ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แฟนผมเขาลำบากมาก่อน จนตอนนี้ได้งานเป็นเลขา ไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานได้ 2 อาทิตย์ หัวหน้าผู้ชายซื้อของแบรนด์เนมให้ ปลดหนี้ให้หลักแสน ล่าสุด หัวหน้าแฟนผมเมาสารภาพรักกับแฟนผม ตอนนี้ผมกลัวมากว่าเค้าจะใช้เงินซื้อแฟนไปจากผม...

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แฟนผมเขาลำบากมาก่อน จนตอนนี้ได้งานเป็นเลขา ไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานได้ 2 อาทิตย์ หัวหน้าผู้ชายซื้อของแบรนด์เนมให้ ปลดหนี้ให้หลักแสน ล่าสุด หัวหน้าแฟนผมเมาสารภาพรักกับแฟนผม ตอนนี้ผมกลัวมากว่าเค้าจะใช้เงินซื้อแฟนไปจากผม...

05 ก.ค. 2024

              “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [3 ก.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องแฟนที่ลังเลในความสัมพันธ์ระหว่างเราหลังจากที่หัวหน้ามาสารภาพรัก

            โดย “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัญหาของผมตอนนี้ คือแฟนผมต้องไปทำงานที่อยู่ไกลกัน ซึ่งตำแหน่งงานของแฟนผม คือเลขา เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องตัวติดกับหัวหน้า 24 ชั่วโมง ทำให้ผมและเค้ามีเวลาติดต่อกันน้อย โดยหัวหน้าคนนี้เป็นคนที่รวยมาก ในวันแรก ๆ ที่แฟนผมไปทำงานหัวหน้าคนนี้ก็ซื้อโทรศัพท์ให้แฟนผม ซื้อของให้หรู ๆ พาไปกินของแพง ๆ แถมยังใช้หนี้ให้แฟนผม ในใจผมก็คิดว่าดีเพราะหัวหน้าดูแลดี แต่บางเวลาก็ต้องอยู่กับหัวหน้าแบบสองต่อสอง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรผมเลยให้แฟนรายงานเวลาไปไหนมาไหนตามประสาแฟน แต่มันทำให้แฟนผมน้อยใจ เพราะก่อนหน้านี้แฟนผมเทคแคร์ เอาใจใส่ผม แต่ผมให้ความสำคัญกับมันน้อย แฟนผมจึงน้อยใจว่าตอนร้องขอทำไมไม่ได้บ้าง

            อยู่มาวันหนึ่งหัวหน้าของแฟนผมก็เมา แล้วสารภาพกับแฟนของผมว่าแอบชอบแฟนผม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าต่อจากนั้นเป็นยังไงเพราะแฟนผมก็เล่าให้ผมฟังแค่นี้ แต่เรื่องนี้ทำให้แฟนของผมรู้สึกอึกอัดว่าตัวแฟนเองก็มีผมและมีหัวหน้าที่มาสารภาพว่าชอบ บวกกับแฟนผมที่กำลังน้อยใจผมอยู่ก็เครียดขึ้นไปอีก ซึ่งเรื่องราวนี้พึ่งเกิดขึ้นได้แค่ 1 สัปดาห์ แฟนผมจึงเอาเรื่องนี้ไประบายกับหัวหน้า ซึ่งพอหลังจากที่แฟนผมไประบายกับหัวหน้าผมก็รู้สึกว่าทัศนคติแฟนผมเปลี่ยนไป และสนใจผมน้อยลง เช่นเวลาผมลงสตอรี่แล้วแท็กไป แฟนผมก็จะไม่สนใจเหมือนแต่ก่อน เวลาทักไปหาก็ถามคำตอบคำเหมือนไม่อยากคุยด้วย ทั้งที่แต่ก่อนแฟนผมจะเป็นคนที่ลงสตอรี่และแท็กมา แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ผมกังวลว่าแฟนผมจะทิ้งผมไปหาคนที่มีเงินมากกว่ารึเปล่า บวกกับเรื่องที่อยู่ไกลกัน และไม่ค่อยได้คุยกัน ผมเลยอยากให้พี่ ๆ ช่วยประเมินสถานการณ์ว่าต่อไปจะเป็นยังไง และมันจะแก้ไขตรงไหนได้บ้าง เพราะผมเองก็ไม่อยากเสียเค้าไป’

            โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สถานการณ์ของเอ็มตอนนี้ พี่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว มันก็คือสถานการณ์ของแฟนที่กำลังนอกใจ แล้วเวลาที่แฟนมีคนอื่น เค้าจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิม และเราในฐานะแฟนเราจะสัมผัสได้ว่าแฟนของเราไม่เหมือนเดิม มันเป็นสัญญาณ พี่ไม่สามารถพูดได้ว่าแฟนของเอ็มไปกับทางนู้นแล้ว 100% แต่มันเป็นสัญญาณของคนที่นอกใจคือเค้าจะเริ่มเป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็อยากให้เอ็มอยู่กับปัจจุบัน แล้วก็สังเกตเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเอ็มกับแฟนมันเป็นยังไง มันยังโอเคอยู่มั้ย ถ้าไม่โอเคต้องพูดคุยกัน แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่มีการพัฒนา หรือแฟนเอ็มกลับมาเป็นเหมือนเดิม เอ็มต้องทำใจค่ะ เราทำอะไรไม่ได้’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้ก็อย่าไปงอแงหรือเพิ่มปัญหา ถ้าแฟนเอ็มออกตัวมาว่าตอนนี้กำลังสับสนวุ่นวาย เราต้องเป็นคนใจเย็นให้เค้าถึงแม่ว่าในใจเราจะว้าวุ่น เราต้องทำให้เค้าอยากจะคุยอยากจะปรึกษากับเอ็มอยู่ แต่ถ้าเอ็มไปงี่เง่าเค้าจะยิ่งไป แต่ในกรณีที่ถ้าเค้าไปอยู่แล้ว มันก็จะทำให้เอ็มแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งพี่ว่าสถานการณ์นี้จะเป็นสถานการณ์ที่วัดคนเลย ถ้าเค้ากลับมาหาเอ็มก็อยากให้เอ็มรักษาคนนี้ไว้นาน ๆ แต่ถ้าเค้าไปก็นะได้รู้ส่าเค้าเป็นคนแบบนี้ เพราะระยะเวลาหนึ่งปีเรายังไม่รู้จักกันมากหรอกเอ็ม ถ้าเราเสียเค้าด้วยเรื่องนี้ไป ก็ถือว่าดีแล้วที่เสียคนแบบนี้ไป’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคำว่ารักแท้แพ้เงินมันก็มีอยู่จริง เราก็ต้องยอมรับว่าบางทีรักแท้มันกินไม่ได้ และเอ็มกับเค้าก็พึ่งเริ่มต้นยังไม่ถึงหนึ่งปี มันก็ไม่ได้บอกว่าเราจะต้องร่วมหัวจมท้ายเป็นคู่ชีวิตกันไปตลอด มันยังไม่ถึงวันนั้น เพราะฉะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ลองดูละครสิละครก็สร้างมาจากชีวิตจริง บางทีชีวิตจริงจริงก็แรงกว่าละครอีก ทั้งหลายทั้งมวลเป็นเป็นเหตุการณ์ที่พิสูจน์ว่าคน ๆ หนึ่งเค้าจะอยู่กับเรารึเปล่า เงื่อนไขมันมีแค่นี้เองว่าเค้าอยากจะอยู่กับเอ็มรึเปล่า ถ้าเค้ามีอะไรที่ทำให้ไขว้เขวแล้วคำตอบเค้าคือ “ฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่กับเอ็มไปตลอดนี่” มันก็ต้องแยกกันแค่นั้นเอง มันก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เอ็มเก็บเลเวลในเรื่องความรัก อดหักบ้างจะได้รู้ว่าความรู้สึกนี้เป็นยังไง ครั้งหน้าพี่เชื่อว่ามันจะแข็งแกร่งมากขึ้น แค่ต้องยอมรับความจริง พี่ว่ามันชัดตั้งแต่ให้เค้าใช้หนี้ให้แล้ว และเลือกที่จะระบายกับหัวหน้าไม่ใช่เอ็ม การที่เราจะเสียคน ๆ หนึ่งไปกับสถานการณ์แบบนี้มันก็เข้าใจได้ คนเรามันก็มีเหตุผลในการตัดสินใจคนละแบบ ณ วันที่ยังวัยรุ่นกันอยู่เค้าก็มีโอกาสที่จะได้เลือกได้ลองได้เจอกับชีวิตที่เค้าอาจจะไม่เคยเจอ เช่น ความหรูหราที่เข้ามา ได้เป็นแฟนซีอีโอ ซึ่งมันเข้าใจได้ ว่า ณ วันนี้เราอาจจะแพ้ แต่เราอาจจะไม่ได้แพ้ตลอด’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

19 เม.ย. 2024

จบลงด้วยดี ! เคสคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกที่ร้านดัง แต่รอเคลมสินค้า 6-7 เดือน ในราคา 3600 ดีเจต้นหอมยื่นมือเข้าช่วยประสานงาน ล่าสุดคุณแม่เผยในรายการ "ได้รับของใหม่แล้ว พร้อมกับเงินค่าของเล่นคืนด้วย" #ต้นหอมจอมพลัง

