หนูเปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่เจอแต่ "หัวหน้าผู้ชาย" สังคมง่ายๆ ตรงๆ ไม่จุกจิก ย้ายมาทำงานที่ใหม่ เจอ "หัวหน้าผู้หญิง" สังคมทำงานมีแต่ผู้หญิงๆ จุกจิก แบ่งพรรค แบ่งพวก นินทากัน จนตอนนี้รู้สึกอึดอัดมาก แต่งานดี เงินโอเค จะทนอยู่ หรือ ไปหาที่ใหม่ดีคะ?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่เจอแต่ "หัวหน้าผู้ชาย" สังคมง่ายๆ ตรงๆ ไม่จุกจิก ย้ายมาทำงานที่ใหม่ เจอ "หัวหน้าผู้หญิง" สังคมทำงานมีแต่ผู้หญิงๆ จุกจิก แบ่งพรรค แบ่งพวก นินทากัน จนตอนนี้รู้สึกอึดอัดมาก แต่งานดี เงินโอเค จะทนอยู่ หรือ ไปหาที่ใหม่ดีคะ?

19 พ.ย. 2024

         “คุณบันนี่” สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 พ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องสังคมที่ทำงาน

            โดย “คุณบันนี่” ได้เล่าว่า ‘ต้องเกริ่นก่อนว่าหนูย้ายที่ทำงานมา ทำงานมาได้ 6 ปีแล้ว เปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่ ซึ่งทุกที่เคยมีหัวหน้าผู้ชายมาตลอด ตอนนี้เปลี่ยนบริษัทที่ทำงานมา 3 เดือน แล้วก็เปลี่ยนหัวหน้ามาเป็นผู้หญิง หนูอึดอัดกับสังคมที่ทำงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่มาก ตอนที่ทำงานที่เก่าในสังคมที่ทำงานนั้นๆก็จะมีเพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้หญิง และ LGBTQ ครบหมด แต่มันน่าจะเป็นที่หัวหน้า ตอนนี้เป็นฟีลเหมือนโรงเรียนหญิงล้วน ข้างบนก็เป็นผู้หญิง ข้างล่างก็ผู้หญิง ทุกคนเป็นผู้หญิงหมดเลย ความแตกต่าง คือ หนูรู้สึกว่ามันหยุมหยิม ปัญหาที่เจอตอนนี้เหมือนไม่ได้โฟกัสปัญหาที่งาน แต่ปัญหาไปกองอยู่ที่คนมากกว่าที่งาน มีดราม่าบ้าง ทุกวันนี้เหมือนมีมที่โซเชียลทำกันเลยที่เราเดินเข้าออฟฟิศ แล้วต้องแสดงละครเป็นอีกคนนึง หรือเวลาเลิกงานปุ๊บ ร่างนั้นโดนถอดออกไป

            บางทีก็มีเหตุการณ์ที่เขามีลูกรักในที่ทำงาน ก็เข้าใจว่าทุกที่มี แต่หนูไม่รู้ว่ามันเกี่ยวมั้ย คือ หนูก็ไม่ได้อยากจะโทษว่าเป็นเพศอะไร แล้วจะเป็นอีกแบบนึง เหมือนเขาจะพูดกับน้องๆ Gen ใหม่อีกอย่างนึง แล้วมาพูดกับหนูอีกอย่างนึง บางครั้งหนูก็จะกลายเป็นคนดูดุ จริงๆเราไม่ได้มีอะไรเลย แต่เขาวางคาแรคเตอร์หนูอีกแบบนึง เขาอาจจะหวังดีที่ให้น้องเกรงใจ แต่สำหรับตัวเขาเอง คาแรคเตอร์ดูเป็นคนใจดี มันอาจจะเป็นการวางตัวของเขามั้ง หนูอาจจะไม่ชิน จริงๆหนูก็ใจดีกับน้องๆ แต่ด้วยอำนาจหน้าที่การรับผิดชอบของหนูต้องประสานกับน้อง ซึ่งในที่ทำงานนี้หนูก็มีเพื่อนที่เป็น Gen เดียวกับเรา วัยใกล้กันมากๆ ห่างกันปีนึง เขาอยู่มาก่อน มีตำแหน่งโตกว่าหน่อย เขาก็เคยพูดกับหนูว่าอยากให้เราคีพเก็บอารมณ์ หรือการแสดงออก ใจเย็นกว่านี้ เพราะหนูเป็นคนใจร้อน เขาอยากให้บรรยากาศการทำงานมันดี เขาไม่อยากให้มีความปะทะอะไรกันเลย แต่ในความเป็นจริงมันก็จะมีปัญหาที่ซุกอยู่ใต้พรม ปัญหาที่เราจะไม่แก้ ปัญหาที่เราจะเก็บ จะไม่พูดกันตรงๆ อย่างตอนที่หนูทำงานกับหัวหน้าผู้ชายที่ผ่านมา มันอาจจะเป็นความชินของหนู เช่น หัวหน้าไม่ชอบใจ หรือรู้สึกว่างานนี้ทำทำไม เขาก็จะพูดออกมาเลยว่า ทำทำไมวะ ไม่ดีนะ แต่พอเป็นสังคมผู้หญิงล้วนมันเหมือนต้องไปหาเหตุผลอ้อมมาก่อนว่ามันไม่ดีเพราะอะไร มันก็เลยทำให้หนูอึดอัด

