โบกเท่าไหร่ ก็ไม่จอด!! หนูเลิกงานมา โบกรถเมล์กลับบ้าน ยืนตรงป้าย ยื่นแขนตรง แล้วหันหน้าไปทางรถวิ่ง รถเมล์ไม่จอดเลย จนมีคันนึงจอด ก็เลยเปิดใจถามกระเป๋า กระเป๋าบอก "ถ้ายื่นแขนแล้วต้องโบกขึ้นลงด้วย บางทีคนขับไม่รู้ว่ายื่นแขนมาโบกรถ"

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

โบกเท่าไหร่ ก็ไม่จอด!! หนูเลิกงานมา โบกรถเมล์กลับบ้าน ยืนตรงป้าย ยื่นแขนตรง แล้วหันหน้าไปทางรถวิ่ง รถเมล์ไม่จอดเลย จนมีคันนึงจอด ก็เลยเปิดใจถามกระเป๋า กระเป๋าบอก "ถ้ายื่นแขนแล้วต้องโบกขึ้นลงด้วย บางทีคนขับไม่รู้ว่ายื่นแขนมาโบกรถ"

14 มิ.ย. 2024

โบกเท่าไหร่ ก็ไม่จอด!! หนูเลิกงานมา โบกรถเมล์กลับบ้าน

ยืนตรงป้าย ยื่นแขนตรง แล้วหันหน้าไปทางรถวิ่ง รถเมล์ไม่จอดเลย

จนมีคันนึงจอด ก็เลยเปิดใจถามกระเป๋า กระเป๋าบอก "ถ้ายื่นแขนแล้วต้องโบกขึ้นลงด้วย

บางทีคนขับไม่รู้ว่ายื่นแขนมาโบกรถ" ทุกคนโบกรถเมล์ท่าไหนกันคะ?

          “คุณรถเมล์ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปีปลายๆ สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มิ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาต้องโบกรถเมล์ท่าไหน คนขับถึงจะจอดรับ 

            โดย “คุณรถเมล์ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เนื่องจาก BTS ส่วนต่อขยาย มีการปรับขึ้นราคาเหมาเป็น 15 บาท แล้วทีนี้หนูจะอยู่ในช่วงสถานีที่ต่อขยายเลยต้องจ่าย 15 บาท ซึ่งดูจากเงินของตัวเองแล้ว มันมีทางที่จะประหยัดได้ ก็เลยตัดสินใจไม่ขึ้น BTS เปลี่ยนมาลองขึ้นรถเมล์ดู ซึ่งปัญหาคือวันนั้นหนูเลิกงานประมาณ 4 โมงเย็น หนูก็โบกรถเมล์สายหนึ่ง คือ รถเมล์สายนี้บางทีเขาก็จอด แต่บางทีเขาก็ไม่จอด หนูก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วหนูเจอเหตุการณ์นี้ประจำ จนหลายครั้งเข้าหนูก็ทนไม่ไหว ก็ได้มีการโทรไปร้องเรียนบ้าง

            แล้วล่าสุดหนูก็โบกรถเมล์สายเดิมแต่เขาไม่จอดรับหนูอีกแล้ว ซึ่งคันถัดไปมาพอดี หนูก็โบก แต่คันนี้เขาจอดรับ พอขึ้นรถเมล์ไป หนูก็เลยแกล้งๆ ถามพี่กระเป๋ารถเมล์ว่า “พี่คะคือหนูสงสัยอ่ะ ก่อนหน้าคันพี่ หนูก็โบกแต่เขาไม่จอดเลย” พี่กระเป๋ารถเมล์ก็ตอบมาว่า “หรอเขาไม่จอดหรอ เขาไม่เห็นรึป่าว หนูโบกยังไง” หนูก็อธิบายท่าโบกให้พี่กระเป๋ารถเมล์ฟัง คือ หนูยกแขนขนานกับถนน ส่วนฝ่ามือก็คว่ำลง แล้วก็ยกตรงๆ ไม่ได้มีการขยับแขนโบกขึ้นลงหรืออะไร เพราะหนูคิดว่ามันน่าจะเป็นท่าปกติ เป็นสัญลักษณ์ที่ใครๆ ก็รู้ หนูคิดแบบนั้น แล้วหนูก็ยืนท่านั้นอยู่นานมากๆ เพราะคิดว่าเขาต้องเปลี่ยนเลนมาเพื่อจอดรับ พี่กระเป๋ารถเมล์ก็บอกว่า “ตอนที่พี่เห็นหนูเมื่อกี้ พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหนูจะโบกรถเมล์รึป่าว” พี่เขาก็แนะนำว่า รอบหน้าให้โบกขึ้นลง ก็เลยจะอยากจะปรึกษาพี่ๆ ว่าหนูควรทำยังไงดี’

            โดย “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ของหนูมันเหมือนคนที่ยืน แล้วแค่ยื่นแขนขนานกับถนนตรงๆ โดยไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไร คือการที่ยืนแบบนี้มันก็อาจจะดูแปลก แล้วคนขับอาจจะคิดว่าสรุป โบกมั้ย หนูโบกขึ้นลงเลยเคลื่อนไหวให้เขาเห็น ซึ่งรถเมล์เขาทำเวลารึป่าวอันนี้ไม่รู้นะ แต่เขาขับเร็วเป็นเรื่องปกติ สมมุติเขาขับเร็วแล้วมันไม่มีอะไรเคลื่อนไหว เขาอาจจะมองเป็นถังขยะ หรือคนถือป้ายโฆษณาข้างทาง อะไรแบบนี้รึป่าว แต่ถ้าโบกขึ้นลงแบบ “เห้ยยยยยย จอดดดด!” ถ้าแบบนี้อ่ะมันเห็น ลองเพิ่มการเคลื่อนไหวดู บางทีคนขับเขาไม่ได้ใส่ใจกับป้ายเท่าไหร่ไง เผลอๆ ไม่ทันเห็น ขับเลยไปแล้วก็ทำไรไม่ได้ เราต้องเรียกให้จิตเขาอยู่กับเราให้ได้’

            ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ใครมันจะมายืนท่านี้ขนานกับถนนอ่ะ ถ้าไม่ใช่โบกรถ พี่ว่ามันไม่เกี่ยวกับท่าโบกรถของหนูหรอก คือ คนขับรถอ่ะขี้เกียจ เราต้องยอมรับว่ารถเมล์ในกรุงเทพมีหลายคันหลายสายมาก ที่บางทีเขาก็ไม่จอดเพราะเขาแค่ไม่อยากรับ อันนี้คือเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ เขาก็แค่ไม่เข้ามารับ มันขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของคนขับคันนั้น ซึ่งมันก็มีคันดีๆ ที่จอดรับผู้โดยสารทุกป้าย แต่มันก็มีคันที่ผ่านไปเลย มันก็มีเยอะเช่นกัน พี่โดนประจำตอนสมัยเรียน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็ลองเคลื่อนไหวดู แต่พี่จะบอกว่า อย่าไปโทษตัวเอง มันเป็นที่คนขับ’ 

            สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คือท่านี้มันคือท่าโบกรถ มันจะมีอย่างงี้นะ สมมติถ้ารถเมล์สายเดียวกัน แล้วมันขับตีคู่กันมา คันแรกมันจะไม่จอด มันจะให้คันหลังจอด ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของคนขับอย่างที่พี่เติ้ลบอก คราวหลังนะโบกขึ้นลงเลยแรงๆ เลย ฟีลแบบ “กูอยู่นี่!!!!” ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาโบกรถเมล์เขาก็จะยืนค่อมไปอีกเลนเลย แล้วโบกขึ้นลงแรงๆ หนูลองเคลื่อนไหวดู ซึ่งคนขับก็ร้อยพ่อพันแม่ บางคนก็รับ บางคนก็ไม่รับ ดีชั่วก็อยู่ในนั้นอ่ะ คือคนขับอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้ถ้า โบกแรงๆ แสดงว่าอยากกลับบ้านมาก แต่ถ้าโบกแบบนิ่งๆ แสดว่าไม่ค่อยอยากกลับบ้านเท่าไหร่ รอคันถัดไปละกัน แต่ถ้าผู้โดยสารโบกส่วนใหญ่เขาก็จะจอดรับนะ เพราะมันเป็นหน้าที่เขา’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

07 มิ.ย. 2024

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้วเราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิตย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา รู้สึกติดค้างไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย “คุณนิค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [5มิ.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรักที่ความรู้สึกยังค้างคา โดย “คุณนิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นเรื่องราวที่เราเคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งไปนานมากแล้ว ซึ่งเรื่องมันจบไปแล้วแต่เรายังรู้สึกผิดอยู่ เริ่มจากเราเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อนตั้งแต่ม.ปลาย เค้าเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนแล้วก็ค่อยมาคบกับเราที่เป็นทอม เวลาที่เค้าทะเลาะกับเพื่อนเราก็จะอยู่ข้าง ๆ เค้าตลอด เค้าก็มักจะบอกกับเราว่า “อย่าทิ้งเค้าไปไหนนะ” เพราะเราเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจให้กับเค้า จนจุดเปลี่ยนมันเกิดช่วงที่เราทั้งคู่เข้ามหาลัย เค้าสอบติดมหาลัยที่อยู่ต่างจังหวัด เราก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน แต่หลังจากนั้นได้ 2 อาทิตย์เค้าก็โทรมาบอกเลิกเราเลย ทั้งๆไม่มีสัญญาณอะไรและเราก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกเราคือเราขี้หึงเกินไป งี่เง่าเกินไป โทษความผิดให้กับเราหมดเลย เราเลยไปส่องเฟซบุ๊คของเค้า และสิ่งที่เราเจอคือเค้าโพสรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนคุยใหม่ของเค้า เราเลยโกรธเค้ามาก ไล่ลบรูปคู่ทั้งหมด บล็อกเค้าทุกช่องทาง แต่ด้วยความที่พี่สาวของเราเรียนที่มหาลัยเดียวกับเค้า เราเลยยังได้ทราบข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง หลังจากจบมหาวิทยาลัย แฟนเก่าเราประกาศแต่งงานทันที เราก็แอบรู้สึกช็อคนิดนึงแต่ก็รู้สึกว่ามันผ่านมานานมากแล้วทำไมถึงต้องไปคิดอีก แต่มันดันมีเรื่องบังเอิญที่ทำให้เราต้องไปเจอเค้าและภาพที่เราเห็นคือเค้ากำลังอุ้มลูกอยู่ เราตัวชา ทำตัวไม่ถูก เลยเลือกที่จะเดินสวนไป ผ่านไปสักพักเราก็ได้ยินข่าวคราวอีกทีคือเค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทั้งแม่และพี่สาวก็ไปให้กำลังใจเค้าและเหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายเค้าก็เสียชีวิต พอเราได้ยินแบบนั้นก็เหมือนโลกถล่ม สิ่งที่เราพยายามเกลียดเค้าหรือลืมเค้ามาโดยตลอดทำให้เราเสียศูนย์ไปเลย เราเลยขอแฟนคนปัจจุบันไปงานศพของเค้า และเราก็เสียใจที่คุยกับเค้าผ่านธูป และบอกกับตัวเองว่าทำไมเราไม่ทักไปคุยกับเค้า ทำไมเราถึงใจร้ายกับเค้า เราเลยกลับไปดูในเฟสบุ๊คคือเค้าไม่เคยลบรูปคู่กับเราเลย มันเลยยิ่งทำให้เราคิดว่าทำไมมีแต่เราที่มีทิฐิ และโกรธเค้าอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้เราต้องไปปรึกษาจิตแพทย์และกินยา แต่เมื่อไหร่ที่นึกถึงเค้าเราก็จะร้องไห้ตลอด เลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่าเราผิดมั้ยที่ตอนเลิกกันเราบล็อกเค้าทุกช่องทาง และถ้าอยากเลิกคิดเรื่องนี้พี่ช่วยแนะนำมุมมองใหม่ให้ได้มั้ยคะเพราะเราจมปลักกับตรงนี้มานานมาเกินครึ่งปีแล้ว’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณนิคไม่ผิดที่บล็อกเค้าเพราะเค้าบอกเลิกเรา จริง ๆ สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้เค้าวางแผนมาแล้วว่าจะเลิก กะว่าไปถึงอีกจังหวัดเค้าจะหาวิธีบอกเลิก หรือเค้าอาจจะไปแล้วไปเจอใครที่นู้นภายใน 2 อาทิตย์ สำหรับหอมมันก็คือการนอกใจ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องเสียดาย เป็นหอมหอมก็ไม่ทักหา อาจจะใช้เวลาไปสักพักถึงจะให้อภัย ฉะนั้นตรงนี้ไม่ผิดอยู่แล้วเพราะเลิกกันไม่ดี ส่วนรื่องเปลี่ยนมุมมอง หอมว่าเราไม่ใช่หมอดู ไม่มีใครรู้อนาคตว่าใครจะต้องไปเจออะไร แล้วสัจธรรมของชีวิตคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติมาก ไม่วันหนึ่งคุณนิคไปเค้าก็ไป มันไม่ใช่ความผิดเรา สิ่งที่เราทำมันก็ถูกต้องแล้วคือต่างคนต่างใช้ชีวิตเพราะเลิกกันไปแล้ว นิคอาจจะรู้สึกเสียดายที่น่าจะให้อภัยและคุยกับเค้าเพราะนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง หอมคิดว่ามันเป็นความเสียดายมากกว่าที่คุณนิคจะเก็บมาโทษตัวเองว่าเราทำผิดทำไมเราไม่คุยกับเธอ มันไม่ใช่แค่คุณนิคอย่างเดียว เค้าอยากคุยกับเรารึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ แล้วที่บอกว่าไลน์เด้งมาหาเราก็มีคนให้ข้อสันนิฐานว่า จริง ๆ เค้าอาจจะไม่ได้แอดเรามา แต่ถ้ามีเบอร์เราไลน์มันก็จะเด้งอัตโนมัติเวลาที่เค้าเปลี่ยนมือถือ และในเมื่อเค้าเป็นคนทิ้งเราก่อนเราก็ไม่ผิดที่เราทักเค้าไป แล้วการที่คุณนิครู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และวันที่เค้าเสียชีวิตแล้วคุณนิคจะไปอโหสิกรรมอันนี้ก็เปนเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเค้าจะเจออะไร เค้าจะจากเราไปตอนไหน ถ้าคุณนิครู้สึกว่านี่เป็นบทเรียนและไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีก วันนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ คุณนิค คุณนิคก็ต้องทำดีกับเค้าเช่น แฟนใหม่ที่เราคบ ถ้าวันหนึ่งเค้าเป็นอะไรขึ้นมาเราจะเสียดายอะไรที่เรายังไม่ได้ทำบ้าง ให้ทำกับคนนี้หรือทำกับคนรอบข้างเหมือนจะจากกันตลอดเวลา เพราะงั้นทำตีต่อกันกับคนที่ยังเหลืออยู่ อันนี้หอมว่าดีกว่า และเลิกคิดถึงคนที่จากไปแล้วและไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะเค้าไปแล้วและไม่รับรู้อะไรแล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ใกล้เคียงกับหอม เพราะพี่ก็ถามว่าว่าทำไมนิคคิดว่าตัวเองผิด แต่ด้วยจังหวะของการเลิกกันมันอาจจะกระทันหัน ซึ่งการเลิกกันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับคู่อื่น ๆ คนเรามีการบอกบอกเลิกหรือวิธีหยุดความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หายไปเลย บางคนก็มานั่งคุย อันนี้ก็แล้วแต่คู่ แล้วพอเลิกกันไปผมมองว่าต่างคนต่างวางตัวกันดี เอาจริงคุณนิคก็ไม่ควรทักไปอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีสาเหตุที่ต้องคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าหรืออะไรก็ตาม ยิ่งทักคุยกันอาจจะยิ่งเป็นปัญหากับความสัมพันธ์ปัจจุบันของแฟนเค้าซะมากกว่า ผมว่าต่างฝ่ายต่างทำถูกแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน และสุดท้ายคนที่จะติดค้างเรื่องคำขอโทษก็น่าจะเป็นฝ่ายเค้ามากกว่า ผมมองว่าทุกอย่างดำเนินไปตามปกติที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีความผิดอะไรจากคุณนิคเลย ในเรื่องของมุมมองคุณนิคต้องล้างความคิดว่าตัวเองผิดก่อน ผมไม่เห็นว่าคุนนิคจะต้องมีอะไรที่ติดค้างหรือรู้สึกผิด เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไปมีชีวิต คนที่เลิกกันแล้วบางทีก็ไม่เหมาะไม่ควรที่เราจะคบหากันต่อ แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามมันต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาเป็นแฟน มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ย้อนกลับไปไม่ได้ พอเลิกกันก็ต้องทำใจว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันจะไม่กลับมา และทุกอย่างี่เกิดขึ้นมาผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติทุกอย่าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะเสนอมุมมองที่ต่างพี่เผือกพี่หอมนิดนึง เท่าที่พี่ฟังมาพี่รู้สึกเสียดายชีวิตคุณนิคมากเลย พี่รู้สึกว่า 9 ปีตั้งแต่เลิกกับเค้าคุณนิคไม่ได้ไปไหนเลย อย่างตอนที่เจอเค้าอุ้มลูกแล้วคุณนิคหนี ถ้าเป็นคนที่มูฟออนแล้วพี่ว่าเค้าคงเดินไปถามสารทุกข์สุขดิบ แต่สำหรับเติ้ลมองว่าเหมือนคุณนิคยังอยากได้เค้าเป็นแฟน ยังเฝ้าดูชีวิตเค้าตลอด เรื่องของเค้ายังเข้ามากระทบจิตใจคุณนิคตลอด แล้วสุดท้ายคนที่ไม่ไปไหนก็คือตัวคุณนิค แต่วันนี้เค้าเสียไปแล้วแต่คุณนิคเองที่ยังไม่ไปไหน ซึ่งทำให้เติ้ลเสียดายเวลาที่คุณนิคจะไปมีความสุขกับตัวเอง ถ้าคุณนิคยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิด ก็โปรดให้อภัยตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

