ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

26 ก.ค. 2024

            “คุณมิ้ว (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาซื้อขนมมากินคนเดียว เคยถามแฟนแล้วว่าจะกินมั้ย แต่เขาบอกไม่กิน สุดท้ายโดนแย่งเฉย

            “คุณมิ้ว (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เวลาที่เราไปห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ เราจะชอบของขนมมาตุนเอาไว้ เพราะบ้านเราอยู่ไกลจากสถานที่ที่สามารถไปซื้อของได้ ก็จะซื้อไว้เยอะๆ แล้วเราจะถามแฟนว่า “เธอจะเอาอะไรไหม เธอจะกินอะไรไหม อันนี้เอาป่าว” ก็จะถามตลอด แต่คำตอบคือ “ไม่เอา ไม่กินหรอก พอแล้วๆๆ” พอเราซื้อกลับมากลับมาที่บ้านแล้วก็จะมาแบบ “ขอกินหน่อย ขอคำนึง” แต่คำว่าหน่อยของเขามันเยอะ

            มีอยู่ครั้งนึงที่ต้องทำให้มาเล่าเลยคือ วันนั้นเราซื้อชนมไว้ แล้วเราเก็บไว้ กะไว้ว่าจะมากินตอนเย็น วาดภาพในหัวไว้แล้วว่า ขนมชิ้นนี้มีอยู่เดี๋ยวฉันจะกลับมากิน พอกลับมาที่บ้าน ขนมหาย แล้วเราก็หา แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร เราถามเขาว่า “ขนมฉันหายไปไหน” เขาก็ทำเป็นขำแล้วบอกว่า “ฉันกินเอง” แล้วตอนนั้นเราเป็นประจำเดือนด้วย เราก็แบบ “เอ้า อะไรอะ” คือหงุดหงิด โกรธ น้ำตาคลอเลย “ทำไมอะ ฉันถามเธอแล้วใช่ไหม ว่าเธอกินไหม ถ้ากินฉันจะซื้อมาเผื่อ ทำไมเธอถึงมสเเย่งฮันกิน” แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร นั่งฟัง “ขอโทษค้าบบบ” ของที่ซื้อแต่ละครั้งก็เป็นเงินที่ใช้ร่วมกัน เคยลองซื้อมาเป็น 2 เท่าแล้วเขาก็จะไม่กิน เขาจะชอบแบบขนมอยู่ในมือเราแล้วมาขอกิน’

            ซึ่งดีเจทั้ง 3 คนให้คำปรึกษาว่า ‘ในวินาทีที่ผู้ชายถูกถามมันยังไม่หิว ไม่อยากกิน ถ้าหิวถึงจะกิน แต่พอมาเห็นตรงหน้ามันเย้ายวน ด้วยรูป รส กลิ่น เสียง แล้วกว่าจะมาถึงบ้านของก็เริ่มหิวนิดๆแล้วส่วนผู้หญิงจะประมาณว่าไม่หิวก็กินได้ กินจุกจิก เพราะฉนั้นเวลาไปซื้อขนมลองถามเขาดูว่าอีก 2 ชม.จะเริ่มอยากกินไหม ถ้าหิวนิดๆแล้วอยากกินฉันจะได้ซื้อเลย ให้ผู้หญิงเเพลน เหลือดีกว่าขาด ซื้อเผื่อไปเลย ไม่ต้องถาม พอถึงเวลาก็บอกเลยว่าเธอต้องกิน หรือเมนูไหนที่มันหายากหรือมิ้วอยากกินจริงๆ ของจำกัดให้ซ่อนแล้วแอบกิน เพื่อลดปัญหาครอบครัว’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แต่งงานกับสามีมา 16 ปี สามีด่าเราด้วยคำหยาบ เสียๆหายๆ ด่าถึงพ่อแม่เรา เราเก็บกวาดบ้านแล้ว มีข้าวตก 1 เม็ดบนพื้น เขาพูดเสมอว่าไม่น่ามาคบกับคนอย่างเราเลย ที่สำคัญสิ่งที่เขาด่า เขาด่าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คนด้วย ตอนนี้เรายังต้องเข้าบ้านเขาไปส่งลูกเข้านอนทุกคืน

25 ก.ค. 2025

แต่งงานกับสามีมา 16 ปี สามีด่าเราด้วยคำหยาบ เสียๆหายๆ ด่าถึงพ่อแม่เรา เราเก็บกวาดบ้านแล้ว มีข้าวตก 1 เม็ดบนพื้น เขาพูดเสมอว่าไม่น่ามาคบกับคนอย่างเราเลย ที่สำคัญสิ่งที่เขาด่า เขาด่าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คนด้วย ตอนนี้เรายังต้องเข้าบ้านเขาไปส่งลูกเข้านอนทุกคืน