หนูรู้สึกว่าระดับความอดทนประมาณ 6.5/10 ซึ่งทั้ง Career Path , เงินเดือน , ตำแหน่ง ตอนนี้มันดีหมดเลย หนูติดแค่ปัญหาเรื่องนี้ คำถามที่อยากจะถามพี่ๆคือ หนูควรจะปรับตัวให้เข้ากับเขา เพื่อด้านอื่นๆในหน้าที่การงานที่มันดี หรือหนูควรจะรู้สึกว่าพอแล้วไปหางานใหม่?

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เจอผู้ชายผ่านแอป รู้จักกันมาเดือนสองเดือน ไม่มีโอกาสบอกเขาเลยว่า เรามีลูกติด จะบอกเขาก็ติดงานใหญ่ พอจะรองานใหญ่เขาจบ แม่เขาก็เข้า ICU อีก เราอยากจริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ถ้าบอกเขาช้าไปกว่านี้ กลัวเขาจะคิดว่าเรามาหลอกรึเปล่าคะ??

16 ส.ค. 2024

เจอผู้ชายผ่านแอป รู้จักกันมาเดือนสองเดือน ไม่มีโอกาสบอกเขาเลยว่า เรามีลูกติด จะบอกเขาก็ติดงานใหญ่ พอจะรองานใหญ่เขาจบ แม่เขาก็เข้า ICU อีก เราอยากจริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ถ้าบอกเขาช้าไปกว่านี้ กลัวเขาจะคิดว่าเรามาหลอกรึเปล่าคะ??

“คุณซี (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [14 ส.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหามีลูกแล้ว แต่ไม่กล้าบอกคนคุยใหม่ โดย “คุณซี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘สถานะของหนูคือหย่ากับสามีเก่าแล้ว และมีลูก 5 ขวบ หนูก็ไปปัดแอปพลิเคชัน แล้วไปเจอผู้ชายที่มาห้องหนูตอนนี้ ซึ่งหนูไม่เคยคุยจริงจังกับคนในแอปพลิเคชัน ก็เลยไม่คิดว่าต้องบอกเรื่องส่วนตัวทุกอย่างรึเปล่า? เพราะเค้าไม่ได้ถามหนู หนูก็ไม่ได้บอกเค้า และตอนนี้มันเดือนกว่าแล้ว มันเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อนหนูก็ถามว่าหนูบอกเค้าเรื่องมีลูกรึยัง? เดี๋ยวเค้าจะหาว่าหลอกเค้านะ แต่หนูไม่ได้หลอกแค่ไม่ได้บอก เพราะตอนจะบอกเค้าก็ติดงานที่ค่อนข้างเครียด ก็เลยคิดว่ารอเค้าเสร็จงานแล้วค่อยบอก แต่พอเค้าเสร็จงาน แม่เค้าดันเข้า ICU หนูก็เลยไม่รู้จะบอกตอนไหนดี หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูจะพูดยังไงดี หรือว่าควรรอไปก่อน?’ ซึ่งงานนี้ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่พี่ก็จะพูดพี่รู้สึกว่าการมีลูกมันไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ต้องไม่พูด เพราะเราไม่ได้อยากปิดบังเค้าหนิ แค่จังหวะมันไม่ได้เท่านั้นเอง พี่ว่าถ้าวันนี้เค้ามีอารมณ์ขันก็พูดไปเลยแบบธรรมชาติ การมีลูกไม่ได้ค้องทำให้มันซับซ้อนซ่อนเร้นขนาดนั้น แต่ว่าต้องพูดแบบไม่คาดหวังด้วย ถ้าฟาล์วก็ฟาล์ว เพราะว่ามันเป็นเงื่อนไขได้ถ้าเค้าไม่ได้อยากได้เราแบบแพ็คเกจเค้าอยากได้เราตัวคนเดียวนั่นก็คือสิทธิ์เค้าเหมือนกัน พี่ว่าเดือนกว่ามันอยู่ในจังหวะที่พูดได้ ถ้ารับได้ว่าผลจากนั้นจะเป็นยังไง’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เป็นพี่พี่ก็บอกเลยเหมือนกัน แต่ถ้าบอกไปเค้าอยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่แคร์’ และสุดท้าย “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่รู้สึกว่ามันคือความจริงอยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วเราก็ต้องบอกแต่เป็นพี่พี่เลือกเร็วตลอด และอีกด้านนึงคือเค้าอาจจะมีอะไรบอกเราเหมือนกันก็ได้ ก็บอกเค้าว่า นาน ๆ ที่เราจะได้อยู่ด้วยกันตรงนี้เนาะ ฉันก็มีหลายเรื่องอยากบอกเธอ แต่ว่าที่ผ่านมามันยังหาโอกาสไม่ได้สักที ถ้าเราคิดเหมือนกันว่าเราจะไปต่อเราต้องรู้จักกันมากกว่านี้แล้วก็ค่อย ๆ บอกเค้าไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมถูกผู้ใหญ่ LGBTQ คนนึง มาคัดตัวไปเป็นคนถือป้ายของจังหวัด คัดไป 5 คน ขอให้ไปลองชุดที่บ้านเขา เขาให้ผมถอดหมดจนเหลือแค่บอกเซอร์ แล้วเอามือมาขยำของผม ผมผลักพี่เขาแล้วหนีออกมา ปรากฏว่าทุกคนโดนเหมือนกัน อาจารย์โทรไปต่อว่า เขาขอโทษ