นักศึกษาท้อใจ โทรเล่าความรู้สึกเหมือนโดนอาจารย์ใช้อำนาจข่ม ขายหนังสือเรียนหลายร้อย แต่เรามีข้อจำกัดเรื่องเงิน ต้องส่งตัวเองเรียน ไปขออาจารย์ถ่ายแบบฝึกหัดแล้วส่งออนไลน์พร้อมเพื่อนคนอื่นได้ไหม? อาจารย์บอก ไม่ได้ มันจะละเมิดลิขสิทธิ์ สุดท้ายต้องจำใจจ่ายเงิน

20 พ.ย. 2023

นักศึกษาท้อใจ โทรเล่าความรู้สึกเหมือนโดนอาจารย์ใช้อำนาจข่ม ขายหนังสือเรียนหลายร้อย แต่เรามีข้อจำกัดเรื่องเงิน ต้องส่งตัวเองเรียน ไปขออาจารย์ถ่ายแบบฝึกหัดแล้วส่งออนไลน์พร้อมเพื่อนคนอื่นได้ไหม? อาจารย์บอก ไม่ได้ มันจะละเมิดลิขสิทธิ์ สุดท้ายต้องจำใจจ่ายเงิน

“คุณแซ่บ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม กับปัญหาที่รู้สึกเหมือนโดนอำนาจข่มทางการเรียน โดย “คุณแซ่บ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ล่าสุด เปิดเทอม 2 ซึ่งในแต่ละรายวิชาก็เหมือนจะให้เราได้เลือกซื้อหนังสือ ใครจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แล้วมันก็มีอยู่วิชานึงที่เรารู้สึกว่าเราไม่ซื้อก็ได้ เราหารกับเพื่อนเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่เคยเรียนมา เรารู้สึกว่าหนังสือเล่มนึงไม่ได้ใช้ขนาดนั้นเพราะเหมือนที่อาจารย์สอนก็มีสไลด์ให้ แล้วมันมีอยู่วิชานึงอาจารย์ก็ให้ลงชื่อคนที่ซื้อหนังสือ เพราะว่าเขาจะนับจำนวน หนูไม่ได้ลงชื่อเพราะหนูหารกับเพื่อนเลยเขียนเป็นชื่อเพื่อนลงไป ทีนี้พอส่งกระดาษรายชื่อไป อาจารย์เขาเหมือนเห็นว่าที่ช่องชื่อหนูไม่มีการลงชื่อ อาจารย์เลยเรียกให้หนูไปคุยหน้าห้อง แต่ที่หน้าห้องก็มีเพื่อน ๆ นั่งอยู่ แล้วอาจารย์เขาก็บอกว่า ‘หนูแน่ใจหรอว่าหนูจะไม่ซื้อหนังสือ ตัวนี้จะเปิดเรียนเป็นเทอมสุดท้ายแล้วนะ’ ก็คือปีหน้าเขาจะปรับหลักสูตรอะไรแบบนี้ จะไม่ซื้อจริง ๆ หรอ หนูก็เลยตอบไปว่า ‘จริงค่ะ อยากลดค่าใช้จ่าย’ อาจารย์ก็เลยถามว่า ‘แล้วถ้าอาจารย์ให้ทำแบบฝึกหัดจะทำยังไง’ หนูเลยตอบว่า ‘ก็คงให้เพื่อนถ่ายหน้าแบบฝึกหัดมาให้ แล้วหนูจะเขียนคำตอบในโทรศัพท์แล้วค่อยส่งผ่านระบบแทนอะไรแบบนี้’ แล้วอาจารย์เขาก็บอกมาว่า ‘ถ้าอย่างนั้นมันจะติดเรื่องลิขสิทธิ์นะ หนูต้องเขียนหนังสือขออนุญาตอาจารย์’ เขาบอกว่าถ่ายรูปแล้วเขียนคำตอบลงกระดาษแล้วก็ส่งอาจารย์เขาอีกที เขาก็จะให้เขียนหนังสือแล้วก็จะเซ็นต์เก็บเป็นหลักฐานเอาไว้ แล้วทีนี้หนูก็เหมือนถามอาจารย์ว่ายังมีเพื่อนอีกหลายคนที่ไม่เอา ทำไมอาจารย์ไม่เรียกมาทีเดียวอาจารย์ เขาก็ตอบว่ามันเหมือนเช็คชื่อยังไม่ถึง หนูก็เลยบอกว่าโอเคค่ะ เดี๋ยวสัปดาห์หน้าหนูจะเอาหนังสือของญาติมาส่งอาจารย์ แล้วทีนี้หนูก็ไปนั่งที่พอซักพักอาจารย์เขาก็ปล่อยกลับให้กลับได้เลย หนูก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่เห็นเรียกคนอื่นเลย แล้วหนูก็เอาเรื่องนี้มาปรึกษาที่บ้าน เพราะว่าในความรู้สึกหนู อาจารย์เขาเหมือนถามย้ำซ้ำ ๆ ว่า ‘จะไม่ซื้อจริงหรอ ถ้าแบบเกรดไม่ดีจะทำยังไง’ ในความรู้สึกหนูเหมือนกับว่าถ้าไม่ซื้อหนังสือ เกรดหนูจะไม่ดี ที่บ้านก็เลยบอกว่าให้ซื้อไปเถอะลูก ให้มันจบ ๆ ไป เพราะว่าในตอนมัธยม หนูมีปัญหาอะไรแบบนี้แล้ว คือให้ลงชื่อเรียนพิเศษ แต่ว่าหนูไม่ได้ลงเรียน ทีนี้อาจารย์ที่เขาสอนพิเศษเหมือนเขาขายคอร์สพร้อมข้อสอบย่อย ที่จะเอาไปออกข้อสอบนักเรียนทั่วไป เหมือนนักเรียนที่เขาเรียน จะรู้แนวข้อสอบอยู่แล้ว แล้วห้องที่ไม่ได้เรียนก็ต้องมานั่งลุ้นเอาว่าจะออกอะไร ในความรู้สึกส่วนตัวหนูรู้สึกเหมือนมีอคติกับบุคลากรที่ทำแบบนี้ มันไม่ดี หนูอยากพูด มันรู้สึกอึดอัดมากเลย เหมือนหนูรู้ว่ามันผิด แต่ก็ต้องยอม หนูก็เลยอยากถามพวกพี่ ๆ ว่า ‘ถ้าสมมติเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ สายการทำงานแบบนี้ เจอแบบนี้ในสังคม เราควรจะปรับตัวยังไง จะตั้งรับยังไงดีคะ ?’