หนูถูกพี่เขย ชวนให้มีอะไรด้วยมา 5 ปีแล้ว หนูขับรถไม่เป็น ที่บ้านหนูจะต้องให้พี่เขยขับไปส่งหนู ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลในเมืองตลอด บ้านหนูอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้บอกพี่สาวไปแล้ว พี่สาวก็เข้าข้างพี่เขย ไม่สนใจอะไร เรื่องนี้แม่ก็รู้

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูถูกพี่เขย ชวนให้มีอะไรด้วยมา 5 ปีแล้ว หนูขับรถไม่เป็น ที่บ้านหนูจะต้องให้พี่เขยขับไปส่งหนู ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลในเมืองตลอด บ้านหนูอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้บอกพี่สาวไปแล้ว พี่สาวก็เข้าข้างพี่เขย ไม่สนใจอะไร เรื่องนี้แม่ก็รู้

20 มิ.ย. 2025

หนูถูกพี่เขย ชวนให้มีอะไรด้วยมา 5 ปีแล้ว หนูขับรถไม่เป็น ที่บ้านหนูจะต้องให้พี่เขยขับไปส่งหนู

ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลในเมืองตลอด บ้านหนูอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้บอกพี่สาวไปแล้ว พี่สาวก็เข้าข้างพี่เขย

ไม่สนใจอะไร เรื่องนี้แม่ก็รู้ แม่บอกว่า “เขาคงแหย่เล่นๆ หยอกเฉยๆ” พอบอกพี่สาวคนโต

พี่สาวคนโตก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน  แต่ตอนนี้ย้ายออกบ้านมาสร้างครอบครัวแล้วไม่ได้เจอพี่เขย

ตอนนี้หนูแต่งงานมีสามีแล้ว เขาชอบมาถามว่า “เวลามีอะไรกับสามีเป็นยังไงบ้าง สามีโอเคไหม?”

หนูควรจะทำยังไงต่อดีคะ

            “คุณอัน (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา [18 มิ.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องพี่เขยที่ชอบมาขอมีอะไรกับเรา

            โดย “คุณอัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเรายังไม่ได้แต่งงาน คือบ้านเรากับพี่สาวอยู่ใกล้กัน เรามักจะโดนพี่เขยชวนมีอะไรด้วย ปกติเราเป็นคนที่ขับรถไม่เป็นเวลาไปต่างจังหวัด หรือพาแม่ไปหาหมอ เลยมักจะไปกับพี่คนนี้ และแม่จะวานให้พี่เขยคนนี้พาไป เวลาอยู่สองต่อสอง เขาชอบชวนเราประมาณว่า “ไปรีสอร์ทไหม มีรีสอร์ทอยู่ข้างหน้า” “ไปนอนกับเขาไหม เดี๋ยวเขาจะให้เงินจ่าย” คือให้เงินเราเพื่อให้เราเอาไปใช้จ่ายหรือช็อปปิง ซึ่งพี่สาวเรารับรู้มาตลอด แต่จนถึงปัจจุบันเขาก็ยังไม่เลิกกัน

            ปกติแล้วพี่เขยมักมีพฤติกรรมที่มีบ้านเล็กบ้านน้อยมาเรื่อย ๆ เสมอ ซึ่งเรื่องที่พี่สาวเราได้รู้คือ วันนึงพี่เขยได้นอกใจไปทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรานะ อยู่ ๆ มาวันนึง วันนั้นมีแม่ พี่สาวคนโต พี่คนนี้ที่เป็นพี่สาวเรา และเรา แม่ได้พูดเรื่องที่จับได้ว่าพี่เขยเราได้นอกใจพี่สาว เราจึงยอมเปิดใจพูดคุยว่า “จริง ๆ พี่เขยเขาก็มีพฤติกรรมที่พูดจา ชวนเราไปทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน” และพี่สาวคนโตก็พูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “ทำกับเขาเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่เล่นด้วยเหมือนกัน” พอพี่สาวที่เป็นภรรยาพี่เขยรู้เขาก็นิ่งและไม่พูดอะไรต่อเลย แม่จึงพูดขึ้นมาว่า “เขาคงแหย่เล่น คงหยอกเฉย ๆ” ตอนนั้นไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ หรือพยายามที่จะให้กำลังใจเราไม่ให้เราคิดเยอะ จนจบบทสนทนานี้ก็ไม่มีใครพูดและถามอะไรต่ออีกเลย

            พี่เขยเขายังคงพยายามทำพฤติกรรมแบบนี้กับเรามาเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ที่เรายังไม่ได้แต่งงาน เรามักจะไปนอนกับหลานที่เป็นลูกของพี่สาวเราที่บ้าน บางทีนอนบนโซฟาเราจะใส่กางเกงขาสั้น อารมณ์เหมือนชุดบอลผู้ชาย แล้วเขาเข้ามามาจับตรงต้นขาเรา เหมือนจะปลุกเราให้ตื่น ๆ เรารับรู้ได้เลยว่าเหมือนมีอะไรมาไต่ที่ขาเรา

            จนเราแต่งงานมีแฟน เขายังคงชอบถามเราประมาณว่า “เวลามีเพศสัมพันธ์กับสามีเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม ?” พยายามจะพูดกับเราแต่เรื่องอย่างว่าให้ได้ เราก็ตอบไปประมาณว่า “ทั่วไป ไม่มีอะไรก็เหมือนกับที่เขาทำ ๆ กันนั่นแหละ” ส่วนใหญ่ถ้าเลี่ยงไม่ได้เราจะตอบแบบนั้น ไม่ก็ตอบว่า “อะไรอะ” แล้วเดินหนีไปเลย ซึ่งแฟนเรารับรู้ทุกอย่าง เพราะเราก็เล่าให้เขาฟัง จริง ๆ เขาก็พยายามปลอบใจเรานะ แต่แฟนก็ไม่ได้พูดอะไรไป เหมือนกับที่บ้านทำอะไรไม่ได้เลย เพราะพี่เขยคนนี้เขาเป็นคนที่ดีในสายตาของทุกคนในบ้าน คือไม่ได้เกี่ยวอะไรในเรื่องเงินนะ แต่แม่เขาก็รักของเขา และพี่สาวเราก็รักเขามาก จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้เลิกกัน 5 ปีที่ผ่านมา เราพยายามที่จะพูดให้พี่สาวเลิก แต่พี่สาวไม่ยอมเลิก

