หนูมีเพื่อนสองคน ผู้ชายกับผู้หญิง แต่เพื่อนผู้หญิงมาปรึกษาว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ ชอบทักมาถามว่าอยู่คนเดียวไหม? แล้วก็ส่งรูป คลิป ช่วยตัวเองมาให้เพื่อนหนูดู เพื่อนหนูปฏิเสธแล้ว แต่ก็ยังส่งมา จนตอนนี้ดูมาเกือบ 2 ปีแล้ว

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูมีเพื่อนสองคน ผู้ชายกับผู้หญิง แต่เพื่อนผู้หญิงมาปรึกษาว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้ ชอบทักมาถามว่าอยู่คนเดียวไหม? แล้วก็ส่งรูป คลิป ช่วยตัวเองมาให้เพื่อนหนูดู เพื่อนหนูปฏิเสธแล้ว แต่ก็ยังส่งมา จนตอนนี้ดูมาเกือบ 2 ปีแล้ว

13 ก.ย. 2024

หนูมีเพื่อนสองคน ผู้ชายกับผู้หญิง แต่เพื่อนผู้หญิงมาปรึกษาว่าเพื่อนผู้ชายคนนี้

ชอบทักมาถามว่าอยู่คนเดียวไหม? แล้วก็ส่งรูป คลิป ช่วยตัวเองมาให้เพื่อนหนูดู เพื่อนหนูปฏิเสธแล้ว

แต่ก็ยังส่งมา จนตอนนี้ดูมาเกือบ 2 ปีแล้ว เพื่อนผู้หญิงบอก ถ้าเขากล้าส่งมา ก็กล้าดู หนูจะทำไงดีคะ?

             “คุณขนมปัง (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [11 ก.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเพื่อนผู้หญิงโดนเพื่อนผู้ชายส่งรูปของลับมาให้เป็นเวลากว่า 2 ปี

             โดย “คุณขนมปัง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีกลุ่มเพื่อน 3 คนรวมหนูด้วย อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ม.ปลาย แล้วตอนม.ปลายหนูก็จะสนิทกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ “ส้มส้ม” ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนผู้ชายชื่อ “กาย” ที่คุยกันได้แต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น พอช่วงจบมัธยมเรา 3 คนก็แยกย้ายกันไปต่อมหาลัยคนละที่ ซึ่งตัวหนูกับกายก็แทบไม่ได้คุยกันเลยเพราะเราไม่ได้สนิทกันตั้งแต่ต้น แต่ว่ากายกับส้มเค้าจะยังมีติดต่อกันเพราะเค้าสนิทกัน

             จนเรื่องเริ่มมาพีคช่วงปี 2 - 3 อยู่ดี ๆ กายจะเริ่มทักไปหาส้มส้มว่า “ทำอะไรอยู่ , อยู่กับใคร” พอส้มส้มบอกว่าอยู่คนเดียวกายจะเริ่มถามส้มส้มว่า “อยากดูมั้ย” ซึ่งหมายถึงอวัยวะเพศของกาย ส้มส้มเลยตอบว่าไม่ดูแต่สุดท้ายกายก็ส่งมา และไม่ได้ส่งมาแค่ครั้งเดียว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากายส่งรูป และคลิปอวัยวะเพศมาเยอะจนนับไม่ถ้วนเลย แถมช่วงหลังก็หนักข้อขึ้นเป็นคลิปช่วยตัวเอง แถมยังวิดีโอคอลมาโชว์อีก

            ประเด็นคือ กายก็เหมือนจะมีคนคุยหรือแฟนอยู่แล้ว และส้มส้มเองก็มีแฟน ซึ่งทั้งแฟนส้มส้มและกายก็เป็นพี่น้องที่รู้จักกันและสนิทกัน ทุกครั้งกายจะบอกให้ส้มส้มลบแชทเพราะกลัวแฟนส้มส้มรู้ ส้มส้มก็เหมือนปลงก็ฟีลประมาณว่าถ้าจะส่งก็ส่งมาเดี๋ยวดูให้ก็ได้ หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ว่าแบบนี้คืออะไร? และอยากรู้ว่าการที่ผู้ชายส่งแบบนี้ให้ผู้หญิงคือต้องการอะไร?’

             โดย “ดีเจทั้ง 3 คน” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้คนส่งมาไม่เท่ากับคนที่ดูมาตลอดนะ เพราะคนที่ส่งมาคำตอบง่าย ๆ คือโรคจิต ส่วนคนดูไม่หยุดหย่อนนี่จิตกว่านะที่ผูกพันกับมันไปแล้วนะ ทีนี้ต้องไปเอาความจริงกับส้มส้มแล้วนะว่าส้มส้มไม่ชอบจริง ๆ หรอ เพราะถ้าคนเราไม่ชอบจริง ๆ อะบล็อกไปตั้งนานแล้ว เพราะนี่คือเรื่องคุกคามทางเพศที่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะถ้าโทรมาให้ดูแบบนี้นี่คือการใช้เราเป็นเครื่องมือทางเพศแล้วนะ เพราถ้านาน ๆ ที่ส่งมาแล้วเม้าท์กับเพื่อนว่า “เออมันส่งมาอีกละนะ” ยังพอเข้าใจ แต่นี่ส่งตลอด ละพอกายโทรมาก็รับ จริง ๆ มันง่ายมากแต่เค้าไม่เลือกทำมันอะ เค้าเลือกที่จะรับสารนั้น เพราะถ้าพี่เป็นส้มพี่บอกแฟนแล้วนะว่าไปจัดการให้หน่อย เพราะคำแนะนำพวกพี่คือบล็อกไม่มีอะไรยากเลย พี่ว่าเรื่องนี้มันไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะคิดว่าเค้าผิดปกตินะ เพราะมันไม่มีช่องไหนได้เลยที่จะบอกว่าเค้ามีเหตุผลที่จะทำ เช่นมาจีบหรืออะไร แต่เค้าเป็นโรคจิต เรื่องที่มันไม่ปกติอย่าทำให้มันปกติ เพราะเรากำลังถูกคุกคาม’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้ว แต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำ เขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย

25 ต.ค. 2024

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้ว แต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำ เขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย

