ผมคบกับแฟนได้ 18 วัน แพลนจะไปเคาท์ดาวน์ที่ร้านแฟน แต่แฟนบอกหุ้นส่วนที่ร้านเป็นแฟนเก่า พอแฟนเก่ารู้ว่าผมจะไป เค้าไม่ยอม ฝากแฟนมาบอกว่าถ้าผมไปจะทำให้ร้านสะดุด เขาไม่โอเค ผมก็ให้แฟนไปคุยอีกรอบ เค้าก็บอกว่ามาได้ แต่แฟนผมห้ามมาโต๊ะผม ผมงงเลยว่าจะทำยังไงต่อ?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมคบกับแฟนได้ 18 วัน แพลนจะไปเคาท์ดาวน์ที่ร้านแฟน แต่แฟนบอกหุ้นส่วนที่ร้านเป็นแฟนเก่า พอแฟนเก่ารู้ว่าผมจะไป เค้าไม่ยอม ฝากแฟนมาบอกว่าถ้าผมไปจะทำให้ร้านสะดุด เขาไม่โอเค ผมก็ให้แฟนไปคุยอีกรอบ เค้าก็บอกว่ามาได้ แต่แฟนผมห้ามมาโต๊ะผม ผมงงเลยว่าจะทำยังไงต่อ?

20 ธ.ค. 2024

            “คุณแม็ก (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [18 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์

            โดย “คุณแม็ก (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เรื่องนี้เป็นเรื่องความลำบากใจระหว่างผมกับแฟน เราสองคนพึ่งเริ่มคบกันได้ 18 วัน แต่ก่อนหน้านี้คุยกันมาประมาณ 3 เดือน เราไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ เพราะเราอยู่คนละจังหวัดกัน แฟนผมมีธุรกิจที่บ้านอยู่แล้วแต่ช่วงปลายปี เขามักจะรวมหุ้นกับเพื่อนเปิดลานเบียร์ ซึ่งในช่วงที่เราตกลงคบกันเขา เขาบอกกับผมว่า หนึ่งในหุ้นส่วนของเขาคือแฟนเก่าของเขาด้วย แต่เขาก็บอกผมว่าเลิกกันไปนานแล้ว ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เป็นแค่พี่น้องหุ้นส่วนกัน ผมก็โอเคเพราะเขายืนยันว่าไม่น่าจะมีทางกลับไปได้ ถ้ากลับไปก็คงไม่เลิกกันตั้งแต่แรก เขาให้เหตุผลกับผมว่าปีนึงก็คุยกันแค่ช่วงที่มาทำร้านด้วยกัน ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกนอกจากตอนที่ทำร้าน ซึ่งช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุด เราได้ไปที่ร้านเพื่อไปหาแฟน แล้วตอนไปเราได้บังเอิญเจอกับแฟนเก่าเขา แต่เราไม่ได้แสดงตัวว่าเราคือคนใหม่ ด้วยความที่แฟนเรามันก็คงทำให้รู้ว่าคนนี้คือคนใหม่ เพราะว่าแฟนจะเดินเวียนมาโต๊ะเราบ่อย ๆ โต๊ะที่ผมนั่งก็จะมีเพื่อนผมด้วย เหตุการณ์วันนั้นก็ไม่มีอะไรปกติทุกอย่างแต่ก็จะมีหุ้นส่วนเขาเดินมาดูโต๊ะเราบ่อย เดินผ่านโต๊ะเราบ่อย จากที่เราสังเกตเห็น

            หลังจากวันนั้นเราก็กลับบ้านมาทำงานปกติ เราก็ได้คุยกันกับแฟนว่าวันเคาท์ดาวน์จะไปเคาท์ดาวน์กันที่ร้านเขา ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะได้ไปเจอกับแฟนเก่าเขา เพราะเขาก็ไม่น่าจะไปไหนได้ต้องอยู่ดูแลร้าน พอจากวันนั้นเขามาบอกผมว่า พี่เขากลับมาเหมือนจะมาง้อเขา มาชวนไปกินข้าว ชวนไปห้อง เราก็เลยถามเขาว่าแล้วยังไง เขาก็บอกว่ารู้สึกอึดอัดทำไมต้องมาทำแบบนี้ พอรู้ว่าผมเป็นใคร แล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้อีก ผมก็เลยบอกเขาไปว่า ถ้าคุณไม่โอเค คุณก็บอกเขาไปตรง ๆ เราเป็นใคร ยังไงเราก็ไม่โอเคที่เป็นแบบนี้ เขาก็บอกกับเราว่า อยากบอก แต่หุ้นส่วนแฟนเก่าเขาเป็นคนที่แยกแยะไม่ได้ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว คือถ้าบอกหุ้นส่วนก็จะงอแง วุ่นวายไม่ทำงาน ด้วยความที่เขารู้จักกันมาก่อนเขาก็รู้นิสัยกัน แล้วผมก็บอกแล้วจะให้ทำยังไง ถ้าไม่บอกมันก็จะเป็นคาราคาซังแบบนี้ เขาก็บอกว่า ทนหน่อยได้ไหม เดี๋ยวขอเวลาแป๊บนึง เดือนหน้าก็หมดร้านแล้ว เขาบอกผมว่าจะบอกตอนที่มันใกล้ ๆ จะเสร็จเรื่องร้าน ผมพยายามให้เขาไม่ทำแบบนี้ ผมก็ถามเขาว่าทนไหวเหรอ เขาบอกได้ทนไหว เราก็โอเคปล่อยเขาไปช่วงนึง

            จนผ่านไปประมาณ 3 วัน เป็นวันที่เขานัดจะมาหาเรา เพราะอีกวันร้านจะหยุด ช่วงประมาณ 1 ทุ่มเขาทักมาบอกว่า วันนี้น่าจะไปหาดึกหน่อย เพราะหุ้นส่วนบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย เราก็เลยบอกว่า เรื่องกูแน่ ๆ แหละ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเรื่องอื่น เราก็เลยปล่อยเขาคุยกันไป เราก็ไม่ได้ถามอะไรเขา จนเขาทักมาบอกว่าคุยเสร็จแล้ว กำลังจะไปหาที่บ้าน พอเขามาถึงบ้าน อาบน้ำทำอะไรเสร็จ เราก็เลยถามเขาว่าสรุปที่คุยกันว่ายังไง เขาก็บอกเราว่าที่เรานัดกันจะไปเคาท์ดาวน์ที่ร้านเขายกเลิกก่อนได้ไหม เพราะเขาไม่อยากให้เสียงาน หุ้นส่วนบอกว่า ถ้าเธอมา พี่เขาจะทำใจไม่ได้ แต่ผมก็ยืนยันที่จะไป เขาก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะไปคุยใหม่ พอเสร็จหลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานปกติ 2 - 3 วัน เขาก็มาบอกผมว่า ไปคุยมาแล้ว พี่เขาบอกว่าจะมาก็มา แต่แฟนผมอะอย่ามานั่งที่โต๊ะผมบ่อยนะ ต้องทำงาน ผมเลยสงสัยถามเขาไปว่า หุ้นส่วนต้องทำอะไรบ้างถ้าเธอไม่ทำเดี๋ยวกูไปช่วยทำเองก็ได้ ผมก็เลยอยากจะมาปรึกษาพี่ ๆ ว่าเราควรไปไหมมันจะทำให้แฟนเราอึดอัดมาไปไหม?’

            ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่แนะนำให้เปลี่ยนร้านนะ แต่พี่แนะนำให้เปลี่ยนแฟน ไม่มีคำว่าไปหรือไม่ไปคือการที่จะเดินมาบอกว่า เฮ้ยเธอต้องไปร้านนี้ได้ป่ะ เพราะแฟนเก่าไม่โอเค ถามหน่อยไอ่นั้นเป็นใครแล้วกูเป็นใครก่อนตอนนี้ ชั่งน้ำหนักก่อนใช่กูมา 18 วันกูเดินออกได้นะ ตอนนี้แม็กต้องไปสืบข้อมูล แม็กได้ข้อมูลไม่ครบแล้วล่ะกับเรื่องแฟนเก่าคนเนี้ย การที่แฟนเก่าเลิกมา 2 ปีแล้วนาน ๆ เราเจออกันทีเราจะมาเจอกันแค่ทำร้าน ขอโทษนะแค่ทำร้านปีนึงแปลว่ามันไม่ได้มีการติดต่ออะไรกันมาแล้ว อยู่ ๆ อีนี่จะมาหวงก้างขึ้นมาไม่ใช่ตลอดระยะเวลา 2 ปี ถ้าเลิกกัน 2 ปีจริง ๆ นะยังติดต่อกันอยู่แล้วเป็นแนวทางที่ไม่ใช่เพื่อรตัดขาด แฟนเก่ายังมีความหวังมาโดนตลอดแต่แม็กตอนนี้เลือกแคร์ผิดคน ทีนี้คือโทษเขาไม่ได้นะแม็กเธอมาแค่ 18 วัน สิ่งที่พี่อยากให้แม็กรู้คือน้ำหนักความสำคัญของตัวแม็กตอนนี้ แล้วคือการไปไปได้นะแต่ไม่ได้เต็มใจให้ไปคือการจัดการของคนกลางไม่ดีซึ่งพี่ไม่รู้ว่า คนกลางจัดการไม่ดีหรือคนกลางมันแคร์ตรงนั้นอยู่มันไม่ใช่เรื่องของการทำงาน แฟนเก่ามันเป็นแฟนเก่าจริงหรือเปล่าตอนนี้มันเหมือนมันไม่ใช่แฟนเก่าเท่าที่ฟัง ถ้ายังจะเอาคนนี้แม็กต้องยื่นคำขาดต้องวีนไปเลยว่า ทำไมถึงไม่ให้เราไปทำไมถึงไม่ให้ความสำคัญกับเราแล้วมันต้องเด็ดขาดกับแฟนเก่าไม่ใช่แบบ ไปก็ได้เดี๋ยวถามแฟนเก่าก่อนนะว่าให้เธอมาหรือเปล่า สถานะกูเป็นใคร ต้องตัดสินใตตั้งแต่ตอนนั้นต้องเคลียร์กับแฟนเก่าไม่ให้เรื่องแบบนี้มาถึงเรานะ ต้อง Protect ความรู้สึกเรา เราคือคนปัจจุบันเธอเอาไง ลองถามอึดอัดป่ะกับการที่มีเราอยู่เพราะถ้าเธอรู้สึกว่าอยากให้เราอยู่ตรงเนี้ยเธอทำอะไรให้เรารู้สึกอุ่นใจหน่อยได้ไหม เธอทำอะไรให้เรารู้สึกว่าที่ตรงเนี้ยคุ้มค่ากับการที่เราจะอยู่ตอนนี้เราไม่มั่นใจเลย คนกลางต้องหนักแน่นและเด็ดเดี่ยวมากกว่านี้’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่า 18 วันนี้มีแต่สถานการณ์ประหลาดมาหมดเลย พี่ว่ามันอาจจะไม่ได้เลิกกันแบบตัดขาดเพราะถ้าตัดขาดไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะอยู่ ๆ จะมาหึงเหรอไม่มีสิทธิ์ มันแปลก ๆ หมดเลยแต่พี่เชียร์ให้แม็กไปเพราะ ถ้าแม็กไปวันปีใหม่เนี้ยแม็กก็จะได้รู้แหละว่าตัวเองสำคัญขนาดไหนกับเขา มันอาจจะเคลียร์เลยก็ได้ว่าจริง ๆ แล้วมึงยังลืมเขาคนนั้นหรอก มึงอย่าเอากูมาแบบขัดตาทับขั้นเวลาเลย มึงไปอยู่กับเราเถอะ มันไม่ใช่แค่ข้ออ้างว่าเราต้องทำธุรกิจร่วมกันแล้วแต่อันนี้คือมันแคร์เขาค่ะ เชียร์ให้ไปจะได้รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง อาจจะได้คำตอบคืนนั้นแหละจะได้กลับมาตั้งหน้าตั้งตาเป็น doctor’

            สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘พี่ติดอยู่ขั้นตอนเดียวที่มาบอกเราว่า อีกฝ่ายมาขอคืนดีซึ่งเราทำอะไรไม่ได้เพราะถ้าทำไปแล้วเจาอาจจะงอแงแล้วไม่หุ้นด้วย อันนี้แปลกมากคือมันผิดอะ ถ้าเป็นพี่ก็จะรู้สึกว่าอ้าวอย่างงี้มึงให้ความสำคัญกับใครมากกว่าวะ ถ้าสมมุติแฟนเก่าซึ่งจริงตามที่อ้างเลิกกันมา 2 ปีแล้ว เป็นคนงี่เง่า แล้วจะมาขอคืนดีอะ คนที่แฟนแม็กควรจะห่วงความรู้สึกมากที่สุดคือเรา ที่พึ่งคบกันได้ 18 วัน เขาควรจะปกป้องเรากลับกลายเป็นว่าเขาเลือกที่จะปกป้องความรู้สึกของฝั่งนั้น เป็นพี่พี่น้อยใจตรงนี้ จริง ๆ ถ้าจะเลือกคนที่ไม่มีเหตุผลและงี่เง่าในวงจรนี้ควรจะเป็นแฟนเก่าแล้วควรจะจัดการกับอีนั่น ไม่ใช่มากันเราออก การลำดับความสำคัญหรือแบบความงี่เงาของเขามันเบอร์ไหนวะ ถ้าถามว่าไปหรือไม่ไป คือไปแล้วจะรู้เลยแน่นอนว่าสถานการณ์เป็นยังไงอันนี้จริง แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงผมก็อาจจะไม่ไปก็ได้นะ หมายถึงว่าฉันก็มีเชิงของฉัน ศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกันไม่อยากให้ไปก็ไม่ไปก็ได้แล้วก้ไม่ต้องโทรตามแล้วกันก็อย่ามารู้แล้วกันว่าเคาท์ดาวน์ไปไหน’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีหนูออกไปทำงาน เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน เจอหัวหน้าด่าทุกวัน ด่าโง่ ไม่มีสมอง หัวหน้าเอางานสามีไปเป็นงานตัวเองเพื่อเอาหน้า สามีทนไม่พูดมาตลอด หนูสงสารสามีสุดๆ แต่จะย้ายงานก็ไม่ได้

20 ธ.ค. 2024

หนูเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีหนูออกไปทำงาน เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน เจอหัวหน้าด่าทุกวัน ด่าโง่ ไม่มีสมอง หัวหน้าเอางานสามีไปเป็นงานตัวเองเพื่อเอาหน้า สามีทนไม่พูดมาตลอด หนูสงสารสามีสุดๆ แต่จะย้ายงานก็ไม่ได้

หนูเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีหนูออกไปทำงาน เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นานเจอหัวหน้าด่าทุกวัน ด่าโง่ ไม่มีสมอง หัวหน้าเอางานสามีไปเป็นงานตัวเองเพื่อเอาหน้า สามีทนไม่พูดมาตลอดหนูสงสารสามีสุดๆ แต่จะย้ายงานก็ไม่ได้ เพราะ สวัสดิการที่นี่ดีมากๆ จะทำยังไงต่อไปดีคะ? “คุณบี (นามสมมติ)” อายุ 33 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [18 ธ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาอยากขอวิธีให้กำลังใจแฟนเวลาโดนคำพูด Toxic จากที่ทำงาน โดย “คุณบี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตัวบีเองเป็นคุณแม่ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ส่วนแฟนจะทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ทีนี้เขาเริ่มงานใหม่ แต่สภาพที่เขากลับจากทำงานมาบ้านทุกวัน จะเป็นสีหน้าที่เหนื่อย มันไม่ใช่เหนื่อยกาย แต่เหมือนมันเหนื่อยใจ มันห่อเหี่ยว และเราก็คุยกัน เขาบอกว่า ‘เขาโดนที่ทำงานพูดไม่ดีใส่ ด้อยค่า ทั้งคำหยาบสารพัดมาหมด’ แฟนหนูเป็นคนทำงาน หัวหน้าของเขาโยนงานมาให้ทำ เออเนี่ยทำไปนะ พอทำเสร็จเขาก็เอาผลงานที่แฟนหนูทำไปเป็นของตัวเอง แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดแฟนหนูจะโดนด่าทันที เพราะแฟนหนูตำแหน่งรองลงมาจากเขา เพราะฉะนั้นมันจะต้องคุยกันบ่อย หนูบอกตรง ๆ ไม่ได้จะชื่นชมหรือยอแฟน แต่เขามีความสามารถ หนูอยู่กับเขามา 10 กว่าปีแล้ว เขามีความสามารถ เคยทำงานด้วยกัน เขาพูดภาษาอังกฤษได้ เวลาเขาติดต่อประสานงานกับสายต่างประเทศ หัวหน้าจะพูดอย่างนี้ “มึงก็พูดได้หนิ กูนึกว่ามึงโง่” หรือเวลาทำงานแฟนหนูเสนออะไรไป แต่เขาเหมือนอยากเอาอย่างที่เขาคิด แล้วเขาก็มาด่าแฟนหนู “โง่ปะเนี้ย คิดไม่ได้เหรอ สมองไม่มีเหรอ” ซึ่งบริษัทนี้แฟนหนูพึ่งเริ่มทำมาได้ 2 - 3 เดือนเอง ที่ตัดสินใจเลือกเพราะสวัสดิการและเงินเดือน เลยเลือกที่นี่ มันตอบโจทย์ทุกอย่าง สวัสดิการเขาครอบคลุมถึงครอบครัว เราฟังปัญหาจากเขาแล้วเราก็เครียดนะ แต่เราบอกกับเขาเลยว่าเราอยากให้เขาระบายกับเราให้ได้มากที่สุด ทั้งกอด ทั้งปลอบ ทั้งคุยกับเขา เขาเป็นคนเก่ง เก่งมาก ๆ หนูเชื่อเลยว่างานทุกอย่างที่หนักเขาทำได้ แต่ถ้าอยู่กับคนแบบนี้ทุกวัน หนูกลัวว่าเขาจะเครียดสะสม