30 ส.ค. 2024

ผมถูกผู้ใหญ่ LGBTQ คนนึง มาคัดตัวไปเป็นคนถือป้ายของจังหวัด คัดไป 5 คน ขอให้ไปลองชุดที่บ้านเขา เขาให้ผมถอดหมดจนเหลือแค่บอกเซอร์ แล้วเอามือมาขยำของผม ผมผลักพี่เขาแล้วหนีออกมา ปรากฏว่าทุกคนโดนเหมือนกัน อาจารย์โทรไปต่อว่า เขาขอโทษ

ผมถูกผู้ใหญ่ LGBTQ คนนึง มาคัดตัวไปเป็นคนถือป้ายของจังหวัด คัดไป 5 คนขอให้ไปลองชุดที่บ้านเขา เขาให้ผมถอดหมดจนเหลือแค่บอกเซอร์ แล้วเอามือมาขยำของผมผมผลักพี่เขาแล้วหนีออกมา ปรากฏว่าทุกคนโดนเหมือนกัน อาจารย์โทรไปต่อว่า เขาขอโทษแล้วให้ค่าตกใจมา แต่เรามีปมนี้ มาตลอดปีกว่า“คุณเจมส์ (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [29 ส.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับเรื่องถูกลวนลามจนกลายเป็นปมฝังใจ นึกถึงทีไรก็จะโกรธจนตัวสั่นโดย “คุณเจมส์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้ผ่านมา 1 ปีแล้ว คือ ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ มีคนมาหาเด็กถือป้ายเเล้วผมก็เป็น 1 ใน 5 คนที่ได้รับคัดเลือกถือป้ายของมหาลัย ในงานประจำจังหวัด ตอนแรกผมไม่ได้ไป เเต่อาจารย์ที่เขารู้จักผมอยากให้ไปคัด ก็เลยลองไปคัดเเล้วผ่านการคัดเลือก เขาก็นัดให้ไปลองชุดวันอาทิตย์ 5 โมงเช้า แต่พอวันเสาร์เขาบอกว่าใครว่างก็ไปก่อนได้เลย ผมก็ไปเเล้วมันก็มีคนไปก่อนหน้าแล้ว ผมเป็นคนที่ 4 แล้วทีนี้มีพี่คนที่ 3 เขาลองชุดเสร็จแล้ว สีหน้าพี่เขาไม่ค่อยสู้ดีเลย เหมือนพยายามต้องการจะบอกอะไรกับผม เเต่เขาไม่พูดอะไรกับผม เพราะพี่เขาคนนั้นที่เขาเป็นคนฟิตติ้งอยู่ด้วย ซึ่งพี่เขาเป็น LGBTQ ค่อนที่มีอายุมาก ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็เลยเข้าบ้านพอเข้าบ้านเขาก็ล็อคประตูเลย เขาก็ให้ผมถอดเสื้อผ้า ตอนแรกให้ถอดเเค่เสื้อ เเล้วเขาก็บอกให้ถอดกางเกงด้วยก็เลยถอด ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะคิดว่าลองชุด พอลองชุดแรกเขาก็เริ่มมาจับอวัยวะเพศของผมอะครับ ผมก็ตกใจเเล้วถามเขาว่า “อันนี้คืออะไร?” เเล้วเขาก็ให้เหตุผลว่า “เป็นเเค่พี่น้องกัน เล่นกัน ไม่ต้องกลัว” ก็ลองชุดจนเสร็จ 2 ชุด ผมก็คิดว่ากลับได้เเล้ว เขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งกลับ ให้ไปนั่งแต่งหน้าห้องเขาก่อน ผมก็ถามว่า “ทำไมต้องแต่งหน้าด้วย?” เขาก็บอกว่า “ต้องดูว่าหน้าเราอ่ะ เเต่งออกมาเเล้วเข้ากับชุดที่เราลองมั้ย” ผมก็โอเคไม่ติดอะไรก็ไปนั่งเเต่งหน้า เขาก็ชวนคุยไปเรื่อยเเล้วก็ไปหยิบเบียร์มาให้ ฟีลแบบว่ากินเป็นเพื่อนเขาหน่อย เหมือนผมไม่ได้นั่งเเต่งหน้า แต่เหมือนนั่งเล่น นั่งคุย เเล้วก็พยายามชวนคุยเรื่องลามก เเล้วเขาก็ขอประมาณว่า “ขอทำกับผมได้มั้ย?” เเบบทำเเล้วเสร็จด้วยกันไม่ถึงกับมีเซ็กส์ เหมือนผมไม่ยินยอมเเล้วเขาก็เริ่มรุนเเรง เริ่มมีการดึงกระชากแขน บีบเเขน พยายามดึงบ็อกเซอร์ผมลง จนสุดท้ายผมโมโห เลยพูดตรง ๆ ใส่เขาว่า “ไม่โอเคนะครับ อันนี้คือให้มาลองชุด ไม่ได้มาให้คุณลวนลาม” เขาก็ยอมปล่อยผมออกมา