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็วันนึงที่เราออกมาเราอย่าเป็นคนแบบนั้น เราคือเด็กรุ่นใหม่แล้ว เราก็คือมองแล้วจำไว้เลยว่านี่คือคนในยุคนี้ คนที่มันทุจริตเล็ก ๆ น้อย ๆ พอรวมกันแล้วมันกลายเป็นฟันเฟืองที่ยิ่งใหญ่ แล้วถ้าเกิดคนพวกนี้ที่ทุจริตไปอยู่ในจุดที่มีอำนาจสูงสุด มันก็จะทำความฉิบหายได้เยอะมาก เราเติบโตมาแล้ว อย่าเป็นอย่างงั้น หนูจะใช้ชีวิตยังไง ก็คงใช้ชีวิตตามน้ำ ซื้อก็ซื้อเพื่อตัดปัญหา เหมือนไม้ซี่ที่งัดไม้ซุงไม่ไหว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มองไปรอบ ๆ ตัว ก็เห็นการโกงกันซึ่ง ๆ หน้าเยอะเลย พี่ไม่สามารถจะบอกให้แซ่บไปต่อสู้ความถูกต้องอะไร เพราะว่ารู้สึกแย่เหมือนกันที่เราจะบอกเด็กคนนึงไม่ได้ว่าแบบ งั้นหนูก็สู้เพื่อความถูกต้องสิ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าสู้ ร้องเรียนอะไรก็ไม่ได้ดีขึ้นมา แซ่บลองมองออกไปนอกมหาลัยมันมีอะไรที่ไม่โปร่งใสเต็มไปหมด คำถามคือแล้วเราคิดยังไง คือคนเจนพี่ฝากความหวังไว้ให้คน GEN Z นะ ว่าเด็กที่กำลังตาม ๆ มา มันเติบโตมาพร้อมกับตรรกะชีวิตอีกแบบนึง พี่มองขึ้นไป GEN ก่อนหน้าพี่มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว รุ่นพี่ก็ยังไม่ได้เป็นรุ่นที่คิดได้เหมือนรุ่นใหม่ ๆ รุ่นพี่ก็ยังอยู่ในรุ่นปรับตัว คนที่ปรับได้เหมือนเราก็มี คนที่มันยังอยู่กับชุดความคิดเดิม ๆ ก็มี ซึ่งมันไม่โปร่งใสเต็มไปหมด พวกพี่ก็ไม่ได้พอใจ พี่ถึงให้คำแนะนำกับแซ่บไม่ได้ว่าให้สู้เพื่อความถูกต้องสิ เพราะสู้ไปก็เท่านั้น’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พอฟังเสียงแซ่บเหมือนแซ่บจะผิดหวัง เดี๋ยวจะเฟล พี่แค่รู้สึกว่ามันมีครูที่เป็นแบบคนนี้หนึ่งคน แต่พี่ก็เชื่อว่าอาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็ไม่เป็นแบบนี้กับแซ่บ มันก็ต้องมีอาจารย์ดี ๆ ด้วย แต่ถูกต้องแล้วที่หนูรู้สึกผิด พี่เห็นด้วย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แล้วเราจะทำยังไงกับตัวเองต่อ ไม่อยากให้ตัวเองหมดหวังสิ้นหวัง หมดกำลังใจ ก็ต้องบอกตัวเองเลยว่าเราจะไม่เป็นคนแบบนั้นเหมือนที่เคยพูดกัน เราก็จะไม่ทำแบบนี้กับคนอื่น เพราะตอนนี้เราควบคุมมันได้ แต่ตอนนั้นเราควบคุมไม่ได้เพราะอาจารย์นั่นมันเป็นคนแบบนั้น ในกลุ่มอาจารย์ที่เยอะ ๆ นางก็เป็นคนนิสัยแบบนั้น แต่เอาจริงมันอาจมีเหตุผลเบื้องหลัง บางคนเขาเสนอว่าแบบ คณะอาจเสนอมาว่าแบบช่วยหน่อยเว้ย ดันหนังสือขายหน่อย อะไรอย่างงี้เพราะเราก็ไม่รู้เบื้องหลังรู้ดีเทลละเอียดขนาดนั้น ตัวแซ่บเองก็ไม่รู้ มันก็เป็นไปได้หมดเลย ที่จะทำให้คน ๆ นึงตัดสินใจทำอะไรลงไป อย่างที่เราเห็นในข่าว เราไม่รู้ว่าคน ๆ นั้นเขาเจออะไรมาหรืออะไอย่างนี้ด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พีคในพีค อีก 3 วันต้องแต่งงานแล้ว แต่เพิ่งจับได้ว่าสามีมีผู้หญิงอีก 2 คน พอยกเลิกงานแต่ง เพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ แต่สามีไปบอกทุกคนรอบตัวว่า ที่เลิกกันเพราะผู้หญิงดื่มจนแท้งลูก

