ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แฟนผมเขาลำบากมาก่อน จนตอนนี้ได้งานเป็นเลขา ไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานได้ 2 อาทิตย์ หัวหน้าผู้ชายซื้อของแบรนด์เนมให้ ปลดหนี้ให้หลักแสน ล่าสุด หัวหน้าแฟนผมเมาสารภาพรักกับแฟนผม ตอนนี้ผมกลัวมากว่าเค้าจะใช้เงินซื้อแฟนไปจากผม...

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แฟนผมเขาลำบากมาก่อน จนตอนนี้ได้งานเป็นเลขา ไปทำงานต่างจังหวัด ทำงานได้ 2 อาทิตย์ หัวหน้าผู้ชายซื้อของแบรนด์เนมให้ ปลดหนี้ให้หลักแสน ล่าสุด หัวหน้าแฟนผมเมาสารภาพรักกับแฟนผม ตอนนี้ผมกลัวมากว่าเค้าจะใช้เงินซื้อแฟนไปจากผม...

05 ก.ค. 2024

              “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [3 ก.ค.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องแฟนที่ลังเลในความสัมพันธ์ระหว่างเราหลังจากที่หัวหน้ามาสารภาพรัก

            โดย “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ปัญหาของผมตอนนี้ คือแฟนผมต้องไปทำงานที่อยู่ไกลกัน ซึ่งตำแหน่งงานของแฟนผม คือเลขา เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องตัวติดกับหัวหน้า 24 ชั่วโมง ทำให้ผมและเค้ามีเวลาติดต่อกันน้อย โดยหัวหน้าคนนี้เป็นคนที่รวยมาก ในวันแรก ๆ ที่แฟนผมไปทำงานหัวหน้าคนนี้ก็ซื้อโทรศัพท์ให้แฟนผม ซื้อของให้หรู ๆ พาไปกินของแพง ๆ แถมยังใช้หนี้ให้แฟนผม ในใจผมก็คิดว่าดีเพราะหัวหน้าดูแลดี แต่บางเวลาก็ต้องอยู่กับหัวหน้าแบบสองต่อสอง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรผมเลยให้แฟนรายงานเวลาไปไหนมาไหนตามประสาแฟน แต่มันทำให้แฟนผมน้อยใจ เพราะก่อนหน้านี้แฟนผมเทคแคร์ เอาใจใส่ผม แต่ผมให้ความสำคัญกับมันน้อย แฟนผมจึงน้อยใจว่าตอนร้องขอทำไมไม่ได้บ้าง

            อยู่มาวันหนึ่งหัวหน้าของแฟนผมก็เมา แล้วสารภาพกับแฟนของผมว่าแอบชอบแฟนผม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าต่อจากนั้นเป็นยังไงเพราะแฟนผมก็เล่าให้ผมฟังแค่นี้ แต่เรื่องนี้ทำให้แฟนของผมรู้สึกอึกอัดว่าตัวแฟนเองก็มีผมและมีหัวหน้าที่มาสารภาพว่าชอบ บวกกับแฟนผมที่กำลังน้อยใจผมอยู่ก็เครียดขึ้นไปอีก ซึ่งเรื่องราวนี้พึ่งเกิดขึ้นได้แค่ 1 สัปดาห์ แฟนผมจึงเอาเรื่องนี้ไประบายกับหัวหน้า ซึ่งพอหลังจากที่แฟนผมไประบายกับหัวหน้าผมก็รู้สึกว่าทัศนคติแฟนผมเปลี่ยนไป และสนใจผมน้อยลง เช่นเวลาผมลงสตอรี่แล้วแท็กไป แฟนผมก็จะไม่สนใจเหมือนแต่ก่อน เวลาทักไปหาก็ถามคำตอบคำเหมือนไม่อยากคุยด้วย ทั้งที่แต่ก่อนแฟนผมจะเป็นคนที่ลงสตอรี่และแท็กมา แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ผมกังวลว่าแฟนผมจะทิ้งผมไปหาคนที่มีเงินมากกว่ารึเปล่า บวกกับเรื่องที่อยู่ไกลกัน และไม่ค่อยได้คุยกัน ผมเลยอยากให้พี่ ๆ ช่วยประเมินสถานการณ์ว่าต่อไปจะเป็นยังไง และมันจะแก้ไขตรงไหนได้บ้าง เพราะผมเองก็ไม่อยากเสียเค้าไป’

            โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สถานการณ์ของเอ็มตอนนี้ พี่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว มันก็คือสถานการณ์ของแฟนที่กำลังนอกใจ แล้วเวลาที่แฟนมีคนอื่น เค้าจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิม และเราในฐานะแฟนเราจะสัมผัสได้ว่าแฟนของเราไม่เหมือนเดิม มันเป็นสัญญาณ พี่ไม่สามารถพูดได้ว่าแฟนของเอ็มไปกับทางนู้นแล้ว 100% แต่มันเป็นสัญญาณของคนที่นอกใจคือเค้าจะเริ่มเป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็อยากให้เอ็มอยู่กับปัจจุบัน แล้วก็สังเกตเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเอ็มกับแฟนมันเป็นยังไง มันยังโอเคอยู่มั้ย ถ้าไม่โอเคต้องพูดคุยกัน แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่มีการพัฒนา หรือแฟนเอ็มกลับมาเป็นเหมือนเดิม เอ็มต้องทำใจค่ะ เราทำอะไรไม่ได้’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ตอนนี้ก็อย่าไปงอแงหรือเพิ่มปัญหา ถ้าแฟนเอ็มออกตัวมาว่าตอนนี้กำลังสับสนวุ่นวาย เราต้องเป็นคนใจเย็นให้เค้าถึงแม่ว่าในใจเราจะว้าวุ่น เราต้องทำให้เค้าอยากจะคุยอยากจะปรึกษากับเอ็มอยู่ แต่ถ้าเอ็มไปงี่เง่าเค้าจะยิ่งไป แต่ในกรณีที่ถ้าเค้าไปอยู่แล้ว มันก็จะทำให้เอ็มแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งพี่ว่าสถานการณ์นี้จะเป็นสถานการณ์ที่วัดคนเลย ถ้าเค้ากลับมาหาเอ็มก็อยากให้เอ็มรักษาคนนี้ไว้นาน ๆ แต่ถ้าเค้าไปก็นะได้รู้ส่าเค้าเป็นคนแบบนี้ เพราะระยะเวลาหนึ่งปีเรายังไม่รู้จักกันมากหรอกเอ็ม ถ้าเราเสียเค้าด้วยเรื่องนี้ไป ก็ถือว่าดีแล้วที่เสียคนแบบนี้ไป’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคำว่ารักแท้แพ้เงินมันก็มีอยู่จริง เราก็ต้องยอมรับว่าบางทีรักแท้มันกินไม่ได้ และเอ็มกับเค้าก็พึ่งเริ่มต้นยังไม่ถึงหนึ่งปี มันก็ไม่ได้บอกว่าเราจะต้องร่วมหัวจมท้ายเป็นคู่ชีวิตกันไปตลอด มันยังไม่ถึงวันนั้น เพราะฉะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ลองดูละครสิละครก็สร้างมาจากชีวิตจริง บางทีชีวิตจริงจริงก็แรงกว่าละครอีก ทั้งหลายทั้งมวลเป็นเป็นเหตุการณ์ที่พิสูจน์ว่าคน ๆ หนึ่งเค้าจะอยู่กับเรารึเปล่า เงื่อนไขมันมีแค่นี้เองว่าเค้าอยากจะอยู่กับเอ็มรึเปล่า ถ้าเค้ามีอะไรที่ทำให้ไขว้เขวแล้วคำตอบเค้าคือ “ฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่กับเอ็มไปตลอดนี่” มันก็ต้องแยกกันแค่นั้นเอง มันก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เอ็มเก็บเลเวลในเรื่องความรัก อดหักบ้างจะได้รู้ว่าความรู้สึกนี้เป็นยังไง ครั้งหน้าพี่เชื่อว่ามันจะแข็งแกร่งมากขึ้น แค่ต้องยอมรับความจริง พี่ว่ามันชัดตั้งแต่ให้เค้าใช้หนี้ให้แล้ว และเลือกที่จะระบายกับหัวหน้าไม่ใช่เอ็ม การที่เราจะเสียคน ๆ หนึ่งไปกับสถานการณ์แบบนี้มันก็เข้าใจได้ คนเรามันก็มีเหตุผลในการตัดสินใจคนละแบบ ณ วันที่ยังวัยรุ่นกันอยู่เค้าก็มีโอกาสที่จะได้เลือกได้ลองได้เจอกับชีวิตที่เค้าอาจจะไม่เคยเจอ เช่น ความหรูหราที่เข้ามา ได้เป็นแฟนซีอีโอ ซึ่งมันเข้าใจได้ ว่า ณ วันนี้เราอาจจะแพ้ แต่เราอาจจะไม่ได้แพ้ตลอด’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ตอนนี้อายุ 17 แต่ลังเลกับชีวิต... จะเลือก 'ลาออก' จากโรงเรียน แล้วไปหางานทำ หรือ 'เรียนต่อ' จนจบดี ตัดสินใจไม่ได้ รู้สึกเหมือนเปลืองเงินพ่อแม่ไปวันๆ

01 ธ.ค. 2023

ตอนนี้อายุ 17 แต่ลังเลกับชีวิต... จะเลือก 'ลาออก' จากโรงเรียน แล้วไปหางานทำ หรือ 'เรียนต่อ' จนจบดี ตัดสินใจไม่ได้ รู้สึกเหมือนเปลืองเงินพ่อแม่ไปวันๆ