            หลังจากที่พี่สาวจับได้เรื่องนอกใจ พี่เราร้องไห้นะ แต่อารมณ์เหมือนแค่อยากปรึกษา อยากระบายเฉย ๆ ไม่ได้อยากเลิก ขนาดพี่เขยเคยมีอะไรกับบ้านตรงข้าม พี่สาวยังไม่ยอมเลิกเลย แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกไปแล้ว เพราะเขาเชื่อพี่เขยอย่างเดียว แล้วเหมือนพี่เขยบอกว่า “อย่าไปพูดคุยกับแม่กับน้องนะ” “อย่าไปหาแม่ที่บ้านนะ” อะไรแบบนี้ พี่สาวจะเชื่อและจะไม่มาเลยจริง ๆ

            บางที่สถานการณ์มันทำให้เราช็อค แล้วทำอะไรไม่ถูก จริง ๆ เราไม่ได้แคร์เขานะ แต่ยังไงคงต้องพึ่งพาเขาอยู่ดี บ้านเราอยู่ต่างจังหวัดมาก มันไม่ได้สามารถจ้างรถไรเดอร์ ไลน์แมนได้เหมือนในเมือง เราจะมีแค่คนในครอบครัว ส่วนแฟนเราก็ธุรกิจส่วนตัว บางทีเลยไม่สามารถช่วยเราในเรื่องนี้ได้ เราอยากปรึกษาดีเจทั้งสามคนว่า เรายังต้องเจอพี่เขยคนนี้อยู่ เพราะต้องพาแม่ไปหาหมอ แล้วไม่มีใครขับรถให้ หนูก็ยังต้องพึ่งเขา บางครั้งต้องอยู่กับเขาสองคนแล้วเขามักจะพูดจาสองแง่สองง่ามใส่ อยากถามว่าหนูควรรับมือ หรือพูดยังไงดีคะ?

            โดยดีเจทั้งสามคน (ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม) ได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘ถ้าคุณอินพอมีพื้นฐานในการขับรถอยู่บ้าง ให้ไปเรียนขับรถ หรือจ้างให้คนมาขับรถให้ เพื่อที่จะไม่ต้องไปยุ่งกับเขาอีก นี่คือทางเลือกแรก แต่ถ้าในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ ยังต้องเจอกับพฤติกรรมนี้ของเขาอยู่ แนะนำให้แฟนคุณอันไปเปิดเลย เพราะว่านี่คือพฤติกรรมคุกคาม ถ้าทุกวันนี้ยังคงทำแบบนี้อยู่ พี่คงให้แฟนไปเปิดแล้ว เพราะยิ่งถ้าพี่สาวเราเมินเฉยขนาดนั้น ทำไมเราถึงยังเอาตัวเราไปตกเป็นเหยื่ออยู่ ถ้าวันใดวันนึงเขาหน้ามืด เกิดการเมาหรือทำอะไรไปมากกว่านี้ ไปทำกับคนอื่นในบ้านอีกจะทำยังไง รู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ควรเป็นสิ่งที่ต้องยอม เพราะนี่คือการล่วงละเมิดทางเพศ และที่สำคัญคือทำกับคนในครอบครัวด้วยซ้ำ

            เราควรที่จะชัดเจนไปเลยว่าไม่ต้องแคร์ และบ้านนี้ควรมีใครสักคนต้อง Take Action อะไรสักอย่างให้เด็ดขาดในเรื่องนี้ ไม่ใช่ยอมรับไปเฉย ๆ ว่าคน ๆ นี้ทำแบบนี้ได้ และไม่มีใครทำอะไรกับเขาได้เลย พยายามคุยกับพี่สาวให้จริงจังไปเลย หรือพยายามเก็บหลักฐานเท่าที่จำเป็น เพราะเราควรทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องตัวเราเอง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ก่อนคบสามีเราพอรู้นิสัยว่าแม่เขาเป็นคนยังไง พอแต่งงานเข้าไปอยู่บ้านเขาได้ 1 เดือน หนูท้อง แม่สามีจับผิดทุกอย่าง ห่วงเราเกินเหตุ อึดอัดจนหนูเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้าน สามีพาแม่มาขอโทษขอให้กลับไป ตอนนี้หนูย้ายออกมาอยู่บ้านหนูแล้ว

25 เม.ย. 2025

ก่อนคบสามีเราพอรู้นิสัยว่าแม่เขาเป็นคนยังไง พอแต่งงานเข้าไปอยู่บ้านเขาได้ 1 เดือน หนูท้อง แม่สามีจับผิดทุกอย่าง ห่วงเราเกินเหตุ อึดอัดจนหนูเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้าน สามีพาแม่มาขอโทษขอให้กลับไป ตอนนี้หนูย้ายออกมาอยู่บ้านหนูแล้ว

