตอบว่าแม่เป็นเเบบนี้เพราะใคร เราผิดมากแค่ไหน ส่วนตัวพี่มองไม่ได้ทำให้ปัญหาอะไรดีขึ้น มันไม่ได้อยากหาคำตอบจริง ๆ หรอก ลึก ๆ มันคืออาการโทษตัวเองมากกว่า เป็นปกติของคนรู้สึกแบบนี้ อย่างน้อยคนที่รู้สึกผิด คน ๆ นั้นทั้งห่วงทั้งรักเเละเเคร์ คนที่ได้รับผลกระทบนั้นมาก ๆ หนูกำลังใช้อารมณ์กับเรื่องบางเรื่องที่เป็นอดีตอยู่ เเทนที่จะโฟกัสกับปัจจุบันเเล้วพุ่งไปอนาคต แต่ถ้าเมื่อไหร่ไปข้างหน้าได้หมดเเล้วไม่เหลียวมามองเรื่องพวกนี้อีก มันจะทำให้หนูพุ่งไปมากขึ้น เเต่อาจจะต้องใช้เวลาเรื่องคุณแม่ การไปถามเหตุผลกับอดีตที่มาผ่านมาแล้ว กับการมาดูปัจจุบันว่าคุณเเม่เป็นยังไง ที่บอกว่าเห็นคุณเเม่ร้องไห้อะ คิดว่าคงเป็นเพราะโรคมากกว่านะ อยากให้ไปศึกษาเรื่องโรคนี้ดี ๆ ว่าจริง ๆ สารเคมีในสมองคุณเเม่มันควบคุมไม่ได้ การที่คุณเเม่ฟังเรื่องหนูเเล้วเป็นทันที หนูไม่ใช่คนที่ทำให้คุณเเม่เป็นได้ขนาดนั้น เขาผ่านโลกมาเยอะ โรคเเบบนี้มันต้องสะสมมา มันมีมาก่อนแล้ว หนูไม่ใช่คนที่สร้างปัญหา มันเป็นจังหวะนั้นพอดีมากกว่า ไม่ต้องโทษตัวเองขนาดนั้นเรื่องเรียน ถ้าทำเต็มที่จงชมเเละให้กำลังใจตัวเองมาก ๆ เลยวี ให้รางวัลกับตัวเองเยอะ ๆ ว่าชั้นพยายามเต็มที่ทั้งชีวิตเเล้ว ถ้ามันเต็มที่เเล้วคือจบเเค่นั้น ไม่ต้องยึดติดกับผลลัพธ์ ถ้าระหว่างทางจะผิดจะถูกอะไร นั้นคือรางวัลของเราเเละครอบครัววันนี้ต้องตั้งสติมาก ๆ คนรอบตัวต้องเข้มเเข็ง อยากให้วีปรึกษาคุณหมอด้วย ทุกครั้งที่พูดถึงเเม่ เสียงวีก็ไม่ไหวเเล้ว อย่าห่วงเเต่เเม่ห่วงตัวเองด้วย ถ้าเรารู้ตัวเราเองเเล้ว เเข็งเเรงพอ เราเองนี่เเหละจะดูเเลทุกคนได้ ดูเเลเเม่ได้ ถ้ารู้สึกเหนื่อยลองเปิดใจคุยกับคุณพ่อดู ช่วยกัน 2 คน ต้องทำให้คุณพ่อเข้าใจเรื่องนี้ด้วย การที่คุณพ่อพาคุณเเม่ไปเเล้วโดนญาติ ๆ ด่า โดยที่รู้ว่าคุณเเม่เป็นโรคซึมเศร้า คุณพ่อก็ทำไม่ถูก มันต้องช่วยกัน มันเป็นเรื่องครอบครัว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก

02 ก.ย. 2025

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก

แม่หนู ชอบเอาเรื่องของหนู ชีวิตของหนู ไปเล่าให้กับทุกคน รอบๆตัวแม่ ทั้งญาติ เพื่อนบ้านคนรู้จัก บางทีมันเป็นเรื่องที่หนูยังทำไม่สำเร็จเลย แม่ก็เอาไปเล่าแล้ว หนูรู้สึกอึดอัด พอบอกแม่แม่ก็บอกว่าที่แม่เอาไปเล่าเพราะว่าแม่ภูมิใจในตัวลูก แต่หนูกลับรู้สึกว่าไม่โอเคเลยที่แม่ทำแบบนี้ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้คะ?? “คุณหลง (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาแม่ชอบเอาเรื่องเราไปพูดให้คนอื่นรอบตัวฟัง จนเรากดดัน กลัวจะทำไม่ได้ โดย “คุณหลง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า “แม่ชอบเอาเรื่องหนูไปเล่าให้คนอื่นฟัง คือหนูมีแพลนที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศแต่ยังไม่ได้ไป ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัว อย่างเดือนหน้าหนูต้องไปฝึกงานก่อนแล้วค่อยไปสัมภาษณ์กับบริษัทต่างประเทศอีกที ซึ่งตามแพลนคือจะได้ไปประมาณกลางปีหน้า แต่แม่ก็ไปพูดให้เพื่อนที่ทำงานแล้วก็เพื่อนบ้านฟัง วันนั้นหนูไปหาแม่ที่บริษัท แม่ออกมากับเพื่อน แล้วแม่ก็บอกให้หนูเล่าให้เพื่อนของแม่ฟังว่า หนูจะไปทำอะไร ที่ไหน และไฟลท์บินเป็นอย่างไร ซึ่งด้วยความที่หนูรู้สึกว่าถ้าไม่บอกจะเสียมารยาทก็เลยต้องจำใจเล่าไป ทั้ง ๆ ที่ตัวหนูไม่โอเคมาก ๆ เลยที่จะต้องไปบอกแผนชีวิตของหนูให้คนอื่นฟัง มันเลยทำให้หนูกดดันขึ้นมาก ๆ เพราะหนูเป็นคนที่คิดเยอะและคิดมากตลอดเวลา หนูกลัวว่าถ้าหนูทำแพลนนี้ไม่สำเร็จแล้วสิ่งที่แม่ไปพูดเม้าท์ โอ้อวดไว้จะทำให้คนมองหนูยังไง ถึงมันจะมีโอกาสสูงถึง 80% ที่ได้ไปก็ตาม แต่มันก็ทำให้หนูกดดันในตัวเองมาก ๆ เหมือนกัน หนูเข้าใจแม่แต่แค่อยากให้มันประสบความสำเร็จก่อน คือถ้าจะเอาหนูไปเม้าท์ไปพูดหนูไม่ว่าเลย แต่หนูอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว แม่เพิ่งมาเป็นแบบนี้ตอนหนูเข้ามหาลัยเพราะตอนปี 2023 หนูมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ แล้วเหมือนเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้เพราะคนแถวบ้านไม่ได้ไป หนูรู้ว่าก็เป็นความภูมิใจของเขานั่นแหละ หนูดีใจมากแต่ทำไปทำมาแม่ก็เอาเรื่องนี้มาพูดเยอะเกินไปจนอึดอัด หนูไม่สบายใจ หนูเคยคุยกับแม่หลายครั้งแล้วว่าไม่โอเค ให้หนูทำให้เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันก่อนได้มั๊ยแล้วค่อยพูด แม่ก็รับปากทุกครั้งเลยแต่เขาทำไม่ได้ ล่าสุดเรื่องเกิดก็ขึ้นเมื่อวานเลย ขนาดหนูเป็นลูก พูดตรง ๆ แล้วเขายังไม่ฟังเลย ไม่ยอมปรับมายเซ็ทด้วย หนูก็เลยคิดว่าคงต้องปรับที่ตัวหนูเองแล้วแหละ แถมตอนนี้มีการสร้างรายได้ใหม่ที่เป็นการทำคลิปรีลลงแอปฟ้า ซึ่งแม่ก็เอาเรื่องหนูไปเล่าในนั้นด้วยว่าหนูทำอะไร ที่ไหน อย่างไรอยู่ หนูก็เคยพูดกับแม่เรื่องความปลอดภัยไปแล้วแต่แม่ก็บอกว่าให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนได้มั๊ย ให้แม่ได้สร้างรายได้ก่อน หนูก็เลยไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว หนูก็เลยอยากรู้ว่าหนูควรจัดการกับความคิดตัวเองยังไง?” เริ่มต้นที่ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าพื้นฐานนิสัยหลงกับแม่อาจจะไม่เหมือนกัน หลงเป็นคนที่ต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยภูมิใจ ไม่อยากพูดออกไปก่อน กลัวฝันเก้อเพราะมีหน้า ที่ต้องรักษา แต่แม่ก็มีหน้า ที่ต้องรักษาเหมือนกัน การที่เขาพูดเขาก็ได้หน้าแต่ไม่อยากให้ใช้คำว่าเม้าท์เพราะเป็นความหมายลบ พี่มองว่าแม่พูดด้วยความภาคภูมิใจไม่ใช่เรื่องไม่ดี แล้วมันเป็นความฝันของแม่อีก ยังไงมันก็คือความภูมิใจ ถ้าปิดหมู่บ้านได้แม่คงทำไปแล้ว ในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดแม่ไม่ได้และเหมือนยากที่จะเปลี่ยนด้วย