“คุณชาเย็น (นามสมมติ)” อายุ 17 ปี สายที่สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม กับปัญหาที่ว่าจะเรียนต่อหรือลาออกมาทำงานดีเพราะว่าสงสารพ่อแม่ที่ทำงานลำบากมาส่งตัวเองเรียน โดย “คุณชาเย็น (นามสมมติ)” ได้เริ่มปรึกษาว่า ‘หนูเลือกที่จะเรียนต่อ หรือว่าเลือกที่จะออกจากโรงเรียนดี หนูสงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานส่งหนูเรียนเพราะว่าหนูเป็นคนที่ไม่เข้าเรียน ชอบโดดเรียน เพราะในห้องหนูไม่มีเพื่อนเลย ก็จะโดดเรียนไปนั่งที่โรงอาหารกับเพื่อนห้องอื่น เพื่อนในห้องเดียวกันก็ไม่มีใครพูดกับหนู เพราะเขาเห็นหนูเป็นคนไม่ดีกันไปหมดแล้ว หนูเคยขึ้นไปเรียนครั้งนึง เรียนไปหนูก็ไม่มีความสุข หนูสงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานหาส่งหนูเรียน หนูเห็นท่านทำงานลำบากแล้วสงสาร หนูเลยคิดว่า ออกทำงานดีไหมเพื่อหาเงินให้พ่อแม่บ้าง อยากหาเงินมีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง ตอนนี้หนูอยู่ ม.4 หนูคิดว่าจะไปทำเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วก็ไปเรียน กศน. เอาวุฒิม.6 ไปต่อมหาวิทยาลัยหนูคิดไว้ว่าอย่างนี้ หนูอยากปรึกษาว่าหนูควรลาออกมาทำงานหรือว่าควรจะเรียนต่อดี’ โดยเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเก ไม่เรียนหนังสือ ไม่ตั้งใจ เพื่อนพี่ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน พี่มีทั้งกลุ่มที่เป็นเด็กเรียน และไม่เรียน แต่พี่ชอบเอาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มเด็กเกเร เพราะพี่มีปัญหาทางบ้าน บ้านพี่ไม่ค่อยอบอุ่นพี่ก็เลยไปทำอะไรแบบนั้น แต่คนที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวหรือกลุ่มเกเรของพี่ ไม่ตายก็ติดคุก ไม่ติดคุกก็ติดยาแล้วก็เป็นบ้า ทั้งหมด 30 กว่าคน มีพี่รอดคนเดียว พี่เลยไม่แน่ใจว่าชาเย็นจะเป็น 1 ในคนที่รอดไหม ที่พี่รอดเพราะพี่หันกลับมาเรียนในวันหนึ่ง พี่เลือกที่จะไม่ติดยาแล้วก็ตายไปกับเพื่อน พี่เลือกวกกลับมา แล้วพี่รู้สึกเสียดายเวลาที่ ณ เวลานั้น กูไปทำอะไรอยู่วะ พี่ก็คิดแบบนี้ พี่อยากได้เงิน แต่การอยากได้เงินของพี่ พี่มีเป้าหมายในชีวิต ก็คือหาเงินเรียนในสิ่งที่ต้องการ พี่ฟังชาเย็น พี่ไม่เห็นเป้าหมายที่มันแข็งแรง เป็นเป้าหมายระยะสั้นๆ จะไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟแบบนี้ พี่ว่าความทะเยอทะยานมันน้อยไปหน่อย ถ้าเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วต้องไปเรียนต่อ สุดท้ายมันก็ต้องไปเรียนต่อ แล้วปัญหาที่เพื่อนไม่คุยกับเรา มันไม่แปลกหรอกเพราะเราไปอยู่กลุ่มที่มันคนละเคมีกับเขา ถ้าวันนี้เราอยากกลับไปอยู่ ในสังคมที่เพื่อนเขาคุยกับเรา เราก็ลองคุยกับเขาก่อน เราไปตั้งใจเรียนไปอยู่ในกลุ่มของเขา มันมีวิธีในการเขาหาเพื่อนได้เยอะแยะ พี่ว่าโลกข้างนอกอันตรายเกินไป แต่มันก็อยู่ที่ใจชาเย็นนะ ถ้าอยากออกมาหาเงินจริง ๆ อันนี้ต้องคุยกับพ่อแม่ เราก็ลองปรึกษาเขาว่าให้หนูออกมาทำงานดีไหม หนูอยากหาเงิน แต่เป้าหมายต้องแข็งแรงกว่านี้หน่อยว่าทำงานอะไร ต้องการเงินเท่าไหร่ พี่ว่าการเรียนหนังสือมันก็ให้อะไรมากกว่าที่เราคิด วุฒิการศึกษามันสามรถทำให้ง่ายกับการเปลี่ยนอาชีพ สมมติว่าอยากไปทำธุรการ ไปเรียนคุณครู แบบนี้เขาดูวุฒิการศึกษา ยกเว้นชาเย็นจะบอกว่าหนูอยากจะไปเป็นเน็ตไอดอล หนูสามารถทำเงินได้ 100 ล้าน ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา แต่ต้องถามตัวเองว่าแล้วเราชอบทางนี้ไหม หรือเรามีความสามารถทางนี้ไหม ถ้าวันนี้เรายังไม่รู้ตัวเองว่าต้องการอะไรหรือชอบอะไร พี่ว่าการเรียนไปก่อนเป็นสิ่งที่ดี พี่แนะนำแบบนี้ แต่ถ้าอยากจะออกจริงๆ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เราต้องการเงินนี้ไปทำอะไร เพื่ออะไรแล้วเลือกอาชีพที่เหมาะกับเรา’ ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เราอยู่กับเพื่อนแบบไหนก็มีความเป็นไปได้ว่าเราจะกลายเป็นคนแบบนั้นเยอะมาก เลือกอยู่กับคนที่จะพาเราไปสู่สิ่งที่ดี พาเราเจริญขึ้น อันนี้คำแนะนำแรก คำแนะนำที่สอง ถ้าสงสารคุณพ่อคุณแม่จริงๆ สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือทำให้เงินที่เขาจ่าย กลับมามีค่ากลับมาคุ้มค่า ไม่ยากเลยแค่เดินขึ้นไปเรียน ขึ้นไปแล้วเขาไม่คุยด้วยไม่แปลกครับเพราะว่า ชาเย็นบอกเคยขึ้นไปครั้งเดียวแล้วใครจะคุยกับหนูล่ะลูก เพราะเขาเรียนกันมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว หนูเพิ่งเคยขึ้นไปครั้งเดียว ถ้าสมมติหนูเป็นคนที่นั่งเรียนอยู่ แล้วก็มีใครไม่รู้ที่โดดเรียนตลอดเลย แล้ววันหนึ่งมาเพิ่งขึ้นมา หนูจะไปสนิทกับเขาหรอ หนูจะอยากคุยกับเขาหรอ ต่อให้เขาไม่ได้มองว่าหนูเป็นคนดีหรือไม่ดีก็เถอะ เขาก็ไม่ได้สนิทพอที่จะเดินเข้ามาคุย ถ้าเขารู้ว่าใครดีใครไม่ดีแล้วไม่อยากจะมาอยู่กับคนไม่ดี ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าชาเย็นจะบอก ชาเย็นไม่ใช่เป็นคนไม่ดี ชาเย็นแค่ขึ้นไปเรียนอยู่กับเพื่อนมันก็จะค่อยๆ รู้จักกันไปเอง ทีนี้ทำไมถึงอยากให้กับไปเรียน การเรียนให้มันจบอย่างน้อยคือการศึกษาขั้นต่ำ วุฒิการศึกษาที่ชาเย็นจะได้มันทำให้ชาเย็นจะเอาไปยื่นทำงานในอนาคตได้มากกว่าเยอะเลย แล้วโรงเรียนที่มีกฎระเบียบครอบไว้ชาเย็นยังไม่อยู่ แล้วถ้าไปเรียน กศน. ที่ไม่มีอะไรมาครอบไว้ ชาเย็นจะบังคับตัวเองได้หรอ แล้วจะจบไหม กศน. แล้วคิดว่าตัวเองจะสอบผ่านไหม จะเรียนตามเขาได้ไหมในเมื่อกฎของโรงเรียนหนูยังทำไม่ได้เลย พี่บอกสั้นๆ ว่า เรียนให้จบม.6 นี่เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่คนเราจะรับผิดชอบตัวเองได้’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อยากให้เรียน เพราะว่าฟังจนถึงตอนนี้ พี่อาจจะรีบตัดสินเร็วเกินไปแต่พี่คิดว่าชาเย็นไม่น่ารอดในการออกไปทำงานและหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองแล้วจะกลับไปเรียน กศน. ไปต่อมหาวิทยาลัย พี่คิดแบบี้เลยนะ อย่างที่พี่เผือกถาม หนูเรียนตอนนี้ตามหลักสูตรปกติหนูยังทำไม่ได้ ที่มีเงินจากพ่อแม่ที่ส่งให้หนูไปเรียน แล้วการที่ต้องไปเรียนและทำงานไปด้วยพี่ว่ามันยากมากเลยนะ อันนั้นพี่จะเห็นในกรณีของคนที่เขาไม่มีโอกาส ไม่มีเงิน เขามีเป้าหมายว่า เขาทำงานเพื่อหาเงินเพื่อนส่งตัวเองเรียน กศน. อันนั้นพี่เข้าใจได้ และพี่เชื่อว่าแบบนั้นเขาจะประสบความสำเร็จ เขามีเป้าหมายในชีวิต แต่ตอนนี้ชาเย็นเหมือนเอาอันนี้มาแก้ปัญหาที่มันเป็นการแก้ปัญหาผิดวิธีมากเลย พวกพี่พยายามจะถามว่า การที่กลัวว่าพ่อแม่จะเสียใจที่ทำงานส่งหนูเรียน หนูก็แค่ไปตั้งใจเรียนให้มันจบ หนูบอกปัญหาเรื่องเพื่อน พี่บอกว่าปัญหาเรื่องเพื่อนแค่นี้หนูยังสู้มันไม่ได้ หนูยังกลัว โลกข้างนอกพี่ว่ามันเลวร้ายกว่านี้อีก หนูจะทำอย่างไรถ้าหนูไปเสิร์ฟแล้วโดนเจ้าของร้านโกง หนูจะทำอย่างไรถ้าโดนลูกค้าด่า เพื่อนร่วมงานไม่คบ หรืออะไรก็ตามมันเกิดขึ้นได้ทั้งหมด โลกข้างนอกพี่ว่ามันโหดกว่าในโรงเรียน เยอะ เพื่อนไม่คุยกับหนูเพราะคิดว่าหนูเกเร ปัญหาแบบนั้นสำหรับพี่ มันสามารถแก้ปัญหาได้ แต่หนูเลือกที่จะเอาตัวเองออกจากโรงเรียน กระโจนเข้าสู่สิ่งที่มันมันเยอะกว่านี้ถ้ามันจะเกิดปัญหาขึ้น แล้วสำหรับพี่ การเรียนมันทำให้พี่มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ มันไม่ใช่แค่วิชาความรู้ที่เราจะได้จากโรงเรียน แต่มันยังหมายถึงการที่เราจะรู้จักการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน รู้จักการเข้าสังคม รู้จักการทำงานร่วมกับคนอื่น ซึ่งตอนนี้พี่คิดว่ามันเร็วมากเลยที่ชาเย็นจะตัดสินใจหันหลังให้มันเลย เพียงเพราะว่าเพื่อนไม่คุยกับเรา ชาเย็นแก้ปัญหาที่ผิดอยู่ตอนนี้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ลำบากในการหาเงินมาให้หนู หนูก็ต้องเห็นคุณค่าของมัน โดยการไปเรียนหนังสือและตั้งใจเรียน ช่วงม.ปลาย มันจะเป็นช่วงที่ทำให้หนูได้รู้ว่าหนูอยากเรียนเพื่อไปเป็นอะไร จะทำให้หนูได้รู้ว่าหนูชอบอะไร โลกภายนอกมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ที่หนูพูดพี่ว่าหนูยังไม่เจออะไรมาเลย สำหรับพี่ยังไงการเรียนก็สำคัญและมันก็ทำให้พี่เป็นผู้เป็นคนก็เพราะการเรียนนี่แหละ ทั้งเพื่อน คุณครู กิจกรรม ถ้าหนูเลือกออกมาแล้ว มันกลับไปหาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว คิดดีๆ นะ พี่อยากให้กลับไปเรียนหนังสือ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