คบแฟนมาเกือบ 10 ปี วันเกิดที่ผ่านมา หนูตั้งใจเซอร์ไพร์สเขา สั่งเค้กรสชาติที่ร้านเลิกผลิตไปแล้วแต่เขาบอกอยากกินเค้กพิซซ่าธรรมดาๆ ซื้อเสื้อให้เขา เขาก็บอกว่าแพง แต่งรูปวันเกิดอวยพรเขาเป็นสีขาวดำเขาก็บอกว่าเหมือนรูปคนตาย เราน้อยใจสุดๆ เหมือนเขาไม่เห็นค่าเลย “คุณวัน (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ต.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับเราซื้อของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟน แต่แฟนไม่ชอบ โดย “คุณวัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 9 ปี 10 เดือน กำลังจะเข้าปีที่ 10 ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน เเต่มีเเพลนว่าจะเเต่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดเขา สิ่งที่หนูตั้งใจทำให้กับเขาไม่ว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์ ของขวัญวันเกิดมันยังรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ เเล้วคำพูดกับการกระทำของเขามันทำให้หนูเสียใจมาก ๆ ก่อนวันเกิดเราไปซื้อของขวัญ ก็คือพาเขาไปเดินเลือก ตอนแรกเขาอยากได้กระเป๋าเเต่มันไม่มีของที่เขาอยากได้ เราเลยเสนอว่า “เอาเป็นเสื้อตัวนี้มั้ย เสื้อตัวนี้สวยดีนะ” เขาก็ไปลองใส่เเล้วเขาก็บอกว่า “เออ มันก็สวย” เลยตัดสินใจว่าเอา เขาก็เก็บเอาไว้ ไม่ยอมแกะเเล้วบอกว่าจะใส่ในวันเกิด ตอนที่ดูรูปในโทรศัพท์เขาก็บ่นประมาณว่า “เสื้ออะไรเนี้ย” หนูก็เลยรู้สึกว่ามันก็ค่อนข้าง Negative เนอะ เขาคงไม่ได้ชอบหรอก เพราะว่าปกติเเล้วถ้าเขาชอบ เขาจะบอกว่าเสื้อตัวนี้เท่จังเลย ในตอนหลังก็ได้มาคุยกัน เขาก็บอกว่าจริง ๆ ไม่ได้ไม่ชอบนะ เเค่จะสื่อว่ามันแพงไป อย่างที่ 2 ก็จะเป็นเค้กวันเกิด ก็คืออยากให้มันพิเศษนิดนึงเพราะว่าเป็นทั้งวันเกิดเเละทั้งวันครบรอบพอดี เราก็เลยตั้งใจสั่งเป็นเค้กเจ้าอร่อยที่เราชอบ เเล้วทางร้านก็ไม่ค่อยได้ทำรสชาตินี้ออกมาขายเเล้ว เราก็รู้สึกว่ามันพิเศษนะ เเล้วเขียนหน้าเค้กไปประมาณว่า Happy Birthday Happy Anniversary เเล้วก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษแปลประมาณว่า “คุณทำให้ 9 ปีกับอีก 10 มันเป็นเหมือนแค่วัน ๆ เดียว” เขาก็บอกว่า “ไม่อยากได้ อยากได้เป็นเค้กพิซซ่ามากกว่า” เเต่หนูมองว่ามันธรรมดาไป เพราะว่าเราก็กินกันบ่อยมาก ๆ เลย หนูก็เลยพูดหยอก ๆ เขากลับไปว่า “ก็เค้าอยากสั่งเค้กที่เค้าอยากกินอ่ะ” เขาก็เลยเงียบไป พอถึงวันเกิดเขาจริงๆ หนูก็ได้มีการแต่งภาพลงสตอรี่ เเต่ภาพที่เเต่งเป็นภาพขาวดำ เขาก็พิมพ์มาว่า “เฮ้ยย! มันทำไมถึงต้องขาวดำด้วย” หนูก็เลยบอกว่า “ก็มันเท่ดี” หนูก็รู้สึกว่าเขาก็ไม่พอใจประมาณนึง เพราะเขาบอกว่ามันดูเหมือนภาพงานศพ เเล้วก็พอถึงวันที่ฉลองวันเกิดเราก็ไปกันที่ร้านอาหาร หนูก็เลยได้มีการบอกเพื่อนว่า “ถ้าจะซื้ออะไรมาก็ซื้อเป็นพิซซ่าละกันเนอะ เพราะว่าเเฟนอยากเป่าเค้กพิซซ่า” เพื่อนก็เลยซื้อมาตามที่บอก พอมาถึงร้านหนูสัมผัสได้ว่าเขาได้เป่าเค้กพิซซ่าเขามีความสุข เพราะเขาบอกว่าคิดถึงโมเมนท์ตอนเด็ก ๆ ที่พ่อแม่ซื้อเค้กพิซซ่าให้กิน เเต่ว่าพอเป็นเค้กวันเกิดของหนูเขาดูเฉย ๆ มาก ๆ เค้กพิซซ่านั้นเขามีการเอาลงโซเชียลด้วย เเต่ว่าเค้กของหนูไม่ได้เอาลงโซเชียล เขาก็พูดมาประโยคนึงที่หนูเสียใจก็คือเขาบอกว่า “มีคนบางคนไม่ยอมซื้อเค้กพิซซ่าให้กิน ซื้อมาเเต่เค้กที่ตัวเองอยากกิน” หนูก็เลยรู้สึกว่าทำไมถึงพูดเเรงจัง พอหนูทำท่าโกรธเขาก็เหมือนประมาณว่าแบบหัวเราะกลบเกลื่อน เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เพราะเมื่อก่อนเวลาซื้อของขวัญวันเกิดให้เราจะไม่ให้เขาไปเลือกเอง เราจะซื้อให้เลย เขาก็จะขอบคุณตลอด เเล้วก็ชอบไม่ชอบเราก็ไม่ได้สังเกตไงเพราะเราซื้อมาเเล้ว เขาขอบคุณก็จบแล้ว เเต่รอบนี้คำขอบคุณก็ยังไม่มีเลย จนหนูต้องทวงว่าไม่ขอบคุณกันเลยหรอ? หนูมองว่า 10 ปีมันค่อนข้างหมดความหวานเเล้ว ในเมื่อเราตกลงกันเเล้วว่าเราจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เเต่ว่าถ้าเราจะต้องอยู่ด้วยกันโดยไม่รักษาน้ำใจกันเเบบนี้ มันจะทำยังไงให้มันตลอดรอดฝั่ง ถ้าเป็นแบบนี้หนูก็ไม่โอเคถ้ามันจะต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เขาก็ไม่ได้บอกว่าต่อไปจะไม่ทำเเล้ว เเต่เขาบอกว่าทุกอย่างที่ทำให้ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี คำพูดเขาก็มาจากคำพูดเรา หนูก็เลยอยากปรึกษาพี่ดีเจทั้ง 3 คนว่าหนูควรทำยังไงต่อดี ให้ชีวิตคู่ของหนูมันไปรอดตลอดฝั่ง?’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าทั้งคู่จริง ๆ นอกจากจะถามเขาว่าจะอยู่ยังไงที่ไม่รักษาน้ำใจ เราต้องถามตัวเองด้วยว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปในวันเกิดเขารึเปล่า ถ้ามันเป็นเรื่องเเค่วันเกิดที่ผิดใจกันจริง ๆ โอเคไม่มีปัญหา หลังจากกลับมาเป็นเหมือนเดิม พฤติกรรมหลังจากเนี้ยะน่าจะบอกได้ว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมรึเปล่า เราแค่ผิดใจในวันนั้นรึเปล่า หรือจริง ๆ เเล้วมีปัญหาใหญ่ซ่อนอยู่ ถ้ามันมีหลังจากนี้มันจะเป็นอีกในลักษณะแบบนี้ เรื่องการคู่ชีวิตต้องรักษาน้ำใจถ้าตั้งเเต่คบมาเเล้วเขาเพิ่งจะมาไม่มีเเค่วันนี้ พี่ว่าก็ไม่ถือว่าคู่ชีวิตที่ไม่รักษาน้ำใจขนาดนั้นนะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องใช้เหตุเเละผลนะ สิ่งที่ทำวันนี้มันก็มีเหตุมีผลที่ทำให้เขาพูดแบบนั้น วันนึงถ้าคุยกันว่าชีวิตคู่จะไปยังไงให้รอด ก็ต้องคุยกับเขาว่าไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ โดยที่เราเองก็ต้องกลั่นกรองนะว่าถ้าเขาไม่รักษาน้ำใจในแบบที่ไม่มีเหตุผลแล้ว เพราะว่าเราจะมาไม่แฮปปี้ก็ไม่ได้อะ เราจะอยู่ต่อกันไปเรื่อย ๆ ลึก ๆ เเล้วคุณวันก็มีความคาดหวังสูงอยู่นะในการเซอร์ไพร์สแบบนี้ เเต่ถ้าเป็นเเบบนี้ไปตลอดในการมีชีวิตคู่พี่ว่ามันเหนื่อยนะ’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นคู่ที่คุยกันได้ ลองเอานิสัยผู้หญิงออกไป อารมณ์แบบชั้นไม่ชอบไม่พอใจเเล้วชั้นเก็บอ่ะ ประมาณว่าแบบเรื่องเค้กอะก็พูดไปตรง ๆ ว่าถ้าไม่รู้ความหมายก็ถามสิ เดะแปลให้อยากให้เขารับรู้ ที่มันตรงกับความรู้สึกเราอะ โดยที่ไม่ต้องเก็บเอามาน้อยใจ การน้อยใจของผู้หญิงโคตรน่าสงสารเลยเว้ย เพราะมันจะนอนร้องไห้โดยที่ผู้ชายไม่รู้เรื่องอะไรเลย หรือว่าเราเคยทำอะไรผิดพลาดไป เคยพูดขอโทษกับเขาบ้างรึเปล่า ถ้าอยากให้กลับไปมีชีวิตคู่เหมือนแรก ๆ ที่คบกันน่ะ มันกลับไปไม่ได้แล้ว คนที่น่ารักในอดีตอ่ะมันไม่อยู่เเล้ว เพราะว่ามันใหม่มันมีปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่าง มันชาชินอยู่ด้วยความเป็นเพื่อน ความรักความหลงมันถูกทดแทนเป็นความผูกพันไปแล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