ผมก็เลยออกมาได้ พอออกมาจากบ้านก็เจอพี่คนก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าเขาหน้าเสีย เขาก็ถามว่า “โดนอะไรบ้าง?” ก็เลยเล่าให้ฟัง กลายเป็นว่าพี่เขาก็โดนเหมือนกัน เเล้วโดนค่อนข้างหนักกว่าผมเลย เเละทุกคนที่ไปลองชุด 4 คนครับโดนหมดเลยเรื่องนี้อาจารย์เขาก็เคลียร์ให้หมดแล้ว เขาก็รับผิดชอบด้วยการทำขวัญเเละขอโทษเรียบร้อย เรื่องจบไปจบได้ปีนึงเเล้ว เรื่องจบเเต่ภาพในหัวมันยังไม่จบ เวลาที่ผมมหาลัยมันจะมีเพื่อนที่ชอบแกล้ง ชอบจับเนื้อต้องตัวเรา เวลาที่มาจับผมก็จะโมโหทันที เเล้วเหมือนเรื่องนั้นมันก็เด้งเข้ามาให้หัวอ่ะ บางทีผมจะนอนพออะไรว่าง ๆ ในหัวมันก็มีเรื่องนี้เด้งเข้ามาตลอด เเละเป็นคนที่อารมณ์เสียง่ายมาก โมโหมากๆ โกรธสุด ๆ กำหมัดทนกัดฟันตัวเองจนตัวสั่นเลย เคยยืนอาบน้ำเเล้วเหมือนระบายในกระจก เคยโมโหจนถึงขั้นที่ต่อยประตูห้องน้ำพังเลย โมโหจนเพื่อนตกใจเเล้วก็นั่งงงว่าเราเป็นอะไรเพราะเรื่องนี้ส่วนมากเพื่อนไม่รู้ ผมเคยเป็นซึมเศร้ากับแพนิคมาก่อน เป็นก่อนจะมาเกิดเหตุการณ์นี้ 3 ปี เเล้วก็ไม่เคยไปปรึกษาหมอเรื่องนี้เลย เรื่องอาการนี้ไม่ได้ใครเเต่เรื่องเหตุการณ์นั้นมีคุณเเม่ที่รู้เรื่องคนเดียว ก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจทั้งสามคนว่า ผมไม่ชอบความทรงจำอะไรแบบนี้เลย ทำยังไงให้มันหายไปดี? ผมไม่อยากคิดเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่มีความสุขเลยซึ่งดีเจทั้งสามคน (ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ มันเป็นจิตใต้สำนึกของเราไปแล้วว่าถ้าเจอสิ่งเหล่านี้เเล้วร่างกายกับความรู้สึกมันจะตอบโต้ มันเหมือนถ้าจะรักษาจริง ๆ จัง ๆ แบบถอนรากถอนโคนต้องปรึกษาคุณหมอจริง ๆ เเล้วค่อย ๆ บำบัดไปจนเราดีขึ้น อันนี้มันเหนือบ่ากว่าแรงที่เราจะรักษาด้วยตัวเอง พวกพี่เป็นได้แค่กำลังใจให้เเละทุกคนเข้าใจความรู้สึกของเราหมดเลย มันไม่ควรเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเขาทำแบบนั้นกับทุกคนแสดงว่าเขาป่วย มันทำให้คนดูถูกเพศนี้เข้าไปอีก กลายเป็นเพศคุกคามเวลาคนมองทั้ง ๆ ที่มันเป็นปลาเน่าตัวเดียว ณ วันนี้พวกพี่ก็ถือว่าเพื่อนเรา เราไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น มีพวกพี่ที่รับฟังเเละเข้าใจ ถ้ายังโกรธ ยังเเค้นอยู่เราต้องให้เวลา การที่เราบอกว่าให้อภัย มันเป็นเรื่องที่ต้องขัดเกลาเเละกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องทำเองก็ได้ในวันที่เรายังไม่ได้เเข็งเเรงพอ ไม่ผิดที่เรายังโกรธยังเเค้นอยุ่ เเต่เราไม่ควรปล่อยมันไว้ มันไม่ได้มีค่าทำให้ชีวิตที่เหลือของเราย่ำแย่นะ หลุดพ้นจากตัวมันไปเลย ใช้ชีวิตที่เหลือของเราอย่างมีคุณภาพ อย่าให้คนเเบบนั้นมาลดทอนคุณภาพเรา‘เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้า อยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คัน ละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม

18 พ.ย. 2024

จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้า อยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คัน ละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม

จะทำยังไงกับน้องสาวอายุ 14 ดีคะ? น้องไม่ค่อยกลับบ้าน เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้าอยู่บ้านเพื่อนจนครูที่โรงเรียนมาตามที่บ้าน คุณแม่ก็เอาน้องไม่อยู่ น้องบอกจะดีขึ้นถ้าซื้อมอไซค์ให้คันละแสน แม่ก็ซื้อให้ สรุป น้องก็เหมือนเดิม แล้วน้องเคยพูดกับแม่ว่า "หนูสวย หนูหาผัวรวยๆเลี้ยงได้" “คุณเค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (13 พ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว โดย “คุณเค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้น้องสาวอยู่กำลังอยู่ในวัยอายุ 14-15 เป็นวัยที่เราก็รู้กันอยู่ว่าเขาก็กำลังโตเป็นสาว ปัญหาก็คือน้องตอนนี้เริ่มติดเพื่อนมาก ติดแฟนมากจนไม่เข้าบ้าน ไม่ไปเรียนหนังสือ ทางที่บ้านก็ไม่รู้จะพูดกับน้องยังไง เพราะตอนแรกคุณแม่ก็ถามว่าเราจะเอายังไงกันดี? ปล่อยให้ไปเที่ยวกับเพื่อนแม่ก็ไม่ว่า คือคุณแม่ก็ไม่อยากจะด่าน้องด้วย เหมือนแบบวัยนี้มันพูดแรงมากไม่ได้ พูดแรงปุ๊ปก็แบบยิ่งเตลิด อันนี้คือสิ่งที่คุณแม่บอกมา ซึ่งน้องก็ยังทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้ปัญหามันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทางโรงเรียนก็เริ่มโทรมาบอกว่า “น้องไม่ไปโรงเรียนเลย อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปแค่วันสองวันเอง” คุณแม่ก็ไม่กล้าบอกกับทางโรงเรียนเพราะว่าน้องก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่เราแบบไม่ค่อยโอเคด้วย เช่น สมมติมาถึงบ้านก็มาด่าคุณครูให้เราฟังว่าคุณครูเป็นอย่างงั้นเป็นอย่างงี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเอ๊ะ! การที่เราบอกกับคุณครูจะทำให้น้องยิ่งเกลียดการไปโรงเรียนอีกหรือเปล่า? เลยเลือกที่จะไม่บอกคุณครูให้ทราบ ทีนี้เราก็เลยคุยกันว่าเราจะทำยังไงดีให้น้องกลับมาบ้าน ก็เลยยื่นข้อเสนอไปว่าอยากได้อะไรลองร้องขอมา น้องก็เลยร้องขอเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาเกือบแสน คุณแม่ก็ตัดสินใจซื้อให้เพราะอยากจะให้น้องกลับมาเลยลองซื้อให้ กลายเป็นว่าการที่ซื้อไปน้องยิ่งเตลิดไปอีก เพื่อนเขาก็แบบเป็นฟีลสก๊อย ไม่เรียนหนังสือ เราก็ไปตามหาที่บ้านเพื่อนของเขาบ้าง บ้านแฟนบ้าง แต่คือตอนนี้เขาเริ่มมีแนวคิดที่แบบเราไม่รู้จะแก้ไขยังไง เขาบอกกับเราว่า เรียนหนังสือไปปวดหัว มีผัวดีกว่า คือความคิดนี้มาจากไหน เราก็ไม่รู้แต่ว่าเขามีความรู้สึกว่าเขาแบบสวย รู้สึกว่าความสวยของเขาสามารถทำให้ชีวิตเขาดีได้แน่นอน เราก็เลยไม่รู้จะกู้เขายังไงแล้วตอนนี้ ส่วนเรื่องเงินก็ได้คุยกับคุณแม่ดูว่าถ้าสมมติเราลองไม่ให้เงินเขาดีไหม เขาจะได้กลับบ้าน พอไม่ให้เงินปุ๊ปเขาก็กลับมาบ้าน มาขนเสื้อผ้า ขนของไปขายหมด เอาเงินไปใช้ แล้วเขาก็บอกคุณแม่ว่า ไม่มีแม่ก็หาเงินเองได้ ถามว่าเขาเอาตัวรอดได้ไหม? ก็ได้ แต่หนูว่าคำว่าเอาตัวรอด คือ เขาต้องไม่มีปัญหามาให้เรา ตอนนี้ครูก็โทรมาแจ้งเราเรื่อย ๆ พอครูโทรคุยกับน้อง น้องก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แก้ ๆ เอาก็จบแล้ว เราก็แบบโอโห้ จากเมื่อก่อนเขาเป็นคนเรียนดีเลย แต่ไม่รู้เพราะอะไรจริง ๆ ให้เขาเกิดความคิดแบบนี้ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาเกิดมาโชคดีกว่าเรามาก พ่อก็ตามใจ แม่ก็ไม่ค่อยว่าอะไร กลับบ้านจากไปเที่ยว 