หนูมีแฟนแต่เหมือนมีพ่ออีกคน เค้าอายุ 50 เรา 31 อยากไปไหนเค้าไปรับไปส่งทุกที่ ไม่ให้ไปเจอคนอื่น ให้อยู่บ้านเทรดหุ้นอย่างเดียว เค้าให้เงินหนูทุกเดือน หนูไม่ได้เจอใคร อยากไปประกวดนางงาม เขาก็ห้ามกลัวว่าหนูจะไปเจอผู้ชายคนอื่น

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูมีแฟนแต่เหมือนมีพ่ออีกคน เค้าอายุ 50 เรา 31 อยากไปไหนเค้าไปรับไปส่งทุกที่ ไม่ให้ไปเจอคนอื่น ให้อยู่บ้านเทรดหุ้นอย่างเดียว เค้าให้เงินหนูทุกเดือน หนูไม่ได้เจอใคร อยากไปประกวดนางงาม เขาก็ห้ามกลัวว่าหนูจะไปเจอผู้ชายคนอื่น

22 ส.ค. 2024

หนูมีแฟนแต่เหมือนมีพ่ออีกคน เค้าอายุ 50 เรา 31 อยากไปไหนเค้าไปรับไปส่งทุกที่

ไม่ให้ไปเจอคนอื่น ให้อยู่บ้านเทรดหุ้นอย่างเดียว เค้าให้เงินหนูทุกเดือน หนูไม่ได้เจอใคร

อยากไปประกวดนางงาม เขาก็ห้ามกลัวว่าหนูจะไปเจอผู้ชายคนอื่น ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็น นกน้อยในกรงทอง

                “คุณหวาน (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [21 ส.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจอั๋น – ดีเจเติ้ล’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนทำตัวเหมือนพ่อ

                โดย “คุณหวาน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูมีแฟนที่เหมือนพ่อ แฟนหนูอายุ 50 คบกันมา 5 ปี เค้าจะทำเหมือนเราเป็นง่อย เช่น เวลาจะออกไปไหนต้องไปกับเค้าตลอด จากที่หนูขับรถไปนู่นนี่ได้ในตอนที่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน พออยู่ด้วยกันเค้าก็ห้าม แล้วบอกว่าเป็นห่วง กลัวอุบัติเหตุ ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน หนูก็ไม่เคยทำให้ไม่ไว้ใจ หนูอยากไปทำงานเค้าก็ไม่ให้หนูทำงาน หนูกับเค้าเจอกันตอนช่วงโควิด และงานหนูคืองานสายบริการ แล้วมันไม่มีลูกค้าเลย ทางที่ทำงานก็เลยแจ้งมาว่าขอไม่คอนเฟิร์มว่าถ้ากลับไปทำงานจะได้เงินเท่าเดิมมั้ย? แฟนหนูเลยเสนอว่าไม่ต้องทำงานหรอก ไปอยู่กับเค้า เค้าจะสอนเทรดหุ้น พอหนูไปอยู่กับเค้าจากคนที่เคยมีรูทีนทำงาน ตื่นเช้ามาทำงาน ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าอยู่แต่หน้าจอ เทรดหุ้น กินข้าว ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน หนูอยากทำอะไรเค้าก็ห้าม ตอนนี้ก็คืออยู่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ หนูจะขอกลับไปทำงาน เค้าก็บอกว่าหนูทำงานกับใครไม่ได้ เพราะหนูก็มีส่วนที่ทำให้เค้าเป็นแบบนี้ คือตอนแรก ๆ หนูไม่เถียงเค้าเลย เวลาเค้าพูดมาหนูก็ฟัง เวลาไม่โอเคหนูก็เฉย ๆ ไป เพราะรู้ว่าถ้าหนูบอกเค้าไปหรือพูดอะไรไป เค้าก็จะหาว่าหนูเถียง หนูไม่ฟัง ในตอนช่วงโควิดหนูอยากลงประกวดนางงาม เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวต้องไปเจอคนนู้นคนนี้ เช่น ช่างแต่งหน้าที่อาจจะพาเราไปเจอผู้ชายใหม่ เพราะเค้ากลัวหนูจะทิ้งเค้า หนูเลยอยากถามว่าหนูควรจะเป็นแบบนี้ต่อไป หรือควรจะพูดให้เค้าเปลี่ยนความคิดมากกว่านี้?’

                งานนี้ “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุยตรง ๆ เลย วันนี้หนูอึดอัดเรื่องไหนหนูเรียกเค้ามาคุยแล้วบอกเค้าไปเลย เช่น ชีวิตที่ตอนนี้หนูไม่ได้แแสดงความคิดเห็นเลย เรามาอยู่ด้วยกันไม่ได้แปลว่าหนูจะทิ้งชีวิตหนูทั้งหมดไว้ที่นี่ หนูรักคนนี้หนูก็ไม่ได้ไปไหน เพียงแต่ว่าหนูก็ต้องมีชีวิตของหนูที่มันทำให้หนูมีความสุขบ้าง ตอนนี้หนูอึดอัดเรื่องนี้ หนูไม่ได้ทำความฝันของหนูเลย และพี่ไม่ต้องกังวลว่าหนูจะมีคนใหม่ การที่หนูมีคนใหม่แปลว่าหนูไม่ซื่อสัตย์ พี่ไม่ต้องเสียดายหนูเลย แต่ ณ วันนี้หนูไม่ได้อยากเลิกกับพี่เพราะถ้าหนูอยากเลิกกับพี่หนูไปนานแล้ว แล้วหนูอสากจะบอกพี่ว่าไม่ต้องคาดหวังให้ใครมาอยู่กับเราตลอดชีวิต ณ วันนี้เรามีความสุข แต่ถ้าพี่ทำให้หนูอึดอัด หนูอาจจะอยากออกจากตรงนี้ก็ได้ พูดตรง ๆ เลย ว่า ที่หนูเรียกพี่มาคุยวันนี้เพื่อที่จะบอกว่าหนูต้องการใช้ชีวิตในแบบของหนู อะไรที่หนูอยากทำหนูจะบอกพี่หนูจะให้เกียรติพี่  แต่หนูไม่อยากให้พี่มาห้ามหนูอีกแล้วเพราะหนูไม่อยากทะเลาะ ไม่ใช่ว่าหนูทำเพื่อพี่อยู่แล้วตัวหนูก็มาอึดอัด’

                ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าหวานต้องทำตัวให้แข็งแรง พี่รู้สึกว่าหวานอ่อนแอเหมือนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า อีกอย่างที่มีปัญหาคือหวานไม่มีพื้นที่ของตัวเอง และหวานต้องไปพูดกับแฟนว่า 1. พี่ต้องไว้ใจว่าหนูจะไม่นอกใจ เรื่องหึงหวงหยุดคิดได้แล้วค่ะห้าปีแล้ว 2. ไว้ใจว่าหนูสามารถดูแลตัวเองได้เพราะฉะนั้นต้องมีพื้นที่ให้หนูทำอะไรที่หนูอยากทำ แต่ถ้าทั้งหมดทั้งมวลเค้ายังไม่ยอมหวานก็ต้องนึกถึงตัวเอง’

                สุดท้าย “ดีเจอั๋น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หวานปล่อยให้ภาวะนี้เกิดขึ้นเอง เรายอมตัวเล็กเอง ไม่ได้แปลว่าให้กร่างนะ  เราแค่เป็นตัวเองยืนแบบอกผายไหล่พึ่ง แล้วก็รักตัวเองมีศักดิ์ศรีในแบบของตัวเองแค่นั้นเอง และมีอะไรก็พูดกันดี ๆ มีอะไรต้องคุยกัน และไม่ได้อยู่ด้วยความกลัว ลองคุยกับเค้าเลยแล้วดูอาการของเค้า และอย่าเอาความเสียดายมาเป็นตัวตั้ง เพราะเรามีความรู้เรามีงานเราหางานได้ และเรายังสามารถดูแลตัวเองได้ เพราะถ้าเราปล่อยเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราอาจจะโดนเค้าถีบออกจากบ้านเองก็ได้ แล้วถ้าคิดว่าต้องแต่งงาน คุยเคลียร์ให้จบ แล้วลองดูว่ามันคุยกันมีแพลนนั้นมั้ย เพราะถ้าเราคิดว่าจะฝากผีฝากไข้ไว้กับคนนี้มันก็ต้องได้อะไรบ้าง แต่ก่อนที่เราจะหวังให้เค้าฟังเรา เราก็ต้องทำตัวให้น่าฟัง ถ้าอยากให้เค้ารักก็ต้องทำตัวน่ารักถ้าอยากได้รับเกียรติก็ต้องทำตัวให้มีเกียรติ อยากให้เค้าเห็นค่าเราก็ต้องทำตัวมีค่าและเห็นค่าตัวเองก่อน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่เจอแต่ "หัวหน้าผู้ชาย" สังคมง่ายๆ ตรงๆ ไม่จุกจิก ย้ายมาทำงานที่ใหม่ เจอ "หัวหน้าผู้หญิง" สังคมทำงานมีแต่ผู้หญิงๆ จุกจิก แบ่งพรรค แบ่งพวก นินทากัน จนตอนนี้รู้สึกอึดอัดมาก แต่งานดี เงินโอเค จะทนอยู่ หรือ ไปหาที่ใหม่ดีคะ?

19 พ.ย. 2024

หนูเปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่เจอแต่ "หัวหน้าผู้ชาย" สังคมง่ายๆ ตรงๆ ไม่จุกจิก ย้ายมาทำงานที่ใหม่ เจอ "หัวหน้าผู้หญิง" สังคมทำงานมีแต่ผู้หญิงๆ จุกจิก แบ่งพรรค แบ่งพวก นินทากัน จนตอนนี้รู้สึกอึดอัดมาก แต่งานดี เงินโอเค จะทนอยู่ หรือ ไปหาที่ใหม่ดีคะ?