“คุณแม่เอ (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร ได้โทรมาอัพเดทเรื่อง จากกรณีที่ลูกชายตั้งใจเก็บเงินซื้อของเล่น แต่รู้สึกเหมือนโดนโกง พนักงานไม่รับผิดชอบ จนลูกไม่อยากเก็บเงินต่ออีกเลย ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อคืนวันพุธวันที่ 17 เมษายน 67 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร โดย “คุณแม่เอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ได้ของเล่นแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แล้วก็ได้เงินคืน หลังจากที่โทรเข้ามาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร วันรุ่งขึ้นดีเจต้นหอมก็ได้มีการโพสต์ในไอจี ทีแรกแม่ไม่ค่อยเล่นไอจี ส่วนจะใหญ่เล่น Facebook มากกว่า แต่เห็นในเพจ EFM station โพสต์ว่าดีเจต้นหอมทวงถามทางร้านของเล่นให้ แม่ก็เลยเปิดเข้าไอจีไปดู พอวันศุกร์ทางร้านของเล่นก็โทรมา เหมือนทางร้านได้คุยกับดีเจต้นหอมแล้ว ทางร้านก็โทรมาหาแม่ ตอนที่คุยโทรศัพท์จำไม่ได้ว่า เขาแนะนำว่าเป็นผู้จัดการสาขาหรือผู้จัดการ เขาก็ขอโทษ วันนั้นที่โทรเข้าหาทางรายการได้คุยกับดีเจทั้ง 3 คน ก็มีกำลังใจขึ้นมา พอมีกำลังใจขึ้นก็ฮึดสู้ขึ้นอีกรอบหนึ่ง แม่ก็เลยไปแจ้ง สคบ. แล้วก็ส่งข้อความไปทางเพจร้านของเล่นว่า “เราไปแจ้ง สคบ. มาแล้วนะ” เหมือนพนักงานไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ พอวันศุกร์ที่ผู้จัดการโทรมา แม่ก็มีอารมณ์นิดหน่อยก็เลยต่อว่าเขาไป มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผู้จัดการก็รับฟังโดยดีและขอโทษ ผู้จัดการก็รับปากว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าจะได้ของเล่นแน่นอน แต่ว่าเมื่อไหร่จะโทรมาแจ้งอีกที พอวันพุธเขาก็โทรมาแจ้งว่า “ของเข้าแล้วนะคะ สะดวกวันไหน เขาอยากมามอบให้ด้วยตัวเอง จะได้มาขอโทษด้วยตัวเอง” แม่ก็บอกว่าวันพฤหัสบดี บ่าย 2 หลังจากที่โทรมาในรายการพุธทอล์ค พุธโทร ก็ได้บอกกับลูกว่า “แม่โทรไปนะ” ลูกก็เขินอายนิดหน่อย แล้วลูกก็ไปเปิดฟังย้อนหลัง ลูกก็พูดกับเราว่า “ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้กดดันเรา เขาถามปกติว่าได้หรือยัง” ในใจลูกไม่ได้มีความรู้สึกว่ากดดันแม่หรืออะไร ลูกก็ไม่รู้ตัวว่าการที่ทำแบบนั้นจะทำให้แม่กดดัน ลูกก็ขอโทษ หลังจากที่ได้คุยกับทางผู้จัดการร้าน วันนั้นก็บอกกับลูกเลยว่า “เขาโทรมาแล้วนะ เขาคอนเฟิร์มว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าว่าได้แน่นอน” พอลูกได้ฟังตั้งแต่วินาทีนั้นลูกก็ดีใจมาก แล้วลูกก็เริ่มมีโครงการใหม่ อยากได้ตัวนู้นตัวนี้ เขาจะเก็บเงิน เขาก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที แต่รอบนี้ก็สัญญากัน คุยกันว่าเดี๋ยวเราจะไปดูที่สะพานเหล็ก ดูหลาย ๆ ร้าน แล้วแม่ก็จะช่วยดู เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก วันที่ไปรับของ พูดได้เลยว่าโอเคมาก จากที่ได้พูดคุยกับทางร้าน เขาขอโทษ ก็คือไม่ติดใจอะไร แล้วผู้จัดการก็อธิบายว่ามันเป็นของที่ส่งมาจากต่างประเทศ ต้องใช้เวลา แต่จริง ๆ ถ้าทางร้านของเล่นบอกแม่ว่าในกระบวนการนี้ มันเป็นแบบนี้ว่าต้องรอ แม่ก็รอได้ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ตอบ ไม่หือ ไม่อือ แต่ถ้าตอบว่ารอก่อน ก็แค่นี้ ผิดพลาดที่การสื่อสาร พอลูกเห็นกล่องก็คือดีใจมาก เป็นกล่องสีน้ำตาล ซึ่งเป็นต้นทางจากบริษัท ลูกชอบมาก ผู้จัดการเขาก็ขอโทษแม่ เขาก็เลยยื่นซองสีขาวให้ แล้วก็บอกว่า “พี่อยากช่วยเป็นกำลังใจให้น้องที่เก็บเงินซื้อ” คือแม่ไม่ได้อยากได้เงิน คือถ้าได้ของก็โอเคจบแค่นั้น แต่ก็รับมาและคิดกันว่า เงินส่วนหนึ่งอาจจะเอาไปให้น้อง ๆ ตามสถานสงเคราะห์ เพราะคุยกับลูก ลูกก็ไม่สบายใจที่จะรับเงินมาเพราะก็ได้ของเล่นแล้ว แม่ก็พูดว่า “เอางี้ไหมล่ะ หนูอยากทำบุญไหม เราก็อาจจะไปทำบุญตรงนั้นตรงนี้” ลูกก็โอเค สุดท้ายอยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ ทั้งทีมงานและดีเจทั้ง 3 คน โดยเฉพาะดีเจต้นหอม แล้วก็ชาวพุธโทรเรี่ยนทุกคน อยากขอบคุณจริง ๆ เพราะแม่ก็เป็นแฟนคลับรายการพุธทอล์ค พุธโทร มาตั้งแต่เรื่องคุณอั๋นที่เป็นมะเร็ง พอฟังแล้วรู้สึกว่ารายการนี้ดี ก็ฟังย้อนหลังแล้วก็ฟังมาตลอด ลูกก็อยากขอบคุณดีเจต้นหอมมาก ๆ แต่ลูกฝากขอบคุณ เพราะลูกไม่กล้าพูดเองเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