4 ทุ่ม 5 ทุ่มทุกวัน คุณแม่ก็ไม่สามารถว่าได้เรื่องนี้ ตอนนี้เขาก็น่าจะไม่ฟังใครในครอบครัวแล้ว เพราะในความคิดเขา เพื่อนคนรอบข้างเขาที่ไม่ใช่ครอบครัวคือสำคัญที่สุดของเขาไปแล้วตอนนี้ ส่วนทางพ่อแม่แฟนน้อง ทางเราก็ไม่ได้รู้จักพ่อแม่แฟนน้องเป็นการส่วนตัว แทบไม่เคยเจอหน้ากับแฟนเขาเลย เพราะว่าเวลาเขาไปไหนมาไหนเขาชอบหลบหน้าเรา สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเรื่องยาเสพติด เรื่องท้องด้วย เพราะเราก็พูดตามความจริง เพื่อนเขาในมุมมองเรารู้สึกว่ามันไม่นำพาไปในสิ่งที่ดี คือน้องดันพอใจกับชีวิตที่น้องเป็นอยู่ แต่มันจะไม่แย่เลยถ้าสมมติมันไม่เกิดในสภาวะที่คุณแม่ก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณพ่อที่ติดเตียง แล้วยังจะมาซื้อรถให้น้องเป็นแสนเพื่อหวังให้น้องกลับบ้าน แต่ผลตรงกันข้ามไปหมดเลย ทุกวันนี้น้องกลับบ้านเดือนนึงนับได้เลยว่ากี่ครั้ง เขาบอกเขาไปนอนบ้านเพื่อนแต่ว่าเราไปตามเขาทีไร คือ ครอบครัวของเพื่อนเขาก็จะบอกว่าเอาลูกกลับไปเถอะ เพราะเขาเหมือนแอบมองว่าเหมือนจะเป็นแหล่งซ่องสุม เพราะเวลาเขานัดปาร์ตี้กันมันก็หลาย ๆ คน ไม่ไปเรียนหนังสือกัน ผู้ปกครองเขาก็เป็นห่วงกันว่าเอ๊ะจะพาไปปาร์ตี้เหล้ายากันหรือเปล่า แล้วไปอยู่บ้านแฟนก็ไม่รู้ว่าใครคนไหน เพราะน้องเปลี่ยนแฟนบ่อย ทำให้เราไม่รู้เลยว่าคนไหน ก็เลยอยากจะมาปรึกษาว่า เราควรจะแก้ปัญหานี้กันยังไงดี?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับพี่ก็คือว่าคุยกับแม่ให้เรียบร้อยว่าเราต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงเขา แล้วถ้าคุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว เราเรียกเขามาคุยเลยว่าถ้าไม่เรียนพี่จะพาไปลาออกให้ เพราะตอนนี้มันคาราคาซังครูจะได้ไม่ต้องโทรมาตาม ให้เขารู้เลยว่าตอนนี้เราจะปล่อยเขาแล้ว แล้วก็ไปหางานทำเองนะ เพราะโตแล้วไม่อยากเรียนใช่ไหมงั้นก็ถือว่าโตแล้วรับผิดชอบตัวเองได้แล้วงั้นก็ออกไปทำงานนะ ตอนนี้เขาฟังคนข้างนอก เพื่อน เขารู้สึกว่าคนพวกนี้คือคนที่เข้าใจเขามาก ๆ ส่วนเรื่องแฟนย้ำน้องเลยว่าป้องกันเพราะถ้ามีลูกทำแทงค์อย่างเดียวเลยนะ ไม่มีใครเอาต้องคุยกัยเด็ดขาดนะ แล้วส่วนหนึ่งที่น้องเป็นแบบนี้เพราะแม่ตามใจแม่แก้ไขด้วย เริ่มทำวันนี้มันยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้มันวินาศสันตโล’ ต่อมา “ดีเจอั้น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘บางทีอาจจะต้องบอกสถานการณ์ของครอบครัวเราว่าตอนนี้เป็นยังไง ซึ่งก็อาจจะไม่ต้องพูดความจริงทั้งหมด อย่างเช่น แม่กำลังจะเกษียณตอนนี้เรามีเงินแค่นี้นะแม่ดูแล้วแม่ไม่สามารถที่จะซัพพอร์ตได้แล้ว คือผมจะไม่โทษคุณแม่ที่น้องเติบโตมาในบ้านที่คุณแม่ตามใจแบบทุกอย่างแบบขั้นสุดเลย แต่ว่าถึงที่สุดของที่สุดแล้วมันก็จะมีขอบเขตที่เราจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อไม่ให้ความรักของเรามันเกินขอบเขตจนกลายเป็นความรักที่ไปทำลายเขา’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ขอเสริมหรืออาจจะต้องไปทางบ้านแฟนหน่อยไปให้รู้ไปให้เห็น แฟนคือใคร ที่อยู่ยังไง แฟนยังดีนู้นนี่นะ ไม่ใช่แบบไม่รู้อะไรเลย เป็นกำลังใจให้เคและคุณแม่นะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เพิ่งเสียคุณแม่ไป แล้วมีทรัพย์สินแม่ เป็นชื่อพ่อ ทั้งบ้าน ทั้งที่ดิน ญาติก็มาเตือนให้ดูพ่อดีๆ จนมารู้ว่าพ่อกำลังจะไปผูกข้อมือ แต่งงาน กับ ผู้หญิงรุ่นน้องพ่อ 10 ปี จะพูดยังไงให้พ่อโอนมาเป็นชื่อลูกก่อนดีคะ? เพราะกลัวว่าพ่อจะจดทะเบียนสมรสเลย