“คุณบันนี่” สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 พ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องสังคมที่ทำงาน โดย “คุณบันนี่” ได้เล่าว่า ‘ต้องเกริ่นก่อนว่าหนูย้ายที่ทำงานมา ทำงานมาได้ 6 ปีแล้ว เปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่ ซึ่งทุกที่เคยมีหัวหน้าผู้ชายมาตลอด ตอนนี้เปลี่ยนบริษัทที่ทำงานมา 3 เดือน แล้วก็เปลี่ยนหัวหน้ามาเป็นผู้หญิง หนูอึดอัดกับสังคมที่ทำงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่มาก ตอนที่ทำงานที่เก่าในสังคมที่ทำงานนั้นๆก็จะมีเพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้หญิง และ LGBTQ ครบหมด แต่มันน่าจะเป็นที่หัวหน้า ตอนนี้เป็นฟีลเหมือนโรงเรียนหญิงล้วน ข้างบนก็เป็นผู้หญิง ข้างล่างก็ผู้หญิง ทุกคนเป็นผู้หญิงหมดเลย ความแตกต่าง คือ หนูรู้สึกว่ามันหยุมหยิม ปัญหาที่เจอตอนนี้เหมือนไม่ได้โฟกัสปัญหาที่งาน แต่ปัญหาไปกองอยู่ที่คนมากกว่าที่งาน มีดราม่าบ้าง ทุกวันนี้เหมือนมีมที่โซเชียลทำกันเลยที่เราเดินเข้าออฟฟิศ แล้วต้องแสดงละครเป็นอีกคนนึง หรือเวลาเลิกงานปุ๊บ ร่างนั้นโดนถอดออกไป บางทีก็มีเหตุการณ์ที่เขามีลูกรักในที่ทำงาน ก็เข้าใจว่าทุกที่มี แต่หนูไม่รู้ว่ามันเกี่ยวมั้ย คือ หนูก็ไม่ได้อยากจะโทษว่าเป็นเพศอะไร แล้วจะเป็นอีกแบบนึง เหมือนเขาจะพูดกับน้องๆ Gen ใหม่อีกอย่างนึง แล้วมาพูดกับหนูอีกอย่างนึง บางครั้งหนูก็จะกลายเป็นคนดูดุ จริงๆเราไม่ได้มีอะไรเลย แต่เขาวางคาแรคเตอร์หนูอีกแบบนึง เขาอาจจะหวังดีที่ให้น้องเกรงใจ แต่สำหรับตัวเขาเอง คาแรคเตอร์ดูเป็นคนใจดี มันอาจจะเป็นการวางตัวของเขามั้ง หนูอาจจะไม่ชิน จริงๆหนูก็ใจดีกับน้องๆ แต่ด้วยอำนาจหน้าที่การรับผิดชอบของหนูต้องประสานกับน้อง ซึ่งในที่ทำงานนี้หนูก็มีเพื่อนที่เป็น Gen เดียวกับเรา วัยใกล้กันมากๆ ห่างกันปีนึง เขาอยู่มาก่อน มีตำแหน่งโตกว่าหน่อย เขาก็เคยพูดกับหนูว่าอยากให้เราคีพเก็บอารมณ์ หรือการแสดงออก ใจเย็นกว่านี้ เพราะหนูเป็นคนใจร้อน เขาอยากให้บรรยากาศการทำงานมันดี เขาไม่อยากให้มีความปะทะอะไรกันเลย แต่ในความเป็นจริงมันก็จะมีปัญหาที่ซุกอยู่ใต้พรม ปัญหาที่เราจะไม่แก้ ปัญหาที่เราจะเก็บ จะไม่พูดกันตรงๆ อย่างตอนที่หนูทำงานกับหัวหน้าผู้ชายที่ผ่านมา มันอาจจะเป็นความชินของหนู เช่น หัวหน้าไม่ชอบใจ หรือรู้สึกว่างานนี้ทำทำไม เขาก็จะพูดออกมาเลยว่า ทำทำไมวะ ไม่ดีนะ แต่พอเป็นสังคมผู้หญิงล้วนมันเหมือนต้องไปหาเหตุผลอ้อมมาก่อนว่ามันไม่ดีเพราะอะไร มันก็เลยทำให้หนูอึดอัดหนูรู้สึกว่าระดับความอดทนประมาณ 6.5/10 ซึ่งทั้ง Career Path , เงินเดือน , ตำแหน่ง ตอนนี้มันดีหมดเลย หนูติดแค่ปัญหาเรื่องนี้ คำถามที่อยากจะถามพี่ๆคือ หนูควรจะปรับตัวให้เข้ากับเขา เพื่อด้านอื่นๆในหน้าที่การงานที่มันดี หรือหนูควรจะรู้สึกว่าพอแล้วไปหางานใหม่?เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเจอผู้ชายคนนึงที่ร้านเหล้า เค้าเข้ามาจีบ หลังจากนั้นก็นัดมีอะไรกันมาเรื่อยๆ ผ่านมาหลายเดือน เค้ามาบอกว่า เค้ามีแฟนแล้ว แฟนตัวจริงเขาจะกลับมาจากเมืองนอกเดือนหน้า ถ้าแฟนเขากลับมาเขาก็จะสร้างบ้านอยู่กับแฟนเค้า

22 ส.ค. 2024

หนูเจอผู้ชายคนนึงที่ร้านเหล้า เค้าเข้ามาจีบ หลังจากนั้นก็นัดมีอะไรกันมาเรื่อยๆ ผ่านมาหลายเดือน เค้ามาบอกว่า เค้ามีแฟนแล้ว แฟนตัวจริงเขาจะกลับมาจากเมืองนอกเดือนหน้า ถ้าแฟนเขากลับมาเขาก็จะสร้างบ้านอยู่กับแฟนเค้า