ก่อนคบสามีเราพอรู้นิสัยว่าแม่เขาเป็นคนยังไง พอแต่งงานเข้าไปอยู่บ้านเขาได้ 1 เดือนหนูท้อง แม่สามีจับผิดทุกอย่าง ห่วงเราเกินเหตุ อึดอัดจนหนูเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านสามีพาแม่มาขอโทษขอให้กลับไป ตอนนี้หนูย้ายออกมาอยู่บ้านหนูแล้วแต่แม่เขาอยากให้หนูจดทะเบียนสมรสกับลูกเขา “คุณเเพรว (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [23 เม.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาระหว่างตัวเองกับเเม่ของสามี โดย “คุณเเพรว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เหตุการณ์ที่หนูเจอคือปัญหาโลกเเตกระหว่างหนูกับเเม่ผัว จนตอนนี้ทำให้หนูต้องออกจากบ้านของเเฟน เเละหนีกลับมาอยู่กับครอบครัวของตัวเอง มันทำให้หนูคิดว่าหนูจะต้องกลายเป็นเเม่เลี้ยงเดียวเลยหรือป่าว ปัญหาในตอนนี้เกิดขึ้นตอนที่หนูพึ่งจะเเต่งงานกับเเฟนได้เเค่ 4 เดือน เเต่ว่าหนูท้องตั้งเเต่เดืิอนเเรกที่เเต่งงาน ช่วงเเรกๆ ความสัมพันธ์ของหนูกับเเม่เเฟนก็ยังดีอยู่เพราะหนูไม่ค่อยได้ไปนอนที่บ้านของเขา ส่วนมากจะเป็นการไปๆมาๆ มากกว่า จนเเต่งงานในเดือนเเรก เเม่ของเเฟนจะจ้องจับผิดหนูเเทบจะตลอดเวลา เช่น การหยุดงานของที่ทำงานหนู เขาจะไม่ได้มีวันหยุดเเบบตายตัว เเล้ววันไหนที่หนูหยุดเเล้วไม่ได้บอกเขา เขาก็จะเเสดงออกว่าโกรธ งอน เเต่หนูก็ไม่รู้ว่าการที่หนูหยุดงานเเล้วไม่ได้บอก มันส่งผลอะไรกับเขา เขาก็จะเป็นเเบบนี้กับหนูเเค่คนเดียว เเล้วหนูก็ไม่สามารถบอกเเฟนได้ทุกครั้ง เพราะเขาจะเอาเรื่องที่หนูบอกไปคุยกับเเม่ ทำให้เขาก็จะทะเลาะกัน เเต่ว่าก็ไม่ได้มีเเค่เรื่องนี้ อีกเรื่องนึงคือ เเม่ของเเฟนเขาจะชอบทำกับข้าวให้หนูไว้ไปกินที่ทำงาน เวลาเลิกงานกลับมาหนูก็จะบอกเขาว่า เอ่อ วันนี้อร่อยนะ วันนี้เเซ่บมาก เเต่ครั้งไหนที่หนูเหนื่อยๆเเล้วกลับมาเข้าห้องนอนเลยเเล้วไม่ได้บอกเขา เขาก็จะมาพูดกับหนูว่า วันหลังจะไม่ทำให้กินเเล้ว พอหนูเล่าให้เเฟนฟัง เเม่ของเเฟนก็จะพูดว่า ก็ไม่เห็นบอกเลยว่าอร่อยไม่อร่อยใครจะไปรู้ ใครจะไปอยากทำให้กิน เเละอีกเรื่องนึงคือ เวลาที่เป็นวันหยุด บางครั้งหนูก็จะกลับบ้านไปหาพ่อ เพราะบ้านหนูกับบ้านเเฟนอยู่ไม่ได้ห่างกันมาก เเค่ประมาณ 10 นาที เขาก็จะพูดว่า ไปอีกเเล้ว คือไปอีกละ หรือบางทีที่หนูหยุดงานนานๆ หนูจะจองตั๋วเครื่องบินเพื่อจะไปหาเเม่ ตอนเเรกเขาก็บอกว่าไปได้ เเต่พอวันถัดมา เขาก็จะมาบอกให้หนูยกเลิกเพราะเขาไปหาข้อมูลมาว่า เราท้องอยู่ไม่อยากให้ไป มันไม่ดีอะไรเเบบนั้น จนมาถึงเรื่องล่าสุดที่ทำให้หนูทนไม่ไหวคือเรื่อง ในช่วงวันสงกรานต์ หนูก็บอกเขาว่า เอ่อ หนูขอเวลาสัก 3 วันนะ หนูจะกลับไปนอนกับพ่อ ตอนเเรกเขาก็เหมือนเดิมคือ บอกว่า โอเค อยากไปก็ไปสิ พอวันถัดมา เขาก็บอกว่า เเม่ว่าหนูไม่ต้องไปดีกว่า เเม่ว่ามันนานเกินไป เเละก็จะได้ใช้เวลาครอบครัวกับบ้านนี้ด้วย เเต่คือหนูก็บอกพ่อไปเเล้ว ในความคิดของหนูคือ ถ้าเขาจะไม่ให้เราไป ทำไมเขาไม่บอกเราตั้งเเต่เเรก อีกอย่างนึงคือ ทำไมเขาไม่บอกเราเลยว่าเขาไม่ชอบอะไร ทำไมต้องให้หนูทำก่อนเเล้วค่อยมางอน ในเมื่อเขาก็เป็นผู้ใหญ่เเล้ว ในวันเเรกที่หนูหนีออกมาจากบ้านเขา เเม่เเฟนถึงขั้นที่ ตามไปดักรอหนูถึงที่ทำงานเเล้วถามว่า ทำไมหนูถึงไม่บอกเเม่ว่าจะย้ายไป จะให้เเม่ปรับตัวยังไงหนูก็บอกเเม่สิ เเต่หนูก็คือรู้ว่าเเม่เขาปรับไม่ได้เเล้ว เเละหนูก็ไม่ได้ต้องการอะไร เเค่ต้องการใช้ชีวิตคู่ของหนู หนูอยากอยู่กับเเฟน เเต่ต้องเล่าย้อนกลับไปอีกเรื่องนึง คือตอนเเรกเเม่ของเเฟนจะ บังคับให้หนูจดทะเบียนสมรสด้วย เเต่หนูก็ไม่ได้จดทะเบียน อีกเหตุผลนึงคือไม่ใช่เเค่เรื่องนิสัยของเขา