เราจำกัดข้อมูลที่แม่ต้องรู้ได้มั๊ย หรือใช้ศิลปะในการพูดกับแม่ หลงใช้เงินแม่ก็จริงแต่บางแผนที่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินก็เล่าคร่าว ๆ ได้’ ต่อไป “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่กลัวหลงกดดันมากเกินจนมีผลต่อสิ่งที่หลงกำลังทำอยู่ว่ามันต้องสำเร็จเท่านั้น หลงก็ต้องพยายามคิดให้ได้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลงตั้งใจกับมัน แล้วท้ายที่สุดถ้า 80% นั้น ดันไม่สำเร็จขึ้นมา ก็เป็นความผิดพลาดในชีวิตซึ่งมันคือเรื่องปกติ ไม่อยากให้ความคิดของแม่หรือคนรอบตัวมากดดันเรา ต้องตัดออกไปให้ได้อย่าเอาปัจจัยอื่นที่ไร้สาระมาคิด และคงหาวิธีรับมือแบบประนีประนอม ถ้าเพื่อนแม่มาถามก็จะตอบแค่ความจริงแต่ไม่ลงรายละเอียด แล้วก็พูดไปเลยว่าหนูก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ป้าก็อย่าไปเชื่อแม่มาก ป้าเขารู้แหละแต่อย่างน้อยเราก็ได้ออกตัวแล้ว ลองนำประเด็นความกดดันและความคาดหวังไปคุยกับแม่อีกรอบ แม่อย่ามาคาดหวังในตัวเราเพราะมันอาจจะเป็น 20% ที่ไม่สำเร็จก็ได้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะพูดกับแม่ว่า โอ๊ยย แม่ก็ช่างเล่าเนอะ จะได้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้เลย แค่นี้ แล้วไม่ต้องเล่าอะไรเลยด้วยซ้ำ เป็นบทสนทนาที่คลายความกดดัน และมันมีวิธีที่จะรับมือกับความกดดันต่อหน้าคนอื่นอีกมากมายเลย ต้องทำให้ทั้งหมดไม่กดดัน พี่เชื่อว่าคนเรามีหลายโอกาสซึ่งนี่เป็นเพียงโอกาสแรกที่เข้ามาก็เท่านั้น ถ้าพลาดมันก็ยังมีโอกาสที่สอง สาม สี่ อีก ซึ่งหลงได้ไปต่างประเทศมาแล้ว ในแง่ของการสมัครงานถือว่าเป็นพอร์ตที่ดี ซึ่งเป็นอาวุธติดตัวถ้าพลาดขึ้นมาโอกาสก็ยังมีอีกมากมายที่ให้หลงได้เดินตามไป อย่ากดดันตัวเอง ส่วนแม่คือเปลี่ยนยากแล้วเพราะแม่ก็คาดหวัง เราก็ต้องจับเข่าคุยกันว่าให้แม่เผื่อใจไว้ด้วย เผื่อใจไว้อายบ้าง แต่หนูไม่อาย แม่ก็ต้องแฟร์ด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบ เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนู ตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด

20 พ.ค. 2025

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบ เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนู ตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด

หนูอายุ 17 คบกับแฟนรุ่นน้อง เป็นนักบอล อายุ 15 เราคบกันแต่พ่อผู้ชายไม่อยากให้คบเพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ลูกเขาเตะบอลมาตั้งแต่ 10 ขวบ กลัวว่าฝีมือจะตกเพราะมาคบหนูตอนนี้เลิกกันแล้วแต่กลับมาคบกัน พ่อยื่นคำขาด คบได้แต่ฝีมือฟุตบอลห้ามตก แฟนหนูกดดันมาก “คุณซี” (นามสมมติ)” อายุ 17 ปี เป็นสายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 พ.