บริษัทแฟนจัดสัมมนา แต่แฟนเรามาบอกว่า หัวหน้าเขาขอเก็บเงินน้องๆผู้ชายในทีมหลักหมื่น เราเลยถามว่าบริษัทจัด ทำไมเธอต้องจ่าย? แฟนบอก "หัวหน้าเขาเตรียมเด็ก N รอไว้ที่นู่นแล้ว" จะไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะเพิ่งเลื่อนตำแหน่ง ตอนนี้หนูควรทำยังไงดี?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

บริษัทแฟนจัดสัมมนา แต่แฟนเรามาบอกว่า หัวหน้าเขาขอเก็บเงินน้องๆผู้ชายในทีมหลักหมื่น เราเลยถามว่าบริษัทจัด ทำไมเธอต้องจ่าย? แฟนบอก "หัวหน้าเขาเตรียมเด็ก N รอไว้ที่นู่นแล้ว" จะไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะเพิ่งเลื่อนตำแหน่ง ตอนนี้หนูควรทำยังไงดี?

02 ก.ค. 2024

            “คุณข้าว (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (26 มิ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับแฟนไปสัมนาต่างประเทศ แต่โดนเก็บเงินจ้างเด็กเอ็น

            “คุณข้าว (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘แฟนต้องไปสัมนาไปดูงานกับทางบริษัทที่ต่างประเทศ แล้วแฟนมาบอกว่าต้องไปที่ที่นึง (ขอไม่เอ่ยชื่อ) แล้วเหมือนผู้จัดการจะเรียกเก็บเงินพนักงานในแผนกทุกคน เพื่อไปซื้อบริการ หรือจ้างเด็กเอ็นมาเอ็นเตอร์เทรน หนูงงว่า ทำแบบนี้กันได้ด้วยหรอ? เพราะผู้จัดการก็มีภรรยาแล้ว แล้วทำไมถึงจะจ้างเด็กเอ็น หนูไม่ค่อยสบายใจเลย ไม่ใช่หนูไม่ไว้ใจแฟนนะ แต่บางทีหนูไม่ไว้ใจเพื่อนร่วมงานเขา

            สมมติว่าแฟนหนูไม่ได้ทำก็จริง แต่ถ้าเกิดว่าโดนยั่วยุ พี่คุิดว่ามันจะอยู่เฉยๆได้ใช่มั้ยคะ ซึ่งหนูไม่โอเคเลยถ้าแฟนจะซื้อบริการ หนูถามเขาแล้วว่าอยากไปไหม เขาก็บอกว่า “ไม่อยากไป แต่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมา” หนูเพิ่งคบกันมาไม่นานมากเกือบครึ่งปี เวลามีอะไรก็จะเล่าให้ฟัง เขาเคยเล่าให้หนูฟังว่าเคยไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ครั้งนั้นมีเพื่อนไปด้วย เลยไม่ได้อยู่ร่วมวงเพราะแอบหนีกันมา แต่ครั้งนี้เพื่อนเขาไม่อยู่ด้วย หนูอยากถามว่า “ถ้าแฟนหนูไปหนูจะไว้ใจเขาได้ไหม หรือจะเอายังไงดี’

                โดย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า “ถ้าพี่รับไม่ได้เรื่องเด็กเอ็น แฟนก็ไม่มีสิทธิ์ไปปาร์ตี้เด็กเอ็นอยู่แล้ว และพี่ก็เชื่อว่าไม่มีใครบังคับให้ใครใช้บริการนี้ได้ถ้าเจ้าตัวไม่เต็มใจ เป็นไปไม่ได้ เพราะนี้คือสิ่งที่ไม่ปกติ มันอาจจะเป็นพฤติกรรมปกติของผู้ชาย แต่ก็เป็นแค่คนเฉพาะกลุ่มที่ชอบแบบนี้ แล้วคนเหล่านี้ก็จะไม่บังคับคนที่ซื่อสัตย์ หรือรักแฟนให้ร่วมทำกิจกรรมนี้แน่นอน และด้วยประสบการณ์ของพี่ที่เขาเล่าว่า ”ปีที่เลยเคยเจอแบบนี้แล้วหนีออกมา“ มันคือการเล่าเกริ่นไปก่อนว่าเขาเป็นคนแบบไหน ถ้าหนีออกมาได้ มันไม่ได้ตั้งแต่แรก แล้วที่พี่ถามว่า ”ข้าวรับได้ไหมเรื่องเด็กเอ็น“ ถ้ารับไม่ได้ นั่นแปลว่ากิจกรรมนี้ต้องไม่เกิดขึ้นกับเธอ ต้องปฏิเสธ เพราะถ้าข้าวรับไม่ได้แล้วข้าวจะแคร์ผู้ชายคนนี้ทำไมที่เขาเป็นผู้ชายสายปาร์ตี้เด็กเอ็น ของแบบนี้ไม่มีใครบังคับให้ใครทำ มันไม่เหมือนการประกวดแต่งแฟนซีของงานเลี้ยงบริษัท อันนั้นมันเป็นกฎบริษัท แต่การใช้บริการเด็กเอ็นโดยการจ่ายเงิน ต้องมาจากความสัมครใจทั้งนั้น พี่จะไม่ตัดสินว่าแฟนข้าวเป็นแบบนั้นหรือป่าว แต่ถ้าข้าวรับไม่ได้ ไม่ผิดเลยที่จะยืนคำขาดว่า ไปสัมนากับบริษัทได้ แต่ไปกิจกรรมนี้ไม่ได้ แล้วในบริษัทไม่มีใครหน้าไหนบังคับเธอได้ด้วย เพราะมันเป็นสิ่งที่ปฏิเสธแล้วมันไม่น่าเกลียด แล้วพี่อยากให้ข้าวสังเกตุแฟน ไปเช็คเลยว่าเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ ระวังจะเจอตัวพ่อ ลองเผื่อใจไว้หน่อย เพราะผู้ชายดีๆปฏิเสธแน่นอน’