เเต่เป็นเรื่องสภาพเเวดล้อมภายในบ้านด้วย คือที่บ้านจะมีกลิ่นทีิ่่อับ เหม็นสาบ เเละเขาก็จะชอบตะโกนเสียงดัง ด่ากันด้วยซึ่งมันทำให้หนูคิดภาพไม่ออกว่า เราจะเลี้ยงลูกของเราในสภาพเเวดล้อมในบ้านเเบบนี้ได้ยังไง จนในตอนที่หนูย้ายกลับมาบ้านตัวเอง เเฟนหนูก็เงียบๆไปเลย เเต่จะมีทักมาถามเรื่องลูกบ้าง ว่าถ้าเราเเยกกันอยู่เเบบนี้เราจะเเบ่งกันเลี้ยงลูกยังไง หนูก็ได้เเต่คิดว่าทำไมต้องเเบ่งกันเลี้ยงละ ลูกไม่ใช่สิ่งของ หนูสามารถที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวหนูเองได้ในตอนนี้ปัญหาที่หนูเจอหนูคิดว่า อาจจะเพราะเขาเเค่อยากจะเลี้ยงหลาน เพราะลูกหนูเป็นหลานคนเเรกของเขา ในส่วนของพ่อหนู เขาก็โอเคที่เราย้ายกลับมาที่บ้าน ตอนเเรกที่หนูได้เจอที่บ้านเขา ในตอนที่คบกัน 6 ปี ก่อนที่จะมาเเต่งงาน หนูคิดว่าหนูสามารถที่จะทนได้ อยากลองที่จะเปิดใจ จน 4 เดือนที่ผ่านมา หนูเริ่มท้อง หนูก็ต้องรองรับอารมณ์ตัวเอง เเต่พอมาเจออารมณ์ของเเม่เเฟนเเบบนี้หนูก็เหนื่อย หนูเลยอยากที่จะปรึกษาพี่ๆดีเจว่า คือหนูใจร้ายกับลูกหรือเเฟนมากกว่าเกินไปหรือป่าวที่ทำเเบบนี้?’ เริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คือด้วยความที่ว่า พี่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งยิ่งเป็นลูกเรา เราต้องการที่จะเลี้ยงเองในเเบบของเรา ยิ่งเป็นเเม่ผัวคือยิ่งห้ามมาวุ่นวายเลย ถ้าฉันจะให้เล่น ฉันจะให้เล่นเอง เเละถ้าฉันจะสอนลูกเเบบนี้คืออย่ามาขัด อันนี้คือตัวของพี่เพราะพี่ก็เป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว เเต่คือการที่มีพ่อเเม่เป็นคนเลี้ยงลูกก็จะดีอีกเเบบเพราะมี 2 ความคิดในการเลี้ยงดูเด็ก ฉะนั้นสำหรับพี่ ถ้าใครที่ทำให้เราอึดอัด เราก็จะออกมาเลย อีกอย่างเด็กอ่อนไม่ควรที่จะอยู่ในสภาพเเวดล้อมที่ไม่ดี เเละบอกกับเเฟนว่าถ้าอยากเลี้ยง ก็มาที่บ้านนี้ เอาตัวของลูกกับสุขภาพจิตของตัวเองไว้ก่อน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อันนี้ก็เป็นหนึ่งในสายที่ทำให้รู้ว่า เราอาจจะต้องลองใช้ชีวิตด้วยกันเเบบ 24 ชม. ก่อนที่จะเเต่งงาน ลองเรียนรู้การใช้ชีวิตคู่ก่อนที่จะตกลงเป็น สามี - ภรรยา กัน ถ้าถามว่าใจร้ายไหม สำหรับผม ผมว่าไม่ ถ้าเรามองในมุมของเเม่คนนึงที่จะปกป้องลูกในท้องจากปัจจัยหลายๆอย่างที่จะกระทบต่อการตั้งท้อง อย่างบ้านของพี่ ตอนที่กำลังตั้งท้องอยู่คนทั้งบ้านก็คือสามัคคีกันมาก เพราะไม่อยากให้มีอะไรมากระทบต่อเด็กในท้อง เพราะฉะนั้นถือว่าเเพรว เก่งมากเเละน่านับถือในความเป็นเเม่มากๆ สนับสนุนการตัดสินใจทุกอย่าง เเละที่สำคัญตัวของเเฟนคุณเเพรวก็ต้องทำอะไรสักอย่างนึงเพราะเขาก็เป็นคนกลาง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ใจร้ายไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนพูดชัดเจนได้เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ไม่ใจร้าย เพราะเเพรวทำเพื่อลูก เพราะลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด ในตอนนี้ยังไม่ใจร้าย เเต่ในอนาคตที่เเฟนคุณเเพรวเริ่มพยายามที่จะจัดการ หรือเเก้ปัญหา เช่นพยายามที่จะมาหา จัดการด้วยการที่มาอยู่กับเเพรวด้วย เเละเเม่เขาก็ยังโอเค ถ้าเขาทำเเบบนี้เเล้วในตอนนั้นเเพรวยังยืนยันที่จะเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว สำหรับพี่ก็อาจจะดูใจร้ายนิดนึง เเต่ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลย เเพรวก็มีสิทธิ์เต็มที่ เพราะเขาไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมือง มาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพส ตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่