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาการมีแฟนเป็นนักฟุตบอล แต่ถูกคุณพ่อของแฟนกีดกัน เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้ลูกชายเสียสมาธิในการเดินตามเส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ โดย “คุณซี” (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟนอายุ 15 ปี เขาเป็นนักกีฬา นักบอล แล้วเขาอาศัยอยู่กับคุณพ่อ เพราะพ่อแม่เขาแยกทางกัน บ้านเขาค่อนข้างมีฐานะ แต่เหมือนคุณพ่อเขาไม่ค่อยโอเคที่เขามีแฟน และพ่อเขาค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณ เพราะด้วยความที่เขาคาดหวังกับลูกเขาว่าต้องเป็นนักบอลมืออาชีพ คบกันช่วงแรกๆยังไม่มีอะไร แค่พ่อเขาไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้พูดถึง แต่พอช่วงหลังๆเขากับพ่อทะเลาะกันทุกวันเพราะพ่ออยากให้เลิกกับหนู ช่วงนี้แฟนหนูเขาขึ้นมอสาม แต่มอปลายเขาวางแผนไว้แล้วว่าจะไปสายฟุตบอลเลย ก็เลยกลายเป็นว่าเขาต้องเข้มงวดและแข่งเยอะมากขึ้น พ่อเขาก็พูดว่าอยากให้แฟนหนูห่วงอนาคตตัวเอง หนูไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพราะแฟนไม่ได้พูดให้ฟัง จนมีวันนึงหนูทะเลาะกับแฟน เขาก็ได้บอกเลิกหนู ที่ผ่านมาเขาไม่เคยบอกเลิกหนูเลย มากสุดคือการประชดกันเฉยๆ ตอนแรกหนูคิดว่าเขาก็คงเหนื่อยกับหนูแล้วก็คงไม่อยากไปต่อ แต่หนูก็ยังคาใจ ก็เลยทักไปถามว่าเหตุผลคืออะไร ขอชัดๆเลย เขาเลยบอกว่าก่อนที่เขากับหนูจะทะเลาะกันประมาณ 2 – 3 วัน พ่อเขามาพูดกับเขาจริงๆจังๆ ว่าให้เขาห่วงอนาคตตัวเองก่อน เรื่องนี้ยังไม่ต้องมีก็ได้ เขาเลยไม่มีทางเลือก ที่ผ่านมาหนูเข้าใจเขาว่าเขาต้องยอมพ่อตลอด เพราะพ่อเขาค่อนข้างเข้มงวดและกดดันมากๆ ตอนแรกหนูก็ต้องยอมรับสภาพ แต่หลังจากที่เลิกกัน 2 – 3 วันเราก็ยังคุยกัน เลยให้เขาลองไปเปิดใจคุยกับพ่อ แต่พ่อเขาก็ยังยืนคำเดิม จนเขาโทรไปปรึกษาแม่ เขาขอร้องแม่ให้ไปคุยกับพ่อให้หน่อย เพราะตัวหนูกับตัวเขาเองไม่ได้อยากเลิกกัน และค่อนข้างยอมรับได้ยาก เพราะการเลิกกันครั้งนี้มันไม่ใช่การตัดสินใจของเราสองคน เมื่อวานที่ผ่านมาพ่อเขาก็บอกว่า ให้มีได้ แต่ถ้าไม่รู้หน้าที่ตัวเองก็ให้เลิก ซึ่งก่อนหน้านั้นหนูพยายามที่จะให้เขาพิสูจน์ตัวเอง เพราะหนูไม่ทำให้เขาเสียอนาคตแน่นอน เวลาเขาไปซ้อม ไปแข่งหนูก็ไม่เคยไปขัดเขาเลย และหนูก็บอกฝั่งทางบ้านหนูด้วยว่าหนูคบอยู่กับน้องคนนี้ๆ หนูก็มีการชวนให้น้องมากินข้าวกับที่บ้านหนู แต่พ่อเขาก็ยังไม่ยอม ถึงจะมีแม่หนูด้วย เขาก็ไม่ไว้ใจ ทุกวันนี้พ่อเขายังยอมรับไม่ได้ว่าแฟนหนูมีหนู เหมือนแค่ยอมจำนน เพราะแม่ของแฟนไปพูดให้ หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูพอจะแก้อะไรได้บ้าง หรือ พอจะช่วยอะไรแฟนได้บ้าง? เพราะเขาไม่พูดเรื่องนี้กับหนูเลย เขาบอกว่าเขากลัวหนูไม่สบายใจเวลาพูดเรื่องพ่อเขา