            ต่อมา “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่คิดว่ามันไม่ใช่กิจกรรมหลักแน่ๆ ลองคิดดูนะว่ามีบริษัทจัดงานสัมนา แล้วปาร์ตี้เด็กเอ็นอยู่ในตารางกิจกรรม มันประหลาดนะ มันเหมือนกับแค่ไปเที่ยวกันแล้วพอกลางคืนก็ออกไปปาร์ตี้เตรียมเด็กเอ็นไว้ เพราะฉนั้น Main Event ควเป็นการไปเที่ยวไปทัวร์ แต่คงมีสักคืนหนึ่งที่แก๊งนี้จะแยกตัวออกไปเที่ยว เพราะฉนั้นไม่ใช่เรื่องเลยที่จะบอกว่าโดนบังคับ ไม่มีทางเลย ยิ่งกลุ่มหนึ่งแยกออกไป แล้วแฟนของข้าวบอกว่า “ตัวเองเค้าโดยบังคับ” ไม่เลยมึงอะอยากไปเองค่ะ ยิ่งบริษัทใหญ่ยิ่งไม่มีทางเลย พี่ยังไม่ได้ตัดสินแฟนหนูนะ ถ้าเกิดแฟนไม่อยากไปจริงๆ ลองให้เขาปฏิเสธ ลองไม่ไปดู แค่ไปเที่ยวปกติ ไปทัวร์ พอตกกลางคืนก็กลับเข้าห้อง’

                สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เห็นด้วยกับทุกคนเลย พี่ว่าถ้าข้าวไม่ชอบ ก็บอกเขาไปเลย แล้วมาดูว่าเขาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง เขาจะไป เขาจะไม่ไป หรือถ้าแบบขี้เหล่สุดคือเขาจ่ายเงินแต่ไม่ไป และมันก็มีวิธีที่ทำให้ข้าวสบายใจว่าเขาไม่ได้ไปจริงๆ วิดีโอคอลก็ยังได้ พี่ว่ามันเป็นสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ ว่าเขาไม่ไปที่นั้น ถ้าเขาพูดออกมาว่าไม่ชอบ ม่อยากไปที่นั้น พี่ว่าข้าวก็มีสิทธิ์ขอให้เขาทำในสิ่งที่เขาพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ไปจริงๆ และยิ่งข้าวบอกว่า เขาได้เลื่อนขั้น เขายิ่งมีสิทธิ์เลือกว่าเขาจะทำอะไรไม่ทำอะไรนะ’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ที่หนีบปูหนูผิดตรงไหน? พรุ่งนี้หนูจะไปกินเลี้ยงปีใหม่ ทุกครอบครัวจะเอาอาหารไปรวมกัน บ้านเจ้าภาพเลี้ยงกุ้งล็อบสเตอร์ กับ ปูขน หนูบอกพ่อแม่ว่าเตรียมที่หนีบปูไปด้วยไหม จะได้กินกันสะดวก พ่อแม่หัวเราะ บอกเอาไปไม่ได้ จะดูตั้งใจไปกินเกิน

17 ม.ค. 2025

ที่หนีบปูหนูผิดตรงไหน? พรุ่งนี้หนูจะไปกินเลี้ยงปีใหม่ ทุกครอบครัวจะเอาอาหารไปรวมกัน บ้านเจ้าภาพเลี้ยงกุ้งล็อบสเตอร์ กับ ปูขน หนูบอกพ่อแม่ว่าเตรียมที่หนีบปูไปด้วยไหม จะได้กินกันสะดวก พ่อแม่หัวเราะ บอกเอาไปไม่ได้ จะดูตั้งใจไปกินเกิน