บางทีเวลาเขากลับมาบ้านนั่งเหม่อและพูดว่า “อะไรวะเนี่ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้” บางทีเราก็น้อยใจ สามีกลับมาเห็นหน้าเราแล้วก็ลูกมันผิดหวังขนาดนี้เลยเหรอ มันเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เขาก็บอกว่าไม่ใช่ แล้วตอนเช้าตอนที่กำลังจะไปทำงาน หน้าเขาลอย ลอยแบบไร้จุดหมายประมาณว่า กูต้องไปทำงานหรือกูต้องไปโดนด่า ถามว่ามันมีผลกระทบกับครอบครัวไหม เวลาเรามองมันรู้สึกสะเทือนใจ เราพยายามปลอบเขาแต่เหมือนมันส่งไปไม่ถึง หนูเคยพยายามบอกเขาว่าถ้าพี่ไม่ไหว พี่ย้ายงานนะ ขอเถอะหนูไม่อยากให้พี่เป็นแบบนี้ แต่พี่เขาตอบกลับมาว่า ‘ลาออกไม่ได้ หาสวัสดิการกับครอบครัวมันยาก’ เพราะหลัก ๆ เขานึกถึงเราแล้วก็ลูก เด็กเนาะยังไงก็ต้องมีประกัน ทั้งครอบครัวแสนนึง มันครอบคลุมกับการรักษาพยายามทุกอย่างเลย ซึ่งบริษัทนี้เขาทำให้ เพราะลูกคนหนึ่งอายุ 5 ขวบ อีกคนก็ 2 ขวบกว่า ๆ เลยอยากขอกำลังใจจากพี่ ๆ และอยากถามพี่ ๆ ว่า มันจะมีวิธีไหนบ้างที่เราจะส่งกำลังใจไปให้ถึงเขา เพื่อให้เขาได้รู้สึกว่าได้ชาร์จแบตให้เขามีพลังไปสู้ต่อและปล่อยวางเรื่องที่ทำงานให้ได้ หนูก็เข้าใจว่า เราพูดว่าให้วางมันอยู่ที่นั่น มันพูดง่าย แต่คนที่รับมันยากมากเลย’ ซึ่งเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มองในมุมดีสิ่งที่เราได้รับ สิ่งที่เราอดทน ราคาที่ต้องจ่ายมันแพงมากในเมื่อคุณบีอยากได้สวัสดิการ อยากได้เงินเดือนทุกอย่างมันดีๆๆ แต่มันแลกมากับบางเรื่องในการ Toxic อย่างน้อยในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มันทำให้ครอบครัวเราสบาย มันอาจจะเหนื่อยใจไปบ้าง ตรงนี้อาจจะต้องแลกเพราะที่อื่นให้เราแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเหนื่อยให้มาระบายกับเรานะ ให้เราเป็นที่พักเลย ไปเหนื่อยอยู่ตรงนั้น แต่พอก้าวเข้าบ้านเราดูแลเขา บีบนวดดูแลเขาอย่างดีให้เขาสบายใจ ให้เขารู้สึกว่ามาอยู่บ้านแล้วผ่อนคลาย ทำที่บ้านอย่าให้ตกหล่น’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณบีต้องไม่เอาความเครียดของเขามาเป็นเรื่องของเราเลย เพราะตอนคุณบีเล่ามา คุณบียังเอามารบกวนจิตใจอยู่ ที่บอกว่าทำไมเห็นหน้าลูก หน้าเมียแล้วยังซีเรียส ทำไมถึงไม่มีความสุข คุณบีต้องเข้าใจเลยว่า เขาจะต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอด เรามีหน้าที่ทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้าเครียดเป็นหน้ายิ้มให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ทำให้เขารู้สึกว่า เมื่อใดที่กลับมาบ้าน ที่นี่คือสวรรค์ของคุณ คุณไปนรกมาแค่ 12 ชั่วโมงทำงาน คุณกลับบ้านนี่คือสวรรค์แล้ว ที่นี่จะมีทุกอย่างให้คุณ ต้องซัปพอร์ตเบอร์นั้นเลย เพื่อให้เขารู้จุดหมายของเขา ‘โอเคอันนั้นกูเอาวิญญาณไปแลก แต่ที่นี่คือที่ของกู’ และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ใช้ลูกเป็นแหล่งเติมพลังครับ ผมเชื่อว่าทุกคนปัญหาจะเบาลงเมื่อเห็นหน้าลูกเวลามีความสุข ให้เขาโฟกัสที่ลูก ถ้าเราทำเพื่อเงินก็ต้องคิดแต่เรื่องเงิน เราทำเพื่อสวัสดิการก็ต้องคิดแต่เรื่องสวัสดิการ ผมแนะนำว่าให้เขาไปคุยกับ HR เท่าที่ผมได้ไปสัมภาษณ์กับองค์กรใหญ่ ๆ มา HR มีผลอย่างมากในการจัดการคนในออฟฟิศของเขา และถ้าเป็น HR ที่ดีพอ บริษัทใหญ่จริง สวัสดิการดีอย่างนี้จริง ๆ HR ต้องมีพาวเวอร์พอที่จะจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กร หัวหน้าที่ Toxic ขนาดนี้แฟนคุณบีไม่ได้เป็นคนแรกที่โดนหรอกครับ HR มีไว้เพื่อช่วยพนักงานในประเด็นแบบนี้นี่แหละครับ สุดท้ายความอดทนคนเรามีจำกัด ต้องบอกกับแฟนเสมอว่าถ้าเธอไหวฉันเชื่อว่าเธอไหว แต่ว่าอย่าบอกตัวเองว่าไหวทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองไหวหรือเปล่า คนบางคนสะกดจิตตัวเองว่าไหว แต่จริง ๆ ข้างในไม่ไหวแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แฟนหนูมีหัวหน้าเป็นผู้หญิงคนนึง อายุเยอะกว่าแฟน มีสามี มีลูกแล้ว แล้วก็สนิทกับหัวหน้าคนนี้ เล่นกับลูกเขาบ่อยๆ หลังๆมาแฟนลาออกจากบริษัทนี้ แต่หัวหน้าก็ยังจ้างแฟนตลอด ไปต่างจังหวัดด้วยกัน แฟนก็มาเล่าว่า “ได้นอนห้องเดียวกับหัวหน้าคนนี้อีกแล้ว”