07 มิ.ย. 2024

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้วเราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิตย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา รู้สึกติดค้างไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย “คุณนิค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [5มิ.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรักที่ความรู้สึกยังค้างคา โดย “คุณนิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นเรื่องราวที่เราเคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งไปนานมากแล้ว ซึ่งเรื่องมันจบไปแล้วแต่เรายังรู้สึกผิดอยู่ เริ่มจากเราเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อนตั้งแต่ม.ปลาย เค้าเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนแล้วก็ค่อยมาคบกับเราที่เป็นทอม เวลาที่เค้าทะเลาะกับเพื่อนเราก็จะอยู่ข้าง ๆ เค้าตลอด เค้าก็มักจะบอกกับเราว่า “อย่าทิ้งเค้าไปไหนนะ” เพราะเราเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจให้กับเค้า จนจุดเปลี่ยนมันเกิดช่วงที่เราทั้งคู่เข้ามหาลัย เค้าสอบติดมหาลัยที่อยู่ต่างจังหวัด เราก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน แต่หลังจากนั้นได้ 2 อาทิตย์เค้าก็โทรมาบอกเลิกเราเลย ทั้งๆไม่มีสัญญาณอะไรและเราก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกเราคือเราขี้หึงเกินไป งี่เง่าเกินไป โทษความผิดให้กับเราหมดเลย เราเลยไปส่องเฟซบุ๊คของเค้า และสิ่งที่เราเจอคือเค้าโพสรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนคุยใหม่ของเค้า เราเลยโกรธเค้ามาก ไล่ลบรูปคู่ทั้งหมด บล็อกเค้าทุกช่องทาง แต่ด้วยความที่พี่สาวของเราเรียนที่มหาลัยเดียวกับเค้า เราเลยยังได้ทราบข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง หลังจากจบมหาวิทยาลัย แฟนเก่าเราประกาศแต่งงานทันที เราก็แอบรู้สึกช็อคนิดนึงแต่ก็รู้สึกว่ามันผ่านมานานมากแล้วทำไมถึงต้องไปคิดอีก แต่มันดันมีเรื่องบังเอิญที่ทำให้เราต้องไปเจอเค้าและภาพที่เราเห็นคือเค้ากำลังอุ้มลูกอยู่ เราตัวชา ทำตัวไม่ถูก เลยเลือกที่จะเดินสวนไป ผ่านไปสักพักเราก็ได้ยินข่าวคราวอีกทีคือเค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทั้งแม่และพี่สาวก็ไปให้กำลังใจเค้าและเหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายเค้าก็เสียชีวิต พอเราได้ยินแบบนั้นก็เหมือนโลกถล่ม สิ่งที่เราพยายามเกลียดเค้าหรือลืมเค้ามาโดยตลอดทำให้เราเสียศูนย์ไปเลย เราเลยขอแฟนคนปัจจุบันไปงานศพของเค้า และเราก็เสียใจที่คุยกับเค้าผ่านธูป และบอกกับตัวเองว่าทำไมเราไม่ทักไปคุยกับเค้า ทำไมเราถึงใจร้ายกับเค้า เราเลยกลับไปดูในเฟสบุ๊คคือเค้าไม่เคยลบรูปคู่กับเราเลย มันเลยยิ่งทำให้เราคิดว่าทำไมมีแต่เราที่มีทิฐิ และโกรธเค้าอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้เราต้องไปปรึกษาจิตแพทย์และกินยา แต่เมื่อไหร่ที่นึกถึงเค้าเราก็จะร้องไห้ตลอด เลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่าเราผิดมั้ยที่ตอนเลิกกันเราบล็อกเค้าทุกช่องทาง และถ้าอยากเลิกคิดเรื่องนี้พี่ช่วยแนะนำมุมมองใหม่ให้ได้มั้ยคะเพราะเราจมปลักกับตรงนี้มานานมาเกินครึ่งปีแล้ว’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณนิคไม่ผิดที่บล็อกเค้าเพราะเค้าบอกเลิกเรา จริง ๆ สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้เค้าวางแผนมาแล้วว่าจะเลิก กะว่าไปถึงอีกจังหวัดเค้าจะหาวิธีบอกเลิก หรือเค้าอาจจะไปแล้วไปเจอใครที่นู้นภายใน 2 อาทิตย์ สำหรับหอมมันก็คือการนอกใจ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องเสียดาย เป็นหอมหอมก็ไม่ทักหา อาจจะใช้เวลาไปสักพักถึงจะให้อภัย ฉะนั้นตรงนี้ไม่ผิดอยู่แล้วเพราะเลิกกันไม่ดี ส่วนรื่องเปลี่ยนมุมมอง หอมว่าเราไม่ใช่หมอดู ไม่มีใครรู้อนาคตว่าใครจะต้องไปเจออะไร แล้วสัจธรรมของชีวิตคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติมาก ไม่วันหนึ่งคุณนิคไปเค้าก็ไป มันไม่ใช่ความผิดเรา สิ่งที่เราทำมันก็ถูกต้องแล้วคือต่างคนต่างใช้ชีวิตเพราะเลิกกันไปแล้ว นิคอาจจะรู้สึกเสียดายที่น่าจะให้อภัยและคุยกับเค้าเพราะนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง หอมคิดว่ามันเป็นความเสียดายมากกว่าที่คุณนิคจะเก็บมาโทษตัวเองว่าเราทำผิดทำไมเราไม่คุยกับเธอ มันไม่ใช่แค่คุณนิคอย่างเดียว เค้าอยากคุยกับเรารึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ แล้วที่บอกว่าไลน์เด้งมาหาเราก็มีคนให้ข้อสันนิฐานว่า จริง ๆ เค้าอาจจะไม่ได้แอดเรามา แต่ถ้ามีเบอร์เราไลน์มันก็จะเด้งอัตโนมัติเวลาที่เค้าเปลี่ยนมือถือ และในเมื่อเค้าเป็นคนทิ้งเราก่อนเราก็ไม่ผิดที่เราทักเค้าไป แล้วการที่คุณนิครู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และวันที่เค้าเสียชีวิตแล้วคุณนิคจะไปอโหสิกรรมอันนี้ก็เปนเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเค้าจะเจออะไร เค้าจะจากเราไปตอนไหน ถ้าคุณนิครู้สึกว่านี่เป็นบทเรียนและไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีก วันนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ คุณนิค คุณนิคก็ต้องทำดีกับเค้าเช่น แฟนใหม่ที่เราคบ ถ้าวันหนึ่งเค้าเป็นอะไรขึ้นมาเราจะเสียดายอะไรที่เรายังไม่ได้ทำบ้าง ให้ทำกับคนนี้หรือทำกับคนรอบข้างเหมือนจะจากกันตลอดเวลา เพราะงั้นทำตีต่อกันกับคนที่ยังเหลืออยู่ อันนี้หอมว่าดีกว่า และเลิกคิดถึงคนที่จากไปแล้วและไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะเค้าไปแล้วและไม่รับรู้อะไรแล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ใกล้เคียงกับหอม เพราะพี่ก็ถามว่าว่าทำไมนิคคิดว่าตัวเองผิด แต่ด้วยจังหวะของการเลิกกันมันอาจจะกระทันหัน ซึ่งการเลิกกันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับคู่อื่น ๆ คนเรามีการบอกบอกเลิกหรือวิธีหยุดความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หายไปเลย บางคนก็มานั่งคุย อันนี้ก็แล้วแต่คู่ แล้วพอเลิกกันไปผมมองว่าต่างคนต่างวางตัวกันดี เอาจริงคุณนิคก็ไม่ควรทักไปอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีสาเหตุที่ต้องคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าหรืออะไรก็ตาม ยิ่งทักคุยกันอาจจะยิ่งเป็นปัญหากับความสัมพันธ์ปัจจุบันของแฟนเค้าซะมากกว่า ผมว่าต่างฝ่ายต่างทำถูกแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน และสุดท้ายคนที่จะติดค้างเรื่องคำขอโทษก็น่าจะเป็นฝ่ายเค้ามากกว่า ผมมองว่าทุกอย่างดำเนินไปตามปกติที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีความผิดอะไรจากคุณนิคเลย ในเรื่องของมุมมองคุณนิคต้องล้างความคิดว่าตัวเองผิดก่อน ผมไม่เห็นว่าคุนนิคจะต้องมีอะไรที่ติดค้างหรือรู้สึกผิด เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไปมีชีวิต คนที่เลิกกันแล้วบางทีก็ไม่เหมาะไม่ควรที่เราจะคบหากันต่อ แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามมันต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาเป็นแฟน มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ย้อนกลับไปไม่ได้ พอเลิกกันก็ต้องทำใจว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันจะไม่กลับมา และทุกอย่างี่เกิดขึ้นมาผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติทุกอย่าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะเสนอมุมมองที่ต่างพี่เผือกพี่หอมนิดนึง เท่าที่พี่ฟังมาพี่รู้สึกเสียดายชีวิตคุณนิคมากเลย พี่รู้สึกว่า 9 ปีตั้งแต่เลิกกับเค้าคุณนิคไม่ได้ไปไหนเลย อย่างตอนที่เจอเค้าอุ้มลูกแล้วคุณนิคหนี ถ้าเป็นคนที่มูฟออนแล้วพี่ว่าเค้าคงเดินไปถามสารทุกข์สุขดิบ แต่สำหรับเติ้ลมองว่าเหมือนคุณนิคยังอยากได้เค้าเป็นแฟน ยังเฝ้าดูชีวิตเค้าตลอด เรื่องของเค้ายังเข้ามากระทบจิตใจคุณนิคตลอด แล้วสุดท้ายคนที่ไม่ไปไหนก็คือตัวคุณนิค แต่วันนี้เค้าเสียไปแล้วแต่คุณนิคเองที่ยังไม่ไปไหน ซึ่งทำให้เติ้ลเสียดายเวลาที่คุณนิคจะไปมีความสุขกับตัวเอง ถ้าคุณนิคยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิด ก็โปรดให้อภัยตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อยากผ่านช่วงเวลาอ่อนแอและเสียใจนี้ไปไวๆ ทุกคนมีวิธีการ หรือ วิธีคิดยังไงในการฮีลตัวเองคะ ? หนูเลี้ยงน้องหมา โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 15 ปี เค้าเหมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวเลย

02 ก.พ. 2024

อยากผ่านช่วงเวลาอ่อนแอและเสียใจนี้ไปไวๆ ทุกคนมีวิธีการ หรือ วิธีคิดยังไงในการฮีลตัวเองคะ ? หนูเลี้ยงน้องหมา โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 15 ปี เค้าเหมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวเลย

อยากผ่านช่วงเวลาอ่อนแอและเสียใจนี้ไปไวๆ ทุกคนมีวิธีการ หรือ วิธีคิดยังไงในการฮีลตัวเองคะ ?หนูเลี้ยงน้องหมา โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 15 ปี เค้าเหมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวเลยแต่อาทิตย์ก่อนน้องเพิ่งจากไปด้วยอุบัติเหตุที่มาจากความประมาทของคนอื่น เสียใจที่สุดเลยค่ะ “คุณบี (นามสมมุติ)” อายุ 26 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [31 ม.ค. 67] ได้โทรมาขอกำลังใจ ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับน้องหมาที่เพิ่งเสียชีวิตไป โดย “คุณบี (นามสมมุติ)” เริ่มเล่าว่า ‘หนูเพิ่งสูญเสียน้องหมาที่อยู่ด้วยกันมา 15 ปีจากอุบัติเหตุ น้องหมาอยู่กับหนูมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งผ่านมาอาทิตย์นึงเอง ครั้งนี้เหมือนหนูสูญเสียคนสำคัญของหนูครั้งแรกในชีวิตเลย หนูอยากจะขอกำลังใจจากพี่ทั้ง 3 คน นอกจากกำลังใจที่หนูอยากได้ ความเสียใจมันมีอยู่แล้วเพราะด้วยความที่น้องอยู่กับหนูมานาน น้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ เลยทำให้อีกความรู้สึกนึงที่มันเกิดขึ้นในใจหนูคือ ความโกรธ ความโมโห คนที่มันทำ มันทำให้หนูย้ำคิดย้ำทำ ปล่อยว่างไม่ได้ ว่าเราจะโกรธเขาตลอดเวลาเลย’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้กำลังใจว่า ‘การจากไปด้วยอุบัติเหตุ เป็นอะไรที่สถานการณ์ยากลำบากที่สุด เพราะว่าเราไม่มีเวลาเตรียมตัว ให้นึกถึงว่า ไม่ช้าก็เร็ว เราทุกคนก็ต้องจากกัน จะจากเป็นหรือจากตายมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ถึงเวลานั้นเราต้องเข้มแข็ง เวลาของความเสียใจมันใช้เวลา ยิ่งผูกพันมาก ๆ พี่ก็ใช้เวลาเป็นปี เป็นเรื่องที่ทำใจค่อนข้างยาก ให้เวลาเยียวยา จะไม่บอกว่าอย่าเสียใจนะ ยังไงมันก็เสียใจอยู่แล้ว ถือว่าที่โทรมาในพุธทอล์ควันนี้ พวกพี่กำลังกอดอยู่แล้วกัน เป็นกำลังใจให้นะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้กำลังใจว่า ‘พี่อยากบอกน้องบีว่า น่าอิจฉามากเลย หนูเหมือนมีพี่ชายที่รักหนูมากแล้วอยู่กับหนูมา 15 ปี บางคนเขาอาจจะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ในชีวิตเลยก็ได้ เขาแค่นำไปอยู่ดาวหมาก่อน เดี๋ยววันนึงมันก็เป็นคิวของพวกเราเอง แล้ววันนั้นเราก็จะไปเจอกับเขาบนดาวดวงนั้น แต่ว่าถ้าคิดถึง พี่ว่ามองอะไรที่นึกถึงแล้วทำให้ยิ้ม นึกถึงภาพที่อยู่กับเขา โตมากับเขาหรืออื่น ๆ ให้มีความสุขแล้วก็คิดว่าสักวันหนึ่งเราก็จะไปเจอกับเขาบนนั้น เป็นกำลังใจให้นะ... สำหรับพี่ ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันหมด มันเหมือนถูกวางไว้แล้ว เหมือนว่าการที่เราต้องซวยเจอเรื่องแบบนี้ เพราะว่าถ้าคนนี้ไม่มาจังหวะนี้ มันก็จะไม่มาชนน้องหมาของเรา แต่พี่รู้สึกว่าทุกอย่างเหมือนเราเลี่ยงไม่ได้เลย โดยเฉพาะมันเป็นอุบัติเหตุ เราไม่ใช่คนบนฟ้าที่มองลงมาแล้วเห็นว่า ถ้าเราไม่ออกไปตอนนี้ เราจะเจอใครอะไรแบบนี้ มันเป็นอุบัติเหตุตามชื่อของมัน เราไม่สามารถควบคุมมันได้ พี่ว่าต้องยอมรับแล้วก็เข้าใจมัน การที่เราไปผูกใจเจ็บ มันจะทำให้ตัวเราเองนั่นแหละจะเจ็บไปต่อเรื่อย ๆ และก็ไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่ ถ้าพี่ตอบเร็ว ๆ แบบนี้นะ น้องหมาเขาเสียไปแล้ว เสียเพราะคนใจร้าย แต่สุดท้ายเขาโชคดีมาก ๆ ที่ได้เจอคุณ ก่อนที่เขาจะจากไป การผูกใจเจ็บมันทำให้หนูไม่มีความสุข