โดนเพื่อนร่วมงานเกลียดตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน! เพราะเขาไปถาม HR ว่าเราเริ่มงานด้วยเรทที่สูงกว่าคนในแผนก ทำงานดีจนตอนนี้ผ่านโปรตั้งแต่ 2 เดือนครึ่ง ยิ่งโดนแซะหนักกว่าเดิม จะรับมือยังไงดี?

04 ธ.ค. 2023

โดนเพื่อนร่วมงานเกลียดตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน! เพราะเขาไปถาม HR ว่าเราเริ่มงานด้วยเรทที่สูงกว่าคนในแผนก ทำงานดีจนตอนนี้ผ่านโปรตั้งแต่ 2 เดือนครึ่ง ยิ่งโดนแซะหนักกว่าเดิม จะรับมือยังไงดี?

“คุณปาย (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม ว่าถูกเพื่อนร่วมงานไม่ชอบหน้า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน จนตอนนี้สถานการณ์เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ โดย “คุณปาย (นามสมมติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘วันแรกที่เราเข้ามาทำงาน ก็มีพี่ในทีมมาเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ที่ทำงานจับกลุ่มเม้าส์เรา ไม่ชอบเราตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงาน เพราะรู้ว่าเงินเดือนเราสูงกว่าพวกเขา เพราะก่อนที่เราจะเข้ามาทำงานที่นี่ พวกรุ่นพี่ไปถามกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนของเรา มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมด เพราะเงินเดือนเราสูงเทียบเท่ากับเขาที่ต้องทำงานถึง 3 ปีจึงจะมีเงินเดือนเท่าเรา เรายังรู้สึกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องจับกลุ่มเม้าส์เรา ทั้งที่เราก็มีวุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงานมาก่อน ตอนยื่นใบเสนอเงินเดือนกับทางหัวหน้างาน ก็เป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย เราจึงไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นที่จับตามองของรุ่นพี่ที่ทำงาน ในช่วงแรก ๆ พี่ในทีมก็คอยมาบอกข่าวตลอด เราก็ทำงานมาเรื่อย ๆ จนเราก็ทำมาได้สักระยะประมาณสองเดือนครึ่ง หัวหน้าก็แจ้งว่าเราน่าจะผ่านโปรได้แล้ว จนเรื่องนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองของพวกรุ่นพี่อีกครั้งเพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีใครผ่านโปรเร็วขนาดนี้ บางคนก็ต้องยืดระยะเวลาออกไปอีกถึงจะผ่านโปร ช่วงแรก ๆ ก็มีพี่ในทีมก็คอยถามไถ่เราบ้าง เราก็คิดว่าเขาหวังดี จนเราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแฟน แฟนก็คอยเตือนเราว่าที่เขาเข้ามา เขาเข้ามาเพราะหวังดีจริงมั๊ย หรือเพราะผลประโยชน์อื่น เราก็ตอบแฟนตลอดว่า “ ไม่รู้สิ ไม่ได้คิดอะไร ” แฟนก็มักจะเตือนว่านิสัยของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง แต่พี่ในทีมคนนี้ก็จะบอกเราตลอดว่าเราโดนนินทาในกลุ่มว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ไม่ชอบเราต่าง ๆ นา ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนสักครั้ง ตอนนี้เราก็ทำงานที่นี่มาเข้าเดือนที่ 6 แล้ว สถานการณ์ก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ เรารู้สึกว่าต่อหน้าทำอีกอย่าง แต่ลับหลังเรารู้ว่าเขาชอบนินทาเรา วันนึงหัวหน้ามอบหมายงานให้เรารับผิดชอบ พอเราทำงานชิ้นนี้เสร็จ มันก็เป็นที่น่าพอใจของหัวหน้า จนหัวหน้าเรียกทุกคนมารวมกัน และบอกว่างานของเราดีมาก อยากให้เอาเป็นแบบอย่าง จนคนในบริษัทบอกเราจะทำงานนี้ทำไม ทำให้คนอื่นดูไม่ดี เขาก็ชอบพูดเหน็บแนมเราตลอด “ถ้าคิดว่าเก่งมากก็มาทำแทนเลย เดี๋ยวจะลาออกให้” จนตอนนี้พี่ในทีมที่เคยเตือนเราก็ย้ายฝั่งไปอยู่ฝั่งนู้นแล้วเพราะเราก็เคยมีปัญหากัน เพราะเขาชอบพูดให้เราดูผิด จนเราขึ้นเสียงใส่เขาเพื่ออธิบาย เขาเลยไม่มาคุยกับเราอีกเลย จนตอนนี้เราก็ไม่มีเพื่อนคบเลยในที่ทำงาน หลังจากที่เราทะเลาะกับพี่ในทีมไปตอนนั้น ถึงตอนนี้ทุกคนในทีมเราก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเรา พยายามไม่คุยกับเรา และเริ่มมาเยอะกับเรามากขึ้น จากงานที่เคยส่งมาแล้วผ่านตลอด แต่รอบนี้กลับกลายเป็นว่าไม่ผ่าน ทั้ง ๆ ที่เราก็ทำเหมือนเดิมตลอด เขาให้คำตอบแค่ว่า “ไม่ได้ มันไม่ได้” จนเราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาหัวหน้าเขาก็บอกแค่ว่าทีมน่าจะลืมบอก เราเลยตัดสินใจกลับไปคุยกับทีมว่าถ้างานพลาด ให้รีบแจ้งเราเลยได้มั๊ย เรายินดีที่จะแก้ แต่ในระหว่างที่เรากำลังเจรจากับพี่ ๆ ในทีม เราก็รู้สึกว่าบรรยากาศก็ไม่ได้ชวนอยู่สักเท่าไหร่ ก็เลยแอบบันทึกเสียงในมือถือ ก่อนจะเดินออกไปเพราะเราอยากรู้ว่าเขาคุยกันเกี่ยวกับเรายังไง ปรากฏว่าสิ่งที่เขาคุยกันคือบอกว่า “เราขี้เกียจ ขึ้เกียจก็คือขี้เกียจ อย่าไปเล่นละครตบตาหัวหน้าว่าตัวเองขยัน” จริง ๆ เราก็อยากจะหักหน้าเขาเหมือนกันว่าอยากให้ทำได้เหมือนเรา ไม่ใช่ให้เราทำได้คนเดียว