ที่หนีบปูหนูผิดตรงไหน? พรุ่งนี้หนูจะไปกินเลี้ยงปีใหม่ ทุกครอบครัวจะเอาอาหารไปรวมกันบ้านเจ้าภาพเลี้ยงกุ้งล็อบสเตอร์ กับ ปูขน หนูบอกพ่อแม่ว่าเตรียมที่หนีบปูไปด้วยไหม จะได้กินกันสะดวกพ่อแม่หัวเราะ บอกเอาไปไม่ได้ จะดูตั้งใจไปกินเกิน หนูแค่หวังดีอยากให้ทุกคนกินกันสะดวกขึ้น “คุณเอฟ (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่ห้าในรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ เมื่อคือวันพุธที่ [15 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาปาร์ตี้บ้านเพื่อน โดย “คุณเอฟ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เพื่อนสนิทของพ่อ เขาจัดงานปีใหม่วันที่ 18 มกราคมนี้แล้วเขาเชิญครอบครัวเราไป ในงานจะมีประมาณ 10 คน หนูก็เลยถามพ่อว่าในงานเป็นแบบไหนยังไง เราจะได้เตรียมพร้อม เตรียมตัว เพื่อให้ดูเข้ากับงาน พ่อก็เลยบอกว่าทุกคนจะเอาอาหารไปแชร์กัน ฟีลแบบหนังฝรั่งที่มีเพื่อนบ้านมาปาร์ตี้กัน เราก็เลยคุยกันว่า เราจะเอาอาหารอิตาลีไปไหม? พวกสปาเก็ตตี้ พิซซ่า สั่งจากร้านอาหารแล้วเอาไป เราก็เลยตกลงกันว่าจะเอาอันนั้นไป คราวนี้พ่อก็มาบอกว่าเจ้าบ้าน เขาเลี้ยงล็อบสเตอร์กับปูขนนะ หนูก็เลยบอกว่าจะเอาที่หนีบปูไปนะ พอบอกเสร็จพ่อกับแม่ก็ขำหนักมากเลย กับสิ่งที่เราพูดว่าจะเอาที่หนีบปูไป แล้วเราก็เลยงงว่าเขาขำอะไรกันเหรอ พ่อก็เลยบอกว่า “อย่าเอาไปเลย มันดูแบบไม่มีมารยาท เหมือนเราตั้งใจจะไปกินปูอย่างเดียว” ซึ่งตัวเราไม่ได้ชอบกินปูขนาดนั้นด้วยซ้ำ ก็เลยเล่าเจตนาให้พ่อฟังตอนนั้นว่า ‘งานเขาจัดที่บ้าน บ้านคนเราจะมีที่หนีบปูสักกี่อันเชียว มันก็น่าจะมีสักอันสองอัน แต่คนไปประมาณ 10 กว่าคนเลย ถ้าทุกคนกินปู คนก็ต้องรอนานไหม เพราะมีที่หนีบปู 1-2 อัน เจตนาเราคือหวังดี ที่หนูเอาไปไม่ได้จะเอาไปวางให้เขาเห็นเลย แต่สิ่งที่เราคิดคือแค่พกไป ดูสถานการณ์ก่อนว่ามันพอใช้ไหม ละการที่เราเอาไปเพิ่มอีกหนึ่งอัน มันจะกลายเป็น 3 อัน มันอาจจะทำให้การหมุนเวียนที่หนีบปูดีขึ้น ทุกคนจะได้กินไวขึ้น’ ละเขาก็ไม่เก็ทกับสิ่งที่เราอธิบาย เขาก็ขำหนักอีกหลังจากที่เราอธิบายเจตนาของเราไป แล้วเขาก็บอกว่า “ถึงขออธิบายไปก็ไม่เข้าใจหรอก ลองไปเล่าให้คนอื่นฟัง ให้คนอื่นอธิบายเอาละกัน อาจจะเข้าใจมากกว่า” หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจทั้งสามคนว่าหนูผิดไหมที่หนูเอาที่หนีบปูไป’ ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ไม่ผิดเลย แล้วก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ด้วย แต่เข้าใจในมุมของพ่อแม่ เนื่องจากว่ามันเป็นอาหารที่เขาเตรียมมาเอง แสดงว่าบ้านเอฟเตรียมตัวขนาดนั้น เพื่อที่จะเตรียมตัวมากินปู การที่เราไปแล้วเอาที่หนีบไปด้วย ต่อให้มีพิซซ่าอะไรอยู่ในมือ มันก็เข้าใจในมุมผู้ปกครองที่คิดว่าตั้งใจเกินไป เพราะว่าผู้ใหญ่อาจจะไม่ได้มองว่าที่หนีบปูมันจำเป็นขนาดนั้น คนกินปูก็ใช้มือแกะกันส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นมันเป็นความหวังดีที่ไม่จำเป็นต้องทำ ถ้าบ้านหนูจัดเป็นโฮสต์ว่าไปอย่าง แต่นี่เราไปในฐานะแขก’ ดีเจทั้งสามท่านยังเสริมอีกว่า ‘ถ้าอยากทดลองแนะนำให้เอาไป ใส่กระเป๋าไป แล้วดูว่ามันจะต้องใช้ไหม?’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พ่อหนูเป็นคนเจ้าชู้มาก มีเมียมาแล้ว 8 คน มีลูก 11 คน เพิ่งรู้ว่าพ่อยังมีเด็กเลี้ยงอีกคนนึง ปรากฏว่า เป็นเพื่อนสนิทหนูเอง พอจับได้ถึงรู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เพื่อนกินหรู อยู่คอนโด เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เป็นเงินจากพ่อเรา พีคสุด เจอแหวนพ่อที่ห้องเพื่อนด้วย

21 มิ.ย. 2024

พ่อหนูเป็นคนเจ้าชู้มาก มีเมียมาแล้ว 8 คน มีลูก 11 คน เพิ่งรู้ว่าพ่อยังมีเด็กเลี้ยงอีกคนนึง ปรากฏว่า เป็นเพื่อนสนิทหนูเอง พอจับได้ถึงรู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เพื่อนกินหรู อยู่คอนโด เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เป็นเงินจากพ่อเรา พีคสุด เจอแหวนพ่อที่ห้องเพื่อนด้วย