และถ้าน้องหมาเขามองลงมา เขาเห็นบีไม่มีความสุขเขาก็ไม่มีความสุข เพราะตอนนี้เขาอยู่กับหนูไม่ได้อีกแล้ว นึกถึงแต่เรื่องดี ๆ ไว้ดีกว่า สำหรับพี่นะ’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้กำลังใจว่า ‘ยอมรับก่อนว่าพี่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงแบบอยู่ด้วยกันยาว ๆ แต่ 15 ปี ที่อยู่ด้วยกันพี่ว่าก็คงไม่ต่างอะไรกับเราเสียคนในครอบครัวคนนึงไป สิ่งนึงที่พี่คุยกับลูกชายของพี่ 4 ขวบ เมื่อมีการศูนย์เสียเกิดขึ้นคือ เขาจะย้ายไปอยู่ในสมองของเรานะ คนที่จากไปเราจะเจอกับเขาได้แค่เราหลับตา เขาจะมาอยู่ในสมองของเรา จดจำเขาไว้ในความทรงจำของเรา อย่าลืมเขาแค่นั้น เขาจะอยู่กับเราไปตลอด พี่รู้สึกว่า คนเรามันมีอายุไข ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้วันนึงเราก็ต้องจากกัน พอวันนี้มันเกิดเหตุนี้ขึ้นมา มันกะทันหัน มันทำใจยาก มันทำให้บีเกิดความโกรธ ซึ่งถ้าเป็นพี่ก็คงโกรธมาก ๆ แต่มันเป็นเรื่องปกติที่เราโกรธ ถ้ามันเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก ความประมาทจากบุคคลที่ 3 มันยิ่งทำให้เราโกรธ แต่หลังจากความโกรธนั้นสิ่งที่จะทำร้ายจริง ๆ คือทำร้ายเรา น้องไปแล้วคนที่เขาทำเขาอาจจะแคร์หรือไม่แคร์ก็ไม่รู้ แต่คนที่ยังรับความโกรธ ความโมโหอยู่ข้างใน คนที่โดนทำร้ายแน่ๆ คือเรา สุขภาพจิตเสีย พอเราอยู่กับความเครียด ความโกรธ ความเศร้ามาก ๆ เคมีในสมองก็จะหลั่งออกมาอีกแบบนึง สุดท้ายแล้วมันจะกระทบกับร่างกายเรา คนที่รับผลกระทบคือเรา เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะไปจมกับความโกรธ พี่ก็เลยเลือกที่จะให้อภัย ถ้าวันนั้นคนนั้นเลือกที่จะหยุดเวลาสั้น ๆ ได้ก็คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น สุดท้ายมันก็กลับมาที่ประโยคที่ว่าต้องใช้เวลา จนกว่าเราจะเห็นด้วยกับประโยคนี้ได้จริง ๆ ว่า เขาคงไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอก’ พี่ ๆ ดีเจทั้ง3 คนเพิ่มเติมว่า ‘15 ปี คิดถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมา 15 ปี บีคิดว่า 15 ปี มันต้องใช้เวลาทำใจเท่าไหร่ อาจจะต้องให้เวลามันหน่อย ช่วงนี้ก็เศร้าได้แค่เรารู้ตัวว่าก็เศร้า ไม่เป็นไรหรอกให้เวลา ให้ร่างกาย ให้ชีวิตเราเจอกับความเศร้า ในมุมของผู้ใหญ่ที่อายุ 40 กว่า คิดว่า อันนี้ก็ฝึกบีนะ เพราะเดี๋ยวบีก็ต้องเจอการศูนย์เสียอีกเต็มไปหมด อันนี้เหมือนเป็นเคสนึง ว่าบีจะผ่านไปได้เท่าไหร่ ต้องยอมรับว่า ไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ จะช้าจะเร็วเดี๋ยวมันต้องมาแน่ ๆ บีต้องเจอพวกพี่ทุกคนก็ต้องเจอหมด แต่เราจะอยู่อย่างไรให้มีชีวิตอยู่ต่อได้จากการศูนย์เสียคนที่รักไป ให้เวลาเยียวยา’ ก่อนวางสายไป “คุณบี(นามสมมุติ)” ขอฝากถึงแฟนๆ รายการ พุธทอล์ค พุธโทร ว่า ‘บางคนอาจจะบอกว่า แค่หมาตัวนึง ทำไมจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่หนูอยากบอกว่า ทุกชีวิตมันมีค่าเท่ากัน แค่หมาตัวนึงของคุณแต่ว่าเขาคือโลกทั้งใบหรือคนในครอบครัวของเราเลย หนูอยากให้ทุกคนเลิกมองว่าชีวิตคนกับชีวิตสัตว์มันมีค่าไม่เท่ากันสักที’ สุดท้ายนี้พี่ ๆ ดีเจทั้ง 3 คน ให้กำลังใจกอด “คุณบี(นามสมมุติ)” แน่น ๆ น้าาาเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://www.youtube.com/watch?v=SZ-XdtFvSHUt=646sใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เจตนายังไงกันแน่? สาวโทรปรึกษา อัดอัดใจมากตอนนี้ คบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว แต่แฟนเก่าเค้ายังเข้าออกบ้านแฟน ทุกคนในบ้าน WELCOME ต้อนรับ ทักทายตลอด จนเราเป็นฝ่าย เข้าไปหลบในห้อง เพราะไม่อยากเจอ... ไม่ได้รบกวนกาย แต่มันกวนใจ