17 พ.ย. 2023

พีคในพีค อีก 3 วันต้องแต่งงานแล้ว แต่เพิ่งจับได้ว่าสามีมีผู้หญิงอีก 2 คน พอยกเลิกงานแต่ง เพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ แต่สามีไปบอกทุกคนรอบตัวว่า ที่เลิกกันเพราะผู้หญิงดื่มจนแท้งลูก

“คุณน้ำ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม กับปัญหาที่แฟนนอกใจ โดย “คุณน้ำ (นามสมมติ)” เริ่มเล่าว่า ‘จริงๆ แล้วเรากำลังจะแต่งงานกัน แต่จับได้ว่าเขามีคนอื่นอีก 2 คน ถึงขนาดพาไปเจอที่บ้าน ไปนอนที่บ้าน ไปกินข้าวกับน้องสาวเขากันแล้ว แต่ผู้หญิงทั้ง 2 คนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้มีเราอยู่ จะรู้แค่ว่าผู้ชายเขามีอีกไอจี มีอีกเฟส มีอีกเบอร์โทร มีอีกไลน์นึง เราคบกับเขามา 3 – 4 ปีแล้ว กำหนดวันแต่งงานเราคือ วันเสาร์ 18 ที่จะถึงนี้ เรารู้เรื่องที่เกิดนี้มาประมาณ 4 เดือนมาแล้ว และเรื่องราวนี้ กับคนแรกเขาคบกันมา 3 เดือนแล้ว ส่วนอีกคนคบกันมาประมาณ 1 เดือน ก่อนหน้านั้นเราก็ไม่เคยเอะใจเลย เราเหมือนแค่แบบรู้สึกว่าเขากลายเป็นคนที่รับสายตอนกลางคืนยากขึ้น เราจะเจอกันแค่วันศุกร์เสาร์ วันธรรมดาเราจะแค่โทรหากัน แต่จะรู้สึกว่าทำไมช่วงเย็นๆ รับสายยากจัง กว่าจะโทรกลับก็นานจัง นอนไวจัง หรือบางทีกว่าจะมาหาก็ทำไมขับรถนานจัง หรือบางทีไปกินเหล้ากับเพื่อนทำไมถึงกว่าจะกลับมันนานจัง แค่ประมาณนั้น บางทีเขาจะบอกแค่ว่าแบตโทรศัพท์หมดแล้วก็หายไปเลยก็มี ตอนนั้นก็เป็นช่วงที่ Pre Wedding เรียบร้อยแล้ว เตรียมการ์ดแต่งงานแล้ว ก่อนหน้านี้เราก็ไม่รู้ว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อนไหมหรือว่ามีแต่เราจับไม่ได้ งานแต่งนี้เราก็ตกลงกันทั้ง 2 ฝั่ง เริ่มดำเนินการกันตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ที่เริ่มจับได้คือมีคนมาบอกว่า “คิดดีๆ นะน้ำ มันมีคนอื่น” หลังมีคนมาบอกแบบนั้น เราเลยเริ่มเช็คจากใช้แอพเช็ค Location ติดตามไปโดยบอกเขาว่า “ช่วงนี้เราทำงานเราอาจจะต้องไปไหนมาไหนโดยที่เราอาจจะลืมบอก เดี๋ยวดู Location เราจากตรงนี้แล้วกันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เราก็ดูของเธอ เธอก็ดูของเรา น่ารักดีออก” เขาก็ยอม แต่ว่าเขามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง ตั้งไว้ในอีกเครื่อง แต่ใช้อีกเครื่อง เครื่องที่ตั้งไว้ก็วางไว้ที่ห้อง อีกเครื่องนึงก็ใช้ไปหาอีก 2 คนนั้น ก็รู้สึกว่าแอพพึ่งไม่ได้แล้ว ก็ให้เพื่อนขับรถตามไป แต่ตอนนั้นตัวเราอยู่ต่างประเทศ เราก็คิดว่าก่อนหน้านั้นเขาก็ขับรถมาส่งเราที่สนามบิน พอเสร็จแล้วก็ขับไปหาผู้หญิงคนนั้นเลย เราก็รู้สึกแล้วว่าที่มันไม่รับสาย ที่ Location มันหายๆ เราก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว ก็เลยให้เพื่อนไปตาม แต่วันแรกเพื่อนก็ยังตามไม่เจอ ผู้ชายก็รับผู้หญิงมานอนที่บ้าน แล้วก็จะโทรหาเราเป็นช่วงๆ เหมือนกับช่วงที่ผู้หญิงเข้าห้องน้ำเขาถึงจะโทรมา จังหวะที่เราจับได้เลยคือ เขาจองทริปไปเที่ยวต่างจังหวัดกับผู้หญิงคนนั้นแล้วตอนนั้นก็ให้เพื่อนตามไปอีก ก็เจอเขานั่งอยู่ด้วยกันบนรถ แล้วเพื่อนเราก็เข้าไปถามว่า “ไปไหนกันหรอคะ” แล้วเราก็วิดีโอคอลไป ผู้ชายก็ตอบกลับมาว่า “กำลังจะพาเพื่อนไปส่งที่บ้าน ฝนมันตก” เราก็ถาม “แล้วเพื่อนมาไงอะ” เขาตอบกลับมาว่า “เพื่อนก็นั่งวินมา” เราเลยบอกว่า “งั้นเปิดประตูรถให้ดูหน่อยสิ” คือเขาจองทริปไปทะเล ถ้ากลับบ้านมันจะมีแค่กระเป๋าใบเดียวที่ลีบๆ แบนๆ แต่ถ้าไปทะเลต่อให้คืนเดียวกระเป๋าก็ต้องอลังการแน่นอน หนูก็ “เปิดประตูสิขอดูหน่อย” เขาก็บอกว่า “ไม่ได้เดี๋ยวทะเลาะกับเพื่อน” เราก็คิดว่าใครมันจะไปทะเลาะกับเพื่อนเพราะว่าเปิดประตูให้แฟนดู มันไม่มี ผู้ชายเขาก็เลยขึ้นรถแล้วก็ขับรถหนีไปเลย แต่ว่าเรามีเบอร์โทรของผู้หญิงเราก็เลยโทรคุยกัน ก็เลยโป๊ะ พอคนแรกจับได้ เขาก็ทักไลน์มาบอก “ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ เรายังมีโอกาสอยู่ไหม” แต่อีกวันนึงเขาก็ไปอยู่กับอีกคนนึง เราก็ไม่ได้ให้โอกาสเขา แต่ก็ยังไม่ได้บอกเลิก เพราะว่ามีหมาด้วยกันอยากจะไปเอาหมาก่อน และตอนนี้ก็เลิกกันแล้ว แต่ว่ามันมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับหนูอีก หลังจากที่หนูเข้าไปเก็บของออกมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นอีก 3 วัน รู้สึกว่าตัวเองแปลกๆ ก็เลยพึ่งทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ตอนนั้นก็เริ่มให้โอกาสเขาแล้ว แต่มันก็ยังติดอยู่ในใจ เราไม่ได้อยากได้ผู้ชายคนนี้ ตอนแรกก็อาจจะยังไม่ยกเลิกงานแต่งหรือยังไงดี แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็แบบเขาลืมวันฝากครรภ์ อยากให้เราออกค่าคลอดเอง เขาก็แสดงความเป็นพ่อแต่แบบว่าเราช่วยดูแลแต่เงินตรงนี้เธอออกไปก่อนได้ไหม เราก็เลยตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์โดยที่ไม่บอกเขา บอกเขาไปแค่ว่า “เราแท้ง” แต่หลังจากนั้นแม่เขาโทรมาบอกว่า “อ้าวฉันนึกว่าที่เลิกกันนี่เป็นเพราะแก ฉันได้ยินมาแค่ว่าแกกินเบียร์จนเด็กออก” เราก็อธิบายไปว่าทำไมถึงยกเลิกงานแต่งจริงๆ เขาก็ช็อกไปแล้วก็ขอโทษแทนลูก น้ำควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง เหมือนน้ำโดนกระทำขนาดนี้ แล้วการที่น้ำตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์มันก็ยากมากแล้วนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจอมันก็เหนื่อยมากๆ แล้ว จะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง เขาไม่ได้บอกแค่แม่เขา เขาบอกทุกคนรอบข้างเขา ว่าเรากินเบียร์จนแท้ง