ตอนนี้เรารู้สึกอึดอัดที่เพื่อนร่วมงานชอบพูดเหน็บแนมข้ามหัวกันไปมา ไม่ต้องเป็นเพื่อนร่วมกันที่ดีกันก็ได้ แต่ขอทำงานโดยที่ไม่ต้องมาจิกกัดเราแบบนี้ เราอยากรู้วิธีการรับมือ เพราะเราไม่ได้สนใจเรื่องนินทาเราแล้ว แต่บางทีได้ยินมันก็รู้สึกโมโห เพราะเราไม่ได้ลาออกจากที่นี่ อยากทำงานที่นี่ เพราะงานมันโอเคกับเราแล้ว ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าถ้าเราไม่อยากได้ยินเสียงไหน เรามีวธีการจัดการกับมันอยู่ สำหรับพี่คงเลือกวิธีไม่กี่วิธี อย่างเช่น 1. คิดซะว่าหมาเห่าอยู่ตรงนั้น หรือว่าเช้า ๆ เสียงนกอีแร้งมาร้องอยู่ข้างบ้านไม่หยุด หาอะไรมาอุดหูซะ แก้ที่เรา 2. แก้ที่ความคิดของเรา ลองไม่สนใจเสียงเหล่านั้น ลองคิดซะว่าเป็นเสียงนกเสียงกา สุดท้ายแล้วพี่ค้นพบว่าเราไปอุดปากนกไม่ได้ อุดปากหมาที่มันเห่าไม่ได้ แต่ว่าเราอยู่ที่วิธีคิดเรามากกว่า ทำไปตามความสบายใจของเรา ความเป็นมืออาชีพของเรา เสียงด่าทอพี่เข้าใจนะว่ามันน่าลำคาญ แต่ว่าถ้าเทียบกันแล้วพี่อยากให้ปายอยู่มากกว่า แล้วให้พวกนั้นลาออก ทำงานให้เป็นมืออาชีพต่อไป ถ้าสุดท้ายมันมีอะไรตัดขัดเกี่ยวกับเรื่องงานก็บอกหัวหน้าว่าเราทำเต็มที่แล้ว เอาจริง ๆ ทางเลือกตอนนี้มันก็มีไม่มากก็คือ 1. ทนอยู่ต่อ 2. ลาออกไปเลย เพราะฉนั้นไม่ต้องใส่ใจ การจะรุ่งเรือง บางทีมันต้องมีอุปสรรคบ้าง เราทำงานให้หัวหน้าเห็น ให้บริษัทเห็น เป้าหมายเราคือตรงนั้น ระหว่างทางอย่าไปใส่ใจ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เพราะว่าปายรักงานนี้ ปายอยากทำงานนี้ เพราะปายเห็นความเจริญเติบโตของมัน และปายก็ยังมีเจ้านายที่พี่เชื่อว่าเขาก็อยู่ทีมปายนะ เพราะฉะนั้นพี่ว่าปายต้องอดทน อย่างที่พี่เผือกบอกว่าเห็นพวกเขาเป็นอุปสรรคขวากหนามที่จะขัดขวางให้เราไปถึงเป้าหมาย ซึ่งมันก็เป็นเป้าหมายของปายที่ชัดเจนด้วยนะ ซึ่งต่างจากพวกเขาที่ไม่มีแต่อนาคตเลย ถ้าหัวหน้าปายมีคุณสมบัติมากพอ วันนึงเขาก็จะเห็นสิ่งที่พวกนั่นทำเอง และคงจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้หัวฟน้าเขาก็รับรู้แล้วแหละว่าเพื่อนร่วมงานไม่ชอบเรา เขาก็ดูมีเป้าหมทยที่ชัดเจนให้ปายนะ ว่าปายมาที่บริษัทเพื่อทำงาน ไม่ได้มาหาเพื่อน ซึ่งปายไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำ หรือถ้าเราไม่ไหวกับเพื่อนร่วมงานพวกนั้นแล้ว เพราะมันส่งผลกับงาน พี่ว่าก็เปิดใจคุยกับหัวหน้าได้นะ เดี๋ยวหัวหน้าก็ต้องจัดการปัญหาตรงนี้เอง ปายสามารถรายงานปัญหาได้เลย ส่วนเสียงนกเสียงกาเล่านั้น วันนี้พี่จะให้ไป 2 ทางเลือกคือ 1. พยายามไม่สนใจ ไม่เก็บมาใส่ใจ เพราะเราต้องเข้าใจว่าพวกเขาเป็นแบบนั้น หมาคือหมา จะไปห้ามหมาให้มันเห่าไม่ได้ พี่เข้าใจแหละว่ามันยาก พี่ไม่รู้หรอกนะว่าปายนิสัยยังไง แต่ถ้าเป็นพี่วันนึงถ้าทนไม่ไหว พี่จะหันไปแล้วพูดกับเขาเลยว่า ไม่ได้ให้มาชอบ ไม่ได้ให้มารัก ไม่ต้องมาเอ็นดูอะไรทั้งสิ้น เกลียดหรือด่าได้เลย แต่อย่ากระทบงาน ถ้ากระทบงานเมื่อไหร่ฟาดทันที! แต่ตอนี้เราก็ต้องทำได้แค่ทน ถ้าถึงเป้าหมายเมื่อไหร่ คนเหล่านั้นก็แค่วุ้น หรือเป็นแค่จุลินทรีย์เท่านั้นแหละ เพราะพี่เชื่อว่าถ้ามารไม่มี บารมีไม่เกิด ปิดจบที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ เราต้องเก็บหลักฐาน แล้วพร้อมต่อสู้ ปายต้องไม่ทนไปตลอด ไม่งั้นสภาพจิตปายเสียแน่นอน พวกนั้นต้องแบ่งไปบ้าง แต่ตัวแรง ๆ ไปเลย ให้รู้ว่าเราพร้อมบวก! อีกอย่างทำทีว่าคุยโทรศัพท์ให้พวกมันได้ยินไปเลยให้รู้ว่าเราสายตบ มัสันดานดิบที่ร้ายแรง! พี่ว่าทุกคนก็พูดมาหมดแล้วแหละ ซึ่งพี่ก็เห็นด้วยหมดเลย แต่ถ้าถึงจุดที่มันกระทบกับงานเมื่อไหร่ ให้ไปฟ้องเจ้านายแล้วเรียกคุยเลยทั้งห้อง แล้วบอกสาเหตุทุกอย่างไปว่าเกิดอะไรขึ้น และเหตุผลของเราว่าแค่ต้องการชีวิตการทำงานที่พาไปสู่เป้าหมายการทำงาน เรื่องส่วนตัวพวกเขาก็ควรที่จะเก็บไว้ในใจบ้าง ไม่ต้องฟ่นออกมา เพราะอาจจะทำให้เรา Toxic เพราะบริษัทไหนก็ตามที่ไม่ดูแลคนดี สักวันหนึ่งคนดีทั้งหมดก็จะลาออกหมด แล้วมันจะเหลือแต่พวก Toxic หรืออีกอย่างน้องก็พูดกับเขาไปตรง ๆ ไปเลยว่าการกระทำพวกพวกเขาเหล่านี้มัน Toxic จนทำให้เราหมดกำลังใจทำงาน เรามาทำงานในบริษัทนี้ก็เพราะอยากให้บริษัทมันเติบโต ตอนนแรกเราโคตรมีไฟเลย แต่ตอนนี้เราโคตรหมดไฟเลย เราทนเรื่องนี้มาสักพักนึงแล้ว แต่ก่อนที่เราจะพูดอย่างนั้น ปายก็ต้องมีหลักฐานนะว่าคนพวกนี้ทำให้งานของเราไม่ก้าวหน้า ให้เขารู้สึกว่าอารมณ์เราถึงที่สุดแล้วถึงออกมาพูดแบบนี้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ? สาวสุดงง... ทะเลาะกับแฟน หลังจากไปดื่มหนักด้วยกันมา กลับมาถึงห้อง นอนหลับกันปกติ ตื่นเช้ามารองเท้าแฟนหาย ไปเจออยู่หน้าห้องผู้ชายอีกคนใกล้ๆกัน สุดท้ายเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นตัวเองนอนละเมอเดินเข้าห้องผู้ชายคนนั้นไม่ถึงนาที