30 มิ.ย. 2025

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมือง มาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพส ตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่

พ่อหนู เขาชอบเอาเฟซบุ๊กของแม่ไปเล่น แล้วโพสอะไรที่เสี่ยงโดนทัวร์ลง เอาสถานการณ์บ้านเมืองมาทำเป็นเรื่องตลก บอกพ่อแล้ว แต่พ่อให้เหตุผลว่า เฟซบุ๊กแม่เพื่อนเยอะ พ่อก็เลยอยากโพสตอนนี้หนูเป็นห่วงแม่ว่า ถ้าพ่อยังทำต่ออีกเรื่อยๆ อนาคตอาจจะเกิดกระทบต่อแม่ได้เรื่องนี้ปรึกษาพี่ชายแล้ว พี่ชายบอกว่า ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับพ่อ ปล่อยให้เขาทำไปแต่หนูเห็นโพสแล้วก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ “คุณก้าน (นามสมมติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 มิ.ย 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาพ่อเอาเฟซบุ๊กแม่มาโพสต์สุ่มเสี่ยง โดย “คุณก้าน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘พ่อชอบเอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์เล่น แล้วโพสต์ล่าสุดจริง ๆ มันเป็นเหมือนโพสต์ตลก แต่หนูรู้สึกว่ามันสุ่มเสี่ยง เพราะมันเกี่ยวกับบ้านเมือง หนูเลยค่อนข้างเป็นห่วงแม่ เพราะมันไม่ใช่แนวที่แม่จะทำ ปกติแม่ลงแต่เรื่องผ้าปัก หนูจึงถามพ่อ เขาให้เหตุผลมาว่า “เขาเพื่อนในเฟสน้อย อยากให้แม่ลองโพสต์อะไรออกสื่อบ้าง” ซึ่งตอนโพสต์แม่น่าจะรู้ เพราะเหมือนก่อนหน้านี้ พ่อได้เอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์เกี่ยวกับเรื่องไปเที่ยว ในส่วนนี้หนูไม่ติดอะไร ตอนแรกที่เห็น หนูคิดว่าพ่อโพสต์ จึงไม่ได้อะไร เพราะปกติพ่อเขาเป็นคนตลก แต่จะเจ้าอารมณ์หน่อย แล้วหนูพึ่งมาเห็นว่าเป็นเฟซบุ๊กแม่ที่โพสต์ หนูจึงทักไปถามพ่อว่า “ทำไมไม่เอาเฟซบุ๊กตัวเองโพสต์ มันไม่ควรหรือเปล่า ทำไมถึงเอาเฟซบุ๊กแม่ไปโพสต์แบบนั้น” พ่อจึงตอบกลับแนวประชด ๆ กวน ๆ มาประมาณว่า “พ่อก็โพสต์ไปแบบขำ ๆ อย่าซีเรียส ใครไม่โอเคก็เรื่องของเขา” แต่กลายเป็นว่าตัวของหนูเองที่ไม่โอเค จึงพูดกับพ่อไปว่า “ลูกไม่โอเค คือ ลูกต้องต้องไปจัดการตัวเองใช่ไหม” พ่อจึงตอบกลับมาว่า “ถูกต้อง” หนูยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับแม่เลย เพราะเขาอยู่ด้วยกันสองคนที่ต่างจังหวัด ส่วนหนูอยู่กรุงเทพ พ่อเขาจะเป็นคนเอาโทรศัพท์ของแม่ไปเล่นเป็นเหมือนของตัวเองเลย ก่อนหน้านี้พ่อเขาไม่ได้โพสต์เชิงนี้ มีแต่โพสต์รูปไปเที่ยว, เช็คอิน แค่นั้นเลย แต่จะใช้เฟซบุ๊กแม่ลง อีกทั้งพ่อเขาจะเอาเฟซบุ๊กตัวเองไปเมนต์ในโพสที่ลงในเฟซบุ๊กแม่อีกที คือเจตนาของหนูคือหนูแค่เป็นห่วงแม่เฉย ๆ กลัวในอนาคตเผื่อพ่อไปทำอะไรมากกว่านี้มันจะมีปัญหา คือถ้าโพสต์ไปอยู่ในเฟซบุ๊กพ่อหนูจะไม่อะไรเลย รวมถึงจริง ๆ พ่อเขาเป็นข้าราชการเกษียณ หนูเลยค่อนข้างห่วงเขาด้วย’ โดยดีเจทั้งสาม (ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม) ได้ให้คำปรึกษาไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘จริง ๆ พ่อเขาคงตั้งใจให้มันเป็น comedy แต่ว่าข้อความและแคปชั่น มันค่อนข้าง sensitive ซึ่งจริง ๆ หนูควรบอกเขาเรื่องนี้ อย่างแรกคือ ควรเริ่มต้นคุยกับแม่ก่อนว่า “แม่โอเคไหม กลัวไหม” ซึ่งถ้าแม่บอกกลับมาว่า “โอ๊ย แม่ชอบ แม่ก็ขำด้วยเนี่ย” แบบนี้ก้านจะทำอย่างไร คงทำได้เพียงแค่เตือนไปว่า “โพสต์อะไร ให้ระวัง ๆ หน่อย” หรืออาจจะต้องพูดบอกทั้งแม่และพ่อไปว่า“เรื่องนี้มันค่อนข้างเสี่ยงมาก หากมีคนไม่หวังดี เอาไป เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องไป อย่าไปเล่นเรื่องนี้ ข้อความมันแรงไปหน่อย ไปเล่นเรื่องอื่นแทน จริง ๆ มันแก้แค่ไม่กี่คำ แค่ดึงบางคำออกมันจะเซฟขึ้นเยอะ แต่นึกภาพออกนะว่าคนแก่ อาจจะอารมณ์ขันประมาณนี้ พี่แนะนำคือ เตือนพ่อได้ ซึ่งพ่ออาจจะเข้าใจ แต่เขาอาจจะตอบกวน ๆ กลับมา แต่ว่าอนาคตเขาอาจจะระวังขึ้น ถ้าเขาไม่ระวัง หากเขาโดนทัวร์ลงครั้งนึง เดี๋ยวเขาจะระวังขึ้นเอง อาจจะรีพอร์ต ลบโพสต์เฟซบุ๊กแม่ หรือไม่ก็ไปแก้ไขโพสต์ให้เป็น privacy ให้เห็นแค่ only me เลย เขาจับไม่ได้หรอก อีกทั้งหนูเองอยู่ไกลแม่ ไม่สามารถ control ได้ หนูอาจจะต้องสอนแม่อีกที มันสามารถจัดการได้คุณก้าน ลองคุยดูนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อ้าว ป้าคะ! หนูทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวของร้านป้า เวลาลูกค้าให้ทิปกับมือหนู ป้าจะบอกว่า “เอาไปหยอดกระปุก” เดี๋ยวจะแบ่งสิ้นเดือน แต่พอสิ้นเดือนมา ป้าไม่เคยแบ่ง เอาไปใช้คนเดียว