แต่งงานกับสามีมา 16 ปี สามีด่าเราด้วยคำหยาบ เสียๆหายๆ ด่าถึงพ่อแม่เรา เราเก็บกวาดบ้านแล้วมีข้าวตก 1 เม็ดบนพื้น เขาพูดเสมอว่าไม่น่ามาคบกับคนอย่างเราเลย ที่สำคัญสิ่งที่เขาด่าเขาด่าต่อหน้าลูกทั้ง 2 คนด้วย ตอนนี้เรายังต้องเข้าบ้านเขาไปส่งลูกเข้านอนทุกคืน พอเช้ามาเราก็กลับบ้านเราลูกยังไม่รู้ว่าเราหย่ากันแล้ว สามีจะโกหกลูกว่าแม่ออกไปทำงานตอนกลางวัน เลิกงานก็มาส่งลูกเข้านอนตามปกติเราควรจะทนต่อไปยังไง ในสถานการณ์ที่กำลังเจออยู่ตอนนี้ “คุณดาว (นามสมมติ)” อายุ 41 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา "ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม" เกี่ยวกับปัญหาสามีชอบด่าเราด้วยคำพูดรุนแรงต่อหน้าลูก โดย “คุณดาว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เราแต่งงานมา 16 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คบกัน 13 ปีเขาอยู่บ้านเรา แต่เขาทะเลาะกับแม่เราตลอด จน 3 ปีหลังเราย้ายไปอยู่บ้านเขา เราก็โดนเขาไล่ออกจากบ้านถึง 7 ครั้ง และยังโดนสามีด่าด้วยคำหยาบคายมาโดยตลอด ด่าถึงพ่อถึงแม่ด้วย แทบจะทุก ๆ สามชั่วโมง ซึ่งสาเหตุที่สามีมักจะด่า มักจะมาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดในบ้าน เช่น เราเช็ดพื้นแล้วมีข้าวตกอยู่ 1 เม็ด เขาก็จะด่า หรือถ้าเราตียุงในห้องนอนแล้วมันมียุงเหลืออยู่ 1 ตัว เราก็จะโดนด่าอีก ด่าเป็นคำหยาบแบบสัตว์ทุกชนิด ด่าว่าเรารั้นเหมือนแม่ ชั่วเหมือนพ่อ มันจะเป็นเรื่องภายในบ้านที่เป็นกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรืออย่างเช่น เขากำลังยืนอยู่แล้วเราเป็นคนเช็ดพื้น เขาจะเป็นคนมองเห็นคราบมัน แต่ตัวเราเองจะไม่เห็นเพราะว่ามันอยู่ข้างล่าง อย่างนี้เราก็จะโดน ซึ่งเรามีลูกด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ ป.4 อีกคนผู้ชายอยู่ ป.3 เขามักจะด่าเราต่อหน้าลูกเลย และลูกก็เห็นเหตุการณ์มาตลอด ตอนนี้เรากับเขาเลิกและหย่ากันแล้วเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะเขาเคยพูดมาหนึ่งประโยคว่า “ชีวิตกู ไม่น่ามาเจอคนอย่างมึง” เขาพูดบ่อยมาก ๆ เราจึงคืนชีวิตให้เขาโดยการไปหย่าและโพสต์แจ้งทุกคนรอบตัวว่าเขาโสดแล้ว ถ้าเขาจะคบกับใครก็คบได้เลย แต่เขาก็บอกเราอีกว่าเราเห็นแก่ตัวที่ทิ้งลูกไป ตอนหย่าศาลก็ตัดสินว่าลูกสาวจะอยู่กับเรา ส่วนลูกชายจะอยู่กับเขา เราเคยทำแบบนี้แล้ว แต่เราไม่อยากจะแยกพี่แยกน้อง ตอนนั้นคือทำมาทุกวิถีทางแล้ว เขาเคยพูดกับเราว่า “พี่น้องไม่ควรต้องแยกกัน” พอย้ายบ้านครั้งที่สอง เราก็พาทั้งลูกสาวลูกชายมาอยู่กับเรา แต่เขาก็มายืนเกาะประตูอยู่ที่หน้าบ้านมาขอว่า“ขอมาอยู่กับลูกหน่อย คิดถึง” แต่ปัญหามันดันมาอยู่ตรงที่เขาไม่ได้อยากให้ลูกมาอยู่กับเรา เพราะเขาบอกว่าบริเวณบ้านเรามันมีคนติดยา เขากลัวสิ่งแวดล้อมจะไม่ดี ซึ่งตอนนี้ยังคงต้องเจอกับเขาเพื่อที่เราจะต้องไปกล่อมลูกนอนทุก ๆ วัน เพราะลูกจะนอนไม่หลับ ถ้าเราไม่ได้กล่อม บ้านเรากับบ้านเขาไม่ได้ห่างกันมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่เลิกกัน เขาก็พยายามที่จะปรับปรุงตัวเอง ไม่พูดคำหยาบ แต่ว่าเนื้อหาที่เขาพูดกับเรามันยังคงเป็นการเหยียดและดูถูกเราอยู่เหมือนเดิม เขาพูดมาประมาณว่า “สมองเธอคิดได้แค่นี้หรอ” เรื่องความรู้สึกพอกลับมาอยู่บ้านตัวเองมันก็รู้สึกดี แต่เมื่อพอต้องไปเจอกับเขามันจะเป็นอารมณ์ประมาณว่า ห้ามใจนะ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรต้องห้ามใจ แต่บางทีมันห้ามไม่ได้ มันโมโห เหมือนกับความต้องการของเขามันมากเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่น ถ้าเราไปกล่อมลูกนอนหลับและเรากลับมาอยู่บ้านเรา เขาก็จะบอกกลับมาว่าเราไม่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่ แทนที่จะไปนอนกล่อมลูกให้อยู่ทั้งคืน เวลาเราโดนว่าเสร็จ เราจะหนีกลับบ้านเลย แล้วเราทำแบบนี้ไปหลายรอบ มันทำให้เราไม่ได้เจอหน้าลูก จึงจำใจต้องทนฟังเขาพูด เพราะเราไม่อยากจะตอบโต้ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ คือจริง ๆ เราเคยสวนกลับเขาไปครั้งนึง แล้วมันกลายเป็นอารมณ์บ้านระเบิด ถึงขั้นทำลายข้าวของแต่เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเรานะ แต่ครั้งนี้มันทำให้ลูกไปนั่งสั่นอยู่มุมห้อง เราเคยตกลงกันตอนที่แยกบ้านกันแล้ว ให้ผู้ใหญ่มารับฟังแล้วว่าศุกร์กับเสาร์ลูกจะมาอยู่กับเรา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็บอกว่า ไม่อยากให้ลูกเร่ร่อน ไปนอนบ้านนี้ที บ้านนั้นที ปัญหาของเราวันนี้ที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้งสามคนคือ เราจะทำใจอย่างไรให้สงบ? ในสถานการณ์ที่มีคนมาต่อว่าเราต่อหน้า ซึ่งเราไม่สามารถที่จะตอบโต้หรือหนีออกจากสถานที่นั้น