15 ส.ค. 2023

ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ? สาวสุดงง... ทะเลาะกับแฟน หลังจากไปดื่มหนักด้วยกันมา กลับมาถึงห้อง นอนหลับกันปกติ ตื่นเช้ามารองเท้าแฟนหาย ไปเจออยู่หน้าห้องผู้ชายอีกคนใกล้ๆกัน สุดท้ายเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นตัวเองนอนละเมอเดินเข้าห้องผู้ชายคนนั้นไม่ถึงนาที

ไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำ? สาวสุดงง... ทะเลาะกับแฟนหลังจากไปดื่มหนักด้วยกันมา กลับมาถึงห้อง นอนหลับกันปกติตื่นเช้ามารองเท้าแฟนหาย ไปเจออยู่หน้าห้องผู้ชายอีกคนใกล้ๆกันสุดท้ายเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นตัวเองนอนละเมอเดินเข้าห้องผู้ชายคนนั้นไม่ถึงนาทีแฟนไม่เชื่อ คิดว่าเราคบชู้อย่างเดียวเลย ทำไมไม่เป็นห่วงกันบ้างเลย... “คุณสุ (นามสมมุติ)” อายุ 29 ปี สายที่สามของรายการ “พุธทอล์ค พุธโทร” เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [9 ส.ค.66] ได้โทรเข้ามาปรึกษาปัญหา ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจเผือก กับปัญหาที่เมาแล้วละเมอเข้าห้องผู้ชาย จนแฟนเข้าใจผิด คิดว่าเราไปมีอะไรกับคนนั้นหรือเปล่า? โดย “คุณสุ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘ทะเลาะกับแฟนได้ 1 อาทิตย์แล้ว วันที่เกิดเหตุ หนูไปสังสรรค์กับเเฟน พอเสร็จก็กลับมาห้อง เกือบตี 2 กลับมาถึงก็ใช้ชีวิตกันแบบปกติ หนูไม่ได้เมาจนฟิวส์ขาด แต่พอเช้ามา แฟนหนูก็หารองเท้าของเขาไม่เจอปกติจะต้องวางไว้หน้าห้อง ซึ่งเราก็ยังคุยเล่นกันปกติ ยังแซวเขาว่าลืมไว้ที่ร้านหรือเปล่า? จนสักพักแฟนหนูเขาก็บอกว่าจะออกไปหารองเท้า ให้หนูอาบน้ำเเต่งตัว ถ้าเสร็จเเล้วไปเจอกันที่ร้านข้าว เดี๋ยวไปกินข้าวกัน แล้วก่อนที่หนูจะออกไป เป็นปกติที่หนูจะมองหาแมวเพื่อให้แมวมากินข้าว แต่สายตาดันบังเอิญไปเห็นรองเท้าแฟนวางอยู่ที่ห้องผู้ชายคนอื่น ก็เลยคิดทบทวนว่าเมื่อคืนเราก็ไม่ได้ทำอะไรนะ แล้วก็ไม่ได้เมาขนาดที่ว่าจำอะไรไม่ได้เลย เราก็ไม่ได้เป็นคนที่มีเรื่องชู้สาวอะไรเลยเหมือนกัน แต่หนูเพิ่งมาจำได้ว่าเมื่อคืนหนูฝัน โดยในฝัน หนูเดินออกไปบ้านใครก็ไม่รู้ มีเสียงผู้ชายมาเรียก แล้วในฝันเสียงผู้ชายที่เรียกคุ้นหูมาก หนูก็เดินออกไปแต่หนูไม่รู้ว่าเดินไปบ้านใคร ในฝันหนูเปิดประตูบ้านเขาเข้าไป แล้วเจอผู้ชายคนหนึ่งเเต่หนูไม่เห็นหน้า เห็นแต่รูปร่างเขาเป็นคนตัวเล็ก ดำ แล้วเขาก็ตะโกนใส่หูเหมือนประมาณตกใจว่าหนูไปบ้านเขาทำไม ซึ่งในฝันหนูตกใจมากแล้วหนูก็ออกจากบ้านเขามา หลังจากนั้นหนูก็จำอะไรไม่ได้เลยในฝัน แบบจำไม่ได้ว่าฝันว่าอะไรต่อ พอเช้าวันนั้นหนูเห็นแล้วว่ารองเท้าอยู่หน้าห้องผู้ชายคนนี้ หนูก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะหนูไม่กล้าไปยืนดูรองเท้าว่ามันใช่ของเเฟนหนูจริงๆไหม หนูเลยทำได้เเค่เดินผ่านไป ซึ่งปกติเวลาอยู่ห้องหรือไปไหนใกล้ๆ หนูก็จะชอบใส่รองเท้าแฟนอยู่แล้ว ระหว่างที่ขับรถไปร้านข้าว หนูก็ทบทวนความฝันของตัวเองว่า เมื่อคืนฝันแบบนี้เเล้วมันจะเป็นจริงๆหรอ แล้วถ้าเกิดเดินไปจริงๆในฝันเจอผู้ชายคนหนึ่งตะโกนใส่ ถ้าหนูเดินเข้าห้องเขาจริงๆ ทำไมเช้ามาเขาถึงไม่มาถามว่าเดินเข้าห้องเขาทำไม เพราะเช้ามาก็ตื่นมาที่ห้องตัวเองเหมือนเดิม พอถึงร้านข้าวก็ถามแฟนว่าเมื่อคืนหนูได้เดินออกจากห้องไหม? แฟนก็บอกไม่รู้ เดินออกไปหรอ เพราะกลับมาถึงอาบน้ำเสร็จก็นอนหลับไปเลย