30 มิ.ย. 2025

แฟนหนูมีหัวหน้าเป็นผู้หญิงคนนึง อายุเยอะกว่าแฟน มีสามี มีลูกแล้ว แล้วก็สนิทกับหัวหน้าคนนี้ เล่นกับลูกเขาบ่อยๆ หลังๆมาแฟนลาออกจากบริษัทนี้ แต่หัวหน้าก็ยังจ้างแฟนตลอด ไปต่างจังหวัดด้วยกัน แฟนก็มาเล่าว่า “ได้นอนห้องเดียวกับหัวหน้าคนนี้อีกแล้ว”

แฟนหนูมีหัวหน้าเป็นผู้หญิงคนนึง อายุเยอะกว่าแฟน มีสามี มีลูกแล้ว แล้วก็สนิทกับหัวหน้าคนนี้เล่นกับลูกเขาบ่อยๆ หลังๆมาแฟนลาออกจากบริษัทนี้ แต่หัวหน้าก็ยังจ้างแฟนตลอด ไปต่างจังหวัดด้วยกันแฟนก็มาเล่าว่า “ได้นอนห้องเดียวกับหัวหน้าคนนี้อีกแล้ว” เขาทำเหมือนปกติมาก ไม่มีอะไรแต่พอเราแอบตามสืบ จากกล้องหน้ารถ เขาปิดกล้อง และ เปิดเป็นบางช่วง ถุงยางที่มี 8 ชิ้น ก็หายไปเหลือแค่ 4 ชิ้น ทั้งๆที่นานๆทีมีอะไรกับเรา ตอนนี้หนูมีหลักฐาน มีแชท ทั้งหมดแล้ว หนูแค้นมากทำไมเขาถึงกล้าทำลงคอ หนูควรเป็นฝ่ายออกไปเงียบๆ หรือเอาเรื่องนี้ไปบอกสามีหัวหน้าคนนี้ดีคะ? “คุณฟ้า (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี เป็นสายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [25 มิ.ย 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องปัญหาชีวิตคู่กับแฟนที่คบกันมา 6 ปี นอกใจไปมีอะไรกับเจ้านายตัวเอง โดย “คุณฟ้า (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คบกับแฟนมา 6 ปีแล้ว แฟนนอกใจไปมีอะไรกับเจ้านายตัวเอง เขาทำงานที่นี่มาก่อนที่จะเจอหนู ซึ่งเจ้านายคนนี้หนูรู้จักเป็นอย่างดีเลย เพราะเขาเป็นเจ้านายของแฟนเรา เราก็ได้ไปเที่ยว กินข้าว สังสรรค์ปาร์ตี้ด้วยกัน แล้วเขาก็มีสามี มีลูกแล้วด้วย เขาก็คุยกับแฟนเราเหมือนเป็นพี่สาวที่สนิทแล้วก็ดูรักสามีตัวเองมาก แต่ในความรู้สึกของเรา รู้สึกว่าแฟนเราบ้างานมาก เราไม่สามารถไปพูดถึงงานเขาได้เลย แฟนทำงานมาได้ประมาณ 4 ปี เขาก็มาบอกกับเราว่าอยากลาออกจากงานแล้วมาทำงานกับเรา อยากเป็นเจ้านายตัวเอง ซึ่งบ้านของหนูเปิดบริษัทเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำงานอยู่ เราก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วเราก็ซัพพอร์ตเขา ก็ให้เขาลาออกจากฝั่งนั้นแล้วมาทำงานกับฝั่งเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขามารับเงินเดือนจากทางบ้านเรา เขาหาลูกค้าด้วยตัวเอง เหมือนเป็นฟรีแลนซ์ไปแทน ก่อนที่เขาจะลาออกมาเราก็รู้สึกสงสัย เราไม่ได้อยู่กินด้วยกันแต่เราจะเจอกันทุกวันศุกร์ และเราก็มีไปทำงานที่ต่างจังหวัด ต้องนั่งเครื่องบินไป ก็เอารถฝากไว้ที่เขา จนตอนที่เรากลับมาจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าอยากเปิดดูกล้องในรถ วันแรกที่เปิดดูกล้องมันเปิดขึ้นอีกทีตอนดึก ตอนที่ใกล้จะถึงที่พักเขาแล้วเหมือนมันถูกปิดเอาไว้ ก็รู้สึกแปลกใจเพราะกล้องในรถเรามันไม่เคยปิด พอวันต่อมาหนูมาเปิดฟังอีก ได้ยินว่าหลังจากที่เขาโทรหาหนูสักพักเขาก็โทรหาเจ้านายเขา ประมาณว่าตื่นรึยัง เหนื่อยไหม กินอะไรไหม อ้อนกันแบบที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ถ้าเอาคลิปนี้ไปให้เขาดูเขาก็จะดิ้นได้ เพราะหลักฐานมันยังไม่แน่น หนูก็เลยเก็บเอาไว้ก่อนเพราะยังไงเขาก็ย้ายออกมาแล้ว แต่ปรากฏว่าบริษัทเขาเรียกตัวเขากลับไปทุกครั้งที่มีงานบ่อยมาก อีกอย่างหนึ่งคือมันจะมีงานที่ต้องออกไปต่างจังหวัด เขาก็ไปนอนด้วยกันอีก แต่เขาบอกหนูเหมือนเป็นเรื่องปกตินะ แรก ๆ หนูก็ไว้ใจ เขาไม่น่าทำอะไรแบบนั้นเพราะเราก็รู้จักกันและเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรแบบนั้น จนประมาณท้ายปีที่แล้วเขาก็ไปทำงานด้วยกันบ่อยมากแล้วจะชอบหายไปเลย แฟนหนูบอกว่ายุ่งไม่มีเวลาโทรหา จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหนูก็จัดของที่บ้านเขาเพื่อจะเอาของไปให้เขาทำงานที่ต่างจังหวัด หนูก็ดันไปเจอถุงยางในลิ้นชักของเขาหนูก็เลยจะเก็บใส่กล่อง ก็สงสัยว่าทำไมมันเหลืออยู่แค่ 4 ชิ้น ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้มีอะไรกับหนู เพราะถุงยางกล่องนั้นมันมี 12 ชิ้น เมื่อไม่กี่วันมานี้หนูเลยเข้าไลน์ของเขาใน iPad ของหนู พอวันจันทร์หนูไปทำงาน เขาก็โทรหากันเลย หลังจากนั้นหนูก็เลยรู้เลย ก่อนหน้านี้หนูก็ถามตลอดว่าทำไมต้องลบแชทที่คุยกับเจ้านาย เขาก็บอกว่ารูปมันเยอะเครื่องมันค้างก็เลยต้องลบ ในเจ้านายเขาก็ถามแฟนหนูว่าจะตัดผมสั้นดีไหม แฟนหนูบอกว่าไว้ผมยาวดีกว่าจะได้ปิดหน้าปิดคาง แล้วเจ้านายเขาก็พิมพ์มาว่าถ้าปิดหน้าปิดคางแล้วจะหอมอะไรล่ะยิ่งชอบหอมอยู่ด้วย แค่นี้มันก็ชัดมากแล้วแต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันหนูอยากเห็นหน้าเขาตอนที่หนูบอกเรื่องนี้ หนูยังไม่เลิกกับเขาแต่จะมาปรึกษาเพราะว่าวันเสาร์นี้หนูจะนัดเคลียร์กับเขา หนูมีอยู่ 3 ทาง 1.คือเลิกเลยแล้วไม่ต้องไปยุ่ง 2.บอกผัวของเจ้านายเขาเพราะหนูก็รู้จักผู้ชายคนนั้น 3.บอกเลิกแล้วให้ผู้หญิงคนนั้นจ่ายเงินมาให้หนูด้วย เป็นค่าปิดปากและจะไม่ประจาน’ ทางด้าน “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แนะนำไปทางข้อ 1 แล้วกัน ให้ตัดข้อ 3 ไปเลย ถ้าไปเรียกเงินเขาเดี๋ยวจะโดนจับเอาเปล่า ๆ แต่ถ้าวันนี้นอนคิดดูแล้วมันแค้นมากก็ไปบอกผัวเขา แต่มันก็จะทำลายไม่ใช่แค่เขานะ มันจะทำลายลูกและครอบครับเขาด้วย อยู่ที่ว่าเราจะอยากลากคนอื่นเข้ามาในวงจรนี้อีกไหม’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แนะนำให้เลิกเลยไม่วุ่นวาย แต่ถ้าอยากให้ชีวิตวุ่นวายก็ทำให้หมดเลย บอกผู้หญิงคนนั้นให้จ่ายค่าปิดปาก แต่พอเขาให้เงินแล้วบอกผัวเขาเลย แต่ฟ้าต้องยอมรับผลของการกระทำที่ตัวเองทำนะ ฟ้าอาจจะโดนผัวฟ้าด่า แต่การแก้แค้นครั้งนี้มันจะสนุกมากเพราะฟ้าจะได้ทำในสิ่งที่ฟ้าอยากทำ’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เข้าข้างฟ้า มันต้องแค้นสิ เรียกหัวหน้าเขามาคุยแล้วถามว่านี่ใช่แชทเขาไหม หนูลบแชทได้นะ แล้วบอกเขาว่าหนูมีหนี้ต้องใช้ 100,000 บาท อย่าบอกว่าเราขอให้เขาเสนอมาเอง แต่ฟ้าต้องเลือกว่าจะเอาอะไรระหว่าง 2 กับ 3’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมผิดไปแล้ว... ภรรยาจับได้ว่าผมเซฟรูปเพื่อนภรรยาไว้ในไดร์ฟ ใช้ AI ตัดต่อให้เพื่อนภรรยาเปลือย จะเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะไปอ่านเจอในกระทู้มาว่า ‘ลองกับคนใกล้ตัวจะตื่นเต้นดี’ พอภรรยาเห็น รับไม่ได้ ไม่ให้อภัยผม ต่อจากนี้ผมจะทำยังไงดีครับ?