ๆ ได้เลย เพราะเราไม่อยากให้มันเกิดสงครามกันภายในบ้าน เพราะถ้าเราเถียงไป ความรุนแรงมันจะทวีคูณขึ้น’ โดยดีเจทั้งสามคน (ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก) ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘อย่าไปเอาผิดเอาถูกกับสิ่งที่เขาพูด มันไม่ใช่ตรรกะอยู่แล้ว ตอนนี้จากที่ฟังมา เขาเอาทุกอย่างเลย เจรจาไม่ได้เลย เขาไม่ได้มีอะไรให้คุณดาวเป็นทางเลือกเลย เอาทุกอย่างไม่พอ ยังเอาทุกอย่างไปอีกด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นผัวเมียกันแล้ว จริง ๆ เหมือนตอบได้ง่ายว่าก็ให้คิดถึงลูก แต่ไม่อยากตอบไปแบบนี้เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของคุณดาว แต่ถ้าให้ตอบจริง ๆ จะตอบว่าไม่ได้ เพราะมันไม่มีใครทนได้หรอก คนที่โดนขนาดนี้มันไม่สามารถทนไปได้ตลอดแน่นอน ความอดทนของคนเรามันมีจำกัด ถามว่าจะทนอย่างไร คือมันพูดง่าย แต่เวลาทำจริง ๆ แล้วมันโดนด่าทุก ๆ สามชั่วโมง มันคงจะดีแหละที่ลูกจะได้ไม่แตกหักกัน แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะดีกับลูกจริง ๆ เลย ถ้าแม่ไปแล้วพ่อด่าต่อหน้าลูกอยู่ทุกครั้ง ชีวิตตอนนี้จะไม่มีอะไรดี ถ้ายังจะยอมเป็นแบบนี้อยู่ เราต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหา ไม่ใช่ว่าจะทำใจอย่างไร เพราะมันทำไม่ได้ มันไม่มีอะไรที่คุณดาวขอแล้วจะได้ไปเลย เพราะถ้าบอกว่า “อ่ะ เดี๋ยวฉันไปกล่อมลูกให้เธอก็ได้ แต่เธอต้องพูดจาดี ๆ กับฉัน ไม่งั้นจะไม่มาอีก” มันก็ไม่ได้อยู่ดี ที่คุณดาวเคยหนีกลับบ้านไปนั่นถูกต้องแล้ว ถ้าจะให้แนะนำคือถ้าเขาด่าปุ๊บ กลับเลย แต่คุณดาวก็ดันรู้สึกว่าไม่ได้เจอลูกอีก แต่วิธีมันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ส่วนเรื่องที่กฎหมายบอกว่าให้ผู้หญิงอยู่กับแม่ ผู้ชายอยู่กับพ่อ ถ้าเขาบอกกับเราว่าไม่อยากให้พี่น้องแยกกัน งั้นก็มีอีกทางเลือกคือ เสาร์อาทิตย์มาอยู่นี่ ที่เหลืออยู่นู้น มีแค่นี้เลย ถ้ากฎหมายเซ็นต์ไว้ก็ต้องยืนหยัดใบนั้นว่าฉันจะเอาตามกฎ ถ้าไม่ได้ ไม่ลงตัวก็ต้องให้ตำรวจหรือทนายมาช่วย คุณดาวต้องทำให้เขาเห็นว่าตัวเองไม่ยอมและเอาจริงกับเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาพอเขาแข็งใส่เรา คุณดาวก็ยอมหมด’ โดย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘ไม่งั้นให้เราไปเอาลูกมา แล้วถ้าเขาบอกว่าสภาพแวดล้อมบ้านเราไม่ดี ก็ให้เราตอบไปเลยว่า “สภาพแวดล้อมบ้านกูมันยังน่ากลัวน้อยกว่าที่มึงอยู่บ้านนั้นอีก” เพราะถ้าเขาแค่มาเกาะประตูรั้วหน้าบ้านแล้วพูดว่า กลับมาเถอะ คิดถึงลูก ก็ให้ตอบว่าไม่ จนกว่าเขาจะปรับปรุงตัว เพราะถ้าเขาปรับตัวแล้ว คุณดาวจะไม่มาปรึกษาพวกพี่แล้ว คุณดาวต้องไม่ปล่อยให้คนเฮงซวยมาทำให้ชีวิตคุณดาวไม่ดี เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าคุณดาวไม่สู้ไม่งัดมันก็ต้องเป็นเช่นนี้ไปตลอด ต้องเป็นเหมือนเดิมคือนึกถึงลูก ก้มหน้าก้มตาฟัง หากรู้สึกว่าทำคนเดียวไม่ไหวหรือเข้มแข็งไม่พอ ให้ลองไปปรึกษาเพื่อน คนรู้จักหรือครอบครัวให้เขามาช่วยเรา ไม่งั้นปัญหานี้มันจะไม่ถูกแก้ไข อย่าเคยชินอะไรแบบเดิม ๆ ไม่งั้นมันก็จะได้แต่อะไรเดิม ๆ กลับมา ต้องเข้มแข็งนะ’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมอีกว่า ‘ผู้หญิงอยู่กับเรา ผู้ชายอยู่กับเขา ถ้าพ่อเขาบอกว่าอยากให้พี่น้องอยู่ด้วยกัน เสาร์อาทิตย์เด็กผู้ชายจะได้มานอนบ้านเรา ฉะนั้นน้องชายจะได้มาเจอพี่สาวได้แค่วันเสาร์อาทิตย์ คือเราจะไม่ให้ลูกเราไปบ้านนู้นแล้ว เราต้องบอกให้เขาทำความเข้าใจว่าเราจะมาทางนี้ ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกชายมาที่นี่ โอเคคุณก็ดูแลลูกชายไปทั้ง 7 วัน แต่ลูกสาวจะต้องอยู่ที่นี่ แล้วไม่ว่าเขาจะให้เหตุผลอะไร ไม่อยากจะนู้นนี่ ก็ให้เป็นเรื่องของเขา คุณดาวแค่ตอบไปว่า “ไม่” ตามที่ตกลงกันไว้ ที่สำคัญคือลูกสามารถรู้ได้ว่าพ่อกับแม่เลิกกัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ใช้วิธีการบอกลูกว่า “ตอนนี้เรามีสถานการณ์นึงที่ลูกอาจจะต้องปรับตัว คือพ่อกับแม่แยกกันอยู่และลูกจะอยู่กับแม่ ส่วนน้องจะอยู่กับพ่อ” บอกให้เขาได้รับรู้ เด็กฉลาดกว่าที่เราคิด และก็ทำบุญเยอะ ๆ สวดมนต์ให้คนนั้นขิตเร็ว ๆ เราจะได้ลูกทั้งสองคน เพราะจริง ๆ ลูกไม่ควรต้องอยู่กับคนเฮงซวยแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ สงสารลูก’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แฟนหนูคลั่งรักหนูมากเกินไป จนรู้สึกว่ารักครั้งนี้ของเราไม่เท่ากันแฟนติดสกินชิพ ตัวติดหนูตลอด แต่หนูต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เขาก็ทำหน้าที่แฟนได้ดีไม่มีบกพร่อง ชีวิตหนูโฟกัสหลายอย่าง หนูรู้สึกผิดว่า บางทีถ้าเขาไปเจอคนที่รักเขาเท่าๆกัน