อยากผ่านช่วงเวลาอ่อนแอและเสียใจนี้ไปไวๆ ทุกคนมีวิธีการ หรือ วิธีคิดยังไงในการฮีลตัวเองคะ ? หนูเลี้ยงน้องหมา โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 15 ปี เค้าเหมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวเลย

02 ก.พ. 2024

อยากผ่านช่วงเวลาอ่อนแอและเสียใจนี้ไปไวๆ ทุกคนมีวิธีการ หรือ วิธีคิดยังไงในการฮีลตัวเองคะ ? หนูเลี้ยงน้องหมา โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 15 ปี เค้าเหมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวเลย

อยากผ่านช่วงเวลาอ่อนแอและเสียใจนี้ไปไวๆ ทุกคนมีวิธีการ หรือ วิธีคิดยังไงในการฮีลตัวเองคะ ?หนูเลี้ยงน้องหมา โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมา 15 ปี เค้าเหมือนสมาชิกคนนึงในครอบครัวเลยแต่อาทิตย์ก่อนน้องเพิ่งจากไปด้วยอุบัติเหตุที่มาจากความประมาทของคนอื่น เสียใจที่สุดเลยค่ะ “คุณบี (นามสมมุติ)” อายุ 26 ปี สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [31 ม.ค. 67] ได้โทรมาขอกำลังใจ ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับน้องหมาที่เพิ่งเสียชีวิตไป โดย “คุณบี (นามสมมุติ)” เริ่มเล่าว่า ‘หนูเพิ่งสูญเสียน้องหมาที่อยู่ด้วยกันมา 15 ปีจากอุบัติเหตุ น้องหมาอยู่กับหนูมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งผ่านมาอาทิตย์นึงเอง ครั้งนี้เหมือนหนูสูญเสียคนสำคัญของหนูครั้งแรกในชีวิตเลย หนูอยากจะขอกำลังใจจากพี่ทั้ง 3 คน นอกจากกำลังใจที่หนูอยากได้ ความเสียใจมันมีอยู่แล้วเพราะด้วยความที่น้องอยู่กับหนูมานาน น้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ เลยทำให้อีกความรู้สึกนึงที่มันเกิดขึ้นในใจหนูคือ ความโกรธ ความโมโห คนที่มันทำ มันทำให้หนูย้ำคิดย้ำทำ ปล่อยว่างไม่ได้ ว่าเราจะโกรธเขาตลอดเวลาเลย’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้กำลังใจว่า ‘การจากไปด้วยอุบัติเหตุ เป็นอะไรที่สถานการณ์ยากลำบากที่สุด เพราะว่าเราไม่มีเวลาเตรียมตัว ให้นึกถึงว่า ไม่ช้าก็เร็ว เราทุกคนก็ต้องจากกัน จะจากเป็นหรือจากตายมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ถึงเวลานั้นเราต้องเข้มแข็ง เวลาของความเสียใจมันใช้เวลา ยิ่งผูกพันมาก ๆ พี่ก็ใช้เวลาเป็นปี เป็นเรื่องที่ทำใจค่อนข้างยาก ให้เวลาเยียวยา จะไม่บอกว่าอย่าเสียใจนะ ยังไงมันก็เสียใจอยู่แล้ว ถือว่าที่โทรมาในพุธทอล์ควันนี้ พวกพี่กำลังกอดอยู่แล้วกัน เป็นกำลังใจให้นะ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้กำลังใจว่า ‘พี่อยากบอกน้องบีว่า น่าอิจฉามากเลย หนูเหมือนมีพี่ชายที่รักหนูมากแล้วอยู่กับหนูมา 15 ปี บางคนเขาอาจจะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ในชีวิตเลยก็ได้ เขาแค่นำไปอยู่ดาวหมาก่อน เดี๋ยววันนึงมันก็เป็นคิวของพวกเราเอง แล้ววันนั้นเราก็จะไปเจอกับเขาบนดาวดวงนั้น แต่ว่าถ้าคิดถึง พี่ว่ามองอะไรที่นึกถึงแล้วทำให้ยิ้ม นึกถึงภาพที่อยู่กับเขา โตมากับเขาหรืออื่น ๆ ให้มีความสุขแล้วก็คิดว่าสักวันหนึ่งเราก็จะไปเจอกับเขาบนนั้น เป็นกำลังใจให้นะ... สำหรับพี่ ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันหมด มันเหมือนถูกวางไว้แล้ว เหมือนว่าการที่เราต้องซวยเจอเรื่องแบบนี้ เพราะว่าถ้าคนนี้ไม่มาจังหวะนี้ มันก็จะไม่มาชนน้องหมาของเรา แต่พี่รู้สึกว่าทุกอย่างเหมือนเราเลี่ยงไม่ได้เลย โดยเฉพาะมันเป็นอุบัติเหตุ เราไม่ใช่คนบนฟ้าที่มองลงมาแล้วเห็นว่า ถ้าเราไม่ออกไปตอนนี้ เราจะเจอใครอะไรแบบนี้ มันเป็นอุบัติเหตุตามชื่อของมัน เราไม่สามารถควบคุมมันได้ พี่ว่าต้องยอมรับแล้วก็เข้าใจมัน การที่เราไปผูกใจเจ็บ มันจะทำให้ตัวเราเองนั่นแหละจะเจ็บไปต่อเรื่อย ๆ และก็ไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่ ถ้าพี่ตอบเร็ว ๆ แบบนี้นะ น้องหมาเขาเสียไปแล้ว เสียเพราะคนใจร้าย แต่สุดท้ายเขาโชคดีมาก ๆ ที่ได้เจอคุณ ก่อนที่เขาจะจากไป การผูกใจเจ็บมันทำให้หนูไม่มีความสุข และถ้าน้องหมาเขามองลงมา เขาเห็นบีไม่มีความสุขเขาก็ไม่มีความสุข เพราะตอนนี้เขาอยู่กับหนูไม่ได้อีกแล้ว นึกถึงแต่เรื่องดี ๆ ไว้ดีกว่า สำหรับพี่นะ’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้กำลังใจว่า ‘ยอมรับก่อนว่าพี่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงแบบอยู่ด้วยกันยาว ๆ แต่ 15 ปี ที่อยู่ด้วยกันพี่ว่าก็คงไม่ต่างอะไรกับเราเสียคนในครอบครัวคนนึงไป สิ่งนึงที่พี่คุยกับลูกชายของพี่ 4 ขวบ เมื่อมีการศูนย์เสียเกิดขึ้นคือ เขาจะย้ายไปอยู่ในสมองของเรานะ คนที่จากไปเราจะเจอกับเขาได้แค่เราหลับตา เขาจะมาอยู่ในสมองของเรา จดจำเขาไว้ในความทรงจำของเรา อย่าลืมเขาแค่นั้น เขาจะอยู่กับเราไปตลอด พี่รู้สึกว่า คนเรามันมีอายุไข ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้วันนึงเราก็ต้องจากกัน พอวันนี้มันเกิดเหตุนี้ขึ้นมา มันกะทันหัน มันทำใจยาก มันทำให้บีเกิดความโกรธ ซึ่งถ้าเป็นพี่ก็คงโกรธมาก ๆ แต่มันเป็นเรื่องปกติที่เราโกรธ ถ้ามันเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก ความประมาทจากบุคคลที่ 3 มันยิ่งทำให้เราโกรธ แต่หลังจากความโกรธนั้นสิ่งที่จะทำร้ายจริง ๆ คือทำร้ายเรา น้องไปแล้วคนที่เขาทำเขาอาจจะแคร์หรือไม่แคร์ก็ไม่รู้ แต่คนที่ยังรับความโกรธ ความโมโหอยู่ข้างใน คนที่โดนทำร้ายแน่ๆ คือเรา สุขภาพจิตเสีย พอเราอยู่กับความเครียด ความโกรธ ความเศร้ามาก ๆ เคมีในสมองก็จะหลั่งออกมาอีกแบบนึง สุดท้ายแล้วมันจะกระทบกับร่างกายเรา คนที่รับผลกระทบคือเรา เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะไปจมกับความโกรธ พี่ก็เลยเลือกที่จะให้อภัย ถ้าวันนั้นคนนั้นเลือกที่จะหยุดเวลาสั้น ๆ ได้ก็คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น สุดท้ายมันก็กลับมาที่ประโยคที่ว่าต้องใช้เวลา จนกว่าเราจะเห็นด้วยกับประโยคนี้ได้จริง ๆ ว่า เขาคงไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอก’ พี่ ๆ ดีเจทั้ง3 คนเพิ่มเติมว่า ‘15 ปี คิดถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมา 15 ปี บีคิดว่า 15 ปี มันต้องใช้เวลาทำใจเท่าไหร่ อาจจะต้องให้เวลามันหน่อย ช่วงนี้ก็เศร้าได้แค่เรารู้ตัวว่าก็เศร้า ไม่เป็นไรหรอกให้เวลา ให้ร่างกาย ให้ชีวิตเราเจอกับความเศร้า ในมุมของผู้ใหญ่ที่อายุ 40 กว่า คิดว่า อันนี้ก็ฝึกบีนะ เพราะเดี๋ยวบีก็ต้องเจอการศูนย์เสียอีกเต็มไปหมด อันนี้เหมือนเป็นเคสนึง ว่าบีจะผ่านไปได้เท่าไหร่ ต้องยอมรับว่า ไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ จะช้าจะเร็วเดี๋ยวมันต้องมาแน่ ๆ บีต้องเจอพวกพี่ทุกคนก็ต้องเจอหมด แต่เราจะอยู่อย่างไรให้มีชีวิตอยู่ต่อได้จากการศูนย์เสียคนที่รักไป ให้เวลาเยียวยา’ ก่อนวางสายไป “คุณบี(นามสมมุติ)” ขอฝากถึงแฟนๆ รายการ พุธทอล์ค พุธโทร ว่า ‘บางคนอาจจะบอกว่า แค่หมาตัวนึง ทำไมจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่หนูอยากบอกว่า ทุกชีวิตมันมีค่าเท่ากัน แค่หมาตัวนึงของคุณแต่ว่าเขาคือโลกทั้งใบหรือคนในครอบครัวของเราเลย หนูอยากให้ทุกคนเลิกมองว่าชีวิตคนกับชีวิตสัตว์มันมีค่าไม่เท่ากันสักที’ สุดท้ายนี้พี่ ๆ ดีเจทั้ง 3 คน ให้กำลังใจกอด “คุณบี(นามสมมุติ)” แน่น ๆ น้าาาเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://www.youtube.com/watch?v=SZ-XdtFvSHUt=646sใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