08 มี.ค. 2024

ผมผิดไปแล้ว... ภรรยาจับได้ว่าผมเซฟรูปเพื่อนภรรยาไว้ในไดร์ฟ ใช้ AI ตัดต่อให้เพื่อนภรรยาเปลือย จะเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะไปอ่านเจอในกระทู้มาว่า ‘ลองกับคนใกล้ตัวจะตื่นเต้นดี’ พอภรรยาเห็น รับไม่ได้ ไม่ให้อภัยผม ต่อจากนี้ผมจะทำยังไงดีครับ?

“คุณปุ๋ย (นามสมมติ)” อายุ 39 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [6 มีนาคม 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่ภรรยาไปเจอรูปวาบหวิวของคนใกล้ตัวที่เราแอบเซฟไว้ โดย “คุณปุ๋ย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ตอนนี้ผมมีปัญหากับภรรยา เนื่องจากภรรยาเปิดคอมพิวเตอร์ผมเพื่อหารูปลูกสาวที่ภรรยาเผลอลบไป แล้วดันไปเจอรูปวาบหวิว หนังติดเรท ซึ่งเป็นรูปของเพื่อนสนิทและคนใกล้ตัวของภรรยาที่ผมเป็นคนตัดต่อ เพื่อเอาไว้ช่วยตัวเอง เพราะผมไปอ่านเจอในอินเทอร์เน็ตว่า “ลองช่วยตัวเองกับรูปคนใกล้ตัวจะตื่นเต้นมากกว่า” พอภรรยาเห็นรูปพวกนั้นก็พยายามคิดหาเหตุผลกับตัวเองว่าผมทำแบบนั้นทำไม จนภรรยาบอกกับผมว่าเราควรแยกทางกัน ส่วนลูกสาวภรรยาจะเป็นคนดูแลเอง อีกอย่างหนึ่งที่ผมยอมรับผิด คือ ผมเฉยชากับครอบครัวและมักจะผลักภาระทุกอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้ภรรยาดูแลทั้งหมด ซึ่งภรรยาก็ทำงานไปด้วยและเลี้ยงลูกไปด้วย เวลาที่ผมเหนื่อยกับการทำงานและกลับบ้านมาเจอลูกงอแง ผมก็จะผลักให้ภรรยา เรื่องนี้ก็สะสมมาเรื่อย ๆ จนทำให้ผมมองว่าความรักที่เคยมีให้กันจืดจางลง ยิ่งภรรยาไปเจอรูปวาบหวิวก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ภรรยาก็พูดกับผมว่า “ผมทำหน้าที่พ่อได้ขาดตกบกพร่อง ในเรื่องของการดูแลภรรยาและลูก” ผมเองก็รู้สึกผิดกับภรรยามาก เพราะไม่ดูแลเหมือนตอนแรก ๆ ที่จีบกัน หลังจากที่ภรรยาขอหย่า ผมก็พยายามเปลี่ยนตัวเอง พยายามเข้าหาลูก ดูแลลูกมากขึ้น ผมยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อย แต่ลูกก็เข้าหาผมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผมคิดกับตัวเองว่าผมก็ทำได้แต่ทำไมผมถึงไม่ทำตั้งแต่แรก ตอนนี้ภรรยาก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ภรรยาก็ยังมองว่าที่ผมทำอยู่เพราะรู้สึกผิดหรือเปล่า ทำแค่ช่วงแรก ๆ พอเวลาผ่านไปก็คงเป็นเหมือนเดิมอีก เพราะความเชื่อมั่นที่มีผมเป็นคนทำมันพังกับมือตัวเอง แล้วผมจะเป็นคนแก้ไขได้ยังไง? ซึ่งเหตุผลที่ภรรยาขอหย่าก็คือ ภรรยารับไม่ได้เรื่องรูปวาบหวิว เพราะภรรยาไม่รู้จะทำตัวยังไงเวลาเจอเพื่อน จะมองหน้าเพื่อนติดไหม? ทำไมภรรยาต้องมารู้สึกผิดกับเพื่อน ทั้งที่ภรรยาไม่ได้เป็นคนทำผิด แล้วยิ่งผมก็มีลูกสาว ผมทำอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกลูกสาว ภรรยารู้สึกขยะแขยงผมมาก ผมก็รู้สึกแย่มาก ๆ อยากขอโอกาสแก้ตัว แก้ไขเรื่องนี้ ผมก็กลัวว่าภรรยากับลูกจะทิ้งผมไปก่อนที่ผมจะทำสำเร็จ เพราะภรรยามองว่ามันทรมานมาก เรื่องที่อยากขอคำปรึกษาคือ ผมจะสร้างความเชื่อใจใหม่ให้กับภรรยาได้ยังไง?’ งานนี้ “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘2 สิ่งที่ผู้หญิงจะดูคือ 1. คือความตั้งใจในการสำนึกผิดและเรื่องคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก 2. คือการกระทำ ซึ่งจุดอ่อนของผู้หญิงคือ ลูก เล่นกับลูกในสิ่งที่ภรรยาเล่นกับลูกไม่ได้ ทำให้ครอบครัวนี้ขาดคุณปุ๋ยไม่ได้ แต่ไม่ได้ทำเพื่อเอาคะแนน ทำเพื่ออยากรักษาครอบครัวไว้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องมาจากใจ ถ้าวันนี้ครอบครัวที่มีภรรยาและลูกคือความสุขของคุณปุ๋ย ทุ่มทุกอย่างให้สุด เพื่อที่จะดูแลครอบครัวนี้ ให้เวลา และชดเชยในสิ่งที่ผ่านมา ทำให้ภรรยาไม่เหนื่อย ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือทางจิตใจ ก็อยากอวยพรให้ภรรยายังอยากอยู่เป็นครอบครัวต่อ เพราะฉะนั้นรีบซื้อใจลูกให้ได้มากที่สุด’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณปุ๋ยต้องบอกกับตัวเองก่อนว่าต้องเหนื่อยแน่ ๆ กับการที่จะทำทุกอย่างให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าคุณปุ๋ยเห็นปลายทางว่า ความเหนื่อยที่เราจะต้องตัด เรื่องรสนิยมบางอย่างที่เราชอบออก เปลี่ยนแปลงนิสัยที่เคยทำกับครอบครัว และไม่รู้ว่าความไว้ใจจะกลับมาเมื่อไหร่ ซึ่งคุณปุ๋ยก็ไม่มีสิทธิ์ไปเร่งภรรยาว่าทำมาจะกี่ปีแล้วแต่ทำไมยังต้องทำอยู่ ทั้งหมดคือคุณปุ๋ยต้องทำใจยอมรับเลยว่า ไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งสิ้น ถ้าคุณปุ๋ยอยากให้ปลายทาง ยังคงเป็นครอบครัวเหมือนเดิมอย่างที่คุณปุ๋ยต้องการ พี่อยากให้กำลังใจว่า สักวันมันต้องมีวันที่คุณปุ๋ยเหนื่อยมาก ๆ ทั้งเอาใจภรรยาและดูแลลูก ก็อยากให้คุณปุ๋ยนึกถึงภาพสุดท้ายว่า วันนั้นเรายังมีกันและกันเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก สุดท้ายไม่ว่าคุณปุ๋ยจะพยายามสักเท่าไหร่ แต่ภรรยาไม่สามารถเอาความเชื่อใจนั้นกลับมาได้ คุณปุ๋ยก็ต้องยอมรับให้ได้ หลังจากนั้นก็หาวิธีที่จะเป็นพ่อแม่ของลูกให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ อย่าเอาแต่ความต้องการเราอย่างเดียว จนอีกคนเขาไม่มีความสุข’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องนี้ต้องขอบคุณลูกสาวให้เยอะ ๆ คุณปุ๋ยต้องใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดเพื่อภรรยาและลูก คุณปุ๋ยทำเพื่อตัวเองมาตลอด ละเลยครอบครัวจนลูกสาว 4 ขวบ ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก ต่อจากนี้ไม่ว่าภรรยาจะไม่มีเหตุผล หรืองี่เง่าอะไร คุณปุ๋ยคงต้องยอมทุกอย่าง เพื่อที่จะให้ได้ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้สำหรับผมมันหนักเหลือเกิน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