แล้วหนูก็บอกแฟนว่า ตอนจะออกมาหนูเห็นเหมือนรองเท้าแฟนอยู่ห้องผู้ชายคนนี้ หนูก็เล่าความฝันของหนูให้เขาฟัง แล้วแฟนหนูก็บอกว่าเมื่อคืนห้องนี้เขาเปิดไฟอยู่นะ สักพักแฟนหนูสีหน้าเปลี่ยนทันทีเพราะความคิดเขาคือคิดว่าหนูไปมีชู้กับห้องข้างๆ หนูก็พยายามอธิบาย เเฟนหนูเขาเริ่มอารมณ์ร้อน แล้วข้อเสียเขาเป็นคนที่งี่เง่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ หนูก็บอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นนะ หนูไม่ได้ตั้งใจหนูไม่รู้จริงๆ เพราะเราก็ไม่เคยนอนละเมอเเล้วออกไปไหนมีแค่ละเมอเเล้วพูด ซึ่งหนูก็ได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่หน้าห้อง ภาพที่เห็นจากกล้องคือหนูเดินไปจริงๆค่ะ ตอนตี 3:24 แล้วหนูก็เดินกลับมาตอน ตี 3:24 เหมือนกัน หนูเปิดเข้าไปแล้วหนูก็เปิดออกมา แต่แฟนหนูเขาปักใจคิดว่าหนูไปมีอะไรจริงๆ เพราะเขาไม่ฟังอะไรเลย ทีนี้ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นหลานชายของพี่ที่ทำงานกับหนู สนิทกัน พอทะเลาะกับแฟน หนูก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เขาก็ตกใจ พี่เขาก็เลยโทรไปถามหลานเขาว่าเมื่อคืนนี้เห็นหนูเดินเข้าห้องไหม เขาก็บอกว่า ไม่รู้เลยครับ ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ยินเลย ภาพจากกล้องวงจรปิดคือหนูกับมาจากร้านที่ไปสังสรรค์แต่ผู้ชายคนนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้อง เขานั่งเล่นอยู่โต๊ะม้าหินหน้าห้อง ณ ตอนนี้หนูกับแฟนทะเลาะกันแรงมาก หนูไปปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆที่หนูสามารถคุยกับเขาได้เขาก็บอกว่าหนูไม่ปกติที่ละเมอแล้วเดิน จนหนูปรึกษาหมอ หมอบอกว่าจริงๆเคสแบบนี้จะไม่ค่อยเกิดกับคนอายุแบบเรานะ จะเกิดแต่กับเด็ก ส่วนน้อยมากที่จะเกิดกับคนรุ่นนี้ สิ่งที่หนูอยากจะปรึกษาพี่ๆดีเจ คือ ‘เขาก็ยื่นข้อเสนอมาว่ามีสองทางให้เลือก คือ หนูเก็บของออกไปกับจะให้เขาออกไป’ เรื่องนี้ 3 ดีเจ ก็ได้ให้คำปรึกษาตรงกันว่า “อย่างแรกเลยต้องเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพ เพราะในกล้องก็ชัดเจนแล้วว่าเราเข้าไปแล้วออกมาเลย แล้วแฟนก็ควรที่จะพาคุณสุไปปรึกษาหมอดีกว่าทำไมถึงละเมอขนาดนี้ ไม่เห็นมุมที่จะต้องมาทะเลาะกันเรื่องหึงหวง ส่วนเรื่องที่ต้องย้ายออก คุณสุก็ให้เขาออกไปเอง เพราะมันดูงี่เง่ามากที่คุณสุแค่ละเมอเเล้วเดินไปห้องคนอื่น ทั้งๆที่กล้องวงจรปิดก็เห็นชัดเจน คุณสุทำได้เเค่รอเวลาได้อย่างเดียวให้เขาอภัย เพราะเขาไม่ได้มีการรับฟัง แต่ถ้าเราออกไปก็รอดูว่าเขาจะตามไหม ถ้าเกิดเขาตามก็ยื่นข้อเสนอเลยว่าต่อไปนี้ต้องฟังเหตุผล แต่ถ้าเขาไม่ตามก็คือเขาไม่ได้รัก เขาอาจจะอยากเลิก เพราะมันงี่เง่าเกินไปกับเรื่องนี้ แล้วเกิดการละเมอแบบนี้ มันจะต้องถามว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะมันคือมาจากความรัก เขาจะต้องกลัวว่าคนในห้องนั้นก็ทำไรคุณสุหรือเปล่า หรือถ้าคุณสุเดินไปตกบรรไดล่ะ ส่วนเรื่องผู้ชาย ถ้าอยากให้มีความหวัง คุณสุต้องออกไป อย่างน้อยถ้าเขารักเรา เขาจะรู้สึกว่าคุณสุออกไปเพราะเขานะเพราะเขางี่เง่า ใดๆก็ตาม ตอนนี้คุณสุควรที่จะไปรักษาเรื่องละเมอก่อนดีกว่า มันอันตรายกับชีวิตคุณสุมากกว่านะ เพราะถ้าเกิดยังเดินละเมอแบบนี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นะ…’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