พ่อหนูเป็นคนเจ้าชู้มาก มีเมียมาแล้ว 8 คน มีลูก 11 คน เพิ่งรู้ว่าพ่อยังมีเด็กเลี้ยงอีกคนนึงปรากฏว่า เป็นเพื่อนสนิทหนูเอง พอจับได้ถึงรู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เพื่อนกินหรูอยู่คอนโด เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เป็นเงินจากพ่อเรา พีคสุด เจอแหวนพ่อที่ห้องเพื่อนด้วย “คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (19 มิ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก’ เกี่ยวกับปัญหาพึ่งรู้ว่าเด็กเลี้ยงของพ่อเป็นเพื่อนสนิทเราสมัยมัธยม โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณพ่อเป็นคนที่เจ้าชู้ หน้าตาดี อายุยังไม่ถึง 50 ปี คุณพ่อเป็นคนมีเงิน ผ่านการแต่งงานมาทั้งหมด 8 ครั้ง และมีลูกทั้งหมด 10 คน ส่งเสียลูกทุกคน โดยคุณแม่ของหนูเป็นคนที่ 7 ส่วนตอนนี้คุณพ่ออยู่กับภรรยาคนที่ 8 ซึ่งหนูเรียนอยู่มหาลัยอาศัยอยู่กับคุณแม่ แต่หนูจะไปหาคุณพ่อบ่อยๆ เพราะสนิทกับคุณย่า และคุณพ่อก็จดทะเบียนกับภรรยาทุกคน ถ้าใครรับไม่ได้ก็จะหย่า เรื่องมันเกิดขึ้นตรงที่หนูมีเพื่อนสนิทตั้งแต่ประถมแต่อยู่คนละห้องกัน และก็มาสนิทกันอีกตอนมัธยม และเวลาหนูมีอะไรก็จะเล่าให้เขาฟัง รวมถึงเรื่องพ่อด้วย พอขึ้นมัธยมปลายเรารู้สึกว่าเขาดูมีเงินมากขึ้น ปกติเขาอยู่กับคุณแม่ 2 คน หนูก็ถามว่า “ไปทำอะไรมา ทำไมมี iPhone” มีอะไรหลายๆอย่างใช้ คือดูรวยมากกว่าเรา ซึ่งตอนนั้นเขายังยืมเงินหนูจ่ายค่าเทอมอยู่เลย เขาก็บอกว่า “แม่เขาได้ไปทำงานเป็นแม่บ้านของฝรั่ง นานๆกลับบ้านมาทีเลยส่งเงินมาให้” ส่วนตัวหนูไม่เคยพาเพื่อนผู้หญิงไปรู้จักคุณพ่อเลย และคุณพ่อก็จะไม่รู้จักเพื่อนผู้หญิงของเราสักคน เพราะเรารู้ว่าพ่อเราเป็นคนแบบนี้เผลอไม่ได้ ช่วงปิดเทอมหนูกลับมาที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งบ้านหนูและเพื่อนสนิทอยู่ใกล้กัน และเขาก็พยายามจะให้หนูไปบ้านเขาทั้งที่แม่เขาก็อยู่ ปกติเวลาหนูไปบ้านเขาก็จะทำกับข้าวและกินข้าวกับแม่เขา แต่วันนั้นเขาพยายามจะพูดให้หนูเข้าไปในห้องเขาให้ได้ ประมาณว่า “เห้ย เข้าไปห้องเรามั้ย เพิ่งติดโทรทัศน์ใหม่ ติดแอร์ใหม่” พอเข้าไปเราก็เจอแหวนคุณพ่อ ตอนแรกก็ไม่ได้สงสัย แต่แหวนของคุณพ่อจะสลักชื่อเอาไว้ คือชื่อเขา พอหนูเห็น หนูก็เบลอไปหมด และถามเขาว่า “นี่อะไร มึงไปเอาของพ่อกูมาได้ไง” เขาบอกว่า “เขาขอโทษ เขาไม่ได้ตั้งใจ” เหมือนตั้งใจให้หนูรู้ว่าเป็นเด็กเลี้ยงของพ่อ ทีนี้ก็ทะเลาะกันบ้านแตก ถึงขั้นลงมือกับเขา แต่ก็แค่ตบหน้า เพราะหนูโกรธมาก คือเป็นเพื่อนกันมา 10 ปี แต่มาทำกันแบบนี้ หนูถามเขาอีกว่า “ไปเจอพ่อได้ยังไง” เขาก็ได้แต่ร้องไห้และขอโทษ หนูเลยกลับบ้าน บล็อคแชท บล็อคทุกอย่างไป และไม่ได้สนใจเพื่อน หลังจากนั้นหนูก็กลับบ้านมาถามพ่อว่า “พ่อรู้มั้ยคนนี้เพื่อนหนูนะ” พ่อก็บอกว่า “พ่อไม่รู้ พ่อไม่เคยรู้มาก่อนเลย” และพ่อก็บอกว่า “พ่อไปเจอกับเพื่อนหนูที่บาร์ประจำของพ่อและเพื่อนพ่อ” ซึ่งหนูก็เชื่อ เพราะเคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อจะมานั่งที่บาร์นี้บ่อยๆ เหมือนเขาพาตัวเองไปเจอพ่อหนูบ่อยๆ ตอนนี้หนูกลับมาที่กรุงเทพ เพื่อนหนูเขาก็พยายามจะโทรหา พยายามทักหาโดยเอาแอคหลุมทักมา แล้วก็พยายามติดต่อพ่อหนู เพราะพ่อฟังหนูและตัดเขาออก ไม่ได้เลี้ยงหรือส่งเสียอะไร แล้วก็มีเพื่อนมาบอกว่าเขาจะไม่เรียนต่อเพราะมหาลัยที่เรียนเป็นมหาลัยเอกชน เขาไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เขาเริ่มมีของใช้เริ่มรวยขึ้นมาตั้งแต่มัธยมปลาย แต่ตอนนั้นเขาก็ทำงานที่บาร์หลายๆที่ แถมมีแฟนเป็นผู้ชายมาตลอด เลยไม่รู้ว่าพ่อหนูส่งเสียเขาตั้งแต่ตอนไหน จนหนูไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่า “ก็เลี้ยงมาตั้งแต่มัธยมปลาย” ประมาณเกือบ 4 ปี หนูจะต้องกลับบ้านไปหาคุณพ่อคุณยายบ่อยๆ เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูจะทำยังไงเมื่อเจอหน้าเพื่อนคนนี้? เพราะบ้านก็อยู่ใกล้กัน น่าจะได้เจอกันแน่นอน และเขาก็ยังคงพยายามติดต่อเรากับพ่อมาตลอด แต่พอติดต่อไม่ได้ก็จะมารังควานหนู พอหนูไม่ตอบโต้ ก็ไปรังควานภรรยาคนปัจจุบันของพ่อ จนพ่อต้องทะเลาะกับภรรยา โดยการพยายามแสดงตัวตน’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เท่าที่ฟังมาดูเหมือนเอไม่อยากยุ่ง เพราะฉนั้นเวลาเจอหน้า เราก็ปฏิสัมพันธ์ หรือคุยกันให้น้อยที่สุด คือไม่จำเป็นต้องพยายามไม่มองหน้า พยายามไม่คุย เพราะมันจะทำให้เขายิ่งพิเศษขึ้นมา ถ้าเวลาเจอกันในกลุ่มเพื่อนเยอะๆแล้วจงใจไม่มองเขาคนเดียว จะกลายเป็นว่าเขาอาจจะดูมี Something ขึ้นมา แต่ถ้าเราทักทายแค่แบบ พยักหน้าให้ และไม่สนใจ ทักเหมือนคนเคยรู้จักและไม่สารสัมพันธ์อะไรต่อ ไม่ต้องไปให้ค่าอะไรเขามากมาย ก็อาจจะทำให้คนอื่นที่มาเห็นอาการของเราสองคน มันก็จะดูปกติ เอาแค่พอเป็นมารยาท’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าได้เจอกันจริงๆพี่จะเคลียร์เลยว่า พอแล้วไม่ต้องขยันส่งอะไรมาหากูอีกแล้ว เพราะที่กูเงียบไปคือไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกันอีกแล้ว สิ่งที่มึงทำคงไม่ต้อฝพูดแล้วว่ามันรุนแรงขนาดไหนในแง่ของความรู้สึก ถ้าเจอกันก็เมินๆกันไป หนูมีชีวิตของหนู แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเทอม หรือเรื่องเงินอะไรของเขาเพราะนั่นก็คือชีวิตของเขา เขาต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้เห็นด้วยกับคำปรึกษากับทั้งดีเจเผือก และดีเจเติ้ล พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติมให้บอกกับเพื่อนไปว่า “ออกไปจากชีวิตฉัน ฉันจะไม่คุยกับเธอแล้ว แล้วไม่ต้องมายุ่งกันอีก สิ่งที่มีงทำกูให้อภัยไม่ได้”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ชีวิตหนู ไม่เคยขึ้นอยู่กับใคร อยู่ด้วยตัวเองมาตลอด จนกระทั่งมีแฟน แฟนจะให้รายงานทุกอย่างในชีวิต ทั้งก่อน และ หลัง ตื่นนอน กินข้าว ทำงาน หายไปไหนต้องบอกทุกเรื่อง แต่หนูไม่ใช่คนแบบนั้น จะทำยังไงดีคะ ใจก็ไม่อยากเลิกเพราะยังรักกันอยู่