หนูเจอผู้ชายคนนึงที่ร้านเหล้า เค้าเข้ามาจีบ หลังจากนั้นก็นัดมีอะไรกันมาเรื่อยๆผ่านมาหลายเดือน เค้ามาบอกว่า เค้ามีแฟนแล้ว แฟนตัวจริงเขาจะกลับมาจากเมืองนอกเดือนหน้าถ้าแฟนเขากลับมาเขาก็จะสร้างบ้านอยู่กับแฟนเค้าแล้วความสัมพันธ์ของหนูกับเขาล่ะ จะทำยังไงต่อไปดี? “คุณเนย (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [21 ส.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับเรื่องกลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว โดย “คุณเนย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับผู้ชายคนนึง อายุ 30 ปี คบกันมาได้ 4 เดือน หนูเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนเป็น One night มาเรื่อย ๆ เเต่จะไม่หลงรักใคร คืนนั้นหนูไปกับเพื่อน เขาเป็นคนเข้ามาหาหนูก่อนเเล้วถามว่า “หนูไม่มีแฟนหรอ?” หนูก็บอกว่า “ไม่มี” เเล้วเราก็เเลกคอนเเทคเเละเราก็นัดกัน คืนนั้นก็จบไป หนูก็คิดว่ามันจะจบเเค่คืนนั้น เเต่ไป ๆ มา ๆ เขาก็มีการโทรหา มีการทักหาว่า “มาเจอกันมั้ย?” หนูเจอเขาบ่อยมากเพราะเขาทำงานอยู่ที่ร้านนั้น เเล้วหนูก็จะเที่ยวเเต่ร้านนี้ เป็นร้านประจำเลยของหนูเลย หลังจากนั้นก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน จนมาซักพักหนึ่ง เขาก็เพิ่งมาบอกว่า “เขามีแฟนแล้วนะ!” เเต่เขาไม่ได้อยู่กับแฟน เเฟนไปทำงานต่างประเทศได้ประมาณเดือนกว่า ๆ เเล้ว กว่าจะกลับก็สิ้นปี ซึ่งตัวหนูเองก็เลยรู้สึกว่าหรือเราจะถอยดีเพราะตอนนี้ยังไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น เเต่ถ้าถามว่ารู้สึกมั้ย ก็รู้สึกแหละ เพราะไปไหนด้วยกันบ่อย ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน อยู่ด้วยกันทั้งวัน พอแยกกัน เขาก็เป็นคน Facetime มาคุยกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเคยลองไม่ไปด้วยกัน ลองต่างคนต่างไปหาคนอื่นดูบ้าง เเต่ตัวหนูเองทำไม่ได้ รู้สึกว่าเหมือนมันต้องไปกับเขา ส่วนเขาไปมาเเล้วรู้สึกผิดกับหนูมากเลย ทำแล้วนึกถึงเเต่หน้าหนู ซึ่งตอนนั้นหนูก็โกรธนะ หนูรู้สึกว่า “เอ้า ก็แกไปทำกับเขามาเเล้วนะ ละทำไมแกยังมาบอกว่าคิดถึงเเต่หน้าชั้น” มันย้อนแย้งหนูก็เลยมองว่าเราถอยออกมาดีกว่า ความรู้สึกของเรามันจะได้ไม่ถลำลึกลงไปมากกว่านี้ จนวันนั้นเขาเป็นคนบอกหนูเองว่าเขารู้สึกกับหนูยังไง ชอบหนูเเค่ไหน เวลาไปเจอเพื่อนเขาก็จะบอกว่า “แฟนใหม่กูนะ แฟนใหม่กูเอง” ซึ่งตัวหนูเองอะไม่ได้พูดอะไรออกไป หนูอึดอัดมากพูดอะไรออกไปไม่ได้เลย วันนั้นเขาพูดกับหนูประโยคนึงว่า “อย่าเพิ่งโทรมานะ พี่ขอคุยกับแฟนพี่ก่อน” หรือในช่วงกลางวันเขาก็จะเเบบว่า “เดี๋ยวขอคุยกับแฟนก่อนนะ หนูไปนอนรอพี่ที่ห้องก่อนนะ ซักตี 2 พี่ไปหา” คือหนูมองว่าถ้าเขาจะให้หนูรับรู้เเล้ว เขาควรที่เลี่ยงใช้คำอื่นก็ได้มั้งว่าไปทำธุระหรือทำอะไรก็ได้ โกหกเราหน่อยก็ยังดี ความรู้สึกหนูตอนนั้นคือมันพังมากเลย ทำไมมันต้องอยู่จุด ๆ นี้ด้วยที่เเบบว่าเขามีแฟนอยู่เเล้ว รู้อยู่เเล้วเเต่ออกมาไม่ได้ถ้าออกมาก็เจ็บ เขาเคยถามหนูว่า “ถ้าพี่เลิกกับแฟนพี่อ่ะ เราจะมาคบกับพี่มั้ย?” เเต่ตอนนั้นตัวหนูเองมองว่าหนูคงไม่คบ หนูคงไม่เอาเพราะว่าเขายังทำเเบบนี้กับแฟนได้เลย ถ้ามาคบกับหนู หนูต้องระเเวงขนาดไหน ตอนนี้แฟนเขากำลังจะกลับมาจากต่างประเทศเเล้วเดือนหน้า เเล้วเขาก็กำลังจะซื้อบ้านหลังใหม่ด้วยกัน ซึ่งหนูก็เลยรู้สึกว่าต้องทำยังไงต่อ เเล้วเขาก็บอกกับหนูว่า “ถ้าแฟนพี่กลับมา เราไปคุยกันในแอปอื่นได้มั้ย ในไลน์คุยไม่ได้เเล้ว เพราะถ้าคุยกันเเล้วแฟนไปเปิดคอมมันก็จะขึ้น” หนูก็เลยพูดกับเขาไปว่า “ถ้าแฟนพี่กลับมา หนูก็คงไม่อยู่ต่อแล้ว” เเต่พอถึงเวลาจริง ๆ มันก็ทำไม่ได้ เหมือนหนูต้องอยู่จนไม่รู้สึกอะไรไปเอง เเล้วทีนี้มันอึดอัดเพราะหนูไม่รู้ต้องไปในทางไหน ต้องทำยังไงกับความสัมพันธ์นี้ หนูต้องหยุดยังไง ก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจทั้งสามคนว่า หนูจะต้องทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ดี?’ ซึ่งดีเจทั้งสามคน (ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น) ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘กรรมมันเกิดจากการกระทำของเรา มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงเเต่ว่าทำไม่ได้ มี 2 เเพ็คเกจให้เลือก 1.สนุก หวือหวา ใจเต้นชั่วครั้งชั่วคราว แลกกับความเจ็บเเล้วยอมเป็นคนไม่สำคัญตลอดไป 2.เจ็บเเต่จบ หลังจากนั้นรอรางวัลความสุขตามหลังมา เพราะฉะนั้นต้องเลือกเอา เขาตั้งใจด้วยซ้ำมั้งที่ให้เราอยู่ใน Position นี้ ด้วยการใช้คำเหล่านั้นพยายามทำให้เราชินเเล้วยอมรับ เเล้วเขาก็ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยว่าเขาจะเลือกเรา ถ้าตอนนี้ยังไม่อยากออกมาก็อยู่ไปก่อน เมื่อไหร่ที่ความสุขจากการอยู่ตรงนั้นมันน้อยกว่าความทุกข์หนูจะออกมาเอง หรือไม่งั้นก็รอวันหมดกรรม ไม่รู้ว่ากรรมจะจบลงยังไงเเต่คนควบคุมมันตอนนี้ก็คือหนู สุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดีเพราะถึงเขาเลิกกันหนูก็จะอยู่เเบบระเเวงไม่มีความสุขอยู่ดี ยังไงคำตอบก็คือต้องไปจากผู้ชายคนนี้ ในระหว่างนี้ก็ค่อย ๆ ใช้เวลาหันมารักตัวเองให้มากขึ้น ควรเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของตัวเองนิดนึง โฟกัสที่ชีวิตตัวเองเพราะว่าอนาคตของเขาไม่ได้มีเราอยู่เเน่นอน บ้านหลังนั้นก็ไม่ใช่ของเรา เราไม่ใช่คนที่อยู่ในบ้านหลังนั้นที่เขาจะซื้อ ขยี้ตัวเองก็ได้ไม่ต้องรีบ ไม่มีอะไรจะเสียมากกว่านี้เเล้วนอกจากเวลา ก็ขอให้คิดได้เร็ว ๆ ขอให้ไหวเเละเเข็งแรงพอที่จะเดินออกมาได้เร็ว ๆ ขอให้รู้เเล้วว่าตรงไหนคือทางออกเเล้วเเข็งแรงพอที่จะลุกเอาตัวเองออกมาได้เร็ว ๆ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เรากับแฟนเริ่มต้นคบกันแบบต่างคนต่างมีแฟน แอบแซ่บกันแล้วไปเลิกคนของตัวเอง เราตั้งท้อง แฟนขอให้ยุติการตั้งครรภ์ เราก็ไปยุติเพราะท้องไม่พร้อม คบกันมา 4 ปี เขาขอกลับไปหาแฟนเก่าที่นอกใจมาตอนนั้น เหมือนเราไม่เหลืออะไรเลย