ข้อมูลที่เขากระจายออกไปมันเป็นแบบนี้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นใครที่เราลองทักไปถามเขาก็จะตอบกลับมาว่า “อ้าว ผมก็เข้าใจแบบนั้น” เราควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองหรือว่าเราควรไปแก้ตัวกับคนเหล่านั้นดีไหม หรือว่าเราควรจะทำยังไงดี แต่เราไม่ชอบเลยในการที่เราเหมือนเป็นคนที่แบบ…ระยำ ทำไมเราเป็นคนผิด เหมือนการที่เลิกกันเป็นเพราะว่าเรากินเบียร์จนเราเลิกกัน ไม่โทษตัวเองเลย ทำไมเราถึงได้รับสายตาแบบนั้น จริงๆ เราเป็นคนถูกกระทำนะ แล้วเขาก็มีทักมาบอกว่า “ถ้าคนมันรักกันจริงอะนะ แค่นอกใจอะ ให้อภัยมันก็ได้แล้วเปล่าวะ ถ้ารักกันจริง”’ ซึ่งงานนี้ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อันนี้เข้าใจ เมื่อก่อนก็เป็น ถ้าใครมาว่าร้ายให้ร้าย หรือว่ามีข้อมูลบางอย่างที่มันออกไปแล้วมันไม่ตรงกับที่เราเป็นจริงๆ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราจะดับเบิ้ลความหงุดหงิด ความไม่อยากให้ข้อมูลมันผิด เพราะเรารู้อยู่แกใจว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นมันกระจายออกไป แม่งโคตรหงุดหงิดเลย กูไม่ได้ทำอะ ถ้าทำแล้วมันกระจายออกไปเราก็จะเข้าใจเพราะเราทำ แต่ว่าอันนี้ยิ่งมันเป็นความเป็นความตายของชีวิตนึงด้วย แล้วเราหนักขนาดไหน คนเป็นคนที่ตั้งครรภ์แล้วต้องยุติการตั้งครรภ์อะ เข้าใจคำน้ำที่ว่ามันหนักมากแล้วนะ แล้วการที่เราตัดสินใจแบบนี้ ถ้ามันไม่เหลือ… จริงๆ ก็คงไม่ทำ อันนี้เข้าใจเลย พอข้อมูลมันถูกถ่ายทอดออกไปในวงที่มันก็ไม่ใช่วงของเราที่เราจะชี้แจงอะไรได้ กำลังชั่งใจว่าถ้าเป็นตัวเอง ผมก็เป็นคนไม่ชอบเหมือนกัน ก็อาจจะชี้แจงเหมือนกัน แต่…ก็คงจะเป็นบางคนที่เรารู้สึกว่าเราอยากให้เขาได้รับรู้ความจริง อาจจะเป็นคนที่เราแคร์อะไรแบบนี้ น้ำลองประเมินแล้วกัน ในวงเหล่านั้นมันก็อาจจะมีใครบางคนที่น้ำรู้สึกแคร์มากๆ ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด แล้วมันก็จะมีใครบางคนที่ช่างแม่งเหอะ จะคิดอะไรก็เรื่องของมัน ต่อให้เราอธิบายก็ไม่รู้ว่ามันจะเชื่อเราหรือเปล่า แล้วต่อให้มันเชื่อหรือไม่เชื่อจะมีประโยชน์อะไรต่อชีวิตเราเปล่า พวกนั้นตัดไปเลย เราคัดไว้เฉพาะคนที่เรารู้สึกว่าถ้าเขาเข้าใจผิดมันจะทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนแล้วน้ำไม่โอเค คนบางคนความสัมพันธ์เปลี่ยนน้ำอาจจะรู้สึกว่าช่างมันเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป ก็ถือว่าตัดทั้งคนที่ไม่ดีก็คืออดีตแฟน กับมิตรที่อยู่ในวงเดียวกันมันก็เหมือนคนที่คล้ายๆ กัน ถ้าคิดแบบนี้น้ำก็อาจจะไม่ต้องแคร์เขามาก ก็แจ้งเฉพาะคนที่เราแคร์ก็พอ เราจะได้สบายใจในส่วนหนึ่งของเรา’ ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็เข้าใจในความรู้สึกน้ำที่ได้เผชิญอยู่ตอนนี้ มันโกรธ มันโมโห มันผิดหวัง พี่ว่ามันมีหลายความรู้สึกมาก ก็เป็นกำลังใจให้น้ำก่อนที่จะให้คำปรึกษา ว่าสิ่งที่เจอมันต้องใช้เวลาในการเยียวยาตัวเองกว่าที่จะกลับมาได้ เพราะว่าเรื่องมันก็เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งเรื่องนอกใจ ทั้งเรื่องที่จะต้องตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ไป สำหรับพี่ พี่เห็นด้วยกับพี่เผือกเรื่องที่ว่า น้ำอาจจะไม่สามารถไปควบคุมข่าวลือที่มันแพร่สะพัดออกไปได้ตอนนี้ เพราะว่าตอนนี้มันได้ถูกจุดไฟไปแล้ว แต่ว่าเราอาจจะต้องเลือกว่าเราแคร์ใครบ้าง อย่างที่พี่เผือกบอกเราไม่สามารถไปแคร์ได้ทุกคน น้ำคิดง่ายๆ เหมือนดาราที่เขามีข่าวลือแล้วมันไปทั้งประเทศแล้วการที่เขาจะมานั่งไล่ตามแก้ทีละคน ตายพอดีมันมีชีวิตปกติไม่ได้หรอก แต่ว่าพี่แค่รู้สึกเหมือนพี่เผือกว่าเราต้องเราจะต้องดูว่าคนไหนที่เรารู้สึกว่าเราแคร์จริงๆ เขาควรจะได้รับรู้ความจริงนั้น เพราะเราไม่อยากให้เขามองเราในมุมที่มันไม่ใช่เรา ในขณะที่น้ำบอก คนอื่นที่มันอยู่นอกวงที่มันเป็นเพื่อนฝั่งเขา พี่คิดว่ามันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามไปเข้าหาเขาเพื่ออธิบาย พี่ว่าก็เท่านั้น เขาไม่ได้รักเราไม่ได้แคร์เราอยู่แล้ว เอาคนที่เรารู้สึกว่าเราอยากให้คนนี้เข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น มันน่าจะง่ายกว่า พี่คิดวิธีช่วยนะ พี่ว่าการที่จะไปบอกทีละคนมันเหนื่อยนะ หนูมีช่องทางที่เรามีแต่เพื่อนที่เราแคร์ ก็พิมพ์เล่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นในมุมของหนูก็ได้ ด้วยสังคมโซเชียลทุกวันนี้เดี๋นวเรื่องมันจะถูกแชร์ไปเอง คนมันจะปะติดปะต่อได้เอง พี่ว่าสุดท้ายแล้วกระบวนการกลไกมันจะทำงานของมันเอง แต่ว่าตอนนี้หนูได้ทำเพื่อให้หนูสบายใจแล้วว่าหนูได้บอกเล่าเรื่องจริงที่มันเกิดขึ้นแล้ว’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้คำปรึกษาว่า ‘สิ่งนี้จะมอบให้กับน้ำ ก็คือ สมมติว่ามีน้ำอยู่ในแก้วแล้วเราถือน้ำอยู่ เราอยากรู้ว่าน้ำนี้มันหนักไหม หยิบน้ำขึ้นมาแล้ววางแก้ว เราก็ไม่ได้รู้สึกหนักอะไรมากมาย ถ้าเราถือน้ำแก้วเดิมแล้วถือไว้อยู่อย่างนั้น ยิ่งนานเท่าไหร่เรายิ่งเมื่อย เรายิ่งงรู้สึกว่ามันหนักทั้งๆ ที่ปริมาณน้ำมันก็เท่าเดิม ฉะนั้น วิธีการจัดการของน้ำก็คือ ปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ไม่ให้ทำร้ายเรา นี่เป็นวิธีคิดสำหรับน้ำ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นเหตุ! มี Social แฟนทุกแอป ยกเว้นไลน์ เลยขอให้แฟนเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ Line เป็นรูปคู่ สุดท้ายแฟนไม่เปลี่ยน แล้วบอกเลิก! ลั่น ทำนิสัยแบบนี้มัน Toxic บอกหนูคือต้นเหตุในการเลิกกันครั้งนี้ ตอนนี้รู้สึกผิดอยากขอกำลังใจค่ะ