24 ก.ค. 2024

เพิ่งเสียคุณแม่ไป แล้วมีทรัพย์สินแม่ เป็นชื่อพ่อ ทั้งบ้าน ทั้งที่ดิน ญาติก็มาเตือนให้ดูพ่อดีๆ จนมารู้ว่าพ่อกำลังจะไปผูกข้อมือ แต่งงาน กับ ผู้หญิงรุ่นน้องพ่อ 10 ปี จะพูดยังไงให้พ่อโอนมาเป็นชื่อลูกก่อนดีคะ? เพราะกลัวว่าพ่อจะจดทะเบียนสมรสเลย

“คุณมิ้น (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ก.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับเรื่องมรดกของเเม่หลังจากที่คุณเเม่เสีย โดย “คุณมิ้น (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณเเม่เสียเมื่อประมาณปี 64 ด้วยโรคประจำตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นครอบครัวอบอุ่นมาก ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เเล้วคุณเเม่เป็นหญิงแกร่ง หญิงเก่ง เรียนมาน้อยเเต่เขาก็ขยันทำงานจนก่อร่างสร้างตัว ซื้อรถ ซื้อบ้านได้ จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง มีคุณพ่อช่วยด้วย เเต่คุณพ่อมีรายได้น้อยกว่าคุณเเม่ เพราะเเม่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ทำให้เขาผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดเร็ว เเล้วกะว่าจะเก็บไว้เป็นมรดกให้กับลูกทั้ง 2 คน พอคุณเเม่เสีย ตอนนั้นก็ค่อนข้างเคว้งว่าจะทำยังไงต่อ เเล้วก็มีญาติ ๆ ฝั่งเเม่เข้ามาเตือนว่า ‘ให้ระวังพ่อไปแต่งงานใหม่นะ’ ตอนนั้นก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เรามั่นใจในตัวคุณพ่อเพราะไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย ไม่ค่อยได้ข่าวมีกิ๊กกั๊กหรือเจ้าชู้ เราก็เลยไว้ใจ เเต่พอคุณเเม่เสียได้ปีกว่า ๆ คุณพ่อก็ยอมรับกับเราว่ามีคุยกับผู้หญิงประปรายนะ อยากหาเพื่อนมาอยู่ด้วยช่วงบั้นปลาย เรากับพี่ชายก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าเจอคนดีก็เเล้วเเต่ เเต่เราไม่ได้คิดว่าคุณพ่อจะเเต่งงาน จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณพ่อก็โทรมาบอกว่า ‘จะจัดงานเเต่งเล็ก ๆ นะ’ กับผู้หญิงคนหนึ่งมีอายุน้อยกว่าคุณพ่อ 10 ปี ซึ่งตอนนี้คุณพ่ออายุ 63 ปี ตอนรู้เรื่องเราก็ค่อนข้างช็อก ก็เลยโทรหาพี่ชายว่า ‘คุณพ่อได้บอกหรือยังว่าเขาจะเเต่งงาน’ พี่ชายก็ตอบกลับว่า ‘บอกแล้ว’ ตอนแรกเหมือนคุณพ่อไม่ได้ตั้งใจจะบอกพี่ชายด้วย เหมือนพี่ชายเขาเป็นคนไปจี้ถามคุณพ่อก่อน