นับถือน้าเป็นแม่ เลี้ยงหนูมาจนโต ตลอดเวลาที่อยู่บ้านเดียวกัน น้าเขย พยายามขอกำลังใจจากหนู ขอให้หนูกอด ขอให้หนูบอกรัก บางวันดึงหนูไปกอด หนูกลัวจนตัวสั่น ล่าสุดส่งรูปลามกให้หนูอีก ตอนนี้ไม่กล้าบอกใครเลย แม่เคยบอกไว้ว่าให้ทำดีกับเขาไว้เพราะเรื่องธุรกิจ

29 ม.ค. 2024

นับถือน้าเป็นแม่ เลี้ยงหนูมาจนโต ตลอดเวลาที่อยู่บ้านเดียวกัน น้าเขย พยายามขอกำลังใจจากหนู ขอให้หนูกอด ขอให้หนูบอกรัก บางวันดึงหนูไปกอด หนูกลัวจนตัวสั่น ล่าสุดส่งรูปลามกให้หนูอีก ตอนนี้ไม่กล้าบอกใครเลย แม่เคยบอกไว้ว่าให้ทำดีกับเขาไว้เพราะเรื่องธุรกิจ

“คุณมี่ (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ม.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม กับปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว ที่น้าเขยมาลวนลาม น้าสาวที่นับถือเป็นแม่อีกคนก็รู้เรื่อง แต่ไม่คิดจะช่วยอะไร โดย “คุณมี่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ปัจจุบันครอบครัวหนูมีอยู่กัน 4 คน คือ หนู แม่(น้าที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ) ยาย และน้าเขย เมื่อก่อนแม่หนูเป็นแม่ค้าขายของที่ตลาด รายได้บางทีก็พอใช้ แต่บางครั้งก็ต้องประหยัด อยู่มาแบบนี้ได้สักพักนึงตั้งแต่เด็ก ๆ จนวันหนึ่งแม่ไปเจอแฟนในโลกออนไลน์ที่อายุอ่อนกว่าแม่ 10 ปี ซึ่งก็คือน้าเขยคนปัจจุบัน เขากับแม่ก็ตกลงกันว่าจะมาทำมาหากินใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เข้ามาทำงานด้วยกันได้ประมาณ 2 ปี น้าเขยคนนี้ทะเลาะกับญาติทั้งตระกูล อยู่กันแบบเคืองใจกันมาตลอด จนเข้าปีที่ 5 ที่เขาอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นหนูอายุ 15 ย่าง 16 ปี น้าเขยก็บอกว่า “จะซื้อของขวัญให้แต่ต้องแลกกัน” ของขวัญที่หนูคิดไว้ว่าจะเอาไปแลกกับน้าเขยก็คงจะเป็นสิ่งของหรือการ์ดขอบคุณ แต่เขาบอกว่าเขาไม่เอา เขาไม่อยากได้ เขาอยากได้กำลังใจจากหนู หนูก็เลยปฏิเสธไปว่า “ไม่เป็นไร...หนูไม่เอา” เขาบอกว่าอยากให้หนูกอด ให้หนูหอมเหมือนลูก หนูก็ปฏิเสธไป แต่พอถึงวันเกิดเขาก็ซื้อมาให้อยู่ดี หลังจากนั้นเขาก็เหมือนถาม เหมือนทวงว่า “ไหนอะของขวัญ ไม่เห็นได้อะไรเลย” หนูก็เลยพยายามเลี่ยงไม่ตอบโต้ และเขียนการ์ดขอบคุณไปให้ แต่ว่าเขาบอกว่า “ไม่เอา” มีวันนึงเป็นวันที่แม่ออกไปขายของข้างนอกกับน้าเขย ส่วนคุณยายก็ไปวัด วันนั้นเป็นวันที่หนูอยู่บ้านคนเดียว น้าเขยเขาก็เปิดประตูบ้านเข้ามา เดินมาเปิดประตูตู้เย็นดื่มน้ำ หนูก็เลยรีบหารีโมทเพื่อที่จะปิดทีวีและรีบออกจากตรงนั้น จังหวะที่หนูกำลังจะลุกไป เขาก็เดินมาคุกเข่าลง เอามือมากอดหนูไว้แล้วก็บอกว่า “ขอของขวัญหน่อยสิ” แล้วเขาก็หอมแก้มหนูทั้งสองข้าง ด้วยความที่เป็นเด็ก ไม่กล้าและกลัวจึงไม่ได้ขัดขืนหรือทำอะไร พอเขาปล่อยออก หนูก็รีบลุกและวิ่งออกเลย วันนั้นหนูจำได้ว่าหนูนอนร้องไห้จนหลับ ซึ่งอันนี้ก็คือวีรกรรมแรกของน้าเขยคนนี้ พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน เขาทะเลาะกับแม่เรื่องผู้หญิง เก็บกระเป๋าออกจากบ้านไป หนูก็เลยตัดสินใจบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับญาติ ๆ แต่ญาติเขาก็คุยกันบอกว่า “ยังไม่อยากบอกแม่ อยากให้เวลาแม่ทำใจก่อน” สุดท้ายเขาก็ไปได้ไม่นาน หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาก็กลับมาง้อแม่ แล้วก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ทำให้พฤติกรรมที่เขาเคยทำกับหนูกลับมาอีก เวลาที่อยู่บ้านหนูจะเลี่ยงการอยู่กับเขาสองต่อสอง บางทีเวลาเดินไปหน้าบ้านแล้วเห็นเขาอยู่ หนูก็จะอ้อมไปเข้าด้านหลัง เวลาที่หนูเข้าห้องนอน เขาก็จะชอบทักมาประมาณว่า “ขอหน่อยสิ...