07 ก.พ. 2025

ชีวิตหนู ไม่เคยขึ้นอยู่กับใคร อยู่ด้วยตัวเองมาตลอด จนกระทั่งมีแฟน แฟนจะให้รายงานทุกอย่างในชีวิต ทั้งก่อน และ หลัง ตื่นนอน กินข้าว ทำงาน หายไปไหนต้องบอกทุกเรื่อง แต่หนูไม่ใช่คนแบบนั้น จะทำยังไงดีคะ ใจก็ไม่อยากเลิกเพราะยังรักกันอยู่

“คุณอัน (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายที่สองในรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ เมื่อคือวันพุธที่ผ่านมา [5 ก.พ. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแฟนชอบให้รายงานทุกอย่างในชีวิต โดย “คุณอัน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แล้วหนูก็ไม่เคยคุยกับใครแบบจริงจังด้วย มันจะเป็นวนลูป หนูชอบเขา เขาไม่ชอบหนู ส่วนคนที่ชอบหนู หนูก็จะไม่ชอบเขา ส่วนใหญ่จะคุยเฉย ๆ แบบไม่ได้อินมาก แต่หลังจากที่มาเจอคนปัจจุบันหนูชอบเขา แล้วเขาก็ชอบหนู เราก็เลยคุยกันไปเรื่อย ๆ เขาเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าพอคุยกันไปได้สักพักหนึ่ง เริ่มคุยกันจริงจังขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เราตกลงกันว่า ถ้าเธอไม่มีใคร เราก็ไม่มีใคร ทีนี้พอมันเริ่มจริงจัง เขาเลยเริ่มที่จะถามมากขึ้นว่า ‘ทำอะไรอยู่’ จนมีข้อตกลงขึ้นมาว่า ก่อนเธอจะทำอะไรให้บอกเรา หลังเธอทำอะไรเสร็จให้เธอบอกเราด้วย ถ้าเขาแชทมาให้เราพยายามตอบแชทให้เร็ว แต่เขาไม่ได้บังคับว่าต้องเร็วมาก ถ้าว่างก็ตอบ โดยพื้นเพหนูเป็นคนที่ค่อนข้างติดเพื่อนมาก แล้วหนูก็ใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคยมีเขามาก่อน หนูค่อนข้างให้เวลากับตัวเองเยอะมาก ๆ และหนูก็ไม่เคยมีแฟน หนูไม่เคยมีความสัมพันธ์แบบที่มันต้องให้ความสำคัญกับใคร บางทีหนูดูหนัง หนังประมาณ 2 ชั่วโมงแล้วเขาแชทมา หนูรู้สึกว่าไม่อยากให้ใครมาขัดตอนนั้น หนูก็เลยรอจนกว่ามันจะจบ 2 ชั่วโมงหนูถึงจะไปตอบเขา จากนั้นเขาก็ทะเลาะกับหนูเลย ประมาณว่า ‘อ๋อ เธอเห็นหนังสำคัญกว่าเราใช่ปะ?’ ซึ่งช่วงแรกหนูก็ยังไม่ได้บอกเขาก่อนว่าหนูจะดูหนัง แต่หลังจากนั้นหนูก็บอกเขา ด้วยความที่หนูเป็นคนที่ใช้ชีวิตกับตัวเองเยอะ แล้วเขาก็ยังเรียนอยู่ที่ประเทศจีนด้วย จึงทำให้ต้องอยู่ห่างกัน หลัก ๆ คือหนูจะทำอะไรแล้วไม่ค่อยบอก แต่จะไปบอกตอนที่หนูทำเสร็จแล้ว หนูจะติดนิสัยเวลาหนูคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว หนูทำเสร็จแล้วหนูถึงจะบอก หนูจะไม่ค่อยบอกก่อนทำหรือว่าระหว่างทำ เพราะมันเคยมีครั้งหนึ่ง หนูบอกเขาว่ามันยังไม่เสร็จเพราะตอนนั้นทำอยู่ก็เลยไม่ได้บอก แล้วเขาก็บอกว่าขนาดเราเรียนอยู่ เรายังบอกเธอได้เลย หนูก็แบบต้องทำยังไง? คือหนูไม่ชินกับการที่ต้องบอกตลอดอย่างนี้ เพื่อนหนูก็บอกว่าหนูควรอยู่คนเดียว แล้วเพื่อนอีกคนก็บอกว่าหนูชอบเขาไม่มากพอ แต่ในความรู้สึกหนู หนูชอบเขามาก แต่หนูก็ไม่รู้ว่าทำไมหนูทำไม่ได้ หนูคุยกับคนนี้มาตั้งแต่ปลายปี 2023 จนถึงตอนนี้ก็ปีกว่าแล้ว เขาเป็นสเปคหนู แต่มันก็มีหลายเรื่องบางทีหนูตื่นสาย จนไม่ได้บอกมอนิ่ง เพราะต้องรีบลุกไปอาบน้ำ แล้วหนูก็ไม่ได้บอกมอนิ่งเขา ทีนี้พอเขาส่งมอนิ่งมา หนูก็บอกเขาว่า ‘เมื่อเช้าลืมเลย เราตื่นสาย เราก็เลยไม่ได้ส่งไปบอกมอนิ่งเธอ’ แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า ‘มันไม่มีเวลาเลยเหรอ’ หนูก็สวนกลับไปว่า ‘ก็รีบไง!’ แล้วเขาก็บอกกลับมาว่า ‘มันจะพิมพ์สักกี่วินาทีกัน พิมพ์ไม่ได้เลยเหรอ’ หนูเลยไม่ค่อยโอเคที่เขาเป็นแบบนั้น แต่จะให้กลับไปเป็นโสดก็ไม่อยาก เพราะหนูก็ชอบเขา มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาบอกว่าเธอทำไม่ได้ใช่ไหม? งั้นเดี๋ยวเราจะไปปรับให้เท่าเธอ ก็คือเขาหายไปเลย ถ้าหนูไม่ถาม เขาก็ไม่ตอบ ระหว่างวันก็จะไม่ค่อยได้คุยกัน พอเขาทำแบบนั้น หนูก็บอกว่าเธอไม่ค่อยคุยกับเราเลย เธอไม่อยากคุยกับเราแล้วเหรอ แล้วเขาก็บอกว่าเราทำแบบนี้เธอรู้สึกดีไหม หนูก็บอกว่าไม่ เขาก็บอกกลับมาว่างั้นเธอทำแบบนี้กับเราทำไม หลังจากคบกันไปได้หนึ่งปี มันก็มีปัญหาแบบนี้มาเรื่อย ๆ หนูก็เลยคุยกับเขาว่า โอเค เธออยากให้เราทำอะไร เขาก็บอกมาเหมือนเดิม ก่อนทำอะไรให้บอก หลังทำอะไรให้บอก หนูก็ตอบตกลงไป และบอกว่าถ้าครั้งนี้เรายังทำไม่ได้ พวกเราก็แยกย้ายกัน โดยที่ไม่มีเร้าหรือ เขาก็ตอบตกลงกลับมา พอผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ หนูก็ทำพลาดอีกแล้ว เขาก็บอกมาว่า เธอทำไม่ได้อีกแล้ว เธอพูดกี่ครั้งแล้วว่าเธอจะทำ แต่เธอก็ทำไม่ได้ หนูก็บอกว่างั้นก็ตามที่คุยกันไว้ เราก็แยกย้ายกันไปเลย เขาพูดขึ้นมาว่า ‘เธอไม่อยากคุยกับเราแล้วใช่ไหม’ หนูเลยตอบกลับไปว่า ‘ไม่ใช่ หนูอยากคุยกับเขา’ แล้วเขาก็บอกว่า ‘แล้วทำไมเธอไม่ตอบแชทเรา’ แล้วมันก็วนซ้ำอยู่อย่างนี้ วนไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทั้งคืน แล้วสรุปก็ไม่ได้เลิกกัน คือหนูรู้สึกว่าเหมือนตัวเองอยู่ใน Toxic relationship แต่หนูก็ไม่รู้ว่าใครผิดกันแน่ หรือถ้าจะเลิก หนูอยากให้เขาเป็นคนบอกเลิกเพราะหนูเป็นฝ่ายผิด แต่เขาไม่เคยบอกเลิกหนู หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า ‘หนูเย็นชาไปไหมหรือเป็นที่เขางี่เง่าเกินไป หรือว่าหนูควรอยู่คนเดียว’ โดยเริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าหนูยังไม่สามารถปรับได้ ถ้าหนูไม่สามารถรายงานใครได้จนเป็นนิสัยของหนู หรือเขาก็ยังไม่สามารถลดให้เบาลงได้ ด้วยการถามหนูน้อยลง พี่ว่าหนูจะทนกันไปได้สักพัก แล้วเดี๋ยวหนูก็จะทนกันไม่ไหว ถ้าตอนนี้หนูอยากมีเขาอยู่ก็ต้องทนไปก่อน เพราะถ้าให้เลิกกันก็ไม่มีความสุขอยู่ดี มันจะยื้อกันอยู่อย่างนี้แหละ สักพักหนูก็จะเลิกกันเอง มันก็แค่คนที่มีนิสัยต่างกัน ถ้าหนูไปเจอแฟนที่เขาไม่ได้อยากถามอะไรหนู หนูคงมีความสุขสบายใจกว่านี้ แต่หนูยังไม่เจอไง เพราะฉะนั้นถ้ามันมีตัวเลือกเดียวตอนนี้ แล้วหนูเสียเขาไปไม่ได้ หนูก็ต้องทน มีอยู่แค่นี้ ทนกับปรับ ปรับไม่ได้ก็ต้อง ทน ทน ทน ทนไม่ไหวก็หยุด ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัญหานี้แหละสำหรับคนพึ่งมีแฟนหรือว่าพึ่งคบหากัน สุดท้ายพี่ว่าในช่วงวัยหนึ่งที่เราจะเลิกกันด้วยปัญหาอะไรก็ไม่รู้ แต่ว่า ณ วัยนั้นมันคือปัญหาใหญ่ของเรา ซึ่งปัญหาเหล่านั้นมันทำให้เราเลิกกันได้ แต่งตัวโป๊ ไปไหนไม่รายงาน ปัญหามันจะอยู่แถว ๆ นี้ แต่พอเราอายุมากขึ้นปัญหาเหล่านี้มันจะค่อย ๆ กลายเป็นไม่มีปัญหา ในวัยหนึ่งเราจะไม่ค่อยอยากปรับตัวให้ใครหรอก หรือบางทีเราอาจจะทำตามคนรัก แฟนอยากได้ยังไงเราทำตามหมด แต่พอวัยมันเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความรักหรือการปฏิบัติตัวกับคนรักมันจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทีนี้ ณ วันนี้อันทำไม่ได้ รายงานไม่ได้ ซึ่งมันเป็นปัญหาของคู่รักวัยนี้จริง ๆ เป็นปัญหาใหญ่มาก ๆ แต่ถ้าเราพาอันข้ามเวลามาในวัย 35 การไม่รายงานมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาของชีวิตคู่อีกต่อไปแล้ว มันเลยตอบยากว่าถ้าให้อันปรับตัวตอนนี้ เพื่อแก้ปัญหานี้อันจะทำได้ไหม เพราะมันเป็นช่วงเวลาก้าวผ่านของวัย Coming of age ซึ่งมันก็ต้องเรียนรู้กับความรักแบบนี้ ที่คนเราจะเลิกกัน เพราะไม่ได้โทรรายงานว่าทำอะไรอยู่ และทำเสร็จแล้วไม่ได้โทรบอก เดี๋ยวอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้าอันก็จะมองความรักขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง อันก็จะไม่รู้สึกว่าฉันจะต้องไม่รายงาน เหตุผลที่เลิกกัน มันจะกลายเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง พี่ทำได้แค่บอกว่าให้อันเรียนรู้ไปแล้วก็ไม่ต้องไปคิดมากว่าจะเลิกหรือไม่เลิก ไม่ต้องไปนั่งคิดเลยแค่ใช้ชีวิตไป ณ วันนี้มันยังไม่เลิกกันก็ทนกันอยู่เรื่องนี้แหละ คิดออกก็รายงาน คิดไม่ออกก็ขอโทษแล้วก็บอกไปว่าอย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี แต่ฉันแค่ลืมรายงาน เราแค่เจอคนที่เอนเนอร์จี้ทางความรักต่างกัน แล้วอยู่ที่ว่าเราจะเรียนรู้มันต่อไปหรือจะเลิกกันไปเลย ซึ่งพี่รู้สึกว่าเรียนรู้ไปก่อนเดี๋ยวมันไม่ไหวมันก็เลิกกันเอง’ และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘Life style หนูไม่ใช่ของกันและกัน แต่หนูแค่ชอบกัน พี่จะทำให้รักของหนูง่ายขึ้น คือตื่นเช้ามาบอก Morning กำลังจะอาบน้ำแล้วนะ ตัวเองอาบน้ำเสร็จแล้วนะ กำลังจะออกไปทำงานแล้วนะ ทำแบบนี้มันยากเหรอ ถ้ามันยากก็เลิก ไม่เลิกก็อดทนอยู่ในความสัมพันธ์นี้ เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน เดี๋ยวก็เลิกกัน ทำสิ เริ่มทำ หนูต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้มาในแพ็คเกจงี่เง่า เขางี่เง่าด้วยแล้วหนูก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเขาจริง ๆ ตามที่เขาพูด หนูไม่ได้ใส่ใจ เพราะถ้าเขาสำคัญจริงมันต้องเป็นคนแรกที่เราตื่นมาแล้วนึกถึง หนูก็รู้อยู่แล้วว่าเขามีเงื่อนไขอะไร แทนที่หนูจะทำเพื่อปัดปัญหามันจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่หนูก็ไม่ทำด้วย แล้วก็ไม่อยากเลิกด้วย คน ๆ เดียวไม่สามารถจะสมหวังได้ทุกเรื่องนะ หนูไม่มีสิทธิ์ได้ทุกอย่างที่หนูต้องการ มันแค่เรื่องเล็กน้อยเอง มันไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะฉะนั้นไปทำ ถ้าไม่อยากเสียเขาไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิง จะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่น