26 ก.ค. 2024

ผู้ชายเป็นกันทุกบ้านไหมคะ? เวลาเราถามว่าจะกินอะไรมั๊ย จะซื้อไปให้ แฟนจะตอบว่า ไม่เอาอ่ะ แต่พอเราซื้อกลับไปกินที่บ้านทีไร แย่งกินตลอด ไม่ใช่แค่ชิม แต่กินเยอะด้วย บางทีมันก็หงุดหงิดอะค่ะ ถามแล้วก็ยังมาแย่ง มีใครเจอแบบหนูบ้างคะ

“คุณมิ้ว (นามสมมติ)” อายุ 31 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาซื้อขนมมากินคนเดียว เคยถามแฟนแล้วว่าจะกินมั้ย แต่เขาบอกไม่กิน สุดท้ายโดนแย่งเฉย “คุณมิ้ว (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เวลาที่เราไปห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ เราจะชอบของขนมมาตุนเอาไว้ เพราะบ้านเราอยู่ไกลจากสถานที่ที่สามารถไปซื้อของได้ ก็จะซื้อไว้เยอะๆ แล้วเราจะถามแฟนว่า “เธอจะเอาอะไรไหม เธอจะกินอะไรไหม อันนี้เอาป่าว” ก็จะถามตลอด แต่คำตอบคือ “ไม่เอา ไม่กินหรอก พอแล้วๆๆ” พอเราซื้อกลับมากลับมาที่บ้านแล้วก็จะมาแบบ “ขอกินหน่อย ขอคำนึง” แต่คำว่าหน่อยของเขามันเยอะ มีอยู่ครั้งนึงที่ต้องทำให้มาเล่าเลยคือ วันนั้นเราซื้อชนมไว้ แล้วเราเก็บไว้ กะไว้ว่าจะมากินตอนเย็น วาดภาพในหัวไว้แล้วว่า ขนมชิ้นนี้มีอยู่เดี๋ยวฉันจะกลับมากิน พอกลับมาที่บ้าน ขนมหาย แล้วเราก็หา แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร เราถามเขาว่า “ขนมฉันหายไปไหน” เขาก็ทำเป็นขำแล้วบอกว่า “ฉันกินเอง” แล้วตอนนั้นเราเป็นประจำเดือนด้วย เราก็แบบ “เอ้า อะไรอะ” คือหงุดหงิด โกรธ น้ำตาคลอเลย “ทำไมอะ ฉันถามเธอแล้วใช่ไหม ว่าเธอกินไหม ถ้ากินฉันจะซื้อมาเผื่อ ทำไมเธอถึงมสเเย่งฮันกิน” แล้วเขาก็ไม่พูดอะไร นั่งฟัง “ขอโทษค้าบบบ” ของที่ซื้อแต่ละครั้งก็เป็นเงินที่ใช้ร่วมกัน เคยลองซื้อมาเป็น 2 เท่าแล้วเขาก็จะไม่กิน เขาจะชอบแบบขนมอยู่ในมือเราแล้วมาขอกิน’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คนให้คำปรึกษาว่า ‘ในวินาทีที่ผู้ชายถูกถามมันยังไม่หิว ไม่อยากกิน ถ้าหิวถึงจะกิน แต่พอมาเห็นตรงหน้ามันเย้ายวน ด้วยรูป รส กลิ่น เสียง แล้วกว่าจะมาถึงบ้านของก็เริ่มหิวนิดๆแล้วส่วนผู้หญิงจะประมาณว่าไม่หิวก็กินได้ กินจุกจิก เพราะฉนั้นเวลาไปซื้อขนมลองถามเขาดูว่าอีก 2 ชม.จะเริ่มอยากกินไหม ถ้าหิวนิดๆแล้วอยากกินฉันจะได้ซื้อเลย ให้ผู้หญิงเเพลน เหลือดีกว่าขาด ซื้อเผื่อไปเลย ไม่ต้องถาม พอถึงเวลาก็บอกเลยว่าเธอต้องกิน หรือเมนูไหนที่มันหายากหรือมิ้วอยากกินจริงๆ ของจำกัดให้ซ่อนแล้วแอบกิน เพื่อลดปัญหาครอบครัว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