ขอหน่อย รู้ว่าอยากได้ ก็ให้หน่อย” หนูก็ได้บอกญาติว่าเขาทำแบบนี้อีก แต่ญาติก็พูดอะไรมากไม่ได้ มากสุดก็แค่รับรู้ไว้ เขาก็บอกว่า “ให้หนูดูแลตัวเอง” ญาติก็มาเยี่ยมหนูบ้างอะไรแบบนี้ ส่วนยายที่อยู่บ้านเดียวกัน หนูก็ยังไม่ได้บอก เพราะคุณยายเป็นคนเซนซิทีฟ เท่ากับว่าตอนนี้คนในบ้านที่อยู่ด้วยกันยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นบางทีน้าเขยเขายังส่งรูปลามกมาให้หนูในแชทอีกด้วย หนูยังไม่เคยโชว์ข้อความหรือรูปลามกที่เขาส่งมาในแชทให้แม่ดู ด้วยงานก็เลยยังไม่อยากพังชีวิตแม่ตอนนี้ เพราะว่ามันมีหลายอย่างที่เขาทำร่วมกัน แต่เหมือนแม่ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนยังไง หนูเคยคุยกับแม่ว่า “เขามาขอกอด” แม่ก็บอกแค่ว่า “อยากให้ทนไปก่อน เพราะอยากให้ชื่อกิจการมันเป็นของเราหมดก่อน” ส่วนแม่แท้ ๆ อยู่ข้างนอก อยู่ใกล้กัน แต่ฐานะการเงินของแม่เขาเลี้ยงดูหนูไม่ได้ หนูเคยบอกเรื่องนี้กับแม่แท้ ๆ แม่ก็บอกว่า “ถ้าวันไหนรู้สึกไม่ปลอดภัย ก็มานอนกับแม่ก็ได้” โดยปกติแล้วที่บ้านหนูเขาก็จะอยู่ห้องใครห้องมัน แต่บางทีเวลาเขาอยู่โถงบ้าน เขาชอบใส่กางเกงบ๊อกเซอร์มานั่งแหกขาดูทีวี ซึ่งจะทำแบบนี้แค่ตอนแม่ไม่อยู่บ้าน ล่าสุดที่ทำก็คือเมื่อสองวันที่แล้ว หนูเลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่า “มันพอจะมีทางออกที่จะคิดคำพูด พูดกับแม่แบบจริงจังอะค่ะ เพราะว่าแม่หนูก็เหมือนเคยรับรู้แต่ช่วยอะไรไม่ได้มาก” แล้วเหมือนตอนนี้เขาพูดกับแม่ว่า เขาจะขายร้านทิ้งทั้งหมดไปอยู่ที่อื่นพาแม่ไปด้วย เหตุผลที่เขาจะไปมันน่ารังเกียจมาก เขาบอกกับหนูว่า “หนูไม่รักเขา ไม่กอด ไม่หอมเขา” แค่นี้เลยคือเหตุผลที่เขาจะพาแม่ไปอยู่ที่อื่น โดย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่พี่จะขอน้า ขอไปอยู่กับแม่แล้วให้เขาส่งเสียให้ ถ้าเขารักหนูจริง เขาจะทำ บอกไปว่าหนูไม่ไหว มันไม่มีความสุข หนูอยู่แบบนี้ไม่ได้ พี่ไม่อยากให้มี่คิดว่าเรื่องนั้นมันจะไม่เกิดขึ้น หนูเปลี่ยนเขาไม่ได้ แม่จะไม่มีวันเลิกกับเขา ตอนนี้ที่หนูทำได้คือย้ายออกจากบ้านหลังนั้น ซึ่งหนูมีทางที่จะย้ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นแม่แท้ ๆ หรือญาติ พี่เชื่อว่าสุดท้ายจะไม่มีใครรักมี่เท่ามี่รักตัวเองนะ แล้วถ้าบอกแม่แล้วแต่แม่บอกให้ยอม ต้องอย่ายอมนะ กิจการอะไรเราทำมาหากินด้วยตัวเองได้ อย่าเอาชีวิตไปผูกกับสิ่งเหล่านี้แล้วเอาตัวเองแลก’ ต่อมาเป็น “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เอาจริงวิธีที่จะพูดกับแม่มันไม่มีอะไรเลย เปิดไลน์ให้ดู เปิดข้อความ เปิดรูปที่เขาส่งมาให้ดูเท่านั้นแหละ แล้วก็ออกมาซะ อยู่กับใครก็ได้ที่ไม่ต้องมาเสี่ยงแบบทุกวันนี้ หนูไม่ได้ไม่มีใครนะลูก’ สุดท้ายเป็น “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘บ้านนี้หนูอยู่ไม่ได้แล้วอันตรายมาก แต่ถ้าหนูอยากลองถามแม่ก็ลองได้ ลองไปพูดกับแม่ว่าเกิดสิ่งนี้ขึ้นกับหนู แล้วหนูรู้สึกอึดอัดในการอยู่บ้านหลังนี้ หนูอยากอยู่ข้างนอก ถ้าเขารักเราจริง เขาจะเช่าบ้านให้เราอยู่ข้างนอก หรือเช่าหอ หรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าเขายังพูดว่าร้านยังไม่เป็นของเรา บอกแม่ไปเลยว่าหนูขอออกไปอยู่ข้างนอก ถ้าอยู่แบบนี้หนูโดนข่มขืนแน่ แล้วแม่จะโอเคเหรอ หรือเราจะอยู่กับญาติได้ไหม ให้แม่มี่เป็นคนคิดเองเลยว่าจะให้อยู่บ้านไหน ตอนนี้อยู่ที่นี่ไม่ได้ แม่จะแก้ปัญหายังไงให้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1