07 พ.ค. 2024

เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นเหตุ! มี Social แฟนทุกแอป ยกเว้นไลน์ เลยขอให้แฟนเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ Line เป็นรูปคู่ สุดท้ายแฟนไม่เปลี่ยน แล้วบอกเลิก! ลั่น ทำนิสัยแบบนี้มัน Toxic บอกหนูคือต้นเหตุในการเลิกกันครั้งนี้ ตอนนี้รู้สึกผิดอยากขอกำลังใจค่ะ

“คุณใหม่ (นามสมมติ)” สายที่สามในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (1 พ.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาขอให้แฟนเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปคู่ โดย “คุณใหม่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนเก่ามาเกือบปี ประมาณ 11 เดือนได้ ขอเล่าก่อนว่าตอนที่คบกันได้ประมาณ 5 – 6 เดือน เราก็ไปมาหาสู่กันปกติ เป็นความรักระยะไกล เราอยู่คนละจังหวัดกัน แต่ไม่ไกลมาก ตอนนั้นหนูไปเที่ยวบ้านเขา และไปเล่นไอแพดของเขา หนูไปแอบนั่งอ่านแชทเขาแล้วอึ้งเลย! ทำให้หนูไปรู้ว่าเขาแอบไปมี Friends with benefits (FWB) แอบไปคุยกับรุ่นพี่คนสนิท เคยไปรับไปส่งกันหลายรอบ เคยไปมีซัมติงกัน 1 ครั้ง และไปเต๊าะผู้หญิงอีก 2 - 3 คน ชอบไปกด LOVE ในสตอรี่บลาๆ หนูเห็นปุ๊บก็ร้องไห้ แล้วเขาก็มาบอกว่าเขาเลือกหนูนะ จะให้เขาทำยังไงก็ได้ หนูก็เลยโอเค งั้นขอพิสูจน์หน่อย ก็เลยให้เขาทักไปบอกคนที่เต๊าะหรือคนที่มีอะไรด้วยว่าหนูจับได้แล้วนะ เธอเลือกหนู ก็เลยเป็นสาเหตุของการที่หนูได้รหัสเฟซบุ๊กกับไอจีเขามา หลังจากนั้นหนูอยู่กับความหวาดระแวงมาตลอด เขาไปไหน จะทำอะไร บางทีหนูก็อยากรู้ อยากเห็น อยากให้ถ่ายรูปส่งมาให้ดู แต่เขาก็ไม่ค่อยถ่าย ทำเป็นลืมบ้าง ถ่ายบ้าง ไม่ถ่ายบ้าง จนช่วงหลังๆหนูเริ่มมีความตะหงิดใจ รู้สึกถึงความเปลี่ยนไป หนูก็เลยขอให้เขาเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์เป็นรูปคู่ แล้วเขารับปากว่า โอเค เดี๋ยวจัดการให้ แล้วเขาก็ทำเป็นลืม จนหนูเว้นระยะเวลาไว้ให้สัก 3 – 4 วัน หนูก็ไปถามเขาว่า ลืมหรือเปล่า ทำไมยังไม่เปลี่ยนให้ เขาก็ตอบกลับมาว่า ทำไมทำตัวน่ารำคาญจังเลย ทำไมถึงเยอะ ไม่อยากทำอะไรให้ใครอีกแล้ว ซึ่งเขาใส่รูปส่วนตัวของเขา เนื่องจากเฟซบุ๊กกับไอจีเขา เรามีรหัส เราก็เลยสามารถเข้าไปดูได้ว่าเขาเล่นอะไร หรือคุยกับใครหรือเปล่า เลยกลายเป็นจุดที่ทำให้เราต้องทะเลาะกัน ซึ่งพฤติกรรมของเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจในชีวิตประจำวันของเรา เมื่อก่อนตอนคุยกันแรกๆอาจจะมีใส่ใจบ้าง แต่หลังๆมาไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยอยากรู้ว่าไปทำงาน ถึงที่ทำงานหรือยัง เที่ยงนี้กินข้าวอะไร เย็นนี้ไปไหนมั้ย? ล่าสุดหนูเป็นคนบอกเลิกเขา เพราะหนูรู้สึกว่าไม่อยากจะทนแล้ว เขาไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกเราเลย เวลาทะเลาะกันบางทีเขาเลือกที่จะไม่คุย หายไปเลย ไม่รับโทรศัพท์ ไม่อธิบายใดๆ อาจจะหายไปนอน ไม่คุยกัน 2-3 วัน แล้วก็ทักมาคุยปกติ เหมือนข้ามเรื่องที่ทะเลาะกันไปเลย ตอนที่หนูตัดสินใจเลิก หนูก็ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด เขาก็เลยทักมาว่าทำไมไม่ทักไปชวนกันเลย ไหนบอกจะพาไปเที่ยว เพราะมันเป็นที่ที่เคยคิดว่าจะไปด้วยกัน เขาก็ได้มีโอกาสตอบกลับมาเป็นเพราะหนูขี้ระแวงทำให้เขารู้สึกอึดอัดและเป็นตัวต้นเหตุของความสัมพันธ์เป็นพิษครั้งนี้ แล้วมันทำให้หนูรู้สึกว่าเราผิดหรือเปล่า เราแย่หรือเปล่า? และช่วงแรกๆที่เลิกกันไป เขายังไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่าน หนูก็เลยเข้าไปเห็นที่เขาคุยกับเพื่อนเขา ประมาณว่า กูเลิกแล้วนะ เบื่อมาก รำคาญ ไม่กลับไปแล้วเว้ย หนูว่าเขารู้ว่าหนูเข้าไปอ่าน เขาอาจจะอยากให้หนูเจ็บบ้าง หนูก็เลยอยากมาขอกำลังใจจากพี่ๆดีเจ’ โดย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ดีแล้วที่หนูใจแข็ง หลายๆคนที่เจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้มักจะใจอ่อน ส่วนเรื่องที่เขามาโทษเรามันเป็นทรงเดิมๆของคนที่เขาทำผิดแบบนี้ ถ้ามันไม่มีเหตุมันจะระแวงกันทำไม ไม่ต้องคิดมาก มันเป็นคำตอบพื้นที่ข้อห้าประมาณนี้ คิดถึงวันที่เขาทำเราเจ็บไว้ เอาความรู้สึกนั้นอยู่กับตัวไว้ มันจะได้ไม่ใจอ่อน เมื่อไหร่ที่เราเริ่มเจ็บน้อยลงเราจะเริ่มใจแข็งมากขึ้น มันเป็นเรื่องปกติ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันก็เข้าใจได้ว่าทำไมหนูถึงเป็นแบบนี้ พี่ว่ามันดีกับหนูนะการที่ใจเด็ดแบบนี้ อย่างน้อยการไปมีแฟนใหม่อาจจะทำให้หนูสบายใจกว่านี้ ไม่ต้องให้หนูมาระแวง ถ้าสมมติเขาเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นรูปคู่ แล้วจากนั้นยังไงต่อ หนูคิดว่าหนูจะไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้หรอ? กลายเป็นว่าเรื่องที่เขาไปนอกใจมันเป็นปมในใจหนูแล้ว หนูจะไม่มีทางเว้นว่างจากการเข้าไปดูของเขา เข้าไปสืบของเขา มันไม่สบายใจไปแล้ว การที่หนูบอกเลิกเขาแล้วเขาชัดเจน ไม่รั้งหนูไว้ ถ้าเขารักหนูจริงๆ เขาต้องพยายามเข้าใจหนูมากกว่านี้ พี่ว่าตัดสินใจแบบนี้ก็ดีแล้ว และต้องแข็งแรง อย่ากลับไป’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หลายคนคงคิดว่าจะทะเลาะกัน เลิกกันเพราะเรื่องโปรไฟล์หรอ? เรื่องโปรไฟล์เป็นส่วนหนึ่งของการนอกใจ ชีวิตคู่ปิดตาข้างนึงได้ แต่ไม่ใช่เรื่องนอกใจ มันมีเรื่องที่ผู้หญิงยอมได้ และยอมไม่ได้ สำหรับผู้ชายคนนี้เลิกไปดีแล้ว ถ้าเขารักเราจริง แค่เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เอง ขึ้นรูปคู่เพื่อความสบายใจของแฟน แล้วเขาก็เป็นคนมีประวัติ เพราะฉะนั้นหวังว่าใหม่จะไม่กลับไป ถ้าอยู่แล้วทำให้เราเจ็บปวด ก็ไม่เอา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album
โอมจงรวย

Artist: PATCHA

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110