01 พ.ย. 2024

แฟนหนูคลั่งรักหนูมากเกินไป จนรู้สึกว่ารักครั้งนี้ของเราไม่เท่ากันแฟนติดสกินชิพ ตัวติดหนูตลอด แต่หนูต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เขาก็ทำหน้าที่แฟนได้ดีไม่มีบกพร่อง ชีวิตหนูโฟกัสหลายอย่าง หนูรู้สึกผิดว่า บางทีถ้าเขาไปเจอคนที่รักเขาเท่าๆกัน

แฟนหนูคลั่งรักหนูมากเกินไป จนรู้สึกว่ารักครั้งนี้ของเราไม่เท่ากันแฟนติดสกินชิพ ตัวติดหนูตลอดแต่หนูต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เขาก็ทำหน้าที่แฟนได้ดีไม่มีบกพร่อง ชีวิตหนูโฟกัสหลายอย่างหนูรู้สึกผิดว่า บางทีถ้าเขาไปเจอคนที่รักเขาเท่าๆกัน อาจจะดีกว่าคบกับเราก็ได้ “คุณเค (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [30 ต.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาที่แฟนเป็นคนที่คลั่งรักเรามาก แต่เรารู้สึกว่าเราไม่ได้รักเขาขนาดนั้น เหมือนรักเรามันไม่เท่ากัน “คุณเค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนหนูเป็นคนที่คลั่งรักหนูมาก แต่หนูไม่เคยมีแฟนมาก่อน คนนี้เป็นแฟนคนแรกของหนู แล้วหนูก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โฟกัสเรื่องรักเท่าเขาขนาดนั้น หนูคบกับแฟนคนนี้มา 1 ปี แฟนชอบสกินชิพ ตามใจเราทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะทำอะไร เขาไม่ต้องการอะไรจากหนูเลย เขาต้องการแค่หนูเท่านั้น หนูชอบคนดีที่ไม่เจ้าชู้ เขาก็ตรงสามสเป็คเราทุกอย่าง แต่ด้วยความที่เราติดนิสัยอยู่คนเดียว เป็นลูกคนเดียวมาตลอด รู้สึกอยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง แต่แฟนเป็นคนที่มีแฟนมาตลอด แฟนก็พยายามปรับมาตลอด เราคุยกันตลอด ส่วนตัวหนูก็ทำตัวดี ไม่ได้เจ้าชู้ ไม่ได้ไปนอกใจอะไรเขา ซึ่งนิสัยส่วนตัวเป็นคนที่ขี้รำคาญด้วย อาทิตย์นึงถ้าเขาว่าง เขาจะมาอยู่กับหนูตลอด บางทีก็จะมีจังหวะที่เวลาเราอยู่ด้วยกัน เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันขนาดนั้น แค่รู้สึกว่ามีเขาอยู่ข้างๆก็พอ ปัญหาเล็กๆที่เกิดก็จะมีว่า เวลาเขาขอให้เราบอกรักเขาบ่อยๆ บอกรักเยอะๆ แต่หนูก็ไม่ได้อยากบอกรักบ่อยๆขนาดนั้น หนูมีความฝันเรื่องอนาคต หนูก็ยังเรียนไม่จบ ยิ่งตอนนี้ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย มันโฟกัสหลายอย่างเกิน กลัวว่าจะมาหงุดหงิดใส่เขา เวลาที่เราเครียด ส่วนเหตุผลที่หนูเป็นคนขอเค้าเป็นแฟนก่อนก็เพราะว่า อยากรู้ว่าคนรักกันเขาเป็นยังไง? ตอนนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองก็น่าจะเป็นคนรักที่ดีได้ ก็เลยลองคบกันดู แต่พอผ่านมาก็ทำให้รู้สึกว่าหรือว่าเราควรอยู่กับตัวเอง และไปโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ มันเป็นความกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าอยากจะเลิกกับเขา ถามตัวเองอยู่เรื่อยๆ ตอนที่หนูไม่สบายเขาก็ดูแลดี คือเขาดีมากๆ ไม่มีอะไรผิดพลาดเลยตอนที่เราคบกัน ถ้าให้เทียบว่าอันไหนมีความสุขกว่ากัน ระหว่างตอนที่มีเขา กับ ตอนที่คบกันอยู่แบบนี้ มันก็ได้คำตอบว่า มันมีความสุขคนละแบบ ตอนโสดมันก็อิสระดี ได้ทำอะไรในสิ่งที่อยากทำ แต่พอมีแฟน เราก็ทำหน้าที่ของเราตามปกติ ถามว่าเสียใจไหมถ้าต้องเลิกกับเขา จะตอบว่า เสียดายมากกว่า เพราะอาจจะไม่ใช่เวลาของเราก็ได้ จริงๆในความสัมพันธ์ครั้งนี้ที่คบกัน มีการคุยกันมาตลอด สื่อสารกันมาตลอดว่าตอนนี้รู้สึกยังไง แฟนก็พยายามปรับตัวเอง เพิ่ม Space ให้กันมากขึ้น เคยเลิกกันไปแล้วรอบนึง แต่ตัวเคเองก็ยังกลับมารู้สึกเหมือนเดิม ก็เลยเกิดคำถามว่า หนูควรเลิกกับเขาไหม? ในเมื่อเขาทุ่มเทให้เราขนาดนี้ แต่เรากลับไม่ได้เต็มที่ขนาดเขา อยากให้เขาไปเจอคนที่เขาให้ แล้วเขาก็ได้รับกลับ ให้เขาไปเจอคนที่ดีกว่าเราดีไหม? หลังจบคำถาม