04 ก.ค. 2025

อ้าว ป้าคะ! หนูทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวของร้านป้า เวลาลูกค้าให้ทิปกับมือหนู ป้าจะบอกว่า “เอาไปหยอดกระปุก” เดี๋ยวจะแบ่งสิ้นเดือน แต่พอสิ้นเดือนมา ป้าไม่เคยแบ่ง เอาไปใช้คนเดียว

อ้าว ป้าคะ! หนูทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวของร้านป้า เวลาลูกค้าให้ทิปกับมือหนู ป้าจะบอกว่า “เอาไปหยอดกระปุก”เดี๋ยวจะแบ่งสิ้นเดือน แต่พอสิ้นเดือนมา ป้าไม่เคยแบ่ง เอาไปใช้คนเดียว พอถามก็ตีมึน จนหลังๆถ้าลูกค้าให้ทิปกับมือหนูจะแอบเก็บไว้คนเดียว บางทีผัวป้าที่เป็นกุ๊ก ก็ยืนมองจากครัว หนูแอบเก็บไม่ได้ ต้องเดินมาหยอด หยอดไปก็ไม่ได้อยู่ดีหนูจะทำยังไงดีคะ ? แล้วการที่หนูเอาทิปมาเก็บไว้กับตัว เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวไหมคะเพราะถ้าหยอดกระปุกไป ป้าก็ไม่แบ่งอยู่ดี... “คุณดา (นามสมมติ)” อายุ 19 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ก.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาของการเป็นพนักงานเสิร์ฟ ที่พอลูกค้าให้ทิปก็ถูกเจ้าของร้านบังคับให้หยอดกระปุกรวม โดยอ้างว่าจะนำมาแบ่ง แต่ไม่เคยได้ส่วนแบ่ง โดย “คุณดา (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูทำงานร้านอาหารร้านหนึ่ง เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งอยู่ในตัวเมืองลำปาง ภายในร้านมีพนักงานรวมหนูแล้วมีแค่ 5 คนเองค่ะ ส่วนมากเขาจะอยู่ในครัวกัน แล้วหนูเป็นพนักงานเสิร์ฟคนเดียวแล้วก็จะมีป้าเจ้าของร้านอยู่ด้วย หน้าที่ของหนูก็คือ ล้างแก้ว กวาดถู เก็บจาน หนูเริ่มทำงานร้านนี้ตั้งแต่เดือนกุมภา ปัญหาของหนูก็คือเวลาลูกค้าให้ทิป วันแรกที่หนูเข้าไปทำงานลูกค้าฝรั่งยื่นเงินให้หนู 60 บาท แล้วก็มีคนไทยที่เขาบอกว่าเขาให้ หนูก็ดีใจเลยไปบอกป้าเจ้าของร้าน ป้าแกก็บอกว่าเอาหยอดกระปุกร้านเลย หนูก็สตั้นไป ทำไมเราต้องหยอดตามที่ป้าแกบอก เขาบอกว่าสิ้นเดือนจะเอามาแบ่งกัน แล้วมันก็เกิดคำถามมากมายในหัวหนู หนูก็ทำงานมาเรื่อย ๆ ลูกค้าก็ให้ทิป พอป้าแกเห็นหนูก็ต้องเอาหยอดกระปุกทุกครั้ง แต่พอสิ้นเดือนก็ไม่เห็นว่าแกจะเอาไปแบ่ง เหมือนแกจะเอาไปใช้คนเดียว หนูเคยจับกระปุกมันมีช่วงที่มันหนัก ๆ แล้วพอมาจับอีกรอบเบาเลย ไม่มีสักบาท ในร้านจะมีตำแหน่งแม่บ้าน ผู้ช่วยเชฟ เชฟ และเจ้าของร้านแค่นี้เลย แต่ไม่เคยได้ส่วนแบ่งเลยสักเดือนตั้งแต่ทำมา เวลาที่ป้าไม่เห็นหนูก็จะรีบยัดใส่เข้ากระเป๋า แล้วหลังวันที่ 27 มิถุนาที่ผ่านมา มีลูกค้าโต๊ะหนึ่งเช็คบิล พอได้บิลมาก็เอาไปให้ลูกค้า พอลูกค้าจ่ายเงินเสร็จก็ยื่นเงินให้หนูแล้วบอกว่า 40 บาท พี่ให้หนูนะ หนูก็ขอบคุณแล้วป้าแกก็เห็น แต่หนูอ้อมมาหลังเคาน์เตอร์แล้วรีบยัดเข้าใส่กระเป๋า แต่พอหนูหันไปหนูเห็นเชฟเขายืนมองอยู่ แต่เชฟเขาคือสามีป้าเขาเป็นคนฮอลแลนด์ แกก็ยืนมอง หนูก็ลนไปหมด สุดท้ายหนูก็เลยต้องหยอดใส่กระปุก หนูอยากรู้ว่าหนูผิดไหมที่หนูทำแบบนี้ มันดูเป็นเด็กไม่ดีไหม?’ ซึ่ง “ดีเจก็อตจิ” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘หนูอาจจะต้องไปสมัครงานที่อื่น เพราะร้านนี้ระบบมันไม่แน่ชัด มันเหมือนเป็นร้านอาหารครอบครัว เขาจะสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ แล้วยิ่งเราเป็นเด็กเสิร์ฟคนเดียวด้วย มันค่อนข้างจะยากที่หนูจะไปต่อรอง ถ้าวันหนึ่งเขาไล่หนูออกขึ้นมา หนูจบเลยนะ พี่ว่ายังไงถ้าเป็นไปได้ หนูหาทางเลือกอื่นและไม่ต้องไปหวังกับเงินก้อนนั้นเลย’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ หลาย ๆ ร้านใช้ระบบทิปรวม แต่พอสิ้นเดือนเขาต้องหาร ถ้าหนูจะสู้เพื่อความถูกต้อง ก็กลั้นใจถามป้าไปเลยว่าสรุปมันคือทิปรวมหรือส่วนตัว แต่ถ้าไม่อยากปะทะในเมื่อเขาก็เรา เราก็ไม่จำเป็นต้องซื่อสัตย์กับเขา มันก็แล้วแต่ว่าดาจะเลือกทางไหน’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘ถ้าเขาบอกว่าให้ทิปเรามันคือของเรา แต่ถ้าเขาใส่ไว้ในถาดหรือวางบนโต๊ะอันนั้นก็จะเป็นทิปรวม ไปตกลงกับป้าว่าบางทีที่เขาให้ทิปไม่ใช่เพราะอาหาร เขาเห็นว่าหนูเป็นเด็ก ถ้าป้าปฏิเสธทุกอย่างก็เทไปเลยวันที่ลูกค้าเยอะ ๆ ลาออกวันนั้นเลย ถ้าหนูบริการดีไปอยู่ร้านไหนก็มีคนให้ทิปแน่นอน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พีคในพีค อีก 3 วันต้องแต่งงานแล้ว แต่เพิ่งจับได้ว่าสามีมีผู้หญิงอีก 2 คน พอยกเลิกงานแต่ง เพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ แต่สามีไปบอกทุกคนรอบตัวว่า ที่เลิกกันเพราะผู้หญิงดื่มจนแท้งลูก

17 พ.ย. 2023

พีคในพีค อีก 3 วันต้องแต่งงานแล้ว แต่เพิ่งจับได้ว่าสามีมีผู้หญิงอีก 2 คน พอยกเลิกงานแต่ง เพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ แต่สามีไปบอกทุกคนรอบตัวว่า ที่เลิกกันเพราะผู้หญิงดื่มจนแท้งลูก