16 ส.ค. 2024

เรากับแฟนเริ่มต้นคบกันแบบต่างคนต่างมีแฟน แอบแซ่บกันแล้วไปเลิกคนของตัวเอง เราตั้งท้อง แฟนขอให้ยุติการตั้งครรภ์ เราก็ไปยุติเพราะท้องไม่พร้อม คบกันมา 4 ปี เขาขอกลับไปหาแฟนเก่าที่นอกใจมาตอนนั้น เหมือนเราไม่เหลืออะไรเลย

เรากับแฟนเริ่มต้นคบกันแบบต่างคนต่างมีแฟน แอบแซ่บกันแล้วไปเลิกคนของตัวเองเราตั้งท้อง แฟนขอให้ยุติการตั้งครรภ์ เราก็ไปยุติเพราะท้องไม่พร้อม คบกันมา 4 ปีเขาขอกลับไปหาแฟนเก่าที่นอกใจมาตอนนั้น เหมือนเราไม่เหลืออะไรเลยเขาพูดให้ความหวังว่าอนาคตอาจจะกลับมาคบกันอีกก็ได้... “คุณเม (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่สายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (7 ส.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับแฟนคนล่าสุดที่มีจุดเริ่มต้นจากการแอบแฟนมาแซ่บกัน โดย “คุณเม (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ความสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้เริ่มต้นที่หนูมีแฟนอยู่แล้ว คบกันมา 3 ปี แล้วหนูไปเจอกับผู้ชายคนนี้จากแอปพลิเคชันหาคู่ แล้วก็นัดกันแอบแซ่บ หลังจากนั้นเขาน่าจะติดใจหนู เลยขอหนูเป็นแฟน หนูก็เลยตอบว่า “ลองคบก็ได้” เลยกลายเป็นความสัมพันธ์แบบ 4 คน หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น หนูพลาดท้องกับเขาในวันที่แอบแซ่บกัน แล้วต่างคนก็รู้ความจริงที่ว่าหนูมีแฟนแล้ว และเขาก็มีแฟนแล้วเช่นกัน โดยที่แฟนของหนู แล้วแฟนของเขาไม่รู้ พอหลังจากที่หนูรู้ว่าหนูท้องกับเขา หนูจึงไปเลิกกับแฟนที่คบกันมา 3 ปี แต่คนที่หนูแอบแซ่บเขายังไม่เลิกกับแฟนของเขา เขาบอกแค่ว่า “เขายังไม่พร้อมจริงๆ” ซึ่งหนูก็ยังไม่พร้อมเพราะเป็นช่วงที่เรียนใกล้จะจบแล้ว จึงตกลงกันที่จะยุติการตั้งครรภ์ เวลาผ่านไปหลายเดือนกว่า เขาไปเลิกกับแฟนเขาแบบตัดขาด แล้วเขาก็มาคบกับหนูแบบจริงจัง จนตอนนี้คบกันมา 4 ปี จนล่าสุดเมื่อวานนี้ เขาบอกเลิกหนูด้วยเหตุผลที่ว่าหมดรักแล้ว บางทีที่ทะเลาะกัน เราพยายามปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้ พอจะดีขึ้นก็กลับมาทะเลาะเรื่องเดิมๆอีก และตอนนี้เขาก็กลับไปคุยกับแฟนเก่า และแฟนเก่าเขาไม่เคยรู้เรื่องหนูมาก่อน เขาขอให้เขาได้ไปลองใช้ชีวิต ไปจัดการกับชีวิตตัวเองก่อน ถ้ามันจะกลับมาหรือไม่ ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้หนูฝังใจตอนเรื่องที่ยุติการตั้งครรภ์กับเขา หนูยังคงอยากให้เขาเป็นพ่อของลูก ล่าสุดที่คุยกับเขาก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่ หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูควรมูฟออนจากเรื่องนี้ยังไง? ควรรอเขาไหม? แล้วเรื่องที่ยังติดใจหนูอยู่ หนูควรจัดการยังไงดี?’ ซึ่งทาง “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่อั๋นยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังติดใจอยู่ในเรื่องของการยุติการตั้งครรภ์ ในเมื่อเรื่องมันจบไปแล้ว หรือยังติดใจที่เขาเคยเป็นพ่อเด็ก เลยอยากให้เขาเป็นพ่ออยู่หรอ เป็นการติดใจที่แปลกอยู่นะ ถ้าตอบสั้นๆเลยคือ หนูไม่ต้องถามเลยว่าควรมูฟออนหรือเปล่า เพราะเขามูฟออนไปแล้ว ถ้าเรายืนก็แค่ยืนเฉยๆของเรา ไม่ต้องมูฟออนก็ได้ อยากยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้ แต่เขาไปแล้วนะ มันคือความจริง และทุกๆเหตุผลที่เขาตอบ ไม่ต้องเป็นหรือจดจำรายละเอียดก็ได้ สรุปแล้วคือเขาจะกลับไปอยู่ที่เดิม กลับไปหาคนเก่า เราอาจจะต้องยอมรับว่าทั้ง 2 คนเริ่มต้นจากความไม่ซื่อสัตย์ทั้งคู่ ซึ่งแปลว่าเราทั้ง 2 คนคาดหวังความซื่อสัตย์จากกันและกันมันไม่ถูกต้อง เราควรมาเริ่มต้นกับตัวเอง ทบทวนว่าเราควรจะเริ่มต้นจากความสัมพันธ์แบบไหน แล้วรักตัวเองให้มากพอที่จะดูแลตัวเองด้วย เพราะว่าหนูไม่มีความปลดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ และตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าวันนั้นหนูติดโรคหรือเชื้ออะไร มันก็ไม่แฟร์กับแฟนเก่าหนูด้วย เริ่มจากรักตัวเอง แล้วค่อยคิดว่าอยากได้คนนี้กลับมาเป็นพ่ออีกครั้ง พี่ว่าหนูยัวไม่พร้อมที่จะเป็นเมีย หรือยังไม่พร้อมจะเป็นแม่นะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาเพิ่มต่อว่า ‘พี่พูดเพื่อหวังว่าจะให้หนูมูฟออนเลยแล้วกัน พี่แค่จะถามว่า “ผู้ชายคนนี้มีคุณสมบัติอะไรหรอ? หนูถึงจะให้เขามาเป็นสามี และพ่อของลูก” 1. เขามีเมียแล้วแต่ยังไม่ยุ่งกับเราโดยที่เมียเขายังไม่รู้เรื่องเลย นี่คือคุณสมบัติของผู้ชายที่ดีหรอ 2. พี่งงกับตรรกะหนูว่า หนูมีลูก แต่เขาไม่รับผิดชอบ จึงต้องยุติการตั้งครรภ์ คุณสมบัตินี้หรอที่ทำให้หนูจะให้เขามาเป็นพ่อของลูก เขาดูแลหนูมั้ยในตอนที่หนูยุติการตั้งครรภ์’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘คนที่มันเดินไปแล้วก็คือเดินไปแล้ว ผู้ชายมันเริ่มต้นกับคนใหม่แล้ว โอกาศที่นะกลับมาก็ยาก แบ้วมันเป็นเรื่องอะไรที่เราต้องรอ สำหรับพี่ใครเดินไปจากชีวิตพี่คือพี่เป็นอิสระแล้ว พี่ลั้นลาได้แล้ว แต่พี่ไม่ยิงสด และก็ไม่นอกใจแฟนนะ ตอนนี้หนูจะลั้นลาก็ทำได้ เพราะหนูโสด แต่ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง แต่ถ้ามีแฟนแล้วต้องเลิกลั้นลานะเม กลับไปเป็นเมที่รับผิดชอบและรักตัวเอง ตอนนี้อายุเพิ่งจะ 26 เริ่มต้นใหม่ได้ แต่ถ้ารู้สึกว่า ยังไม่อยากลั้นลา อยากรอเขาอยู่ ถ้ามีความสุขอยากทำแบบนั้นก็ได้ แต่อย่าถึงขั้นที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข ทำงานไม่ได้ กินไม่ได้ ผู้ชายคือมายา ข้าวปลาคือของจริงนะ แฟนเป็นใครก็ได้ แต่พ่อของลูกไม่ใช่ใครก็ได้นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้า อยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คัน ละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม

18 พ.ย. 2024

จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้า อยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คัน ละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม

จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้าอยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คันละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม แล้วน้องเคยพูดกับแม่ว่า "หนูสวย หนูหาผัวรวยๆเลี้ยงได้" “คุณเค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 พ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว โดย “คุณเค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้น้องสาวอยู่กำลังอยู่ในวัยอายุ 14-15 เป็นวัยที่เราก็รู้กันอยู่ว่าเขาก็กำลังโตเป็นสาว ปัญหาก็คือน้องตอนนี้เริ่มติดเพื่อนมาก ติดแฟนมากจนไม่เข้าบ้าน ไม่ไปเรียนหนังสือ ทางที่บ้านก็ไม่รู้จะพูดกับน้องยังไง เพราะตอนแรกคุณแม่ก็ถามว่าเราจะเอายังไงกันดี? ปล่อยให้ไปเที่ยวกับเพื่อนแม่ก็ไม่ว่า คือคุณแม่ก็ไม่อยากจะด่าน้องด้วย เหมือนแบบวัยนี้มันพูดแรงมากไม่ได้ พูดแรงปุ๊ปก็แบบยิ่งเตลิด อันนี้คือสิ่งที่คุณแม่บอกมา ซึ่งน้องก็ยังทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้ปัญหามันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทางโรงเรียนก็เริ่มโทรมาบอกว่า “น้องไม่ไปโรงเรียนเลย อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปแค่วันสองวันเอง” คุณแม่ก็ไม่กล้าบอกกับทางโรงเรียนเพราะว่าน้องก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่เราแบบไม่ค่อยโอเคด้วย เช่น สมมติมาถึงบ้านก็มาด่าคุณครูให้เราฟังว่าคุณครูเป็นอย่างงั้นเป็นอย่างงี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเอ๊ะ! การที่เราบอกกับคุณครูจะทำให้น้องยิ่งเกลียดการไปโรงเรียนอีกหรือเปล่า? เลยเลือกที่จะไม่บอกคุณครูให้ทราบ ทีนี้เราก็เลยคุยกันว่าเราจะทำยังไงดีให้น้องกลับมาบ้าน ก็เลยยื่นข้อเสนอไปว่าอยากได้อะไรลองร้องขอมา น้องก็เลยร้องขอเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาเกือบแสน คุณแม่ก็ตัดสินใจซื้อให้เพราะอยากจะให้น้องกลับมาเลยลองซื้อให้ กลายเป็นว่าการที่ซื้อไปน้องยิ่งเตลิดไปอีก เพื่อนเขาก็แบบเป็นฟีลสก๊อย ไม่เรียนหนังสือ เราก็ไปตามหาที่บ้านเพื่อนของเขาบ้าง บ้านแฟนบ้าง แต่คือตอนนี้เขาเริ่มมีแนวคิดที่แบบเราไม่รู้จะแก้ไขยังไง เขาบอกกับเราว่า เรียนหนังสือไปปวดหัว มีผัวดีกว่า คือความคิดนี้มาจากไหน เราก็ไม่รู้แต่ว่าเขามีความรู้สึกว่าเขาแบบสวย รู้สึกว่าความสวยของเขาสามารถทำให้ชีวิตเขาดีได้แน่นอน เราก็เลยไม่รู้จะกู้เขายังไงแล้วตอนนี้ ส่วนเรื่องเงินก็ได้คุยกับคุณแม่ดูว่าถ้าสมมติเราลองไม่ให้เงินเขาดีไหม เขาจะได้กลับบ้าน พอไม่ให้เงินปุ๊ปเขาก็กลับมาบ้าน มาขนเสื้อผ้า ขนของไปขายหมด เอาเงินไปใช้ แล้วเขาก็บอกคุณแม่ว่า ไม่มีแม่ก็หาเงินเองได้ ถามว่าเขาเอาตัวรอดได้ไหม? ก็ได้ แต่หนูว่าคำว่าเอาตัวรอด คือ เขาต้องไม่มีปัญหามาให้เรา ตอนนี้ครูก็โทรมาแจ้งเราเรื่อย ๆ พอครูโทรคุยกับน้อง น้องก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แก้ ๆ เอาก็จบแล้ว เราก็แบบโอโห้ จากเมื่อก่อนเขาเป็นคนเรียนดีเลย แต่ไม่รู้เพราะอะไรจริง ๆ ให้เขาเกิดความคิดแบบนี้ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาเกิดมาโชคดีกว่าเรามาก พ่อก็ตามใจ แม่ก็ไม่ค่อยว่าอะไร กลับบ้านจากไปเที่ยว 4 ทุ่ม 5 ทุ่มทุกวัน คุณแม่ก็ไม่สามารถว่าได้เรื่องนี้ ตอนนี้เขาก็น่าจะไม่ฟังใครในครอบครัวแล้ว เพราะในความคิดเขา เพื่อนคนรอบข้างเขาที่ไม่ใช่ครอบครัวคือสำคัญที่สุดของเขาไปแล้วตอนนี้ ส่วนทางพ่อแม่แฟนน้อง ทางเราก็ไม่ได้รู้จักพ่อแม่แฟนน้องเป็นการส่วนตัว แทบไม่เคยเจอหน้ากับแฟนเขาเลย เพราะว่าเวลาเขาไปไหนมาไหนเขาชอบหลบหน้าเรา สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเรื่องยาเสพติด เรื่องท้องด้วย เพราะเราก็พูดตามความจริง เพื่อนเขาในมุมมองเรารู้สึกว่ามันไม่นำพาไปในสิ่งที่ดี คือน้องดันพอใจกับชีวิตที่น้องเป็นอยู่ แต่มันจะไม่แย่เลยถ้าสมมติมันไม่เกิดในสภาวะที่คุณแม่ก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณพ่อที่ติดเตียง แล้วยังจะมาซื้อรถให้น้องเป็นแสนเพื่อหวังให้น้องกลับบ้าน แต่ผลตรงกันข้ามไปหมดเลย ทุกวันนี้น้องกลับบ้านเดือนนึงนับได้เลยว่ากี่ครั้ง เขาบอกเขาไปนอนบ้านเพื่อนแต่ว่าเราไปตามเขาทีไร คือ ครอบครัวของเพื่อนเขาก็จะบอกว่าเอาลูกกลับไปเถอะ เพราะเขาเหมือนแอบมองว่าเหมือนจะเป็นแหล่งซ่องสุม เพราะเวลาเขานัดปาร์ตี้กันมันก็หลาย ๆ คน ไม่ไปเรียนหนังสือกัน ผู้ปกครองเขาก็เป็นห่วงกันว่าเอ๊ะจะพาไปปาร์ตี้เหล้ายากันหรือเปล่า แล้วไปอยู่บ้านแฟนก็ไม่รู้ว่าใครคนไหน เพราะน้องเปลี่ยนแฟนบ่อย ทำให้เราไม่รู้เลยว่าคนไหน ก็เลยอยากจะมาปรึกษาว่า เราควรจะแก้ปัญหานี้กันยังไงดี?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับพี่ก็คือว่าคุยกับแม่ให้เรียบร้อยว่าเราต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงเขา แล้วถ้าคุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว เราเรียกเขามาคุยเลยว่าถ้าไม่เรียนพี่จะพาไปลาออกให้ เพราะตอนนี้มันคาราคาซังครูจะได้ไม่ต้องโทรมาตาม ให้เขารู้เลยว่าตอนนี้เราจะปล่อยเขาแล้ว แล้วก็ไปหางานทำเองนะ เพราะโตแล้วไม่อยากเรียนใช่ไหมงั้นก็ถือว่าโตแล้วรับผิดชอบตัวเองได้แล้วงั้นก็ออกไปทำงานนะ ตอนนี้เขาฟังคนข้างนอก เพื่อน เขารู้สึกว่าคนพวกนี้คือคนที่เข้าใจเขามาก ๆ ส่วนเรื่องแฟนย้ำน้องเลยว่าป้องกันเพราะถ้ามีลูกทำแทงค์อย่างเดียวเลยนะ ไม่มีใครเอาต้องคุยกัยเด็ดขาดนะ แล้วส่วนหนึ่งที่น้องเป็นแบบนี้เพราะแม่ตามใจแม่แก้ไขด้วย เริ่มทำวันนี้มันยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้มันวินาศสันตโล’ ต่อมา “ดีเจอั้น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บางทีอาจจะต้องบอกสถานการณ์ของครอบครัวเราว่าตอนนี้เป็นยังไง ซึ่งก็อาจจะไม่ต้องพูดความจริงทั้งหมด อย่างเช่น แม่กำลังจะเกษียณตอนนี้เรามีเงินแค่นี้นะแม่ดูแล้วแม่ไม่สามารถที่จะซัพพอร์ตได้แล้ว คือผมจะไม่โทษคุณแม่ที่น้องเติบโตมาในบ้านที่คุณแม่ตามใจแบบทุกอย่างแบบขั้นสุดเลย แต่ว่าถึงที่สุดของที่สุดแล้วมันก็จะมีขอบเขตที่เราจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อไม่ให้ความรักของเรามันเกินขอบเขตจนกลายเป็นความรักที่ไปทำลายเขา’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ขอเสริมหรืออาจจะต้องไปทางบ้านแฟนหน่อยไปให้รู้ไปให้เห็น แฟนคือใคร ที่อยู่ยังไง แฟนยังดีนู้นนี่นะ ไม่ใช่แบบไม่รู้อะไรเลย เป็นกำลังใจให้เคและคุณแม่นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1