02 ต.ค. 2023

เจตนายังไงกันแน่? สาวโทรปรึกษา อัดอัดใจมากตอนนี้ คบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว แต่แฟนเก่าเค้ายังเข้าออกบ้านแฟน ทุกคนในบ้าน WELCOME ต้อนรับ ทักทายตลอด จนเราเป็นฝ่าย เข้าไปหลบในห้อง เพราะไม่อยากเจอ... ไม่ได้รบกวนกาย แต่มันกวนใจ

เจตนายังไงกันแน่? สาวโทรปรึกษา อัดอัดใจมากตอนนี้คบกับแฟนมา 2 ปีแล้ว แต่แฟนเก่าเค้ายังเข้าออกบ้านแฟนทุกคนในบ้าน WELCOME ต้อนรับ ทักทายตลอด จนเราเป็นฝ่ายเข้าไปหลบในห้อง เพราะไม่อยากเจอ... ไม่ได้รบกวนกาย แต่มันกวนใจจนเกิดคำถามในหัวว่า ‘จะมาเพื่อ??’ หนูจะรับมือเรื่องนี้ยังไงดี... “คุณโอ (นามสมมุติ)” อายุ 21 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (27 ก.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหาแฟนเก่ามาที่บ้านแฟนเรา แต่คนในครอบครัวก็ต้อนรับอย่างดี จนเรารู้สึกอึดอัด โดย “คุณโอ (นามสมมุติ)” ได้เริ่มเล่าว่า ‘หนูมีปัญหากับแฟนคนเก่าของแฟนหนู เขายังมาบ้านแฟนหนูอยู่เรื่อย ๆแล้วทางบ้านแฟนก็ยังต้อนรับกันเป็นอย่างดี ปกติหนูไม่ได้อยู่ที่บ้านแฟนทุกวัน ตัวหนูจะไปบ้านแฟนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วเวลาที่เขามาก็มักจะเป็นวันที่หนูอยู่ เขาก็จะเดินเปิดประตูเข้ามา ยิ้มร่าเริง ยกมือไหว้ทุกคน แล้วทุกคนในบ้านก็จะถามไถ่เป็นยังไงบ้าง มาได้ยังไง ตัวหนูเองกับเขาก็เคยเห็นหน้ากันแต่ไม่เคยทักหรือคุยกัน ส่วนกับแฟนหนู เขาก็ไม่ทัก ไม่คุยกันเพราะแฟนหนูเค้ารู้ว่าหนูไม่โอเค หนูก็อดคิดไม่ได้มันก็เกิดคำถามอยู่ตลอดว่า ‘มาทำไม’ ส่วนความสัมพันธ์ของหนูกับพ่อแม่แฟนก็ดีนะคะ โอเคเลยเหมือนกับว่าลูกเค้ามีแฟนใหม่แล้ว ก็ต้อนรับหนูที่เป็นแฟนใหม่เป็นอย่างดีเลยเหมือนกัน คือถ้าไม่มีเรื่องแฟนเก่าเกิดขึ้น ก็คือปกติไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย หนูก็พยายามเข้าใจนะว่าในมุมผู้ใหญ่เค้าคงมองว่าเป็นลูกหลานอีกคนนึง หนูขอเล่าย้อนไปตอนที่เค้ายังคบกันคือเค้าคบกันมาประมาณ 3 ปี ตอนที่เค้าคบกันแฟนเก่าก็ย้ายมาอยู่บ้านแฟนหนูถาวร บางทีที่เขามาที่บ้าน แฟนหนูก็จะออกไปบ้าง ไม่ออกบ้าง แต่เวลาออกไปคือไปทำกับข้าว ไม่ได้สนใจ แล้วตัวแฟนหนูก็คุยกับหนูว่า ‘เธอปล่อยให้มันเป็นอากาศไปเลยได้ไหม ไม่ต้องไปสนใจมัน’ แต่หนูพูดตรง ๆนะหนูทำไม่ได้ หนูเป็นแฟนใหม่นะ หนูอยู่ตรงนั้น แล้วหนูเป็นคนที่แสดงสีหน้าชัดเจนมาก พร้อมบวกตลอดเวลา แต่หนูเองก็ไม่ได้อยากทำให้เค้าเสียบรรยากาศกัน พวกน้า ๆ เค้าจะมีนั่งสังสรรค์กัน กลายเป็นว่าต้องมานั่งหยุมหยิมกันเรื่องเด็ก หนูก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ เลยตัดปัญหาที่เวลาเขามาหนูไม่ออกไป นั่งอยู่ในห้องดีกว่า หนูไม่รู้ว่าจะออกไปทำไมด้วย เพราะออกไป เขาก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้น แต่มันก็มีความรู้สึกที่เกิดขึ้นเอง เหมือนหนูรู้สึกว่าหนูเป็นคนนอกหรือเปล่า ระยะเวลาที่เขามาที่บ้านก็เฉลี่ย ๆ ประมาณ 2 เดือนครั้ง แม้เลิกกันไปแล้ว 2 ปีกว่าแล้วนะ อีกอย่างเขาก็เป็นฝ่ายบอกเลิกแฟนหนูด้วย อย่างในช่วงแรก ๆที่เขามาที่บ้านมันมีเหตุให้ต้องมาอย่างงานบวช งานศพ หนูก็รู้ว่าส่วนนี้หนูห้ามเขาไม่ได้เพราะเขาก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวนี้ไปแล้ว แต่หลัง ๆเวลาที่เขามาด้วยความที่บ้านนี้ มีเด็ก ๆเยอะด้วยอายุก็ไล่ ๆกัน 17-18 พวกเด็ก ๆกับเขาก็จะเล่นเกมด้วยกันสนิทสนมกันมากกว่าหนู หนูรู้นะว่าเขาก็มีบ้านเขา แต่ว่าไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ ในบางมุมหนูก็เห็นใจเขา