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม กับปัญหาที่แฟนนอกใจ โดย “คุณน้ำ (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘จริงๆ แล้วเรากำลังจะแต่งงานกัน แต่จับได้ว่าเขามีคนอื่นอีก 2 คน ถึงขนาดพาไปเจอที่บ้าน ไปนอนที่บ้าน ไปกินข้าวกับน้องสาวเขากันแล้ว แต่ผู้หญิงทั้ง 2 คนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้มีเราอยู่ จะรู้แค่ว่าผู้ชายเขามีอีกไอจี มีอีกเฟส มีอีกเบอร์โทร มีอีกไลน์นึง เราคบกับเขามา 3 – 4 ปีแล้ว กำหนดวันแต่งงานเราคือ วันเสาร์ 18 ที่จะถึงนี้ เรารู้เรื่องที่เกิดนี้มาประมาณ 4 เดือนมาแล้ว และเรื่องราวนี้ กับคนแรกเขาคบกันมา 3 เดือนแล้ว ส่วนอีกคนคบกันมาประมาณ 1 เดือน ก่อนหน้านั้นเราก็ไม่เคยเอะใจเลย เราเหมือนแค่แบบรู้สึกว่าเขากลายเป็นคนที่รับสายตอนกลางคืนยากขึ้น เราจะเจอกันแค่วันศุกร์เสาร์ วันธรรมดาเราจะแค่โทรหากัน แต่จะรู้สึกว่าทำไมช่วงเย็นๆ รับสายยากจัง กว่าจะโทรกลับก็นานจัง นอนไวจัง หรือบางทีกว่าจะมาหาก็ทำไมขับรถนานจัง หรือบางทีไปกินเหล้ากับเพื่อนทำไมถึงกว่าจะกลับมันนานจัง แค่ประมาณนั้น บางทีเขาจะบอกแค่ว่าแบตโทรศัพท์หมดแล้วก็หายไปเลยก็มี ตอนนั้นก็เป็นช่วงที่ Pre Wedding เรียบร้อยแล้ว เตรียมการ์ดแต่งงานแล้ว ก่อนหน้านี้เราก็ไม่รู้ว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อนไหมหรือว่ามีแต่เราจับไม่ได้ งานแต่งนี้เราก็ตกลงกันทั้ง 2 ฝั่ง เริ่มดำเนินการกันตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ที่เริ่มจับได้คือมีคนมาบอกว่า “คิดดีๆ นะน้ำ มันมีคนอื่น” หลังมีคนมาบอกแบบนั้น เราเลยเริ่มเช็คจากใช้แอพเช็ค Location ติดตามไปโดยบอกเขาว่า “ช่วงนี้เราทำงานเราอาจจะต้องไปไหนมาไหนโดยที่เราอาจจะลืมบอก เดี๋ยวดู Location เราจากตรงนี้แล้วกันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เราก็ดูของเธอ เธอก็ดูของเรา น่ารักดีออก” เขาก็ยอม แต่ว่าเขามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง ตั้งไว้ในอีกเครื่อง แต่ใช้อีกเครื่อง เครื่องที่ตั้งไว้ก็วางไว้ที่ห้อง อีกเครื่องนึงก็ใช้ไปหาอีก 2 คนนั้น ก็รู้สึกว่าแอพพึ่งไม่ได้แล้ว ก็ให้เพื่อนขับรถตามไป แต่ตอนนั้นตัวเราอยู่ต่างประเทศ เราก็คิดว่าก่อนหน้านั้นเขาก็ขับรถมาส่งเราที่สนามบิน พอเสร็จแล้วก็ขับไปหาผู้หญิงคนนั้นเลย เราก็รู้สึกแล้วว่าที่มันไม่รับสาย ที่ Location มันหายๆ เราก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว ก็เลยให้เพื่อนไปตาม แต่วันแรกเพื่อนก็ยังตามไม่เจอ ผู้ชายก็รับผู้หญิงมานอนที่บ้าน แล้วก็จะโทรหาเราเป็นช่วงๆ เหมือนกับช่วงที่ผู้หญิงเข้าห้องน้ำเขาถึงจะโทรมา จังหวะที่เราจับได้เลยคือ เขาจองทริปไปเที่ยวต่างจังหวัดกับผู้หญิงคนนั้นแล้วตอนนั้นก็ให้เพื่อนตามไปอีก ก็เจอเขานั่งอยู่ด้วยกันบนรถ แล้วเพื่อนเราก็เข้าไปถามว่า “ไปไหนกันหรอคะ” แล้วเราก็วิดีโอคอลไป ผู้ชายก็ตอบกลับมาว่า “กำลังจะพาเพื่อนไปส่งที่บ้าน ฝนมันตก” เราก็ถาม “แล้วเพื่อนมาไงอะ” เขาตอบกลับมาว่า “เพื่อนก็นั่งวินมา” เราเลยบอกว่า “งั้นเปิดประตูรถให้ดูหน่อยสิ” คือเขาจองทริปไปทะเล ถ้ากลับบ้านมันจะมีแค่กระเป๋าใบเดียวที่ลีบๆ แบนๆ แต่ถ้าไปทะเลต่อให้คืนเดียวกระเป๋าก็ต้องอลังการแน่นอน หนูก็ “เปิดประตูสิขอดูหน่อย” เขาก็บอกว่า “ไม่ได้เดี๋ยวทะเลาะกับเพื่อน” เราก็คิดว่าใครมันจะไปทะเลาะกับเพื่อนเพราะว่าเปิดประตูให้แฟนดู มันไม่มี ผู้ชายเขาก็เลยขึ้นรถแล้วก็ขับรถหนีไปเลย แต่ว่าเรามีเบอร์โทรของผู้หญิงเราก็เลยโทรคุยกัน ก็เลยโป๊ะ พอคนแรกจับได้ เขาก็ทักไลน์มาบอก “ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ เรายังมีโอกาสอยู่ไหม” แต่อีกวันนึงเขาก็ไปอยู่กับอีกคนนึง เราก็ไม่ได้ให้โอกาสเขา แต่ก็ยังไม่ได้บอกเลิก เพราะว่ามีหมาด้วยกันอยากจะไปเอาหมาก่อน และตอนนี้ก็เลิกกันแล้ว แต่ว่ามันมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับหนูอีก หลังจากที่หนูเข้าไปเก็บของออกมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นอีก 3 วัน รู้สึกว่าตัวเองแปลกๆ ก็เลยพึ่งทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ตอนนั้นก็เริ่มให้โอกาสเขาแล้ว แต่มันก็ยังติดอยู่ในใจ เราไม่ได้อยากได้ผู้ชายคนนี้ ตอนแรกก็อาจจะยังไม่ยกเลิกงานแต่งหรือยังไงดี แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็แบบเขาลืมวันฝากครรภ์ อยากให้เราออกค่าคลอดเอง เขาก็แสดงความเป็นพ่อแต่แบบว่าเราช่วยดูแลแต่เงินตรงนี้เธอออกไปก่อนได้ไหม เราก็เลยตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์โดยที่ไม่บอกเขา บอกเขาไปแค่ว่า “เราแท้ง” แต่หลังจากนั้นแม่เขาโทรมาบอกว่า “อ้าวฉันนึกว่าที่เลิกกันนี่เป็นเพราะแก ฉันได้ยินมาแค่ว่าแกกินเบียร์จนเด็กออก” เราก็อธิบายไปว่าทำไมถึงยกเลิกงานแต่งจริงๆ เขาก็ช็อกไปแล้วก็ขอโทษแทนลูก น้ำควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง เหมือนน้ำโดนกระทำขนาดนี้ แล้วการที่น้ำตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์มันก็ยากมากแล้วนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอมันก็เหนื่อยมากๆ แล้ว จะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง เขาไม่ได้บอกแค่แม่เขา เขาบอกทุกคนรอบข้างเขา ว่าเรากินเบียร์จนแท้ง