04 ก.ค. 2025

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิง จะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่น

หนูเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เรียนจบแล้ว จะอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับไทย 1 เดือน ทักไปขอเพื่อนผู้หญิงจะขออยู่ด้วยชั่วคราว แต่เพื่อนผู้หญิงบอกว่าไม่สะดวก ก็เลยไปขอเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกันที่ญี่ปุ่นเพื่อนคนนี้บอกว่า มาเลย นอนด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา หนูรู้สึกว่าอยากประหยัดเงิน แต่จะบอกแฟนหนูยังไงดีให้เขาเข้าใจว่าจะขออยู่ห้องเพื่อนผู้ชายคนนี้ กลัวว่าแฟนจะหึง แต่ถ้าต้องไปจ่ายค่าโรงแรมเองหนูก็คิดว่าจะรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว “คุณทราย (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [2 ก.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องราววีซ่าเหลือ อยากเที่ยวต่อ มีเพื่อนให้พักฟรีแต่ก็ดันเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่กลัวแฟนไม่สบายใจ โดย “คุณทราย (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนอยู่ประเทศญี่ปุ่น โครงการ 1 ปี เดือนหน้าจะเรียนจบแล้วแต่วีซ่ายังไม่หมดจึงวางแผนที่จะเที่ยวต่อ ซึ่งการวางแผนเที่ยวก็ต้องจองโรงแรมก่อน แต่เราก็มีเพื่อนที่ยังอยู่ญี่ปุ่นสามารถให้เราไปพักฟรีด้วยได้ แต่ประเด็นคือ เขาเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เราเป็นผู้หญิง หนูเองก็มีแฟนอยู่ที่ประเทศไทยก็เลยตัดสินใจอยู่ว่าจะจองโรงแรมดีมั๊ยหรือว่าไปนอนหอพักกับเพื่อนดี แต่ก็เกรงใจแฟนกลัวแฟนจะไม่สบายใจ ไม่รู้จะบอกแฟนยังไงดี? ปกติหนูกับแฟนมีอะไรจะปรึกษากันตลอด มาอยู่ญี่ปุ่นความสัมพันธ์ก็ยังดี แต่ช่วงนี้เขาไปเกณฑ์ทหาร ก็เลยไม่ได้ปรึกษาในเรื่องนี้ หนูอยากไปอยู่หอเพื่อนผู้หญิงก็เป็นหอในไปอยู่ด้วยไม่ได้ หนูอยากจะถาม 2 คำถามคือ 1. ในฐานะที่หนูยังเป็นนักศึกษาอยู่ยังไม่มีรายได้ของตัวเอง ควรจะอยู่หอเพื่อนหรือไปจองโรงแรมดี 2. ถ้าตัดสินใจไปพักกับเพื่อนผู้ชายจะบอกแฟนยังไงดี’ ซึ่งดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจเผือก - ดีเจก็อตจิ - ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาตรงกันว่า ‘จะไปนอนที่หอพักของเพื่อนผู้ชายไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่ากรณีไหนก็ตามเพราะเขาเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง บนโลกใบนี้ผู้หญิงผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้แต่จะไปนอนค้างด้วยกันเป็นเดือนไม่ได้ หรือถ้ามีเหตุจำเป็น มากที่สุดก็ให้แค่ 1 คืนเท่านั้น หรือไม่ก็ไปหาที่พักแบบ Airbnb หรือ Hostel อะไรราคาถูกก็นอนไป อย่าดิ้นรนหรือพยายามทำอะไรเกินตัว การอยู่ต่อเพื่อที่จะเที่ยวเพราะวีซ่าเหลือ มันไม่ใช่เหตุผลจำเป็นอะไรเลย ที่สำคัญเรื่องนี้อย่าไปเอ่ยปากถามแฟนเด็ดขาดเพราะจะกลายเป็นว่าทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ เขาอาจจะระแวงเราไปเลย จากความสัมพันธ์ดี ๆ จะกลายเป็นไม่โอเค จริงอยู่ที่เราไว้ในแฟนแต่เราไม่ควรไว้ใจคนอื่นหรือใครทั้งสิ้น’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘จริง ๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องแฟนหึง แต่มันมีเรื่องความปลอดภัยของตัวเราเองเข้ามาเกี่ยวด้วย เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่ทำอะไรเรา รู้จักกันมาแค่ 1 ปีเอง ไม่มีใครการันตีได้เลย ต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย หรือสมมติว่าอยากมาหางานที่นี่ ก็ตั้งเดดไลน์ไว้ ถ้าเดือนนี้เราเช่าคอนโด แล้วต้องหางานให้ได้ภายในตอนไหน ถ้าเดือนนี้ไม่สามารถมีเงินจ่ายค่าคอนโดได้ให้บินกลับเลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1