สามดีเจได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “บางทีเขาอาจจะแค่คนที่ไม่ใช่ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ดี” เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ให้ความคิดเห็นว่า ‘อันดับแรก ลองจับจังหวะตัวเองดีๆว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เป็นฮอร์โมน หรือ PMS อยู่รึเปล่า ลองไปเช็คดู ถ้ามันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงแล้วตอนนี้ แล้วยังสับสนว่าตัวเองยังมีแฟนดีไหม? แฟนคนนี้จะใช่ไหม? สิ่งที่เราทำจะทำร้ายเขาไหม? เราจะมีเวลาให้เขาพอไหม? เราจะไปหงุดหงิดใส่เขาไหม? พี่ๆดีเจทุกคนถึงบอกว่า “คนนี้เขายังไม่ใช่” เพราะถ้าใช่จริงๆ คำถามเหล่านี้ จะมีคำตอบ ซึ่งไม่มีใครรู้หรอกว่าสุดท้ายแล้วเขาใช่ไหม? บางทีเราอาจจะมารู้ตัวแล้วตอนที่เสียเขาไป ว่าจริงๆแล้วเราต้องการเขา เหมือนการทดลงคบกันครั้งนี้ พอได้มาคบกันจริงๆ มากลับกลายเป็นภาระในความสัมพันธ์ ไม่ได้มาเติมเต็มในแบบที่เคต้องการ และตัวเคเองก็ไม่ได้ทุ่มเทให้กับเขาได้ขนาดนั้น โดยสรุปก็คือควรจะคุยกับเขาแบบจริงๆจังๆ อธิบายเหตุผลเขาให้เขาใจในความรู้สึกเคทั้งหมด เคกำลังคิดในมุมของตัวเอง ยังไม่ได้ถามความคิดเห็นเขาเลย เป็นการตัดสินใจแทนเขา ซึ่งถ้าเค้าได้รับรู้ปัญหาจริงๆ มันอาจจะเจอจุดสมดุลบางอย่างที่เค้าอาจจะพร้อมปรับตัวเข้ากับเราก็ได้ ถ้าพี่พูดแบบนี้แล้วเคเองยังรู้สึกว่าเขาไม่น่าจะทำให้ได้ เคก็ต้องกลับไปถามตัวเองจริงๆแล้วว่าตัวเองพร้อมกับความสัมพันธ์ครั้งนี้จริงๆแล้วหรือไม่ ? ถ้าเปิดใจคุยกันแล้วยังไม่ใช่ ก็แสดงว่ารักครั้งนี้มันยังไม่ใช่ ลองไปคุยกันดูก่อน ไม่อยากให้มันจบด้วยการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่ได้คุยกับเขา เพราะเขาก็เป็นคนที่มีสิทธิ์ในการรับรู้ปัญหาครั้งนี้ ความสัมพันธ์นี้ไม่มีใครผิด แค่เคลียร์ให้ชัดว่ามันคืออะไรกันแน่’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้ความเห็นว่า ‘เรื่องที่ว่าเขาคลั่งรัก เรื่องที่เขาชอบสกินชิพ มันคือปัญหาปลายภูเขาน้ำแข็ง พี่เพิ่งอ่านบทความเกี่ยวกับ Love Language มา เขาบอกว่า วิธีแสดงความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น 1.คำพูด ชอบชมแฟน 2.ทำการกระทำ 3.ให้ของ ซื้อของให้ 4.มีเวลาให้ 5.สกินชิพ ซึ่งข้อที่ 5 คือ แฟนเคกำลังทำอยู่ แต่สำหรับพี่ แต่ละคนไม่จำเป็นจะต้องมี Love Language ที่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าถ้าเรารู้ว่าแฟนเราเป็นแบบนี้ ถ้าเรายังมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเราก็จะไปต่อกันได้ แต่เท่าที่ดีเจเติ้ลฟังคุณเคเล่ามา รู้สึกว่าเคอาจจะมีความสุขกับการอยู่ด้วยตัวเองมากกว่า เคอาจจะไปเจอคนที่มีความรักใกล้เคียงกันกว่านี้ มันอาจจะทำให้เคมีความสุขกว่าคนนี้ เรื่องนี้ถ้าหนูรักเขามาก อินกับเขามากจริงๆ ปัญหาที่เคเล่ามา มันแทบจะไม่ใช่ปัญหาเลย มันก็เลยสรุปเป็นประโยคได้ว่า เรื่องนี้ เธอไม่ผิด แต่เธอไม่ใช่’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ให้ความคิดเห็นว่า ‘รู้สึกเหมือนกับทั้งดีเจเผือก และ ดีเจเติ้ลว่า คนนี้ไม่ใช่ไม่ดี แค่เขาไม่ใช่ ดีเจต้นหอมก็แนะนำว่า ถ้าเขากำลังพยายามปรับตัวอยู่ ลองไปดูเขาในเวอร์ชั่นนี้ว่าดีไหม? แต่ถ้ายังไม่ใช่อยู่ดี ก็บอกกับเขาตรงๆ คุยกันเยอะๆ อยากอยู่ หรือไม่อยากอยู่เป็นตัวเราเอง ลองทำชีวิตให้มันง่ายขึ้น ใช่ก็คบต่อ ไม่ใช่ก็เลิกกันไป แค่นั้นเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทำงานที่เดิมมา 5 ปีไม่เติบโต เลยตัดสินใจจะย้ายงานใหม่ ตอนนี้เจองานที่ดี เงินเดือนดี บริษัทดีทุกอย่าง แต่ต้องไปเจอกับแฟนเก่าที่นอกใจเรา แฟนที่แอบนอกใจไปคบน้องในทีม เราอี๋จนไม่อยากเห็นหน้า ถ้าต้องไปเจอเขาก็กลัวว่าใจตัวเองจะไม่โอเค ควรย้ายไปทำที่นี่ดีไหม?