12 เม.ย. 2024

คบกับแฟนมา เขาหวงหนู มีข้อห้ามต่างๆ ไปผับห้ามเต้นกับเพื่อน ห้ามใส่เสื้อโป๊ ใส่ได้แค่เสื้อยืดหลวมๆ บางทีให้หนูใส่กางเกงบอล ล่าสุดสงกรานต์ห้ามหนูออกจากบ้าน ด้วยเหตุผล "เปอเซ็นต์ผู้หญิงโดนปะแป้งเยอะกว่าผู้ชาย" หนูไม่โอเคเค้าก็บอกเลิกหนูเลย จะง้อยังไงดีคะ?

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 เม.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย นภาพร’ เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนหวงห้ามเล่นสงกรานต์ โดย ​“คุณน้ำ(นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนไม่ให้หนูไปเล่นน้ำสงกรานต์ เขาให้เหตุผลว่า ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ที่จะโดนปะแป้ง โดนลวนลามมากกว่าผู้ชาย เขาเป็นแฟนหนูเขาจะไม่ยุ่งเรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าตัวหนูเป็นผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเขาเลยไม่ให้หนูไป แต่เขาออกไปเล่นได้ เขาไม่พาหนูไปด้วยเพราะว่าอยู่ไกลกันก็เลยไม่ได้เล่นน้ำด้วยกัน เขาเป็นคนหวงหนูมาก ชอบห้ามหนูในสิ่งที่เป็นตัวหนู เช่น เรื่องการแต่งตัว เรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน เขาก็จะห้ามนู่นห้ามนี่ หนูก็รู้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ Toxic แต่หนูก็รักเขาเลยยังอยู่ หนูกับเขาอายุ 22 ปีเท่ากัน คบกันมาประมาณปีกว่า ๆ ถ้ารวมคุยด้วย สิ่งที่เขาห้ามมีเรื่องแต่งตัว แล้วก็ถ้าไปร้านเหล้าก็ห้ามเต้นกับเพื่อน ให้นั่งเฉย ๆ ต้องใส่เสื้อยืดเท่านั้น กางเกงขาสั้น บางทีก็ให้ใส่กางเกงบอล ชุดนักศึกษาหนูใส่ได้แค่ทรงพลีท ไม่สามารถใส่ทรงเอได้เลย แต่เรื่องที่กำลังเป็นปัญหาในตอนนี้คือ เรื่องเล่นน้ำสงกรานต์ หนูแค่ไม่เข้าใจว่าเขาไปเล่นได้ ทำไมหนูถึงไปเล่นไม่ได้ หรือว่าถ้าเขาไม่ให้หนูเล่น เขาก็ไม่ควรออก เพราะคนที่นอนอยู่บ้านรู้สึกกังวล เป็นห่วงเขา หนูอยากออกไปสักแค่วันนึง แต่หนูไม่ได้อยากไปสาดน้ำ แค่อยากออกไปเจอเพื่อนเฉย ๆ เวลาหนูโดนเขาห้ามเยอะ หนูก็เลยพูดกับเขาว่า เนี่ย ถ้าเกิดเธอมาห้ามในสิ่งที่เราชอบ งั้นเราก็ห้ามเธอไปร้านเหล้าเหมือนกัน เขาก็ตอบว่า ได้ แต่สุดท้ายก็มีไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยเท่าเดิม ล่าสุดหนูพยายามไกล่เกลี่ยขอเขาว่า ขอให้เขาเล่นน้ำแค่ 2 วันได้ไหม เขาก็บอกว่า ไม่ได้เลย ทีนี้ก็ทะเลาะกันหนักมาก เพราะว่าหนูก็ขอเขา เขาไม่ยอม เถียงกันไปเถียงกันมาก็บอกเลิกหนูเลย พอเขาบอกเลิกหนูก็ง้อ หนูรู้สึกว่าไม่ควรบอกเลิกเพราะเรื่องแค่นี้ หนูก็เลยพยายามง้อเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยจะคุยกับหนูเท่าไหร่ ค่อย ๆ เฟดตัวออกไป แต่หนูก็พยายามทำตัวดี ๆ ก็บอกเขาว่า โอเค เธอไปเล่นได้เลย เราอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้ แต่สิ่งที่อยากถามพี่ๆดีเจ คือ มีวิธีไหนบ้างที่จะบอกให้เขาแฟร์ ๆ กับเรา หรือวิธีพูดให้เขาเปลี่ยนความคิดสักนิดนึงได้ไหม? ซึ่ง “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าคนลักษณะนี้ ด้วยอายุเท่านี้ พูดไปเขาก็ไม่น่าจะฟังเหตุผลหรอก น้ำก็เคยคุยกันไปแล้วเรื่องสงกรานต์จบที่เลิกกัน พี่ยังคิดไม่ออกเหมือนกันจะมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้คนคนนึงเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกซะจากว่าวันหนึ่งเขาจะอายุมากพอ ความคิดโตพอที่จะแยกแยะได้ ระหว่างความหึงหวงใดใดก็ตามกับความไว้ใจคนของเรา แล้วก็เหมือนใจกว้างมากขึ้น ถ้าหนูพยายามที่จะหาจุดกึ่งกลางกับผู้ชายคนนี้ ณ เวลานี้พี่ว่ายังยากอยู่ ถ้ารักจริง ๆ พร้อมที่จะยอมจริง ๆ ก็อาจจะต้องทนก่อนระยะนี้ แต่พี่คิดว่าเขาไม่น่าจะเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้ ด้วยความที่อายุ 22 ปีเท่ากันอยู่ แล้วหนูก็ไม่อยากให้เขามาเปลี่ยนตัวตนหนู แต่เอาเข้าจริงหนูก็ยอมเขา เพราะฉะนั้นถ้ายังคบกับเขา พี่ว่ายังไงก็ต้องยอมแบบนี้ ให้เอาเหตุผลอะไรไปพูด เดี๋ยวก็เลิกกันอีก เอาเป็นว่าถ้าเขามาฟัง สิ่งเดียวที่พี่พอจะช่วยได้ก็คือ ไอ้หนุ่มเอ้ย พ่อหนุ่ม เมื่อก่อนพี่ก็เป็น แต่เดี๋ยวเราโตขึ้นมันจะค่อย ๆ ใจกว้างขึ้นแหละ แล้วถ้ายิ่งโตขึ้นได้เร็วเมื่อไหร่ แฟนเราก็จะได้หายใจหายคอ แล้วความอึดอัดที่อยู่ด้วยกันก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ชีวิตจะยิ่งมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรารู้จักปล่อยวางนะไอ้หนุ่มนะ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าก่อนจะไปคุยกับเขา หนูคุยกับตัวเองก่อน ไม่รู้สิเวลาที่คนเรารักกันมันก็ต้องอยากให้เขามีความสุขในการอยู่ข้าง ๆ เรา ไม่ได้แปลว่าอยู่กับฉัน แล้วเธอต้องทำสิ่งสิ่งนั้น สิ่งนี้ นี่มีแฟนไม่ได้เข้าคุก การที่บอกว่าต้องแฟร์กับหนูหน่อย หนูก็ต้องแฟร์กับตัวเองด้วยเหมือนกันว่า เฮ้ย ชีวิตฉัน ฉันอยากมีแฟนแล้วทำให้ฉันมีความสุขในทางของฉันเช่นเดียวกัน และเมื่อไหร่ก็ตามทีที่เขาเองบังคับใด ๆ แล้วน้องก็ทำตามสิ่งที่เขาบังคับมาโดยตลอด อะไรจะเข้าฝันเขาหรอว่า เขาฝันเสร็จปั๊บ พรุ่งนี้ปล่อยให้น้ำเป็นอิสระบ้างดีกว่า สงสารน้ำจังเลย ไม่มีทาง วันนี้พี่ยังเป็นคนที่เชื่อเสมอว่า คนเราอะไรก็ได้ ไม่มีอยู่จริงหรอก ความรักของคนที่เป็นผู้ใหญ่ มันจะไม่ใช่แค่ห้ามทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ พี่ว่านิดนึงน้ำเองก็ดันมีความรู้สึกว่า พี่ แต่เขาก็หวงหนูไงคะ หนูก็เลยรู้สึกว่าการหวงถือว่าเป็นการรักมาก แต่พี่ไม่ได้อยากพูดให้น้องนอยด์นะ พี่เห็นมาเยอะมากว่า ไอ้คนที่หวงแฟนระดับเกินเบอร์ไปมาก ตัวเองทำทุกอย่างเลย แล้วยิ่งถ้าน้องทำตัวเองเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบตัวเขา ยอมเขาอะไรก็ได้ ขนาดเรื่องนี้คนที่ควรโกรธคือเราด้วยซ้ำ น้องกลับกลายเป็นง้อ พี่ว่าคน 2 คนเวลารักกัน เราต้องแคร์ความสุขของกันและกันด้วย ไม่ใช่พยายามบังคับให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ และเราเองก็ดันพยายามบังคับตัวเองให้เป็นแบบนี้ด้วย อึดอัดก็อึดอัด แต่แสดงออกก็ไม่ได้กลัวเขาไม่รัก พี่รู้สึกว่าหึงนิด ๆ น่ารักนะ แต่หึงมากไปคล้ายดูถูก หึงมากไม่ได้แปลว่ารักมาก แต่แค่อยากเป็นเจ้าของชีวิต พี่เป็นคนที่เชื่อว่าคนรักกันเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิต เขาควรจะรู้ว่าน้ำมีความสุขกับเรื่องนี้ และถ้าเกิดเขาหวงมากก็แค่มาเล่นน้ำกับหนู พาหนูไปด้วย เขาไม่แฟร์กับหนูไม่เท่าหนูไม่แฟร์กับตัวเอง คือรักเขาพี่เข้าใจ แต่การรักเขาไม่ได้แปลว่าต้องยอมทุกสิ่ง จนกระทั่งเบียดบังความสุขของตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะให้พี่พูดอะไรกับแฟนหนู พี่ก็จะบอกเขาว่า ต้องรู้จักที่จะให้เกียรติคนรักมากกว่านี้ สิ่งเดียวที่เขาทำตอนนี้มันมาจากเรื่องเดียวที่พี่รู้สึกคือ เขาไม่ไว้ใจ เหมือนเขาจะตัดสินว่าการที่น้องน้ำแต่งตัวแบบนี้ มันจะทำให้น้องน้ำนอกใจเขา สำหรับพี่รู้สึกว่าแฟนกันมันต้องไม่ทำให้พี่ไม่ชอบตัวเอง เราชอบแต่งตัวแบบนี้ เรามีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้ ซึ่งมันอยู่ในขอบข่ายที่ไม่ได้อนาจาร คนทั่วไปเขาก็แต่งกัน อยู่ ๆ ก็ไม่ให้เราแต่ง น้ำต้องตื่นมาใส่กางเกงบอล ใส่เสื้อตัวใหญ่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ตัวเองไม่ได้ชอบ พี่รู้สึกว่ามันคือคนรักที่เราจะมีความสุขจริง ๆ หรอ คนที่อยู่ด้วยกันแต่ทำให้เราไม่ชอบตัวเองอยู่คนเดียวดีกว่าหรือเปล่า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1