และอยากช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเขาให้ดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องเลิกกับหนู’ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ต้องทำตามพันธะสัญญาที่หนูให้ไว้กับพ่อเขาว่าหนูจะทำให้แฟนหนูไปเป็นนักบอลตามที่พ่อเขาฝัน จะไม่หือ ไม่อือ ไม่ขัด หรือทำทุกอย่างเพื่อรั้งอนาคตเขาเลย เพราะพ่อเขาคิดว่าหนูคืออุปสรรคในการเป็นนักบอลของลูกเขา เพราะฉะนั้นที่เขายังยอมให้มีหนูได้ เป็นแฟนได้ หนูต้องทำทุกอย่างให้เขาเห็นว่าหนูไม่ทำให้เขาเสียอนาคต’ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ซีต้องเข้าใจเส้นทางนักกีฬาอาชีพ ชีวิตมันต้องสูญเสียอะไรไปเยอะเหมือนกัน ทั้งชีวิตส่วนตัว เวลาว่าง หรือแม้กระทั่งชีวิตวัยเด็ก จะไม่ค่อยได้ไปมีแฟน หรือไปดูหนัง และไม่ใช่แค่พ่อเขาที่กดดัน แต่เป็นตัวเขาด้วยที่กดดันตัวเอง ส่วนเรื่องการจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเขาดี ระหว่างมีเราอยู่ ซีก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเพื่อนต่างเพศที่สนิทที่สุด การมีซี ดีกว่าไม่มี เช่น เราต้องไม่ทำตัวมีปัญหา’ “ดีเจอ้อม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในวันที่เขายังอายุ 15 เขาอยู่ใต้หลังคาบ้านของพ่อเขา เขาต้องทำตามกฎของพ่อ อันนี้คือเรื่องธรรมชาติที่สุด พ่อเขาเลี้ยงลูก ถึงเราจะไม่ชอบ แต่นั่นก็คือกฎของบ้านเขา เพราะฉะนั้นหนูสามารถเป็นเชียร์หลีดเดอร์ให้เขาได้ คือ หนูจะต้องไม่ทำให้คนกลางอึดอัด ไม่บั่นทอนให้จิตใจเขาระส่ำ พร้อมจะเผชิญกับทุกสถานการณ์’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แฟนหนูชอบเล่าเรื่องพี่ที่ทำงานคนนึงให้หนูฟังตลอด วันนี้พี่เขาไปไหน ทำอะไร ซื้ออะไรมาใหม่ เขาก็จะเล่าให้หนูฟัง หนูกับแฟนเป็นรักทางไกล นานๆทีได้เจอกัน แต่ทุกครั้งที่เราได้คอลกัน คุยกัน ในบทสนทนาก็จะมีเรื่องผู้หญิงคนนี้ตลอด

02 ก.ย. 2025

แฟนหนูชอบเล่าเรื่องพี่ที่ทำงานคนนึงให้หนูฟังตลอด วันนี้พี่เขาไปไหน ทำอะไร ซื้ออะไรมาใหม่ เขาก็จะเล่าให้หนูฟัง หนูกับแฟนเป็นรักทางไกล นานๆทีได้เจอกัน แต่ทุกครั้งที่เราได้คอลกัน คุยกัน ในบทสนทนาก็จะมีเรื่องผู้หญิงคนนี้ตลอด

แฟนหนูชอบเล่าเรื่องพี่ที่ทำงานคนนึงให้หนูฟังตลอด วันนี้พี่เขาไปไหน ทำอะไรซื้ออะไรมาใหม่ เขาก็จะเล่าให้หนูฟัง หนูกับแฟนเป็นรักทางไกล นานๆทีได้เจอกันแต่ทุกครั้งที่เราได้คอลกัน คุยกัน ในบทสนทนาก็จะมีเรื่องผู้หญิงคนนี้ตลอดแต่ผู้หญิงคนนี้เขาก็มีแฟนแล้วนะคะ หรือ หนูคิดมากไปเอง หลังๆมานี้ ไม่ได้แค่เล่าให้ฟังแล้วเขาขับรถไปรับ นั่งมาทำงานด้วยกันบ่อยๆ จะทำยังไงให้เขาเลิกพูดถึงผู้หญิงคนนี้สักทีโดยที่เราเองจะดูเป็นคนรักที่ไม่งี่เง่าเกินไป เพราะเขาอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเฉยๆก็ได้... “คุณเจ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อม” เกี่ยวกับปัญหาที่แฟนชอบเอาเรื่องของรุ่นพี่ในที่ทำงานมาเล่าเยอะเกินไป