09 พ.ค. 2025

ทำงานที่เดิมมา 5 ปีไม่เติบโต เลยตัดสินใจจะย้ายงานใหม่ ตอนนี้เจองานที่ดี เงินเดือนดี บริษัทดีทุกอย่าง แต่ต้องไปเจอกับแฟนเก่าที่นอกใจเรา แฟนที่แอบนอกใจไปคบน้องในทีม เราอี๋จนไม่อยากเห็นหน้า ถ้าต้องไปเจอเขาก็กลัวว่าใจตัวเองจะไม่โอเค ควรย้ายไปทำที่นี่ดีไหม?

“คุณวุ้น (นามสมมติ)”อายุ 34 ปี สายที่สี่ในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [7 พฤษภาคม 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา“ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม”เกี่ยวกับปัญหาการทำงานว่าจะไปทำงานที่เติบโตแต่ต้องไปเจอแฟนเก่าดีไหม? โดย “คุณวุ้น (นามสมมติ)”ได้เล่าว่า ‘กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน สายงานเราเป็นงานที่อาจจะต้องทำได้งานร่วมกัน ถึงแม้จะอยู่กันคนละฝั่ง ดังนั้นตอนนี้ ช้อยส์ในใจจะมีอยู่ 3 ช้อยส์คือ 1.อยู่ที่เดิมไม่ย้ายงาน แต่ไม่เติบโต ทำงานที่เดิมไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอที่ใหม่ก่อน 2.ย้ายไปทำงานที่ใหม่ที่ตรง JD เราเลย เงินดีด้วย แต่ต้องไปเจอแฟนเก่า 3. Set Zero เริ่มต้นหาที่ใหม่ไปเลย สำหรับแฟนเก่าของเราจบกันไปแบบไม่ดีเลย เค้านอกใจไปคบกับน้องในทีมของเขาเอง’ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำแนะนำ ‘แบบเล่นๆ ว่า ให้ไปทำงานที่มีแฟนเก่าอยู่ ใกล้ชิดไปเลย ให้แฟนใหม่รู้สึกระแวง ทำให้แฟนใหม่ของแฟนเก่าเราไปกระซิบพูดต่อกันได้ว่า อุ๊ย แฟนเก่ากลับมา ทำงานเก่งด้วย วิธีการนี้ ดีเจเติ้ลบอกว่า ระวังจะงานไม่ก้าวหน้า เพราะมัวแต่ทำเรื่องพวกนี้ ดีเจต้นหอมบอกว่า คน Toxic ในความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่เรา แต่เป็นแฟนเก่ามากกว่า’ “ดีเจเผือก” ก็แซวว่า ‘ไม่ใช่ว่าไปทำงานที่นี่แล้ว ปรากฏว่าบทสรุปคือ คุณวุ้น วิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำ แล้วโทษตัวเองว่า ไม่น่าไปทำงานที่นี่เลย เพราะยังรู้สึกอยู่’ “ดีเจต้นหอม” ถามกลับว่า ไม่ใช่ว่าเขามาง้อแล้วเราจะกลับไปนะ? “คุณวุ้น (นามสมมติ)” ตอบกลับทันทีว่า ‘นี่แหละคือเหตุผลที่หนูจะโทรมาปรึกษาพี่ๆ’ ดีเจทั้งสามคนถึงกับกรี๊ดเลยทีเดียวว่า ถ้าอย่างงั้นให้ตัดช้อยส์ที่มีแฟนเก่าออกไปได้เลย เพราะใจเรายังไม่แข็งแรงพอ แต่ถ้าจะไปจริงๆ ให้ไปแบบว่านางพญา ไปแบบร่างทอง ไปแบบผู้ชนะเลย’ สุดท้าย 3 ดีเจก็ได้เห็นตรงกันว่า ‘ให้ไปสมัครงานใหม่ๆก่อน แล้วทำงานที่เดิมรอเวลาไป ถ้าได้ที่ใหม่ที่มันดีๆก็ค่อยย้ายไป และอยากให้รายการอัปเดตสายนี้ด้วยว่าสรุปแล้ว วุ้นเลือกทางไหน จะไปทำงานกับแฟนเก่า แล้วกลับไปหาแฟนเก่ารึเปล่า? มารอฟังกัน...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้ สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคน ตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว

20 มิ.ย. 2025

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้ สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคน ตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว

สิบปีที่แล้ว ผมคบกับแฟน แฟนบอกผมว่าแฟนท้อง ผมยืดอกรับแบบแมนๆ เลี้ยงลูกจนโต ไม่นานมานี้สังเกตว่า แฟนผมเขาชอบแอบไปคุยกับผู้ชายอีกคน จนรู้ความจริงว่า ที่แท้ลูกที่ผมเลี้ยงมาเป็นลูกผู้ชายอีกคนตอนนี้ผมเลิกกับแม่ของลูกแล้ว แต่ลูกก็ยังอยู่กับผม ผมเลี้ยงเขามาขนาดนี้แล้ว รักเหมือนลูกของตัวเองและเลี้ยงต่ออย่างดี จนตอนนี้เปิดใจคุยกับผู้หญิงคนใหม่ เขารู้ทุกเรื่องที่เกิดกับผม แต่ทุกครั้งเวลาเรามีปัญหากันเขาจะเอาปมเรื่องนี้มาด่าผม “พี่โง่ปะวะ ไปรับลูกใครมาเลี้ยงก็ไม่รู้” ผมควรจะไปต่อกับเขา หรือ พอแค่นี้ดี “คุณโจ๋ (นามสมมติ)” อายุ 37 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [18 มิ.ย.68] โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเลี้ยงลูกมานาน แต่เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง มีคนคุยใหม่เขาก็ไม่ยอมรับ โดย “คุณโจ๋ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมอายุเท่านี้เคยผ่านการแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว ผมคบกับคนนี้มาสิบปีก็ปกติดีทุกอย่าง จนวันหนึ่งผมจับได้ว่าเขาคุยกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งข้อความนั้นเป็นการอัปเดตเรื่องลูกซะส่วนใหญ่ ผมสงสัยก็เลยเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ จนเพิ่งได้รู้ว่าลูกที่ผมเลี้ยงมาตั้งนานไม่ใช่ลูกของผม เรื่องมันเกิดจากตอนนั้นอายุ 24 ปี เขาท้องผมก็คิดว่าเป็นของผม ก็แมน ๆ เลยรับเป็นลูก ผมก็เลี้ยงมาอย่างดี อนาคตดีเลย พอผมมาเห็นแชทก็ใจสลาย ไปถามเขาเขาก็ไม่ยอมรับจนต้องเปิดแชทให้ดู เขาก็ยอม หลังจากนั้นเราก็เลิกกันด้วยดี ตอนนี้ลูกยังอยู่กับผมเพราะผมผูกพันธ์ไปแล้ว และที่บ้านของผมก็รัก ทางด้านแฟนเก่าผม หลังจากเลิกรากันไปก็มีครอบครัวใหม่ของเขาแล้ว ไม่ค่อยได้มาหาลูกเท่าไหร่ หลังจากแยกกันได้ 3 ปี ตัวผมก็แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นปีแล้ว วันหนึ่งมีโอกาสได้คุยกัน ผมเปิดใจไม่มีอะไรปิดบัง เริ่มตั้งแต่เล่าโปรไฟล์ว่าผมมีลูกมาแล้ว เล่าเรื่องทุกอย่างเพราะไม่อยากให้มีปัญหาในภายหลัง เขาก็โอเค คุยกันไป 6-7 เดือน ปมอันนี้ก็ทำให้ผมไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปคบกับเขาได้ เพราะเขามาว่าผมว่า “พี่โง่ปะวะ ไปรับลูกใครมาเลี้ยงก็ไม่รู้” ทั้ง ๆ ที่เขารู้โปรไฟล์ผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาก็ตึงใส่ผม ตอนแรกก็คุยกันมาดีโทรคุยกันบ้าง แต่พอพูดถึงลูก เขาก็อารมณ์ขึ้นทันที เขาบอกว่ามันเป็นปมของเขา เขาบอกอีกว่าถ้าเขาเจอผู้ชายที่ฐานะเท่ากันกับผมแล้วไม่มีลูก เขาพร้อมเขี่ยผมทิ้งได้ตลอด แต่ที่เขายังคุยอยู่ถึงทุกวันนี้เพราะผมมีประโยชน์ ผมช่วยเหลือเขาได้ตลอด อยากได้อะไรผมหาให้ พาไปไหนผมก็พาไป อยากลงทุนผมก็ช่วยเสนอแนวคิดให้ ผมแบ่งเวลาให้กับเขาและลูกได้ ผมก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า เวลามองมาเห็นผมมีโปรไฟล์แบบนี้ ผู้หญิงเขาจะมองแบบไหน? แบบเขาหรอ? และการตัดสินใจรับลูกคนอื่นมาเลี้ยง ผมตรรกะเพี้ยนมั้ย? ชอบมีคนพูดกับผมแบบนี้… ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ต้องเริ่มที่ตัวคุณโจ๋ก่อน ถ้ามีความตั้งใจที่จะไม่บอกความจริงกับลูกแล้วจะเลี้ยงเขาเหมือนลูกแท้ ๆ ต้องเลิกคิดว่าลูกเป็นลูกของคนอื่นก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนมาว่าเราโง่ที่ไปเลี้ยงลูกคนอื่น ให้ตอบกลับไปว่า “อย่ามายุ่งกับลูกกู” ที่บอกว่าตายแทนลูกคนนี้ได้ จงประพฤติแบบนั้น แล้วเขาจะไม่มีคุณค่าพอที่จะอยู่ในชีวิตของเราอีกต่อไป ต่อไปประเด็นผู้หญิงคนอื่นจะคิดแบบนี้มั๊ย บอกเลยว่า ไม่ อาจจะมีคนที่คิดแบบนี้และไม่ได้คิดแบบนี้ เพราะยิ่งสมัยนี้มีอีกมากมาย การหย่าร้างกัน มีลูก มีความรักครั้งใหม่ เขาก็ดูแลในแบบที่เข้าใจกันได้ อย่าให้ความคิดแย่ ๆ ของผู้หญิงคนนึงมาทำให้เราผิด ซึ่งมันจะย้อนกลับไปที่ข้อแรกว่าคุณจะตั้งคำถามกับการมีลูกคนนี้ว่าเป็นปัญหาในชีวิตคุณหรือเปล่า ซึ่งมั่นไม่ควร โจ๋ไม่ควรลังเลว่าตัดสินใจถูกหรือผิด ตอนนี้มันขัดกันเองอยู่ ณ วันนั้นที่รับมาเขาคือลูกของเรา ณ วันนี้ไม่ว่าเราจะเจอความจริงอะไรก็ตาม เขาก็คือลูกของเรา ถ้าทำให้ตัวเองเชื่อว่าเขาคือลูกของเราได้ มันจะไม่มีคำถามอื่นแล้ว’ ต่อไป “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้หญิงไม่ได้คิดแบบนี้ทุกคน พี่มองว่าผู้หญิงที่หยาบคายแบบนั้นคือส่วนน้อยแค่โจ๋เลือกผิดคน เพราะคำพูดแต่ละคำไม่ให้เกียรติเราเลยสักนิด โง่ที่สุดของโจ๋ไม่ใช่การเก็บลูกคนนี้มาเลี้ยง แต่เป็นการเลือกผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ในชีวิต ถึงเขาจะมองเรามีประโยชน์ แต่พี่ไม่เห็นประโยชน์ในตัวเขาเลย ถ้าเอาเข้ามา Toxic แน่นอน ถ้าลูกเราเป็นที่หนึ่งแล้วคนที่เข้ามาใหม่ต้องเดินไปพร้อมกับครอบครัวเราได้ ไม่ใช่มาเห็นแก่ตัว ผู้หญิงคนนี้ยังต่ำกว่ามาตรฐาน’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้หญิงดี ๆ ถ้าได้ฟังเรื่องราวนี้แล้วเค้าจะพูดว่า "โจ๋เป็นสุภาพบุรุษมากเลย, โจ๋มีความเป็นพ่อที่ดีเลย, พอรู้ความจริงแล้วยังเลี้ยงต่อนี่คือหัวหน้าครอบครัวที่พึ่งพาได้สุด ๆ" ผู้หญิงดี ๆ จะคิดแบบนี้ ส่วนผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงไปคิดเอาเอง ซึ่งที่โจ๋บอกว่าคบผู้หญิงคนนี้บอกกันทุกอย่างแบบไม่ปิดบังแม้กระทั่งเรื่องลูก สำหรับพี่ พี่มองว่าไม่จำเป็นต้องบอกใครเลยเพราะเขาคือลูกโจ๋ ผู้หญิงที่เข้ามาต้องเป็นอีกคนที่ทำให้โจ๋นั้นสมบูรณ์ ไม่ใช่เข้ามาให้ตั้งคำถามกับลูก ใครที่เข้ามาทำให้ลังเลสามารถตัดออกจากชีวิตได้เลย’ ทั้งนี้ “ดีเจต้นหอม” ได้ฝากไว้ว่า ‘ลูกต้องไม่ใช่ปมของเรา ลูกคือความสุข อย่าทำให้ความสุขนี้หายไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1