แต่บางมุมมันก็อดคิดไม่ได้ว่า ก็เลิกไปแล้วไง วันนี้หนูเลยอยากปรึกษาว่าหนูต้องทำยังไง หรือหนูควรไปพูดกับเขาตรง ๆเลยไหม “ดีเจต้นหอม” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่ พี่จะไม่ร้าย เพราะเราดูที่คนของเรา เค้าไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์หรืออะไร คือการที่เขามาบ้านแล้วเราดูแล้วว่าเค้าสนิทกัน แล้วเราก็มาที่หลังด้วย มันมีเหตุการณ์เกิดก่อนที่เราจะมา เราดูแค่คนกลางก็พอ ถ้าคนกลางไม่ไปยุ่ง แปลว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ต้องระแวงหรือไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องร้าย แล้วการที่เราจะไปร้ายในบ้านแฟน ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และพี่ว่าเราต้องไม่เอาตัวเองไปเทียบกับเขาอะ เราไม่ได้อยู่ในจุดที่เราต้องแย่งชิง เพราะว่าคนกลางอยู่กับเรา เขาก็มีคนใหม่ แล้วถ้าสวย ๆเลยเดินเจอกันก็ทัก คือให้รู้ไปเลยว่าเขาไม่ใช่สิ่งที่เราต้องกังวล ไม่ต้องไปหาเรื่อง เพราะรู้สึกว่าเราอาจจะได้เพื่อนเพิ่มก็ได้ ซึ่งเขาอาจจะน่ารักก็ได้นะ เพราะส่วนของเขากับแฟนเรามันจบไปแล้ว แต่เข้าใจมันเป็นที่วัยด้วยว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้ มันมีเงื่อนไข แต่เวลาที่เจอกันแล้วเราต้องหลบ มันรู้สึกอึดอัด ใช้ชีวิตสบาย ๆดีกว่าไม่ต้องหลบเพียงแต่แฟนเราห้ามคุยนะ” ต่อมาที่ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า “เอาความจริงก็เข้าใจได้ ถ้าคนที่เป็นแฟนเก่า แล้วรู้สึกไม่อยากมีปัญหาเค้าก็จะไม่ปรากฎตัวหรอก แต่ในเมื่อคนเนี่ยไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่าเขามาแบบบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มาระราน ที่มาก็เพราะความเคยชิน และยังคิดไม่ได้ว่าเอ้ยเราเป็นแฟนเก่าไม่ควรไปอยู่ในพื้นที่ของแฟนใหม่ ซึ่งพี่รู้สึกว่าถ้าแฟนเราไม่ได้ไปรู้สึกอะไรกับเขา แสดงว่าแฟนเราไม่ได้อะไรจริง ๆแต่โอก็ต้องเข้าใจว่าเขาสนิทกับคนในพื้นที่นั้นมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ต้องไปสนใจ ใช้ชีวิตตามปกติไม่ต้องหลบ เขามาในฐานะแขกคนนึง เราอยู่แบบสันติของเรา ยิ่งเราอยู่ตรงนั้นให้รู้ว่ามีเราอยู่นะเขาเห็นเรา อาจจะทำให้เขามาที่บ้านน้อยลงก็ได้นะ เมื่อเราอยู่กับแฟนเรา ถึงวันนั้นสภาวะความที่เขารู้สึกไม่สบายตัว เขาก็คิดได้เอง ” ปิดจบกันที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า “เห็นด้วยกับทั้งสองคนเลย โอฟังพี่เติ้ลพี่หอมแนะนำซ้ำ ๆเลยนะเราเป็นเจ้าถิ่น เจ้าบ้าน นิ่ง สยบความเคลื่อนไหว ให้เอาบารมีความเป็นสะใภ้คนใหม่ ขวัญใจคนใหม่ ผู้ซึ่งน่ารักใจกว้าง ต้อนรับแฟนเก่าอย่างดี จนเขาเกรงใจไปเอง มันต้องอย่างงั้น พี่หอมพูดถูกว่ามันคือชั้นเชิงยิ่งเราดีกับเขามากเท่าไหร่ ในแบบที่ยังรู้สึกได้บาง ๆว่าก็ไม่ได้ชอบสักเท่าไหร่ แล้วเดี๋ยวเขาจะไปเอง แล้วพ่อแม่จะรู้สึกว่าโอมันก็น่ารักเนอะ อย่าไปแบบเป็นตัวร้าย ตื้น ๆเปิดประตูออกมาจ้อง สะบัดหน้าคือชั้นเชิงหนูมันตื้นเขินเกินไป จากนางเอกหนูจะกลายเป็นตัวอิจฉาทันที แล้วเขาจะเป็นนางเอก ตอนนี้มุมนางเอกคือ 2 ปีแล้วแหละคงไม่มีใครคิดอะไรแล้วแหละ โต ๆกันแล้วแหละ เราก็ไปเยี่ยมผู้ใหญ่ได้ เขาอาจจะคิดแบบพี่แอฟ ทักษอรก็ได้นะตอนนี้ด้วยความใสเลย ตัวเขาก็มีแฟนใหม่แล้วด้วย ใครคิดอะไรก็บ้าแล้ว ไปสวัสดีพ่อแม่หน่อยคงไม่อะไรหรอกมั้ง ตอนนี้กลายเป็นโอเป็นตัวอิจฉาเลยนะ แล้วแฟนเราก็ประพฤติตัวดีด้วย ดังนั้นนิ่งไว้ลูก อย่าไปร้ายมากเก็บมันไว้กดความร้ายมันไว้”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1