จนเรารู้สึกว่าเขาไม่สนใจเราและไม่ชอบใจเท่าไหร่ โดย “คุณเจ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 6 ปี หนูกับแฟนอยู่คนละจังหวัดกัน แต่ละเดือนจะเจอกันแค่ประมาณ 2-3 ครั้ง แฟนชอบเล่าเรื่องของพี่ที่ทำงานให้ฟังทุกวัน แฟนหนูเขาทำงานที่นี่มาก่อน แล้วรุ่นพี่เขามาทำงานทีหลัง เขาสนิทกันเพราะว่าเขาอยู่ห้องพักใกล้กัน แฟนหนูเป็นผู้หญิง พี่เขาก็เป็นผู้หญิง เขาไปทำงานและกินข้าวด้วยกันทุกวันแบบนี้มาประมาณ 1 ปี แรก ๆ แฟนหนูเขามาชมพูดเขาให้ฟังว่าพี่เขาเก่ง มีอะไรแฟนหนูก็จะปรึกษาพี่คนนี้ตลอด หนูก็ดีใจเพราะก่อนหน้านี้แฟนหนูไม่ค่อยสนิทกับคนในที่ทำงาน แต่พักหลังแฟนหนูชอบมาเล่าให้ฟังว่าพี่เขาเป็นยังไง ซื้อของอะไรมาใหม่ แล้วก็เล่าว่าพี่เขาพาไปดูน้ำหอมกัน หนูเคยพูดเรื่องน้ำหอมกับแฟนไปหลายครั้งมาก แต่เหมือนเขาไม่เคยสนใจ จนกระทั่งพี่คนนี้เขาพูด เขากลับก็สนใจขึ้นมาเลย หนูเลยคิดว่าทำไมเขาไม่สนใจสิ่งที่หนูพูดบ้าง เพราะหนูก็เคยพูดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่หนูไม่เคยบอกเขาว่าหนูไม่ชอบแล้วก็ไม่ได้อยากฟังเรื่องของพี่คนนี้ อย่างล่าสุดหนูเคยส่งร้านอาหารไปให้เขาดูว่าอยากกินร้านนี้ แต่เขาไปกินกับพี่คนนั้นแทนที่ีจะไปกินกับหนู หนูแค่ไม่ชอบที่แฟนเอาเรื่องของคนอื่นมาเล่าให้เราฟัง หนูไม่กล้าพูดกับเขากลัวว่าเขาจะหาว่าเราคิดเล็กคิดน้อย กลัวเขาจะเสียใจ อยากรู้ว่าจะทำยังไงดีให้หนูสบายใจขึ้น?’ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องยินดีไปกับเขาว่าเขาเจอคนที่สนิทมากคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเจอในที่ทำงาน พี่ว่าคบกันมา 6 ปี พูดตรง ๆ ได้เลยว่า เราเชื่อมั่นในตัวเขา แต่การกระทำของเขาทำให้เรารู้สึกสำคัญน้อยลงเรา แต่ไม่ถึงกับต้องให้เขาเลิกคบกัน เราอาจจะต้องลองมาปรับความสัมพันธ์ของเรากันใหม่ แต่พี่ว่าสุดท้ายควรต้องพูด’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะบอกว่าไม่ต้องพูด แล้วเก็บศัตรูให้ใกล้ตัวที่สุด ถ้าวันหนึ่งเขาพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นมามันก็เป็นไปได้ อย่างน้อยเขาก็เล่าให้เราฟังตลอด แต่ถ้าเจรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรจริง ๆ แต่เรื่องนี้มันกวนใจมันก็เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะมีหึงหวงกันบ้าง ถ้าคบกับด้วยความเข้าใจ เขาก็คงเข้าใจแหละ สุดท้ายมันก็ต้องช่วยกันหาทางออก’ และสุดท้าย “ดีเจอ้อม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยสนิทกับใคร พอเขามีเพื่อนเขาเลยอยากเล่าให้เราฟัง ก็บอกกับเขาไปตรง ๆ เลยว่า เรายินดีกับเขานะที่มีเพื่อนร่วมงานที่ดี แต่ช่วยเราลดเรื่องของเขาให้น้อยลงหน่อย แล้วหันมาพูดเรื่องของเราสองคนให้มากขึ้น แล้วความสัมพันธ์ของเราก็จะดีขึ้นด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1