16 ส.ค. 2023

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจ เพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆ จนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลย

เสียความมั่นใจไปเลย... สาวโทรแชร์ประสบการณ์กับ 3 ดีเจเพิ่งไปนัด One Night Stand ครั้งแรกกับหนุ่มในแอปหาคู่ตอนเจอกัน เขินมาก ทำตัวไม่ถูกเลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยๆจนเขาพูดว่า "เธออย่าล่กดิ" โยนเสื้อใส่อกเรา แล้วออกจากห้องไปเลยตอนนี้ไม่มั่นใจในตัวเองเลย ทำยังไงให้เอาความรู้สึกพวกนี้หมดไปสักที “คุณอิง (นามสมมุติ)” อายุ 21 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (9 ส.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก -ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอมเกี่ยวกับปัญหานัด One Night Stand ครั้งแรก ยังไม่ทันเริ่ม ก็โดนเขาบอกว่าอย่าล่ก แล้วก็ออกจากห้องไปเลย โดย “คุณอิง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เหตุการณ์ที่หนูเจอ ทำให้หนูเสียความมั่นใจจากการนัด ONS (One Night Stand) หนูขอเกริ่นก่อนว่า... ครั้งนี้คือการนัด ONS ครั้งแรกของหนู คิดว่าเรียนมหาลัยมา 4ปีแล้ว หนูก็อยากลองสักครั้งนึง เราเจอกันทางแอปหาคู่ ส่วนรูปที่ใช้ในโปรไฟล์กับตัวจริงก็ใกล้เคียงกัน ใส่ฟิลเตอร์นิดหน่อย ซึ่งเขาอายุพอๆกับหนู เราคุยกันและตกลงนัดกันคืนนั้นเลย เพราะอยู่ใกล้กันมาก หลังจากนั้นเขาก็มาที่ห้องหนู คือตอนนั้น ยอมรับเลยว่าเขินมากไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูก็เลยชวนเขาคุย ถามไปเรื่อยนู่น นั่น นี่ ช่วงแรกๆเขาก็ตอบหนูปกติ ดูจอยกับเรามาก สักพักนึงเขาก็เริ่มตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง นั่งเล่นโทรศัพท์บ้าง เริ่มไม่จอยแล้ว ซึ่งในระหว่างที่หนูชวนเขาคุย เขาจะพูดขึ้นมาตลอดเลยว่า เธออย่าล่กดิว่ะ อย่าล่กได้ปะ พอเห็นเขาพูดบ่อย ๆ หนูก็เลยเลิกถามเขา มันก็เลยกลายเป็นการเงียบใส่กัน แต่หนูว่า หนูก็ไม่ได้มีแสดงอาการตัวสั่น ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น หนูคิดว่าอาจจะชวนเขาคุยเยอะเกินไปกว่าที่หนูคิด ตอนคุยกันก็ถามประมาณ เธอเคยนัดหรือป่าว นัดมากี่คนแล้ว เรียนที่ไหน คณะอะไร คำถามประมาณนี้... หลังจากนั้นเขาก็พูดย้ำอีกรอบ เธอดูล่กจัง ถ้าไม่อยากทำ เดี๋ยวกลับก็ได้นะ หนูก็เลยถามเขาไปตรงๆว่า จะเริ่มเลยไหมหละ? เขาก็พยักหน้า แล้วเหมือนแบบสถานการณ์ตอนนั้นเขาดูแฮปปี้ขึ้นมาเลย ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาตึงใส่หนู แล้วทีนี้ก็ตามสเต็ปเลย เล้าโลมกันปกติ แล้วหนูก็เหมือนอยากจูบเขา ก็เลยถามเขาว่า ไม่ Kiss กันหน่อยหรอ เขาก็นิ่งใส่หนูไปแป๊ปนึง แล้วก็ตอบกลับมาว่า เราไม่ค่อยชอบจูบอะ หลังจากนั้นเขาก็หยุดทำทุกอย่าง แล้วก็พูดต่ออีกว่า เธอดูล่กว่ะ ไม่ธรรมชาติเลย แล้วเขาก็โยนเสื้อมาปิดหน้าอกหนูไว้ แล้วก็ลุกขึ้น บอกกับหนูอีกรอบว่า เธอดูล่กอะ ไม่ธรรมชาติ แล้วก็ออกจากห้องหนูไปเลย ตอนนั้นคือหนูนั่งเอ๋อเลย หนูตั้งตัวไม่ทันว่าหนูผิดอะไร ที่หนูโทรเข้ามาวันนี้ก็เพราะ มันเสียความมั่นใจไปแล้ว คืนนั้นหนูนอนไม่หลับ รู้สึกดาวน์มาก ไม่มั่นใจในตัวเอง หนูอยากรู้วิธีเอาความรู้สึกนี้ออกไป แล้วก็อยากรู้ว่าที่หนูทำออกไปคืนนั้นมันดูล่กจริงๆหรอ? หนูค้างคาใจมากที่อยู่ดีๆเขาก็ไปเลย ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” เริ่มให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับคนบางคนที่เขาจะนัดมาเพื่อมีเพศสัมพันธ์ เขาไม่ต้องการการพูดคุยนะ เขามาเพื่อต้องการทำสิ่งนั้นแล้วจบ แล้วก็กลับ มันไม่ใช่การมาเดท เขาไม่ได้ต้องการมาอารัมภบท ไม่ต้องการจะรู้จัก บางคนไม่สนใจชื่อด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร มันคือการนัดมาเพื่อทำกิจกรรมนั้นอย่างเดียว เรารู้สึกการที่น้องพยายามพูดคุย พยายามไปถามอย่าง “อยากจูบ” คือถ้าธรรมชาติคนที่เขาทำอะไรแบบนี้ เขาจะไม่ถาม ถ้าอยากทำเขาทำเลย พี่เลยรู้สึกว่าเนี่ยคือสาเหตุที่เขาทำแบบนั้นกับอิง แต่เอาจริง ๆ มันมีสาเหตุอีกมากมาย ที่พี่พูดคือพี่เดาจากสถานการณ์ที่อิงเล่ามานะ ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่รู้ธรรมชาติของการนัดมีอะไรกันผ่านแอป เพราะเท่าที่พี่ฟัง พี่ไม่ได้รู้สึกมันล่ก หรืออะไรนะ พี่ก็รู้สึกมันคือการทำความรู้จักกันก่อน แบบเปิดประตูมาจะให้จุดระเบิด ปั้ง โป้ง เป้ง แล้วแยกย้าย มันก็ตลกนะ หรือเอาแบบนี้ คิดในมุมพี่ อิงดันไปเจอคนที่เขาโผงผาง คนละสไตล์กับเรา ทั้งสองคนอาจต้องการเซ็กส์เหมือนกัน แต่คนนึงไม่อยากคุย อีกคนอาจจะเออเราคุยกันก่อนสิ แล้วดันไปเจอคนที่ไม่รักษาน้ำใจ ขี้รำคาญ มันก็หงุดหงิดอะไรมาด้วยหรือเปล่า แต่พอพี่ฟังจบ พี่กลับรู้สึกโชคดีจังเลย เหมือนเป็นโชคดีของอิงที่ไม่ได้อะไรมากกว่านี้กับคนนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้ามีอะไรกันจริงๆ แล้วพอแยกย้าย บรรยากาศตอนนั้นอาจจะทำให้อิงรู้สึกยิ่งด้อยค่าตัวเองลงไปอีกหรือเปล่า เราอาจจะมาลงในสนามที่เราไม่เคย แล้วเราก็ไม่รู้ธรรมชาติของคนในแอปนี้ ว่าเขาต้องแนะนำตัวไหม คุยกันแค่ไหน หลายครั้งที่คนโทรเข้าพุธทอล์ค พุธโทร แล้วเล่าว่าไปเล่นผิดสนาม มือใหม่ เข้าไปเขาอาจจะมีทำเนียมของเขาที่เราอาจไม่รู้ เพราะฉะนั้นพี่ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้เอาไปผูกกับความมั่นใจ หรือคุณค่าในตัวเอง พยายามคิดไว้ว่าในโลกที่เขานัดเจอกันผ่านแอป มันก็ไม่ต้องมานั่งประดิดประดอยกันมาก ถ้าเราอยากประดิดประดอย อยากคุยก็ต้องลองช่องทางอื่น เอาเป็นว่า รสนิยม สไตล์มันดันไม่ตรงกัน แล้วดันไปเจอคนไม่แคร์อะไรด้วย จะไปก็ไปเลย มันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ถูกที่ ถูกเวลา แล้วก็ถูกคน มันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทั้งหลายทั้งมวลถ้าต้องการอะไรที่สวยงามก็หาช่องทางที่เหมาะสมกับเรา และกลับไปถามกับตัวเองว่า “ฉันเหมาะกับ One Night Stand หรือเปล่า” ปิดจบกันที่ “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า “ไม่ต้องไปเสียความมั่นใจ คนนั้นก็อ่อนด้อยเหมือนกันแหละ ทำไมไม่เริ่มก่อนหละ มาว่าอิงล่ก ก็เปิดมาก่อนสิ ถ้าเปิดเราก็พร้อมตามอยู่แล้ว เป็นผู้ชายก็ลุกมากก่อนสิ งี้ก็มือใหม่เหมือนกันนั้นแหละ เข้าไม่ถูกไง” ‘เอาแบบนี้ถ้าอยากได้คนที่มีชั้นเชิง เป็นงานก็อาจจะต้องหาคนที่อายุมากกว่านี้ แล้วอิงเป็นคนชอบแบบมีเรื่องราวก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าแบบนี้เวลาหนูเข้าในแอป มันจะมีให้เลือกหลายประเภท มันมีโอกาสที่หนูจะเจอคนแบบจู่โจม หนูลองเปลี่ยนสนามไปร้านเหล้า มีคนแนะนำ เราดีลกันหน้างาน หนูยังเลือกคนได้ ยังสนทนากันได้นิดนึง ยังพอได้จีบกันหน่อย…..’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1