ข้อมูลที่เขากระจายออกไปมันเป็นแบบนี้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นใครที่เราลองทักไปถามเขาก็จะตอบกลับมาว่า “อ้าว ผมก็เข้าใจแบบนั้น” เราควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองหรือว่าเราควรไปแก้ตัวกับคนเหล่านั้นดีไหม หรือว่าเราควรจะทำยังไงดี แต่เราไม่ชอบเลยในการที่เราเหมือนเป็นคนที่แบบ…ระยำ ทำไมเราเป็นคนผิด เหมือนการที่เลิกกันเป็นเพราะว่าเรากินเบียร์จนเราเลิกกัน ไม่โทษตัวเองเลย ทำไมเราถึงได้รับสายตาแบบนั้น จริงๆ เราเป็นคนถูกกระทำนะ แล้วเขาก็มีทักมาบอกว่า “ถ้าคนมันรักกันจริงอะนะ แค่นอกใจอะ ให้อภัยมันก็ได้แล้วเปล่าวะ ถ้ารักกันจริง”’ ซึ่งงานนี้ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อันนี้เข้าใจ เมื่อก่อนก็เป็น ถ้าใครมาว่าร้ายให้ร้าย หรือว่ามีข้อมูลบางอย่างที่มันออกไปแล้วมันไม่ตรงกับที่เราเป็นจริงๆ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราจะดับเบิ้ลความหงุดหงิด ความไม่อยากให้ข้อมูลมันผิด เพราะเรารู้อยู่แกใจว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นมันกระจายออกไป แม่งโคตรหงุดหงิดเลย กูไม่ได้ทำอะ ถ้าทำแล้วมันกระจายออกไปเราก็จะเข้าใจเพราะเราทำ แต่ว่าอันนี้ยิ่งมันเป็นความเป็นความตายของชีวิตนึงด้วย แล้วเราหนักขนาดไหน คนเป็นคนที่ตั้งครรภ์แล้วต้องยุติการตั้งครรภ์อะ เข้าใจคำน้ำที่ว่ามันหนักมากแล้วนะ แล้วการที่เราตัดสินใจแบบนี้ ถ้ามันไม่เหลือ… จริงๆ ก็คงไม่ทำ อันนี้เข้าใจเลย พอข้อมูลมันถูกถ่ายทอดออกไปในวงที่มันก็ไม่ใช่วงของเราที่เราจะชี้แจงอะไรได้ กำลังชั่งใจว่าถ้าเป็นตัวเอง ผมก็เป็นคนไม่ชอบเหมือนกัน ก็อาจจะชี้แจงเหมือนกัน แต่…ก็คงจะเป็นบางคนที่เรารู้สึกว่าเราอยากให้เขาได้รับรู้ความจริง อาจจะเป็นคนที่เราแคร์อะไรแบบนี้ น้ำลองประเมินแล้วกัน ในวงเหล่านั้นมันก็อาจจะมีใครบางคนที่น้ำรู้สึกแคร์มากๆ ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด แล้วมันก็จะมีใครบางคนที่ช่างแม่งเหอะ จะคิดอะไรก็เรื่องของมัน ต่อให้เราอธิบายก็ไม่รู้ว่ามันจะเชื่อเราหรือเปล่า แล้วต่อให้มันเชื่อหรือไม่เชื่อจะมีประโยชน์อะไรต่อชีวิตเราเปล่า พวกนั้นตัดไปเลย เราคัดไว้เฉพาะคนที่เรารู้สึกว่าถ้าเขาเข้าใจผิดมันจะทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนแล้วน้ำไม่โอเค คนบางคนความสัมพันธ์เปลี่ยนน้ำอาจจะรู้สึกว่าช่างมันเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป ก็ถือว่าตัดทั้งคนที่ไม่ดีก็คืออดีตแฟน กับมิตรที่อยู่ในวงเดียวกันมันก็เหมือนคนที่คล้ายๆ กัน ถ้าคิดแบบนี้น้ำก็อาจจะไม่ต้องแคร์เขามาก ก็แจ้งเฉพาะคนที่เราแคร์ก็พอ เราจะได้สบายใจในส่วนหนึ่งของเรา’ ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็เข้าใจในความรู้สึกน้ำที่ได้เผชิญอยู่ตอนนี้ มันโกรธ มันโมโห มันผิดหวัง พี่ว่ามันมีหลายความรู้สึกมาก ก็เป็นกำลังใจให้น้ำก่อนที่จะให้คำปรึกษา ว่าสิ่งที่เจอมันต้องใช้เวลาในการเยียวยาตัวเองกว่าที่จะกลับมาได้ เพราะว่าเรื่องมันก็เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งเรื่องนอกใจ ทั้งเรื่องที่จะต้องตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ไป สำหรับพี่ พี่เห็นด้วยกับพี่เผือกเรื่องที่ว่า น้ำอาจจะไม่สามารถไปควบคุมข่าวลือที่มันแพร่สะพัดออกไปได้ตอนนี้ เพราะว่าตอนนี้มันได้ถูกจุดไฟไปแล้ว แต่ว่าเราอาจจะต้องเลือกว่าเราแคร์ใครบ้าง อย่างที่พี่เผือกบอกเราไม่สามารถไปแคร์ได้ทุกคน น้ำคิดง่ายๆ เหมือนดาราที่เขามีข่าวลือแล้วมันไปทั้งประเทศแล้วการที่เขาจะมานั่งไล่ตามแก้ทีละคน ตายพอดีมันมีชีวิตปกติไม่ได้หรอก แต่ว่าพี่แค่รู้สึกเหมือนพี่เผือกว่าเราต้องเราจะต้องดูว่าคนไหนที่เรารู้สึกว่าเราแคร์จริงๆ เขาควรจะได้รับรู้ความจริงนั้น เพราะเราไม่อยากให้เขามองเราในมุมที่มันไม่ใช่เรา ในขณะที่น้ำบอก คนอื่นที่มันอยู่นอกวงที่มันเป็นเพื่อนฝั่งเขา พี่คิดว่ามันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามไปเข้าหาเขาเพื่ออธิบาย พี่ว่าก็เท่านั้น เขาไม่ได้รักเราไม่ได้แคร์เราอยู่แล้ว เอาคนที่เรารู้สึกว่าเราอยากให้คนนี้เข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น มันน่าจะง่ายกว่า พี่คิดวิธีช่วยนะ พี่ว่าการที่จะไปบอกทีละคนมันเหนื่อยนะ หนูมีช่องทางที่เรามีแต่เพื่อนที่เราแคร์ ก็พิมพ์เล่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นในมุมของหนูก็ได้ ด้วยสังคมโซเชียลทุกวันนี้เดี๋นวเรื่องมันจะถูกแชร์ไปเอง คนมันจะปะติดปะต่อได้เอง พี่ว่าสุดท้ายแล้วกระบวนการกลไกมันจะทำงานของมันเอง แต่ว่าตอนนี้หนูได้ทำเพื่อให้หนูสบายใจแล้วว่าหนูได้บอกเล่าเรื่องจริงที่มันเกิดขึ้นแล้ว’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งนี้จะมอบให้กับน้ำ ก็คือ สมมติว่ามีน้ำอยู่ในแก้วแล้วเราถือน้ำอยู่ เราอยากรู้ว่าน้ำนี้มันหนักไหม หยิบน้ำขึ้นมาแล้ววางแก้ว เราก็ไม่ได้รู้สึกหนักอะไรมากมาย ถ้าเราถือน้ำแก้วเดิมแล้วถือไว้อยู่อย่างนั้น ยิ่งนานเท่าไหร่เรายิ่งเมื่อย เรายิ่งงรู้สึกว่ามันหนักทั้งๆ ที่ปริมาณน้ำมันก็เท่าเดิม ฉะนั้น วิธีการจัดการของน้ำก็คือ ปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ไม่ให้ทำร้ายเรา นี่เป็นวิธีคิดสำหรับน้ำ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1