เราก็เคยได้ยินมาว่าเขาคงคุย ๆ กันมา เจอกัน 2-3 ครั้ง เเต่เราไม่ได้รู้สึกโอเคขนาดนั้น รู้สึกเฉย ๆ คิดว่าคุณพ่อจะคบกันไปก่อน ดูกันไปก่อน ไม่คิดว่าจะตกล่องปล่องชิ้น แล้วเราก็กลัวว่าเขาจะมาปอกลอก เรากังวลไว้ก่อนเพราะเรายังไม่ได้รู้จักเขาดี เเล้วเราก็รู้สึกว่าคุณเเม่สร้างทรัพย์สมบัติไว้ให้ลูก เคยถามคุณพ่ออ้อม ๆ ว่า ‘ถ้าผู้หญิงให้จดทะเบียนสมรสจะจดมั้ย?’ คุณพ่อก็ตอบเเบบอ้อม ๆ ว่า ‘ก็ไม่อยากจด’ เเต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธว่าไม่จด ก่อนที่คุณเเม่จะเสียไปก็ไม่ได้จดพินัยกรรมไว้ เราเลยกลัวว่า ถ้าเกิดคุณพ่อลังเลเหมือนหลงคารมขึ้นมาเเล้วสุดท้ายยอมไปจด เเล้วทรัพย์สมบัติที่คุณเเม่สร้างมามันจะกลายเป็นสินสมรส เเล้วก็ต้องแบ่งให้คู่สมรสกับลูกในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเราและพี่ชาย เรารู้สึกว่าคุณเเม่เขาตั้งใจสร้างมาให้ลูกจริง ๆ เขาก็อาจจะไม่โอเคที่ตกไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นของคุณพ่อ แต่เรายังไม่ได้คุยกับคุณพ่อเป็นกิจจะลักษณะว่าจะมาโอนเป็นชื่อลูกได้เเล้ว มิ้นก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า จะมีวิธีพูดยังไง? ให้คุณพ่อไม่รู้สึกว่าเราเหมือนเป็นลูกที่จ้องจะฮุบสมบัติ เราเเค่อยากจะรักษาสมบัติของคุณเเม่เอาไว้ ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะเปลี่ยนใจมั้ย จะเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อลูกไปให้ภรรยาใหม่?’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น) ก็ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘ให้คุยพร้อมกันตรง ๆ ทั้งครอบครัว มีอะไรในใจพูดเลย ต้องการมั่นใจว่ายังคงเป็นไปตามเจตนาของคุณเเม่ที่ได้คุยกันไว้อยู่ อยากให้จดพินัยกรรมจัดการเรื่องสมบัติ จัดการเรื่องภายในครอบครัวให้เสร็จ เพื่อความสบายใจของทุกคนก่อนที่จะต้อนรับคนใหม่เข้ามา ไม่ได้เกลียดที่คุณพ่อจะมีคนใหม่ เเต่อยากป้องกันปัญหาที่มันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตถ้าคุณพ่อไม่อยู่ เราไม่รู้หรอกว่าในอนาคตเขาจะเป็นยังไง ถ้าไม่มีคนนอกเข้ามาเราอยู่อย่างงี้คุณพ่อจะไม่โอนก็ได้ เเต่พอมีคนนอกเข้ามา ก็อยากจะทำให้มันสบายใจว่าเจตนารมณ์ของคุณเเม่ยังคงอยู่เหมือนเดิม‘เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1